ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 24
สินียืนมองหน้าจอโทรทัศน์ที่กำลังรายงานข่าว
“จากที่เหตุการณ์อุกฉกรรจ์ ลอบยิงนักธุรกิจสาวกลางงานประกาศรางวัล ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายได้แล้ว”
สินีตกใจมาก “เลวที่สุด มันทำงานพลาดอีกแล้ว”
คัชพลเดินเข้ามาฟังด้วยอย่างสงสัย
“จากการสอบสวนเบื้องต้น มือปืนได้ให้การซัดทอดไปถึงผู้จ้างวานฆ่าว่าเป็นคนในตระกูลโชตินุพงษ์ อดีตหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทPrime Enterprise และตำรวจยังสืบได้ว่า มือปืนกลุ่มนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับคดีลอบยิงนายดนัยบุตรชายอธิบดีทรงพลเมื่อหลายเดือนก่อน”
สินีกับคัชพลตกใจมาก
“คุณแม่ครับ” คัชพลเอ่ย
สินีลนลาน เปิดลิ้นชัก “กุญแจเซฟ กุญแจเซฟ”
“คุณแม่จะทำอะไร” คัชพลถาม
“แม่จะหนี แม่อยู่ไม่ได้แล้ว” สินีว่า
“คุณแม่ครับ คุณแม่ใจเย็นๆครับ” คัชพลจับแขนผู้เป็นแม่
“คุณแม่ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” คัชพลเอ่ย
“ตาใหญ่..” สินีอึ้งไป
บุรุษพยาบาลเข็นเตียงคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉิน ยศสรัลกับเกรซวิ่งตามด้วยความเป็นห่วง แต่ถูกห้ามเข้าห้องฉุกเฉิน
“ญาติรอด้านนอกนะคะ” พยาบาลกล่าว
ขณะเดียวกัน คัชพลกำลังรีบเก็บข้าวของอยู่ที่ห้องนอน สินียืนร้องไห้มองดูลูกเห็นมณทิตาวิ่งเข้าห้องมา
“พี่ใหญ่คะ มณจะไปกับพี่ใหญ่ด้วย” มณฑิตาว่า
“ที่จริงมณไม่ต้องไปกับพี่ก็ได้นะ” คัชพลเอ่ย
“ไม่ได้ค่ะ ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว มณจะไม่ทิ้งพี่ใหญ่”
“ขอบใจมากนะมณ”
คัชพลกอดมณทิตาแล้วรีบเดินไปหยิบเสื้อ มณฑิตานั่งลงพับเสื้อผ้าให้ สินียืนมองอย่างรู้สึกผิดและเสียใจ
เวลาผ่านไป หมอและพยาบาลกำลังช่วยชีวิตวีด้าอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน ยศสรัลคอยดูอยู่ข้างนอกอย่างเป็นห่วง
ธัญกรยืนกุมมือแม่มองดูคัชพลกับมณทิตาอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ คนรับใช้ถือกระเป๋าสัมภาระเท่าที่จำเป็นลงมา คัชพลร่ำลาแม่ เขาฝากธัญกรดูแลแม่
“นายเล็ก พี่ฝากคุณแม่ด้วยนะ”
สินีร่ำไห้โผกอดคัชพล
“ตาใหญ่ แม่…แม่ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ไปเถอะค่ะพี่ใหญ่ เดี๋ยวตำรวจคงมาแล้ว” มณฑิตาว่า
คัชพลกับมณฑิตารีบเดินออกจากบ้านไป สินียืนมองร้องไห้ โดยมีธัญกรคอยปลอบ
“วีด้าเป็นยังไงบ้างคะ พี่สรัล” เกรซวิ่งเข้ามาถาม
“เกรซ….." ยศสรัลพูดอะไรไม่ออกลุกเดินไปมองหน้าห้อง ก่อนลงมานั่งเครียด
เกรซมองยศสรัล รู้สึกเป็นห่วงไปด้วย
เวลาผ่านไป หมอเดินออกมา มีสีหน้ายินดี
“ยินดีด้วยครับ ผลการผ่าตัดเป็นไปด้วยดี”
ยศสรัลกับเกรซโล่งใจ
“เดี๋ยวตามไปดูที่ห้องได้ครับแต่คนไข้คงฟื้นพรุ่งนี้”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ” เกรซเอ่ย
ยศสรัลยังเป็นห่วงอยู่ เขามองตามเข้าไปในห้องไอซียู
กลางดึกคืนนั้น ตำรวจยืนอยู่กับสินีในห้องรับแขก
“ไม่น่าเลยตาใหญ่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้” สินีเอ่ย
ตำรวจอีกคนเดินเข้ามาร่วม
“เราค้นจนทั่ว ไม่พบนายคัชพลแล้วครับ”
“โธ่ใหญ่ลูกแม่”
ตำรวจอีกนาย สังเกตสินีนิ่งๆ
ยศสรัลนั่งเฝ้าวีด้าอยู่ในห้องพักผู้ป่วย วีด้ายังไม่ฟื้น ยศสรัลมองดูวีด้าด้วยความรักและเป็นห่วง เขากุมมือวีด้า
“วีด้า..”
เวลาผ่านไป ยศสรัลก็ยังนั่งเฝ้าวีด้าไม่ยอมหลับ
เช้าวันใหม่ ยศสรัลฟุบหลับอยู่ข้างเตียง พยาบาลเดินเข้ามาตรวจอาการวีด้า เสียงโทรศัพท์ของยศสรัลดังขึ้น ยศสรัลตื่นมารับสาย
“สวัสดีครับ คุณกำธร วีด้าปลอดภัยแล้วครับ”
“ขอบใจมากนะสรัล อากำลังรีบไปขึ้นเครื่อง แล้วเจอกัน” กำธรวางสาย
“ผู้ต้องหาที่จ้างวานฆ่า คือนายคัชพล โชตินุพงษ์ ตอนนี้ได้หลบหนีออกไปต่างประเทศ” ยศสรัลอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ เขาตกใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้
“คุณแม่.....”
“เหตุจูงใจในการลอบสังหารเชื่อว่า เป็นเรื่องขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ..” เขาอ่านต่อ
ยศสรัลกลุ้มใจแทนพี่ชาย
วีด้าตื่นขึ้น เธอลืมตามามองยศสรัล
“วีด้า..” ยศสรัลดีใจ
ยศสรัลรีบเข้าดู
“คุณ…” วีด้างง
“คุณปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”ยศสรัลกุมมือวีด้า รู้สึกเสียใจที่แม่ตัวเองเป็นต้นเหตุ
เกรซเปิดประตูเข้ามา ยศสรัลผละออกจากวีด้าทันที
“วีด้า ฟื้นแล้วเหรอ” เกรซพูดกับเพื่อนก่อนหันไปขอบคุณยศสรัล
“ขอบคุณมากนะคะพี่สรัลที่ช่วยอยู่เฝ้ายัยวีด้าทั้งคืน”
“ไม่เป็นไรครับ” ยศสรัลว่า
วีด้ามองยศสรัลที มองเกรซทีอย่างงงๆ
“วีด้า ชั้นมาแล้วนะ โชคดีที่แกไม่เป็นอะไรมาก”
วีด้ามองซ้ายมองขวา แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างงงๆ
“คุณสองคน...เป็นใครเหรอคะ”
ยศสรัลชะงักหันไปมองหน้าวีด้า แล้วสบตากับเกรซที่อึ้งไปเช่นกัน
“วีด้าแกพูดอะไรแกล้อฉันกับพี่สรัลเล่นใช่มั้ย” เกรซว่า
“ฉันไม่รู้ว่าคุณสองคนเป็นใคร แล้วใครคือวีด้า” วีด้าพูดต่อ
ยศสรัลกับเกรซยิ่งอึ้งหนัก มองวีด้าที่พยายามครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆอย่างเครียดๆ
ที่ห้องตรวจ หมอกำลังดูแผ่นเอ็กซเรย์สมองของวีด้ายศสรัลกับเกรซ นั่งรอฟังอย่างจดจ่อ
“ผลจากที่คุณวีด้าล้มลงอย่างแรงเพราะแรงอัดของกระสุน ทำให้ศีรษะของเธอกระแทกพื้น บวกกับสภาวะจิตใจของคุณวีด้าที่เครียดจัด คงทำให้เกิดภาวะความจำเสื่อมขึ้นครับ” หมอกล่าว
ยศสรัลกับเกรซอึ้งไปกับข้อมูลที่ได้รับ
“ความจำเสื่อม!” ยศสรัลพูด
“หมายความว่า ยัยวีด้าจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดเหรอคะ” เกรซถาม
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพราะผลจากการเอ็กซเรย์ สมองของคุณวีรดาได้รับการกระทบกระเทือนก็จริง แต่ไม่ได้ร้ายแรง อาการความจำเสื่อมที่เกิดขึ้นกับเธอนี้ คงเป็นอาการที่เกิดขึ้นแค่ชั่วคราวนะครับถ้าได้รับการฟื้นฟูและดูแลอย่างใกล้ชิด ความจำของคุณวีรดาอาจจะกลับมาได้ในไม่ช้าครับ” หมอตอบ
ยศสรัลกับเกรซมองหน้ากัน
ยศสรัลเดินคุยกับเกรซมาตามทางเดิน
“โอ๊ย อะไรกันนักหนา เมื่อไหร่วีด้า จะหมดเคราะห์กรรมซะทีนะ” เกรซว่า
“มันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้” ยศสรัลเอ่ย
“ดียังไงคะพี่สรัล” เกรซสงสัย
“เพราะวีด้าจะได้ลืมเรื่องราวร้ายๆไปได้บ้าง พี่ดีใจที่เห็นคนที่พี่รัก พ้นจากความทุกข์ต่างๆแค่ชั่วคราวก็ยังดี” ยศสรัลตอบ
“ก็จริงค่ะ” เกรซว่า
“และพี่ก็ใช้เวลานี้ สร้างความทรงจำใหม่ที่ดีให้กับวีด้า ทำให้วีด้ามีความสุขที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ยศสรัลพูดอย่างแน่วแน่
เกรซยิ้มตื้นตันกับคำพูดของยศสรัล
ในขณะที่ยศสรัลกำลังป้อนข้าววีด้าอยู่นั้น กำธรก็ผลักประตูเข้ามา
“วีด้า อากลับมาแล้วนะลูก” กำธรเอ่ย
วีด้ามองหน้าอากำธรงงๆ
ยศสรัลเล่าเรื่องราวให้กำธรฟัง
“ความจำเสื่อม” กำธรพูด
“ไม่ต้องห่วงนะครับ หมอบอกว่า อาการนี้ จะเป็นแค่ชั่วคราวส่วนอาการอื่นๆ วีด้าปลอดภัยดีทุกอย่างครับ กระสุนแค่ถากไป ไม่โดนจุดสำคัญ” ยศสรัลพูด
กำธรมองวีด้าด้วยความเป็นห่วง
กำธรกุมมือวีด้า
“วีด้าหลานรักของอา รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่มั้ย”
วีด้ายังระแวง “อา..”
“นี่คุณอากำธร เป็นคุณอาแท้ๆของน้องแพรไงครับ” ยศสรัลบอก
“ค่ะ” วีด้าพยักหน้า
“น้องแพร...” กำธรงง
“วีด้าจำได้แต่ตัวเองชื่อแพรครับ” ยศสรัลบอก
กำธรพยักหน้ารับรู้มองวีด้าอย่างห่วงใย
ยศสรัลกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน เจอคนรับใช้ที่หน้าบ้าน
“คุณแม่ล่ะ” ยศสรัลถาม
“เพิ่งทานข้าวเสร็จค่ะ” คนรับใช้ตอบ
“ฝากดูคุณแม่ด้วยนะ”
“ค่ะ”
“ยังไงชั้นก็ไม่ยอมหยุดจองเวรกับมัน” เสียงสินีดังมา
ยศสรัลหยุด หันมองสินี “คุณแม่”
ยศสรัลไม่อยากโต้ตอบยังรู้สึกโกรธผู้เป็นแม่อยู่ กำลังจะเดินออกไป ธัญกรก็เดินมาอีกทาง
“พี่ชายแกหมดอนาคตเพราะผู้หญิงคนนี้! แล้วแกยังจะไปเฝ้ามัน” สินีพูดกับธัญกร
“พี่ใหญ่หมดอนาคตเพราะใครกันแน่ครับ คุณแม่ลองคิดดูดีๆและผมต้องไปเฝ้าเค้าเพื่อชดใช้ในสิ่งที่คุณแม่ทำกับเค้า” ยศสรัลว่า
“ชั้นไปทำอะไร ชั้นไม่ได้ทำอะไรมัน แต่แกน่ะแหละ อยู่ข้างมัน” สินีไม่ยอมรับ
“ผมอยู่บนความถูกต้องครับ คุณแม่หยุดก่อกรรมซะทีเถอะครับ”
“แล้วนังวีด้าล่ะ” สินีถาม
“วีด้าเค้าเลิกคิดเรื่องนี้ไปนานแล้ว” ยศสรัลว่า
“ก็ใช่สิ ก็มันได้ทุกอย่างไปหมดแล้วนี่ ห้ามไปเยี่ยมมัน ห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีกแกก็รู้ว่าชั้นเอาจริง ถ้าแกยังกล้าโผล่ไปหามันแกจะไม่ได้เห็นหน้าชั้นอีกต่อไป” สินีพูด
“คุณแม่ใช้วิธีนี้กับผมอีกไม่ได้แล้วครับ เพราะผมรู้ว่าคุณแม่รักตัวเองไม่งั้นคุณแม่คงไม่ปล่อยให้พี่ใหญ่รับผิดแทนหรอกครับ” ยศสรัลพูดจบก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งสินีให้อึ้งอยู่ตรงนั้น
เช้าวันใหม่ กำธรให้ยศสรัลออกมาคุยด้วยที่สวนในโรงพยาบาล กำธรยืนครุ่นคิดอยู่ยศสรัลเดินตามออกมา
“คุณกำธรมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ” ยศสรัลเอ่ย
“ถึงป่านนี้แล้ว เรียกฉันว่าคุณอาเถอะ” กำธรว่า
“ครับคุณอา”
“เมื่อครู่อาไปปรึกษาคุณหมอมา เรื่องอาการของวีด้า ตอนแรกอาคิดว่าอาจะพาวีด้าไปรักษาตัวที่สิงคโปร์ หมอที่นั่นก็เก่ง และอาเองก็จะได้ดูแลวีด้าได้สะดวก แต่คุณหมอไม่แนะนำ เพราะการพาวีด้าไปต่างที่ อาจทำให้ความทรงจำของเธอคืนมาช้าลง”
“ผมก็ไม่อยากให้คุณอา พาเธอไปครับ”
“แต่อาก็ต้องดูแลงานที่สิงคโปร์ ต้องบินไปบินกลับ จะให้กวนหนูเกรซตลอดก็เกรงใจ”
“ผมจะดูแลวีด้าเองครับคุณอา ครอบครัวผมทำผิดต่อวีด้าไว้มาก ผมอยากชดเชยให้กับเธอ” ยศสรัลพูดอย่างหนักแน่น
“ถ้าทำเพราะรู้สึกผิด อาบอกเลยนะว่าไม่จำเป็น เพราะหลานเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไร คนเรารับผิดชอบแทนกันไม่ได้หรอก”
“ผมไม่ได้ทำเพราะรู้สึกผิดอย่างเดียวครับคุณอา ผมทำ...เพราะผมรักวีด้า ผมรักเธอ และยินดีจะดูแลเธอตลอดไป” ยศสรัลสารภาพ
กำธรหนักใจ มองหน้ายศสรัล
“อาไม่มั่นใจ ว่าวีด้าจะยอมรับสรัลได้หรอกนะ”
“อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้พยายาม ได้ดูแลเธอในเวลานี้”
“จะเอาอย่างงั้นก็ได้ งั้นอาก็ฝากวีด้าด้วยนะสรัล”
ยศสรัลยิ้มตอบกำธร นัยน์ตาแน่วแน่
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 24 (ต่อ)
ยศสรัลกลับเข้ามาในห้องพักวีด้าอีกครั้งพร้อมกับกำธร ส่วนเกรซกำลังจะออกไปทำงาน
“เกรซต้องไปดูร้านแล้วค่ะพี่สรัล” เกรซว่า
“ตามสบายเลย เดี๋ยวพี่ดูน้องแพรต่อเอง” ยศสรัลพูดพร้อมกับหันไปสบตาวีด้า
เกรซยิ้ม หันไปหาวีด้า
“ฉันไปทำงานก่อนนะแพร ตอนค่ำๆเจอกัน”
“สวัสดีค่ะคุณอา” เกรซไหว้กำธร
กำธรรับไหว้ เกรซเดินออกไป สวนทางกับพยาบาลที่เข็นอาหารเข้ามา
“มาครับ พี่ป้อนน้องแพรเอง” ยศสรัลเอ่ย
“ค่ะ”
ยศสรัลจัดการป้อนข้าววีด้า วีด้ายิ้มยอมกินแต่โดยดี
กำธรมองยศสรัลอย่างขอบใจ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ยศสรัลยังคงมาดูแลวีด้าอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ทั้งป้อนข้าว นอนเฝ้า จัดดอกไม้ใส่แจกัน วันหนึ่ง ยศสรัลเข็นวีด้าออกมารับลมวีด้าดูสดชื่นขึ้นมาก
“รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ยครับน้องแพร” ยศสรัลถาม
“ค่ะ ดีกว่าอยู่แต่ในห้องตั้งเยอะ ว่าแต่ เมื่อไหร่แพรจะหายคะ” วีด้าถาม
“แล้วน้องแพรจำอะไรได้บ้างหรือยัง”
วีด้าชะงักลองพยายามคิด
“ไม่ค่ะ แพรจำได้แค่ว่า แพรชื่อแพร แล้วแพรก็รู้สึกผูกพันกับเกรซ กับคุณอา แล้วก็กับคุณ...”
“เรียกพี่สรัลเถอะ” ยศสรัลว่า
วีด้ายิ้ม “ค่ะ พี่สรัล แพรจำได้แค่นี้ แล้วก็ยังจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ” วีด้าทำหน้าจ๋อย
“ไม่เป็นนะครับน้องแพร ไม่ต้องไปพยายามคิด ปล่อยให้ทุกอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป แล้วน้องแพรจะดีขึ้นเอง เชื่อพี่สรัลมั้ย”
“ค่ะ แพรเชื่อพี่สรัล” วีด้ายิ้มออก
ยศสรัลยิ้มและกุมมือให้กำลังใจวีด้า
เช้าวันใหม่ ยศสรัลประคองวีด้าเดินเข้ามาในบ้านกำธร เกรซเดินตามมา
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะแพร” กำธรกล่าว
“ถึงบ้านแล้วนะแพร” เกรซพูด
วีด้ามองบ้านตัวเองอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “นี่บ้านแพรเหรอคะ”
วีด้ากังวลจึงไม่กล้าเดิน
“เข้าบ้านกันเถอะลูก” กำธรเดินเข้ามาหาและจับแขนวีด้า
วีด้าจับแขนกำธรไม่ยอมเดิน กำธรมอง เขาเอามือจับมือวีด้า
“มือเย็นเฉียบเลยสรัล” กำธรบอก
“วีด้าคงยังจำอะไรไม่ได้น่ะค่ะ” เกรซว่า
ยศสรัลมองมือวีด้า และแบมือให้เธอ
“ส่งมือมาสิน้องแพร”
ยศสรัลยิ้มให้ วีด้ายิ้มตอบ เธอส่งมือให้ยศสรัลแต่โดยดี
“ไม่ต้องกลัวนะ” ยศสรัลบอก
วีด้ายิ้มแล้วปล่อยมือจากอากำธร
“ดูรูปซิ นี่รูปแพรไง จำได้มั้ย” เกรซชี้รูปให้วีด้าดู วีด้าเห็นตัวเอง
เธอพยายามครุ่นคิดก่อนส่ายหน้า หันไปมองบ้านรอบๆ จนเห็นกานดาที่สระว่ายน้ำ แพรลุกขึ้นยืน มองไปที่แม่ ยศสรัลหันไปยิ้มกับกำธร
“นั่นคุณแม่น้องแพรไงไปหาคุณแม่มั้ย” ยศสรัลว่า
วีด้าหันพูดกับสรัล “แม่”
ยศสรัลพยักหน้า วีด้าหันไปมองแม่อีกครั้ง กานดาหันหน้ามา สีหน้าเหม่อลอย วีด้ารู้สึกกลัว เธอผงะถอยหลัง ส่ายหน้าไปมาแล้วลงนั่ง ยศสรัลและกำธรมองหน้ากันอย่างหนักใจ
ตกกลางคืน วีด้าหลับไปแล้ว ยศสรัลเก็บหนังสือ และห่มผ้าให้กำธรก้าวเข้ามา
“กลับไปพักผ่อนบ้างเถอะสรัล อาจะอยู่เฝ้าวีด้าเอง” กำธรว่า
ยศสรัลยังมองวีด้าอย่างเป็นห่วง แต่ก็รับคำ “ครับคุณอา”
ยศสรัลกลับไป กำธรมองตามรู้สึกชื่นชมยศสรัลที่เป็นห่วงวีด้าอย่างจริงใจ
วันต่อมา ยศสรัลถือจาน 2 จานมาวางให้วีด้า วีด้าดีใจ อาหัวเราะ
“รบกวนสรัล” กำธรกล่าว
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ อร่อยมั้ยน้องแพร” ยศสรัลถามวีด้า
“อร่อยค่ะ” วีด้ายิ้ม
ทั้งสามคุยกันอย่างยิ้มแย้ม
ยศสรัลอ่านหนังสือให้วีด้าฟัง อ่านๆไป ยศสรัลหลับ วีด้าหัวเราะ เขย่าแขนเรียก
“พี่สรัล”
ยศสรัลตื่น หัวเราะออกมา
“อ่านต่อสิคะ” วีด้าว่า
ยศสรัลอ่านต่อ วีด้ายิ้ม ตั้งใจฟัง
เช้าวันใหม่ วีด้าเดินออกมาจากในบ้าน ชะเง้อมองหายศสรัล หน้าจ๋อย อากำธรเดินออกมาลูบหัว “ดูซิ ใครมาแล้ว” กำธรว่า
วีด้าเห็นว่าเป็นยศสรัลก็ดีใจ รีบเข้าไปหา ยศสรัลยิ้ม
“คิดถึงพี่มั้ย” ยศสรัลถาม
“แพรรอพี่สรัลตั้งนาน” วีด้าพูด
ยศสรัลยิ้มลูบหัววีด้ากำธรมองทั้งสองยิ้มๆ
“ไปเที่ยวทะเล?” วีด้าถาม
“ใช่แล้ว พี่สรัลจะพาเราไปพักผ่อนตากอากาศที่เกาะส่วนตั๊วส่วนตัวกัน ดีใจละสิ” เกรซบอก
วีด้ายิ้ม มองหน้ายศสรัลแทนคำตอบ
“พี่อยากให้น้องแพรไปพักผ่อน จะได้สดชื่น แล้วก็หายเบื่อด้วย” ยศสรัลกล่าว
“อีกอย่าง เกาะนี้ก็คือเกาะที่พวกเราเคยไปเที่ยวกันสมัยเด็กๆ ไม่แน่นะ ความจำแกอาจจะคืนมาบ้างก็ได้” เกรซว่า
วีด้าพยักหน้ายิ้มๆ ยศสรัลยิ้มตอบ
เช้าวันใหม่ ยศสรัลพาวีด้านั่งเรือมาที่เกาะ
“ถึงแล้วครับ” ยศสรัลบอก
“น่าเสียดาย เกรซไม่ยอมมาด้วย” วีด้าเอ่ย
“นั่นสิ น้องแพรคงเหงาแย่” ยศสรัลว่า
“แพรไม่เหงาหรอกค่ะ เพราะมากับพี่สรัล”
ยศสรัลมองวีด้า เขารู้สึกมีความสุข จนวีด้าเขินต้องเสมองไปทางอื่น
ยศสรัลมองหา “เออ..ไอ้พุฒิกับแก้วหายไปไหน ปกติต้องรีบปรี่มาต้อนรับ”
“พุฒิ! แก้ว!” ยศสรัลตะโกนเรียก
ไม่มีเสียงตอบจากทั้งพุฒิและแก้วยศสรัลแปลกใจ
“ไปไหนของมัน” ยศสรัลบ่นกับตัวเอง
“เราเข้าไปข้างในกันดีกว่าครับน้องแพร ตรงนี้แดดร้อน” ยศสรัลหันมาพูดกับวีด้า
“ค่ะ” วีด้ายิ้ม
ยศสรัลจับมือวีด้าเดินขึ้นไปบนเกาะ
ยศสรัลเดินนำวีด้ามาถึงหน้าประตูทางเข้าบ้านทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงพลุที่ดังขึ้น
“ว้ายยย!” วีด้าตกใจ
ยศสรัลรีบเอาตัวป้องกันวีด้าไว้ทันที เพราะนึกว่าเสียงปืน
พุฒิกับแก้วถือพลุมืออยู่ในมือยิ้มกว้าง
“ยินดีต้อนรับคุณวีด้าสู่เกาะของเราครับ/ค่ะ” ทั้งสองพูดแล้วดึงพลุอีกที
ภาพตอนถูกยิงในงานรับรางวัลแวบเข้ามาในหัววีด้าครู่หนึ่ง
กลับมาที่ปัจจุบัน ยศสรัลหันมาแหวใส่พุฒิและแก้ว
“ตกใจหมดเลย สองคนนี่เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง”
“โธ่! นาย เราสองคนก็แค่อยากต้อนรับคุณผู้หญิงให้ยิ่งใหญ่และประทับใจ” พุฒิว่า
วีด้าหน้าซีด คิ้วขมวดปวดหัวเพราะความเครียด
“น้องแพร เป็นอะไรหรือเปล่า” ยศสรัลถม
“แพรตกใจ ก็เลยปวดหัว” วีด้าตอบ
“งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนนะ” ยศสรัลประคองวีด้าเข้าไปข้างใน แต่ยังไม่วายหันมาดุพุฒิ
“เล่นอะไรบ้าๆนะแก!”
“อ้าวงานเข้าเลย บอกแกแล้วไงอีแก้วว่าอย่าๆไม่เคยเชื่อกันเล๊ย” พุฒิหน้าเจื่อน
“เดี๋ยวๆๆ ใครกันแน่เป็นตัวต้นคิด มาโยนขี้ให้ฉัน เดี๋ยวโดนหลังแหวน!” แก้วว่า
พุฒิวิ่งหนี แก้ววิ่งตาม
“มานี่นะไอ้พุฒิ”
ยศสรัลพาวีด้าเข้ามาภายในกระท่อม
“น้องแพรนอนพักก่อนนะ” ยศสรัลพูด
ยศสรัลจะเดินออกไป วีด้าทักไว้
“พี่สรัลจะไปไหนคะ”
“ก็ไปทำอาหารให้น้องแพรกินไง”
“แพรไปด้วย”
“แต่น้องแพรปวดหัว ควรจะพักก่อนนะ”
“หายแล้วค่ะ แพรไม่อยากอยู่คนเดียว”
“งั้นไปด้วยกัน” ยศสรัลขำ
วีด้ายิ้มกว้างเหมือนเด็กโดนตามใจ
ยศสรัลกับวีด้าช่วยกันทำกับข้าวอย่างสนุกสนานพุฒิกับแก้วแอบดูยศสรัลกับวีด้าสวีทกันตาเยิ้ม
“แหมข้าวผัดทะเลของนายจานนี้ดูท่าจะหวานจนมดไต่ซะแล้ว” แก้วว่า
“อีแก้วเอ้ย! เบาหวานจะขึ้นตาฉันแล้ว อิจฉานายมาให้กูสวีทมั่งเร้ว” พุฒิจะกอดแก้ว
“อย่านะไอ้พุฒิ”แก้ววิ่งหนี
พุฒิวิ่งตามแก้ว แล้วก็ไล่จับจนได้
“ไอ้บ้า กลางวันแสกๆ” แก้วว่า
ยศสรัลจูงมือวีด้า เดินเล่นเลียบชายหาดอย่างมีความสุข
“พี่มีความสุขจังเลยที่เห็นแพรยิ้มได้แบบนี้” ยศสรัลเอ่ย
“ทำไมเหรอคะปกติแพรไม่ค่อยยิ้มเหรอคะ” วีด้าถาม
ยศสรัลสะดุดไปนิด ก่อนจะหยุดเดิน และจับมือวีด้าไว้
“ครับแพรจะยิ้มน้อยกว่านี้มาก แต่พี่สัญญา ต่อจากนี้พี่จะทำให้แพรยิ้มได้ทุกวัน สัญญาว่าจะทำให้แพรมีความสุขที่สุด
“ไม่เชื่อ” วีด้ายิ้มกวน
“ทำไมล่ะ” ยศสรัลถาม
“ก็ถ้าแพรบอกว่า สิ่งที่จะทำแพรมีความสุขที่สุดในตอนนี้ คือการที่พี่สรัลวิ่งลงไปในทะเล แล้วดำลงไปหาเปลือกหอยที่สวยที่สุดขึ้นมาให้แพร พี่สรัลจะทำเหรอคะ”
“งั้นคอยดูนะ” ยศสรัลหันมองแพรยิ้มนิ่ง แต่ทันใดนั้น ก็วิ่งออกไปในทะเลทันที
“พี่สรัล แพรล้อเล่นนะคะ ขึ้นมาเถอะ!” วีด้าตะโกน
ยศสรัลไม่ฟัง ดำลงไปในทะเล
วีด้าเห็นยศสรัลดำหายลงไปใต้น้ำนานผิดสังเกต
“พี่สรัล! พี่สรัล!” วีด้าตะโกนและวิ่งตามลงไป
ทุกอย่างยังคงนิ่ง ยศสรัลยังไม่โผล่จากน้ำ วีด้าเริ่มใจเสีย
“พี่สรัล! พอแล้ว แพรไม่เอาแล้วค่ะ พี่สรัล!” วีด้าตะโกน
ทว่า ทุกอย่างยังคงเงียบ
“พี่สรัล! พี่สรัลอยู่ไหนคะ พี่สรัล!”
ทันใดนั้น ยศสรัลก็โผล่มาข้างหลังวีด้าและรวบตัววีด้าเข้ามากอด
“ว้าย” วีด้าร้องเมื่อเห็นยศสรัล “กล้าหลอกแพรเหรอ”
ยศสรัลยิ้ม ส่งเปลือกหอยในมือให้วีด้า
“สวยจังเลยค่ะ” วีด้าเงยมองสรัลตาหวาน
ยศสรัลกับวีด้าสบตากันทั้งสองอยู่ในภวังค์ยศสรัลค่อยๆโน้มตัวลงจะจูบวีด้า ทันใดนั้น ยศสรัลก็สะดุ้ง
“โอ้ย! น้องแพรกัดปากพี่เหรอ”
“ก็พี่สรัลหลอกแพรก่อนนี่!”
“แบบนี้ต้องโดนทำโทษ”
ยศสรัลกับวีด้าวิ่งไล่กันในทะเลอย่างสนุกสนานภายใต้บรรยากาศพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 24 (ต่อ)
ตกกลางคืน ยศสรัลในชุดแบบชาวเลนั่งอยู่ที่โต๊ะตรงระเบียงในมือของยศสรัลถือเค้กอยู่ เขายิ้มมีความสุข
พุฒิกับแก้วก้าวเข้ามา วันนี้ทั้งสองคนแต่งตัวสวยหล่อเป็นพิเศษ
“ทุกอย่างพร้อมแล้วนะครับนาย” พุฒิรายงาน
“ดีมาก” ยศสรัลชม
“หึยย...ตื่นเต้นค่ะนาย ตื่นเต้นจริงๆ” แก้วพูด
“พอเลย! ตื่นเต้นโอเวอร์ไปแล้ว ไปได้แล้ว!” พุฒิว่า
“ไปไหน” แก้วสงสัย
“ไปแอบดูไง รอนายให้สัญญาณ”
“เออ...จริงด้วย คริๆๆ”
พุฒิกับแก้ววิ่งลัลลาออกไปยศสรัลมองตามส่ายหน้าขำๆ
วีด้าอาบน้ำเสร็จเดินออกมา แต่ก็ต้องแปลกใจที่มีชุดชาวเกาะวางอยู่บนเตียงวีด้าหยิบชุดขึ้นมาดู เห็นมีกระดาษโน้ตวางอยู่จึงหยิบขึ้นมาอ่าน
“ชุดพิเศษ สำหรับน้องแพร”วีด้ายิ้ม “พี่สรัล”
วีด้ายิ้ม เดินไปหน้ากระจกเอาชุดขึ้นทาบตัวยิ้มอย่างมีความสุข
วีด้าที่เปลี่ยนชุดที่ยศสรัลเตรียมให้แล้วค่อยๆก้าวออกมาที่ระเบียง เธอเห็นระเบียงถูกประดับตกแต่งด้วยเทียน ดอกไม้ และผ้าพลิ้วๆวีด้าประทับใจมาก เธอค่อยๆก้าวไปบนระเบียงราวกับมีแรงดึงดูด
พุฒิกับแก้วแอบดูอยู่ที่มุมหนึ่ง
“คุณผู้หญิงถึงโต๊ะแล้ว มิวสิค!” แก้วพูด
“จัดไป!”
พุฒิกดเปิดวิทยุ เสียงเพลงโรแมนติกดังขึ้น
วีด้าแปลกใจ แต่ก็ยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงเพลงสุดโรแมนติกยศสรัลเดินตามมาข้างหลังวีด้า
“ชอบมั้ยครับน้องแพร”
วีด้าหันมาตามเสียง เห็นยศสรัลยืนอยู่
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ” วีด้าถาม
“เนื่องในโอกาสที่พิเศษ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดน้องแพร พี่อยากทำให้แพรมีความสุข”
ยศสรัลก้าวเข้ามาจับมือวีด้า สบตาลึกซึ้ง
“…ตลอดไป” ยศสรัลพูดต่อ “เป่าเค้กสิครับ”
วีด้าหลับตาขอพรแล้วเป่าเค้ก
พุฒิกับแก้วดี๊ด๊า มีความสุขไปกับเจ้านายด้วย
วีด้าและยศสรัล นั่งเล่นริมทะเล จุดไฟเย็นเล่น วีด้ายิ้มสนุกสนาน พุฒิกับแก้ววิ่งไปจุดพลุขึ้นสู่ท้องฟ้าชุดใหญ่ จนสว่างไสวเต็มท้องฟ้าวีด้ายิ้มดูพลุอยู่กับยศสรัลอย่างตื่นเต้น
สักพัก เสียงพลุเริ่มทำให้วีด้าตกใจ ภาพตอนวีด้าถูกยิง ตอนดนัยถูกยิง และตอนคัชพลจะยิงยศสรัล ประดังประเดเข้ามาในหัววีด้า
วีด้าปวดหัวอย่างหนัก ยศสรัลเป็นห่วง
“น้องแพร!”
วีด้ามองหน้ายศสรัล
“น้องแพรเป็นอะไร”
“แพรเห็นภาพตัวเองถูกยิงค่ะ แล้วยังมีภาพคนอื่นอีก เห็นพี่สรัลด้วยแพรกลัวค่ะ”
ยศสรัลประคองไว้
“ไม่ต้องกลัว พี่อยู่นี่”
วีด้ากอดยศสรัลไว้ ยศสรัลกอดตอบอย่างเป็นห่วง รู้ว่าความทรงจำของวีด้าเริ่มกลับมา
เช้าวันใหม่ วีด้าและยศสรัลนั่งดื่มน้ำผลไม้กันที่ริมทะเล
“พี่ว่าความจำแพร อาจจะเริ่มกลับคืนมาแล้ว” ยศสรัลเอ่ย
“แล้วทำไมความจำของแพร มีแต่เรื่องน่ากลัว ชีวิตแพรเป็นยังไงเหรอคะพี่สรัล”
ยศสรัลเครียด “น้องแพรพร้อมจะรับฟังมั้ยล่ะ”
วีด้าคิดหนัก
“ถ้าแพรรู้เรื่องราวทั้งหมด หรือความจำน้องแพรกลับคืนมา น้องแพรคงจะเกลียดพี่”
“ไม่จริงค่ะ แพรจะไม่มีวันเกลียดพี่สรัล”
ยศสรัลยิ้มหน้าเศร้า วีด้ากอดยศสรัลเพราะรู้สึกสงสารยศสรัลกอดตอบ ทั้งรัก ทั้งสงสารวีด้า
พุฒิและแก้ว กำลังเดินเอาเสื้อผ้ามาส่งให้ ทั้งสองชี้ชวนกันดูที่ชายหาด
ยศสรัลและวีด้าเดินจูงมือกันที่ชายหาด พุฒิและแก้วยิ้มเขิน
สักพักพุฒิและแก้วเห็น วีด้าที่ปวดหัวนั่งลงอย่างกลัวๆยศสรัลนั่งตาม ถามอาการอย่างตกใจและเป็นห่วง ยศสรัลประคองวีด้ากลับ แก้วสงสัย
“คุณผู้หญิงเป็นอะไรวะ”
“กูก็อยู่กับมึง แล้วกูจะรู้ได้ยังไง” พุฒิว่า
ทั้งสองเป็นห่วงเจ้านาย
ยศสรัลประคองวีด้าลงนอนที่ห้อง
“น้องแพรเป็นยังไงบ้าง”
“แพรเห็นภาพอีกแล้วค่ะ แล้วมันก็ชัดเจนกว่าเดิม”
“งั้นพรุ่งนี้ พี่จะพาน้องแพรกลับ ไปให้หมอตรวจหน่อยดีกว่า” ยศสรัลว่า
ยศสรัลจะเดินออกไปวีด้าลุกนั่ง ดึงมือสรัลไว้
“พี่สรัลอย่าทิ้งแพรนะคะ” วีด้าพูดด้วยความกลัว
ยศสรัลมองวีด้า เขานั่งลงแล้วกอดเธอ
ยศสรัลกับแพรเดินจูงมือกันเข้าบ้าน อากำธรรอรับ
“ไปเที่ยวกันมา มีความสุขมั้ยลูก” กำธรเอ่ย
“ค่ะ คุณอา” วีด้าตอบรับด้วยท่าทางเพลียๆ
“ทำไมหน้าตาดูไม่ค่อยดีเลย” กำธรถาม
“น้องแพรเริ่มเห็นภาพอดีตแล้วครับคุณอา” ยศสรัลตอบ
กำธรมองหน้าวีด้าอึ้งๆวีด้ามองหน้าผู้เป็นอาอย่างกังวล กำธรดึงวีด้ามากอด
ตกเย็น ยศสรัลเดินเข้าบ้าน
“ผมซื้อขนมมาฝากคุณแม่ครับ” ยศสรัลบอก
“รอให้ชั้นตายซะก่อนเถอะ แกถึงจะได้ไปคบกับมัน” สินีพูด
“คุณแม่ อย่าทำแบบนี้เลยครับ” ยศสรัลเอ่ย
“นี่แกไม่ห่วงชีวิตชั้นเลยเหรอ”
“ผมเสียใจในสิ่งที่คุณแม่ทำลงไป อย่าให้ผมผิดหวังในตัวคุณแม่มากไปกว่านี้เลยนะครับ”
สินีอึ้งไป “ทำไมแกจะเอาตำรวจมาจับชั้นรึไง!”
ยศสรัลยืนอึ้งอยู่กับที่
“ผิดหวังชั้นทำไม ชั้นทำอะไร ชั้นไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น พ่อแกนั่นแหละเป็นคนทำ”
“พี่สรัลไปพักเถอะครับ เดี๋ยวผมคุยกับคุณแม่เอง” ธัญกรเอ่ย
ยศสรัลเดินออกไป สินีแค้นใจ
“ทำไมคุณแม่ไม่ยอมปล่อยวางซะที” ธัญกรพูด
“แกพูดอะไรเล็ก” สินีถาม
“ถ้าคุณแม่ฝังใจอยู่กับความแค้น ทำบาปทำกรรม แล้วทำให้ทุกคนต้องมาเจ็บปวดไปด้วย ผมถามคำเดียว คุณแม่มีความสุขเหรอครับ” ธัญกรพูดต่อ
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ตาเล็ก!”
“ปล่อยพี่สรัลไปเถอะครับ ปล่อยให้เค้ามีชีวิตของเค้าเอง”
“ไม่มีทาง” สินียืนกราน
แม่อยากเห็นพวกผมมีแต่ความทุกข์เหรอครับ ถ้าแม่ยังเป็นแบบนี้วันนึง แม่จะไม่เหลือใครเลย..”สินีหันมองธัญกร
“..แม้กระทั่งผม” ธัญกรพูดต่อ
สินีอึ้งไป สติเริ่มกลับคืนมา
วีด้านั่งอยู่ที่สระว่ายน้ำคนเดียว พยาบาลเข็นกานดาเข้ามา วีด้ามองแล้วตัดสินใจเดินเข้าไปหา
"เดี๋ยวค่ะ" วีด้าเรียกไว้ แล้วนั่งลงมองหน้าแม่
วีด้านั่งมองกานดา ภาพในอดีตผุดขึ้นมาสลับกันไป ทั้งภาพครอบครัวตอนมีความสุข ภาพความทรงจำวัยเด็ก ภาพความทรงจำที่เจ็บปวด วีด้าเอามือปิดปาก อึ้ง เธอเริ่มจำได้
วีด้าหมดสติ ร่วงลงกับพื้นสลบอยู่ชานพักบันได
วีด้านอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ มีกำธรกับเกรซเฝ้าอยู่ เธอค่อยๆลืมตาขึ้น กำธรกับเกรซรีบพุ่งเข้ามาดู
“แพร หลานฟื้นแล้ว! รู้สึกยังไงบ้าง” กำธรถาม
“คุณอา เกรซ วีด้าเป็นอะไรคะ” วีด้าถามพลางมองไปรอบๆ
“วีด้า!” กำธรรู้ทันที ว่าความทรงจำของวีด้ากลับคืนมาแล้ว
วีด้าคิด จำได้ เสียใจกำธรกับเกรซมองหน้ากัน
“แกจำเรื่องทุกอย่างได้แล้วเหรอวีด้า” เกรซถาม
วีด้าพยักหน้าเบาๆอย่างทรมานใจ
“คุณอาคะ วีด้าอยากกลับไปพักที่บ้านเราแล้วค่ะ”
“แต่อีกเดี๋ยวพี่สรัลจะมาหาแกนะ” เกรซเอ่ย
“วีด้าอยากกลับบ้านค่ะ” วีด้านิ่งไปทันที
กำธรกับเกรซมองหน้ากันอย่างลำบากใจ
เมื่อยศสรัลเปิดประตูเข้ามาในห้องวีด้า ก็เจอแต่ห้องว่างเปล่า ยศสรัลงุนงง จึงไปถามเจ้าหน้าที่
“คุณวีรดาไปไหนแล้วครับ”
“คุณวีรดากลับบ้านไปแล้วค่ะ” เจ้าหน้าที่ตอบ
“หมายความว่ายังไงครับ” ยศสรัลสับสนไม่เข้าใจ
“อาการความจำเสื่อมของคุณวีรดาหายเป็นปกติแล้วค่ะ ความทรงจำของเธอกลับมาสมบูรณ์แล้ว คุณหมอจึงอนุญาตให้เธอกลับบ้านได้ตามความต้องการของเธอค่ะ”
ยศสรัลอึ้ง
วีด้ากลับมาที่บ้านกำธรเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งเศร้าอยู่ที่ห้องชั้นบน คุยกับอาของเธอ
“สรัลโทรมาหาอา กำลังจะมาเยี่ยมหนู” กำธรบอก
“วีด้ายังไม่พร้อมจะเจอใครตอนนี้ค่ะคุณอา” วีด้าตอบด้วยท่าทีสับสน
กำธรถอนใจ “งั้นอาจะโทรไปบอกเค้าให้นะหนูอย่าเพิ่งคิดอะไรเลย พักผ่อนเถอะ”
วีด้าพยักหน้าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
เช้าวันใหม่ ยศสรัลไม่มีสมาธิทำงาน ยืนเศร้า รู้สึกอยากเจอวีด้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดู ตัดสินใจโทรหาวีด้า แต่เมื่อโทรไปก็พบว่าปิดเครื่อง
ยศสรัลกดโทรศัพท์อีกครั้ง
“คุณอาครับ”
ยศสรัลฟังโทรศัพท์อยู่นาน
วีด้านั่งพักใจอยู่มุมหนึ่งของสวนหน้าบ้านกำธร เธอคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
“เรื่องร้ายๆมันผ่านไปหมดแล้วนะ” กำธรเดินเข้ามาบอกผู้เป็นหลาน
วีด้าหันมองหน้าอา เธอยิ้มให้แบบเศร้าๆ
“อาเห็นหนูเป็นแบบนี้ตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลแล้ว ยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่ใช่มั้ย วันนี้ยศสรัลเค้าโทรมาอีก ถามถึงหนู อาบอกไปว่าหนูสบายดี และขอเวลาให้หนูหน่อย”
“วีด้าไม่อยากพบเค้าอีกแล้วค่ะ” วีด้าถอนใจ
“ไม่อยากพบเค้าก็ควรจะบอกกับเค้าให้เค้าเข้าใจ หรือว่าหนูยังมีความโกรธอะไรหลงเหลืออยู่”
“วีด้าไม่ได้โกรธ แต่วีด้าไม่อยากให้เค้ามาทำดีมากไปกว่านี้”
กำธรคิดตามอย่างเข้าใจ “เพราะมันจะยิ่งทำให้วีด้าเจ็บปวด”
วีด้ามองหน้าอาอย่างยอมรับ
“คิดถึงความสุขให้มากๆนะวีด้า อาเห็นหนูมีความสุขมาก เวลาที่หนูอยู่กับสรัล อาอยากเห็นหนูมีความสุขแบบนั้นทุกวัน”
“แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะคุณอา”
“ลืมอดีตซะวีด้า ไม่งั้นหนูจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้เพราะมัวแต่จมอยู่กับความทุกข์ที่ผ่านมา”
“วีด้าจะทำให้ได้ค่ะคุณอา” วีด้ามองกำธรด้วยรอยยิ้มขอบคุณ
ตกกลางคืน วีด้ายืนอยู่ที่สระน้ำ นึกถึงคำพูดของกำธร
“คิดถึงความสุขให้มากๆ อาเห็นหนูมีความสุขมาก เวลาที่หนูอยู่กับสรัล”
“เราจะทำยังไงดีนะ” วีด้าคิด
วีด้าแววตาแน่วแน่คิดทำอะไรบางอย่าง
“หรือว่า”
วีด้าเริ่มคิดออก มีความหวัง
เช้าวันใหม่ กานดามองมาที่วีด้า วีด้ายิ้มให้แม่และเดินเข้าไปหา
“วีด้าขอดูคุณแม่ต่อเองนะคะ”
“ค่ะ.. ช่วงหลังมานี่คุณกานดาดูดีมากขึ้นเลยนะคะ” พยาบาลกล่าว
“ดีจังเลยค่ะ” วีด้าดีใจ นั่งลงใกล้แม่ มองกานดาอย่างมีหวัง ส่วนพยาบาลเดินออกไป
“แม่ขา แม่เห็นรอยยิ้มของหนูมั้ยคะ”
กานดามองหน้าฟังวีด้าระบาย วีด้ากุมมือแม่
“หนูรู้แล้วว่าความสุขจริงๆคือการอภัย เราควรมองความสุขในปัจจุบัน และแม่คือความสุขของแพร คุณพ่อก็คือความทรงที่ดีที่สุดของเราหนูจะดูแลแม่ และรอวันที่แม่หายนะคะ”
วีด้าโอบกอดกานดา กานดาค่อยๆลูบหัววีด้า วีด้าดีใจมากที่เห็นแม่อาการดีขึ้น
“แม่” วีด้าเรียกอย่างดีใจ เธอกอดกานดาแน่นขึ้น
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 24 (ต่อ)
เช้าวันใหม่ วีด้าเดินเข้ามาที่บริษัท
“คุณวีด้าหายดีแล้วนะคะ” โอ๋ถาม
“วีด้าหายดีแล้วค่ะ”
วีด้าเดินไปที่โต๊ะทำงาน โอ๋เดินตาม
“บ่ายโมงวันนี้ คุณโอ๋ช่วยตามฝ่ายกฎหมายของเราและของบริษัท Prime Enterprise เข้าประชุมกับวีด้าหน่อยนะคะ”
“ได้ค่ะ” โอ๋ตอบรับ แล้วนึกบางอย่างได้
“ก่อนคุณวีด้าเข้ามา คุณยศสรัลก็โทรเข้ามานะคะ ถามว่าคุณวีด้ามาทำงานรึยัง” โอ๋บอก
วีด้าอึ้งไป “ขอบคุณมากค่ะ”
โอ๋เดินออกจากห้องไป วีด้ายืนนิ่งถอนหายใจ แล้วหยุดความคิดตัวเองก่อนนั่งลงที่โต๊ะทำงาน
วีด้าเข้ามาที่ห้องประชุม
“ก่อนหน้าที่จะมาเข้าประชุม ดิชั้นได้ศึกษาถึงรายละเอียดราคาและจำนวนหุ้นของบริษัท Prime Enterprise ที่เราถือหุ้นอยู่”
ทุกคนเดาไม่ออกว่าวีด้าจะประชุมเรื่องอะไร
“ฉันตัดสินใจดีแล้ว ว่าจะโอนหุ้นมารีน่า ของบริษัท Prime Enterprise ที่มีอยู่คืนให้กับเจ้าของเดิมทั้งหมด”
ทุกคนตกใจ
“โอนเหรอครับ” ฝ่ายกฎหมายถาม
“ค่ะโอน ไม่ใช่ขาย” วีด้าว่า
ฝ่ายบริหารเอาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ที่ประชุมฝ่ายกฎหมาย ยื่นรายละเอียดให้วีด้าตรวจสอบดู
วีด้าเซ็นเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้วยื่นกลับให้ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายกฏหมายรับไปดูและสังเกตวีด้าหันมองหน้ากัน วีด้ารู้สึกสบายใจขึ้น
รถของยศสรัลแล่นมาจอดที่จอดรถพนักงาน ยามวิ่งเข้ามาหา
“คุณสรัลจะกลับไปจอดตรงที่ผู้บริหารก็ได้นะครับ”
“ทำไมล่ะ” ยศสรัลงง
“ผมก็ไม่ทราบครับ แต่ฝ่ายกฎหมายทำหนังสือแจ้งมา” ยามตอบพร้อมกับยื่นแฟ้มให้
ยศสรัลอ่านด้วยความงง
“แล้วฝ่ายกฎหมายก็บอกด้วยครับว่าถ้าคุณยศสรัลเข้าบริษัทมา ให้ผมแจ้งด้วย ไม่ทราบคุณยศสรัลจะให้แจ้งตอนนี้เลยไหมครับ”
ยศสรัลมองหน้ายาม รู้สึกงงๆกับสิ่งที่ได้ยิน
วันต่อมา ฝ่ายกฎหมายวางซองเอกสารให้ยศสรัล
“คุณยศสรัลเปิดอ่านดูรายละเอียดก่อนนะครับว่ามันยังขาดเหลืออะไรอีกหรือเปล่า”
ยศสรัลไม่เข้าใจเจตนา แต่หยิบซองเอกสารมาเปิดดูอ่านสักพักแล้วแปลกใจ
“นี่อะไรกันครับ”
“คุณวีรดา เธอสั่งให้ผมโอนคืนหุ้นทั้งหมดให้กับเจ้าของเดิม และให้ผมนำมาให้คุณครับ”
“คุณไปพบเค้ามาเมื่อไหร่”
“เมื่อวานครับ”
“คุณพบเธอที่ไหน”
ยศสรัลยังไม่ทันฟังก็วางเอกสารที่โต๊ะแล้วลุกเดินออกจากห้องไปเลย
“เอ่อ..คุณยศสรัล! คุณยังไม่ได้เซ็นชื่อครับ” ฝ่ายกฎหมายบอก
กำธรนั่งดื่มชาอยู่กับวีด้าที่สนามหน้าบ้าน
“ข่าวดีจริงๆเลยที่แม่ของหนูอาการดีขึ้นมากแล้ว” กำธรว่า
“ค่ะ ถ้าแม่หายดีวีด้าจะมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยค่ะ”
“อารู้” กำธรหัวเราะ
“ขอบคุณนะคะคุณอา ไม่ว่าวีด้าจะเป็นยังไงคุณอาก็ไม่เคยทอดทิ้งวีด้าเลย”
“อาเคยบอกตั้งแต่วันแรกที่วีด้ามาอยู่ที่นี่แล้วไงว่าวีด้าคือลูกสาวของอา จะให้อาทิ้งลูกได้ยังไงจะสุขจะทุกข์อาก็จะไม่ทิ้งวีด้านะ” กำธรเอามือลูบหัววีด้าด้วยความเอ็นดู
คนรับใช้เดินเข้ามา
“มีอะไร” กำธรถาม
“คุณยศสรัลมาขอพบค่ะ” คนรับใช้รายงาน
ยศสรัลเดินเข้ามา วีด้าหันไปมอง
“วีด้าขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะคะ คุณอา” วีด้ากล่าวแล้วลุกเดินผ่านยศสรัลออกไปทันที
“เดี๋ยวสิ น้องแพร น้องแพร” ยศสรัลเรียกอย่างไม่เข้าใจ
กำธรคุยกับยศสรัล
“อาดีใจนะที่ได้ยินว่าวีด้าคืนทุกอย่างให้สรัลทั้งหมด อาอยากให้สรัลรับเอาไว้ก่อน หลานของอาจะได้พบกับความสุขที่แท้จริงซะที ส่วนเรื่องของสรัล”กำธรถอนใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณอาผมจะหาทางปรับความเข้าใจกับวีด้าครับ” ยศสรัลกล่าวกำธรมองยศสรัลนิ่งคิดไปครู่ “คุณให้เวลากับวีด้าได้ไหมล่ะ”
“ได้ครับ นานแค่ไหนผมก็จะรอ”
กำธรยิ้มพอใจกับความมุ่งมั่นของยศสรัล
วีด้ามองลงมาจากชั้นสอง เห็นยศสรัลยกมือไหว้ขอโทษกำธรพยักหน้าตบไหล่ยศสรัลเบาๆ
วีด้ามองยศสรัลเศร้าๆ ยศสรัลหยุดยืนนิ่ง มองขึ้นข้างบน ทั้งสองสบตากัน ยืนมองกันจนวีด้าเดินหมุนตัวออกเข้าในห้อง ยศสรัลถอนใจเศร้าๆ แล้วเดินกลับออกไป
วีด้าอยู่ในโบถส์กำลังกราบไหว้พระประธาน
“หนูมาทำสังฆทานให้คนที่เสียไปค่ะ” วีด้าวางถังสังฆทานบนผ้าเหลืองของหลวงพ่อ นึกถึงใบหน้าของดนัย
วันใหม่ ยศสรัลกำลังขะมักเขม้นทำงานที่บริษัทเพื่อไม่ให้คิดมาก เลขาที่เอาเอกสารมาให้เซ็น แปลกใจที่เห็นยศสรัลก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว
“นี่คุณสรัลยังไม่ได้ไปทานข้าวกลางวันเหรอคะ” เลขาถาม
“ผมยังไม่หิว”
“ให้แม่บ้านไปซื้ออะไรให้ดีไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
เลขาเดินออกไปด้วยความไม่สบายใจ ยศสรัลทำงานต่อจนเย็น ก่อนจะคว้ากุญแจรถและกลับบ้าน
ตกกลางคืน ยศสรัลนึกถึงตอนที่ตัวเองบาดเจ็บและมีวีด้าดูแล
เช้าวันใหม่ วีด้าคุยกับกำธร
“วีด้าอยากจะลืมเรื่องเก่าๆให้หมด ก่อนที่วีด้าจะไปจากที่นี่วีด้าอยากไปพักผ่อนคนเดียวคุณอาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” วีด้าพูดเศร้าๆ
“งั้นก็ตามใจ” กำธรกอดวีด้า
เช้าวันใหม่ วีด้าเดินคุยโทรศัพท์มาตามชายหาด
“ค่ะคุณอา ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“อาคงอดห่วงไม่ได้หรอก ถ้าเสียงของวีด้ายังเศร้าอยู่อย่างนั้น” กำธรพูด
วีด้าเงียบ ปฏิเสธไม่ออก
“วีด้าขอโทษค่ะคุณอา...”
วีด้าคุยต่อซักพักแล้ววางสาย มองออกไปที่เส้นขอบฟ้า
กำธรในชุดเตรียมตัวออกไปข้างนอก วางสายจากวีด้าแล้วจิบกาแฟที่เหลือในถ้วยกาแฟ
กำธรสงสารวีด้า เสียงบทสนทนาในอดีตดังขึ้นมาในห้วงความคิด
“อาคงอดห่วงไม่ได้หรอก ถ้าเสียงของวีด้ายังเศร้าอยู่อย่างนั้น”
“ไม่ได้เจอเธอก็ไม่เป็นไรครับ ผมจะรอเธอกลับมา”
กำธรตัดสินใจบางอย่าง แล้วกดโทรศัพท์โทรออก
“คุณสรัล...”
ยศสรัลเดินอยู่ที่บริษัท
“จริงเหรอครับคุณอา ขอบคุณมากนะครับ ไม่ต้องห่วงครับผมจะไปปรับความเข้าใจกับวีด้า ขอบคุณมากนะครับ คุณอา” ยศสรัลพูดอย่างดีใจ เขาวางสายแล้ววิ่งลงจากบริษัท
วีด้าเดินผ่านคนไม่สนใจใคร อยู่ริมชายหาดยศสรัลมาถึงรีสอร์ท เดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์ ถามหาวีด้า พนักงานพยักหน้า แล้วชี้ไปที่ชายหาด ยศสรัลขอบคุณ แล้วรีบเดินออกไป
ยศสรัลไปยืนกดออดหน้าบ้าน ไม่มีใครมาเปิด ยศสรัลมองรอบๆ ก่อนจะวิ่งออกไป เขาวิ่งมาหยุดที่ชายหาดมองหาวีด้าแต่ไม่เจอ
วีด้าเดินกลับมา จะขึ้นบ้าน แล้วเหมือนเห็นใคร เมื่อหันกลับไปมองก็เจอยศสรัล ยศสรัลเดินเข้าหาวีด้า
“คุณมาได้ยังไง” วีด้าถาม
ยศสรัลนิ่ง ไม่ตอบ
“คุณอาโทรบอกคุณเหรอ”
ยศสรัลพยักหน้า
“คุณกลับไปเถอะ” วีด้าบอก
ยศสรัลอึ้ง ขยับเดินเข้าวีด้า วีด้าถอยหลังแล้วหันกลับเดินเข้าบ้านไป
“น้องแพร!” ยศสรัลเศร้า ทรุดลงนั่งอย่างไม่เข้าใจ
ตกเย็น ยศสรัลยังนั่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน วีด้าเดินไปที่ริมหน้าต่างในบังกะโล มองออกทางช่องยังเห็นยศสรัลยืนคอยอยู่นิ่งๆวีด้ามองยศสรัลสายตาเศร้าสร้อย
ยศสรัลยังยืนคอยวีด้าหันมาเห็น ยศสรัลตัดสินใจเดินไปหา เขาพูดคนเดียวให้วีด้าได้ยิน
“น้องแพร คุณเคยหายไปจากชีวิตผมครั้งนึงแล้ว ผมจะไม่ให้คุณหนีไปไปอีก และผมก็จะไม่บังคับใจคุณ แต่ผมจะอดทนรอคุณ จนกว่าคุณจะใจอ่อน”
วีด้านั่งฟังยศสรัลพูดจากด้านใน
ยศสรัลพูดจบก็ยืนเงียบ รอคำตอบจากวีด้า แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย วีด้าไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา
เวลาผ่านไป นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่ม วีด้ายังไม่เข้านอน เธอนั่งเศร้าอยู่ที่เตียง ส่วนยศสรัลก็ยังนั่งอยู่ที่ด้านนอกอย่างอดทน
วีด้านอนหลับอยู่บนเตียงอุ่นๆ เธอตื่นขึ้นมากลางดึก พอนึกได้เธอก็รีบไปแอบดูยศสรัลเห็นยศสรัลนอนหลับอยู่ที่ม้านั่งวีด้าถือผ้าห่มออกมา ค่อยๆเดินไปที่ยศสรัล แล้วมองยศสรัลที่นอนขดตัวสั่นอยู่
“ทำไมต้องทำแบบนี้” วีด้ารำพึง แล้วห่มผ้าให้ยศสรัล
เธอยืนมองดูชายที่ตัวเองรักที่อดทนรอเธอ
เช้าวันใหม่ ยศสรัลตื่นขึ้นมา อ่อนเพลียนิดหน่อย เขามองดูที่ตัวเองเห็นผ้าห่มคลุมตัวอยู่ เขามองเข้าไปในห้องบังกะโลและรู้ว่าวีด้ายังห่วงตนอยู่
วีด้าเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเตรียมกลับ เธอนั่งคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะลุกเดินไปดูยศสรัล เมื่อมองออกไปก็ไม่เห็นยศสรัลแล้ว มองดูไปรอบๆก็ไม่มีวีด้าคิดว่ายศสรัลคงกลับไปแล้ว เธอเปิดประตูเพื่อออกไปดูให้แน่ใจ
วีด้าเดินออกมา มองซ้ายขวาไม่เห็นยศสรัล เธอเดินไปที่ผ้าห่มที่ยศสรัลทิ้งไว้ หยิบมันขึ้นมาแล้วมองอย่างอาลัย วีด้าหันกลับมา ก็เจอสรัลยืนอยู่ด้านหลัง วีด้าจะหนีแต่ยศสรัลมารวบจากด้านหลัง เขากอดวีด้าไว้
“คุณยังคิดจะหนี คิดจะทิ้งผมไปเหมือนเมื่อแปดปีก่อนอีกเหรอ” ยศสรัลถาม
วีด้านิ่งสงบลง
“อย่าหนีผมอีกเลย”
“เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน”
ยศสรัลจับวีด้าหันมา “ทำไมเราจะรักกันไม่ได้ มันอยู่ที่ความรู้สึกถามใจตัวเองสิวีด้าว่าคุณรักผมรึเปล่า”
“ชั้นไม่สามารถจะรักคุณได้”
“มองผมสิวีด้า มองผมที่ปัจจุบัน ไม่ต้องมองอดีต”
“ชั้นทำไม่ได้ ครอบครัวคุณกับชั้น ไม่สามารถจะไปกันได้ หยุดเถอะค่ะ พอเถอะ”
ยศสรัลอึ้ง พูดไม่ออก ปล่อยมือและยอมแพ้ วีด้าหันหลังเดินออกไป ยศสรัลเศร้า ยืนมองวีด้าเดินจากไป
วีด้ากลับเข้าไปนั่งในห้องอีกครั้ง เธอถึงกับปล่อยโฮเสียใจร้องไห้อย่างหนัก
ยศสรัลนั่งอยู่ริมทะเลเขามองพระอาทิตย์อยู่สักพักจนความทุกข์ในใจเบาบางลง ยศสรัลหันหลังตัดสินใจลุกขึ้นจะกลับ แต่ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า ภาพของวีด้าที่ยืนมองเขาอยู่
วีด้าเดินเข้าหายศสรัล ยศสรัลมองอีกครั้ง วีด้าเดินเข้ามาแล้วหยุดมีระยะห่างระหว่างสองคน
“ชั้นกลับมาขอโทษในสิ่งที่ชั้นทำกับครอบครัวคุณ และขอให้คุณอภัยให้” วีด้าเอ่ย
“แสดงว่าคุณก็อภัยให้ครอบครัวผมแล้ว”
วีด้านิ่ง ก่อนพยักหน้า ยศสรัลเดินเข้าไปหา
“ผมอยากให้เราก้าวผ่านเรื่องราวทั้งหมด ปล่อยให้มันผ่านไป ถ้าคุณยินดีให้ผมอยู่เคียงข้าง เราจะใช้ความรักเยียวยา แล้วเดินไปข้างหน้าด้วยกัน มีคุณ.. มีผม..” ยศสรัลดึงมือวีด้ามากุมไว้ แล้วพูดต่อ
“ผมสัญญาจะดูแลคุณ เพราะผมรักและเป็นห่วงคุณนะ น้องแพร”
วีด้ามองสรัล นัยน์ตาเศร้า เธอปล่อยมือจากยศสรัล
“ชั้นมาเพื่อจะบอกลาคุณ และขอให้เราอภัยให้กัน เราจะได้ไม่มีเรื่องติดค้างกันอีก และขอบคุณที่คุณรักชั้น ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคุณ วีด้ามีความสุขมาก” วีด้าพูด เธอก้มหน้า
ยศสรัลมองไปในแววตาของวีด้าอย่างเข้าใจ ยศสรัลยิ้มเศร้า พยักหน้า
“ผมคงไม่มีวันเปลี่ยนใจคุณได้”
ทั้งสองคนนิ่งกันไปเนิ่นนานยศสรัลหันมองพระอาทิตย์
“เราเคยนั่งมองพระอาทิตย์ตกด้วยกัน วันนี้มันยังสวยเหมือนเดิม”
วีด้ามองตามยศสรัลหันมองหน้าวีด้า
“ผมขอกอดลาคุณเป็นครั้งสุดท้าย”
วีด้าหันมาทั้งสองมองกันนิ่ง ยศสรัลอ้อมมากอดจากด้านหลัง
ทั้งสองคนต่างเจ็บปวดทั้งคู่...
จบบริบูรณ์