xs
xsm
sm
md
lg

น่ารัก ตอนที่ 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น่ารัก ตอนที่ 8

ตอนเช้าตรู่ที่ฮวาซาใต้ ขณะที่แนวหน้าเปิดประตูห้องออกมาท่าทางง่วงเหงาหาวนอนอยู่มาก แล้วต้องชะงัก เมื่อเห็นนายเดินหน้าบูดตรงมา แนวหน้าดีใจสุดขีด

“เฮีย! มาแล้วเหรอเนี่ย พี่นายของผม”
แนวหน้าโผเข้ากอด ถูกนายผลักออก
“นี่มันอะไรของแกไอ้แนว เวอร์ไปป่ะ”
“ผมกำลังภาวนาให้พี่รีบกลับมา ไม่งั้นผมต้องตายแน่ๆ วันนี้ ผมรับมือกับพี่จีจี้พี่ฟินไม่ไหวหรอก บอกตรงๆ”
ชีฟองเดินเข้ามา หน้าตาดูออกว่ากลัดกลุ้มหนัก
“คุณแนวหน้าคะ”
แนวหน้ายิ้มทัก “มีอะไรครับคุณชีฟอง”
“คือ...องค์หญิงน่ะค่ะ ท่านไม่สบาย ท่านเวียนพระเศียร ท่านจะขอตามไปทีหลังได้มั้ยคะ”
แนวหน้าตกใจ “เวียนพระเศียร ปวดหัวน่ะเหรอ ตายแล้ว”
“เดี๋ยวชีฟองจะรีบพาพระองค์ตามไปเลยนะคะ ชีฟองขอตัวก่อน”
ชีฟองเดินจากไป แนวหน้ายังยืนนิ่ง
นายแปลกใจ “ทำไงวะ จะยกกองเลยรึเปล่า ถ้าองค์หญิงป่วยก็ไม่ควรทำงานนะ”
“แต่ลักษณะมันจะไม่ใช่การเจ็บป่วยทางกายน่ะสิเฮีย”
นายชะงัก “แกหมายความว่าอะไร”
“ผมกำลังคิดว่าองค์หญิงไม่ได้ปวดหัวจริงๆ แต่อาจจะเป็นการปวดหัวใจมากกว่า”
นายฉงน “ปวดหัวใจ”
แนวพยักหน้า นายงงๆ

สองพี่น้องอยู่ในห้อง นายนั่งอ่านบล็อกในคอมพ์ที่แนวหน้าเปิดให้ดู พร้อมกับทำหน้างุนงงสงสัย ไม่อยากเชื่อ
“แกแน่ใจเหรอไอ้แนว ว่าเจ้าหญิงโลลิต้าเป็นคนเขียนนิยายเรื่องนี้จริงๆ”
“คุณชีฟองเป็นคนบอกผมกับปากเลยแหละเฮีย”
“นี่ก็แสดงว่าองค์หญิงชอบไอ้ไผทจริงๆ”
แนวหน้าพยักหน้า “แล้วก็เข้าใจว่าขิงคือแฟนของไผทก็เลยเสียใจมาก”
นายครุ่นคิดตาม “ไม่ได้การละ ถ้าขืนปล่อยไปแบบนี้คงจะยุ่งกันใหญ่ เผลออาจจะถึงขั้นไม่ยอมถ่ายสารคดีต่อ”
“ก็นั่นแหละที่ผมกำลังกลัวที่สุดเลยแหละเฮีย ผมกำลังสงสัยนะเฮียว่าพี่จี้พาขิงมาที่นี่ ก็เพราะต้องการให้เหตุการณ์มันกลายเป็นแบบนี้”
นายอึ้ง สีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด

เวลาต่อมา แนวหน้ากับไผทยืนคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งในวัง
ไผทงงเมื่อได้ฟังข้อเสนอของแนวหน้า “อยู่ห่างๆขิง ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะพี่”
แนวหน้าเกาหัวพยายามหาเหตุผลอธิบาย “ก็แกกับขิงไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่เหรอ...แล้วจะสนิทกันมากทำไม”
“แต่ทำไมต้องห่างกันด้วยล่ะพี่...หรือว่า” ไผทคิด แล้วมองแนวหน้าอย่างรู้ทัน “พี่แนวหึง”
“เฮ้ยบ้า หึงอะไร ไม่ได้หึง” ไผทจะถามต่อ แนวหน้ารีบตัดบท “เอาละ ไม่ต้องถามมาก ตอนนี้ฉันเป็นผู้จัดการของแก! แกต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจมั้ย! รีบไปขึ้นรถได้แล้ว เร็วๆ เข้า”
แนวหน้าเดินหนีไป ไผทมองตามขำๆ คิดว่าเป็นเพราะแนวหน้าหึงขิงจริงๆ
“นี่พี่แนวยังชอบขิงอยู่จริงๆ ด้วย”
ไผทขำๆ ไม่สำเหนียกว่าตัวเองทำอะไรไป

ฟากจีจี้เดินมากับฟินอย่างรีบร้อน นายเดินตามมาขวางจีจี้ไว้
“จี้ คุณไปไม่ได้นะ ผมบอกแล้วไงว่าคุณต้องอยู่ที่นี่”
“ทำไมชั้นต้องเชื่อคุณด้วย”
“นั่นน่ะสิ ขอโทษนะคุณนายนาย ทำไมยัยจี้ต้องอยู่กับคุณที่นี่ ด้วย” ฟินท้วง
“เพราะจี้เป็นหุ้นส่วนบริษัท แล้ววันนี้ก็มีเอกสารหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ เช็คอีกตั้งหลายใบที่ต้องเซ็นคู่กับผม มันสำคัญกว่าการออกกองถ่ายเป็นไหนไหน”
“เดี๋ยวออกกองเสร็จ ฉันกลับมาเซ็นให้ก็ได้”
นายแกล้งพูดอย่างเหนือกว่า “งั้นก็ตามใจแล้วกัน...ถ้าเกิดผมทำบัญชีผิด ทำตัวเลขหายเข้าบัญชีผมไป หรือโกงนิดๆ หน่อยๆ คุณอย่ามาโวยทีหลังก็แล้วกัน”
นายเดินจากไป จีจี้เริ่มร้อนใจ
จีจี้บอกกับฟิน “หนูขอโทษนะเจ๊ เจ๊ไปกองคนเดียวนะ”
นายแอบยิ้ม แล้วหยุดรอ
ฟินโวย “อ้าว! แล้วแกจะปล่อยให้ฉันไปสู้รบปรบมือกับไอ้บ้าแนวนั่นคนเดียวเหรอ”
“เจ๊ก็พูดเกินไป น้องผมมันน่ารักจะตาย มันไม่ทำอะไรเจ๊หรอก... ถ้าเจ๊ไม่ไปทำมันก่อน” นายดึง แขนจีจี้ไป “ไปจี้!”
จีจี้ถูกนายดึงไปด้วยกัน ฟินเซ็งทำอะไรไม่ได้
“จี้...จี้” ฟินเซ็งสุดขีด แล้วเปลี่ยนเป็นฮึดสู้ “เอาวะ...เพื่อไผท ไปคนเดียวก็ได้” รีบลงบันไดไป

ฟินรีบร้อนเดินมายังรถที่จอดรออยู่ ไผทกับแนวหน้ายืนรออยู่แล้ว แนวหน้าทำหน้าเบื่อๆ
“โหย ออกกองวันแรกก็สายเลยนะเจ๊ ไหวมั้ยเนี่ย ทีมงานเค้าออกไปถึงไหนๆ ตั้งไกลแล้ว”
ฟินค้อนควักแนวหน้าไม่ใส่ใจนัก หันไปหาไผท
“ไผท กินข้าวเช้ารึยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“แล้ววิตามินล่ะ นี่ๆ” ฟินกุลีกุจอหยิบให้ “วิตามินรวม วิตามินอี วิตามินซี”
“ไม่ต้องหรอกครับพี่ฟิน ขิงเอาให้ผมกินเรียบร้อยแล้ว”
ฟินชะงัก ขิงวิ่งเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าจำนวนนึงและกระเป๋าเครื่องสำอาง
“ขอโทษนะคะ รอนานมั้ยคะ ขิงรีดชุดใหม่อีกทีนึง มันมีรอยยับนิดๆ น่ะค่ะ”
“มา...ผมช่วยถือ หอบมาซะเยอะแยะเลย”
ไผทรับเสื้อผ้าจากมือขิงไปช่วยถือ ทั้งคู่เดินคุยกันขึ้นรถไป แนวหน้ามองตาม ฟินขยับไปใกล้พูดแขวะ
“ทีงี้ทำไมไม่ดุบ้างล่ะว่ามาสาย”
แนวหน้าหันขวับมามอง ฟินทำท่าไม่รู้ไม่ชี้
“แต่พูดก็พูดเถอะ สองคนนั้นเค้าก็น่ารักดีเนอะ คุยกับจุ๊กจิ๊กๆทั้งวัน ตัวติดกันตลอด ได้ข่าวว่าเค้าชอบกันมาตั้งแต่อยู่มหา’ลัยแล้วไม่ใช่เหรอ นายพอจะรู้บ้างมั้ยอ่ะ ว่างๆ ก็เล่าให้ฟังหน่อยนะ”
ฟินพูดจบก็เดินเชิดไปขึ้นรถ แนวหน้าไม่ค่อยสบายใจเอาเลย

ณ จุดถ่ายทำในหมู่บ้านดิน ทีมงานเซ็ตฉากเรียบร้อยเสร็จแล้ว ทุกคนดูจะรอคอยอะไรบางอย่างอยู่ แนวหน้าชะเง้อชะแง้ไปยังทางเข้าหมู่บ้านเป็นระยะ ไผทก็ไม่มีสมาธิ มองหาแต่โลลิต้า
“แนวหน้า เจ้าหญิงโลลิต้าล่ะ ทำไมยังไม่มาอีก” ฟินถาม
ไผทเหลียวขวับมามองแนวหน้า
“อ๋อ...เดี๋ยวก็มา ผมนัดท่านสายหน่อย เพราะจะถ่ายไผทคนเดียวก่อนนิดนึง”
ขิงเดินถือเสื้อผ้าเข้ามาจากอีกทาง
“ไผท ไปเปลี่ยนชุดกันเถอะ”
พอเดินมาใกล้ขิงทำเสื้อหล่นจากมือ ไผทและแนวหน้าขยับเข้าไปช่วยหยิบพร้อมกัน
“มาพี่ช่วย” / “มาผมช่วย”
ทั้งไผท แนวหน้า ขิง ต่างก็ชะงัก มองหน้ากันไปมา
ฟินมอง เหน็บแนมอย่างสะใจ “โฮะๆๆ ถ้าเป็นพี่ พี่ตัดสินใจไม่ถูกเลยนะเนี่ยว่าจะให้ใครช่วยดี”
แนวหน้าเซ็งปล่อยมือ ไผทเอื้อมไปช่วยขิงถือทั้งหมด
“ไปเปลี่ยนด้านโน้นกัน”
ไผทเดินไปกับขิง ด้านหลัง โลลิต้ายืนมองอยู่ อึ้งๆ ชีฟองถามอย่างห่วงใย
“เป็นอะไรไปเพคะ ปวดพระเศียรอีกแล้วเหรอเพคะองค์หญิง”
แนวหน้าได้ยินหันขวับมามอง ดีใจมากที่เห็นโลลิต้า รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
“มาแล้วเหรอพะย่ะค่ะ องค์หญิง”
“พอดีองค์หญิงพระอาการทุเลาแล้วน่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าน่าจะมาทำงาน” ชีฟองว่า
“นั่งก่อนครับ เดี๋ยวกระหม่อมเตรียมตัวอีกนิดจะได้ถ่ายกันเลย”
แนวหน้ากุลีกุจอเอาใจแทบจะอุ้มไปนั่ง โลลิต้าหน้าตาเรียบเฉย
ไผทกับขิงเดินกลับมา ไผทหน้าตาเบิกบานดีใจที่เห็นโลลิต้า วิ่งมาหาทันที
“องค์หญิงโลลิต้า!”
โลลิต้ามองไป ยิ้มทักอย่างสุภาพ แล้วมองขิงที่ตามมายืนใกล้ไผท โลลิต้าเมินหน้าไป
“โอ้โหยขิง เตรียมชุดให้ผมสีเข้ากับฉลองพระองค์ขององค์หญิงพอดีเลย ขอบใจนะจ๊ะ” ไผทผู้แสนซื่อหันมาทางแนวหน้า “เริ่มถ่ายกันได้รึยังพี่แนว”
“หญิงขอเวลาอีกสัก 5 นาทีได้มั้ยคะ คุณแนวถ่ายคุณไผทคนเดียวก่อนได้รึเปล่า” โลลิต้าว่า
ไผทงง ทำตาปริบๆ
แนวหน้ารับแทน จัดแจงให้ “อ๋อ ได้กระหม่อม ไผท ไปตรงโน้นเลย”
ไผทมองโลลิต้าแล้วเดินจากไป ไม่กล้าแย้ง ขิงยิ้มให้กำลังใจไผท โลลิต้านั่งนิ่งเฉย
แนวหน้าถอนใจก่อนจะเดินไปหน้ามอนิเตอร์ ฟินมองทุกอย่างแล้วแอบหัวเราะชอบใจ
“ท่าทางชักจะเริ่มสนุกแล้วสิ

แนวหน้าเริ่มถ่ายทำสารคดี เก็บบรรยากาศของมุมหนึ่งในหมู่บ้านดิน ฮวาซาใต้ ซึ่งเป็นกระท่อมของชาวบ้านที่ทำจากดินเหนียว มีรูปร่างลักษณะคล้ายกัน เรียงเป็นแถวเป็นแนว โดยมีไผทเดินดูอยู่อย่างตื่นตาตื่นใจ โลลิต้าอยู่อีกด้านหนึ่ง ท่าทางดูซึมๆ
เสียงแนวหน้าร้องดังลั่น “คัท!”
ไผทเดินออกจากฉาก ตรงไปยังองค์หญิง โลลิต้าลุกขึ้นจะเดินหนี แต่ไม่ทัน
“องค์หญิง” โลลิต้าชะงัก “จะเสด็จไหนเหรอพะย่ะค่ะ”
“เปล่านี่คะ คือ...หญิงจะไปหาพี่ชีฟอง”
“วันนี้องค์หญิงเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมดูไม่ร่าเริงเลยพะย่ะค่ะ”
“ก็...ไม่มีอะไรนี่คะ บังเอิญ...หญิงปวดหัวนิดหน่อย”
“ตายจริง กินยารึยัง เดี๋ยวกระหม่อมไปเอามาให้”
ไผททำท่าจะไปหาชีฟอง โลลิต้าเรียกไว้
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เอ่อ...คือ หญิงหายแล้ว”
ไผทมองงงๆ
เสียงเรียกของขิงดังขึ้น “ไผท”
ไผทและโลลิต้าหันไปมอง ขิงเดินมาใกล้
“ไผท พี่แนวจะถ่ายต่อแล้ว จะซับหน้ามั้ย” ขิงหันมาทางโลลิต้า “ขอประทานอภัยนะเพคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หญิงกำลังจะไปหาพี่ชีฟองพอดี”
โลลิต้ารีบเดินไปหาชีฟอง ไผทมองตามตาละห้อย
ขิงเอาแป้งมาซับหน้าไผท แล้วมองตามสายตาไผท
“มองตาละห้อยเลยนะ ชอบเค้าล่ะสิ” ขิงเย้า
ไผทยิ้มกว้าง “ใช่ น่ารักที่สุดเลย”
ขิงหน้าเจื่อนไปนิดๆ แล้วทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ทำงานต่อไป
“แต่ท่านเป็นถึงเจ้าหญิงเลยนะ”
“ผมรู้ แล้วก็อึดอัดใจอยู่เนี่ย แต่ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลยนะ ชอบเค้าตั้งแต่แรกพบเลยล่ะ”
ขิงอึ้งนิ่งงันไป ไผทได้สติหันมามองหน้าขิง
“เป็นอะไร กลุ้มใจแทนผมเหรอ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าผมชอบใครแล้ว ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ขิงเอาใจช่วยผมด้วยนะ”
ไผทจับมือขิงก่อนจะปล่อยลง ยิ้มให้อย่างกว้างขวาง ขิงฝืนยิ้มตอบ
ห่างออกไป โลลิต้ามองมา เห็นทั้งคู่ยิ้มแย้ม หวานชื่นกัน โลลิต้าหน้าหมองเศร้า

อีกด้านหนึ่ง แนวหน้าหันมาเห็นสีหน้าโศกเศร้าของโลลิต้า เหลียวมองตามสายตาเห็นขิงกับไผทยิ้มหัวให้กันอยู่ แนวหน้าเข้าใจทันที ถอนใจเฮือกใหญ่ รู้สึกสงสารโดยประหลาด มององค์หญิงจอมแก่นอย่างเห็นใจ


อ่านต่อหน้า 2

น่ารัก ตอนที่ 8 (ต่อ)

โลลิต้านั่งซึมเหม่อใจลอยอยู่ ขณะแนวหน้าเดินเข้าไปหา

“องค์หญิง” โลลิต้าสะดุ้ง “กระหม่อมมีเรื่องอยากจะปรึกษาน่ะพะย่ะค่ะ”
ชีฟองถือแก้วน้ำที่ทำจากดินเข้ามาสองอัน ยื่นให้โลลิต้าแก้วหนึ่ง
“องค์หญิงเพคะ น้ำเตยหอม ชาวบ้านให้เอาถวายองค์หญิงเพคะ” ชีฟองยื่นน้ำให้โลลิต้า “ส่วนอันนี้ ของคุณแนวหน้า ชีฟองขอมาเผื่อค่ะ”
ชีฟองยื่นน้ำอีกโถให้แนวหน้าท่าทางเขินอาย
“คุณแนวหน้ามีเรื่องอะไรจะปรึกษาหรือคะ”
“คือ...บ้านดินที่นี่มันมีลักษณะแตกต่างจากบ้านดินที่อื่นยังไงครับ”
โลลิต้าอธิบายอย่างคล่องแคล่ว “บ้านดินที่นี่ทนทานกว่าที่อื่นๆค่ะ เพราะดินที่ฮวาซามีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์...อย่างบ้านดินหลังแรกที่อยู่ที่เมืองพูเตา ทางเหนือของ ฮวาซาใต้ สร้างเมื่อ 500 กว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันก็ยังอยู่เลยนะคะ”
แนวหน้ามององค์หญิงอย่างทึ่งๆ
ฟินดูเหตุการณ์อยู่ เดินเข้ามาพร้อมพัดลมมืออันเล็กๆ “องค์หญิงร้อนไหม เพคะ” พลางเอาพัดลมจ่อให้โลลิต้าวี้ดว้ายอย่างตกใจ “ต๊าย! หน้าซีดจังเลย เดี๋ยวออกกล้องจะไม่สวย เติมหน้าหน่อยดีมั้ยเพคะ” ฟินร้องเรียกขิงซะดังลั่น “ขิง น้องขิงจ๋า”
ชีฟองรีบบอก “เดี๋ยวชีฟองจัดการให้องค์หญิงเองได้ค่ะ”
ขิงเดินเข้ามาหา
“อุ๊ย ไม่ต้องหรอกค่ะ ให้ขิงจัดการให้ดีกว่า ขิงเค้ามืออาชีพ ขิงจ๋า เติมพระพักตร์องค์หญิงหน่อยสิจ๊ะ อย่ามัวแต่ดูแลไผทคนเดียวสิ เร้ว” ฟินเจ้ากี้เจ้าการสั่งกับแนวหน้า “ส่วนเธอ แนวหน้า มาดูตรงนี้หน่อยสิ ชั้นว่าตรงนี้สวยนะ ตะกี้ไปดูมา มาดูสิ”
ฟินลากแนวหน้าไป โลลิต้ามีท่าทีอึดอัด ขิงยิ้มให้
“ขอประทานอนุญาตินะเพคะ
ขิงเอาแป้งมาแต้มที่หน้า โลลิต้ามองหน้าขิงใกล้ๆ ขิงยิ้มอย่างเป็นมิตร พยายามชวนโลลิต้าคุย
“เห็นไผทบอกว่าองค์หญิงไม่ค่อยสบาย...ดีขึ้นรึยังเพคะ”
โลลิต้าพยายามปรับสุ้มเสียงให้ปกติที่สุด “ดีขึ้นแล้วค่ะ”
“ถ้ายังไม่หายบอกขิงได้นะเพคะ ขิงมียาเตรียมมาในกระเป๋า”
โลลิต้าสงสัยที่ยัยนี่มียาแทบทุกขนาน “คุณขิงป่วยบ่อยเหรอคะ”
ขิงยิ้ม “ไม่ใช่ขิงหรอกเพคะ ไผทเค้าขี้โรค” โลลิต้าอึ้ง นิ่งงันไป “แล้วขิงก็เอามาเผื่อทีมงานคนอื่นด้วยน่ะค่ะ”
ชีฟองคันปาก ถามแทน “คุณขิง...รู้จักคุณไผทมานานแล้วเหรอคะ ท่าทางดูสนิทกันจังเลย”
“ขิงสนิทกับทั้งไผททั้งพี่แนวหน้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย...ถึงตอนนี้ก็ 7-8 ปีแล้วมั้งเพคะ”
ชีฟองงง “กับคุณแนวหน้าด้วยเหรอคะ”
โลลิต้าอึ้งอีก “ดีจังเลยนะคะที่มีเพื่อนคบนานๆ แบบนี้”
ขิงเยื้อนยิ้ม โลลิต้ามองหน้าขิง รู้สึกว่าขิงกับไผทรู้จักกันมานานเหลือเกิน

ฟากสองคนอยู่ในห้องพัก จีจี้นั่งเซ็นเอกสาร และเช็คอยู่พร้อมกับหาวเหมือนง่วงนอน
นายนายเอากาแฟร้อนมาให้ตรงหน้าจีจี้ จีจี้ชะงัก มองหน้า
“ดูเอกสารนานๆ แล้ว คุณชอบง่วง ผมเลยชงมาให้…”
จีจี้มองอีกฝ่ายว่าจะมาไม้ไหนอีก “ขอบใจ…แต่รีบทำงานให้เสร็จๆดีกว่า
“มาทำงานที่นี่…คิดถึงตอนที่เราไปทำสารคดีที่ปางอุ๋งเนอะ ตอนนั้นหนาวมากต้องก่อกองไฟ ต้มกาแฟดื่มแก้หนาว คิดแล้วก็อยากกลับไปอีก”
“แต่ฉันไม่อยากกลับ”
นายอึ้งไป จีจี้ปิดสมุดเซ็น
“ฉันทำบัญชีกับเซ็นเอกสารเสร็จหมดแล้ว ไม่มีอะไรที่ฉันต้องดูแล้วใช่ไหม ฉันไปก่อนนะ”
จีจี้ลุกขึ้นจะออกไป นายรีบเดินไปขวางไว้
“เดี๋ยวสิจี้! ผมมีอีกอย่างนึงอยากอะไรให้คุณดู”
นายกำมือซ้ายแล้วยื่นมาตรงหน้าจีจี้ “เปิดดูสิ…”
จีจี้มองมือของนายที่อยู่ตรงหน้าอย่างรู้ทัน
“ถ้าคิดจะง้อฉันด้วยมุกเก่าๆ แบบนี้ ขอบอกเลยว่าไม่ได้ผล!”
จีจี้เดินหนีออกไปทันที นายมองตามเซ็งๆ ก่อนเปิดมือตัวเองที่กำเอาไว้มาดู พบว่าที่มือของนายนายเขียนคำว่า “ขอโทษ” ไว้ที่ฝ่ามือ
นายเอานิ้วอีกข้างลบออก อย่างเซ็งๆ

อีกฟากหนึ่ง ตากล้องของแนวหน้า กำลังถ่ายโลลิต้ากับไผทที่กำลังดูอิฐ สำหรับทำบ้านดินอยู่ บริเวณนั้นมีก้อนอิฐ และตัวอย่างดินเหนียวตั้งอยู่
ขิง ฟิน ชีฟองยืนดูอยู่ด้านหลังกล้อง
โลลิต้ากำลังชี้ให้ไผทดูส่วนผสมในการทำอิฐ

“ส่วนผสมหลักในการทำอิฐที่จะนำไปใช้สร้างบ้านดินก็คือดินที่มีดินเหนียวผสมอยู่อย่างน้อย 15% ค่ะ”
“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับว่าดินของเรามีดินเหนียวปนอย่างน้อย 15%”
“มีวิธีทดสอบง่ายๆ ค่ะ”
โลลิต้าหยิบดินที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาโชว์ไผท
“ให้เอาดินที่เรามีไปผสมน้ำนวดให้เหนียว เสร็จแล้วก็เอาไปปั้นเป็นเส้นขนาดนิ้วมือ และยาวเท่ากับฝ่ามือ”
ว่าพลางโลลิต้าปั้นดินให้ไผทดูเป็นเส้นขนาดเท่านิ้วมือ และยาวเท่าฝ่ามือ
“เสร็จแล้วก็จับปลายข้างหนึ่งยกขึ้นแบบนี้ค่ะ”
โลลิต้าจับปลายเส้นดินด้านหนึ่งเพื่อดูว่าดินจะขาดไหม เห็นว่าเส้นดินไม่ขาด
“ถ้าเส้นดินไม่ขาดก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ...หลังจากนั้นเราก็จะเอาดินเหนียวมาผสมกับหญ้าแห้ง เพื่อเสริมให้ก้อนดินแข็งแรงขึ้น แล้วพอได้ดินพวกนี้แล้วเราก็เอาไปก่อเป็นบ้านดินค่ะ”
“ผมว่าวิธีทำบ้านดินของฮวาซาก็คล้ายๆ วิธีทำบ้านดินของไทยเหมือนกันนะครับเนี่ย”
โลลิต้าพูดเป็นนัย “แต่บ้านดินของฮวาซาคงสวยสู้บ้านดินของไทยไม่ได้หรอกค่ะ”
ไผทมององค์หญิงอย่างชื่นชม
“ไม่หรอกพะย่ะค่ะ ผมว่าอะไรๆ ของฮวาซามันก็ดูสวยถูกใจกระหม่อมไปหมดทุกอย่างเลยล่ะพะย่ะค่ะ”
โลลิต้าอึ้งกับคำตอบของพระเอกในฝัน ไผทยิ้มหวานให้อีกต่างหาก
แนวหน้าที่ถ่ายอยู่อึ้งๆ ไปเหมือนกันที่ไผทกล้าขนาดนี้
ส่วนนางมารร้ายฟินค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาทางสีหน้า สมใจและมั่นใจแล้วว่าไผทชอบโลลิต้า

ตอนบ่าย โลลิต้ายืนอยู่กับไผทที่กำแพงบ้านดินหลังหนึ่ง มีชาวบ้านที่เป็นเจ้าของบ้านยืนอยู่ด้วย แนวหน้า ฟิน ขิง ชีฟอง อยู่หลังตากล้องที่ถ่ายทั้งคู่อยู่อีกมุมหนึ่ง
โลลิต้ายิ้มบอก “เจ้าของบ้านหลังนี้เค้าเพิ่งสร้างเสร็จ เค้าอยากให้คุณไผทช่วยวาดลายอะไรให้เค้าเป็นที่ระลึกหน่อยน่ะค่ะ”
ไผทยิ้มกว้าง “กระหม่อมวาดรูปไม่ค่อยสวยด้วยสิ”
“ไม่เป็นหรอกค่ะ วาดอะไรก็ได้…หรือคุณไผทจะเซ็นลายเซ็นแทนก็ได้นะคะ”
“งั้นเอาอย่างนี้ได้ไหม ให้องค์หญิงวาดรูป เดี๋ยวกระหม่อมเซ็นลายเซ็นให้” พร้อมกับหันไปหาชาวบ้าน “ดีไหมครับคุณลุง”
ลุงชาวบ้านพยักหน้า ไผทยื่นไม้สำหรับขีดลงไปบ้านดินให้ โลลิต้ารับมาก่อนหันไปวาดรูปง่ายๆ ลงบนกำแพงบ้านดิน
ในจังหวะที่โลลิต้าขีดไปบนกำแพง เหมือนว่าเจอดินแข็งๆ ทำให้ไม้ที่ใช้ขีดหักคามือทันที จนโดนเสี้ยนตำโลลิต้าเจ็บร้อง “โอ๊ย”
“เป็นไรรึเปล่าครับองค์หญิง” ไผทจับมือโลลิต้ามาดูทันทีด้วยด้วยความเป็นห่วง โดยไม่ทันคิด “เสี้ยนตำนี่ครับ เดี๋ยวผมเอาออกให้”
ไผทจับมือเพื่อเอาเสี้ยนออกให้ โลลิต้าอึ้งมองมือไผทที่จับมือตนอยู่
“มะ.. ไม่เป็นไรค่ะ”
ไผทเพิ่งรู้สึกตัวว่าจับมือโลลิต้าอยู่ ค่อยๆ ปล่อยอย่างเขินๆ
แนวหน้าได้สติ “คัท!”
“อุ๊ยตาย! นี่มันอยู่ในสคริปต์รึเปล่าเนี่ย” ฟินวี้ดว้าย
ชีฟองกับขิงวิ่งเข้าไปทันที
ชีฟองร้องด้วยสีหน้าตื่ตระหนก “องค์หญิงเพคะ”
“เป็นอะไรรึเปล่าเพคะ” ขิงถาม
“เสี้ยนตำพระหัตถ์องค์หญิง” ไผทบอก
ชีฟองจับมือโลลิต้า
“ขิงมีเข็มค่ะ”
ขิงเปิดกระเป๋าทันทีแล้วเอาเข็มสอยผ้าออกมา จับมือโลลิต้าพยายามบ่งเสี้ยนให้ มีไผทยื่นหน้าไปดูใกล้ๆ เหมือนไผทกับขิงกำลังร่วมมือกันช่วย โลลิต้าตัวแข็งไม่สบายใจ
ฟินยิ้มยั่ว เดินไปใกล้ๆ แนวหน้าทำเป็นรำพึงรำพัน
“นายว่าไผทเค้าจะชอบใครมากกว่ากันนะ เจ้าหญิงหรือขิง”
แนวหน้ามองหน้าฟินเขม็ง
“พอเลย ถ้าพี่คิดจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้นล่ะก็ ผมจัดการส่งพี่กลับแน่ๆ ไม่เชื่อก็ลองดู”
แนวหน้ารู้ทัน รีบเดินเข้าไปดูโลลิต้าอีกคน

ด้านหลังมีชาวบ้านคนหนึ่งมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป

ขิงกำลังเดินไปหยิบของในรถ ห่างออกมา แนวหน้าเดินเข้ามาหาขิง
“พี่ขอคุยอะไรหน่อยสิขิง”
“พี่แนวมีอะไรเหรอคะ” ขิงนิ่วหน้าท่าทีฉงน
แนวหน้าอึกอัก “เอ่อ...พี่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี...คือ...”
“เอาตรงๆ เลยค่ะพี่แนว พี่ก็รู้ว่าขิงชอบให้พี่พูดตรงๆ”
แนวหน้าออกอาการหนักใจ “คือ…พี่รู้ว่าขิงกับไผทสนิทกันมาก แต่... แต่ไม่ต้องอยู่ใกล้กันตลอดเวลาได้ไหม...ถือว่าพี่ขอแล้วกันนะ”
ขิงยิ่งงง “ทำไมล่ะคะ”
แนวหน้าพูดโดยตั้งใจจะรวบตึงหมายถึงทั้งโลลิต้าและตัวเอง “ก็…มีคนเค้าไม่ชอบ นะ พี่ขอ”
แนวหน้ากลัวขิงจะถามซักอะไรต่อ เลยรีบเดินหนีไป ขิงอึ้ง นิ่งงันไป คิดแค่ว่าแนวหน้าคงไม่ชอบที่เห็นขิงสนิทกับไผท

ชองปอลกำลังดูรูปไผทกับโลลิต้าจากในมือถือ ชาวบ้านที่แอบถ่ายรูปสองคนในกองถ่ายสารคดี เปลี่ยนชุดใหม่ กลายเป็นทหารของฮวาซาเหนือ
ชองปอลโกรธจัด “นี่มันกล้าแตะต้องตัวน้องหญิงอีกแล้วเหรอ?”
“พะย่ะค่ะ แล้วมันก็ทำตัวสนิทสนมกับองค์หญิงมากพะยะค่ะ”
“มากไปแล้วไอ้ไผท”

ชองปอลคำรามในลำคอด้วยความโกรธ ท่าทางเดือดดาลเอามากๆ

อ่านต่อหน้า 3

น่ารัก ตอนที่ 8 (ต่อ)

ค่ำคืนนั้นองค์หญิงโลลิต้านั่งอยู่หน้าคอมพ์เพื่อเขียนบล็อก หน้าตาท่าทางโศกศัลย์ หวนคิดถึงภาพของขิงกับไผทในวันนี้ไปด้วยขณะที่ลงมือพิมพ์

ทั้งภาพไผทกับขิงสนิทสนมยิ้มแย้มให้กัน ตอนขิงบอกว่าสนิทกับไผทมานานแล้ว และตอนที่ขิงแต่งหน้าให้ไผทแล้วหัวเราะกัน
โลลิต้าพิมพ์ไปอ่านไป “น้ำนิ่งบรรจงบ่มเสี้ยนออกจากมือเจ้าหญิงโลล่า วินาทีนั้น...องค์หญิงก็รู้สึกราวกับมีผีเสื้อนับพันบินอยู่ในช่องท้อง...หัวใจของเธอเต้นรัวเหมือนเสียงกลอง...นี่คือความรู้สึกอะไรกันแน่นะ? ท่ามกลางความรู้สึกสับสน...องค์หญิงโลล่าเห็นสตรีผู้นั้นยืนมองอยู่...คุณเข็ม...คนรักของคุณน้ำนิ่ง”
เสียงอ่านของโลลิต้าค่อยๆ เบาลง กลายเป็นเสียงของแนวหน้ากำลังอ่านบล็อกโลลิต้าให้นายฟัง
“วินาทีนั้นองค์หญิงโลล่าก็รู้ตัวว่าคนที่มาทีหลังอย่างองค์หญิงควรจะถอยออกมาแล้วทำหน้าที่เพียงแค่เพื่อนร่วมงานที่ดีเท่านั้น”
นายฟังแล้วอึ้ง “นี่องค์หญิงคิดมากเรื่องไผทกับขิงขนาดนี้เลยเหรอวะ”
“ไม่ใช่แค่นี้นะเฮีย ผมว่าอีเจ๊ฟินก็ท่าทางจะดูออก ท่าทางเค้าดูไม่น่าไว้ใจเลย” แนวหน้ามีท่าทางหนักใจ “ผมว่าเฮียรีบคืนดีกับเจ๊สักทีเหอะ... ขืนปล่อยไว้แบบนี้ เราถ่ายสารคดีไม่จบแน่”
“ฉันก็ทำอยู่...แต่จี้เค้ารู้ทันชั้นตลอดเลยว่ะ”
“แล้วทำไมเฮียไม่รู้ทันเจ๊บ้างว่าเค้าวางแผนอะไรอยู่ เสียแรงคบกันมาตั้งนาน” แนวหน้าหมั่นไส้
นายเซ็ง คิดไปคิดมา “เอางี้! ฉันจะลากจี้กลับกรุงเทพฯ ส่วนแกก็ถ่ายสารคดีอยู่ที่นี่ แล้วคอยกันขิงกับไผทไว้”
“อ้าว แล้วเจ๊ฟินหน้าแป้นล่ะเฮีย นั่นน่ะตัวดีเลย ไม่รู้จะมีแผนการชั่วร้ายอะไรอีก! โอ๊ยกลุ้มจริงโว้ย ทำไมงานนี้มันถึงได้วุ่นวายนักวะ”
แนวหน้าปวดตับ เครียดฝุดๆ

เวลาเดียวกัน ฟินโวยวายเอากับจีจี้
“อ๊าย ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ ไอ้แนวมันรู้ทัน มันขู่ชั้นว่าถ้าชั้นก่อเรื่องมันจะส่งชั้นกลับเมืองไทย”
“นายนายก็เหมือนกันนะเจ๊ มาทำดีกับหนู คิดว่าหนูรู้ไม่ทันรึไง” จีจี้ค้อนควัก
“นังจี้...เราต้องเร่งมือแล้วนะ แกรู้มั้ยว่าสัญญาที่ไผทเซ็นกับไอ้บ้าแนวนั่นมันอยู่ที่ไหน”
“หนูจะไปรู้ได้ยังไงเจ๊ แต่เจ๊จะทำอะไร”
“มันกล้าฉีกสัญญาฉัน ฉันก็จะฉีกสัญญามันเหมือนกัน คอยดูสิ”
ฟินแค้นมาก มุ่งมั่นมาดหมาย ไม่มีทางจะยอมแพ้

นายนอนหลับไปแล้ว แต่แนวหน้าเปิดคอมพ์กำลังอ่าน Blog ของโลลิต้าที่เขียนนิยาย
แนวหน้าเลื่อนอ่านไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจพิมพ์คอมเม้นท์ลงไป
แนวหน้าพูดไปพิมพ์ไป “ผมติดตามผลงานของคุณมานานแล้ว...เวิ่นเว้อมากครับ” แนวหน้ากดลบ “ไม่ดีๆ” แล้วพิมพ์ใหม่ “สนุกมากครับ ตามลุ้นทุกตอนเลย ขอสมัครเป็นแฟนคลับเจ้าหญิงโลล่าด้วยคนนะครับ”
แนวหน้ากดเอ็นเทอร์ข้อความไป แล้วถอนใจอย่างเป็นกังวลกับปัญหาข้างหน้า

เช้าวันนี้ แนวหน้านัดหมายทีมงานที่ไร่ชาฮวาซาใต้ เพื่อเก็บภาพทิวทัศน์ไร่ชาอันสวยงาม ปลูกเป็นขั้นบันได อย่างเป็นระเบียบ แลดูสวยงาม
รถกองถ่ายขับเข้ามาจอด ฟินรีบลงจากรถ วิ่งมาดูวิวทันทีอย่างตื่นตาตื่นใจ
“ว้าวๆๆๆ สวยจังเลยอ่ะ มาไผทมาถ่ายรูปกับพี่มา เดี๋ยวพี่จะได้อัพลง IG ให้แฟนคลับไผทที่เมืองไทยหายคิดถึง”
ไผทเดินเข้ามาหาฟินอย่างว่าง่าย ฟินเอาตัวแนบแล้วถ่ายรูปกับไผท แชะ!
“อุ๊ย เดี๋ยวพี่ชวนขิงมาถ่ายด้วยดีกว่า” เจ๊ฟินร้องเรียกดังลั่น “ขิง...ขิง”
ฟินเดินออกไปตามขิง
แนวหน้าเดินถือกล้องมาพร้อมโลลิต้าและชีฟอง ไผทรีบเดินเข้าไปหาโลลิต้าทันที
“องค์หญิง....มาถ่ายรูปด้วยกันไหมครับ”
โลลิต้าอึกอักขัดเขิน “เอ่อ...คือ...”
“จะฉายพระรูปกับองค์หญิงต้องขออนุญาตจากท่านธูลก่อนเพคะ” โลลิต้าเหลียวมามอง ชีฟองชะงัก รีบแก้ เสียงอ่อนลง “แต่ถ้าเป็นกรณีส่วนพระองค์ก็คงไม่เป็นไร”
ไผทคะยั้นคะยอ “มาเถอะครับ มุมตรงโน้นสวยมาก...พี่แนว ช่วยถ่ายให้ผมหน่อยนะพี่”
แนวหน้ามองผ่านกล้องภาพนิ่ง เห็นว่าไผทยืนคู่กับโลลิต้าท่าทางร่าเริงสุดขีด ส่วนโลลิต้าท่าทางดูเขินๆ แนวหน้ากดถ่ายรูป
ชีฟองที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับแนวหน้า มองโลลิต้ากับไผทแล้วยิ้มอย่างปลาบปลื้ม
“น่ารักจัง”
แนวหน้าบอก “อีกรูปนะครับ...หนึ่ง...สอง...”
เสียงฟินแหลมเข้ามา “เดี๋ยวค่ะๆๆ...ถ่ายด้วยค่ะ”
ฟินลากขิงเข้าไปยืนประกบไผท ส่วนตัวเองยืนถัดออกมา ขออนุญาตกับโลลิต้า “ขออนุญาตถ่ายรูปด้วยนะเพคะองค์หญิง” พลางหันไปสั่งแนวหน้า “เอ้า! ถ่ายสิ”
แนวหน้าจำต้องกดถ่ายอย่างไม่เต็มใจ
“ทีนี้ถ่าย 3 คนบ้าง”
ฟินจัดแจงวิ่งออกมายืนข้างแนวหน้า เหลือในเฟรม แค่ขิง ไผท และ โลลิต้า ท่าทีโลลิต้าดูออกว่าอึดอัด แนวหน้าหันไปส่งกล้องให้ฟิน
ฟินงง “อะไรยะ”
“อ้าว...ผมก็อยากมีรูปบ้างสิ”
แนวหน้าเดินเข้าไปประกบโลลิต้าอีกด้าน กลายเป็นขิง ไผท โลลิต้า แนวหน้า ฟินฮึดฮัดขัดใจมองอย่างไม่สบอารมณ์
แนวหน้ารู้ทัน ตะโกนเร่ง “ถ่ายสิเจ๊...จะให้ยืนจนรากงอกรึไง”
ฟินจำใจกดชัตเตอร์ เห็นภาพทั้งสี่คนยิ้มกับกล้อง

ไร่ชาเขียวอันกว้างขวาง แลเห็นชาวไร่กำลังเด็ดใบชาเอาใส่ตะกร้าที่แบกอยู่บนหลัง
ไผทเด็ดยอดใบชาอ่อนๆ ขึ้นมา และกำลังยืนอยู่กับโลลิต้าท่ามกลางไร่ชา ด้านหลังตากล้องมีขิงยืนมองอยู่ใกล้ๆ แนวหน้า ฟินกับชีฟองยืนถัดมา
“พันธุ์ชาที่นี่เค้าเรียกว่าพันธุ์อะไรเหรอครับองค์หญิง”
ไผทพูดพร้อมก้าวเข้าไปหาองค์หญิง โลลิต้าเห็นว่าอยู่ต่อหน้าขิงเลยตั้งใจเขยิบออกห่าง
“ดาจีริ่งค่ะ”
“แล้วมันต่างจากพันธุ์ชาทั่วไปยังไงครับ” ไผทเป็นฝ่ายเขยิบเข้าไปหาโลลิต้า
โลลิต้าเขยิบหนีอีก “เป็นหนึ่งในพันธุ์ชาที่ดีที่สุดในโลกค่ะ”
พอไผทเขยิบเข้าไปหา โลลิต้าก็เขยิบออกอีก ไผทชักแปลกใจ
แนวหน้าสั่งดังลั่น “คัท! เอ่อ โทษนะครับ เล่นลาวกระทบไม้กันอยู่เหรอครับ ชิดห่าง ห่างชิดกันอยู่ได้”
ขิงกระซิบปราม “พี่แนว! พูดดีๆ สิ”
“เอ่อ...คือ...” แนวหน้าพยายามพูดดีขึ้น “มันถ่ายออกมาไม่สวยน่ะพะย่ะค่ะ ขอความเมตตากรุณาอย่างสูงนะพะย่ะค่ะองค์หญิง กับคุณไผทอันเป็นที่รัก ช่วยยืนคุยใกล้ๆ กันหน่อยครับ เพื่อความสวยงามของเฟรม”
ขิงมองแนวหน้าแล้วอดเอือมไม่ได้ที่สุดท้ายก็ไม่วายประชดประชันอยู่ดี โลลิต้ายืนตัวแข็งไม่ทำตามที่แนวหน้าสั่ง
ไผทเลยเดินเข้าไปหา โลลิต้าจะถอยแต่มีของตั้งขวางทางไว้ เลยถอยไปไม่ได้ ไผทเข้ามายืนชิดกับโลลิต้าจนได้
“อย่างนั้นละครับ ขอบคุณครับ” แนวหน้าจะถ่ายต่อ
โลลิต้ากลับพลิกตัวหนีแล้วเดินออกจากตรงนั้นเลย “ขอพักแป๊ปนึงได้มั้ยคะ”
“เอ๋า...”
แนวหน้าเซ็งโครตๆ มองตามโลลิต้าไปอย่างหนักใจว่าท่าทางจะเป็นเอามาก

แนวหน้าลงนั่งเซ็งๆ ขิงตามเข้ามาต่อว่าแนวหน้า
“พี่แนว”
“อะไร พี่ทำอะไรผิดอีก”
“เมื่อกี๊พี่ไปประชดเค้าทำไม”
จังหวะนั้นเห็นฟินเดินเลียบๆ เคียงๆ เข้ามาด้านหลังขิง เอามือไขว้หลังไว้
“พี่ไม่ได้ประชด พี่ก็พูดธรรมดา”
“ธรรมดาของพี่ แต่มันคือการประชดของคนอื่นนี่คะ”
ฟินเดินเข้ามาที่ด้านหลังขิงแล้วเอาบางอย่างใส่ฮูทเสื้อกันหนาวของขิง โดยที่ขิงไม่รู้ตัว
แนวหน้ามองมาเห็นฟินพูดดักคอ “อ้าวเจ๊ มายืนทำอะไรตรงนี้ หาเรื่องป่วนอะไรอีกล่ะ”
“นี่ มองชั้นในแง่ดีหน่อย ขอร้อง ชั้นจะถามว่าจะเอายังไงต่อ จะได้เตรียมไผทไว้ให้”
“เดี๋ยวถ่ายไผทคนเดียวก่อนก็แล้วกัน”
หนอนตัวเขื่องอยู่ในฮูทเสื้อกันหนาวของขิง

ด้านนายถือเอกสารเข้ามาในห้องทำงานของจีจี้ แต่ไม่เจอใคร เลยเดินออกมา มองหา
“ก็บอกว่า 10 โมงให้มาเจอกัน แล้วไปไหนวะเนี่ย”
ราอูลเดินเข้ามาหานาย
“คุณจีจี้ให้มาเรียนว่ากำลังปรึกษางานกับท่านธูลอยู่ที่สวน ถ้าคุณมาถึงแล้วให้ตามไปครับ”

จีจี้เดินเล่นอยู่ในอุทยานกับท่านธูล ชมกุหลาบและพรรณไม้นานาอย่างเพลิดเพลิน
“เราว่าก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าจะเก็บภาพดอกไม้พวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของสารคดี ฮวาซาใต้ของเรามีพันธุ์ดอกไม้มากมายที่อยากอวดชาวโลก”
“งั้นเดี๋ยวจี้ขอปรึกษานายนายด้วยแล้วกันนะเพคะ”
จีจี้หันไปเห็นว่านายเดินเข้ามาพอดี จึงทำตามแผนที่คิดไว้
“อ้าว นายมาพอดี ฉันกำลังคุยกับท่านธูลว่าเราน่าจะถ่ายดอกไม้สวยๆ พวกนี้ไว้ในสารคดีด้วย” พลางหันไปพูดอ่อนหวานกับท่านธูล “แล้วนี่ดอกอะไรเหรอเพคะท่านธูล...กลิ่นหอมจัง” จีจี้ใส่จริตชี้ที่ดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้า
“เค้าเรียกว่าดอกมายโซทีส”
“ชื่อแปลกจังเพคะ จีจี้ไม่เคยได้ยินเลย”
“คนส่วนมากรู้จักกันในชื่อ ดอก Forget me not ครับ”
“เหรอคะ จี้ไม่เคยเห็นสีเหลืองแบบนี้ก็เลยคิดว่าไม่ใช่”
“คุณจีจี้อยากได้พันธุ์นี้ไปปลูกที่เมืองไทยมั้ยละครับ ผมจะให้คนเพาะพันธุ์ไว้ให้...เวลาคุณจีจี้เห็น จะได้คิดถึงฮวาซา”
จีจี้มองท่านธูลแล้วทำเป็นสะเทิ้นเขินอายอย่างจงใจ
“เป็นพระกรุณาเพคะ ไม่ว่ายังไง หม่อมชั้นก็คงจะไม่มีวันลืมฮวาซาใต้หรอกเพคะ”
นายแอบหึงจีจี้กับท่านธูล “แปลกจริง ผมนึกว่าคุณเป็นคนขี้ลืมซะอีก ขนาดอะไรที่อยู่ด้วยมานานก็ยังลืมได้เลย กระหม่อมขอตัวไปรอที่ห้องประชุมนะพะย่ะค่ะ” แล้วเดินออกไปทันที
จีจี้เห็นอาการนายโกรธก็หน้าเสีย ก่อนหันมายิ้มเจื่อนๆให้ท่านธูลที่มองอาการของทั้งคู่

ฟากแนวหน้ายังคงเดินหน้าถ่ายทำสารคดีต่อ เป็นฉากที่ไผทยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติไร่ชา อันสวยงาม ไผททำท่าสูดอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอด
ส่วนฟินมองลุ้นหนอนที่อยู่ในเสื้อขิงอย่างกระวนกระวาย
“นี่นายแนวหน้า ให้ไผทพักแป๊ปนึงสิ หน้ามันแล้ว”
แนวหน้าชัดหงุดหงิด เสียงขุ่นใส่ “เอ๊ อะไรของเจ๊เนี่ย เพิ่งเริ่มถ่าย จะพักอีกละ ถ้าจะดูดูเฉยๆ อย่าวุ่นวายได้มั้ย”
“ฉันอุตส่าห์ช่วยดูนะยะ เดี๋ยวไผทไม่หล่อ สารคดีเน่าไม่รู้ด้วยนะ”
แนวหน้ารำคาญเลยจำต้องยอมหยุดถ่าย “คัท! ซับหน้าหน่อย”
ขิงถือทิชชู่กับแป้งเดินไปซับหน้าให้ไผทที่ยืนอยู่กลางไร่ชา แนวหน้าเดินตามไปด้วย

ฟินพึมพำ มองลุ้นสุดชีวิต “หนอนน้อยของขุ่นแม่ไต่ ณ บัดนาว เลยค่ะลูก”

อ่านต่อหน้า 4

น่ารัก ตอนที่ 8 (ต่อ)

ไผทเดินมาให้ขิงซับหน้า อีกด้านแนวหน้าเดินไปหาโลลิต้าพร้อมกับชีฟอง เพื่อถามเรื่องเกี่ยวกับชา

ขิงซับหน้าให้เรื่อยๆ ไผทมองหน้าขิงแล้วชะงัก หนอนตัวเล็กไต่ขึ้นมาบนผมของขิง
“อยู่เฉยๆ ก่อนนะขิง” ไผทบอกหน้าตื่น
“มีอะไรเหรอ” ขิงงง
แนวหน้าพาโลลิต้าเดินจะมาให้ขิงซับหน้า ไผทหยิบหนอนบนหัวออกให้ขิง
“ไอ้เนี่ย มันอยู่บนหัวขิง”
“อะไรเหรอ”
ไผทแบมือให้ดูใกล้ๆ หน้า ขิงตะลึงผงะร้อง “ว้าย”
ขิงผงะถอยหลัง พอดีกับที่โลลิต้าเดินเข้ามา ขิงเลยเซไปปะทะองค์หญิงเต็มแรง ตรงนั้นเป็นเนินสูง โลลิต้าเสียหลักผงะหงายหลัง
ไผทตกใจ “องค์หญิง”
ชีฟองตะลึง “องค์หญิง”
แนวหน้าก็ตะลึง องค์หญิงเสียหลักล้มลงกำลังจะกลิ้งลงเนิน ไวเท่าความคิดแนวหน้ากระโจนเข้าไปรับโลลิต้าได้พอดิบพอดี ทั้งคู่กลิ้งไปด้วยกันตามเนิน ทุกคนมองอย่างตะลึงพรึงเพริด
“องค์หญิง” ไผทร้องเสียงหลง
ที่บันไดด้านล่างลงไป สองคนสงบนิ่ง โลลิต้าอยู่ในอ้อมกอดของแนวหน้า แถมใบหน้าซุกอยู่กับอกของครีเอทีฟปากมอม
ไผทกับชีฟองรีบร้อนวิ่งตามลงไปหา ทหารองครักษ์ของโลลิต้าวิ่งลงมาด้วย
โลลิต้าค่อยๆ ลืมตาขึ้น เห็นแนวหน้าขยับตัวเช่นกัน
“อูย”
โลลิต้าได้สติ รีบถอยห่างออกมา
“องค์หญิง เป็นยังไงบ้าง”
ชีฟองมาถึงพอดี “องค์หญิงเพคะ เป็นอะไรไปรึเปล่าเพคะ เจ็บตรงไหนบ้าง”
ชีฟองเข้าประคองโลลิต้าให้ลุกขึ้นยืน โลลิต้าซวนเซ ไผทเข้าช่วยประคองอีกด้านทันที
“องค์หญิง”
“หญิงไม่เป็นไรค่ะ”
“ขาแพลงรึเปล่าพะย่ะค่ะ ลองเดินซักนิด”
โลลิต้าขยับเดิน แต่เดินได้ไม่ถนัดนัก ไผทจึงประคองต่อ
“เจ็บนิดเดียวค่ะ คงไม่ถึงกับแพลง”
ขิงเดินหน้าซีดลงมา ยกมือไหว้
“หม่อมชั้นต้องขอประทานอภัยเพคะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้องค์หญิงต้องเจ็บพระองค์เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หญิงเข้าใจ”
“กลับวังกันก่อนเถอะเพคะ” ชีฟองหันไปบอกกับแนวหน้า “วันนี้องค์หญิงคงถ่ายไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ”
แนวหน้า ค่อยๆ ประคองตัวลุกขึ้น “ครับ ได้ครับ”
ชีฟองกับไผทประคองโลลิต้าออกไป มีทหารตามดูแลไปติดๆ แนวหน้ายืนมึนงงคาที่
“เร็วขิง ช่วยกันประคองพี่แนวกันหน่อยสิ เจ็บตรงไหนบ้างก็ไม่รู้”
ขิงตกใจ รีบประคองแนวหน้าเพราะรู้สึกผิด
“พี่แนวเป็นอะไรรึเปล่าคะ ขิงขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” แนวหน้าบอก
“เข้ามาได้เลยค่ะ ค่อยๆ เดินนะคะ”
ขิงประคองแนวหน้าเดินไป ฟินมองตามอย่างสาสมใจ แอบเอามือปิดปาก หัวเราะคิกคักชอบใจ
“อีหนอนน้อย ออกฤทธิ์แรงจริงๆ เลยนะ อิอิ”

เย็นนั้นโลลิต้าเดินนำเข้ามา หน้ามุ่ยท่าทางหงุดหงิดเอาการ โดยมีชีฟองตามประกบด้วยความเป็นห่วง
ท่านธูลเดินรีบร้อนเข้ามาหา “ลูกหญิง...ทหารบอกว่าลูกได้รับอุบัติเหตุเหรอจ๊ะ”
โลลิต้ายิ้มเจื่อนๆ “นิดหน่อยเท่านั้นเองเพคะ คนอื่นตกใจกันไปเกินเหตุ...ลูกขอตัวก่อนนะเพคะ”
พูดเท่านั้นองค์หญิงโลลิต้าปลีกตัวออกไปทันที ท่านธูลมองตามไปอย่างแปลกใจ หันมาทางชีฟอง
“ชีฟอง...ลูกหญิงเจ็บมากรึเปล่า”
ชีฟองอึกอักไม่กล้าเล่ารายละเอียด “คงไม่ได้เป็นอะไรมากเพคะ...ยังไงชีฟองขอตัวไปดูแลองค์หญิงก่อนนะเพคะ”
ชีฟองรีบตามโลลิต้าไป ท่านธูลมองตามอย่างกังวล

สองหนุ่มอยู่ในห้องพักของวัง แนวหน้าตกใจสุดขีดเมื่อฟังพี่ชายจบ
“อะไรนะ? เฮียจะกลับกรุงเทพฯอีกแล้วเหรอ!”
นายเก็บกระเป๋าเดินทางอยู่ท่าทางเครียดหนัก
นายพยักหน้านิ่งๆ แนวหน้าโวยวายเป็นการใหญ่
“นี่เฮียคิดอะไรอยู่! ไหนบอกว่าจะลากเจ๊กลับไปด้วยไง แล้วเฮียกลับไปคนเดียวแบบนี้ ปล่อยให้ผมต้องเจอทั้งเจ๊จี้ เจ๊ฟินหน้าแป้น ไหนจะไผทกับขิง แถมองค์หญิงติ่งไผทก็มาอกหักอีก ผมรับมือคนเดียวไม่ไหวนะเว้ย”
“ขอฉันกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพฯ ก่อนเถอะ”
แนวหน้าอึ้งๆ เพราะเห็นนายดูเครียดจริง เชื่อว่าคงมีอะไรมากกว่านั้น
“คราวนี้ ทะเลาะกันซีเรียสเลยเหรอเฮีย”
“แล้วฉันจะรีบกลับมาแล้วกันนะ”
แนวหน้าพยักหน้ามองอย่างเห็นใจพี่ชาย

เย็นจวนค่ำ นายส่งกระเป๋าเดินทางให้ทหารเอาไปไว้บนรถจี๊ป โดยมีแนวหน้ายืนบ่นอยู่ข้างๆ
“จะรีบไปทำไม ยังไงเครื่องบินก็ออกพรุ่งนี้อยู่ดี”
“ชั้นซื้อของมาฝากเปอร์ตี จะเอาไปเยี่ยมเค้าซักหน่อย แล้วคงขอนอนที่นั่นซักคืน แล้วค่อยไปขึ้นเครื่องบินพรุ่งนี้” นายว่า
“นี่เฮียทนมองหน้าพี่จี้ไม่ได้เลยจริงๆ เหรอ”
“ชั้นไม่อยากทรมานเค้าให้ต้องเห็นหน้าชั้นเองต่างหาก”
แนวหน้าเซ็งๆ อยู่แล้วมองไปทางหนึ่งแต่ต้องชะงัก
“เฮีย”
แนวหน้าสะกิดให้นายดูจีจี้ที่ยืนมองมา จากหน้าต่างจากห้องนอนตัวเอง นายหันไปมองพบว่าจีจี้ยืนแอบมองตนอยู่จริงๆ ส่วนจีจี้เห็นนายก็รีบหลบไปข้างหน้าต่างทันที
“เจ๊เค้าคงอยากจะง้อเฮียมั้ง”
นายมองไปที่หน้าต่างอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่เห็นจีจี้ออกมา
“ไม่หรอก ฉันว่าเค้าเลิกรักชั้นแล้วล่ะ”
นายขึ้นรถจี๊ปไป
จีจี้มองรถจี๊ปที่แล่นจากไปจนลับตา รู้สึกแย่ที่ทำให้นายโกรธจนหนีกลับกรุงเทพฯ

จีจี้นั่งเศร้าอยู่ มีฟินคอยยืนบงการ
“จะทำหน้าเศร้าไปทำไม นายไปซะได้ก็ดี หน็อยทำเป็นส่งสายตาขอความเห็นใจ...ดีนะจี้ที่แกใจแข็งไม่หลงกลคืนดีกับมัน”
จีจี้สับสน “หนูทำกับนายเค้าเกินไปหรือเปล่าเจ๊”
ฟินอึ้ง เริ่มฉุน “นี่...อย่าบอกนะว่าแกสงสารมัน”
จีจี้อึกอัก “ก็ตั้งแต่รู้จักกันมา...หนูเพิ่งเคยเห็นเค้าโกรธมากก็วันนี้”
“นังจี้! นี่แกลืมเรื่องชั่วๆ ที่มันทำกับแกไปหมดแล้วใช่ไหม”
ฟินบันดาลโทสะ จับตัวจีจี้มาเขย่าๆ เพื่อเรียกสติ
“จำได้ไหมว่าใครที่ชอบพูดจาข่มเหงดูถูกแก ใครที่จะฮุบบริษัทที่แกสร้างมากับมือ ใครที่ทำให้แกต้องร้องไห้ซมซานกลับเมืองไทย ไม่ใช่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นหรือไง”
จีจี้อึ้งนิ่งคิด ฟินเห็นว่าจีจี้ไม่ตอบก็เริ่มอ่อนลง
พูดปลอบ “นายนายเค้าไปแบบนี้ดีแล้วล่ะจี้ เราจะได้มีโอกาสแอบไปขโมยสัญญาของเจ้าแนวมาฉีกทิ้ง เรื่องมันจะได้จบสักที”
จีจี้พยักหน้ารับส่งๆ แต่ในใจยังเครียดเรื่องนายอยู่ไม่คลาย

เห็นโลลิต้ายืนเหม่ออยู่ในห้องนอน ขณะชีฟองเดินเข้ามา
“องค์หญิงเพคะ...ได้เวลาเสวยแล้วเพคะ”
“หญิงยังไม่หิวเลยค่ะพี่ฟอง”
“งั้นขนมไหมเพคะ เดี๋ยวพี่ฟองเอามาให้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอหญิงอยู่คนเดียวสักพักนะคะ”
“องค์หญิงแน่ใจนะเพคะ ว่าไม่ได้เป็นอะไร ที่ล้มลงไปวันนี้”
“แน่ใจสิคะ” องค์หญิงยิ้มแย้ม “พี่ชีฟองไปนอนเถอะ”
ชีฟองถอนใจแล้วเดินออกไป
โลลิต้าเดินไปเปิดคอมพ์ แล้วชะงักเห็นข้อความที่มีคนทิ้งไว้ “จากนายพรหมลิขิต”
โลลิต้าอ่านที่หน้าจอ “อยากรู้เรื่องของเจ้าหญิงโลล่ากับนายน้ำนิ่งต่อจัง...เด็กน้อยขายไม้ขีดไฟหายไปไหน เป็นอะไรหรือเปล่าครับ...จากนายพรหมลิขิต”
โลลิต้ายิ้มออกมา อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่บ้าง

แนวหน้านั่งหน้าคอมพ์ฯ เช่นกัน บ่นงึมงำ
“ยังไม่ตอบ... เป็นอะไรหรือเปล่าวะ”
แนวหน้าลุกขึ้นเดินวนเวียนไปมา ท่าทีกลุ้มๆ
“หรือว่า เจ็บขา”
พอได้ยินสัญญาณ หันไปมองแล้วก็ต้องชะงัก เพราะเห็นข้อความตอบกลับมา แนวหน้ารีบอ่าน
“ขอบคุณนะคะนายพรหมลิขิต ที่ตามอ่าน...ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แต่กำลังจะเขียนต่อนะคะ...เด็กน้อยขายไม้ขีดไฟ”
แนวหน้ายิ้มดีใจที่โลลิต้าตอบข้อความแล้ว
“มันต้องอย่างนี้สิวะ นายพหรมลิขิต!”
แนวหน้าตัดสินใจพิมพ์ตอบไปทันที
โลลิต้ากำลังอ่านข้อความ
“ไม่น่าเชื่อว่าเรื่อง บอดี้การ์ดหัวใจ จะเป็นเรื่องแรกที่เด็กน้อยขายไม้ขีดไฟเขียนนะครับ... ฝีมืออย่างกับมืออาชีพเลย”
โลลิต้าดีใจที่มีคนชอบ พิมพ์ข้อความตอบกลับทันที
แนวหน้ากำลังอ่านข้อความนั้นอยู่
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่จำสำนวนของคนอื่นเค้ามา” พร้อมกับรีบพิมพ์ข้อความตอบพูดไปด้วย “อย่างงี้ก็เรียกว่าลอกน่ะสิครับ...” แต่นึกได้ รีบกดลบข้อความ ด่าตัวเอง “เขียนอย่างนี้ใครอยากจะคุยกับแกวะไอ้แนว?”
แนวหน้าพิมพ์ข้อความใหม่
โลลิต้ากับแนวหน้าพิมพ์ข้อความโต้ตอบกันสลับกันอ่านข้อความอีกฝ่ายไปมา
โลลิต้าอ่าน “นักเขียนของคุณคนโปรดคือใครครับ”
แนวหน้าอ่าน “หลายคนค่ะ ฉันชอบอ่านวรรณกรรมหลายแบบ วรรณกรรมเด็กก็ชอบนะคะ”
“เหมือนผมเลย ผมก็ชอบวรรณกรรมเด็ก...ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้วรรณกรรมเด็ก จะต้องรู้ว่า ประโยคนี้มาจากเรื่องอะไร “ฉันไม่รู้ว่าเธอจะโตขึ้น?“...“ฉันก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกัน?”...”
โลลิต้าอ่านแล้วยิ้มชอบใจ ก่อนจะพิมพ์ข้อความกลับ
แนวหน้าอ่าน “The Missing Piece Meets the Big O ของ Shel Silverstien...หนังสือเล่มโปรดของฉันเลยค่ะ ฉันชอบเล่มนี้มากกว่า The Missing Piece อีก”
แนวหน้าอึ้งไปที่โลลิต้าตอบได้และชอบนิยายเล่มนี้เหมือนกัน รู้สึกประทับใจในตัวโลลิต้านิดๆ ในใจ

โลลิต้ายิ้มที่ได้คุยกับคนที่มีรสนิยมเดียวกัน จนทำให้องค์หญิงลืมความทุกข์เรื่องไผทไปโดยไม่รู้ตัว

อ่านต่อตอนที่ 9
กำลังโหลดความคิดเห็น