เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 16
เกรซถูกประคองขึ้นมาจากกองซากแผ่นป้ายดอกไม้ และข้าวของที่ทับอยู่บนตัว โดยเลขาส่วนตัวของหล่อน และทีมงานออแกนไนเซอร์ พอขึ้นมาได้ ก็สั่งด้วยน้ำเสียงอันกราดเกรี้ยวทรงอำนาจ เพราะโกรธจนถึงขีดสุด
“หาตัวมาให้ได้ว่าใครแกล้งฉัน ใคร”
ทุกคนหันไปมองบิวตี้โดยไม่ได้นัดหมาย ด้วยสายตาตำหนิติเตียน
บิวตี้ยังยืนตะลึงมองเกรซหน้าเหวออยู่ มีเจตน์ชาญกอดประคองไว้
ข้าวของล้มจากจุดที่บิวตี้ยืน เป็นหลักฐานชี้ชัดมัดตัวว่าคนทำคือบิวตี้ สื่อถ่ายรูปกันพรึบพรั่บ ทุกคนยังมองมาเป็นตาเดียว บิวตี้ส่ายหน้า ตกใจแต่ยังเชิดหยิ่ง
“คือฉันเท้าพลิก แล้ว ป้ายเนี่ยมันไม่แข็งแรง ติดตั้งได้ชุ่ยมาก” พอจะเดินมาหาเกรซ แต่เกิดเจ็บแปลบข้อเท้าที่เซเมื่อสักครู่จนร้อง “โอ๊ย” ออกมา
เจตน์ชาญประคองไว้อีก “ขาคุณเจ็บ เดินไหวไหมครับ” ชายหนุ่มประคองบิวตี้พามาหาเกรซ
อดิศักดิ์โกรธขึ้ง ไม่ยอมมองบิวตี้ บอกกับเมียและลูก “พาเกรซเข้าไปข้างใน”
บิวตี้เดินมาถึงเอ่ยขึ้น “ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ”
อดิศักดิ์ เครือวรรณ ไม่ตอบบิวตี้ พากันประคองเกรซ ออกไป
อรวิภาหันมาบอกกับธีภพ “น้องอรไปดูแลอ้านตี้ก่อน ค่ะ” แล้วตามพ่อแม่ไป
บิวตี้พูดกับธีภพ “ฉันไม่ได้แกล้งซักหน่อย ทำไมต้องโกรธด้วย”
“มานี่” ธีภพดึงมือบิวตี้ให้เดินห่างมาจากเจตน์ชาญ
ธีภพลากบิวตี้มานอกบริเวณงานเลี้ยง ห่างจากเจตน์ชาญพอควรแล้ว ชายหนุ่มดุเสียงเบา แต่หน้าเครียดเคร่ง
“คุณทำทุกอย่างพังหมด ธนบวรคงไม่มีโอกาสได้ลงหนังสือ Dazz แล้ว”
บิวตี้หน้าเจื่อน รู้สึกผิด “ฉัน...ฉัน ไม่ได้ตั้งใจ”
ธีภพโกรธ “ทีหลังก็หัดคิดก่อนทำบ้างว่า มันจะมีผลตามมายังไง วันนี้คุณมาในฐานะประธานบริษัท เป็นตัวแทนของคนทั้งองค์กร แต่คุณกลับทำให้เราเสียภาพลักษณ์ที่ดีไป คุณรู้ไหมว่าเกรซมีอิทธิพลขนาดไหน เธอสั่งคนให้แบนสินค้าของเราได้ แล้วใครจะเข้าร้านที่เราเปิดในประเทศต่างๆ เราต้องลงทุนมากขนาดไหนกว่าจะเปิดสาขาในต่างประเทศได้ ทุกคนในบริษัทต้องลงทุนลงแรงขนาดไหน คุณเคยรู้บ้างหรือเปล่า”
บิวตี้โกรธเช่นกัน “มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวกับบริษัทซักหน่อย ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ ได้ยินมั้ย”
“คุณอยากให้แบรนด์เราลงปก Dazz แต่คุณก็ทำมันพังซะเอง รู้ไหมถ้าเจตน์ชาญเข้าไปคุยกับเกรซแทน แล้วเธอตกลง เขาจะแย่งตลาดของเราไป ทั้งหมดนี่ก็เพราะคุณ...คุณคนเดียว” ธีภพใส่อารมณ์
“ฉันขอย้ำอีกครั้งว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แล้วในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว คุณจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันนั่งไทม์แมชชีนของโดราเอมอนย้อนเวลากลับไปรึไง”
“ไปขอโทษคุณเกรซ” ธีภพฉุดดึงมือบิวตี้ จะพาไปทางห้องพักเกรซ ในโรงแรม
“ไม่ ฉันไม่ผิด ฉันไม่ไป ฉันไม่ได้ทำอะไรเกรซเลยสักนิด”
“ทำหรือไม่ทำ คุณก็ต้องไปขอโทษเธอ ยังไงคุณก็ผิด” บิวตี้อ้าปากจะเถียง ธีภพขึ้นเสียง “ไม่ต้องเถียง คุณทำให้บริษัทเราต้องเสียความสัมพันธ์อันดีกับเกรซไป คุณต้องรับผิดชอบ”
ธีภพดึงมือบิวตี้ไปอย่างรุนแรง บิวตี้ขืนตัวสู้ แต่สุดท้ายธีภพฉุดกระชากลากไปจนได้
พักตร์พิมล ก้มหน้าก้มตาทำงาน กับปีวราในห้องทำงานที่แผนกฝ่ายขาย กระตั้วหน้าตาตื่นเต้นเข้ามาแจ้งข่าว พร้อมกับไอแพดในมือ
“อ๊าย เห็นกันหรือยังคะ เห็นหรือยัง”
“เห็นอะไร” พักตร์พิมลสนใจ
“ก็คลิปฉาวท่านประธานบิวตี้ วี้ดบึ้ม ทำงานต้อนรับเกรซ มิลเลอร์พังเละตุ้มเป๊ะน่ะสิคะ” กระตั้วรายงานท่าทีสะใจ
พักตร์พิมลตื่นเต้น “เกรซ มิลเลอร์ มาเหรอ”
“ใช่ค่ะ เกรซ ตัวเป็นๆ มาเซอร์ไพร้ส์งานแถลงข่าว 20 ปีฟอลคอน แต่โดนคุณบิวตี้ยำซะดูไม่ได้เลยค่ะ”
“ไหนมาดูซิ”
“ได้เลยค่ะ” กระตั้วเปิดคลิปให้พักตร์พิมลดู
ปีวรา เลื่อนตัวมาชะโงกดูห่างๆ
ทุกคนรุมดูภาพในจอ เห็นข้าวของล้มใส่ เกรซ เปื้อน เปรอะเลอะเทอะหมดสภาพ
“ว้าย ตายแล้ว เกรซ มิลเล่อร์ โดนแบบนี้คงแค้นน่าดู” พักตร์พิมลว่า
“เจ้าแม่เพอร์เฟ็คท์ คงแทบกระอักเลือด” กระตั้วเสริม
“แล้วรู้ได้ไงว่ายัยบิวตี้เป็นคนทำ”
กระตั้วชี้ในคลิป “นั่นไงคะ กล้องตามไปแล้ว”
เห็นบิวตี้กับเจตน์ชาญยืนอยู่หน้าแบคดร็อปป้ายดอกไม้ที่ล้มระเนระนาดอยู่
“อุ๊ย คุณบิวตี้ทำจริงๆ ด้วย”
“ข่าวแซบแบบนี้ แป๊บเดียวแชร์กันว่อนเน็ตเลยค่ะ” กระตั้วดี๊ด๊า
“เขาไปในนามของบริษัท แล้วทำขายหน้าแบบนี้ บริษัทเราก็เสียชื่อแย่น่ะสิ มีประธานงี่เง่า อายเขาไปทั้งโลกฉันรับไม่ได้”
พักตร์พิมลโมโห ฮึดฮัดตามประสา
ธีภพลากบิวตี้มาตามทางเพื่อมาขอโทษเกรซ
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ขอโทษ ฉันไม่ผิด เขาต่างหากที่ร้ายกับฉัน คุณไปขอโทษแทนบริษัทเองละกัน ท่าทางเขาชอบคุณไม่เบานิ เห็นจับคู่กับน้องอรยังกับจะถ่ายรูปเวดดิ้ง” บิวตี้ไม่วายประชด
“คุณทำแบบนี้คุณเกรซก็ปิดทางบริษัทเราไปหมดแล้ว ถึงเธอจะชอบผมแต่เธอจะไม่ทำงานกับเราอีก”
บิวตี้หมั่นไส้ “คุณก็ขอให้น้องอรช่วยสิ เธอคงอยากช่วยคุณยิ่งกว่าอะไรดี”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องอร คุณเป็นคนทำ คุณต้องรับผิดชอบ กฎข้อที่สามสิบแปดของบริษัท คุณต้องวางเรื่องส่วนตัวของบริษัทเอาไว้ และนึกถึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นอันดับแรก”
บิวตี้ฮึดฮัด บ่นบ้า “กฎ ๆๆ น่าเบื่อ”
“จะเบื่อหรือไม่ก็เรื่องของคุณ ถ้าจะเป็นประธานบริษัทต้องทำตามกฎ ไม่งั้นก็กลับไปส่องกระจกอยู่บ้าน คุณต้องไปขอโทษคุณเกรซ และทำทุกอย่างให้เธอยอมเจรจากับบริษัทเราก่อนที่เจตน์ชาญจะทำสำเร็จ ถ้าทำไม่ได้ ผมจะไม่ยุ่งกับการฝึกงานของคุณ และจะไม่สนับสนุนคุณกับกรรมการบริหารด้วย บริษัทของพ่อคุณต้องมาเสียหายเพราะความเอาแต่ใจของคุณ คิดดูให้ดีก็แล้วกัน”
บิวตี้ฉุกคิด “นี่กี่โมงแล้ว” กลัวไม่ทันกลับบ้าน แปลงร่าง จะดูนาฬิกาธีภพให้ได้
“กี่โมงก็ช่าง แต่คุณต้องรีบไปขอโทษให้เร็วที่สุด”
“พรุ่งนี้ค่อยมาละกัน รอให้เขาหายโมโหก่อน”
“ไม่ได้ คุณต้องแสดงความจริงใจ” ธีภพไม่ยอม
บิวตี้เริ่มปวดตัว พึมพำกับตัวเอง “ยังไงก็ไม่ทันแล้ว”
ธีภพไม่ใส่ใจ ลากบิวตี้มาที่หน้าห้องเกรซ พบการ์ดขวางทางไว้
ธีภพบอก “ผมขอพบคุณเกรซครับ”
อดิศักดิ์ อรวิภา เครือวรรณ ยืนรอให้เกรซหายโกรธอยู่หน้าห้อง ห่างจากการ์ดออกไป อรวิภาได้ยินเสียงเหลียวมองมา
“พี่ธี” หันมาขอร้องบิดา “ปะป๊าขา ช่วยพูดกับอ๊านตี้เกรซให้พี่ธีหน่อยได้ไหมคะ”
“เกรซกำลังโกรธ คงไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้นโดยเฉพาะคนก่อเรื่อง”
“แต่พี่ธีไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ”
เครือวรรณดุ “ลูกอร อย่าดื้อค่ะ”
อรวิภาฮึดฮัดขัดใจ แต่พอเห็นสีหน้าอันเครียดเคร่งของอดิศักดิ์ เลยไม่กล้าพูดอะไรต่อ
การ์ดเชิญธีภพและบิวตี้กลับลงไป บิวตี้ สะบัดมือเดินหนีไปอย่างเร่งร้อน
“บิวตี้”
บิวตี้เจ็บตามตัวเป็นริ้วๆ โลดแล่นออกจากประตูโรงแรมไปอย่างเร็วรี่ ธีภพรีบตามไปอย่างฉุนเฉียว
เย็นจวนค่ำ บิวตี้เดินแกมวิ่งออกมา ปวดตามตัวหนักขึ้น เจตน์ชาญจะตรงไปที่จอดรถ หันมาเห็นบิวตี้พอดี
“คุณบิวตี้ ได้เจอกับคุณเกรซหรือยังครับ”
บิวตี้ส่ายหน้า เจ็บปวดเนื้อตัวสุดประมาณร่างจะฉีกแล้ว จึงขอตัวก่อน “ฉันกำลังรีบ”
เจตน์ชาญเป็นห่วง “ท่าทางคุณบิวตี้ไม่สบาย ให้ผมไปส่งนะครับ”
“ไม่ต้อง...ฉัน...ไป...ไม่ได้”
ธีภพตามบิวตี้มาด้านหลัง ชะงักเมื่อเห็นบิวตี้พูดกับเจตน์ชาญ
ธีภพพยายามมาเรียกไว้ “เดี๋ยว บิวตี้” แต่ไม่ทันบิวตี้ออกไปแล้ว เลยหงุดหงิด
อรวิภาเดินมาตามธีภพไปหาเกรซ
“พี่ธีคะอ๊านตี้เกรซกำลังจะออกมาทานอาหารเย็นกับปะป๊า พี่ธีจะไปดักรอมั้ยคะ”
ธีภพจำใจกลับเข้าไปหาเกรซ
รถแท็กซี่คันหนึ่งแล่นเข้ามา บิวตี้โบกเรียก ขึ้นแล้วให้รถออกไปทันที เจตน์ชาญมองตามบิวตี้ไปงงๆ
บิวตี้ปวดตัวหนัก นอนซบลงที่เบาะหลังรถ
แท็กซี่มองกระจกหลังไม่เห็นอะไรผิดสังเกต “จะไปไหนครับ คุณ”
บิวตี้เสียงเริ่มแหบ กึ่งๆ เสียงนก “เลี้ยวซอยข้างหน้าเลย เร็วๆ เข้า โอ๊ย”
“ปวดท้องเหรอหนู ไปโรง’บาลมั้ย” แท็กซี่มีน้ำใจ
“ไม่ต้อง เข้าซอย เร็วๆ”
แท็กซี่เลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยวๆ บิวตี้บิดตัวด้วยความเจ็บปวดถึงขีดสุด มีแสงสว่างวาบขึ้น พร้อมๆ กับร่างบิวตี้เปลี่ยนเป็นนกหงส์หยกโดยพลัน
“แล้วไปยังไงต่อหนู” แท็กซี่มองกระจกหลัง ไม่เห็นเลยปรับกระจกส่องหลัง แต่ก็ยังไม่เห็น แท็กซี่ชักเริ่มหวาด
“หนู...” แท็กซี่หันไปดู ไม่เห็นใคร มีแต่กองเสื้อผ้า ก็ตกใจ “อ้าว หายไปไหน”
รถแท็กซี่เบรกเอี๊ยด คนขับวิ่งลงมา เปิดประตูรถดู นกบิวตี้บินสวนออกไป
โชคดีที่แท็กซี่ไม่เห็นนก “หายไปไหนเนี่ย” แท็กซี่เห็นแต่เสื้อกองอยู่ มองไปรอบๆ สีหน้าหวาดกลัว “...หรือว่า...ผีหลอก”
แท็กซี่ร้องลั่นรีบขึ้นรถ ขับทะยานออกไปโดยไว
ทุกคนอยู่ในล็อบบี้ ธีภพขอโทษอดิศักดิ์ต่อหน้าเครือวรรณ และอรวิภา แต่ท่าทางอดิศักดิ์ยังโกรธอยู่มาก
“คุณรู้ไหมว่าเกรซต้องทิ้งคิวเยอะขนาดไหน เพื่อจะมาร่วมงานนี้ เขาอุตส่าห์มาเพราะเป็นเพื่อนเก่าของผม แล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ ผมรับไม่ได้”
เครือวรรณจับมืออดิศักดิ์ “ใจเย็นๆค่ะป่าป๊า”
นกบิวตี้บินเข้ามาในห้อง
“ผมต้องกราบขอโทษอีกครั้งครับ” ธีภพไหว้ต่ำนอบน้อมมาก “คุณลัลน์ลลิตเธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ไม่ต้องขอโทษขนาดนั้นหรอก ฉันไม่ได้ทำผิดซักหน่อย” บิวตี้ในคราบนกโมโห
“ผมไม่เชื่อ เขาทำกับครอบครัวผมเป็นครั้งที่สองแล้ว ผมยังไม่ลืมนะที่เขาเคยแกล้งลูกสาวผมในงานแฟชั่นโชว์” อดิศักดิ์โมโหไม่หาย
บิวตี้คนเซ็ง “ฉันไม่ได้แกล้ง”
“พี่บิวตี้เขาคงไม่ได้ตั้งใจแกล้งน้องอรหรอกค่ะป่าป๊า พี่บิวตี้เขากลัวนก” อรวิภาแก้ให้
เครือวรรณปลื้ม กอดโอ๋ลูกสาว “โถ ลูกแม่ช่างแสนดีเสียเหลือเกิน”
“แล้วทำไมเขาไม่มาขอโทษด้วยตัวเอง” อดิศักดิ์ถาม
“เขาเกรงว่าท่านเจ้าสัวอาจจะยังโกรธ จนไม่อยากให้เข้าพบ”
“ถ้าไม่ได้ตั้งใจจริง ก็ควรจะกล้าเผชิญหน้า ไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นมาขอโทษแทน”
“ครับ พรุ่งนี้ผมจะให้เธอมาขอโทษท่าน กับคุณเกรซด้วยตัวเอง”
“ฉันไม่ขอโทษเด็ดขาด” บิวตี้ในคราบนกบอก
“ถ้าไม่เห็นว่าธนบวร กับฟอลคอนเคยมีสัมพันธ์ที่ดีกันมาตลอด ผมจะเลิกคบกับพวกคุณวันนี้เลย” อดิศักดิ์บอก หน้าตึง
อรวิภาตกใจ “อย่านะคะป่าป๊า” แล้วนึกได้ว่าแสดงออกมากไป “คุณลุงธนา กับคุณป้าภาวินีคงเสียใจแย่”
“เพราะอย่างงั้นน่ะสิป๊าถึงยอมให้ขอโทษ” อดิศักดิ์บอกกับธีภพ “แต่ผมไม่รู้นะว่าเกรซเขาจะยอมหรือเปล่า”
“เกรซลงมาแล้วค่ะ” เครือวรรณบอก
เกรซเปลี่ยนชุดใหม่ ท่าทางอารมณ์ดีขึ้น ตรงมาหาอดิศักดิ์ และครอบครัว
“คุณอดิศักดิ์ ฉันขอเปลี่ยนใจไม่ไปข้างนอกนะคะ หวังว่าคุณคงเข้าใจ”
“หวังว่าคุณจะเข้าใจเหมือนกันว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ” บิวตี้ว่า
“เข้าใจสิครับ ผมเตรียมอาหารไทยไว้ให้คุณแล้ว ที่ห้องอาหาร”
“คุณเครือวรรณ คุณเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เลยรู้ไหม” เกรซเย้าเครือวรรณ
“อ๊านตี้เกรซขา พี่ธีอยากจะขอโทษอ๊านตี้แทนคุณบิวตี้น่ะค่ะ”
“ในนามของบริษัทธนบวร ผม...”
เกรซสวนเสียงขุ่น “ไม่ต้อง ฉันไม่รับคำขอโทษแทนใครทั้งนั้น ฝากบอกผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นด้วยว่า ถ้ารู้สึกผิดก็ให้มาขอโทษฉันเอง” แล้วสะบัดหน้าออกไป
บิวตี้ในคราบนกบอก “ไม่มีทาง”
ทุกคนอึ้งไปด้วยความหนักใจ
อ่านต่อหน้า 2
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 16 (ต่อ)
เหตุการณ์ทั้งหมดปรากฏในจอภาพ ณ แดนสรวง นางฟ้าลลิตา น้ำตาคลอด้วยความรันทด สงสารลูกสาวจับใจ
“ลัลน์ลลิตไม่ได้ตั้งใจ โปรดให้ความเป็นธรรมแก่นางด้วย”
ปรมะเทวีตำหนิ “ยับยั้งใจไว้บ้างเถิด แม้จะเคยผูกพันกันในอดีต แต่ท่านก็ไม่ควรเอาจิตไปยึดติดกับนางมากถึงเพียงนี้”
“นางถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะเราเอง ไม่ว่าใครก็ย่อมอดสงสารไม่ได้”
“มันเป็นหนทางที่ลัลน์ลลิตจะต้องเลือก ระหว่างตัวตน กับหน้าที่”
“แต่ลัลน์ลลิตถูกกล่าวหาอย่างผิดๆ นะคะเทวี”
“ในเหตุร้าย ย่อมมีประโยชน์อย่างยิ่งแฝงอยู่” องค์เทวีกล่าว
“ประโยชน์อย่างไรคะเทวี เราเห็นมีแต่ความทุกข์ ทรมานใจ”
“เรื่องร้ายจะช่วยเผยธาตุแท้ ว่าใครคือศัตรู ใครคือกัลยาณมิตร”
นางฟ้าลลิตาร้อนใจไม่คลาย สงสารลูกสาวจับจิต
“แต่กว่าจะรู้เช่นนั้น นางคงต้องเผชิญความทุกข์ใจอย่างใหญ่หลวง”
ตกตอนค่ำ ธนา และ ภาวินี รอลีมูซีนมารับไปสนามบิน มีกระเป๋าเดินทางเตรียมพร้อม เห็นธีภพลงจากรถเดินเข้ามาหน้าตาดูไม่สบายใจนัก
ภาวินีแปลกใจ “อ้าว ทำไมกลับเร็วล่ะธี”
ธีภพตัดสินใจไม่พูดให้พ่อแม่กังวลใจ “ผม อยากมาส่งพ่อกับแม่น่ะครับ”
ภาวินีปลื้ม กอดลูกชาย “โถไม่เป็นไรหรอก พ่อแม่ไปเที่ยวแป๊บเดียวเอง บอกแล้วว่าไม่ต้องห่วง”
โทรศัพท์ดังขัดจังหวะ ธีภพหยิบมาดู เห็นรูปอรวิภาปรากฏบนหน้าจอ เขารีบกดรับ
“ครับน้องอร”
อรวิภายังอยู่ที่หน้าห้องพักเกรซ ในโรงแรม ขณะคุยสาย พูดป้องปากเสียงค่อยๆ ดูเป็นความลับ
“พี่ธีขา พรุ่งนี้ อ๊านตี้เกรซ จะออกไปล่องเรือเที่ยวแต่ไม่รู้จะออกตอนกี่โมงนะคะ พี่ธีให้คุณบิวตี้ไปรอที่ล็อบบี้ได้เลยค่ะ”
ธีภพดีใจ “ครับ ขอบคุณน้องอรนะครับ ที่ช่วยพูดให้”
“น้องอรพยายามพูดแล้ว แต่อ๊านตี้โกรธพี่บิวตี้มาก น้องอรขอโทษนะคะ ที่ช่วยได้เท่านี้”
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็ช่วยมากแล้ว ขอบคุณมากๆ ครับน้องอร”
ธนามองธีภพอย่างเพ่งพิศ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
ธีภพฝืนยิ้ม “ไม่มีอะไรครับ น้องอรช่วยนัดให้คุยกับ เกรซ มิลเล่อร์”
“สุดยอด เห็นหรือยังว่าทำไมพ่อถึงเชียร์ให้คบกับลูกสาวเจ้าสัว”
ธีภพฝืนยิ้ม “ครับ”
สาวใช้เข้ามา รายงาน “รถมารับแล้วค่ะ”
“พ่อกับแม่เที่ยวให้สนุก อย่าหักโหมมากนะครับ รักษาสุขภาพด้วย” ธีภพบอก
“จ้า ลูกเองก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ พักผ่อนบ้างอย่าเครียดกับงานนัก กลับมาแม่เตรียมขันหมากเลยนะ” ภาวินีเย้า
ธนาดูนาฬิกา “ไปกันเถอะคุณ เผื่อเวลารถติดด้วย”
“ค่ะ” ภาวินีกำชับเจ้าเสือ “เจ้าเสือเฝ้านายดีๆ นะ แล้วตัวแกก็อย่าเกเรกัดเจ้าตัวเล็กอีกล่ะ”
เจ้าเสือบอก “โธ่ ใครจะกัดแฟนได้ลงคอ นายแม่ก็”
ธนากับภาวินีออกไปที่รถ สาวใช้ยกกระเป๋าตามไป ธีภพช่วยยกกระเป๋าออกไปด้วย
“บ๊ายบาย นายพ่อ นายแม่ อย่าลืมซื้ออาหารแมวฝรั่งมาฝากเสือน้า” เจ้าเสือยื่นคอมองตาม
นกบิวตี้บินกลับเข้าห้อง โฉบลงกินอาหาร
“เหนื่อยชะมัด รู้งี้ไม่บินกลับไปโรงแรมหรอก นึกไม่ถึงเลยว่าไอดอลของฉันจะเป็นคนใจร้าย เห็นแก่ตัว ไม่มีเหตุผล ขนาดนี้ ฉันเลิกปลื้มเธอแล้ว ยัยป้า”
เสียงเสียงสัญญาณเตือนดังมาจากมาตรวัดความดี
“อะไรอีกล่ะ” บิวตี้หงุดหงิดเดินไปหยิบมาตรวัดดู หวีดร้อง “โอ้ย ไม่นะ”
นกบิวตี้ตีปีกร้องจิ๊กๆ แจ๊กๆ เห็นมาตรวัดสำฤทธิ์ผล มีสีดำขึ้นมาแทนเยอะอยู่
“ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย ฉันสะดุดเพราะแสงสีทองมาแกล้ง แล้วยังใจร้ายมาหักคะแนนฉันอีก มันเกินไปแล้วนะ แม่มดใจร้าย ถ้าแกล้งกันแบบนี้ก็สาปฉันให้เป็นนกไปเลย รู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องมีแก้คำสาปหรอก”
ปรมะเทวีปรากฏตัว ต่อหน้าบิวตี้ “จริงรึ”
บิวตี้คนสะดุ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโกรธ “เอาเลย สาปฉันเลย ไหนๆ มันก็ไม่มีทางแก้ได้อยู่แล้ว ทำดีไปก็โดนกลั่นแกล้ง”
“ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง มันเป็นเพียงบทเรียน ให้เธอได้สำนึกว่า เวลาถูกคนที่มีนิสัยเหมือนตัวเธอเอง คือหลงตัว บ้าอำนาจ ขาดเหตุผล ทำเอาบ้าง จะรู้สึกอย่างไร”
“ฉันไม่ได้เป็นขนาดยัยเกรซซักหน่อย”
“อ๋อ เหรอ” ปรมะเทวีชี้มือไปเบื้องหน้า
เกิดภาพเหตุการณ์ที่บิวตี้อาละวาดไล่บริวารออก
“หยุด! แล้วออกไป! ชั้นไล่ทุกคนออก” ทุกคนอึ้ง เงียบ คอตก เลขาขยับตัวจะเดินออก บิวตี้เรียกไว้ “เดี๋ยว...โทรเชิญเพื่อนฉันทั้งหมดมาปาร์ตี้ เย็นนี้เลย”
อีกเหตุการณ์บรรดาเลขา ช่างหน้า ช่างผม ช่างภาพพากันอ้อนวอนเกาะแข้งเกาะขา แต่บิวตี้สั่งการ์ดเสียงเข้ม
“ไล่คนพวกนี้ออกไป”
ทั้ง 4 คนร้องไห้ “คุณบิวตี้ขาเราผิดไปแล้ว” / “โทษเถอะนะคะ” / “ตกงานแล้วจะเอาอะไรกิน” / “ผมพูดนิดเดียว”
“ออกไป” บิวตี้สั่งการ์ด “แล้วอย่าให้เข้ามาอีก”
ภาพเหล่านั้นเลือนหายไป บิวตี้ดึงความคิดตัวเองกลับมา มีสีหน้าเหมือนสำนึกผิด แต่กลับดื้อดึงขึ้นมาอีก
“ก็พวกนั้นอยากไม่จริงใจกับฉันก่อน”
“แม้จะได้ยินกับหู เห็นกับตา ก็ใช่ว่ามันเป็นความจริงเสียทั้งหมด วันนี้เธอก็ได้พิสูจน์ด้วยตนเองแล้ว จงไตร่ตรองดูด้วยปัญญาของเธอเองเถิด”
บิวตี้คนนิ่งคิดตาม
นกบิวตี้บ่น “นี่ฉันแย่ พอๆ กับยัยเกรซเลยเหรอ”
“เมื่อรู้เช่นนั้นก็จงเร่งทำความดี และหาคนที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตมาแก้คำสาปเถิด พ้นวันนี้ไปเธอก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนแล้ว”
“แล้วทำอย่างไรจะให้คนที่ฉันรัก...”
ปรมะเทวีหายตัวไป
“ยังพูดไม่จบเลย ไปซะแล้ว” บิวตี้หน้าเศร้า หนักใจ “ทำยังไงจะให้คนที่ฉันรักได้รับรู้”
คืนวันนี้ธีภพนั่งหาข้อมูลบางอย่างอยู่หน้าคอมพ์ นกบิวตี้ บินโฉบมาดู
บิวตี้คนยืนดูที่ระเบียง “ยังทำงานอยู่อีกเหรอ นายนี่ทุ่มเทให้บริษัทจริงๆ นะ เฮ้อ...แต่ฉันดันทำพังหมด...ก็สมควรแล้วที่นายจะโกรธ”
เจ้าเสือโผล่มาใกล้ๆ บิวตี้ร้องทัก “ต๊ะเอ๋”
“ไปไกลๆ เลยนะ ฉันไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย เดี๋ยวจิกตาหลุดเลย” บิวตี้ตะเพิด
“โกรธคือโง่ โมโหคือบ้านะจ๊ะดาร์ลิ้ง พี่เสือร้องเพลงให้ฟังนะจ๊ะจะได้คลายเครียด เหมียวๆๆ หง่าว เหมียวๆๆ หง่าว”
ธีภพได้ยินแมวร้อง “เสือ ร้องจีบใครน่ะ” มองชัดๆ จึงเห็นนกบิวตี้ “อ้าวบิวตี้” เขาเดินมาจับนกบิวตี้พาเข้าห้องมา วางลงที่โต๊ะทำงาน
“เสือเข้าด้วยจิ” เสือร้องอ้อน
“ไม่ได้เสือ แกอยู่ข้างนอก” ธีภพปิดประตู เพื่อไม่ให้เสือเข้ามากวนบิวตี้
เสือบ่น “เซ็งเบย”
ธีภพหันมาบอกกับบิวตี้ “ขอทำงานแป๊บนึงนะ เดี๋ยวจะหาข้าวให้กิน”
บิวตี้คนนั่งบนโต๊ะทำงาน มองธีภพ “นายยังโกรธฉันอยู่หรือเปล่า”
ธีภพ ง่วนกับการค้นหาข้อมูลในคอมพ์ตรงหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาบิวตี้ แต่ไม่มีคนรับสายเลยหงุดหงิด พูดบ่นกับนกบิวตี้
“คนชื่อเดียวกับแก เขาเป็นอะไรนักหนาฮึ ตอนกลางคืนนี่ไม่คิดจะสนใจเรื่องอื่นเลยเหรอ” พูดไปแล้วนึกโกรธ “ก่อเรื่องไว้ตั้งเยอะยังมีแก่ใจไปเที่ยว หาความสุขส่วนตัวอีก”
บิวตี้ได้ฟังก็เสียใจ “ฉันไม่ได้ทำตัวไร้สาระอย่างที่นายคิดหรอกนะ ฉันเสียใจนะที่ทำให้บริษัทเสียชื่อ แต่พูดไปนายก็คงไม่เชื่อ นายไม่เคยเชื่อใจฉันเลยซักนิดนึง”
เห็นนกบิวตี้เหมือนหน้าเศร้า ธีภพเพ่งมองท่าทีสงสัย “ทำไมซึมอย่างงั้นล่ะ หิวใช่ไหม” เขาลุกไปหยิบอาหารนกมาให้ “เอานี่ กินซะ” พร้อมกับลูบหัวบิวตี้อย่างเอ็นดู “อร่อยนะ อย่าทำหน้าเศร้าสิ”
“ตอนฉันเป็นคน นายทำไมไม่พูดดีๆ แบบนี้กับฉันบ้าง” บิวตี้คนสะท้อนใจน้ำตาคลอ สูดน้ำมูก
ธีภพเห็นน้ำตาของนกบิวตี้ ก็แปลกใจ “นกร้องไห้ได้ด้วยเหรอ แกนี่แปลกจริงๆนะ อ้าวร้องใหญ่เลย” ชายหนุ่มกอดบิวตี้ไว้ “โอ๋ไม่เอานะอย่าร้อง เสียใจอะไรบอกซิ”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจแกล้งเกรซ บอกเท่าไหร่นายก็ไม่เชื่อ”
บิวตี้คนในคราบนก สะอึกสะอื้นในอ้อมแขนของธีภพทั้งคืน
เช้ามืดบิวตี้คนพลิกตัวตื่นขึ้นบนเตียงของธีภพพบว่าข้างกายว่างเปล่า บิวตี้มองหา เห็นธีภพฟุบหลับอยู่ที่หน้าคอมพ์
“ทำงานไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ” บิวตี้เดินมาดูใกล้ๆ ด้วยความเอ็นดู “เวลาหลับหน้าเหมือนอ้วนแว่นคนเก่าเลย” พลางยิ้มอ่อนโยน “ดูแลตัวเองนะอ้วนแว่น เรื่องขอโทษเกรซน่ะ ขอฉันคิดก่อนนะ ไปก่อนล่ะ บ๊ายบาย”
นกบิวตี้ บินออกไปจากห้องธีภพ
เสืออยู่ที่ระเบียง เงยหน้ามองเห็นพอดี
“กลับแล้วหรือจ๊ะที่รัก แหม...มายั่วให้อยากแล้วก็จากไป”
เช้านี้ พักตร์พิมลยังใส่ชุดนอน มีเสื้อคลุมรอดูข่าวของบิวตี้อย่างตื่นเต้นสะใจ
กรเทพแต่งตัวเตรียมทำงาน มองด้วยสายตาตำหนิลูกสาว “ยังไม่แต่งตัวอีกหรือ เดี๋ยวสายนะ”
“เดี๋ยวค่ะ รอดูข่าวเด็ดก่อน”
“ข่าวอะไร”
เสียงผู้ประกาศข่าวรายงานดัดจริตสุดๆ “เป็นข่าวฮ็อตอีกแล้วจ้า บิวตี้ ลัลน์ลลิต คุณหนูจอมวีน เป็นหัวข้อเม้าท์กระจาย แช็ตจนนิ้วแทบหัก เมื่อคลิปร้อนๆ ว่อนไปทั้งเมืองจนเน็ตล่ม”
กรเทพได้ยินชื่อบิวตี้ ตกใจหันไปมอง
เห็นภาพประกอบข่าวเป็น ตอนบิวตี้ก่อเรื่องวุ่นวายที่งานเกรซ เต็มจอทีวี
กรเทพตกใจตะลึงมอง ส่วนพักตร์พิมลหัวเราะอย่างสะใจ
ครอบครัวอรวิภา วางมือจากอาหารเช้า หันมาดูข่าวบิวตี้ ภาพไฮไลท์อยู่ตรงสิ่งของกำลังถล่มใส่เกรซ
“ตายแล้ว งานเราเละเทะหมดเลย ใครอนุญาตให้ออกข่าวเนี่ย เราเสียชื่อนะคะ” เครือวรรณโวย
“ไม่หรอก หม่ามี๊ไม่ได้ยินเหรอว่า ข่าวเขาตำหนิใคร หึหึหึ” อดิศักดิ์หัวเราะ
“เคยทำกับน้องอรไว้ กรรมสนองทันตาเลยนะคะ” เครือวรรณบอก
“สงสารพี่บิวตี้เหมือนกันนะคะ” อรวิภาว่า
ธีภพแวะมาหาบิวตี้แต่เช้า เพื่อจะพาไปขอโทษเกรซ ป้าจันมาต้อนรับที่ห้องโถงด้วยสีหน้ากังวลใจ
“บิวตี้ตื่นหรือยัง”
“ตื่นแล้วค่ะ แต่...” ป้าจันอึกอักหนักใจ
“ช่วยบอกเขาว่าผมมารับ ไปพบคุณเกรซ”
เสียงเกรี้ยวกราดของบิวตี้ดังออกมาจากห้องทานข้าว
พรหน้าตื่นมาตามป้าจัน “ป้าคะ คุณหนู ...” ผู้เป็นหลานหยุดพูดเพื่อเห็นธีภพ
“คุณหนูเป็นอะไร” ป้าจันรีบตามพรไปที่ห้องทานข้าว
ธีภพตามไปดูบิวตี้ด้วย
ธีภพตามป้าจันกับพรเข้ามา เห็นห้องอาหารเกลื่อนด้วยของที่บิวตี้อาละวาด ใช้ขว้างจอทีวี
ศรีนวลดูเคร่งขรึม อยากจะเตือนแต่ยั้งปากไว้ ช่วยเก็บของไปเงียบๆ
บิวตี้ กำลังกราดเกรี้ยวสุดขีด โทรศัพท์ด่าสำนักข่าว
“พวกคุณละเมิดสิทธิของฉัน เอาเรื่องส่วนตัวฉันไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต คอยดูนะฉันจะฟ้องหมิ่นประมาททุกคน เตรียมรอหมายศาลได้เลย” พร้อมกับปาโทรศัพท์ทิ้งด้วยความโกรธ
“มันเป็นหน้าที่ของเขา ถ้าคุณไม่อยากเป็นข่าวก็อย่าทำตัวเป็นข่าวสิ” ธีภพว่า
“คุณไม่โดนเอง ก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันบ้างมั้ยล่ะ”
“อาละวาดพอหรือยัง ถ้าพอแล้วก็เตรียมตัวไปขอโทษเกรซ”
“ไม่ไป ฉันยังไม่พร้อมจะเห็นหน้าใครตอนนี้”
“ถ้าไม่ไปตอนนี้ ก็ไม่ต้องกลับไปที่บริษัทอีก เพราะจะไม่มีใครยกโทษให้คนที่ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย อย่างคุณ”
บิวตี้มองศรีนวล เห็นศรีนวลมองมาอย่างกังวลใจ บิวตี้นึกถึงหน้าพนักงานตาดำๆ ที่เคยฝึกงานด้วยจึงสงบลง
“ก็ได้ ฉันจะยอมขอโทษทั้งที่ฉันไม่ผิด เพราะเห็นแก่พนักงานหรอกนะ” บิวตี้ตวัดเสียงใส่ “พอใจหรือยัง” จากนั้นก็กระแทกเท้าเดินปึงปังหนีออกไปที่โถงเพื่อขึ้นชั้นบน
ศรีนวลกับพร ก้มเก็บของที่บิวตี้อาละวาดไว้ ไม่พูดไม่จา
บิวตี้เดินเข้ามาในห้องนอน สักครู่หนึ่งศรีนวลจึงเดินเข้ามาหา
“คุณหนูคะ ป้าขออนุญาต”
“ป้าจะขออะไร”
“ป้าเข้าใจว่าคุณหนูรู้สึกยังไง”
บิวตี้ดีใจ “ป้าเข้าใจใช่ไหม ฉันไม่ผิด ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายขอโทษ”
ศรีนวลพูดสอน ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ป้าอยากให้คุณหนูทำให้ทุกคนเห็นว่า คนสวยอย่างคุณหนูเนี่ย สวยทั้งหน้าตาและจิตใจ”
บิวตี้ฉงน “สวยทั้งหน้าตาและจิตใจ”
“คนสวยแท้ต้องสวยทั้งหน้าตา แล้วก็มีจิตใจดีอย่างพวกนางเอกในละครไงคะ”
“แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องเกรซยังไง”
“ป้าอ่านเจอในหนังสือธรรมมะตอนผัวป้าทิ้ง พระท่านสอนว่า ให้อภัยคนที่ทำไม่ดีกับเราแล้วก็พยายามเข้าใจว่าที่เขาร้ายกับเรา เพราะเขาเองก็มีเหตุผลเหมือนกัน หลังจากนั้น ป้าก็เลิกโกรธผัวป้ากับนังเมียน้อย ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าการให้อภัยหรอกค่ะ คุณเกรซน่าสงสารออกค่ะ นิสัยแย่ๆ พวกนั้นไม่มีใครบอกเธอ”
บิวตี้หวนคิดถึงที่คุยกับปรมะเทวีเมื่อคืนนี้
“ฉันเองก็เคยนิสัยแย่เหมือนเกรซ ได้ ฉันจะพยายามเข้าใจและให้อภัยเค้าขอบคุณจ้ะป้า ป้าเตือนฉันด้วยความหวังดีอีกแล้ว”
บิวตี้สบายใจขึ้น ยิ้มออกมาได้
อ่านต่อหน้า 3
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 16 (ต่อ)
เกรซนั่งจิบชาอยู่ในห้องพัก สนทนาโอภาปราศัยกับครอบครัวอดิศักดิ์ที่มารับรองแต่เช้า
“ผมเตรียมรถ และเรือไว้แล้ว ถ้าพร้อมจะไปเมื่อไหร่ก็แล้วแต่คุณเลย” อดิศักดิ์บอก
“แหมไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว กลับมาเมืองไทยทีไรก็ต้องรบกวนคุณทุกที”
“มันเป็นหน้าที่ของเพื่อนอยู่แล้ว” อดิศักดิ์ลุกขึ้น “โอเค ตามสบายเลยนะครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อน”
เกรซดูนาฬิกาแล้วจึงบอก “ฉันก็มีนัดเหมือนกัน”
เครือวรรณกอดเกรซ “เย็นนี้เจอกันนะคะ”
“ค่ะ” เกรซสวมกอดอรวิภา “see you.”
ครอบครัวอดิศักดิ์กำลังจะออกไป การ์ดเคาะประตู พาเจตน์ชาญเข้ามา ในมือเขาถือของขวัญและซองเอกสารมาด้วย
“อ้าว คุณเจตน์ชาญ” อดิศักดิ์ทัก ก่อนจะหันมาถามเกรซ “นี่คือนัดที่คุณพูดถึงใช่ไหม”
เจตน์ชาญไหว้ทุก หันไปยิ้มให้อรวิภา “ผมเอาแบบร่างมาให้คุณเกรซพิจารณาครับ”
เกรซเชื้อเชิญโดยยินดี “เชิญค่ะ”
ครอบครัวอดิศักดิ์ออกไป อรวิภาเหลียวกลับมาดู เห็นเจตน์ชาญส่งของขวัญให้เกรซ
“ที่ระลึกจากประเทศไทยครับ”
เกรซถูกใจมาก อรวิภาหนักใจแทนธีภพ
ทางด้านธีภพเข้ามาที่ออฟฟิศธนบวรแต่เช้า เร่งร้อนหาคลิปภาพเหตุการณ์ที่ได้จากสื่อมวลชนหลายสำนัก เพื่อจะนำไปยืนยันว่าบิวตี้ไม่ได้แกล้งเกรซ แต่มาจากอุบัติเหตุ สุดท้ายเจอคลิปหนึ่ง เขาเห็นชัดว่าบิวตี้สะดุดบางอย่างจนเกิดเท้าพลิก ธีภพเพลย์ดูหลายรอบจนแน่ใจว่าบิวตี้เท้าพลิก จนต้องควานหาที่จับยึด อันเป็นที่มาของการล้มแบบโดมิโนจนข้าวของไปทับเกรซ
ธีภพดีใจมาก กดดาวน์โหลดคลิปแล้วไรท์ลงแผ่นทันที
ฟากบิวตี้มากับ ส้มเช้งและ ฝรั่ง เดินตรงไปหาการ์ดหน้าห้องเกรซ
บิวตี้บอกกับการ์ดด้วยตัวเอง “ฉันมาขอพบคุณเกรซ”
“จะให้บอกว่าใครขอพบครับ”
ฝรั่งฉุน “ที่บ้านน้ำไฟเข้าไม่ถึงเหรอพี่ ถึงไม่รู้จักคุณบิวตี้”
การ์ดนิ่งเฉย
“ฉันชื่อ ลัลน์ลลิต พรรษบวรพงศ์”
การ์ดเดินเข้าไปหาเลขาเกรซ สักครู่เลขาเกรซเดินออกมา มองลิสต์รายชื่อในกระดาษนัด เงยขึ้นมองหน้า “เสียใจด้วยนะคะ คุณอยู่ใน แบล็คลิสต์ ให้เข้าพบไม่ได้ค่ะ”
ส้มเช้งโมโห “ทำไมเข้าพบไม่ได้”
ฝรั่งก็ของขึ้น “รู้ป่าวว่าคุณหนูลูกใคร”
“ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้ มีปัญหาอะไรมั้ย คะ”
เลขาเกรซบอกทันที “เราคงต้องแจ้งความคุณ ข้อหาข่มขู่คุกคาม”
พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมและผู้จัดการโรงแรมเดินเข้ามา
“เชิญออกไปก่อนเถอะครับคุณลัลน์ลลิต คุณเกรซสั่งมา เราต้องทำตามหน้าที่ อย่าให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยครับ ถือว่าช่วยพวกผมเถอะ” ผู้จัดการขอร้องดีๆ
จังหวะนี้เกรซกับเจตน์ชาญ เดินมาจากห้องด้วยกัน
บิวตี้ปราดเข้าไปจะพูด “คุณเกรซคะ ฉัน...”
เจตน์ชาญแปลกใจ “คุณบิวตี้”
เกรซสั่งการ์ดเสียงดุดัน “เอาตัวผู้หญิงคนนี้ออกไป”
บิวตี้บอกอีก “ฉันแค่สะดุด...”
“คุณผู้หญิงครับ เชิญออกไปก่อนครับ” การ์ดกันบิวตี้ออกห่าง
ฝรั่งโมโห “เฮ้ย ทำไรคุณบิวตี้วะ” ฝนั่งผลักอกการ์ด “นายข้าใครอย่าแตะ”
การ์ดอีก 2 คนมาจับตัวฝรั่ง ดันติดผนัง
ส้มเช้งทะยานมาดึงการ์ดออกพัลวัน “แกจะทำอะไรน้องฉัน”
เกรซถูกกันตัวให้ห่างออกมา ยืนมองเหตุการณ์อย่างสะใจ
บิวตี้บอกกับการ์ด “ปล่อยคนของฉันเดี๋ยวนี้นะ”
การ์ดดึงตัวบิวตี้ออก เกรซยิ้มเยาะแล้ว หันกลับเข้าห้องไป
เจตน์ชาญย้อนกลับมาสั่งการ์ด “ปล่อยตัวทุกคน คุณลัลน์ลลิตเป็นเจ้าของบริษัทธนบวร ไม่ใช่ผู้ร้าย ถ้าถูกต้องตัวเธอ พวกนายเจอคุกแน่”
การ์ดชะงัก ปล่อยตัวบิวตี้ ส้มเช้ง และฝรั่ง
เจตน์ชาญจะพาบิวตี้ไปนั่ง บิวตี้วิ่งตามเกรซขึ้นไปบนห้องเกรซ การ์ดดึงตัวบิวตี้ออกมา
“ปล่อยนะ ฉันจะพูดกับเกรซ บอกให้ปล่อย”
เกรซเหลียวมามองบิวตี้ที่ดิ้นรนอย่างไม่สนใจสักพัก
“เกรซ ฟังฉันหน่อย ฉัน ...” บิวตี้ต่อสู้ดิ้นรนสุดพลัง “ปล่อยฉันนะ ฉันยังไม่ได้ขอโทษเลย ปล่อย”
การ์ด ลากบิวตี้ลงมา
เกรซมองมาแล้วหันหลังเข้าห้องไป เจตน์ชาญมองมาอยากจะช่วยแต่จนหนทาง
ธีภพตรงมาที่ร้านดอกไม้ของอรวิภา ส่งแผ่นซีดีให้สาวโลกสวย
“น้องอรช่วยเอา คลิปนี่ให้คุณเกรซดูหน่อย ได้มั้ยครับ”
“คลิปอะไรหรือคะ”
“พี่เอามาจากสำนักข่าว มันเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าบิวตี้สะดุดโดยอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจแกล้งคุณเกรซครับ น้องอรลองดูก่อน”
ธีภพเปิดคลิปให้อรวิภาดู
“น้องอรจะลองดูนะคะ ไม่รู้เหมือนกันว่าอ๊านตี้จะรับฟังไหม ยังไงน้องอรก็จะช่วยพี่ธีเต็มที่ค่ะ น้องอรไม่อยากให้พี่ธีแพ้คุณเจตน์ชาญ”
“ทำไมถึงคิดว่าพี่จะแพ้คุณเจตน์ชาญล่ะครับ” ธีภพฉงน
“น้องอรเห็น อ๊านตี้เกรซนัดให้คุณเจตน์ชาญเข้าไปเสนอแบบเมื่อเช้านี้น่ะค่ะ คุณเจตน์คงใช้โอกาสนี้รีบเข้าไปเสนอผลงานตัดหน้าพี่ธี”
ธีภพเครียดไปในทันที งานนี้ธนบวร มีหวังพลาดท่าให้คู่แข่ง
อรวิภาดูออก “น้องอรไม่น่าเล่าให้พี่ธีฟังเลย ทำให้พี่ธีไม่สบายใจอีกแล้ว”
ธีภพถอนใจยาว “ไม่เลยครับ ขอบคุณซะอีกที่เล่าให้พี่ฟัง”
“งั้นน้องอรจะไปหาอ๊านตี้ตอนนี้เลย พี่ธีจะไปด้วยกันมั้ยคะ”
“ดีครับ”
ธีภพกับอรวิภาออกไป
บิวตี้ ส้มเช้ง และฝรั่ง ยืนคอยเกรซ อยู่ตรงหน้าห้อง หน้าเครียดทุกคน ฝรั่งนั่งบ้าง เตร็ดเตร่ไปยั่วโมโหการ์ดใกล้ๆ บ้าง
“คุณบิวตี้ทานอะไรหน่อยไหมคะ คุณไม่ได้ทานอะไรแต่เช้าแล้ว” ส้มเช้งถามอย่างห่วงใย
“ฉันไม่หิว พวกเธอไปทานกันเถอะ”
“งั้นส้มเช้งไปซื้อมาให้คุณบิวตี้กินตรงนี้นะคะ”
“ไม่ต้อง”
บิวตี้วิ่งขึ้นไปเคาะห้องเกรซอีกครั้ง การ์ดดึงตัวไว้ ฝรั่ง ส้มเช้งมาช่วย บิวตี้เคาะประตูและตะโกนอยู่กลางระเบียงหน้าห้อง
“ฉัน ลัลน์ลลิต พรรษบวรพงศ์ ขอโทษ ได้ยินมั้ย ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ” ถึงตรงนี้บิวตี้ลดเสียงพูดเบาๆ “ฉันจะให้อภัยเธอ ฉันให้อภัยเธอ ฉันงามทั้งภายนอกและภายใน ฉันเป็นนางเอก”
การ์ดและพนักงานวิ่งมาจะอุ้มบิวตี้ออกไป ส้มเช้งวิ่งมาจะช่วยบิวตี้
เกรซเปิดประตูออกมาสั่งเสียงเข้ม “ปล่อยเขาได้แล้ว”
บิวตี้หยุดดิ้น การ์ดชะงัก หันมามองเกรซให้มั่นใจ
“ปล่อย” เกรซย้ำคำ
การ์ดปล่อยบิวตี้
“คุณไม่โกรธฉันแล้วใช่ไหม ฉันขอ...”
เกรซยกมือห้าม “หยุด! วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์มารับคำขอโทษอะไรทั้งสิ้น”
“แล้ววันไหนถึงมีอารมณ์ ว่ามา”
“เธอทำกับฉันอย่างไรเธอก็ต้องโดนแบบนั้น ว่าไง” เกรซมองสบตาอย่างเย่อหยิ่ง
“แต่ฉันก็ตะโกนขอโทษคุณไปแล้วนะ”
เกรซจะเดินกลับเข้าห้อง
“โอเคๆ ฉันทำให้คุณเจ็บตัว เพราะของหล่นใส่ ฉันจะให้ของหล่นใส่บ้างจะได้เหมือนกัน โอเคแมะ”
บิวตี้เดินไปเอาเก้าอี้หน้าห้อง มาทับตัวเอง
“ฝรั่ง ส้มเช้ง มาช่วยฉันหน่อย”
บิวตี้เอาของทับตัวเองท่าเดียวกับเกรซ
“พอใจยัง ถ่ายรูปไว้ แล้วก็ลงข่าวอย่างที่คุณโดน”
เกรซอดขำไม่ได้
“พรุ่งนี้ นัดนักข่าวทุกสำนักข่าวมา แล้วก็คุกเข่าตะโกนขอโทษฉันกลางลอบบี้โรงแรม โอกาสเดียวเท่านั้น เธอจะรับมันไว้ หรือเธอจะปล่อยมันไป เลือกเอา”
ส้มเช้งทั้งสงสารและเห็นใจ “อย่าเลยค่ะคุณบิวตี้ คุณไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว”
บิวตี้ตัดสินใจ บอกไปอย่างมาดมั่น
“ฉันจะทำ เพื่อธนบวร พรุ่งนี้ เจอกัน”
อ่านต่อหน้า 4
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 16 (ต่อ)
ขณะที่บิวตี้ ส้มเช้ง ฝรั่ง เดินออกมา สวนกับธีภพและอรวิภาที่เดินเข้ามา
“เดี๋ยว คุณจะไปไหน” ธีภพเรียกไว้
“กลับบ้าน”
“เกรซรับคำขอโทษคุณแล้วหรือไง”
“ยัง”
“แล้วคุณจะกลับได้ยังไง”
“ฉันเฝ้าขอโทษเค้าอยู่ทั้งวัน ลงทุนเอาเก้าอี้มาทับตัวเองเลยนะ ถ้าคุณไม่เห็นก็ไม่ต้องพูดมาก ส้มเช้งเอารูปให้ดูเลย”
อรวิภาออกตัว “น้องอรขอตัวเข้าไปหาอ๊านตี้ก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปครับ”
บิวตี้เดินหนีไป ธีภพเสียงขุ่น
“คุณยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เข้าไปขอโทษกับผม”
“เกรซให้ฉันกลับมาคุกเข่า ขอโทษเค้าพรุ่งนี้ ที่ล็อบบี้ ต่อหน้านักข่าว นายตามมาดูที่นี่พรุ่งนี้ก็แล้วกัน ฉันขอย้ำอีกครั้งว่า ฉันไม่ผิด มันเป็นอุบัติเหตุ ฉันยอมขอโทษเพื่อธนบวร และฉันให้อภัยเขา นายจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่”
บิวตี้บอกอย่างองอาจ เดินออกไป แล้ววูบจะเป็นลม ธีภพประคองไว้
“บิวตี้ บิวตี้”
“คุณบิวตี้นั่งเฝ้า ไม่กินข้าวทั้งวัน แล้วยังจะให้มาคุกเข่าขอโทษต่อหน้านักข่าวอีก แบบนี้อย่าไปง้อมันเลยครับ ปล่อยยัยป้าฝรั่งแกบ้าไปคนเดียวเหอะ” ฝรั่งโมโหสุดๆ
อรวิภาวิ่งมาแจ้งข่าวอย่างยินดี “พี่ธีคะ” แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นธีภพประคองบิวตี้อยู่
“มีอะไรหรือครับน้องอร”
“พี่บิวตี้เป็นอะไรไปคะ” อรวิภาเผลอหน้างอด้วยความหึง “อ๊านตี้เกรซ ดูคลิปของพี่ธีแล้วนะคะ ให้พี่ธีกับคุณบิวตี้เข้าพบได้เลยค่ะ”
“คลิปอะไร”
“คลิปจากนักข่าว ยืนยันว่าคุณไม่ได้แกล้งเกรซ มันเกิดจากอุบัติเหตุ”
“ไปได้มาได้ยังไง” บิวตี้แปลกใจมาก
“คุณไม่ต้องรู้หรอก ดีขึ้นรึยัง ขึ้นไปพบเกรซไหวมั้ย”
“ไหว”
บิวตี้ลุกเดินนำไปตัวปลิว ธีภพเดินตามไป อรวิภามองตามหวั่นไหวจนน้ำตาคลอ
บ่ายคล้อย ที่ห้องทำงานเจตน์ชาญเวลานั้น รอนรายงานเรื่องธุรกิจให้เจตน์ชาญฟัง
“การที่อยู่ๆ ประธานของธนบวร สะดุดขาตัวเอง” รอนร่าเริง ยิ้มขำ “จนทำให้ เกรซ มิลเลอร์ โกรธ ทำให้เกมเทมาทางฝ่ายเราเหมือนส้มหล่นเลยครับ”
“ผมไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มายุ่งเกี่ยว งานที่เราได้มาเพราะคู่แข่งผิดพลาด สำหรับผมมันไม่น่าภูมิใจนักหรอก” เจตน์ชาญพูดเป็นเชิงตำหนิ
รอนระวังคำพูด “ครับผม”
มินตราเข้ามา สบตาเป็นเชิงทักทายกับรอนนิดหนึ่ง
“ดิฉันมารับคำสั่งค่ะ”
เจตน์ชาญเครียดถนัดตา “เกรซ มิลเลอร์ คอมเม้นต์ว่างานของเรายังขาดอารมณ์ แล้วก็ไม่แปลกใหม่เท่าที่ควร”
มินตราตกใจ กลัวความผิด “ต้องขอโทษค่ะท่าน คือ...” มินตราสบตารอนให้ช่วย
“ยังไม่ต้องตกใจหรอก คุณเกรซยังให้โอกาสเราพัฒนางานอีกสามวันแล้วเอากลับไปให้เธอดู”
“คุณเกรซใจดีมาก ไม่เหมือนที่เขาลือกันเลยนะครับ เธอคงหลงเสน่ห์ท่านประธาน” รอนประจบ
“แต่จะพลาดไม่ได้แล้วนะ บอกดีไซเนอร์ให้คิดอะไรแปลกๆใหม่ๆออกมาให้ได้ จำไว้ว่าเราต้องได้งานนี้ ไม่อย่างนั้นคงต้องเปลี่ยนดีไซเนอร์ใหม่ทั้งหมด”
มินตราออกอาการหวาดหวั่น ร้อนรนใจ
“ค่ะท่านประธาน”
ฟากบิวตี้ ธีภพ อรวิภา เดินเข้ามาในห้องเกรซแล้ว เกรซบอกกับเลขา
“เมื่อไหร่จะเอากาแฟมาให้ฉันสักที รอนานแล้วนะ ไปปลูกกาแฟอยู่รึไง”
“ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะรีบไปดูค่ะ”
เกรซหันมาทางสามคน “มีอะไรก็รีบว่ามา”
“ก่อนอื่นดิฉันต้องขอบคุณที่คุณยอมให้ฉันเข้าพบ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะอรขอร้อง ฉันก็ไม่อยากพบเธอหรอก ฉันเชื่อเพราะหลักฐานที่หลานอรเอามาให้” เกรซ มิลเลอร์ หยิบซีดีออกจากโน้ตบุ๊ค แล้วปล่อยทิ้ง
บิวตี้ยิ้มบอกกับอรวิภา “ขอบคุณค่ะ”
“คุณธีเป็นคนเอาซีดีนี้มาให้ค่ะ เป็นซีดีที่ยืนยันว่าพี่บิวตี้สะดุด โดยไม่ได้ตั้งใจน่ะค่ะ”
บิวตี้มองหน้าธีภพ “ขอบคุณนะ”
“คุณคงทราบแล้วว่าเรื่องวันนั้นเป็นอุบัติเหตุ” บิวตี้หันมาทางเกรซ
“ถึงยังไงมันก็เป็นความผิดของเธออยู่ดี เพราะเธอซุ่มซ่ามไม่ระวังตัว ฉันถึงต้องขายขี้หน้าแบบนั้น”
“ฉัน ขอโทษ ค่ะ”
เกรซทำหน้าเย่อหยิ่งเหมือนจำใจรับคำขอโทษ
เลขาเดินนำแม่บ้านโรงแรมเข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้
เกรซตัดรำคาญ “เข้าเรื่องซะทีเถอะ เสียเวลา”
“ฉันอยากคุยกับคุณเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าของบริษัทค่ะ เรามีร้านอยู่ตามห้างดังๆ ในหลายประเทศแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก จึงอยากขอโอกาสนำเสื้อผ้าของเราให้คุณได้ลองพิจารณา”
ธีภพเสริม “เราเชื่อว่า...”
เกรซขัดเสียงดัง “ให้เขาพูดคนเดียว”
“เราเชื่อว่าดีไซน์หลากหลายของเราจะเหมาะกับคอลัมน์มิกซ์แอนด์แมทช์ที่คุณแนะนำเทรนด์เสื้อผ้าให้แก่ผู้อ่านทุกซีซั่นอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่จะเรียกความเชื่อมั่นได้ดีเท่ากับบทความแนะนำดีๆของคุณในฐานะผู้มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นระดับโลก”
เกรซซึ่งยกกาแฟขึ้นจิบ โยนกาแฟลงพร้อมเสียงกรีดร้อง
“โอ๊ย กาแฟบ้าอะไรเนี่ย ร้อนจนลวกปากฉันพองไปหมดแล้ว”
เลขาตกใจ ปราดเข้ามาเช็ดรอยเลอะ
“จำไว้นะ ฉันต้องการกาแฟที่มีอุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียสเท่านั้น มากหรือน้อยกว่านี้ฉันไม่ดื่ม ไปชงมาใหม่ แล้วก็ น้ำหอมกลิ่นนั้นน่ะทิ้งไปได้แล้ว ไร้รสนิยม อย่างกับเอาสเปรย์ดับกลิ่นในห้องน้ำถูกๆ มาฉีด”
บิวตี้นึกถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเคยดุด่าเลขาว่าเป็นพะยูนเกยตื้น ไล่เลขาออก ให้เอาน้ำที่อุณหภูมิตามที่ต้องการ
“ฉันเคยเป็นแบบนี้จริงๆ ด้วย” บิวตี้คิดในใจ
“เสื้อผ้าของบริษัทเธอมีดีอะไรงั้นเหรอ ฉันถึงต้องเสียเวลาเขียนแนะนำให้”
“บริษัทของเราใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับต้นๆของทวีปเอเชีย ถ้าคุณเห็นผลงานของเรา คุณจะได้คำตอบเองค่ะ” บิวตี้ตอบอย่างมั่นใจ
“เธอคงรู้นะว่า ไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้นที่ขอให้ฉันช่วย คุณเจตน์ชาญก็มาขอร้องฉันเหมือนกัน ถ้าฉันจะเขียนแนะนำให้ใคร ฉันต้องแน่ใจว่างานของเขาจะต้องไม่ทำให้ฉันเสียชื่อ ฉันให้โอกาสคุณเจตน์ชาญพิสูจน์ฝีมือตัวเอง แล้วเธอล่ะจะทำได้อย่างเขามั้ย”
“แน่นอนค่ะ เรามีตัวอย่างเสื้อผ้าของเราให้คุณดูด้วย”
บิวตี้จะเปิดโน๊ตบุ้คที่นำมา ให้เกรซดูเสื้อผ้าของธนบวร
“ฉันไม่ต้องการดูเสื้อผ้าโหลๆ พวกนั้น ฉันต้องการเห็นคอลเล็คชั่นใหม่เอี่ยมที่ควรค่ากับสายตาของฉัน”
“คุณจะให้เราออกแบบใหม่ทั้งหมดเหรอคะ”
“ไม่ใช่ เรา แต่เป็น เธอ เธอคนเดียวเท่านั้น”
บิวตี้สะดุ้ง เจ็บตัวแปลบ เมื่อดูเวลาเห็นเป็น 5โมง 45 นาทีแล้ว “จะให้ทำอะไรก็ว่ามาเลยค่ะ เร็วๆหน่อย”
เกรซเยาะหยัน “คุณเป็นนักออกแบบมือรางวัลไม่ใช่หรือ งั้นออกแบบด้วยตัวเองมาให้ฉันดูหน่อยซิ ถ้ารสนิยมของประธานบริษัท เข้ากับฉันไม่ได้ ก็คงทำงานด้วยกันยาก”
บิวตี้พยายามข่มความเจ็บปวด “จะให้ส่งเมื่อไหร่ บอกมาเลย”
“แบบร่าง 10 ชุด ส่งก่อนฉันจะกลับ อีกสามวัน” เกรซบอก
ธีภพอึ้ง ตกใจ “สามวัน ไม่เร็วไปหน่อยหรือครับ”
เกรซย้อน “เจดการ์เม้นท์ ไม่ตั้งคำถามนี้กับเลยนะคะ สามวันสำหรับแบบร่าง และอีกสามวีค ฉันจะกลับมาดูการเดินแบบชุดจริง บริษัทที่ผลงานเข้าตากว่าจะได้รับพิจารณาให้ขึ้นปก Dazz”
“เท่านั้นใช่ไหมคะ ฉัน ไปก่อนละ” บิวตี้รีบออกจากห้องก่อนที่จะแปลงตัวต่อหน้าทุกคน
เกรซตำหนิ “เธอมีมารยาท แบบที่ไม่มีใครเหมือนเลยนะ”
ทุกคนไม่พอใจที่เห็นบิวตี้ ผลุนผลัน ออกมา
ณ แดนสรวง นางฟ้าลลิตามองจอภาพอย่างหงุดหงิด
“ให้ลัลน์ลลิตออกแบบคนเดียวในเวลาสามวัน นี่จงใจแกล้งกันชัดๆ”
“คนนิสัยเหมือนกันมากๆ บางทีไม่ถูกกันก็มีนะ เหมือนกันมากเกินไป” ปรมะเทวีบอก
“เวลาที่เหลืออีกสามสัปดาห์ ก็ต้องหมกมุ่นกับงาน เรารู้จักชีวิตนักออกแบบดี นางคงไม่มีแก่ใจ หรืออาจจะลืมไปเลยก็ได้ว่าต้องล้างคำสาปให้ได้” นางฟ้สลลิตาร้อนรนใจ ห่วงใยไปหมด
“อย่างน้อยท่านก็น่าจะยินดีที่นางเปลี่ยนจากคนเหลวไหลไร้สาระกลายเป็นคนเอางานเอาการ”
“งานที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตทั้งชีวิต เราคงไม่อาจทำใจให้ยินดีได้”
จังหวะนี้ มาตรวัดสัมฤทธิ์ผลความดีของบิวตี้ มีสีทองเพิ่มขึ้น
นางฟ้าลลิตาดีใจ “ลัลน์ลลิตได้รับบทเรียนแล้ว”
“แนวคิดเรื่องกระจกเงาของท่านได้ผล ลัลน์ลลิตมองเห็นตัวเองจากคนที่นางหลงเทิดทูน”
“ข้าพเจ้าอยากให้นางได้เห็นผลคะแนนตอนนี้เลยจริงๆ นางจะได้มีกำลังใจ”
“เรากลับคิดว่า ยังไม่รู้คะแนนก็ดีแล้ว เพราะการทำความดี ที่ทำออกมาจากใจโดยไม่หวังผลตอบแทนจะยิ่งเป็นกุศลต่อนาง”
“เทวีคิดได้ลึกซึ้งยิ่งนัก” นางฟ้าลลิตาโค้งคำนับ
ปรมะเทวียิ้มอย่างอารมณ์ดี ที่ได้เห็นบิวตี้ทำความดี มองจ้องที่มาตรวัดสัมฤทธิ์ผลอย่างปรีดา
บิวตี้วิ่งโลดแล่นหาที่แปลงร่าง ทว่าโรงแรมบูธีคแห่งนี้ไม่มีมุมลับตาเอาเลย บิวตี้วิ่งพล่านเจ็บปวดสุดขีดมาที่หน้าห้องซักรีด ตรงนั้นมีรถเข็นผ้าปูที่นอนเตรียมไปซัก บิวตี้ลนลานมองซ้ายมองขวาแล้วกระโดดลงรถเข็นผ้า เอาผ้าปูที่นอนปิดตัว บิวตี้แปลงร่างในกองผ้านั้น
พนักงานซักผ้าโรงแรมเดินเข้ามา เปิดเครื่องซักผ้า แล้วจะหยิบผ้าปูลงเครื่อง มือสะดุดกับอะไรบางอย่าง
อ่านต่อตอนที่ 17