xs
xsm
sm
md
lg

สาปสาง ตอนที่ 25

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สาปสาง ตอนที่ 25

พลิ้วมองใบหน้าของกรณ์แล้วก็รู้สึกว่าผิดสังเกตไป ใบหน้าของกรณ์ ดูหมองคล้ำแบบคนโดนของ

“คุณกรณ์ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“เปล่านี่ครับ ผมสบายดี คุณพลิ้วมาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“คุณกรณ์พร้อมคุยนะคะ”
“พร้อมครับ เอ..ผมดูมีอะไรผิดปกติหรือ”
“คุณดูหน้าหมองๆ เหมือนคนอดนอน ไม่สิ...เหมือนคนไม่มีหัวจิตหัวใจ”
กรณ์นึกสังเกตตัวเองแล้วก็รู้สึกผิดปกติไปบ้าง แต่เขาก็มีความพลุ่งพล่านทางใจบางอย่าง คือคิดถึงแพรวมากไปจึงไม่คิดว่าตัวเองผิดปกติอะไร
“ไม่มีอะไรนะครับ ผมยังแฮปปี้ดีนี่ครับ เชิญคุณพลิ้วนั่งก่อนดีกว่าครับผมจะไปหยิบเครื่องดื่มมาให้”
“ขอบคุณค่ะ”
พลิ้วนั่งแล้วมองตามกรณ์โดยยังมีสีหน้าสงสัยในความแปลกไปของกรณ์

อีกาบินมาเกาะที่หน้าบ้านกรณ์ หมอกคำลอยต่ำๆ คลี่ห่มบางส่วนของบ้านกรณ์ไว้

กรณ์วางแก้วน้ำ พริ้วมองเลยมือขึ้นไปที่หน้ากรณ์ ในดวงตาของกรณ์ดูเหมือนมีรอยหมอกดำลอยอ้อยอิ่งอยู่ในแววตา พริ้วเห็นกรณ์ยืนยันหนักแน่นจึงเข้าเรื่องที่รีบรุดมาหากรณ์
“คุณกรณ์ได้ไปที่โรงละครอีกไหมคะ” พริ้วถาม
“ทำไมคุณถามผมเรื่องนี้” กรณ์ถามกลับ
“คุณไม่อยากรู้หรือคะว่าวิญญาณผู้หญิงที่ต้องการติดต่อกับคุณเป็นใคร”
“เราคงต้องรอให้คุณณราฟื้นขึ้นมา”
“ก็จริงค่ะ คุณณราเป็นคนที่วิญญาณผู้หญิงคนนั้นบอกเรื่องทุกอย่างของเธอ แต่เราก็มีวิธีอื่นที่จะรู้เรื่องนี้นะคะ”
“คุณพริ้วมีวิธีหรือครับ”
“ถ้าคุณกรณ์ยังอยากติดต่อวิญญาณผู้หญิงคนนั้น ฉันก็พอจะมีทาง”
กรณ์พยักหน้าด้วยความสนใจ สีหน้าเขาดูสว่างขึ้นเหมือนจะหลุดพ้นจากมนต์ดำของไสยศาสตร์ราคะของแพรว

กรณ์พยายามนั่งสมาธิอยู่หน้าหิ้งพระ เขาคิดถึงเรื่องที่คุยกับพริ้ว
เสียงพริ้วดังในหัวของเขา “ระหว่างรอคำตอบจากฉัน ฉันอยากให้คุณกรณ์ทำใจให้ว่างๆ พยายามมีสมาธิอยู่กับตัวไว้นะคะ”

พริ้วมาขอร้องเฟยให้ช่วยทำพิธีเพื่อติดต่อวิญญาณช่อเอื้องให้
“ฉันเอง จะขอร้องให้ป๊าช่วยทำพิธีเรียกวิญญาณผู้หญิงคนนั้นให้ ถ้ามีฤกษ์เหมาะ และป๊าตกลง ฉันจะโทรมาบอกคุณอีกครั้งนะคะ” พริ้วบอกกับกรณ์
เฟยทำหน้าตกใจ พริ้วคุกเข่าลงขอร้อง เฟยพยักหน้ายอมตกลงจะทำพิธีให้

กรณ์กระวนกระวายใจ แต่เขาก็พยายามจะมีสมาธิ
เสียงพริ้วยังดังขึ้นในหัว “คืนนี้คุณทำตัวให้ว่างไว้นะคะคุณกรณ์”
กรณ์มองโทรศัพท์ หน้าจอมีสายเรียกเข้าจาก “แพรว” กรณ์ตัดสินใจไม่รับแล้วพยายามนั่งสมาธิตามที่พริ้วแนะนำ
“อย่าเพิ่งว่อกแว่ก กรณ์เอ๋ย....เราต้องรู้ให้ได้ว่าวิญญาณผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เกี่ยวกับที่เราฝันเห็นช่อเอื้องหรือเปล่า” กรณ์คิดในใจ
กรณ์นั่งสมาธิ อีกาที่เกาะหน้ารั้วบ้านกระพือปีกบินจากไป

ฝูงอีกาบินกลับมาเกาะที่หลังคาตำหนักพ่อปู่ ในขณะที่ฝูงอีกาในตำหนักตีปีกพึ่บพั่บ พ่อปู่หยั่งรู้ว่าพริ้วไปพบกรณ์และคิดจะทำอะไรก็หมายมาดเสียงกร้าว
“อย่าหวังว่ามึงจะทำได้สำเร็จ กูจะขวางมึงทุกทิศทุกทาง”

พ่อปู่หยิบขวดน้ำอาบราคะขวดเล็กออกมาหยดลงในอ่าง ทันใดนั้นก็มีหมอกดำลอยวนเหนืออ่าง

แพรวนั่งทาเล็บอย่างอารมณ์ดี บนหัวของเธอมีโรลม้วนผมในขณะที่หน้าพอกมาสก์เต้าหู้ญี่ปุ่น

“แม่ ต้มน้ำให้หน่อยสิ”
อนงค์ที่ขัดพระอยู่ ชะงักมือเพราะน้ำเสียงสั่งของแพรว
อนงค์อดทน “แกจะกินกาแฟเหรอ”
“เปล่า ฉันจะแช่เท้า แม่ทำให้หน่อย น้ำอย่าร้อนเกินไปนะแม่ หยดลาเวนเดอร์ให้ด้วย”
“นังแพรว ! ฉันเป็นแม่แก ไม่ใช่คนใช้ อยากสวยก็ทำเอง”
“เอ๊ะ แม่ ไม่ส่งเสริมให้ฉันมีผัวหรือไง”
“อุ๊ยตาย อยากตบปากฉีก ใครสั่งใครสอนให้แกมั่นใจได้ขนาดนี้ หา”
“ฉันเรียนรู้จากแม่หรอกน่ะ”
“นังแพรว”
“ฉันจะไม่เป็นผู้หญิงจนตรอก ถูกผู้ชายทิ้งเหมือนแม่ ฉันจะต้องเลือกได้ ผู้ชายต้องอยู่ในมือฉัน”
“แกคิดจะจับผู้ชายคนนั้นเหรอ คุณกรณ์เกินอะไรนั่น”
“ยุ่งน่ะแม่”
“นังแพรวเอ๊ย อย่าไปยุ่งกับเขาเลย แม่ขอร้อง”
“ทำไม คุณกรณ์ไม่ดีตรงไหน”
“แม่ว่าเขาท่าทางเป็นคนดี....ดีเกินไปสำหรับแก แกไม่คู่ควรกับเขาหรอกนังแพรว”
อนงค์พูดด้วยความปลงเพราะเห็นพฤติกรรมลูกสาวตัวเองมานาน แพรวโมโหปรี๊ดจนลุกพรวดแล้วขึ้นเสียงกับอนงค์
“แม่ ! ใช้ชีวิตดักดานของแม่ไปเถอะ ฉันไม่จมอยู่แบบนี้ด้วยหรอก ฉันมีสวรรค์ของฉันแล้ว”
แพรวสะบัดพรืดออกไป อนงค์มองตามด้วยความหนักใจและเสียใจ
“นังแพรวเอ๊ย เห็นหน้าแก ทำไมแม่รู้สึกว่านรกมันรออยู่รำไรก็ไม่รู้”

แพรวที่อยู่ที่หน้ากระจกค่อยๆเช็ดหน้า ดึงโรลม้วนผมออกด้วยสีหน้ามุ่งมั่นและเต็มไปด้วยความอยากได้ปรารถนาในตัวกรณ์
“วันนี้ฉันจะทำให้คุณกรณ์รักฉันหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้น”

กรณ์นั่งนิ่งอยู่ในสมาธิ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กรณ์นึกถึงที่สัญญากับพริ้วไว้
“คุณพริ้ว”
กรณ์รับสายโดยไม่ทันได้ดูหมายเลขโทรเข้า
“ตกลงคืนนี้นะครับ”

แพรวที่อยู่ในห้องนอนยิ้มร่าด้วยความดีใจ
“คุณกรณ์ใจร้อนจังเลยนะคะ แพรวนึกไม่ถึงว่าคุณจะคิดถึงแพรวมากขนาดนี้”

กรณ์อึกอักเพราะดูเบอร์แล้วเห็นว่าไม่ใช่พริ้ว
“ไม่ใช่คุณพริ้ว”

แพรวยิ้มร่าอย่างดีใจ
“คุณกรณ์ว่าอะไรนะคะ”

กรณ์รู้สึกวูบวาบแปลกๆ เหมือนโหยหาแพรวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“คุณกรณ์ขา....” เสียงแพรวดังจากปลายสาย
“คุณแพรว”
แพรวพูดเสียงออดอ้อน
“คืนนี้เราพบกันนะคะ”

กรณ์จะปฏิเสธแต่หมอกดำก็กรุ่นออกมาจากหัว สายตากรณ์พร่าเบลอไปเพราะตกอยู่ในภวังค์ของมนต์ราคะ
“ครับ คืนนี้เรามีความสุขด้วยกันนะครับ”

แพรวสมใจที่ได้ยินคำที่รออยู่
“แพรวจะรอนะคะคุณกรณ์”

แพรววางสายแล้วยิ้มอย่างสะใจ
 
อ่านต่อหน้า 2

สาปสาง ตอนที่ 25 (ต่อ)

กรณ์วางสาย สักครู่มือถือก็ดังขึ้นมาอีกคราวนี้เป็นพริ้วโทรมา

“คุณกรณ์คะ ตกลงคืนนี้ว่างนะคะ”
“คุณพริ้วครับ ผมไม่สนใจวิญญาณผู้หญิงอะไรนั่นแล้ว คุณพริ้วจะเล่นสนุกเรื่องเพ้อเจ้อก็ทำไปคนเดียวเถอะครับ ผมไม่ว่าง”
กรณ์ตัดสายอย่างไม่ใยดี
“คุณกรณ์คะ ตกลงคืนนี้ว่างนะคะ”
พริ้วถูกตัดสายทิ้งด้วยความโมโหและงงมาก
“คุณกรณ์ อะไรเนี่ย คุณกรณ์”
“เป็นอะไรอาพริ้ว คุณกรณ์ว่ายังไง”
พริ้วจับต้นชนปลายไม่ถูก
“เค้าเปลี่ยนใจแล้วน่ะสิป๊า”
“เห็นไหม เรื่องเสี่ยงๆอย่างนี้ ไม่มีใครกล้าบ้าบิ่นเหมือนลื้อหรอก” เฟยว่า
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะป๊า ตอนแรกคุณกรณ์เขามุ่งมั่นอยากรู้มาก ว่าวิญญาณผู้หญิงคนนั้นจะสื่อสารอะไรถึงเขา แต่ตอนนี้ดันบอกว่าไม่เอา ไม่เชื่อ แถมว่าฉันเพ้อเจ้อด้วย”
“หรืออีจะกลัว”
“ไม่อ่ะป๊า น้ำเสียงคุณกรณ์ไม่ใช่กลัว แต่เหมือนเปลี่ยนใจ...เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย”
เฟยนิ่งไปเพราะชั่งใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่พริ้วยังงงอยู่
“คุณกรณ์เป็นอะไรไป ไม่อยากจะเชื่อเลย”

กรณ์แทบจะรอเวลาไม่ไหวเพราะคิดถึงแพรวจนแทบจะคลั่งตาย
“คุณแพรว เมื่อไหร่เราจะได้พบกัน”
ช่อเอื้องปรากฎร่างขึ้นแต่กรณ์ไม่เห็น ช่อเอื้องน้ำตานองหน้าขณะมองกรณ์อย่างอาวรณ์
“คุณกรณ์ขา ช่ออยู่ตรงนี้ คนที่รักคุณที่สุดอยู่ตรงนี้ค่ะ”
ช่อเอื้องโผเข้ากอดกรณ์แต่ก็ทะลุร่างกรณ์ออกไป กรณ์กระสับกระส่ายเดินกลับไปกลับมา
“แพรว....”
ช่อเอื้องเดินวนเวียนตามกรณ์ แต่กรณ์ก็ยังมองไม่เห็น
“คุณเรียกชื่ออีทรยศนั่นทำไม คุณลืมความรักของช่อแล้วหรือคะ”
ช่อเอื้องเข้าไปใกล้กรณ์แล้วพยายามจะโอบกอดกรณ์ หมอกดำปรากฎขึ้นรอบร่างกรณ์แล้วกลายเป็นมวลดำๆ ผลักร่างช่อเอื้องออก ช่อเอื้องกระเด็นออกไปจากกรณ์ด้วยมนต์มาร ร่างของเธอปะทะผนังห้องแรงจนแทบจะสลาย ช่อเอื้องกระอักแล้วไอ
“คุณกรณ์....เกิดอะไรขึ้นกับคุณกรณ์ของช่อ”
กรณ์ไม่รู้เรื่อง ไม่สัมผัสถึงวิญญาณของช่อเอื้องเลยเพราะในหัวมีแต่แพรว
“แพรวจ๋า เมื่อไหร่เราจะได้เจอกัน”
ช่อเอื้องตาวาววับเพราะเริ่มเดาทางออกเมื่อเห็นอาการของกรณ์ แววตาของช่อเอื้องคั่งแค้นด้วยความโกรธ
“คุณกรณ์เปลี่ยนไป....ต้องเป็นฝีมือไอ้พวกชั่วช้าแน่ๆ”
ช่อเอื้องตาวาววับด้วยความอาฆาต แล้วก็หายวับไป กรณ์ยังเหม่อเพราะคิดถึงแพรว

ช่อเอื้องปรากฎร่างหน้าบ้านแพรวด้วยสายตาอาฆาต เธอต้องการจะพุ่งเข้าไปในบ้านเพื่อจัดการแพรว
“มึงแย่งคนรักกู มึงตาย”
หมอกดำก่อตัวขึ้นเป็นกำแพงหนา ช่อเอื้องพุ่งมาเจอกำแพงหมอกดำสกัดก็กระเด็นออกไป แล้วกระอักเลือด
“กูจะฆ่ามึงๆ”

ช่อเอื้องพุ่งเข้าไปอีกก็โดนหมอกดำสกัดออกมาอีก ช่อเอื้องจึงเข้าไม่ได้

แพรวในชุดสวยเซ็กซี่ พรมน้ำหอมเป็นคำรบสุดท้ายก่อนจะเช็คความสวยเอ็กซ์ แพรวลงมาจากชั้นบน
 
อนงค์ที่อยู่ที่ห้องนั่งเล่นฉุนกลิ่นน้ำหอมแต่ไกลจึงหันไปมองแพรว
“แกจะไปไหน”
“เรื่องของฉัน”
“นังแพรวเอ๊ย ผู้ชายน่ะ ยิ่งไล่ตาม เขาจะยิ่งหนี”
“แม่รู้เหรอ อย่างแม่เคยไล่ตามใคร มีแต่คนไล่ไปไกลๆใช่ไหม”
“นังแพรว แม่เป็นห่วงแกนะ อย่าทำอะไรไม่ดีไม่งามเลยนะลูก”
“ไปไกลๆฉันเลยแม่ ไม่ต้องห้ามฉันอีก รำคาญ ไป๊”
แพรวสะบัดหน้าพรืดแล้วเดินออกจากบ้าน
อนงค์ถอนหายใจหนักหน่วง
“เจ้าประคุณเอ๊ย คุณพระคุณเจ้า ดลใจให้ลูกสาวอิชั้นด้วยเทอญ ขอให้สังหรณ์ของอิชั้นว่าลูกจะทำเรื่องไม่ดี ทำเรื่องชั่วๆ ไม่เป็นจริงด้วยเทอญ”
อนงค์ยกมือไหว้ท่วมหัว ทันใดนั้นก็เกิดลมพัดวูบทำให้หน้าต่างปิดใส่อย่างแรง อนงค์ตระหนก และรู้สึกไม่ดียิ่งกว่าเดิม

แพรวเดินออกมาที่หน้าบ้านเพื่อจะขึ้นรถ ทันใดนั้นแพรวก็กด line ส่งข้อความ
“แพรวกำลังไปหานะคะคุณกรณ์”
ช่อเอื้องปรากฎร่างขึ้นเห็นแพรวเปิดประตูออกมาในรัศมีที่พ้นจากยันต์ ตาช่อเอื้องก็ลุกวาว
“อีเพื่อนทรยศ”
ช่อเอื้องพุ่งตัวเข้าใส่หมายจะขย้ำคอแพรว
ทันใดนั้น มนต์ดำก็ปรากฎเป็นกลุ่มก้อนหมอกงเข้าสกัดช่อเอื้อง
“กูไม่กลัวมึงหรอก อีแพรว” ช่อเอื้องว่า
ช่อเอื้องกัดฟันพุ่งเข้าใส่ แต่แล้วหมอกดำก็กลายเป็นหอกเข้าทิ่มแทงช่อเอื้อง แพรวรู้สึกประหลาด มองรอบตัวจึงเห็นทุกอย่างเงียบงัน อีกาที่บินโฉบมาเหนือหัวแพรวตีปีกพึ่บพั่บ แพรวยิ้ม
“มนต์ดำพ่อปู่ ใครหน้าไหนก็ทำอะไรฉันไม่ได้”
แพรวเดินเชิ่ดเริ่ด ช่อเอื้องทะลุผ่านตัวแพรว แพรวมองไม่เห็น และไม่ได้รับบาดเจ็บ
ช่อเอื้องจะไล่ตามแพรว แต่มนต์ดำก่อตัวเป็นเชือกพันขาช่อเอื้องล้มลง
“อ๊ากกก....อีแพรว กูเกลียดมึง กูจะฆ่ามึง อ๊ากกก โอ๊ยย
แพรวสตาร์ทรถ แล้วขับรถทับร่างช่อเอื้องที่ค่อยๆสลายไป ช่อเอื้องบาดเจ็บจนต้องสลายร่างหนีมนต์ดำไป

เวทีโรงละคร มีไฟสลัวๆส่องเป็นจุดๆ แลดูเงียบเหงาวังเวง เสียงช่อเอื้องร้องไห้ดังก้องขึ้นมา ช่อเอื้องนั่งกองอยู่ที่พื้นโรงละครในสภาพร่างสลายเป็นส่วนๆ บางส่วนเหมือนเนื้อเละ บางส่วนควันขึ้นเหมือนไหม้จากภายใน
“คุณกรณ์ขา....ไอ้พวกชั่วมันทำอะไรคุณกรณ์ ทำไมคุณกรณ์ถึงเปลี่ยนไปได้แบบนี้...ช่อต้องช่วยคุณ”
ช่อเอื้องรวบรวมกำลังพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ลุกไม่ไหว เธอเจ็บปวดสรรพางค์กายจนไร้เรี่ยวแรง
“ช่อต้องช่วยคุณให้ได้”
ช่อเอื้องรวมกำลังลุกขึ้น แต่พอเดินได้สองสามก้าวก็ล้มฟุบ ช่อเอื้องแทบคลานอยู่กับพื้น
“คุณกรณ์ขา....”
ช่อเอื้องคลานไปต่อไม่ไหวเพราะไม่มีแรง

พริ้วกำลังคิดหาวิธีจะเก็บหลักฐานเรื่องช่อเอื้อง
“ถ้าวิญญาณผู้หญิงคนนั้นใช้ร่างเรา เราก็ไม่รู้สึกตัวอีก ต้องมีคนมาช่วยฟัง....คุณณราก็ยังไม่ฟื้น คุณกรณ์ก็อะไรไม่รู้....เอาไงดีนะ”
พริ้วคิดไปคิดมาก็เปิดตู้ ค้นหาของอะไรบางอย่าง
“ไม่มีใครฟัง...ก็ต้องฟังเอง”
พริ้วเจอกล้องวิดีโอก็ยิ้มออก เธอนึกวิธีที่จะเก็บหลักฐานที่ช่อเอื้องจะบอกได้
“นี่ไง อัดวิดีโอไว้ ตอนผู้หญิงคนนั้นมาสิงเรา จะพูดจะทำอะไรก็มีหลักฐานแล้ว”

พริ้วลงจากชั้นบนมาเงียบๆ เพราะกลัวว่าเฟยจะได้ยิน
“ฉันขอโทษนะป๊าที่ดื้อไม่ฟังป๊า แต่ฉันต้องช่วยผู้หญิงคนนั้น”
พริ้วเปิดประตูบ้านโดยพยายามให้เสียงดังน้อยที่สุด แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังแกร็ก เฟยที่อยู่บนบ้านได้ยินเสียง พริ้วทำตัวลีบออกจากประตู เฟยเดินลงบันไดมา
“อาพริ้ว”
บ้านเงียบสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฟยมองแต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติและไม่เห็นพริ้ว
“ไม่มีอะไรนี่นา”

เฟยฉุกใจเหลียวมองข้างบน
 
อ่านต่อหน้า 3

สาปสาง ตอนที่ 25 (ต่อ)

เฟยเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนพริ้วแต่ก็ไม่เห็นพริ้ว

“นั่นไง นึกแล้วว่าอาพริ้วต้องหนีไป....เฮ้อ”
เฟยนึกรู้ว่าพริ้วจะไปทำอะไรก็ได้แต่ถอนใจด้วยความเป็นห่วง

กรณ์ถูกแพรวนอนคร่อมร่างโดยที่แพรวพยายามจูบซุกไซ้ แต่กรณ์ไม่ตอบสนองเท่าที่ควรแถมยังบ่ายเบี่ยงเบือนหน้า
“คุณแพรวครับ...เราไม่ควร...เอ่อ....”
แพรวตวัดสายตาเว้าวอน
“คุณไม่อยากมีความสุขกับแพรวเหรอคะ”
แพรวจ้องตากรณ์ เหมือนจะสะกดความรู้สึกให้กรณ์อยู่กับเธอ

พ่อปู่ร่ายคาถามหาเสน่ห์ใส่ตุ๊กตาหุ่นคู่
“เล่ห์ สังวาส เชิงชาติเลือดชั่ว ราคะ มัดตัว กำหนัด จัดจอง”
ตุ๊กตาหุ่นคู่หันหน้าเข้าหากัน

กรณ์และแพรวที่จ้องกันอยู่ในท่าเดียวกับตุ๊กตาหุ่นคู่ กรณ์เคลิบเคลิ้มสายตาแพรวแล้วจูบตอบแพรวทันที
“คุณแพรว ! ผมต้องการคุณ”
แพรวยิ้มกระหยิ่มอยู่ในอ้อมกอดของกรณ์แล้วตอบสนองรสราคะทันทีทันใด สายตาแพรวหมายมาดว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างให้ลุล่วงตามที่เคยคุยกับพ่อปู่ไว้

ภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา แพรวคุยกับพ่อปู่เรื่องกำจัดช่อเอื้อง
“จะกำจัดอีผีช่อเอื้อง มันต้องมีเหยื่อล่อ แล้วคนที่เป็นเหยื่อล่อที่ดีที่สุดคือ ไอ้ผู้ชายคนนั้น”
“คุณกรณ์”
“มึงต้องพาผู้ชายคนนั้นมาที่นี่ให้ได้ อีผีชั่วนั่นมันต้องตามคนรักของมันมา ถึงตอนนั้น กูจะทำลายวิญญาณอีผีแค้นนั่นให้สิ้นซาก”
“ฉันมีวิธีทำให้คุณกรณ์มาที่นี่ได้ พ่อปู่เตรียมพิธีกำจัดวิญญาณอีช่อเอื้องได้เลย”
แพรวยิ้มรับแล้วพยักหน้าจะหาทางพามาให้ได้

แพรวถูกกรณ์รุกเร้าโรมรันพันตูอยู่บนเตียงก็แสร้งใส่จริตมารยา
“อ๊า...คุณกรณ์ขา ใจเย็นๆค่ะ เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งคืน”
“คุณไม่โอเคหรือ”
“เปล่าค่ะ” แพรวระดมจูบให้กรณ์ระทวย เชื่อฟัง ก่อนจะเป่าหูเบาๆ
“แพรวมีเรื่องอยากให้คุณช่วย”
กรณ์มองหน้าแพรว แพรวจูบอีกครั้งให้กรณ์ใจอ่อน

กล้องวิดีโอที่ตั้งไว้ถ่ายภาพพริ้วกำลังถอดหยกคุ้มกันออกจากตัวแล้วหย่อนใส่กระเป๋า
“ฉันรู้ว่าคุณคงไม่ทำร้ายฉัน ฉันไม่มีหยกป้องกันแล้ว เชิญมาใช้ร่างฉันได้เลย บอกสิ่งที่คุณต้องการบอก”
พริ้วตั้งกล้องวิดีโออัดตัวเองและช่อเอื้องแล้วพริ้วจุดธูปแล้วปักลงที่มุมหนึ่ง
“คุณอยู่ที่นี่ใช่ไหม มาเถอะ คราวนี้ไม่มีใครมาขวางฉันกับคุณแล้ว คุณอยากบอกอะไรคุณกรณ์ก็บอกได้เลย”
ควันธูปลอยละล่องก่อนที่จะกลายเป็นกลุ่มควันขนาดใหญ่แล้วร่างช่อเอื้องก็ปรากฎขึ้น
“ขอบคุณมากคุณพริ้ว”
พริ้วมองไปที่ร่างช่อเอื้องแล้วยิ้มให้อย่างมีไมตรี
“มาเถอะ ใช้ร่างฉันสิ”
ช่อเอื้องกำลังจะเดินเข้ามาหาพริ้ว แต่แล้วเธอก็ชะงักเหลียวมองไปทางหนึ่ง
“คุณกรณ์”
พริ้วงงที่ช่อเอื้องชะงักไป

กรณ์ยืนอยู่ที่หน้าตำหนักพ่อปู่ เขามองที่ตำหนักด้วยความสงสัย
“ที่นี่ที่ไหนหรือครับคุณแพรว”
แพรวยิ้มหวานพร้อมทั้งกอดแขนกรณ์
“บ้านญาติของแพรวเองค่ะ มาเถอะค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน รีบเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ”

แพรวคล้องแขนกรณ์จะพาเข้าไปข้างใน กรณ์ยังคงแปลกใจ

พริ้วงงที่ช่อเอื้องนิ่งอยู่ไม่มาเข้าสิง

“เร็วสิคะคุณ มาสิงฉัน บอกสิ่งที่เป็นความลับให้ฉันรู้ บอกไปเลยว่าใครฆ่าคุณ คุณต้องการให้ฉันกับคุณกรณ์ทำยังไง บอกมาเลยค่ะ”
ช่อเอื้องลังเล ใจหนึ่งก็ห่วงกรณ์คิดว่ากำลังเจอเรื่องแต่อีกใจก็อยากจะสิงพริ้ว
“คุณกรณ์”
“ใช่ค่ะ คุณอยากให้คุณกรณ์รับรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนใช่ไหมคะ”
“คุณกรณ์”
ช่อเอื้องสัมผัสได้ว่ากรณ์กำลังตกอยู่ในอันตรายจึงหายตัวแว๊บไป
พริ้วตกใจ “เฮ้ย ! คุณ”

กรณ์และแพรวนั่งอยู่ตรงหน้าพ่อปู่ กรณ์มองพ่อปู่และข้าวของที่อยู่รายรอบพ่อปู่ที่ดูเกี่ยวข้องกับมนต์ดำและเรื่องลึกลับ แพรวเห็นสายตากรณ์ก็รีบปะเหลาะ
“คุณกรณ์ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ พ่อปู่ท่านมีเมตตาให้ความช่วยเหลือคนที่ทุกข์ทางใจ”
“นี่หรือเรื่องที่เราต้องคุยกัน” กรณ์ถาม
“ก็หมู่นี้แพรวเห็นคุณบ่นว่าปวดหัว มีภาพประหลาดในหัวแว่บเข้ามาบ่อยๆ แล้วยังรู้สึกตัวร้อนๆหนาวๆเหมือนจะไม่สบาย”
“ใช่”
“แพรวก็เลยพาคุณมาให้พ่อปู่รดน้ำมนต์เพื่อปัดรังควานน่ะค่ะ”
พ่อปู่ทำเสียงสุขุมนุ่มนวลเพื่อเกลี้ยกล่อม โดยในมือแอบลูบหัวตุ๊กตาคู่ตัวหนึ่งเป็นทำนองว่าให้เชื่อฟัง
“รดน้ำมนต์ เป่ากระหม่อม ให้ถือซะว่าเป็นสัญลักษณ์ให้พ่อหนุ่มรู้สึกเย็นกายเย็นใจน่ะ”
กรณ์พยักหน้ารับฟังด้วยท่าทางอ่อนลง พ่อปู่เหลือบตามองแพรวเป็นทำนองว่าได้ผลเพราะกรณ์เชื่อฟังแล้ว
“ดูสิคะ พ่อปู่ท่านเมตตาคุณ อยากให้คุณกรณ์สบายใจ”
“เข้ามาใกล้ๆสิ ดื่มน้ำดับกระหายคลายร้อนใจเสียก่อน” พ่อปู่บอก
พ่อปู่ยื่นขันน้ำให้กรณ์ กรณ์รับมาแล้วตัดสินใจจะดื่ม

ช่อเอื้องปรากฎร่างขึ้นแล้วจะพุ่งเข้าไปในตำหนัก
“คุณกรณ์ ! อย่าค่ะ”
กรณ์ดื่มน้ำจากขัน
ช่อเอื้องจะพุ่งเข้าไปในตำหนักด้วยความเป็นห่วงกรณ์
“คุณกรณ์ !”
โหงพรายสีเขียวเรืองปรากฎร่างขึ้นแล้วผลักช่อเอื้องออก ช่อเอื้องกระเด็นกลิ้งหลุนๆ ออกไป

พ่อปู่มองแพรวแล้วพยักหน้าให้
“มันมาแล้ว”
กรณ์ดื่มน้ำจากขันจนหมด
“เป็นยังไงคะคุณกรณ์ ดีขึ้นไหมคะ”
“ครับ....ก็.....เอ่อ”
กรณ์ไม่ทันได้ตอบเพราะมึนหัวมาก เขาเห็นภาพแพรวเบลอไป จนในที่สุดภาพก็ดับวูบ กรณ์สลบลง แพรวตกใจ
“คุณกรณ์....” แพรวหันไปทางพ่อปู่ “พ่อปู่ทำอย่างนี้ทำไม พ่อปู่เอาอะไรให้คุณกรณ์กิน ห๊า !”
“อีโง่ ! มึงอยากให้มันรู้มันเห็นว่าเราทำอะไรงั้นหรือ”
“แต่ฉันไม่ได้อยากให้คุณกรณ์ตาย....โธ่ คุณกรณ์ขา”
“โอย..โง่ซ้ำโง่ซ้อน กูไม่ได้ฆ่ามัน กูแค่ให้ยาสั่ง ทำให้มันสลบไปชั่วครู่ชั่วยาม”
“จริงนะพ่อปู่”
“เออ ! ไว้เรากำจัดผีนังช่อเอื้องได้ก่อน แล้วค่อยมาสั่งให้มันฟื้น ไป...ตอนนี้ได้เวลาทำพิธีกำจัดผีอีช่อแล้ว”
พ่อปู่ลุกขึ้น แพรวจำใจลุกตามโดยทิ้งกรณ์ไว้ที่ห้องพ่อปู่

ช่อเอื้องต่อสู้กับโหงพรายตัวเรืองๆสีเขียวโดยการตวัดเล็บมือควั่บๆ
“เข้ามาๆ กูไม่กลัวมึง”
โหงพรายถูกกรีดร่างจนขาดวิ่น โหงพรายเพิ่มพลังตัวเองจนพองใหญ่ขึ้น ช่อเอื้องต้านฤทธิ์โหงพรายจะไม่ไหวทำให้ร่างของช่อเอื้องเริ่มกระจุยกระจาย ราวกับถูกลมเป่าร่าง

“อ๊าก”
 
อ่านต่อหน้า 4

สาปสาง ตอนที่ 25 (ต่อ)

เสียงพ่อปู่ดังลั่น “ปล่อยมัน”

โหงพรายหยุดแล้วจางหายไป ช่อเอื้องที่กระอักเลือดหันขวับมาจ้องหน้าพ่อปู่และแพรว
“ยอมกูแล้วเหรอ”
“ฮ่าๆ ใช่ กูเมตตามึง กูจะฆ่ามึงด้วยตัวกูเอง”
ช่อเอื้องแทบไม่มีแรง ร่างของเธฮขาดวิ่นด้วยฤทธิ์พิฆาตจากโหงพรายแต่ช่อเอื้องก็กัดฟันสู้
“ปล่อยคุณกรณ์เดี๋ยวนี้ อีเพื่อนทรยศ”
“ฉันรั้งเขาไว้ที่ไหนล่ะ คุณกรณ์เขาเต็มใจมาหาฉันเอง” แพรวว่า
แพรวลอยหน้าเยาะเย้ย
ช่อเอื้องพุ่งเข้ามาจะบีบคอแพรว แต่พ่อปู่ตวัดมือพึ่บจนเกิดพลังมวลมหาศาลผลักช่อเอื้องกระเด็นหงายหลังกองกับพื้น
“ไม่เจียมซะแล้วมึง” พ่อปู่ว่า
“ยังซึ้งไม่พอใช่ไหม ฉันจะบอกให้ คุณกรณ์กับฉันเราลึกซึ้งดื่มด่ำกันผลัดกันกอด ผลัดกันจูบ....ฮึๆ คุณกรณ์เขาแทบไม่เงยหน้าจากอกฉันเลยด้วยซ้ำ”
“กรี๊ด ชาติชั่ว อีเพื่อนทรยศ มึงแย่งคนรักกูๆ”
ช่อเอื้องกรีดร้องแล้วรวบรวมกำลังพุ่งตัวเข้ามา
“กูจะฆ่ามึง”
“มาเลย มึงได้ตายแน่ พ่อปู่ จัดการอีช่อเลย”
พ่อปู่แบมือโดยที่ในมือมีลูกหินมนตราสีดำ เขาเป่ามนต์พรวดใส่ลูกหิน แล้วปาทั้งกำใส่ร่างช่อเอื้อง
ช่อเอื้องที่กำลังถลาเข้ามาเจอลูกหินสีดำพุ่งใส่ทั้งร่าง ลูกหินสีดำระเบิดตัวเป็นควันดำชอนไชร่างช่อเอื้องจนเนื้อตัวไหม้
ช่อเอื้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด “อ๊าก”
“สมน้ำหน้า เจ็บนักใช่ไหมมึง เจ็บเหมือนตอนที่มึงรู้ว่าคุณกรณ์เป็นผัวฉันหรือเปล่า ฮ่ะๆๆ”
“กูเกลียดมึง อีแพรว อีเพื่อนทรยศ”
ช่อเอื้องกรีดร้องโดยที่ร่างกายเป็นรูพรุน มีควันพุ่งออกมาจากร่างที่ถูกลูกหินมนต์ดำไหม้เป็นหย่อมๆ
“ถึงเวลาทำพิธีทำลายวิญญาณอีผีชั่วนี่แล้ว” พ่อปู่ว่า
“อีช่อเอื้อง มึงต้องตาย....ตายซ้อนตาย ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป ฮ่ะๆๆ”
แพรวได้ใจก็ยิ้มเยาะช่อเอื้องที่บาดเจ็บสาหัสจนกองอยู่กับพื้นเพราะสู้ไม่ได้

พริ้วจุดธูปอีกดอกเพื่อเรียกวิญญาณ
“มาเถอะคุณ อย่าลังเล ตอนนี้มีวิธีเดียวที่คุณจะบอกเรื่องราวทั้งหมดได้....มาเลย ใช้ร่างฉัน ฉันพร้อมแล้ว”
พริ้วหลับตา พนมมือ ควันธูปลอยอ้อยอิ่ง

ช่อเอื้องซึ่งหมอบกระแตอยู่กับพื้นรู้ว่าพริ้วกำลังเรียกตน
“พริ้ว....เรียกฉันให้ดังกว่านี้....พลังของเธอจะช่วยนำทางฉันกลับไป....เรียกต่อไป ฉันขอรวมพลังก่อน”
ช่อเอื้องตะกายตัวเองจะลุกขึ้น แพรวมองอย่างสะใจ
พ่อปู่เห็นก็เขวี้ยงหินดำใส่ช่อเอื้อง ช่อเอื้องบาดเจ็บจนร่างไหม้ หมดแรงทรุดลงไปอีก พ่อปู่จุดเทียนสีดำสี่ทิศแล้วหยดน้ำตาเทียนราดเป็นทางเทียนสีดำ
“ตายตกตมต่ำ ตัดกรรมซ้ำร่าง
ตายตกตมต่ำ สังขารมารเฝ้า
ตกตายต่ำตม หมักหมมวิญญาณ
ตกตายต่ำตม ชั่วกัปล์ชั่วกัลป์”
ช่อเอื้องกรีดร้องเพราะหมดพลัง

พริ้วยังพนมมือในขณะที่ธูปไหม้ไปครึ่งหนึ่ง
“คุณอยู่ไหน มาใช้ร่างฉันเป็นเครื่องนำไปสู่หนทางของคุณเถิด”
เสียงผึ่งผ่างๆ ดังขึ้น พริ้วลืมตามองเพราะนึกว่าจะเป็นช่อเอื้อง เงาดำวูบวาบลอยพุ่งผ่านหน้าพริ้วไปมา
“คุณใช่ไหม คุณคือผู้หญิงที่กำลังทุกข์ใช่ไหม เข้ามาสิงร่างฉันเร็วเข้า” พริ้วบอก
เงาดำก่อตัวข้างหน้าพริ้ว พริ้วจ้องหน้าแล้วปักธูปลงตรงหน้าเงาดำเพราะเข้าใจว่าเป็นช่อเอื้อง

“เชิญ”

เงาดำกำลังจะพุ่งเข้าร่างพริ้ว พริ้วหลับตา เงาดำเข้าไปใกล้ร่างพริ้วชนิดแทบจะกลืนเข้าไป แสงแว่บสาดเข้าหน้าพริ้ว พริ้วแสบตาจึงลืมตามอง

“อะไรกันเนี่ย”
เสียงกระดิ่งดังก้อง
เฟยเรียก “อาพริ้ว”
เงาดำชะงัก พริ้วลืมตาขึ้นอย่างงงๆ
“อาป๊า”
เฟยเดินเข้ามาพร้อมกับสั่นกระดิ่งระรัว พลางโปรยลูกประคำขึ้นฟ้า
พริ้วตกใจ “ป๊า ทำร้ายวิญญาณผู้หญิงคนนั้นทำไม”
“พวกมันไม่ใช่วิญญาณผู้หญิงคนนั้น พวกมันเป็นพรายดำ วิญญาณชั่วที่รับใช้ไอ้พวกคนพาล”
ลูกประคำเจอมวลดำของพวกเงาดำที่จะสิงร่างพริ้วก็กลายเป็นประจุไฟฟ้า ช็อตแปลบปลาบใส่พวกเงาดำจนสลายหายไป
“แล้วป๊ารู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
“ถ้าไม่รู้ อั๊วจะเป็นป๊าลื้อได้เรอะทีหลังอย่าทำแบบนี้ ลื้อเชิญวิญญาณมั่วซั่ว ผีห่าซาตานก็จะเข้าสิงลื้อ”
“ป๊า ฉันรักป๊าที่สุดเลย ป๊าช่วยฉันอีกแล้ว แต่คราวนี้ป๊าต้องช่วยวิญญาณผู้หญิงคนนั้นด้วยนะ”
“โอ๊ย อาพริ้ว ลื้อนี่หาเรื่องให้อั๊วไม่หยุดหย่อน”
“นะป๊า เมื่อกี๊วิญญาณผู้หญิงคนนั้นปรากฎร่างให้ฉันเห็นแล้ว แต่จู่ๆก็หายตัวไป ฉันว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับเธอแน่ เรียกเธอกลับมาอีกทีนะ”
“ไม่ กรรมใครกรรมมัน ลื้อไม่ควรหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเอง”
“ป๊าเคยสอนให้ฉันมีเมตตา ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้หญิงคนนั้นกำลังมีทุกข์หนัก ขนาดตายไปแล้วยังไม่หมดทุกข์ ช่วยเค้าเถอะนะป๊า”
พริ้วอ้อนวอนแต่เฟยนิ่งไป

ช่อเอื้องเจ็บปวดจนเนื้อตัวบิดเป็นเกลียว
“มึงพรากชีวิตกู มึงพรากรักกู กูจะไม่ยอมตายซ้ำซาก ร่างกูไม่เหลือ แต่แค้นกูยังแรง กูจะสาปแช่งมึง”
แพรวเยาะเย้ย “ใกล้จะตายยังไม่รู้ตัว ฮ่ะๆ”
พ่อปู่สาดน้ำตาเทียนสีดำใส่ช่อเอื้องทำให้รอบตัวช่อเอื้องมีรอยน้ำตาเทียนหยดรอบเป็นวง

พริ้วจับมือเฟย เฟยมองหน้าพริ้ว
“ช่วยผู้หญิงคนนั้นเถอะนะป๊า”

ช่อเอื้องกรีดร้อง ไฟมารเริ่มลุกรอบตัวของเธอ พ่อปู่สาดคาถามนต์จองจำวิญญาณ
“ตายตกตมต่ำ ตัดกรรมซ้ำร่าง
ตายตกตมต่ำ สังขารมารเฝ้า
ตกตายต่ำตม หมักหมมวิญญาณ
ตกตายต่ำตม ชั่วกัปล์ชั่วกัลป์”
ช่อเอื้องร่างทะลุเป็นรูพรุน เธอกรีดร้องเสียงดัง

เฟยพยักหน้า พริ้วดีใจ แล้วเฟยก็กางฮู้พร้อมทั้งวางกระจกแปดเหลี่ยมลงกลางโรงละคร
“ใส่หยกคุ้มกันซะอาพริ้ว วิญญาณของลื้อกับผู้หญิงคนนั้นเชื่อมถึงกัน ลื้อต้องแผ่เมตตาให้อีมีพลังชีวิตอีกครั้ง”
พริ้วรีบคล้องหยกคุ้มกัน เฟยเริ่มนับประคำ สวดมนต์ปากขมุบขมิบ
“ธรรมะคือคุณากร เป็นแสงทองนำทาง ขอเชิญวิญญาณสู่หนทางสว่างด้วยเทอญ”
พริ้วนึกถึงช่อเอื้องโดยพยายามแผ่เมตตาให้

วิญญาณช่อเอื้องใกล้จะถูกดูดลงหม้อสีดำ พ่อปู่ร่ายมนต์มารหนักขึ้นด้วยเสียงเร่งเร้า
“ตาย ฝัง ยัง แค้น แรง ชั่ว กลัว จำ
จองจำมันไว้ด้วยมนต์ดำ ขังมันไว้ด้วยทัณฑ์อาญา
ให้ตายซ้อนตาย ให้ทรมานยิ่งกว่าทรมาน
ให้วิญญาณมันสะกดหมดฤทธิ์ชั่วกัปชั่วกัลป์”
พ่อปู่โบกมือ ไฟมารลุกโชน ร่างช่อเอื้องเกือบจะถูกดูดเป็นเส้นวิญญาณไปลงหม้อ ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างสีทองพุ่งเข้ามาล้อมตัวช่อเอื้อง ไฟมารราโรยไป
“พ่อปู่ ! นี่มันอะไร” แพรวถาม
“เฮ้ย !พ่อปู่ตกใจ
แสงทองห่อตัวอุ้มร่างช่อเอื้องที่ไร้สติขึ้นช้าๆ ก่อนจะม้วนตัวพาร่างช่อเอื้องลอยออกไปทันที พ่อปู่เขวี้ยงหินดำแต่หินดำเจอแสงทองก็กระเด็นกลับมาโดนพ่อปู่กับแพรวจนเจ็บเนื้อเจ็บตัว
“อ๊าย อีช่อเอื้อง.....นี่มันเกิดอะไรขึ้น พ่อปู่”
“มีคนมาช่วยมันไว้”
“ใคร !”

แพรวแทบคลั่งที่ช่อเอื้องรอดไปได้ ส่วนพ่อปู่ก็เจ็บใจ
 
อ่านต่อตอนที่ 26
กำลังโหลดความคิดเห็น