xs
xsm
sm
md
lg

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 5

เช้าวันใหม่...เมฆกำลังปัดรถรออยู่ เจตรินกับอีริน่าในชุดลำลองวันหยุดที่ดูดีเตรียมจะไปบริษัทเดินมาถึงรถ เมฆเปิดประตูรถให้อีริน่า
“ขอบคุณค่ะลุงเมฆ”
“ผมกับคุณอีริน่าไปบริษัทนะนายเมฆ อาจกลับเย็นๆ”
“ครับคุณเจต”
เจตรินขึ้นรถขับออกไป เมื่อเลี้ยวรถออกจากประตูกำแพงแล้วชะลอจอด เพราะเห็นรถนิกกี้จอดอยู่ เจตรินมองนิกกี้นึกถึงคำพูดของอิฐ
“แกตามไม่ทันเด็กสมัยนี้แล้วเจต แต่เมื่อรู้แล้วฉันก็หวังว่าแกกับคุณแม่จะทำอะไรสักอย่างนะ”
เจตรินอึ้งๆ
“เปิดใจรับนายตี๋นิกกี้นั่นก็ได้ ยายจิตจะได้ไม่ต้องเที่ยวกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า”
นิกกี้รีบลงจากรถตรงมา เจตรินกดกระจกรถลงยิ้มให้แบบมีไมตรีประมาณหนึ่ง นิกกี้ไหว้ไม่วายมองอีริน่าแบบชอบ
“สวัสดีครับคุณเจตริน”
“มาหาจิตรดาราหรือ”
“ครับ”
“จิตยังไม่ตื่น”
“ผมรอได้ครับ”
เจตรินรับทราบกดกระจกรถขึ้น นิกกี้หันมายิ้มทักทายอีริน่า
“สวัสดีครับคุณอีริน่า”
“สวัสดีค่ะ” อีริน่ายิ้มบางๆ
เจตรินกดกระจกขึ้นสุดแล้วขับรถออกรถไป นิกกี้มองตามยิ้มเล่ห์ร้าย
“ขอโทษนะครับคุณพี่เจตรินที่วันนี้ บ้านนี้อาจแตกเป็นเสี่ยงๆ คุณพี่กับคุณน้องอีริน่าไม่อยู่ละดีแล้วจะได้ช่วยไม่ทัน โฮะๆ”
นิกกี้เดินไปที่รถตัวเอง...ขณะที่เจตรินขับรถไป อีริน่าถามขึ้น
“ทำไมคุณพูดดีกับนายนั่นจังคะ ฉันยังไม่ลืมที่เขานุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์วิ่งไล่กับคุณจิต วันแรกที่ฉันมาถึงที่นี่นะคะ”
“ยังไงยายจิตก็คบกับเขาอยู่ หากผม...เอ่อ...จริงๆ...ยายจิตมีทางเลือกที่ดีกว่า ค่อยว่ากัน” เจตรินไม่ได้รู้สึกสบายใจนัก แต่ไม่มีทางเลือก

มอสโก...นิโคลัยแต่งตัวมิดชิดสวมแจ็คเก็ตแบบมีฮู้ดคลุมศีรษะ เดินรีบร้อนไม่สนใจความสวยงามของสถานที่ดพราะอยากยามาก เขามองซ้ายขวาลอกแลกแบบระวังตัวมากๆ แล้วเลี้ยวเข้าซอกหนึ่งลับตัวไป เขาเร่งเดินในซอกแล้วชะงักกึก ลูกน้องของมิคาอิลสองคนเดินมาดักหน้า นิโคลัยกลับหลังจะหนี แล้วชะงักอีก ลูกน้องของมิคาอิลอีกสองคนมาดักหน้า อีกสองคนที่ตามหลังมาเข้าล็อคแขนเขาไว้ นิโคลัยดิ้นจะสู้ แต่ไม่สามารถสู้ได้เพราะโดนล็อคแน่นมาก
“อยากยาใช่มั้ยนิโคลัยแกถึงออกจากรูมาได้ มิคาอิลบอกให้ไปเอาที่บ้านได้ไม่อั้น”
ลูกน้องหัวเราะกันลั่นเย้ย นิโคลัยดิ้นไม่หลุด
“ปล่อยฉัน...ปล่อย”
นิโคลัยถีบลูกน้องคนหนึ่ง มันโกรธจะชก อีกคนห้ามไว้
“อย่า มิคาอิลไม่ให้ทำมันเจ็บ เดี๋ยว ตอ.มอ.สงสัย”
นิโคลัยชะงักฉงนผสมสังหรณ์ว่ามิคาอิลคิดทำอะไร

ในออฟฟิศของครอบครัวเจตริน อีริน่านั่งตาลอยใจลอยคืดถึงพ่อกับแม่
“ปาปา แม่พริม อีริน่าอยากรู้ข่าว ทำยังไงเราถึงจะติดต่อกันได้ อีริน่าอยากรู้ว่าแม่พริมกับปาปาอยูที่ไหน หรือว่าโดนพวกมันจับตัวไป”
ตลอดเวลาเจตรินสังเกตเห็นเขาเดินมาหา อีริน่ายังไม่เห็นเพราะใจลอย
“อีริน่า”
อีริน่ายังนิ่ง
“อีริน่า”
“อุ๊ย” อีริน่าสะดุ้ง
“ใจลอยไปมอสโคว์อีกแล้วใช่ไหม”
“เอ้อ...อีริน่าห่วงปาปากับแม่พริม กลัวว่าจะโดนพวกมันจับไปแล้วจะรอดพ้นเงื้อมมือมันไหม อีริน่ากลัวว่ามันจะ...”
“มันจะไม่ทำอะไรรุนแรงมาก เพราะมันอุตส่าห์ส่งคนตามอีริน่ามาถึงที่นี่ มันเป็นพวกแพ้ไม่ได้ มันจะต้องเอาตัวอีริน่าไปให้ได้”
“อีริน่าอยากติดต่อปาปากับแม่พริมให้ได้สักครั้ง แต่มันคงสิ้นหวัง”
“ไม่สิ้นหวังหรอกอีริน่า แม่ของอีริน่าบอกว่าท่านจะไปทำงานกับมาดามแคทเธอรีนนี่นา”
อีริน่ามองหน้าเจตริน
“จริงสิคะ เพียงถ้าเราหาเบอร์สถานทูตได้”
“เป็นหน้าที่ของผมจะจัดการหาให้ อีริน่าอย่าเพิ่งกังวล เรามียูริอยู่ทั้งคน”
อีริน่ายิ้มดีใจมากยกมือไหว้
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ขอบคุณ ขอบคุณ แค่นี้เองหรือ”
เจตรินจ้องหน้า อีริน่าเขิน
“เอ้อ...”
อีริน่าจับมือเจตรินมากุมไว้บีบไปมายิ้มหวานให้ เจตรินเลยยกมือของเธอที่กุมมือเขามาจูบ อีริน่าชะงัก
“เอ๊ะ”
เจตรินทำไม่รู้ไม่ชี้

ในบ้านพักของมาดามแคทเธอรีน มอสโก...มาดามกำลังอ่านหนังสือพิมพ์รายวันภาษารัสเซีย พริมวิ่งใจเสียเข้ามา
“นิโคลัยหายไปค่ะมาดาม”
แคทเธอรีนตกใจ

“อ้าว”

โรงรถบ้านเจตริน...อารดาอารวาดใส่เมฆ ขณะที่สาวใช้ของบ้านนี้ทำหน้าที่ประจำวันอยู่ไม่ห่างนักเงี่ยหูสอดแนมกันสุดๆ สมรกับหวินกำลังเอาของใส่รถ
“คุณเจตไปไหน” อารดาตวาดสนั่น
“ไม่ทราบครับ คุณเจตไม่ได้บอก ไปกับคุณอีริน่าครับ” เมฆโกหก
อารดาได้ยินชื่ออีริน่าก็ริษยาและโกรธมาก
“อะไรที่ฉันไม่ได้ถามไม่ต้องเจ๋อมาบอก”
เมฆหุบปาก อารดามองกราดไปทั่วสาวใช้หลบกันงุด เพราะเหม็นหน้าอารดา และทุกคนไม่รู้นอกจากเมฆ อารดาหยุดสายตาที่ศรี
“ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ ออกมาไม่ทันคุณเจต”
“ใครถาม”
ศรีแอบบ่น
“อ้าว ก็เห็นมองซะตาแทบถลน”
“ขี้ข้าบ้านนี้นี่ ไม่เคยใส่ใจเจ้านายกันเลย ระวังเงาหัวไว้เถอะอีกไม่นานหรอก จะไม่ได้มีเงาอยู่ในบ้านนี้”
นายเมฆปัดรถฟังด่าเพลิน อารดาตวาดแว๊ด
“ทำความสะอาดรถฉันยังไม่เสร็จอีกรึไง หา”
เมฆสะดุ้งตั้งแต่โดนตวาด
“เสร็จ เสร็จแล้วครับ”
“เสร็จแล้วก็หลีกไป จะปัดให้รถฉันสีหลุดออกมารึไง”
อารดาเข้ารถปิดประตูโครม ทุกคนสะดุ้งโหยง รถออกพรวดไปแทบจะเหาะ สามสาวใช้ประจำบ้านมารุมเมฆ ศรีไม่ได้มาด้วย มองระอาๆ แจ๋วเดินมาพลางบ่น
“อู๊ย...ขึ้นขี้ข้า ลงขี้ข้า ยัยผู้ดีตีนแดง”
“ตะแคงตีนเดิน” จิ๋มเสริม
“จับหัวไว้ให้แน่นๆกันนะเฟ้ย เดี๋ยวจะไม่มีเงา เชอะ” แหวนประชด
สมรกับหวิน โผล่หน้ามาฟังอยากรู้ว่าเจตรินไปไหน จะได้โทรรายงานอารดาเอาความดีความชอบ

นิกกี้กำลังฟังเพลงมันๆในรถ รถอารดาเลี้ยวขวับออกมาแล่นปร๊าดเลยไป นิกกี้มองตามรู้ว่าเป็นอารดา แล้วรถอารดาก็เบรกกึกถอยกลับมาจอดเทียบกับรถนิกกี้ต่างคนต่างกดกระจกลง นิกกี้จะพูดเรื่องเจตรินแต่อารดาพูดขึ้นก่อน
“ไม่ต้องพูดเรื่องเจต ฉันรู้แล้ว”
“เอ่อ...ครับ”
“เด็กเที่ยวอย่างเธอมาแต่เช้าอย่างนี้มีอะไรดีๆแน่ ใช่มั้ย”
“จะว่างั้นก็ได้ครับ แต่ผมแปลกใจที่พี่ดายังไม่ทราบ จิตยังไม่พูดอะไรกับพี่เหรอครับ” นิกกี้ถามอย่างสงสัย

สมรกับหวิน แอบฟังอยู่มุมหนึ่ง แหววเห็นทั้งสองแอบฟังก็ทำเป็นปิดปาก
“อุ๊ยต๊ายตาย หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง”
“ใครถ้ำมองขอให้ตาเป็นกุ้งยิง” จิ๋วแช่ง
“ใครแอบฟังขอให้หูกางเป็นลิง” แจ๋วเสริม
สมรกับหวินปิดตาแบบกางนิ้วไว้มองลอด ปิดหูหุบๆเปิดๆแบบยังให้ฟังได้ ตามจังหวะพูด
“ลิงบ้านไหนหูกาง” แหววถามอย่างสงสัย
“พูดไปงั้นแหละ กลอนมันพาไป” แจ๋วขำๆ
“กลอนประตูส้วมสิแก” จิ๋มเซ็ง
แหวว แจ๋ว จิ๋ม วิ่งไล่ตีกันเอง ศรีบ่นระอา
“มันช่างเป็นลิงหลอกเจ้ากันจริงจริ๊ง นังพวกนี้”
ศรีหันมองไปทางสมรกับหวิน ทั้งสองหลบวูบ แหววหันไปหาเมฆ
“ตกลงคุณเจตพาคุณอีริน่าไปไหนลุงเมฆ”
“ไม่รู้เว้ย”
“น่า...ลุงเมฆ เผื่อไปที่โรแมนติก พวกหนูจะได้ลุ้นอุ้มคุณหนูตัวเล็กๆ” จิ๋มกระเซ้า
“อย่าเซ้าซี้มาก เดี๋ยวเผลอพูดขึ้นมา”
เมฆเดินหนีไปเลย สามสาวผิดหวัง
“ว้า...”
สมรกับหวินเซ็ง
“อดรู้เลย” สมรบ่น
“อดได้หน้ากับคุณดาด้วย”

อารดากับนิกกี้ยืนคุยกันนอกรถรู้เรื่องคลิปที่จีรณัทย์พบกับกมลกันต์แล้ว อารดายิ้มสะใจดูคลิปสุดท้ายแล้วส่งมือถือคืนนิกกี้ อารดาหัวเราะอ่อนๆเหยียดเยาะ
“พี่สาวแสนดีประจำบ้าน ที่แท้ก็ยังไม่เลิกลักลอบพบกับผู้ชาย เธอนี่ก็ทุ่มทุนสร้างจริงๆนะนิกกี้ คิดว่าจะชนะใจแม่ยายหรือไง”
“มันแน่อยู่แล้วเห็นๆอะพี่ดา”
“มันจะง่ายขนาดนั้นเหรอ บ้านนี้เขามาตรฐานสูงนะจ๊ะ” อารดาคิดอะไรได้วาบขึ้นมา พอใจมาก “ฉันว่าเธอไปทำอะไรเพิ่มอีกหน่อยดีกว่า ไอ้นี่ละจะโดนใจคุณแม่ยายของเธอแน่ๆ”
อารดาคิดจะให้นิกกี้ไปซ้อมกมลกันต์แล้วโยนว่าคุณหญิงศรินทิพย์หรือเจตรินให้ทำ นิกกี้มองสนใจรอฟัง อารดายิ้มร้ายสะใจ

ในบ้านมิคาอิลที่มอสโก...นิโคลัยพยายามขอร้อง
“มิคาอิลฉันขอร้องวางมือจากอีริน่าเถอะ อีริน่าแต่งงานไปแล้ว”
“นั่นละจะยิ่งทำให้อีริน่าเจ็บแสบเป็นสองเท่า รวมทั้งแกกับเมียแกด้วย”
“ฉันขอร้อง เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเราสักครั้งเถอะมิคาอิล”
มิคาอิลหัวเราะสนั่น
“เพราะฉันเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรานี่ละนิโคลัย ฉันถึงยอมรับเซ้งอีริน่า ทั้งๆที่ลูกสาวแกไม่สด และราคาตกไปไม่ใช่น้อยแล้ว”
นิโคลัยวิตกและเจ็บปวด รู้ว่ามิคาอิลจะเอาอีริน่าไปขายบริการ ลูกน้องมิคาอิลเข้ามาส่งกระดาษใบเล็กๆให้
“เบอร์โทรศัพท์บ้านมาดามแคทเธอรีนครับ”
นิโคลัยตกใจ
“อย่านะมิคาอิล”
มิคาอิลพูดกับลูกน้อง

“โทรไป”

แคทเธอรีน กำลังพูดโทรศัพท์ พริมวิตกน้ำตาคลออยู่ห่างออกไป
“เธอนี่มันเลวสมบูรณ์แบบจริงๆมิคาอิล”
มิคาอิลหัวเราะยียวน
“ขอบคุณที่ชมครับมาดาม ผมฝากบอกพริมด้วยว่าสามีเขาขอลาไปเยี่ยมลูกสาวที่กรุงเทพสักพัก”
มาดามทั้งวิตกทั้งโกรธมองพริมอย่างห่วงใย พริมมองตอบอย่างอยากรู้มาก
“ฉันจะแจ้งหน่วยตรวจคนเข้าเมือง”
มิคาอิลหัวเราะลั่น
“โอยกลัวมากเลยครับมาดาม ฝากมาดามบอกพริมอีกอย่างนะครับ ตอนนี้ผมจะปล่อยเขาให้หายใจสบายๆสักพัก ไว้ผมได้ตัวลูกสาวเขาแล้วผมจะกลับมาจัดการแม่”
“เลวมาก”
มิคาอิลวางหูไป มาดามวางสาย พริมรีบเข้ามาหา
“เขาว่ายังไงคะมาดาม”
แคทเธอรีนพยักหน้า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง พริมผวาไป
“อย่าไปรับโทรศัพท์พวกมันเด็ดขาด”
พริมชะงัก

ในห้องทำงานของเจตรินที่บริษัท...เจตรินส่ายหน้าวางสาย
“ไม่มีคนรับสายแย่จริง ไม่เป็นไร เราจะพยายามใหม่นะอีริน่า ไม่ต้องกลุ้มใจ”
“ค่ะ อีริน่าพยายามจะไม่กลุ้มใจค่ะ” อีริน่าน้ำตาไหล
“ดีมาก”
เจตรินเช็ดน้ำตาให้และดึงเธอมาโอบไว้ อีริน่าสะอื้นฮัก

ในสถานทูตฝรั่งเศส...แคทเธอรีนบอกพริม
“ฉันจะสั่งเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่นี่ใหม่ทันที เดี๋ยวนี้ ป้องกันมันโทรมาคุกคามข่มขู่”
“ดิฉันขอโทษที่ทำให้มาดามเดือดร้อน”
“ไม่เป็นไร เตรียมตัวไว้ให้ดี ฉันจะพาเธอไปปารีสด้วย พริม”
“ค่ะ”
มาดามจับมือพริมยิ้มให้ด้วยความเมตตา พริมน้ำตาซึม

ภายในห้องประชุมขนาดเล็กในบริษัทของคุณหญิงศรินทิพย์ เจตรินถือแฟ้ม 3 - 4 แฟ้มมาวางเพื่อสอนงานให้อีริน่า
“นี่คงพอวางพื้นฐานงานที่นี่ให้อีริน่าได้”
“คุณเจตทราบเรื่องธุรกิจด้วยเหรอคะ”
“ก็ไม่เชิงหรอก แต่คิดว่าไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ ถือว่าเราเรียนไปพร้อมๆกันจากของจริงเลยก็แล้วกัน”
“ค่ะ”
อีริน่ามองเจตรินอย่างปลื้มและยกย่อง เจตรินยิ้มให้

ถนนซอยหน้าบ้านเจตริน...นิกกี้พูดมือถือกับลูกน้อง
“ไอ้ผู้ชายในคลิปนั่นละ มันนัดกับพี่จีรณัทย์ที่ศูนย์การค้าของพี่เขาไม่ต้องถึงตาย เอาแค่สั่งสอนให้นอนดูดโจ๊กจากหลอดกาแฟสักสองอาทิตย์ เสร็จแล้วพวกแกไปพบฉันที่บริษัทของป๊า”
นิกกี้กดตัดสาย เดินเข้ารถขับออกไป

ยูรินอนดูทีวีกินของกินเล่นอย่างเพลิดเพลิน เสียงโทรศัพท์ดัง ยูริสะดุ้งโหยงสำลักของกิน
“แค่กๆ วันหยุดของผมนะคร้าบ...ใครโทรมาทำลายบรรยากาศเนี่ย...” ยูริรับสาย “ยูริครับ” ยูริตกใจอีกฝ่ายร้องไห้ “คุณพริมมีอะไรครับ ร้องไห้ทำไมครับ”
“แล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ ตอนนี้ดิฉันรีบค่ะ ขอเบอร์โทรศัพท์บ้านคุณเจตรินกับเบอร์มือถือได้มั้ยคะ”
“ได้ครับได้”

จิตรดาราอยู่ในห้องหน้าตามีความสุขแต่งตัวเสร็จแล้วจะออกข้างนอก เธอสำรวจความเรียบร้อยของหน้าตาแล้วเดินมาที่มือถือปลดสายชาร์จออกและถอดปลั๊กบ่นไปเรื่อยตามปกติ
“ใครไลน์มาเต็มไปหมด”
จิตรดารากดๆดูไปถึงคลิปของนิกกี้ กดไปพูดไป จิตขำๆ
“ส่งคลิปมาขอความรักฉันเหรอจ๊ะนายนิกกี้ เดี๋ยวจะเงิบ ฉันเจอหนุ่มคนใหม่แล้วย่ะ” จิตรดาราชะงักกึก หน้าตาเอาเรื่อง “ฮะ! พี่จีนี่ยังเจอกับพี่กมลกันต์อยู่อีกเหรอ”
จิตรดารารีบไปหยิบไอแพท

เจตรินสอนงาน อีริน่าตั้งใจฟัง
“อยากจังค่ะ แต่...”
“เธอต้องทำให้ได้ ในฐานะภรรยาของผม”
“ภรรยาจอมปลอมน่ะสิคะ ภรรยาแต่ในนาม ความจริง เราก็แค่...”
“ผมหวังดีกับอีริน่านะ”
“ถ้าฉันพบคุณตาคุณยาย ฉันกับคุณก็ต้องรีบเลิกรากันทันที ให้คุณกลับไปหาคู่หมั้นคนดีของคุณ”
“อย่าพูดเรื่องอนาคต พูดกันเรื่องวันนี้ เถิดนะ”
เจตรินดึงอีริน่ามาอีก อีริน่ากลัวแพ้ใจตัวเองรีบกลบเกลื่อน
“อีริน่าหิวน้ำที่มีเม็ดๆอะไรใหญ่ๆกินแล้วสนุกดี”
“เขาเรียกว่าชาไข่มุก ให้แม่บ้านไปซื้อให้”
“อีริน่าอยากไปซื้อเองค่ะ อีริน่าอยากทดลองทำทุกอย่างด้วยตัวเอง”
“ตกลง”
อีริน่ารีบผละออกไปถอนใจเฮือก พึมพำ
“เกือบไปอีกแล้วนะอีริน่าอย่าใจอ่อนสิ แม่พริมสอนไว้ให้รักนวลสงวนกาย”
เจตรินมองตามอีริน่าแล้วยิ้มเอ็นดู
“คุณพริมสอนลูกเก่ง หวงเนื้อหวงตัว ผิดกับยายจิตร จริงๆ”

จีรณัทย์ชุดใส่ลำลองจะออกข้างนอก เธอนัดกับกมลกันต์ไว้ ขณะที่เดินคุยอยู่กับคุณหญิงศรินทิพย์
“บริษัทเท็นที่เสนอร่วมทุนทำศูนย์การค้าที่สิงคโปร์ที่จีบอกคุณแม่ค่ะ โพรไฟล์ดีที่สุดแล้วค่ะ”
“จีว่าไงแม่ก็ว่างั้นละจ๊ะ วันจันทร์จีทำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมการบริษัทได้เลย แล้วนี่จะไปไหนจ้ะ”
“มีนัดกับเพื่อนค่ะ”
ทันใดนั้น จิตรดารายื่นไอแพทมาตรงหน้า จีรณัทย์กับคุณหญิงศรินทิพย์ชะงัก จิตรดารายิ้มอย่างผู้อยู่เหนือ
“นัดกับเพื่อนคนนี้ใช่มั้ยคะ” จิตรดารายิ้มเย้ย รู้ทัน

มุมหนึ่งศูนย์การค้าของศูนย์การค้าศรินทิพย์...กมลกันต์นั่งดื่มกาแฟรอจีรณัทย์ พนักงานของร้านมาโค้ง
“คุณกมลกันต์ใช่มั้ยครับ”
“ครับ”
“คุณจีรณัทย์ขอให้ไปพบที่ร้านเสื้อครับ”
กมลกันต์ฉงนนิดๆ ยังไม่ถึงเวลานัด
“มาแล้วเหรอ ขอบคุณนะน้อง”
กมลกันต์วางเงินไว้ที่โต๊ะแปลกใจหน่อยๆ

“จีไม่เคยใช้เสื้อผ้าร้านนี้เลยนี่”

คุณหญิงศรินทิพย์หน้าตาถมึงทึง จิตรดาราหน้าเย้ย จีรณัทย์หน้าซีด
“นี่เจอกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะจี”
จีรณัทย์นิ่งอึ้ง จิตรดารามองยิ้มเย้ย
“เมื่อวานนี้เองมั้งคะคุณแม่ ยังมีอีกนะคะ สวีตหวานชื่น รู้สึกจะในที่ดินเราที่รัชดาค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์โกรธ จิตรดาราทำท่าจะเลื่อนภาพ คุณหญิงเห็นปลายโฉนดแวบๆ
“เดี๋ยว”
คุณหญิงศรินทิพย์จิ้มปลายโฉนดในไอแพด
“ขยายนี่ให้แม่ดูชัดๆได้มั้ยจิต”
“สบายอยู่แล้วค่ะ”
“ไหนๆก็ไหนๆ ไม่ต้องขยายหรอกจิต นั่นโฉนดที่ดินค่ะคุณแม่” จีรณัทย์โพล่งออกมา
คุณหญิงศรินทิพย์โกรธจนแทบสั่น พอจะเดาอะไรได้ แต่ยังอยากให้แน่ใจ
“ที่ไหน”
“ที่รัชดาค่ะ”
“แล้วเอาไปให้พวกนั้นดูทำไม”
“จีขายให้กมลกันต์ค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ตบหน้าจีรณัทย์เต็มเหนี่ยว สาวใช้ที่กระจายกันทำงานอยู่ตกใจกันหมด หยุดมือลอบมองกัน แม้แต่จิตรดาราเองยังตกใจ ไม่นึกว่าแม่จะแรงขนาดตบหน้า
“นังลูกสารเลว”

เจตรินกำลังอ่านเอกสารในแฟ้ม มือถือดังขึ้น เขารับสาย
“ครับน้าศรี”
เจตรินฟังแล้วตกใจ
“ผมไปเดี๋ยวนี้ครับ”
เจตรินหากระดาษมาเขียนโน้ตถึงอีริน่าอย่างเร็วข้อความสั้นๆว่าออกไปธุระสักพักจะกลับ

กมลกันต์เดินมุ่งไปที่ร้านเสื้อ ถึงซอกว่างเงียบๆ มีมือกระชากกมลกันต์ไปอย่างแรง
“เฮ้ย”
กมลกันต์ถูกลากมาที่มุมหนึ่งเงียบๆ เขาโดนชกอย่างแรงลงไปกองกับพื้น แล้วจากนั้นโดนรุม แต่แล้วมีร่างหนึ่งโดดเข้ามากลางวง มากันกมลกันต์ไว้
“อีริน่า”
“หลบไปด้านโน้นค่ะ อีริน่าจัดการเอง”
กมลกันต์ไม่แน่ใจเลยว่าอีริน่าจะจัดการได้
“ช่วยกันก็แล้วกัน”
ชดและลูกน้องเข้าใส่ อีริน่ากับกมลกันต์สู้ กมลกันต์ออกอาการมวยวัดสู้ไปตามสัญชาตญาณเพราะไม่ได้ฝึกการต่อสู้มา สู้ไปก็ทึ่งอีริน่าไปเพราะเธอต่อสู้อย่างเป็นมวย กมลกันต์มัวแต่ทึ่งเลยโดนอัดเต็มๆ

คุณหญิงศรินทิพย์กระชากจีรณัทย์เหวี่ยงไปอย่างแค้นใจสุดๆ จิตรดาราไปช่วยพยุง จีรณัทย์สะบัดออกไป ทุกคนเครียดกันหมด เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ศรีไปรับตาก็มองศึกแม่ลูกไป
“บ้านไอศูรย์ศรินทร์ค่ะ”
“ขอพูดกับคุณอีริน่าค่ะ”
เสียงคุณหญิงศรินทิพย์เข้าไปในโทรศัพท์
“แกทำกับฉันยังงี้ได้ยังไงยัยจี นี่คือสิ่งที่แกตอบแทนฉัน แม่บังเกิดเกล้าของแกใช่มั้ย”
พริมตกใจเสียงคุณหญิงศรินทิพย์
“อุ๊ย”
ศรีพูดโทรศัพท์
“คุณอีริน่าออกไปข้างนอกค่ะ”
“คุณเจตรินล่ะคะ”
ศรีมองสามแม่ลูกอย่างวิตกสุดๆ คุณหญิงศรินทิพย์ตวาด
“แกทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง พูดสิพูด”
ศรีพูดโทรศัพท์
“ออกไปด้วยกันค่ะ คุณคะ ดิฉันขอประทานโทษนะคะ อีกสักพักใหญ่ๆกรุณาโทรมาใหม่นะคะ”
พริมรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดี
“ค่ะๆ”
พริมได้ยินเสียงอีกฝ่ายวางสาย
“บ้านนั้นมีอะไรกัน เสียงยังกับจะฆ่ากัน”
คุณหญิงศรินทิพย์เสียงดังขึ้นๆ
“แกขัดคำสั่งฉัน ลักลอบพบกับเจ้ากมลกันต์มาตลอดยังไม่พอ ยังเอาที่ดินของครอบครัวไปขายให้มันอีก มันเป็นศัตรูตัวสำคัญของฉัน แกจะให้ฉันกระอักเลือดตายใช่มั้ย”
คุณหญิงศรินทิพย์น้ำตาคลอด้วยความแค้น จีรณัทย์น้ำตาไหลพูดไม่ออก จิตรดาราหน้าตาไม่ค่อยดี แต่ในใจไม่รับผิด
“พี่สาวมันฆ่าอาของแก ทำให้พ่อแกหัวใจวายตาย ทำให้ฉันเกือบแท้งยายจิต ยายจิตเกือบตายเพราะคลอดตอนหกเดือนต้องนอนในตู้อบเป็นปี ดีว่ามันหัวแข็งถึงรอดมาได้ แค่นี้มันยังไม่พอให้แกสำนึกใช่มั้ยจีรณัทย์ นี่ถึงฉันตายไปต่อหน้าต่อตาแกอีกคน ก็คงไม่มีวันทำให้แกสำนึกผิดชอบชั่วดีได้แม้แต่นิดเดียวเลยใช่มั้ย หา”
จิตรดาราเพิ่งรู้ว่าตัวเองเกือบตายเพราะคลอดก่อนกำหนด ตกใจแล้วโกรธเรื่องในอดีต โกรธจีรณัทย์ไปด้วย คุณหญิงศรินทิพย์มองจีรณัทย์อย่างเจ็บแค้นสุดๆ จีรณัทย์ยิ่งพูดไม่ออกน้ำตาริน แล้วก็สั่นเป็นจ้าวเข้ามือไม้สั่นไปหมด
“คุณแม่ดู พี่จีสิคะ ใช้มุกเดิม ชักกระแด่วอีกแล้วค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ตกใจ
“ยัยจี”
คุณหญิงศรินทิพย์ผวาไปจับจีรณัทย์ จิตรดาราไปช่วยแบบโกรธๆ

กมลกันต์ อีริน่า ชดและลูกน้องยังบู๊กันกระหน่ำ ชดกับลูกน้องโดนกันไปมิใช่น้อย ส่วนใหญ่เป็นฝีมืออีริน่า กมลกันต์โดนอัดจุกไปหลายทีเหมือนกัน รปภ. วิ่งมาเป่านกหวีดสนั่น พวกของนิกกี้แตกกระเจิงแบบตัวใครตัวมัน อีริน่าไปประคองกมลกันต์
“ไปทำแผลที่บริษัทก่อนนะคะ คุณเจตอยู่ที่บริษัทค่ะ”
กมลกันต์ยังไม่ทันตอบ มือถือในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น เขาล้วงมาดูหน้าจอเห็นเบอร์ไม่รู้จักแต่ก็รับ
“กมลกันต์ครับ”

แจ๋วพูดมือถือกับกมลกันต์อยู่มุมหนึ่งในที่ลับตา
“แจ๋วเองค่ะคุณกมลกันต์ ป้าศรีให้แจ๋วโทรบอกว่าคุณจีคงไปไม่ได้แล้วค่ะ ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่เรื่องที่คุณจีขายที่ดินค่ะ”
กมลกันต์ตกใจ
“แล้วจีล่ะ”
อีริน่าได้ยินชื่อจีรณัทย์ก็สงสัย
“พี่จีทำไมคะ”
กมลกันต์ฟังแจ๋ว
“คุณจีโดนหนักเลยค่ะ ตอนนี้คุณเจตกำลังมา”
กมลกันต์กดตัดสาย ร้อนใจมาก หันมาหาอีริน่า
“ผมไปส่งบ้าน”
“คุณเจตรออีริน่าอยู่ค่ะ”
“เจตกำลังกลับบ้าน”
อีริน่าหน้าเหวอ
“อ้าว มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
“ไปคุยกันในรถครับ”

กมลกันต์รีบไป อีริน่ารีบตาม

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 5 (ต่อ)

พริมต่อมือถือถึงเจตรินยังไม่มีคนรับสาย...เจตรินซ้อนมอเตอร์ไซค์วินซึ่งพาซอกแซกการจราจรอย่างได้ผล มือถือในกระเป๋าดังไม่หยุดสั่นด้วย เจตรินแตะๆ แต่ไม่สนใจจะรับ...พริมรอฟังโทรศัพท์อีกนิด ก่อนจะหันไปบอกแคทเธอรีน
“คุณเจตรินก็ไม่รับสาย”
“ไม่เป็นไรหรอกพริมไว้ค่อยโทรใหม่ก็ได้ ยังไงมิคาอิลก็พานิโคลัยไปกรุงเทพอยู่ดี แต่เราก็ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงที่จะบอกอีริน่า”
“ค่ะ มาดาม”
พริมวางสาย ยังไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี

ร้านทำผมไม่ไกลจากซอยบ้านเจตรินนัก...อารดาทำผมเสร็จแล้วกำลังฟังมือถือพลางจ่ายเงินให้ช่าง หน้าตาสะใจ
“สะใจ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับ แกสองคนไปคอยดูไว้ว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว”

คุณหญิงศรินทิพย์เสียใจแค้นใจสุดๆ
“แกเก็บข้าวของออกจากบ้านฉันไปเลยยัยจี แล้วก็ไม่ต้องไปทำงานที่บริษัทฉันด้วย ฉันไล่แกออก...ไป๊”
คุณหญิงศรินทิพย์เหวี่ยงจีรณัทย์ไป จีรณัทย์เซไปซบเจตรินซึ่งเข้าบ้านมาพอดี เจตรินรับกอดไว้ จีรณัทย์เห็นเจตริน ร้องไห้โฮ
“เจต”
คุณหญิงศรินทิพย์เซไปเหมือนกันเมื่อเห็นเจตรินเลยแต่งเติมอาการเซเพิ่มขึ้น จิตรดารารับแม่ไว้
“คุณแม่”
อารดาเข้ามาแสร้งทำเป็นตกใจ ไปช่วยประคองคุณหญิงศรินทิพย์แสร้งทำหน้าเป็นคนดีสุดๆ
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่ ทำไมเครียดกันจัง”
เจตรินหนักใจ
“คุณแม่ครับ ต้องรุนแรงกับพี่จีขนาดนี้เชียวเหรอครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์น้ำตาเอ่อ ทั้งรักทั้งแค้น
“ก็ถามนังพี่สาวแสนดีของแกดูสิ ว่ามันทำอะไรงามไส้ไว้แค่ไหน”
“คุณแม่ครับ...”
“พี่เจตอย่ามาทำเสียง อย่ามามองคุณแม่แบบนั้นนะ พี่จีทำคุณแม่หนักมากคุณแม่ไม่หัวใจวายน่ะบุญแค่ไหนแล้ว พี่เจตยังจะเข้าข้างคนผิดอีก”
คุณหญิงศรินทิพย์แสร้งอ่อนแรงลงไปอีก อารดากับจิตรดาราร้องพร้อมกัน
“คุณแม่”
“จิตพาคุณแม่ไปพักก่อน พี่จะคุยกับพี่จีเอง”
“ไม่ จนกว่าฉันจะเห็นนังลูกเนรคุณนี่เก็บข้าวของออกจากบ้านฉัน”
เสียงกมลกันต์ดังขึ้น
“คุณป้าครับ”
ทุกคนหันมอง กมลกันต์เข้ามากับอีริน่า จีรณัทย์ร้องไห้โฮ ทรุดลงนั่งที่พื้นอย่างสิ้นแรง กมลกันต์เข้าประคองขึ้นมากอดไว้ คุณหญิงศรินทิพย์โกรธแทบแดดิ้น
“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ใครให้แกบังอาจเข้ามาในบ้านฉัน”
คุณหญิงศรินทิพย์ถลามาจะเล่นงาน เจตรินจับแม่ไว้
“อย่าครับคุณแม่”
“ออกไป ออกไปจากบ้านฉันทั้งสองคนเลย”
กมลกันต์คุกเข่าลงตรงหน้ากราบเท้า คุณหญิงศรินทิพย์ดึงเท้าหนีแบบเกลียดมาก
“ผมกราบขอโทษ ผมจะไปโอนที่ดินคืนให้ครับ”
“แกไปให้พ้นจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ หากยังขืนพูดอะไรอีก ฉันจะเอาน้ำร้อนมาสาดไล่ ที่ดินนั่นฉันจะถือว่าทำทานให้ไอ้พวกกระจอกเหลือบไรคอยฉวยโอกาสเกาะสูบเลือดคน”
เจตรินรู้สึกว่าแม่แรงมาก
“คุณแม่ครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์เดินไป อารดากับจิตรดาราประคองจะขึ้นไปข้างบน จิตรดารามองกมลกันต์อย่างชิงชัง กมลกันต์ประคองจีรณัทย์ซึ่งยังร้องไห้
“ไปกับผมก่อนนะจี”
จีรณัทย์ซบไหล่กมลกันต์ร้องไห้
“ผมขออนุญาตนะเจต”
“ผมเองดีกว่าครับ เดี๋ยวผมพาพี่จีไปพักที่คอนโดของบริษัท”
คุณหญิงศรินทิพย์ตวาดแว๊ด
“ไม่...ฉันไม่ให้อยู่ อะไรที่เป็นสมบัติของไอศูรย์ศรินทร์ ฉันไม่ให้นังลูกนอกคอกแตะต้องทั้งนั้น”
อารดาแอบสะใจสมน้ำหน้า จิตรดาราเครียดๆ จีรณัทย์กราบแม่กับพื้น คุณหญิงศรินทิพย์เมินเดินไปต่อทั้งแค้นและไม่ใยดี จีรณัทย์ลุกมาที่เจตรินร้องไห้
“พี่ไปนะเจต”
เจตรินกอดจีรณัทย์ สองพี่น้องกอดกันแน่น
“ดูแลตัวเองนะครับพี่จี แล้วผมจะโทรหา”
กมลกันต์ประคองจีรณัทย์พาออกไป เจตรินมองตามพี่สาวใจหายมาก อีริน่ามาจับมือเจตรินแบบให้กำลังใจสะเทือนใจไปด้วย เจตรินมองอีริน่ายิ้มให้เศร้าๆ อีริน่ายิ้มให้กำลังใจ เจตรินกุมมืออีริน่าไว้แบบหากำลังใจให้ตัวเอง สองคนมองตามหลังกมลกันต์กับจีรณัทย์

คุณหญิงศรินทิพย์ย์ยืนที่หน้าต่างห้องนอนมองออกไปภายนอกด้วยอารมณ์ทั้งรักทั้งแค้นเจ็บปวดช้ำใจประดังประเด เธอเห็นภาพกมลกันต์ประคองจีรณัทย์ถึงรถเปิดประตูรถให้เข้าไปนั่งปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปข้างคนขับ ก็สะบัดหันกลับทั้งรัก-เจ็บ-แค้น

โรงแรมหรู...อิฐสวมสูทราคาแพง ระดับผู้บริหารเปิดประตูห้องประชุมออกมา อิฐพูดมือถือกับเจตริน
“ฉันสัมมนาอยู่ แต่จวนเลิกแล้ว”
“พี่จีถูกแม่ไล่ออกจากบ้าน”
อิฐตกใจ
“ฮะ...แล้วตอนนี้พี่จีอยู่ไหน...ได้เลย ไปอยู่บ้านฉันก่อน หรือจะอยู่คอนโดก็ได้ แล้วแต่พี่เขา...เดี๋ยวฉันโทรหาพี่จีเอง เสียใจด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้ เอาใจช่วยเต็มที่นะขอให้คุณแม่หายโกรธให้อภัยพี่จี มีอะไรให้ฉันช่วยมากกว่านี้ก็บอกได้เลย”

คุณหญิงศรินทิพย์เดินไปนั่งที่มุมค่อนข้างสลัว มีเสียงเคาะประตูแล้วอารดาเปิดเข้ามา ถือถาดใส่ชุดชาจีนอย่างแพงมาวางที่โต๊ะใกล้ๆ
“ชาจีนร้อนๆค่ะคุณแม่”
“ขอบใจจ้ะ”
“คุณแม่ดื่มเลยนะคะ”
“ยังจ้ะ”
“คืนนี้ดามานอนเป็นเพื่อนมั้ยคะ”
ขณะเดียวกันนั้นเป็นจังหวะที่จิตรดาราออกจากห้องน้ำ

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ดา จิตนอนเป็นเพื่อนคุณแม่เองค่ะ”

อารดาหน้าบึ้งๆลงไปนิดยังเหม็นหน้าจิตรดาราอยู่ แล้วยิ้มกลบ
“อ้อจ้ะ...งั้นดากลับห้องนะคะคุณแม่ คุณแม่มีอะไรเรียกใช้ดาได้เลยนะคะ”
“จ้ะ...ขอบใจ”
อารดาเดินออกไป จิตรดาราลงนั่งยิ้มประจบแม่อยากให้แม่สบายใจขึ้น คุณหญิงศรินทิพย์ค่อยผ่อนคลายขึ้นรักเอ็นดูจิตรดารามาก
“คุณแม่อยากคุยกับพี่เจตมั้ยคะ จิตไปตามให้”
“ไม่ละ แม่อยู่กับจิตแม่สบายใจกว่า”
จิตรดารานัวเนียอ้อนแม่ คุณหญิงศรินทิพย์สัมผัสลูกอย่างอ่อนโยนรักมาก แต่ก็ยังปวดใจเมื่อนึกถึงลูกสาวอีกคน
“แม่รักจิตมากนะลูก จิตอย่าทำให้แม่ผิดหวังนะ”
จิตรดารามั่นใจ
“รับรองค่ะคุณแม่ จิตไม่มีวันทำให้คุณแม่ผิดหวังแบบ” จิตรดาราจะพูดถึงพี่สาวแต่นึกได้ชะงัก “เอิ่ม...แน่นอนค่ะ รับรองค่ะ ไม่ว่าอะไรหรือใคร” จิตรดารานึกถึงพงษ์ธร “ที่เข้ามาในชีวิตจิต รับรองว่าจิตเลือกอย่างดีที่สุดค่ะ”
แม่ลูกสบตากัน คุณหญิงศรินทิพย์ค่อยยิ้มได้เชื่อลูก
“ขอบใจ ลูก”
“จิตรักคุณแม่นะคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ย์ชุ่มชื่นใจขึ้น จิตรดาราซบตักแม่ ตาหวานเชื่อมเมื่อนึกถึงพงษ์ธร

พงษ์ธรขำที่อารดาพูดรัวใส่มือถือ พงษ์ธรแต่งหล่อจะออกไปเที่ยวกับเชอร์รี่
“ช้าๆ...ช้า...ช้า...คร้าบ คุณผู้หญิง ผมฟังไม่ทันคร้าบ...”
เชอร์รี่หันมาเหล่แบบอยู่กับฉันแล้วหว่านเสน่ห์ใส่สาวคนไหนอีก พงษ์ธรทำอาการให้เชอร์รี่สงบไว้ทำนองไม่มีอะไร เชอร์รี่เดินเข้าห้องน้ำไป
“เมื่อไหร่เธอจะจัดการยัยจิตรดาราซะที มัวลีลามากจะไม่ทันกินนะยะ เขาลูกสาวมหาเศรษฐีมีอันดับ ไม่ใช่ผู้หญิงที่เธอจะเที่ยวไปสอยมาได้ง่ายๆเหมือนสอยมะม่วงนะยะ”
พงษ์ธรชอบใจ หัวเราะเต็มที่
“ใจเย็น ใจเย็น ไปกินรังมดแดงบนต้นมะม่วงที่ไหนมา ผมเพิ่งรู้จักเขา แล้วเขาก็ลูกผู้ดี ผมทำรุ่มร่ามเร็วนักจะเสียฟอร์มนักบริหารหมดสิ”
“หมั่นไส้ ท่ามากซะจริง อย่าทำงานฉันพังล่ะ”
“รับรอง”
“ฉันให้ข้อมูลเด็ดอีกอย่าง คุณหญิงศรินทิพย์ปลดลูกสาวคนโตจากทุกตำแหน่งในบริษัท...พูดง่ายๆก็ไล่ออกนั่นละ”
“ก็ถึงทีผู้บริหารอย่างผมต้องแสดงฝีมือละสิ”
“ทียังงี้ละหัวไวเชียว แต่ยังไงก็ต้องไม่เกินหน้าฉันนะ แล้วก็รอฉันเห็นสมควรก่อนด้วยย่ะ”
“คร้าบผม”
“พี่คุยอะไรนานจัง ไร้สาระด้วย” เชอร์รี่ดึงมือถือไปพูด “พูดพอละยัง ผัวเมียเขาจะไปเที่ยวกันแล้ว”
เชอร์รี่จะกดตัดสาย พงษ์ธรดึงไปพูดต่อแบบไม่ถือสาเชอร์รี่เพราะกำลังรักหลง
“แค่นี้ก่อนนะครับ ติดภารกิจหัวใจซะและ”
“สอนมารยาทให้นังมะม่วงเน่าของเธอด้วย”
อารดากดวางสายอย่างยัวะ พงษ์ธรกดวางสาย ยิ้มกริ่มคิด เชอร์รี่เดินไปหยิบกระเป๋า
“ผมต้องรอคุณเป่านกหวีดทำไมอารดา ในเมื่อผมมีคนเป่าที่เหนือกว่าคุณแถมเป็นตัวจริงอีกต่างหาก”
“พูดไรอยู่อีกพี่ หนูเบื่อแล้วนะ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวนี้ หนูไปกับคนอื่นนะ” เชอร์รี่บ่นอย่างหงุดหงิด
“ไปจ้ะไปเดี๋ยวนี้เลยจ้ะ”
พงษ์ธรกับเชอร์รี่ต่างแอบอิงกันสุดเสน่หาเดินออกจากห้อง

อารดาโยนมือถือลงบนเตียงอย่างหงุดหงิด แล้วไปหาของในกระเป๋าถือ เสียงมือถือเรียกเข้า เธอหยิบมือถือจะรับ แต่เห็นหน้าจอแล้วชะงักเบอร์ไม่รู้จักจึงกดตัดสายแล้วโยนไว้ที่เดิมแบบไม่สบอารมณ์
“ทำไมชอบโทรผิดกันจริง”
เสียงมือถือดังอีก อารดาดูเป็นเบอร์เดิม ยัวะ กดรับสายจะด่า
“นี่...” อารดาชะงักเพราะเสียงอีกฝ่าย ดีใจ “คุณพ่อ”
พ่อของอารดาดูหมดราศีลงไปหลบซ่อนตัวหนีหนี้
“ดา...สบายดีมั้ยลูก”
อารดาอารมณ์เริ่มจะพรั่งพรู โดดเดี่ยวตัวคนเดียวมานาน
“คุณพ่อ...คุณพ่ออยู่ที่ไหนคะ”
“พ่ออยู่แถวๆนี้แหละลูก แต่บอกไม่ได้”
“คุณพ่อขา ดาคิดถึงคุณพ่อค่ะ”
“พ่อก็คิดถึงลูก ห่วงลูกมากนะ ดายังอยู่ที่บ้านคุณหญิงศรินทิพย์ใช่มั้ยลูก”
“ค่ะ คุณพ่อ”
“ดา...เชื่อพ่อหน่อยนะลูก ทรัพย์สินที่พ่อให้ลูกไว้ถึงจะน้อยลงกว่าที่เราเคยมี แต่ก็มากพอที่ลูกจะอยู่ได้สบายๆ ไม่ต้องไปพึ่งความร่ำรวยของคนอื่น”
“ดาทราบค่ะคุณพ่อ แต่หน้าตาล่ะคะ ศักดิ์ศรีของเราล่ะคะ ดาต้องเรียกหน้าตาเรียกศักดิ์ศรีที่เสียไปคืนมาให้ได้ เจตเป็นคนที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดาเสียไปกลับคืนมาเหมือนเดิมค่ะ”
“ดาแน่ใจหรือลูก”
อารดานิ่งอึ้งไป
“ดาคิดทบทวนให้ถี่ถ้วนนะลูก”
อารดานิ่งอีกสักครู่ น้ำตาที่ซึมๆอยู่เริ่มเอ่อ
“ยังไงดาต้องแต่งงานกับเจตให้ได้ค่ะ”
พ่อนิ่งเงียบไปสักครู่ ทั้งรักทั้งสงสารลูก
“พ่อขอโทษนะลูก ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้...ทำให้ลูกขายหน้า...”
อารดาน้ำตาไหลพราก ร้องไห้เงียบๆ ไม่ฟูมฟาย
“คุณพ่อ...”
“พ่อจะพยายามโทรหาลูกทุกอาทิตย์ พ่อรักลูกนะ อารดา”
“ดาก็รักคุณพ่อค่ะ คุณพ่อรักษาสุขภาพนะคะ ถ่ายรูปไลน์มาให้ดาดูบ้างนะคะ”
“จ้ะลูก แค่นี้ก่อนนะ”
เสียงวางสาย อารดายังน้ำตาไหล ปาดน้ำตา พ่อเศร้าปวดร้าวใจ ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงสัญญาณมือถือมีภาพเข้า อารดาเปิดดูรูปพ่อในมือถือดูโทรมลงไป แต่ไม่โทรมมาก ไม่มีสง่าราศี อารดาดูรูปพ่อน้ำตาไหลออกมาอีก สะอื้นสงสารพ่อมาก
“คุณพ่อ...”
อารดาฮึด พยายามกล้ำกลืนความโศกเศร้า ตั้งใจมั่น เสียงมั่นคง

“ดาจะเอาชื่อเสียงเกียรติยศ เอาทุกอย่างที่เราสูญเสียไปกลับคืนมาให้ได้”

เจตรินกับอีริน่าคุยกันอยู่ในห้อง
“อีริน่าช่วยจัดเสื้อผ้ากับของใช้ที่จำเป็นของพี่จีให้ด้วยได้มั้ยครับ”
“ได้อยู่แล้วค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมจะเอารถพี่จีไปให้พี่จี จะได้เอาเสื้อผ้าไปด้วยเลย”
“ขอฉันไปด้วยนะคะ”
เจตรินยิ้มๆ
“ไม่ขัดข้องครับ แล้วถ้าพี่จีพอจะหายเศร้าแล้ว เราพาพี่จี พี่กมลกันต์นายอิฐไปทานข้าวกัน แต่ถ้าเขาไม่อยากไป เราก็ไปกัน สองคน...ขอให้เขาไม่อยากไป”
“น่าสงสารพี่จีกับคุณกมลกันต์นะคะ”
“ผมว่าก็ดีไปอีกแบบ เท่ากับเปิดโอกาสให้สองตนได้ใกล้ชิดกัน”

คอนโดของบริษัทศรินทิพย์แต่เป็นห้องส่วนตัวที่อิฐซื้อไว้ จีรณัทย์กับกมลกันต์นั่งอยู่ที่ส่วนรับแขก อิฐเดินเอาเครื่องดื่มมาวางให้
“ขอบใจจ้ะ”
“ขอบใจ”
อิฐรู้เรื่องจีรณัทย์แค่ที่เจตรินบอกสั้นๆว่าจีรณัทย์ออกจากบ้าน ยังไม่ได้ถามรายละเอียดจากจีรณัทย์ เพื่อรักษามารยาท จีรณัทย์สนิทกับอิฐเพราะเป็นเพื่อนรักของน้องชายและเจอกันบ่อยในวงธุรกิจ กมลกันต์รู้จักอิฐทั้งผ่านจีรณัทย์ และทั้งที่เป็นนักธุรกิจด้วยกันเจอกันบ่อยในวงธุรกิจเช่นกันสนิทกันไปโดยปริยาย...อิฐยิ้มแย้ม
“ตามสบายนะครับพี่จีพี่กมลกันต์ ห้องน้ำอยู่ด้านโน้น”
จีรณัทย์ยิ้มรับ
“จ้ะ”
อิฐเกรงใจ ไม่ค่อยอยากพูดเกรงกระทบใจจีรณัทย์อีก
“ก็...พี่จีคงหนีคอนโดของบริษัทคุณแม่พี่ไม่พ้นนะครับ แม่เพื่อนรักทำคอนโดขาย ผมก็ต้องอุดหนุนละครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะอิฐ”
“จีอยู่ที่นี่ดีต่อตัวจีที่สุดแล้วละอิฐ” กมลกันต์ออกความเห็น
“ผมไปเก็บสมบัติของผมแป๊บนึง”
“ทิ้งไว้ก็ได้จ้ะอิฐ”
“ไม่ได้ครับ เดี๋ยวพี่จีรู้ความลับผมหมด”
จีรณัทย์ยิ้มขำ ค่อยสดชื่นขึ้น อิฐออกไปได้สักครู่ กมลกันต์ไปนั่งใกล้จีรณัทย์
“จีแต่งงานกับผมเถอะนะครับ”
จีรณัทย์น้ำตาซึมขึ้นมาอีก
“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่รักและหวังดีกับจี แต่จีทำให้คุณแม่เสียใจมากแล้ว จีไม่อยากทำร้ายจิตใจคุณแม่มากขึ้นอีก แค่คุณเข้าใจเชื่อใจว่าจีรักคุณจริง และจะไม่มีวันรักคนอื่นอีก แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับจี”
“ผมเชื่อจีมาตลอดครับ แล้วเรื่องที่ดิน...”
จีรณัทย์ใช้ปลายนิ้วแตะปากกมลกันต์เบาๆ
“จีไม่เปลี่ยนใจค่ะ จีเต็มใจขายให้คุณ จีบอกแล้วไงคะว่าสักวันจีก็ต้องขาย”
“ผมหวังว่าสักวันคงมีวันของเรานะครับจี วันที่คุณแม่ของจีจะให้อภัยครอบครัวผม”
“จีก็หวังอย่างนั้นค่ะ”
“ผมภาวนาให้พี่พรรณวดี ยังมีชีวิตอยู่ และกลับมาหาพวกเราสักวัน มาเปิดเผยความจริงให้ครอบครัวสองครอบครัวหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานใจ”
“แล้วถ้าความจริงเป็นอย่างที่คุณแม่ของจีคิดล่ะคะ”
“คุณพ่อคุณแม่ผมและผมก็ยอมรับครับ ถึงอย่างไรก็ดีกว่าที่จะคลุมเครืออยู่อย่างนี้ ที่คิดกันไปเองว่าพี่พรรณวดีฆ่าอาจิรายุของจี โดยที่ไม่รู้แน่ชัดว่ามันจริงอย่างนั้นหรือเปล่า”
สองคนต่างนิ่งกันไป

ในบ้านมาดามแคทเธอรีน...พริมหน้าเศร้ามาก แคทเธอรีน มองอย่างเห็นใจ
“นิโคลัยแค่ติดยา แต่มิคาอิลเป็นอาชญากร ฉันเกรงว่าเมื่อไปถึงเมืองไทยเรื่องเลวๆของมิคาอิลจะพานิโคลัยลงเหวความเลวไปด้วย ฉันสงสารลูกค่ะมาดาม”
“คนเรามีชะตากรรมร่วมกันทั้งดีทั้งเลว นิโคลัยเป็นคนเก่ง หากเขาไม่อ่อนแอเกินไป เขาคงช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากมิคาอิลได้”
พริมยังหวั่นใจ
“แล้วพริมจะบอกอีริน่าเรื่องที่มิคาอิลจะไปกรุงเทพมั้ย”
“คิดว่าจะไม่บอกแล้วค่ะ ไม่อยากให้ลูกกลัว ฉันยังเชื่ออยู่ว่านิโคลัยสามีของฉัน และกฎหมายของประเทศไทยจะปกป้องอีริน่าได้ค่ะ แต่หากไม่อาจฝืนชะตากรรมกำหนด ฉันจะพยายามทำใจค่ะ”

ในห้องนอนของจีรณัทย์...อีริน่ากำลังจัดกระเป๋าสักครู่เจตรินเปิดประตูเข้ามา
“ผมจะไปคุยกับคุณแม่สักครู่นะครับ”
“คุยเรื่องพี่จีหรือเปล่าคะ”
“ครับ”
“ขออนุญาตออกความเห็นได้ไหมคะ”
“เชิญครับ”
“ฉันว่าอย่าเพิ่งคุยเลยค่ะ เรื่องใหญ่มาก คุณหญิงคงยังไม่หายโกรธง่ายๆ คุณไปคุยจะยิ่งไม่ดีกับพี่จีนะคะ”
เจตรินปลื้มความคิดของอีริน่า
“โอ้...พัน-ระ-ยา เรา มาอยู่กรุงเทพได้ไม่เท่าไหร่ แก่ขึ้นเยอะ...เอ๊ย...เป็นผู้ใหญ่ขึ้น”
อีริน่าทุบๆเจตริน
“นี่แน่ะแก่ นี่แน่ะๆ”
เจตรินกับอีริน่านุงนังกัน ในที่สุดเจตรินกอดอีริน่าให้นิ่งลงได้ แอบสูดกลิ่นผมนิดหนึ่ง อีริน่าไม่รู้ว่าเขาแอบสูดกลิ่นผม เธอนิ่งใจหวิวๆอยู่เหมือนกัน
“ปล่อยค่ะ”
สองคนมองตากัน แอบซ่อนรักแต่ไม่มิด
“กอดหน่อยไม่ได้เหรอ นิดเดียวเอง”
อีริน่านิ่งไปที่จริงก็รู้สึกดีรู้สึกอบอุ่น เจตรินกดศีรษะเธอเบาๆซบไหล่ตัวเองนิ่งกันทั้งสองคน สักครู่เขาแตะคางเธอเงยขึ้น
“ขอบคุณนะครับที่แนะนำ คนเราต้องมีคู่เพราะอย่างนี้เอง...คู่อะไรก็ไม่ดีเท่าคู่ครอง...เนอะ”
อีริน่าเขินมาก บิดตัวหลุด ทุบโครม
“ไปเลยนะ ไปรอนอกห้อง”
เจตรินจับมือทันก่อนที่จะโดนตุ้บที่สองจูบมืออีริน่าอย่างเร็วแล้วรีบไป อีริน่าจะทุบแต่ไม่ทัน เจตรินออกจากห้องไป อีริน่าเขินจัด
“คนบ้า”
อีริน่ายืนหวิวใจ ตาฝัน ยังไม่จัดกระเป๋าต่อ

จิตรดาราอยู่ในห้องมองมือถือบ่นอย่างสุขๆอารมณ์หวานๆ
“ทำไมไม่โทรมานะ จะโทรไปหาเขาก่อนดีมั้ยนะ...ไม่ดีกว่ามั้ง...”

จิตรดารายังไม่หยิบมือถือ

พงษ์ธรนั่งอิงแอบกับเชอร์รี่อย่างมีความสุขอยู่ในร้านรหรู ดูเป็นคู่รักที่รักกันมาก มือถือพงษ์ธรดังขึ้น เชอร์รี่จะฉวยไปพงษ์ธรรีบฉวยได้ก่อน ยิ้มหวานจุ๊บแก้ม
“ผมขอนะจ๊ะที่รัก”
เชอร์รี่หึง งอนแต่ดูน่ารัก
“อย่าเป็นผู้หญิงนะ หนูเหวี่ยงร้านพังแน่”
พงษ์ธรมองมือถือเป็นจิตรดารา
“บังเอิญเป็นผู้หญิงจ้ะ แต่รายนี้โทรมาเรื่องงาน เชอร์รี่ไม่อยากมีแฟนเป็นผู้บริหารบริษัทหมื่นล้านเหรอจ๊ะ”
จิตรดาราฟังมือถือเรียก หน้าตาจากที่ยิ้มๆอยู่ชักจะเริ่มไม่สบอารมณ์
“ทำไมไม่รับ มีมือถือแล้วไม่ถือติดตัวนี่จะมีทำไม ฮะ”
พงษ์ธรหันมาบอกกับเชอร์รี่
“ก็ไปทำที่บริษัทพ่อหนูสิพี่ บริษัทหมื่นล้านเหมือนกัน”
“พ่อเชอร์รี่จะว่าพี่เกาะลูกสาวท่านกินน่ะสิครับ”
เชอร์รี่พูดโพล่งๆไม่คิดตามแบบเด็กรุ่นใหม่ทั่วไป
“ตอนนี้หนูก็จ่ายเงินเดือนพี่เดือนละแสนอยู่แล้วนี่ พี่ทำงานให้พ่อหนูก็ยังจะได้อีกเยอะ”
เชอร์รี่ส่งกุญแจรถหรูราคาแพงให้
“อ้ะ...ให้ยืมรถใช้อีกด้วย หนูไม่อยากนั่งรถกระป๋องของพี่ นั่งแล้วคันอะ เบาะขึ้นรารึเปล่าไม่รู้”
พงษ์ธรซ่อนหน้าปลื้มแบบเจ้าเล่ห์...เสียงมือถือเงียบไป แบบเรียกนานตัดไปเอง จิตรดาราไม่สบอารมณ์ประสาคนเอาแต่ใจ
“โอ๊ย อยู่ไหนเนี่ย”
พงษ์ธรยังคุยกับเชอร์รี่
“แต่คุณพ่อของเชอร์รี่ค้าอาวุธค้าไม้อยู่ต่างจังหวัดนี่ครับ ผมไม่ถนัดงานป่าดงพงไพรอะครับ แล้วที่น่ากลัวที่สุดคือ สาวบ้านป่าน่ะ ใครๆเขาว่าเสน่ห์ร้อนแรงยิ่งกว่าเหล้าป่าซะอีกน้า...ถ้าเชอร์รี่ไม่ไปอยู่ด้วย ผมกลัวผมหลบเสน่ห์ไม่พ้นแน่ๆครับ”
“อย่าเชียวนะ หนูเอาตายเลยนะ”
จิตรดารากดต่อมือถืออีก
“คราวนี้ถ้าไม่รับอีกจะบุกถึงบ้าน” เธอนึกได้ว่าไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน “เออ...แล้วบ้านอยู่ไหนละนี่”
มือถือพงษ์ธรดังขึ้น
“ขออนุญาตแป๊บนึงนะครับเชอร์รี่”
พงษ์ธรลุกไปอีกมุม ห่างจากเชอร์รี่แต่ยังมองเห็นกัน พงษ์ธรรับโทรศัพท์หน้าตายิ้มแย้มสมหวัง
“ครับผม...คุณจิตรดารา กำลังคิดถึงอยู่เลยครับ”
จิตรดาราจากที่หน้านิ่งๆอยู่กลายเป็นยินดีชื่นใจมากมาย แต่ทำเป็นงอน
“คิดถึงแต่ไม่โทรหาจิตเลย ตะกี้ก็ไม่รับสาย”
“ผมติดประชุมงานอยู่ครับ กะว่าเสร็จแล้วจะโทรคุยกับคุณจิตให้ฉ่ำเลย แต่พอดีคุณจิตโทรมาอีกครั้ง คิดว่าน่าจะมีธุระ ธุระคือความคิดถึงหรือเปล่าครับ...”
จิตรดาราเชื่อสนิท สุขใจมาก
“ธุระคือความคิดถึงค่ะ คิดถึงนะคะ คิดถึงมาก”
“ผมก็คิดถึงคุณจิตมากครับ”
“จิตมีเรื่องอื่นด้วยค่ะ”
พงษ์ธรหน้าตาสมหวังมาก แน่ใจว่าเรื่องงานในบริษัทแม่จิตรดารา
“จิตจะถามคนตกงานแถวๆนี้ด้วยว่าสนใจงานใหม่ตำแหน่งผู้บริหารไหมคะ”
พงษ์ธรหน้าสมหวังมากและออกยืดๆที่คาดถูกแต่ยังฟอร์ม เพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง
“ขอบคุณมากครับที่กรุณา แต่ผมรับปากกับอีกบริษัทหนึ่งไว้ครับ ค่อนข้างแน่ว่าจะตกลงกัน นี่ผมกำลังประชุมคุยไฟนอลกับเขาอยู่นี่ละครับ คุณจิตก็โทรมาพอดี”
จิตรดาราอ่อนโลกไม่สงสัยอะไรเลย
“ไม่เอา จิตไม่ให้ทำกับเขานะคะ คุณพงษ์ต้องทำที่บริษัทคุณแม่จิต ปฏิเสธทางโน้นไปเลยค่ะ”
พงษ์ธรเสียงอ้อน
“ผมเสียคนเลยนะครับงานนี้”
จิตรดาราจะเอาให้ได้ แต่ก็หวาน
“เสียก็เสียสิคะ คนเป็นผู้บริหารมีอีกเยอะแยะแต่คุณพงษ์มีคนเดียวนี่คะ แล้วจิตอยากได้คุณพงษ์อะค่ะ”
พงษ์ธรสมหวังแกมสมเพชจิตรดารานิดหน่อยว่าช่างอ่อนหัดเสียจริง
“ผมจะเสียมากเลยจริงๆครับ ผมเป็นคนบอกเขาเองว่าผมเลือกบริษัทเขา”
“เสียเพื่อจิตไม่ได้เหรอคะ”
พงษ์ธรยิ้มร้ายเยาะ แต่พูดหวาน
“คุณจิตอย่าโกรธผมนะครับ ผมขอเวลานิดนึง ผมทำงานระดับนี้ ผมจะให้ชื่อเสียงผมเสียหายไม่ได้ครับ”
จิตรดาราชักจะเอาแต่ใจ
“ไม่รู้ละ จิตไม่ยอม จิตต้องได้คุณมาทำงานที่บริษัท ของจิต ได้ยินว่าเขามีการซื้อตัวคนทำงานเก่งๆกันไม่ใช่เหรอคะ จิตจะให้คุณแม่ซื้อตัวคุณ”
พงษ์ธรสมใจสุดๆ เชอร์รี่ทนไม่ไหวลุกเดินมา พงษ์ธรเอามือปิดไม่ให้เสียงเข้ามือถือ
“ยัยกระดูกอ่อนเอ๊ย โง่ยังงี้มีสมบัติเท่าไหร่ก็เสร็จฉันหมด” พงษ์ธรหวานต่อ “ขอเวลาผมเคลียร์ตัวเองนะครับ ไม่นานหรอกครับ...แค่นี้ก่อนนะครับคุณจิต ผมต้องกลับเข้าห้องประชุมแล้ว”
พงษ์ธรกดตัดสายเลย ท่าทางเนียนๆ ไม่ให้เชอร์รี่รู้สึกพิรุธ
“ค่ะ แล้วคุย” จิตรดาราจะบอกว่า แล้วคุยกันหลังเลิกประชุม แต่สายตัดไปก่อน “อ้าว”
จิตรดาราหน้าเฝื่อนไปแป๊บเดียว แล้วยิ้มหวานเพ้อฝัน
“คุณแม่ขา จิตหาคนทำงานแทนพี่จีให้ได้แล้วนะคะ”

พงษ์ธรโอบประคองเชอร์รี่กลับที่เดิม เชอร์รี่หน้างอ เพราะให้รอนาน
“เขาสนใจจะให้ผมเป็นผู้บริหารที่บริษัทเขาครับเชอร์รี่ ผมเลยต้องคุย นานหน่อย ไม่คืนนี้ก็อาจพรุ่งนี้ ผมต้องไปคุยกับเขานะครับ”
“หนูบอกแล้วว่าหนูเลี้ยงพี่ได้ พี่อยากได้เดือนละมากกว่าแสนนึงหนูก็ให้ได้นะ หนูไม่อยากให้พี่ห่างหนูเลยสักวินาทีเดียว”
“เดี๋ยวเชอร์รี่เจอหนุ่มหน้าใหม่ๆ เชอร์รี่ก็ทิ้งผม”
“ไม่มีทาง หนูรักเดียวใจเดียว พี่อย่าทรยศหนูละกัน...ตายแน่”
เชอร์รี่มองหน้าตาวาวเอาเรื่อง พงษ์ธรหนาว แต่ยิ้มเอาใจ

คุณหญิงศรินทิพย์เปิดประตูห้องออกมา แล้วชะงัก เมื่อเห็นเจตรินกับอีริน่า โดยที่เจตรินหิ้วกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วย เจตรินกับอีริน่าชะงักไปเหมือนกัน อารดาเดินมาไกลๆมองมา สามคนไม่เห็นอารดา เจตรินบอกคุณหญิงศรินทิพย์
“ผมจะ...”

เจตรินค้างเพราะแม่เข้าห้องปิดประตูอย่างเร็วแรง ทั้งคู่ยืนอึ้งอยู่สักครู่ ก่อนจะพากันเดินต่อไป อารดามองเกลียดขี้หน้าอีริน่าสุดๆ

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 5 (ต่อ)

คุณหญิงศรินทิพย์เจ็บใจ เสียใจ สักครู่มีเสียงเคาะประตูเบาๆ อารดาแง้มประตูนิดๆ โผล่หน้ามา
“ดาเข้าไปได้มั้ยคะคุณแม่”
“เข้ามาสิ”
อารดาเข้ามาจะมาคุยเรื่องทำงานแทนจีรณัทย์ด้วย มายุแยงเรื่องอีริน่าด้วย
“มีอะไรเหรอ”
“เรื่องงานที่พี่จีทำ”
คุณหญิงศรินทิพย์สวนกลับ
“แม่ไม่อยากได้ยินชื่อนี้”
“ดาขอโทษค่ะ...ดามีอีกเรื่อง”
“ว่าไปจ้ะ”
อารดาทำเป็นเกรงใจ
“แต่ดาคงไม่เอาความร้อนใจมาให้คุณแม่ตอนคุณแม่ไม่สบายใจนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“เรื่องนังอีริน่าค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ตั้งใจฟัง
“คุณแม่ยังไม่ล้มเลิกที่จะให้มันไปพ้นจากตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ใช่มั้ยคะ”
“ใช่”
“ให้ดาช่วยคุณแม่จัดการมันนะคะ”
“ดาจะทำยังไง”
“ต้องรวมๆกันหลายวิธีค่ะ ที่จะทำให้มันดูเป็นคนเลวมากๆในสายตาเจตให้ได้ แต่คุณแม่ต้องช่วยด้วยนะคะ”
“แม่ไม่ลงมือเองหรอกนะ”
อารดาแอบซ่อนตาวาบเข่นเขี้ยวหมั่นไส้คุณหญิงศรินทิพย์ แล้วปรับหน้ายิ้มให้
“ไม่หรอกค่ะ คุณแม่ก็วางตัวเป็นคุณแม่นี่ละค่ะ”
“ลองว่ามาสิ”คุณหญิงศรินทิพย์ฟังอย่างสนใจ

คอนโดของอิฐ...เจตรินกับอีริน่ายืนอยู่หน้าประตู อิฐเปิดประตูออกมายิ้มให้
“เชิญครับ”
“ห้องสวยจังค่ะ” อีริน่าชม
“ขอบคุณครับ”
อิฐรับกระเป๋าจากเจตริน ไปเก็บในห้อง
“มา...ไปเก็บให้”
จีรณัทย์กอดเจตรินไว้
“ขอบใจมากนะเจต”
“คนจัดกระเป๋าครับ” เจตรินผายมือไปทางอีริน่า
“ขอบใจนะจ๊ะอีริน่า”จีรณัทย์ยิ้มให้
“ยินดีค่ะ” อีริน่ายิ้มรับ

เจตรินเอากุญแจรถให้จีรณัทย์
“รถพี่จีครับ...แล้วผมจะมาหาบ่อยๆครับ”
จีรณัทย์พยักหน้า คอตีบตันขึ้นมาอีก พูดไม่ออก กมลกันต์หันไปถามอีริน่า
“อีริน่าดื่มอะไรดี”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“เดี๋ยวทานข้าวกันครับพี่กมลกันต์ ออกไปทานกันหมดนี่เลย พี่จีเลือกร้านนะครับ” เจตรินชวน
อิฐขัดขึ้น
“เฮ้ยๆ ไม่ต้องๆ อยากรับประทานของภัตตาคารไหน หรือโรงแรมไหนบอกมา เดี๋ยวกระผมสั่ง delivery ถึงห้องพร้อมพนักงานบริการเสร็จสรรพ อยู่ต่างจังหวัดก็สั่งขึ้นเครื่องมาเลย”
“ต่างประเทศล่ะ” กมลกันต์ถาม
“ก็แล้วแต่ระยะทางครับ ไกลนักก็แจกหมอนนอนรอไปพลางๆ”
ทุกคนขำ เจตรินดีใจที่จีรณัทย์ค่อยสดชื่นขึ้น
“เป็นเศรษฐีดีตรงนี้เองนะคะ” อีริน่าพูดตรงแบบเด็กต่างประเทศ ไม่ได้จงใจเสียดสี
ห้องเงียบกริบทันที สักครู่อิฐทะลุความเงียบ
“โอ๊ย เลือดไหลนองแผ่นดิน โดนกัดเนื้อหลุดหายไปเลย”
ทุกคนขำกัน เจตรินหัวเราะ
“สม...เล่นเอง เจ็บเอง”
“เปลี่ยนแผน ข้าวไข่เจียวคนละจานละกัน” อิฐพูดขำๆ
กมลกันต์เสริม
“ใช้ไข่เบอร์สามหรือเบอร์สี่ด้วย ราคาถูกหน่อย”
“ใส่น้ำปลาเยอะๆด้วย ประหยัดไข่” เจตรินพูดต่อขำๆ
อีริน่าขำมาก
“อีริน่าขอโทษนะคะ อีริน่าไม่ได้จะว่าคุณอิฐ แค่พูดความจริงของมหาเศรษฐี แค่ข้อเดียวในล้านข้อเองค่ะ”
จีรณัทย์มองอิฐขำๆ
“เป็นยังไงล่ะคะท่านมหาเศรษฐี เจอนำเสนอแค่ข้อเดียวยังจ๋อยไปเลย ถ้าครบล้านข้อจะยังไงน้อ...”
อิฐทำท่าคิดๆ
“เอ...ผมจะคิดค่าเช่าคอนโดซะดีมั้ยน้อ...”
ทุกคนหัวเราะกัน

คุณหญิงศรินทิพย์หน้าบึ้ง ฟังอารดายุแยงเรื่องอีริน่ามาแล้วไม่น้อย เกลียดขี้หน้าอีริน่ามากขึ้น
“มันมาอยู่เมืองไทยได้ไม่เท่าไหร่ก็เที่ยวหว่านเสน่ห์ผู้ชายไปทั่ว นายนิกกี้ คุณกมลกันต์” อารดานึกได้ “ขอโทษค่ะ พอดีดาเห็นตอนมีเรื่อง มันมากับคุณกมลกันต์ค่ะ แล้วยังอาจจะคุณอิฐเพื่อนเจตอีก”
คุณหญิงศรินทิพย์แค้นขึ้นมาอีก นึกได้ว่ายังมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่
“เดี๋ยวดาช่วยทำอะไรให้แม่หน่อย”
อารดาหน้าตาเต็มใจแบบพร้อมจะทำอะไรแสบร้าย

“ค่ะ คุณแม่”

คุณหญิงพรรณรายกำลังดูแลสาวใช้จัดโต๊ะอาหารเย็น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สาวใช้รีบมารับ
“สวัสดีค่ะ บ้านนายพลกันต์ค่ะ...อยู่ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
สาวใช้ถือโทรศัพท์ไร้สายไปที่คุณหญิง
“โทรศัพท์ถึงคุณหญิงค่ะ จากบ้านไอศูรย์ศรินทร์”
คุณหญิงพรรณรายรับโทรศัพท์มาอย่างประหลาดใจผสมตื่นเต้นดีใจกึ่งพูดกับตัวเอง ไม่ได้ถามสาวใช้
“เหรอ”
สาวใช้ไปจัดโต๊ะอาหารต่อ
“ศรินเหรอจ๊ะ ดีใจจังที่เธอโทรมา”
อารดาพูดโทรศัพท์ คุณหญิงศรินทิพย์อยู่ไม่ห่างนักร่วมฟัง
“ไม่ใช่ค่ะคุณหญิงน้า นี่อารดาเองค่ะ”
คุณหญิงพรรณรายฉงนนิดหนึ่ง แล้วนึกได้พูดไปด้วยใจบริสุทธิ์
“อ๋อ...หนูอารดา ที่เคยเป็น” คุณหญิงพรรณรายนึกได้ สะดุดนิดหน่อย “ที่...เอ่อ...คู่หมั้นของเจต”
อารดาหน้าบึ้ง เสียงมีอารมณ์ทันใด
“ค่ะ ถึงตอนนี้ดาก็ยังเป็นคู่หมั้นที่ถูกต้องของเจตอยู่นะคะ เพียงแต่มีผู้หญิงหน้าด้านคนหนึ่งมาอ้างตัวเป็นภรรยาของเจตให้ดาต้องสู้รบด้วย แล้วตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็กำลังจะทำให้ลูกชายของคุณหญิงน้าพรรณราย ได้ชื่อว่าเป็นชายชู้นะคะ”
คุณหญิงพรรณรายตกใจ นายพลกันต์เข้ามานั่งรอที่โต๊ะอาหาร
“ตายจริง” คุณหญิงพรรณรายพูดไม่ดังนัก
อารดาดูสะใจที่ได้พูดอะไรแรงๆ
“ขนาดวันนี้ที่บ้านไอศูรย์ศรินทร์มีเรื่องใหญ่โต ผู้หญิงคนนั้นยังควงกันหน้าระรื่นมากับคุณกมลกันต์”
คุณหญิงพรรณรายพูดเบาๆ ไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน
“โอย ตายแล้ว”
นายพลกันต์สังเกตเห็นสีหน้าท่าทางแปลกๆของภรรยามาสักพักแล้วเข้ามาใกล้ถามเบาๆ
“มีอะไรคุณ”
คุณหญิงพรรณรายทำมือห้ามไว้
“ขอบคุณมากนะจ๊ะหนู ที่โทรมาบอก”
คุณหญิงพรรณรายฟังแบบบาดใจเกือบทนไม่ได้บ้าง
“คุณแม่ศรินทิพย์ไม่ได้ห่วงผู้หญิงที่อ้างตัวเป็นภรรยาเจตนะคะ แต่ห่วงชื่อเสียงของไอศูรย์ศรินทร์ ห่วงเกียรติยศชื่อเสียงของเจตจะเสื่อมเสีย โดยมีคนในตระกูลนิมิตภูวนาถของคุณหญิงน้าร่วมกระทำด้วย เหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อนที่เคยทำร้ายคนในไอศูรย์ศรินทร์ถึงชีวิตมาแล้วย่ำยีจิตใจกันมาก และคราวนี้กำลังจะซ้ำรอยแรงกว่าเดิม ฝ่ายคุณหญิงน้ากำลังร่วมมือกับผู้หญิงข้างถนนเหยียบย่ำทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลกัน นี่ยังไม่รวมที่ปล้นที่ดินไปอีกด้วยนะคะ”
คุณหญิงพรรณรายทนฟังไม่ไหว
“พอเถอะ พอที”
อารดายิ้มร้ายสะใจ นายพลกันต์โอบคุณหญิงพรรณราย เอาโทรศัพท์ไปพูดเองพูดโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“ขอโทษนะครับ ผมขอวางสาย”
นายพลกันต์วางโทรศัพท์เลย

อารดาตกใจหน่อยๆที่นายพลกันต์มาพูด
“อุ๊ย คุณลุง”
คุณหญิงศรินทิพย์มองมา อารดายิ้มสะใจ
“ทนฟังไม่ได้ วางสายไปแล้วค่ะ”
“ดี ต่อไปมีอะไร ดาช่วยแม่กรีดมันอีกนะ” คุณหญิงศรินทิพย์สะใจ
อารดายิ้มหวาน
“ได้ค่ะคุณแม่ เต็มใจที่สุดเลยค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ลุกเดินไปอีกที่ จะไปดูแฟ้มงาน อารดายังอยู่ที่เดิม หน้าหุบร้ายทันที
“ยัยคุณหญิง วางตัวเองเป็นนางฟ้า อะไรเน่าๆละมาให้ฉันออกหน้า คอยดูเถอะ ถึงวันโดนฉันเอาคืนละ จะแสบไปถึงนรกเชียว”

คุณหญิงพรรณรายโกรธเล่าคร่าวๆให้นายพลกันต์ฟัง
“ปล่อยไปเถอะคุณ จะโกรธไปทำไม คุณก็ทราบว่ากมลกันต์ไม่ใช่คนนิสัยอย่างนั้น”
“ฉันเจ็บใจที่เด็กคราวลูกมาด่าใส่ฉอดๆ”
“ไว้ลูกกลับมาแล้วถามลูกดูว่าเรื่องเป็นยังไงกัน ผมมั่นใจว่าลูกจะไม่โกหกเรา”
“ฉันจะโทรหากมลกันต์”
“อย่าเลย ให้ใจนิ่งก่อนดีกว่า ถามตอนนี้อารมณ์จะมากกว่าสติ ไปทานข้าวเถอะ ไปครับ”
คุณหญิงพรรณรายยังพยายามระงับใจ

อิฐวางจานข้าวไข่เจียวลงตรงหน้าเจตริน คนอื่นๆมีกันครบแล้วเป็นข้าวไข่เจียวหมูกรอบเหมือนกันหมด อิฐเลื่อนจานของตัวเองเป็นจานสุดท้ายนั่งลงกินและคุยกัน
“มันเลี้ยงข้าวไข่เจียวจริงๆด้วย” เจตรินบ่น
“ไม่ใช่ไข่เจียวธรรมดา ไข่เจียวหมูกรอบด้วยเฟ้ย เชิญรับประทานครับ ขอให้อร่อยนะคร้าบ”
“อย่าลืมเอาเงินที่เหลือจากที่จะสั่งอาหารโรงแรมเก้าหมื่นเก้าพันไปบริจาคให้น้องผู้ยากไร้ด้วยนะอิฐ” กมลกันต์แซว
“ห้าแสนครับพี่กมลกันต์” เจตรินแทรก
“เฮ้ย” อิฐสะดุ้ง
เจตรินขำๆ
“ก็ตอนแรกฉันกะจะให้นายสั่งหนวดเต่าเขากระต่ายจากป่าหิมพานต์ ณ.เทือกเขาหิมาลัย น่าจะเกินห้าแสนด้วยมั้ง เงินแค่นี้ขนรักแร้แกไม่ร่วงหรอกน่า”
“ไว้ฉันจะหามาให้ ไอ้หนวดเต่าเขากระตายเนี่ย และขอแช่งให้แกกินแล้วเป็นอมตะ ทรมานไปจนโลกแตกก็ไม่ตาย อยากตายก็ตายไม่ได้ ลอยเร่ร่อนไปในจักรวาล สาธุ”
เจตรินทำท่ายิง อิฐทำเป็นตาย ทุกคนหัวเราะกัน กมลกันต์นึกถึงอดีต
“นึกถึงสมัยเรียน ไข่เจียวเหี่ยวๆฟองนึงโปะข้าวก็หรูแล้ว”
“นี่ให้ไข่จานละสองฟองนะครับพี่กมลกันต์ เลยอู้ฟู่ซะขนาดนี้” อิฐพูดขำๆ
จีรณัทย์แทรกขึ้น
“เยอะไปมั้ย ไข่ฟองนึงก็พอ”
อีริน่าเสริม
“ใช่ค่ะ ไข่ไก่ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ไข่แดงขนาดเท่ากันหมด ที่ทำให้ไข่ทั้งฟองขนาดต่างกันคือไข่ขาวค่ะ”
กมลกันต์มองอีริน่า
“ความรู้เยอะนี่อีริน่า”
อีริน่ายิ้มเขินๆน่ารัก
“แม่บอกค่ะ”
เจตรินมีนัยบางอย่างส่งถึงกมลกันต์
“คุณแม่ของอีริน่าทำขนมไทยครับพี่กมลกันต์ พวกทองหยิบทองหยอดฝอยทองอะครับ มีสูตรฝอยทองเฉพาะของครอบครัวด้วย”
กมลกันต์สะดุดใจ ครอบครัวตัวเองก็มีฝอยทองสูตรเฉพาะ เจตรินมองสบตากมลกันต์นิ่งแบบมีนัย กมลกันต์รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เจตรินส่งออกมา กมลกันต์ถามอีริน่าสบายๆเป็นธรรมชาติ
“สูตรเป็นไงครับอีริน่า”
“ไม่ทราบจริงๆ แหะๆ อีริน่าไม่ทราบค่ะได้แต่เป็นแผนกกวาดล้างแล้วก็แพ็กใส่กล่องค่ะ”
อิฐยิ้มขำ
“แผนกกวาดล้าง มิน่า...บู๊ได้ใจเลย มือดีดลูกแก้วมหาภัย”
จีรณัทย์พูดเล่นไม่รู้นัยของเจตรินและกมลกันต์
“กำลังจะขอสูตรไปเปิดร้านอยู่เชียว เลยอดเลย”
“แต่เคยเห็นแม่ใส่มะนาวลงในอะไรสักอย่างนี่ละค่ะ แล้วบ่นว่ามะนาวฝรั่งสู้มะนาวไทยไม่ได้ค่ะ”

กมลกันต์คิดๆ เจตรินมองกมลกันต์

จิตรดาราหน้าตาบูดๆเซ็งๆถือมือถือลงบันไดมาเพราะพงษ์ธรยังไม่โทรมา เธอจะไปที่ห้องอาหาร คุณหญิงคุณหญิงศรินทิพย์กับอารดาออกมาจากอีกด้าน คุณหญิงศรินทิพย์เห็นจิตรดาราถือมือถือมา
“แม่บอกแล้วไงจิตว่าไม่ให้ใช้มือถือเวลาทานข้าว”
“จิตรอโทรศัพท์เพื่อนอยู่นี่คะ”
อารดาลอบยิ้มเยาะ รู้ทันว่าจิตรดารารอพงษ์ธรโทรมา
“ก็ไม่ได้ กฎต้องเป็นกฎ ไม่งั้นคำสั่งแม่ก็ไม่มีความหมายสิ”
จิตรดารายังถูไถ
“จิตวางไว้เฉยๆก็ได้ค่ะ”
“ไม่ได้”
จิตรดาราหน้างอ เดินกระแทกกระทั้นเอามือถือไปวางไว้มุมหนึ่ง
“ปิดเสียง ปิดสัญญาณสั่นด้วย”
“คุณแม่อ้ะ” จิตรดาราขัดใจ
“ปิด-เดี๋ยว-นี้”
จิตรดาราปิดอย่างกระแทกๆ แล้วกระแทกวางมือถือ อารดายิ้มเยาะ

เจตรินกับกมลกันต์ คุยกันอยู่ที่ระเบียงคอนโดของอิฐ
“มัวแต่ห่วงพี่จี ไม่ได้ถามพี่กมลกันต์เลยว่าหน้าไปโดนอะไรมา”
“โดนอันธพาลรุม ดีว่าอีริน่าบังเอิญผ่านไปเลยช่วยให้พี่ไม่โดนจนตาย”
“มันจะชิงทรัพย์หรือไงครับ”
“อาจจะเป็นอย่างนั้น...เจตตั้งใจจะบอกอะไรพี่ใช่มั้ย เรื่องคุณแม่ของอีริน่า”
“ใช่ครับ ที่คุณน้าพรรณรายกับพี่กมลกันต์เคยขอให้ผมสืบเรื่องพี่พรรณวดี ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ผมสงสัยว่าคุณแม่ของอีริน่าอาจจะรู้จักกับพี่พรรณวดีก็ได้ครับ”
กมลกันต์ตื่นเต้น
“จริงหรือ พี่จะเรียนคุณพ่อคุณแม่ ท่านคงดีใจมาก เราไปลุยรัสเซียกันนะ พี่อยากรู้จักคุณพริมคนนี้ซะแล้ว เธอเป็นใครกัน ทำไมไปอยู่ทีรัสเซียได้”
“เธอว่าเธอเป็นลูกแม่ค้าธรรมดาทำขนมขายในเมืองไทย แต่ผมดูขนมที่เธอทำแล้ว มันไม่ธรรมดา”
“สามีเธอเป็นใคร”
“อดีตเคจีบีครับ”
กมลกันต์ชะงัก
“เคจีบีมีแฝงตัวอยู่ทั่วไปในโลก รวมทั้งเมืองไทย”
“แปลกที่คุณพริมไม่ยอมบอกเล่าเรื่องพ่อแม่ของเธอให้อีริน่าทราบ...”
“แปลกมาก” กมลกันต์ครุ่นคิด
“ผมสงสารอีริน่า และสงสัยว่าคุณพริมมีเบื้องหลังอะไรที่ไม่อยากให้ใครรู้”
“พี่อยากสืบประวัติคุณพริมคนนี้ เพื่อบางทีความหวังอันน้อยนิดของครอบครัวเราที่หวังว่าพี่พรรณวดียับไม่ตายจะกลายเป็นจริง เพราะมีแม่ของอิรีนีช่วยเราสืบหา”
“ดีครับ ผมน่ะให้ยูริช่วยสืบอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้เรื่องราว เพราะบ้านนั้นมีปัญหา พ่อของอีริน่าโดนมาเฟียเล่นงานอยู่ คุณพริมก็พลอยโดนไปด้วย ไอ้ตัวหัวหน้ามันยากได้อีริน่าไปเป็นผู้หญิงของมัน”
“เลวมาก” กมลกันต์ไม่พอใจเป็นด้วย

อีริน่ากับจีรณัทย์ช่วยกันเอาเสื้อผ้าจากกระเป๋าใส่ตู้กันไปคุยกันไป
“พี่จีอยู่คนเดียว อีริน่ามาอยู่เป็นเพื่อนมั้ยคะ จะได้ช่วยทำงานบ้าน”
“ทำงานบ้านแบบที่ทำแล้วขยะเต็มห้องอารดาน่ะเหรอ” จีรณัทย์ขำๆ
สองคนหัวเราะขำกัน
“พี่จีจะใช้บริการแบบนั้นก็ได้นะคะ จัดให้ค่ะ”
“นายอิฐจะได้หักคอพี่ตายละสิ”
“อีริน่าเต็มใจมาอยู่เป็นเพื่อนพี่จีจริงๆนะคะ”
จีรณัทย์รู้เรื่องอีริน่ากับเจตริน แต่อยากให้แน่ใจ
“อีริน่าเป็นภรรยาเจตนะจ๊ะ ต้องอยู่รับใช้สามีสิ พี่เอาตัวอีริน่ามา นายเจตได้งอนตายเลย บาปด้วยพรากสามีพรากภรรยาเขา”
“ไม่นะคะ อีริน่าไม่...อุ๊ย”
อีริน่าเผลอหลุด นึกได้ว่าเป็นความลับ หยุดกึก จีรณัทย์แน่ใจว่าสองคนไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ฉวยมืออีริน่า
“มีเรื่องลับลมคมนัยใช่มั้ย มานี่เลย มาเฉลยความจริงให้หมด”
“โอ๊ย! ตายๆ ตายจริงๆเลยคราวนี้”
จีรณัทย์ขำลากอีริน่าไปกดตัวนั่งลง
“เล่ามาเดี๋ยวนี้ ห้ามโกหกแม้แต่คำเดียว ห้ามเล่าข้ามหรือตกหล่นด้วย”
อีริน่าหน้าจ๋อย
“พี่จีอ้ะ”

เมื่ออีริน่าเล่าจบ จีรณัทย์โอบกอดอีริน่าที่น้ำตาไหลพราก
“โถ เด็กน้อยที่แสนจะน่าสงสาร พี่กับมลกันต์จะช่วยกันตามหาตายายของเธอให้พบให้เร็วที่สุด และที่พี่อยากจะฝากเธอไว้ พี่ไม่อยากให้เธอกับเจต เลิกรากันตามสัญญา”
“ทำไมคะ”
“พี่ไม่ต้องการให้ชีวิตของเจตต้องตกอยู่ในความทุกข์ เพราะโดนบังคับให้อยู่กับคนที่ตนเองไม่เคยรักไม่อยากรัก แถมคนคนนั้นมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ”
“แต่ คุณเจตเขาก็เอือมระอาเด็กไม่เข้าท่าอย่างอีริน่านะคะ”
“ไม่จริง เขาก็แค่ผู้ชายปากแข็ง”
อีริน่าแปลกใจ

จิตรดารารีบหยิบมือถือดูมิสคอลหน้าจอ แล้วยิ้มลิงโลดดีใจสุดๆ รีบกดต่อออกพลางวิ่งขึ้นบันได พูดไปด้วย
“จิตค่ะคุณพงษ์ธร ขอโทษนะคะไม่ได้รับสาย ตะกี้จิตทานข้าวอยู่...”
พงษ์ธรยืนคุยมือถืออยู่ที่ระเบียงคอนโด
“ไม่เป็นไรครับ ผมทราบว่าถ้าคุณจิตอยู่ใกล้มือถือ คุณไม่ปล่อยให้ผมรอนานแน่...คิดถึงนะครับ คิดถึงมาก อยากเจอที่สุดในโลก” พงษ์ธรอ้อนกะล่อนสุดๆ
จิตรดาราอารมณ์หวานมากในห้วงรัก
“จิตก็คิดถึงคุณพงษ์ธรมากค่ะ คืนนี้ไปหาที่แด๊นซ์กันมั้ยคะ”
พงษ์ธรมองไปทางเชอร์รี่ให้แน่ใจว่าไม่ตื่นมาได้ยิน ไม่แน่ใจว่าจะออกไปหาจิตรดาราได้หรือไม่แต่หวานเอาใจไว้ก่อน
“ดีเลยครับ ขอเวลาผมเช็กงานแป๊บนะครับ แล้วผมจะโทรบอก ผมไปรับคุณจิตนะครับ”
“ค่ะ จิตจะรอนะคะ”
พงษ์ธรจุ๊บใส่มือถือ
“ส่งจุ๊บมาก่อนนะครับ เดี๋ยวเจอกัน”
จิตรดาราอยู่ในห้วงรักหวานไปหมด กดตัดสาย แล้วลงนอนยิ้มฝัน

กลุ่มเจตรินเดินถึงรถ อิฐจะเปิดประตูหลังให้อีริน่า
“เชิญ...”
กมลกันต์แซงแบบมาดนิ่งๆไปเปิดให้ก่อนด้วยความรู้สึกว่าเป็นน้าหลานกัน ทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจเรื่องแม่ของอีริน่า...อิฐแกล้งมองกมลกันต์เหวอๆ เจตรินรู้ว่ากมลกันต์ทำเพราะอะไร จีรณัทย์ขำสองหนุ่มแย่งกันบริการสาว จีรณัทย์รู้แค่เจตรินกับอีริน่าแต่งงานกันในนาม ยังไม่รู้เรื่องที่กมลกันต์สงสัยว่าแม่ของอีริน่าคือพรรณวดี กมลกันต์บอกอีริน่า
“เชิญจ้ะอีริน่า”
อีริน่ายิ้ม
“ขอบคุณค่ะพี่กมลกันต์”
“โอ๊ะ โอ แห้วได้ไงนี่เรา” อิฐบ่น
จีรณัทย์ขำๆ
“เราก็เหมือนกัน มีแต่คนบริการสาวมาก สาวน้อยอย่างเรา...ฮึ”
อิฐทำเป็นโอ๋จีรณัทย์ล้อกมลกันต์
“โอ๋ๆ”
“เราถือว่าให้โอกาสผู้อาวุโสสุดในกลุ่มละกันครับพี่จี ดูสิใครล่ะ อาวุโสจะเป็นน้าอีริน่าได้แล้ว” เจตรินแซว
กมลกันต์ทำเป็นโวย
“เฮ้ยๆ นายเจต นายเป็นน้องฉันไม่กี่ปีเองนะ”
“เรียกว่าตีนกาเหยียบหน้าตามกันมาติดๆ” อิฐแซว
เจตรินกับกมลกันต์มองหน้าอิฐ
“อ้าว”
“อูย...อย่าไปฟังคนขี้อิจฉาเลยค่ะพี่กมลกันต์ พี่ยังเอ๊าะมากๆ อีริน่าเรียกพี่นะคะ จะไม่เรียกลุงเด็ดขาด” อีริน่าเย้าแหย่
“โว้วๆ เจอมุกหนักกว่า” อิฐขำๆ
“ไปเถอะ ต้องไปง้อคุณแม่อีก” เจตรินตัดบท
จีรณัทย์หน้าหมองลงนิด
“มีอะไรบอกพี่ตลอดนะจ๊ะเจต”
เจตรินโอบจีรณัทย์
“ครับพี่จี ไปนะครับพี่ แล้วผมจะแวะมาเยี่ยมทุกวัน”
เจตรินจูบแก้มพี่สาว จีรณัทย์จูบแก้มตอบ จีรณัทย์มองน้องชายตาชื้นๆขึ้นมาอีก เจตรินกอดจูบผมพี่เบาๆให้กำลังใจ
“มีกำลังใจนะครับพี่จี”
จีรณัทย์พยักหน้า ประมาณถ้าพูดแล้วอาจกลั้นน้ำตาไม่ได้ อีริน่ามองอย่างรู้สึกดีมากๆที่พี่น้องรักกัน เจตรินขึ้นรถ อีริน่าไหว้ลาจีรณัทย์กับกมลกันต์
“ไปนะคะ”
จีรณัทย์กับกมลกันต์ยิ้มให้
“จ้ะ”
อิฐขับรถออกไป กมลกันต์กุมมือจีรณัทย์เดินไปที่รถของเขา
“จีพยายามพักนะครับ มีอะไรโทรหาผมได้ตลอด ผมจะมาทานอาหารกับจีทุกวันนะ”
“ค่ะ ตอนหัวค่ำคุยอะไรกับเจตเหรอคะ หน้าตาซีเรียสกันจัง”
“ไปนั่งรถเล่นกันมั้ย ผมจะเล่าให้ฟัง”
“ค่ะ”

กมลกันต์เปิดประตูรถให้ จีรณัทย์ขึ้นนั่ง

พงษ์ธรแต่งตัวกึ่งลำลองดูดีมากแบบหนุ่มเจ้าสำราญ กำลังจะเปิดประตูห้อง เชอร์รี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ออกมาจากห้องน้ำ
“จะไปไหนอะพี่”
พงษ์ธรโกหกกะแก้ปัญหาทีหลัง
“ไปซื้ออะไรมาให้เชอร์รี่ทานจ้ะของในตู้เย็นหมดแล้ว”
เชอร์รี่ดูเครื่องแต่งกายของเขา
“ไม่เชื่ออะ แต่งตัวยังกะจะไปเที่ยว เดี๋ยวหนูออกไปด้วย”
พงษ์ธรแอบเซ็ง แล้วหันไปยิ้มอ้อน
“ก็ผมจะไปซื้อร้านหรู ก็ต้องแต่งตัวดีหน่อยไงจ้ะ”
“ไม่เชื่ออยู่ดี เชอร์รี่ออกไปด้วย ไปทานข้างนอกกันเลย”
“ตามใจครับ”
เชอร์รี่เข้าไปอีกห้อง พงษ์ธรเดินห่างไปกดมือถือหาจิตรดารา
“คุณจิตคร้าบ...ขอโทษสักล้านหนนะคร้าบ”
จิตรดาราแต่งตัวสวยเฉี่ยว ทำเป็นงอนแต่หน้าตาบอกว่าไม่โกรธ
“จิตไม่ยอมนะคะ เรื่องอะไรให้จิตแต่งตัวเก้อ”
“พอดีงานไม่เสร็จจริงๆครับ...ขอโทษสุดๆเลยนะครับ แต่ผมคงไม่มีงานดึกทุกวันหรอกนะครับ...คงต้องมีสักวันเร็วๆนี้ที่เราต้องเจอกันแน่ๆ แล้วผมจะชดเชยทั้งชีวิตให้คุณจิตนะครับ”
จิตรดาราซาบซ่านใจกับคำหวาน
“พูดซะจิตเขินไปหมด วันนี้จิตยกโทษให้ละกันค่ะ แต่คุณพงษ์ต้องชดเชยให้จิตนะคะ”
พงษ์ธรยิ้มสมใจมาก ปลาติดเบ็ดแน่นอน
“รับรองด้วยเกียรติของนายพงษ์ธรครับ”
“good night นะคะ”
“good night ครับ”
จิตรดารากดตัดสาย แล้วยังจมอยู่กับความสุขฝันหวาน...พงษ์ธรยิ้มกระหยิ่มลำพองใจว่าตนอยู่เหนือ
“เด็กน้อยอ่อนโลกเอ๊ย...เธอไม่มีวันหลุดมือฉันแน่”

กมลกันต์ขับรถไปตามถนนพร้อมกับเล่าเรื่องราวให้จีรณัทย์ฟัง
“ถึงตอนนี้จะยังมั่นใจไม่ได้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่จีก็ขอหวัง ขอภาวนาให้ คุณแม่ของอีริน่าคือพี่พรรณวดี”
“ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้น ผมไม่อยากให้คุณแม่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกปีที่ไปรัสเซีย และครอบครัวของเราอาจมีโอกาสคืนดีกัน”
จีรณัทย์กับกมลกันต์มองหน้ากันเหมือนจะมีหวังแต่ยังมีแววไม่มั่นใจทั้งคู่ แล้วจีรณัทย์ก็ค่อยๆเอนศีรษะอิงไหล่เขา กมลกันต์สอดนิ้วประสานกุมมือของเธอจูบผมเบาๆ
“ผมหวังว่าความรักของเรา จะมีโอกาสจากพี่พรรณวดี”
“จีก็หวังค่ะ แต่ถึงในที่สุดแล้วหากคุณแม่ของอีริน่าจะไม่ใช่พี่พรรณวดี แล้วเราสองคนจะหมดหวัง จีก็จะยังรักกมลกันต์คนเดียว”
“ผมก็เหมือนกัน”
สองคนยังอิงกันอย่างสบายใจ

คุณหญิงศรินทิพย์อ่านและเซ็นเอกสาร มีแฟ้มเสนอเซ็นบนโต๊ะอีกหลายแฟ้ม สักครู่มีเสียงเคาะประตูแล้วเจตรินเปิดเข้ามา คุณหญิงศรินทิพย์มองแวบหนึ่งหน้ามึนตึงเข้มขึ้นมาอีก เซ็นงานไป เจตรินไปนั่งมุมหนึ่งไม่ห่างนัก มองแม่เหมือนคิดว่าจะเริ่มพูดยังไง คุณหญิงศรินทิพย์เซ็นงาน ทำเหมือนไม่มีเจตรินอยู่ แต่สักครู่แอบเหลือบมองเห็นลูกชายมองอยู่ เธอรีบเมินเซ็นงานต่อ แล้วลอบเหลือบมองอีก เจตรินมองอยู่แล้วสบตากัน คุณหญิงศรินทิพย์กระแทกวางปากกาปึง
“มีอะไรก็ว่ามา อย่ามามองกวนประสาทฉัน”
“ผมอยากขอให้คุณแม่อภัยให้พี่จีครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์ลุกพรวด
“ไม่”

อีริน่าแต่งชุดนอนหน้าตาสดชื่น กำลังจะเปิดทีวี แล้วเดินไปหยิบกล้องเล็กๆมาแอบตั้งซ่อนๆไว้ ประตูห้องเปิดพรวด อารดาใส่ชุดนอนสวยงาม เข้ามา อีริน่าชะงักวางรีโมท หน้าตายิ้มสบายๆ แต่ตาชัดว่าพร้อมรับมือ อารดามาประจันหน้ากับอีริน่า
“ฉันจะนอนห้องนี้”
อีริน่าสบายๆ
“จะนอนตลอดไปเลยหรือชั่วคราว จะได้ให้สามีฉันจ่ายเงินตามความเหมาะสม”
“อ๊าย แกอีลูกโสเภณีข้างถนน แกดูถูกฉันมันจะมากเกินไปแล้ว”
“ถ้าฉันเป็นโสเภณีข้างถนน ฉันรอผู้ชายมาซื้อบริการ แต่การไปหาผู้ชายถึงห้องนอนนี่สิคะมันมากกว่านะคะ เอ หรือว่าจะจ่ายค่าบริการเสียเอง มาถูกทางแล้วค่ะ ฉันจะตั้งตัวเป็นแม่เล้ารับเงิน สามีฉันน่ะแพงนะคะ เพราะเขาแสนดีงาม”
“ต๊าย นัง สารเลวแกบังอาจมาลบหลู่ฉัน”
“ฉันว่าคุณกำลังลบหลู่ตัวเองมากกว่านะคะ ไหนไหนก็มาขอนอนแล้ว คิดราคามาสิคะว่าเท่าไหร่ แล้วจะพิจารณาให้”
อารดาผวามาทันที
“แก ฉันทนไม่ได้แล้ว”
อารดาจะตบ อีริน่าจับมือบิด
“มันไม่ง่ายนักหรอกค่ะ คุณผู้ดีแค่เสื้อผ้าที่สวมใส่ แต่นิสัย นางมารร้ายเต็มๆ”
อีริน่าลากอารดาผลักไปนอกห้องทันที

อารดาฟุบลงไปกองอยู่หน้าห้อง อีริน่ายืนหัวเราะ
“เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวดีให้ใครๆ อย่ามายุ่งกับสามีฉัน”
“อ๊าย ช่าวยด้วยอีลูกโสเภณีทุบตีฉัน” อารดิ้นร้องไห้ไปมา
คุณหญิงศรินทิพย์โผล่มา
“นังอีริน่าแกทำบ้าอะไรลูกสะใภ้ฉัน”
“อีริน่าก็แค่กันไม่ให้มาปีนตั้นงิ้ว หนามงิ้วมันแหลมคมมากนะคะ”
“ไม่จริงค่ะ คุณแม่ขา ดาแค่เดินผ่านหน้าห้อง มันก็ออกมาตบมาตีมันด่าดาไม่พอ มันด่าไปถึงคุณแม่ด้วยค่ะว่าโง่ ใจดำใจแคบ ไม่ให้อภัยพี่จี”
คุณหญิงศรินทิพย์ของขึ้นทันที โกรธจัดมาก ปราดมาตบหน้าอีริน่าซ้ำไปซ้ำมา ไม่ยั้ง
“เลวฉันเยี่ยมขั้นได้รางวัลออสการ์นะแก”
“คุณหญิง ฟังอีริน่าก่อนนะคะ”
“อย่าไปฟังมันค่ะคุณแม่ มันร้อยเล่มเกวียนค่ะ”
อาราดาไม่พูดแปล่า ยันตัวมาถีบอีริน่าทีเผลอ อีริน่าล้มลงไปกอง
“ว๊าย หมาลอบกัด”
“มันว่าคุณแม่เป็นหมาลอบกัดค่ะ เล่นงานมันเลยค่ะ อารดาจะช่วยค่ะ”
“มึงว่ากูเป็นหมา อีสถุล”
คุณหญิงศรินทิพย์หมดความยั้งคิด โดดคร่อมอีริน่าไว้ อารดามาจับมือสองมือของอีริน่ากดไว้ คุณหญิงศรินทิพย์ตบไม่ยั้ง อารดายิ้มชอบใจ...แหววแอบมองอยู่
“เปรตประสานเสียง เปรตคอรัส คุณอีริน่าโดนยำ”
แหวววิ่งออกไปทันที
“คุณเจตขา ระเบิดมหาปะลัยลงไปใจกลางบ้านแล้วค่ะ”

อีริน่าพยายามปัดป้อง แต่อารดากับคุณหญิงศรินทิพย์ยังเป็นฝ่ายได้เปรียบ
“สั่งสอนมันให้หนักค่ะ ไม่อย่างนั้นมันจะไม่หลาบจำค่ะ คุณแม่”
“คุณโกหก คุณใส่ร้ายฉัน” อีริน่าโวย
“มันว่าคุณแม่ใส่ร้ายมันค่ะ คุณแม่ตบแรงๆ”
“พอได้แล้ว หยุดทำร้ายฉันฝ่ายเดียว แล้วจะหาว่าไม่เตือน ฉันจำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”
“มันอาฆาตมันจะทำร้ายคุณแม่ค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์โกรธ
“แกขู่ฉัน”
อีริน่าดีดตัวขึ้นจึงหลุดจากมืออารดา และทำให้คุณหญิงศรินทิพย์ที่กำลังเงื้อมือหงายเงิบ
“ว๊าย”
“โอ๊ย”
“มันถีบคุณแม่” อารดาใส่ไฟ
เป็นจังหวะที่เจตรินมาพอดี ตกใจมาก
“คุณแม่”
แหววเอามือปิดตา
“เสียว...มีหวังเปิดหวอรถพยาบาล”
อารดากับคุณหญิงศรินทิพย์หันมามองเจตริน อารดากระซิบ
“คุณแม่เฉยไว้ ดาจัดการเองค่ะ ฮือๆ อีริน่าค่ะมาด่ามาตบมาตีดา แถมรามด่าไปถึงคุณแม่”
เจตรินไม่เชื่อ
“ไม่จริง”
“จริงจ้ะ เจต แม่แค่มาห้ามปรามว่าอย่ามาหยาบคายในบ้านผู้ดี มันก็ชี้หน้าด่าแม่”
อารดาเสริม
“มันจะตบคุณแม่ด้วยนะคะ แต่ดาห้ามไว้มันเลยตบดาแทน แล้วถีบคุณแม่กระเด็นหงายเงิบ”
“สะโพกแม่ โอ๊ย”
เจตรินไปประคองแม่มองอีริน่าแบบตำหนิ
“ทำเกินไปมากแล้วนะอีริน่า”
“มากที่สุดเลยค่ะ” อารดาเสริม
“บอกให้มันมากราบเท้าขอโทษแม่ แล้วแม่จะให้อภัยมัน แม่ไม่ถือสาหาความลูกโสเภณีไม่มีการอบรม”
เจตมองอีริน่า ไม่พอใจ แหววเอามือปิดปาก
“ปากผู้ดีที่แท้ก็เป็นอย่างนี้เอง”
“ดากราบเท้าคุณแม่ขอโทษแทนมันเองก็ได้ค่ะ”
เจตจ้องอีริน่าอีก
“ว่ายังไงอีริน่า คุณแม่อภัยให้ทุกอย่าง ยังทำไม่แยแส นี่แม่ผมนะ”
อีริน่ากลืนน้ำตาที่กำลังออกมาเดินมากราบเท้าคุณหญิงศรินทิพย์ที่ยิ้มอย่างพอใจ แล้วทำน่ารักก้มลงไปประคองอีริน่ามาจูบซ้ายขวากระซิบด่า
“อย่าหวังว่าแกจะเป็นสุขที่นี่ อีนังเด็สถุล”
จูบเสร็จ อีริน่าผวาวิ่งไปจากที่นั่นทันที เจตรินร้องเรียก
“อีริน่า”
อีริน่าวิ่งผ่านหน้าแหวว แก้มแดงเปล่งโดนตบสองข้าง
“ว๊าย!หน้าคุณอีริน่า ไปโดนหมาหมู่ที่ไหนรุมยำมาคะ บวมเป่งแดงยังกำลึงตำลึงสุก”
แหววตามไปอีกคน เจตรินตกใจผวาจะไป เจอคุณหญิงศรินทิพย์กับอารดารดึงไว้
“สะโพกค่ะคุณแม่ ครากเข้าไว้ค่ะ” อารดากระซิบ
คุณหญิงศรินทิพย์แกล้งทำเจ็บสะโพก
“สะโพกแม่หักแล้ว”
“คุณแม่ไปหาหมอนะครับ” เจตรินเป็นห่วง
“แม่ว่าเราไปพูดกันต่อเรื่องยัยจีเถิดนะ”
“อ้าว คุณแม่หายแล้วหรือครับ”
อารดารีบบอก
“ผลบุญไงคะ ที่คุณแม่แผ่เมตตาอภัยให้เด็กนั่น”

สองคนแอบยิ้มสบตากัน เจตฟังแล้วงงๆ

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 5 (ต่อ)

เจตรินกับคุณหญิงศรินทิพย์ ประจันหน้ากัน คุณหญิงศรินทิพย์โกรธ เจตรินใจเย็นนิ่มนวลน้ำเสียงขอร้อง
“คุณแม่ครับ...”
คุณหญิงศรินทิพย์ยังเจ็บใจ
“พี่สาวแกมันกล้าเหยียบหัวฉัน มันมีปัญญาหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับผู้ชายท้าทายฉัน แล้วแกยังจะมาขอให้ฉันอภัยมันอีกเรอะตาเจต”
“พี่จีเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากจะอยู่กับผู้ชายสักคน พี่จีรับผิดชอบตัวเองได้ครับ”
“เชอะ แล้วไอ้คนสิ้นคิดที่ขายที่ดินให้ครอบครัวศัตรูน่ะ มันนังผู้ใหญ่ไก่เขี่ยนั่นใช่มั้ยล่ะ มันรับผิดชอบอะไรกับความรู้สึกของแม่มันบ้าง”
“ทรัพย์สินของครอบครัวเรากินสิบชาติก็ไม่หมด ขายซะบ้างจะเป็นไรไป ครับคุณแม่”
คุณหญิงศรินทิพย์โกรธจี๊ด
“แต่ไม่ใช่ขายให้ไอ้พวกนั้น”

อีริน่าวิ่งร้องไห้มามีแหวววิ่งตามาติดๆผ่านหน้าห้องเจตริน อีริน่าผลุบหายไปในห้อง แหวววิ่งตามไปในห้อง
“ไม่อยู่แล้วบ้านผู้ดีมีแต่เปลือก แต่หัวใจไร้ความปราณี” อีริน่าวิ่งมาที่เสื้อผ้าโยนลงกระเป๋า
แหววมาฉุดมือไว้
“จะไปไหนคะ ไม่นะคะ คุณอีริน่าต้องสู่ค่ะ อย่ายอมแพ้ค่ะ งัดแก่นแท้สีดำช้ำเลือดช้ำหนองของผู้ดีออกมาตีแผ่ให้คุณเจตรับรู้ค่ะ”
“ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันจะไปตามหาตายยายของฉัน”
“รู้จักกรุงเทพดีแล้วหรือคะ”
“เดี่ยวก็รู้ไปเอง”
“นรกกับสวรรค์มันซ้อนกันอยุ่ที่กรุงเทพนี่นะคะ นางฟ้ากับนางซาตานมันแฝงอยู่ในร่างเดียวกัน เทพบุตรกับผีห่ามามันเกิดในคนคนเดียวกัน”
“ฉันไม่มีทางเลือกนี่นา”
“มีสิคะ เลือกที่จะอยู่กับเทพบุตรทั้งกายและใจอย่างคุณเจตนะคะ แหววดูออกว่าเธอห่วงใยคุณมาก อย่าทำตัวเป็นนางเอกโบราณค่ะ นางเอกรุ่นใหม่ใจถึงค่ะ ตบซ้ายขวานางร้ายผวาหมดแล้วค่ะ เชื่อสิคะ แพ้คนดีไม่มีปัญหา แต่แพ้คนไม่ดีนี่สิ เราจะกลายเป็นคนโง่ค่ะ”
อีริน่ากับแหววประมือกัน
“ขอบใจมาก หนามยอกเอาหนามบ่ง”
สองคนหัวเราะชอบใจกัน

เจตรินยังคุยอยู่กับแม่
“ถ้าไม่อยากให้แม่อกแตกตาย เลิกพูดเรื่องนังลูกนอกคอกนั่นกับแม่อีก”
เจตรินอึ้งๆ
“จะไปไหนก็ไป แม่จะทำงาน”
คุณหญิงศรินทิพย์กลับไปลงนั่งที่โต๊ะ อ่านเอกสาร เจตรินมองแม่สักครู่ แล้วออกจากห้อง ทันทีที่ประตูห้องปิดลง คุณหญิงศรินทิพย์เงยจากเอกสาร หน้าตาช้ำใจ

นายพลกันต์กับคุณหญิงพรรณรายนั่งดูทีวีด้วยกัน กมลกันต์เปิดประตูหน้าตึกเข้ามาแปลกใจ
“คุณพ่อคุณแม่อยู่ดึกนะครับคืนนี้”
คุณหญิงพรรณรายยังคาใจเรื่องที่อารดาพูดว่ากมลกันต์เป็นชายชู้
“รอลูกนั่นละ”
กมลกันต์ฉงนนิดๆว่าแม่มีอะไร
“รอผม ดีเลยครับ ผมก็มีเรื่องโดนใจคุณแม่”
“แม่พูดก่อน”
“ค่อยๆพูดค่อยๆจากันนะคุณ” นายพลกันต์เตือน
กมลกันต์ชักรู้สึกว่าจะเรื่องไม่ดี
“ครับ คุณแม่”
“กมลกันต์ไปยุ่งอะไรกับภรรยาคุณเจตริน”
คุณหญิงพรรณรายเพิ่งสังเกตเห็นหน้าลูกยิ่งเครียด
“แล้วหน้าตาไปโดนอะไรมา มีเรื่องถึงลงมือลงไม้กับคุณเจตหรือเปล่า”
กมลกันต์ทั้งตกใจทั้งขำ
“โอ๊ยคุณแม่ครับ เอาที่ไหนมาพูดครับนี่”

เจตรินเดินหาของอยู่ ศรีเข้ามาจะมาสำรวจความเรียบร้อย ปิดม่านปิดประตูหน้าต่างหมดหรือยัง
“คุณเจตหาอะไรคะ”
“มือถือครับ ไม่ทราบไปวางลืมไว้ที่ไหน”
“เห็นคุณอีริน่าเอาขึ้นข้างบนไปแล้วค่ะ”
เจตรินโล่งไป
“โอ้ ผมนี่ขี้ลืมจริง”
ศรีเกรงใจ แต่ห่วงจีรณัทย์
“ขอโทษนะคะคุณเจต คุณจีเป็นไงบ้างคะ”
“ดีขึ้นแล้วครับ ขอบคุณครับป้าศรี”
ศรีเกรงใจมากๆ แต่ห่วงเพราะเลี้ยงจีรณัทย์มา
“เอ้อ...เอ้อ...ไปอยู่...อยู่...เอ้อ...”
เจตรินขำๆ รู้ว่าจะถามอะไร
“ไม่ต้องห่วงครับป้าศรี ไม่ต้องกลัวว่าพี่จีหนีตามผู้ชาย พี่จีไม่ได้ไปอยู่กับพี่กมลกันต์ครับ”
“โล่งอกไปค่ะ ปากคนเดี๋ยวนี้เป่าใส่...เอ่อ...อะไรนะคะ โซๆ เชี่ยวๆอะค่ะ”
“Social network ครับ”
“นั่นละค่ะ เป่าใส่ทีเดียวพังไปชั่วชีวิตเลย คุณจีเป็นคนดีมากๆ ป้าไม่อยากให้คุณจีเจออะไรแบบนั้น”
“เราคงห้ามปากคนไม่ได้หรอกครับ”
“คุณหญิงท่านรักลูกทุกคนมาก ป้าแน่ใจว่ายังไงๆท่านก็ตัดลูกไม่ขาดค่ะ สักวันท่านต้องใจอ่อน”
“ผมก็หวังอย่างนั้นครับป้า”

เจตรินเปิดประตูเข้าห้องไม่มีใครเลย
“อ้าว ไม่อยู่เหรอ”
เจตรินไปที่หน้าห้องน้ำ เคาะประตูเบาๆ
“อีริน่าครับ”
ไม่มีเสียงใดๆ เจตเปิดประตูห้องน้ำดู ไม่มี เขาบ่นขำๆ
“หนีไปนอนห้องไหนหรือนี่”
เจตรินเดินไปดูที่โต๊ะที่ชาร์จมือถือเป็นประจำเห็นแต่สายชาร์จ ไม่เห็นมือถือ เพราะอารดาเก็บหมด
“อ้าว หายไปไหนนะ”
เจตหาเดินเข้าห้องน้ำปิดประตู ทันทีที่เสียงล็อกแกร๊ก มีอะไรเคลื่อนไหวออกมาจากมุมสลัว เป็นอารดาออกมาจากที่ซ่อน มาที่เตียงหน้าตากระหยิ่มหมายมาด ขึ้นเตียง จัดผมให้สวยๆ นอนตะแคงหันหลังให้ด้านที่เจตรินจะนอน ซ่อนหน้า ทำเสมือนเป็นอีริน่า
เจตรินออกจากห้องน้ำ สดชื่น สวมชุดนอน ไปที่เตียงเห็นร่างหนึ่งนอนเงียบ เขาพูดอ่อนโยน ผสมความรู้สึกดี
“มาแล้วเหรอครับอีริน่า”
เจตรินขึ้นเตียง ลูบผมอารดาอย่างอ่อนโยน ไม่อยากให้เธอตื่น อารดาลืมตาอยู่หน้าตาเจ็บใจที่สุด
“หลับเร็วจังสาวน้อย”
เจตรินเข้าในผ้าห่ม พลิกตัวไปกอดอารดาไว้
“ขอกอดนอนหน่อยนะครับ ไม่ได้กอดคุณ นอนไม่หลับ”
เจตรินจูบผม อารดาพลิกขวับมาทางเจตริน ปากแตะปากโดยไม่ได้ตั้งใจ เจตรินยังไม่ทันรู้สึกว่าใครเป็นใคร เผลอใจจะจูบ แต่อารดาเป็นฝ่ายรั้งเข้าไปจูบก่อน เจตรินเอะใจ ผละออก อีริน่าไม่เคยเป็นอย่างนี้ แล้วตกใจ ผงะออก
“ดา”
เจตรินผลักดาออก แต่ไม่สำเร็จ อารดารุกเข้ากอดนัวเนีย
“เจต อย่าทำอย่างนี้กับดาสิคะ”
เจตรินผลัก
“ปล่อยครับดา ปล่อย”
อารดาไม่ยอมปล่อย นัวเนียจะจูบ
“ดารักเจตนะคะ รักมาก เจตอย่าทำร้ายจิตใจดาอีกต่อไปเลยนะคะ”
สองคนยังนุงนังกันไปมา มีอะไรวูบขึ้นมาบนเตียงก็ไม่ได้สังเกต อีริน่ากระแอมแบบกวนประสาทสุดๆ
“อ๊ะๆ ฮะแอ้ม แอ้มๆ”
อารดาชะงักกึก เจตรินได้โอกาสโดดผึงลงจากเตียง ใจหายใจคว่ำ ทั้งอารดาทั้งเจตรินมองที่แหล่งเสียง เจตรินดีใจ
“อีริน่า”
อารดาโกรธปรี๊ด
“อีลูกโสเภณีผีทะเล”
อีริน่าทำหน้ากวนสุดๆ
“ผีจริงๆด้วย มาจนถึงตัวยังไม่มีใครรู้เรื่องเล้ย”
อารดาฟาดหมอนใส่ อีริน่าโดดปรู๊ดไป เจตรินรับไว้วางลงยืนที่พื้น อารดาจะเล่นงานอีริน่าอีก แต่เจตรินกันไว้มองซากมือถือของเขาและซิมอยู่ใต้หมอนที่อารดาหนุน
“พอเถอะครับดา กลับไปห้องดาเถอะครับ”
อีริน่าส่งกล้องให้เจตริน
“หานี่อยู่หรือคะ”
เจตรินขอบใจมาก
“ตกลงคุณจะเอาสามีฉันไหม ยังไม่ได้ตกลงราคากันเลย”
“อีเด็กกุ๊ยนรก เจตมันใส่ร้ายดาอีกแล้ว”
“ถ้าเช่นนั่นคุณเจตก็ลองเปิดคลิปจากกล้องของคุณดูสิคะว่าใครใส่ร้ายใคร”
อารดาตกใจ
“ว๊าย นี่แกแอบ...”
“ถ่ายไว้โหม้ดแหล่ว” อีริน่าสวน
“อย่าเปิดนะคะ เจตอย่าเปิดค่ะ” อารดารีบห้าม
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เปิด แต่ผมขอแลกกับให้ดากลับไปนอนที่ห้องแล้วไม่ทำอะไรแบบนี้กับผมอีก”
“ทำได้แค่เป็นคู่จิ้น แต่ไม่ใช่คู่จริง” อีริน่าเสริม
“หุบปาก ฉันไม่ไปจากห้องนี้ ฉันมาก่อนแก”
“ผมมีภรรยาแล้ว มันไม่ดีกับดา”
“ดาไม่แคร์”
“แต่ผมแคร์ครับ ผมแคร์ความรู้สึกของอีริน่า”
อารดาเจ็บปวด
“เจต...เจตพูดยังงี้กับดาได้ยังไง ดาก็มีหัวใจ มีความรู้สึกนะคะ”
“ผมจำเป็นต้องพูดตรงครับ ดาต้องตัดใจ ตอนนี้ผมไม่ใช่ของดา ผมเป็นของอีริน่า”
อารดาทั้งแค้นทั้งเจ็บช้ำ
“อย่าคิดว่าเจตจะอ้างแบบนี้ได้ตลอดไปนะคะ เจตทำดาเจ็บ...เจ็บมาก ดาไม่มีวันยอมให้เจตทำดาฝ่ายเดียวแน่นอน”
อารดาพรวดออกไปปิดประตูห้องโครม เจตรินหนักใจมาก ยืนอึ้งอยู่อีกครู่แล้วนึกขึ้นมาได้ เหลียวหา แล้วเห็นอีริน่ายืนทำตาปริบๆ เจตรินพรวดมาดูแก้มทั้งสองของอีริน่า
“ใครทำอีริน่าบอกผมมา”
“น้ำท่วมปากอีริน่า พูดไม่ออกบอกไม่ได้ ให้ทานไปเถิดค่ะ”
“ขอบใจนะที่มาช่วยทันเวลา ผมขอเวลาดูคลิปนี่หน่อย”
เมื่อดูดคลิปเสร็จ เจตรินถอนใจมองอีริน่า

“อีริน่า คุณต้องมาเดือดร้อนเพราะผมแท้ๆเลย”

กมลกันต์อธิบายเรื่องอีริน่าให้พ่อแม่เข้าใจแล้ว
“พ่อเชื่อลูก”
“แล้วคุณหญิงล่ะคร้าบผม”
คุณหญิงพรรณรายเชื่อ แต่ยังงอนๆ มองค้อน
“เชื่อก็ได้ แล้วหน้าไปโดนอะไรมา”
“อันธพาลรุมครับ เข้าใจว่าจะชิงทรัพย์ แต่อีริน่าช่วยบู๊กับมันจนมันหนีหมด”
คุณหญิงพรรณรายหน้าตื่น
“ตายจริง เก่งกล้าขนาดนั้นเลย”
“เดี๋ยวคุณแม่จะตื่นเต้นกว่านี้อีกครับ”
“อะไรจ๊ะ”
กมลกันต์มองแม่สักครู่ ชั่งใจ
“คุณแม่จะว่ายังไงครับ ถ้าอีริน่าเป็นลูกสาวของคนที่รู้จักกับพี่พรรณวดี”
คุณหญิงพรรณรายชะงัก
“ฮะ”
นายพลกันต์ตะลึงที่กมลกันต์พูด คุณหญิงพรรณรายดีใจผุดลุกพรวด ตื่นเต้นดีใจสุดขีด แต่ยังไม่ทันพูดอะไร หัวใจเจ็บจี๊ด ช็อกหมดสติทรุดลงบนโซฟา
“โอ๊ะ”
นายพลกันต์กับกมลกันต์รีบเข้ารับ
“คุณหญิง”
“คุณแม่”
นายพลกันต์เหลียวหาสาวใช้ ตะโกนเรียก
“มีใครอยู่บ้าง มาหยิบยาคุณหญิงให้ที”
สาวใช้วิ่งมาหยิบยาที่โต๊ะใกล้ๆแถวนั้น
“ผมไปเอารถออกนะครับคุณพ่อ”
“รีบเลยลูก”
สาวใช้วิ่งมาคุกเข่าเอายาใส่ใต้ลิ้นคุณหญิงพรรณราย

คุณหญิงศรินทิพย์ฟุบหลับคาแฟ้มเสนอเซ็น แฟ้มยังกางอยู่ มือยังจับปากกา สักครู่มือเจตรินมาดึงปากกาออกจากมือแม่อย่างแผ่วเบา คุณหญิงศรินทิพย์ขยับศีรษะ นั่งตรงขึ้นตามปกติ มอง
“เจต”
เจตรินเสียบปากกาเข้าที่ ปิดแฟ้มเสนอเซ็น
“ไปนอนเถอะครับคุณแม่ ดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ”
เจตรินโอบแม่ยืนขึ้น คุณหญิงศรินทิพย์ไม่ขัด
“ผมไปส่งที่ห้องครับ”

เจตรินโอบแม่เดินขึ้นบันได คุณหญิงศรินทิพย์อิงไหล่ลูกใจค่อนข้างอ่อนล้า...เจตรินประคองคุณหญิงศรินทิพย์ลงนอนห่มผ้าให้ แล้วนั่งลงข้างเตียงกุมมือแม่
“คุณแม่พยายามนอนให้หลับเองนะครับ ผมไม่อยากให้คุณแม่ทานยานอนหลับ”
คุณหญิงศรินทิพย์มองเจตรินนิ่ง ด้วยความรักและซาบซึ้งความใส่ใจของลูก
“นะครับคุณแม่ ผมขอร้อง”
“จ้ะ”
เจตรินจูบมือแล้วจูบแก้มแม่
“ราตรีสวัสดิ์นะครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์ลูบศีรษะลูกเบาๆ
“จ้ะ...ขอบใจนะลูก”
เจตรินยิ้มให้ ปิดไฟที่โต๊ะหัวเตียงแล้วออกจากห้อง คุณหญิงศรินทิพย์มองตามสักครู่แล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า

อีริน่านอนอยู่ในห้องเอล็กซ์หลับสนิท เจตรินเข้ามานั่งลงข้างๆ มองด้วยความรู้สึกอ่อนโยน สักครู่ลงนั่งที่พื้นพิงข้างเตียงหน้านิ่งลง คิดอะไรไปเรื่อย อีริน่าพลิกตัว หัวเข่าถองเข้าที่ศีรษะเขา เจตรินไม่ได้เจ็บ แต่นึกไม่ถึงว่าจะโดน
“โอ๊ย”
อีริน่างัวเงียตื่นเพราะร่างกายกระแทกอะไรบางอย่าง ค่อยๆยันตัวลุก เห็นอะไรเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆก็สะดุ้ง
“ฮึ้ย”
อีริน่าผลักศีรษะเจตรินอย่างแรงแล้วพรวดไปเปิดไฟหัวเตียง เจตรินโดนผลักหัวโขกขอบเตียง ในจังหวะไล่ๆกับไฟเปิด
“โอ๊ย”
อีริน่าเห็นว่าเป็นเจตริน
“อ้าว”
“มือหนักเข่าหนักทั้งยามตื่นยามหลับเลยนะคุณนี่”
“แล้วเข้ามาในห้องฉันทำไมคะ”
“เข้ามาอยู่ใกล้ๆ”
“ผิดคนหรือเปล่า ฉันไม่ได้ชื่ออารดานะ”
เจตรินเหล่ใส่ แอบน้อยใจนิดๆ อีริน่าทำหน้าตากวนล้อ
“คนเราเวลาจิตตกก็อยากอยู่ใกล้ใครสักคนที่เราสนิทใจ ถึงเขาจะไม่...จะไม่เข้าใจเราก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็รู้สึกอุ่นใจ”
อีริน่าอ่อนลง รู้สึกผิดนิดๆ
“คนสมบูรณ์พร้อมอย่างคุณมีจิตตกด้วยเหรอคะ”
“มีสิครับ ผมไม่ใช่เทวดานี่”
อีริน่านิ่งไปเหล่ๆ
“คืนนี้ให้ผมอยู่กับคุณได้ไหม”
อีริน่าอยากให้อยู่นั่นละ แต่เลี่ยง
“ก็...แล้วแต่คุณค่ะ”
เจตรินคาดคั้นนิ่มๆ
“ได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
เจตรินอิงศีรษะกับเข่าจับมืออีริน่ามาโอบไหล่ตัวเอง แล้วจับไว้อย่างนั้น สองคนนั่งอยู่ท่าเดิม

ห้องพักในโรงพยาบาล...คุณหญิงพรรณรายหลับสนิท
“คุณหญิงจะหลับสนิทไปจนสว่างละครับ พรุ่งนี้ผมจะขอเช็กละเอียดอีกครั้งนะครับ อาจต้องผ่าตัด” หมออธิบาย
นายพลกันต์และกมลกันต์ห่วงใยสุดๆ
“ถึงขนาดต้องผ่าตัดเลยหรือครับ”
“ผมขอให้คำตอบพรุ่งนี้นะครับท่าน”
“ก่อนผ่าตัดคุณแม่เดินทางไปต่างประเทศได้ไหมครับ” กมลกันต์ถาม
หมอไม่ตอบ

แสงยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างมาที่เตียง เจตรินกับอีริน่าหลับทั้งคู่ เจตรินนอนหนุนตัก อีริน่านั่งหลับซบศีรษะกับไหล่ของเขา สองคนยิ้มหลับมีความสุข

เจตรินออกจากห้องแล้วชะงัก เมื่อให้เห็นคุณหญิงศรินทิพย์เดินอยู่แถวนั้น คุณหญิงศรินทิพย์ก็ชะงักเมื่อเห็นเจตรินออกมาจากห้อง
“เจตนอนห้องนี้เหรอ”
“ครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์ชักจะไม่ชอบใจ นึกว่าอีริน่าแผลงฤทธิ์ใส่
“ทำไม ยัยนั่นมัน...”
อีริน่าเปิดประตูพาเอล็กซ์ออกมา
“เพราะอีริน่ามานอนห้องนี้ค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์เขม่นหมั่นไส้อีริน่า
“อย่าสอด เด็กไม่มีการอบรม แอบฟังผู้ใหญ่พูดกัน เสียแรงมาอยู่บ้านผู้ดีไม่รับอะไรดีๆมาเลย...เป็นไงล่ะ คุ้มที่เปลืองเงินเปลืองทองไปตกไปแต่งมัน”
“อีริน่าไม่ได้เอาอะไรจากผมนะครับ มีแต่แหวนวงเดียวเท่านั่น”
“มันหวังไกลกว่านั้นสิ”
อีริน่าจ๋อย เสียใจสุดๆ เจตรินโอบไหล่ให้กำลังใจ
“คุณแม่ครับ...”
คุณหญิงศรินทิพย์พาลอีริน่าต่อ
“แล้วนี่หอบหิ้วกันมานอนห้องนี้เพราะยัยเมียเจ้าเล่ห์แสนงอนหนีมาให้ตามง้องั้นสิ”
ทั้งเจตรินทั้งอีริน่าเงียบ ไม่อยากพูดถึงอารดาในแง่ไม่ดี คุณหญิงศรินทิพย์เขม่นจัด
“ร้อยเล่ห์สารพัดพิษมารยาสาไถย”
อีริน่าก้มหน้าไม่สบตา ไม่อยากโดนว่าท้าทาย
“ไม่ต้องมาทำจ๋อย ใครๆเขารู้ทั้งนั้นว่าหล่อนน่ะร้ายแค่ไหน ยัยเด็กกุ๊ยข้างถนน”
อีริน่าเงยหน้าขึ้น เจตรินจับแขนดึงบีบเตือนสติ
“คุณแม่ครับ ผมขอ”
“ไม่ให้!...ถึงจะเป็นเมียลูกชายฉันก็อย่าทะนงตัวว่าแน่ สำนึกใส่สมองไว้ตลอดเวลาด้วยว่าแกน่ะมันแค่เด็กลูกโสเภณีเร่ขายของข้างถนน มารยาสาไถยจนลูกฉันต้องเก็บมาดูแล อย่าฝันว่ามันจะยั่งยืน สักวันเมื่อลูกฉันตาสว่าง แกจะถูกเฉดกลับไปที่ที่สมกับกำพืดเดิมของแก”
คุณหญิงศรินทิพย์ออกไป เจตรินกับอีริน่าอึ้งสุดๆ อีริน่าเสียใจ เจตรินหน้าสลด
“ผมขอโทษนะอีริน่า ที่ทำให้คุณต้องเจออย่างนี้ อดทนนะ...ได้มั้ย”
“จะพยายามค่ะ”
อีริน่ายังเสียใจ แต่จริงใจ เพราะเริ่มผูกพันกับเจตรินแล้ว เจตรินโอบอีริน่าไป อารดาโผล่ออกมาจากที่ซุ่มอยู่ แบบแอบฟังอยู่ตั้งแต่ต้นหน้าตาสะใจ

“แกยังจะเจอเจ็บกว่านี้อีกนังสะใภ้กุ๊ยข้างถนน เจ็บไม่รู้ลืมเชียวละ”

คุณหญิงศรินทิพย์กระชากเปิดประตูเข้าห้องแล้วยืนพิงประตู ยังหัวเสีย
“ลูกเต้าฉันแต่ละคนเป็นอะไรกันไปหมด ไม่ได้อย่างใจเลยสักคน”
คุณหญิงศรินทิพย์นึกถึงที่อารดายุ
“คุณแม่ต้องทำให้เจตเห็นว่ามันเลวจริงค่ะ ต่อหน้าเจตมันทำเป็นดีกับคุณแม่ แต่ลับหลังเจตมันร้ายกับคุณแม่ เจตรักคุณแม่ รักพี่น้อง หากเจตรู้สึกอย่างนี้ เจตไม่มีวันเอามันไว้แน่นอนค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ครุ่นคิดมีแผนมากกว่านั้น

เจตรินแต่งตัวเสร็จแล้ว
“วันนี้คุณแม่จะเข้าบริษัทไปดูงานส่วนของพี่จี ผมจะไปส่ง เผื่อคุณแม่จะอารมณ์ดีขึ้น อีริน่าอยู่บ้านนะครับ หากเหงาก็พาแหววออกไปดูหนังก็ได้”
อีริน่ายิ้มๆ
“ขอบคุณมากค่ะ”
เจตรินเอาเงินปึกนึงให้อีริน่าประมาณห้าหมื่นบาท
“ค่าใช้จ่ายของคุณเดือนนี้ครับ”
“เยอะไปมั้งคะ”
“น้อยไปครับ เมื่อคิดว่าคุณเป็นภรรยาผม ไม่พอก็บอกนะครับ เหลือก็เก็บสะสมไว้ ฝากธนาคารก็ได้ ไว้ผมจะพาไปเปิดบัญชี”
“ขอบคุณค่ะ”
สองคนมองกัน รู้ว่าต่างคนต่างมีใจต่อกัน แต่ต้องเก็บไว้

คุณหญิงศรินทิพย์กับอารดา กำลังช่วยกันรวบรวมเอกสารและแฟ้มเสนอเซ็นหลายเล่ม
“เดี๋ยวดาไปส่งคุณแม่นะคะ คุณแม่จะได้มีคนช่วยที่บริษัทด้วย”
คุณหญิงศรินทิพย์ยังไม่แน่ใจ แต่ยังไม่พูดอะไร เจตรินเข้ามา เห็นอารดาก็ชะงักไปนิด แล้วไม่มองอารดา ยังไม่สนิทใจนักจากเรื่องเมื่อคืน เจตรินไปที่แม่ อารดาลอบทำหน้าเยาะแบบหมายมาดอาฆาต
“ผมไปส่งครับคุณแม่”
เจตรินเอาของไปถือ คุณหญิงศรินทิพย์แอบโล่งใจ ไม่ต้องไปกับอารดา
“ดีเหมือนกัน...แม่ไปกับเจตก็แล้วกันหนูดา หนูจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้าง”
อารดาอ่อนหวาน
“แล้วแต่คุณแม่ค่ะ”
เจตรินกับคุณหญิงศรินทิพย์ออกไป อารดาไปช่วยเปิดประตูห้องให้
“ขอบใจจ้ะ”
สองคนออกจากห้องแล้ว อารดาปิดประตู หน้าเหยียดเย้ยอาฆาต
“ดาจะปล่อยให้คุณเมินดาไปก่อนค่ะเจต แล้วเมื่อถึงวันที่ดาพร้อม คุณจะเป็นฝ่ายคลานมาหาดาเองแน่นอน”

ภายในห้องพักโรงพยาบาล...กมลกันต์อยู่ใกล้เตียงแม่ กันต์นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา พรรณรายค่อยๆรู้สึกตัว กมลกันต์ดีใจ
“คุณพ่อครับ คุณแม่ตื่นแล้วครับ”
กันต์มาที่เตียง พรรณรายค่อยๆลืมตา เริ่มเห็นอะไรต่ออะไรแปลกตา นึกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้วนึกถึงเรื่องที่ค้างคาใจได้ทันที พรวดจะลุก
“พรรณวดี”
กมลกันต์กับกันต์รีบจับไว้
“อย่าเพิ่งครับคุณแม่”
“ค่อยๆคุณหญิง”
พรรณรายจะลุกให้ได้ กมลกันต์ประคองแม่นั่งพิง
“พาแม่ไปหาหนูอีริน่าเดี๋ยวนี้กมลกันต์ พาแม่ไปสืบหาพี่สาวของแกจากแม่ของอีริน่า”
“คุณแม่ฟังผมก่อนครับ เมื่อคืนผมยังพูดไม่จบ”
“ไม่ไม่ แม่ไม่ฟัง พาแม่ไปสืบหาพรรณวดีเดี๋ยวนี้”
กันต์ พยายามปลอบ
“ใจเย็นก่อนคุณ ฟังกมลกันต์ก่อน แล้วเราค่อยไปหาหนูอีริน่ากัน”
พรรณรายค่อยเย็นลง กมลกันต์มองสบตากับพ่ออย่างหนักใจว่าจะพูดยังไงดี

เจตรินยืนอยู่ที่โต๊ะทำงานของจีรณัทย์ในบริษัทของคุณหญิงศรินทิพย์
“คุณแม่ครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์นั่งอ่านเอกสารอยู่มุมหนึ่งเงยมองลูกชาย
“คอมพี่...” เจตรินชะงักการออกชื่อจีรณัทย์เกรงแม่ไม่สบายใจ “คอมเข้ารหัสไว้ครับ ผมไปโทรถามก่อนนะครับ”
“จ้ะ”
เจตรินออกไปจากห้อง คุณหญิงศรินทิพย์รีบเอามือถือมากดโทรออก คอยมองประตูห้องไว้ด้วยเผื่อเจตรินกลับมา
“คุณหญิงอาภาเหรอคะ ศรินทิพย์นะคะ...ลูกสาวคนสวยของคุณหญิงที่ดิฉันจะขอพาตาเจตไปเจออะค่ะ ช่วงนี้ยายหนูอยู่กรุงเทพหรืออยู่เมืองนอกคะ...อุ๊ย ดีเลยค่ะ เดี๋ยวขอดิฉันเช็กอะไรนิดหน่อยนะคะ แล้วจะรีบโทรนัดให้เด็กๆเขาเจอกันค่ะ...ขอบคุณค่ะ ดิฉันสิคะต้องขอบพระคุณที่คุณหญิงให้เกียรติ”
คุณหญิงศรินทิพย์ตัดสายแล้วส่งไลน์ถึงอารดา

เจตรินพูดมือถือเครื่องของอีริน่ากับจีรณัทย์
“เดี๋ยวผมเมมรหัสคอมฯก่อนนะครับ”
เจตรินกดเมมรหัส
“เรียบร้อยครับพี่จี”
“คุณแม่เป็นยังไงบ้างเจต...คุณแม่ดีขึ้นแล้วก็ดีจ้ะ พี่กลัวคุณแม่จะโกรธพี่จนล้มป่วย เจตดูแลคุณแม่ด้วยนะจ๊ะ”
“ครับพี่จี พี่จีก็ดูแลตัวเองด้วยครับ แล้วเจอกันนะครับ ผมจะรีบไปเปิดคอมฯให้คุณแม่...บายครับ”

เจตรินกลับเข้าห้อง คุณหญิงศรินทิพย์หายใจหอบแสร้งตามแผน เจตรินตกใจ
“คุณแม่!”
เจตรินวิ่งไปรับทัน คุณหญิงศรินทิพย์เป็นลม

บ้านเจตริน...อารดากำลังอ่านไลน์
“แม่จะเข้าโรงพยาบาล แล้วจะบอกมาว่าที่ไหน” อารดากระหยิ่มเยาะ “ยอมทำตามแผนของดาแล้วเหรอคะคุณแม่”
อีริน่าเดินมา จะออกข้างนอก อารดามองเกลียดขี้หน้า
“ฉันจะไปข้างนอกนะคะ”
“แล้วมาบอกฉันทำไม ฉันไม่ใช่คนรับใช้เธอนะ”
“ก็บอกไว้ตามมารยาท ในฐานะคนอยู่ร่วมบ้านอะค่ะ ตรงนี้นอกจากคุณแล้วมีใครซะที่ไหน”
“ฉันไม่รับรู้”
“ก็แล้วแต่คุณค่ะ”
อีริน่าออกไป อารดามองตามเกลียดๆ ขณะเดียวกันนั้นมือถือดังขึ้น เธอมองหน้าจอเป็นเมทินีโทรมา
“ไงจ๊ะคุณนายเม หายหัวไปซะฉันนึกว่าแกตายไปแล้ว”
เมทินีพูดมือถือแบบเปิดลำโพงให้ลลิตาได้ยินด้วย
“ปากยังงี้มันน่าบอกมั้ยนี่”
“มีไร”
“คุณหญิงพรรณรายช็อกเข้าโรงพยาบาล เผื่อคุณหญิงแม่ศรินทิพย์ของแกจะอยากรู้”
อารดามีเรื่องเด็ดไปเม้าให้คุณหญิงศรินทิพย์ฟังอีกแล้ว
“อยากรู้แน่นอน ขอบใจนะยะ ลิตาอยู่ด้วยหรือเปล่า”
ลลิตาพูดขึ้น
“อยู่ย่ะ”
“แกสองคนเตรียมพร้อมไว้นะ แล้วฉันจะโทรมา”
“ย่ะ”
อารดาคิดแผนการที่จะทำต่อไป

ในห้องพักที่โรงพยาบาล คุณหญิงพรรณรายโวย
“แม่ไม่เชื่อ เมื่อคืนกมลกันต์ไม่ได้พูดอย่างนี้ ทำไมบอกว่าแม่ของอีริน่าน่าจะไม่รู้จักพรรณวดี”
“ก็คุณดีใจจนเป็นลมไปก่อน” นายพลกันต์บอก
“ไม่ค่ะ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ ฉันจะออกจากโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ จะไปพาหนูอีริน่าไปรัสเซีย ไปตามพรรณวดี”
“คุณหมอห้ามคุณแม่เดินทางนะครับ”
“ช่างหมอ แม่จะไป”
คุณหญิงพรรณรายจะเอาเครื่องมือสารพัดออกจากตัว นายพลกันต์กับกมลกันต์ช่วยกันจับไว้
“อย่าคุณ”
“อย่าครับคุณแม่”
กมลกันต์กอดแม่ไว้
“คุณแม่ครับ คุณพ่อกับผมรักคุณแม่ห่วงคุณแม่เท่าชีวิตนะครับ คุณแม่รักษาตัวให้แข็งแรงดีก่อน แล้วจากนั้นคุณแม่จะไปตามหาพี่พรรณวดีสุดหล้าฟ้าเขียวยังไงผมก็จะพาคุณแม่ไป แต่วันนี้...อย่าเพิ่งเลยนะครับ ผมขอร้อง”
คุณหญิงพรรณรายอ่อนลงนิดหน่อย
“ชีวิตแม่อยู่ในเขตความตายแล้วลูก แม่จะตายได้ทุกวินาที เมื่อแม่มีโอกาสจะเจอลูกที่หายไปนานแสนนาน อย่าห้ามแม่เลย...นะคะคุณ”
นายพลกันต์สบตากับกมลกันต์ หนักใจกันทั้งคู่
“โทรหาคุณเจต ให้แม่พูดกับคุณเจต”
“เดี๋ยวผมโทรคุยให้ครับ นี่วอร์ดผู้ป่วยโรคหัวใจ คลื่นมือถือจะกวนอุปกรณ์การรักษา จะเป็นอันตรายกับคนไข้ทั้งวอร์ดได้ครับ”
“ไปพูดข้างนอกก็ได้ แม่ไปด้วย”
“อย่าเลยคุณ ปล่อยลูกคุยเถอะ เชื่อลูกเถอะนะ ถ้าคุณเป็นอะไรไปตอนนี้ ลูกจะเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคนนะคุณ”

คุณหญิงพรรณรายท่าทางยังดื้อ แต่ก็จำยอม กมลกันต์ออกไป

ห้องพักคุณหญิงศรินทิพย์ที่โรงพยาบาลเป็นคนละโรงพยาบาลกับพรรณราย คุณหญิงศรินทิพย์นั่งอยู่ที่โซฟา ท่าทางแข็งแรงกระฉับกระเฉงปกติ อารดาเข้ามา ถือแจกันดอกไม้สดขนาดกลางๆกำลังดีมาด้วย สองคนยิ้มให้กันแบบรู้กัน

“เจตล่ะคะ”
“ไปทำทะเบียนประวัติคนไข้จ้ะ”
“นังเด็กข้างถนนมันออกไปเที่ยว เข้าทางพอดีเลยค่ะคุณแม่”

เจตรินกำลังเดินออกจากห้องโถงจะไปห้องพักของคุณหญิงศรินทิพย์มือถือดังขึ้น เขากดรับสาย
“ครับ พี่กมลกันต์”
กมลกันต์ อยู่ในสวนสวยๆห่างจากตึกคนไข้
“เจต ตอนนี้คุณแม่พี่เข้าโรงพยาบาล”
เจตรินตกใจ หยุดเดิน
“อ้าว เป็นอะไรมากไหมครับ”
“ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว คุณแม่ช็อกเพราะพี่บอกเรื่องอีริน่าอาจเป็นลูกสาว คนที่พี่พรรณวดีอาจรู้จัก นี่จะไปหาอีริน่าให้ได้ จะพาไปรัสเซีย ไปหาคุณแม่ของอีริน่า”
เจตรินอึ้งมาก คิด แล้วตัดสินใจโกหก
“พี่กมลกันต์ครับ พอดีคุณยูริเพิ่งโทรหาผม ยืนยันว่าคุณพริมไม่ใช่คุณพรรณวดีแน่นอนครับ แถมเธอไม่รู้ใครทั้งนั้น”
กมลกันต์เครียดเลย
“ตายเลยเจต แล้วพี่จะบอกคุณแม่ยังไงนี่ เดี๋ยวโรคหัวใจกำเริบอีก”
“เดี๋ยวผมเสร็จธุระทางคุณแม่ผมแล้วผมไปหาพี่ครับ”
“พี่จะรอนะเจต”
เจตรินกดวางสาย หน้าตารู้สึกผิด
“ผมขอโทษนะพี่กมลกันต์ที่ต้องโกหก ผมไม่อยากให้เรื่องบานปลายตอนนี้”

คุณหญิงศรินทิพย์ยังคุยอยู่กับอารดา
“คุณหญิงพรรณรายเข้าโรงพยาบาลค่ะ ช็อกโรคหัวใจ คุณหญิงศรินทิพย์อึ้งไป ส่วนดีในใจยังมีอยู่
“เขาเป็นไงบ้างล่ะ”
“ไม่ทราบค่ะ ทราบแค่เข้าโรงพยาบาล”
“โรงพยาบาลเดียวกับแม่หรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ อยู่โรงพยาบาล...เจตมาแล้วค่ะคุณแม่”
คุณหญิงศรินทิพย์รีบไปนอน อารดาไปสกัดหน้าประตูไว้ก่อน เจตรินเข้ามาชะงักไปนิดเมื่อเห็นอารดา เธอทำเป็นเสงี่ยมปกติ ถ่วงเวลาไว้นิดหน่อย
“ดา”
“ดามาเยี่ยมคุณแม่ค่ะ แต่ถ้าเจตไม่อยากเห็นหน้าดา ดากลับก็ได้ค่ะ”
“อยู่ก็ได้ครับ ขอทางนะครับ”
อารดาหลีกให้เจตรินเข้าห้อง คุณหญิงศรินทิพย์นอนอ่อนระโหยเรียบร้อยแล้ว อารดาอมยิ้มขำกึ่งเยาะ แล้วรอยยิ้มค่อยๆหุบ เมื่อเห็น...อรนารีสวยสว่างเฉิดโฉมเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกระเช้าเยี่ยมกระเช้าใหญ่ คุณหญิงศรินทิพย์เห็นอรนารี เผลอตัวยิ้มดีใจมาก
“มาแล้วหนูอร เจตไปช่วยน้องหน่อยจ้ะ”
เจตรินไปรับกระเช้า อรนารีไหว้เจตริน
“สวัสดีค่ะพี่เจต”
“สวัสดีครับ” เจตรินยังไม่รู้เป็นใคร
“คุณน้าเป็นยังไงบ้างคะ” อรนารีถึงเตียง
อารดาอยู่ที่เดิม เจ็บใจสุดๆ รู้ทันทีว่าคุณหญิงศรินทิพย์วางแผนล้ำกว่า เธอรำพึงในใจ
“ฮึ่...แสบนักนะยัยคุณหญิงแม่ ยกนี้ฉันให้ชนะไปก่อนเดี๋ยวคอยดูฉันบ้าง”
อารดาจะออกนอกห้อง คุณหญิงศรินทิพย์หันไปเห็น
“อ้าวดา จะไปไหนจ๊ะ มารู้จักหนูอรนารีก่อนสิจ๊ะ”
อารดายิ้มสวย มาดดี
“ค่ะ คุณแม่”
อารดามาใกล้ คุณหญิงศรินทิพย์แนะนำรวบทั้งอารดาทั้งเจตริน
“หนูอรนารี ลูกสาวคุณหญิงอาภาจ้ะ”
อารดามองอรนารีเขม็ง
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณอรนารี ฉันอารดาค่ะ”
อรนารีรู้ท่าอารดาว่าคงร้ายไม่ย่อย
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณอารดา”
อารดาโกหกคุณหญิงศรินทิพย์
“ดามีสายเข้าค่ะคุณแม่ ขอไปพูดสายก่อนนะคะ”
“จ้ะ”
อารดายิ้มให้อรนารี ตาแรงกล้า อรนารียิ้มหวาน แต่แบบท้าทายว่าฉันไม่กลัวเธอ

อารดาเดินอยู่ที่ทางเดินในตึกโรงพยาบาล พูดมือถือกับเมทินีและลลิตา หน้าตาเจ็บใจ
“แกสองคนรีบมาด่วน เรียกวินมอเตอร์ไซค์มาเลย มาช่วยฉันจัดการนังไฮโซอรนารีนั่นด้วย แกสองคนเอามันอยู่แน่ ไฮโซเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อขนาดนั้น ตบซักสองสามฉาดก็วิ่งแจ้นไปฟ้องแม่แล้ว ถ้าแกสองคนจะเอารองเท้า กระเป๋า หรือของแบรนด์เนมอะไรจดรายการมาเลย”
อารดากดตัดสาย หน้าตาเหยียดเย้ย ตาวาวเอาเรื่อง
“คุณหญิงศรินทิพย์ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับอารดา”

เจตรินกับอรนารยิงเบอร์ใส่มือถือกันคุยกัน คุณหญิงศรินทิพย์ปลื้ม เจตรินจำอรนารีได้หลังจากเธอเล่าให้ฟัง
“ไม่นึกว่ายายเด็กขี้แยคนนั้นจะโตแล้วสวยมากขนาดนี้”
“พี่เจตโตขึ้นก็หล่อค่ะ มาดดีน่าดูเลยคุณนักการทูต นี่ถ้าอรไม่กำลังจะหมั้น อรจองพี่เลยนะคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์หน้าแตกผิดหวังวูบ
“อ้าว...น้าไม่ยักทราบ”
“คุณแม่ก็เพิ่งทราบค่ะ อรโดนแขวะแทบจะวันละยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย เดี๋ยวอรต้องลาคุณน้าแล้วนะคะ อรให้ว่าที่สามีของอรรออยู่ที่รถ เขามีนัดต่อเรื่องงานของเขาค่ะ” อรนารีไหว้
คุณหญิงศรินทิพย์รับไหว้ หวิดเอ๋อ
“จ้ะ จ้ะ”
“ลานะคะพี่เจต แล้วอรจะโทรหาค่ะ งานหมั้นเล็กๆไม่เชิญนะคะ ไว้เชิญงานแต่งเลย” อรนารีไหว้
“จ้ะ” เจตรินรับไหว้
อรนารีไป เจตรินไปเปิดประตูห้องให้ คุณหญิงศรินทิพย์กุมขมับเซ็งสุดๆ

อรนารีเดินผ่านสวนในโรงพยาบาล อารดา เมทินี ลลิตา หลบๆอยู่แถวนั้น อรนารีเดินมุ่งมาทางสามสาว อารดาเห็นรีบดึงเพื่อนหลบ
“นังนั่นละ จัดเต็มเลยนะ ฉันจะอ้อมไปอีกด้าน ไปทำไม่รู้ไม่ชี้กับคุณแม่”
เมทินีกับลลิตารับคำ
“เออ”
อารดาออกไปลับตัวดา อรนารีมาถึงจุด เมทินีกับลลิตาออกมาดักหน้า
“อรนารี...ใช่ปะ” เมทินีถามกวนๆ
“เฮ้ย ตบไม่ต้องถามชื่อ”
เมทินีกับลลิตาโจนเข้าใส่ อรนารีผลักออก
“อะไรกันนี่”
“ไม่อะไรกันนี่อะไรกันนั่น จะตบ” เมทินีเงื้อง่า
อรนารีกระทืบเท้า สองสาวสะดุ้ง ชะงัก งงๆมันจะเอายังไง อรนารีถอยนิดนึงไปตั้งหลักมั่น
“จัดให้ บังเอิญฉันไม่ใช่นักวอลเล่ย์บอล เลยไม่ถนัดตบ แต่ฉันเป็นนักเทควันโด้ทีมชาติ”
เมทินีกับลลิตาหน้าตื่น
“หา”
อรนารีจัดการลลิตาล้มโครมลงไปนอนโอดโอย เมทินีวิ่งหนีสุดฝีเท้า อรนารีขำ ไม่อยากตาม หันมาหาลลิตา
“ดีว่าฉันรีบไปธุระนะ ไม่งั้นจะหักแขนหักขาให้เข้าเฝือกทั้งตัวเลยเชียว”
อรนารีไปทำอะไรยุกยิกไปด้วย ลลิตายักแย่ยักยันลุกเดินกะเผลกไปบ่นไป อรนารีหันกลับมาแอบถ่ายวิดีโอ
คลิปลลิตาไว้
“อูย แค่ตูมเดียวก็จะตายอยู่แล้ว นังเมนะนังเม วิ่งเร็วกว่าแชมป์ร้อยเมตรโอลิมปิกอีก ทิ้งเพื่อนยังงี้ฉันจะคบแกต่อมั้ยเนี่ย”
อรนารีเดินไปบ่นไปขำๆ
“ไม่รู้จักกันสักหน่อย ตามมาตบฉันถูกได้ไง สงสัยฝีมือยัยอารดาหน้าจืดตาโปนขี้หึงนั่นแน่ๆ”

เจตรินหน้านิ่งไม่ค่อยพอใจ
“คุณแม่ไม่น่าทำอย่างนี้ ผมแต่งงานแล้วนะครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์ปรี๊ดลืมป่วย
“แต่งได้ก็เลิกได้ นังเมียเจตน่ะมันมีอะไรเสริมราศีให้เจตบ้างล่ะ มีแต่จะทำให้เสื่อม”
เจตรินอึ้งหงุดหงิด
“ไม่รู้ละ แม่จะหาลูกผู้ดีมีสกุลมาให้เจตให้ได้”
เจตรินสุดระอาใจ จะทนไม่ไหวแล้ว
“คุณแม่...”
อารดาเข้ามาหวานสดชื่น
“คุยอะไรกันอยู่ค้า...”
“ดามาพอดี ผมฝากดูคุณแม่หน่อยนะครับ ผมมีธุระ”
“ได้ค่ะเจต”
เจตรินออกไป คุณหญิงศรินทิพย์มองตาม โกรธ อารดาอมยิ้มชอบใจ

เจตรินเดินไปที่จอดรถพูดมือถือไปด้วย
“ผมกำลังจะไปหาพี่นะครับพี่กมลกันต์ พี่ออกมารอเจตอผมนอกห้องก่อนดีมั้ยครับ ตกลงกันก่อนว่าจะพูดกับคุณน้ายังไง”
“ได้ เจต พี่จะรอที่สวนหย่อมข้างตึกนะ คุณแม่บ่นทุกๆสามนาทีเลยว่าเมื่อไหร่เจตจะมา”

อารดาส่งถ้วยชาจีนร้อนให้คุณหญิงศรินทิพย์
“ชาจีนร้อนค่ะคุณแม่”
“ขอบใจ”
คุณหญิงศรินทิพย์จิบชานิดหนึ่ง หน้าตาครุ่นคิด
“คุณแม่คะ เราไปเยี่ยมคุณหญิงพรรณรายกันหน่อยมั้ยคะ”

คุณหญิงศรินทิพย์นิ่งไป อารดามองว่าจะทำอย่างไร
 
จบตอนที่ 5 
 
อ่านต่อตอนที่ 6
กำลังโหลดความคิดเห็น