ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 19
น้ำผึ้งยังคงช็อกค้างอยู่
"ยังจะยืนอยู่ทำไม รีบตามเค้าไปสิ" เมธาวลัยบอก
"เค้า เค้า ขอเลิก ฉัน ฉัน ทำไงดีอ่ะ"
เพื่อนทั้งสามโพล่งบอก"ตามไปง้อ"
ปินัทธารีบวิ่งออกไปทันที เมอร์ดี้มองเหตุการณ์อยู่ เก็บมือถือ สะใจ มองตามน้ำผึ้ง ด้วยสายตาแก้แค้นอยากเอาคืน แล้วเดินตามไป
ตมิสาได้สติ รีบคว้ากระเป๋า รีบสิ่งกลับออกไปทันทีเหมือนกัน ทั้งแค้น ทั้งสะใจ
เพื่อนทั้งสามมองหน้ากัน
"เอาไงเรา!”
ภัทรวลัยถาม “ตามมั้ย"
"ปล่อยให้เค้าคุยกันสองคนเถอะ เราคนนอก...เข้าไปยุ่งเดี๋ยวจะไม่จบ" ณัฎฐาลินีว่า
เพื่อนอีกสองคนบอก"ก็จริง...”
พูดแล้ว ณัฎฐาลินีก็ลังเลซะเอง
"แต่ว่า"
เมธาวลัย และภัทรวลัยตัดสินใจ
"ตามเหอะ"
แล้วทั้งสามสาวก็รีบวิ่งออกไป วายุบุตร กฤษฎามองหน้ากัน เอาไงดี ก็ต้องตามสิ... ดรณ์ ชาโน เจ๊ฟู อิ๋วหันมามองหน้ากัน
"แล้วทางเราอ่ะ" เจ๊ฟูถาม
"จะอยู่ทำเพื่อคะ" อิ๋วบอก
"ก็ไอ้ชานม"
เจ๊ฟูจะชี้ชาโน แต่...เขาเดินลิ่วกลับไปไกลแล้ว
"ชาโนกลับแล้วครับ" ดรณ์บอก
"อิ๋ว เรียกคิดเงิน พรุ่งนี้ค่อยไปบีบคอมันต่อ"
"ผมยังไม่กลับนะ เจอกันครับ"
เจ๊ฟู อิ๋วอึ้ง แต่ก็ปล่อยดรณ์ไป เพราะรู้ดีว่ากำลังเศร้า ดรณ์นั่งเซ็ง หน้าเศร้าลงที่โต๊ะหนึ่ง
พีศทรรตขับรถออกจากที่จอด ปินัทธาวิ่งตามมา พยายามเรียก
"คุณพีศ เดี๋ยวก่อน"
เขาไม่คิดจะหยุด ขับรถผ่านเธอไป
"คุณพีศ อย่าเพิ่งไป"
เธอยังวิ่งไล่ตามรถของเขา
"ไอ้คุณพีศ กลับมาพูดให้รู้เรื่องก่อน ฉันยังไม่เคลียร์ ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอม! ไอ้คุณพีศ"
น้ำผึ้งวิ่งไม่ทัน รถไปไกลแล้ว เธอเหนื่อยหอบ ทรุด ร้องไห้ออกมา ทั้งเสียใจและอัดอั้นใจ
"ฉันผิดเหรอ...ฉันปกป้องตัวเอง ฉันผิดเหรอ”
เมอร์ดี้ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธออึ้ง เงยหน้ามอง เห็นนักแสดงรุ่นน้องยืนยิ้มอย่างเสแสร้งอยู่
"ผ้าเช็ดหน้า...ซับน้ำตาค่ะคุณแม่"
เธอมองเมอร์ดี้อย่างไม่พอใจ ปัดมือ และผ้าเช็ดหน้าหล่นบนพื้น เมอร์ดี้มองด้วยความไม่พอใจ
"อย่ามายุ่งกับฉัน"
เธอลุกขึ้นจะเดินกลับ
"นิสัยแบบนี้…สมควรแล้วล่ะที่ถูกทิ้ง"
เธอกำลังของขึ้น ยั้งอารมณ์ไม่อยู่ เงื้อมือจะตบเมอร์ดี้
"นังเด็กเมื่อวานซืน"
เพื่อนทั้งสามเข้ามาพอดี
“น้ำผึ้ง อย่า"
เธอชะงัก ในขณะที่เมอร์ดี้เชิดหน้า ไม่หลบ ทุกคนวิ่งเข้ามา
"เอาสิ ตบเลย น้ำผึ้ง ปินัทธา ต้องอาละวาด ต้องเหวี่ยง ต้องตบ เวลาที่ไม่ได้อย่างใจ มีคนพูดจาไม่เข้าหู หรือทำให้โกรธไม่ใช่เหรอ"
เธออึ้ง... เมธาวลัยพูดกับเมอร์ดี้
"พอได้แล้ว ผีเจาะปากมาพูดหรือไง หา"
"ถ้าไม่พูด แล้วผู้หญิงคนนี้จะรู้ตัวมั้ย ว่าทำตัวน่ากลัว น่าขยะแขยงขนาดไหน สมควรแล้วที่จะถูกบอสบอกเลิก!” เมอร์ดี้ย้ำแทงใจดำ
"ถ้าไม่หยุด น้ำผึ้งไม่ตบ ฉันจะตบแทน" ภัทรวลัยบอก
"ก็เอาสิ ชาวโลกจะได้เห็น ว่าพวกคุณรังแกเด็กที่พูดความจริง ปกป้องกันเข้าไป อวยกันอยู่ได้ ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมพวกคุณถึงได้ยังอยู่บนคาน ไม่มีใครเอา"
ทุกคนทั้งหญิง ชายต่างอึ้งกันไปทั้งหมด
ปินัทธาเดินเข้าไปหาเมอร์ดี้ที่ประจันหน้าอย่างไม่หวั่นไหว
"เกลียดฉันมากใช่มั้ย"
"ใช่!”
"ฉันไปทำอะไรให้เธอ นอกจากที่ฉันเคยด่าเธอ ที่เธอมาสาย ไม่มีวินัย หรือการที่ฉันไม่เก็บความรู้สึก คอมเม้นต์ทุกอย่างที่เด็กใหม่อย่างเธอกำลังเข้าใจผิด ว่าการโหนกระแสจะทำให้เธอโด่งดัง
และเป็นตัวจริง แต่ไม่มีฝีมือ ถ้าเพราะปากของฉันทำให้เธอโกรธมากขนาดนี้ ฉันไม่สน! และถ้าเธอคิดว่าด่าฉันแล้ว ฉันจะมีสติและ ไม่ทำอะไรเธอล่ะก็ เธอคิดผิด"
ปินัทธาพูดจบตบเปรี้ยงไปที่หน้าของเมอร์ดี้เลย ทุกคนตกใจ
"ฉันจะถูกทิ้งเพราะด้วยสันดานเสียหรือความปากหมาของฉัน มันก็ไม่เกี่ยวกับแก เพราะแกมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉัน อย่ามาคอมเม้นต์"
ปินัทธาเดินสะบัดออกไปทันที ทิ้งทุกคนที่ยืนอึ้งเหวอ
ณัฎฐาลินีเดินไปหาเมอร์ดี้
"ที่น้องพูด มันไม่ผิด แต่ผิด ที่พูดกับมันที่กำลังเหมือนช้างตกมัน กลับไปเถอะ ถ้าเป็นไปได้ ต่างคนต่างอยู่ อย่าไปยุ่งกับมันอีก"
เมอร์ดี้ตาแข็งกร้าว ไม่ได้ยอมอ่อนลงให้ ทุกคนจะกลับ แต่ก็ชะงักหันมาบอกเมอร์ดี้
"อ้อ...ขอแก้ข่าวนะ ตอนนี้พี่กำลังมีผู้ชายตามจีบ คือคนนี้”
ณัฎฐาลินีชี้ที่วายุบุตร
"พี่ก็มีคนที่กำลังศึกษาดูใจกันอยู่ คือคนนี้"
เมธาวลัยชี้ที่กฤษฎา
"ส่วนฉัน มีผัวแล้วย่ะ"
ณัฎฐาลินีย้ำ
“คานน่ะ พี่จะลงมาเมื่อไหร่ก็ได้จ๊ะ หรือบางทีก็อาจจะอยู่บนนั้นไปตลอดชีวิต"
"อยู่ที่พวกพี่เลือก ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเอา" เมธาวลัยบอก
"จบมะ" ภัทรวลัยถาม
สามสาวจ้องหน้าเมอร์ดี้อย่างน่ากลัวมาก จนอีกฝ่ายถึงกับผงะไป
"กลับไปซะ" ทุกคนบอกเมอร์ดี้
เมอร์ดี้เดินไป ด้วยความเจ็บใจ ทุกคนต่างถอนใจอย่างโล่งอก
เมอร์ดี้เดินมาอย่างเจ็บแค้น
"ฉันไม่ได้เกลียดเธอเพราะเรื่องแค่นั้นหรอก น้ำผึ้ง"
เธอคิดเรื่องเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เก็บเป็นความเจ็บแค้น
เมื่อ6 ปีที่แล้ว ตอนนั้น เมอร์ดี้ยังเรียนม.3 เป็นเด็กเรียน เรียบร้อย แตกต่างจากตอนนี้ลิบลับ รอคอยจะมอบของขวัญและขอลายเซ็นจากดาราสาว -ปินัทธา อยู่ที่มุมหนึ่งร่วมกับแฟนคลับคนอื่นๆ
ดาราสาวเดินมากับเจ้าหน้าที่ถองถ่ายด้วยความรีบเร่ง พลางคุยมือถือ
"ก็รีบไปอยู่นี่ไง ไอ้คุณพีศ! ยังไงก็ทัน ฉันไม่เคยเลต แต่ถ้าไม่หยุดด่า ฉันเลตแน่ เพราะจะยืนด่าคุณตอบอยู่ที่กองนี่แหละ ไม่ขึ้นรถ!”
เธอวางสาย แล้วรีบเดิน เมอร์ดี้และกลุ่มแฟนคลับเข้าไปหา เธอถอนใจ ก่อนจะยิ้มรับของและแจกลายเซ็น แต่ไม่ถึงคิวเมอร์ดี้สักที
เธอถามเจ้าหน้าที่กองถ่าย
"กี่โมงแล้ว"
"อีกสิบห้านาทีบ่ายสองค่ะ"
กำลังจะถึงคิวเมอร์ดี้ ที่ยื่นของขวัญและสมุดเพื่อขอลายเซ็นน้ำ
"ของขวัญหนูค่ะพี่น้ำผึ้ง พี่เป็นไอดอลของหนู หนูอยากสวยเก่งเหมือนพี่ หนู...”
เธอเห็นเมอร์ดี้ในชุดนักเรียนมัธยมต้น ก็ไม่พอใจ ตัดบท)
"โรงเรียนเลิกแล้วเหรอ มาอยู่ที่นี่ได้ไง หา"
"คือหนู"
เธอพูดขัดใจ
“เงินพ่อแม่ให้ไว้ใช้ไม่ใช่เหรอ ทำงานหาเงินให้ได้ก่อนเถอะ ค่อยทำแบบนี้...ถอยไป"
เธอเดินออกไป ชนเมอร์ดี้จนของขวัญหล่นตกพื้น น้ำผึ้งก้าวไปเหยียบอย่างไม่ตั้งใจ
"พี่เหยียบของขวัญหนู!”
เธอชะงัก ก้มลงมอง กล่องของขวัญแบนคาเท้า เธอยกเท้าออก
"ก็ฉันรีบ"
แล้วเธอก็เดินออกไป ไม่สนใจเมอร์ดี้อีกต่อไป เมอร์ดี้ค่อยๆเก็บกล่องของขวัญขึ้นมา น้ำตาซึม โกรธ มองตามดาราสาวที่เดินไปถูกแฟนคลับรุมถ่ายรูปไปด้วยความเจ็บใจ
เมอร์ดี้ปาดน้ำตา
"เธอมีตัวตนอยู่ในวงการได้เพราะแฟนๆ แต่เมื่อเธอขยี้หัวใจแฟนของเธอ ฉันนี่แหละจะขยี้เธอกลับคืนให้จมดิน! น้ำผึ้ง"
เธอจับแก้มตัวเองที่เพิ่งถูกตบและเป็นรอยช้ำแดง ก่อนยิ้มอย่างสะใจ...หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายหน้าตัวเองไว้เพื่อเตือนความจำ
ณัฎฐาลินีเดินมากับภัทรวลัย วายุบุตรตามมา เธอชะงัก หันไปบอก
"ไม่ต้องไปส่งหรอก จากนี่ไปที่รถของวลัย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉันแน่"
"ผมไม่ได้กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ที่เดินมาส่งเพราะอยากจะเห็นหน้าคุณนานๆ"
"ขอตัวก่อนนะคะ" ภัทรวลัยบอก
"จะไปไหน"
"ไปรอที่รถ จะให้เวลาเพื่อนกับแฟนสวีตกัน"
"แค่เพื่อน อย่าเรียกแฟน เดินไปด้วยกันนั่นแหละ"
"แต่ผมคิดว่าเป็นแฟนนะ" วายุบุตรบอก
"เรื่องของคุณสิ"
"โหย ลินี...แกอย่าเล่นตัวได้ป่ะ โค้งสุดท้ายแล้ว ถ้าเป็นฉัน ไม่เรียกแฟนหรอก เรียกผัวเลยด้วยซ้ำ"
"เงียบเลย เดี๋ยวก็ไล่ให้ไปนอนที่อื่นเลย บ้านฉันจะนอนมั้ย หรือจะให้โทร.บอกพี่เป้ ให้มารับตัวแกกลับ"
"เออๆๆๆ เงียบก็ได้"
"ไปกันเถอะ"
วายุบุตรรีบทัก
"คุณกลัวอะไรลินี"
ณัฎฐาลินีชะงัก
"จนถึงตอนนี้ ผมแน่ใจตัวเองนะ ว่าคุณชอบผม แต่คุณกลับปฏิเสธผม คุณกลัวที่จะคบกับผม ทำไม"
"สั้นๆนะ...ก็ไม่พร้อม และถ้าจะถามว่าเมื่อไหร่ถึงจะพร้อม...ไม่รู้ จบนะ"
เขาอึ้ง
"ไปเถอะ วลัย"
เธอรีบเดินออกไป ภัทรวลัยรอจนเพื่อนเดินไปแล้ว ก็หันมาพูดกับวายุบุตร
"ทุกอย่างมีเหตุผลนะคะ ไว้สะดวกๆ ฉันจะบอกคุณเองว่า ทำไมมันถึงเล่นตัวอย่างนี้"
ภัทรีวลัยรีบตามเพื่อนไป วายุบุตรยืนเครียด และอยากรู้ว่าทำไม
เมธาวลัยเดินเหนื่อยกับกฤษฎามายังลานจอดรถหน้าผับ
"กลับไปพักผ่อนเถอะครับ วันนี้...คุณเหนื่อยมาเยอะแล้ว"
"อืม...แล้วจะเอาไงต่อดี"
"เรื่องอะไรครับ"
"เรื่องที่คุณย่าฉันขอพบพ่อแม่เธอ ซึ่ง...มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว"
"เป็นไปได้"
"ยังไง ฉันมองไม่เห็นทางเลย"
"ถ้าเราสองคนรักกันจริงๆ"
เธออึ้ง
"แต่ก็นั่นแหละ ที่คุณพูดก็ถูก มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว"
"ใช่...มันจะเป็นไปได้ยังไง เราสองคนจะรักกันจริงๆได้ยังไง สาวแก่กับเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี...ใช่มั้ย"
"อายุไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เรารักกันไม่ได้ แต่เพราะหัวใจเราสองคนไม่ตรงกันต่างหาก มันถึงเป็นไปไม่ได้"
ทั้งคู่ต่างเงียบกันไป
"แล้วฉันจะทำยังไงกันดี จะให้ไปหลอกพ่อกับแม่เธออีก ก็คงไม่ได้”
เมธาวลัยคิดแล้วก็เขิน อาย ไม่กล้ามองหน้ากฤษฎา
กฤษฎามองไปทางหนึ่งแล้วชะงัก
"นอกจาก...เธอกับฉันเราจะมาลองคบกันจริงๆ...ว่ามั้ย"
เงียบ ไม่มีเสียงตอบจากกฤษฎาจนเธอคิดว่าเขาตกใจ
"เงียบไปเลย ตกใจเหรอ...ฉันเองก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าพูด เธอจะปฏิเสธก็ได้นะ ฉันเข้าใจ ผู้ชายหน้าตาดี มีโปรไฟล์ และอายุยังน้อยอย่างเธอ จะมาเสียเวลาคบป้าอย่างฉันไปทำไม แต่ขอร้องนะ อย่าคบฉันเพราะสงสารหรือสมเพชฉัน ว่าไง..คิดยังไง..หือ"
เธอหันไป ไม่มีเขายืนอยู่ตรงนั้นซะแล้ว
"อ้าว"
เธอหันไปรอบๆ จนเห็นกฤษฎายืนคุยกับน้ำฟ้าที่มุมหนึ่งใกล้ๆ ท่าทางซีเรียสมาก เธอเจ็บใจ
"มันชื่อน้ำฟ้าหรือชื่อมารคอหอยกันแน่"
อ่านต่อหน้า 2
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 19 (ต่อ)
กฤษฎายืนคุยอยู่กับน้ำฟ้า เธอเข้ามา
"มาแล้วเหรอ"
น้ำฟ้ายิ้มให้ ทักทาย
"สวัสดีค่ะคุณเมเปิ้ล"
เธอหมั่นไส้ รู้ทันว่าเสแสร้ง จึงรับไหว้แบบตึงๆ
"อืม"
"ฉันจำเป็นต้องใช้รถตอนนี้ ต้องขออนุญาตนะคะที่ทำให้ไม่สะดวก"
"ฉันกลับแท็กซี่ได้"
"ผมเรียกให้ครับ"
"อ้าว แล้วไม่ไปส่งฉันเหรอ"
"กฤษต้องรีบกลับไปเคลียร์เอกสารติดต่องานพรุ่งนี้เช้าค่ะ ที่กฤษมากรุงเทพด่วนก็เพราะเรื่องงานนี่แหละค่ะ"
เธออึ้ง และผิดหวัง
"เหมือนคุณเมเปิ้ลดูผิดหวังๆนะคะ ทำไมเหรอคะ"
"ผิดหวังเรื่องอะไร มีอะไรให้ต้องผิดหวัง"
"นั่นน่ะสิคะ ด้วยวัยขนาดนี้ น่าจะเข้าใจโลกดีอยู่ คงไม่ผิดหวังกับเรื่องอะไรง่ายๆ"
เธอปี๊ด ของกำลังจะขึ้น น้ำฟ้ารีบตัดบท
"ดึกแล้ว เราง่วงแล้วล่ะกฤษ กลับกันเถอะ เราให้แม่บ้านเตรียมห้องให้กฤษเรียบร้อยแล้วนะ"
"เดี๋ยว! ไปนอนบ้านน้ำฟ้าเหรอ บ้านตัวเองที่นี่ไม่มีหรือไง
"ผมบอกขายคอนโดไปแล้ว เพราะคิดว่า คงไม่กลับมาที่นี่อีก"
"โรงแรมไง"
"จะให้เพื่อนรักไปนอนโรงแรมได้ไงคะ ในเมื่อบ้านเราออกจากกว้างขวาง"
เธอเห็นแววตาเยาะเย้ยของน้ำฟ้าแล้วยิ่งแค้น
"เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่ให้ครับ"
"ไม่ต้อง! ฉันเรียกเองได้"
"แล้วเรื่องที่คุณย่า...” กฤษฎาว่า
เธอตัดบท
"ตอนนี้ไม่พร้อมคุย ขอตัวนะ"
เธอรีบออกไปทันที น้ำฟ้ามองตามอย่างสะใจ กฤษฎามองตามเธออย่างเห็นใจ....
"เรื่องอะไรเหรอกฤษ.”
"ไม่มีอะไร ไปเถอะ"
กฤษฎารีบเดินไป น้ำฟ้ามองตามอย่างอยากรู้
ปินัทธาเข้านั่งซึม หมดอาลัยตายอยาก ในคอนโดฯ นึกถึงคำพูดของเมอร์ดี้ และพีศทรรตที่บอกเลิก เธอร้องไห้ เสียใจ เฝ้าถามตัวเองว่า
"คุณอยากเลิกกับฉันจริงๆเหรอ"
เธอนั่งมองโทรศัพท์มือถือ
"จะไม่รับสายฉันจริงๆเหรอ"
เช่นเดียวกับเมธาวลัยที่นั่งมองมือถือตัวเอง จิ้มเบอร์กฤษฎาค้างไว้ที่หน้าจอแล้ว เหลือแค่จะโทรออกหรือไม่โทรเท่านั้น เธอลังเล และวางมือถือลง นั่งมองโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
"ฉันอยากโทรหาเธอจัง แต่...โอ๊ย"
เธอสับสน อยากทำตามหัวใจเรียกร้อง แต่ก็อายและกลัวเสียฟอร์ม
"ความรักของเรา มันจะเป็นไปไม่ได้จริงๆเหรอ.”
มีเพียงณัฎฐาลินีเท่านั้น ที่แอบคุยมือถืออยู่ที่มุมหนึ่ง เพราะไม่อยากให้เพื่อนรู้
"ค่ะพี่เป้...มันจะมาอยู่กับหนูสักพัก หนูเลยโทร.บอกพี่ ว่าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกล่อมมันให้กลับบ้านเอง พี่ยังไม่ต้องมานะ ใจเย็นๆ รอฟังข่าว...สวัสดีค่ะ"
เธอวางสาย โล่งอก แต่ก็กลับมานั่งเซ็งกับเรื่องของตัวเอง ที่วายุถามเธอว่า กลัวอะไร !?
เธอถอนใจ คิดถึงเขา
"ฉันชอบคุณนะ แต่ฉันไม่พร้อมจริงๆ"
ทั้งสามสาว อยู่ในห้วงอารมณ์รักที่แตกต่างกันไป แต่เป็นความรักที่ยังไม่ลงตัว รอการฝ่าฟันกับบททดสอบต่อไป
กรุงเทพ เช้าวันใหม่ พีศทรรตเดินมาจะเข้าออฟฟิศ ปินัทธาเดินซึมเข้ามา พอเห็นเขาเดินนำอยู่ข้างหน้า ก็ดีใจ รีบวิ่งเข้าไปหา
"คุณพีศ"
เขาชะงัก แต่ไม่หันกลับไป ยังคงออกเดินต่อ เธอไม่ยอมแพ้ วิ่ง ตะโกนลั่น
"ฉันขอโทษ!”
เขาชะงัก อึ้ง ผู้คนหันมองกันพรึ่บ ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตา แต่เขาก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะสนใจ ยังคงเดินต่อไป
มุมหนึ่งในออฟฟิศ เขาหน้าบึ้งตึง ไม่พูดอะไรยังคงเดินนำ เธอเร่งฝีเท้าตามง้อ โตโต้ และเพทายนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ มองจอคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ทั้งสองคนไม่เห็นเจ้านายกับเลขา
"ได้ยินมั้ยว่าฉันขอโทษ ถ้าฉันทำอะไรไม่ดี ทำให้คุณไม่พอใจ ฉันขอโทษ เราคุยกันดีๆก่อนได้มั้ย เดินไปพูดไปแบบนี้ ฉันเหนื่อย"
พีศทรรตหยุดเดิน มองเธอ
"ผมเองก็เหนื่อย เหนื่อยมาก และไม่อยากเหนื่อยอีกแล้ว เราเลิกกันเถอะ"
"ฉันไม่เลิก คุณไม่มีเหตุผล"
จู่ๆโตโต้ก็ลุกพรึ่บอย่างตกใจ
"ว้าย!!! คลิปน้ำผึ้งตบยัยชะนีกลางผับหรู"
ทั้งเขาและเธอต่างตกใจ หันขวับมองโตโต้ เพทายลุกไปดูคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะโตโต้ ทั้งคู่ลุ้นตามภาพ เหมือนเชียร์มวย
"เอิ้ว... เฮ้ย! โอ๊ย หา เอิ้ว... อูย...แอ๊ส!”
พีศทรรตหน้าเครียด ปินัทธาหน้าเสีย
"ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กไปเรียบร้อยแล้ว เห็นมั้ย"
"อืม”
"ผมควรเหนื่อยกับความไม่คิดหน้าคิดหลัง เอาแต่ใจ เอาแต่อารมณ์ของคุณมั้ย"
"ฉันเองก็เคยเหนื่อยที่จะเอาชนะใจคุณ แต่ฉันไม่เคยถอดใจ เพราะฉันชอบคุณมาก ชอบคุณจริงๆ แต่คุณไม่เหมือนฉัน แสดงว่า คุณไม่ได้ชอบฉันมากเท่าที่ฉันชอบคุณ หรือไม่ คุณก็ไม่คิดจะจริงจังกับฉัน คุณถึงถอดใจได้ง่ายขนาดนี้"
พีศทรรตอึ้ง
"ตอบฉันมาตอนนี้เลยได้มั้ย...คุณจริงจังกับฉันมากแค่ไหน ถ้าไม่ฉันจะได้เลิกคิดที่จะง้อคุณ เพราะฉันไม่อยากเสียเวลาต่อสู้เพื่อความล้มเหลว"
"ผมเองก็ยังไม่รู้...ว่าผมจริงจังกับคุณมากแค่ไหน อาจจะหรืออาจจะไม่"
"ใจร้ายมาก"
เธอมองเขาอย่างผิดหวัง เขาเจ็บปวดกับสายตานั้น ขณะที่เธอจะเดินออกไปเมอร์ดี้ก็เดินเข้ามา
เธอมองเมอร์ดี้ด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะสะบัดเดินออกไป แล้วน้ำผึ้งก็ต้องชะงัก เพราะมีตำรวจสองคนยืนอยู่
"ตำรวจ"
พีศทรรต ตกใจ โตโต้กับเพทายเงยหน้ามาเห็นก็ตกใจ รีบเข้ามาสมทบ
"มีอะไรเหรอครับ"
ตำรวจ1 บอก
"คุณเมอร์ดี้แจ้งความเอาไว้ ว่าถูกคุณน้ำผึ้ง ปินัทธาทำร้ายร่างกาย โดยได้ถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐานจึงมาเชิญตัวคุณน้ำผึ้งไปสอบปากคำครับ"
เขามองหน้าเธอด้วยความตกใจ
"จริงเหรอน้ำผึ้ง"
เธอไม่ตอบหันมองหน้าเมอร์ดี้ที่ตีหน้าเศร้าอย่างไม่พอใจ
"ถ้าเมอร์ดี้ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง ต่อไปคุณแม่ก็คงได้ใจไล่ตบคนไปทั่ว เมอร์ดี้ไม่อยากให้ปลาเน่าตัวเดียวอย่างคุณแม่ ทำให้คนบันเทิงเหม็นฉาวโฉ่ไปทั้งวงการ"
เธอโกรธเมอร์ดี้มาก แต่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้าน โตโต้เและเพทายเห็นใจปินัทธามาก
"เล่นแรงไปหรือเปล่าเมอร์ดี้ ทำไมไม่คุยกันดีๆทำไมต้องให้ถึงตำรวจ เธอรู้ใช่มั้ยว่าเรื่องนี้นักข่าวต้องเล่น แล้วป้าน้ำผึ้งก็จะ" โตโต้ว่า
"ถูกเหยียบจนมิดจนดิน ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอี"
เมอร์ดี้ยิ้มเย้ย พีศทรรตเห็นใจเธอ พยายามจะช่วย
"น้ำผึ้ง เดี๋ยวผมจะ...”
เธอตัดบ
"ไม่ต้องทำอะไรเพื่อฉัน จะเกิดอะไรก็ต้องเกิด ฉันขอรับผิดชอบสิ่งที่ฉันทำเอง"
เธฮเดินเชิดหน้าอย่างทระนง ทุกคนตามไป เมอร์ดี้ตามไปทีหลังอย่างสะใจ
มุมหนึ่งในบ้านณัฎฐาลินี ปินัทธานั่งซึมอยู่ เพื่อนคนอื่นๆนั่งอยู่ด้วย มองเธออย่างเห็นใจ คุยกันสามคน
"ถึงยัยเมอร์ดี้นั่นจะยอมความไม่เอาเรื่อง แต่มันก็เป็นข่าวไปแล้ว ออกทุกช่อง ทุกสำนัก บวกกับเรื่องคลิปที่มันไล่ตบยัยตมิสาอีก ต่อไปนี้...มันคงเกิดใหม่ยากแล้ว" ณัฎฐาลินีว่า
"ยัยเมอร์ดี้นั่นมันร้ายกว่าหน้าตาจริงๆ เห็นใสๆ แบ๊วๆ ที่ไหนได้" ภัทรวลัยว่า
"รู้หน้าไม่รู้ใจ มีอีกหลายคนรอบตัวเราที่เป็นอย่างนี้" เมธาวลัยบอก
"ช่างมันเถอะ ฉันคง...ต้องยอมรับชะตากรรมว่ามันจบแล้ว ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก ต่อจากนี้ฉันคงต้องวางแผนชีวิตใหม่ทั้งหมด"
เพื่อนทุกคนต่างอึ้งไปตามกัน
"แต่ฉันจะเดินไปทางไหนดีล่ะ อายุขนาดนี้แล้ว จะไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหน กับใคร...ฉันคิดไม่ออก"
เธอร้องไห้ออกมาอย่างคับแค้นใจ เพื่อนๆต่างถอนใจ สงสารปินัทธามาก เข้าไปช่วยปลอบใจเพื่อนที่กำลังเสียขวัญและจนตรอก
ภายในห้องทำงาน ตมิสายกมือไหว้พีศทรรต โตโต้ เพทายอยู่ด้วย
"ขอบคุณบอสมากนะคะที่เมตตาให้ตมิสากลับมาทำงานเป็นเลขาบอสอีกครั้ง เพราะเป็นงานเดียวที่หนูถนัดและทำได้ดี"
"ด้วยเงื่อนไขสองข้อ"
"คะ"
"บอกความจริงมา เมอร์ดี้พูดจริงหรือเปล่า ที่คุณหาทางจะกำจัดน้ำผึ้งให้ออกจากวงการ"
ตมิสาจ๋อย ยอมรับ
"ค่ะ...หนูพูดจริง หนูโกรธอีป้า เอ้ย..ป้าน้ำผึ้งมาก หนูยอมรับ หนูรู้ว่าเมอร์ดี้ก็ไม่ชอบอีป้า เอ้ย ป้าน้ำผึ้งเหมือนกัน เลยจะชวนให้ร่วมมือกัน แต่ยัยนั่นปฏิเสธ แล้วก็ขู่หนูว่ามันจะฟ้องบอส ถ้าหนูไม่ทำตัวดีกับมัน แต่หนูไม่คิดว่ามันจะตั้งใจไปฟ้องบอสกับป้า จริงๆ"
โตโต้ เพทายมองหน้ากัน
"บอสคะ ขอถามอะไรตมิสาสักข้อนะคะ" โตโต้ว่า
"เอาสิ"
"หล่อนแน่ใจนะ ว่าหล่อนไม่ได้ร่วมมือกับเมอร์ดี้สร้างสถานการณ์เหล่านี้ ทำให้ป้าน้ำผึ้ง ปรี๊ดแตกจนไปไล่ตบหล่อนซึ่งเอื้อเหลือเกินต่อการถ่ายคลิป ออกสื่อ อันเป็นการเหยียบป้าน้ำผึ้งให้จมดินมิดพสุธา"
"หล่อนเห็นฉัน ฉลาด สมองมีรอยหยักมากพอที่จะคิดแผนการซับซ้อนขนาดนั้นเหรอ หา"
"ไม่!”
"แต่คุณสวย" เพทายบอก
"อันนั้นยอมรับ"
"ชัวร์ค่ะบอส ว่านางไม่รู้เรื่อง เพราะนางแค่สวยแต่ไม่ฉลาดและ นางก็ยอมรับ"
"เอาเถอะๆ เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้มีใครวางแผนอะไรทั้งนั้นก็ได้ มันเกิดเพราะมีเหตุให้เกิด คุณคิดมากไปนะโตโต้"
"ก็อาจจะจริงค่ะ"
แต่โตโต้ก็ยังคิด
"แล้วอีกข้อล่ะคะบอส"
"คุณต้องกลับไปขอโทษน้ำผึ้ง และต้องเป็นมิตรกันให้ได้"
ต่างตกใจกันทั้งยวง "ฮ้า!”
อ่านต่อหน้า 3
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 19 (ต่อ)
ปินัทธาหยุดร้องไห้ ผละออกจากอ้อมกอดของเพื่อน
"โอเคแล้วนะ" ณัฎฐาลินีว่า
เธอพยักหน้า แล้วก็ ระเบิดร้องไห้ออกมาอีก
"แง้... ฉันเสียใจ"
ทุกคน "โอยย"
"เบาๆ เดี๋ยวแม่ฉันตกใจ" ณัฎฐาลินีบอก
เธอพยายามจะเบา แต่เบาไม่ได้
"ก็ได้ ... ฉันห้ามตัวเองไม่ได้ แง้! ฉันจะไปทำอะไรกิน ฉันต้องแก่ตายคนเดียว เดียวดาย
ฉันอยากมีผัว มีลูกร้องไห้หน้าศพฉันนอกจากพวกแก แง้!!”
เพื่อนผู้เป็นเจ้าบ้านพุ่งเข้าไปปิดปากเธอ
"รู้แล้ว ใจเย็น เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกันคิดหาทางให้แกเอง เงียบก่อน"
"มาขายเครื่องสำอางของฉันมั้ย ฉันกำลังอยากได้เซลส์" ภัทรวลัยยื่นข้อเสนอ
เพื่อนสองคนบอก “ เออ! ใช่"
เธอหยุดร้อง เอามือเพื่อนออก
"เซลส์"
"เงินเดือนหมื่นห้า ให้คอมมิชชั่นสิบห้าเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย"
"น่าสนใจนะ" ณัฎฐาลินีบอก
"ดูดีมีอนาคต” เมธาวลัยว่า
"แต่ไม่ดีกว่า นังนี่ปากเสีย ลูกค้าฉันหายหมด"
"แง้! เห็นมั้ย เป็นเซลส์ก็ยังเป็นไม่ด้าย"
ณัฎฐาลินีปิดปากน้ำผึ้งอีก
"โอย...มือเหนอะเพราะน้ำลายนังนี่หมดแล้ว"
"คนอย่างมัน เกิดมาเพื่ออยู่หน้ากล้องและท่ามกลางแสงไฟ" เมธาวลัยบอก
เธอที่ถูกปิดปากอยู่ ยกมือทำสัญลักษณ์โอเคให้เพื่อน
"แล้วมันจะไปอยู่ที่จุดๆนั้นอีกได้ยังไง เพิ่งจะทำลายหน้าที่การงานตัวเองไปเนี่ย ใครจะจ้าง"ณัฎฐาลินีว่า
"ฉันจ้างเอง!”
เธอกระชากมือณัฎฐาลินีออกทันที ทั้งหมดตกใจกับการตัดสินใจของเมธาวลัย
"หา"
ตมิสา โตโต้ เพทายยังนั่งอึ้งตกใจกับข้อเสนอของพีศทรรตกันอยู่
"ทำไม ดีไม่ได้เหรอ"
"โอกาสที่แพนด้าหลินฮุ่ยจะติดลูก ยังมีมากกว่าโอกาสที่ให้นางสองคนคืนดีกันนะคะบอส"
"ให้ไปเกิดใหม่ดีกว่าค่ะ" ตมิสาบอก
"งั้นไปเกิดใหม่"
"พูดเล่นค่ะ"
"งั้นหางานใหม่"
"บอสพูดเล่นใช่มั้ยคะ"
"พูดจริง"
ตมิสาอึ้ง
"พูดตามตรงนะ ผมไม่มีทางทิ้งน้ำผึ้ง ยังไงผมก็จะหาทางให้เค้าได้กลับมาอยู่ในวงการนี้อีก ส่วนคุณ ผมเองก็เสียดายถ้าต้องเสียเลขาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาไป"
"ตมิสา บอกบอสไปสิ...ว่าคุณโอเค เราจะได้ยังอยู่ด้วยกัน” เพทายว่า
"จะไม่ยอมตกลงเพราะต้องยังอยู่กับแกนี่แหละ"
เพทายจ๋อย
"ผมให้เวลาคุณคิดก่อนก็ได้นะ ถ้ามันฝืนใจจริงๆ และทำไม่ได้ ผมก็จะยอมรับการตัดสินใจของคุณ"
"ถึงเธอจะนิสัยเสีย แต่ฉันก็ยอมรับนะตมิสาว่าเธอทำงานเริ่ดและเป๊ะก็เลือกเอา...จะให้ความอิจฉาริษยาประสาชะนี มาทำให้หน้าที่การงานพังเหรอ นี่คือคำเตือนจากผู้ชายกลางๆ" โตโต้บอก
"และผู้ชายที่แมนทั้งแท่งครับ" เพทายเสริม
"ว้าว"
"หยุด ไม่ต้องพูดต่อ ไม่งั้นมีต่อย"
ตมิสาอึ้ง ลังเล ครุ่นคิด ในขณะที่พีศทรรต โตโต้และเพทายรอคอยคำตอบ
เมธาวลัยกำลังจะกลับ เดินมากับเพื่อนทุกคน
"แต่แกต้องสัญญากับฉันก่อนว่า แกจะลด ละ เลิกนิสัยเสียๆโดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ของแกให้ได้"
"ถ้าไม่ได้ล่ะ"
"การให้โอกาสของฉันมันก็จะสูญเปล่า"
ณัฎฐาลินีบอก
"น้ำผึ้ง...เมเปิ้ลมันเสี่ยงมากนะที่จะเอาแกไปทำงาน เพราะฉะนั้น หลังจากนี้แกต้องปรับปรุงตัวให้สังคมได้เห็น ว่าแกพร้อมที่จะกลับคืนสู่วงการอีกครั้ง"
"ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลย"
"แกผิดที่ไม่รู้จักสะกดอารมณ์ ทั้งๆที่แกเป็นผู้ใหญ่กว่าคู่กรณี" ภัทรวลัยบอก
"แกไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะทำให้ใครให้ความเคารพ อย่าลืมสิ แกเคยบอกกับฉันว่า พวกเราไม่ได้แก่กะโหลกกะลา เพราะฉะนั้น ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูด ทีหลังก็อย่าพูด"
เธออึ้ง คอตก
"ว่าไง" เมธาวลัยถาม
"ฉันสัญญา...ฉันจะปรับปรุงตัว ฉันจะพิสูจน์ตัวเองว่าฉันยังคู่ควรที่จะยืนในวงการนี้ต่อไป"
เพื่อนทุกคนบอก “ดีมาก"
เธอยิ้มรู้สึกมีกำลังใจที่จะสู้โลกต่อไป
"ขอบใจพวกแกมากนะ...ที่ช่วยฉัน ขอบใจมาก"
"ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่เนอะ"
"เออ แล้วเรื่องผู้ชายของพวกแกล่ะ ไหนบอกว่า...”
เมธาวลัยตัดบท
"โอย เรื่องผู้ชายไว้ทีหลัง ตอนนี้เอาเรื่องปากท้องเพื่อนก่อน"
"ถูก เพราะถ้าไม่มีงาน เราอดตาย แต่ถ้าไม่มีผู้ชายก็แค่ปากแห้งชั่วคราว แต่เราก็จะหาลิปกลอสมาทาเพื่อแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าไม่มีเงิน" ณัฎฐาลินีบอก
"ฉันกินแกลบ! จบมะ"
"จบ! งั้นลุยเลย เมเปิ้ล" ภัทรวลัยบอก
"ลุยเลย!”ทุกคนบอก
เมธาวลัยเดินมาตามทางเดินในออฟฟิศ สั่งงานหยาดทิพย์อย่างกระตือรือร้น
"เรียกประชุมทุกฝ่ายเดี๋ยวนี้ ฉันคิดคอนเซ็ปต์ถ่ายปกฉบับหน้าได้แล้ว"
"ได้ค่ะ บ.ก."
หยาดทิพย์หันเดินไปอีกทางหนึ่งอย่างเร่งรีบ
ภายในในห้องประชุม ที่ด้านหลังของเมธาวลัย เป็นรูปเมธาวลัยกับเมอร์ดี้อยู่คู่กันบนจอโปรเจ็คเตอร์
"ฉันจะให้สองคนนี้ขึ้นปกคู่กัน"
ไทเกอร์ และทุกคนอึ้งๆ
"แต่เรายกเลิกไปแล้ว น้ำผึ้งก็เพิ่งมีข่าวฉาวขึ้นมาอีก เหมือนเอาขยะเน่าๆมาขึ้นปกเลยนะครับ" ไทเกอร์ว่า
"รู้จักคำว่าโหนกระแสมั้ย"
"หรือว่าพี่ต้องการช่วยเพื่อน แต่อ้างว่าโหนกระแส ส่วนตัวไปหรือเปล่าครับ"
ทุกคนร้อง
"อูย"
"ฉันยอมรับ ว่าฉันต้องการช่วยเพื่อนที่กำลังแย่...แต่ถามกลับ พวกเธอไม่ชอบน้ำผึ้งทำงานเหรอ"
ทุกคนบอก "ก็ชอบ"
"แล้วถ้าฉันจะช่วยเพื่อนฉัน ผิดมั้ย"
ทุกคนบอก "ก็ไม่"
"เราทำได้มั้ย"
ทุกคนบอก "ก็ได้"
"แล้วเพื่อนบ.ก. เค้ายอมเหรอคะ ถ้าจะถ่ายแบบคู่น้องเมอร์ดี้ ก็เพิ่งจะตบกัน" อิ๋วถาม
"ไม่รู้ เพราะมันก็ยังไม่รู้"
ทุกคนร้อง "อ้าว"
"แต่ไม่ว่ายังไง มันก็ต้องยอม ถ้ามันไม่อยากอดตาย"
ทุกคนบอก "จริง!"
"แล้วเราจะใช้คอนเซ็ปต์อะไรดีคะบ.ก. คอนเซ็ปต์เดิมหรือเปล่า แบบว่ารังสีการแข่งขันเปรี๊ยะปร๊ะๆระหว่างกันไรเงี้ยค่ะ" เจ๊ฟูถาม
"แล้วทุกคนว่าไง"
ทุกคนตกใจร้อง "หา!"
หยาดทิพย์ย้ำถาม
"บ.ก.ถามความเห็นทุกคนเหรอคะ"
"กรุงเทพหิมะตกป่ะวะเนี่ย" ชาโนบอก
"ไอ้โน!"
ชาโนรีบเอาหนังสือปิดหน้า
"หรือชอบให้ฉันเผด็จการเหมือนเดิม"
"ไม่มีใครชอบผู้หญิงเผด็จการหรอกครับ" ดรณ์บอก
"ส่วนตัวแล้วนะ ไอ้ดรณ์...เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ว่าไง...มีมั้ย"
เมเปิ้ลตั้งใจมองไปที่ไทเกอร์
"มีมั้ย...ไอเดียเจ๋งๆที่จะทำให้ฉันทึ่งและยอมรับว่า...มีของน่ะ"
"มีครับ!" ไทเกอร์บอก
"ว่า...?"
"ซัมเมอร์วอร์...สงครามรักฤดูร้อน ที่มีฉากหลังเป็นทะเลใต้ สตอรี่ก็คือ เมื่อสาวใหญ่กับสาวแรกรุ่นกำลังแย่งผู้ชายคนเดียวกัน"
ทุกคนอึ้ง...เมเปิ้ลยิ่งอึ้ง เพราะโดนใจจังๆ
"ทุกคนว่าไงครับ"
"เริ่ด"
"ตามนี้...ติดต่อประสานงานด่วน แล้วเอาทุกอย่างมาให้ฉันสกรีนในการประชุมคราวหน้า"
ทุกคน "เฮ!"
ไทเกอร์แอบเยส...ดีใจ เมเปิ้ลปรายตามองแอบอมยิ้ม ก่อนจะหันไปมองหน้าดรณ์
"ตอนนี้ แกต้องไปหลังไมค์กับฉัน!"
ภายในห้องทำงาน เธอสั่งดรณ์
"ไปคุยกับพี่สาวฉันใหม่ ว่าแกไม่ได้ขอเลิก"
ดรณ์อึ้ง
"ว่าไง"
"เรื่องหัวใจอย่าบังคับกันเลยครับ"
"หมายความว่าแกจะเลิกกับจิลจริงๆเหรอ ไอ้ดรณ์!"
"ไม่ได้หมายความอย่างนั้น...แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม และผมก็คิดว่าจิลเองก็อ่จจะไม่พร้อมเหมือนกัน"
"ไม่พร้อมอะไร อยากเข้าหอตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ"
"แต่สิ่งที่จิลทำกับผม พี่เมเปิ้ลแน่ใจเหรอครับ ว่าจิลพร้อมแล้วสำหรับการสร้างครอบครัวกับผม"
เธออึ้ง
"จนกว่าจิล...จะเข้าใจ ว่าการมีผมในชีวิต คือการเติมเต็ม การอยู่เคียงข้าง การแบ่งปัน แค่อายุน้อยกว่า ก็เป็นปมด้อยมากพอแล้วอย่าทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นลูกชายหรือเป็นนักโทษที่ต้องคุมความประพฤติกันมากขนาดนี้เลยครับ"
เธออึ้ง คิดถึงเคสของตัวเอง เริ่มซึมซับ หากจะรักผู้ชายที่อายุน้อยกว่า
เวลากลางคืน มุมหนึ่งในบ้าน ภัทรวลัยนั่งซึม มองมือถือตัวเอง แล้วหงุดหงิด
"ทำไมไม่โทร.มา หา"
ณัฎฐาลินีแต่งตัวจะออกไปข้างนอก สวยเฉี่ยวมากเป็นพิเศษ
"แล้วทำไมแกไม่โทร.ไป"
"เพราะฉันสวย หยิ่งและมีศักดิ์ศรี"
"ครอบครัวไหน คิดแบบนี้...พังหมดทุกราย"
ภัทรวลัยอึ้ง แต่ก็โวย
"ก็แกคิดดูสิ ฉันหนีออกจากบ้านมากี่วันแล้ว"
"สองวัน"
"เออ! คู่อื่น หายไปแค่วันเดียว ก็ตามหากันให้ควั่ก อยู่ไม่ป็นสุขกันแล้ว นี่อะไร เงียบฉี่"
"เค้ารู้ว่าแกอยู่กับฉัน"
" นังเพื่อนทรยศ! บอกแล้วไงว่าไม่ให้บอก แล้วดูซิ ทั้งๆที่รู้ว่าฉันอยู่นี่ ทำไมไม่มาตาม" "สับสนนะแกเนี่ย! ตกลงอยากให้เค้าตามหรือไม่อยาก"
"อยาก!"
"ก็โทร.ไปหาเค้า"
"ยังไม่ใช่ตอนนี้"
"เรื่องของแก น่ารำคาญจริง...ฝากบ้านหน่อยนะ มีอะไรรีบโทร.หาตำรวจเลย"
"แกจะไปไหน"
"ไปเที่ยว"
"หา?"
มุมหนึ่งในผับเสี่ยพิภพ พิภพยืนดูความเรียบร้อยในร้าน เจตต์กำลังเช็คเครื่องดนตรีอยู่
ช้าง มาร์ก เข้ามา มาร์กเข้ามากระซิบบางอย่างกับพิภพ เขาพยักหนัารับรู้ ยิ้มสมใจ เจตต์มอง ก่อนจะหันไปเช็คเครื่องต่อไป
"ดี แสดงว่า วิธีของเราได้ผล"
ณัฎฐาลินีเข้ามามองหาพิภพที่ยิ้มพราย เจตต์สังเกตอย่างแปลกใจ เธอส่งยิ้มหวานมาให้พิภพ
เวลาต่อมา เธอชนแก้วน้ำดื่มกับพิภพ
"ดื่มค่ะ"
"อะไรกัน...ดื่มน้ำเปล่า แล้วจะสนุกเหรอครับ"
"อยู่ที่ใจค่ะ ถ้าใจสนุก ดื่มอะไร อยู่ที่ไหนก็สนุก"
"เหมือนกับว่าคืนนี้คุณพร้อมจะสนุก"
"อยู่ที่ว่า…บรรยากาศจะพาไปหรือเปล่า"
"เท่าที่รู้ข้อมูลของคุณมา คุณไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน ออกจะแอนตี้ซะด้วยซ้ำ"
"แสดงว่าคุณไม่รู้จักฉันดีพอ"
"อยากจะรู้จักคุณให้ดีกว่านี้แล้วสิ"
"จริงใจหรือเปล่าล่ะคะ เพราะฉันไม่ชอบคนหน้าไหว้หลังหลอก หน้าเนื้อใจเสือ ถ้าไม่ใช่ ฉันก็พร้อมจะเปิดใจให้คุณรู้จักฉันดีกว่านี้"
"ผมเป็นคนสองหน้า"
เธออึ้ง
" อย่างที่คุณรู้ ผมชอบบริจาคเงินให้องค์กรต่างๆที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ในขณะเดียวกันผมก็ทำธุรกกิจแบบนี้ แบบที่คุณไม่ชอบ แบบที่คุณเคยบอกว่ามันคือธุรกิจบาป คนแบบไหนกันที่จะทำแบบนี้ ถ้าไม่ใช่คนสองหน้า"
"แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะคะ"
"คุณจริงใจหรือเปล่าล่ะครับ ถ้าคุณจริงใจ ไม่หน้าไหว้หลังหลอก ผมก็พร้อมจะเปิดใจให้คุณรู้จักผมดีกว่านี้"
พิภพหัวเราะเราะขำออกมา ลินีหัวเราะผสมโรงด้วย ขำขันกับการยอกย้อนไปมาของสองคน
เธอดื่มน้ำอีกครั้ง พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุด มองไปทางโน้นทางนี้เพื่อสังเกตบรรยากาศ ความผิดปกติโดยรอบ พิภพดื่มเครื่องดื่มลอบสังเกตท่าทีของเธอ ดูเชิง
อ่านต่อหน้า 4
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 19 (ต่อ)
พิภพเดินมาส่งลินี
"ขอบคุณนะคะที่นั่งคุยเป็นเพื่อน หายเครียดได้เยอะเลย"
"เครียดอะไรมาเหรอคะ"
"ลาออกจากงานค่ะ"
"ทำไมครับ"
"แค่รู้สึกว่า อยากไปทำงานอื่น ที่เสี่ยงอันตรายน้อยกว่านี้"
"คุณพูดเหมือนกันว่า ถูกคุกคาม"
"ค่ะ...มีไอ้หน้าตัวเมียมันส่งคนมาขู่"
พิภพอึ้ง
"แต่ก็นั่นแหละค่ะ ฉันควรจะรักษาชีวิตของคนที่ฉันรักไว้ก่อน เอาตัวออกมาห่างๆดีกว่า ฉันยังอยากอยู่กับแม่ไปนานๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"
"น่าจะอยู่ให้นานกว่านี้สักหน่อย"
"เพิ่งจะเริ่มใจแตกเที่ยวกลางคืน เอาแค่นี้ก็อนก็พอค่ะ"
"ผมแปลกใจ ทำไมไม่ไปเที่ยวที่ร้านของแฟนคุณ"
"ฉันยังไม่มีแฟน อีกอย่าง ฉันก็ไม่อยากให้คุณวายุบุตรคิดว่า ฉันเปิดโอกาสให้เค้าเป็นมากกว่าเพื่อน"
"พูดแบบนี้ ผมจะคิดว่า ผมมีโอกาส"
"จะจีบฉันเหรอคะ อย่าเลย...ฉันไม่เหมาะจะเป็นแฟนใครหรอก"
"ต้องดูกันยาวๆครับ"
"ค่ะ แล้วเรามาดูกัน"
เธอยิ้มหวานให้พิภพ แล้วเดินออกไป พิภพมองตามตาเป็นมัน
ณัฎฐาลินีเดินมา ถอนหายใจอย่างโล่งอก เสียงมือถือเธอดังขึ้น เธอรีบหยิบมาดูแล้วถอนใจ
"นกรู้หรือไง... ฮัลโหล"
วายุบุตรคุยมือถืออย่างไม่พอใจ
"คุณไปหามันทำไม"
"หาใคร"
"เสี่ยพิภพ"
"รู้ได้ไง"
"ผมรู้แล้วกัน...ลินี คุณคิดจะทำอะไรของคุณ บอกผมมาเดี๋ยวนี้"
"มาเที่ยวเฉยๆ"
"คุณกำลังประเมินไอ้เสี่ยพิภพต่ำเกินไปนะ"
"อย่าดูถูกวิจารณญาณของฉัน"
"ฟังผมบ้างสิ"
"นี่! ไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับคุณนะ ฉันจะรีบกลับบ้าน แค่นี้นะ"
เธอวางสาย เดินออกไปอย่างหงุดหงิด
"ทำไมดื้อแบบนี้ หา"
วายุบุตรเดินมาอย่างเร่งรีบมาที่มุมหนึ่งของผับด้วยความหงุดหงิด สิริมาเดินมาเห็นสีหน้าแล้ว แปลกใจ
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ วายุ จะไปไหน"
"เปล่า...มีอะไรที่ผมต้องเซ็นมั้ย ผมจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวนึง"
"ไม่ค่ะ"
เขาเดินออกไป เธอแปลกใจ กลัวเขาจะไปหาณัฎฐาลินี
"วายุคะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากกลับไปพัก ฉันติดรถไปกับคุณเลยได้มั้ย"
วายุบุตรอึ้ง ลำบากใจ "เอ่อ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันให้เด็กเรียกแท็กซี่ให้ก็ได้"
เขาตัดสินใจ
"ไปกับผมก็ได้"
"ไม่ทำให้คุณลำบากใจนะ"
"ช่างเหอะ ไปส่งคุณก่อน แล้วผมค่อยไปก็ได้"
"จะไปหาคุณลินีเหรอคะ"
เขาพยักหน้า
"ฉัน เอ่อ"
เขาจูงมือสิริมาไปทันที เธอลอบยิ้ม
วายุบุตรและสิริมาขับรถเคลื่อนผ่านรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่จอดแช่นิ่ง ซุ่มอยู่ แล้มอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ขับตามรถของวายุบุตรไป
มุมหนึ่งบ้าน กานดายื่นไอแพดให้พีศทรรต ที่ยืนเครียดอยู่
"เห็นคลิปนี้หรือยัง"
"จะพลาดเหรอครับ"
"เลิกแน่เหรอ"
เขาอึ้ง
"แกลังเล"
"ไม่รู้สิครับ...ผมอาจจะตัดสินใจเร็วไป มันอาจจะไม่ยุติธรรมกับน้ำผึ้ง ผมอาจจะถอดใจเร็วเกินไป อย่างที่น้ำผึ้งพูด"
"แล้วจะเอาไง จะเลิกหรือไม่เลิก"
"คุณแม่อย่าเพิ่งคาดคั้นผมตอนนี้ได้มั้ยครับ"
"เพราะฉันอยากรู้ว่าชีวิตฉันยังจะต้องเจอแม่นั้นไปอีกนานมั้ย จะได้วางแผนถูก ถ้าไม่เจอ...ฉันก็จะมีชีวิตที่เป็นปกติอีกครั้ง แต่ถ้ายังต้องเจอ ฉันคงต้องเตรียมยาความดันไว้ใกล้ตัวW
น้ำผึ้งเดินเข้ามาพอดี
"ไอ้คุณพีศ"
สองแม่ลูกสะดุ้งเฮือกตกใจ กานดาใจหายใจคว่ำ
"น้ำผึ้ง!"
"นั่นไง! ฉันพูดอะไรผิดที่ไหน เจอแม่นี่ทีไร ความดันจะขึ้น"
"อุ๊ตะ! เอายามั้ยคะ หนูไปเอามาให้"
"ฉันเปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ ว่าเจอหล่อนทีไร มันต้องมีเรื่องให้ฉันตกใจ และหายใจผิดปกติ"
"งั้น...ออกไปก่อนสิคะ จะได้รู้สึกสบายใจ"
"ฉันเป็นเจ้าของบ้าน มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน หล่อนนั่นแหละ ออกไป"
"ไม่ได้ไล่นะคะ อีกอย่างถึงคุณแม่ไล่หนู หนูก็ยังออกไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะหนูมีเรื่องจะแจ้งให้คุณพีศทราบ"
"เชิญ"
กานดาตัดใจเดินออกไป ไม่อยากเป็นลม เธอเดินเข้ามาประจันหน้ากับเขา
"มีอะไร"
"ถามคำเดียว จะเลิกแน่ใช่มั้ย"
พีศทรรตอึ้ง
มุมหนึ่งในบ้าน เมธาวลัยคุยมือถือกับหยาดทิพย์
"ฉันตัดสินใจแล้ว จะใช้โลเกชั่นที่เกาะตะวัน...ใช่ของกฤษฎานั่นแหละ เธอโทร.ไปคุยกับกฤษฎาด้วย...ให้ฉันโทร.ไปเองเหรอ" เธอมีเขินก่อนบอก "ขอบใจนะที่รู้ใจ ไม่น่าเกลียดใช่มั้ย โอเคๆ ขอบใจมากหยาด แค่นี้นะ จะรีบโทร."
เธอวางสายหยาดทิพย์แล้วรวบรวมพลัง หาเบอร์กฤษฎา
"เบอร์ผู้ชาย เบอร์ผู้ชาย"
หน้าจอมือถือของเมเปิ้ล ชื่อ “กฤษฎา”
"ชื่อเพราะจัง อุ๊ย...อะไรก็ดีไปหมดอ่ะ"
เธอรีบกดเบอร์โทร.ออก รอสายไปเรื่อยๆ นานจนเธอวีน
"โอย! ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รับสายยะ หา! ไม่ๆ ต้องแคร์ ต้องแชร์ ต้องเคียงข้าง ไม่ปฏิบัติเหมือนเค้าเป็นนักโทษหรือลูกชาย โอเค รอค่ะ"
เธอรอสายต่อไปอย่างอดทน ถึงจะหงุดหงิด ก็อดทน
กฤษฎานั่งคิดถึงเรื่องเมธาวลัยอยู่หน้าบ้าน น้ำฟ้าเข้ามา
"กฤษ พรุ่งนี้ต้องบินเช้านะ ไปนอนได้แล้ว"
เขายังไม่รู้สึก
"กฤษ!"
"อ้าวฟ้า มีอะไร"
"เหม่อคิดถึงคุณเมเปิ้ลอยู่เหรอ"
"ก็น่าจะรู้นะ"
"เมื่อไหร่จะตัดใจ"
"คงยาก..ในเมื่อยังต้องเจอ ยังต้องช่วยเหลือกันอยู่"
"ก็ไม่เจอสิ"
"ไม่ได้ เค้าต้องการความช่วยเหลือ"
"ฟ้ารู้สึกว่าคุณเมเปิ้ลเห็นแก่ตัวจัง...มีแต่เรื่องให้กฤษช่วย โดยที่ไม่รู้ว่า ตัวเองทำให้กฤษเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา"
"ช่างเถอะ ก็ดันไปแอบชอบเค้าทำไม ไปนอนแล้วนะ"
กฤษฎาลุกไป น้ำฟ้ามองตามสงสัย
"ให้ช่วยเรื่องอะไร"
น้ำฟ้าตามไป
กฤษฎาเดินมาที่มือถือตัวเองซึ่งชาร์ตแบตอยู่ เห็นสายโทร.เข้าจากเมธาวลัยพอดี จึงรีบรับ
"ครับ คุณเมเปิ้ล"
น้ำฟ้าที่เดินตามมา ได้ยิน รีบหยุด แอบฟัง
เมธาวลัยยืนอายอยู่ แต่ทำเสียงเป็นปกติ
"ทำอะไรอยู่เหรอ"
"กำลังจะนอนครับ มีอะไรครับ"
"เรายังคุยกันไม่เคลียร์เลย จะเอาไงดี เรื่องที่คุณย่าฉันให้พาพ่อแม่เธอมาพบท่าน"
"ผมเคยบอกแล้วไงว่าทีทางเดียวที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ผมมาพบคุณย่าคุณได้ คือเราสองคนต้องรักกันจริงๆ"
น้ำฟ้าอึ้งนึกเจ็บใจ ที่เมธาวลัยยังมีเรื่องตอแยไม่เลิก
"แล้ว...เธอคิดว่าไง"
"เรื่องอะไรครับ"
"เรื่องที่ถ้าเราสองคนจะรักกันจริงๆ"
กฤษฎาอึ้ง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเจ็บปวด
"มันจะเป็นได้ยังไงกันครับ"
"แล้ว...ถ้า"
น้ำฟ้าเข้ามาขัดจังหวะ
"กฤษ...ดึกแล้วนะ ไปนอนเถอะ"
เธอได้ยินเสียงน้ำฟ้าเต็มๆสองรูหู นึกเจ็บใจ อยากจะด่ามาก แต่ได้แค่ออกแอ็กชั่น พูดไม่ได้
"คุณเมเปิ้ลครับ ผมว่าเรื่องนี้...ผมคงช่วยคุณไม่ได้ แค่นี้"
"เดี๋ยวก่อน ก็ได้ ไม่ช่วยก็ได้ ฉันหาทางเองก็ได้ แต่มีอีกเรื่องที่ต้องคุยเดี๋ยวนี้ เรื่องงาน"
"ครับ"
"จะขอใช้สถานที่รีสอร์ทเธอถ่ายแบบปก ได้มั้ย"
"คุณไปด้วยเหรอครับ"
"แน่นอนสิ...ปกติก็ไม่จำเป็นต้องไปหรอก แต่คราวนี้ เพื่อนฉันเป็นนางแบบ ฉันเลยต้องไป ทำไม...ไม่อยากให้ไปเหรอ"
"เปล่าครับ ก็ดีครับ...เผื่อเราจะช่วยกันหาทางออกให้คุณ ครับ สวัสดีครับ"
น้ำฟ้าเจ็บใจ กฤษฎาหันเธอยิ้มใส่ทันที
"ทำไมเหรอ"
"คุณเมเปิ้ลจะไปถ่ายแบบที่รีสอร์ตเรา"
กฤษฎายิ้มอารมณ์ดี เดินเข้าไป น้ำฟ้าเจ็บใจ ร้อนใจ
เมธาวลัยวางสายอารมณ์ดีสบายใจ
"เค้าไม่ปฏิเสธ เค้าจะหาทางช่วยฉัน น่ารักอ่ะ เด็กบ้า! จะดีไปไหนเนี่ย"
เธอนั่งอมยิ้มไปมาอยู่คนเดียว
วายุบุตรขับรถตรงมาบนถนนที่ทั้งมืดและเปลี่ยว มอเตอร์ไซค์ตีคู่ประกบใกล้รถวายุบุตรขึ้นมาเรื่อยๆ คนซ้อนท้ายชักปืนขึ้นมา เล็งใส่เขา สิริมาเหลือบไปเห็นพอดี ตกใจ
"วายุระวัง!"
วายุบุตรหันไป เห็นปืนที่จ่อเล็งมา และกำลังเหนี่ยวไก เขาตาเบิกโพลง ตกใจสุดขีด
อ่านต่อตอนที่ 20