พายุเทวดา ตอนที่ 11
หลังตกเป็นเมียของคล้ามในร่างฤทธิ์ หยาดฟ้าหลบเข้ามาในห้องนํ้า รีบปิดกลอน แล้วเม้มปากร้องไห้อย่างอัดอั้นและหวาดกลัว ภาพที่ตอนเห็นอาจารย์คล้ามและยังเห็นเนื้อตัวของฤทธิ์มีแต่รอยสัก ผุดเข้ามาในห้วงคิด
“นี่มันอะไรกัน...นี่คนหรือว่าผี ฉันเป็นเมียผีไปแล้วเหรอ ทำไมมันถึงน่าเกลียดยังงี้” หยาดฟ้ารำพึงตัวสั่นสะท้านไปหมด
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฤทธิ์เรียกเข้ามา “คุณหยาด...อาบนํ้าเร็วๆ เถอะครับ มีคนโทร.มาบอกว่า เสี่ยคงคากับคุณคำรณมาที่นี่”
หยาดฟ้า ก้มดูเนื้อตัวตนเอง...หน้าซีดตัวสั่น หวาดกลัวถึงขีดสุด
ฝ่ายดารินแต่งหน้าอยู่ที่หน้ากระจก เฟอร์นิเจอร์ในห้องดูเรียบง่ายๆ เหมาะกับชีวิตบ้านพักบนเกาะ
ปลาดุกแปลกใจ “ทำไมต้องแต่งหน้าจัด ทั้งที่สวยอยู่แล้ว”
“ขืนไม่แต่งสิ...ฉันคงตกงาน ไอ้พวกหื่นๆ น่ะมันชอบ แบบนี้ก็แต่งไปให้พวกมันดู ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ ยิ่ง วันนี้คนเยอะด้วย”
ปลาดุกฉงน “เยอะ มีทัวร์มาจากที่อื่นเหรอ”
“เปล่า แต่เห็นว่ามีมวยหญิง”
ปลาดุกหูผึ่งตื่นเต้นใหญ่ “มวยหญิง จริงเหรอ..แล้วทำไมไม่เล่าให้ฟังบ้าง ฉันจะ ฟิตซ้อมไว้”
ดารินรู้สึกผิดที่เผลอเล่าให้ฟัง “ก็นังคนที่ควํ่าเธอบนเวทีงานวัดเมื่อไม่กี่วันนี้ไง มันย่าม ใจว่าคนเกาะมุกคงทำอะไรมันไม่ได้”
ปลาดุกเจ็บใจ “เสียดายที่ร่างกายฉันมันยังไม่พร้อม...ไม่งั้นจะชกแก้มือ กับมัน”
ดารินบอก “ฉันตั้งใจว่าชกแทนเธอ”
ปลาดุกยิ้ม “จริงดิ” ดารินพยักหน้า “งั้นฉันขอไปดูด้วยได้มั้ย ตอนที่ เธอควํ่ามันล้มลง ฉันจะได้สะใจ”
“ได้ แต่ดูอยู่ห่างๆ นะ”
เม้งขับรถมาตามทางมุ่งหน้าไปยังบ้านฤทธิ์ คงคานั่งคู่ คำรณนั่งหลัง พัน ธง และศรนั่งกระบะหลัง
“ถ้ามันสมัครผู้ใหญ่บ้านจริง เฮียเม้งว่าไง” คำรณถามขึ้น
“ให้ผมพูดตามตรงนะครับ คุณคำรณ...มันเป็นคนมีนํ้าใจ เข้ากับคนง่าย เรียกว่าขอข้าวเขากินได้ทุกบ้าน เว้นบ้านผม...ไม่มีใครบนเกาะที่ไม่รู้จักมันหรอกครับ”
“กว้างขวางขนาดนั้นเลยเหรอวะ” คงคาถาม
“เปล่าครับเสี่ย แต่ว่าตอนเด็กๆ มันถือกระป๋องเดินตาม หลวงปู่หาญบิณฑบาต”
คำรณหัวเราะหยัน สะใจ “อ้อ เด็กวัด...จะมาสู้นักเรียนนอกอย่างผมได้ไง”
“คำรณ...อย่าประมาท...เงินซื้อความโลภได้ แต่ซื้อความ รักไม่ได้เสมอไป”
ที่ร้านของเม้งคืนนี้ มีแขกนั่งกินอยู่หลายโต๊ะแล้ว รถของเม้งจอดที่หน้าร้าน คงคา คำรณ พัน ธง ศรลงมาจากรถ พนักงานในร้านพากันยกมือไหว้ รีบพาไปที่โต๊ะหนึ่ง ดารินแต่งตัวสวย เดินกรีดกรายรับแขก ชงเหล้าให้โต๊ะต่างๆ คำรณนั่งลงแล้วปรายตาไปทางดาริน เม้งจับสายตาได้
“ผมเรียกให้มั้ย”
“ขอบใจเสี่ย” เม้งเดินไป
คงคาบอกกับคำรณ “แกนี่ตาแหลมไม่ใช่เล่นเลยนะ นี่ถ้าแกไม่จองก่อนละก็ พ่อเรียกแล้ว”
“ผมไม่ถือเรื่องนี้นะพ่อ...ผมจัดการแล้วจะส่งต่อให้พ่อ”
สองพ่อลูกหัวเราะให้กัน “ยังงี้สิ ถึงจะเรียกว่าเป็นพ่อลูกกันจริง”
ดารินนวยนาดมานั่ง ยกมือไหว้เสี่ยคงคา
“นั่งสิ” เสี่ยบอก ดารินนั่งลง “ฉันรู้สึกเหมือนเคยเห็นเธอที่ไหนมา ก่อน...แต่นึกไม่ออก”
ดารินหัวเราะคิกใส่จริต “โถ เสี่ยขาอย่ามัวนึกให้เสียเวลาเลยค่ะ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ หน้าตาเหมือนกันจะทั่งโลกแล้ว เขียนคิ้วเหมือนกันติด ขนตาปลอมคล้ายๆ กัน แถมยังไปทำศัลยกรรมให้ หน้าตาคล้ายกันเข้าไปอีก โดยเฉพาะผู้หญิงทำงาน กลางคืนอย่างฉันยิ่งต้องแต่งค่ะ ไม่งั้นก็ขายไม่ออก”
คงคาทำท่ากรุ้มกริ่ม “ขายแพงมั้ย”
ดารินหัวเราะยั่ว “อุ๊ย เสี่ยถามตรงจัง..ฉันอายแย่”
คำรณสอดขึ้น “พ่อฉันถามตรง เธอก็ตอบไปตามจริงสิ”
“ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจ...ถ้าพอใจมากๆ ก็ไม่ต้องเสีย เงินแม้แต่บาทเดียว” ดารินยิ้มหว่านเสน่ห์
“แล้วทำยังไงถึงจะทำให้เธอถูกใจฉันกับพ่อล่ะ”
“แบบนี้ก็ต้องลองคบกันดูค่ะ” ดารินฉอเลาะ
คงคาหัวเราะตาเป็นประกาย
ฤทธิ์เดินมากับหยาดฟ้าเดินเข้ามาที่หน้าร้าน หยาดฟ้าเห็นดารินนั่งกินเหล้ากับเสี่ยคงคาและคำรณก็ไม่พอใจ
“แอบมากินเหล้ากับผู้หญิงหากินเหรอเสี่ย”
หยาดฟ้าโกรธจัด จะเข้าไป ฤทธิ์ฉวยมือไว้ “ไหนว่าไม่หึงไง”
“ฉันไม่ใช่พระอิฐ พระปูนนี่ มีผู้หญิงสวยๆ มาหว่าน เสน่ห์ผัวฉันทั้งที ไม่หึงได้ไง”
“ทำอะไรก็เกรงใจผมบ้าง อย่าลืมสิว่าผมก็เป็นผัวคุณนะ”
หยาดฟ้าสะบัดมือเดินเข้าไปด้านใน ผ่านโต๊ะอื่นๆ ผ่านโต๊ะพัน ธง และศร ตรงไปที่โต๊ะของคงคา
เสี่ยคงคาถามทันที “ทำไมหนีฉันมาที่นี่”
หยาดฟ้าตอแหล “ฉันก็มาดูผลประโยชน์ให้เสี่ยน่ะสิ...ให้นายฤทธิ์พาฉัน ไปตระเวนหาไอ้คนที่มันต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้เรา”
คงคาซักเรื่อยๆ “แล้วได้เรื่องมั้ย”
“รับรองว่าเดือนหน้าไม่พลาดแน่...รายได้เสี่ยอยู่ครบ... ว่าแต่แม่นี่เถอะได้รับเกียรติร่วมโต๊ะกับเสี่ยเลยเหรอ”
ดารินแสร้งทำไม่รู้เรื่องอะไร “เมียเสี่ยมาก็ไม่บอกหนู...หนูเกือบถูกตบแล้วสิเนี่ย... เชิญค่ะ”
ดารินลุกขึ้น หยาดฟ้าขยับเก้าอี้ตัวที่ดารินเพิ่งลุกอย่างกระแทกกระทั้น ฤทธิ์เดินมาไหว้เสี่ยคงคา
“สวัสดีครับ เสี่ย สวัสดีครับคุณคำรณ”
คงคาบอก “นั่งสิ...นึกว่าจะไม่เจอนายฤทธิ์ซะแล้ว”
“เจอสิครับ...เสี่ยมาวันนี้พอดีเลย เดี๋ยวผมจะปิดถนน...มี มวยหญิงต่อยกัน...เสี่ยสนุกละทีนี้ นักพนันมาจากฝั่ง โน้นเยอะเลย...ใครยืนได้นานที่สุด เอาไปเลยห้าแสน นี่เป็นวิธีการโปรโมตเกาะมุกครับเสี่ย”
คงคายิ้ม “น่าสนใจ”
คำรณมองไปที่ดารินซึ่งนวยนาดไปตามโต๊ะต่างๆ แต่ก็ปรายตามาหว่านเสน่ห์กับคำรณเป็นระยะ
ส่วนที่ด้านนอกร้าน ตรงมุมที่ห่างออกไป เห็นปลาดุกยืนอยู่มุมนั้น ปลาดุกตื่นเต้นเมื่อเห็นนักมวยหญิงคู่ปรับคนที่เพิ่งเอาชนะตนเมื่องานวัดที่ผ่านมาลงมาจากรถ
“คืนนี้แกเสร็จฉันแน่”
มวยหญิงลงมาพร้อมเข็มขัดจากเวทีต่างๆ ชูมือทั้งสองขึ้น ขี้เมาในร้านเฮียเม้งปรบมือต้อนรับกันลั่น
ทางด้านเทวาลุกขึ้นจากการนอนไม่หลับ บุญกู้ซึ่งนอนอยู่ห้องเดียวกันถามขึ้น
“จะไปไหนเหรอเทวา”
“ผมนอนไม่หลับ”
“คิดมากเรื่องมนต์เหรอ”
“เรื่องนั้นก็ด้วย...แล้วก็สงสัยว่าไอ้เสี่ยคงคามันมาทำไม ที่เกาะมุก”
เทวาผลุนผลันออกไป บุญกู้มองตามส่ายหน้า
แชมป์มวยหญิงกำลังต่อยกับปลาดุก ดารินออกโรงเชียร์ปลาดุก เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ต่างก็เชียร์มวยที่ตนเล่นพนัน เห็นบรรดาเซียนส่งสัญญาณกันไปมา
ปลาดุกหลบฉากแต่ไม่พ้น เพลี่ยงพลํ้าโดนหมัดของแชมป์ลงไปให้กรรมการนับ
ดารินทำหน้าเซ็ง ตะโกนบอกเพื่อน
“ปลาดุกเลิกๆๆ เดี๋ยวฉันแก้มือให้แกเอง”
ปลาดุกหันมามองดาริน ลุกขึ้นแล้วโดนต่อยอีกครั้ง รวงลงไปนอน ดารินรีบปราดเข้าไปช่วยประคอง เลือดเลอะครึ่งปากครึ่งจมูกของปลาดุก
“นี่ถ้าพ่อนิลของแกมาเห็นสภาพแกตอนนี้นะ ฉันว่าพ่อ แกคลั่งแน่ๆ”
กรรมการชูมือแชมป์ ประกาศ “มีใครที่อยากต่อยกับแชมป์มวยหญิงจากพัทยาอีกมั้ย ครับ ตอนนี้เงินค่าชกเพิ่มไปเป็นแสนห้าหมื่นบ้านแล้ว”
คำรณเอ่ยขึ้น “ฉันว่าไม่มีหรอก...เอาเป็นว่าใครล้มแชมป์ได้ ฉันเพิ่มให้ อีกสองแสน”
คงคา ฤทธิ์ หยาดฟ้า เม้งและคนอื่นๆ ปรบมือเห็นด้วยกับคำพูดของคำรณ
“คงไม่มีแล้วละ...เราไม่ต้องเสียเงิน” คงคาว่า
ดารินก้าวออกมายืนข้างหน้า “ฉันเอง...แต่ทุกคนเป็นพยานนะว่าผู้ชายคนนี้จะเพิ่มให้ อีกสองแสน”
ทุกคนเฮกันดังลั่น เทวาเขยิบโผล่หน้าเข้ามา แล้วก็ตะลึง เมื่อเห็นดารินปลดกระโปรงบานออก เหลือกางเกงขาสั้น ถอดเสื้อออก เหลือเสื้อยืดพอดีตัว พร้อมจะชกมวย
หยาดฟ้าหยัน “แกกล้าถามนะ กลับไปชงเหล้าดีกว่ามั้ย หรือว่าหมอนัด ให้ไปเช็คประสาทแล้วลืมก็กลับไปหาหมอซะ”
“ถ้าฉันชนะแชมป์คนนี้ คุณจะเพิ่มเดิมพันให้ฉันหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ ก็กรุณาอย่าออกความเห็น”
หยาดฟ้าแค้นรู้สึกว่าถูกท้าทาย “ได้...ฉันเพิ่มให้หนึ่งแสน แต่ถ้าแกแพ้ ฉันจะให้แกนอน กับลูกน้องของฉัน ไอ้สามตัวนั่น”
พัน ธง และศรยักคิ้ว ทำหน้าหื่น ๆ กวนๆ ให้หยาดฟ้า
“ตกลง” ดารินบอก เทวาตกใจหน้าเสียไป หันไปทางปลาดุก ปลาดุกก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน
กรรมการสั่งให้ชก ทั้งสองย่างสามขุมเข้าหากัน คนดูเชียร์กันสนั่น ปลาดุกลืมเจ็บเชียร์ออกรส เทวายืนหน้าเครียดอยู่ใกล้ๆ ฤทธิ์เข้ามายืนข้างๆ ทั้งสองคุยกันไป โดยเห็นดารินกับแชมป์มวยชกกันอยู่
เทวาเอ่ยขึ้น “เหมือนพี่ฤทธิ์ใช่มั้ย ที่รู้ว่าการเข้าเป็นพวกฝ่ายชนะย่อม ดีกว่าฝ่ายถูกต้อง”
“วันที่นายฉลาดกว่านี้ นายจะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดเอง วันนี้ นายยังโง่ก็ก้มหน้ากินอุดมการณ์ของนายต่อไปก่อน เถอะ”
จังหวะนี้แชมป์มวยหญิงรุกไล่ดาริน แต่ดารินฉวยโอกาสโต้ตอบ ในที่สุดก็เสยหมัดเข้าปลายคางแชมป์ 0oแชมป์เซสติไม่อยู่กับตัว แล้วก็ล้มลง ปลาดุกกระโดดไปชูมือดารินแทนกรรมการ
“เฮ้...”
คำรณ คงคา หยาดฟ้า ฤทธิ์หน้าซีดเผือด
หยาดฟ้าไม่อยากเชื่อ “เป็นไปได้ไงเนี่ย”
ดารินบอกอย่างเป็นต่อ “เป็นไปแล้ว จ่ายมาซะดีๆ ทุกคน”
คงคาชี้ไป “เงินอยู่ที่ไอ้สามตัวนั่น...ไปเอาที่มัน”
ดารินเดินไปหาพัน ธง ศร ซึ่งยืนพร้อมจะลุยอยู่ เมื่อดารินเข้าไปใกล้ ทั้งสามก็เปิดฉากก่อน
เทวาเข้ามาช่วยดาริน เตะต่อยกับทั้งสาม ปลาดุกมาช่วยด้วย ฤทธิ์ยืนมองตะลึง พัน ธง ศรเซล้ม
หยาดฟ้าโมโหตะโกนบอก “งัดวิชาที่แกเรียนมาสิ เอามาใช้กับมัน”
สามสมุนจะอ้าปากเรียกมนตราปักษี แต่ไม่ทัน พัน ธง ศรต่างโดนดาริน ปลาดุกและเทวาเตะเข้าใบหน้าจนล้มลงไปอีก
ดารินหันมาทางกลุ่มคงคา “ทีนี้จ่ายได้หรือยัง”
คงคายักท่า “เงินมากมายยังงั้น ใครจะพกมาล่ะสาวน้อย เอาเป็นว่า พรุ่งนี้เสี่ยมาฝากไว้ที่เฮียเม้งก็แล้วกัน”
“ค่ะ ฉันจะรอ” ดารินบอก
อ่านต่อหน้า 2
พายุเทวดา ตอนที่ 11 (ต่อ)
ที่ถนนสายเปลี่ยวในเกาะมุก ดารินกับปลาดุกขี่รถมอเตอร์ไซค์มาด้วยกัน เทวาขี่ตามมา แล้วกดแตรเรียก ดารินหันไปดู แล้วรีบบอกปลาดุก
“ระวังนะ ไม่รู้ไอ้พวกนั้นมันตามมาเล่นงานเราหรือเปล่า”
เทวาแซงไปแล้วจอดขวางหน้า “เก่งนักใช่มั้ยเรา”
เทวาตรงมาหา ดึงตัวดารินลงมาจากรถไปทันที
ดารินโวย “จะบ้าเหรอ”
“ในโลกนี้ไม่มีใครบ้าเท่าเธออีกแล้ว”
“ดาริน มันเรื่องอะไรของนาย...ฉันแก้แค้นนังแชมป์นั่นให้ปลาดุกเพื่อนฉัน นายไม่เกี่ยวก็หลีกไป”
เทวาโมโห “ไม่เกี่ยวเหรอ ที่เข้าไปช่วยไม่ให้เธอถูกพวกมันยำเละน่ะ ไม่เกี่ยวอีกเหรอ...ถึงจะเก่งแค่ไหน เธอก็เป็นผู้หญิง”
ดารินกระแทกเสียงใส่ “เออ เป็นผู้หญิงแล้วเป็นไง”
“ยังไงก็เสียเปรียบผู้ชายวันยังคํ่า...เก่งมากนักใช่มั้ย ผม แนะนำนะ กรุณาไปจากเกาะมุก ก่อนที่จะเป็นอะไรไป เสียก่อน อย่าเอาใบหน้าสวยๆ มาทิ้งไว้ที่เกาะแดนเถื่อน ที่นี่...แล้วก็อย่าคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์นัก เที่ยวโปรยเสน่ห์ จนไม่เลือกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ถ้าคิดจะมาจับผู้ชาย ที่นี่ ก็คิดเสียใหม่...ถึงยังไง เขาก็มองเธอว่าเป็นผู้หญิง ที่เอาตัวเข้าแลกกับเงิน ไม่มีคุณค่าอะไรเลย”
ดารินโกรธตบหน้าเทวาฉาดใหญ่ เทวารวบตัวดารินไปกอดแล้วจูบ ปลาดุกหน้าเหวอไปเลย ดารินผลักเทวาออก แล้วตบหน้าอีกที เทวาก็จูบดารินอีก ดารินผลักได้ก็เงื้อมือจะตบ
เทวาบอกเสียงเข้ม “ตบอีก ผมก็จูบอีก”
ดารินเซ็ง “บ้าเอ๊ย”
“ผมหวังว่าคุณจะเชื่อผมนะดาริน”
“ฉันเกลียดนาย...อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
ดารินหันไปทางปลาดุก พาลใส่ “จะยืนอยู่ทำไม กลับสิ...เร็ว”
ปลาดุกรีบสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ มีดารินซ้อนท้ายขี่ห่างจากเทวาไป เทวาเผลอเอามือลูบแก้มที่โดนตบแล้วระบายยิ้ม
แก๊งคนชั่วอยู่ที่บ้านฤทธิ์ ทั้งสี่คนคุยกันอยู่
“ไอ้ผู้ชายคนที่มาช่วยนังชงเหล้าน่ะแหละนายฤทธิ์ที่มัน ประกาศว่าจะสมัครผู้ใหญ่บ้านแข่งกับคำรณ” คงคาหมายถึงเทวา
คำรณถามทันที “แกรู้จักมันใช่มั้ย”
“น้องชายผมเองครับ คนที่หายไปแล้วเพิ่งกลับมาน่ะแหละครับ”
“ไอ้คนนี้ใช่มั้ยที่นายบอกว่ามันมีฝีมือทัดเทียมนายฤทธิ์ มากที่สุด”
“ครับเสี่ย”
เสี่ยคงคาหน้าเจื่อนไป เช่นเดียวกับคำรณ
หยาดฟ้าบอก “ต้องกำจัดมันให้ได้...เสี่ยคะ หยาดว่าบางทีได้คนพวกนี้ เล่นกับมันรุนแรงไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องหาวิธีเอามันมา เป็นพวก...หยาดอาสาเองค่ะ”
ฤทธิ์มองหน้าหยาดฟ้า หยาดฟ้าเชิดหน้าอย่างมั่นใจในตัวเอง
“ผู้ชายโง่มักเป็นเหยื่อผู้หญิงฉลาดเสมอ...หยาดมั่นใจว่า หยาดทำได้”
“ก็ลองดู แต่ระวังอย่าให้เสียเวลาล่ะ มันจะเสียงานเสียการ อย่างอื่นด้วย”
เช้านี้หยาดฟ้าเดินเข้ามาในวัดเพียงลำพัง บุญกู้กวาดลานวัดอยู่ หันมา
“มาหาใคร”
“ฉันต้องการพบเทวา...รู้ว่าเขาอยู่ที่นี่”
เทวาเข้ามาพอดี
“พบเรื่องอะไร”
หยาดฟ้ามองไปทางบุญกู้ “ฉันอยากพูดธุระกับเธอตามลำพัง”
เทวาสวนคำ “ไม่จำเป็นหรอกครับ...เพราะถึงยังไงผมก็ไม่เคยมี ความลับกับน้าบุญกู้อยู่แล้ว มีอะไรก็ว่ามา”
“ถ้าฉันให้เงินเธอล้านนึงไว้สำหรับตั้งตัว แลกกับ ข้อเสนอ”
เทวาพูดสวนมาทันควัน “ถ้าให้ผมเลิกสมัครผู้ใหญ่บ้าน ก็กลับไปซะเถอะ”
หยาดฟ้าเสนอ “สองล้าน”
เทวาเสียงดัง “ไม่”
“สิบล้าน” หยาดฟ้าบอก
เทวาจ้องหน้า “คนอย่างผม เงินซื้อไม่ได้หรอก”
หยาดฟ้าจ้องตอบ “แล้วอะไรซื้อเธอได้”
“ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณ...เชิญ..ที่นี่วัด ไม่เหมาะที่ ผู้หญิงอย่างคุณจะมาเดินเพ่นพ่าน”
หยาดฟ้าสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ไม่ให้โกรธ ยิ้มสู้
“ถ้าฉันให้เธอห้าสิบล้านล่ะ...ไม่ใช่เงินน้อยๆ เลยนะ ไม่สนเหรอ...เธอจะสบายไปทั่งชีวิต”
เทวาย้อนเข้าให้ “เงินเดิมพันมวยเมื่อคืนน่ะจ่ายก่อนดีกว่ามั้ยครับ..ก่อน ที่จะเอาเงินมาฟาดหัวชาวบ้านเล่นอย่างนี้”
หยาดฟ้าเดินออกไปด้วยสีหน้าท่าทางเคียดแค้น เทวาพูดเสียงดังตามไป “กลับไปบอกไอ้เสี่ยนั่นด้วยว่า...คนเกาะมุกไม่ได้โง่... อย่าคิดมาสนตะพายพวกเรา”
ฟากดารินอยู่ที่ร้าน ทวงเงินจากเฮียเม้งยิกๆ
“เงินเดิมพันฉัน..เอามาซะดีๆ”
“ไม่มี...เสี่ยคงคาไม่ได้ฝากอั๊วไว้”
“ถ้าไม่มี เฮียก็ต้องชดใช้แทน...หรือจะให้ฉันตะโกนบอก คนทั่งเกาะมุกว่าเฮียเป็นคนขี้โกง”
“ลื้ออยากได้ ลื้อก็ไปเอาที่เสี่ยคงคาสิ”
ดารินถลึงตาใส่เม้ง “พวกลื้อนี่มันโกงชัดๆ วันไหนที่ไอ้เสี่ยคงคามาที่นี่ฉันจะ ถามเขาเอง...งั้นวันนี้ฉันไม่ทำงาน”
เม้งเซ็ง “อ้าว ทำไมล่ะ ลื้อก็รู้ว่าแขกที่มากินเหล้าที่นี่ติดลื้อกัน ทั้งนั้น”
“ช่างมันปะไร...แต่ถ้าเฮียอยากให้ฉันทำงานที่ร้านนี้ เฮีย ก็เอาเงินส่วนตัวของเฮียมาให้ฉันก่อนสิ”
เฮียเม้งมองหน้าดารินแล้วส่ายหน้าจำยอม
หยาดฟ้ากลับมารายงานเรื่องเทวาไม่ยอมรับเงิน ขณะทุกคนหารือกันอยู่ที่บ้านฤทธิ์ คงคาเอ่ยขึ้นหน้าเครียด
“ไม้นวมไม่ได้ผลก็ต้องไม้แข็ง”
คำรณคุยอย่างโอหัง “นักเลงเทวดาก็แพ้ปืน พ่อลืมศพไอ้มนต์ไปแล้วเหรอ”
ฤทธิ์ท้วง “แต่เทวาได้วิชาของหลวงปู่หาญไปหมดเลยนะครับ... หลวงปู่ประจุธาตุดิน นํ้า ลม ไฟให้ ไม่มีใครสู้ได้”
คงคาบอก “มีสิ”
“ใครคะเสี่ย”
อีกวันหนึ่ง คงคา ฤทธิ์ และคำรณ นั่งอยู่ต่อหน้าร่างอาจารย์คล้ามที่นั่งอยู่บนแท่นหินในถ้ำ คล้ามโกรธไม่หายชี้หน้าด่าคงคา
“รับปากแล้วไม่ทำ...อย่าให้ข้าโมโหนะเจ้าคงคา”
คงคาไหว้ “ต่อไปนี้ผมจะให้ลูกน้องผมผลัดกันมาทุกเดือน อาจารย์อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมมาวันนี้ก็เพราะมี เรื่องเดือดร้อนจริงๆ”
“ถ้าสัญญาแล้ว ข้าก็จะช่วย ว่ามา”
“ผมว่าไอ้หลวงปู่หาญมันยังคอยช่วยเหลือลูกศิษย์ของ มันอยู่ ผมอยากให้อาจารย์ไปสะกดวิญญาณมันครับ แล้วก็อยากให้อาจารย์ช่วยปราบไอ้เทวา”
“เทวา” คล้ามทวนชื่อ
ฤทธิ์บอก “คนที่มันเคยสู้กับผมที่หาดวันก่อนไงครับ”
“ไอ้นี่...ปราบยากที่สุด” คล้ามว่า
คำรณสอดขึ้น “อาจารย์ครับ ถ้าอาจารย์ไม่ปราบมัน เลือกตั้งคราวนี้ มีหวังมันชนะผมแน่ๆ ช่วยผมด้วยนะครับ ผมสัญญา ว่าจะนับถือเป็นอาจารย์ของผมไปตลอดชีวิต”
คล้ามตัดบท “เอาเถอะ ข้าจะช่วย”
คำรณ คงคา และฤทธิ์กราบลา คล้ามมองลงมาจากแท่นหิน ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เพทุบาย
คืนนั้นทั่วอาณาบริเวณวัดเกาะมุกเงียบสงัดมาก เสียงสุนัขหอนดังมาแต่ไกลๆ เงาร่างของคล้ามปรากฏขึ้น แล้วล่องลอยไปตามที่ต่างๆ
“ไอ้หาญ ไอ้เพื่อนทรยศ อยู่ไหนวะออกมาสิ ออกมาต่อสู้กัน หรือว่าเอ็งกลัวตายซํ้าสองเลยไม่กล้า ออกมาเผชิญหน้ากับข้า...ไอ้หาญ...ไอ้ขี้ขลาด”
ศพของหลวงปู่หาญ นอนนิ่งอยู่ในโลงแก้ว อยู่ภายในโบสถ์มหาอุตม์ กายสังขารยังไม่ซีด สภาพเหมือนคนนอนหลับ เงาร่างของคล้ามปรากฏขึ้น แล้วกลายเป็นกายหยาบ
คล้ามยืนอยู่หน้าโลงศพ “ข้าจะสะกดวิญญาณของเอ็งให้อยู่แต่ในนี้ ไม่ต้องออก ไปเพ่นพ่านช่วยเหลือลูกศิษย์อีก”
คล้ามหัวเราะเบาๆ พนมมือร่ายมนต์ พลังลมบังเกิดขึ้น เหมือนมีลมพัดตึงๆ บนหลังคาเหมือนมีใครทุบแรงๆ ที่ผนังและประตูก็เหมือนมีใครมาทุบแรงๆ ดังระรัว
“แน่จริงออกมาสิวะ...ออกมา”
ทุกสิ่งทุกอย่างสงบ คล้ามหลับตาดิ่งลึกในห้วงสมาธิอย่างรวดเร็ว แล้วลืมตาขึ้น
“ไม่มีวิญญาณของเอ็งเลย หรือว่าเอ็งไปสู่ภพภูมิอื่นแล้วW
ภายในห้องของเทวาบนกุฏิหลังหนึ่ง เทวานั่งสมาธิอยู่ในนั้น บุญกู้นอนอยู่ข้างๆ เงาร่างของหลวงปู่หาญปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของเทวา ก้มลงเป่ากระหม่อมให้เทวา บุญกู้พลิกตัวมาเห็นพอดี
“หลวงปู่” บุญกู้ผุดลุกขึ้นนั่ง “หลวงปู่มาหา”
เทวาลืมตาขึ้น หันไปหา บุญกู้กับเทวากราบลง
“เทวา อย่าให้โทสะเข้าครอบงำนะ...จำคำหลวงปู่ไว้” ร่างหลวงปู่หาญวูบหายไป
“หลวงปู่”
บุญกู้กับเทวากราบลง
ฟากสิงห์เมามายเข้ามาในวัด เห็นทุกคนนั่งคุยกันอยู่ สิงห์ถามเสียงอ้อแอ้
“คุยอะไรกันวะ”
“ไอ้สิงห์ เมื่อหัวคํ่าข้านั่งสมาธิ หลวงปู่มาให้เห็นทั้งตา ข้าเลยนะ น้าบุญกู้ก็เห็น ท่านเตือนให้ข้าระวังโทสะ”
ก้องงง “โทสะนี่มันอะไรวะ”
เดชบอก “ไม่ให้เทวามันโกรธไง ถ้าโกรธก็จะขาดสติ พวกมันจะ ทำอะไรก็ได้ เหมือนมนต์ไง มันก็เล่นงานมนต์ตอน เผลอ”
สิงห์ไม่อยากฟัง “ถุย ข้าไม่อยากคุยกับพวกเอ็ง...นํ้าหน้าอย่างเอ็งน่ะไม่เคย เห็นใจข้า เมียข้าหายไปทั่งคน พวกเอ็งเคยคิดจะช่วย อะไรมั้ยวะ..มีเพื่อนอย่างพวกเอ็งน่ะ ไม่มีซะดีกว่า”
สิงห์เดินเป๋ออกไปข้างนอก ก้องร้องถาม “ไอ้สิงห์ จะไปไหนวะ”
“เรื่องของข้า...คนอื่นไม่เกี่ยวโว้ย...” สิงห์ร้องเพลงคร่ำครวญถึงเมีย “เปียจ๋าเปีย เปียคนดี เปียหนีพี่ไปหนาย...”
เทวาเป็นห่วงบอก “ไปตามมันดีกว่า”
เดชห้ามไว้ “ช่างมันเถอะน่า”
สิงห์โยนขวดเหล้าทิ้งไปทางหนึ่ง “หมดได้ไงวะ ทำไมขวดนึงมีน้อยจัง”
สิงห์เดินเซไปมาตามหาดทรายยามคํ่าคืน คลื่นซัดสาดฝั่งอยู่ตลอดเวลา
เทวา เดช ก้องตัดสินใจออกไปตามสิงห์
“ข้าว่ามันอยู่ที่ชายหาดนี่แหละ ไปกันเถอะ” ทุกคนตามกันออกไป บุญกู้ตะโกนตาม
“อย่าลืมว่าหลวงปู่เตือนอะไรเอ็งนะเทวา”
ร่างอาจารย์คล้ามวูบปรากฏขึ้นต่อหน้าฤทธิ์ “ข้าจะไปจัดการกับพวกมันที่ชายหาดใกล้วัดเกาะมุก... เจ้าตามไปนะ...จะได้แก้แค้นไอ้เทวา”
คล้ามวูบหายไป ฤทธิ์ผุดลุกขึ้นยืน พยักหน้า ดวงตาเหี้ยมอำมหิต
ทางด้านสิงห์แทบหายเมา เมื่อมองไปที่ทะเล เห็นเปียอยู่ในนั้น สิงห์ขยี้ตา
“เปีย...เปีย...เปีย”
สิงห์ลุยนํ้าลงไปหา เห็นเปียเมียรักร้องให้ช่วย “ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
ร่างของเปียกำลังผุดขึ้น ลง ทำท่าจะจมนํ้า คลื่นซัดแรงมาก ทำให้เปียลอยห่างออกไป
“เปีย...เปีย...” สิงห์รีบว่ายนํ้าไป ขณะเดียวกันคลื่นก็แรงมาก ร่างของสิงห์ลอยแล้วจมลง พอโผล่ขึ้นมาก็มองไม่เห็นเปียแล้ว
สิงห์ตะโกนก้อง “เปีย...เปีย...”
เทวา ก้อง เดชวิ่งมาที่ชายหาด เดชชี้ไปในทะเล
“ไอ้สิงห์อยู่โน่น...” เปียผุดขึ้นลงตามกระแสนํ้า สิงห์จะไปหา ร่างของเปียค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคล้าม หัวเราะเสียงดังกึกก้อง สิงห์ชะงัก แต่แล้วคล้ามก็ปรากฏอยู่ข้างๆ กดหัวสิงห์จมนํ้าไป
เทวาตัดสินใจใช้วิชาเทวดา ลมสลาตันบังเกิดขึ้นเหนือนํ้าทะเล ตัวของเทวาอยู่ในท่ามกลางกระแสลมที่หมุนติ้วเป็นลูกข่าง ลอยไปกลางทะเล แล้วกระโดดเหยียบหัวคล้ามจนจมลงไป สิงห์ทะลึ่งพรวดขึ้นเหนือนํ้า เทวาวูบตกลงมา เทวามองหาคล้าม แต่ไม่เห็น
สิงห์ผุดขึ้นลง เดชกับก้องรีบว่ายนํ้ามาประคองพาสิงห์ออกไป
สิงห์แหกปากดิ้นรนขัดขืน “ปล่อยกู กูจะช่วยเปีย เปียจมนํ้า เปียจมนํ้า ฮือๆๆ”
ที่กลางทะเลคล้ามหัวเราะลั่นแล้ววูบหายไป ส่วนที่ชายหาดทุกคนตกใจเมื่อเห็นฤทธิ์ยืนหัวเราะลั่นสะใจอยู่
“ข้าอยู่นี่...แน่จริงมาทางนี้สิวะ”
เทวาลืมตัวบันดาลโทสะเรียกลมสลาตัน พาตัวเองหมุนวนเป็นลูกข่างมาที่ฤทธิ์
อ่านต่อหน้า 3
พายุเทวดา ตอนที่ 11 (ต่อ)
เทวาผลักฤทธิ์ล้มลงไป ทั้งคู่ต่อสู้กันกลิ้งไปมา ก้อง เดช ช่วยสิงห์ขึ้นมาจากนํ้าได้ สิงห์จะวิ่งกลับลงไปอีก ก้องกับเดชยื้อยุดไว้ สิงห์ร้องไห้โฮๆ
ร่างของคล้ามปรากฏขึ้น คล้ามกับฤทธิ์รุมทำร้ายเทวาจนบาดเจ็บ เลือดโทรมเต็มใบหน้า
คล้ามเยาะเย้ย “ไหนล่ะประจุธาตุที่อาจารย์ของเจ้าทำให้ เอาออกมาสู้ กับข้าสิ...เอามาสิ”
ก้องกับเดชหันมาเห็น จะเข้ามาช่วย แต่ก็เป็นห่วงสิงห์
เทวาถูกต่อยจนไม่มีทางสู้ได้ แสงฟ้าปรากฏพาดสายมาแล้วผ่าเปรี้ยงๆๆ
ดารินอยู่ที่ร้านเฮียเม้ง แลเห็นแสงฟ้าและสายฟ้าผ่าเปรี้ยงดังๆ คนในร้านหวีดร้องสุดเสียง ดารินวิ่งออกมาที่ข้างนอกร้าน
เม้งถามเสียงขุ่น “ลื้อจะไปไหนอาริน”
ดารินไม่ฟัง ออกวิ่งอย่างเร็วที่สุด โยนส้นสูงออกทิ้งข้างทางแล้ววิ่งสุดกำลัง ดารินวิ่งมาหยุดหอบเหนื่อยสีหน้าครุ่นคิด
“หากว่าความพิเศษที่มีอยู่ในตัวฉันจะช่วยคนที่ถูกต้อง และเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ ก็ขอให้สำแดงฤทธิ์มาให้อธรรม พ่ายแพ้ไปด้วยเถอะเจ้าค่ะ”
ดารินหลับตา พนมมือ
เทวาแน่นิ่งไปแล้ว ก้องตบหน้าสิงห์เรียกสติ “ไอ้สิงห์ มึงเห็นมั้ย ไอ้เทวามันตายหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ช่วยกัน ถ้าไอ้สิงห์มันอยากตายก็ให้มันตายไปเลย” เดชบอก
ก้องกับเดชผนึกกําลังกัน ก้องวิ่งไปหา แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เดชกับก้องพุ่งชนฤทธิ์กับคล้ามจนล้มไปด้วยกัน พลันฝนไฟก็ตกลงมา เป็นลูกไฟเล็กๆ ตกเฉพาะที่คล้ามกับฤทธิ์
ฤทธิ์ร้องโอดโอย “โอย...ร้อน...ร้อน”
คล้ามหน้านิ่วเจ็บปวด วูบหายไปอย่างเร็ว ก้องปรี่ไปที่ฤทธิ์แล้วต่อยฤทธิ์ไม่นับ
เดชมาดึงตัวก้องออกจากหาดขึ้นฝั่ง “ไอ้ก้อง พาไอ้เทวาไปรักษาก่อน เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
ก้องกับเดชวิ่งมาหาเทวาซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ สิงห์ได้สติมองเดชกับก้องที่พยุงเทวาผ่านหน้าไป
“ข้าไปด้วย...รอข้าด้วย”
ฤทธิ์นอนสลบบนชายหาด ถูกคลื่นสีขาวซัดขึ้นมาถึงตัว ฤทธิ์ลืมตาหายใจรวยริน บาดเจ็บสาหัส
เช้าวันต่อมา เทวานอนซมอยู่ในห้องเนื้อตัวมีแต่รอยชํ้า บุญกู้อยู่ที่หน้าเตาต้มยา เห็นยาสมุนไพรในหม้อดินกำลังเดือดจัดควันโขมง บุญกู้ขดตอกเป็นรูปเฉลวปักไว้ที่หม้อยา ส่วนที่มุมหนึ่ง เดชกับก้องจ้องหน้าสิงห์ที่นั่งซึมอยู่
“เออ กูมันโง่..กูทำไอ้เทวาเจ็บ กูขอโทษ”
เดชอัดอั้น “คราวหน้าคราวหลังมึงก็ต้องดูดีๆ ว่าใช่เมียมึงแน่หรือ เปล่า ไม่งั้นคนอื่นเขาจะเดือดร้อนกันหมด”
สิงห์เบะปากจะร้องไห้ “ก็พวกมึงไม่ช่วยกูตามหาเปีย”
ก้องทนไม่ไหว “ไอ้โง่ ถ้าเทวาได้เป็นผู้ใหญ่บ้านก็มีสิทธิ์ช่วยเอ็งโว้ย เอ็ง คิดว่าง่ายนักเหรอที่จะเอาตำรวจไปค้นบ้านไอ้เสี่ยคงคา ในเมื่ออิทธิพลมันกว้างขวางคับที่นี่”
ฝ่ายคงคากับพวกอยู่ที่คฤหาสน์รู้เรื่องเทวาบาดเจ็บสาหัส ก็หัวเราะสะใจ
“สงสัยว่าอาจารย์คล้ามคงช่วยเรา ไอ้เทวาเจ็บหนักเลยรึ”
“ค่ะเสี่ย เฮียเม้งโทร.มาเล่าให้ฟัง แต่นายฤทธิ์ก็เจ็บมากปาง ตาย”
คำรณไม่ใส่ใจแถมด่าฤทธิ์ซ้ำ “สมควร...มันควรจะตาย ถ้าเราได้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมัน ก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่เพื่อเสวยสุขบนกองเงินกองทองของเราหรอก”
คงคายิ้มพอใจ “ถูกแล้วลูกพ่อ...ฉลาดมาก...พ่อตายก็ไม่ห่วงแล้วว่าลูก จะดูแลทรัพย์สินและงานของเราได้”
หยาดฟ้าลุกขึ้น
“หยาดคิดว่าหยาดจะไปเกาะมุกค่ะเสี่ย อย่างน้อยนายฤทธิ์ ก็ยังทำงานให้เรา...เราควรไปดูแลเขาหน่อย ไว้ให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างสำเร็จแล้ว จะฆ่าให้เขาตายวันไหนก็คงไม่ใช่ เรื่องยาก”
หยาดฟ้าเดินออกไป ทั้งคงคาและคำรณมองตามไป สายตาบ่งชัดว่าไม่วางใจ
ฤทธิ์เองก็นอนซมอยู่ในบ้าน ใบหน้าและตามลำตัวมีแต่รอยชํ้าบวม ฤทธิ์นอนถอดเสื้ออยู่ คล้ามนั่งอยู่ข้างเตียง ฤทธิ์ลืมตาขึ้นมา
“ทำไมอาจารย์ไม่ช่วยผม อาจารย์ทิ้งผมทำไม”
“ข้าไม่ได้ทิ้งเอ็ง...แต่ข้าหายไปเพราะข้าต้องการรู้ว่าใคร กันที่ปล่อยฝนไฟลงมา นี่มันเป็นพลังเทวดาอย่างหนึ่ง พี่น้องเอ็งนอกจากไอ้พวกที่มันตามไล่ล่าเอ็งอยู่ ยังมี ใครอีกหรือเปล่า หา เจ้าฤทธิ์”
ฤทธิ์ส่ายหน้าแต่ก็ตอบไปด้วยความเจ็บปวด หน้านิ่ว
“น้าบุญกู้คนเดียวเท่านั้นที่รู้ ผมจำได้ว่าเหมือนกับมีน้อง เล็กอีกคน แต่หายไปตั้งแต่ยังแบเบาะ”
คล้ามหันมาตวาดดัง “ที่เอ็งว่าหายน่ะตอนนี้มันกลับมาแล้ว รู้ไว้ด้วย เพียงแต่ ไม่รู้เท่านั้นว่ามันเป็นใครอยู่ที่ไหน”
คล้ามมีสีหน้าเครียดจัด
ฟากเทวานอนถอดเสื้อ มีรอยชํ้าเป็นจํ้าๆ ที่ตามลำตัว บุญกู้ผสมยาในถ้วยกระเบื้องแล้วเขย่าตัวเทวาให้ตื่นขึ้น
“กินยาหน่อยนะ...ตายละไม่รู้เรื่องเลย ตัวก็ร้อนอย่างกับไฟ”
บุญกู้ช้อนศีรษะเทวาขึ้นแล้วค่อยๆ กรอกยาใส่ปาก แต่ว่าเทวาสำลักพ่นยาออกมาเลอะลำตัว
“อ้าว เวรละกู..เฮ้อ เลอะหมดเลย”
บุญกู้ไปหาผ้ามาเช็ดให้
ดารินเดินเข้าไปในวัดตั้งใจจะมาเยี่ยมเทวา ปลาดุกตามมาฉุดรั้งไว้ ดารินหันมา
“อะไรอีกล่ะ”
“เธอคิดดีแล้วเหรอ...อย่าลืมนะว่าเคยสั่งไม่ให้นาย เทวาบอกใครว่าเคยรู้จักกันมาก่อน แล้วทำไมวันนี้”
ดารินอ้าง “ก็เขาเจ็บ”
ปลาดุกดักคอ “เป็นห่วงเขาว่างั้นเถอะ”
ดารินนิ่งไป แสงจันทร์เดินมาพอดี มีตะกร้าใส่ของเยี่ยมพวกอาหาร ผลไม้มาด้วย ดารินกับปลาดุกหลบวูบ แสงจันทร์เดินผ่านไป
“ถ้าไม่หลบจะได้เห็นเหรอ” สีหน้าของดารินเจื่อนไป
“ไปไหว้พระกันเถอะ ไม่ต้องเยี่ยมแล้ว” ดารินเดินนำไปก่อน ปลาดุกเกาหัวส่ายหน้า
“อะไรของเขาน้า”
ฝ่ายบุญกู้เทกานํ้าร้อนใส่ชามอ่าง มีผ้าผืนเล็กๆ ไว้สำหรับเช็ดตัวให้เทวา แสงจันทร์มาพอดี
“ฉันมาเยี่ยมเทวาจ้ะน้า”
บุญกู้ยิ้มดีใจ “ดีเลย แสงจันทร์ น้ากําลังจะต้มยาสมุนไพรให้มัน เช็ดตัวให้มันที ตัวร้อนยังกะไฟแน่ะ เช็ดตัวซะหน่อย ไข้มันจะได้ลดลง”
บุญกู้เดินออกไป แสงจันทร์นั่งลงข้างๆ เทวามองเรือนร่างของเขาอย่างเวทนาสงสาร แล้วนํ้าตาคลอ นํ้าตาร่วงพรู บิดผ้าแล้วเช็ดตัวให้เทวาเบาๆ
เทวาเพ้อ จับมือแสงจันทร์ “ริน...รินเหรอ...รินจ๋า” แสงจันทร์ชะงัก ดึงมือเทวาออก แล้วรีบลงไป
แสงจันทร์วิ่งลงบันไดมายกมือป้ายนํ้าตา
จังหวะเดียวกันที่มุมหน้าบันได หยาดฟ้าหลบอยู่ตรงนั้น แสงจันทร์รีบร้อนไปโดยไม่ทันสังเกตเห็น
แสงจันทร์ก้าวเร็วรี่ออกจากวัด มือป้ายนํ้าตาไปตลอดทาง โดยที่ด้านหลังเห็นแสงดาวมองตามพี่สาวไป ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ที่แท้ก็ยังมีเยื่อใยให้กัน”
แสงดาวเดินอารมณ์เสียกลับไปทางหนึ่ง
หยาดฟ้าก้าวเข้ามาในห้องพักของเทวา เห็นร่องรอยการเช็ดตัวยังไม่เสร็จ หยาดฟ้าสวมรอยบิดผ้าแล้วเช็ดใบหน้าให้เทวาอย่างแผ่วเบา เทวาเพ้ออีกครั้ง
“ริน...รินจ๊ะ ริน”
เทวาหลับนิ่งไปอีก หยาดฟ้าฉงน “ริน...ใครกัน”
บุญกู้ออกมาจากมุมหนึ่งนึกว่าเป็นแสงจันทร์ “เป็นไงบ้างแสงจันทร์...อ้าว”
หยาดฟ้ายิ้มให้บุญกู้อย่างเป็นมิตร “ทำไมไม่พาไปหาหมอ...พึ่งยาสมุนไพรมันจะได้เรื่อง เหรอ หรือว่าไม่มีเงินรักษา ฉันออกให้ก็ได้นะ เอาเรือ เร็วมารับที่ท่าเรือหน้าวัดดีมั้ยจ๊ะ”
บุญกู้โมโหคะเพิดไล่ทันที “ออกไปเลยนะ ไม่งั้นข้าจะสาดด้วยยานี่ เอาให้เสียโฉม ไปเลย...หนอย ย่องเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ชาติที่แล้วเป็น แมวหรือไงวะนังนี่...ไป”
บุญกู้ทำท่าจะสาดยาจากถ้วยในมือใส่ หยาดฟ้ารีบลุกขึ้นแล้วออกไป หันมาด่าและขู่อย่างอาฆาตแค้น
“ไอ้แก่เอ๊ย จะตายวันไหนก็ยังไม่รู้ กล้าทำกับฉันยังงี้ เหรอ...ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ทางด้านดารินกับปลาดุกนั่งอยู่หน้าโลงศพแก้วของหลวงปู่หาญ จู่ๆ ดารินร้องไห้ออกมา คล้ายกับซึมซับรับรู้ความเมตตาการุณย์บางอย่างจากอริยสงฆ์ผู้ล่วงลับโดยประหลาด ปลาดุกหันมาเห็น
“เป็นอะไรริน...ตะกี้ยังดีๆ อยู่นี่”
“ไม่รู้สิ มันดีใจยังไงก็ไม่รู้ เหมือนกับว่าฉันเคยอยู่ที่นี่…มาก่อน พลัดหลงไปนานได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน”
ปลาดุกเห็นด้วย “ก็อาจเป็นไปได้นะ ชาติที่แล้วเธออาจจะผูกพันกับที่นี่ ก็ได้”
ดารินพนมมือ จ้องไปที่โลงแก้ว “ท่านเจ้าขา...เมตตาหนูด้วย...มีเหตุที่ดลใจให้หนูมาที่นี่ ไม่รู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นกับหนูวันไหน ขอบารมีท่านปกปักรักษาคุ้มครองหนูด้วยเจ้าค่ะ”
ดารินกราบลง ปลาดุกเห็นเลยกราบบ้าง
จู่ๆ เกิดมีฟ้าผ่าดังเปรี้ยงอยู่ที่ขอบฟ้าไกล หลายทีติดกัน ดารินหันไปมาทางประตู หน้าตาเลิกลัก สีหน้าตกใจ
บุญกู้มองดูท้องฟ้า เห็นฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ ก็ตกใจเช่นกัน
“ใคร” ชายหลังค่อมออกจากห้องเทวาไปทันที
ดารินกับปลาดุกเดินออกมาจากโบสถ์มหาอุตม์ทำท่าจะกลับ บุญกู้เดินผ่านมาเห็นพอดี จึงเอ่ยทัก
“หนูสองคนจะไปไหนรึ...หรือว่ามาหาใคร”
ปลาดุกโพล่งบอก “มาเยี่ยมเทวา”
แต่ดารินกลับส่ายหน้าปฏิเสธ “เปล่าๆ จ้ะ หนูมากราบพระ”
“แล้วกราบหรือยัง”
“กราบแล้วค่ะ ตะกี้นี้” พอได้ฟังดวงตาของบุญกู้ก็เป็นประกายจ้า ดวงตายิ้มเหมือนได้พบกับคนที่หายสาบสูญไปเป็นเวลานาน
“จะเยี่ยมเทวาก็มาสิ...ตามมา”
ดารินยืนตัวแข็งทื่อ ปลาดุกหันมาบอก “ไปสิ...ก็จะมาเยี่ยมเขาไม่ใช่เหรอ”
ปลาดุกรุนหลังดารินให้เดินตามบุญกู้ไป
บุญกู้พาสองสาวเข้ามา เทวายังคงนอนไม่ได้สติ ดารินกับปลาดุกมองด้วยความสงสาร
บุญกู้บอก “นี่ดีขึ้นตั้งเยอะนะแม่หนู น้านึกว่ามันจะตายเสียแล้วสิ เห็นว่ามีคนมาช่วยไว้ ไม่รู้เป็นใคร น้าอยากขอบใจเขาเหลือเกิน”
ดารินทำไก๋ “เอ้อ...เหรอจ๊ะ”
บุญกู้พูดเป็นนัย “แม่หนูรู้มั้ยล่ะว่าใครมาช่วยเจ้าเทวาไว้”
ดารินรีบส่ายหน้า “ไม่...ไม่ทราบค่ะ”
บุญกู้เอ่ยขึ้น “เออ แม่หนู จะเช็ดตัวให้เจ้าเทวามัน แต่น้าทำไม่ค่อย ถนัด ร่างกายมันไม่เอื้ออำนวย แม่หนูช่วยหน่อยเถิดนะ”
ปลาดุกรีบสะกิดให้ตอบรับ ดารินเขินๆ ปลาดุกรับปากไป
“ได้จ้ะน้า...เดี๋ยวเพื่อนฉันเขาทำให้...งานแบบนี้เขา ถนัดอยู่แล้ว”
ดารินบ่นเบาๆ “บ้าเหรอ ปลาดุก”
“น้าจะไปต้มยาต่อ...ฝากด้วยนะแม่หนู”
บุญกู้ลุกไปเลย ปลาดุกเตรียมชิ่ง
“เออ น้าจ๊ะ ห้องนํ้าอยู่ไหนเหรอ ปวดท้องน่ะจ้ะ”
บุญกู้ชี้บอก “ต้องลงไปข้างล่างนะ อ้อมใต้บันไดไป”
ปลาดุกยิ้มให้ดารินแล้วออกไป ดารินจำใจบิดผ้าในนํ้าให้พอหมาด แล้วเช็ดตัวที่หน้าอกและแขนให้ เทวาฟื้น ลืมตาจับมือดารินหมับ ดารินตกใจ จะชักมือออก แต่เทวาจับไว้แน่นไม่ปล่อย
“ดาริน...ผมนึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคุณแล้ว”
ดารินแดกดัน “คนเยี่ยมมากมาย คงไม่ตายง่ายๆ หรอก”
“ใครมาบ้างผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่าลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าคุณ”
ดารินค่อยๆ ชักมือออก แต่เทวาจับไว้แน่น แถมยังดึงตัวดารินให้ล้มลงมานอนทับตัวเอง
“ปล่อยฉันนะ” เทวารวบตัวกอดมาดาริน “ผมไม่กลัวตายแล้วจริงๆ นะริน”
มีเสียงคนเดินมา บุญกู้ไอติดๆ กัน เทวาจึงปล่อยดาริน
บุญกู้อวยอีก “แม่หนูป้อนยาให้เจ้าเทวามันหน่อยสิ...ลุกไหวมั้ย”
“ไหวจ้ะ” เทวายันตัวจะลุกขึ้น แต่ลำบากมาก “ช่วยหน่อยสิคุณ”
ดารินจึงต้องช่วยช้อนร่างเทวาขึ้น เทวายิ้มหน้าเป็น ดารินถือถ้วยยาป้อนใส่ปาก
เทวาจับมือดารินไว้แน่น ทั้งสองสบตากันลึกซึ้ง ใครมาเห็นเป็นต้องฟิน
อ่านต่อหน้า 4
พายุเทวดา ตอนที่ 11 (ต่อ)
ต่อมาไม่นาน บุญกู้เดินมาส่งดารินกับปลาดุก พร้อมกับซักไซร้ถามไถ่
“หนูสองคนชื่ออะไร น้าจำได้ว่าหนูมาที่นี่ตอนงานศพ เจ้ามนต์ แต่ว่าไม่มีโอกาสคุยกัน”
“หนูชื่อปลาดุกจ้ะน้า”
บุญกู้ยิ้ม “ชื่อแปลก แล้วแม่หนูล่ะ”
“ดารินค่ะ หนูชื่อดาริน”
บุญกู้ตะลึง “ดา..ริน...หรือว่า..เอ้อ...วาริน...วารินที่แปลว่านํ้าน่ะจ้ะ”
ดารินบอก “ดารินค่ะน้า ไม่ใช่วาริน”
บุญกู้พยักหน้า “หนูไปก่อนนะจ๊ะน้า”
ดารินกับปลาดุกยกมือไหว้ บุญกู้รับไหว้ ยิ้มดีใจ เมื่อทั้งสองเดินห่างไปแล้ว บุญกู้จึงรำพึงกับตัวเอง
“ดาริน..วาริน...ใกล้กันเหลือเกิน เหตุอัศจรรย์อย่างนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ใช่พวกนักเลงเทวดา”
บุญกู้มองออกไป สีหน้าปีติดีใจ “หลวงปู่...ลูกสาวคนเล็กของเรากลับมาแล้วนะครับ ต่อไปจะไม่มีใครทำอะไรพวกเราได้อีกแล้ว”
ทางด้านฤทธิ์นอนซม แต่ก็ผวาตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นหยาดฟ้าเข้ามาหาตัวเอง
“คุณหยาด...ผมคิดถึงคุณอยู่พอดี ผมเจ็บ ผมอยากได้ ใครสักคนมาอยู่ใกล้ๆ”
หยาดฟ้าใช้มือไล้ไปตามแขนของฤทธิ์ พูดเสียงเศร้าๆ
“ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอดี...เราต้องร่วมมือกันนะ”
ฤทธิ์ฉงน “ร่วมมือ”
หยาดฟ้าย้ำ “ใช่...กําจัดศัตรูของเราให้หมดไปทีละคน”
ฤทธิ์งง “ศัตรู คุณหยาดหมายถึงใคร”
“เสี่ยคงคา...เมื่อเราได้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของเรา เขาจะต้องไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้”
ฤทธิ์ดึงตัวหยาดฟ้าให้นอนข้างๆ หยาดฟ้ายอมโอนอ่อนผ่อนตาม
ฤทธิ์ถาม “ทำไม บอกผมได้มั้ย”
“เขาใช้เราสองคนเป็นเครื่องมือ ฉันทนอยู่กับเขาทุกวันนี้ ก็เพราะความหิว ความอยากได้อยากมี ไม่ใช่ความรัก... อย่าให้เขาเป็นอุปสรรคความรักของเรานะคะฤทธิ์”
“ถ้ามีคุณหยาดอยู่ใกล้ๆ ผมก็พร้อมจะทำทุกอย่าง”
หยาดฟ้าหอมแก้มฤทธิ์แล้วซบหน้ากับอกของฤทธิ์ ยิ้มมุมปากสะใจ ดวงตาเจ้าเล่ห์
เย็นใกล้คํ่า วันเดียวกัน ดารินแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก พร้อมจะไปทำงาน สีหน้าดารินในกระจกเงาเคลิ้มฝัน ด้วยภาพหวานกับเทวาผุดเข้ามาในห้วงคิด ดารินชะงักมือ แอบเผลอยิ้มให้กับตัวเอง
ปลาดุกแอบมองอยู่ “เป็นอะไรจ๊ะริน”
ดารินรู้สึกตัวก็เขิน รีบปฏิเสธ “ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย นิดหน่อยน่ะจ้ะ”
“ไอ้เรื่อยเปื่อยของเธอน่ะเล่าให้ฉันฟังบ้างได้มั้ยจ๊ะ”
“เรื่องส่วนตัว...คนอื่นห้ามยุ่ง”
หยาดฟ้านอนเคียงฤทธิ์ “อยากรู้ว่าทำไมคุณถึงรักผม”
“เคยบอกไปแล้ว”
“ก็อยากฟังอีก”
“ชีวิตฉันขาดๆ เกินๆ มาตลอด เคยฝันอยากมีผู้ชาย รวยๆ มาดูแลไปตลอดชีวิต แล้วฉันก็ได้...แต่มันไม่ เคยทำให้ฉันมีความสุข ตอนนี้ฉันคิดใหม่ ฉันอยาก ได้ผู้ชายดีๆ ไม่ต้องรํ่ารวย ขอให้รักฉัน เมตตาฉันไป ตลอดชีวิต”
ฤทธิ์กอดหยาดฟ้าอย่างหลงใหล “หวังว่าผู้ชายดีๆ ที่คุณพูดถึงน่ะคือผมนะ”
หยาดฟ้าอึ้งไป ร่างแกร่งกำยำใบหน้าหล่อเหลาของเทวาผุดเข้ามาในห้วงคิด แต่บอกไปว่า
“ใช่ นายฤทธิ์” แต่ภาพตอนที่เทวาเพ้อถึงดารินผุดซ้อนเข้ามาในห้วงคิดอีก
หยาดฟ้าถาม “นายฤทธิ์เป็นกำนันที่นี่ ต้องรู้ว่ามีใครเข้าออกบนเกาะ บ้าง” ฤทธิ์พยักหน้า “ถ้างั้นตามหาคนชื่อรินให้หน่อยสิ”
ฤทธิ์แปลกใจ “ทำไม”
หยาดฟ้าอ้างส่งๆ “สงสัยว่ามันเป็นสายให้ฝ่ายตรงข้าม...กําจัดมันซะ มันอยู่ ที่ไหน เป็นใครเหรอนายฤทธิ์”
ดารินทำงานอยู่ในร้าน เอนเตอร์เทนแขกผสมเหล้าให้ ส่ายตัวตามจังหวะเพลง
ดาริน ค่ะ ๆๆๆ เดี๋ยวไปค่ะ
มีแต่คนเรียกร้องให้ดารินไปคุยที่โต๊ะ
หยาดฟ้ายืนอยู่ในร้าน มองดารินอย่างหมั่นไส้ ดารินเดินมาพอดี หยาดฟ้าแกล้งทำเครื่องดื่มหกรดตัวเอง
หยาดฟ้า กรี๊ด “อีบ้า เดินให้ดีๆ หน่อยสิ เห็นมั้ยว่าฉันเปียกหมด แล้ว...ฉันจะให้เฮียเม้งไล่แกออก”
ดารินยื่นหน้าไปถาม “คุณพูดอะไรฉันไม่รู้เรื่อง”
“อีบ้า หูแตกหรือไง”
“อะไรนะคะ..ดนตรีมันดัง ฉันไม่ได้ยิน”
“นังนี่ วอนซะแล้ว” หยาดฟ้าถีบดารินหงายหลังไป ดารินเซไปโดนแขก
ดารินร้องอ้อน “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายฉัน”
แขกในร้านลุกฮือขึ้นพร้อมกัน ดารินร้องไห้ฮือๆๆ หยาดฟ้ามองเห็นแขกที่ยืนอยู่รายรอบ ก็นึกกลัว
“เฮียเม้ง..เฮียเม้ง...มาจัดการที”
เม้งโผล่ออกมา รีบยกมือไหว้แขกในร้าน “อั๊วขอ...อั๊วขอ...อย่ามีเรื่องกันเลย...เต้นรำดีกว่า เอ้า เปิด เพลงดังๆ หน่อย”
เพลงสากลจังหวะเร้าใจดังกระหึ่มขึ้น ดารินเต้นนำก่อน แขกในร้านก็พลอยเต้นไปด้วย ทุกคนร่าเริงกัน ดารินปรายตามองหยาดฟ้าอย่างขันๆ หยาดฟ้าหงุดหงิด
“โอ๊ย...จะบ้า”
หยาดฟ้าเดินเข้ามาหาคำรณที่มุมหนึ่งของคฤหาสน์
“หยาดเพิ่งกลับมาจากเกาะมุกค่ะคุณคำรณ มีเรื่องจะบอก”
“อะไร”
“นังผู้หญิงที่ร้านเฮียเม้ง คนที่คุณคำรณไปติดพันน่ะ”
คำรณตาเป็นประกาย “ดาริน...ทำไมเหรอ”
หยาดฟ้าใส่ไฟ “มันออกไปกับผู้ชายอื่น ทำเป็นเสงี่ยมหงิมสงวนเนื้อ สงวนตัว ที่แท้ก็...โธ่เอ๊ย ไม่อยากจะพูด...บอกได้คำเดียว ว่ามันรังเกียจคุณคำรณมากกว่า”
คำรณหันมา มองหน้าหยาดฟ้า ตาเป็นประกายวาววับ
หลังเลิกร้าน ดารินขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านพัก มีรถคันหนึ่งขับตามมา ภายในรถเห็นคำรณสั่งการอยู่ พัน ธง ศรนั่งอยู่ในรถ ธงเป็นคนขับรถ
พันด่า “นังนี่มันร้ายครับ นายก็เคยเห็นมัน เตะปลายคางผมสลบ มาแล้ว”
“วันนี้แหละ ผมจะได้แก้แค้นมัน” ธงบอก
“นาย ถ้านายได้มันแล้ว วันไหนเบื่อก็เผื่อพวกผม บ้างนะครับ” ศรว่า
คำรณยิ้มกริ่ม “ได้อยู่แล้ว มีอะไรที่ข้าให้พวกเอ็งไม่ได้วะ”
ทั้งสามคนหัวเราะ ธงเร่งเครื่อง ดารินเหลียวมอง แล้วเร่งเครื่องหนี ดารินตัดสินใจใช้พลังเทวดา
“ช่วยลูกด้วย...ช่วยด้วย”
ฟ้าร้องครืนๆ ขึ้นมาทันที ดารินยิ้มออก ฝนตกลงมาอย่างหนัก
ธงงง “นี่มันอะไรกันนาย...จู่ ๆ ฝนก็ตกมา”
รถติดหล่ม ธงเร่งเครื่อง ล้อรถหมุนฟรี รถเคลื่อนไปไม่ได้
ธงบอก “ไม่ไหวแล้วละครับ...ต้องเข็น”
คำรณหัวเสีย “อะไรวะ”
พัน ธง ศรเข็นรถอยู่ มีคำรณที่นั่งตัวเปียกโชกคุมพวงมาลัยอยู่
ขณะเดียวกัน ฤทธิ์ยืนมองสายฝนที่ตกกระหนํ่า คล้ามปรากฏตัวขึ้น
“ไม่ใช่ฝนธรรมดา”
ฤทธิ์หันมา “แล้วเป็นฝนอะไรครับ”
“ฝนอาคม...เกิดจากฝีมือของคนที่ทำฝนไฟใส่เรา คืนนั้น...มันเป็นพี่น้องของแก เพราะนี่คือพลังเทวดา เอ็งไม่รู้จริงๆ เหรอว่ามันอยู่ที่ไหน”
“ผมเคยบอกอาจารย์ไปแล้วว่าคนที่รู้เรื่องนี้นอกจาก หลวงปู่แล้วก็มีน้าบุญกู้คนเดียว”
คล้ามหัวเราะในลำคอ “ก็ไปรีดเอามาจากมันให้ได้”
ดารินเข้ามาในห้อง เนื้อตัวเปียกปอน ปลาดุกถามทันที
ปลาดุก ฝนยังตกอยู่ รีบกลับมาทำไม...
ดาริน ก็ดีแล้วละ มีคนตามฉันมา...รอดมาได้ก็บุญแล้ว...
ปลาดุก นับวันก็มีแต่อันตราย...ริน ฉันว่าเรากลับบ้านกันเถอะ ไม่รู้ป่านนี้พ่อนิลฉันจะเป็นยังไงบ้าง..
ดาริน ฉันก็คิดถึงแม่มณี แต่ฉันขอเวลาอีกสักพักนะปลาดุก หรือไม่ ถ้าเธอจะกลับก่อนก็ได้ ฉันจะขออยู่ที่นี่สักพัก
ปลาดุกส่ายหน้า ปลาดุก ถ้าฉันกลับโดยไม่มีแกกลับไปด้วย พ่อฉันได้ตีหัวแตก พ่อบอกว่าไม่ให้ทิ้งเพื่อน...
ดารินยิ้มให้ปลาดุก ซาบซึ้งในมิตรภาพ ปลาดุกโยนผ้าเช็ดตัวให้ดารินเช็ดผมให้แห้ง
ใกล้ที่ดารินเช็ดผม แล้วช้าลง เหมือนใช้ความคิด “มันเป็นพวกไหนกันนะ”
เช้าวันนี้ ทุกคนมารวมตัวกันที่ลานวัดเกาะมุก เพื่อไปช่วยเทวาหาเสียง เดชส่งใบปลิวให้ทุกคน
“เอ้า นี่ใบปลิว ช่วยกันแจก แล้วนี่โปสเตอร์ ภาพไอ้เทวา หล่อเหมือนพระเอกหนังเลยว่ะ อ่านดูๆๆ ใช้ได้มั้ย”
เทวาคลี่โปสเตอร์ออกดู เห็นเป็นภาพเทวายิ้มหล่อชวนแม่ยกฟิน มีข้อความเขียนไว้ชัดเจน
“เทวา ลูกเกาะมุก อาสาสร้างความเจริญให้เกาะมุก ใจซื่อ มือสะอาด เรียกใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
เทวาชอบใจ “เข้าท่าว่ะ”
เดชยิ้มหันไปทางบุญกู้ “ขอบใจมาก...น้าบุญกู้ไปด้วยกันมั้ย”
“ไม่ละ น้ามันคนช้า เสียเวลาพวกเอ็งเปล่าๆ อีกอย่างกลัว ว่าจะมีคนมากราบหลวงปู่ เดี๋ยวไม่มีคนดูแลพวกเขา”
“งั้นผมไปก่อนนะครับ เอ้า ไปกันพวกเรา” เทวากันไปดูความเรียบ ทุกคนนั่งรถ เทวาขึ้นนั่งคู่กับเดชที่ข้างหน้า คนอื่นนั่งที่นั่งผู้โดยสารของรถสองแถว
รถเคลื่อนไป บุญกู้ยืนมองส่ง โบกมือให้หยอยๆ โดยไม่รู้ว่าเรื่องกำลังมาเยือนเรือนชีวิต
กลุ่มของเทวาแจกใบปลิวหาเสียงที่ตลาด ชาวบ้านมารับและกอดเทวา เทวายกมือไหว้ฝากเนื้อฝากตัว
“พ่อครับ แม่ครับ ฝากเทวา ลูกหลานเกาะมุกด้วยนะครับ ผมรับรองว่าจะนำความสุขมาให้พ่อแม่พี่น้องทุกคน ให้เราได้อยู่กันอย่างมีความสุขเหมือนแต่ก่อน”
ทุกคนแจกใบปลิวขันแข็ง และต่างฝากฝังเทวาให้ทุกคนช่วยลงคะแนนให้ รถของคำรณขับผ่านมาพอดี
ภายในรถ เห็นคำรณหน้าเครียดจัด ธงขับอยู่ถามขึ้น “เอาไงครับนาย”
“ก็ผ่านไปสิวะ จะหยุดรอมันทำไม” ธงกดแตรดังลั่น
กลุ่มของแสงดาว แสงจันทร์ นที ประสิทธิ์ สน กระโดดหนีกัน รถของคำรณแล่นผ่านไป
“บ้าจัง” แสงดาวด่า ก้องกับเดชมองตามไป
“มันจะรีบไปไหนวะ” ก้องโวย
“สงสัยเป็นไอ้พวกนั้น” เดชบอก เทวาหันกลับไปมองก็เห็นรถของคำรณแล่นห่างออกไปมากแล้ว
รถแล่นมาเรื่อยๆ คำรณหน้าเครียด บ่นอุบเอากับสามสมุน
“พวกมันเริ่มหาเสียงกันแล้ว...เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“คุณหยาดฟ้าเตรียมเงินไว้แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงหรอกครับ นาย” พันว่า
ธงบอก “นั่นสิ เห็นว่ามากกว่าครั้งเก่าอีก”
คำรณแย้ง “ไอ้พวกเกาะมุกมันหยิ่ง ไม่รับตังค์ พวกเอ็งก็เห็น”
“ครั้งที่แล้วผิดพลาด หัวคะแนนอมเงินไว้เอง นายฤทธิ์ส่ง คนไปจัดการปางตายเลยละครับ” ศรบอก
“ไม่รู้ละ คราวนี้ข้าแพ้ไม่ได้ เป็นไงก็เป็นกัน” คำรณฮึดฮัด บอกอย่างผยอง
กลางวันในวันเดียวกัน ขณะที่ดารินกับปลาดุกเดินเข้ามาในวัด สองสาวได้ยินเสียงต่อสู้กันดังขึ้น ตามด้วยเสียงร้องโอดโอยของบุญกู้ดังมา ทั้งสองย่องไปทางเสียงนั้นแอบมองไป
ดารินกับปลาดุก เห็นลูกน้องของฤทธิ์กำลังซ้อมบุญกู้อย่างหนักโดยที่ชายหลังค่อมไม่มีทางสู้ ซึ่งลูกน้องคนหนึ่งล็อกตัวไว้ อีกคนทำหน้าที่ต่อยบุญกู้ตามอำเภอใจ จนเลือดกบปากกบจมูก
“น้าบุญกู้บอกมาดีกว่า...ว่าน้องคนสุดท้องของผมอยู่ที่ ไหน ตอนนี้มันอยู่ที่เกาะมุกแล้วใช่มั้ย”
“ข้าไม่รู้เรื่อง”
ฤทธิ์ขู่ “อย่าปิดฉันเลยน่า...น้าก็แก่แล้ว ไม่น่าต้องมาตายอย่างนี้”
“ถุย” บุญกู้ถ่มนํ้าลายปนเลือดใส่หน้าฤทธิ์ “กูไม่รู้”
ฤทธิ์บันดาลโทสะตบหน้าบุญกู้และต่อยท้องอย่างแรง “ไม่รู้เหรอน้า...ไม่รู้เหรอ...นี่แน่ะ”
บุญกู้ทรุดไปงอก่องอขิง ลูกน้องทิ้งร่างบุญกู้ลงกับพื้น
ดารินกับปลาดุกมองดูด้วยความเคียดแค้น พลันลมพายุพัดมาอย่างรุนแรง ฟ้าร้องครืนครัน ฤทธิ์มองแล้วหัวเราะ ท้าทายออกไป
“ใครวะ จะมาสำแดงพลังเทวดาตอนฟ้าเปรี้ยงๆ อยู่แถวนี้ เหรอวะ...ออกมาสิ ออกมา”
บุญกู้เผยอตัวขึ้น พูดด้วยความลำบาก เพราะเจ็บระบมไปทั้งตัว
“แถวนี้ก็มีแต่วิญญาณหลวงปู่น่ะแหละ...ไอ้ฤทธิ์ ไอ้ เนรคุณ ไอ้เดนนรก ไอ้ทรพี”
ขาดคำฤทธิ์กระทืบบุญกู้เต็มตีน บุญกู้สะดุ้ง ทรุดหมอบลงไป ฟ้าครึ้มผิดปกติ เหมือนฝนจะตก ร่างของฤทธิ์มีวิญญาณคล้ามมาแฝง ลายสักขึ้นเต็มไปหมด ลูกน้องของฤทธิ์ยังผงะ
ลูกน้อง 1 ร้องลั่น “กํานัน”
ลูกน้องทั้งสองยืนอยู่ด้วยกัน มองมาที่ฤทธิ์ เห็นเงาร่างของคล้ามซ้อนอยู่ที่ร่างฤทธิ์ถนัดตา ฤทธิ์ตวัดสายตาไปมา แล้วหยุดที่มุมซึ่งดารินซ่อนตัวอยู่
วิญญาณของมนต์ปรากฏขึ้น เพ่งไปยังมุมที่ดารินซ่อนอยู่ มนต์รับรู้ว่าหญิงสาวเป็นใคร ฉับพลันทันใด เมฆหมอกสีเทาปกคลุมทันที ในเงาหมอก
ดารินบอกกับปลาดุก “เร็ว หนี”
ทั้งสองสาววิ่งไปทางหนึ่ง ไม่มีใครเห็น ฤทธิ์พูดออกมาเป็นเสียงคล้าม “จับมันมาให้ได้”
ลูกน้องของฤทธิ์ยังงงๆ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในเมฆหมอกนั้น
หลวงปู่หาญปรากฏร่างจางๆ ขึ้นมาข้างๆ มนต์ ทั้งสองเหลียวไปดูฤทธิ์ที่กำลังกราดตามองไปรอบๆ โดยมีเงาร่างของคล้ามแฝงอยู่
ขณะเดียวกันเดชขับรถย้อนกลับมาทางวัดอย่างรวดเร็วราวกับจะบิน เทวานั่งข้างๆ รับรู้เหตุการณ์จากญาณที่มนต์ และหลวงปู่ส่งมาให้
“แน่ใจนะโว้ย” เดชถาม
“แน่ใจ ข้ามั่นใจว่าหลวงปู่ส่งสัญญาณให้เราเห็น น้าบุญกู้ อาจได้รับอันตราย”
ส่วนที่สองแถวตอนหลัง ทุกคนนั่งเงียบ สีหน้าหวาดหวั่น ขณะที่รถแล่นทะยานไป
บนท้องฟ้า ฟ้าร้องและแลบสว่างวาบ มืดครึ้ม ทั้งที่เมื่อครู่แดดเปรี้ยง
ปลาดุกกับดารินหลบอยู่หลังพุ่มไม้ในวัด ฟ้ายังปั่นป่วนต่อเนื่อง เห็นรถสองแถวของเดชขับผ่านหน้าสองสาวเข้าในวัดไป
“พี่เดชมาช่วยแล้ว” ปลาดุกดีใจ
“อย่าเพิ่งวางใจ ดูไปก่อน ระวังตัวด้วยนะปลาดุก”
“รู้ว่าไม่ธรรมดา แต่เธอไม่ต้องห่วงเราหรอก ฉันว่ามัน ดูแปลกๆ”
“อะไร” ดารินฉงน
“เหมือนเป้าหมายคือเธอ”
ปลาดุกจ้องหน้าดารินเป็นถาม ดารินไม่ตอบ แต่เพ่งมองไปที่วัด บอกเบาๆ โดยไม่ได้หันมาทางปลาดุก
“แล้วสักวันฉันจะ เล่าให้ฟัง”
รถสองแถวแล่นมาจอดตรงจุดเกิดเหตุ ฤทธิ์หัวเราะ มีเงาร่างของคล้ามแฝงอยู่
“มาแล้วเหรอ”
เทวาตกใจระคนโกรธ เมื่อเห็นลูกน้องของฤทธิ์จับบุญกู้ไว้เป็นตัวประกัน
“พี่ฤทธิ์ ทำไมพี่รังแกคนไม่มีทางสู้”
“แล้วไง...เป็นฮีโร่นักเหรอมึง ไอ้เทวา...เอาสิ ถ้าพวกมึง ทำอะไรกู กูนี่แหละจะเชือดคอไอ้บุญกู้ต่อหน้าพวกมึง”
นทีบอก “อย่าเลยนะครับกำนัน นอกจากจะเป็นบาปแล้วยังจะผิดกฎหมายอีก...ผมนี่แหละจะแจ้งความจับกํานันเอง”
ฤทธิ์หัวเราะ ร่างของคล้ามหลุดวูบออกมา ปรากฏเป็นร่างคนชัดเจน ทุกคนตะลึงพรึงเพริดผงะไป
“ผิดเหรอ ก่อนที่พวกเอ็งจะทำอะไรก็คงตายก่อน”
คล้ามร่ายเวทย์ นกบินกรูกันออกมา บินวนรอบๆทุกคน
เทวาตั้งสติบอกคนอื่นๆ “นกเหล่านี้ไม่มีจริง...อย่าสนใจ”
สิงห์ต่อยนกที่บินโฉบมา หมัดตะบันไฟทำให้เกิดกระแสไฟจนขนนกร่วงกราว
เทวาพุ่งชนคล้ามจนล้มลงไป ก้องกลิ้งตัวไปตามพื้น เสียงสะเทือนเลือนลั่น ทุกอย่างสั่นไหวล้มระเนระนาด ลูกน้องของฤทธิ์ทั้งสองทรงตัวไว้ไม่ได้ เดชได้ทีเข้าชาร์จเอาตัวบุญกู้ออกมา ก้องต่อยลูกน้องทั้งสองของฤทธิ์ลงไปกองในพริบตา
สิงห์วิ่งเข้าตะบันไฟใส่ฤทธิ์อย่างไม่ยั้ง เทวากับคล้ามต่อสู้กัน คล้ามปล่อยไฟเป็นลูกเพลิงใส่เทวา แต่เทวาก็ใช้พลังลมสลาตัน พัดลอยไปไกลๆ ลูกไฟถูกลมสลาตันลอยวน ไม่สามารถทำอะไรได้
กลุ่มของสน แสงดาว แสงจันทร์ นที ประสิทธิ์ กอดกันอยู่มุมหนึ่งมองดูด้วยสายตาตื่นตะลึง
ส่วนที่มุมหนึ่งดารินแอบมองอยู่ข้างรั้ว กำหนดจิตบันดาลให้ฝนไฟตกลงมา
คล้ามรับรู้บอกฤทธิ์อย่างมั่นใจ “คนที่เอ็งตามหาอยู่แถวนี้”
ฤทธิ์ตวัดสายตาไปทั่ว แต่ช้ากว่าเทวาที่ตรงเข้าต่อยเตะฤทธิ์จนล้มลงไปด้วยกัน คล้ามจะวูบหายไป
“มันต้องกูเอง” คล้ามจะวูบไป แต่ไปไม่ได้ ชะงักเซซัง ร้องออกมา
“โอ๊ย ปวดหัว ใครบีบหัวกู”
วินาทีนั้นเองทุกคนเห็นหลวงปู่หาญในร่างของพระห่มจีวรสีกลัก จีวรปลิวตามแรงลมสลาตันและธรรมชาติที่ปั่นป่วน
“ไอ้คล้าม ไอ้เดนปีศาจ...จำไว้ว่าพลังพุทธคุณยิ่งใหญ่กว่า อะไรทั้งหมด”
ทุกคนนั่งลงไหว้หลวงปู่ เทวาตื้นตัน “หลวงปู่”
อีกมุมหนึ่ง ท่ามกลางฟ้าครึ้ม ธรรมชาติปั่นป่วน วิญญาณของมนต์นั่งลงแล้วกราบลงกับพื้น แสงจันทร์มองเห็นวิญญาณของสามี ร้องไห้ออกมา
“พี่มนต์...พี่มนต์” แสงจันทร์สะอื้น มนต์ค่อยๆ หายไป
ฤทธิ์กับลูกน้องได้สติ รีบวิ่งหนีออกไป คล้ามวูบหายไปได้ก่อนใคร วิญญาณของหลวงปู่ยืนนิ่ง
ฟ้าที่มืดอยู่ค่อยๆ สว่าง ร่างของหลวงปู่หาญก็เลือนหายไปในรัศมีสีทองซึ่งค่อยๆ วูบหายไปพร้อมกัน นทีเข้าไปประคองบุญกู้
“พาไปอนามัย” หมอนทีบอก
แสงจันทร์เอ่ยขึ้นทั้งนำตานองหน้า “ถ้าฉันมีวิชาเหมือนพวกพี่ ฉันจะไม่ปล่อยให้มัน ลอยนวลอยู่หรอก”
ลูกเทวดาทั้งสามคนอึ้งไป
อ่านต่อตอนที่ 12