เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 13
น้ำจากฝักบัวในห้องน้ำของค่ายมวยถูกเปิดพุ่งกระจายต่อกัน 3อัน ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดสนั่นของประกายเดือนและแพรวพรรณรายที่ดังขึ้นติดๆ กัน "กรี๊ดๆๆๆ"
ปานตะวัน ประกายเดือน และแพรวพรรณรายอาบน้ำอยู่ห้องติดกัน
ปานตะวันเอ็ด "เว่อร์กันไปใหญ่แล้วเธอ 2 คนนี่ กรี๊ดกร๊าดอะไรกัน? ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ"
ประกายเดือนยิ้ม "ไม่ใช่เด็ก..แต่ใครไม่รู๊..มีเด็กมาปิ๊งง"
ประกายเดือนกับแพรวพรรณรายร้องพร้อมกัน "กรี๊ดด!!”
ปานตะวันเงียบแต่แอบค้อน
แพรวพรรณรายเลียนเสียงเล็ก “..ว่างๆพี่ตะวันไปเที่ยวเขาใหญ่บ้างซิครับ..อากาศดีมากเลยครับ"
ประกายเดือนเลียนเสียงต่อ "ไปพักที่บ้านผมก็ได้นะครับ..ถ้าไม่รังเกียจ"
ประกายเดือนกับแพรวพรรณรายร้องและเต้นเร่าๆ
ปานตะวันหมั่นไส้จึงเอามือทุบผนังห้องน้ำ
"หนวกหูนะ!! กรี๊ดกันยังกะเปรตโดนน้ำร้อน"
ประกายเดือนกับแพรวพรรณรายตาโต
"โห! เดี๋ยวนี้ปากจัดมาก ตั้งแต่มีเด็กมาปิ๊งนี่ พี่สาวเราแซบขึ้นทันตาเห็น" ประกายเดือนว่า
แพรวพรรณรายพูดทันที "ถูก!! มันเหมือนแบบว่า..ได้กินต้มยำกระดูกอ่อนอ่ะนะ..เคี้ยวกรุบๆ..ซดน้ำต้มยำแซบๆ แถมมีคอลลาเจน คิว Ten ให้ด้วย..กระชุ่มกระชวยคึกคัก ...กร๊ากกๆ"
สองสาวขำก๊ากเพราะถูกใจมาก
"บ้า!!" ปานตะวันปิดฝักบัวทันที "เพ้อเจ้อจนน่ารำคาญ! ฉันไปก่อนและ"
ปานตะวันเอาผ้าขนหนูมานุ่งเป็นกระโจมอกแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
ประกายเดือนยังอาบน้ำอยู่ "แหม..แทนที่จะโมโหตะวันน่าจะภูมิใจนะว่า ณ. จุดนี้เรายัง”มีของ” เด็กรุ่นน้องมาปิ๊ง"
แพรวพรรณรายที่ยังอาบอยู่พูด "จริง!!! ให้มันรู้ซะมั่งว่าไผเป็นไผ!!”
ปานตะวันยืนเช็ดผมอยู่หน้ากระจก
แพรวพรรณรายยังพูดต่อโดยตั้งใจแย๊บปานตะวันเรื่องนาคินทร์ "ไอ้พวกผู้ชายที่มันงี่เง่า มันจะได้ เงิบไปเลย"
ปานตะวันชะงักฟัง
แพรวพรรณรายใส่ใหญ่ "ยิ่งไอ้พวกที่นึกว่าตัวเองเจ๋ง เป็นเทพ ทำตัวอยู่เหนือผู้หญิงมันยิ่งต้องเอาให้สำนึก"
ปานตะวันอึ้ง เธอค่อยๆจ้องเงาตัวเองในกระจกที่ดูสวยเซ็กซี่มีเสน่ห์ ปานตะวันเริ่มภูมิใจและมั่นใจใน
ตัวเองมากขึ้น
นาคินทร์เดินผ่านห้องนอนปานตะวันแล้วก็ชะงักเปลี่ยนใจเดินกลับมายืนมองบานประตูแบบชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูผัวะเข้าไปทันที นาคินทร์มองอย่างผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่เห็นปานตะวันอยู่ในห้อง
ใบตองกำลังดูแลแต่งตัวทำผมให้นารถนรินทร์
"คุณนารถยิ่งโตยิ่งสวยนะคะ" ใบตองชม
"จริงเหรอคะ..พี่ใบตอง"
"จริงสิคะ..ใบตองเห็นพวกคุณทุกคนมาตั้งแต่เล็กๆ คุณหนูๆผู้ชายก็หล่อเอ๊า หล่อเอา ส่วนคุณนารถสวยวันสวยคืน เฮ้อ!ชื่นใจ"
"ปากหวานนะเนี่ย"
"เปล่านะคะ..ใบตองพูดจริง" ใบตองยิ้ม "นี่ก็ลุ้นตัวโก่งกะคุณผู้หญิงว่าใครน้อ..จะชิงแต่งงานมีหลานให้ได้เลี้ยงก่อนใครเพื่อน"
นารถนรินทร์อมยิ้ม "พี่ใบตองว่าใครล่ะ?”
"แน๊ะ?" ใบตองตาโตแล้วทำเป็นคิด "ใบตองว่าดูท่าทางแล้ว..ต้องเป็นคุณ...”
นาคินทร์เปิดประตูผลัวะเข้ามาพอดี ทั้งสองหันไปมองแล้วเรียกพร้อมกัน "พี่คิน?? คุณคิน?”
นาคินทร์มองแต่ก็ไม่เห็นปานตะวัน "อ่อ..โทษที..เอ่อ..อยู่กันแค่นี้เหรอ?”
นารถนรินทร์อมยิ้ม "ก็อยู่กันแค่นี้น่ะสิคะ"
ใบตองถามซื่อๆ "ทำไมเหรอคะ? คุณคินอยากให้มีใครอยู่ด้วยอีกเหรอคะ?”
นาคินทร์อึ้งแล้วทำฟอร์ม "เปล่านี่!! ไม่มี..ไม่ได้อยากซักหน่อย"
นารถนรินทร์กับใบตองเลิกคิ้วมองนาคินทร์อย่างไม่เชื่อเล็กๆ
นาคินทร์อึกอัก "พี่ไปและ"
นาคินทร์รีบเดินออกไปทันที
นารถนรินทร์หันมองใบตองแล้วพูดเลียนแบบ "เปล่านี่!!.. พี่ไปล่ะ!!”
ใบตองต่อทันที "ไม่มี๊..ไม่ได้อยากซักหน่อย"
สองสาวขำก๊าก
นาคินทร์เดินมาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างขัดใจ
"งานการมีไม่ทำ!! เดี๋ยวนี้ชักจะมากขึ้นทุกทีแล้ว"
นาคินทร์ทำท่าเหมือนคุณหนูอารมณ์ร้ายที่ไม่ได้ดั่งใจ
ปานตะวันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาแล้วก็ชะงักเพราะเห็น 'น้องเล็ก’ หันมายิ้มแฉ่ง
"อ้าว..คุณน้องเล็ก..ยังไม่กลับเหรอคะ?”
"ยังครับ..ผมอยากชวนพี่ตะวันไปทานข้าว" เล็กบอก
ปานตะวันเจอของจริงที่ทั้งซื่อ ทั้งตรงก็งงไป "เอ่อ..คือ..”
สองสาวออกมาทันที
"อัลไล? ยังงาย? ชวนพี่ตะวันไปทานข้าวคนเดียว?? พี่คนอื่นเค้าก็หิวเป็นเหมือนกันนะจ๊ะ..คุณน้องเล็กใจร้ายย"
เล็กยิ้ม "ชวนครับ ชวนหมดทุกพี่เลยแหละครับ"
"แหมะ!!ชื่อเล็กแต่ใจป๋าจริงๆด้วย ไปเลยค่ะไส้พี่จะขาดอยู่แล้ว..หิวมว๊าก" ประกายเดือนว่า
สองสาวเข้าประกบควงแขนเล็กซ้าย ขวา แล้วก็กระชากตัวเขาออกไปเลยโดยทิ้งปานตะวันไว้เหวอๆ
"อ้าว!! เดี๋ยวสิ.." ปานตะวันตะโกนไล่ตามหลัง "ไม่ได้นะ..พี่ต้องรีบกลับ.. เฮ้อ!”
ปานตะวันพูดไม่ออก
ณ ห้างที่ดูคึกคักกระชุ่มกระชวยต่างจากสถานที่ที่ปานตะวันเคยจมปลักอยู่ จานอาหารถูกวางตรงกลาง ประกายเดือนกับแพรวพรรณรายจ้วงตักกินอย่างรวดเร็ว
"ว้าว!! มันใช่อ่ะ!! มันฟินอ่ะ!!” ประกายเดือนว่า
"อื้มม์..วันนี้ยอมวันนึง..ยอมอ้วน..พรุ่งนี้ค่อยลด" แพรวพรรณราย
เล็กมองปานตะวันที่นั่งมองนิ่งๆ
"พี่ตะวันไม่หิวเหรอครับ?” เล็กถาม
"อ๋อ..คือ..พี่"
ประกายเดือนสวนทันที "ตะวัน!! กินก่อน!! เรื่องงานเอาไว้ทีหลัง!!แล้วนี่มันก็วันหยุดนะจะขยันไปถึงไหน คนน่ะไม่ใช่หุ่นยนต์ มันก็ต้องมีพักผ่อนชิวๆกันมั่งสิ"
"ถูก!!" แพรวพรรณรายแย๊บ "อย่าให้ใครมาใช้เราเยี่ยงทาส!”
ปานตะวันอึ้ง
เล็กมองแล้วหยิบอาหารส่งให้ "ทานหน่อยเถอะครับ..อร่อยมากนะครับ"
ปานตะวันมองแต่ยังไม่หยิบ เล็กมองตา 2 สาวลุ้นๆ ในที่สุดปานตะวันก็หยิบแล้วพูด
"ขอบคุณค่ะ"
เล็กยิ้ม สองสาวจี๊จ๊ะใส่กัน
"พี่ตะวันทำงานอะไรเหรอครับ"
ประกายเดือนรีบตอบทันที "ตะวันเค้าเป็นพยาบาลพิเศษค่ะ" ประกายเดือนชูนิ้วโป้ง "เก่งอย่างนี้เลย ถ้าคุณน้องเล็กเจ็บป่วยต้องการคนดูแลก็บอกได้เลยนะคะ บอกพี่เดือนก็ได้เดี๋ยวเคลียร์คิวรับจ๊อบพิเศษให้" ประกายเดือนฉกโทรศัพท์เล็กมากดเบอร์ให้ทันที "นี่เบอร์พี่ค่ะ..โทรมา..ไม่ต้องเกรงใจ"
เล็กยิ้มขำ ปานตะวันตาโต
"เดือน!!ทำอะไรน่ะ?” ปานตะวันถาม
เล็กพูดกับปานตะวัน "รับจ๊อบได้จริงเหรอครับ เจ้านายพี่ตะวันเค้าไม่ว่าใช่มั้ยครับ?”
ปานตะวันอ้าปากจะพูด
แพรวพรรณรายแย่งพูด "ใครจะกล้าว่า?? ยิ่งคนไข้เป็นโรคหัวใจเรายิ่งต้องรีบให้การดูแลเป็นพิเศษ" แพรวพรรณรายแหย่คุณเล็ก "เป็นโรคหัวใจรึเปล่าล่ะเราน่ะ?”
เล็กยิ้มเขิน ปานตะวันจะเป็นลม เธอทำตาโตใส่เพื่อนกับน้องให้หยุดได้แล้ว
ประกายเดือนกับแพรวพรรณรายชอบใจ ทั้งสองทำท่ากุมหัวใจเหมือนเจ็บหัวใจพร้อมกัน "โอ้ยๆ..คุณพี่พยาบาล..ช่วยด้วยหัวใจน้องจะวายคับ..คริๆ"
สองสาวขำก๊าก ปานตะวันทั้งโกรธทั้งอาย เล็กยิ้มขำแล้วมองปานตะวัน ปานตะวันทำหน้าเจื่อนๆ
ประกายเดือน แพรวพรรณราย และเล็กเล่นเกมอย่างสนุกสนาน ปานตะวันยืนดูสักพัก ประกายเดือนกับแพรวพรรณรายก็ดึงมาเล่น ปานตะวันอิดออด เล็กทำเหมือนจะสอนโยนลูกบาสเก็ตบอล แต่ปานตะวันบอกไม่ต้อง เธอชู้ททันทีตูมลงห่วง เล็กทึ่ง จากนั้นทุกคนก็เล่นนู่น นี่ นั่น กันอย่างสนุกสนาน ทั้งหมดเดินมาด้วยกัน
"เล็บหักหมดเลยอ่ะ เดี๋ยวแวะทำเล็บกันมั๊ยเดือน? เอ๊ะ ! รึจะต่อขนตาดี?” แพรวพรรณรายถาม
ปานตะวันรีบพูด "ไม่เอาแล้วนะ!! กลับได้แล้ว"
"โธ่..ตะวัน!! ไหน ๆ ก็มาแล้ว นานๆตะวันจะยอมอกมาข้างนอกซักที" ประกายเดือนว่า
"งั้นพี่กลับเอง ใครไม่กลับก็ตามใจ" ปานตะวันบอก
เล็กพูดอย่างจริงใจ "ให้ผมไปส่งนะครับ?”
ปานตะวันชะงัก แพรวพรรณรายกับประกายเดือนทำตาโตใส่กัน
แพรวพรรณรายกับประกายเดือนพูดพร้อมกัน "ดีค่ะ..”
ปานตะวันสวนขึ้นมาทันที "ไม่ดีกว่าค่ะ!!”
แพรวพรรณรายกับประกายเดือนเซ็ง "เฮ่ย?!”
เล็กจ๋อยไป
ปานตะวันพูดถนอมน้ำใจ "คือ..ขอบคุณนะคะ แต่พี่เกรงใจใกล้แค่นี้พี่นั่งแท็กซี่กลับเองได้" ปานตะวันพูดกับสองสาว "ตามสบายนะ พี่ขอคุณนารถไว้แค่ช่วงกลางวัน นี่ก็เย็นแล้ว" ปานตะวันพูดกับเล็ก "ไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่เลี้ยงข้าว"
เล็กยิ้มน้อยๆ "ครับ..แล้วเจอกันนะครับ"
ปานตะวันชะงักแล้วยิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะเดินออกไป
"เดี๋ยวครับพี่ตะวัน" เล็กเรียกไว้
ปานตะวันหันมา "คะ?”
เล็กวิ่งมาหาทั้งสองเพื่อเกาะติดสถานการณ์ "อย่าลืมนะครับ..ถ้าว่าง..ไปเที่ยวเขาใหญ่บ้าง" เล็กนึกได้" อ่อ..พอดีเลย..ถ้าไม่รังเกียจ..พี่ชายผม" เล็กพูดกับแพรวพรรณราย "พี่ใหญ่ที่เคยไปรักษาสิวกับพี่หมอพิ้งค์นะครับ..จำได้มั้ยครับ?”
"อ๋อ..คุณใหญ่..จำได้!!” แพรวพรรณรายบอก
"นั่นล่ะครับ..จะแต่งงานอาทิตย์หน้า..ยังไงผมเชิญพี่พิ้งค์ พี่เดือน แล้วก็..พี่ตะวันไปเป็นเกียรติด้วยนะครับ"
ปานตะวันอึกอัก "เอ่อ...”
"โอเคนะครับ..ไม่กวนแล้วครับ..เชิญพี่ตะวันกลับเถอะครับ"
ปานตะวันเหวอ "เออ.." ปานตะวันพยักหน้าหงึกๆ แล้วเดินกลับออกไปอย่างงงๆ
เล็กอมยิ้มก่อนจะหันมาเจอสองสาวจ้องอยู่
"รวดเร็ว ทะลุทะลวง ยิ่งกว่า 4 G นะจ๊ะ" แพรวพรรณรายแซว
เล็กยิ้มเขิน
"ยิงเบอร์น้องมาให้พี่ด่วนเลยค่ะ" ประกายเดือนบอก
เล็กเลิกคิ้ว
"อ่อ..คือพี่เป็นเลขาฯน่ะค่ะ ต้องรอบคอบ เก็บข้อมูลครบ!!” ประกายเดือนบอก
เล็กยิ้มขำ
"โอเคครับ" เล็กยิงเบอร์ไป
ประกายเดือนเมมเอาไว้ "โอ๊เค!!”
"ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับพี่"
ประกายเดือนกับแพรวพรรณรายมองหน้ากัน "รักอ่ะ..คนเน้!”
เล็กยิ้มแล้วส่ายหน้าเขินๆ
ปานตะวันเดินกลับเข้ามาแล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงนาคินทร์
"ไปไหนมา?”
ปานตะวันเห็นนาคินทร์ยืนอยู่
ปานตะวันพูดอย่างไม่กลัว "ฉันลาคุณนารถไว้แล้ว"
นาคินทร์ยัวะจึงปรี่เข้ามาทันที
"ขี้ลืมหรือว่าโง่?”
ปานตะวันตวัดสายตามองนาคินทร์อย่างโกรธแค้นทันที
"ผมต่างหากที่เป็นเจ้านายของคุณ .. ไม่ใช่ยัยนารถ!!”
ปานตะวันเถียงไม่ออก
"คุณนี่มันอย่างที่ผมคิดจริงๆ แรกๆทำเป็นเอาใจใส่ ดูแลยัยนารถไม่ขาดตกบกพร่องแต่ก็ไม่นาน..ลายเริ่มออกให้เห็นแล้ว"
ปานตะวันจ้องตาท้าทาย "ไล่ฉันออกเลยสิคะ"
นาคินทร์อึ้งที่ปานตะวันกล้าท้าทาย เขาส่ายหน้ายิ้มเยาะๆ "ไม่สำเร็จหรอก อย่ามาใช้วิธีนี้กับผม" นาคินทร์พูดใส่หน้า "ผมไม่ได้โง่!”
ปานตะวันโกรธ
นาคินทร์พูดต่อ "คิดจะเล่นเกมกับผม มันต้องใช้สมอง มันต้องลึกซึ้งหน่อยเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าคุณตบตาคนทั้งโลกได้ แต่ไม่ใช่ผม"
ปานตะวันโกรธจึงจะเดินออก นาคินทร์กระชากแขนดึงเธอเข้ามาใกล้
"ออกไปแรดกับใครมา? ไอ้นัค หรือไอ้อัค บอกมา" นาคินทร์ว่า
ปานตะวันโกรธมาก เธอสะบัดๆจะทุบนาคินทร์แต่นาคินทร์ล็อคไว้แน่น
"รึว่าเหมาแพ็ค?”
ปานตะวันโกรธสุดขีด "หยาบคาย! สกปรก! จิตใจคุณ มันสกปรกที่สุด"
"สะอาดนักนี่คุณน่ะ!" นาคินทร์มองอย่างดูถูก "โสโครก นังบำเรอ"
ปานตะวันช็อค เธอทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ เสียใจ อับอายจนน้ำตาเอ่อไหลแล้วก็หยดติ๋ง ปานตะวันจ้องหน้านาคินทร์เขม็ง
อ่านต่อหน้าที่ 2
เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 13 (ต่อ)
นาคินทร์เห็นน้ำตาผู้หญิงก็แอบวูบก่อนจะหลบตาเพราะกลัวใจอ่อน เขาผลักปานตะวันกระเด็นออกไป
"ไป!! จะไปไหนก็ไป" นาคินทร์หันหลังให้เพราะไม่อยากเห็นน้ำตา
ปานตะวันมองนาคินทร์อย่างเคียดแค้น
"อย่าร้ายกาจกับฉัน อย่ากดดันฉันให้มากไปกว่านี้"
นาคินทร์ยังยืนหันหลังนิ่งฟัง
ปานตะวันพูดต่อ "เพราะถึงฉันจะเป็นคนที่มีความอดทน.. แต่ความอดทน..มันมีได้..มันก็หมดได้เหมือนกัน!”
ปานตะวันยืนจ้องนาคินทร์แล้วค่อยๆเดินออกไปโดยทิ้งนาคินทร์ ไว้ตรงนั้น นาคินทร์มีสายตาที่อ่อนลงเพราะเริ่มสับสนหัวใจตัวเอง
ปานตะวันเปิดประตูพุ่งพรวดมาทิ้งตัวร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
"ฉันหมดแล้วนะ..ฉันหมดความอดทนแล้ว"
ปานตะวันร้องไห้เสียใจ
กระเพราควันหอมฉุยถูกวางลงตรงหน้านาคินทร์ โดยที่บนโต๊ะมีอาหารเต็มไปหมด ทุกคนนั่งอยู่ครบ
"กระเพรา..จานโปรดของพี่คินจ้า" สาวิตรีมองไปทั่ว "แหม..วันนี้แม่มีความสุขที่สุดเลย ลูกๆอยู่ครบได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา"
"ลูกอยู่ครบแต่กับข้าวไม่ครบนะฮะ?" นัครินทร์เหล่แม่ "มีแต่กระเพราจานโปรดพี่คิน ?? แล้วไหนจานโปรดลูกนัค ล่ะฮะ?”
สาวิตรีค้อนขวับ "กล้าถาม ปล่อยให้แม่โทร.ตามทั้งวันยังจะมีหน้ามาถามหาจานโปรด??.ใครจะคิดว่าจู่ๆเธอจะโพล่มาทานข้าวที่บ้านหล่ะคะคุณนัค?? ไหน..บอกมาซิวันนี้ไปอยู่กับสาวๆที่ไหนมา"
นาคินทร์อึ้ง เขาตวัดสายตามองปานตะวันทันทีเพราะนึกว่าเธอไปกับนัครินทร์ ปานตะวันเมินไปอีกทาง
นัครินทร์ขำๆเขินๆ "โห่..แม่ฮะ!! ถามงี้ผมก็เขินนะฮะ"
นาคินทร์ถามเสียงเข้ม "นัค!! วันนี้แกไปไหนกับใครมา?”
นัครินทร์ขำ "เอ๊า!! พี่คินก็เอาด้วย?”
นาคินทร์ถามเสียงเข้ม "ฉันถามว่าแกไปไหน" นาคินทร์มองปานตะวัน "แล้วก็ไปกับใครมา?”
ปานตะวันอึ้ง
นัครินทร์ก็อึ้ง "เฮ่ย!! ทำไมต้องซีเรียสขนาดนั้นฮะ"
นาคินทร์เสียงดังลั่น "ตอบ!!”
นัครินทร์อึ้งๆ งงๆ "ก็..ไปกับ..น้องน้อยหน่า"
นาคินทร์สวน "อย่าโกหก!!”
"เฮ้ย! พี่คินเป็นอะไรรึเปล่าฮะ?? ก็ผมไปกับน้องน้อยหน่ามาจริงๆอ่ะ"
นาคินทร์จ้องนัครินทร์เพื่อจับโกหก
"แน่ใจ?” นาคินทร์ถาม
นัครินทร์ลุกไปหานาคินทร์ "จริงๆผมไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้นะฮะ แต่เพื่อความสบายใจของพี่คิน" นัครินทร์ควักมือถือขึ้นมากดให้นาคินทร์ดูรูปถ่าย
นาคินทร์มองปานตะวันก่อนจะมองรูปถ่ายในมือถือนัครินทร์ซึ่งเป็นรูปน้องน้อยหน่าสาวแบ๊วบิ๊กอายทำท่าปากจู๋ถ่ายรูปคู่ดูแบ๊วมาก
"คือ..แอ็คชั่นมันอาจจะ.." นัครินทร์ยักไหล่ "น่ารักไปนิดนึงแต่..เค้าฮิตกันมากนะฮะ" นัครินทร์ชี้ให้ดู "อ่ะ! ดูๆ ฮะ เวลา.. วันที่ มีระบุชัด"
นาคินทร์อึ้งไป เขามองหน้าปานตะวันที่แอบทำหน้าสมเพชใส่แล้วก็หน้าหงิก
"มีอีกหลายแอ็คชั่นนะฮะ..แต่..ไม่ควรนำมาเปิดเผยแล้วล่ะฮะ..แต่ถ้าพี่คิน อยากจะดู..”
นาคินทร์รีบบอก "ไม่ต้องๆ..ฉันไม่อยากดู"
"อ้าว..ก็จะได้หายข้องใจ"
ทุกคนงงๆ กับนาคินทร์
"จะกินกันได้รึยัง? ข้าวน่ะ..พ่อหิวแล้ว" ทวยเทพว่า
"นั่นสิ..ทานข้าวกันดีกว่านะจ๊ะทุกคน" สาวิตรีว่า
ทุกคนเริ่มทานข้าว อัครินทร์ตักกับข้าวให้ปานตะวัน นาคินทร์เห็นก็ชะงัก
"นายอัค!!”
อัครินทร์ชะงัก
นาคินทร์ถาม "วันนี้ทำไมถึงกลับบ้านเร็ว"
อัครินทร์งงๆ "ก็..ผมเสร็จงานแล้ว?”
"ทำไมหมู่นี้แกเสร็จงานเร็ว" นาคินทร์ถาม
"เอ๊า!! พี่คิน..นี่พี่คินเครียดอะไรมากไปรึเปล่าครับ?”
"นายอัค!!”
"นั่นสิ..พี่คิน แม่ว่าหมู่นี้พี่คินเครียดๆ นะงานหนักไปใช่มั๊ยลูก? พักๆบ้างดีกว่ามั๊ยจ๊ะ?” สาวิตรีว่า
นาคินทร์ไม่ตอบ ปานตะวันนั่งนิ่ง
"นี่ไง..อาทิตย์หน้าลูกชายเพื่อนพ่อเค้าจะแต่งงานที่บ้านเค้าที่เขาใหญ่" ทวยเทพพูด
ปานตะวันหันมาฟัง
"เค้าเชิญเราไปร่วมงานงั้นเราก็ถือโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนกันซะเลยมั๊ย?” ทวยเทพเสนอ
"กู้ดไอเดีย ฮะพ่อ" นัครินทร์บอก
"ไม่ได้ไอ้นัค!! แกต้องไปเมืองกาญจน์ กับเลขาฯแก อย่าลืม" นาคินทร์ว่า
นัครินทร์เซ็ง "โห่!”
ปานตะวันหันขวับไปมองนาคินทร์ นาคินทร์กระหยิ่มเพราะได้โอกาส ’เอาคืน’ ปานตะวัน
"ผมไปไม่ได้นะครับพ่อ ต้องออกต่างจังหวัด" อัครินทร์บอก
"อ้าว..งั้นก็เหลือพี่คิน กับยัยนารถแล้วล่ะ" สาวิตรีบอก
นาคินทร์จะเอ่ยปาก สาวิตรีพูดทันที "ห้ามเบี้ยว!! อ้อ..หนูตะวันด้วยนะจ๊ะ"
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ปรายตามองปานตะวันพล่งคิดในใจว่าเจอกันแน่
ปานตะวันอึดอัดใจมาก
ปานตะวันเดินพูดโทรศัพท์พรวดๆ มา
"ไม่ไปไม่ได้เหรอเดือน"
ประกายเดือนนอนกลิ้งคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียง
ประกายเดือนขำกิ๊ก "ตะวัน..เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เอาจริงๆอีตาท่านรองฯ ขี้หลีนั่นก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกนะ"
"เดือนประมาทเกินไปแล้ว"
"ไม่ได้ประมาท แต่เท่าที่ทำงานด้วยกันมาก็ถือว่าโอเคนะ อาจจะขี้หลีแต่ไม่อุบาทว์เท่าอีตาฝรั่งเจ้านายเก่าเค้า อีตานั่น" ประกายเดือนทำท่าขยะแขยง "แหวะ!!”
"แต่ขึ้นชื่อว่าผู้ชายนะเดือน..เราคาดเดาไม่ออกหรอกว่าลึกๆ เค้าจะร้ายกาจแค่ไหน"
ใครคนหนึ่งเดินมายืนฟัง
"ตะวัน..รู้ว่าตะวันเป็นห่วงเค้ามาก แต่เค้าก็อยากจะบอกตะวันว่า ไม่ต้องห่วงนะ..เค้าจะดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด" ประกายเดือนยิ้ม "อย่างมากก็แค่" ประกายเดือนทำท่า "เตะผ่าหมาก หักงวงอัยรา ฮ่าๆๆ"
ปานตะวันยิ้ม "เดือนนี่..จริงๆเลย"
"เค!! เค้านอนก่อนนะตะวัน ต่อยมวยจนเมื่อยไปหมดทั้งตัวเลย..กู้ดไนท์"
"กู้ดไนท์จ๊ะ"
ปานตะวันถอนใจเฮือก พอหันกลับมาก็ชะงักที่เห็น ’อัครินทร์’ ยืนยิ้มๆอยู่
อัครินทร์ถาม "ผู้ชายนี่ร้ายกาจขนาดนั้นเชียวเหรอครับ"
"เอ่อ.." ปานตะวันจ๋อย
"ไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาทนะครับ แต่มันบังเอิญได้ยินจริงๆ"
ปานตะวันทำหน้าไม่ถูก
อัครินทร์ไม่ว่าอะไร "คุณตะวันครับ..มีอะไรไม่สบายใจ อยากให้ผมช่วยก็บอกนะครับ"
ปานตะวันมองอัครินทร์ด้วยความซึ้งใจ
"รับรอง..ลึกๆผมไม่ร้าย" อัครินทร์ยิ้ม
ปานตะวันอมยิ้มอายๆ และทำหน้าไม่ถูก อัครินทร์ยิ้มมองปานตะวันอย่างจริงใจ เขาดีใจที่เห็นปานตะวันมีรอยยิ้มบ้าง
ปานตะวันกลับเข้ามาในห้องแล้วล็อคประตูก่อนจะหันกลับมาด้วยความตกใจมากที่เห็นนาคินทร์นอนจุ๊ยอยู่บนเตียง
"คุณ!”
ปานตะวันเปิดประตูแต่นาคินทร์พุ่งพรวดเดียวไปโอบล็อคตัวปานตะวันไว้
"จะไปแรดที่ไหนอีก?”
"ปล่อยนะ!! จะบ้าไปถึงไหน เมื่อกี้ก็ไล่กัดเค้าไปทั่วเหมือนหมาบ้า ซะจนฉันยังอายแทน"
"คนอย่างคุณอายเป็นด้วยเหรอ..ปานตะวัน?” นาคินทร์ถาม
"ออกไป!” ปานตะวันไล่
นาคินทร์ก้มลงจะจูบจะไซร้แต่ปานตะวันเบี่ยงหลบและดิ้นหลบสุดฤทธิ์
"อย่านะ!! ปล่อย!! คุณมันน่ารังเกียจที่สุด!”
นาคินทร์ชะงัก "แล้วคุณนึกว่าผมพิศวาสคุณนักรึไง จำไว้เลยนะ..คุณมันก็แค่ที่ระบายอารมณ์ของผม"
ปานตะวันอึ้ง
"แล้วคืนนี้..ก็เสียใจด้วย..ผมไม่มีอารมณ์" นาคินทร์บอก
นาคินทร์ผลักปานตะวันจนกระเด็นไป แล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที ปานตะวันสะอึกสะอื้น
เขาใหญ่ดูสวยงาม บรรยากาศปลอดโปร่งสุดๆ ทุกคนยืนดื่มด่ำกับบรรยากาศกันอยู่ นาคินทร์เข็นรถนารถนรินทร์เข้ามา
"สวยจังเลยค่ะ ไม่ได้มาตั้งหลายปีแล้ว..ดีใจจังเลย"
"เอาล่ะ พ่อจะไปออกรอบซักหน่อย สนามเค้าสวยใครจะพักผ่อนยังไงก็ตามสบายไว้เจอกันอีกทีงานคืนนี้" ทวยเทพเดินออกไป
นาคินทร์มองน้องสาวแล้วก็ยิ้มดีใจ "ไม่รู้นี่ว่าอยากมา พี่จะได้พานารถมาบ่อยๆ"
"แหม..ก็หลังๆ นี่ไม่ค่อยจะสนใจน้องนี่นะ?? อ่อ..ว่าแต่บ้านพี่คินที่เขาใหญ่ ก็อยู่แถวๆนี้ใช่มั้ยคะ" นารถนรินทร์ถาม
"จริงด้วย..เรือนหอหนูกนกน่ะ" สาวิตรีพูดจบก็อุ๊ปเพราะคิดได้ว่าไม่น่าพูดเลย
นาคินทร์อึ้งไป ปานตะวันหน้าสลด
"แม่ขอโทษนะจ๊ะพี่คิน..แม่ไม่น่าพูด" สาวิตรีบอก
นาคินทร์ยิ้ม "ทำไม่จะพูดไม่ได้ครับคุณแม่ ในเมื่อ กนกยังอยู่ในใจผมเสมอ ไม่มีใครมาแทนได้"
นาคินทร์มองปานตะวัน ปานตะวันอึ้งแล้วก็รีบเบือนหน้าหนี ทุกคนตกใจแล้วหันไปมองปานตะวัน
"เอ่อ..มีใครหิวน้ำมั้ยคะ? ตะวันขอตัวไปเอาน้ำทางโน้นก่อนนะคะ" ปานตะวันออกไปทันที
"พี่คิน..ทำไมพูดอย่างนั้น?”
"จริงด้วย..พี่ตะวันจ๋อยไปเลยอ่ะค่ะ"
นาคินทร์ไม่ตอบแล้วก็เบือนหน้ามองตามปานตะวันด้วยความสะใจ
ปานตะวันเดินโกรธต่อเนื่องมาหยุดยืนระงับความโกรธความน้อยใจแล้วก็นั่งลงอย่างอ่อนแรง ทันใดนั้นแก้วเครื่องดื่มน้ำผลไม้สีสดใสก็ถูกยื่นมาตรงหน้า
ปานตะวันหันไปมองตาโต "คุณน้องเล็ก?”
เล็กยิ้ม "ใครทำให้พี่ตะวันโกรธครับ?? เดี๋ยวผมไปเคลียร์ให้"
ปานตะวันเผลอยิ้ม "โห่!! มาเฟียมากๆ"
"ทานน้ำให้ใจเย็นก่อนครับ"
"ขอบคุณค่ะ" ปานตะวันรับน้ำมาจิบ
"ตอนแรกพี่พิ้งค์กับพี่เดือนบอกว่าติดงาน ผมเหี่ยวเลย"
“2 คนนั่นเค้าติดงานจริงๆค่ะ ส่วนพี่เจ้านายพี่จะมาร่วมงานแต่ที่นี่ บังเอิญมากเลยนะคะ สงสัยจะเป็นงานเดียวกัน"
"ผมดีใจมากเลยที่พี่ตะวันมาได้"
ปานตะวันหลบตาเล็กน้อย "พี่ก็..มาทำงานน่ะค่ะ"
"ให้ผมพาเที่ยวนะครับ"
"คงไม่ได้หรอกค่ะ เอ่อ..พี่ขอตัวนะคะ ป่านนี้เจ้านายรอแล้ว" ปานตะวันบอก
ปานตะวันลุกไปทันที
"พี่ตะวันครับ"
ปานตะวันหันมา "คะ?”
"เจอกันคืนนี้นะครับ"
ปานตะวันยิ้มให้ตามมารยาทก่อนจะรีบเดินออกไป เล็กมองตามด้วยความรัก
งานเลี้ยงกลางแจ้งเต็มไปด้วยความคึกครื้นหวานชื่น ครอบครัวของนาคินทร์ยืนอยู่ที่มุมนึง ทุกคนแต่งตัวสวยหล่อแบบจัดเต็ม
"ไป..เดี๋ยวเราเข้าไปยินดีกับเจ้าบ่าว เจ้าสาวกันดีกว่า" ทวยเทพบอก
"เดี๋ยวค่ะ..รอพี่ตะวันก่อน" นารถนรินทร์บอก
"อะไรกัน? ไปหลงป่าอยู่ที่ไหนป่านี้ยังไม่มา" นาคินทร์ถาม
"พี่คิ๊นนน! ทำไมปากจัดจังจ๊ะ?” สาวิตรีว่า
"พี่ตะวันพาน้องลงมาก่อนตั้งนานแล้วค่ะ แต่เค้าไม่ยอมแต่งตัวสวยๆ น้องเลยบังคับให้เค้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” นารถนรินทร์บอก
"ใช่ หนูตะวันนี่ก็น่าเวทนา เสื้อผ้าสวยๆเธอก็ไม่มี นี่ดีนะยัยนารถเอาชุดสวยๆติดมาตั้งหลายชุด หนูตะวันคงพอจะใส่ได้" สาวิตรีบอก
"ไม่ใช่แค่พอใส่ได้ค่ะคุณแม่ แต่รับรองว่าพี่ตะวันจะต้องสวยจนหนุ่มๆในงานตะลึงพี่คินระวังให้ดีละกัน เดี๋ยวจะหาว่าน้องไม่เตือน"
อ่านต่อหน้าที่ 3
เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 13 (ต่อ)
นาคินทร์ส่ายหน้าน้อยๆ เหมือนไม่อยากจะสนใจ
นารถนรินทร์หันไปเห็น "พี่ตะวัน!! พี่ตะวันมาแล้ว"
ทุกคนหันไปมองตามสายตานารถนรินทร์รวมทั้งนาคินทร์ ปานตะวันที่ดูสวยเฉี่ยว เปรี้ยว ฉ่ำ เดินช้าๆ มาท่ามกลางผู้คนที่จ้องมองกันจนคอแทบหัก นาคินทร์ตกตะลึง
สาวิตรีตะลึง "หนูตะวันสวยมาก"
นารถนรินทร์ภูมิใจ "บอกแล้วใช่มั้ย?" นารถนรินทร์โบกมือเรียก "พี่ตะวันๆ ทางนี้ค่ะ"
ปานตะวันมองมาแล้วยิ้มให้นารถนรินทร์ นาคินทร์ที่กำลังตะลึงรีบเบือนหน้าหนีทำไม่สน ปานตะวันเดินมาสมทบ
"ตะวันขอโทษนะคะที่ทำให้ต้องรอนาน" ปานตะวันบอก
"พี่ตะวันสวยสุดๆเลย จริงมั๊ยคะพี่คิน"
นาคินทร์ทำฟอร์มเก็ก ปานตะวันหมั่นไส้
"หนูตะวันสวยมากจริงๆ เอาล่ะ..เราไปกันได้แล้ว"
"พี่คินต้องเข็นให้ร้องแล้วล่ะค่ะ พี่ตะวันออกจะสวยซะขนาดนี้ คืนนี้ต้องขอพักการเป็นพยาบาลไว้ชั่วคราว ขอเป็น’เจ้าหญิง’ ดีกว่านะคะ..คุณแม่" นารถนรินทร์บอก
"ใช่แล้วจ๊ะ!! พี่คิน..สุภาพบุรุษจ๊ะ" สาวิตรีพูด
นาคินทร์ทำเซ็งใส่ปานตะวันก่อนจะเข็นรถนารถนรินทร์ ทั้งหมดเดินไปหาเจ้าภาพที่ยืนถ่ายรูปอยู่กับบรรดาแขกเหรื่อ
ไพบูลย์ทักเสียงดังลั่น "สวัสดีคุณทวยเทพ คุณสาวิตรี อุตส่าห์มาเป็นเกียรติลูกชายผม ขอบคุณมากครับ"
"ด้วยความยินดีเลยครับพ่อเลี้ยงคุณไพบูลย์" ทวยเทพแนะนำ "ลูกชายคนโตของผม นาคินทร์ นั่นคนเล็กนารถนรินทร์"
พ่อเลี้ยงไพบูลย์จ้องมองปานตะวัน
"และนี่คุณปานตะวันเป็นพยาบาลพิเศษช่วยดูแลลูกสาวผมครับ"
ไพบูลย์เสียงดัง "พยาบาลพิเศษ? โอ้โห คุณไปหาพยาบาลพิเศษสวยยังกะนางเอกอย่างนี้ได้ที่ไหนเนี่ยครับ..หาให้ผมซักคนสิ ฮ่าๆๆ กำพร้าเมียมาหลายปีแล้ว"
ทุกคนทำหน้าไม่ถูกกับความโผงผางของพ่อเลี้ยงไพบูลย์ โดยเฉพาะนาคินทร์ที่ลมหึงขึ้นตึงมาทันใด
ไพบูลย์พูดกับปานตะวัน "อย่าถือสานะหนู คุยกันเล่นสนุกๆ ผมมันคนบ้านนอก ปากก็พูดไป แต่จริงใจนะ ไม่เหมือนพวกปากอย่างใจอย่าง"
ปานตะวันยิ้มให้ก่อนจะค่อยๆหันไปจิกตาใส่คนปากอย่างใจอย่างที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ
"เอ..จำได้ว่าคุณพ่อเลี้ยงไพบูลย์มีลูกชาย 2 คน ไม่ใช่เหรอคะ?” สาวิตรีถาม
"ใช่ครับ ใช่ๆๆๆ มี 2 คน คนที่แต่งงานนี่ชื่อเจ้าใหญ่ อีกคนนึงชื่อเจ้าเล็ก" ไพบูลย์มองหา "อ้าว! หายไปไหนแล้วหว่า ตะกี้ยังอยู่ตรงนี้" ไพบูลย์ชะเง้อหา พอเห็นแล้วก็ตะโกนเรียก "เจ้าเล็กๆๆ"
เล็กที่แต่งตัวหล่อมากหันมามอง พอเห็นปานตะวันเขาก็ตกตะลึง ปานตะวันเองก็หลบตาเพราะกลัวมีเรื่อง
ไพบูลย์กวักมือเรียกดังลั่น "มานี่ๆๆมาไหว้เพื่อนพ่อ"
เล็กเดินยิ้มเข้ามา
"ไหว้เพื่อนพ่อ คุณลุงทวยเทพ คุณป้าสาวิตรี แล้วก็พี่"
นาคินทร์รีบตอบ "นาคินทร์, นารถนรินทร์ครับ"
เล็กสวัสดีทุกคน
ไพบูลย์ปลาบปลื้มปานตะวัน "นั่นก็...”
"พี่ตะวันครับ" เล็กตอบ
นาคินทร์หันขวับ ปานตะวันขนลุก ทุกคนงงๆ
"อ้าวเฮ้ย ไปรู้จักกันตอนไหน ทำไมพ่อไม่รู้เรื่อง?” ไพบูลย์ถาม
"อาทิตย์ที่แล้วผมเข้าเมืองน่ะครับ"
นาคินทร์เข้าใจทันที เขาจ้องปานตะวันที่อึ้งๆ อยู่
"ไปต่อยมวยแล้วเจอพี่ตะวัน" เล็กเล่า
นาคินทร์ส่ายหน้าน้อยๆ ปานตะวันเซ็ง
"โอ้โห!! คุณพยาบาลต่อยมวยด้วยคนไข้กลัวตายเลย ฮ่าๆ" ไพบูลย์หัวเราะลั่น
ทุกคนขำๆ ยกเว้นปานตะวันกับนาคินทร์
"เอาล่ะๆ..ตามสบายนะครับ ไอ้เจ้าเล็ก!!ช่วยพ่อเทคแคร์ให้ดีนะเว๊ย เดี๋ยวคุณพยาบาลต่อยเอาไม่รู้ด้วยฮ่าๆ ตามสบาย..ตามสบาย"
พูดจบไพบูลย์ก็เดินไป เล็กมองปานตะวันยิ้มๆ ปานตะวันพูดไม่ออกบอกไม่ถูก นาคินทร์มองด้วยความไม่พอใจ
เล็กยื่นจานอาหารทานเล่นส่งให้ปานตะวัน
ปานตะวันรับไว้ "ขอบคุณค่ะ"
เล็กยื่นให้นารถนรินทร์ "พี่นารถลองชิมสิครับ"
"ขอบคุณค่ะ" นารถนรินทร์แอบแซว "แหม..นึกว่าพี่นารถจะอดซะแล้ว?" นารถนรินทร์มองนาคินทร์ "อ้าว..สรุปพี่คินอด" นารถนรินทร์ยื่นให้ "ทานของน้องก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะหมดแรงซะก่อน"
"เดี๋ยวผมไปเอามาให้ใหม่นะครับ" เล็กบอก
"ไม่ต้อง!!” นาคินทร์ว่า
เล็กชะงัก
นาคินทร์ทำเสียงอ่อนลง "พี่ไปเอาเองครับ อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปตรงอื่นอยู่พอดี" นาคินทร์มองปานตะวัน "ตรงนี้เบื่อๆ" นาคินทร์จะเดินไป
"พี่คิน!! พาน้องไปด้วย" นารถนรินทร์ทำท่าเหมือนมีอะไรจะเม้าท์ด้วย
นาคินทร์คิดในใจว่าเรื่องอะไร? "อยู่ตรงนี้แหละดีแล้ว"
พูดจบนาคินทร์ก็เดินออกไป
"พี่นาคินทร์นี่เค้าดูดุๆนะครับ หรือว่าจะหวงพี่ตะวัน"
นารถนรินทร์รีบทันที "ก็อาจจะอย่างนั้น..”
ปานตะวันชิงพูดแล้วชี้ไปที่เวทีที่บ่าวสาวจูงมือกันไปตัดเค้ก "ดูสิคะเจ้าบ่าว-เจ้าสาว ตัดเค้กแล้วค่ะ" ปานตะวันพูด ทุกคนมองไปมองอย่างซาบซึ้ง "ที่จริง.. จัดงานแต่งานแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะน้องนารถ"
เล็กรีบถามทันที "ใครจะแต่งงานครับ? พี่ตะวันหรือพี่นารถ"
นารถนรินทร์ยิ้ม "แหม..จะตกใจอะไรขนาดนั้นคะน้องเล็ก" นารถนรินทร์เม้าท์ "อย่าบอกใครนะ" นารถนรินทร์ชี้ตัวเอง "พี่เอง"
"โห่ย..โล่งอก" เล็กบอก
นารถนรินทร์ทำตาโต เธอหันมองปานตะวัน ปานตะวันเบือนหน้าหลบตาไป นารถนรินทร์เริ่มกังวลแทนพี่ชาย ทันใดนั้นพิธีกรก็ประกาศเรียกแขกรับช่อดอกไม้เจ้าสาว
ปานตะวันตื่นเต้น "น้องนารถ..ไปนะคะ"
นารถนรินทร์ส่ายหน้าเร็วมาก "ไม่ล่ะค่ะ" นารถนรินทร์มองขาตัวเอง "นารถอายเค้าพี่ตะวันแหละ" นารถนรินทร์ยิ้ม "ไปค่ะ ไปชิงมาให้ได้"
"น้องนารถค่ะ..ต้องน้องนารถ"
ว่าแล้วปานตะวันก็จะเข็นรถให้นารถนรินทร์
"ผมเองครับ" เล็กอาสา
ทั้งสองมือแตะกัน แล้วก็มองหน้ากัน
นารถนรินทร์รู้สึกว่าท่าจะไม่ดี "เอ้า!!เข็นสิคะเข็น เจ้าสาวเค้าโยนดอกไม้แล้ว"
สองคนสะดุ้ง ปานตะวันดึงมือออก เล็กเข็นรถไปทันที ปานตะวันวิ่งตามไปอย่างรู้สึกสนุก นาคินทร์ที่อยู่อีกมุมมองอย่างไม่พอใจ บริเวณหน้าเวที ทุกคนชูมือไม้เตรียมพุ่งชิงช่อดอกไม้กันเต็มที่ เล็กเข็นนารถนรินทร์เข้ามาโดยมีปานตะวันเดินตามมาลุ้น พิธีกรประกาศว่าเจ้าสาวจะโยนดอกไม้แล้วใครจะเป็นผู้โชคดี ฝูงชนขยับตัวฮือฮากรี๊ดกร๊าด พิธีกรนับ 1 ฝูงชนเบียดกันจนปานตะวันเซมาเบียดชิดเล็ก เล็กอมยิ้ม
นาคินทร์ที่ยังอยู่มุมเดิม เขาชะเง้อมองอย่างไม่พอใจ พิธีกรนับ 2 ฝูงชนก็เบียดขึ้นอีก ปานตะวันเซอีก นาคินทร์ชักจะหงุดหงิดหนักจึงซดเครื่องดื่ม พิธีกรนับ 3 ฝูงชนกรี๊ดหนักแล้วก็กระโดดพุ่งสุดพลัง ช่อดอกไม้ลอยละลิ่วผ่านมือคนแล้วคนเล่าโดยกำลังจะเข้าสู่มือของผู้โชคดี แต่ถูกอีกคนกระโดดเข้ามาแย่ง สุดท้ายช่อดอกไม้กระเด็นมาหล่นใส่ตักนารถนรินทร์เฉยเลย
นารถนรินทร์ช็อค "เฮ้ยย!!”
ปานตะวันกรี๊ดด้วยความดีใจสุดขีด "น้องนารถ!! น้องนารถได้ดอกไม้จริงๆ" ปานตะวันกระโดดๆ "น้องนารถ!”
ปานตะวันโผเข้าไปกอดด้วยความดีใจกับนารถนรินทร์ ปานตะวันลืมตัวโผกอดเล็กแน่นเช่นเดียวกัน ทั้ง 3 คนมัวแต่ดีใจไม่ได้คิดอะไรต่างกับนาคินทร์ที่ยืนอึ้งอยู่ เขากระดกเหล้าจนหมดแก้ว ฝูงชนเริ่มสลายตัว ปานตะวันรู้สึกตัวจึงกระเด้งตัวออกจากเล็กทันที
"โทษค่ะ..ดีใจมากไปหน่อย" ปานตะวันบอก
"ดีใจบ่อยๆก็ได้ครับ" เล็กว่า
นารถนรินทร์กระแอม "จะดีเหรอคะ?" นารถนรินทร์รีบมองหานาคินทร์ พอเจอก็ตะโกนเรียกทันที "พี่คิน!! มานี่ๆๆ"
นาคินทร์ทำเชิด นารถนรินทร์ตะโกนเร่ง
"มาเร็วๆ !! อย่าช้า!!ช้าอด" นารถนรินทร์จงใจตะโกน
นาคินทร์ทำเป็นเดินมาอย่างเสียไม่ได้
"มีอะไรยัยนารถ พี่กำลังชิว บรรยากาศตรงนู้นดีกว่า ตรงนี้เยอะ" นาคินทร์ว่า
ปานตะวันมองอย่างไม่พอใจ
นารถนรินทร์อวด "น้องได้ดอกไม้ด้วย"
"เห็นแล้ว เห็นหมดทุกอย่าง"
ปานตะวันรู้ว่าโดนกัด
นารถนรินทร์ทำฟอร์ม "นารถอยากไปตรงนู้นแล้วอะคะพี่ตะวัน เห็นพี่คินว่าชิว"
ปานตะวันรู้ทันและรู้สึกอยากแกล้งนาคินทร์ พอดีกับที่ดนตรีเพลงช้าแว่วดังมาพอดี
"เพลงเพราะจังเลยนะคะ อืมม์..ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ตะวันขอให้คุณนาคินทร์ช่วยพาคุณนารถไปตรงที่ๆ คุณนาคินทร์ชอบหน่อยได้มั้ยคะ" ปานตะวันขอ
นาคินทร์หันขวับไปมองปานตะวัน
ปานตะวันไม่สน เธอหันไปหวานใส่เล็ก "ตะวันอยากเต้นรำค่ะ"
นาคินทร์อึ้ง
เล็กยิ้มแฉ่ง
นารถนรินทร์เอ๋อทันที "พี่คิน!!" นารถนรินทร์จะพูด "เอ่อ..พี่ตะวันคะ..”
นาคินทร์แทรกขึ้นมา "ปล่อยเค้า! อย่าไปสนใจ"
นาคินทร์เข็นรถนารถนรินทร์ออกไปทันที ปานตะวันแอบสะใจ เล็กยืนมองอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่
"ผม..เต้นรำแบบนี้ไม่ค่อยเป็นนะครับ"
ปานตะวันอึ้ง "พี่ก็..ไม่ค่อยเป็นค่ะ" ปานตะวันแอบกระซิบ "งั้นเราไม่เต้นมั้ยคะ?”
"ไม่เอาครับ..ผมอยากเต้นรำกับพี่ตะวัน"
ปานตะวันได้แต่ยิ้มแหะๆ แล้วทั้งคู่ก็เริ่มเต้นรำกันไปอย่างงูๆปลาๆ แต่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เล็กยิ้มปลื้มมาก นาคินทร์ที่ไม่พอใจสุดๆ จึงคว้าเครื่องดื่มมาซดเฮือก
"พี่คิน!! มัวแต่ซดโฮกๆอยู่เนี่ย เดี๋ยวอีตาน้องเล็กก็ปาดหน้าเค้กไปหรอก"
นาคินทร์กึ่มและโกรธด้วย "ช่างหัวมันดิ!”
"อ้าว..เมาแล้วเหรอคะนั่น"
"ใครว่าพี่เมา?!”
"ไม่เมาก็เข้าไปสกัดดาวรุ่งสิคะ ท่าทางจะมาแรงด้วย" นารถนรินทร์ผลักพี่ชายทันที "ไป๊!!”
นาคินทร์เซออกไป นารถนรินทร์ส่ายหน้าเพราะกังวลแทน ส่วนเล็กกำลังแฮปปี้กับปานตะวันอยู่ที่หน้าเวที
เล็กพูดจริง "คืนนี้..พี่ตะวันสวยมากเลยครับ"
ปานตะวันหน้าเอ๋อๆ ที่เจอเด็กพูดตรง
เล็กนึกว่าปานตะวันโกรธ "คือ..ปกติพี่ตะวันก็สวยมากอยู่แล้วน่ะครับ แต่คืนนี้สวยมาก..สวยเว่อร์"
นาคินทร์เดินเข้ามาพอดี "เว่อร์มากมั้ยครับ?”
ปานตะวันชะงัก เล็กมองเฉยๆ
นาคินทร์ยิ้มน้อยๆ "พี่มาทวงของพี่คืน"
"คุณพูดอะไร?” ปานตะวันถาม
นาคินทร์พูดกับเล็ก "พี่อยากเต้นรำกับพี่ตะวันบ้างแล้ว"
ปานตะวันตอบทันที "ไม่..”
เล็กไม่อยากให้ปานตะวันลำบากใจ "พี่ตะวันเต้นรำกับพี่นาคินทร์เถอะครับ" เล็กพูดกับนาคินทร์ "แต่ถ้า ผมจะมาขอทวงคืนบ้าง พี่นาคินทร์ต้องคืนพี่ตะวันให้ผมนะครับ" เล็กยิ้ม
เล็กเดินออกไปโดยไม่รอคำตอบจากนาคินทร์ที่อึ้งและโกรธ เธอเลยหันขวับมาเล่นงานปานตะวันแทนโดยการกระชากปานตะวันแรงๆ มากอดไว้แน่น
"ปล่อยนะ!!” ปานตะวันว่า
"คิดจะกินเด็กเหรอ" นาคินทร์ถาม
"เมาแล้ว!!” ปานตะวันบอก
"ผมก็ยังมีสติมากกว่าคุณก็แล้วกัน หมดหนทางแล้วหรอถึงต้องหน้าด้านไปกินเด็ก"
ปานตะวันโกรธมากจึงประชดใส่หน้า "ก็เด็กมันน่ากิน มันน่าจะแซบกว่าคุณเยอะ"
นาคินทร์โกรธจัดจึงกระชากปานตะวันออกไปทันที
ปานตะวันร้อง "ว้าย!!”
ปานตะวันถูกเหวี่ยงลงไปที่เตียง เธอพยายามจะลุกหนีแต่นาคินทร์ตะครุบตัวเธอไว้ ปานตะวันร้องให้ปล่อย
"ปล่อยนะ พาฉันมาที่นี่ทำไม"
"ก็ที่นี่ไม่ใช่เหรอที่คุณนอนกับผมกลายเป็นนางบำเรอ ของผม"
ปานตะวันจะคลานหนี นาคินทร์จับข้อเท้าแล้วลากกลับเข้ามาก่อนจะตะครุบแล้วคร่อมไว้
"คุณนี่มันร้ายเกินกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเจอะใครก็ฟาดเรียบ ฟาดบ้านผมทั้งบ้านยังไม่หนำใจ ยังไม่อิ่มใช่มั้ยถึงคิดจะฟาดไอ้เด็กนั่นอีก"
ปานตะวันประชด "ใช่!!จะทำไม?”
นาคินทร์เหลือเชื่อ "หิวนักใช่มั้ย"
นาคินทร์ซุกหน้าลงที่คอปานตะวันทันที ปานตะวันได้แต่ร้องให้ปล่อยๆ
อ่านต่อหน้าที่ 4
เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 13 (ต่อ)
ฟ้าผ่าเปรี้ยง นัครินทร์วิ่งนำประกายเดือนตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์หน้าโรงแรมประกายเดือนแล้วก็คว้าแขนนัครินทร์เอาไว้
"ท่านรองฯ" ประกายเดือนเรียก
"อาราย?? จะเรียกทำไมนักหนาฮะ รักผมมาก กลัวผมจะหายไปเหรอฮะ" นัครินทร์บอก
"แหวะ!! หายไปจากโลกนี้ซะเลยยิ่งดี"
"นั่น!! แช่งกันเลย? ถ้าผมตายไปจริงๆ ผมจะเป็นผีมาหลอกคุณ" นัครินทร์ทำท่า "แบร่ๆๆ"
"ไม่ต้องเลย ที่เป็นอยู่นี่ก็น่ากลัวยิ่งกว่าผีอีก"
"โหย..แรงส์"
ประกายเดือนเหล่ "นี่!! ว่าแต่เข้ามาโรงแรมนี่ทำไมคะ?”
"อ๋อ..เข้ามาสวดมนต์"
ประกายเดือนเอาจริง "ท่านรอง"
"กินอะไรเนี่ยดุ๊ดุ?? คื้องี้..ก็ฝนจะตกน่ะไม่เห็นเหรอ ทางมันก็มื้ดมืด ขืนไม่หยุดพักเดี๋ยวรถคว่ำตายไปทำไง"
"ก็ขับช้าๆ สิคะ อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านลูกค้าแล้วไม่ใช่เหรอ?” ประกายเดือนถาม
"นิดเดียวอะไรล่ะ อีกตั้งไกลนี่!! นึกว่าตัวเองเป็นนางเอกละครกลัวจะโดนพระเอกจับปล้ำหรือไงฮะคุณเลขาฯ ถ้ากลัวมากนักเราก็แยกกันพักคนละห้อง"
"โอ้ย..มันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ใครเค้าจะอยากนอนห้องเดียวกับพระเอกละครลิง"
นัครินทร์พูดทันที "เหมือนกั๊น!! นึกว่าน่าปล้ำนักนี่ อี่ธ่อ!! นางเอกงิ้ว"
พูดจบนัครินทร์ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์
"ขอห้องเดี่ยว 2 ห้อง" นัครินทร์เน้น "ไม่ติดกันนะฮะ ขอห้องห่างๆ ไกลๆ กันคนละโยชน์เลยยิ่งดี"
ประกายเดือนเบะปากใส่นัครินทร์ที่เบะปากประชดเช่นกัน
พนักงานหน้านิ่งแบบเนิร์ดๆ ไร้อารมณ์พูด "ห้องเต็มหมดพี่"
นัครินทร์ตกใจ "หา?”
ประกายเดือนพูดทันที "ไม่จริงอ่ะ!! นี่มันวันธรรมดาไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ ไม่ใช่ Long Weekend ซักกะหน่อย ห้องจะเต็มได้ไงคะน้อง ใครเค้าจะมาเที่ยวกันเยอะขนาดนั้น"
"ก็ไม่รู้พี่ แต่ห้องเต็ม" พนักงานบอก
ประกายเดือนท้าวเอวทันที "อัลไลอ่าา?”
นัครินทร์เกาหัวแกรกๆ "เอางี้..เดี๋ยวเราลองขับรถหาไปเรื่อยๆ"
ประกายเดือนบ่น "โอ้ย!! จะไปก็รีบไปปวดฉี่แล้ว"
ทั้งสองคนจะเดินออก พนักงานเรียกไว้
"พี่ๆ!! เดี๋ยวก่อน"
ประกายเดือนหันขวับ "อะไรอีกล่ะน้อง ฉี่จะราดแล้ว"
"เหลือว่างอยู่ห้องนึง" พนักงานบอก
นัครินทร์กับประกายเดือนร้องพร้อมกัน "เอ๊า?”
"แล้วตะกี้บอกเต็ม?”
"ห้องบนตึกเต็ม เหลือแต่บนแพ" พนักงานบอก
นัครินทร์กับประกายเดือนเสียงดัง "บนแพ?”
พนักงานชูกุญแจ "ห้องเดียว"
นัครินทร์กับประกายเดือนเสียงดังลั่น "ห้องเดียว?”
ประกายเดือนวิ่งจู๊ดแบบคนฉี่จะราดมาประกบพนักงานคนเดิมที่กำลังเปิดประตูห้องพักบนแพอย่างรีบ ก่อนจะหันมาแว้ดนัครินทร์
"อยู่ตรงนี้ก่อน!! ให้ดิฉันฉี่ก่อน!! อย่าเพิ่งเข้ามา" ประกายเดือนปิดประตูดังปัง
นัครินทร์ทำเป็นส่ายหน้าเซ็งๆ ก่อนจะท่า ‘เยส’ แล้วกอดพนักงานแน่นพร้อมกับตบไหล่ผลัวะๆ
"เจ๋งมากไอ้น้อง" นัครินทร์ควักแบงค์พัน "เอาไปเลย..ติ๊บ" นัครินทร์ควักอีกพัน "นี่!! โทษฐานที่แอ็คติ้งเนียนมากๆ"
พนักงานกลายเป็นคนกะล่อนคนละลุคส์กับที่หน้านิ่งๆ เนิร์ดๆ เมื่อกี้ราวกับคนละคน
"ขอบคุณครับเฮีย แหม..เจ้านายผมเพื่อนเฮียสั่งมานี่ครับ อีกอย่างนึงเคยเล่นให้เฮียหลายรอบแล้วไม่เนียนได้ไง ว่าแต่..คนนี้ดูจะฤทธิ์เยอะนะครับ สงสัยเฮียจะเหนื่อยหน่อย"
"เฮ่ย..อย่างเฮีย!! เอ็งก็รู้..ว่าเอาอยู่"
ทั้งสองคนขำกันกิ๊กกั๊ก
ประกายเดือนเปิดประตูผัวะมาแว้ดเสียงเขียว
"ขำอะไรกัน?”
นัครินทร์กับพนักงานเบรคขำทันที พนักงานกลับมาทำหน้านิ่งอย่างเก่า
"อ๋อ..เปล่า..ไม่มีอะไร..ไอ้น้องมันเล่าเรื่องตลกให้ฟังอ่ะ..ข๊ำขำ..กร๊ากๆ"
ประกายเดือนมองหน้าพนักงานแล้วพึมพำ "หน้าอย่างเนี้ยนะ..เล่าเรื่องตลก?”
นัครินทร์ยังขำเป็นการยืนยันว่าตลก ขณะที่พนักงานยังหน้านิ่งเหมือนเดิม ประกายเดือนมองงงๆ
ปานตะวันนั่งลงกับพื้นหลังพิงเตียง ผมเผ้าเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก นาคินทร์ไม่ได้อยู่บนเตียง ประกายเดือนนั่งคิด
ภาพในอดีตย้อนกลับมา ตอนที่นารถนรินทร์ถาม “บ้านพี่คินที่เขาใหญ่ก็อยู่แถวๆ นี้ใช่มั้ยคะ”
“จริงด้วย เรือนหอหนูกนกน่ะ” สาวิตรีตอบ
ปานตะวันค่อยๆ ลุกขึ้นกวาดสายตามองไปทั่วห้องเหมือนสำรวจร่องรอยเรือนหอของนาคินทร์กับผู้หญิงที่เขาบอกว่าจะไม่มีใครมาแทนที่ได้ จากนั้นปานตะวันก็ค่อยๆ เดินออกไปจากห้องนอน
ปานตะวันค่อยๆ เดินดูไปตามห้องต่างๆ จนถึงห้องๆ หนึ่งที่เหมือนห้องเก็บของและห้องวาดรูป เธอรู้สึกสะดุดตากับขาตั้งที่มีรูปภาพแต่มีผ้าคลุมไว้ ปานตะวันค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบผ้าคลุมเปิดออก
ทันใดนั้น นาคินทร์ก็เอื้อมมือมาตะปบมือปานตะวันไว้ ปานตะวันสะดุ้งเฮือก
"จะทำอะไร" นาคินทร์ถาม
ปานตะวันตกใจ "เอ่อ...”
"อย่าเอามือสกปรกของคุณมาแตะต้องของชิ้นนี้!” นาคินทร์บอก
ปานตะวันโกรธ เธอสะบัดตัวจะเดินออกไป
นาคินทร์เรียกไว้ "เดี๋ยว!!”
ปานตะวันชะงัก
"นอนกับคุณเสร็จแล้ว ผมอยากจะกลับไปบ้านพ่อเลี้ยงแล้ว"
ปานตะวันหันมาด้วยความโกรธ
นาคินทร์ไม่สะทกสะท้าน "จะไปนั่งรอในรถหรืออยากจะเดินกลับเองเหมือนครั้งที่แล้ว”
ปานตะวันโกรธจนพูดไม่ออกก่อนจะสะบัดตัวเดินออกไป นาคินทร์ทำหน้ายิ้มเยาะก่อนจะค่อยๆ หันมามองและค่อยๆ เปิดผ้าออกทำให้เห็นภาพวาด ‘กนกวลี’ ที่สวยงามยิ้มแย้มราวกับมีชีวิต
"สะใจมั้ยครับกนก ยังนะครับ..นี่ยังแค่เริ่มต้นจุดจบของผู้หญิงคนนั้น..มันต้องเจ็บปวดกว่าเราสองคนหลายเท่า พี่คินทร์สัญญา"
บริเวณงานไม่เหลือใครแล้วนอกจาก ‘เล็ก’ ที่นั่งเหงาๆ รอปานตะวันอยู่ สักพักปานตะวันก็เดินจ้ำมาแล้วก็ชะงัก
เล็กดีใจจึงลุกขึ้น "พี่ตะวัน!”
เล็กจะวิ่งเข้ามาหาก็ชะงักเมื่อเห็น ‘นาคินทร์’ ก้าวตามมายืนประกบปานตะวัน เล็กมองทั้งสองคน ปานตะวันรู้สึกอาย
"เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรนอนดึกนะครับ" นาคินทร์บอก
"ผมไม่ใช่เด็กแล้ว" เล็กว่า
นาคินทร์ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ "คุณยังเด็ก..เด็กเกินไปที่จะแยกแยะออกว่าอะไรคือขนมหวาน? และอะไร.." นาคินทร์มองปานตะวัน "คือของเหลือเดน"
ปานตะวันอึ้ง เล็กก็อึ้ง
ปานตะวันรีบเดินจ้ำออกไปจากตรงนั้นทันที นาคินทร์ยิ้มแล้วตบไหล่เล็กเบาๆ เล็กปัดทิ้ง
"ผมไม่สนว่าอะไรคือขนมหวาน อะไรคือของเหลือเดน ผมรู้แค่ว่า ผมรักพี่ตะวัน"
นาคินทร์มองเล็กอึ้งๆ เล็กมองตอบเพื่อบอกว่า “จริง” ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่กลัวอะไรจะเกิด นาคินทร์รู้สึกว่าโดนลูบคม
นัครินทร์ผุดลุกผุดนั่งฟังเสียงประกายเดือนร้องเพลงไปอาบน้ำไป สักพักเขาก็เกิดไอเดียจึงค่อยๆ ย่องพยายามหาช่องหารูจะถ้ำมอง สักพักเสียงน้ำกับเสียงร้องเพลงก็เงียบลง นัครินทร์รีบกระโดดไปแล้วทำเป็นแกล้งนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง
ประกายเดือนในชุดนอนเดินออกมาชะงักมอง เธอแน่ใจมากๆ ว่านัครินทร์ไม่ได้หลับจริง ประกายเดือนทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้ามาใกล้ส่วนปากก็พูดไป
"โถ..ท่านรองฯ..หลับปุ๋ยเชียว..สงสัยจะเพลีย..อย่างนี้เลขาฯอย่างเราคงต้องช่วยเกาหลังให้ซะแล้ว"
พูดจบประกายเดือนก็ถีบนัครินทร์โครมจนตกลงจากเตียงทันที
"โอ๊ยๆๆ" นัครินทร์เจ็บโอเว่อร์ "นี่คุณทำอะไรผมคุณเลขาฯ คุณมาถีบผมได้ยังไง นี่ผมเป็นท่านรองฯ นะ"
ประกายเดือนตาโตด้วยความตกใจ "ใครถีบท่านรองคะ?”
"ก็คุณไง?? ไม่ต้องมาแอ๊บ"
"รู้ได้ไงคะว่าดิฉันถีบ? ท่านรองฯ หลับปุ๋ยอยู่ แล้วรู้ได้ไง?”
นัครินทร์อึกอัก "เอ่อ..อ่า..”
"ดิฉันไม่ได้ถีบค่ะ ท่านรองฯ นอนหลับปุ๋ยแล้วดิ้นตกเตียงตะหาก ดิฉันยืนมองอยู่ เห็นกะตา"
"ไม่..”
ประกายเดือนเงยหน้าท้าทายประมาณว่าเถียงสิ
นัครินทร์พูดไม่ออก "เออ..ก็ได้!! ดิ้นตกเตียงเองก็ได้" นัครินทร์ชะงักมองประกายเดือนในชุดนอนเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น "เอ่อ..”
ประกายเดือนชะงักแล้วก็เริ่มระวังตัว
นัครินทร์ยิ้มๆ "ไม่ค่อยเคยเห็นคุณแต่งตัวแบบนี้ ปกติเห็นแต่ชุดทำงาน" นัครินทร์กลืนน้ำลาย "น่าฟัดเอ๊ย! น่ารักจัง"
ประกายเดือนเสียงเข้ม "ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ..ท่านรองฯ"
นัครินทร์พยักหน้ารับแต่โดยดี ประกายเดือนแอบงง นัครินทร์ทำเป็นเดินผ่านประกายเดือนไปเหมือนจะเข้าห้องน้ำแต่ทันใดนั้นเธอก็หันตัวกลับมารวบประกายเดือนล้มตึงลงบนที่นอนทันที
"เฮ้ย!! ปล่อยนะ!! จะทำอะไรฉัน"
"ชวนเล่นโอน้อยออกมั้งฮะ" นัครินทร์บอก
ประกายเดือนทุบ "บ้า!! ปล่อยนะ!! ไหนบอกเป็นสมภารไม่กินไก่วัดไงล่ะ"
"โอย..ไก่มันขาวอึ๋มซะขนาดนี้ สมภารอดใจไม่ไหวแล้วฮะ"
พูดจบนัครินทร์ก็พุ่งหน้าจะเข้าไปจูบ ประกายเดือนหันหลบซ้ายทำให้นัครินทร์จูบพลาดไปจูบที่นอน แล้วเขาก็พุ่งไปอีกคราวนี้ประกายเดือนหลบขวาทำให้นัครินทร์จูบพลาดอีก
นัครินทร์ยิ้ม "คราวนี้ไม่พลาดแน่"
นัครินทร์จะจูบ ประกายเดือนเข่าเข้าหว่างขานัครินทร์เต็มๆ
นัครินทร์ร้องลั่น "จ๊าก!”
นัครินทร์พลิกตัวหงายผึ่งลงไปกุมกล่องดวงใจบิดไปบิดมา
"โอย..อีกแล้วนะ คราวก่อนก็ทุบของผมไปทีแล้วนะ ถ้ามันเสียหายไป ใครจะรับผิดชอบ..โอย" นัครินทร์นอนบิดไปบิดมา
"อ๋อ..เดี๋ยวเดือนรับผิดชอบให้เองค่ะ" ประกายเดือนบอก
นัครินทร์งงๆ ประกายเดือนขึ้นคร่อมนัครินทร์
นัครินทร์อึ้ง "เฮ่ยๆๆ..เล่นอะไร..อย่านะ"
ประกายเดือนยิ้มหวาน "ก็เดือนเป็นคนทุบ เดือนก็ต้องรับผิดชอบน่ะสิค่ะ"
นัครินทร์หายเจ็บทันที เขาตาโต "อะ..อะไร..ยังไงฮะ" นัครินทร์เริ่มยิ้ม "แหม..คุณนี่..น่าค้นหา..คาดเดาไม่ถูก" นัครินทร์สนุก "ตื่นเต้นจัง"
"ค่ะ..ท่านรองฯ..รับรองว่าต้องตื่นเต้นสุดขีดแน่"
พูดจบประกายเดือนก็คว้ามีดสปริงพกเล็กๆ ขึ้นมาดีดดึ๋ง!! แล้วเอาอีกมือกดหน้าอกนัครินทร์ไว้ไม่ให้หนี
นัครินทร์ตาโตและแหกปากลั่น
"เฮ้ยย!! อย่านะ!! คุณจะบ้าเหรอ!! คุณบ้าไปแล้ว!!! บ้าชัดๆ" นัครินทร์โวยวาย
ประกายเดือนเสียงโหด "ไอ้พวกบ้ากามมันก็ต้องโดนอย่างนี้แหละ"
นัครินทร์จะขยับหนี
"อย่าขยับ!! ถ้ายังไม่อยากกลายเป็นไอ้ด้วน" ประกายเดือนว่า
นัครินทร์ชะงักก่อนจะนอนตัวแข็งแล้วร้องเสียงอ่อน "คุณเลขาฯ คุณประกายเดือนคร้าบ..อย่าเล่นอย่างนี้เลย มันไม่ดี เดี๋ยวผีผลัก"
"ผีไม่ต้องผลักหรอก ฉันนี่ล่ะจะเชือดของคุณแล้วโยนลงน้ำให้ปลามันกินซะเลย" ประกายเดือนว่า
นัครินทร์ร้องลั่น "เฮ้ย!! อย่านะ!! คุณอย่าบ้านะ!! ผมไม่ยอมนะ ผมไม่อยากเป็นไอ้ด้วน"
"ไม่อยากเหรอ?? แล้วไม่อยากกินไก่วัดแล้วเหรอ? ขาวนะ? อึ๋มด้วย?” ประกายเดือนถาม
"ไม่แล้วฮ้า..อิ่มแล้วฮ้า..ไม่อยากกินแล้ว"
"เออ..รู้จักอิ่ม รู้จักพอซะบ้าง คนอะไรตะกละตะกลาม ไม่รู้จักพอ" ประกายเดือนทำยัวะก่อนจะยกมีดขู่ "หึ้ย!!”
นัครินทร์ตกใจสุดขีดก่อนจะยกมือไหว้ "พอแล้วฮ้า..ผมพอแล้วฮ้า ปล่อยผมไปเถอะฮ้า"
"แน่ใจนะว่าจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับฉันอีก?”
"แน่ใจฮ้า..ผมให้สัญญาฮ้าา"
“เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกับประกายเดือน คนอย่างฉันถ้าไม่เจ๋งจริง ไม่รอดปากเหยี่ยวปากกามาจนถึงทุกวันนี้หรอก รู้ไว้ด้วย" ประกายเดือนตวาด "รู้มั้ย?”
นัครินทร์สะดุ้ง "รู้จ้า..รู้แล้วจ้า"
"ดี!! จำไว้ให้แม่นด้วย ลุกขึ้น"
นัครินทร์รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดไปห่างประกายเดือนทันที
ประกายเดือนใช้มีดชี้แล้วก็ตวัด "ออกไปนอนข้างนอก"
"หา!! จะบ้าเหรอ?”
ประกายเดือนขู่เสียงดัง "จะไปรึไม่ไป?? อยากจะตื่นมาแล้วกลายเป็นไอ้ด้วนใช่มั้ย"
"ไม่เลย ไม่อยากเลย" นัครินทร์รีบหอบหมอนกับผ้าห่มอีกชุดแถวนั้น "ไปแล้วจ๊ะไปเดี๋ยวนี้เลยจ๊ะ"
นัครินทร์ค่อยๆ เดิน ประกายเดือนทำท่ากระทืบเท้าไล่ขู่ นัครินทร์สะดุ้งโหยง
"เฮ่ย!! เดี๋ยวสิ..ใจเย็น!!”
นัครินทร์เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปข้างนอกโดยมีประกายเดือนเดินขู่ตามออกไปจนถึงข้างนอก
"คืนนี้นอนตรงนี้แหละ!!” ประกายเดือนว่า
"คุณนี่มัน..ใจร้าย"
ประกายเดือนทำท่าขู่ นัครินทร์รีบทำท่าจะนอนเลย
"เดี๋ยว!!”
"อะไรอีกเล๊าา?”
"ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนี่?” ประกายเดือนบอก
นัครินทร์ยิ้มเลย "จริงด้วย ตัวเหม้นเหม็น ขอเข้าไปอาบน้ำหน่อยนะฮะ..คุณเลขาฯ"
"ไม่ต้องเข้าหรอกค่ะ" ประกายเดือนยิ้มร้าย "อาบตรงนี้แหละ"
นัครินทร์งง "อาบตรงนี้? มันคือ..? หมายความว่า..”
"ก็หมายความว่า" ประกายเดือนตวัดมีดแล้วชี้ "โดด!!”
นัครินทร์โวยลั่น "บ้า!! คุณบ้าไปแล้ว!! คุณมันบ้าไปแล้วแน่ๆ! ไม่มีทาง!! ผมไม่โดด ไม่มีวันโดด"
"ไม่โดดใช่มั้ย" ประกายเดือนควงมีดโชว์ดูเหี้ยมมากๆ แล้วเธอก็หยิบกล้วยแถวนั้นมาตัดฉับๆๆ แบบหนังจีน
นัครินทร์ตาค้างด้วยความช็อค
ประกายเดือนเสียงดังลั่น "จะโดดม้าย" ประกายเดือนเงื้อมีด
นัครินทร์กระโดดโดยไม่คิด "โดดแล้วเว๊ย"
นัครินทร์ลอยละลิ่วลงน้ำตูม ประกายเดือนขำก๊ากด้วยความสะใจจนงอหงาย นัครินทร์ผุดขึ้นมาอย่างโกรธ
"ผู้หญิงอะไร ใจร้าย!! โหด!! โหดที่สุด" นัครินทร์ว่า
"ผู้ชายอย่างคุณมันต้องเจอผู้หญิงอย่างฉันนี่แหละ!! มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อ!! อาบน้ำแล้วก็นอนซะนะคะ..ท่านรองฯ ..กู้ดไนท์ค่ะ"
พูดจบประกายเดือนก็เดินสะดีดสะดิ้งเข้าห้องไป
นัครินทร์ยัวะมาก เขาสาดน้ำขึ้นไป "จำไว้!! ยัยเลขาฯ ตัวแสบ จำไว้"
นัครินทร์ลอยคอดูน่าเวทนามาก
อ่านต่อตอนที่ 14