ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 13
ขณะที่สินีและคัชพลยืนคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านบัญชาสินีถามคัชพลด้วยสีหน้าแปลกใจ
“อ้าว ทำไมมาไม่ได้ล่ะ นี่มันงานสำคัญนะ”
“วีด้าบอกว่าคุณอางานยุ่งมากครับ” คัชพลตอบ
บัญชาอึ้ง “คนรักงานก็อย่างนี้แหละ แถมธุรกิจเค้าก็มากขนาดนั้น จะทิ้งงานมาก็คงยากหน่อยล่ะ”
“แต่นี่งานหมั้นของหลานสาวคนเดียวนะคะ งานที่ไหนจะมาสำคัญกว่า แล้วก็ไม่บอกกันก่อนด้วยว่าจะไม่มา” สินีว่า
“เอาน่า เลิกบ่นได้แล้ว เธอไปจัดการเรื่องไอ้เล็กดีกว่า อย่าให้ชั้นอารมย์เสียกับมันมากไปกว่านี้” บัญชาตัดบท ขณะที่คัชพลส่ายหน้าอย่างระอาพร้อมกับบ่น “ไอ้ตัวยุ่ง”
ที่บ้านบัญชา ยศสรัลวางโทรศัพท์สีหน้าหนักใจ สินีกับบัญชาเดินมา
“เป็นไงสรัล ตามเจอมั้ย” บัญชาถาม
“ไม่เจอเลยครับ ผมติดต่อเพื่อนนายเล็กเกือบทุกคนแล้ว ไม่มีใครเห็นนายเล็กเลย” ยศสรัลตอบอย่างเครียดๆ
“มันหายไปไหนของมันทั้งวันทั้งคืนนะ” บัญชาว่า
“เล็กไม่น่าทำตัวเหลวไหลอย่างนี้เลย” สินีบ่น
“นี่มันไม่เห็นความสำคัญของงานพี่มันเลยรึไงนะ นิสัยแย่ยังไงก็แก้ไม่หายอย่างนั้น” บัญชากล่าวอย่างโกรธเคือง
เสียงรถจอดหน้าบ้าน สินีชะเง้อมอง
“ใครมาแล้ว สรัลไปดูหน่อย”
“ครับ”
ยศสรัลเดินออกไป สินีมองตาม
ยศสรัลมาที่หน้าบ้านเห็นรถเกรซจอดอยู่ ยศสรัลยืนคอย
วีด้าลงจากรถ เมื่อยศสรัลเห็นก็ถึงกับตะลึงในความสวยของวีด้า ทั้งสองมองกันไปมาครู่หนึ่ง เกรซก็ลงจากรถตามมายศสรัลรีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
“เอ่อ...เชิญครับ ผมจะพาไปห้องพักก่อนนะครับ”
วีด้าเดินนิ่งๆผ่านยศสรัล โดยไม่รู้เลยว่ายศสรัลแอบมองตนอยู่ตลอด
ยศสรัลเดินมาส่งวีด้าที่หน้าห้อง
“เชิญพักห้องนี้กันก่อนนะครับ ผมจะไปบอกพี่ใหญ่ให้ว่าคุณมาแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” เกรซกล่าว ส่วนวีด้ายืนนิ่ง ยศรัลมองหน้าวีด้าอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไป
วีด้าเดินเข้ามาในห้อง ยืนนิ่ง เกรซเดินมาจับมือ แล้วมองมือเพื่อน
“มือแกเย็นเฉียบเลย! ชั้นว่าแกบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่แค่หมั้น แกยังเป็นแบบนี้ แล้วถ้าถึงวันที่แกต้องแต่งงาน แกไม่ต้องตกนรกทั้งเป็นเลยเหรอ” เกรซกล่าวอย่างหนักใจ
“มันจะไม่มีวันถึงวันนั้น” วีด้าตอบ
มีเสียงเคาะประตู ทั้งสองคนหันไปมอง ก็เห็นคัชพลเปิดประตูเข้ามา เมื่อเห็นวีด้า คัชพลถึงกับตะลึง!
“วีด้า วันนี้คุณสวยมาก” คัชพลเข้าหา พร้อมจับมือส่งตาหวาน
เกรซเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน จึงขยับตัวจนคัชพลรู้สึกตัว
คัชพลยิ้ม “อ่อ..สวัสดีครับ คุณคงเป็นเพื่อนสนิทคุณวีด้า”
“ใช่ค่ะ เอ่อ เกษรินเป็นเพื่อนรักวีด้า แต่ตอนนี้จะเปลี่ยนสถานะเป็นหมาหัวเน่าแล้วล่ะค่ะ” เกรซยิ้มเจื่อนๆ
วีด้าและคัชพลหัวเราะ
“งั้นตามสบายนะครับ เดี๋ยวถึงเวลาแล้วผมจะมารับ เดี๋ยวเจอกันนะ” คัชพลบอกวีด้า
“ค่ะ”
แล้วคัชพลก็ออกจากห้องไป วีด้าถอนหายใจ ส่วนเกรซเองก็หนักใจไปด้วย
รถของธัญกรแล่นเข้ามาจอดในบ้าน ธัญกรเปิดประตูรถ แต่ยังนั่งมึนอยู่ในรถ ก่อนตัดสินใจเดินโงนเงนด้วยความเมาลงมาจากรถเพื่อจะเข้าบ้าน
สินีซึ่งกำลังถือของจัดงานออกมา เห็นเข้าก็ตกใจรีบวางของ แล้วเข้าไปหาธัญกร
“เล็ก!เล็กไปไหนมาลูก นี่ดื่มมาเหรอเนี่ย ทำไมทำตัวแบบนี้หาเล็ก วันนี้วันหมั้นพี่ใหญ่นะ เดี๋ยวแขกก็จะมากันมาแล้ว เค้าจะมองเรายังไง ไปๆ รีบไปอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย”
“โอ๊ย คุณแม่ เลิกยุ่งกับผมซะทีไม่น่ากลับมาเลย!” ธัญกรโวยกลับอย่างหงุดหงิด
“เล็ก!”
ธัญกรสะบัดแขนออกจากผู้เป็นแม่ ก่อนเดินเข้าบ้านไปอย่างฉุนเฉียว สินีตะโกนไล่หลัง
“เล็กรีบไปอาบน้ำเลยลูก แม่ต้องรอรับแขกอยู่ข้างล่าง”
เล็กเข้าบ้านไป เดินเซเล็กน้อย สินีมองตามอย่างกลุ้มใจ
ธัญกรเดินขึ้นมาที่ชั้นบนของบ้าน เห็นคนใช้ถือถาดเสิร์ฟน้ำออกมาจากห้องวีด้า แล้วเดินผ่านหน้าตนไป
ธัญกรมาหยุดอยู่หน้าห้องวีด้า ที่เปิดประตูแง้มไว้ หันมองเข้าไป ก็เห็นเกรซกำลังแต่งผมให้วีด้า ธัญกรยืนมองนิ่ง ก่อนผลักประตูออก แล้วเดินเข้าไปหา
“ถ้าไม่เต็มใจทำไมต้องหมั้น!”
เกรซมีอาการตกใจ ทว่าวีด้าสงบนิ่ง
“คุณเล็ก..”
“ผมไม่อยากรับรู้อะไร แต่ก็ต้องกลับมาเห็น” ธัญกรฟูมฟาย พร้อมกับจับไหล่วีด้าเขย่า
“คุณวีด้า คุณอย่าทำแบบนี้เลย ยุติทุกอย่างเถอะ มันไม่ใช่ผมเจ็บคนเดียว แต่คุณเองก็เจ็บด้วยไม่ใช่เหรอ”
“ปล่อยวีด้าเถอะค่ะ คุณธัญกร “ เกรซรีบเข้ามาห้าม
คัชพลกับยศสรัลเดินผ่านมา ได้ยินเสียงดังมาจากห้องวีด้า ทั้งสองหันไปมอง
ธัญกรไม่สนใจ “วีด้า บอกผมสิ พูดกับผมว่าคุณจะไปยกเลิกงานหมั้น พูดสิ!”
ทันใดนั้น คัชพลและยศสรัลก็พุ่งพรวดเข้ามา
“เล็ก!” ยศสรัลเรียก
คัชพลเห็นธัญกรจับวีด้าอยู่ก็โมโห จึงเข้าไปกระชากธัญกรออกมาจากวีด้า
“ไอ้เล็ก แกเป็นบ้าอะไร นี่แกเมานี่ ออกไปเลยนะไอ้เล็ก แล้วก็ไม่ต้องเข้ามาในงานด้วยชั้นไม่อนุญาต!”
ธัญกรผลักคัชพลออก “แล้วผมขอเข้างานรึไง งานหมั้นเก๊ๆเนี่ย นึกว่าผมอยากอยู่นักเหรอ
ทุกคนตกใจที่ธัญกรพูดออกมาแบบนั้น
บัญชาและสินีต่างตกใจ
“มันอะไรกันคะคุณ”
บัญชาไม่ตอบ แต่รีบพุ่งออกไปทันที สินีรีบตามไปด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
คัชพลกระชากคอเสื้อธัญกร ทั้งสองจ้องกันอย่างไม่ลดละ
“พูดมา! งานหมั้นเก๊ๆ แกหมายความว่ายังไง” คัชพลตะคอก
“ก็ถามคุณวีด้าเค้าสิ!”
คัชพลและยศสรัลพากันหันมามองที่วีด้า วีด้าทำหน้าไม่ถูก เกรซมองเพื่อน หน้าเสีย
ทันใดนั้น สินีและบัญชาก็วิ่งเข้ามาอย่างตระหนกตกใจ
“เอะอะเสียงดังอะไรกัน” บัญชาถาม
“คุณเล็ก ชั้นขอร้อง อย่าทำให้มันวุ่นวายเลยนะ” วีด้าขอร้อง
“อย่ามีเรื่องเลยนะครับพี่ใหญ่ เล็กมันเมา” ยศสรัลขอร้องอีกคน
“เล็ก ออกไปกับพี่ ไป! เร็วสิ” ยศสรัลดึงธัญกรเดินผ่านวีด้า ธัญกรมองวีด้าด้วยความโกรธ วีด้าเมินหน้าหนี
“ผู้หญิงที่ผมชอบก็คือคุณวีด้าไง ที่พี่สอนให้ผมแย่งมาให้ได้ รู้ไว้ด้วย!”ธัญกรตะโกนลั่น
คัชพลโมโหจัด จะตามไปต่อยธัญกร กระชากแขนเสื้อธัญกรกลับมาอีก
“ไอ้เล็ก”
“ใหญ่ อย่าทำน้อง” “อย่าครับพี่ใหญ่” สินีและยศสรัลขอร้อง
ยศสรัลแกะมือคัชพลจนหลุด
“ผมรู้ว่าเค้าไม่ได้อยากหมั้น ถ้าไม่อยากหมั้น ก็ไม่ต้องหมั้น..” ธัญกรพูดอย่างโกรธเคือง
ทุกคนที่ได้ยินพากันอึ้ง ส่วนธัญกรเมื่อพูดจบก็วิ่งลงข้างล่าง
“ไอ้เล็ก” บัญชาตะโกน
สินีหันมามองวีด้าด้วยสีหน้าโกรธเคืองก่อนเดินตามธัญกรออกไป
“เล็ก”
วีด้าพูดไม่ออก ตกใจ ได้แต่มองธัญกรที่ออกจากห้องไปแล้ว
บัญชาหันมาถามคัชพลกับวีด้า
“ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย!”
วีด้ามองหน้าบัญชากับคัชพลอย่างกระอักกระอ่วนเกรซก้มหน้าหนี
ทันใดนั้น มีเสียงคนใช้ร้องวี้ดว้ายดังมาจากด้านล่าง ทุกคนตกใจรีบวิ่งลงไปทันที
ธัญกรผลักคนใช้ล้มไป และเริ่มพังข้าวของพิธีหมั้นจนกระจัดกระจาย
ทุกคนช็อคสินีถึงกับกรี๊ดออกมา ส่วนยศสรัลรีบเข้าไปห้ามน้องชายคัชพลและคนอื่นๆ ตามลงมาคัชพลโมโหพุ่งเข้าหาน้องชาย ดึงน้องชายแล้วชกใส่ ก่อนตามไปอัดกอดรั้งกันอยู่ที่พื้น
“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ หยุด!” บัญชาตะโกนห้าม
ยศสรัลเข้าจับตัวคัชพล และพยายามแยกคัชพลออกมา
“พี่ใหญ่ หยุดเถอะ พอแล้ว”
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 13 (ต่อ)
ธัญกรลุกขึ้นยืน บัญชาเดินเข้ามาหา โกรธเลือดขึ้นหน้า และตบหน้าธัญกรอย่างแรง! ทุกคนอึ้ง
“คุณ!” สินีรำพึง
“คุณพ่อ!” ธัญกรตะโกนออกมาด้วยความเสียใจ
“ถ้าแกยังไม่หยุด ชั้นก็จะตบจนกว่าแกจะหายบ้า”
สินีเข้ามาดึงบัญชาไว้
“คุณ พอแล้ว อย่าทำลูก”
บัญชาผลักสินีออกจนกระเด็น ยศสรัลรีบรับสินีไว้
“อุตส่าห์ให้ไปทำงาน ก็นึกว่าจะเป็นผู้เป็นคน ที่ไหนได้ เลวหนักกว่าเดิม ถ้าอยากจะเมา อยากจะบ้า ก็ไปบ้าที่อื่น ไอ้ลูกนอกคอก!” บัญชาว่า
“ลูกนอกคอก มันดีเกินไปมั้งครับ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าผมใช่ลูกพ่อจริงรึเปล่า”
บัญชาได้ยินดังนั้นก็ตบหน้าธัญกรซ้ำอย่างแรง
“อย่าค่ะคุณ” สินีห้าม
“ไอ้เล็ก! ถ้าแกพูดอย่างงี้ แกก็ออกจากบ้านชั้นไปเลย แล้วนับจากวันนี้ แกกับชั้นขาดกัน!”
วีด้าที่ยืนฟังอยู่กับเกรซถึงกับตกตะลึง
“แก…ทำไงดี” เกรซกระซิบกับวีด้า เกือบจะร้องไห้อยู่แล้ว
ฝ่ายธัญกรจับหน้า น้ำตาร่วง ทั้งเจ็บใจและเสียใจ แล้วออกจากบ้านไปทันที
“เล็ก..อย่าไปลูก” สินีร้องเรียกลูก พร้อมกับตามไป
ยสสรัลเห็นวีด้า
“สะใจคุณแล้วใช่มั้ย!” ยศสรัลหันมาถามวีด้า
วีด้ามองยศสรัล แต่ยศสรัลไม่สนใจ ก่อนเดินตามสินีออกไป
สินีวิ่งร้องไห้เกาะรถธัญกร ที่กำลังขับออกไป
“เล็ก ลงมาก่อนลูก อย่าไป”
ธัญกรหน้าเครียด ลังเล สงสารแม่ แต่สุดท้ายก็ขับต่อไป ส่วนสินีที่เกาะรถอยู่ก็ถลาตามรถไป จนเกือบจะล้ม พร้อมกับตะโกนเรียกลูก “เล็ก กลับมาหาแม่ก่อน”
ยศสรัลรีบวิ่งเข้ามาคว้าแม่ไว้ก่อนที่แม่จะล้มลง พร้อมกับกอดสินีไว้ “คุณแม่..”
ภายในบ้าน บัญชาเครียดจนแน่นหน้าอกจนเกือบล้มวีด้า เกรซ คัชพลต่างพากันตกใจ
“คุณพ่อ!”คัชพลจะรีบเข้าไปประคอง วีด้าได้แต่ยืนมอง
“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ”
บัญชาค่อยๆ หายใจได้ดีขึ้น “พ่อไม่เป็นไร แกไปกันแขกให้หมด หาเหตุผลที่ต้องยกเลิกงาน แล้วให้คนจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย”
งานหมั้นล้มเลิก คัชพลตกตะลึง
ยศสรัลพาสินีเข้ามานั่งในบ้าน
“คุณแม่นั่งพักก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้คุณแม่ดื่มนะครับ”
สินีมีอาการมึนงงบทสนทนาระหว่างตนกับซินแสแวบขึ้นมาในหัว
“ซินแสว่าไงนะคะ”
“สองคนนี้หมั้นกันไม่ได้ พื้นดวงเค้าเป็นศัตรูกัน”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง”
“ทั้งสองคนไม่มีดวงแต่งงานกัน และดวงของผู้หญิงคนนี้ เป็นกาลกิณีกับครอบครัวคุณ”
สินีคิดต่ออย่างเคร่งเครียดก่อนจะนึกถึงบทสนทนาระหว่างตนกับมณฑิตาขึ้นมา
“หนูมณอย่าคิดมาก เค้าทำงานที่เดียวกัน กินข้าวด้วยกัน มันก็ธรรมดา” สินีบอก
“แต่ที่มณเห็นมันไม่ธรรมดานะคะ”
“หนูมณหมายความว่ายังไง”
“มณเห็นคุณเล็กเทคแคร์ ตักอาหารป้อนให้กันเหมือนเป็นแฟนกันค่ะ”
สินีนิ่งไป สีหน้าเคร่งเครียด
ยศสรัลยื่นแก้วน้ำให้แม่
“คุณแม่ครับ”
สินีรับแก้วน้ำ วางลงทันทีแล้วรีบถามยศสรัล
“สรัล เล็กมันชอบคุณวีด้าเหรอ”
ยศสรัลหลบตา เมินหน้าออก สินีมองอย่างเอะใจ
“สรัล นี่ลูกรู้เรื่องนี้ใช่มั้ย”
ยศสรัลนิ่ง
“ทำไมสรัลไม่เคยบอกแม่ รู้แล้วก็ยังให้น้องไปทำงานกับเค้า ทำไมไม่ห้าม”
“ผมเคยพูดกับเล็กแล้วครับ ว่าจะให้เค้ากลับมาทำงานที่บริษัทเรา แต่เค้าไม่ยอม” ยศสรัลบอกผู้เป็นแม่“ทำไมไม่เล่าให้แม่ฟัง”
“ผมขอโทษครับ”
“แล้วมันหมายความว่ายังไง ที่ตาเล็กพูดว่า วีด้าไม่อยากหมั้น” สินีถามต่อ
“เรื่องนี้ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ” ยศสรัลตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“ถ้ามันจริง แสดงว่าวีด้าเค้าไม่ได้รักตาใหญ่ ...ตกลงมันรักกับใครกันแน่ ตาเล็ก หรือตาใหญ่”
ยศสรัลได้แต่เงียบ สีหน้าเครียด
วีด้าที่นั่งก้มหน้าห่อตัวอยู่มุมหนึ่งของสระว่ายน้ำ เกรซยืนมองเพื่อนแล้วส่ายหัวก่อนจะถามเพื่อน
“ทีนี้จะทำยังไงดีล่ะวีด้า”
“ชั้นก็ไม่รู้”
“คุณคัชพลจะรู้เรื่องแกมั้ย จะมีใครจับได้มั้ย โอ๊ย ชั้นจะทำไงดี” เกรซถามไปคิดไป
สินีเดินเข้ามา แต่เกรซยังไม่เห็นจึงพูดต่อ
“แล้วแกยังจะต้องหมั้นกับเค้าอีกมั้ย”
สินีเรียก “วีด้า”
วีด้าและเกรซพากันตกใจเมื่อหันมาเห็นสินี
“ทำไมตาเล็กถึงมาชอบเธอ แล้วเธอไม่ได้อยากหมั้นกับตาใหญ่เหรอ เธอรักตาใหญ่รึเปล่า บอกชั้นมาตรงๆเถอะ เธอรักใครกันแน่” สินีถามตรงๆ
วีด้ากับเกรซเงียบกริบ สินีเดินเข้าหาทั้งสองก่อนจะถามต่อ
“อธิบายให้ชั้นฟังหน่อย เธอรักตาใหญ่ หรือตาเล็ก”
วีด้ายังคงเงียบ
“เธอบอกชั้นมา ถ้าเธอไม่รักตาใหญ่แล้วเธอยอมหมั้นกับเค้าทำไม เธอกำลังปั่นหัวลูกชั้นใช่มั้ย ชั้นไม่สนหรอกนะว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน แต่เธอเป็นต้นเหตุให้ลูกชายชั้นทะเลาะกันจนจะฆ่ากันตาย ในฐานะแม่ ชั้นขอบอกว่าชั้นไม่อยากได้คนอย่างเธอมาเป็นลูกสะใภ้ ในเมื่องานหมั้นมันล้มไปแล้ว มันก็จะไม่มีการจัดขึ้นอีก ต่อไปนี้ชั้นห้ามไม่ให้เธอคบกับลูกชายชั้น”
สินียืนจ้องวีด้าที่นิ่งสงบยศสรัลเดินเข้ามา
“คุณไปห้ามลูกคุณดีกว่า คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามชั้น เพราะคุณไม่ใช่แม่ชั้น” วีด้าบอก
สินีตบหน้าวีด้าด้วยความโกรธ
“วีด้า!” เกรซตะโกนอย่างตกใจ
ยศสรัลตกใจ เดินเข้ามาหนึ่งก้าวแล้วหยุด
“ไม่เป็นไร” วีด้าบอกเกรซด้วยสีหน้าเรียบเฉย
วีด้ามองหน้าสินีด้วยแววตาเจ็บแค้น สินีจ้องกลับอย่างไม่ลดละ วีด้าเดินผ่านหน้ายศสรัลออกไป เกรซวิ่งตามเพื่อน
วีด้าเดินอย่างรวดเร็วผ่านตรงที่คัชพลยืนอยู่ เมื่อคัชพลเห็นอาการวีด้าที่เดินจ้ำออกมาจึงจับวีด้าไว้“ผมขอโทษนะวีด้า ผมกำลังจะไปหาคุณ คุณโอเครึเปล่า ไม่เป็นไรนะ เราจะจัดงานขึ้นมาใหม่ คุณไม่ต้องเสียใจนะ”
วีด้ามองคัชพลด้วยสีหน้าว่างเปล่า “ทุกอย่างพังหมดแล้ว แม่คุณไล่ชั้น”
คัชพลไม่เข้าใจ วีด้าปลดมือคัชพลที่จับอยู่หลุดออก แล้วเดินออกไป ยศสรัลมองตาม
“เดี๋ยวก่อนวีด้า คุยกับผมก่อน” คัชพลเรียก
สินีรีบเข้ามาเรียกลูก “ตาใหญ่”
คัชพลหันกลับมาหาสินีด้วยความโมโห
“แม่ไปพูดอะไรกับคุณวีด้า มันไม่ใช่ความผิดของเค้า แล้วเค้าบอกว่าแม่ไล่เค้า มันหมายความว่ายังไงครับ”
“มันฟ้องแกเหรอ มันบอกด้วยรึเปล่า ว่าแม่ตบหน้ามัน”
“คุณแม่!” คัชพลตกใจ “คุณแม่ไปตบหน้าคุณวีด้าเค้าทำไม แม่จะไปโทษคุณวีด้าไม่ได้นะครับ มันเป็นความผิดของไอ้เล็ก ไอ้เล็กมันบ้า เพราะแม่ตามใจมันจนเสียคน”
“นี่แกเข้าข้างนังผู้หญิงคนนั้น มากกว่าน้องแกเหรอ แกยังหลงมัน เชื่อมันมากกว่าแม่เหรอ มันพูดกับแม่ว่า แม่ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามมันคบกับแก เพราะแม่ ไม่ใช่แม่มัน”
คัชพลเถียงแทนวีด้า “ก็แม่ไปห้ามเค้า ไม่ให้คบกับผม แม่พูดแบบนั้นก่อนทำไมล่ะ”
สินีถึงกับอึ้ง “ตาใหญ่! มันด่าแม่ ว่าแม่ไม่ใช่แม่มัน แกฟังแม่บ้างรึเปล่า”
“ผมคิดว่าแม่ก็เข้าข้างไอ้เล็กจนเกินไปเหมือนกัน แม่โยนความผิดให้คุณวีด้า แทนที่จะเป็นมัน ไม่ว่ายังไง ผมก็จะไม่เลิกคบกับคุณวีด้า ผมจะไปเคลียร์กับเค้า” คัชพลพูดแล้วเดินออกไป
“ตาใหญ่!”สินีมองตามคัชพลด้วยความโกรธและคิดเจ็บใจวีด้า ยศสรัลแทบทนดูต่อไปไม่ไหว
คัชพลยืนมุมหนึ่ง กดโทรศัพท์หาวีด้า ได้ยินเสียงรอสายจนตัดไป แล้วกดใหม่อย่างร้อนใจ
“รับสิ..” คัชพลพูดเบาๆ
วีด้ายังไม่รับโทรศัพท์ คัชพลกดใหม่อีกอย่างร้อนใจ
อีกมุมหนึ่ง สินีเดินตามมาแอบดู
“ตาใหญ่ ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ” สินีรำพึง
ที่คอนโดของวีด้า เธอกำลังแกะผม และเครื่องประดับออกจากตัว
เกรซมองโทรศัพท์วีด้าที่เรียกเข้าแล้วก็ไปหยิบดู
“แกไม่รับสายเค้าเหรอ คุณคัชพลโทรมา 20-30 มิสคอลแล้วนะ”
วีด้าหันกลับมามองด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนหันไปแกะเครื่องประดับต่อ เกรซมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 13(ต่อ)
ที่บ้านบัญชา ยศสรัลวางโทรศัพท์อย่างเหนื่อยอ่อน
“ว่าไงสรัล” สินีถาม
“เล็กไม่รับสายเลยครับ”
“ตาเล็กจะเป็นยังไงบ้าง แม่จะแจ้งความดีมั้ย แม่กลัวตาเล็กไปเกิดอุบัติเหตุ” สินีกลุ้มใจ
“ใจเย็นก่อนเถอะครับคุณแม่ ผมว่าแม่อย่าเพิ่งคิดอะไรร้ายๆเลย” ยศสรัลพูด
“เพราะนังวีด้าคนเดียว ถ้าลูกชั้นเป็นอะไรไปนะ ชั้นจะเอาเรื่องมัน” สินีพูดอย่างโมโห
ยศสรัลไม่สบายใจ “แม่ครับ แม่อย่าเพิ่งไปโทษเค้าเลยครับ มันอาจจะไม่ใช่ความผิดของเค้าก็ได้”สินีไม่ฟัง “นี่เข้าข้างมันเหรอ ทำไมต้องไปปกป้องมัน หรือว่าเราก็หลงมันอีกคน”
“แม่ครับ ผมว่าแม่กำลังโมโห แม่ใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมรู้ว่าแม่ห่วงเล็ก ผมจะไปตามเล็กกลับมาให้นะครับ” ยศสรัลบอก
สินีเริ่มสงบลง “ลองตามมาให้ได้นะลูก”
“ครับ” ยศสรัลรับคำ
ยศสรัลถอนใจเบาๆ รู้สึกหนักใจไม่น้อย
เช้าวันต่อมา ในห้องทำงานของวีด้าเธอนั่งทำงานไปสักพักแล้วหยุดคิดบางอย่าง จึงกดอินเตอร์คอมสั่งเลขา“เช็คให้หน่อยค่ะว่าคุณธัญกรมาทำงานรึเปล่า”
“ได้ค่ะ”
ครู่หนึ่งเลขาก็เดินเข้ามา”คุณวีด้าคะ คุณธัญกรไม่มาทำงาน”
วีด้าพยักหน้ารับ
“แต่คุณคัชพลมาค่ะ” เลขารายงานต่อ
วีด้าอึ้ง
ที่ห้องรับแขกในห้องทำงานวีด้า คัชพลกำลังพยายามง้อวีด้า
“ผมขอโทษแทนแม่ด้วยนะครับ ผมจะพูดกับแม่ให้เข้าใจ เราจะหาฤกษ์หมั้นกันอีกครั้ง ผมให้คนทำจดหมายขอโทษแขกไปหมดแล้ว คุณไม่ต้องห่วง เราจะหมั้นกันใหม่นะวีด้า” คัชพลบอก
“ด้าขอทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนนะคะ แล้วก็อยากให้เวลากับคุณแม่คุณ ที่จะยอมรับวีด้าอีกครั้ง เราถึงจะหมั้นกันใหม่”วีด้ากล่าวนิ่งๆ
“เอาแบบนั้นก็ได้ ผมจะรีบเคลียร์เรื่องนี้ให้เร็วที่สุดนะ” คัชพลพูด
คัชพลมองวีด้า เธอมองตอบ คัชพลหอมหน้าผากและดึงเธอเข้ามากอด ทว่าวีด้าสีหน้านิ่งเฉย
ตกกลางคืน วีด้ายืนรับลมอยู่ที่ระเบียงคอนโดนิ่งๆ แล้วถอนหายใจ
“ความจริงชั้นควรจะมีความสุขสิ”
ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านบัญชา ยศสรัลคุยโทรศัพท์กับเพื่อนธัญกร
“เล็กติดต่อพวกเธอบ้างรึเปล่า” ยศสรัลถาม แล้วนิ่งฟังคำตอบ
“ถ้าเล็กติดต่อมา บอกพี่ด้วยนะขอบใจมาก” ยศสรัลกล่าวก่อนวางสาย
“ทำไมเรื่องมันถึงวุ่นวายอย่างนี้” ยศสรัลคิดในใจ ก่อนจะคิดต่อไปว่า วีด้าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ในห้องรับแขกบ้านบัญชาทุกคนนั่งรวมกันอยู่ บัญชาคุยโทรศัพท์มือถืออย่างยิ้มแย้ม
“ขอบคุณที่เข้าใจนะครับ ผมก็เกรงใจจริงๆ (ฟัง) ครับๆ..งั้นผมขอเลี้ยงข้าวซักมื้อนะครับ (หัวเราะ) ครับ แล้วเจอกันครับ”วางสายแล้วหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ถ้าคืนนี้ตาเล็กไม่กลับบ้าน ชั้นจะแจ้งความ แล้วให้นักสืบตาม” สินีบอก
คัชพลหงุดหงิดเมื่อได้ยินชื่อน้องชาย ส่วนบัญชาได้ยินสินีพูดดังนั้นก็โมโห
“ปล่อยมันไป แล้วอย่าพูดถึงมันอีก มันไม่ใช่เด็กๆ ทำตัวไม่มีความคิด มันรู้ไม๊ ว่าชั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่กลับมาให้ชั้นเห็นหน้าน่ะดีแล้ว”
“แล้วนี่แกเคลียร์กับหนูวีด้ารึยัง” บัญชาหันไปถามคัชพล
“เรียบร้อยแล้วครับ คุณพ่อสบายใจได้ วีด้าเข้าใจทุกอย่างครับ” คัชพลตอบ
“ดีแล้ว จะได้ไม่ไปกระทบธุรกิจ”
สินีได้ยินก็ทนไม่ได้
“นี่ยังจะกลับไปคบกันอีกเหรอ มันไม่ใช่คนดี มันด่าแม่แก” สินีพูดกับลูก ก่อนหันไปฟ้องบัญชา “มันพูดกับชั้นว่า ชั้นไม่มีสิทธิ์ห้ามมัน เพราะชั้นไม่ใช่แม่มัน”
คัชพลเถียง “ก็แม่ไปตบหน้าเค้าก่อนนี่ครับ”
บัญชาหันไปมองสินี
“ก็มันสมควรโดนแล้วนี่” สินีกล่าว
“สมควรยังไง ใครเป็นคนตัดสินว่าสมควร แก่จนป่านนี้แล้ว ทำอะไรไม่คิด รักลูกผิด จนไอ้เล็กมันเสียคนนี่ไงล่ะ” บัญชาว่า
สินีถึงกับอึ้ง “คุณ…”
บัญชากล่าวต่อ “หาโอกาสไปขอโทษหนูวีด้าเค้าซะ”
สินีตกใจ ก่อนจะตอบไปว่า “ไม่มีวัน ชั้นไม่ขอโทษมันหรอก ชั้นไม่รับมันเป็นลูกสะใภ้ ชั้นจะไม่รับรู้และไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น”
บัญชาจ้องหน้าสินี สั่งอย่างเด็ดขาด “ฟังนะสินี ผมสั่ง คุณก็ต้องทำ !”
สินีฮึดฮัดโกรธสามีตัวเอง เดินสะบัดขึ้นชั้นบนไป
เช้าวันใหม่ธัญกรตื่นนอนในห้องหนึ่ง ที่คอนโดห้องชุดของรัชนา
รัชนาโผล่หน้าเข้ามาดู “นี่คุณ หายปวดหัวแล้วใช่มั้ย”
“นี่คอนโดชั้นนะ ไม่ใช่โรงแรมนะ ถามจริงเพื่อนคุณไปไหนกันหมด ทำไมต้องมาเดือนร้อนชั้น”ธัญกรงัวเงียตอบ “ผมไม่อยากให้ใครตามเจอ”
“ใครเขาจะตามเจอ เล่นหลับไปตั้งสองวันซะขนาดเนี๊ย เดี๋ยวชั้นจะไปทำงานแล้วนะ จะไปพร้อมกันเลยรึเปล่า”
“ผมยังไม่ไป” ธัญกรรู้สึกเครียด กลุ้มใจ
“ลูกเศรษฐีเค้าทำตัวกันแบบนี้เหรอ ถ้าพ่อแม่ไม่รวย นายจะทำยังไง”
“เลิกบ่นเป็นคนแก่ได้มั้ย” ธัญกรตวาด
รัชนาตกใจ อึ้ง ธัญกรเห็นเข้าก็รู้สึกผิด จึงพูดด้วยท่าทีอ่อนลง
“ฝากขอโทษคุณวีด้าแทนชั้นด้วยนะ”
“ขอโทษอะไร ขอโทษทำไม” รัชนาสงสัย
ธัญกรทำท่ารำคาญ
“ถ้าคุณไม่เล่า ชั้นก็ไม่บอกให้” รัชนาต่อรอง
“ผมทำเค้าเดือดร้อน” ธัญกรพูด
“เดือดร้อนอะไร เดือนร้อนยังไง ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“อยากรู้นักใช่มั้ย ผมไปพังงานหมั้นเค้า พอใจรึยัง” ธัญกรพูดอย่างเหลืออด
รัชนาได้ฟังดังนั้นก็อ้าปากค้าง “พังงานหมั้น” ก่อนจะเดินออกไป
ธัญกรนั่งอยู่ในรถตัวเอง ยังไม่รู้จะไปไหนดี จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เลือกที่เบอร์ยศสรัล ลังเลว่าจะโทรดีหรือไม่แต่สุดท้ายก็กดโทรออก “พี่รัล”
ยศสรัลกำลังนั่งรอธัญกรที่บ้านธัญกรเดินเข้ามา ยศสรัลเงยมอง “เล็ก”
ธัญกรหลบตาพี่ชาย เงยมองว่ามีใครอยู่ในบ้านไหม
“ไม่มีใครอยู่หรอกเล็ก” ยศสรัลตอบอย่างรู้
ธัญกรลงนั่งกับยศสรัล
“แล้วนี่จะทำยังไงต่อ พ่อกับพี่ใหญ่ยังโกรธนายมากนะ จะให้พี่ช่วยยังไงก็บอกมา”
ธัญกรส่ายหน้า “ผมมาเก็บเสื้อผ้าครับ ที่ผมโทรหาพี่ ก็แค่อยากบอกว่า ผมจะไปอยู่ข้างนอกซักพัก”
ยศสรัลอึ้ง แต่ก็เข้าใจ“คุณแม่ห่วงนายมากนะเล็ก ถ้านายทำอย่างนี้ คุณแม่ต้องเสียใจแน่ๆ”
“พี่บอกคุณแม่ด้วยว่าผมโตแล้ว ไม่ต้องห่วงพี่รัลครับผมขอโทษ ผมคงเมามากไป ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมเสียใจครับ”
“เรื่องมันเกิดไปแล้ว มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอกเล็ก พี่ไม่อยากจะโทษนายนะ แต่ยังไงนายก็ผิด”
ธัญกรก้มหน้า และพยักหน้ารับความผิดยศสรัลจับบ่าน้อง
“เอาเถอะ แต่ยังไงก็อย่าขาดการติดต่อกัน พี่จะช่วยพูดให้พ่อกับพี่ใหญ่หายโกรธแล้ววันนั้นนายต้องกลับมา ตกลงมั้ย”
ธัญกรพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
บัญชากำลังถกเครียดกับผู้เข้าประชุมและยศสรัลที่ห้องประชุมบริษัท Prime Enterprise
“เป็นไปได้ยังไงกัน ที่สัญญาต่อเรือยังไม่ส่งมาแล้วไม่คิดจะตามเช็คเลยเหรอไง ไปค้นเอกสารมาให้ชั้นดูเดียวนี้” บัญชาสั่ง
ชายคนหนึ่งรับคำอย่างกลัวๆ แล้วรีบเดินออกไป บัญชาเจ็บชายโครงจนทรุดยศสรัลรีบวิ่งเข้ามา
“คุณพ่อครับ”
“ชั้นไม่เป็นไร ไปจี้เช็คไอ้พวกนั้นดีกว่า ถ้าต่อเรือใหม่ไม่ทัน มีปัญหาแน่”
“ไปสิ !” บัญชาบอกลูกชาย
ยศสรัลเดินออกไปแต่จู่ๆบัญชาก็ปวดท้องมากจนล้มลงจากเก้าอี้
“ท่านครับ ท่าน”
“คุณพ่อ!”
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 13 (ต่อ)
บัญชานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล สินีนั่งร้องไห้
“ใจเย็นนะครับคุณแม่ รอฟังอาการจากหมอก่อน” ยศสรัลปลอบ
หมอเดินเข้ามาในห้อง
“หมอครับ คุณพ่อผมเป็นอะไรครับ” คัชพลถาม ส่วนทุกคนตั้งใจฟัง
“คนไข้มีอาการอ่อนเพลีย เป็นเพราะพักผ่อนน้อย และยังคลำพบที่ใต้ชายโครงมีก้อนบวมขึ้น หมอเลยทำ CT scan พบว่ามีก้อนเล็กๆที่ตับ ซึ่งมันมีโอกาสเป็นไปได้ ที่จะเป็นเนื้อร้าย”
“มะเร็งหรือคะคุณหมอ” สินีตกใจ
หมอพยักหน้า “จากประวัติคนไข้ เคยเป็นไวรัสตับอักเสบบีมาก่อน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งที่ตับได้ แต่เราต้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงจะให้คำตอบที่แน่นอนได้”
ทุกคนตกใจมาก
วีด้าจะเดินผ่านห้องทำงานของธัญกร แล้วหยุดมองห้องเปล่า ก่อนหันเจอรัชนา
“คุณธัญกรไม่ได้มาทำงานค่ะ”
“ชั้นรู้แล้ว”
“เอ่อ คุณธัญกร ฝากมาขอโทษคุณวีด้าด้วยค่ะ”
วีด้าแปลกใจ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็รู้ ว่าคุณเล็กอยู่ที่ไหน”
รัชนาอ้ำอึ้ง ลังเลที่จะบอก
วีด้าพยักหน้ารับรู้ “งั้นก็ฝากดูแลเขาด้วยแล้วกัน”
“แล้วคุณวีด้าไม่อยากเจอเค้าเหรอคะ”
วีด้าคิดสักครู่ก่อนตอบ “ไม่เจอน่าจะดีกว่า ชั้นไม่อยากให้เค้าเข้าใจผิดอีกแล้ว ยังไงก็ช่วยดูแลเค้าแทนชั้นหน่อยนะ”
“ได้ค่ะ” รัชนาตอบรับ
“ส่วนเรื่องงาน ถ้าเค้าไม่กลับมาทำแล้ว ชั้นจะหาคนมาทำแทน” วีด้าถอนใจ
คัชพลกับยศสรัลเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย สินีที่นั่งหลับเฝ้าบัญชาอยู่ที่โซฟาลืมตาขึ้น ส่วนบัญชากำลังหลับอยู่ แต่พอได้ยินเสียงเปิดประตู บัญชาก็ลืมตาขึ้น ถามคัชพล
“หมอให้พ่อกลับได้แล้วใช่มั้ยใหญ่”
“ยังหรอกครับ”
“อะไรกัน ทำไมหมอยังไม่ให้กลับ ก็พ่อไม่ได้เจ็บปวดอะไรแล้ว”
“หมอบอกคุณพักผ่อนน้อย ต้องตรวจละเอียด คุณก็ฟังหมอเค้าบ้างเถอะ” สินีตอบบัญชา
“โอ๊ย เสียเวลา จะตรวจอะไรนักหนา” บัญชากล่าวอย่างรำคาญ
“คุณแม่กลับไปพักก่อนเถอะครับ อยู่เฝ้ามาทั้งคืนแล้ว” คัชพลเอ่ยกับสินี
“เดี๋ยวคุณแม่กลับพร้อมผมก็ได้ นี่นายก็เล็กกำลังมาเดี๋ยวคงถึง ให้นายเล็กอยู่แทนก็ได้ครับ” ยศสรัลกล่าว
“เจอเล็กแล้วเหรอลูก เล็กเป็นยังไงบ้าง” สินีกล่าวอย่างดีใจ
“เล็กสบายดีครับคุณแม่”
“สบายดีก็บอกมัน ไม่ต้องกลับมา” บัญชาบอก
ธัญกรเปิดประตูเข้ามาได้ยินพอดี ชะงักไป
บัญชาพูดต่อ “แล้วบอกมัน ไม่ต้องมาเยี่ยมชั้น ชั้นยังไม่อยากเห็นหน้ามัน”
ธัญกรเสียใจจะปิดประตู แต่สินีหันไปเห็นธัญกรก่อน
“เล็กเดี๋ยวก่อนลูกเล็กลูกเป็นยังไงบ้าง”สินีเอ่ยพร้อมวิ่งเข้าไปจับธัญกรไว้
คัชพลสวนขึ้นมา “ยังจะมีหน้ามาอีกเหรอ ยังกล้ามาให้ชั้นเห็นหน้าอีกเหรอ”
“พี่ใหญ่ครับ นี่ในโรงพยาบาลนะครับ แล้วคุณพ่อก็ไม่สบายอยู่ด้วย” ยศสรัลปรามพี่ชาย
“ผมอยากมาขอโทษ มาเยี่ยมพ่อ แต่ถ้าไม่มีใครต้อนรับ ผมก็จะกลับ ขอให้พ่อหายเร็วๆนะครับ”ธัญกรมองหน้าคัชพล คัชพลเดินเข้าหาน้องชาย ยศสรัลและแม่ต้องขวางไว้
“ใหญ่ หยุด อย่าทำน้อง” สินีว่า
“ไอ้เล็ก แกไปให้พ้นหน้าชั้น ก่อนที่ชั้นจะชกหน้าแก แล้วอย่าให้ชั้นเห็นหน้าอีก ไม่งั้นชั้นเอาแกตายแน่”
ธัญกรโมโหเดินออกไป
สินีจะร้องไห้ ร้องเรียกลูกชาย “เล็ก…” ก่อนวิ่งตามธัญกรออกไป
ยศสรัลมองคัชพลที่กำลังโมโหแล้วบอกว่า “ผมจะออกไปดูแม่นะครับ”
ยศสรัลออกมามอง แม่กับน้องคุยกันอยู่ห่างๆ
สินีดึงแขนธัญกรไม่ให้ไป ธัญกรชี้ให้สินีกลับไปที่ยังห้อง
สินียังดึงธัญกรไว้ ขอร้องและร้องไห้ “เล็กอย่าไปเลยนะ”
“แม่ครับ”ธัญกรกอดแม่ แล้วเดินจากไป
สินีมองตามลูกชายอย่างอ่อนแรง น้ำตาไหลพราก
ยศสรัลมองภาพแม่กับน้องอย่างปวดใจ
ยศสรัลนั่งอยู่ในห้องทำงาน ทว่าไม่มีสมาธิทำงาน คิดฟุ้งซ่านจนปวดหัวก่อนตัดสินใจลุกออกไปหาวีด้า
ยศสรัลเดินดุ่มมาตามทางเดิน มาถึงหน้าห้องวีด้า ผ่านเลขาที่นั่งก้มหน้าทำงานอยู่หน้าห้อง เลขาเงยหน้ามอง
“ผมมาขอพบคุณวีด้า”
“ค่ะ” เลขารับคำแล้วเดินออกไป
ยศสรัลกอดอกยืนพิงกำแพงคอย
“เชิญค่ะ” เลขาพายศสรัลเข้ามาในห้องทำงานวีด้า
ยศสรัลเดินเข้าไปในห้อง เห็นวีด้ายืนอยู่ ยศสรัลยืนมองหน้าวีด้า ส่วนเลขาเดินออกจากห้องไป
“ผมอยากคุยกับคุณ”
“เชิญ” วีด้ารับคำอย่างสงบนิ่ง
ยศสรัลเดินเข้าไปใกล้ วีด้ายืนกอดอกฟัง ยศสรัลพยายามควบคุมสติอย่างเต็มที่
“ตอนนี้ครอบครัวผมวุ่นวายมาก พี่ใหญ่ยังทะเลาะกับนายเล็กอยู่ แม่ผมแทบจะเป็นประสาท แล้วพ่อผมก็มาป่วยเข้าโรงพยาบาล “
วีด้าได้ยิน ยิ้มเหยียด ยศสรัลชะงัก แปลกใจที่เห็นอาการวีด้าแบบนั้น แต่พยายามอดกลั้น
“ไม่ว่าคุณจะผิดหรือไม่ผิด แต่เรื่องทุกอย่างมันเกิดจากคุณ ผมขอร้องคุณนะวีด้า ถ้าคุณยังเลือกที่จะคบพี่ใหญ่ต่อไป อย่าทะเลาะกับแม่ผม ให้เกียรติท่านบ้าง อย่าติดต่อกับนายเล็กอีก อย่าให้มีเรื่องวุ่นวายมากไปกว่านี้”
“นี่ชั้นมีผลถึงขนาดนั้นเชียวเหรอคะ” วีด้าเอ่ย
ยศสรัลขบกราม “อย่ากวนประสาทผมนะ ผมมาพูดกับคุณดีๆ”
“แบบนี้เค้าไม่เรียกมาดีหรอกค่ะ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว คราวหน้าถ้าจะมา มีมารยาทมากกว่านี้หน่อย ช่วยนัดชั้นล่วงหน้าด้วย”
ยศสรัลมองหน้าวีด้า “นี่คุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดใช่มั้ย ถ้าครอบครัวผมต้องเดือดร้อนเพราะคุณอีก เราเป็นศัตรูกันแน่วีด้า”
“ออกไป” วีด้ากล่าวอย่างโกรธเคือง
ยศสรัลอึ้งด้วยความโกรธ แล้วเดินออกไป
ยศสรัลเดินออกมาที่หน้าบริษัทlogistic ด้วยอารมณ์โมโหพลุ่งพล่าน ก่อนหันไปเห็นคัชพล
ทั้งสองมองหน้ากัน คัชพลถามด้วยความแปลกใจ
“สรัล แกมาทำอะไรที่นี่”
ยศสรัลไม่ตอบ เดินออกไปด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นอยู่คัชพลมองน้องอย่างระแวง
คัชพลลงนั่งที่ห้องทำงานวีด้าแล้วถามวีด้าทันที
“สรัลมันมาทำอะไร”
“คุณก็ไปถามเค้าเองสิคะ ชั้นก็ไม่รู้ว่าเค้ามาทำไม” วีด้าตอบอย่างมึนตึง
“มันมาต่อว่าคุณใช่มั้ย”
“คุณใหญ่ควรจะไปถามน้องชายของคุณ มากกว่ามาคาดคั้นวีด้านะคะ”
“เอาเถอะ ช่างมันก็ได้ ผมมารับคุณไปทานข้าว แล้วไปเยี่ยมพ่อผมด้วยกัน โอเคนะครับ” คัชพลพยายามปรับอารมณ์
“วันนี้วีด้าไม่สะดวก มีงานต้องเคลียร์ค่ะ”
“วีด้าตอนนี้เราต้องทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นนะครับ”
วีด้าไม่สนใจและทำงานต่อ คัชพลมองวีด้าอย่างหงุดหงิด
ตกกลางคืน คัชพลนั่งคอยยศสรัลที่บ้านด้วยสีหน้าโกรธ เพราะหึงวีด้ากับยศสรัล ครู่หนึ่งยศสรัลก็เดินเข้ามา คัชพลรีบถามน้องชายทันที
“วันนี้แกแอบไปหาคุณวีด้าทำไม”
“ผมไม่ได้แอบ”
คัชพลลุกขึ้น “แล้วแกไปทำไม คิดจะแย่งวีด้า เหมือนที่ไอ้เล็กมันทำใช่มั้ย”
“พี่ใหญ่อย่าเข้าใจผิด ผมไม่สิ้นคิดอย่างนั้นหรอก”
“ชั้นไม่เชื่อ แกมาแนวเดียวกับไอ้เล็กอีกคนใช่มั้ย เห็นชั้นเป็นควายรึไง ไม่อย่างนั้น แกจะไปหาเค้าทำไม”
ยศสรัลสวนกลับทันที “ผมกลัวว่าพี่จะโดนผู้หญิงคนนี้หลอก”
“หลอกเรื่องอะไร” คัชพลถามอย่างอึ้งๆ
เมื่อยศสรัลตอบไม่ได้ คัชพลเลยยิ่งไม่เชื่อ
“แกต่างหากที่คิดจะหลอกชั้น แอบไปหาเค้า เพราะแกชอบคุณวีด้าใช่มั้ย!”
อ่านต่อตอนที่ 14