xs
xsm
sm
md
lg

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 21

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 21

เวลากลางคืน วายุบุตรเดินมาในมุมหนึ่งของผับ เสียงมือถือดังขึ้น เขารีบรับสาย

"ว่ายังไง ป้อม"
เขาฟังป้อมรายงานบางอย่าง
"ขอกุญแจรถฉันไปนานหรือยัง"
วายุบุตรฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะวางสายลง รีบเดินออกไป

มุมหนึ่งที่จอดรถของวายุบุตร สิริมาเอาปืนของวายุบุตรเก็บไว้ที่ลิ้นชักหน้ารถเหมือนเดิม แล้ว รีบปิดประตูรถ จะเดินออกไป ก็ต้องชะงักเพราะวายุบุตรยืนอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว
"คุณเอาปืนของผมไปทำอะไร"
เธออึ้ง ตกใจ พูดไม่ออก ตั้งตัวไม่ทัน
"อย่าโกหกแม้แต่คำเดียว เพราะคุณรู้ดีว่า...ถ้าผมรู้ว่าใครโกหก มันจะเป็นยังไง โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นคนที่ผมไว้ใจมาก ถึงจะเป็นคุณก็ตาม"
เธอตกใจหน้าซีดเผือด

ภายในห้องทำงาน สิริมาก้มหน้านิ่ง สารภาพความจริงที่โกหกเพื่อตัวเอง
"ฉันไปขู่ไอ้พิภพ ไม่ให้มันคิดจะทำอะไรคุณอีก ฉันจำเป็นต้องใช้มันเพื่อป้องกันตัว"
"ขู่ คนอย่างมันเหรอจะกลัวคุณ เพียงแค่มีปืนกระบอกเดียวไปจ่อที่หน้า ถ้าไม่มีข้อแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าพอ"
เธออึ้ง
"คุณมีอะไรไปเสนอแลกเปลี่ยนกับมันเหรอ สิริมา"
เธอรีบแก้ตัว
"ฉันไม่มีอะไรไปแลกเปลี่ยน นอกจาก...ตัวฉันเอง"
"สิริมา"
"คุณรู้ดีนี่คะ ว่ามันชอบฉัน...ฉันยอมแลกได้ทั้งนั้นเพื่อให้คุณปลอดภัย"
"แต่คุณกำลังทำให้มันหัวเราะเยาะผม ที่ใช้คุณแลกกับความปลอดภัยของตัวเอง เหมือนผมไม่มีศักดิ์ศรี คอยหลบอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิง"
"สิ่งที่ฉันทำลงไป ทำให้คุณรู้สึกแย่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"
"ใช่"
"ฉันทำอะไรก็ผิดในสายตาคุณสินะ"
เธอผิดหวัง น้อยใจ เสียใจมาก
"ไม่ใช่อย่างนั้นสิริมา แต่คุณทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีซะก่อน"
"เพื่อคนที่ฉันรัก ฉันทำได้เลย โดยไม่ต้องคิด...คุณก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉัน"
"เมื่อไหร่"
สิริมาพูดตัดบท
"อย่าถามว่าเมื่อไหร่ฉันจะเลิกรักคุณ มันไม่มีทางเป็นไปได้ นอกจากฉันจะหมดลมหายใจไปเท่านั้น"
วายุบุตรอึ้ง
"รำคาญฉันใช่มั้ยที่ไม่เลิกเพ้อเจ้อ ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ได้ทำเพื่อขอให้คุณกลับมารักฉัน ฉันเพียงแค่อยากมีค่า มีตัวตนในสายตาคุณบ้าง แต่นับวัน...มันก็ยิ่งมองไม่เห็นทาง"
สิริมาลุกขึ้น ยิ้มอย่างเจ็บปวดให้
"และฉันก็มีศักดิ์ศรีพอ ที่จะไม่ทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีก ลาก่อนค่ะ วายุบุตร"
"หมายความว่ายังไง สิริมา"
สิริมาเดินไปจูบวายุบุตรอย่างแผ่วเบา จูบเพื่ออำลา ยิ้มให้ทั้งน้ำตา
"หมายความว่า เราสองคนขาดกันนับตั้งแต่วันนี้ ฉันจะไปจากคุณไปทั้งที่ยังรัก และเจ็บปวดมากที่สุด"
สิริมาค่อยๆเดินจากไป ก่อนจะหยุดยืนหันหลังนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง อยากได้ยินเสียงเรียก แต่ก็ไม่มี นอกจาก...
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง โชคดีนะ สิริมา"
เธอเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ตัดสินใจ ตัดใจเดินออกไป เขาไม่สบายใจที่เธอเลือกที่จะจากไป...แต่เขาก็เลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้

สิริมาเดินมาด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้นวายุบุตร หยิบมือถือขึ้นมา กดเบอร์หาพิภพ
"ฮัลโหล" พิภพรับสาย
"อยากรู้มั้ยว่าใครคือหนอนบ่อนไส้อยู่ใกล้ตัวแก"
สิริมายิ้มเจ้าเล่ห์!

ณัฎฐาลินีเดินเข้ามาในผับด้วยท่าทางเป็นปกติ คิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ... เธอย่องออกมาหน้าบ้านมาในมุมมืด หยิบขวดเหล้าออกมาจากกระเป๋า เปิดฝาขวด ตัดสินใจดื่มอั่กๆ ก่อนจะบ้วนทิ้ง หน้าแหยมาก แล้วเทใส่มือดีดประพรมตัวเพื่อให้มีกลิ่นเหล้าติดตัว....
แท็กซี่เข้ามาจอดหน้าบ้าน... เธอรีบย่องออกไปทันที

มุมหนึ่งผับพิภพ เธอดมกลิ่นเกล้าในตัวเอง ผงะ
"อิสโชว์ทาม"
ขณะที่เธอรวบรวมสมาธิ แล้วแอ็คติ้งเป็นคนเมาทันที
"โอย...เมา"
เธอเดินไม่ตรงทาง พยายามส่องหาพิภพ แต่แล้วทันใดนั้น เจตต์ก็โผล่เข้ามาฉวยแขนของเธอ
ลากไปทางหนึ่งทันที เธอตกใจ เจตต์ได้กลิ่นเหล้าจากตัวลินีแล้วถึงกับผงะ
"จะทำอะไรฉัน"
เจตต์ไม่ตอบ จับเธอเข้าหลืบ สำรวจทั่วเรือนร่าง จนเธอนึกอาย แต่ทำเป็นปกติ... เมา
"มองอะไร ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง"
"เคย เห็นมาเยอะ รวมทั้งไอ้ที่สวยแล้วชอบเสนอแบบคุณด้วย"
"นี่!"
"อยากโดนมากนักหรือไง มาทุกคืน"
"เออ!"
"งั้นผมสนองให้ ไม่ต้องรอเสี่ยหรอก เสี่ยเค้าไม่ว่าง"
เจตต์ทำท่าจะลวนลาม เธอกำลังจะป้องกันตัว แต่แล้วช้างกับมาร์กก็ลากลูกน้องคนหนึ่งที่ฮึดฮัดๆผ่านสายตาไป ทั้งเจตต์และลินีเห็นก็อึ้ง
เธอรีบหนีหลุดมาจากพันธนาการของเจตต์ทันที
"เฮ้ย! คุณ"
เธอวิ่งหนีออกไป เจตต์เจ็บใจ และนึกแปลกใจ เกิดอะไรขึ้น เธอเดินตามหลังช้างกับมาร์กมาเรื่อยๆ ในมุมที่ไม่มีใคร ปลอดคน
เธอโผล่มาที่ประตู มองหา แล้วก็ชะงัก อึ้ง เมื่อเห็นช้างกำลังซ้อมลูกน้อง ที่ยกมือไหว้ร้องขอชีวิต พิภพยืนมองอยู่กับมาร์ก ก่อนหันไปพยักหน้ากับช้าง ช้างจัดการใช้ปืนเก็บเสียง จ่อยิงลูกน้อง
เธอสะดุ้ง ตกใจ เห็นลูกน้องล้มลงขาดใจตายคาที่
พิภพหันมามองทางที่เธอยืนอยู่ แต่เธอรีบหลบด้วยความตกใจ
พิภพนึกแคลงใจ หันไปสั่งมาร์กให้รีบเดินมาทางที่เธอยืนอยู่ ช้างจัดการเก็บศพ ลากหายไป
เธอตัดสินใจเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ชั่วขณะเดียวกับที่มาร์กมาถึง แต่ไม่เห็นใคร มองซ้ายมองขวา เห็นเพียงกล่องกระดาษที่ไม่ได้ใช้แล้วกองพะเนินอยู่
เธอหลบอยู่ในหลืบใกล้ๆ ลุ้นแทบกลั้นหายใจ ขณะที่มาร์กกำลังเดินเข้ามาใกล้เธอเข้าไปทุกทีๆ เจตต์เดินเข้ามาข้างหลังมาร์กเรียก
"เฮีย!"
มาร์กชะงัก รีบเดินเข้าไปหาเจตต์
"มึงแอบดูอยู่เหรอ ไอ้เจตต์"

มาร์กลากคอเจตต์ออกไปทันที เธอถอนใจอย่างโล่งอก ที่รอดมาได้หวุดหงิด ใจหายใจคว่ำ

ภายในห้องทำงาน เจตต์นั่งตรงหน้าพิภพ มาร์กยืนอยู่ข้างพิภพ สังเกตท่าทีของเจตต์

"ผมตามหาเสี่ย เด็กมันบอกว่าเสี่ยอยู่หลังร้าน ผมเลยเห็น"
"แกตามหาฉันทำไม"
"ผมถูกไล่ออกจากวง จะมาของานอื่นทำ งานอะไรก็ได้ ตอนนี้ผมร้อนเงิน"
"จะเอาเงินไปทำอะไร"
เจตต์ก้มหน้านิ่ง
"มันติดยา" มาร์กบอก
"หึ...แกรู้จักไอ้คนที่เพิ่งถูกยิงกบาลไปหรือเปล่า"
"ผมไม่รู้จัก"
"มันเป็นสายของไอ้วายุบุตร ที่ถูกส่งตัวมา"
เจตต์อึ้ง ตกใจ
"เสี่ยรู้ได้ไง"
"เรื่องของฉัน!"
เจตต์เงียบ ครุ่นคิด นี่มันอะไรกัน
"จะเอาไงกับมันดีครับ เสี่ย"
เจตต์ลนลาน
"เสี่ยอย่าทำอะไรผมเลยนะ ผมรับรอง ผมจะไม่ปากโป้ง เสี่ยคือผู้มีพระคุณของผม ผมไม่เนรคุณเสี่ยจะให้ผมทำอะไร ผมยอมทั้งนั้น"
เจตต์ลนลาน ร้องขอความเมตตาจากพิภพและมาร์ก พิภพครุ่นคิด ตัดสินใจ

มุมหนึ่งในผับพิภพ ณัฎฐาลินีนั่งดื่มน้ำเปล่า เพราะรู้สึกคอแห้ง ในใจกระวนกระวาย
พนักงานเดินมารายงาน
"เสี่ยยังประชุมอยู่เลยค่ะ ปลีกตัวมาไม่ได้ จะรอมั้ยคะ"
"ไม่เป็นไร บอกเสี่ยแล้วกัน ว่าฉันมา"
เธอลุกออกไป ใจคอไม่ค่อยปกติ พิภพและมาร์กแอบมองมาจากมุมหนึ่ง
"เด็กบอกว่า เห็นคุณลินีหายไปทางหลังร้านอยู่พักนึง"
พิภพไม่ไว้ใจนึกอยากย้อนรอย
"อืม... ฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ย ว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดของผู้หญิงคนนั้นคือ ความมั่นใจ มั่นใจว่าฉันจะโง่กว่ามัน"
"จะยังไงต่อดีครับ"
"ไม่ต้องทำอะไร ฉันจะปล่อยให้มันมาเข้ามาติดกับเอง แล้วจะส่งมันไปให้ไกลหูไกลตา"
"ไกลหูไกลตา เสี่ยหมายความว่า..."
"ไปกับพวกผู้หญิงที่มันพยายามจะปกป้อง มันจะได้สำนึกว่า โลกนี้ผู้ชายเป็นใหญ่ และผู้หญิงอย่างพวกมันคือเหยื่อ... ไม่มีสายไอ้วายุบุตรทำให้เราต้องกังวล รีบติดต่อเอเย่นต์ นัดหมายวันส่งสินค้าล็อตต่อไปให้เร็วที่สุด"
"ครับเสี่ย"
พิภพยิ้มกริ่ม ลำพองว่าแผนกำลังไปได้สวยและไร้เสี้ยนหนาม เจตต์ยืนอยู่กับช้างที่มุมหนึ่งมองมาที่พิภพ
"มึงก็เตรียมตัวไว้ เสี่ยให้ไปขับรถ ได้เงินแล้วก็รีบๆไปจัดการซะ อย่ามาลงแดงตอนทำงานนะมึง กูเอาตาย"
"ครับ เฮีย"
ช้างเดินออกไป เจตต์มองพิภพด้วยสายตาวาวโรจน์ ยิ้มอยู่ในใจ

มุมหนึ่งรีสอร์ตเกาะตะวัน ลูกน้องเดินออกไปหลังกฤษฎาสั่งงานแล้ว น้ำฟ้าเข้ามา
"ยังไม่เลิกทำงานอีกเหรอกฤษ"
"ยังมีเรื่องต้องทำ"
น้ำฟ้าสังเกตเห็นสีหน้าของเขายังไม่สบายใจอยู่
"นี่..."
"ถ้าฟ้าไม่มีอะไร เราขอตัวนะ จะไป..."
" คุณป้าโอเคแล้วนะ"
"อะไรนะ"
"เราบอกว่า คุณป้าโอเคแล้วเรื่องกองถ่ายปกแมกกาซีนคุณเมเปิ้ล"
"ฟ้า...ฟ้าทำได้ไง"
"ก็แค่อธิบายให้คุณป้าเข้าใจ อะไรก็ไม่สำคัญเท่าคำพูดของกฤษที่ได้ตกปากรับคำไว้แล้ว ไม่ว่ากับใคร ก็เสียคำพูดไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึง ความน่าเชื่อถือในฐานะผู้บริหารรุ่นต่อไปของเกาะตะวัน"
"แค่นี้จริงๆเหรอ"
"จริงสิ...คุณป้ารักกฤษมาก ท่านจะไม่มีทางทำในสิ่งที่ทำให้กฤษต้องเสียหาย"
กฤษฎาที่รู้สึกดีขึ้นมาก น้ำฟ้าแอบยิ้มกริ่ม...

น้ำฟ้านึกถึงเรื่องที่คุยกับโสน
"ทีนี้หนูก็กลับไปบอกตากฤษ ตามที่ป้าบอก"
"กฤษจะเชื่อหนูเหรอคะ ว่าคุณป้าจะยอมใจอ่อนด้วยเหตุผลที่ว่า..."
"เชื่อสิ...เค้ารู้ ว่าป้ารักเค้ามาก ป้าทำได้ทุกอย่างเพื่อเค้า"
"ค่ะคุณป้า"
"แล้วหนูก็จะกลายเป็นนางฟ้าในสายตาของตากฤษ นางฟ้าที่มาช่วยแก้สถานการณ์ ช่วยส่งเสริมกัน ไม่ใช่นางมารร้ายที่มีแต่เรื่องเดือดร้อน รำคาญใจอย่างยัยเมเปิ้ลนั่น ความดีของหนูจะต้องทะลายกำแพงหัวใจของตากฤษ อดทนไว้นะลูก"
น้ำฟ้ายิ้มรับ รู้สึกมีกำลังใจ

น้ำฟ้ายิ้มหวานซื่อใสนางฟ้าสุดฤทธิ์ให้กฤษฎา
"ไม่เชื่อเราเหรอ ว่าเราทำให้คุณป้าใจอ่อนได้"
"เชื่อสิ ฟ้าทำได้อยู่แล้ว หลายๆอย่างถ้าเราไม่ได้ฟ้าช่วย เราคงแย่ ฟ้าเป็นแบ็คอัพที่ดีที่สุดของเรา"
น้ำฟ้ายิ้มรับ รู้สึกดี
"ถามจริงๆนะ นี่ใช่วิธีที่จะทำให้กฤษลืมคุณเมเปิ้ลได้จริงเหรอ"
"ไม่รู้ ก็ต้องลองทุกวิธี หนีแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ก็คงต้องเผชิญหน้า"
"เราเอาใจช่วยนะกฤษ อยากให้เราช่วยอะไรก็บอก เรายินดีนะ"
"ขอบใจนะฟ้า...สำหรับทุกอย่าง"

กฤษฎายิ้มรับน้ำใจของน้ำฟ้า น้ำฟ้ายิ้มตอบอย่างมีความหวัง
 
อ่านต่อหน้า 2

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 21 (ต่อ)

เช้าวันใหม่ เมธาวลัยสะพายกระเป๋าในชุดเดินทาง สวยเป็นพิเศษเดินออกมา แม่บ้านลากกระเป๋า มารอพร้อมอยู่แล้ว แสนสุขเดินออกมา

"ใครมารับไปสนามบิน"
"รถตู้ออฟฟิศค่ะ ยังไม่มาอีก สายไปหนึ่งนาทีแล้วนะ"
"ใจมันไปรออยู่ที่เกาะตะวันแล้วหรือไง"
"ค่ะคุณย่า"
"นี่! เก็บไว้บ้างเถอะ ความรู้สึกน่ะ ไม่ต้องแสดงออกมากนักก็ได้ น่าเกลียด"
"ก็คุณย่าถามหนูนี่คะ"
"ฉันประชดไปอย่างนั้น"
เธอเข้าไปกอดเอาใจ
"อย่าประชดสิคะ หนูไปไม่กี่วัน รับรองจะกลับมาพร้อมว่าที่พ่อแม่สามีในอนาคต"
"ดูพูดเข้า! ถามจริง...นี่ไปทำงาน หรือไปเพราะเรื่องส่วนตัว"
"แยกกันไม่ออกค่ะ ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวของหนู"
"เหนื่อยจะคุย"
จิลลาเดินเข้ามา หน้าตาเครียดและโทรม เหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน พร้อมเอาเรื่องน้องสาว
"เมื่อไหร่ดรณ์จะมาง้อเค้าสักที หา! เม"
เธอตกใจ แสนสุขแปลกใจ เกิดอะไรขึ้น
"มีอะไร ยัยจิล"
" ก็ดรณ์ขอเลิกกับหนู แล้วเมก็สัญญาว่าจะรีบเคลียร์ให้ จนป่านนี้ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย"
เธอเซ็ง เครียดทันที แสนสุขหันมองหน้าหลานสาวอย่างเอาเรื่อง

ปินัทธาที่ยืนอึ้งอยู่ที่ประตูรถตู้ มองเข้าไปในรถ เห็นตมิสานั่งอยู่ข้างหลัง พีศทรรตที่นั่งแถวแรก โตโต้เป็นคนเปิดประตู
"ป้าคะ อัญเชิญขึ้นรถตู้ค่ะ" โตโต้บอก
เธอทิ้งกระเป๋าลง อารมณ์ฉุนเฉียว
"ฉันไม่ขึ้น"
"เป็นอะไรของเธอขึ้นมาอีก"
เธอชี้หน้าตมิสา
"ฉันไม่นั่งรถคันเดียวกับมัน ถ้ามีมัน ไม่มีฉัน เลือก"
ทั้งพีศทรรตและโตโต้พร้อมใจกันดัดนิสัยน้ำผึ้ง ชี้ไปที่ตมิสา เธออึ้ง เหวอ
"ออกรถ ไปรับเมอร์ดี้" พีศทรรตสั่ง
แล้วโตโต้ก็ปิดประตูรถตู้เลย รถตู้เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกตัว
"ฉันขอโทษ"

แสนสุขมองหน้าหลานสาวอย่างเอาเรื่อง
"ยัยจิลเลิกกับแฟน"
"ใช่ค่ะ ดรณ์ขอเลิกกับหนู หนูเสียใจมากนะคะคุณย่า รอแล้วรออีกว่า เมื่อไหร่ดรณ์จะกลับมาง้อ แต่ก็ไม่มีวี่แวว ทำไมล่ะเม หรือว่าตัวก็รับปากเค้าไปส่งๆอย่างนั้น แต่ตัวไม่ได้ทำอะไรเลย"
"เงียบได้หรือยัง จิลลา ฉันต้องการฟังคำพูดจากปากของเมเปิ้ล"
จิลลาเงียบ
"ว่ายังไง...เมเปิ้ล ทำไมเธอไม่บอกฉัน ว่าสองคนนี้เลิกกัน"
"ยังไม่ถือว่าเลิกหรอกนะคะคุณย่า แฟนกันมันก็เหมือนลิ้นกับฟัน ทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา ให้เวลากันสักพัก ทนคิดถึงกันไม่ไหวเดี๋ยวก็กลับมาคืนดีกันเอง"
"ธรรมดาเหรอ นี่มันไม่ธรรมดานะเม ดรณ์ไม่เคยพูดคำว่าเลิกใส่หน้าเค้า แสดงว่าดรณ์คิดจริงเลยทำจริง ทีหลังถ้าทำไม่ได้ ก็อย่ารับปากมั่วๆ รู้มั้ยว่าการให้ความหวังกับคนที่สิ้นหวัง ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ได้เป็นความจริง มันบาป"
เธอรำคาญ ทนไม่ไหว
"โอ๊ย! อย่าพูดมากก่อนได้ป่ะ เค้าประสาทจะเสียแล้วนะ ทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ไง ผู้ชายถึงได้อยากเลิก"
จิลลาอึ้ง เสียใจ ... เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่าหลุดสติแตก
"ตัวเองคิดแบบนี้จริงๆเหรอ แล้วมาบอกว่าจะช่วยไม่ให้ดรณ์เลิกกับเค้าตั้งแต่แรกทำไม มาให้ความหวังเค้าทำไม"
"ย่าเคยประกาศเอาไว้ ถ้าคู่ของเธอกับนายดรณ์นั่นเลิกกันเมื่อไหร่ เมเปิ้ลก็จะไม่มีสิทธิ์ได้คบหาดูใจกับนายกฤษฎา เพราะมันคือการพิสูจน์แล้วว่าทฤษฎีของย่าถูกต้อง สาวแก่กับเด็กหนุ่ม ไม่มีทางไปรอด"
จิลลาตกใจ ผิดหวังกับน้องสาว "เม..."
"และเมเปิ้ลต้องแต่งงานกับคนที่ย่าเห็นว่าเหมาะสม ไม่ใช่แต่งตามใจตัวเอง ที่เห็นอนาคตแล้วว่า มีแต่พังกับพัง"
"จริงเหรอ เม..."
"จริง"
"ตัวเองเห็นแก่ตัว"

เธออึ้ง เมื่อเห็นสายตาผิดหวังของพี่สาว

ปินัทธายืนคว้าง คอตก รู้สึกแย่กับตัวเอง

"ในที่สุด ฉันก็ทำไม่ได้ใช่มั้ย ฉันเอาชนะอารมณ์ของตัวเองไม่ได้"
เธอมองขึ้นไปบนฟ้า
"ถ้าเพียงแค่ฉันย้อนเวลากลับไปได้"
เธอหลับตาลง ตั้งจิตอธิษฐาน
"ฉันจะไม่โวยวาย ฉันจะถามทุกคนดีๆ ว่า ทำไมต้องเอานังนั่นมาด้วย"
ไม่ทันขาดคำของเธอ รถตู้ขับกลับเข้ามาเทียบอีกครั้ง โตโต้เปิดประตู
"คุณป้าคะ...โอกาสที่สองหรือไม่ก็สามสี่ห้า..สำหรับคุณป้า มีไม่มากนะคะ"
เธอดีใจ
"ขอบคุณสวรรค์ที่สุด โต้ ฉันรักแก"
โตโต้เบี่ยงตัวหลบให้พีศทรรตทันที
"บอกรักผิดคนค่ะ"
พีศทรรตที่มองมาที่เธอด้วยความเอือม และหน่าย
"ผมต้องการให้คุณกับตมิสาทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรต่อกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง อะไรที่เคยขุ่นข้องหมองใจกัน ขอให้ลืมมันไปซะ มิฉะนั้น"
ยังไม่ทันขาดคำ เธอก็โบกมือให้ตมิสา ยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรทันที
"ไฮ้! ตมิสา สบายดีน้า กินข้าวเช้าหรือยัง อุ๊ตะ สวยขึ้น"
"ภายใต้เงื่อนไข...อย่าเฟค"
น้ำผึ้งหุบยิ้ม จริงใส่
"อ้วนขึ้นป่ะ"
"ว้าย!"
"ฉันจะยอมดีด้วย อย่างจริงใจ...ลืมเรื่องเลวร้ายที่แกเคยทำกับฉันมาทั้งหมด...ขอโทษ"
ตมิสาอึ้ง...ไม่คิดว่า น้ำผึ้งจะพูดขอโทษได้ออกมาง่ายกว่าที่คิด พีศทรรต โตโต้ หันมองหน้าตมิสา
"ทำไมป้ายอมพูดขอโทษหนูง่ายๆแบบนี้ล่ะ"
"เธอกับฉัน...เราสองคนต่างต้องการโอกาสอีกครั้งเพื่อแก้ตัว ถ้าไม่อยากอดตาย ไม่ใช่เหรอ"
ตมิสายอมรับ
"หนูก็ขอโทษนะป้า"
พีศทรรตแอบอมยิ้ม โตโต้ชื่นมื่นมาก เธอรีบกระโดดขึ้นรถตู้ไปด้วยทันที
"ไปเร็วๆๆ เดี๋ยวตกเครื่อง ออกรถค่ะ ออกรถ!"
เธอปิดประตูรถตู้เองด้วยความกระตือรือร้น
เมธาวลัยขอโทษจิลลา แสนสุขยืนโล่งอก คิดว่างานนี้หลานสาวต้องยอมทำตามสัญญา
"เค้าขอโทษ ตัวเองจะคิดว่าเค้าเห็นแก่ตัวก็ได้ มันก็อาจจะจริง ตัวเองกับดรณ์อาจจะไม่เหมาะที่จะรักกัน เพราะตัวเองทำตัวไร้สาระไร้สติ โวยวาย ไม่เคยดูตัวเอง น่ารำคาญมาก น่าจะเลิกๆไปซะน่ะถูกแล้ว แต่เค้าก็ยังจะสปอยล์ตัวเอง และหาทางยื้อให้กลับไปคืนดีกัน เพราะเค้าไม่อยากแพ้คุณย่า เค้าไม่อยากแต่งงานกับพี่ตรัยคุณ เค้า..."
"เค้ายังไม่ได้เลิกกับดรณ์สักหน่อย"
ทั้งเมธาวลัยและแสนสุขต่างอึ้ง จิลลาหันไปยืนยันกับแสนสุขด้วยสติที่มีมากกว่าเดิม
"เอาความจริงนะคะ... วันนั้นดรณ์พูดกับหนูแค่ว่า เราควรจะห่างกันสักพัก เค้าไม่ได้ใช้คำว่าเลิก นั่นแปลว่า เรายังมีโอกาสที่จะกลับมาคืนดีกัน"
เมธาวลัยไม่เชื่อหูตัวเอง
"จริงเหรอจิลลา"
"จริงค่ะ หนูไม่ได้โกหก"
"เธอนี่เหมือนคนบ้าเลยนะ ผีเข้าผีออก"
"ค่ะ หนูเหมือนคนบ้า ตีโพยตีพายและกลัวความผิดหวัง แต่ตอนนี้หนูมีสติมากที่สุดถึงที่สุด หนูไม่ได้อยากทำให้น้องสาวต้องเสียใจ เพราะความไม่ได้เรื่องของตัวหนูเอง"
เธอซาบซึ้งกับพี่สาวมาก
"สรุปยังไง เลิกหรือไม่เลิก ยัยจิล"
จิลลายืนยันหนักแน่น
"ไม่เลิกค่ะ หนูจะไม่มีวันยอมให้วันเวลาที่คบกับดรณ์มาต้องเสียไปเปล่าๆ หนูจะถอยหลังกลับไปเริ่มต้นใหม่กับใครก็คงยาก หนูแค่ห่างกับดรณ์เพื่อทำให้รักของเรา แข็งแรงขึ้นกว่าเดิมค่ะ"
"จิล...โลกสวยมาก"
"เพราะเค้ารู้ไง ว่าโลกนี้ขับเคลื่อนไปได้ด้วยความรัก ไม่ใช่การบังคับฝืนใจ"
เธอเข้าไปกอดพี่สาวเอาไว้ แสนสุขปวดหัว แต่แอบโล่งใจที่จิลลาดูเป็นผู้เป็นคน มีสติขึ้นมาแล้วบ้าง

ณัฎฐาลินีในชุดเดินทาง คุยมือถือกับกุ๊งกิ๊ง
"ฝากแม่พี่กับพี่ดวงแค่ไม่กี่วันนะกุ๊งกิ๊ง ขอบใจมากจ๊ะ"
เธอวางสาย พยายามรวบรวมสติ เสียงมือถือดังขึ้นมาอีกรอบ เธอสะดุ้ง หยิบมือถือขึ้นมาดู
หน้าจอมือถือเป็นชื่อเสี่ยพิภพ เธอเครียดขึ้นมาทันที แต่ก็รีบรวบรวมสติ รับสาย
"ฮัลโหลค่ะ"
ภายในห้องทำงานเสี่ยพิภพ
"เมื่อคืนคุณไม่รอผมเลย"
"พอดี ฉันเมามากค่ะ รู้สึกไม่ค่อยดี"
"นั่นสินะ เด็กของผมก็บอกอยู่เหมือนกันว่าตัวคุณกลิ่นเหล้าหึ่งเลย หัดดื่มแล้วเหรอครับ"
"ค่ะ มือใหม่หัดดื่ม เลยแย่"
"งั้นคืนนี้ผมขอแก้ตัว เลี้ยงดื่มคุณได้มั้ย"
"คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัด"
"ไปไหนเหรอครับ"
พิภพนิ่งฟังอยู่ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
"ไว้วันหลังก็ได้ครับ ไว้ผมกลับจากเชียงใหม่ เรานัดเจอกัน"
เธอหูผึ่งทันที
"ค่ะ ได้ค่ะ ไว้หลังจากที่คุณกลับจากเชียงใหม่"
เธอวางสาย ยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วรีบกดมือถือหากุ๊งกิ๊ง

"ฮัลโหล กุ๊งกิ๊ง มันกำลังจะไปเชียงใหม่"
 
อ่านต่อหน้า 3

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 21 (ต่อ)

พิภพนั่งยิ้มมองมือถือ สิริมาเข้ามา

"ว่าไง มันยอมมาเจอคุณคืนนี้มั้ย"
"มันกำลังจะไปเกาะตะวัน มาไม่ได้"
สิริมาเจ็บใจ
"ไม่ต้องห่วงน่า....ยังไงผมก็ต้องตอบแทนคุณ ที่คุณยอมบอกข้อมูลเรื่องสายไอ้วายุบุตรกับผมอยู่แล้ว นังลินี...ไม่มีทางรอด"
"ให้มันจริงเถอะ"
"ว่าแต่ว่า นางจิ้งจอกอย่างคุณแน่ใจนะ ว่าไม่ได้มีอะไรปิดบังซ่อนเร้นผม"
"ฉันทำดีกับวายุบุตรทุกอย่าง แต่เค้าก็ยังมองไม่เห็นหัวฉัน ถึงขนาดที่ฉันยอมเสี่ยงตายเพื่อเค้า มันก็ยังไม่มีความหมาย คุณคิดว่าคนอย่างฉัน เป็นคนดีพอที่จะเดินจากมาเฉยๆ โดยไม่คิดเอาคืนบ้างเหรอ"
"ผมรู้จักคุณดีว่าคุณเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและขี้อิจฉาริษยามากขนาดไหน รู้อะไรมั้ย...ในที่สุดแล้ว ไม่มีใครจะเหมาะสมกันมากไปกว่าเราสองคนอีกแล้วนะ สิริมา"
พิภพเข้ามาแทะเล็มลวนลาม เธอจะขยับหนี แต่ถูกพิภพยึดตัวเอาไว้
"ผมจะทำให้คุณมีความสุข ในฐานะผู้หญิงของผม เพื่อตบหน้าไอ้วายุบุตรไง ไม่สนใจหรือไง หือ"
สิริมานิ่ง ยอมให้พิภพไซร้ซอกคอ เธอหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด แต่จำฝืนทน
"วิธีเดียวที่จะตบหน้าวายุได้สาแก่ใจฉันที่สุดคือ คุณต้องทำลายนังลินี"
พิภพไม่ตอบ จู่โจมสิริมาไปเรื่อยๆ เธอน้ำตาซึม....ยอมให้พิภพล่วงเกิน

สิริมาเปิดประตูออกมา เสื้อผ้าที่สวมอยู่ยังไม่เรียบร้อยนัก เธอรีบขยับให้มันเข้าที่ดังเดิม เช็ดรอยน้ำตา เชิดหน้า หยิบมือถือขึ้นมา กดเบอร์หาใครบางคน
"คุณธัญรดาคะ"

คณะของแมกกาซีน “IT’S A MUST! Thailand” เดินมามาถึงเกาะตะวัน เมธาวลัยเดินสวยๆ ใจเต้นตูมตาม คู่กับดรณ์ หยาดทิพย์ ชาโน เจ๊ฟู ทั้งหมดช่วยกันขนกระเป๋าเสื้อผ้าและอุปกรณ์การถ่ายทำกับทีมงาน ไทเกอร์เดินตามเธอแล้วยิ้มกริ่ม ดรณ์หน้าตาดูอารมณ์ดีขึ้น
"ไง...ยิ้มได้ขึ้นมาเลยนะ หลังจากซึมเป็นหมาหงอยมาตั้งหลายวัน"
"ครับ...ผมดีใจที่จิลมีสติ"
"เอาใจช่วยนะดรณ์ จริงๆแล้วพี่สาวฉันก็มีดีนะ ไม่งั้นไม่ออกตัวแรงกับคุณย่าเพื่อช่วยฉันถึงขนาดนั้นหรอก"
"ผมรู้ครับ ว่าจิลเป็นคนจิตใจดีมากแค่ไหน ผมถึงได้ยังรักจิลมากไงครับ"
"โอย...ทะเลหวานแล้ว"
ดรณ์ยิ้มเขิน ก่อนจะหันไปช่วยทีมงานที่แบกของหนักข้างหน้า เธอมองตามอย่างโล่งใจ
ไทเกอร์เร่งฝีเท้ามาตีคู่ แล้วยิ้มกว้างให้เมธาวลัย
"จู่ๆก็มายิ้ม มีอะไร"
"ยิ้มไว้ก่อนครับ แต่ต่อไป จะเปลี่ยนมาเป็นหัวเราะ" ไทเกอร์พูดเป็นนัย
"ตอนแกเป็นบ้าเพราะถูกฉันไล่ออกน่ะเหรอ"
"ก็ไม่รู้สินะ"
ไทเกอร์รีบเดินไป เธอมองตามหลัง สังเกตว่าระยะหลังๆไทเกอร์เริ่มสาวแตกมากขึ้น เดินตูดบิดมากกว่าเดิม
"หรือมันคิดจะแกรนด์โอเพนนิ่งตัวเอง...เลิกแอ๊บ"
เมเปิ้ลเดินต่อไป
หยาดทิพย์ขนของไป ถ่ายรูปตัวเองไปแบบงกเงิ่น ชาโนเดินเข้ามามอง ส่ายหัว แย่งมือถือมา
"มาถ่ายให้"
"ขอให้ช่วยหรือไง ทำไมต้องตะคอก หา"
เจ๊ฟูเข้ามาประกบ ตอบแทนชาโน
"ผู้ชายเวลาชอบใคร...มันจะแสดงออกในทางตรงกันข้าม"
เจ๊ฟูรีบวิ่งต่อไปทันที หยาดทิพย์อึ้ง มองหน้าชาโน
"หรา คงต้องยกเว้นไอ้ชานมมั้งเจ๊" หยาดทิพย์แย่งมือถือคืนมา "เอามา จะถ่ายเอง แกเก็บแรงไว้ถ่ายรูปดาราเถอะ"
ชาโนเซ็ง แอบเสียใจนิดๆ เดินงอนออกไปทันที
คณะของ GT Artist Management พีศทรรตเดินมากับตมิสา โตโต้....น้ำผึ้งและเมอร์ดี้เดินตีคู่กันสวยๆ ต่างคนต่างมองกันด้วยหางตา ตมิสาและโตโต้เข้ามากระซิบพีศทรรต
"บอสคะ...คลื่นลมไม่ค่อยสงบนะคะ"
"ก็ไม่รู้นะ พยายามเตือนสองคนนั้นด้วยว่า อย่าให้โอกาสสุดท้ายต้องพังเพราะอารมณ์ชิงดีชิงเด่นหรือขี้อิจฉาริษยา ไม่คุ้มหรอก ถ้าต้องแลกกับอาชีพ และผมกำลังจับตาดูอยู่"
"ตกลง บอสกับป้าน้ำผึ้ง เลิกกันจริงป่ะคะ"
โตโต้บอก
"ถ้าคิดจะเสียบ พูดเลยว่าเลิกคิด"
"บ้า....ใครจะไปคิด หนูก็แค่ถามเฉยๆ หนูรู้ ว่าหนูคงไม่มีสิทธิ์"
แต่ตมิสาแอบส่งสายตาหวานให้
"ตาส่อนๆไปนะ ไปหาหมอตาตรวจซะบ้างไป๊"
ตมิสาอึ้ง โตโต้แอบหัวเราะคิก พีศทรรตเดินออกไป
"แถวบ้านเรียกว่า ยิงแล้วหาย ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากผู้ชายที่ท่านแจกอ้อย ฮ่ะๆๆ โอ๊ย...สงสารก็สงสารนะ แต่รู้สึกดี"
"อีโต้!"
โตโต้รีบสาวเท้าออกไป ตมิสาเซ็ง เดินงอนตามไป

ณัฎฐาลินีเดินเครียด พลางมองมือถือตลอดเวลา ภัทรวลัยที่เดินมาด้วยสังเกตเห็น
"แกเป็นอะไรของแกวะ ลินี...รอโทรศัพท์ใคร ดูเครียดๆตั้งแต่ออกจากบ้านแระ"
"ไม่ได้รอโทรศัพท์ใคร แค่...รู้สึกว่า อยากเปลี่ยนมือถือ กลับไป ไปหาซื้อกันนะ ไปๆๆ เร็ว อยากเล่นน้ำทะเลจะแย่แล้ว"
เธอรีบเดินไป ทิ้งให้วลัยยืนมองตาม อย่างแปลกใจ
"นังนี่แปลกๆ...อ้าว รอด้วยสิ"
วลัยจะก้าวเดินไป ก็ต้องชะงัก เพราะเวียนหัวขึ้นมากะทันกัน
"สงสัยเมาเรือ รอด้วย ลินี"

วลัยค่อยๆเดินตามเพื่อนไป เกิดความรู้สึกผะอืดผะอม

น้ำฟ้าเดินมาคุยมือถืออยู่

"กำลังเดินมากันแล้วเหรอคะคุณป้า"
น้ำฟ้าเห็นกฤษฎารอต้อนรับทุกคนอยู่ที่มุมทางเข้ารีสอร์ต
"ค่ะ กฤษรอรับทุกคนอยู่ที่ทางเข้า โอเคค่ะ"
น้ำฟ้าวางสาย รีบเดินไปหากฤษฎาทันที
"กฤษ"
"พวกเค้ามากันแล้วล่ะ" กฤษฎาบอก
"รู้แล้ว...ดูกฤษตื่นเต้นนะ"
"ก็...ไม่เคยมีกองถ่ายมาทำงานที่รีสอร์ตเรา เราก็ต้องตื่นเต้นสิ"
น้ำฟ้าจับมือของกฤษฎาเอาไว้
"ใจเย็นๆ ทุกอย่างจะต้องราบรื่นเรียบร้อย"
"โอเค"
ทีมงานทั้งหมดเข้ามาเห็นทั้งคู่กำลังจับมือกัน ก็อึ้งตกใจ โดยเฉพาะเมธาวลัยถึงกับกระเป๋าร่วง ต้องรีบเก็บเมื่อได้สติ
"อุ๊ตะ! จับมือถือแขน" เจ๊ฟูบอก
"ความสัมพันธ์ดูไม่ปกติ" โตโต้ว่า
กฤษฎารีบชักมือกลับทันที น้ำฟ้ายิ้มให้ทุกคน
"สวัสดีค่ะทุกคน รีสอร์ตตะวันยินดีต้อนรับค่ะ"
ทุกคนยังอึ้งอยู่
"ทำไมดูอึ้งๆกันคะ เพื่อนกันจับมือกัน ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน อีกอย่างกฤษกับคุณเมเปิ้ลก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าโกรธกฤษเลยค่ะ กฤษไม่ได้ทำผิดอะไรต่อคุณเมเปิ้ล"
เหมือนระเบิดลูกใหญ่ตูม! ทุกคนหันมองหน้าเมธาวลัย เพื่อนทุกคนเข้าประกบ มองน้ำฟ้าอย่างไม่พอใจ
"ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ ไม่เชื่อเหรอคะ งั้นคงต้องให้คุณเมเปิ้ลยืนยันกับทุกคนแล้วล่ะค่ะ ว่าความจริงเป็นยังไง"
ทุกคนจ้องหน้าเมธาวลัยเขม็ง เธอโกรธน้ำฟ้ามากพยายามเก็บอารมณ์

เธอยืนตรงหน้าทุกคน ที่อัดกันอยู่ในห้องๆหนึ่ง เหมือนรอฟังแถลงการณ์
"ใช่ ฉันกับกฤษฎาไม่ได้เป็นแฟนกัน ทุกอย่างโกหก"
"น่านไง ว่าแล้ว" ชาโนว่า
"ว่าอะไร ไอ้ชานม"
"ก็ไม่ว่าอะไร...แค่...ก็สงสัยมาตั้งแต่แรกแล้วว่ามันแปลกๆ"
"หึๆๆ เหอะๆๆ" ไทเกอร์หัวเราะเย้ย
"จะหัวเราะเยาะฉันก็ช่วยไปหัวเราะให้มันลับหูลับตาหน่อยได้มั้ย ไทเกอร์"
"นี่พี่เมเปิ้ลจนตรอกถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ"
เธออึ้ง หยาดทิพย์สวน
"คุณไทเกอร์คะ คนล้มอย่าข้ามค่ะ บ.ก.กำลังจะทำให้เรื่องโกหกเป็นเรื่องจริง"
"โอ๊ย! ชาติหน้าเหอะ ใครจะอยากมารักคนแก่ รักกันได้ไม่เท่าไหร่ เดี๋ยวพี่เมเปิ้ลก็ตายแล้ว"
เธอปาของใส่ไทเกอร์ด้วยความฉุน แถมไล่ตี
"ไอ้ไทเกอร์! ไอ้...มานี่เลย ฉันจะฆ่าแก"
ไทเกอร์วิ่งหนี ทุกคนต้องช่วยกันห้ามศึก

มุมเครื่องดื่มของรีสอร์ต เพื่อนทั้งสามและพีศทรรตรอเมธาวลัยอยู่
"แกว่า.บรรยากาศในห้องเมเปิ้ลมันจะเป็นยังไงอ่ะ" ปินัทธาถาม
" ก็ไม่รู้สิ อยากรู้ก็เข้าไปสิ" ณัฎฐาลินีบอก
"เหย เดี๋ยวมันจะหาว่าสาระแนเรื่องภายใน"
"แล้วที่ถามขึ้นมา ไม่สาระแนเลยหรือไง" พีศทรรตว่า
"แล้วใครถามความคิดเห็นของคุณมาทราบ อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก"
ผิดคาด ทุกคนชี้ไปที่ปินัทธา
"อะไรเนี่ย"
"ไม่มีใครจะอยากรู้บรรยากาศในห้องเมเปิ้ลมันสักคน นอกจากแก" ภัทรวลัยบอก
"แน่ใจเหรอว่าพวกแกไม่อยากรู้"
ทุกคนส่ายหน้า
"เพราะว่าสุดท้ายมันก็ต้องจบลงที่ทุกคนรับรู้และเข้าใจตรงกันว่าความจริงคืออะไร แล้วทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป โดยที่นังเมเปิ้ลมันกลายเป็นคนหน้าแตกเพราะถูกจับได้ว่าโกหก และต้องรับผลกรรมอันนั้น จบป่ะ" ณัฎฐาลินีบอก
"แต่ที่ผมอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้คือ เมื่อไหร่จะเริ่มทำงานกัน"
"อันนั้นฉันไม่ได้อยากรู้ เพราะถ้าทุกคนพร้อมก็เริ่มเองแหละ แต่ที่ฉันอยากรู้อีกอย่างในตอนนี้คือ เราจะจัดการนังชะนีเด็กแอ๊บแหววคนนั้นยังไง โทษฐาน ฉีกหน้าเพื่อนเราต่อหน้ามวลมหาประชาชน"
"แต่ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าห้องน้ำอยู่ไหน เพราะฉันจะอ๊วก"
ภัทรวลัยรีบลุกไป เพื่อนตกใจ มองตามอย่างเป็นห่วง
"เดี๋ยวฉันตามไปดูมันเอง สงสัยจะเมาเรือ"
ณัฎฐาลินีวิ่งตามวลัยไป เหลือน้ำผึ้งกับพีศทรรตนั่งอยู่ด้วยกัน เกิดเป็นความเงียบ
"เอาน่า...เพื่อนฉันเป็นคนจบเรื่องไว เดี๋ยวก็ได้ทำงานกันแล้ว ใจเย็นสิ"
พีศทรรตดื่มเครื่องดื่มดับอารมณ์

เมธาวลัยถูกเจ๊ฟู หยาดทิพย์จับล็อกไว้ที่มุมหนึ่ง ส่วนไทเกอร์ถูกดรณ์และชาโนล็อกไว้อยู่ห่างไปอีกมุม
"ผมพูดความจริง หัดยอมรับบ้างสิพี่เม! อายุห่างกันเยอะขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้" ไทเกอร์บอก
"เป็นไปได้ครับ แล้วก็เป็นไปแล้ว ผมกับจิลลาไงครับ" ไทเกอร์ถาม
"โดนของหรือเปล่า"
"จิลต่างหากครับที่โดน"
เจ๊ฟู หยาดทิพย์ต่างอุทาน "อุ๊ตะ!"
"โดนของแบบไหนเหรอ ชะนีอยากรู้!"เจ๊ฟูถาม
"ต้องให้อธิบายด้วยเหรอครับ"
"เงียบ!"
ทุกคนเงียบ
"ฟังฉันนะ ไอ้ไทเกอร์ ฉันยอมรับความจริง แต่ฉันไม่ยอมแพ้ เพราะฉะนั้นอย่ามาพูดบั่นทอนกำลังใจฉัน และทุกคนฟัง เมื่อออกจากห้องนี้ไป ห้ามใครพูดเรื่องนี้อีกแม้แต่คำเดียว และอย่าให้รู้ว่าใครเอาไปนินทา ไม่อย่างนั้น ฉันไล่ออก! เพราะถือว่าพูดเรื่องส่วนตัวในเวลางาน! เข้าใจมั้ย"
ทุกคนยกเว้นไทเกอร์
"เข้าใจค่ะ /ครับ"
"แยกย้าย"
ทุกคนรีบสลายตัว เธอเดินเข้าไปประจันหน้า ไทเกอร์ถอยกรูด
"ดูฉันไว้ให้ดีๆ ฉันนี่แหละจะสร้างประวัติศาสตร์ให้โลกนี้จดจำไว้อีกคน ว่าฉันจะมีแฟนเด็ก"
เธอถอยออกมา จัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะเดินเชิดๆออกไปอย่างสง่างาม เธอเปิดประตูพร้อมแรงใจที่มุ่งมั่น

"ใครก็ทำให้ฉันยอมแพ้ไม่ได้ โดยเฉพาะนังชะนีมารคอหอย"
 
อ่านต่อหน้า 4

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 21 (ต่อ)

กฤษฎาคุยกับพนักงาน น้ำฟ้ายืนอยู่ข้างๆ แอบอมยิ้ม

"ห้องพักของทุกคนเรียบร้อยดีแล้วใช่มั้ย"
"ค่ะ"
"ดูแลทุกคนเต็มที่นะ"
"ค่ะ"
กฤษฎาหันออกมา น้ำฟ้ารีบตีหน้าเศร้าทันที
"กฤษ โกรธเราเหรอ"
"ไม่ได้โกรธ แต่...ไม่เข้าใจ"
"เราพูดหรือทำอะไรผิดไปใช่มั้ย"
กฤษฎาไม่อยากให้พนักงานได้ยิน จึงดึงเธอออกไป

กฤษฎาพาน้ำฟ้าเข้ามา
"ฟ้าไม่ควรพูดเรื่องคุณเมเปิ้ลกับเราต่อหน้าคนอื่น"
"ก็ทุกคนกำลังเข้าใจกฤษผิด เพราะยังคิดว่ากฤษกับคุณเมเปิ้ลเป็นแฟนกัน เรายอมไม่ได้"
"เราขอบใจฟ้าที่คอยช่วยเหลือ ดูแลเรามาตลอด แต่บางครั้งมันมากเกินไป"
น้ำฟ้าอึ้ง เสียใจ น้ำตาซึม
"มากเกินไปเหรอ"
กฤษฎาอึ้ง รู้สึกเสียใจ
"ขอโทษนะ คือ เราไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิฟ้า"
"ไม่ได้ตั้งใจ แต่พูดออกมาเต็มปากเต็มคำ กฤษเป็นห่วงความรู้สึกของคุณเมเปิ้ล แต่ไม่คิดจะรักษาความรู้สึกเรา มันเกินไปแล้วนะกฤษ"
"ฟ้า เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ"
"กฤษไม่ได้ตั้งใจ แต่มันทำให้เรารู้ความรู้สึกของกฤษแล้วล่ะ ว่าจริงๆแล้วกฤษยังไม่คิดจะลืมคุณเมเปิ้ล กฤษยังรักเค้าอยู่ กฤษอยากให้เค้ามาที่นี่ เพราะอยากใกล้ชิดเค้า ไม่ได้อยากลืมเค้า กฤษโกหกเรา"
น้ำฟ้าร้องไห้วิ่งออกไปทันที กฤษฎาถอนใจ เป็นห่วงน้ำฟ้า รีบวิ่งตาม

พีศทรรตดื่มเครื่องดื่มหมดแก้ว ดูเวลาผ่านไปอย่างหงุดหงิด
"คุณบอกให้ฉันใจเย็น อย่าใช้อารมณ์เวลาทำงาน ทำไมเป็นซะเอง" ปินัทธาบอก
"ก็นี่มันไม่ใช่เหตุผลอันสมควรที่เราต้องมารอ"
"ทีมงานเมเปิ้ลเป็นมืออาชีพพอนะ ยังไงเค้าก็ใช้เราไม่เกินเวลาที่ตกลงกันเอาไว้แน่นอน ฉันฟันธง"
เขายังไม่วายถอนใจด้วยความหงุดหงิด
"ผู้ชายก็มีอาการวัยทองนะ รู้เปล่า...ไปตรวจบ้างหรือยัง"
"ผมยังฟิต"
"อีโก้จัด ว่าแต่เค้า อิเหนาเป็นเอง หย่อนๆบ้างก็ได้ อย่าเป๊ะให้มากนัก เครียดเปล่าๆ"
"คุณหย่อนไปคนเดียวเถอะ"
"อ๋อ หย่อนอยู่แล้ว เริ่มยานแล้วด้วย"
"อะไรยาน"
"ก็อะไรล่ะที่มันแพ้แรงโน้มถ่วงของโลกน่ะ หรือต้องให้บอกออกมาตรงๆ"
"คุณนี่จริงๆเล้ย! ผู้หญิงเนี่ย พอแก่แล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรดีสักนิด"
พีศทรรตหงุดหงิด ลุกออกไป เธอมองตามน้อยใจก่อนตะโกนไล่หลัง
"ยังกะตัวเองไม่แก่งั้นแหละ ผู้ชายเวลาแก่ก็ไม่เห็นมีอะไรดีสักนิดเหมือนกัน ไอ้คุณพีศ ไอ้ย้วย"
เขาสะดุ้ง หันมาถลึงตาใส่ฝากไว้ก่อน เธอทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่แอบยิ้ม
"ใครบอกล่ะ...ผู้ชายยิ่งแก่ยิ่งดูดีจะตาย อุ๊ย ชอบของลายครามอ่ะ"

บริเวณชายหาด เมธาวลัยเดินมาหาทีมงานที่กำลังเซ็ตอุปกรณ์กันอยู่
"ไปตามน้ำผึ้งกับเมอร์ดี้มาแต่งหน้าทำผมหรือยัง"
"กำลังจะไปตามค่ะ" เจ๊ฟูบอก
"ไอ้ชานม งานนี้งานแรกที่ฉันให้แกแสดงฝีมือในฐานะตากล้อง ถ้าออกมาไม่ดี ไล่ออก"
ชาโนอึ้ง
"ได้ยินมั้ย ว่าไล่ออก! รับคำบ.ก.สิ ยืนบื้ออยู่ได้"หยาดทิพย์ย้ำ
"หูไม่หนวก ครับ บ.ก."
เธอพยักหน้ารับ หันดูส่วนอื่นต่อไป
"เออ วันหลังจะไม่ช่วยเตือนอะไรแล้ว" หยาดทิพย์บอก
"เตือนหรือด่า แยกให้ออก เฮ้ย! เจ๊ ไปตามนางแบบแต่งหน้าทำผม เดี๋ยวแสงไม่สวย ไม่ทันพระอาทิตย์ตก" ชาโนว่า
"เข้มเชียวนะแก ไปเดี๋ยวนี้แหละ"
เจ๊ฟูวิ่งออกไป หยาดทิพย์มองค้อนชาโนก่อนเดินออกไป
ไทเกอร์ลอบมองเมธาวลัย คิดอะไรบางอย่าง

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ไทเกอร์เพิ่งเล่นโยคะเสร็จ เห็นตรัยคุณกำลังเปลี่ยนชุดเตรียมออกกำลังกาย ไทเกอร์ตาวาว เข้าไปหา
"บังเอิญอีกแล้วนะครับ ไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นสมาชิกที่นี่ด้วย ไม่เคยเห็น"
"ก็อยากลองหาที่ใหม่ๆ เบื่อของเดิมๆ ไม่บังเอิญหรอก"
"แถมวันนี้ก็เป็นวันศุกร์ ที่ผมต้องมาเรียนโยคะ ตามที่เคยบอกไป"
"อันนี้สิครับ บังเอิญ พอดีผมว่างวันนี้"
"ถามจริง จะแต่งงานกับพี่เมเปิ้ลจริงเหรอ"
"ก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่ขัดผู้ใหญ่ไม่ได้ แต่ถ้าเมเปิ้ลมีแฟนอยู่แล้วแบบนี้ คงไม่มีงานแต่งงาน ผมไม่อยากทำบาป ไปขัดขวางความรักของใคร"
ไทเกอร์อมยิ้ม ส่งตาหวานให้ตรัยคุณ
"จะกลับแล้วใช่มั้ยครับ โชคดีนะครับ"
"อ๋อ ยังหรอกครับ ว่าจะเบิร์นอีกสักแป๊บ"
"งั้น...เสร็จแล้ว เราไปหาอะไรทานกันมั้ย"
"ยินดีที่สุด"
ตรัยคุณส่งยิ้มมีนัยยะให้ ไทเกอร์หัวใจพองโต

ไทเกอร์ยืนมองเมธาวลัย อยู่ในภวังค์
"จะให้เค้ารู้ความจริงไม่ได้ เพราะฉันจะแย่ง"
"มองอะไร ไอ้ไทเกอร์ คิดจะแย่งอะไรของฉันอีก"
"อุย! เปล่าครับ คืออยากแย่งไอติมของหยาดทิพย์กินต่างหาก"
หยาดทิพย์เดินมาพร้อมไอติมแท่ง ไทเกอร์รีบแย่งไปดูด
"เฮ้ย"
"อะไร! ไปซื้อมาใหม่สิ แค่นี้ให้ไม่ได้หรือไง งั้นเอาคืนไป"
ไทเกอร์ส่งคืนหยาดทิพย์ แล้วเดินออกไป
"เฮ้ย... อี๋"
เธอส่ายหัว อะไรของมัน แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นกฤษฎากำลังเดินไล่ตามง้อน้ำฟ้า ไปทางหนึ่ง
"ฟ้า เดี๋ยวก่อน เราขอโทษ"
"มารยาอะไรอีก"

เมเปิ้ลวิ่งตามกฤษฎาไปทันที

พีศทรรตเดินหงุดหงิด พยายามปล่อยอารมณ์ให้ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศของรีสอร์ต

"คุณพ่อขา!"
พีศทรรตตกใจ รีบหันไป ญาดาเดินมากับธัญรดาและแต้ว
"ญาดา!"
ญาดาเข้ามากอดหาพ่อ พีศทรรตกอดไว้ แปลกใจ มาได้ยังไง
"พอดี ฉันมาคุยงานกับเจ้าของรีสอร์ทที่นี่ เลยพาลูกมาเที่ยวด้วย"
"แต่ญาดาต้องไปโรงเรียน ไม่รู้หรือไง แต้ว! ยังไง"
"บอกคุณรดาแล้วค่ะ แต่...."
"แหม ซีเรียสไปได้ ลูกอยู่แค่ป.1 หยุดเรียนบ้างก็ไม่เห็นเป็นไรเลย"
"ที่แกสุขภาพไม่แข็งแรงก็หยุดบ่อยอยู่แล้วนะ"
"ก็บอกอยู่นี่ไง ว่าแกอยู่แค่ป.1 ไม่ได้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันไม่มีอะไรยาก จนทำให้เรียนตามเพื่อนไม่ทันหรอก"
ธัญรดาหน้าเสีย แต้วรีบเข้าไปประกบญาดาทันที รีบจูงออกไป พีศทรรตเพิ่งได้สติว่า กำลังทะเลาะกันต่อหน้าลูก
"คุณเป็นอะไรของคุณหา ไปอารมณ์เสียมาจากไหน แล้วมาเสียงดังใส่ฉัน ใส่ลูก หรือไม่พอใจที่ฉันพาลูกมาขวางเวลาจู๋จี๋ของคุณกับแม่นั่น"
"ผมไม่อยากทะเลาะแล้วนะ หยุดเถอะ"
เมอร์ดี้เดินเข้ามา ธัญรดาชะงัก เมอร์ดี้ยกมือไหว้ธัญรดา
"ไม่คิดว่า... เมียเก่าของบอสก็ตามมาด้วย"
ธัญรดาไม่พอใจ เมอร์ดี้ควงแขนพีศทรรต
"บอสช่วยไปดูแลเมอร์ดี้หน่อยได้มั้ยคะ ว่าเสื้อผ้าหน้าผมโอเคหรือเปล่า"
"ไปสิ"
ธัญรดารู้สึกได้ถึงความแรงแรดของเมอร์ดี้ที่ส่งรังสีมา
"ช่วยบอกแต้วด้วย ให้พาลูกมาหาผม คุณจะได้ไปคุยงานของคุณสะดวกๆ....ถ้ามาคุยงานจริงๆ"
ธัญรดาอึ้ง เมอร์ดี้ยิ้มยั่วธัญรดา ก่อนจะควงแขนพาพีศทรรตไป
"สันดานเจ้าชู้มันเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ...ดี! จะเล่นให้กระเจิงทั้งนังน้ำผึ้ง ทั้งนังเมอร์ดี้นี่เลย"

มุมหนึ่งรีสอร์ต ภัทรวลัยนั่งหมดแรงอยู่ ณัฎฐาลินีคอยอังยาดมให้
"ไหวมั้ยแก"
"ไหว"
"ไหวแน่นะ อ๊วกจนไม่มีอะไรเหลือแล้วเนี่ย อีกทีก็คงเป็นไส้ติ่งหลุดออกมาแล้วล่ะ หรือไม่ก็กระเพาะ หรือไม่ก็ลำไส้ใหญ่"
"อย่าพูด เห็นภาพ เดี๋ยวอ๊วก"
"ฉันว่า คงไม่ใช่เมาเรือแล้วมั้ง"
"อย่าพูด ปากเหม็น"
"บ้า! ฉันมั่นใจว่าปากฉันหอม อะไรของแก บ่นเหม็นทุกอย่างมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ อยากรู้จริงๆ ว่าถ้าแกเห็นหน้าผัวแล้วจะเหม็นหน้าเค้าด้วยหรือเปล่า"
"อย่าพูด...เหม็นชัวร์ ถึงขั้นเกลียด ไม่อยากเจอหน้าด้วยซ้ำ" ภัทรวลัยร้องไห้บอก " คนอะไร ใจดำ เมียหายไปตั้งหลายวัน ไม่คิดตามมาง้อ อย่าให้เจอนะ จะอ๊วกใส่หน้าเลยคอยดู"
เธอหันมาอีกทีเพื่อนหายไปแล้ว
"ลินี แกหายไปไหนอ่ะ นี่เพื่อนไม่สบายอยู่นะ ทำไมไม่ดูแลกัน นังลินี"
เป้เข้ามานั่งข้างๆภัทรวลัย
"เพราะตอนนี้เป็นหน้าที่ของสามีที่ต้องดูแลทนไงคะ"
วลัยอึ้ง ตกใจ ไม่คิดว่าเป้จะมา
"พี่เป้"
"จะอ๊วกใส่หน้ากันจริงๆเหรอ"
"อ๊วก"
ภัทรวลัยโก่งคออ๊วกใส่ตัวเป้ แต่ไม่มีอะไรออกมา เป้ยิ้มแหย

ลินีเดินยิ้มๆมา เสียงมือถือดัง กุ๊งกิ๊งโทรมา เธอรีบรับสาย
"เป็นไงบ้างกุ๊งกิ๊ง ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมมั้ย อะไรนะ มันมาที่ภูเก็ต ไม่ใช่เชียงใหม่ ไม่มีทาง มันไม่มีทางสงสัยพี่แน่ โอเค แค่นี้ก่อนนะ พี่จะลองเช็คดู"
ณัฎฐาลินีวางสาย วายุบุตรเดินเข้ามา
"เช็คอะไรครับ"
เธอตกใจ
"คุณวายุบุตร"
วายุบุตรยิ้มให้ เขาในชุดนักท่องเที่ยว ชิลมาก เธอทั้งตกใจและแปลกใจ

น้ำฟ้าจะวิ่งลงเรือสปีดโบ้ต กฤษฎาวิ่งตามมา ฉุดน้ำฟ้าเอาไว้บนสะพาน
"เดี๋ยวก่อนฟ้า อย่าเพิ่งไป อย่าเพิ่งขับเรือไปตอนนี้"
เมธาวลัยวิ่งตามมา หยุดดูห่างๆอย่างไม่พอใจ
"แล้วจะให้ไปตอนไหน ช้าเร็ว เราก็ต้องออกไปจากชีวิตของกฤษ เพราะกฤษเลือกผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่เรา"
"มันไม่ใช่ประเด็น ไม่เกี่ยว"
"เกี่ยว! ปล่อย"
"ไม่ปล่อย"
น้ำฟ้าเหลือบไปเห็นเมธาวลัยยืนมองมาอยู่ เธอเลยรีบสะบัดมืออกจากกฤษฎา แล้วทำเป็นเหยียบพลาด ตกน้ำลงไปทันที กฤษฎาและ เมธาวลัยตกใจ
"ฟ้า!"
กฤษฎารีบพุ่งลงไปช่วยน้ำฟ้าทันที เธอรีบวิ่งไปดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ เห็นกฤษฎาดำหายลงไปในน้ำ
"ไม่มีทาง...น้ำฟ้า ไม่มีทางจะว่ายน้ำไม่เป็น ลูกทะเล ต้องว่ายน้ำเป็นสิ ใช่ มารยา มันคือมารยา!"

เธอรอลุ้นอยู่บนสะพานด้วยความโกรธสุดขีด
 
อ่านต่อตอนที่ 22
กำลังโหลดความคิดเห็น