xs
xsm
sm
md
lg

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 18

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 18

เมธาวลัยตั้งตัวไม่ติดที่เห็นตรัยคุณ ขณะที่ตรัยคุณมองกฤษฎา ทึ่งในความหล่อ แต่ยิ้มกลบเกลื่อน

"เอ ไม่เคยเห็นหน้าน้องคนนี้เลย"
กฤษฎารีบแนะนำตัว
"ผมชื่อกฤษฎา เป็นแฟนคุณเมเปิ้ลครับ"
เธอแอบยิ้ม ที่กฤษฎารีบออกรับให้...เธอควงแขนเขาไว้ทันที
"ชัดป่ะคะ"
แสนสุขไม่ชอบที่เมเปิ้ลควงแขนผู้ชาย
"ยัยเม"
"ขาคุณย่า หิวแล้วใช่มั้ยคะ งั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ กฤษ วางกระเป๋าไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวให้เด็กมายกไป กฤษไม่ต้องยก"
"ครับ"
เธอควงกฤษฎาเย้ยตรัยคุณเข้าไป แต่ไม่รอดเงื้อมือแสนสุข ที่หยิกแขนให้ เธอเบรกเอี๊ยด
"ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย"
"งั้นผมพาน้องเข้าไปก่อนนะครับคุณย่า เชิญครับ น้องกฤษ"
เธอไม่อยากปล่อยให้ตรัยคุณยุ่งกับกฤษฎาเพราะไม่ไว้ใจจึงขยิบตาส่งสัญญาณ ตรัยคุณรู้ทัน ยิ้มๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้
"ยัยเม! ให้พี่เค้าพาเข้าไปก็ได้ มันจะแยกจากกันสักแป๊บไม่ได้หรือไง มานี่!"
แสนสุขลากหลานสาวออกไป เธอร้องเสียงหลงเป็นระยะๆ
"โอ๊ย! จะคุยหรือจะฆ่าคะคุณย่า หนูเจ็บอ่ะ"
กฤษฎามองตามอย่างเป็นห่วง
"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ย่ากับหลานคู่นี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ผมชินแล้ว" ตรัยคุณบอก
"อ้อ...ครับ"
"เชิญครับ"
ตรัยคุณแตะแขน า กฤษฎามอง ผงะโดยอัตโนมัติ เกย์หนุ่มยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนย่องมองตามและเดินตามเขาไป

แสนสุขลากหลานสาวเข้ามายังมุมหนึ่งของบ้าน
"บอกความจริงย่ามาเดี๋ยวนี้!"
"ความจริง? ความจริงอะไรคะ"
"เธอโกหกอะไรย่าเอาไว้ล่ะ"
เธออึ้ง หน้าเสีย
"อย่าทำให้ย่าเสียใจ เมเปิ้ล"
"หนู...ไม่เคยโกหกคุณย่า ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องน้อย หนูพูดแต่ความจริง"
"แน่ใจเหรอ"
"คุณย่าไปฟังอะไรมาจากใครคะ แหล่งข่าวน่าเชื่อถือมากกว่าคำพูดของหนูซึ่งเป็นหลานคุณย่าเหรอคะ"
"ตาตรัยคุณบอกย่าว่า...เธอไม่ได้เป็นแฟนกับเด็กผู้ชายคนนั้น"
เธออึ้ง...โกรธ

กฤษฎาสำลักน้ำพรวดออกมาด้วยความตกใจ ตรัยคุณที่นั่งมองอยู่ รีบเอากระดาษมาช่วยซับน้ำที่หกให้ เขารีบห้ามและจัดการเอง
"ไม่เป็นไรครับ ผมเช็ดเองครับ"
"กลัวพี่เหรอ"
"ครับ เอ่อ..เปล่าครับ แค่เกรงใจ..เพราะพี่เป็นผู้ใหญ่"
"ก็โอเค...งั้น ถ้าผู้ใหญ่ถามอะไรก็ควรจะตอบทันที อย่าเฉไฉกลบเกลื่อน"
กฤษฎาเห็นสายตาจริงจังเคร่งเครียดของตรัยคุณ
"น้องโกหกพี่ไม่ได้หรอก...พี่ดูออก ว่าน้องกับน้องเม กำลังเล่นละครตบตาคุณย่ากับพี่อยู่...ใช่มั้ย"
กฤษฎากลืนน้ำลายเอื้อก

แสนสุขยังคงคาดคั้นเมธาวลัยอยู่
"ความจริงมันเป็นยังไง ตอบ!"
"คือหนู"
"อย่าโกหก...ตอบ!"
"คือหนู"
แสนสุขขัดอีก
"เพราะเธอคงรู้ดีว่าใครก็ตามที่โกหกย่า แล้วถูกจับได้ทีหลัง มันจะเป็นยังไง"
"คือหนู"
"โดยเฉพาะถ้าเป็นเธอที่กล้าโกหกย่า...ย่าจะเสียใจมาก บางทีอาจจะถึงขั้นไม่มองหน้า และไม่ต้องมาเผาผีกัน เพราะสิ่งที่ย่ารับไม่ได้มากที่สุดคือ...หลานรักของย่า เห็นย่าเป็นตัวตลก!...ตอบมา"
"หนูไม่ได้โกหกคุณย่า"
เธอจ้องหน้าแสนสุข ยืนยันในคำพูดของตัวเอง...ทั้งที่ในใจแอบหวาดกลัวและเจ็บปวดที่สุดที่จำเป็นต้องเลือกโกหก แสนสุขถอนใจโล่งอก
"ไปทานข้าวเถอะ...ย่าคงไม่กินล่ะ อยากพัก ย่าปวดหัว ฝากขอโทษตาตรัยคุณกับ...แฟนเราด้วย"
"ค่ะ"
เธอมองตามย่าที่เดินไปด้วยความรู้สึกที่แย่มาก

ทาง้านตรัยคุณยังคงรุกกฤษฎา
"ว่าไง"
"คือ..."
"พี่ผ่านโลก เห็นคนมาเยอะ น้องโกหกพี่ไม่ได้หรอก คนที่รักกันคบหาดูใจกันจริงๆ ไม่ใช่อย่างน้องกับน้องเมเปิ้ล"
"มันเป็นยังไงเหรอครับ พี่ถึงคิดว่าเราสองคนไม่ได้รักกันจริงๆ"
"น้องแทบไม่ได้สบตากับน้องเมตรงๆ"
"ก็ผมเขิน"
"น้องเมก็จ๊ะจ๋าหวานเว่อร์เกินความจำเป็น ซึ่งผิดคาแร็คเตอร์ คนอย่างน้องเมจะไม่มีทางแสดงออกอย่างนั้นเวลาที่มีความรัก"
"เหรอคะ"
ตรัยคุณสะดุ้ง ผละออกจากกฤษฎาทันที เมธาวลัยเดินเข้ามา มองตาขวาง ก่อนเข้าไปดึงมือกฤษฎาให้ออกห่างจากตรัยคุณ
"ทำตัวรู้ดีไปหน่อยหรือเปล่าคะ"
"แล้วถูกหรือเปล่า"
"ไม่ถูก! พี่ตรัยคุณยังไม่รู้จักเมดี... คนอย่างเมเปิ้ลทำได้ทุกอย่างเวลาที่มีความรัก นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าคุณย่าอยู่ที่ห้องข้างๆ จะจูบโชว์หวานให้ดู"
กฤษฎาผงะ
"แต่ดูน้องกฤษตกใจนะ"
"เมชอบเซอร์ไพรส์ให้กฤษตกใจ ใช่มั้ยกฤษ"
"ครับ"
"คนคบกันมันก็มีทั้งหวานทั้งขม ทั้งข่มทั้งยอม ทั้งรุกทั้งรับ ถ้าไม่เคยรักใคร ไม่เข้าใจ อย่ามาตัดสิน"

ตรัยคุณอึ้ง

ตรัยคุณอึ้ง

"แล้วอีกอย่างที่พี่คงยังไม่รู้ เวลาที่เมเกลียดใคร...เมก็ทำได้ทุกอย่างเหมือนกันเพื่อให้เค้าออกไปจากชีวิตของเม"
"น้องเมพูดเหมือนเกลียดพี่"
"ใช่ค่ะ! พี่ตรัยคุณเห็นแก่ตัวมากนะคะ คิดจะทำลายความรักของเม เพื่อให้ตัวเองได้แต่งงานรักษาหน้า เลยไปฟ้องคุณย่าทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริง แต่ขอโทษนะคะ คุณย่าเชื่อเม!"
ตรัยคุณอึ้ง
"เชิญกลับไปได้แล้วค่ะ ไม่ต้องกินข้าวเพราะเมไม่ต้อนรับ"
"พี่จะไปคุยกับคุณย่า"
"คุณย่าขึ้นไปพักที่ห้องแล้ว ท่านปวดหัว…เพราะพี่!"
"คิดให้ดีๆ คุณย่าท่านต้องเป็นแบบนี้ เพราะใคร"
เธออึ้ง
"เพราะน้องเมไม่ยอมรับความจริงมาตั้งแต่แรกต่างหาก ระวังมันจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว สร้างความเสียหาย จนเอาไม่อยู่"
"ก็เรื่องของเม ไม่เกี่ยวกับพี่"
"รับรองว่าเกี่ยวแน่!"
ตรัยคุณทิ้งสายตาที่ไม่ยอมแพ้ ก่อนจะออกไป เธอถอนใจ หนักใจ กลุ้มใจ ทรุดตัวลง ประสาทเสีย
"น้องเม" กฤษฎาแกล้งเรียกขำๆ
"ไม่ขำ!"
"ขอโทษ พอดีๆได้ยินแต่คำว่าน้องเมๆ จนมันติดหู"
"ดื้อด้าน คนอะไร"
"ผมเหรอครับ"
"พี่ตรัยคุณ"
"อ้อ..."
กฤษฎานิ่งเงียบไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังมาเบาๆ เมธาวลัยกำลังก้มหน้าสะอื้นร้องไห้อยู่ ด้วยความอึดอัดและเหนื่อยใจ
"คุณเมเปิ้ล"
เธอยกมือห้ามเขาไม่ให้พูดอะไร เมเปิ้ลร้องไห้เงียบๆ.... กฤษฎาหยิบทิชชู่ส่งให้ เธอแบมือขออีกเพราะไม่พอ เขาหยิบส่งให้อีก เธอรับไปเช็ดน้ำตา แล้วแบมือขออีก ขนสุดท้าย เขาเลยหยิบให้ทั้งกล่อง
ภายในครัวบ้านณัฎฐาลินี วายุบุตรเตรียมของสดทำกับข้าวง่ายๆ เธอยืนมองอยู่
"เอ๊า ไม่มาช่วยกันหน่อยเหรอคุณ"
"ไหนบอกจะทำให้ฉันกิน แล้วทำไมฉันต้องทำ"
"น้ำใจ"
"ไม่มี"
"ไม่เชื่อ"
"ก็คอยดู"
เธอเดินหนี แต่เขาเดินไปอ้อมดักไว้
"เชื่อแล้ว"
"งั้นก็ถอย จะไปนั่งรอสวยๆที่โต๊ะ"
"อยู่ด้วยกันก่อนสิ"
"อยู่ทำไม"
"เป็นกำลังใจให้ผม"
วายุบุตรสบตาเธออย่างอ่อนโยน เว้าวอน....จนเธออ่อนไหว จนเกิดบรรยากาศโรแมนติกขึ้น
เขาค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหา...อยากจูบเธอเหลือเกิน แต่แล้ว เธอก็จับมือเขาที่ถือผักคึ่นไช่ขึ้นมาขวางระหว่างหน้าของเขากับเธอ
"เซ็งนะ" วายุบุตรว่า
"แต่คึ่นไช่นี่หอมดีนะ ใส่เยอะๆล่ะ ฉันชอบ"
"แต่ผมไม่ชอบ เค้าว่ากันว่ากินเยอะแล้วจะเป็นหมัน"
"ลากเข้าเรื่องนี้อีกแระ ลองกินดู อร่อย"
¬เธอเอาคึ่นไช่ยัดใส่ปาก เขาถุยออกแทบไม่ทัน เธอหัวเราะชอบใจ
"แกล้งเหรอ ได้! ชอบใช่มั้ยไอ้คึ่นไช่เนี่ย มา มากินสดๆ เลย"
เขาไล่ต้อนจับเธอจะป้อนคึ่นไช่สด ลินีวิ่งหนีไปรอบครัว หัวเราะกันสนุกสนาน

ภายในห้องนอน ดวงกำลังห่มผ้าให้จรินทร์พรที่ได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังแว่วเข้ามา
จรินทร์พรยิ้ม ดวงเห็นแล้วดีใจ
"ไม่ได้ยินเสียงหัวเราะในบ้านแบบนี้มานานแล้วนะคะคุณ"
จรินทร์พรนอนยิ้มฟังเสียงหัวเราะของทั้งคู่อย่างมีความสุข

ในเวลากลางคืน ช้างกับมาร์กชะลอรถเข้ามา ผ่านและ มองเข้าไปในบ้านของณัฎฐาลินีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มาร์กมองกระจกข้างเห็นรถสายตรวจวิ่งมา
"ไปได้แล้ว"
ช้างรีบเร่งความเร็วออกไป...รถสายตรวจวิ่งมาถึงหน้าบ้านของณัฎฐาลินี จอดสังเกตการณ์อยู่แป๊บนึง ก็ออกไป

มุมหนึ่งในผับ พิภพคุยมือถืออยู่
"ไอ้วายุบุตรน่ะเหรอเข้ามาขวาง แล้วไงอีก อืม"
พิภพวางสาย เจ็บใจ สิริมาเข้ามา
"จัดการมันอย่างที่ฉันขอเรียบร้อยหรือยัง"
พิภพหันไป เห็นสิริมายืนเครียดอยู่ก็ยิ้มกว้างให้
"ก็ไม่รู้สินะ ผมก็ทำตามแผนที่ควรจะเป็น แต่ไอ้วายุมันเข้ามาขวางเอาไว้ซะก่อน แถมตอนนี้ถึงกับลงทุนไปอยู่เป็นเพื่อนที่บ้านอีกต่างหาก"
สิริมาไม่พอใจมาก
"สงสัยมันคงกลายเป็นแผนที่ทำให้สองคนนั่นสนิทสนมกันมากขึ้นซะแล้ว"
"คุณมันไม่ได้เรื่อง"
"จะให้ได้เรื่องได้ยังไง ในเมื่อผมไม่รู้ความเคลื่อนไหวของไอ้วายุบุตร"
สิริมาจะเดินหนี พิภพเข้าไปจับแขนกระชากเข้ามา
"ปล่อย!"
พิภพตั้งใจทำให้เจ็บ บิดแขน ล็อกตัว
"ไม่ปล่อย!"
"จะทำอะไรฉัน!"
"บอกมาสิ!ไอ้วายุบุตรมันคิดจะทำอะไรผม ไม่อย่างนั้น คุณจะไม่มีวันได้อยู่ใกล้ตัวมันอีก เพราะผมนี่แหละจะแฉให้มันรู้ ว่าคุณใช้ให้ผมทำอะไรผู้หญิงที่มันรัก!"
"ก็เอาสิ แกก็จะไม่ทางได้เห็นหน้าฉันอีก"
"เรื่องของคุณสิ! จะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้ผมมีเป้าหมายใหม่แล้ว รู้มั้ยว่าใคร คนที่ไอ้วายุบุตรมันรักไง ส่วนคุณ มันหมดค่า หมดความท้าทายไปตั้งแต่อ้าปากยื่นข้อเสนอให้ผมแล้ว"
สิริมาโกรธมาก และใจเสียที่กลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
"หรือถ้าคิดจะหนี...คุณไม่มีทางหนีพ้น เริ่มต้นเรื่องสกปรกด้วยกันแล้ว มันก็ต้องลงเรือลำเดียวกันไปให้ถึงฝั่ง เข้าใจมั้ย!"

สิริมาผลักตัวพิภพออกไป กลายเป็นลูกนก กลัว รีบออกไป พิภพมองตามอย่างย่ามใจ
 
อ่านต่อหน้า 2

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 18 (ต่อ)

ทั้งคู่วิ่งจนเหนื่อยหอบ เธอยกมือห้ามวายุบุตร

"หยุด!"
"ทำไม หอบแล้วเหรอ"
"ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลัง เลยไม่ค่อยฟิต"
"นี่ขนาดไม่ฟิตนะ ยัง..." เขามองสำรวจเธอไปทั่วร่าง
เธอเอานิ้วจิ้มตา
"อย่าทะลึ่ง!"
"โอ๊ย! คุณ เกินไปมั้ยเนี่ย"
"ให้รู้ไง อย่ามาทำกะลิ้มกะเหลี่ยเกินขอบเขตของความเป็นเพื่อน"
"ก็เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อไง"
"ยังอีก! เดี๋ยวโดนจิ้มอีกที"
"ขอทิชชู่หน่อย จะมาซับน้ำตา"
เธอรีบหาทิชชู่ ส่งให้เขา แต่เขากลับส่งคืนให้เธอ
"ทำผมแล้ว ก็ดูแลผมด้วย"
"ก็ได้ ยื่นหน้ามา"
วายุบุตรยื่นหน้าไปให้เธอซับน้ำตาให้ เธอทำให้อย่างเบามือ อ่อนโยน...วิ้งๆๆๆไปทั้งห้องครัว
เสียงมือถือของเขาดังขึ้น
"หยิบมือถือให้หน่อย รับสายให้ด้วย รับไม่ได้ เจ็บตา"
"มือเจ็บด้วยหรือไง"
"ไว้ป้องกันคุณจิ้มตาผมอีก"
"เว่อร์แระ"
"เอ๊า เร็วๆ เผื่อเป็นสายสำคัญ"
"อยู่ไหน"
"กระเป๋าเสื้อ"
เธฮรีบหยิบมือถือในกระเป๋าเสื้อของเขาออกมาดูเบอร์ เห็นชื่อ “สิริมา” เธออึ้ง เบะปาก
"ใครโทรมา" วายุบุตรถาม
"แฟนเก่าคุณ...รับเองแล้วกัน เผื่อจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ฉันไม่ควรจะรับรู้"
"คุณรับรู้ได้ทุกเรื่องนะลินี"
"ก็ไม่รับให้อยู่ดี"
วายุบุตรถอนใจ รับสายเองก็ได้
"ฮัลโหล ว่ายังไง สิริมา"

สิริมายืนตัวสั่นเทาที่หน้าผับพิภพ โทรศัพท์คุยกับวายุบุตร
"วายุ...คุณอยู่ที่ไหน ฉันกลัว ช่วยมาหาฉันได้มั้ย นะ ขอร้อง"

ณัฎฐาลินีเดินออกมาส่งวายุบุตร
"ถ้ามีอะไรผิดปกติ รีบโทร.หาผมนะ ผมจะรีบมาหา"
"ไม่นอนซะที่นี่เลยล่ะ"
"อนุญาตใช่มั้ย"
"ฉันพูดเล่น"
"แต่ผมทำจริงนะ ถ้าคุณอนุญาต"
"ไม่"
"โอเค แต่ผมจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ จนกว่า...เรื่องทั้งหมดจะคลี่คลาย"
"คลี่คลาย? คุณรู้เหรอ ว่าเป็นฝีมือใคร"
"คนเดียวกับที่ไปทำร้ายผ.อ.คุณ"
เธออึ้งไป
"ผมรู้ว่าต้องเป็นฝีมือของมัน"
"นายพิภพ"
"คุณรู้?”
"ฉันแค่ตั้งข้อสงสัย อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ ซึ่งฉันต้องการหลักฐานพิสูจน์ว่าเค้าเกี่ยวข้องกับแก๊งขายผู้หญิงข้ามชาติ เพื่อให้ตำรวจจัดการเรื่องนี้ ให้มันดิ้นไม่หลุด"
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม และตำรวจเถอะลินี คุณอย่าทำอะไรที่เสี่ยง อันตรายเด็ดขาดนะ จำไว้ ผมเป็นห่วงคุณ คนในองค์กรคุณทุกคน"
เธอยิ้มให้วายุบุตร แต่ไม่รับคำ
"คุณรีบไปเถอะ คุณสิริมารอคุณอยู่"
"ผมคุยกับสิริมาเรียบร้อยแล้ว ผมโทร.หานะ"
"อืม ไปเถอะ"
วายุบุตรรีบออกไป แต่ยังมองเธอด้วยความเป็นห่วง
"ฉันจะมัวเป็นห่วงตัวเอง แต่ปล่อยให้คนอื่นๆอีกหลายชีวิตหลายครอบครัวต้องเดือดร้อนเพราะมันไม่ได้ อะไรที่ทำได้ ฉันจะทำ!”
เธอมุ่งมั่นกับการหาทางเอาผิดพิภพ

ภายในร้านอาหาร เวลากลางคืน ปินัทธารวบช้อน กินต่อไม่ลง ดื่มน้ำ นั่งนิ่ง ก้มหน้า พีศทรรตรีบอิ่มตาม เห็นเธอแล้วแปลกใจ
"ทำไมรีบอิ่มซะล่ะ เป็นอะไรไปหรือเปล่า"
เธอเงยหน้ามองเขาน้ำตารื้น พูดไม่ออก
"กำลังจะมีน้ำตานะ"
เธอพยักหน้ายอมรับ
พีศทรรต พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก
"เป็นอะไร..." เขาเอื้อมมือไปแตะมือเธออย่างแผ่วเบา เธออึ้ง ซึ้งจัด และช็อกเพราะตั้งตัวไม่ติด รีบลุกเดินออกไป
"น้ำผึ้ง...เดี๋ยวก่อน อะไรของเค้าอีกล่ะ"
เขาถอนใจ รีบลุกตามออกไปจับมือของน้ำผึ้งไว้ เธอมองมือที่เขาจับนิ่งไว้
"ถามว่าเป็นอะไร ทีอย่างนี้ให้พูดก็ไม่พูด พอตอนไม่อยากให้พูด ก็พูดอยู่ได้"
"คุณเริ่มจะรักฉันขึ้นมาแล้วจริงๆเหรอ"
"จริง"
"จริงๆนะ"
"จริง"
"อย่าหลอกให้ดีใจ แต่สุดท้ายก็เฉดหัวฉันทิ้งเหมือนกิ๊กที่ผ่านมาของคุณนะ"
"คุณไม่เหมือนใคร"
"หา? จะใช้วิธีเฉดหัวฉันทิ้งแบบไม่เหมือนใครงั้นเหรอ"
"น้ำผึ้ง...ใจเย็นๆก่อน"
"เย็นไม่ไหวอ่ะ รู้มั้ย ว่าฉันดีใจจนช็อก จนทำตัวไม่ถูกแล้ว ที่คุณบอกว่า เริ่มจะรักฉัน มันเลอค่ามาก"
"นี่ไง ที่ผมบอกว่าคุณไม่เหมือนใคร ดีใจที่ผู้ชายตอบรับความสัมพันธ์ แทนที่จะโผเข้ากอดแล้วบอกว่า ขอบคุณมากนะคะ กลับเหมือนคนบ้า ไร้สติ เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวน้ำตาไหล"
เธอโผเข้ากอดเขาเอาไว้แน่นทันที
"ขอบคุณนะคะ"
เขาอึ้ง ค่อยๆกอดเธอเอาไว้
"ผมก็ต้องขอบคุณคุณ ที่คุณอดทนกับผม กับครอบครัวผม ทำให้ผมเห็นว่า เมื่อคุณรักผม ก็พร้อมจะรักทุกคนที่อยู่ในชีวิตผม"
เธอผละออกเลย
"เหย...ยัง!”
เขาเผลอหลุดขำ
"ไม่วาย...จริงใจไปมั้ยเนี่ย"
"ฟังนะ วัยนี้ไม่มีแอ๊บ! ฉันจะไม่มานั่งรักษาภาพพจน์ เพื่อให้คุณไปค้นพบทีหลังว่าฉันเป็นนังมารร้าย แล้วก็เลิก ไม่ๆๆๆ ฉันขึ้นรถด่วนขบวนสุดท้ายแล้ว ฉันจะไม่มีวันลงกลางทาง"
"แล้วจะเอาไง แปลว่า จะรักแต่ผม ไม่รักแม่ผม ลูกสาวผม"
"ตอนนี้บอกเลย ว่ายังไม่รัก เพราะพวกเค้าร้ายกับฉันมาก จนกว่าเค้าจะรักฉันก่อน ฉันถึงจะรักตอบ"
"แล้วจะทำยังไงให้พวกเค้ารักคุณ มีแผนอะไร"
"ทำสิ่งที่ต้องทำ ทำด้วยสามัญสำนึก ทำด้วยความปรารถนาดี ทำด้วยความจริงใจ ไม่มีการวางแผน"
เขาอึ้ง เห็นความมุ่งมั่นของเธออย่างเต็มเปี่ยมและจริงใจ
"มันอาจจะไม่ง่าย"
"ไม่กลัว กลัวคุณไม่รักมากกว่า คุณให้โอกาสฉันแล้ว ฉันจะรักษาโอกาสนี้เอาไว้ให้ดีที่สุด ฉันจะไม่ยอมแพ้ จนกว่าคุณจะพูดว่า...รักฉันหมดใจ"
พีศทรรตอึ้งไปอีกรอบ แพ้ใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ แต่ก็ยังฟอร์ม เธอให้กำลังใจตัวเอง
"น้ำผึ้งสู้ๆ น้ำผึ้งสู้เว้ย!”
"อืม...ไปกินข้าวต่อ อย่าเหลือทิ้งเหลือขว้าง ของมันแพง ไป"

เขากระชากเธอออกไปทันที แอบอมยิ้มกับความเยอะล้นของเธอ เช่นเดียวกับเธอก็แอบอมยิ้มกับความอบอุ่นจากมือของเขาที่เกาะกุมมือเธอเอาไว้

กฤษฎานั่งมองเมธาวลัยที่ร้องไห้เพิ่งหยุด

"บอกผมได้มั้ย ร้องไห้ทำไม"
"ฉันเหนื่อย ฉันกำลังจะไม่ไหว"
เขาอึ้ง เห็นความเหนื่อยปรากฏในสีหน้าและแววตาของเธอจริงๆ
"ทำไมท้อกลางทางซะล่ะครับ อะไรที่คุณต้องแลกไปเพื่อให้ได้มา มันก็จะสูญเปล่า"
"นั่นสินะ...ฉันคงหันหลังกลับไม่ได้”ิ
เธอมองหน้าเขาอย่างลึกซึ้ง
"ฉันเดินมาไกลแล้ว ฉันต้อง...เอาชนะให้ได้"
"เอาชนะใครครับ"
เธอรู้ทั้งรู้ว่า ความหมายนั้นหมายถึงหัวใจของเขา แต่ยังมีฟอร์ม รีบเปลี่ยนเรื่อง
"ไหนบอกว่าจะไม่ยุ่งกับฉันอีกไง แล้วมาทำไม"
"ผมจะมาบอกคุณว่า ผมเข้าใจและรู้ดี ว่าไม่มีใครอยากเป็นตัวตลกในสายตาใคร เราย่อมไม่อยากถูกใครหัวเราะเยาะ"
เธออึ้ง
"ผมขอโทษที่ผมโกหกคุณว่าเป็นแฟนน้ำฟ้า ผมคิดถึงแค่ความรู้สึก ตัวเอง ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของคุณ ผมจึงกลับมาเพื่อแก้ตัวกับคุณ"
"ยังไง"
เขาจับมือเธอเอาไว้
"ถึงผมจะโกรธคุณ ผิดหวังในตัวคุณมากแค่ไหน"
"โกรธทำไม ฉันไปทำอะไรให้เธอผิดหวัง หา?”
"ฟังผมให้จบก่อนได้มั้ย"
"ได้"
"แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็ทนไม่ได้ ถ้าต้องเห็นคุณ ผิดหวังและเสียใจ"
"ทำไม"
"เพราะสุดท้ายแล้ว ผมก็โกรธคุณไม่ลง"
“แล้วตกลงมาโกรธฉันเรื่องอะไร"
"เรื่องบางอย่าง คุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้"
ทันใดนั้น จิลลาก็ร้องไห้เข้ามา เสียงดังลั่น
"เม!”
ทั้งคู่ตกใจ
"เป็นอะไร จิล ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไร"
"ดรณ์ขอเลิกกับเค้า!”
"หา!”
จิลลาแหกปากดังขึ้นอีก
"ดรณ์ขอเลิกกับเค้า!ไ
เธอกระโดดไปปิดปากพี่สาวทันที กฤษฎาได้แต่ยืนงง

เมธาวลัยปิดปากลากพี่สาวลากเข้ามาอีกมุมหนึ่งบ้าน กฤษฎาตามมาติดๆ งงๆ
"มานี่เลย!”
"ทำไมต้องทำแบบนี้ครับ คุยกับคุณจิลดีๆสิครับ ผมไม่ชอบเลย"
เธออึ้ง
"ไม่ชอบเหรอ"
กฤษฎาพยักหน้า เมเปิ้ลชะงัก ตั้งสติ พูดกับจิลลา
"เค้าปล่อยตัวเองแล้ว ตัวเองต้องเงียบ ห้ามเสียงดัง เข้าใจมั้ย"
จิลลาพยักหน้า
"ไม่ให้เค้าเสียงดัง พูดดีๆก็ได้"
"เค้ากลัวตัวเองไม่หยุดไง คุณย่านอนอยู่ เดี๋ยวท่านตื่น"
"นึกว่ากลัวว่าใครจะได้ยินเรื่องดรณ์ขอเลิกกับเค้า"
"ให้ใครรู้ไม่ได้ทั้งนั้นแหละ ตัวเองต้องไม่เลิกกับดรณ์!”
"เค้าไม่ได้อยากเลิก แต่ดรณ์เค้าอยาก"
"มันอยากก็ไม่ได้!” เมธาวลัยเสียงดัง
ทั้งสองคนรีบ “ชู่ว์!”
"เดี๋ยวคุณย่าตื่น!” จิลลาบอก
เธอรีบเงียบแล้วบอก
"ตัวเองกลับไปเคลียร์กับไอ้ดรณ์เลย ว่าอยากเลิกกับตัวเองเพราะอะไร"
"เค้ารู้…เพราะเค้าไม่ไว้ใจดรณ์ เกาะติดแจจนดรณ์หายใจไม่ออก"
เธอเสียงดัง
"งั้นก็ปรับปรุงตัวเซ่ ขอโอกาส คบกันต่อไป ห้ามเลิก"
“ชู่ว์”
"ทะเลาะอะไรกันเสียงดัง!”
ทั้งหมดสะดุ้งโหยง หันไป เห็นแสนสุขเดินเข้ามา
"คุณย่าตื่น!”
"เออสิ! ถ้าตายแล้วคงไม่ยืนอยู่แบบนี้หรอก ถามว่าทะเลาะอะไรกัน"
ทุกคนหน้าเจื่อน

เป้คุยมือถือ ระหว่างเดินตามหาภัทรวลัย ในบริเวณริมถนนแห่งหนึ่งที่เป็นตลาดนัด
"พี่ก็คิดว่าเค้าแค่งอนที่พี่เอาแต่นอนหลังจากกลับมาจากทำงาน เดี๋ยวก็คงหายเอง ที่ไหนได้ พอพี่ตื่นมา เสื้อผ้าหายไปหมดเลย แถมด้วยจดหมายสั่งลาหน้าตู้เย็น"
ณัฎฐาลินีตกใจ
"มันจะเยอะไปมั้ยเนี่ย แค่ผัวนอนก็งอนจนหนีออกจากบ้าน"
"ช่วยพี่ตามหาหน่อยเถอะลินี พี่จนปัญญาแล้ว เค้าปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ ช่วยโทร.บอกคนอื่นๆด้วยนะ พี่ต้องโทร.เข้าเครื่องวลัยเรื่อยๆ"
"ค่ะ"
เธอวางสาย จะโทร. หาเพื่อนคนอื่น ก็เห็นมิสคอลของภัทรวลัย
"อุ๊ตะ มันโทรหาฉันด้วย ตอนกี่โมงเนี่ย หกโมงเย็น ว้าย! อยู่กับผู้ชายในขณะที่เพื่อนเดือดร้อน วลัย ฉันขอโทษ!”

เธอกดโทร.หาเพื่อน แล้วคว้ากระเป๋ากุญแจรถออกไป
 
อ่านต่อหน้า 3

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 18 (ต่อ)

พีศทรรตเดินมาส่งปินัทธาที่คอนโดฯ เธอเดินขวยอายเหมือนสาวสิบสี่

"เดินดีๆไม่เป็นหรือไง"
"เซ็งมะ"
"รู้ว่าเขิน จะเขินทำไม ทำไมไม่ทำตัวปกติ"
"ก็ระหว่างเรามันไม่ปกติแล้วนี่"
"อย่ามาแอ๊บเด็ก ไม่เข้า"
"อยากเข้าป่ะ"
"น้ำผึ้ง"
"เข้าบ้าน กาแฟสักถ้วยอะไรยังงี้"
"มุกชวนเสียตัวมาก"
"นี่! เห็นฉันสวย แต่ฉันก็ยากนะจะบอกให้"
เสียงมือถือเธอดังขึ้น เธอรับสาย
"ลินี... มีอะไรไว้คุยพรุ่งนี้ได้ป่ะ ฉันอยู่กับผู้ชายที่เพิ่งจะบอกว่า กำลังหลงรักฉัน อิอิ"
พีศทรรตมองเธออย่างเอือมๆ ณัฎฐาลินีตื่นเต้นดีใจไปกัเพื่อน ขณะที่เดินออกมาจากในบ้าน
"จริงเหรอ ว้าย! ดีใจด้วยนะแก ต่อไปก็ไม่ต้องเพ้อฝ่ายเดียวแล้ว ว้าย! เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ต้องคุยตอนนี้ นังวลัยมันงอนพี่เป้ ขนเสื้อผ้าหนีออกจากบ้าน! ช่วยกันตามหาเร็ว"
"อ๋อ...หนีออกจากบ้าน เฮ้ย! วลัยหนีออกจากบ้าน หนีไปไหน"
พีศทรรตตกใจ
"จะรู้มั้ย ถ้ารู้แล้วจะให้ช่วยกันออกตามหาหรือไง ไปตามหาที่ไหนก็ได้ ช่วยกัน ที่ๆที่คิดว่ามันจะไป"
"โอเค"
ณัฎฐาลินีกดวางสาย รีบวิ่งออกไป เธอกดวางสาย หันมองพีศทรรตซึ่งเดินลิ่วไปแล้ว
"คุณพีศ จะไปไหน ฉันมีเรื่อง...”
เขาหันมาตอบ
"ไปช่วยกันตามหาเพื่อนคุณสิ ยืนบ้าน้ำลายอยู่ทำไม"
เธอวิ่งตามเขาไป
"ไม่รอกันเลย ไอ้คุณพีศ"

ณัฎฐาลินีเปิดประตูรั้วบ้าน ด้วยความลังเล
"ไป ไม่ไป แม่....เพื่อน...โอ๊ย!”
ตำรวจสายตรวจขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา เธอรีบเข้าไปโบก
"พี่คะๆๆ"
"จะออกไปข้างนอกเหรอครับ"
"ค่ะ พอดีมีเหตุด่วนเหตุร้าย เอ่อ..ฝากพี่ช่วยอยู่แถวๆนี้ก่อนได้มั้ยคะ นะหนูขอร้อง"
"ได้ครับ ไม่มีปัญหา มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว"
"ขอบคุณค่ะ"
เธอยกมือไหว้ปะหลกๆ ก่อนจะรีบไปที่รถ

มุมหนึ่งในบ้านเมธาวลัย แสนสุขถามคาดคั้น
"ว่าไง ทะเลาะอะไรกันเสียงดัง"
"คือ...” จิลลาอ้ำอึ้ง
เมธาวลัยตอบแทนแก้สถานการณ์
"จิลเค้าคิดถึงหนูค่ะ เลยมาหา ไม่ได้ทะเลาะ คุยกันปกติ"
"ปกติไม่เห็นจะเคยคิดถึงน้องสาว ถ้าไม่ทะเลาะกับแฟน"
"โอ๊ย ไม่ได้ทะเลาะค่ะ สองคนนี่ยังรักกันดี"
จิลลามองหน้าพี่สาวที่ขยิบตาให้โกหกอย่ากระโตกกระตาก
"ค่ะ ยังรักกันดีค่ะ"
"ครับ ยังรักกันดีครับ"
"ชื่อกฤษฎาใช่มั้ย" แสนสุขถาม
"ครับ"
"พ่อแม่ชื่ออะไร"
พี่น้องสองสาวโพล่ง "โอะ!”
"คุณพ่อชื่อเดโช คุณแม่ชื่อโสนครับ"
"ที่บ้านทำงานอะไร"
"อุ๊ตะ...!” สองสาวคาดไม่ถึง
"ทำธุรกิจรีสอร์ตที่เกาะตะวัน และได้รับสัมปทานทำเกาะรังนกครับ"
จิลลาบอก
“โอว … รวยเว่อร์"
"แล้วเราล่ะ"
"กลับไปช่วยคุณพ่อคุณแม่ครับ"
"ดี! หลักฐานก็มั่นคงดี หลานสาวฉันคงไม่ลำบากถ้าคบกับเธอ"
กฤษฎายิ้มๆ จิลลาหันมายิ้มดีใจกับน้องสาว เมธาวลัยยิ้มแหยบอกตัวเอง
เมเปิ้ลบอกกับตัวเอง
"คุณย่าจะมามุกไหนเนี่ย"
"ไปพาพ่อกับแม่มาคุยกับฉัน" แสนสุขบอก
"หา?”
เมธาวลัยร้องอุทาน กฤษฎาอึ้ง
"ฉันอยากมั่นใจว่าเธอสองคนไม่ได้เล่นละครตบตาฉัน และถ้าคบกันจริงจัง ก็ควรให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้และรู้จักกันเข้าใจฉันนะ กฤษฎา"
"ครับ"
แสนสุขเดินออกไป เมธาวลัยหน้าซีด กฤษฎาถอนใจด้วยความหนักใจ
"เม...”
"ตัวเองกลับไปก่อนไป เดี๋ยวเค้าจะเคลียร์กับดรณ์ให้"
"รอคำนี้แหละ น้องสาวเค้าดีที่สุด เก่งที่สุดเรื่องเคลียร์ๆเนี่ย ไปนะ บาย"
จิลลาโบกมือลา รีบออกไปอย่างสบายใจ เมธาวลัยกับกฤษฎาอึ้งกันอยู่ทั้งสองคน แม่บ้านเอามือถือของเธอมาส่งให้
"มันดังอยู่หลายครั้ง หนูกลัวว่าจะเป็นเรื่องด่วนค่ะ"

"ขอบใจ ... น้ำผึ้ง... ฮัลโหล มีอะไร... หา วลัยน่ะเหรอ!”

ภายในผับวายุบุตร เจ๊ฟู อิ๋ว ตะคอกใส่ชาโนที่นั่งกินเฟรนช์ฟรายส์อย่างอร่อย ของกินหมดไปหลายจาน

เจ๊ฟูกับอิ๋วต่างเกี่ยงกันไปมา
“แกนั่นแหละ!”
ชาโนสะดุ้ง กลบเกลื่อนต่อ
"เหย! ไม่จริง ไม่ใช่!”
ทั้งคู่บอก “แต่ฉันเห็น!”
"เห็นอะไร"
เจ๊ฟูบอก
“แกคือผู้ชายปริศนาคนนั้น"
"คนที่ชอบเอาอาหารมาฟาดหัวยัยหยาดทิพย์" อิ๋วซ้ำ
"คนที่ชอบแอบมองยัยหยาดทิพย์ เวลาที่นางไม่รู้ตัว"
"คนที่เห็นนางเจ็บไม่ได้ ต้องรีบเข้ามาช้อน"
ชาโนถาม “ใครวะ!”
เจ๊ฟู อิ๋วโพล่งพร้อมกัน "มึงไง!”
"อีชานม! ฉันเมื่อยปากจะคาดคั้นแกแล้วนะ สารภาพมาเถอะ จะได้รีบกลับบ้าน" เจ๊ฟูบอก
"เออ! แมวฉันรอไปให้อาหารอยู่เนี่ย วันนี้แกทำให้ฉันต้องบกพร่องหน้าที่แม่ที่แสนดี"
"เฮ้อ! อ่ะ สารภาพก็สารภาพ"
เจ๊ฟูและอิ๋วรอฟัง
"ผมไม่ได้ชอบหยาดทิพย์"
เจ๊ฟูกับอิ๋วหันมามองหน้ากัน
"ที่เราใช้เงินฟาดจ่ายค่าอาหารเครื่องดื่มเพื่อให้มันเปิดปากสารภาพเนี่ย"
"ท่าทางจะไม่เวิร์ก" อิ๋วบอก
"ใช้ไพ่ใบสุดท้ายเหอะ"
"เคร!”
เจ๊ฟู อิ๋วหันไปล็อกตัวชาโน
"แกไม่สารภาพ"
"พวกฉันจูบ!” อิ๋วบอก
"เฮ้ย!”
ชาโนตกใจ ดิ้นพราดๆ แต่เจ๊ฟูกับอิ๋วยังไม่ยอมปล่อย
ภายในห้องทำงาน วายุบุตรทุบโต๊ะปัง! ด้วยความแค้นใจ
"ไอ้พิภพ!”
"มันมาเกลี้ยกล่อมให้ฉันบอกว่าคุณคิดทำอะไรอยู่ มันร้อนตัวมากพอฉันปฏิเสธ มันก็ขู่ว่าจะสร้างเรื่องแฉฉันให้คุณเชื่อ ว่าฉันร่วมมือกับมันทำร้ายคุณลินี”
วายุบุตรอึ้ง
"วายุ...คุณก็รู้ว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน ถึงขนาดยอมตายแทนได้ ฉันไม่มีทางทำให้คุณเป็นทุกข์เด็ดขาด ถึงแม้ว่าฉันจะเจ็บปวดที่เห็นคุณกับคุณลินีกำลังคบกันมากแค่ไหน"
"ผมรู้ คุณไม่มีทางทำร้ายและหักหลังผม"
"ฉันกลัวนะวายุ ไม่รู้ว่าคนอย่างมันจะทำอะไรได้อีก ทำยังไงดีคะ"
"ไม่ต้องห่วง...ผมกำลังจะประสานตำรวจให้จับตาดูมัน"
สิริมาแกล้งทำเป็นร้องไห้ออกมาอีก
"ฉันกลัวว่าระหว่างนี้มันอาจทำอันตรายฉันและคุณ รวมถึงคุณลินีด้วย"
"ผมจะให้คุณไปพักที่บ้านผมก่อน อย่าอยู่ห่างผม"
"แต่คุณลินีอาจจะ...”
"ผมอธิบายกับเธอได้ ไม่ต้องห่วง"
"ขอบคุณมากนะคะวายุ...ขอบคุณจริงๆ"
สิริมาโผเข้ากอดวายุบุตร ก่อนจะแอบยิ้มกริ่ม เขาเครียดที่พิภพเริ่มรุกหนักตามที่สิริมาใส่ไฟ

วายุบุตรเดินผ่านโต๊ะลูกค้าโต๊ะหนึ่งไป ก่อนจะถอยหลังกลับมา มองไปที่โต๊ะลูกค้าโต๊ะหนึ่ง เห็นภัทรวลัยนั่งซึมกระทืออยู่เพียงลำพัง วายุบุตรแปลกใจ
"คุณวลัย"

ณัฎฐาลินีขับรถอยู่บนถนนเส้นหนึ่ง สายตามองหาภัทรวลัยไปเรื่อยๆ และรับสายมือถือที่มีเสียงเรียกเข้า
"ฮัลโหล ว่าไงคุณวายุบุตร...จริงเหรอ"

ภายในรถพีศทรรต ปินัทธากดวางสาย พูดกับคนรักอย่างตื่นเต้น
"จริงสิ! ลินีมันบอกว่าคุณวายุบุตรเห็นนังวลัยนั่งเป็นเงือกเซ็งอยู่ที่ร้านเค้า"
"คุณวายุบุตรพูดคำว่าเงือกเซ็งเหรอ"
"นังลินีพูด"
กฤษฎาพูดกับเมธาวลัยที่เพิ่งวางสาย
"พวกคุณนี่รักเพื่อนกันแปลกๆเนอะ เงือกเซ็ง...ฮ่ะๆ"
"พวกฉันมันปกติที่ไหนกันล่ะ...เอ๊า ไปทางซ้ายสิ"
"ขอโทษครับ"
กฤษฎารีบตบซ้ายอย่างเร็ว เสียงมือถือดังขึ้นขัดจังหวะ กฤษฎารีบล้วงมาดูชื่อ
"น้ำฟ้า"
เมธาวลัยไม่พอใจ แย่งมือถือมา
"มา ฉันคุยเอง เธอขับรถไป" เธอกดรับสาย ยั่วเต็มที่ "ฮัลโหล...น้ำฟ้าเหรอจ๊ะ โทร.มามีอะไรเหรอ พอดีตอนนี้กฤษเค้าไม่ว่างรับสายน่ะ..อ๋อ อยากได้รถคืนเหรอจ๊ะ ช่วยตามมาเอาเองนะ โอ๊ย..กฤษ เบาๆสิ สะเทือนแบบนี้ ฉันหัวใจจะวาย โอ๊ยๆๆ"
กฤษฎาซึ่งขับรถมาตามทางที่เรียบมากหันมองเธออย่างเหวอๆ
"ที่ไหนน่ะเหรอ พอดีฉันกับกฤษกำลังมาหาที่นั่งชิลๆ คุยกันเบาๆ ที่ร้าน...”

น้ำฟ้าลดมือถือลง ด้วยความเจ็บใจ
"ระริกระรี้เป็นปลากระดี่ได้น้ำ ระรื่นไปเถอะ เดี๋ยวก็รู้”
น้ำฟ้ารีบเดินออกไป

มุมหนึ่งในผับวายุบุตร ชาโนกำลังจะถูกเจ๊ฟู อิ๋วจูบ
"สารภาพมา!” เจ๊ฟูว่า
"ไม่"
"แสดงว่าแกอยากถูกจูบ" อิ๋วบอก
"ไม่"
ดรณ์หน้ามึนโผล่เข้ามา
"ทำอะไรกันอยู่"
เจ๊ฟูบอก
“จะจูบไอ้ชานม"
"จะขยี้ปากเด็กหนุ่มให้ยอมเปิดปากสารภาพ" อิ๋วว่า
"บนโต๊ะนี่กินได้มั้ย" ดรณ์ถาม
"เฮ้ย! สั่งใหม่ดิพี่ อย่าแย่งผม"
ทั้งคู่ดึงมาถือไว้
"ไม่ให้กิน"
ชาโนมองไปทางหนึ่ง
"เฮ้ย ดารา"
"ไม่เชื่อ ”
"จริงๆ เมอร์ดี้ไง"
ทุกคนหันขวับ...
เมอร์ดี้เดินเข้ามาทางหนึ่งกับเพทาย เดินไปนั่งที่มุมหนึ่ง
"เมอร์ดี้!!! ที่เจ๊จะเคยเอามาขึ้นปกกับคุณน้ำผึ้งไง!” เจ๊ฟูบอก
"มากะใคร กะแฟนเหรอ หน้าปลวกมากเลยอ่ะ ไม่ผ่าน" อิ๋วบอก

ทุกคนพากันส่องดูเมอร์ดี้กับเพทายด้วยความใครรู้ ชาโนและดรณ์พากันกินเฟรนช์ฟรายระหว่างที่ชะนีซีชาวบ้าน
 
อ่านต่อหน้า 4

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 18 (ต่อ)

เพทายสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานเมอร์ดี้นั่งรอคอยใครบางคน

"นี่ พรุ่งนี้มีงานถ่ายเช้า ทำไมไม่รีบกลับ ถ้าบอสรู้ บอสบ่นตาย"
"ถ้าพี่ไม่บอก ก็ไม่รู้"
"หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ปาปาราซซี่ก็เยอะ ไม่รู้ใครเป็นใคร"
"กลัวอะไร เราบริสุทธิ์ใจ อย่าขี้บ่นได้ป่ะ ไม่ใช่แม่"
เพทายเงียบ ตมิสาเดินเข้ามา เพทายแปลกใจ
"มานานหรือยัง"
"เพิ่งมาค่ะ"
"นัดแฟนพี่มาให้พี่เหรอจ๊ะ เมอร์ดี้...น่ารักอ่ะ"เพทายว่า
"นี่! เมื่อไหร่จะเลิกเพ้อเจ้อ ชอบทำตัวเป็นหมามองเครื่องบิน หลีกไป ผู้หญิงจะสุมหัวคุยกัน" ตมิสาบอก
ตมิสาลงไปนั่งกระแทกจนเพทายกระเด็น
"พี่เพทาย เมอร์ดี้หนาวอ่ะ ขอเสื้อคลุมในรถหน่อยสิ"
"อ้าว...เหรอ แต่...”
"หนูหนาว! เป็นหวัดขึ้นมา พรุ่งนี้ไปถ่ายงานไม่ได้ จะว่าไง"
"เร็วๆสิ"
"จ๊ะๆๆ"
เพทายรีบลุกออกไป เหลือเมอร์ดี้กับตมิสาที่หันมามองหน้ากัน
"สั้นๆนะ เธอเกลียดยัยป้าน้ำผึ้งนั่นมั้ย" ตมิสาถาม
"อย่าลากหนูไปเกี่ยว"
"หนู พี่ดูออก ว่าหนูไม่ใช่ธรรมดา...เกลียดมันก็บอกมาตรงๆ"
"แล้วไง"
"อยากให้มันไปให้พ้นหูพ้นตามั้ย"
"ก็ไม่รู้สินะ"
"ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่...เราอาจจะร่วมมือกันได้"
เมอร์ดี้ลุกขึ้น
"พี่ตมิสาคะ หนูบอกแล้วไงคะ ว่าอย่าเอาหนูไปเกี่ยว โดยเฉพาะเรื่องต่ำๆแบบนี้ บอสรู้เข้า บอสคงไม่ปลื้ม"
"นี่!”
"พี่เนี่ย...สวยก็สวยนะ แต่ไม่ฉลาดเลย คิดจะทำเลวแต่ดันให้คนอื่นรู้เห็น"
"หล่อนว่าฉันสวยแต่โง่เหรอ"
"เปล่านี่...สรุปเองนะ เอาล่ะ หนูไม่ฟ้องบอสก็ได้ว่าพี่คิดจะกำจัดแฟนบอส แต่หลังจากนี้พี่ต้องช่วยทำตัวดีๆกับหนู ไม่อย่างนั้นคนแรกที่จะโดนกำจัดคือพี่ ไม่ใช่คุณแม่ ลาล่ะคะ สวัสดี"
เมอร์ดี้เดินเชิดออกไป ไม่ไหว้ตมิสาที่นั่งอึ้งอยู่
"นังเมอร์ดี้"
พนักงานเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ตมิสาหยิบมาดื่มอั่กๆ
"ฉันพลาด ฉันไม่น่านัดมันมาคุยเลย ฉันพลาด ได้ยินมั้ย ฉันพลาด"
พนักงานที่ถูกตมิสาตะคอก ยิ้มแหย รีบวางเครื่องดื่มที่เหลือ แล้วเดินออกไป
"มันกลับแล้ว แล้วใครจ่าย? ฉันเหรอ? พลาดอีกแล้ว"

เมอร์ดี้เดินยิ้มเยาะบอกตัวเอง
"ถ้าฉันจะทำ ฉันบินเดี่ยวย่ะ!”
¬เมอร์ดี้เดินต่อไป เจ๊ฟู อิ๋วมองตาม
"ไปแล้วอ่ะเจ๊...ว่าจะไปขอลายเซ็นซะหน่อย อดเลย" อิ๋วบอก
"เห็นแล้วเสียดายอ่ะ น่าจะเอามาขึ้นปก" เจ๊ฟูบอก
ชาโนโผล่หน้ามา
"น่าสนใจ"
"ไอ้โน...อย่าเบี่ยงประเด็น แกยังไม่ถูกฉันจูบ" อิ๋วว่า
"เฮ้ย! พี่เมเปิ้ล" ดรณ์บอก
เจ๊ฟูกับอิ๋วบอก “ไม่เชื่อ"
ชาโนย้ำบอก “บ.ก.จริงๆ"
ชาโนชี้ไปทางหนึ่ง เจ๊ฟู อิ๋วมองตามเห็นเมธาวลัยเดินเข้ามากับกฤษฎา
เจ๊ฟูกับอิ๋วพึมพำบอก “น้องกฤษ"
เมธาวลัยลากกฤษฎาไปทางหนึ่ง ณัฎฐาลินีตามเข้ามา
"คุณลินี"
เธอเดินไปทางเดียวกับเมธาวลัยและกฤษฎา
"นี่มันวันอะไร ตัวแม่ถึงได้มารวมตัวกัน" เจ๊ฟูว่า
"วันซวยแห่งชาติครับ" ดรณ์บอก
"หือ?”
ทุกคนร้องิ ดรณ์หยิบของกินเข้าปาก ซังกะตาย ทุกคนมองแปลกใจว่า ดรณ์เป็นอะไร
มุมหนึ่งบริเวณหน้าผับวายุบุตร เมอร์ดี้เดินออกมา เจอเพทายที่ถือเสื้อคลุมมาด้วย
"จะไปไหนจ๊ะเมอร์ดี้"
"กลับค่ะ"
"อ้าว แต่พี่...”
"ก็หนูจะกลับ"
"จ๊ะ กลับก็กลับ ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเกิดเรื่องที่เรามาไปเข้าหูเข้าตาบอส เข้าคงไม่ดี"
เมอร์ดี้ชะงัก เพทายหันมองตามเห็นพีศทรรตและปินัทธาเดินจับมือกันมา เมอร์ดี้เห็นแล้วเจ็บใจ พุ่งเข้าไปหาทันที
"เฮ้ย! น้องเมอร์ดี้ ทำอะไร อยากฆ่าตัวตายหรือไง"
เธอพุ่งเข้ามาแทรกกลาง เพทายตามมาเบรกเอี๊ยด มองอย่างแปลกใจ เมอร์ดี้จะทำอะไร
"บอสคะ!”
"เมอร์ดี้ มาได้ยังไง"
ปินัทธาหันไปถามเซ็งๆกับเพทาย
"นั่นสิ...มันมาได้ยังไง"
"เอ่อ คือ...” ยังไม่ทันที่เพทายจะตอบ
"พี่ตมิสานัดเมอร์ดี้มาคุย จะให้เมอร์ดี้ร่วมมือกับพี่เค้าหาทางทำให้ คุณแม่ออกไปให้พ้นจากชีวิตค่ะ"
พีศทรรตและปินัทธาไม่เชื่อหูตัวเอง
“อะไรนะ"
"หนูก็ไม่รู้หรอกนะว่ามีเรื่องอะไรกัน เห็นพี่เค้าพูดไปน้ำตาไหลไป บอกว่าแค้นคุณแม่มาก คุณแม่เป็นคนเลว ชั่วที่ชาตินี้จะไม่มีวันยอมให้อภัย จะไม่ยอมไปเผาผี และจะไม่ยอมให้เดินอยู่ในวงการนี้ได้อีก คุณแม่ต้องถูกกำจัด"
"เมอร์ดี้ อย่าโกหกนะ มันไม่ดี" พีศทรรตบอก
"หนูไม่ได้โกหกนะคะ ถ้าไม่เชื่อ เข้าไปถามเอาเองเลย พี่ตมิสายังอยู่ข้างใน"
"ฉันถามแน่! ดีเหมือนกัน มาให้เชือดถึงที่ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง"
เธอรีบเดินเข้าไปในผับ พีศทรรตรีบตามไปห้าม
"น้ำผึ้ง เดี๋ยวก่อน น้ำผึ้ง!”
เมอร์ดี้มองตามยิ้มสะใจ เพทายมองเมอร์ดี้อย่างผิดหวัง
"เมอร์ดี้ ทำแบบนี้ได้ยังไง...นี่มันโกหกหรือเรื่องจริง"
"หนูไม่เคยโกหก ใครทำเลวทำชั่วหนูก็บอกไปตรงๆ คนแบบพี่ตมิสาไม่สมควรอยู่ใกล้ตัวพวกเรา"
"แต่นั่นคือคนที่พี่รักนะ"
"รักแล้วทำให้ต้องมองข้ามนิสัยแย่ๆของเค้างั้นเหรอ รักแบบหูหนวกตาบอด"
"พี่จะไม่ทนกับเมอร์ดี้อีกต่อไปแล้ว"
เพทายยัดเสื้อคลุมให้เมอร์ดี้ แล้วเดินเสียใจออกไป
"ใครสน"

เมอร์ดี้เดินกลับเข้าไปในผับอีกครั้ง เพื่อติดตามผลงาน

มุมหนึ่งในผับ วายุบุตรยืนแอบมองภัทรวลัยอยู่ คู่ของเมธาวลัยเข้ามา ณัฎฐาลินีตามมาติดๆ

"ไหน มันนั่งเป็นเงือกเซ็งอยู่ไหน คุณวายุบุตร"
"โน่นไง"
วายุบุตรชี้ไปที่ภัทรวลัย ทั้งสองคนบอก “ลุย” พร้อมๆกับเดินไปหาเพื่อนทันที วายุบุตรกับกฤษฎาหันมายิ้มๆให้กัน ไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของเพื่อน

ภัทรวลัยนั่งซึมอยู่ เพื่อนทั้งสองเข้ามาถามพร้อมกัน
"ยังไง"
"ว้าย! พวกแก รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่"
"ไม่อยากให้ใครหาตัวเจอ ทีหลังก็ไปให้ไกลๆหน่อย" ณัฎฐาลินีบอก
"มีปัญญาคิดหนีออกจากบ้าน หนีผัว แต่ไม่มีปัญญาคิดที่ๆจะไป"
"เพื่อนกำลังเศร้าอยู่นะ อย่าเพิ่งด่าได้ป่ะ"
ทั้งคู่อึ้ง...เมื่อเห็นวลัยน้ำตาซึม จึงค่อยๆ ลงนั่งข้างๆ
"มาถึงก็ด่าๆ ทีตอนที่ฉันโทร.หา ไม่มีใครรับสายสักคน"
"ก็อยู่กับผู้ชาย" ณัฎฐาลินีบอก
"แกเคยบอกไม่ใช่เหรอ ว่าผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อนในบางเวลา" เมธาวลัยว่า
"แกโทร.มาในเวลาที่ผู้ชายสำคัญกว่าแกพอดี ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันจะไม่รับสาย"
"นังน้ำผึ้งล่ะ คงอยู่กับผู้ชายด้วยเหมือนกันล่ะสิ ถึงไม่รับสายฉัน"
ทั้งสองสาวบอก “ไม่รู้เหมือนกัน"
"มันกำลังมา"
"แกอย่าบอกพี่เป้นะ ว่าเจอฉัน ฉันยังไม่อยากเห็นหน้าเค้า"

ชาโน อิ๋ว เจ๊ฟู สังเกตดูดรณ์ที่มีอาการซึมเศร้า
"พี่บอกเลิกพี่สาวบ.ก.เหรอ" ชาโนถาม
"อืม"
"เหย อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะหึงเจ๊" เจ๊ฟูว่า
ดรณ์ส่ายหน้า "หึ"
อิ๋วบอก "หึงเจ๊เหรอ ว่าแล้วเชียว"
ดรณ์ส่ายหน้าอีก
“หึ...เพราะเราสองคนครับ ไม่เกี่ยวกับใคร"
"ตอบได้เหมือนดาราเวลาที่เค้าเลิกกันเลยว่ะพี่"
เสียงนักเที่ยวดังขึ้นบยอก
"เฮ้ย ดาราๆๆ"
ทุกคนหันไป...เห็นปินัทธาเดินหน้าเครียดเข้ามา พีศทรรตตามหลัง
"อุ๊ยตาย...ตัวแม่มาอีกคนแระ" เจ๊ฟูบอก
"แกเดินเหมือนจะไปตบใครเลยว่ะ" อิ๋วว่า
ทุกคนมองตาม เมอร์ดี้มายืนที่มุมหนึ่งยิ้มสะใจ หยิบมือถือขึ้นมาเตรียมถ่ายคลิป
"ตายเพราะอารมณ์ตัวเองกันให้หมด"
ตมิสานั่งดื่มเครื่องดื่มอยู่ ปินัทธาปราดเข้ามาจ้องหน้า พีศทรรตตามมาข้างหลัง พยายามจะปราม เจ๊ฟู อิ๋ว ชาโนและดรณ์มายืนสังเกตการณ์รวมกับนักเที่ยวคนอื่นๆ ที่พากันมองดูดารา
"นังตมิสา"
ตมิสาตกใจ
"คุณป้า"
"น้ำผึ้ง ใจเย็นก่อน"
"ก็นี่ไง ใจเย็น...ฉันถามแกดีๆ แบบใจเย็นๆนะ แกแค้นฉันมากเลยใช่มั้ย"
ตมิสาอึ้ง
"ป้าพูดเรื่องอะไร"
"ไม่ต้องมาแอ๊บไม่รู้เรื่อง โดนไปขนาดนั้น ไม่แค้นก็ไม่ใช่คนอย่างแก"
ตมิสามองปินัทธาด้วยสายตาเกลียดชัง
"โดนอะไร เธอสองคนเคยมีเรื่องอะไรกันที่ฉันไม่รู้"
ทั้งคู่โพล่งพร้อมกัน "ไม่มี"
แต่ทั้งคู่ยังมองหน้า สายตาห้ำหั่นกัน
"แกเลยคิดจะกำจัดฉันออกจากวงการ ไปให้พ้นทางชีวิตแกใช่มั้ย"
ตมิสาตกใจ
"อุ๊ย! รู้ได้ไง...หรือว่า"
ปินัทธาบอกกับพีศทรรต
"มันพูดแบบนี้แสดงว่าจริง เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้ คงเย็นไม่ได้"
เธอตบหน้าตมิสาเปรี้ยง! ทุกคนฮือฮา พีศทรรตตกใจ เมอร์ดี้ถ่ายอัดคลิปเหตุการณ์เอาไว้ ยิ้มสะใจมาก
"บอสคะ ปล่อยให้แฟนบอสมาตบหน้าหนูได้ยังไง"
"ตบสั่งสอนคนคิดชั่วๆไง"
"น้ำผึ้ง ไม่อายคนบ้างหรือไง ไปคุยกันข้างนอก"
"จะคุยตรงนี้ มันต้องให้เลือดชั่วออกมาล้างเท้าฉัน มานี่"
เธอเข้าไปจิกตีตมิสาทันที
"บอสขา ช่วยด้วย ช่วยด้วย นังป้ามันบ้าไปแล้ว"
"จนกว่าจะตบแกให้เลือดกระฉูด ฉันถึงจะเลิกบ้า!”
ปินัทธาไล่ตีตมิสา กลุ่มของชาโนเหวอ ตกใจ นักเที่ยวฮือฮา พีศทรรตพยายามจะห้ามและข่มใจที่สุด เมอร์ดี้ยังคงถ่ายคลิปต่อไปอย่างสะใจ

มุมหนึ่งในผับ เพื่อนทั้งสองนั่งฟังภัทรวลัย
"พี่เป้เปลี่ยนไปจริงๆนะ ไม่ค่อยพูดกับฉัน"
นักเที่ยวเริ่มลุกออกไปทางหนึ่ง เพื่อดูเหตุการณ์ ทุกคนมองตามอย่างแปลกใจ
"เมื่อคืนก็หายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งสองสามชั่วโมง ไม่ยอมบอก กลับมาก็หลับเป็นตาย"
เสียงฮือฮาดังมากขึ้น จนทั้งสองเริ่มไม่มีสมาธิฟังภัทรวลัย วายุบุตรถามพนักงานคนหนึ่งที่เดินมาจะไปดูเหตุการณ์
"ตรงโน้นมีอะไร"
"ดาราวิ่งไล่ตบผู้หญิงคนหนึ่งครับ"
"ตามร.ป.ภ.หรือยัง"
"ตามแล้วครับ"
วายุบุตรวิ่งไปทันที ณัฎฐาลินีกับเมธาวลัยหันมองหน้ากัน ในขณะที่วลัยยังเพ้อ
"หรือว่าจะเป็น...” ณัฎฐาลินีนึกสังหรณ์
"นังน้ำผึ้ง"
ทั้งคู่รีบลุกไปทันที กฤษฎาตามไปด้วย ทิ้งภัทรวลัยให้อยู่คนเดียว
"ฉันเสียใจ ผัวเมียกันนะ ไม่ใช่คนอื่น"
เธอหันมา ไม่เห็นเพื่อนแล้ว
"อ้าวเฮ้ย! หายไปไหนกันหมดเนี่ย เฮ้ย"
เธอลุกตามไปด้วยอีกคน

ปินัทธาไล่ฟัดตมิสาไล่วนพีศทรรต ร.ป.ภ.วิ่งเข้ามา จะห้าม
"ใครเข้ามา ตาย"
ร.ป.ภชะงัก ไม่กล้าเข้าไป
"บอสขา ช่วยด้วย"
ทุกคนเข้ามา เห็นเพื่อนกลายเป็นหมาบ้าไปแล้ว
"น้ำผึ้ง"
พีศทรรตทนอายต่อไม่ไหว ฉุดเธอเอาไว้
"ผมบอกให้หยุด"
"ไม่หยุด"
"ถ้าอย่างนั้น เราเลิกกัน"
ทุกคนอึ้งกันไปหมด เมอร์ดี้ยิ้มเหยียดออกมาอย่างสมใจ เธอตกใจมองหน้าเขา
"ไม่จริงใช่มั้ย"
"เราเลิกกัน จบแค่นี้"

แล้วพีศทรรตก็เดินจากไป ทิ้งให้เธอช็อกค้าง ท่ามกลางเพื่อนๆ และฝูงชน
 
อ่านต่อตอนที่ 19
กำลังโหลดความคิดเห็น