เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 6
อรวิภาเดินนำสาวใช้ที่ยกถาดของว่างมาให้พ่อ แม่และแขกที่โต๊ะสนาม สาวโลกสวยต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าแขกคนนั้นคือเจตน์ชาญ ที่กำลังซ้อมวงสวิงกอล์ฟกับอดิศักดิ์
“ฝีมือดีนี่ ต้องขอเชิญไปออกรอบด้วยกันซะแล้ว”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ”
อรวิภาเห็นเจตน์ชาญ เลยหันหลังกลับเดินหนี
อดิศักดิ์เรียกไว้ “น้องอร จะไปไหน มาคุยกับปะป๊าก่อนซิ”
อรวิภาจำใจต้องเดินกลับมา หน้างอง้ำ ไหว้เจตน์ชาญอย่างเสียไม่ได้
“คุยอะไรคะ”
“ป๊าจะสอนให้อรหัดตีกอล์ฟ เอาไว้ออกรอบกับกลุ่มนักธุรกิจหญิง” อดิศักดิ์หันมาหาเจตน์ชาญ “คุณเจตน์พอจะสอนเทคนิคเบื้องต้นให้น้องอรได้ไหม”
เจตน์ชาญเยื้อนยิ้ม “ถ้าท่านไว้วางใจ ผมก็ยินดีครับ”
“ไม่เอาดีกว่า อรไม่ชอบเล่นกอล์ฟ” อรวิภาหันกลับจะเดินหนีอีก
เจตน์ชาญขยับขวาง “คุณอรลองจับไม้ให้ผมดูสิครับ” ชายหนุ่มส่งไม้กอล์ฟให้
เห็นอดิศักดิ์มองอยู่ อรวิภาจำใจต้องจับไม้กอล์ฟอย่างไม่เต็มใจ
“เลื่อนมือลงมาอีกนิดนึงครับ จับสบายๆ ไม่ต้องเกร็ง นะครับ สวยมากครับ”
เจตน์ชาญสอนอย่างใจดี มีชมเชย จนอรวิภาเผลอไผลตามไม่ได้
“คุณอรมีแววมากเลยครับ แค่พูดนิดเดียวก็ทำได้เป๊ะเลย คราวนี้ลองสวิงดูสิครับ”
อรวิภาสวิงตามเจตน์ชาญบอก
ต่อมาเจตน์ชาญแตะตัวอรวิภาเบาๆ ด้วยท่าทีสุภาพ เพื่อให้อรวิภาจับไม้แล้ววาดวงสวิงได้อย่างถูกต้อง อดิศักดิ์จิบเครื่องดื่ม มองสองหนุ่มสาวนิ่งๆ
เครือวรรณมองเพลิน ตบมืออย่างชื่นชม “โปรเจตน์สอนเก่งจริงๆ ค่ะ”
“พอดีกว่าค่ะ อรเหนื่อยแล้ว” อรวิภาจะเดินหนี
“ฝึกให้หมดถาดนั้นก่อนลูก” อดิศักดิ์มองอรวิภาอย่างบังคับในที
อรวิภาจำใจต้องตีต่อโดยมีเจตน์ชาญช่วยเทรน เจตน์ชาญแอบยิ้มเยาะในสีหน้า อรวิภาโกรธฮึดฮัดตีมั่วๆ ไป
ภายในห้องทำงานธีภพบรรยากาศมาคุกรุ่นๆ
ธีภพอบรมบิวตี้เครียด พักตร์พิมลจ้องจับผิดอย่างเอาเรื่องเต็มที่ ธีภพจ้องหน้าบิวตี้
“เห็นหรือยังว่าถ้าไม่ตั้งใจทำงาน คนอื่นเขาจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
“ใครบอกว่าฉันไม่ตั้งใจ”
พักตร์พิมลสอด “ถ้าตั้งใจแล้วยังทำผิดพลาดขนาดนี้ก็แย่แล้ว แค่งานกระจอกๆ ยังมีปัญหา ถ้าประธานบริษัทมีหวังเจ๊งตั้งแต่เดือนแรก”
“ค่าเสียหายเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายเอง จบปะ” บิวตี้เชิด
“มันไม่ใช่แค่จ่ายค่าเสียหายแล้วก็จบ ถ้าคิดจะทำงาน คุณต้องรอบคอบและเอาใจใส่มากกว่านี้”
บิวตี้เถียง “ฉันทำดีที่สุดแล้ว ฉันอาจจะโดนแกล้งก็ได้” พลางเหลียวมองหน้าพักตร์พิมล
“ทำผิดแล้วโยนความผิดให้คนอื่น แบบนี้จะเป็นผู้บริหารที่ดีได้ยังไง” ธีภพตบโต๊ะ ปัง!
บิวตี้ตบโต๊ะบ้าง “แล้วผู้บริหารที่หูเบาไม่ยอมหาหลักฐานก่อนจะโทษใคร มันดีนักเหรอ”
บิวตี้ประจันหน้ากับธีภพอย่างไม่กลัวเกรง
พักตร์พิมลบอกอีก “ทำไมจะไม่มีหลักฐาน มีอยู่ทนโท่ เธอนั่นแหละที่ไม่ยอมรับผิด”
“ก็ฉันไม่ผิด”
“พิสูจน์มาสิ แค่คำพูดว่าไม่ผิดเอาเป็นหลักฐานอะไรไม่ได้หรอก” ธีภพท้า
พักตร์พิมลเสริมทันที “ถูกต้อง”
บิวตี้ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจ
“ได้ ถ้าฉันพิสูจน์ได้ว่าฉันไม่ผิด ทั้งสองคนจะต้องขอโทษฉันต่อหน้าพนักงานทุกคน และต้องทำตามคำสั่งของฉันทุกอย่างหนึ่งวันเต็มๆ”
พักตร์พิมลแหวใส่ “จะบ้าเหรอ”
ธีภพย้อนเอา “เธอไม่โตขึ้นเลยนะ บิวตี้”
20 ปีที่แล้ว สามคนมีเหตุการณ์ให้รำลึกร่วมกันอีกเรื่องหนึ่ง มีลลิตาร่วมเหตุการณ์นี้ด้วย
โดยเวลานั้นเด็กชายธีภพเศร้าเสียใจที่หมาโดนรถชน โกรธบิวตี้จนไม่อยากมองหน้า
ลลิตาไกล่เกลี่ย “บิวตี้ ทำไมหนูปล่อยเจ้าบ๊อบบี้ออกไปอย่างนั้นล่ะลูก บ๊อบบี้โดนรถชนเจ็บมากรู้ไหม”
“บิวตี้ไม่ได้ปล่อยค่ะ บ๊อบบี้หนีออกไปเอง”
พักตร์พิมลฟ้อง “ไม่จริงค่ะ บิวตี้ปล่อย แพ็ตเห็น”
บิวตี้เถียง “ก็บ๊อบบี้บอกว่าอยากวิ่งเล่นที่สนาม”
“บ๊อบบี้ไม่ใช่หมาของบิวตี้ มายุ่งทำไม” ธีภพว่า
บิวตี้พาล “แล้วธีเอาบ๊อบบี้มาบ้านบิวตี้ทำไม นี่มันบ้านของบิวตี้ บิวตี้จะทำอะไรก็ได้”
“ก็ได้ ต่อไปนี้เราจะไม่มาบ้านบิวตี้อีกแล้ว”
ลลิตาไกล่เกลี่ย “ไม่เอาจ้ะธี อย่าโกรธกัน บิวตี้ ไปพูดกับพี่ธีอย่างงั้นได้ไง ขอโทษเดี๋ยวนี้”
“ไม่ขอโทษ บิวตี้ไม่ผิด”
พักตร์พิมลตำหนิ “บิวตี้นิสัยไม่ดี”
บิวตี้เถียง “ตัวเองก็นิสัยไม่ดีเหมือนกัน ยัยอึ่งอ่าง แหวะ ไม่เห็นอยากเล่นด้วยเลย ไปให้พ้น” บิวตี้ผลักพักตร์พิมล
ลลิตาขึ้นเสียงใส่ “บิวตี้หยุดเกเรเดี๋ยวนี้นะ”
ธีภพดึงพักตร์พิมลขึ้น “ไปกันเถอะแพ็ต ไม่ต้องมาเล่นกับคนแบบนี้อีก”
พักตร์พิมลกับธีภพ มองบิวตี้อย่างชิงชังขุ่นเคือง
ที่โรงอาหาร คนงานพักกินอาหารเที่ยง ศรีนวลออกอาการกระสับกระส่าย กังวลใจกลัวมีปัญหา
สามฉันทนาขาเมาท์ เนย นี ติ๋ม ปลอบใจศรีนวลแต่ดูจะยิ่งทำให้แย่ลง
ไกลออกไปหน่อย เห็นปีวรา จ้องมองมาทางกลุ่มนี้เพื่อจดจำไปรายงาน
“ป่านนี้นังตัวซวยคงโดนไล่ออกไปแล้ว วุ๊ย สะใจ” เนยว่า
“ถ้ามันโดน ฉันก็คงโดนเหมือนกัน” ศรีนวลถอนใจ “แล้วทีนี้จะเอาอะไรกิน เจ้าองุ่นลูกคนเล็ก ก็ยังอยู่ในโรงพยาบาล”
“ถ้าป้าโดนออกพวกเราจะประท้วง” นีว่า
ติ๋มบอก “ก่อนประท้วงต้องตบนั่งนั่นให้หายแค้น” พลางพยัดพเยิดไปทางบิวตี้ที่เดินมา
บิวตี้เดินตรงมาหาศรีนวล คนงานส่วนใหญ่มองตามเป็นตาเดียว ด้วยสีหน้าติเตียน และหมั่นไส้
บิวตี้บอกกับศรีนวล “ป้าไม่ต้องกลัวนะ ฉันไม่ยอมให้ใครเอาป้าออกหรอก”
“เธอจะทำไง บอกมาซิ” เนยสาระแน
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ เกี่ยวอะไรด้วย”
“เกี่ยวสิ ตั้งแต่หล่อนเข้ามาแผนก เราซวยตลอด” เนยว่า
“ตบล้างซวยเลยดีกว่า” นีเงื้อมื้อจะตบ
บิวตี้หลบ ฝ่ามือนีซัดเข้าหน้าติ๋มเต็มๆ
ติ๋มโกรธ “นังนี” ติ๋มเงื้อมือจะตบนีเอาคืน
บิวตี้ถือโอกาสจะเดินหนี
เนยตะโกนลั่น “เฮ้ยอย่ากัดกันเอง จับมันไว้”
นีกับติ๋มดึงตัวบิวตี้ไว้
บิวตี้หันมาดุ “ปล่อยฉันนะ”
ศรีนวลตวาดขึ้น “หยุด บอกว่าให้หยุด”
“แต่นังนี่มันทำให้ป้าเดือดร้อน” นีฮึดฮัด
ติ๋มเสนอหน้าประจบ “เราตบเพื่อป้า”
“ไม่ต้อง ยังไงฉันก็ปล่อยให้พวกแกก่อเรื่องไม่ได้”
เสียงกริ่งเข้างานดัง
ศรีนวลสั่งดุ “กลับไปทำงาน”
ปีวรานั่งเงียบๆ สีหน้าเรียบเฉย แต่แอบถ่ายคลิปไว้ ตั้งแต่บิวตี้เดินเข้ามา
อ่านต่อหน้า 2
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 6 (ต่อ)
ไม่นานต่อมา พักตร์พิมลกับกระตั้วพากันดูคลิปที่ปีวราถ่ายมา ท่าทีตื่นเต้น พักตร์พิมลบอกอย่างสะใจ
“ยัยนั่นโดนรุมเละแหง”
พอกระตั้วได้ดูในจอ ก็ออกอาการผิดหวัง “เอ๊า ทำไมเลิกกันดื้อๆ อย่างงั้นล่ะ ว้า”
ปีวราบอก “พอดีหมดเวลาพักค่ะ”
“เสียดาย ระฆังช่วย มีลูกแถมมั้ย”
“ไม่มีค่ะ พอดีป้าศรีนวลคุมอยู่”
พักตร์พิมลฉุน “โธ่เอ๊ย ตัวเองจะโดนออกเพราะยัยนกหงส์หยกอยู่แล้ว ยังไปช่วยมันอีก”
กระตั้วงง “นกหงส์หยก ใครคะ”
“ก็ยัยนั่นแหละ เห็นรายงานบอกว่า นางหลงตัวเอง ชอบส่องกระจกตลอดเวลา” พักตร์พิมลหันมาซักปีวรา “แล้วไงต่อ เล่าซิๆ”
ปีวราบอกหน้าตาเรียบเฉย “แล้ว...ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานต่อค่ะ”
พักตร์พิมลเซ็งโครตๆ “แค่เนี้ย”
“ยัยปีเล่าไม่มีอารมณ์เลย ถ้ากระตั้วไปจะยุให้ตบกันตายไปข้างนึง”
“ไม่ได้นะ จะให้เดือดร้อนมาถึงฉันไม่ได้เด็ดขาด เข้าใจมั้ย”
สองคนแปร่งๆ หู
ด้านศรีนวลหลบมารับโทรศัพท์ในห้องน้ำคนงาน
“ฮัลโหล มีอะไรก็รีบพูดมาแม่กำลังทำงาน” นิ่งฟัง แล้วตกใจ “โอ๊ย ตาย แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าเวลาขี่มอเตอร์ไซค์ให้ระวัง ยิ่งไม่มีค่าซ่อมอยู่ด้วย”
บิวตี้เข้ามาส่องกระจก เติมครีมเติมลิปกลอสตามประสา
ศรีนวลจมอยู่กับความทุกข์ ไม่ทันสังเกตว่าบิวตี้เข้ามา
“ค่าโรงบาลของน้อง ยังค้างหมอเค้าอยู่เลย” ศรีนวลถอนใจ ฟังแล้วตัดบท “เออๆ เดี๋ยวแม่จะหากู้ไปจ่ายให้ แกอย่าไปก่อเรื่องอีกล่ะ แม่จะโดนไล่ออกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”
ศีลนวลกดปิดสาย น้ำตาไหล นั่งลงสะอื้น “ทำไมถึงซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้”
บิวตี้ได้ยินเกือบหมด รู้สึกสลดใจ เห็นศรีนวลร้องไห้ ยิ่งรู้สึกผิด
บิวตี้เดินมาใกล้ศรีนวล “ป้าไม่ผิด ฉันบอกแล้วไงว่า จะไม่ยอมให้ป้าโดนไล่ออกเป็นอันขาด”
ศรีนวลหยุดร้อง พยายามเช็ดน้ำตา “เรามันแค่คนงาน จะไปทำอะไรได้”
“บริษัทนี้เขาชอบแกล้งคนงานเหรอ”
“ไม่มีหรอก ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้รอบคอบ”
“ไม่ ตอนที่ฉันตรวจผ้ามันไม่มีรอยเลอะจริงๆนะ ฉันมั่นใจว่าเราโดนแกล้ง” บิวตี้มั่นใจมวาก
ศรีนวลไม่อยากเชื่อ “แกล้งทำไม ฉันไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน”
บิวตี้ปลอบ “ป้าใจเย็นๆ ฉันจะหาตัวคนลอบกัดเอง” พูดแล้วยิ่งโกรธ “คอยดูนะฉันจะพิสูจน์ให้ได้ว่าเราไม่ได้ทำผิด แล้วก็ไม่ได้ชุ่ยด้วย”
ศรีนวลฉงน “เธอจะทำยังไง”
“ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันจะไม่ยอมให้ป้าพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
นัยน์ตาบิวตี้วาววับ ด้วยความเคืองแค้นและ พร้อมจะเอาคืน
ณ แดนสรวง อนันตกาล สองนางฟ้าเฝ้าลุ้นตามติดชีวิตบิวตี้ เหมือนดูรายการเรียลิตี้โชว์
ปรมะเทวีดีดนิ้ว สะใจ “มันต้องให้ได้อย่างนั้นสิ ลัลน์ลลิต”
“ลูกมีจิตเมตตา และกรุณาผู้อื่น โดยไม่คิดถึงตัวเอง ได้แล้ว” นางฟ้าลลิตาปลื้ม
“อย่าเพิ่งปีติเกินไปนัก นางทำไปด้วยความโกรธแค้น ไม่อาจรู้ว่า นางมีความรู้สึกด้านดีมากเพียงใด”
นางฟ้าลลิตาตื่นเต้น ชี้ชวนให้ดู “เทวีดูที่มาตรวัดสิคะ”
มาตรวัดความสัมฤทธิ์ มีสีทองเพิ่มขึ้นมาแถบใหญ่พอควร ประมาณ เศษ 1 ส่วน 8
“อนุโมทนา”
นางฟ้าทั้งสองโปรยประกายสะเก็ดดาวทองงดงาม มีกลีบดอกไม้แทรกแซม คล้ายภาพตามผนังโบสถ์ในวัดที่นางฟ้าชอบโปรยกลีบดอกไม้เป็นการประสาทพร
ด้านเจตน์ชาญกับอรวิภาพักเหนื่อย
“เอ้าลูกศิษย์ รินน้ำให้โปรหน่อยสิลูกจ๋า” เครือวรรณเอาใจ
อรวิภารินน้ำผลไม้เย็นๆ จากเหยือกใส่แก้วให้เจตน์ชาญ อย่างกระแทกกระทั้น
“ผมรินเองดีกว่าครับ” เจตน์ชาญแย่งเหยือกจากมืออรวิภามา
จังหวะนี้มือของเจตน์ชาญกับมืออรวิภา แตะโดนกัน อรวิภาเขินดึงมือออก
แต่เจตน์ชาญทำเฉยๆ “คุณอรออกกำลังแขนมากพอแล้ว เดี๋ยวกล้ามเนื้ออักเสบ”
อดิศักดิ์มองอยู่ “น้องอรเริ่มสนุกกับการตีกอล์ฟหรือยังลูก”
“ไม่ค่ะ อรไม่ชอบ น่าเบื่อจะตาย”
“งั้นต้องเรียนจนกว่าจะชอบ คุณเจตน์ไหนๆ ก็เริ่มสอนให้แล้ว คงต้องขอให้สอนต่อ จะได้ไหม”
เจตน์ชาญยิ้ม “ยินดีมากเลยครับ”
อรวิภาเสียงแข็ง “น้องอรไม่เรียนนะคะ”
“ลูกอรแกบ่นไปอย่างงั้นเองค่ะ เขาไม่ชอบกีฬากลางแจ้ง หม่าม๊าก็เหมือนกัน แต่ลูกอรตีใช้ได้ไหมคะ” เครือวรรณถาม
“นับว่าเก่งมากสำหรับมือใหม่ครับ”
“ดีจัง ต่อไปจะได้ออกรอบกับป่าป๊าเสียทีนะจ๊ะลูก” เครือวรรณยิ้มกับสามี
เสียงโทรศัพท์อรวิภาดัง
อรวิภาดูชื่อมีสีหน้าสดใสทันควัน “คะ พี่ธี” พร้อมกับทำท่าขอตัวแล้วเดินห่างออกมา
“เมื่อวานพี่ขอโทษ ที่พี่ไม่ได้ไปงานน้องอร” ธีภพคุยสายอยู่ที่บริษัท
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ธีงานยุ่ง น้องอรเข้าใจ”
“เย็นนี้อรว่างมั้ย”
“เย็นนี้เหรอคะ ว่างค่ะ”
อดิศักดิ์ลอบมองหน้าเจตน์ชาญดูว่ามีปฏิกิริยาอย่างไร พบว่าเจตน์ชาญทำหน้าเรียบเฉย
“ทานข้าวเย็นกันนะ เป็นการขอโทษ น้องอรชอบทานอะไร ตามใจเลยน้องอรเลยครับ”
อรวิภาออกอาการกระเง้ากระงอด แต่ดูมีความสุขเบิกบาน “แล้วพี่ธีจะปล่อยให้น้องอรรอเก้ออีกมั้ยคะ ฮื้อ น้องอร ไม่อยากจะเชื่อแล้วล่ะค่ะ”
“แล้วเจอกันนะคะ”
“เจอกันค่ะพี่ธี”
อรวิภาเดินหน้าบานมาบอกพ่อแม่
“พี่ธีนัดน้องอรไปทานข้าวคืนนี้ค่ะ”
อดิศักดิ์กับเครือวรรณมองหน้ากันอึ้งๆ
เจตน์ชาญทำหน้าเฉย ยิ้มนิดๆ ก้มลงเก็บลูกกอล์ฟให้อรวิภาพลางกระซิบ “ยินดีด้วยนะครับ”
อรวิภากระซิบตอบ “ไม่ต้องมายุ่ง”
สองคนประสานสายตากัน เจตน์ชาญจงใจยั่วโมโหอรวิภา
บ่ายคล้อย คนงานในโกดังทำงานตามปกติ
บิวตี้ถูกกันให้นั่งนับกระดุม อยู่ไกลออกมาจากคนอื่น ครุ่นคิดหาวิธีพิสูจน์ตัวเอง
“ฉันไม่ยอมถูกกล่าวหาแบบนี้หรอก”
ทุกคนปรายตามองบิวตี้เยาะๆ สะกิดให้ดู เสียงกริ่งหมดเวลาทำงานของกะเช้า ทุกคนวางมือจากงาน
บิวตี้เก็บของเช่นกัน จะเดินไปห้องลับที่เตรียมไว้ เดินผ่านใครทุกคนก็เมินหนี
“ทำคนอื่นเขาเดือดร้อน รู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ย” เนยพูดเสียงดัง
ติ๋มบอก “ตัวซวย”
บิวตี้หันมาทำตาดุใส่เนยติ๋มซึ่งๆ หน้า แววตามีอำนาจ จนทุกคนเกรง หุบปาก
บิวตี้พูดช้าๆ เน้นทุกคำ “ฉัน ไม่ ผิด” แล้วเดินเชิดออกไป
นีปากเก่งลับหลัง “ก็พิสูจน์มาซี้ ไม่ผิดจริงฉันจะยอมกราบเลย”
“ไอ้นีเอาจริงเว้ย สุดยอด” เนบตบมือกับนี
เพื่อนคนงานแถวนั้นตบมือตาม เชียร์นี ฉันทนานียิ้มปลื้มใจ
มีศรีนวลคนเดียวที่มองตามบิวตี้อย่างเอาใจช่วย
ออฟฟิศฝ่ายขายหมดเวลางานเช่นกัน กระตั้วปราดเข้ามาหาพักตร์พิมล ขณะปีวราเก็บของให้พักตร์พิมลอยู่
“ทำไงต่อดีคะคุณแพ็ต”
“ไปที่ห้องคอนโทรล เก็บหลักฐานให้หมด”
“ได้เลยค่า รปภ.ห้องนั้นมีแต่ล่ำๆ กระตั้วเลิฟฝุดๆ วุ้ยพูดแล้วเปรี้ยวปาก” กะเทยก้ามปูตาวิบวับ
“ฉันให้ไปเก็บหลักฐาน ไม่ได้ให้ไปกินรปภ. ปี เธอไปหาลังมาใส่เอกสารเก่าๆ เตรียมไว้สักสามลังซิ เดี๋ยวจะให้รปภ.มายก”
“แล้วปีต้องอยู่เฝ้าไหมคะ”
“เฝ้าสิ ให้เขายกไปที่รถฉันนะ วันนี้ฉันจอดรถไกลหน่อยตรงที่จอดสำรองหลังตึก 4”
“ค่ะ”
พักตร์พิมลกำชับ “เสร็จแล้วให้เขาเฝ้าไว้ก่อน จนกว่าฉันจะไปเปิดรถให้”
ปีวราหลบตา เหมือนไม่อยากช่วยทำผิดแต่จำใจ “ได้ ค่ะ”
พักตร์พิมลกับกระตั้วออกไป
ปีวราตัดสินใจพูด “เดี๋ยวค่ะคุณแพ็ต”
พักตร์พิมลชักรำคาญ “อะไรอีกล่ะ”
“ตอนนี้พนักงานยังอยู่เยอะ ถ้ามีคนเห็นคุณแพ็ตไปอยู่แถวห้องยาม คงน่าสงสัย”
กระตั้วเห็นด้วย “เออ จริงด้วยฮ่ะ คุณแพ็ตรออยู่นี่เถอะค่ะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตั้วเอง”
พักตร์พิมลถอนใจ “ก็ได้ อย่าพลาดล่ะ” แล้วกลับมานั่งรอเวลา
อ่านต่อหน้า 3
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 6 (ต่อ)
ฟากบิวตี้เดินมองซ้ายมองขวา ท่าทีระแวดระวัง ตรงไปยังห้องรกร้างที่เตรียมไว้สำหรับแปลงตัว สูงขึ้นไปบนคาน แลเห็นกล้องซีซีทีวีติดตั้งอยู่ ซึ่งหากใครเดินผ่านมาแถวนี้เป็นได้เข้ากล้องแน่ และบิวตี้ไม่รู้ตัว เดินผ่านกล้องไป
ขณะเดียวกันบรรดาคนงานทยอยไปขึ้นรถรับส่งพนักงานของบริษัท ธีภพมาตามเพื่อจะรับบิวตี้กลับบ้านด้วยกัน ศรีนวลเห็นแยกมาคุยด้วย
“เห็นเขารีบออกไปตั้งแต่เลิกงานแล้วค่ะ”
ธีภพรับทราบ “งั้นหรือ” เขามองศรีนวลอย่างปลอบใจ “เรื่องเซ็นรับรองผ้า ป้าไม่ต้องกังวลนะ ป้ามีผลงานที่ดีมากมาตลอด บริษัทรับรู้ตรงนี้ดี แต่อาจจะต้องมีการชดใช้บ้างเพราะกฎต้องเป็นกฎ ผมจะช่วยเหลือตรงนี้เอง แต่ขอให้เป็นความลับนะ ผมไม่อยากให้เสียระเบียบ”
ศรีนวลซาบซึ้งจรน้ำตาไหล ไหว้ขอบคุณ “ท่านประธานเมตตาเหลือเกิน”
ธีภพรีบรับไหว้ “ไม่เป็นไรครับ ถ้าเดือดร้อนอะไรก็บอกผมได้เลย”
ศรีนวลไหว้อีก “ขอบพระคุณมากค่ะ”
พระอาทิตย์กำลังตกดิน บิวตี้รอในห้องที่เตรียมไว้ กำลังเจ็บปวดทั่วกายา สั่นเทิ้มจะกลายร่าง
บิวตี้พูดออกมาทั้งที่กำลังเจ็บปวด “เป็นนกก็ดีเหมือนกัน จะได้เห็นธาตุแท้ของคนบางคน”
บิวตี้ดิ้นบนผ้าสะอาดที่ปูไว้ เจ็บปวดทรมานทุกขุมขน ร่างค่อยๆ เปลี่ยนเป็นนกหงส์หยก บินขึ้นมาจากกองผ้า
ฝ่ายพักตร์พิมลเดินวนไปมาอย่างร้อนใจ ปีวราเตรียมลังเอกสาร กระตั้วกลับเข้ามา หน้าเครียด
พักตร์พิมลถามทันที “ว่าไง ลบหรือยัง”
“ยังไม่มีโอกาสเลยค่ะ น้องยามเต็มห้อง ว้าย ล่ำๆ ทั้งนั้นเลย หอมกลิ่นผู้ชาย”
พักตร์พิมลตวาด “กระตั้ว”
“อุ๊ย ลืมตัวค่ะ ต้องรออีกแป๊บนึง พอยามเปลี่ยนกะคงจะน้อยลง น่าเสียดายจัง”
บิวตี้นกบินเข้ามาในห้อง โดยที่พักตร์พิมล ปีวราและกระตั้วไม่เห็น
“เอาสิยัยอึ่งอ่าง วางแผนจะทำอะไรฉันอีก พูดมาเลย จะได้รู้กัน”
พักตร์พิมลดูนาฬิกา แล้วสั่งการกับกะเทยคู่หู “ตอนนี้คนคงน้อยลงแล้ว เอางี้ ฉันจะไปสั่งให้รปภ. มาช่วยยกของ พอออกมา เธอก็จัดการเลยนะ”
“คุณแพ็ตจะให้ตั้วจัดการยามหรือคะ อุ๊ย” กระตั้วดีดดิ้นน่าตบมวาก
“ฉันหมายถึงจัดการลบเทป เธอนี่เลิกหมกมุ่นซะทีได้มั้ย”
“ล้อเล่นค่า”
บิวตี้คนพยายามจับใจความทำความเข้าใจ “ลบเทป อะไรกัน”
พักตร์พิมลหันมาทางปีวรา “ปี เธอจัดการคุมรปภ.ไปที่รถ อย่าให้กลับไปที่ห้องนะ”
“ค่ะ”
พักตร์พิมลกับกระตั้วออกไป บิวตี้นกบินตาม
ธีภพ อ่านรายงานของบิวตี้อยู่ที่ห้องทำงานในบริษัท เห็นข้อควรปรับปรุงในโรงงานยาวเหยียด ตั้งแต่เปลี่ยนเครื่องแบบให้เก๋ไก๋ ติดกระจกเงา เพิ่มบริการนวด เปลี่ยนเมนูอาหารเป็นอาหารไร้ไขมัน เปิดคอร์สสอนแต่งหน้าให้สาวโรงงาน และข้อคิดที่เป็นประโยชน์กับโรงงานอื่นๆ ประธานหนุ่มเคาะนิ้ว ครุ่นคิด ชื่นชมในไอเดียของบิวตี้
ธีภพนึกถึงใบหน้าที่ผิดหวังและน้อยใจเมื่อเช้าของบิวตี้ เป็นห่วงและวุ่นวายใจมาก หยิบโทรศัพท์มากดหา
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก”
ธีภพดูนาฬิกา เวลาทุ่มกว่าแล้ว
ธีภพกดเบอร์บ้านบิวตี้ มีเสียงยกสายรับ เขารีบถาม “คุณบิวตี้มาหรือยัง”
พรรับสาย “ ยังเลยค่ะ”
ธีภพกดวางหู ชักหงุดหงิดคิดว่าบิวตี้หนีปาร์ตี้ “ขนาดมีเรื่อง ยังมีแก่ใจไปสำเริงสำราญได้ลงคอ”
เลขาเข้ามา ถือรูปที่ติดในใบสมัครงานของบิวตี้มาด้วย
“ยามประตูหน้าบอกว่าไม่มีหมายเลขนี้สแกนออกไปเลยค่ะ”
ธีภพบ่นกับตัวเอง “ยังอยู่ในบริษัทเหรอ”
ธีภพนิ่งคิด สายตาไปเจอกล้องซีซีทีวีที่ติดอยู่หน้าห้อง นึกได้ว่าน่าจะลองเช็คดู
ภายในห้องรปภ. เวลานี้ ด้วยเป็นช่วงเปลี่ยนกะ รปภ. จึงเหลืออยู่คนเดียวในห้อง พักตร์พิมลเดินเข้ามา รปภ. รู้ว่าเป็นใคร รีบตะเบ๊ะ ทำความเคารพ
“นี่เธอ ไปช่วยยกลังในห้องฝ่ายขาย หน่อยสิ”
“สักครู่นะครับ พอดีตอนนี้เปลี่ยนกะ ตอนนี้เหลือผมเฝ้าคนเดียว”
พักตร์พิมลแว้ดใส่ “ฉันมีธุระด่วน ต้องรีบไปเดี๋ยวนี้”
“ครับผม ครับผม” รปภ.จะหยิบวอมาเรียกคนอื่นมาอยู่เวรแทน
พักตร์พิมลตวาด “ยังมัวทำอะไรอยู่ รีบไปเร็วสิ ไม่ได้เรื่องเลย ชื่ออะไรน่ะ”
“ครับๆ” รปภ.ลนลานออกไป
กระตั้วรีบเข้ามา นกบิวตี้บินตาม
บิวตี้คนยืนหลบมุม จ้องมองจับผิดกระตั้วว่าทำอะไร
กระตั้วกดหา “ห้าโมงสามสิบห้าๆๆ มาเร็วสิ”
พักตร์พิมลบอก “ไม่ต้องลนลานมาก ฉันจอดรถไกลลิบ ยังพอมีเวลา”
ที่จอภาพเห็นพักตร์พิมลกับกระตั้วเดินไปที่โกดังสินค้า
บิวตี้คนมองจอภาพ จากตกใจเปลี่ยนเป็นแค้น “นึกไว้แล้ว พวกแกนี่เอง เลวที่สุด”
พักตร์พิมล สั่ง “นั่นไง ลบเลย”
“ดั้ย ค่า...” กระตั้วกำลังจะกดลบ นกบิวตี้พุ่งเข้าโจมตี จิกตีกะเทยถึกพัลวัน
กระตั้วตกใจวี้ดว้าย “ว้าย นกกัดๆๆ ช่วยด้วยค่ะ
คราวนี้บิวตี้พุ่งจิกพักตร์พิมล
“ว้าย นกบ้า อ๊าย... ไปนะ ว้าย” พักตร์พิมลปัดป้องให้วุ่น
กระตั้วกับพักตร์พิมลเผลอกรี๊ดลั่น เอาของใกล้มือพยายามตีนกบิวตี้
ธีภพเดินมาที่ห้องรปภ. จะมาดูจากกล้องว่าบิวตี้อยู่ไหน ได้ยินเสียงกรี๊ดสนั่นมาจากในห้อง พอจะเปิดประตู พบว่าห้องโดนล็อกไว้ เลยเคาะประตูเรียก
“เกิดอะไรขึ้น ผมธีภพนะ เปิดประตู บอกให้เปิด”
พักตร์พิมลกับกระตั้วเวลานี้หัวหูยุ่งเหยิง สองคนชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงธีภพ
พักตร์พิมลร้องสั่ง “พี่ธีมา ลบเร็ว”
“ไม่นะ หยุดเดี๋ยวนี้ บอกให้หยุด” บิวตี้คนเอาแขนฟาดหัว จิกหลังกระตั้วไม่หยุด
“อ๊าย นกบ้าอาละวาดอีกแล้ว ไปนะ”
พักตร์พิมลเอาไม้คอยตีนก แต่พลาดโดนหลังกระตั้วจังๆ กระตั้วกรีดร้องด้วยความเจ็บ
ธีภพตัดสินใจพังประตูเข้ามา ตกใจเมื่อเห็นสองคน “นี่มันอะไรกัน”
พักตร์พิมลร้องบอก “พี่ธี ระวัง นกบ้าค่ะ”
กระตั้ววี้ดว้าย “เราจะเป็นไข้หวัดนกมั้ยคะเนี่ย”
บิวตี้คนเกาะทีวี “พวกเธอไม่เป็นไข้หรอก แต่จะหนาว หนาวจนช็อกเลยล่ะ” แค่คนอื่นได้ยินเป็นเสียงนกดังจิ๊กจั๊กๆ “ดูนี่สิ”
ธีภพเห็นนกบิวตี้ ก็แปลกใจ “บิวตี้”
พักตร์พิมลตกใจคิดว่าเป็นบิวตี้ มองหา “ไหนบิวตี้”
บิวตี้คนส่งเสียงคนปนเสียงนกบอกธีภพ “ไม่ต้องสนใจฉัน ดูที่จอสิ”
ที่จอภาพเห็นแต่นกบิวตี้เกาะอยู่ ในจอว่างเปล่า ข้อมูลโดนลบไปแล้ว พักตร์พิมลถอนใจโล่งอก กระตั้วทำท่า “ฉันเก่งเริดอยู่แล้ว”
บิวตี้คนโกรธแค้น “ไม่นะ พวกนี้มันลบข้อมูลออกไป มันแกล้งฉัน คนเลว”
นกบิวตี้แค้นไล่จิกพักตร์พิมลกับกระตั้วอีกรอบ พักตร์พิมลกับกระตั้วหลบ ปัดป้องร้องกรี๊ดๆ ทั่วห้อง
กระตั้วเอากระเป๋าตีนก มีเข็มฉีดสีหลุดกลิ้งออกมา กระตั้วรีบเก็บ
บิวตี้คนจ้องกระตั้วที่กำลังเก็บเข็มฉีดสีเขม็ง
“ฉันไม่ปล่อยแกไปง่ายๆ หรอก”
อ่านต่อหน้า 4
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 6 (ต่อ)
ตอนนี้ คนสาม นกหนึ่ง อยู่ในห้องรปภ. ธีภพหน้าเครียดจ้องมองพักตร์พิมล และกระตั้วเขม็ง
“เข้ามาในห้องรปภ.ทำไม”
พักตร์พิมลโกรธกลบเกลื่อน ทำเป็นไม่พอใจ “แพ็ตมาตามยามให้มาช่วยยกของขึ้นรถ
“แล้วยามอยู่ไหน ทิ้งห้องไปได้ยังไง”
“ไม่ทราบฮ่ะ พอเราเข้ามาก็โดนไอ้นกเปรตนั่นเล่นงาน” กระตั้วชี้นกบิวตี้
“เรียกกู้ภัยมาจับตัวไปเถอะค่ะ สงสัยมันจะมีเชื้อบ้า” พักตร์พิมลบอก
บิวตี้คนโมโห “เธอสิบ้า ชอบ ใส่ร้ายคนอื่น แย่มาก”
“ไม่ต้องถึงหน่วยกู้ภัยหรอก แค่นกหงส์หยกธรรมดา เดี๋ยวจับไปปล่อยเอง”
“งั้นแพ็ตกลับก่อนนะคะ จะไปให้หมอตรวจว่ามีเชื้ออะไรหรือเปล่า
“ตั้วไปด้วยฮ่ะ อูย โดนจิก เลือดออกเลย”
“ยังไปไม่ได้นะ ธี ค้นในกระเป๋าสิ มีหลักฐานอยู่ในนี้” บิวตี้พุ่งไปดึงกระเป๋ากระตั้ว จิกตีตรงกระเป๋า
“ว้าย ตายแล้ว มันจิกตั้วอีกแล้วค่ะคุณแพ็ต อ๊ายยๆๆๆ” กระตั้วสะบัดตัวหนีไปมา
ธีภพพยายามห้ามนก “หยุดๆๆ พอแล้ว พอ”
กระตั้วดึงแขนพักตร์พิมลให้รีบไป “รีบหนีเถอะค่ะคุณแพ็ต นกผี น่ากลัวมาก”
บิวตี้คนร้องลั่น “หยุดนะ พวกเธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เอาไงดี ไม่อยากทำแต่...” สุดท้ายตัดสินใจเด็ดขาด “ช่วยไม่ได้แล้ว ฮึบ” บิวตี้พยายามเบ่งที่บั้นท้ายสุดแรงเกิด
นกบิวตี้บินขึ้นปล่อยขี้นก ใส่ครึ่งหัวครึ่งหน้าพักตร์พิมลและกระตั้ว อย่างแม่นยำ
พักตร์พิมล และ กระตั้วหยุดชะงัก ยกมือปาดขี้นกมาดู อย่างขยะแขยง
“อ๊าย... ขี้นก ขยะแขยง” พักตร์พิมลกรี๊ด
บิวตี้คนบ่น “ถ้าไม่จำเป็น คนอย่างฉันไม่มีวันทำเรื่องทุเรศอย่างงี้”
“อึ๋ยยย อ้วกแตก จะเป็นลม” กระตั้วลืมตัวเปิดกระเป๋าควานหากระดาษทิชชูเปียก มาเช็ดขี้นก
กระตั้ว กับพักตร์พิมล มัววุ่นกับขี้นก ไม่รู้ตัวว่าหลอดฉีดยาที่ยังมีคราบหมึกได้กระเด็นตกลงมา
บิวตี้คนปราดเข้าไปชี้ ตะโกนเสียงดัง “นายธี นี่ไงหลักฐาน ดูสิ หลักฐานอยู่นี่”
ธีภพมองตามนกบิวตี้ เห็นหลอดฉีดยา จึงก้มหยิบขึ้นมาดู และเข้าใจเรื่องทั้งหมด ทันทีมองพักตร์พิมล กับกระตั้ว อย่างโกรธขึ้ง
พักตร์พิมลกับกระตั้วรู้ตัวแล้ว ได้แต่ยืนนิ่ง อ้าปากค้าง
นกหนึ่ง คนสาม อยู่ในห้องทำงานประธานกรรมการ ธีภพจ้องมองภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัท มีบิวตี้คนแอบอยู่หลังตู้จ้องมองมาที่จอภาพ อย่างสาแก่ใจ
พักตร์พิมลกับกระตั้วก้มหน้านิ่ง ด้วยความหวั่นเกรงที่โดนจับได้
ที่จอภาพ เห็นกระตั้วกำลังฉีดสีเข้าไปที่ม้วนผ้า มีพักตร์พิมลยืนบังกล้องอีกตัวอย่างจงใจ แต่ไม่รู้ว่ามีกล้องอีกตัว
บิวตี้คนชี้ๆ “นี่ไง โธ่เอ๊ยยัยแพ็ตนึกว่าตัวเองฉลาด ซื่อบื้อ แล้วไม่ขึ้นกล้องอีกต่างหาก”
พักตร์พิมลแอบขมุบขมิบปาก ถลึงตาใส่กระตั้ว “ไหนว่าลบแล้วไง”
กระตั้วจ๋อย กระซิบกลับ “ก็ไม่รู้ว่ามีหลายตัว”
“นึกไม่ถึงว่าจะมีการแกล้งกันขนาดนี้ ไม่อย่างงั้นคงเรียกมาดูตั้งแต่ต้น” ธีภพหน้าตึง
บิวตี้คนโกรธ “ใช่สิ นายปักใจเชื่อว่าฉันทำผิดอย่างเดียวเลย”
พักตร์พิมลแก้ตัว “แพ็ตไม่ได้แกล้งนะคะ แค่จะทดสอบดูว่าพนักงานตั้งใจทำงานหรือเปล่า”
บิวตี้คนแว้ดใส่ “โกหก”
“ใช่ค่ะ เราได้รับร้องเรียนมาว่า พนักงานคนใหม่ไม่มีประสิทธิภาพเลย” กระตั้วเสริม
ธีภพบอกขรึมๆ “จะให้พักงาน หรือจะลาออกเอง”
“เค้าเป็นแค่พนักงานฝึกหัด ให้ออกไปเลยดีกว่าค่ะ” พักตร์พิมลยังไม่รู้ตัว
“ผมหมายถึงคุณพักตร์พิมล กับ คุณกันดิศ ที่ทำทรัพย์สินบริษัทเสียหาย”
พักตร์พิมลตกใจ “แพ็ตเปล่า”
กระตั้วตกใจกว่าแก้ตัวปากคอสั่น “มันอาจะเป็นภาพตัดต่อก็ได้นะคะ”
ธีภพดุ “ออกไปรอข้างนอก”
กระตั้วลนลานออกไป
“แพ็ตทำเพื่อบริษัทมาตั้งเยอะ แค่นี้ถึงกับจะไล่ออกเลยหรือคะ”
“ถ้าจะอยู่ต่อก็ให้ยุติเรื่องทั้งหมด พรุ่งนี้ ไปขอโทษบิวตี้เค้าซะ”
“ไม่มีทาง” พักตร์พิมลบอกด้วยแววตาชิงชัง
“เธอตกลงแล้วนี่ ว่าถ้าฉันไม่ผิดทั้งสองคนจะต้องขอโทษฉัน ต่อหน้าพนักงานทุกคน และต้องทำตามคำสั่งของฉันทุกอย่างหนึ่งวันเต็มๆ” บิวตี้ว่า
“ถ้างั้นพี่ก็ต้องทำตามกฎ”
บิวตี้คนฮึดฮัด “ใช่ ไม่ทำก็ออกไปเลย”
บิวตี้นกส่งเสียงร้องเหมือนเสียงเยาะ พักตร์พิมลมองนกหงส์หยกอย่างขุ่นเคือง
ธีภพเดินมาที่รถ มีบิวตี้นกเกาะอยู่ที่แขน
ธีภพจ้องมองนกบิวตี้เขม็ง “แกต้องไม่ใช่นกธรรมดาแน่ๆ” ยกนกขึ้นมามองใกล้ๆ แทบจะชิดใบหน้า
บิวตี้คนถูกธีภพจ้องอย่างใกล้ชิด จมูก ปาก แทบจะชนกัน
บิวตี้คนเอนตัวหนี เสียงสั่น “ทำอะไรของนาย ไม่ต้องใกล้ขนาดนั้นก็ได้”
“แกเป็นนกจารกรรม มีชิปคอยควบคุมอยู่ใช่ไหม”
ธีภพเลื่อนสายตาจ้องดูร่างบิวตี้คนอย่างพินิจพิเคราะห์ เขี่ยตามลำตัวบิวตี้เพื่อหาชิปที่ฝังอยู่
บิวตี้คนจักกระจี้ “ฮิฮิ หยุดนะ ฉันจักกระจี้ หยุด พอได้แล้ว”
ธีภพสำรวจนกหงส์หยกอย่างถี่ถ้วน โทรศัพท์ของธีภพมีเสียงสัญญาณข้อความเข้า
ธีภพหยุดเขี่ยนก กดโทรศัพท์ดูเป็นรูปอรวิภานึกได้ ตกใจ “โอ๊ย...ลืมสนิท”
ข้อความไลน์ของอรวิภาเขียนว่า “งานยุ่งจนลืมอีกหรือเปล่าคะ”
ธีภพถอนใจใหญ่รีบกดไลน์ถึงอรวิภา “น้องอร ผมกำลังเดินทางนะครับ พอดีมีปัญหาที่บริษัทเพิ่งจะเคลียร์เสร็จ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงนะครับ”
ธีภพรีบขึ้นรถ นกบิวตี้ไม่ยอมขึ้นรถ บินเกาะที่หลังคานิ่ง
“อ้าว บิวตี้จะไปไหน”
“จะไปกินข้าวกับยัยแอ๊บแบ๊ว ชิ ไม่ไปด้วยหรอก เชิญตามสบาย”
นกบิวตี้ บินหนีไปเลย ธีภพมองตาม คาดเดาอารมณ์นกขี้วีนไม่ถูกเล้ย...
อ่านต่อตอนที่ 7