สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 14
พงษ์ธรกับจิตรดารานัดเจอกัน แต่เมื่อมาถึงที่นัดหมายเคาะห้อง กลายเป็นเขมชาติที่เดินยิ้มมาเปิดประตู จิตรดาราตกใจมาก
“ไอ้เขม”
“ใช่ แต่ไม่ใช่ไอ้เขม...คุณเขมต่างหาก ไอ้พงษ์มันให้ฉันมารอพบคนสวยแทนมัน”
“ฉันต้องการพบพงษ์เท่านั้น” จิตรดาราถอย
“แต่มันไม่ต้องการพบเธอ”
“ฉันจะกลับ”
“ไม่ได้” เขมชาติเสียงเข้มจับตัวไว้
“ปล่อยนะไอ้คนเลว” จิตรดาราสะบัด
“นี่ไงคนเลว เพราะถ้าฉันเป็นคนดีคงปล่อยเธอไปแล้ว” เขมชาติกระชาก
จิตรดาราโดนกระชากเข้าไปในห้อง เธอดิ้นรน โดนทุบตี
สองฝ่ายเดินมาถึงศาลา เข้ามาคนละทาง คุณหญิงพรรณรายพูดขึ้น
“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะรักอีริน่ามากมาย ฉันคงไม่เฉียดกรายมางานนี้”
“ถ้าไม่ใช่เพราะอยากจะทำสิ่งที่ถูกที่ต้อง ฉันก็คงปล่อยปละละเลย ไม่มาแล้ว” คุณหญิงศรินทร์ทิพย์บ่น
สองคน เดินมาคนละทางมองไปที่อีริน่ากับเจตริน
ในศาลา...อีริน่าหันมาถามเจตริน
“ทำไมพี่อิฐยังไม่มาสักที”
“นั่นสิครับ ทำไมมันมัวไปทำอะไรอยู่ ถึงชักช้านัก”
กลุ่มคุณหญิงพรรณรายมาทางหนึ่ง กลุ่มคุณหญิงศรินทร์ทิพย์มาอีกทางหนึ่ง
“ไหนขอดูหน้าแม่เธอหน่อยสิ อีริน่า”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เข้ามาหาอีริน่า จีรณัทย์ปราม
“คุณแม่ขา”
“ยายของดูรูปแม่หนูทีเถอะอีริน่า” คุณหญิงพรรณรายยิ้มให้อีริน่า
“ใจเย็นน่าคุณหญิง” นายพลกันต์ขัดขึ้น
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ กับคุณหญิงพรรณมาที่ตั้งรูปที่อีริน่ากับเจตรินจัดดอกไม้ไว้แล้วแต่กรอบรูปยังไม่มา สองคุณหญิงหน้าเหวอ
“อ้าว”
อีริน่าเข้ามาบอก
“พี่อิฐเอาไปขยายกำลังไปเอามาค่ะ”
ขณะเดียวกันนั้นเสียงอิฐดังมา
“มาแล้วครับ มาแล้ว”
อิฐหอบกรอบรูปถ่ายขนาดใหญ่เข้ามาส่งให้อีริน่า
“ผมช่วยครับ หนักนะครับ”
เจตรินช่วยอีริน่ารับรูปแล้วพลิกยกมาวางบนที่ตั้ง ครอบครัวกมลกันต์ และคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ตะลึงเหมือนกัน
คนอื่นๆทุกคนแปลกใจ อีริน่าพูดขึ้น
“คุณแม่ของอีริน่าชื่อแม่พริมค่ะ”
คุณหญิงพรรณรายผวาไปที่รูปแล้วซบหน้ากอดรูปร้อง นายพลกันต์กับกมลกันต์ตามไปติดๆไปประคอง
“พรรณวดีลูกแม่ ลูกแม่จริงๆ ทำไม ทำไมเราถึงต้องพบกันอย่างนี้”
คุณหญิงพรรณรายใจจะขาด นายพลกันต์ กับกมลกันต์น้ำตาคลอ
“พรรณวดีของพ่อ พ่อขอโทษ พ่อเสียใจ พ่อไม่สามารถตามหาลูกพบก่อนหน้านี้”
“พี่พรรณวดี โธ่” กมลกันต์น้ำตาไหล
อีริน่ายืนงง เจตรินกับ จีรณัทย์เข้าใจทันที
“แม่พริมของอีริน่าคือลูกสาวคุณลุงกันต์กับคุณป้าพรรณราย ผมจำเธอไม่ได้ ทำไมผมถึงจำเธอไม่ได้นะ”
จีรณัทย์หันมาบอก
“เพราะตอนนั้นเจตยังเล็กมาก”
“อีริน่าไม่เข้าใจ ค่ะ” อีริน่ายังงุนงง
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หน้าสลด
“พรรณวดี น้าขออโหสิด้วยเถอะ”
คุณหญิงพรรณรายผวามากอดอีริน่า นายพลกันต์กับกมลกันต์ตามมาติดๆ
“หลานยาย หลานยายจริงๆ อีริน่าเป็นหลานของยาย” คุณหญิงพรรณรายร้องไห้โฮๆ
นายพลกันต์มองหน้าอีริน่า
“คุณแม่ของหนู คือพรรณวดี ลูกสาวของเรา หนูคือหลานของเรา”
ทุกคนรุมล้อมกอดอีริน่า
“หลานยาย”
“หลานตา”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หันมาหาจีรณัทและเจตรินที่เดินมาหา
“เจตยังเด็กมากตอนที่เกิดเรื่อง เจตเลยจำพรรณวดี ไม่ได้ ยกเว้นแต่จี”
“ถ้าเพียงจีเคยเห็นรูปแม่ของอีริน่ามาก่อนหน้านี้ เราคงตามหาตายายของอีริน่าพบนานแล้ว”
อิฐยิ้มบางๆ
“ผมดีใจที่อีริน่าพบท่านทั้งสองแล้ว”
อีริน่ายังคงโดนสองคนกอด ส่วนคุณหญิงพรรณราย ร้องไห้เสียใจเรื่องพรรณวดี
เขมชาติคุกคาม จิตรดารา
“เลือกเอา จะโดนข่มขืนแล้วทำร้ายทารุณ หรือจะเอาเงินมาให้ฉันดีๆ”
“ฉันไม่มีเงินให้ใครอีกแล้ว ไอ้พงษ์มันขูดรีดไปจนหมด แม้กระทั่งเอทีเอ็ม แม่ฉันเห็นใบเรียกเก็บเงินที่ฉันรูดการ์ดให้มัน ท่านระงับการ์ดไม่ให้เงินฉันแล้ว”
เขมชาติมองไปทั่วตัวกระชากเธอมาเหวี่ยงลงไปนอนที่พื้น
“แล้วในตัวของแกนี่อะไร”
“แกจะทำอะไรฉัน”
“ไม่มีเวลาทำอะไรแก แค่มีเวลาซ้อมและชิงทรัพย์แก ให้แกเอาไปโกหกแม่แกพี่แกว่าโดนจี้ชิงทรัพย์ เท่านั้นก็พอแล้ว”
“ไอ้คนเลว ไอ้คนไม่มีความดีเป็นของตัวเอง ไอ้คนมีแต่ความเลวเท่านั้นที่ติดตัวแกมาตั้งแต่เกิด”
เขมชาติทุบตีจิตรดารา
“ปากเสีย ปากกล้าแบบนี้นี่เล่าไอ้พงษ์มันถึงไม่เอาจริง”
จิตรดาราปกป้องตัวเอง เขมชาติทุบแล้วกระชากสร้อยแหวนกำไลนาฬิกาไปจากตัวของจิตรดาราจนเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง
“แกมันสัตว์เดียรฉานในร่างคน แกไม่ตายดีแน่”
“แกอยากตายทั้งเป็นเหรอ เดี๋ยวฉันจะเอาแกไปขายตัว”
จิตรดารากรี๊ดๆ แล้วตะกายหนี
“ไม่นะ ไม่นะ”
เขมชาติหัวเราะ
“ไปหาที่แจ้งความตอนนี้เลยคนสวย คนเขาจะได้รู้ว่าแกหมดตัวเพราะโดนแมงดาปอกลอก”
จิตรดาราวิ่งหนีออกไปนอกห้อง เขมชาติยกของในมือมามอง ยิ้มๆ
“หลายเงินแหละวะ รอดไปได้อีกพักนึง”
พิธีทางศาสนาจบแล้ว ทุกคนมายืนหน้ารูปของพรรณวดี
“แม่พริมขา อีริน่าพบคุณตายคุณยายแล้วค่ะ” อีรีน่าบอกกับรูปแม่
“พรรณวดีลูกรักของแม่ หัวใจแม่สลาย ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก แต่แม่ขอบใจลูกรัก ที่มอบของขวัญล้ำค่ามาให้แม่ อีริน่า เป็นสิ่งล่ำค่าที่สุดในชีวิตของแม่” คุณหญิงพรรณรายสะอื้น
“พ่อเองก็หัวใจสลายมาตั้งแต่ลูกจากไป เราอยากพบลูกเพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอีก แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ พ่อขอบใจที่ลูกฝากอีริน่ามาเป็นตัวแทนของลูก” นายพลกันต์ยิ้มให้ภาพถ่ายลูกสาว
“พี่พรรณวดีครับ ผมรักพี่ ผมจะดูแลหลานให้ดีที่สุดครับ” กมลกันต์ให้คำมั่นสัญญา
“แม่พริมขา อีริน่าใจจะขาด แต่อีริน่าจะจำคำสั่งสอนของแม่พริมเอาไว้ประพฤติปฏิบัติตัวต่อไปค่ะ”
อีริน่ายกมือไหว้รูปแล้วก้มลงไปกอด...
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์รู้ว่าอีริน่าไม่ใช่เด็กข้างถนนแต่มีชาติ มีตระกูล รู้สึกดีขึ้นมาก แต่วางฟอร์ม
“แม่ก็ว่าแล้ว ว่าลูกแม่ค้าอะไรมันจะเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องได้ขนาดนี้”
“อ้าว คุณแม่” จีรณัทย์อึ้งๆ
“คุณแม่ไม่โกรธหรือครับ ที่อีริน่าเป็นหลานของคุณลุงกันต์ กับคุณป้าพรรณ” เจตรินถามอย่างสงสัย
“แม่แก่มากแล้วมันต้องรู้จักปลง แม่ทำใจแล้ว นี่ก็อโหสิกรรมกับพรรณวดีไปแล้ว”
เจตรินกับจีรณัทย์มองหน้ากัน
“แล้วยังไง แบบนี้อีริน่ามิต้องห่างเหินบ้านเราหรือนี่” จีรณัทย์เปรยๆ
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หันมาบอกเจตริน
“มันจะดูไม่ดีนะ ผัวไปทาง เมียไปทาง แม่จะไปบอกให้อีริน่ากลับบ้านเรา”
ลูกน้องพงษ์ธรส่งซองให้ อารดาส่งซองเงินตอบให้แล้วรีบหันกลับเข้าบ้าน แหววแอบมองครุ่นคิดในใจ
“คุณอารดารับอะไรส่งอะไรกันนะ ดูไม่น่าเป็นเรื่องดีแน่ๆ ทำยังไงดี ต้องไปเตือนคุณจี”
แหววไม่ไว้ใจ
ในศาลาวัด...คุณหญิงพรรณรายยังเกาะกอดอีริน่าไว้ราวกับกลัวจะหลุดลอย อีริน่าก็เช่นกันดีใจที่สองคนกลายเป็นตายายจริงๆ
“กลับบ้านเรานะหลาน”
“เอ้อ แล้วบ้านเจตเขาจะว่ายังไงล่ะ” นายพลกันต์ขัดขึ้น
“ฉันไม่สนใจ นี่หลานฉัน ก็ต้องอยู่กับเรา”
“เอ้า ก็เขามีสามีแล้วน่ะ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เดินนำเจตรินและจีรณัทย์มายิ้มให้อีริน่า
“อีริน่า กลับบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
อีริน่าอึกอัก
“เอ้อ...”
คุณหญิงพรรณรายรีบบอก
“อีริน่าจะกลับบ้านแม่ตัวเองจ้ะ ศรินทร์”
“เข้าใจผิดแล้วนะจ้ะ พรรณราย ภรรยาต้องอยู่กับสามี”
เจตรินแทรกขึ้น
“คืออย่างนี้ครับ อีริน่ากับผมตกลงกันไว้แล้วว่าอีกเจ็ดวันอีริน่าจะกลับบ้านครับ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ขัดใจ
“เอ๊ะ เจต ทำอะไรไม่ปรึกษาแม่”
จีรณัทย์กระซิบ
“คุณแม่ขา อารดาอยู่อีก 7 วันนะคะ ขืนมาเจอกัน มันจะยุ่งมากนะคะ”
อีริน่าบอกกับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์น้ำเสียงอ่อนโยน
“คุณหญิงขา อีริน่าจะกลับไปค่ะ ขอเวลาแค่ 7 วันนะคะ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หน้าตึง แต่คุณหญิงพรรณรายยิ้ม
พงษ์ธรรับเงินจากสมุนที่ได้มาจากอารดา
“ห้าหมื่นครบมั้ย”
“ครบครับลูกพี่ ขอค่ารถผมบ้าง”
พงษ์ธรส่งให้พันบาท โบกมือให้สมุนกลับได้ พงษ์ธรจะเดินเข้าคอนโด เจอสมุนเฮียสามคนมาล้อมกรอบ
“นายให้มาทวงนี้”
“หนี้การพนัน ไม่มีใครเขาทวงกันเอาเป็นเอาตายหรอก”
“แต่เฮียบอกว่าเอาตายแน่ ถ้าแกไม่คืนเงินให้เฮีย ค้นตัวมัน”
สมุนค้นตัว จับพงษ์ธรขึงพืด เจอเงินห้าหมื่นเอากลับไป พงษ์ธรร้องลั่น
“เฮ้ย ฉันมีแค่นั้นเอง”
“นี่แค่ค่าดอกเบี้ยที่แกไม่ยอมส่ง เฮียบอกว่า อีกสี่แสนต้องได้ก่อนเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้”
“อีกเดือนได้ไหม”
“ได้นี่ไง”
สมุนสามคนรุมซ้อมพงษ์ธร
อารดาทำตัวน่ารักเอาน้ำมาเสิร์ฟ จีรณัทย์ เจตริน คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ ที่เดินเข้าบ้านมา
“น้ำค่ะ คุณหญิง พี่จี พี่เจต”
“ขอบใจมาก” คุณหญิงเชิด
“อารดาไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก” เจตรินรีบบอก
“เด็กในบ้านมีเยอะแยะ” จีรณัทย์เสริม
“ดาทำไปเพราะสำนึกผิดค่ะ ดาอยากลงโทษตัวเองค่ะ”
“ไปหาไปติดต่อที่พักบ้างหรือยังอารดา” เจตรินถามเรียบๆ
“ไปมาแล้วค่ะ แต่ยังตกลงกันไม่ได้ค่ะ”
จิตรดาราเดินเข้ามา รุ่งริ่งเยินไปทั้งตัว ร้องไห้มาด้วย คุณหญิงตกใจ
“ลูกจิต เกิดอะไรขึ้น”
“จิตโดนจี้ค่ะ”
อารดาแอบยิ้มพึมพำเบาๆ…สมน้ำหน้า...
“ตายจริง มันเอาอะไรไปบ้าง” จีรณัทย์เดินมาดูแลน้อง
“หมดทั้งตัวเลยค่ะ”
เจตรินเข้าไปดูน้องอย่างห่วงใย
“มันซ้อมเอาด้วยนี่นา ที่ไหนน่ะ แล้วไม่มีใครเห็นไม่มีใครช่วยบ้างเหรอ”
“นั่นสิ” จีรณัทย์สงสัยเช่นกัน
จิตรดาราขัดใจ
“ทำไมต้องมาซักไซร้ไล่เลียงราวกับจะเอาเรื่องจิต จิตขวัญหนีดีฝ่ออยู่นะคะ”
“นั่นสิ น้องกำลังเสียขวัญนะจี เจต” คุณหญิงปรามลูก
เจตรินมองไม่เชื่อ
“เสียขวัญหรือเสียท่ากันแน่ครับ”
“ไม่เอาน่า เจต” คุณหญิงปรามอีก
“ไหนว่าจะอบรมน้องจิตใหม่ น้องจิตเพิ่งเสียท่าไอ้นายพงษ์ธรนั่นไปมากมายนะครับ”
จีรณัทย์หน้าตาจริงจัง
“เราต้องพูดความจริงกันเรื่องน้องจิตแล้วนะคะ น้องจิตเลิกคบนายพงษ์ธรนั่นได้แล้วนะ”
“โฮ้ย ไอ้เรื่องนายพงษ์ธรนั่น มันมีคนจัดฉากมาหลอกลวงน้อง แม่ละหมั่นไส้ไม่อยากขุดคุ้ยมาว่ากันอีก”
คุณหญิงปรายตามองอารดาที่ทำก้มหน้างุดรำพึงในใจ...อีแก่บ้า มาลงกูอีกแล้ว...
“คุณแม่ครับ ถ้าตัวน้องจิตรู้ผิดชอบชั่วดี ใครจะมาหลอกกันได้ครับ” เจตรินแย้ง
“ไปแจ้งความดีมั้ยคะ” จีรณัทย์แนะ
“ว๊าย อย่านะคะ” จิตรดารารีบห้าม
“ใช่ เราจะไปแจ้งความให้เสียหายถึงวงศ์ตระกูลไม่ได้นะ” คุณหญิงรีบเสริม
เจตรินจ้องหน้าน้องสาว
“ถามจริงๆ นายพงษ์ธรหรือเปล่าที่ทำร้ายน้องจิต”
จิตรดาราปฏิเสธทันที
“ไม่ใช่คะ ถ้าเป็นเขาๆจะมาทำร้ายจิตทำไมกันคะ”
“เอาละ เลิกกันก่อน แม่ยิ่งหงุดหงิดเรื่องที่แม่เสียหน้าให้อีริน่าไปอยู่บ้านตายายเขา”
คราวนี้ อารดาทนเงียบไม่ได้ ต้องเอ่ยปากถาม
“ตายายของอีริน่า พบกันแล้วหรือคะ ดาดีใจด้วยค่ะ”
“พบกันแล้วจริงหรือคะ พบที่ไหนคะ” จิตรดาราอยากรู้
“คุณแม่ของอีริน่าไม่ใช่ขี้ข้าข้างถนนที่ทุกคนประณาม แต่เป็นคุณลุงกันต์ กับคุณป้าพรรณราย” เจตรินบอก
อารดากับจิตรดาราตกใจ
“ต๊าย”
“แม่ของอีริน่า คือคุณน้าพรรณวดี ลูกสาวของคุณลุงกับคุณป้า” จีรณัทย์เล่า
จิตรดาราชะงัก
“ตายจริง นี่เขายึดอีริน่าไปแล้วหรือคะ”
คุณหญิงปรายตามองอารดา
“เปล่าจ้ะ แต่ที่บ้านเราตอนนี้มันมีก้าง มันไม่สะดวก รอให้ก้างมันหลุดออกไปพ้นบ้านก่อน อีก 7 วัน เขาจะกลับมา”
อารดาอิจฉามาก รำพึงในใจ...นังอีริน่า แกไม่มีวันจะได้กลับมาแน่...
อัลบั้มที่นายพลกันต์เอาไปซ่อนไว้ถูกอีริน่าเปิดพลิกดูไปน้ำตาไหลไป คุณหญิงพรรณรายน้ำตานองอยู่ข้างๆ
“แม่พริมสมัยสาวๆ สวยมากนะคะ”
“ใช่จ้ะ สวยมาก ดื้อมากด้วย นี่คือบ่อเกิดของเหตุร้าย อย่างที่ตากับยายเล่าให้ฟังนั่นแหละจ้ะ”
“แล้วทำไมคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ท่านไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุทั้งที่ตำรวจชี้มูลแล้ว” อรริน่าแปลกใจ
“คงเป็นเพราะเธอเสียใจ ที่ต้องเสียน้องชายแม้จะเป็นน้องของสามีก็ตาม จึงไม่ยอมรับความจริง”
กมลกันต์ที่นั่งอยู่กับพ่อ ห่างออกไปเล่า
“แต่ตาเห็นเธออ่อนลงมาก แถมดูท่าว่าจะไม่พอใจที่หลานมาอยู่กับเรา” นายพลกันต์ออกความเห็น
“ค่ะ อีริน่าเข้าใจค่ะ คุณหญิงปากร้าย แต่จิตใจเธอไม่ได้ร้ายตามหรอกค่ะ เอ้อ...คุณตาคุณยายขา ถ้าอีริน่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไปได้มั้ยคะ”
“ได้สิ แต่ ทำไมหรือหลาน” นายพลกันต์ยิ้ม
“เอ้อ... คือ...คือ อีริน่ามีความลับจะบอกกับคุณตายคุณยายค่ะ”
สองคนพูดพร้อมกัน
“ว่ามาหลาน”
“คุณเจตแต่งงานกับอีริน่าเพื่อพาอีริน่าหนีมิคาอิล สัญญาของเราจะหมดลงทันทีที่อีริน่าหาคุณตาคุณยายพบค่ะ”
“อีริน่า” สามคนอึ้ง
อีริน่าน้ำตาซึม
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจีรณัท ตกใจแปลกใจ
“อะไรนะเจต”
“ครับมันเป็นเรื่องจริง คุณน้าพรรณวดี ขอร้องไห้ผมพาอีริน่าหนีพวกมิคาอิล แล้วพามาเมืองไทยเพื่อตามหาตายาย เราไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆครับ”
“แล้วยังไงต่อ จะหย่ากันหรือ” คุณหญิงอึ้งๆ
จีรณัทย์มองหน้าน้องชาย
“เจตอยากจะหย่าจริงๆหรือ”
“แม่ถามจริงๆ เจตก็ทำราวกับว่ารักใคร่อีริน่าจนแม่เคยอิจฉา สนิทใกล้ชิดกันถึงเพียงนั้น ไม่เคยคิดอะไรหรือมีอะไรกับอีริน่าไปแล้วหรือ” คุณหญิงจ้องหน้าลูกชาย
“เอ้อ...” เจตรินอึกอัก
“พี่ว่าอีริน่าก็มีใจกับเจตนะ อย่าหย่ากันเลย” จีรณัทย์ออกความเห็น
“มันต้องขึ้นกับอีริน่าเขาด้วยครับ”
เจตรินถอนใจ หนักใจไม่อยากเลิกกับอีริน่า...อารดาแอบฟังแล้วยิ้ม
“แบบนี้นี่เอง ดีละ ฉันต้องเอาพี่เจตคืนมาให้ตัวฉันให้เร็วที่สุด”
อารดาคิดแล้วกระหยิ่ม
อีริน่านั่งกอดรูปแม่แนบแก้ม
“อีริน่ารักแม่พริม คิดถึงแม่พริมเหลือเกินค่ะ คุณตาคุณยายน่ารักที่สุด รักอีริน่าตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าอีริน่าเป็นใคร แม่พริมสบายใจได้นะคะว่าถ้าอีริน่ากับคุณเจตหมดข้อตกลงกันแล้ว อีริน่ายังมีคุณตา คุณยาย และคุณน้ากมล ที่รักห่วงใยอีริน่ามาก แต่...”
อีริน่าเศร้า เมื่อนึกได้ว่าเธอกับเขาความสัมพันธ์กัน อีริน่าน้ำตาซึม เสียใจ
เจตรินนั่งซึมนึกถึงภาพความสุขของตัวเองกับอีริน่า
“อีริน่า นี่เราต้องเลิกรากันจริงๆแล้วหรือนี่”
มีเสียงเคาะห้อง
“ใคร”
“นมอุ่นๆค่ะ”
“ผมไมดื่ม”
“ดาตั้งใจทำมาให้เพื่อแสดงความสำนึกผิดนะคะ กรุณาดาด้วยนะคะ”
เจตรินเดินออกมาเปิดประตู หวั่นว่าอารดาจะบุกเข้ามา แต่อารดากลับถอยห่างเพียงแค่ยื่นแก้วนมให้ เจตรินรับมา
“ขอบใจ วันหลังไม่ต้องก็ได้”
“ดาเต็มใจทำค่ะขอให้ดาได้ทำดีตอบแทนบ้าง เพราะดามีเวลาแค่ 7 วันเท่านั้น อารดาขอตัวก่อนนะคะ”
อารดาถอยไป เจตรินปิดประตูห้อง
อีริน่าพูดกับตัวเอง
“เราต้องเข้มแข็ง เราต้องอดทน คุณเจตกับเราตกลงกันอย่างนั้น เราต้องทำตามข้อตกลง”
อีริน่า ก็เริ่มรู้สึกไม่สบาย กุมขมับ เซไป
“เราเป็นอะไร ทำไมเวียนหัวอย่างนี้”
อีริน่าเริ่มอยากอาเจียน
“แหวะ อะไรกันอีก”
พงษ์ธรโทรหาอารดา เธอรับสายอย่างหงุดหงิด
“โทรมาหาฉันทำไม ฉันจะนอนแล้ว”
“ฉันต้องการพบเธอพรุ่งนี้”
“ฉันไม่ต้องการพบแก”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปพบเธอ มอบคลิบวีดิโอของเธอกับฉันและเธอกับไอ้เขมให้คุณหญิง นายเจต และพี่น้องของมันรวมทั้งบริวารในบ้านดูกันให้เอิกเกริก”
อารดาโกรธมาก
“ไอ้สารเลว”
“อยากด่าอะไรก็ด่าไป พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง มาพบฉัน”
พงษ์ธรกระแทกสายปิด อารดานั่งกลุ้มใจแค้น
“ไอ้พงษ์ธร แกสมควรตายอย่างหมาข้างถนน”
อารดานอนไม่หลับ หนักใจมาก
วันใหม่...เจตรินกับจีรณัทย์มาหาอีรีน่า ที่ดูอ่อนเพลียมาก แต่ไม่มีใครติดใจคิดว่าเธอเศร้าที่แม่ตาย
“อีริน่าดูอ่อนเพลียมากนะหลาน เจตจะมารับกลับไปไม่ได้นะ ป้าจะดูแลอีริน่าเอง” คุณหญิงพรรณรายยืนยัน
เจตรินหน้าสลด
“เอ้อ ครับ ผมทราบ ผมจะมาคุยกับอีริน่าน่ะครับ”
“เจตเป็นห่วงอีริน่ามากน่ะค่ะ” จีรณัทย์ช่วยพูด
นายพลกันต์เห็นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเจตกับอีริน่าไปคุยกันสิหลาน กมล จี มีอะไรจะคุยกันก็เชิญตามสบาย พ่อกับแม่ ก็มีเรื่องคุยกันวางแผนอนาคตให้อีริน่า”
นายพลกันต์พูดจาเปิดโอกาสให้ทุกคน
อีริน่ามาคุยกับเจตรินที่มุมหนึ่ง เจตรินโอบกอดเอาใจดูแล อีริน่าเบี่ยงตัวออก
“อีริน่า ผมเป็นห่วง ไม่อยากให้เราแยกบ้านกันเลย”
“กรุณาอย่ามาโอบกอดอีริน่า ข้อตกลงของเราสองคนสิ้นสุดแล้วค่ะ อีริน่าพบคุณตาคุณยายแล้ว”
“ข้อตกลงจบตามที่พูดกันไว้ แต่รายละเอียดมันแตกต่างไปแล้วนะอีริน่า เราสองคนไม่ใช่สามีภรรยากันตามกฎหมายและตามที่ตกลงกัน แต่เราเป็นสามีภรรยากันจริงๆ”
อีริน่าจะร้องไห้ส่ายหน้า
“มันคือความผิดพลาด เผลอไผลไม่ระวังตัวของอีริน่าเองต่างหาก อีริน่าจะไม่เอามาเป็นข้อผูกมัดคุณเจตค่ะ”
“ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น ผมคิดว่าเราผูกใจกันไว้แล้ว ไม่ใช่การผูกมัด”
“คุณเจตมีสิทธิ์ทำทุกอย่างตามใจชอบ เท่าที่ผ่านมา อีริน่าขอบพระคุณมากค่ะ ถ้าคุณเจตไม่เมตตาอีริน่าก็คงไม่มีวันนี้ค่ะ”
“อีริน่าพูดอะไรอย่างนั้น เราบอกรักกันมาตั้งแต่ที่พัทยาแล้ว ทำไมกลับมากรุงเทพอีริน่าเปลี่ยนไป หนีมาอยู่ที่นี่ โดยไม่ปรึกษาผม”
“แล้วคุณเจตพาใครเข้าบ้าน ปรึกษาอีริน่าไหมคะ”
“อีริน่า ผมเข้าใจแล้วว่าอีริน่าน้อยใจ”
“อีริน่าไม่น้อยใจ อุ๊บ”
แล้วอีริน่าก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยากอาเจียน เจตรินตกใจ
“อีริน่า เป็นอะไร”
อีริน่าส่ายหน้าวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เจตรินงง
“อีริน่า ผมขอโทษ”
อีริน่าวิ่งหายไปแล้ว
นายพลกันต์กับคุณหญิงพรรณรายมาแอบดูหนุ่มสาวนั่งสังเกตการณ์ยิ้มย่อง
“มีความสุขมากนะคะ ที่เห็นพวกลูกๆหลานๆ เขามีความสุข”
“ใช่จ้ะผมก็มีความสุข ที่เห็นคุณหญิงมีความสุข เอ๊ะ นั่น อีริน่าเป็นอะไร”
อีริน่าวิ่งผ่านไปไม่เห็นสองคน
“เมื่อกี้ก็ยังเห็นแกดีๆอยู่นะ ทำไมวิ่งหนีตาเจตเอาดื้อๆ”
“หนุ่มสาวเขางอนกันน่ะคุณหญิง”
นายพลกันต์โอบคุณหญิงพรรณรายยิ้มย่อง
กมลกันต์กับจีรณัทย์ปรึกษากันเรื่องของตัวเอง
“เป็นโชคดีในโชคร้ายของครอบครัวผม พี่พรรณวดีจากไป แต่สิ่งที่พี่เขาทิ้งไว้คือแก้วตาดวงใจดวงใหม่ของคุณพ่อคุณแม่”
“อีริน่าน่ารักดีงามและฉลาด อีริน่าจะทำให้ชีวิตที่นี่ มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม”
“รวมทั้งหัวใจที่เบิกบานของเราสองคนด้วย ผมมองออกว่าคุณน้าศรินทร์ทิพย์อ่อนลงมาก แต่ท่านชอบเอาชนะ ท่านจึงต้องทำท่าแข็งๆเอาไว้ กลัวใครจะรู้ว่าใจอ่อน”
“ค่ะ คุณแม่อ่อนลงมาก ตั้งแต่อีริน่าไปขโมยเอกสารชั่วร้ายทำลายบ้านเรามาจากอารดา ยิ่งมาตอนนี้ อีริน่ามีชาติมีตระกูลสมใจคุณแม่ ท่านเลยชักอิจฉา คุณลุงคุณป้าขึ้นมา ท่านอยากให้อีริน่ากลับไปอยู่ที่บ้านมากค่ะ”
“ผมหวั่นใจอารดามาก เธอคนนี้ไม่ธรรมดา เหมือนแมวเก้าชีวิต ล้มแล้วลุกได้อีก”
“จีเองก็หวั่นใจค่ะ เกรงว่าเธอจะมีแผนร้ายอะไรอีก แม้ว่าเธอจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวมากขึ้น”
“ระวังเอาไว้ด้วยนะครับ เอ้อ...จีครับ” กมลกันต์จับมือเธอมากุม “ผมอยากพูดเรื่องของเรา คุณน้าท่านไม่ได้มองผม กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยสายตาแบบเมื่อก่อนแล้ว ผมคิดว่า...”
“คะ...”
“เราสองคนมีโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว”
“แหมตอนนี้บ้านจียังวุ่นวายอยู่นะคะ”
“แต่ทุกอย่างมีวันจบสิ้น คงอีกไม่นาน วันนี้คุณน้าก็ไม่ห้ามจีกับเจตมาบ้านผม อีกไม่นาน ท่านก็คงไม่ห้ามผมไปบ้านจีกับเจต”
“ค่ะ”
แล้วจู่ๆกมลกันต์ก็คุกเข่าตรงหน้าจีรณัทย์ ดึงแหวนเพชรออกมา
“แต่งงานกับผมนะครับจี”
“กมล” จีรณัทย์ตกใจ
“แหวนวงนี้ถือเป็นสัญญาหัวใจของผมกับจี ว่าเราหมั้นกันแล้ว เราจะแต่งงานกัน”
“เอ้อ...ค่ะ”
กมลกันต์สวมแหวนให้จีรณัทย์ แล้วดึงมือมาจูบ
นายพลกันต์กับคุณหญิงพรรรณรายที่นั่งแอบดูยิ้มดีใจที่เห็นสองคน ยิ้มแย้ม ใส่แหวนให้กัน
“กมลมันเก่งนะคุณหญิง ฉวยโอกาสสวมแหวนหนูจีจนได้”
“ดีสิคะ หนูจีแกเป็นเด็กเพียบพร้อม หาดีอย่างนี้ต้องงมเข็มในมหาสมุทรหากันแล้วค่ะ”
“กมลเขาโชคดีเหมือนพ่อ อย่างคุณหญิงนี่ก็ต้องงมเข็มในมหาสมุทรหาเหมือนกัน”
“อย่ามายอกันเองเลยค่ะ”
“อ้าว เจต”
เจตรินเดินหน้ามุ่ยมา
“คุณลุงคุณป้าครับ ผม เอ้อ ขอตัวกลับก่อน”
“ทำไมล่ะ” คุณหญิงแปลกใจ
“อีริน่าเป็นอะไรวิ่งหายไปทางโน้น โกรธอะไรกันหรือ”
“เอ้อ ผม ผมไม่ทราบจริงๆครับจู่ๆอีริน่าก็วิ่งไปเฉยๆ ผมรออยู่เธอก็ไม่ออกมา ผมกลับก่อนนะครับ ผมฝากด้วยนะครับ”
“ป้าจะสอบถามให้เองว่าแกมีปัญหาอะไร”
“ขอบพระคุณมากครับ เอ้อ...พี่จีคงยังไม่อยากกลับ ผมฝากให้พี่กมลพาพี่จีไปส่งบ้านด้วยนะครับ”
“แล้วคุณหญิงศรินทร์”
“คุณแม่อ่อนลงมากแล้วครับ ท่านเปรยว่าอยากเห็นความสุขของลูกๆครับ”
คุณหญิงกับนายพลกันต์พยักหน้า รับคำ พึงพอใจ เจตรินหันกลับออกไป ปรายไปในบ้าน
อีริน่าอยู่ในห้องพักแอบมองเจตรินน้ำตาคลอ
“อีริน่าจะทำยังไงดี อีริน่าไม่อยากให้ใครมองอีริน่าว่าต้องการจับคุณด้วยการ...”
อีริน่าแหวะออกมา เวียนหัวอีริน่าถอยไปนั่งพัก
คุณหญิงพรรณรายกับนายพลกันต์มายืนหน้าห้องอีริน่า ได้ยินเสียงแหวะ มองหน้ากัน
“อีริน่าท้อง”
สองคนก็โผมากอดกัน ดีใจมาก
“เราจะมีเหลน” คุณหญิงดีใจ
“เอ...แต่ถ้าอีริน่าท้อง แล้วทำไมอีริน่าต้องวิ่งหนีเจตด้วย”
“นั่นสิคะ”
คุณหญิงจะเคาะประตู แต่กันต์ดึงมือไว้
“ปล่อยไปก่อน คุณหญิง”
สองคนยิ้มมีความสุขมาก
จิตรดาราเจ็บใจอารดาไม่หาย มั่นใจว่าอารดาช่วยกันกับพงษ์ธรและเขมชาติ แกล้งให้ไปโดนจี้ จิตรดารามองเห็นอารดากำลังทำท่าลับๆล่อๆเหมือนจะออกไปนอกบ้าน เธอรีบไปดักหน้าไว้
“จะออกไปวางแผนร้ายอะไรกับไอ้แมงดาหน้าด้านสองตัว เพื่อมาเล่นงานฉันอีกใช่มั้ย”
“พูดอะไร ไม่เข้าใจเลยค่ะ น้องจิต”
“แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ โกหกตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ไม่มีใครเชื่อเธออีกแล้ว”
อารดารำพึงในใจ…นังเด็กนรกอยากจะตบให้ปากห้อย... แล้วฝืนยิ้มทำหน้าซื่อ
“น้องจิตขา พี่กำลังจะออกไปหาที่อยู่ใหม่ค่ะ ไม่มีเวลาไปนอนกับผู้ชายหรือไปวางแผนกับผู้ชายที่ไหนให้มันมาตบมาตีหรอกค่ะ”
“แล้วไอ้ที่มันหลอกฉันไปให้พบแต่กลับโดนตบโดนตีชิงเอาข้าวของไปจนหมดตัว นั่นมันไม่มีใครรู้เห็นเป็นใจวางแผนหรือ อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ดีกว่า”
“พี่ว่าเราพูดจากันไม่รู้เรื่องแล้วนะคะน้องจิต ขอทางด้วย พี่มีธุระจะออกไปทำค่ะ”
อารดาทำท่าจะเลี่ยง แต่จิตรดารากระชากไว้
“ฉันไม่ให้ไป”
อารดาเกือบจะหมดความอดทน
“ปล่อยเถอะค่ะ ขอร้อง พี่ไม่อยากมีเรื่องกับน้องจิต”
“ต่อหน้าไม่อยากมีเรื่อง แต่ลับหลังหาเรื่องมาใส่ฉัน นังหมาลอบกัด แกทำชีวิตฉันพินาศวายป่วง”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงไม่ทราบคะ กราบขอโทษหรือคะ”
“ถ้าทำได้ก็ดีนะ ฉันอยากเห็นคุณอารดาผู้ยิ่งใหญ่ ก้มลงกราบเท้าขอทางจิตดาราที่อายุน้อยกว่า”
“จะให้เรียกคนรับใช้ในบ้านมาดูเป็นพยานกันด้วยไหมคะ ว่าตอนนี้ฉันยอมหมอบราบคาบแก้วน้องจิตดาราแล้ว”
“ฉลาดคิดดีนี่ ไปเรียกมาเลย เรียกมาให้หมด”
จิตรดาราจิ้มหน้าผากอารดาจนหงาย อารดาสองมือกำแน่น ปลายเล็บจิกมาที่เนื้อจนเลือดซิบ ตาแดงกล่ำ รำพึงในใจ…อ๊าย...กูอยากจะฆ่ามึง ถ้ากูไม่คิดจะจัดการพี่ชายมึงกูไม่ทนมึงแน่ แค่ด่าคำเดียวกูก็โดดใส่มึงแล้ว นังจิตดารา...อารดาน้ำตาไหลพรากแค้นมาก จิตรดารามองแล้วหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดรองเท้าแล้วส่งให้
“โถๆเช็ดน้ำตาซะ อารดา คนสวย”
อารดาเมินหน้าหนี จิตรดาราก็ยังพยายามยื่นมาตรงหน้าหัวเราะยั่ว
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 14 (ต่อ)
แหววที่เห็นเหตุการณ์จิตรดาราเล่นงานอารดา รีบมาชวนหมู่มวล
“พวกเรารีบไปดูคุณอารดา ผู้กล้าหาญขอขมาคุณจิตดาราผู้เด็ดเดี่ยวกันเร็ว”
ศรีไม่อยากจะเชื่อ
“แกเอาอะไรมาพูดนังแหวว คุณอารดาน่ะหรือเธอจะหมดท่าขนาดนั้น”
“หมดทุกท่าล่ะป้าศรี เธอไม่มีทางไป เธอไปไม่เป็นไปแล้ว ตอนนี้มีแต่ต้องร้องคำว่าทนๆ” สมรเย้ยหยัน
“เดี๋ยวนี้เธอกล้าใช้ฉันที่ไหน อะไรอะไรก็ทำเองทั้งนั้น แม้กระทั่งเสื้อผ้า เมื่อก่อนน่ะหรือกางเกงในใส่แล้วตอนถอดออกจากตัว เธอยังกองไว้เหมือนไส้วัวไส้ควาย” หวินนินทา
“เธอให้ไปเรียนเชิญคุณหญิงให้ไปดูเป็นประจักษ์พยานด้วยนะ” แหววบอก
“โอ้โห” ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน
แหววพยักหน้า ทุกคนรีบพากันไป
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ส่ายหน้าไม่เชื่อ คนรับใช้สี่คนนั่งตรงหน้า
“ฉันไม่เชื่อพวกแกหรอก เพ้อเจ้อเอาเอง คนอย่างอารดาน่ะหรือจะยอมกราบเท้าคุณจิตดารา”
“เชื่อเถอะค่ะ” แหววยืนยัน
“โกหก”
อารดาเดินเข้ามานั่งข้างๆพวกสาวใช้ ที่พื้น
“เป็นความจริงค่ะคุณหญิง ดาต้องการกราบเท้าขอโทษคุณจิตค่ะ ที่ดาโง่บ้าไปแนะนำให้เธอรู้จักกับคนเลว”
“เธอเต็มใจหรืออารดา”
“ค่ะ ดาเต็มใจค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจนะ”
คุณหญิงลุกขึ้น อารดาลุกตาม สี่คนใช้เดินตามกันเป็นพรวน แหววนึกถึงตอนที่เห็น อารดา รับซองจากสมุนของพงษ์ธรแล้วส่งซองกลับให้ด้วย แหววครุ่นคิด
“ไม่อยากจะเชื่อ ถ้าคุณอารดาเปลี่ยนนิสัยได้ล่ะก็...”
หวินแทรกขึ้น
“พระอาทิตย์จะเปลี่ยนมาขึ้นทิศตะวันตก แล้วลงทางทิศตะวันออกแน่ๆ”
สองคนเดินตามกันต่อไป
จิตรดารายืนยื่นเท้าไปข้างหน้า อารดานั่งกัดฟันทน ตรงหน้า คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ และสี่คนใช้ยืนมอง
“เอาสิ ก้มลงกราบเท้าฉันอารดา แล้วพูดว่าขอโทษค่ะ น้องจิตดารา ที่พี่บ้าทำสารเลวกับน้อง ยกโทษให้พี่ด้วยนะคะ...พูด”
คุณหญิงเริ่มรู้สึกว่าลูกทำมากไป
“ลูกจิต แค่อารดาเขาเอ่ยปากขอโทษ ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะลูก”
“ไม่พอค่ะ”
“แต่แม่ว่า...”
อารดาขัดขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ดาเลวดาผิดไปแล้ว ดาสำนึกผิดดาทำได้ค่ะ”
จิตรดาราจ้องหน้า
“แล้วจะช้าทำไม พูดสิ”
“น้องจิตดารา พี่บ้า พี่ทำสารเลวกับน้อง ยกโทษให้พี่ด้วยนะคะ”
“ดีมาก ที่นี้ก็ก้มลงกราบ”
อารดาเริ่มพนมมือ ทุกคนเริ่มสงสาร หน้าประตูบ้าน รถของเจตรินแล่นเข้ามา อารดาปรายตามองแล้วแอบยิ้ม รำพึงในใจ
“ดีสิ พี่เจตมา เขาจะได้เห็นว่าเรายอมสยบแล้ว”
อารดาหันมาบอกจิตรดารา
“พี่เจตมา รอให้เขามาดูด้วยอีกคนสิคะ”
“ดีมาก” จิตรดาราเหยียดยิ้ม
เจตรินเดินลงมาจากรถ เห็นคนตรงนั้นเต็มไปหมด เดินตรงมา
“มีอะไรกันครับ คุณแม่”
จิตรดาราหันไปบอก
“มีการขอขมากันค่ะ อารดาสำนึกผิดมาขอกราบเท้าจิตให้ยกโทษให้ค่ะ”
“อะไรกัน” เจตรินชะงัก
อารดาตีหน้าเศร้า
“ค่ะ ดาจะทำอย่างนั้นจริงๆค่ะ”
“อย่านะ” เจตรินรีบห้าม
แต่อารดาก้มลงไปแล้ว เจตรินปราดมาดึงแขนอารดาไว้ จิตรดาราไม่พอใจ
“พี่เจตน่ะ”
“ให้ดาทำเถอะค่ะ”
“ไม่ได้ ที่นี่บ้านคนที่มีอารยธรรม ไม่ใช่บ้านคนเถื่อน จะให้ใครมากราบเท้าขอโทษใครง่ายๆไม่ได้ เพราะทุกคนมีความเป็นคนเท่าเทียมกัน ห้ามทำลายความชอบธรรมในความเป็นคนของคนอื่นเด็ดขาด...อารดา ลุกได้แล้ว”
อารดาหันไปกราบเท้าเจตรินทันที
“ขอบพระคุณค่ะ”
อารดาลุกขึ้น ทุกคนโล่งอก เจตรินหันไปตำหนิคุณหญิง
“ทำไมคุณแม่ไม่ห้ามน้องจิตครับ” เจตรินหันไปบอกอารดา “อารดาไปได้แล้ว”
“ค่ะ ดาขออนุญาตไปหาที่พักก่อนนะคะ ถ้าหาได้ก่อนเจ็ดวันดาจะไปก่อนทันทีค่ะ”
อารดาทำตัวลีบเดินออกไป ทุกคนมองตามเห็นใจไม่น้อย
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์รีบแก้ตัวกับเจตริน
“เห็นแล้วก็เวทนาอารดานะ”
“เวทนาแล้วทำไมคุณแม่ไม่ห้ามน้องจิต ไม่ห้ามอารดาว่าไม่ต้องทำขนาดนั้นครับ”
“แม่บอกอารดาแล้ว แต่เขาไม่ฟัง จะทำให้ได้”
“น้องจิต รู้ไหมว่าทำให้คนเขาอับอายขายหน้าอย่างนั้นมันไม่ดีเลย อย่าทำอีกนะ”
จิตรดาราไม่พอใจ
“นี่พี่เจตยังห่วงใยนังอารดามันอีกหรือคะ”
“พี่ห่วงใยความเป็นมนุษย์ของทุกคน อย่าทำร้ายคนด้วยการทำให้เขาอับอายขายหน้าอีก”
“แต่อารดามันก็ร้ายกาจนัก มันแนะนำให้น้องรู้จักกับไอ้นายพงษ์”
“แต่น้องจิตก็ต้องรักศักดิ์ศรีของตัวเองด้วยครับ อย่าไปโทษเขาฝ่ายเดียว โทษตัวเราเองบ้างเถอะครับ”
จิตรดาราเดินสะบัดออกไป คุณหญิงหันมาถาม
“ทำไมอีริน่าไม่กลับมาด้วย หรือคิดว่าจะไม่กลับมาแล้ว”
“ก็อย่างที่ผมบอกคุณแม่แล้ว ว่าผมกับเขาตกลงกันไว้แล้ว”
“ถ้าเกิดอีริน่าท้องล่ะ”
เจตรินนิ่งไป
อีริน่าน้ำตาไหล คุณหญิงพรรณโอบกอดยิ้มแย้ม
“ท้องจริงๆด้วยค่ะคุณยาย”
“ยายดีใจมาก ยายจะเลี้ยงเหลนเอง อีริน่าอย่าเลิกรากับเจตนะหลาน”
“ไม่ได้ค่ะ เราสัญญากันไว้แล้ว มันเกินเลยข้อตกลงกันนะคะ อีกอย่างเขาอาจต้องการมีอิสระ อีริน่าไม่ต้องการเอาลูกไปผูกมัดเขาค่ะ”
“เขาต้องรับผิดชอบสิ”
“อีริน่าต้องการความรับผิดชอบจากหัวใจ ไม่ใช่เพราะจำใจค่ะ”
“โธ่อีริน่า หนูดื้อเหมือนแม่ไม่มีผิด”
“อีริน่าขอร้องคุณยายอย่าบอกใครนะคะ ว่าอีริน่าท้อง อีริน่ากราบนะคะ ถ้าคุณยายไม่ตกลงอีริน่าจะกราบลากลับมอสโคว”
“อย่านะ ยายตกลงจ้ะ” คุณหญิงตกใจ
“ขอบพระคุณมากค่ะ”
อีริน่ากราบ คุณหญิงกอดไว้
ห้องพักของพงษ์ธร... อารดานอนกับพงษ์ธรไปแล้วด้วยความช้ำใจแค้นใจ
“เมื่อไหร่แกจะเลิกกดขี่ข่มเหงรีดไถฉันสักทีไอ้พงษ์ ไอ้แมงดา”
“พูดให้เพราะๆหน่อย นี่ผัวนะ อารดา” พงษ์ธรกระหยิ่มยิ้มย่อง
“เชอะ แกน่ะหรือ มีสิทธิ์ใช้คำพูดนี้กับคนอื่น แมงดาอย่างแกมีแต่กล้าทำร้ายผู้หญิง”
“ปากดีนัก ขอตบสั่งสอนสักฉาดสองฉาดสิ”
พงษ์ธรตบอารดาจนกลิ้ง
“ไอ้หน้าด้าน ไอ้...”
พงษ์ธรผวามาอีก เสียงเคาะห้อง
“เปิดประตูไอ้พงษ์”
พงษ์ธรเดินไปเปิด เขมชาติเดินเข้ามา อารดารีบถอยมานั่ง เขมชาติมองอารดายิ้มให้แบบยั่วๆ
“มีอะไรอีก แกรีดไถยัยจิตดาราไปได้แล้วนี่นา”
“มันไม่พอ นังนั่นโดนแม่ริบหมดแล้ว ของติดตัวมันเอาไปขายตลาดมืด โดนกดราคาของราคาร่วมล้าน มันให้สามแสน” เขมชาติปรายตามาที่อารดา “เอามาแบ่งกันยืมบ้างสิ”
“ไม่มี จะมีก็นี่แหละ กำลังจัดการกันลงไม้ลงมือกันอยู่ ยังไม่พอเหมือนกัน”
“เฮ้อ...แกอย่าลืมนะตอนที่ฉันซื้อง่ายขายคล่อง ฉันให้แกยืมทีละเป็นแสนๆง่ายๆ ทีฉันเดือดร้อนแกอย่ามาทำเฉยเมย เห็นแก่ตัวนี่หว่า”
พงษ์ธรชักฉุน
“อ้าวเฮ้ย ทำไมมาด่ากันแบบนี้วะ”
“อ้าว จะเอายังไงกับกู”
“มึงนั่นแหละ จะเอายังไงกับกู”
สองคนเริ่มชกกัน อารดาหันไปแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเดินสะบัดออกไป
“เชิญแมงดาสองตัวกัดกันให้ตายกันไปข้างนึง”
สองคนยังคงชกกัน
อารดาแอบดักรอเขมชาติ ด้านล่างคอนโด เขมชาติลงมาในสภาพสะบักสะบอม สีหน้าโกรธพงษ์ธรมากเดินมาที่รถ อารดาโผล่มาข้างรถ
“อารดาทำไมยังไม่ไปอีก”
“ฉันรอพบคุณ”
“รอพบผม จะมาด่าเรื่องจิตรดาราหรือ”
“ให้ฉันขึ้นรถไปด้วย เราจะคุยกันต่อไม่อยากให้ไอ้หมาขี้เรื้อนมันรู้ว่า ฉันมาพบคุณ”
“ตกลง”
เขมชาติปิดประตู อารดาขึ้นไป เธอรำพึงในใจ...ไอ้พงษ์แกรู้จักอารดาคนนี้น้อยไป
รถเล่นออกไป
เขมชาติขับรถไป พูดกับอารดาอย่างรู้ทัน
“ถ้าเดาไม่ผิด คนฉลาดอย่างอารดา น่าจะกำลังคิดแผนย้อนรอยไอ้พงษ์”
“เธอขาดเงินเท่าไหร่เขม ฉันให้ฟรีๆ อารดาคนนี้แมนมากกว่าผู้ชายอย่าง ไอ้พงษ์”
“อารดา เธอกล้าจริงๆ เธอสุดยอดมาก หนึ่งแสนบาท มีให้ฉันหรือ”
“แน่นอน ไปจอดรถหน้าตู้ATM ฉันจะกดให้แต่เกินนี้ไม่ได้ เพราะฉันต้องใช้เหมือนกัน”
“โอเค แค่นี้ก็ดีถมถืดในยามยาก เพราะพวกเราต่างก็ต้องมีเรื่องราวยุ่งยากกันทุกคน ขอบใจมากอารดา”
“นั่นตู้ ATM จอดสิ”
“โอเค ฉันติดค้างเธอ แล้วฉันซึ้งน้ำใจเธออารดา จะตอบแทนให้สาสม”
อารดายิ้มรำพึงในใจ...ฉันก็จะตอบแทนทุกคนที่ทำร้ายฉันให้สาสมเหมือนกัน
อารดาลงไปจากรถ หยิบ ATM ออกมา
จิตรดารามาพบกับนิกกี้ กินอาหารด้วยกัน
“นิกกี้เธอรักอีริน่ามากใช่ไหม”
“ใช่...แต่อีริน่าไม่รักผม ไม่มีวันรักผม”
“แล้วเธอ คิดยังไง”
“ปลงสิจิตรดารา”
“เธอโกรธฉันมากไหมที่หันไปหาไอ้สารเลวพงษ์ธร แล้วเฉดหัวเธอ หลอกใช้เธอ”
“ถึงรู้ว่าโดนหลอกก็เต็มใจให้หลอก”
“เธอคิดจะมีกิ๊กใหม่หรือยัง”
“คิดสิ ผมมันคนขี้เหงา”
“เธอสนใจเรื่องถ่านไฟเก่าไหม”
นิกกี้ยิ้ม
“ฮั่นแน่ะ คิดจะมาทำตัวเป็นถ่านในไฟเก่าๆของผมหรือจิตรดารา”
“ถ้าเธอไม่รังเกียจ และยกโทษให้ฉัน”
“เอ้อ...ก็ไม่เลว แต่อย่ามาเอาจริงเอาจัง บังคับว่าเราต้องแต่งงานกันจดทะเบียนกัน”
“แน่นอน”
“โอเค”
นิกกี้ยื่นมือมา จิตรดารายื่นมือมาแล้วก็แหวะออกมา
“แหวะ”
“แหวะ หรือ” นิกกี้ชะงัก
จิตรดาราอึกอัก
“เอ้อ…”
จิตรดาราวิ่งไปหาที่อาเจียน นิกกี้ตามไป...จิตรดารากำลังอาเจียน นิกกี้ลูบหลัง ส่งน้ำให้กิน
“มีของแถมให้ถ่านไฟเก่าด้วยหรือนี่”
“จิตผิดไปแล้วนิกกี้ จิตพลาดไปแล้ว” จิตรดาราร้องไห้โฮๆ
“แล้วก็แล้วกันไปสิ เรียกกลับคืนมาได้ที่ไหน”
“แปลว่านิกกี้ให้อภัยจิต ไม่ถือสาหาความจิต”
“แน่นอน คนเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่ปรับปรุงอนาคตได้”
จิตรดาราอึ้งไป
“นิกกี้ จิตจะปรับปรุงอนาคตขอบคุณมากนิกกี้ เราจะใช้ชีวิตร่วมกันไม่ต้องมีพิธีแต่งงาน ไม่ต้องจดทะเบียน”
จิตรดาราโผไปกอดแกะมือออก
“ผมให้อภัย ผมไม่ถือสาหาความ แต่ผมไม่ต้องการจุดไฟในถ่านเก่าๆ ผมเจ็บแล้วจำ ผมโง่แล้วเอามาเป็นบทเรียน จิตดาราถ้าอยากเป็นเพื่อนกัน ต่อไปผมโอเค แต่ถ้าจะมาเป็นคู่ชีวิตกัน ผมโนเค เตี่ยผมจะประณามว่า ผมเป็นควาย”
จิตรดาราตะลึงงัน
“นิกกี้”
“กลับเนื้อกลับตัว ย้อนดูตัวเองเสียใหม่ แล้วในที่สุดจิตจะได้พบชายในฝันของจิตสักวัน ลาก่อนจิตรดารา ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนผมโทรหาผมได้ เสมอ”
นิกกี้เดินจากไป จิตรดารายืนร้องไห้ เสียใจมาก
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เขม้นมอง
“เอ๊ะนั่น ยัยจีมากับใคร ต๊าย...นี่...นี่...”
กมลกันต์เดินเข้ามาคุกเข่าไหว้
“ผมกราบครับ คุณน้า”
“มาส่งยัยจีหรือ” คุณหญิงอึ้งๆ
“ครับ”
“เจตเขารีบกลับมาก่อนค่ะคุณแม่ เขาเลยให้กมลมาส่งจีค่ะ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรกันนี่ โตๆกันแล้ว ใครจะมาส่งใคร ใครจะให้ใครมาส่งก็เรื่องของคนนั้น คนแก่อย่างแม่มีสิทธิ์อะไรไปวุ่นวาย”
“ขอบคุณมากค่ะคุณแม่” จีรณัทย์โล่งใจ
“ถ้าอย่างนั้นผมขอถือโอกาสขออนุญาตมารับจีไปทานอาหารบ้างนะครับ”
“เชิญ จะมารับกันทุกวันใครจะไปห้ามได้”
กมลกันต์ดีใจสุดๆ
“ขอบพระคุณมากครับ วันนี้ผมขอตัวก่อนครับ”
“เชิญ”
กมลกันต์ขยับจะออกไป คุณหญิงหันไปดุลูกสาว
“เอ้ายัยจีทำไมไม่ออกไปส่งแขกของเรา เขาจะหาว่าเสียมารยาท”
“คุณแม่” จีรณัทย์แปลกใจ
“ยังมาย้อนถาม ส่งแขกสิ”
“ค่ะ”
กมลกันต์กับจีรณัทย์แปลกใจมาก กำลังจะออกไป คุณหญิงเรียกไว้
“เดี๋ยว”
สองคนหยุด
“ครับ”
“ฝากสวัสดี พรรณรายกับคุณกันต์ด้วยนะ”
กมลกันต์ยิ้มยินดี
“ขอบพระคุณแทนท่านทั้งสองด้วยครับ”
กมลกันต์กับจีรณัทย์ สุดจะงุนงง มองหน้ากัน
จีรณัทย์เดินมาส่งกมลกันต์
“คุณแม่เปลี่ยนไปมากจริงๆนะคะ แต่เปลี่ยนแบบนี้ จีว่าพวกเราแฮปปี้นะคะ”
“ใช่ครับ ผมหัวใจพองโตคับอก แทบจะก้มลงกราบขออนุญาตให้คุณพ่อคุณแม่มาสู่ขอจีเลยทีเดียว”
“เกินไปค่ะ ขืนทำตัวว่องไวเกินไปคุณแม่ท่านเปลี่ยนใจขึ้นมาแย่เลยนะคะ”
กมลกันต์มองเห็นรถจิตรดารา
“นั่น น้องจิตนี่ครับ เกิดอะไรขึ้น”
จิตรดาราขับรถเข้ามาอย่างเร็วมาก แทบจะเฉี่ยวรถของกมลกันต์ที่จอดอยู่ แล้วลงจากรถ วิ่งร้องไห้เข้าบ้านไป จีรณัทย์ตกใจ
“น้องจิตมีปัญหาอีกแล้ว จีขอตัวก่อนนะคะ ส่งแค่นี้”
“เชิญครับ”
จีรณัทย์รีบเข้าบ้านไป
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์นั่งยิ้มอยู่ในบ้าน
“ทำให้คนอื่นสบายใจนี่มันมีความสุขดีออก”
จิตรดาราวิ่งแหวะมา ร้องไห้มาด้วย
“แหวะ ฮือๆ”
คุณหญิงมองแล้วงง
“ลูกจิตเป็นอะไรอีกแล้ว”
จีรณัทย์ วิ่งมาอีกคน
“น้องจิต น้องจิต”
“น้องเป็นอะไรวิ่งอาเจียนไป ร้องไห้มาด้วย”
“จีกำลังจะตามไปดูค่ะ มันดูแปลกๆ”
จีรณัทย์รีบเดินไป คุณหญิงตามไปอีกคน
จิตรดาราวิ่งไปร้องไห้แหวะไปด้วย จีรณัทย์เรียก
“น้องจิตเป็นอะไร หยุดก่อน ลงมาคุยกับพี่ก่อน”
“อย่ามายุ่งกับจิต”
“ยัยจิตหยุดก่อน ทำไมแกอาเจียนตลอดเวลา แกเป็นอะไรบอกมา”
“อย่ามายุ่งกับจิต อย่าตามมานะคะ อย่ามายุ่งอย่ามายุ่ง อยากอยู่คนเดียว ไม่มีใครรักจิต”
จีรณัทย์กับคุณหญิงพูดพร้อมกัน
“ไม่จริง”
“จริง”
จิตรดาราเถียง วิ่งขึ้นบันไดแล้วเวียนหัว
“โอ๊ย”
“น้องจิต ระวัง” จีรณัทย์ตกใจ
“ลูกจิต”
จิตรดาราเซล้มกลิ้งตกบันไดมากองตรงหน้าจีรณัทย์กับคุณหญิง ที่หวีดร้องลั่นไปหมด จิตรดารากลิ้งลงมากองที่พื้น แท้งลูกมีเลือดกองอยู่
“คุณแม่ พี่จี จิต...จิตช่วยจิตด้วย ลูกของจิต”
“ลูก” สองคนตะลึง
“นี่...นี่” จีรณัทย์หน้าตื่น
“แกแท้งลูก” คุณหญิงโพล่งออกมา
จิตรดาราร้องไห้คร่ำครวญ
“ลูกของจิต ๆ”
“คุณแม่ดูแลน้องไว้ก่อนนะคะ จีจะเรียกนานเมฆพาน้องจิตไปโรงพยาบาลค่ะ”
จีรณัทย์วิ่งออกไป คุณหญิงประคองจิตรดาราที่ร้องไห้หาลูกไม่เลิก
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไรลูกจิต แม่จะพาลูกไปหาหมอ”
“อย่าบอกใครอย่าบอกพี่เจต อย่าให้นังอารดามันรู้ มันจ้องหัวเราะเยาะจิตอยู่นะคะ ไม่อย่างนั้นจิตจะฆ่าตัวตาย”
“จ้ะ จ้ะ แม่จะไม่บอกใคร”
คุณหญิงโอบกอดจิตรดาราไว้
อารดานั่งในแท็กซี่มาจอดที่หน้าบ้านกำลังจะก้าวลง เห็นรถแล่นออกมา นายเมฆเป็นคนขับ ด้านหลังเห็น จีรณัทย์กับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ นั่งประกบจิตรดาราที่ดูเหมือนกำลังอาละวาด อารดาแปลกใจ
“นังจิตรดารามันเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก สมน้ำหน้าโดนยำโดนอัดโดนจี้มาอีกแน่ๆ”
อารดาลงมาจากรถ
เจตรินกำลังถามแหววถึงทุกคน
“คุณแม่ พี่จี น้องจิตไปไหนกันแหวว”
“แหววก็ไม่ทราบค่ะ แหววอยู่ในครัว ไม่ทราบว่าไปไหนกันหมดค่ะ”
“ดาทราบค่ะ” อารดาเดินเข้ามา
“ว่ามาสิดา”
“ดาเห็นคุณหญิงแม่นั่งรถออกไปกับพี่จี และน้องจิตค่ะ”
“ไปไหนกันนะ ทำไมไม่บอกสักคำว่าจะไปไหนกัน แล้วจะกลับมาตอนไหน”
อารดาแอบยิ้มพึมพำเบาๆ
“ขอให้มันหายไปนานๆ”
แหววหันมาถามเจตริน
“ทานอาหารเย็นเลยนะคะคุณเจต”
“ดาจะไปช่วยเตรียมอาหารให้ค่ะ” อารดารีบอาสา
“ไม่ต้อง แหววไปเตรียมอาหาร จัดสองที่ให้คุณอารดาด้วย” เจตรินขัดขึ้น
“ค่ะ”
“ดา...เอ้อไม่ทานด้วยนะคะ แต่ดาจะช่วยดูแลตอนที่พี่เจตทานค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแหววจัดที่เดียวนะคะ” แหววหันมาถาม
“ฉันสั่งว่าจัดสองที่ ดาทานข้าวเป็นเพื่อนผมนะ” เจตรินเสียงเข้ม
“เอ้อ...จะดีหรือคะ” อารดาแอบดีใจ
“ทานเถิดครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
แหววแอบทำหน้าแสยะ อารดาแอบยิ้ม
แหววอยู่ในครัว บ่นให้ศรีฟัง
“คุณเจตเป็นพวกเจ็บแล้วไม่จำ”
“เรื่องอะไรหรือ”
“เชิญชวนให้นังคุณอารดากินข้าวร่วมโต๊ะด้วยนะสิ”
“เฮ้ย จริงหรือ แล้วนังนั่นมันมิดีใจจนตัวสั่นหรือ” ศรีตาโต
“มันแปลก มันดูสงบเสงี่ยมจนเหลือเชื่อ คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันในพริบตาไม่ได้หรอก”
“ถึงว่าละสิ ต้องจับตาดูให้ดีๆนะนังแหวว”
“แล้วจู่ๆ คุณหญิงกับคุณจีก็พาคุณจิตนั่งรถหายไปไหนก็ไม่รู้ เงียบไปเลย”
“แปลกกันไปหมด ทั้งบ้าน” ศรีบ่น
สองคนจัดกับข้าวไป
โรงพยาบาล...จิตรดารานอนน้ำตาไหล จีรณัทย์กับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ปลอบโยน
“ถึงแม้ว่าเด็กคนนี้เขาจะเกิดมาจากพ่อที่เลวร้าย แต่จิตก็ยังต้องการเขาค่ะ จิตรู้แล้วว่าคนเป็นแม่รักลูกแค่ไหน จิตจะไม่ดื้อไม่อวดดีกับคุณแม่อีกแล้วค่ะ”
“เอาเถิด รักษาตัวให้หาย หมอบอกคืนนี้นอนโรงพยาบาลพักฟื้น พรุ่งนี้กลับบ้านได้”
จีรณัทย์ปลอบน้อง
“กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำตัวใหม่นะน้องจิต”
“ค่ะ คุณแม่ขา พี่จี คืนนี้นอนเป็นเพื่อนจิตที่นี่นะคะ จิต จิตกลัว”
“พี่ว่า...”
คุณหญิงแทรกทันที
“ตกลงจ้ะ จีเราสามคนไม่ได้นอนห้องเดียวกันมานานมากแล้วนะ”
“แต่เจตคงจะแปลกใจนะคะว่า เราพากันหายเงียบไปไหนหมด”
“จีโทรไปบอกน้องว่าเราพากันไปสวดมนต์ข้ามคืน พรุ่งนี้เราจะกลับบ้าน”
“หวังว่าที่บ้านคงไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น”
“ไม่มีหรอกลูก จีไม่รู้หรือว่า อารดามันลงทุนก้มลงกราบขอโทษลูกจิตต่อหน้าพวกคนรับใช้เลยแหละ”
“ค่ะ แต่จิตก็ยังเกลียดมันต่อไป อีริน่าซะอีกที่จิตเต็มใจรับมาเป็นพี่สะใภ้”
“อีริน่าเขาพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นของจริง เจตเขาตาแหลมมาก”
จีรณัทย์สบตาจิตรดารา ยิ้มขำๆ
อีริน่ารู้สึกคิดถึงเจตรินมากยกมือถือมาจะกดหาแล้ววาง แล้วจะกดกลับไปกลับมาแล้วตัดสินใจไม่ต่อสาย
“เรื่องอะไรเราต้องโทรไปถามข่าวของเขาด้วย เสียศักดิ์ศรีเชอะ เราต้องไม่อ่อนแอ”
อีริน่าน้ำตาซึม
แหววรับโทรศัพท์จากจีรณัทย์
“ค่ะคุณจี แหววจะไปเรียนคุณเจตให้ทราบค่ะ ค่ะ แหววจะเข้าไปนอนในบ้านใหญ่ค่ะ จะระแวดระวังภัยค่ะ ค่ะ ค่ะ ค่ะ”
แหววตัดสาย
“นั่นสิคะ ขึ้นชื่อว่าช้างสาร งูเห่า ขี้เต่า เมียรัก ไว้ใจได้ซะที่ไหน”
ศรีเข้ามาทุบเบาๆ
“พูดไม่เป็นแค่นจะพูด ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่าเมียรักย่ะ ไม่ใช่ขี้เต่า นี่มันยังไงใจคอคุณหญิงจะปล่อยให้คุณเจตกับคุณอารดาอยู่กันตามลำพัง สองคนหรือ”
“ท่านพากันไปจำศีล นัยว่าจะอบรมบ่มนิสัยคุณจิตให้หายซ่าด้วย คืนนี้ป้ากับฉันเข้าไปในนอนในตึกใหญ่กัน เพื่อกีดกันการคิดไม่ชอบของคุณ อารดา”
ศรีพยักหน้า
เจตรินนั่งกินอาหารบนโต๊ะ อารดายืนห่างๆ
“มาทานด้วยกันเถิดอารดา”
“ไม่ค่ะ ดาสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่อาจเอื้อม จะเจียมเนื้อเจียมตัวค่ะ”
ศรีกับแหววเดินยิ้มเข้ามา อารดาด่าในใจ…อีก้างขวางคอมาแล้ว...
“แหววมาดูความเรียบร้อยค่ะ”
“ศรีมารายงานว่าคุณหญิง คุณจี คุณจิตไปสวดมนต์ข้ามคืนค่ะ”
เจตรินแปลกใจ
“แปลก”
“ดีจริงๆ” อารดาพึมพำเบาๆ
“คุณจีสั่งให้แหววกับศรีมานอนเป็นเพื่อนคุณอารดา”
อารดารีบบอก
“ขอบใจมาก เอ้อ...ดาขอตัวไปจัดของด้านโน้นก่อนนะคะ”
“เชิญครับ”
อารดาเดินเลี่ยงออกมา แหววกับศรีมองตาม...อารดาคำรามเบาๆแค้นมาก
“อีนังแหวว อีนังศรี แกคิดว่าแกฉลาดมากนักใช่ไหมได้สิ มาลองดีกันว่าแกเป็นควายหรือว่าฉันกันแน่”
อารดาหยิบซองผงยาบางอย่างขึ้นมาดูแล้วยิ้ม
“นี่สำหรับพี่เจต”
อารดาหยิบออกมาอีกซอง
“นี่สำหรับพวกแกนังแหวว นังศรี”
อารดายิ้มร้ายกาจ
พรรณรายมาปลอบโยนอีริน่า
“อีริน่า ยายว่าหนูควรกลับไปบ้านโน้น ไปพูดกับเจตให้เข้าใจกันดีไหม”
“ไม่ค่ะ อีริน่ากลัวเข้ารู้ว่าอีริน่าท้องค่ะ”
“อีริน่าไม่อยากบอกให้เขารู้ก็ยังไม่ต้องบอก”
“แต่อีริน่าต้องหย่ากับเขาตามข้อตกลงค่ะ”
“ตอนนี้ยังไม่ได้หย่า อีริน่าควรไปปกป้องสิทธิ์ในความเป็นภรรยาของอีริน่าก่อน ยายคิดว่าอีริน่ายังไม่ควรรีบหย่า รอให้คลอดลูกก่อนหรือจะปล่อยให้ลูกคลอดออกมาแล้วไม่มีพ่อ ทั้งๆที่เขามี”
อีริน่าอึ้ง
“เอ้อ”
“อีริน่าคิดให้ดีๆนะ ยายรู้ว่าอีริน่าตั้งใจจะหย่าจริงๆ รอให้คลอดลูกก่อนได้ไหม ยายขอร้อง”
อีริน่าครุ่นคิด
“ตกลงค่ะคุณยาย”
พรรณรายกอดอีริน่าไว้
เจตรินกินอาหารเสร็จแล้ว รวบช้อน
“ขอบคุณมากดาที่มาดูแลผม แหวว ป้าศรีเก็บ...ดาไปเถิด”
“ดาเก็บเองค่ะ แหวว ศรี จะไปนอนเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่หรือ รีบไปหยิบที่นอนไปไว้ที่ห้องฉันสิ”
แหววกับศรีมองหน้ากัน แล้วพยักหน้า
“ได้ค่ะ”
สองคนลุกไป อารดาหันมาเลื่อนเก้าอี้ให้เจตริน
“เชิญค่ะ พี่เจต”
เจตริน อึดอัดที่อารดาดีเกินไป
“ขอบคุณ ไม่ต้องทำดีกับผมขนาดนี้หรอกดา เท่าที่คิดอะไรได้ก็พอแล้ว”
“ดาอยากไถ่โทษค่ะ แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีค่ะ”
เจตรินพยักหน้าเดินออกไป อารดามองตามดาหยิบซองบางอย่างมาแล้วโรยลงไปในอาหารที่พวกแหววศรีจะเอาไปกิน
“เชิญพวกแกมานอนเฝ้าฉันให้สบายนังโง่”
อารดายิ้มร้าย
แหววกับศรีหอบของมากองในห้องอารดา
“คุณจีเธอรอบคอบมาก เธอคิดถูกที่อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน” แหววบอก
“โดยเฉพาะคนอย่างคุณอารดาคนนี้”
“ฉันจะไม่หลับไม่นอน จะนอนกระแอมมันทั้งคืนให้เธอรู้ว่าเราตื่นอยู่”
“เธอจะได้ออกไปหาคุณเจตไม่ได้ แบบครั้งก่อน โชคดีที่คุณเจตเธอไม่เล่นด้วย”
“ถ้าวันไหนเธอเกิดเล่นด้วยขึ้นมาละก็ เวรกรรม กรรมไม่แบ แบไม่ออกลงไปกินข้าวจะได้รีบขึ้นมาเป็นก้าง เป็นจรเข้ขวางคลอง ขวางคอนางมารร้าย”
สองคนกระปี้กระเปร่า เดินออกไปจากห้อง
จีรณัทย์นั่งไม่สบายใจมากเรื่องอารดาต้องอยู่กับเจตตาลำพังแม้จะสั่งแหววกับศรีให้คอยดูแลแล้วก็ตาม
“อารดาไม่น่าไว้ใจที่สุดในโลก เท่าที่เคยเห็นผู้หญิงมา พอพอกับที่เจตเป็น สุภาพบุรุษที่สุดในโลกเท่าที่เคยเห็นผู้ชายมา ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอีริน่าไม่ยอมกลับมาบ้าน ทั้งที่เห็นจี๋จ๋ากับเจตดีแล้ว”
จีรณัทย์คิดสักครู่ แล้วหยิบมือถือออกมากด
“ฮัลโหล คุณป้าขา จีขอพูดกับอีริน่าค่ะ”
จีรณัทย์รอสาย
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 14 (ต่อ)
อีริน่าพูดโทรศัพท์กับจรณัทย์ คุณหญิงพรรณรายนั่งเงียบๆแต่ฟังไปด้วย
“ค่ะ พี่จีอีริน่าฟังอยู่ค่ะ”
“พี่อยากให้อีริน่ากลับบ้านไปดูแลเจต”
“เขาเป็นอะไรหรือคะ” อีริน่าตกใจ
“ไม่ค่อยสบายจ้ะ เห็นบ่นว่า ปวดหัวเครียด ไมเกรน”
“เอ้อ...แล้วทำไม ทำไม พี่จี”
“คือพี่กับคุณแม่ พาน้องจิตไปสวดมนต์ข้ามคืนจ้ะ ไม่มีใครอยู่เลย”
อีริน่ารำพึงในใจ…นอกจากอารดา...
“อารดาแม้กลับตัวกลับใจแล้ว แต่พี่ไม่ไว้ใจ อีริน่าพี่ขอร้องนะ”
“เอ้อ...”
“อีริน่า ได้โปรด”
“อีริน่าขอคิดอีกทีค่ะ”
“หวังว่าอีริน่าคงตัดสินใจทำตามที่พี่ขอร้องนะ ขอบใจมาก”
จีรณัทย์ตัดสาย อีริน่านั่งซึม
“จีโทรมามีปัญหาอะไรหรืออีริน่า” คุณหญิงถามอย่างสงสัย
“พี่จีบอกว่า เอ้อ...คุณเจตไม่ค่อยสบายไมเกรนค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นอีริน่ารีบกลับบ้านนะ ยายให้นายเอื้อไปส่ง”
“เอ้อ...”
“เอาแบบนี้ อีริน่าตัดสินใจได้บอกนานเอื้อไปส่งได้ทันที ยายจะไม่เคี่ยวเข็ญจ้ะ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณยาย”
คุณหญิงเดินออกไปบ่นๆ
“ดื้อเหมือนแม่ ไม่มีผิดเฮ้อ”
“จะโทรมาบอกเราเองสักคำก็ไม่ทำ ให้พี่จีโทรมาทำไม นี่หรือที่รัก”
อีริน่าค้อนลม
เจตรินนั่งคิดถึงอีริน่าในห้อง
“หรือว่าผู้หญิงทุกคนชอบให้ง้อๆ ไม่มีที่สุด รักก็บอกกว่าเกลียดอยากให้กอดก็ผลักไส อยากให้จูบ พอเราทำก็ตบหน้า ไม่มีอะไรจะยากแท้หยั่งถึงเท่าจิตใจมนุษย์ผู้หญิงอีกแล้ว เอาวะรักแล้วก็ต้องง้อ”
เจตรินหยิบมือถือขึ้นมา
อีริน่านั่งหงุดหงิดที่เจตรินไม่โทรมาง้องอน เธอหยิบมือถือมาต่อว่า
“เชอะ ไม่โทรอย่าโทร ไม่ง้ออย่าง้อ ใครอยากรอให้มาง้อ รอนานเกินไปแล้วนะ”
อีริน่าปิดมือถือ แล้วน้ำตาซึม
“คุณเจตใจร้ายเสียแรงรัก ดีละอยู่กับยัยอารดาหน้าตาใจร้ายเหมือนงูกองกอยที่แหววบอกไปเถิด คนอะไรชอบเห็นดอกบัวเป็นกงจักรแล้วเห็นกงจักรเป็นดอกบัว”
อีริน่าทุรนทุรายมาก ใจหนึ่งอยากไปใจหนึ่งอยากงอนต่อ
เจตรินผิดหวัง
“อีริน่าปิดมือถือไม่ยอมเปิดโอกาสให้เราง้อ โธ่ อีริน่าทำไม่ยอมให้เราอธิบายเรื่องอารดา ทีเรายังเข้าใจเรื่องนายพงษ์”
เจตรินงุ่นง่านไปหมด
อารดานั่งยิ้มมองแหววกับศรีเดินมาในห้อง หน้าตาแบบง่วงนอนมาก
“อย่ารีบนอนกันก่อนนะ ฉันอยากมีคนดูทีวีเป็นเพื่อน”
“ค่ะ” แหววหาว
“พวกเธออยากดูรายการอะไรจะเปิดให้ดู”
“อะไรก็ได้ค่ะ” ศรีหาว
อารดาเปิดทีวีให้สองคนดู สองคนดูไปหาวไปพยายามฝืน แต่ก็สัปหงก
“ง่วงจังเลย”
อารดารำพึงในใจ
“ขอให้พวกแกนอนหลับแล้วตายไปเลย ไม่ต้องฟื้นมาขัดขวางฉันอีกต่อไป”
แหววกับศรีหลับ นอนเกยก่ายไม่เป็นระเบียบอารดาหัวเราะ เดินมาเอาท้าเขี่ยสองคน
“หลับไม่ตื่นไปแล้ว นังโง่สองตัว”
อารดาเดินออกไปจากห้อง สองคนกรนครอกๆ
เขมชาติอยู่ในห้องพักพูดโทรศัพท์สั่งสมุน
“นังอีริน่ากับไอ้เจต มันรู้เห็นเหตุการณ์หลายอย่างมากเกินไป ไว้ใจไม่ได้แถมให้แปลกใจว่าทำไมมันไม่เคยพาดพิงถึงฉันฉะนั้นพวกแกเฝ้าไว้ทั้งหน้าบ้านมัน และหน้าบ้านไอ้กมลมีความเคลื่อนไหวให้รายงาน ฉันต้องการเก็บพวกมันให้หมด”
เขมชาติวางสาย ไม่สบายใจมาก
พงษ์ธรพูดโทรศัพท์กับสมุน
“ดีมาก เฝ้าเอาไว้ ใครคนไหนออกมานอกบ้านทั้งสองบ้าน จัดการให้เรียบร้อย นังอีริน่า นังอารดา นังจิตรดารา ไอ้เจต”
พงษ์ธรวางสาย
จีรณัทย์รับสายจากอีริน่า
“อีริน่าขอบใจมาก ที่อีริน่ายอมกลับบ้านไปดูแลเจต ขอบใจจริงๆจ้ะ”
จีรณัทย์วางสาย คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ถามขึ้น
“ไม่มีปัญหาใช่ไหม เราจัดการดักไว้หมดทุกทาง นังอารดามันไม่สามารถทำอะไรเลวร้ายได้แล้ว”
“ค่ะ โล่งใจไปได้แล้วค่ะคุณแม่”
“จีรอบคอบมากสมเป็นพี่คนโตของบ้าน”
“จีต้องการให้คุณแม่สบายใจที่สุดค่ะ”
“แม่ก็ต้องการให้จีสบายใจที่สุดเหมือนกัน จีแม่อยากจะบอกลูก”
“ค่ะ คุณแม่”
“เรื่องกมลกันต์”
“เอ้อ...” จีรณัทย์ชะงัก
“ไม่ต้องมาทำหน้าซีดตกใจ แม่อยากจะบอกว่า ถ้าเขาอยากมาสู่ขอจีก็รีบมาได้เพราะรอกันมานานมากแล้ว เดี๋ยวจะแก่เกินมีหลานให้แม่”
“คุณแม่” จีรณัทย์ตะลึง
คุณหญิงพยักหน้าเข้าไปโอบกอด จีรณัทย์ดีใจน้ำตาซึม แล้วกราบที่อกแม่
คุณหญิงพรรณรายมาส่งอีริน่าขึ้นรถ กลับบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์
“ดีแล้วหลาน ไปดูแลกันยามเจ็บไข้ได้ป่วย เขาสบายดีแล้ว หลานก็กลับมาได้ แล้วเรื่องหย่าร้างเอาไว้ค่อยพูดกัน”
“ค่ะ คุณยายขา อีริน่าไปเพราะเขาไม่สบายนะคะ ไม่ได้ไปเพราะไปหึงหวงเขานะคะ”
“จ้ะยายทราบ โชคดีนะหลาน พรุ่งนี้เจอกัน”
อีริน่ากราบคุณหญิง แล้วขึ้นรถ เอื้อขับออกไป
ในห้องเตรียมอาหารชั้นล่าง อารดายิ้มชงน้ำธัญพืชใส่แก้ว
“พี่เจตขา เราเกิดมาคู่กันค่ะ คู่กันแล้ว ไม่แคล้วคลาดกันหรอกค่ะ”
อารดายิ้ม
รถของอีริน่าแล่นมานอกบ้านแล้ว เอื้อพูดขึ้น
“คุณอีริน่าครับ ผมขอแนะนำว่าคุณอีริน่าควรเอนเบาะนอนดีกว่าครับ”
“ทำไมหรือนายเอื้อ”
“ผมไม่ไว้ใจไอ้พวกนั้นครับ กันไวก่อนดีกว่าแก้นะครับ”
“ตกลงนายเอื้อ”
อีริน่าเอนเบาะลง...พวกพงษ์ธรเห็นรถอีริน่าวิ่งผ่านไป
“ลูกพี่ครับมีรถออกมาแล้วจากบ้านนายพล ไอ้เอื้อขับเห็นนางอีริน่าแว่บๆแต่ตอนนี้หายไปแล้ว สั่งมาเลยครับว่าเอายังไง”
สมุนเขมชาติอยู่อีกมุมโทรหาเขมชาติ
“นายครับ นางอีริน่าออกมาจากบ้านนายพล แต่มันคงไหวตัวทัน มันหลบไปจากสายตาแล้วครับ จะให้ทำยังไง สั่งการครับ”
ในห้องพัก เจตรินยิ้มวางสายจากจีรณัทย์
“อีริน่ากำลังกลับมาดูแลเรา พี่จีสุดยอดมาก อีริน่าจ๋า จะออกไปรออีริน่าถึงหน้าบ้านเลยที่รัก”
เจตรินลุกออกไป
หน้าบ้านไอศูนทร์ศรินทร์...สมุนพงษ์ธรรับสายจากพงษ์ธร
“ครับลูกพี่ ทางนี้ยังไม่มีคนออกมา ผมจะรอรับเผื่อมันผ่านด่านทางนั้นมาครับ ครับ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับ”
สมุนเขมชาติที่อยู่อีกมุม คุยโทรศัพท์กับเขมชาติ
“ครับนายผมรออยู่ ถ้าหลุดรอดมาถึงมือผมกระหน่ำซัดให้จบงานเลยครับ”
ในห้องเตรียมอาหาร...อารดาหยิบซองยาหนึ่งขึ้นมายิ้ม
“ยาที่กินแล้วคึกคัก เสียใจด้วยนะนังอีริน่า เสียใจด้วยนะพวกผู้ดี ไอศูรย์ศรินทร์”
อารดาแกะยา โรยลงไปในน้ำธัญพืช แล้วคนให้เข้ากัน
เอื้อขับรถแล่นมาตามถนน ระหว่างทางไปบ้านไอศูรย์ศรินทร์ เอื้อปรายตาสังเกตตลอดเวลา
“เห็นอะไรผิดปกติไหมนายเอื้อ” อีรีน่าถาม
“ผมกำลังจับตาดูครับ”
“ดูอะไร”
“ถ้าจะมีใครตามเรามันน่าจะมีพวกเดียว แต่นี่มีสองพวกที่กำลังตามเราครับ”
“ฮ้า” อีรีน่าตกใจ เหลียวไปดู
“ระวังตัวไว้นะครับ ผมอาจต้องขับรถฉวัดเฉวียนมากหน่อย เพื่อความปลอดภัยของคุณอีริน่าครับ”
“โอเค”
เอื้อมองกระจกหลัง เห็นมอเตอร์ไซค์สองคันมาคนละทาง ขับตามมาด้านหลัง พุ่งมาประกบทั้งสองคันซ้ายและขวา ทั้งสองคันมีคนหนึ่งของแต่ละคัน ยกปืนขึ้นมาเล็งใส่รถของอีริน่า
“ระวังครับคุณอีริน่า”
อีริน่าหมอบแต่แอบมอง เอื้อขับรถพุ่งหนี ฉวัดเฉวียนไปมา มอเตอร์ไซค์ทั้งสองฝ่ายพุ่งใส่กันเอง ยิงใส่กันเอง
“เฮ้ย มันส่งคนมาคุ้มกัน” สมุนพงษ์ธรบอกกัน
“บ้าจริงมันมีคนคุ้มกัน” สมุนเขมชาติบ่น
มอเตอร์ไซค์ทั้งสองฝ่ายยิงกันเองอุตลุดรถล้มระเนระนาด เอื้อมองกระจกหลัง
“มันเล่นงานกันเอง เละเทะไปแล้วครับคุณอีริน่า”
“แปลกจริงมันเป็นพวกไหนกันนะ สรุปว่ามันจะมาเล่นงานกันเอง หรือมาเล่นงานเรากันแน่”
อีริน่าลุกมานั่งปกติ ขณะที่มอเตอร์ไซค์สองฝ่ายโดนยิงรถล้มบาดเจ็บระเนระนาด ทั้งสองฝ้ายพยายามลุกขึ้นมา
อารดาถือแก้วน้ำธัญพืชอุ่นมาเคาะห้องเจตริน
“พี่เจตขา”
เงียบไม่มีเสียงตอบ
“พี่เจตขา”
อารดาจึงถือโอกาสเดินเข้าไปในห้อง หาจนทั่วห้อง ไม่มีในห้อง
“พี่เจตหายไปไหน หรือว่ากำลังจะออกไปหานังอีริน่า ไม่ได้นะ”
อารดารีบพรวดออกไปจากห้อง
อารดาส่งเงินให้สมร กับหวิน
“นี่เงินเดือนของพวกแกสามเดือนล่วงหน้า”
“ฮ้า” สองคนร้องออกมาอย่างตกใจ
“แกช่วยลากอีบ้าสองคนที่มานอนกรนเหมือนผี ไปให้พ้นจากห้องฉัน”
“ลากไปไว้ที่ไหนคะ” หวินงง
“หน้าห้องก็ดีเหมือนกันนะ ฉันอยากให้มันนอนเฝ้าหน้าห้องมากกว่ามารบกวนในห้อง”
“ได้ค่ะ” สองคนรับคำ
“แล้วแกสองไปให้พ้นจากบ้านนี้ซะ”
สองคนมองหน้ากัน อารดาสั่งเสียงเข้ม
“เงินเดือนพวกแกก็ได้ไปแล้วล่วงหน้าถึงสามเดือน ถูกต้องตามกฎหมายของการไล่ออก หรือว่าจะไม่เอาตามใจแก”
“เอาค่ะ”
สองคนรีบรับปาก อารดายิ้มพอใจ
พงษ์ธรอยู่ที่คอนโด รับรายงานจากลูกน้อง
“อะไรนะ นังอีริน่ามันมีคนคุ้มกัน ยิงใส่พวกแกบาดเจ็บ พวกแกรีบหนีให้เร็วที่สุด”
พงษ์ธรกระแทกหูตัดสาย
“นายพลนั่นแน่ๆ มันให้ทหารมาคุ้มกันอีริน่า บ้าเอ๊ย”
เขมชาติรับโทรศัพท์จากลูกน้องเช่นกัน
“บ้าเอ๊ย...ทำไมวะอายุแค่สิบแปด มันรอบรู้มากมายได้ขนาดนี้ มีกองกำลังส่วนตัว ถอยโว๊ย ถอยแล้วหายไปจากประเทศไทยไปเลยพวกแก”
เขมชาติกระแทกหู แล้วกุมขมับ
“ท่าทางว่าจะไม่คอยจะดีแล้ว มีโจทย์รอบตัวอย่างนี้ ทั้งนังเชอรี่ นังเม นังจิตรดารา อารดา อีริน่า โว๊ย! จะบ้าตาย”
เจตรินทร์นั่งรออีริน่าอยู่ในห้องนั่งเล่น อารดาถือแก้วน้ำธัญพืชเข้ามา แสร้งทำตัวเรียบร้อย
“พี่เจตคะ”
“อ้าวดา คิดว่านอนไปแล้ว”
“พวกหวิน หมอน แหวว ศรี พากันไปดูทีวีหมดแล้วคะ ดาเลยอาสาเอา น้ำธัญพืชพี่เจตดื่มทุกคืนก่อนนอนมาให้พี่เจตค่ะ”
อารดายื่นแก้วให้ เจตรินรับ
“ขอบใจมากลำบากดาแท้ๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ลองชิมดูสิคะว่าดาทำดีเหมือนพวกเขาหรือเปล่า”
เจตรินมองหน้าดาดูเศร้า มีน้ำตาเอ่อท้น
“คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกดา มาสิผมจะดื่ม ดาไปนอนเถิดนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เจตริน ดื่มน้ำไปนิดหนึ่ง
“ใช้ใด้นะดา” เจตรินดื่มจนหมด
“ค่ะ…ดาขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ดาคิดว่าดาจะย้ายออกจากที่นี่คะ แม้ว่าจะยังหาที่พักไม่ได้ ดาไม่อยากทำให้อีริน่าไม่สบายใจเพราะดาค่ะ”
อารดาหันกลับ แล้วแกล้งทำล้ม
“ว๊าย”
“ดา”
อารดาทำท่าพยายามจะลุกแต่ลุกไม่ได้
“ว๊าย...แย่แล้วค่ะ”
เจตรินมีอาการจากการดื่มยา สะบัดหัวไปมา ยิ้มให้อารดาเดินตรงไปหา
“มาพี่จะช่วย”
“ว๊าย ไม่ต้องนะคะ ไม่ต้องค่ะพี่เจต ดาช่วยตัวเองได้ค่ะ”
“แต่พี่อยากช่วยจ้ะ”
เจตรินสบตา สายตาบอกว่าอยากโอบกอดเธอมากกว่า อารดาแอบยิ้มกระซิบ
“ไปที่ห้องของดาสิคะพี่เจต”
“ไปห้องพี่ดีกว่าจ้ะ”
“ไม่ดีหรอกค่ะ ไปห้องดานะคะ”
เจตรินช้อนตัวอารดาขึ้นมา อารดายิ้มอย่างพอใจ
อีริน่านั่งคิดเครียดๆอยู่ในรถ แล้วถามขึ้น
“นานเอื้อมีปืนติดตัวอยู่ไหม”
“มีครับ”
“ขอฉันด้วย”
“เอ้อ...”
“เอามาให้ฉัน ฉันยิ่งปืนแม่นกว่านายเอื้อนะ เห็นฝีมือฉันแล้วนี่น่า”
“ครับ”
เอื้อหยิบปืนส่งให้ อีริน่ารับมาถือไว้
“ฉันสงสัยว่าศัตรูพวกนั้นมันน่าจะยังมีอยู่แถวหน้าบ้านฉันอีก ระวังด้วย”
“ครับ” เอื้อพยักหน้ารับคำ
แหววและศรีนอนหน้าห้องหลับสนิท เจตรินอุ้มอารดาผ่านหน้าสองคนเข้าในห้อง อารดายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อประตูห้องปิดลง
หน้าบ้านไอศูรย์ศรินทร์...สมุนสองฝ่ายต่างได้รับคำสั่ง
“ครับลูกพี่ผมยังไม่เห็นกองกำลังของนังอีริน่าครับ ไม่ทราบว่ามันซ่อนอยู่ ที่ไหนครับ ผมจะระวังตัว แล้วหาทางเลี่ยงมันครับ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ผมก็จำเป็นครับ”
สมุนพงษ์ธรหยิบปืนมา ค่อยๆถอยหลบ ขณะเดียวกันสมุนเขมชาติก็คอยจ้องอยู่ คุยโทรศัพท์กับเขมชาติไปด้วย
“ผมว่าผมเห็นพวกมันแล้วครับ มันกำลังจ่องจะเล่นงามผม ผมต้องรีบป้องกันตัวครับ”
ที่สมุนเขมชาติชักปืนออกมา แล้วยิงทันที สมุนพงษ์ธรยิงโต้ตอบ กลายเป็นยิงกันวุ่นวาย
ในห้องอารดา...เจตรินกำลังกอดจูบอารดา ที่ยิ้มระรื่น
“ในที่สุดโลกก็อยู่ใต้ฝาเท้าอารดา”
เสียงปืนดังแว่วมาจากด้านนอก อารดาไม่สนใจ เดินไปหยิบเครื่องอัดเสียง มากดวางใกล้ๆ
“ดาจ๋า” เจตรินเมายา พูดจาอ่อนหวาน
“ทำไมทำกับดาอย่างนี้คะ”
“เพราะพี่รักดา”
อารดาก้มลงไปหอมเจตริน แล้วแกล้งโวยวาย
“ว๊าย อย่านะคะพี่เจต อย่าข่มขืนดานะคะ โอ๊ยพี่เจต”
อารดากอดหอมเจตสนุกสนาน ปากก็โวยวายไปด้วย
หน้าบ้าน....สมุนพงษ์ธร กับ สมุนเขมชาติ ยิงกัน ยิงพลางถอยพลาง เอื้อขับรถมาถึง เห็นมีการยิงกัน
“มีการยิงกัน” อีรีน่าชะเง้อมอง
“ถอยกลับไปก่อนนะครับ”
“ไม่”
อีริน่าเอาปืนออกมา
“คุณอีริน่า”
อีริน่าไม่สนใจยิงทางโน้นที ทางนี้ที สมุนพงษ์ธรร้องบอกกัน
“เฮ้ย นังตัวดีมาแล้ว พร้อมด้วยลูกปืน เป็นโอกาสให้เราถอย ถอยโว๊ย”
สมุนเขมชาติร้องบอกเช่นกัน
“อีริน่ามันมาแล้ว พวกมันมากกว่าเรา สู้ไม่ไหว ถอยก่อน”
สมุนเขมชาติถอย อีริน่าซุ่มยิงจากในรถ เสียงปืนสองข้างเงียบไปแล้ว
“พวกมันถอยไปหมดแล้วครับ คุณอีริน่า”
“เข้าบ้าน บีบแตรรถด้วยนายเอื้อ”
“ครับ”
เอื้อกดแตรรถ
เจตรินยังนัวเนียกับอารดาที่ยังแกล้งส่งเสียงห้ามเจตรินไปเรื่อยๆ
“ที่รักจ๋า”
“ดาไม่ได้รักพี่นะคะ ดาเลิกรักพี่ไปแล้ว พี่เจตต้องรักอิริน่าเท่านั้นค่ะ อย่าทำกับดาอย่างนี้นะคะ ถ้าเกิดอีริน่ารู้ ถ้าดาเกิดท้องขึ้นมา”
“พี่จะหย่ากับอีริน่า แล้วมาแต่งงานกับดา”
“เหลวไหล ไม่จริง เป็นไปไม่ได้”
“พี่สาบาน”
อารดายิ้มอย่างพอใจ
อีริน่าลงมาจากรถเห็นหวินกับสมร ถือกระเป๋าเก่าๆเตรียมเดินทางก็แปลกใจ
“หวิน หมอน จะไปไหนกัน”
“จะไปจากที่นี่แล้วค่ะ” สมรบอก
“ค่ะ คือว่าเราสองคนได้เงินเดือนจากคุณอารดาแล้วค่ะ” หวินเล่า
“ทำไมไม่อยู่จนเช้าค่อยออกไป เมื่อกี้ไม่ได้ยินเสียงปืนหรือ”
“เต็มสองหูจนแก้วหูแทบแตกเลยค่ะ”
“นั่นสิ แล้วจะไปทำไม กลับไปนอนก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยไป”
สองคนมอหน้ากัน แล้วส่ายหน้า กระซิบเบาๆ
“ขืนอยู่เดี๋ยวระเบิดลงกลางบ้านเห็นๆ ไม่ไหวละ”
“ไปตายเอาดาบหน้าเหอะ”
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 14 (ต่อ)
“ไปละค่ะ”
สองคนไหว้ลา รีบเดินลับๆล่อๆ หายไปทางประตูบ้าน
“แปลกจริงๆ ขอบใจมากนายเอื้อกลับไปเถิด”
“ครับ” เอื้อรับคำ
อีริน่าเดินต่อเข้าบ้านไป
อีรีน่าเห็นแก้วธัญพืชที่วางอยู่ อีริน่าพลิกมองไปมองมา
“แก้วเครื่องดื่มอะไรน่ะ”
อีริน่ายกมาดม แล้ววางแก้วไว้ที่เดิม อีริน่ามองไปเห็นรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านของอารดาตกอยู่กลางๆห้อง
“รองเท้าของใครกัน...”
อีริน่าเริ่มเอะใจ
ในห้องนอนอารดา...เจตรินกอดอารดาแล้วเรียกชื่ออีริน่า
“อีริน่าที่รัก”
ดาชะงักโกรธมากทันที หันไปกดเทปปิด แล้วลบคำพูดที่เรียกหาอีริน่าทิ้งทันที
“คนบ้า นอนกับคนหนึ่งกลับไปเรียกหาอีกคนหนึ่ง ต้องลบทิ้งเหลือแต่ สิ่งร้ายๆให้นังอีริน่า นังคุณหญิง กับลูกๆมันตะลึง”
“เสียงรถเข้ามาในบ้านเมื่อกี้ มีคนมาแล้ว ดีจริงๆ”
อารดาเดินย่องไปที่หน้าประตู
อีริน่าเดินกลับมากลับมาหยิบแก้วเครื่องดื่ม มาถือแล้วเดินไปเก็บไว้ในตู้ เก็บแก้ว แล้วหันกลับ จะขึ้นข้างบนไปดูเจตริน อารดาย่องมาแอบมองแล้วยิ่งยิ้มดีใจ
“นังอีริน่ามาทันเวลา เห็นฉากสำคัญพอดี”
อารดามีความสุขมากๆ ถอยจนไปยืนหน้าห้องตัวเอง อีริน่าขึ้นบนพ้นบันได เดินตรงไปที่ห้องตัวเองกับเจติน
“ประเดี๋ยวเถิดนังอีริน่าคนเก่ง แกจะโดนอารดาคนนี้บดขยี้ความเก่ง ความผยองของแกจนหมดสิ้น”
อารดายิ้มร้ายๆ ก่อนเดินแทบจะเหยียบแหววกับศรี ถอยกลับเข้าห้องตัวเอง
อีริน่าเดินมาในห้องเรียกหาเจตรินไปด้วย
“คุณเจตคะ อีริน่ามาแล้วค่ะ”
อีริน่าแปลกใจ ที่นอนยังไม่มีร่องรอยการนอน ยังปกติ
“คุณเจตยังไม่นอน...ในห้องน้ำก็ไม่มี เขาหายไปไหน ไหนว่าไม่สบาย หรือว่าออกไปหาหมอ รถก็ยังอยู่”
อีริน่าแปลกใจมาก
เจตรินยังคงพยายามไขว่คว้าอารดา
“อีริน่า อีริน่าจ๋า”
“อยากจะตบหน้านัก เรียกหามันอยู่ได้ จะรักอะไรกันหนา” อารดาหงุดหงิด
“อีริน่าจ๋า ผมอยากให้อีริน่าท้อง”
“นี่...นี่...”
อารดาตกใจ หันมาระดมทุบเจตริน
“อย่ามาทุบตีกันสิที่รัก รักกันมาทำร้ายกันทำไม”
อารดายังคงทุบตีแค้นใจมาก
อีริน่าเดินออกมาหน้าห้องปรายตามองไปทางซ้ายที ขวาที
“เอ๊ะ แหวว ป้าศรีทำไมมานอนตรงนั้น นั่นมันหน้าห้องคุณอารดานี่น่า”
อีริน่าเดินตรงไปทันที อารดาแง้มประตูแอบมอง
“เหยื่อมาติดเบ็ดเราแล้ว โชคชะตาฟ้าลิขิตสุดๆ มาสินังอีริน่า เขยิบเข้ามา”
อารดายิ้มปิดประตู
อีริน่ามาถึงที่แหววกับศรีนอนก้มลงไปนั่งเขย่าเรียก
“แหวว...ป้าศรี...ทำไมมานอนตรงนี้”
อีริน่าเขย่าสองคนไปมา สองคนสะลึมสะลือ
“ทำไมเป็นอย่างนี้ ยานอนหลับหรือเปล่า”
มีเสียงกรีดร้องมาจากในห้อง อีริน่าสะดุ้ง
“คุณอารดา”
อีริน่าผวาไปตกใจมาก
“หรือว่า มีโจรมาปล้นบ้าน”
“ช่วยด้วย...ช่วยอารดาด้วย แหวว ป้าศรีช่วยฉันด้วย”
อีริน่าไปทุบประตูห้อง
“เปิดประตูสิคะ เปิดประตูได้ไหม”
อารดาดึงทึ้งผมเผ้าตัวเอง ดึงเจตรินออกมาจากเตียง
“อีริน่า”
“อีริน่าอยู่นี่ กอดอีริน่า กอดแน่นๆนะคะ กอดอย่าปล่อยนะคะ”
เจตรินตามดามาจากเตียงกอดอารดาไว้ รัดแน่นมาก อารดากรีดร้อง
“มาข่มขืนดาทำไม ทำไมต้องมาข่มขืนกันด้วย โฮๆ”
อีริน่าได้ยินยิ่งตกใจ
“คุณอารดาโดนข่มขืน ใครมาข่มขืนเธอ”
ประตูห้องเปิดผลั๊วะออกมา พร้อมกับเสียงกรีดร้องและร้องไห้ของอารดา
“พี่เจตข่มขืนดา พี่เจตทำกับดาได้ยังไง”
“คุณเจต” อีริน่ายืนตะลึง
อารดาทำสลัดเจตริน ผวามาหาอีริน่าทรุดตัวกอดเอวร้องไห้
“ช่วยด้วยอีริน่าช่วยด้วย สามีเธอข่มขืนฉัน ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ฉันอุตส่าห์เอาสองคนนั่นมานอนขวางหน้าห้อง ทำไม ทำไม”
อารดาผวาไปตบตีแหววกับศรี
“แกสองคนเลวมาก แกไม่ยอมดูแลฉัน แกเป็นใจให้ฉันโดนข่มขืน”
เจตรินเริ่มตั้งสติดีขึ้น สะบัดหัวทุบหัวตัวเองไปมา
“อีริน่า”
อีริน่าเสียใจแค้นใจ มาตบหน้าเจตรินฉาด
“เสียแรงกลับมาดูว่าไม่สบาย ที่ไหนได้กลับทำความบัดสีน่าอับอาย”
“อีริน่า ผม...ผม...”
เจตรินจะผวามากอด อีริน่าผลักจนล้ม
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ขยะแขยง คนหลอกลวง”
อีริน่าหันวิงออกไป ดาผวามากระชากแขนไว้ อีริน่าปัดอารดาล้ม
“อีริน่า ฟังผมก่อน”
เจตรินจะวิ่งไป อารดาหันมาผลักเขาเจตล้ม
“อย่ามายุ่ง แต่งตัวแบบนี้ลงไปประจานว่าเพิ่งไปข่มขืนใครมาหรือคะ”
เจตรินอึ้งไป
อีริน่าวิ่งลงมาถึงเชิงบันไดชั้นล่าง โทรศัพท์หานิกกี้ไปด้วย
“นิกกี้ มีเรื่องด่วนมารับฉันที่บ้านไอศูรย์ศรินทร์เดี๋ยวนี้”
อารดาวิ่งมาทันกระชากแขน
“อย่าทิ้งฉัน อย่าทิ้งฉันไปหน้าตาเฉย มันต้องมีการรับผิดชอบในสิ่งพี่เจต ทำกับฉัน”
“รับผิดชอบแบบไหน” อีริน่าย้อนถาม
“หย่ากับพี่เจต เพื่อให้พี่เจตแต่งงานกับฉัน”
“ง่ายจริงๆนะ อารดาขอกันเหมือนขอขนมกิน”
“จะว่ายังไงก็ช่าง เธอจะว่ายังไงอีริน่ากับสิ่งที่เกิดขึ้น”
อีริน่าจ้องหน้าอารดา แล้วปัดมือ
“เท่าที่ฉันทราบ เธอน่าจะผ่านการโดนข่มขืนจากผู้ชายมาแล้วถึงสองคน ทำไมไม่ไปขอให้เขารับผิดชอบมาแต่งากันกับเธอ หรือขอแล้ว เขาไม่ยอมแต่งกับเธอ”
“แก นังอีริน่า ฉันจะเอาเทปเสียงการข่มขืนฉันไปให้ที่กระทรวง ไปลงหนังสือพิมพ์แล้วดูสิพวกตระกูลไอศูรย์ศรินทร์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ฉันไม่ทราบ ทราบแต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม้แต่แผนดินมาไหวเจ็ดริกเตอร์บนหน้าเธอ หน้าเธอก็ไม่สะเทือน เพราะมันหนาและด้านและแข็งมาก สึนามิยังเอาไม่อยู่กับความหน้าด้านของเธอ”
“แก่ด่าฉันหน้าด้าน ผู้ชายคนนั้นเป็นของฉันมาก่อน แต่แก่มาแย่งเขาไป ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์เอาคืน แกรอดูต่อไปก็แล้วกันว่ามันจะลงเอยยังไง แต่แก่ไม่มีวันได้ผู้ชายคนนั้นคืนแน่ นังโง่”
“เธอวางแผนทั้งหมด”
“มีหมาตัวไหนมาพิสูจน์ได้บ้าง หลักฐานมีโท่นโท่ สมน้ำหน้า นังโง่”
อีริน่าตบหน้าอารดา โดยแรง
“เลวไม่เสร็จ เลวไม่จบ เลว เลวแผ่นดินกลบหน้ายังไม่เลิก”
อารดาจะตบอีริน่าบ้าง สองคนตบตีกัน
เจตรินที่ตั้งตัวแล้วเอาน้ำมาราดใส่แหววกับศรี
“ตื่นเดี๋ยวนี้แหวว ป้าศรี”
สองคนงัวเงีย
“คนจะนอน”
“ไม่ให้นอน ตื่นขึ้นมาพูดจากันลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้ แล้พูดต่อหน้า คุณอีริน่าว่าเกิดอะไรขึ้น”
เจตกระชากแขนสองคนให้ลุก
อีริน่าเอาชนะอารดาได้แล้ว ชี้หน้าด่า
“ฉันจะถือว่าไม่มีคนอย่างเธอในโลกนี้ เธอคือเศษธุลีเน่าๆ ที่ปลิวไปมาตามพื้นต่ำเตี้ย ไม่มีค่าควรแก่การเหลือบแลสนใจ ฉันไม่สนใจเธอ เธออย่ามาแตะต้องฉันอีก”
“นังลูกโสเภณีข้างถนน”
เจตรินปราดมาเงื้อจะตบอารดา
“หยุดนะ”
แหววกับศรีปราดมาดึงมือเจตรินไว้
“ตบเองทำไมให้ฝ่ามือมัวหมองคะ”
“คนพรรค์นี้ มันต้องอย่างศรีกับแหววค่ะ”
“นังขี้ข้า” อารดาตวาด
“ขี้ข้า ก็มีความเป็นคน มีใจเป็นคน”
“นังผู้ดี มีใจเป็นสัตว์มาจากนรก” ศรีเสริม
สองคนช่วยกันตบอารดา แล้วชี้หน้า ระหว่างนั้นอีริน่าวิ่งออกไปแล้ว ไม่ทันมีใครเห็น
“มันวางยานอนหลับเรา” แหววหันไปบอกเจตริน
“อารดา เธอเลวมาก” เจตรินโกรธมาก
“ไม่ว่าใครจะพูดยังไง สิ่งสำคัญคือพี่เจตข่มขืนดา นั่นพฤติกรรมของคนดีที่ไหนกันคะ พี่เจตต้องรับผิดชอบค่ะ”
แหววกับศรีมองไปแล้วชี้
“คุณอีริน่าไปแล้วค่ะคุณเจต”
เจตรินตามไปทันที อารดาดึงแขนไว้
“อย่าทิ้งดาไปนะคะ”
เจตรินปัดมือดาออกไป
“ปล่อย”
“ให้มันรู้ไปค่ะ”
อารดาดายกหูโทรหาคุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจีรณัทย์ทันที เจตรินไม่สนใจ วิ่งนำศรี กับแหววไป
พวกเจตรินวิ่งออกมานอกบ้าน
“อีริน่า อีริน่า หายไปไหนแล้ว”
“นั่นสิคะ คุณอีริน่าขาออกมาเถิดค่ะ คุณเจตเธอโดนหลอกค่ะ” แหววร้องบอก
“คุณเจตไม่มีวันทำอย่างนั้นค่ะ” ศรีช่วยตะโกน
สามคนส่ายตาหา อีริน่าแอบหลังพุ่มไม้ ขณะเดียวกัน รถของนิกกี้มาจอด เขาลงมาจากรถยิ้มหน้าระรื่น
“มีบัญชาจากเจ้าหญิงอีริน่าให้ผมมารับเจ้าหญิง”
เจตรินไม่พอใจมาก กระชากคอเสื้อนิกกี้ อีริน่าออกมาผลักเจตริน
“ไปให้พ้น”
อีริน่าก้าวขึ้นรถ นิกกี้ยิ้มเย้ยเจตรินแล้วพุ่งออกไปทันที
“อีริน่า” เจตรินรู้สึกแย่มากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
จีรณัทย์ตะลึง กับสิ่งที่อารดาเล่า
“ไม่จริง ไม่จริง”
มีเสียงกรีดร้องดังลอดมาจากมือถือของจีรณัทย์ คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจิตรดารามองอย่างตกใจ
“อะไรน่ะ จี”
“อารดามันเป็นบ้าอะไรคะ” จิตรดาราถามอย่างสงสัย
“เขาบอกว่าเพิ่งโดนเจตข่มขืน”
คุณหญิงกับจิตรดารากรี๊ด
“ไม่จริง”
“ไม่ยอม”
“อาจจะจริงค่ะ” จีรณัทย์แย้ง
“แม่จะเป็นบ้าแล้ว” คุณหญิงร้อนใจ
“โธ่ แล้วอิรีน่าเล่า รับปากว่าจะกลับไปดูแลเจต ยังจะพวกแหววกับป้าศรีอีก”
“กลับไปกันเถิดค่ะ จิตอยู่กับนางพยาบาลได้ค่ะ จิตทนไม่ได้ที่จะให้นังมารร้ายเลวไม่เสร็จมาเป็นพี่สะใภ้จิตค่ะ โทรไปหาอีริน่าสิคะ” จิตรดาราร้อนใจ
จีรณัทย์กับคุณหญิงถอนใจหนักใจมาก
จบตอนที่ 14