xs
xsm
sm
md
lg

พายุเทวดา ตอนที่ 12

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พายุเทวดา ตอนที่ 12

ตั้งแต่กลับมาถึงห้องดารินเอาแต่นั่งเงียบ ปลาดุกนั่งจ้องหน้า

“ตกลงจะเล่าให้ฉันฟังได้หรือยัง”
“ยัง...แล้วก็ขอให้เธอลืมเรื่องนี้ไปด้วย...ไม่รู้ไม่เห็นอะไร ทั้งนั้น”
“เฮ้ย ก็มันเห็นนี่หว่า เห็นเต็มสองตาเลยนะโว้ยริน”
“เอาเถอะน่า ฉันขอร้อง...แล้วก็อย่าถามเรื่องนี้อีก เพราะฉันก็ไม่รู้อะไรๆ เท่าๆ กับเธอน่ะแหละ”
“เออ งงเข้าไปใหญ่เลยตรู” สามทอมเซ็ง

ลูกเทวดาทั้งสี่นั่งอยู่ตรงหน้าโลงแก้วที่มีศพของหลวงปู่หาญอยู่ภายใน
“ไอ้เทวา ต่อหน้าศพหลวงปู่นี่แหละ เอ็งต้องพูดความจริง กับพวกข้า” เดชเอ่ยขึ้น
“ความจริงอะไรวะ”
ก้องพยักพเยิด “ไอ้เดชว่าไป ปัญญาข้ามันน้อย ข้ามันก็แค่กุลีขน กระเป๋าทำงานสะพานปลา”
สิงห์เสริม “เออ กูมันก็แค่เทวดาขี้เมา...กูก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไร”
เดชจ้องหน้าถามตรง “น้องเล็กอยู่ที่ไหน เอ็งรู้ใช่มั้ย”
เทวาส่ายหน้า “ข้าไม่รู้”
เดช ก้อง สิงห์อุทานออกมาพร้อมกัน “อะไรวะ” แล้วทำหน้าเซ็ง
เดชไม่เชื่อนัก “จะปิดข้าทำไมวะ”
“ข้าไม่รู้จริงๆ ข้าก็ยังสงสัยอยู่”
สิงห์เอ่ยขึ้นเป็นเชิงถาม “แต่เอ็งก็รู้ใช่มั้ยว่าน้องเล็กอยู่บนเกาะนี้”
“ข้าก็คิดเหมือนเอ็งไอ้สิงห์...ข้าว่านะ วันที่หลวงปู่ ต้องการบอกกับเรา..วันนั้นแหละที่ทุกอย่างจะเปิดเผย”
สิงห์ยืนขึ้น ตรงไปที่โลงแก้วถามหลวงปู่เสียงดัง
“หลวงปู่ปิดเราทำไม บอกมาเลยสิ เราจะได้ร่วมมือกับ น้องเล็ก ทำอะไรให้มันสำเร็จไป...หลวงปู่ๆๆ” สิงห์เคาะโลงแก้วไปมา ก้องกับเดชช่วยกันฉุดดึงตัวสิงห์ออกมา
“ไอ้สิงห์ เดี๋ยวหลวงปู่รำคาญเอ็ง” ก้องบอก
เดชฉุน “โลงแตกขึ้นมาละเรื่องใหญ่นะโว้ย”

ฝ่ายบุญกู้นอนซมอยู่บนเตียงในอนามัยเกาะมุก มีสายนํ้าเกลือและสายออกซิเจนอยู่ที่จมูก โดยแสงดาวมาดูอาการอยู่ข้างๆ
“แสงดาว น้าอยากกลับไปที่วัด”
“อยู่ที่นี่แหละ แล้วน้าก็ไม่ต้องกลัวด้วย พวกเราจะจัดเวร มาดูแลน้า จนกว่าน้าจะแข็งแรง”
“น้าไม่เป็นอะไรแล้ว”
“หนูให้น้ากลับไม่ได้หรอก หมอยังไม่ได้สั่ง”
บุญกู้มองหน้าแสงดาว “เอ็งต้องทำตามคำสั่งหมอทุกอย่างเลยเหรอ”
“จ้ะ”
หมอนทีแอบมองอยู่ที่ประตู

ในเวลาต่อมา หมอนทีนั่งดื่มกาแฟอยู่ แสงดาวเข้ามาชงกาแฟ แล้วเหลียวหานํ้าตาล แต่ในกล่องหมด แสงดาวหันมาอีกทีก็เห็นนทียื่นซองนํ้าตาลให้
“ขอบคุณค่ะ” แสงดาวฉีกนํ้าตาลใส่ในถ้วยกาแฟ
“ไม่ต้องใส่ก็ได้ คุณหวานอยู่แล้วนะ” นทีพูดเป็นนัย
แสงดาวหัวเราะ “คนทั้งเกาะเขาว่าฉันห้าว ตรงไปตรงมา แถมปากเสีย พูดจาไม่เกรงใคร หมอยังว่าฉันหวานอีกเหรอ”
“หวานหรือไม่หวานผมไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากอยู่ใกล้ๆ คุณไปตลอด”
แสงดาวมองหน้านที ก้มหน้ารู้ความนัย แต่เพราะลึกๆ แล้วไม่ชอบนที
“บางทีผมอาจจะขอย้ายไปอยู่ที่อื่น” หมอบอกอีก
“กลัวตายเหรอหมอ”
“เปล่า...แต่เกาะมุกเจริญมากแล้ว ไม่ใช่ชนบทที่ผมอยาก อยู่ อยากรับใช้ อยากทำงานเป็นแพทย์ชนบทตามที่คิด”
แสงดาวแย้ง “ถ้าเจริญด้วยวัตถุแต่มันทำให้คนมีจิตใจตกตํ่าลง ที่นั่นก็ เป็นแดนเถื่อนอยู่ดี ความเจริญต้องวัดกันที่จิตใจค่ะหมอ”
“งั้นตอนนี้เกาะมุกก็ล้าหลังเต็มทีสิ”
“คนจนที่ความเจริญยังเข้าไม่ถึงก็มีอีกเยอะ เกาะมุกก็ไม่ต่างจากส่วนอื่นของโลกหรอกค่ะ...รวยกระจุก จนกระจาย...แถมคนจนยังถูกปั่นให้เป็นเครื่องมือสร้าง ความรํ่ารวยให้คนกลุ่มเล็กๆ ที่รวยอยู่แล้วให้รวยยิ่งขึ้นด้วย”
“คนแบบนั้นน่ะ คนจนนะ จนแบบยาจกเลย”
“เสี่ยคงคารวยเป็นพันเป็นหมื่นล้าน ทำไมหมอบอกว่าจน”
“ถ้ารวยแล้วก็ต้องพอสิ ถ้ายังไม่พอ ยังอยากรวยเพิ่มก็ แสดงว่ายังจนอยู่...น่าสงสารที่เขาตกเป็นทาสเงินจนขาด ความสุขไปทั้งชีวิต”
ทั้งสองสบตากันอย่างเข้าใจ

กลับบ้านมาแสงดาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าครุ่นคิด แสงจันทร์เดินมาหาน้อง
“แสงดาว คิดอะไรอยู่”
แสงดาวหันมา ภาพเหตุการณ์ที่หมอนทีบอกรักผุดเข้ามาในห้วงคิด
“หมอนที...เขาพูดเหมือนขอความรักฉัน”
แสงจันทร์ฟังแล้วยินดี “ดีสิ พี่ดีใจด้วย หมอเป็นคนดีมากนะแสงดาว”
แสงดาวอึกอัก “แต่...พี่...ฉัน...”
แสงจันทร์จับมือน้องสาวรู้ทัน “เทวาเขาเคยบอกรักเราแบบที่หมอบอกหรือเปล่า”
แสงดาวอึ้ง “พี่แสงจันทร์...พี่รู้”
แสงจันทร์ยิ้มอ่อนโยน “พี่รู้...ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ารักใครข้างเดียวหรอก..ที่พี่ ยอมแต่งงานกับพี่มนต์ ก็เพราะพี่เทวาไม่เคยเอ่ยปาก จริงจังกับพี่...เราอาจไม่ใช่คนที่เขาพอใจก็ได้ ตอนนั้นพี่ ยังคิดว่าพี่เทวาชอบเธอ”
แสงดาวส่ายหน้า สีหน้าและแววตามีร่องรอยของความเจ็บปวดฉายชัด
“ไม่เลยพี่...พี่เทวาไม่เคยสนใจฉันเลย...พี่แสงจันทร์ ตอนนี้พี่มนต์ก็เสียไปแล้ว ทำไมพี่ไม่รื้อฟื้นเรื่องพี่กับพี่เทวาล่ะ บางทีพี่เทวายังคอยพี่อยู่ก็ได้นะ”
แสงจันทร์ส่ายหน้าพูดเศร้าๆ “พี่ไม่กล้าทรยศกับวิญญาณพี่มนต์หรอก...แต่พี่จะไปพบ พี่เทวา อยากรู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอ เผื่อจะทำให้เธอ ตัดสินใจเรื่องคุณหมอได้ชัดเจนขึ้น”

ฟากคงคาตวาดใส่หน้าหยาดฟ้าในห้องโถงที่คฤหาสน์
“เฮียเม้งบอกว่าคะแนนเสียงของไอ้เทวามันดีวันดีคืน ทำไมเธอไม่ทำอะไรเลยล่ะหยาดฟ้า”
“ทำแล้วค่ะ หัวคะแนนก็บอกว่าคุณคำรณไม่ออกไปพบ ปะชาวบ้าน”
คำรณโวยลั่น “โอย ร้อน จะให้ผมไหว้คนไปทั่วหรือพ่อ..ไม่เอาละ”
“คำรณ...ถ้าไม่ทำ เราก็ไม่มีวันชนะ” คงคาบอก 
คำรณฮึดฮัด “ไหนพ่อว่าเงินสำคัญไง ทำไมไม่เอาเงินฟาดหัวมันไป ล่ะ มันอยากได้เสียงละเท่าไหร่ก็ให้มันไปเลยสิ...ผมอยากได้ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านมาแบบที่ไม่ต้องทำอะไร เลย แค่นี้พ่อช่วยผมไม่ได้เหรอ...ถ้าทำไม่ได้ พ่อก็หาคน ไปยิงไอ้เทวาให้มันตายตามไอ้มนต์ไปอีกคน”
หยาดฟ้ารีบห้าม ด้วยเวลานี้หลงรักเทวาเต็มประตูใจ
“อย่าเพิ่งค่ะคุณคำรณ หยาดว่าลองดูก่อนนะคะ ตั้งเวที ปราศรัย ให้เฮียเม้งเกณฑ์คนมาฟัง จ่ายมันหัวละห้าร้อยเห็นคนมาฟังเราดำมืดไปหมด ก็ข่มขวัญพวกมันจน หัวหดแล้วละค่ะ”
คงคาพยักหน้า “น่าสนใจ”

ไม่นานต่อมาเทวากับแสงจันทร์เดินคุยกันอยู่ริมหาดสวย เรื่องแสงดาวนั่นเอง
“พี่ยังไม่อยากคิดเรื่องนี้” เทวามองหน้าแสงจันทร์ “พี่มนต์ก็ เพิ่งตายไป ศพก็ยังไม่ได้เผา”
“ฉันไม่มีความหวังแล้ว...เพราะอะไรๆ มันก็ไม่เหมือน เดิม...แต่ฉันอยากจะถามพี่ว่าพี่คิดยังไงกับแสงดาว”
เทวาบอกโดยไม่ต้องคิด “แสงดาวคือน้องสาวของพี่...ไม่มีวันเป็นอื่นไปได้”
แสงจันทร์อึ้งไป มองหน้าเทวา นํ้าตาคลอ

สองคนไม่รู้ว่าที่มุมหนึ่งบนฝั่ง หยาดฟ้ายืนอยู่ข้างรถมองมาด้วยสายตาหึงหวง

ที่ข้างๆ เวทีปราศรัย ที่ผู้คนทยอยเข้ามา เฮียเม้งเป็นหัวคะแนนยืนนับ มีการขีดเช็คชื่อ สักครู่มีชายคนหนึ่งเข้ามาหา เม้งเหลียวซ้ายแลขวา ส่งเงินให้ปึกหนึ่ง

เวทีปราศรัยยังว่างเปล่า พัน ธง ศรคอยคุ้มกันอยู่ด้านข้างของเวที ฉากหลังของเวทีมีข้อความเขียนสโลแกน ไว้ พร้อมรูปของคำรณ “คำรณ คนจริง มีการศึกษา ประสบการณ์สูง พร้อมรับใช้ชาวเกาะมุก”

อีกมุมฤทธิ์ยืนข้างหยาดฟ้าเล่าเรื่องให้ฟัง
“ไอ้เทวามันเคยรักกับนังแสงจันทร์ แต่ว่าแสงจันทร์ เลือกแต่งงานกับไอ้มนต์ ไอ้เทวามันเลยน้อยใจหนี ไปอยู่ที่อื่น” หยาดฟ้ายิ้มพอใจ เดินตรงไปหาคำรณอย่างมาดหมาย

คงคายืนอยู่ ฤทธิ์เข้ามาหา “คืนนี้คนเยอะ กระสุนที่เหวี่ยงออกไปถึงชาวบ้าน... พวกเขาก็เลยมากันแน่นครับเสี่ย”
“ถ้าคำรณได้เป็นผู้ใหญ่บ้านนะ ฉันจ่ายไม่อั้น”

ฝ่ายเทวาขี่มอเตอร์ไซค์มา สวนทางกับดารินและปลาดุก ทั้งสองฝ่ายจอดรถ
ปลาดุกถาม “จะไปไหน...ไม่ไปฟังเขาปราศรัยหาเสียงเหรอ จะได้ รู้ว่าเขาพูดถึงเราว่ายังไง”
“ไม่ดีกว่า...ทุกคนก็มีนโยบายต่างกัน”
“นายควรไปนะ...เพราะอีกฝ่ายเล่นวิธีการสกปรกมา ตลอด...เผื่อว่ามีอะไรที่นายจะได้มีโอกาสชี้แจงกับ ชาวบ้านไง”
เทวามองหน้าดารินเหมือนพยายามหยั่งรู้ว่าดารินคิดอะไรอยู่
“เธอคิดอะไรอยู่”
“นายอย่าหาเหตุผลกับคนพาล เพราะพวกมันไม่มีเหตุผล อยู่แล้ว ถ้าจะมีก็เป็นเหตุผลที่พวกมันคิดเข้าข้างตัวเอง”
“ก็ได้...ไปด้วยกันมั้ย”

ไม่นานหลังจากนั้น ดาริน เทวา และปลาดุก พากันมายืนอยู่มุมหนึ่งห่างเวทีออกมา ชาวบ้านนั่งฟังอยู่หน้าเวทีจำนวนมาก คงคา หยาดฟ้าและเม้ง ฤทธิ์ พัน ธง ศรอยู่ข้างเวที คำรณปราศัยอยู่บนเวที
“เกาะมุกจะต้องเจริญไปมากกว่านี้ ความเจริญจะต้อง ไหลหลั่งเข้ามา ผู้คนบนเกาะมุกจะต้องมีรายได้ดี ท้องอิ่ม ยิ้มได้ มีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ พวกเราต้องการ อย่างนี้ใช่มั้ย”
ชาวบ้านปรบมือกันเกรียว คงคา หยาดฟ้ายิ้มให้กัน
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าคำรณนี่อนาคตไกลจริงๆ”
หยาดฟ้าประเหลาะเอาใจ “ลูกไม้ก็ต้องหล่นไม่ไกลต้นสิคะเสี่ย”

บนเวที คำรณปราศรัยด้วยท่าทีร้อนแรง
“และคนที่จะพัฒนาเกาะมุกได้ ก็ต้องเป็นคนดี มี การศึกษาจากเมืองนอก อนาคตดี มีประสบการณ์ เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากผม..นายคำรณ ผู้ซึ่ง อาสามารับใช้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านบนเกาะมุกแห่งนี้ ผมไม่ขอบอกว่าผมมีจริยธรรมหรือไม่ อย่างที่อีกฝ่าย ชอบนำเสนอ แต่ผมอยากจะบอกว่าคนที่พ่อแม่พี่น้อง ให้ความไว้วางใจซึ่งก็ไม่อาจการันตีได้ว่าเด็กวัดจะต้อง ดี มีศีลธรรม เพราะผมอยากจะบอกพ่อแม่พี่น้องไว้ตรง นี้เลยว่า ไอ้คนที่มันเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน จะอวดอ้างว่า เป็นคนดีได้หรือขอรับ”
คนฟังนิ่งเงียบทั่วหน้าเวทีปราศรัย

ดารินกระทุ้งศอกใส่เทวา “นายไม่ได้ยินเหรอ มันว่านาย”
“เราไม่เคยเป็นชู้กับใคร...เมียชาวบ้านเราก็ไม่เคยยุ่ง”
ปลาดุกเซ็งเกาหัว “เออ..กินอะไรถึงซื่อยังงี้”

ฝ่ายคำรณฝอยหาเสียงอย่างย่ามใจ หน้าตาขึงขัง
“มีหลักฐานว่านายเทวา ผู้ที่เคยเป็นเด็กวัดเกาะมุกของ พ่อแม่พี่น้องนี่แหละครับ...เป็นชู้กับนางแสงจันทร์ ครูโรงเรียนเกาะมุก ทั้งที่นายมนต์ สามีของนางแสง จันทร์เพิ่งตายลงไม่นานมานี้...การตายของนายมนต์ ยังมีเงื่อนงำอยู่ ก็ไม่แน่นะครับว่าคนที่อยู่เบื้องหลังก็คือ ชายชู้ที่อวดอ้างว่าตัวเองมีศีลธรรม”
คงคาสะใจ ปรบมือนำ หยาดฟ้าส่งยิ้มให้อย่างสะใจ ชาวบ้านพากันปรบมือตาม
ปลาดุกเอ่ยขึ้นหันมาทางเทวา “ทีนี้ชัดหรือยังล่ะ”
เทวาไม่ตอบก้าวเดินผ่านกลุ่มคนไปข้างหน้าเวที ชาวบ้านเห็นเทวาก็ปรบมือต้อนรับ คงคา หยาดฟ้า และทุกคนต่างตะลึงที่เทวากล้าหาญเดินมาคนเดียว พัน ธง ศร ฤทธิ์ ต่างก็เตรียมพร้อม
เทวากระโดดขึ้นเวที คำรณไล่ออกไมค์ “นี่มันเวทีของข้า ลงไปไอ้เทวา”
เทวากระชากไมค์มาจากมือคำรณ
“พ่อแม่พี่น้อง จงดู นี่คือหน้าตาของคนโกหก ใส่ร้ายป้าย สีผู้อื่น...ผมกับพี่มนต์เป็นพี่น้องกัน รักและผูกพันกันอย่างไร พี่น้องเกาะมุกย่อมทราบดี เมื่อครูมนต์แต่งงาน กับครูแสงจันทร์แล้ว ผมก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ และกลับมาเมื่อ ครูมนต์สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ตลอดเวลาผม ดูแลหลวงปู่หาญอยู่ มีพยานรู้เห็นตลอด...ผมยืนยันว่า ผมบริสุทธิ์ และไม่ได้เป็นอย่างที่นายคำรณกล่าวหา.. พ่อแม่พี่น้องครับ เรื่องแค่นี้เขายังโกหกพ่อแม่พี่น้อง แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องที่ใหญ่กว่านี้เขาจะไม่โกหก เอารัดเอาเปรียบพ่อแม่พี่น้องล่ะครับ”
ชาวบ้านปรบมือกันเกรียว
ปลาดุกนั้นปรบมือสะใจ “เยี่ยมไปเลย”
ขณะที่ดารินหน้าซีด “ทำไมไม่กลัวพวกมันตามล่าบ้าง”
ปลาดุกเจื่อนไป “เออจริง”
เทวาเดินลงมาจากเวที ผู้คนก็ยังปรบมือรับเทวาอยู่ คำรณหน้าเครียด หยาดฟ้ากับคงคาหน้าซีดที่ทุกอย่างพลิกล็อก

ฝ่ายแสงจันทร์นั่งซึมอยู่ในบ้าน แสงดาวอยู่ข้างๆ รู้เรื่องที่เทวาพูดบนเวทีกันแล้ว
“ก็ดีแล้วที่พี่เทวาเขาประกาศชัดเจน ผู้คนจะไม่ว่าเขาได้”
“พี่ไม่เสียใจเหรอ”
“พี่ไม่ได้ทำบุญกับเขามา...คิดเสียอย่างนี้ดีกว่า..แม่ม่าย อย่างพี่ ผัวตายยังไม่ทันข้ามปี ต่อให้มีผัวใหม่ เป็นใคร ก็ตาม สังคมก็คงประณามไปยันตาย...พี่ขออยู่คนเดียว ดีกว่า”
แสงดาวมองแสงจันทร์อย่างเห็นใจ สนเดินออกมา นั่งข้างๆ ลูก
“พ่อได้ยินหมดแล้ว...พ่อดีใจที่ได้ยินลูกพูด พ่อภูมิใจใน ตัวลูกมาก...พ่อเองก็มีส่วนผิดที่ทำให้ลูกต้องแต่งงานกับ คนที่ลูกไม่ได้รัก...อย่าโกรธพ่อนะ”
แสงจันทร์นํ้าตาไหลพราก “หนูไม่เคยโกรธพ่อ...เพราะเชื่อว่าพ่อได้ให้สิ่งที่ดีที่สุด แก่ลูกเสมอ”
แสงดาวมองพี่สาวกับพ่อ ยิ้มดีใจ
“เราอยู่กันสามคนแบบนี้ก็แล้วนะ ไม่ต้องมีคนอื่นเข้ามา ในชีวิตเราหรอก”
แสงจันทร์ถามน้อง “เรื่องคุณหมอล่ะ ตกลงว่าไงจ๊ะน้องพี่”

“หมอเป็นคนดี แต่ไม่ใช่คนที่จะเป็นคู่ของฉันน่ะพี่ ตอบแบบนี้ ชัดมั้ย”

พายุเทวดา ตอนที่ 12 (ต่อ)

ทุกคนกลับมาที่บ้านพักของฤทธิ์ หยาดฟ้าหน้าเจื่อนไป คงคาตวาดใส่หน้าเมื่อรู้ว่าเป็นข้อมูลจากหล่อน

“หยาดฟ้า เธอไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหน”
“ฉันเห็นเขานัดเจอกันที่ชายหาด...คุยกันเหมือนคู่รักเลย”
“แล้วทำไมถึงไปที่นั่น”
หยาดฟ้าอึ้งไป รีบแก้ตัวนํ้าขุ่นๆ “ถ้าเราไม่รู้ว่าศัตรูของเราเป็นใคร ทำอะไร เราก็ เสียเปรียบมัน เสี่ยสอนหยาดเองนะคะ”
คำรณพูดดักคอ “อย่าบอกนะว่าคุณหยาดฟ้าชอบไอ้เทวา มันรูปหล่อนี่”
หยาดฟ้าทำโกรธ โวยกลบที่ถูกจี้ใจดำ “เอ๊ะ คุณคำรณ อย่าปรักปรำฉันนะ”
ฤทธิ์ชำเลืองมองหยาดฟ้าอย่างไม่พอใจเช่นกัน
“ไม่รู้ละ นายฤทธิ์จะต้องจัดการเรื่องนี้ ถ้าหากว่าคำรณ แพ้ไอ้เทวาละก็ ตำแหน่งกำนันของนายสะเทือนแน่”
คงคาสั่งน้ำเสียงเฉียบขาด

สนออกโรงเป็นหัวคะแนนให้เทวา กำลังปราศัยกับชาวบ้านกลุ่มใหญ่อยู่ที่ตลาดเกาะมุก
“ไอ้ฉันก็พูดอะไรอ้อมค้อมไม่เป็นซะด้วยนะพวกเรา... กํานันก็เป็นพวกของมันไปคนหนึ่งแล้ว จะให้ผู้ใหญ่ บ้านเป็นพวกของมันอีก มันจะเหมาเกาะไปหน่อยละมั้ง”
ชาวบ้านแย้ง “แต่เขามีเงินนะ เขาอาจจะช่วยเหลือเราได้”
“แล้วเขาเคยสัญญากับพวกเราหรือเปล่าล่ะว่าจะเอาเงินส่วนตัวมาช่วยเกาะมุก ไอ้เงินทุกบาททุกสตางค์มันก็ เงินงบประมาณทั้งนั้น มาจากภาษีของเรานี่แหละ ไม่ใช่เงินเขาซะหน่อย”
ชาวบ้านเถียง “แกพูดอย่างนี้ แกจะบอกว่าเทวาดีกว่าคำรณใช่มั้ย”
“เออ ...เอ็งลองคิดดูเถอะว่าจริงอย่างที่ข้าพูดหรือเปล่า”
ลูกน้องของฤทธิ์ขยับเข้ามาฟัง สนเห็นจำได้
“แค่นี้นะ ฉันจะไปวัดน่ะ ท่าทางราหูจะเข้า พระเสาร์จะ แทรกแล้วละพ่อแม่พี่น้อง”
สนรีบผละออกไปทันที

ลูกน้องของฤทธิ์เดินตามมา สนหันมาเห็นก็วิ่งหนี พลางร้องตะโกน
“ช่วยด้วยจ้า...ช่วยด้วยจ้า” แต่ไม่มีคนมาช่วย ลูกน้องของฤทธิ์ก้าวเท้าเร็วๆ ก็ตามทัน กระชากตัวสนให้หันมา
“อะไรกันวะ” ขาดคำลูกน้องฤทธิ์ตบหน้าสน จนล้มลงไป แล้วอีกคนก็กระทืบซํ้า เตะหลายที จนสนจุกไปหมด
“ถ้าคิดจะเป็นหัวคะแนนให้ไอ้เทวาละก็ต้องเจอแบบนี้” พวกลูกน้องรีบผละไป สนร้องโอดโอยบิดตัวไปมา แล้วแน่นิ่งอยู่ที่ถนนเพียงลำพัง

แสงดาวรีบเดินมาที่ห้องซึ่งนทีพยาบาลอยู่ เดชอยู่ในห้องนั้นด้วย
แสงดาว พ่อ...
นที อย่าเพิ่งถาม...ลุงแกยังพูดอะไรไม่ถนัด ชํ้าไปทั้งตัว... คงต้องรักษาตัวที่นี่สักวันสองวันนะ...
แสงดาวหันไปทางเดช แสงดาว พี่เดชเจอพ่อที่ไหน
เดช ริมถนน พี่ขับรถไปที่ตลาด คนที่ตลาดบอกพี่ว่าลูกน้องกำนันตามลุงสนมา...
แสงดาวหน้าเครียด แสงดาว กํานันฤทธิ์...มันจะบ้าอำนาจไปถึงไหนกัน..งานนี้ฉันไม่ ยอมหรอกพี่...
เดช จะทำอะไรก็นึกถึงพี่บ้างนะ...พี่ช่วยเธอได้ อย่าทำอะไร คนเดียวจะเจ็บตัวเปล่า
แสงดาวพยักหน้า แสงดาว จ้ะพี่..
สนมองท่าทีของเดชก็รู้ว่าชอบแสงดาว นทีเช่นกัน สีหน้าหมองไปทันที
แสงดาว แต่ถึงยังไงงานนี้พี่เทวาก็ผิด...ฉันจะเอาเรื่องพี่เทวาด้วย
เดช เกี่ยวอะไรกับเทวา
แสงดาว งานนี้เป็นเรื่องระหว่างฉันกับพี่เทวาเท่านั้น พี่ไม่ต้องรู้
เดชอึ้งไป แสงดาวมองออกไปนอกห้อง แล้วหันกลับมาหาพ่อ เห็นสภาพบาดเจ็บของพ่อก็ยิ่งเจ็บใจ
นที สีหน้าน้อยใจ

เช้าวันใหม่ แสงดาวขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดที่ลานวัด เห็นรถสองแถวของเดชจอดอยู่
“จะมาช่วยเทวามันไปหาเสียงเหรอหนูแสงดาว” บุญกู้ร้องถาม
แสงดาวตอบโดยไม่ได้ลงจากรถ “เปล่า แต่ฉันมีธุระกับเขา” เทวาออกมาพอดี “พี่รู้เรื่อง พ่อฉันถูกพวกของกำนันฤทธิ์ซ้อมจนปางตายหรือยัง”
เทวาตกใจมาก “อะไรนะ”
แสงดาวแดกดัน “พี่ไม่รู้อะไรเลยเหรอ...คงเอาเวลาไปจีบผู้หญิงร้านเหล้า จนไม่มีเวลาสนใจหัวคะแนน”
“แสงดาวมีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า”
“ใจร้อนหรือว่าทนฟังไม่ได้...พ่อฉันเจ็บครั้งนี้ก็เพราะพี่ พี่เห็นแก่ตัวที่สุด”
“แสงดาว” บุญกู้ตกใจที่เห็นทั้งสองคนเถียงกัน
“น้าว่าค่อยๆ พูดกันดีกว่านะหนูแสงดาว”
“ไม่ค่ะ น้าบุญกู้ หนูต้องการพูดให้พี่เทวาได้รู้จักตัวเอง” แสงดาวหันมาทางเทวา “พี่กลับมาในช่วงที่พี่มนต์เลือกตั้ง พอพี่มนต์ตาย ก็เลยเหยียบศพพี่มนต์...หาประโยชน์จากจากศพพี่มนต์ มันน่าอายมั้ยล่ะ ฉันประกาศตรงนี้เลยนะ ต่อไปนี้ฉัน จะไม่ยอมให้พ่อและพี่แสงจันทร์มาวุ่นวายกับกิจกรรมของพี่อีกเป็นอันขาด”
“เธอดูถูกพี่มากไปแล้วนะ...แสงดาว” เทวาตรงมาหาแสงดาว แสงดาวเชิดหน้า ไม่ยอมลงให้
“ไม่มากหรอก...ถ้าแน่จริงพี่เอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ สิ ทำได้มั้ยล่ะ”
“พี่สัญญา” เทวารับปาก
แสงดาวสวนกลับมา “ทำให้ได้จริงก็แล้วกัน” จากนั้นแสงดาวขี่รถออกไปเลย
เดชออกมาจากข้างใน “ทะเลาะอะไรกันวะ”
เทวาต่อว่า “ทำไมเอ็งไม่บอกข้าเรื่องลุงสนวะ”
“ข้ากลับมาดึก เลยไม่อยากกวนเอ็ง...โทษทีว่ะ”
“ข้าจะต้องเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้”
“งานนี้พวกข้าร่วมมือกับเอ็งเต็มที่ ลุงสนเป็นคนที่พวกเรา ทุกคนนับถือ ข้ายอมไม่ได้เหมือนกัน”

ไม่นานต่อมา เดช ก้อง เทวา และสิงห์ยืนอยู่หน้าบ้านฤทธิ์ ฤทธิ์ออกมาพบยืนอยู่เผชิญหน้ากับทั้งสองฝ่าย
“ลุงสนอาจจะรถล้มหรือไม่ก็พูดจากวนบาทาคนอื่น แล้ว โดนซ้อม ทำไมถึงหาว่าคนของฉันทำร้ายลุงสน”
เดชบอก “มีคนเห็นว่าลูกน้องของพี่ฤทธิ์ตามลุงสนไป”
“มันจะตามทำไม แค่แจกใบปลิวหาเสียงทุกวันก็ไม่มี เวลาแล้ว...ไม่เชื่อก็ถามมันดูดีกว่า”
ฤทธิ์ตะโกนเรียกสมุน “เฮ้ย พวกเอ็งออกมาข้างนอกซิ”
ลูกน้องของฤทธิ์ออกมากันเป็นแถวยืนหน้ากระดานด้านหลังฤทธิ์
“ชี้ตัวได้หรือเปล่าว่าคนไหนที่ซ้อมลุงสน”
เดช ก้อง สิงห์ และเทวามองหน้ากัน เดชพูดเบาๆ
“ข้าพบลุงสนตอนแกนอนอยู่ที่ข้างทางคนเดียว”
ฤทธิ์หัวเราะสะใจ “ไม่เห็นตัวแล้วทำไมถึงกล้ามาปรักปรำกันวะ...ยังงี้ มันไม่ยุติธรรมกับข้านี่หว่า...กลับไปได้แล้ว”

ฤทธิ์ไล่ตะเพิดน้องๆ

ที่อนามัยบนเกาะมุกเวลาต่อมา แสงดาวยืนอยู่ข้างเตียงพ่อ เทวาอยู่ตรงหน้า เดช สิงห์ และก้องก็อยู่ แสงดาวเยาะหยัน

“โธ่เอ๊ย แค่นี้พี่ก็ทำไม่ได้”
“พี่ไม่รู้จริงๆ ว่าคนไหน” เทวาก้มหน้า “นอกจากลุงสน เท่านั้นที่จะชี้ตัวมันได้” ทุกคนหันมาทางสน
แสงดาวถาม “ว่าไงพ่อ”
นทีรีบค้านทันที “ลุงสนยังไม่สมควรเคลื่อนไหวร่างกายเวลานี้...ผมว่า รอให้ลุงสนหายดีก่อนไม่ดีกว่าเหรอครับ”
“จริงๆ ไม่งั้น ถ้ามันเล่นงานลุงสน คราวนี้ตายแน่” ก้องบอก
“ความแค้นของคนเราน่ะ สิบปีก็ไม่สาย...ดูอย่างพี่สิแสงดาว พี่ยังรอแก้แค้นให้เปียอยู่เลย”
แสงดาวได้ทีก็หันมาทางเทวา “นี่ก็อีกเรื่อง...หวังว่าถ้าพี่เทวาได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน พี่จะไม่ ดูดายเรื่องนี้นะ”
“พี่รับปาก”
สิงห์ยิ้มดีใจ “ไอ้เทวา ถ้าเป็นจริงนะ ข้านี่แหละจะช่วยเอ็งหาเสียง เต็มที่เลย”
ทุกคนยิ้มให้กัน เทวาตบไหล่สิงห์ “เอ็งกับข้าเกิดมาเป็นพี่น้องกัน มันก็ต้องช่วยเหลือกัน สิวะ”

ด้านหวานใจกับหยาดฟ้าเดินแจกใบปลิวหาเสียงให้คำรณในตลาด
"ช่วยคุณคำรณสักหนึ่งเสียงนะคะแม่ค้าคนสวย" 
"เลือกคนมีประสบการณ์ มีการศึกษาดีกว่าเลือกเด็กวัด นะคะพ่อแม่พี่น้อง" 
แม่ค้าคนหนึ่งฉีกใบปลิวของคำรณต่อหน้าหยาดฟ้า
หวานใจโมโห “อ้าว...นังนี่วอนซะแล้ว...ฉีกใบหาเสียงของคุณคำรณ มันเหมือนกับฉีกหัวใจฉันเลยนะยะ...จะไม่เลือกก็บอก มา ถ้าคุณคำรณได้รับการเลือกตั้งละก็ หล่อนเนรเทศ ตัวเองออกไปอยู่ที่อื่นได้เลย...ฮึ่ม”
แม่ค้าลุกขึ้นยืนเท้าเอวจะเอาเรื่อง “เอาสิวะ เป็นไรเป็นกัน ก็ข้าไม่ชอบไอ้คนสมัครคนนี้ ข้าจะฉีก ข้าจะกระทืบมันก็สิทธิ์ของข้า เอ็งรักของเอ็ง เอ็งก็เอาไปทูนหัวทูลเกล้า กราบเช้ากราบเย็นซีวะเอา มาแจกข้าทำไม...หา”
แม่ค้าตั้งท่าพร้อมจะมีเรื่อง แม่ค้าและคนทั้งตลาดหันมามอง หวานใจตั้งท่าจะทำร้าย ไม่กลัว แต่หยาดฟ้าเข้ามาห้าม
“อย่าหวานใจ...อย่ามีเรื่อง” หยาดฟ้าหันมาพูดกับแม่ค้า ไหว้กราด “ฉันขอละนะจ๊ะ ขอโทษแทนคนของฉันด้วย”
ลูกน้องของฤทธิ์ยืนคุมเชิงอยู่ พวกมันมองไปรอบๆ ตลาด เห็นแม่ค้าพ่อค้าจ้องมาที่กลุ่มของหยาดฟ้าเขม็ง เดชกับเทวาเข้ามาในตลาดพอดี เสียงแม่ค้าตะโกนดังขึ้น
“ว้าย พ่อเทวามา พ่อเทพบุตรของพวกเรามาแล้ว” บรรดาแม่ค้ากรูเข้าไปกอดเทวา เทวาต้องยกมือห้าม
“อย่าครับ อย่า...เดี๋ยวจะหกล้มไปนะครับ...ผมแค่เข้ามา ฝากเนื้อฝากตัวกับคุณพ่อคุณแม่ผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน เท่านั้น แต่ก่อนท่านใส่บาตรหลวงปู่ ผมก็พลอยได้อาศัย ข้าวก้นบาตรกินไปด้วย ผมถือว่าผมเป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่ทุกคน ผมเลยขอโอกาสให้ผมได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ทุกคนบ้าง”
ชาวบ้านปรบมือกันลั่น เทวาไหว้กราดไป แล้วหยุดกึกที่หวานใจซึ่งส่งสายตาเยิ้มมาให้ มีหยาดฟ้ายืนอยู่ข้างๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าจะพูดเก่ง แบบนี้นี่เองถึงได้เป็นขวัญใจของ ทุกคน”
“ผมไม่มีเงิน ผมมีแต่ความจริงใจ ผมก็เลยต้องใช้วิธีนี้”
หยาดฟ้าเดินมาหาเทวา พูดดัง ๆ กับแม่ค้าพ่อค้าที่ตลาด
“เราเพียงแต่ต่อสู้กันในเกมการเลือกตั้งเท่านั้นค่ะ ทุกท่าน คงไม่ทราบว่าเราสองคนสนิทกัน”
เดชมองอย่างไม่เชื่อ
“คุณหยาดฟ้าระวังคำพูดด้วยครับ” เทวาติง
“ตอนคุณนอนป่วยอยู่ที่วัดวันก่อน ฉันยังไปเยี่ยมแล้วก็ เช็ดตัวให้คุณ ตอนนั้นคุณยังละเมอเรียกฉันเลย...แบบนี้ ยังไม่เรียกว่าสนิทอีกเหรอคะเทวา”
แม่ค้าพ่อค้าเริ่มงง มองหน้ากัน ซุบซิบกัน
“เราเป็นเพื่อนสนิทกันค่ะ...และก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เสมอค่ะ เอ้า ถ่ายรูปเราสองคนหน่อยสิคะ”
หยาดฟ้ายึดตัวเทวาไว้แน่น ส่งยิ้มโปรยปรายให้ทุกคน ซึ่งบางคนก็งัดโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป
เดชส่ายหน้า บ่นเบาๆ “คนหนึ่งโง่ คนหนึ่งหน้าด้าน สมกันดีจัง”

บังเอิญว่าที่อีกมุมหนึ่ง ดารินกับปลาดุกเข้ามาซื้อของพอดี ทั้งสองชะงักที่เห็นหยาดฟ้ากับเทวาถ่ายรูปคู่กัน เทวาหันมาเห็น ดารินกับปลาดุก เดินออกไปก่อน
“ขอโทษนะครับ ผมต้องไปก่อน มีธุระด่วนครับ”
เทวาไหว้กราดไปทั่ว หยาดฟ้ามองตามหลังดารินกับปลาดุกไป เทวาจะออกไป เดชไปด้วย หยาดฟ้าปรี่มาหาอีกครั้ง
“หวังว่ามิตรภาพของเราวันนี้จะยั่งยืนต่อไปนะคะ คุณเทวา...”
เทวาไม่ตอบ ผละตัวออกไปทันที
“ตามไปสิคะคุณหยาด”
หยาดฟ้าลังเล แต่เดชยืนขวางไว้
“เลิกเล่นละครได้แล้ว...อยู่ทางไหนพวกใครก็ไปทางนั้น”
เดชจ้องตาดุๆ หยาดฟ้ามองเขม็ง แล้วหันมาทางลูกน้องของฤทธิ์

เทวาตามทั้งสองออกมาหน้า ก็เห็นปลาดุกสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ มีดารินซ้อนท้ายอยู่
“ไป”
เทวาวิ่งตามไป แต่รถห่างออกไป “ริน...ริน…”
รถมอเตอร์ไซค์แล่นมา ดารินบอกปลาดุกเสียงเข้ม
“เร็วสิ อย่าให้เขาตามมานะ”
ปลาดุกพูดกลั้วเสียงหัวเราะ “ถ้าเขาไม่ตามมาสิ เธอจะเสียใจ มากกว่า”
ดารินหันไปก็เห็นเทวายืนมองเฉยๆ ไม่วิ่งตามมา

สีหน้าดารินดูออกว่าน้อยใจ

พายุเทวดา ตอนที่ 12 (ต่อ)

ลูกน้องของฤทธิ์ยืนข้างหยาดฟ้า และหวานใจ เดชตะโกนท้า

"เอาสิ...จะได้รู้กันไปว่าหมาหมู่ สมุนกํานันฤทธิ์รุมทำร้าย ลูกบ้าน"
ชาวบ้านและแม่ค้าพ่อค้า พากันยืนออดู หยาดฟ้ากับหวานใจมองกราดไปก็เห็นแม่ค้า พ่อค้าเตรียมอาวุธ พวกมีดอีโต้ และผลไม้เท่าที่จะฉวยได้ ยืนคอยช่วยเดช หากถูกทำร้าย เห็นสีหน้าแม่ค้าพ่อค้าเอาจริงเอาจัง
เทวาเข้ามา หวานใจกับหยาดฟ้าส่งยิ้มให้
"ไปกันเถอะ...พ่อแม่พี่น้องจะได้ทำมาหากินต่อ...อย่าสนใจหมาหมู่พวกนี้เลย"
เดชประกาศกับพ่อค้าแม่ค้า ”จำไว้นะพ่อแม่พี่น้องที่เคารพ ถ้าผมกับเทวาเป็นอะไร ไป พ่อแม่พี่น้องช่วยเป็นพยานด้วย”
ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าเฮ “ไม่ต้องห่วงพ่อเดช พ่อเทวา พวกเราอยู่ข้างพ่อสองคน เสมอ” แม่ค้านำเสียงโห่ไล่หยาดฟ้ากับพวก
“บ้าจริงๆ เลย...ไป” หยาดฟ้านำหวานใจกับลูกน้องฤทธิ์เดินผ่านหน้าเทวากับเดชออกไปจากตลาด

หยาดฟ้าเดินมากับหวานใจ สีหน้าหงุดหงิด ลูกน้องของฤทธิ์เดินตามประกบ
กะเทยถึก หวานใจเพ้อ “คนอะไรหล่อจัง..อยากจีบเป็นแฟนจังค่ะ คุณหยาดช่วย เป็นแม่สื่อติดต่อคนที่ชื่อเทวาให้มาเป็นแฟนหวาน หน่อยสิคะ”
หยาดฟ้าหงุดหงิด “เกิดจะมาหลงรักผู้ชายเอาตอนนี้ แกไม่เห็นเหรอมันตั้ง ตัวเป็นศัตรูกับเรา...ฮึ ไม่โดนรุมตายคาตลาดกันหมด ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“แหม...มันอดใจไม่ได้นี่คะคุณหยาด พอเห็นหน้าปุ๊บ กามเทพก็แผลงศรปั๊บ”
“เลิกเพ้อพกได้แล้ว...แกเห็นนังผู้หญิงสองคนที่เทวาตาม ออกไปมั้ยล่ะ”
“อ๋อ เห็นค่ะ”
“นั่นแหละ มันก็ชอบคุณเทวาเหมือนแก วันหลังฉันจะ จัดให้แกตบมันชุดใหญ่”
“พร้อมเมื่อไหร่บอกได้เลย หวานยินดีทำเพื่อคุณหยาด เจ้าค่ะ”

ดารินกับปลาดุกขี่รถเข้ามา ก็เห็นเทวากับเดชยืนอยู่ ใกล้กันที่ลานจอดรถ มีรถสองแถวของเดชจอดอยู่
“ฉันว่าฉันมาเร็วแล้วนะ ยังไม่ทัน ศรกามเทพนี่พุ่งเร็วจัง” ปลาดุกบ่น
ดารินไม่สนใจ เดินหนีจะขึ้นห้อง เทวาหมั่นไส้
“เห็นหน้าก็เดินหนี เป็นอะไร หรือว่าหึง”
ดารินหันขวับมาทันที “คิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่า...ไหนว่าไม่ถูกกัน อยู่ กันคนละข้าง แล้วทำไมถึงมาถ่ายรูปคู่กันได้”
เดชยกมือห้ามไม่ให้ทะเลาะกันพลางอธิบาย
“ไม่มีอะไรริน ไอ้เทวาเพื่อนเราไม่ทันเกมเขาน่ะ แม่นั่น เห็นแม่ค้าพ่อค้าเข้ามารุมล้อมก็เลยเข้ามาแกล้งตีสนิท”
“ใช่..จะให้ผมหนีได้ไง แม่ค้าประชาชีเขาจะได้ว่าเราหยิ่ง” เทวาพยักพเยิด
เดชช่วยอีก “เออ ใช่ๆๆ”
ปลาดุกเห็นด้วย “มีเหตุผลว่ะ...ให้อภัย...นะ...นะ...”
“นะ” เทวาง้อ ดารินหน้าบึ้งแล้วค่อยๆ ยิ้มออก “หายงอน หาย โกรธแล้วใช่มั้ย”
“ใครบอก...นายนี่ชอบคิดเข้าข้างตัวเองจริงๆ เลย”
ดารินเดินขึ้นห้องพักไป ปลาดุกยิ้ม “ยิ้มออกก็ดีแล้วนะเทวา”
ปลาดุกตามเข้าบ้านไป “เอ็งมันโชคดีเรื่องความรักว่ะ ข้าสิแย่”
เทวาถามเดชทันที “เอ็งมีคนที่เอ็งรักด้วยเหรอวะ ใคร...บอกได้รึเปล่า”
“ช่างเถอะวะ ไปเถอะ” เดชตัดบท

มองจากด้านนอกของร้านฮียเม้ง แลเห็นแสงสีวูบวาบ และผู้คนภายในร้าน กำลังดื่มกินกันอย่างเต็มที่ เสียงเพลง จังหวะเร้าใจสนุกสนานดังออกมา
ดารินทำงานตามปกติ หยาดฟ้ากับหวานใจเข้ามา คนในร้านพากันมอง เฮียเม้งออกมาต้อนรับ
“คุณหยาดฟ้าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ”
หวานใจมองดารินแล้วก็เบ้ปาก “นึกว่าจะวิเศษแค่ไหน ที่แท้ก็ผู้หญิงหากิน”
หยาดฟ้าผสมโรง “ฉันก็แปลกใจ ทำไมเทวาถึงชอบผู้หญิงตํ่าๆ แบบนี้ คุณคำรณก็หลงมันหัวปักหัวปำ”
“คุณคำรณของหวานด้วยเหรอคะ...แบบนี้มันก็เป็นศัตรู ร่วมของเราแล้วล่ะค่ะ หวานใจจัดเองค่ะ”
ดารินกําลังถือถาดแก้วเครื่องดื่มไปเสิร์ฟยังโต๊ะหนึ่ง หวานใจแกล้งเดินมาแล้วชนดาริน เครื่องดื่มหกราดหัวแขกคนหนึ่ง แขกลุกขึ้นโมโห
“ทำไมซุ่มซ่ามยังงี้วะ” แขกเงื้อมือจะตบ แต่ช้ากว่าดารินที่ตีเข่าเข้าให้ที่ท้อง ฟาดถาดที่ถือเครื่องดื่มเข้าที่หัว แขกโต๊ะอื่นพากันลุกฮือ
เม้งโวยลั่น “เฮ้ยๆๆ โอย หยุด ลื้อหยุดเดี๋ยวนี้นะอาดาริน”
แขกคนเดิมพยายามทำร้ายดารินให้ได้ ฟาดขวดเหล้าให้เป็นปากฉลาม แล้วตรงเข้ามาจะแทงดาริน แต่ดารินต่อสู้ ใช้วิชามวยต่อสู้จนแขกร่วงลงไป
แขกคนอื่น เห็นเพื่อนถูกทำร้ายก็กรูเข้ารุมดาริน แต่ดารินก็ต่อสู้ หวานใจกับหยาดฟ้ามองอย่างตะลึงในฝีมือของดาริน

ปลาดุกขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี เห็นชุลมุนเลยเข้ามาช่วยดาริน ปลาดุกใช้วิชามวยต่อสู้กับบรรดาแขกในร้าน เสียงปืนดังขึ้นเปรี้ยง ร่างปลาดุกทรุดฮวบลงไป แขกในร้านแตกฮือหนีไปหมด
หยาดฟ้าค่อย ๆ หย่อนปืนกระบอกเล็กๆ ลงไปในกระเป๋า
“แย่จังเฮียเม้ง กะว่าจะสนุกซะหน่อย ดันเจอแบบนี้เข้า แย่เลย”
ดารินตวัดสายตามองหยาดฟ้า ขณะที่ปลาดุกนั่งพิงมุมหนึ่งอยู่ เลือดไหลทะลักมาทางต้นแขน ดารินกระโดดเตะหวานใจล้มลงไป แล้วต่อยหยาดฟ้า กระชากกระเป๋ามา ค้นจนเห็นปืนกระบอกนั้น
“เอาของฉันคืนมานะ”
“เขม่ายังอยู่ ปลอกกระสุน และลูกกระสุน แค่นี้ก็เพียงพอ ที่ฉันจะเอาหล่อนเข้าคุกได้”
หยาดฟ้าหลุดหัวเราะท้าทาย
“ว่างจากชงเหล้าคงอ่านนิยายเช่าเยอะสิ ถึงกล้าฝันว่าจะ จะเอาฉันเข้าคุก”
หวานใจเยาะ “ฝันต่อไปเถอะย่ะ” หยาดฟ้ากับหวานใจออกไป
ดารินหัยมาทางเม้ง “เฮียเม้ง มีเรือมั้ย ฉันจะพาเพื่อนไปโรงพยาบาลฝั่งโน้น”
“อั๊วไม่รู้ แค่นี้อั๊วก็เจ๊งแย่แล้ว..ไปๆๆ จะไปไหนก็ไป”

ชาวบ้านช่วยแบกปลาดุกมา ดารินเดินตามมาด้วย
“ทำใจดีๆ นะปลาดุก...ไปอนามัยมั้ย หาหมอนที เผื่อว่า จะช่วยได้”
ชาวบ้านบอก “หาหมอฝั่งโน้นดีกว่า น่าจะพอหาเรือได้”
รถสองแถวของเดชผ่านมาพอดี
“อะไรกัน”
เทวากับก้องรีบกระโจนลงมาจากรถ ดารินหันมาเห็น
“ช่วยด้วย ปลาดุกถูกยิง”
“ขึ้นรถ” เทวาบอก
ชาวบ้านประคองปลาดุกนั่งรถ เดชออกรถไป ดาริน ก้อง เทวาไปด้วย ดารินประคองปลาดุกไว้สีหน้าเป็นห่วง

หยาดฟ้ากลับมาบ้านฤทธิ์ พูดเสียงดังด้วยความหงุดหงิด
“กะจะยิงอีกคน แต่อีนังนั่นมันเข้ามาขวางยังไงก็ไม่รู้ ส่วนนังผู้หญิงชงเหล้ามันขู่ว่าจะเอาฉันเข้าตะราง มันยึด ปืนไปด้วยนะ หลักฐานอย่างดีเลย”
“เสี่ยคงไม่ทำให้คุณหยาดติดคุกหรอกน่า”
“ก็จริง แต่ฉันไม่อยากให้เสี่ยมาเป็นภาระเรื่องนี้ อีกอย่าง มันช่วงเลือกตั้งด้วย ฉันกลัวจะสาวไปถึงเรื่องโน้นเรื่อง นี้จะกระทบงานของเสี่ย นายฤทธิ์ต้องช่วยฉันนะ”
ฤทธิ์พยักหน้า หวานใจมองทั้งสองคนอย่างผิดสังเกต
“ก็ดีเหมือนกัน...เสี่ยสั่งให้ผมจัดการกับไอ้เทวาอยู่พอดี”
หยาดฟ้าตกใจ “เกี่ยวอะไรกับเทวาด้วย”
ฤทธิ์ตวัดสายตามองมาอย่างไม่พอใจ
“ห่วงมันมากนักเหรอ คุณหยาดลืมไปแล้วเหรอว่าผมเป็น กำนันอยู่ที่นี่ หูตาผมเป็นสับปะรด คุณหยาดไปทางไหน ก็มีคนรายงานผมหมด”
“ฉันแค่ถามว่าเกี่ยวอะไรกับเทวา”
“ถ้าจะไปหาหมอที่ฝั่งโน้น นังนั่นมันจะให้ใครช่วย นอกจากไอ้เทวา... ดี คราวนี่ละจะได้ระเบิดเรือให้ตายในทะเลให้หมดเลย”
หยาดฟ้าหน้าซีด นึกเป็นห่วงเทวา หวานใจเห็นผิดสังเกต
“คุณหยาดหน้าซี้ดซีด ไปพักก่อนมั้ยคะ”
หยาดฟ้าพยักหน้า ฤทธิ์เดินออกไป
“ทำไมนายฤทธิ์ถึงกล้าขึ้นเสียงวางอำนาจกับคุณหยาดล่ะ คะ หรือว่า…”
หยาดฟ้าตวาด

"หุบปากเลย...แล้วก็ไม่ต้องเดาอะไรทั้งนั้น"

ปลาดุกอยู่ในเรือแล้ว มีดารินคอยประคองอยู่ เลือดเปื้อนเสื้อของดารินเห็นชัด เทวาบอกกับชาวบ้าน

“น้ารีบกลับไปเถอะ ผมพาคนเจ็บไปหาหมอเอง”
เดชออกเรือไป เรือสปีดโบ๊ตแล่นไปกลางทะเลในความมืดสลัว

ฝ่ายสิงห์เมาแอ่นอยู่ตรงชายหาด มือถือขวดเหล้าเซไปมา แล้วก็ตาสว่าง ขยี้ตาดูเห็นฤทธิ์สั่งให้ลูกน้องขึ้นเรือสปีดโบ๊ตที่จอดอยู่ 2 ลำ เรือแล่นออกไปอย่างเร็ว เหลือฤทธิ์กับลูกน้องติดตามอีกสองสมุนคู่ใจที่เดินตามฤทธิ์เสมอ
“ถุย...คิดว่าใครที่แท้ก็กํานันฤทธิ์ คนที่ใหญ่คับเกาะมุก”
ฤทธิ์กับลูกน้องเดินมาหา
“ยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้สิงห์”
สิงห์ ก็นานพอจะได้เห็นท่านกำนันทำอะไรน่ะแหละ... สิงห์ยืนเซเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
ฤทธิ์ กลับวัดไปได้แล้วไอ้สิงห์
“ทำไมวะ เอ็งจะทำอะไร กลัวข้าเห็นเหรอวะ”
ฤทธิ์พยักหน้าส่งสัญญาณให้ลูกน้องจัดการสิงห์ ลูกน้องตรงมาต่อย เตะสิงห์ สิงห์สู้เท่าที่พอสู้ได้ ฤทธิ์กอดอกยืนมองหัวเราะที่เห็นสิงห์เพลี่ยงพลํ้า
“ใช้พลังเทวดาสิวะ...ข้าไม่ได้เห็นพลังเทวดาของเอ็งมา นานแล้วไอ้สิงห์...ถ้าไม่ใช้ ข้านี่แหละจะใช้กับเอ็ง”
สิงห์ยืนตะลึงหายเมา สิงห์ หลวงปู่ให้ใช้เวลาจำเป็น...
ลูกน้องตามไปกระทืบสิงห์ สิงห์หลบทัน ไม่โดนกระทืบ
“ใช้วิชาของเอ็งสิวะ...ใช้สิ...”
สิงห์พยายามลุกขึ้น กําหนดจิตเรียกพลังตะบันไฟของตน ปล่อยหมัดออกไปกลางอากาศแต่ไม่มีประกายไฟออกมาเหมือนทุกครั้ง
ฤทธิ์หัวเราะก้อง นกบินออกจากปากหลายตัว บินมาจิกตีสิงห์ สิงห์ใช้มือปัด ร้องให้คนช่วย
“โอ๊ย ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
ฤทธิ์หัวเราะ แล้วเรียกลูกน้องกลับไป
สิงห์ปัดนก แต่ก็ถูกนกจิกตี จังหวะนี้เงาร่างของมนต์ปรากฏขึ้น มนต์กำหนดให้ลมพัดใส่ร่างของสิงห์จนล้มไปต้านแรงลมไม่ได้ นกถูกลมพัด ให้เห็นขนนกปลิวกระจายไปในท้องฟ้า
ฤทธิ์หันกลับมามอง แต่ไม่เห็นเงาร่างของมนต์แล้ว
“เป็นไปได้ยังไง ข้านึกว่าไอ้สิงห์มันกินเหล้ามากจนไม่มี พลังเทวดาแล้ว”
สิงห์มองไปที่ฤทธิ์ ด้วยสายตาเคียดแค้น ฤทธิ์มองเขม็งแล้วเดินไปกับลูกน้อง ร่างสิงห์ค่อยๆ ร่วงลงกับพื้นทราย

เรือสปีดโบ๊ตที่เทวาหามาทะยานไปในทะเล ทุกคนหน้าเครียด ก้องทำหน้าที่ขับเรือ ดารินนั่งอยู่มีปลาดุกนอนหนุนอยู่ด้วย เรือของลูกน้องฤทธิ์แล่นมาอย่างเร็ว ตีขนาบข้าง

เทวา ก้อง เดชมองหน้ากัน รู้สึกผิดสังเกต เทวาหันมาทางสองสาว
“คุณกับเพื่อนอย่าตกใจนะครับ แล้วก็อย่ายืนขึ้น อย่าหนี ไปไหนด้วย”
เรือลูกน้องของฤทธิ์เข้ามาใกล้ ยิงถล่ม ทุกคนหมอบในเรือ
“เอาไงวะ ไม่มีปืนจะยิงมันด้วย” เดชถาม
“ข้าว่าต้องใช้พลังเทวดาแล้วละ ก่อนที่จะตายกันหมด”
เทวาเห็นด้วยกับก้อง มองไปที่ดาริน และปลาดุกก็ยิ่งสงสาร เทวามองไปที่เรือของกำนันฤทธิ์แล้วตัดสินใจเรียกลมสลาตันมา
ทันใดนั้นเอง บนท้องฟ้าเห็นลมพายุพัดมาอย่างแรง ลูกน้องของฤทธิ์แหงนมองฟ้า แล้วถูกลมตีปะทะร่าง ลอยขึ้น แล้วตกลงกลางทะเล ลูกน้องคนอื่นๆ พากันตกใจ เรือเอียงไปมา ตามแรงลมสลาตัน เรือพลิกควํ่า คนในเรือต่างพลัดตกนํ้า
ดารินมองอย่างตื่นเต้น เช่นเดียวกับปลาดุก
เวลาผ่านไป ลมพายุสงบ ทุกคนต่างมีสีหน้าเศร้า
“อย่าคิดมากเลยวะ ถ้าเราไม่ทำมัน มันก็ฆ่าเราตายหมด” เดชปลอบ
ก้องว่า “มันคงกะเล่นงานเราให้ถึงตายกันหมด”
เทวาพยักหน้า มองออกไปกลางทะเลเวิ้งว้างยามคํ่า ขณะที่เรือแล่นไปกลางทะเล

ฤทธิ์อยู่กับหยาดฟ้าที่บ้าน หน้าเครียด
“มันคงใช้พลังเทวดา ลูกน้องผมคงตายหมด”
หยาดฟ้างง “ใครบอก”
ฤทธิ์มองที่นอกหน้าต่าง “ผมเห็นพายุสลาตันบนท้องฟ้า...มันคงล่มเรือลูกน้องผม ตายหมดแล้ว”
หยาดฟ้าหน้าเสียไป “พวกเขาจะรู้มั้ยว่าเป็นฝีมือเรา”
“คุณกลัวมันเหรอ”
“ก็พวกมันมีพลังเทวดา”
“ผมก็มี...แล้วยังมีวิชาจากอาจารย์คล้ามอีกด้วย...กลัวมัน ทำไม”
ฤทธิ์กอดปลอบหยาดฟ้าไว้ หยาดฟ้าสะท้านมองไปตามลำตัว
ภาพที่ฤทธิ์มีรอยสักเต็มตัวผุดเข้ามาในห้วงคิด แต่มองไปไม่เห็นเนื้อตัวของฤทธิ์มีรอยสักอย่างเคย หยาดฟ้ากอดตอบฤทธิ์ สีหน้าของหยาดฟ้าเครียดจัด หล่อนครุ่นคิดหนัก
“เทวาต้องมีพลังเทวดาเหนือกว่าพลังของนายฤทธิ์”
ฤทธิ์ค่อยๆ ประคองหยาดฟ้าไปที่เตียงนอน ทั่งสองล้มไปด้วยกัน

ฝ่ายหวานใจกำลังหวีผมอยู่ เห็นเงาร่างของคล้ามเดินผ่าน แล้ววูบหายไป
“วะ...วะ...ว้าย” คล้ามปรากฏเป็นรูปร่างหันมา จ้องหน้าหวานใจดุๆ แล้ววูบหายไป ร่างของกะเทยถึกล้มตึงเป็นลมไปในทันที

ฤทธิ์กับหยาดฟ้านัวเนียกันอยู่บนเตียง หยาดฟ้ามองไปที่หน้าของฤทธิ์แล้วผงะ เนื้อตัวของฤทธิ์เริ่มมีรอยสัก ใบหน้าคล้ามซ้อนอยู่บนใบหน้าของฤทธิ์
“อย่า...ออกไป” หยาดฟ้าผลักเต็มแรง ใบหน้าของฤทธิ์กลายเป็นใบหน้าของคล้าม ตวาดออกมา
“ทำไม เป็นเมียฉันมันน่ารังเกียจนักเหรอ”

หยาดฟ้าตัวสั่น กลั้นสะอื้น เบี่ยงหน้าหลบหน้าของคล้ามที่ก้มตํ่าลงมาจูบ

พายุเทวดา ตอนที่ 12 (ต่อ)

ภายในห้องพักฟื้นตอนนั้น ปลาดุกนอนสลบอยู่บนเตียงหลังผ่าตัดเสร็จ มีสายนํ้าเกลือ และอื่นๆ ระโยงรยางค์ เต็มตัวไปหมด ดารินพูดกับเทวาเบาๆ

“ผมไม่อยากไปเลย...เป็นห่วงคุณ” ทั้งสองสบตากัน
“ฉันอยู่ได้...นายมีคนต้องเป็นห่วงมากมาย...กลับไปเถอะ”
เทวาอิดออด “แต่...”
ดารินเอามือแตะที่อกเทวาสบตา “เชื่อใจฉันสิคะ...ฉันอยู่ได้ พวกมันไม่กล้าทำอะไรฉัน หรอก”
“ผมมั่นใจว่าพวกมันตามล่าคุณ”
“เรามีศัตรูร่วมกันต่างหาก...ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นก็ยัง ไม่รู้...บางทีการได้อยู่ที่นี่ อาจทำให้ฉันได้คิดอะไรขึ้น มาบ้าง”
“อย่าบอกนะว่าคุณจะไปจากที่นี่”
ดารินมองหน้าเทวา ถามเบาๆ “นายต้องการอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ”
เทวารวบมือดารินขึ้นมากุมไว้ “แต่ก่อนใช่...แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจ”
“เพื่อนนายรออยู่ รีบไปเถอะ”
ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน ก่อนที่ดารินค่อย ๆ ดึงมือออกจากมือของเทวา

เดชกับก้อง ยืนรออยู่กับชาวบ้านสองคน
ชาวบ้าน 1 ว่า “ข้าเชื่อว่ามันคิดสังหารเทวา...สกปรกสิ้นดีเลย แบบนี้ มันก็ไม่ต่างจากหมาลอบกัด”
ชาวบ้าน 2 เห็นด้วย “ใช่...หมาลอบกัดชัดๆ”
เทวาเดินมา เดชกับก้องรีบตัดบท
“เทวามาแล้ว รีบกลับเถอะ” ทั้งหมดกระโดดลงเรือ

เดชทำหน้าที่ขับเรือ เทวามองกลับไปที่ฝั่ง หน้าเศร้า ก้องมานั่งข้างๆ
“ถามจริง เอ็งไม่รังเกียจเหรอวะ”
“รังเกียจอะไร”
“ก็ที่แม่ดารินนั่นทำงานที่ร้านเหล้า ไม่รู้ว่าตอนเลิกงาน ออกไปกับแขกบ้างหรือเปล่า” เทวามองหน้า ก้องหน้า เสียไป “ถ้าข้าพูดอะไรให้เอ็งไม่สบายใจก็ขอโทษว่ะ”
“ข้ามั่นใจว่ารินไม่ทำยังงั้น”
“นังแสงดาวมันชอบเอ็งมานานแล้ว เอ็งไม่รู้เหรอวะ แต่เอ็งชอบนังแสงจันทร์พี่สาวมัน...ตอนนี้มันก็ยังชอบ เอ็งอยู่”
“เจอหน้าก็ด่ากัน จะหาว่ามันรักข้าได้ไงวะ”
“ไม่เคยได้ยินเหรอ ผู้หญิงด่าเขาบอกว่าผู้หญิงรัก”
เทวาไม่ตอบ สองคนไม่เห็นว่าเดชหน้าเสียไป

คืนนั้นที่หยาดฟ้าผวาตื่นขึ้นมา เห็นตัวเองนอนอยู่ข้างฤทธิ์ ฤทธิ์ตื่นขึ้น จะรวบตัวหยาดฟ้ามากอด แต่หยาดฟ้าผลักออก
“อะไรอีกล่ะคุณหยาด”
“ต่อไปนี้ แกไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีกนะ...ออกไป”
หยาดฟ้ากระถดตัวหนี ฤทธิ์ลุกขึ้นนั่ง งงๆ
“เป็นอะไรไปคุณหยาด”
“คิดว่าฉันจะหัวเราะร่าเริงได้เหรอนายฤทธิ์...ในเมื่อฉัน เห็นผู้ชายแก่ๆ คนหนึ่งซ้อนอยู่ในร่างของนาย ฉันยังไม่อยากเป็นเมียผี”
ฤทธิ์หัวเราะเบาๆ “อ๋อ คงเป็นอาจารย์คล้ามน่ะครับ”
“จะเป็นใครฉันไม่สนใจหรอก แต่ฉันทนไม่ได้...อี๊ย์.. รู้ไว้ด้วยว่าฉันรังเกียจ”
มีของตกลงมาเหมือนมีใครกวาดตกร่วงกราว ทั้งสองหันไป หยาดฟ้าตกใจ เมื่อเห็นเงาร่างของคล้ามยืนอยู่ในความมืด แล้ววูบหายไป หยาดฟ้าปิดตา ส่ายหน้า
“ออกไป๊...ไปสิ...ไป๊”
ฤทธิ์กอดหยาดฟ้าตกใจเช่นกัน มองหาเงาร่างของคล้าม ฤทธิ์ผลักหยาดฟ้าออกห่าง
“นายฤทธิ์ ฉันกลัว...อย่า..ไป” ฤทธิ์ผละไป หยาดฟ้าหน้าเสีย นํ้าตาคลอ
“ฉันไม่มีวันเป็นเมียแกหรอก ไอ้ผีบ้า”

ฤทธิ์ออกมาที่ห้องโถงของบ้าน มองหาคล้าม
“อาจารย์...อาจารย์..ทำไมทำยังงี้ ออกมาพูดกันให้รู้เรื่อง ออกมา”
คล้ามปรากฏตัวขึ้น “มีปัญหาอะไร”
“ทำไมอาจารย์ต้องแฝงร่างผม..คุณหยาดเธอกลัว”
คล้ามวูบมาใกล้ กระชากคอฤทธิ์ ตะคอกถาม
“เอ็งบอกข้ามิใช่รึว่าเราจะเป็นคนคนเดียวกัน...เพื่อถ่าย พลังจากกันและกันได้”
“แต่คุณหยาดเป็นเมียผม ผมรักเธอ ผมไม่อยากให้...”
คล้ามสวนคำทันที “เอ็งผิดสัญญาไอ้ฤทธิ์...ต่อไปนี้ข้าจะไม่ช่วยเอ็งอีกแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไร อย่าเรียกข้าอีก” คล้ามวูบหายไป ฤทธิ์หน้าเสียตะโกนก้อง
“อาจารย์...อาจารย์...”

สิงห์ บุญกู้ ก้อง เทวา และเดช ทั้งหมดคุยกันอยู่เรื่องมีคนตามล่าในทะเล เห็นเจดีย์อยู่เบื้องหลัง
บุญกู้บอก “ถ้าเป็นอย่างไอ้สิงห์เล่า ก็คงไม่มีใครหรอก เทวา...ไอ้ ฤทธิ์แหละเป็นคนสั่งการ”
“พี่ฤทธิ์ไม่คิดว่าเราเป็นน้อง” เทวาเสียใจ
“เอ็งยังละเมอว่ามันเป็นพี่อีกเหรอวะ” เดชฉุน
“ข้าคนหนึ่งละจะไม่มีวันนับญาติกับมันเลย” สิงห์โมโห
ก้องบอก “ข้าจะร่วมมือกับเอ็งไอ้สิงห์”
เดชบอกกับเพื่อนทั้งสอง “จะทำอะไรก็ให้การเลือกตั้งผ่านไปก่อน”
ก้องงง “ทำไมวะ” ก้องมองหน้าเทวา
“ใช่ ข้าขอร้อง บางทีตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอาจทำให้เกาะ มุกดีขึ้น อย่าเพิ่งเอาความแค้นส่วนตัวมาเหนือกว่าส่วนรวมเลย”
บุญกู้เห็นด้วย “เทวาพูดถูก...ใจเย็นไว้ก่อนไอ้ก้อง”

ก้องพยักหน้ายอมรับได้

ในตอนเช้ามืด หยาดฟ้าเดินมาตามทางเดินเข้าบ้านคงคา สีหน้าอิดโรย

“แน่นอนเลยค่ะ บ้านนายฤทธิ์ต้องมีผี...หวานก็เห็นค่ะ”
หยาดฟ้าชะงัก หยุดเดิน “แกเห็นเหรอ..นังหวาน”
“เห็นสิคะ น่ากลัวออก หวานเป็นลมไปเลย”
คงคากับคำรณเข้ามา คงคาถามเสียงขุ่น “หายไปไหนมาทั้งคืน”
หยาดฟ้าหน้าบึ้งเหมือนถูกจับผิด “เสี่ยถามเหมือนไม่ไว้ใจหยาด”
หวานใจมองท่าทีทั้งสองฝ่าย เห็นไม่ได้การ รีบปลีกตัวไป
“หวานไปทำงานก่อนนะคะคุณหยาด”
“เธอทำตัวให้ฉันไว้ใจหรือเปล่าล่ะ” คงคงย้อน
“เสี่ยรู้มั้ยว่าหยาดไม่ได้นอนทั่งคืน...ตอนนี้คะแนนเสียง ของไอ้เทวามันเหนือกว่าคุณคำรณหลายเท่าตัว...หยาด กับนังหวานตระเวนไปทั่วเกาะ..อุตส่าห์เข้าไปรำวงกับ พวกชาวบ้านหวังหาคะแนนเสียง เดินตลาดสดเหม็นไป ทั้งตัว ยังจะหมู่บ้านชาวประมงอีก..หยาดทำขนาดนี้ เสี่ย ยังไม่ไว้ใจหยาดอีกเหรอคะ”
คงคาไม่อยากเชื่อ “เป็นไปได้ไง เม็ดเงินทุ่มไปตั้งมาก หรือว่าหัวคะแนน มันเอาไปหมด”
คำรณโวยวาย “ผมไม่ยอมนะพ่อ ผมแพ้มันไม่ได้...ไอ้ฤทธิ์แหละมัน ไม่ช่วยเรา...พ่อต้องจัดการทั้งมันและไอ้เทวา”
คงคาพยักหน้า สีหน้าเหี้ยม ไม่ไว้ใจฤทธิ์
“พ่อจะเรียกมันมาคุยก่อน”

ฤทธิ์คุยโทรศัพท์ หน้าเครียด “ครับ เสี่ย...ผมจะไปวันนี้แหละครับ”
เสียงคงคาดังจากปลายสาย “ดี ฉันจะให้คนของฉันรอรับนายที่ท่าเรือ”
ฤทธิ์ปิดโทรศัพท์ ค่อย ๆ ลดโทรศัพท์ลง

วันต่อมา ปลาดุกนอนหลับอยู่ในห้องพักฟื้น ขณะที่เทวาซึ่งแวะมาเยี่ยมกับดารินคุยกันเบาๆ
“มันโหดร้ายมากเลยนะ...นายต้องระวังตัวนะ”
“คุณด้วย...ผมเป็นห่วงคุณนะ...อ้อ นี่ผมซื้อมาฝาก” เทวาหยิบถุงส่งให้ ดารินดึงเสื้อผ้าออกมาหลายตัว
“รสนิยมนายนี่ไม่เลว” เทวายิ้มบางๆ มองไปที่ปลาดุก
“ถ้าเพื่อนคุณมาอาการดีขึ้น ผมอยากให้กลับไปพักฟื้น ที่เกาะมุก ให้หมอนทีดูแลดีกว่า อย่างน้อยผมก็มั่นใจ ว่าไม่มีอันตราย...คุณต้องระวังตัวนะ ผมว่าบางทีมันก็ คิดเล่นงานคุณด้วย”
“ฉันไม่มีศัตรู”
“อย่าเพิ่งแน่ใจไป...เราอาจมีศัตรูคนเดียวกันก็ได้ ดูแล ตัวเองด้วยนะ”
เทวาออกไป ดารินมองตามด้วยความเป็นห่วง ประตูปิดตามหลังเทวา ดารินหันมาก็เห็นปลาดุกลืมตามองมาที่ตน
“แกตื่นนานแล้วเหรอ”
“ก็พอได้เห็นฉากหวานๆ ในชีวิตแกแหละริน”
ดารินแกล้งหน้าบึ้งกลบเกลื่อนอารมณ์เขิน
“แกว่าไง คุณเทวาให้แกไปพักฟื้นที่อนามัย”
“ฉันเห็นด้วย...อย่างน้อย แกกับเทวาก็จะได้ไม่ต้องห่วง หน้าพะวงหลัง...งานของแกจะได้เสร็จไวๆ”
ดารินอึ้งไป ไม่คิดว่าปลาดุกจะรู้
“แกหิวมั้ย”
“ไม่...ขอบใจ อยากหลับมากกว่า” ปลาดุกหลับตาลง ดารินระบายลมหายใจอย่างอัดอั้น
“งานของฉันไม่มีวันเสร็จไวหรอกปลาดุก แกก็รู้นี่ว่า เวลานี้คนชั่วมันเต็มเมือง ปราบยังไงก็ไม่หมดซะที”

เรือของฤทธิ์จอดเทียบที่ท่าเรือชายฝั่ง ฤทธิ์กระโดดขึ้นท่ามา เทวากำลังจะกลับเกาะมุกเห็นรีบหลบแอบมองตาม สีหน้าสงสัยว่าฤทธิ์มาทำไม ฤทธิ์เดินผ่านไปโดยไม่เห็น
เทวาเห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ ธงกับศรยืนกอดอกอยู่ข้างรถ ฤทธิ์เดินมา ธงเปิดประตูรถข้างหน้าคู่กับคนขับให้ฤทธิ์เข้าไปนั่ง ฤทธิ์เข้าไปนั่ง ศรไปนั่งตำแหน่งคนขับ ธงเข้ามานั่งที่เบาะหลัง ประตูปิด รถแล่นไป

เทวาครุ่นคิด “คงมารายงานความระยำของพวกมันบนเกาะมุกให้ไอ้ เสี่ยคงคารู้..อำนาจเปลี่ยนคนได้จริงด้วย”

ในรถที่แล่นมาตามทาง ธงดึงปืนขึ้นมาจี้ปลายกระบอกปืนไปที่ต้นคอของฤทธิ์ ฤทธิ์หน้าซีด
“แกจะทำอะไรฉัน”
ศรหันมาหัวเราะเบาๆ
“กลัวเหรอ นี่ดีนะว่าเป็นไอ้ธง ถ้าเป็นข้า ข้าระเบิดหัว สมองกระจุยแล้ว ต่อให้มีพลังเทวดาก็เถอะวะ”
ธงแขวะ “ขวัญอ่อนไปได้...เสี่ยรออยู่ ไม่มีอะไรหรอก แต่นายอย่า คิดทรยศเสี่ยเป็นอันขาด ไม่งั้นนายตายแน่”
ศรเร่งรถแล่นไปอย่างรวดเร็ว

มอเตอร์ไซค์สำหรับให้นักท่องเที่ยวเช่าขี่เที่ยวริมหาดจอดบริการอยู่หลายคัน เทวาส่งเงินให้พนักงาน แล้วขี่รถตามรถเหล่าร้ายไปอย่างมุ่งมั่นมาดหมาย


อ่านต่อตอนที่ 12
กำลังโหลดความคิดเห็น