xs
xsm
sm
md
lg

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 16

เมธาวลัยยืนซึมอยู่ที่ท่าเรือเกาะตะวัน ขณะที่หยาดทิพย์และคนขับเรือช่วยกันขนกระเป๋าลงเรือ

"ตกลงบ.ก.จะกลับมือเปล่าจริงเหรอคะ"
"ฉันเป็นคนมีศักดิ์ศรี ถูกปฏิเสธขนาดนี้ ฉันไม่ด้านพอที่จะอยู่ต่อ ไม่มีเค้า ฉันก็แก้ปัญหาของฉันได้ รีบขนกระเป๋าลงเรือ ฉันอยากไปจากที่นี่เร็วๆ"
"ค่ะ"
หยาดทิพย์หันไปช่วยคนขับเรือขนกระเป๋าต่อ เรียบร้อย หันไปอีกที
"เสร็จแล้วค่ะ บ..."
เมธาวลัยหายไปแล้ว
"อ้าว...หายไปไหนล่ะ ไหนบอกว่าจะรีบไป"
หยาดทิพย์นึกแปลกใจ แต่ก็คิดได้ว่าควรถ่ายรูปอัพลงไอจี จึงรีบหยิบมือถือมาถ่ายรูปตัวเองกับเรือ

ริมทะเล เธอซ้อมพูดง้อกฤษฎาอีกรอบ
"ฉันขอร้องนะ...เสียงแข็งไป..." เธอปรับลดเสียงอ่อนลง "ฉันขอร้องนะกฤษ พลีส...อ่อนไป.. โอ๊ย! อยากตาย"
เธอท้อใจ ทรุดนั่ง...เหม่อมองไปที่ทะเล
"ตายทั้งๆไม่มีใครรักฉันยังไงก็ฟินกว่าตายทั้งเป็น"

หยาดทิพย์พิมพ์ข้อความในไอจี เตรียมอัพ
"กำลังกลับจ้า บ๊ายบายเกาะตะวัน"
กฤษฎาเดินเข้ามา
"ยังไม่ไปอีกเหรอ หยาด"
หยาดทิพย์เชิดใส่ไม่พูดด้วย
"ชิ...ใจดำ"
หยาดทิพย์สะบัดบ็อบไปนั่งในเรือ อัพไอจีต่อ
"บ.ก.เธอไปไหน"
"จะไปรู้เหรอ คงจะเสียใจที่ถูกใครบางคนปฏิเสธไม่ยอมช่วย เลยหนีเตลิด กระโดดทะเลไปให้ปลาตอดแล้วก็ได้มั้ง"
"เอาจริงสิ พูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ย"
"พูดจริง เพราะบ.กเสียใจมากของจริง ไม่แคร์ไม่ใช่เหรอ จะถามทำไม"
"ถ้าพูดจริง ใจคอจะนั่งอัพไอจีชิลๆอยู่แบบนี้เหรอ ไม่เป็นห่วงบ.ก.เธอหรือไง"
หยาดทิพย์อึ้ง ตกใจ
"เออ นั่นสิ"
"ไปตามหาคุณเมเปิ้ลเร็ว"
กฤษฎาวิ่งออกไป หยาดทิพย์ลนลาน
"ไปตามหาที่ไหนล่ะ กฤษ รอฉันด้วย กฤษ!"
หยาดทิพย์ตามกฤษฎาไป

เมธาวลัยลุกขึ้นเดินเข้าหาทะเล มองลงไป เห็นคลื่นซัดโขดหินอยู่เบื้องล่าง รุนแรง น่ากลัว เธอเสียว ชักเท้ากลับมา
"เอาใหม่!...ไม่มีคำว่าศักดิ์ศรี ถอดมันออกไป"
เธอหันหลังกลับ แล้วก็ต้องชะงักเพราะเห็นน้ำฟ้าเดินมา เธอรีบหาที่หลบ เพราะไม่อยากให้น้ำฟ้าเห็น เสียงมือถือน้ำฟ้าดังขึ้น เป็นจังหวะที่น้ำฟ้าเดินผ่านจุดที่เธอหลบอยู่พอดี น้ำฟ้าหยุดรับโทรศัพท์
เธอเซ็งที่น้ำฟ้ามาหยุดตรงนี้ เหลือบไปเห็นมดแดงเป็นรังอยู่ใต้ฝ่าเท้าของตัวเอง และกำลังไต่ขึ้นมาตามขาก็ตกใจตาเหลือก เกือบหลุดปากร้อง แต่ปิดปากไว้ได้ทัน
"ค่ะคุณป้า...หนูกำลังจะให้กฤษไปส่งที่บ้านค่ะ กฤษไม่ได้ไปส่งหรอกค่ะ และไม่มีทางอ่อนไหวเด็ดขาด กฤษเคยบอกหนูว่ามีแต่ความสมเพชให้เท่านั้น"
เธอฉุนกึก จนลืมเจ็บที่มดกัด
"ตอนนี้ยัยป้านั่นคงถอดใจแล้วมั้งคะ เพราะเค้าเข้าใจว่าฟ้ากับกฤษเป็นแฟนกันมาตั้งแต่แรก"
เธอเอะใจ แปร่งหู
"กฤษขอให้ฟ้าช่วยแกล้งเป็นแฟนกฤษค่ะคุณป้า"
เธออึ้ง อ้าปากค้าง
"เพราะว่ากฤษต้องการให้ฟ้าเป็นกันชนค่ะ กฤษกลัวว่าถ้ากฤษเป็นโสด แล้วจะไม่ปลอดภัย อาจจะถูกยัยนั่นยั่วยวนเพื่อให้ตกหลุมพราง จะได้ลงจากคานได้สมใจจริงๆ กฤษตามยัยแก่แรดนั่นไม่ทันหรอกค่ะ"
เธอเจ็บจี๊ด เลือดออกหู
"เลยต้องโกหก ยัยนั่นจะได้ไม่คิดอะไรเกินเลยกับกฤษ ทั้งๆที่ในใจอาจจะคิดก็ได้ หนูเห็นค่ะว่าเวลาที่เค้ามองกฤษ ตางี้เป็นมันเชียว"
เมเปิ้ลกำลังจะทนไม่ไหว
"ผู้หญิงสมัยนี้ไม่ค่อยหักห้ามใจตัวเองด้วยสิ ว่าแฟนใครเป็นแฟนใคร คงรอว่าถ้าหนูเผลอเมื่อไหร่ หาทางเสียบทันที"
เธอโผล่ออกมาจากที่ซ่อนทันที
"คนอย่างฉันไม่รอเผลอหรอก ถ้าอยากเสียบก็เสียบเลย!"
น้ำฟ้าอึ้ง หน้าซีด ตกใจที่จู่ๆเมเปิ้ลก็โผล่ออกมา

มุมหนึ่งออฟฟิศ พีศทรรตเดินไปเรื่อยๆตามทางเดิน ปินัทธาคอยตามจดยิกๆ ตมิสานั่งทำงานที่โต๊ะตัวเองมองมาด้วยความหมั่นไส้ โตโต้นั่งทำงานด้วยเหมือนพนักงานคนอื่นๆ
"นัดให้ผมเข้าพบเฮียวิทย์ จะเอาศิลปินฝึกหัดไปเสนอ"
"ค่ะ"
เธอจดอย่างทุลักทุเลเพราะชุดรุ่มร่าม พีศทรรตเห็นแล้วรำคาญแทน
"เฮ้อ"
"อุ๊ตะ! เครียดเหรอ ฉันพาไปสปามั้ย นวดอโรม่าเธอราฟี เพื่อความผ่อนคลาย เดี๋ยวนัดให้เลย"
"น้ำผึ้ง"
"อะไรเล่า"
"ทำงานก่อน"
"ก็นี่ไง ทำงาน เลขาที่ดีก็ควรจะสนับสนุนเจ้านายทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว"
"เรื่องส่วนตัวไว้ทีหลัง"
"ก็ได้...มีอะไรก็ว่าต่อสิ"
"ผมต้องหาเวลาไปเกาหลีประมาณสามวัน ดูคิวให้ด้วย"
"อุ๊ย!ไปด้วยได้ป่ะ อยากไปมีทแอนด์กรี๊ดอ้อปป้า"
เสียงมือถือพีศทรรตดังขึ้น พีศทรรตยกมือห้ามไม่ให้น้ำผึ้งพูดต่อ
"ที่บ้านผมโทร.มา เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องงานนะ ไม่คุยเรื่องติ่งเกาหลี"
พีศทรรตเลี่ยงไปรับสาย หันไปทางหนึ่ง ตมิสาพูดลอยๆแต่จงใจให้เข้าหูปินัทธา
"คนเรา เวลามาทำงาน มันต้องเตรียมพร้อม ทั้งกายใจและสมอง ควรรู้หน้าที่ว่าตัวเองต้องทำอะไร ยังไง ไม่ใช่มาแบบเบลอๆ กลวงๆ ทำอะไรก็ไม่ถูก เฮ้อ…น่าสมเพช เกิดมาทั้งที
ทำได้แค่เต้นกินรำกิน"

ทันใดนั้น ปินัทธาก็โผล่เข้ามายัดกระดาษที่ขยำๆเป็นก้อนเข้าปากตมิสา

ตสิมาตาเหลือก ดิ้น จะโวย เธอด่าเสียงเบาแบบกลัวพีศทรรตได้ยิน

"แล้วไอ้เงินที่ทำให้แกมีข้าวกินมีแรงมาอ้าปากพูดดูถูกคนอื่นอยู่เนี่ย...ไม่ใช่เงินที่ได้จากการเต้นกินรำกินของฉันหรือไง นังปลวก"
พนักงานลุกฮือ โตโต้จุ๊ปากพนักงานไม่ให้ส่งเสียงโวยวาย ก่อนชี้ไปที่พีศทรรต แล้วทำท่าปาดคอตัวเอง
ตมิสาพ่นกระดาษออก จะด่า ชะงัก เสียงเบา
"อีป้าสติเสีย"
ปินัทธาเสียงเบาตอบ
"อีปลวกปากเปื่อย เข้ามา"
ทั้งคู่พุ่งใส่เข้าหากันอยู่ข้างหลังพีศทรรต แบบหนังเงียบ ฟัดกันนัว ไม่ให้เขารู้
"ลองเปิดเพลงที่หนูอยากเปิดในงานวันเกิดให้พ่อฟังหน่อยซิคะ"

มุมหนึ่งในบ้านพีศทรรต แต้วกดปุ่มเล่นซีดีตามคำสั่งของญาดาที่ถือหูโทรศัพท์คุยกับพีศทรรตอยู่ ญาดาเอามือถือมาจ่อที่ลำโพง...เป็นเพลงร็อคฮาร์ดคอร์ บาดหูบาดจิตบาดใจมาก
"เพราะดีมั้ยคะคุณพ่อ..."

พีศทรรตถึงกับผงะ หูชา
"ฟังเพราะตรงไหน"
หนังเงียบทางด้านหลังพีศทรรค... ปินัทธาจิกหัวตมิสา โตโต้ช่วยเคลียร์ของไม่ให้เกะกะวิถี พีศทรรตจำใจฟังเพลงต่อไป คราวนี้ ตมิสาเป็นฝ่ายจิกหัวปินัทธาลากออกไป โตโต้ตามไปเพื่อจะช่วยปินัทธา แต่โตโต้ถูกตมิสาจิกหัวไล่ฟัด โดยมีปินัทธาไล่จิกอีกทอดหนึ่ง
พีศทรรตยังฟังเพลงต่อ แต่เอามือถือห่างหู กลัวหูหนวก

วายุบุตรตามณัฎฐาลินีที่บริเวณหน้าหน้าออฟฟิศมูลนิธิฟ้าหลังฝน
"ฉันมีธุระ กรุณาอย่าตาม"
"ไม่ตามก็ได้ แต่เย็นนี้...ทานข้าวกัน"
"ไม่รู้จะเสร็จกี่โมง"
"ก็จะรอ"
"อาจจะยันเช้า"
"หมายถึงจะอยู่กับผมจนถึงเช้าเลย?"
"หมายถึง คุณอาจจะต้องรอฉันจนถึงเช้า เพราะฉันไม่ไป"
"ไม่เป็นไร...ให้รอทั้งชาติ ก็รอได้"
เธออึ้ง เริ่มอ่อนไหว เขาตามประชิด จ้องตาอย่างอ่อนโยน
"ผมจะรอคุณ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน"
"แน่ใจเหรอ วันที่คุณรอคอย ฉันอาจจะแก่จนเหี่ยว ฟันหักหมดปาก ความจำเลอะเลือน"
วายุบุตรตัดบท
"แต่ผมมั่นใจว่า ไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น เพราะคุณ...กำลังชอบผมเข้าแล้ว แต่คุณ ปากแข็ง"
เธออึ้ง เขิน รีบกลบเกลื่อน
"เลิกๆๆ เลิกคุย แค่นี้นะ บาย"
เธอรีบเดินไป เสียงมือถือวายุบุตรดังขึ้น ทันทีที่เห็นเบอร์ก็หน้าเครียดทันที รีบรับสาย
"ว่าไง... ฉันอยู่ที่มูลนิธิพอดี จะให้เค้ารีบประสานตำรวจ ระวังตัวด้วยนะ"
วายุบุตรรีบวิ่งกลับเข้าไปในมูลนิธิ

กฤษฎาเดินตามหาเมเปิ้ล หยาดทิพย์ตามมาด้วย พนักงานคนหนึ่งเดินมาตามทาง เขาเข้าไปถาม
"เห็นคุณเมเปิ้ลมั้ย"
"คนไหนครับ"
หยาดทิพย์อธิบาย
"ก็ผู้หญิงสวยๆ มั่นๆ แต่งตัวเว่อร์ๆไม่เกรงใจสายลมและแสงแดดอ่ะค่ะ"
พนักงานมองหยาดทิพย์
"ช่างเหอะ"
กฤษฎาร้อนใจรีบเดินไปอีกทางทันที
"หายไปไหนของเค้านะ"
หยาดทิพย์บอกกับพนักงาน
"นี่เรียกว่า เบาๆค่ะ แต่ถ้าเจอช่วยโทร.บอกคุณกฤษด้วยนะคะ"
หยาดทิพย์รีบวิ่งตามกฤษฎาไปทันที พนักงานมองตามอย่างอึ้งๆ งงๆ

พีศทรรตถอนหูจากมือถือ เพราะเสียงดังมากกว่าเดิม ถอนใจ เอาไงดี
ทางข้างหลัง โตโต้กำลังถูกตมิสาขึ้นขี่หลัง กัดหู โตโต้ควบพาตมิสาวิ่งว่อน พยายามสะบัดให้หลุด ปินัทธาไล่ต้อน โตโต้ เหวี่ยงตมิสาลงพื้น เจ็บตูด แต่ไม่กล้าร้อง ปินัทธาขึ้นคร่อม บีบคอ
พีศทรรตหันกลับมา โตโต้เห็นพอดี รีบร้องเสียงหลงบอกทั้งสองคนให้รู้ตัว
"อุ๊ตะ! บอส"
น้ำผึ้งและตมิสาหยุดทันทีในจังหวะเดียวกับเขาหันมา เขาเอามือถือออกจากหู เห็นทั้งสามคนอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงเยิน
"ทำอะไรกัน เหมือนไปฟัดกันมา ทั้งสามคนเลย"
ทั้งสามคนรีบแก้ตัวพร้อมกัน
"เปล่าค่ะ!"
ทุกคนรีบจัดเสื้อผ้าหน้าผมเป็นปกติ
"พอดีเมื่อกี้ช่วยนังเงือก เอ้ย น้องตมิสาเค้าหาของ"
ทั้งปินัทธางและโตโต้ถองสีข้างตมิสาคนละข้างอย่างแรงให้ช่วยโกหก ตมิสาถึงกับเสียด แต่อดทน ยิ้ม
"ค่ะ หนูทำแม็กเย็บกระดาษหล่นใต้โต๊ะ ป้ากับโต้ช่วยกันมุดหาให้หนูค่ะ"
พีศทรรตพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปคุยมือถือกับญาดาต่อ เพลงดังขึ้นอีกรอบ
แล้วสงครามข้างหลังพีศทรรตก็เริ่มใหม่อีกรอบ ตมิสาหยิบแม็กมาไล่แม็กใส่ปินัทธากับโตโต้ ทั้งสองคนวิ่งหนีรอบโต๊ะว่อนไปทั่ว จนปินัทธาวิ่งมาเกือบถึงตัวพีศทรรต ก็นึกขึ้นได้ รีบเบรก วิ่งไปอีกทาง
 
ตมิสาตามไม่ลดละ โตโต้รีบซ่อนตัวใต้โต๊ะ ในขณะที่พีศทรรตอดทนยืนฟังเพลงของญาดา
 
อ่านต่อหน้า 2

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 16 (ต่อ)

เมเปิ้ลย่างสามขุมเข้าหาน้ำฟ้า น้ำฟ้าค่อยๆถอย ตั้งสติ

"คุณจะทำอะไร"
"ขอดูหนังหน้าคนโกหกหน้าด้านๆชัดๆหน่อย ฉันได้ยินเธอพูดหมดแล้วทุกคำ"
"ฉันโกหกเรื่องอะไร"
"ไม่รู้ คิดไม่ทัน หรือแกล้งโง่กันแน่ ไม่ๆ คนอย่างเธอไม่ได้โง่ ไม่อย่างนั้นจะแอ๊บไม่เนียน ต้องคนฉลาดเป็นกรดเท่านั้นถึงจะทำอย่างที่เธอทำได้"
"ฉันทำอะไรให้คุณ ทำไมต้องมากล่าวหาฉัน"
"เลิกเล่นละครได้แล้ว! ต่อหน้าคนอื่นทำตัวเป็นสาวน้อยผู้อ่อนโยนเข้าใจคนอื่น แต่ลับหลังเธอมันปีศาจชัดๆ"
น้ำฟ้านิ่ง
"มีปากและความคิดที่โสโครกเป็นอาวุธ เสี้ยมให้แม่ของกฤษคิดว่าฉันเป็นคนน่ารังเกียจ"
"ฉันไม่จำเป็นต้องเสี้ยม พฤติกรรมของคุณมันทำให้ใครๆ เข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น...คุณหวังจะเคลมกฤษจริงๆ"
"เออ! แล้วจะทำไม"
"ก็อย่าหวังว่าจะได้ไป เพราะฉันก็ชอบกฤษมากเหมือนกัน"
เธออึ้ง เกิดการเผชิญหน้าเปรี๊ยะปร๊ะ น้ำฟ้ารุกจน เธอค่อยๆถอย
"ฉันทำได้ทุกอย่าง เพื่อไม่ให้คุณเข้าใกล้กฤษ และฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของกฤษ"
เธอรุกกลับ
"ซึ่งเมื่อฉันรู้ว่าเธอกับกฤษไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเธอหรือศีลข้อกาเมอีกต่อไปแล้ว ฉันจะเอา!"
น้ำฟ้าไม่ถอย ปักหลักสู้
"คุณแพ้แน่ เพราะอะไรรู้มั้ย กฤษเค้ามีแต่ความรังเกียจสมเพชเวทนาให้คุณ ยากหน่อยนะถ้าจะเอาชนะใจเค้า รวมทั้งแม่เค้าด้วยหรือถ้าจะมีวันนั้น...คุณอาจจะหง่อมจนไม่มีแรงจะลุกขึ้นมาทำหน้าที่ภรรยาให้กับใคร"
เธออึ้ง สะอึก จุก ค่อยๆถอยร่นไปเหมือนผู้แพ้ น้ำฟ้ามองตามเธออย่างเกลียดชัง นึกย่ามใจว่า ฉันชนะแน่!

โตโต้นั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะ มีปากกาและอุปกรณ์สำนักงานที่หยิบจับได้แถวนั้นเป็นอาวุธ พีศทรรตยืนคุยโทรศัพท์อยู่ถอนใจอย่างโล่งอก เพราะเพลงหยุดแล้ว
"เดี๋ยวพ่อรีบกลับนะ พ่อว่าเรามาลองช่วยกันหาเพลงอื่นดูนะเพลงที่ใช้เปิดในงานปาร์ตี้วันเกิดลูก มันน่าจะเบาๆกว่านี้มั้ย"
ญาดายิ้มดีใจ ส่วนแต้วที่อยู่ข้างๆมีสำลีอุดหูทั้งสองข้างนั่งอยู่
"จริงเหรอคะ ได้ค่ะ ญาดาจะรอคุณพ่อกลับมาเร็วๆ"
ญาดาวางสาย ดีใจ วิ่งออกไป แต้ววิ่งตาม
"คุณญาดาขา จะไปไหนคะ อย่าวิ่งค่ะ เดี๋ยวล้ม"

พีศทรรตโผล่หน้าเข้ามาดูโตโต้ที่แอบอยู่ใต้โต๊ะ
"อย่าเข้ามา! ฉันจิ้มแกตายด้วยปากกานี่แหละ"
"โตโต้...เป็นอะไร"
"อุ๊ย..บอส"
"ออกมา! หลบอะไร หลบใคร หลบทำไม"
โตโต้รีบออกมา
"คือ...ซ้อมการแสดงค่ะต้องไปซ้อมให้น้องเค้า ก่อนพาไปแคสงาน"
"น้ำผึ้งอยู่ไหน"
โตโต้อึกอัก

ปินัทธาวิ่งหนีตมิสามาเจอแม่บ้านถูพื้นอยู่ ก็แย่งม็อบมาจากแม่บ้านใช้เป็นอาวุธ ทั้งคู่
เผชิญหน้ากัน ตมิสากลัววิ่งหนีออกไป น้ำผึ้งตาม

กฤษฎากับหยาดทิพย์เดินมามองหา เมธาวลัยเดินมาจากทางหนึ่ง หยาดทิพย์หันไปเห็น
"บ.ก.อยู่นั่นไงกฤษ !"
กฤษฎาดีใจ รีบเข้าไปหา
"คุณเมเปิ้ล หายไปไหนมา ผม..."
พูดไม่ทันขาดคำ กฤษฎาก็เจอเธอตบหน้าฉาดใหญ่ หยาดทิพย์ตกใจ เขาอึ้งหน้าชา ไม่เข้าใจ
"ถ้ารังเกียจและขยะแขยงฉันมาก ก็บอกกันตรงๆ"
"ผมไม่เข้าใจ ผม..."
เธอโพล่งขัด
"ฟัง!"
กฤษฎาอึ้ง
"เรื่องที่ฉันถูกคุณย่าบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก มันอาจจะดูน่าสงสาร แต่ฉันไม่ต้องการความสมเพชจากเธอ เพราะคนอย่างฉันมีศักดิ์ศรี"
"ผมไม่เคยคิดสมเพชคุณเลย ให้ตายเหอะ ฟังผมบ้างสิ"
เธออึ้ง ตกใจ ที่เห็นกฤษฎาเล่นบทโหด
"อุย!...เข้มอ่ะ น่ากลัว"
เขายืนจ้องเธอ ปวดหัวกับนางที่สุด หยาดทิพย์จะออกไปเพราะไม่อยากอยู่เป็นตัวเกิน
"ก็พูดมาสิ ยังไง ที่หมายความไม่เคยสมเพชฉัน ฉันจะฟังคนที่กลืนน้ำลายตัวเอง"
"คุณพูดเหมือนกับว่าผมเคยพูดอย่างนั้น"
"กับยัยน้ำฟ้าแฟนปลอมๆของเธอไง!"
หยาดทิพย์เหวอ
"หา….ปลอม? อีกแระ"
เธอเข้าไปตบหน้ากฤษฎาอีกที
"ว้าย! บ.ก. กฤษแก้มช้ำไปหมดแล้วนะคะ"
"ฉันรู้ความจริงจากปากของยัยน้ำฟ้าหมดแล้ว เธอกล้าโกหกฉัน แล้วจะให้ฉันเชื่อคำพูดของเด็กเลี้ยงแกะอย่างเธออีกได้ยังไง ไม่ต้องเสนอหน้าไปให้ฉันเห็นอีก พอ!จบ"
เธอเดินเชิดออกไปทันที หยาดทิพย์ตาม กฤษฎาเสียใจ

ตมิสาวิ่งหนีน้ำผึ้งหายเข้าไปในห้องน้ำ แม่บ้านตามมา พนักงานต่างตกใจ รุมมองที่หน้าห้องน้ำ โตโต้วิ่งเข้ามา
"ใครเห็นป้าน้ำผึ้ง กับยัยตมิสาบ้าง"
"ข้างในค่ะ ตีกันใหญ่เลย"
"ทุกคนถ้าไม่อยากถูกไล่ออก ห้ามพูดเรื่องนี้ให้บอสได้ยิน ปิดประตู เก็บเสียง ช่วยกัน อย่าให้เล็ดลอดออกมา"

แม่บ้านและพนักงานช่วยกันปิดประตูห้องน้ำ แล้วยืนขวางเอาไว้ ได้ยินเสียงพลั่ก ตูม ตึง! ดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำ โตโต้วิ่งออกไป

พีศทรรตนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน โตโต้เข้ามารายงานอย่างกระหืดกระหอบ

"ตอนนี้ ป้าเค้าเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ"
"ทำไมนานนัก"
"ทำธุระหนัก ถึงหนักมากค่ะ"
เขาส่ายหัว โตโต้แอบปาดเหงื่อ
"ขออนุญาตไปดูแลสุขภาพการขับถ่ายของเสียของป้าหน่อยนะคะ ถ้ากำจัดอีนังปฏิกูลนั่นไม่เรียบร้อย เบ็ดเสร็จ มันอาจย้อนมาทำให้ชีวิตป้าเป็นพิษกระอักเลือดตายได้..โฮ้ย..
ยาวมาก แต่รู้สึกดี ขอบคุณค่ะ"
โตโต้ไหว้ขอตัวสวยงามชดช้อย รีบออกไป พีศทรรตมองตามอย่างงงๆ

หยาดทิพย์เร่งเท้าตามเมเปิ้ลไปที่ท่าเรือ
"ทำไมบ.กต้องทำรุนแรงกับกฤษถึงขนาดนั้นด้วยล่ะคะ ยังไม่มีอะไรพิสูจน์เลยว่ากฤษเค้าพูดอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ยัยแฟนตัวปลอมอาจจะโกหก โดยที่กฤษไม่เคยคิด และที่กฤษโกหกอาจจะต้องการปกปิดความจริงอะไรบางอย่างที่โกหกอยู่...โอ๊ย..หนูงงอ่ะ! ไหนจริงไหนโกหก!รู้แต่ว่ากฤษเป็นคนดีค่ะ"
"หึหึหึ ฉันรู้หมดแหละ ว่าอะไรจริง อะไรโกหก"
"หมายความว่ายังไงคะ แล้วทำไมต้องหัวเราะอำมะหิตด้วยคะ"
"ฉันเชื่อว่ากฤษพูดจริง และยัยน้ำฟ้านั่นโกหก"
"อ้าว แล้วไปตบหน้ากฤษทำไมคะ"
"ขุดบ่อล่อปลาไง....กฤษต้องอยากตามไปเคลียร์ตัวเองกับฉันที่กรุงเทพ"
"แผนสูงที่สุด!"
"แล้วหลังจากนั้น ฉันจะทำให้ยัยน้ำฟ้านั่นหงายเงิบ"
"บ.ก. จะทำอะไรคะ"
"ทำให้กฤษชอบฉัน เหมือนที่ฉันชอบเค้า"
"บ.ก.!"
"เธอสัญญาสาบานกับฉันแล้วนะ ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครรู้ จนกว่าฉันจะชนะสงคราม ค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าฉันจะก้าวลงจากคานอย่างสง่างาม หึหึหึ ฮ่ะๆๆ"
เธอหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก้าวเดินออกไป อย่างมีความหวัง หยาดทิพย์พลอยดีใจไปด้วย ออกเดินตามไป

ภายในห้องน้ำหญิงที่ออฟฟิศ ตมิสาถูกปินัทธาผลักเข้าไปในห้องน้ำ แล้วใช้สายชำระฉีดๆๆใส่จนเปียก
"ว้าย! หยุดนะ"
"ไม่หยุด ปากอย่างแกมันต้องทำความสะอาด อ้าปาก บอกให้อ้า!"
เธอจับปากบีบให้ตมิสาอ้าปาก แต่ตมิสาอ้าขา
"อ้าปาก ไม่ใช่ขา อ้าใส่ผิดคนแล้ว!"
ตมิสาจับขาดึงจนเธอล้มลง ก้นกระแทก
"โอ๊ย!"
เธอตั้งตัวได้เร็วกว่า จับหัวตมิสาพาดกับชักโครก แล้วเอาฝาหนีบหัว
"อีป้า เหม็นนะ"
"ดมเข้าไป ส้วมว่าเหม็น ยังน้อยกว่าปากและความคิดของแก"
"โอ๊ย เจ็บ! พอแล้ว เจ็บ"
"อยากให้ฉันพอ ก็สำนึกซะว่าทีหลังจะไม่แกว่งปากหาฝาชักโครกอีก ว่าไง!"
"ก็หยุดก่อนเซ่!"
"ให้ฉันหยุด แกก็ต้องหยุดก่อนเซ่!"
ปินัทธากดฝาชักโครกลงไปอีก
"โอ๊ย !! หนูเข็ดแล้วค่ะป้า ต่อไปหนูจะสงบปากสงบคำ คำน้อยหนูก็จะไม่พูดให้ป้าสะเทือนใจ"
"สาบาน!"
"ค่ะ สาบาน ต่อหน้าฝาชักโครก! หนูไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าจริงๆ"
ตมิสาร้องไห้คร่ำครวญ เธอชะงัก เริ่มใจอ่อน ความบ้าเริ่มลดลง ค่อยๆปล่อยตมิสา
ตมิสารีบยกหัวออกมา ขย้อน จะอ้วก
"ดี! จำวันนี้ไว้เป็นบทเรียน แกแรงมาเท่าไหร่ ฉันแรงกลับไปสิบเท่า นอกจอ ฉันไม่ใช่นางเอกทนให้ใครพูดจาดูถูกเหยียบย่ำ แต่ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาที่มีด้านมืดเหมือนกัน!"
พูดจบน้ำผึ้งก็สะบัดบ็อบออกไป มีสะโพกเคล็ดเล็กน้อย ผลจากการล้มเมื่อกี้ ตมิสาเจ็บใจ ไม่ได้รู้สึกผิดจริง รอวันเอาคืน

น้ำผึ้งยืนหน้ากระจก สภาพเยินมากจนตกใจตัวเอง
"อุ๊ตะ!"
เธอจัดระเบียบเสื้อผ้าหน้าผมใหม่ แต่ชุดเปียก เซ็ง เดินออกไป

เธอเปิดประตูออกมา โตโต้ และคณะแม่บ้านพนักงานที่รุมอยู่ ถึงกับผงะ
"มายืนทำอะไร"
"สวดภาวนาขอให้ป้าสุดๆเร็วๆ สุดยังคะ"
ตมิสาผลักประตูออกมา เยินกว่าน้ำผึ้งมาก ร้องไห้ อายสายตาทุกคนที่มองมาหัวจรดเท้า วิ่งออกไป
"อ้าว จะไปไหนล่ะ ตมิสา"
"ป่วย! จะไปหาหมอ ฮื้อ"
ตมิสาวิ่งหายออกไป
"เอ้า ทุกคน ปรบมือรัวๆ ให้กับความสุดของป้าค่ะ!"
แม่บ้านและพนักงานพากันปรบมือ
"ขอบคุณทุกคนนะ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวปิดปาก"
"เอ้า ทุกคนปรบมือรัวๆอีกครั้ง"
"โต้ หาชุดให้ป้าเปลี่ยนทีในสต็อกออฟฟิศอ่ะ เยินแบบนี้ เดี๋ยวถูกจับได้"
"เครค่ะ"

ทั้งคู่เดินไปอย่างอารมณ์ดี น้ำผึ้งยังมีอาการเดินกะเผลกเล็กน้อย
 
อ่านต่อหน้า 3

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 16 (ต่อ)

มุมหนึ่ง ณ จุดนัดพบ ณัฎฐาลินีเดินคุยกับและนักสืบ

"ทำไมต้องนัดเจอกันข้างนอก ไม่ไปคุยที่ออฟฟิศพี่คะ"
"ผมปิดออฟฟิศแล้วครับ บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว"
ลินีตกใจ
"ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น"
"พอดีพ่อผมป่วยหนัก ผมต้องกลับไปต่างจังหวัดเพื่อดูแลท่าน เลยต้อง...ขอคืนงานคุณ"
"คืนงาน?"
"ขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมต้องดูแลพ่อก่อน"
"เข้าใจค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ"
นักสืบยื่นซองเอกสารให้
"เอกสารและเงินมัดจำของคุณ ผมคืนครับ"
"ค่ะ ขอให้คุณพ่อหายเร็วๆนะคะพี่"
"ขอบคุณครับ เอ่อ ช่วยนับเงินในซองด้วยนะครับ ว่าครบหรือเปล่า นับตอนนี้เลยครับ"
เธอแปลกใจกับคำพูด และสายตาที่มองมาเหมือนสื่ออะไรสักอย่าง
"ค่ะ"
ลินีเปิดซอง จะเอาเงินมานับ เห็นกระดาษใบหนึ่งที่ผิดปกติ เขียนว่า
“ผมถูกข่มขู่ ครอบครัวตกอยู่ในอันตราย คุณวายุบุตรประวัติสะอาด นายพิภพน่าสงสัย ไปดูที่โรงงานและผับ อาจเปิดบังหน้า”
เธออึ้ง มองหน้านักสืบ
"เรียบร้อยนะครับ"
"ขอบคุณค่ะสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ข้อมูลทุกอย่างจากพี่คือ ความจริงที่ออกจากปากพี่ หนูจะเชื่อถือมันได้เสมอ และมันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป"

ภายในรถ มาร์กฟังสปีกเกอร์โฟนจากมือถือ
"ขอบคุณครับที่เชื่อใจกัน"
"โชคดีนะคะพี่ สวัสดีค่ะ"
มาร์กกดปิดมือถือ...ยิ้มกริ่ม กดกระจกข้างมองไปทางหนึ่ง เห็นนักสืบเดินมา มาร์กพยักหน้าให้นักสืบ นักสืบพยักหน้าตอบ แล้วเดินออกไป
มาร์กเคลื่อนรถออกไป
เธอยืนแอบดูรถของมาร์กและนักสืบที่เดินไปอยู่ที่มุมหนึ่ง
"นายพิภพ!"

ภายในโรงงานสิ่งทอเสี่ยพิภพ เวลากลางวัน ตัวโกดังที่ดูดีด้านนอก แต่ภายใน เป็นโกดังว่างเปล่า
พิภพตบหน้าลูกน้องชายคนหนึ่งด้วยความโกรธมาก ส่วนอีกสองคนยืนจ๋อยอยู่ ข้างหลังมีช้างถือปืนยืนคุมอยู่
"นี่ครั้งที่สองแล้วนะ! ที่ตำรวจมันรู้ความเคลื่อนไหวของเรา จากคนของมูลนิธินั่น มันรู้ได้ยังไง ได้ยังไง"
ทุกคนเงียบ
"อาจจะมีสายของมันอยู่ใกล้ตัวเรา"
"หาตัวมันให้เจอ!แล้วก็ไปจัดการให้มันไม่กล้ามายุ่งกับเรื่องของกูอีก"
"ครับ"
พิภพโกรธมากระบายแค้น หันไปลงมือทำร้ายลูกน้องอีก ลูกน้องพยายามจะหนี แต่ถูกช้างเอาปืนจ่อไว้ ให้ทนอยู่เป็นกระสอบทรายของพิภพต่อไป

ภายในออฟฟิศมูลนิธิ กุ๊งกิ๊งคุยโทรศัพท์อยู่ ผ.อ. อยู่ใกล้ๆ
"ขอบคุณค่ะ แล้วจะรีบประสานงานต่อนะคะ สวัสดีค่ะ"
กุ๊งกิ๊งวางสายกันมารายงานกับผ.อ.
"ตำรวจไปสะกัดเรือไว้ได้ทันค่ะ และก็ช่วยผู้หญิงที่ถูกขังในตู้คอนเทนเนอร์ออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ของเราที่นั่นดูแลอยู่"
"โล่งอก...แล้วพวกมันล่ะ จับได้มั้ย"
"ไหวตัวทัน หนีไปได้หมดค่ะ"
"ทุกทีสิน่า! แล้วเมื่อไหร่จะสาวถึงตัวบงการ"
ณัฎฐาลินีเข้ามา
"หนูขออาสาทำงานนี้ต่อได้มั้ยคะ"
ผ.อ. และกุ๊งกิ๊งอึ้ง เพราะณัฎฐาลินีมุ่งมั่นกับคำพูดของตัวเองมาก

พีศทรรตนั่งนิ่งอยู่ในห้องทำงาน จ้องมองไปที่มุมหนึ่ง ปินัทธาสวมชุดสโนไวท์นั่งถือสมุดรอจดคำสั่งอยู่
"แน่ใจเหรอ...ว่าจะทำงานต่อได้"
"แน่ใจสิ ทำไมอ่ะ"
"ในชุดสโนไวท์"
"อืม...เข้ากับหน้าตาฉันดีออก"
"ทำไมต้องเปลี่ยนชุด"
"ก็ทำชุดเปียก กลัวเป็นหวัด"
" ไม่มีชุดอื่น"
"มี แต่รับไม่ได้สักชุด มาสค็อทหมีงี้ ชุดค็อกเทลแต่ละตัวก็...ฉันใส่แล้วไม่สวย สวยสุดในชุดนี้แหละ"
"อืม...ก็ดี อาจจะดูไม่เข้ากับที่นี่ แต่เข้ากับบรรยากาศที่บ้านผม"
"อุ๊ตะ ชวนไปบ้าน ว้ายๆๆ"
ปินัทธาลุกขึ้นมาหาพีศทรรตที่โต๊ะ
"ชวนเข้าบ้านแบบนี้ คิดอะไรหรือเปล่า"
"คิด"
เธออาย บิด
"บ้า...เอาจริงเหรอ ที่นี่ก็ได้นะ พร้อมมาก มา"
เธอนั่งตักเลย
"เฮ้ย! คิดว่าผมคิดอะไร"
"ไม่รู้ แต่คิดเข้าข้างตัวเอง ว่าคุณอาจจะอยากสวีตหวานกับฉัน"
"จะชวนไปงานวันเกิดลูกสาวผม"
"วันเกิดลูกสาว"
"เออ! ผู้หญิงอะไร ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว"
"สงวนไว้ให้ผู้ชายที่เราชอบ ผิดตรงไหน"
พีศทรรตอึ้ง เขินแต่กลบเกลื่อน
"สารภาพรักออกมาก่อนอีกแล้วนะ"
"ก็คุณไม่ชอบฉันสักทีนี่ ก็จะตื้อจนกว่าหินคุณจะกร่อนด้วยน้ำลายของฉัน"
พีศทรรตไม่ไหวจะฟังต่อ ลุกขึ้น หยิบกุญแจรถ
"เก็บของ รีบตามมา ผมจะไปแล้วW
พีศทรรตรีบเดินออกไปหน้าแดง เขินเหมือนกัน เธอยิ้มมีความหวัง

"แหม...รู้หรอกว่าเขิน ชอบเราเหมือนกันแหละ ไม่งั้นไม่ชวนหรอก ขึขึขึ"

มุมหนึ่งออฟฟิศมูลนิธิ ณัฎฐาลินีบอก

"หนูสัญญาค่ะ ว่าหนูจะไม่ลืมเจตนารมย์และเป้าหมายที่แท้จริงของการเข้ามาทำงานช่วยเหลือเพื่อนผู้หญิงที่นี่ หนูจะใช้วิจารณญาณอย่างดีที่สุด"
"อะไรทำให้เธอกลับมาพูดกับพี่แบบนี้" ผ.อ.ถาม
"เพราะหนูต้องการโอกาสทำในสิ่งที่ควรจะทำ และทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อขอแก้ตัว ที่หนูเคยอคติกับบางคนมากจนเกินไปจนทำให้ตาบอด หูหนวก"
"พี่ลินีไปเจอความจริงอะไรจากใครมาเหรอคะ"
"แหล่งข่าวที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เชื่อถือได้"
"ขอบใจนะลินี ที่ยอมเปลี่ยนทัศนคติ"
"หนูรู้ตัวค่ะ ว่าป็นคนมีกำแพงและต้องใช้เวลาในการทะลายมัน หนูขอบคุณนะคะ ที่พี่ยอมเสียเวลากับหนู"
"พี่ยอมเสียเวลา แต่จะไม่ยอมเสียคนดีอย่างลินีไป พี่รู้ดีว่า สักวันลินีจะรู้ด้วยตัวเอง ว่าควรจะวางใจและวางตัวไว้ตรงไหนยังไง"
"แล้ว...เราควรจะเริ่มตรงไหนยังไงดีคะ เพื่อให้สืบไปถึงตัวคนบงการของแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติคนนี้"
"หนูมีแผน แต่ขอไม่บอกได้มั้ยคะ"
"ลินี?! ไม่ได้นะ มันอันตราย! จะทำทุกอย่างคนเดียวได้ยังไง"
"หนูคิดว่าหนูพอจะรู้ตัวว่าเป็นใคร แต่ถ้ายิ่งมีคนรู้มาก หนูจะยิ่งทำงานลำบาก และอาจทำให้ทุกคนเป็นอันตราย"
ผ.อ.กับกุ๊งกิ๊งได้ "แต่..."
"หนูสัญญาค่ะ ถ้าไม่ไหวจริงๆ หนูจะขอความช่วยเหลือเอง จะไม่เสี่ยงให้ตัวเองเป็นอันตรายเด็ดขาด"
ผ.อ. และกุ๊งกิ๊งอึ้งจำเป็นต้องยอมรับเหตุผลของเธอ

วายุบุตรคุยโทรศัพท์ที่มุมหนึ่ง
"ทุกอย่างทันเวลา ตอนนี้พวกมันคงกำลังสงสัยและหาทางจับผิดคนในอยู่ ถ้าไม่ชอบมาพากลนักล่ะก็ ให้ออกมาให้เร็วที่สุด เข้าใจมั้ย แกต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้ก่อน"
วายุบุตรวางสาย พนมนั่งรถเข็นเข้ามา
"ป๊าเห็นข่าวในทีวี ตำรวจช่วยผู้หญิงที่กำลังจะถูกขนลงเรือไปขาย"
"ครับ...เสียดายที่จับพวกมันไม่ได้สักคน"
"แกมีส่วนในเรื่องนี้ด้วยมั้ย"
"ผมส่งคนเข้าไปเป็นสายให้...คอยรายงานความเคลื่อนไหวของพวกมัน แล้วผมก็แจ้งให้ทางมูลนิธิฟ้าหลังฝนประสานตำรวจต่อ"
"ที่แม่หนูลินีแฟนแกทำงานอยู่น่ะเหรอ"
"ครับ...แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกจากสิริมา"
"ทำไมถึงไม่บอกหนูลินี"
"เธอไม่เชื่อใจผม"
"พูดเหมือนคนไม่ได้รักกัน"
"ป๊าครับ...ความจริงแล้วคุณลินีกับผมเราไม่ได้ เอ่อ..."
ณัฎฐาลินีเข้ามา
"สวัสดีค่ะ"
วายุบุตรและพนมชะงัก แปลกใจที่เห็นเธอ เธอยกมือไหว้พนม ยิ้มกว้างให้วายุบุตรจนเขาแปลกใจ

กรุงเทพฯ ภายในรถแท็กซี่ เมธาวลัยคุยมือถือที่เบาะหลัง หยาดทิพย์ นั่งข้างคนขับ
" อะไรนะ! มันไปไหนของมันนะ พูดอีกที ชัดๆซิดรณ์!"
เธอพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ หยาดทิพย์พลอยตกใจไปด้วย หันมามอง

ดรณ์เดินตามไทเกอร์มาตามทาง จนถึงหน้าร้านอาหาร
"ร้านครัวต้อยติ่งครับ แต่บอกผมว่าไปหาหมอที่โรงพยาบาล"
ไทเกอร์หยุดที่หน้าร้าน หันมองซ้ายมองขวา ดรณ์รีบหลบเข้าหลืบ
"เหมือนกลัวใครจะตามมาด้วยครับ พี่เมเปิ้ล"
เธอนึกสงสัย
"มันโกหก อาจจะปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้"
"ทำไงต่อดีครับ พี่เมเปิ้ล"
"มือถือเธอถ่ายรูปได้มั้ย"
"ไม่ได้ครับ มันแพง"
"เดี๋ยวนี้ถูกๆเยอะแยะ"
"ผมต้องเก็บเงินครับ"
"โอย! ไม่รู้ล่ะ ทำไงก็ได้ ให้ฉันเห็นว่ามันไปหาใคร"
"งั้นพี่เมเปิ้ลก็ตามมาที่นี่เลยสิครับ"
"เออ จริง" เธอบอกหยาดทิพย์ "บอกแท็กซี่ ฉันไม่กลับบ้านแล้ว ฉันจะไปที่ร้านครัวต้อยติ่ง"
แต่แท็กซี่ได้ยินแล้วเต็มๆ
"ครับ"
"ตามนั้นค่ะ"
"เฝ้าเอาไว้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง รีบรายงานฉัน"
"ครับ"
ดรณ์วางสาย ยืนเฝ้าอยู่หน้าร้าน ตรัยคุณเดินเข้าร้านไป ดรณ์ไม่รู้จักตรัยคุณ

ในร้านอาหาร ไทเกอร์เข้ามานั่งที่โต๊ะ ญ.แต่งตัวดี มั่นใจวัยกลางคน โฉบเฉี่ยว รออยู่แล้ว
"สวัสดีครับพี่"
"สวัสดี...มาช้านะ"
"กว่าจะหลบออกมาได้ครับ"
"ยัยเมเปิ้ลผิดสังเกตอะไรหรือเปล่า"
"โอ๊ย นางยังไม่กลับมาครับ อีกสองสามวันโน่น"
"สั่งอะไรกินก่อน เดี๋ยวค่อยคุยธุระกัน"
"ครับ"
ไทเกอร์หันไปเรียกพนักงาน ทันใดนั้นสายของไทเกอร์ก็ไปสะดุดที่ใบหน้าของตรัยคุณที่กำลังคุยอย่างอารมณ์ดีกับชาย1 ซึ่งทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีลักษณะกระเดียดไปทางเกย์สาว ไทเกอร์มองอย่างจริงจัง
ตรัยคุณเหลือบมองมาเห็นสายตาของไทเกอร์ ชะงัก...ส่งสายตาถึงกัน
ตรัยคุณรีบหันกลับมาคุยกับชาย1 แต่แอบชำเลืองมองไทเกอร์เป็นระยะๆ ไทเกอร์หันกลับมา รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
"เป็นอะไร"
"ความดันขึ้นครับ"
"อายุแค่นี้ เป็นความดันแล้วเหรอ"
"หรือไม่ก็...ปวดปัสสาวะ ขอตัวแป๊บนะครับพี่หมอน"
ไทเกอร์รีบลุกออกไป ผ่านโต๊ะตรัยคุณ ส่งสายตาให้อีกครั้ง ตรัยคุณเห็น แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ให้เพื่อนของตัวเองจับได้
"รีบไปไม่ใช่เหรอ ไปสิ ไปส่ง"
"แล้วไม่สั่งอะไรทานบ้างเหรอ"
"ทานมาแล้ว ไปเถอะ เดี๋ยวตกเครื่อง"
"โอเค"

ตรัยคุณเรียกพนักงานเช็กบิล ชาย1 มองตรัยคุณอย่างหลงไหลในระหว่างนั้น
 
อ่านต่อหน้า 4

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 16 (ต่อ)

วายุบุตรลงนั่งตรงข้ามณัฎฐาลินี เธอเปลี่ยนใจลุกขึ้นมานั่งข้างวายุบุตร แล้วมองหน้าใกล้ๆ

"อะไรกันคุณ มาจ้องหน้าหาเลขเด็ดหรือไง"
"หาความจริง...มองตาฉัน"
วายุบุตรมอง หวานเยิ้ม
"อ่ะ มองก็มอง"
เธออึ้ง เขิน แต่ก็ยังจ้อง เข้าไปใกล้อีก
"ยังไม่ใกล้พอ"
เขายื่นหน้าเข้าไปจนจมูกแตะจมูกของเธอ
"ใกล้พอหรือยัง เค้าว่ากันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ คุณมองเห็นหัวใจผมมั้ย"
"จริงเหรอ ที่คุณจริงใจกับฉัน"
"ผมจะหลอกคุณทำไม"
"เพื่อเอาชนะ ฟันแล้วทิ้ง ชิ่งไปมีคนอื่น ฉันคือหนึ่งในแต้มสะสม"
"มองโลกในแง่ร้าย"
"เพราะฉันไม่เคยเจอคนดี"
"เจอแล้วสิ อยู่ข้างหน้าคุณนี่ไง"
ลินีอึ้ง...สองคนสบตากัน เกิดเป็นโมเม้นต์สุญญากาศ ไม่ได้ยินเสียงอะไร มีเพียงเสียงหัวใจของคนสองคนที่กำลังเต้นในจังหวะเดียวกัน เหมือนมีแรงดึดดูด วายุบุตรโน้มหน้าเข้าไปใกล้ หมายจะประทับรอยจูบ เธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ ใกล้เข้าไป ใกล้เข้าไป และแล้ว...เธอก็ทำลายบรรยากาศ
"ใช้น้ำยาบ้วนปากบ้างหรือเปล่าเนี่ย"
วายุบุตรชะงัก เซ็ง...รีบหันมาเป่าปากแล้วดม
"จมูกคุณมีปัญหาแล้วล่ะ"
เธฮอมยิ้ม ลุกขึ้น จะกลับ
"ฉันไปล่ะ"
"อะไร มาแหย่ให้อยากแล้วจากไป แค่เนี้ยนะ"
"แค่นี้แหละ แล้วเจอกัน"
เธฮก้าวฉับๆออกไป ทิ้งให้วายุบุตรนั่งอึ้ง งง
"อะไรของเค้าวะเนี่ย"
แต่วายุบุตรก็นั่งอมยิ้มมีความสุข รู้สึกได้ว่า... เธอกำลังใจอ่อน พนมแอบมองวายุบุตรอยู่ที่มุมหนึ่ง อดยิ้มตามลูกชายด้วยไม่ได้ ค่อยเข็นรถเข้าไปหา
"ถ้าที่แกกำลังจะบอกป๊าเมื่อกี้ว่าความจริงแล้วหนูลินีกับแกไม่ได้รักกันล่ะก็....ป๊าไม่เชื่อนะ"
"ผมชอบเค้ามาก แต่ก็ไม่เคยแน่ใจได้เลยว่าจริงๆแล้วเค้าคิดยังไงกับผมกันแน่"
"ตามไปสิ...ตีเหล็กมันต้องตีตอนร้อนๆ"
"ครับป๊า"
พนมยิ้มสนับสนุนวายุบุตร ก่อนจะออกไป เขารู้สึกมีความหวัง

พีศทรรตจอดรถ เห็นน้ำผึ้งนั่งข้างๆ ในอาการซึมมาก
"เป็นอะไร ซึมเป็นไก่ตัวเมียไข่ไม่ออกมาตั้งแต่ออกจากออฟฟิศ"
"เลี้ยงไก่ด้วยเหรอถึงได้รู้"
"ไม่ได้เลี้ยงไก่ เลี้ยงแต่กิ๊ก"
"ขอให้กิ๊กตายหมู่"
"ขอบใจ...เป็นอะไร ถามจริง"
เธอหันมาส่งสายตาขอร้องจริงใจ
"ฉันเป็นเลขาที่แย่มากหรือดีมาก"
"กลางๆไม่เป็นเลยหรือไงคุณ"
"ไม่เป็น...แต่ฉันรู้ตัวนะว่าในด้านการแสดงฉันดีมาก แต่ในด้านของเลขา ฉันแย่มาก"
"ก็ดีที่รู้ตัว"
"สอนงานฉันด้วยนะ ฉันอยากเป็นเลขาที่ดีของคุณ"
"เอาจริงอ่ะ"
"จริง...ถ้าฉันจะไม่ได้เป็นดารา ก็ไม่อยากให้เสียชาติเกิดว่า ทำอะไรไม่เป็นนอกจากเต้นกินรำกินอย่างเดียว"
พีศทรรตอึ้ง เมื่อเห็นมุมพยายามของเธอ
"คุณเป็นคนที่มีความพยายามและความมุ่งมั่น ถ้าคุณอยากจะทำอะไรสักอย่าง คุณจะกัดไม่ปล่อย คุณทำได้ ถ้าคิดจะทำ...ให้เวลากับตัวเองสักพัก เดี๋ยวคุณก็เก่ง ไป ลงไปกันเถอะ"
เขาลงจากรถ เธอแอบกรี๊ด
"วันนี้มีชมด้วยอ่ะ ใจมาเป็นกองเบย"
เธอรีบลงจากรถตามพีศทรรตไป

ทั้งคู่เดินเข้าบ้านมา เธอดูระแวง
"เมื่อกี้ซึม ตอนนี้เป็นอะไรอีก"
"กลัวแม่คุณโผล่มา"
"ถ้าคุณกลัวแม่ผมจริงๆ จะชวนท่านเล่นแชร์เหรอ"
"แหม"
"แล้วตกลง ไม่เล่นเหรอ แชร์น่ะ"
"เปลี่ยนใจแล้ว กลัวไม่มีเงินส่ง"
"คุณพ่อมาแล้ว!"
ญาดาวิ่งออกมา แต้ววิ่งตาม แล้วญาดาก็ชะงัก เมื่อเห็นปินัทธา
"อุ๊ย คุณพ่อพาสโนไวท์มาด้วยค่ะ น้องญาดา" แต้วว่า
ญาดาจ้องหน้าน้ำผึ้งเขม็ง
"สวัสดีค่ะ น้องญาดา"
"ไหว้คุณอาน้ำผึ้งสิคะลูก"
น้ำผึ้งรีบขัด
"ไหว้พี่น้ำผึ้งสิคะลูก"
ญาดาไหว้แบบไม่เต็มใจ
"อุ๊ย! อย่างนี้เค้าไม่เรียกไหว้นะลูก เรียกจกกะปิ ไหว้ใหม่สิคะ" ปินัทธาว่า
"ไม่ไหว้"
"ต้องไหว้ค่ะ"
"บอกว่าไม่ไหว้"
"เอาน่าน้ำผึ้ง อย่าเยอะกับเด็ก" พีศทรรตว่า
"เด็กสิยิ่งต้องเยอะ โตขึ้นจะได้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ... ถ้าไม่ไหว้ จะแปลงร่างจากสโนไวท์เป็นแม่มดใจร้าย แล้วเอาแอ็ปเปิ้ลอาบยาพิษให้กิน เอามั้ยคะลูก!"
ญาดาอึ้ง พีศทรรตกับแต้วก็อึ้ง เพราะไม่เคยมีใครดุญาดาอย่างนี้
"เป็นเด็ก ก็ต้องไหว้ผู้ใหญ่ด้วยความเคารพ สวยๆ ทำอย่างเต็มใจไม่ใช่ขอไปทีนะคะลูก"
"ญาดาเกลียดผู้หญิงคนนี้!"
"เกลียดใครไม่ชอบใครก็ต้องไหว้ค่ะลูก มันคือมารยาท"
กานดาออกมาโวย
"ใครทำหลานฉันร้องไห้ หา!"
น้ำผึ้งบอกกับญาดา
"ดูตัวอย่างที่พี่น้ำผึ้งพูดให้ฟังเมื่อกี้นี้นะคะ"
ปินัทธายกมือไหว้กานดาอย่างงดงาม
"สวัสดีค่ะคุณแม่"
กานดารับไหว้ขอไปที!
ญาดาพูดกับน้ำผึ้ง
"แล้วอย่างนี้ เรียกว่าจกกะปิด้วยหรือเปล่า"
"ญาดา ทำไมว่าย่าอย่างนี้ล่ะ!"
พีศทรรตกับแต้วกลั้นขำ
"ก็ผู้หญิงคนนี้บอกว่า ไหว้แบบคุณย่าคือจกกะปิ ถูกมั้ย"
เธอยิ้มกลบเกลื่อน
"อุ๊ยตาย...เด็กน้อเด็ก โกหกไม่เป็น พูดความจริงตลอด"
กานดา โกรธมาก น้ำผึ้งหน้าเสีย กระเถิบหาพีศทรรต กานดาลากลูกชายออกไปทันที เธอชักใจคอไม่ดี แต้วนิ้วโป้งสุดยอดให้ ดาจ้องเขม็งเธออยู่ เหมือนยังมีเรื่องต้องคุยกัน เธอถอนใจ...เตรียมใจตั้งรับ

"จะเอาไง...เด็ก ว่ามา"

อีกมุมหนึ่งของบ้าน กานดาเอาเรื่องลูกชาย

"เห็นฤทธิ์เดชมันมั้ย พามันมาถอนหงอกแม่ถึงบ้านทำไม"
"น้ำผึ้งเค้าไม่ได้ตั้งใจหรอกนะครับคุณแม่"
"มันตั้งใจ"
พีศทรรตตัดบท
"แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ"
"เอามันออกไป แม่ไม่ต้อนรับ"
"แต่ผมเชิญน้ำผึ้งมาเป็นแขกงานวันเกิดลูก"
"แปลว่าจะไม่ไล่"
"ผมทำไม่ได้ครับ"
"งั้นแม่ไล่เอง"
กานดาเดินออกไป พีศทรรตรีบตาม
"คุณแม่ครับ เดี๋ยวก่อนครับ"
CUT/

ไทเกอร์ทำรีรออยู่หน้าร้านอาหาร... ดรณ์แอบดูอยู่ใกล้ๆ แล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเมธาวลัย ตรัยคุณเดินออกมากับชาย1 ไทเกอร์รีบทำเป็นเดินแซงหน้าให้ตรัยคุณ แยกไปทางหนึ่ง โดยที่ชาย1 ไม่ได้สังเกตอะไร
ตรัยคุณรีบบอกชาย1
"รถจอดอยู่ข้างหน้า ไปรอแป๊บนะ เข้าห้องน้ำเดี๋ยว"
"โอเค"
ชาย 1 เดินไป ตรัยคุณออกเดินไปตามทางที่ไทเกอร์เดินไป ดรณ์กำลังคุยมือถืออยู่กับเมธาวลัย
"เดินออกจากร้านไปแล้วครับ แต่ไม่รู้ไปไหน"

มุมหนึ่งทางเดินใกล้ร้านอาหาร เมธาวลัยคุยมือถือกับดรณ์ หยาดทิพย์ลากกระเป๋าพะรุงพะรังตามมา
"ก็ตามมันไปสิ!"
เมเปิ้ลกดวางสาย เดินมาถึงหน้าร้านพอดี มองเข้าไปในร้าน เห็น ญ.1 นั่งอยู่ เธอและหยาดทิพย์ตกใจ
"นั่นมัน...บ.ก.ของแมกกาซีนคู่แข่งเรานี่คะบ.ก."

มุมหนึ่งใกล้ร้านอาหาร ไทเกอร์เดินรีรออยู่ ตรัยคุณเดินเข้ามา ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน ดรณ์ตามมาแอบดูอยู่ คอยสังเกตพฤติกรรมทั้งสองคนแบบงงๆ ผู้ชายกับผู้ชาย ไรแว้....
"สวัสดีครับ" ตรัยคุณทักทาย
"ครับ"
"เราเคยรู้จักหรือว่าเจอกันที่ไหนเหรอครับ เห็นคุณ...มองหน้าผมบ่อยจัง"
ไทเกอร์ยิ้มเปิดสัมพันธไมตรีให้ตรัย พลางเข้าไปใกล้ พูดง่ายๆว่าอ่อย
"ก็มันน่ามองนี่ครับ"
ตรัยคุณตัดฉับ
"ขอโทษครับ คุณคงเข้าใจผิด ผมไม่ใช่..."
ไทเกอร์อึ้ง เหมือนถูกทุบหัว...ตรัยคุณพูดจบก็หันเดินออกไปเลย ตรัยคุณ ยิ้มมุมปากชอบใจที่ได้แกล้ง แหย่ให้อยากแล้วจากไป สนุกดี
ไทเกอร์หลุด
"หืม เกย์ด้าของฉันมันไม่เคยเออเร่อ ทำมาเป็นแอ๊บ! "
ไทเกอร์รู้ตัวว่าหลุด "อุ๊ย"
ดรณ์อึ้ง อ้าว…สาวแตก!

เมธาวลัยมองเข้าไปในร้าน โดยที่ญ.1 ยังไม่เห็นเธอ
"แล้วดูหน้าคนอื่นในร้านซิ มีใครที่พอจะนัดเจอไทเกอร์ได้บ้าง"
หยาดทิพย์มองไปรอบๆ เห็นแค่คนแก่เป็นคู่ๆ บ้างก็คู่เพื่อน
"หรือว่านัดเจอพ่อแม่ปู่ย่าตาทวด ก็ได้ข่าวว่าตายไปหมดตระกูลแล้วนี่คะ เอ๊ะ หรือว่า
จะนัดเจอบ.กคนนั้นจริงๆ"
"มันไม่มีทางมาที่นี่เพื่อขายประกันคนชราหรอก...มันกำลังจะแปลงร่างจากผู้ช่วยของฉันเป็นหนอนบ่อนไส้"
เธอมองญ.1 ด้วยความแค้นใจ จะเดินเข้าไปในร้าน
"หนูต้องไปตามไปด้วยมั้ยคะบ.ก."
"ไม่ต้อง ไปตามจับตัวไอ้ไทเกอร์เอาไว้ให้ได้ ฉันจะทำให้มันสารภาพ แล้วตัดหัวมันเสียบประจานความชั่วที่นี่"
เธอเตรียมเชือดเต็มที่

พีศทรรตเดินไล่ตามกานดาเข้ามาในบ้าน
"คุณแม่ผมขอร้อง วันนี้วันเกิดหลาน อย่าให้มีเรื่องไม่สบายใจกันเลยนะครับ"
"มันไม่ใช่ความผิดของฉัน คนที่ทำให้มีเรื่องคือนังน้ำผึ้ง"
"บอกว่าอยากดูแม่มด ทำได้หรือไม่ได้"
พีศทรรตและกานดาชะงัก มองไปทางหนึ่งปินัทธาถือกระเช้าแอปเปิ้ลอยู่ ส่วนแต้วเอาหมวกปาร์ตี้มาสวม ทำตัวเป็นคนแคระถืออุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านแทนเสียมขุดหิน
"ทำได้อยู่แล้ว แต่ไม่ทำ"
"ทำไม"
"ไม่มีใครอยากทำอะไรให้เด็กที่พูดไม่เพราะหรอก จริงป่ะ สนีซซี่"
"จริงครับ!" แต้วบอก
"สนิซซี่ชอบจาม"
"อ๋อ ค่ะ" แต้วจะจาม
"อย่าจาม...ไม่มีใครอยากทำอะไรให้เด็กที่พูดไม่เพราะหรอก"
ญาดาอึ้ง เริ่มใช้ความคิด จะพูดเพราะๆดีหรือเปล่า... พีศทรรตประทับวิธีที่น้ำผึ้งหลอกล่อให้ญาดาทำในสิ่งที่ควรทำ กานดาสังเกตน้ำผึ้งอย่างละเอียด ความโมโหเริ่มหายไปนิดนึง อยากรู้มากกว่าว่าน้ำผึ้งจะทำอะไรได้มากแค่ไหน

ณัฎฐาลินีเดินเข้าบ้าน เสียงมือถือดัง เธอหยิบมือถือขึ้นมาเห็นเบอร์แปลกใจ
"กุ๊งกิ๊ง มีอะไร ฮัลโหล ว่าไงกุ๊งกิ๊ง... อะไรนะ" เธอตกใจ "ผ.อ. โดนลอบทำร้าย ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน...ได้ พี่จะไปเดี๋ยวนี้"

เธอวางสาย ทันใดนั้น ก็มีไอ้โม่งคนหนึ่งเข้ามาปิดปากล็อกคอเธอไว้ทันที
 
อ่านต่อตอนที่ 17
กำลังโหลดความคิดเห็น