อย่าลืมฉัน ตอนที่ 13
เขมชาติมองชามข้าวต้ม ที่วางไว้บนโต๊ะอาหาร พลางเงยหน้ายิ้มให้เกนหลง
“น่าทานจัง ขอบคุณมากครับ”
เกนหลง ยิ้มรับนิดๆ หากแววตา ยังมีเรื่องค้างคาใจเก็บอยู่
“น่าทานกว่าข้าวต้มชามที่ทำหกไปหรือเปล่าคะ?”
เขมชาติ ชะงักนิดๆ แล้วรีบยิ้มกลบเกลื่อน
“น่าทานกว่าอยู่แล้วครับ ผมทำเองจะไปสู้คุณเกนทำได้ยังไง”
เกนหลง มองหน้าเขมชาติ ในใจแอบระแวง
“ทำเองจริงๆเหรอคะ?”
เขมชาติสะดุดกึก แต่พยายามตีหน้ามึน
“ก็ผมอยู่บ้านคนเดียว ถ้าผมไม่ได้ทำเอง จะมีใครมาทำให้” พูดพลางดึงมือมาจับอ้อน “ คุณเกนมี
อะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ? หรือว่าคุณเกนไม่ไว้ใจผม”
เกนหลงมองหน้าเขมชาติ แล้วคิดอย่างมีสติ พลางพยายามตัดเรื่องกวนใจออก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เกนแค่แปลกใจ ไม่ค่อยเห็นเขมทำกับข้าว” พูดพลางหยิบกล่องของขวัญมา “เปิด
ของขวัญกันดีกว่าค่ะ อยากรู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า”
เขมชาติยิ้มรับ และรีบเปิดของขวัญด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่จะหยิบผ้าออกมา และมองด้วยความพอใจ
“สวยมากครับ งานละเอียดมาก สีโปรดผมเลย”
“เกนทำเองนะคะ เลือกเส้นไหมเอง คิดแบบเอง แล้วก็ทอเองกับมือค่ะ”
เขมชาติ หันมามองเกนหลงด้วยความชื่นชม
“สวยมากๆเลยครับ ถูกใจมากๆ”
เกนหลงยิ้มรับเขินๆ เขมชาติมองหน้าเกนหลงที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข ด้วยความรู้สึกเต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูก พลางโผเข้ากอดเกนหลงด้วยความรักและประทับใจอย่างที่สุด
“ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับผมมากขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ”
เขมชาติกอดเกนหลงไว้ด้วยความรู้สึกดีๆ พร้อมๆ กับที่แอบมีความรู้สึกผิดซ่อนอยู่ โดยไม่รู้ตัว เกนหลงกอดตอบเบาๆ ยิ้มนิดๆ แต่แววตาฉายแววแห่งความหวาดระแวง ที่สวนทางกับความรู้สึกของเขมชาติอย่างเห็นได้ชัด
วิบูลย์กับสมคิดนั่งคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งของบริษัท เสียงข้อความเข้าดังขึ้น สมคิดหยิบโทรศัพท์มากด
อ่าน แล้วหันไปบอกวิบูลย์
“คุณเขมบอกว่าวันนี้ไม่เข้า มีนัดทานข้าวกับครอบครัวคุณเกน”
“สงสัยจะฉลองวันเกิดแหงๆ ผมว่า อีกไม่นาน คุณเขมกับคุณเกนหลง ต้องแต่งกันแน่ๆ”
“แค่กินข้าวกับครอบครัวเนี่ยนะ”
วิบูลย์ หน้าตามั่นใจ
“ไม่ใช่แค่นี้ แต่มันมีอะไรที่มากนี้” สมคิดรอฟัง วิบูลย์รีบพูดต่อ “เมื่อวันเสาร์คุณเกนหลงสั่งให้คุณ
เขมไปรับลูกๆของคุณสุมาเล่นน้ำที่บ้าน ทั้งๆที่รู้ว่าคุณเขมเกลียดเด็กยังกะอะไรดี ผมว่าที่ทำแบบนี้ เพราะอยากให้
เจ้านายเราคุ้นเคยกับเด็ก พอแต่งงานแล้วจะได้มีลูกเลย”
“คุณเกนหลง สั่งให้คุณเขมไปรับลูกคุณสุมาเล่นน้ำ แล้วคุณเขมก็สั่งคุณอีกทีเหรอ ?”
สมคิดย้อนถาม
“ครับ แล้วคุณเขมก็ให้คุณสุมารับเด็กๆที่บ้าน”
“แต่คุณสุเจ็บขา ทำไมคุณเขมไม่ให้คุณรอ แล้วส่งเด็กกลับ ทำไมต้องให้คุณสุมารับ”
วิบูลย์ เริ่มเห็นด้วย
“นั่นสิ ผมก็ลืมคิดไป บ้านคุณเขม คุณสุก็ไม่รู้จัก ผมก็ต้องวาดแผนที่ให้ แล้วก่อนผมจะกลับ คุณเกน
หลงก็ยังมาไม่ถึง เด็กๆต้องอยู่กับคุณเขมตามลำพัง ไม่รู้ว่าอะไร “พัง” ไปบ้าง”
วิบูลย์พูดทีเล่นทีจริงๆ แล้วก็เดินขำๆ ไป สมคิดฟังแล้วก็จับพิรุธได้หลายอย่าง พลางคิดอย่างแปลกใจ
“ทำไมถึงเอาชื่อนังสุริยงออกไปไม่ได้”
อัมพิกา ถามทนายภานุด้วยความแปลกใจ ในขณะที่อรทัยยืนฟังอยู่ไม่ห่าง
“คือ ตามกฎหมายแล้ว การที่จะถอนชื่อออกจากการเป็นผู้ปกครองตามพินัยกรรมจะทำได้ก็ต่อเมื่อ
ผู้ปกครองละเลย ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ ใช้อำนาจไม่ชอบ ประพฤติมิชอบไม่สมควรกับหน้าที่ แต่ถ้าแค่รูปถ่ายกับผู้ชาย
อื่น”
เอื้อที่กำลังเดินมา ได้ยินพอดี
“มันไม่ได้กระทบต่อสวัสดิภาพของเด็ก ไม่สามารถใช้เป็นเหตุให้ถอนชื่อได้”
เอื้อชะงักเท้าหยุดแอบฟัง
อรทัย ถามแทรกขึ้นมาทันที “แล้วถ้าเราจะขอซื้อหุ้นคืนจากไอ้เด็กสองคนนั้น โดยไม่ต้องผ่านการ
เห็นชอบของนังสุริยงทำได้หรือเปล่า”
“จริงๆแล้ว มันก็ทำได้ แต่ต้องยื่นขอความเห็นชอบจากศาล ซึ่งสุดท้ายศาลก็อาจจะสั่งให้ผู้ปกครอง
เป็นผู้ดูแลเหมือนเดิม คุณอัมพิกาจะให้ผมลองยื่นขอศาลดูมั้ยครับ?”
เอื้อทนไม่ไหวสวนขึ้นมา
“ไม่ต้อง”
อัมพิกา อรทัย หันขวับไป เห็นเอื้อเดินเข้ามา สองคนชะงักตั้งรับ
ทนายภานุรีบยกมือไหว้เอื้อ
“สวัสดีครับคุณเอื้อ”
เอื้อบอกกับกับทนาย
“ผมคิดว่าคงจะมีการเข้าใจผิดอะไรกันบางอย่าง ไม่ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ผมขอให้คุณหยุดไว้ก่อน
และรอฟังคำสั่งจากผม ถ้าผมยังไม่ได้สั่ง ห้ามทำอะไรทั้งนั้น”
ทนายภานุอึกอักๆแต่ก็ต้องยอมแต่โดยดี
“ครับ งั้นผมขอกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
พลางยกมือไหว้ทุกคน ก่อนที่จะเดินตัวลีบออกไป
อัมพิกาหันขวับมาทางเอื้อทันที
“เอื้อทำแบบนี้เท่ากับหักหน้าพี่”
“ถ้าเมื่อกี๊ผมหักหน้าพี่ การที่พี่ส่งทนายที่ดูแลเรื่องมรดกไปต่างประเทศ และให้ทนายอีกคนมาทำ
เรื่องถอนชื่อหนูเล็กออกจากการเป็นผู้ปกครองไก่ กับ ไข่ มันเท่ากับพี่หักหลังคุณพ่อ”
เอื้อย้อนกลับ อัมพิกาลุกพรวดขึ้นมาทันที
“พี่ไม่ได้หักหลัง แต่พี่กำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง หุ้นของธนาคารควรจะเป็นของครอบครัวเรา ไม่ใช่คน
อื่น”
“เด็กสองคนนั้นไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นลูกของคุณพ่อ เป็นน้องของเรา”
อรทัย รีบสวนขวับ “อย่าดึงอร กับพี่อัมลงไปเกลือกกลั้วกับพวกมัน”
“ โอเค พี่จะไม่ดึงใครมา” น้ำเสียงแกมประชด “เกลือกกลั้ว กับเรื่องนี้ เพราะนับจากนี้ไปพี่จะเป็นคน
จัดการเรื่องนี้เอง ผมจะโอนหุ้นให้เด็กสองคนนั้นโดยเร็วที่สุด”
อัมพิกากับอรทัยกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เอื้อพูดต่อ
“อีกเรื่อง วันนี้คุณพจน์เรียกผมไปคุยเรื่องหนูเล็กกับเขมชาติ ผมไม่คิดว่าพี่อัมจะกล้าเอารูปพวกนั้นไป
ให้คนอื่นดู มันเป็นการประจานความสอดรู้สอดเห็นของตัวเองให้คนอื่นเค้ารับรู้”
อัมพิกาเต้นผาง
“เอื้อ มันจะมากไปแล้วนะ”
“มันจะมากกว่านี้แน่ ถ้าพี่ยังไม่ยอมหยุด ผมคิดว่าคุณพจน์คงจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เห็นรูปพวกนั้น
เพราะนอกจากมันจะไม่ได้ผลแล้ว คนที่จะเสียหายก็คือพี่ ไม่ใช่คนในรูป”
เอื้อใส่ไม่ยั้ง ก่อนที่จะเดินออกไปด้วยความโกรธ อัมพิกากับอรทัยได้แต่มองตามไปด้วยความขัดใจ
“คุณพจน์นะคุณพจน์ จะดึงพี่เอื้อมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำไมก็ไม่รู้ ผิดแผนหมด”
อรทัยบ่นกับพี่สาว แต่อัมพิกา ยังมีหวัง
“มันก็ไม่แน่ ต่อให้เอื้อพยายามจะแก้ตัวมากแค่ไหน คุณพจน์ก็อาจจะเชื่อเรามากกว่า เพราะรูปภาพ
มันชัดเจนกว่าคำพูด”
อัมพิกาจิกตาอย่างมีหวัง ไม่ยอมแพ้
เขมชาตินั่งคุยกับพจน์อยู่ในห้องทำงานภายในบ้านของเกนหลงตามลำพังสองต่อสอง เบื้องหน้าทั้ง
คู่ คือภาพถ่ายระหว่างเขมชาติกับสุริยง
เขมชาติหน้าเสีย แต่พยายามจะรักษาอาการไว้ คุณพจน์ถามเสียงขรึม
“อาต้องการคำอธิบาย”
“ผมไม่มีคำอธิบายครับ”
“แปลว่า?”
เขมชาติ วางรูปไว้บนโต๊ะ และตอบนิ่งๆ
“เพราะรูปนี้ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรที่จะต้องอธิบายเพิ่ม นอกจากคำว่า “อุบัติเหตุ” ผมกับเลขาไป
ซื้อของเพื่อมาตกแต่งห้องทำงานให้คุณเกน และระหว่างที่เลือกของ มันก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างที่เห็น ถ้าคุณอาไม่เชื่อ..
จะเรียกเลขาผมมาถามก็ได้นะครับ หรือจะให้ผมติดต่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดของที่ร้านมาให้ดูก็ได้ ผมพร้อมจะ
ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง”
เขมชาติตอบนิ่งๆ ไม่ใส่อารมณ์ และไม่หวั่นไหว ในขณะที่คุณพจน์มองอย่างพยายามจับผิด
“ไม่ต้อง เพราะอาเช็คข้อมูลกับคนที่เชื่อถือได้ไปแล้ว”
เขมชาติแอบตื่นเต้น “ใครครับ ? “
“คุณเอื้อ”
เขมชาติผงะนิดๆ ตามประสาวัวสันหลังหวะ พลางพยายามถามเสียงนิ่ง หากในใจนั้นร้อนรุ่ม
“คุณเอื้อตอบคุณอาว่าอะไรครับ?”
คำพูดของเอื้อก็ถูกถ่ายทอดให้เขมชาติฟังอย่างละเอียด
“เท่าที่ผมทราบ วันนั้นเขมชาติกับหนูเล็กไปซื้อของเพื่อตกแต่งห้องทำงานให้เกนหลง จากภาพผมคิด
ว่า น่าจะเป็นอุบัติเหตุ คุณอาลองดูจากลักษณะการนั่งมันผิดธรรมชาติมาก ไม่น่าจะเป็นความตั้งใจที่จะนั่งตักกันในที่
สาธารณะแบบนี้ ผมว่ารูปนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่า ความบังเอิญ และ อุบัติเหตุ”
ก่อนที่คุณพจน์จะสรุปอีกที
“โชคดีที่คำตอบตรงกัน”
เขมชาติถอนหายใจเบาๆ.อย่างโล่งอก คุณพจน์พูดต่อ
“คุณเอื้อยังเสริมอีกว่า แม่เลี้ยงของเขาคนนี้เป็นคนดี ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสีย”
เขมชาติแอบเบ้ปากนิดๆ หมั่นไส้ คุณพจน์พูดต่อพลางเก็บรูป
“แต่เข้ากับพี่สาวและน้องสาวเขาไม่ค่อยได้ เพราะมีปัญหาเรื่องมรดกกันอยู่ ก็เลยอาจจะตกเป็นเป้า
โดนโจมตีอยู่บ่อยๆ เขมเองก็ระวังตัวไว้ด้วย ดีที่รูปนี้ไม่ได้หลุดออกไปในวงกว้าง และเกนหลงก็ยังไม่เห็น”
พูดพลางฉีกรูปในมือ
“อาจะทำลายรูปพวกนี้ เป็นของขวัญวันเกิดให้ก็แล้วกัน”
เขมชาติ ยิ้มรับ “ขอบคุณครับ”
จากนั้นคุณพจน์ ก็นึกขึ้นมาได้
“ อ้อ อีกเรื่องคุณเอื้อยังชมว่าคุณสุริยงคนนี้ทำงานดีมาก เพราะเจ้าสัวเป็นคนฝึกมาเองกับมือ คุณ
เอื้อก็เลยจะดึงมาช่วยงานที่โรงแรมใหม่ที่เขาลงทุนทำกับอา”
เขมชาติสะอึก และถามอย่างแปลกใจ “ดึงมาช่วยงาน?”
“ใช่ เพราะตอนนี้เกนกับคุณเอื้อดูแลกันอยู่สองคน เริ่มจะไม่ไหวแล้ว ก็เลยจะให้คุณสุริยงมาเป็นผู้ช่วย
เห็นบอกว่าจะให้มาเริ่มงานโดยเร็วที่สุด”
ครั้นเห็นเขมชาติทำหน้างง คุณพจน์ ก็ถามต่อ “ นี่เขมไม่รู้เรื่องเลยเหรอ?”
เขมชาติอึ้ง แทนคำตอบว่า “ไม่รู้”
เขมชาติคิดใจร้อนวูบวาบ แทบอยากจะพุ่งไปถามให้เรื่องในทันทีทันใด
เกนหลงเดินมาที่โต๊ะอาหาร ที่จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม พลางถามเด็กรับใช้ที่กำลังยกดอกไม้มา
วางเพิ่มที่โต๊ะข้างๆ
“คุณพ่อ กับ คุณเขม อยู่ที่ไหน?”
“เมื่อครู่เห็นคุณท่านเชิญคุณเขมชาติไปคุยที่ห้องทำงานค่ะ คุณเกนจะให้หนูไปเรียนเชิญทั้งสองท่าน
มาเลยมั้ยคะ?”
เกนหลงปฎิเสธ
“เดี๋ยวฉันไปเอง เริ่มเสิร์ฟแอปเพอร์ไธเซอร์ได้เลย”
เด็กรับใช้รับคำ “ค่ะ”
เกนหลงกำลังจะเดินไป พลันสายตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือของเขมชาติวางอยู่ที่โต๊ะรับแขก
เกนหลงชะงักกึก..ความหวาดระแวงสะกิดให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น ในที่สุดก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พลาง
คิด ว่าจะทำหรือไม่ทำดี หลังจากมองซ้ายมองขวา หากแล้วก็ตัดสินใจกดดูโทรศัพท์ของเขมชาติ
เกนหลงกดเข้าไปดูในกล่องข้อความ ภายในกล่องมีแต่ชื่อเกนหลง และเมื่อกดเข้าไปในสายโทรเข้า ก็
พบแต่ชื่อ สมคิด วิบูลย์ และเกนหลง ในขณะที่เบอร์โทร.ออก มีชื่อ สมคิด วิบูลย์ และ เลขา !
เกนหลงคิด “สุริยง”
สุริยงกำลังจัดเอกสารอยู่ที่หน้าห้องทำงานของเขมชาติ มาลัยกับเจนเดินเข้ามาหาพร้อมกับรูปถ่าย
เขมชาติคู่กับเกนหลง ก่อนจะถาทมสุริยงด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“คุณสุ คุณเขมมาหรือยังคะ?”
“ยังค่ะ”
เจนยิ้มนิดๆ
“เยี่ยม งั้นเจนฝากพี่สุเอารูปกับการ์ดไปวางในห้องคุณเขมหน่อยนะคะ คือพวกเรารวมเงินกันทำรูปนี้
ให้คุณเขม เป็นของขวัญวันเกิดน่ะค่ะ”
มาลัยรีบเสริม
“จริงๆจะให้เมื่อวานแต่คุณเขมไม่เข้า ก็เลยเอามาให้วันนี้ ฝากด้วยนะคะ”
สุริยงรับมา พลางยิ้มให้มาลัย “ได้ค่ะ”
มาลัยกับเจนยิ้มตื่นเต้น แล้วก็รีบเดินออกไป
สุริยงมองรูปคู่ของเขมชาติกับเกนหลง ที่วางอยู่ที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับการ์ดในซองเก๋ๆ หน้าซองเขียน
ว่า “สุขสันต์วันเกิดเจ้านายของพวกเราชาว KK” พลางสะท้อนใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น แววตาอึดอัดลำบากใจ
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดเข้ามา สุริยงสะดุ้งหันไป เห็นเขมชาติเดินเข้ามาหน้าบึ้งสุดๆ
“จะลาออกทำไมไม่บอกผม”
สุริยงงง เขมชาติรุกต่อ
“ตั้งใจจะหายตัวไป และทิ้งจดหมายบอกลาไว้ให้อีกหรือไง?”
สุริยง ยกมือห้าม “เดี๋ยวนะคะ ขอตอบทีละประเด็นข้อแรกดิฉันบอกผู้อำนวยการไปหลายครั้งแล้ว
ว่าจะลาออก ข้อสองครั้งนี้ก่อนจะไปสิ่งที่ดิฉันจะทิ้งไว้คือ จดหมายลาออกอย่างเป็นทางการค่ะ”
เขมชาติ มองหน้า แค้นใจ
“จะจดหมายลาออก หรือ จดหมายลาก่อน ผมก็ไม่รับทั้งนั้น คุณจะไปได้ก็ต่อเมื่อผมจะบอกให้ไป
เท่านั้น “
สุริยง รีบสวน
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันจะไปได้ก็ต่อเมื่อคุณเกนหลงทำงานได้แล้ว และตอนนี้เธอก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
ภารกิจของดิฉันจบสิ้น ไหนๆ ผู้อำนวยการก็ถามแล้ว ถือว่าฉันแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ ฉันขอลาออกสิ้นเดือนนี้
จดหมายลาออกจะตามมาค่ะ”
สุริยงหันหลังจะเดินออกไป หากเขมชาติไม่ยอม พลางจับมือไว้ เสียงอ่อนลง
“คุณจะหนีผมไปอีกแล้วเหรอวดี ? ไหนคุณบอกว่าเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วไง”
“ กลับไปเป็น “เพื่อน” เหมือนเดิม ถึงดิฉันลาออกแล้ว เราก็ยังเป็น “เพื่อน” กันได้” พลางรีบดึงมือ
กลับ “ปล่อยเถอะค่ะเพื่อนไม่จำเป็นต้องจับมือแน่นขนาดนี้”
สุริยงพูดตัดบทอย่างชัดเจน และพยายามเตือนสติ ทั้งเขมชาติ และตัวเอง
“พนักงานมีของขวัญวันเกิดย้อนหลังให้ผู้อำนวยการ ดิฉันวางไว้บนโต๊ะนะคะ เป็นของขวัญที่น่ารัก
มาก..ผู้อำนวยการจะต้องชอบ”
พูดจบ สุริยงก็เดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้เขมชาติยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว พอหันขวับมาเห็น
รูปของตัวเองที่คู่กับเกนหลงก็ชะงักกึก...
เขมชาติมองรูปและเกิดอาการต่อสู้กันภายในจิตใจ “ยังกลับไม่ได้ เพราะยังไปไม่ถึง”
เขมชาติกัดฟันหันไปปิดรูปลงที่โต๊ะ ไม่กล้ามอง แล้วก็คิดแค้น
“ไม่ มันต้องไม่จบแค่ความเป็น “เพื่อน” มันต้องมากกว่านั้น”
เขมชาติคิดด้วยความแค้น ภาพเหตุการณ์เมื่อวานผุดขึ้นมาอีกครั้ง เขมชาติมั่นใจว่าเขาเห็นความ
อ่อนไหว และวาบหวามของสุริยง
เขมชาติคิดเสียดาย อีกนิดเดียว ไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบจัดการ ก่อนจะสายไป
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 13 (ต่อ)
เมื่อออกมาจากห้องทำงานของเขมชาติ สุริยง ก็มาหยุดยืนพิงประตูด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนที่จะเดิน
มาที่โต๊ะ เห็นเกนหลงเดินเข้ามาพอดี สองคนเผชิญหน้ากัน...ต่างคนต่างชะงัก
สุริยงพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ
“สวัสดีค่ะคุณเกนหลง”
“สวัสดีค่ะ เอ่อ คุณสุคะเกนขอเชิญที่ห้องสักครู่ มีเรื่องสำคัญอยากจะถาม”
สุริยงชะงักกึก เรื่องอะไร?
สุริยงถามย้อนด้วยความแปลกใจ เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องทำงานของเกนหลง
“คุณเกนหลงจะขอตัวไก่ กับ ไข่ ไปเป็นนายแบบถ่ายโฆษณาโรงแรมเหรอคะ?”
เกนหลงยิ้มรับ
“ค่ะ พอดีโรงแรมในเครือที่ปราณบุรี จะทำโบรชัวร์ชุดใหม่ เน้นกิจกรรมในครอบครัว เขาต้องการ
นายแบบเด็ก เกนก็เลยคิดถึงไก่ กับ ไข่ น่ะค่ะ อยากจะขอยืมตัวมาเป็นนายแบบเสาร์ อาทิตย์นี้ มีค่าขนมให้ด้วยนะคะ”
สุริยงรีบบอก
“อุ๊ย! ไม่เอาค่ะ ไม่เอา คุณเกนหลงไม่ต้องให้ค่าขนมอะไรทั้งนั้นค่ะ”
“พูดแบบนี้แสดงว่าคุณสุอนุญาตให้ไก่ กับ ไข่มาเป็นนายแบบให้เกนใช่มั้ยคะ”
เกนหลงถามด้วยความสดใส สุริยงมองด้วยความเอ็นดู บวกความรู้สึกผิดนิดๆในใจ แล้วก็พยักหน้า
แทนคำตอบ
“เย้ ! ขอบคุณมากค่ะ คุณสุต้องไปด้วยนะคะ เกนให้ทางโรงแรมจัดห้องพิเศษเป็น Pool Villa
บรรยากาศดีมาก ระหว่างที่ไก่กับไข่ไปถ่ายแบบ คุณสุจะได้นอนเล่นรอ เราเดินทางกันวันเสาร์ค้างหนึ่งคืน กลับวัน
อาทิตย์นะคะ เกนจะเตรียมรถตู้ไว้ให้”
สุริยงยิ้มรับ
“ขอบคุณมากค่ะ”
สุริยงโล่งอกที่ไม่ใช่เรื่องเมื่อวาน “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว สุขอตัวไปทำงานต่อนะคะ”
พลางทำท่าจะลุกขึ้น หากเกนหลงเรียกไว้ก่อน
“อ้อ เดี๋ยวค่ะ เกนยังมีอีกเรื่องที่อยากจะถามค่ะ” สุริยงชะงัก
“นอกจากเกนแล้ว เขมเขามีผู้หญิงหรือเปล่าคะ?”
สุริยงสะอึก
“ทะ..ทำไม คุณเกนถามแบบนี้คะ”
เกนหลงยิ้มเครียดๆ ทว่าก็ตัดสินใจพูดตรงๆ
“เกนคิดว่า เขมอาจจะมีผู้หญิงอื่น”
สุริยงสะอึก ในขณะที่เกนหลงเล่าด้วยความไว้ใจ
“เมื่อวานเกนแวะไปหาเขมที่บ้าน แล้วเห็นช้อนที่มีรอยลิปสติกวางไว้ในห้องครัว แต่เขมบอกว่าอยู่คน
เดียว เกนก็เลยสงสัย เลยแอบเช็คโทรศัพท์เห็นว่าเขมโทร.หาคุณสุ”
สุริยงหน้าเสีย เกนหลงพูดต่อ
“เกนอยากรู้ว่า เขมโทร.มาเช็ค หรือโทร.มาบอกคุณสุหรือเปล่าว่ามีนัดกับใคร หรือมีใครจะไปหาที่
บ้านหรือเปล่า?”
สุริยงมองหน้าเกนหลงด้วยความอึ้ง...น้ำท่วมปาก ลำบากใจอย่างแสนสาหัส พลางมองหน้าเกนหลง
ที่รอคำตอบ
“ไม่มีค่ะ ผู้อำนวยการโทร.มาบอกว่าไม่สบาย แค่นั้นค่ะ”
สุริยงไม่ได้โกหก แต่เลือกที่จะบอกไม่หมด
เกนหลงถามย้ำ
“ คุณสุ ไม่ได้พยายามจะปกปิด เพื่อช่วยเขมใช่มั้ยคะ?”
“ คุณเกนไม่จำเป็นต้องเชื่อสุ แต่ขอให้คุณเกนเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ว่ารอยลิปสติกนั้นจะเป็นของใคร
ก็ตาม เขาไม่มีความสำคัญกับผู้อำนวยการเท่ากับคุณ”
สุริยงพูดด้วยความจริงใจเกนหลงฟังแล้วก็คิด เบาใจขึ้น แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี
“หนูเล็กพูดถูก อย่าไปอยากรู้เลย มันไม่สำคัญหรอก บางทีรอยลิปสติกนั้นอาจจะเป็นของเขมชาติก็ได้
เขาอยู่บ้านคนเดียว นึกสนุก เลยแต่งหน้า ทาปากแก้เซ็ง”
เอื้อที่กำลังไดร์ฟกอล์ฟอยู่ บอกกับเกนหลงที่ยืนอยู่ข้างๆ
เกนหลงคิดตามแล้วก็ขำ
“ตลกแหละ! นี่เกนกำลังซีเรียสอยู่นะคะ พี่เอื้อพูดเล่นไปได้”
“ก็จริงนี่ไหนเคยบอกว่า “ไว้ใจไง” นี่ถึงขนาดเช็คโทรศัพท์เสียฟอร์มคุณเกนหลงหมด”
เกนหลงสารภาพเสียงอ่อย
“เกนก็ไม่คิดเหมือนกัน ว่าจะทำแต่ตอนนั้นมันอยากรู้จริงๆนะคะ ตอนนี้เริ่มรู้สึกผิดเล็กๆที่ทำ
อะไรแบบนั้น มันเสียมารยาทมาก”
เอื้อหันมามอง แล้วก็ยิ้มๆ เกนหลงมองหน้าเอื้อแล้วก็สงสัย
“พี่เอื้อยิ้มอะไร?”
“ก็ดีใจไง ดีใจที่พี่ได้เห็นด้านมืดของเกนบ้าง มันแปลว่าเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น”
“เหมือนที่เกนเห็นด้านมืดของพี่เอื้อ ตอนที่ไม่ยอมเขม จะต้องเอาตัวคุณสุมาทำงานด้วยให้ได้น่ะ
เหรอคะ”
เกนหลงย้อนเสียงใส
“อันนั้นยังเบาๆ พี่ยังมีด้านมืดมากกว่านั้นอีกเยอะ”
-เอื้อพูดไป ไดร์ฟกอล์ฟไปด้วย เกนหลงฟังแล้วก็คิด
“เกนเริ่มอยากเห็นด้านมืดของเขมขึ้นมาบ้างแล้ว ที่ผ่านมาเกนเห็นแต่ด้านดีๆของเขา อยากจะรู้
เหมือนกันถ้าเขมชาติร้ายขึ้นมามันจะเป็นยังไง”
“พี่ว่าอย่าไปเห็นเลยบางทีการที่เขาไม่ร้ายกับเรา อาจจะเป็นเพราะเขารักเรามากก็ได้นะ”
เอื้อพูดให้กำลังใจเกนหลงอย่างจริงใจ เกนหลงฟังแล้วก็ยิ้มออกมานิดๆ
“เกนก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น” แววตายังกังวล แต่ฝืนยิ้ม “ขอบคุณพี่เอื้อนะคะที่สละเวลาซ้อม
กอล์ฟ มาเป็นศิราณี เอ้อ มีอีกเรื่องเกือบลืม เสาร์อาทิตย์นี้พี่เอื้อว่างมั้ยคะ?”
“ผมว่าง ทำไมคุณเกนไม่เห็นชวนผมไปด้วย เสียใจนะเนี่ย”
เขมชาติเดินอยู่หน้าบ้านเกนหลง เพื่อมารับไปทำงาน
“อ้าว ก็ปกติเห็นเขมไม่ชอบไปเที่ยวต่างจังหวัด เสาร์ อาทิตย์ก็เข้าโรงงาน อีกอย่างเขมไม่ชอบเด็กไม่ใช่
เหรอคะ ? ถ่ายแบบครั้งนี้มีแต่เด็กๆนะคะ “
“เด็กก็อยู่ส่วนเด็ก ผมก็อยู่กับเกน ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย อีกอย่างตอนนี้ผมก็เกลียดเด็กน้อยลง
แล้วน้า ผมพยายามปรับตัวอยู่เผื่อว่าอนาคตจะมีเด็กๆ มาวิ่งเล่นในบ้านเหมือนคนอื่นเขาบ้าง”
พูดพลางส่งสายตาอ้อนๆ บอกเป็นนัยๆ
เกนหลงมองหน้าเขมชาติ เห็นสายตาและคำพูดที่บ่งบอกถึงความมั่นคงในอนาคต ก็ยิ้ม ใจอ่อน
“ก็ได้ค่ะ เขมไปก็ดี เพราะพี่เอื้อพาลูกค้าไปตีกอล์ฟไปไม่ได้ เขมจะได้ช่วยเกนดูแลลูกคุณสุ”
เขมชาติยิ้มกว้าง แล้วบอกอย่างลืมตัว
“สบายมาก นายไก่ นายไข่ ซี้กัน”
เกนหลงขมวดคิ้ว “ไปซี้กันตอนไหนคะ เกนไม่เห็นรู้เลย”
“อ๋อ ก็วิบูลย์น่ะซิ เค้าสนิทกับสุริยง เลยขออนุญาตชวนเด็กสองคนนั้นมาเล่นน้ำที่บ้าน ผมก็เลยได้เจอ
แต่ก็แค่ครั้งเดียว เอาเป็นว่า ผมช่วยงานคุณเกนเต็มที่ จะให้ผมทำอะไรบัญชามาได้เลยครับ”
“เกนไม่กล้าใช้หรอกค่ะ ขอแค่คุณทำตัวให้ดีๆ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่ทำอะไรลับหลังหรือ
โกหก แค่นั้นเกนก็พอใจแล้วค่ะ”
เขมชาติสะอึก จุก แต่ยังฝืนยิ้ม
“รับทราบครับผม”
เกนหลงเดินนำไปเขมชาติยังยืนอยู่ที่เดิมคิดถึงทริปต่างจังหวัดที่จะมาถึงด้วยแววตาครุ่นคิด
“ต้องไม่พลาด”
“คุณสุจะลาออก”
สมคิดถึงกับตกใจ เมื่อได้ยินเจตนาของสุริยง
“ค่ะสิ้นเดือนนี้”
“แต่ผมเห็นคุณสุก็เริ่มจะเข้ากับคุณเขมได้แล้วนี่ครับ ทำไมถึงยังคิดจะลาออก?” จากนั้นก็ลองถาม
แบบหยั่งเชิง “หรือว่าคุณเขมทำให้คุณสุรู้สึกอึดอัด หรือลำบากใจอะไรหรือเปล่าครับ?”
สุริยงปฎิเสธ
“ไม่ค่ะ คือ สุสอนงานคุณเกนหลงเรียบร้อยแล้ว และก็ได้งานใหม่ตามที่ตั้งใจไว้ การลาออกครั้งนี้ไม่
เกี่ยวกับผู้อำนวยการค่ะ”
“แน่ใจนะครับ?” สมคิดยังไม่ปักใจเชื่อ หากสุริยงย้ำ
“แน่ใจค่ะ”
สมคิดมองหน้าเหมือนจะค้นหาความจริง แต่เห็นสุริยงนิ่งก็พยายามจะเชื่อ
“โอเค ไม่เกี่ยวก็ดีครับ จากกันด้วยดีแบบนี้ ผมก็สบายใจ”
สุริยงยิ้มเห็นด้วย
“สุจะเริ่มส่งงานต่อให้คุณเกนหลง และสรุปงานที่ค้างไว้ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนนะคะ”
สุริยงทำท่าจะลุกเดินไป หากสมคิดที่เพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ รีบท้วงขึ้น
“เอ้อ คุณสุครับ” สุริยงหันมา “แล้วงานใหม่ที่ได้ เป็นงานอะไร แล้วไปทำกับที่ไหนครับ?”
สมคิดถามด้วยความสนใจ
เอื้อยืนมองไก่ กับไข่ ซ้อมถ่ายแบบ โดยมีชื่นคอยบอกบท และเป็นตากล้อง ในขณะที่นภากับอาทิตย์
นั่งขำ
“คุณไก่ คุณไข่ ยิ้มนะคะ หัวเราะค่ะ มีความสุข สนุกสนาน ร่าเริง”
ไก่ กับไข่ทำตาม ราวกับกดปุ่ม “ร่าเริงอีกค่ะ ร่าเริงสุดๆ”
“ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้นายแบบมือใหม่จะเป็นยังไงบ้างนะคะ” สุริยงชักเป็นห่วง
เอื้อหันมา “เสียดายจัง ผมไปด้วยไม่ได้ ท่าทางน่าสนุก”
สุริยง คุยไป พลางจัดของไป
“เอาไว้หนูเล็กจะถ่ายรูปแล้วส่งให้คุณเอื้อดูเป็นระยะๆ นะคะ”
เอื้อยิ้ม “ขอบคุณครับ เรื่องงานใหม่ ผมรอสรุปว่าออฟฟิศจะตั้งอยู่ที่ไหนดีระหว่าง ที่ธนาคาร โรงแรม
เกน หรือจะเช่าข้างนอก ถ้าลงตัว หนูเล็กก็เริ่มงานได้เลย ทันเดือนหน้าแน่นอน”
สุริยงพยักหน้ารับรู้ เอื้อมองหน้าแล้วก็ถามเพื่อความสบายใจ
“เขมชาติยอมให้หนูเล็กลาออกจริงๆเหรอ?”
สุริยง รีบสวนกลับ
“เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมค่ะ”
เอื้อพยักหน้ารับ ดีใจที่สุริยงพูดอย่างมั่นใจ
“พรุ่งนี้ถ้าออกรอบจบไว ผมจะรีบตามไป แต่ถ้าไม่ทันยังไง จะไปรับเช้าวันอาทิตย์”
“คุณเกนหลงจัดรถตู้ไว้รับส่ง คุณเอื้อไม่ต้องลำบากไปรับก็ได้นะคะ” สุริยงเกรงใจ
“สำหรับหนูเล็กกับไก่ ไข่ ไม่เคยมีคำว่าลำบากสำหรับผม”
สุริยง มองหน้าเอื้อ อย่างซึ้งใจ “ขอบคุณมากค่ะ”
เอื้อยิ้มรับ “ด้วยความยินดีครับ แล้วงานวันพรุ่งนี้เขมชาติไปด้วยหรือเปล่า?”
”เท่าที่ทราบ มีแค่คุณเกนหลงและทีมงานนะคะ คิดว่า....ไม่น่าจะไปค่ะ”
สุริยงตอบด้วยความมั่นใจ เอื้อพยักหน้ารับ แต่ในใจคิด “ไม่ไปเหรอ?”
รถตู้แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าบูธีคโฮเต็ลสไตล์เก็ของเกนหลง และทันทีที่ประตูเปิด ไก่ กับไข่ ก็รีบวิ่ง
พรวดพราดออกมาทันที
เสียงสุริยงเรียกตามหลัง ด้วยความเป็นห่วง
“ไก่ ไข่ รอคุณแม่ด้วย ใจเย็นๆครับ อย่าวิ่ง”
สุริยงรีบลงจากรถ ทั้งที่ในมือถือสัมภาระมากมาย พนักงานต้อนรับรีบเข้ามาช่วย เธอหันมาส่งของ
ให้ด้วยความรีบร้อน
ไก่ กับไข่ วิ่งไปแล้วก็หยุดกึก มองหน้าคนที่กำลังเดินมาแล้วก็ส่งเสียงสดใสขึ้นพร้อมกัน
“พี่เขม”
สุริยงสะดุดนิดๆ หันขวับไป เห็นเขมชาติเดินมาในชุดลำลอง ใส่แว่นดำเท่ๆ เธอหันหน้าหนี ตาม
ประสาคนร้อนตัว “นึกว่าจะไม่มา” พลางพยายามทำหน้า ทำความรู้สึกให้เป็นปกติ
เขมชาติยิ้มรับลูกชายแฝดของสุริยง
ไก่ กับไข่ ยกมือไหว้ “สวัสดีครับพี่เขม”
เขมชาตินั่งลง “สวัสดีครับ นั่งรถมาสนุกมั้ย”
“สนุกครับ”
“ดีมาก วันนี้จะได้ทำเรื่องสนุกอีกเยอะเลย”
เด็กแฝด ยิ้มรับด้วยความตื่นเต้น เขมชาติลุกขึ้นยืน แล้วก็มองหน้าสุริยง
“ไม่คิดว่าจะเจอผมหรือไง ถึงได้ทำหน้าตกใจขนาดนั้น”
สุริยงไม่ตอบ หากรีบเปลี่ยนเรื่อง“คุณเกนหลงหล่ะคะ?”
“วันนี้คุณเกนติดงานกระทันหัน มาไม่ได้ ให้ผมมาดูแลคุณกับลูกๆแทน”
สุริยงหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด พลันเสียงเกนหลงก็ดังขึ้น
“คุณสุคะ”
สุริยงหันขวับไปเห็นเกนหลงเดินมา พลางหันมาทางเขมชาติอีกที เห็นรอยยิ้มกวนๆ ก็นึกรู้ได้ทันทีว่า
โดนหลอกเข้าให้แล้ว
“เดินทางเป็นยังไงคะ? เหนื่อยมั้ยคะ?”
เกนหลงถามสุริยง
“ไม่ค่ะ” พูดพลางพยายามยิ้ม แล้วหันมาทางไก่กับไข่ “ ไก่ ไข่ครับ สวัสดีพี่เกนก่อนครับ”
“ สวัสดีครับ”
“พร้อมมั้ยครับนายแบบ”
“พร้อมครับ” คู่แฝดตอบพร้อมกัน ด้วยท่าทางร่าเริงมาก
เกนหลงพูดต่อด้วยความเอ็นดู
“พร้อมแล้ว เราไปที่ห้องพักกันเลยนะคะ เก็บของแล้วพี่เกนจะพาไปที่สระว่ายน้ำ”
เด็กแฝดกระโดดตัวลอย“เย้”
เกนหลงกันมาพูดกับสุริยง “ เชิญค่ะคุณสุ” จากนั้นก็หันมาทางเด็กแฝด “ไปครับ”
เกนหลงจูงมือไก่ กับไข่ ด้วยท่าทีที่เป็นกันเองอย่างรวดเร็ว สุริยงจะรีบเดินตามไป เขมชาติเดินตาม
ประกบ และพูดให้ได้ยินกันสองคน
“ผมแกล้งโกหกว่าคุณเกนไม่มา ไม่เห็นต้องทำหน้าอึ้งขนาดนั้นเลยแต่ก็ดี มันทำให้ผมรู้ว่าคุณ ไม่ได้
นิ่งจริงเหมือนอย่างที่คุณพยายามแสดง”
สุริยงชะงักกึ้ก อยากจะเถียง แต่เขมชาติยิ้มกริ่มแบบเหนือกว่า แล้วเดินไปก่อนที่เธอจะทันตอบโต้
สุริยงมองตาม แอบหวั่นๆกับคำพูดจี้ใจดำของเขา
เกนหลงยื่นกุญแจห้องพักให้สุริยง
“คีย์การ์ดค่ะ เป็นห้อง Pool Villa นะคะ เห็นวิวสระว่ายน้ำ เด็กๆคงจะชอบ”
ไก่กับไข่ ได้ยินคำว่าสระว่ายน้ำ ก็รีบผละจากเขมชาติเข้ามาอ้อนสุริยงทันที
“แม่หนูเล็ก ไก่อยากไปว่ายน้ำครับ”
“ไข่ก็อยากไปครับ”
เด็กแฝดตื่นเต้น แล้วทำท่าว่ายน้ำตีกรรเชียงรอกันอย่างคึกคัก ราวกับจะว่ายซะตั้งแต่ตรงนี้เลย
“ใจเย็นๆครับ เดี๋ยวรอแม่หนูเล็กเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องก่อนนะครับ”
เกนหลงยิ้ม เอ็นดูในความน่ารักของเด็กๆ ขณะที่เขมชาติจับตามองสุริยงอย่างครุ่นคิด พลันมือถือของเกนหลงดังขึ้น เกนหลงรับสาย
“ค่ะ คุณชนะ มาถึงแล้วเหรอคะ คุณชนะไม่ต้อง กังวลนะคะ” พลางมองสุริยงที่คุยกับลูกชายแฝดอยู่ “เกนว่าเกนมีคนที่จะช่วยคุณได้ เดี๋ยวเกนจะรีบไปค่ะ”
เกนหลงวางสาย แล้วเดินไปบอกสุริยง
“คุณสุคะ เกนมีเรื่องต้องให้คุณสุช่วยแล้วล่ะค่ะ”
สุริยงประหลาดใจ ในขณะที่เขมชาติก็มองอย่างสงสัยว่าเรื่องอะไร
สุริยงถามระหว่างที่เดินมาทางหน้าโรงแรมกับเกนหลง ในขณะที่เขมชาติพาเด็กแฝดเดินตามมาติดๆ
“นางแบบเบี้ยวงานเหรอคะ? แล้วสุจะช่วยอะไรคุณเกนได้ล่ะคะ”
เกนหลง หัวเราะคิก
“ได้สิคะ นางแบบที่ว่าไม่ใช่ซุปเปอร์โมเดลที่ไหนหรอกค่ะ เป็นลูกสาวของ“คุณชนะ” เพื่อนรุ่นน้องของคุณพ่อเกนเองค่ะ ชื่อน้อง “ฮันนี่”ค่ะ”
สุริยงพยักหน้า อย่างเข้าใจ
“อยู่โน่นไงคะ”
เกนหลงพูดพลางมองตรงไปข้างหน้า ก็เห็นชนะ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ที่ยังคงดูภูมิฐาน อบอุ่น และสมาร์ทมาก เสียแต่ตอนนี้ชนะกลับสีหน้าลำบากใจ
“คุณเกน ผมกล่อมฮันนี่จนไม่รู้จะกล่อมยังไงแล้วครับ ทำยังไงยัยฮันนี่ก็ไม่ยอม จนปัญญา
แล้วจริงๆ ไหนล่ะครับ ผู้ช่วยของคุณ?”
ชนะมองหา ปรากฎว่าสุริยงเดินแว่บไปหาฮันนี่แล้ว เห็นแต่เขมชาติที่จูงเด็กมาสองคน
“ไม่ใช่คนนี้ค่ะ นี่คุณเขม” พลางขยับปากจะแนะนำ
“คุณเขมชาติ ธีรราช มีใครบ้างไม่รู้จักล่ะครับ”
“ผมจะถือว่าเป็นคำชมนะครับ คุณ...”
“ชนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ชนะยิ้มแก้เก้อ “ถ้ารู้จักกันเวลาอื่น คงจะดีกว่านี้”
“อุ๊ย คุณสุอยู่โน่นแล้วค่ะ”
เสียงของเกนหลง ดึงให้ทั้งชนะ และเขมชาติ หันไปมองพร้อมกัน
สุริยงเดินเข้าไปหา “ฮันนี่” เด็กหญิงอายุราว 5-6 ขวบ หน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวพรรณดี ที่ยืนกอดตุ๊กตาหน้า
ง้ำไม่ยอมเข้าโรงแรม
“น้องฮันนี่ใช่มั้ยคะ” สุริยงทักเด็กหญิง พลางยิ้มอย่างเป็นมิตร
เด็กหญิงฮันนี่มองสุริยง รู้สึกถึงความน่าไว้ใจ หากก็ยังไม่ยอมคุย พลางสะบัดหน้าพรื่ด
สุริยงมองๆ เห็นฮันนี่กอดตุ๊กตาบลายธ์แน่น
“น้องตุ๊กตาน่ารักจังเลยนะคะ ใส่ชุดเข้ากับมาทะเลด้วย ชุดสวยจัง”
เด็กหญิงเห็นสุริยงชมตุ๊กตา ก็ชักจะตึงน้อยลง
“น้าสุ มีของที่เข้ากับน้องตุ๊กตาด้วยนะคะ”
พูดพลางก็ดึงกิ๊บติดผม อันเล็กๆน่ารักออกมา
“เห็นมั้ยคะ เข้ากับชุดของน้องตุ๊กตาพอดีเลย”
คราวนี้ฮันนี่ยอมเจรจาด้วยแต่โดยดี “นี่ลูซี่...น้องสาวของฮันนี่”
สุริยงยิ้ม รู้ว่าเริ่มผูกมิตรได้แล้ว
“ให้น้าสุติดกิ๊บให้ลูซี่นะคะ “ พลางเข้ามาติดกิ๊บให้ “ไหนดูซิ น่ารักจริงๆด้วย”
สุริยงชื่นชมลูซี่ทำให้ฮันนี่เริ่มยิ้มออก และยอมคุยกับสุริยงจนได้
ในขณะที่อีกมุมหนึ่ง ชนะ เขมชาติ เกนหลง พร้อมด้วยไก่ กับไข่ ยืนมองสุริยงที่คุยกับฮันนี่อยู่อย่าง
สนใจ
เขมชาติแขวะเบาๆ “หลอกล่อเก่งจริงๆ” ตรงข้ามกับชนะ ที่มองสุริยงด้วยสีหน้าชื่นชม
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 13 (ต่อ)
ไก่ กับไข่ และ ฮันนี่ โพสต์ท่าถ่ายรูปริมสระน้ำอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู โดยเฉพาะฮันนี่ ที่แอ็คท่าซูเปอร์โมเดลได้เกินวัยมากๆ ในขณะที่ไก่ กับไข่มองแล้วทำท่าเลียนแบบ
“ไก่ ไข่ ล้อเลียนผู้ใหญ่ ไม่ดีนะรู้มั้ย” ฮันนี่พูดอายๆ
“ใครเป็นผู้ใหญ่?”
ไก่ย้อนถาม ไข่คอยเสริม
“พี่ฮันนี่ไม่ใช่ผู้ใหญ่”
ฮันนี่หน้างอ กอดอก เริ่มไม่พอใจนิดๆ คู่แฝดมองหน้ากัน แล้วรีบง้อ
“โอ๋ๆ พี่ฮันนี่สุดจ๋วย อย่าโกรธนะครับ”
“ไก่กับไข่ล้อเล่นครับ”
ฮันนี่ได้ยินหนุ่มแฝดชม เลยยิ้มออก
สุริยงมองเด็กๆถ่ายแบบและเล่นกันอยู่ ก็โล่งใจ
“เด็กๆนี่เขาเข้ากันได้เร็วดีนะคะ”
เกนหลงที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับชนะออกปาก
“ครับ ยัยฮันนี่มีเพื่อนเล่นแล้ว คงไม่งอแงขอกลับบ้านอีก” พลางหันมาทางสุริยง “ ผมต้องขอบคุณคุณสุมากๆที่ช่วยคุยกับลูกสาวผมให้ ผมตามใจลูกมากไปหน่อย ไม่รู้วิธีปรามเขาเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ จริงๆก็น่าเห็นใจแกนะคะ คงจะอายมากเลยไม่กล้าบอกคุณ”
“แล้วคุณสุรู้ได้ยังไงคะ ว่าน้องฮันนี่อยากซื้อชุดว่ายน้ำใหม่?”
เกนหลงยังสงสัย
“เขากระซิบบอกค่ะ บอกว่าเพิ่งรู้ว่าต้องถ่ายแบบกับเด็กผู้ชายอีก 2 คน มีแต่ชุดทูพีซไม่กล้าใส่ ถ้าได้ชุด
ว่ายน้ำที่เรียบร้อยกว่านี้ก็จะกล้าใส่ถ่ายแบบค่ะ”
เกนหลงหัวเราะอย่างเอ็นดู
“ที่แท้ก็เขินหนุ่มๆนี่เอง”
ชนะพยักหน้า พลางมองสุริยงอย่างชื่นชม ในขณะที่เขมชาติยืนอยู่อีกมุม มองชนะด้วยความไม่พอใจ
เกนหลงปลีกตัวออกมาเพื่อดูรูปผ่านคอมพิวเตอร์ เขมชาติเดินมาถามทันที
“ทำไมคุณชนะมาดูแลลูกสาวคนเดียว ภรรยาเขาทำไมไม่มาด้วย”
เกนหลงดูรูปไปตอบไป
“คุณชนะแยกทางกับภรรยามาหลายปีแล้วค่ะ ภรรยาย้ายไปต่างประเทศ เลยต้องดูแลลูกคนเดียว เห็น
บอกว่าปกติจะมีพี่เลี้ยงมาด้วย แต่พี่เลี้ยงขอกลับต่างจังหวัด วันนี้เลยต้องมาดูแลน้องฮันนี่เอง “
เขมชาติมองชนะตาขวางกว่าเดิม พลางรำพึงกับตัวเองเบาๆ
“ พ่อหม้ายนี่เอง”
สุริยงปลีกตัวจากชนะ เพื่อเอาน้ำให้ไก่ กับไข่ และฮันนี่ ในขณะที่ชนะก็ปลีกตัวมาหาเกนหลง แล้วก็ถามอย่างสนใจ
“ทำไมคุณสุถึงได้มาดูแลลูกชายคนเดียวหล่ะครับ ทำไมสามีเธอไม่มาด้วย”
เขมชาติสะอึก คราวนี้เกนหลงหยุดดูรูป หันมาตั้งใจตอบ
“สามีคุณสุเสียชีวิตแล้วค่ะ คุณสุก็เลยต้องดูแลลูกๆคนเดียว”
“single mom น่าประทับใจมาก วันนี้เธอทำให้ผมทึ่งจริงๆนะครับ ทั้งความเป็นคนช่างสังเกตและ
อ่อนโยน ปกติฮันนี่ไม่คุยกับคนแปลกหน้า และเข้ากับคนยากมาก แต่คุณสุใช้เวลาไม่นาน ฮันนี่ก็ยอมคุยด้วย
อะเมซซิ่งจริงๆ ครับ”
ชนะมองสุริยงด้วยสายตาชื่นชม ตรงกันข้ามกับเขมชาติ ที่มองชนะด้วยความไม่พอใจ ทั้งยังปรายตา
ไปมองสุริยงด้วยความหมั่นไส้
ในขณะที่เกนหลงมองชนะ อย่างรู้ทัน พลางหันไปกระซิบกับเขมชาติ
“ท่าทางพี่เอื้อจะมีคู่แข่งซะแล้วนะคะ”
เกนหลงอมยิ้มนิดๆ เมื่อนึกถึงเอื้อ
เขมชาติจิกตามองสุริยง
เอื้อยืนคุยโทรศัพท์ อยู่ที่มุมหนึ่งของสนามกอล์ฟ
“นายแบบหน้าใหม่เป็นยังไงบ้างครับ?”
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง สุริยงยืนคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำ
“สนุกสนานดีค่ะ นี่ถ่ายชุดแรกเสร็จแล้ว กำลังจะออกไปถ่ายอีกชุดที่ทะเลค่ะ”
เอื้อยิ้มรับ “ส่งรูปมาให้ผมดูอีกนะครับ”
“ได้เลยค่ะ”
“หลังจากออกรอบแล้ว มีนัดทานอาหารกับก๊วนต่อ วันนี้ผมคงไปหาไม่ทัน แต่พรุ่งนี้จะรีบไปรับกลับ
แต่เช้า”
สุริยงรีบบอก
“สุกับไก่ ไข่ กลับรถตู้ก็ได้นะคะ”
เอื้อสวนกลับมา
“ไม่ได้ครับ ผมขอไปรับเอง เผื่อขากลับจะแวะหาของอร่อยๆทานก่อนกลับ แล้วตกลงเจ้านายหนูเล็กไป
ด้วยหรือเปล่า?”
สุริยงกำลังจะตอบ หากหางตาเหลือบไปเห็นเกนหลง ไก่ ไข่ ฮันนี่ ชนะ เขมชาติ และทีมงานกำลัง
เตรียมย้ายเซ็ท เพื่อไปที่ ชายหาด สุริยงรีบบอกเอื้อ
“คุณเอื้อคะ เขาจะออกไปถ่ายแบบอีกชุดที่ชายหาดแล้ว เดี๋ยวค่อยคุยกันค่ะ”
สุริยงรีบวางสายไปเลย เอื้อชะงักความสงสัยยังค้างคาใจ
“อ้าว ยังไม่ได้ตอบเลย”
เอื้อวางสายไป แววตาครุ่นคิดเป็นกังวล
ทีมงานกำลังสาละวนอยู่กับการเซ็ทเตรียมถ่ายภาพครอบครัวที่ริมทะเล โดยมีเกนหลง และเขมชาติช่วยกันดูเซ็ทอยู่ด้วย
ชนะพยายามตีซี้ไก ไข่
“คนไหนไก่ครับ”
ไก่ไข่ ยกมือพร้อมกันอีกแหละ แล้วก็ขำคิกคัก
“แล้วคนไหนไข่ครับ”
คู่แฝด หันมาชี้อีกคนพร้อมกัน แล้วก็ขำคิกคัก
ฮันนี่ ทนไม่ได้แทรกเข้ามาทันที
“ไก่ ไข่ ฮันนี่บอกแล้วใช่มั้ย ว่าทำแบบนี้ไม่น่ารัก เมื่อเช้าตอนฮันนี่ถามก็ตอบแบบนี้ แต่ฮันนี่อธิบายไป
แล้วนะคะ ว่ามันไม่ดี ดูสิ เป็นอีกแล้ว ฮันนี่จะให้โอกาส ตอบใหม่ คนไหนไก่?”
ไก่ไข่มองหน้ากันแล้วก็ยอม ไก่ยกมือ “ไก่คับ”
ฮันนี่พยักหน้า หันไปทางไข่ให้รายงานตัว ไข่จำต้องทำตามโดยดี
“ไข่ครับ”
ฮันนี่ ยิ้มให้คู่แฝด “ดีมาก คุณพ่อได้คำตอบแล้วนะคะ ว่าคนไหนไก่ คนไหนไข่”
“จ๊ะ ทราบแล้วครับคุณลูก ดุจริงๆ”
ไก่กับไข่หันขวับมาทางชนะ แล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่ครับๆ ดุมากๆ”
ฮันนี่ หันขวับมา “คุณผู้ชายซุบซิบอะไรกันคะ?”
คู่แฝด และชนะสะดุ้งโหยง รีบโบกมือปฏิเสธสุดฤทธิ์
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
“แล้วไป”
ฮันนี่หันไปหยิบแว่นกันแดดมาใส่ แล้วก็นั่งรอ วางท่าทางเป็นคุณนาย ชนะกับไก่ไข่ หันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วก็ขำออกมา ชนะมองไก่ไข่ ด้วยความเอ็นดู
ฮันนี่หันมามองลอดแว่น ไก่ไข่ แกล้งทำเป็นกลัววิ่งหนี ฮันนี่วิ่งไล่ ไข่ก็วิ่งหนีจนขาขวิด หกล้ม กลิ้งหลุนๆไป ในขณะที่ข้างหน้ามีก้อนหินขวางอยู่
“ไข่” สุริยงร้องอย่างตกใจ พลางรีบวิ่งเข้าไปหาฃลูกชายคนเล็ก
ไข่กลิ้ง ใกล้ก้อนหินเข้าไปทุกที สุริยงรีบวิ่งมา เขมชาติก็รีบวิ่งไปจะช่วย
ในขณะที่ไข่เกือบจะชนหินแล้ว พลันก็มีอ้อมแขนของชนะเข้ามาช้อนตัวไข่ไว้ทันอย่างหวุดหวิด ขณะที่เขมชาติยังไปไม่ถึง สุริยงรีบวิ่งเข้ามาดูลูก
ชนะหันมาบอกสุริยง
“ไม่เป็นไรครับ ยังไม่โดน”
สุริยงโล่งอก “ขอบคุณค่ะ” พลางหันมาพูดกับไข่ “ขอบคุณคุณอาชนะสิครับ”
“ขอบคุณครับ”
เขมชาติที่วิ่งไปจะช่วย แต่ไม่ทัน รู้สึกเสียหน้า ยิ่งเมื่อเห็นสุริยงขอบอกขอบใจชนะมากมาย ก็ยิ่งหมั่นไส้ ที่คนได้หน้ากลายเป็นชนะ
เกนหลงเดินมาหาเขมชาติ
“คุณชนะเนี่ย แมนจริงๆนะคะ”
เขมชาติพูดไม่ออก มองชนะคุยกับสุริยง โดยมีไก่ กับไข่ และฮันนี่ห้อมล้อม อย่างรู้สึกขัดใจ
เขมชาติมองภาพห้าคนที่เหมือนครอบครัวอบอุ่นอย่างเหยียดๆ ต่างจากเกนหลงที่มองแล้วอมยิ้ม..
“คุณชนะดูสนใจคุณสุจริงๆนะคะเนี่ย”
“หว่านสเน่ห์เก่ง”
เขมชาติประชดเบาๆ
“คะ?”
เขมชาติรู้สึกตัว รีบตอบเลี่ยงๆ
“เอ่อ ผมหมายถึงคุณสุรู้จักใช้เสน่ห์มัดใจคน ช่วยดูแลลูกให้เขาได้แบบนี้ คุณชนะก็ต้องเอาใจไว้ เผื่อจะมีเรื่องให้ช่วยอีก”
“เขมก็ ระดับคุณชนะ ไม่ต้องเอาใจคนที่เขาไม่อยากเอาใจหรอกค่ะ”
เขมชาติยิ่งฟังก็ยิ่งขัดหู ในขณะที่เกนหลงหันไปดูเซ็ทต่อ ก่อนที่จะมีทีมงานเดินเข้ามาบอกอะไรบางอย่าง ที่ทำเอาเกนหลงถึงกับหน้าเครียด เขมชาติเลยเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“มีอะไรครับ อย่าบอกนะว่างานเข้าอีกแล้ว”
“วันนี้เป็นยังไงไม่รู้ค่ะ เรื่องนางแบบมีปัญหาตลอด สตาฟเพิ่งมาบอก ว่าคิวมีปัญหา นางแบบจะมาได้ก็ตอนค่ำๆ”
“ทำแบบนี้ได้ยังไง” เขมชาติเริ่มหงุดหงิดตามไปด้วย
“มาถึงตอนค่ำ แสงก็หมดแล้ว เกนเกรงใจ ไม่กล้าขอคิวพวกเด็กๆเพิ่มหรอกค่ะ”
เกนหลงคิดๆ อย่างพยายามหาทางออก
เขมชาติปลอบใจ
“หรือว่าคุณกับผม เราจะเป็นนายแบบนางแบบกันเอง”
เกนหลงค้อน “ทำเป็นใจกว้าง เกนรู้นะ คุณนั่นแหละที่จะไม่ยอมถ่ายเป็นแบบคนแรก”
เขมชาติยิ้มที่เกนหลงรู้ทัน
“แล้วเราสองคน ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนเป็นพ่อเป็นแม่”
เกนหลงพูดๆไป พลางสายตา ก็เหลือบไปเห็นกลุ่มของชนะ สุริยง ฮันนี่ และไก่กับไข่ ที่ดูเป็นครอบครัวมากๆ
เกนหลงชะงัก เหมือนคิดอะไรบางอย่างออก เขมชาติมองตามสายตาของเกนหลง อย่างประหลาดใจก่อนที่จะเอะใจบางอย่างขึ้นมา
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 13 (ต่อ)
สุริยงปฏิเสธเกนหลงอย่างเกรงใจ
“ขอโทษจริงๆค่ะคุณเกน เรื่องถ่ายแบบเนี่ย สุต้องขอตัวจริงๆ”
“คุณสุคะ คุณชนะยังเซย์เยสแล้วเลย”
เกนหลงเริ่มหว่านล้อม ชนะรีบสนับสนุน
“นี่เพราะผมห็นว่านางแบบที่ถ่ายคู่กันเป็นคุณสุนะครับ ถึงได้ยอม”
เขมชาติปรายตามอชนะอย่างหมั่นไส้
“น้าสุถ่ายเถอะค่ะ พวกเราจะได้มีรูปหมู่ด้วยกันไงคะ เนอะ ไก่ ไข่”
ฮันนี่ช่วยเชียร์ ในขณะที่เขมชาติชะงัก กับคำว่า “พวกเรา”
“นะครับ แม่หนูเล็ก ถ่ายแบบกับพวกเรานะครับ” คู่แฝดส่งเสียงอ้อน
สุริยงโดนรบเร้ามากๆ ก็เริ่มคิดหนัก
เขมชาติ รีบพูดแทรก
“ผมว่าถ้าไม่มั่นใจ ก็อย่าดีกว่า จะเสียงาน เสียเวลาทุกคนเปล่าๆ”
สุริยงชะงักกึ้ก เกนหลงดุเขมชาติเบาๆ
“เขม นี่จะช่วยเกนรึเปล่าคะเนี่ย”
“ก็ผมเป็นห่วงงานคุณ คุณสุเขาเป็นเลขานะครับ ไม่ได้เทรนด์มาเป็นนางแบบ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็มือใหม่เหมือนกัน”
ชนะออกตัว
“ไม่เหมือนกันหรอกครับ คุณน่ะเป็นเจ้าของกิจการ ออกหน้าทำอีเวนท์ต่างๆเป็นประจำ แต่อย่างคุณสุ เธอถนัดทำอะไรลับหลัง เอ่อ ผมหมายถึงถนัดอยู่เบื้องหลังมากกว่า”
เกนหลงและชนะชะงัก อย่างไม่คิดว่าเขมชาติจะขัดคอ
สุริยง รีบตัดปัญหา
“ที่ผู้อำนวยพูด ก็ถูกแล้วล่ะค่ะ เรื่องแบบนี้สุคงไม่ถนัดจริงๆ ขอโทษด้วยนะคะ”
เกนหลงหน้าจ๋อย ในขณะที่ชนะรู้สึกเสียดายมากๆ
หลังจากนั้นสุริยงก็หลบมุม มาคุยมือถือกับที่บ้าน
“เด็กๆสนุกกันใหญ่เลยค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะแม่ สุกลับไปดูเจ้าตัวยุ่งก่อน ฝากคุณเกนเอาไว้”
สุริยงวางสาย จะกลับไปที่หาด แล้วชะงัก เพราะเขมชาติมาดักหน้า
“ผิดคาดจริงๆ ผมคงต้องมองคุณใหม่แล้ว”
“ผู้อำนวยการหมายความว่ายังไงคะ?” สุริยงข้องใจ
“คุณชนะ เขารวยเป็นพันล้าน มีทุกอย่างแบบเดียวกับสามีเก่าของคุณ ซ้ำยังหนุ่มกว่า แต่คราวนี้ ไหงคุณถึงใจเย็น “
สุริยงฟังเขมชาติพลางถอนใจ ที่เห็นเขมชาติตั้งใจหาเรื่องกันอีกแล้ว
“ฉลาดขึ้นนะ ที่รู้ว่าคนระดับนั้น ถึงเขาจะแสดงออกว่าสนใจคุณ ก็คงไม่จริงจังกับผู้หญิงที่แต่งงานมาแล้วหรอก”
“คงจะเข้าใจอะไรผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ถ่ายแบบ เพราะกลัวจะทำงานคุณเกนเสีย ไม่ได้คิดลึกอย่างที่ใครบางคนคิด ขอตัวนะคะ”
พูดจบ สุริยงก็ตั้งท่าจะเดินผละไป หากเขมชาติ รีบปราดมาขวาง
“เอาน่า ใครๆเขาก็เห็นกันทั้งหาด ว่าคุณทำตัวสนิทกับคุณชนะซะขนาดนั้น ถ้าผมจะคิดบ้าง ก็ไม่เห็นจะแปลก”
“ตอนนี้คุณเกนหลงคงวุ่นหานางแบบใหม่อยู่ คุณน่าจะไปช่วยเธอนะคะ”
สุริยงแอบสอนในที เขมชาติชะงักกึก
“ไม่ต้องมาสอน “ พลางจับแขนสุริยงไว้ “ คุณเองก็ควรเอาเวลาไปดูแลลูก แทนที่จะไปคุยกับ
ผู้ชายแปลกหน้า ลูกคุณก็อยู่ตรงนั้นแท้ๆ”
สุริยงรีบดึงแขนออก
“ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิดคุณก็ควรเอาเวลาที่มาคุยกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ไปดูแลแฟนคุณจะดีกว่า”
สุริยงเดินเบี่ยงหลบ ในขณะที่เขมชาติไม่พอใจ เดินตาม !!
เขมชาติเร่งฝีเท้าตามสุริยงมา แต่สุริยงไม่ยอมหยุดเลย
“สุริยง”
สุริยงไม่หัน
“วดี “
สุริยงชะงัก แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด เขมชาติเลยจะคว้าข้อมือไว้ แต่ยังไม่ทันถึงตัวสุริยง เสียงของเกนหลง ก็ดังขึ้น
“คุณสุ อยู่นี่เอง”
เกนหลงเดินมาพอดี เขมชาติชะงัก รีบทำตัวเป็นปกติ
“เขม คุณก็อยู่ด้วยเหรอคะ” เกนหลงแปลกใจ
“บังเอิญเดินมาเจอคุณสุพอดีน่ะ”
สุริยงรีบถามกลบเกลื่อน “คุณเกนมีอะไรเหรอคะ ?”
เกนหลงนึกขึ้นได้
“เกนยังหานางแบบไม่ได้เลยค่ะ คุณสุคะ เชื่อเกนเถอะ ว่าคุณทำได้แน่ๆ”
เขมชาติส่งสายตาให้สุริยง เป็นเชิงห้าม
“นะคะ ช่วยเกนหน่อยนะ”
“คุณเกนครับ คุณสุเขาก็บอกแล้ว ว่าเขาไม่มีความสามารถ ไม่มีปัญญาทำอะไรแบบนั้นได้”
เขมชาติจงใจพูดกระทบสุริยง ได้ผล สุริยงหันขวับ
“ถ้าคุณเกนไม่ถือ ที่สุไม่ใช่มืออาชีพ สุช่วยก็ได้ค่ะ”
เขมชาติชะงัก มองเข้มสายตาปรามสุริยง แต่สุริยงไม่สน
“คุณเกนครับ แต่ผมว่าเราน่าจะหานางแบบคนอื่น”
เกนหลงไม่ฟัง พลางคว้าข้อมือสุริยงมาจับอย่างขอบคุณ
“เย้ ! ขอบคุณนะคะคุณสุ ไม่ต้องกลัวนะคะ ตากล้องของเราเก่ง เกนรับรองคุณสุจะไม่
เหนื่อย และไม่รู้สึกว่ามันยากเลยค่ะ เดี๋ยวเกนพาไปลองเสื้อผ้าค่ะ คิดว่าคุณสุใส่ชุดของนางแบบได้แน่ๆ”
“ค่ะ แต่สุขอไปดูไก่กับไข่ก่อนแป๊บนึงนะคะ”
“เกนวานคุณชนะดูให้อยู่น่ะค่ะ “
สุริยงพยักหน้ารับรู้ แล้วเดินไป ในขณะที่เขมชาติมองตามอย่างเจ็บใจ !!
เกนหลงหันมาถามเขมชาติ
“เมื่อกี๊นี้คุณพูดอะไรกับคุณสุรึเปล่าคะ เธอถึงได้เปลี่ยนใจ ยอมมาช่วยเกน”
เขมชาติไม่ได้ฟัง เพราะยังเครียดอยู่ เกนหลงเรียกซ้ำ
“เขม”
เขมชาติถึงได้รู้สึกตัว
“ เมื่อกี๊นี้ไม่ได้ฟังเหรอคะ”
“พอดีผม คิดเรื่องงานอยู่น่ะ”
เขมชาติแก้ตัว เกนหลงนิ่วหน้า อย่างไม่ค่อยเชื่อ “คุณเกนว่าอะไรนะครับ”
“ช่างมันเถอะค่ะ”
“งั้นเรากลับไปที่หาดกันดีมั้ยครับ”
เขมชาติว่าแล้วก็เดินนำไปก่อน เกนหลงมองตามหลังเขมชาติ รู้สึกว่าแปลกๆ
สายตาเกนหลงเริ่มมีความสงสัยขึ้นมา
การถ่ายทำภาพโฆษณาชุดครอบครัวสุขสันต์ดำเนินไปได้ด้วยดี ชนะ สุริยง รวมถึงเด็กทั้งสาม
ฮันนี่ ไก่ กับไข่ อยู่ในบรรยากาศเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เล่นๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ จะมีก็แต่
สุริยง ที่ดูจะไม่ค่อยกล้าใกล้ชิดกัยชนะเท่าที่ควร
“คุณสุ เข้าไปชิดอีกนิดนึงครับ”
ช่างภาพตะโกนบอกสุริยง
เขมชาติ เกนหลง และทีมงานคอยดูอยู่ สุริยงทำตามช่างภาพ ทว่ายังดูออกว่าเกร็งๆ อยู่ดี
“ผ่อนคลายครับ ยิ้ม เอนไปชิดๆ ให้เป็นธรรมชาติครับ”
สุริยงพยายามทำตาม แต่ยังเกร็งๆ เพราะสายตาเขมชาติที่จ้องมา แม้พยายามจะไม่หันไปมอง แต่มัน
ก็ยากเต็มที
เมื่อยังไม่ได้ภาพตามที่ต้องการ ช่างภาพก็หันมามองเกนหลง อย่างจะขอคำปรึกษา
เขมชาติแอบแขวะเบาๆ “ทำเป็นอินโนเซนท์”
ชนะบอกสุริยงเพื่อให้สบายใจ
“คุณสุเอนตัวมาข้างหน้ามากหน่อยครับ จะดูเหมือนเราชิดกัน แต่จริงๆไม่โดนครับ”
สุริยง สัมผัสได้ถึงความเป็นสุภาพบุรุษของชนะ เธอจึงทั้งซึ้งและเกรงใจอยู่ในที
“ขอโทษด้วยนะคะ”
“ขอโทษทำไมครับ คุณทำดีแล้ว”
ชนะยิ้มให้กำลังใจ
“น้าสุไม่ต้องกลัวคุณพ่อนะคะ คุณพ่อเป็นสุภาพบุรุษ แค่ขยับใกล้อีกนิด เดี๋ยวพี่ช่างภาพเขาใช้มุม
กล้องหลอกให้เองค่ะ “
ฮันนี่พูดฉะฉานจนชนะกับสุริยงขำ พลางเริ่มทำตัวดูสบายๆขึ้น เขมชาติปรายตามาทางฮันนี่
“แก่แดด”
ในขณะที่ชนะถึงกับอึ้ง
“นี่ลูกผมรู้จักการใช้มุมกล้องหลอกด้วยเหรอเนี่ย เฮ่อ”
ช่างภาพถึงกับรีบกดชัตเตอร์รัว เร็ว
“นั่นแหละครับ ดีครับ หัวเราะยิ้มๆ สดใส เข้าใกล้กันอีกนิดครับ”
สุริยงเอนตัวมาข้างหน้าให้ดูเหมือนแนบชิดชนะ แต่จริงๆไม่โดนกันมาก ชนะโอบไหล่ แค่แตะเบาๆ
ลูกๆห้อมล้อมน่ารัก
“ดีครับ ยิ้มครับ” ช่างภาพเริ่มยิ้มออก แต่เขมชาติยิ่งดูก็ยิ่งอึดอัด
“ทีนี้ ขอคุณแม่ จับแขนคุณพ่อบ้างครับ ขอแบบสวีตๆเลยครับ”
สุริยงชะงัก แต่ก็เตรียมจะทำตาม หากก็ช้ากว่าเขมาติที่โพล่งขึ้นมาดื้อๆ
“ผมว่าไม่เหมาะนะ รูปครอบครัว ไม่ต้องสวีทกันนักหรอกมั้ง”
ช่างภาพชะงัก มองเกนหลง เกนหลงมองเขมชาติอย่างแปลกใจ
“ทำไมคะ?”
เขมชาติพยายามคิดหาทางออก แล้วก็ทำเป็นพูดเสียงจริงจัง แต่เบาๆ ไม่ให้คนอื่นได้ยิน
“ก็เห็นอยู่ว่าสุริยงเขาทำไม่ได้ ยิ่งกดดันจะยิ่งลน เดี๋ยวจะเสียเวลากันเปล่าๆ มีเซ็ตอื่นต้องถ่ายต่ออีก
ไม่ใช่เหรอครับ เซ็ตนี้ไม่ได้ เซ็ตอื่นจะพาลเสียกันไปหมด”
ช่างภาพมองเกนหลง อย่างจะขอความเห็น
เกนหลงตัดสินใจ
“เซ็ตครอบครัวพอแค่นี้”
เขมชาติยิ้ม เกนหลงพูดต่อ
“เตรียมตัวถ่ายเซ็ตต่อไป เซ็ตคู่รักค่ะ”
เขมชาติหุบยิ้มทันที “เซ็ตคู่รัก” หนักกว่าเดิม
ชนะยืนอยู่ในมุมสวยริมหาด ใกล้กับฉากที่ทีมงานเตรียมไว้ ตามบทชนะต้องกุมมือสุริยง ก่อนถ่าย จึงเอ่ยปากบอกอย่างสุภาพ
“ขอโทษนะครับคุณสุ”
ชนะกุมมือสุริยง แต่กุมไว้หลวมๆอย่างสุภาพ หากเมื่อดูผ่านคอมพิวเตอร์ ภาพออกมาก็ดูใกล้ชิดอบอุ่นและเป็นธรรมชาตคิดี
จากนั้นช่างภาพ ก็ถ่ายเก็บภาพสองคนเดินเล่นริมทะเล ตามประสาคู่รักรุ่นใหญ่
เขมชาติมองตามอย่างขัดใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เอาเท้าขยี้ทรายแก้เครียดอยู่ไปมา !
ฮันนี่ ที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมาบอกกับเกนหลง
“โรแมนติกมากเลยค่ะน้าเกน ฮันนี่ขอขยายรูปนี้เอาไปติดที่บ้านได้มั้ยคะ? “ พลางหันมาทางไก่กับไข่
ที่นั่งอยู่ติดกัน “ไก่ ไข่ เอาด้วยมั้ย”
คู่แฝดหันมามองหน้ากัน อย่างไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แต่ก็หันมาพยักหน้า
“เอาด้วยครับพี่ฮันนี่”
ฮันนี่ ยิ้มพอใจ พลางหันมาเกนหลง
“งั้นฮันนี่ขอหนึ่งรูปให้คุณพ่อ ไก่ ไข่ ขอหนึ่งรูปให้น้าสุเอาไว้ดูจะได้คิดถึงคุณพ่อนะคะ”
-เด็กทั้งสามหัวเราะกันคิกคัก เกนหลงขำด้วยความเอ็นดู จะมีก็แต่ เขมชาติ ที่มองฮันนี่อย่างขัดใจ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวน้าเกนจัดรูปใหญ่ๆให้เลยนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ”
เกนหลงถึงกับหัวเราะอารมณ์ดี เขมชาติเบือนหน้าหนี
ฉากต่อมา เป็นฉากที่สุริยงกับชนะนั่งคู่กันแนบชิดในเปลญวน ช่างภาพเข้ามากำกับท่าเตรียมพร้อมถ่ายจริง
“นั่งชิดๆกัน สบายๆ แล้วโอบกันไว้นะครับ”
เขมชาติเห็นแล้วทนไม่ได้ เดินมาหาเกนหลงเลยแล้วก็พูดขึ้นดังๆ อย่างตั้งใจให้สุริยงได้ยิน
“คุณเกนครับ ผมว่ามันมากไปนะครับ นี่มันแทบจะนอนกอดกันเลย เราน่าจะเกรงใจเด็กๆ ผมว่ามันไม่
เหมาะที่จะให้พวกเขามาเห็นพ่อแม่ตัวเองกอดกับคนอื่นในที่สาธารณะ”
สุริยงทำหน้าไม่ถูก อึดอัดใจ ทันใดนั้นฮันนี่ก็สวนขึ้นมาเลย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฮันนี่เข้าใจ มันเป็นแค่การแสดง ฮันนี่ไม่คิดมากค่ะ”
เขมชาติหันขวับมา ในขณะที่ทีมงานบางคนแอบยิ้ม ส่วนชนะยิ้มพอใจ
ฮันนี่ หันมาถามคู่แฝด เพื่อขอแนวร่วม
“ใช่มั้ยคะ ไก่ ไข่”
ไก่ กับไข่ ประสานเสียง “ใช่ครับพี่ฮันนี่”
เขมชาติหันขวับมามองไก่กับ ฮันนี่รีบหันมาทางเขมชาติ
“ลุงเขมไม่ต้องห่วงนะคะ”
เขมชาติสะอึก “ลุงเขม?”
“ฮันนี่ ไก่ ไข่ แยกแยะได้ค่ะ เชิญน้าเกนทำงานได้ตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจพวกเราค่ะ”
ฮันนี่พูดจบก็เอนหลังนั่งพิงเหมือนเดิมด้วยความสบายใจ ตรงกันข้ามกับเขมชาติ ที่แทบคลั่ง ส่วนชนะ
ยิ้มพอใจ สุริยงรู้สึกขำๆ แอบสะใจอยู่ในที
ช่างภาพเห็นชนะกับสุริยงเริ่มผ่อนคลาย ก็รีบกดชัตเตอร์รัวทันที
“ต่อเลยครับ ดีครับ พิงไปเลยครับ นั่นแหละครับ เข้ามาใกล้กันอีกนิดครับ”
ชนะหันมามองหน้าสุริยงที่เริ่มจะผ่อนคลาย ด้วยแววตาพึงพอใจแล้วก็ดึงสุริยงมากอดอย่างเป็น
ธรรมชาติ สุริยงซบเบาๆ อย่างอ่อนโยนมากๆ จนชนะเองยังถึงกับเคลิ้ม นึกอยากให้เป็นเรื่องจริง มากกว่าเป็นแค่การ
แสดง ช่างภาพรีบเก็บภาพอย่างรวดเร็ว เกนหลงยิ้มพอใจมาก
เขมชาติเห็นแล้วเจ็บใจแทบจะกระอัก พลางกระแทกตัวนั่งลงที่เก้าอี้ด้านหลังเกนหลงด้วยความขัดใจ
เกนหลงแอบปรายตามองเขมชาติที่กระแทกตัวนั่งข้างๆ ด้วยความแปลกใจ
จบตอนที่ 13
อ่านต่อตอนที่ 14