คิวบิก ตอนที่ 16 อวสาน
ลิฟต์โรงพยาบาลที่รักษาตัวฤทัยนาคเปิดออก แพทริคเดินหน้าตาดุดันเอาเรื่องออกมา แล้วเดินคุยมาตามทางกับลูกน้องคู่ใจ มาหยุดหน้าห้องเก็บศพ เคาะประตู แล้วเปิดเข้าไป เห็นหลินหลานเซ่อยืนอยู่ในห้อง พร้อมกับหมอและจงซิน โดยสองหนุ่มเปลี่ยนชุดใหม่แล้ว
จงซินเหลียวมองมาถาม “มีอะไรหรือผู้กอง”
“มี ผมมาขอดูศพฤทัยนาค”
หลินหลานเซ่อโมโห “มันจะมากไปแล้วนะ คนตายไปแล้วคุณยังจะมาเอาเรื่องอะไรอีก”
แพทริคไม่เชื่อ “ก็ผมบอกคุณแล้วไง ถ้าผมไม่ได้เห็นด้วยตา ผมไม่มีวันเชื่อ”
“งั้นก็เชิญไปดูเอาเอง” หลานเซ่อบอก
“ผมดูแน่”
แพทริคเดินอาดๆ เข้าไปในห้องเก็บศพ ตรงห้องกระจกด้านใน มีจงซินกับหลินหลานเซ่อยืนมองอยู่อีกห้อง
แพทริคเปิดผ้าคลุมศพออก เห็นศพผู้หญิงถูกเผาดำเป็นตอตะโก ผู้กองเลือดเดือดมองศพเขม็ง
จงซินกับหลินหลานเซ่อมองจับสังเกตแพทริค ทั้งสองมองสบตากัน
แพทริคปิดผ้าลง หันมามองจ้องสองหนุ่ม แล้วหันเดินออกมาด้านนอก ตรงเข้ามาหาสองหนุ่ม
จงซินถาม “ว่าไงผู้กอง พอใจรึยัง”
“คุณเห็นศพแล้ว คุณคงหายสงสัยนะ” หลานเซ่อว่า
“ยัง ผมจะเชื่อได้ยังไงว่าศพนั่นเป็นศพของฤทัยนาค พวกคุณอาจจะเอาศพใครมาวางตบตาผมก็ได้” แพทริคบอก
“งั้นคุณต้องคุยกับหมอแล้วล่ะ เพราะตอนนี้หมอเค้ายืนยันมาแล้วว่าเป็นฤทัยนาค”
หลินหลานเซ่อเดินนำออกไป จงซินเดินตาม แพทริคหันมาถามหมอ
“จริงหรือหมอ ศพนี่คือเด็กที่ชื่อฤทัยนาค”
“จริงครับ จากที่ตรวจดีเอ็นเอของศพ สามารถยืนยันได้ว่าตรงกับดีเอ็นเอของเด็กที่ชื่อฤทัยนาค นี่ไงครับ ถ้าผู้กองไม่เชื่อ ก็ดูจากรายงานนี้ได้เลย”
หมอส่งเอกสารให้ แพทริครับมาเปิดดูแล้วส่งคืน
“ถ้าหมอยืนยันผมคงต้องเชื่อ”
ฝ่ายหลินหลานเซ่อเดินมากับจงซิน บอดี้การ์ดเดินตามมาด้านหลังอีก 4 คน แพทริคเลี้ยวตามมาจนทันกัน ตะโกนเรียกไว้
“เดี๋ยว หลินหลานเซ่อ”
หลินหลานเซ่อกับจงซินและบอดี้การ์ดหยุดหันมองมาทางเสียง
“คุณยังมีเรื่องอะไรกับคุณหลินอีกหรือ” จงซินถาม
“มี ผมแค่อยากถามคุณหลินว่าทำไมวันนั้นที่ผมไปหาคุณแล้วถามถึงฤทัยนาค คุณบอกไม่รู้จัก แต่มาวันนี้คุณกลับเจ้ากี้เจ้าการกับเรื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้”
“ผมต้องตอบคุณด้วยหรือ” มาเฟียหนุ่มย้อน
“ใช่ เพราะผมเป็นตำรวจกำลังสืบคดีความนี้อยู่”
“ไม่ทราบว่าคุณหลินเกี่ยวอะไรกับคดีนี้ด้วย”
“เกี่ยวสิ เพราะผมถือว่าคุณกำลังปกปิดข้อมูลของเด็กคนนั้น”
“แล้วฤทัยนาคเค้ามีความผิดข้อหาอะไร” หลานเซ่อย้อนถาม
“ถูกของคุณหลิน คุณยังสืบไม่ได้ว่าฤทัยนาคมีความผิดข้อหาอะไร ฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์มาซักถามหรือสงสัยอะไรในตัวคุณหลิน อาชาง ส่งผู้กองด้วย”
แพทริคฮึดฮัดใส่ “ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“ผู้กอง นี่มันโรงพยาบาลเอกชนนะ แล้วเผอิญผมเป็นเจ้าของด้วย ผมมีสิทธิ์ไม่ต้อนรับคุณ” หลานเซ่อเอาจริง
จงซินบอก “เชิญ”
สองคนหันกลับเดินออกไป บอดี้การ์ดตาม บอดี้การ์ดอีกสองคนยืนขวาง
“เชิญครับ ผู้กอง ลิฟต์อยู่ทางนู้น”
“อย่าให้ถึงทีชั้นบ้าง วันนึงชั้นจะจับแกสองคนเข้าคุก”
“แต่ตอนนี้เชิญผู้กองที่ลิฟต์เลยครับ”
บอดี้การ์ดผลักแพทริคไป ผู้กองพันธุ์หมาบ้าโวยลั่น
“ไม่ต้องมาผลักชั้น”
แพทริคกับลูกน้องหันเดินออกไป บอดี้การ์ดตาม
แพทริคเดินออกมาหน้าลิฟต์โรงพยาบาลกับลูกน้อง
“แล้วเราจะเอาไงผู้กอง จะสืบหาฤทัยนาคต่อไปมั้ย”
“นายไม่เห็นที่หมอยืนยันหรือ”
“งั้นเราก็ปิดคดีนี้ได้ใช่มั้ยครับ”
“ยัง ปิดเฉพาะคดีฤทัยนาค แต่ไอ้คาลอส ชั้นต้องหาทางจับมันให้ได้”
ลิฟต์เปิดออก แพทริคกับลูกน้องเดินเข้าไป บอดี้การ์ดยืนส่งจนลิฟต์ปิดเลื่อนตัวลงไป
เวลาต่อมาหลินหลานเซ่อกับจงซินเดินเลี้ยวมาตามทาง สองหนุ่มคุยกัน
“ตอนนี้ฤทัยนาคก็หายไปจากโลกนี้แล้ว” จงซินบอก
ทั้งสองเดินเลี้ยวหายไป
ภายในห้องพักในเซฟเฮ้าส์ ยุทพงษ์ และนันทกา รออยู่ในนั้น นันทกาถามจงซินเมื่อฟังจบ
“คุณหลินวางแผนให้นาคตายงั้นหรือคะ”
“ใช่ ที่เราต้องทำแบบนี้ก็เพราะเราไม่ต้องการให้ แพทริค บัตตัน มายุ่งกับฤทัยนาคอีก”
“แล้วไอ้ตำรวจนั่นมันเชื่อเหรอ” ยุทธพงษ์กังวล
“เชื่อหรือไม่เชื่อตอนนี้แพทริคก็ไปจากที่นี่แล้ว”
“แล้วตอนนี้นาคเป็นยังไงบ้างคะ ชั้นไปเยี่ยมเธอได้มั้ย”
“อีกสองวันให้เธออาการดีขึ้นแล้วผมจะพาเธอมาหาพวกคุณที่นี่” จงซินหันมาบอกยุทธพงษ์ “คุณหลินอยากให้คุณบอกความจริงทั้งหมดกับฤทัยนาค”
นันทกางง “ความจริงอะไรหรือคะ”
จงซินไม่ตอบนันทกาหันมามองยุทธพงษ์ ยุทธพงษ์ถอนใจ
“เดี๋ยวพ่อจะเล่าให้ลูกฟังทีหลัง”
“เอาละ ผมขอตัว”
จงซินเดินออกไปแล้ว นันทกาหันมาถามพ่อทันที
“ความจริงอะไรหรือคะพ่อ”
“นาคไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของลูก”
นันทกาอึ้ง ยุทธพงษ์พยักหน้าให้
อีกวันหนึ่งฤทัยนาคหลับสนิทอยู่บนเตียง หลินหลานเซ่อเดินมาหยุดมองนิ่งๆ นึกถึงคำพูดพรั่งพรูของฤทัยนาคหลายวันก่อนที่บอกท่ามกลางซากตึก และมวลมหาประชาชน
“ชั้นเป็นความผิดพลาดที่นายได้มา แล้วนายก็อยากจะฆ่าชั้นตั้งแต่วันแรกที่เจอ ...นายอาจจะรำคาญชั้น อยากไล่ให้ชั้นไปอยู่ไกลๆ เพราะนายมีผู้หญิงให้เลือกมากมายที่สวยกว่า น่ารักกว่า แสนดีกว่า แต่...แต่...ชั้น...ชั้นขอไม่เจียมตัวที่จะรักนาย...ได้มั้ย”
หลินหลานเซ่อมอง แล้วยืนมือไปแตะแก้มนวล ยิ้มพราย
“ใครบอกว่าเธอคือความผิดพลาดที่ชั้นได้มา...สิ่งเดียวที่ผิดพลาดก็คือ ชั้นไม่ได้เลือกเธอตั้งแต่แรกต่างหาก ถ้าเธอคือคนที่ชั้นเลือกตั้งแต่แรกเรื่องมันก็คงไม่ยุ่งขนาดนี้ จริงมั้ย”
หลินหลานเซ่อก้มลงเหมือนจะหอมแก้ม
จังหวะนี้ แดนนี่เข้ามาหยุดด้านหลัง หลินหลานเซ่อชะงักหันมองไปทางประตู เห็นอาตี๋ลูกมาเฟียคู่ปรับยืนยิ้มเผล่อยู่
“นายอีกแล้วหรือ”
“ขอโทษ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะมาขัดหวะ มันบังเอิญน่ะถ้านายอยากจะทำอะไรก็เชิญ ชั้นจะปิดตา”
แดนนี่แกล้งปิดตากวนๆ หลานเซ่อมองเขม่น ไม่พอใจ สองคนเปิดสงครามน้ำลายอีกครั้ง
“นายมาทำอะไรที่นี่”
“อ้าว นั่นเพื่อนชั้นนะ เพื่อนชั้นไม่สบาย นายจะห้ามไม่ให้ชั้นมาเยี่ยมเพื่อนงั้นหรือ”
“ใช่ ถ้าเป็นไปได้ ชั้นไม่อยากให้นายมายุ่งเกี่ยวกับฤทัยนาค”
ฤทัยนาคลืมตาตื่นมองเห็นทั้งสองทุ่มเถียงกันอยู่ก็มองสองคนงงๆ
“นี่ หลินหลานเซ่อ ถึงแม้ว่าตอนนี้นายจะเป็นเจ้าของหัวใจเธอ แต่นายก็ควรจะถามเธอก่อนนะว่าอยากให้ชั้นไปจากชีวิตเธอรึเปล่า ว่าไงฤทัยนาค”
“มีเรื่องอะไรกันหรือ”
“หลินหลานเซ่อ เค้าไม่ต้องการให้ชั้นมายุ่งกับเธอ”
“ใช่ บอกเค้าไปว่าเลิกยุ่งกับเธอได้แล้ว”
“เอ่อ แต่ว่า...”
หลินหลานเซ่อฉุน “ฤทัยนาค ชั้นเป็นอะไรกับเธอ”
“เอ่อ คือ...”
แดนนี่บอก “บอกเค้าไปว่าเธอจะไม่มีวันเลิกคบกับชั้น”
“นายอย่ามาบังคับขู่เข็ญเธอนะ”
“แล้วนายล่ะ นายไม่บังคับเธอหรือ”
“เอาละ เอาละ ชั้นว่านายสองคนหยุดทะเลาะกันเถอะนะชั้นปวดหัวแล้วก็เพลียมากด้วย ขอนอนพักก่อนนะ”
ฤทัยนาคเซ็งถึงผ้าห่มคลุมโปงทันที แดนนี่ไม่ยอม
“ฤทัยนาค เธอต้องบอกหลินหลานเซ่อนะว่า...”
ฤทัยนาคพูดออกมาจากโปง “ชั้นว่านายออกไปดีกว่านะ ไม่งั้นชั้นจะให้คนมาโยนนายออกไป”
“ฤทัยนาค นี่เธอไม่ปกป้องชั้นเลยหรือ”
“นายกลับไปก่อนเถอะนะแดนนี่” ฤทัยนาคขอร้อง
อ่านต่อหน้า 2
คิวบิก ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
แดนนี่ฉุน และน้อยใจ เลยพาลพาโลใส่
“เธอกล้าสารภาพรักหลินหลานเซ่อต่อหน้าคนได้ แต่ไม่กล้าบอกเค้าว่าชั้นเป็นเพื่อนใช่มั้ย”
“ไม่ใช่นะแดน”
แดนนี่โมโห “เธอจำไว้เลยนะฤทัยนาค” เดินออกไปอย่างโกรธขึ้ง
“เฮ้ย แดน เดี๋ยวสิ แดนนี่”
ฤทัยนาคขยับจะตามหลินหลานเซ่อแตะไหล่ไว้ แดนนี่เดินออก
“ดีแล้ว ปล่อยมันไป แล้วอย่าไปยุ่งกับมันอีก”
“ไม่ได้นะ หลานเซ่อ แดนนี่เค้าเป็นเพื่อนชั้น”
“เธอลืมไปแล้วหรือว่าตอนนี้เธอเป็นใคร”
ฤทัยนาคมองงงๆ “ชั้นหรือ”
“อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้ว่าเธอสารภาพรักชั้น”
ฤทัยนาคอายม้วน หลินหลานเซ่อมองจ้อง
“เอ่อ...ชั้น...ตอนนั้นชั้นมึนแล้วก็งงมากด้วย เลยพูดอะไรน่าอายออกไป ขอโทษด้วยนะ”
หลินหลานเซ่อโมโห “นี่เธอจะบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจพูดงั้นหรือ”
“ไม่ใช่นะ ชั้นตั้งใจ ชั้นอยากบอกนายจริง ๆ”
“งั้นบอกชั้นอีกครั้ง”
“บอกอะไร”
“ก็บอกว่าเธอรักชั้น”
สองคนมองสบตากัน ฤทัยนาคเขินๆ
“นายเอียงหูมาใกล้ๆ สิ”
หลินหลานเซ่อเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ฤทัยนาคกระซิบเขินๆ
“ชั้นรักนาย หลินหลานเซ่อ”
“พูดดังๆ ชั้นไม่ได้ยิน”
“ชั้นรักนาย”
“ดังกว่านี้อีก”
“ชั้นรักนาย หลินหลานเซ่อ พอใจรึยัง”
หลินหลานเซ่อมองตาเชื่อม ฤทัยนาคเขิน หลินหลานเซ่อโน้มหน้าเข้ามาหอมแก้มฟอดหนึ่ง ฤทัยนาคยิ่งเขินอาย
“เธอไม่อยากหอมแก้มชั้นบ้างเหรอ”
ฤทัยนาคมองจ้อง แล้วโน้มหน้าเข้ามาหอมแก้มฟอดหนึ่ง หลินหลานเซ่อมองตาหวานซึ้ง ฤทัยนาคอายสุดขีดดึงผ้าห่มคลุมหน้า
มาเฟียขี้เก๊กยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม
ในอีกวันถัดมา มีนาเดินกุมมือมากับเพ่ยอิงตามทางในโรงพยาบาล มีบอดี้การ์ดถือดอกไม้เดินตาม
ไม่นานนักมีนาเดินเข้ามานั่งข้างเตียงฤทัยนาค
“ชั้นตกใจแทบช็อคเลยนะ ตอนที่เห็นเธอยิงคุณหลินน่ะ”
เพ่ยอิงชมแต่ไม่วายแดกดัน “เธอนี่นอกจากจะฉลาดสมกับเป็นคิวบิกแล้ว ยังเล่นละครเก่งอีกนะ”
“มันจำเป็นน่ะค่ะ คุณเพ่ยอิง”
“เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย ว่าเธอวางแผนไว้ยังไง ทุกอย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้”
“ชั้นรู้ว่าหลางหย่งเหวินมันต้องการตัวชั้น ชั้นก็เลยซ้อนแผนมันด้วยการจ้างมือปืนที่ชื่อฉินฝู”
“ไอ้ฉินฝูที่เคยตามฆ่าหลินหลานเซ่อน่ะหรือ”
“ใช่ค่ะ”
ฤทัยนาคยิ้ม เล่าให้สองคนฟัง
เรื่องมันเริ่มขึ้นที่เซฟเฮ้าส์ แหล่งกบดานของหย่งเหวินนั่นเอง ในขณะที่หย่งเหวินนั่งกดดูอินเตอร์เนตจากคอมพ์ ลูกน้องยืนรายรอบ โทรศัพท์ลูกน้องดัง
“ฮัลโหล” ลูกน้องรับ
ฉินฝูพูดโทรศัพท์จากที่แห่งใดแห่งหนึ่ง “อาฮุย”
“นั่นใคร”
“ชั้นเอง ฉินฝู”
“แกโทร.มามีอะไร”
“ขอชั้นพูดสายกับคุณหลางหย่งเหวินหน่อย”
ลูกน้องมองมาทางหย่งเหวิน “ชั้นไม่ได้อยู่กับคุณหลางหย่งเหวิน”
หย่งเหวินหูผึ่ง ชะงักมอง
ฉินฝูรู้ทัน “แกไม่ต้องโกหกชั้นหรอก บอกเค้าว่าชั้นมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”
หย่งเหวินถาม “ใคร”
อาฮุย ลูกน้องบอก “ไอ้ฉินฝูมันบอก มันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
หย่งเหวินครุ่นคิด
“ไอ้ฉินฝูงั้นเหรอ”
“ใช่ครับ”
หย่งเหวินกระชากโทรศัพท์มาพูด
“แกยังกล้าโทร.หาชั้นอีกหรือ”
“คุณหย่งเหวิน ผมว่าเราลืมเรื่องเก่า แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่า” ฉินฝูเปิดฉากเจรจา
“เรื่องอะไร”
“เรื่องคิวบิก”
หย่งเหวินอึ้งไป
เล่าถึงตอนนี้ ฤทัยนาคพูดแทรกอธิบาย
“ชั้นให้ฉินฝูโทร.หาหลางหย่งเหวินเพื่อขายข่าวของชั้นแล้วหลางหย่งเหวินมันก็เชื่อซะด้วย”
“แล้วไงต่อ” เพ่ยอิงสนใจใคร่รู้
ไม่นานต่อมา ฉินฝูเดินมาในห้องหนึ่งของเซฟเฮ้าส์พร้อมกับลูกน้องสองคน หย่งเหวินยืนรอกับลูกน้องเป็นโขลง
ลูกน้องบอก “ไม่มีอาวุธครับ ผมค้นแล้ว”
หย่งเหวินเข้าเรื่อง “ไหนว่ามาซิ คิวบิกอยู่ที่ไหน”
“ถ้าผมบอกคุณเร็ว คุณก็ฆ่าผมตรงนี้น่ะสิ”
“แต่ถ้าแกไม่บอก ชั้นจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้”
หย่งเหวินยกปืนเล็งใส่
“แต่ถ้าคุณฆ่าผม คุณก็ไม่รู้ว่าคิวบิกมีแผนอะไร” ฉินฝูโยกโย้
“ถ้างั้นก็บอกมาซะที” หย่งเหวินรำคาญ
“ผมต้องการเงินล้านนึง”
หย่งเหวินโมโห “แกพูดบ้าไปแล้วหรือ”
“เงินล้านนึง แลกกับชีวิตคุณ แถมได้ตัวคิวบิกและที่สำคัญคุณได้ฆ่าหลินหลานเซ่อ ผมว่าน้อยไปซะด้วยซ้ำ”
หย่งเหวินตาวาว “ได้ ชั้นจะให้แกล้านนึงบอกมาให้หมดว่านังเด็กนั่นมีแผนอะไร”
ฤทันนาคอธิบายให้คู่รักคนละขั้วฟังต่อ
“แล้วหลังจากนั้นชั้นก็โทร.หาหลินหลานเซ่อ บอกให้เค้ารู้ว่าเราจะต้องเล่นละครร่วมกัน”
อีกวันหนึ่ง หลินหลานเซ่ออยู่ในห้องทำงานที่ฉายหงส์ พูดโทรศัพท์หน้าเครียด
“อะไรนะ เธอจะมายิงชั้นในวันแถลงข่าวงั้นเหรอ”
เวลานั้นฤทัยนาคอยู่ที่เมืองไทย พูดโทรศัพท์กับหลานเซ่อ
“ใช่ หลางหย่งเหวินมันต้องใช้ให้ชั้นไปยิงนายในวันแถลงข่าวแน่”
“เธอรู้ได้ยังไงว่าหลางหย่งเหวินจะทำแบบนั้น”
“ชั้นอ่านใจมัน เพราะมันเป็นคนโลภทะเยอทะยาน คนอย่างมันไม่มีทางปล่อยนายไว้แน่”
“แล้วเธอจะให้ชั้นป้องกันยังไง”
“ชั้นจะยิงนายด้วยปืนถ่ายหนัง ส่วนนายให้จงซินไปหาเจ้าหน้าที่สเปเชี่ยลเอฟเฟคต์ที่ถ่ายหนังมาช่วยเรื่องการถูกยิง”
คู่รักสุดขั้วตื่นเต้น นึกถึงวันงานแถลงข่าว ที่ฤทัยนาคยิง จนร่างหลินหลานเซ่อหงายกระเด็นต่อหน้าต่อตา
ฤทัยนาคเล่าตอนคุยโทรศัพท์กับหลานเซ่อต่อ
“หลังจากนั้น แพทริคบัตตันจะปรากฏตัวขึ้นเพราะฉินฝูจะโทร. ไปแจ้งเรื่องชั้น เมื่อมาถึงตรงนี้เหตุการณ์จะชุลมุนขึ้น เราจะตัดไฟทั้งตึกเพื่อต้อนหลางหย่งเหวินให้ไปจนมุมที่ชั้น 18”
เหตุการณ์ตอนหย่งเหวินเปิดประตูหนีไฟชั้น18 วิ่งไปตามทางมืด เปิดประตูเข้าห้องมาเห็นเงาหลินหลานเซ่อในกระจก ผุดขึ้นมา
“และนายก็รอจัดการกับหลางหย่งเหวินที่นั่น”
“แล้วเธอมั่นใจได้ยังไงว่าหลางหย่งเหวินมันจะเดินไปตามแผนของเธอ”
“มันต้องเดินไปตามแผนนี้แน่ เพราะมันต้องการโค่นอำนาจนายเพื่อขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของฉายหงส์กรุ๊ป ฉะนั้นมันจะทำทุกวิธีให้นายยอมมอบอำนาจให้มัน และมันรู้ว่าชั้นคือจุดอ่อนของนาย”
หลินหลานเซ่อพยักหน้า คล้อยตาม
มีนาทึ่ง แต่ยังคาใจเรื่องหนึ่ง จนต้องถาม
“งั้นเธอก็รู้ตั้งนานแล้วสิว่าคุณหลินเค้ารักเธอ”
ฤทัยนาคอายม้วน เขินฝุดๆ “เรื่องนั้นชั้นก็ไม่รู้หรอก ชั้นแค่วางแผนให้มันจับตัวชั้นกับพี่นันไป แล้วทุกอย่างก็เดินไปตามแผนที่ชั้นคิดไว้”
เพ่ยอิงก็คาใจ “แล้วที่ตึกระเบิดละ นั่นก็เป็นแผนของเธอด้วยงั้นหรือ”
“ไม่ใช่ค่ะ นั่นมันนอกเหนือจากแผน ชั้นไม่คิดว่าหลางหย่งเหวินมันจะใจกล้า ถึงกับยอมติดระเบิดพลีชีพไว้กับตัวเอง”
มีนยิ้มแป้น ทึ่งสุดๆ “เธอนี่เก่งจริงๆ ถ้าชั้นฉลาดได้ซักครึ่งนึงของเธอก็ดีสิ”
เพ่ยอิงไม่เห็นด้วย “ไม่ดีหรอกมีนา”
“ทำไมคะ”
เพ่ยอิงโวยขึ้น “อ้าว ถ้าคุณฉลาด คุณก็อาจจะไม่ชอบผมน่ะสิ”
มีนางอน ค้อนตาคว่ำ “นี่จะบอกว่าชั้นโง่ใช่มั้ย ที่มาชอบคุณน่ะ”
เพ่ยอิงปฏิเสธลั่น “ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น”
“ไป ไป คุณออกไปจากห้องนี้เลย ชั้นจะคุยกับนาคสองคน”
เพ่ยอิงอ้อนน่าถีบ “ทำไมล่ะ ให้ผมอยู่ฟังด้วยสิ”
มีนาเสียงแข็ง “ไม่ได้ ชั้นจะคุยเรื่องส่วนตัว อีกสองชั่วโมงคุณค่อยมารับชั้นกลับบ้าน”
เพ่ยอิงยอม “ก็ได้จ้ะ” มาเฟียเลือดร้อนหันมาทางฤทัยนาค “ฤทัยนาค ห้ามเธอพูดหรือสอนอะไรให้มีนาหัวแข็งกับชั้นนะ”
มีนาเซ็ง “ออกไปได้แล้ว”
เพ่ยอิงยิ้มเรี่ยราด หงอสุดขีด “จ้ะจ้ะ”
อ่านต่อหน้า 3
คิวบิก ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
เพ่ยอิงออกไป มีนามองตามยิ้มขำ พอหันกลับมาเห็นฤทัยนาคยิ้ม
“เธอยิ้มอะไร”
“ชั้นก็ดีใจน่ะสิที่เห็นเธอมีความสุข ท่าทางคุณเพ่ยอิงเค้าจะรักเธอมากนะ”
“ก็คิดว่ามากนะ เพราะเวลาชั้นบอกอะไรเค้า เค้าก็ดูเชื่อฟังดีแล้วที่สำคัญเค้ายกหนี้ให้พ่อชั้นด้วย แล้วเค้าก็ขอหมั้นชั้นไว้แล้ว”
มีนาชูให้ดูแหวนหมั้น
“จริงเหรอ”
“ใช่ ชั้นน่ะอยากเล่าให้เธอฟังมากเลย แต่ติดต่อเธอไม่ได้ ไม่มีใครบอกชั้นด้วยซ้ำว่าเธอกลับไปเมืองไทย ไปถามหาเธอที่ไซต์งาน ทุกคนก็บอกไม่รู้จักเธอ”
“อ๋อ หลานเซ่อเค้าให้ปิดข่าวชั้นน่ะ”
“แต่ชั้นเป็นเพื่อนสนิทเธอนะ ชั้นเจอคุณหลินตอนงานศพคุณเหม่ยจิงเค้าก็ไม่บอกซักคำ”
“เรื่องของชั้นมันยุ่งวุ่นวายน่ะ ตอนชั้นกลับไปเมืองไทยก็ไม่ได้บอกใครหรอก ขนาดพ่อกับพี่นันชั้นยังไม่ได้ลาเลย”
“แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันก็จบลงเรียบร้อยแล้วนะ เธอกับคุณหลินก็เข้าใจกันดีแล้วใช่มั้ย”
ฤทัยนาคหน้าหมองลงไปนิด “อืมม์ ก็คิดว่าเข้าใจนะ”
มีนานิ่วหน้า ทะแม่งกับน้ำเสียงแปร่งหู “หมายความว่าไงคิดว่าเข้าใจ”
“ก็ชั้นไม่เคยมีแฟน ชั้นก็ทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงแต่งตัวยังไง พูดจายังไง”
มีนาหัวเราะคิก “เธอนี่ตลกจัง ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย เธอก็เป็นเธอแบบนี้แหละ ชั้นเชื่อว่าที่คุณหลินเค้ารักเธอก็เพราะเธอไม่เหมือนใคร แค่เธอเป็นเธอ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น”
“จริงเหรอ”
“ถ้าไม่เชื่อ เธอก็ลองถามเค้าดูสิ ว่าอยากให้เธอเหมือนคนอื่นรึเปล่า”
อัจฉริยะผู้ซื่อบื้อเรื่องเลิฟ ถอนใจเฮือก โล่งอก “เฮ้อ...ได้คุยกับเธอแล้วค่อยสบายใจหน่อย รู้มั้ย ชั้นเครียดมากเลยนะ”
“เครียดเรื่องเป็นแฟนคุณหลินน่ะหรือ”
“ก็ใช่น่ะสิ พอชั้นเจอหน้าเค้า ชั้นก็ทำหน้าไม่ถูก ใจมันชอบเต้นแรง หน้าก็ร้อนวูบ อยากจะแอบอยู่ใต้ผ้าห่มตลอดเวลาเลย”
มีนาหัวเราะชอบใจ “เดี๋ยวเธอก็ชิน แรกๆมันก็เป็นอย่างนี้แหละ แต่มันแฮปปี้ใช่มั้ยเวลาเจอเค้า”
“อืมม์ แฮปปี้มาก ไม่คิดเลยว่าความรักมันจะดีอย่างนี้”
“ใช่ ความรักมันเป็นอะไรที่วิเศษ”
ฤทัยนาคพยักหน้าเห็นด้วย
สองสาววัยใสสายเลือดไทย ผู้กลายเป็นหวานใจมาเฟียไต้หวันหัวเราะให้กันอย่างสุขสม
วันหนึ่งฤทัยนาคเดินมาตามทาง มีบอดี้การ์ดเดินตามประกบ ที่แท้วันนี้ เธอมาเยี่ยมยุทธพงษ์ที่พักฟื้นรักษาตัวอยู่ในห้องคนไข้โรงพยาบาลเดียวกัน
ยุทธพงษ์นั่งอยู่บนเตียง นันทกาส่งน้ำให้ดื่ม
“ขอบใจลูก”
ประตูห้องเปิดออก เห็นฤทัยนาคเดินเข้ามา สองคนหันไปมองอย่างดีใจ
“พี่นัน”
ฤทัยนาคโผเข้ากอดพี่สาว
“เธอเป็นยังไงบ้าง พี่อยากไปเยี่ยมเธอ แต่คุณจงซินเค้าไม่อนุญาต”
“ชั้นปลอดภัยดี ไม่มีตรงไหนบุบสลาย” ฤทัยนาคมองยุทธพงษ์ “แล้วพ่อล่ะ พ่อเป็นไงบ้าง ตอนแรกที่พี่นันบอกว่าพ่อถูกยิง หนูนึกว่าพ่อไม่รอดแล้วนะ”
ยุทธพงษ์เย้า “คนอย่างพ่อไม่ตายง่ายๆ หรอก”
“มิน่า หนูก็นึกอยู่ว่าหนูหนังเหนียวเหมือนใคร ที่แท้ก็เหมือนพ่อนี่เอง”
ยุทธพงษ์สะท้อนใจ มองฤทัยนาคที มองนันทกาที นันทกามองสบตาพ่ออย่างรู้กัน ฤทัยนาคมองท่าทีพ่อกับพี่สาวอย่างแปลกใจ
“มีอะไรเหรอ พ่อกับพี่นันทำหน้าแปลกๆ”
“พ่อเค้ามีอะไรจะบอกเธอ”
“อะไรเหรอพ่อ”
ยุทธพงษ์มองฤทัยนาค แล้วมองนันทกา
“พ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับลูก”
ฤทัยนาคสยอง มองพ่ออย่างระแวง “หวังว่าพ่อคงไม่ได้ไปติดหนี้ใครอีกนะ”
“เปล่า พ่อไม่ทำอย่างงั้นอีกแล้ว”
“แล้วเรื่องสำคัญที่พ่อว่าเรื่องอะไร”
“สัญญาได้มั้ยว่าถ้าลูกฟังเรื่องทั้งหมดแล้วลูกจะไม่โกรธพ่อ”
ฤทัยนาคมองหน้ายุทธพงษ์ที แล้วมองนันทกาที นันทกาพยักหน้าให้น้อง
“หนูว่าคงไม่มีเรื่องอะไรที่หนูจะโกรธพ่อ ได้มากเท่ากับเรื่องที่พ่อส่งหนูมาขัดดอกแล้วล่ะ บอกมาเถอะว่าเรื่องอะไร”
ยุทธพงษ์มองหน้านันทกา นันทกาพยักหน้าบอกให้พูด
“ลูกไม่ใช่ลูกของพ่อ”
ฤทัยนาคอึ้ง แต่ยังคิดว่าพ่อแค่พูดอำ เหลียวขวับไปมองหน้านันทกา
“นี่พ่อเค้าจะอำอะไรชั้นอีกเนี่ยพี่นัน”
“เรื่องจริง เธอไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่”
ฤทัยนาคอึ้งมองนันทกาแล้วมองพ่อ
“ไม่จริงใช่มั้ย พ่อกับพี่นันล้อชั้นเล่น”
“ลูกเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อ ก่อนที่พ่อกับแม่ของลูกจะตาย เค้าฝากลูกไว้กับพ่อ”
ฤทัยนาคอึ้งตะลึง ช็อกๆ
“แล้วพ่อก็สัญญากับเค้าว่าพ่อจะรักและดูแลลูกให้เหมือนกับลูกของตัวเอง”
ฤทัยนาคมองยังอึ้ง “แล้วทำไมพ่อเพิ่งมาบอกหนูตอนนี้”
“ก็เพราะว่าพ่อของเธอคืออดีตเงาของผู้นำฉายหงส์กรุ๊ปคนก่อน” นันทกาเป็นคนบอก
“อะไรนะ นี่พ่อกับพี่นันพูดเรื่องอะไรกัน”
ยุทธพงษ์ย้ำ “ลูกเป็นลูกสาวของเงาผู้นำฉายหงส์กรุ๊ปคนก่อนจริงๆ”
ฤทัยนาคยังอึ้ง งุนงง
“และนี่คือเหตุผลที่พ่อส่งลูกมาให้คุณหลินหลานเซ่อแทนนันทกา”
ฤทัยนาคคาดไม่ถึง ยังงงไม่หาย มองนันทกาที มองยุทธพงษ์ที
“นี่ นี่มันอะไรกัน หนูงงไปหมดแล้วนะ”
“พ่อขอโทษ ที่พ่อปิดบังเรื่องทั้งหมดกับลูกมาโดยตลอด”
“คุณหลินหลานเซ่อเค้าก็รู้เรื่องนี้แล้วนะ” นันทกาบอก
ฤทัยนาคอึ้งน้ำตาไหล กับความจริงที่ได้รับรู้
“แล้ว...แล้วชั้นต้องทำยังไงต่อไป พ่อจะไม่นับชั้นเป็นลูกแล้วใช่มั้ย พี่นันก็จะไม่นับชั้นเป็นน้อง”
“ใครบอก แกก็ยังเป็นไอ้นาค เป็นลูกสาวคนเก่งของพ่อเหมือนเดิม” ยุทธพงษ์ยิ้มให้
“ใช่ เธอยังคงเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่เหมือนเดิม”
ฤทัยนาคมองพ่อมองพี่สาว
“จริงนะ พ่อกับพี่นันยังรักชั้นเหมือนเดิมนะ”
“จริงสิ พ่อรักลูกเสมอ”
ยุทธพงษ์ดึงฤทัยนาคมากอดอย่างแสนรัก
“ใช่ เราสองคนยังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง”
พลางนันทกาเข้ามากอด แล้วละตัวออกมาพูดแซว
“มีแต่เธอเท่านั้นล่ะที่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม”
ฤทัยนาค งงอีก “ชั้นไม่เหมือนเดิมยังไง”
“อ้าว ก็ตอนนี้เธอมีคนที่เธอรักมากกว่าพ่อมากกว่าพี่แล้วน่ะสิ”
“พี่นันหมายถึงใคร”
“ก็ใครล่ะ ที่เธอยอมเสี่ยงชีวิตไปช่วยเค้าน่ะ”
“หลินหลานเซ่อน่ะเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ อย่าบอกนะว่าเธอไม่ได้รักเค้า”
ฤทัยนาคอายม้วน “พี่นันน่ะ ชั้นอายนะ”
“คุณหลินบอกพ่อว่าเค้าจะขอลูกแต่งงาน”
ฤทัยนาคตะลึง “แต่งงาน”
ฟากหลินหลานเซ่อเดินคุยมามากับจงซิน ตามทางเดินในโรงพยาบาล มีบอดี้การ์ดเดินประกบ อารักขา ทั้งหน้าและหลัง
“นายว่าฤทัยนาคจะตอบตกลงมั้ย”
“ก็พูดยากนะครับ เพราะเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นซะด้วย” จงซินบอก
“นายพูดแบบนี้ชั้นชักใจไม่ดีนะ”
ทั้งสองคนเดินหลุดหัวมุมไป
ฝ่ายยุทธพงษ์บอกย้ำ “ใช่ คุณหลินเค้าต้องการแต่งงานกับลูก”
“ไม่นะพ่อ หนูไม่แต่ง” ฤทัยนาคบอกเสียงเข้ม
นันทกาปลอบ “แต่เธอก็รักเค้าไม่ใช่หรือ ถึงยังไงวันนึงเธอก็ต้องแต่งกับเค้าอยู่ดี”
“แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ชั้นยังไม่พร้อมหรอก”
“แต่พ่อบอกยกแกให้เค้าไปแล้วนะ”
“งั้นพ่อก็แต่งกับเค้าเอง เพราะหนูไม่แต่ง”
ฤทัยนาคหุนหันเดินออกไป ยุทธพงษ์เรียกก็ไม่หันกลับมา
“เฮ้ย เดี๋ยวสินาค”
“หนูบอกพ่อแล้วไงว่า นาคไม่มีทางยอมหรอก” นันทหาบ่น
“งั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของหลินหลานเซ่อแล้วละ”
ยุทธพงษ์ว่า สองพ่อลูกหน้าเครียดพอกัน
อ่านต่อหน้า 4
คิวบิก ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
ฤทัยนาคเดินหน้าบึ้งเลี้ยวมาตามทาง เจอหลินหลานเซ่อกับจงซินที่เดินตรงเข้ามา ฤทัยนาคชะงัก หลินหลานเซ่อยิ้มให้ แต่ฤทัยนาคกลับหันตัวเดินหนีเลี้ยวไปอีกทาง
หลินหลานเซ่อหันมามองหน้ากับจงซิน
“ผมว่างานนี้คุณต้องจัดการเองแล้วล่ะครับ”
ฟังที่เลขาบอก มาเฟียหนุ่มถอนใจเฮือกใหญ่ รู้ฤทธิ์หวานใจคิวบิกดี
ฤทัยนาคเดินเลี้ยวออกมา หลินหลานเซ่อเดินมาดักหน้า
“จะไปไหน”
ฤทัยนาคไม่ตอบเดินหนี หลินหลานเซ่อขวางไว้ ฤทัยนาคจะไปอีกทาง ถูกหลานเซ่อขวางอีก
“ถอยไป”
“เธอโกรธอะไรชั้น”
“เปล่า”
“ไม่จริง พ่อเธอบอกแล้วใช่มั้ยว่าชั้นจะแต่งงานกับเธอ”
“แล้วนายรู้ได้ไงว่าชั้นจะแต่งกับนาย”
“รู้สิเพราะว่าเธอรักชั้น เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับที่เราจะแต่งงานกัน”
“ยัง มันยังไม่พอ”
“เธอยังต้องการอะไรอีก”
“นายก็คิดสิ ว่ามีอะไรที่นายยังไม่ให้ชั้น”
“ชั้นคิดไม่ออกหรอก บอกมาเถอะ เธออยากได้อะไร ชั้นจะให้จงซินจัดหามาให้เธอ”
“แต่ของสิ่งนี้จงซินไม่สามารถหามาได้”
“เธอก็รู้ ไม่มีอะไรที่ชั้นอยากได้แล้วไม่ได้ บอกมาเถอะ ชั้นจะเอามาให้เธอเดี๋ยวนี้”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน”
“ก็แล้วมันคืออะไรล่ะ บอกชั้นซะที”
ฤทัยนาคมองจ้อง หลินหลานเซ่อมองจ้องรอคำตอบ
“ก็...นายจะขอชั้นแต่งงานแต่นายยังไม่เคยบอกรักชั้นเลย”
พูดเท่านั้นฤทัยนาคหันตัวจะไปหลินหบานเซ่อคว้ามือ
“เดี๋ยวสิ ฤทัยนาค นี่หรือคือสิ่งที่เธอต้องการ”
“ใช่” ฤทัยนาคบอก
มาเฟียหนุ่มเครียด
“ที่ชั้นทำมาทั้งหมดเธอยังไม่รู้อีกหรือว่าชั้นคิดยังไงกับเธอ”
“รู้ แต่ชั้นอยากได้ยินชัดๆ จากปากของนาย”
“ชั้นว่าเธอ...”
“ถ้าแค่นี้พูดไม่ได้ก็อย่ามาแต่งกับชั้น”
ฤทันนาคหันเดินหนี
“เดี๋ยวสิฤทัยนาค”
ฤทัยนาคยังคงเดินต่อไป หลานเซ่อพูดส่งๆ
“เอาล่ะ ชั้นรักเธอ พอใจรึยัง”
ฤทัยนาคหยุดหันมามอง “คนขอความรักกัน เค้าพูดกันแค่นี้หรือ”
“แล้วจะให้ชั้นทำยังไง ก็เธอบอกว่าอยากได้ยินชั้นพูด ชั้นก็พูดแล้วไง”
“แต่มันยังไม่ซึ้ง”
“แล้วจะให้ชั้นทำไง มันถึงจะซึ้ง”
“คุกเข่าแบบที่เค้าทำกันในหนังไง”
“ให้ชั้นเนี่ยนะคุกเข่า”
“ใช่ ก็นายเป็นพระเอกนายก็ต้องคุกเข่า แล้วก็บอกว่าผมรักคุณ แต่งงานกับผมนะ”
หลินหลานเซ่อมองนิ่งๆ ฤทัยนาคมองจ้อง
“ชั้นทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“ถ้านายทำไม่ได้ เราก็จบกัน”
ฤทัยนาคหันกลับเดินจากไป หลินหลานเซ่อยืนมองตาม
ฤทัยนาคเดินไป ห่างหลินหลานเซ่อ ที่มองตามไปเรื่อยๆ ฤทัยนาคใจหาย ผิดหวัง และใจเสีย หลินหลานเซ่อขยับหันหลังให้ ทั้งสองหันเดินจากกัน
“เดี๋ยว ฤทัยนาค”
ฤทัยนาคชะงักหันมามอง หลินหลานเซ่อหันมามองจ้อง เดินเข้ามาหาหน้าตาบึ้งตึง
ฤทัยนาคใจไม่ดี หลินหลานเซ่อเดินมาหยุดตรงหน้า
ทันใดนั้นเอง หลินหลานเซ่อย่อตัวลงช้าๆ คุกเข่าต่อหน้าฤทัยนาค
“ชั้นรักเธอ แต่งงานกับชั้นนะ”
ฤทัยนาคมองปลื้ม ยิ้มแก้มแทบแตก หลินหลานเซ่อยิ้มให้
“ก็แค่เนี้ย ทำเป็นพูดไม่ออก”
ฤทัยนาคโผเข้ากอดหลินหลานเซ่อ ราวกับโลกทั้งใบหมุนรอบตัวทั้งสองคน หลานเซ่อลุกขึ้นดึงฤทัยนาคเข้ามากอดอีกที
กองเชียร์ อันมี ยุทธพงษ์ นันทกา จงซิน เพ่ยอิง มีนา ตลอดจนบอดี้การ์ด ปรบมือกราวส่งเสียงวี้ดวี้ว
สองคนพากันมาไหว้ขอพรพระที่ศาลเจ้าในยามเช้า ไหว้เสร็จหันมองสบตากันซึ้งๆ
ไม่นานต่อมา หลินหลานเซ่อกับฤทัยนาคเดินมาตามทาง นาคกุมมือหลิน
“หลานเซ่อ ชั้นมีเรื่องนึงที่จะบอกนาย”
“ชั้นก็มีเรื่องที่จะบอกเธอ”
“งั้นนายบอกก่อน”
“ชั้นจะส่งเธอไปอยู่อังกฤษ”
“ทำไมล่ะ ชั้นอยู่ที่นี่ไม่ได้หรือ”
“ชั้นไม่แน่ใจว่าวันไหน แพทริค บัตตัน มันจะย้อนกลับมาที่นี่อีก”
“แต่นายก็ลบประวัติชั้นทิ้งหมดแล้วนี่ แถมชั้นยังเปลี่ยนชื่อแซ่ชั้นแล้วด้วย”
“เพื่อความไม่ประมาท อย่างน้อยเธอควรไปจากที่นี่ซักสามสี่ปี”
ฤทัยนาคหน้าม่อย “นี่เราต้องจากกันอีกแล้วหรือ”
“ไม่ เราจะไม่จากกัน ชั้นมีบ้านอยู่ที่นั่น ชั้นจะบินไปหาเธอทุกๆ เดือน”
“แล้วพ่อกับพี่ชั้นล่ะ”
“ชั้นจะส่งพวกเค้ากลับเมืองไทย เธออาจจะไม่ได้เจอพวกเค้าซักระยะนึง แต่เธอไม่ต้องห่วง ชั้นจะดูแลพวกเค้าให้ดีที่สุด”
“ก็ได้ ถ้านายว่ามันดี ชั้นก็เชื่อนาย”
“แล้วเธอจะบอกอะไรชั้น”
“ชั้นจะพูดเรื่องแต่งงาน”
“ได้เลย เธออยากแต่งแบบไหน จีนหรือฝรั่ง หรือไทย” มาเฟียหนุ่มถามเป็นชุด
“ไม่ใช่ ชั้นจะบอกว่าชั้นยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับนายหรอกนะ
“อ้าว ทำไม ยังมีอะไรอีก”
“ชั้นต้องขอเรียนหนังสือให้จบก่อน”
หลานเซ่อขัดใจ
“ชั้นว่าไม่จำเป็นหรอก”
“นายไม่จำเป็นแต่ชั้นจำเป็นนี่ ชั้นเพิ่งอายุ 18 เองนะ ชั้นอยากเรียนหนังสือให้จบ”
“อีกกี่ปี”
“ถ้าชั้นไม่สอบตกเลยก็คง สี่ปีจบ”
“นานเกินไป”
“ไม่นานหรอก แป๊บเดียวก็สี่ปีแล้ว เราหมั้นกันไว้ก่อนก็ได้นี่นานะ”
“ก็ได้ แต่เราต้องจดทะเบียนกันก่อน”
“จดทะเบียนสมรสน่ะหรือ”
“ใช่ เพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้เธอเปลี่ยนใจ”
พูดจบหลินหลานเซ่อผละตัวเดินออกไปเฉยเลย ฤทัยนาคเดินตาม
“ชั้นไม่เปลี่ยนใจหรอก ก็บอกแล้วไงว่ารักนายคนเดียว”
“ถ้าอยากเรียนต่อก็ต้องจดทะเบียนไว้ก่อน เลือกเอา”
“โห...นายนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ เลย”
ฤทัยนาคทุบแขนมาเฟียหนุ่มดังปึ๊ก หลินหลานเซ่อจับมือรั้งไว้แล้วดึงร่างบางมากอด
สองคนเดินคล้องแขนกันไป หลินหลานเซ่อโอบเอวฤทัยนาค สีหน้าแววตาทั้งคู่ชื่นมื่นสุขสมสุดจะประมาณ หากใครมาได้เห็นเป็นต้องฟินสุดๆ
จบบริบูรณ์
โปรดติดตาม "รักนี้...เจ้จัดให้" เร็วๆ นี้