xs
xsm
sm
md
lg

ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 21

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 21

คัชพลกำลังขับรถอยู่บนถนนทางหลวง แววตามองไปข้างหน้าอย่างแข็งกร้าว

“ไอ้สรัล แกคิดจะตีท้ายครัวฉันให้ได้ใช่มั้ย ไอ้น้องชั่ว” คัชพลเข่นเขี้ยว เขาเหยียบคันเร่งจนมิด จนรถแล่นไปบนทางหลวงอย่างรวดเร็ว ทางที่เขาขับไปนั้น เป็นทางเดียวกับที่ยศสรัลขับรถตู้พาวีด้าไปนั่นเอง
วีด้ายังคงนั่งประคองยศสรัลที่หมดสติ และมีเลือดออกที่แผลอยู่ที่เดิม เธอมองยศสรัลที่หน้าซีดลงเรื่อยๆ
“อย่าเป็นอะไรนะห้ามตายนะ”
ทันใดนั้นวีด้าก้ได้ยินเสียงเอะอะของแก้วดังมา วีด้าเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นพุฒิเอาเรือเข้าฝั่ง ส่วนแก้วกระโดดลงจากเรือพลางโวยวายไปด้วย
“ขี้ลืมเป็นคนแก่เลย เดี๋ยวลืมโน่นเดี๋ยวลืมนี่ อยู่ทะเลปลาเยอะแยะหัดกินบ้างนะ” แก้วว่า
“โอ้ย แก้วจ๋า หยุดบ่นก่อนนะจ๊ะ แค่ลืมโทรศัพท์เอง ขยับปากมากหน้าจะย่นเร็วนะ” พุฒิว่า
“ไม่ต้องมาหลอกด่าฉันเลย” แก้วตีพฒิ
“แก้ว! พุฒิ! ช่วยด้วย เร็วเข้า” วีด้าตะโกน
พุฒิกับแก้วชะงัก รีบวิ่งเข้าไปหาทันที “คุณผู้หญิง” ทั้งสองประสานเสียง
“คุณผู้หญิงเป็นอะไรคะ”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่นายสรัลของพวกเธอซิ ไปโดนอะไรมาก็ไม่รู้เลือดไหลจนเป็นลมไปแล้ว!” วีด้าบอก
“นาย!” พุฒิร้อง
“รีบพาเขาไปหาหมอเร็วเข้าเถอะ” วีด้าว่า
พุฒิรีบแบกร่างยศสรัลไปที่เรืออย่างทุลักทุเล วีด้ากับแก้วรีบตามไป

พุฒิขับเรือกลับเข้าฝั่ง โดยมีแก้วคอยเร่งอยู่ข้างๆ ส่วนยศสรัลนอนอยู่บนตักวีด้า เธอกุมมือยศสรัลอย่างเป็นห่วง

ดนัยแต่งตัวเสร็จกำลังจะออกไปทำงาน เขาเดินมาหยิบโทรศัพท์ เห็นเบอร์วีด้าเป็น Miss Call หนึ่งครั้ง
“บ้าจริงเมื่อคืนดันปิดเสียง” ดนัยพูด แล้วกดโทรกลับหาวีด้า แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ ดนัยคิ้วขมวดรู้สึกเริ่มเป็นห่วงขึ้นมา ก่อนกดโทรศัพท์อีกครั้ง
“ฮัลโหล เกรซครับ”

ดนัยมาที่ร้านเบเกอรี่เกรซ
“ยัยวีด้าไม่ได้ไปทำงานสองวันแล้วค่ะ เลขาฯบอก” เกรซพูด
“ผมสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องอีก ไม่แน่พวกนั้นอาจรู้แล้วว่าวีด้าเข้ามาในครอบครัวเพราะต้องการแก้แค้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง วีด้าอาจเป็นอันตรายก็ได้” ดนัยว่า
“อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลยค่ะ” เกรซเอ่ย
“แต่ยังไงซะ เราก็ควรกันไว้ดีกว่าแก้นะครับเกรซ” ดนัยพูด
“ดนัยจะทำอะไรคะ”
“ปรบมือข้างเดียวไม่มีวันดัง ถ้าเราบอกให้วีด้าหยุดจองเวร แต่ถ้าอีกฝ่ายอาบัญชาไม่หยุด เรื่องก็ไม่มีวันจบจริงมั้ยครับ” เกรซพูด เธอมองหน้าดนัยที่กำลังครุ่นคิดอย่างมุ่งมั่น

พุฒิขับ Speed Boat เข้ามาจอดเทียบท่าแก้วกระโดดขึ้นฝั่ง เห็นคนงานที่เป็นลูกน้องพุฒิอยู่ใกล้ๆก็ตะโกนเรียก
“ไอ้เบิร์ด! ไอ้เปรี้ยว!มาช่วยกันหน่อยเร็ว!”
ลูกน้องพุฒิวิ่งเข้ามาพุฒิกำลังช่วยวีด้าแบกยศสรัลขึ้นมาพอดี ลูกน้องเห็นก็เข้ามาช่วย
“พี่พุฒิ นายเป็นอะไรอ่ะ” เบิร์ดถามลูกพี่
“อย่าเพิ่งถามมาก พานายไปบังกะโลข้างหลังก่อน ส่วนแกไอ้เปรี้ยว ไปตามหมอที่อนามัยมาเร็วๆ”
เปรี้ยวรีบออกไปตามคำสั่งลูกพี่ ส่วนพุฒิกับเบิร์ดช่วยกันแบกยศสรัลอ้อมไปบังกะโลด้านหลังรีสอร์ทโดยมีวีด้ากับแก้ววิ่งตามไปติดๆ



ลับหลังพวกวีด้าไปไม่นาน รถของคัชพลก็แล่นเข้ามาจอด เฉียดฉิวแต่ไม่ทันเห็นพวกวีด้าคัชพลลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในโถงต้อนรับของรีสอร์ทอย่างเร็ว เขาเข้ามาคุยกับพนักงานต้อนรับ
“คุณยศสรัลไม่ได้มาที่นี่นะคะคุณใหญ่” พนักงานตอบ
“เธอแน่ใจเหรอ” คัชพลถามอีก
“แน่ใจค่ะ เพราะถ้ามาแล้วคุณสรัลเข้าพักที่บ้านรับรองพิเศษพวกเราต้องรู้แน่นอนค่ะ เว้นแต่ว่า คุณสรัลจะไม่พักที่นี่ แต่ไปพักที่เกาะส่วนตัว” พนักงานพูดต่อ
คัชพลฉุกคิด “เกาะส่วนตัว...”

ที่บังกะโลหลังรีสอร์ท หมอฉีดยาให้ยศสรัลที่แขนเรียบร้อย โดยมีทุกคนยืนรอฟังด้วยความเป็นห่วง
“เขาเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” วีด้าถาม
“คุณสรัลมีไข้ เพราะแผลอักเสบจนติดเชื้อครับ แต่ไม่เป็นไรผมฉีดยาฆ่าเชื้อให้แล้ว แล้วก็จะจ่ายยาค่าเชื้อไว้ด้วย ให้ทานครบตามเวลา อาการก็น่าจะขึ้นครับ” หมอตอบ
“คุณหมอพอจะรู้มั้ยคะว่าเขาไปโดนอะไรมา” วีด้าถามต่อ
“ดูจากลักษณะของแผล น่าจะเป็นแผลผ่าตัดน่ะครับ” ทุกคนอึ้งเมื่อได้ฟังคำตอบจากหมอ

พุฒิกับแก้วเดินมาตามทาง
“ไม่รู้นายเป็นอะไรเนอะ ทำไมต้องถูกผ่าตัดแล้วทำไมผ่าตัดแล้วไม่พักฟื้น ออกมาทรมานตัวเองทำไมกัน” พุฒิว่า
แก้วเอานิ้วจิ้มหัวพุฒิ แล้วบอกว่า “ไม่กินปลาอีกแล้ว ก็เพราะนายเป็นห่วงคุณผู้หญิงน่ะซิ”
จังหวะนั้นคัชพลเดินสวนทางมาพอดี เห็นพุฒิกับแก้วก็รีบเรียก “พุฒิ แก้ว”
พุฒิกับแก้วเห็นหน้าคัชพล ก็สะดุ้งเฮือก “คุณใหญ่!” ทั้งสองประสานเสียง
คัชพลเดินเข้ามาหาพุฒิกับแก้ว เขาถาม“เป็นอะไรทำหน้าอย่างกับเห็นผี”
พุฒิกับแก้วยิ้มแล้วส่ายหน้า
“สรัลอยู่ที่เกาะหรือเปล่า” คัชพลถาม
“ไม่อยู่ครับ” พุฒิตอบอึกอัก
“เหรอ” คัชพลไม่เชื่อ แล้วเดินออกไปทันที
พุฒิกับแก้วมองหน้ากัน
“ทำไมแกไปโกหกคุณใหญ่” แก้วว่า
“โกหกที่ไหน ก็นายไม่ได้อยู่ที่เกาะ แต่นายอยู่ที่นี่” พุฒิบอก
“เออจริงด้วย” แก้วเอ่ย
“รีบไปทำข้าวเตรียมไว้ให้นายเถอะ” พุฒิบอก แล้วทั้งสองก็รีบเดินไป

คัชพลเดินจ้ำมาที่ท่าเรือ “คิดว่าฉันจะเชื่อแกง่ายๆเหรอไอ้พุฒิ” เขากระโดดขึ้น Speed Boat สตาร์ทเครื่อง แล้วขับออกไปที่เกาะทันที

“ข้าวต้มกุ้ง 2 ถ้วย ของนายกับคุณผู้หญิงค่ะ” แก้วพูด พลางส่งอาหารให้กับวีด้า
“ขอบใจนะพวกเธอไปทำงานเถอะ ฉันดูเขาเอง” วีด้าบอก
พุฒิ แก้ว และลูกน้องทั้งสองยังยืนนิ่ง
“ฉันไม่หนีหรอก ฉันจะอยู่ดูแลนายพวกเธอจนเขาหายดี ไม่ต้องห่วง” วีด้าพูด
“ได้ยินอย่างนี้ค่อยโล่งใจหน่อย” พุฒิว่า แล้วหันไปพูดกับลูกน้อง “ไปพวกเรา ไปทำงานเถอะ”
ลูกน้องพากันออกไป แต่พุฒิกับแก้วยังไม่ยอมออกไป
“เอ้า ไหนบอกโล่งใจไง ทำไมยังจะยืนเฝ้าอยู่ละ” วีด้าถาม
“เราแค่จะบอกคุณผู้หญิงว่า เมื่อกี้เราเจอคุณใหญ่ค่ะ” แก้วรายงาน
“คุณใหญ่มาที่นี่เหรอ” วีด้าพูดอย่างตกใจ
“ใช่ครับ คุณใหญ่มาถามหานายว่าอยู่ที่เกาะมั้ย” พุฒิบอก
“แล้วพุฒิตอบไปว่าอะไร”
“ตอบว่าไม่อยู่ครับ เพราะนายไม่ได้อยู่ที่เกาะ แต่นายอยู่ที่นี่ แต่คุณใหญ่ฟังยังไม่ทันจบก็หุนหันเดินออกไปเลย” พุฒิว่า
วีด้าถอนใจ รู้สึกโล่ง “ดีแล้ว จำไว้นะพุฒิแก้วจะให้คุณใหญ่รู้ไม่ได้ว่าฉันกับคุณสรัลอยู่ที่นี่เข้าใจมั้ยไม่อย่างนั้นเกิดเรื่องแน่ๆ บอกลูกน้องของนายด้วยนะ”
“ครับ/ค่ะ” พุฒิและแก้วรับคำ
วีด้ามองยศสรัลอย่างกังวลใจ

อ่านต่อหน้าที่ 2


ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 21 (ต่อ)

Speed Boat ของคัชพลแล่นเข้ามาจอดที่เกาะ คัชพลกระโดดลงจากเรือ แล้ววิ่งเข้าไปในกระท่อม

“สรัล! วีด้า!” คัชพลตะโกน เมื่อเข้ามาในกระท่อม เขาก็พบว่าในกระท่อมว่างเปล่าไร้เงาคน
“หรือสรัลจะไม่ได้พาวีด้ามาที่นี่จริงๆ” คัชพลคิด เขากำลังจะเดินออกไป แต่ก็ชะงักเพราะสายตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง นั่นคือ กระเป๋าถือของวีด้าที่ถูกทิ้งอยู่ใต้โต๊ะคัชพลวิ่งเข้าไปคว้าขึ้นมาดูใกล้ๆ
“วีด้า ไอ้สรัล!” คัชพลพูดเสียงเหี้ยม

วีด้าออกมายืนสูดอากาศอยู่หน้าบังกะโล เธอรู้สึกผ่อนคลายเวลาขึ้น ภายในบังกะโล ยศสรัลนอนกระสับกระส่ายเพราะพิษไข้
“แพร.. แพร” เสียงยศสรัลเพ้อดังมา วีด้าหลงดีใจคิดว่ายศสรัลฟื้น เธอรีบวิ่งเข้าไปหาสสรัล ก็พบว่ายศสรัลกำลังละเมออยู่ เขาตัวสั่นห่มผ้าแน่น วีด้าแตะหน้าผากก็พบว่ายศสรัลตัวร้อนมาก
“ตายแล้ว ทำไมตัวร้อนกว่าเดิมล่ะ” วีด้าพูด เธอจึงเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าผากให้ยศสรัลที่ยังสั่นอยู่
ต่อมา ยศสรัลดูผ่อนคลายมากขึ้น วีด้าซับหน้าเช็ดคอทำความสะอาดให้ ดูแลด้วยความเป็นห่วง

ตกกลางคืน วีด้ายังนั่งดูแลยศสรัลอยู่ หวังว่ายศสรัลจะฟื้นขึ้นมา ต่อมาก็ห่มผ้าให้ยศสรัล แล้วล้มตัวนอนลงข้างๆยศสรัลรู้สึกหนาว พลิกตัวมากอดวีด้าไว้ วีด้าหันมองเห็นว่ายศสรัลยังคงหลับตาตัวสั่นจึงปล่อยให้เขากอดไว้
ทั้งสองนอนกอดกัน ต่างถ่ายทอดความอบอุ่นให้กันและกัน

คัชพลมาที่ผับ เขายื่นแก้วเปล่าส่งให้พนักงานเติมเหล้า
“เอามาอีก” คัชพลว่า
พนักงานรับแก้วไป แต่แล้วคัชพลกับยื้อแก้วเอาไว้
“เอามาทั้งขวดเลยดีกว่า ฉันเทเอง” คัชพลว่า
“ครับผม” พนักงานรับคำ แล้วส่งขวดเหล้าให้คัชพล เขาเทเหล้าใส่แก้วจนเกือบเต็ม
ขณะนั้น มณทิตาก็เดินเข้ามา เธอมองหาใครบางคนอย่างร้อนรน พอเห็นคัชพลนั่งอยู่ที่เคาวน์เตอร์ก็รีบเข้าไปหา
“พี่ใหญ่ เจอสรัลมั้ยคะ” มณฑิตาถาม
คัชพลส่ายหน้า
“แล้วยัยวีด้าละ” มณฑิตาถามต่อ
“ไม่เจอ” คัชพลตอบ
“ไม่ได้เรื่องเลย! อุตส่าห์ออกตามหาทั้งที กลับคว้าน้ำเหลว แทนที่จะจับได้คาหนังคาเขาว่า สรัลอยู่กับยัยวีด้าจริงๆหรือเปล่า” มณฑิตาว่า
“ไม่ได้เรื่องสิดี” คัชพลเอ่ย
“ดีดียังไงคะพี่ใหญ่”
“ไม่มีผู้ชายคนไหนทนได้หรอกนะ ถ้ารู้ว่าผู้หญิงที่เราหมายปองไปมีอะไรกับน้องชายแท้ๆของตัวเอง”
“ไม่น่าเชื่อว่าเสืออย่างพี่ใหญ่ จะเขี้ยวเล็บทู่จนเอาผู้หญิงคนเดียวอย่างยัยวีด้าไม่อยู่ ปล่อยให้มันไปยุ่งกับสรัลได้”
“ไอ้สรัลต่างหากที่ตามยุ่งกับวีด้า ขนาดโดนฉันยิงจนเกือบตายมันยังไม่สำนึก!”
มณทิตาอึ้งพูดไม่ออกคัชพลพูดต่อ
“หรือเธอจะเถียงยัยมณ”
มณทิตาหลบตาคัชพล แล้วหันไปหาพนักงาน
“ขอแก้วเปล่าใบนึง”
พนักงานส่งแก้วให้มณทิตา มณทิตาคว้าขวดเหล้าของคัชพลมารินใส่แก้วตัวเองแล้วยกแก้วขึ้นตรงหน้าคัชพล
“แด่สองผู้ถูกหักหลัง” มณฑิตาพูด
คัชพลมองหน้ามณทิตาแววตาเจ็บปวด แล้วยกแก้วขึ้นชนกับแก้วมณทิตา
มณฑิตาขับรถมาส่งคัชพลที่บ้าน
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่คะ” มณฑิตาเรียก เธอเองก็เมาเช่นกัน
มณฑิตาพยายามเรียก คัชพลเมาไม่สนใจ มณฑิตาจึงจำต้องออกจากรถมาเปิดประตูและประคองคัชพลออกมา
“พี่ใหญ่ ถึงบ้านพี่ใหญ่แล้วค่ะ พี่ใหญ่ โอ๊ย…ตัวหนักเป็นบ้า” มณฑิตาบ่น

อ่านต่อหน้าที่ 3


มณฑิตาประคองคัชพลขึ้นบันไดมาจนถึงหน้าห้องนอนคัชพล เธอเปิดประตูพาคัชพลเข้าห้องไปมณฑิตากับคัชพลทิ้งตัวลงบนเตียง คัชพลพลิกตัวเมามายกอดมณฑิตาไว้
“ปล่อยมณค่ะพี่ใหญ่ ใครมาเห็นเข้าไม่ดีแน่” มณฑิตาพูดเสียงมึนๆ
“กลัวคู่หมั้นจะมาเห็นเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะป่านนี้มันก็คงนอนกอดว่าที่คู่หมั้นของพี่อยู่เหมือนกัน”
มณทิตาสะอึกเรื่องยศสรัลกับวีด้า รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นเราจะต้องแคร์ศีลธรรมความถูกต้องอยู่ทำไมจริงมั้ยคะพี่ใหญ่” มณทิตามองคัชพลสายตาเชื้อเชิญ คัชพลพลิกตัวขึ้นอยู่เหนือมณทิตาทันที
“ใช่ในเมื่อมันทำได้ เราก็ทำได้” คัชพลพูด แล้วก้มลงจูบมณทิตาที่หลับตาพริ้ม

เช้าวันใหม่ ยศสรัลยังนอนกอดวีด้าอยู่ภายในบังกะโล วีด้าขยับตัวชิดยศสรัล จนยศสรัลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นวีด้าอยู่ในอ้อมแขน “วีด้า”
ยศรัลมองดูวีด้ากำลังหลับอย่างไร้พิษสง เขายิ้มมองดูเธออย่างมีความสุขวีด้าขยับตัวงัวเงียเงยหน้าหน้าลืมตาขึ้น ตาประสานกับยศสรัลที่จ้องรออยู่แล้วทั้งสองอึ้งชั่วขณะ อยู่ในภวังค์ ต่อมา วีด้ารู้สึกตัว
“คุณ!” วีด้าผลักยศสรัลเบาๆ
“โอ๊ย!” ยศสรัลร้อง เพราะเจ็บแผล วีด้าตกใจเป็นห่วงรีบเข้ามาประคอง
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ยังเจ็บแผลมากอยู่เหรอ” วีด้าพูดอย่างเป็นห่วง
“เจ็บแต่ผมทนได้ ผมดีใจนะที่คุณไม่หนีไปทั้งที่มีโอกาส” ยศสรัลว่า
“คุณหายดีเมื่อไหร่ ฉันก็จะหนีไปเมื่อนั้น!” วีด้าพูด
“งั้นผมจะใช้ช่วงเวลานี้ที่ผมยังไม่หาย ทำให้คุณเปลี่ยนใจ” ยศสรัลมองตาวีด้าแน่วแน่วีด้าทนไม่ได้ลุกเดินหนีไป ยศสรัลมองตาม

ขณะเดียวกัน ธัญกรตักข้าวป้อนบัญชา บัญชาเบือนหน้าหนี
“อาหารเช้าสำคัญนะครับพ่อ ทานอีกหน่อยนะครับ” ธัญกรบอก
“พ่อกินไม่ลงแล้ว”บัญชาว่า
ธัญกรยอมแพ้ แล้วเข็นโต๊ะออกไปจากเตียง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น รัชนาที่ยื่นหน้าเข้ามา เธอมองซ้ายมองขวายังไม่กล้าเข้ามาในห้อง
“คุณแม่ยังไม่มาหรอก เข้ามาเถอะ” ธัญกรพูด
รัชนายิ้ม แหะๆ แล้วก้าวเข้ามายกมือไหว้บัญชา
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ...เอ้ย! คุณอาบัญชา รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ยคะ” รัชนาทักทาย
บัญชาเงียบ รัชนาหน้าเสียรีบหันไปหาธัญกร
“ฉันเอาเอกสารงานคุณมาให้...คุณกินข้าวเช้าหรือยัง” รัชนาเปลี่ยนเรื่อง
“ยังรอคุณแม่มาก่อน” ธัญกรว่า
“แกลงไปกินข้าวเถอะตาเล็ก พ่ออยู่คนเดียวได้” บัญชาแทรก
“แต่ว่า” ธัญกรยังลังเล
“ฉันอยากอยู่คนเดียว!” บัญชาพูดเสียงแข็ง
ธัญกรจำต้องรับคำ ส่วนรัชนาตัวลีบ เธอรีบออกไปทันทีบัญชาที่นอนอยู่ในห้องผู้ป่วยรู้สึกทุกข์ใจ หาทางออกไม่ได้
สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงเปิดประตู บัญชาไม่พอใจ
“บอกแล้วไงว่าฉันอยากอยู่คนเดียว!” บัญชาตะโกน แต่เมื่อหันหน้ามาก็ต้องชะงัก เพราะที่ยืนอยู่ข้างเตียงคือ ดนัยกับเกรซ โดยดนัยถือกระเช้าของเยี่ยมอยู่ในมือ ทั้งสองยกมือไหว้บัญชา บัญชาจำดนัยได้
“ผมดนัยลูกอธิบดีทรงพลครับคุณอา แล้วนี่ก็คุณเกรซครับ” ดนัยแนะนำตัว
“อาจำได้หลานยังเป็นเพื่อนสนิทนังวีด้าอีกด้วย และที่มาวันนี้ก็คงไม่ได้แค่จะมาเยี่ยมอาใช่มั้ย” บัญชาเอ่ย
ดนัยตัดสินใจ ก่อนจะพูดออกไป “ครับ…ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณอา”
ดนัยกับบัญชามองหน้ากัน โดยมีเกรซยืนอึดอัดลำบากใจ

อ่านต่อหน้าที่ 3


ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 21 (ต่อ)

สินีเดินออกมาจากบ้าน สภาพของเธอดูซีดเซียวและเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิม โดยมีคนรับใช้หิ้วตระกร้าอาหารของบัญชาตามออกมา เธอเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน แต่ก็ชะงัก เพราะเห็นรถของมณทิตาจอดอยู่

“รถหนูมณนี่นา” สินีว่า แล้วหันไปถามคนรับใช้ “เมื่อคืนหนูมณมาที่นี่เหรอ”
“ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันเห็นเธอมาส่งคุณใหญ่ แล้วก็ยัง...” คนรับใช้ตอบ
สินีไม่ฟังต่อหุนหันกลับเข้าไปข้างในทันที

คัชพลนอนกอดกับมณทิตาในห้องโดยมีเพียงผ้าห่มคลุมกายเท่านั้น สินีเดินเข้ามาเคาะประตู
“ตาใหญ่! ตาใหญ่!”
ไม่มีเสียงตอบรับ สินีขยับลูกบิด ปรากฏว่าห้องล็อค
“ไปเอากุญแจมา!” สินีพูดกับคนรับใช้
คัชพลกับมณทิตายังคงหลับไม่รู้เรื่องกันอยู่ในห้องเพราะฤทธิ์เหล้า ขณะเดียวกัน สินีไขกุญแจปลดล็อค แล้วบิดลุกบิดประตูเข้าไป เมื่อเห็นภาพในห้องก็แทบช็อค
“ตาใหญ่! หนูมณ! นี่มันอะไรกัน” สินีตกใจร้องเสียงดัง
คัชพลกับมณทิตาสะดุ้งตื่น เมื่อเห็นว่าสินียืนอยู่ทั้งสองก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก
“คุณแม่! / คุณอา!” ทั้งสองประสานเสียง
สินียืนมองด้วยความโกรธ
บัญชาพูดกับดนัยอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ให้ฉันไปขอขมาวิญญาณไอ้ชาติชาย แล้วก็ขอโทษนังวีด้างั้นเหรอ”
“มันเป็นวิธีเดียวนะครับคุณอา ที่จะหยุดติเกมส์จองเวรนี้ลงได้”
“ฉันไม่เคยคิดเล่นเกมส์กับมัน มันต่างหากที่เข้ามายุ่งกับครอบครัวฉัน ลูกชายฉัน!”
“แต่นั่นก็เป็นเพราะคุณไปทำร้ายครอบครัวของเขาก่อน วีด้าต้องกลายเป็นเด็กบ้านแตก พ่อตายแม่เป็นบ้า ถ้าเป็นคุณอาคุณอาจะไม่เจ็บปวด ไม่เคียดแค้นเหรอคะ” เกรซพูดขึ้นมาอย่างทนไม่ได้
“ไอ้ชาติชายพ่อของมันต่างหากที่ทำร้ายฉันก่อน” บัญชายังไม่ยอมรับ
“เรื่องราวในอดีต เป็นสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้แล้วนะคะ แต่เราแก้ไขปัจจุบันได้” เกรซว่า
“ใช่ครับ คุณอาคงไม่อยากให้ลูกๆต้องเจ็บปวด เพราะโดนความรักทำร้ายเหมือนอย่างที่คุณอาเคยเจอ แล้วแปรความรักเป็นความเกลียดจนไปทำร้ายคนอื่น” ดนัยพูด
“เด็กเมื่อวานซืน...แกสองคนถือดียังไงมาสอนฉัน!” บัญชาบอก
ดนัยกับเกรซมองหน้ากัน เกรซยกมือไหว้บัญชา
“เราไม่กล้าสอนคุณอาหรอกค่ะ แต่เรากำลังขอร้องคุณอาค่ะ” เกรซพูด
บัญชาพูดเสียงดัง “พอแล้ว!” ก่อนพยายามข่มอารมณ์ “ออกไป”
ดนัยกับเกรซเงียบ แล้วดนัยก็ตัดสินใจพูด
“คุณอาครับ ผมไม่ได้บอกว่าวีด้าไม่ผิดนะครับ ผมเพียงแต่อยากให้เรื่องทุกอย่างจบด้วยดี ก่อนที่มันจะสายเกินไป การขอโทษไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของคนเราลดลง ตรงกันข้ามถ้าการขอโทษนั้นมาจากใจ คนๆนั้น จะกลายเป็นวีรบุรุษขึ้นมาทันทีต่างหากครับ”
ดนัยพูดจบ เขากับเกรซก็ยกมือไหว้ลาบัญชา
บัญชากำหมัดแน่น น้ำตาเอ่อ ในหัวเริ่มสับสน

คัชพลกับมณทิตาแต่งตัวเสร็จแล้วนั่งเครียดอยู่ตรงหน้าสินี
“คุณแม่ครับ” คัชพลเอ่ย
“มณทิตาเป็นคู่หมั้นของยศสรัลน้องชายแก” สินีแทรก
มณทิตาพูดไม่ออกทั้งเจ็บทั้งอาย
“เราผิดผมยอมรับ แต่มันก็ไอ้สรัลมันไม่ยอมเลิกยุ่งกับวีด้า ในเมื่อไอ้สรัลมันทำได้ ผมกับยัยมณก็ทำได้!” คัชพลว่า
สินีปราดเข้าไปตบหน้าคัชพลฉาดใหญ่ มณทิตาสะดุ้ง
“ได้สติซะทีนะตาใหญ่ เพราะนังวีด้า ทำให้แกเกือบพลั้งมือฆ่าน้องชายตัวเอง และก็เพราะนังวีด้า ทำให้แกคว้าลูกเขาว่าที่เมียคนอื่นมาเป็นของตัวเองประชดชีวิต ชีวิตของแกกำลังจะพังก็เพราะอีนังผู้หญิงคนนี้ แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ...หา!” สีนีว่า
คัชพลอึ้งน้ำตาคลอ มณทิตาทนไม่ได้ วิ่งออกไปจากบ้านแล้วขับรถออกไปทันทีสินีเองก็น้ำตาไหล
“แม่ผิดหวังในตัวแกมากตาใหญ่” สินีพูดก่อนจะเดินออกไป
คัชพลสุดกลั้น เขาถีบข้าวของที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อระบายอารมณ์
“โธ่เว้ย!” คัชพลตะโกน
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของคัชพลก็ดังขึ้น เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็คิ้วขมวดทันที
“ไอ้แฟรงค์!” คัชพลรับสาย
“เรื่องเงินไปถึงไหนแล้วคุณคัชพล ทำไมไม่ตอบผมสักทีว่าจะจ่ายได้เมื่อไหร่? หรือต้องให้ผมส่งลูกน้องไปเยี่ยมพ่อคุณที่โรงพยาบาลอีก” แฟรงค์พูดมาตามสาย
“อย่านะ! ฉันรับรองฉันหาเงินมาคืนแกได้แน่!” คัชพลว่า
แต่แฟรงค์ตัดสายไปแล้ว
“ฮัลโหลๆๆไอ้แฟรงค์!” เขาพูดใส่โทรศัพท์ก่อนหันมาสบถกับตัวเอง “โธ่เว้ย!”
คัชพลครุ่นคิดด้วยความกังวลใจ

วีด้าอยู่ในครัว เธอกำลังง่วนอยู่กับการทำข้าวต้มให้ยศสรัลอย่างตั้งใจ ส่วนยศสรัลเอนตัวพักอยู่ภายในบังกะโลก็แอบมองออกมาดูวีด้า วีด้าที่ดูปกติธรรมดาที่สุดในตอนนี้ เป็นวีด้าที่เขามองดูแล้วไม่อยากละสายตาหลังตักข้าวต้มใส่ถ้วยเสร็จ วีด้าก็แอบมองเข้าไปดูยศสรัลเหมือนกัน วีด้ายิ้มเล็กน้อย รู้สึกดีที่ได้ทำอาหารให้ยศสรัล
วีด้าเดินถือถ้วยมาวางตรงหน้ายศสรัล ยศสรัลมองดูผลงานวีด้า เธอยื่นถ้วยข้าวต้มมาตรงหน้ายศสรัล“มียาพิษหรือเปล่า?” ยศสรัลถามยิ้มๆ
“ฉันไม่หวังดีประสงค์ร้ายกับคุณขนาดนั้นหรอก” วีด้าว่า
“แล้วกับครอบครัวผมล่ะ” ยศสรัลถามต่อ
วีด้าหน้าตึงทันที
“จะกินมั้ย ถ้าไม่กินฉันจะเอาไปเททิ้ง” วีด้าพูด
“กินสิ แต่ผมคงกินเองไม่ถนัด” ยศสรัลเอ่ย
วีด้ารู้ทัน “ฉันป้อนคุณก็ได้...แต่คุณต้องบอกฉันมาก่อน ว่าคุณไปโดนอะไรมา”
ยศสรัลอึกอัก แต่ก็ตัดสินใจบอก
“ผมโดนยิง”
“โดนยิง! ใครยิงคุณ เพราะอะไร”
“พี่ใหญ่ เขาโกรธที่ผมมาวุ่นวายกับ...คุณ” ยศสรัลพูด
“เขาบ้าไปแล้ว” วีด้าเอ่ย
ยศสรัลแทรกทันที “เพราะพี่ใหญ่รักคุณมากต่างหาก”
“เขาไม่ได้รักฉันจริงหรอก คนอย่างนายคัชพล ก็แค่หวงก้างเท่านั้น”
“คุณเคยรักใครหรือเปล่าวีด้า” ยศสรัลถาม
วีด้าชะงัก เธอมองหน้ายศสรัล แล้วก็เสไปยกถ้วยข้าวต้มตักป้อนให้ยศสรัล
“กินข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวจะเย็นซะหมด...”
วีด้าป้อนข้าวต้มยศสรัล ยศสรัลกินข้าวต้มอย่างรู้สึกดี แต่ก็แอบอึดอัดใจ

อ่านต่อหน้าที่ 4


ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 21 (ต่อ)

ตกเย็น วีด้ายืนมองออกไปริมชายหาดคิดถึงคำถามของยศสรัล

“คุณเคยรักใครหรือเปล่าวีด้า”
วีด้าสูดหายใจเข้าอย่างอึดอัด ยศสรัลเดินออกมายืนที่ประตูทั้งที่ยังเจ็บ เขาเดินเข้ามาข้างๆวีด้า
“คุณออกมาทำไม ข้างนอกลมแรงคุณยังไม่หายดีเดี๋ยวก็ไข้ขึ้นอีก” วีด้าว่า
“ไม่เป็นไร ผมแค่อยากอยู่ข้างๆคุณ” ยศสรัลบอก
“กลัวฉันหนีละซิ” วีด้าเอ่ย
“เปล่า...ผมอยากยืนเคียงข้างคุณจริงๆ ตลอดไป เหมือนที่พี่สรัล เคยอยู่ข้างน้องแพรเสมอตอนเด็กๆ....ตอนที่ครอบครัวเรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” ยศสรัลพูด
วีด้าพูดไม่ออกหันมองหน้ายศสรัล
“คุณกำลังพูดในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว” วีด้าว่า
“เป็นไปได้สิ ถ้าคุณจะยอมปล่อยให้ทุกอย่างที่เลวร้ายในอดีตมันผ่านไป ปล่อยให้ความรัก ทำหน้าที่แทนความแค้น”
ยศสรัลเอื้อมมือไปจับมือวีด้ามากุมไว้
“ผมรักคุณ...วีด้า” ยศสรัลสารภาพ
วีด้าอึ้ง หันมามองยศสรัล พยายามฝืนความรู้สึกตัวเอง
“คุณคิดว่าวิธีนี้จะทำให้ฉันเลิกล้มความคิดที่จะแก้แค้นพ่อของคุณได้อย่างนั้นเหรอ”
“ความรักของผม ไม่เกี่ยวกับความแค้นระหว่างคุณกับคุณพ่อ เพราะผมรักคุณตั้งแต่คุณยังเป็นน้องแพรของพี่สรัลตอนที่ถูกพี่ใหญ่ยิง ตอนที่ผมเข้าใกล้ความตาย ในหัวของผมมีภาพของคนที่ผมรัก ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ทั้งพ่อ แม่ พี่ใหญ่ ตาเล็ก และน้องแพรของผม” ยศสรัลพรั่งพรูออกมา
วีด้าอึ้งน้ำตาเกือบจะไหล
“คุณยังไม่ตอบผมเลย ว่าคุณเคยรักใครหรือเปล่า...น้องแพรเคย รักพี่สรัลบ้างมั้ย” ยศสรัลพูดต่อ
วีด้ากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ยศสรัลคว้าตัววีด้าเข้ามากอดไว้แน่น เธอปล่อยให้ยศสรัลยืนกอดอยู่อย่างนั้นโดยไม่ฝืนตัวหนีอีกต่อไป

วีด้ากำลังช่วยถอดเสื้อให้ยศสรัลภายในกระท่อม ยศสรัลยิ้มใส่ วีด้าเซ็งแต่ไม่โกรธ เธอเดินไปเอาน้ำแล้วเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ยศสรัล ยศสรัลมองอย่างมีความสุขที่เห็นว่าวีด้าตั้งใจทำให้เธอค่อยๆแกะผ้าติดแผลอันเก่าให้ยศสรัลเพื่อจะล้างแผลให้ใหม่ เมื่อวีด้าเห็นแผลของยศสรัลก็ตกใจเพราะแผลเริ่มอักเสบ อาจจะติดเชื้อได้ เธอมองยศสรัลอย่างเป็นห่วง ยศสรัลมองวีด้ามีความสุข เขายังไม่รู้ตัวว่าแผลเป็นอันตราย

วีด้ากับยศสรัลกำลังจะเข้านอน เธอนอนบนเตียง มองดูยศสรัลที่กำลังปูผ้าเพื่อนอนที่พื้น เมื่อยศสรัลปูเสร็จก็หันมามองยิ้มให้วีด้าวีด้าทำหน้าไม่ถูก แอบเขินอยู่ลึกๆ เธอหันหน้าหนี นอนหันหลังให้ยศสรัล ยศสรัลมองวีด้าอยู่สักพักจึงนอนลง
เวลาต่อมาวีด้ายังนอนไม่หลับ เธอจึงพลิกตัวหันกลับไปทางยศสรัล กะว่าจะแอบดูว่ายศสรัลหลับหรือยัง แต่ดันไปจ๊ะเอ๋กับสายตายศสรัลที่จ้องมองเธออยู่ เขายังไม่ยอมหลับเช่นกัน
วีด้าไม่อยากสบตาด้วยจะพลิกกลับ แต่ยศสรัลชิงขยับตัวก่อน พลิกตัวจนเจ็บแผล
“โอ๊ย..” ยศสรัลร้อง
วีด้ามองเป็นห่วง เห็นว่าพื้นข้างล่างมันแข็ง
“คุณมานอนข้างบนละกัน” ยศสรัลได้ยินก็ดีอกดีใจ
“สลับที่กัน ชั้นจะไปนอนข้างล่าง” วีด้าพูดต่อ ทำเอายศสรัลดีใจเก้อ แต่ก็ขึ้นไปนอนบนเตียง วีด้าจะลงจากเตียงแต่ยศสรัลขวางไว้
“อย่ามาทะลึ่ง” วีด้าจ้องดุๆ
“ผมไม่ได้ทะลึ่ง ผมหนาว” ยศสรัลว่า
“หนาวก็กอดหมอนข้างสิ” วีด้าพูด
“ก็มันมีซะที่ไหนละหมอนข้าง มีแต่คุณอยู่ข้างๆก็กอดแทนได้เหมือนกัน” ยศสรัลไม่ฟัง จับมือวีด้าแล้วนอนเลย วีด้าอึ้ง พยายามแกะมือแต่ไม่ออก
“ปล่อยชั้น” วีด้าว่า
“อย่าดิ้นนะ เดี๋ยวโดนแผลผม” ยศสรัลบอก
วีด้าหยุดมองยศสรัล ยศสรัลหลับตาลง วีด้ามองหน้าสรัลที่นิ่ง เสียงยศสรัลดังก้องเข้ามาในหัว
“ถ้าคุณจะยอมปล่อยให้ทุกอย่างที่เลวร้ายในอดีตมันผ่านไป ปล่อยให้ความรัก ทำหน้าที่แทนความแค้น...ผมรักคุณ วีด้า”
วีด้ามองยศสรัลอย่างหวั่นไหว รู้สึกดีและสับสนในหัวใจไปพร้อมๆกัน

ตกดึก คัชพลเปิดประตูเข้ามาในห้องบัญชาอย่างเหนื่อยอ่อนบัญชาลืมตาขึ้นมองลูกชาย
“ใหญ่…” บัญชาเรียก
“พ่อครับ” คัชพลเอ่ย
“แกเป็นอะไรหรือเปล่า” บัญชาถาม
คัชพลฝืนยิ้ม “ผมคงเหนื่อยๆมั้งครับพ่อ ช่วงนี้มีแต่เรื่องปวดหัว ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวขนาดนี้มาก่อน ผมจัดการกับอะไรไม่ได้สักอย่างทั้งเรื่องงาน และความรัก”
บัญชาเห็นสภาพลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังท้อแท้ก็รู้สึกทุกข์ไปด้วย เขาตัดสินใจ
“ใหญ่ พ่อว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ลูกจะต้องรู้ความจริง”
“ความจริงอะไรครับพ่อ” คัชพลมองหน้าบัญชาด้วยความอยากรู้
บัญชามองหน้าคัชพลตัดสินใจ..
คัชพลดื่มเหล้าอยู่ที่ห้องนอน คิดถึงสิ่งที่บัญชาบอกที่โรงพยาบาล
คัชพลไม่อยากจะเชื่อ
“วีด้าก็คือแพร...ลูกของอาชาติชายกับน้ากานดา” คัชพลครุ่นคิด
“ใช่...มันเข้ามาหาแก เพราะต้องการแก้แค้นพ่อ มันต้องการทำลายครอบครัวของเรา” คัชพลอึ้ง
บัญชาจับมือคัชพลแน่น “อย่ายอมให้มันทำได้ แกต้องไม่หลงกลจนมันทำสำเร็จ!”
กลับมาที่ปัจจุบัน คัชพลรู้สึกเครียดมากกับความจริงที่เพิ่งรับรู้

เหตุการณ์ในวัยเด็กผุดขึ้นมาในความทรงจำของคัชพล
บัญชากับชาติชายชกกันจนข้าวของพัง ไม่มีใครยอมใคร
สินี กานดาและคนรับใช้ทั้งสองวิ่งเข้ามาต่างคนต่างแยกไปดึงสามีของตัวเอง
“คุณชาติ!”
“คุณบัญชา!”
ระหว่างที่ชุลมุนกันอยู่นั้น เด็กทั้งสี่ก็วิ่งเข้ามา เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็หน้าตื่นตกใจ
“คุณพ่อ!” เด็กสี่คนประสานเสียง
“ต่อไปนี้แกกับฉันไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป!” ชาติชายพูดกับบัญชา
กลับมาที่ปัจจุบัน คัชพลนึกถึงอดีต อยู่ในเหตุการณ์ตลอด จำได้
“วีด้า...แพร!” คัชพลเข่นเขี้ยว เขากำแก้วแน่นจนหวาดเสียวว่าแก้วจะแตกคามือ

เช้าวันใหม่ ยศสรัลที่นอนหลับอยู่ค่อยๆลืมตา เขาขยับตัวจะกระชับกอดวีด้า แต่แล้วก็ต้องชะงักลืมตาขึ้นเมื่อเห็นว่าวีด้าไม่ได้นอนอยู่ข้างๆเขา ยศสรัลมองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นวีด้าก็รีบร้อนวิ่งออกมา

วีด้ายืนอยู่ที่ริมชายหาด เธอเหม่อมองทอดสายตาไปไกลในเวิ้งทะเล ครุ่นคิดและทบทวนถึงช่วงเวลาที่เธอและยศสรัลเคยมีทั้งทุกข์และสุขร่วมกัน ก่อนถอนใจเฮือกใหญ่
ยศสรัลเดินมองหามาตามทาง พอเห็นวีด้ายืนอยู่ก็โล่งใจ รีบเดินเข้ามาหา
“วีด้า...มาอยู่ที่นี่เอง...ผมเป็นห่วงแทบแย่” ยศสรัลว่า
วีด้าสวนขึ้นมา “ฉันจะหยุดทุกอย่าง”
ยศสรัลแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“คุณพูดจริงเหรอวีด้า”
ค่ะ ฉันทบทวนดูแล้ว แก้แค้นกันไปมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันจะยุติทุกอย่าง เลิกยุ่งเกี่ยวกับพี่ชายของคุณ และครอบครัวของเราจะต่างคนต่างไป...รวมถึงเราทั้งสองคนด้วย” วีด้าเอ่ย
ยศสรัลอึ้ง “คุณหมายความว่ายังไง”
“คุณควรจะกลับไปรักษาตัวให้หายดีซะที อย่าให้ฉันรู้สึกผิดว่าคุณต้องมาเป็นอะไรไปเพราะฉันเลย..” พูดจบวีด้าก็เดินจากไป ยศสรัลมองตามอย่างรู้สึกผิดหวังและเสียใจ
เช้าวันใหม่ คัชพลนั่งเปิดแฟ้มเอกสารค้างอยู่ในห้อง รู้สึกไม่มีสมาธิที่จะทำงาน
เลขาฯ เคาะประตู
“เข้ามา” คัชพลว่า
“คุณคัชพลคะ มีแขกมาขอพบค่ะ” เลขาฯ แจ้ง
“นัดไว้หรือเปล่า”
“เปล่าคะ”
“งั้นเชิญเขากลับไป วันนี้ผมไม่อยากพบใคร”
ทันใดนั้น แฟรงค์ก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับลูกน้องสองคน
“เห็นจะกลับไม่ได้หรอกครับคุณคัชพล!” แฟรงค์เอ่ย
“ไอ้แฟรงค์!” คัชพลตกใจเขาหันไปพูดกับเลขาฯ “คุณออกไปก่อน”
เลขาฯลังเลไม่แน่ใจว่าควรออกไปมั้ย
“ผมบอกให้ออกไปก่อน” คัชพลย้ำ
“ค่ะๆ” เลขาฯรับคำแล้วออกไป
แฟรงค์หันมาแสยะยิ้มเหี้ยมให้คัชพล
“ดีมาก เพราะเราคงต้องมีเรื่องคุยกัน...ยาว!!”
คัชพลได้ฟังก็รู้สึกกังวลมาก
คัชพลโดนผลักกระเด็นกระแทกกับกำแพงในห้องทำงานลูกน้องแฟรงค์คนหนึ่งเข้ามาล็อคคัชพลจากด้านหลัง และอีกคนตามเข้ามาชกท้องคัชพลรัวดัง โดยมีแฟรงค์ยืนดูคัชพลร่วงลงไปกองกับพื้น
“เป็นไงบ้างคุณคัชพล เราทำธุรกิจด้วยกันมานาน คุณน่าจะรู้ว่า ผมเป็นคนความอดทนต่ำ ไม่ชอบตามอะไรนานๆ และผมไม่ชอบขู่ใครโดยไม่ทำจริงซะด้วย” แฟรงค์พูด
“ฉันขอโทษที่คืนเงินแกช้า ฉันสัญญาฉันจะรีบหาเงินมาคืนแกให้เร็วที่สุด” คัชพลรับปาก
“สัญญาปากเปล่าเชื่อไม่ค่อยได้ มันต้องมีอะไรค้ำประกันสักหน่อย” แฟรงค์ว่า ก่อนส่งสัญญาณลูกน้องลากตัวคัชพลขึ้นมาแล้วจับนั่งลงบนเก้าอี้ ลูกน้องอีกคนเอามือซ้ายของคัชพลมากางนิ้วออกแล้วกดลงบนโต๊ะแฟรงค์ควักมีดพกออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“แกจะทำอะไร ไอ้แฟรงค์ อย่านะเว้ย” คัชพลโวยวาย
“แค่ขอนิ้วก้อยคุณไว้เป็นหลักประกันคำสัญญา นิ้วเดียวเอง ชิวๆน่า” แฟรงค์ว่า
“ไม่นะ ไอ้แฟรงค์ แกอย่าทำอะไรบ้าๆนะ” คัชพลร้อง
แฟรงค์ไม่ฟังเสียง เขาง้างมีดขึ้นแล้วปักลงอย่างแรง
“อย่า!” คัชพลร้องลั่น
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” แฟรงค์หัวเราะ
คัชพลตั้งสติมองมีด เขาเห็นมีดปักอยู่บนโต๊ะเฉียดปลายนิ้วของเขาไปอย่างน่าหวาดเสียว
“ครั้งนี้แค่ขอขวัญเสียๆของคุณเป็นดอกเบี้ยนะ ถ้าภายในสามวันนี้ผมไม่ได้เงินของผมคืนแบบเต็มจำนวนละก็ เตรียมตัวหล่อแขนเทียมเอาไว้ได้เลย!”
แฟรงค์กระชากมีดออกอย่างแรง แล้วเดินนำลูกน้องออกไปจากห้อง
เลขาฯรีบวิ่งเข้ามาหาคัชพลทันที
“คุณคัชพลคะ ให้ดิฉันแจ้งตำรวจมั้ยคะ”
“ไม่ต้อง! คุณช่วยเทขายหุ้นของผมกับพ่อให้หมดเดี๋ยวนี้เลย!” คัชพลสั่ง
“ว่าไงนะคะ” เลขาถามงงๆ
“ผมบอกให้คุณ เทขายหุ้นส่วนของผมกับพ่อให้หมดไง ไปสิ!”
“ค่ะๆๆ” เลขาฯรับคำแล้วรีบออกไป
คัชพลหายใจหอบด้วยความเครียดอย่างรุนแรง

กำธรกำลังดูหน้าจออยู่ รู้สึกผิดสังเกตุที่เห็นหุ้นของบริษัท Prime Enterprise ราคาตกฮวบ
“เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นของบรัษัท Prime Enterprise ทำไมถึงได้ร่วงระนาวแบบนี้” เขาถามเลขาฯ
“ข่าวว่าผู้บริหารของบริษัทเทขายหุ้นออกมาล็อตใหญ่ค่ะ” เลขาฯ ตอบ
“ทำไม...คุณช่วยผมหารายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มหน่อย ผมขอด่วน!” กำธรสั่ง
“ค่ะท่าน” เลขาฯออกจากห้องไป
กำธรเอนหลังพิงพนักเก้าอี้หลับตาอย่างเหนื่อยใจ
“หวังว่าเรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับหลานนะ วีด้า...”

อ่านต่อตอนที่ 22

กำลังโหลดความคิดเห็น