ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 24
วายุบุตรกอดณัฎฐาลินีอยู่ เห็นเธอเงียบไป เรียกเบาๆ
"ลินี"
ไม่มีเสียงตอบรับ เขาเขย่าเบาๆ ปรากฏว่าเธอโงยเงนหลับไปแล้ว
"เอ๊า...ร้องไห้จนหลับไปเลย"
เขายิ้มขำ ค่อยๆอุ้มเธอขึ้นมา พาออกไปจากห้องน้ำอย่างทนุถนอมอย่างที่สุด
เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ห่มผ้าให้ จะเดินออกไป แต่เปลี่ยนใจ อยู่เฝ้าดีกว่าเขาลงนั่งอีกข้างของเตียงที่ว่างอยู่ กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างๆ หลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน
เมธาวลัยยังยืนอึ้งค้างอยู่ที่เดิม กฤษฎารีบผละจากน้ำฟ้าทันที เธอหน้าเสีย
"คือ...เอ่อ"
เมธาวลัยพยายามแก้เก้อ
"คือ เอ่อ...ฉัน ไม่ได้ ตะโกนนะเมื่อกี้ คือ...พวกมัน"
"พวกไหนครับ"
เธอมองหาพวก แต่ไม่เห็นใคร ไทเกอร์ เจ๊ฟู หยาดทิพย์ เจ๊ฟู นอนหมอบอยู่กับพื้น หลังพุ่มไม้ใกล้ๆ
"สงสัย...คงไปตายกันหมดแล้ว"
ทุกคนสะดุ้ง เธอเซ็งมากที่ถูกทิ้งทุ่น
"คุณเมเปิ้ล มีธุระอะไรกับพวกเราหรือเปล่าคะ"
เธอรวบรวมความกล้า
"มี...แต่ไม่ได้มีกับเธอ"
น้ำฟ้าอึ้ง พวกของไทเกอร์สะใจ
"แปลว่า...ฉันคือส่วนเกินสินะ"
"ใช่! ฉันมีบางอย่างที่ต้องถามกฤษฎา และเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันสองคนเท่านั้น"
น้ำฟ้าอึ้ง
"ขอโทษนะฟ้า"
น้ำฟ้าเจ็บปวด ยิ้มให้กับทั้งคู่ เธอค่อยๆถอยออกไป กฤษฎามองอย่างเห็นใจ ชาโนจะคลานหนีไป แต่หยาดทิพย์คว้าคอเอาไว้
"จะไปไหน"
"ไม่ได้ยินหรือไง บ.กบอกว่าจะคุยกันสองคน"
"ได้ยิน แต่ด้อนแคร์นะ...ฉันจะอยู่ช่วยลุ้น ขอให้ได้ ขอให้โดน" ไทเกอร์ว่า
ทุกคนถาม "โดนอะไร!"
"ชู่ว์!"
เขาหันมองว่าเสียงดังมาจากไหน แต่เธอรู้ดีว่าพวกไทเกอร์ยังอยู่แถวนี้ เลยจูงเขาออกไปทันที โดยที่พวกของไทเกอร์ไม่ทันรู้ตัว
"ทำไมเสียงเงียบไป หรือว่า...กระโจนเข้าใส่กันแล้ว ไม่ต้องคุย"
ทุกคนโผล่หัวขึ้นไปดู แต่ไม่เห็นทั้งสองคนแล้ว ทุกคนเสียดาย
พีศทรรตยังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งใกล้ชายหาด แต่สงบอารมณ์ได้แล้ว ปินัทธายังร้องไห้ไม่หยุด ปาดน้ำตาป้อยๆ ด้วยความสงสาร เขาชะงัก ได้ยินเสียงสะอื้นเล็กๆ งิ้ดๆ ดังมาจากข้างหลัง เลยลุกขึ้น เหยียบใบไม้เสียงดังกรอบแกรบ เธอสะดุ้ง ตาลีตาเหลือกหาที่หลบทันที
พีศทรรตเดินเข้ามา แต่ไม่เห็นน้ำผึ้งแล้ว
"เหมือนหมาที่ไหนมานั่งร้องไห้"
น้ำผึ้งนั่งเหมือนหมาหมอบ หลบอยู่ เธอพูดเบาๆ
"ว่าฉันเป็นหมา"
เขาเดินออกไป น้ำผึ้งงอน ปาดน้ำตา หยุดร้องไห้ หยุดเสียใจแทน
"ไม่น่าเสียน้ำตาให้เลย พับผ่าสิ"
เธอคลานออกมาจากที่ซ่อน มองตามหลังเขาที่กำลังเดินออกไป สายตาอ่อนลง แต่ก็กลับมาถือดีอีกครั้ง
"ฉันจะไม่ใจอ่อน คุณจะเป็นยังไง จะช้างจะควาย มันก็เรื่องของคุณ"
เมธาวลัยลากกฤษฎาหลบมาที่มุมหนึ่ง เขาตัดสินใจยึดมือของเธอเอาไว้ แล้วฉุดไว้ให้หยุด เธอเซ จนต้องเกาะแขนเขาเอาไว้
"อุ๊ย!"
เธอเขินรีบผละออก กฤษฎาจ้องเธอนิ่ง
"โอเค คุยตรงนี้ก็ได้ ฉันมีเรื่องจะถามเธอ"
กฤษฎา รีบพูดขึ้นมาทันที
"ผมรักคุณ"
เธออึ้ง ค้าง ช็อก
"ผมรักคุณ"
เธอพูดอะไรไม่ออก
"แล้วคุณล่ะครับ"
เธอใจสนั่นอย่างแรง ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก วิ่งหนีออกไปเลย
"คุณเมเปิ้ล"
กฤษฎาวิ่งตามเธอไปทันที
เธอวิ่งเข้าห้อง แล้วปิดประตู เขาวิ่งตามมาไม่ทัน เขาเคาะประตูห้อง
"คุณเมเปิ้ล คุณเมเปิ้ล"
เธอยืนตื่นเต้นตัวแข็งพิงประตู ก่อนระงับความตื่นเต้น แล้วตัดสินใจเปิดประตูออกไป เผชิญหน้ากัน
"พูดผิดพูดใหม่ได้นะ ฉันให้โอกาสเธออีกครั้ง"
"ผมรักคุณ"
"ฉันหูเฝื่อนไปแน่ๆ เธอน่ะเหรอรักฉัน ผู้หญิงที่แก่กว่าเป็นสิบปี ปากร้าย ใจดำ เผด็จการ ฉันมองไม่เห็นเหตุผลที่เธอจะรัก ฉันได้เลย"
"ก็เพราะมันไม่มีเหตุผลไงครับ จะรักใครไม่ต้องมีเหตุผล"
"ต้องมีสิ! มันต้องมี ฉันเกลียดยัยน้ำฟ้านั่นยังมีเหตุผลเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้มันต้องมีเหตุผล"
"แต่ผมไม่มี! ผมรู้แค่ว่าผมรักคุณ แล้วมันก็โคตรงี่เง่าเลย ไม่รู้รักคนอย่างคุณเข้าไปลงได้ยังไง แก่ก็แก่กว่า ปากร้าย ใจดำ เผด็จการ ยิ่งกว่าแม่ผมอีก ให้ตายเหอะ"
เธออึ้ง
"ถ้าไม่รัก ไม่รู้สึกอะไร ก็บอกมาเลย ไม่ต้องมาถามหาเหตุผล"
เขาเดินหนีด้วยความฉุน แม้แต่ช่วงโรแมนติกสารภาพรัก เธอก็ยังจะเรื่องมาก
กฤษฎาเดินมาอย่างผิดหวัง หงุดหงิด
"ผู้หญิงอะไร"
"กฤษฎา!"
กฤษฎาหันไป...เมธาวลัยยืนอยู่
"ไอ้เด็กบ้า"
"คุณก็บ้า! นี่ยังตามมาด่าผมอีกเหรอ"
"เออ! เพราะเธอมันเป็นเด็กบ้าที่เข้ามาป่วนชีวิตฉัน ทำให้ชีวิตฉันสับสนยุ่งเหยิง ไม่เป็นอย่างที่เคยเป็น..."
กฤษฎาอึ้ง
ภาพต่างๆในอดีตผ่านเข้ามา - - ครั้งแรกที่เธอและเขาสบตากันจั๋งๆครั้งแรกเพราะเมเปิ้ลทำกาแฟหก
"ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง"
เธอแต่งตัวกระชากวัยลดอายุตัวเองเดินเข้ามาในออฟฟิศ
"และประสิทธิภาพในการทำงานของฉันมันก็ลดลง"
เมธาวลัยเดินคุยโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียดในห้องทำงาน แล้วหันมองออกนอกห้องทำงาน เห็นเขากำลังคุยกับหยาดทิพย์ เจ๊ฟู อิ๋ว ชาโนอย่างร่าเริง กฤษฎาหัวเราะสดใส นัยน์ตาเป็นประกาย เธออึ้ง มองเคลิ้ม ยิ้มตามไปกับกฤษฎา
"ฉันเห็นแต่หน้าเธอ ลอยไปลอยมา เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ"
เธอสะดุ้งจากภวังค์ รีบพูดโทรศัพท์ต่อ แต่ก็ยังมองเขาอย่างไม่วางตา ยิ้มไปคุยงานไป
กฤษฎาหัวเราะร่วน เมธาวลัยยิ่งยิ้มกว้าง
"โลกสีเทาของฉัน...มันก็ไม่ได้เป็นสีเทาอีกต่อไป เธอเหมือน...แสงอาทิตย์เข้ามาทำให้โลกของฉันสว่างและสดใส"
เธอยืนคุยมือถืออยู่ในห้องที่ค่อยๆสว่างขึ้น สดใสขึ้น วิ้งๆ
มุมหนึ่งรีสอร์ต กฤษฎายืนอึ้งอยู่
"ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นแค่ความเผลอไผล แค่อารมณ์ชั่ววูบ ฉันควรจะเปิดใจให้กับคนวัยเดียวกับฉัน ไม่ใช่เด็กอย่างเธอ"
"เด็กกว่าแล้วไง"
"ฉันยังพูดไม่จบ"
กฤษฎาอึ้ง ยอมอดทนฟังต่อไป
"แต่ฉันคิดผิด เธออาจจะอายุน้อยกว่าฉัน แต่เธอกลับมีความคิด มีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉัน"
ในอดีต เธอถูกทุ่มลงบ่อน้ำพุหน้าผับวายุบุตร
"เวลาที่ฉันเป็นบ้า เธอคือคนที่หยุดฉัน"
กฤษฎาที่คอยอยู่เคียงข้างเมเปิ้ลในทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา
"เวลาที่ฉันมีเรื่องวุ่นวายเธอคือคนที่อยู่เคียงข้างฉัน ช่วยจัดการปัญหา"
เมื่อเขาและเธอสองคนในยามค่ำคืน
"เวลาที่ฉันไม่มีใคร เธอคือคนที่จะอยู่กับฉัน...จนนาทีสุดท้าย"
เธอยังคงอธิบายความรู้สึกของตัวเอง
"รู้ตัวอีกที ฉันก็มาอยู่ที่นี่ ยอมทิ้งเหตุผลมากมายที่บอกว่า ฉันไม่สมควรจะรักเธอ มาเพื่อจะทำให้เธอรักฉันให้ได้ และฉันจะไม่ยอมเสียเธอไปให้ใครเด็ดขาด เพราะเธอคือรักครั้งแรก และจะเป็นรักครั้งสุดท้ายของฉัน เห็นมั้ย ว่ามันมีเหตุผลมากมาย ถ้าเราจะตกหลุมรักใครสักคน"
เขาอึ้ง ดีใจ ตื้นตันที่เธอบอกรัก
"ใช่...มันต้องมีเหตุผลที่เราจะตกหลุมรักใครสักคน ผมรู้แล้วว่าเหตุผลของผมคืออะไร แต่เหตุผลที่ผมรักคุณมีอยู่ข้อเดียวเท่านั้น ไม่ได้เยอะแยะมากมายเหมือนคุณ"
"ว่าฉันเยอะ?"
"ผมรักคุณ...เพราะคุณเป็นอย่างนี้นี่แหละ! คุณเป็นคุณ และนี่ก็คือสิ่งที่ผมหลงรัก ผมหาเหตุผลอะไรอื่นไม่ได้อีกแล้ว"
เธอสิ้นข้อสงสัย เข้าไปกอดเขาเอาไว้ทันที
"ตอนนี้ ฉันไม่กลัวแล้ว แค่เธอรู้สึกเหมือนฉัน แค่นี้ก็พอ"
เธอยิ่งกอดเขาแน่น ก่อนจะรู้สึกว่า ทำไมกฤษฎาไม่กอดตอบ
"ไหนบอกว่ารักฉัน ฉันกอด แล้วทำไมไม่กอดตอบ"
"ผมไม่กอดคุณหรอก"
เธอแปลกใจ เงยหน้ามอง กฤษฎาสบตาหวานซึ้ง
"แต่ผมจะทำแบบนี้"
กฤษฎาค่อยๆ โน้มเข้าไปประทับจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา เธอหลับตาพริ้ม
ทุกอย่างรอบตัวสดใสวิ้งๆ... กลุ่มของไทเกอร์ ดรณ์ หยาดทิพย์ เจ๊ฟู และชาโนยืนอึ้งมอง อ้าปากค้าง เขินและดีใจไปกับความสมหวังของเธอ ทุกคนค่อยๆออกไป เพื่อให้ทั้งคู่ได้อยู่กับตามลำพัง
น้ำฟ้ายืนมองด้วยความแค้นใจ ก่อนค่อยๆถอยหลังออกไป หายไปกับความมืด
ทั้งคู่ยืนจูบกัน ต่อเนื่อง ยาวนาน
อ่านต่อหน้า 2
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 24 (ต่อ)
เมธาวลัยสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากเตียง เอามือจับที่ริมฝีปากทันที
"ฉันฝันไปหรือเปล่า"
เสียงเตือนว่ามีข้อความจากไลน์ดังขึ้น เธอหยิบมือถือที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาดู
"Good Morning ครับ...แฟนผม"
เธอตื่นเต้นดีใจ อ้าปากค้าง
"ฉันไม่ได้ฝัน"
มุมอาหารเช้า มีอาหารเช้าวางอยู่เต็มโต๊ะ ปินัทธาและภัทรวลัยกรี๊ดลั่นด้วยความดีใจ เป้อยู่ด้วย ดีใจแต่ไม่ได้กรี๊ด เมธาวลัยนั่งขวยเขินอยู่
"ดีใจด้วยนะเมเปิ้ล" เป้ว่า
"ในที่สุด ก็ได้ ก็โดน" ปินัทธาบอก
เพื่อนทั้งสองร้อง "แอร๊ย"
"เหย! แค่โดนจุ๊บุๆ พูดซะ!เดี๋ยวใครได้ยินก็เข้าใจผิด" เมธาวลัยบอก
เสียงเตือนไลน์จากมือถือ ดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนหันมอง เธอดูที่หน้าจอ เป็นไลน์จากกฤษฎา
"อุ๊ย!ส่งมาอีกแล้วอ่ะ"
ทุกคน "อร๊าย!"
"อายอ่ะ โอย...ตื่นเต้น จะส่งอะไรมาอีกล่ะ อร๊าย! หัวใจเต้นเร็วมากเลย อร๊าย ...แก้มจะแตกแล้วอ่ะ แก! ทำไงดี ฉันยิ้มไม่หุบเลย อร๊าย"
"นี่! เยอะไปมะ ทำยังกะไม่เคยมีแฟน"
"ก็มันไม่เคยมี"
"เออ!ลืมไป"
"เงียบไปเลย ฉันจะอ่านข้อความจากแฟน"
เธอกดอ่านไลน์ เพื่อนๆต่างมุงดู
"เมื่อคืนฝันดีป่ะครับ อร๊าย ! ยิ่งกว่าดีอีกอ่ะ"
ปินัทธาและภัทรวลัยบอก "อ่านต่อ!"
"หมดแระ...ส่งมาแค่นี้"
เพื่อนทั้งคู่ว่า "เหย ไรอ่ะ"
"น้องเค้าอาจจะเป็นคนสั้นๆ" เป้ว่า
"อะไรสั้นคะพี่เป้"
"หมายถึงชอบพูด ชอบสื่อสารด้วยคำพูดสั้นๆ"
"สั้นๆไม่เป็นไร แต่ขอถี่ๆ" เมธาวลัยบอก
เสียงเตือนข้อความไลน์ดังขึ้นอีก ถี่มากๆๆๆ ติ๊งๆๆๆ ทุกคนมอง อึ้ง
ไแต่พี่ว่า...ก็ถี่ไปนะไ
"ถ้านังลินีอยู่ มันจะต้องบอกว่า เอ๊ะ...แล้วลินีล่ะ ป่านนี้ยังไม่ตื่นมากินอาหารเช้าอีกเหรอ" ปินัทธาว่า
"เออ ลืมมันไปเลยอ่ะ" เมธาวลัยว่า
ทุกคนสงสัยว่า ณัฎฐาลินีหายไปไหน ก่อนจะหมดความสนใจเรื่องเพื่อน หันมาสนใจเรื่องของเมธาวลัยต่อ
"ช่างมันเหอะ สนใจเรื่องของแกดีกว่า เมเปิ้ล"ปินัทธาบอก
"อ่านเร็วๆ อยากฟังสำนวนเด็กจีบสาวแก่" ภัทรวลัยว่า
"เค้าบอกว่า กำลังมาหา อีกห้านาทีเจอกันครับ อีกสี่นาทีห้าสิบวินาทีเจอกันครับ อีกห้านาทีสี่สิบห้าวินาที" เมธาวลัยบอก
"โอย เยอะ!" ทุกคนบอก
วายุบุตรที่นั่งหลับอยู่บนเตียง รู้สึกตัว มองไปข้างตัว ณัฎฐาลินีหายไปแล้ว
"ลินี!"
วายุบุตรรีบลุกขึ้น มองไปที่ห้องน้ำ ประตูเปิดอยู่ วายุบุตรเดินไปมองหาในห้องน้ำ ในห้องน้ำว่างเปล่า วายุบุตรเดินออกมามองไปทั่วห้อง เจอกระดาษเขียนโน้ตแปะไว้ที่กระจก ด้วยสก็อตเทปที่ใช้ปิดปากในตอนแรก
วายุบุตรรีบเข้าไปดึงมาอ่าน
"ขอโทษด้วยนะคุณวายุบุตร"
เวลาเช้า ณัฎฐาลินีกำลังนั่งอยู่บนสปีดโบ้ตที่กำลังมุ่งหน้าสู่แผ่นดินใหญ่
"ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อคุณและไม่ใช่ว่าฉันจะไม่แคร์ความรู้สึกของคนที่รักฉัน แต่ฉันจำเป็นต้องทำให้มันจบ เมื่อเช้ากุ๊งกิ๊งโทรหาฉัน"
ย้อนหลังกลับไป ณัฎฐาลินียังนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงมือถือสั่นอยู่ที่หัวเตียง สะดุ้งตื่น
รีบคว้ามือถือมาดู เห็นชื่อกุ๊งกิ๊ง.... เธอหันไปดูวายุบุตรซึ่งนั่งหลับอยู่ เธอตัดสินใจรับ รีบเดินออกไปจากห้องอย่างแผ่วเบา วายุบุตรยังหลับไม่รู้ตัวอยู่
เธอออกมาจากห้อง เดินหามุมที่ห่างออกไป พลางคุยมือถือ
"อะไรนะ...นายพิภพหายตัวไป"
เธอร้อนใจอยู่บนเรือ
"ระหว่างทางที่ตำรวจสะกดรอยตามนายพิภพเดินทางมาภูเก็ต จู่ๆมันก็หายไป"
ยามเช้าในอดีต รถของพิภพวิ่งมา เลี้ยวเข้าซอย รถตำรวจนอกเครื่องแบบแล่นตามมาห่างๆ
รถพิภพเลี้ยวต่อเนื่องเข้าซอยมา รถอีกคันหนึ่งจอดเทียบข้างทางอยู่ ที่เปิดประตูทั้งสามบานไว้เรียบร้อยแล้ว รถคันนั้นติดฟิล์มมืดทึบดำสนิท มาร์กนั่งอยู่ที่ตำแหน่งคนขับ ชายฉกรรจ์คนหนึ่งยืนรออยู่
รถของพิภพมาจอดเทียบรถคันนั้น
พิภพ ลงมาจากรถพร้อมสิริมา พิภพดึงสิริมาเข้าไปขึ้นนั่งบนรถอีกคันทางด้านหลัง
เจตต์ลงมาจากที่นั่งคนขับ งงๆ พร้อมช้างซึ่งลงมาจากฝั่งที่นั่งข้างคนขับอีกฝั่ง ช้างดันให้เจตต์ขึ้นไปนั่งข้างมาร์ก แล้วตัวเองก็ขึ้นไปนั่งด้านหลังร่วมกับพิภพและสิริมา
ชายฉกรรจ์ยืนรออยู่เข้าไปแทนที่เจตต์ทันที แล้วขับออกไป เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาอัรวดเร็วมาก
รถตำรวจเลี้ยวตามเข้ามาพอดี แล่นผ่านรถที่จอดอยู่ ตามรถคันเดิมของพิภพไป ส่วนรถคันใหม่ที่พิภพขึ้นไปนั่ง กลับรถเลี้ยวออกไปทางเดิม
วายุบุตรเปิดประตูห้องพักออกมาอย่างเร่งรีบด้วยความเป็นห่วง ในมือยังถือจดหมายของเธอเอาไว้อยู่ พลางต่อสายหาเธอตลอดเวลา
"หลังจากนั้นไม่นานนัก นายพิภพก็โทร.เข้ามือถือฉัน"
วายุบุตรวิ่งหลุดออกไป
พิภพยืนอยู่ที่ท่าเรือปลอดคนแห่งหนึ่ง เจตต์และสิริมายืนอยู่ด้วยกับช้างและมาร์ก
สิริมาและเจตต์สบตากัน ทั้งสองคนต่างกระวนกระวายใจ ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่ตัวเอง
ต่างวางกันเอาไว้
"คุณลินีเหรอครับ"
"โทร.มาแต่เช้าเลยนะคะ เชียงใหม่อากาศดีมั้ยคะ"
"ผมอยู่ภูเก็ตครับ"
"อุ๊ย...ทำไมจู่ๆก็เปลี่ยนใจล่ะคะ"
"พอดีมีงานด่วนที่นี่น่ะครับ...ผมคิดถึงคุณจัง แต่เราคงจะเจอกันยาก คุณคงไม่สะดวก"
"สำหรับคุณ...สะดวกเสมอค่ะ จะให้ไปเจอที่ไหนล่ะคะ"
พิภพยิ้มกริ่ม
วายุบุตรเร่งฝีเท้าในบริเวณทางเดินในรีสอร์ต โทรศัพท์ต่อหาเธอแต่ไม่ติด
"ฉันรู้ว่าคุณต้องพยายามโทร.หาฉัน ฉันปิดเครื่อง เลิกพยายามเถอะ"
วายุบุตรฉุนที่ติดต่อเธอไม่ได้ ครุ่นคิดหาทาง จะเอาไงดี
"ฉันคือทางออกเดียวที่จะช่วยตำรวจตามไปเจอตัวมันได้ ฉันต้องไป ถ้าฉันเปิดเครื่องเมื่อไหร่ นั่นคือแปลว่าฉันปลอดภัยดี"
วายุบุตรตัดสินใจวิ่งออกไปทางหนึ่ง
เธอเร่งเวลาให้ไปถึงท่าเรือเร็วๆ ระหว่างที่เรือแล่นไป
"ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีอย่างจริงใจของคุณที่มีให้ฉัน ฉันรับรู้มันได้ แต่ฉันคงจะตายตาไม่หลับ ถ้าปล่อยให้คนเลวที่ดูถูกและเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอย่างนายพิภพลอยนวลออกไปอยู่ในสังคมอีก...ฉันมาไกลแล้วค่ะ ไกลเกินกว่าจะหยุดมันกลางคัน แล้วเราจะพบกันอีก ฉันสัญญา"
เรือสปีดโบ้ตแล่นห่างออกไปจากเกาะตะวัน
พิภพยืนอยู่ สิริมาเข้ามาต่อว่าพิภพ
"ทำไมต้องลากฉันมาด้วย"
"อ้าว...ไม่อยากเห็นจุดจบของคนที่คุณเกลียดเหรอ"
"ไม่จำเป็น ฉันแค่ฟังข่าวอยู่ที่กรุงเทพก็ได้"
"มันจะไปสะใจอะไร...เริ่มแล้วก็ต้องอยู่ให้เห็นจุดอวสานกับตาตัวเองสิ ทั้งนังลินีและแก"
สิริมากับเจตต์ตกใจ เจตต์พยายามเก็บอาการ
"อะไรนะ"
พิภพเข้าไปจิกผมสิริมา
"คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าแกโกหกฉัน เรื่องสายไอ้วายุบุตร...มันยังอยู่"
สิริมาและเจตต์อึ้ง
"แกยังคิดจะช่วยมันอยู่ เลยปกปิดไม่บอกความจริง"
"ฉันไม่ได้โกหก"
"แล้วตำรวจมันสะกดรอยตามฉันมาถึงภูเก็ตได้ยังไง ถ้าไม่มีหนอนอยู่ข้างใน! ฉันจะเปลี่ยนรถทำไม นังโง่! ถ้าไม่รู้ว่าตำรวจมันตามมา"
เจตต์เริ่มใจคอไม่ดี
"แกไม่บอกก็ไม่เป็นไร...ยังไง ฉันก็จะหาตัวมันจนเจอ ส่วนแกต้องถูกฉันเอาคืน ไหนๆก็หมดความเร้าใจแล้ว แต่ยังพอทำเงินได้"
พิภพพูดกับช้างและมาร์ก
"เฮ้ย!เอามันไปขังไว้แล้วส่งมันไปขายพร้อมอีพวกนั้น!"
ช้างกับมาร์กบอก "ครับ เสี่ย!"
พิภพเสือกตัวสิริมากระเด็นออกไป ช้าง มาร์กเข้าไปล็อกเอาไว้ สิริมากลัวมาก เจตต์เห็นใจแต่จำต้องปิดปาก
"คุณพิภพ ฉันขอโทษ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ นะ! ขอร้อง อย่าทำอย่างนี้กับฉัน"
ช้าง มาร์ก ลากสิริมาไป
"คุณพิภพ ขอร้องล่ะ อย่าทำอย่างนี้กับฉัน คุณพิภพ!"
"เดี๋ยว!"
สิริมา เจตต์แปลกใจ พิภพจะทำอะไรอีก พิภพเดินเข้าไปหาสิริมา
"ตอนนี้...รักตัวเองขึ้นมาแล้วสินะ"
สิริมาได้แต่พยักหน้า
"คิดได้แล้วสินะว่า การรักไอ้วายุบุตรมันมีแต่ทำให้แกเดือดร้อนเสียตัว เสียใจและเป็นทุกข์มากแค่ไหน...ถ้ามันจะตาย ก็ไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย ... แล้วถ้าคราวนี้ตุกติกอีกล่ะ"
"ฉันยอมคุณทุกอย่างแล้ว จะฆ่าจะแกงยังไงก็เชิญ"
"ดี...รู้อะไรมั้ยว่าไอ้วายุบุตรมันตามนังลินีมาเที่ยวด้วย โทร.หามัน! ให้มันตามมาช่วยพวกเธอแต่อย่าให้เรื่องถึงตำรวจ ไม่งั้น...ตายหมู่"
"คิดเหรอว่า ตำรวจจะไม่รู้ไม่ตามมาในเมื่อคุณบอกนังลินีไปแล้ว ว่าคุณอยู่ที่ไหน"
"แล้วคิดเหรอว่าฉันจะไม่สับขาหลอกมัน โทร.หามันเดี๋ยวนี้"
สิริมาสะดุ้งผงะด้วยความตกใจ... เจตต์ใจคอไม่ดี เริ่มร้อนรน คิดว่าจะส่งข่าวให้วายุบุตรรู้ได้ยังไง
เมธาวลัยยังอายขวยอยู่กับมือถือ...อ่านไลน์
"อีกห้าวินาทีเจอกันครับ"
ทุกคนมองหน้าเมธาวลัยอย่างเซ็ง
"หมั่นไส้มะ" ปินัทธาว่า
"แคร์เหรอ...นับถอยหลังล่ะนะ...ห้า สี สาม สอง หนึ่ง" เมธาวลัยบอก
มุมหนึ่งใกล้ๆกัน กฤษฎากำลังจะเดินมาหาเมธาวลัย แต่ถูกวายุบุตรกระชากตัวออกไปก่อนด้วยความร้อนใจ
เมธาวลัยหันมองหากฤษฎา แต่ไม่มี
"ไม่มีอะ"
"อ่ะ โดนเด็กหลอก" ปินัทธาบอก
"เหย" วลัยว่า
"อะไรเนี่ย! แล้วจะไลน์มายั่วทำไมให้ดีใจเล่น อย่าให้เจอหน้านะ" เมธาวลัยว่า
"เจอแล้วทำไม" ปินัทธาว่า
"จะจับจูบปากโชว์พะยูนแถวนี้ซะเลย" เมธาวลัยว่า
"ว่าใครพะยูน!" ภัทรวลัยถาม
"แกนั่นแหละ วลัย...อนาคตพะยูน ยิ่งตอนท้องแก่ใกล้คลอดนะ" ปินัทธาบอก
"ฉันจะเป็นแม่ท้องแก่ที่หุ่นดีที่สุดในโลก คอยดู แกนั่นแหละ กินไม่หยุดปากตั้งแต่เช้าแล้วนะ"
"ก็ฉันเครียดนี่!"
"พวกแกทะเลาะกันไปก่อนนะ ขอไปจิกแฟนก่อน อร๊าย เขินอ่ะ ไม่คิดเลยว่า จะมีโอกาสใช้คำนี้ตอนอายุสามสิบห้า ฟินเฟ่อร์ๆ"
เมธาวลัยออกไป เพื่อนทั้งสองยังเถียงกัน จกของกินใส่ปาก เป้นั่งปวดหัวอยู่
"พี่เป้! หนูยังไม่อิ่มอ่ะ ไปสั่งเพิ่มให้หน่อยนะ คอมโบ้เซ็ต"
"ได้ค่ะ"
เป้รีบลุกไป
เมธาวลัยเดินตามหากฤษฎา
"ไปไหนของเค้านะ"
เธอจะโทร. หากฤษฎา น้ำฟ้าเข้ามา
"คุณเมเปิ้ลคะ"
น้ำฟ้าหน้าตาอิดโรย มองเมธาวลัยด้วยสายตาเจ็บปวด และมีเรื่องจะคุย
อ่านต่อหน้า 3
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 24 (ต่อ)
กฤษฎารับกุญแจเรือมาจากพนักงาน วายุบุตรยืนรออยู่
"แต่ตอนนี้ ไม่มีคนขับเรือเลย"
"ผมขับเองได้"
"ผมไปด้วยดีกว่า"
"แต่..."
"ไม่มีแต่ครับ...คุณลินีเป็นเพื่อนของคุณเมเปิ้ล ผมต้องไปช่วยเธอ คุณคนเดียวไม่ไหวแน่ อีกอย่าง ผมเป็นคนในพื้นที่ รู้จักเส้นทางดี หากมีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม ผมช่วยคุณได้"
"งั้น...อย่าบอกเพื่อนๆของคุณลินี ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง จนกว่าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยซะก่อน"
เป้โผล่เข้ามาข้างหลัง
"แต่ผมรู้แล้ว"
ทั้งคู่สะดุ้ง ตกใจ
"และควรจะมีผมร่วมทางไปด้วย สามคนยังไงก็ดีกว่าสองคน"
วายุบุตรลังเล เอาไงดี ก่อนจะพยักหน้า
"ขอบคุณทุกคนมากครับ ไปกันเถอะ"
"ขาดคุณพีศทรรตนะครับ ให้ไปชวนมั้ย"
"ไม่ต้องแล้วครับ"
ทุกคนวิ่งหายกันออกไป
พีศทรรตเดินเครียดมาหยุดที่หน้าห้อง...ตัดสินใจเคาะประตู เขารออยู่สักพัก ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เขาเคาะประตูห้องอีกครั้ง
"รดา รดา แต้ว! เปิดประตูหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยด้วย รดา"
เขาเขย่าลูกบิด แต่ก็ยังไม่มีใครเปิดออกมา พีศทรรตแปลกใจ
"อย่าบอกนะ ว่ากลับไปกันแล้ว"
เขาหันหลังจะออกไป เห็นธัญรดาหน้าตาตื่นวิ่งเข้ามา
"พีศคะ"
"มีอะไรรดา ลูกอยู่ไหน"
"ลูก...หายตัวไปค่ะ"
เขาตกใจ
"อะไรนะ ญาดาหายตัวไป"
พีศทรรตเร่งเดินมากับธัญรดา
"ฉันตื่นขึ้นมา แต้วก็บอกว่าลูกไปไหนไม่รู้ ตอนนี้แต้วกำลังตามหาอยู่"
"บอกคนในรีสอร์ตให้ช่วยตามหากันหรือยัง
"ยังค่ะ"
"แล้วรออะไร"
"ฉันไม่คิดว่าลูกจะหายไปไหนไกลหรอก อาจจะเดินเล่นอยู่แถวนี้"
"มันผ่านมาเป็นชั่วโมงๆแล้ว ยังหากันไม่เจอ ยังจะคิดว่าลูกอยู่แถวๆนี้อีกเหรอ"
โตโต้เดินเข้ามา กำลังจะไปตามเมอร์ดี้
"บอสครับ"
"โต้...เริ่มถ่ายกันหรือยัง"
"กำลังจะไปช่วยตมิสาจกเมอร์ดี้ขึ้นมาจากเตียงอยู่เนี่ยค่ะ จะได้เวลากองนัดแล้ว"
"ผมฝากด้วย ไปเถอะ ธัญรดา"
"บอสจะไปไหนครับ ไม่อยู่ดูเหรอครับ เช้านี้เซ็ตใหญ่"
"ลูกผมหายตัวไป ผมจะไปตามหา"
"ว้าย! โต้ไปช่วยด้วยค่ะ"
"ไม่ต้อง! ทำงานไป ทำแทนผม"
พีศทรรตพาธัญรดาออกไป โตโต้ยืนช็อกอยู่
"แล้วใครมันจะไปมีสมาธิทำงานล่ะคะ"
¬โตโต้ร้อนใจ ออกไป
ภัทรวลัยสงสัยเป้หายไปไหน
"ผัวฉันหายไปนานแล้วนะ"
"โอย! ปล่อยเค้าบ้างเหอะแก อีกหน่อยเค้าก็ต้องมีเมียเป็นพะยูน คงจะหนีไปทำใจล่วงหน้า" ปินัทธาบอก
"นัง..."
โตโต้ แทรกเข้ามา
"ป้า ป้า อีป้า"
"อะไร"
¬โตโต้วิ่งกระหืดกระหอบมา
"มาตามแล้วเหรอ ไปสิ!"
"ก็อยากจะให้ไปทำงาน แต่ขอปรึกษาก่อนนิส"
"ปรึกษาอะไร"
"คือแบบ...ลูกสาวบอสหายตัวไปค่ะ"
ปินัทธาและภัทรวลัยร้อง "หา!"
"ตอนนี้บอสออกไปตามหา แต่สั่งให้เราทำงานไป ไม่ต้องยุ่ง"
"ไม่ยุ่งได้ไง เด็กทั้งคนหายไป" ภัทรวลัยบอก
"แต่บอสสั่งมานี่คะว่าอย่ายุ่ง ก็เลยอยากจะปรึกษาป้าว่าจะเอาไงดี"
ปินัทธาอยากไปช่วยพีศทรรตตามหา
"ไม่ต้องถามแล้ว จะเอาไงล่ะ ไปช่วยกันตามหาเด็กก่อน" ภัทรวลัยว่า
"ไม่!"
ภัทรวลัยกับโตโต้ชะงัก "หา - คะ"
"ฉันมาที่นี่เพื่อทำงาน ไม่ได้มาเพื่อยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร ใครจะวัวจะควาย ฉันไม่สนใจอีกแล้ว"
ปินัทธาก็ออกไปเชิดๆ แต่ในใจ...ร้อนรน ภัทรวลัยและโตโต้มองตาม
น้ำฟ้ายืนเหม่อมองทะเล ยังไม่พูดอะไร เมธาวลัยทนไม่ไหว
"นี่! มีอะไรจะพูดก็พูดมา"
"เห็นว่า...ได้คุยกับกฤษจนเข้าใจกันแล้ว
"ใช่! เราตกลงจะคบหากันในฐานะแฟน ทำไม จะมาแสดงความดีใจเหรอ อย่าเลย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะดีใจกับความสัมพันธ์ของพวกฉัน"
"ก็รู้ดีนี่คะ"
"และฉันก็จะไม่มีทางเชื่อคำพูดของเธอถ้าคิดจะมาพูดใส่ร้ายป้ายสี เพื่อทำให้ฉันไขว้เขวหรือเปลี่ยนใจไปจากกฤษ"
"ฉันไม่ได้มาเพื่อจะพูดในสิ่งที่มันไม่เคยเป็นความจริง"
"แล้วจะมาพูดเรื่องอะไร"
"คุณเห็นฉันตกน้ำใช่มั้ย"
"เรียกว่าเห็นเธอจงใจจะทำให้ตัวเองตกลงไปมากกว่า"
"ซึ่งฉันว่ายน้ำไม่เป็น...มันคือความจริง"
"แล้วไง"
"ฉันจงใจทำเพื่อดึงความสนใจจากกฤษ"
"ฉันรู้"
"แม้กระทั่งด้วยวิธีที่ยอมเสี่ยงตาย"
"เพราะเธอมันโรคจิต"
"เพราะฉันรักกฤษมากต่างหาก"
เธออึ้ง
"แล้วฉัน...ก็สามารถทำแบบนั้นได้อีก จะกี่ร้อยครั้งพันครั้ง ฉันก็ทำได้"
"ทำทำไม เพื่ออะไร คิดว่าชีวิตตัวเองเป็นของเล่นหรือไง"
"เปล่า...ฉันจริงจังกับชีวิตของฉันต่างหาก ถ้าฉันต้องเสียกฤษให้คุณ ฉันยอมตาย"
"เธอหมายความว่ายังไง"
"ไปจากกฤษซะ ไม่อย่างนั้น...ฉันจะตายให้คุณดู ฉันตายได้โดยที่ไม่เสียดายชีวิต เพราะถ้าไม่มีกฤษ ฉันก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปทำไม...และฉันจะทำมันจริงๆ หรือคิดจะแลกระหว่าง ชีวิตฉันกับความรักของเธอ!"
น้ำฟ้า เอาจริงน่ากลัวมาก จนเธอถึงกับผงะ กลัวใจผู้หญิงอย่างน้ำฟ้ามาก
พีศทรรตวิ่งมากับธัญรดา แต้วกับพนักงานคนหนึ่งเข้ามาหา
"เป็นยังไงบ้างแต้ว"
"พนักงานถามคนแถวนี้ ไม่มีใครเห็นเลยค่ะ คุณพีศ" แต้วร้องไห้โฮ "น้องญาดาของแต้ว...ไปไหนทำไมไม่บอก เพราะคุณพีศกับคุณรดานั่นแหละ ทะเลาะกันต่อหน้าน้อง ไม่แคร์ความรู้
สึกน้องเลย เห็นมั้ยคะ! เสียใจจนหายไป ตอนนี้จะแคร์ลูกตัวเองกันได้หรือยัง"
พีศทรรตธัญรดาอึ้ง
"ถาม! ตอบ!"
พีศทรรตว่า
"ทำไมฉันจะไม่เคยแคร์"
"แกเป็นขี้ข้า อย่ามาตะคอกฉันนะ"
"เป็นขี้ข้า แต่ยังแคร์น้องมากกว่าแม่แท้ๆพ่อแท้ๆของแกซะอีก! หาน้องเจอแล้ว บอกเลย แต้วลาออก"
"เออ ไปเลย! ฉันไม่ง้อ"
"แต้ว ใจเย็น" พีศทรรตปราม
"ไม่เย็นค่ะ ไหนๆก็ไหนๆ...เมื่อคืนคุณรดานั่งกรอกหูน้องญาดาอยู่ได้ตั้งค่อนคืนว่า พ่อเลวยังงั้น พ่อเลวยังงี้ แม่ดีๆเค้าไม่ทำกันหรอก ตัวทะเลาะกันนั่นมันเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่เกี่ยวกับเด็ก แต้วไม่ออกก็ได้"
"ตกลงออกหรือไม่ออก"
"ก็ถ้าต้องตามไปเลี้ยงน้องกับที่บ้านคุณรดา แต้วออกแน่ แต้วไม่ขอทนบอกเลย!" แต้วบอกกับพนักงาน "ไปพี่ ไปหากันต่อ"
แต้วออกไปกับพนักงาน ทิ้งให้พีศทรรตมองธัญรดาอย่างไม่พอใจ
"ถ้าลูกเป็นอะไรไป...ผมจะไม่ยกโทษให้คุณเลย จำไว้"
พีศทรรตวิ่งออกไป เพื่อตามหาญาดา ธัญรดาเจ็บใจ แต่ก็นึกเป็นห่วงญาดา วิ่งออกไปตามหาอีกทาง
ภัทรวลัยคว้างกลางรีสอร์ต หลังจากตามหาเป้ไม่เจอ
"ผัวฉันหาย"
วลัยคิดขึ้นได้จะโทร.หาคุณเป้ หยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋า กดเบอร์โทร.ออก
เสียงเรียกเข้ามือถือเป้ดังมาจากกระเป๋าของเธอ
"ทำไมไม่รับสาย"
เธอได้ยินเสียงมือถือในกระเป๋าตัวเอง หยิบขึ้นมาดู เป็นมือถือของเป้
"เอ๊า...มือถือพี่เป้อยู่ในกระเป๋า แล้วตัวพี่เป้อยู่ไหน"
พนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามา ภัทรวลัยคว้าตัวเอาไว้
"น้องคะ เห็นผัวพี่มั้ยคะ ที่ก้ามปูๆ หล่อขั้นเทพน่ะค่ะ"
พนักงานตื่นเต้นมาก
"พี่มีสามีได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ แนะนำหนูหน่อยสิคะ ต้องทำไง"
ภัทรวลัยเซ็ง เดินหนีเลย
เป้อยู่ในเรือกับวายุบุตร โดยมีกฤษฎาเป็นคนขับเรือ ทุกคนร้อนใจ
ในห้องใต้ท้องเรือยอร์ช สิริมาถูกมัดมือตัวติดกับเก้าอี้ มือยังว่างอยู่ ลดมือถือลง ขณะที่ถูกมาร์กคุมตัว เจตต์อยู่ใกล้ๆ
"มือถือวายุบุตรไม่มีสัญญาณ"
"อย่าตุกติกนะ"
"ไม่เชื่อก็ลองโทร.ดูเองสิ"
"โทร.ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะโทร.ติด ฉันจะเชือดมันให้พวกเธอดูเป็นขวัญตาก่อนจะออกเดินทางไกล"
ช้างเดินเข้ามา รายงานพิภพ
"คุณลินีมาถึงท่าเรือแล้วครับเสี่ย คนของเรากำลังรับมาที่นี่"
"ดี ไอ้เจตต์คุมตัวนังนี่ไว้ ได้เวลาที่ฉันจะต้องไปเตรียมตัวต้อนรับ คุณลินี"
"ครับ เสี่ย"
"ไอ้มาร์ก...ติดต่อมิสเตอร์เหงียน สินค้าเราพร้อมส่งแล้ว เตรียมโอนเงินได้แล้ว"
"ครับ เสี่ย"
พิภพเดินออกไปกับช้างและมาร์ก เหลือเจตต์กับสิริมาสองคน
อ่านต่อหน้า 4
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 24 (ต่อ)
ณัฎฐาลินีเดินเข้ามาที่ท่าเรือ มองซ้ายมองขวา ในมือ ถือมือถือเอาไว้ ลินีมองไม่เห็นใคร รีบเปิดมือถือ โทร.หากุ๊งกิ๊ง
"พี่อยู่ที่ท่าเรือแล้ว ตามมาแล้วใช่มั้ย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันนัดให้พี่มาเจอที่นี่...ยังไม่เห็นใครเลย"
จู่ๆมีชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินเข้ามาประกบเธอและแย่งมือถือโยนทิ้งทะเลทันที
"เฮ้ย! นาย! ทำอะไร จะบ้าเหรอ มือถือฉัน ทำอย่างนี้ได้ยังไง"
"คุณโทร.หาใคร"
"แล้วนายเป็นใคร"
ชายฉกรรจ์เปลี่ยนเรื่อง
"นี่เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย ตามผมมา"
ชายฉกรรจ์เดินนำเธอเลี่ยงไปทางหนึ่ง ซึ่งป็นป่ารก แล้วหายไป
กุ๊งกิ๊ง กับตำรวจนอกเครื่องแบบตามมา แอบอยู่ที่หนึ่งใกล้ท่าเรือ
กุ๊งกิ๊งบอกกับตำรวจ
"สัญญาณมือถือหายไปแล้ว เหมือนปิดเครื่อง"
"พวกมันอาจจะไหวตัวทัน กลัวจะถูกติดตาม เลยต้องกำจัดอุปกรณ์สื่อสารของคุณลินี"
"จริงเหรอคะ แล้วพี่ลินีจะเป็นอันตรายมั้ยคะ"
"ผมจะรีบติดต่อสายของเราที่อยู่ข้างใน"
ตำรวจเลี่ยงกันไป เจรจาวางแผนกันอยู่ที่มุมหนึ่ง
"พี่ลินี...อย่าเป็นอะไรเลยนะ"
กุ๊งกิ๊งเป็นห่วงณัฎฐาลินี
ลินีตามชายฉกรรจ์มาถึงป่าริมน้ำ ซึ่งจอดเรือสปีดโบ้ตแอบไว้อยู่ ชายฉกรรจ์ลงไปในเรือติดเครื่อง
"เชิญ"
"ทำไมต้องลึกลับซับซ้อนขนาดนี้"
ชายฉกรรจ์หยิบปืนขึ้นมาขู่
"เชิญ"
¬เธออึ้งตกใจ หน้าถอดสีทันที รู้ทันทีว่า ตอนนี้แผนไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดแล้ว
ห้องใต้เรือยอร์ช เจตต์เข้ามาคุยกับสิริมา
"คุณจะทำร้ายคุณวายุบุตรได้จริงๆเหรอ คุณสิริมา"
"แกคิดว่า ที่ฉันลงทุนและมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะยอมตายน้ำตื้นเหรอ เจตต์"
"แล้วคุณจะทำยังไง"
"ทำในสิ่งที่ต้องทำ ฉันจะไม่ลากวายุเข้ามาเด็ดขาด แกก็เหมือนกัน ทำในสิ่งที่แกต้องทำ จำไว้ว่าที่แกอาสาวายุเพื่อทำงานนี้เพราะอะไร"
"ผมไม่ลืมแน่ ว่าน้องสาวผมต้องตายเพราะฝีมือพวกมัน ตำรวจจะต้องจับมันได้พร้อมหลักฐาน มันต้องถูกเช็คบิลอย่างสาสม"
"ตามติดพวกมันให้ดี หาทางรายงานตำรวจให้ได้ ว่ามันจะไปส่งสินค้าที่ไหนกันแน่"
เจตต์พยักหน้ารับ ทั้งคู่ต่างมีเป้าหมายที่เสี่ยงอันตราย
เรือยอร์ชลอยกลางทะเล ณัฎฐาลินีเดินเข้ามาในห้องรับแขก กับชายฉกรรจ์ที่มาส่งพร้อมปืนที่เล็งตัวเธออยู่ พิภพนั่งรออยู่แล้ว ช้างยืนประกบอยู่
"ยินดีจริงๆครับ ที่ได้เจอคุณลินีอีกครั้ง"
"ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉัน เหมือนคุณไม่ไว้ใจฉัน"
"ก็เพราะไม่ไว้ใจแล้วสิครับ"
พิภพยิ้มรอเชือดเดินเข้าไปหา เธฮพยายามสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ ในสมองพยายามหาทางหนีทีไล่
ในมุมแต่งตัว เมอร์ดี้นั่งหาว ในมือถือมือถือเช็ค ig โน่นนี่นั่นอย่างเซ็งๆ ตมิสานั่งหาวอยู่ข้างหลัง ในมือตมิสาถือมือถือเอาไว้ในองศาที่ถ่ายคลิปเมอร์ดี้ตลอดเวลา
ปินัทธาเข้ามากับโตโต้ เจ๊ฟูเข้าไปต้อนรับ
"เชิญค่ะ คุณน้ำผึ้ง"
"ค่ะ"
เธอลงนั่ง ช่างเข้ารุมทันที โตโต้เห็นเมอร์ดี้ถือมือถือ เลยถามตมิสา
"เก็บมือถือมาคืนนางแล้วเหรอ"
"เออสิยะ"
นางแบบทั้งสองคนมองอย่าท้าทายกัน โตโต้กระซิบตมิสา
"กดถ่ายคลิปเร็ว"
"เล็งอยู่เนี่ย!"
ตมิสายกมือถือ กดถ่ายคลิป โตโต้รีบแกล้งชวนคุยกับตมิสาไม่ให้มีพิรุธ
"ดูรูป ig ยัยดาราคนนี้สิ ตมิสาselfie สุดๆอ่ะ"
ทุกคนหันมามอง
"selfie คือ.." ตมิสาถาม
"คนที่ชอบโพสต์รูปถ่ายตัวเองในโลกออนไลน์ จะไอจี หรือเฟสบุ้กก็ตามแต่ ด้วยมุมแห่งดวงดาว...มุมที่ถ่ายแล้วเกิดที่สุดอ่ะ แล้วรอดูว่าจะมีคนเข้ามากด like เท่าไหร่ คอมเม้นว่า ยังไงบ้าง"
"แล้วถ้ามีคนไลค์น้อย หรือเม้นไม่ดีอ่ะ"
ตมิสามือตก โตโต้รีบยกขึ้นมาใหม่ให้ถ่ายต่อ
"ก็จะเครียด จิตตก เหวี่ยง วีนคนในโลกออฟไลน์ หรือโลกแห่งความจริงที่นางมีชีวิตอยู่ คนประเภทนี้เรียกว่ามี Low Self Esteem หรือ ความเคารพในตัวเองต่ำ"
"อุ๊ตะ! คล้ายคนที่เจ๊รู้จัก อย่าบอกเลยว่าใคร"เจ๊ฟูว่า
ตมิสา โตโต้สังเกตดูน้ำผึ้งกับเมอร์ดี้ต่อไป เมอร์ดี้เมินใส่ ปินัทธาถอนใจ เปรยๆกับช่างแต่งหน้า
"เมื่อกี้ป้าเห็นหนูยกมือไหว้ ไหว้สวยนะคะ"
ช่างแต่งหน้าบอก
"ขอบคุณค่ะป้า มันเป็นวัฒนธรรมไทยที่ต้องรักษาเอาไว้ค่ะ ไปลามาไหว้"
"ดีค่ะดี ใครไม่ทำก็ช่างมันเนาะ ให้กลายเป็นคนไร้ราก ถ้ารากไม่มี ลำต้นก็จะอยู่ลำบาก แห้งตายยืนต้น น่าสงสาร"
เมอร์ดี้ลุกขึ้นเลย
"ปวดฉี่ค่ะ"
เมอร์ดี้เดินหนีออกไป ตมิสา โตโต้ หันมามองหน้ากัน
"ยืนเฉยทำไม ตามไปสิ"
ตมิสาตามเมอร์ดี้ออกไปทันที ปินัทธามองตามเมอร์ดี้ ส่ายหัว อย่างระอา
โตโต้กระซิบ
"ป้าดูใจเย็นจริง...ไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว จนอยากไปช่วยบอสตามหาลูกเหรอคะ"
"ไม่!"
เธอให้ช่างแต่งหน้าต่อไป โตโต้เซ็ง เป็นห่วงพีศทรรต เธอสายตาหวั่นไหวมาก
มุมหนึ่งบริเวณชายหาด พีศทรรตเดินตามหาญาดา หน้าเสีย ใจเสีย
"ญาดา...อยู่ไหนลูก ญาดา"
อีกมุมหนึ่ง ธัญรดาเดินตามหาลูกสาว แต่ไม่เห็น ใจคอไม่ดี ก็หมดแรง รู้สึกผิดขึ้นมา หัวใจเหมือนถูกบีบ พูดกับตัวเอง
"ญาดา...แม่ขอโทษ ญาดา...แม่ผิดเอง"
ธัญรดาเสียใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ ออกตามหาลูกต่อไป เธอตะโกนเรียกหา
"ญาดา"
ณัฎฐาลินีถูกจับมัดติดกับสิริมาที่มองเธฮอย่างสมเพช
"มองอะไร"
"ชะตากำลังจะขาด แล้วยังทำอวดเก่ง"
"คงไม่ต่างไปจากคุณเท่าไหร่หรอกมั้ง"
"เงียบ"
ทั้งคู่เงียบ
"ผู้หญิงเวลาที่เกลียดขี้หน้ากัน พลังมันรุนแรงพอๆกับระเบิดเลยนะ ว่ามั้ยวะ ฮ่ะๆๆ"
ช้าง มาร์ก เจตต์หัวเราะตามพิภพ เธอมองหน้าพิภพด้วยความจงเกลียดจงชัง เขา เย้ยใกล้ๆเธอ
"อย่ามองผมแบบนั้นสิครับคุณลินี...คุณรนหาที่เองนะ ลาออกจากงาน อยู่บ้านเฉยๆก็ไม่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว"
"ถุย!"
พิภพผงะ ช้าง มาร์กจะเข้าไปชาร์จ พิภพยกมือห้าม หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้า ยิ้มๆ จากนั้นก็ตบหน้าเธออย่างแรง แต่เธอไม่ยอมแพ้ ใช้เท้าที่ยังว่างอยู่ ยกขึ้นถีบพิภพอย่างแรง จนกระเด็น
"อีนี่!"
ช้างจะเข้าไปทำร้าย
"หยุด!"
ช้างชะงัก
"อย่าทำให้สินค้าต้องบอบช้ำ ราคามันจะตก"
"สินค้า"
"มันจะจับเธอส่งไปขายรวมกับผู้หญิงพวกนั้น"
เธอโกรธมาก
"ไอ้.....นรกส่งมาเกิด"
"นรกอาจจะส่งฉันมาเกิดก็จริง...แต่น่าแปลกนะ ฉันกลับเกิดมามีชีวิตเหมือนอยู่ในสวรรค์"
"ตอนนี้แกอาจจะรู้สึกอย่างนั้น แต่อีกไม่นานสวรรค์ของแกก็จะล่ม ไม่มีคนชั่วคนไหนจะเสวยสุขบนความทุกข์ของคนอื่นได้นานหรอก! แกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำเอาไว้"
"มั่นใจขนาดนั้นเชียว"
"เออ !"
"ที่พลาดถูกจับได้แบบนี้ไม่ใช่เพราะความมั่นใจของตัวเองเหรอ คุณณัฏฐาลินี!"
"อย่ามาเรียกชื่อเต็มฉันให้เป็นเสนียด"
"หุบปากซะทีได้มั้ย รำคาญ! หยุดตีฝีปากอวดฉลาดได้แล้ว" สิริมาบอก
"เรื่องของฉัน"
"มาเรื่องของเธอดีกว่าสิริมา...โทร.หาไอ้วายุบุตรได้หรือยัง"
"ก็บอกแล้วไง ว่ามือถือวายุไม่มีสัญญาณ"
"แต่ฉันคิดว่าตอนนี้...ไม่เป็นอย่างนั้นนะ"
พิภพต่อสายหาวายุบุตรทันที ณัฎฐาลินี สิริมาและเจตต์ต่างอึ้งมองกัน
วายุบุตร กฤษฎา และเป้วิ่งมาหากุ๊งกิ๊ง ซึ่งอยู่กับตำรวจนอกเครื่องแบบ
"สารวัตรบอกผมว่าพวกคุณรออยู่ที่นี่ ได้ข่าวคืบหน้าอะไรบ้างหรือยัง"
ตำรวจ1 บอก
"สายของเรารายงานมาแล้วว่า เรือยอร์ชของไอ้เสี่ยพิภพอยู่กลางทะเล ใกล้ท่าเรือนี่แหละ ส่วนจุดนัดส่งสินค้ากำลังรอความชัดเจนอยู่"
"พี่ลินีก็อยู่บนเรือมันด้วยค่ะ กับคุณ...สิริมา"
"สิริมา? สิริมามาเกี่ยวอะไรด้วย"
กฤษฎาและ เป้ได้ยินเสียงมือถือของวายุบุตร
"เหมือนเสียงมือถือคุณจะดังนะครับ คุณวายุบุตร"
วายุบุตรรีบหยิบมือถือขึ้นมา
"เบอร์ไอ้พิภพ!"
วายุบุตรสบตาตำรวจที่พยักหน้าให้รับ วายุบุตรกดรับสาย
" ฮัลโหล ว่ายังไง เสี่ยพิภพ"
วายุบุตรหน้าตาเคร่งเครียด
เมอร์ดี้เดินถือมือถือเข้าห้องน้ำไป ปิดประตู ตมิสาตามเข้ามา ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ มองหาช่อง อยากแอบดู เมอร์ดี้เปิดประตูออกมา
"ทำอะไร พี่ตมิสา"
"ก็แอบถ่าย เอ้ย...ไม่มีอะไรค่ะ เช็คดูค่ะว่ามีช่องโหว่อะไร ตรงไหนยังไง ถ้ามีพี่จะได้ยืนปิดให้ คนจะได้ไม่เห็น"
เมอร์ดี้ไม่อยากจะเชื่อ ไม่สนใจ ปิดประตู ตมิสายืนเฝ้า โล่งอก เซ็ง ยืนรอต่อไป
เมอร์ดี้ลงนั่ง แต่ไม่ทำอะไร เปิดมือถือ พิมพ์ sms ด้วยข้อความบางอย่าง หน้าตาเครียดมาก
ปินัทธาแต่งหน้า โตโต้นั่งตูดไม่ติดอยู่ใกล้ๆ มีเสียงเตือนจากมือถือว่ามีข้อความ SMS เข้ามา น้ำผึ้งแปลกใจ เธอบอกกับช่าง
"เดี๋ยวนะ แป๊บนึงๆ"
เธอหยิบมือถือขึ้นมาดูหน้าจอ...เห็นข้อความจาก “เมอร์ดี้”
"เมอร์ดี้...ส่งข้อความอะไรมาให้ฉัน"
เธอกดเปิดออกอ่าน อึ้ง...
“นังน้ำผึ้งมันมองหนูด้วยสายตาเหยียดหยาม ทุกคนก็ตามจับผิดหนู แต่หนูไม่พลาดให้พวกมันจับได้หรอก ยังไงหนูก็จะหาทางทำให้นังน้ำผึ้งมันอยู่ไม่ได้ มันจะต้องเจ็บเหมือนกับที่มันเคยทำกับหนู...รักนะคะคุณแม่ พรุ่งนี้เจอกัน”
เธออึ้ง เหมือนถูกตีกลางแสกหน้า
เมธาวลัยเดินซึมมาตามชายหาด คิดถึงประโยคของน้ำฟ้า
"ฉันตายได้โดยที่ไม่เสียดายชีวิต เพราะถ้าไม่มีกฤษ ฉันก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปทำไม...และฉันจะทำมันจริงๆ หรือคิดจะแลกระหว่าง...ชีวิตฉันกับความรักของเธอW
เธอเครียดทรุดตัวลง
"หรือคิดจะแลกระหว่าง ชีวิตฉันกับความรักของเธอ"
เธอเครียดจัด ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี
พิภพคุยมือถือ เธอมองพิภพไม่วางตา
"ที่รีสอร์ตนั่น เรือสปีดโบ้ตก็มี แกคงมาได้สบายๆ แต่จำไว้นะ ถ้าฉันเห็นหรือได้กลิ่นตำรวจตามแกมาล่ะก็...นังลินีกลายเป็นอาหารมื้อเที่ยงของฉลามแถวนี้แน่"
พิภพวางสาย ยิ้มย่อง เธอมองพิภพด้วยความเคียดแค้น
อ่านต่อตอนที่ 25