ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 23
เช้าวันใหม่ วีด้าพากานดามาอยู่ที่บ้านกำธรกานดามองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง มีแม่บ้านยืนอยู่ข้างๆ กับพยาบาลพิเศษ
“ช่วยวีด้าดูแม่ด้วยนะคะคุณทิพย์”
“วางใจเถอะค่ะคุณวีด้า” แม่บ้านรับคำ
“แกแน่ใจเหรอที่เอาน้ากานดากลับมาอยู่ที่นี่” เกรซถาม
“แน่สิ ฉันจะไม่ปล่อยให้แม่อยู่ไกลหูไกลตาอีกแล้ว” วีด้าว่า
“แกเองก็ต้องระวังตัวให้มากเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่ายัยคุณสินีนั่นจะมาไม้ไหนอีก” เกรซเอ่ย
“ขอเพียงแม่ฉันปลอดภัย เขาจะมาไม้ไหนมันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว”
“แล้วถ้ายัยคุณสินีไม่ปล่อยล่ะ ชั้นกลัวคนที่แกรักทุกคน จะต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้”
วีด้าสะอึกกับคำพูดของเกรซ รู้สึกสับสนมาก
วีด้าอยู่ที่ห้องทำงาน เธอกดโทรศัพท์ภายในหาเลขา
“ฉันจะไปสิงคโปร์ตอนนี้ ช่วยจัดการเรื่องตั๋วให้ด้วยนะคะ”
วีด้ามาถึงสิงคโปร์ เธอมาหากำธรที่บริษัท กำธรยืนมองวิวอยู่ริมหน้าต่าง คุยกับวีด้า
“เป็นยังไงบ้างวีด้าทำไมถึงมากระทันหันแบบนี้” กำธรเอ่ย
“วีด้าคิดถึงคุณอาค่ะ”
“อาก็คิดถึง และเป็นห่วงวีด้ามากนะ”
วีด้าฝืนยิ้มแต่กำธรจับความรู้สึกได้ เขาเดินเข้าไปหาวีด้า จ้องตาเธอและถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“หลานมีอะไรจะคุยกับอามั้ย..”
วีด้ามองกำธร เธอเศร้าลง ถอนหายใจ
กำธรกับวีด้ามาคุยกันอยู่ที่ท่าเรือ กำธรมองวีด้าที่กำลังสับสนหลังจากเล่าเรื่องให้กำธรฟัง
“พวกเค้าก็เป็นกันถึงขนาดนั้นแล้ว หลานยังคิดว่ามันยังทำร้ายคนอื่นไม่มากพออีกเหรอ” กำธรว่า
“พวกเขาไม่ได้สูญเสียเหมือนอย่างที่วีด้าต้องเสียไป” วีด้าพูด
“วีด้าเอาอะไรมาวัดว่าเราเสียมากกว่าเขา หรือเขาเสียน้อยกว่าเรา” กำธรถาม
“ก็ที่พวกเขาเสียมันก็แค่เงิน” วีด้าว่า
“งั้นคุณบัญชาก็ต้องตาย คุณสินีต้องเป็นบ้า หนึ่งในสามพี่น้องต้องตายเพื่อชดใช้ให้ดนัยใช่ไหม วีด้าถึงจะพอใจเพราะต่อให้วีด้าได้มากกว่านี้ ได้ทำให้ทุกคนตายไปจากโลกนี้ วีด้าของอาก็จะไม่มีความสุข เพราะอะไรรู้ไหม เพราะสิ่งที่วีด้าต้องการจริงๆมันคือการแก้ไขอดีตที่วีด้าไม่พยายามทำใจยอมรับว่ามันผ่านไปแล้ว” กำธรพูด
“คุณอา...” วีด้าพูดอะไรไม่ออก
“วีด้า...ถ้าหลานไม่ทิ้งอดีตแบบนี้จะเดินหน้าได้ยังไงตั้งแต่หลานเข้าไปคลุกคลีกับคนพวกนั้น หลานเห็นพวกเขามีความสุขจริงๆกันสักคนไหม”
วีด้าส่ายหน้า
กำธรลูบหัว “นั่นไง เพราะสิ่งที่พวกเขาเคยทำมามันไม่ใช่ความดี ปัจจุบันถึงเขามีเงินทองแต่ก็ไม่มีความสุข เพราะเขาบริหารเป็นแต่เงินทอง แต่บริหารความดีในใจไม่เป็น และตอนนี้วีด้าก็กำลังจะเป็นแบบพวกนั้นนะ หลานของอาได้แก้แค้น ได้ความสะใจ ได้วนเวียนอยู่กับอดีต แต่ไม่ได้ความสุข และกำลังจะมีแต่ความทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ จบทุกอย่างเถอะนะอาคิดว่ายังไม่สายสำหรับวีด้าที่จะเริ่มต้นมีความสุขกับชีวิต” กำธรเอ่ย
“มีความสุขกับชีวิต แล้ววีด้าต้องทำยังไงคะคุณอา” วีด้าถาม
วีด้าร้องไห้ โดยมีกำธรกอดและปลอบโยน
เช้าวันใหม่ คัชพลเดินมาเห็นยศสรัลก็เอ่ยถาม
“แกจะไปไหนกัน”
“ผมจะไปเยี่ยมคุณพ่อ แล้วไปทำงานต่อครับ” ยศสรัลพูด
“ที่ Prime Enterpriseเนี่ยนะ ฮึ!ยังจะไปช่วยมันทำงานอีกเหรอ บริษัทนั้นมันไม่ใช่ของพวกเราแล้วนะ” คัชพลว่า
“แต่เราก็ยังเป็นหุ้นส่วนอยู่ เราก็ไม่ควรทิ้งมาแบบนี้นะครับพี่ใหญ่”
“จะไปทำเพื่อรอวันให้มันปลดออกรึไง”
ยศสรัลเดินออกไป ไม่ตอบโต้ด้วย คัชพลมองตามยศสรัลไป รู้สึกเจ็บใจและแค้นวีด้า
ตกกลางคืน วีด้ามายืนคิดที่สระว่ายน้ำบ้านกำธรคนเดียว
“มีความสุขกับชีวิต แล้ววีด้าต้องทำยังไงคะคุณอา” วีด้าถอนหายใจ ตัดสินใจจะยุติเรื่องทุกอย่าง
วันต่อมา วีด้ากำลังคุยโทรศัพท์กับเกรซ เธอกำลังเดินจะเข้าลิฟท์ชั้นใต้ดิน
“ชั้นถึงออฟฟิศแล้ว” วีด้าว่า
“งั้นแกไปทำงานเถอะ แล้วอีกสองวันชั้นจะแวะไปหาแกนะวีด้า” เกรซว่า
ทันใดนั้น มีคนร้ายสองคนมาโปะยาสลบวีด้า
“อะไรกันเนี่ย ช่วยด้วย” วีด้าดิ้นและร้อง
เกรซได้ยินเสียงก็ตะโกนเรียกเพื่อน
“วีด้า เกิดอะไรขึ้น วีด้า”
วีด้าดิ้นแล้วสลบไป
“เอาตัวมันขึ้นรถ”
ชายคนหนึ่งกดโทรศัพท์ทิ้ง แล้วเอาตัววีด้าขึ้นรถไป
เกรซได้ยินเสียงคนร้าย เธอกดโทรศัพท์หาวีด้าอีกครั้ง
“ปิดเครื่องไปแล้ว ทำไงดีล่ะ ต้องเกิดเรื่องอะไรแน่เลย ทำไงดีล่ะ ชั้นต้องแจ้งความ”
แล้วเกรซก็คิดอะไรบางอย่างได้ เธอตัดสินใจกดโทรศัพท์หายศสรัล
“สวัสดีครับ” ยศสรัลรับสาย
“พี่สรัลคะ ช่วยเพื่อนเกรซด้วย ช่วยวีด้าด้วย” เกรซเอ่ย
“เกิดอะไรขึ้นกับวีด้าครับ”
“เหมือนวีด้าจะถูกใครจับตัวไปจากหน้าออฟฟิศค่ะ”
“อะไรนะครับ เกรซแน่ใจเหรอ ครับ ขอบคุณมากนะเกรซ”ยศสรัลวางสาย ยืนคิดครู่หนึ่ง
“พี่ใหญ่!”
ยศสรัลเช็คโทรศัพท์ตามตัวคัชพลเมื่อเห็นเส้นทางก็รีบวิ่งออกไป
วีด้าถูกจับมัดไว้ที่โกดังแห่งหนึ่ง คัชพลเดินเข้ามาลงนั่งหน้าวีด้าที่เริ่มรู้สึกตัว คัชพลมองหน้าวีด้าแล้วยิ้ม
“คุณ…..” วีด้าตกใจ
“เก่งมากนักใช่มั้ย งั้นวันนี้ก็เอาตัวให้รอดนะวีด้า .... ผมจะทำยังไงกับคุณดีล่ะจะฆ่าคุณทิ้ง หรือจะไว้ชีวิตคุณ เอาคุณมาเป็นเมียผมดี ฮึอยากได้แบบไหนเหรอวีด้า คุณลองเลือกดูซิ”
วีด้าเงียบไม่ตอบ
“ทำไมไม่พูดล่ะวีด้า ผมให้โอกาสคุณเลือกแล้วนะ”
“ถ้าคุณทำอะไรชั้น แล้วคิดเหรอ ว่าคุณจะรอด”
คัชพลหัวเราะ “คิดว่าพูดขู่แค่นี้แล้วผมจะกลัวเหรอ งั้นเราก็ต้องลองดู”
“แก้มัดมันซิ แล้วพวกแกไปรอข้างนอก”
ลูกน้องสองคนแก้มัดจนเสร็จแล้วก็ออกไป
“ผมจะให้โอกาศคุณ ให้เรากลับมารักกันเหมือนเดิมว่าไงล่ะวีด้า”
วีด้าไม่ปริปากพูดอะไรทั้งสิ้นคัชพลยิ้มกวน วีด้าผลักคัชพลเต็มแรงแล้ววิ่งคัชพลคว้าขาวีด้าได้
วีด้าล้มหน้าทิ่มลง ร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“คุณไปไหนไม่รอดหรอกวีด้า” คัชพลเอ่ย
ยศสรัลวิ่งมองโทรศัพท์เข้ามาในโกดัง เจอลูกน้องคัชพลสองคนดักไว้
“คุณสรัล คุณเข้าไปไม่ได้นะครับ”
“พี่ใหญ่กับคุณวีด้าอยู่ข้างในใช่มั้ย”
ลูกน้องสองคนมองหน้ากัน มีเสียงวีด้าตะโกนดังมา “ช่วยด้วย ปล่อยชั้น”
“ถ้านายสองคนไม่อยากเดือดร้อนกับเรื่องนี้ ก็ให้ชั้นเข้าไป” ยศสรัลยืนยัน
ลูกน้องของคัชพลคนหนึ่งขยับปืน ยศสรัลหยุดมอง
“จะยิงชั้นก็ได้ แต่ยังไงชั้นก็จะเข้าไป”
ลูกน้องอีกคนห้ามเพื่อนไว้ แล้วเปิดทางให้ยศสรัลวิ่งเข้าไป
คัชพลกับวีด้าต่อสู้กันอยู่ที่พื้น คัชพลรวบแขนวีด้าแล้วเงื้อมือขึ้นจะตบ
“อย่านะพี่ใหญ่” ยศสรัลพูด
คัชพลหยุดเงยมอง แล้วหัวเราะออกมา
“เก่งนี่สรัล ตามมาจนถึงที่นี่ได้ อยากมาช่วยคนรักเหรอ งั้นแกก็มาดูพี่ฆ่ามันเลยดีมั้ย”
คัชพลเดินไปหยิบปืนหันจ้องมาทางวีด้าแล้วเดินเข้าหา ยศสรัลเข้าขวางคัชพล คัชพลเงื้อปืน
“หลบไปสรัล ในเมื่อมันเป็นศัตรูของเรา และมันยังเป็นต้นเหตุให้เราต้องมาทะเลาะกัน พี่ก็จะกำจัดมันทิ้งซะเลย ไม่ดีรึไง”
“อย่าทำอะไรวีด้านะพี่ใหญ่” ยศสรัลขวางพี่ชาย
“ชั้นบอกให้แกหลบไป”
ยศสรัลเผชิญหน้าไม่หลบ
“พูดไม่รู้เรื่องรึไง” คัชพลพูด
“หาเรื่องนักใช่มั้ย” คัชพลพูด แล้วลากยศสรัลขึ้นมาต่อย
ยศสรัลไม่สู้ คัชพลต่อยจนยศสรัลล้มลงไปกับพื้น เขาเตะยศสรัลอย่างแค้นเคือง
“แกลุกขึ้นมาสู้ชั้นสิ ลุกขึ้นมา” คัชพลโกรธจัด
ยศสรัลได้แต่มองหน้าพี่ชาย คัชพลเงื้อปืนจะยิงน้องชาย
วีด้ากรี๊ด “อย่านะ อย่ายิงเค้า” วีด้าพูด แล้ววิ่งเข้ากอดยศสรัล
คัชพลอึ้ง รู้สึกแค้น ยศสรัลรีบเอาตัวมาบังแทน
“หลบไปวีด้า หลบออกไปก่อน” ยศสรัลว่า
“ถ้าคุณต้องตายเพราะชั้น ชั้นก็จะตายพร้อมกับคุณ” วีด้าพูด
ยศสรัลอึ้งไป
“รักกันมากใช่มั้ย พวกแกรักกันมากใช่มั้ย อยากตายพร้อมกันใช่มั้ย” คัชพลพูด แล้วยิงปืนขู่รอบตัวทั้งคู่ยศสรัลกอดวีด้าไว้แน่น ในที่สุดคัชพลก็หยุดยิง ยศสรัลเผชิญหน้าคัชพล เอาตัวบังวีด้าไว้
“พี่จะยิงเราสองคนก็ได้ แต่ผมไม่เชื่อว่าพี่ใหญ่ทำแบบนั้นแล้วพี่จะมีความสุขจริงๆ” ยศสรัลเอ่ย
คัชพลเงื้อปืนจะยิงยศสรัล
“อย่านะ” วีด้าวิ่งมาขวางอีก
ยศสรัลกันไว้อีกรอบ “ผมบอกให้คุณหลบไป”
วีด้าส่ายหน้ายศสรัลกอดวีด้าไว้แน่น
คัชพลเสียใจ เขาทนดูไม่ได้อีกต่อไป
“ออกไป” คัชพลพูดเสียงเบาเขารู้สึกแค้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“ออกไป ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจฆ่าแกสองคน” คัชพลพูดเสียงดังขึ้น
“ชั้นบอกให้พวกแกออกไป!”คัชพลพูดอีกพร้อมกับยิงปืนไล่
ยศสรัลประคองวีด้า เดินถอยหลัง แล้วจูงกันวิ่งออกจากที่ตรงนั้นไป ปล่อยให้คัชพลยืนแค้นเสียใจ ตะโกนออกมาสุดเสียง
“อ๊า!!!!!”
ยศสรัลกับวีด้าหยุดวิ่งและหันกลับไปมอง ทั้งสองรู้สึกสงสารคัชพล วีด้าเสียใจ ยศสรัลมองวีด้า ดึงวีด้าเข้ากอดอยู่ในอ้อมแขน
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 23 (ต่อ)
วีด้าพายศสรัลกลับไปบ้านของกำธร เธอดูแลยศสรัลและทำแผลให้
“ผมขอโทษแทนพี่ใหญ่ด้วยนะ” ยศสรัลเอ่ย
วีด้าเงียบไปสักครู่ ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เรื่องทั้งหมด วีด้าผิดเอง วีด้าทำให้คุณใหญ่กลายเป็นแบบนี้เองพี่สรัลแพรขอโทษ”
ยศสรัลดึงวีด้ามากอดไว้แน่น
“น้องแพร....” ยศสรัลรู้สึกมีความสุขมากที่วีด้าเปลี่ยนไปแล้ว
วันต่อมา
“ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะเกรซ ชั้นขอบใจแกมาก จ้ะ แล้วคุยกันนะ” วีด้าวางสาย แล้วหยิบชามข้าวต้ม เธอถือชามข้าวต้มมาให้ยศสรัล
“ทานเองไหวมั้ยคะ” วีด้าถาม
ยศสรัลส่ายหน้า ทั้งสองมองหน้ากัน วีด้ายิ้มขำน้อยๆวีด้าตักอาหารป้อนยศสรัล ยศสรัลกินแล้วแสดงอาการเจ็บปาก
“เจ็บมากมั้ยคะ” วีด้าเอ่ยถาม
ยศสรัลพยักหน้า วีด้ามองอย่างรู้ทัน
“ทานเสร็จแล้วนอนพักเยอะๆนะคะ แผลจะได้ไม่อักเสบ” วีด้าพูดแล้วตักอาหารป้อนต่อ ยศสรัลมองวีด้ายิ้มๆ พร้อมกับทานไปด้วยอย่างมีความสุข
พยาบาลเข็นรถเข็นกานดามาที่สวนหลังบ้าน เมื่อยศสรัลที่ลุกขึ้นเดินหาวีด้าเห็นกานดาก็เดินเข้าไปหา
“น้ากานดา” ยศสรัลทัก
“คุณมาเยี่ยมคุณกานดาหรือคะ” พยาบาลถาม
“ครับ”
“งั้นตามสบายนะคะ”
วีด้าเดินถือน้ำส้มคั้นจะเข้าไปหาแม่ที่ห้องรับแขกเมื่อไม่เห็นแม่ เธอจึงถามทิพย์
“คุณแม่ล่ะคะ พี่ทิพย์”
“อยู่แถวสระว่ายน้ำค่ะ”
วีด้ายิ้มแล้วเดินออกไป เธอเดินไปหยุดยืนมองเห็นยศสรัลกำลังป้อนอาหารให้กานดา และเช็ดปากให้ พร้อมกับคุยกับพยาบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
วีด้ายิ้มปนเศร้ากับภาพที่เห็น
ตกกลางคืน วีด้าเดินมาเคาะห้องยศสรัลเธอเปิดเข้ามามองยศสรัลยศสรัลแกล้งหลับตา
“ชั้นลืมไปว่าคุณไม่มีผ้าห่ม”วีด้ามองยศสรัลและห่มผ้าให้
“และรู้ว่าคุณยังไม่หลับ”วีด้าพูดต่อ
ยศสรัลลืมตาแล้วยิ้มให้
“รีบหลับซะ พรุ่งนี้วีด้าจะขับรถไปส่งคุณตอนเช้า”
ยศสรัลดึงวีด้าลงไปนอนข้างๆด้วย
“นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” วีด้าตกใจ
“ผมเป็นห่วงคุณ ไม่อยากให้คุณอยู่ไกลตัวผม” ยศสรัลพูด
“ที่นี่มันบ้านชั้นนะ ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกค่ะ” วีด้าจะลุก แต่ยศสรัลกระชับแน่น
“แต่คุณอยู่ใกล้ๆแบบนี้ ผมอุ่นใจกว่า”
ยศสรัลไม่สนใจ กอดวีด้าหลับตาอย่างมีความสุข วีด้าได้แต่ลืมตา นอนตัวเกร็ง
สินีเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยเธอหยุดยืนมองบัญชาที่นอนอยู่ที่เตียง บัญชาไม่ทันเห็นนึกว่าธัญกร
“มาแล้วเหรอตาเล็กพี่ๆแกเป็นยังไงบ้างทำไมหายหน้ากันไปหมด” บัญชาเอ่ย
“คิดถึงลูกเป็นบ้างแล้วเหรอคะ นึกว่าในหัวของคุณจะมีแต่นังกานดาซะอีก” สีนีเอ่ย
บัญชาสะอึกเล็กน้อยที่เห็นเป็นสินี “สินี…เธอพูดอะไร”
สินียิ้มเย็น “คุณรู้มั้ย วันนี้ฉันไปเจอใครมา ฉันไปเจอนังกานดามา ใช่ คุณได้ฟังไม่ผิดหรอก ฉันตามนังวีด้าจนไปเจอนังกานดาแม่ของมัน ถึงได้รู้ว่ามันเป็นบ้า นังกานดามันเป็นบ้าไปแล้ว ฮ่าๆๆ”
“เธอไปหากานดาทำไมเธอจะทำอะไรเขาสินี” บัญชาถาม
“ขนาดมันเป็นบ้า คุณก็ยังเป็นห่วงมัน ขนาดลูกสาวมันทำลายครอบครัวของเราจนต้องเสียบริษัทที่คุณทุ่มเทสร้างมา คุณก็ยังเป็นห่วงมัน!” สินีพูดอย่างเจ็บปวด
“ว่าไงนะ เกิดอะไรขึ้นกับ Prime Enterprise ของฉัน” บัญชาถาม
“Prime Enterprise มันไม่ใช่ของคุณอีกต่อไปแล้วคุณบัญชา มันกลายเป็นของนังวีด้าไปแล้ว คุณได้ยินมั้ย” สีนีพูด
บัญชาช็อคกับข่าวร้ายที่ได้ยิน
“ยังไม่พอนะนังวีด้ามันปั่นหัวตาใหญ่ ยั่วตาสรัลจนตาใหญ่ยิงตาสรัลจนเกือบตาย ตาใหญ่เกือบต้องติดคุก เป็นยังไงคุณภูมิใจกับผลงานการแก้แค้นของลูกสาวนังกานดามั้ย” สินีพูดต่อ
“ไม่ ไม่จริง..” บัญชาน้ำตาไหล
“เสียใจเหรอคะ เจ็บปวดมากใช่มั้ยไม่เป็นไรนะคะ ฉันจะแก้แค้นมันแทนคุณเอง รับรองว่าฉันจะทำให้มันเจ็บยิ่งกว่าที่คุณเจ็บหลายร้อยเท่า!” สินีพูดพร้อมกับกอดบัญชา เธอบีบแขนบัญชาแน่นจนบัญชารู้สึกเจ็บ
บัญชาทั้งช็อคทั้งเครียด จนเกิดแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และเกิดอาการไอสำลักออกมาเป็นเลือดสินีเงยหน้าขึ้นมองบัญชาด้วยนัยน์ตาว่างเปล่า ธัญกรเข้ามาพอดี เห็นอาการของบัญชาก็ตกใจ
“พ่อ…พ่อครับ!" ธัญกรหันไปถามสินี “แม่เกิดอะไรขึ้น ทำไมพ่อเป็นแบบนี้”
สินีไม่ตอบ ค่อยๆปล่อยบัญชาที่มีอาการหายใจติดขัดจนน่ากลัว แล้วยืนดูนิ่งๆ
ธัญกรรีบกดออดตามหมอและพยาบาลเข้ามาให้การช่วยเหลือบัญชาอย่างเร่งด่วน
สินีนัยน์ตาสั่นระริก น้ำตาไหล ทั้งรักทั้งแค้น
วีด้านอนหลับไปแล้ว โดยมียศสรัลนั่งเฝ้ายศสรัลยิ้มให้วีด้า เอามือลูบผม ก่อนถอนใจเพราะนึกถึงพ่อขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์หาธัญกร
“เล็ก วันนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง ว่าไงนะ” ยศสรัลได้ยินคำตอบก็ตกใจ รีบไปโรงพยาบาลทันที
ที่โรงพยาบาล สินีนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องมีธัญกรคอยประคองไว้
รัชนาพุ่งเข้ามา สินีปรายตามอง รัชนาชะงักยกมือไหว้ทันที
ธัญกรเห็นรัชนาก็รีบเข้าไปหา แล้วกอดรัชนาไว้
“ใจเย็นๆนะ คุณพ่อคุณต้องไม่เป็นอะไร” รัชนาปลอบ
สินียังคงนิ่ง ขณะนั้นคัชพลกับยศสรัลก็วิ่งเข้ามา
ยศสรัลมองคัชพล คัชพลมองตอบด้วยท่าทีโกรธๆ
“คุณพ่อเป็นยังไง” คัชพลถามน้องชายคนเล็ก ธัญกรมองทั้งสองคนแล้วก้มส่ายหน้า ทุกคนยิ่งใจเสีย
ทันใดนั้น หมอกับพยาบาลเปิดประตูห้องไอซียูออกมา ทุกคนรีบเข้าไปหา
“คุณพ่อผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” คัชพลถามทันที
“ตอนนี้คนไข้มีอาการตับแข็ง ไม่รับเลือดอีกต่อไป” หมอตอบด้วยท่าทีลำบากใจ
ทุกคนอึ้ง
“เราพยายามให้เลือด แต่ตับของคนไข้ไม่รับและผลักกลับออกมา ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือ รอให้คนไข้ค่อยๆไปอย่างสงบเท่านั้น” หมอพูดต่อ
ทุกคนช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน
“คุณพ่อ..” ยศสรัลเอ่ย
ทุกคนเข้าไปในห้องไอซียู เห็นบัญชาอยู่บนเตียงในสภาพตัวเหลือง มีเครื่องช่วยหายใจที่มีเลือดกระฉอกออกมาทุกครั้งที่หายใจ หน้าจอชีพจรแผ่วลง ลูกชายทั้งสามเข้ามายืนข้างเตียงพ่อ มีเพียงสินีที่ยังคงยืนห่างออกไป
“พ่อครับผมขอโทษผมขอโทษครับพ่อ” คัชพลพูดกับบัญชา
ธัญกรเข้ามากราบบัญชาเช่นกัน เขาจับมือบัญชาไว้
รัชนายืนมองภาพนั้น แล้วน้ำตาไหลด้วยความสะเทือนใจ
“พ่อครับพ่อไม่ต้องเป็นห่วงอะไรทั้งนั้นนะครับ ผมจะดูแลตาเล็ก เราสามคนจะดูแลกันให้ดี จะดูแลแม่ให้ดีครับพ่อ” ยศสรัลเอ่ย
บัญชาไม่รู้สึกตัวอีกต่อไปเขาหายใจแผ่วลง ๆ จนชีพจรหยุดเต้นในที่สุด
ธัญกรร้องไห้ ก้มลงกราบบัญชาเป็นครั้งสุดท้าย..
เช้าวันใหม่ วีด้าตื่นขึ้นมาไม่เห็นยศสรัล วีด้ามองหาแบบงงๆ
“มาถึงข่าวที่ต้องขอแสดงความเสียใจกับตระกูลโชตินุพงษ์ที่เสียหัวเรือใหญ่อย่างคุณ บัญชา โชตินุพงษ์ที่เสียชีวิตด้วยโรคร้ายกลางดึกคืนที่ผ่านมา” เสียงผู้ประกาศข่าวรายงานดังมา
วีด้าตกใจหันมองสนใจข่าวในโทรทัศน์ วีด้าถึงกับอึ้ง เธอทรุดตัวลงที่โซฟา ไม่คิดว่าบัญชาจะเสียชีวิตเร็วขนาดนี้
“นายบัญชา โชตินุพงษ์ เป็นนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทยที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา แม้ในระยะหลังจะเกิดการบริหารที่ล้มเหลวของทายาทรุ่นที่สอง จนทำให้บริษัทPrime Enterprise ที่นายบัญชามุ่งมั่นสร้างมาจนยิ่งใหญ่ ต้องถูกเปลี่ยนมือไปเป็นของ นางสาววีรดา วานิชโยธิน” เสียงผู้ประกาศรายงานประวัติบัญชา
วีด้านั่งนิ่งถอนใจ “ทุกอย่างจบลงแล้วสินะ”
ขณะเดียวกัน กำธรที่อยู่ที่สิงคโปร์รับรู้ข่าวการจากไปของบัญชาแล้วเช่นกัน เขากดโทรศัพท์ไปหาหลานสาว
“วีด้า...” บทสนทนาทางโทรศัพท์เริ่มขึ้น
วันใหม่ สินีในชุดดำถือรูปของบัญชาเอาไว้ในมือ
“มันไม่จบง่ายอย่างนั้นหรอก! คุณคิดว่าการที่คุณตายหนีฉันไป รอยแผลในหัวใจที่คุณกับนังกานดา แล้วก็ลูกสาวของมันทำไว้กับฉันมันจะหายไปด้วยงั้นเหรอไม่มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!” สินีกำรูปของบัญชาไว้แน่น นัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความแค้น
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 23 (ต่อ)
ขณะเดียวกัน วีด้าทำแก้วตกลงพื้นเสียงดัน
“วีด้าขอโทษค่ะแม่” เธอพูดกับกานดา
วีด้ารีบก้มลงเก็บ มือโดนแก้วบาด
“อุ๊ย” วีด้ายกมือขึ้นดู
“เลือด กลัวๆ” กานดาพูด
วีด้ามองแม่ แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“คุณแม่ไม่ต้องกลัวนะคะ วีด้าไม่ได้เป็นอะไรค่ะ โดนบาดนิดเดียว”
กานดามองนิ่ง แล้วเหม่อลอยต่อ
“คุณกานดาไม่เคยมีปฏิกิริยากับโลกภายนอกเลยนี่ถือเป็นข่าวดีนะคะ คุณวีด้า” พยาบาลที่เห็นเหตุการณ์พูดออกมาอย่างตื่นเต้น
“จริงเหรอคะ”วีด้ายิ้มดีใจ
“แม่คะแม่เริ่มรับรู้บ้างแล้วใช่มั้ยคะ” วีด้าหันไปพูดกับกานดา ยิ้มดีใจให้แม่และ พยาบาล
วันต่อมา ยศสรัลนั่งเงียบๆที่สระว่ายน้ำ ธัญกรเดินเข้าไปคุยด้วย
“เสร็จงานคุณพ่อแล้ว พี่สรัลยังดูเหนื่อยๆนะครับ” ธัญกรเอ่ย
“พี่เป็นห่วงคุณแม่ ตั้งแต่คุณพ่อเสีย คุณแม่ไม่ค่อยยอมคุยอะไรกับพวกเราเลย เล็กรู้สึกรึเปล่า”
“คุณแม่ยังคุยกับผมดีนะครับ เหมือนปกติเลย” ธัญกรว่า
“งั้นเหรอ งั้นคงจะเป็นกับพี่คนเดียว” ยศสรัลถอนใจ คิดไปถึงวีด้า
“ไม่สบายใจเรื่องอะไรอีกรึเปล่าครับ”
“พี่ยังรู้สึกเป็นห่วงวีด้า”
“พี่เป็นห่วงเค้า พี่ก็ไปหาเค้าสิครับ” ธัญกรเอ่ย
ยศสรัลหันมองหน้าน้องชาย
“ส่วนคุณแม่ พี่สรัลไม่ต้องห่วง คุณแม่ยังมีแรงตีกับรัชนาแสดงว่าคุณแม่ยังแข็งแรงดี” ธัญกรพูด
“นี่แม่ยังไม่ยอมรับรัชนาอีกเหรอ” ยศสรัลยิ้ม
“คุณแม่เคยยอมรับใครเหรอครับ นอกจากพี่มณ” ธัญกรว่า
ยศสรัลยิ้มเศร้าๆ
ประตูบ้านถูกเปิด วีด้าที่กำลังจะขับรถออกจากบ้านเปิดประตูรถลงมามอง
“ผมเป็นห่วงคุณ คุณสบายดีมั้ย” ยศสรัลเอ่ย
“สบายดีค่ะชั้นเสียใจเรื่องคุณพ่อคุณด้วย และขอโทษที่ไม่ได้ไปงาน” วีด้ากล่าว
“ผมเข้าใจวีด้า”
วีด้ามองหน้ายศสรัลเขาเดินเข้าไปกอดเธอ
“ผมเป็นห่วงคุณมาก และคิดถึงคุณมากด้วยขอผมขับรถตามไปส่งคุณนะ”
วีด้ามองหน้าสรัล ไม่ตอบอะไรแล้วเดินขึ้นรถตัวเองไป
มณทิตาโทรหายศสรัล
“สรัลคะ มณมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยมาพบมณหน่อยนะคะ” ยศสรัลได้ยินก็ถอนหายใจ
ยศสรัลนั่งรอมณทิตาลองชุดเจ้าสาวอยู่อย่างซังกะตาย ขณะที่มณทิตาลัลล้าสุดๆ
“สรัลคะ คุณว่าชุดนี้เป็นยังไงคะ” มณฑิตาถาม
“ก็สวยดีนะครับ” ยศสรัลมองเป็นพิธีก่อนตอบ
“แล้วถ้าเทียบกับชุดเมื่อกี้ละคะ สรัลชอบชุดไหนมากกว่ากัน” มณฑิตาถามต่อ
“ชุดไหนก็ได้ครับ มันสวยคนละแบบ”
“สวยคนละแบบ หรือว่าคุณไม่สนใจเลยสักแบบ” มณฑิตาเริ่มโกรธ
“มณครับ คุณพ่อผมเพิ่งเสียที่ผมยอมตามใจคุณ มาฟังคุณพูดเรื่องชุดงานแต่ง มันก็ดูผิดที่ผิดเวลามากพออยู่แล้ว ผมขอร้อง คุณอย่ากดดันผมอีกเลย” ยศสรัลพูดออกมา
“แล้วที่มณยอมแต่งงานกับคุณ ทั้งๆที่ครอบครัวของคุณกำลังเหลือแต่ตัว นี่มันไม่ผิดที่ผิดเวลายิ่งกว่าเหรอคะสรัล!” มณทิตาไม่ลดละ
“นั่นเพราะคุณอยากเอาชนะผม จริงๆถ้าคุณไม่อยากแต่ง เรายกเลิกได้นะครับ” ยศสรัลยังพูดไม่ทันจบ มณฑิตาก็รู้สึกหน้ามืด และหมดสติไปทันที
“มณ คุณเป็นอะไร มณ!” ยศสรัลประคองมณทิตาไว้ด้วยความเป็นห่วง
มณทิตากังวลเพราะรู้ตัวอยู่บนเตียงคนไข้ยศสรัลเดินเข้ามา
“สรัล…” มณฑิตาเรียก
“หมอบอกว่าคุณกำลังจะเป็นแม่คน ผมยินดีด้วย” ยศสรัลว่า
“จริงหรือคะสรัลมณขอโทษ มณรักคุณนะสรัลมณรักคุณ” มณฑิตาร้องไห้
ยศสรัลพยักหน้า
“มณขอโทษ มณรักคุณนะสรัลมณรักคุณ” มณทิตาก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาไหลอย่างยั้งไม่อยู่
ยศสรัลรู้สึกสงสาร เขากุมมือมณทิตาเพื่อให้กำลังใจ
มณฑิตามาคุยกับสินีที่บ้านบัญชา
“หนูมณแน่ใจได้ยังไงว่าท้องกับตาใหญ่” สินีโวยวายใส่มณทิตา
“ทำไมคุณแม่พูดแบบนี้ละคะ” มณฑิตาถามอึ้งๆ
“เท่าที่คนเขาคุยกันในวงสังคม หนูมณก็ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา” สินีว่า
“ใครจะพูดถึงมณยังไงก็ช่าง แต่มณก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่มั่วซะจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร” มณฑิตาเอ่ย
สินีชะงักไปเพราะถูกมณทิตาย้อน
“พี่ใหญ่พูดอะไรบ้างสิคะ” มณฑิตาหันไปพูดกับคัชพล
คัชพลสบตามณทิตาที่กำลังจ้องตาเขาอย่างรอคอยคำตอบ
“มณ….พี่…" คัชพลพูดอะไรไม่ถูก
“ไปเอาออกซะ!” สินีแทรกขึ้น
ทุกคนหันมองสินีเป็นตาเดียว
“ว่าไงนะคะ!” มณฑิตาร้อง
“ในเมื่อตาใหญ่คนที่เธออ้างว่าเป็นพ่อของเด็กยังอ้ำอึ้งไม่แน่ใจ หนูมณก็ควรจะไปเอาเด็กออกซะ เรื่องมันจะได้จบ แล้วหนูมณก็จะได้กลับมาแต่งงานกับยศสรัลเหมือนเดิม” สินีพูด
“คุณแม่คิดได้ยังไง เด็กคนนี้อาจจะเป็นหลานแท้ๆของคุณแม่ก็ได้นะครับ” ยศสรัลว่า
“และมันก็อาจจะไม่ใช่หลานฉันก็ได้เหมือนกัน!แกไม่ต้องมาโยกโย้นะสรัล แม่รู้นะที่แกพยายามยัดเยียดหนูมณให้ตาใหญ่ เพราะแกอยากจะกลับไปหานังวีด้าใช่มั้ย” สินีสวนทันที
“ผมไม่คิดเลย ว่าแม่จะคิดเรื่องแบบนี้ได้...” ยศสรัลเอ่ย
“พอเถอะค่ะพี่สรัล ไม่ต้องพูดอะไรเพื่อมณอีกแล้ว มณจะไม่มีวันทำเรื่องโหดร้ายกับลูกตัวเองอย่างนั้นถึงแม้ว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ เขาจะไม่รับผิดชอบก็ตาม!” มณฑิตาพูดอย่างทนไม่ไหว พร้อมกับมองไปทางคัชพล แล้วเดินออกไปทันที
ยศสรัลมองหน้าสินีกับคัชพลอย่างอึดอัดใจ
คัชพลนั่งดื่มเหล้าคิดเรื่องของมณทิตาอยู่ยศสรัลเดินเข้ามา
“พี่ใหญ่ครับ...” ยศสรัลเรียก
“แกจะมาพูดเรื่องยัยมณใช่มั้ย” คัชพลถาม
“พี่ใหญ่...คิดว่า มณโกหก?”
“ชั้นไม่รู้” คัชพลสับสน
“ที่จริงพี่ใหญ่เชื่อว่ามณไม่ได้โกหก เพราะเราต่างก็รู้จักมณทิตามานาน มณเค้าอาจเป็นผู้หญิงตรงๆแรงๆ แต่มณก็ไม่เคยโกหก” ยศสรัลว่า
คัชพลนิ่ง ยศสรัลพูดต่อ
“การได้เป็นพ่อคนถือเป็นเรื่องที่ประเสริฐนะครับพี่ใหญ่”
“แกพยายามยัดเยียดฉันให้ยัยมณเพื่อแกจะได้สมหวังกับวีด้า!” คัชพลพูด
“ผมไม่เถียงว่าผมรักวีด้า เพราะวีด้าคือน้องแพร คนที่ผมรักตั้งแต่ยังเด็ก” ยศสรัลตัดสินใจพูดตรงๆ
คัชพลมองน้องชายอย่างโกรธเคือง
“แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมควรรักเธอ หรือเราควรรักกันมั้ยผมไม่อยากให้เธอมีอันตรายเพราะครอบครัวเราอีก ความรู้สึกของผมตอนนี้มันแย่จนผมบรรยายไม่ถูก พี่ใหญ่อาจจะโกรธผมพูดแบบนี้ แต่มันคือความจริงที่ผมก็ไม่รู้ว่าจะโกหกพี่ใหญ่ไปทำไม” ยศสรัลเอ่ยต่อ
คัชพลดื่มเหล้าอีก รู้สึกเข้าใจน้องชายอยู่เหมือนกัน
“ผมรักพี่ใหญ่ รักทุกคนในครอบครัวเรามาก แต่ผมก็รักและสงสารน้องแพร จนผมตอบตัวเองไม่ได้สักทีว่า ผมจะเลือกปกป้องใคร แต่พี่ใหญ่เลือกได้ครับ พี่ใหญ่เริ่มต้นใหม่ได้ ผมเชื่อว่าพี่ใหญ่จะต้องเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อมณและลูกของพี่” ยศสรัลบอก
คัชพลมองหน้ายศสรัล ครุ่นคิด ตัดสินใจ
วีด้าเปิดประตูรถ เห็นรถยศสรัลจอดอยู่ วีด้าเปิดประตูลงไป
“คุณเลิกมาตามดูแลวีด้าเถอะค่ะเสียเวลาทำงานของคุณเปล่าๆ” วีด้าว่า
ยศสรัลหน้าเศร้าลงจนวีด้ารู้สึกได้
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ” วีด้าเอ่ยถาม
ยศสรัลยิ้มเศร้าแล้วส่ายหน้า วีด้าเดินไปขึ้นรถ ขับออกจากบ้านไป
เวลาผ่านไป วีด้ากับยศสรัลต่างใช้ชีวิตของตนเอง ทำงาน สั่งงานลูกน้อง เข้าประชุม คุยกับลูกค้า แต่เมื่อกลับไปที่บ้าน ทั้งสองก็ต่างคิดถึงกันและกัน
“ช่วงนี้ลูกค้าเรากลับมาเยอะเหมือนเดิมแล้ว บริษัทฯเราคงไม่ล้มละลายแล้วใช่มั้ย” พนักงานในบริษัท Prime Enterprise คุยกัน
“นั่นน่ะสิ ได้คุณยศสรัลบริหาร ถ้าให้คุณยศสรัลบริหารตั้งแต่แรกคงไม่เสียบริษัทให้คนอื่นไปหรอก ว่ามะ!”
เช้าวันใหม่ ยศสรัลตัดสินใจไปที่เกาะ เมื่อเขาก้าวลงจาก Speed Boat พุฒิกับแก้วก็วิ่งลงมาต้อนรับ
“นายมาแล้ว! นายที่รักของไอ้พุฒิมาแล้ว!” พุฒิจะพุ่งเข้าไปกอดยศสรัล แต่ช้ากว่าแก้วที่พุ่งเข้าไปกอดยศสรัลแน่น
“นายมาแล้ว แก้วดีใจ!”
พุฒิยืนมองแก้วที่กอดยศสรัล แล้วเอื้อมมือไปสะกิด
“อีแก้ว ปล่อยนายได้แล้ว ฉันหึง”
“หึงเมียเหรอ” แก้วถาม
“หึงนายต่างหาก”
“หึยยย ไอ้บ้า!” แก้วหันไปตีพุฒิให้วุ่นวาย
ยศสรัลไม่หือไม่อือ เดินขึ้นเกาะไปพุฒิกับแก้วชะงัก มองตามยศสรัลอย่างเป็นห่วง
“นายมานิ่งๆอย่างนี้...” แก้วว่า
“มีเรื่องไม่สบายใจแหงๆ...เฮ้อ...” พุฒิและแก้วประสานเสียง
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 23 (ต่อ)
ในวันเดียวกัน วีด้าปิดแฟ้มเอกสารลง ถอนใจเบาๆ ครุ่นคิดถึงยศสรัล
ยศสรัลนั่งนิ่งๆอยู่ พุฒิกับแก้วโผล่มาจากมุมหนึ่งมองยศสรัลอย่างเป็นห่วง แล้วมองหน้ากันรวบรวมความกล้า ก่อนคลานเข้ามาหายศสรัล
“อยากรู้อะไรก็ถามมา” ยศสรัลพูดนิ่งๆ
พุฒิกับแก้วชะงัก ยิ้มแหยๆ
“แหม...นายก็พูดซะ เหมือนพุฒิกับอีแก้ว เป็นพวกสอดรู้สอดเห็นอย่างนั้นแหละ” พุฒิว่า
“แสดงว่าไม่อยากรู้” ยศสรัลพูด
“อยากสิ!” พุฒิกับแก้วพูดพร้อมกัน
ยศสรัลส่ายหน้าเอือมๆ
“นายเป็นอะไรทำไมซึมๆ นายดีกับคุณผู้หญิงแล้วไม่ใช่เหรอ” พุฒิถาม
“ไม่เชิง...” ยศสรัลเอ่ย
“งั้นนายก็ทะเลาะกับคุณผู้หญิงอีกน่ะสิ” แก้วถามบ้าง
“ไม่ใช่…” ยศสรัลตอบ
“อ้าว…งง…" พุฒิกับแก้วว่า
“ไม่ต้องงงหรอก ฉันก็แค่อยู่ในสภาวะกลับไม่ได้ไปไม่ถึงมันทำให้แน่นอึดอัด และลำบากใจ ฉันแค่อยากรู้ว่าเมื่อไหร่ทุกอย่างจะจบลงซะที” ยศสรัลบอก
“แล้วถ้าจบจะจบยังไงละนาย” พุฒิถาม
“นั่นสินะ เรื่องของเราจะจบยังไงนะ วีด้า...” ยศสรัลพูดกับตัวเอง มองทอดสายตาออกไปไกลอย่างอึดอัด
พุฒิและแก้วมองยศสรัลอย่างเป็นห่วง
วันต่อมา
“วีด้า..แกยังไม่เตรียมตัวอีกเหรอ คืนนี้แกต้องไปรับรางวัลแล้วนะ” เกรซว่า
เกรซสังเกตเห็นวีด้าไม่ค่อยมีความสุขนัก
“ความสำเร็จที่มาจากการทำลายคนอื่นมันไม่ได้น่าภูมิใจเลย ชั้นไม่มีความสุข” วีด้าเอ่ย
เกรซเห็นใจเพื่อน นั่งลงข้างวีด้า
“ชั้นดีใจที่แกเปลี่ยนกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว แกรู้มั้ยว่าที่ผ่านมา แกเดินตามรอยนายบัญชาศัตรูที่แกเกลียดโดยไม่รู้ตัว เป็นเพราะความแค้นของแกนั่นแหละ กว่าจะรู้ตัวอีกที แกก็สูญเสียอะไรไปหลายอย่างแล้วเหมือนกัน” เกรซบอก
วีด้าคิดตามอย่างยอมรับ เธอรู้สึกแย่
ช่วงหัวค่ำ คัชพลนั่งดูข่าวทีวีอยู่กับยศสรัล
“มาถึงข่าวสังคมธุรกิจกันบ้างค่ะ ถ้าพูดถึงนักธุรกิจหญิงที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ก็คงหนีไม่พ้นคุณวีด้า หรือ วีรดา วานิชโยธิน ประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของบริษัท Prime Enterpriseและตอนนี้คุณวีด้าได้ทำการกลับไปซื้อธุรกิจศูนย์การค้ากลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากที่เคยปล่อยขายออกไปเมื่อหลายเดือนก่อน” เสียงผู้ประกาศรายงาน
ยศสรัลเองก็เพิ่งรู้เรื่องจากข่าวเช่นกัน คัชพลไม่พอใจ อารมณ์เสียลุกเดินออกไปยศสรัลมองตามถอนใจ หันไปมองหน้าสินีที่ทำหน้าเฉยๆ ไม่ยินดียินร้าย
ตกกลางคืน สินียิ้มอารมณ์ดี มีความสุข
“ใกล้ถึงเวลาของชั้นแล้วสินะ”
“ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะครับ กับการประกาศรางวัลใหญ่ รางวัลนักธุรกิจยอดเยี่ยมแห่งปี” พิธีกรชายพูด
“ค่ะ ซึ่งตัวเก็งในปีนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีว่ามีนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างคุณวีรดา วาณิชโยธิน” พิธีกรหญิงเสริม
สินีโทรศัพท์หามือปืน
“เราวางแผนกันมานานแล้ว ชั้นหวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดนะดีมาก ชั้นอยากเห็นมันตายต่อหน้าสื่อบนเวทีนั่นแหละจัดการให้เรียบร้อย แล้วชั้นจะโอนเงินที่เหลือไปให้”
สินีวางสาย หันกลับมาเห็นยศสรัลที่ยืนฟังอย่างเครียดๆ
“ผมผิดหวังในตัวแม่มาก ผมไม่คิดเลยว่าแม่จะใจคอโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้ทำไมไม่ปล่อยให้ทุกอย่างมันจบไป” ยศสรัลพูด
“ให้มันเสวยสุขอยู่ฝ่ายเดียวเหรอ ไม่มีทางหรอก” สินีว่า
“แม่ทำแบบนี้ได้ยังไงผมขอร้อง แม่โทรไปหยุดพวกนั้นซะ” ยศสรัลเอ่ย
ทว่าสินีนิ่งเฉย
“ผมขอร้องนะคุณแม่ อย่าให้พวกนั้นทำอะไรวีด้า”
สินียังคงนิ่ง
“แม่ครับ แม่”
ยศสรัลตัดสินใจรีบวิ่งออกจากบ้านไป
“ขอให้แกไปทันนะสรัล” สินีหัวเราะเบาๆ
ยศสรัลวิ่งขึ้นรถและขับออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว
วีด้าเดินเข้ามาในงานประกาศรางวัลอย่างสง่าผ่าเผย มีบอดี้การ์ดเดินตามมาด้วยนักข่าวและช่างภาพรีบกรูเข้าไปถ่ายรูปวีด้ายกใหญ่
ขณะเดียวกัน ยศสรัลขับรถมาด้วยความกังวล เขาโทรศัพท์หาวีด้าก็พบว่าปิดเครื่อง
นักข่าวพากันล้อมวีด้าและแย่งกันสัมภาษณ์เธออยู่ที่งานประกาศรางวัล ไม่มีใครรู้ว่ามือปืนกำลังแอบมองวีด้าอยู่จากมุมหนึ่ง พิธีกรบนเวทีนำเข้าสู่งาน
“สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เข้าสู่งานประกาศรางวัล Business Diamond หรือ นักธุรกิจมือเพชร ครั้งที่ 9 ค่ะ”
วีด้านั่งอยู่ในงานฟังการประกาศผลรางวัลอื่นๆ โดยมีบอดี้การ์ดคุมอยู่รอบๆอีกมุมหนึ่ง มือปืนเดินปนเข้ามาในกลุ่มนักข่าวและตากล้อง สายตามองวีด้าที่นั่งห่างออกไป
บนเวทีพิธีกรกำลังทำหน้าที่
“แล้วก็มาถึงอีกหนึ่งรางวัลเกียรติยศสูงสุดของคนธุรกิจในค่ำคืนนี้” พิธีกรชายพูด
“ใช่แล้วค่ะ รางวัลนั้นก็คือรางวัลนักธุรกิจหญิงแห่งปี” พิธีกรหญิงเสริม
ยศสรัลมาถึงงานแล้ว เขามองหาวีด้าทันที
“ตามความคาดหมายนะคะ ว่ารางวัลนักธุรกิจหญิงดีเด่นปี 2013 ได้แก่...คุณวีรดา วานิชโยธิน กรรมการผู้จัดการบริษัท กำธรโลจิสติกส์ และ บริษัท Prime Enterpriseค่ะ”
ทุกคนยืนปรบมือยินดีกึกก้อง วีด้าเดินขึ้นเวทียศสรัลพยายามฝ่ากลุ่มคนเข้าไปหาวีด้า
วีด้ารับรางวัลแล้วเดินไปพูดที่โพเดียม มือปืนสบโอกาสที่วีด้าจะกลายเป็นเป้านิ่ง เขาค่อยๆขยับตัว
“การจะประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ จำเป็นต้องมีการแข่งขันอย่างหนักแม้ในบางครั้งจะไม่ค่อยชอบใจนักที่ต้องเห็นคู่แข่งล้มและพลาดเพื่อจะได้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง และธุรกิจที่ดีควรจะแข่งขันกันอย่างถูกต้อง ซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน” วีด้ายืนพูด
ยศสรัลมองวีด้า และมองหาคนร้าย
“บอกตรงๆเลยค่ะว่าดิชั้นไม่สมควรที่จะได้รับรางวัลแห่งเกียรติยศนี้ เพราะธุรกิจที่ดีไม่ควรจะมีผู้อยู่รอดเพียงฝ่ายเดียว”
ทุกคนงุนงงในสิ่งที่วีด้าพูด แต่ก็มีคนปรบมือนำให้ ทุกคนเลยปรบตาม
มือปืนกำลังหยิบปืนออกมาในขณะที่คนกำลังปรบมือ ส่วนยศสรัลที่กังวลมากกำลังมองสังเกตหามือปืน แล้วก็เห็นมือปืนกำลังจะเล็งปืนไปที่วีด้ายสสรัลตัดสินใจวิ่งขึ้นไปหาวีด้า
“วีด้า หลบ” ยศสรัลตะโกน
วีด้าอึ้ง ทั้งสองสบตากันเพียงชั่ววินาที ก่อนที่ยศสรัลจะถึงตัววีด้าเสียงปืนก็ดังขึ้น วีด้าล้มลง ยสสรัลเข้าไปรับไว้ทัน เขาหันไปมองมือปืนที่กำลังแทรกตัวหนี
วีด้าอยู่ในอ้อมแขนยศสรัล เสื้อเปื้อนเลือดผู้คนวิ่งโกลาหล ช่างภาพรีบถ่ายเก็บเหตุการณ์
“แพร! น้องแพร!” ยศสรัลร้อง
“คุณ..” วีด้ามองหน้ายศสรัลนิ่ง
“เรียกรถพยายาล! ตามรถพยาบาลเร็ว!”
วีด้าอยู่ในรถพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เธอรู้สึกเจ็บแผล มียสสรัลกุมมือไม่ยอมปล่อย
“น้องแพร อย่าเป็นอะไรนะ ทำใจดีๆไว้!”
วีด้ามองยศสรัล เธอบีบมือยศสรัลแน่นแล้วยิ้มให้ ก่อนจะหมดสติไป
“น้องแพร น้องแพร!” ยศสรัลเรียก
อ่านต่อตอนที่ 24