ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 17
ณัฎฐาลินีถูกลากเข้าไปในบ้าน เธอตกใจมาก เมื่อเห็นสภาพบ้านมีข้าวของกระจัดกระจาย
จรินทร์พรนั่งตัวสั่นอยู่กับดวงที่มุมหนึ่ง และมีไอ้โม่งอีกสองคนคุมอยู่
จรินทร์พรเงยหน้ามองเห็นลูกสาวที่ถูกล็อกตัวอยู่ ด้วยสัญชาติญาณ จรินทร์พรถลาไปหาลูกจนตกจากเก้าอี้รถเข็น
"อย่าทำลูกฉัน! อย่าทำลูกฉัน"
"คุณ! อย่า" ดวงว่า
ดวงจะเข้าไปห้าม แต่เจอจิกหัวเอาไว้ ส่วนไอ้โม่งอีกคนวิ่งมาดึงตัวจรินทร์พรออกไป เธอทั้งตบทั้งข่วน ไอ้โม่งตบเธอจนกระเด็น
"แม่"
เธอใช้วิชาต่อสู้ป้องกันตัว ดิ้นจนจัดการไอ้โม่งจนล้มลงไปกอง แล้วเธอก็เข้าไปจัดการไอ้โม่งที่ทำร้ายจรินทร์พรด้วยความแค้น ไอ้โม่งสู้ไม่ได้ ล้มลงไปกอง
เธอเข้าไปจัดการไอ้โม่งอีกคนที่คุมตัวดวงอยู่ จนร่วงลงไปอีก
ไอ้โม่งคนแรกที่ร่วงไป ปราดเข้าไปคว้าตัวจรินทร์พรมา แล้วควักปืนขึ้นมาจ่อ
ไอ้โม่ง1 บอก "หยุดนะมึง!"
"ว้าย!" ดวงอุทาน
ณัฎฐาลินีหันไป ชะงัก... เมื่อเห็นแม่ตื่นตระหนกอยู่ในกำมือของไอ้โม่ง ไอ้โม่งอีก 2 คนลุกขึ้นมา
"ถ้ามึงยังอวดเก่งอีก แม่มึง...ตาย!"
"ไอ้หน้าตัวเมีย ทำผู้หญิง"
"ก็ถ้าผู้หญิงอย่างมึงไม่อยู่เฉยๆ ทำมากกว่านี้ กูก็ทำได้!"
"ไอ้เลว!"
"จำไว้ อยู่เฉยๆ อย่าหาเรื่อง ไม่อย่างนั้น กูจะกลับมาฆ่าพวกมึงให้หมด"
"แน่จริง ก็ฆ่าตอนนี้เลย เพราะฉันไม่มีทางอยู่เฉย"
"คุณลินี!" ดวงปราม
"ไม่ต้องกลัวพี่ดวง พวกมันอย่างเก่งก็แค่ขู่ ถ้ามันจะฆ่า มันทำไปนานแล้ว"
ไอ้โม่ง1 ผลักจรินทร์พรลงไป ยกปืนเล็งจะยิง
ทันใดนั้น วายุบุตรก็เข้ามา ถีบไอ้โม่ง1 จนล้ม ปืนกระเด็น วายุบุตรตามไปซ้ำ ไอ้โม่งอีกสองคนเข้าไปรุม
"พี่ดวงแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้!"
ขาดคำลินีเข้าไปช่วยวายุบุตร สองคนช่วยกันจัดการ ดวงวิ่งไปที่โทรศัพท์โทร.แจ้งความ
จรินทร์พรนั่งกลัวอยู่ เหลือบมองเห็นปืน รีบคลานไปหยิบขึ้นมา ยิงทันทีแบบไม่มีทิศทาง เปรี้ยง! กระสุนไปโดนเพดาน
ทุกคนชะงัก ไอ้โม่งฉวยจังหวะ รีบเผ่นหนีออกไปทันที วายุบุตรรีบตามออกไป เธอปราดเข้ามาหาแม่
"แม่จ๋า หนูขอปืนนะ แม่วางลงนะ"
จรินทร์พรมองปืนในมือ ตกใจ รีบทิ้งลงไป เธอเตะปืนออกไปให้ห่างตัว เธอเข้าไปกอดแม่เอาไว้ จรินทร์พรลูบตามเนื้อตามตัวลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
"เจ็บตรงไหนมั้ยลูก เจ็บมั้ย"
ณัฎฐาลินีกอดแม่เอาไว้ด้วยความสะเทือนใจ
ไอ้โม่งสามคนวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง วายุบุตรวิ่งตามมา เห็นชาวบ้านยืนมองเหตุการณ์ด้วยความตื่นตกใจ วายุบุตรหยุดตาม เพราะไอ้โม่งวิ่งไปไกลแล้ว
วายุบุตรหยิบมือถือขึ้นมากดหาตำรวจ และตัดสินใจกลับเข้าบ้าน
ภายในบ้าน ณัฎฐาลินีกอดปลอบแม่อยู่ ดวงนั่งกลัวตัวสั่น วายุบุตรเข้ามา
"ผมโทร.แจ้งตำรวจแล้ว ทุกคนเป็นยังไงบ้าง"
"ฉันไม่เป็นไร แต่แม่...ตกใจมาก"
"ต้องพาไปโรงพยาบาลมั้ย"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวแม่ก็ดีขึ้น พี่ดวง ช่วยหนูพาแม่ไปพักก่อน"
ดวงเข้ามาช่วยเธออุ้มจรินทร์พรไปพัก วายุบุตรสังเกตเห็นว่าแม่ของเธอขาไม่มีแรง ก็ปราดเข้าไปจะอุ้มจรินทร์พรขึ้นมาเอง
"ผมเอง"
จรินทร์พรเห็นวายุบุตรเป็นคนแปลกหน้า ก็ตกใจ
"ผมเป็นเพื่อนของคุณลินีครับ...ผมมาช่วย" วายุบุตรรีบบอก
จรินทร์พรค่อยๆสงบลง
"ให้ผมพาแม่คุณไปพักที่ไหน"
"ตามฉันมา"
เธอรีบนำวายุบุตรออกไป ดวงตามไปด้วย
หน้าห้องนอน วายุบุตรยืนมองเธอช่วยดวงจัดผ้าห่มให้แม่นอนพักบนเตียง วายุบุตรสังเกตความเป็นห่วง และความเอื้ออาทรที่สองแม่ลูกมีให้กัน จรินทร์พรจับมือลูกสาวแน่น ไม่ยอมปล่อย
"แม่จ๋า...ไม่เป็นไรแล้วนะ หนูปลอดภัย พี่ดวงปลอดภัย เพื่อนหนูมาช่วยไว้"
เธอเหลือบมองวายุบุตร ยิ้มให้ด้วยความขอบคุณอย่างจริงใจ เขายิ้มตอบ
จรนิทร์พรค่อยๆคลายมือออกจากมือลูกสาว และค่อยๆหลับตาลง
"เดี๋ยวพี่ดูคุณแม่ให้เองค่ะ" ดวงบอก
"ค่ะ"
เธอเดินออกไป วายุบุตรตามเธอไป
ทางด้านร้านอาหาร เมธาวลัยเข้ามายืนเผชิญหน้ากับเจ๊เงาะที่โต๊ะ
"สวัสดีค่ะ เจ๊เงาะ!"
เจ๊เงาะเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอก็อึ้ง ตกใจ ไม่คิดว่าจะเจอ
"ตกใจเหรอคะที่เจอหนูที่นี่"
เจ๊เงาะกลบเกลื่อน รีบยกน้ำดื่ม ทำหน้าเป็นปกติ
"เปล่านี่คะ ก็ปกติ"
"แน่ใจเหรอคะว่าปกติ"
เงาะยิ้มเย็นบอก
"ค่ะ ปกติ...มาทานข้าวเป็นปกติ ใช้ชีวิตปกติ อย่าใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสินคนอื่นด้วยความเคยชินสิคะ อย่าลืม...ที่นี่ไม่ใช่ออฟฟิศ It’s a Must!"
เธอสะอึก ถือดีขึ้นมาอีก ยิ้มเย็นใส่เจ๊เงาะ
"ไม่มีมารยาทเชิญให้นั่งในฐานะคนร่วมวงการที่บังเอิญมาเจอกัน หนูถือโอกาสนั่งเลยแล้วกันนะคะ เพราะท่าทางจะคุยกันยาว"
เจ๊ะเงาะสะอึก มองเธอนั่งตรงหน้าด้วยท่าทางสง่าแล้วแอบอึ้ง
"เหมือนจะไม่อยากให้นั่งตรงนี้ ทำไมเหรอคะ...สงวนไว้ให้ใครเหรอคะ"
"ไม่ได้สงวนหรอกค่ะ ใครอยากนั่งก็ได้ พี่เปิดรับคนที่อยากคุยกับพี่เสมอ ไม่ได้หวงพื้นที่เหมือนหมาหวงกระดูก ยึดเอาไว้ไม่ปล่อย เก็บไว้กินคนเดียว อิ่มคนเดียว"
"อืม...พูดเหมือนเข้าใจความรู้สึกของหมาที่กำลังถูกแย่งกระดูกเลยนะคะ"
"พี่ชอบเลี้ยงหมาค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะรู้เหมือนกันนะคะว่า เวลาที่หมามันโกรธเวลามีใครมารุกล้ำพื้นที่ มันจะไล่กัดไม่ปล่อย มีทางเดียวที่จะรอดคือ ตายคาเขี้ยวของมัน"
เจ๊เงาะหัวเราะกลบเกลื่อนทันที
"ฮ่ะๆๆ ตกลงเราจะคุยกันเรื่องหมาใช่มั้ย"
"หรือจะคุยเรื่องแมวล่ะคะ...หนูคุยได้นะ โดยเฉพาะเรื่องแมวขโมย ตอนนี้หนูอินมาก"
"เผอิญว่าพี่ไม่ถนัดเรื่องแมว...ตกลงมาทานข้าวเหรอคะ หรือว่ามาซื้อของ"
"มาจับผิดคนค่ะ"
เจ๊เงาะอึ้ง รีบดื่มน้ำอีกรอบ เมเปิ้ลยืนยิ้มเย็น
หยาดทิพย์เข้ามาหาดรณ์ที่ยืนแอบดูไทเกอร์ซึ่งกำลังหงุดหงิดอยู่
"คุณดรณ์...มายืนทำอะไรตรงนี้"
"ดูคุณไทเกอร์กำลังสาวแตกอยู่ตรงนั้นครับ"
หยาดทิพย์รีบส่องดูไทเกอร์ทันที เห็นอาการหงุดหงิดของไทเกอร์แล้วหน้าเสีย
"สาวกว่าฉันอีกอ่ะ"
"เอาไงต่อครับ"
"บ.ก.บอกว่า...ให้ล็อกตัวเอาไว้ แล้วลากเอาไปให้แกตัดหัวเสียบประจาน ขอเป็นคนตัดหัวเองได้ป่ะ ฮื่ย!"
"โหดมากครับ แต่...โอเคครับ ไป"
ดรณ์และหยาดทิพย์มองไปที่ไทเกอร์อีกครั้ง แต่ไทเกอร์หายไปแล้ว
ทั้งคู่ร้อง "อ้าว"
ทางด้านบ้านพีศทรรต ปินัทธายืนมองญาดาที่กำลังครุ่นคิดอยู่
"มีอึ้งล่ะสิ...นี่ อย่าคิดนานสิคะลูก หนูต้องจำเอาไว้นะคะว่า นาทีทองของชีวิตมีแค่แป๊บเดียว หนูต้องตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะเลือกทางไหน"
"ติ๊กต่อกๆๆ ถ้าพูดไม่เพราะ อด...แต่ถ้าพูดเพราะ แม่มดมาแน่ค่ะ" แต้วบอก
ญาดาคิดหนัก น้ำผึ้งยิ้มย่องที่เด็กกำลังจะตกหลุมพราง
พีศทรรตกับกานดาแอบดูอยู่ เขาอมยิ้ม ลอบมองเธออย่างประทับใจโดยไม่รู้ตัว
"ห้า...สี่..สาม...สอง"
ญาดารีบพูด
"ช่วยแปลงร่างเป็นแม่มดให้หนูดูหน่อยได้มั้ยคะ"
ปินัทธากับแต้วดีใจ พีศทรรตยิ้มออก โล่งอก ในขณะที่กานดาอึ้งไปเลย
"ได้สิคะ...ความปรารถนาของเด็กดี เป็นความจริงได้เสมอ คอยดูนะ อย่ากะพริบตา...โอม ร่างแม่มดจงปรากฏ"
"ทำอะไรกัน!"
ธัญรดาเสียงเข้มเข้ามามองน้ำผึ้งอย่างไม่พอใจ เธอชะงัก ทุกคนหันไปมอง
ญาดาดีใจวิ่งเข้าไปจับมือ
"คุณแม่"
น้ำผึ้งเซ็ง บ่นฮุบ
"พูดถึงแม่มดปุ๊บ ก็มาปั๊บ"
ธัญรดาวีน สะบัดมือลูกสาวออก
"หล่อนว่าใครเป็นแม่มด!"
ญาดาถูกแรงสะบัดจนเซไป...
"น้องญาดา!"
แต้วรีบเข้าไปหา พีศทรรตและกานดาที่มองดูอยู่ ตกใจ
"นี่คุณ! ที่เหวี่ยงออกไปน่ะลูกนะ ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้ว"
"ลูกฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ หล่อนไม่มีสิทธิ์มาสาระแน"
"นี่!"
กานดารีบเข้าไปทันที พีศทรรตตามไปอย่างไม่พอใจ
"พอกันได้แล้ว!"
ธัญรดาตกใจ หน้าเสีย ไม่คิดว่าพีศทรรตกับกานดาจะอยู่ด้วย
"อุ๊ย คุณแม่ พีศ"
พีศทรรตไม่พอใจธัญรดามาก รีบเข้าไปหาลูกสาวทันที กานดาเองก็ไม่พอใจธัญรดาแต่ไม่อยากแสดงออกต่อหน้าปินัทธา แต่รู้สึกหนักใจ ปินัทธายืนยิ้ม มั่นใจว่าธัญรดาต้องถูกตำหนิแน่
ไทเกอร์เดินมาถึงหน้าร้านอาหาร ดรณ์และหยาดทิพย์เดินไล่หลังมา
"อยู่นั่น"
ไทเกอร์ไปถึงหน้าร้าน ชะงัก มองเข้าไปในร้าน เห็นเมธาวลัยนั่งอยู่กับเจ๊เงาะ
เจ๊เงาะนั่งหันหน้ามาทางหน้าร้าน ส่วนเธอนั่งอยู่ข้างหลัง เจ๊เงาะขยิบตาให้ ไทเกอร์รีบหลบออกไปทันที
เธอหันไปทางหน้าร้าน แต่ไม่เห็นใคร
ดรณ์และหยาดทิพย์ เห็นไทเกอร์เดินฉีกออกไปทางหนึ่งอย่างร้อนรน
"ท่าทางจะเห็นบ.ก.อยู่ในร้านแล้ว หนีไปเลยอ่ะ"
"มีพิรุธครับ ถ้าไม่มีอะไรต้องปกปิด จะหนีไปทำไม ทำไมไม่เข้าไปหาพี่เมเปิ้ล"
"โอย! ไม่ต้องถามหาอะไรแล้ว ไปล็อกตัวมา"
หยาดทิพย์วิ่งนำดรณ์ตามไทเกอร์ไป
เมธาวลัยหันมาคุยกับเจ๊เงาะ
"เจอใครเหรอคะ"
"เปล่านี่คะ"
"เอ๊ะ หรือว่า เจอใครที่ไม่อยากให้หนูเจอ"
"ทำไมพี่ต้องไม่อยากด้วยล่ะคะ พี่ไม่มีอะไรต้องปกปิด"
"คนที่พูดว่าไม่มีอะไรต้องปกปิดนี่ล่ะค่ะ..ตัวดี"
เจ๊เงาะลุกขึ้น เก็บไว้ไม่ไหวแล้ว
"พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง"
เธอลุกขึ้นประจันหน้า
"หมายความอย่างที่พูดล่ะค่ะ อย่าคิดว่าหนูไม่รู้ ว่าพี่คิดจะทำอะไร อยากจะชนะ It’S a Must! ก็สู้กันซึ่งๆหน้า อย่าลอบกัดและขี้ขโมย...ทุเรศ!"
"เมเปิ้ล! คิดว่าเธอแน่มากหรือไง"
"ไม่แน่ ไม่ยืนด่าอย่างนี้หรอก! ถ้ายังไม่หยุดทำอะไรทุเรศๆอีกล่ะก็ ฉันจะประจานเธอให้ให้ชาวโลกรับรู้"
"อย่ากล่าวหาฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันจะฟ้องเธอ"
"ไปเลย! ฟ้องให้จริงเถอะ ฉันจะรอไปฟัดกับเธอในศาล"
"ต่อไปนี้ ไม่ต้องมานับถือกัน"
"ไม่ต้องพูด ฉันก็เลิกนับถือ เลิกเรียกเธอว่าพี่ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว หูตึงหรือไง"
เจ๊เงาะโกรธเมธาวลัยมาก อายสายตาคนด้วย แต่เธอไม่แคร์ เจ๊เงาะรีบเดินออกไปด้วยความโกรธจนตัวสั่น เธอมองตามด้วยสายตาอำมะหิต นึกสะใจ ก่อนจะหงุดหงิดที่ไม่เจอไทเกอร์
อ่านต่อหน้า 2
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 17 (ต่อ)
ไทเกอร์กำลังรีบเดินไปที่มุมหนึ่ง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณไทเกอร์!"
ไทเกอร์ชะงัก หน้าเสียตกใจ จำเสียงได้ แต่ยังไม่หันมา
"หยาดทิพย์!"
ดรณ์และหยาดทิพย์เดินเข้าไปหาไทเกอร์
"จะรีบไปไหนคะ"
ไทเกอร์รีบปั้นหน้าหันไปยิ้มทำเซอร์ไพรส์
"หยาดทิพย์ ดรณ์!!! มาทำอะไรกันที่นี่ เธอกับพี่เมเปิ้ลกลับมาแล้วเหรอ ไม่ยักรู้เลย"
"จะรีบไปไหนคะ"
"ก็...แวะมาทำธุระเสร็จแล้วนี่ กำลังจะกลับออฟฟิศ"
"คุณบอกผมว่าคุณไม่สบายจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ไป"
"นายตามฉันมาเหรอ"
"ครับ"
"มันจะมากไปแล้วนะ"
" ไม่มากไปหรอก!"
ทุกคนชะงัก หันไป เมเปิ้ลเดินเข้ามา ไทเกอร์อึ้ง ตกใจ...คิดหาทางรอด พยายามคุมสติ
"เพราะดรณ์ทำตามคำสั่งของฉัน ให้คอยเฝ้าดูแกอย่างใกล้ชิด"
"พี่เม! ผมไม่ใช่นักโทษของพี่นะ ทำไมต้องทำกันแบบนี้ เหมือนไม่ไว้ใจ ไม่ให้เกียรติ"
"งั้นก็ตอบฉันมาสิ ว่าแกมาที่นี่ทำไม"
ไทเกอร์อึ้ง เมื่อตกอยู่ในภาวะถูกกดดันจากทุกคน
"ตอบฉันไม่ได้ ฉันตอบให้เอง แกแอบมาเจอเจ๊เงาะ บ.ก.แมกกาซีนคู่แข่งของฉัน"
"ไม่จริง! พี่เห็นผมอยู่กับเจ๊เค้าเหรอ"
"ไม่เห็น"
เธอนิ่ง ยืนรอฟังการแก้ตัวของไทเกอร์ อยากรู้ว่ามันจะแถไปยังไง
"ก็นั่นไง ไม่ได้เห็นกับตาก็อย่ามาปรักปรำ ผมมาของผม เจ๊เค้าก็มากินข้าวของเค้า"
"แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าอีเจ๊เงาะนั่นมากินข้าว"
"ผมเห็นตอนที่กำลังจะเดินเข้าร้านอาหารไง"
"แสดงว่าแกก็เห็นฉัน แล้วทำไมไม่เข้าไปทัก"
"ก็..."
"นอกจากจะไม่เข้าไปทัก ยังรีบเดินหนี มีพิรุธ"
"แต่ผมเห็นคุณเข้าไปสักพัก แล้วก็ออกมาใหม่ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอเจ๊เงาะในร้าน"
ไทเกอร์อึ้ง...
"ว่ายังไง ตอบ!"
ไทเกอร์หน้าเสีย จนมุม ในขณะที่เธอจ้องไทเกอร์เหมือนจะฆ่าให้ตายตรงนั้น
"ถ้าอย่างนั้น ไปตอบที่ออฟฟิศ เผื่อจะปริ้นต์จดหมายไล่ออกให้แกเซ็นรับทราบได้เลย"
ไทเกอร์ตกใจ...เหวอ เธอสะบัดบ็อบออกไป หยาดทิพย์และดรณ์รีบตามไป ทิ้งไทเกอร์ยืนช็อก หน้าซีดอยู่
เธอก้าวฉับๆตัวปลิว เต็มไปด้วยแรงโมโหไทเกอร์ ดรณ์ช่วยหยาดทิพย์หอบหิ้วถือกระเป๋าเสื้อผ้าและเครื่องประดับของเมเปิ้ลมาตามทาง
"ผมช่วยถืออีกใบก็ได้ครับ"
หยาดทิพย์ยื่นให้
"ขอบคุณค่ะ แต่ เอ๊ะ อย่าดีกว่าค่ะ คุณเป็นถึงว่าที่พี่เขยบ.ก.ฉันเกรงใจ"
หยาดทิพย์ชักกลับ
"แต่ตอนนี้ผมเป็นพนักงาน ออฟฟิศเดียวกัน ก็ต้องช่วยกันครับ"
"อุ๊ย...เริ่ดอ่ะ แมนมากเลยค่ะ มิน่า...พี่สาวบ.ก.ถึงรักถึงหวง"
ดรณ์ยิ้มเขิน
"ครับ"
"ดรณ์!" จิลลาส่งเสียงเขียวมากเข้ามากลางวง
ดรณ์ หยาดทิพย์สะดุ้งเฮือก หันไปเห็นจิลลามองด้วยความหึงเดินเข้ามา
"ดรณ์ทำอะไร นี่ใคร ยังไง มันเป็นยังไง หา! อ๊าย"
หยาดทิพย์เอามืออุดหูทันที เพราะเสียงจิลลาแหลมมาก ดรณ์รีบทิ้งกระเป๋าเข้าไปปลอบคนรัก
"จิล ใจเย็น อย่าร้องเสียงดัง มันไม่มีอะไร"
"มาจับมือถือแขนแม่นี่ ที่นี่ได้ยังไง นี่ถ้าจิลไม่ได้นัดเพื่อนที่นี่ คงไม่รู้เลยว่ากำลังถูกตีท้ายครัว"
"โอย! ไปกันใหญ่แล้วค่ะ ครัวสไตล์นี้ ไม่ตีหรอกค่ะ จะรีบเดินผ่าน"
"หล่อนเป็นใคร"
เมเปิ้ลเดินย้อนกลับมา
"เลขาฉันเอง!"
จิลลาเห็นเมเปิ้ลแล้วอึ้ง
"เป็นบ้าอะไรอีกล่ะจิล"
"จิลกำลังเข้าใจผมกับหยาดทิพย์ผิดครับ"
"ไร้สติ! คิดเข้าไปได้ยังไง สองคนนี่มากับฉัน มาทำงาน"
จิลลาอึ้ง หน้าเสีย เมธาวลัยถอนใจ ที่จิลลาเอาแต่สร้างเรื่อง
เธอลากพี่สาวเข้ามาคุยยังมุมหนึ่ง
"รู้ว่ารัก แต่อย่าไร้สติ หึงหวงไม่ดูหน้าดูหลัง"
"ก็มันไม่น่าไว้ใจ ถ้าเราไม่ระวัง อะไรก็เกิดขึ้นได้"
"อะไรที่จะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เพราะคนอื่น แต่เป็นเพราะตัวเองนั่นแหละ"
"เค้าทำเพราะรัก"
"แต่จะทำให้ดรณ์เบื่อ! ทำตัวแบบนี้ ผู้ชายเค้าจะรำคาญ"
"รำคาญก็เลิก"
"เค้าไม่ให้เลิก"
"เค้าก็ไม่ได้อยากจะเลิก"
"โอ๊ย! จะมึนไปถึงไหน"
จิลลาอึ้ง
"ฟังเค้านะ...แฟนนะ ไม่ใช่นักโทษ ดรณ์รักตัวเองมาก เค้าไม่เคยเห็นดรณ์เหลวไหลทั้งต่อหน้าและลับหลังตัวเองเลย"
"จริงเหรอ"
"จริง! ไว้ใจแฟนหน่อยสิ หนักแน่นให้มากๆ"
จิลลาอึ้ง อ่อนลง เหมือนจะยอมรับ
"เค้าไว้ใจแฟนเค้า แต่เค้าไม่ไว้ใจผู้หญิง!"
"จิล!"
"สมัยนี้ผู้ชายแท้เหลือน้อย คนคอยแต่จะแย่ง ยังไงเค้าก็ต้องล้อมคอกไว้ก่อนวัวจะหาย"
เธอถอนใจ หนักใจ ที่จิลลาพูดไม่รู้เรื่อง
พีศทรรตเดินเข้ามาพูดกับญาดาปินัทธายืนเชิด กานดาหงุดหงิดกับธัญรดาอยู่
"ไปกับพี่แต้วก่อนนะลูก ขอคุณพ่อคุยธุระกับคุณแม่ก่อนนะคะ"
"ไปค่ะ น้องญาดา"
ญาดาซึมเศร้าตามแต้วไป กานดาหันไปคุยกับน้ำผึ้ง
"น้ำผึ้ง"
"คะ"
"ฉันต้องการให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้"
ปินัทธาหน้าเสีย พีศทรรตหนักใจ ธัญรดาสะใจ เธอหันไปสบตาเขา
"ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากตาพีศ เพราะเค้าคงช่วยอะไรเธอไม่ได้"
"คุณแม่ครับ ผมขอเถอะ"
"แม่ไม่ให้ ตอนนี้ เรามีเรื่องที่ต้องคุยกันระหว่างคนในครอบครัว คนนอกไม่ควรจะอยู่รับฟัง... หวังว่าเธอคงจะเข้าใจและมีมารยาท"
เธอยอมรับแต่โดยดี
"ค่ะ หนูเข้าใจ" เธอบอกพีศทรรต "ฉันกลับก่อนก็ได้ค่ะ"
"ก็รีบออกไปสิ"
เธอข่มอารมณ์เอาไว้ ไหว้ลากานดา
"สวัสดีค่ะ"
กานดาไม่รับไหว้ เดินออกไปอีกทาง พลางสั่งเฉียบขาด
"ตาพีศ รดา ตามแม่มาทางนี้ เดี๋ยวนี้"
พีศทรรตพูดกับน้ำผึ้งอย่างเป็นห่วงความรู้สึก
"เดี๋ยวผมโทร.หานะ"
น้ำผึ้งอึ้ง เพิ่งเจอแววตาอาทรของเขาอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก
"ค่ะ" เธอจงใจพูดเย้ยรดา "แต่อย่าให้รอนานนะคะ ทนคิดถึงไม่ไหว"
ธัญรดาหมั่นไส้ น้ำผึ้งหันมาตั้งใจยิงใส่ธัญรดาอีก
"เชอรี่ของฉัน ไม่เคยทำกับลูกตัวเองอย่างที่คุณทำเมื่อกี้เลย น่าสงสารเด็ก ท่าทางฉันคงต้องมาเล่นกับแกบ่อยๆแล้วสิ"
"คุณมาได้บ่อยเท่าที่ต้องการนะน้ำผึ้ง"
ธัญรดาข่มความไม่พอใจเอาไว้
"ไปนะคะ คุณพีศ ขอบคุณค่ะที่ไว้วางใจให้ฉันมาหาลูกคุณได้บ่อยๆ เท่าที่ฉันต้องการ"
เธอสะบัดบ๊อบออกไป
ธัญรดาถามพีศทรรต
"เชอรี่ของแม่นั่น คือใคร?"
"พุดเดิ้ล หมาที่น้ำผึ้งเคยเลี้ยง แต่ตายไปแล้ว"
ธัญรดาอึ้ง พีศทรรตเดินอมยิ้ม สะใจเข้าไป ธัญรดาแทบกรี๊ดที่ถูกน้ำผึ้งเปรียบเทียบกับหมา
อีกมุมหนึ่งบ้านพีศทรรต กานดาต่อว่าธัญรดา
"ถึงเราจะโมโหยัยดารานั่นมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรลงกับลูก"
"หนูขอโทษค่ะ ที่ลืมตัว"
พีศทรรตเยาะ"หึ"
"แต่คนที่ทำให้ฉันโกรธจนทำร้ายลูกอย่างนั้น เพราะแฟนคุณมันแอบด่าฉัน!"
พีศทรรตอ้าปากจะโต้ตอบ กานดาขัด
"หยุด!"
ทั้งสองคนหยุด เงียบ ไม่มองหน้ากัน กานดาเหนื่อยใจมาก
"ไม่มีทางแล้วใช่มั้ย ที่เราสองคนจะคุยกันดีๆได้"
"ผมพร้อมจะคุยดีๆ ถ้าอีกคนจะเปิดใจรับฟังและเข้าใจให้ได้เสียก่อน ว่าคนเรามันทำผิดกันได้ ไม่ใช่เอาแต่โยนความผิดใส่คนอื่นอยู่ตลอดเวลา แต่…ผมว่าคงไม่มีทาง"
"เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วทำไมต้องยอมรับ ในเมื่อ..."
"แม่บอกให้หยุด!"
กานดาเหนื่อยใจมากจนท้อจะเป็นลม
"โอย..."
"คุณแม่!"
พีศทรรตเข้าไปประคองแม่...ธัญรดายืนมองโดยไม่คิดจะช่วย
"รดา ไปบอกเด็ก เอายาดม ละลายยาหอมมาเร็ว คุณแม่เป็นลม"
ธัญรดามองความวุ่นวายด้วยความไม่พอใจ ก่อนเดินออกไป
ปินัทธาในชุดสโนไวท์ยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าบ้าน พลางคุยโทรศัพท์
"ฉันรอแท็กซี่อยู่หน้าบ้านคุณพีศเนี่ยแก...เพราะอยากให้พ่อแม่ลูกเค้าอยู่ด้วยกัน ไม่อยากเป็นส่วนเกิน"
ภายในคอนโดฯ ภัทรวลัยยืนมองเป้ที่นอนหลับเป็นตายอยู่ที่มุมหนึ่งด้วยสายตาเครียดมาก เต็มไปด้วยความน้อยใจและความนอย
"เอาความจริง!"
"ถูกแม่เค้าไล่ออกมา"
"เสียใจมั้ย"
"ไม่ เพราะอะไรรู้ป่ะ ฉันเห็นสายตาของคุณพีศที่มองฉันเมื่อกี้"
"เห็นอะไร"
"เห็นความเป็นห่วงอย่างจริงใจที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันสัมผัสได้ถึงฉันจะไม่มีญาณทิพย์ ว่าเค้า...ห่วงหาอาทรฉัน"
"หรา"
"วลัย เป็นอะไรของแก โกรธอะไรใครมา"
ภัทรวลัยกดวางสาย โยนมือถือทิ้ง กระโดดขึ้นคร่อมเป้ทันที
"ไอ้พี่เป้ ตื่น!"
เป้สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ และจุก
"อะไรวลัย พี่เจ็บ"
"เดี๋ยวนี้ให้ร้องเจ็บ แต่เมื่อก่อนร้องจะเอา เมื่อคืนไปทำอะไรมา ทำไมกลับมาหลับเป็นตาย กี่โมงกี่ยามแล้วพี่เป้ หา!"
"ก็วันนี้วันหยุด"
"ตอบไม่ตรงคำถาม ถามว่าเมื่อคืนไปทำอะไรมา"
"ทำงาน"
"แต่กลับบ้านช้ากว่าปกติสองชั่วโมง ไปไหนมา ตอบ!" ภัทรวลัยขย่มทับอีก "ตอบ!"
เป้จุก
"อ่อก! วลัยพี่เจ็บ"
"พี่เจ็บ แต่หนูจี๊ด!"
ภัทรวลัยขย่มอีก เป้ทนไม่ไหว พลิกตัวเหวี่ยงวลัยลงไปจากที่นอน หล่นลงพื้นดังอั่ก! เธอลุกขึ้นมามองเป้ด้วยความเสียใจมาก
"พี่เป้ทำหนู! พี่เป้ทำหนู!"
ภัทรวลัยร้องไห้ลุกวิ่งออกไป เป้อยากตาม แต่เหนื่อยและเพลียเลยลงนอนต่อ ไม่สนใจเมียซะงั้น
ปินัทธาเก็บมือถืออย่างหงุดหงิดในตัวภัทรวลัย
"เป็นบ้าอะไรของมันอีกนะนังนี่"
น้ำผึ้งยืนรอแท็กซี่ต่อไป
ญาดาและแต้วแอบดูน้ำผึ้งจากมุมหนึ่ง
"โหย น่าสงสารนะคะ พี่แต้วเรียกแท็กซี่ให้ตั้งนานแล้ว ยังไม่มาอีก รอเมื่อยแย่เลย"
"ถ้าเราช่วยเค้า ญาดาจะเป็นเด็กดีหรือเปล่า"
"ดีสิคะ เด็กที่มีน้ำใจช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน คือเด็กดี ใครๆก็รัก"
"ไม่ต้องมารักหรอก แค่เป็นแม่มดให้ดูก็พอ"
"พี่แต้วว่าคุณน้ำผึ้งเป็นอะไรก็ได้ทุกอย่างในโลกนี้เพื่อเป็นรางวัลสำหรับเด็กดีค่ะ"
ญาดาตัดสินใจจะช่วยน้ำผึ้ง กระซิบแต้ว...แต้วยิ้มเลย
ปินัทธายืนรอเมื่อย รถในบ้านพีศทรรตขับออกมา เธอเบี่ยงตัวหลบให้ รถจอด คนขับรถลงมา
"เชิญครับ"
เธอแปลกใจ "หา"
แต้วเปิดกระจกด้านข้างคนขับลงมา
"เชิญค่ะคุณน้ำผึ้ง เดี๋ยวไปส่งให้ค่ะ"
"ไปส่ง คุณพีศสั่งมาเหรอ"
แต้วชี้ไปที่เบาะหลัง เธอเห็นญาดานั่งเชิดหน้าอยู่ ก็อึ้งไป
"คุณญาดาเป็นคนสั่งค่ะ สงสารที่คุณยืนเมื่อยรอแท็กซี่"
"อุ๊ตะ! ยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1 รีบขึ้นทันที ขอบใจมากจ้า"
เธอรีบขึ้นรถไปนั่งข้างญาดา คนขับรถปิดประตูแล้วรีบไปประจำที่ เธอยิ้มกว้างให้ญาดา
"ขอบคุณมากนะคะลูก"
ญาดายิ้มนิดนึง ยังรักษาฟอร์ม
"ยิ้มน่ารักมากค่ะลูก ทีหลังยิ้มบ่อยๆนะคะ"
ญาดายิ้มนิดนึงอีกที แต่ก็ยังมีฟอร์ม แต่แค่นี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกดีอย่างประหลาด รถค่อยเคลื่อนๆตัวไป
อ่านต่อหน้า 3
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 17 (ต่อ)
ณัฎฐาลินี วายุบุตรยืนมองดูตำรวจถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุ และหาหลักฐาน เรียบร้อยพอดี
ตำรวจเดินมาหา
"เรียบร้อยแล้วนะครับ มีความคืบหน้าเรื่องคนร้ายยังไง จะรีบแจ้งให้ทราบ"
"ขอบคุณค่ะ"
"ผมจะให้สายตรวจคอยมาดูความปลอดภัยให้บ่อยขึ้น"
"ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"
ตำรวจออกไป...ลินีและวายุบุตรตามออกไปส่ง
บริเวณหน้าบ้าน ตำรวจออกไป เธอหันมาคุยกับเขา
"คุณก็กลับไปได้แล้ว"
"ยังไม่ได้"
"รออะไร อ้อ...คงรอคำขอบคุณจากฉันสินะ ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ"
"ไม่เป็นไร ผมดีใจนะ ที่ได้ช่วย"
"งั้น...ช่วยกลับไปได้หรือยัง ฉันมีเรื่องต้องทำต่อ ไม่ว่างรับแขก"
"ผมไม่ใช่แขก ผมเป็นเพื่อนของคุณนะ"
เธออึ้งเห็นสายตาอ่อนโยนของวายุบุตรแล้ว...ไปไม่เป็น
"ก็..นั่นสินะ"
"มีอะไรต้องทำต่อ ให้ผมช่วยได้นะ"
เธอครุ่นคิด เอาไงดี
วายุบุตรช่วยเธอและดวงเก็บของที่แตก และเสียหายในบ้าน ทีละชิ้นๆ เธอลอบมองเขาที่ช่วยซ่อมของใช้ที่แตกหัก ในขณะที่เธอช่วยดวงเช็ดถูทำความสะอาด วายุบุตรลอบมองเธอที่เข็นรถเข็นพาแม่มาสูดอากาศข้างนอก แล้วชวนคุยอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมแม่ เธอลอบมองเขาที่กำลังขนขยะและซากสิ่งของที่แตกหัก แบบแมนๆ ออกไปทิ้งถังหน้าบ้านอย่างหวั่นไหว เขาเงยหน้ามาเห็นสายตาของเธอพอดี เธอรีบหลบ หน้าแดง ร้อนผะผ่าวไปหมดด้วยความเขิน เขาลอบยิ้ม เขินๆเหมือนกัน
พีศทรรตต่อว่าแม่บ้าน กานดานั่งอ่อนแรงอยู่กับธัญรดา
"นั่งรถออกกันไปไหน ทำไมไม่ถาม"
"เสียงเบาๆหน่อยตาพีศ เดี๋ยวแม่ก็เป็นลมอีกรอบหรอก"
ธัญรดาบอก
"คนบ้านนี้ไม่ได้สนใจเลยเหรอ ว่าใครจะเข้าใครจะออก ฉันชักเป็นห่วงแล้วสิ ว่าลูกฉันจะปลอดภัยในบ้านหลังนี้หรือเปล่า"
"รดา...อย่าเริ่ม แม่ขอ"
ธัญรดาเงียบ ไม่หลบตาพีศทรรตที่มองมาอย่างไม่พอใจ
แต้วพาญาดาที่ร่าเริงเข้ามา พีศทรรตดีใจ แต่ก็ไม่พอใจ เลยดุลูก
"ญาดา ออกไปไหนมากับพี่แต้ว ทำไมไม่บอกใคร แล้วใครอนุญาต"
"ทำความดี ต้องขออนุญาตใครด้วยเหรอคะ" ญาดาถาม
"แต้ว ยังไง อธิบายซิ!"
"เอ่อคือ...น้องญาดาไปส่งคุณน้ำผึ้งที่บ้านมาค่ะ เพราะสงสารที่คุณน้ำผึ้งรอแท็กซี่ตั้งน้านนาน
มัวแต่รีบๆ เลยไม่ได้แจ้งให้ทราบก่อนค่ะ"
พีศทรรตอึ้ง ธัญรดาไม่พอใจที่ลูกสาวทำดีกับน้ำผึ้ง
"แล้วทำไมไม่บอกพ่อก่อน"
"ก็คุณพ่อไม่ว่าง ไม่มีใครว่างฟังหนูสักคนหรอก"
ทั้งพีศทรรต กานดาอึ้งกันไปหมด ในขณะที่ธัญรดาไม่สำนึกเพราะมัวแต่โกรธ
"คุณพ่อโกรธเหรอคะ หนูทำไม่ดีเหรอคะ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นลูก"
พีศทรรตเข้าไปกอดญาดาเอาไว้
"หนูทำดีแล้ว แต่จะดีกว่านี้ ถ้าหนูบอกพ่อหรือใครที่บ้านเอาไว้ก่อน"
"ขอโทษค่ะคุณพ่อ"
พีศทรรต กานดาอึ้งที่ญาดาพูดคำว่า ขอโทษ
"นี่ย่าหูไม่ได้เฝื่อนไปใช่มั้ย ญาดาพูดคำว่าขอโทษ ย่าไม่เคยได้ยินหนูพูดแบบนี้มาก่อนเลยนะ"
"ไม่ดีเหรอคะ"
"ดีสิลูก ดีมาก"
พีศทรรตมองแต้ว
"แต้ว...ทำดีมาก ขอบใจนะ"
"โอย คนที่ทำให้น้องญาดารู้จักพูดคำว่าขอโทษไม่ใช่แต้วค่ะ"
"ใคร?"
ปินัทธา หลังจากที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว
"ใช่ ฉันเอง ที่เป็นคนบอกให้ลูกคุณพูดคำว่าขอบคุณค่ะ ขอโทษค่ะให้ติดปากเป็นนิสัย ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่แปลงร่างเป็นแม่มด เป็นนางฟ้า เป็นไก่กา เป็นโน่นนี่นั่นให้ดูเด็ดขาด"
พีศทรรตอมยิ้ม แต่ยังทำเสียงแข็ง วางฟอร์ม
"คุณเนี่ยนะ! รู้จักสอนเด็ก ไม่เคยเห็นรักเด็ก เข้าฉากกับเด็กทีไรเหมือนถูกน้ำร้อนราด"
ธัญรดาเดินเข้ามา เห็นรอยยิ้มระบายทั่วใบหน้าพีศทรรตขณะคุยกับปินัทธาก็เจ็บใจ
"ถึงตอนนี้ฉันก็ยังจะบอกว่า ฉันไม่ชอบเด็ก ยิ่งเฉพาะเด็กอย่างลูกคุณด้วยแล้ว เห็นแล้วคันมือ ฉันยิ่งต้องกำราบ ปราบให้เป็นผู้เป็นคน"
"นี่! ลูกผมคนนะ ไม่ใช่ผี"
"ผีเข้าผีออกไง...เหมือนคุณ"
"น้ำผึ้ง อยากได้ผมเป็นแฟนไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่พูดจาดีๆ ให้ผมชื่นใจ ประทับใจ"
"ตอนนี้ไม่ใช่โหมดพูดจาดี แต่เป็นโหมดพูดตรงๆในฐานะเพื่อน"
พีศทรรตยิ้ม ฟังนิ่งๆ
"ไงต่อ"
"ก็ไม่ไงต่อ สบายใจแระ อ้อ อีกนิด...คุณนี่ใช้ไม่ได้เลยนะ ปล่อยให้ฉันขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเอง ลูกคุณยังฉลาดกว่าซะอีก ที่คิดได้ว่าต้องเอารถไปส่งฉัน"
"ผมยอมรับว่าใช้ไม่ได้ แต่ไม่ได้แปลว่า ผมไม่ห่วงคุณนะ"
เธออึ้ง ใจสั่นกับเสียงอ่อนโยนของพีศทรรต นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น เขาเขินกับตัวเอง แต่ธัญรดายืนมองดูอย่างเจ็บใจ
ในห้องทำงาน เมธาวลัยจ้องหน้าไทเกอร์ที่นั่งตัวลีบอยู่ ไทเกอร์อึดอัดจนต้องปาดเหงื่อ เธอทุบโต๊ะเปรี้ยง
"ยังไง"
ไทเกอร์สะดุ้งเฮือก
"อะไรยังไงครับ"
"แกไปเจอเจ๊เงาะทำไม ตอบ!"
เธอตบโต๊ะอีกเปรี้ยง!
หยาดทิพย์ ชาโน เจ๊แหม่ม อิ๋วแอบฟังอยู่หน้าห้อง ดรณ์นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเอง มีจิลลานั่งประกบอยู่ข้างๆ....ทั้งดรณ์และจิลลามองมาที่ประตูห้องเมเปิ้ลเหมือนกัน รอลุ้น
หยาดทิพย์ ชาโน เจ๊แหม่ม อิ๋ว สะดุ้งผงะ ตกใจ
"มันจะถูกบ.กไล่ออกจริงๆหรือเปล่าแก" เจ๊แหม่มว่า
"เข้าไปถามบ.ก.ให้มะ ชะนีอยากรู้เหมือนกัน"อิ๋วบอก
"ดี! เฮ้ย ฉันถามความเห็นของพวกหล่อน ไม่ใช่บ.ก." เจ๊แหม่มบอก
"เดี๋ยวก็คงรู้ รอหน่อยไม่ได้หรือไง" ชาโนบอก
"คำว่ารอ ใช่วิสัยของพวกฉันเหรอ ชาโน"อิ๋วว่า
ชาโนส่ายหน้า
"แต่ก็ไม่ใช่ของผม"
"แล้วมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม"
"ก็..."
ชาโนมองหน้าหยาดทิพย์ อยากอยู่ใกล้
"อะไร! มองหน้าหาเรื่องหรือไง"
"เปล่า"
ชาโนรีบกลับไปที่โต๊ะ เจ๊แหม่ม อิ๋วมองชาโนอย่างผิดสังเกต แล้วหันมองหยาดทิพย์ แล้วหันมามองหน้ากัน...อืม มันมีอะไร....
หยาดทิพย์ไม่สนใจ แอบฟังต่อไป ชาโนหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา มองหน้าจอ เห็นหน้า ig ที่เปิดค้างไว้อยู่แล้ว เป็นรูปหยาดทิพย์ถ่ายที่ท่าเรือเกาะตะวัน....ชาโนมองยิ้มๆ
ดรณ์ลุกขึ้น จิลลาจับแขนหมับ
"จะไปไหน!"
"เข้าห้องน้ำครับ"
"ไปด้วย"
จิลลาลุกขึ้นควงแขนดรณ์ออกไป เขารู้สึกอึดอัด แต่เก็บอารมณ์เอาไว้
ภายในห้อง เมเปิ้ลลุกขึ้นยืน เตรียมเอาเรื่องไทเกอร์เต็มที่ ไทเกอร์ตัวลีบเล็กลงทุกทีๆ
"อะไรนะ มันจะซื้อตัวแก"
ไทเกอร์โกหกเรื่องนิตยสารคู่แข่งซื้อตัวกับเมธาวลัย
"ครับ"
"ฉันให้โอกาสแกเป็นครั้งที่สอง ตอบใหม่"
"ตอบใหม่อีกกี่รอบ ผมก็ตอบแบบนี้"
"ไม่เชื่อ ไม่จริง"
"ก็ผมเก่ง ใครก็อยากซื้อตัว"
เสียงมือถือเมเปิ้ลดังขึ้น เมเปิ้ลหยิบมาดู แต่ตายังจ้องไทเกอร์เขม็ง หน้าจอมือถือ เห็นชื่อวลัย เธอรับสาย
"ฮัลโหล มีอะไร"
ภัทรวลัยยืนเคว้งอยู่หน้าคอนโดฯ
"ฉันต้องการใครสักคนในตอนนี้ ฉันกำลัง..."
เมธาวลัยตัดบท
"ฉันกำลังยุ่ง ไปหาคนอื่นก่อนไป"
เธอวางสาย แล้วหันมาเอาเรื่องไทเกอร์ต่อ
"ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้แกลาออกไปอยู่กับเค้า"
ไทเกอร์ตกใจ
"เฮ้ย!"
ภัทรวลัยกดเบอร์มือถือหาเพื่อนคนต่อไป
วายุบุตรเข็นตะกร้าดูของสด ณัฎฐาลินีตามต้อยๆ ขัดเขินและดูไม่ค่อยเต็มใจ เสียงในซุปเปอร์มาร์เก็ตจอแจมาก
"ไม่เห็นต้องทำเองเลย ไปซื้อกินหรือโทร.สั่งเอาก็ได้"
"ก็ผมอยากโชว์ฝีมือทำอาหารของตัวเอง"
"ถามฉันหรือยังว่าอยากกินหรือเปล่า"
"ผมอยากทำให้แม่คุณกิน คุณไม่อยาก ก็ไม่เป็นไร นั่งดูผม ดูแม่ ดูพี่ดวงกินก็ได้ ไม่ว่ากัน"
"ได้ไงอ่ะ ทุกคนกินแต่ฉันไม่ได้กิน ไม่ยุติธรรม"
"ก็คุณเลือกเอง"
"ฉันยังไม่ได้เลือก อย่าสรุป"
"เอ๊า ผมก็สรุปจากที่คุณพูด เหมือนคุณไม่อยากกินกับข้าวฝีมือผม"
"กินได้แน่เร้อ"
"ไม่ลองไม่รู้...ลองกินของผมดู แล้วจะติดใจ"
"นี่! ยิ่งแก่ยิ่งทะลึ่งลามก"
"กินกับข้าวฝีมือผม!!! ใครกันแน่ทะลึ่งลามก คุณนั่นแหละ ตางี้ปิดไม่มิดเลยนะ คิดอะไรอยู่รู้หมดเลย"
"บ้า! รีบซื้อเลย จะได้รีบกลับ เป็นห่วงแม่กับพี่ดวง"
"ผมให้ลูกน้องมาช่วยดูแลที่หน้าบ้านคุณแล้ว"
"อะไรนะ"
"พูดถึงเรื่องนี้พอดี ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณอย่างจริงจัง"
เธอมองเขาอย่างแปลกใจ
ภัทรวลัยลดมือถือลง ไม่มีใครรับสาย เศร้าลงไปอีก ในขณะที่ฟ้ามืดแล้ว
"ลินีไม่รับสาย...เหลือคนสุดท้ายแล้วสินะ"
เธฮกดเบอร์มือถืออีกเบอร์เพื่อโทร.หาปินัทธา
ปินัทธากำลังเล่นโยคะ มือถือวางอยู่ข้างๆ ดังขึ้น น้ำผึ้งคว้ามารับโดยไม่ได้ดูชื่อ
"หั่นโหล้!"
พีศทรรตกำลังเดินคุยมือถืออยู่
"ทำอะไรอยู่"
"ทำสิ่งดีๆให้กับตัวเองบ้างไรบ้าง"
"อ่านหนังสื"
"สิ่งดีๆไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือ"
"งั้นก็ทำไป ไม่คุยแล้ว แค่นี้นะ"
"เฮ้ย! เดี๋ยวสิ นี่คุณพีศ เวลาคุยกับผู้หญิงหัดใจเย็นบ้างสิ ให้เวลากับจริตจก้านฉันบ้าง"
"เสียเวลา แทนที่จะเข้าเรื่องเร็วๆ"
"น่าเบื่อ! แห้งแล้ง ไร้ลีลา"
พีศทรรตตัดบท
"หยุดด่า แล้วตอบ"
"ถามมาสิ"
"ทำอะไรอยู่"
"เล่นโยคะ"
"ไปอาบน้ำแต่งตัว"
"ยังไม่เสร็จ"
"อีกนานมั้ย"
"เป็นคนเสร็จช้า"
"อยู่กับผมต้องหัดเสร็จให้ไว"
"โยคะนะยะไม่ใช่ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว"
เสียงทุบประตูหน้าห้องดังขึ้น น้ำผึ้งตกใจ
"ว้าย!"
"เป็นอะไร"
"ใครมาเคาะประตูก็ไม่รู้"
"ก็ลุกไปเปิดสิ รออะไรอยู่เล่า"
"รอลุกจากเบาะ มันลุกไม่ขึ้น!"
น้ำผึ้งค่อยๆยันตัวลุกขึ้นจากเบาะ เสียงเคาะประตูยังดังรัวๆ
"โอ๊ย ไปแล้ว! นี่คุณพีศ แค่นี้ก่อนนะ"
น้ำผึ้งวางสายมือถือ จัดกระดูกกระเดี้ยวให้เข้าที่ รีบวิ่งไปเปิดประตู แล้วก็ต้องอึ้ง พีศทรรตยืนอยู่ ยิ้มให้ น้ำผึ้งตกใจ ไม่น่าเชื่อ
"อุ๊ตะ!"
อ่านต่อหน้า 4
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 17 (ต่อ)
บริเวณหน้าคอนโดฯ ภัทรวลัยร้องไห้เลย
"นังน้ำผึ้งสายไม่ว่าง แปลว่าอะไร เวลาที่ต้องการเพื่อน แต่ไม่มีเพื่อนให้ไปหา"
ภัทรวลัยเดินคอตก ก้มลงหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางอยู่และกระเป๋าโน้ตบุ้ก มองไปข้างหน้า เดินออกจากคอนโดฯไป...
เป้ตื่นขึ้นมาในความมืด สะโหลสะเหล หาสวิตช์ไฟ
"วลัย ทำไมไม่เปิดไฟล่ะคะ"
เป้เปิดไฟเดินไปที่ตู้เย็นจะหาน้ำกิน มีกระดาษเขียนด้วยลายมือติดไว้ที่ฝาตู้เย็น แต่เขายังไม่ได้สังเกต จนปิดตู้เย็น ดื่มน้ำ สายตาไปสะดุดกับข้อความบนกระดาษ เขาตกใจ รีบเข้ามาอ่านใกล้ๆชัดๆ
"ไม่ต้องตามหาหนู ถ้าหนูสบายใจแล้วเมื่อไหร่ จะกลับมาเอง...วลัย!"
เป้ทิ้งทุกอย่าง วิ่งไป หยิบมือถือตัวเอง มากดๆจะโทรหาภัทรวลัย
ไทเกอร์นั่งจ้องใบลาออก เมธาวลัยยืนมองอย่างกดดัน
"จะเซ็นลงไปได้หรือยัง จะจ้องให้ทะลุเห็นข้างล่างเลยหรือไง"
ไทเกอร์จดๆจ้องๆ ไม่กล้าเซ็น
"ถ้าจะออกก็เซ็นลงไป"
"ผมไม่ออก!"
ไทเกอร์วางปากกา แล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้า
"ผมไม่ออก"
"แกไม่ออก งั้นฉันไล่แกออกเอง"
"ผมทำอะไรผิด! แค่นัดเจอกับคนรู้จัก ไม่ได้หรือไง ผมเป็นพนักงานของที่นี่ แต่มีสิทธิ์จะไปคุยกับใครก็ได้ แล้วผมก็ยังไม่ได้โอเคเซเยสกับเจ๊เงาะด้วย"
"แล้วทำไมถึงไม่เซเยส"
"ผมอยากเป็นบ.กของ IT’S A Must Thailand เท่านั้น!"
เธอโกรธมาก
"ไอ้ไทเกอร์ แกตั้งใจจะแย่งเก้าอี้ของฉันให้ได้ใช่มั้ย"
"ใช่!"
เธอตบโต๊ะดังปัง!
ชาวคณะผงะออกมาจากประตูอีกด้วยความตกใจ
หยาดทิพย์ เจ๊แหม่ม อิ๋วต่างร้อง "ว้าย!"
หยาดทิพย์เซ ล้ม
ทั้งสองตกใจ รีบรับ "หยาด!"
ชาโนปราดเข้ามาจะช่วยประคองด้วย เจ๊แหม่มกับอิ๋วหันมองชาโนขวับ เขาชะงัก อึ้ง ค้าง ทำเป็นหยิบจับโน่นนี่นั่นแก้เก้อ
ไทเกอร์เปิดประตูออกมา ชาวคณะตกใจอีกรอบ เจ๊แหม่ม อิ๋วปล่อยมือจากหยาดทิพย์ทันที
หยาดทิพย์จะล้ม "ว้าย!"
ชาโนปราดเข้าไปรับตัวหยาดทิพย์เอาไว้ได้ทัน เจ๊แหม่ม อิ๋วมองชาโนเขม็ง...ชัวร์!
ไทเกอร์ตะคอกอารมณ์เสีย
"สาระแนเรื่องของคนอื่น ชอบนักหรือไง"
เจ๊แหม่มบอก "ชอบมาก"
"ตกลงออกหรือไม่ออกคะ" อิ๋วถาม
"ไม่ออก ไล่ก็ไม่ไป! ชัดมั้ย"
เจ๊แหม่มกับอิ๋วตอบ
"เคลียร์!"
ไทเกอร์ออกไป ฉุน แต่ก็แอบยิ้มสะใจ
เมธาวลัยเดินออกมา มองตามไทเกอร์ เห็นชาโนยังประคองหยาดทิพย์อยู่
"เป็นอะไรหยาด ทำไมต้องให้ไอ้โนประคอง ยืนเองไม่ได้หรือไง"
หยาดทิพย์รีบผลักชาโนออกไป
"พอดีหนูจะล้มอ่ะค่ะ ชาโนมาช่วยเอาไว้"
"ครับ"
"ฉันเหนื่อย จะกลับบ้านแล้ว หยาด เธอกลับไปก่อนเลย ฉันจะให้จิลไปส่ง"
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วนี่ จิลกับดรณ์อยู่ไหน"
หยาดทิพย์ ชาโนมองหาแต่ไม่เห็น ส่วนเจ๊แหม่มและอิ๋วยังมองชาโนอย่างไม่วางตา ชาโนเห็นปุ๊บ รีบหลบตาปั๊บ เมธาวลัยปิดประตูห้อง หยาดทิพย์รีบไปเก็บของที่โต๊ะ เจ๊แหม่มและอิ๋วหิ้วชาโนออกไปทันที
มุมหนึ่งออฟฟิศ ดรณ์สะพายกระเป๋าจะกลับบ้าน เดินหนีจิลลามา
"ดรณ์เดี๋ยวสิ เดี๋ยวเค้าไปส่งที่บ้าน"
"ผมจะกลับเอง"
"ทำไมล่ะ โกรธอะไรจิลอีก"
"จิลครับ"
"คะ"
"ผมรักคุณนะ"
"จิลก็รักคุณ"
"แต่เราห่างกันสักพักดีมั้ย"
จิลลาอึ้ง "หะ?"
ดรณ์เดินออกไปทันที ทิ้งให้จิลลาอึ้ง ค้าง
เมธาวลัยยืนรอแท็กซี่ อารมณ์เซ็ง กระเป๋าเดินทางวางอยู่ข้างตัวเพียบ
"เวร! จิลนะจิล หนีกลับเฉยเลย จะไปส่งเค้าหน่อยก็ไม่ได้"
เธอมองหาแท็กซี่ มีมือมาหยิบกระเป๋าเสื้อผ้า เธอตกใจ รีบตะครุบเอาไว้ด้วยความตกใจ
"หยุดนะ! จะ..."
เมเปิ้ลเงยหน้ามองคนที่มาหยิบกระเป๋าแล้วอึ้ง ตกใจ
"กฤษ!"
"ผมไปส่งที่บ้าน"
เธอคาดไม่ถึง
เวลากลางคืนต่อเนื่องมา ณัฎฐาลินีถือถุงกับข้าวมากับวายุบุตร เห็นลูกน้องของวายุบุตรยืนดูแลความปลอดภัยอยู่หน้าบ้านสองคน เธอชะงัก ไม่พอใจ
"ว่าไง คุณยังไม่ตอบผมเลย"
วายุบุตรรู้ว่าเธอไม่พอใจที่มีลูกน้องมา หันไปสั่ง
"กลับไปได้แล้ว"
"ครับนาย"
ลูกน้องออกไป วายุบุตรตามเธอเข้าบ้าน
มุมหนึ่งในบ้าน จรินทร์พรนั่งอยู่กับดวง รอคอยการกลับมาของลูก ณัฎฐาลินีเดินเข้ามากับวายุบุตร
"หนูกลับมาแล้วค่ะ แม่หิวหรือยังพี่ดวง"
"พอดีได้เวลาต้องทานยา พี่เลยให้คุณแม่ทานไปแล้วค่ะ"
"อ้าว เลยไม่ได้ชิมฝีมือผมเลย"
"ก็คุณมัวแต่ชักช้า อืดอาด ยืดยาด"
วายุบุตรตัดบท
"งั้นไว้ผมทำให้ทานพรุ่งนี้นะครับ"
"พรุ่งนี้!?"
"และทุกวัน"
"ทุกวัน!?"
"เป็นโรคชอบซ้ำคำพูดคนอื่นหรือไงคุณ"
เธอวางของ รีบดึงมือเขาออกไปคุยที่อื่น เพราะเกรงใจแม่กับดวง
เวลากลางคืน ปินัทธานั่งขวยตรงหน้าพีศทรรตที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศโรแมนติก
"เป็นอะไร บิดไปบิดมา ปวดท้องก็ไปเข้าห้องน้ำสิ"
"กรรไกรอยู่ในปากหรือไง ฉัน...เขิน"
"เขินไร ผมไม่เห็นเขินเลย แค่ชวนมากินข้าว ไม่ได้ทำอะไรที่น่าจะเขิน"
เธอเซ็ง
"แค่นี้ ฉันก็เขิน คุณมันคนจิตใจหยาบกระด้าง ไม่รู้สึกอย่างที่ฉันรู้สึกหรอก"
"ใครบอกไม่รู้สึก"
เธออึ้ง เมื่อเห็นสายตามีความหมายของเขา เธอแก้เก้อ
"แล้ว...วันนี้วันเกิดลูก ไม่อยู่กับลูกเหรอ"
"เรียบร้อยแล้ว คุยกันรู้เรื่องแล้วว่าผมจะออกมาพาว่าที่แม่มดของเค้ามาเลี้ยงข้าว ชดเชยที่ไม่ได้อยู่งานวันเกิดของแก"
"แล้วยอมเหรอ"
"อืม...แต่มีข้อแม้ วันเสาร์นี้ คุณต้องไปแปลงร่างให้แกดู"
"เอ๊ะ มีคิวอะไรหรือเปล่าน้า"
"คุณน่ะว่างยาว ผมเช็คแล้ว"
"ก็อาจจะมีนัดไปนวดตัวทำทรีทเม้นต์"
"ยกเลิกซะ คุณต้องไปให้ความบันเทิงลูกสาวผม"
"เหย จะดีเหรอ ฉันไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก"
"ผมกำลังจะแต่งตั้งคุณให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กอีกคน นอกจากแต้ว"
"เหย ฉันอยู่กับเด็กได้ประเดี๋ยวประด๋าว ให้อยู่ทั้งวันฉัน..."
พีศทรรตตัดบท
"ไหนคุณบอกว่าคุณจะสนับสนุนผมทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว"
เธออึ้ง เขาอ่อนลง
"น้ำผึ้ง อันนี่จากใจเลยนะ ที่คุณจัดการญาดาวันนี้ ทำให้แกยอมไหว้สวยๆ พูดคะขา และขอโทษคนเป็น..ผมประทับใจมาก"
เธอกินน้ำอึกๆ ยิ่งเขิน
"ประทับใจ แล้วรักยังล่า"
เขาหลุดหัวเราะ "ฮ่ะๆๆ"
"ขำไร"
เขามองเธออย่างอ่อนโยน
"ไม่รัก"
เธอเซ็ง
"แต่..เริ่มจะรัก"
เธอช็อกค้างกลางอากาศ เจอคำสารภาพความรู้สึกของพีศทรรตเข้าไป ถึงกับทำอะไรไม่เป็น
ณัฎฐาลินีลากวายุบุตรเข้ามาคุย เสียงเบา ไม่อยากให้แม่ได้ยิน
"ฉันจะไม่ยอมให้ลูกน้องคุณ หรือคุณซึ่งเป็นผู้ชายเแปลกหน้าเข้ามาวุ่นวายในบ้านฉัน"
"แต่เพื่อความปลอดภัยของคุณ ถ้ามีไอ้พวกนั้นที่ไม่ประสงค์ดีกับคุณ มันย้อนกลับมาทำอะไรพวกคุณอีก จะทำยังไง"
"ฉันจะจัดการเอง"
"ยังไง!"
"ชู่ว์! เบาๆสิ เดี๋ยวแม่กับพี่ดวงได้ยิน"
วายุบุตรเสียงเบาลง
"ยังไง!"
"ไม่รู้!"
"ลินี...ยอมรับความช่วยเหลือของผมได้มั้ย ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ"
เธออึ้ง...คิด ลังเล เอาไงดี
"ได้มั้ย"
"ฉันไม่ชอบคนพลุกพล่าน โดยเฉพาะผู้ชาย"
"แต่ผมไม่มีลูกน้องผู้หญิง"
"งั้นเอาคุณคนเดียว"
วายุบุตรยิ้มกริ่ม
"ได้... งั้นไป"
"บ้าเหรอ ไปไหน!"
"คิดอะไรของคุณอีก ไปทำกับข้าว"
วายุบุตรจูงมือเธอออกไป เธออมยิ้ม รู้สึกดีอย่างประหลาดที่มีมือของเขาจับไว้ให้อุ่นใจ
CUT/
กฤษฎาขับรถมาจอดหน้าตัวบ้าน
"ขอบใจ...เอ่อ ที่มาส่ง เอ่อ...รถสวยดีนะ"
"รถของน้ำฟ้า ผมยืมมา"
"รถของยัยนั่นเหรอ"
เมธาวลัยรีบลงจากรถทันทีด้วยความรังเกียจ
"อี๋ๆๆ"
กฤษฎารีบลงตามลงไป
"เป็นอะไรของคุณ"
"ทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรกว่าเป็นรถยัย...โอ๊ย ไม่น่านั่งมาเลย เสนียดที่สุด"
"คุณไม่ชอบน้ำฟ้ามากเลยเหรอครับ"
"เออสิ!"
"ผมเข้าใจ"
"รีบเอากระเป๋าลงมาเลย เร็วๆ ก่อนที่เสนียดยัยนั่นจะติดกระเป๋าของฉันมากไปกว่านี้"
กฤษฎาส่ายหัว ไปเปิดประตู เอากระเป๋าลงมา เธอแอบยิ้มกริ่ม ดีใจนะที่กฤษฎามาหา
"เมเปิ้ล"
เธอหันไป เห็นแสนสุขเดินมา
"คะคุณย่า"
"กลับมาแล้วเหรอ แล้วใครมาส่ง"
"แฟนหนูสิคะ คุณย่า"
กฤษฎาเดินมาหาแสนสุข ยกมือไหว้
"สวัสดีครับ"
แสนสุขมองหัวจรดเท้า
"สวัสดี...มาก็ดีแล้ว จะได้ทานข้าวกันเลย วันนี้ย่ามีแขกมาทานข้าวด้วย"
"ใครคะ"
ตรัยคุณเดินออกมา
"สวัสดีครับ น้องเม"
เธอตาค้าง ตกใจ...ตรัยคุณส่งยิ้มให้ และกฤษฎา...ที่ยืนอึ้งอยู่เหมือนกัน
อ่านต่อตอนที่ 18