xs
xsm
sm
md
lg

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 12

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 12

มิคาอิลยิ้มย่อง มองนิโคลัย
“อีกไม่นานแกจะได้เจอลูกสาวของแกไอ้นิโคลัย ขอบใจมากพ่อตาในอนาคตของฉัน”
“แกจะต้องตายอย่างหมาข้างถนนจนได้สักวันมิคาอิล” นิโคลัยบอกอย่างแค้นจัด
“เวลานี้คนที่ใกล้เป็นหมาข้างถนนเข้าไปทุกทีก็คือแกไงล่ะ เอาละฉันจะเลิกทำร้ายทุบตีแก ตอนนี้ฉันอารมณ์ดีมาก เกินกว่าจะมามีปัญหาเล็กๆน้อยกับว่าที่ปาปาตา ฉันจะเปิดแชมเปญฉลอง” มิคาอิลสั่งสมุน “ไปเอาแชมเปญมา”
สมุนไปหยิบแชมเปญส่งให้ มิคาอิลรับมาเปิดแล้วรินมายัดใส่ปากนิโคลัยที่ไม่ยอมกินจนหกกระจาย มิคาอิลเอาแชมเปญราดหัวนิโคลัยด้วยความสะใจ

เจตรินขับรถอยู่โทรบอกอิฐไปด้วย
“อิฐ แกอยู่ตรงนั้น อ่านสถานการณ์ออก ถ้ายังไงแกโทรแจ้งกองปราบได้เลย โอเค ฉันกำลังไป แกต้องหาอีริน่าให้เจอให้ได้ ไม่อย่างงั้นตัดเป็นตัดตายกันเลย”
เจตรินตัดสายบ่นอีริน่าไปด้วยความหงุดหงิด
“อีริน่านะอีริน่า ทำไมช่างสรรหาความเดือดร้อนมาให้ตัวเองและคนอื่นได้ตลอดเวลาแบบนี้”
เจตรินส่ายหน้าหงุดหงิดร้อนใจ

หน้าลิฟท์ทางขึ้นไปชั้นบน...อีริน่าค่อยๆโผล่มาจะไปขึ้นลิฟท์แล้วเห็นอิฐจึงถอยหลังแอบ อีริน่าเห็นอิฐค่อยๆโผล่มากวาดตามองเช่นกัน
“ปลอดคนแล้ว”
อิฐย่องไปที่ลิฟท์ แล้วกดเพื่อรอขึ้น ครู่หนึ่งเข้าลิฟท์ไป อีริน่าเซ็งค่อยๆออกมาจากที่ซ่อนมองไปที่ลิฟท์ๆ
“คุณอิฐทำอีริน่าเสียเวลา เอ๊ะ..ไปชั้นเดียวกันด้วย เขาจะไปหาใครกันนะ”
อีริน่ารีรอแล้วตัดสินใจกดลิฟท์ให้ลงมารับ เอื้อแอบมองอยู่
“ผู้หญิงคนนี้ กำลังจะขึ้นไปหาพวกนั้นแน่ๆ ต้องเป็นเรื่องไม่ดีเพราะเคยมีเรื่องกันมาก่อน นี่เราร่วมมือกับโจร ทำร้ายคนบริสุทธิ์หรือเปล่า”

กลุ่มอารดานั่งอยู่ในห้องอาหาร ทุกคนนั่งกินอาหารกันอย่างกร่อยๆ ไม่เข้าใจว่าจู่ๆอีริน่าหายไปไหนมีเพียงเขมชาติที่เริ่มระแวง พงษ์ธรกระซิบพูดกับอารดา
“อารดา เธอไปทำอะไรให้อีริน่ามันจับได้หรือเปล่าว่าพวกเรากำลังจะล่อลวงมัน”
“ถ้ามันจับได้ มันจะบอกฉันทำไมว่าอยากมากินข้าวกับนาย แสดงว่ามันติดใจนายไม่น้อย ถ้ามันจะจับได้ก็เพราะท่าทางอยากจะกินมันจนออกนอกหน้าของนายนั่นล่ะ อย่ามาโทษฉัน”
เขมชาติเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว กระซิบถามเมทินี
“ตอนที่เมไปห้องน้ำกับ อารดาโทรหาใครหรือเปล่า”
“เปล่า”
“แล้วเจอใครแปลกหน้าตอนไปห้องน้ำไหม”
“หมายถึงใครไม่ทราบ”
“ก็... พวกนั้น”
“พวกคนเลวที่คุณเอาเมไปให้มันทำลายใช่ไหม”
“อย่าพูดมาก จริงสิ วันนี้พวกนั้นมาอยู่ที่นี่ มันอาจเจออีริน่าแล้วจับตัวไปแล้ว”
เขมชาติดุ เมทินีเผลอเสียงดัง
“อะไรนะ”
อารดากับพงษ์ธรหันมามองอาการของเมทินี
“เม แกเป็นอะไร จู่ๆก็กรี๊ดขึ้นมา”ดาถาม
“ฉัน....ฉัน...”
เมทินีอึ้งพูดไม่ออก เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองโดนตบตีจากทั้งเขมชาติ มิคาอิลและชายสามคน ความเครียดทำให้เธอมรอาการเหมือนจะชัก เขมชาติบีบแขนเมทินีแรงมาก
“บ้าน่า”
“เมมันกำลังจะชัก มันไม่ได้บ้า มันเสียใจอะไรบางอย่าง ฉันกำลังสงสัยอยู่ ฉันจะพามันไปหาหมอ เม ไปหาหมอกับฉัน”
อารดาลุกมาจับเมทินี เขมชาติกันไว้ท่าทางไม่พอใจอารดามาก
“อย่ามายุ่งเรื่องผัวเมียคนอื่นนะดา ผมจัดการเองได้”
เขมชาติกระชากเมทินีออกไปจากที่นั่นโดยแรง เพราะหงุดหงิดเรื่องที่เริ่มสงสัยว่า อีริน่าจะโดนจับไปเสียดายอีริน่ามาก
อารดากับพงษ์ธรหันมามองหน้ากัน
“เพื่อนเธอบ้าไปแล้ว ฉันชักจะสงสัยแล้วว่า นายเขมกับเมต้องมีอะไรแปลกๆที่ฉันไม่รู้”
พงษ์ธรรู้อยู่แก่ใจยิ้มๆ คิดในใจ...ช่างสอดรู้ดีนักกับเรื่องคนอื่น ภัยกำลังจะมาถึงตัวยังไม่เฉลียวใจ...อารดารู้สึกว่าพงษ์ธรมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“มองหน้าฉันทำไม”
“ดาสวยมากรู้ตัวมั้ย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีคู่หมั้นแล้ว ฉัน.. โอ๊ย..ไม่อยากจะมโน”
อารดาตีแขนพงษ์ธร
“อย่างทะลึ่งกับฉันแม้แต่จะมโน”
พงษ์ธรหัวเราะชอบใจ

หน้าลิฟท์ ขึ้นชั้นบน อีริน่ายืนรอลิฟท์หันหลังให้ลิฟท์ จึงไม่เห็นเขมชาติที่กำต้นแขนเมทินีกึ่งกระชากลากออกจากลิฟท์ไปอย่างเร็ว เขมชาติมัวแต่หงุดหงิดกับเมทินี จึงไม่เห็นอีริน่า แต่เมทินีทันเห็นอีริน่าเข้าลิฟท์ไป
“อีริน่า”
“บ่นอะไร ทำไมต้องมาเป็นบ้าอาการเหมือนจิตหลุดให้ใครๆเห็น”
“จิตฉันมันหลุดตั้งแต่โดนขยะมนุษย์อย่างแกทำร้าย จนหัวใจสลายไปตอนนั้นแล้ว แกมันไม่ใช่คน แกมันไอ้แมงดาสารเลว” เมทินีตวาด
เขมชาติมองแล้วมองอีกไม่มีใคร ตบหน้าเมทินีฉาดใหญ่ เอื้อที่แอบมองสงสารมาก
“อย่ากำแหงนะ นังโง่”
“เพราะฉันโง่ ถึงต้องเป็นแบบนี้”
เขมชาติมองเมทินีแล้วเริ่มเอะใจ กระชากเมทินีมาเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น
“นังตัวดี นี่แกแอบบอกอะไรอีริน่าหรือเปล่า วันนั้นมันช่วยแกไว้นี่น่าฉันเห็นนะ”
เมทินีส่ายหน้า กลัวๆ

“ฉันเกลียดแก”

เขมชาติผวามาอีก ยกเท้า เอื้อทำเนียนเข้ามา
“นายครับ”
เขมชาติชะงัก เอื้อปรายตามองเมทินีอย่างสงสาร
“แกมาโผล่อะไรแถวนี้ ทำไมไม่ไปรอที่รถ”
“ก็นายสั่งให้ผมไป เอ้อ... แล้วผมก็ไม่อยากนั่งรอที่รถกลัวโดนปล้นครับ”
เอื้อปรายตาไปที่เมทินี เชิงให้หนี เมทินีลุกพรวดหนีไปทันที
“เฮ้ย เม กลับมานะ”
เขมชาติผวาจะตาม พอดีมีคนเดินสวนมาจากทางที่เมทินีหนี เขมชาติจึงหยุด หันมาผลักหน้าอกเอื้ออย่างหงุดหงิด
“ทำไมต้องสะเออะมาตอนนี้ด้วยวะ นังนั่นมันเลยหนีไปแล้ว”
“ผมขอโทษครับ นาย นี่ครับเงิน”
เอื้อรีบส่งกระเป๋าเงินให้ เขมชาติค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“แกเห็นผู้หญิงสวยๆที่ชื่ออีริน่า ผ่านมาทางนี้บ้างมั้ย”
“เห็นครับ”
เขมชาติรีบคาดคั้น
“ที่ไหน”
“ออกไปทางด้านหน้าโรงแรมแล้วครับ”
“กับใคร”
“คนเดียวครับ”
เขมชาติรีบออกไปทันที เอื้อเดินตามไป

อีริน่าเดินหาห้องมิคาอิล อย่างกระวนกระวายเพราะอยากเจอปาปา
“ห้องไหนกันนะ”
อีริน่าเดินไปตามหมายเลขห้อง

อีกด้านที่หมายเลขห้อง อิฐซุ่มอยู่ใกล้ๆเจอห้องแล้ว แต่ยังรอตำรวจ อิฐเดินซุ่มห่างออกมา
อิฐโทรหาเจต พูดกระซิบ เอามือป้องโทรศัพท์กันคนได้ยิน
“เจต ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงแรม ฉันเจอห้องที่ว่าแล้วห้องเบอร์ แต่ยังไม่กล้าเข้าไป กำลังถ่วงเวลารอตำรวจมาก่อน”
แล้วอิฐก็ตาโตเบิกกว้าง
“เฮ้ย ฉันเจออีริน่าแล้ว แค่นี้ก่อนนะ”
อิฐตัดสายรีบไปช่วยอีริน่า เจตตะโกนมา
“อะไร...เกิดอะไรขึ้น”
อิฐวิ่งไปทันที อีริน่ากำลังเคาะห้อง
“เปิดประตู ฉันมาแล้ว”
อิฐตกใจตะโกนเรียก
“อีริน่า อย่า อย่า”
ประตูห้องเปิด สมุนกระชากอีริน่าเข้าไปในห้องทันที นิโคลัยสะบักสะบอมยืนกลางห้องมีสมุนและมิคาอิลยืนประกบ มีปืนจี้อยู่
“ปา ปา”
“อีริน่า ไม่ ถอยไป ถอยไป”นิโคลัยบอก
อีริน่าผวาไปกอดนิโคลัย
อิฐตกใจ ที่อีริน่าถูกกระชากเข้าห้องเรียกอีริน่าเสียงดัง
“อีริน่า”
อิฐปราดมาถึง โดนด้ามปืนฟาดใส่หัวล้มลงไปกอง อีริน่าตกใจว่าอิฐตามมา
“คุณอิฐ”
“ยึดมือถือ แล้วลากไอ้บ้านี่ไปขังไว้ห้องโน้น แล้วรีบไปห้องสำรองของเราที่จองเผื่อไว้ อีริน่าถ้าแกไม่อยากให้ปาปาแกตาย แกต้องเงียบที่สุดแล้วทำตามที่ฉันบอก”
“อีริน่า ไม่ควรมาเลยลูก”
“อีริน่าต้องการมาค่ะ อีริน่าต้องการพบปาปา อีริน่าต้องต่อรองกับพวกมัน”
มิคาอิลลากทั้งอีริน่าและนิโคลัยออกจากห้อง

หน้าโรงแรม...เจตรินมาถึงกำลังจะจอดรถ เห็นเมทินีวิ่งหกล้มหกลุกโบกมือเรียกคน
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย”
เจตรินพุ่งรถไปจอดข้างเมทินี กดกระจก พอเข้าใกล้จึงเห็นว่าเป็นเมทินี
“เอ๊ะ คุณเม”
“คุณเจต”
เจตรินรีบปลดล๊อคประตู
“รีบขึ้นมาครับ”
เมทินีรีบขึ้นรถทันที เมทินีมองรอบๆหวาดกลัวมาก เขมชาติวิ่งตามเมทินีมา เห็นเจตรินให้เมทินีขึ้นรถ ชะงักซ่อน
“ไอ้เจตนี่อีกแล้ว” เขมชาติเสียงเข้ม “นังเม แกทรยศฉันแน่นอน ตายซะเถอะตายมันทั้งคู่เลย”
เขมชาติยิงเมทินีทันที ทำให้เจตรินต้องพุ่งรถออกไปแทนที่จะได้จอดช่วยอีริน่า
“ว๊าย”
เมทินีรีบหลบซุกใต้เบาะ กลัวมาก
“อะไรกันนี่”
เขมชาติยื่นหน้ามายิงอีก เจตรินต้องขับรถหนี ไปจากที่นั่น
รถตำรวจนอกเครื่องแบบมาถึงด้านหน้า ตามที่อิฐแจ้งไว้ เห็นมีการยิงจึงแฉลบรถเบี่ยงแล้วโดดลงมาเอารถกำบัง แล้วยิงโต้ตอบ
“มันยิงกันแล้วหรือนี่ เอาโว๊ย สู้มัน”
ตำรวจ ยิงโต้ตอบ เขมชาติคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ รีบหลบกลับเข้าไปข้างใน

กลุ่มมิคาอิลมาที่ห้องใหม่ ได้ยินเสียงปืน มิคาอิลไปแอบที่หน้าต่าง
“มีการยิงต่อสู้กันข้างล่าง เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว รออีกสักพัก แล้วหาทางโยกย้ายก่อนที่ตำรวจจะแห่กันขึ้นมา”
เสียงมือถือของอิฐดัง
“มีคนโทรมาหาไอ้จอมสาระแนนั่น รับสิอีริน่า บอกว่าแกอยู่กับมัน ทุกอย่างเรียบร้อย”
มิคาอิลยื่นมือถือใส่มืออีริน่า
“ถ้าแกพูดไม่ดี ปาปาแก เรียบร้อย ฉันจะยิงทะลุหมอนตัดขั้วหัวใจกันเลยทีเดียว”มิคาอิลยกมือทำท่ายิงใส่นิโคลัย
โทรศัพท์ยังดังตลอด อีริน่ารับมือถือมากด
“ฮัลโหล”
“อีริน่า...อีริน่าจริงๆด้วย อิฐมันบอกว่าเจอคุณแล้ว มันยังพูดกับผมไม่รู้เรื่องเลย คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แล้วทำไมคุณมารับโทรศัพท์ของนายอิฐ มันอยู่ไหน”
“เอ้อ เราเจอกัน ตอนนี้อีริน่าอยู่กับคุณอิฐค่ะ”

มิคาอิลยิ้มพอใจยกนิ้วให้

เจตรินตื่นเต้นพูดกับอีริน่า เมทินีฟังสนใจไปด้วย
“ผมดีใจมาก อยู่กับอิฐน่ะดีแล้ว ผมทำธุระเสร็จ จะรีบกลับไปรับคุณนะ”
“ค่ะ”
“ผมขอพูดกับอิฐหน่อยสิ”
“เขา เขาเอ้อ....”
“มีอะไรหรืออีริน่า”
มิคาอิลกระซิบสั่งอีริน่าไปเบาๆ
“ไม่มีอะไรค่ะ คุณอิฐเดินไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
“โอเค ให้นายอิฐโทรกลับหาผมนะอีริน่า”
มิคาอิลยกนิ้วให้อีริน่าแล้วดึงมือถือมาจากอีริน่าตัดสายทันที
เจตพยายามจะถามต่อ
“แล้วผู้ชายที่ขอความช่วยเหลืออิฐเป็นใคร ฮัลโหลๆ”
“สายตัดไปแล้วมั้งคะ”
เจตพยายามต่อกลับไป มือถือปิดไปแล้ว
“ปิดมือถือไปแล้ว แปลกจริง หรือว่าแบตหมด”
“เอ้อ...คุณต้องเสียเวลากับเม เลยทำให้ไม่ได้พบอีริน่า”
“จริงสิ ผมมัวแต่ตื่นเต้น ทราบไหมว่าใครยิงคุณ เอ้อ... ยิงเราสองคน”
“เม ...เอ้อ....เข้าใจว่าเป็นพวกเดิมค่ะ”
“นั่นสิ ลักษณะการยิงเป็นแบบเดียวกันกับการยิงที่สนามบินเมื่อวันก่อน”
“ก่อนที่จะออกมา เมเห็นอีริน่าขึ้นลิฟท์ไปค่ะ”
“กับไอ้อิฐ” เจตรินเปรยขึ้นมา
“คนเดียวค่ะ เมว่า คุณเจตปล่อยเมลงแล้วรีบกลับไปหาคุณอีริน่าเถอะค่ะ”
“ผมต้องหาที่อยู่ใหม่ให้คุณเม คุณต้องอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ไม่มีใครตามมาทำร้ายได้”
เมทินียกมือไหว้ขอบคุณ น้ำตาไหลพราก

เขมชาติกลับมาที่โต๊ะในห้องอาหารโรงแรม หน้าตาไม่สบายใจเอามากๆ
“เมล่ะ" อารดาถาม
“ปล่อยเขากลับไปแล้ว เอาแต่ใจตัวจนน่ารำคาญ ตามใจเท่าไหร่ไม่รู้จักพอ”
อารดาลอยหน้าพูด
“เขมเลยตื่นตระหนกจนหน้าซีดเลยเหรอ หรือว่าตกใจเสียงดังข้างนอก มีอะไรเกิดขึ้น เสียงปืนหรือเปล่า”
ตำรวจเดินเตร่มากวาดตามองอย่างสุภาพๆ
“ไม่มีอะไรครับ เหตุการณ์ปกติ ขอทุกท่านอย่าได้ตื่นตระหนก”
สามคนยิ้มแย้มให้ตำรวจ พงษ์ธรกับเขมชาติขอตัวจากอารดาลุกไปคุยที่อื่น
“ผมกับเขมขอตัวไปทำธุระสักครู่นะดา”
อารดาหน้าหงิก แต่ก็สะบัดมือไล่ให้ไป ทั้งคู่ไปคุยกันมุมที่อารดามองไม่เห็น
“เมล่ะ” พงษ์ธรสงสัย
“นังบ้านั่นมันหนีไปแล้ว มันไปกับไอ้นายเจต ฉันไม่น่ายิงพลาดเลยมันคาบเอาความลับของพวกเราออกไปด้วย มันคายเมื่อไหร่ พวกเราเสร็จแน่”
“หน้ามันยังบาง มันไม่กล้าคายตอนนี้หรอก เพราะมันก็กลัวแกจะประจานมัน เพราะฉะนั้นตามเก็บมันให้ได้ก่อนที่มันจะเล่นงานพวกเรา”
สองคนเดินกลับมาที่โต๊ะ อารดาหงุดหงิด
“บ้าจริง ยังกับนัดกันหายไป ว่าไงล่ะเขม เมมันเป็นอะไรของมันกันแน่”
เขมชาติยักไหล่ไม่ตอบ

รถของมิคาอิลแล่นมาตามถนนไม่มีผู้คนเท่าไหร่
“อีริน่า ตอนนี้ไอ้สามีจอมแส่ของแกมันกำลังพยายามติดต่อมือถือของไอ้จอมสาระแนนั่นอยู่ เพื่อไม่ให้มันสงสัย ส่งข้อความไปหามัน ให้มันหายสงสัย ส่งไปในนามของไอ้บ้านั่น”
“ฉันเขียนภาษาไทยไม่เป็น”
“ส่งข้อความภาษาอังกฤษไป พวกมันมีความรู้กันทั้งนั้น”
“แกจะพาฉันกับปาปาไปไหน”
“ไปในที่ที่แกจะมีความสุขกับฉัน”
“ไม่นะ” นิโคลัยโวย
มิคาอิลฟาดหน้านิโคลัยด้วยหลังมือแรงมาก อีริน่าตบหน้ามิคาอิลโดยแรงโต้ตอบ
“เฮ้ย บังอาจ” มิคาอิลฉุน
มิคาอิลจะตบกลับ นิโคลัยรีบห้าม
“อย่าทำลูกฉัน ขอร้องล่ะ ไหนแกสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายอีริน่าแม้แต่ปลายก้อย”
“ก็ลูกสาวแกมันน่า...” มิคาอิล ยกมือจะตบอีกแต่ยั้งไว้จับคางอีริน่า “ฉันจะอดใจรอให้ถึงคืนนี้ ถ้าหลังจากคืนนี้ผ่านไป แล้วแกยังอวดดีเป็นเจอดีแน่นังอีริน่า”
มิคาอิลส่งโทรศัพท์ของอิฐให้อีริน่า
“พิมพ์....เร็ว”
อีริน่ารับมาพิมพ์ มิคาอิลดึงโทรศัพท์มาอ่านยิ้มพอใจกดส่งข้อความให้เจตริน

เจตรินพาเมทินีไปเซฟเฮ้าท์หลังจากประสานงานกับตำรวจหญิง เมทินีลงจากรถ เข้าไปในบ้าน ตำรวจหญิงมาต้อนรับ เจตรินฝากฝัง
“คุณตำรวจหญิงคนนี้ จะดูแลคุณเมได้เป็นอย่างดี”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เมทินีหันมาบอกเจตริน
“คนพวกนี้อันตรายมาก เล่ห์เหลี่ยมพวกเขาสารพัด อย่าเชื่อคำพูดใครง่ายๆนะคะ”
“ขอบคุณมากครับ”
เจตรินพยักหน้ารับ

เจตรินก้าวขึ้นรถ ปิดประตู กำลังจะคาดเข็มขัดนิรภัยมีเสียงข้อความในโทรศัพท์ เจตรินเปิดดู
“ไอ้อิฐมันจะบ้า ทำไมจู่ๆเพี้ยนส่งข้อความเป็นภาษาอังกฤษมาทำไม มันไม่ใช่คนชอบส่งข้อความสักหน่อย”
เจตรินนึกถึงเมทินีบอก...คนพวกนี้อันตรายมาก เล่ห์เหลี่ยมพวกเขาสารพัด อย่าเชื่อคำพูดใครง่ายๆนะคะ
“หรือว่า เกิดอะไรขึ้นกับไอ้อิฐและอีริน่า บ้าจริงๆเราช้าไปแล้วแน่ๆ”

เจตรินร้อนรุ่มขึ้นมา

มิคาอิลพานิโคลัยอีริน่า มาถึงบ้านหรูแห่งหนึ่ง
“เอานิโคลัยไปขังไว้ ส่วนอีริน่าตามสบาย แต่จำไว้ไม่เพียงแต่ปาปาแกเท่านั้น แม่แกฉันก็จับไปขังไว้ได้อีกแล้ว”
“ฉันเกลียดแก คนเลว” อีริน่ามองมิคาอิลอย่างเกลียดชัง
“จะด่าจะว่ายังไงแกก็ต้องห่วงชีวิตและความปลอดภัยของปาปาแม่แก นั่นห้องของแก ไปพักผ่อนให้สบายคนสวย ภรรยาในอนาคตของฉัน”
อีริน่าเดินเข้าไปในห้องเงียบๆใจคิดหาทางช่วยพ่อ มิคาอิลตามมาเอามือจับแก้ม อีริน่าปัดขยะแขยง แล้วปิดประตูใส่หน้า มิคาอิลกระชากเปิดออกมาใหม่ทันที
“ประตูห้องนี้ล็อคจากข้างในไม่ได้แต่ใส่กุญแจจากข้างนอกได้ เสียใจด้วยนะคนสวย”

ในห้องพักโรงแรมที่อิฐโดนลากมาไว้ อิฐเริ่มได้สติกุมหัวยันตัวลุกขึ้น
“โอย...อีริน่า อีริน่าอยู่ที่ไหน”
อิฐลุกมามองหาอีริน่า ประตูห้องเปิดออก เจตรินเข้ามา
“อีริน่า”
แล้วสองคนก็เห็นกัน
“ไอ้เจต”
“ไอ้อิฐ อีริน่าอยู่ที่ไหน”
“ฉันขอโทษ ฉันพลาดว่ะ อีริน่าคงไปกับพวกมันแล้ว”
“เฮ้ย”
เจตรินเงื้อจะชกอิฐ แล้วปล่อยมือให้ตกลงไป
“ขอโทษเพื่อน เรามารีบหาทางช่วยอีริน่ากันให้เร็วที่สุดดีกว่า”
อิฐพยักหน้ารับ

อีริน่านั่งคิดพยายามหาทางช่วยพ่อ เธอตัดสินใจเดินไปตามหามิคาอิล
“มิคาอิล ฉันอยากติดต่อกับแม่ อยากรู้ว่าแม่พริมยังอยู่ดีไหม ได้โปรดนะมิคาอิล”
อีริน่าพูดจาทำน่ารักใส่
“พูดจาน่ารักก็เป็นนี่นา ตกลงจ้ะที่รัก”
อีริน่าแอบหันไปทำหน้าแหวะ แล้วหันมายิ้ม

บ้านมิคาอิลที่มอสโคว...อาหารวางกองให้พวกสมุนกินเต็มไปหมด
“กินกันให้สนุกสนานนะ วันนี้เมียไอ้นิโคลัยมันอารมณ์ดี ทำแต่ของอร่อยให้พวกแกกิน”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สมุนเดินไปรับ
“ฮัลโหลนาย ได้ครับ เดี๋ยวผมไปตามให้มันมาพูดกับนายครับ”
สมุนคนหนึ่งเดินไปทางหลังห้อง

อิริน่าพูดโทรกับพริมดีใจมากเช่นกัน มิคาอิลนั่งมองการพูดของอีริน่ายิ้มย่องไปด้วย ฝันหวาน
“ฮัลโหล แม่พริมขาอีริน่าเอง พวกมันทำร้ายแม่พริมหรือเปล่า...อีริน่ากำลังหาทางช่วยปาปาออกไปค่ะ แต่อีริน่าก็อยากให้แม่พริมออกไปจากที่นั่นด้วยค่ะ”
มิคาอิลฟังภาษาไทยไม่ออกหงุดหงิด
“พูดจาให้มันชัดเจนอย่าเอาแต่กระซิบกระซาบเดี๋ยวฉันตัดสาย หรือไม่ ฐานกรุณา ก็จะเปิดสปีคเกอร์โฟนมาฟังด้วยกัน”
“อย่าใจร้ายนักเลย มิคาอิล”
มิคาอิลมองตาเป๋ง อีริน่าลดเสียง
“ค่ะ อีริน่าจะ....ค่ะ ค่ะ ค่ะ แม่พริมจะทำให้พวกมันตายใจ กำลังจะจัดการพวกมันแล้วหนีออกไป....โชคดีค่ะแม่พริม”
อีริน่าวางสายแล้วยิ้มย่อง

พวกสมุนกินข้าวเสร็จแล้ว โดยไม่รู้ว่าโดนวางยานอนหลับ สมุนชนแก้วกัน
“อิ่ม อร่อย...พริม เอาเหล้ามาอีก เหล้าสูตรพิเศษของแกน่ะพวกฉันชอบมาก”
สมุนยกแก้วรอกันสลอน

มิคาอิลแปลกใจ อีริน่าวางสายไปแล้ว
“ทำไมพูดกันสั้นนัก”
“แม่พริมกำลังทำกับข้าวให้พวกขี้ข้าหน้าไม่อายของแกกิน พวกมันรอกินอยู่อีกเดี๋ยวฉันค่อยโทรไปใหม่ ถ้าแกไม่ขัดข้อง”
“แม่พริมของแกทำตัวดีมาก”
อีริน่าสงสัยว่าพริมจะทำอะไร
“แม่พริมจะทำอะไรนะ”

สมุนมิคาอิลกินกันจนหมดเกลี้ยงแล้วทุกคนพากันหาว
“เฮ้ย...ตาพร่า เป็นอะไรวะ”
สมุนอีกคยพยายามลุก แต่แล้วก็ล้ม
“เฮ้ย...เข่าฉันมันอ่อนไปหมดแล้ว”
พวกสมุนหมดสติ

เจตรินกับอิฐ ปรึกษากัน สองคนจับมือกัน
“หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ทำให้มันคิดว่าเราโง่ เพราะไอ้คนที่มันชอบคิดว่าคนอื่นเขาโง่ แต่ที่แท้มันนั่นแหละ โง่ที่สุด”
“ว่ามา...”
“ตอนนี้พวกมันคงคิดว่าฉันยังไม่ได้เจอแก มันคิดว่าฉันเชื่อตามที่อีริน่าบอกว่าแกอยู่กับอีริน่า”
“ถูกต้อง แล้วไง”
“มันไม่เพียงต้องการอีริน่า แต่มันอยากฆ่าฉันด้วย”
“แน่นอน”
“ฉันจะไปให้มันฆ่า”
“เฮ๊ย…ไอ้บ้า”
เจตรินยิ้ม

มิคาอิลมองอีริน่าที่นั่งเหม่อ มิคาอิลเอามือถือมาให้อีริน่าดูข้อความ
“ผัวผู้แสนโง่ของแกส่งข้อความมาให้แกแล้ว มันอยากเจอกับไอ้สาระแนที่ชื่ออิฐ”
“แล้วยังไง”
“มันคิดว่าแกอยู่กับไอ้อิฐคนนั้น ฉันมีแผนใหม่แล้ว”
“แผนอะไร”
“ฉันจะหลอกฆ่ามัน”
“อย่านะ” อีริน่าตกใจ
มิคาอิลหัวเราะชอบใจ

เจตรินกับอิฐยิ้มในแผนการ มือเจตรินถือโทรศัพท์มือถือ
“มันตอบรับเรามาแล้วเราทำสำเร็จ”
“สำเร็จโทษตัวเองน่ะไม่ว่า มันเสี่ยงมากนะแก” อิฐบ่น
“ถ้าแกเปลี่ยนนิสัยกลายเป็นไอ้ตาขาวก็ไปเลย ไปให้พ้น เลิกคบกัน”
“เฮ้ย...พูดแบบนี้มันบังคับกันนี่หว่า แกพูดเหมือนไม่รู้นิสัยเพื่อน คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย...ตายเป็นตาย”
“ลุย”
สองคนยิ้มให้กัน

อีริน่าโทรไปหาพริมอีกครั้ง ครู่หนึ่งพรริมมารับสาย
“ทำไมแม่รับโทรศัพท์ช้าจังเลยคะ...ค่ะ...ค่ะ อีริน่าเข้าใจแล้ว แม่กำลังจะออกไปจากบ้าน พอดีอีริน่าโทรมาแม่เลยมารับ แม่รีบหนีไปนะคะ แค่นี้นะคะ”
อีริน่าดีใจมากรีบวางสายเพราะมิคาอิลยื่นมือมาจะขอพูด
“อ้าว ฉันจะพูดกับแม่ของแก”
“แม่ต้องรีบไปทำอาหารให้พวกตายอดตายอยาก กินไม่รู้จักพอพวกนั้นพวกมันกำลังเร่งแม่”
“พวกเห็นแก่กิน...แม่แกทำตัวดีมาก”
“ขอบใจมากมิคาอิลที่ให้ฉันติดต่อกับแม่พริม และรู้ว่าสมุนของแกไม่ได้ทำร้ายแม่ฉัน”
“ก็เพราะฉันสั่งเป็นคำขาดกับพวกมัน ว่าถ้าฉันรักผู้หญิงคนไหน ฉันก็ต้องรักแม่ยายของฉันด้วย แม่ยายข้าใครอย่าแตะ”
“ฉันอยากไปดูปาปา”
“ขอมากมายหลายอย่างจริงนะ”
“รักผู้หญิงคนไหนให้รักปาปาตาของเธอด้วย ปาปาตาข้าใครอย่าแตะ เตือนตัวเองกับสมุนของแกด้วย”
“นี่พูดราวกับว่าเตรียมตัวเตรียมใจเป็นของฉันแน่นอนแล้ว”
“ฉันมีทางเลือกที่ไหน รอแกหลอกคุณเจตมาพบฉัน ฉันจะได้บอกลาเขา”
“ไม่ได้รักเขาหรอกหรือ”
“แกไม่แปลกใจหรือว่าทำไมฉันแต่งงานกับเขากะทันหัน แล้วฉันจะไปรักเขาตอนไหน แกรับปากได้ไหมถ้าฉันเป็นอะไรกับแกแล้ว แกต้องปล่อยปาปากับแม่ฉันให้เขาสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขที่เมืองไทย ส่วนฉันจะกลับไปมอสโควกับแก”
มิคาอิลดีใจมาก
“ลูกกตัญญู คนเอเชียมีความกตัญญูสูงมาก จริงของแกปาปาแม่ต้องสำคัญกว่าผัว หลังจากเรามีความสุขกันคืนนี้ตามที่วางแผนไว้ แล้วฉันก็จะไปจัดการเรื่องธุรกิจที่พัทยา เราจะได้ไปจากเมืองไทยกันสักที ไปฮันนีมูนกับอีริน่าน่ะที่รัก” มิคาอิลจับแก้มอีริน่า
อีริน่าแสร้งพยักหน้าไปเรื่อยเปื่อย
“ธุรกิจกับผู้ชายชื่อเขมใช่ไหม”
มิคาอิลตกใจที่อีริน่ารู้
“ทำไมรู้”
“นายคนนั้นเล่าทั่วว่าเขาค้าขายกับแก เขาอาจคิดหักหลังแกก็ได้ หรืออาจแย่งธุรกิจของแกนะ”
อีริน่าใส่ไฟ มิคาอิลกัดฟัน แค้นเชื่อสนิท
“ไอ้เขม...นึกแล้วเชียว”

อีริน่าแอบยิ้มอีก มิคาอิลเริ่มไม่ชอบใจ และระแวงเขมชาติ

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 12 (ต่อ)

เขมชาติมาบ้านเมทินี พบสาวใช้ทที่เฝ้าอยู่
 
“เปิดประตู”
“คุณเมไม่อยู่ ก็คุณมารับเธอไปเองแท้ๆ”
“อย่ามาโกหก ถ้าเจอเมอยู่ในบ้านแกตายแน่” เขมชาติขู่
เขมชาติผลักสาวใช้ล้มลงไป แล้วเดินเข้าไปในบ้าน

อารดาซึ่งกลับมาที่บ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ รับรู้การไม่กลับบ้านของเมทินี แปลกใจมาก
“เมมันไม่ได้กลับบ้าน เมมันไปกับพี่เจต แย่แล้วนังเมแย่งพี่เจตจากเรา”
อารดากระทืบมือกระทืบเท้า คุณหญิงเดินออกมามอง
“กระทืบเท้าแรงๆเดี๋ยวพื้นบ้านมันจะทรุดเอานะ หนูดาไปกับอีริน่าทำไมกลับมาคนเดียว หรือว่า ส่งมันไปเที่ยวนรกไปกับนายพงษ์แล้ว”
“มันหายตัวไปเฉยๆค่ะ”
“อ้าว…เลยขัดใจมากถึงขั้นกระทืบพื้นแบบไม่กลัวเท้าพังเหรอ”
“นังเมสิคะ นังเพื่อนทรยศมันคาบพี่เจตไปแล้ว”
“อะไรนะ”
จีรณัทย์ประคองจิตรดาราที่มีผ้าปิดดั้งจมูกกลับจากโรงพยาบาลเข้ามา จิตรดาราระทดระทวยแต่หน้าตาบึ้งตึงมองแม่กับอารดาไม่พอใจ
“ใครจะคาบใครไปก็ช่าง แต่อย่ามาคาบพงษ์ไปก็แล้วกัน”
“แหม...อันนี้ก็ช่วยไม่ได้นะคะน้องจิตว่าเจ้าตัวเขาเต็มใจให้คาบหรือเปล่า ที่แน่ๆนังอีริน่ามันคงเจาะจงจะคาบพงษ์ โกรธมากไประวังจมูกจะไม่เข้าที่ กลายเป็นจมูกคดในข้องอในกระดูกนะ”
“จิตไม่สน จิตจะไปฆ่ามัน มันพาพงษ์ไปไหนคะ”
จีรณัทย์ปราม
“อารดา พูดจาระวังด้วย อย่าเสี้ยมเขาควายให้ชนกัน”
“หนูดาก็พูดเกินไป ยัยจิตก็อย่าวู่วาม ตอนนี้นังอีริน่ามันหายหัวไปคาบใครแล้วก็ไม่รู้” คุณหญิงขัดขึ้น
“แล้วไปค่ะ ตอนเข้ามาได้ยินแว่วๆเรื่องเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดมาคาบพี่เจตหายไปไหนซะงั้น เลยมาพาลยุยงคนอื่น โทรไปหาคุณพงษ์ให้มารับไปลั้นลาดีกว่า”
จิตรดารายกมือถือมาโทร คุณหญิงส่ายหน้า จีรณัทย์ก็ระอาอ่อนใจ

อีริน่ามาหานิโคลัยในห้องขัง กระซิบบอกให้รู้ว่าพริมหนีรอดไปแล้ว
“จริงหรืออีริน่า แม่พริมหนีรอดพวกมันไปได้แล้ว”
“จริงค่ะ จุ๊ๆปาปา อย่าพูดดัง สบายใจได้แล้วนะคะปาปา”
“แต่อีริน่ายังเป็นตัวประกันเพื่อปาปาอยู่ที่นี่ ปาปาอยากตาย”
“อย่าค่ะปาปา วันนี้มันหลอกคุณเจตให้มาพบอีริน่า มันจะหลอกฆ่าเขา คุณเจตฉลาดมาก เขาอาจรู้ทันมันแล้วย้อนรอยมันก็ได้ แกล้งทำเป็นโง่ตอนนี้ไอ้มิคาอิลมันกำลังลำพองว่ามันฉลาด แล้วอีริน่ายอมแพ้มันแล้ว”
“เสี่ยงมากนะทั้งคุณเจตกับลูก”
“อีริน่าจะพาปาปาให้พ้นไปจากนรกของไอ้มิคาอิลให้ได้”
“แล้วถ้าคุณเจตมีอันเป็นไป ลูกรับได้หรือ”
อิริน่านิ่งไปน้ำตาซึม
“ปาปากับแม่มีพระคุณต่อลูกมากที่สุดในโลก ถ้าให้เลือก อีริน่าต้องเลือกปาปากับแม่ก่อนค่ะ”
นิโคลัยคว้าอีริน่ามากอดแนบอกน้ำตาไหลซึม ซาบซึ้งในความกตัญญูต่อปาปากับแม่ของอีริน่า
“ฟังนะ...แล้วจำไว้ให้ดี คุณตาคุณยายของอีริน่าไม่ใช่คนธรรมดา แต่ว่าเป็นถึงนาย….”
มิคาอิลเปิดประตูเข้ามา
“ให้เวลานานมากแล้วนะ พอได้แล้ว อีริน่า นิโคลัย”
อีริน่ากับนิโคลัย อดบอกกันต่อเรื่องตายาย

อิฐกับเจตริน เตรียมตัวเข้าไปพบมิคาอิล สองคนหยิบเสื้อเกราะมาใส่ หยิบปืนหยิบมีดมาเสียบตามส่วนต่างๆที่ซ่อนเร้นในกางเกงและเสื้อผ้า
“นี่ปืนปากกา”
“นี่กล้องวีดิโอกระดุม ฉันต้องเข้าไปตามลำพัง ถ้ามันตรวจอาวุธก่อนก็ให้มันยึดไป แล้วมันจะได้ไม่สงสัยปืนปากกากับกล้องนี่”
“แกระวังตัวด้วย ฉันจะอยู่ข้างนอกรอแกส่งสัญญาณให้บุกไปสมทบ พร้อมกับตำรวจ”
“มันสั่งห้ามพาตำรวจไป ถ้าจะไปก็ต้องไปในสภาพอื่นๆที่ดูไม่น่าสงสัย” เจตรินคิดออก “ใช่แล้ว แกปลอมตัวเป็นอะไรดีนะ”
“เป็นกะเทยก็เชยไปแล้ว เอ…เป็นอะไรดีนะ”
“เป็นคนบ้า”
อิฐหันมาชกเจตรินเล่นเบา ขำๆกัน

พงษ์ธรกับเขมชาติมาพบกัน ปรึกษากันอย่างเครียดๆ
“นังเมมันทำแสบ มันแกล้งยอมฉัน มันแกล้งเชื่อฟัง แล้วหักหลังกันชัดๆ ฉันต้องตามไปเก็บมันให้ได้”
“ตอนนี้ฉันมีค่าใช้จ่ายมากมายกับการปิดปากลูกน้องที่ต้องหลบหนีบ้างที่ต้องอยู่คอยดูแลฉันบ้าง นายมีให้ฉันอีกสักห้าแสนไหม นายเพิ่งขายของให้มิคาอิลนี่นา”
“นายรีดไถยัยจิตรดารา รีดไถยัยเชอรี่มาได้ตั้งมากมาย นายไม่รู้จักพอสักที เพราะนายใช้จ่ายเกินตัว ซื้อหาของฟุ่มเฟือยมาใช้ กินอยู่เหมือนราชามันถึงชักหน้าไม่ถึงหลัง...เอาแบบนี้ถ้านายอยากได้ห้าแสน เลือกเอา ส่งจิตรดารา หรือว่าเชอรี่มาให้ฉัน...ยื่นหมูยื่นแมวกัน”
ขาดคำเขมชาติ จิตรดาราเดินมีผ้าปิดจมูกเข้ามาผวามากอดพงษ์ธรไว้
“พงษ์ขา จิตรตามหาทั้งวัน ได้ยินว่านังอีริน่ามันจะมาเขมือบพงษ์หรือคะ”
“แหม...เขาก็แค่มากินข้าวกับผมเท่านั้นที่รัก...ตอนนี้เขาก็ไปแล้ว”
“ฉันก็จะไปเหมือนกัน อย่าลืมเรื่องสินค้านะ”
พงษ์ธรเอามือเหนือหัวจิตรดารา แล้วชี้ลงมาที่เธอ แล้วพูดกับเขมชาติ พูดอย่างมีนัยยะ
“ตอนนี้สินค้ามีตำหนิ ฉันไม่รับ รอไว้ให้นายซ่อมแซมก่อนค่อยว่ากันเอาที่มีอยู่ในมือแบบไม่มีตำหนิมาสิ จะรอฟังข่าว”
เขมชาติหัวเราะมองจิตรดาราโค้งลาให้
“นั่นสิคะ สินค้ามีตำหนิใครจะอยากได้ ว่าแต่พวกคุณค้าขายสินค้าอะไรกัน”
“สินค้าแบรนด์เนมที่มีทั้งใหม่ และมือสอง สาม สี่”
“ฮะๆ เชิญตามสบายครับ แล้วเจอกันครับ ผมต้องไปตรวจสินค้าที่ว่า บางทีมันก็ต้องมีถึงขั้นเอาไปย้อมแมวขาย ใช่ป่ะไอ้พงษ์ งานนี้แกถนัดนี่น่า”
“สินค้าอะไรทำไมต้องถึงขนาดย้อมแมวขาย”
จิตรดารางงๆ แต่ไม่สนใจอะไรนัก นั่งแนบชิดพงษ์ธรอย่างออดอ้อน พงษ์ธรเอือมๆ

อิฐกับเจตรินย่องซุ่มมาที่หน้าบ้านมิคาอิล หาทางเข้าบ้าน ทั้งสองคนเห็นสมุนมิคาอิลสองคนกำลังยืนเฝ้าหน้าบ้านหน้าตาเอาเรื่อง
“ดูหน้าไอ้หมาเฝ้าบ้านสองตัวนั่นสิ หน้ามันร้ายมาก”
“แกก็ช่างกล้าไปย้อนร้อยมันได้ เสี่ยงตายจริงๆ”
“เพื่ออีริน่าฉันต้องทำให้ได้ เอาแบบนี้เราถอยออกไปใหม่ แล้วฉันจะกลับไปขับรถมาตามลำพัง ส่วนแกซ่อนตัวแถวนี้ให้ดี”
“ให้ซ่อนตัวแล้วทำไมต้องให้ฉันแต่งตัวเป็นคนบ้า” อิฐบ่น
“เอาน่า...เดี๋ยวค่อยว่ากันตามสถานการณ์เฉพาะหน้า แกก็ใช้ไหวพริบของตัวเองประกอบกับสถานการณ์ด้วย นี่กุญแจรถสำรองแกเก็บไว้”
อิฐพยักหน้ารับกุญแจมาจากเจตริน

อีริน่านั่งร้อนใจอยู่ในบ้าน มิคาอิลรอคอยการมาของเจตรินด้วยความยินดีปรีดา
“ทำไมสามีสุดที่รักของแกยังไม่มาสักที หรือมันไม่กล้า”
“ทำไมจะไม่กล้า ต่อให้เขารู้ความจริงว่ามีคนเลวจ้องทำร้ายเขาอยู่ เขาก็ต้องอยากมาหาฉันกับเพื่อนสนิทของเขาแน่ แกนั่นแหละที่จะเป็นคนทำให้เขาไม่กล้าเข้ามา เพราะแกดันเอาหมาสองตัวหน้าตาน่าขยะแขยงไปเฝ้าหน้าบ้านให้เขาเอะใจได้ว่าทำไมเพื่อนของเขาให้มาพบที่ซ่องโจร”
“จริงของแก ฉลาดจริงๆ สมแล้วที่ฉันเลือกมาเป็นผู้หญิงของฉัน”
มิคาอิลยกหูโทรศัพท์
“เฮ้ย...พวกแกสองคนหลบมาให้พ้นจากหน้าบ้าน รอให้เหยื่อเข้ามาติดกับดักก่อน แล้วค่อยไปคุมหน้าบ้านต่อ”
มิคาอิลวางสาย หันมายิ้มเชยคางอีริน่าขึ้น อีริน่าสะบัด มีข้อความส่งเข้ามาในมือถืออิฐจากเจตริน มิคาอิลอ่านแล้วยิ้ม
“อ่านสิที่รัก”
“คุณเจตกำลังมาใกล้จะถึงแล้ว”
“หมายความว่าใกล้จะถึงเวลาที่พ่อของที่รักจะโดนปลดปล่อย เพราะมีคนเอาชีวิตมาทดแทนให้แล้ว”
อีริน่าใจคอไม่ดีคิดหาทางช่วยเจตริน อยากให้เจตรินรู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย
“คุณเจตขา ช่วยเฉลียวใจสักนิดบ้างนะคะว่าอันตรายใหญ่หลวงกำลังรออยู่”

อีริน่าหน้าซีด หน้าเสีย

พงษ์ธรออดอ้อนจิตรดาราอยากได้เงินจิตอีก
“รักจิตรดาราคนนี้ที่สุด บัญชามาเลยว่าอยากให้พงษ์ทำอะไรให้อีก”
“เรื่องเก่ายังทำไม่สำเร็จ เอาแหวนเพชรไปวงนึงแล้วไหนว่าจะเอาไปให้คุณเขมจัดการอารดา แต่มันยังลอยหน้ามาถากถางจิตวันละสามสี่เวลาจิตไม่ไหวแล้วนะคะ”
“ก็วันนี้นี่แหละที่ผมเตรียมจัดส่งอารดาให้ไอ้เขมจัดการ แต่ดันมีเรื่องก่อนผมเกือบเอาตัวไม่รอด”
“ทำไมคะ”
“มีการยิงกัน ตำรวจมาเต็มโรงแรม ผมกำลังจะใส่ยานอนหลับลงไปให้อารดาเลยต้องหยุด ไอ้เขมก็เลยได้ทีจะขอเพิ่มอีก เมื่อกี้ไม่ได้ยินมันพูดเรื่องสินค้าหรือ”
“ค่ะ...ต๊าย โชคดีที่จิตไม่ใช่สินค้าชำรุดที่เขาเอ่ยถึง น่าสมเพชอารดา”
“ดายังไม่ได้ชำรุดเขมมันถึงเรียกแพง และขอเงินเพิ่ม มันอยากได้ตอนนี้”
“จิตรดารากดเงินได้ไม่เกินสองแสนต่อวันค่ะ”
“เท่านั้นก็พอแล้ว พงษ์จะได้เอาไปให้มัน” พงษ์ธรแอบยิ้ม
“อย่าให้รอนานเกินไปนะคะ เอาเป็นว่าช้าที่สุดให้จัดการมันที่พัทยาค่ะ”
“ไม่มีปัญหา งานเดินหน้าเมื่อเงินมาทันใจ”
พงษ์ธรหอมแก้ม จิตรดารายิ้มหยิบบัตรATMออกมา พงษ์ธรคว้ามาถือไว้เอง
“อ้าว”
“บอกรหัสมา ผมจะไปกดเอง”
“ไม่ได้นะคะ”
“ทำไมไม่ได้ เราเป็นอะไรกันแล้วกับไอ้แค่รหัสบัตรทำไมบอกกันไม่ได้”
“คุณแม่รู้โกรธตายเลยค่ะ”
“จิตโกหกเก่งจะตายไป ทำไมไม่โกหกเข้าไปเล่า”
จิตรดาราจะคว้าแย่งมา พงษ์ธรผลักเธอล้มลง
“จะให้จมูกที่หักมันแตกละเอียดใช่ไหมจิตรดารา”
จิตรดาราตกตะลึงไม่คิดว่าพงษ์ธรจะทำอย่างนี้
“พงษ์...ทำไมพูด ทำไมทำอย่างนี้กับจิต”
“จะไม่พูดก็ได้ไม่ทำก็ได้ บอกรหัสมา และจำไว้นะ นับแต่นี้ต่อไปอย่าได้ทำตัวเป็นคนมาออกคำสั่งกับผมอีก ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“พงษ์” จิตรดาราร้องไห้ “ทำไมทำกันอย่างนี้ จิตรักพงษ์นะคะ”
“แต่ตอนนี้ผมเบื่อ คุณมันน่ารำคาญวุ่นวายมาก เจ้ากี้เจ้าการ”
“พงษ์จะไปมีคนใหม่”
“ยัง...ถ้าไม่อยากให้มีคนใหม่อย่าอวดดี คำไหนคำนั้น ไม่อย่างนั้น ....หรืออยากจะลองไหม...เชอรี่น่ะนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้วคนหนึ่ง”
จิตรดาราตกตะลึงร้องไห้ลั่น พงษ์ธรบีบปาก
“รหัส..บอกมา”
จิตรดาราพยักหน้าเงียบเพราะเจ็บมาก

มิคาอิลแอบมองรอเจตริน มีอีริน่าแอบมองอยู่ด้วย เจตรินขับรถเข้ามา สีหน้ายิ้มย่องราวกับว่าดีใจที่จะได้เจออีริน่ากับอิฐ อีริน่าใจแป้ว
“คุณเจต”
“รีบออกไปรับมัน แล้วพามันเข้ามาในบ้าน อย่าแสดงพิรุธให้มันจับได้ เพราะมีมือปืนจับจ้องตลอดเวลา รวมทั้งมีปืนจ่อหัวพ่อเธออยู่ด้วยนะจ้ะที่รัก พูดตามที่สั่งเอาไว้นะจ๊ะ”
“ไอ้คนใจทราม แกอย่านึกว่าจะชนะตลอดไป มันก็ได้แค่ชั่วคราว สำหรับคนเลวไม่มีชัยชนะที่ยั่งยืน นอกจากคนที่อยู่ยืนบนความดีงามเท่านั้น”
“อย่ามัวแต่โกรธ…มันลงจากรถมามองหาแล้วว่าทำไมเธอกับไอ้สาระแนที่ชื่ออิฐนั่นไม่มาหามันสักที เรียกมันสิ นั่นมันกำลังจะเรียกหาเธอแล้ว”
“อีริน่า อิฐ....” เจตรินร้องเรียก
มิคาอิลถอยหลบไป
“คุณเจตขา”
เจตรินเห็นอีริน่าดีใจมาก
“อีริน่า”
เจตรินผวามาหา อีริน่าไม่ว่ายหน้าซีดเซียว ใจคอไม่ดีห่วงเจตริน
“เอ้อ...อีริน่าดีใจที่คุณเจตมาหาเราค่ะ”
“ทำไมนายอิฐมันถึงทำอะไรบ้าๆ พาอีริน่ามาหลบอะไรถึงที่นี่ ดูลับๆล่อๆ”
“เอ้อ คือคุณอิฐกลัวว่าจะมีคนตามอีริน่ามาค่ะ เพราะอีริน่าได้รับจดหมายลึกลับให้ไปหาปาปา อีริน่าพบคุณอิฐก็เลยเอาให้ดู เราเลยพากันมาที่นี่ค่ะ”
“นี่บ้านใคร”
“เอ้อ...บ้านเพื่อนของคุณอิฐค่ะ”
“อีริน่าพบปาปาไหม”
“ไม่พบค่ะ เราก็เลยตามให้คุณเจตมาหาเราที่นี่ เพื่อที่จะได้ช่วยกันตามหาปาปาค่ะ”
เจตรินขำๆ..พูดเป็นตุเป็นตะเลยนะอีริน่าของผม...
“นายอิฐอยู่ไหน...ผมอยากพบมันใจจะขาด”
อีริน่าปรายตาไปทางที่มิคาอิลแอบอยู่นิดหนึ่ง เจตรินแอบปรายตาตามอีริน่า
“ข้างในค่ะ”
สองคนเดินตามกันไปที่ห้องด้านใน มิคาอิลเดินตามพลางโทรศัพท์สั่งการลูกน้องเบาๆ
“เอานิโคลัยนำหน้าไปซ่อนไว้ที่พัทยาก่อน ออกประตูหลังนะ”

ห้องขังด้านหลัง นิโคลัยนั่งสะลึมสะลือ สมุนมิคาอิลสองคนมาฉุดเอาตัวไป
“จะพาฉันไปไหน ฉันรออีริน่าอยู่”
“อย่าพูดมาก นายให้เอาแกไปรอที่พัทยา”
“ฉันไม่ไป ฉันจะไปกับอีริน่า”
สองคนซ้อมนิโคลัยจนหมอบ แล้วลากไป

สมุนสองคนเห็นเจตรินพ้นเข้าไปแล้ว พากันเดินออกมาดูที่รถพูดกันไปด้วย
“นายสั่งว่าให้เอาระเบิดนี่ใส่ไว้ในรถของมัน”
“ก็นายจะเก็บมันในบ้านแล้วนี่น่า ทำไมต้องเอาระเบิดมาใส่ในรถด้วย”
“นายเรารอบคอบมาก กันเอาไว้เผื่อมันหนีรอดมาขึ้นรถได้ ยังไงก็ต้องเจอระเบิด”
“นายเราเก่งแฮะ”
สองคนกำลังจะเปิดรถ ปรากฏว่าอิฐโผล่มาทำท่าเหมือนคนบ้า
“เล่นไรกันน่ะ ขอเล่นด้วยคนนะ”
สองคนมองหน้ากัน และหันมามองอิฐ
“คนบ้า”
“เออฉันบ้า”
อิฐเตะสมุนสองคนของมิคาอิลทันที
“เฮ้ย”
“ฉันไม่ได้บ้า แต่พวกแกนั่นแหละกำลังจะบ้า โยนระเบิดสิ โยนมา”
สมุนคนหนึ่งที่ถือระเบิดกลัวระเบิดตก ไม่กล้าต่อสู้กับอิฐ เพื่อนสมุนรีบห้าม
“อย่าโยนนะโว๊ย ระวังระเบิดหล่น”
“หล่นก็ตายหมู่ด้วยกันสิ โยนมาเลย โยนมา” อิฐท้าทาย
“ขืนโยนตายหมู่อย่างมันว่าจริงๆ”
อิฐหัวเราะ ยื่นตาข่ายมีมือจับแบบจับผีเสื้อที่ติดหลังมาให้ดูเหมือนคนบ้าไปเกี่ยวเอาระเบิดจากมือสองคนนั่นมาโดยเร็ว ขณะที่สองคนยังเงอะงะมึนกันอยู่
“เฮ้ย”
“มันเอาระเบิดไปแล้ว”
อิฐชูระเบิดขึ้น แล้วทำท่าจะโยนไปมา
“ฉันจะโยนให้พวกแก ทีนี้บ้ากันหรือยังล่ะ”
“อย่าเล่นบ้าๆนะไอ้บ้า”
“แกสองคนรีบออกไปนอกบ้านเดี๋ยวนี้” อิฐหัวเราะ
“นายให้เฝ้าหน้าบ้าน”
“จะเฝ้าก็ได้ แต่ฉันจะมัดพวกแกแล้วแขวนระเบิดไว้รอรับนายแก…จะออกไปหรือไม่ออก”
สมุนสองคนมองหน้ากัน
“เอามือไขว้หลัง”
สองคนเอามือไขว้หลัง อิฐเอากุญแจมือใส่ข้อมือสองคนล็อคไว้

เจตรินมานั่งในห้องนั่งเล่น ทำแสร้งกวาดตามองหาอิฐ อีริน่ายังไม่มั่นใจว่าเขารู้ตัวหรือไม่ว่าโดนหลอก
“ทำไมอิฐมันยังไม่ออกมาอีกอีริน่า”
“เอ้อ...เอ้อ...” อีริน่าอึกอัก
มิคาอิลเดินออกมากับสมุนพร้อมด้วยปืน จ้องมาที่เจตรินและอีริน่า
“ออกมาแล้ว แต่ไม่ใช่ไอ้อิฐจอมสาระแนของแก ป่านนี้มันตายไปแล้วมั้ง โดนฟาดหัวซะขนาดนั้นมันจะรอดไปได้ยังไง แกมันก็โง่เหมือนกับเพื่อนแก โดนอีริน่าของฉันหลอกเข้าหน่อยว่าอยู่กับไอ้หมอนั่น แกก็แจ้นมาทันที ไม่คิดหน้าคิดหลังฮะๆ”
เจตรินทำเล่นละครต่อ จ้องอีริน่าไม่พอใจ
“อีริน่า คุณทำให้ผมผิดหวังมาก”
“อีริน่าขอโทษค่ะ อีริน่า เอ้อ...” อีริน่าน้ำตาคลอ
“อีริน่าต้องการให้ฉันเอาชีวิตแกเพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อ”
เจตรินทำโกรธอีริน่าจนตัวสั่น แล้วเข้าไปเขย่าตัวอีริน่าโดยแรง
“เลวมาก มารยาสายาไถ ไว้ใจไม่ได้ นังงูพิษ เห็นแก่ตัวอยากจะ...”
เจตรินทำท่าจะทุบตี มิคาอิลมากันอีริน่าไว้ เอาปืนจ้องมาที่เจตริน
“อย่ารังแกผู้หญิง ไหนว่ารักเมียมาก รักเมียแบบไหนทำไมแกจะกล้าทุบตี เฮ้ย…พวกเราค้นอาวุธมัน”
สมุนมิคาอิลมาค้นอาวุธ เจอปืนกับมีดรีบเก็บเอาไป อีริน่าหน้าเสีย
“คุณเจตขา อีริน่าไม่ได้ตั้งใจ เอ้อ...”
“เงียบ...ฉันไม่อยากฟังเธอพูด ผู้หญิงหลายใจ” เจตรินตวาด
มิคาอิลตัดบท
“เอาเป็นว่าแกเตรียมตัวตาย แกอยากตายแบบไหนเลือกมาเลย”
เจตรินสบตาอีริน่าเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง อีริน่าพยายามมองหาความหมายจากสายตาของเขา เธอครุ่นคิดในใจ
“คุณเจตอยากจะบอกอะไรเรา”
เจตรินรำพึงในใจ
“ฉันรู้แล้วว่าโดนหลอก”
มิคาอิลสั่งการ
“จับมันไปมัดไว้ในถังน้ำ แล้วเปิดน้ำทิ้งไว้ให้ท่วมหัวมัน แกจะได้ตายแบบเย็นๆ”
“อย่านะมิคาอิล อย่าทำกับเขาแบบนั้น” อีริน่ารีบห้าม
“อย่าลืมว่าพ่อเธออยู่ในกำมือของฉัน อยากให้พ่อตายหรืออยากให้ผัวตาย เลือกเอาคนเดียว”
“อย่าบีบคั้นอีริน่า เอาตัวฉันไปใส่ถังน้ำอะไรของแกได้แล้ว อีริน่าผมลาก่อน”
มิคาอิลยิ้ม
“ดีมากรู้จักเสียสละแบบนี้สิลูกผู้ชาย”
อีริน่ารำพึงในใจ
“ใครจะหน้าตัวเมียเหมือนแก” แล้วเธอก็พูดออกมา “มิคาอิลได้โปรด ฉันยอมทุกอย่าง อย่าทำร้ายเขากับปาปา ได้ตัวฉันแล้ว ยังจะต้องการอะไรอีก”
“แน่ใจนะ เฮ้ย...ฉันตั้งใจไว้ว่าสามีเธอต้องตาย มันก็ต้องตาย”
“อีริน่า เธอหลอกฉัน” เจตรินโวยวาย
มิคาอิลมองหน้าเจตริน
“ทำไมต้องบอกความจริงกับแก อย่าพูดมาก เอาตัวมันไปขังไว้ในถังน้ำ”
อีริน่ากระโดดถีบสมุนที่กำลังจะมากระชากตัวเจตริน ส่วนเจตรินก็กระโดดถีบสมุนอีกคนจนปืนกระเด็นไปใกล้อีริน่าเตะปืนไปให้เจตริน
“รับค่ะ”
เจตรินได้ปืนมากระบอกหนึ่งใช้ยิงต่อสู้
“อีริน่าไปช่วยปาปา ทางนี้ผมจัดการเอง”
“แกตาย”
มิคาอิลยิงใส่เจตรินทันที อีริน่ากระโดดผลักเจตรินล้มให้พ้นทางปืน

“ระวัง”

เจตรินกระชากปืนปากกาออกมาแล้วยิงใส่ไปบ้าง แล้วมากระชากอีริน่าไปหาที่หลบ มิคาอิลโกรธมาก
“บ้าเอ๊ยเราประเมินมันต่ำเกินไป พวกเราระดมยิงใส่มันอย่าให้มันรอดไปได้”
ทั้งหมดพากันระดมยิงใส่เจตริน
“อีริน่า ปาปาของเธอถูกขังอยู่ที่ไหน รีบไปช่วยเขาสิ”
สองคนถอยไปด้วยสู้ไปด้วย เจตรินส่งปืนให้อีริน่า
“เอาปืนนี้ไว้ แล้วไปช่วยปาปา”
“แล้วคุณเจต”
“ผมมีปืนปากกา มีกล้องด้วย...เฮ้ย...”
กล้องกระดุมหล่นหายไปแล้ว
“ช่างมันก่อนเถอะที่รักขอบคุณมากที่ห่วงอีริน่า”
“ขอบคุณมากเช่นกันที่รักที่ห่วงผม”
เจตรินยื่นหน้ามาหอมแก้มอีริน่าอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะ”
“โชคดี...ไปได้แล้ว ผมจะค่อยๆตามไป เดี๋ยวอิฐก็คงมาช่วยเรา”
“คุณอิฐ...นี่...นี่...”
“เรามาด้วยกัน ผมเสี่ยงย้อนสอนแกล้งตบตามันแล้วก็ได้ผล”
อีริน่าถอยออกยิงสู้ไปด้วย เจตรินถอยตาม

อิฐกำลังคุมตัวสมุนสองคนที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาได้ยินเสียงปืนดังมาจากด้านใน
“ไอ้เจต อีริน่า”
อิฐค้นเอาปืนมาจากสองคน
“พวกแกนอนดิ้นอยู่ตรงนี้แหละ”
อิฐรีบวิ่งไปในบ้าน

อีริน่าพาเจตวิ่งไปสู้ไปจนถึงที่ใกล้ห้องขังนิโคลัย
“นั่นมันห้องขังปาปา มันใส่กุญแจไว้”
“ยิงประตูสิอีริน่า”
อีริน่ายิงประตู เจตรินถีบเข้าไป สองคนพุ่งเข้าไปในห้อง อีริน่าเรียกทันที
“ปาปา อีริน่ามาช่วยแล้ว”
เจตรินมองไม่เห็นใคร
“เอ๊ะ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เราโดนหลอก”
เสียงมิคาอิลหัวเราะเล็งปืนมาที่เจตริน มีสมุนสองคนตามปะกบมาด้วย
“ใช่...อีริน่าถูกฉันหลอกด้วย ฉันไม่โง่เอาพ่อเธอมาแลกกับไอ้เจตคนนี้หรอก ฉันต้องได้ทั้งหมด ชีวิตผัวเธอ และตัวเธอ วางปืนลงอีริน่าแล้วมาหาฉัน ถ้าไม่ต้องการให้ผัวเธอตาย หรือไม่ก็ยิงมันให้ตายเป็นของขวัญให้สามีในอนาคตของเธอ ถ้าเธอไม่ยิงมันฉันยิงเอง”
อีริน่าส่ายหน้า
“ไม่”
“ดี...แปลว่าอยากให้มันตายด้วยน้ำมือชู้...ฉันยิงเอง”
มิคาอิลยิงเจตริน แต่กระสุนหมด
“เฮ้ย”
ทันใดนั้นมีปืนมาทิ่มที่ต้นคอของมิคาอิล
“แต่ปืนกระบอกนี้มีกระสุนเต็ม ฉันจะยิงแกเองไอ้คนบ้าอำนาจ”
เจตรินชะงัก
“ไอ้อิฐ”
“คุณอิฐ” อีริน่าดีใจ
มิคาอิลหันมาดูอิฐแล้วหงุดหงิดหันไปมองเจตริน
“พวกแก...”
“ย้อนรอยแกยังไงล่ะ ยอมให้เราจับแกไปส่งตำรวจซะมิคาอิล”
“ได้สิ...ถ้าอีริน่ายอมให้พ่อของเธอตาย ฉันส่งพ่อเธอไปพัทยาแล้ว และตอนนี้อยู่ระหว่างการเดินทาง ถ้าเธออยากได้พ่อคืน ตามไปเอาคืนที่พัทยา”
“ฉันจะตามไปเอาปาปาคืนมาจากแกแน่”
“บอกให้ไอ้สาระแน ปล่อยฉัน”
“ปล่อยมัน”
“บ้าเอ๊ย นี่เราทำอะไรมันไม่ได้เลยใช่ไหม บ้าจริง”
เจตรินสั่งอีก
“บอกให้ปล่อยมันไปอิฐ”
อีริน่าโกรธมาก
“ไอ้คนเลว แกต้องรับผลร้ายจากการกระทำของแกในไม่ช้านี้แน่”
มิคาอิลหัวเราะ
“โชคดีนะอีริน่า แล้วพบกันที่พัทยา นายเจตนายมันนักการทูตตัวจริง รู้ว่าจะทำวิธีไหนที่นิ่มนวล ไม่ใช้วิธีที่บุ่มบ่าม ถ้าแกไม่ตายซะก่อนที่พัทยา ฉันว่าแกได้เป็นเอกอัครราชทูตเร็วๆนี้แน่ พวกแกออกไปจากที่นี่ ได้แล้ว”
อีริน่าฮึดฮัด แต่เจตรินพยักหน้า อิฐเล็งปืนไปที่มิคาอิล พลางถอยออก

อารดากำลังพูดโทรศัพท์กับเขมชาติ
“เขม จนป่านนี้นังอีริน่ามันยังไม่กลับ พี่เจตก็ไปกับนังเมของนายยังไม่กลับมาเหมือนกัน เราสองคนโดนนังเมมันตุ๋นจนเปื่อย บอกได้ไหมว่า ทำไมนังเมมันเปลี่ยนไป”
จิตรดาราเดินระทดระทวยน้ำตานองหน้าเข้ามาเจออารดา จิตรดาราโดดมาตบหน้าอารดาโดยแรงทันที
“อารดา แกแกล้งฉัน แกจงใจทำร้ายฉัน แกใช้ให้ไอ้สารเลวพงษ์มันมาปอกลอกฉัน”
“ว๊าย...นังเด็กบ้า...เลิกพูดกันก่อนนะเขม ฉันต้องไปจัดการเด็กนรกก่อน”
อารดาดัตสายแล้วปราดไปจะตบจิตรดารา
“มาสิมาจัดการสินังหน้าเนื้อใจเสือ หน้าก็เลวใจก็ทราม”
“ฉันจะตบแกให้ดั้งจมูกกระเด็น แกสาระแนไปนอนกับเขาเองแล้วมาโวยวายอะไรกับฉัน”
อารดาเงื้อมือจะตบจิตรดารา คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ปราดมาขวางไว้
“มันจะมากไปแล้วนะอารดา จะมาตบหน้าลูกสาวฉัน ใหญ่มาจากไหน”
“ต๊ายคุณแม่ ลูกสาวคุณแม่นั่นแหละมันใหญ่มาจากไหน ไปนอนกับผู้ชายแล้วมีปัญหาก็มาโทษดา โทษคนอื่นเท่าภูเขา โทษของเราเองเท่าเส้นผม ดาสั่งให้ไปนอนกับเขาที่ไหน คุณแม่ก็ทำหลับหูหลับตาเข้าข้างลูกตัวเอง”
“ใช่สิยะ เลือดต้องข้นกว่าน้ำย่ะ”
“ทำกับดาเกินไปแล้วนะคะ เอาสิดาสู้ตาย คุณแม่เตรียมตัวเข้าคุกตอนแก่ คดีคอรัปชั่นได้เลยค่ะ”
“ต๊ายมาขู่กันหรือนี่ ผิดหวังที่ตาเจตไปกับเพื่อนรักของตัวเองละสิเลยมาพาลว่าคนอื่น”
จีรณัทย์มาพอดี
“พอได้แล้ว โน่นเจตมาแล้วค่ะ มากับอีริน่าค่ะ”
ทุกคนมองไปลืมโกรธกัน
“ต๊าย”

สองคนเดินโอบกอดกันเข้ามาในบ้าน
“ที่รักไม่ต้องห่วงเรื่องปาปา เราจะพาท่านกลับมาให้ได้” เจตรินบอกอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณมากค่ะที่หาทางไปช่วยอีริน่าจนได้”
“พูดให้จบประโยคสิ”
“อีริน่าพูดจบแล้วค่ะ”
“ยังขาดคำว่าที่รักต่อท้ายจ้ะ”
อีริน่าอึกอัก
“แหม เอ้อ...อีริน่าเหนื่อยแล้ว”
เจตรินดึงอีริน่าให้หันมา แล้วดึงมากอดแล้วเริ่มจูบ

จีรณัทย์ยิ้มแย้ม กับภาพที่เห็น...
“เจตเขามากับอีริน่าจริงๆ อารดาเธอเข้าใจผิด”
“ไม่ได้เข้าใจผิด ดาต้องไปถามพี่เจตให้รู้เรื่อง”
“ตอนนี้ เขายังไม่ว่างให้เธอไปถามหรอก”
“มันไม่อายฟ้าอายดิน ในที่โล่งแจ้งมันก็กล้ากอดจูบผู้ชาย”
จิตรดาราแทรกขึ้น
“ผู้ชายที่กอดจูบเป็นสามีมัน เขาอยากกอดจูบกันก็ไม่ผิด แต่มีบางคนพยายามไปกอดจูบสามีเขานั่นสิหน้าไร้ยางอาย”
อารดาสวน
“แล้วไอ้ที่เอาเงินเอาทองไปปรนเปรอผู้ชายให้มันกอดจูบ เรียกว่าอะไรไม่ทราบ ตายจริงวันก่อนยังเห็นใส่แหวนเพชรเม็ดใหญ่เบ้อเร่อ วันนี้หายไปไหนไม่ทราบน้องจิตรดาราปัญญานิ่ม”
“แล้วนี่จะเถียงกัน จะรอให้มันกอดจูบกันจนมันตั้งท้องอยู่หน้าบ้านหรือยังไง”

คุณหญิงเดินฉับๆออกไปทันที อารดากับจิตรดาราเดินตาม จีรณัทย์มองตามอ่อนใจมาก

เจตรินกับอีริน่าผละจากกัน
“จะเรียกที่รักได้หรือยัง”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เดินนำทุกคนมาถึง
“จะที่รักที่แค้นอะไรกันก็ให้มันในที่ลับตาหน่อยได้ไหม ไม่ใช่มาประเจิดประเจ้อต่อหน้าต่อตาผู้คนเขาแบบนี้”
เจตรินชะงัก
“คุณแม่”
“พี่เจตพานังเมเพื่อนสารเลวของดาไปเก็บไว้ที่ไหนคะ” อารดาถามอย่างไม่พอใจ
จิตรดาราจ้องหน้าอีริน่า
“อีริน่าแกกล้าดียังไงมานัดคุณพงษ์ของฉันไปกินข้าวกับแก แกทำให้เขากับฉันผิดใจกันจนต้อง...”
อารดากระซิบ
“ซ้อมน้องจิตหรือคะ”
จิตรดาราย้อน
“ไปจัดการเพื่อนตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ สงสัยว่าพี่เจตเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนกันน้า ถึงเที่ยวตามหากันจ้าละหวั่น”
จีรณัทย์เห็นสภาพทั้งสองคนก็สงสัย
“เจตกับอีริน่าเหมือนไปสู้รบตบมือกับโจรที่ไหนมา ดูสิรุ่งริ่งไปหมด”
“นิดหน่อยครับ ผมขอตัวนะครับ”
เจตรินจูงอีริน่าจะเดินออก คุณหญิงเดินมาดึงเจตรินจากอีริน่าโอบกอดแล้วหอม
“แม่ไม่ได้กอดหอมลูกเจตมานานแล้ว แม่อยากกอดลูก หอมลูกมามะอีริน่าเอาแก้มมาให้แม่หอมด้วย แม่รักทั้งสองคนจ้ะ”
ทุกคนงงไปหมดกับคุณหญิงที่เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เจตรินโอบอีริน่าเดินเข้าบ้าน มีสายตาเกลียดชังของสามคนมองตามไป มีแต่จีรณัทย์ที่ยิ้มมองตาม

ในห้องนอน...เจตรินกับอีริน่าอยู่บนเตียงด้วยกัน
“ต่อไปนี้เราจะไม่แยกกันนอนอีกนะที่รัก”
“ค่ะ”
“เราน่าจะมีลูกด้วยนะอีริน่า”
“อีริน่าอายุสิบแปดเท่านั้นนะคะ”
“อายุไม่สำคัญเท่ากับความรับผิดชอบ อีริน่าอายุสิบแปดแต่ความรับผิดชอบของอีริน่ามีมากกว่าคนอายุห้าสิบบางคนด้วยซ้ำ อีริน่าไปพัทยาต้องดูแลตัวเองให้ดีมากๆนะ”
“ค่ะ อีริน่าจะดูแลตัวเองให้มากที่สุด”
“อย่าไว้ใจใครๆทั้งนั้น แม้แต่คนที่คิดว่าน่าไว้ใจ”
“ทำไมคะ”
“เชื่อผมเถอะ เมเขาบอกผม ผมก็เห็นด้วย มีเรื่องนึงที่ผมจะบอกอีริน่าให้เก็บเป็นความลับ”
“ค่ะ เรื่องอะไร”
“ผมแค่บอกให้ทุกคนเข้าใจว่าผมไม่ได้ไปด้วย แต่ความจริงผมไปพัทยา แต่ไปอย่างเงียบๆ เราจะส่งข่าวถึงกันนะอีริน่า”
“คุณเจต”
“คุณเจตคนนี้รักอีริน่า ห่วงอีริน่ามาตั้งแต่วันแรกที่โดนล้วงกระเป๋าแล้ว”
“คุณเจตหาว่าอีริน่าขี้ขโมย”
เจตรินบีบจมูกแบบมันเขี้ยว
“ผมอยากจะบอกว่ารักเด็กนักล้วงกระเป๋าไปได้ไงก็ไม่รู้”
เจตรินดึงอีริน่ามาโอบกอด
“เราจะไม่ทะเลาะไม่ผิดใจกันอีก เราจะไม่ให้ใครมาทำให้เราผิดใจกันนะ ที่รัก”
“ค่ะ”

วันใหม่...จีรณัทย์กับเจตรินคุยกัน
“พี่รับรองว่าจะดูแลอีริน่าให้ดีที่สุด เจตไม่ต้องห่วง”
“ขอบคุณมากครับ พี่จีช่วยชวนพี่กมลไปพัทยาด้วย ไปเงียบๆอย่าให้ใครทราบ ผมจะจัดที่อยู่ของพี่กมลให้อยู่ที่เดียวกับอิฐ ถ้าพี่กมลรับปาก ผมจะให้อิฐประสานกับพี่กมล”
“จ้ะ”
“อีกเรื่องนึง ผมอยากฝากให้พี่กมลขอให้คุณลุงกันต์ช่วยตรวจสอบหาข้อมูลของมิคาอิลให้ด้วย”
“ตกลงจ้ะ”
จีรณัทย์รับปาก

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 12 (ต่อ)

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์บอกให้จิตรดาราใจเย็นๆ ขณะที่มีกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆวางใกล้ๆ

“เกลียดมันเข้ากระดูกดำกระดูกแดง ทั้งนังอีริน่าและนังอารดา โดยเฉพาะนังอารดา มันทำให้จิตเสียหายเกินกว่าจะอภัยให้มันได้ จิตจะฆ่ามัน”
“มันทำอะไรให้ลูกเสียหายยังไง ไหนบอกแม่ซิ” คุณหญิงแปลกใจ
“มัน...” จิตรดาราน้ำตาไหล “จิตจัดการมันเองได้ค่ะคุณแม่ มันนึกว่าจิตยังเด็ก กระดูกอ่อน”
“ลูกจิต หนูอย่าทำให้เสียงานใหญ่ นี่คือการรบครั้งสุดท้ายของครอบครัว เรากับศัตรูสองฝ่าย นังอีริน่ากับนังอารดา”
“ค่ะ จิตจะพยายามใจเย็นไม่วู่วามกับนังอารดา นังคนนี้ร้ายกาจมากนัก นังอีริน่าซะอีกที่ยังไม่เคยมาระรานเรา แต่นังอารดมันจ้องจะจิกตีทั้งจิตทั้งคุณแม่ มันจะทำลายครอบครัวเราถ้าพี่เจตไม่เอามัน”
“แม่เองก็ทนนังอารดาจนเต็มกลืน ส่วนนังอีริน่าถ้ามันไม่มาเป็นลูกสะใภ้แม่ แม่ก็คงไม่เกลียดชังมัน”
“ค่ะ จิตก็อาจเป็นเพื่อนกับมันได้ ถ้ามันไม่มาเป็นพี่สะใภ้จิต โน่นค่ะ...นังงูพิษมาแล้วค่ะ”
“ยิ้มไว้ลูก”
อารดาเดินนวยนาดลากกระเป๋าใบย่อมมาทางสองคน
“ดาพร้อมแล้วค่ะคุณแม่ น้องจิต”
“หนูดากับลูกจิต ช่วยจับมือกันให้แม่สบายใจด้วยได้ไหมจ้ะ”
อารดากับจิตรดารายื่นมือมาจับกันแบบไม่เต็มใจแต่ก็ทำ
“ได้เสมอค่ะ โอเคน้องจิต เราจะร่วมมือกันพิชิตมารชีวิต”
“ค่ะ เราจะไม่ทะเลาะกัน ไม่กัดกัน ไม่จิกไม่ตีกัน”
“ขอบใจมาก เริ่มออกเดินทางกันเถอะ” คุณหญิงยิ้มพอใจ

รถของกลุ่มคุณหญิงศรินทร์ทิพย์วิ่งไปตามถนนไปพัทยา คุณหญิงมองอีริน่าแบบสมใจหมาย
“ดีใจมากไหมอีริน่าจะได้เห็นพัทยา”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่พาอีริน่ามาเที่ยวพัทยาค่ะ”
“ฉันจะพาเธอไปเที่ยวให้ทั่วทุกซอกมุม” อารดาบอก
“ไม่เว้นแม้แต่แหล่งบันเทิงเริงรมย์ เคยไปเที่ยวบ้างไหม...ผับน่ะ” จิตรดาราเสริม
“ไม่เคยค่ะ” อีริน่าส่ายหน้า
“น้องจิตเขาเชี่ยวชาญจ้ะเรื่องนี้” อารดากัด
“พี่ดาเขาเป็นคนชี้แนะให้ฉัน พี่ดาเขาเข้าขั้นปรมาจารย์แล้ว” จิตรดาราสวน
จีรณัทย์ตัดบท
“อารดา น้องจิต ใกล้ถึงที่พักริมทาง ใครจะหยุดกินอาหารหรือจะไปให้ถึงพัทยา แล้วค่อยกิน”
“เอาละ เอาละสรุปว่าไปกินกันที่พัทยา มาพัทยาครั้งนี้สนุกกันทั่วหน้าแน่ แม่อยากให้หนูดาและลูกจิตพาอีริน่าไปเที่ยวให้เต็มที่ โอเคไหมทุกคน” คุณหญิงบอกสีหน้ายิ้มแย้ม
“ค่ะ” ทุกคนรับคำ
แหวว หมอน ศรี หวิน ก็รับคำพร้อมกัน
“ค่ะ”
คุณหญิงหันไปทำตาเขียว
“พวกแกไม่เกี่ยว”

เอื้อขับรถ ขณะที่เขมชาตินั่งคู่มากับเอื้อ พงษ์ธรนั่งกับเชอรี่ที่มีสีหน้าร่าเริงยิ้มแย้ม
“ขอบใจมากค่ะพงษ์ ที่พาเชอรี่มาเปิดหูเปิดตาที่พัทยา”
“เพื่อไถ่โทษที่ผมหุนหันพลันแล่นกับเชอรี่ เขมเขาจะช่วยดูแลเชอรี่อีกคนนะครับ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณเขม” เชอรี่หันไปยิ้มกับเขมชาติ
“ด้วยความยินดีครับเชอรี่”
เขมชาติหันมายิ้มกับเชอรี่ แต่ปรายตามาที่พงษ์ธรสบตากัน เอื้อถอนใจอย่างหนักใจ

อิฐนั่งมากับกมลกันต์ที่ขับรถจะเข้าที่พัก
“เจตมันไม่ให้เราไปพักริมทะเลหรือในที่ประเจิดประเจ้อครับพี่กมล”
“ไม่มีปัญหา แต่ว่าอิฐทราบใช่ไหมว่าพวกอีริน่าเขาพักกันที่ไหน”
“ก็บ้านริมทะเลของเจตมันน่ะครับ เราจะใช้มอเตอร์ไซค์เกาะติดสถานการณ์ เริ่มต้นจากไปเฝ้าแถวหน้าบ้านของเจต”
“โอเค นี่คุณพ่อก็กำลังสืบหาประวัติของพ่ออีริน่า และนายมิคาอิลคนนั้น”
สองคนขับรถต่อไป

บ้านที่มิคาอิลมาหลบซ่อนอยู่ในที่ลึกลับ มิคาอิลกำลังซ้อมนิโคลัย
“นังสารเลวเมียแกมันร้ายกาจมาก มันทำมารยาดัดจริตให้พวกลูกน้องฉันตายใจ แล้วใส่ยานอนหลับให้กิน แถมแอบซ้อมไอ้พวกนั้นตอนหลับจนน่วมไปหมด”
“ดีสมน้ำหน้า เมียฉันยังเก่งกว่าขี้ข้าของแกอีก” นิโคลัยสวน
“แกรู้เห็นเป็นใจใช่ไหม” มิคาอิลซ้อมต่อ
“ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าเมียฉันฉลาดกว่าพวกขี้ข้าของแกที่มีกันเป็นฝูง พวกมันโง่กว่าผู้หญิงตัวเล็กๆซะอีก”
มิคาอิลทุบตีนิโคลัยอีก
“นังอีริน่ามันรู้ ฉันไม่น่าปล่อยให้มันพูดโทรศัพท์กับเมียแกตามลำพังเลย จำไว้แกอย่าคิดหนี อย่าคิดว่าจะได้อยู่ตามลำพังกับลูกสาวแกอีก ฉันจะแกล้งให้แกอยากยาจนทรมานถึงที่สุด”
“ฉันจะอดยาให้ได้”
“ไอ้หน้าขี้ยาอย่างแก ยังมีหน้ามาพูดเพ้อเจ้ออีก อดให้ได้ข้ามชั่วโมงนี้ไปก่อนเถอะ”
นิโคลัยนิ่งไปเริ่มอยากยา
“ฉันต้องทำให้ได้ ทำไม่ได้ฉันขอตายดีกว่า”
“แกจะตายก่อนฉันได้ลูกสาวแกเป็นเมียไม่ได้ ป่านนี้พวกมันคงพากันมาตามหาแกถึงพัทยากันแล้ว”
“ตั้งแต่มาถึงเมื่อวานฉันยังไม่ได้เหยียบน้ำทะเลพัทยาเลย ฉันขอสักครั้งได้ไหม”
มิคาอิลมองหน้านิโคลัย’’งงๆ ที่ขออย่างนั้น

เจตรินนั่งทำงาน และส่งไลน์ไปหาอีริน่า
“ถึงพัทยาแล้วใช่ไหมที่รัก มิส ยู นะจ้ะ”
เลขาเดินเข้ามาหาเจตรินพร้อมแฟ้มในมือ
“คุณเจตคะ”
เจตรินเงยหน้ามอง
“ได้เรื่องแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ...นายมิคาอิล นายนิโคลัย มาเมืองไทยในฐานะนักท่องเที่ยวและในเที่ยวบินเดียวกันนี้ มีผู้หญิงเดินทางร่วมมาด้วยอีกสิบคนทั้งหมดมาในลักษณะต่างคนต่างมาค่ะ”
เจตรินพยักหน้ารับรู้
“แต่น่าจะมารวมตัวกันทันทีที่พ้นสุวรรณภูมิแอร์พอร์ทแล้ว...ขอบใจมาก”
“พวกผู้หญิงไปพัทยาทันทีแต่พักที่ไหนไม่ทราบค่ะ”
“ส่วนพวกนั้นคงรอจัดการอะไรบางอย่างแล้วตามไปทีหลัง พวกมันคงไม่โง่ที่จะไปพักในโรงแรมให้จับสังเกตได้ มันอาจใช้ชื่อคนอื่นจองที่พัก...น่าจะจองล่วงหน้ามาจากมอสโควแล้ว”
เจตรินลุกขึ้น และกำชับกับเลขา
“จำไว้ว่าถ้าใครโทรมาหาผม บอกว่าผมไปต่างประเทศกับท่านทูตนะ”
“ค่ะ”
เจตรินเดินออกไปคิดๆ
“ผู้หญิงสิบคนนั่นมาเพื่อไปเที่ยว แล้วไปพักที่ไหน”

ริมหาดพัทยา...ผู้คนมาดื่มกิน หญิงต่างชาตินั่งดื่มกินในร้านอาหารหัวร่อต่อกระซิกกันอยู่ มิคาอิลนั่งหลบมุมมองพวกสาวๆ มีนิโคลัยกับสมุนนั่งอยู่ด้วย
“คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า โครงการแลกเปลี่ยนบุคลากร ที่สุดจะรุ่งเรืองเฟื่องฟูของฉัน”
“ฉันหายใจไม่ค่อยออก ฉันอยากไปเดินที่ชายหาด” นิโคลัยบอก
“โอเค...สาวๆใครอยากไปเดินเล่นชายหาด” มิคาอิลร้องถาม
“อยากสิๆ” สาวๆพากันชูมือ
“โอเค...ไปกันได้แล้ว อย่าแตกแถว อย่าทำอะไรให้ใครสงสัยพฤติกรรม ว่ามาทำอะไรที่มากกว่ามาท่องเที่ยว ฉันนั่งมองอยู่ตรงนี้ เห็นหมด เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจ” ทุกคนรับคำ
ทุกคนพากันเดินไป นิโคลัยเดินออกมารำพึงในใจ
“ขอให้เจออีริน่าที่ชายหาดด้วยเถอะ”

อีริน่าแอบอยู่หลังต้นมะพร้าวริมหาดมองซ้ายมองขวา หยิบมือถือมาดู เห็นข้อความ miss you
อีริน่ายิ้มยกมือถือขึ้นมาจูบ
“มิสยู ทู”
เสียงจีรณัทย์เรียกดังมา
“อีริน่า”
อีริน่ารีบเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง
“ค่ะพี่จี”
“ไหนว่าอยากลงมาดูหาดทราย ทำไมไปแอบหลบหลังต้นมะพร้าว”
“เอ้อ...อีริน่าติดกระดุมผิดค่ะ...ไปแล้วค่ะ”
อีริน่าเดินมาหาจีรณัทย์ที่ยืนยิ้มรออยู่ อีริน่ามองไปที่ริมหาดที่น้ำทะเลกำลังสาดฝั่งเห็นเรือจอดอยู่
“อีริน่าอยากนั่งเรือ เราไปนั่งเรือเล่นกันนะคะ”
“ได้สิไปบอกคนเรือกัน”

อีริน่าวิ่ง จีรณัทย์วิ่งตามไปหัวเราะร่าเริง

สาวๆของมิคาอิล เดินดูโน่นดูนี่ วิ่งเล่นกันบ้าง โยนลูกบอลบ้าง วิ่งไล่กันบ้าง นิโคลัยกับสมุนมิคาอิลนั่งเอนในเก้าอี้ผ้าใบมองไปเรื่อยๆ
“ฉันจะไปซื้ออาหารซีฟู้ดตรงโน้นมากินกัน แกรอที่นี่อย่าให้มีปัญหานะเข้าใจไหม”
“โอเค”
อีริน่าวิ่งผ่านเก้าอี้ผ้าใบที่นิโคลัยนั่งอยู่ไป ผ่านหน้านิโคลัยที่ไม่ทันมองเห็นอีริน่าเช่นกัน อีริน่าเห็นสาวๆเล่นกันอยู่รู้ว่าเป็นคนชาติเดียวกันกับพ่อ อีริน่าเดินเข้าไปหายิ้มให้
“Hi”
“Hi” สาวๆยิ้มทักทายตอบ
“มาเที่ยวกันหรือคะ”
“ใช่”
อีริน่ายืนคุยกับสาวๆ มีจีรณัทย์อยู่ใกล้ๆ จีรณัทย์มองไปเห็นเรือกำลังทยอยออกไป
“อีริน่าเรือออกไปหลายลำแล้วนะ รีบไปเถอะ”
“บ๊ายบาย”
อีริน่าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนจีรณัทย์ตามไม่ทัน ตะโกนเรียก
“อีริน่า รอพี่ด้วย”
นิโคลัยได้ยินเสียงคนเรียกอีริน่า ก็ลุกพรวดขึ้นมาทันที
“อีริน่า ใครมาเรียกอีริน่า”
นิโคลัยกวาดตามองหา

อีริน่า มาถึงเรือกำลังเจรจากับคนเรือ มีจีรณัทย์ตามมาอีกคน อีริน่าหันหน้ามาทางสายตาของนิโคลัยเต็มๆ...นิโคลัยเห็นอีริน่าเต็มๆดีใจมาก
“อีริน่า อีริน่าของปาปามาแล้ว”
นิโคลัยวิ่งไปทันทีด้วยความลืมตัวเรียกอีริน่าไปด้วย

อีริน่ากับจีรณัทย์กระโดดขึ้นเรืออย่างดีใจและสนุก นิโคลัยมาถึงตะโกนเรียก
“อีริน่า ปาปาอยู่นี่”
เรือไปแล้ว อีริน่าไม่ได้ยิน นิโคลัยยังยืนเสียดายอยู่ตรงนั้น แทบจะลุยลงไปในทะเลตามเรือที่อีริน่านั่งไป

สมุนดินถือจานซีฟู้ดมาถึง นิโคลัยหายไปแล้ว
“ไอ้นิโคลัยลัยหนี แย่แล้ว...นาย นายครับไอ้นิโคลัย”
มิคาอิลวิ่งมาถึง มองไป
“มันจะขึ้นเรือหนี”

นิโคลัยยืนอาลัยอาวรณ์ที่ไม่ได้เจออีริน่า หันมาเจอเรือที่กำลังเข้ามาเทียบ
“เรือไหมครับ”
“ได้...ตามเรือลำนั้นที่เพิ่งออกไปนะ”
“โอเคครับ ขึ้นมาเลยครับ”
นิโคลัยกำลังจะก้าวขึ้น สมุนกับมิคาอิลปราดมาชกเตะต่อยทันที
“แกคิดจะหนีไปไหน”
“เฮ้ย...อะไรกันวะนี่”คนเรือตกใจ
มิคาอิลหันมาชกคนเรือโดยแรง
“ไปให้พ้นถ้าไม่อยากตาย” สมุนตวาด
“ฉันบอกแล้วว่าอย่าไปไหน ดันจะขึ้นเรือหนี”
“ฉันเห็น...”
“เห็นอะไร” มิคาอิลจ้องหน้า
“เห็นใครๆเขาขึ้นเรือก็อยากขึ้นบ้าง”
“โกหก กลับไปเดี๋ยวนี้ ต่อไปนี้แกจะไม่ได้ออกมาเดินเล่นแบบนี้อีก เด็ดขาด”
สองคนกระชากนิโคลัยออกไปจากที่นั่น

เชอรี่ออกมาเดินเล่นมองหาด บริเวณที่พัก
“ถึงจะมีผัวแล้วก็ยังโอเค ฉันมอบเชอรี่ให้แกแล้ว จ่ายมาตามสัญญา” พงษ์ธรแบบมือ
“ไอ้งก...แต่ก็ตกลง เดี๋ยวฉันจะสำรวจสินค้าก่อน แล้วคืนนี้จะส่งไปให้มิคาอิล”
เขมชาติยื่นซองเงินให้พงษ์ธร
“ตามสบาย ฉันบ๊ายบายก่อนล่ะ”
พงษ์ธรเดินผ่านเชอรี่ไปโดยไม่แยแส เชอรี่มาเกาะแขนพงษ์ธร
“พงษ์จะไหนคะ”
“ไปข้างนอก”
“ไปด้วยค่ะ”
“ไปไม่ได้ เชอรี่ต้องอยู่กับเขม” พงษ์ธรส่ายหน้า
“ทำไมเชอรี่ต้องอยู่กับเขา เชอรี่จะไปกับพงษ์”
“ปล่อย” พงษ์ธรสะบัด
เชอรี่ส่ายหน้าไม่ยอมปล่อย แถมกระชากพงษ์ธรไว้
“ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง”
เขมชาติเดินมาหาเชอรี่แล้วฉุดไว้ เชอรี่สะบัด
“เพราะผมซื้อเชอรี่จากพงษ์แล้ว”
เชอรี่ยืนตะลึงโกรธพงษ์ธรมาก ถลาเข้าใส่พงษ์ธรทั้งหยิกทั้งข่วน ตบหน้าพงษ์ธรทุบตี
“ไม่นะ จะมาทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้ ฉันไม่ใช่สินค้าของพวกแก”
“ใช่แน่นอน” เขมชาติมองหยัน
พงษ์ธรตบหน้าเชอรี่อย่างแรง เขมชาติกระชากเชอรี่ไว้ พงษ์ธรเดินแยกไป เชอรี่ดิ้นรนร้องไห้ เขมชาติเหวี่ยงเชอรี่ลงไปกองที่พื้น
“ไอ้พวกเศษมนุษย์”
“หยุดนะ อย่ามาอวดดีกับฉัน หรือว่าอยากโดนซ้อม”
เชอรี่กรีดร้อง ร้องไห้สะอึกสะอื้น

อิฐกับกมลกันต์ ปรึกษากันว่าจะทำอย่างรต่อไป
“เราจะไปบ้านนั้นยังไงไม่ให้พวกเขาจำได้” กมลกันต์กันถาม
“รับรองครับว่าพวกเขาจะจำเราไม่ได้แน่”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”
เสียงมอเตอร์ไซค์แล่นเข้ามา อิฐกับกมลกันต์หันมองไป เห็นมอเตอร์ไซค์สามคันเข้ามาในบ้าน และจอดตรงหน้าทั้งสองคน
“นี่ไงครับที่ผมบอกกับพี่กมลว่าพวกเขาจะจำเราไม่ได้แน่นอน”
“หมายความว่า...” กมลกันต์งงๆ
เจตรินเปิดหมวกกันน๊อคออกมา
“ครับ เราสามคนจะเป็นพวกแว๊น”
“เฮ้ย” กมลกันต์อึ้ง
“ชัดเจนไหมครับ เราจะเป็นไอ้แก่แว๊น ไปแว๊นๆกันแถวหน้าบ้านไอ้เจตมัน”อิฐยิ้ม
เจตรินส่งเงินให้มอเตอร์ไซค์อีกสองคัน
“ทิ้งรถไว้ที่นี่แหละน้อง นี่ค่าเช่า”
คนขับสองคนลงจากรถรับเงินจากเจตรินแล้วเดินออกไป

ในบ้านพัก...คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ถามหาอีริน่ากับอารดา
“นังอีริน่ามันไปไหน”
“เห็นหนีบกันไปกับพี่จีสองคน หายไปทางชายหาดโน่นแล้วค่ะ”
จิตรดาราเบ้หน้า
“ติดกันยังกับปาท่องโก๋ พี่จีนะพี่จีทำยังกับเป็นเงาของนังอีริน่า”
คุณหญิงครุ่นคิด
“เราต้องแยกสองคนนี่ออกจากกันให้ได้ ยัยจีนี่ก็ทำตัวเป็นไผ่ลอดกอ”
เสียงมอเตอร์ไซค์ดังมาหน้าบ้าน สามคนเอามืออุดหู
“ไอ้พวกแว๊นนี่มันน่าจะให้รถชนกันเอง หรือไมก็พุ่งตกทะเลตายไปเลย” อารดาบ่น
“มันน่าออกไปด่านัก ดูสิคะมันมาเร่งเครื่องอยู่แถวหน้าบ้านเราไม่เกรงใจกันเลย” จิตรดาราโมโห
คุณหญิงมองออกไปอย่างไม่พอใจ
“อย่าไปยุ่งกับมัน พวกกุ๊ย แลกกับมันก็ไม่ได้อะไรหรอกลูกจิต ใช้ให้นังแหววออกไปไล่มันก็แล้วกัน แหวว แหวว...”
แหววเดินยิ้มออกมา
“ค่ะ ยินดีรับใช่ค่ะ”
“ออกไปด่าไอ้พวกแว๊นหน้าบ้านทีสิ มันมาส่งเสียงดังอยู่ได้ หูจะแตกตาย”
“ได้ค่ะ แหววจะไปเช็คเอ้าเอ๊ยเช็คบิลมันเองค่ะ”
แหววเดินออกไป คุณหญิงกระซิบ
“หนูดา นายพงษ์ตัวช่วยของเราหายไปไหน ทำไมยังไม่มาปรากฏตัวอีก”
“นัดกันไว้แล้วค่ะ ไม่เหลวแน่ๆค่ะคุณแม่”
คุณหญิงพยักหน้า

สามแว๊นมาเร่งเครื่องหน้าบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ แหววเดินนวยนาดออกมาด่า
“ไอ้บ้ามาแว๊นอะไรหน้าบ้านคุณหญิง ท่านหนวกหู หูจะแตกไปให้พ้น”
“เรามารอให้เช่าเรือ เผื่อจะมีใครอยากเป็นสก๊อย ไปมั้ยคนสวย” เจตรินพูดขึ้น
“ฉันสวยเลือกได้ ไม่ใช่ให้ใครมาชี้นิ้วเลือกฉัน อย่ามาทะลึ่งฉันมีผัวแล้ว”
“มีแล้วก็มีอีกได้” อิฐขำๆ
“เฮ้ยไอ้บ้า ถ้าคุณเจตลูกชายท่านมาด้วยละก็ จะให้ออกมาต่อยให้หมอบเลย”
“ลูกชายท่านเป็นนักเลงละสิ” กมลกันต์ยิ้มแย้มถาม
“บังอาจมาหาว่าเจ้านายสุดที่รักของฉันเป็นนักเลง” แหววโกรธ
“น่ารักจังเลย คนสวย”
ขาดคำเจตรินดึงแหววมากอด แหววตกใจ
“เฮ้ย”
รถของพงษ์ธรแล่นมาแล้วจอดถามแหวว มองสามแว๊นไม่พอใจ
“มีอะไรกัน”
“ถ้าอยากให้มีก็มีได้” เจตรินตอบกวนๆ
“แต่ถ้าไม่อยากให้มี ไม่มีก็ได้” อิฐเสริม
“จะเอาอย่างมี หรือเอาอย่างไม่มีดีล่ะ” กมลมองหน้าพงษ์ธร
“เฮ้ยไอ้กุ๊ยสามตัวนี่ทะลึ่ง ไปให้พ้นจากหน้าบ้านนี้นะ” พงษ์ธรไม่พอใจ
“ที่ถนนสาธารณะ มีสิทธิ์อะไรมาไล่” เจตรินสวน
“แน่จริงอยากไล่มาเลยมาไล่ ไม่ไปซะอย่างจะทำไม” อิฐมองกวนๆ
พงษ์ธรลงมาจากรถ ชักปืนออกมา
“ไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร ฉันนี่แหละลูกเขยคุณหญิงคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ เจ้าของบ้านหลังนี้”
สามคนที่มีหมวกกันน็อคบังอยู่สะดุ้งมองหน้า อิฐหันมาหาเจตริน
“เฮ้ย ยังไงกันวะ”
“โฮ้โฮ แรงจัด มาแรงมาก มาแบบลมพัดลมเพระเนระนาด” แหววตาโต
“พวกแกอย่ามาลองดีกับฉัน ไปให้พ้นจากหน้าบ้านนี้เดี๋ยวนี้” พงษ์ธรตะคอก
“ถ้าพวกฉันไม่ไปละ”
พงษ์ธรชก เจตรินชกตอบ พงษ์ธรยิงขู่ แหววตกใจ
“ว๊าย”
อิฐเตะปืนจากมือพงษ์ธรตกพื้น เอามาส่งให้ เจตรินรับมาควงปืนโชว์ แหวววิ่งแน่บเข้าบ้านไป

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ อารดา จิตรดารา ได้ยินเสียงปืนตกใจ
“ว๊าย”
“โจรปล้น” คุณหญิงหน้าตื่น
แหวววิ่งเข้ามาในบ้าน
“แย่แล้วค่ะ ลูกเขยคุณหญิงกำลังจะโดนพวกแว๊นยำค่ะ”
สามคนโพล่งออกมาพร้อมกัน
“ลูกเขย”
“คุณพงษ์ค่ะ เธอโมโหว่าพวกแว๊นกวนโอ๊ย เลยชักปืนมาขู่ใส่พวกนั้นมันเลยอัดเละค่ะ”
“ว๊าย พงษ์” จิตรดาราตกใจ
“สมน้ำหน้า อยากซ่าผิดที่”อารดาพึมพำเบาๆ
จิตรดาราพรวดไป คุณหญิงจะห้าม
“อย่าออกไปลูกจิต”
“ต้องออกไปสิคะ มันต้องกลัวบารมีคุณหญิงแน่ๆค่ะ” แหววแนะ

คุณหญิงคิดแล้วพยักหน้า เดินออกไป มีอารดาตามไปติดๆ จิตรดารานำหน้าไปแล้ว

พงษ์ธรกำลังพยายามจะเอาเรื่องสามแว๊นต่อ เจตรินชักมีดออกมา
“มาสิมา ไอ้คนหน้าตาและนิสัยไม่มีความชอบธรรมในความเป็นคน”
“อยากตายก่อนล่อลวงผู้หญิงเป็นคนที่ร้อยหรือยังไง” อิฐขู่
“กลับตัวและกลับใจซะให้ได้ ก่อนที่จะตายแบบศพไม่สวย” กมลเสียงเข้ม
“บังอาจ ฉันจะบอกคุณหญิงให้เอาตำรวจมาจับพวกแก”
พงษ์ธรถอยหลังเข้าบ้าน เจตรินเย้ยหยัน
“กลัวมากๆ กลัวจริงๆ”
พวกคุณหญิงเดินออกมา เจอพงษ์ธรไม่รู้ว่ากำลังถอย จิตรดาราผวามาหา
“สู้ตายค่ะ พงษ์สู้มัน แกไอ้พวกกุ๊ยกระจอก บังอาจนัก พงษ์เตะมันเลยค่ะ”
“เอ้อ...” พงษ์ธรอึกอัก
“เธอไม่เคยกลัวอะไรนี่นาพงษ์” อารดายุ
คุณหญิงชี้หน้าด่ากราดทีละคน
“ไอ้พวกแว๊นนรกไปให้พ้นจากหน้าบ้านฉันนะ”
สามคนมองหน้ากัน อิฐกระซิบ
“เอาไงดี”
เจตรินส่ายหน้ากับแม่แบบกวนๆ
“ไม่ไป ต่างคนต่างอยู่ เราอยู่หน้าบ้าน ท่านอยู่ในบ้าน”
คุณหญิงชี้หน้าเจตริน
“ต๊าย ไอ้หัวหน้ากุ๊ยแกกล้าดีกับฉันหรือ มาสิ ฉันสู้ตายเลย ทุกคนถอยไป”
คุณหญิงออกไปยืนจังก้าใส่สามแว๊นทำเอาพวกเจตรินไปไม่เป็น คุณหญิงกระโดดเต้นหยอยๆ
“มาเลยมาสู้กับคนแก่”
ยังไม่พอเดินไปกระชากคอเสื้อทีละคนแล้วเตะ
“เปิดหน้าเลวๆของพวกแกออกมา เปิดหมวกกันน๊อคออกมาด้วย”
สามคนส่ายหน้ามึนๆ

เรือจอดริมหาด...อีริน่ากับจีรณัทย์ ลงมาจากเรือ
“สนุกจังเลยค่ะพี่จี อีริน่าขอบคุณมากค่ะ”
คนเรือที่โดนต่อยมาชี้หน้าด่าอีรินา
“เฮ้ย อีหนู แกทำฉันโดนชก”
“อ้าว พี่ หนูไปเกี่ยวอะไรกับที่พี่โดนชกล่ะ”
“ก็ไอ้ผู้ชายต่างชาติมันมาเช่าเรือจะไปตามอีหนู แล้วก็มีไอ้นักเลงมาลากคอมันไปซ้อม แถมมันดันมาชกฉันลงไปกอง บ้าเอ๊ย”
อีริน่า ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ปาปา”
อีริน่าวิ่งออกไปทันที จีรณัทย์วิ่งตาม
“อีริน่าคอยด้วย”
คนเรือวิ่งตามไปอีกคน
“เฮ้ย ฉันโดนชกก็เพราะแกจะขอโทษสักคำก็ไม่มีนังเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน”

หน้าบ้าน...คุณหญิงด่าสามแว๊นที่ไม่กล้าเถียง ทำให้พวกคุณหญิงได้ใจช่วยกันรุมด่ามีพงษ์ธรยืนยืดอกมอง แหววเชียร์สุดฤทธิ์
“ได้ยินไหม คุณหญิงสั่งให้พวกแกถอดหมวกกันน๊อค” พงษ์ธรตวาด
“ถอดมาให้เห็น แล้วฉันจะได้ตบหน้าพวกแกให้หันไปหันมา” แหววเสริม
“อยากถอดอยากตบก็มาเลย แต่ถ้าเป็นไอ้หมาบ้านั่นละก้อเจอชกตาแตก” เจตรินท้าทาย
“ถ้าเป็นยัยสวยเลือกได้นั่นฉันก็จะจูบให้เลิกสวย” อิฐมองแหวว
“ว๊ายอย่านะ” แหววตื่นกลัว
“ผมไหว้ละครับ คุณน้า” กมลกันต์ยกมือไหว้
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์สวน
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับแม่แกอย่ามานับญาติกับตระกูลอันสูงส่งของฉันพวกแกมันก็แค่ไอ้เด็กแว๊นเด็กกุ๊ยไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
“ใช่ คุณแม่พูดถูก” อารดาเห็นด้วย
“ฝากด่าไปให้พ่อแม่มันเลยครับคุณหญิงแม่ ด่าไปให้ถึงปู่ย่าตาทวดมันครับ เอาเลยครับคุณหญิงแม่ ด่ามันไปเยอะๆเลย” พงษ์ธรสนับสนุน
“ฝากด่าไปถึงพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดของพวกแกด้วยเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานไม่เป็นไสหัวไปนะ แล้วอย่ามาเกะกะแถวนี้อีกไปไปไป” คุณหญิง
สามคนมองหน้ากัน เจตรินพยักหน้า
“ถอยโว๊ย”
“เอ้าเฮ คุณหญิงเก่งมากปราบแก๊งเด็กแว๊นอยู่หมัด” แหววดีใจ
พงษ์ธรไม่ยอม
“แค่นั้นมันไม่พอหรอก เมื่อกี้พวกแกล่วงเกินพวกฉัน ต้องมากราบเท้าขอโทษฉันทั้งสามคนเดี๋ยวนี้”
“กราบสิ” จิตรดาราเสริม
เจตรินมองหน้ากัน อิฐกระซิบ
“ฉันจะทนไม่ไหวกับไอ้เวรตะไลนี่แล้วนะ เอาไงดี”
“พวกแกได้ยินไหมกราบเท้าขอโทษคุณพงษ์ซะ” อารดาพูดขึ้น
“กราบสิ กราบสวยๆ ด้วย ไอ้พวกโง่” จิตรดาราสั่งเสียงเข้ม
สามคนพยักหน้าถอย
“มันมากเกินไป”
แต่พงษ์ธรไม่ยอม ไปกระชากคอเจตรินโดยแรง
“ก้มลงไปกราบเท้ากูเดี๋ยวนี้”
อิฐไวมาก กระชากคอพงษ์ธรแล้วชก
“ไม่ได้ยินลูกพี่กูบอกว่ามากไปหรือไง”
กมลกันต์ชี้หน้า
“คนที่ต้องกราบเท้าขอโทษคือแกไม่ใช่พวกเรา”
“กราบสิวะ” อิฐตะคอก

สามคนเดินเข้าหาพงษ์ธร
“เฮ้ย จะรุมกันเหรอหมาหมู่นี่หว่า”
คุณหญิงกางมือกั้นไว้
“หยุด แน่จริงผลักอกฉันสิ ไอ้แว๊นนรก”
“เร็วช่วยกันตีพวกมัน” จิตรดารารีบบอก
พวกผู้หญิงช่วยกันหาไม้มาช่วยกันตีสามคน เพื่อช่วยพงษ์ธรรวมทั้งคุณหญิงที่ฟาดมาที่เจตริน แต่ฟาดผิดตัวเองจะล้มเอง
“ว๊าย...ตายแล้ว”
เจตรินปราดมาประคอง
“ไม่ตายหรอกครับ ผมว่าคุณแม่ เอ๊ยคุณหญิงน่าจะไปหายาดมมาดมดีกว่า มาไล่ตีพวกผมนะครับ”
“ไอ้ทะลึ่ง หนอยจะลามปามมาเรียกฉันว่าแม่ เอ๊ะเสียงแกมันคุ้นๆ ฉันขอดูหน้าแกหน่อยซิ...ถอดหมวกกันน๊อคออกมา”
เจตรินรีบถอยไป พวกสาวๆกับแหววยังไล่ตีไม่เลิก พวกเจตรินได้แต่ปัดป้อง แล้วหันไปเล่นงานพงษ์ธร

อีริน่าวิ่งมามีจีรณัทย์ตามหลัง อีริน่าตะโกนเรียกหาพ่อ
“ปาปา ปาปา อีริน่าอยู่นี่”
“อีริน่า เป็นอะไร อีริน่า หยุดก่อน”
อีริน่ามองไปหน้าบ้านของคุณหญิง เห็นมีการชกต่อยทุบตีกันชุลมุน
“นั่นมีคนกำลังโดนมันรุมทำร้าย ปาปา ปาปาแน่ๆ”
อีริน่าวิ่งไปอย่างเร็วมาก
“อีริน่า เอ๊ะนั่นอะไรกันน่ะ”
จีรณัทย์รีบตาม

พวกผู้หญิง ยังตีใส่สามแว๊น มีพงษ์ธรช่วย คุณหญิงนั่งหอบ มองโวยวายด่าสามแว๊นไปด้วย
“อยากรู้นักว่าพ่อแม่แกเป็นใครไอ้เด็กนรก”
อีริน่าวิ่งมาถึง
“อะไรกันน่ะ อะไรกัน อย่าทำอะไรปาปาฉันนะ”
คุณหญิงหันไปมอง
“นั่นมันนังอีริน่า มันเอะอะอะไรกันอีกวิ่งโวยวายเหมือนควายหาย”
สามแว๊นตกใจเผลอเรียกชื่อพร้อมกัน
“อีริน่า”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ชะงัก
“แกรู้จักอีริน่า นี่นี่พวกแก”
“มันนัดกับนังอีริน่า” อารดาโพล่งออกมา
“นังอีริน่านัดพวกกุ๊ยมาป่วนพวกเรา” จิตรดาราโวยวาย
สามคนพูดเบาๆ
“แย่แล้ว”
อีริน่ามาถึงมองไปตกใจ
“คุณหญิง คุณดา คุณจิต”
“เธอนัดพวกมันมาเหรอมันถึงเรียกชื่อเธอถูก” อารดาใส่ทันที
“อีริน่าไม่เคยรู้จักพวกเขา”
“แล้วตื่นเต้นวิ่งรี่เข้าใส่พวกมันทำไม” อารดาสวน
จิตรดาราต่อว่า
“นี่ถ้าพี่เจตรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ว่าเมียไปรู้จักกับเด็กแว๊นพัทยาเมียอ
ยากเป็นชู้กับเด็กแว๊น”
จีรณัทย์ขัดขึ้น
“อีริน่าไม่รู้จักพวกเขาหรอกค่ะคุณแม่ ที่อีริน่าวิ่งเข้ามา เพราะคิดว่า พ่อของรีน่าโดนทำร้ายอยู่ตรงนี้ค่ะ”
“พ่อ” ทุกคนชะงัก
“พ่อเรามาเมืองไทยหรือ อีริน่า” คุณหญิงแปลกใจ
“เอ้อ ไม่แน่ใจค่ะ คือ คือมีคนบอกว่าเห็นคนลักษณะคล้ายปาปาของอีริน่าโดนทำร้ายแถวนี้ค่ะ อีริน่าเลยรีบวิ่งมาดูค่ะ”
“แล้วทำไมพวกมันเรียกชื่อแกถูกยะ” อารดาไม่เชื่อ
“เพราะพี่ตะโกนเรียกชื่ออีริน่าดังออกจะตายไป” จีรณัทย์แย้ง
สามแว๊นรีบเสริม
“ใช่ อีริน่า อีริน่า อีริน่า เราเลยเรียกตาม”
“แล้วอีริน่าคนนี้เธอก็สวยจนพวกเราตะลึง” อิฐยิ้ม
“สวยมากๆ” กมลกันต์เสริม
เจตรินมองอีริน่า
“สวยจนอยากชวนไปเป็นสก๊อยประจำรถ”
พงษ์ธรเห็นท่าจะเกินเลยกันไปจนเสียงาน
“ผมว่าอีริน่าพูดจริงครับ ส่วนไอ้สามคนนี่มันทะลึ่งผสมโรงเอาเองครับ” พงษ์ธรกระซิบคุณหญิง “โวยวายมากไปเกิดอีริน่าไปกับไอ้แว๊นนี่จะเสียงานใหญ่นะครับคุณแม่”
คุณหญิงรีบเปลี่ยนท่าที
“เอาละเอาละ พวกแกไปให้พ้น อีริน่าเข้าบ้านซะ หนูดา ลูกจิตเข้าบ้าน คุณพงษ์ด้วย”
“แล้วแหววล่ะค่ะ” แหววชี้ตนเอง
“ไปเป็นสก๊อยให้พวกมันสิ นังทะลึ่ง แกจะซวย...เลือกไม่ได้”
เจตริน เดินเฉียดอีริน่ายื่นหน้ามากระซิบ
“อีริน่า ผมเอง”
อีริน่าตกใจ เอามือปิดปากพูดไม่ออกเสียง
“คุณเจต”
“จุ๊ๆ เบาๆ ระวังตัวคืนนี้มันเอาแน่” เจตรินเดินไปหาจีรณัทย์ยกมือไหว้ “ขอบคุณครับ ที่
ช่วยให้พวกผมรอดตัว”
“เอ๊ะ ทำไมต้องขอบคุณ แปลก” จีรณัทย์แปลกใจ

พวกเจตรินถอยไปขี่มอเตอร์ไซค์

เจตริน ขี่มอเตอร์ไซค์กลับออกมาจากหน้าบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ สามคนมาพักจอดรถ ห่างออกมาจากบ้านพอสมควร ดึงหมวกออกจากหัว
“เกือบจะไม่รอด ไปไม่เป็นเลย เพราะคุณแม่ออกมาบู๊กับพวกเราเองซะงั้น” เจตรินถอนใจ
อิฐขำมากหัวเราะไม่เลิก
“แกเจอคุณแม่ด่าว่าไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน ฉันสะใจจริงๆ”
“พี่หัวใจจะวาย ถ้าคุณน้าจับได้ นายสองคนก็รอดตาย แต่พี่นิสิ ไม่รอดแน่ๆ” กมลกันต์โล่งใจ
มีเสียงเหมือนผู้หญิงกำลังร้องไห้คร่ำครวญดังมาจากในบ้านใกล้ๆ สามคนได้ยินหันไป เจตรินหน้าตื่น
“เสียงผู้หญิงร้องไห้”
“เหมือนกำลังเสียใจเจ็บปวด” อิฐเงี่ยหูฟัง
“ดังมาจากบ้านหลังนั้น” กมลกันต์ชี้ไป
สามคนมองหน้ากัน
“ผัวเมียเขาตีกันอย่าดันไปจุ้นจ้าน เดี๋ยวเราจะกลายเป็นหมา” เจตรินแนะ
กมลกับอิฐพยักหน้า ขับรถออกไปจากที่นั่น แต่เจตรินหันกลับไปมองอีกครั้ง
“เหมือนเสียงคุณเมเลย”
เสียงเขมชาติดังมา
“บอกให้หยุดร้องไห้”
แต่เสียงร้องไห้กลับดังมากขึ้นกว่าเดิม

เชอรี่กำลังพยายามจะปีนหนีออกมาทางหน้าต่าง เขมชาติกำลังกระชากลากทึ้งมาตบตี
“จะหนีไปไหน”
“ไอ้คนใจทราม ไอ้คนไม่มีความเป็นคน ฉันไปทำอะไรให้แก ถึงต้องมาทำร้ายกันแบบนี้”
“ก็ไปถามไอ้พงษ์ชู้ของเธอดูสิ ช่วยไม่ได้มีผัวดีๆไม่ชอบ ชอบมีชู้ มันก็ต้องเจอแบบนี้”
“แกอยากได้เงินเท่าไหร่บอกฉัน ฉันจะให้”
“เสียใจ ฉันไม่ปล่อยให้ใครที่ฉันทำร้ายแล้วรอดไปอีกแบบนังเมหรอก เพราะพวกแกมันงูพิษจะมาย้อนทำร้ายฉันภายหลัง”
“สิ่งที่แกทำกับฉันและคนอื่น มันจะย้อนกลับมาหาแกร้อยเท่าล้านเท่า”
เขมชาติตวาด
“หุบปาก”
เชอรี่ร้องไห้อย่างทุกข์ใจ

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ปรึกษากับอารดา เรื่องจะแยกจีรณัทย์กับอีริน่าออกจากกัน
“แม่ไม่ต้องการให้ยัยจีเกาะติดนังอีริน่าไปเที่ยวกลางคืนคืนนี้”
“ดาจัดการแล้วค่ะ คุณแม่”
“จัดการยังไง”
อารดายิ้มอย่างมีแผน

จีรณัทย์กับอีริน่าแต่งตัวเตรียมออกไปเที่ยวกับพวกอารดา
“อีริน่าแต่งตัวสวยจัง” จีรณัทย์ชม
“ขอบคุณมากค่ะ พี่จี พี่จีก็แต่งตัวสวยจัง อีริน่าขอตัวไปช่วยยกอาหารในครัวนะคะ”
“พี่ไปด้วย”
สองคนขยับจะไปยกอาหาร คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เดินยิ้มมาหาสองคน
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ จี อีริน่า โน่น มีคนมาช่วยยกอาหารแล้ว”
อารดากับจิตรดาราช่วยกันยกอาหารที่เหลือมาที่โต๊ะอาหาร
“วันนี้ดาเข้าไปช่วยแหววกับป้าศรีทำอาหารด้วยนะคะ พี่จี”
“จิตก็เลยกลัวน้อยหน้าเข้าไปช่วยบ้างค่ะ พี่จี มากินกันเลยจ้ะ อีริน่า”
“นั่งสิ ยัยจี นี่จ๊ะน้ำแม่เสิร์ฟน้ำเอง”
คุณหญิงส่งน้ำให้จีรณัทย์ พลางสบตากับ จิตรดาราและอารดา
“อุ๊ย คุณแม่ขา จีทำเองได้” จีรณัทย์เกรงใจ
“มาพัทยาทั้งที แม่ก็อยากจะสนุกดูแลลูกเหมือนสมัยเด็กๆ”
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณพงษ์ ยังไม่มาอีกหรือ”
“เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ก็มัวไปชกต่อยกับไอ้กุ๊ยสามตัวนั่นจนเละเทะไปหมด” จิตรดาราบอก
อีริน่าแอบถอนใจพึมพำ
“คุณเจต”
“เขาพูดจาดีก็เป็นนะคะ เขามาขอบคุณจีด้วย”
คุณหญิงคิดๆ
“แม่คุ้นเสียงมันมาก โดยเฉพาะไอ้คนที่ทะลึ่งๆนั่นมันคุ้นว่าเคยเจอที่ไหนกันนะ”
อีริน่าแอบถอนใจ กลัวเจตรินโดนจับได้

เชอรี่นั่งร้องไห้ เขมชาติกำลังโทรหามิคาอิล
“ส่งคนมารับของได้เลย มิคาอิล ตอนนี้สินค้าพร้อมแล้ว”
เชอรี่นั่งร้องไห้ ไม่มีปัญญาจะหนีไปไหน แต่ก็พยายามหาทางหนี
“ไอ้คนใจร้าย ขอให้แกตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด”
“นังโง่ ตัวแกก็กำลังจะตกนรกอยู่แท้ๆดันมาแช่งคนอื่น อย่าคิดหนีนะ นังโง่”
“ขอร้อง อย่าทำกับฉันอย่างนี้”
“ไม่มีประโยชน์ ที่จะมาขอร้องกัน นี่ยากินเข้าไปสิ แล้วจะได้จิตใจเบิกบาน”
“กูไม่กิน” เชอรี่ส่ายหัว
เขมชาติมาบีบปากบังคับเอายายัดใส่ กรอกน้ำ
“มึงต้องกิน”
“กูไม่กิน”
เชอรี่พ่นยาและน้ำใส่หน้า เขมชาติตบเชอรี่ลงไปกอง
“พูดดีๆไม่รู้เรื่องให้กินยาดีๆไม่กินก็ต้องแบบนี้แหละ”
เขมชาติเอาเข็มฉีดยา มากดลงใส่ที่ต้นแขนของเชอรี่ที่ไม่มีทางสู้
“ไม่นะ ไม่นะ”
เชอรี่สงบขึ้น
“เดี๋ยวลูกค้าของฉันเขาจะส่งคนมารับแกไป บ๊าย คนสวย”
เขมชาติเดินออก เชอรี่เหม่อมองตาม

ขณะที่นั่งทานอาหารด้วยกัน คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ๆปรายตาไปมองจีรณัทย์ พงษ์ธรเดินยิ้มเข้ามากับเขมชาติ ไหว้คุณหญิง
“ผมมาแล้วครับ ขอโทษที่มาช้า คุณแม่ครับ นี่เขมเพื่อนสนิทหุ้นส่วนผมครับ”
คุณหญิงสบตา อารดาพยักหน้าให้
“เที่ยวกันให้สนุกนะทุกคน รีบไปกันเถอะ อีริน่า ไปสิ”
อารดาหันมาชวนอีริน่า
“ไปอีริน่า”
จิตรดาราทำแกล้งถาม
“เอ๊ะ พี่จีไปไหน”
“ห้องน้ำค่ะ” อีริน่าบอก
คุณหญิงแกล้งแปลกใจ
“เมื่อกี้ก็เห็นว่าไปห้องน้ำ”
จีรณัทย์เดินหน้าซีดเข้ามา อารดาแกล้งถาม
“พี่จีหน้าซีดมากเป็นอะไรคะ”
“พี่สงสัยว่า อาหารจะเป็นพิษ”
“อ้าว แล้วจะไปกันไหวหรือคะ” จิตรดาราถาม
จีรณัทย์หันมาหาอีริน่า
“อีริน่า ขอโทษด้วยนะ พี่ไปไม่ไหวจริงๆ”
“เดี๋ยวแม่จะเอายาให้กิน ไม่เป็นไรนะอีริน่า ไปกับพวกนี้เขาก็ได้ไม่ใช่หรือ”
“ค่ะ” อีริน่าอ้ำอึ้ง
อีริน่าไม่สบายใจนัก แต่ก็รับคำ คุณหญิงสบตากับอารดา และจิตรดารา

พวกเจตรินผ่านาบ้านหลังนี้อีกครั้ง คราวนี้มาเงียบๆไม่แว๊น อิฐหันมาถาม
“ไหนแกว่าอย่าไปยุ่งเรื่องผัวเมีย แล้วแกแอบชวนฉันกับพี่กมลมาด้อมมองรอบบ้านเขาทำไม”
“ฉันเคยได้ยินเสียงร้องไห้แบบนี้ของผู้หญิงบางคนมาก่อน” เจตรินบอก
“ใคร” กมลกันต์สงสัย
“คุณเม ฉันก็เลยสงสัยว่าน่าจะเกิดจากความคับแค้นใจจากคนที่ไม่ใช่สามีที่แท้จริงแต่เป็น...”
กมลกันต์กับอิฐถามพร้อมกัน
“เป็นอะไร”
“แมงดา ในคราบสุภาพบุรุษ” เจตรินพูดหน้าเครียด
ทั้งสองคนอึ้ง กมลกันต์เห็นรถ
“มีรถมาแล้ว”
ทุกคนหลบแอบดู

เอื้อ ขับรถมาจอดพร้อมสมุน สมุนทุกคนลงมาจากรถ
“ไปด้วยกันไหม”
เอื้อส่ายหน้า
“ไม่จะคอยข้างนอกนี่แหละ”
สมุนดินหายไปในบ้าน เอื้อถอนใจ ไม่สบายใจ
“เพราะเงินตัวเดียว เราถึงกลายเป็นคนสารเลว ใจทรามทำลายผู้หญิงไปแล้วหรือนี่จะทำยังไงดีถึงจะช่วยเธอคนนั้นได้ ลูกเมียใครก็ไม่รู้”
เจตริน กมลกันต์ อิฐ แอบมอง
“นายเอื้อ” กมลเห็นเอื้อ
เจตรินแปลกใจ
“นั่นสิ นายเอื้อ ที่เคยขับรถให้ที่บ้านพี่กมล แล้วมาเกี่ยวอะไรกับที่นี่”
“ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ” อิฐคิดๆ
กมลกันต์ตัดสินใจ
“พี่จะไปพูดกับนายเอื้อถามมันว่ามันกำลังทำอะไรที่ไม่ถูกต้องใช่ไหม”
“ถามง่ายๆใครมันจะตอบครับ” อิฐแย้ง
“เอาแบบนี้น่าจะดีและแนบเนียนกว่า ต้องไม่มีใครสงสัยว่านายอิฐจะรู้จักกับเรา” เจตรินออกความเห็น
สองคนมองหน้าเจตริน

ทั้งหมดเข้ามาในผับ อีริน่าส่ายตามองเงียบๆ รำพึงในใจ
“นี่หรือผับ ไม่เห็นจะน่าสนุก”
อารดาหันมาถาม
“ชอบมั้ย นี่แหละผับ”
“เอ้อ…ก็ดูน่าสนุกดีนะคะ”
“น่าสนุกมากๆเลยล่ะ” จิตรดารายิ้มหยันๆ
พงษ์ธรกระซิบถามเขมชาติ
“เชอรี่เป็นยังไงไปถึงไหน”
“สภาพดีอยู่มาก ตอนนี้ส่งไอ้เอื้อกับสมุนของมิคาอิลไปรับตัวเอาไปเก็บตัวไว้รวมกับคนอื่นๆ แล้ว”
“คืนนี้ ฉันจัดการอีริน่า ส่วนนายจัดการอารดา”
“แล้วจิตรดารา”
“ยังเป็นตัวเงินตัวทอง เก็บเอาไว้ก่อน จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ยังติดฉันทั้งที่โดนซ้อมไปแล้ว”
“เพราะคลิ๊บที่แกถ่ายไว้แบลค์เมล์ละสิ”

สองคนหัวเราะกัน สี่คนพากันไปเข้าไปในผับ

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 12 (ต่อ)

เอื้อยืนวนเวียนเดินกระสับกระส่ายสามคนเดินเข้ามาในบ้าน อิฐสะกิดด้านหลัง
“น้องชาย”
เอื้อสะดุ้งหันมา เจตรินเรียก
“นายเอื้อ”
เอื้อสะดุ้ง
“เฮ้ย ทำไมรู้จักชื่อฉันด้วย”
กมลกันต์เปิดหมวกกันน๊อค
“ดูหน้าฉันสิ”
เอื้อหน้าตื่น
“คุณกมล”
อิฐกับเจตริน ฟาดไปที่หัวเอื้อแล้วลากไปหลบ สมุนแบกเชอรี่เดินลงมา ส่ายตาหา เอื้อ
“เอื้อ เอื้อ เฮ้ย หายไปไหนวะเอื้อ หนักนะโว๊ย”
สามคนดาหน้าออกมา เจตรินพูดเรียบนิ่ง
“หนักก็วางสิวะ” เจตรินยกปืนจ้องไปที่สมุน “วางผู้หญิงลงเดี๋ยวนี้”
สมุนรีรอ อิฐข่มขู่
“จะวางหรือจะปางตายเหมือนไอ้เอื้อที่แกเรียกหาเมื่อกี้”
สมุนชะงัก
“อะไรนะ”
สมุนตัดสินใจวาง เชอรี่ที่เบลอๆงงๆ เจตรินหัยไปบอกกมลกันต์
“พี่กมลครับ ใส่กุญแจมือมันไว้”
“เอามือไขว้หลังด้วย”
สมุนเอามือไขว้หลัง กมลกันต์จะสับกุญแจมือ สมุนผลักเชอรี่แล้ววิ่งหนีไปทันที กมลกันต์รับเชอรี่ อิฐจะวิ่งตาม เจตรินกระตุกมือไหว้
“ปล่อยมันไป แล้วเรามาจัดการนายเอื้อ ย้อมสมองให้กลับคืนสู่สภาวะปกติกันดีกว่า”
“แล้วผู้หญิง” กมลถาม
“เอาไปฝากไว้กับตำรวจหญิง เดี๋ยวผมจะโทรตามให้มารับไปอยู่กับคุณเม”
อิฐกับกมลกันต์พยักหน้า

ในผับ...มิคาอิลนั่งกันอยู่ มีนิโคลัยกับสมุนอีกสองคนอยู่ด้วย
“แกห้ามทำบ้าๆเหมือนเมื่อตอนบ่ายอีกนะไอ้นิโคลัย ฉันให้ยาแก้เสี้ยนไปแล้ว ทำตัวให้มันดีๆด้วย”
“ตกลง ฉันจะทำตัวดีๆ แกก็อย่าทารุณตบตีฉันเหมือนกระสอบทรายนักเลย”
“ถ้าแกไม่ก่อเรื่อง ให้ฉันปวดหัว”
นิโคลัยพยักหน้าก็จริง แต่ในใจคิดอะไรบางอย่าง นิโคลัยรำพึงในใจ
“ถ้าฉันจะก่อเรื่องให้แกปวดหัว แกก็ไม่กล้าฆ่าฉัน จนกว่าแก่จะได้ตัวอีริน่า หลังจากฉันเจออีริน่าแล้ว ชีวิตจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญแล้ว”
นิโคลัยน้ำตาคลอ

อารดากระซิบพงษ์ธร เมื่อเห็นว่าโอกาสเหมาะ
“เริ่มตามแผน มอมเหล้านังจิตรดารา แล้วพามันไปหลอกฟันที่ไหนก็ได้”
“โอเค”
พงษ์ธรสะกิดยื่นหน้ามาหาเขมชาติ
“เฮ้ยไอ้เขม ตามแผนประจำของซุปเปอร์แมงดา จัดการสำรวจสินค้าข้างๆฉัน แต่ยังไม่ส่งออก เอาแค่เก็บไว้แบล็คเมล์ แกทีฉันที สูบให้มากที่สุด”
“ขุมทรัพย์ของจริงตัว โอเค แล้ว” เขมชาติปรายตามองมาที่อารดา
“ใจเย็น ปะเหมาะสบโอกาสก็รีบจัดการ”
“ฉันว่า โอกาสน่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่พัทยานี่แหละ เหมาะที่สุด”
จิตรดาราหันมาถาม
“คุยอะไรกันคะพงษ์”
“พงษ์คุยกับมันว่าเสียใจมากที่วันก่อนทำไม่ดีกับจิตรเอาไว้” พงษ์ธรโอบจิตรดารา “พงษ์เสียใจมาก ซอรี่นะทูนหัว ผมกำลังจะไปเรียนต่อแล้ว ผมสัญญาว่าจะกลับมาสู่ขอจิตรแต่งงาน ยกโทษให้ผมนะทูนหัว”
“ค่ะ จิตไม่เคยโกรธพงษ์ แต่เสียใจ และหวาดกลัวว่าจะมีใครแย่งพงษ์ไปจากจิตร”
“ไม่มีแน่จ้ะ ทูนหัว”
จิตรดารากระซิบ
“บอกคุณเขมเรื่องอารดาหรือยังคะ”
“มันรับเงินไปแล้ว มันต้องทำตามสัญญา ทูนหัวอย่าวิตก”
ขณะที่คุยกันเขมชาติรินเหล้าให้จิตรดาราและทุกคน
“มาฉลองกัน”
มือถืออีริน่าสั่น อีริน่าพึมพำเบาๆ
“คุณเจต” อีริน่าแล้วลุกขึ้น “อีริน่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
อารดากับพงษ์ธรสบตากันเข้าล็อคพอดี
“ไปเถอะจะเตรียมเครื่องดื่มไว้รอ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
อีริน่าเดินออกไป ทั้งสี่คนแอบซุบซิบ อารดากับจิตรดาราด่า
“นังโง่”
พงษ์ธรหันไปบอก
“เอาแก้วน้ำส้มของอีริน่ามา แล้วใส่ยาลงไปเลย”
เขมชาติส่งแก้วให้ พงษ์ธรเทยาลงไป

มิคาลียพูดโทรศัพท์กับสมุน
“ว่าอะไรนะ แกกับไอ้เอื้อโดนทำร้าย มีไอ้พวกแว๊นมาชิงสินค้าของฉันไปบรรลัยแท้ๆ”
นิโคลัยส่ายตามองไป นิโคลับรำพึง
“อีริน่ามาให้ปาปาเห็นอีกที มาที่นี่นะอีริน่า”
“แกหนีมาได้ แต่ไอ้เอื้อยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย บ้าจริง”
นิโคลัยมองหาอีริน่า แล้วก็เห็นอีริน่าจริงๆ

ในผับทางเดินไปห้องน้ำ ผู้คนเดินสวนกันไปมา อีริน่าเดินปะปนกับผู้คน มุ่งหน้าไปทางห้องน้ำ

มิคาอิลโมโหมาก
“ไอ้บ้า ถ้าเกิดไอ้แว๊นพวกนั้นมันเล่นงานไอ้เอื้อตาย ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ แกกลับไปหาไอ้เอื้อให้เจอ แล้วรีบกลับมาหาฉัน”
นิโคลัยลุกพรวด
“อีริน่า”
นิโคลัยผวาจะไป มิคาอิลหันมาทุบนิโคลัยโครม
“ไอ้บ้านี่ก็อีกตัว ไหนแกว่าจะอยู่สงบๆ แล้วแกลุกพรวดขึ้นมาทำไม”
“ฉันจะไปหาอีริน่า”
“อีริน่าอีกแล้ว แกประสาทหลอนแน่ๆ นั่งลงเดี๋ยวนี้”
นิโคลัยทำเป็นไม่ได้ยิน นิโคลัยรำพึงในใจ
“เราต้องป่วนมัน ให้ผู้คนเห็น ให้หนทางของมันแคบลงเรื่อยๆ”
นิโคลัยพุ่งออกไป ไม่สนใจมิคาอิลกับสมุนที่กระชากนิโคลัยกลับมาแล้วชกต่อย ผู้คนในผับหันมามองนิโคลัยกับมิคาอิล
“โอเค โน พรอบเบลม เพื่อนผมเมาเหมือนหมา ผมจะพาเขากลับที่พัก”
“ไม่ครับ”
มิคาอิลกับสมุนชกต่อยนิโคลัยอีกชุด และหันไปบอกคนที่มอง
“เขาดื้อมาก ผมต้องเตือนสติไม่ให้เขาไปรบกวนคนอื่น”
มิคาอิลกระซิบกระซาบนิโคลัย
“ถ้าแกอยากตายโดยที่ยังไม่ได้สั่งเสียลูกสาว ก็เอาเลย”
นิโคลัยเห็นว่าป่วนมิคาอิลพอแล้วจึงสงบลง มิคาอิลกับสมุนกึ่งบังคับกึ่งลากนิโคลัยออกไปท่ามกลางสายตาของผู้คนในผับ

อีริน่า เอาฝาโถส้วมมาปิดแล้วนั่งทับอ่านข้อความของเจตรินที่ส่งมาให้ยิ้มๆ
“ที่รัก ระวังตัวให้ดี อย่าดื่ม อย่ากินอะไรทั้งสิ้นที่คนอื่นหยิบยื่นมาให้”
อีริน่าเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างมีความสุข
“ขอบคุณมากค่ะ อีริน่าจะทำตาม”
อีริน่ากดไลน์ตอบกลับไปหาเจตริน

เจตรินอยู่ในบ้านพักมองมือถือแล้วยิ้มย่อง
“คุณเจตก็ดูแลตัวเองนะคะ อีริน่าเป็นห่วง อีริน่าอยู่ที่ผับนะคะ...มิสยูค่ะ...”
เชอรี่ค่อยมีสติกวาดสายตามองพวกแว๊นสามคน แล้วถอยกรูดแบบไม่มีแรงนัก
“อ๊าย อย่านะ อย่าทำอะไรฉันนะ พวกคุณแว๊น”
เจตรินพูดขึ้น
“พวกเราช่วยคุณมาต่างหาก”
“ไอ้พงษ์กับไอ้เขมมันเอาฉันมาขายให้พวกแก ฮือๆ”
“พวกเรามีความเป็นคนพอ เราไม่ชื้อคนด้วยกันแน่” เจตรินยืนยัน
“นึกให้ดีๆ เราไปช่วยคุณที่หน้าบ้าน” อิฐเตือนสติ
เชอรี่ร้องไห้
“ฉันอยากกลับบ้าน”
“กลับไปมันก็ตามไปจับตัวคุณมาอีก” กมลบอก
“คุณควรไปอยู่ในที่ที่มีคนดูแลให้คุณรอดพ้นจากพวกมัน เขากำลังมารับตัวคุณ” เจตรินแนะ
“ฉันไม่อยากไปกับคนแปลกหน้า” เชอรี่หวาดกลัว
“คนแปลกหน้า แต่ไม่หน้าแปลก เพราะเธอคือตำรวจหญิง” เจตรินบอกน้ำเสียงจริงจัง
“ตำรวจหญิง” เชอรี่ชะงัก
สามคนพยักหน้า

สมุนพยุงเอื้อที่ทำทีเป็นเจ็บต้นคอ
“มันฟาดฉันที่ต้นคอด้านหลัง ตอนนี้ค่อยยังชั่ว ผู้หญิงเล่า...” เอื้อทำโมโห “เฮ้ย บ้าน่า มันไปทางไหน ฉันจะไปตามเอาคืนมา”
“อย่าซ่า นายเขาไม่อยากมีปัญหากับตำรวจที่นี่ รีบไปที่ผับ ไปรอรับนายใครนายมัน”
“เอางั้นหรือ ขอบใจมากที่ไม่ทิ้งฉัน”
สมุนพยักหน้า เอื้อยังงงว่าใครมาช่วยผู้หญิง
“ใครมาช่วยผู้หญิง หรือว่ามาชิงตัวเอาไปอีกที”
“เท่าที่ฟัง มันว่ามาชิง ไม่ได้มาช่วย”
เอื้อถอนใจสงสาร ใจคอไม่สบาย

พงษ์ธรสบตาเขมชาติ ทั้งสองคนส่งแก้วให้อารดากับจิตรดารา
“นี่ครับทูนหัว จิตรดื่มกับผม”
“โอเค ทูนหัว”
“เชียร์ส” สองคนชนแก้ว
เขมชาติส่งแก้วให้อารดา
“สู้เขาครับ ดา”
“ค่ะ สู้ๆ”
“เชียร์ส” สองคนชนแก้ว
เขมชาติสบตากับพงษ์ธรพยักหน้า
“เชียร์ส ทุกคน”
อารดากับจิตรดาราชนแก้ว
“เชียร์ส”
สี่คนยกแก้วชนกัน จิตรดารากับอารดาท่าทางเมาไม่น้อย อีริน่าเดินกลับมาที่โต๊ะ มองสี่คน อารดาอ้อแอ้
“อีริน่ากลับมาแล้ว”
“ขอโทษค่ะ ที่กลับมาช้า อีริน่าเดินหลงทางค่ะ”
“อีริน่าหลงทางไปทางไหนครับ” พงษ์ธรถาม
“หลงออกไปข้างนอกค่ะ”
เขมชาติส่ายหน้า
“แย่จริง ที่หลังจะไปไหนบอกผมนะครับ”
“โง่” จิตรดาราด่า
“ค่ะ อีริน่าโง่ เอ้อ...”
“อีริน่าครับ สองคนนี้ล้ออีริน่าเล่นน่ะครับ ผมว่าดื่มกันดีกว่าครับ”
พงษ์ธรส่งพั้นช์ให้ อีริน่ารับแก้ว เธอนึกถึงคำเตือนของเจตรินที่ส่งไลต์มาให้ อีริน่ายิ้ม
“น่าดื่มมากค่ะ”
“งั้นก็รีบดื่มสิ” อารดายิ้ม
“ดื่มเข้าไป ดื่มๆ” จิตรดาราสั่ง
พงษ์ธรกระซิบเขมชาติ
“นายรีบหาทางแยกจิตรดาราออกไปจากตรงนี้ด่วน นังนี่เมาแล้วอาละวาดเหมือนหมาบ้า งานกร่อยแน่”
เขมชาติรับคำ
“โอเค คุณจิตครับ อยากเต้นรำไหมครับ”
“ใช่ทูนหัวออกไปเต้นรำกับเขนนะ” พงษ์ธรกระซิบ “ไปวางแผนเล่นงานอารดานะ”
“โอเคค่ะ ที่รัก”
พงษ์ธรประคองจิตรดาราส่งให้เขมชาติพาเดินออกไป เขมชาติพาจิตรดาราเดินออกไปแบบทุลักทุเล แทบจะอุ้ม อารดาโบกมือ
“บ๊ายบาย เอาไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็ตามใจนะ”
อีริน่าฟังแล้วสะดุ้ง รำพึงในใจ
“คุณอารดาพูดจาแบบนี้หมายความว่ายังไง ทำไงคุณพงษ์ถึงไม่ห่วงใยคุณจิตรดาราบ้าง”
“ดาเธอเมาแล้ว แถมพูดจาบ้าบอให้คุณอีริน่าไขว้เขว” พงษ์ธรดุ
“ใครว่าฉันเมา” อารดาเถียง
“ขอโทษครับอีริน่า ดาเขาเมาเลยพูดจาเพ้อเจ้อ”
“เอ้อ ไม่เป็นไรค่ะ”
“ดื่ม อีริน่าดื่มเข้าไป ดื่มๆ” อารดาชวนอย่างเมามาย
“ไม่เอาน่าดา” พงษ์ธรปราม
อารดายื่นมือมาจะดันแก้วใส่ปากอีริน่า พงษ์ธรแย่งมาก อารดาปัดมือพงษ์ธร แต่กลับทำให้แก้วบนโต๊ะที่วางอยู่ทั้งหมดน้ำหกกระจาย ยกเว้นแก้วของอีริน่า
“เฮ้ย มากไปแล้ว จะบ้าไปถึงไหน”
พงษ์ธรลุกขึ้นเพราะน้ำจะมาหกใส่เขา อารดาลุกขึ้นยืนโอนเอนมาใส่ พงษ์ธรต้องจับไว้ มืออีริน่าแอบเทน้ำของตัวเอง ผสมใส่น้ำบนโต๊ะ อารดากับพงษ์ธรไม่เห็น พงษ์ธรหันมองมาที่อีริน่า อีริน่ายิ้มให้พงษ์ธรทำท่าเหมือนกำลังดื่มหยดสุดท้าย แล้วยกแก้วชูให้ดู
“หยดสุดท้ายเลยค่ะ ชื่นใจมาก อร่อยจริงๆ”
พงษ์ธรถอนใจสบายใจยิ้ม
“ดีมากครับ นั่งลงได้แล้วดา”
“อีริน่าช่วยค่ะ”
อีริน่าช่วยพงษ์ธรจับ อารดาผลักอีริน่าล้ม
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน อีขี้ข้าข้างถนน ลูกโสเภณี”
อีริน่าทำสีหน้าอดทน แล้วทำท่าเริ่มเมาๆ
“อีลูกคนขี้โกง ยืมเงินธนาคารแล้ว เอาไปซ่อนเมืองนอก หนีไปเมืองนอก”
“เฮ้ย” อารดาตบหน้าอีริน่า
“ได้สิ” อีริน่าตบหน้าอารดา
“อะไรกันวะ วันนี้วันเมาหรือยังไง ถึงได้นัดกันเมา พอพอแยกกัน”
พงษ์ธรเข้าห้าม อารดากับอีริน่า สะเงาะสะแงะตบตีจิกข่วนกัน อีริน่าจะได้เปรียบ คนมามุงดูเชียร์กัน
“สู้เขาๆน้อง”
“สู้ตายๆน้อง”
พงษ์ธรประสาทเสีย

เขมชาติคอยประคองบ้าง จับมือจิตรดาราบ้าง เต้นรำแบบแย่ๆ หลอกล่อจิตรดาราไปด้วย จิตรดาราเต้นแบบสุดๆหลุดโลก
“จิตรดาราสุดยอด”
“แน่นอนค่ะ จิตรดาราคนนี้สุดยอดที่สุด นังอารดา นังอีริน่ามันชิดซ้าย อย่ามาเผยอ”
เสียงคนเต้นรำใกล้ๆคุยกัน
“ผู้หญิงโต๊ะนั้นตบกันมันส์หยด กัดกันเหมือนหมาแย่งผู้ชายกันแน่ๆ”
“เฮ้ย” เขมชาติชะงัก
“ไปตบกับมันดีกว่า” จิตรดารานึกสนุก
“อย่านะ” เขมชาติรีบห้าม

จิตรดาราถลาไปทันที เขมชาติคว้าตัวไว้ไม่ทัน

อีริน่าแกล้วเมาตบตีอารดา มีพงษ์ธรยืนกุมขมับ จิตรดารามาถึงกระโจนใส่สองคน เขมชาติดึงไม่ทัน กลายเป็นมวยหมู่ตีกันสามคน แต่อีริน่าเก่งกว่าอารดากับจิตรดาราที่เมาของจริง อีริน่าหัวเราะชอบใจ พงษ์ธรกระชิบเขมชาติ
“ฉันจะบ้าตายไอ้เขม นายรีบหิ้วจิตรดาราไปให้พ้นจากตรงนี้ไวๆ ไม่อย่างนั้นพังวายวอด”
เขมชาติกระชากเอวหิ้วจิตรดาราเข้าเอวออกไปจากที่นั่นทันที พงษ์ธรกระชากอารดาขึ้นมา อีริน่าทำบ้าบอชี้หน้าหัวเราะชอบใจ
“กลับกันเถอะอีริน่า ดา”
“โอเค”
อีริน่าพยักหน้าเดินเซๆ พงษ์ธรหิ้วปีกอารดา พากันออกไป อีริน่ายิ้ม

เขมชาติหิ้วจิตรดาราเข้าเอวออดมาหน้าผับส่ายตาหาเอื้อ
“ไอ้เอื้อช้าจริง”
เอื้อมาจอดรถยื่นหน้ามา
“เฮ้ยหน้าแกเป็นอะไร”
“ผู้หญิงโดนชิงตัวไป ผมโดนทำร้าย ไอ้สมุนมิคาอิลนั่นก็โดน”
เขมชาติโมโห
“บ้าเอ้ย...”
จิตรดาราดิ้นออกจากเขมชาติทำท่าจะไปขึ้นรถคนอื่น
“ไหน ไหนเตียง อยากนอนแล้ว”
“นังบ้า เอาสิอยากนอนเตียงก็เอา ไอ้เอื้อรีบเปิดรถ จะพานังนี่ไปนอนเตียง”
เอื้อรีบเปิดรถ เขมชาติเอาจิตรดาราโยนใส่รถ นิกกี้ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดมองไปที่เขมชาติกับจิตรดารา
“อีริน่ามาที่นี่ เฮ้ย...จิตรดารากำลังจะไปไหน”
ประตูรถเขมชาติปิด นิกกี้หน้าตื่น
“เฮ้ย จิตรดารา เมานี่หว่า”

รถเขมชาติพุ่งออกไป นิกกี้พุ้งตามไป

รถของสามแว๊นมาจอดหลบๆมุมที่หน้าผับเจตรินบอก
“อีริน่าอยู่ที่นี่”
“เราจะเข้าไปไหม” กมลถาม
“ถ้าเราเข้าไป เราก็ต้องถอดหมวกกันน็อค พวกนั้นจะเห็นหน้าเรา” เจตรินบอก
“เราจอดรถไว้ตรงนี้ แล้วไปเดินเตร่ซุ่มดูเหตุการณ์ ดีไหม” อิฐแนะ
“โอเค ตอนนี้อีริน่ายังปลอดภัย แต่ต่อไปไม่แน่ใจ คอยดักรอคุ้มกันอีริน่าที่นี่”
สามคนเดินออกไปจากที่จอดรถ

พงษ์ธรหิ้วปีกอารดาออกมา มีอีริน่าประคองดาอีกข้าง แบบแกล้งเซ
“นี่มันบ้าอะไรกันนะดา ตัวก็หนัก โชคดีที่อีริน่าเมาด้วย ไม่อย่างนั้นพลาดแน่ๆ”
“จะเดินไม่ไหวแล้วนะ ง่วงนอนจะตายอยู่แล้ว เตียงเตียง อยู่ไหน” อีริน่าทำเมามาย
“ขึ้นรถก่อน แล้วค่อยไปหาเตียงนอนอีริน่า”
“ฉันก็อยากนอน ง่วงนอน อยากนอนๆ” อารดาโวยวาย
“รถอยู่ไหน” อีริน่าถาม
“ทางนี้”
พงษ์ธรพาสองคนไปทางที่รถจอด พวกเจตรินมาถึงพอดี กมลกันต์หันมาบอก
“รอตรงนี้”
“เอ๊ะ คนเมา” อิฐมองๆ
เจตรินหน้าตื่น
“ดา...อีริน่า แมงดาพงษ์”
สามคนพยักหน้ากัน
“ฉันจะตามไปว่ามันจอดรถไว้ที่ไหน แกกับพี่กมลไปเอารถมา” เจตรินแนะ
“รถมีสามคันนะแก” อิฐขัดขึ้น
“ทิ้งมันไว้ที่นี่คันหนึ่ง เร็ว เดี๋ยวจะคลาดกัน”
สองคนรีบกลับไป เจตรินรีบเดินสะกดรอยตามสามคน

พงษ์ธรบ่นไปประคองไป อารดาเมาโวยวาย
“ไหน...ไหน...ห้องนอนอยู่ที่ไหน”
“อย่าพูดมากน่าดา”
“ง่วงนอนอยากนอกมันตรงนี้แล้ว”
อีริน่าทำท่าแกล้งจะนอนตรงนั้น ทำท่าจะล้มตัวลงไปนอน เจตรินเข้าไปประคองไม่ให้ล้ม
“อีริน่า ที่รักนี่ผมเอง”
อีริน่าอุทาน
“คุณเจต”
พงษ์ธรเห็นก็ตวาด
“เฮ้ย เกี่ยวอะไรกับพวกนายแกด้วย ไปให้พ้น”
“ขอโทษ เห็นทำท่าจะล้มเลยมาช่วย”
“ไม่ต้องช่วย ไปให้พ้น”

เจตรินถอยออกมา แล้วหลบมาแอบดู พงษ์ธรพาอารดากับอีริน่าไปที่รถ พงษ์ธรพยายามที่จะเอาอีริน่าไปนั่งข้างหน้า แต่อีริน่าทำมั่วๆเปิดข้างหลังโผไปทำนองนอนหลับ พงษ์ธรพาอารดาไปใส่ด้านหน้าแทน แล้วส่ายหน้าเดินไปที่คนขับ สตาร์ทรถ เจตรินแอบมองตามรถพงษ์ธร
“ไอ้อิฐ พี่กมล ช้าจริง เดี๋ยวก็ตามไม่ทัน”
รถพงษ์ธรแล่นออกไป รถมอเตอร์ไซค์สองคันพุ่งมาจอด เจตรินโดดขึ้นชี้นิ้ว มอเตอร์ไซค์สองคันขับตามไปทางที่เจตรินชี้

เขมชาติเอารถมาจอดหน้าตัวบ้านพัก
“เมาไม่มีสติแถมให้ท่าขนาดนี้ใครจะอดใจไหว ไอ้พงษ์ฉันขอผิดสัญญาของแบบนี้ใครดีใครได้ว่ะ”
นิกกี้จอดรถหน้าบ้าน
“จิตรดาราแย่แล้ว”
เขมชาติลงมาจากรถมองไปที่รถของนิกกี้ จับสังเกต
“มีอะไร”
“จะถามหาบ้านคนครับ บ้านคุณสามารถ ไม่ทราบรู้จักไหน”
“ไม่รู้ อย่ามาจุ้นจ้านแถวนี้”
“ขอโทษคร๊าบ”
นิ๊กกี้ไหว้ แล้วขึ้นรถพุ่งออกไป เขมชาติเปิดประตูรถ ลากเอาจิตรดาราลงมาจากรถ
“อยากนอน เตียงอยู่ไหน”
“เดี๋ยวได้นอนแน่ แม่เด็กใจแตก”
เขมชาติอุ้มจิตรดาราหายไปในบ้าน นิ๊กกี้ย่องมาโผล่หน้าบ้านย่องเข้าไปในบ้าน เอื้อลงมาจากรถ มานั่งรอหน้าบ้าน
“นี่กูจะทำเวรทำกรรมไปถึงไหนกัน”

รถของพงษ์ธรแล่นนำมา รถมอเตอร์ไซค์ของเจตรินกับอิฐพุ่งตามมาห่างๆ อีริน่านอนหมอบไม่ได้หลับ แต่แอบมองพงษ์ธรตลอดเวลา ส่วนอารดาหลับสนิท รถสิบล้อพุ่งสวนมาพอดีตรงนั้นเป็นทางแยก เจตรินตกใจ
“เฮ้ย รถนั่นดันมาบัง”
พอรถสิบล้อผ่านไป อิฐงงๆ
“มันเลี้ยวไปทางไหนกันแน่ ซ้ายหรือขวา บ้าจริง”
เจตรินชี้ไป
“พี่กมลกับแกไปทางนั้น ฉันไปทางนี้ แล้วค่อยโทรติดต่อกัน”
กมลกันต์พยักหน้า
“โอเค”
มอเตอร์ไซค์สองคันแยกกันไปคนละทาง

จิตรดารานอนหลับสนิท เมาเต็มที่ละเมอเรียกหาพงษ์ธร
“พงษ์ขา พงษ์อย่าทรยศจิตนะคะ พงษ์อยากได้อะไรจิตให้ทั้งหมดขอเพียงอย่าไปมีคนใหม่นะคะ”
เขมชาติยิ้ม
“แน่นอน ทูนหัว”
“อย่าลืมกำจัดนังอารดานะคะ นังคนนี้มันเลวยิ่งกว่านังอีริน่าซะอีก”
“จ้ะ ทูนหัว”
เขมชาติฉวยโอกาสโอบกอดจิตรดาราก้มลงและจูบ
“พงษ์ขา”
เขมชาติยิ้ม มีเสียงร้องดังมาจากนอกบ้าน เขมชาติสะดุ้ง
“อะไรกันน่ะ”
เขมชาติปราดไปหยิบปืน

นิกกี้เอาปืนจี้หลังเอื้อกระซิบสั่ง
“พูดต่อไปตะโกนดังๆว่าตำรวจมา”
“ตำรวจมาๆ นายครับ ตำรวจแห่กันมาแล้วนาย รีบหนีครับนาย”
นิกกี้ยิ้ม
“บอกต่อไป นายหนี หนีออกไปทางประตูหลังครับ...เร็วครับ”
เอื้อทำตาม
“นายหนีออกไปทางประตูหลังครับ เร็วครับ ตำรวจไปแล้วผมจะโทรหาและจะรีบไปรับนายครับ”
นิกกี้หัวเราะเบาๆ

เขมชาติตกใจมาก
“ตำรวจแห่กันมา ใครไปบอกตำรวจวะ ไม่ไหวแล้ว”
เขมชาติรีบเผ่นออกไปนอกห้อง ทิ้งจิตรดารานอนละเมอเรียกหาพงษ์ธรไปคนเดียว
“พงษ์ขา พงษ์ขา”
จิตรดาราตะกายไปฉุดเขมชาติไว้
“บ้า...อย่ามาฉุดนะ”
เขมชาติถีบจิตรดาราเซไป...เขมชาติออกไปทางด้านหลัง นิกกี้โผล่มาทางหน้าต่างยิ้มๆ

พงษ์ธรขับรถพุ่งจะไปยังบ้านที่ไว้แอบทำลายอีริน่า เจตรินขับรถตามอย่างเร็ว แล้วก็เห็นท้ายรถของพงษ์ธรไวๆดีใจมาก
“นั่นท้ายรถมัน เรามาถูกทางแล้ว”
เจตรินพุ่งรถตามต่อ แล้วรถของเจตรินก็ต้องหักหลบรถที่สวนมา
“เฮ้ย”
เจตรินหักหลบ แล้วเป๋มาจอดข้างทางตั้งลำใหม่จะไปต่อ
“เอ๊ะ”
เจตรินก้มลงไปมองรถมอเตอร์ไซค์เห็นยางแตก
“บ้าเอ๊ย...ยางแตก แล้วจะตามมันทันได้ยังไง”
เจตรินรีบยกหูโทรหาอิฐ
“ฮัลโหลไอ้อิฐ ฉันมาถูกทางแล้ว แต่ดันยางรถแตก แกรีบมาที่นี่ด่วน ฉันจะวิ่งตามรถอีริน่าไป”
เจตรินวิงไปตามทางที่อีริน่าถูกพาตัวไป

พงษ์ธรจอดรถมองอารดาที่นอนหลับที่เบาะข้างๆ แล้วยิ้ม
“สวยงามแท้ๆอารดา ฉันไม่น่ามองข้ามเธอไปได้ตั้งนาน นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องจัดการอีริน่าก่อนละก็ ฉันไม่ปล่อยเธอให้ลอยนวลไปได้”
เสียงมือถือพงษ์ธรดังขึ้น
“ฮัลโหล เอ้ย ว่าไงนะ บ้า ตำรวจไปบ้านเรา แล้วแกพาจิตรดาราไปที่บ้านทำไม โรงแรมมีตั้งแยะ พุ่มไม้แถวใกล้บ้านก็เต็มไปหมด ทำไมแกไม่เอาเธอกลับไปโยนไว้ที่บ้านของเธอเองวะ...ต้องหนีหัวซุกหัวซุนบ้าเอ๊ย งั้นแกมาที่นี่ มีเศษแบ่งให้กิน ฉันไม่มีเวลาพล่าม แค่นี้นะ อยากมาก็รีบมา”
พงษ์ธรตัดสาย อุ้มดาไปก่อน อีริน่าแอบมองตามหลังพงษ์ธรที่อุ้มดาไปในบ้าน เธอทำท่าจะหนี แล้วถอยกลับมาคิด
“ถ้าเราหนี เราก็ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรกับเรา เราก็ไม่ได้สั่งสอนมันกับคุณอารดา”
อีริน่าหดหัวลงมานอนต่อ

อารดานอนนิ่ง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย พงษ์ธรยิ้มก้มลงไปจูบ
“ดาเธอชั่งน่าลิ้มลองกว่าเด็กบ้าจิตรดารา เพียงแต่ว่าเธอไม่ใช่ขุมทรัพย์ตัวเงินตัวทองของฉัน”
พงษ์ธรก้มลงไปจูบ แล้วลุกออกไปจากห้อง

เจตรินกำลังวิ่งเต็มแรงเพื่อตามอีริน่าไป วิ่งไปต้องคอยหยุดส่ายตาหาว่ารถพงษ์ธรไปจอดที่ไหน เจตรินหยุดจะส่งข้อความหาอีริน่า

พงษ์ธรลงมาจากบ้านเพื่อมาอุ้มอีริน่า เธอแกล้งทำขยับตัวนอนตะแคงให้เห็นหน้าชัดเจน พงษ์ธรก้มลงมามอง มือถืออีริน่าสั่น เธอทำท่าจะหยิบรำพึงในใจ
“คุณเจตส่งข้อความมา”
พงษ์ธรเปิดประตูรถเข้ามาชะโงกมอง อีริน่ารำพึง
“มันมาแล้ว” อีริน่าทำกรน “ครอกๆ”
“หน้าตาสะสวย ทำไมนอนกรนเสียงดัง น่ารักไปอีกแบบ”
อีริน่ารำพึงในใจ
“เดี๋ยวก็รู้ว่าฉันน่ารักแค่ไหนไอ้คนเลว”
พงษ์ธรยิ้มกริ่ม
“ช่างโชคดีจริงๆ อารดาก็งาม อีริน่าก็สวย อีริน่าฉันจะกินของสวยๆอย่างเธอช้าๆ”
พงษ์ธรหยิบเข็มออกมาทำท่าจะฉีด อีริน่าแอบยิ้ม แล้วลืมตาดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วเข็มกระเด็น พงษ์ธรสะดุ้ง
“เฮ้ย”
อีริน่าโดดถีบท้องน้อยพงษ์ธร
“ชั่วชาติ แกอย่าหวังว่าจะมากินฉันได้แม้แค่ฝ่าเท้า แกเลวเกินกว่าจะมาเป็นมนุษย์”
พงษ์ธรหน้าตื่น
“อีริน่า...เธอไม่ได้เมา”
“ฉันไม่เมา ไม่มีวันเมา ส่วนแกเมาทุกอย่าง เมาความชั่ว เมาความเลวเห็นแก่ตัว ไอ้แมงดา”
“แกนังลูกโสเภณี แกสมควรคู่กับแมงดาอย่างฉัน”
อีริน่ากระโดดเข้าใส่พงษ์ธร
“บังอาจมาพูดพาดพิงแม่ฉัน แกตาย”
“ก็อย่ามาปิดบังว่าแกเป็นลูกโสเภณี”
“แกไม่มีคุณค่าจะมาพูดถึงแม่ฉัน หรือกับใครที่เป็นมนุษย์ แกมันสัตว์เดรฉานแอบอ้างว่าเป็นคน”
“ทนฟังด่ามามากเกินไปแล้ว นังปากดี แกมันต้องโดนสั่งสอน”
พงษ์ธรชักมีดออกมา อีริน่าเตะข้อมือพงษ์ธรแล้วชกปลายคาง พงษ์ธรกระโดดใส่ อีริน่าหลบ พงษ์ธรเซ อีริน่าถีบกลางหลัง พงษ์ธรเซลงไปจูบดิน อีริน่าโดดกระทืบๆ ซ้ำๆ อีริน่าเดินไปเจอเข็มฉีดยาที่ตกอยู่เอาเข็มฉีดยาปักใส่พงษ์ธรแล้วฉีดยา พงษ์ธรร้องลั่น
“อย่า”
“ไม่ต้องมาห้าม แหววสอนไว้ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง เอาของแกคืนไปคนเลว”
อีริน่ายืนมองก้มลงดู เห็นพงษ์ธรไปไม่รอด อีริน่าจึงลงมือถอดเสื้อผ้าเก็บรวบรวมถือไว้ เหลือแต่บ็อกเซอร์ แล้วจะออกจากบ้านไป ก่อนจะชะงักเดินมาปล่อยลมยางสี่เส้น ดึงกุญแจออกมาจากรถแล้วเหวี่ยงหายไปในความมืด
“อารดาคุณใจดำทำกับฉันราวกับไม่ใช่คนเหมือนคุณ คุณต้องได้รับการสั่งสอน”
อีริน่าเดินขึ้นบ้านไป

เสื้อผ้าของดากองอยู่ที่พื้น อีริน่ายิ้มชอบใจ ขำ เอาผ้าห่มให้ดา
“เมาแล้วก็หลับให้สบายนะคะคุณอารดา ฉันไม่อยากทำร้ายอะไรคุณมากมันบาป ขอแค่เสื้อผ้าของคุณเอาไปหาที่เก็บใหม่ให้ก็พอแล้ว โชคดีนะคะ ที่อยู่ใกล้ทะเล ใส่ชุดฉันในเดินเล่นหาดทราย หาทางกลับบ้านก็ไม่น่าเกลียด”
มือถือสั่น อีริน่าเปิดมาอ่านดู
“เจตอยู่ที่ไหน ที่รักปลอดภัยดีหรือเปล่า”
อีริน่ายิ้ม กดข้อความตอบเจตริน
“บ๊ายบายค่ะคุณอารดา เชิญอยู่กับแมงดาตามสบายค่ะ”
อีริน่ายิ้มเดินออก อารดานอนห่มผ้า เมาหลับสนิท

เจตรินวิ่งมาหาอีริน่าไม่เจอ อ่านข้อความของอีริน่า
“ปลอดภัยดีมากค่ะ อีริน่าจะออกมาเดินลัดเลาะแถวข้างถนนแต่ต้องแอบๆหลังต้นไม้นะคะ อีริน่ากลัวคนร้าย ให้คุณเจตรินกระพริบไฟรถสามทีมาเป็นระยะ ถ้าอีริน่าเห็น อีริน่าจะออกมาให้เห็นตัว”
เจตรินพยักหน้าพอใจสบายใจมาก เห็นแสงไฟรถหนึ่งคันลักษณะกำลังแล่นมาใกล้ถึง เจตรินหลบถอย แอบมองเห็นเป็นรถตู้ของเขมชาติ เจตรินรีบถอยไปแอบทันทีเพราะไม่ใช่รถของอิฐกับกมลกันต์ รถของเขมชาติผ่านไป ในรถเขมชาติ พยายามต่อหาพงษ์ธร
“ไอ้พงษ์ไม่ยอมรับสาย สงสัยวากำลังสนุกอยู่กับอีริน่า น่าอิจฉาแท้ๆ”
“บ้านหลังไหนครับ” เอื้อถาม
“ใกล้ถึงแล้ว แกขับข้าๆ เดี๋ยวจะเลย”
“ครับ”
เอื้อขับไป เขมชาตินั่งฝันหวาน

อีริน่าค่อยๆลัดเลาะห่างบ้านออกมา อ่านข้อความของเจตริน
“อีริน่าเดินย้อนสวนกลับมาทางที่รถไปบ้านหลังนั้น ระวังตัวให้ดีด้วย รักที่สุด”
อีริน่ายิ้มยกมือถือมาจูบ แล้วค่อยๆลัดเลาะ นกฮูกบินเฉียวหัว อีริน่าตกใจ
“ว๊าย”
อีริน่าพุ่งออกมานอกที่กำบัง พอดีกับแสงไฟรถของเขมชาติมาถึงสาดมาเจออีริน่าที่กำลังยืนปัดให้พ้นจากการเฉี่ยวของนก เขมชาติชะงัก
“ผู้หญิง”
“ขับเลยไปนะครับ”
“ไอ้บ้า จอดสิ”
อีริน่าหันไปมองรถที่แล่นมา เขมชาติมองไป แสงไฟรถสาดส่องอีริน่าเต็มตัว เขมชาติตะลึง
“อีริน่า”
เอื้อพึมพำ
“อีริน่า...แย่แล้ว”
อีริน่าหันกลับเพราะไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ เธอวิ่งทันที
“พุ่งไปจอดขวางหน้าไว้”
เขมชาติสั่งให้เอื้อมาปาดจอดดักหน้า เขมชาติลงมาจากรถ อีริน่าหันกลับ
“อีริน่าหยุดก่อน เกิดอะไรขึ้น ทำไมมาวิ่งข้างถนนอยู่คนเดียวแบบนี้” เขมชาติแกล้งพูดทั้งที่รู้
อีริน่ารู้ว่าแกล้ง แต่ตัดสินใจเล่นงานเขมชาติอีกคน
“ไม่มีอะไรค่ะ อีริน่ากำลังจะกลับบ้าน”
“คนอื่นหายไปไหนครับ”
“อีริน่าไม่ทราบค่ะ อีริน่าขอทางจะกลับบ้าน”
เขมชาติเข้าขวาง
“ผมจะไปส่ง”
“อีริน่าจะไปเองค่ะ”
“มันอันตราย ให้ผมไปส่งนะ”
เขมชาติรู้ว่าต้องมีอะไรผิดปกติกับพงษ์ธรแน่ๆ เขมชาติชักปืนออกมา อีริน่าโดดเตะปืนเขมชาติตก
“อย่านึกว่าไม่รู้นะว่าพวกแกกำลังทำความเลวอะไรกัน”
เขมชาติรวบเท้าอีริน่าล้ม
“เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั่น อารดา กับพงษ์”
“ก็ไปถามสองคนนั่น อย่ามายุ่งกับฉัน”
เขมชาติกับอีริน่าผลัดกันลุกผลัดกันรับเพราะเขมชาติตัวใหญ่ เอื้อยืนมองกลุ้มใจ
“ทำยังไงดี”
“ไอ้เอื้อยืนเฉยทำไม ทำอะไรสักอย่าง ช่วยกันจับนังนี่สิ”
เอื้อเงอะงะต่อ แล้วมองไปเห็นท่อนไม้อันหนึ่ง ใกล้ๆ เอื้อก้มไปหยิบมาถือแอบไว้ด้านหลัง อีริน่ากับเขมชาติกำลังสู้กัน เซมาทางเขา เอื้อแอบยื่นไม้ให้อีริน่า เธอชะงักนิดหนึ่งแล้วรับมาอย่างรวดเร็ว เขมชาติไม่ทันเห็น กระโดดเข้าใส่อีริน่า อีริน่าที่ง้างไม้รอตวัดใส่หน้าเขมชาติเต็มๆ เขมชาติตาเหลือก
“เฮ้ย”
เอื้อเอามือปิดตามองเขมชาติล้มลงไปกอง ยิ้มสะใจ อีริน่าหันมาบอกเอื้อ
“ขอบคุณมากนายเอื้อ นายเอื้อเป็นคนดีแล้วทำไมมาสมัครใจอยู่กับคนเลว”
พูดจบอีริน่าวิ่งออกไปจากที่นั่นเอื้อยืนงง
“ผมอยากกลับตัว แต่คงสายไปแล้ว ทำยังดีวะ คุณอีริน่าครับ...”
อีริน่าหยุด
“มีอะไรนายเอื้อ”
“ช่วยผมคิดได้ไหมว่าผมควรทำยังไง ถึงจะรอดพ้นจากความผิดที่ไม่ช่วยเจ้านาย”
อีริน่าพยักหน้า
“ตกลง”
เวลาผ่านไป...ยางรถของเขมชาติแบนสี่เส้น
“นายอาจคิดว่าเป็นฝีมือผม”
“ถ้าอย่างนั้น หยิบไม้ท่อนนั้นมา”
เอื้อส่งไม้ให้
“ยังไงครับ”
อีริน่าฟาดไปบนหัวเอื้อ

“ยังงี้แหละนายเอื้อ นายปลอดภัยแล้ว”

เอื้อม้วนลงไปกองข้างเขมชาติ ... อีริน่าถอดเสื้อผ้าเอื้อกับเขมออก ปล่อยลมยางสี่เส้น แล้วถอดกุญแจขว้างทิ้ง แล้วอีริน่าเดินลัดเลาะหอบเสื้อผ้าของทุกคนมาด้วยยังไม่พบพวกเจตริน อีริน่าหลบหลังพุ่มไม้ส่งข้อความไปหาเจตริน และมองไปยังฝั่งตรงกันข้าม
“คุณเจตบอกว่าจะมาสวนทางกับเรา แปลว่ามาทางฝั่งตรงกันข้าม”
อีริน่ามองซ้ายมองขวา แล้วข้ามถนนไปทันทีพร้อมกับเสื้อผ้าของทุกคน

เจตริน กมลกันต์ และอิฐขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดมองหาอีริน่าไปด้วย เจตรินขี่มาคนเดียว อิฐกับกมลกันต์ซ้อนกันมา เจตรินนำหน้ากระพริบไฟสามทีมาตลอดทาง แล้วหยุดกระพริบ เขาโบกมือให้ทุกคนหยุด รถของอิฐหยุด
“อีริน่าส่งข้อความมา”
เจตอ่านแล้วบอกกมลกันต์ กับอิฐ
“อีริน่าบอกว่าข้าม ถนนมารอฝั่งเดียวกับเรา ก็สังเกตเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ที่กิ่งไม้ฝั่งเดียวกับเรา อีริน่าจะแอบดูเราอยู่ ถ้าใช่ อีริน่าจะออกมา”
“โอเค ลึกลับซับซ้อนสมเป็นลูกสาวเคจีบี”
“อีริน่าเป็นเด็กฉลาดมาก” กมลกันต์ชม
เจตรินและอิฐขับรถออกไป

จิตรดารานอนบนโซฟา ค่อยๆมีสติขึ้นมา
“พงษ์ขา”
นิกกี้พาจิตรดารามาที่พักของเขาแล้ว เข้ามาจับตาเธอแหกออกมาสองข้าง
“แหกตาดูสิจิตรดาราว่านี่ใครกันแน่”
“ใคร”
นิกกี้เอาน้ำในแก้วราดไปบนหน้าเบาๆแบบหยอกล้อ จิตรดาราสะดุ้งลุกพรวด
“จ๊ะเอ๋”
จิตรดารามองเต็มตาเห็นว่าเป็นนิกกี้งงแปลกใจแถมโกรธ
“นิกกี้”
“YES”
“ไอ้บ้า นายเลวมาก นายมาชิงตัวฉันจากพงษ์ใช่ไหม”
จิตรดาราทุบตีนิกกี้ นิกกี้รวบมือไว้
“เป็นงั้นไป ทำคุณบูชาโทษ โปรดผู้หญิงบ้าโดนด่า”
จิตรดาราตบนิกกี้อีก
“แล้วนี่ขโมยข่มขืนฉันใช่ไหม”
“พูดบ้าๆน่า เราสองคนไม่ต้องขโมย ไม่ต้องข่มขืน จำบ่อได้แล้วก๋า...กลับบ้าน ผมจะไปส่ง”
จิตรดาราหงุดหงิด ทุบตีนิกกี้ต่อ

รถของพวกเจตรินวิ่งมากระพริบไฟมาตามทาง เห็นเสื้อผ้าแขวนอยู่ พวกเจตรินพุ่งมาจอดข้างเสื้อผ้า พากันลงมาจากรถยืนมองเสื้อผ้า พลางร้องเรียก
“อีริน่า...อีริน่า”
อีริน่าค่อยๆโผล่มาจากด้านหลังพุ่มไม้แล้วออกมา
“คุณเจต”
สองคนดีใจที่พบกันลืมตัวโผเข้ากอดกันโดยอัตโนมัติ อีริน่าเอาหน้าซบอกเขา เจตรินลูบหัวเธอไปมา
“ที่รักปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ”
“ค่ะ อีริน่าปลอดภัย อีริน่าไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
สองคนเหมือนลืมไปว่ามีคนอื่นด้วย
“ฮะแอ้ม นานไปไหมไอ้เจต” อิฐแซว
สองคนผละจากกัน เขินๆ
“เอ้อ...อีริน่าขอบคุณทุกคนนะคะที่มาช่วยอีริน่า”
“ช่วยที่ไหนกัน อีริน่ารอดมาเองนะครับ เก่งที่สุด” อิฐยิ้ม
“พวกมันอยู่ที่ไหนครับ” กมลกันต์มองๆ
อีริน่ายิ้มๆไม่พูดตรงๆ
“หลับค่ะ”
“หลับ”
ทุกคนมองอีริน่าแปลกใจ อีริน่าฉวยเสื้อผ้าที่กิ่งไม้มารวบไว้
“ไปกันเถอะค่ะ อีริน่าอยากกลับบ้านแล้วค่ะ”
ทุกคนมองเสื้อผ้าที่อีริน่าหอบไว้ในมือ เจตรินสงสัย
“นั่นเสื้อผ้าอะไรอีริน่า”
“เอ้อ...อีริน่าว่าจะเอาไปให้แหววซักค่ะ มันเลอะค่ะ”
เจตรินจ้องหน้าคาดคั้น
“ของใครกัน”
อีริน่าอึกอัก
“เอ้อ...ซื้อมาก่อนที่อีริน่าจะเข้าไปเที่ยวในผับค่ะ”
ทุกคนฟังแปลกๆแต่ไม่ติดใจ อีริน่าซ้อนท้ายเจตริน แล้วรถทั้งสองคันก็พุ่งออกไปจากที่นั่น

จิตรดาราสงบลงแล้ว แต่ยังหน้างอง้ำ มองนิกกี้ไม่พอใจยังคิดว่านิกกี้มาชิงตัวไปจากพงษ์ธร
“ผมไม่ได้จะก้าวก่ายหรือแทรกแซงเป็นมือที่สามความรักของจิตกับนายพงษ์คนนั้น แต่ผมติดตามอีริน่ามาเงียบๆ เพื่อปกป้องคุ้มครองอีริน่า”
“แล้วมายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไมไอ้บ้า ไอ้คนจุ้นจ้าน”
“จิตเมามากจนไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่กับนายพงษ์”
“แล้วฉันอยู่กับใคร”
“นายเขม”
จิตรดาราชะงัก
“คุณเขม”
“ลองนึกดีๆว่าจิตทำอะไร แล้วจะค่อยๆนึกออกไปเอง ผมหวังดีนะจิต กิริยามารยาทผมเป็นกุ๊ย แต่จิตใจผมเป็นผู้ดีมีความเป็นคนเต็มร้อย ผมถึงไม่ได้เข้าไปปกป้องดูแลอีริน่า เพราะเห็นว่าจิตอาจโดนใครหลอกทำร้าย ผมถึงตามมาช่วย จะบอกแค่นี้ล่ะ ผมจะไปตามหาอีริน่าต่อแล้ว”
นิกกี้เดินออก จิตรดารามองนิกกี้แบบพึงพอใจกว่าทุกครั้งที่พูดคุยกันมา
“ขอบใจที่ช่วยพาฉันไปส่งที่บ้าน แล้วห้ามพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ฉันจะทำเซ่อๆต่อไป ฉันรู้แล้วว่าใครกันที่วางแผนร้ายนี้กับฉัน”
“ใคร”
จิตรดารารำพึงในใจ…นังอารดา...เธอไม่ได้พูดออกมา ลุกตามนิกกี้ออกไป

พงษ์ธรรู้สึกตัวลุกขึ้นยันตัวยืน แล้วรู้สึกแปลกๆลูบเนื้อตัวก้มลงมองตกใจ เหลือแค่กางเกงบ๊อกเซ่อร์ตัวเดียว
“เฮ้ย...เสื้อผ้าหายไปไหนหมด อีริน่านังตัวแสบ”
พงษ์ธรไม่ได้มองอะไรต่อ รีบเดินเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว

อารดานอนห่มผ้าอยู่ในห้องยังคงเมาหลับใหล พงษ์ธรเปิดประตูห้องเดินเข้ามาเห็นอารดานอนหลับพริ้มห่มผ้าอยู่ ดูสวยงาม
“อารดา”
พงษ์ธรย่องไปหานั่งมองยิ้ม
“ไม่ได้อีริน่าก็ได้อารดามาทดแทนก็ยังถือว่าไม่เสียเที่ยว เอาวะ”
พงษ์ธรค่อยๆเปิดผ้าห่มแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่ม

รถมอเตอร์ไซค์สองคันพากันมาส่งอีริน่า ไม่จอดหน้าบ้านจอดใกล้ๆ อีริน่าลงมาจากรถในมือยังหอบเสื้อผ้าอยู่
“รีบไปกันเถอะค่ะ คุณหญิงได้ยินเสียงจะไม่ชอบใจ” อีริน่ารีบบอก
“ขอบใจที่เป็นห่วงความรู้สึกคุณแม่” เจตรินโอบอีริน่ากระซิบบอก “ถ้าไม่ติดว่ามีสองคนนั่นจ้องมองตาแป๋วอยู่ จะกอดแน่นๆหอมแก้มแรงๆ”
“ไม่เอานะ”
กมลกันต์กับอิฐเหมือนรู้ใจ รีบเดินลงไปจากรถหันหน้าไปทางอื่น หันหลังให้กับสองคน เจตรินรีบกอดรีบหอมอีริน่าอย่างที่ปากว่า อีริน่าสะบัดตัวงอนๆหนีเข้าบ้านไปโดยเร็ว อิฐกับกมลกันต์หันมามองเจตริน ยกนิ้วให้ เจตรินกลับมาขึ้นรถเร่งเครื่องแรงๆก่อนออกไป

อีริน่าวิ่งหอบเสื้อผ้าเข้ามาชนเข้ากับแหววที่วิ่งสวนออกมา สองคนร้องลั่น
“ว๊าย”
“แหวว”
“คุณอีริน่า ทำไมกลับมาคนเดียวคะ”
“ก็อยากกลับบ้านน่ะสิ”
“เมื่อกี้แหววได้ยินเสียงพวกแว๊นมาเร่งเครื่อง จะออกมาด่าให้เช็ด คุณอีริน่า โชคดีที่ไม่เจอพวกมันนะคะ”
“ใช่ อีริน่าโชคดี แหววช่วยอะไรหน่อยนะ”
“ยินดีค่ะ เอ๊ะ...นั่นเสื้อผ้าอะไรกันคะ”
“เสื้อผ้าไม่พึงประสงค์”
“ไม่พึงประสงค์ แล้วเอามาทำไมคะ”
“เอามาดูทิศทางลม”
“ทิศทางลมยังไงกันคะ”
อีริน่าส่งผ้าให้แล้วออกคำสั่ง แหววพยักหน้าหัวเราะกันคิกคัก

เขมชาตินอนหมดสติเริ่มรู้สึกตัว ลุกขึ้นมองตัวเองตกใจ
“เฮ้ย...”
เขมชาติมองไม่เห็นเอื้อที่ฟุบอยู่เช่นกัน เขามองไปบนบ้าน
“นังอีริน่าแกมันตัวแสบ วันนี้มันวันอะไรกันนะ มีปัญหาตลอดเวลาเอาวะ อย่างน้อยอารดาก็อยู่ข้างบน”
เขมชาติเดินมุ่งตรงจะเข้าไปในบ้าน

พงษ์ธรจัดการอารดา แล้วกำลังลุกขึ้นได้ยินเสียงประตูห้องเปิดหันไปมองเห็นเขมชาติเดินเซเข้ามาในชุดกางเกงบ๊อกเซอร์เช่นเดียวกัน
“ไอ้เขม”
“ไอ้พงษ์”
สองคนมองหน้ากัน พงษ์ธรชี้เขมชาติ
“เสื้อผ้าแก เสื้อผ้าฉัน”
เขมชาติลูบหัว
“หัวฉันด้วย มันตีจนสลบเหมือด”
“ฉันก็ไม่น้อยหน้า นังบ้านี่มันเก่งเกินไปแล้ว”
พงษ์ธรกับเขมชาติพยักหน้าให้กัน เสียงอารดาครางขึ้นมา
“พี่เจตขา...เมื่อกี้พี่เจตยังกอดดาอยู่ไม่ใช่หรือคะ”
สองคนสบตากัน พงษ์ธรพยักหน้า
“สินค้าชั้นดีเยี่ยมเลยขอบอก เอาละส่งต่อให้แกทดสอบ ฉันจะไปก่อน”
“ไปทั้งไม่มีเสื้อผ้าอย่างนั้นหรือวะ” เขมชาติถามอย่างสงสัย
“ช่างมันเถอะ ขึ้นรถแล้วก็ขับกลับที่พัก โชคดีเพื่อน”
สองคนจับมือกัน พงษ์ธรเดินออก เขมชาติเดินไปหาอารดานั่งลงมองเอามือลูบแก้ม อารดาดึงมือเขมชาติไปแนบแก้มยิ้มมีความสุข
“พี่เจตขา ดามีความสุขมากที่สุดค่ะ ในที่สุดความรักของดาก็สมหวัง”
เขมชาติไม่พูดจาก้มลงไปจะจูบ อารดาลืมตามามองเห็นหน้าเป็นเจตริน แล้วหน้าเจตรินค่อยๆเปลี่ยนเป็นหน้าพงษ์ธร จากนั้นกลายเป็นหน้าเขมชาติชัดเจน
“ผมเอง...เขม”
อารดาพยายามจะลุกกรีดร้อง
“อ๊ายๆ ไอ้เขม แก...แกไปให้พ้นนะ ออกไปให้พ้น”
“เพิ่งมาถึงจะออกไปให้พ้นให้โง่ทำไม คนสวย ไอ้คนที่เพิ่งออกพ้นไปน่ะ ไอ้พงษ์”
“อ๊าย ไอ้พงษ์ นี่พวกแก...”
“ใช่พวกเราสองคน”
อารดาพยายามจะลุกมาตบตีแต่ถูกเขมชาติผลักลงไปนอนใหม่ อารดาพยายามดึงผ้าห่มมาปิดตัวให้พ้นเขมชาติแต่ไม่พ้น

พงษ์ธรยืนมองยางรถที่แบน
“เสื้อผ้ากู ยางรถกู นังอีริน่า กูจะฆ่ามึงให้ตายทั้งเป็น”
พงษ์ธรได้ยินเสียงกรีดร้องของอารดาดังออกมา เขาเอามืออุดหู
“นังบ้านั่นก็อีกคน สมน้ำหน้า กูจะรีดนาทาเร้นให้สนุกมือทีเดียว ยังโชคดีนะที่มีรถไอ้เขม”
พงษ์ธรเดินไปที่รถ แต่กลับสะดุดเอาร่างของเอื้อแทบล้ม
“โอ๊ย” เอื้อร้องลั่น
พงษ์ธรก้มลงไปมอง
“นายเอื้อ นี่นายก็โดนด้วยหรือ”
“ครับ อีริน่าเอาไม้ฟาดหัวคุณเขม แล้วก็มาฟาดหัวผมต่อ ถ้าคุณพงษ์ไม่เดินมาเหยียบผมๆก็ยังไม่ฟื้นหรอกครับ”
พงษ์ธรดึงเอื้อให้ลุกขึ้นมาเอื้อชี้เสื้อผ้าพงษ์ธร
“แกไม่ต้องมาชี้เสื้อผ้าฉัน ดูสารรูปตัวแกเองก่อนเถอะ”
เอื้อก้มมองตัวเอง แล้วแอบหันไปยิ้ม
“เนียนสุดๆ คุณอีริน่า”
เอื้อหันมา พงษ์ธรรีบสั่ง
“รถฉันโดนมันปล่อยลมยางแบนหมดสี่เส้น นายเอื้อแกเอารถคุณเขมไปส่งฉันเดี๋ยวนี้”
“ครับ แต่ดูนั่นสิครับ”
เอื้อแอบยิ้มอีก แล้วชี้ไป พงษ์ธรมองตามเห็นรถของเขมชาติก็ยางแบนสี่เส้น

ในบริเวณบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์...เสื้อผ้าของพวกพงษ์ธร เขมชาติ อารดา เอื้อ ถูกแขวนไว้ตามต้นไม้กิ่งสูงๆ อีริน่ากับแหววจัดการเอาเสื้อผ้าแขวนไว้กับกิ่งไม้แถวรอบบ้านเสร็จแล้ว หัวเราะชอบใจกัน
“เรียบร้อย...ขอบใจมากแหวว”
“ค่ะ แหววละก็สะใจจริงๆ จะไม่บอกแหววหรือคะว่านั่นมันเสื้อผ้าของใคร”
“ถ้าเจ้าของเขามาเอาคืนแหววก็รู้เองแหละ”
“เอ้อ แล้วคุณๆทั้งหลายที่ไปกับคุณอีริน่าหายหน้าไปไหนกันหมดคะ”
“เราแยกทางกัน ฉันอยากกลับบ้าน แหววไปนอนเถอะ ฉันจะเข้าบ้านแล้ว”
แหววหันไป อีริน่าหันไปเสียงรถมอเตอร์ไซค์ดังสนั่นหน้าบ้าน สองคนชะงักหันไปมอง จิตรดาราเดินพรวดๆเข้ามาหน้างอมาก จิตรดาราเห็นแหววกับอีริน่าก็ตกตะลึง
“อีริน่า แก...เอ๊ย...เธอกลับมาได้ยังไง” จิตรดาราผิดหวัง
“อีริน่าก็อยากถามคุณจิตรดาราเหมือนกันค่ะ ว่าคุณกลับมาได้ยังไงคะ”
จิตรดาราอึ้งไปแล้วพาลใส่
“แล้วมันเรื่องอะไรของหล่อน”
“ถึงว่าสิคะว่ามันเรื่องอะไรของคุณจิตรดาราที่ฉันกลับมาบ้านแล้ว”
“ไม่ต้องมาย้อนฉัน”
จิตรดาราสะบัดหน้า เดินมาผลักอีริน่าให้หลบทางแล้วเดินผ่านไป อีริน่ากับแหววมองตาม
“แปลกจริงๆ ทำไมต้องตกใจด้วยนะที่เห็นเรากลับมาบ้านแล้ว”
“ผิดหวังที่เห็นคุณอีริน่ากลับมาโดยปลอดภัยมังคะ รีบเข้าไปในบ้านเถอะค่ะ แหววเห็นคุณจีกับคุณหญิงนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนค่ะ”
อีริน่าพยักหน้าแล้วหายเข้าไปในบ้าน

จิตรดาราเดินปึงปังเมาๆเข้ามา พบคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ที่นั่งยิ้มหวานเดินเข้าโอบกอดจิตรดารา
“ลูกจิตกลับมาแล้ว ไม่มีนังอีริน่ากับนังอารดา แปลว่าลูกกับคุณพงษ์กำจัด เสี้ยนหนามที่ทิ่มตำความสุขของบ้านเราจนแหลกพินาศไปหมดสิ้นแล้ว ใช่ไหมลูก ขอบใจมากจ้ะ เก่งมากลูกจิต”
จิตรดาราส่ายหน้า เสียงจีรณัทย์ที่อ่อนแรงจากท้องเสียอยู่เรียกอีริน่า
“อีริน่า”
คุณหญิงยืนนิ่ง
“อีริน่า นี่นังอีริน่ามัน...”
“มันกลับมาแล้วค่ะ”
จีรณัทย์เดินมาหาอีริน่าโอบกอด
“อีริน่าพี่รออยู่ เป็นห่วงมาก พี่ดีใจมากที่อีริน่ากลับมาอย่างปลอดภัย นี่กลับมาพร้อมกับน้องจิตใช่ไหม”
“เอ้อ...” อีริน่าอึกอัก
“จิตไม่กลับมากับใครหรอกค่ะ จิตมาของจิตเอง ส่วนใครจะกลับมากับใคร หรือให้ใครมาส่งจิตไม่ทราบ จิตกลับมากับนิกกี้ค่ะ”
“มากับนิกกี้” คุณหญิงสงสัย
“ค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าอีริน่ากลับมากับใครก็ลองถามดูสิคะ”
“คนเดียวค่ะ”
“แล้วอารดากับคุณพงษ์ คุณเขมล่ะ”
“อีริน่าแยกตัวมา ไม่ทราบว่าพวกเขาไปไหนคะ อีริน่าขอตัวก่อนค่ะ”
จีรณัทย์รีบดึงอีริน่าหลบไปจากที่นั่น จิตรดาราไม่อยากตอบคำถามแม่ ขยับตัวจะเดินไป แต่คุณหญิงดึงไว้
“ทำไมเป็นอย่างนี้ ทำไมนังอีริน่ายังหน้าใสสะสวยกลับมาแบบไม่มีทีท่าว่าไปเผชิญเหตุร้ายแรงมา”
“ต้องไปถามนังสารเลวอารดานั่นแล้วค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น จิตอยากจะฆ่านังอารดามากที่สุดค่ะ”
คุณหญิงชะงัก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ลูกจิต แม่มองออกนะว่ามีอะไรแปลกๆไม่ปกติ แต่นังอีริน่ามันไม่พูด แถมลูกจิตก็ทำท่าปิดบังแม่อีก”
“จิตไม่พูดก็เพราะไม่ไว้ใจคุณแม่อีกต่อไปแล้วไงคะ หน้าจิตหวิดเสียโฉมเพราะคุณแม่ แต่จิตเห็นว่าโยนบาปไปให้นังอีริน่าดีกว่าให้คุณแม่ถูกมองว่าเป็นคนใจร้ายทำร้ายลูกตัวเอง จิตไม่พูดคุณแม่ไม่ชอบหรือคะ คอยดูนะนังอารดา จิตจะฆ่ามัน จะสาปแช่งมัน”
จิตรดาราเดินออกไป คุณหญิงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ชักสับสน

อารดานั่งร้องไห้คร่ำครวญด่าทอทั้งพงษ์ธรและเขมชาติ
“แกสองคนมันชั่วร้ายเลวทรามทำได้แม้กระทั่งเพื่อน”
พงษ์ธรยิ้มหยัน
“เราเลวพอกันนะอารดา เราสามคนไม่มีใครเลวน้อยกว่าใคร”
“คุณต้องการให้ผมกับไอ้พงษ์ทำร้ายอีริน่า ทำร้ายจิตรดารา นั่นก็เลวมากเหมือนกัน” เขมชาติโต้
“แต่แกสองคนก็จะได้ผลประโยชน์จากมันทั้งคู่ ถ้าแกเอามันไปขาย แกก็ได้เงิน”
“ผมไม่เอาจิตรดาราไปขาย เพราะจิตรดาราคือแหล่งขุมทรัพย์ของผม ขายไปก็ไม่คุ้มกับเงินที่ผมได้จากจิตรดารา” พงษ์ธรบอกทันที
เขมชาติเสริม
“และผมก็ไม่ได้ทำลายจิตรดาราอย่างที่หวังไว้ เพื่อจะไปแบ่งขุมทรัพย์กับไอ้พงษ์”
อารดาโกรธ เสียใจ
“แกสองคนเลยหันมารวมหัวทำร้ายทำลายฉัน ถ้าพี่เจตรู้เข้า โถ ฮือๆ” อารดาตีอกชกหัว “ถ้าพี่เจตเขารู้ว่าฉันมีอันเป็นไปแบบนี้ ชีวิตฉันพังหมดแน่นอน”
พงษ์ธรมองหน้า
“ไม่มีใครรู้ถ้าเธอไม่พูด และไม่โง่ไปบอกใคร”
“ถ้าเธอไม่อาย ก็ให้มันรู้ไปว่ามีผัวคืนเดียวกันสองคน” เขมชาติยิ้มๆ
อารดานึกได้
“นังอีริน่ามันหายไปไหน ทำไมปล่อยมันลอยนวลไป”
“เอาชีวิตรอดมาจากมันได้ก็บุญแล้ว ผมชักอยากถอดใจแล้วด้วยซ้ำ” พงษ์ธรถอนใจ
เขมชาติหน้าเครียด
“ผมก็เหมือนกัน มันทำเราเสียเงิน เสียหาย เสี่ยงตายเสี่ยงโดนตำรวจจับ”
“แล้วผมก็ต้องการได้เงินค่าจ้างที่ดาจ้างผมมา พังพินาศงานนี้” พงษ์ธรเซ็งๆ
“ผมก็ต้องการด้วยเหมือนกัน”
“อ๊าย พวกแกไม่ใช่คน...” อารดาโกรธ
พงษ์ธรมองหยัน
“ก็ถ้าใช่คนคงไม่ทำอย่างนี้กับดาหรอกนะ อย่าพูดมาก คลิปของดาจะว่อนเนตกับผู้ชายสองคนในคืนเดียวกัน”
เขมชาติจ้องหน้าข่มขู่
“หน้าตาของดาเห็นถนัดชัดเจน แต่หน้าตาของพวกเราซ่อนกันไว้มิดชิด หรือว่าจะให้ส่งให้พี่เจตคนดีของดาไว้ดูเล่น”
อารดากรี๊ด สองคนหัวเราะชอบใจ พงษ์ธรพูดขึ้น
“เรามาวางแผนกันใหม่ พลิกจากร้ายให้กลายเป็นดีสำหรับทุกคน”
“รีบไปมีอะไรกับนายเจตให้เร็วที่สุด แล้วมัดมือชกมันซะ ไอ้ที่เกิดขึ้นคืน นี้อย่าไปติดใจ” เขมชาติแนะ
“เก็บเอาไว้ต่อยอดความสำเร็จ ถ้าดาเกิดท้องก็ไปโบ้ยให้นายเจตรับผิดชอบ ถ้าช่วยตัวเองให้นายเจตมานอนด้วยไม่ได้ เราจะช่วยเธอเอง” พงษ์ธรเสริม
เขมชาติจ้องหน้า
“ตอนนี้รีบหาวิธีจ่ายเงินค่าจ้างให้เราสองคนให้เร็วที่สุด พ่อล้มบนฟูกทั้งที เงินมันไม่หายไปไหนหรอกน่าอารดา”
“ไม่” อารดาตวาด

สองคนปรี่เข้ามาหา คนหนึ่งจิกหัวอีกคนเงื้อมือ

เอื้อนั่งสลดใจกับสิ่งที่ได้พบเห็น เสียงอารดาร้องไห้โหยหวน
“แกไอ้แมงดา โอ๊ย โอ๊ย กลัวแล้ว ยอมแล้วฮือๆ”
พงษ์ธรตวาด
“ยอมแล้วก็สงบ แล้วเตรียมตัวจ่ายเงินมาให้พวกเรา”
“ตัวอย่างมีให้เห็นแล้ว เมเพื่อนรักของเธอไง” เขมข่มขู่
อารดาร้องไห้โฮๆ เอื้อถอนใจแล้วเอามืออุดหู

อีริน่ากับจีรณัทย์นั่งคุยอยาด้วยกันในห้อง
“อีริน่าไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับอีริน่าค่ะ พูดไปจะทำให้ไก่ตื่นเปล่าๆ”
“ไก่ตื่น นี่อีริน่ารู้หรือว่าแปลว่าอะไร”
“ทราบค่ะ แหววสอนอีริน่าคะ”
“นี่แหววทำตัวเป็นอาจารย์สอนสุภาษิตวันละคำให้อีริน่าหรือ”
“วันละหลายคำเลยค่ะ เช่น ตอนนี้ไม่ทำให้ไก่ตื่น แล้วอีริน่าควรนิ่งเสียตำลึงทองค่ะ”
“โอ้โฮ เชื่อแล้ว ถ้าอีริน่าไม่อยากบอกว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องบอก อีริน่าปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว”
“พี่จีบอกว่ามีอะไรจะให้อีริน่าช่วยจัดการคะ”
“ก่อนอื่นอีริน่าไม่แปลกใจสงสัยหรือว่า ทำไมคุณแม่ เจต และน้องจิต ค่อนข้างจะไม่กล้ากับอารดา”
“เพราะว่าคุณหญิงท่านรักคุณอารดา อยากให้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ไม่ใช่อีริน่าค่ะ”
“เมื่อก่อนใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว คุณแม่ท่านเอือมระอากับนิสัยแย่ๆของอารดา แถมมีเจตนาไม่บริสุทธิ์กับพวกเราด้วย เขาจะแบล็คเมย์ตระกูลไอศูรย์ศรินทร์จ้ะ”
“แบล็คเมย์ เพื่ออะไรค่ะ ในเมื่อเธอสมควรเอาใจคุณหญิง กับทุกคนที่นี่”
“เธอต้องการให้เจตหย่ากับอีริน่า แล้วมาแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด เธอต้องการมีส่วนในสมบัติของพวกเรา และต้องการเปลี่ยนนามสกุลจากล้มละลาย มาใช้ไอศูรย์ศรินทร์เพื่อล้างอาย”
“แล้วอีริน่าจะช่วยได้ยังไงคะ”
“ในฐานที่อีริน่านามสกุลไอศูรย์ศรินทร์ อีริน่าควรช่วยกันปกป้องตระกูลเราเอาไว้ จากการแบล็คเมย์เรื่องการประมูลการก่อสร้าง เมื่อครั้งที่แม่ของอารดาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่ยังอยู่เธอร้ายกาจมาก แอบเก็บเอกสารไว้ขู่พวกเรา ถ้าเจตบิดพลิ้วไม่แต่งงานกับอารดา”
“เอกสารนั่นอยู่ที่ไหนคะ”
“อารดาเอาติดตัวไว้ตลอดเวลาค่ะ น่าจะอยู่ในกระเป๋าถือของเธอ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการคืนมา และคนที่สามารถเอาคืนได้มีคนเดียวคืออีริน่า”
“แปลว่าพี่จีจะให้อีริน่า เอ้อ...”
“ขโมยจ้ะ”
อีริน่าอึ้งๆ

กระเป๋าถือของอารดาแขวนอยู่บนกิ่งไม้สูงมากในบ้าน อีริน่ากับแหววและจีรณัทย์กำลังมองขึ้นไป
“เราต้องปีนขึ้นไปที่ยอดไม้กิ่งนั้น นะแหวว” อีริน่าบอก
“หา เราหรือคะ แหวว ว่า...” แหววตาโต
“ไม่ต้องว่า ฉันจะปีนขึ้นไปตรงที่สูงๆ แหววปีนอยู่บนง่ามกิ่งใหญ่ๆ”
“ฉันจะเป็นคนส่งไม้ให้แหวว ส่วนแหววก็ส่งต่อให้คุณอีริน่าอีกที” จีรณัทย์เสริม
“ค่อยยังชั่วค่ะ” แหววโล่งใจ
สามคนพยักหน้าให้กัน

อารดาใส่ชุดชั้นในแล้วเอาผ้าปูที่นอนมาเจาะสวมหัวกลายเป็นเสื้อคลุมดูรุ่มร่าม ส่วนพงษ์ธร เขมชาติ เอื้ออยู่ในชุดบอกเซอร์ตัวเดียว อารดานึกได้กังวล
“นังอีริน่ามันขโมยกระเป๋าฉันไป ในนั้นมี...”
“เงินร้อยล้านหรือ” พงษ์ธรถามยิ้มๆ
“โคตรเพชรใช่ไหม” เขมชาติถามกวนๆ
“อย่ามาเย้ยหยันกัน ขอบอกว่าของในนั้นมันมีค่ามากกว่าที่เธอสองคนคิด” อารดาฉุน
“มันคืออะไร” สองคนสงสัย
“เอกสารแบล็คเมย์ตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ให้หมอบราบคาบแก้วฉัน อย่างที่เธอสองคนเห็นกันทุกวันนี้”
พงษ์ธรกับเขมชาติพยักหน้าเข้าใจ
“มิน่า”
“ถ้ามันรู้ว่าในนั้นมีเอกสาร พวกไอศูรย์ศรินทร์จะชนะฉันทันที เราต้องรีบไปตามเอากระเป๋าคืนให้ไวที่สุด”
ทั้งหมดรีบเดินไป เอื้อรีบบอก
“ผมคงไปที่นั่นไม่ได้หรอกครับ ถ้าคนที่นั้นเห็นผมจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”
เขมชาติหันมาหาพงษ์ธร
“ฉันกับไอ้เอื้อจะไปจัดการเรื่องยางรถกับกุญแจรถ ไม่นึกเลยว่าอีริน่าคนนี้จะมีฤทธิ์เดชมากมาย”
สองฝ่ายแยกกันไปคนละทาง อารดาบ่นไปแค้นไป
“กระเป๋าของฉัน...กระเป๋าของฉัน”

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ และจิตรดารานอนอยู่ในห้องนอน คุณหญิงนอนไม่หลับ ผุดลุกผุดนั่ง
“ทำไมถึงเล่นงานนังอีริน่าไม่ได้ แล้วอารดาหายไปไหนจะบ้าตายอยู่แล้ว”
จิตรดาราลุกมามองแม่ไม่พอใจ
“ถ้าจิตหายไปอีกคน คุณแม่คงจะบ้าไปจริงๆแน่ๆ ไม่ดีใจหรือคะที่จิตรอดปลอดภัยมา”
“พูดอะไรทำราวกับว่าไปมีเรื่องราวร้ายแรงอะไรกันมา บอกแม่มาสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไรจะบอกค่ะ แต่อยากจะบอกว่า บางทีจิตก็มองคนผิดไป ไอ้ที่ว่าร้าย มันอาจกลายเป็นดี ไอ้ที่คิดว่าดีมันอาจเลวร้าย คุณแม่เลิกลุกๆ นั่งๆ สงสัยว่าทำไมนังอีริน่ามันกลับมาโดยสวัสดีภาพสักที เวลานี้ จิตกำลังแช่งให้นังอีริน่ามันตกนรก ตายทั้งเป็น เอ๊ะ...นั่นอะไรกันคะบนยอดไม้”
คุณหญิงมองไป
“นั่นอะไรไหวๆอยู่บนยอดไม้”
สองคนเดินไปดูที่หน้าต่าง
“กระเป๋า”
สองคนงงไปหมด

กระเป๋าห้อยอยู่มีไม้อันหนึ่งกำลังทิ่มมาที่กระเป๋าเขย่าไปมาให้กระเป๋าหลุดไปติดเงี่ยงของไม้ จิตรดารากับคุณหญิงมองไม่เข้าใจ
“ใครเอามันไปแขวนไว้บนยอดไม้” คุญหญิงถามอย่างสงสัย
“แต่กำลังมีใครพยายามสอยมันให้หล่นจากยอดไม้ค่ะคุณแม่”
“ใคร”
สองคนมองไล่ไปตามกิ่งไม้ที่กำลังสอยมาถึงอีริน่าที่ใส่ผ้าสีดำคลุมตัว ใส่หน้ากากผี แหววใส่ชุดคลุมสีดำหน้ากากผี จีรณัทย์อยู่ที่พื้นใส่ชุดสีดำ หน้ากากผีเช่นกัน สองแม่ลูกกรี๊ดลั่น จีรณัทย์ตกใจ
“เสียงเปรต”
“เราแต่งเป็นผี ทำไมมีเปรต” แหววสงสัย
“เปรตมาขอส่วนบุญผิดเวลา...ดีละ”
อีริน่าส่งเสียงครางๆ แล้วพูดเสียงออกแนวผี
“เปรตที่มาขอส่วนบุญจงฟังเราผู้เป็นเทวดาอารักษ์พิทักษ์ต้นไม้และพื้นดินของที่นี่ พวกเจ้าทั้งสองบาปหนามาก คิดร้าย ต่อคนดีๆอย่างอีริน่า จงสำนึกแล้วเปลี่ยนใจก่อนที่นรกจะส่งอสูรกายมาให้ไปตะครุบพวกเจ้า...หลบไปซะ หลบไป”
จีรณัทย์กับแหวว ส่งเสียงผีประสานเสียงกับอีริน่า
“หลบไป หลบไป”
เสียงกรี๊ดร้องของสองแม่ลูกหยุดฉับพลันทันใด ตกใจตัวสั่นกอดกันกลมดิก แล้วยกมือพนมไหว้
“กลัวแล้วจ้า”
“เชื่อแล้วจ้า” คุณหญิงไหว้ปลกๆ
“สำนึกแล้วจ้า” จิตรดารายกมือไหว้ท่วมหัว
สองคนถอยเข้ามาในห้องปิดหน้าต่าง ปิดม่านแล้วมาที่เตียงนอนคลุมโปง

กระเป๋าหล่นลงมา ทั้งสามคนยืนที่กระเป๋า
“เปิดกระเป๋าสิอีริน่า” จีรณัทย์บอก
“ค่ะ”
อีริน่าเปิดกระเป๋าออกมาเห็นซองเอกสารซองหนึ่งจีหยิบขึ้นมาเปิดอ่านแล้วพยักหน้า
“นี่แหละ ใช่เลย”
“พี่จีเก็บไว้เลยนะคะ อย่าเพิ่งให้ใครเห็นนะคะ”
“จ้ะ เอาละได้ของแล้ว แหววเอากระเป๋าไปไว้คืนที่ยอดไม้”
แหววหน้าเหวอ
“อ้าว ไหงมาโบ้ยเป็นแหววเล่าคะ มาด้วยกันทำไมไม่กลับด้วยกันค่ะ”
จีรณัทย์รีบบอก
“เกิดคุณแม่กับน้องจิตกลัวมากวิ่งไปหาฉันสองคนแล้วไม่พบจะเรื่องใหญ่”
“แหววจำไว้ ต้องลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ให้หมด ลบมันออกจากสมองซะ”
อีริน่าส่งกระเป๋าให้แหววแขวนไว้กับง่ามไม้เช่นเดิม

เช้ามืดวันใหม่...เจตริน กมลกันต์ อิฐ เตรียมตัวออกไปดูลาดเลาแถวบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ เจตรินหันมาบอก
“เมื่อคืน หลังจากส่งอีริน่าแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย น้องจิตกับอารดาเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
อิฐมองไปข้างหน้า
“เฮ้ย...นั่นเปรตหรือว่าคน หรือว่าปีศาจ”
กมลกันต์มองๆ
“หรือว่าคนบ้ากำลังมาด้อมๆมองๆ แถวหน้าบ้านนายนะเจต”
สามคนมองไป แล้วโพล่งออกมา
“อารดา พงษ์ธร”

อารดาใส่ชุดโป้มี่ผ้าปูที่นอนคลุม ส่วนพงษ์ธรใส่บ็อกเซอร์พยายามปีนต้นไม้หน้าบ้าน หล่นซ้ำๆ
“เร็วๆสิพงษ์ ฉันปีนไม่ไหวหรอก ไปหาไม้อะไรมาสอยได้ไหม เดี๋ยวใครตื่นมาเห็นเราสองคนสภาพนี้ จบกันเลย ไปไม่เป็น แก้ตัวไม่ถูก”
“พูดบ้าๆ แถวนี้มันจะมีไม้อะไรมาสอยได้ยังไงกัน อีริน่านี่มันบ้าแท้ๆ”
“ฉันจะฆ่ามัน และต้องฆ่ามันให้ได้ นายน่ะปีนขึ้นไปสิ...ปีน”
เจตริน กมลกันต์ และอิฐ แอบมองงงมาก
“ทำไมสองคนนั่นแต่งตัวอย่างนั้น” เจตรินถามอย่างสงสัย
“ทำไมเสื้อผ้าสองคนนั่นไปแขวนบนยอดไม้” อิฐถามอย่างแปลกใจ
กมลกันต์นึกได้
“ใช่แล้ว เมื่อคืนนี้เสื้อนั่นแขวนอยู่ที่กิ่งไม้ข้างทาง”
เจตรินหน้าตื่น
“อีริน่า อีริน่าหอบเสื้อผ้าพวกนั้นมาด้วย”
สามคนพูดพร้อมกัน
“เวรกรรม”
อิฐระเบิดหัวเราะชอบใจ กมลกันต์หัวเราะตาม เจตรินส่ายหน้า
“อีริน่าร้ายกาจแท้ๆ พวกเราไปช่วยสองคนนั่นก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”
สามคนค่อยๆเดินไปหาอารดา กับพงษ์

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจิตรดารา กำธูปเทียนดอกไม้มาที่หน้าต้นไม้ที่แขวนกระเป๋า อีริน่า จีรณัทย์ และแหววเดินตาม
“เราต้องไหว้ขออนุญาต ขอขมาเทพาอารักษ์ประจำต้นไม้ และเจ้าที่เจ้าทางที่นี่เข้าใจไหม”
สามคนตอบพร้อมกัน
“เข้าใจค่ะ”
จิตรดาราหันมาถามจีรณัทย์
“เมื่อคืน มีเทพาอารักษ์เจ้าที่เจ้าทางมาหาจิตกับคุณแม่ พี่จีไม่เห็นอะไรบ้างหรือคะ”
จีรณัทย์อึกอัก
“เอ้อ...ไม่เห็น...เอ้อ”
“อีริน่าเห็นค่ะ” อีริน่าพูดขึ้น
“แหววก็เห็นค่ะ”
“นั่นปะไร เธอเห็นอะไรอีริน่า แหววแกเห็นอะไร” คุณหญิงถาม
“เปรตค่ะ” แหววตอบ
จีรณัทย์หันมามองสองคนแทบจะหัวเราะออกมา
“อีริน่าเห็นผีกำลังด่าเปรตค่ะ”
จิตรดารากับศรินทร์ทะย์สะดุ้ง
“เอาละนั่งลง แล้วพนมมือว่าตามฉัน” คุณหญิงสั่ง
ทุกคนนั่งลง แล้วมองไปบนต้นไม้ อีริน่าถามขึ้น
“เอ้อ...คุณหญิงขา เราต้องไหว้ยกทรงของเทพาอารักษ์ด้วยหรือคะ”
“พูดบ้าๆ”
จิตรดารามองขึ้นไป
“คุณแม่ขา นั่นค่ะมียกทรวงจริงๆ เสื้อผ้าด้วยค่ะ”
อีริน่า จีรณัทย์ แหววมองหน้ากันแล้วก้มหน้างุด มีเสียงอารดาร้องหวีดหวาดดังออกมาจากหน้าบ้าน
“ว๊ายหมา หมามันกำลังวิ่งมาหาเรา ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
“ไอ้หมาบ้า ไปนะ ไปให้พ้น เฮ้ย...มันกัดผมแล้ว” พงษ์ธรร้องลั่น
ทุกคนพากันลุกมองไป คุณหญิงอึ้งๆ
“คนบ้า”
“อาราดา ค่ะ” จีรณัทย์แย้ง
“พงษ์...ว๊าย!”
จิตรดาราวิ่งพรวดออกไปทันที แหววงงๆ
“มันยังไงกันค่ะ”
อีริน่าเดินไปหยิบไม้สอย คุณหญิงกับจีรีบเดินออกไป
“รู้จักอีริน่าน้อยไปแล้วคุณผู้ดีอารดา แมงดาพงษ์ธร” อีริน่ายิ้ม

หมากำลังวิ่งไล่กวด พงษ์ธรกับอารดาวิ่งหนี มอเตอร์ไซค์ของพวกเจตรินวิ่งมาที่สองคน อารดาร้องเรียก
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยไล่หมาไปด้วย”
“ไล่หมาไปทีสิ” พงษ์ธรตะโกน
สามคนเร่งเครื่องดังมาก หมาวิ่งหนีหางจุกก้น อารดากับพงษ์ธรอายมาก เจตทำเสียงสุภาพ
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
อารดากับพงษ์ธรมองหน้ากัน จำได้ว่าแว๊นที่เคยมีเรื่อง อารดาเสียงเขียวใส่
“ไอ้พวกแว๊น แกมาทำอะไรที่นี่”
“ไปให้พ้นจากที่นี่” พงษ์ธรไล่ทันที
“พวกคุณก็ดูคล้ายหลุดมาจากโรงพยาบาลบ้า” อิฐมองหยัน
“เราอุตส่าห์มาช่วยคุณ ยังโดนด่า” กมลกันต์มองหน้า
“อกตัญญู” เจตรินด่า
อารดากับพงษ์ธรสะดุ้ง
“เฮ้ย”
พวกคุณหญิงพากันออกมา
“หนูดา คุณพงษ์ ทำไมเป็นอย่างนี้”
“เราโดน เอ้อ...” อารดาหน้าเสีย
“โจรปล้นแน่ๆเลยใช่ไหมคะ” อีริน่าแทรกขึ้น
จิตรดาราเข้าไปเกาะพงษ์ธรไว้
“โถพงษ์ขา ใครมันบ้ามาทำกับพงษ์แบบนี้คะ”
พงษ์ธรสบตาอีริน่าแค้นๆ
“โจรครับ”
“โจรแบบไหนทำไมปล้นเสื้อผ้าเท่านั้น” เจตรินสวน
“โจรปล้นสวาทมั้งครับ” อิฐเสริม
“หยุดนะ สั่งแล้วว่าอย่ามาเห่าหน้าบ้านฉัน” คุณหญิงตวาด
อีริน่ามองไปที่เจตริน ยิ้มขำๆ
“จีเห็นพวกเขามาช่วยไล่หมาที่มาไล่ฟัดสองคนนี่นะคะคุณแม่”
จิตรดาราหันไปสั่งแหวว
“แหวว แกไปหาเสื้อผ้ามาให้คุณพงษ์ใส่สิ”
“ได้ค่ะ มีแต่ผ้าถุงกับเสื้อคอกระเช้าเอาไหมคะ”
"นังบ้า” จิตรดาราด่า
“ผมว่า น่าจะเอาไม้ สอยเสื้อผ้าบนยอดไม้นั่นคืนมานะครับ ส่วนคุณผู้หญิงก็กลับเข้าบ้านก่อนที่น้องหมามันจะหวนมากัดอะไรที่ไม่บังควรนะครับ” เจตรินแนะ
อารดาตวาด
“ฉันไม่กลับ อย่ามาสั่งสอน ฉันต้องการกระเป๋าของฉันนั่น หมาเลวทรามต่ำช้ามันขโมยไปแขวนไว้บนยอดไม้นั่น”
อีริน่ายืนไม้สอยให้
“นี่ค่ะ”
“คุณแม่ขา เข้าบ้านกันเถิดค่ะ หมดเรื่องแล้ว” จีรณัทย์กระซิบ “น่าอายออกค่ะใครมาเห็นเข้าเราจะไม่มีที่วางหน้านะคะ”
“มีแต่เรื่องบ้าๆ นี่ถ้าเจตมาด้วยคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้” คุณหญิงบ่น
“ผมไปก่อน พวกเรากลับ”
เจตรินเอี้ยวรถมาที่อีริน่ายื่นหน้ามากระซิบ
“เธอนี่มันแสบสุดๆ แท้ๆ คิดได้ยังไง”
อีริน่าฉวยโอกาสมั่วชกท้องเจตริน
“ทะลึ่ง”
อิฐกับกมลกันต์หัวเราะแล้วพากันโฉบรถออกไป เหลือเพียงพงษ์ธร จิตรดารา อีริน่า อารดาที่พากันเข้าไปใต้ต้นไม้ อารดาชี้
“พงษ์ เธอสอยสิ สอยกระเป๋าฉันก่อน”
จิตรดาราถามอย่างไม่เข้าใจ
“กระเป๋านี่มันมีอะไรนักหนาคะ เมื่อคืนก็เห็นเทพาอารักษ์กำลังพยายามสอยมันอยู่”
“อะไรนะ” อารดาชะงัก
อีริน่าหันกลับจะเดินเข้าบ้าน อารดากระชากบ่าอีริน่าโดยแรง
“เดี๋ยวอีริน่า”
อีริน่าหยุด
“บอกมานะว่าแกทำอะไรกับกระเป๋าของฉัน”
“บอกมาก่อนสิคะ ว่าคุณกับพวกพยายามทำอะไรกับชีวิตของฉัน”
“ฉันไม่รู้เรื่อง ไม่เห็นเหรอว่าฉันก็เมา ไอ้นายพงษ์นั่นต่างหากมันหลอกวางยาเธอ”
“หรือคะ ขอบคุณที่เรื่องเลวนี่มันไม่เกี่ยวกับคุณ ดีแล้วค่ะ ฉันจะไปฟ้องคุณเจตให้มาจัดการสอบสวนทุกคนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันลามปามไปถึงนายเขม คนนั้นด้วย”
อารดาตกใจ
“อย่านะ ขอร้อง อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครทั้งนั้น ขอเวลาฉันก่อน ฉันจะจัดการไอ้สองคนนี่ด้วยตัวเอง ฉันรับปาก”
“ฉันก็รับปากค่ะว่าจะไม่พูด คุณโชคดีนะคะที่ไม่โดนมันกลั่นแกล้ง ทำร้ายหวังทำลายเหมือนกับที่ฉันโดน เดชะบุญฉันรอดมาได้”
“เลิกแล้วต่อกัน แต่ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอเปิดกระเป๋าชั้นหรือเปล่า”
“ไม่ได้เปิดค่ะ เงินของคุณหรือของมีค่ารับรองว่าอยู่ครบค่ะ”
อีริน่าเบี่ยงตัวหลบ เดินออกไปแอบยิ้ม เสียงอะไรหล่นลงมากองที่พื้นดังตุ๊บ จิตรดาราตะโกนบอก
“กระเป๋าของพี่ดาหล่นลงมาแล้วค่ะ”
อารดาผวาไปที่กระเป๋าเปิดออกมา
“ซองเอกสาร ไม่มี”
อารดาเทกระเป๋าลงมา ของหล่นมากองเต็มพื้น เธอล้มลงหยิบรื้อค้น
“ไม่นะ ไม่ได้นะ”
จิตรดาราสงสัย
“อะไรหายไม่ทราบค่ะ พินัยกรรมหมื่นล้านหรือคะ”
อารดาไม่ฟัง เงยหน้าแค้นมาก
“นังอีริน่า แกขโมยเอกสารของฉันไป”

ซองเอกสารอยู่ในมือจีรณัทย์ อีริน่าเดินมาหายิ้มแย้ม
“ขอบคุณ ขอบคุณแทนครอบครัวไอศูรย์ศริทร์ทุกคน อีริน่า”
“อีริน่าว่าอย่าเก็บไว้เลยค่ะวันนี้เราขโมยคุณดา วันหน้าคุณดาขโมยกลับไม่จบสิ้นค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น”
“ค่ะ”

อีริน่าจุดไม้ขีด ยื่นไปจ่อที่เอกสารนั่น
 
จบตอนที่ 12 
กำลังโหลดความคิดเห็น