ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 26 อวสาน
ภายในร้านกาแฟ
"มันไม่รับสาย" ณัฎฐาลินีบอก
"เหมือนกัน" ภัทรวลัยบอก
"เมเปิ้ลอาจติดประชุม"
"เหมือนกัน"
"แต่น้ำผึ้งมันไม่มีงานที่ไหนไม่ใช่เหรอ มันจะประชุมอะไรล่ะ"
"ก็อาจจะนอนอยู่…เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์"
"เหย น้ำผึ้งไม่ใช่คนนอนขี้เซา หรือลงไปว่ายน้ำ"
"เหย ช่วงนี้มันอ้วน มันไม่มีทางลงไปโชว์หุ่นให้เพื่อนบ้านเห็น"
"ไปกินข้าวมื้อเย็นกับผมได้มั้ยครับ"
เสียงวายุบุตรดังเข้ามา แต่ณัฎฐาลินียังไม่รู้ตัว
"หรือออกไปซื้อข้าวเย็นกับ..."
เธออึ้ง หันขวับ เห็นเขายืนยิ้มกริ่ม แม้จะดีใจ แต่เธอรีบเก็บอาการ
"ไม่เจอกันนาน คิดถึงจังเลยครับ"
เธอลุกเดินหนี ทำแง่งอน
“ เดี๋ยวก่อนสิครับ คุณลินี"
ภัทรวลัยเห็นท่าทางของเพื่อนแล้ว รู้ทัน คิดทำอะไรสักอย่างด้วยความหมั่นไส้เพื่อน
ฝ่ายปินัทธากำลังเลาะริมรั้ว แอบมองเข้าไปในบ้านพีศทรรต เพราะอยากเห็นหน้าเขา เธอเห็นครอบครัวที่พร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูกกำลังทานของว่างกันอยู่ มีแต้วคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ญาดาวิ่งมาหาแม่ให้ธัญรดาป้อนขนมให้ แล้วญาดาก็วิ่งไปเล่นแปะแข็งกับแต้วต่อ ทั้งสองคนชี้ชวนหัวร่อต่อกระซิกกัน เธอมองด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะได้สติ รู้สึกตัว
"ฉันมาทำอะไรที่นี่" ก่อนตอบตัวเองเสียงง่อยๆ “ก็อยากเห็นหน้าเค้าอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย"
พีศทรรตมายืนอยู่ข้างหลังเธอ มองขำๆ นิ่งๆที่เธอทะเลาะกับตัวเอง
"แล้วฉันก็จะไป" เธอเสียงแข็ง "ยังเจ็บไม่พอหรือไงถึงต้องมาทำให้ตัวเองเจ็บมากขึ้นไปอีก" ก่อนจะเสียงง่อยอีกครั้ง “แค่ได้มาเห็นว่าเค้าสบายดี ถึงจะเจ็บ แต่มันก็โอ...”
พีศทรรตทนไม่ไหว รีบขัดทันที
"แต่ผมไม่โอ!”
เธอหันขวับ เห็นพีศทรรตยืนอยู่ ก็ตกใจ
"คุณพีศ!”
"ทะเลาะกับตัวเองเสร็จหรือยัง"
ปินัทธาหน้าเสีย
ณัฎฐาลินีเดินงอนวายุบุตรมาหยุดที่หน้าห้องเก็บอุปกรณ์ ซึ่งประตูเปิดคาไว้อยู่
"เป็นอะไรของคุณอีกล่ะ งอนอะไร"
"ไม่ได้งอน"
"โกรธ?”
"ไม่ได้โกรธ"
เขาถอนหายใจ มึน ภัทรวลัยและเป้แอบดูอยู่
"เห็นความเยอะของเพื่อนหนูมั้ยพี่เป้"
"เห็น"
"แหม! ทำสะบัดสะบิ้ง ถ้าอายุยี่สิบห้าทำแบบนี้ยังจะพอน่ารัก แต่นี่...”
"น่ารำคาญ"
"ถูก"
"จัดไป"
เป้กับภัทรวลัยก็พุ่งออกไปหา ทั้งคู่แปลกใจ
"มีอะไร วลัย"
ภัทรวลัยผลักเพื่อน เป้ผลักวายุบุตรเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ แล้วปิดประตู ล็อกกุญแจทันที
"วลัย พี่เป้!เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ เปิด!”
วลัยและเป้ยืนยิ้ม แปะมือกัน ยืนเฝ้าหน้าห้อง มีคนเดินผ่าน มองมาอย่างแปลกใจ
"ไม่มีอะไรครับ ข้างในเค้าหาหัวใจกันไม่เจอครับ"
"ต้องให้เค้าหากันให้เจอค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวเกิดปัญหาสังคมค่ะ"
คนเดินผ่านไป ทั้งคู่เอาหูแนบประตูทันที ติดตามความเคลื่อนไหว
ทั้งคู่ยืนเซ็งในห้องเก็บอุปกรณ์ หันมามองหน้ากัน
"เพื่อนคุณคงต้องการให้เราคุยกันให้รู้เรื่อง"
"ไม่คุย ไม่มีอะไรต้องคุย" เธฮตอบพลางเคาะประตูห้อง "วลัย เปิด! อย่าให้ฉันออกไปได้นะ ฉันจะฆ่าแกให้ตายท้องกลม!”
"โหดไปนะ"
"น้อยไปสิ! วลัย พี่เป้"
วายุบุตรขำลงนั่งรอ ให้เธอสงบสติอารมณ์ แต่เธอก็ยังพลุ่งพล่าน
พีศทรรตลากปินัทธาออกมาจากซี่รั้ว ที่เธอเกาะไม่ยอมปล่อย
"ออกมา! เราต้องคุยกัน หายหน้าไปไหน ทำไมติดต่อไม่ได้"
"ไม่พร้อมเจอหน้าใคร"
"ออกมา!เหนื่อยแล้วนะ"
"แก่แล้วก็เหนื่อยง่ายงี้แหละ"
พีศทรรตแกล้ง
"เฮ้ย! คางคก"
เธอตกใจ กระโดดใส่ พีศทรรตอุ้มไว้ "ว้าย!”
เขาได้โอกาสอุ้มเธอออกไปเลย
"ไอ้คุณพีศ! จะพาฉันไปไหน"
"เอาไปทิ้ง! ผู้หญิงน่ารำคาญ"
เมธาวลัยเดินมาวางกุญแจรถให้หยาดทิพย์ ที่กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง
"ให้คนขับรถกลับไปบ้านฉันทีนะ ฉันไม่อยากขับรถ เหนื่อย"
"แล้วบ.ก.จะไปไหนคะ ให้หนูไปส่งมั้ยคะ จะนั่งแท็กซี่ไปเหรอคะ"
เธอยกมือห้ามหยาดทิพย์ เพลียเต็มที
"ปิดไฟในห้องฉันด้วยนะขอบคุณมาก"
"วันนี้บ.ก.ดูเปลี่ยนไปนะคะ ดู...ซ็อฟต์ๆ เบาๆ"
"ฉันรู้สึกว่า ตอนนี้ฉันแก่ขึ้นสักสิบปีได้มั้ง หมดแรง"
เธอยิ้มให้หยาดทิพย์ แล้วเดินซึมออกไป หยาดทิพย์เดินไปปิดไฟในห้องทำงาน ไฟในห้องเธอถูกปิดลง เหมือนความรักที่ดับลงเช่นกัน
เธอเดินทอดอารมณ์มาตามถนนอย่างช้าๆ อดคิดถึงกฤษฎาไม่ได้
ที่ริมทะเลคืนนั้น ในอดีต กฤษฎาค่อยๆถอนจุมพิต เธอยังหลับตาพริ้มอยู่
"หยุดทำไม"
เขาขำ ที่เธอยังหลับตาอยู่
"ขำทำไม รออยู่ เร็วสิ"
"ลืมตาก่อนสิครับ"
"มีอะไร" เธฮพูดพร้อมลืมตา
"อยากมองตาคุณ"
เธออึ้ง มองตาเขาอย่างอ่อนโยนมาก
"มองสิ"
เขาสบตาเธอ
"ตาคุณสวยมากนะ ผมมีความสุขมาก คุณรู้มั้ย"
"ฉันก็เหมือนกัน"
"อยากให้เวลาหยุดอยู่แค่ตรงนี้"
"มีแค่เรา"
"ไม่มีคนอื่น"
"ก็ลองมีสิ...ข้ามศพฉันไปก่อน ไม่สิ ฉันจะไม่ยอมตายทั้งๆ ที่เพิ่งได้เจอจูบแรกจากคนที่ฉันรักหรอก ฉันจะเป็นสาวสองพันปี ฆ่าไม่ตาย คนที่จะตายคือมือที่สามที่จะมาทำให้เราสองคนต้องแยกจากกัน"
"คุณย่าคุณเหรอ"
"นั่นยกไว้ แค่คุยให้เข้าใจก็พอ คุณย่ารักฉัน ความสุขของฉันคือความสุขของท่าน ฉันจะทำให้ท่านเห็นว่าเราสองคนจะต้องไปรอด"
"รักคุณจัง"
"รักเธอมากกว่า"
เธอยื่นมือให้กฤษฎา ทั้งคู่จับมือกระชับมั่น ออกเดินเคียงคู่กันไปบนชายหาดที่สวยงาม ฉาบทาบทาไปด้วยแสงจันทร์และแสงดาว
เธอเดินสวนผู้คน น้ำตาเอ่อริน แล้วหยุดเดิน ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น เวลาสำหรับเธอเหมือนหยุดเคลื่อนไหว ในขณะที่ผู้คนรายรอบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
ที่รีสอร์ต กฤษฎานั่งเครียดอยู่ เดโชเดินเข้ามา
"ไง...คิดถึงเค้าจนไม่เป็นอันทำงานทำการเลยนะ"
"คิดถึงและไม่เข้าใจครับ"
"ผู้หญิงก็เข้าใจยากอย่างนี้แหละ"
"ผมไม่เชื่อ ว่าเค้าจะขอเลิกกับผมเพียงเพราะว่าเค้ากลัว"
"พ่อก็ไม่เชื่อ ว่าผู้หญิงอย่างหนูเมเปิ้ลจะกลัว"
"แต่เค้ายืนยันกับผมอย่างนั้น"
"แล้วแกก็ยอมให้เค้าไป อย่างนั้นรึ"
"ปล่อยไปก่อนครับ เดี๋ยวจะไปคิดบัญชีทีหลัง ผมจะไปเค้นเอาความจริง มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เค้าพูดออกมาอย่างนั้น นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณเมเปิ้ลต้องการจริงๆหรอก"
"แล้วจะรออะไร"
เขาอึ้ง
"เวลาที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน พ่อไม่เคยปล่อยให้แม่โกรธพ่อ ข้ามคืนเด็ดขาด ต้องรีบเคลียร์ ไม่อย่างนั้นผู้หญิง ซึ่งมีธรรมชาติ ชอบจินตนาการ มักจะคิดไปไกล ใหญ่โต จนยากที่จะแก้ไข อะไรก็เกิดขึ้นได้ในระหว่างที่เราไม่เจอเค้า ไม่แน่นะ เค้าโกรธแกมากๆ ไม่เห็นแกตามไปง้อ อาจจะตัดสินใจแต่งงานกับเกย์คนนั้นเพื่อประชดไปเลยก็ได้"
กฤษฎารีบวิ่งออกไปทันที เดโชมองตามยิ้มๆ ตามไป
น้ำฟ้าเดินมา โสนเดินมาจากอีกทางหนึ่ง เห็นน้ำฟ้าแล้วแปลกใจ
"อ้าว...หนูฟ้า ป้าคิดว่าหนูกลับกรุงเทพไปแล้วซะอีก ยังอยู่เหรอลูก"
"ยังมีเรื่องเป็นห่วงอยู่ค่ะ"
"เรื่องอะไร สปาที่รีสอร์ตก็โอเคแล้วนี่ หรือว่าเรื่อง...ตากฤษ"
น้ำฟ้ายิ้มรับ
"ไม่ต้องห่วงหรอก แม่นั่นบอกเลิกตากฤษแล้ว หนูสบายใจได้แล้วน่ะ"
"หนูอยากอยู่เป็นเพื่อนกฤษ อยากให้กฤษสบายใจเร็วๆ"
"โถ...หนูฟ้า จะมีใครรักลูกชายป้าเหมือนที่หนูรักได้อีกมั้ย"
น้ำฟ้ายิ้มอาย
"ว่าแต่ว่า...หนูรู้มั้ยว่าทำไมแม่ขิงแก่นั่นถึงได้ยอมถอยทัพกลับไปง่ายๆแบบนี้ ไอ้ที่บอกว่า กลัว ไม่อยากเจ็บมากไปกว่านี้ มันไม่น่าจะใช่"
"เค้าอาจจะคิดได้ขึ้นมาจริงๆก็ได้นะคะคุณป้า พวกสาวแก่อ่อนไหวจะตายไปค่ะ"
"นั่นสินะ เออ ป้าไปก่อนนะ มัดใจตากฤษให้ได้ไวๆนะจ๊ะ ป้าเอาใจช่วย เค้าอยู่ทางโน้นแน่ะ ไปสิ"
"ขอบคุณค่ะคุณป้า"
โสนออกไปทางหนึ่ง น้ำฟ้ายิ้มกริ่ม เดินไปอีกทาง
ภายในห้องเก็บอุปกรณ์ ณัฎฐาลินีเซ็งอยู่กับความเงียบ ก่อนจะรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวข้างหลัง หันไปมอง วายุบุตรกำลังเล่นฮูลาฮูป พลิ้วมาก เธออึ้ง....
"ไง เก่งป่ะ"
"เอวอ่อนเชียวนะ"
"ไวด้วยนะ"
"อะไรไว"
"ก็ต้องเหวี่ยงไวๆไง เหวี่ยงช้า ห่วงก็ตก คนเล่นฮูล่าฮูปเก่งๆมันก็ต้องทั้งอ่อน ทั้งไว คิดมากอีกแล้วสิเนี่ย"
เธฮไล่ทุบวาเขาเลย
"ก็เป็นคนอย่างนี้ จะไม่ให้ฉันคิดมากได้ไง"
"โอ๊ย! เจ็บ โอ๊ย"
"สองแง่สามง่าม ทะลึ่งลามกตลอดเวลาที่อยู่กับฉัน ผู้ชายดีๆ ไม่เจ้าชู้ที่ไหน เขาเป็นกัน หา"
"โอ๊ย"
เป้กับวลัยที่แอบฟังอยู่หน้าห้อง ถึงกับผงะ ตกใจเพราะเสียงโอ๊ยของวายุบุตร
"พี่เป้คะ...คุณวายุบุตรร้องโอ๊ยค่ะ"
ทั้งคู่เอาหูแนบฟังต่อไป ภายในห้อง เธอยังไล่ตี เขาจับมือเธอเอาไว้ แล้วบิด
"ฟังผมก่อนสิ"
"อ๊าย"
เป้และภัทรวลัยผงะอีกครั้ง
"วลัยคะ...ลินีร้องอ๊ายค่ะ"
"ตกลง...เค้าแค่คุยกันด้วยคำพูด หรือมีการใช้ท่าทางประกอบ การพูดด้วยคะ"
"การสื่อสารที่ดี มันต้องใช้ทั้งสองอย่างค่ะ"
ภายในห้อง...วายุบุตรล็อกแขนของเธอเอาไว้
"ฉันเจ็บนะ"
"ผมก็เจ็บนะ เวลาที่คุณไม่สนใจจะฟังผม" เขากระซิบข้างหูอ่อนโยนแผ่วเบา "ลินี...ผมสัญญานะ ผมจะรักคุณ ทนุถนอมคุณ จะดูแลคุณและแม่คุณอย่างดีที่สุด ประสบการณ์ที่เลวร้ายในอดีตมันจะไม่เกิดขึ้นอีก"
เธอชะงัก
"คุณรู้อะไรมา"
"กุ๊งกิ๊งเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว ว่าแม่ของคุณต้องป่วย เพราะอะไร"
เธฮทั้งอึ้ง ว้าวุ่นใจ สับสน
"คุณเขียนจดหมายบอกผมเอง ว่าผมทำให้คุณรู้แล้วว่าผู้ชายไม่ได้เลวเหมือนกันทุกคน ผมยังพิสูจน์ตัวเองให้คุณเห็นไม่พออีกเหรอลินี ว่าผมแตกต่าง หรือว่าผมยังไม่ดีพอ บอกผมสิ ว่าต้องทำยังไงอีก ผมทำได้ทุกอย่างและผมจะไม่มีวันถอดใจไปจากคุณ"
เธออึ้ง ใจอ่อนลงเรื่อยๆ ในอ้อมกอดของวายุบุตร
อ่านต่อหน้า 2
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 26 อวสาน (ต่อ)
น้ำฟ้าเดินตามหา เจอกฤษฎาถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินมาจากทางหนึ่งอย่างเร่งรีบ เธออึ้ง ตกใจ รีบวิ่งไปดักทางเอาไว้
"กฤษ จะไปไหน"
"มีอะไรค่อยคุยกันนะฟ้า เรารีบ"
"รีบไปไหน"
"เราจะไปหาคุณเมเปิ้ล"
เขาแยกตัวไปทันที น้ำฟ้าร้อนใจ ยังไงก็จะไม่มีทางปล่อยให้เขาไป เธอรีบตามไปทันที
ณัฎฐาลินีน้ำตาซึม ใจอ่อนให้กับวายุบุตร
"ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี คนดีที่ไม่เคยป่าวประกาศบอกใคร คุณคือผู้บริจาคนิรนามคนนั้น คนที่บริจาคเงินให้มูลนิธิมาตลอดหลายปี ผ.อ.บอกฉัน"
"ผมแค่อยากทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง"
"แล้วคนดีอย่างคุณ แน่ใจเหรอ ว่าจะไม่ยอมถอดใจจากฉัน"
"ผมแน่ใจ"
"ฉันอาจจะไม่ได้เป็นคนรักที่ดี ฉันอาจจะดูแลใครไม่เป็นคุณอาจจะต้องเจ็บปวดเพราะการกระทำของฉันทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจในอนาคต ยังจะแน่ใจอยู่มั้ย"
"ยังยืนยันคำเดิม"
วายุบุตรคลายอ้อมกอดลง จับเธอให้หันหน้ามา มองตาอย่างลึกซึ้ง
"ยอมรับรักผมแล้วใช่มั้ย"
"ยัง"
"อ้าว ทำไมล่ะ"
"คุณยังคงไม่ทิ้งลาย อย่ามาโกหก!”
"หือ? เอามาจากไหน ว่าผมยังไม่ทิ้งลาย"
"กอดกับใครที่สุสาน! ไหนบอกว่าถอดเขี้ยวเล็บแล้วไง แล้วชะนีคนนั้นเป็นใคร หา ตอบ"
"เค้าเป็นเพื่อนเก่าผม"
"มาทำไม! ตอบ"
"ผมขายกิจการทั้งหมดให้เค้าไปบริหารต่อ "
"ขายทำไม! ตอบ"
"ก็คุณไม่ชอบ ผมก็ไม่ทำ ผมขายจะได้มีเงินเอาไปทำอย่างอื่น"
"ทำอะไร ตอบ"
"ยังไม่รู้ คุณช่วยผมคิดสิ ก็คุณเป็นอนาคตภรรยาผม ก็ต้องมาช่วยผมใช้เงิน"
"แฟนก็ยังไม่ใช่ อย่ามาข้ามช็อตใช้คำว่าอนาคตภรรยา"
"ไม่ใช่แฟน แล้วเป็นอะไร! เป็นแม่มั้ย"
"ประชดเหรอ"
"ไม่ได้ประชด"
"ประชด นี่แน่ะ!”
เธอหยิกวายุบุตรที่พยายามหลบเลี่ยง
ภัทรวลัยและเป้ยังแอบฟังอยู่ที่ประตู
"โอ๊ย!”
ทั้งคู่ผงะ ตามมาด้วยเสียงประตูสะเทือนโครม ภัทรวลัยและเป้ผงะอีกรอบ
"ฆ่ากันตายแล้วมั้งคะวลัย"
"เอาไงดีคะพี่เป้"
"เปิดสิคะ"
"งั้น..ไปค่ะ" ภัทรวลัยตั้งท่าจะวิ่งหนี
"ไม่ใช่! พี่หมายถึงให้เปิดประตู"
"อ้าว...ก็เปิดสิคะ กุญแจอยู่ที่พี่เป้อ่ะ"
เป้รีบไขกุญแจ เปิดประตูทันที ภาพที่ปรากฏคือ วายุบุตรยืนยิ้มกว้างอยู่ เธอยืนมองค้อนเขาอยู่ ทั้งภัทรวลัยและเป้งง และอึ้งไป
"ยังมีชีวิตอยู่ดีกันใช่มั้ยคะ"
"ดีที่สุดครับ ผมได้แม่มาเพิ่มอีกคนหนึ่งแล้ว"
"คุณวายุบุตร"
ภัทรวลัยและเป้อมยิ้ม ที่เห็นณัฎฐาลินีเข่นเขี้ยวใส่วายบุตร นั่นหมายความว่า ทั้งคู่ลงเอยด้วยดี
น้ำฟ้ามาแย่งกระเป๋าจากกฤษฎา
"เราไม่ยอมให้กฤษไป ทำไมกฤษไม่มีศักดิ์ศรีเลย เค้าบอกเลิกแล้วก็ไม่ยอมเลิก จะไปตื้อเค้าทำไม ในเมื่อเค้าหมดใจ"
"แต่เรายังไม่หมด และเราก็เชื่อว่าคุณเมเปิ้ลก็ยังไม่หมด"
"แต่คุณเมเปิ้ล ไม่มีทางคืนดีกับกฤษ เพราะถ้าเค้าทำอย่างนั้นเราจะ.." น้ำฟ้าชะงักไป
"จะ ..อะไร?”
น้ำฟ้ารู้ว่าตัวเองพลาดที่หลุดปากออกไป
"อะไรฟ้า? จะอะไร"
น้ำฟ้าตกใจ สะดุ้ง ที่กฤษฎาตะคอกใส่
โสนตกใจ เมื่อเดโชบอกว่า ลูกชายจะไปกรุงเทพฯ
"ตากฤษจะไปง้อยัยขิงแก่ที่กรุงเทพ"
"ใช่จ๊ะ"
"แล้วทำไมคุณไม่ห้าม"
"ผมไม่กล้าห้ามหรอก กลัวข้ามหน้าข้ามตาคุณ"
"โอ๊ย! มีผัวกับเค้าก็ขี้กลัวไปหมด น่าเบื่อ ฉันห้ามเอง"
โสนวิ่งออกไปทันที เดโชถอนใจ อมยิ้ม...รู้สึกดี ตามโสนออกไป ช้าๆ ไม่รีบ ท่องกลอนไปชิลๆ
"ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ่ หวนคิดถึงเจ็บกายฯ"
กฤษฎาไล่บี้ถามน้ำฟ้า
"ตอบเรามาเดี๋ยวนี้นะฟ้า ฟ้าไปรู้อะไรที่เราไม่รู้"
น้ำฟ้าพยายามแก้ตัว
"เราไม่ได้รู้อะไรเลยสักหน่อย"
"อย่ามาโกหก! ฟ้าไปพูดอะไรกับคุณเมเปิ้ล"
"เรา..เอ่อ"
"ตอบเรามาเดี๋ยวนี้"
โสนเดินเข้ามาพอดี
"บอกให้ตอบมาเดี๋ยวนี้"
"เราจะฆ่าตัวตาย"
กฤษฎาอึ้ง โสนที่กำลังจะเข้าไปถึงกับชะงัก
"เราบอกเค้าว่าถ้าเค้าไม่เลิกกับกฤษ เราจะฆ่าตัวตาย จะให้ทำเป็นร้อยเป็นพันครั้ง เพื่อให้เค้าเห็นว่าเรายอมตายดีกว่าจะเสียกฤษไปให้เค้า เราก็จะทำ ทำโดยไม่เสียดาย ชีวิตตัวเอง ได้ยินมั้ย...เรายอมตาย"
โสนอึ้ง ตกใจมาก ไม่คิดว่าน้ำฟ้าจะยอมทำได้ถึงขนาดนี้ เดโชยืนอยู่ข้างหลังโสน ได้ยินหมดแล้วทุกอย่าง หน้าเครียดอยู่
"อย่าโกรธเลยนะกฤษ. เรารักกฤษมาก กฤษเข้าใจเรานะ"
"เราเข้าใจแล้วฟ้า เพิ่งจะเข้าใจวันนี้"
น้ำฟ้ายิ้มทั้งน้ำตา คิดว่าเขายอมเข้าใจจริงๆ
"ว่าฟ้าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวขนาดไหน"
น้ำฟ้าอึ้ง
"ฟ้าไม่ได้รักเราเลย แต่ฟ้ารักตัวเองมากกว่า"
"ไม่จริง"
"ฟ้ากลัวตัวเองผิดหวัง กลัวว่าตัวเองจะเจ็บเลยพยายามทำทุกอย่าง แม้กระทั่งใช้วิธีที่โง่ที่สุดเพื่อต่อรองกับคุณเมเปิ้ล! ฟ้าคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่สนใจว่าเราจะเจ็บปวดมากแค่ไหนทั้งๆ ที่ฟ้าบอกว่าเราคือคนที่ฟ้ารัก แต่เราเจ็บ ได้ยินมั้ยฟ้า ว่าเราเจ็บ"
"ไม่จริง"
"จริง! รักแท้คือการยอมเสียสละ ไม่ใช่เรียกร้องเอาแต่ได้อย่างที่ฟ้าทำ"
"ไม่จริง"
"งั้นมานี่"
กฤษฎาลากน้ำฟ้าออกไป โสน เดโชตกใจ รีบตามไป
กฤษฎาลากน้ำฟ้ามายืนริมสะพาน มองลงไปในน้ำ
"กฤษ! จะทำอะไร ตากฤษ" โสนถาม
"กระโดดลงไปอีกสิฟ้า กระโดด"
"กฤษ…ปล่อยเรา…ปล่อย"
"ถ้ารักเราจริง ก็กระโดดลงไป แต่คราวนี้เราจะไม่ลงไปช่วยฟ้าหรอกนะ เพราะเราจะไปหาคุณเมเปิ้ล! ยังไงเราก็จะไปหา คนที่เรารัก เรารักคุณเมเปิ้ล เราไม่ได้รักฟ้า ได้ยินมั้ย ว่าเราไม่ได้รักฟ้า"
น้ำฟ้าร้องไห้โฮอย่างเจ็บปวด ทรุดฮวบ โสนและเดโชเห็นแล้วสะเทือนใจ
"ถึงคุณเมเปิ้ลจะไม่ยอมคืนดีกับเรา เราก็จะไม่มีวันกลับมารักคนเห็นแก่ตัวอย่างฟ้าเด็ดขาด"
น้ำฟ้าช็อกร้องไห้หนัก โสนเข้าไปกันเอาไว้
"พอได้แล้วตากฤษ! เลิกทำร้ายจิตใจหนูน้ำฟ้าได้แล้ว"
"แล้วจิตใจผมล่ะครับแม่"
โสนอึ้ง
"ผมไม่มีสิทธิ์รักคนที่ผมรัก และเค้าก็รักผมเลยเหรอครับ"
"ผู้หญิงคนนั้นไม่เหมาะสมกับลูก! เค้าแก่กว่าลูกเป็นสิบปี มีเมียแก่ ไม่อายเค้าเหรอ"
"ทุกคนก็ต้องแก่ด้วยกันทั้งนั้น ผมไม่อาย แค่เค้าเกิดก่อนผมแต่ไม่ได้หมายความว่า คุณค่าของเค้าจะลดน้อยลงจนไม่คู่ควร ที่จะได้รับความรัก"
โสนอึ้ง กฤษฎามองหน้าโสน ยืนยันความคิดของตัวเอง เดโชเข้ามาพูดกับโสน
"คุณโสน...ให้ลูกเลือกคนรักเองเถอะนะ จะดีหรือร้ายก็ให้เค้าได้เรียนรู้ ได้รับผิดชอบของเค้าเอง มองคนรักของลูกในฐานะมนุษย์ที่รู้จักรักรู้จักเสียใจ เหมือนกันกับเรา อย่ามองที่ความแตกต่างเลย ให้โอกาสเค้าสองคนเถอะนะ"
โสนอึ้ง...คิด
"หนูน้ำฟ้า....เข้าใจความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเถอะนะลูกนะ มันจะมีประโยชน์อะไรกับความพยายามเพื่อสิ่งที่ไม่มีวันจะเป็นของเรา มันเหนื่อยและเสียเวลาเปล่า ไม่มีใครมีความสุข มีแต่เจ็บกันทั้งหมด"
น้ำฟ้าอึ้ง คิด กฤษฎายืนมองโสนและน้ำฟ้า เพื่อรอคอยคำตอบ
ภายในห้องประชุมของออฟฟิศ พีศทรรตนั่งนิ่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ปินัทธานั่งนิ่งอยู่เหมือนกัน สักพัก... เธอก็เหลืออด ทุบโต๊ะปัง!
"ไม่ไหวจะทนแล้วนะ มีเรื่องคุยกับฉัน แต่ไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง แถมยังลากมานั่งน้ำลายบูดอยู่ในห้องประชุม เพื่อ?”
พีศทรรตไม่ตอบ เมอร์ดี้โวยวายผลักประตูเข้ามา โตโต้ ตมิสา เพทายตามเข้ามา พร้อมพนักงานสองสามคน
"ก็ดี! ประชุมกันทั้งออฟฟิศเลยก็ดี บอสอยู่ด้วยใช่มั้ย"
"นั่นไงคะ นั่งเป็นประธานอยู่ที่หัวโต๊ะนั่นไง" ตมิสาบอก
เมอร์ดี้ไหว้แต่พีศทรรต
"สวัสดีค่ะบอส"
"นั่งสิ"
"หนูไม่นั่ง พอหนูได้คำตอบแล้ว หนูก็จะไป"
"แรงค่ะ" โตโต้บอก
"ถ้าหนูไม่นั่ง ก็ถอยไปจ๊ะ พวกพี่จะนั่ง"เพทายบอก
เพทาย โตโต้ ตมิสาและพนักงานเบียดเมอร์ดี้ไปนั่งตามเก้าอี้ต่างๆ
"อ่ะ ถามมา เมอร์ดี้" พีส?รรตบอก
"ทำไมหนูไม่มีงานต่อเลย"
"เพราะผมไม่รับงานให้คุณ"
"อะไรนะ"
พีศทรรตเอามือถือเสือกไปให้เมอร์ดี้
"กดดู"
"ดูอะไรคะ"
"ข้อความที่คุณตั้งใจจะส่งให้แม่คุณ แต่พลาด...มันถูกส่งไปให้น้ำผึ้ง"
"อะไรนะ"
เมอร์ดี้รีบกดอ่าน...ตกใจ หน้าซีด ทุกคนสะใจมาก
"ผมไม่อยากคิดว่าคุณเป็นไม้แก่ดัดยาก แต่ก็ต้องคิดหลังจาก ที่เห็นข้อความนี้ ผมเสียใจนะ ที่ต้องงดรับงานให้คุณ จนกว่าความประพฤติคุณจะดีขึ้น"
เธออึ้ง คิดไม่ถึงว่าพีศทรรตจะลงดาบเมอร์ดี้
"แต่ในสัญญา"
"ในสัญญาระบุว่า คุณจะต้องมีความประพฤติที่ไม่เสื่อมเสียหรือทำให้องค์กรต้องเสียหาย แต่คุณทำทุกข้อที่ผิดสัญญา"
"งั้นก็ฉีกสัญญาซะเลยสิ"
"แล้วก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายคุณงั้นเหรอ เอามั้ยล่ะให้คุณไม่มีที่ยืนในวงการอีกต่อไป หรือจะปล่อยให้เวลาผ่านไป จนหมดสัญญา จากนั้น คุณก็เป็นอิสระ ไปตามทางของคุณ เลือกเอา"
เมอร์ดี้เจ็บใจ จะเดินออกไป
"ผมยังยืนยันคำเดิมว่าคุณยังมีเวลา มีโอกาสที่จะเปลี่ยนทัศนคติ อยู่ที่คุณเลือก แต่ถ้าคุณคิดไม่ได้ ก็น่าเสียดาย"
เมอร์ดี้ไม่พูดอะไร กระฟัดกระเฟียดออกไป
อ่านต่อหน้า 3
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 26 อวสาน (ต่อ)
เธอพูดกับพีศทรรต
"พูดจบแล้วเหรอ"
"จบแล้ว"
"แต่ฉันยังไม่จบ"
เธอรีบตามเมอร์ดี้ออกไปทันที ตมิสา โตโต้ เพทายหันมองพีศทรรต ด้วยสายตาอ้อนวอนมาก
"ก็ตามไปสิ ผมไปด้วย"
ทุกคนตามออกด้วยทันที
มุมหนึ่งออฟฟิศ เมอร์ดี้เดินเจ็บใจมาห เธอตามมาเรียกไว้
"เดี๋ยวก่อน เมอร์ดี้"
เมอร์ดี้ชะงัก เธอเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับเมอร์ดี้
"ฉันไปทำอะไรให้เธอเกลียดจนแค้นฝังหุ่นขนาดนี้"
ทุกคนยืนฟังอยู่ที่มุมหนึ่ง
"คุณจำไม่ได้จริงๆเหรอ"
"รอยหยักในสมองฉันไม่ได้มีมากพอที่จะจำทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ในชีวิต"
เมอร์ดี้หันไปรอบๆ เห็นพนักงานคนหนึ่งใส่แว่นหนาเตอะ เมอร์ดี้เข้าไปดึงแว่นมาสวม แล้วรวบๆผมทรงเดียวกับที่เคยทำในสมัยเรียนมัธยม ดูเนิร์ดมาก เธอและทุกคนตกใจ
ในความคิดของเธอ ภาพเด็กมัธยมเนิร์ดๆที่เคยถูกด่าแวบเข้ามา
"เธอ"
"จำได้แล้วใช่มั้ย...คุณดูถูกเด็กคนนั้นมากแค่ไหน ศรัทธาที่ฉันเคยมีให้คุณ ถูกคุณทำลายในแค่ไม่กี่วินาที เพราะความหยิ่งผยองและจองหอง ฉันถึงต้องมาเอาคืนไงล่ะ"
"เหรอ! แล้วได้อะไรกลับคืนไปล่ะ นอกจากความย่อยยับในอาชีพของตัวเธอเอง"
เมอร์ดี้อึ้ง
"ถ้าเธอเข้ามาในวงการนี้ เพื่อมาแก้แค้นเอาคืน เพื่อความสะใจ แต่ไม่ได้รักและศรัทธาในวิชาชีพอย่างแท้จริงก็สมควรที่เธอจะย่อยยับ"
"ก็เพราะใครล่ะ"
"หยุดโทษคนอื่นเสียที เห็นฉันมั้ย ที่ฉันต้องมาจบด้วยการรับบทแม่ก่อนวัยอันควร ถูกแบนจากสื่อทุกสำนัก ถูกคนที่บอกว่ากำลังเริ่มจะรักทิ้ง ไปคืนดีกับเมียเก่า เพราะอะไร เพราะนิสัย ชอบโทษคนอื่นแบบเธอ"
เมอร์ดี้และทุกคนอึ้ง
"ถ้าอยากเสียเวลาเปล่า ไม่เสียดายความนิยมที่เธอกำลังได้รับและอยากพบจุดจบแบบเดียวกับฉัน ก็ทำเหมือนเดิมต่อไป ไม่ต้องสำนึก แต่ถ้าอาชีพนี้ให้สิ่งดีๆกับเธอ ให้อนาคตให้โอกาสที่ดี ทำให้เธอมีคุณค่า ซึ่งฉันเชื่ออยู่เสมอว่า มันเป็น อย่างนั้น ก็เปลี่ยนความคิดซะ เธอยังมีโอกาส"
เมอร์ดี้อึ้ง น้ำตารื้น...ค่อยๆเดินออกไปช้าๆ น้ำผึ้งหมดแรง เหนื่อย ตมิสากระซิบถามพีศทรรต
"บอสว่า...เมอร์ดี้จะเชื่อที่ป้าน้ำผึ้งพูดมั้ยคะ"
"มีแต่เมอร์ดี้เท่านั้นที่รู้ เราคงได้แต่ภาวนา"
ทุกคนนิ่งอึ้งกันไปหมด พีศทรรตเดินเข้ามาหาน้ำผึ้งช้าๆ
"คุณพูดถูกทุกอย่างนะน้ำผึ้ง ยกเว้นเรื่องเดียว"
"เรื่องอะไร"
"ผมไม่ได้ทิ้งคุณไปคืนดีกับเมียเก่า และผมไม่ได้แค่เริ่มจะรัก แต่ตอนนี้...รักแล้ว"
"หา?”
ทุกคนแซ่ซร้องดีใจกันเป็นอันมาก "ฮิ้ว"
พีศทรรต แม่จะอายแต่รักษาฟอร์ม
"ตอนนี้ตั้งสติได้หรือยัง เรายังมีเรื่องต้องไปจัดการอีก"
"ยัง"
"โอย ป้าคะ ผู้ชายสารภาพรักแล้ว มัวช็อกทำไม ตื่น" โตโต้บอก
เธอยังไม่ตื่น
"ยังไม่ตื่น อุ้มไปเลยครับบอส" เพทายบอก
"เอางั้นเหรอ"
"หรือบอสจะเอาโต้"
ทุกคนร้อง “เฮ้ย!”
"พูดผิด จะพูดว่าอุ้ม"
พีศทรรตหันไปอุ้มน้ำผึ้งขึ้นมาทันที เธอตกใจตื่นจากความช็อก
“ไอ้คุณพีศ"
ทุกคนร้องบอก “เข้าหอเลย เข้าหอเลย"
พีศทรรตอุ้มน้ำผึ้งวิ่งออกไป เพทายเนียนโอบตมิสา แต่เจอยันหน้าหงาย
"บอกแล้วไง ฉันสวย แต่ฉันก็เลือก”
"ส่วนโต้ เหมือนเดิม...ว่าไม่เลือก"
เพทายวิ่งหนีเลย โตโต้เซ็ง
"ฮ่ะๆๆ ณ จุดนี้ แถวบ้านบอกว่า ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากผู้ชายที่เธออ่อย...สงสารนะ แต่รู้สึกดี"
โตโต้เซ็ง ตมิสาหัวเราะชอบใจออกไป
พีศทรรตอุ้มปินัทธาที่ดิ้นมาในมุมหนึ่งของออฟฟิศ
"ปล่อยฉันนะไอ้คุณพีศ"
เขาปล่อยเธอตกลงปุ๊บนพื้น
"ไอ้คุณพีศ ฉันเจ็บนะ จะบ้าหรือไง ทิ้งลงมาได้ไง"
"ก็คุณบอกให้ผมปล่อย ก็ปล่อยสิ"
"ซื่อบื้อจริง หรือแกล้ง"
"แกล้ง พูดจบยัง"
"ยัง! มีอีกหนึ่งคำถาม ที่ว่าไม่ได้ไปคืนดีกับเมียเก่า แล้วทำไมบอกฉันแบบนั้น ว่าคุณสองคนตกลงกันว่าจะทำ ให้ครอบครัวแฮปปี้"
"ก็ถูกไง...แต่ไม่ได้แปลว่าครอบครัวจะแฮปปี้ได้ด้วยการกลับมา ดีกัน ถึงเราจะแยกทางกัน แต่เราก็แฮปปี้กันได้ถ้าต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแม่ของลูกให้ดีที่สุด และคิดถึงลูกเป็นหลัก เลิกคิดถึงแต่ตัวเอง จบมั้ย"
"จบ!"
เธอยิ้มดีใจ
"ทีนี้ฟัง"
"ว่ามาสิ"
"พร้อมมั้ย"
"พร้อมอะไร"
"ไปกราบคุณแม่กับผม ไปบอกท่าน เรื่องของเรา"
"เหย ฉันพร้อมมาก"
ในเวลาต่อมา พีศทรรตลากน้ำผึ้งเข้ามา น้ำผึ้งอิดออด
"เหย ...จะดีเหรอ ไว้วันหลังมะ"
"ไหนบอกว่าพร้อมมากไง เชื่อไม่ได้เลยจริงๆนะคุณน่ะ"
"เหย ...พร้อมมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นวันนี้"
กานดาเข้ามากับธัญรดา
"จะวันนี้หรือวันไหน มันก็ต้องมีสักวัน ที่เธอจะต้องมาเจอฉัน"
น้ำผึ้งชะงัก ไหว้
"สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณแม่"
"ฉันยังไม่รับเธอมาเอี่ยวหรือมาดองด้วย ไม่ต้องเรียกแม่"
"ค่ะคุณแม่"
"เอ๊ะ!”
"คุณแม่ขา" ธัญรดาเรียก
"เธอเงียบไปเลยรดา หนอย ! หลอกให้ฉันดีใจว่าจะกลับมาคืนดีกัน ที่ไหนได้"
ธัญรดาบอกกับพีศทรรต
"ฉันคุยเรื่องข้อตกลงของเรากับคุณแม่เมื่อกี้ค่ะ"
"แล้วมันจะเป็นผลดีกับญาดาตรงไหน พ่ออยู่ทาง แม่อยู่ทาง"
"แต่เราก็มีลูกเป็นศูนย์กลาง และถ้าไม่ใช่เพราะคุณน้ำผึ้ง หนูกับพีศอาจจะไม่มีทางมาเจอกันได้แบบนี้"
กานดาอึ้ง... เธอรู้สึกสวยขึ้นมาทันที
"พีศรักคุณน้ำผึ้ง ไม่ได้รักหนู อยู่ด้วยกันแต่ปราศจากความรัก มีแต่จะทะเลาะกัน หนูไม่อยากทะเลาะกับพีศ ให้ลูกเห็นอีก"
"เห็นใจพวกเราเถอะครับคุณแม่"
"ญาดารู้เรื่องนี้แล้วรึ ว่าจะมีแม่นี่เข้ามาแทรกกลาง"
"ผมกับรดาคุยกับลูกเรียบร้อยแล้วครับ แกไม่ได้ปฏิเสธน้ำผึ้ง แต่ผมก็ไม่ได้เร่งรัดลูก จนกว่าแกจะพร้อม วันนั้นผมกับน้ำผึ้งจึงจะคุยเรื่องอนาคตกันอีกที ว่าจะเอายังไง"
"ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เผลอๆพรุ่งนี้ฉันกับพีศอาจจะทะเลาะกันจนเลิกคบกันก็ได้”
"ขอให้จริง" กานดาบอก
กานกายังไม่อยากจะยอมรับ เธอตัดสินใจเข้าไปกราบกานดา
"หนูกราบขอโทษ ถ้าเคยทำให้คุณแม่ไม่พอใจ แต่หนูอยากให้คุณแม่รับหนูไว้พิจารณา หนูสู้งานหนัก รักเด็กบ้างเป็นบางที พูดจาดีเป็นบางหน แต่ถ้าเยอะกับหนู หนูอาจจะไม่ทน"
กานดาตัดบท
"โอ๊ย! พอแล้ว"
"เหลืออีกหนึ่งประโยคค่ะ เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอย หนูจะยอมรับเล่นบทแม่ บทยายหรือบทอะไรก็แล้วแต่ ไม่เลือกงานเพราะมันคือสัมมาอาชีพที่หนูรักและทำได้ดีที่สุด"
"เฮ้อ! ฉันจะเป็นลม! ใครก็ได้ พาฉันไปให้พ้นๆที"
ธัญรดาหันมายิ้มให้กับน้ำผึ้งและพีศทรรต ก่อนจะช่วยประคองกานดาออกไป
"ตกลงคุณแม่คุณยอมรับฉันหรือยังอ่ะ"
"ไม่รับก็ต้องรับล่ะ ทำไงได้ ก็…ผมรักของผมนี่"
พีศทรรตประคองน้ำผึ้งเอาไว้ น้ำผึ้งเขิน...ก่อนจะสวมกอดพีศทรรตเต็มๆเลย
"ไม่อายบ้างเหรอ"
"ไม่อาย...รอมานานแล้ว ปากแห้ง"
"เฮ้อ"
มุมหนึ่งออฟฟิศเมเปิ้ล หยาดทิพย์เก็บของอยู่ ชาโนเข้ามา
"หยาด"
"อะไร"
ชาโนเอากล้องมาถ่ายรูปคู่ตัวเองกับหยาดทิพย์ทันที โดยที่หยาดทิพย์ก็ยิ้มอัตโนมัติเลย
"ถ่ายไปทำอะไร"
"โพสต์ไอจีแล้วจะตั้งชื่อรูปว่า...ผมกำลังจีบผู้หญิงคนนี้"
หยาดทิพย์อึ้ง มองชาโน ตกใจ ค้าง
"ตามนี้"
เจ๊ฟู อิ๋ว ดรณ์เข้ามาทันที พร้อมเสียง "ฮิ้ว!"
หยาดทิพย์อาย ขวย พูดอะไรไม่ออก
"น่าน เงียบ!”
"ก็ฉัน...อาย คิดว่าชาตินี้...เธอจะไม่กล้าไปทั้งชาติซะอีก"
"คนเรามันต้องมีพัฒนาการ"
ทุกคน "ฮิ้ว!”
เจ๊ฟูนึกขึ้นได้
"เดี๋ยวก่อน!”
ทุกคนถาม “อะไร!”
"เราจะมามัวแฮปปี้เอ็นดิ้งไม่ได้ ถ้าบ.ก.ของเรายังเศร้าแซดอยู่"
"เออ นั่นดิ่...เอาไงดี" อิ๋วว่า
"ติดต่อบอส ขอเหตุผลที่ไล่ไอ้ไทเกอร์ออก ด่วน! มันต้องมีบางอย่างที่ไม่เป็นอย่างที่เห็น"
"เจ๊ฉลาดจัง" ดรณว่า
"อย่าชม เดี๋ยวจะเสียตัว"
ดรณ์รีบชิ่ง
"ผมไปต่อสายหาบอสให้เจ๊นะ"
ทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด
เมธาวลัยเดินเข้ามาอย่างเซื่องซึม เห็นทุกคนนั่งอยู่พร้อมหน้า ดรณ์นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าแสนสุขกับจิลลา แสนสุขหน้าตึง เธอแปลกใจ สวัสดีทุกคน
"กลับมาแล้วเหรอลูก ไปไหนมา มือถือก็ไม่ยอมรับ"
"หนู เอ่อ...ไปดูหนังค่ะ ทำไมมากัน พร้อมหน้าพร้อมตาเลยคะ"
"มานั่งนี่ก่อนสิลูก" วุฒิบอก
เมเปิ้ลไปนั่ง
"มาก็ดีแล้ว ตาดรณ์มาขออนุญาต จะพาพ่อแม่มาสู่ขอจิลลา"
เธออึ้ง
"เราสองคนตกลงแต่งงานกันแล้วนะเม"
"ดีใจด้วยนะ ทำไมไม่บอกฉันเลย ดรณ์"
"เซอร์ไพรส์ครับ"
"ใช่ เซอร์ไพรส์มาก จนย่าเกือบเป็นลม แน่ใจเหรอว่าจะแต่งงานกันจริง แน่ใจเหรอว่าจะไปกันรอด"
"อุ๊ยตาย! คุณแม่คะ นั่นคือการให้พรเหรอคะ" มารยาทถาม
"แช่ง! หล่อนน่ะสนับสนุนให้ลูกไปตกนรกชัดๆ"
"ส่งให้ไปขึ้นสวรรค์ต่างหากล่ะคะ ได้อยู่กับคนที่รักกันจริงๆ นรกตรงไหน"
"พอเถอะน่าคุณ…อย่าเถียงคุณแม่ เถียงไปก็ไม่ชนะ" วุฒิปราม
"ขอบใจ"
"ผมสัญญากับคุณย่าไว้ตรงนี้ครับว่า ผมจะดูแลจิลให้ดีที่สุดเท่าที่กำลังและความสามารถของผมจะทำได้"
"แต่…"
"ดรณ์เป็นคนดี เอาการเอางาน หนักเอาเบาสู้ ไม่เคยเกี่ยงงาน เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และคนแบบนี้ เท่านั้นที่หนูจะสนับสนุนให้เติบโตในบริษัท" เมธาวลัยบอก
"ดรณ์เป็นคนมีอนาคตนะคะคุณย่า"
"เอาเถอะ ขี้เกียจจะคุย ฉันมันก็แค่ไม้ซีก ไม่อยากจะไปงัดไม้ซุง จะแต่งก็แต่งไป วันไหนก็บอกแล้วกัน"
แสนสุขลุกขึ้นจะเข้าข้างใน
"คุณย่าคะ
"อะไรอีกล่ะ มีเรื่องอะไรอีก"
เธอเดินเข้าไปกราบเท้าแสนสุข ทุกคนอึ้ง
"หนูกราบขอโทษค่ะ"
"ขอโทษเรื่องอะไร"
"หนูโกหกคุณย่า ความจริงแล้ว หนูกับกฤษฎาไม่ได้เป็นแฟนกัน หนูบังคับให้เค้าเล่นละครเพื่อตบตาคุณย่า เพราะหนูไม่อยากแต่งงานกับพี่ตรัยคุณ"
ทุกคนก็อึ้งเธอก้มหน้านิ่ง แสนสุขเดินออกไปทันทีด้วยความเสียใจ ทุกคนเห็นใจเธอมาก
อ่านต่อหน้า 4
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 26 อวสาน (ต่อ)
แสนสุขนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ในห้อง
ที่หน้าห้อง เธอยืนพูดอยู่กับแสนสุข จิลลา ดรณ์ วุฒิ มารยาท ยืนอยู่ด้วยกัน มองมาอย่างเห็นใจ
"แต่แล้ว...หนูก็รักเด็กคนนั้นเข้าจริงๆ หนูกลับไปหาเค้า เพื่อทำทุกอย่างให้เค้าเป็นแฟนของหนูจริงๆรู้มั้ยคะคุณย่าขาว่า หนูทำสำเร็จ เราสองคนหัวใจตรงกัน หนูรักเค้าและเค้า ก็รักหนู"
ภายในห้อง แสนสุขไม่อยากฟัง วุฒิและมารยาทเข้ามาปลอบใจลูกสาว
"เมเปิ้ล...พอเถอะลูก อย่าพูดอีกเลยนะ หนูจะพูดให้ตัวเองยิ่งเจ็บทำไม" มารยาทว่า
"หนูจะพูดความจริงทุกอย่างกับคุณย่า หนูต้องพูดค่ะ...แต่หนูก็ต้องเลิกกับเค้าเพราะหนูไม่อยากทำร้ายผู้หญิงอีกคนที่ก็รักเค้า ไม่น้อยกว่าหนู”
แสนสุขอึ้ง ที่ได้ยินว่าหลานอกหัก
"หนูจากเค้ามา ในสภาพที่หัวใจยับเยินไม่มีชิ้นดี"
ทุกคนสะเทือนใจ
"และหนูก็อยากจะบอกคุณย่าว่า ยังไงหนูก็ไม่มีวันยอมแต่งงานกับพี่ตรัยคุณเด็ดขาด หนูขอโทษนะคะ"
"เม…"
เธอร้องไห้หนัก โผเข้ากอดพ่อเอาไว้
"ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร" วุฒิบอก
แสนสุขเปิดประตูห้องออกมา หน้าตาขึงขัง
"พรุ่งนี้ฉันจะเรียกตรัยคุณมาคุยเรื่องงานหมั้น และจะต้องหมั้นให้เร็วที่สุด"
"คุณย่า"
"หรืออยากให้ฉันเรียกเธอว่าหลานอกตัญญู"
ทุกคนอึ้งกันไปหมด
วันใหม่ เมธาวลัยนั่งซึมอยู่ในชุดสวยแล้ว หมดอาลัยตายอยาก เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ไม่ได้ล็อกค่ะ"
ประตูถูกเปิดเข้ามา เธอเห็นเพื่อนทุกคนก็ร้องไห้โฮ เพื่อนๆกอดเธอไว้
"ย่าแกเอาจริงเหรอ"
"อืม...”
"ความจริงแกก็แก่มากแล้วนะ น่าจะลดความเฮี้ยบลงมาบ้าง" ปินัทธาว่า
"เคยได้ยินป่ะ ยิ่งแก่ยิ่งเขี้ยวน่ะ" ภัทรวลัยบอก
"เมาท์ ระวังเหอะ แก่ตัวไปจะเป็นอย่างที่เมาท์" ณัฎฐาลินีว่า
ปินัทธารีบเปลี่ยนโหมดทันที
“โอย คุณย่าแสนดี"
"มีคุณธรรม" ภัทรวลัยบอก
เมธาวลัยยิ้มขำ
"พวกแกนี่"
"ก็รู้ว่าเพื่อนเครียด เลยอยากให้หายเครียด" ปินัทธาบอก
"ด้วยการเมาท์ย่าแก" ภัทรวลัยว่า
"ฉันควรทำไงดี...ฉันจะทำให้คุณย่าเปลี่ยนใจได้ยังไงดี"
"แกไม่ต้องทำอะไร ให้ผู้ชายทำ" ณัฎฐาลินีบอก
"อะไรนะ"
เธอมองหน้าเพื่อนอย่างแปลกใจ เพื่อนๆยิ้มให้เมเปิ้ลอย่างมีลับลมคมใน
ภายในห้องรับแขกบ้านเมธาวลัย แสนสุขอยู่กับวุฒิ มารยาท ดรณ์และจิลลา วายุบุตร พีศทรรต และคุณเป้นั่งอยู่แล้ว ดรณ์ดูร้อนรน รอคอยบางอย่าง มองไปหน้าบ้านตลอดเวลา จิลลาสังเกตเห็นอยู่
"นี่พวกคุณ...ตกลงปลงใจเป็นแฟนกับเพื่อนๆเมเปิ้ลแล้วเหรอ"
วายุบุตรกับพีศทรรต บอก “ครับ"
"ก็ดี...ก๊วนคานทองจะได้ลงจากคานกันครบทุกคน ดีใจด้วยนะพ่อเป้ กำลังจะมีลูกนี่เรา”
"ขอบคุณครับคุณย่า"
"แล้ววันนี้นึกอะไร แห่กันมา"
"มาให้กำลังใจน้องครับ"
"น้องไหน ใคร"
พีศทรรตบอก
"น้องกฤษฎาครับ"
แสนสุขตกใจ
“อะไรนะ!”
กฤษฎาเดินเข้ามาอย่างร้อนรน เมธาวลัยเข้ามากับเพื่อนๆ เธอแปลกใจที่เห็นเขา
"พวกเราโทร.ตามเค้า ให้รีบมาเร็วที่สุดหลังจากที่รู้เรื่องแกเมื่อคืน" ภัทรวลัยบอก
เธอดีใจ แต่กลับมาเศร้าใหม่... จิลลาเห็นดรณ์ถอนใจ เหมือนไม่ได้ดั่งใจกับอะไรบางอย่าง จิลลาแปลกใจ
กฤษฎายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน แสนสุขรับไหว้อย่างไม่เต็มใจนัก
"ขออนุญาตครับ"
เขาเข้าไปดึงตัวเมธาวลัยมากอดเอาไว้ทันที ทุกคนฮือฮา สยิวกิ้ว แสนสุขตกใจ...
"ปล่อยฉันนะ กฤษฎา"
"ผมไม่ปล่อย ผมรู้ความจริงแล้ว ว่าคุณหนีผมมาเพราะอะไร"
เธออึ้ง
"ผมจะมาคุยกับคุณย่า ว่าเราสองคนรักกันและความรักของเราจะต้องไปรอด"
"แล้วน้ำฟ้าล่ะ"
"น้ำฟ้าเข้าใจและยอมรับความจริง และจะไม่ทำอะไรอย่างนั้นอีก"
"แต่แม่เธอ"
"ท่านให้โอกาสเรา ท่านรักผม ผมรักใคร ท่านก็จะยอมเปิดใจ"
"กฤษ"
เธอโผเข้าไปกอดเขาทันที ทั้งคู่กอดกันแนบแน่น
“มันจะมากไปแล้วนะ ปล่อยหลานฉัน"
"โอ๊ย!คุณแม่ขา เด็กเค้ารักกันขนาดนี้ ยังจะขวางอีกเหรอคะ" มารยาทว่า
"อย่าไปว่าคุณแม่สิคุณ บาปนะ บาปพอๆกับไปขวางทางรักของเด็กมันเลยนะ" วุฒิว่า
"เงียบไปเลย! … คิดว่าความรักของเธอสองคนจะไปรอดเหรอ นี่แค่เริ่มต้นก็ทำให้หลานฉันร้องไห้จะเป็นจะตาย จนไม่อยากจะคิดถึงอนาคต"
"ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับคุณย่า ที่คุณเมเปิ้ลต้องร้องไห้ เพราะปัจจุบันเราไม่เข้าใจกัน เราไม่สื่อสารกัน แต่ถ้าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตก็ต้องออกมาดี"
"ความคิดเป็นผู้ใหญ่มาก น้อง" วายุบุตรบอก
"พี่ยังคิดได้ไม่เท่านี้เลยนะ" พีศทรรตว่า
"อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ" เป้บอก
"พอเลย ไม่ต้องมากล่อมประสาทให้ฉันคล้อยตาม ตาวุฒิ โทร.ตามตาตรัยคุณซิ ว่าถึงไหนแล้ว ฉันอยากจะจบเรื่องนี้เต็มที"
ตรัยคุณเดินเข้ามา เห็นคนเต็มบ้าน ก็อึ้งๆ
"สวัสดีครับคุณย่า คุณอา"
ตรัยคุณยกมือไหว้แสนสุข มารยาทและวุฒิ ทุกคนรับไหว้ตรัยคุณเห็นกฤษฎาอยู่กับเมธาวลัยก็ชะงักไป
ดรณ์ถอนหายใจอีก มองไปทางหน้าบ้าน จิลลาเห็น ตีแขนเพียะ!
"เป็นอะไรดรณ์ รอใคร รออะไร"
"รอเจ้าชายขี่ม้าขาว"
"เจ้าชาย? ใครอีก"
ดรณ์ไม่ตอบ รีบเดินออกไปทันที แสนสุขเข้าไปดึงมือหลานสาวออกมาจากกฤษฎา แล้วจูงมือตรัยคุณอีกข้างเข้ามายืนด้วยกัน
"ฉันกำลังจะคุยธุระ เป็นเรื่องมงคลของคนในครอบครัว พวกเธอที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กลับไปได้แล้ว"
เพื่อนทุกคนบอก
"เพื่อนก็ถือเป็นครอบครัวค่ะ"
แฟนเพื่อนทุกคนขานรับ
"แฟนเพื่อนก็ใช่ครับ"
วุฒิบอก
"เด็กๆเค้าอยากอยู่เป็นกำลังใจเพื่อนน่ะครับ คุณแม่"
"เป็นกำลังใจ หรือก้างขวางคอ"
"ก็รู้อยู่แก่ใจนี่คะว่าก้างเยอะ คุณแม่คิดว่าเรายังจะคุยเรื่องที่เป็นมงคลได้เหรอคะ" มารยาทว่า
"คุยได้ ถ้าให้ก้างพวกนี้ออกไป! แต่ถ้าไม่ออก ฉันจะแจ้งตำรวจ"
แสนสุขพุ่งสายตาไปที่กฤษฎา ทุกคนอึ้งกันไปหมด เอาไงดี
ดรณ์วิ่งโทรศัพท์ออกมาที่มุมหนึ่งที่หน้าบ้าน
"ถึงไหนกันแล้ว"
ไทเกอร์เดินนำหน้ามาอย่างเท่ โดยมีเจ๊ฟู อิ๋ว ชาโน และหยาดทิพย์ตามมาด้วยเป็นขบวนการเปิดโปงเกย์เรนเจอร์ ดรณ์ยิ้มดีใจ
ไทเกอร์เดินนำขบวนมาหยุ มองเข้าไปในบ้าน สายตามุ่งมั่น มีเป้าหมาย
ย้อนหลังกลับไปก่อนหน้านี้ ไทเกอร์หน้าเครียดเดินคุยมือถือมาจากมุมหนึ่ง
"เลิกกับผม! ได้ยังไง! แต่งงานกับพี่เมเปิ้ล ก็ไหนคุณบอกกับผมว่าคุณจะไม่มีวันแต่งงานกับชะนี เดี๋ยวก่อน ตรัยคุณ โอ๊ย! หญิงชั่ว เกย์โฉด โอ๊ย!”
แล้วก็มีพวกของเจ๊ฟู อิ๋วและชาโนมาขวาง...ไทเกอร์ชะงัก ถอยกรูด
"อะไรอีก มาทำไม มาซ้ำเติมหรือไง ฝากไปบอกยัยบ.ก.แม่มดนั่นด้วยนะ ว่า กรรมสนองแล้ว สมน้ำหน้า! จงแต่งงานกับเกย์ไปซะ ขอให้มีชีวิตคู่ที่แสนทรมาน เหมือนติดคุก อยู่ในห้องที่ประตูปิดตาย ให้สาสมกับที่ทรยศฉันทั้งคู่"
ทุกคนย่างสามขุมเข้าหาไทเกอร์ทันที
"อย่าเข้ามานะ ฉันมีพระ"
"รุ่นนี้เฮี้ยน อะไรก็ไม่กลัว!” เจ๊ฟูบอก
"กลัวอยู่อย่างเดียว กลัวแกหมดอนาคตเพราะไม่คิดจะฟังความจริง" อิ๋วบอก
"ความจริงอะไร"
"ที่บ.ก.บอกว่าไล่คุณออกจาก IT’S A MUST THAILAND เพราะบ.ก. คุยกับบอสว่า คุณควรจะไปเป็นบ.กแมกกาซีนหัวใหม่ ที่บอสกำลังจะเปิด" หยาดทิพย์บอก
ไทเกอร์อึ้ง
"บ.ก.เห็นความสามารถของคุณ และคิดจะส่งเสริมให้ถูกที่ถูกทาง ไม่ได้ตาบอด ทรยศ หรือคิดกำจัดเสี้ยนหนาม อย่างที่คุณเข้าใจ" เจ๊ฟูบอก
ทุกคนถาม “เข้าใจหรือยัง"
"ยัง!”
ทุกคนบอก “ปลวก!”
"ขอคุยกับบอสก่อน"
ไทเกอร์ต่อสายหาบอสทันที
หน้าบ้านเมธาวลัย ไทเกอร์ประกาศกร้าว คนอื่นๆไปอยู่ข้างหลัง
"แกมันก็เป็นแค่เกย์เห็นแก่ตัว เป็นจุดด่างทำให้เสื่อมเสียสถาบัน แต่ฉันเลอค่ากว่านั้น คนมันแตกต่างกันที่จิตสำนึก บุญคุณต้องทดแทน แต่เกย์แอ๊บแมนต้องเปิดโปง"
"ถึงเวลา...ขบวนการเปิดโปงเกย์เรนเจอร์!!” เจ๊ฟูบอก
ทุกคนบอก
“ปฏิบัติการ!”
ไทเกอร์เดินนำทุกคนเข้าไปในบ้าน
ในห้องรับแขกบ้าน แสนสุขเสียงแข็งประกาศลั่น
"ออกไปให้หมด เดี๋ยวนี้ หรืออยากเห็นฉันเป็นลม หัวใจวายตาย"
"พวกคุณได้ยินกันมั้ย คุณย่าต้องการให้พวกคุณออกไป" ตรัยคุณบอก
ไทเกอร์เข้ามากับขบวนการเปิดโปงเกย์เรนเจอร์
"ออกไปได้ยังไง ผมยังไม่ได้แฉกับทุกคนเลยว่าผมกับคุณตรัยคุณ เป็นอะไรกัน"
ทุกคนตกใจ ตรัยคุณหน้าซีดเผือดทันที
"คุณต้องการอะไร ทุกคนอย่าไปเชื่อ ผู้ชายคนนี้ผมรู้จักก็จริง แต่ไม่เคยสนิทสนมด้วย ทุกอย่างที่เค้ากำลังจะพูด คือการใส่ร้าย"
"รู้เหรอว่าผมจะพูดอะไร สันดานเอาตัวรอดจริง คุณมัน…"
"ไทเกอร์!” เมธาวลัยเรียก
"ครับ พี่เม"
"อย่ามัวตีฝีปาก ขอหมัดเด็ด หมัดเดียวก็พอ"
"เราสองคนเป็น...เอางี้ดีกว่า คำพูดคงอธิบายได้ไม่เห็นภาพและเสียเวลามากเกินไป เพราะความสัมพันธ์ของเราสองคนค่อนข้างซับซ้อน ดูภาพดีกว่าครับ"
ไทเกอร์หยิบมือถือมาเปิดคลิป
"ภาพอะไรของคุณ"
"ก็ช็อตเด็ดๆ ที่ผมแอบถ่ายไว้เป็นที่ระลึกแล้วโหลดลงมือถือ คือแบบ...ก็ไม่รู้สินะ เอาไว้ดูเวลาที่คิดถึง"
"อย่าทำอะไรบ้าๆนะ เอามานี่"
ตรัยคุณจะเข้าไปแย่ง ไทเกอร์รีบส่งมือถือให้ณัฎฐาลินี เธอรับมาดู ปินัทธา ภัทรวลัยเข้ามามุงพร้อมกับทุกคน แสนสุข ยืนอึ้ง...งงไปหมด ตรัยคุณยืนก้มหน้านิ่ง ไทเกอร์ยืนมองเยาะเย้ย
ทุกคน ตกใจ...สะดุ้ง...เขม้นมอง...ตาเหลือก...ปิดตา.. พร้อมเสียงครางฮือฮาเป็นระยะ
"ชัดมั้ยครับ ทุกคน"
ทุกคนเงยหน้ามองไทเกอร์ พยักหน้า...เหวอๆ
"เอามานี่ ฉันจะดูบ้าง" แสนสุขบอก
"คุณย่าขา อย่าดูเลยค่ะ" เมธาวลัยบอก
"ไม่อย่างนั้น คุณแม่ได้เป็นลมหัวใจวายสมใจแน่ค่ะ"มารยาทบอก
"เอามานี่!”
ทุกคนมองหน้ากันเอาไงดี แสนสุขเข้าไปแย่งมือถือมา กดดู แค่ช็อตแรก ตึ่ง ! เป็นลมเลย
"คุณย่า"
เมธาวลัยและกฤษฎาเข้าไปประคองแสนสุขที่เป็นลมเอาไว้ ตรัยคุณมองหน้าไทเกอร์ด้วยความเจ็บใจ
ไทเกอร์ยักคิ้วให้ ไม่แคร์นะ ตรัยคุณค่อยๆเดินออกไป ด้วยความอับอาย
ไทเกอร์สะใจมาก
"บาย"
แสนสุขเป็นลม ทุกคนกุลีกุจอช่วยกันอุ้มแสนสุขมาพักบนเก้าอี้ จัดแจงให้ได้รับความสะดวก ด้วยความเป็นห่วง
ร้านกาแฟในฟิตเนส วายุบุตร พีศทรรต เป้นั่งเหวอ เพราะภาพจากคลิปยังติดตา สาวๆทั้งสามดื่มเครื่องดื่มมองดูแฟนของตัวเองนิ่งๆ เงียบๆ
"มันช็อกพวกผู้ชายมากขนาดนี้เลยเหรอ" ณัฎฐาลินีถาม
หนุ่มๆทุกคนพยักหน้ารับ
"โอย! ก็แค่ภาพนิ่ง ที่ไทเกอร์มันแอบถ่ายพี่ตรัยคุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตอนหลับ ลองคิดดูสิ ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวล่ะ" ปินัทธาว่า
หนุ่มๆอึ้ง...ไม่อยากจะจินตนาการ รีบดื่มเครื่องดื่มอึกๆทันที
"ปล่อยไปก่อน…เดี๋ยวก็หาย" ภัทรวลัยบอก
ทุคนบอก “อีกนาน"
"เมเปิ้ลจะมีข่าวดีมาบอกพวกเรามั้ย คุณย่าจะยอมได้หรือยัง" ณัฎฐาลินีบอก
"ถ้าเกิดยังไม่ยอมอีก ฉันจะ....” ปินัทธาบอก
พีศทรรตหันมองขวับ ดุๆ
"จะอะไร"
"ก็จะ...ยุให้เมเปิ้ลหนีตามกฤษฎาไป ชีวิตเป็นของเรานะอย่าลืม ใช้ซะ พี่ตูนกล่าวไว้"
"กล้าเรียกเค้าว่าพี่เนอะ"
พีศทรรตส่ายหน้ากับความคิดของปินัทธา ทุกคนรอคอยอย่างกังวล
แสนสุขนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง วุฒิและมารยาทกำลังนวดเฟ้น ปฐมพยาบาล เมธาวลัยนั่งอยู่ข้างเตียง บีบมือแสนสุขเอาไว้อย่างเป็นห่วง
ที่หน้าห้อง กฤษฎายืนรออยู่อย่างกังวล จิลลาและดรณ์ยืนอยู่ด้วย
ภายในห้อง
"ไหวมั้ยครับคุณแม่ ให้ผมพาไปโรงพยาบาลเถอะนะ ใกล้หมอไว้ก่อนดีกว่า” วุฒิบอก
"โอย! คุณแม่ไม่ตายง่ายๆหรอก หนังเหนียวจะตาย" มารยาทบอก
"คุณ…อย่าว่าคุณแม่"
"ก็…"
"หยุดพูดกันได้แล้ว ฉันเวียนหัว" แสนสุขบอก
ทุกคนเงียบ
"คุณย่าขา...เป็นยังไงบ้างคะ"
"ในที่สุด เธอก็หาทางพิสูจน์ให้ฉันเห็นจนได้สินะ ว่าตาตรัย คุณเป็นอย่างที่เธอว่า เมเปิ้ล”
เธออึ้ง ก้มหน้านิ่ง
"หนูไม่สามารถแต่งงานกับใครก็ได้ เพียงเพื่อให้มีคนอยู่เป็นเพื่อนตอนแก่ ทั้งที่ไม่ได้รัก หนูขอโทษจริงๆค่ะคุณย่า"
"ดื้อด้าน"
"เหมือนกันทั้งบ้านแหละครับ ทั้งคุณแม่ ผมแล้วก็ลูก"
"เห็นหลานก็เหมือนเห็นตัวเองค่ะคุณแม่" มารยาทบอก
"รำคาญ ใครใช้ให้พูด"
วุฒิ มารยาทเงียบกริบ แสนสุขสายตาอ่อนลงมองเธอ ยังไงก็รักหลาน เห็นหลานหน้าเครียดเป็นทุกข์แล้วก็ใจอ่อน
"เธอดูแก่ขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบปีเลยนะ แค่ไม่กี่วัน"
เธอและทุกคนอึ้ง
"เอ่อ...คือ เครียดจนไม่ได้ดูแลตัวเองเลยค่ะ"
"แต่เด็กผู้ชายคนนั้นก็ยังดูรักเธอดี ถึงเธอจะดูแย่แบบนี้"
"ก็คนมันรักนี่ครับ ดูอย่างผมสิครับ เหี่ยวไปทั้งตัวอย่างคุณมารยาท ผมก็รักของผม"
มารยาท อาย
"เค้ารู้น่ะ เซี้ยวจริง"
แสนสุขเห็นลูกชายกับสะใภ้ ถอนใจ
"ทำตัวเป็นสาวรุ่นไปได้ น่าเกลียด"
"ความรักทำให้เราดูอ่อนเยาว์ค่ะ" มารยาทบอก
"ที่สำคัญ...ทำให้เรามีความสุขครับคุณแม่ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ต้องการความรักหล่อเลี้ยง นอกเหนือจากปัจจัยสี่ครับ"
แสนสุขลุกขึ้น ทุกคนตกใจ ช่วยกันประคอง
"เด็กคนนั้นอยู่ไหน"
ที่หน้าห้อง แสนสุขมองหน้ากฤษฎา ด้วยสายตาโหดมาก ทุกคนยืนอึ้ง ความเงียบเข้าปกคลุมจนอึดอัด บทสนทนาเริ่มต้นขึ้น
"วันนี้มีธุระไปไหนต่อ"
"ถ้าอกหักก็คงกลับบ้านเลย แต่ถ้าไม่...จะเดินจูงมือคุณเมเปิ้ลคุยโน่นนี่นั่น ไปถึงเช้าครับ"
"ฉันไม่ยอม"
ทุกคนอึ้ง เครียด
"ทำไมจะยอมไม่ได้คะ คุณย่า...หนูกับดรณ์ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วไง ว่าอายุไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าคนสองคนจะรักกัน"
"ฉันยังพูดไม่จบ ฟัง"
แสนสุขเดินเข้าไปมองหน้ากฤษฎา เขาผงะ แสนสุขสืบเท้าเข้าชิด กฤษฎาจะถอย
"ยืนเฉยๆ"
"ครับ"
"พาเมเปิ้ลไปนวดหน้าทำสวยก่อน แล้วจะไปเดินจับมือกันยันเช้าที่ไหนก็ไป"
ทุกคนอึ้ง งง
"ถึงจะรักกันจริง วัยไม่เกี่ยว มันก็ต้องดูแลตัวเอง เดี๋ยวคนจะทักว่าแม่ควงลูกชาย"
ทุกคนโล่งอก ยิ้มออกมาได้ เมธาวลัยเข้าไปกอดย่าทันที
"คุณย่าขา...ขอบคุณมากนะคะ"
"ย่าเองที่มัวแต่กลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ตอนที่ย่าเป็นลมเมื่อกี้ เหมือนจะขาดใจตาย ย่าเห็นเธอร้องไห้ ย่าก็คิดได้ ว่าย่าไม่อยากตายแบบนี้ตายในขณะที่เห็นลูกหลานเป็นทุกข์ เราควร จะมีความสุขในวันที่ยังมีชีวิตอยู่
อะไรที่ยังมาไม่ถึงก็ช่างมัน"
ทุกคนฟังแสนสุขนิ่งงัน
"ถ้าคิดว่าเลือกดีแล้ว และนี่คือความสุขของตัว ก็ทำไป ย่าจะไม่ขัด ขอให้โชคดีทั้งสองคน ยัยจิลกับตาดรณ์ด้วย"
"ขอบคุณครับคุณย่า ผมสัญญา ผมจะ…"
"ไม่ต้องมาสัญญากับย่า สัญญากันเองเถอะ ตาวุฒิ มารยาท แม่จะกลับเข้าห้อง พาไปที"
วุฒิ มารยาทรีบพยุงแสนสุขไป กฤษฎาจับมือเมธาวลัยเอาไว้ ดรณ์ก็กระชับมือจิลลามั่นคง
แต่ได้ยินเสียงแสนสุขยังบ่นไม่หยุดปาก ขณะที่เดินเข้าห้องไป
"คอยตอบคำถามชาวบ้านให้ดีเถอะ ตาวุฒิ แม่มารยาทว่าลูกสาวบ้านนี้กินเด็กกันทั้งบ้าน"
"ช่วยไม่ได้ ก็ลูกสาวเราสวยทั้งกายและใจ ใครก็อดใจไม่ไหวค่ะ"
มารยาทหัวเราะคิกคัก แสนสุขมองค้อน เอือมลูกสะใภ้ สองพี่น้องมองหน้ากัน ยิ้มอย่างมีความสุข
ภัทรวลัยขนมเต็มปาก
"ก็มันอร่อยอ่ะ"
ทุกคนมองภัทรวลัยที่กินขนมอย่างอร่อยอยู่คนเดียว
"พูดเลย...มันเป็นพะยูนแน่ๆ พี่เป้" ปินัทธาบอก
"วลัยคะ กินโปรตีนดีกว่าพวกแป้งกับน้ำตาลนะ ดีกับลูกในท้องมากกว่า"
"ก็ได้"
ภัทรวลัยวางลงอย่างเสียดาย เมธาวลัยจูงมือกฤษฎาเดินเข้ามา ทุกคนเห็น รีบลุกขึ้น ยิ้มออก
"แปลว่า...” ณัฎบาลินีว่า
"คุณย่าไฟเขียวแล้ว"
ทุกคน "เฮ!”
"ดีใจด้วยนะแก ดีใจด้วยจริงๆ"
"ในที่สุด เพื่อนฉันทั้งสามคนก็จะได้ใช้ของที่แม่ให้มาสักที" ภัทรวลัยบอก
ทุกคนบอก “ยัง!”
ฝ่ายชายโพล่งถามพร้อมกัน "ทำไมล่ะ"
สาวๆบอกกับคนของตัว
"ฉันยังไม่ตอบรับเลยว่า จะเป็นแฟนคุณ" ณัฎฐาลินีบอก
"ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะฝ่าด่านแม่คุณ ลูกคุณได้สำเร็จหรือเปล่า" ปินัทธาว่า
"ฉันก็เหมือนกัน แต่ที่สำคัญกว่านั้น เราไม่มีทางรู้ เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะมีใครเปลี่ยนแปลงไปมั้ย หมดรักกันจนต้องเลิกรากันหรือเปล่า" เมธาวลัยว่า
ทุกคนอึ้ง...
"ขอแค่...ทำวันนี้ให้ดีที่สุด วันที่เรามีใครเข้ามาในชีวิต" ณัฎฐาลินีบอก
"ดูแลความรักของเราให้ดีที่สุด" ปินัทธาว่า
"วันข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ช่างมัน...คุณย่าฉันกล่าว" เมธาวลัยบอก
ฝ่ายชายกุมมือคนรักของตัวเองไว้ ภัทรวลัยซึ้งกับคำพูดเพื่อนมาก เผลอตักขนมเข้าปาก จนเป้ต้องเอามือไปเบรกช้อนเอาไว้อย่างอ่อนโยน แล้วส่ายหน้าช้าๆ
"ขอบคุณนะคะพี่เป้ ที่ดูแลกัน"
ทั้งคู่สบตากันอย่างหวานซึ้ง
จู่ๆ ผู้ชายทั้งสามก็ลุกขึ้นฉุดคนรักของตัวเองให้ลุกขึ้นพร้อมกัน
"ไปเถอะ น้ำผึ้ง"
"ไปไหน"
"ไม่มีใครเลี้ยงญาดา แต้วลากลับบ้าน รดาติดประชุมตอนเย็น"
"ให้ฉันไปเลี้ยง? ไอ้คุณพีศ ฉัน...”
พีศทรรตไม่ฟัง ลากปินัทธาออกไป
"นึกขึ้นได้ว่าคุณย่าสั่งไว้ ต้องพาคุณเมเปิ้ลไปนวดหน้าครับ"
"เดินจับมือกันก่อนไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้ครับ เดี๋ยวคนทักว่าแม่ควงลูกชาย"
"ไอ้เด็กบ้า! ปากเสีย"
กฤษฎาลากเมธาวลัย รีบเดินออกไป
"บอกซิ จะพาฉันไปไหน" ณัฎฐาลินีถาม
"แม่คุณรอกินข้าวฝีมือผมอยู่ไง เราต้องไปซื้อของสด"
"อุ๊ตะ! ลืมเลย ไปสิ เร็วๆชักช้านะคุณน่ะ"
ณัฎฐาลินี เดินนำ วายุบุตรตามขำๆ ต่อปากต่อคำกันออกไป
"ไม่ช้านะ เร็วมาก พิสูจน์มั้ย"
"ทะลึ่ง! ไม่ต้อง! อย่ามา"
ทั้งสามคู่ออกไปอย่างมีความสุข เป้เห็นภัทรวลัยแอบตักขนมกินอีก เป้พูดโดยไม่มอง
"อย่ามาค่ะ วลัย! ถึงไม่มอง แต่พี่รู้สึกได้ค่ะ"
เธอค่อยๆลดช้อนลง เซ็ง
พีศทรรตจับมือปินัทธาวิ่งออกไปจากประตูฟิตเนส ไปหยุดข้างหน้า เธอกระเง้ากระงอดจะไม่ไป
กฤษฎาและเมธาวลัยวิ่งจับมือกันออกไป มองหน้าหยอกเอินกัน หวานสุดๆ
ณัฎฐาลินีกับวายุบุตร ไม่จับมือกัน เธอหวงตัวใส่วายุบุตรที่พยายามงอนง้อขอจับมือ
ทั้งสามคู่ในอารมณ์แตกต่างกัน แต่ละคู่ก็แยกกันไปคนละทาง เหมือนรูปแบบความรักของแต่ละคน เริ่มต้นเหมือนกันคือต้องการความรัก แต่มีทางไปไม่เหมือนกัน และไม่มีใครรู้หนทางข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร....รู้แค่วันนี้ยังมีกันและกัน
จบบริบูรณ์...