สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 8
เมทินีพยายามจะหนี แต่ก็กลัวจนสั่นทำอะไรไม่ถูกรีบล็อคห้อง เพราะกลัวมิคาอิลจะกลับมาอีก เมทินีพยายามใช้สองมือที่โดนมัดดึงที่ปิดปากออก ร้องไห้ไปด้วย เธอครุ่นคิด
“ทำไมเด็กนั่น...อีริน่ามีจิตใจดีงามช่วยเหลือเรา”
ที่ปิดปากเมหลุดออกมาได้ เมทินียกมือมาเอาฟันกัดเชือกที่มัดมือไว้
มิคาอิลยืนหัวเราะชอบใจ ยกปืนจี้อีริน่าให้เจตรินเห็น
“นักการทูตแฟนแกนี่เอง นี่ไอ้นักการทูต ถ้าแกไม่อยากให้อีริน่าตายหรือกลายเป็นคนติดยา แกรีบไปให้พ้นเธอซะ ฉันจะพาเธอไปหาพ่อของเธอ ใช่ไหมอีริน่าบอกเขาสิ”
เจตรินกับอีริน่าสบตา มองหน้ากันอีก
“ไม่นะอีริน่า”
“คุณเมเพื่อนของคุณดาโดนมันเล่นงานอยู่ในห้อง ถ้าคุณไปช้าจะช่วยเธอไม่ทัน เธอจะถูกมันส่งไปขายตัวที่มอสโควค่ะ คุณต้องรีบไปช่วยเธอ ไม่ต้องห่วงฉัน”
มิคาอิลจ้องหน้าเจตริน
“ชัดเจนหรือยัง”
“แต่...ผมห่วงอีริน่า”
“ขอบคุณค่ะ แต่เขาไม่ทำอะไรอีริน่าหรอกค่ะ เพราะเขาไม่อยากให้อีริน่า บุบสลายก่อนที่เขาจะทำลายอีริน่า”
“ไม่นะ...ผมไม่มีวันทิ้งอีริน่าได้แน่”
“ห้วย...อีหยังซื่อบื้อนัก ข้อยหรอกให้มันตายใจบ่อฮู้ดอกหรือ เว้าขนาดนี้ยังบ่อเข้าใจก็ไปตายซะ มันบ่อฮู้ดอกว่าข้อยมีมือถือ เฮาสิส่งข่าวหากันได้ เข้าใจบ๋อ บักซื่อบื้อ”
เจตรินตกใจที่อีริน่าพูดอีสานได้ มิคาอิลยืนงง ไม่เข้าใจที่อีริน่าพูด
“อีริน่า...เธอ...เธอพูดอะไร” เจตรินถามงงๆ
“แหววสอนข้อยแน รีบไปนำ ไปโลด”
“แกว่าอะไรอีริน่า แกพูดภาษาอะไรของแก” มิคาอิลตวาด
“ภาษาไทยนี่แหละแต่ฉันพูดไม่เก่ง ก็เลยพูดผิดๆถูกๆ แม่นบ่อคุณเจต”
“อีริน่าบังคับให้ฉันไปให้พ้นจากแก เพราะเธอต้องการไปหาพ่อของเธอ มิคาอิล...แกสัญญานะว่าจะไม่ทำอันตรายอีริน่า ถ้าหากว่าอีริน่าเป็นอะไรไปละก็ ตำรวจไทยทั้งกรมจะตามจับแกส่งกลับรัสเซีย แกจะโดนเนรเทศ แบลคลิสต์ ห้ามเข้าประเทศไทย”
อีริน่าสบตาเจตริน ขยิบตาให้ เจตรินแอบขยิบตาตอบ แล้วหันออกไป
“เขาไปแล้ว แกรีบพาฉันไปหาปาปา”
“ถึงแฟนของแกจะรีบไปช่วยผู้หญิงนั่น แต่นังนั่นก็ไม่มีวันพ้นเงื้อมมือคนของฉันที่กำลังจะมาถึง แล้วพานังนั่นไปขึ้นเครื่องบิน และถ้าคนของฉันเจอแฟนแก ก็จะฆ่ามันทิ้งซะ”
อีริน่าเตะหน้าแข้งมิคาอิลตอนเผลอ มิคาอิลเซแซ่ดๆไป ปืนหลดจากมือ
“คุณเจตกลับมาก่อน”
เจตรินทำทีพ้นไปแล้ว รีบกลับมาหาอีริน่า มิคาอิลโกรธ
“อีเด็กบ้า”
มิคาอิลจะตะครุบปืน อีริน่ารีบไปเตะปืนให้กระเด็นไปใส่มือเจตริน
“รับ”
เจตรินรับปืน มิคาอิลชักมีดออกมาจากข้อเท้าที่ชายกางเกงอย่างรวดเร็วปาใส่เจตริน
“เฮ้ย”
อีริน่าตกใจ
“ระวัง”
อีริน่าโถมสุดตัวไปผลักเจตริน สองคนล้มลงไปทั้งคู่ มีดพลาดเป้าพุ่งไปปักประตูห้องพักตรงกันข้าม สองคนกอดกันไว้ สบตากันยิ้มให้กันแว่บหนึ่ง
“ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร”
มิคาควักระเบิด
“ฉันมีระเบิด”
เจตรินฉุดอีริน่าให้ลุก
“วิ่ง”
“ไปช่วยคุณเมก่อน”
อีริน่าตรงไปกระชากมีดออกมาจากประตูห้องก่อนที่มิคาอิลจะไปทัน เจตถือปืน อีริน่าถือมืด มิคาอิลเงื้อระเบิดปิงปอง แขกของโรงแรมสองสามคนเดินจะมาเข้าลิฟต์เห็นภาพอีริน่ากับเจต ตกใจโวยวายลั่น
“โจร คนร้าย ช่วยด้วยๆ”
มิคาอิลได้ที
“มันปล้นผม มันจะฆ่าผม ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
“ใช่เราปล้นเขา เราก็แค่ปล้นคีย์การ์ดใบเดียวเท่านั้น ถ้าใครไม่อยากตายเอาคีย์การ์ดมาให้เรา”
“ชายคนนี้เป็นภัยคุกคามสังคมไทย ต้องเนรเทศ” เจตรินตะโกน
“ฮ้า”
มิคาอิลรีบวิ่งออกไปเพราะกลัวความแตก
“รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้โทรไปบอกกองปราบมาจับตัวมันไปเลยค่ะ” อีริน่าบอก
แขกโรงแรมวิ่งหนีไป เหลืออีริน่ากับเจตรินสองคน
“วุ่นวายจนได้เรื่อง”
“รีบวุ่นวายต่อ...ไปช่วยคุณเมก่อนที่พวกมันจะลากเอาตัวเธอไปมอสโคว”
ลิฟต์ลงมาพอดี สองคนรีบโดดเข้าลิฟต์ไป
หน้าห้องพักของพวกเสี่ยสามคน อีริน่ากับเจตรินมาถึงหน้าห้องกำลังจะเคาะประตู เขมชาติมากับคนของมิคาอิลเดินมาเผชิญหน้ากับอีริน่า เขมชาติตกใจและดีใจมากด้วยไม่ทันได้มองว่ามีเจตรินอยู่ด้านหลังอีริน่า
“อีริน่า”
อีริน่าชะงัก
“คุณเป็นใคร ทำไมรู้จักชื่ออีริน่า”
เขมชาติยิ้ม ปราดมาหาอีริน่ากะว่าจะล่อลวง
“ผมเป็นเพื่อนกับ...”
เขมชาติไม่ทันพูดจบ เจตรินปราดมายืนข้างอีริน่าโอบบ่าไว้
“อารดาและน้องจิตรถูกไหมครับคุณเขมชาติ”
เขมชาติตกใจ
“คุณเจต”
อีริน่าหันไปมองหน้าเจตรินกับเขมชาติ รับรู้ว่าทั้งสองคนรู้จักกัน
“นั่นสิครับ คุณถึงรู้จักชื่อภรรยาผม ทั้งทีผมเข้าใจว่าคุณกับเธอเพิ่งพบกันวันนี้”
“ผมเอ้อ...คืออารดากับเพื่อนให้ผมดูรูปอีริน่าจากมือถือของพวกเธอครับ”
อีริน่าครุ่นคิด
“ทำไมพวกนั้นต้องเอารูปเราไปให้ผู้ชายคนนี้ดู”
“โอเค เข้าใจแล้ว ขอตัวก่อน เชิญุคุณเขมชาติกับเพื่อนตามสบาย เราสองคนมีธุระ”
เจตรินดึงอีริน่าไปที่ประตูห้อง เขมชาติดึงแขนคนรัสเซียคนของมิคาอิลไว้กระซิบ
“อย่าเพิ่ง”
ลูกน้องมิคาอิลแย้ง
“แต่สินค้าของนายอยู่นั้น”
“เขาคือนักการทูต เคยประจำที่มอสโคว ถ้าบุ่มบ่ามจะเกิดเรื่องใหญ่”
“แล้วพวกเขาจะเข้าไปทำอะไรที่ห้องนี้”
“นี่แหละปัญหา สินค้าอยู่ในนี้ สินค้ารู้จักเขา สินค้าอาจจะบอกเขาว่าเราคือใคร เราต้องถอยไปก่อน แล้วคอยชิงตัวสินค้าจากสองคนนี้ดีไหม”
ลูกน้องพยักหน้า ทั้งสองคนจึงทำทีไปทางห้องอื่นปรายตามองเจตรินกับอีริน่าที่กำลังเคาะห้อง
เมทินีแอบมองที่ช่องตาแมวแล้วตื่นเต้น
“เด็กอีริน่ากับคุณเจต นี่เราต้องยอมรับความช่วยเหลือจากสองคนนี้จริงๆหรือ เราต้องอับอายขายหน้า หรือว่าเราจะอยู่เฉยๆไม่เปิดประตูให้พวกเขาคงเลิกราไปเอง”
เมทินีไม่รู้ว่ายังมีเสี่ยอีกสามคนถูกมัดอยู่ในห้อง จึงถอยมานั่งฟังเสียงเคาะห้อง...สามเสี่ยที่อยู่ในห้องน้ำพยายามช่วยกันแกะเชือกที่มัดเอาไว้
“อีกนิดเดียว พยายามกันอีกนิด”
“ออกไปได้คอยดูจะเล่นงานไอ้หนุ่มนั่นให้แหลกเป็นผง”
“ป่านนี้มันคงตัดหน้าเราแย่งผู้หญิงคนนั้นไปกินก่อนแล้ว ปวดใจหวะ”
สามคนพยายามช่วยกันแกะเชือกต่อ
อีริน่ากับเจตรินแปลกใจ ทำไมไม่มีใครตอบหรือเปิดประตูให้
“ไม่มีใครเปิดประตู หรือว่าเธอออกไปหาคุณเจตตามที่อีริน่าบอกเธอแล้ว”
เจตรินครุ่นคิด
“แล้วเธอจะไปทางไหนได้ถ้าไม่ลงลิฟต์ไป หรือว่าเธอจะอายไม่อยากให้ ใครรู้เรื่องของเธอ”
“ลองอีกสักนิดเถิดค่ะ”
เขมชาติกับคนลูกน้องแอบมอง เขมชาติกำชับ
“จำไว้ พอผู้หญิงเปิดประตูออกมารีบชิงตัวทันที นี่กำลังจะเช้าใกล้เวลาเครื่องออกแล้ว”
“โอเค”
อีริน่ากับเจตรินเคาะประตูต่อ
“ออกมาเถิดค่ะคุณเม เรามาช่วย เราไม่เอาความลับของคุณไปเปิดเผยหรอกค่ะ”
“ผมสัญญา ออกมาเถิดนะคุณเม”
อีริน่าตกใจ
“คุณเมขารีบออกมานะคะ ในนั้นยังมีผู้ชายสามคนโดนมัดอยู่ในห้องน้ำ บางทีพวกเขาอาจแก้เชือกออกมาทำร้ายเอานะคะ”
เจตรินตกใจมองหน้าอีริน่า เธอพยักหน้าว่าจริง
เมทินีได้ยินอีริน่าบอกตกใจมาก
“ตายจริง”
เมทินีหันไปมองด้วยความกลัวเพราะไม่ได้คิดว่าสามคนจะออกมาแล้ว เมทินีตะลึงกรีดร้อง สามเสี่ย กำลังยืนมองและพากันชี้มาที่เมทินี
“ผู้หญิงของเราอยู่นั่น”
“ลุย”
เสี่ยสามคนโถมหาเมทินีที่ลนลานเปิดประตูห้อง เธอทำได้แค่ปลดล๊อคประตู
“ช่วยด้วย”
สามคนมาถึงฉุดกระชากลากดึงเมทินี
อีริน่ากับเจตรินได้ยินเสียงเมทินีขอความช่วยเหลือมาจากในห้อง
“เสียงคุณเมค่ะ เธอต้องเจอสามคนนั่นแล้วแน่ๆ”
“เร็ว...”
เจตรินกำลังจะถีบประตูห้อง แต่อีริน่าลองบิดลูกบิดประตูปรากฏว่าประตูเปิดออกมาได้ เสี่ยสามคนกำลังฉุดดึงเมทินี เพื่อที่จะลากกลับไปปล้ำบนเตียง
“คุณเม”
“ช่วยด้วย มันจะปล้ำฉัน”
“เสียเงินไปคนละตั้งเกือบแสน แล้วพวกฉันจะปล่อยให้แกหลุดมือไปได้ ยังไง” เสี่ยตวาด
อีริน่าเข้าขวาง
“พวกแกคงต้องปล่อยให้เธอหลุดมือแล้วแหละ จะพูดกันแบบดีๆหรือจะพูดกันแบบเลวๆ”
เสี่ยอีกคนหันมาหาอีริน่า
“คนสวยอย่าสาระแน”
เจตรินเข้ามา
“ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้”
เสี่ยสามคนส่ายหน้า
เขมชาติกับ ลูกน้องมิคาอิลกำลังมองไปที่กลุ่มของอีริน่ากับเจตริน
“พวกเราไปชิงตัวผู้หญิงนั่นกัน” ลูกน้องมิคาอิลชวน
“ไม่ได้...เหตุการณ์มันบานปลายแล้ว มีคนรู้เห็นเรื่องนี้แยะเกินไปแล้ว”
“เฮ้ยพูดบ้าๆ ยังไงก็ต้องเอาตัวผู้หญิงไปมอสโควให้ได้”
“ได้...แต่คุณไปจัดการคนเดียวนะ ผมจะไปรอที่รถคอยช่วยอยู่เบื้องหลัง คุณรีบไปชิงตัวผู้หญิงแล้วพาไปที่รถ”
เขมชาติพูดจบรีบเดินหนีเอาตัวรอดออกไป เพราะไม่อยากเจอเสี่ยสามคนรู้ว่าต้องโดนด่าแน่ๆ คนของมิคาอิลหน้าเหวอ
“อ้าว”
สามเสี่ยยังพยายามดึงเมทินีกลับเข้าไป อีริน่าโดดเข้าใส่เสี่ยสามคน
“จัดการพวกมันเลยค่ะ”
“โอเค”
เจตรินโดดลุยเข้าไปอีกคน เสี่ยสามคนจำอีริน่าไม่ได้เพราะตอนแรกใส่หมวกดูเป็นหนุ่ม ตอนนี้เป็นสาว เสี่ยสามคนโดนทั้งเจตรินและอีริน่าเล่นงาน จึงยอมปล่อยเมทินี
“ถอยออกมาค่ะคุณเม” อีริน่าร้องบอก
“ขอบใจ ขอบใจมาก”
เมทินีถอยออกมา ปรากฏว่าคนของมิคาอิลพรวดมาจากที่หลบ มาล็อคตัวไว้
“ไปกับฉันเดี๋ยวนี้คนสวย”
“ว๊าย...อะไรกันอีกเล่า”
เจตรินกับอีริน่าตกใจหันไปเห็นเมทินีโดดล็อคตัวแล้ว
“คนรัสเซียนั่น”
เสี่ยสามคนฉวยโอกาสล้มลกคลุกคลานหนีไป กลายเป็นเจตรินกับอีริน่าต้องเผชิญกับคนของมิคาอิล
“ปล่อยฉันนะ” เมทินีโวยวาย
“ฉันซื้อเธอมาราคาแพงมากกว่าผู้หญิงทุกคน ไม่มีทางปล่อยเธอแน่ รีบไปกับฉันเดี๋ยวนี้อย่าขัดขืน”
เจตรินขวาง
“ปล่อยเธอ”
ขณะที่พูดเจตรินแอบกดกล้องในมือถือถ่ายรูปคนของมิคาอิลเอาไว้เป็นหลักฐาน อีริน่าจะเข้าไปเอาเรื่อง
“บอกให้ปล่อย”
“พวกแกอยากได้เธอก็ได้ แต่เอาไปอย่างเป็นศพนะ”
คนของมิคาอิล ทำท่าจะฆ่าเมทินี เจตรินดึงแขนอีริน่าไว้
“ใจเย็นๆอีริน่า ปล่อยมันไป”
“ไม่นะ อย่านะคุณเจตช่วยเมด้วย” เมทินีตื่นกลัว
“ผมไม่ช่วย นายอยากได้เธอเอาไปเลย อีริน่าอย่าไปยุ่งไม่ใช่เรื่องของเรา เชิญนายตามสบาย”
เมทินีโวยวาย
“คุณเจตใจร้าย อีริน่าแกฟ้องคุณเจตใช่ไหมว่าฉันแกล้งแก เขาเลยไม่ยอมช่วยฉัน อารดาต่างหากค่ะที่สั่งให้พวกเมทำ เขาอยากไล่อีริน่าไปให้พ้นจากบ้าน คุณเจตช่วยเมด้วยนะคะ”
“เสียใจ”
อีริน่าอึ้ง
“คุณเจต”
เจตรินดึงอีริน่าออกไปกระซิบอะไรบางอย่าง อีริน่าสงบลงปล่อยให้คนของมิคาอิลล็อคตัวเมทินีไว้ เธอร้องไห้คร่ำครวญอยู่ด้านหลัง อีริน่ากับเจตรินเดินออกมา
อีริน่ากับเจตรินพากันเดินเลี่ยงๆจากผู้คนมาที่ลอบบี้ชั้นล่าง
“ที่ผมทำอย่างนั้นเพราะจะหลอกให้มันตายใจ ผมจะโทรไปหาเพื่อนที่กองปราบให้เขาช่วยส่งคนไปดักรวบตัวรัสเซียคนนั้นแบบเงียบๆ และควบคุมตัวไว้ จะได้สาวไปถึงตัวนายมิคาอิลนั่นยังไงเล่า”
“ค่ะ แต่คุณเมเธอจะอับอายมากนะคะ”
“ผมจะบอกว่าอย่าให้เป็นข่าว เพราะอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้”
“เรื่องนั้นอีริน่าไม่ทราบหรอกค่ะ อีริน่าหวังเพียงช่วยเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งให้รอดพ้นจากการโดนทำร้ายทำลายค่ะ”
“อีริน่าจิตใจดีงามมาก ขอบใจแทนคุณเมด้วย อีริน่าจ๋าเรามีเรื่องจะต้องพูดกันยาวมาก ผมอยากจะขอโทษ”
“คุณเจตทำอะไรผิดกับอีริน่าหรือคะ ถึงอยากจะขอโทษ” อีริน่าแกล้งงอน
“ผิดมากมาย ผิดมหันต์”
“อีริน่าอยากไปสังเกตการณ์การจับตัวผู้ชายที่จับคุณเมไปค่ะ เรื่องของ อีริน่ามันเล็กน้อย เอาไว้ก่อน”
“โอเค ต่อไปนี้จะไม่ขัดใจอีริน่าอีกต่อไป”
“ไม่เชื่อ”
“อ้อ ยังมีอีกนะ อีริน่าเว้าอิสานได้แหร่มมากๆ”
“อีริน่าคนไทยนี่คะ เว้าได้ทั้งนั้น แม่ของอีริน่าบอกว่าท่านเคยไปอยู่เมืองลาวมาด้วยค่ะ”
“เคยอยู่เมืองลาว กับพ่อของอีริน่าใช่ไหม ท่านเคยเป็นเคจีบีนี่นา”
“คงอย่างนั้นมั้งคะ”
เจตรินดึงอีริน่ามาโอบกอดไว้ เอาหน้าอีริน่าซบอกตัวเอง และเจตก็ก้มหน้าลงไปเคล้าเคลียผมอีริน่า
“อุ๊ย...อยู่นิ่งๆอย่าขัดขืนนะ”
“เกิดอะไรขึ้น”
“เงียบ”
มิคาอิลกำลังเดินมากับนิโคลัย
“ลูกสาวแกอยู่ที่นี่ มันอยากพบแกมาก”
“อย่าทำอะไรอีริน่านะมิคาอิล”
“ไม่ทำอะไรมันหรอก แต่จะทำแกนั่นแหละ ถ้าลูกแกไม่เชื่อฟังฉัน”
“อีริน่าอยู่ที่ไหน”
“ในห้องพักชั้นบนโน้น ลูกแกกับแฟนมันสาระแนมาก ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น ก่อนอื่นฉันว่าต้องเก็บไอ้ผู้ชายนักการทูตนั่นด่วน เพื่อความสะดวกในการทำงานของฉัน”
นิโคลัยกวาดตามอง แล้วอึ้งนิดนึง
“เอ๊ะ”
“อะไร”
นิโคลัยส่ายหน้า
“ไม่มีอะไร”
นิโคลัย ขมวดคิ้วนิดหนึ่งแต่ไม่มากกลัวมิคาอิลสังเกตเห็น เขารำพึงในใจ
“ผู้ชายกับผู้หญิงคู่นั้น”
เจตรินโอบกอดอีริน่าก้มหน้าคลอเคลีย แต่แอบช้อนสายตามองนิโคลัยกับมิคาอิล เจตรินรำพึงในใจ
“นิโคลัย มิคาอิล”
สองคนผ่านมาใกล้มาก เจตรินก้มหน้าก้มตาทำดูดดื่มกับอีริน่ามากขึ้น เพื่อกันสงสัย มิคาอิลกับนิโคลัยเดินผ่านอีริน่ากับเจตรินไป นิโคลัยยังคงมองมาที่เจตรินกับอีริน่าอย่างสงสัย จนเดินผ่านพ้นไป ครู่หนึ่งอีริน่าเริ่มรู้สึกนานไปแล้ว ขยับตัวอู้อี้เพราะก็แอบเพลินไปเช่นกัน
“ทำอะไรน่ะ ทำไมนานจังเลย”
“มิคาอิลมันเพิ่งเดินผ่านไปเดี๋ยวนี้เอง รอให้มันพ้นสายตาผมไปก่อน”
“มันเห็นคุณไหม”
“ผมจูบผมอีริน่าอยู่ มันไม่เห็นหรอก”
“บ้า...เอาเปรียบ เหลวไหล ล่วงเกินกันง่ายๆ”
“ทำเพื่องาน ไม่ได้ล่วงเกินโดยพละการ”
“มันมาคนเดียวหรือมากับใคร”
“เอ้อ...มันมา...มากับลูกน้องของมันน่ะ อีริน่าอยากไปสังเกตการณ์การจับตัวของรัสเซียนั่นไม่ใช่หรือ ไปช่วยกันภาวนาให้เขาซัดทอดมาถึงมิคาอิลกันดีกว่า มันจะได้โดนเนรเทศไปให้พ้นแผ่นดินของเรา”
อีริน่าผละออกจากอกเขา ทั้งสองสบตากันซาบซึ้ง
“อีริน่า”
“คุณเจต”
เจตรินดึงอีริน่ามาโอบกอดไว้เช่นเดิมอีก
“อะไรอีก”
“พวกมันหันกลับมามองเรา เบียดตัวมาชิดๆผมเบียดแน่นๆ”
อีริน่าทำตาม เจตรินเงยหน้ายิ้มคนเดียว เจตรินก้มลงไปจูบผมอีริน่าแล้วจับสองแก้มของเธอเงยขึ้นมา สบตากันจูบหน้าผาก
รถของเขมชาติจอด ด้านนอกใกล้ๆทางจะไปห้องผู้โดยสารขาออก เมทินีกับคนรัสเซียนั่งประกบกันอยู่เบาะหลังของรถ เมทินีกำลังด่าเขมชาติสาดเสียเทเสีย
“ไอ้คนชั่ว ไอ้คนใจทรามแกหลอกฉัน ถ้าฉันไม่ตายซะก่อนฉันจะกลับมาฆ่าแกให้ตายอย่างทุกข์ทรมาน”
เขมชาติแสยะยิ้มหยัน
“เธอมันโง่เองนี่ เธอเองมันก็อยากได้ใคร่ดีเอง ช่วยไม่ได้” เขมชาติบอกกับคนของมิคาอิล “นายเอาเธอลงไปแบบนี้ไม่ไหวหรอกนะก่อนจะลงไปเอาของขวัญทำให้เธอสงบลงก่อน”
เมทินีหน้าตื่น
“จะทำอะไรฉัน”
คนของมิคาอิลพยักหน้าปักเข็มลงไปบนแขนเมทินีทันที
“โอ๊ย! แก...”
เมทินีพยายามจะต่อสู่จิกข่วน แต่แล้วเธอก็สงบลง ทำตัวเงียบๆนิ่งๆ
“นายรีบลงไปได้แล้ว พยายามทำตัวให้เป็นปกติ อย่าให้มีพิรุธและถ้าบังเอิญมีอะไรเกิดขึ้น แล้วนายมาซัดทอดฉัน นายตายในคุกแน่”
คนของมิคาอิลประคองเมทินีลงไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางแบบย่อมๆสองใบ เขมชาติขับรถออกไปโดยทันที
ประตูทางเข้าภายในแอร์พอร์ท ตำรวจสองนายยืนห่างกันก่อนเข้าประตูกำลังมองมือถือของตัวเองภาพในมือถือเป็นภาพขอบคนของมิคาอิลที่เจตรินแอบถ่ายและส่งมาให้ ตำรวจคนหนึ่งมองไปเบื้องหน้าเห็นคนของมิคาอิลโอบกอดเมทินีราวกับรักใคร่มากมาย เมทินีไม่มีอาการขัดขืนแต่ดูเอ๋อๆเหม่อลอยคนของมิคาอิลลากกระเป๋ามาด้วย ตำรวจหันไปส่งสัญญาณให้เพื่อนตำรวจอีกคนที่ยืนตรงประตู ตำรวจคนนั้นพยักหน้ารับ ส่งสัญญาณตอบ
เจตรินกับอีริน่าสองคนทำตัวมิดชิดยืนสังเกตการณ์อยู่ อีริน่ากระซิบ
“สองคนนั่นเดินมาแล้ว”
“ใช่ ทำไมคุณเมดูสงบเงียบไม่อาละวาด”
“มันคงเอายาเลวๆอะไรบางอย่างให้เธอกิน หรือไม่ก็ฉีดให้เธอตามความถนัดของพวกมัน”
“น่าอายเหลือเกินสำหรับคนไทยที่ไปให้ความร่วมมือทำชั่วแบบนี้”
“ผู้ชายคนที่มาทักอีริน่า แล้วเรียกชื่ออีริน่าถูกคนนั้นค่ะ เขาพาคุณเมมาขายให้มิคาอิลและเสี่ยสามคนนั่น”
“มารสังคมแท้ๆ ดูนั่น สองคนเข้าใกล้กองปราบนอกเครื่องแบบแล้ว”
“คนไหนคะ อีริน่าดูไม่ออก”
“อดใจรออีกไม่กี่วินาที ดูออกแน่”
เจตรินโอบอีก อีริน่าปัด แต่เขายิ่งกอดกระชับแน่น
คนของมิคาอิลพาเมทินีมาถึงหน้าตำรวจกองปราบคนหนึ่งที่ทำตัวเหมือนคนมาขึ้นเครื่องบิน สองคนผ่านหน้าเข้าไป ตรงไปยังตำรวจกองปราบอีกคน พอถึง ตำรวจกองปราบก็ยืนขวางไว้ทันที
“ขอเชิญไปคุยกันที่สถานีตำรวจ”
คนของมิคาอิลตกใจ
“อะไรนะ”
คนของมิคาอิลหันไปหาทางหนีทีไล่ กลับเจอตำรวจกองปราบอีกคนยืนประกบด้านหลัง
“คุณถูกจับ ข้อหาลักพาตัวผู้หญิงคนนี้”
“ไม่จริง”
คนของมิคาอิลอึ้งจะชักมีดอออกมาจี้เมทินีอีก แต่โดนตำรวจกองปราบทั้งสองล็อคตัวไว้
“ไม่มีประโยชน์ที่จะขัดขืนการจับกุม”
ตำรวจกองปราบดึงมือคนของมิคาอิลมาด้านหลังแล้วใส่กุญแจมือ ตำรวจกองปราบอีกคนโทรหาเจตริน
“คุณเจตรินครับ”
เจตรินหยิบมือถือเก็บพยักหน้าบอกอีริน่า
“ช่วยคุณเมได้แล้ว”
“ช่างง่ายดายขนาดนี้เลยหรือคะ”
“นี่แหละตำรวจไทย ถ้าตั้งใจจะจับคนร้ายละก็ง่ายดายอย่างนี้เสมอ”
“คุณเมเธอไม่ต้องไปสถานีตำรวจหรือคะ”
“นี่คือการทำกันเงียบๆ ถ้าขืนพาเธอไปสถานีตำรวจ นักข่าวอาชญากรรมจะกระพือข่าวกันไปทั่ว รู้กันหมดทั้งประเทศไทยสิ”
เจตรินจะคว้ามืออีริน่ามากุมเดิน เธอหัวเราะรีบเดินหนีไปก่อน เจตรินคว้าลม
“เรายังมีปัญหากันอยู่ ไม่สมควรทำสนิทสนมกันโดยไม่จำเป็น คนร้ายโดนจับตัวได้ แล้วเราโกรธกันต่อ…โป้ง”
“มิคาอิลมาแล้ว” เจตรินหลอก
อีริน่าตกใจกระโดดมาหลบหลังเจตรินทันที เขาจึงคว้าตัวมาโอบกอดไว้แล้วเดินซุกกันออกไป เจตรินยิ้มมีความสุข
รถกองปราบเป็นรถตู้ไม่แสดงว่าเป็นรถตำรวจ...คนของมิคาอิลถูกพาขึ้นไปนั่งบนรถ เขามีสีหน้าสงบนิ่ง ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“ไอ้เขมชาติมันหักหลังเรา”
เมทินีนั่งยืนตาลอยอยู่ข้างรถมีตำรวจกองกราบประกบอยู่ ตำรวจกองปราบอีกคนปิดประตูรถแล้วพาเมทินีเดินห่างออกมาที่อีริน่ากับเจตริน
“นี่ครับ คุณพาเธอไปได้แล้ว และขอบคุณที่แจ้งเบาะแสการค้ามนุษย์ ครั้งนี้ให้เรา”
“ผมไม่ต้องการให้เรื่องนี้เผยแพร เพื่ออนาคตของเธอคนนี้”
“แน่นอนครับ เชิญครับ”
อีริน่าจูงมือเมทินี เจตรินพยักหน้าบอก
“รอที่นี่ผมจะไปเอารถมารับ”
“เมื่อกี้ไหนว่าเห็นมิคาอิล แล้วจะยืนรอให้มันเห็นทำไม”
“ก็มันไปแล้ว” เจตรินหัวเราะ
ขาดคำมีเสียงปืนคำรามขึ้น สองคนตกใจ แต่เมทินีเฉยมาก เจตกับอีริน่าต่างพากันผลักกันและกัน ดึงเมทินีลงไปด้วย
“ระวัง”
เมทินีล้มฟุบลงในอ้อมแขนของสองคน รถคันดังกล่าวยิงมา แล้วแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว สองคนตกใจ
“คุณเม”
เช้ามืด วันใหม่...เจตรินขับรถมาจอดหน้าบ้านเมทินี
“จอดตรงนี้ค่ะ” เมทินีบอก
เมทินีนั่งเบาะหลังหน้าระทมขมขื่น ร่างกายโดนทุบตีมีแผล อีริน่าหันไปถามอย่างเป็นห่วง
“เข้าบ้านเองได้ไหมคะ”
“ได้สิ...ขอบใจมาก ขอบใจที่สุดอีริน่า ฉันขอโทษที่หลงผิดไปช่วยคนใจดำทำร้ายเธอ”
“อีริน่าเข้าใจค่ะ”
“คุณเจตคะ คุณโชคดีมากที่มีภรรยาน่ารัก จิตใจดีงามชนิดที่หาได้ยากมากในคนหนุ่มสาวสมัยนี้ หวังว่าคุณคงไม่หลงผิดไปเห็นกงจักรเป็นดอกบัวนะคะ”
เจตรินอึ้ง
“เอ้อ…ขอบคุณครับที่ชื่นชมอีริน่า เราสองคนสัญญาว่าจะไม่นำเรื่องนี้ไปปริปากที่ไหน”
เมทินีซึ้งใจ
“ขอบคุณมากค่ะ ฉันหลงผิดไป และฉันก็เสียใจในสิ่งที่ทำไป ฉันถือว่า อีริน่า และคุณมีบุญคุณที่ฉันต้องหาทางทดแทนให้ได้สักวันค่ะ”
อีริน่าเปิดประตูรถประคองเมทินีลงมา แล้วประคองไปที่ประตูบ้านกดกริ่งให้
“ระวังตัวให้มากๆนะคะ ไอ้คนที่มันลอบยิงเราที่แอร์พอร์ทนั่น ฉันมั่นใจว่ามันเจตนาฆ่าปิดปากคุณ”
“ไอ้เขมชาติ ไอ้ชาติชั่ว เธอก็เหมือนกันนะอีริน่า อารดาใจดำ ใจแคบเห็นแก่ตัวเขารักเงินของเจตรินมากกว่าตัวของเจตริน อย่าไว้ใจมัน มันร่วมมือกับไอ้พวกนี้ทำร้ายฉัน”
“อย่าเพิ่งปักใจเชื่อทั้งหมดค่ะ และขอขอบคุณที่เตือนอีริน่าค่ะ”
สาวใช้มาเปิดประตูแล้วตกใจมากที่เห็นสภาพเมทินี
“ว๊าย! คุณเม”
“คุณเมโดนคนลอบทำร้าย เธอไปหาหมอมาแล้ว และปลอดภัยแล้ว รีบพาคุณเมเข้าบ้านเถอะ”
สาวใช้อ้าปากจะพูด แต่เมทินีแว๊ดใส่
“หุบปาก”
สาวใช้หุบปากสนิท อีริน่าส่งเมทินีให้สาวใช้
เจตรินขับรถมาตามถนน
“ทีนี้ก็ถึงเวลาของเราสองคนบ้างแล้ว”
อีริน่านั่งนิ่ง
“อีริน่าจะกลับมอสโคว เพราะภารกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เสร็จสิ้นแล้ว ไปส่งอีริน่าที่แอร์พอร์ทค่ะ”
“ถ้าอีริน่าจะไปจริงๆ ผมจะไปด้วย”
“อย่ามายุ่งกับชีวิตของอีริน่า เราขาดจากกันไปแล้ว และจริงๆเราก็ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน มันก็แค่กระดาษที่คุณเอามาอ้างกับคุณดาว่าคุณแต่งงานแล้ว”
“อีริน่าฟังกันบ้างสิ ถ้าเธออยากไปหาแม่พริมเราจะไปด้วยกัน และกลับมาด้วยกัน”
“เพื่ออะไรไม่ทราบ”
“นี่อีริน่างอนผมจนลืมไปว่าพ่อของอีริน่าอยู่ที่นี่แล้วเหรอ”
“ไม่แน่หรอกค่ะ บางทีมิคาอิลอาจยกเมฆขึ้นมาเพื่อหลอกอิรีน่าก็ได้ เพราะอีริน่ายังไม่ได้เห็นปาปากับตา”
“แต่ผมเห็น”
อีริน่าตกใจมาก
“ไม่จริง”
“จริงแน่นอน”
“คุณเห็นปาปาที่ไหน”
“ในโรงแรมก่อนที่เราจะมาที่แอร์พอร์ท เขาเดินมากับมิคาอิล”
อีริน่ามองเจตริน นึกถึงตอนที่เขาโอบเธอแล้วเคล้าเคลีย อีริน่านึกออก พยักหน้า
“นึกออกแล้ว...คุณตัวแสบ เพราะทาผิวด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน”
อีริน่าชกเจตรินที่แก้มข้างซ้ายที่หันมาทางเธอ
“โอ๊ย! มาทำร้ายร่างกายกันทำไม”
“มาหลอกล่วงเกินกันยังไม่พอ ยังปิดบังอำพรางเรื่องของปาปา คุณก็รู้ว่าอีริน่าอยากเจอปาปาใจแทบขาด”
“ถ้าเจอตอนนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น วุ่นวายแน่ๆ ผมถึงเงียบไม่บอก แล้วเราจะช่วยกันสืบหาว่าแก๊งของพวกมันอยู่ที่ไหน ไม่ยากหรอก อย่างน้อยวันนี้นายรัสเซียคนนั่นต้องเปิดปากบอกอะไรตำรวจได้บ้าง แล้วเราจะได้เบาะแสของพ่ออีริน่า”
อีริน่าเงียบไป
คนของมิคาอิล ถูกนำมาสอบปากคำ
“ผมไม่มีอะไรพูด”
“คุณแก้ตัวไม่ได้หรอกนะ หลักฐานและพยานตำตาอยู่ชัดเจนมาก”
“ใครสั่งให้คุณทำ...เพียงถ้าคุณบอกให้เรารู้เราจะกันคุณไว้เป็นพยาน”
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 8 (ต่อ)
ในเซฟเฮาส์...มิคาอิลสั่งทุกคน
“ในฐานะที่ฉันเป็นสายลับเก่า และฝึกฝนพวกนายมานานพอสมควร พวกนายทุกคนยอมรับข้อบังคับของฉันแล้วว่าถ้ามีเหตุการณ์คับขันถูกบีบบังคับให้เปิดเผยความลับของเรา พวกนายสมควรทำยังไง”
ทุกคนตอบพร้อมเพรียง
“เข้าใจ”
มิคาอิลพยักหน้า
“ดีมาก ขอบใจ ขอให้รักษาสัญญาให้มั่นคง ถ้าใครผิดสัญญา ลูกเมียครอบครัวต้องตายอย่างทรมาน”
ตำรวจกองปราบกำลังสอบสวน คนของมิคาอิลหันมาบอก
“ผมอยากดื่มกาแฟ”
“ตกลง” ตำรวจพยักหน้าให้
เจตรินมาจอดรถหน้าบ้านยังไม่เข้าไป มองหน้าอีริน่าที่หม่นหมอง
“แม่พริมปลอดภัยแล้ว เพราะอยู่กับมาดามแคทเทอรีน แต่ปาปาของ อีริน่าสิตกอยู่ในอันตราย เพราะอยู่ในเงื้อมมือคนชั่วอย่างมิคาอิล อีกไม่นานเราคงได้รับข่าวจากกองปราบเรื่องชายคนนั้น และตามรอยปาปาของอีริน่าได้”
“ค่ะ! แต่อีริน่าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ทุกคนเกลียดอีริน่า ยกเว้นแหววกับป้าศรี”
“มีผมรวมด้วยอีกคน ส่วนคุณแม่กับน้องจิตรนั่นผมขอ สองคนนั่นกำลังหลงเข้าใจผิด อีกไม่นานเราจะพิสูจน์ให้ท่าน และน้องจิตเห็นว่าอะไรถูกอะไรผิด”
“แต่คุณดาเธอจ้องหาเรื่องอีริน่า และทุกคนก็เชื่อเธอ รวมทั้งคุณเจตด้วย”
“นับแต่วินาทีนี้ต่อไปผมจะไม่เชื่อใครทั้งสิ้น ผมจะถามจากปากอีริน่าก่อนทุกครั้ง...โอเคไหม...ผมกำลังพยายามทำให้อารดากลับไปบ้านของเธอสักทีด้วย”
เจตรินรวบสองมือของอีริน่ามาประกบไว้แล้วยกมาจูบแล้วเอาไปแปะไว้ที่หัวใจตัวเอง
“อีริน่าจะลองดูค่ะ แต่ถ้าคุณผิดสัญญาอีริน่าจะไปจากที่นี่ทันทีและจะไม่มีวันหวนกลับมาอีกเหมือนครั้งนี้”
เจตรินยิ้มพยักหน้า
“ขอบใจมากฮัน...”
อีริน่ามองหน้า
“ฮัน...แปลว่าอะไร...ภาษาอะไรคะ”
เจตรินรำพึงในใจ
“ฮันนี่นะสิที่รัก”
“ยิ้มอะไรคะ”
“เรามาเรียกชื่อกันและกันใหม่ว่าฮันดีไหม...ฮันมีความหมายที่ดีมากนะ...เหมาะสำหรับภรรยาสามีจะเรียกกัน...ตกลงนะ”
เจตรินเอามือไปเสยผมอีริน่าที่ตกลงมา และยิ้มสบตาส่งสายตารักใคร่ให้ อีริน่าเผลอมองตอบเข้าใจว่าฮันเป็นภาษาไทยสักคำที่ดูดีมากๆ
“ค่ะ”
“ค่ะฮันด้วยสิ”
“ค่ะฮัน”
เจตยื่นหน้ามาจะจูบหน้าผากอีริน่า เสียงแตรรถมาจากด้านหลังบีบดังสนั่นไปหมด เจตรินสะดุ้งไม่พอใจหันไปมอง...นิกกี้เป็นคนขับรถคันหลังกดแตรรถอย่างหงุดหงิด
“บ้าเอ๊ย! จู่ๆจะมาเล้าโลมดมหน้าผากกันหน้าบ้านให้บาดตาบาดใจใครๆเขา ไม่รู้หรือว่านิกกี้อิจฉาตาเดือดพล่าน”
นิกกี้ตกใจมากเมื่อเห็นเจตเดินตรงมาที่รถ
“มีปัญหาอะไรหรือนิกกี้”
“คุณเจตริน...มีเอ๊ย...ไม่มีปัญหาครับ...คือผมหูตาฝ้าฟางจำไม่ได้ว่าเป็นรถของคุณเจต...ขอโทษมากๆครับ”
“จะเข้าไปในบ้านใช่ไหม”
“ครับผม”
“ตามผมมา”
เจตรินเดินกลับไป นิกกี้พ่นลมหายใจออกอย่างแรง
“เกือบไปแล้วไหมเรา...ดันบีบแตรด่าเจ้าของบ้าน...แหมก็คนมันอิจฉานี่ อีริน่านะอีริน่าไม่รู้หรือว่านิกกี้อยากเห็นหน้าจะเป็นจะตาย”
นิกกี้ขับรถเคลื่อนเข้าบ้านเจตริน
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ จิตรดารา อารดา กำลังกินอาหารเช้าที่โต๊ะอาหารริมสระน้ำ หวินกับสมรคอยดูแล ทั้งสามไม่พอใจเสียงบีบแตรดังมากและดังนาน
“ไอ้บ้าอีบอที่ไหนมาบีบแตรดังขนาดนี้ นังหวิน นังหมอน...ใครก็ได้ช่วยออกไปด่ามันให้ทีสิ” คุณหญิงสั่งอย่างหงุดหงิด
อารดาเสริม
“นั่นสิคะ...คนดีๆที่ไหนใครเขาจะมาบีบแตรใส่หน้าบ้านคนอื่นแบบนี้ ด่าอย่างเดียวไม่พอไล่มันเลย”
“โอเค...หวินจัดเต็มให้ค่ะ”
“ด่าเช็ดไปถึงบรรพบุรุษ”
หวินกับสมรถลาออกไป จิตรดาราเรียกไว้
“เดี๋ยว! ถ้าเกิดคนที่พวกแกอยากด่าอยากจัดเต็มถึงบรรพบุรุษเป็นแขกบ้านนี้ แกจะยอมให้ฉันด่าแกกลับไหม สาระแนไม่เข้าเรื่อง จิตไปดูเองค่ะ เพราะคนชอบบีบแตรแบบนี้...เอ้อ...”
คุณหญิงกับอารดาโพล่งออกมาพร้อมกัน
“นายนิกกี้”
จิตรดารารีบเดินออกไป อารดาแอบพยักหน้าให้หวินกับสมรรีบตามไป คุณหญิงกับอารดามองหน้ากัน
“ไม่มีสมบัติผู้ดี สู้คุณพงษ์ธรไม่ได้เลยใช่ไหมจ๊ะหนูดา”
อารดาแอบยิ้มเยาะ
“ค่ะ”
รถของเจตรินมาจอดหน้าตึก รถของนิกกี้ตามมาติดๆ แหววกับศรีวิ่งมาดูว่าใครมากันแน่ เจตรินลงมาจากรถ ศรีชะงัก
“คุณเจต”
เจตรินเดินมาเปิดประตูรถให้อีริน่าที่ไม่ยอมลงมาง่ายๆ อีริน่าลงมาจากรถ แหววกระโดดตัวลอย
“ไชโย คุณอีริน่ากลับมาแล้ว”
จิตรดาราเดินพรวดๆมาเพื่อจะมาดูว่าใช่นิกกี้หรือเปล่า แต่แล้วก็ตะลึง เจตรินเดินจูงมืออีริน่า
“พี่เจต...อีริน่า”
หวินกับสมรตื่นเต้นมาก
“มันกลับมาแล้ว”
หวินกับสมรหันกลับรีบเดินกลับเพื่อไปรายงานอารดากับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์แต่เจอเท้าสองคู่ของแหววกับศรีสกัดล้มกลิ้งทั้งคู่
“ว๊าย”
หวินกับสมรรีบลุกขึ้นใหม่ แล้วเดินออกไปเร็วมาก แหววกับศรีแอบหัวเราะเยาะ นิกกี้เดินพรวดมา แสร้งชนผ่ากลางระหว่างเจตรินกับอีริน่า
“คุณอีริน่าครับ”
“นิกกี้”
จิตรดาราเข้าไปกระชากแขนนิกกี้ออกมาโดยเร็ว ตบบ๊องหูนิกกี้ด้วย เจตรินควงแขนอีริน่า
“อีริน่าจ้ะ เราไปที่ห้องของเรากันเถิดจ้ะ”
“แหววจะตามไปรับใช้นะคะ”
แหววกับศรีมองตามปลื้ม
หวินกับสมรเซซังพรวดๆเข้ามาหาอารดากับคุณหญิงศรินทิพย์ หน้าตาตื่นเต้น มือก็ชี้ไปทางหน้าบ้าน
“มันมาแล้วค่ะ มันมาแล้ว” หวินละล่ำละลักบอก
“มันมากับคุณเจตค่ะ” สมรเสริม
“มันไหน” คุณหญิงงงๆ
“มันอะไรของพวกแก” อารดาตวาด
“มันติดเหงือก เผือกติดฟันค่ะ นังอีริน่าค่ะ” หวินบอก
อารดากับคุณหญิงอึ้ง
“ต๊าย”
“มันไม่ตายค่ะ” สมรแย้ง
“มันเดินจูงมือมากับคุณเจตลงมาจากรถ ตอนนี้อาจมีจูงต่อไปที่ห้องนอน” หวินรายงาน
อารดากรี๊ดทันที คุณหญิงเอามือปิดหู
“ไปดูให้เห็นกับตาเถิดหนูดา อย่ามัวมาแปลงกายเป็นเปรตร้องลั่นอยู่แบบนี้สิจ้ะ”
คุณหญิงเกิดนึกอยากกัดอารดาขึ้นมาเพราะชักไม่ชอบหน้า
“อ้าว! โกรธนังอีริน่าแล้วอย่ามากัดดาสิคะ”
หวินกับสมรหมอนอึ้งๆ
“โห! แรงส์”
คุณหญิงชักสีหน้าเริ่มไม่พอใจอารดามากขึ้น เพราะตอนนี้อารดาเป็นต่อเรื่องเอกสารฮั้วประมูล
จิตรดาราลากนิกกี้มาต่อว่าที่มุมหนึ่งของบ้าน
“นิกกี้ทำไมทำตัวบุ่มบ่ามไม่เป็นผู้ดี ถ้ามีเงินแล้วทำแบบนี้ คุณหญิงแม่จิตท่านไม่พอใจ ท่านสั่งให้จิตเลิกรากับนิกกี้รู้ไหม”
“รู้แต่ไม่สนใจ ไม่เดือดร้อน สมัยนี้เขาเป็นผู้ดีกันที่มีเงิน แล้วที่นิกกี้มานี่ก็อยากมาหาอีริน่าต่างหาก ไหนไหนเราสองคนก็ถึงไหนถึงนั่นกันแล้วเรามาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมันไม่แหร่มกว่าหรือจิต จิตไม่ปลื้มนิกกี้แล้ว แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ ไหนได้ยินว่าคุณหญิงแม่อยากจะเขี่ย อีริน่าให้กระเด็นจากคุณเจต ทำไมไม่ให้นิกกี้ช่วยเป็นสะพานเชื่อมต่อ จะได้สมใจหมายกันทั่วหน้า”
จิตรดาราคิดอะไรบางอย่างออก
ในห้องสอบสวน...ตำรวจวางกาแฟลงตรงหน้าคนของมิคาอิล
“ทำไมไม่รีบดื่มกาแฟแล้วตอบคำถามเรา ว่าใครอยู่เบื้องหลังคุณ”
“แล้วคุณจะปลอดภัยได้กลับมอสโควไปเงียบๆ”
คนของมิคาอิลตัดสินใจหยิบเอาอะไรบางอย่างเป็นซองออกมากอง ตำรวจคนหนึ่งคว้ามือหมับ
“น้ำตาลสำหรับคนเป็นเบาหวาน ผมพกติดตัวเอาไว้เสมอ”
ตำรวจมองหน้าเพื่อนตำรวจอีกคนที่พยักหน้าให้ คนของมิคาอิลแกะซองน้ำตาลสำหรับเบาหวานแล้วเทใส่ในกาแฟยกขึ้นดื่มอย่างใจเย็น ตำรวจสอบสวนต่อ
“ทีนี้บอกได้หรือยัง”
คนของมิคาอิลพยักหน้า
“ไว้รอบอกชาติหน้าเถิด”
“เอ๊ะ”
ตำรวจตกใจเมื่อคนของมิคาอิลตาเหลือกลาน เอามือกุมคอ น้ำลายฟูมปาก ตำรวจทั้งสองตกใจ
“ฆ่าตัวตาย”
ตำรวจพยายามจะจับคนของมิคาอิลเพื่อช่วยเหลือ แต่เขาส่ายหน้าพยายามบอกออกมา
“กฎของพวกเรา ยอมตายไม่ยอมเปิดเผยความลับ”
คนของมิคาอิลล้มตึงลงไปตาเหลือกค้างตาย ตำรวจเซ็ง
“บ้าจริง”
เจตรินรับโทรศัพท์จากตำรวจกองปราบแล้วตกใจมาก
“เขาฆ่าตัวตายไม่ยอมเปิดเผยความลับ”
อีริน่าร้อนใจ
“แล้วจะตามหาปาปากันยังไงคะ”
อารดาเดินนำหน้าคุณหญิงศรินทิพย์ปราดมาถึงมาผลักอกอีริน่า
“แกกลับมาทำไม ไหนว่าไม่มาที่นี่อีกแล้ว”
“ก็ตั้งใจว่าจะไม่มา แต่ช่วยไม่ได้ ฉันคือภรรยาผู้เชื่อฟังสามี สามีบอกให้มา ฉันก็มา”
“โทรตามให้เจตไปรับ หรือว่ามาเองไม่ทราบ” คุณหญิงถามอย่างเหยียดหยัน
เจตรินสวนขึ้น
“ผมตามหาอีริน่าจนเจอเองครับ ผมอ้อนวอนให้เธอมาครับคุณแม่”
“ไปไม่ลา กลับมาแถมทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เห็นหัวผู้ใหญ่กันเลยใช่ไหม”
“ผมตั้งใจจะพาอีริน่าไปกราบคุณแม่อยู่แล้วครับ แต่เราสองคนเพิ่ง เอ้อ...กลับมาเหนื่อยๆ”
อารดาหน้าตื่น
“ต๊าย! ไปเหนื่อยอะไรกันมาไม่ทราบ”
อีริน่าสวน
“เหนื่อยใจค่ะ เพราะไปเจอคนใจทรามทำร้ายได้แม้กระทั่งเพื่อนรักของตัวเอง”
เจตตรินสะกิด อีริน่าก้มลงนั่งพนมมือกราบที่เท้าคุณหญิง
“ว๊าย...ทำอะไรน่ะ”
“กราบเท้าขอโทษคุณหญิงที่อีริน่าทำอะไรให้ไม่พอใจค่ะ”
อารดากระซิบ
“คุณแม่ขา ไล่ไปมันเถิดค่ะ ลางร้ายมาแล้วเห็นๆ หายนะจะมาเยือนเอานะคะ”
คุณหญิงกระซิบตอบ
“ใจเย็นไว้ก่อน อย่าผลีผลาม เพราะถ้าเจตเข้าข้างมันขึ้นมาละก็ หนูดาจะไปไม่เป็น” คุณหญิงรำพึงในใจ...เรื่องอะไรจะยอมเชื่อแกอีกนังงูเห่า...
จิตรดาราเข้ามายิ้มให้เจตริน และอีริน่า
“ดีใจนะที่เธอกลับมา คุณแม่ขา จิตมีอะไรจะปรึกษาค่ะ แต่พี่ดาไม่เกี่ยว”
จิตรดาราดึงมือคุณหญิงออกไป อารดามองตามไม่พอใจมาก เจตรินพาอีริน่าเข้าห้องไป อารดาหงุดหงิดมาก
“อีแก่นั่นมันร้ายนัก มันไม่พอใจที่เราเป็นต่อเรื่องเอกสารที่คุณพ่อมีอยู่ดีละ...ยังไงซะแกก็ต้องบังคับเจตให้แต่งงานกับฉันให้ได้”
อารดายิ้มร้าย
ริมสระ...นิกกี้ยกมือไหว้ขอโทษคุณหญิงศรินทร์ทิพย์
“ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมด้วยที่สมบัติผู้ดีของผมมีแค่เงิน แต่ไม่มีกิริยามารยาทประจำกายของผู้ดี ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเตี่ยผมบอกว่า ผู้ดีอยู่ที่ใจไม่ใช่แค่กิริยาดีเท่านั้น เพราะมันจอมปลอม เสแสร้ง ดัดจริตจนถึงขั้นวิตถารครับ แต่ถ้าคุณหญิงแม่ต้องการให้ผมดัดจริตผมจะทำ”
“ไม่ต้องมาชักแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยาย ในเมื่อเธอก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาเป็นเขยของฉัน ก็ทำตัวให้เป็นตัวของตัวเองตามสบาย”
จิตรดาราเสริม
“คุณแม่หมายความว่า...นิกกี้อยากได้อีริน่าก็ไม่ว่ากัน”
“คุณแม่...ผมยินดีมากครับ ผมอยากได้อีริน่ามาเชยชมให้สมอุรา ฟ้าเบิกบานมากครับ”
“ฉันไม่เกี่ยวนะ เรื่องของเธอเองทั้งนั้น อยากทำอะไรก็ทำ”
“จิตจะสนับสนุนนิกกี้เอง”
“ต่อไปนี้อนุญาตให้เธอมาเช้าเย็น มาตามสบาย สบช่องเมื่อไหร่ก็เรื่องของเธอ”
นิกกี้ดีใจสุดๆ
“คุณหญิงแม่”
“ฉันไม่ชอบเยิ่นเย้อกับพวกผู้ดีไม่มีกิริยา เธอกับลูกจิตจัดการกันเองตามสบาย อย่าให้กระโตกกระตากจำไว้”
นิกกี้ดีใจมาก จิตรดารายิ้ม คุณหญิงก็ยิ้มพอใจ...อารดาที่แอบฟังอยู่ยิ้มโล่งใจ
“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง หลงไม่พอใจอีแก่”
จิตรดารากับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์คุยกันต่อเงียบๆ เบาๆ คุณหญิงบอกเรื่องอารดาจะแบลคเมล์ จิตรดาราตบอกผาง
“ต๊าย นังงูเห่าสารพัดพิษ ทีแรกจิตก็โอเค เพราะเห็นว่าเป็นลูกสาวเพื่อนเลิฟของคุณแม่ แต่ดูไปดูมามันจะมาเกาะตระกูลเราเชิดหน้าชูตาลบล้างความคดโกงของพ่อมัน”
“แม่มันนั่นแหละตัวดี อีเพื่อนตัวแสบ ตอนมันตายแม่สวดมนต์ให้มันขึ้นสวรรค์ ตอนนี้แม่สาปแช่งให้มันลงนรกทุกค่ำคืน มันหักหลังแม่ มันเอาหลักฐานนั่นมาแบลคเมล์แม่”
“ดีค่ะ ทำตามแผนเรา แสร้งทำกับนังอีริน่า ทำยอมๆนังอารดาไว้แล้วตัดตอนมันที่ละคน”
สองแม่ลูกยิ้มกอดกันอิ่มเอม...อารดาแอบฟังอยู่ยิ้มร้าย
“มันไม่ง่ายอย่างที่แกสองคนแม่ลูกวางแผนหรอกสำหรับตัวฉัน แต่มันคงง่ายมากสำหรับนังอีริน่า ดีละฉันจะร่วมมือกับพวกแกเรื่องนังอีริน่า”
อีริน่าใส่เสื้อผ้าของเจตรินตัวหลวมโคร่งเคร่ง เจตรินจับตัวเธอส่องกระจกหัวเราะกันสนุกสนานมาก
“ตลกมาก แต่ก็น่ารักดี ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปหาซื้อใหม่”
ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงเคาะห้อง
“ลูกเจต อีริน่า มากินข้าวกลางวันกันได้แล้ว”
สองคนมองหน้ากันตกใจมาก
“อีริน่าฟังผิดไปไหมคะ คุณหญิงเรียกอีริน่ากินข้าว”
“ไม่ผิดหรอกอีริน่า คุณแม่ท่านไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ผมดีใจนะไปกันเถิด”
เจตรินโอบอีริน่าเดินออกไป
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ชี้บอกอีริน่าให้มานั่งใกล้ๆตนเองที่โต๊ะอาหาร
“อีริน่ามานั่งใกล้ๆกันสิ”
"ถ้าอย่างนั้นฉันขอนั่งใกล้เธอด้วยอีกคน” อารดารีบบอก
“ดีค่ะ...เดี๋ยวนิกกี้ก็จะมากินด้วยอีกคน จิตนั่งข้างนิกกี้กับพี่เจตก็แล้วกัน”
นิกกี้เข้ามาพอดีไหว้ทุกคนรอบทิศ ทุกคนนั่งกินอาหาร อีริน่านั่งตรงกลาง สาวใช้ทั้งสองฝ่ายแอบซุบซิบกันเอง และดูแลนายของตนเอง อารดากะแกล้งอีริน่า คุณหญิงก็กะแกล้งอีริน่าแบบเนียนๆเช่นกัน
“อีริน่ารู้จักนิกกี้แล้วใช่ไหม ได้ยินว่าเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย”
อารดาแทรก
“อีริน่าเขาเปิดเผยนี่คะ คบหาสมาคมได้ทั้งนั้น ดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่ค่ะ”
อีริน่าขัดขึ้น
“แต่ยังไม่เคยมีใครเห็นแม่ของอีริน่าสักคนนอกจากคุณเจต”
“คุณแม่ของอีริน่าเป็นกุลสตรีไทยแท้มากกว่าคนไทยหลายคนที่นี่เลย นะครับคุณแม่” เจตรินบอกเรียบๆ
“แม่เชื่อจ้ะ” คุณหญิงยิ้มบางๆ
“ขอบพระคุณมากค่ะคุณหญิง” อีริน่าไหว้
อารดาสุดทนฟัง หันไปสั่งหวินกับสมร
“ช่วยเอาแกงเผ็ดนี่ไปอุ่นให้เดือดด้วย ฉันชอบกินอาหารร้อนมากๆ”
หวินกับสมรรับคำ
“จัดให้ค่ะ”
แหววกับศรีมองหน้ากัน แหวนกระซิบ
“วันก่อนยังด่าเรา หาว่าจะฆาตกรรมเอาของร้อนมาให้กิน”
อารดายิ้ม นิกกี้ตักอาหารข้ามหน้าข้ามจานทุกคนมาให้อีริน่า
“ปลาทอดครับ”
นิกกี้เอาช้อนส่วนตัวมาตักให้อีริน่า พอตักให้เสร็จก็เอาช้อนมาเลียแผล่บๆ คุณหญิงเบือนหน้าหนี จิตรดาราวางหน้าไม่ถูก เจตรินทำหน้าเฉยๆ อีริน่าทำไม่รู้ไม่ชี้
“ขอบคุณมากค่ะ”
อารดาทำท่ารังเกียจ
“แหวะ”
ในเซฟเฮาส์...มิคาอิลบอกเขมชาติ
“คุณต้องรีบเก็บผู้หญิงคนนั้น มันรู้ความลับของเรา”
“ผมจัดการแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แต่พลาดไปเพราะนักการทูตนั่นมันมาช่วย”
“เก็บมันด้วย”
“แล้วอีริน่าเล่า”
นิโคลัยตื่นเต้น
“ลูกสาวผมนะ”
“ฉันไม่มีวันเก็บอีริน่าแบบให้ตายหรอก ฉันจะเก็บมาแนบกาย ฉันจะใช้แกเป็นเหยื่อล่อลูกสาวแกออกมาเจอแก แล้วฉวยโอกาสฆ่าไอ้ผู้ชายนั้น ทิ้งซะ”
“ไม่นะอย่าทำอย่างนั้น ได้โปรดฉันขอร้อง” นิโคลัยอ้อนวอน
“แกบ้าไปแล้วหรือ ตั้งแต่ฉันกลายเป็นเจ้านาย เป็นเจ้าหนี้ เป็นเจ้าชีวิตแกแกเคยขอร้องอะไรฉันสำเร็จสักครั้งไหม”
“แต่ฉันจะไม่ทำร้ายลูกตนเองเด็ดขาด”
มิคาอิลพยักหน้ากับสมุน
“ดี ให้มันรู้กันไป”
สมุนลากนิโคลัยที่ดูอ่อนแอมากแล้วมาหา มิคาอิลชกหน้าชกท้องเตะต่อยแล้วหันมาถามเขมชาติ
“จะร่วมสนุกกันสักหน่อยไหม”
“ไม่เลว” เขมชาติหันไปบอกเอื้อ “เฮ้ยเอื้อมาช่วยกันสนุกหน่อยไหม”
เอื้อส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับ เชิญคุณเขมตามสบายครับ”
เขมชาติกับมิคาอิลซ้อมนิโคลัยอย่างเมามัน นิโคลัยเลือดไหลโซก
“ไปเอาอาหารวิเศษมาให้มันสยบฉัน”
สมุนเอาเข็มฉีดยามาส่งให้ มิคาอิลส่งต่อให้เขมชาติ
“ลองดูว่ามันสะใจแค่ไหนที่ได้ทำให้มันกลายเป็นทาสของเรา”
เขมชาติยิ้มรับเข็มยามาฉีดให้นิโคลัยที่พยายามดิ้นรนปฏิเสธ แล้วนิโคลัยก็เงียบไป
นิกกี้เคี้ยวอาหารจ๊อบแจ๊บดังลั่น คุณหญิงศรินทร์ทิพย์พะอืดพะอมสบตาจิตรดาราที่ยักคิ้วให้
“อาหารอร่อย”
นิกกี้เคี้ยวตุ้ยๆ เอาช้อนตัวเองจ้วงลงในจามแกงจืดแล้วยกมาซดดังซูดๆ หวินกับสมรพากันยกชามแกงจืดอีกชามมา
“มาแล้วค่ะ แกงจืดร้อนๆเดือดๆ ปุดๆค่ะ”
“ระวังนะคะ มันร้อนมาก”
สองคนพรวดไประหว่างทางที่อีริน่ากับอารดานั่งอยู่
“เอามาวางไว้ ฉันไม่กล้ารับมันร้อนมาก”
หวินกับสมรสบตากัน หวินยกชามแกงจืดยื่นไปอารดาเพื่อให้แกล้งปัดแบบผลักๆใส่อีริน่า ขณะที่อีริน่าทำผ้าเช็ดปากตกพอดี
“อุ๊ยผ้าเช็ดมือตก ขอประทานโทษค่ะ”
น้ำแกงจืดที่ดาปัดกระเด็นข้ามไปใส่คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ทันที
“ว๊าย”
ถ้วยยังไม่ทันหกดีแค่หกไปบ้าง นิกกี้ยืนจานข้าวของตัวเองมารองรับชามแกงจืดไว้
“เก่งจังเลยนิกกี้” จิตรดาราชม
อีริน่าโผล่มาจากการเก็บผ้าพอดี นิกกี้ผงะ
“เฮ้ย”
นิกกี้เบนชามแกงจืดไปเทใส่ทางอารดาเต็มๆแบบเทใส่หัวไปเลย
“ว๊าย...โอ๊ย”
วงอาหารแตกฮือ แหววกับศรีแอบหัวเราะเอามือปิดปาก คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจิตรดาราสบตากัน อีริน่าตกใจมากรีบจะช่วยอารดา
“นี่คะน้ำล้างสิคะ มันร้อนมากนะคะ”
อารดากลับตบหน้าอีริน่าฉาด เจตรินตกใจ
“อารดา”
อารดาโวยวาย
“แกแกล้งฉัน เจตขาช่วยดาด้วย ดามองไม่เห็นน้ำแกงมันร้อนมันแสบพริกไทยค่ะ”
เจตรินพยักหน้า
“สมร หวิน จัดการดูแลคุณดาสิ มัวยืนงงอยู่ทำไม”
สองคนจึงจำใจพาอารดาออกไป จิตรดารหันไปกระซิบนิกกี้
“ขอบใจมากนิกกี้ทำดีจริงๆ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ได้โอกาสหันมาบอกเจตริน
“เจตวันนี้ที่ออฟฟิศมีประชุมพิเศษ แม่ขอตัวเพราะไม่ค่อยสบาย ลูกไปประชุมกับพวกกรรมการอื่นๆนะลูก”
“ครับ โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ไม่อย่างนั้นผมไปไม่ได้ อ้อ ผมต้องพาอีริน่าไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ครับ”
จิตรดารารีบอาสา
“ไม่เป็นไรค่ะจิตอยู่ทั้งคน จิตจัดการเองค่ะ”
ศรินทร์ทิพย์รีบเสริม
“เงินทองมาเอาที่แม่ แม่จ่ายให้อีริน่าเองทำขวัญที่โดนตบหน้า”
อีริน่าแปลกใจ แต่ก็ไหว้
“ขอบพระคุณมากค่ะ”
จิตรดาราหันไปสบตากับนิกกี้แบบเรียบร้อยแล้ว นิกกี้ยิ้มดีใจ
อีริน่าใส่เสื้อผ้าของเจตรินตัวหลวมโคร่งเคร่ง เจตรินจับตัวเธอส่องกระจกหัวเราะกันสนุกสนานมาก
“ตลกมาก แต่ก็น่ารักดี ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปหาซื้อใหม่”
ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงเคาะห้อง
“ลูกเจต อีริน่า มากินข้าวกลางวันกันได้แล้ว”
สองคนมองหน้ากันตกใจมาก
“อีริน่าฟังผิดไปไหมคะ คุณหญิงเรียกอีริน่ากินข้าว”
“ไม่ผิดหรอกอีริน่า คุณแม่ท่านไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ผมดีใจนะไปกันเถิด”
เจตรินโอบอีริน่าเดินออกไป
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ชี้บอกอีริน่าให้มานั่งใกล้ๆตนเองที่โต๊ะอาหาร
“อีริน่ามานั่งใกล้ๆกันสิ”
"ถ้าอย่างนั้นฉันขอนั่งใกล้เธอด้วยอีกคน” อารดารีบบอก
“ดีค่ะ...เดี๋ยวนิกกี้ก็จะมากินด้วยอีกคน จิตนั่งข้างนิกกี้กับพี่เจตก็แล้วกัน”
นิกกี้เข้ามาพอดีไหว้ทุกคนรอบทิศ ทุกคนนั่งกินอาหาร อีริน่านั่งตรงกลาง สาวใช้ทั้งสองฝ่ายแอบซุบซิบกันเอง และดูแลนายของตนเอง อารดากะแกล้งอีริน่า คุณหญิงก็กะแกล้งอีริน่าแบบเนียนๆเช่นกัน
“อีริน่ารู้จักนิกกี้แล้วใช่ไหม ได้ยินว่าเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย”
อารดาแทรก
“อีริน่าเขาเปิดเผยนี่คะ คบหาสมาคมได้ทั้งนั้น ดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่ค่ะ”
อีริน่าขัดขึ้น
“แต่ยังไม่เคยมีใครเห็นแม่ของอีริน่าสักคนนอกจากคุณเจต”
“คุณแม่ของอีริน่าเป็นกุลสตรีไทยแท้มากกว่าคนไทยหลายคนที่นี่เลย นะครับคุณแม่” เจตรินบอกเรียบๆ
“แม่เชื่อจ้ะ” คุณหญิงยิ้มบางๆ
“ขอบพระคุณมากค่ะคุณหญิง” อีริน่าไหว้
อารดาสุดทนฟัง หันไปสั่งหวินกับสมร
“ช่วยเอาแกงเผ็ดนี่ไปอุ่นให้เดือดด้วย ฉันชอบกินอาหารร้อนมากๆ”
หวินกับสมรรับคำ
“จัดให้ค่ะ”
แหววกับศรีมองหน้ากัน แหวนกระซิบ
“วันก่อนยังด่าเรา หาว่าจะฆาตกรรมเอาของร้อนมาให้กิน”
อารดายิ้ม นิกกี้ตักอาหารข้ามหน้าข้ามจานทุกคนมาให้อีริน่า
“ปลาทอดครับ”
นิกกี้เอาช้อนส่วนตัวมาตักให้อีริน่า พอตักให้เสร็จก็เอาช้อนมาเลียแผล่บๆ คุณหญิงเบือนหน้าหนี จิตรดาราวางหน้าไม่ถูก เจตรินทำหน้าเฉยๆ อีริน่าทำไม่รู้ไม่ชี้
“ขอบคุณมากค่ะ”
อารดาทำท่ารังเกียจ
“แหวะ”
ในเซฟเฮาส์...มิคาอิลบอกเขมชาติ
“คุณต้องรีบเก็บผู้หญิงคนนั้น มันรู้ความลับของเรา”
“ผมจัดการแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แต่พลาดไปเพราะนักการทูตนั่นมันมาช่วย”
“เก็บมันด้วย”
“แล้วอีริน่าเล่า”
นิโคลัยตื่นเต้น
“ลูกสาวผมนะ”
“ฉันไม่มีวันเก็บอีริน่าแบบให้ตายหรอก ฉันจะเก็บมาแนบกาย ฉันจะใช้แกเป็นเหยื่อล่อลูกสาวแกออกมาเจอแก แล้วฉวยโอกาสฆ่าไอ้ผู้ชายนั้น ทิ้งซะ”
“ไม่นะอย่าทำอย่างนั้น ได้โปรดฉันขอร้อง” นิโคลัยอ้อนวอน
“แกบ้าไปแล้วหรือ ตั้งแต่ฉันกลายเป็นเจ้านาย เป็นเจ้าหนี้ เป็นเจ้าชีวิตแกแกเคยขอร้องอะไรฉันสำเร็จสักครั้งไหม”
“แต่ฉันจะไม่ทำร้ายลูกตนเองเด็ดขาด”
มิคาอิลพยักหน้ากับสมุน
“ดี ให้มันรู้กันไป”
สมุนลากนิโคลัยที่ดูอ่อนแอมากแล้วมาหา มิคาอิลชกหน้าชกท้องเตะต่อยแล้วหันมาถามเขมชาติ
“จะร่วมสนุกกันสักหน่อยไหม”
“ไม่เลว” เขมชาติหันไปบอกเอื้อ “เฮ้ยเอื้อมาช่วยกันสนุกหน่อยไหม”
เอื้อส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับ เชิญคุณเขมตามสบายครับ”
เขมชาติกับมิคาอิลซ้อมนิโคลัยอย่างเมามัน นิโคลัยเลือดไหลโซก
“ไปเอาอาหารวิเศษมาให้มันสยบฉัน”
สมุนเอาเข็มฉีดยามาส่งให้ มิคาอิลส่งต่อให้เขมชาติ
“ลองดูว่ามันสะใจแค่ไหนที่ได้ทำให้มันกลายเป็นทาสของเรา”
เขมชาติยิ้มรับเข็มยามาฉีดให้นิโคลัยที่พยายามดิ้นรนปฏิเสธ แล้วนิโคลัยก็เงียบไป
นิกกี้เคี้ยวอาหารจ๊อบแจ๊บดังลั่น คุณหญิงศรินทร์ทิพย์พะอืดพะอมสบตาจิตรดาราที่ยักคิ้วให้
“อาหารอร่อย”
นิกกี้เคี้ยวตุ้ยๆ เอาช้อนตัวเองจ้วงลงในจามแกงจืดแล้วยกมาซดดังซูดๆ หวินกับสมรพากันยกชามแกงจืดอีกชามมา
“มาแล้วค่ะ แกงจืดร้อนๆเดือดๆ ปุดๆค่ะ”
“ระวังนะคะ มันร้อนมาก”
สองคนพรวดไประหว่างทางที่อีริน่ากับอารดานั่งอยู่
“เอามาวางไว้ ฉันไม่กล้ารับมันร้อนมาก”
หวินกับสมรสบตากัน หวินยกชามแกงจืดยื่นไปอารดาเพื่อให้แกล้งปัดแบบผลักๆใส่อีริน่า ขณะที่อีริน่าทำผ้าเช็ดปากตกพอดี
“อุ๊ยผ้าเช็ดมือตก ขอประทานโทษค่ะ”
น้ำแกงจืดที่ดาปัดกระเด็นข้ามไปใส่คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ทันที
“ว๊าย”
ถ้วยยังไม่ทันหกดีแค่หกไปบ้าง นิกกี้ยืนจานข้าวของตัวเองมารองรับชามแกงจืดไว้
“เก่งจังเลยนิกกี้” จิตรดาราชม
อีริน่าโผล่มาจากการเก็บผ้าพอดี นิกกี้ผงะ
“เฮ้ย”
นิกกี้เบนชามแกงจืดไปเทใส่ทางอารดาเต็มๆแบบเทใส่หัวไปเลย
“ว๊าย...โอ๊ย”
วงอาหารแตกฮือแหววกับศรีแอบหัวเราะเอามือปิดปาก คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจิตรดาราสบตากัน อีริน่าตกใจมากรีบจะช่วยอารดา
“นี่คะน้ำล้างสิคะ มันร้อนมากนะคะ”
อารดากลับตบหน้าอีริน่าฉาด เจตรินตกใจ
“อารดา”
อารดาโวยวาย
“แกแกล้งฉัน เจตขาช่วยดาด้วย ดามองไม่เห็นน้ำแกงมันร้อนมันแสบพริกไทยค่ะ”
เจตรินพยักหน้า
“สมร หวิน จัดการดูแลคุณดาสิ มัวยืนงงอยู่ทำไม”
สองคนจึงจำใจพาอารดาออกไป จิตรดารหันไปกระซิบนิกกี้
“ขอบใจมากนิกกี้ทำดีจริงๆ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ได้โอกาสหันมาบอกเจตริน
“เจตวันนี้ที่ออฟฟิศมีประชุมพิเศษ แม่ขอตัวเพราะไม่ค่อยสบาย ลูกไปประชุมกับพวกกรรมการอื่นๆนะลูก”
“ครับ โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ไม่อย่างนั้นผมไปไม่ได้ อ้อ ผมต้องพาอีริน่าไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ครับ”
จิตรดารารีบอาสา
“ไม่เป็นไรค่ะจิตอยู่ทั้งคน จิตจัดการเองค่ะ”
ศรินทร์ทิพย์รีบเสริม
“เงินทองมาเอาที่แม่ แม่จ่ายให้อีริน่าเองทำขวัญที่โดนตบหน้า”
อีริน่าแปลกใจ แต่ก็ไหว้
“ขอบพระคุณมากค่ะ”
จิตรดาราหันไปสบตากับนิกกี้แบบเรียบร้อยแล้ว นิกกี้ยิ้มดีใจ
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 8 (ต่อ)
เจตรินล่ำราอีริน่าบอกว่าตอนเย็นเจอกัน
“ผมดีใจที่คุณแม่กับน้องจิตไม่มีปัญหากับฮันแล้ว”
“ค่ะ” อีริน่าในใจยังระแวง “เอ้อ...”
“ถ้าจะหมายถึงอารดาละก็ ผมไม่มีวันปล่อยให้เขามาทำร้ายฮันได้แน่และผมก็กำลังหาทางให้เขากลับบ้านตัวเองสักที”
“ขอบคุณมากค่ะ ขับรถดีๆนะคะ”
“เอ่ยคำว่าฮันด้วยสิ”
“ขับรถดีๆนะคะฮัน”
“ฮันก็เหมือนกันไปซื้อของดีๆนะ”
“ค่ะ”
เจตรินดึงมืออีริน่ามาจับแล้วจูบหน้าผากอีริน่า...คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจิตรดาราแอบมอง
“มันเรียกกันว่าฮัน...ฮันอะไรของมัน หรือมันจะบ้า”
“ฮันนีไงคะ ย่อสั้นๆว่าฮัน รู้กันสองคน พี่เจตหลงมันมากกว่าเดิมอีกค่ะ”
นิกกี้ทนดูไม่ได้ผวาจะออกไป
“บาดตาบาดใจทนดูพวกฮันไม่ได้แล้ว”
จิตรดารากระชากลับมา
“หยุดบ้าอย่ามาทำให้เสียเรื่องใหญ่สิ อีกไม่กี่ชั่วโมงนิกกี้ก็สมใจอยากแล้ว”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์มองหน้านิกกี้
“หวังว่าคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะนิกกี้”
“ครับคุณแม่”
อารดาเดินออกมายิ้มให้
“ดาดีใจด้วยนะคะ คุณแม่จะให้ดาช่วยวางแผนอะไรดาจัดให้ทันทีค่ะ”
“ขอบใจย่ะ...เอ๊ยจ้ะ”
“น้องจิตจ้ะ พงษ์เขาโทรหาเธอไม่ติดเขาเลยฝากบอกว่าอยากพบเธอมากเห็นว่ามีข่าวดีจะบอกเธอ”
จิตรดารายิ้ม
“ขอบคุณมากค่ะ แต่จิตต้องพานังอีริน่ามันไปซื้อเสื้อผ้าตามที่สัญญากับพี่เจต แล้วถึงค่อยให้นิกกี้รับช่วงงานต่อ”
“จะอยากอะไร เธอก็บอกให้พงษ์เขาไปรอพบที่ห้างสรรพสินค้านั่นสิ ทำให้มันเนียนๆหน่อย ยินดีด้วยนะนิกกี้พวกเราทุกคนยินดียกอีริน่าให้ ให้ขาดไปเลย อย่าให้มันกลับมาทำความเดือดร้อนรำคาญให้คุณแม่อีก”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เหน็บกลับ
“รวมทั้งเธอด้วยไม่ใช่หรือหนูดา อีริน่ามันหน้าบาง ถ้าโดนนิกกี้กระทำยำยีไปแล้วคงไม่กล้ากลับมาสู้หน้าใครที่นี่หรอก ไม่เหมือนบางคน สองผัวสามผัวยังไม่รู้สึกรู้สาว่ามันไม่เหมาะสม”
อารดาปราบตาไปมองจิตรดาราที่เมินหน้าไปทางอื่น
“จริงไหมน้องจิต” อารดายิ้มเย้ย
“แหม...พอผู้หญิงจะมีผัวสองสามคนทำมาประนาณหยามเหยียด แล้วทีผู้ชายเล่าคะ ทำไมมีทีละร้อยเมียชื่นชมกันอยู่ได้ สังคมอยุติธรรม ยังมีอีกนะคะ ผู้หญิงที่ผู้ชายเขาไม่อยากแลมองก็ดื้อตาใสจะเอาเขามาให้ได้ นั่นเขาเรียกว่า...เออ...หน้าไม่เคยสัมผัสยางอายหรือเปล่าคะ” จิตรดาราแดกดันกลับ
ศรินทร์ทิพย์แอบหันไปยิ้ม อารดาหันมาจ้องหน้า จิตรดาราเชิดใส่ นิกกี้ร้อนใจ
“ไปกันได้หรือยังครับ ผมรอไม่ไหวแล้ว”
ทุกคนจึงเลิกราไป
พงษ์ธรอยู่มุมหนึ่งในห้างสรรพสินค้ารับโทรศัพท์จากอารดา
“ดากำลังจะบอกผมว่า...ให้จัดหนักเรื่องเงินๆทองๆจากจิตรดาราใช่ไหมเยี่ยม...ขอบใจมากเพื่อนเลิฟ รับรองว่าผมชอบมาก และจะไม่ให้พลาด ผมจะสูบเลือดจิตรดาราให้มากที่สุด Thank you”
พงษ์ธรวางหูยิ้มพึมพำ
“ผมสูบได้จากทุกคนละครับ...ไม่มีละเว้นแม้แต่ดา ถ้าโอกาสมันลอยมาหา ผมคว้าทันที”
พงษ์ธรยิ้มคนเดียว
ในแผนกเสื้อผ้าสตรี...จิตรดาราพาอีริน่ามาเลือกเสื้อผ้าแต่นิกกี้เดินประกบอีริน่าหยิบให้อย่างไม่อั้นเสียเอง
“นี่ก็เหมาะ นั่นก็สวย...น้องช่วยหยิบมาให้หมดทุกแบบ”
“แต่ฉันไม่ชอบค่ะ ฉันไม่ชอบใส่อะไรแพงๆ ฉันไม่ชอบมีเสื้อผ้ามากเยอะเกินไปค่ะ”
“เอาเถิดน่าให้นิกกี้เขาเลือกๆให้ไปเถิด อันไหนไม่ชอบก็ส่งไปบริจาคสิ นิกกี้เขามีเงินให้ถลุงเยอะแยะไป”
จิตรดาราแอบสบตานิกกี้ ขยิบตาให้
“แต่อีริน่ามีเงินที่คุณหญิงท่านให้มาแล้วนะคะ อีริน่าฝากคุณจิตไว้”
จิตรดารารีบทำตามแผน
“ต๊าย! นั่น...ฉันเห็นเพื่อน ขอไปทักเพื่อนก่อนแป๊บเดียว ตามสบายนะอีริน่า”
อีริน่าอึดอัด
“เอ้อ”
“เธอควรจะเข้าไปลองเสื้อผ้านะอีริน่า”
จิตรดาราหยิบชุดส่งให้เรียกพนักงาน แล้วสบตานิกกี้อีกที อีริน่าจำใจไปลองชุด
จิตรดารามาพบพงษ์ธร เขาหอมแก้มเธอแบบรักใคร่มากมาย จิตรดาราหลงพงษ์ธรเอามากๆ
“ไม่เห็นหน้าจิตแค่ไม่ถึงวัน ใจมันจะขาดซะให้ได้ที่รัก”
“เว่อร์แล้วค่ะ ไหนคะข่าวดีของคุณ”
พงษ์ธรส่งแคตตาล็อกคอนโดหรูให้จิตรดาราดู
“เป็นคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา”
“พงษ์จะซื้อเพื่อที่จะอยู่กับจิตหรือคะ”
“แน่นอนค่ะที่รัก น่าอยู่มากเห็นไหม ผมอยากอยู่กับจิตสองคนตลอดเวลา”
พงษ์ธรเปิดภาพแต่ละหน้าให้ดู
“ขอบคุณมากค่ะ เท่าไหร่คะ”
“ห้าสิบล้าน คือมันเป็นห้องเพนต์เฮาส์”
จิตรดาราตื่นเต้น
“ดีใจจังเลยค่ะ ซื้อเลย ซื้อเลยนะค่ะ”
“ถ้าจิตอยากอยู่ทันที ผมก็จะซื้อเลย แต่...”
“อะไรหรือคะ”
“เงินของผมเอาไปลงทุนบริษัทที่ผมเป็นหุ้นส่วนใหญ่แล้วสิครับ เนื่องจากเราขยายกิจการ ทำให้ผมยังซื้อตอนนี้ไม่ได้ เอาแบบนี้ไหมคะ ใส่ชื่อจิตเป็นคนซื้อแล้วผมผ่อน พอได้เงินคืน ผมจะโป๊ะหมดเลยเป็นของขวัญที่ จิตยอมรับรักผม”
“แหม...พูดเกินไปค่ะ ดาวน์เท่าไหร่คะ”
“นี่ครับ...เราไม่ต้องเอาเงินสดดาวน์หรอกสมัยนี้ เขาใช้เครดิตการ์ดซื้อได้ทุกอย่าง เพราะเขาอยากขายของกันทั้งนั้น จิตมีบัตรบียอนนี่ครับ”
“เอ้อ...ถึงเวลาตัดบัญชีเขาจะไปตัดที่บัญชีคุณแม่ค่ะ คือจิตเป็นบัตรเสริมของคุณแม่น่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ รอไปก่อนก็ได้ เอ้อ…ผมลืมไปว่าผมมีนัดกับกรรมการบริษัท แต่พออยากเจอจิตขึ้นมาผมลืมหมดเลย ขอตัวก่อนนะครับ”
พงษ์ธรลุกแต่จิตรดาราดึงไว้
“เดี๋ยวสิคะ”
“ผมช้ามากแล้วนะครับ ผมต้องไปตอนนี้”
“ถ้าตอนนี้ เราสองไปดาวน์เพนเฮาส์กันตอนนี้เล่าค่ะ”
พงษ์ดีใจมากโผมากอดหอมจิตรดาราแอบหันไปพึมพำ
“ทำไมมันง่ายนักวะ” พงษ์ธรหันมายิ้ม “ผมจะโทรไปขอเลื่อนพวกเขา”
“แต่ยังมีบางอย่างที่จิตอยากจะขอร้อง”
“ขอได้ทุกอย่างค่ะ”
“อารดาเป็นเพื่อนสนิทของคุณมากแค่ไหนคะ”
“ก็พอสมควรเท่านั้นเองครับ”
“เขาไม่ชอบจิต คิดร้ายกับจิตเสมอ จิตอยากได้ของขวัญนี้มากกว่า จัดการให้อารดาได้พบเจออะไรร้ายๆบ้าง อารดากำลังเอาเรื่องเก่ามาข่มขู่คุณแม่และกล่าวหาพงษ์กับคุณแม่ เขาจะไม่ยอมให้พงษ์เป็นผู้จัดการแทนที่พี่จี จิตพยายามลอบบี้แต่อารดากำลังใช้วิธีสกปรกแทงข้างหลังพงษ์ นี่มันเพื่อนแบบไหนกันคะ”
พงษ์ธรคิดตามคล้อยตามไปด้วย พยักหน้ารับ
“ตกลง”
จิตรดารายิ้มหอมแก้ม พงษ์ธรรำพึงในใจ
“ผู้หญิงโง่อยากมีผัว นิสัยไม่ดีนี่เยอะแยะแท้ๆ แค่หลอกให้ตายใจมันก็โดดเข้าใส่ทันที”
พงษ์ธรยิ้ม
อีริน่ากระสับกระส่าย นิกกี้ยืนยิ้ม
“คุณจิตหายไปนานจริงๆ อีริน่าอยากกลับบ้านแล้ว”
“กลับกับผมสิครับ...ผมไปส่ง”
“แต่เรายังไม่ได้บอกคุณจิต อีริน่าอยากจะโทรหาคุณเจตแต่ลืมเอามือถือมา ขอยืมให้อีริน่าโทรหาคุณเจตได้ไหมคะ”
“บอกเบอร์ผมมา ผมต่อให้ครับ”
นิกกี้ยังไม่ทันต่อ เสียงมือถือของนิกกี้ดังขึ้น
“ฮัลโหล...จิตจะพูดกับอีริน่าหรือ...โอเค”
นิกกี้ส่งมือถือให้อีริน่ากดสปีคโฟนให้เสียงดังด้วย
“อีริน่าจ้ะ ฉันรออยู่ที่บ้านเพื่อนบนถนนสายนี้แหละ ถัดไปนิดหน่อยให้นิกกี้พามาส่งฉันนะ”
อีริน่าชะงัก
“ค่ะ...เอ้อ...แต่อีริน่าอยากกลับบ้านแล้วนะคะ”
“อีริน่า...ฉันก็อยากกลับบ้าน...พอดีเพื่อนเขาคลอดลูกชวนมาดูลูกแค่แป๊บเดียว อย่าทำให้พี่เจตไม่พอใจฉันสิว่าพาอีริน่ามาแล้วไม่พากลับ”
“ค่ะ”
อีริน่าเหมือนมีลางสังหรณ์ แต่นิกกี้ยิ้มอิ่มเอม แอบเลียปากแผล่บๆ
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์วางสายจากจิตรดารายิ้มย่องหันมาเจอหน้าอารดาที่ยื่นหน้ามามองแบบรู้ทัน
“เฮ้อ...เรียบร้อยไปสักที ว๊าย!”
“คุณแม่ดีใจที่กำจัดเสี้ยนหนามตำชีวิตออกไปได้หรือคะ”
“เสี้ยนหนามที่มันตำชีวิตแม่มันมีหลายอันจ้ะ บางที่อันที่คิดว่าไม่ใช่มันอาจจะใช่ และเป็นเสี้ยนใหญ่มากก็ได้ แต่มันแอบซ่อนรูปเอาไว้”
“ใครจะเสี้ยนใหญ่ ใครตะเสี้ยนเล็กดาไม่ทราบค่ะ แต่ที่ดาทราบคือคุณแม่ควรจะรีบทำตามสัญญา ที่เคยให้ไว้กับคุณแม่ของดานะคะ อย่ารอให้วิญญาณคุณแม่ของดาท่านเฮี้ยนขึ้นมานะคะ เอกสารอาจจะถูกเปิดเผย มันจะจบกันเลยนะคะ...ไอศูรย์ศรินทร์”
“ขู่หรือ...ทำไมหนูไม่ลองพูดกับเจตเขาเองก่อนเล่า แล้วแม่จะเป็นฝ่ายสนับสนุนให้”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ไม่พอใจอารดาอย่างมาก
ประตูรีโมทบ้านนิกกี้เปิดเลื่อนช้าๆ ตัวบ้านหลังหนึ่งดูเงียบสงบไม่มีผู้คนโผล่มาให้เห็น ไม่มีรถจอด
สักคัน รถของนิกกี้กำลังพุ่งเข้าแบบรีบร้อนมาก อีริน่าขมวดคิ้วมองไปด้านหน้าไม่สบายใจ
“ทำไมบ้านเขาดูเงียบเชียบจังเลยคะ แล้วไหนคะรถของของเพื่อนคุณจิต”
“เขาอาจไม่มีรถก็ได้ ใกล้แค่นี้บางทีเขาก็นั่งรถไฟฟ้าหรือไม่ก็นั่งแท็กซี่”
นิกกี้จอดรถแล้วลงมาเปิดประตูให้อีริน่า
“ลงมาเถิดครับอีริน่า”
“อีริน่านั่งรอคุณจิตในรถก็ได้ค่ะ”
“จะเสียมารยาทนะครับ คนไทยเข้าถือนะครับ มาถึงบ้านเขาแล้วไม่ลงมาทักทายเจ้าของบ้าน ถือว่าดูถูกกันนะครับ”
“ทำไมไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องเลยคะ”
“เด็กมีความสุขที่ไหนจะเอาแต่ร้องไห้ เด็กคงกำลังหลับน่ะ”
อีริน่านิ่งไป
เจตรินอยู่ในบริษัทกำลังพูดโทรศัพท์กับจิตรดาราสี่หน้าตกใจและแปลกใจ
“อะไรนะ! อีริน่าน่ะหรือขอไปกินข้าวกับนิกกี้ตามลำพัง เป็นไปได้ยังไง น้องจิตเอาอะไรมาพูด”
จิตรดาราพูดโทรศัพท์กับเจตรินอยู่หน้าคอนโดหรูโกหกใส่ร้ายอีริน่าเป็นชุด ขณะเดียวกันพงษ์ธรก็โอบกอดอย่างมีความสุข
“จิตก็แปลกใจค่ะ หรือว่าสองคนเคมีจะตรงกันคะ เลยเข้ากันได้ดีใช่แล้วค่ะ คงเป็นเพราะนิกกี้ช่วยอีริน่าให้รอดพ้นจากการที่พี่ดาพยายามเอาน้ำแกงเดือดๆสาดใส่หัวค่ะ แหม...ช่วยกันมากไปนิดหนึ่งนะคะ อย่างว่าล่ะคะ...เขาคงไม่เข้าใจว่าคนไทยไม่ชอบให้ผู้หญิงปล่อยเนื้อปล่อยตัวค่ะ”
จิตรดารายิ้มไปพูดไป แต่พงษ์ธรหูผึ่งเมื่อได้ยินคำว่าอีริน่า เขาพึมพำ
“อีริน่า”
“อย่ากังวลเลยนะคะ กินข้าวแล้วอาจอ้อนขอให้นิกกี้พาไปชมกรุงเทพต่อสนุกสมใจแล้วก็คงกลับบ้านเองแหละคะ นิกกี้เขาไว้ใจได้ค่ะ”
จิตรดาราตัดสายไปพงษ์ธรรีบถามทันที
“จิตรู้จักอีริน่าหรือคะ”
จิตรดาราหันขวับจ้องหน้าพงษ์ธรไม่พอใจ
“อีริน่า...เชอะ...ถามอะไร นี่พงษ์ก็ดันรู้จักอีนังอีริน่านี่ขึ้นมาอีกคนแล้วหรือคะ...อีนังนี่มันยังไง สรุปว่าผู้ชายทั่วกรุงเทพสนใจมัน รู้จักมันกันหมด มันก็อีแค่นางสาธารณะกลางเมืองที่มีไว้ให้ผู้ชายหยิบฉวยไปนอนด้วย”
พงษ์ธรรู้ว่าจิตรดาราไม่พอใจหึงหวง
“ร่ายยาวเลยที่รัก ผมก็แค่ได้ยินชื่อเธอจากเพื่อนของผม ไอ้เขมน่ะ”
“อ๋อ ต๊าย! ต้องรีบไปเตือนพี่เมแล้วว่าคุณเขมแอบรู้จักนังอีริน่า...ประเดี๋ยวเกิดไปหลงรักมัน”
“ได้ยินว่าคู่นั่นเขาพากันไปฮันนีมูนที่มอสโคว”
“หรือคะ...วันหลังเราไปกันบ้างนะคะ”
พงษ์ธรพยักหน้า
“รีบไปดูเพนต์เฮาส์ของเราเถิดครับที่รัก รักที่สุด ไม่มีอะไรเปรียบรักไปจนชาติไหนไหน”
จิตรดาราปลื้มมาก
เจตรินไม่สบายใจมากกับเรื่องที่ได้ยิน
“ไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็เป็นไปแล้ว อีริน่าทำไปเพื่ออะไร หรือว่าอีริน่าพอใจนายนิกกี้นั่นเข้าให้แล้ว ไม่นะอีริน่า ไม่จริงนะฮัน”
อีริน่าลงจากรถมายืนแล้วมองไปในบ้านไม่ไว้ใจมากๆ เธอพึมพำเบาๆ
“ทำไมฮันไม่รับโทรศัพท์ที่อีริน่าให้คุณนิกกี้โทรไปหา ฮันปิดมือถือทำไมกันคะ อีริน่าอยากให้ฮันมารับอีริน่า”
“เข้าไปในบ้านกันเถิดครับอีริน่า” นิกกี้ชวน
“เอ้อ...ทำไมไม่มีใครมาเปิดประตูให้เรา ทำไมคุณนิกกี้มีรีโมทบ้านเขา คุณกำลังทำอะไรกันแน่ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะคะ อีริน่าจะกลับ”
นิกกี้ยืนนิ่งไม่ยอมเปิด อีริน่าจ้องหน้า
“ฉันบอกให้เปิดประตู หรือว่าจะให้ฉันแย่งรีโมทนั่น”
อีริน่าปราดเข้าไปหา นิกกี้ตั้งท่าแบบมวยจีน สองคนคนสู้กันไปมา...กล้องวงจรปิดมุมหนึ่งทางด้านหน้าบ้านจับภาพนิกกี้กับอีริน่ากำลังสู้กันแย่งรีโมท ทั้งสองล้มไปด้วยกันดูคล้ายนอนกอดกันในสนาม
คุณหญิงศรินทิพย์รับโทรศัพท์จากเจตริน
“นั่นสินะ แม่เองยังแปลกใจว่าทำไมอีริน่าถึงกล้าไปกับนิกกี้ และถึงขนาดให้นิกกี้โทรมาแล้วขออนุญาตแม่เองเลยนะ แต่แม่ว่าอย่าไปมองอีริน่าในแง่ร้าย แง่ลบ แม่ว่าเราต้องคิดบวกว่าอีริน่าไม่ทำตัวสำส่อนง่ายๆหรอกนะลูก เขาไปเองเดี๋ยวก็กลับมาเองนะลูก”
อารดานั่งยิ้มดีใจ ยกมือมาปรบมือให้คุณหญิง
สองคนต่อสู้กัน พูดจากันไปด้วย
“ไอ้บ้า...แกคิดจะมากักกันฉันใช่ไหม”
“ใช่...เอ๊ย...ไม่ใช่ คือนิกกี้รักอีริน่ามาก รักมากว่าจิตรดาราเป็นไหนๆเลยเปลี่ยนใจเอาง่ายๆ”
“อีเดียด ปัญญาอ่อน พูดบ้าๆ ทำอย่างนี้เขาเรียกว่าโจรรู้ไหม”
“โจรปล้นใจมันไม่ร้ายกาจเหมือนโจรปล้นทรัพย์ ปล้นอย่างอื่นๆหรอก นิกกี้ปิ๊งอีริน่ารักอีริน่าตั้งแต่แรกเห็น เข้าไปในบ้านกันเถิด ไปเป็นแฟนของนิกกี้ มีอะไรในโลกนี้ที่อีริน่าอยากได้นิกกี้จะทูนหัวทูนเกล้าให้ทั้งหมด”
“อยากได้ความเลวร้ายของแกไปโยนทิ้งไงล่ะ ไอ้บ้า ฉันเบื่อแกมากแล้ว หยุดพูดแล้วเปิดประตูบ้านให้ฉันออกไปดีๆ หรือว่าจะให้ฉันหักขาหักแขนแก”
อีริน่าไม่พูดเปล่ากระโดดถีบเต็มแรง นิกกี้หงายแต่ชักปืนออกมา
“ยอมเป็นของนิกกี้ซะดีๆอีริน่าคนสวย”
อีริน่ากระโดดเตะปืนหลุดจากมือนิกกี้ แล้วเตะโด่งหายไปแล้วกระโดดไปนั่งคร่อมนิกกี้ชกนิกกี้ที่ใบหน้า จับมือสองข้างแบบไว้กับพื้น
“แกอย่ามาคิดเอาโง่ๆว่าฉันจะง่ายๆกับแก”
นิกกี้แพ้อีริน่าหมดรูป...อีริน่าจับนิกกี้ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงบอกเซ่อร์ แล้วชูรีโมทบ้านให้ดู แกว่งกุญแจรถไปมา
“บ๊ายบาย...ไอ้ผู้ชายบ้า”
อีริน่าเหวี่ยงกุญแจรถนิกกี้กระเด็นไปบ้านข้างๆ จากนั้นก็กดรีโมทประตูบ้านเปิดออก นิกกี้มองตามเห็นอีริน่าเดินออกไปจากบ้าน จนลับสายตา นิกกี้ดิ้นไปมา
อีริน่าเดินมาตามถนนงงว่าจะทำยังไงต่อไปดี
“เราบอกทางไม่เป็น เราไปไหนไม่ถูก นอกจากแอร์พอร์ทแล้วเราจะกลับบ้านยังไง เงินก็ไม่มี ป่านนี้ฮันคงหาว่าเราเหลวไหล คุณจิตร่วมมือกันไอ้นิกกี้นั่นแน่ๆ นี่หรือผู้ดี ทำไมใจร้ายกันนัก”
อีริน่ายืนน้ำตาซึมคิดไปคิดมา เธอพยายามเปิดกระเป๋าค้นหาอะไรบางอย่าง แล้วก็พบกระดาษแผ่นเล็กๆ อีริน่ายิ้มหยิบเศษกระดาษขึ้นมามอง เห็นเป็นบ้านเลขที่ของนายพลกันต์ กับคุณหญิงพรรณราย
“บ้านคุณอากมลกันต์”
แท็กซี่ผ่านมา อีริน่าโบก
เจตรินกลับมาที่บ้านนั่งยุ่งยากใจแต่อารดากับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์กลับนั่งยิ้มแย้ม ใจเย็น
“ผมว่าการที่อีริน่าทำแบบนี้มันมีเบื้องหลังนะครับคุณแม่”
“จะเอาอะไรกับเด็กอายุสิบแปด คบเด็กสร้างบ้านแท้ๆลูกเจต”
อารดาเสริม
“วัยรุ่นวัยซ่าก็แบบนี้แหละ ดากับคุณแม่เข้าใจอีริน่าดีแล้วค่ะ ใช่ไหมคะ คุณแม่”
“จ้ะ...ใจเย็นๆนะลูก ไม่มีอะไรหรอก ถึงมีแม่ก็ว่าช่างเถิด ปล่อยเด็กเขาไป”
เจตรินไม่ยอม ตะโกนลั่น
“ไม่ปล่อยครับ”
สองคนสะดุ้ง
“ว๊าย”
“นี่ภรรยาผมนะครับ ผมไม่ปล่อยเด็ดขาด”
สองคนเบือนหน้าไม่พอใจ เจตรินลุกเดินไป โทรศัพท์หาจิตรดารา
“ฮัลโหลน้องจิต เธอต้องรับผิดชอบ เพราะเธออาสาพาอีริน่าไป รีบตามหานายนิกกี้นั่นด่วนว่าพาอีริน่าไปกินข้าวที่ไหน ทำไมมันนานเป็นชั่วโมงขนาดนี้”
เจตรินกระแทกปิดมือถือ
จิตรดารากับพงษ์ธรเดินออกมาหน้าคอนโด จิตรดาราหน้าระรื่น พงษ์ธรได้ยินเสียเจตรินแหวๆ คำรามรอดมาแว่วๆ จิตรดาราอยากให้พงษ์ธรเห็นว่าอีริน่าเลว
“พี่เจตกำลังคลั่งใหญ่ เพราะมั่นใจว่าโดน อีริน่าสวมเขาให้แล้ว”
“จริงหรือครับ ไม่น่าเชื่อ”
“นี่คุณพงษ์ ไหนบอกว่าแค่เคยได้ยินชื่อ ทำไมถึงเชื่อว่ามันเป็นคนดีคะ”
“ผมขอโทษไม่ได้ตั้งใจ”
เสียงมือถือของพงษ์ธรสั่น เขาหยิบมามองแอบๆ เห็นตัวหนังสือหน้าจอ รออยู่นะคะ ดาหลิง จิตรดาราหันมา พงษ์ธรรีบยัดมือถือใส่กระเป๋าทันที
“ใคร”
“พวกที่ออฟฟิศน่ะสิครับ บอกให้เลิกประชุมกันไปก็ดันรออยู่ ผมขอตัวก่อน”
จิตรดารามองสงสัย แต่ก็พยักหน้าเพราะตัวเองก็อยากรู้ว่านิกกี้พาอีริน่าไปถึงไหน เธอรำพึงในใจ
“ป่านนี้นังอีริน่าเรียบร้อยนิกกี้แล้วแน่ๆ สบายใจแท้ๆ”
หน้าบ้านนายพลกันต์...อีริน่าลงมาจากแท็กซี่แล้วยิ้มแห้งๆ
“พี่ขาหนูไม่มีเงินหรอกค่ะ”
แท็กซี่ตกใจ
“เฮ้ย...”
“ไม่ต้องตกใจ เดี๋ยวหนูมีจ่ายให้แน่ๆๆค่ะ”
อีริน่าไปกดออดย้ำๆสองที...คุณหญิงพรรณรายนั่งซึมๆอยู่ในบ้าน นายพลกันต์นังอ่านหนังสือเงียบๆใกล้ๆ ได้ยินเสียงออดดัง
“ใครมา”
นายพลกันต์กดรีโมทเปิดดูจอวงจรปิดเห็นอีริน่ากำลังยืนกระวนกระวาย เสื้อผ้าเยินรุ่งริ่ง...ชะเง้อ...อีริน่าได้ยินเสียงคุณหญิงพรรณรายดังออกมาจากกล่องส่งคำพูด
“อีริน่า”
อีริน่ากดแล้วพูดตอบ
“ค่ะคุณยายอีริน่าเองค่ะ เอ้อ...อีริน่านั่งแท็กซี่มาแต่ไม่มีเงินค่ะ ร้อยห้าสิบบาทค่ะ”
“เดี่ยวยายเอาออกไปให้เอง ดีใจเหลือเกินที่อีริน่ามาหายาย”
“ขอบคุณมากค่ะ”
อีริน่าหันไปยิ้มกับแท็กซี่
นิกกี้โดนมัดดิ้นไปมาอยู่บนถนนในบ้านพยายามจะไปที่ประตูบ้าน กระเสือกกระสนจนเกือบถึง
เห็นประตูรีโมทเปิดออกมา นิกกี้หน้าตื่น
“เฮ้ย”
รถของจิตรดาราพุ่งปร๊าดเข้ามา นิกกี้โวยวายลั่น
“อย่า อย่า”
จิตรดาราขับรถเข้ามาได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ
“เสียงอะไร เฮ้ย...นั่นหมาที่ไหนมากลิ้งไปกลิ้งมา ว๊าย!”
จิตรดาราตกใจเบรกรถกะทันหัน
“นิกกี้ๆ”
นิกกี้ตาเหลือกค้าง
“โอ๊ย”
รถของจิตรดาราเบรกทันทีเกือบจะทับเอานิกกี้
อีริน่าเข้ามาในบ้าน คุณหญิงพรรณรายลูบหน้าลูบหลังรักราวกับหลานแท้ๆ
“อีริน่าของยาย”
นายพลกันต์มองส่ายหน้า ยิ้มขำคุณหญิง
“ค่ะ คุณยาย”
“หนูไปฟัดกับอะไรมาถึงดูรุ่งริ่งอย่างนี้” นายพลกันต์ถามอย่างสงสัย
“นั่นสิหลานเกิดอะไรขึ้น หรือว่านายเจตรินมันทุบตีเอายายจะบุกไปจัดการให้ถึงบ้าน ด่าแม่มันด้วย”
นายพลกันต์ปราม
“มากไปคุณหญิง”
“อีริน่าโดนหมาบ้ากัดค่ะ อีริน่าเลยกัดกับหมา ในที่สุดอีริน่าก็ชนะหมาค่ะ”
“ต๊าย! น่ากลัว” คุณหญิงตาโต
นายพลกันต์ฟังแล้วทะแม่งไม่อยากจะเชื่อ แต่คุณหญิงฟังอีริน่าพูดอะไรแล้วเชื่อหมด
จิตรดาราแก้มัดนิกกี้พามานั่งดื่มน้ำเย็นในบ้าน แล้วสองคนดูภาพจากกล้องวงจรปิด
“เธอแย่มาก แพ้นังอีริน่ามันได้ไง ไหนว่ามีกำลังภายใน เสียหายหมด ถ้าใครเห็นภาพในกล้องนี้ เธอจะอับอายไปถึงชาติหน้า”
“โธ่! ก็นิกกี้ออมมือออมเท้าไม่อยากทำร้ายอีริน่าให้หมดสวย นิกกี้นึกออกแล้ว”
“นึกอะไร”
“เราก็ตัดต่อภาพสิ ตัดต่อให้กลายเป็นว่าอีริน่าอยากมีอะไรกับนิกกี้ ปล้ำนิกกี้”
จิตรดารามองหน้านิกกี้
“เฮ้ย...นิกกี้คิดได้ไง เลวได้ใจ เลวได้โล่สุดๆ”
“ดูภาพนี้สิจิต”
ภาพในจอเป็นภาพอีริน่ากระโดดขึ้นมาทับนิกกี้จับสองมือนิกกี้ให้หงายบนพื้นถนนข้างๆ
“ภาพนี้ทีเด็ดมาก ตัดเสียงทิ้งไป ภาพก็บรรยายชัดเจนแล้ว”
จิตรดาราดีใจมาก
“เยี่ยม”
เจตรินไม่ยอมกินอาหารมานั่งซึมเงียบๆ
“เกิดอะไรกับเธอนะ ผมกำลังจะเป็นบ้าเพราะห่วงเธอ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เดินมาแอบมองแล้วยิ้มเข้าไปโอบกอดเจตริน
“ลูกรักใครแม่ก็รักด้วย ใครที่ลูกรักทำผิดพลาดไปแม่ก็พร้อมอภัยให้เขา เพราะแม่รักลูกเกินว่าจะไปทำลายความรักของลูกให้พังทลาย ถ้าหากว่าอีริน่าไปทำผิดพลาดมา แม่คนนี้รักลูกเกินกว่าจะจงชังรังเกียจเขานะ”
“คุณแม่พูดราวกับว่าอีริน่าอาจพลาดพลั้งอะไรไปแล้ว”
“แม่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่แม่กำลังพยายามทำให้ลูกมั่นใจในความรักของแม่ที่มีต่อลูก เชื่อใจแม่นะลูก ว่าแม่รักลูกเสมอ”
เจตรินซาบซึ้งในคำพูดของแม่
“ขอบคุณมากครับคุณแม่”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หอมแก้มลูกชาย เจตรินหอมแก้มตอบแม่
นายพลกันต์เตือนให้อีริน่าโทรหาเจตริน บอกให้รู้ว่าอยู่ที่บ้านนี้
“อีริน่า...หนูโทรหาเจตหรือยัง ป่านนี้เขาคงห่วงหนูมากนะ”
อีริน่างอนเจตริน
“อีริน่าโทรแล้วค่ะ แต่เขาไม่รับสาย แถมไม่โทรกลับด้วยค่ะ”
“ตอนนั้นเขาอาจไม่ว่าง แล้วหนูใช้เบอร์อะไรโทรหาเขาล่ะ ตาไม่เห็นหนูมีโทรศัพท์ติดมือมานี่น่า”
อีริน่านึกได้ ตกใจ
“จริงสิ...อีริน่าเอามือถือของ...เอ้อ...ของคนอื่นโทรค่ะ เขาอาจโทรกลับหาคนนั้นก็ได้”
อีริน่ายิ้มแห้งๆ
เจตรินนั่งคิดไปคิดมา หยิบมือถือขึ้นมาอีกทีแล้วมองเห็นเบอร์หนึ่งที่โทรมาแต่ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ของใครที่โทรมา
“นี่เบอร์ใครกันนะ”
เจตรินต่อกลับไป
“ฮัลโหล”
นิกกี้กับจิตรดารา ได้ยินเสียงมือถือนิกกี้ดัง จิตรดาราหยิบมาดูแล้วตื่นเต้น
“พี่เจตโทรมานิกกี้...แย่แล้ว”
“ไม่แย่หรอก เพราะนี่คือหลักฐานที่จะยืนยันว่าอีริน่าอยู่กับนิกกี้จริงๆ เพราะอีริน่าขอให้นิกกี้ต่อหาคุณเจตเอง แต่นิกกี้โกหกอีริน่าว่าสายไม่ว่าง แล้วรีบวางสายคุณเจต”
เสียงโทรศัพท์ยังดังอยู่ นิกกี้ยังไม่รับ
“รับสิ...แล้วรีบฟ้องพี่เจตเลยนิกกี้”
นิกกี้ยิ้มร้ายๆ
“ฟ้องด้วยคำพูดมันไม่มีผลรุนแรง แค่สะกิดต่อมโมโหเท่านั้น แต่ถ้าฟ้องด้วยภาพมันจะมีอานุภาพเท่าระเบิดไปป์บอมม์ รอให้ สายตัด แล้วเราค่อยโทรกลับไปพร้อมด้วยภาพระเบิดไปป์บอมม์”
จิตรดารายกนิ้วให้นิกกี้
“ฉลาดมากนิกกี้”
สองคนมือแปะกัน
อีริน่าถือหูค้างอยู่โทรหาเจตรินไม่ติด อีริน่าหน้าหงอยๆ
“สายไม่ว่างค่ะคุณตาคุณยาย”
“เขาอาจกำลังโทรตามหาอีริน่าอยู่ก็ได้” นายพลกันต์บอก
“ไม่ต้องโทรแล้ว...นอนมันที่นี่แหละหลาน ที่มีแต่คนรักหนูหวังดีกับหนู บ้านนั้นมันมีแต่คนใจร้าย ย้ายมาอยู่กับยายที่นี่ไปเลย”
“อ้าวคุณหญิง ไหงไปยุแบบนั้น ผัวเมียเขามิแตกกันหรือนั่น”
คุณหญิงพรรณรายทำหน้าดื้อ นายพลกันต์ส่ายหน้าขำ อีริน่ายังหงอยคิดถึงเจตรินอยากกลับไปหา
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 8 (ต่อ)
เจตรินรอฟังมือถือจนสายหยุดไปเอง
“คงไม่ใช่คนที่ต้องการต่อเรา เขาอาจต่อผิดก็ได้เลยไม่ยอมรับสาย”
นิกกี้กับจิตรดารายิ้มให้กัน
“ลุยเลยนิกกี้ ส่งคลิปตัดต่อของเธอไปเป็นชุด คำพูดไม่ต้อง ลบให้หมด”
“โอเค”
นิกกี้จัดการส่งคลิปให้เจตริน
เจตรินมองเบอร์ที่โทรมาแต่สายไม่ว่าง เพราะมัวต่อหาเบอร์อื่น
“เบอร์บ้านพี่กมล คงจะโทรมาถามข่าวเรื่องอีริน่า”
เจตยกเลิกสาย แล้วมือถือดังขึ้นอีก เขามอง
“เบอร์นั่นโทรเข้ามาอีกแล้ว”
เจตรินรับทันทีแล้วตกใจมาก
“เอ๊ะ! อะไรกันน่ะ มีใครส่งคลิปอะไรมาให้ แถมบอกรีบดูแล้วจะรู้ซึ้งถึงใจนาง”
เจตรินรีบเปิดดูเห็นภาพอีริน่ากับนิกกี้กอดกันในสนามของบ้านหลังหนึ่ง อีริน่ากระโดดขึ้นคร่อมนิกกี้ แล้วจับมือนิกกี้แบหงายวางทาบกับพื้น แล้วก้มลงไป อีกหลายภาพที่ล้วนแต่เป็นภาพคล้ายการโอบกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน เจตรินหน้าซีดขาวตกใจเสียใจไม่อยากจะเชื่อ
“อีริน่ากับนิกกี้...นี่มันอะไรกัน อีริน่าเธอทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง อีริน่า ทำไมถึงทำอย่างนี้”
เจตรินสะเทือนใจมาก
อีริน่าหงอยไม่เลิกคิดถึงเจตริน เธอรำพึงในใจ
“อีริน่าอยากกลับบ้านไปหาคุณเจต”
“อีริน่านอนกับยายนะหลาน” คุณหญิงพรรณรายชวน
“เอ้อ...อีริน่าว่าโทรไปขอคุณเจตก่อนดีไหมคะ คือเขาเป็นผู้ปกครองอีริน่าน่ะคะ”
คุณหญิงกับนายพลกันต์มองหน้ากันแบบงงๆ
“ผู้ปกครอง”
“อย่าไปคิดว่าสามีคือผู้ปกครองสิ สามีสมัยนี้น่ะช้างเท้าหลังถมไป”
“อ้าวคุณหญิง ยุให้ผัวเมียเขามีปัญหา อีริน่าต่อไปหาคุณเจตเถิดหลาน”
“ค่ะ” อีริน่าบอกเศร้าๆ
เจตรินทั้งโกรธทั้งเจ็บใจเสียใจไม่เข้าใจ และผิดหวังในตัวอีริน่า
“อีริน่า ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะกล้าทำอย่างนี้”
เสียงมือถือดังอีก เจตรินหยิบมามองแล้วกดรับข้อความ ตอนนี้นิกกี้กับอีริน่ากำลังสนุกอยู่ด้วยกัน
“บ้า”
เจตยกมือถือปาไปทันทีด้วยความโกรธ คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับอารดาเข้ามาด้วยกัน สองคนตกใจ
“ว๊าย”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หลบวูบ มือถือโดนใส่หน้าอารดาที่แก้มเต็มๆ
“โอ๊ย”
เจตรินตกใจ
“คุณแม่...ดา”
“โอ๊ย! เจตโกรธใครอยู่หรือคะ แล้วมาลงที่ดา เอาไอโฟนมาปาหน้าดาทำไม”
อารดาทำท่าจะชักดินชักงอ คุณหญิงศรินทร์ทิพย์พึมพำ
“สมควรเปลี่ยนชื่อเป็น ดราม่า”
“โอ๊ย! โหนกแก้มดาหลุดแตกหักเสียหายเสียโฉมแล้วแน่ๆ พี่เจตขา ทำไมใจร้ายกับดาขนาดนี้” อารดากระซิบคุณหญิง “คุณแม่ขาเราต้องร่วมกันดราม่า เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันค่ะ”
“นั่นสิเจต...ลูกโกรธใครน่ะ อ้อหรือว่า...โกรธอีริน่าที่ไม่ยอมกลับมา เพราะมันไปสนุกอยู่กับ เอ้อ...คือแม่พูดแล้วก็อายปาก นิกกี้เพิ่งโทรมารายงานว่าอีริน่ากำลังสนุกอยากให้พาไปท่องราตรี”
“เขาหมายถึงผับน่ะค่ะพี่เจต โอ๊ย! อยากไปเอกซเรย์ค่ะ”
เจตรินนิ่งคิดนิดหนึ่ง แล้วพยักหน้า อารดาทำท่าจะเดินไม่ไหว
“ไหวไหมครับ”
“ท่าจะไม่ค่อยไหวหรอกค่ะ”
“งั้นนั่งลงไปก่อน จะไปเรียกหมอนกับหวิน ศรีแหวว มาช่วยครับ”
“ว๊าย” อารดาพึมพำ “โง่จริง”
อารดาค่อยๆเกาะแขนเจตรินเหนี่ยวตัวซุกเข้าไปในวงแขนของเขา
“อย่างนี่ก็พอได้ค่ะ”
เจตรินถอนใจ แล้วประคองอารดาที่ยิ้มหน้าระรื่นออกไป คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หยิบมือถือที่ตกอยู่ขึ้นมาเปิดดูเห็นคลิปดังกล่าว แล้วตื่นเต้นมาก
“ต๊าย! นังอีริน่ามันสารเลว”
เสียงมือถือของเจตรินดังขึ้น เสียงอีริน่าดังมา
“คุณเจตขา อีริน่าพูด อีริน่าพูดค่ะ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ฉุนกึกด่ากลับโดยไม่ทันต้องคิด
“ผู้หญิงโสเภณียังดีกว่าแกด้วยซ้ำ...โทรมาทำไม ลูกชายฉันเขาพาคู่หมั้นที่ชอบธรรมของเขาไปเที่ยวข้างนอกแล้ว แกพอใจมีชู้ก็อยู่กับมันไปเลยอย่ากลับมาทำความเสื่อมเสียให้พวกฉันเด็ดขาด”
“อีริน่าอยู่กับคุณตาคุณยายนะคะ”
“แกโกหก”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ตัดสาย แล้วยิ้ม
“ลูกจิตจ๋าแม่ขอบใจมาก นายนิกกี้ฉันยกโทษให้กับความไม่มีสมบัติผู้ดีของนายแล้ว นายทำดีมาก นังอีริน่าแกช่างไม่รู้หรือว่าตำนานแม่ผัวลูกสะใภ้ไทยแลนด์มันสืบทอดกันมานาน และเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา แกเจอศึกใหญ่แล้วยังไม่รู้ตัว ผัวรักผัวหลงแค่ไหนเจอแม่ผัวอย่างฉัน รับรองลูกสะใภ้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หัวเราะชอบใจดีใจมาก
อีริน่าหน้าซีดใจเสียมาก น้ำตาจะหยดแต่กล้ำกลืนไว้ นายพลกันต์สังเกตได้
“เจตเขาจะมารับหนูแล้วใช้ไหมอีริน่า”
“คือ...อีริน่ายังไม่ทันพูดอะไรค่ะ...เอ้อ...”
คุณหญิงพรรณรายร้อนใจ
“แล้วยังไง นอนกับยายดีที่สุด”
“สายมันหลุดค่ะ”
คุณหญิงตะโกนเรียก
“นิ่ม นิ่ม...นิ่มออกมา”
“ค่ะ”
“ไปจัดห้องแขกให้คุณอีริน่านอน”
นายพลกันต์เตือน
“จะไม่ดีนะคุณหญิง”
“ดีมากๆ ดีที่สุด”
นายพลกันต์เงียบ อีริน่าเบือนหน้าหนีซ่อนน้ำตา
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์นั่งวางแผนจัดการอีริน่าต่อ
“ที่แท้มันก็ไปหาไอ้นายกันต์กับนังพรรณรายเพื่อนตัวแสบอีกหนึ่งรายของเรา...เราต้องไม่ทำอะไรที่ผิด เราต้องเป็นหญิงชราผู้มีเมตตาสูงส่ง ไม่โกรธ ไม่เกลียด และอภัยให้ทุกคนเสมอ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์บ่นไปก็ยกหูไปด้วย แล้วกดต่อไปที่มือถือจีรณัทย์ทันที
“ฮัลโหล...จีใช่ไหมลูก แม่อยากให้ลูกกลับบ้านมาช่วยกันตามหาอีริน่าให้เจตที อีริน่าหายไป แม่สงสารเจตมาก แม่เป็นห่วงอีริน่าด้วย”
จีรณัทย์รับโทรศัพท์ด้วยความยินดีและแปลกใจ
“คุณแม่ไม่โกรธจีแล้วหรือคะ”
“เลิกพูดถึงอดีต แม่คิดถึงจีมาก แม่นอนไม่หลับเลยสักคืนตั้งแต่จีหนีแม่ไป”
“คุณแม่ขา จีขอโทษ จีจะกลับไปหาคุณแม่ค่ะ”
“จีลองโทรไปตามหาอีริน่าที่บ้านยัยพรรณรายสิ เผื่อมันจะไปหาเขาแค่นี้นะ แม่จะรอจีกลับบ้าน”
แล้วเสียงคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ก็เงียบเชียบไป จีรณัทย์ดีใจจนน้ำตาไหล กมลกันต์ถือกาแฟเดินเข้ามาแปลกใจ
“จีเป็นอะไรไปครับ”
“คุณแม่ยกโทษให้จี ท่านอยากพบจีมากค่ะ”
กมลกันต์งงแต่ก็ยินดีไปด้วยเช่นกัน เสียงโทรศัพท์ของกมลกันต์ดัง เขารับสาย
“ครับคุณพ่อ อะไรนะครับ อีริน่าไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน”
จีรณัทย์ตื่นเต้นและยิ่งดีใจมากขึ้น
“อีริน่าไปหาคุณลุงคุณป้าจริงๆด้วย”
หน้าลอบบี้โรงพยาบาล...อารดานั่งมาในรถเข็นทำราวกับว่าเจ็บมากๆ มีพนักงานโรงพยาบาลเข็น มีเจตรินเดินตามมาข้างๆ อารดาหน้าตากลัดกลุ้ม เมฆขับรถมาจอดเทียบรับ เจตรินเปิดประตู อารดามองประมาณจะให้เจตรินประคองขึ้นรถ
“เชิญครับดา”
อารดาผิดหวัง แต่ก็จำใจขึ้นไปนั่ง พนักงานปิดประตูรถให้ เจตรินส่งเงินให้ เมฆเดินลงมาเพื่อจะเปิดประตูให้เจตรินอีกด้าน เจตรินก้าวเข้าไปนั่งหน้าตาสงบ พอเจตรินก้าวเข้าไปอารดารีบทำท่าจะแย่ซบมาใส่เจตริน
“ดาเจ็บแก้มมากปวดมากด้วยค่ะ โชคดีมี่กระดูโหนกแก้มไม่แตกนะคะ”
“ครับ”
อารดาทำซบเจตรินหลับตานิ่ง เจตรินขยับแต่อารดาก็ขยับตามไปด้วย
รถของกมลกันต์พาอีริน่าและจีรณัทย์มาส่ง มาจอดหน้าบ้าน
“ผมคงไม่อาจเข้าไปส่งจีกับอีริน่าถึงในบ้านได้ให้เกิดปัญหา”
“ขอบคุณมากค่ะกมล”
“ขอบพระคุณมากค่ะคุณอา คุณตาน่ารักมากนะคะ ที่โทรไปหาคุณอากมล”
“คุณพ่อทราบว่าอีริน่าอยากกลับบ้าน และคุณเจตก็คงกำลังรออีริน่ากลับบ้านไงล่ะ”
อีริน่าหน้าจ๋อยลงไป แต่ก็อยากไปเจอเจตรินเต็มที อยากรู้ว่าเจตรินพาอารดาไปเที่ยวจริงไหม
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์มารอรับจีรณัทย์ เพื่ออยากเจออีริน่า อีริน่าเดินเข้ามาพร้อมด้วยจีรณัทย์ กะว่าเจอศรินทร์ทิพย์ด่าแน่ คุณหญิงทำไม่เห็นอีริน่าแต่รีบผวามากอดจีรณัทย์
“จีลูกแม่”
จีรณัทย์ตื้นเต้นในความเมตตาของแม่มาก น้ำตาไหลสองแก้ม กราบที่อกแม่
“จีกราบขอโทษคุณแม่ค่ะ”
“ช่างมันเถิด ลืมเรื่องที่ผ่านไปเถิดนะ ทุกอย่างเหมือนเดิม”
“แล้วเรื่องงานเล่าคะ”
“แม่จะให้จีกลับมาทำตำแหน่งเดิม”
“แต่จิตรดาราบอกจีว่าแม่จะรับคุณพงษ์มาทำแทนจี”
คุณหญิงรำพึงในใจ
‘ฉันไม่โง่ให้คนอื่นมาทำงานในตำแหน่งสำคัญของบริษัทหรอกนอกจากลูก’
คุณหญิงหันมายิ้มกับจีรณัทย์
“แม่ก็พูดเอาใจยัยจิตมันไปอย่างนั้นแหละ เดี๋ยวจะว่าแม่ไม่รักแฟนใหม่มัน”
“คุณแม่ขา โชคดีที่อีริน่าไปหาคุณ เอ้อ...บ้านโน้นจริงๆด้วยค่ะ จีก็เลย เอ้อ...”
“ไปรับมา”
คุณหญิงทำตาเขียวใส่อีริน่า แต่พอจีรณัทมองทำเป็นยิ้ม
“กลับมาแล้ว ก็ดีอยากกลับไปที่ห้องก็รีบไปสิ เดี๋ยวเจตก็คงพาหนูดากลับมาเองแหละ”
คุณหญิงพูดจาให้อีริน่าเจ็บปวดแบบเนียนๆ อีริน่าใจแป้ว
“ขอบพระคุณมากค่ะ”
อีริน่างงที่ไม่โดนคุณหญิงด่ากระแหนะกระแหน แต่ก็รีบเดินไปทันที จีรณัทย์หันมาถาม
“คุณแม่เลิกรังเกียจอีริน่าแล้วหรือคะ”
“แม่แก่จนปานนี้ ไม่อยากจะเที่ยวไปโกรธคนนี้ชังคนนั้นให้มัวหมอง ยิ่งแก่ต้องยิ่งนิ่งไว้ สงบไว้ ไม่ทำให้คนรอบข้างเขาระอา หนักใจไปเถิดลูก กลับไปห้องของตัวเองซะ แม่จะนังรอเจตอยู่แถวนี้”
“เจตไปไหนหรือคะ”
“ไปกับอารดา แม่มีอะไรจะบอกให้จีรู้เรื่องอารดา แต่ว่ารู้แล้วอย่าเพิ่งกระโตกกระตาก”
“ค่ะ คุณแม่”
คุณหญิงพยักหน้าแล้วกระซิบ
“แม่มันอีเพื่อนทรยศ มันหักหลังแม่ มันเอาเอกสารการฮั้วประมูลงานใหญ่เมื่อหลายปีก่อนซ่อนไว้ให้ลูกผัวมันมาแบลคเมล์แม่กับพวกเรา”
จีรณัทย์ตกใจ
“คุณแม่”
อีริน่ายืนที่หน้าต่าง อีริน่างงไม่หายว่าทำไคุณหญิงมศรินทร์ทิพย์ทำดีด้วย ทั้งๆที่เพิ่งด่าไปแหม่บๆ
“เกิดอะไร ขึ้นทำไมคุณหญิงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย”
อีริน่าเห็นรถของเจตรินเข้ามาจอดที่ลานจอดหน้าตัวตึก
“คุณเจตกลับมาแล้ว”
อีริน่าหน้าแช่มชื่น
เจตรินจอดรถ อารดาแกล้งหลับ แต่แอบหรี่ตามองท่าทีของเขา เจตรินสะกิดอารดาที่พิงซบแทบจะนอนหนุนตักเขา
“ดาครับ ถึงบ้านแล้ว”
อารดาทำนิ่งแอบอมยิ้ม
“ดาครับ ดาครับ”
“ให้นอนหลับอยู่ในรถแล้วเปิดแอร์ทิ้งไว้ดีไหมครับ” เมฆแนะ
อารดาด่าในใจ‘ไอ้บ้า แนะนำโง่ๆ’
“ไม่ได้...มีคนหลับตายในรถเพราะนอนเปิดแอร์แบบนี้มาหลายคนแล้ว” เจตรินบอก
อารดารำพึงในใจ
‘ถ้าอย่างนั้นพี่เจตก็อุ้มดาเข้าไปในบ้านสิคะ’
เจตรินค่อยๆ ผลักอารดาออกจากตัวแล้วจะออกจากรถ ประตูรถเปิด คุณหญิงศรินทร์ทิพย์โผล่มายิ้ม
“เป็นยังไงบ้าง”
“โอเคครับคุณแม่”
คุณหญิงปรายตามองดารำพึงในใจ
‘ดัดจริต ดราม่าได้น่าตบเหลือเกิน’
คุณหญิงหันไปบอกเจตริน
“แต่ดูท่าทางยังแย่อยู่มากนะ เจตก็ช่วยอุ้มดาเขากลับไปที่ห้องด้วยสิลูกน่าสงสารออก โถแม่คุณ”
เจตรินลำบากใจ
“เอ้อ”
“ไม่เป็นไรหรอกเจต สมัยที่น้องยังเด็กๆด้วยกันกับเจต เจตยังเอาน้องขี่หลังบ่อยๆนี่นา”
อารดาแอบยิ้มดีใจ
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ยืนปรายตามองไปที่หน้าต่างห้องเจตรินด้านบน พึมพำ
‘นังเด็กโง่ รู้นะว่าแกกำลังแอบมอง ฉันจัดให้แกได้มองเต็มสองตา ยิงนกทีเดียวได้สองตัว นังอีริน่าทุกข์ใจ นังอารดาตายใจ’
เจตรินอุ้มอารดาออกมาจากรถ เดินหน้ามุ่ยเข้าบ้าน ...อีริน่ายืนมองน้ำตาซึม กลั้นสะอื้น
สมรกับหวินเปิดประตูให้เจตริน แล้วทำท่าจะชะโงกมอง อารดารีบหันมาทำตาเขียวปัดพูดไม่มีเสียง
“รีบออกไปสินังโง่ จะมาชะโงกหาอะไร”
สองคนยิ้มเข้าใจรีบถอยออกไปทันที
อีริน่ามาเปิดประตู เพราะมีเสียงเคาะห้อง
“คุณเจต”
แต่กลับเป็นคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ยืนยิ้มแอบมีร้ายๆปนนิดหน่อย
“ฉันเอง...ไม่ใช่เจตหรอก เจตน่ะคงอีกนาน หรือไม่ก็อาจไม่กลับมาเลยก็ได้นะ ฉันก็เลยจะมาปลอบใจเธอ ให้ฉันเข้าไปคุยด้วยนะ”
“เอ้อ...อีริน่าไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”
“เด็กเอ๊ยเด็ก...หลอกตัวเองทำไม ฉันน่ะแก่คราวยายเธอมีหรือจะดูไม่ออกว่าเธอเสียใจมากแต่ไหน ที่ในที่สุดเจตเขาก็เลือกอารดา เขาสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กนี่น่า”
คุณหญิงดันประตูเดินนำอีริน่าเข้าไปในห้อง อีริน่าน้ำตาจะหยดเดินตามเข้าไปพูดไม่ออก
เจตรินวางดาลงบนเตียงเรียบร้อย หันกลับทันทีรีบเดินออกไป อารดาตาโตหาทางรั้งไว้ต่อทำกลิ้งตกเตียงลงไปดังตุ๊บ
“โอ๊ย”
เจตรินสะดุ้ง
“ดา”
เจตรินหันกลับมาเห็น อารดาตกลงไปกองที่พื้น
“แย่จริง ดาตกลงมาได้ยังไง”
“อูย...ดา ดาก็ไม่ทราบค่ะ ดาหลับสนิท จู่ๆดาก็มารู้สึกตัวอีกที ตอนที่ตกลงมาแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ เจตอยากจะรีบออกไปตามหาอีริน่าก็ไปเถิดค่ะ ดานอนกองมันตรงนี้ได้ค่ะ...อูย”
เจตรินทำอย่างนั้นไม่ลง
“ไม่เป็นไร ผมจะอุ้มดาไปไว้บนเตียงตามเดิม”
อารดาแอบยิ้ม
“ขอบคุณมากค่ะ”
เจตรินหนักใจ จะรีบไปหาอีริน่าเพราะไม่รู้ว่ากลับมาแล้ว อารดาก็ไม่รู้ว่าอีริน่ากลับมาแล้ว
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ยังคงหลอกล่ออีริน่า
“บอกได้ไหมบอกมาตรงๆ ว่าทำไมเจตถึงแต่งงานกับเธอ และเธอแต่งงานกับเจตทั้งที่เขาไม่ได้รักเธอ และเธอเองก็คงไม่ได้รักเขา เพราะทั้งเขาและเธอมีชีวิตที่แตกต่างกันมากราวฟ้ากับดิน”
“เอ้อ...”
“ฉันหวังดีกับเธอนะอีริน่า มีอะไรบอกมาตรงๆจะได้ช่วยเหลือกันได้ ฉันไม่ได้รังเกียจคนต่างฐานะหรอก แต่คนที่รังเกียจน่ะเจต ฉันยังแปลกใจว่าทำไมเขาแต่งงานกับเธอ ทั้งที่รู้ว่าเธอคือตัวถ่วงอนาคตของเขา เธอกับเจตปิดบังอะไรไว้ใช่ไหม”
“ถ้าอีริน่าคือตัวถ่วงอนาคตของคุณเจต อีริน่าก็จะไม่ถ่วงอีกต่อไปค่ะ อีริน่าจะขอหย่ากับเขา”
คุณหญิงแอบยิ้มดีใจแต่หันไปบอกนิ่มๆ
“ขอบใจมาก แต่ตอนนี่อย่าเพิ่ง”
คุณหญิงรำพึงในใจ...แกต้องเป็นตัวถ่วงนังอารดาก่อนสิ...แล้วก็บอกอีริน่า
“ถึงเวลาแล้วฉันจะบอกเธอเอง ขอเพียงให้เธอเชื่อใจฉันเท่านั้นก็พอแล้วเธอตกลงไหม”
“ค่ะ”
คุณหญิงทำดึงอีริน่ามาโอบกอด
“ฉันเอ็นดูเธอนะอีริน่า”
“ขอบพระคุณมากค่ะ”
คุณหญิงด่าในใจ....อีโง่...แล้วผละออกมาจากอีริน่า ยิ้มเมตตาให้
“ตอนนี้เธอยังเป็นภรรยาของเจตอยู่ ฉันต้องปกป้องเธอ ฉันจะไปเรียกเจต ก่อนที่เขาจะสนุกกับอารดาจนเกินเลย ถึงขั้นที่กลายเป็นชู้ของสามีเธอ”
คุณหญิงลุกขึ้นเดินออกไปสะใจมากๆ อีริน่ามองตามงงงวยไปหมด
เจตรินกำลังนวดข้อเท้าให้อารดาที่ยิ้มอย่างมีความสุข
“ค่อยยังชั่วแล้วหรือยัง ผมขอโทษที่สะเพร่า วางดาไว้หมิ่นเหม่ขอบเตียงเกินไปจนทำให้ดาตกเตียง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดาดีใจมากนะคะที่พี่เจตห่วงใยดาขนาดนี้ ที่ผ่านมาถ้าดาทำอะไรให้พี่เจตไม่สบายใจ ยกโทษให้ดาด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีอะไร เอ้อ...ถ้าดาค่อยยังชั่วแล้ว ผมเอ้อ...”
“อยู่กับดาอีกสักสิบห้านาทีได้ไหมคะ ต๊าย! เสียงมือถือของดาดังค่ะช่วยหยิบแล้วเปิดให้ด้วยค่ะ”
เจตรินพยักหน้า หยิบมือถือของอารดามาจากกระเป๋าแล้วเปิดส่งให้
“ตายจริง นี่มันอะไรกันคะพี่เจต”
อารดาแกล้งส่งให้ดู เจตรินยื่นหน้ามาดูแล้วสีหน้าเข้มเครียดมาก ภาพของอีริน่ากับนิกกี้นั่นเอง
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ถือไอโฟนในมือที่เพิ่งส่งคลิปไปให้อารดาเพื่อยืนยันให้เจตรินเห็นอีกครั้ง
“สะใจมัน...ทั้งนังอารดา ทั้งนังอีริน่า ให้มันรู้กันบ้างว่าไม่มีใครจะใหญ่เท่าคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ ในอาณาจักรแห่งนี้”
คุณหญิงแนบหูฟังต่อไป จีรณัทย์เดินมาเห็นแม่กำลังยืนเหมือนแอบฟัง
“คุณแม่ทำอะไรคะ”
คุณหญิงสะดุ้ง
“แม่...แม่เอ้อ...จะมาตามเจตน่ะลูก บอกให้ไปหาอีริน่าได้แล้ว”
“แล้วเจตเข้าไปทำอะไรในห้องของอารดาคะ”
“เรื่องมันยาว เอาไว้ค่อยเล่าก็ได้”
จีรณัทย์พยักหน้าให้แม่
เจตรินหน้าเครียด
“ผมไม่อยากดู”
“ดาก็ไม่อยากดู ดาว่าอีริน่าเขาโดนใส่ร้ายหรือเปล่าค่ะ คนหน้าเหมือนหรือเปล่าคะ”
“ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้”
อารดากอดเจตรินไว้
“ดารู้ว่าพี่เจตไม่สบายใจ ดาเป็นกำลังใจให้นะคะ”
อารดากอดแน่น แล้วจูบปากเขา เจตรินตกใจแต่ อารดาไม่ยอมปล่อย ทันใดนั้นเสียงเคาะห้องดังขึ้น
“ลูกเจต...อีริน่ากลับมาแล้วนะ”
เจตรินสะดุ้งสุดตัว ผละจากอารดาโดยอัตโนมัติ แล้วลุกพรวด อารดาพึมพำ…อีแก่บ้า มันแกล้งเราแน่ๆ...
“คุณแม่เรียกแล้ว ผมขอตัวก่อน ขอโทษด้วยที่ผมไม่ยับยั้งชั่งใจเมื่อสักครู่”
เจตรินหันออกไปทันที อารดาอ้าปากอยากจะร้องกรี๊ดๆ
จบตอนที่ 8