xs
xsm
sm
md
lg

อย่าลืมฉัน ตอนที่ 26

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อย่าลืมฉัน ตอนที่ 26

ในขณะเดียวกันที่บ้านรัตนชาติ คนรับใช้รีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น
“มาแล้วค่ะ คุณเอื้อมาแล้วค่ะ กำลังลงจากรถค่ะ”
เกนหลง อัมพิกา ไก่ ไข่ นภา อาทิตย์ และเด็กรับใช้อีกสองสามคน ยืนออรออยู่ที่ทางออกไปสวน ทุก
คนมีหมวกปาร์ตี้ และอุปกรณ์ปาร์ตี้อยู่ในมือ
เกนหลงยิ้มรับ อัมพิการีบสั่งคนใช้คนเดิม
“เธอไปบอกคุณเอื้อว่าวันนี้ฉันจะทานข้าวในสวน ให้คุณเอื้อมาที่สวนได้เลย”
“ค่ะ”
คนใช้เดินออกไป อัมพิกายิ้มพอใจ เกนหลงตื่นเต้น หันมาถาม
“ทุกคนพร้อมนะคะ” เมื่อทุกคนตอบว่าพร้อม เกนหลง ที่ถือเค้กอยู่ในมือ รีบบอก
“รีบไปกันเลยค่ะ”
อัมพิกา จูงไก่ ไข่
“ไก่ ไข่ รีบไปเร็ว ตื่นเต้นๆ เดี๋ยวๆเกนจุดเทียนก่อนแล้วตามออกมานะ”
นภา อาทิตย์ มองแล้วก็ยิ้ม แล้วก็หันมามองหน้ากันอย่างมีความสุข แล้วก็รีบเดินตามไป
เกนหลงจุดเทียนจนครบแล้วยิ้มพอใจ รีบยกเค้กเดินตามออกไป กำลังจะอ้าปากพูดว่าเซอร์ไพรส์ แต่กลับมีเสียงสวนดังขึ้นจาก เอื้อ อัมพิกา นภา อาทิตย์ ไก่ และไข่
“เซอร์ไพรส์”
จากนั้นทุกคนก็ดึงกระดาษกันอย่างสนุกสนาน
เกนหลงงง เหวอ มองทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความงุนงง โดยเฉพาะเอื้อที่ยืนอยู่ตรงกลาง พร้อม
ช่อดอกไม้ในมือ เดินมาส่งให้เกนหลง
“นี่มันอะไรกันคะเนี่ย”
อัมพิกา ไก่ ไข่ นภา อาทิตย์ หัวเราะคิกคัก ที่เห็นเกนหลงเหวอ
อัมพิกามาแย่งเค้กไปจากมือเกนหลง
“แผนของเอื้อ ไปเคลียร์กันเองนะ”
เกนหลงหันไปทางเอื้อ “พี่เอื้อ”
เอื้อหันไปพยักหน้าให้นักดนตรี ดนตรีขึ้น ไฟหรี่ลง


คู่แฝดจูงมือเกนหลงให้เดินไปที่หน้าเวที ที่มีเก้าอี้เตรียมไว้ให้.เกนหลงนั่งอยู่กลางสนามเล็กๆ หน้า
จอ..ดนตรีเริ่ม พร้อมกับภาพบนจอ เป็นภาพที่เอื้อแอบถ่ายเกนหลง เกนหลงอึ้ง
เอื้อเริ่มร้องเพลง เกนหลงนั่งมองภาพด้วยความตื้นตัน เป็นมุมสวยๆ ที่เอื้อถ่ายเก็บไว้ ทั้งแบบรู้ตัว
และไม่รู้ตัว
เพลงจบ พร้อมกับภาพสุดท้าย ตอนเกนหลงถ่ายคู่กับเอื้อ แล้วก็ขึ้นตัวหนังสือว่า “ขอบคุณ”
เกนหลงน้ำตาซึม ปรบมือให้ด้วยความตื้นตัน นภา อาทิตย์ ไก่ ไข่ อัมพิกา ก็ปรบมือด้วยความ
สนุกสนาน

เกนหลงรับเค้กจากคนรับใช้มายื่นให้เอื้อ พลางหันมาหาคู่แฝด
“ไก่ ไข่ ครับ ถึงคิวแล้วครับ หนึ่ง สอง ซ่ำ”
ไก่ ไข่ร้องเพลง Happy birthday to you ในจังหวะฮาร์ดคอร์อย่างเมามัน เล่นเอาทุกคนขำกลิ้ง
“อธิษฐานเลยค่ะ”
เอื้อหลับตาแล้วก็เป่าเค้ก พอเอื้อหลับตาปุ๊บ เกนหลงเปลี่ยนมาถือเค้กมือเดียว และใช้นิ้วอีกมือปาด
เค้กจะป้ายหน้าเอื้อ ทันใดนั้นเอื้อหรี่ตาอย่างรู้ทันแล้วก็คว้ามือไว้ และหันข้อมือเกนหลงไปป้ายหน้าตัวเอง
เกนหลงร้องลั่น “พี่เอื้อ”
เอื้อเป่าเค้ก แล้วก็ลืมตา “ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว”
คนอื่นพากันหัวเราะ ที่เกนหลงโดนเค้กป้ายหน้าตัวเอง
“งั้นก็ทั้งก้อนเลยแล้วกัน” เกนหลงไม่ยอมแพ้ ตั้งท่าจะปาเค้กใส่เอื้อ ไก่กับไข่ร้องลั่น
“ไก่ ไข่ จะกิน”
เอื้อหัวเราะร่วม “เอ้ย เล่นงี้เลยเหรอ”
เกนหลงวิ่งตาม
“พี่เอื้ออย่าหนีนะ”
ไก่ กับไข่คว้าขาเกนหลงไว้
“พี่เอื้อหนีไป ไก่ ไข่จะกินเค้ก”
เกนหลงหันมามองคู่แฝดที่เกาะขาตัวเองอยู่ แล้วก็เอาเค้กมาป้ายหน้าทั้งคู่
“นี่แน่ะ จะปล่อยมั้ย”
“ไม่”
จังหวะนั้นเองเอื้อมาฉกเค้กไปจากมือเกนหลง
“อ้าว พี่เอื้อเอาเค้กคืนมา”
ไก่ กับไข่ มองหน้ากัน แล้วตะโกนเสียงดัง “เย้” ก่อนจะปล่อยเกนหลง แล้วก็วิ่งตามเอื้อไปกินเค้ก
“เกนไม่ยอมง่ายๆหรอก หยุดนะทั้งสามคนเลย”
จากนั้นเกนหลงก็วิ่งไล่จับเอื้อ ไก่ ไข่ ก็วิ่งตามเค้ก เอื้อก็วิ่งหลบไป หลบมา เป็นที่สนุกเฮฮา
“ไก่ ไข่ จับพี่เกนไว้เร็ว” เอื้อตะโกนสั่ง เกนหลงไม่ยอมแพ้
“ไก่ ไข่ วิ่งไปเอาเค้กกับพี่เอื้อสิ เดี๋ยวพี่เอื้อแอบหม่ำคนเดียวนะ”
ไก่ ไข่มองหน้ากัน แล้วก็หันมาทางเกนหลง “ไม่เชื่อ จับพี่เกน” จากนั้นก็วิ่งไล่จับเกนหลงต่อ
อัมพิกา นภา อาทิตย์ หัวเราะกันครื้นเครง อัมพิกาได้หัวเราะแล้วก็สบายใจ ถอนหายใจเบาๆ ก่อน
จะหันมาทางนภาและอาทิตย์
“ปล่อยเด็กๆเล่นกันไป เราเข้าไปทานอาหารกันดีกว่า ฉันสั่งอาหารมาจากโรงแรม ลองชิมดู เผื่อ
คราวหน้าจะได้ทำให้ฉันทาน”
นภายิ้มรับ “ค่ะ”
อัมพิกาเดินนำเข้าไป อาทิตย์หันมาจับมือนภา พลางยิ้มให้กัน
เสียงหัวเราะของไก่ ไข่ เกนหลงและเอื้อ ยังคงดังครึกครื้น

หลังความสนุกสนานของงานปาร์ตี้จบลง ไก่กับไข่ ที่วิ่งเล่นกันจนเพลีย ก็นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
ของอัมพิกา อัมพิกาห่มผ้า แล้วก็เดินออกไป เห็นนภากับอาทิตย์ยืนรออยู่หน้าห้อง ก็รีบเดินมาหา
“หลับกันสนิททั้งสองคน คืนนี้ก็ให้นอนนี่ก็แล้วกัน พรุ่งนี้วันหยุด ถ้าตื่นแล้วฉันจะให้คนไปส่ง”
นภากับอาทิตย์รับคำ อัมพิกามองทั้งคู่ แล้วก็พูดอย่างจริงใจ
“ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเธอสองคนอย่างเป็นทางการเลย ขอบคุณมากนะ ที่พยายามจะดูแลฉัน แล้วก็
ขอบคุณมากที่ดูแลไก่กับไข่อย่างดี เด็กสองคนนี้ทั้งกริยา มารยาท การพูดจา การเข้าสังคม ใช้ได้ ไม่มีอะไรขวางหู
ขวางตา ที่สำคัญผลการเรียนก็ค่อนข้างดี”
นภากับอาทิตย์แปลกใจ
“คุณทราบได้ยังไงคะ?”
“ฉันส่งคนไปหาข้อมูลของเด็กทั้งสองคนมาหมดแล้ว พฤติกรรมเวลาที่อยู่โรงเรียน ความสัมพันธ์กับ
เพื่อนๆ และครู ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่ฉันดูก็เพราะอยากจะช่วยวางแผนเรื่องการศึกษา โตขึ้น ไก่
กับ ไข่จะได้มาช่วยเอื้อดูแลธนาคารในฐานะทายาทของรัตนชาติ”
นภากับอาทิตย์ตกใจ คาดไม่ถึงว่าอัมพิกาจะเมตตาขนาดนี้
“ในเมื่อคุณพ่อตัดสินใจยกหุ้นให้ไก่ กับไข่ ฉันก็ต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน ฉันยอมแล้ว บอก
ให้สุริยงมาหาฉัน มาจัดการเรื่องมรดกของไก่กับไข่ให้ถูกต้องโดยเร็วที่สุด”
“ครับๆ ได้ครับ”

นภากับอาทิตย์จับมือกัน แล้วยิ้มให้กันอย่างโล่งอก อัมพิกาหันไปมองรูปเจ้าสัวแล้วก็ยิ้ม มี
ความสุข

ทางด้านเกนหลงกับเอื้อ ก็นั่งคุยกันอยู่ในสวนหน้าบ้าน เกนหลงหันไปหยิบของตัวเองส่งให้เอื้อ
“สุขสันต์วันเกิดค่ะ นี่ถ้าเกนรู้ว่าพี่เอื้อรู้แล้วว่าเป็นอะไร คงไม่เสียเวลาห่อ”
“เอาน่าไม่มีเค้กเหลือให้ปาหน้าพี่แล้ว เลิกงอนนะ นะ”
เกนหลงแกล้งค้อน “โอเคๆ หายงอนก็ได้”
“เปิดนะ ตื่นเต้นจัง เป็นอะไรน้าไม่รู้เลย”
เอื้อแกะห่อกระดาษออกมา เห็นจานเซรามิคแฮนด์เมด ที่วาดลายได้อย่างเก๋ไก๋ เอื้อมองอย่างชื่นชม
“ดูไกลๆ แบบซูมๆ ว่าสวยแล้ว ดูใกล้ๆยิ่งสวยมาก ขอบคุณมากๆครับ”
เกนหลงยิ้มรับ และในจังหวะนั้นเอง เอื้อขยับเข้าไปและหอมแก้มเกนหลงด้วยความรู้สึกขอบคุณ
เกนหลงตกใจ ใจเต้นโครมคราม..เอื้อกำลังจะดึงตัวกลับก็ชะงัก สบตาเกนหลง สองคนอยู่ในภวังค์ ไม่อาจละสายตา
จากกัน
เอื้อรู้สึกตัว แล้วก็ถอนตัวออกมา เกนหลงใจเต้นกระหน่ำ หัวใจแทบจะหลุดออกมา
“เอ่อพี่ขอบคุณอีกครั้งครับ”
เกนหลงพยายามยิ้มให้ปกติทั้งที่ตื่นเต้นอย่างมาก “ด้วยความยินดีค่ะ”
เอื้อรีบพูดแก้เก้อ “วันนี้ อากาศดีจัง”
เกนหลงพยักหน้ารับ ด้วยอาการเขินพอกัน มือของทั้งคู่ที่เท้าบนหญ้าวางใกล้กันจนนิ้วก้อยแทบเกย
กันอยู่แล้ว.เอื้อเคลื่อนมือมาจับมือเกนไว้เกนหลงยิ้มเขิน..ภาพค่อยๆถอยห่าง เห็นสองคนนั่งในสวนคู่กัน
อย่างอบอุ่นและสุข

เขมชาติยืนรออยู่หน้าบ้านพักตากอากาศด้วยความร้อน ทันใดนั้นประตูบ้านก็เปิดออกมา เขมชาติ
รีบหันขวับ
“วดี”
สุริยงเดินถือกระเป๋าออกมา เขมชาติรีบเข้าไปช่วย
“ผมช่วย”
“ไม่ต้อง จำสัญญาได้ใช่มั้ย?”
สุริยงเสียงเข้ม เขมชาติพยักหน้ารับ
“จำได้ ถ้าหมอบอกว่า “คุณไม่ท้อง”ผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก”
“จำได้ แล้วทำได้หรือเปล่า?”
เขมชาติสะอึก แล้วก้มหน้าจำใจพยักหน้ารับ
“ดี” สุริยงสะบัดเสียง แล้วก็เดินไปที่รถ เขมชาติรีบพูดแทรกขึ้น
“แต่ถ้าหมอบอกว่า “คุณท้อง” คุณต้องยอมให้ผมดูแลคุณและลูก”
สุริยงชะงัก หันมา
“ไม่ต้องเสียเวลาต่อรอง เพราะคุณจะไม่มีวันได้ยินคำนั้นแน่นอน”
จากนั้นสุริยงก็เดินขึ้นรถไปเลย เขมชาติถอนใจเบาๆ

เขมชาติพาสุริยงมานั่งรอตรวจอยู่ที่หน้าแผนกสูติฯ ครู่เดียวพยาบาลก็เดินมาเรียก
“คุณสุริยงค่ะ”
สุริยงลุก เขมชาติจะลุกตาม พยาบาลรีบห้าม
“คุณผู้ชายกรุณารอข้างนอกก่อนนะคะ”
สุริยงเดินไปเลย เขมชาติจำต้องนั่งลงตามเดิม

เมื่อเข้ามาในห้องตรวจ สุริยงก็พบกับหมอคนเดิม ที่เขมชาติเคยพาไปตรวจถึงที่บ้านพัก
“ดีใจนะครับ ที่คุณยอมมาตรวจจนได้”
สุริยงยิ้มรับ หมอพูดต่อ
“เดี๋ยวหมอให้ไปเก็บปัสสาวะนะครับ ก่อนอื่นหมอขอสอบถามข้อมูลเบื้องต้นก่อนนะ ไม่ทราบว่ามี
โรคประจำตัวอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีค่ะ”
“ตรวจร่างกายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ?”
“ประมาณต้นปีค่ะ”
“ประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาเมื่อไหร่ครับ ?”
สุริยงตอบเน้นอย่างหนักแน่น
“ดิฉันกำลังมีประจำเดือนอยู่ค่ะ”
หมอชะงัก มือที่กำลังเขียนหยุดกึก “อ้าว กำลังมีประจำเดือน?”
“ใช่ค่ะ”
หมอฟังแล้วก็งงๆ สุริยงทำหน้านิ่ง ยืนยันอย่างมั่นใจ
ในขณะที่เขมชาตินั่งไม่ติด ลุกขึ้นเดินไปมาอยู่ตลอดเวลา พยาบาลเปิดประตูให้ สุริยงเดินออกมา
พยาบาลหันมาบอกกับเขมชาติ
“ขอเชิญคุณเขมชาติค่ะ”
เขมชาติลุกพรวดทันที พลางมองสุริยงอย่างงงๆ
“คุณหมอเขาได้คำตอบแล้ว เขาจะบอกคุณเอง”
สุริยงเดินไป เขมชาติงงๆ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เสียงหมอก็ดังขึ้นมา
“คุณเขมชาติ เชิญครับ”
“ครับ”
เขมชาติจำใจเดินเข้าไปในห้องตรวจ และเมื่อประตูปิด สุริยงปรายตามามองนิดๆ แววตาแข็งขึ้น
เหมือนเตรียมแผนบางอย่างไว้

หมอรายงานผลด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“คุณสุริยง ไม่ได้ท้องครับ”
เขมชาติหน้าเหวอ
“ไม่จริง จะไม่ท้องได้ยังไง หมอตรวจดีแล้วเหรอครับ วดีเข้ามาแค่แป๊บเดียว ผมยังไม่เห็นไปเก็บ
ปัสสาวะหรือเก็บเลือดอะไรเลย หมอต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆครับ หมอต้องตรวจใหม่นะครับ”
“หมอตรวจตอนนี้ไม่ได้ครับ”
“อ้าว ทำไมตรวจไม่ได้” เขมชาติข้องใจ
“เพราะคุณสุริยงเธอมีประจำเดือน ถ้ามีประจำเดือนมันก็บ่งบอกว่าไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์
ประจำเดือนเธอมาปกติ หมอก็ไม่รู้จะตรวจยังไง เอาเป็นว่าถ้าคุณสุริยงเธอหมดประจำเดือนแล้ว ค่อยพาเธอมาตรวจ
อีกทีนะครับ”
เขมชาติอึ้งไม่ยอมรับในสิ่งที่หมอพูด
“ไม่จริง ไม่จริง ผมไม่เชื่อ วดีไม่มีทางจะมีประจำเดือนแน่ๆ ไม่มีทาง”
เขมชาติพูดจบก็รีบวิ่งออกไปทันที สังหรณ์ใจว่าต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
เมื่อออกมาจากห้องหมอ เขมชาติก็รีบมองหาสุริยง แต่ก็ไม่พบ เขมชาติใจหายวาบ รีบวิ่งไปที่หน้า
คลินิกทันที
ในขณะที่สุริยงยืนอยู่ริมถนน ทันใดนั้นมีรถตู้มาจอดเทียบ คนขับเดินลงมา
“คุณสุริยงที่เช่ารถเข้ากรุงเทพใช่มั้ยครับ”
“ค่ะ”
คนขับรีบเปิดประตูรถให้ สุริยงขึ้นรถไป เขมชาติรีบวิ่งออกมาไม่เห็นสุริยงแล้ว
เขมชาติหน้าเสีย มองซ้ายมองขวา วิ่งตามหาแถวๆ คลินิก วิ่งผ่านรถตู้ไป สุริยงปรายตามองเขมชาติ
ที่วิ่งเลิ่กลั่กด้วยความร้อนใจ สุริยงเบือนหน้าหนี ไม่สน

เขมชาติวิ่งหาจนเหนื่อยแล้วก็ไม่เจอ จากนั้นก็ค่อยๆทรุดลงนั่งกลางถนนอย่างหมดแรง

อย่าลืมฉัน ตอนที่ 26 (ต่อ)

ทางด้านอาทิตย์ก็รับสายเขมชาติด้วยความแปลกใจ
“หนูเล็กยังไม่ได้ติดต่อมาที่บ้านนะ แล้วตกลงผลตรวจเป็นยังไงบ้าง?”
เขมชาติพูดขณะกำลังขับรถเข้ากรุงเทพ
“เรื่องมันซับซ้อนนิดหน่อยครับเดี๋ยวกลับไปผมค่อยเล่าให้ฟัง เอาเป็นว่า ถ้าวดีกลับไปที่บ้าน รีบโทร.
บอกผมหน่อยนะครับ ผมมีเรื่องต้องคุยกับเขา”
อาทิตย์พยักหน้างงๆ
“ได้ๆ อ้อ แต่พ่อว่า ก่อนจะกลับมาบ้าน เขาคงจะแวะทำธุระที่อื่นก่อน”
เขมชาติรีบถาม “ทำธุระอะไร ? ที่ไหนครับ ?”

สุริยงเดินเข้ามาในบ้านรัตนชาติ และมองเข้าไปในบ้าน เหมือนมีภารกิจสำคัญรออยู่ พลางย้อนนึก
ถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเธอกับอาทิตย์ตอนเช้าก่อนที่จะไปที่คลีนิค
“หนูเล็กสบายดีนะลูก”
“ค่ะ สบายดีค่ะขอบคุณนะคะ ที่พ่อพยายามติดต่อหนูเล็กโดยตรง โดยไม่ผ่านผู้ชายคนนั้น”
“พ่อก็เข้าใจทั้งสองฝ่าย เอาเป็นว่า เรื่องของเรากับเขมชาติ โตๆกันแล้ว พ่อไม่ยุ่ง แต่ที่โทร.มาวันนี้จะ
บอกหนูเล็กเรื่องคุณอัมพิกา”
สุริยงฟังด้วยความสนใจ
“คุณอัม ท่านอยากพบลูก”
สุริยงตาวาวขึ้นมานิดๆ

เมื่อเห็นสุริยงเดินเข้ามา คนรับใช้รับเปิดประตูให้ พลางต้อนรับอย่างนอบน้อม ก่อนที่จะพาเดิน
เข้าไปในห้องทำงานอัมพิกา
เมื่อเปิดประตูเข้าไป สุริยงก็เห็นอัมพิกานั่งรออยู่กับทนาย อัมพิกายิ้มต้อนรับ ในขณะที่ทนายยื่น
เอกสารให้ สุริยงรับมาเซ็น
เสียงของอาทิตย์สะท้อนอยู่ในหู เหมือนความฝันของสุริยงกำลังจะเป็นจริง
“ท่านต้องการให้หนูเล็กไปจัดการเรื่องมรดกของไก่ไข่ให้เรียบร้อย หนูเล็ก คุณอัมเธอเอ็นดูไก่ กับ
ไข่มากนะลูก ความพยายาม ความอดทนของหนูเล็กสัมฤทธิ์ผลแล้ว ลูกทำตามคำสั่งเสียของท่านเจ้าสัวได้สำเร็จแล้ว ดี
ใจด้วยนะลูก”
สุริยงนั่งมองเอกสารที่ทนายส่งมาให้ น้ำตาซึม อัมพิการีบอธิบาย
“ตอนนี้ไก่ ไข่ ได้ครอบครองหุ้นตามที่คุณพ่อระบุไว้ในมรดกเป็นที่เรียบร้อย ฉันจะให้ฝ่ายบัญชีและ
กฎหมายทำเรื่องสั่งจ่ายเงินปันผลย้อนหลัง นับตั้งแต่วันที่คุณพ่อสิ้นจนถึงปัจจุบัน และจ่ายให้ทุกเดือน นับจากนี้เป็น
ต้นไป เธอก็เอาไว้ใช้จ่ายเป็นค่าเลี้ยงดูไก่กับไข่ก็แล้วกัน”
สุริยงตื้นตันใจจนแทบพูดไม่ออก “ขอบคุณค่ะ”
“ฉันสิที่ต้องขอบคุณเธอ ที่ดูแลไก่ ไข่ อย่างดี ทั้งที่เด็กสองนั้นก็ไม่ใช่ลูกของเธอ”
“ถึงไม่ใช่โดยสายเลือด แต่ไก่ กับ ไข่ ก็เป็นเหมือนลูกดิฉัน ขอบคุณที่คุณอัมพิกาเมตตาเด็กทั้งสอง
คนดิฉันคิดว่า ถ้าท่านเจ้าสัวยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะมีความสุขมากที่สุด”
อัมพิกาพยักหน้าเห็นด้วย น้ำตาคลอๆ
“นับจากนี้ไปฉันจะช่วยเธอดูแลไก่ กับ ไข่ ในฐานะพี่สาว และเธอก็ขอให้คิดว่าฉันเป็นพี่สาวเธอ
คนนึงนะ”
อัมพิกายิ้มด้วยความจริงใจ และเมตตา สุริยงน้ำตาคลอซึ้งใจ
“ขอบพระคุณค่ะ “

สุริยงเดินออกมาพร้อมกับซองเอกสาร ด้วยความรู้สึกโล่งอก ที่ได้จัดการเรื่องมรดกของคู่แฝดไก่กับ
ไข่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังครุ่นคิดเรื่องของตัวเอง ทันใดนั้นเสียงเอื้อก็ดังขึ้น
“หนูเล็ก”
สุริยงหันไป เห็นเอื้อยืนอยู่หน้าตาเครียด สุริยงชะงัก นึกรู้ว่าต้องพูดเรื่องเขมชาติแน่ๆ
“คุณเอื้อทำหน้าแบบนี้ คงไม่ได้มายินดีกับหนูเล็กเรื่องมรดกไก่กับไข่ใช่มั้ยคะ”
“เรื่องนั้นผมไม่ห่วงแล้ว เพราะพี่อัมเขาทำในสิ่งที่ควรทำไปแล้ว ตอนนี้ผมห่วงเรื่องหนูเล็กมากกว่า
ทำไมไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ ไปถึงคลินิก แล้วทำไมไม่ยอมตรวจ”
สุริยงหน้าตึง “ใครเป็นคนมาฟ้องคุณเอื้อ ?”
ทันใดนั้นเสียงเขมชาติก็ดังขึ้น
“ผมเอง”
สุริยงหันไปตามเสียง เห็นเขมชาติยืนหน้าเข้มอยู่ เอื้อมองสองคนแล้วก็ค่อยๆถอยออก
“ยังมีหน้ามาให้ฉันเห็นอีกเหรอ คนไม่รักษาสัญญา”
“ ผมไม่รักษาสัญญา เพราะคุณผิดสัญญา”
“ ฉันไม่รักษายังไง?”
“ก็คุณไม่ยอมตรวจ”
“ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะไปตรวจ จำได้หรือเปล่าว่าฉันพูดว่าอะไร?”
เขมชาติอึ้ง คิดย้อนถึงคำพูดของสุริยง
“ถ้าฉันไปหาหมอ และหมอบอกว่าไม่ท้อง คุณจะออกไปจากชีวิตฉันหรือเปล่า”
เขมชาติอึ้งหนักกว่าเดิม สุริยงถามย้อน
“แล้ววันนี้ฉันไปหาหมอหรือเปล่า ?”
เขมชาติเสียงอ่อย “ไป”
“แล้วหมอบอกคุณหรือเปล่าว่าฉันไม่ได้ท้อง”
“บอก”
“นั่นไงเป็นไปตามคำสัญญาทุกอย่าง เพราะฉะนั้น.คุณต้องออกไปจากชีวิตฉัน”
เขมชาติอึ้งๆ สุริยงจ้องหน้าแบบไม่ยอมแพ้ ในขณะที่เอื้อแอบฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง พลางครุ่นคิดตาม
“แต่คุณไม่ได้ตรวจ และคุณก็ไม่ได้มีประจำเดือน คุณแค่หลอกหมอ มุกตื้นๆแบบนั้น ทำไมผมจะไม่
รู้”
เขมชาติไม่ยอมลดละ
“รู้แล้วไง จะหาข้ออ้างไม่ทำตามสัญญาหรือไงหะ?”
“ก็คุณเจ้าเล่ห์ คุณหลอกผม หลอกให้ผมสัญญา คุณวางแผนไว้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นผมขอยกเลิก
สัญญา ถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ”
คำพูดของเขมชาติเข้าทางสุริยงอย่างจัง
“แล้วทีคุณหลอกฉัน วางแผนทุกอย่างตั้งแต่ประเทศไทย ยันสวิส ฉันจะขอยกเลิกอะไรได้บ้าง ฉันจะ
เรียกอะไรคืนมาได้บ้าง หะ? ตอบมาสิ”
เขมชาติอึ้ง สุริยงเอื้อมมือไปผลักไหล่
“ตอบมา ฉันจะถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ และขอสิ่งที่ฉันเสียไปคืนมาได้มั้ย ?”
สุริยงกัดฟันกรอด ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ทั้งแค้น
“อย่าเอาคำว่าโดนหลอกมาเป็นข้ออ้างในการไม่ทำตามสัญญา เพราะฉันเคยโดนคุณหลอกมา
มากกว่านี้ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่า คุณเป็นคนรักษาคำพูด ทำตามสัญญา อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า
อีก”

พูดจบ สุริยงก็หันหลังไปอย่างเย็นชา เขมชาติผวายื่นมือออกไปจะเข้าไปห้าม แต่คำพูดของสุริยง
และคำสัญญาที่ตัวเองพูดไว้ รั้งไม่ให้ตามไป
“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่า คุณเป็นคนรักษาคำพูด”
เขมชาติค่อยๆลดมือลง ยืนอึ้งเหมือนคนหมดแรง และจำยอมต้องปล่อยให้สุริยงเดินจากไป
สุริยงเดินมาตามทาง มุ่งหน้าออกจากบ้านรัตนชาติ ทันใดนั้นมีมือหนึ่งยื่นมาจับแขนไว้ สุริยงหันมา
“จะกลับบ้านใช่มั้ย? เดี๋ยวผมไปส่ง”
สุริยงโล่งอก ที่ไม่ใช่เขมชาติ หากเป็นเอื้อ จากนั้นเอื้อก็พาสุริยงขึ้นไป แล้วขับออกจากบ้านไป
เขมชาติมองเอื้อกับสุริยงจากไปแล้วก็สะท้อนใจ พลางเริ่มจะถอดใจ

สุริยงนิ่งเงียบอยู่ในรถเอื้อ แล้วก็ตัดสินใจอะไรบางอย่าง

“หนูเล็กจะไปอยู่สวิสแบบไม่มีกำหนดกลับ”
เอื้อถามด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเจตนาของสุริยง ระหว่างที่นั่งคุยกันในสวนหน้าบ้านสุริยง
“หนูเล็กอยากจะพัก พักให้หายเหนื่อย ไม่รู้เมื่อไหร่จะหาย ก็เลยยังไม่อยากคิดเวลากลับ”
“จะไปกับใคร?”
“ไปคนเดียวค่ะ” สุริยงย้ำหนักแน่น
“ไม่จริง หนูเล็กจะไปกับลูกใช่มั้ย ? ลูกในท้อง”
สุริยงหันมามองหน้าเอื้อ ไม่ตอบ แต่แววตา ไม่ปฎิเสธ
“คุณโกหกเขมชาติไม่ได้ คุณก็โกหกผมไม่ได้เหมือนกัน ที่หนูเล็กจะไป เพราะตั้งใจจะแอบไปคลอด
ลูก และเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่อยากให้เขมชาติรู้เรื่องลูกใช่หรือเปล่า?”
สุริยงเงียบ เอื้อคาดคั้น
“ถ้าไม่ตอบ ผมจะไม่ยอมรับสิทธิ์ในการดูแลไก่กับไข่”
สุริยงตัดสินใจตอบตามตรง “ คนอย่างเขมชาติ ทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ ตอนนี้เขา
ไม่เหลือใคร เขาถึงต้องการลูก ที่เขาพยายามทำดีทุกอย่าง ทำเป็นยอม ทำเป็นห่วงใย มันไม่จริง มันก็เป็นแค่ละคร
ที่ทำให้เราตายใจ เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็ถีบเรากลับสู่ความเป็นจริง เมื่อไหร่ที่เขาได้ลูกไป เขาก็จะกลับมาเป็น
เขมชาติคนเดิม หนูเล็กเคยหลงไปกับภาพมายาที่เขาสร้างขึ้นมาครั้งนึงแล้ว จะไม่ยอมหลงเชื่ออีกเป็นครั้งที่สอง”
เอื้อฟังแล้วก็เข้าใจ เห็นใจ ก่อนจะถามย้ำอีกที
“หนูเล็กคิดว่า การไปสวิสมันจะแก้ปัญหาได้จริงๆเหรอ?”
“ถึงไม่ได้ หนูเล็กก็จะไป ไปตายเอาดาบหน้ายังจะดีซะกว่า ไม่อยากอยู่ให้เขามาสร้างความวุ่นวาย
มากไปกว่านี้”
เมื่อเห็นว่าสุริยงยืนยันหนักแน่น เอื้อก็ตัดสินใจ
“ถ้ายืนยันว่าจะไป ผมไปด้วย ผมจะให้เลขารีบหาตั๋วเครื่องบินให้ก็แล้วกัน หนูเล็กพร้อมไปเมื่อไหร่
ก็บอก”
สุริยงสูดลมหายใจลึกๆ แล้วรีบตอบทันที
“พร้อมค่ะ หนูเล็กพร้อมไปตั้งแต่ตอนนี้ และอยากไปให้เร็วที่สุด”
เอื้อมองหน้าสุริยงอีกที เห็นแววมุ่งมั่น ก็พยักหน้า ทว่าในใจยังคงครุ่นคิด ด้วยไม่แน่ใจกับการ
ตัดสินใจครั้งนี้เท่าไรนัก

ทางด้านเขมชาติ ก็กำลังนั่งเศร้าอยู่ที่มุมหนึ่งในสวนบ้านเกนหลง เกนหลงเดินมา และนั่งลงข้างๆ
“เกนทราบเรื่องระหว่างคุณกับคุณสุแล้วนะคะ กลุ้มใจ นอนไม่หลับหล่ะสิ ถึงได้มาแต่เช้า”
“ผมขอโทษ จริงๆผมไม่ควรจะมาที่นี่อีก แต่ผมไม่รู้จะไประบายกับใครจริงๆ”
เกนหลงยิ้มให้เขมชาติอย่างจริงใจ
“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย เกนบอกแล้วไงว่าเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องคิดมาก”
เขมชาติใจชื้น
“ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก”
เกนหลงถามต่อ
“แล้วจะทำยังไงต่อ ? ตอนนี้คุณสุเขายื่นคำขาดไม่ให้ไปเจอ เขมทำได้หรือเปล่า?”
“ไม่ได้ ก็ต้องได้ เพื่อความปลอดภัยของวดีกับลูก ผมรู้ที่เขาไม่ยอมรับเรื่องท้อง เพราะไม่ไว้ใจผม
และถ้าผมยังขืนดื้อดึง ตามตื๊อ เอาชนะเขาต่อไป สุดท้ายคนที่จะได้รับอันตรายที่สุดก็คือลูก มันคงถึงเวลาที่ผมจะต้อง
หยุด และยอมรับในการตัดสินใจของวดี”
เกนหลงมองด้วยความเห็นใจ เขมชาติระบายต่อ
“ผมมาลองคิดดู ผมเห็นแก่ตัวมาตลอด ผมทำทุกอย่างก็เพื่อตัวเอง แม้แต่การที่ผมพยายามตามง้อ
วดี ก็เพื่อทำให้เขายอมยกโทษ ผมจะได้มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา อยู่กับลูก ทั้งๆทีเขาอาจจะไม่ได้อยากอยู่กับผมเลย”
เกนหลงฟังแล้วก็พูดไม่ออก เขมชาติตัดสินใจ
“ผมตัดสินใจแล้ว นับจากนี้ไป ผมจะทำตามความต้องการของวดี หยุดที่จะตามตื๊อ สร้างความไม่
สบายใจให้กับเขา ผมยอมที่จะเดินออกไปจากชีวิตเขา เพื่อให้เขาได้ก้าวเดินไปข้างหน้า บางทีเขาอาจจะได้เจอผู้ชาย
ที่ดีกว่าผม ผู้ชายที่คอยดูแล เป็นห่วง และจริงใจกับเขา อย่างคุณเอื้อ”
เกนหลงชะงักกึก ใจหายวาบ “พี่เอื้อ?”
“ใช่ คุณเอื้อเป็นห่วงและดูแลวดีด้วยความจริงใจมาตลอด แต่เพราะผมเข้ามา เขาถึงยอมถอย แต่
ตอนนี้ผมยอมที่จะถอย เพื่อให้เขาเข้ามาได้อย่างเต็มตัว คุณเอื้อคือคนที่เหมาะสมที่จะอยู่เคียงข้างกับวดีมากกว่าผม”
เขมชาติพูดระบายตามความรู้สึก แต่หารู้ไม่ว่าคนฟังจิตใจร้อนรนวูบวาบ
เกนหลงนั่งอึ้ง เครียดขึ้นมาทันทีเอื้อคิดแบบนั้นจริงเหรอ?

กระเป๋าเดินทางหรู ถูกยกมาวางเรียงที่หน้าบ้าน อรทัยเดินมา และเตรียมตัวจะออกไป อัมพิการีบ
เดินมาถาม
“อร จะไปไหน? แล้วขนอะไรไปเยอะแยะ”
“อรจะไปอยู่เมกาสักพักค่ะ”
“สักพักนานแค่ไหน?”
“ไม่มีกำหนดกลับ” น้ำเสียงของอรทัยบ่งบอกว่าไม่ได้กำลังพูดเล่น
“หะ? ไม่มีกำหนดกลับ นี่เราจะทิ้งพี่ ทิ้งงาน ทิ้งทุกอย่างไปง่ายๆอย่างนี้เหรอ”
“ก็พี่อัมมีน้องใหม่แล้วนี่คะ มีไอ้ลิงสองตัวนั้น พี่อัมจะต้องการอรอีกทำไม ส่วนเรื่องงานก็เห็นหมาย
มั่นปั้นมือจะส่งเสียให้มันเรียนดีๆ จบมาช่วยพี่เอื้อ หุ้นธนาคารก็ใส่พานถวายให้มันไปแล้ว ทีพี่อัมยังไม่คิดถึงจิตใจอร
ทำไม อรต้องคิดถึงคนอื่นด้วย”
อัมพิกาส่ายหน้า อรทัยตัดบท
“เชิญพี่อัมอยู่กับไอ้เด็กสองคนนั้นไปก็แล้วกัน อรจะไปตามทางของอร”
พูดจอรทัยบก็สะบัดหน้าจะไป อัมพิกาพูดตามหลัง
“เราจะไปก็ไปพี่ไม่ห้าม ถ้าเราไปจนเหนื่อย คิดอยากจะพัก กลับบ้านมาได้ตลอดเวลา พวกเราทุกคน
ยินดีต้อนรับเสมอ ที่นี่ยังมีพี่ มีเอื้อและมีน้องชายอีกสองคน รอเราอยู่”
อรทัยสะท้านในใจ แต่ด้วยความดื้อ ก็ยังยืนยันที่จะไป
“พี่อัมแน่ใจได้ยังไงคะ ว่าพี่เอื้อจะอยู่ที่นี่รออร เพราะตัวเขาเองก็จองตั๋วไปสวิสกับนังสุริยงสองต่อ
สอง”อัมพิกาขมวดคิ้ว แปลกใจ “และก็ไปแบบไม่มีกำหนดกลับด้วยนะคะ พี่อัมทำหน้างงแบบนี้ แสดงว่าพี่เอื้อไม่ได้
บอกใช่มั้ยคะ?”
อัมพิกาไม่ตอบ อรทัยเบ้ปาก พลางพูดต่อ
“พี่อัมกำลังโดนไอ้คนบ้านนั้นมันหลอก มันจะปอกลอกเอาทุกอย่างไปจากพี่อัม ทั้งเงินทอง หุ้น
ธนาคาร กิจการ รวมทั้งพี่เอื้อ พี่อัมจะยอมให้มันปอกลอกก็เชิญตามสบาย แต่อรไม่ยอม พวกมันจะไม่มีวันได้อะไรไป
จากอรทั้งนั้น”
อรทัยพูดจบก็เดินสะบัดหน้า ไปขึ้นรถ คนรับใช้ขนกระเป๋าตาม และรถค่อยๆแล่นออกไป อัมพิกา
คิดคาใจเรื่องเอื้อ จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์แล้วก็โทร.ไปหาเอื้อ
“เอื้อ พี่อยากรู้เรื่องที่เราจะไปสวิสกับสุริยง มันเกิดอะไรขึ้น เล่าให้หมด”
น้ำเสียงของอัมพิกา ที่ออกคำสั่ง ฟังดูน่าเกรงขาม

เช่นเดียวกับที่บ้านของสุริยง ก็ตกใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ไม่แพ้กัน
“จะไปอยู่สวิส ไม่มีกำหนดกลับ ไม่ได้นะ แม่ไม่ให้ไป ผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปอยู่ได้ยังไง ไม่ได้นะ
แม่ไม่ยอม”
นภา กับอาทิตย์ นั่งคุยกับสุริยง หน้าเครียด
“แม่คะ ที่ผ่านมาหนูเล็กไม่เคยขัดใจ หรือขัดคำสั่งพ่อกับแม่เลยแม้แต่อย่างเดียว ขอให้ทำอะไร หนู
เล็กก็ทำให้ทุกอย่าง ตอนนี้เรื่องไก่กับไข่ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง หนูเล็กขอทำตามใจตัวเองบ้างนะคะ หนูเล็กอยากจะไป
พักจริงๆ ให้หนูเล็กไปเถอะนะคะ”
นภาจะไม่ยอม อาทิตย์จับมือห้าม และหันมาตอบแทน
“ไปเถอะลูก ถ้าอยากไปก็ไป พ่อกับแม่อนุญาต”
นภาหันมามองหน้า อาทิตย์พูดต่อ
“แต่ไปแล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ ไปพักจนพอใจเมื่อไหร่ก็กลับมา”
สุริยงยิ้มโล่งอก “ขอบคุณค่ะพ่อ”

อาทิตย์พยักหน้าอย่างเข้าใจ ในขณะที่นภายังไม่คลายความกังวลใจ แต่ก็ต้องจำยอม

อย่าลืมฉัน ตอนที่ 26 (ต่อ)

เมื่ออยู่ตามลำพัง เกนหลงก็ได้แต่นั่งซึม คำพูดของเขมชาติดังก้องอยู่ในหู
“ผมยอมที่จะเดินออกไปจากชีวิตเขาเพื่อให้เขาได้ก้าวเดินไปข้างหน้าบางทีเขาอาจจะได้เจอผู้ชายที่
ดีกว่าผม ผู้ชายที่คอยดูแล เป็นห่วง และจริงใจกับเขาอย่างคุณเอื้อ คุณเอื้อเป็นห่วงและดูแลวดีด้วยความจริงใจมา
ตลอด แต่เพราะผมเข้ามา เขาถึงยอมถอย แต่ตอนนี้ผมยอมที่จะถอย เพื่อให้เขาเข้ามาได้อย่างเต็มตัว คุณเอื้อคือคน
ที่เหมาะสมที่จะอยู่เคียงข้างกับวดีมากกว่าผม”
เกนหลงนั่งคิดถึงภาพเหตุการณ์ตอนที่เกือบจะจูบกันในงานวันเกิด แต่แล้วเอื้อเองกลับเป็นฝ่าย
ชะงักคิดแล้วเกนหลงก็ใจหายวาบ หรือว่าเขมชาติจะพูดจริง
ในขณะเดียวกัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เกนหลงรับสาย
“สวัสดีค่ะพี่อัม”

เกนหลงกับอัมพิกา นัง่คุยกันในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สีหน้าอัมพิกายามนี้เคร่งเครียด เกนหลงก็ตกใจ
กับสิ่งที่ได้ยิน
“เกนไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่รู้เลยว่าพี่เอื้อกำลังจะไปสวิสกับคุณสุแบบไม่มีกำหนดกลับ”
อัมพิกาแปลกใจ
“อ้าว พี่คิดว่าเอื้อจะปรึกษาเกนซะอีก ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆเอื้อถึงได้ ทิ้งงาน ทิ้ง...”
อัมพิกายั้งคำว่าเกนหลงได้ทันท่วงที
“ครอบครัวไปกับสุริยงแค่สองคนแบบนี้ดูสิ ยัยอรก็เพิ่งไปเมกา เอื้อก็จะไปสวิส ทำไมทำไมทุกคนถึง
พร้อมใจกันไปจากพี่ ทำไม”
เกนหลงเห็นอัมพิกาเครียด ก็จับมือ ปลอบใจทั้งที่ในใจตัวเองก็แทบจะสลาย ในหัวเต็มไปด้วย
คำถามมากมาย
“พี่อัมอย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ”
พูดปลอบใจอัมพิกาและปลอบใจตัวเองไปด้วย
“พี่เอื้อเป็นคนรอบคอบ มีเหตุผล ถ้าเขาตัดสินใจเลือกแล้ว แสดงว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด และคุณสุ ก็
เป็นคนดีมาก พี่เอื้อคงจะคิดอย่างรอบคอบแล้ว”
เกนหลงยิ้มเศร้า
“โอเค พี่ยอมรับ สุริยงก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่พี่เคยคิด แต่พี่ว่าเอื้อกำลังเข้าใจผิด บางทีสิ่งดีๆมัน
อาจจะเปลี่ยนไปแล้ว มันอาจจะไม่ใช่สุริยงก็ได้”
พลางมองเหมือนจะบอกว่า คนที่ดีคือเกนหลง
“เกน ถือว่าพี่ขอร้องหล่ะ ช่วยไปพูดกับเอื้อให้พี่หน่อย ช่วยพูดให้เอื้อเปลี่ยนใจ ยกเลิกการเดินทางไป
สวิส ถ้าเขามีปัญหาอะไรในใจ เรามาช่วยกันคิดหาทางออกอื่น ที่ไม่ใช่ไปสวิสแบบไม่มีกำหนดกลับแบบนี้ ถ้าพี่พูด
เขาไม่เชื่อแน่ๆ แต่ถ้าเป็นเกน พี่ว่าเอื้อต้องฟัง”
เกนหลงส่ายหน้าเศร้าๆ
“ไม่หรอกค่ะ เกนไม่ใช่คนสำคัญสำหรับพี่เอื้อ ขนาดเขาจะไป ยังไม่บอกสักคำ ต่อให้เกนไปพูด พี่
เอื้อคงไม่สนใจฟัง”
“แต่...” อัมพิกาพยายามจะอ้อนวอน แต่เกนหลงยืนยัน
“พี่อัมคะ เกนคงจะเปลี่ยนใจพี่เอื้อไม่ได้จริงๆ แต่เกนจะทำในสิ่งที่เกนพอจะทำได้ก็แล้วกันนะคะ”
“เกนจะทำอะไร?”
เกนหลงไม่ตอบ แต่คิดถึงสุริยงขึ้นมาจับใจ

สุริยงลากกระเป๋าที่จัดของไว้เรียบร้อยเตรียมพร้อมที่จตเดินทาง และเดินมาดื่มกาแฟที่วางอยู่ พอ
ดื่มปุ๊บก็ชะงักกึก เห็นมะนาวฝานที่ลอยอยู่ในแก้ว แล้วก็คิดถึงเขมชาติแว่บเข้ามา
ทันใดนั้นชื่นก็เดินมาหา
“คุณหนูเล็กคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”
สุริยงชะงักกึก ในใจแอบคิดว่าเป็นเขมชาติ หากแท้จริงแล้วเป็นเกนหลงยืนอยู่ที่หน้าบ้าน แววตา
ครุ่นคิด
“คุณเกนคะ”
เกนหลงหันมา มองสุริยง แล้วพูดตรงๆ
“คุณสุจะเดินทางไปสวิสกับพี่เอื้อวันพรุ่งนี้ใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ค่ะ”
“คุณสุให้พี่เอื้อไปในฐานะอะไรคะ ? ตัวจริง ตัวสำรอง หรือว่า ตัวแทนเขม”
สุริยงอึ้ง พลางรีบอธิบาย
“คุณเกนกำลังเข้าใจผิดนะคะ สุไม่คิดจะให้คุณเอื้อมาอยู่ในฐานะอะไรทั้งนั้น”
“ไม่ได้คิด ก็ควรคิดได้แล้วนะคะ พี่เอื้อรอคำตอบจากคุณมานานแล้ว ถ้าคุณลืมเขมได้จริงๆ และ
ต้องการจะเริ่มต้นใหม่กับพี่เอื้อ คุณก็ควรจะคิดว่าเขาคือตัวจริงไม่ได้มาเพื่อแทนใคร”
พูดทั้งที่ในใจแอบเจ็บ “พี่เอื้อเป็นคนดี ควรจะได้สิ่งดีๆตอบแทน”
“สุทราบค่ะ คุณเอื้อเป็นคนดี ดีมากๆ ดีกับสุมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถ้ามีโอกาสสุก็อยากจะ
ตอบแทนคุณเอื้อ”
สุริยงพูดด้วยความจริงใจ เกนหลงสัมผัสได้ถึงความจริงใจนั้น เกนหลงใจหายวาบ คิดแล้วตัดสินใจ
พูด
“หัวใจของคุณสุคือสิ่งตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับพี่เอื้อ พี่เอื้อรักคุณนะคะ รักมาตลอด เกนไม่อยากให้พี่เอื้อผิดหวังกับการรอคอยที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
สุริยงชะงักแปลกใจ เกนหลงพูดต่อ
“ถึงเวลาที่พี่เอื้อควรจะมีความสุข และได้อยู่กับคนที่รักเขาอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ คนๆ
นั้นจะคอยดูแล อยู่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต เกนอยากให้พี่เอื้อมีความสุข มีรอยยิ้ม และไม่เจ็บปวดอีกต่อไป”
สุริยงมองเกนหลงที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่ออยู่ที่ดวงตา
“สัญญากับเกนได้มั้ยคะว่าคุณสุจะไม่ทำให้พี่เอื้อเสียใจ”
สุริยงไม่ตอบ หากย้อนถาม “คุณเกนรักคุณเอื้อใช่มั้ยคะ?”
เกนหลงอึ้ง ก่อนจะหันมาตอบนิ่งๆ
“มันไม่สำคัญหรอกค่ะ ว่าเกนคิดยังไง เพราะในใจของพี่เอื้อ มีแต่คุณสุ” เกนหลงจับมือสุริยง
“คุณฃสุคือคนที่จะทำให้พี่เอื้อมีความสุขที่สุด ดูแลเขาให้ดีนะคะ เกนขอร้อง”
เกนหลงฝากอย่างหนักแน่น จริงจัง แล้วก็ปล่อยมือสุริยง ก่อนจะเดินกลับออกไป เหมือนได้ทำในสิ่ง
ที่ต้องการแล้ว. แม้จะเศร้า แต่ก็หมดห่วง สุริยงมองตาม พลางคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอื้อกับเกนหลง
ในขณะที่เกนหลง ก็กลับมาที่บ้าน นอนซึม พลางมองชุดเต้นรำที่แขวนอยู่ในห้องนอน มีเสียงสายเข้า
เกนหลงหันไปดูหน้าจอเห็นชื่อเอื้อ เกนหลงเบือนหน้าหนี ปล่อยให้เสียงดังจนสัญญาณตัดไปเอง เหมือนคนพยายาม
จะตัดใจ
เอื้อวางสายลงอย่างงงๆ
“เกนเป็นอะไร ? โทร.หาทั้งวัน ไม่ยอมรับสาย”

พลางเริ่มสังหรณ์ใจบางอย่าง

ทางด้านเอื้อ ก็มาหาสุริยงที่บ้าน และส่งตั๋วเครื่องบินให้
“นี่ตั๋วเครื่องบินของหนูเล็ก เครื่องออกตอนเที่ยงคืน เดี๋ยวผมมารับไปพร้อมกัน”
สุริยงรับตั๋วมา แล้วตัดสินใจพูด
“คุณเอื้อไม่ต้องไปสวิสกับหนูเล็กหรอกค่ะ คุณเอื้อไม่จำเป็นต้องเสียสละมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น
หนูเล็กดูแลตัวเองได้”
เอื้อชะงัก
“ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันเข้าใจแล้วนะ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ปล่อยให้คุณไปคนเดียว”
“ใช่ค่ะ แต่ตอนนั้นที่เราคุยกัน หนูเล็กยังไม่รู้ว่าคุณเกนรักคุณ”
สุริยงพูดเรียบๆ หากก็ทำให้เอื้อถึงกับหันขวับกลับมา
“รู้ว่าอะไรนะ? ขออีกที”
“คุณเกนรักคุณเอื้อค่ะ
เอื้อ ช็อก ใจเต้นแรงแทบทะลุอก
“จริงเหรอ ? ละ แล้วหนูเล็กรู้ได้ยังไง ? ทะ ทำไมถึงรู้?”
“คุณเกนให้หนูเล็กสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเอื้อเสียใจ เธอขอร้องให้หนูเล็กดูแลและอยู่เคียงข้างคุณ
เอื้อ และทำให้คุณเอื้อมีความสุขที่สุด”
เอื้อฟังนิ่งตัวชา
“การที่ใครสักคนอยากให้ใครอีกคนมีความสุขยิ่งกว่าตัวเอง ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาแม้ว่าเรา
จะต้องเสียน้ำตา ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่า”ความรัก”ไม่ใช่เหรอคะ หนูเล็กพึ่งเห็นความรู้สึกเหล่านั้นจากแววตาของ
คุณเกนเวลาพูดถึงพี่เอื้อ เธอคือคนที่อยากเห็นพี่เอื้อมีความสุขที่สุดกว่าใครๆในโลก มันทำให้หนูเล็กมั่นใจว่า คุณเกน
รักคุณเอื้อค่ะ”
เอื้ออึ้ง “แต่...” ในใจอยากจะพูดต่อว่าหนูเล็กคือคนที่ผมต้องดูแล หากสุริยงรีบพูดแทรกขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหนูเล็กค่ะ คุณเอื้อทำเพื่อหนูเล็กมามากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องทำเพื่อตัวเองบ้างนะคะ
คนดีๆไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตได้บ่อยๆ ถ้าเจอแล้ว อย่าปล่อยให้หลุดมือไปนะคะ”
สุริยงจับมือเอื้อ เพื่อขอบคุณ และให้กำลังใจ
“คุณเกน เผยความรู้สึกของตัวเองออกมาแล้วนะคะ คุณเอื้อเองก็น่าจะรีบหาคำตอบและบอก
ความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ ก่อนที่จะสายเกินไป”
สุริยงยิ้มให้กำลังใจ แล้วก็เดินเข้าบ้านไป เอื้อยืนตัวลอยๆ ยังอึ้ง และคาดไม่ถึง

“น้าสุไม่ไปไม่ได้เหรอคะ?”
ฮันนี่กับสุริยงนั่งกอดกัน ในขณะที่ชนะนั่งอยู่อยู่อีกฝั่ง
“มันก็ได้ แต่น้าสุก็อยากไปพักผ่อน นอนเล่นบ้างนี่คะ หรือว่าฮันนี่ไม่อยากให้น้าสุไปพัก”
สุริยงพูดพลางลูบหัวฮันนี่
“น้าสุไปพักที่รีสอร์ทฮันนี่กับคุณพ่อก็ได้นี่คะ ฮันนี่ให้พักฟรี ไม่มีชาร์จ”
สุริยงยิ้ม “ขอบใจจ้า เอาไว้ถ้าน้าสุกลับมาเมื่อไหร่ จะรีบไปหาทันที”
ฮันนี่ชูนิ้วก้อย “สัญญานะคะ”
สุริยงเกี่ยวก้อย “สัญญาค่ะ”
ชนะรีบพูดแทรกขึ้นบ้าง
“ดีนะครับที่ผมเอะใจ เห็นเงียบๆกันไป เลยโทร.มาที่บ้าน พอชื่นบอกก็รีบชวนฮันนี่มาทันที ไปคราว
นี้คุณสุจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ”
“เอ่อ คงจะอีกสักพักค่ะ”
“คุณสุไม่ได้ไปเพราะโกรธผม เรื่องที่ผมไปบอกว่าคุณหนีไปอยู่บ้านพักผมใช่มั้ยครับ”
สุริยงหัวเราะ
“ไม่ใช่เลยค่ะ สุจะโกรธคุณทำไมคะ คุณทำไปเพราะเป็นห่วง สุเข้าใจค่ะ”
ชนะยิ้ม โล่งอก “เฮ่อ แล้วไป เออ แล้วเรื่องสุขภาพของคุณสุ”
ชนะถามเลี่ยงๆ สุริยง ก็ตอบเลี่ยงๆ เช่นกัน
“อย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ มันเป็นแค่ความเข้าใจผิด ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วง”
“ด้วยความยินดี คุณสุอย่าลืมนะครับ กลับมาเมื่อไหร่ ไปหาผมกับฮันนี่ได้ตลอดเวลา”
“คุณชนะกับฮันนี่ก็เหมือนกัน บ้านนี้ยินดีต้อนรับเสมอ”
“ขอบคุณครับ”
สุริยงหันมาพูดกับฮันนี่
“ฮันนี่มาเล่นกับไก่ ไข่ ได้ตลอดเวลานะคะ น้าสุฝากน้องๆด้วย”
“ได้เลยค่ะ ฮันนี่จะช่วยเทรนไก่ กับ ไข่ให้ออกงานสังคม แล้วก็เตรียมตัวเป็นนายธนาคารในอนาคต
ค่ะ ฮันนี่รักน้าสุนะคะ”
พูดพลางหอมแก้มสุริยงฟอดใหญ่ สุริยงหอมคืน
“น้าสุก็รักฮันนี่ค่ะ”
จากนั้นทั้งสองคนหัวเราะสดใส ชนะมองแล้วก็ยิ้มตาม พลางมองสุริยงด้วยความเสียดาย
หลังจากที่ชนะกับฮันนี่กลับไปแล้ว สุริยงก็เดินมาที่ห้องนอนไก่ ไข่ พลางเคาะประตู
“ไก่ ไข่ ทำอะไรลูก ไก่ ไข่” หากไม่มีเสียงตอบจากในห้อง “แม่หนูเล็กเข้าไปนะครับ”
เมื่อเปิดเข้าไป เห็นไก่ กับไข่ นั่งหันหลังให้ กอดอกนิ่งๆ สุริยงเห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าน้อยใจ
“โกรธแม่หนูเล็กใช่มั้ยครับ ถึงได้ไม่ยอมออกจากห้องไปหาพี่ฮันนี่ ไหนหันหน้ามาสิ มาคุยกัน”
สุริยงหันไก่ ไข่ กลับมา ห้เผชิญหน้ากัน ถึงได้เห็นว่าไก่ ไข่ ร้องไห้ สุริยงใจอ่อนยวบ
“ไก่ ไข่ ร้องไห้ทำไมลูก” พูดพลางดึงคู่แฝดเข้ามากอด “ โถๆๆ. ทำไมมาแอบร้องไห้อยู่ที่นี่ มีอะไร
ครับ? บอกแม่หนูเล็กสิ”
“แม่หนูเล็กจะทิ้งเราสองคน”
“แม่หนูเล็กไม่รักไก่ กับ ไข่แล้ว”
สุริยงแทบจะหัวใจสลาย ทั้งกอด ทั้งหอมลูกแฝดทั้งสองด้วยความรัก
“โถ ลูกแม่ ทำไมคิดแบบนั้น ไม่จริงเลยนะครับ แม่หนูเล็กไม่ได้ทิ้งไก่ ไข่ และแม่หนูเล็กก็ยังลูก
เหมือนเดิม”
“แล้วทำไมต้องไป”
คำถามซื่อๆ ของไก่ ทำเอาสุริยงสะอึก พลางตั้งสติคิด และค่อยๆ ขยับตัว
“แม่หนูเล็กไปเพราะไม่ค่อยสบาย แม่หนูเล็กต้องไปรักษาตัว และพักผ่อน”
ไก่ กับ ไข่ ค่อยๆเปลี่ยนจากเสียใจ เป็นห่วง
“ไม่สบาย เป็นอะไร ครับ?”
“เจ็บมั้ย?”
สุริยงยิ้ม
“ไม่เจ็บครับ แต่แม่หนูเล็กต้องไปรักษาที่โน่น เพราะไม่เหมาะสมที่จะรักษาที่นี่ ไก่ ไข่ เข้าใจแล้วนะ
ครับ แม่หนูเล็กไม่ได้ทิ้งลูก และยังรักลูกเหมือนเดิม อย่าคิดแบบนี้อีกนะ รู้หรือเปล่า ไม่ว่าจะเกิดขึ้น ไม่มีวันที่แม่จะทิ้ง
เราสองคน และไม่มีวันที่จะเลิกรักด้วย จำไว้นะครับ”
ไก่ ไข่ พยักหน้า แล้วก็โผเข้ากอดสุริยง
“ไก่ก็รักแม่หนูเล็ก”
“ไข่ก็รัก รักมากๆๆ เลยครับ”
สุริยงยิ้มขำๆ พลางกอดไก่ กับไ ข่ด้วยความรัก และน้ำตาซึมๆ ใจหายที่ต้องจากกัน

ในขณะที่เกนหลงนั่งเศร้าๆ คุณพจน์เดินมาหา
“ถ้าพ่อจำไม่ผิด พรุ่งนี้เรากับเอื้อมีสอบเต้นรำใช่มั้ย ?”
เกนหลงตอบเศร้าๆ “คงจะเหลือแค่เกนคนเดียวแล้วหล่ะค่ะ”
“อ้าว” คุณพจน์หน้าเหวอ
“คืนนี้พี่เอื้อเขาไปสวิสกับคุณสุค่ะ ไปแบบไม่มีกำหนดกลับ”
“แล้วเอื้อเขาบอกหรือเปล่าว่าทำไมถึงทำแบบนี้?”
“พี่เอื้อไม่ได้บอกอะไรเลยค่ะ ไม่ได้พูดสักคำ เกนรู้เพราะพี่อัมมาบอก แต่เกนเข้าใจค่ะ แค่สอบเต้นรำ
สมัครเล่น มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เมื่อเทียบกับคุณสุ”
เกนหลงระบายความรู้สึก คุณพจน์ฟังด้วยความเห็นใจ
“พี่เอื้อรักคุณสุมากนะคะ ขนาดรู้ว่าท้องลูกของเขม ก็ยังรับได้ เกนนับถือความรักของสองคนนี้จริงๆ
พี่เอื้อเป็นคนดี คุณสุเป็นคนดี ทั้งสองคนเหมาะสมกันที่สุดแล้วค่ะ”
คุณพจน์โอบเกนลูกสาว พลางพูดปลอบใจ

“ลูกพ่อก็เป็นคนดี สักวันก็คงจะได้เจอคนที่คู่ควร”

อย่าลืมฉัน ตอนที่ 26 (ต่อ)

ในขณะที่เอื้อยืนอยู่ที่หน้าบ้านสุริยง ใบหน้าครุ่นคิด สุริยงยืนอยู่หน้าบ้าน มองบ้านอีกครั้งด้วยความ
อาลัย อาทิตย์ นภา ชื่น ไก่ ไข่ ยืนส่ง

“เดินทางดีๆนะลูก” นภาให้พรลูกสาว อาทิตย์รีบพูดดด้วยความเป็นห่วง
“ถึงแล้วรีบส่งข่าวด้วย”
“ค่ะคุณพ่อคุณแม่รักษาสุขภาพ อย่าทำขนมหนักนะคะ แล้วก็ไม่ต้องคอยวิ่งป้อนข้าวไก่ ไข่ ให้เขาหัด
ทานเอง เสื้อผ้าก็ให้เลือกใส่เอง ไม่ต้องไปจัดให้เขานะคะ ถุงเท้าก็เหมือนกัน”
เอื้อเอื้อมมือมาแตะแขนสุริยงเป็นเชิงเตือน
“หนูเล็กๆ เครื่องออกเที่ยงคืนนะ เดี๋ยวไม่ทัน”
“หนูเล็กรักคุณพ่อ คุณแม่นะคะ”
นภากอดสุริยงไว้แน่น น้ำตาซึม “แม่ก็รักหนูเล็ก.รักมากที่สุดในโลกเลยนะลูก”
อาทิตย์กอดทั้งสองไว้ ไก่ ไข่ มองตาปริบๆ สุริยงคลายกอดนภาแล้วก็หันมาทางไก่ ไข่ มองหน้า
ลูกชายแฝดแล้วไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ดึงมากอดด้วยความรัก
“เป็นเด็กดีนะลูกนะ แม่หนูเล็กจะคิดถึงไก่ ไข่ ทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที ทุกวินาทีเลยนะครับ”
“ไก่ก็จะคิดถึงแม่หนูเล็กครับ”
“ไข่ด้วยครับ”
สุริยงกอดลาลูกชายแฝดคนจนฉ่ำใจ แล้วก็ลุกขึ้น หันมาลาชื่น
“ชื่น ฝากทุกๆคนด้วยนะคะ”
ชื่นยิ้มแป้น “ ได้ค่ะ แต่ชื่นรับฝากไม่นานนะคะ คุณหนูเล็กต้องรีบมารับคืนไปนะคะ”
“เอาเป็นว่า หนูเล็กกลับมาเมื่อไหร่ จะจ่ายดอกให้อย่างสาสม”
สุริยงยิ้ม แล้วก็หันมามองหน้าทุกคนอีกครั้ง
“ไปนะคะคุณพ่อคุณแม่ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับแม่หนูเล็ก”
เอื้อเดินนำขึ้นรถไป สุริยงขึ้นตาม
นภาตะโกนตามหลังไป
“ถึงสนามบินแล้วโทร. มาบอกด้วยนะลูก”
ประตูรถปิด และค่อยๆเคลื่อนออกไป นภาได้แต่กอดไก่ ไข่ ไว้ ด้วยความใจหาย
“นี่เราคิดผิด หรือคิดถูกคะเนี่ย ที่ทำแบบนี้”
“เอาน่า เดี๋ยวก็รู้”
อาทิตย์โอบปลอบใจเหมือนรู้อะไรกันอยู่บางอย่างกันสองคน

ท่ามกลางผู้คนที่เดินไปมาขวักไขว่เต็มสนามบิน เอื้อถือกระเป๋าลากเล็กยืนส่งสุริยง...
“พร้อมนะ”
“พร้อมค่ะ”
-สุริยงเอื้อมมือมาจับหูลากกระเป๋า และดึงมาจากเอื้อ
“คุณเอื้อส่งหนูเล็กตรงนี้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เป็นธุระจัดการทุกอย่างให้”
เอื้อยิ้มรับ “ด้วยความยินดี พอไปถึงที่โน่นแล้ว มีอะไรขาดตกบกพร่อง หรือต้องการอะไรเพิ่มเติม
บอกผมได้ทันที ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วก็ผมขอย้ำว่า ไม่ว่าผมจะทำอะไรให้คุณ ผมทำด้วยความปรารถนาดี และต้องการให้คุณมี
ความสุข”
สุริยงมองเอื้องงๆ
“คือผมหมายถึงทุกสิ่งที่ผมเตรียมไว้ให้ที่โน่น ผมเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ คุณเอื้อไม่ต้องห่วงเรื่องหนูเล็กนะคะ หนูเล็กดูแลตัวเองได้ ห่วงแต่เรื่องตัวเอง
เถอะค่ะ .รีบหาคำตอบว่าคิดยังไงกับคุณเกนกันแน่ รีบๆหน่อยนะคะ ถ้าช้าอาจจะต้องเสียใจ”
สุริยงยิ้มให้กำลังใจ เอื้อยิ้มรับ
“ไปนะคะ”
สุริยงกำลังจะหันหลังเดินไป แล้วก็แอบใจหายนิดๆ ที่จะต้องไปแล้วจริงๆ พลางคิดถึงเขมชาติขึ้นมา
วูบหนึ่ง แต่พยายามตัดใจ แล้วก็หันหลังจะเดินไป แต่พอหันมาก็อึ้ง ตะลึงงัน
“คุณสมคิด คุณวิบูลย์”
สมคิด กับวิบูลย์หันมาตามเสียงเรียก แล้วก็สะดุ้ง
“เอ้ย คุณสุ”
สุริยงถามด้วยรอยยิ้ม
“คุณวิบูลย์ คุณสมคิด มาทำอะไรคะเนี่ย?”
สองคนมองหน้ากันแล้วก็ตอบ
“มาส่งลูกค้าครับ”
-สมคิดรีบเล่นละครอย่างแนบเนียน
“แล้วนี่คุณสุจะไปไหนครับเนี่ย?”
วิบูลย์รีบเสริม “นั่นสิครับ จะไปไหน ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“สุกำลังจะไปสวิสค่ะ”
“อ๋อ ไปสวิส”
“ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ”
วิบูลย์รีบอวยพร
“ใช่ครับๆ ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่ต้องการ สิ่งที่รอคอย คือผมหมายถึง ถ้ารอคอยความสุขก็ขอให้
เจอความสุขอะไรแบบนั้นน่ะครับ”
สมคิดตัดบท
“ผมว่า คุณสุรีบไปเถอะครับ เครื่องใกล้จะออกแล้วนี่ครับ รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทัน”
“คุณสมคิดรู้ได้ยังไงคะว่าเครื่องสุใกล้จะออกแล้ว รู้เหรอคะว่าสุไปเที่ยวไหน”
สมคิดรีบแก้ตัว
“คือผมก็เดาเอาน่ะครับ ส่วนมากมาเวลานี้ ก็มีเหลืออยู่ไม่กี่เที่ยว ผมมาส่งลูกค้าบ่อย”
เอื้อตัดบท “ ถึงแล้วบอกด้วยนะ”
“ค่ะ คุณเอื้อเองได้คำตอบยังไงก็บอกด้วยนะคะ”
เอื้อยิ้มรับ สุริยงหันมาทางวิบูลย์สมคิด ”ไปก่อนนะคะ”
“ครับ เดินทางปลอดภัยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”

สุริยงยิ้มรับและลากกระเป๋าเดินไป เอื้อ สมคิด วิบูลย์ ยืนส่ง สุริยงแว่บคิดถึงเขมชาติ พลางหันมา
มอง ไปรอบๆ อีกที แอบคิดว่าเขมชาติอาจจะมาเซอร์ไพรส์ แต่ก็ไม่มี

วันรุ่งขึ้นที่ห้องเรียนเต้นรำ ระหว่างที่คู่เต้นรำอื่นๆ กำลังซ้อมกันอย่างตั้งใจ เกนหลงกลับแอบมานั่ง
เหงาๆ รอสอบอยู่ในมุมเงียบๆ คนเดียว เศร้า...
กระทั่งเสียงครูเรียกขึ้น
“คุณเกนหลง พงษ์สุภา”
เกนหลงสะดุ้ง
“ค่ะ”
เกนหลงลุกขึ้น และเดินไปที่ฟลอร์
“แล้วคู่เต้นหล่ะ?”
“เอ่อ ไม่มีค่ะ”
“อ้าว งั้นก็” ครูมองนักเรียนคนอื่น “ขออาสาสมัครด้วย หนุ่มๆ ใครจะอาสาเป็นคู่เต้นให้คุณผู้หญิง
คนนี้หน่อย”
หนุ่มๆ แย่งกันชูมือสลอน ครูหันมาทางเกนหลง
“อะ มีอาสาสมัครหลายคนเลย เลือกมาสักคนก็แล้วกัน เชิญ”
“ค่ะ”
เกนหลงมองหนุ่มๆ แต่ก็เลือกไม่ถูก แล้วก็ตัดสินใจเลือกหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อย
พลางผายมือกำลังจะเลือก ทันใดนั้นเสียงเอื้อก็ดังขึ้น
“ผมขอเป็นตัวเลือกอีกหนึ่งคนครับ”
ทุกคนมองไปที่ต้นเสียง เกนหลงหันมาอย่างช้าๆ เห็นเอื้ออยู่ในชุดสูทสำหรับเต้นรำ
“พี่เอื้อ”
“เรียกชื่อพี่ แสดงว่าเลือกพี่เป็นคู่เต้นแล้วนะ ห้ามเปลี่ยนใจ” เอื้อยิ้มกวน
เกนหลงยังอึ้ง งง ครูตัดบท
“ได้คู่แล้ว ก็เริ่มเลย”
ดนตรีขึ้น เอื้อโค้งและดึงเกนหลงมาเต้นรำ ทั้งคู่เต้นไป คุยกันไป ตามจังหวะของดนตรี
“พี่เอื้อมาได้ไงคะ แล้วไม่ไปสวิสกับคุณสุไม่ใช่เหรอคะ”
“พี่ยกเลิกไปแล้วเพราะหนูเล็กบอกว่า ที่เราไปฝากฝังเขาไว้ เขาดูแลไม่ไหว เลยไม่ให้พี่ไปด้วย ปล่อย
พี่ไว้ที่นี่ ให้เราเป็นคนดูแลพี่เอง”
เกนหลงอึ้ง
“จริงเหรอคะ? เพราะคำพูดของเกนทำให้คุณสุทิ้งพี่เอื้อจริงเหรอคะ?”
“ล้อเล่น” เอื้อยิ้มกวน เกนหลงโล่งอก
“แต่เพราะคำพูดของเราทำให้หนูเล็กรู้ว่า เรารู้จักพี่เป็นอย่างดี และก็ยังบอกอีกว่าสิ่งที่เกนมี ไม่ใช่แค่
ความห่วง แต่มันเป็นความรัก”
เกนหลงอึ้ง หน้าแดง
“ทำให้พี่ตัดสินใจไม่ไปสวิส แล้วก็มาที่นี่ เพื่อจะบอกว่า ไม่ใช่แค่จะมาเต้นรำ แต่จะมาเพื่อบอกว่า พี่
รักเกน”
เกนหลงอึ้ง ใจเต้นโครมคราม พูดไม่ออกทั้งดีใจ ทั้งเขิน ทั้งอาย ปนเปไปหมด สองคนมองตากัน
“รักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอรู้ตัวก็อยากอยู่ใกล้ คิดถึง มีความสุขทุกครั้งที่ได้คุย ได้เห็นหน้า แล้วก็เริ่ม
รู้ว่าอยากมีชีวิตแบบที่มีเกนอยู่ข้างๆ ตลอดไป”
เกนหลงน้ำตาคลอ เอื้อยิ้มอบอุ่น
“ที่พูดมาทั้งหมดเมื่อกี๊ เกนก็เป็นเหมือนกับพี่เอื้อ ถูกทุกข้อเลยค่ะ”
“ลอกกันแบบนี้เลยเหรอ พี่คงต้องเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ซะแล้ว”

เสียงหัวเราะของเอื้อและเกนหลงดังขึ้นอย่างเบิกบาน ทั้งสองคนเต้นรำด้วยกันอย่างมีความสุข

จบตอนที่ 26

อ่านต่อ "ตอนอวสาน" คืนนี้ เวลา 23.00น.
กำลังโหลดความคิดเห็น