รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 3
ต๋อยถ่ายทอดคำสั่งให้ปีโป้
“ตกลงพรุ่งนี้เตรียมเสื้อผ้าเซ็ทเดิมนะ เดี๋ยวจะให้แผนที่โลเคชั่นไปเลย”
ปี้โป้อึ้งและมีหน้าตาผิดหวัง
“หานางแบบใหม่ได้แล้วเหรอ”
“เห็นคุณลูกจันบอกว่าได้แล้วนะ” ต๋อยพูดกับแซนดี้ “แซนดี้โทรล็อกคิวช่างหน้าช่างผมเดี๋ยวนี้เลย”
“ช่างหน้าช่างผมไม่มีปัญหาหรอกค่ะแต่โลเคชั่นกับงบออกกองสิคะ ขอวันนี้ออกกองพรุ่งนี้คงไม่ทัน” แซนดี้บอก
อุ่นเรือนที่เพิ่งออกจากห้องลูกจันเดินเข้ามารวมกลุ่ม
“โลเคชั่นพี่ลูกจันใช้วิทยายุทธสอยมาได้แล้ว..ส่วนงบออกกองพี่ลูกจันจะใช้เงินตัวเองค่ะ”
ปีโป้เบะปากก่อนจะพูดเสียงหมั่นไส้
“ดูเหมือนรวยเนอะ”
ลูกจันเดินออกมาได้ยินพอดี
“ไม่ใช่แค่ดูเหมือน...แต่รวยจริง..ไม่เหมือนบางคน ไปเที่ยวยืมแบรนด์เนมคนอื่นมาใส่หลอกชาวบ้านว่ารวย...แต่ได้ข่าวว่ารายได้จริงชักหน้าไม่ถึงหลัง...โถ..น่าสงสารเนอะ” ลูกจันว่า
ปีโป้มองลูกจันด้วยความแค้นใจที่โดนจี้จุดอ่อน ลูกจันยิ้มเยาะปีโป้แล้วพูดกับคนอื่นต่อ
“การถ่ายปกพรุ่งนี้เป็นความลับสุดยอดห้ามให้กองอื่นรู้ แล้วก็ห้ามให้บอสรู้เด็ดขาด ใครเอาไปพูดฉันจะด่าให้แก้วหูทะลุเลยเข้าใจมั้ย”
ทุกคนพยักหน้ารับปากยกเว้นปีโป้
ปีโป้หน้าหงิกมากขณะเปิดประตูห้องเดินเข้ามาหามินตราที่กำลังนั่งทำงานอยู่
“นังลูกจันนัดกองพรุ่งนี้”
มินตราหงุดหงิด “อ้าว..มันเอาใครเป็นนางแบบล่ะ คอนเส็ปต์”ครั้งแรกในชีวิต”ไม่ใช่จะหานางแบบได้ง่ายๆนะ”
“ไม่รู้สิ...แต่ถ้าปกออกมาไม่ดี บอสอาละวาดแน่” ปีโป้ว่า
“งั้นฉันจะโทรเล่าให้บอสฟังเดี๋ยวนี้เลย” มินตราบอก
มินตราหยิบโทรศัพท์ออฟฟิศมาเพื่อจะโทร
ปีโป้รีบห้าม “ยังไม่ต้องโทร”
มินตรามองปีโป้ด้วยความแปลกใจ
“วันนี้บอสไปดูแฟชั่นที่สิงคโปร์ทำได้ก็แค่โทรด่านังลูกจัน..รอบอสเข้าออฟฟิศพรุ่งนี้แล้วค่อยบอก จากนั้นก็รอดูตอนบอสบุกไปด่านังลูกจันที่กองมันกว่า”
มินตรามองปีโป้ด้วยความชื่นชม “เธอนี่อัจฉริยะฉลาดล้ำโลกจริงๆ”
ปีโป้ยิ้มปลื้มในความคิดของตัวเอง
ป้าภาเข็นรถที่พีทนั่งเข้ามาในห้องกว้างที่มี 3 ห้องนอน พีทมองห้องที่คล้ายคอนโดตัวเองแล้วอดนึกถึงคืนแห่งความเจ็บปวดไม่ได้
ภาพในอดีตย้อนกลับมา วันนั้นพีทเห็นไฟในห้องนอนเปิดก็ยิ้มดีใจ
“อยู่ที่นี่จริงๆ”
พีทเดินไปที่ห้องนอนด้วยความดีใจ เมื่อไปถึงประตูเขาก็ต้องหยุดกึกเมื่อมองผ่านช่องประตูที่ปิดไม่สนิทแล้วเห็นภาพชายคู่หนึ่งเปลือยกายกำลังนัวเนียกันบนเตียง พีทตกใจมากและมีน้ำตาเอ่อขึ้นมาทันที
พีทน้ำตาคลอจึงมองภาพนั้นอย่างมัวๆ ทุกอย่างพร่าเลือนจนเห็นไม่ชัด
พีทในปัจจุบันน้ำตาไหลขณะมองห้อง รปภ. สองคนช่วยกันถือกระเป๋ากับไม้เท้าเข้ามาวาง ป้าภาหยิบเงินให้รปภ.คนละ 100
“ขอบใจจ้ะ”
รปภ.ไหว้ป้าภาแล้วรับเงิน
“หิวรึยังลูก”
เสียงป้าภาทำให้พีทตื่นจากภวังค์ เขารีบปาดน้ำตาแล้วหมุนรถเข็นหันมายิ้มกับป้าภา
“ยังครับ”
“งั้นป้าเอาเสื้อผ้าเข้าตู้ก่อนแล้วค่อยโทรสั่งข้าวนะ”
“ครับ...พีทช่วยนะครับ”
ป้าภาหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเดินเข้าห้องไป พีทมองห้องแล้วถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อยอีกครั้งก่อนจะเข็นรถตามป้าภาไป
ณัฐโวยวายด้วยความโมโห
“จะถ่ายพรุ่งนี้อยู่แล้วกะอีแค่ช่างหน้าช่างผมยังหาไม่ได้..อยากโดนไล่ออกอีกคนใช่มั้ย”
“ไม่อยากค่ะ..แต่ช่างที่คุณณัฐอยากได้คิวไม่ว่างเลย เอาเป็นช่างเดิมที่เคยทำกับเราได้มั้ยคะ”
“ถ้าพวกช่างเดิมฝีมือดี ผมจะให้คุณติดต่อช่างที่ผมต้องการทำไม” ณัฐบอก
“แต่พรุ่งนี้เค้ามีงานทุกคนจะให้ทำยังไงละคะ” เมถาม
“ก็ให้ค่าแรงเค้าเพิ่มเป็นสองเท่าแล้วให้เค้ายกเลิกงานที่อื่นแล้วมาให้เราสิ..แค่นี้คิดเองไม่ได้เลยรึไง” ณัฐว่า
“ค่ะๆ..จะโทรบอกเค้าเดี๋ยวนี้ละค่ะ”
เมเดินออกไปจากห้องอย่างลนลาน ณัฐมองตามเมด้วยความหงุดหงิดสุดๆ
“โง่แบบนี้รับมาทำงานได้ยังไงวะ”
ไฟในห้องปิดมืดเหลือเพียงแสงเทียนจากเชิงเทียนสวยงามบนโต๊ะที่มีขวดและแก้วเครื่องดื่มวางอยู่ วิวจากตึกมุมสูงเห็นแสงไฟของกรุงเทพยามค่ำคืนช่วยให้บรรยากาศโรแมนติคขึ้น
เต้ยยื่นเครื่องดื่มให้พอล พอลชะงักเพราะเขาไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เนื่องจากคออ่อนมากจิบเดียวก็เมาหนักแล้ว แต่เขาก็จำเป็นต้องรับไว้เพื่อไม่ให้เต้ยสงสัย
“เอ่อ...ห้องเต้ยนี่วิวสวยนะ”
“ผมก็เพิ่งรู้สึกว่าสวยวันนี้ละครับ” เต้ยบอก
“อ้าว ทำไมงั้นล่ะ”
“คงเป็นเพราะวันนี้มีพี่มานั่งดูกับผมด้วยมั้งครับ”
พอลรู้ว่าเต้ยจีบจึงหันไปมองเต้ยที่ยิ้มตาหวานให้แล้วยิ้มตอบ
“จริงเหรอ”
“ครับ..พี่ไม่รู้หรอกครับว่าเวลาผมอยู่ใกล้พี่แล้วผมมีความสุขแค่ไหนแล้วพี่ละครับอยู่ใกล้ผมแล้วรู้สึกยังไงบ้าง”
พอลผะอืดผะอม “เอ่อ..ก็..ก็เต้ยรู้สึกยังไงพี่ก็รู้สึกอย่างนั้นแหละ”
“ผมดีใจนะครับที่เราใจตรงกัน..เชียร์ส”
เต้ยชนแก้วพอลแล้วทำหน้าเชิญชวนให้ดื่ม พอลกลั้นใจจิบไปอึกหนึ่งแล้วก็ทำหน้าเบ้
เสียงไมค์หอนดังขึ้น แล้วทันใดนั้นเต้ยก็ร้องเพลงในสภาพตาเยิ้ม
“จะอยู่ตรงนี้ถ้าเธอต้องการ ถ้าเผื่อทางนั้นทำเธอหมองหม่นเห็นเธอเสียความรู้สึก ฉันที่รักเธอกว่าทุกคนก็เสียใจ”
พอลนั่งเมาแอ๋อยู่บนเก้าอี้แล้วก็ร้องเพลงประสานกับเต้ย
“หากคำว่ารักมันร้ายกับเธอมากไป”
เต้ยขยับเข้ามานั่งเบียดพอล
“บอกมาได้ไหมให้ฉันช่วยซับน้ำตา”
พอลผลักออกแบบเมาๆ
“ส่งใจช้ำๆของเธอมา” พอลร้อง
เต้ยรุกเข้าไปใหม่ เขายื่นหน้าเข้าใกล้พอลแล้วทำตาเชื่อม
“ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง”
พอลกระทุ้งศอกดันเต้ยออกไปห่างๆ โดยยังจดจ่อกับการร้องเพลง
“ด้วยหัวใจที่เหมือนเดิม”
เต้ยมองพอลด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ฮั่นแน่ะ..มีศอก...แสดงว่าชอบทางนี้..งั้นรอแป๊บ..เดี๋ยวผมมีโชว์เด็ดๆ เพื่อพี่เลย” เต้ยบอก
พอลทำหน้างง
มอเตอร์ไซค์วินเข้ามาจอดหน้าทาวเฮาส์เล็กๆ จุ้มจิ้มลงจากมอเตอร์ไซค์แล้วจ่ายเงินให้คนขับ จุ้มจิ้มหน้าเครียดขณะเปิดประตูเข้าบ้าน
นันทา หญิงหน้าตาใจดีแต่ผอมขี้โรคเดินออกมาด้วยความดีใจ
“กลับมาแล้วเหรอจุ้ม”
จุ้มจิ้มแกล้งทำร่าเริงยกมือไหว้นันทา “หวัดดีฮะแม่”
นันทาโอบจุ้มจิ้มอย่างรักสุดหัวใจ “แม่ทำกับข้าวที่จุ้มชอบทั้งนั้นเลย กินเลยนะลูก”
“ฮะ..แต่จุ้มขอเอาของไปเก็บบนห้องก่อนแล้วค่อยลงมากินนะฮะ”
“จ้ะ”
จุ้มจิ้มเดินเข้าบ้านไปด้วยความร่าเริง นันทามองตามแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
จุ้มจิ้มยิ้มร่าเริงขณะเปิดประตูห้องเข้ามา แต่พอเข้ามาในห้องเธอก็หน้าเครียด จุ้มจิ้มเปิดไฟในห้องแล้วเดินเอาของไปวางก่อนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จุ้มจิ้มเปิดลิ้นชักหยิบสมุดบัญชีออกมาเปิดดูก็เห็นว่ามีเงินในบัญชี 12,000 บาท จุ้มจิ้มมองสมุดบัญชีแล้วก็ครุ่นคิด
เสียงปี่กลองดนตรีไหว้ครูมวยดังขึ้นจากเครื่องเสียง เต้ยในชุดนักมวยกำลังโชว์ลีลาไหว้ครูพร้อมเล่นหูเล่นตายั่วยวนพอล พอลทำหน้างงแล้วหัวเราะขำ
“ชอบมั้ยครับๆ...ได้อารมณ์มั้ยครับพี่”
พอลหัวเราะหนักกว่าเดิม เขาตบมือกระทืบเท้าอย่างขบขัน เต้ยได้ใจเพราะคิดว่าพอลชอบจึงสืบเท้าเข้ามาใกล้ตัวพอลพร้อมโชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทยนัวเนียพอล
“ฤาษีบดยา..นี่ๆ”
พอลรำคาญจึงผลักออก
เต้ยไม่หยุด “ฮั่นแน่..ไม่กลัวๆ..งั้นเจอท่านี้..อิเหนาแทงกริช..นี่ๆ”
พอลผลักออกแรงกว่าเดิม
“อ๊ะๆๆ..ไม่ยอมดีๆ..งั้นต้องเจอไม้ตาย..หักงวงไอยรา” เต้ยพุ่งตัวเข้าหากะจะปล้ำพอล
พอลเสยหมัดเข้าปลายคางเต็มๆ เต้ยลอยกลางอากาศ พอลหน้าเหวอแล้วก็ร่วงลงพื้น
ลูกจันในชุดนอนสายเดี่ยวหน้าตาไร้เครื่องสำอางนอนหลับสนิท
เสียงพอลดัง “หากคำว่ารักมันร้ายกับเธอม๊ากกปายย”
ลูกจันค่อยๆรู้สึกตัวตื่น “พีท”
พอลร้องเพลงอย่างคนเมา “บอกมาได้ม๊ายยให้ฉานนนช่วยซับน้ำตา”
ลูกจันงง “อะไรของมันเนี่ย”
ลูกจันลุกออกไปด้วยความแปลกใจ
ลูกจันเปิดประตูห้องออกมาเห็นพอลเดินร้องเพลงอยู่หน้าห้องพีทโดยกำลังจะเปิดประตู
“ส่งจายช้ำๆของเธอม๊า ฉานจารักษามันด้วยร๊ากกจริง”
ลูกจันเรียก “พีท”
พอลไม่หัน เขาเปิดประตูห้องจะเข้าไป
ลูกจันเดินไปหา “พีท..หือกลิ่นละมุดหึ่งเชียะ..ไปเมากะใครมายะ”
พอลหันมามอง “แหม....คิดว่าครายยยยย...ที่แท้ก็ลูกจันเพื่อนร๊ากนี่เอง..ร้องเพลงด้วยกันป่ะ”
“ร้องอะไรตอนนี้ล่ะไม่มีอารมณ์”
พอลมองตาหวาน “ไม่มีอารมณ์ร้องเพลงแล้วมีอารมณ์ทำอะไรละคร๊าบ”
“ไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้นง่วง..ไปนอนไป๊ เดี๋ยวฉันจะไปส่งขึ้นเตียงจะได้ไม่สะดุดพื้นล้มหัวร้างข้างแตกไปซะก่อน”
พอลยื่นแขนให้ลูกจัน “อ่ะ”
“อะไร”
“ให้จูงไปนอนไง”
ลูกจันขำ “หมั่นไส้..เมาแล้วทำอ้อน..เอ้า..ไปๆ”
ลูกจันจูงพอลเข้าห้อง พอลมองลูกจันแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
ลูกจันจูงพอลมาที่เตียงแล้วหยิบรีโมทมาเปิดแอร์ก่อนจะให้พอลนั่งบนเตียง ลูกจันเดินไปหยิบน้ำหอมประจำตัวพีทมาฉีดให้พอล พอลจามสนั่นแล้วก็โบกไม้โบกมือให้ลูกจันหยุดฉีด
“ไม่เอ๊า เหม็น”
“อ้าว...เมาแล้วเหม็นกลิ่นโปรดตัวเองซะงั้น..โอเค..งั้นนอนซะ”
ลูกจันผลักพอลให้ล้มตัวลงนอนแล้วจะไปหยิบผ้ามาห่มให้ พอลมองลูกจันแล้วยิ้มตาหวานก่อนจะดึงแขนลูกจัน
ลูกจันเซมานอนทับตัวพอล “ว้าย”
พอลพลิกตัวให้ลูกจันนอนบนเตียงแล้วนอนแบบหน้าประจันหน้า ลูกจันมองพอลอย่างงงๆ
พอลยิ้มตาหวาน “คุณเป็นผู้หญิงที่สวยมากรู้ตัวมั้ย”
พอลยื่นหน้ามาจะจูบลูกจัน
“อือหือ..เมาแล้วทำแมน” ลูกจันผลักพอลออก “นอนไปเลยไป” ลูกจันลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปค้อนพอล “ชั้นไม่ใช่เบี้ยนนะยะนังพีท”
ลูกจันเดินออกจากห้อง
พอลรำพึงกะตัวเองอย่างงงๆ “นังพีท...ใครวะ”
พอลล้มตัวลงนอนหลับตา
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พอลลืมตาลุกขึ้นนั่งมองไปที่ประตู ลูกบิดประตูค่อยๆหมุน ประตูค่อยๆเปิดออกช้าๆ ลูกจันใส่ชุดนอนที่เป็นผ้าถุง คอกระเช้า แถมยังปะแป้งพม่าทำเป็นหนวดแมวเดินช้าๆเข้ามาในห้อง ลูกจันยิ้มน้อยๆอย่างเซ็กซี่ พอลอ้าปากค้าง เลือดกำเดาไหล
ลูกจันทำท่านางแมวยั่วสวาท “เมี๊ยว”
ลูกจันผลักพอลล้มลงบนเตียงก่อนจะกระโจนเข้าใส่พอล
“อ๊าคค” พอลกลิ้งตกเตียงแล้วก็สะดุ้งตื่นเหงื่อแตกซิก
“อูย” พอลคิดถึงความฝันแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะรำพึงกับตัวเองอย่างรู้สึกผิด “อีกแล้วเหรอเนี่ย”
พอลหยีตามองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นบรรยากาศยามสาย
บรรยากาศยามสายในสวนสาธารณะ จุ้มจิ้มกับก๊องช่วยกันเซตกล้อง เต็นท์ไฮโซกางอยู่ มีโน๊ตบุ๊คเก้าอี้ประจำตำแหน่งของลูกจันวางในเต็นท์ ต๋อยกับแซนดี้นั่งอยู่ในเต็นท์ เต็นท์กระโจมเปลี่ยนเสื้อผ้าและราวผ้าของปีโป้ตั้งห่างออกไป ปีโป้นั่งเล่นโทรศัพท์ ติ๊ดกับชินช่วยกันเซ็ทเสื้อผ้า ช่างทำผมเอาอุปกรณ์ออกจากกระเป๋า ลูกจันเดินเข้ามา แซนดี้รีบวิ่งมาหา
“ช่างหน้าช่างผมมารึยัง” ลูกจันถาม
“ช่างผมมาแล้วค่ะ ช่างหน้าก็คงใกล้ถึงแล้วค่ะ...เอ่อ..” แซนดี้มองหา “แล้วนางแบบใหม่อยู่ที่ไหนคะ”
“แถวนี้แหละ”
จุ้มจิ้มเห็นลูกจันมาก็วิ่งมาหาด้วยความดีใจ
“พี่ลูกจันฮะ จุ้มขอรบกวนเวลาพี่แป๊บนึงฮะ”
“ได้เลย”
จุ้มจิ้มยื่นเงินให้ลูกจัน 1 หมื่นบาท
“พี่เอาไปหมื่นนึงก่อนนะฮะที่เหลือจุ้มจะทยอยผ่อนให้”
ลูกจันแปลกใจ “ค่าอะไร”
“ค่าออกกองวันนี้ไงฮะ”
ลูกจันมองด้วยความซึ้งใจ “ไม่ต้องหรอกจุ้ม..แม่จุ้มไม่ค่อยแข็งแรง เก็บเงินไว้รักษาแม่เถอะ”
จุ้มจิ้มน้ำตาคลอ “แต่พี่ลูกจันต้องมาเสียเงินเพราะจุ้มฟรีๆ”
ลูกจันยิ้มอย่างมีเลศนัย “ใครบอกว่าฟรี”
จุ้มจิ้มทำหน้างง
ต๋อย แซนดี้ ก๊อง ปีโป้ ติ๊ด ชินพูดพร้อมกันด้วยความตกใจ
“ให้จุ้มจิ้มเป็นนางแบบ”
ลูกจันย้ำ “ใช่..ก็คอนเส็ปต์เซเลบฉบับนี้คือ”ครั้งแรกในชีวิต” พี่เช็คแล้วว่าจุ้มไม่เคยถ่ายแบบมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของจุ้มแน่ๆ”
ทุกคนหันไปมองหน้าจุ้มจิ้มอย่างไม่มั่นใจ จุ้มจิ้มหน้าจ๋อยๆ เพราะไม่มั่นใจเหมือนกันแต่ก็ไม่มีทางเลือก
“จุ้มเป็นนางแบบแล้วใครจะช่วยผมล่ะ” ก๊องถาม
“แซนดี้ไง” ลูกจันบอก
แซนดี้กลัว “แซนดี้ไม่มีความรู้เรื่องวัดแสงเลยนะคะ”
“พี่ก๊อง..สอน” ลูกจันบอก
ก๊องพยักหน้าให้แซนดี้แล้วเดินออกไปด้วยกัน
“เสื้อผ้าที่เอามาเป็นไซส์เชอรี่จุ้มใส่ไม่ได้หรอก” ปีโป้ว่า
“ฉันคิดแล้วว่าหุ่นจุ้มใกล้เคียงกับเชอรี่ถึงเอามาถ่าย ฉันมั่นใจว่าจุ้มใส่ได้” ลูกจันบอก
ปีโป้กวนประสาท “แล้วถ้าใส่ไม่ได้ล่ะ”
“ฉันก็จะไล่เธอออกแล้วก็เรียกสไตลิสต์คนใหม่มาใส่ชุดให้จุ้มไง”
ทุกคนที่ยืนอยู่หัวเราะขำ ปีโป้ค้อนลูกจันอย่างไม่พอใจ
แซนดี้เข้ามาพูด “พี่ลูกจัน...แย่แล้วค่ะ”
ทุกคนหันขวับไปทางเสียงแซนดี้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีกวะเนี่ย?
ลูกจันตกใจมาก
“ห๊า...ช่างหน้าลาป่วยกะทันหัน”
“ค่ะ..เพิ่งโทรมาบอกตะกี้นี้เองค่ะ”
“ถามเค้าซิว่าอาการหนักแค่ไหน..ฝืนมาแต่งหน่อยได้มั้ย..แต่งเสร็จแล้วกลับได้เลย..เดี๋ยวเรื่องซับเราช่วยกันซับเอง”
“ถามแล้วค่ะ เค้าบอกไม่ไหวจริงๆแล้วก็วางหูไปเลย โทรไปอีกทีก็ติดต่อไม่ได้แล้วค่ะ”
“ช่างคนอื่นๆล่ะ”
“ที่ฝีมือดีๆไม่ว่างเลยค่ะ”
ทุกคนสีหน้ากังวล ยกเว้นปีโป้ที่แอบทำหน้าสะใจ
ปีโป้พูดกวนๆ “ตายล่ะ..แล้วจะทำไงเนี่ย..อย่าบอกนะว่าบก.ลูกจันจะแต่งเอง แต่งหน้าขึ้นปกมันไม่ได้ง่ายเหมือนแต่งเดินถนนซะด้วยสิ”
ทุกคนมองปีโป้ด้วยความหมั่นไส้ ลูกจันเครียดและคิดหนัก
พอลช็อค
“ห๊า....ให้ไปช่วยแต่งหน้านางแบบ”
ลูกจันแอบคุยโทรศัพท์กับพอลในมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ
ลูกจันพูดต่อ “ใช่...ช่วยฉันหน่อยนะพีท ฉันหาช่างไม่ได้จริงๆ”
“แต่ผม..เอ๊ย..ฉันไม่ใช่ช่างแต่งหน้านะ..จะแต่งหน้าเป็นได้ไง”
“อย่ามาถ่อมตัวเลยพีท..ก็ไอ้ที่แกแอบแต่งหน้าให้ฉันขึ้นปกเซเลบฉบับพิเศษคราวที่แล้วอ่ะ..แกแต่งสวยจนมีแต่คนอยากรู้ชื่อช่างแต่งหน้า ชั้นต้องโม้ไปมั่วๆว่าใช้ช่างแต่งหน้าจากเมืองนอก”
พอลเครียดและพยายามเอาตัวรอด “เอ่อ..กะกะก็นั่นมันคุณ..เอ๊ย...แกไง..ผม..เอ่อ..ฉันเลยแต่งได้..แต่ถ้าฉันไปแต่งให้นางแบบ คนก็รู้หมดสิว่าฉันไม่ใช่..เอ่อ..ผู้ชาย”
“ไม่ต้องห่วง..ฉันจะจัดที่ส่วนตัวไว้ให้แก..คนที่รู้เรื่องนี้จะมีแค่แก ฉันและก็นางแบบเท่านั้น..โชคดีเล่มนี้จุ้มเป็นนางแบบ ไว้ใจได้ว่าเรื่องไม่หลุดแน่”
“..แต่...”
ลูกจันตัดบท “ขอบใจนะพีท...แกเป็นที่พึ่งเดียวของฉันจริงๆ..เดี๋ยวฉันเมล์แผนที่โลเคชั่นไปให้แกเลยนะ..รีบมานะเพื่อน”
ลูกจันวางสาย พอลอึ้ง
พีทกำลังนอนบนเตียงที่มีหมอนหนุนขาโดยกำลังฉีดน้ำหอมกลิ่นประจำตัว พร้อมคุยโทรศัพท์อย่างร่าเริง
“ง่ายย...เป็นงานศิลปะที่ง่ายมากๆ”
พอลนั่งคุยโทรศัพท์อย่างร้อนใจ
“ตั้งแต่เกิดมาลิปมันเรายังไม่เคยทาเลย แล้วเราจะแต่งหน้านางแบบได้ยังไง”
พีทพูดกับพอล “ก่อนแต่งโทรมา..เราจะสั่งการผ่านสมอลทอร์คแบบละเอียดยิบ..รับรองนายจะแต่งหน้านางแบบได้เริ่ดเหมือนเราแต่งเองเลย”
พีทยิ้มมั่นใจมาก
พอลวางกระเป๋าเครื่องสำอางลงบนโต๊ะ จุ้มจิ้มเดินมานั่งเก้าอี้แต่งหน้าด้วยท่าทางขาดความมั่นใจ ลูกจันยิ้มแป้นแล้วเดินมากอดพอลแน่น พอลกอดตอบแบบเกร็งๆ และมีหน้าเครียดมาก
ลูกจันทำจมูกฟุดฟิดดมพอล ท่าทีเต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมวันนี้แกไม่ฉีดกลิ่นประจำตัวแกมาล่ะ ไหนแกบอกว่าวันไหนไม่ได้ฉีดแกจะรู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองไง”
พอลอึกอัก “เอ่อ..ก็..ก็รีบมาไง เลยลืม”
ลูกจันทำหน้าซึ้งใจ “โถ...ขอบใจมากนะพีท เต็มที่เลยนะเพื่อน”
พอลไม่มั่นใจเลย “เอ่อ...อือๆ”
พอลพยายามเปิดกระเป๋าเครื่องสำอางแต่เปิดไม่เป็น ลูกจันกับจุ้มจิ้มมองพอลอย่างงงๆ
“เมื่อคืนเมาหนักจนจำไม่ได้เลยเหรอว่าเปิดยังไง..มาฉันเปิดให้”
ลูกจันเปิดกระเป๋าเครื่องสำอางให้พอล
พอลยิ้มแหย “ขอบใจ” พอลหยิบโทรศัพท์ออกมาเสียบสมอลทอล์คแล้วรีบออกตัว “ฟังเพลงไปแต่งไปจะได้แต่งสวยๆ”
ลูกจันพยักหน้าแล้วยิ้มหวานให้โดยมีสีหน้ามั่นใจในตัวพอลมาก พอลจะโทรหาพีทแต่โทรไม่ได้เพราะลูกจันจ้องอยู่
พอลพูดกับลูกจัน “เอ่อ...ออกไปก่อนได้มั้ย ผม..เอ่อ..ฉันต้องการสมาธิ”
“เคๆ..งั้นเดี๋ยวฉันจะไปดูต้นทางไม่ให้คนอื่นเข้ามาเห็นตอนแกแต่งหน้าฝากด้วยนะพีท”
ลูกจันเดินออกไป เหลือจุ้มจิ้มคนเดียวกำลังนั่งหน้าเครียดไม่แพ้พอล
พอลพูดกับจุ้มจิ้ม “หลับตา”
จุ้มจิ้มหลับตา พอลรีบกดโทรศัพท์หาพีท
“พร้อมแล้วใช่มั้ย..ขั้นตอนที่ 1” พีทพูด
พอลหยิบกิ๊บมาหนีบผมให้จุ้มจิ้มเตรียมแต่งหน้าอย่างเก้ๆกังๆ มือพอลโดนหน้าจุ้มจิ้ม
จุ้มจิ้มสะดุ้งเฮือก “ทำไมมือพี่พีทเย็นเจี๊ยบอย่างนี้ละฮะ”
“เอ้อ..ระระรถพี่แอร์มันเย็นน่ะ”
จุ้มจิ้มพยักหน้าเข้าใจ
ก๊องสอนแซนดี้ดูเครื่องวัดแสง
“เอาไว้ตรงหน้านางแบบแล้วก็กดตรงนี้”
แซนดี้มองอย่างงงๆ
ลูกจันกับต๋อยเดินมา
“ไมหน้างงงั้นอ่ะ..ไหวมั้ยแซนดี้” ลูกจันถาม
“พยายามอยู่ค่ะ” แซนดี้บอก
ลูกจันกับต๋อยหัวเราะขำแซนดี้แล้วนั่งลงหยิบโทรศัพท์มาเล่นเฟซบุ๊ค มือหนึ่งยื่นกล่องของขวัญมาตรงหน้าลูกจัน ลูกจันเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าเป็นอาร์ต
“ผมทำมาให้ใหม่ครับ” อาร์ตบอก
“ขอบใจ..ของข้างในไม่ใช่ตุ๊กแกแล้วนะ”
อาร์ตเขิน “คราวนี้ไม่พลาดแน่ครับ” อาร์ตทักทายทุกคน “หวัดดีทุกคนคร้าบ”
“นอกจากมาจีบพี่ลูกจันแล้ว จะมาอยู่ช่วยทำงานด้วยรึเปล่าหรือเข้าออฟฟิศ” ต๋อยว่า
“งานที่ออฟฟิศทำเสร็จหมดแล้ว วันนี้ขอเป็นเด็กกองสักวันดีกว่า”
“ดีเลย..ดูท่าแซนดี้ก็ไม่ได้เรื่องไปช่วยพี่ก๊องหน่อย”
“อ้าว...แล้วไอ้ทอมล่ะพี่..” อาร์ตตกใจ “อย่าบอกนะว่าพี่ไล่มันออกแล้ว”
ลูกจันขำ “ทำไม..กลัวจะหาคนทะเลาะด้วยไม่ได้รึไง....ไม่ใช่หรอก..พี่ให้จุ้มไปทำงานอื่นน่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมช่วยพี่ก๊องเอง....แต่พี่ลูกจันช่วยลองแกะของขวัญดูหน่อยสิครับว่าชอบมั้ย”
ลูกจันมองอาร์ตแล้วยิ้มขำ
ณัฐขับรถมาตามถนนของสวนสาธารณะจนเห็นกองถ่ายปกของลูกจัน
ณัฐสงสัย “หือ..ไม่ใช่กองเรานี่”
ณัฐขับรถเข้าไปใกล้ๆ แล้วจอดดูก็เห็นลูกจันนั่งแกะกล่องของขวัญอยู่ในเต็นท์
“ลูกจัน”
ณัฐมองลูกจันแล้วยิ้มร้าย
ลูกจันหยิบตุ๊กตาปูนปั้นแบบที่อาร์ตเคยทำให้ซึ่งเป็นตุ๊กตาแทนตัวอาร์ตหัวฟูๆ ขนาดน่ารักสีสันสวยงามออกมาจากกล่อง
ลูกจันยิ้มๆ “น่ารักจัง...ขอบใจนะ”
“ผมอดหลับอดนอนทำทั้งคืนเลยนะครับเนี่ย...พี่เอาไว้ใกล้ๆตัวนะครับ เห็นแล้วจะได้คิดถึงผม” อาร์ตทำหูตาแพรวพราวใส่ลูกจัน
ทุกคนหัวเราะในความโอเว่อร์ของอาร์ต
เสียงณัฐดังขึ้น “โอ้โห..ดูเป็นทีมงานที่มีความสุขจังเลยนะครับ”
ทุกคนเงยหน้าไปมองเห็นณัฐเดินเข้ามา ลูกจันมองอย่างไม่พอใจ
“สวัสดีค่ะลูกจัน” ณัฐทัก
“มาทำไม” ลูกจันถาม
“พี่ขับรถผ่านมาเห็นกองลูกจันเลยแวะมาทักทายค่ะ”
“ไม่จำเป็น ฉันจะทำงาน ไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาเกะกะ”
ณัฐยิ้มๆ “โอเคค่ะ งั้นพี่ไม่กวนล่ะ...ขอให้งานราบรื่นนะคะ”
ณัฐยิ้มให้ทุกคนแล้วเดินออกไป ลูกจันมองตามณัฐด้วยความเกลียดชัง เธอกำมือแน่นจนเผลอหักตุ๊กตาของอาร์ตดังป๊อก อาร์ตอ้าปากค้าง เขามองตุ๊กตาคอหักในมือลูกจันแล้วก็จ๋อยสนิท
อาร์ตพูดเสียงเหมือนจะขาดใจ “โธ่..อุตส่าห์ทำมาทั้งคืน”
ณัฐเดินกลับมาที่รถแล้วรอยยิ้มก็หายไป ทำสีหน้าร้ายกาจ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรออก
“ฮัลโหล...ฉันมีงานให้พวกแกทำ”
อ่านต่อหน้า 2
รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 3 (ต่อ)
พีทใส่สมอลทอล์คคุยกับพอลไปกินข้าวต้มไป โดยมีป้าภานั่งกินข้าวต้มร่วมโต๊ะด้วย
“เริ่มจากทำให้หน้ากระจ่างใสก่อน..ลงเบสเลย” พีทบอก
พอลงง “เบส?”
“ครีมรองพื้นอ่ะ..สีเนื้อๆไง..หาดูซิ”
พอลเหงื่อแตกพลั่ก หน้าเครียด และมีท่าทางเก้ๆกังๆ ขณะคุ้ยหาครีมรองพื้นจนเจอ
พีทพูดต่อ “แต้มครีมรองพื้นที่หน้าผาก จมูก และคาง..แล้วใช้ฟองน้ำค่อยๆเกลี่ยจากกลางใบหน้าไปข้างๆ”
พอลเทครีมรองพื้นใส่มืออย่างเก้ๆกังๆ จนครีมหกรดพื้นเรี่ยราด
พอลแต่งหน้าขั้นตอนอื่นๆ ตามคำสั่งพีทด้วยท่าทางเก้งก้าง เขาทั้งจับพู่กันเหมือนจับแปรงทาสีบ้าน ทั้งทำเครื่องสำอางหลุดจากมือ เขาตบแป้งแรงจนจุ้มจิ้มหัวสั่นหัวคลอน หนีบขนตาจุ้มจิ้มพลาดจนขนตาหลุดมาเป็นแพ เสียงโครมครามและเสียงอุทานเฮ้ย..ว้าย..อุ๊ย.โอ๊ยของพอลและจุ้มจิ้มดังสลับกันเป็นระยะ เหงื่อค่อยๆซึมขึ้นที่ขมับพอลพร้อมเส้นเลือดใหญ่ที่ปูดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความเครียดและเกร็งของพอล เวลาผ่านไปพอลก็สะบัดปลายพู่กันเป็นครั้งสุดท้าย
“เสร็จแล้ว”
พีทพูดอย่างตื่นเต้น
“เสร็จแล้วเหรอ..ถ่ายรูปส่งมาให้ดูหน่อย”
ป้าภาตื่นเต้นไปด้วย “ส่งมาเลยนะป้าก็อยากรู้ว่าสวยแค่ไหน”
ลูกจันกรี๊ดลั่น “กรี๊ดด”
พอลมองจุ้มจิ้มหน้าเครียดเพราะจุ้มจิ้มว่าถูกแต่งออกมาอย่างน่าเกลียดเหมือนละครลิง จุ้มจิ้มมองพอลกับลูกจันอย่างอายๆ ลูกจันหน้าเครียด
“ฝีมือแกตกไปมาก..คำว่ามากยังน้อยไปต้องบอกว่าตกไปมากๆ นะพีท”
พอลจ๋อยจนพูดไม่ออก ลูกจันเอามือกุมขมับ
ลูกจันพูดกับจุ้มจิ้ม “จุ้มอยู่ตรงนี้ก่อน..อย่าเพิ่งออกไปไหนนะเดี๋ยวคนจะแตกตื่น พี่ไปหายาไมเกรนกินก่อน เดี๋ยวค่อยคิดว่าจะทำไงดี”
ลูกจันเดินหน้าเครียดออกไป มือถือของพอลดังขึ้น เขาหยิบมาดูเห็นเป็นชื่อพีท พอลเดินออกไปอย่างเครียดๆ
พีทตะโกนด้วยความโมโห ป้าภาเก็บถ้วยข้าวต้มไปหัวเราะขำไป
“ตอนแต่งไม่ได้ดูเลยรึไงว่าหน้านางแบบกลายเป็นลิงแล้ว” พีทว่า
“ก็บอกแล้วไงว่าเราแต่งไม่เป็น” พอลบอก
พีทถอนใจ “แล้วลูกจันว่าไงบ้าง”
พอลรู้สึกผิด “ก็..ก็ยังไม่ได้ว่าไรอ่ะ..กำลังไปหายาไมเกรนกินอยู่”
พีทหงุดหงิด “โธ่เอ๊ย...แต่งหน้ามันยากตรงไหนเนี่ย..บอกละเอียดขนาดนั้นแล้ว ทำไมนายยังแต่งไม่ได้อีกนะพอล”
พอลโมโห “จะไปรู้เหรอ..ก็เราไม่ใช่นายนี่...ก็ถ้ามันง่ายนักนายก็มาแต่งเองสิ”
พีทคิดออก “เออใช่”
พีทยิ้มอย่างมีแผน
ลูกจันหน้าเครียด มือนึงของเธอถือแก้วน้ำส่วนอีกมือถือยาไมเกรน
“จะไปกองถ่าย?”
พอลพยักหน้า ลูกจันกรอกยาไมเกรนเข้าปากแล้วตบน้ำตามด้วยท่าทางไมเกรนจะกำเริบหนัก
พอลพูดตามที่พีทสั่ง “เอ่อ..คือกองเค้ามีถ่ายกะทันหันน่ะ..แต่แค่ฉากเดียวเอง เดี๋ยวรีบไปแล้วจะรีบกลับมาแต่งจุ้มให้ใหม่”
ลูกจันมีสีหน้าไม่ไว้ใจ “แต่งใหม่แล้วจะดีกว่านี้มั้ยยะ”
พอลยิ้มประจบ “ดีกว่าสิ..เอ่อ..คือ...ก็แบบว่าเมื่อคืนผม..เอ๊ย..ฉันเมาหนักไปหน่อย....เช้ามาสติสตังมือไม้มันก็ยังไม่เข้าที่ แต่ตอนนี้หายแฮงค์แล้ว เดี๋ยวไปถ่ายละครกลับมารับรองว่าแต่งสวยเหมือนเดิมเลย...จริงจริ๊ง”
ลูกจันทำหน้าไม่ค่อยไว้ใจ
“เอาเหอะๆ ฉันไม่มีทางเลือกแล้วนี่ รีบไปรีบกลับละกัน”
พอลแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะรีบออกไป
แซนดี้กับต๋อยเดินเล่นคุยกันมาตามทาง
“พี่ลูกจันเค้าใช้ช่างคนไหนอ่ะ ทำไมต้องไปแอบแต่งที่เงียบๆด้วยล่ะ” แซนดี้บอก
“ไม่รู้สิ สงสัยจะเป็นช่างฝรั่งที่เคยแต่งพี่ลูกจันตอนปกพิเศษมั้ง ตอนนั้นเค้าก็แอบแต่งกันงียบๆนะ คุณลูกจันบอกว่าฝรั่งเค้ามีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครรบกวน” ต๋อยว่า
แซนดี้พยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนจะมองไปทางหนึ่งแล้วชะงัก
“กองถ่ายแฟชั่น” แซนดี้เพ่งมอง “ของไลม์นี่”
“มิน่าคุณณัฐถึงมาที่นี่”
“ไปแอบดูกันดีกว่าว่าใครขึ้นปก”
ต๋อยพยักหน้ากับแซนดี้อย่างอยากรู้อยากเห็น
นางแบบหน้าสวยคนหนึ่งยืนหน้าเซต ตากล้องกำลังถ่ายรูป ณัฐนั่งดูรูปจากโน๊ตบุ๊คอยู่ในเต้นท์
ณัฐดุ “ทำไมปล่อยให้นางแบบหน้ามันอย่างนั้นซับหน่อย”
กุ้งรีบวิ่งไปซับหน้าให้นางแบบอย่างรีบร้อน แซนดี้กับต๋อยที่แอบดูมุมหนึ่งมองด้วยความโมโห
“พี่กุ้ง!!..บอกว่าไม่สบายคืนงานกองเราแต่มาให้กองไลม์ ทำงี้ได้ไง” แซนดี้ว่า
“ช่วยทำงานให้มันคุ้มกับที่ผมจ่ายค่าแรงให้คุณ 2 เท่าหน่อยนะ” ณัฐว่า
กุ้งรับคำ “ค่ะๆ”
“ให้ค่าแรง 2 เท่า?” ต๋อยทวน
“เรื่องนี้ต้องถึงหูพี่ลูกจัน”
แซนดี้กับต๋อยมองกุ้งด้วยความแค้นใจ
ลูกจันเช็ดเครื่องสำอางให้จุ้มจิ้มจนหมดจด
เสียงพีทดังขึ้น “มาแล้วจ้า”
ป้าภาเข็นรถเข็นที่พีทนั่งเข้ามา
ลูกจันตกใจ “พี๊ทท....ไปแค่ครึ่งชั่วโมงทำไมกลับมาสภาพนี้ล่ะ รถคว่ำเหรอ”
พีทยิ้มขำ “รถคว่ำอะไรจะใส่เฝือกเสร็จภายในครึ่งชั่วโมงยะ..ฉันใส่เล่นละครน่ะ ถ่ายเสร็จแล้วรีบมา เลยยังไม่ได้ถอดออก เดี๋ยวแต่งหน้าให้จุ้มเสร็จค่อยกลับไปถ่ายต่อ”
“อ๋ออ”
จุ้มจิ้มสงสัย “เฝือกเข้าฉากนี่พอใส่แล้วเดินไม่ได้เหมือนขาหักจริงเลยเหรอฮะ ถึงต้องนั่งรถเข็น”
“เอ่อ..อือ..ก็งั้นแหละ” พีทบอก
“เค้าแต่งหน้าเหมื๊อนเหมือนเนอะ” ลูกจันว่า
ลูกจันจับหน้าพีท พีทเจ็บจริงจนร้องลั่น “โอ้ย”
ทุกคนมองด้วยความตกใจ
“แอ็คติ้งน่ะ” พีทบอก
ลูกจันกับจุ้มจิ้มหัวเราะขำ มีเพียงป้าภาที่รู้ว่าพีทเจ็บจริง ลูกจันหันมองป้าภาอย่างเพิ่งนึกได้
“เอ๊ะ...ป้าภาไปปฏิบัติธรรมไม่ใช่เหรอคะ แล้วมากับพีทได้ยังไงคะ”
ป้าภาหน้าเจื่อนแล้วก็จำใจต้องยอมผิดศีล
“คือ..คือป้าออกจากวัดแล้วโทรหาพีท รู้ว่ากองถ่ายเป็นทางผ่านพอดี ป้าเลยแวะพาพีทมาหาลูกจันน่ะ”
ลูกจันแปลกใจ “เหรอคะ บังเอิญจังเลยนะคะ”
พีทนั่งมองหน้าลูกจันด้วยความคิดถึง
“ลูกจัน” พีทอ้าแขนให้ลูกจัน “คิดถึงจังเลยขอกอดหน่อยสิ”
“เพิ่งไปเมื่อกี๊คิดถึงแล้ว?? เว่อร์ไปป่ะ”
“ไม่เว่อร์หรอกฉันคิดถึงแกจริงๆขอกอดหน่อย”
ลูกจันโผกอดพีท ลูกจันดมตัวพีทฟุดฟิด
“เอ๊ะ..พีท แกไปฉีดกลิ่นประจำตัวแกมาตอนไหนอ่ะ ไหนแกบอกรีบมาจนลืมฉีดไง”
พีทอึ้ง “เอ่อ..ก็..ก็ชั้นไม่มั่นใจไง ไม่ได้ฉีดแล้วมันรู้สึกไม่เป็นตัวเอง..เอ่อ..ก็เลยให้เด็กกองถ่ายไปซื้อมาให้ฉีดที่กอง”
ป้าภากลัวลูกจันจะสงสัยเลยรีบตัดบท
“ป้าว่ารีบแต่งหน้านางแบบเถอะเดี๋ยวลูกจันจะทำงานไม่ทันนะลูก”
จุ้มจิ้มนั่งที่เก้าอี้แต่งหน้า ส่วนพีทนั่งบนรถเข็นใช้แขนข้างเดียวหยิบอุปกรณ์อย่างทุลักทุเล
“แค่ใส่เฝือกปลอมทำเป็นใช้แขนไม่ได้..มาๆ..ฉันช่วยถอดออกให้ แกจะได้เลิกอิน” ลูกจันบอก
ลูกจันจะถอดเฝือกที่แขนพีท
ป้าภากับพีทร้องอย่างตกใจ “ถอดไม่ได้”
ลูกจันงง “ทำไมล่ะ”
“คือ..เอ่อ...อ๋อ..ที่กองมีเฝือกมาอย่างละอันถอดแล้วเค้าไม่มีอุปกรณ์ทำให้ใหม่เค้าเลยสั่งว่าไม่ให้ถอดน่ะ”
“ไม่มีอุปกรณ์สำรองเลยเหรอ กองถ่ายอะไร้ไม่ลงทุนเลย”
พีทรีบเปลี่ยนเรื่อง “เอาล่ะๆ...แต่งกันเลยละกันนะ” พีทพูดกับจุ้มจิ้ม “จุ้มพร้อมสวยรึยังจ๊ะ”
จุ้มจิ้มยิ้มแหยๆ เพราะไม่ได้รู้สึกพร้อมเลย
พอลนอนนวดอย่างสบายใจ
พอลพูดกับหมอนวด “นวดยาวจนผมหลับเลยนะครับ”
“ค่ะ”
พอลนอนให้หมอนวดนวดอย่างมีความสุขมาก
มินตรานั่งเก้าอี้แถวประตูออฟฟิศแล้วมองประตูด้วยความร้อนใจ วิมาดาใส่ชุดสวยงามหิ้วกระเป๋าแบรนด์ราคาแพงเดินเข้ามา
มินตรารีบวิ่งไปหา “บอสคะ”
วิมาดาหันมามองมินตรา
“เกิดเรื่องใหญ่กับกองเซเลบค่ะ”
วิมาดาตกใจ “เรื่องใหญ่!”
ปีโป้ ติ๊ด ชิน และก๊องก้มหน้าก้มตานั่งเล่นไอโฟนไอแพดฆ่าเวลา
เสียงลูกจันดังขึ้น “พร้อมแล้วจ้ะ”
ทุกคนเงยหน้ามองเห็นลูกจันยืนอยู่ข้างๆจุ้มจิ้ม โดยมีป้าภาเข็นรถตามมากับพีท ทุกคนมองจุ้มจิ้มก็เห็นว่าสวยมากจึงตกตะลึง
จุ้มจิ้มเขินเดินเข้ามาใกล้ๆ ด้วยท่าเดินกับใบหน้าที่ไม่สัมพันธ์กันอย่างแรงเพราะหน้าอย่างหวานแต่ท่าเดินแมนเกิน อาร์ตหัวเราะเสียงดังเพราะขำจุ้มจิ้ม จุ้มจิ้มหันขวับไปมองอาร์ตอย่างโกรธๆ
จุ้มจิ้มถาม “ขำอะไร”
“ขำทอมทำสวย..ฮ่าๆ”
จุ้มจิ้มทั้งโกรธทั้งอาย “ไอ้อาร์ต..แก..”
ลูกจันรีบห้าม “เอาล่ะๆ..รีบไปทำงานกันก่อน เดี๋ยวค่อยมาทะเลาะกันต่อ” ลูกจันพูดกับปีโป้ “พานางแบบไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว”
ปีโป้หน้าหงิกแล้วก็เดินนำจุ้มจิ้มไปเปลี่ยนชุด ส่วนคนอื่นๆแยกย้ายไปเตรียมงานของตัวเอง ลูกจันเดินมาจับมือพีท
“ถ้าไม่ได้แกฉันคงเสียเงินค่าออกกองฟรี”
“สำหรับเพื่อนรักอย่างแก...แค่นี้เล็กน้อยมาก” พีทบอก
“ขอบใจแกมากนะ..ขอบใจจริงๆ”
พีทยิ้มให้ลูกจัน
“ถ้าทางนี้ไม่มีอะไรแล้วป้าขอพาพีทกลับคอน..” ป้าภาจะพูดว่าคอนโด
พีทรีบแทรก “กองถ่าย..เอ่อ..คือ..วันนี้ยังเหลืออีกหลายซีน..เดี๋ยวต้องรีบไปถ่ายต่อ”
“งั้นฉันเข็นแกไปส่งที่รถนะ ป้าภาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
“แกต้องดูจุ้มถ่ายแบบไม่ต้องไปหรอก”
“ป้าเข็นไปเรื่อยๆไม่เหนื่อยหรอกลูก..ทำงานเถอะ”
“ขอบคุณค่ะป้า..แล้วเจอกันที่บ้านนะคะ” ลูกจันบอก
ป้าภากับพีทยิ้มให้ลูกจัน ป้าภาเข็นพีทออกไป
ป้าภาเข็นพีทมาตามทาง
“เฮ้ออ..วันนี้ผิดศีลข้อมุสาอีกแล้ว...” ป้าภาพูดกับพีท “นี่พีทวันหลังไม่เอาแล้วนะสลับกันไปสลับกันมาแบบนี้..ป้าหัวใจจะวาย”
พีทหัวเราะขำป้าภา แล้วพีทก็ต้องตกใจเมื่อล้อรถเข็นตกลงไปในหลุม
“ว๊าย”
พีทรีบปิดปากก่อนจะมองไปรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีใครเขาก็โล่งใจ ป้าภาพยายามเข็นแต่รถไม่ไป
พอลวิ่งมาช่วย “ผมเองครับ”
ป้าภากับพีทมองพอลอย่างตกใจ
“พอล!!..บอกให้กลับบ้านเลย กลับมานี่อีกทำไม”
“เมื่อกี๊จะจ่ายค่านวดแต่หากระเป๋าตังค์ไม่เจอ เลยรีบมาดูว่าตกแถวนี้รึเปล่า” พอลบอก
“ถ้าตกที่นี่แล้วคนเห็นชื่อในบัตรประชาชนเค้าก็ต้องรู้น่ะสิว่าพีทมีฝาแฝด” ป้าภากังวล
“ผมก็กลัวอย่างนั้นละครับถึงได้รีบกลับมา” พอลบอก
“ถ้าเจอลูกจันก็บอกนะว่ากองละครโทรมายกเลิกคิว เลยกลับมาให้กำลังใจ”
พอลพยักหน้าแล้วเข็นรถขึ้นจากหลุม
“ป้าเข็นต่อได้แล้ว..พอลรีบไปเถอะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ครับ”
พอลกำลังจะไป แต่แล้วก็ชะงักเพราะพีทเรียกไว้ “เดี๋ยว”
พอลหันกลับไปแล้วก็เจอพีทฉีดน้ำหอมกลิ่นประจำตัวใส่
“เราลืมบอกนายไปว่าเรามีน้ำหอมประจำตัว คนที่สนิทกับเราจะรู้ว่าเราฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้ทุกวัน ต่อไปนายต้องฉีดกลิ่นนี้ตลอดนะพอล”
พอลทำหน้าเซ็งกับกลิ่นที่ไม่ใช่ตัวเอง แล้วก็พยักหน้ารับแบบไม่เต็มใจพอจะเดินออกไปก็เห็นแซนดี้กับต๋อยเดินมาจึงชะงักอีกครั้ง
“หลบเร็ว” พีทบอก
พอลมองหาที่ซ่อนก็เห็นว่าที่ตึกมีซอกเล็กๆ อยู่
แซนดี้กับต๋อยเดินมาอย่างร้อนใจ
“นังพี่กุ้งต้องโดนพี่ลูกจันแบนแน่ แต่ก่อนแบนควรจะโดนพี่ลูกจันด่าก่อน” แซนดี้บอก
“ใช่..คนไม่รับผิดชอบแบบนี้ต้องจัดหนัก” ต๋อยว่า
แซนดี้กับต๋อยจะเดินไปที่กองแล้วก็ชะงักเมื่อแซนดี้เห็นอะไรบางอย่าง แซนดี้หันไปมองที่ซอกตึกเห็นปลายเฝือกของพีทยื่นออกมา
แซนดี้ถาม “อะไรอ่ะพี่ต๋อย”
“ไม่รู้ดิ..ดูคล้ายๆขาคน..เอ๊ะ..ใครในกองเราแอบมาอู้งานรึเปล่า” ต๋อยว่า
พีท พอล และป้าภากลั้นหายใจฟังเสียงแซนดี้กับต๋อย
“ไปดูเลยดีกว่าพี่ต๋อย ถ้าใช่พวกอู้งานจริง จะได้จัดหนักซะอีกชุด” แซนดี้บอก
พีท พอล และป้าภามองหน้ากันอย่างร้อนใจ
อ่านต่อหน้า 3
รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 3 (ต่อ)
ปีโป้ยืนโพสต์ท่าดื่มน้ำค้างอยู่ จุ้มจิ้มถือกระบอกน้ำไฮโซแล้วทำตามอย่างเก้ๆกังๆ
“หุบแขนหน่อย..นางแบบนะยะไม่ใช่นักมวย” ปีโป้ว่า
ทุกคนในกองหัวเราะลั่นโดยเฉพาะอาร์ต จุ้มจิ้มมองอาร์ตอย่างไม่พอใจแล้วก็หุบแขนลงแต่ขายังกางอย่างแมนๆ
ปีโป้เซ็ง “ขาด้วย..หนีบให้เหมือนที่ฉันทำให้ดูสิ”
จุ้มจิ้มหนีบขาให้เหมือนที่ปีโป้ทำให้ดู แต่พอหนีบขาแขนก็กางออกอีก
“เอ๊า..แขนกางอีกแล้วได้ขาลืมแขน”
ปีโป้หงุดหงิดมากจึงหันไปตะคอกจุ้มจิ้ม
“พอๆๆ..เปลี่ยนท่าๆ…เอ้า..นอนลงๆ ใช้ปลายนิ้วเท้าจิกพื้น..แอ่นก้นขึ้น แขน2ข้างยันพื้นไว้...ให้ช่วงเอวหักลงแต่ช่วงอกเชิดขึ้น”
จุ้มจิ้มพยายามทำตามคำพูดของปีโป้แต่อวัยวะกลับกันทุกส่วนจนแขนพับก้นกระแทกพื้น
จุ้มจิ้มร้อง “โอ๊ย”
ทุกคนในกองตกใจจึงอุทานพร้อมกัน “เฮ้ย อร๊าย”
บรรยากาศการถ่ายแบบเป็นไปอย่างทุลักทุเล จุ้มจิ้มดูเกร็งแข็งทุกอิริยาบถหัวทิ่มหัวตำทุกท่าทุกคนในกองด้วยสีหน้าหนักใจท้อแท้ทำท่าจะไม่รอด ปีโป้แอบยิ้มเหยียดสะใจ ลูกจันเครียด
แซนดี้กับต๋อยเดินใกล้ซอกตึกเข้าไปทุกที พอล พีท และป้าภามองหน้ากันอย่างร้อนใจก่อนจะถอยจนตัวติดกำแพงในซอกตึก ป้าภาสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างตั้งสมาธิ
“พุท..โธ..พุท..โธ...สติมาปัญญาเกิด..ตั้งสติ..ตั้งสติ”
แซนดี้กับต๋อยเดินมาเกือบถึงซอกตึกแต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อป้าภาที่หัวกระเซิงเอาผมปิดหน้าเหมือนคนบ้าวิ่งออกมาจากซอกตึกแล้วร้อง “แบร่”
แซนดี้กับต๋อยตกใจมาก “อร๊ายย”
พีทกับพอลที่แอบอยู่ในซอกตึกได้ยินเสียงแซนดี้กับต๋อยก็หัวเราะขำ
ป้าภาพูดเสียงเข้ม “พวกเจ้ามาที่วังของเราทำไม”
แซนดี้กับต๋อยมองป้าภาด้วยความตกใจ
“คนบ้า”
“พวกเจ้าน่ะสิบ้าเที่ยวมาเดินที่วังของคนอื่น..ออกไปจากวังของเราเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ไปเราจะบีบคอพวกเจ้า”
ป้าภายกมือวิ่งเข้าไปจะบีบคอแซนดี้ แซนดี้กับต๋อยมองอย่างตกใจก่อนจะกรี๊ดลั่นแล้วรีบวิ่งหนีไป ป้าภามองแซนดี้กับต๋อยแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก พีท พอล แอบมองแซนดี้ ต๋อยที่วิ่งหนีป้าภาหัวเราะขำ
ป้าภาเดินเข้ามาในซอกตึกอย่างรีบร้อน
“ไปแล้ว”
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าป้าจะแกล้งเป็นคนบ้าได้เหมือนเปี๊ยบ”
ป้าภาทำหน้าภูมิใจ “ไม่อยากจะคุย สมัยเรียนมหาวิทยาลัยป้าเป็นนางเอกละครคณะทุกปีนะจ๊ะ” ป้าภาจะให้มีภาพย้อนอดีตสมัยเรียนหรือเปล่า
“โห...เก่งขนาดนี้เดี๋ยวพีทต้องพาเข้าวงการแล้วล่ะ”
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวดังแล้วชีวิตวุ่นวาย ป้าขอปฏิบัติธรรมสงบๆมีความสุขกว่า”
พีทกับพอลหัวเราะขำป้าภา
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะมีใครมาอีก” ป้าภาจะไปเข็นรถเข็น
พีทร้องห้าม “เดี๋ยวครับ”
“หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้จะเดี๋ยวอีกทำไมละลูก”
“พีทว่าป้าทำผมให้เรียบร้อยก่อนดีมั้ยครับ เข็นพีทไปทั้งอย่างนี้เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดว่าป้าเป็นคนบ้าจริงๆ”
ป้าภาเขินจึงเอามือจัดทรงผมตัวเอง “แหะๆ ป้าลืมไปเลยลูก”
พีท พอล และป้าภาหัวเราะขำ
จุ้มจิ้มโพสท่าห้าวๆตามที่ตัวเองถนัดอย่างลื่นไหล
“ดีๆ...ท่าได้แล้ว..อารมณ์ประมาณว่าเจอสาวถูกใจ..ทำหน้าเจ้าชู้หน่อยจุ้ม” ลูกจันบิ้วท์
จุ้มจิ้มทำหน้าตามที่ลูกจันสั่ง ดูทั้งเท่ทั้งแพรวพราว..เริ่ดมากกกกก
ทุกคนในกองยืนดูจุ้มจิ้มถ่ายแบบด้วยความชื่นชม อาร์ตมองอย่างทึ่งๆ ที่ทอมก็ทำได้
“พี่ลูกจันเก่งจังค่ะ ที่ทำให้จุ้มโพสต์ได้ขนาดนี้”
ลูกจันยิ้มๆ “เราก็แค่ดึงความเป็นตัวเค้าออกมา แล้วใส่บางอย่างที่ต้องการเข้าไป..ไม่จำเป็นนี่ที่นางแบบทุกคนจะต้องคาแรคเตอร์หญิงจ๋าเหมือนกันหมด”
ปีโป้หน้าคว่ำแล้วก็แอบค้อน แซนดี้กับต๋อยวิ่งหน้าตั้งเข้ามา
“วิ่งหนีอะไรมา” ลูกจันถาม
“คนบ้าค่ะ” ต๋อยบอก
“แต่ตอนนี้คนบ้าเป็นแค่ประเด็นรองค่ะ เรื่องสำคัญกว่าคือเรื่องพี่กุ้งช่างแต่งหน้า”
ลูกจันมองแซนดี้และต๋อยด้วยความแปลกใจ
พอลแอบหลังต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วมองไปที่เต็นท์แต่งหน้าแต่ไม่เห็นใครจึงรีบวิ่งไปหากระเป๋าสตางค์ที่เต็นท์ด้วยความร้อนใจ
“ไปทำหายที่ไหนนะ”
กระเป๋าสตางค์ของพอลตกอยู่ที่พื้นห้องเต้ย เต้ยในชุดกางเกงมวยเพิ่งตื่นเดินจับคางตัวเองที่บวมปูดหน้าแฮงค์ๆงงๆ ออกจากห้องนอน
“อูยย...โดนอะไรมาวะเนี่ย” เต้ยคิดๆ แล้วก็หงุดหงิด “สงสัยเมาจนตกเตียง..ไม่น่าเล๊ย..เสียแผนหมด” เต้ยเห็นกระเป๋าสตางค์ตกอยู่ “เอ๊ะ..”
เต้ยมองกระเป๋าสตางค์ด้วยความสงสัยแล้วเปิดดูก็เห็นว่ามีเงินหลายพัน เต้ยค้นกระเป๋าเจอบัตรประชาชนก็หยิบออกมาดู
“ภลภัทร์ ฤทธาเดช” เต้ยแปลกใจ “พี่พีทชื่อภีรภัทร์ไม่ใช่เหรอ” เต้ยคิด “อ๋อ..คงไปเปลี่ยนชื่อเสริมดวงมั้ง”
เต้ยเก็บบัตรประชาชนพอลเข้าที่เหมือนเดิมแล้วพลิกดูกระเป๋าสตางค์เซอร์ๆ ของพอล
“อื้อหือ..พี่พีท..สภาพกระเป๋าตังค์เนี่ยไม่ได้เข้ากะหน้าเล๊ย”
เต้ยมองกระเป๋าสตางค์แล้วยิ้มขำ
ป้าภามัดผมเรียบร้อยขณะขับรถที่พีทนั่งอยู่เบาะข้าง
“ลูกจันเจอป้าแล้ว คืนนี้ป้าต้องกลับไปนอนบ้านนะครับไม่งั้นลูกจันจะสงสัยว่าทำไมป้าออกจากวัดไม่ทันข้ามวันแล้วกลับไปนอนวัดอีก” พีทบอก
“ป้าทิ้งให้พีทอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกลูก”
“ขาพีทหักข้างเดียวเองนะครับป้า แขนก็เหลือแค่ซ้น..พีทพอดูแลตัวเองได้ครับ”
“ป้าไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น”
“ถ้าห่วงว่าพีทจะฆ่าตัวตายอีกก็ไม่ต้องห่วงเลยครับ..ชีวิตนี้คิดสั้นครั้งเดียวก็เกินพอต่อไปนี้พีทจะคิดยาวๆไม่เอาคนอื่นมาทำลายชีวิตพีทอีกแล้วครับ”
“แต่ยังไงป้าก็ห่วงอยู่ดี ปล่อยให้ลูกจันสงสัยไปเถอะ ป้านอนที่คอนโดกับพีทดีกว่า”
“เราต้องอยู่ที่คอนโดอีกเป็นเดือนนะครับ..ถ้าป้าไม่กลับบ้านบ้าง ลูกจันอาจสงสัยจนไปหาป้าที่วัด..คราวนี้ความลับเราแตกแน่..พีทว่าคืนนี้ป้ากลับบ้านให้ลูกจันไม่สงสัยก่อนดีกว่าครับ”
ป้าภาครุ่นคิดแล้วพยักหน้าอย่างหนักใจ
พอลเดินหากระเป๋าสตางค์อย่างร้อนใจ
“คนในกองเก็บไปรึเปล่าก็ไม่รู้”
เสียงมือถือของพอลดังขึ้น พอลหยิบมาดูพอเห็นเป็นชื่อเต้ยก็กดรับ
“ว่าไงเต้ย” พอลหยุดฟังแล้วก็ตกใจ “กระเป๋าตังค์ตกที่ห้องเต้ย...เอ่อ..ละละแล้วเต้ยได้เปิดดูในกระเป๋ารึเปล่า”
เต้ยที่กำลังใช้น้ำแข็งประคบรอยช้ำที่คางพูดโทรศัพท์
เต้ยพูดโกหก “ไม่ได้เปิดดูครับ”
พอลถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“พี่จะมาเอากระเป๋าเลยมั้ยครับ” เต้ยถาม
“เอาเลยเดี๋ยวเจอกัน”
พอลเดินมาที่รถหยิบกุญแจจะกดรีโมทเปิดประตูรถแต่ทำกุญแจหล่นเลยก้มลงเก็บ
เสียงนักเลงคนหนึ่งพูดขึ้น “ไหนวะกองถ่ายแฟชั่นที่นายให้มาลุย”
“กองถ่ายแฟชั่น?” พอลงง
พอลชะงักก่อนจะค่อยๆโผล่หน้าขึ้นมาจากข้างรถแอบดูก็เห็นนักเลง 3 คนเดินมา
“น่าจะเป็นไอ้ตรงเต็นท์นั่นรึเปล่า ตกลงนายสั่งมาแค่ไหนล่ะ..เอาแค่ของพังรึจะเอาให้ได้เลือดด้วย”
“เฮ้ย..เอาแค่ให้มันทำงานต่อไม่ได้ก็พอ อย่าให้ถึงเลือด เดี๋ยวตำรวจมายุ่งมันจะเรื่องใหญ่”
นักเลงสามคนเดินไปทางกองถ่ายแฟชั่นของลูกจัน พอลมองตามด้วยความเป็นห่วงลูกจัน
ลูกจันนั่งดูรูปจุ้มจิ้มหน้าคอมพิวเตอร์พูดอย่างพอใจ
“สวยมาก..ต่อให้กุ้งมาแต่งก็ไม่ได้สวยขนาดนี้หรอก..ให้มันรู้ไปว่าปกไลม์จะสู้เราได้..เอ้า..จุ้มไปเปลี่ยนชุดต่อไปเลยจ้ะ”
ปีโป้มองจุ้มจิ้มอย่างหมั่นไส้ “เชิญนางแบบกิตติมศักดิ์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลยค่ะ”
นักเลงสามคนเดินมาได้ยินก็แซวทันที
“ว้า...ว่าจะมาดูนางแบบซะหน่อยต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะแล้ว”
“จะยากอาไร้ก็ตามไปดูตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยสิ”
ทุกคนโดยเฉพาะลูกจันมองนักเลงอย่างไม่พอใจ
“โอ้โห...พูดแค่นี้ทำเป็นมองหน้า...หยิ่งนักเหรอน้อง” นักเลงยื่นหน้าเข้าใกล้ลูกจัน
อาร์ตไม่พอใจจึงผลักนักเลงออกไป นักเลงอีกคนวิ่งพุ่งเข้าต่อยอาร์ตอย่างแรง อาร์ตแซล้มลงไป ทุกคนมองด้วยความตกใจ
สาวๆ และกระเทยร้องลั่น “ว๊าย”
จุ้มจิ้มกับก๊องตกใจ “เฮ้ย”
จุ้มจิ้มถลาเข้าไปหานักเลง ลูกจันดึงแขนเอาไว้
“วันนี้เป็นนางแบบ ไม่ได้เป็นทอม ให้ผู้ชายเค้าจัดการ”
ลูกจันผลักก๊องเข้าไปหานักเลง ก๊องหน้าซีด นักเลงย่างสามขุมเข้ามาหา ก๊องรีบเอาหนังสือที่ถืออยู่ในมือมาบังหน้า ก๊องเห็นภาพปกหนังสือเป็นรูปเต๋า สมชาย หมัดนักเลงพุ่งเข้าใส่หน้าก๊อง ก๊องเมาหมัดจนตากลับจิตใต้สำนึกวูบสุดท้ายคิดถึงภาพเต๋าที่หน้าปกหนังสือจึงร้องตะโกนเต็มเสียง
“พี่เต๋าช่วยด้วย”
ทุกคนหายตัวไปจากบริเวณนั้นอย่างพร้อมเพรียงกันเนื่องจากกลัวเต๋ามาก ทิ้งไว้แต่เสียงลมพัดใบไม้ ก๊องยืนยืดตัวยิ้มดีใจที่ชื่อเต๋า สมชายยังขลังอยู่ เต๋าหันหน้ามาพูด
“พี่วางมือแล้วน้อง ตามสบายนะ”
ภาพเต๋าเลี้ยงลูกปรากฎขึ้นมา
นักเลงกลับมาอีกครั้งด้วยท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือหนักกว่าเดิม ก๊องหน้าซีดเผือด นักเลง 2 วิ่งเข้าหาก๊องแต่พอลวิ่งมาโดดถีบนักเลงจนกระเด็นไป ทุกคนมองพอลอย่างแปลกใจ
“พีท!!”
นักเลงอีกคนเข้ามาต่อยพอล พอลหลบแล้วใช้สันมือสับต้นคอนักเลงคนนั้นอย่างแรง นักเลงอีกคนเข้ามาช่วยรุมพอล โดยการต่อยพอลหลายหมัดแต่พอลหลบได้อย่างคล่องแคล่วแล้วใช้วิชายูยิตสูหักกระดูกแบบสตีเวน ซีกัลจัดการนักเลงคนนั้น
ทุกคนมองเหตุการณ์ด้วยอาการตกใจ มีเพียงลูกจันที่มองพอลอย่างงงสุดๆ อาร์ตวิ่งมายืนข้างพอล นักเลงสามคนมองพอลอย่างโกรธจัด
นักเลงเสียงดัง “มึงตาย”
นักเลงทั้งสามวิ่งกรูเข้ามาด้วยความโกรธแค้น ก๊องวิ่งไปหลบมุมหนึ่งอย่างหวาดกลัว พอลกับอาร์ตต่อยกับนักเลงอย่างกล้าหาญ อาร์ตโดนถีบเซมาที่แซนดี้ แซนดี้เข้าประคอง อาร์ตหันมาขอบใจแล้วลุกขึ้นพุ่งเข้าไปสู้ใหม่ แซนดี้มองอาร์ตด้วยความประทับใจสุดๆ
“เท่อ่ะ”
ลูกจันมองพอลที่ต่อยกับนักเลงด้วยท่าแมนสุดๆ อย่างสงสัย
นักเลงทั้งสามวิ่งหนีหน้าตั้งอย่างสะบักสะบอม พอลกับอาร์ตที่หน้าตามีรอยช้ำเล็กน้อยวิ่งตาม
“แน่จริงอย่าหนีสิวะ”
นักเลงทั้งสามวิ่งไป
“ไม่แน่จริงนี่หว่า”
พอลกับอาร์ตมองนักเลงทั้งสามอย่างสะใจ ทุกคนมองพอลกับอาร์ตอย่างชื่นชม แซนดี้มองอาร์ตอย่างประทับใจสุดๆ แล้วก็หลงรักเลย
ลูกจันมองพอลด้วยความสงสัย
ลูกจัน พอล อาร์ต ต๋อย เดินมานั่งในเต็นท์ อาร์ต ต๋อยมองพอลอย่างชื่นชม ลูกจันถามพอลด้วยความคาใจ
“แกบอกว่ากลับไปถ่ายละครแล้วมาได้ยังไง”
“คือ..ทางกองเค้ายกคิว..แล้วกลับบ้านฉันก็ไม่มีอะไรทำเลยจะมานั่งเล่นที่กองแกน่ะ”
“แต่ตั้งแต่ฉันรู้จักแกมาไม่เคยรู้เลยว่าแกเตะต่อยเป็นแกทำได้ยังไง”
“ก็..ก็เล่นละครบู๊ไง ผู้กำกับคิวบู๊สอนอะไรก็จำๆแล้วก็มาใช้กับนักเลงพวกนั้น แค่นั้นแหละ”
ลูกจันยังสงสัยอยู่ “แกเรียนรู้เร็วขนาดนั้นเชียว”
พอลอึกอัก “เอ่อ..ก็..คะคงเป็นพรสวรรค์น่ะ”
“อย่างนี้เรียกได้เลยค่ะว่าเป็นพระเอกทั้งนอกจอในจอต่อไปนี้ไปไหนมีคุณพีทไปด้วยพี่ไม่กลัวใครอีกแล้วค่ะ”
แซนดี้ถือห่อน้ำแข็งมาสองห่อวิ่งเข้ามา
แซนดี้ยื่นให้ลูกจัน “นี่ค่ะ” แซนดี้พูดกับอาร์ต “พี่ประคบให้นะ”
“ครับ”
ลูกจันกับพอล “นั่งสิฉันประคบแผลให้จะได้ไม่บวม”
“ไม่ต้องหรอก”
ลูกจันแปลกใจ “แกเคยบอกฉันว่าต้องรักษาหน้าไว้ทำมาหากิน...นี่หน้าแกบวมขนาดนี้จะปล่อยไว้เฉยๆ..ไม่ห่วงหน้าตัวเองแล้วเหรอ”
พอลชะงัก “ห่วง..แต่ฉันจะกลับไปประคบเองที่บ้านน่ะ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”
“อ๊าว...ก็ไหนตะกี้แกบอกขี้เกียจกลับบ้านไปนั่งเฉยๆไง”
“ก็สู้กับนักเลงพวกนั้นแล้วเหนื่อยเลยอยากไปนอนพักน่ะ”
“ตามใจ..ถึงบ้านแล้วรายงานมาหน่อยละกัน จะได้ไม่ต้องห่วง”
พอลพยักหน้ารับเพราะอยากรีบไปไกลๆ ก่อนจะแสดงพิรุธกว่านี้
ณัฐตะโกนใส่นักเลงทั้งสามด้วยความโมโห
“ทำงานไม่สำเร็จแถมยังโดนเค้ากระทืบมาขนาดนี้..พวกแกยังกล้ามารับเงินเหรอ”
นักเลงทั้งสามมองณัฐอย่างหวาดกลัว
“พวกมันทั้งกองช่วยกันรุมพวกแกรึไงถึงสู้พวกมันไม่ได้”
“แค่ผู้ชายสองคนครับ”
“ผู้ชายในกองก็มีแต่ไอ้อาร์ตกับไอ้ก๊องมันเก่งขนาดสู้ชนะนักเลงมืออาชีพอย่างพวกแกเลยเหรอ”
“ผมไม่รู้หรอกครับว่าอีกคนชื่ออะไรรู้จักแต่ไอ้พีทคนเดียวครับ”
ณัฐแปลกใจมาก “พีทที่เป็นดารานะเหรอ”
“ครับ..ฝีมือมันร้ายกาจมากพวกผมสู้ไม่ได้จริงๆครับ”
ณัฐไม่อยากเชื่อ “พีทเนี่ยนะฝีมือร้ายกาจ”
จุ้มจิ้มที่เปลี่ยนชุดแล้วกำลังถ่ายรูปโคลสอัพหน้า
“สายตาแข็งไป อ่อนโยนหน่อย..มองกล้องเหมือนมองคนที่เรารัก” ลูกจันกำกับ
จุ้มจิ้มมองอาร์ตอย่างหมั่นไส้แล้วพูดกับลูกจัน
“งั้นจุ้มคิดว่ากล้องนี่เป็นพี่ลูกจันละกันนะฮะ”
แซนดี้ ต๋อย ติ๊ด ชิน ช่างผม และก๊องมองจุ้มจิ้มแล้วก็หัวเราะขำ
อาร์ต ปีโป้มองจุ้มจิ้มด้วยความหมั่นไส้
วิมาดาพูดขึ้น “มีความสุขกันเหลือเกินนะ”
ทุกคนหันไปมองอย่างตกใจ ทุกคนเห็นวิมาดาเดินเข้ามาหาลูกจันอย่างโกรธจัด เธอตะคอกลูกจันด้วยความโมโห
“ทำงานพลาดแล้วแอบออกกองโดยไม่บอกฉัน..เธอทำแบบนี้ได้ยังไง”
ลูกจันหน้าเจื่อน ต๋อย แซนดี้ ติ๊ด ชิน ช่างผม และก๊องก้มหน้าไม่กล้ามองวิมาดา อาร์ตกับจุ้มจิ้มมองลูกจันด้วยความสงสาร ส่วนปีโป้มองลูกจันอย่างสะใจ
“คือจันเห็นว่ามันเป็นปัญหาในกอง เลยอยากแก้ปัญหาเองน่ะค่ะ”
“แต่ฉันเป็นเจ้าของหนังสือ มีปัญหาอะไรยังไงก็ต้องบอกให้ฉันรู้..หรือว่าคิดว่าเป็นคนโปรดของฉันเลยคิดจะทำอะไรโดยไม่ต้องเห็นหัวฉันก็ได้” วิมาดาบอก
“จันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ”
“แต่สิ่งที่เธอทำมันทำให้ฉันรู้สึกแบบนั้น”
ลูกจันหน้าเจื่อนไป จุ้มจิ้มทนเห็นลูกจันโดนด่าไม่ไหวจึงเดินมาหาวิมาดา
“บอสฮะ”
วิมาดาหันมามองจุ้มจิ้มพอเห็นจุ้มจิ้มแต่งหน้าแต่งตัวสวยงามก็มองอย่างแปลกใจ
“ทุกอย่างเป็นความผิดของจุ้มเองบอสอย่าว่าพี่ลูกจันเลยนะฮะคนที่ควรโดนบอสด่ามากที่สุดคือจุ้มไม่ใช่พี่ลูกจันฮะ”
วิมาดามองจุ้มจิ้มอย่างพิจารณา เธอเชยคางจับหน้าจุ้มจิ้มหันซ้ายหันขวา
“ไม่คิดเลยว่าแต่งออกมาแล้วจะสวยมากขนาดนี้” วิมาดาพูดกับลูกจัน “เธอนี่ตาถึงจริงๆที่เอาจุ้มมาเป็นปก ตาถึงมากๆ”
ทุกคนมองวิมาดาอย่างงงๆที่อารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก
“ปกเซเลบฉบับนี้ทุกคนต้องฮือฮากับนางแบบใหม่แน่ๆ..ความดีความชอบครั้งนี้ของเธอคือความตาถึง เพราะฉะนั้นครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้”
ทุกคนยิ้มดีใจยกเว้นปีโป้ที่มองอย่างงงๆ
“แต่ถ้าคราวหน้ามีเรื่องอะไรแล้วไม่บอกฉันอีกเธอโดนแน่” วิมาดาว่า
ลูกจันดีใจ “ค่ะ”
“ทำงานกันต่อเถอะ..ฉันไม่กวนแล้ว”
วิมาดาเดินออกไปแล้วก็นึกได้
“อ้อ” วิมาดาพูดกับลูกจัน “ได้ข่าวว่าวันนี้เธอเอาเงินส่วนตัวมาออกกองเพราะกลัวโดนฉันด่า..แต่ไหนๆเธอก็โดนฉันด่าไปแล้วเพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายวันนี้ไปเบิกที่ออฟฟิศถือว่าเป็นค่าโดนด่าของเธอ”
ลูกจันดีใจ “ขอบคุณมากค่ะบอส”
วิมาดายิ้มให้ลูกจันอย่างขำๆ แล้วเดินออกไป ทุกคนมองตามวิมาดาอย่างโล่งใจยกเว้นปีโป้ที่หงุดหงิดสุดๆ
“มันมีพระดีอะไรเนี่ย”
อ่านต่อหน้าที่ 4
รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 3 (ต่อ)
พีทนั่งอยู่ในห้อง ป้าภาหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าจะออกจากห้อง
“ป้าไปนะพีท มีอะไรโทรหาป้าทันทีนะลูก”
พีทรับคำ “ครับ”
ป้าภาจะเดินออกจากห้องแล้วเดินกลับมาเปิดตู้เย็นหยิบโจ๊กออกมา
“โจ๊กอยู่นี่ถ้าดึกๆหิวก็เวฟเอานะ”
พีทยิ้มขำ “พีททานข้าวเย็นไปตั้งเยอะไม่หิวแล้วล่ะครับ..ไปได้แล้วครับเดี๋ยวมืดจะขับรถลำบาก”
ป้าภาพยักหน้าเดินไปจะเปิดประตูแล้วเดินกลับมาหยิบจาน ชาม ช้อนออกจากตู้มาวางบนโต๊ะ
“ไว้ตรงนี้พีทจะใช้ได้หยิบง่ายๆ”
“ขอบคุณครับ”
ป้าภาเดินไปจะเปิดประตูแล้วเหมือนนึกอะไรได้ก็จะเดินกลับมา
“ป้าครับถ้าป้าไม่รีบไปก่อนลูกจันถึงบ้าน แล้วลูกจันถามว่าทำไมป้ากลับบ้านช้าป้าก็ต้องโกหกแล้วจะผิดศีลอีกนะครับ” พีทบอก
ป้าภาเข้าใจ “จ้ะๆ”
ป้าภาออกไปอย่างร้อนใจ เธอไม่อยากโกหกเพราะกลัวผิดศีล พีทมองตามป้าภาแล้วยิ้มขำก่อนจะหยิบโทรศัพท์จะกดหาใครคนหนึ่งแล้วเปลี่ยนใจวางโทรศัพท์อย่างเศร้าสร้อย
เต้ยใส่ชุดอยู่บ้านดูสบายๆแต่หล่อเดินมาเปิดประตูให้พอล
“เชิญครับ”
พอลเห็นหน้าที่เขียวช้ำของเต้ยแล้วก็สะดุ้งเพราะจำได้ว่าเป็นฝีมือตัวเอง
พอลทำไม่รู้ไม่ชี้ “เอ่อ..หน้าไปโดนอะไรมาน่ะ”
เต้ยจับรอยช้ำเบาๆ “จำไม่ได้เหมือนกันครับ สงสัยเมื่อคืนคงกลิ้งตกตียงไปกระแทกอะไรเข้าน่ะครับ”
พอลแอบโล่งอกที่เต้ยจำไม่ได้ เต้ยมองพอลแล้วยิ้มตาหวาน
“ผมขอโทษนะครับที่เมื่อคืนเมาหลับ เลยไม่ได้ดูแลพี่”
“ไม่เป็นไรหรอก..กระเป๋าตังค์พี่ล่ะ”
เต้ยรินเครื่องดื่ม “อยู่ในห้องนอนครับ..ผมเตรียมเครื่องดื่มเย็นๆไว้ให้แล้ว” เต้ยยื่นแก้วให้ “ดื่มก่อนนะครับ”
“พี่ขอกระเป๋าก่อนดีกว่า เดี๋ยวเมาแล้วพี่จะลืมอีก”
“งั้นจิบทีหนึ่งก่อนครับแล้วผมจะไปหยิบกระเป๋าให้”
พอลมองเต้ยอย่างมีแผนยิ้มหวานแล้วรับแก้วมา เต้ยมองพอลยิ้มตาหวานชนแก้ว พอลดื่มแล้วยิ้ม เต้ยยิ้มตอบแล้วเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าสตางค์ พอลรีบบ้วนเครื่องดื่มออกและเทในมือทิ้งเกือบหมดก่อนจะแกล้งทำท่าเหมือนกำลังจิบต่อ
ณัฐเดินเข้ามาในบ้านลงนั่งบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อนกับการออกกองทั้งวัน สาวใช้ยกน้ำเย็นใส่ถาดมาให้แล้วเดินออกไป ณัฐหยิบแก้วน้ำกำลังจะดื่มแต่มัลลิกา ดำรง ถลาเข้ามาซะก่อน
“กลับมาแล้วเหรอลูก” มัลลิกาถาม
“พ่อกับแม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับลูกหน่อยน่ะ” ดำรงบอก
ณัฐถอนหายใจอย่างเซ็งๆ “เรื่องสำคัญของคุณพ่อคุณแม่ก็คงไม่พ้นเรื่องเงิน”
“ก็พ่อกับแม่แก่แล้วงานก็ไม่มีทำรายได้ก็ไม่มี ถ้าไม่ขอเงินจากลูกจะให้เอาเงินที่ไหนใช้”
“จะเอาสมบัติเก่าไปขายก็ไม่มีเพราะยกให้แกหมดแล้ว”
“สมบัติพร้อมหนี้สินที่มูลค่ามากกว่าสมบัติน่ะเหรอครับ พ่อจะเอาคืนก็ได้นะครับ ผมจะโอนคืนให้”
“ถ้าแกอยากให้พ่อแก่ๆทำงานใช้หนี้ก็โอนคืนมาเลย..คนเค้าจะได้รู้กันทั่วๆว่าแกเป็นลูกอกตัญญู”
“ไม่ต้องขู่หรอกครับผมเหนื่อยไม่อยากฟัง..ผมจะเซ็นเช็คให้คนละล้านจบนะครับ”
ณัฐเดินออกไปด้วยความเครียด เหนื่อย และเซ็ง
“ขอบใจนะลูก”
มัลลิกากับดำรงยิ้มดีใจที่ณัฐให้เงิน
อุ่นเรือนนั่งมือถือไมโครโฟนอยู่ในห้องคาราโอเกะเพลงที่เปิดอยู่เป็นเพลงกากากาของปาล์มมี่แต่อยู่ในท่อนดนตรี ลูกจันเปิดประตูเข้ามา จุ้มจิ้ม อาร์ต แซนดี้ ต๋อย เดินตาม อุ่นเรือนรีบวางไมโครโฟนไม่กล้าร้องต่อ
“มากันแล้ว..ขอบคุณนะคะพี่ลูกจันที่โทรชวนให้มาด้วย”
“ทำงานเป็นทีม ฉลองก็ต้องฉลองเป็นทีม..แต่ถ้าใครไม่อยากเป็นทีมกับพวกเราชวนแล้วไม่มาก็ช่างเค้า”
อุ่นเรือนยิ้ม
“เมื่อกี้พี่แอนนี่ร้องเพลงอยู่ไม่ใช่เหรอฮะ...ไม่ร้องต่อล่ะฮะ” จุ้มจิ้มถาม
“พี่เสียงไม่ดี ร้องไม่เพราะ...ไม่กล้าร้องให้ใครฟังหรอกค่ะ”
“มาคาราโอเกะเค้าไม่ได้มาร้องเอาเพราะ เค้ามาร้องเอามัน..ร้องไปเลย ร้องต่อเดี๋ยวนี้”
“แต่”
“คนอื่นดูถูกเราได้แต่เราห้ามดูถูกตัวเอง” ลูกจันบอก
อุ่นเรือนรับคำ “ค่ะ”
อุ่นเรือนโดนลูกจันบิวท์จนอารมณ์ขึ้นก็ทำหน้ามั่นใจ เธอหยิบไมโครโฟนร้องเพลงกากากาต่อพร้อมเต้นจัดเต็มชนิดปาล์มมี่อึ้งแต่เสียงเพี้ยนสุดพลัง ทุกคนมองอุ่นเรือนด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าจะร้องไม่เพราะได้ขนาดนี้
ต๋อยว่า “เพี้ยนสุดๆ”
“ขนาดร้องแค่คำว่ากาคำเดียวนะเนี่ย” จุ้มจิ้มบอก
แซนดี้พูดกับลูกจัน “บางทีก็ไม่ต้องให้พี่แอนนี่มั่นใจเรื่องแบบนี้ก็ได้นะคะพี่ลูกจัน”
ลูกจันทำหน้าจ๋อย “บอกให้มั่นใจไปแล้วไม่กล้าคืนคำซะด้วย”
ทุกคนหัวเราะขำลูกจัน
พอลนั่งคุยกับเต้ยพร้อมจิบเครื่องดื่มหลอกๆ เขาใช้วิธีแอบเททิ้งเวลาเต้ยเผลอ
“ชอบดูฟุตบอลมั้ย” พอลถาม
“ชอบมากครับ” เต้ยตอบ
“เหมือนพี่เลย”
เต้ยแปลกใจ “ผมเคยชวนพี่ดู แต่พี่บอกไม่ชอบนี่ครับ”
พอลชะงักแล้วรีบแก้ตัว
“เมื่อก่อนไม่ชอบแต่บังเอิญว่าได้ดูไปแมตช์นึงเลยติดใจ แล้วเต้ยชอบดูอย่างเดียวหรือชอบมีเงินติดปลายสตั๊ดด้วย”
“ก็มีติดคู่ละนิดละหน่อยพอให้ลุ้นสนุกขึ้นน่ะครับ”
“แล้ว..เล่นบอลอย่างเดียวเหรอ..อย่างอื่นๆล่ะ..เล่นมั่งมั้ย”
ยังไม่ทันที่เต้ยจะตอบ เสียงมือถือของพอลก็ดังขึ้น พอลหยิบมาดูเห็นชื่อลูกจันก็มองเซ็งๆ
“แป๊บนะ”
พอลลุกไปที่มุมหนึ่ง เต้ยยกแก้วขึ้นดื่มมองพอลยิ้มตาหวานอย่างหมายมาดว่าคืนนี้ต้องเผด็จศึกให้ได้ พอลรับสายลูกจันอย่างเซ็งๆ
“ฮัลโหล...อ้าวเห็นเบอร์ลูกจันนึกว่าลูกจันซะอีกแซนดี้เองเหรอ” พอลตกใจมาก “อะไรนะ...พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เต้ยเห็นทีท่าของพอลก็รีบเดินมาถามด้วยความตกใจ
“มีอะไรเหรอครับ”
“ลูกจันเมามากอาเจียนไม่หยุดเป็นชั่วโมงแล้วแต่ไม่ยอมไปหาหมอ ลูกน้องลูกจันเลยโทรมาตามพี่....พี่ไปก่อนนะ”
พอลรีบวิ่งไปเปิดประตู เต้ยยังงง พอลทั้งหงุดหงิดทั้งห่วงลูกจันจึงเดินบ่นพึมพำระหว่างทาง
“กำลังจะรู้อยู่แล้วเชียวว่าเต้ยติดการพนันรึเปล่า ทำไมต้องเป็นอะไรตอนนี้ด้วยนะ”
ที่คาราโอเกะ มีผู้คนเดินไปเดินมาเข้าห้องโน้นออกห้องนี้จนคึกคัก พนักงานซึ่งยืนที่โพเดี้ยมต้อนรับแขกอยู่ พอลวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาอย่างร้อนใจ
พนักงานตื่นเต้น “คุณพีท” พนักงานไหว้ “สวัสดีค่ะ”
“ห้อง 3 ครับ” พอลบอก
พนักงานชี้ไปทางหนึ่ง “ด้านโน้นค่ะ”
พอลรีบวิ่งออกไปอย่างร้อนใจ
พอลวิ่งหน้าตื่นเปิดประตูเข้าไปในห้อง
“ลูกจันเป็นไงบ้าง” พอลถาม
แล้วพอลก็ต้องชะงักเมื่อเห็นลูกจันกำลังร้องเพลงใส่อารมณ์เต็มเหนี่ยวแต่เสียงเพี้ยนมาก
“เปล๊าหรอกนะ น้ำตาที่รินไหล๊ ใช่ว่าฉันเจ็บช้ำเพราะเธ๊อไป๋”
ทุกคนหน้าอ้าปากค้างกับเสียงของลูกจันที่เพี้ยนยิ่งกว่าอุ่นเรือน
“คุณพระช่วย”
อุ่นเรือนบ่น “เพี้ยนกว่าฉันอีก”
“ยังจะมั่นใจร้องเนอะ” แซนดี้ว่า
จุ้มจิ้มหันไปเห็นพอลก็ดีใจ
จุ้มจิ้มดีใจ “พี่พีทมาแล้ว”
ทุกคนปรบมือด้วยความดีใจ “เย้”
พอลมองทุกคนอย่างงงๆ ลูกจันเดินมาหาพอลแล้วกอดพอลอย่างรักสุดๆ
“พี่บอกแล้วว่าเพื่อนพี่มันรักพี่..บอกว่าพี่เป็นอะไรปุ๊บมันรีบมาปั๊บเลย” ลูกจันคุย
พอลมองลูกจันด้วยความโมโห “นี่คุณ..เอ่อ..แกให้แซนดี้โทรไปหลอกฉันเหรอ”
“อ๊ะก็แกเข้าบ้านแล้ว..ไม่โกหกแกจะยอมออกมามั้ยล่ะ”
พอลโกรธ “นี่เห็นความห่วงใยของฉันเป็นเรื่องล้อเล่นเหรอ”
หยุดเลย..คราวที่แล้วแกให้คนในกองละครโทรปลุกฉันตอนตี 1 บอกว่าแกเข้าฉากแล้วจมน้ำให้รีบไปดู..ฉันขับรถถึงพัทยาตี 3 แต่แกไม่ได้เป็นอะไรแค่หลอกให้ฉันไปปาร์ตี้ด้วย คราวนี้แกโดนบ้างก็ต้องรับสภาพ”
พอลอึ้งไปเมื่อได้ยินเหตุผลของลูกจัน
ลูกจันชวน “มาร้องเพลงกันเร้ว”
ลูกจันกอดแขนพอลแล้วดึงไปที่เก้าอี้ พอลมองลูกจันอย่างเซ็งสุดๆ
พอลที่นั่งข้างลูกจันมองลูกจันอย่างเซ็งๆ อาร์ตเอาแก้วเครื่องดื่มมาให้พอล พอลยิ้มให้อาร์ตอย่างเป็นมิตรพร้อมทั้งรับแก้วมา อาร์ตนั่งข้างพอล จุ้มจิ้มที่นั่งข้างลูกจันแล้วยักคิ้วเยาะเย้ยอาร์ต
อาร์ตมองจุ้มจิ้มด้วยความหมั่นไส้ แซนดี้ ต๋อย และอุ่นเรือนนั่งถัดออกมา
“ก่อนจะฟังเสียงเพราะๆของพีทชนแก้วกันหน่อย” ลูกจันชูแก้วขึ้น “แด่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้”
ทุกคนชนแก้วอย่างเฮฮามาก “เย้”
“หมดแก้ว” อาร์ตบอก
ทุกคนกระดกดื่มหมดแก้ว ยกเว้นพอลคนเดียวที่ไม่ดื่ม เพลง”รักไม่ตองการเวลา”อินโทรขึ้นมา แซนดี้ยื่นไมโครโฟนให้พอล
“เพลงประจำตัวพี่พีทมาแล้วค่ะ”
พอลมองเพลงอย่างงงๆ เพราะร้องไม่เป็น
“เพลงประจำตัวเหรอ.. เอ่อ..คือ ..คือ..วันนี้ไม่อยากร้องเพลงนี้น่ะ” พอลแก้ตัว
“ตั้งแต่มีเพลงนี้ ไปคาราโอเกะที่ไหนแกก็ร้องทุกครั้งแต่วันนี้ไม่อยากร้อง..แปลก”
พอลอึกอัก “แปลกอะไรล่ะ คนเราร้องทุกครั้งก็ต้องมีเบื่อกันบ้างสิ”
“งั้นผ่านไปก่อนนะฮะ”
จุ้มจิ้มกดคาราโอเกะไปเพลงต่อไป ดนตรีเพลง”มอเตอร์ไซค์รับจ้าง” ของโลโซดังขึ้น
“อ้าว..นี่มันเพลงอาร์ตนี่..อาร์ตไปไหนอ่ะ” แซนดี้มองหา
“ไปห้องน้ำค่ะ” อุ่นเรือนตอบ
“โหย..เสียดายอ่ะ อยากเต้นเพลงนี้” แซนดี้หันมาเห็นพอล “พี่พีทร้องหน่อยสิคะ คีย์ผู้ชายพี่ร้องได้”
“ไม่ๆๆ...ผม..เอ่อ..พี่ไม่ถนัด”
“เอาน่า..หนุกๆ..เพี้ยนก็ไม่ว่ากัน..นะๆๆ” ลูกจันคะยั้นคะยอ
“ไม่เอ๊า...ไม่ถนัดจริงจริ๊งง”
พอลร้องเพลงร็อคแบบมันสุดๆ พร้อมท่าเต้นยังกะพี่เสกมาเอง
“เกิดเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง นั่งข้างทางคนก็มองว่าไม่ดี ส่งเธอไปทุกทางไปได้ทุกที่ ยังไม่มีใครจะมาสนใจ เพราะไม่หล่อ ไม่รวยเหมือนใครๆ”
จุ้มจิ้ม แซนดี้ ต๋อย อุ่นเรือนเต้นกับพอลอย่างสนุกสนาน อาร์ตมองพอลอย่างชื่นชม
“สุดยอดพี่ นี่เพลงโปรดผมเลย” อาร์ตบอก
“อ้าว..งั้นมาร้องด้วยกันเลยไอ้น้อง” พอลชวน
พอลดึงอาร์ตมากอดคอร้องเพลงด้วยกันอย่างแมนมาก
ลูกจันมองพอลอย่างงงๆ แต่เธอก็เมา “ทำไมหมู่นี้พีทมันร็อคจังหว่า...สงสัยกิ๊กใหม่เป็นขาร็อค ฮ่าๆ”
ลูกจันร้องเพลงไปเต้นไปอย่างสนุกสนาน แซนดี้ จุ้มจิ้ม ต๋อย อุ่นเรือน ร้องด้วยเต้นด้วย อาร์ตนั่งมองลูกจันอย่างชื่นชม จุ้มจิ้มเห็นอาร์ตมองลูกจันก็ไปเต้นบังไม่ให้อาร์ตมองลูกจันแล้วหันมายักคิ้วเยาะเย้ย อาร์ตมองจุ้มจิ้มอย่างโมโหแล้วจะลุกไปเอาเรื่องแต่พอลที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำเดินเข้ามานั่งข้างๆซะก่อน
“อ้าว..ทำไมนั่งเหงาอยู่คนเดียวไม่ไปแด๊นซ์กับเค้า” พอลถาม
“เพลงแบบนี้ผมไม่ถนัดพี่..ถนัดแต่ร็อคกับเพื่อชีวิต”
“คอเดียวกับพี่เลยนะเนี่ย”
“ตอนเจอพี่แรกๆเห็นร้องแต่เพลงหวานๆไม่คิดเลยว่าพี่กับผมจะคล้ายกันหลายอย่าง..เอ่อ...ว่าแต่พี่พีทไม่ได้ลืมเรื่องที่ผมเคยรบกวนพี่ไว้ใช่มั้ย” อาร์ตถาม
“เรื่องที่รบกวนพี่..อาร์ตยืมตังค์พี่เหรอ” พอลสงสัยว่าอาร์ตจะเป็นผู้ชายที่หลอกเอาเงินพีทไป
อาร์ตขำ “ไม่ใช่ครับ..ที่รบกวนให้พี่เป็นพ่อสื่อให้ผมกับพี่ลูกจันน่ะ”
พอลทำเป็นนึกได้ “อ๋อ...จำได้ๆ ไม่ลืมๆ”
“ขอบคุณมากพี่..คือ..ผมอยากให้ดอกไม้พี่ลูกจันน่ะ..พี่ลูกจันเค้าชอบดอกอะไรเหรอพี่”
“ชอบ..ชอบ..” พอลตอบมั่ว “กุหลาบ”
“สีอะไรครับ”
“แดง..ผู้หญิงก็ชอบกุหลาบแดงทั้งนั้นแหละ”
ลูกจันเดินถือแก้วเข้ามา
“หนุ่มๆ..คุยอะไรกันอยู่จ้ะ”
อาร์ตพูดกลบเกลื่อน “ไม่มีอะไรครับ คุยเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป”
“ทำงานกรมอุตุกันเหรอยะมานั่งคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ..น่าเบื่อ..ชนแก้วกันดีกว่า”
ลูกจัน อาร์ต และพอลชนแก้ว
“หมดแก้วว” ลูกจันพูด
ลูกจันยกแก้วเหล้ากระดกฮวบ
ลูกจันนอนเมาปลิ้นอยู่บนรถ พอลที่นั่งเบาะคนขับพยายามปลุกแต่ลูกจันก็ไม่ตื่น
“ลูกจัน..ถึงบ้านแล้ว..ตื่น...ลูกจัน”
ลูกจันหลับไม่ได้สติ พอลปลุกอย่างเซ็งๆ
“ตื่นสิ...ถ้าไม่ตื่นผมจะทิ้งไว้ให้นอนตรงนี้นะ..ตื่น”
ลูกจันตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย
“ถึงบ้านแล้ว” พอลบอก
ลูกจันมองไปรอบอย่างงงๆ
“อือ”
ลูกจันหลับต่อ พอลงง
“อ้าว..อย่าเพิ่งหลับสิ เข้าบ้านก่อนลูกจัน” พอลเขย่าตัวลูกจัน “ลูกจัน”
ลูกจันไม่ตื่น พอลมองลูกจันอย่างหงุดหงิด
พอลถือกุญแจอุ้มลูกจันที่หน้าหงาย แขนห้อย ทิ้งร่างมาที่หน้าบ้าน พอลอุ้มลูกจันไปไขกุญแจบ้านไปอย่างทุลักทุเล พอลเปิดประตูบ้านอุ้มลูกจันเข้าไป
พอลอุ้มลูกจันเข้ามาในบ้าน ลูกจันสะลึมสะลือรู้สึกตัวก็มองไปรอบๆ เห็นว่าพอลอุ้มอยู่
“แกอุ้มชั้นเหรอพีท”
พอลเซ็ง “รึจะให้ทิ้งไว้ในรถล่ะ”
ลูกจันตาเยิ้ม “ขอบจายน้าที่ไม่ทิ้งชั้นไว้” ลูกจันตบอกพอล “แข็งแรงอ่ะ” ลูกจันหยิกแก้มพอล “น่าร๊ากกกอ่ะ...แมนอ่ะ...ฮ่าๆๆ”
ป้าภาเดินเข้ามาเห็นพอลอุ้มลูกจันอยู่ก็ตกใจ
“พอล...เอ๊ย..พีท ลูกจันเป็นอะไรไปน่ะ”
พอลวางลูกจันลงบนโซฟา
“ไม่มีอะไรหรอกครับป้า แค่เมาน่ะครับ” พอลพูดกับลูกจัน “เอ้า ตื่นแล้วก็เดินกลับห้องเองได้แล้ว”
ลูกจันพยุงร่างตัวเองขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้วก็โงนเงนไปมา ก่อนจะล้มพับลงตรงพื้นหน้าโซฟา
“ว๊ายย”
ลูกจันนอนหลับตายิ้มแฉ่งอยู่กับพื้น พอลมองลูกจันอย่างเซ็งๆ
พอลอุ้มลูกจันเข้ามาวางบนเตียง ลูกจันหลับตาพริ้มเพราะน็อคไปแล้ว พอลห่มผ้าให้ลูกจัน เขามองหน้าลูกจันแล้วส่ายหน้าเบาๆอย่างเหนื่อยใจ พอลจะเดินออกจากห้องแล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงลูกจัน
“พีท”
พอลหันไปเห็นลูกจันนั่งพิงหัวเตียงในสภาพน้ำตาไหลพราก
“มันหลอกฉัน”
พอลงง “ใคร”
ลูกจันสะอึกสะอื้น “ก็ไอ้ผู้ชายสารเลวนั่นไง..มันหลอกให้ฉันรักมัน แล้วก็ทิ้งฉันไป”
ป้าภาเดินถืออ่างเล็กๆพร้อมผ้าเตรียมมาเช็ดหน้าลูกจัน แต่ก็ต้องชะงักอยู่หน้าห้องเพราะได้ยินเสียงลูกจัน
“พีท...” ลูกจันกางแขน “กอดฉันหน่อย”
พอลเข้าไปกอดลูกจันอย่างขัดเขิน ป้าภามองพอลอย่างจับสังเกต
ลูกจันคร่ำครวญ “ตาฉันก็ทิ้งยายไป พ่อฉันก็ทิ้งแม่ไป ฉันกลัวผู้ชาย ฉันกลัวความรัก ฉันไม่อยากเจ็บเหมือนยายกับแม่..แต่ในที่สุดฉันก็เจ็บจนได้”
พอลลูบผมลูกจันด้วยความสงสาร ป้าภามองพอลอย่างกังวล
“แต่ที่เจ็บกว่าคือ..ทุกวันนี้ฉันยังลืมไม่ได้ ฉันยังใจสั่น ฉันยังเจ็บเวลาต้องเจอหน้ากัน ฉันยังรักเค้าใช่มั้ยพีท”
พอลแปลกใจ “ทุกวันนี้ยังเจอกัน?”
ป้าภารำพึงกับตัวเอง “ใคร?”
ลูกจันซบหน้ากับอกพอลแล้วเงียบไป
“ลูกจัน...ลูกจัน” พอลเรียก
ลูกจันยังเงียบ พอลจับลูกจันผละออกมาก็เห็นว่าลูกจันหลับแน่นิ่งไปแล้ว พอลมองลูกจันด้วยสายตาอ่อนโยนเพราะสงสาร ป้าภามองทั้งคู่อย่างครุ่นคิดเพราะไม่สบายใจ
พีทนอนร้องไห้อย่างเจ็บปวดเมื่อคิดถึงตอนที่ถูกแฟนกับคู่ขารุมกระทืบ
ภาพในอดีตตอนที่พีทนอนอยู่บนพื้นห้องแล้วถูกผู้ชายรุมกระทืบย้อนกลับมา พีทเอาแขนปิดหัวปิดหน้าร้องอย่างเจ็บปวด “โอ๊ยๆ”
พีทร้องไห้สะอื้นตัวโยนอย่างเสียใจแล้วก็ตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง
พีทที่นั่งบนรถเข็นเข็นตัวเองออกมาที่ห้องรับแขกแล้วกดเปิดทีวีดูทั้งน้ำตา พีทเช็ดน้ำตาแล้วพยายามทำตัวเข้มแข็งก่อนจะเข็นรถไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบแก้วน้ำ
พีทชะงักเมื่อเห็นมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่ข้างแก้วน้ำ เขาหยิบมีดขึ้นมามองแล้วครุ่นคิด
อ่านต่อตอนที่ 4