ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 4
บัญชาจิบกาแฟเสร็จแล้ววางแก้วลงบนโต๊ะ
“ผมให้คุณภาสุรี ส่งการ์ดเชิญแขกทั้งหมดตามที่คุณพ่อต้องการ เรียบร้อยแล้วครับ โดยเฉพาะท่านอธิบดีทรงพล”
“ดี จัดการให้เรียบร้อย...แล้วสรัล แกมีอะไรจะปรึกษา ว่ามา...”
“ครับคุณพ่อ” ยศสรัลส่งแฟ้มให้ “เรื่องสเป็คเรือยอร์ชที่ล๊อตใหม่ที่เราจะสั่งครับ ผมอยากให้คุณพ่อฟันธงเลย เพราะไม่อย่างนั้นเราจะได้ของช้ากว่ากำหนดครับ”
บัญชาปิดแฟ้มแล้วส่งคืนให้ยศสรัล
“พ่อว่าเอาตามที่ใหญ่วางไว้แล้วกัน”
“ครับ คุณพ่อ”
สินีเดินนำมณฑิตาเข้ามา
“เอ้า สรัลดูสิใครมาหา”
ยศสรัลหันไปมอง เมื่อเห็นเป็นมณฑิตาก็มีแววตาเซ็ง คัชพลแอบมองยศสรัลแล้วอมยิ้ม
คัชพลพูดเบาๆ “นายหลบไม่พ้นแล้ว วันนี้” คัชพลหัวเราะขำ
“สวัสดีค่ะ คุณลุง พี่ใหญ่” มณฑิตายกมือไหว้
“เอ้า หนูมณ สวัสดีๆ มาก็ดีเลย ลุงจะได้ปรึกษาเรื่องงานวันเกิดของลุงกับหนูมณ ว่าควรจะจัดคอนเซปท์ยังไง? หรือลุงจะเอาดารา หรือนักร้องดังๆ มาเอ็นเตอร์เทนแขกดีมั้ย?”
“คุณลุงเค้าเห็นว่า หนูมณจัดงานปาร์ตี้บ่อย น่าจะมีไอเดียดีๆน่ะจ๊ะ” สินีว่า
“อ่อ ได้เลยคะ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา งานถนัดของมณอยู่แล้ว”
ยศสรัลลุกขึ้น สินีมองแล้วถาม
“จะไปไหนหล่ะตาสรัล?”
“ผมขอตัวเอาแฟ้มไปเก็บก่อนนะครับ มณคุยกับคุณพ่อคุณแม่ไปก่อนนะ”
ยศสรัลลุก มณฑิตามองยศสรัลอย่างไม่พอใจ
“เดี๋ยวพอตาสรัลกลับมา หนูมณก็ลองปรึกษากับตาสรัลดูนะจะ” สินีว่า
“ค่ะ คุณป้า...”
มณฑิตาปลายตามองตามยศสรัลด้วยดวงตาแข็งกร้าว
ยศสรัลเดินมาที่โต๊ะนั่งเล่น โยนแฟ้มลงบนโต๊ะเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย ธัญกรเดินแกว่งพวงกุญแจมา เขาหันมาเห็นยศสรัลจึงเดินเข้าไปหา
“ไงพี่ แฟนมาทั้งที ทำไมทำหน้าเซ็งอย่างงี้ล่ะพี่ชาย?”
ยศสรัลยิ้มแสยะ “ฮึ อย่ามาแซว”
“พี่สรัลมัวแต่ตามใจคุณพ่อคุณแม่ เป็นผมนะ ผมบอกไปตรงๆเลย จะให้ผมมาแต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รัก ผมไม่เอาด้วยหรอก”
คัชพลเดินออกมา “แกมายุอะไรสรัลอีกเล็ก?”
คัชพลหยุดมองหน้าน้อง2คน
“ไม่ได้ยุครับพี่ใหญ่ เขาเรียกว่าแชร์ความคิดเห็น” ธัญกรบอก
“แชร์ว่า?” คัชพลถาม
“แชร์ว่า...ถ้าไม่รักใคร ก็อย่าไปยอมถูกบังคับ”
“เฮ้ยๆ ไม่ได้นะเว้ย ไม่งั้นคนที่ซวยจะเป็นพี่ แล้วมณเค้าก็น่ารักดีออก”
“น่ารัก งั้นพี่ใหญ่ก็จับคู่กับพี่มณ แทนพี่สรัลไปเลยสิ?” ธัญกรว่า
“เรื่องอะไร ธุระไม่ใช่”
“โห...ไม่รักน้องเลยอ่ะพี่ใหญ่”
“งั้นแกรักพี่มั้ยละ? ยอมให้คุณแม่จับคู่แกกับยัยมณซิ”
ธัญกรโอบบ่ายศสรัล “ผมรักพี่ชายผมอยู่แล้ว ถ้าหัวใจผมว่างผมก็อยากช่วย แต่เผอิญตอนนี้มันเกิดอุบัติเหตุหัวใจ ผมเลยช่วยพี่สรัลไม่ได้จริงๆ ...ไปดีกว่า”
ธัญกรเดินผิวปากออกไปแบบกวนๆ
“... ดูมัน” คัชพลว่า
คัชพลมองตามแล้วส่ายหัวก่อนจะหันกลับมาหายศสรัล
“ไม่กลับเข้าไปหาเค้าหน่อยเหรอ เห็นเค้าคุยไป ชะเง้อมองหานายไป”
“ผมเบื่อครับพี่ใหญ่ ตามติดเป็นเงาขนาดนี้” ยศสรัลถอนใจ
“มณ เค้าก็สวย เซ็กซี่ดีนะ นายน่าจะลองให้โอกาสเค้าหน่อย”
“ผมอยากจะขอโอกาศมากกว่า ขอเป็นอิสระ ก่อนแต่งก็ยังดี” ยศสรัลว่า
คัชพลหัวเราะ “เออ พี่เข้าใจ ตามสบาย เดี๋ยวถ้าเค้าถาม พี่จะบอกพี่ไม่เห็นแกแล้วกัน”
ยศสรัลหัวเราะ คัชพลตบบ่ายศสรัลแล้วเดินออกไป ยศสรัลเหม่อเพราะคิดถึงแพร
วีด้าตื่นนอนแล้วลุกเดินไปหน้ากระจกที่มีโพสอิทเขียนว่า “ คัชพล สปอร์ตคลับ 10.00 น.” ติดอยู่
วีด้าหยิบอ่านอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวกลับมาแล้วคิด ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ตึกสปอร์ตคลับตั้งตระหง่านกลางกรุงเทพฯ คัชพลลงจากรถพร้อมกระเป๋าชุดกีฬาแล้วเดินเข้ามา วีด้าที่แอบมารออยู่รอจังหวะที่คัชพลเดินเข้ามาใกล้ประตูกระจกทางเข้ายิมแล้วออกเดินอย่างมั่นใจโดยทำตัวเหมือนออกกำลังเสร็จแล้ว
วีด้าเดินโดยมือหนึ่งถือแก้วน้ำ ส่วนอีกข้างสะพายกระเป๋า เมื่อเข้าใกล้ประตู วีด้าก็หันหลังแล้วใช้หลังดันประตูเปิดออกเป็นจังหวะเดียวกับที่คัชพลเปิดประตูพอดี แต่วีด้าเเกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วจงใจให้เกิดอุบัติเหตุชนกัน วีด้าแกล้งทำแก้วน้ำหกเเล้วรีบก้มลงเก็บ
“อุ้ย”
“ขอโทษครับ ขอโทษ ผมไม่ทันเห็น” คัชพลบอก
คัชพลก้มลงช่วย เขาหยิบเเก้วน้ำที่หกไปแล้วขึ้นมา วีด้าเอากระดาษทิชชูเช็ดรองเท้าเเล้วลุกขึ้นยืน
คัชพลมองวีด้าแล้วก็เริ่มสังเกตว่าสวยแต่วีด้าก็ยังไม่ถอดเเว่น
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็ซุ่มซ่ามเองด้วย”
วีด้าพูดพลางถอดเเว่นขึ้นคาดผม
คัชพลมองอย่างถูกใจ วีด้าเอื้อมยืมจะไปหยิบเเก้วคืนจากมือคัชพล แต่คัชพลมัวเเต่มองไม่ปล่อยเเก้ว วีด้าจึงปล่อยเอง
วีด้ายิ้ม “งั้น...ฝากทิ้งแก้วด้วยนะคะ”
วีด้าเดินออกมาโดยหันหลังให้คัชพล คัชพลที่ยืนอยู่ด้านหลังเรียก
“เออ เดี๋ยวครับ คุณ!”
วีด้าหยุดเดิน คัชพลเดินมายืนประกบข้างๆ
“ให้ผมซื้อน้ำแก้วใหม่ให้คุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันดื่มหมดแล้ว กำลังจะเอาไปทิ้งพอดี”
คัชพลคิด “นะครับ ถือว่าเป็นการขอโทษ...ที่...” คัชพลคิดแว่บนึง “ผมทำรองเท้าคุณเลอะ”
วีด้าทำเป็นนิ่งคิดให้คัชพลลุ้นแล้วค่อยยิ้มออกมา “ก็ได้คะ”
คัชพลดีใจ “งั้นเชิญทางนี้ครับ....”
วีด้าขัดขึ้น “แต่ขอเป็นโอกาสหน้านะคะ”
“เเล้วผมจะติดต่อคุณได้ยังไงครับ คุณ...เอ่อ...”
วีด้ายิ้มเพราะเข้าแผน เธอหยิบนามบัตรที่เตรียมไว้แล้วก่อนหันกลับไปหาคัชพล
“วีด้าค่ะ...นี่นามบัตรของวีด้า คุณ....”
“คัชพล ครับ ผม คัชพล โชตินุพงศ์”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” วีด้าพูดเน้น “คุณคัชพล โชตินุพงศ์”
วีด้าเดินจากมากด้วยรอยยิ้มที่สะใจ
วีด้าเดินมานั่งในรถแล้วมองโทรศัพท์ที่วางข้างตัว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น วีด้ายิ้มแล้วรับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ”
“ผมคัชพลนะครับ ผมจะโทรมาบอกว่า นี่เป็นเบอร์ผมนะครับ”
“ค่ะ รับทราบ”
“แล้วเมื่อไหร่คุณจะว่างให้ผมเลี้ยงขอโทษ เย็นนี้ดีมั้ยครับ?”
“เย็นนี้วีด้าไม่สะดวกค่ะ แต่เราต้องได้เจอกันอีกแน่ แค่นี้ก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
วีด้าวางสายแล้วยิ้มก่อนจะขับรถออกไป
คัชพลยืนคุยโทรศัพท์ด้านหน้าสปอร์ตคลับ
คัชพลยิ้มถูกใจ “ใช่ เราต้องได้เจอกันอีกแน่...วีด้า”
วีด้ามองนามบัตรในมืออย่างอารมณ์ดีก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านใน
แขกเหรื่อกำลังทยอยเดินเข้างาน วงดนตรีกำลังบรรเลงเพลงคลาสสิคเบาๆ อยู่บนเวที คัชพลกับยศสรัล ช่วยกันต้อนรับแขกอยู่ที่หน้างาน ธัญกรยืนกินขนมชิวอยู่มุมหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจใคร สินีเดินเข้ามาตีแขนธัญกรดังเพี้ยะ
“ตาเล็ก! มายืนทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่ไปช่วยพี่ๆรับแขก?” สินีว่า
“สองคนนั้นเขาเอาอยู่แล้วครับแม่ ผมไม่ต้องช่วยหรอก แค่ยืนตรงนี้ผมก็เมื่อยหน้าจะแย่อยู่แล้ว” ธัญกรบอก
“พูดแบบนี้ได้ไงตาเล็ก”
สินีจะบ่นต่อ แต่ธัญกรยกนิ้วชี้ขึ้นจุ๊ปาก
“จุ๊ๆๆ พักยกก่อนครับแม่” ธัญกรพยักเพยิด “โน่น เจ้าหญิงน้อยของแม่มาแล้ว”
สินีกับธัญกรเห็นรถของครอบครัวมณฑิตาแล่นเข้ามาจอด สินีปรายตามองค้อนธัญกรแล้วรีบเดินออกไป
“เดี๋ยวแม่จะมาจัดการแก...”
คัชพลสะกิดบอกยศสรัล “ของนาย”
ยศสรัลหันไปมองแล้วก็ทั้งขำทั้งเซ็งก่อนจะเดินไปรับ แล้วเดินเข้าไปกับคัชพล สองหนุ่มยกมือไหว้พ่อกับแม่มณฑิตาที่เดินเข้างานมาด้วยกัน
“สวัสดีครับคุณอา...คุณอาหญิง” ยศสรัลบอก
“เป็นไง สบายดีนะ?”
“สบายดีครับ คุณอาทั้ง2 สบายดีไหมครับ”
“ก็สบายตามประสาคนแก่แหละนะ”
สินีรีบปรี่เข้ามารับครอบครัวมณฑิตา
“สวัสดีค่ะท่าน ดีใจจริงที่ท่านให้เกียรติมางานนี้กันทั้งครอบครัว”
“แหม...งานคุณบัญชาทั้งที ต้องมาซิคะ”
“ขอบพระคุณค่ะ”
“เดี๋ยวผมพาคุณอาไปนั่งนะครับ”
“ไม่เป็นหรอก เดี๋ยวแม่ดูแลท่านทั้งสองเอง ตาสรัลดูแลหนูมณดีกว่า”
ยศสรัลฝืนยิ้ม “ครับ”
พ่อกับแม่ของมณฑิตายิ้มแล้วเดินไป มณฑิตาเข้ามาเกาะแขนยศสรัลทันที
คัชพลขำๆ “ดูแลมณให้ดีนะ”
“พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพี่สรัลต้องดูแลมณดีอยู่แล้ว ไปค่ะ” มณฑิตาบอก
ยศสรัลยิ้มรับนิ่งๆ มณฑิตาเกาะแขนยศสรัลแล้วเดินเข้างานอย่างมีความสุข
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 4(ต่อ)
ธัญกรยืนหลบดื่มเครื่องดื่มอยู่แล้วก็มองที่คู่ของยศสรัลกับมณฑิตาด้วยสีหน้ายิ้มขำเพราะสงสารพี่ชาย
“ท่าทางพี่รัลต้องการความช่วยเหลือซินะ”
ดนัยยกนาฬิกาขึ้นดู พอเห็นแม่บ้านเดินลงมาก็รีบถาม
“คุณวีด้าแต่งตัวเสร็จหรือยังครับคุณทิพย์?”
แม่บ้านยังไม่ทันตอบ เสียงวีด้าก็ดังขึ้น
“เสร็จแล้วค่ะ...”
วีด้าเดินลงมาจากบันได ดนัยเห็นก็ตกตะลึง
“ขอโทษด้วยนะดนัยที่ทำให้รอ วันนี้วีด้าต้องเข้าไปอย่างคนสำคัญนิดนึง”
วีด้าแต่งตัวในชุดสุดสวยสง่าแอบเซ็กซี่ ดนัยเข้าไปตั้งศอกให้วีด้าควงแขนแล้วทั้งสองก็พากันออกไป
ยศสรัลเดินเข้ามาแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้มณฑิตานั่ง มณฑิตาพยักหน้าแทนการขอบคุณแล้วนั่งลง ยศสรัลนั่งข้างๆ
“งานใหญ่กว่าที่มณคิดไว้อีกนะคะ นอกจากเพื่อนๆคุณลุงแล้ว มีคนที่มณไม่รู้จักอีกตั้งเยอะ”
“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าน่ะครับ” ยศสรัลบอก
“กว่าจะทักทายเสร็จก็ตั้งนาน มณยืนจนเมื่อยไปหมดแล้ว”
ยศสรัลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ธัญกรเดินเข้ามานั่ง
“โห พี่สรัล ผมไม่ไหวหล่ะ ยืนรับแขกจนเมื่อย คุยกันแต่ธุรกิจพี่รับช่วงต่อหน่อยสิ ผมขอเวลานอกหน่อย” ธัญกรว่า
ธัญกรพูดพลางส่งซิกให้ยศสรัล ยศสรัลส่งซิกขอบคุณน้องชาย
ยศสรัลพูดเน้น “ได้สิ” ยศสรัลหันไปพูดกับมณฑิตา “ผมไปรับแขกต่อก่อนนะมณ ถ้าหิวก็หาอะไรทานก่อนได้เลยนะ”
“มณไปด้วยสิคะ”
“อย่าเลยครับ มณนั่งพักดีกว่า เดี๋ยวจะเมื่อยอีก” ยศสรัลพูดกับธัญกร “ฝากพี่มณด้วยนะเล็ก”
ยศสรัลเดินออกไป ก่อนออกไปตบบ่าธัญกรเบาๆ เป็นเชิงขอบคุณ
ธัญกรพูดกับมณฑิตา “พี่มณ พี่มณจะดื่มอะไรดีครับ นั่งลงก่อนนะครับเดี๋ยวผมจัดการให้ ยืนนานเดี๋ยวขาใหญ่นะครับ”
มณฑิตาชะเง้อตาม ธัญกรเอาหน้าเข้ามาขวาง
“จะดื่มอะไรครับ”
“อะไรก็ได้ค่ะ”
มณฑิตานั่งหน้าตูม ธัญกรเดินออกไป
งานเลี้ยงเต็มไปด้วยแขก บัญชาเดินเข้ามาในงาน สินีรีบผละจากพ่อแม่ของมณฑิตาเพื่อไปหาบัญชาทันที คัชพลเห็นบัญชาก็รีบหันมาหายศสรัล
“คุณพ่อลงมาแล้ว เราไปเตรียมตัวกันเถอะ”
คัชพลเดินออกไป ยศสรัลจะขยับตาแต่แล้วพอเห็นรถมาก็หันไปมอง รถของดนัยแล่นมาจอดที่ประตูใหญ่หน้าบ้าน
ดนัยลงจากรถพร้อมกล่องของขวัญ คนรับรถขึ้นไปขับแทน ในขณะเดียวกันมีคนเปิดประตูรถให้วีด้าลง ยศสรัลเห็นเข้าก็ตกตะลึง ดนัยเดินมาเคียงวีด้า วีด้าควงแขนเขาเดินเข้างาน ช่างภาพหลายเห็นความสวยสง่าของวีด้าที่โดดเด่นจึงเข้ามาถ่ายรูปทำให้แสงแฟลชสว่างไปทั่วสร้างความสนใจให้ผู้คนในงานต่างพากันหันมามอง
ยศสรัลมองวีด้าอย่างไม่วางตา วีด้าเดินควงดนัยผ่านยศสรัล วีด้าเหลือบหันไปเห็นยศสรัลที่ยืนมองอยู่
ยศสรัลรำพึงเบาๆ “แพร”
วีด้าชะงักไปนิดนึงแล้วเดินต่อ
“วีด้า มีอะไรรึเปล่า?” ดนัยถาม
วีด้าได้สติ
วีด้ายิ้ม “เปล่าค่ะ”
ทั้งสองเดินเข้าไปในงาน ยศสรัลยังคงมองตามวีด้าไป แล้วหันกลับมาคิด ยศสรัลมองตามหลังวีด้าไปไม่วางตา
วีด้าได้ยินเสียงคนฮืออะไรขึ้นมาบางอย่างจึงหันไปดู
บัญชาและสินีเดินออกมาจากตัวบ้านแล้วเข้าไปในงาน โดยมีคัชพลเดินนำและดูแล แขกที่มาที่หันไปเห็นต่างพากันเข้าไปล้อมและสวัสดีบัญชากับสินี
วีด้าจ้องบัญชาตาวาว ขณะนั้นโทรศัพท์ของดนัยก็ดังขึ้น
“แป๊บนึงนะครับ คุณพ่อโทรมา” ดนัยรับโทรศัพท์ “ครับพ่อ ถึงงานแล้วครับ ผมมากับวีด้าครับ...ไม่ลืมครับ ถืออยู่ในมือเลย...ครับพ่อ ไม่ต้องห่วงครับ สวัสดีครับ”
ดนัยหันกลับมาหาวีด้าที่ยังคงจ้องมองบัญชาตาวาวก็เรียก
“วีด้า...วีด้า!”
“คะ?”
“ไม่ต้องยืนมองแล้ว เข้าไปอวยพรเจ้าภาพกันเถอะ”
ดนัยพาวีด้าเดินเข้าไปหาบัญชากับสินี ยศสรัลมองวีด้าแล้วมองดนัยด้วยความไม่แน่ใจ
บัญชา สินี กับคัชพล ยืนพูดคุยต้อนรับแขกที่ถือของขวัญมาอวยพร ดนัยกับวีด้าเดินเข้ามา คัชพลเห็นวีด้าก็แปลกใจ “คุณวีด้า!!”
คัชพลจะเดินเข้าไปหาวีด้า แต่มีนักธุรกิจมาเรียกไว้ทำให้ต้องคุย
“คุณคัชพล ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ...ผมมีเรื่องจะปรึกษาพอดี”
คัชพลคุยตอบไปโดยตายังมองวีด้า
“ได้ซิครับ เชิญทางนั้นดีกว่า...”
คัชพลจำต้องเดินไปอีกมุมกับแขกนักธุรกิจ ดนัยกับวีด้าเข้ามาถึงตัวบัญชากับสินี
ดนัยยกมือไหว้ “สวัสดีครับคุณอาบัญชา คุณอาสินี” ดนัยส่งของขวัญให้ “สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณอา”
“ขอบใจหลานมาก คุณพ่อละ?”
“คุณพ่อท่านติดราชการด่วนน่ะครับ ไม่อย่างนั้นคงไม่พลาดมาร่วมอวยพรคุณอาแน่” ดนัยบอก
“ไม่เป็นไรหรอก อาเข้าใจ เอาไว้อาหาเวลาว่างไปเยี่ยมท่านเองดีกว่า จะได้คุยเรื่องที่ค้างไว้ด้วย” บัญชาเห็นวีด้า “แล้วแม่หนูคนนี้...”
“นี่วีด้า เพื่อนของผมครับ” ดนัยแนะนำ
“สวัสดีค่ะ...”
“อ้อ! แต่ดูหน้าคุ้นๆนะ” บัญชาว่า
“เราอาจจะเคยเจอกันมาก่อนก็ได้นะคะ” วีด้าบอก
“คุณอาเคยเจอวีด้าแล้ว วันที่คุณอาไปพบคุณพ่อเมื่อวันก่อนไงครับ” ดนัยสรุป
“จริงซินะ...มิน่าละคุ้นหน้าจัง”
วีด้ามองบัญชาด้วยนัยน์ตาแข็งกร้าว
ดนัยพาวีด้าเดินผ่านธัญกรที่เดินถืออาหารมาเพื่อไปให้มณฑิตา วีด้าสบตาธัญกรแล้วส่งยิ้มให้นิดๆ ธัญกรเห็นวีด้าก็จำได้เลยมองวีด้าจนเหลียวหลังจนเกือบเดินชนแขกในงาน
“คุณวีด้า...”
ธัญกรยิ้มกว้างด้วยความดีใจแล้วจะเดินตามไปทักวีด้า แต่ก็มีลูกน้องมาเรียกไว้ซะก่อน
“คุณเล็กครับ คุณผู้หญิงให้เชิญหลังเวทีครับ งานบนเวทีจะเริ่มแล้ว”
“โอเคๆๆ”
ธัญกรเสียดายนิดๆ แต่ก็ยอมเดินไปทีเวทีโดยดี
คัชพลเห็นดนัยคุยกับวีด้าและเลื่อนโต๊ะให้วีด้านั่ง
“เดี๋ยวผมไปตักอาหารให้นะ” ดนัยบอก
“ขอบคุณค่ะ”
ดนัยลุกไปตักอาหาร คัชพลอมยิ้มดีใจก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินไปหาวีด้า วีด้าที่มองเห็นคัชพลกำลังเดินมา วีด้าทำเป็นไม่เห็นแต่อมยิ้มพอใจ ในขณะที่คัชพลกำลังจะเดินถึงโต๊ะวีด้าก็มีมือยื่นมาจับแขนคัชพลไว้
เสียงนาตาลีดังขึ้น “คุณใหญ่มาอยู่นี่เอง”
คัชพลชะงักแล้วหันไปตามเสียงเรียก
“วันนี้โทรตามก็ไม่รับสาย”
คัชพลรีบยิ้มกลบเกลื่อน “อ้าว...นาตาลี เป็นไง สบายดีไหม”
วีด้านั่งมองคัชพลกับนาตาลีคุยกัน คัชพลเห็นวีด้ามองมาก็ยิ่งร้อนรน วีด้าอมยิ้มด้วยความพอใจ
ดนตรีบนเวทีบรรเลงจนจบ พิธีกรเดินขึ้นมา
“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของคุณบัญชา ท่านประธานบริหารบริษัท Prime Enterprise และตอนนี้ก็ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอเรียนเชิญท่านประธาน ขึ้นกล่าวต้อนรับทุกท่านด้วยครับ”
แขกในงานปรบมือ บัญชาเดินขึ้นเวทีไปที่ไมโครโฟนสีหน้ายิ้มเหมือนผู้ใหญ่ใจดี
บัญชารอจนเสียงปรบมือจบแล้วพูด “ผมขอบคุณแขกทุกท่าน ที่มาในวันนี้นะครับ”
วีด้าโกรธ
“ผมอยากจะบอกว่า กว่า60ปี ที่ผมทำงานต่อสู้ขึ้นมาจากคนไม่มีอะไรเลย จนมามีวันนี้ได้ นอกเหนือจากแรงกายของตัวเอง ก็ยังมีแรงใจจาก คุณสินี ภรรยาที่อยู่เคียงข้าง และร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผมมาตลอด”
บัญชาผายมือให้ทางสินี ทุกคนในงานปรบมือให้ สินีลุกขึ้นค้อมศรีษะน้อยๆ เพื่อขอบคุณ
“และลูกชายที่มีความสามารถทั้ง3คนของผม ทั้งคัชพล ยศสรัล และธัญกร”
คัชพล ยศสรัล และธัญกรลุกขึ้นรับเสียงปรบมือ ธัญกรแอบเบ้ปาก
“ผมยึดมั่นคุณธรรมและความดีในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์มาตลอด” บัญชาบอก
วีด้านั่งกำมือแน่นพร้อมกับจ้องบัญชาด้วยสายตาชิงชิง เธอนึกย้อนไปถึงตอนที่ชาติชายด่าบัญชาว่าโกง
บัญชาพูดต่อ “ทำให้ Prime Enterprise กลายเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาถึงทุกวันนี้ และเราก็ยังจะก้าวต่อไป ด้วยความสนับสนุนจากพวกท่านทุกคน”
แขกทุกคนลุกขึ้นปรบมือ แต่วีด้าจ้องด้วยสีหน้าโกรธสุดๆกับภาพที่เห็น
วีด้านึกถึงตอนที่ชาติชายโดนซ้อมที่หน้าบ้านตอนที่เธอยังเด็ก
นึกถึงตอนที่ชาติชายตายแล้วเธอยืนมองอย่างตกตะลึง ตอนที่กานดาบ้า
บัญชาในปัจจุบันมีสีหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน เสียงเพลง Happy Birthday ดังขึ้น แขกทุกคนร่วมกันร้องเพลง
ทุกคนในงานยกเว้นวีด้าร้องอวยพร “แฮบปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮบปี้เบิร์ดเดย์ทูยู”
พิธีกรเชิญบัญชามาคู่สินีและลูกๆมาถ่ายรูปครอบครัวพร้อมกัน คัชพล ยศรัล ธัญกร เดินเข้าภาพครอบครัว วีด้ามองครอบครัวสุขสันต์ด้วยแววตาเจ็บร้าว
ยศสรัลมองหาวีด้าจนเจอแล้วแอบมองวีด้าจนมณฑิตาต้องสะกิด
“มีอะไรเหรอคะ?” มณฑิตาถาม
“เอ่อ...เปล่าครับ” ยศสรัลตอบ
“สรัลมองใครเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกมณ”
ยศสรัลทำเมินไปทางอื่น มณทิตาหันไปมองทางวีด้าแล้วหันมามองยศสรัลด้วยความหงุดหงิดนิดหน่อย
ดนัยกับวีด้านั่งอยู่ด้วยกัน
“แย่แล้วดนัย วีด้าลืมโทรศัพท์อยู่ในรถดนัย เกิดคุณอาโทรเข้ามาละแย่เลย” วีด้าบอก
“งั้นเดี๋ยวผมไปเอาให้นะ”
“ต้องไปด้วยมั้ย?”
“ไม่เป็นไรครับ คอยอยู่นี่แหละ แต่ระวังใครมาจีบนะ”
วีด้ายิ้มแล้วดนัยก็เดินออกไป
คัชพลแอบมองวีด้าอยู่พอเห็นดนัยพูดว่า “แต่ระวังใครมาจีบนะ” วีด้ายิ้ม ดนัยเดินออกไป คัชพลก็จะเดินเข้าไปหาแต่นาตาลีรั้งเอาไว้
“จะไปไหนคะ?” นาตาลีถาม
“ผมขอตัวไปคุยธุระกับแขกหน่อย” คัชพลบอก
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 4 (ต่อ)
“อะไรกันคะ ใจคอจะทิ้งฉันไว้คนเดียวเหรอ”
คัชพลแกะมือออก “มีเหตุผลหน่อยซินาตาลี...”
“เหตุผลก็คือ...ฉันเป็นแฟนคุณนะคะ” นาตาลีว่า
คัชพลยิ้ม “ผมไม่ชอบผู้หญิงคิดเองเออเองนะ”
นาตาลีอึ้ง “นี่...คุณ”
“ไม่พอใจก็กลับได้นะครับ”
คัชพลหันมองวีด้า วีด้าลุกออกแล้วคัชพลก็ลุกไป นาตาลีนั่งด้วยความเซ็งก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้น
“แล้วอย่ามาตามง้อฉันแล้วกัน!”
นาตาลีเดินเชิดออกจากงานไป
เพื่อนมณฑิตาเดินเข้ามาหาแล้วเรียก “มณ!”
เพื่อนดึงตัว มณฑิตาหันมองสรัล
“เดี๋ยวมณมานะคะ”
ยศสรัลไม่ตอบ มณทิตาเดินไป ยศสรัลมองไปโต๊ะวีด้าแต่ก็ไม่เห็นใคร สรัลเลยเดินเซ็งออกจากโต๊ะ
วีด้าเดินไปเอาเครื่องดื่ม คัชพลมองแล้วเดินเข้าไปหา วีด้าทำเป็นหันมาชนทำน้ำหกใส่คัชพล
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ ตายล่ะ เลอะหมดเลย”
วีด้าหยิบทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดให้ แล้วทำเป็นเช็ดแถวคอกับแก้ม ยศสรัลเดินมาแล้วเห็นพอดี วีด้าทำเป็นแปลกใจที่เจอคัชพล
“คุณคัชพล...”
“เดจาวูจังนะครับ คุณวีด้า”
“นั่นซิคะ เจอกันทีไร ฉันทำน้ำหกใส่คุณทุกที” วีด้าว่า
“ครั้งนี้ผมผิดเองครับ แอบเดินตามคุณมา เพราะอยากทักทาย ดูคุณไม่คิดจะทักผมเลย ผมนึกว่าคุณจะจำผมไม่ได้ซะอีก”
วีด้ายิ้ม “ทำไมจะจำไม่ได้คะ คุณต่างหากที่คุยกับสาวอยู่ตั้งนานสองนาน”
คัชพลตื่นเต้น “คุณสังเกตุผมด้วยเหรอ?”
“ไม่ต้องสังเกตหรอกค่ะ เพราะคุณเด่นออกขนาดนั้น” วีด้าบอก
“ดีใจจัง ที่คุณยังสนใจมองผม ว่าแต่...คุณมีแฟนแล้วเหรอ เห็นควงมาด้วย”
“ถ้าใช่ แล้วคุณจะหยุดมั้ยล่ะคะ?”
คัชพลยิ้มถูกใจเหมือนโดนท้าทาย
“ดนัยเป็นเพื่อนค่ะไม่ใช่แฟน”
“ควงกันออกงานแบบนี้ แล้วบอกว่าเป็นเพื่อน แสดงว่าคุณเป็นคนที่มั่นใจมากเลยนะครับ และถ้าเป็นอย่างงั้น ผมก็มีสิทธิ์ควงคุณคืนนี้สิ” คัชพลว่า
วีด้าหัวเราะ “ก็...อาจจะมีสิทธิ์นะคะ แต่คงไม่ใช่คืนนี้แน่ๆ”
คัชพลส่งสายตายิ้มแบบเจ้าชู้ ซึ่งวีด้าก็ยิ้มตอบ คัชพลหยิบเครื่องดื่มส่งให้วีด้า
วีด้ารับเครื่องดื่มมาแล้วเงยหน้ามองตา “ขอตัวก่อนนะคะ”
วีด้าเดินออก คัชพลมองตาม
ยศสรัลเดินไปหาพี่ชาย คัชพลยังยิ้มปลื้มอยู่
“ใครเหรอครับพี่ใหญ่?”
“สวยมั้ย?”
“เอ่อ...ครับ สวย”
“ไม่ใช่แค่สวยนะ คนนี้น่ะมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา...”
“พี่ใหญ่ดูสนใจเค้ามากนะครับ”
“สวย ลึกลับ น่าค้นหา นี่แหละผู้หญิงแบบที่พี่อยากรู้จัก และพี่ก็จะต้องรู้จักอย่างลึกซึ้งให้ได้”
คัชพลพูดจบก็เดินออกไป ยศสรัลได้แต่มองตามแล้วอึ้งว่าพี่ชายชอบ ธัญกรที่อยู่มุมหนึ่งมองคัชพลกับวีด้าอย่างไม่พอใจ
ดนัยเดินกลับเข้ามาพร้อมโทรศัพท์มือถือของวีด้า
“นี่ครับผม...”
“ขอบคุณนะคะ น่ารักจริงดนัย”
คัชพลเดินยิ้มเข้ามาหา ดนัยกับวีด้าหันมามอง วีด้าถึงกับอึ้งที่คัชพลกล้ามาก
“สวัสดีครับคุณดนัย” คัชพลยื่นมือให้ดนัยเช็คแฮนด์ “ขอโทษทีที่วันนี้ไม่ได้ต้อนรับคุณเลย”
“ไม่เป็นไรเลยครับ วันนี้แขกมากันเยอะ แล้วเราก็คนกันเองไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไร”
“ฝากความระลึกถึงถึงคุณอาทรงยศด้วยนะครับ”
“ได้เลยครับ”
คัชพลจ้องมองวีด้าจงใจ
“อ้อ...นี่คุณวีรดาครับ”
“สวัสดีอย่างเป็นทางการครับคุณวี..รดา”
“สวัสดีค่ะ”
“แฟนคุณดนัยนี่สวยนะครับ?”
ดนัยอึ้งไปเล็กๆ “คุณวีด้าไม่ได้เป็นแฟนผมหรอกครับ...แต่ผมก็รออยู่” ดนัยยิ้ม
คัชพลยิ้มพอใจ “งั้นผมขอให้คุณดนัยโชคดีนะครับ เชิญตามสบาย เดี๋ยวผมขอตัวไปดูแลแขกด้านโน้นก่อน”
คัชพลเดินไป
“ทำไมไม่บอกว่าวีด้าเป็นแฟนหล่ะ”
“ก็ผมยังไม่ได้คำตอบ ผมเลยไม่อยากทึกทักเอาเอง” ดนัยบอก
วีด้ายิ้มขอบคุณ แล้วมองตามคัชพลว่าร้ายจริงๆ
คัชพลเดินออกจากโต๊ะของวีด้า ยศสรัลมัวแต่อึ้งอยู่ในภวังค์ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่วีด้า ธัญกรเดินเข้ามายืนข้างๆ ยศสรัล
“พี่ใหญ่รู้จักกับคุณวีด้าด้วยเหรอพี่สรัล?” ธัญกรถาม
“น่าจะรู้จักนะ อย่างน้อยก็คืนนี้...เอ๊ะ! นี่นายก็รู้จักผู้หญิงคนนั้นด้วยเหรอเล็ก?”
“รู้จักซิครับ ก็นั่นคือคุณวีด้า อุบัติเหตุรักที่ผมเล่าให้พี่สรัลฟังเมื่อหลายวันก่อน”
ยศสรัลได้ยินก็รู้สึกแปลก ในหัวของเขาเริ่มประมวลเรื่องราว มณฑิตาเดินเข้ามามองว่ายศสรัลมองใครและเห็นว่ามองวีด้ากับดนัยอีกแล้ว
“ใครคะสรัล?” มณฑิตาถาม
“ใครเหรอ?” ยศสรัลถามกลับ
“ก็คนที่คุณจ้องอยู่ไงคะ?”
“เอ่อ....ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน ผมกับตาเล็กกำลังคิดว่าเป็นลูกค้าบริษัทหรือเปล่า?”
“ถ้าแค่นั้นสรัลก็เลิกจ้องพวกเขาได้แล้วค่ะ”
ยศสรัลหันกลับไปฟังเพลง แต่กลายเป็นมณฑิตาที่แอบลอบมองยศสรัล พอสักพักเขาก็แอบหันกลับไปมองทางวีด้าด้วยความสงสัยอะไรบางอย่าง ยศสรัลหันกลับมากระซิบธัญกร
“อย่าเพิ่งตื่นตูม พี่ใหญ่ก็ชอบหว่านเสน่ห์สาวแบบนี้ตลอด ไม่มีอะไรหรอก”
ธัญกรมอง
วีด้าที่อยู่ในห้องน้ำดูหน้าตาตัวเองแล้วก็คิดถึงคัชพล เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
คัชพลพูด “คุณเป็นผู้หญิงที่น่ารัก และน่าอยู่ใกล้ตลอดเวลา”
“เร็วไปไม๊คะ ที่จะจีบ” วีด้าถาม
“ผมว่าช้าไปด้วยซ้ำ กลัวคุณจะปิดโอกาสซะก่อน”
“ถ้าวีด้าจะปิดโอกาศคุณ เราคงไม่ได้ยืนคุยกันนานขนาดนี้หรอกค่ะ”
คัชพลดีใจมาก “แสดงว่า......”
วีด้าคิดถึงเหตุกาณณ์ที่ผ่านมาแล้วก็คิดในใจว่าติดกับชั้นแล้วสินะ คัชพล วีด้ายิ้มแล้วเดินออกไป
วีด้าออกจากห้องน้ำมาเจอธัญกรยืนดักรออยู่
“สวัสดีครับคุณวีด้า”
“สวัสดีค่ะ”
“ไม่ยักรู้นะครับว่าคุณเป็นแขกของคุณพ่อผมด้วย”
วีด้าตีซื่อ “นี่คุณเป็นลูกชายของคุณบัญชาเหรอคะ? โลกกลมจริง ไม่น่าเชื่อเลย”
“ถึงผมจะดูกะเลวกะลาดไปนิด แต่เชื่อเถอะครับ ผมไม่โกหก” ธัญกรยื่นมือให้วีด้าจับ “ผมธัญกร โชตินุพงศ์ ลูกชายคนเล็กของคุณพ่อ เรียกผมว่า เล็กก็ได้ครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการค่ะ คุณเล็ก...”
วีด้ายื่นมือไปจับมือธัญกร ขณะนั้นยศสรัลเดินผ่านมาพอดีจึงหลบมุมแอบดู โทรศัพท์วีด้าดังขึ้น วีด้ายกขึ้นดูเห็นเป็นเบอร์กำธร
“ขอตัวนะคะคุณเล็ก...”
“ครับ”
วีด้าเดินออกไป ยศสรัลครุ่นคิดด้วยความแปลกใจและสงสัยในตัววีด้า
วีด้ากำลังคุยโทรศัพท์กับกำธร
“ค่ะคุณอา...กำลังจะกลับแล้วค่ะ ไม่ได้ดื่มค่ะคุณอาไม่ต้องเป็นห่วง ยัยเกรซกับดนัยดูแลวีด้าอย่างดีค่ะ ...คิดถึงนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
วีด้าวางโทรศัพท์แล้วจะหันเดินกลับ แต่ก็ต้องชะงักเพราะเจอยศสรัลยืนดักอยู่
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า...เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า?”
วีด้ายิ้ม “ไม่เคยนี่คะ”
ยศสรัลอึ้ง “...เอ่อ งั้น ผม...ยศสรัลครับ” ยศสรัลยื่นมือไป Shake hand
วีด้ามองมือยศสรัลโดยไม่จับมือตอบ “วีรดาค่ะ”
“วีรดา ...... น้องแพร..”
วีด้าอึ้งไปเพราะตกใจที่ยศสรัลเรียกชื่อแพร
“ชั้นคิดว่าคุณจำคนผิด” วีด้าบอก
“จำคนผิดเหรอ .....หรือว่าคุณมีฝาแฝด”
“ชั้นลูกคนเดียวค่ะ ไม่มีพี่น้อง ขอตัวก่อนนะคะ”
วีด้าเลี่ยงจะเดินต่อ ยศสรัลเข้าไปขวาง “เดี๋ยวสิครับ”
วีด้าทำหน้ารำคาญ
“คุณดูเหมือนไม่อยากจะคุยกับผม ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า”
“ทำไมชั้นต้องไม่พอใจคุณ ในเมื่อเราไม่เคยเจอกัน”
“ก็ผมเห็นคุณคุยยิ้มแย้มทั้งกับพี่ใหญ่แล้วก็ตาเล็กดี จนเหมือนรู้จักกับพี่น้องของผมมานาน”
วีด้าสะบัดหน้ามอง
“แต่กับผม คุณกลับทำเหมือน...ไม่อยากจะคุยด้วย“
“ชั้นว่า คุณคงคิดมากเกินไปแล้วหล่ะค่ะ ชั้นก็คุยกับทุกคน ที่น่าคุย”
“คุณกำลังจะบอกเป็นนัยๆว่า ผมเป็นคนที่ไม่น่าพูดคุยด้วยงั้นเหรอครับ”
“นั่นก็คงขึ้นอยู่กับการตีความของคุณแล้วละคะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
วีด้าเดินสะบัดออกมา ยศสรัลมองตามด้วยความหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แล้วเขาก็คิดถึงแพรตอนที่อยู่ที่ทะเลกับเขา
ยศสรัลพูดเบาๆ กับตัวเอง “นี่เราจำคนผิดจริงๆเหรอ...”
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 4 (ต่อ)
วีด้าเดินดิ่งมา มณฑิตาเดินไปดักหน้า วีด้าชะงักแล้วหยุดมอง
“สวัสดีค่ะ ชั้น มณฑิตาค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ดิฉัน....”
มณฑิตาสวนขึ้นมาแบบยิ้มๆ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการรู้จักคุณ”
“ไม่อยากรู้จัก...แล้วคุณมาทักดิฉันทำไมค่ะ?”
“เพราะฉันอยากให้คุณรู้จักว่าฉัน คือ คู่หมายของคุณยศสรัล”
วีด้ายิ้ม “เพื่ออะไรคะ?”
“ฉันว่าคุณเข้าใจดี ว่าฉันบอกคุณเพื่ออะไร?”
มณฑิตาพูดของตัวเองจบก็จะเดินไปแต่วีด้าก็พูดตามหลัง
“ถ้าคุณจะใช้สติสักนิด คุณจะเห็นว่าชั้นไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าหาเค้า”
มณฑิตาหันขวับกลับมาทันทีเพราะไม่คิดว่าจะมีคนกล้าโต้ตอบเธอ
วีด้ายิ้ม “แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณยศสรัลไม่ใช่เป้าหมายของชั้นหรอกค่ะ”
วีด้าพูดจบก็มองหน้ามณฑิตาด้วยสายตาที่ไม่กลัวเกรง มณฑิตาพยักหน้ายิ้มรับน้อยๆ
“ขอให้จริงอย่างที่พูดนะคะ”
มณฑิตาหันหลังเดินกลับไป
ยศสรัลยังยืนยิ้มนึกถึงแพรในวัยเด็ก
เสียงมณฑิตาดังขึ้น “ถึงขนาดเก็บเอามายืนเหม่อเลยเหรอค่ะ”
มณฑิตาเดินสีหน้านิ่งเข้ามาหายศสรัล
ยศสรัลงง “มณพูดอะไร”
“มณเห็นนะคะ ว่าสรัลยืนคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ตั้งนาน”
“แล้วทำไม”
มณฑิตาอึ้งแต่ฉลาดเกินกว่าจะแสดงอารมณ์เลยแสร้งยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ มณจะต้องไปรู้สึกอะไรล่ะคะ ยังไงผู้หญิงคนอื่นก็ไม่มีวันได้เป็นเจ้าของสรัล”
ยศสรัลถอนใจด้วยความอึดอัด แต่มณฑิตาเดินเข้ามากอดอย่างมีความสุข
ยศสรัลแกะออก “ผมจะเข้าไปดูแขกด้านในหน่อย”
มณฑิตาปล่อยกอดยศสรัลเปลี่ยนมาเกาะแขน
“ไปด้วยกันสิคะ”
มณฑิตายิ้มเย็นจ้องหน้ายศสรัลจนยศสรัลอึดอัด
ดนัยชะเง้อรออยู่แล้ว วีด้าเดินกลับมาที่โต๊ะโดยไม่นั่ง ดนัยลุกขึ้นยืน
“เห็นคุณหายไปนาน ผมกำลังจะไปตาม”
“เรากลับกันเลยไม๊คะ”
“ไปครับ”
ทั้งสองคนพากันเดินออกไป
คัชพลยืนอยู่หลังบัญชากับสินีที่นั่งคุยกับแขกผู้ใหญ่ โดยมีธัญกรยืนอยู่ด้วย คัชพลยืนมองหาวีด้า ธัญกรไม่ค่อยพอใจ
ธัญกรแกล้งถาม “พี่ใหญ่ชอบผู้หญิงคนนั้นเหรอครับ? ผมเห็นพี่มองเธอไม่วางตาเลย”
คัชพลยิ้มกรุ่มกริ่ม “อืม...เธอสวย มีเสน่ห์...แกว่ามั้ย?”
ธัญกรตอบเสียงแข็ง “ครับ”
“เธอชื่อ...”
ธัญกรแทรกทันที “วีด้า”
คัชพลหันมองธัญกรด้วยความแปลกใจ
“นี่นายรู้จักเธอด้วยเหรอเล็ก?”
“ครับ ผมรู้จักเธอ” ธัญกรเน้น “รู้จักก่อนพี่ใหญ่!”
คัชพลอึ้ง ธัญกรจ้องตาคัชพล
ขณะนั้นบัญชาสิกับนีลุกขึ้นพร้อมกับแขกพอดี
“คุยอะไรกันอยู่สองพี่น้อง...”
คัชพลกับธัญกรหลุดจากภวังค์
บัญชาพูดกับคัชพล “ไป...ใหญ่ ไปส่งคุณเจฟฟรีย์กับพ่อหน่อย”
แขกเดินออกไปกับบัญชาและคัชพล สินีรีบเดินมาหาธัญกร
“เล็กไม่ตามคุณพ่อกับพี่ใหญ่ไปล่ะ คุณเจฟนี่ลูกค้ารายใหญ่เรานะ”
“คุณแม่ถามคุณพ่อก่อนดีกว่าไหมครับ ว่าอยากให้ผมไปด้วยหรือเปล่า คุณพ่อให้ผมมายืนเป็นต้นไม้ประดับโต๊ะเท่านั้นแหล่ะ”
พูดจบธัญกรก็เดินหนีไปอีกทาง สินีจะเรียกก็ไม่ทัน
“ตาเล็ก...ดูสิ ลูกชายชั้น”
บัญชายืนส่งแขกกับคัชพล ดนัยกับวีด้าเดินมาใกล้ เมื่อสองคนเดินไปถึง บัญชาก็ยิ้มให้ทั้งคู่ แต่วีด้าหน้าบึ้ง
“กลับแล้วเหรอหลาน?”
“ครับ...พรุ่งนี้ผมมีประชุมแต่เช้า”
วีด้ายังคงจ้องหน้าบัญชาตากร้าว บัญชารู้สึกแปลกๆ
“หนูวีด้า มีอะไรกับฉันหรือเปล่า?”
วีด้าหลุดจากภวังค์
“เอ่อ...คือ...”
“มีอะไรบอกฉันตรงๆได้นะ เห็นจ้องหน้าฉันนานแล้ว”
คัชพลแทรกขึ้นทันที
“คุณวีด้าคงอยากปรึกษาเรื่องงานกับคุณพ่อน่ะครับ”
วีด้ารับแบบส่งๆ “ค่ะ...คุณอาวีด้าทำบริษัทโลจิสติก วีด้าคงต้องมารบกวนขอคำปรึกษาจากท่านบ้าง”
“รบกวนอะไรกัน คนวงการเดียวกัน ต้องพึ่งพากันไว้น่ะถูกแล้ว เราคงได้พบกันบ่อยๆนะ”
“ค่ะ ต่อไปเราคงได้เจอกันบ่อยๆแน่นอน”
บัญชาฟังแล้วขัดหู คัชพลยิ้มปลื้มมองวีด้า ดนัยเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจคัชพล
“เราสองขอกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
ดนัยกับวีด้าเดินออกไป บัญชามองตามทั้งคู่
บัญชาถามคัชพล “รู้จักเขาเหรอ”
“ครับ”
“ผู้หญิงคนนี้ท่าทางแปลกๆนะ”
“ไม่หรอกครับ เธออาจจะไม่คุ้นกับการเข้าผู้ใหญ่”
บัญชาหันมามองคัชพลอย่างรู้ทัน “สนใจรึไง ถึงกับแก้ตัวแทน”
คัชพลยิ้ม
บัญชาเตือน “ดูให้ดีๆล่ะ”
วีด้าเข้ามาในห้องนอน เธอวางกระเป๋าสะพายแล้วกำลังจะปลดชุดเตรียมจะอาบน้ำ แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น วีด้าหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋าขึ้นมาดูแล้วคิดนิดนึง เธอมีสีหน้าเย็นชาแล้วก็รับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“ถึงบ้านเรียบร้อยรึยังครับ” คัชพลถามมาจากปลายสาย
วีด้ายิ้ม “ถึงอย่างปลอดภัยแล้วค่ะ”
คัชพลคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมเงียบๆบริเวณงานเลี้ยง
“ทำไมรีบกลับล่ะครับ?”
“อยู่จนเกือบเที่ยงคืนเนี่ยเหรอคะรีบ?”
“แต่สำหรับผม ผมรู้สึกว่ามันแป๊บเดียวเอง”
วีด้าหัวเราะ
คัชพลรุกต่อ “อาทิตย์นี้คุณว่างวันไหน ผมอยากเชิญไปทานข้าวด้วยกัน”
วีด้าคิดว่าเข้าแผนแล้ว แต่แกล้งทำเฉยไม่ยอมตอบ
“ว่าไงครับ หรือว่าหลับไปแล้ว”
วีด้าขำอีก “อาทิตย์นี้วีด้าติดงานค่ะ ต้องไปเริ่มงานที่บริษัทคุณอา”
คัชพลยังรุกต่อ “งั้นอาทิตย์หน้าล่ะครับ”
“อืม...ยังไม่ใจเลยค่ะ เอาเป็นว่าว่างเมื่อไหร่ วีด้าจะบอกนะคะ กู๊ดไนท์ค่ะ”
“ครับ ฝันดีนะครับ” คัชพลยิ้มพอใจ และคิดว่าจะไม่ยอมแพ้ในการจีบสาวคนนี้
วีด้ายิ้มเยาะเพราะสะใจที่คัชพลเริ่มติดกับแล้ว
อ่านต่อตอนที่ 5