xs
xsm
sm
md
lg

หนีก็ล่า ซ่าก็รัก ตอนที่ 10

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนีก็ล่า ซ่าก็รัก ตอนที่ 10

ทางด้านนายสมภพกับไอ้เม่นนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ไอ้อ๊อดเดินเข้ามา พลางกวาดสายตาไปมา อย่างระแวดระวัง
“ไม่ต้องห่วง ร้านนี้ผมมาเป็นประจำใครแปลกหน้าไม่พ้นสายตาผม มีอะไรว่ามา”
“เรื่องมันแปลกยังไม่ทราบครับ”
“ยังไง”
“ตอนแรกไอ้วินไปหาเจ้านายผม บอกว่าคุณเป็นคนยิงมีหลักฐานพร้อมคือปืน”
นายสมภพยิ้ม “ใช่ ซึ่งผมแจ้งหายไปแล้ว มันทำอะไรผมไม่ได้”
“อยู่ๆมันก็มอบตัว แต่ตำรวจกลับไม่พบปืน ถึงกับปล่อยให้พวกมันประกันตัวออกมา”
“คุณอ๊อด คุณทำให้ผมเสียเวลา เรื่องนี้ผมรู้หมดแล้ว”
นายสมภพ เริ่มหงุดหงิด ไอ้อ๊อดรีบพูดต่อ
“แต่คุณคงยังไม่รู้ว่า คุณสุชาติทำงานกับนายเกื้อพร”
นายสมภพหน้าเครียด “ก็ดีน่ะซิ นายเกื้อพรจะได้เล่นงานไอ้วินกับนางไฮโซนั่น”
“มันไม่ใช่ยังงั้นครับ นายเกื้อพรกำลังจะเก็บคุณสุชาติ อยู่แล้วเพราะนายสุชาติ ยักยอกเงินของ องค์กร แต่ถูกไอ้วินตัดหน้าซะก่อนกลับกลายเป็นว่า นายเกื้อพรชอบฝีมือสนใจที่จะให้ไอ้วินทำงานด้วย”
“ไอ้บ้าเอ๊ย” นายสมภพอารมณ์เสีย “นายเกื้อพรต้องมาชวนข้าถึงจะถูก ข้าเป็นคนส่องไอ้สุชาติเว้ย”
“ตกลงตอนนี้จะเอายังไงดี ขืนเล่นงานไอ้วิน ก็เท่าว่าชนกับนายเกื้อพร ผมว่าอย่าเพิ่งเสี่ยงดีกว่า”
“อืม จับตาดูพวกมัน แล้วรายงาน”
“ได้เลย”
นายสมภพลุกขึ้นเดินออกไป ไอ้เม่นเดินตาม ไอ้อ๊อดนั่งยิ้มอยู่คนเดียว
“ดีเว้ยรายงานเรื่องเดียว แต่ได้เงินสองทาง”

รถของวินเลี้ยวเข้ามาถึงหน้าประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่ ชายฉกรรจ์สองคน ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ รีบเข้ามาตรวจดู พอเห็นเป็นวินกับเอ ก็หันไปทางอีกคนหนึ่ง พลางโบกมือเป็นสัญญาณ ให้รถผ่านเข้าไป
“เรามีคนอยู่ด้วยเหรอคะ”
เอหันมาถามงงๆ
“ก็คุณมัวแต่ห่วงเรื่องสไตล์ ไม่ได้อ่านแฟ้มที่ผู้กองวันชาติให้มา นี่คือรังของเรา สมุนเพียบ”
“โห เยี่ยม เดี๋ยว หวังว่าคงไม่ใช่โจรจริงๆ”
“คุณก็ พวกเจ้าหน้าที่ทั้งนั้นครับ”
เอ ยิ้ม“ค่อยสบายใจหน่อย”

วินกับเอ ก้าวเข้ามาในห้องรับแขกหรู เอกวาดสายตามองอย่างตื่นเต้น
“พวกผู้ร้าย พวกเอาเปรียบมนุษย์อยู่กันสุขสบายแบบนี้เอง”
วินหันมายิ้มให้เอ เห็นเอหน้าเสีย ก็นึกขึ้นได้
“คือ ผมไม่ได้ว่า”
เอฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ”
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น วินรีบกดรับสาย
“ว่าไงโจ อืม แปลกมาก แต่น่าสนใจ เดี๋ยวฉันโทรกลับ”
วินวางสาย เอแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้
“ผมว่าคุณได้ใส่ชุดมาเฟียสาวแล้วครับ คืนนี้เราจะไปเที่ยวผับกัน”
เอ ยิ้มหน้าบาน “จริงเหรอคะ”
“ครับ”
“ดีจัง จะได้ใช้เทคนิคการปลอมตัวที่เรียนมาจากคุณตุ๊กตา”
“อย่ามากนะครับ เราต้องการให้นายเกื้อพรจำเราได้”
“เราจะไปผับไหนกันคะ” เอถามอย่างสนใจ
“นายโจ อยู่ๆนายเกื้อพรจะมาเที่ยวผับนายโจ”
“ก็ดีซิคะ จะได้เจอคุณโจ”
“ครับ คุณรีบไปแต่งตัวได้แล้ว”
“เดี๋ยวเจอกันนะคะ”
เมื่อเอลุกไป วินก็รีบโทรหาโจ
“นายเกื้อพรคงไปตรวจดูว่า ทำไมนายสุชาติถึงไปตายที่นั่น”
“เข้าแผนผู้กองวันชาติเลย”
“นายก็ต้องระวังตัวด้วย” วินเตือนโจด้วยความเป็นห่วง
“นี่มันถิ่นฉัน มันต้องกลัวฉัน”
“เออ เออ เอ็งเก่ง”
“แล้วเจอกันเพื่อน”
วินยิ้มวางสาย สีหน้าบอกว่าพร้อม

วินควงเอในชุดเก๋เข้ามาในผับของโจ มีมือปืนสองคนเดินเข้ามาด้วย โจเดินเข้ามาทักทาย
“สวัสดีครับ คุณเอ”
“ค่ะ”
“นายเกื้อพรอยู่ทางด้านโน้น ตามมา”

โจเดินนำไป วินหันมาทางเอ แล้วเดินตามโจเข้าไป 2 มือปืนตามมาติดๆ

โจ แกล้งพาวินกับเอ เดินผ่านโต๊ะของนายเกื้อพร
“ซ้ายมือคนนั่งระหว่างสาวสวยสองคน”
วินกับเอ ชำเลืองมอง พอดีนายเกื้อพรเงยหน้ามองมาพอดี เอทำลีลายิ้มหวาน ให้แวบหนึ่ง
นายเกื้อพรมองตาม โจพาวินเอ ไปนั่งห่างไปสองโต๊ะ เอแอบยิ้มให้นายเกื้อพร
วินหันไปยิ้มให้เอ
“ยิ้มของคุณได้ผลมั้ย”
“อ๋อ แน่นอน” พลางแกล้งสะบัดหน้าเมินวิน “ตอนนี้นายเกื้อพรกำลังมองอยู่ คุณต้องปึ่งกับฉัน”
“ได้เลย”
วินเลยทำเป็นเสียอารมณ์ หันหน้าไปอีกทาง นายเกื้อพร มองอย่างพอใจ

พนักงานเอาแชมเปญมาเสิร์ฟ วินกับเอ ต่างหยิบมาดื่ม แล้วก็เมินกัน มือปืนคนหนึ่งลุกขึ้นจากโต๊ะ แล้วส่งโทรศัพท์ให้วิน
วินรับสาย “ครับ ใช่ครับ เป็นความบังเอิญน่ะครับ”
วินหันมาทางเอ แล้วพูดเบาๆ
“ผู้กองวันชาติโทรมา ผมจะออกไปคุยข้างนอก เปิดโอกาสให้นายเกื้อพรมาจีบคุณ”
เอแกล้งค้อนควับ “ ได้เลยตามนั้น”
ในขณะที่นายเกื้อพรจับตามองอยู่ตลอดเวลา วินทำท่าเซ็งแล้วเดินออกไป มือปืนสองคน จะลุกขึ้น ตาม แต่วินทำมือห้าม แล้วเดินออกไป เอมอง แล้วแกล้งทำท่าหงุดหงิดใจ พลางตวัดหางตาไปทางนายเกื้อพร ที่ขยับตัวมองตอบ เอหันไปทางมือปืนสองคน
“นี่คุณออกไปดูคุณวินดีกว่า ทางนี้ฉันจัดการเอง”
มือปืนลุกขึ้น เดินออกไป เอทำทีเป็นปรายสายตามอง นายเกื้อพรเห็นมือปืนสองคนเดินออกไป จึงขยับตัวลุกขึ้น
“ห้องน้ำ”
สาวพนักงานชี้มือไปด้านใน “ทางโน้นค่ะ”
นายเกื้อพรขยับตัว มือปืนสองคนขยับจะตาม
“ไม่ต้อง”
เอยิ้มอย่างพอใจ “เดี๋ยวก็รู้”

วินนั่งคุยกับโจ ในอีกมุมหนึ่ง
“คุณเอ นี่ร้ายเก่งจริงๆ เนียนมาก”
วิน พยักหน้า
“นั่นนะซิ ฉันเองยังไม่รู้เรื่องเลย อ่อยนายเกื้อพรซะแล้ว ฉันไม่ชอบเลย”
“ฮั่นแน่ ฉันว่านายหลงคุณเอ จนหัวปักหัวปำแล้วเพื่อน” โจแหย่วิน
“ถ้าเป็นจริง ฉันคงหัวใจสลาย”
“ทำไมเพื่อน คุณเอ เขาก็ปลื้มนายนี่หว่า”
วิน ส่ายหน้าช้าๆ
“เขาปลื้มฉันเพราะฉันมีอุดมการณ์ เขาบอกว่าถ้าฉันล้มเลิกอุดมการณ์เมื่อไหร่ เขาคงหมดปลื้มฉัน เมื่อนั้น”
“อะไรวะ เขาปลื้มนาย เพราะนายไม่ปลื้มเขา” โจงง
“ใช่”
“และถ้านายกลับไปปลื้มเขา เขาก็จะเลิกปลื้มนาย”
วิน พยักหน้าจ๋อยๆ “ใช่”
“โอยปวดหัว คิดกันเองก็แล้วกันเพื่อน”
วินยิ้มขำโจ ก่อนที่ทั้งคู่จะยกแก้วขึ้นชนกัน

เอ นั่งดื่มแชมเปญ พลางกวาดสายตามองที่ฟลอร์เต้นรำ พร้อมๆ กับที่ร่างของนายเกื้อพร มายืนตรงหน้า
“สวัสดีครับ”
“อ้อ สวัสดีค่ะ”
“ผมเห็นคุณมองมา รู้สึกคุ้นๆ”
เอ แกล้งยิ้มหวานให้ “อ้อ ฉันนึกว่าคนรู้จัก แต่ไม่ใช่ขอโทษนะคะ”
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมชื่อเกื้อพรครับ”
“เอ ค่ะ เชิญนั่งก่อนซิคะ”
เกื้อพรรีบนั่งลงทันที “คุณอาจจะไม่รู้จักผม แต่ผมคิดว่าผมรู้จักคุณแน่นอน”
เอ แกล้งทำหน้าแปลกใจ แต่เอียงหน้าให้นายเกื้อพรจำได้เต็มๆ
“โอ๋ ยังงั้นเหรอคะ”
นายเกื้อพรยิ้ม พลางกวาดไปมา แล้วหันมากระซิบกับเอเบาๆ
“คุณคือหนึ่งผู้ต้องหาที่ฆ่านายสุชาติตาย”
เอ ทำเป็นตกใจ จ้องหน้านายเกื้อพรเขม็ง

“ฉันหวังว่าคงมีทางออกสำหรับความรักของนายกับคุณเอ”
โจยกแก้วชนกับวิน พลางอวยพรให้เพื่อน
“ฉันยังไม่เห็นทางออกเลยเพื่อน”
มือปืนสองคนเดินเข้ามาที่โต๊ะ ก่อนที่จะก้มลงรายงาน แล้วถอยไป
“คิวฉันแล้วเพื่อน”
“โชคดี”
วินยิ้ม ก่อนที่ทั้งคู่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
“ขอบใจเพื่อน ฝากสวัสดียัยแนนกับคุณพ่อ”

“โอเค”

“คุณแน่ใจเหรอคะ”
เอแกล้งเล่นละครต่อ
“ ผมรู้ว่าคุณพยายามเปลี่ยนลุค แต่ผมเป็นคนจำคนได้แม่นยำ”
“โชคดีที่คุณไม่ใช่คนของนายสุชาติ คิดเอารางวัลนำจับ”
นายเกื้อพรหัวเราะเสียงดัง “คุณเอ เงินสินบนสิบล้านไม่มีความหมายกับผมหรอก ผมจะขอบคุณ คุณด้วยซ้ำ”
“ขอโทษนะครับ เราต้องไปกันแล้ว”
วินพูดแทรกเข้ามาตามคิว เอแกล้งทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่ก็ลุกขึ้น นายเกื้อพรลุกตาม
“สวัสดีครับ ผมเกื้อพร”
วินหันมามอง แต่ทำแกล้งไม่สนใจ “โชคดีครับ” พลางคว้าแขนเอ “ไปกันได้แล้ว”
วินดึงเอออกไป นายเกื้อพรขยับตัว มือปืนสองคนเข้ามาขวาง นายเกื้อพรหยุด มองตามวินกับเอไป
ทันใดนั้นเสียงผู้กองวันชาติก็ดังขึ้น
“หยุด นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ”
นายเกื้อพรหันไปก็เห็นผู้กองวันชาติ นำเจ้าหน้าที่สามสี่นาย กำลังเดินตรงเข้ามา ในขณะที่วินกับเอ พ้นออกไปทางด้านหน้าเรียบร้อย นายเกื้อพรมองตามอย่างครุ่นคิด

นายเกื้อพรเดินออกมาพร้อมมือปืน ผ่านทางด้านหน้า เห็นผู้กองวันชาติกับเจ้าหน้าที่ กำลังสอบสวน โจอยู่ นายเกื้อพรวางมาดเดินผ่านออกไป พลางปรายตามองที่โจ
“เราได้รับรายงานว่า มีการนัดกันค้ายาที่นี่”
“ใครจะนัดใคร ผมไม่เกี่ยว” โจแกล้งตีหน้าไม่รู้เรื่อง
“คุณรู้จักกับผู้ต้องหา คุณต้องเกี่ยวข้องแน่ๆ”
นายเกื้อพรหยุดฟังอึดใจ พลางเหลือบมองหน้าโจ โจเล่นละครตามบทต่อ
“ผมไม่สนใจ คุณไม่มีหลักฐานที่จะเล่นงานผม”
“เพื่อนคุณค้ายากับนายสุชาติ คุณถึงร่วมมือกันมาเก็บนายสุชาติที่นี่”
“ผมมีธุระ มีอะไรคุยกับทนายผมได้”
นายเกื้อพรยืนฟัง พลางครุ่นคิดตาม ก่อนที่จะเดินออกไป โจมองตามเห็นนายเกื้อพรเดินออกไป ก็รีบส่งสัญญาณ ผู้กองวันชาติพยักหน้ารับ
“ผมต้องการตรวจค้นในห้องทำงานของคุณ”
“เชิญเลย”
โจ เดินนำผู้กองวันชาติ เข้ามาในห้องทำงาน แล้วหันมาจับมือกัน
“ผมว่าน่าจะได้ผล”
ผู้กองวันชาติ ยิ้ม
“ผมก็ว่ายังงั้น ป่านนี้นายเกื้อพรต้องอยากคุยกับคุณวินกับคุณเอ จนตัวสั่น”

วินกับเอ กลับเข้ามาในบ้านพักหรู
“วู้ สนุกจังเลย สุดยอด”
เอหัวเราะดีใจ วินมองเอยิ้มๆ
“คุณเก่งจริงๆ แต่คราวหลังไม่ต้องทำตาหวานถึงขนาดนั้น”
เอหันกลับมาแล้วกระโดดกอดวิน “หึงด้วยใช่มั้ยล่ะ”
“คุณก็รู้อยู่แก่ใจ”
“ยอมรับแบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้เอ็นดูมากขึ้น ง่วงแล้วล่ะ”
เอพูดจบ วินก็รีบอุ้มเอขึ้นมา เอยิ้มรับ
“อ๊ะ จะทำอะไร”
“ก็แค่อุ้มคุณไปส่งที่ห้องนอน”
เอ ยิ้มหวาน “โอเค”
วินอุ้มเอ มาถึงหน้าประตูห้องนอน
“ไม่ต้องอุ้มผ่านประตูหรอกค่ะ”
วินหน้าจ๋อย “ไม่ไว้ใจผมเหรอครับ”
เอยิ้ม แล้วหอมแก้มหนึ่งฟอด
“วันหนึ่งคุณอาจจะผ่านกำแพงอุดมการณ์ของคุณ อุ้มฉันผ่านประตูด้วยความรู้สึกที่มาจากหัวใจ”
วินจ้องมองเอ ด้วยสายตาลึกซึ้ง แล้วค่อยๆปล่อยเอลง
“วันนั้นฉันอาจจะอ้วนจนคุณอุ้มไม่ไหวแล้วก็ได้”
วินฝืนยิ้ม
“กู๊ดไนท์”
“กู๊ดไนท์ครับ”
เอ ปิดประตูเข้าไปในห้อง แล้วรำพึงกับตัวเอง“ฉันจะทำยังไงถ้าคุณผ่านกำแพงอุดมการณ์มาได้จริงๆ”
ทางด้านที่ผับของโจ ลูกค้าทยอยออกจากผับ โจยืนทักทายขอบคุณ จนคนสุดท้ายออกไป แต่แล้วมีชายฉกรรจ์สองคนเดินเข้ามา โจกวาดตามองไป เห็นนายเกื้อพรเดินเข้ามา
“สวัสดีครับคุณโจ”
โจยิ้ม “ ลืมให้ทิปเด็กหรือครับ”
“ผมก็แค่ขอเวลาคุยกับคุณหน่อย”
“เชิญครับผมยังต้องคอยดูพนักงานปิดร้านพอมีเวลาซักครึ่งชั่วโมง”
โจเดินนำนายเกื้อพรไปนั่งที่โต๊ะ มือปืนสองคนจะเดินตามมา นายเกื้อพรยกมือให้รออยู่ “เชิญครับ”
“ผมจะไม่อ้อมค้อม ผมคิดว่าคุณรู้จักดีกับคุณผู้หญิงคนสวยที่ผมคุยด้วยเมื่อตอนหัวค่ำ”
“คนไหนหรือครับ” โจแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“คนที่ตำรวจมาตามจับน่ะครับ”
โจแกล้งไม่พอใจ แล้วลุกขึ้น “เสียใจด้วยครับ เวลาผมหมดแล้ว”
“เดี๋ยวครับ อย่าเข้าใจผิด เชิญนั่งลงก่อน ที่ผมเอ่ยถึงคุณผู้หญิง เพื่อให้คุณจำได้ว่าเป็นใครเท่านั้นเอง
ผมจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือผู้ต้องหาคดีนายสุชาติร่วมกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง”
“มันเกี่ยวกับผมตรงไหน”
“ผมไม่ได้ว่าคุณเกี่ยว ผมแค่คิดว่า บางทีคุณอาจจะแนะนำสองคน นั่นให้ผมรู้จัก เผื่อว่าเราจะทำธุรกิจร่วมกันได้”
โจยิ้ม “เวลาของคุณหมดพอดี”
โจลุกขึ้น นายเกื้อพรลุกขึ้นตาม โจผายมือ เกื้อพรจะพูดอะไรต่อแต่ก็หยุดไว้ พลางล้วงอกเสื้อหยิบ เงินมาปึกใหญ่ วางบนโต๊ะ
“อ้อ ฝากทิปให้เด็กด้วย”

โจยักไหล่ นายเกื้อพรยิ้มแล้วเดินออกไป โจมองตามยิ้มเล็กน้อย ที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

“ตื่นสายเลยนะ”
ทอมหันมาทัก เมื่อเห็นแนนเดินลงมาจากชั้นบน
“พี่วินโทรมาคุยด้วยตอนดึกค่ะ เลยตาสว่างนั่งทำการบ้านเกือบทั้งคืน”
แนนเดินเข้ามายืนตรงหน้าเปียโน
“สองคนนั่นเป็นไงบ้าง”
แนน ถอนหายใจ “เฮ้อ ต่างคนต่างพยายามยึดถือคำพูดของตัวเองมากกว่าคำพูดของหัวใจ”
“แล้วเราล่ะเป็นยังไงบ้าง มีพี่เป็นผู้ต้องหาคดีหนักเพิ่มอีกหลายกระทง”
แนน ส่ายหน้า
“จะเหลือเหรอคะพ่อ มนุษย์บางคนรอที่จะซ้ำเติมคนอื่นอยู่แล้ว”
“มนุษย์พวกนั้นจะโดดเดี่ยวในที่สุดเพราะไม่มีใครอยากคบด้วย”
“แต่มนุษย์พวกนั้นมีเงินนะคะ”
“อืม อย่างน้อยก็คงมีพวกขี้ข้าคอยตามเลียก้นอยู่บ้าง”
แนนยิ้มขำ พลางเข้ามาหอมแก้ม
“น้องแนนกำลังจะปะเหลาะอะไรกับคุณพ่อครับ”
ทอมกับแนนหันไป เห็นโจเดินเข้ามา
“พ่อนึกว่าวินกับเออยู่ในระหว่างประกันตัว พวกมันคงไม่มาดักล่ารางวัลแล้วมั้ง โจไม่ต้องเหนื่อย มารับแนนก็ได้นี่”
แนนมองพ่อ แล้วทำเสียงอ้อน “โห คุณพ่อประมาทไม่ได้นะคะ”
“เราจะเอาสบายให้พี่โจลำบากอยู่คนเดียว”
“จริงอย่างที่น้องแนนว่าครับ ตอนนี้ วินกำลังอยู่ในปรากฏการณ์ใหม่ เป็นผู้ร้ายระดับบิ๊กเลยนะครับ”
“ โอเค..เอาไงเอากัน”
“บ๊ายบายค่ะคุณพ่อ”

“เรื่องละครไปถึงไหนแล้ว”
โจหันมาถามแนน ในขณะนั่งอยู่ในรถ มุ่งสู่มหาวิทยาลัยด้วยกัน
“กำลังคัดตัวแสดงอยู่ค่ะ”
“แล้วเรื่องประธานนักศึกษา”
“กำลังหาเสียงกันอยู่ค่ะ แต่คงจะแพ้เพราะคู่แข่งเป็นไฮโซมีเงิน แจกแถมทุกอย่าง”
“อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่ายๆ เดี๋ยวนี้คนรู้หมดแล้วว่าคนที่แจกแถมเป็นคนไม่ดี หวังผลตอบแทนสูง”
แนนพยักหน้ารับ “ค่ะ”
โจยิ้ม พลางเลี้ยวรถไปทางมหาวิทยาลัย น้ำหวาน เมจิ ยืนแอบดูอยู่ที่ลานจอดรถ
โจเลี้ยวรถเข้ามาจอด แล้วลงจากรถ อ้อมมาเปิดประตูให้แนนลงมา
“เอาล่ะ ไปสู้ๆได้แล้ว”
“แนนขอบคุณพี่โจมากๆนะคะที่มาดูแล แนนกับคุณพ่อ”
“เฮ้ พี่โจนะเนี่ย ไม่ใช่คนอื่นคนไกล”
โจเอามือยีหัว แนนยิ้มหวานให้
“ก่อนเลิก โทรหาพี่ โอเค”
“ค่ะ บ๋าย บายค่ะ”
แนน เดินออกไปแล้วหันมาโบกมือ โจมองตามโบกมือให้ สีหน้าสดใส จนแนนลับสายตาไป โจยิ้ม อารมณ์ดีขึ้นรถแล้วขับออกไป
“แกเห็นหรือเปล่าน้ำหวาน”
เมจิหันขวับมาถามน้ำหวาน
“เห็นน่ะซิ ทำไม”
“ถามได้ทำไม อาการพี่โจแบบนี้ เขาเรียกว่า อินกับยัยแนนของเราเต็มที่”
“บ้าน่า” น้ำหวานทำเสียงดุใส่เมจิ “พี่โจเป็นเพื่อนกับพี่วิน พี่โจรู้จักยัยแนนเหมือนพี่เหมือนน้อง”
“พี่น้องเขาไม่ยืนมองน่าตาเพ้อฝันแบบนั้นหรอกดูนี่ซะก่อน”
เมจิโชว์รูปของโจที่กอดอกยืนมองแนน น้ำหวานจ้องมองสีหน้าครุ่นคิด
“ว่าไง”
น้ำหวานสีหน้าตื่นเต้น “โห ดูเหมือนว่าจะใช่อย่างที่เธอว่า”

แนนเดินมาที่โต๊ะประจำ พลางมองหาเมจิกับน้ำหวาน
“พวกนี้ บอกว่าจะรอ แล้วหายไปไหน”
แนนเดินไป เห็นกลุ่มของนุจรี กำลังคุยกับกลุ่มนักศึกษา
“พี่ชายยัยแนนเป็นผู้ต้องหา คิดดูแล้วกันว่าน้องสาวจะมาเป็นประธานนักศึกษาได้ยังไง”
หลินใส่ไฟ แนนเดินมาได้ยินพอดี เลยสวนขวับทันที
“ทำไมจะไม่ได้”
"ไงแนน ตำแหน่งน้องสาวผู้ต้องหาเป็นไงมั่ง” บิวทำเสียงเย้ยๆ
แนน ยักไหล่ “ก็ดีนี่ ไปไหนคนก็รู้จัก ใครๆก็พูดถึง”
“ฉันว่าเธอถอนตัวลงเลือกประธานนักศึกษาหญิงจะดีกว่า”
หลินพยายามปั้นหน้าว่าหวังดี แนนยิ้ม พลางกวาดสายตาเห็นนุชจรียิ้มทำไม่รู้ไม่ชี้ ในขณะที่
พีช รีบเสริม
“จริงด้วย มีพี่ชายประวัติด่างพร้อย เสียชื่อเปล่าๆ”
“นั่นมันเรื่องของพี่ชายฉัน ประวัติฉันไม่ด่างไม่พร้อยเหมือนพวกเธอหรอก”
บิวเบ้ปาก “พวกเราจะแฉให้ทุกคนรู้ ดูซิว่าใครจะเลือกเธอ”
“ ไม่ต้องพูดมาก แนนไม่ถอนตัวแน่ จำไว้”
น้ำหวานกับเมจิเดินเข้ามายืนข้างแนน
“ไปกันได้แล้วพวกเรา” นุจรีบอกกับเพื่อนๆ ก่อนที่จะหันมาทางแนน
“ขอให้พี่วินชนะคดีนะจ๊ะแนน”
“ชนะแน่ ขอบใจ”
นุจรี กับก๊วนเดินออกไป เมจิยกกำปั้นให้
“ดัดจริต แต๊ดแต๋”
แนน หันมาทำตาดุใส่เพื่อน
“นี่พวกเธอหายไปไหนมา ไหนบอกว่าจะรอตรงลานจอดรถไง”
เมจิกับน้ำหวาน หันมามองหน้ากัน ก่อนที่เมจิ จะกดโทรศัพท์ให้ดูรูปโจ
“พี่โจนี่ ยังกะคนกำลังอินเลิฟ”
แนนมองอย่างสงสัย เมจิรีบบอก
“กำลังอินเลิฟกับเธอไงล่ะ”
แนนยิ้มตาเป็นประกาย
“โอ มายก๊อด ยัยแนน ของเราก็อินเลิฟเหมือนกัน” เมจิทำเสียงตื่นเต้น
“จริงเหรอยัยแนน เธอก็ พี่โจเหรอ”
แนนยิ้มพยักหน้า “แต่ฉันไม่คิดว่าพี่โจ คือ จะ”

แนนยังพูดไม่ทันจบ เมจิกับน้ำหวานก็กรี๊ดกระโดดโลดเต้นรอบๆ ตัวแนน

หนีก็ล่า ซ่าก็รัก ตอนที่ 10 (ต่อ)

โจขับรถกลับคอนโด พลางเหลือบตาเห็นรถตามมา แล้วจู่ๆ รถคันที่ตามมา ก็แซงแล้วปาดหน้า โจ เตรียมพร้อม ชายสองคนลงมาจากรถ พลางเดินตรงมา โจตวัดมือไปใต้เบาะ หยิบปืนติดมือขึ้นมาถือไว้ พลางลดกระจกลง

“หลงทางเหรอไง”
“คุณเกื้อพรขอเชิญพบครับ”
โจเห็นสถานการณ์ไม่เลวร้าย ก็เอาปืนเก็บไว้ที่เดิมแล้วลงจากรถ ชายสองคน ผายมือเชิญโจไปที่รถตู้ นายเกื้อพรนั่งรออยู่ด้านใน
“ขอโทษครับคุณโจที่รบกวน คุณเป็นคนดีมาก ที่คอยดูแลครอบครัวของเพื่อน”
โจ ยักไหล่ “ผมมีเวลาไม่มาก มีอะไรก็รีบหน่อย”
“ผมแค่อยากจะเชิญคุณ กับเพื่อนสองคนของคุณ ไปงานวันเกิดผมหน่อยครับ”
นายเกื้อพรพูด พลางปรายตามองลูกน้อง ที่ยื่นซองให้โจ โจมอง แต่ยังไม่รับ
“แค่บัตรเชิญครับ หวังว่าคงให้เกียรติ”
โจ รับบัตรเชิญมาถือไว้ “ได้ ผมจะบอกเพื่อนผม ส่วนเขาจะไปหรือไม่ไป ผมไม่เกี่ยว ส่วนผมงานยุ่ง คงไปไม่ได้”
“ผมเข้าใจ ขอบคุณมากครับ”
โจกลับไปที่รถ พลางเดาะบัตรเชิญในมืออย่างพอใจ

นายเกื้อพรยืนคุยอยู่กับแขก ที่มาร่วมงานวันเกิด ครู่เดียวพนักงาน ก็เดินเข้ามารายงาน นายเกื้อพร รีบขอตัว แล้วเดินออกมา เห็นเอกับวิน ยืนรออยู่ นายเกื้อพร รีบเดินไปต้อนรับ
“ขอบคุณที่มาครับ”
“คุณวินคะ นี่คุณเกื้อพร” เอแนะนำวินให้รู้จักกับนายเกื้อพร
“ยินดีครับ”
นายเกื้อพรยิ้มรับ “เช่นกันครับ”
“คุณโจบอกว่าคุณมีเรื่องอยากจะคุยกับผม”
วินเข้าเรื่อง
“ครับ เชิญทางด้านนี้ดีกว่า ค่อยส่วนตัวหน่อย”
นายเกื้อพรเดินนำไป เอหยุดมอง ที่ประตูห้องหนึ่งที่มีชายสองคนยืนเฝ้าอยู่
“ห้องนั้นเป็นห้องพิเศษหรือคะถึงต้องมีคนเฝ้า”
“อ๋อ เป็นห้องของพวกคนมีอายุน่ะครับ ข้างนอกมีแต่เด็กๆ พวกนั้นเขาเลยขอตัวไปตั้งวงกันน่ะครับ”
เอยิ้ม “ตั้งวงอะไรคะ”
“คุณเกื้อพรอาจจะไม่อยากตอบก็ได้” วินแกล้งหันมาปรามเอ
“วงไพ่น่ะครับ เล่นกันสนุกๆ “
เอตาโตตื่นเต้น “เอขอไปดูได้มั้ยคะ เคยไปเวกัส เห็นเขาเล่นกันแล้วน่าสนุก”
พูดจบเอก็เดินไปหน้าตาเฉย วินหันมามองนายเกื้อพรแล้วยักไหล่
“อย่าถือสาเลยครับ แบบนี้ประจำ”
นายเกื้อพรยิ้ม “ยินดีครับ งั้นผมว่าเชิญเข้าไปดูด้วยกันดีกว่า”
วินยิ้มพยักหน้ารับ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปที่ห้อง
ในขณะที่เอเดินมาถึง คนเฝ้าห้อง รีบผายมือให้ไปด้านโน้น
“ฉันจะเข้าไปเล่นไพ่”
นายเกื้อพรเดินเข้ามาพอดี “เปิดทางให้คุณ เอ หน่อย”
ชายสองคนเปิดทางให้ เอยิ้มหวานแล้วเดินเข้าไป วินกับนายเกื้อพรเดินตาม
ปรากฏว่าเอโชคดี เล่นไพ่ชนะ ได้เงินมาถึง 90 ล้านบาท เล่นเอานายเกื้อพรหน้าซีด

เมื่อกลับมาถึงเซฟเฮ้าส์ เอ ก็ร้องวู้ อย่างสะใจ วินเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน
“คุณนี่โชคดีจริงๆ ผู้กองวันชาติต้องหัวใจวายแน่ๆถ้าคุณเสียเงินของรัฐให้พวกนายเกื้อพร 30 ล้าน”
เอเดินเข้ามาใกล้จนชิดอกวิน เงยหน้าขึ้นทำสีหน้าจริงจัง
“รู้ไว้ด้วยว่าไม่ใช่โชค ตอนเรียนหนังสือที่อเมริกามีเพื่อนทำงานเป็นคนแจกไพ่ในบ่อน สอนเทคนิค ทุกรูปแบบ ฉันเล่นกินมานักต่อนักแล้วย่ะ”
วินจ้องใบหน้าจริงจังที่อยู่ใกล้จนเหม่อลอย
“เก่งใช่มั้ยล่ะ”
เอยิ้ม พลางเคลื่อนหน้ามาใกล้อีก วินเผลอก้มจูบลงมาที่ริมฝีปากของเอ แล้วค้างไว้ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆห่างออกจากกัน
“คุณทำอะไรน่ะ”
“เอ้อ ผมกำลังแสดงบทหัวหน้ามาเฟียจูบแฟนสาวมาเฟียครับ”
เอ มองวินค้อนๆ “โอ๋ ฮื่ม แอ็คติ้งเยี่ยม”
“ผมว่ายังไม่เนียนครับ..ต้องซ้อมอีกหน่อย”
วินก้มตัวจะจูบอีก แต่กลับถูกเอจับทุ่มลงไปโครม
“แบบนี้เนียนหรือยัง”
วินเสียงอ่อย “yes”

“ผมอุตส่าห์วางกับดักไว้ให้พวกคุณ เล่นชนะสองคนนั่น ผมจะได้บีบสองคนนั่นให้ทำตามคำสั่งขององค์กร กลับเป็นว่าพวกคุณเสียเงินขององค์กรไปเกือบร้อยล้าน”
นายเกื้อพรตวาดใส่ พวกนักเดิมพันต่างนั่งกันเงียบ
“เอาเป็นว่าพวกคุณลงขันกันเอาเงินมาใช้องค์กรก็แล้วกัน”
พูดจบนายเกื้อพรก็ยกแก้วแชมเปญขึ้นจิบสีหน้าเยือกเย็น

เช้าวันรุ่งขึ้น วินในชุดวอร์ม เดินจูงจักรยานออกมาหน้าบ้าน พลางทักทายมือปืนสองคนที่อยู่หน้าบ้าน
“ฉันจะไปออกกำลังซะหน่อย ดูรอบๆซะหน่อยเผื่อทางหนีทีไล่”
มือปืนสองคนพลอยยิ้มขำไปด้วย “อย่าไปไกลมากนะครับ”
“กลัวผมหลงเหรอ”
“กลัวว่าจะมีคนจำคุณได้มากกว่า”
วินพยักหน้ารับ“ผมจะระวังตัว”
“ผมว่าให้พวกเราขับรถตามไปด้วยดีกว่านะครับ”

วินโบกมือห้าม“ไม่ต้องหรอกน่า”

แนนเดินฮัมเพลงเข้ามาในห้องครัว ทอมนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โต๊ะทานข้าว
“อารมณ์ดีแต่เช้าเลยวันนี้”
แนนรู้ตัว รีบทำเฉย แล้วหันมาทักบิดา
“มอร์นิ่งค่ะ”
“ป้านิ่มทำไส้กรอกไข่ดาว ไว้แน่ะเผื่อพี่โจด้วย”
แนนแอบอมยิ้มเมื่อได้ยินชื่อโจ แต่รีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ พลางหยิบจานเปิดฝาอาหารตักใส่จาน
“คุณพ่อทานอะไรดีคะ”
“พ่อเรียบร้อยแล้วลูก พี่โจมาแล้วมั้ง พ่อได้ยินเสียงรถ”
แนนเขิน แต่แกล้งทำไก๋ ทานไปเรื่อยๆ อึดใจโจก็โผล่เข้ามา
“เข้ามาซิโจ ตามสบาย”
“หวัดดีค่ะ พี่โจ”
แนนพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ทั้งที่แอบเขิน
“หวัดดีจ้ะ เมื่อวานเลิกเรียนทำไมไม่โทรหาพี่ พี่โทรหาก็ไม่ติด”
“แบตหมดค่ะ แล้วพอดีน้ำหวานชวนไปเดินศูนย์การค้าแล้วจะมาส่ง เลยไม่ได้โทร กลับมาค่ำ เวลาที่ผับน่าจะยุ่ง ว่าจะโทรตอนดึก ทำการบ้านผลอยหลับไปเลย จนถึงเช้านี่แหละค่ะ ขอโทษพี่โจด้วยนะคะ”
แนนพูดยาวเหยียด โจกับทอม หันมามองหน้ากันกึ่งขำกึ่งแปลกใจ
“โห อธิบายยาวเลยเหรอลูก”
โจยิ้ม แนนรีบเปลี่ยนเรื่อง “พี่โจ Breakfast ก่อนค่ะ”
แนนพรวดเร็วขึ้นไปตักอาหารเช้ามาให้โจ ทอมคิ้วขมวดมองอย่างสงสัย
“เช้านี้ลูกแปลกไปนะ”
แนนสะอึก พลางรีบยิ้มให้โจกับทอม
“เปล่านี่คะ”

ในขณะที่วินขี่จักรยานอยู่ ทันใดนั้นมีเสียงมอเตอร์ไซด์ดังขึ้นมาจากด้านหลัง วินหันไปก็เห็นมอเตอร์ไซด์วิ่งเข้ามา คนซ้อนท้ายที่ถือปืนอยู่ สาดกระสุนเข้าใส่ วินก้มตัวปั่นจักรยานหนีอย่างรวดเร็ว รถมอเตอร์ไซด์วิ่งไล่ตาม จนวิ่งแหกโค้ง วินรีบปั่นพ้นพวกมันไปจนได้

วินขี่จักรยานกลับเข้ามาในบริเวณบ้าน มือปืนสอง รีบเข้ามารายงาน
“คุณเอ ออกไปข้างนอกครับ บอกให้รอคุณก็ไม่ยอมครับ”
วิน ส่ายหน้าอย่างหัวเสีย
“บ้าจริง พวกมันโผล่มาเล่นงานผม มันไม่ปล่อยคุณเอแน่ เช็คดูซิว่าอยู่ไหน แต่ไม่ต้องบอกอะไร เดี๋ยวจะตกใจวุ่นวายกันไปใหญ่”
“ผมต้องการให้รถพร้อมภายในสิบนาที”
วินสั่งการ มือปืนพยักหน้ารับคำสั่ง

รถของโจเข้ามาจอดที่ลานจอดรถในมหาวิทยาลัย น้ำหวาน เมจิ เทป ยืนรอกันครบทีม
“แนนนัดเพื่อนให้มารอเหรอจ๊ะ”
แนนเห็นก็สะดุ้ง แล้วรีบตอบกลบเกลื่อน
“เออ ค่ะ กะว่าจะเอ้อ คือ มีประชุมวางแผนหาเสียงน่ะค่ะ”
โจลงมาจากรถเปิดประตูรถให้แนน กลุ่มเพื่อนๆยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“สวัสดีครับทุกคน” โจยิ้มทักทาย พลางนึกแปลกใจ เมื่อเห็นแนนตีหน้าตุ่ยบ่นมุบมิบไม่ออกเสียงใส่พรรคพวกอยู่ แนนรีบยิ้มแทบไม่ทัน
“ท่าทางการเลือกตั้งต้องเข้มข้นมาก ขยันกันน่าดู”
แนนเขินเพื่อน เลยรีบลาโจ
“ขอบคุณค่ะ พี่โจรีบไปเถอะค่ะแล้วแนนจะโทรไป”
“ก่อนเลิกนะ”
“ค่ะ บ๊ายบาย”
“อืม ไปก่อนนะครับ”
โจขึ้นรถแล้วเคลื่อนออกไป ทุกคนโบกมือบ๊ายบายยิ้มแย้ม แนนหันมาเล่นงานเพื่อนทันที“เฮ้ย พวกแกนี่ ทำอะไร”
“ก็มาคอยดูเชียร์ให้เธอสวีทกับพี่โจน่ะซิ” เมจิตอบล้อๆ
แนนหน้าแดง “บ้าเหรอ พี่โจยังไม่ได้พูดอะไรกับฉันซะหน่อย”
แนนเดินหน้าตุ่ยมาถึงม้าหินตัวโปรดของก๊วน พลางนั่งลง เพื่อนๆ นั่งล้อมวงตาม
“พี่โจก็ชอบเธอ เธอก็ชอบพี่โจ ไม่น่าจะมีปัญหา” เมจิสรุป
“แต่พี่โจเขาไม่รู้นี่ว่า ฉันก็ชอบเขา” แนนหน้าจ๋อย
“ไม่เห็นยาก ฉันว่าเธอน่าจะพูดไปเลย พี่โจน่ารัก ใครได้พี่โจเป็นแฟนคงโชคดีที่สุดเลยค่ะ”
แนน เบ้ปาก
“แหวะ ยังกะตัวอิจฉากำลังอ่อยพระเอก”
น้ำหวาน หันมาทำเสียงดุใส่เมจิ
“เป็นผู้หญิงพูดได้ไง ต้องให้ผู้ชายพูดดิ”
“ผู้ชายไม่พูดหรอก ยิ่งเป็นน้องเพื่อนแล้ว อะ อะ อ้า ไม่พูดเด็ดขาด” เทปออกความเห็น
“ทำไม”
“ลูกผู้ชายเขาถือกัน ว่าห้ามจีบน้องเพื่อน”
แนนพยักหน้า
“นายเทปพูดถูก ดังนั้นถ้าพวกเธอทำให้พี่โจตกใจ จนไม่กล้าจีบฉันล่ะก็ โดนแน่”เพื่อนๆ หน้าจ๋อยกันเป็นแถว แนนยิ้มขำ

“ไป ไปวางแผนหาเสียงสู้กับนุจรีกันดีกว่า”

โมกำลังนอนหลับตาอยู่บนเก้าอี้สปา หน้าพอกด้วยดินสมุนไพร ที่ดวงตามีแตงกวาปิดอยู่ทั้งสองข้าง
“ไงจ๊ะคนสวย”
โมสะดุ้งพรวดขึ้นมาแตงกวาหลุดกระจาย เห็นเอยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า โมตาโตด้วยความดีใจ พลางพรวดขึ้นมาจะกอด แต่เอยกมือยันไว้ทัน
“เดี๋ยวหน้าเธอจะเละหมด”
“โอย ดีใจที่สุด คิดถึงมากเลยเอ”
เอ ยิ้มจริงใจ “ฉันรู้ ฉันถึงมาหาเธอเป็นคนแรกไงล่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นเล่ามาให้หมด เธอกับหนุ่มไปถึงไหนกันแล้ว”
เอ มองหน้าโมแล้วยิ้ม “ใจเย็นๆ”
“โอเค ฉันขอตัวเดี๋ยวนะจ๊ะ”
พูดจบ โมก็รีบพรวดออกไป

จากนั้นทั้งคู่ก็เข้ามานั่งคุยกันในร้านกาแฟ
“ฉันดีใจที่เธอใช้เงินกองทุนสาวไฮโซ ช็อประเบิด พวกนั้นเต้นกันใหญ่ โดยเฉพาะยัยพิ้งค์คนต้นคิด”
โมรีบบอกเอทันที
“เงินเธอด้วยนะจ๊ะ”
“นี่อย่ามาพูดแบบนี้กับฉันนะ สำหรับฉันเพื่อนสำคัญกว่าเงิน อีกอย่างก็เป็นเงินที่พ่อฉันงุบงิบชาวบ้านมา ยังไงก็อยู่ไม่นานหรอก ฉันถึงรีบๆใช้ไงล่ะ”
“ดีมาก เพราะจะไม่ได้คืนหรอก ฉันจะเอาไปทำบุญ”
โม พยักหน้าเห็นด้วย
“ดีแล้ว พวกนั้นตั้งกองทุนเพราะอยากดัง อย่าคืน จะได้เข็ดๆกัน”
“ในกลุ่มเพื่อนๆฉันรู้ว่าเธอจริงใจกับฉันเสมอ”
“เอาล่ะ เลิกพูดเรื่องเงินได้แล้ว เล่าเรื่องให้ฉันฟัง ดีกว่าว่ามันเรื่องอะไรกันแน่”
เอถอนหายใจเบาๆ “ฉันว่าเธออย่ารู้เรื่องอะไรเป็นดีที่สุด”
“ก็ได้ แล้วเธอจัดการกับหนุ่มไปเรียบร้อยหรือยัง”
“บ้า ฉันเป็นเด็กดีนะจ๊ะ” เอยิ้มเขิน

“เชื่อเลยขอให้ได้ช้อปเถอะ”
วินบ่นกับตัวเอง ขณะกำลังขับรถตรงไปที่ศูนย์การค้า พลางยกโทรศัพท์มาโทร.ออก
“ผู้กองวันชาติเหรอครับ ผมต้องการกำลังเสริมที่ศูนย์การค้าครับ ผมกำลังไปครับ”
วินวางสาย แล้วเร่งรถขึ้นไปทันที

“โรแมนติกน่าดู แต่ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดี เธอชอบเขา เพราะเขามีอุดมการณ์ไม่ชอบเธอ”
โมมองหน้าเออย่างแปลกใจ
“ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันแฮปปี้ ชีวิตมีรสชาติที่สุด”
“โอเค แล้วเธอจะเอายังไงกับคุณพอล”
เอ ส่ายหน้าช้าๆ
“คุณพอลกับฉันแค่สนิทกัน ตลอดเวลาฉันบอกคุณพอลเสมอว่าเราเป็นเพื่อนกัน แต่คุณพอลเขาบอกว่าเขาจะเอาชนะใจฉันให้ได้ ฉันก็ต้องปล่อยเลยตามเลย”
“แน่ละ เธอทั้งสวยทั้งรวย ฉันไม่อยากเซดหรอก ฉันว่าคุณพอลก็เหมือนกับผู้ชายทุกคนที่ต้องการหาทางรุ่งให้กับตัวเอง”
เอมองหน้าโม “เธอหมายความว่ายังไง”
“ตอนนี้ได้ข่าวว่าคุณพอลกำลังมีลูกสาวนักการเมืองไฮโซ นักศึกษาปีสุดท้ายมาติดพัน แล้วคุณพอลก็ทำท่าสนด้วย”
“เย้” เอยิ้มหน้าบาน
“โห ออกนอกหน้าเลยนะ แล้วเธอจะไม่คิดจะเจอก๊วนเราอีกเหรอ”
“บอกว่าฉันเซย์ ฮัลโหล แล้วจะนัดพบทุกคนอีกที โอเค”

เอ เดินออกมาจากหน้าศูนย์การค้า รถตู้เข้ามาจอดรับ มือปืนสองคนลงมาจากรถตู้เปิดประตูให้ แต่แล้วมีตู้สองคันเข้ามาประกบพร้อมพวกมือปืนออกมาห้าคน แล้วเอาปืนขู่ทุกคนไว้ ทุกคนต้องทำตามคำสั่งพวกมัน เอ ยืนเฉยเตรียมพร้อม พวกมันสามคนคุมมือปืนของเอไว้ สองคนที่เหลือเดินเข้ามาคุมตัวเอ เอหันไปยิ้มให้
“ฉันเดินไปเองได้ ไม่ต้องมาถูกตัวฉัน”
มือปืนสองคนไม่ฟังเสียงคว้าต้นแขนของเอคนละด้าน
“บอกว่าอย่าถูกตัวฉัน”
เอสะบัดหลุด ก่อนที่จะตบมันโครม จนกระเด็นไป อีกคนหนึ่ง ก็ถูกชกโครม จนหงายไป จากนั้นพวกมันกับมือปืนของเอ ก็เกิดการต่อสู้กัน ทันใดนั้นมีรถเก๋งพรวดเข้ามาจอดห่างจากรถตู้ ร่างของวินโผล่ออกมา
ปืนในมือยิงกราดไปที่พวกมัน พวกมันหยุดนิ่ง พลางยกมือขึ้นสูง
“ทางนี้”
เอรีบวิ่งไปที่รถของวิน
“ขึ้นรถเร็วเข้า”
เอ รีบเปิดประตูขึ้นรถ วินกลับเข้าไปในรถแล้วถอยรถพรวดออกไป พวกมือปืนรีบถอยไปขึ้นรถของมัน“ตามเว้ย”

วินขับรถหนีพวกมัน ที่ขับรถตู้ตามมา เอหันไปมอง
“บ้าจริง พวกมันไม่ยอมเลิก”
“ผมหวังว่าในกระโปรงคุณมีของดีมาด้วย”
เอ ตกใจ “หา อะไรนะ”
“ผมแค่ถามว่าคุณพกปืนมาหรือเปล่า”
“อ้อ” เอ เลิกกระโปรงทางด้านขวาขึ้นมา เห็นปืนพีพีเค ติดสายรัดพกอยู่ที่ต้นขา
“โอเคมั้ย”
“ดีมาก”
รถของวินวิ่งพรวดไป รถตู้ขงพวกมันตามมาติดๆ
“เชิญตามมาเลยเพื่อน”
“นี่อย่าบอกนะ ว่าจะจอดรถดวลกับมัน”
วินยิ้มไม่ตอบ ทันใดนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปในถนนเล็กๆ เอหันไปมอง เห็นรถตู้พวกมันเลี้ยวตามเข้ามา
“มันมาตามคำเชิญของคุณติดๆ”
“ดี”
ทันใดนั้นวินก็เบรคเอี๊ยด
“โอ๊ย จะเบรคก็ไม่บอก”

เอบ่นเบาๆ แต่แล้วก็ยิ้มออก เพราะตรงหน้า มีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งเป็นด่านรออยู่ มีเจ้าหน้าที่ยืนประจำด่านอยู่ห้าคน วินหันมายิ้มกับเอ เอหันไป เห็นรถตู้เบรคพรืดสนั่นแต่ไกล แล้วรีบกลับรถถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

“ฉัน ไม่ได้มาช้อปปิ้งนะ ฉันแวะมาหาโม”
เอรีบอธิบายให้วินฟัง วินยิ้มรับ
“หิวมั้ยครับ ไปหาอะไรทานกันดีกว่า”
เองงๆ ไม่แน่ใจว่าวินประชดหรือเปล่า แต่พอเห็นวินสีหน้าเรียบ ก็ค่อยใจชื้น
“ได้เหรอคะ เอ้อ คือ อาจจะเจอพวกมันอีก”
“คงไม่แล้วล่ะครับ แต่เดี๋ยวผมจะโทรบอกพวกเจ้าหน้าที่ว่าเราอยู่ที่ไหนจะได้ตามมาสมทบคอยระวัง”
“งั้นก็ดีค่ะ เฮ่ หิวเหมือนกัน”
เอยิ้มโล่งใจที่วินไม่โกรธ พลางมองตาหวาน

“ผมรู้ว่าคุณเบื่ออยู่แต่ในบ้าน แต่คราวหลังจะไปไหนก็บอกผมจะมาด้วย”
วินอดไม่ได้ที่จะเตือนเอ หลังจากที่พากันมานั่งในร้านอาหาร
“บอกแล้วคุณก็ห้ามทุกที”
“ เราอยู่ในระหว่างเรื่องราวที่ไม่แน่นอนอันตรายอาจเกิดขึ้นได้ ผมก็แค่เป็นห่วง”
เอ หน้าจ๋อย “ฉันรู้ ถึงไม่บอกไง”
“เอาล่ะ ต่อไปนี้คุณจะไปไหน ผมจะไม่ห้ามอีกแล้ว”
เอ ตาโต หันมองหน้าโจ อย่างไม่เชื่อหู วินพูดย้ำ
“จริงครับ”
เอยิ้ม พลางลุกอ้อมโต๊ะมาหอมวินหนึ่งฟอด
“หอมกันวันละนิด จิตแจ่มใส”

แนนกับเพื่อนเดินมาที่อาคารเรียน เห็นนักศึกษามุงจับกลุ่มคุยกันอยู่ประมาณสิบคน
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ”
“เข้าไปดูกันหน่อย”
ทั้งหมดเดินเข้าไปในกลุ่มปรากฏว่าเป็นกลุ่มพวกฟรีด้อม เทปออกมาจากกลุ่มเดินเข้ามาหา
“มีเรื่องอะไรเหรอเทป”
“พวกเราตามมานี่”
เทปดึงมือน้ำหวานวิ่งออกไป แนนกับเมจิมองหน้ากันแล้ววิ่งตามออกไป
“มีเรื่องอะไรเหรอเทป” แนนถามอย่างแปลกใจ
“คือว่า”
เทปกำลังจะเล่า แต่พอดีน้ำหวานขัดขึ้นมาก่อน “เดี๋ยว”
“อย่าเพิ่งขัด”
“ก็ได้ แต่ปล่อยมือเราก่อนได้ปะ”
เทปยิ้ม แล้วรีบปล่อยมือยน้ำหวาน
“ตื่นเต้นไปหน่อย ลืม”
“เอ้าว่ามามีเรื่องอะไร” เมจิกหันมาเร่งเทป
“มีนักศึกษาในกลุ่มพวกฟรีด้อมน่ะ เอ้อ คือ ว่า”
เทปอึกอัก จนน้ำหวานรำคาญ “โอย อึกอักอยู่ได้”
น้ำหวานทุบต้นแขนเทปเบาๆ แนนหันมาปราม
“เบาๆ หน่อยน้ำหวาน”
“เอ้า รายงาน”
“นักศึกษาในกลุ่มฟรีด้อม ท้อง”
แนน น้ำหวาน เมจิ ตกใจ
“เฮ้อ จนได้”
“แย่จัง ท้องก่อนเรียนจบ”

“มันอันตรายมากนะครับ”
ผู้กองวันชาติเตือนวินด้วยความเป็นห่วง
“ผมรู้ แต่นั่นเป็นหน้าที่ของผู้กองที่จะให้คนคอยระวัง ไม่ใช่กักผมกับคุณเอให้อยู่แต่ในบ้าน”
วินหันมายิ้มให้เอ เอยิ้มรับ พลางส่งตาหวานให้
“โอเค จะไปไหนช่วยแจ้งให้ทราบด้วยก็จะดีครับ”
“พวกไหน รู้มั้ยครับ” วินยังไม่หายข้องใจ
“สายยังไม่ได้รายงานมา แปลกมากตอนนี้ไม่มีเงินรางวัลนำจับคุณแล้วนี่”
“อาจจะเป็นนายสมภพก็ได้ เพราะถ้าเราสองคนชนะคดี เรื่องอาจจะวกกลับไปหานายสมภพก็ได้”
วินตั้งข้อสังเกค
“จริงของคุณ เก็บคุณซะ การเข้าหาตัวนายเกื้อพรก็ยิ่งง่าย”
“นี่จะขู่ให้กลัวหรือไงคะ”
เอหันมาพูดประชด ผู้กองวันชาติยิ้มแหยๆ
“ขอโทษครับ”

ไอ้อ๊อดเดินเข้ามาในห้องทำงานของนายสุรชัย ท่าทางเคร่งเครียด
“ท่านส่งคนไปทำงานโดยไม่บอกผม ท่านไม่ไว้ใจผมแล้วใช่มั้ยครับ”
“ไม่ใช่ยังงั้น ใครก็รู้ว่าเอ็งทำงานให้ข้า ส่งเอ็งไป เรื่องก็ต้องมาถึงข้าจนได้”
“เรื่องนี้ถ้านายเกื้อพรสนใจ รับรองว่าสาวมาถึงท่านแน่ นายประสิทธิ์ พ่อนังเอ ก็เส้นสายไม่เบา ช้าหรือเร็วพวกมันต้องรู้”
สุรชัยยิ้ม อย่างใจเย็น
“เอ็งอย่าซีเรียส ไอ้พวกที่ข้าจ้างมา มันเป็นพวกตามออเดอร์ สั่งเข้ามาแล้วส่งกลับไม่มีร่องรอยแน่นอน”
“ค่อยยังชั่วหน่อย”
“ยังไงก็แล้วแต่ เอ็งจับตาดูพวกมันไว้ให้ดี ลูกชายข้าตายทั้งคน ข้าไม่ปล่อยพวกมันแน่”
“ครับท่าน”

ไอ้อ๊อด รับคำแล้วเดินออกไป

หนีก็ล่า ซ่าก็รัก ตอนที่ 10 (ต่อ)

“คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมกับคุณเอ สบายดี”
วินบอกกับทอมทางโทรศัพท์
“ลูกก็ไม่ต้องห่วงพ่อกับแนนนะ โจคอยมาดูรับส่งแนนตลอด”
“ดีครับ”
“พูดถึงยัยแนน พ่อสังเกตว่า คือ พ่อคิดว่า มันแปลกๆคือพ่อคิดว่า”
ทอมอึกอัก วินรู้ว่าพ่อหมายถึงเรื่องอะไร ก็รีบอธิบาย
“ไม่มีอะไรหรอกครับคุณพ่อ ยัยแนนแกแค่ปลื้มนายโจนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าจะปลื้มนานแค่ไหนอาจจะแป๊บๆแบบเด็กๆ”
“แล้วนายโจล่ะ”
“โธ่แล้วคุยว่าเป็นเซียนเคยเห็นนายโจมันควงสาวมาอวดมั่งหรือเปล่าครับ”
“หา นายโจเป็น เกย์ เหรอ” ทอมตกใจ
“ เปล่าครับพ่อ ผมว่านายโจก็สนยัยแนนเหมือนกัน ผมดูออกตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร”
“เฮ้อ เอา เอา แล้วแต่ ว่าไงว่าตามกัน พ่อทำไม่รู้ไม่ชี้ดีกว่า”
“ผมจะรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดนะครับ”
“ระวังตัวนะลูก”
“ครับ”
วิน รับคำ ก่อนจะวางสาย อดขำทอมไม่ได้

รถของโจวิ่งเข้ามาที่ลานจอดรถ เห็นแนนยืนรออยู่คนเดียว โจเปิดประตูลงมา
“ไม่มีขบวนเพื่อนมาส่งเหรอคะ”
“เอ้อ ไม่รู้หายไปไหนหมด ไปกันเถอะค่ะ”
แนนแก้ตัวแล้วรีบขึ้นรถ โจขึ้นรถแล้วขับออกไป พวกน้ำหวาน เมจิ เทป วิ่งตามมา พลางหยุดหอบที่ลานจอดรถ
“หนอย ยัยแนน แอบหนีมาจนได้” เมจิบ่นอุบ
“ความจริงเราไม่ควรยุ่ง”
เมจิแกล้งดันอกเทปเบาๆ “ก็อยากดูนี่”
น้ำหวานหัวเราะขำ เทปได้แต่ส่ายหน้า

โจขับรถอยู่ เห็นแนนนั่งเฉยไม่คุยเหมือนเดิม ก็นึกแปลกใจ
“เป็นไรคะเงียบไป ทุกทีมีเรื่องเล่าให้พี่ฟัง”
“อ้อ เหรอคะ” แนนเขินจนพูดตะกุกตะกัก
โจยิ้มขำ
“แนนกำลังคิดว่า ตอนนี้เหตุการณ์เริ่มปกติไม่ค่อยเห็นพวกผู้ร้าย เกรงใจพี่โจต้องมารับค่ะ”
“ใครบอกว่าปกติล่ะ”
แนน ตกใจ “หา ไม่ปกติเหรอคะ”
“ มีพวกมันตามเราอยู่ข้างหลังอย่าหันไปดูนะ”
“ใช่เหรอคะ”
โจ พยักหน้า “เดี๋ยวก็รู้”
พูดจบ โจก็เลี้ยวรถเข้าถนนสายเล็กๆ
“ทำไงดีคะ”
“ไม่ยาก” พูดจบ โจก็เบรครถเอี๊ยด “ลงจากรถเร็วเข้า”
แนนลงจากรถ โจตวัดมือไปทางใต้เบาะด้านหลัง หยิบปืนติดขึ้นมา แล้วพรวดลงจากรถ พลางกวาดสายตาไปรอบๆ
“น้องแนนรีบหลบไปหลังต้นไม้ตรงโน้นอย่าออกมา”
“แล้ว”
“เร็วเข้า”
แนนรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว โจยิ้มแล้วหันไปมอง เห็นรถพวกมันเลี้ยวโค้งตามมา ก่อนที่จะจอดปาดหน้ารถ แล้วรีบลงมาจากรถ ปรากฏว่าเป็นรถว่างเปล่า พวกมันต่างมองหน้ากัน แต่แล้ว
“โย่”
พวกมันหันไปก็เห็นโจยืนอยู่ท้ายรถตู้ เล็งปืนส่องมา พวกมันหันมามองหน้ากันว่าจะเอายังไงดี
“บอกก่อนว่ายิงแม่นมาก”
พวกมันมองหน้ากัน แล้วตัดสินใจตวัดปืนเข้าหาโจ โจยิงสวน จนพวกมันสามคนทรุดกันหมด
“บอกแล้วไม่เชื่อ”

“แนนไม่กลัวนะ”
โจหันมาถามแนนด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่กลับขึ้นมานั่งในรถแล้ว
“เฮ่ ไม่กลัวค่ะ ตื่นเต้นดี”
“คงไม่หาว่าพี่โหดนะ”
แนนยิ้ม “ไม่หรอกค่ะ ถ้าเป็นแนนโหดกว่าแนนยิงดับหมด”
“หา”
“ล้อเล่นค่ะ”

วิน กำลังนอนเล่นอยู่บนเก้าอี้สนาม ด้านหลังเซฟเฮ้าส์ มีหมวกเบสบอลปิดหน้าอยู่ ที่โต๊ะข้างๆ มีน้ำ และโทรศัพท์วางอยู่ พร้อมหนังสือหนึ่งเล่ม เอเดินใกล้เข้ามา แล้วหยุดตรงหน้าของวิน
“ฉันคิดว่าจะนัดพบกับพวกสาวไฮโซแล้วก็คุณพอล นี่ ได้ยินหรือเปล่า”
“ฟังอยู่ครับ”
“อยากให้คุณไปด้วย”
“โน”
เอเท้าเอวมองค้อนวิน พร้อมๆ กับที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น วินเอื้อมมือมาคว้าโทรศัพท์ทั้งๆที่หมวกยังปิดหน้าอยู่
“ว่าไงครับ ผู้กอง”
“พวกมันเพิ่งเล่นงานคุณโจ”
วินพรวดขึ้น จนหมวกหลุดจากหน้า เอพลอยสะดุ้งไปด้วย พลางทำหน้าสงสัย
“เอ้อ ฟังอยู่ครับ”
“คุณโจเล่นงานพวกมันนอนโอดโอยอยู่บนถนน ผมเพิ่งให้คนไปเก็บกวาดพวกมัน”
วินหันมายิ้มให้เอ “ต่อครับ”
“สายรายงานว่า น่าจะเป็นฝีมือของนายสุรชัยทั้งหมด ทั้งเล่นงานคุณแล้วก็คุณเอ”
“นึกอยู่เหมือนกัน”
“ผมคิดว่าถ้าคุณได้ร่วมงานกับนายเกื้อพรเร็วเท่าไหร่ นายสมภพจะต้องหาทางเข้าใกล้นายเกื้อพรเร็วขึ้น งานของเราก็จะจบเร็วเท่านั้น”
ผู้กองวันชาติรีบสรุป
“ครับ ผมจะลองคิดดูว่าจะทำยังไง”
วินวางสาย พลางทำสีหน้าครุ่นคิด
“มีเรื่องอะไรคะ”
วินยิ้ม พลางตอบเลี่ยงๆ เพราะไม่อยากให้เอตกใจ
“ไม่มีอะไรครับ เรื่องเดิมๆ”
“ตกลงคุณจะไม่ไป” เอกลับเข้าเรื่องที่คุยค้างอยู่
วินพยักหน้า

“ฉันไปคนเดียวก็ได้”

เมื่อเอเดินออกไป วินก็รีบกดสายโทร. หาโจ
“เฮ้ยมีเรื่องทำไมไม่บอก”
“คุณวันชาติต้องบอกนายอยู่แล้ว”
“ยัยแนนเป็นไง” วินเป็นห่วงน้อง
“แค่ตื่นเต้นนิดหน่อย”
“คุณพ่อล่ะ”
“คุณพ่อโอเค แอ็คติ้งปกติ แต่รู้ว่าคุณพ่อต้องเป็นห่วงฉันเลยขอกำลังผู้กองวันชาติมาอยู่ที่บ้านเรียบร้อย”
วินถอนหายใจโล่งอก
“เฮ้อ ขอบใจเพื่อน ตอนนี้ระวังหน่อยก็แล้วกัน”
“นายก็ด้วย”
“แล้วคุยกันเพื่อน”
วินวางสาย สีหน้าเคร่งครุ่นคิด

จากนั้นวิน ก็เดินมาที่หน้าห้องเอ พลางเคาะประตู ครู่หนึ่งเอก็เปิดประตูออกมา
“อะไรอีกล่ะ”
“แต่งตัวสวยๆครับ เราจะไปทานอาหารกันข้างนอก”
เอยิ้มหวาน
“คุณไม่ต้องเอาใจฉันหรอก ฉันรู้ว่ามันอันตรายฉันมาคิดดูแล้ว ว่าฉันไม่ควรจะดื้อกับคุณ คุณก็แสนดีกับฉัน”
“คือ ผมมีแผนว่าจะไปก่อกวนนายเกื้อพรซะหน่อย”
เอหุบยิ้มแทบไม่ทัน “โธ่เอ๊ย นึกว่าจะทำโรแมนติก”
วินยิ้ม เอ ปิดประตูโครม วินยิ้มชอบใจ

วินกับเอ พากันเช้ามานั่งในร้านอาหารหรู
“แน่ใจเหรอคะว่านายเกื้อพรจะมาร้านนี้”
“สายของผู้กองวันชาติเช็คเรียบร้อยแล้วครับเป็นร้านโปรดของนายเกื้อพร”
เอพยักหน้า พลางตักอาการเข้าปาก “อืม ถือว่าอร่อยใช้ได้”
“ดีใจที่คุณชอบ”
“คงจะอร่อยกว่านี้ ถ้าคุณตั้งใจพาฉันมาไม่ใช่เพราะเรื่องงาน”
เอพูดจบ วินก็ขยับตัว พลางปรายตามองไปข้างหน้า เห็นนายเกื้อพรเข้ามานั่งที่โต๊ะห่างออกไปพร้อมคู่ค้าชายสองคน นายเกื้อพรไม่เห็นทั้งคู่ เอสังเกตทีท่าของวินก็เดาออก
“มาแล้วเหรอคะ”
“ครับ แต่ไม่รีบ ทานของหวานก่อนยังได้”
“แน่อยู่แล้ว”

วินเดินควงเอเข้ามาหยุดตรงหน้านายเกื้อพร นายเกื้อพรมองอย่างแปลกใจ ก่อนจะรีบลุกขึ้นต้อนรับ
“คุณวิน คุณเอ ดีใจที่ได้พบกันอีก เชิญนั่งด้วยกันนะครับ”
วินยิ้ม
“ผมแค่จะมาบอกว่า อย่าเล่นสกปรกกับผมอีก คราวหน้าผมจะไม่ปล่อยคนของคุณ”
พูดจบก็ควงเอเดินออกไปทันที นายเกื้อพรมองตาม อย่างสับสน ระคนไม่พอใจ

วินกับเอ เดินควงกันออกมา รถตู้เข้ามาจอด มือปืนลงมาจากรถเปิดประตูให้ทั้งคู่
“เดี๋ยวก่อนครับ”
วินกับเอ หันกลับไป ก็เห็นนายเกื้อพรเดินเข้ามาหยุดตรงหน้า มีมือปืนสองคนเดินมาด้วย
“ผมว่าคุณเข้าใจผิดที่คิดว่า ผมคือพวกที่เล่นงานคุณ”
วินกับเอมองหน้ากันแล้วแค่นยิ้ม
“ผิดได้ไง ฉันเล่นไพ่กำไรพวกคุณมาเป็นร้อยล้าน คุณก็ต้องแค้นมั่งล่ะ”
นายเกื้อพรยิ้ม
“ผิดแน่นอนครับ เพราะถ้าผมเล่นงานคุณจริงๆคุณไม่รอดแน่”
“ ก็ต้องรอดูกันต่อไป”
วินกับเอขึ้นรถไป นายเกื้อพรพูดกับตัวเองเบาๆ
“ผมจะหาตัวคนที่เล่นงานคุณให้พบถือว่าเป็นของขวัญ เพื่อมิตรภาพ”
รถตู้เลื่อนออกไป เกื้อพรมองตามสีหน้ายิ้ม พอใจ
“ถือว่ามีกึ๋นใช้ได้”

วินกับเอเดินเข้ามาในห้องรับแขกในเซฟเฮ้าส์ จังหวะเดียวกับที่ผู้กองวันชาติ เดินออกมาจากด้านในครัว
“เป็นไงบ้างครับ”
“ใจเต้นโครมคราม แอ็คติ้งเกือบหลุด”
เอรีบตอบ พลางเดินนำวินไปนั่งที่โซฟา วันชาตินั่งลงตรงข้าม
“ผมต้องยอมรับว่าแผนของคุณวินดีมาก แม้ว่าจะเสี่ยงสุดๆ”
“เสี่ยงแต่ก็คุ้ม”
“นายเกื้อพรจะต้องสนใจที่จะให้คุณร่วมงานมากขึ้น เพราะว่าคุณมีกึ๋น”
“หวังว่าเป็นเช่นนั้น”
ผู้กองวันชาติ ยิ้มพอใจ
“งานนี้ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว พวกที่เล่นงานคุณ แล้วก็การยอมรับจากนายเกื้อพร”
“เอ้าคุยกันเข้าไป ไม่มีใครขอบใจฉันเลยนะคราวหลังไปทำกันเอง บ๊ายบาย”
เอ พูดงอนๆ พลางสะบัดผมแล้วเดินออกไป วินกับผู้กองวันชาติหันมามองหน้ากัน
“ผมว่าผมเผ่นก่อนดีกว่า คุณง้อกันเองก็แล้วกัน”

ตกดึก ในขณะที่วินกำลังนอนอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงปืนดังเปรี้ยงๆ ดังสนั่นซ้อนกันหลายนัด วิน รีบกระเด้งตัวลุกพรวดขึ้นมา พลางเลื่อนมือไปใต้หมอน หยิบปืนขึ้นมา แล้วพรวดออกไปจากห้อง ตรงไปที่หน้าห้องเอ “คุณเอ”
เอเปิดประตูออกมา ในมือถือปืนเช่นกัน

“อยู่ใกล้ๆผม”

ในขณะที่คนร้ายข้ามร่างของมือปืนทั้งสาม ที่นอนอยู่หน้าเซฟเฮ้าส์ พรวดเข้ามาในบ้าน ก่อนที่จะส่งสัญญาณมือให้แยกย้าย พวกมันคนหนึ่งขึ้นมาบนบันไดแล้วหยุด ส่งสัญญาณให้พวกมันรอ พลันวินก็โผล่มาจากห้อง ก่อนที่จะยิงเปรี้ยง พวกมันหลบกันวุ่นวายล้มระเนระนาด จนกลิ้งลงบันไดไป

วินกับเอ พรวดมาตรงบันได ต่างยิงใส่พวกมัน จนมันล่าถอยกันไปหมด
“ผมว่าพวกมันไปกันหมดแล้ว ฝีมือคุณแน่มาก ยิงโดนตูดมันจังๆ”
“ฉันตั้งใจยิงให้โดน ไม่ใช่ว่าพลาด”
“ผมก็ว่ายังงั้น ยิงให้โดนตูดคนไม่ใช่ง่าย”
เอ ยืดตัวอย่างภูมิใจ “แน่นอน”
พลันก็ได้ยินเสียงรถจอดเอี๊ยดอยู่ที่ทางหน้าบ้าน มีไฟแวบวูบวาบ อึดใจผู้กองวันชาติ ก็พรวดเข้ามา
“โล่งอกพวกคุณไม่เป็นไร”
“ทำไมพวกมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่คะ”
“อย่าบอกนะว่ามีหนอนบ่อนไส้”
วินสังหรณ์ใจ วันชาติพยักหน้าหงึกๆ

“ตกลงเราจะอยู่ที่นี่กันอีกเหรอคะ”
เอยังไม่หายข้องใจ วินพยักหน้า
“ครับ เราเป็นโจรที่มีระดับและมีขุมกำลังหนีไปจะเสียฟอร์มและเสียแผนที่วางไว้ ผู้กองวันชาติจะส่งคนมาเพิ่ม”
เอ พยักหน้ารับ วินพูดต่อ
“บางทีเราอาจจะต้องตอบโต้บ้าง”
“คุณรู้ว่าเป็นพวกไหน”
“นายสุรชัยพ่อนายสุชาติ”
เอ ยักหน้าเห็นด้วย “อืม ก็น่าจะใช่”
“ผมขอโทษนะครับที่เรื่องบานปลายตอนนี้เหมือนขี่หลังเสือยังลงไม่ได้”
เอ พยักหน้ารับเดินเข้ามาใกล้ แล้วซบลงที่อกของวิน

“ผมไม่ยอมให้อะไรเกิดขึ้นกับคุณเป็นอันขาด”
เอเดินเข้ามาที่ห้องครัว ในขณะที่วิน ที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่
“จะไปแล้วเหรอคะ”
“ครับ จะไปเยี่ยมนายสุรชัยซะหน่อย ผู้กองวันชาติคอนเฟิร์มแล้วว่าเป็นนายสุรชัยแน่นอน”
“งั้นรอเดี๋ยวนะคะ ฉันจะไปแต่งตัว”
“ผมไปคนเดียวดีกว่าครับ งานจิ๊บๆ ไม่ต้องถึงมือคุณ”
เอยิ้ม พลางเดินเข้ามานั่งที่ตักวิน แล้วเอามือโอบคอไว้
“เข้าใจพูดนะ ก็ได้ ฉันเชื่อคุณ แต่ถ้าเจ็บกลับมาล่ะก็ โดนซ้ำ”
“แล้วถ้าไม่เจ็บละครับ”
เอยิ้หวาน “ อาจมีรางวัล”

รถของวินเข้ามาจอดที่หน้าตึกที่ทำงานของนายสุรชัย วินพร้อมมือปืน 3 คน ลงจากรถ ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านใน มือปืนของนายสุรชัยคนหนึ่ง เดินเข้ามาขวาง แต่ถูกวินชกเปรี้ยงจนมันกระเด็นไป อีกสองคนขยับตัว แต่มือปืนของวินตวัดปืนส่องพวกมันไว้ พวกมันได้แต่ยกมือสูง
ในขณะที่ไอ้อ๊อด กำลังคุยกับนายสุรชัยอยู่ในห้อง
“ผมว่าท่านลงมือหนักไปแล้วนะครับ ระวังพวกมันจะรู้”
“ข้าบอกแล้วไง ว่าเป็นพวกมือปืนนอกอาณาจักร”

“นั่นแหละครับ ผมว่าท่านหยุดซักพักหนึ่งจะดีกว่าก่อนที่จะ”

ไอ้อ๊อดยังพูดไม่ทันจบ ร่างของมือปืนพวกมันสองคน ก็ถูกผลักเข้าประตูมาเสียงดังโครม ตามด้วยวินกับมือปืน 3 คน พรวดเข้ามา ไอ้อ๊อดขยับตัวแต่ช้าไป วินยกปืนขึ้นส่อง
“อย่าเสี่ยง”
ไอ้อ๊อดรีบยกมือ วินปรายตาไปทางนายสุรชัย
“วันนี้ไม่ออกไปตีกอล์ฟเหรอครับ”
“คุณวินคุณรู้จักผมน้อยไป”
“คุณสุรชัย คุณรู้จักผมน้อยไปมากกว่า ตอนแรกที่ผมทำเฉยก็เพราะอยากให้เรื่องมันเงียบ ขอเตือนอย่าให้เกิดขึ้นอีกกับผม หรือว่าคนที่เกี่ยวข้องกับผม จำไว้ เพราะผมจะเล่นงานไม่ใช่แต่คุณ ผมจะเล่นงานทุกคนที่มี
เชื้อดี เอ็น เอ ของคุณ”
วินเดินเข้าไปใกล้ พลางตบหน้านายสุรชัยเปรี้ยงจนหน้าหัน ไอ้อ๊อดขยับตัว แต่ก็โดนมือปืนของ
วินทุบโครมด้วยด้ามปืนจนทรุดลงไปกองกับพื้น นายสุรชัยขบกรามด้วยความแค้น วินตบอีกเปรี้ยงซ้ำ“นี่สำหรับเอามือปืนนอกอาณาจักรมาเล่นงานผม ถือว่าชักศึกเข้าบ้าน”
วินเดินออกมาหน้าห้อง แต่หยุดหันกลับไปจ้องนายสุรชัยพลางพยักหน้า มือปืนของวินยิงเปรี้ยงๆ นายสุรชัยยืนหลับตาหน้าซีด ที่แท้กระสุน ผ่านไปที่กำแพงห้อง เห็นนายสุรชัยยกมือหลับตาปี๋ตัวสั่นวินยิ้ม
“ทำเป็นปากเก่งที่แท้กลัวตายเหมือนกันนี่”
วินเดินออกไปจากห้อง มือปืนวินกราดปืนคอยระวัง แล้วเดินตามออกไป นายสุรชัยลืมตาขึ้น ถอนหายใจ ไอ้อ๊อดขยับตัวลุกขึ้นคลำหัวป้อย
“ผมขอโทษครับท่าน พวกมัน”
“เอ็งไม่ต้องพูดมาก เตรียมหาคนมาเพิ่ม”
“แต่มันรู้แล้วว่าเป็นท่าน”
“ช่างหัวมัน ข้าไม่กลัวมันหรอก”
นายสุรชัย ตาวาวด้วยความแค้น จนไอ้อ๊อดต้องหุบปากเงียบ
“ยังไม่รีบออกไปให้พ้นหน้าข้า”
ไอ้อ๊อดรีบออกไปอย่างรวดเร็ว นายสุรชัยถอนหายใจ

“โห อยากเห็นนายสุรชัยตอนถูกคุณตบจัง”
เอทำตาโต เมื่อได้ฟังวินเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“ผมตบเผื่อคุณไปด้วยทีนึง”
“ดีค่ะ โทษฐานที่เคยตั้งรางวัลค่าหัวเรา ทำให้เราต้องหนีหัวซุกหัวซุน”
วินยิ้ม “แต่คิดอีกทีก็ดีครับ เพราะทำให้ผมได้อยู่ใกล้คุณ”
เอเดินเข้ามาใกล้ แล้วโอบรอบคอวิน
“อย่าลืมนะว่าฉันเป็นลูกสาวคนโกง คุณชอบฉันไม่ได้”
“ชอบไม่ได้กับไม่ได้ชอบไม่เหมือนกัน ใครเคยบอกผมไว้”
“อืม ใครเหรอ”
“คนสวยที่ผมหลงใหล”
เอยิ้ม “คิดดูแล้ว ฉันว่าตอนที่เราหนีพวกมันฉันสนุกที่สุด โดยเฉพาะที่เมืองกาญ”
“ครับ”
เอตาโต “นึกออกแล้ว เราไปเยี่ยมเด็กๆกันดีกว่า”
“อืม จะไม่ปลอดภัยนะครับ”
“ทำไม เรามีมือปืนตั้งเยอะ แถมยังมีฝีมือขึ้นอีกหนึ่งระดับ”
“ผมหมายถึงไม่ปลอดภัยกับเด็กๆน่ะครับ”
เอหน้าจ๋อย “จริงด้วย”
“เอาไว้ผมลองคิดดูก่อนว่าจะทำยังไงถึงให้คุณเจอกับเด็กๆ”
เอยิ้มออกมาได้ พลางเขย่งตัวขึ้นมาหอมแก้มวินหนึ่งฟอด

“หมายความว่ายังไงครับข่าวกรองผิดพลาด”
วินจ้องหน้าผู้กองวันชาติเขม็ง
“ผมต้องขอโทษ ความจริงก็คือ นายสมภพแค่เคยโทรศัพท์ติดต่อกับองค์กรของนายเกื้อพร แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าพบกับนายเกื้อพร”

เอถอนหายใจ “เชื่อเลย นายสมภพยังไม่เคยเจอนายเกื้อพรด้วยซ้ำ แบบนี้อีกกี่ปีเรื่องถึงจะจบตามแผน”

หนีก็ล่า ซ่าก็รัก ตอนที่ 10 (ต่อ)

ผู้กองวันชาติเงียบไม่กล้าตอบ วินแกล้งตีสีหน้าปกติ
“ไม่เป็นไรครับ เราต้องทางให้เกื้อพรรับนายสมภพเข้าองค์กรให้ได้”
เอหันมาทางวิน“ยังไงคะ”
“ยังนึกไม่ออกเหมือนกันครับ”
เอไม่ขำด้วย “โธ่เอ๊ย”
พูดพลาง ก็ลุกเดินออกไป ผู้กองวันชาติหน้าเสีย
“ผมเสียใจจริงๆครับ ไม่คาดคิดจริงๆ”
“คุณต้องทำเรื่องหนึ่งให้ผม”
“ได้ครับ ว่ามาเลยครับ”

วินเดินออกมที่สวนหลังบ้าน เห็นเอยืนสงบสติอารมณ์อยู่ ก็เดินเข้าไปใกล้ๆ
“ผมคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราไปหาพวกเด็กๆกันดีกว่า”
เอหันมามองสีหน้ายังไม่ดี “คุณบอกว่าจะทำให้เด็กได้รับอันตรายไม่ใช่เหรอคะ”
“ถ้าเป็นที่ไร่ ผมไม่อยากเสี่ยง แต่นี่เป็นค่ายลับของทางการ ผู้กองวันชาติจะจัดให้พร้อมด้วยกำลังคุ้มกันเต็มรูปแบบ เป็นการชดเชยข้อมูลที่ผิดพลาด”
เอยิ้มออกมาได้ พรวดกระโดดเข้ากอดคอวิน
“ฉันรู้ว่าคุณจะต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”
“คุณอารมณ์ดีแบบนี้ผมแย่ทุกที”
“อ้าว เป็นงั้นไป”
“ก็ยิ่งคุณอารมณ์ดี คุณก็ยิ่งสวยผมหลงจนแย่ไงครับ”
เอยิ้มชอบใจ “ดี สมน้ำหน้า คุณน่ารักที่สุด”
เอสบตา พลางลึกซึ้งสุขใจ วินมองอย่างเคลิบเคลิ้ม ก่อนที่ใบหน้าทั้งสองค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากัน แต่แล้ว
“อุ๊ย เร็วค่ะ”
วินตกใจ “หา”
“เราต้องไปรีบช้อปปิ้งเสื้อผ้าให้เด็กๆค่ะ”

ที่ทางเข้าค่ายลับ เจ้าหน้าที่ 3 คน ทำทีเป็นทำสวนลดน้ำพรวนดินอยู่ พลางคอยระแวดระวัง
เอเดินไปเดินมา ตรงหน้าบ้าน มองไปทางถนนทางเข้าด้านหน้า วินนั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะในสวนห่างออกไป
“คุณนี่ ใจเย็นอยู่ได้ น่าหมั่นไส้ที่สุด”
“ใจเย็นๆครับ เดี๋ยวเด็กๆก็มา อย่าลืมซิครับการเดินทางต้องระวังไม่ให้พวกมันไหวตัวไงครับ ผมว่าคุณมานอนเล่นให้สบายใจดีกว่า”
เอหันมามองแล้วหงิกเหมือนเดิม วินได้แต่ขำ
ครู่หนึ่งรถตู้คันหนึ่ง ก็วิ่งเข้ามาในระยะไกล เจ้าหน้าที่คนหนึ่งขยับตัวจับปืน ที่เหน็บอยู่ที่เอว และหันไปส่งสัญญาณให้เพื่อน พลางชี้ไปที่รถตู้ที่วิ่งตะบึงกันเข้ามา ทั้งสามคนต่างตวัดปืนจากด้านหลัง มาเหน็บไว้ตรงเอวด้านหน้า คนหนึ่งเดินไปคอยระวัง อีกสองคนยังคงทำเป็นทำสวนต่อไป
เอหลับอยู่ที่เตียงผ้าใบ วินค่อยๆ ก้มเข้าใกล้กระซิบที่ข้างหูเบาๆ
“ฮัลโหล”
เอขยับตัว งัวเงีย ถอดแว่นออกมองหน้าวิน
“นี่คุณ ไม่มีอะไรทำแล้วเหรอ”
“เด็กๆ มาแล้วครับ”
เอตาโต ตื่นเต้น พลางรีบหันไปดู ก็เห็นเด็กสองคนยืนอยู่ยิ้มกลั้นหัวเราะคิกคักอยู่ เอขยับตัวลุกขึ้นแล้วย่อตัวยื่นมือออกไปข้างหน้า
“มาหาพี่เร็ว”
เด็กสองคนต่างวิ่งเข้าสู่อ้อมกอด เอดึงเด็กเข้ามาหอมแก้มกันคนละฟอด วินมองยิ้มอย่างชื่นใจ“อย่าซนมากนะลูก”
เอ หันมาเห็นทั้งลุงชุ่ม และแก้ว ยืนอยู่พร้อมหน้า
“ลุงชุ่ม น้าแก้ว ดีจัง มากันหมดเลย”
แต่แล้วเอก็ทำหน้างง เมื่อหันไปเห็นพิณ วินรีบแนะนำ
“อ้อ นี่คุณพิณ ทำงานอยู่ที่เอเจนซี่ที่ผมเคยทำงานอยู่ ผมรบกวน ให้คุณพิณไปรับเด็กๆและทุกคนมา”
เอยิ้มออก “แนบเนียนดีมาก ขอบคุณมากค่ะ คุณพิณ”
“ยินดีค่ะ คุณวินเขาปลื้มคุณเอ ตั้งแต่งานเปิดตัวเครื่องดื่มที่ร้านแม่น้ำแล้วล่ะค่ะ”
“คุณวินบอกแล้วค่ะ ว่าหลงใหลดิฉันมาก”
พิณหัวเราะชอบใจกับเอ วินพลอยยิ้มไปด้วย
“ไปเด็กๆ ไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆกันดีกว่า พี่เอซื้อมาให้เยอะแยะเลย”
เอจูงจุ๊บแจงกับน้อยหน่าออกไป วินเดินเข้ามาหาพิณ ต่างมองตามอย่างสบายใจ

วินกับพิณเดินมาที่รถตู้ซึ่งจอดอยู่ เจ้าหน้าที่ ที่ยืนทำสวนตัดกิ่งไม้อยู่เหมือนเดิม หันมาทักวิน
“เดี๋ยวนี้ใหญ่นะ มีบอดี้การ์ดด้วย น่าจะส่งไปอัดคนแถวๆเอเจนซี่มั่ง โดยเฉพาะนายวิเชียร”
วินยิ้ม “ขอบใจมากพิณ”
“เรื่องเล็กน่า ว่าแต่” พลางโบ้ยไปด้านตัวบ้าน “ไปถึงไหนแล้ว”
“ถลำลึกมากขึ้นทุกที”

พิณหัวเราะชอบใจ พลางเดินไปขึ้นรถตู้ แล้วขับออกไป วินโบกมือตาม หันไปมองตัวบ้าน ด้วยจิตใจเบิกบาน

วินกับเอ พาเด็กๆ ออกมาที่สวนหลังบ้าน เอมองอย่างตื่นเต้น
“โห สวยจัง”
เบื้องหน้ามีโต๊ะสวนตั้งอยู่ มีอาหารเตรียมพร้อม เหนือโต๊ะมีหลอดไฟประดับประดาสวยงาม
แก้ว และลุงชุ่มกำลังจัดโต๊ะอยู่
“ผม น้าแก้ว แล้วก็ลุงชุ่มช่วยกันครับ”
“น้าแก้วกับลุงชุ่มทานด้วยกันซิคะ”
แก้วยิ้มให้เอ “ตามสบายค่ะคุณเอ คุณวิน ถ้าดิฉันกับลุงชุ่มอยู่เดี๋ยวเด็กจะสนุกไม่เต็มที่”
“ขอบคุณครับ น้าแก้ว ลุงชุ่ม”
“สองคนนี้อย่าดื้อล่ะ”
เด็กสองคนยิ้ม น้าแก้วกับลุงชุ่มเดินออกไป วินสบตาเอมีความสุขเหลือล้น

วินดีดกีต้าร์ร้องเพลงเบาๆ เอนั่งอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ จุ๊บแจงหลับอยู่ในอ้อมแขน ในขณะที่น้อยหน่า หลับอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบอีกตัวหนึ่ง
“เด็กๆคงเหนื่อย หลับกันหมด”
เอมองจุ๊บแจง พลางใช้มือลูบผมเบาๆ “ฉันจะพาแกไปอยู่ด้วย หลังจากเรื่องทุกอย่างจบแล้ว”
“ลุงชุ่มกับน้าแก้วคงไม่ยอมง่ายๆหรอก”
“ยากอะไร ฉันก็เอาลุงชุ่มกับน้าแก้วมาอยู่ด้วย”
วินยิ้ม “อ้าว เล่นแย่งซื้อตัวกันเลย”
“แน่ล่ะ ฉันคนรวยนี่”
วินดีดกีต้าร์ แล้วร้องเพลงต่อ เอนั่งฟัง สีหน้ามีความสุข

เช้าวันรุ่งขึ้น เอหอมแก้มเด็กคนละฟอด วินยืนอยู่ข้างๆ เอ
“ขึ้นรถได้แล้วลูก”
น้อยหน่ากับจุ๊บแจง เดินไปที่รถตู้ แก้วและลุงชุ่มนั่งรออยู่แล้ว พลางหันมาโบกมืออีกครั้ง มือปืนคนหนึ่งเปิดประตูให้ แล้วเดินไปขึ้นรถทางด้านหน้า เด็กๆ ยื่นหน้ามาตรงหน้าต่างโบกมือไหวๆ เอกับวิน โบกตอบ จนกระทั่งรถตู้วิ่งไกลออกไป
“คุณทำไมไม่บอกฉันว่าให้เด็กๆมาได้วันเดียว”
“ผมไม่อยากทำลายบรรยากาศความสุขของคุณกับเด็กๆ”
เอหน้าตุ่ย วินขยับตัวเข้าใกล้ แล้วเอามือโอบไหล่
“คุณก็รู้ว่าถ้าเรามาอยู่ที่นี่นานไป อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก”
เอพยักหน้า แล้วหันมาซบในอ้อมกอดของวิน

“โห กว่าจะถึงนั่งจนเมื่อยคราวหลังหาที่ใกล้ๆหน่อยก็ดีนะ” เอบ่นอุบ หลังจากที่กลับมาถึงเซฟเฮ้าส์แล้ว “ฉันขอตัวแช่น้ำให้สบายซะหน่อย ห้ามรบกวนเป็นอันขาด”
“คนร้ายอาจบุกมา ผมควรจะไปนั่งเฝ้าคุณ”
“นี่ เดี๋ยวให้เฝ้าจริงๆแล้วจะหนาว”
เอยิ้มให้เแล้วเดินออกไป แต่แล้วก็หยุด หันกลับมาเดินเข้ามาใกล้วิน พลางเอามือโอบรอบคอ
“ขอบคุณที่พาเด็กๆ มานะคะ”
“ครับผม”
เอยิ้มส่งสายตาลึกซึ้ง แล้วเดินออก วินมองตาม พลางยิ้มชื่นใจ พร้อมๆ กับที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
วินรีบกดรับสาย
“คุณเกื้อพร ที่ไหน ได้ครับ สามทุ่ม ผับของคุณโจ”
วินวางสาย พยักหน้าอย่างพอใจ

วินกับเอมาถึงผับ โจก็พาไปพบนายเกื้อพรที่รออยู่แล้ว ต่างมีมือปืนคุมอยู่ด้านละสองคน
“เชิญครับ ผมรู้ว่าใครเป็นคนเล่นงานคุณ”
วินกับเอ หันมามองหน้ากัน
“เป็นนายสุรชัยพ่อของนายสุชาติ”
วินยิ้ม “ขอโทษนะครับ ที่ทำให้คุณเกื้อพรเสียเวลา”
“สิ่งที่อยากจะพูดก็คือ มันของแน่อยู่แล้ว” เอช่วยเสริม
“ ผมทราบดีว่าใครๆก็เดาออก แต่ผมมีคำถาม คุณน่าจะรู้จักนายสมภพ ผมรู้อีกด้วยว่านายสมภพเป็นพยานที่เห็นคุณยิงนายสุชาติ ไม่เห็นคุณบอกผมเลย”
วินฟังฟังอยู่ชั่วอึดใจก็ยิ้ม “เรื่องไร้สาระผมไม่ค่อยสนใจ”
“แล้วทำไมนายสมภพถึงคิดเล่นงานพวกคุณ”
“คุณลืมไปแล้วมั้งว่าพวกผมมีค่าหัวเป็นสิบล้าน”
เอรีบแย้ง “นายสมภพคิดเล่นงานฉันมากกว่า”
“เพราะอะไร”
“คนที่ประสานงานโครงการทั้งหลาย ก็คือพ่อของฉัน”
นายเกื้อพรพยักหน้า “คุณประสิทธิ์”
“นายสมภพเคยเสนอหน้ากับฉันมาแล้ว แต่โดนฉันตอกกลับไปก็เลยแค้นฉัน”
“โชคไม่ดีนายสมภพอยู่ในเหตุการณ์ตอนนายสุชาติตาย จึงฉวยโอกาสให้การเล่นงานผมกับคุณเอ”
“ตอนนี้คงยิ่งคลั่ง เพราะเห็นเราได้ประกันตัว”
นายเกื้อพรพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ วินกับเอลอบมองหน้ากัน
“ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ ทั้งนายสุรชัยและนายสมภพไม่ให้มาวุ่นวายกับคุณ เป็นการสร้างความสัมพันธ์เผื่อว่าเราอาจจะได้ร่วมงานกัน”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมจัดการเองได้”
“ฉันอยากกลับแล้ว”
พูดจบเอก็ลุกขึ้น ทุกคนลุกขึ้นตาม
“ขอตัวก่อน”

วินจูงเอเดินออกไป นายเกื้อพรมองตามสีหน้าเยือกเย็น

“คุณคิดว่านายเกื้อพรจะสงสัยเรื่องนายสมภพหรือเปล่า”
เอหันมารถามวิน หลังจากที่กลับมาถึงเซฟเฮ้าส์แล้ว
“ไม่หรอก คุณทำได้ดีมาก แผนของเรากำลังไปได้สวย นายเกื้อพรเผยออกมาแล้วว่าอยากชวนเราเข้าร่วมองค์กร”
“ต้องเล่นตัวอีกหน่อย”
วินพยักหน้า “แน่นอน”
“แล้วเราจะทำยังไงกับนายสมภพ”
“ผมคิดว่าต้องไปหาเรื่องนายสมภพซะหน่อยจะได้เข้มข้นขึ้น”
เอยิ้ม พลางกวาดสายตามองรอบบ้าน “ตกลงเราจะอยู่ต่อที่นี่ไม่ย้ายไปไหน”
“โน”
“ไม่กลัวพวกมันจะบุกมาอีกเหรอ”
วิน ส่ายหน้ายิ้มๆ
“ถ้าย้ายก็เสียเชิง อาจทำให้แผนเสีย ผมกำลังคิดว่าเพื่อความปลอดภัย ผมต้องย้ายไปนอนห้องเดียวกับคุณ”
“ความจริงก็ดีเหมือนกันนะ แต่เกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมยินดี”
“ฉันเกรงใจตัวเองมากกว่า เดี๋ยวฝันคิดว่าคุณเป็นผู้ร้ายคว้าปืนยิงเข้าให้ล่ะก็ ยุ่งเลย”
วินกลืนน้ำลาย“ขอบคุณที่เป็นห่วงผมครับ”

สายวันรุ่งขึ้น ในขณะที่นายสมภพกับไอ้เม่น กำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องทำงาน
“เอ็งรู้ที่พักของมันแล้วใช่มั้ย”
“เรียบร้อยพี่”
พลันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับเลขาเดินเข้ามา “มีอะไร”
“คือ”
เลขายังไม่ทันได้ตอบ วินก็พรวดเข้ามา ไอ้เม่นขยับตัว มือปืนของวินสองคน เอาปืนจ่อหัวนายสมภพกับไอ้เม่นไว้ วินจ้องสีหน้าเยือกเย็น นายสมภพรีบแก้ตัว
“ผมไม่จำเป็นต้องส่งใครไปทำอะไรคุณ เพราะผมลอยตัวอยู่แล้วไม่มีความผิด”
“คุณก็รู้ว่าผมเห็นคุณยิงนายสุชาติ ผมคือพยาน”
นายสมภพยิ้ม “คุณไม่มีหลักฐานพอ”
“ผมรู้ ผมถึงได้รับการประกันตัวออกมาไงล่ะ ผมมีเรื่องมาเตือนคุณสองเรื่อง ถ้าคุณระรานผมและคนที่เกี่ยวข้องกับผมอีก ผมจะไม่ปล่อยคุณไว้ ไหนๆ ก็ถูกคดีฆ่าคนแล้ว เพิ่มอีกซักคนหรืออีกหลายคนคงไม่เป็นไร”
นายสมภพยักไหล่ “อย่างที่บอก ผมไม่จำเป็นต้องทำอะไร”
“ดี เรื่องที่สองก็คือ ผมรู้ว่าเบื้องหลังคุณเป็นยังไง ผมไม่ยุ่งกับคุณ คุณไม่ยุ่งกับผม”
สมภพนิ่งไม่ตอบ วินยิ้มแล้วเดินออกไป
“พี่ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการ”
ไอ้เม่นรีบอาสา
“เอ็งไม่ต้องเสือกทำอะไรทั้งนั้น มันเดาสุ่มมันนึกว่าข้าส่งคนไปเล่นงานมัน แบบนี้ไม่เท่าไหร่หรอกวะ”

เลขาพรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานของนายสุรชัย หน้าตาตื่นเต้น
“คุณเกื้อพรมาขอพบค่ะ”
“เอ ผมไม่ได้นัดนี่”
“ผมผ่านมาทักทายน่ะครับ”
นายสุรชัยหันไป เห็นนายเกื้อพรพร้อมมือปืนสองคนยืนอยู่ ถึงกับเงียบไป
จากนั้นก็พากันเข้ามาพูดคุยในห้องประชุม
“คุณคงไม่รู้ว่าลูกชายคุณทำงานให้องค์กรผม”
“ผมไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกชาย คุณตรวจหลักฐานดูได้”
“ใจเย็นๆ ผมไม่ได้มาสอบสวนคุณเพื่อความสบายใจ ผมจะบอกให้รู้ ธุรกิจของลูกชายคุณจริงๆแล้วเป็นของผม”
“คุณต้องการอะไร”
“เลิกยุ่งกับคุณวินกับคุณเอ”
นายสุรชัยเงียบไป นายเกื้อพรจ้องหาคำตอบ
“แต่มันฆ่าลูกชายผม”
“มันเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะความจริงแล้วผมมากกว่าที่ตั้งใจฆ่าลูกชายคุณ ลูกชายคุณยักยอกเงินจากองค์กรของผม”
นายสุรชัยอึ้ง จนพูดไม่ออก “คือ”
“ในอนาคต คุณวินคือคนที่จะมาดูแลบริษัทของลูกชายคุณ ซึ่งเป็นของผมอย่างที่บอก ถ้าคุณสร้างปัญหาให้คุณวินอีก คุณจะเสียใจ”
นายสุรชัยถึงกับหน้าซีด

แนนกับเพื่อนๆ เดินเข้ามาในห้องประชุม นักศึกษาหลายคนนั่งอยู่ในห้องแล้ว อาจารย์โสภายืนคุยกับอาจารย์หญิงอีกคนหนึ่งที่หน้าห้อง นุจรีกับพวกนั่งรวมกันอยู่ด้านหนึ่ง แนนกับทุกคนต่างนั่งลงรวมกัน แนนหันไปถามนักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่อยู่ถัดไป
“ประชุมด่วนมีอะไรเหรอ”
“เปลี่ยนเรื่องละคร”
ข่าวการตั้งท้องของนักศึกษา ทำให้อาจารย์โสภามีความคิดที่จะเปลี่ยนหัวข้อการทำละคร เพื่อสะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“หนูว่า ซาวด์ ออฟ มิวสิก เรื่องเดิมก็ดีอยู่แล้วนี่คะ โรแมนติกดีออก เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะความสนุกของเด็กคนหนึ่งไม่ควรจะมีผลกระทบกับละครนะคะ”
นุจรีแย้ง ในขณะที่แนนเห็นด้วยกับอาจารย์โสภา

“หนูว่าเปลี่ยนอย่างที่อาจารย์แนะนำดีกว่าค่ะ”

แนนกับเพื่อนเดินออกมา ก็เจอกับก๊วนของนุจรี ที่หน้าห้องประชุม

“ไม่ว่าจะเล่นเรื่องอะไร ฉันก็เป็นนางเอกอยู่ดี”
ยังไม่ทันที่ใครจพูดอะไรต่อ อาจารย์โสภาก็เดินเข้ามา พลางพูดกับแนน
“แนน อาจารย์ฝากบอกคุณพ่อให้ช่วยแต่งเพลงประกอบด้วยนะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ”
“บอกว่าอาจารย์จะโทรไปคุยด้วย แล้วอย่าลืมรีบส่งบทกันมาล่ะ”
คล้อยหลังที่อาจารย์โสภาเดินออกไป บิวก็เบ้ปาก
“เชอะ ถือว่าพ่อรู้จักอาจารย์”
“แล้วไง” เมจิย้อนถาม
“ไปกันดีกว่าพวกเรา ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณพอลซะหน่อย”
นุจรีกับก๊วนเดินออกไป เมจิมองค้อน
“คำก็คุณพอล สองคำก็คุณพอล หมั่นไส้เดี๋ยวก็ท้องอีกคนหรอก”
น้ำหวาน หันมายิ้มให้แนน
“ฉันว่าเส้นทางระหว่างพี่วินกับคุณเอ เริ่มสว่างขึ้นแล้วนะจ๊ะแนน”

รถขนของวิ่งเข้ามาจอดในโกดัง ไอ้เม่นลงมาจากรถ พลางออกคำสั่ง
“เอาของลงเว้ย เร็วๆเข้า”
พวกมือปืนช่วยกันขนของลงจากรถ ทันใดนั้นเสียงตูมก็ดังขึ้น ประตูหน้าถูกระเบิดกระจุย ก่อนที่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะแล่นพรวดเข้ามา
“ เฮ้ย” ไอ้เม่นกระชากปืนยิง “สกัดไว้เว้ย”
พวกไอ้เม่นสู้ไม่ถอย ยิงสกัดเจ้าหน้าที่ แต่ก็รับมือไม่ไหว ไอ้เม่นเห็นท่าไม่ดี เลยยิงพวกเดียวกันเองเป็นการปิดปาก แล้วรีบหนีไป

“บ้าที่สุด ไหนเอ็งว่าทางสะดวกไง”
นายสมภพหงุดหงิด เมื่อได้รับรายงานจากไอ้เม่น
“คือ สายผมบอกว่ามีคนส่งข่าวให้ทางการครับ”
“หา ใครวะ”
“ คือคนบอกว่าเป็นพวกของนายเกื้อพร”
“เอ็งแน่ใจ”
ไอ้เม่น พยักหน้า “ครับ คือนายเกื้อพรกำลังกวาดล้างคู่แข่งครับ”
“นายเกื้อพรอีกแล้ว”
“ครับ กำลังจะเปิดทางให้หุ้นส่วนคนใหม่”
“ไปสืบดูว่ามันเป็นใคร แล้วเป่าซะ ข้าไม่กลัวมันหรอก”
“สายลือกันให้แซด ว่าเป็นไอ้วินครับ”
นายสมภพ หันขวับทางทันที “ไอ้วินเนี่ยนะ”
“ครับ อย่างที่ไอ้อ๊อดมันบอก นายเกื้อพรพอใจที่มันเก็บนายสุชาติเลยสนับสนุนมัน”
“ไอ้วิน อีกแล้ว”

ในขณะที่ผู้กองวันชาติ รีบมารายงานความเคลื่อนไหวให้วินกับเอที่เซฟเฮ้าส์
“ผมส่งคนไปถล่มที่พักยาเสพติดของนายสมภพ ปล่อยข่าวว่าคนของนายเกื้อพร”
“นายสมภพต้องแค้นใจสุดๆ”
“แค้นแล้วจะดีกับเรายังไงคะ นายสมภพยิ่งจะส่งคนมากำจัดเราให้พ้นทาง”
เออดสงสัยไม่ได้ วินรีบอธิบาย
"ใช่ แต่ผมจะเปิดโอกาสนายสมภพร่วมมือด้วย”
“นายสมภพจะไม่สงสัยหรือคะ”
“มันต้องรีบตะครุบเลย เพราะมันอยากจะเข้าใกล้นายเกื้อพรอยู่แล้ว “
วินพยักหน้า
“ครับ เพราะถ้ามันไม่ตระครุบ งานของมันก็จะถูกรังควานจากนายเกื้อพร ก็คือผู้กองวันชาติของเรา”
“ครับ มันมีแต่เสียกับเสีย”
วิน อธิบายแผนต่อ “หลังจากนั้นผมก็จะพานายสมภพเข้าไปหานายเกื้อพร”
“สุดท้ายนายสมภพก็จะหาทางแทงคุณข้างหลัง กำจัดคุณ โดยการบอกนายเกื้อพรว่าเป็นคนยิงนายสุชาติ”
เอเริ่มเข้าใจลางๆ วินพยักหน้า
“เราก็พ้นข้อหา แผนแรกสำเร็จ ที่เหลือก็หาหลักฐานมัดตัวนายเกื้อพรส่งให้ทางการ งานจบ”
“ใช่แล้วครับ หลังจากนั้น คุณสองคนก็แต่งงานกันมีความสุขชั่วกัลปาวสาน”
วินกับเอ หันมามองหน้ากัน เอฝืนยิ้ม “เย้ ขอตัวก่อนนะคะ”
พูดจบ เอก็ลุกออกไป ผู้กองวันชาติหน้าเหรอ
“คือ ผมเห็นว่าคุณสองคน”
“ผมว่าคุณเอ แกคงเขินน่ะครับ”
“อ้อ งั้นผมว่าผมไปก่อนดีกว่าครับ คุณวินจะได้สานต่อ”
ผู้กองวันชาติลุกเดินออกไป วินหันไปมองทางด้านเอ พลางถอนใจ

เอกับวินนั่งอยู่ที่โต๊ะ แม่บ้านยกอาหารมาเสิร์ฟให้ เอตักอาหารเข้าปาก ไม่พูดไม่จา
“ผมไม่ทราบว่าทำไมคุณถึงโกรธผม คุณวันชาติเป็นคนพูดถึงเรื่องแต่งงาน ไม่ใช่ผม คุณต้องไปโกรธคุณวันชาติ”
เอหน้าหงิก “คุณนั่นแหละ เพราะแผนมาเฟียบ้าบอ ฉันเลยกลายเป็นแฟนมาเฟียไง พองานจบ
กลายเป็นว่าคุณไปทางฉันไปทาง เหมือนกับฉันถูกทิ้ง เสียหายหมด”
“งั้นผมขอคุณแต่งงานก็ได้”
เอตาวาว
“แล้วคุณก็บอกโน กลายเป็นว่าคุณทิ้งผม แค่นี้คุณก็พ้นข้อครหานินทา”
เอมองค้อน “ก็ได้”
“ก็ได้ แต่ทำไม่ยังโกรธผมอยู่”
“ ไม่ได้โกรธ แค่เบื่อหน้าคุณ” พูดพลางวางช้อนลง “ฉันอิ่มแล้ว”
เอลุกขึ้น วินขยับตัวลุกตาม
“อ๊ะ อ๊ะ อย่ามากวนใจ”
วินนั่งลง เอพยักหน้าพอใจ แล้วเดินออกไป

ทอมนั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงอยู่ โดยมีแนนนั่งอยู่ใกล้ๆ ร้องคลอไปด้วย โทรศัพท์ดังขึ้น แนนรีบกดรับสาย
“พี่วิน โทรมาแบบนี้สงสัยทะเลาะกับพี่เออีกแล้ว”
“เรานี่รู้มากแฮะ ทำอะไรอยู่”
“เปล่าค่ะ คุณพ่อกำลังช่วยเลือกเพลงละครเวที ก็เลยแจมกับคุณพ่อ”
“ขอพูดกับคุณพ่อหน่อยดิ”
“โอเค คุณพ่อ พี่วิน”
แนนส่งโทรศัพท์ให้ทอม “ว่าไงลูก”
“คุณพ่อสบายดีนะครับ”
“สบายดีลูก บอกแล้วว่าไม่ต้องห่วงพ่อกับแนน” ทอมตอบยิ้มๆ
“ครับ เอ้อ คุณพ่อครับ มีเพลงไหนที่ร้องแล้วสาวหายงอนมีมั้ยครับ”
ทอมทำท่านึก “อ้อ ได้เลยลูก อืม เดี๋ยวนะ เพลงนั้นไงลูก”
ทอมเอ่ยชื่อเพลง แนนได้ยิน ก็เอียงหูฟังอย่างสงสัย
“อ๋อ ครับ ขอบคุณครับคุณพ่อ”
“โอเค. ลุยเลย”
ทอมวางสาย แล้วยื่นโทรศัพท์ส่งคืนแนน
“พี่เอ งอนพี่วินอีกแล้วดิ”
ทอมพยักหน้า “ใช่ ทำปากแข็ง แต่ที่แท้อินเลิฟคุณเอซะแล้ว”
“เย้ แนนเชียร์ค่ะ”
“แล้วแนนล่ะ”
ทอมหันมาถามแนน เล่นเอาแนนถึงกับพูดไม่ออก พลางแกล้งทำท่าหาว
“โห ง่วงจัง กู๊ดไนท์ค่ะคุณพ่อ”

แนนลุกพรวดออกไปทันที ทอมมองตามอย่างเอ็นดู

จบตอนที่ 10
กำลังโหลดความคิดเห็น