เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 5
เจตน์ชาญเดินออกมาตามทางเดินในบริษัท จนพบกรเทพที่นั่งรออยู่มุมหนึ่ง
“เป็นยังไง บ้างคุณเจตน์”
เจตน์ชาญเยื้อนยิ้ม “ท่าทางจะไม่สำเร็จ...แต่ผมก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมเจอทางเลือกใหม่ ที่น่าสนใจกว่า”
กรเทพฉงน “ทางเลือก อะไร”
“ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ครับ ขอเวลาเตรียมตัว เตรียมใจก่อนสักพัก”
“เตรียมใจเลยหรือ” กรเทพหัวเราะ “ผมชักอยากรู้แล้วสิเนี่ย”
บิวตี้เดินหน้างอมาตามทาง เห็นกรเทพพูดคุย หัวเราะ ดูสนิทสนมกับเจตน์ชาญมากเลยหยุดมอง หน้าตาโกรธขึ้น
“สนิทกับคู่แข่งขนาดนี้เลยเหรอ”
บิวตี้หลบมุม เห็นทั้งคู่จับมือลากันอย่างหนิดหนม แถมกรเทพตบไหล่เจตน์ชาญ ยิ้มแย้มแล้วเดินไปด้วยกัน
“หรือว่า....นายคนนี้นี่เองที่อาคุยด้วยในวันนั้น...อานะอา”
บิวตี้น้ำตาคลอเสียใจ คิดว่ากรเทพทรยศบริษัท เดินหลบไปอีกทาง
ตอนเที่ยง บิวตี้เหม่อลอยอยู่ในโรงอาหารบริษัท สะเทือนใจกับภาพกรเทพกับเจตน์ชาญที่เห็นตำตา อาหารตรงหน้าของบิวตี้แทบจะไม่ถูกแตะ
“กินๆ เข้าไปเดี๋ยวไม่มีแรงทำงานหรอก” ศรีนวลบอก
“ไม่เห็นต้องมีเลยป้า เหนื่อยก็หาเรื่องอู้ หายไปหาใครก็ไม่รุ๊ ปล่อยให้พวกเราทำงานงกๆแทน...ทุเรศที่สุดเลย” เนยสาระแน
บิวตี้บอก “ฉันไปบอกผู้ใหญ่ว่าพวกเราโดนแกล้ง”
นีไม่เชื่อ “บอกผู้ใหญ่แล้วไหนละ ทำไมไม่เห็นมีใครมาช่วยเลย”
ติ๋มก็ด้วย “เธอไปบอกอีท่าไหนยะ นั่งบอกหรือนอนบอก”
ทุกคนฮาครืน ศรีนวลถอนใจ ฟังเงียบๆ
“ฉันรายงานไปแล้ว อย่างน้อยก็ไม่งอมืองอเท้าให้ใครมากดขี่ง่ายๆ” บิวตี้ว่า
“ไม่อยากโดนกดขี่ ก็เลยไปให้เขาขี่กด” ติ๋มปากดีแดกดัน
เนย กะนี หัวเราะอย่างสะใจ
“เธอหมายถึงอะไร ยายหน้าสิว” บิวตี้ถาม
ติ๋มชะงัก อ้าปากค้าง “อ๊าย มันเรียกฉันว่า...”
เนยกะนี บอก “ยายหน้าสิว”
“ก็มีเยอะจริงนี่ น่าจะรีบรักษานะ” บิวตี้จับหน้าติ๋มมาดู “ดูสิ..มันน่าเกลียดจะตายไป ชั้นแนะนำหมอให้เอามั้ย”
“ทนไม่ไหวแล้ว” ติ๋มปราดเข้าจะตบบิวตี้
ศรีนวลตวาด “หยุด บอกว่าให้หยุด นี่พวกแกจะตบกันสามเวลาหลังอาหารเลยหรือไง โอ๊ย”
บิวตี้งงๆ ว่าพูดความจริง จะมาตบทำไมมิแซบ
เย็นแล้ว อรวิภา จัดเตรียมปาร์ตี้เปิดแผนกกาแฟ และขนมอรวิภาฟลอริสต์ เป็นงานสวยหวาน ไม่เป็นทางการมาก อรวิภาจัดการเตรียมอาหารรับรองแขกด้วยตัวเอง อดิศักดิ์เข้ามาในร้าน
“ป่าป๊ามาแล้วค่ะลูกขา” เครือวรรณหันไป
อรวิภาวิ่งมากอดพ่อ “ป๊ามาเร็วจัง น้องอรยังจัดของว่างไม่เสร็จเลยค่ะ”
“บอกว่าให้จ้างเค้าก็ไม่ยอม” อดิศักดิ์มองหา “ธีภพ มาหรือยัง”
“คงรอให้งานเลิกก่อนน่ะค่ะ”
อดิศักดิ์ไม่พอใจนัก “อะไรกัน ขนาดป๊ายังออกมาก่อนได้เลย”
“อย่าเพิ่งมาก็ดีแล้วค่ะ น้องอรจะได้มีเวลาเตรียมตัว”
เจตน์ชาญเข้ามา มีนักดนตรีเครื่องสาย 3 - 4 ชิ้น มาด้วย อรวิภาตาขวางทันที
อดิศักดิ์บอก “ป๊าเชิญคุณเจตน์ชาญมาด้วย...เค้านัดมาคุยธุระกิจกับป๊าพอดี..ตามสบายครับคุณเจตน์”
เจตน์ชาญยิ้มให้ขำๆ
“ขอโทษที่ต้องมารบกวนนะครับ...อันที่จริงผมคิดจะเอาช่อดอกไม่มาอวยพรก็คงไม่มีใครจัดดอกไม้ได้สวยเท่าที่นี่ผมเลยขอนำเสียงเพลงมาอวยพรแทนครับ”
นักดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงหวานไพเราะ เข้ากับบรรยากาศยามเย็น
เครือวรรณเป็นปลื้ม “ตาย...เพราะจังเลยค่ะ คุณเจตน์ช่างคิดจังเลย”
เจตน์ชาญยิ้มรับแล้วมองอรวิภาดูออกว่าไม่เต็มใจนัก
“ขอบคุณค่ะ...เชิญตามสบายนะคะคุณ...เจตน์ชาญ”
เจตน์ชาญยิ้มขำๆ เอ็นดูอรวิภา อดิศักดิ์มองท่าทีเจตน์ชาญกับอรวิภา สีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด
ที่โรงงาน ประตูห้องถูกเคาะ เลขาพาบิวตี้เข้ามา
“มีธุระอะไรอีกนี่มันเลิกงานแล้วนะ ทำไมไม่พูดให้เสร็จๆไปตอนที่ฉันมาทีแรก”
“ผมแค่อยากสอนให้รู้ว่าคนมีมรรยาทเขาทำกันยังไง เวลาจะไปหาใครในห้อง คุณควรจะนัดหมายเค้าซะก่อน ไม่ใช่พรวดพราดเข้ามา”
“ก็ตอนนั้นฉันมีเรื่องด่วน”
บิวตี้ยังกรุ่นอยู่กับเรื่องเมื่อกลางวัน
“คุณเป็นประธานภาษาอะไร เวลามีเรื่องคุณไม่เคยสนใจ คุณปล่อยให้ลูกน้องแก้ปัญหากันเองแบบนี้ได้ยังไง เวลาลูกน้องมาร้องเรียนคุณก็ควรจะฟังสักนิด ไม่ใช่ไล่ออกไปอย่างกับหมูกับหมา”
“พอรึยัง จะเป็นหัวหน้าใคร มองและคิดให้มากกว่านั้น อย่าตัดสินอะไรง่ายๆ ไหนเอาการบ้านของวันนี้มาดูหน่อยซิ”
“การบ้านของวันนี้ก็ส่งพรุ่งนี้สิ” บิวตี้ว่า
ธีภพย้อนเอา “งั้นของเมื่อวานที่คุณมาส่งเมื่อเช้าน่ะ”
“หาเรื่องตลอด ทีตอนเอามาส่งล่ะไม่อ่าน” บิวตี้ค้อนควัก หยิบสมุดยื่นให้ “เร็วๆ นะ นี่มัน 5 โมงกว่าแล้ว”
ธีภพก้มอ่าน “อื้อหือ”
บิวตี้ยิ้ม “ดีใช่มั้ยล่ะบอกแล้วว่าชั้นเก่ง”
“ใครบอก ลายมือแย่มาก อ่านแทบไม่ออกเลย”
“ก็มันรีบ เช้าต้องรีบตื่นขึ้นมาเขียนๆๆ”
“แล้วทำไมไม่ทำตอนเย็น”
“ตอนเย็นเขียนได้ที่ไหน...ก็มัน...” บิ้วตี้หยุดกึก
ธีภพยิ้มเยาะ “ต้องออกเที่ยวทุกคืนใช่มั้ย” ชายหนุ่มอ่านอย่างสนใจ “พนักงานขาดความสามัคคีแบ่งเป็นพวกใครพวกมัน จริงเหรอ”
“จริงซี่ มีทั้งขาใหญ่ มาเฟีย ขี้ประจบ ฉันเกือบโดนพวกนี้ตบ 2 ครั้งแล้ว”
“แล้วบิวตี้ทำไง” ธีภพเผลอเรียกบิวตี้อย่างหนิดหนมเหมือนตอนเป็นเด็ก
“ก็สู้สิใครจะยอมให้เค้ารังแกง่ายๆ”
“แล้วคุณสู้เค้าไหวเหรอ”
“ก็ตะโกนดังๆ เดี๋ยวป้าศรีนวลก็มาช่วยเอง”
“ป้าศรีนวล หัวหน้าคนงานน่ะเหรอ” ธีภพฉงน
“ใช่ ป้าแกใจดีนะ ใจดีที่สุดในบริษัทนี้เลยแหละ”
“อ้าว เขาว่าแกดุไม่ใช่เหรอ”
“ถ้าทำผิดแกก็ดุ แต่บิวตี้ไม่โกรธหรอก แกจริงใจดีน่ารักที่สุดเลย”
ธีภพมองบิวตี้กับท่าทีกระตือรือร้นอย่างเริ่มเอ็นดูขึ้นมาบ้าง หวนนึกถึงเรื่องราวเมื่อ 20 ปีก่อน
ในเวลานั้นเด็กหญิงบิวตี้เอื้อมมือสั่นเทา จะลูบตัวหมาของเด็กชายธีภพ
“ลูบเลยมันไม่กัดหรอก”
บิวตี้เอื้อมมือไปแต่ไม่มั่นใจ “บิวตี้กลัว”
ธีภพประคองมือบิวตี้ไปลูบตัวหมา “ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ปล่อยให้มันกัดบิวตี้หรอก”
“บิวตี้อยากเลี้ยงหมาอย่างพี่ธีมั่ง แต่คุณพ่อบอกว่าบิวตี้ยังเลี้ยงไม่ได้”
“ถ้าคุณลุงอนุญาต พี่จะหาลูกหมาให้บิวตี้เอง”
“จริงนะ พี่ธีใจดีที่สุดในโลกเล้ย” บิวตี้กอดแขนธีภพ
ธีภพยิ้มให้บิวตี้ที่ยืนยิ้มหวานอย่างประจบมาให้
ธีภพลูบหน้า พยายามลืมอดีต ปิดสมุดลุกขึ้น
“ชั้นกลับด้วยสิ” ธีภพมองงงๆ “นี่คุณห้ามชั้นขับรถมานี่นา...แล้วนี่มันก็ 5 โมงกว่าแล้ว..โทร.ตามคนรถก็ไม่ทัน...ขอชั้นไปด้วยนะ...นะ นะ นะ นะ”
บิวตี้มองอย่างอ้อนวอน ธีภพอึดอัดเล็กน้อย ก่อนจะดูนาฬิกา
ที่งานเปิดร้านอรฟลอริสต์ แขกมาเต็มงานแล้ว วงดนตรีที่เจตน์ชาญพามาเล่นอย่างไพเราะเพราะพริ้ง อาหารทยอยเสิร์ฟให้แขกในงาน อดิศักดิ์คุยกับเจตน์ชาญ ท่าทางถูกคอ
อรวิภาชะเง้อหาแต่ธีภพ แอบ มองนาฬิกา ท่าทีกระวนกระวายใจ
ธนาเข้ามากับภาวินี อรวิภาเผลอทักด้วยความดีใจ
“พี่ธี” แล้วรีบมาไหว้สองคน “เชิญค่ะคุณพ่อ คุณแม่”
“ขอแสดงความยินดีกับร้านใหม่นะหนู” ธนาส่งซองหนาให้แสดงความยินดี
“แหม เพลงเพราะจัง จากที่ไหนจ๊ะ” ภาวินีจ๊ะจ๋า
“คุณเจตน์ชาญ เป็นคนพามาค่ะ เดี๋ยวน้องอรถามให้นะคะ”
ธนามองเจตน์ชาญที่คุยกับอดิศักดิ์อย่างระแวง พึมพำออกมา “เจดการ์เม้นท์”
“ใช่ค่ะ” อรวิภาว่า
“หนูอรจ๋า ธีเขาโทร.มาบอกว่าติดงานนะลูก เขาฝากขอโทษมาด้วย” ภาวินีบอก
“อ้าว เหรอคะ” อรวิภาหน้าเจื่อน และค่อยๆ สลดลงทันที “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
สีหน้าอรวิภาสลดจนเห็นได้ชัด
อดิศักดิ์และเจตน์ชาญมองมาเห็นพอดี
อ่านต่อหน้า 2
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 5 (ต่อ)
รถธีภพแล่นมาตามถนน บิวตี้ร้อนใจสุดขีด ด้วยพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินเต็มที หล่อนดูนาฬิกา เป็นเวลา 5 โมง จะ 50 นาที อยู่แล้ว
“ขับเร็วๆ หน่อยไม่ได้หรือไง”
“นี่มันถนนในซอยนะคุณ มีทั้งเด็ก ทั้งหมา ใจเย็นๆ สิ”
“เร็วเข้าเถอะน่า พระอาทิตย์จะตกอยู่แล้วไม่เห็นหรือไง”
“ตกแล้วเป็นอะไร”
“ปั้ดโธ่ บอกให้เร็วก็เร็วสิ ฉันไม่น่ามากับนายเลย” บิวตี้เริ่มเจ็บไปทั่วสรรพพางค์ ร้อง “โอ๊ย”
ธีภพตกใจ “บิวตี้ เป็นอะไร”
บิวตี้ ทุรนทุราย หล่อนจะยอมให้ธีภพเห็นตอนแปลงร่างเป็นนกหงส์หยกไม่ได้เด็ดขาด
รถธีภพเลี้ยวเข้ามาในปั๊มน้ำมันช้าๆ ท่าทีของเขาดูลังเล ด้วยเห็นเป็นห้องน้ำเปลี่ยวๆ ไม่มีคนพลุกพล่าน
“แน่ใจเหรอว่าจะเข้าห้องน้ำแบบนี้ได้”
บิวตี้ตวาดแว้ด ท่าทีร้อนรนเจ็บปวดทั่วร่างจนสุดกลั้น “รีบจอดเร็วๆ เข้าเถอะน่าไม่ต้องพูดมาก”
ธีภพประชดเบรครถแรงๆหัวทิ่ม
“โอ๊ย ตาบ้า คนยิ่งรีบอยู่”
“รีบลงไปเลย อย่ามาราดบนรถผม”
บิวตี้ไม่มีเวลาเถียง พรวดพราดลงจากรถ ท่าทางเจ็บปวดขีด วิ่งเข้าห้องน้ำไม่ถือของอะไรเลย
ธีภพเยาะขำๆ “ไม่ไหวแล้วละสิ โธ่เอ๊ย คุณหนูบิวตี้ เวลาปวดท้องขึ้นมา ไม่เหลือมาดนางแบบเลย”
ธีภพรอบิวตี้เข้าห้องน้ำอยู่สักครู่ แล้วนึกขึ้นได้ เดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ
พระอาทิตย์ลับฟ้า จากกลางวันกลายเป็นตอนกลางคืน
ขณะเดียวกันที่งานเปิดร้านอรฟลอริสต์ ภาวินีสะกิดให้ธนาดูภาพ เจตน์ชาญที่ชวนอรวิภาพูดคุยท่าทางสนิทสนม แถมอดิศักดิ์ดูถูกคอกับเจตน์ชาญมาก
ภาวินีชักไม่พอใจ “นายเจตน์ตามหนูอรแจตลอดงานเลย”
“บอกนายธีนะ ว่าถ้าขืนทำเรื่อยๆเฉื่อยๆแบบนี้ ระวังจะเสียคะแนน” ธนากำชับภรรยา
แขกเริ่มทยอยกลับ มาลาอดิศักดิ์ และอรวิภา เจตน์ชาญยืนเคียงข้างอรวิภาราวกับเป็นคู่รัก หรือเจ้าบ่าว
ภาวินีบอกสามี “ชักร้อนใจแล้วสิคะ กลับกันเถอะค่ะ”
ภาวินี และธนา เดินไปลา อดิศักดิ์ กับอรวิภา
“ต้องขอตัวก่อนนะครับ”
“งานวันนี้สนุกมากเลยค่ะ หนูอรเก่งจริงๆ”
เครือวรรณบ่น “น่าเสียดายนะคะที่คุณธีภพติดงาน”
“น้องอร ฝากขนมไปให้พี่ธีด้วยนะคะ” อรวิภามอบขนมที่เตรียมไว้ส่งให้
“ขอบคุณมากนะคะหนูอร ตาธีเห็นเข้าคงเสียดายแย่ที่ไม่ได้มาวันนี้”
เจตน์ชาญมองขนมอย่างชื่นชม “โอ้โห สวยน่าทานมากเลยครับ”
“จัดให้คุณเจตน์ชาญด้วยสิจ๊ะลูกจ๋า” เครือวรรณบอก
อรวิภาค้อนเจตน์ขวับไม่เต็มใจ “ได้ค่ะ” ขยับตัวจะไปจัด
เจตน์ชาญแกล้ง “ไม่เป็นไรครับ ผมมาทานที่ร้านทุกวันเลยดีกว่า”
“อุ๊ย เชิญเลยค่ะ แม่จะบอกให้อรเขาลองทำเมนูใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ จะได้ไม่เบื่อ”
ภาวินีสบตากับธนา อย่างอึดอัด และขัดใจ
อ่านต่อหน้า 3
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 5 (ต่อ)
ฝ่ายธีภพดื่มกาแฟที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อระหว่างรอจนหมด ชายหนุ่มดูนาฬิกาบ่นพึมพำ สงสัยทำไมบิวตี้เข้าห้องน้ำนาน
“เข้าไปทำอะไรของเค้านะ มัวส่องกระจกอยู่หรือไง”
ธีภพลงมายืนรอข้างรถ ชักกังวลใจ จะเรียกก็ไม่กล้า
“คุณหนูจอมเนี้ยบ แต่ชอบเข้าส้วมปั๊ม” ธีภพส่ายหน้าเบื่อๆ
คนดูแลห้องน้ำ เพิ่งทำความสะอาดห้องน้ำชายเสร็จ จะเข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำหญิง
ธีภพเดินมาถามกับคนดูแล “ขอโทษครับ ผู้หญิงใส่ชุดโรงงานสีเขียว เข้าห้องน้ำไปนานมากแล้ว กลัวว่าจะเป็นลม หรือไม่สบาย”
“จ้ะ เดี๋ยวดูให้นะ” คนดูแลเข้าไปในห้องน้ำหญิง
ธีภพมองตาม กลัวว่าบิวตี้จะเป็นอะไร
คนดูแลถือชุดของบิวตี้ออกมา “ไม่เห็นมีใครเลยจ้ะ มีแต่ชุดนี่ถอดทิ้งไว้หน้าประตู”
ที่แท้บิวตี้แปลงร่างก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำได้ทัน
ธีภพงง มองชุดทำงานในมือ “ถอดไว้หน้าประตู เอ๊ะแล้วเขาใส่อะไร” ตกใจรีบบอกพนักงาน “ช่วยเช็คดูให้ละเอียดอีกทีสิครับ”
“ฉันดูทุกห้องแล้วจ้ะ ไม่มีจริงๆ”
ธีภพตกใจมาก รีบเข้าห้องน้ำชาย กลัวบิวตี้โดนลากไปทำร้าย ร้องสั่ง “ช่วยดูรอบๆ ด้วย”
“เมื่อกี้ป้าเพิ่งจะออกมา ไม่เห็นมีอะไรเลย” แต่คนดูแลก็มีน้ำใจช่วยหาดูรอบๆ
นกบิวตี้บินออกมาจากพุ่มไม้ข้างห้องน้ำ กลายเป็นบิวตี้คน
สีหน้าหงุดหงิดมาก “เพราะนายนั่นแหละ ขับรถอืดอาดยืดยาดอยู่ได้ ทำให้ฉันต้องกลายเป็นนกในส้วมอีกแล้ว” บิวตี้นกในคราบคนมองตัวเองอย่างขยะแขยง “อี๋ย”
ธีภพออกมาจากห้องน้ำชาย กวาดตามองหาบิวตี้ทั่วๆ อย่างกังวลใจกลัวมีอันตราย แล้วจึงเดินไปดูในร้านสะดวกซื้อ
บิวตี้คนพูดด้วยแต่ธีภพไม่ได้ยิน “สมน้ำหน้า หาซะให้เข็ด บอกว่าให้ขับเร็วๆไม่ยอมเชื่อ”
ธีภพท่าทางไม่สบายใจมาก ถามพนักงานปั๊มที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนส่ายหน้า
ธีภพกลับมาขึ้นรถ
บิวตี้คนพยายามดึงประตูรถ แต่ทำไม่ได้ “อ้าวเฮ้ย เดี๋ยว ฉันยังไม่ได้ขึ้นรถเลย รอด้วย”
ธีภพสตาร์ทรถขับรถออกไปด้วยความร้อนใจ
“ที่อย่างงี้ขับซะเร็วเลย ตาบ้า”
บิวตี้คนกลายเป็นนก เกาะรถธีภพไป
ๆม่นานต่อมาธีภพขับรถมาจอดที่หน้าคฤหาสน์บ้านบิวตี้ ลงจากรถมาถามป้าจัน กับพร
ท่าทีธีภพดูกังวล และหงุดหงิดมาก “บิวตี้กลับมาหรือยัง”
“ยังเลยค่ะคุณธี” ป้าจันบอก
พรจะพูด “หมู่นี้คุณบิวตี้”
ป้าจันกระตุกเตือนพร ไม่ให้พูดกลัวบิวตี้เสียชื่อ
“คุณหนูกลับบ้านค่ำหน่อยค่ะ ตอนเช้าก็ออกไปทำงานแต่เช้า”
ธีภพยิ่งกังวล พึมพำ อย่างหงุดหงิด “จะไปไหนก็ไม่บอก อยู่ๆก็หายตัวไปซะอย่างงั้น”
ป้าจันตกใจ “คุณหนูหายไปอีก...เอ่อ หายไปเฉยๆ หรือคะ”
“ครับ นั่งรถมากับผมดีๆก็ ลงไปทิ้งเสื้อผ้าไว้แล้วหายไปไหนก็ไม่รู้” ธีภพหันมาทางพร “ช่วยเอาของ ของคุณบิวตี้ในรถลงด้วย”
“ค่ะ” พรหยิบชุดและกระเป๋าของบิวตี้ เห็นผ้าพันคอลายเก๋ๆ ของบิวตี้ตกอยู่ที่เบาะ
มือถือของธีภพดัง ธีภพรับ
“ครับแม่”
นกบิวตี้บินมาเกาะใกล้ๆ
ภาวินีอยู่ที่บ้าน “ธีพ่อแม่กลับจากงานมาถึงบ้านแล้ว ธีอยู่ไหนเนี่ย”
“ผมมาส่ง...บิวตี้ น่ะครับ กำลังจะกลับ” เขาตัดสินใจไม่เล่าเรื่องบิวตี้หายไป
“จ้ะ แม่คอยอยู่นะ”
“ครับ” ธีภพกดวางหูแล้วพูดกับป้าจัน “คุณบิวตี้กลับมาเมื่อไหร่ให้โทร.หาผมด้วยนะ”
“ค่ะ คุณธี”
ธีภพกำลังจะขึ้นรถ เห็นนกบิวตี้ ก็ตกใจ และแปลกใจ ร้องทัก “บิวตี้”
ป้าจันดีใจ มองหาบิวตี้ “คุณหนู มาแล้วหรือคะ”
พรก็มองหา “ไม่เห็นมีใครเลยค่ะ”
“เปล่า ผม หมายถึง นกตัวนี้น่ะ” ธีภพจับนกบิวตี้ไว้ “ผมกลับก่อน อย่าลืมบอกให้เค้าโทร.หาผมนะครับ”
“ค่ะ”
ธีภพ พานกบิวตี้ขึ้นรถแล้วขับออกไป
พรมองนก ด้วยหน้าตาสงสัย “เอ๊ะ นกตัวนั้น มันใช่ตัวเดียวกับที่หนูไล่จับรึเปล่านะป้า”
ป้าจันเป็นห่วงบิวตี้ ไม่ตอบ เดินเข้าบ้านไป
พรยังคลางแคลงใจ “ตั้งแต่คุณหนูห้ามไล่นกเนี่ย มันชักมากันเยอะนะ”
งานเปิดร้านอรวิภาเลิกแล้ว นักดนตรีเก็บเครื่องดนตรี เครือวรรณ คุมพนักงานเก็บของ
เจตน์ชาญไหว้ลาอดิศักดิ์ “ผมลาครับท่าน”
“ขอบคุณมากนะคุณเจตน์ น้องอรไม่ขอบคุณคุณเจตน์หน่อยหรือลูก”
อรวิภาหน้าตึง ไหว้เจตน์ชาญ “ขอบคุณค่ะ”
“คุณเจตน์ช่วยขนาดนี้ ต้องเลี้ยงตอบแทนแล้วละ” อดิศักดิ์ว่า
“นั่นสิคะ วันอาทิตย์หน้า คุณเจตน์ว่างไหมคะ”
“ว่างครับ”
อรวิภาพยายามเลี่ยง “แต่ป๊าไม่อยู่ไม่ใช่หรือคะ”
“ป๊าไปฮ่องกง น้องอรเป็นเจ้าภาพเลี้ยงคุณเจตน์ไปก่อนแล้วกัน”
อรวิภาออกอาการอึดอัดใจ “เลี้ยงบ่อยๆ คุณเจตน์คงเบื่อแล้วมั้งคะ”
อดิศักดิ์เสนอ “งั้นก็ไปหาร้านอร่อยๆ เปลี่ยนบรรยากาศสิ”
“ไปทานข้างนอกก็ดีเหมือนกัน คุณเจตน์ชอบอาหารจีนไหมคะ” เครือวรรณถาม
“ผมชอบทุกประเภทครับ”
“แต่อรไม่ชอบ”
“งั้นอรเลือกร้านที่ชอบ พาคุณเจตน์ไปกันก่อนนะ สิ้นเดือนป๊าว่างค่อยนัดใหม่อีกที”
เจตน์ชาญแอบยิ้มเยาะกวนๆ ใส่หน้าอร
อรวิภาโมโหเดินหนี
ภาวินีกลับถึงบ้าน เปลี่ยนเป็นชุดอยู่กับบ้านแล้ว เดินไปมาอยู่ในโถง รอธีภพด้วยความร้อนใจ
สักครู่หนึ่งธีภพเข้ามาในบ้านถือผ้าพันคอของบิวตี้ที่ตกอยู่ในรถ มีนกบิวตี้นกเกาะบ่า ชะงักเมื่อเห็นพ่อกับแม่
ภาวินีแปลกใจ “ผ้าพันคอของผู้หญิงที่ไหนน่ะธี”
“ยัยบิวตี้ทำตกไว้ในรถครับ” ชายหนุ่มส่งของและผ้าพันคอให้สาวใช้
“อ้าว ไปส่งบิวตี้มาเหรอ” ธนาถาม
“ครับ แต่อยู่ๆ ก็ขอเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม ถอดชุดโรงงานทิ้งไว้ แล้วก็หายตัวไปไม่บอกไม่กล่าว”
ภาวินีร้อง “อ๋อ...คงใส่ชุดไว้ข้างใน แล้วไปปาร์ตี้ต่อ”
“พวก Generation Me ทำอะไรนึกถึงแต่ตัวเอง แกก็ใช่ย่อย”
“ไม่เอาค่ะ ไม่พูด เดี๋ยวเถียงกัน กินข้าวดีกว่าจ้ะธี” ภาวินีเห็นนกบิวตี้ “อ้าวเจ้าตัวเล็ก วันนี้มารออยู่หน้าบ้านหรือจ๊ะ”
ธีภพบอก “เปล่าครับ ไปเจอที่หน้าบ้านบิวตี้”
“ทำไมถึงแสนรู้อย่างงี้หือ เจ้าตัวเล็ก” ภาวินีลูบนกบิวตี้อย่างเอ็นดู
ธีภพนั่งลง บิวตี้คน นั่งข้างๆ
ภาวินีเลื่อนอาหารให้ธีภพ “วันนี้น้องอรเขาผิดหวังมากรู้ไหม ที่ลูกไม่ไปงาน”
ธนาประชด “คงไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก เขามีคุณเจตน์ชาญคอยดูแล”
บิวตี้คนบ่นกับธนา “คุณอากำลังแหย่ให้นายธีหึงใช่ไหมคะ”
“แม่ว่าธีต้องจริงจังกว่านี้แล้วล่ะ ไม่งั้นโดนตัดหน้าแน่ แม่เสียดายคนน่ารัก ดีพร้อมอย่างหนูอร”
“ครับแม่”
บิวตี้คนประชด “คุณอา! ยัยแบ๊วนั่นน่ะหรือคะ น่ารัก ดีพร้อม”
ธีภพมองนกบิวตี้แล้วหัวเราะ “ทำท่าหงุดหงิดขี้อิจฉาเหมือนยัยบิวตี้ไม่มีผิด”
บิวตี้คนร้องโวยวาย เป็นเสียงนกร้องผสมกับเสียงคน “ฉันไม่ได้ขี้อิจฉา”
“พ่อว่า ลูกต้องให้ความมั่นใจกับผู้หญิงเขามากกว่านี้ นี่ต้องให้พ่อสอนวิธีจีบหญิงมั้ยเนี่ย” ภาวินีค้อนควัก “ก็จีบคุณไง” สองผัวเมียแซวกันเองอย่างครื้นเครง
“ได้ครับ ได้ครับ ผมจะใส่ใจน้องเค้าให้มากขึ้น”
บิวตี้คนหงุดหงิด “ลูกแหง่ ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย น่าเบื่อ”
นกบิวตี้บินออกไปจากห้อง ธีภพไม่ทันได้สนใจ
อ่านต่อหน้า 4
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 5 (ต่อ)
ด้านอรวิภาเข้าบ้านมา จะเดินขึ้นห้องนอนท่าทีโกรธๆ อดิศักดิ์ตามมาต่อว่าหน้าตึงด้วยความโมโห
“ทำไมอรเสียมารยาทแบบนี้”
“ไม่เอาค่ะปะป๊า อย่าดุลูกแบบนั้นสิคะ”
“ทำไมปะป๊าต้องบังคับน้องอรด้วย”
“ปะป๊าไม่ได้บังคับ แต่น้องอรควรจะมีโอกาสได้คบคนอื่นบ้าง”
“แต่น้องอรคบกับพี่ธีอยู่”
“แล้วเค้าสนใจอรมั้ย งานของลูกเค้ายังไม่มาเลย”
“ปะป๊า” อรวิภาเสียใจร้องไห้
“ลูกร้องไห้แล้ว ปะป๊าอย่าทำให้ลูกสะเทือนใจสิคะ” เครือวรรณติงสามี
อดิศักดิ์ไม่เลิก “ผู้ชายน่ะ ถ้ารู้สึกว่าผู้หญิงเป็นลูกไก่ในกำมือ เขาจะไม่สนใจรู้ไหม ต้องทำให้รู้สึกเสียบ้างว่า ลูกเรามีทางเลือกอีกเยอะ ไม่ใช่ไม่มีคู่แข่ง”
“ป๊าพูดถูกแล้วลูก”
“ให้ห่างๆกันสักพักก็ดี ต่อไปนี้ห้ามไปพบกับนายธีภพโดยไม่บอกปะป๊านะ”
“ทำไมต้องห้ามน้องอรด้วยคะ”
“เอาน่า ป๊าห้ามก็ต้องฟัง” อดิศักดิ์บอกกับภรรยา “คุณคอยดูไว้ด้วยนะ เขาต้องเป็นฝ่ายแอ็คชั่นบ้าง ถ้ายังเฉยอยู่ จะได้รู้กัน”
“ค่ะคุณ”
“ปะป๊า หม่ะมี๊ใจร้าย”
“ไม่ร้ายหรอกลูก ปะป๊าหม่ะมี๊ทำเพื่อลูกนะจ๊ะ”
อรวิภาหันหลังเดินขึ้นห้องร้องไห้ แม่ตามไปลูบหลังปลอบ
ธีภพเปิดห้องนอนเข้ามา เห็นนกบิวตี้อยู่ในห้อง
ธีภพทักนกบิวตี้ “อ้าว มาหลบอยู่นี่เอง” เขาลูบตัวนก นั่งโต๊ะทำงานหยิบผ้าพันคอของบิวตี้มาดู แล้วนึกเคือง “บอกว่าไม่ให้แต่งตัวผิดระเบียบ ยังแอบใช้ผ้าพันคอแบรนด์เนมอีก”
“ผ้าเนี่ย ฉันออกแบบลายเองย่ะ ชุดโรงงานของนายใส่แล้วมันคันจนต้องเอาผ้ามากัน รู้ไว้ซะด้วย”
ธีภพกดโทรศัพท์ถึงกรเทพ “อาครับ บิวตี้ติดต่อมาบ้างไหมครับ” ฟังแล้วถอนใจ “ผมก็คิดว่าเขาคงมีเซฟเฮ้าส์ที่ไหนสักแห่ง แต่หนีไปดื้อๆแบบนี้มันไม่ถูก”
บิวตี้เถียง “ก็มันจำเป็นนี่ บ่นอยู่ได้ ห่วงฉันใช่มั้ยล่ะ”
กรเทพคุยสายอยู่ในบ้าน “อาก็คิดว่าอย่างงั้นเหมือนกัน แต่บิวตี้คงไม่ได้หลบไปอยู่คนเดียวแน่ เพราะเขาเป็นคนขี้เหงา อาสอบถามไปตามเพื่อนๆ เขาก็บอกว่าบิวตี้ไม่ติดต่อมาเป็นเดือนแล้ว”
“ครับอา ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้ข่าวผมจะแจ้งความเอง มีอะไรคืบหน้าช่วยโทร.บอกผมด้วยนะครับ”
“ครับ” กรเทพถอนใจ “แบบนี้มันอันตรายเหมือนกันนะ ถ้าหายไปจริงจะว่ายังไง”
ธีกดวางสาย บ่น “เหลวไหล เดือดร้อนกันไปหมด”
ธีภพ จ้องมองผ้าพันคอของบิวตี้ แล้วหยิบขึ้นมาดม
บิวตี้คนร้องแว้ด “ทำอะไรของนายน่ะ”
ธีภพเบือนหน้าหนีกลิ่นหอม “ยัยบ๊องเอ๊ย ใส่น้ำหอมแพงแบบนี้คนงานก็สงสัยสิ อวดรวยจนเคยตัว มิน่าถึงได้โดนหมั่นไส้”
“ฉันไม่ได้อวดรวย ก็ฉันมีอย่างงี้เอง ช่วยไม่ได้” บิวตี้เถียง
ธีภพแหย่นก “เถียงเหรอ พูดถึงยัยบิวตี้ไม่ได้เลยใช่มั้ย”
“ก็นายไม่เคยพูดถึงฉันดีๆ เหมือนพูดถึงยัยน้องอร”
“โวยวายเดี๋ยวจับอาบน้ำซะเลยนี่ ปะ อาบน้ำด้วยกัน” ธีภพจับตัวนกบิวตี้ขึ้นมา
บิวตี้คนดิ้น จิกกัดมือธีภพไปมา “ไม่นะ บ้า โรคจิต”
ธีภพหัวเราะ “เขินเป็นด้วยเหรอ” แล้วชสยหนุ่มก็เข้าห้องน้ำไป
นกบิวตี้บินปร๋อออกจากห้องธีภพ
นกบิวตี้บินมาหยุดในสวนบ้านธีภพ
บิวตี้คนหงุดหงิด “นายควรจะไปห้ามคนงานสิว่าอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย ก็แค่ใส่น้ำหอม แต่งหน้า แล้วก็ดัดแปลงเครื่องแบบ...” บิวตี้ชักเริ่มได้คิด “นิดเดียวเอง”
เจ้าเสือแมวของธีภพ เข้ามาเมียงมอง
บิวตี้คนตวาดแมว “แกก็เหมือนกัน จ้องตะปบฉันทำไม ฉันทำผิดอะไร”
เจ้าเสือจ้องขู่เตรียมจะกระโจนใส่
“ฉันสวย ฉันรวย ฉันเริด มันผิดตรงไหน อิจฉาฉันเหรอ ลองมาเป็นฉันดูบ้างมั้ยล่ะ”
แมวร้องขู่
บิวตี้คนทั้งเศร้าและเหงา “ฉันไม่มีใครเลยนะ รอบตัวฉันมีแต่คนไม่จริงใจ เหงาก็เหงา แล้วยังมาโดนสาปอีก” แล้วนึกได้ “ต้องมีใครจ้างยัยแม่มดนั่นมาสาปฉันแน่ๆ” ยิ่งคิดยิ่งแค้น “ฉันต้องหาให้ได้ว่ามันเป็นใคร”
ณ แดนสรวง นางฟ้าทั้งสองจ้องมองจอฉายภาพ
“ลัลน์ลลิต เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว” นางฟ้าลลิตาครวญ
ปรมะเทวีฉุน “ใช่ เมื่อไหร่นางจะเข้าใจเสียทีว่าข้าพเจ้าไม่ใช่แม่มด”
“แทนที่จะพยายามทำตามเงื่อนไข ลูกกลับนำความความโกรธแค้นไปลงกับผู้อื่น เช่นนี้ แบบเรียนของเราดูจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี”
“ยังตัดสินไม่ได้หรอก ท่านไม่กำหนดรู้เลยหรือว่า ลัลน์ลลิตเริ่มเห็นสภาพตัวของนางเองอย่างแท้จริง ไม่มีความหลงตนเหมือนแต่ก่อนว่าตัวเองดีพร้อมอีกแล้ว”
นางฟ้าลลิตานึกได้ ดีใจ “ท่านพูดถูก”
“ดูนั่น”
ในจอฉายภาพ เห็นมาตรวัดความสัมฤทธิ์มีประกายทองเส้นบางนิดเดียว แทรกขึ้นมาบนสีดำ
“แม้จะน้อยแต่ก็ยังมีความหวัง แต่สะสมได้เชื่องช้าเช่นนี้จะทันการณ์หรือคะ”
ปรมะเทวีหนักใจอยู่ “คงต้องสุดแท้แต่กรรมดีที่นางเคยกระทำมา”
6 โมงเช้าวันนี้ บิวตี้นอนหลับอุตุด้วยความอ่อนเพลีย มาตรวัดความสัมฤทธิ์มีแสงทองนิดหนึ่ง วางอยู่หลังตู้ไม่มีใครใส่ใจ
พรค่อยๆ ย่องเข้ามา ด้วยความกลัว แต่จำใจ ตกใจที่เห็นบิวตี้นอนเปลือย วางมือถือและข้าวของบิวตี้ลงที่ข้างหมอนแล้วรีบออกไป
สักพักเสียงโทรศัพท์ดัง
บิวตี้เอาหมอนปิดหู “โอ๊ย...ใครโทรมาตอนนี้” หล่อนคว้าโทรศัพท์มาจะปิดเสียง นึกได้ “อ๊ะทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” พอมองดูเห็นชื่อ Fatty จึงกดรับ
“ขอคุยด้วยหน่อย”
บิวตี้ดูนาฬิกา “ตอนหกโมงเนี่ยนะ”
“คุณหายไปไหนเมื่อคืน ตื่น ไปทำงานได้แล้วผมรออยู่ข้างล่าง” เสียงโทรศัพท์ตัดไปเลย
บิวตี้พูดกับโทรศัพท์ “ฉันไม่ทำตามคำสั่งของนายหรอก”
ธีภพหงุดหงิด คอยบิวตี้อยู่ในห้องรับแขก ร่วมชั่วโมง นาฬิกา บอกเวลา 7 โมงเช้ากว่าๆ
ป้าจันถือถาดมาเก็บถ้วยกาแฟ “คุณธีจะรับอาหารเช้าไหมคะ”
“ไม่ละ” ธีภพดูนาฬิกา “ป้าให้เด็กขึ้นไปบอกบิวตี้ว่าถ้าไม่ลงมาเดี๋ยวนี้ ก็ไม่ต้องไปฝึกงานอีก”
ป้าจันมองหน้าหลาน พรดูอึดอัดใจหวาดหวั่นกลัวโดนบิวตี้วีนใส่
บิวตี้เข้ามาพร้อมกระเป๋าใส่ข้าวของเตรียมการแปลงร่างที่โรงงาน พรเดินมารับ บิวตี้ใส่ชุดสาวโรงงานแต่มีผ้าคาดเอวเก๋ๆ
“นายมีสิทธิ์อะไรมาใช้คนของฉัน แล้วมาทำอะไรที่บ้านฉันแต่เช้า”
“มาพาไปทำงาน”
“ฉันไปเองเป็น”
“ไม่รักษาเวลา ปล่อยให้ไปเองก็เลทตลอด”
“ก็เลยมาคุม? บ้าอำนาจ!”
“งั้นอยู่บ้านไปแล้วกัน ไม่ต้องไปทำงาน” ธีภพจะเดินออกไป
บิวตี้ขวางธีภพไว้ “อย่าคิดว่ามากดดันฉันแบบนี้แล้วฉันจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่มีทาง”
“ได้ แต่ถ้าวันนี้ผมต้องไปทำงานสายเพราะคุณ ผมจะปรับคุณนาทีละวัน”
“นาทีละวัน คืออะไร”
“ช้าหนึ่งนาที ฝึกงานต่ออีก 1วัน”
บิวตี้แหวใส่ “งั้นก็รีบไปสิ จะยืนพูดอยู่ทำไม” แล้วจะออกไป
“เดี๋ยว” ธีภพดึงผ้าคาดเอว “ถอดไอ้นี่ออกก่อน”
“ระเบียบไม่ได้ห้ามไว้นี่ ชุดนายมันหลวมโพลกเพลก ไม่กระฉับกระเฉง”
“ผูกแบบนั้นถ้าไปพันกับเครื่องจักร โดนใบมีดตัดตัวขาดสองท่อนบริษัทไม่รับผิดชอบนะ”
บิวตี้คิด เห็นภาพตัวเองโดนมีดตัดขาด 2 ท่อน “ฉันไม่เชื่อหรอก”
ธีภพยักไหล่ เดินนำออกไป
บิวตี้ ทำไม่รู้ไม่ชี้ดึงผ้าคาดเอวให้หลวม ผ้าตกกองอยู่ที่พื้น ทำเป็นไม่รู้ตัว ออกไป
ป้าจัน กับพร มองหน้ากันขำๆ พรหยิบผ้าคาดเอวเอาไปเก็บ
รถติดเป็นระยะ บิวตี้ปั่นการบ้าน เขียนรายงานยิกๆ
ธีภพมองเซ็งๆ “มาปั่นกันตอนนี้ เนี่ยนะ”
“ยังไงฉันก็มีส่งละกัน”
“ตอนกลางคืนมัวแต่ไปเที่ยว”
บิวตี้เขียนไปเถียงไป “เรื่องของฉัน”
“บอกได้หรือยังว่าหายไปไหนมา”
“เรื่องส่วนตัว”
“แต่คุณนั่งรถมากับผม จะไปไหนก็น่าจะบอกกันบ้างไม่ใช่ปล่อยให้คอยเป็นชั่วโมง”
“ก็...พอดี มีเรื่องด่วน นิดหน่อย”
“ด่วนแค่ไหนก็ควรจะมีมรรยาทบ้าง”
บิวตี้โกรธ เสียงดังใส่ “ว่าฉันไม่มีมารยาทเหรอ”
ธีภพโกรธ เสียงดังด้วย “ก็ไม่มีจริงๆนี่ หัดนึกถึงคนอื่นบ้างสิ”
บิวตี้เสียงดังขึ้นอีก “ก็มันจำเป็น”
“จำเป็นยังไง บอกมาซิ”
บิวตี้อึกอัก แก้ตัวไม่ได้เลยพาล “ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน” หล่อนเปิดประตูจะลงกลางถนน
ธีภพตกใจดึงแขนบิวตี้ไว้ “จะทำอะไร มันอันตรายนะ”
“เลิกยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของฉันซะที ต่อไปนี้ฉันจะไม่ขึ้นรถนายอีก”
“ตามใจ แต่ตอนนี้นั่งให้ดีๆ เดี๋ยวจะจอดให้ลง”
บิวตี้นั่งคอแข็ง มองไปทางอื่น ธีภพขับปราดไปจอดตรงจุดที่พอจอดได้
“เชิญ”
บิวตี้ ไม่คิดว่าธีจะเอาจริง แต่ต้องรักษาฟอร์ม “ได้ นี่รายงาน อ่านซะ” หญิงสาวส่งให้แรงๆ
บิวตี้ลงจากรถ ธีภพกระชากออกรถไปอย่างเร็ว ทิ้งให้บิวตี้ยืนเด๋อโมโหฮึดฮัดอยู่คาที่
ธีภพถึงออฟฟิศในโรงงาน เดินเข้ามาในห้อง ผ่านโต๊ะเลขา
“บอกสโตร์ด้วยว่าถ้าคนงานฝึกงานมาถึงให้โทรมาแจ้งด้วย” ธีภพลังเลนิดๆ แล้วสั่งต่อ “ไม่ต้องบอกว่าผมสั่ง”
“ค่ะ”
พักตร์พิมลเข้ามา อย่างร้อนใจ(คอยดูอยู่แล้วว่าธีภพมาหรือยัง)
“พี่ธี ยัยบิวตี้มาทำงานหรือยังคะ”
ธีภพมีพิรุธ “ไม่รู้สิ ทำไมเหรอ”
“มีเรื่องใหญ่ค่ะ ยัยบิวตี้ก่อเรื่องใหญ่อีกแล้ว เก่งจังมาทำงานไม่กี่วันทำบริษัทเสียหายเกือบล้านแล้ว”
“มีเรื่องอะไร”
พักตร์พิมลฟ้อง “พี่ธีไปดูเองสิคะ เดี๋ยวจะหาว่าแพ็ตใส่ร้าย”
บิวตี้มองหาห้องว่างๆ เพื่อจะทำเป็นห้องลับสำหรับแปลงตัว พบว่าตึกเก่าบางส่วนของบริษัทมีห้องปิดตาย เคยเป็นออฟฟิศบางอย่างแล้วมีการเคลื่อนย้ายไป
บิวตี้พึมพำกับตัวเอง “ห้องปิดทิ้งไว้เยอะเลย มาแปลงร่างแถวนี้ดีกว่าในส้วม”
บิวตี้พยายามเปิดประตูที่ปิดล็อกไว้
เสียงยามดังขึ้น “ทำอะไรน่ะ”
บิวตี้สะดุ้งหันไปเจอยามแก่มองมาดุๆ บิวตี้ตั้งสติเชิดใส่
“ท่านประธานให้มาหาห้องว่างจะเอาของมาเก็บ”
“งั้นเดี๋ยวถามให้” ยามจะวิทยุถามยามส่วนอื่น
“ไม่ต้อง เขา...เอ่อ...ท่าน ต้องการความเป็นส่วนตัว”
ยามมองบิวตี้ สายตาโลมเลีย ยิ้มกริ่มๆ “อ้อ ห้องลับเหรอ งั้นก็ตามสบายนะ”
ยามออกไปแล้วบิวตี้โกรธมาก
“ลามกทั้งบริษัท คอยดูนะจะไล่ออกให้หมด”
บิวตี้เห็นห้องเล็กๆ แง้มอยู่ จึงเปิดเข้าไปดูเห็นห้องเก็บของรกๆ บิวตี้ดึงผ้าผืนใหญ่ที่เตรียมมาอย่างดี คลุมไปบนลัง แล้วเอากระจก ถ้วยใส่น้ำ ถ้วยใส่ อาหารนก วางเตรียมไว้
บิวตี้มองไปรอบๆ ปัดอาหารนกจากมือ “ค่อยยังชั่ว แต่ฉันจะไม่ยอมอยู่ในสภาพนี้อีกนานหรอก” มองกราดตาไปรอบๆ “ยัยแม่มดใจร้าย ได้ยินไหม คนอย่างลัลน์ลลิตไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ”
บิวตี้ดูมั่นใจ มีการเตรียมตัวมาอย่างดี
ฝ่ายธีภพยืนอยู่ในโกดัง กับหัวหน้าแผนกและป้าศรีนวล คอยดูหลักฐานที่พักตร์พิมลกำลังจะเอามาฟ้อง
เนย นี ติ๋ม และหนุ่มสาวฉันทนาจอมสอดรู้ แอบดูอยู่ห่างออกไป ท่าทางอยากเข้ามาฟังใกล้ๆเต็มที
กระตั้ว กับปีวราคลี่ม้วนผ้าออก ในม้วนผ้าลึกๆ พอคลี่ออกจึงเห็นรอยด่าง สีเข้มชัดเจน
หัวหน้าแผนก และป้าศรีนวลตกใจ พักตร์พิมลสีหน้าสะใจแล้วทำเป็นเครียด
“ฝ่ายการเงินเคยย้ำมาหลายครั้งแล้วว่า ต้องตรวจผ้าให้ละเอียดรอบคอบก่อนเซ็นรับสินค้า”
“ใครเป็นคนเซ็นรับ”
พักตร์พิมลรับเอกสารที่กระตั้วส่งให้ พูดเสียงดัง “เขาใช้ชื่อว่าสวยค่ะ”
ธีภพหันไปสั่งหัวหน้าแผนก
“ไปเชิญ เอ่อ เรียก ตัวมาซิ”
หัวหน้าแผนกอึกอัก “เขา...ยังไม่เข้ามาเลยค่ะ”
บรรดาคนงานที่แอบฟังอยู่ ตื่นเต้นกระซิบกระซาบ คาดเดาต่างๆนานา
พักตร์พิมลโวยวายดังลั่น
“อะไร เพิ่งทำงานไม่กี่วันขาดงานได้เหรอ แล้วนี่ใครจะรับผิดชอบ ผ้าม้วนนี้เมตรละสองพันห้า”
“คอมเพลนไป แล้วสั่งให้ส่งมาใหม่ไม่ได้เหรอ” ธีภพบอก
“เซ็นรับของไปแล้วจะคอมเพลนได้ไงคะ สั่งใหม่ก็ไม่ทันส่งงานแน่ๆ”
บิวตี้กลับมาจากหาห้องลับ เห็น ธีภพและพักตร์พิมล กำลังเครียดอยู่ เลยเดินเลี่ยงหนี เนยกับพวกล้อมบิวตี้ไว้
“จะไปไหน” พร้อมกับตะโกนบอกพักตร์พิมล “มาแล้วค่ะๆ อยู่นี่ค่ะ”
บิวตี้ถูกดันให้ไปเผชิญหน้ากับพักตร์พิมลและธีภพ
พักตร์พิมลเน้นเรื่องเป็นคนงาน ไม่ให้บิวตี้เถียง “เป็นคนงาน ทำไมถึงมาสาย”
บิวตี้จ้องหน้าธีภพเขม็ง “ฉันถูกคนใจร้ายไล่ลงจากรถ”
พักตร์พิมลไม่เชื่อ “มาก็สายแล้วยังทำงานสับเพร่า ตรวจรับผ้าที่มีรอยเลอะขนาดนี้ได้ยังไง”
บิวตี้จ้องมองดูรอยเลอะที่ผ้า นึกสงสัย “ตอนตรวจไม่เห็นมีรอยอะไรนี่”
“ตรวจชุ่ยๆน่ะสิ แค่งานง่ายๆ ยังทำพลาด เธอต้องรับผิดชอบ”
บิวตี้เสียงแข็งใส่ “แต่ฉันตรวจดีแล้ว”
“ถ้าเธอมั่นใจ คนเซ็นรับต่อจากเธอก็ต้องรับผิดชอบ” พักตร์พิมลว่า
กระตั้วเจ๋อ “คนเซ็นรับรอง คือนางศรีนวลฮ่ะ”
ศรีนวลตกใจลนลานกลัวโดนชดใช้ “ดิฉันพลาดเองค่ะ ไม่รู้ว่ามันรอดสายตาไปได้ยังไง”
“แต่ฉันตรวจทุกม้วน” บิวตี้บอก
ปีวรารู้สึกเห็นใจ “บางทีมือใหม่อาจจะนึกไม่ถึงว่าต้องดูถึงแกนใน”
“แต่ฉันดู”
ธีภพสวนออกมาเสียงเย็นจับขั้วหัวใจ “ไปชี้แจงที่ออฟฟิศ”
บิวตี้โมโห ฮึดฮัดขัดใจ
พักตร์พิมลจ้องมองอย่างสะใจ บิวตี้ประสานสายตาสู้กับพักตร์พิมลอย่างไม่เกรงกลัว
อ่านต่อตอนที่ 6