สาปสาง ตอนที่ 19
หลังจากฝันถึงช่อเอื้องก็นอนไม่หลับจึงได้แต่คิดถึงช่อเอื้อง
"ช่อเอื้อง....ทำไมคุณถึงมาแต่ในความฝัน"
เสียงช่อเอื้องดังขึ้น "ช่ออยู่นี่ค่ะ"
กรณ์หันไป
ช่อเอื้องดีใจเพราะคิดว่ากรณ์เห็นตัวเอง
"ผมรอคุณมานานเหลือเกิน ช่อเอื้อง"
"ช่อไม่เคยหายไปไหน ช่อรอคุณอยู่เสมอ"
กรณ์เดินไปที่หน้าต่าง ช่อเอื้องคิดว่ากรณ์จะมาหาตน
"คุณกรณ์.....”
กรณ์เดินทะลุร่างช่อเอื้องไปหยุดที่หน้าต่าง กรณ์มองออกไปข้างหน้า
ช่อเอื้องเสียใจ "คุณกรณ์....คุณไม่เห็นช่อ"
"คุณอยู่ไหนนะช่อเอื้อง"
ช่อเอื้องพยายามร้องเสียงดังให้กรณ์ได้ยิน แต่กรณ์ไม่ได้ยินและไม่รับรู้
"ช่ออยู่ตรงนี้ คุณได้ยินช่อไหมคะ ช่อกลับมาหาคุณแล้ว ช่อมาหาคุณแล้ว"
"ผมคิดถึงคุณเหลือเกินช่อเอื้อง ผมอยากอยู่เคียงข้างคุณ"
"คุณกรณ์"
ช่อเอื้องโผกอดกรณ์จากด้านหลังซบหน้ากับหลังกรณ์
"คุณกรณ์ขา...ช่ออยู่ตรงนี้ คุณรู้สึกไหมคะ คุณสัมผัสความรักของช่อได้ไหม"
กรณ์ไม่รู้สึกอะไรนอกจากเริ่มหนาวขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
"แปลกจัง อยู่ๆก็หนาวขึ้นมา"
กรณ์ขยับตัวกอดอกโดยไม่รู้สึกว่าช่อเอื้องมาหา ช่อเอื้องกอดกรณ์ไว้ เจ็บปวด น้ำตาไหลพราก แต่กรณ์ก็ยังไม่รับรู้
"คุณกรณ์ไม่เห็นช่อ คุณกรณ์ไม่รู้ว่าช่ออยู่ตรงนี้....ต้องเป็นเพราะอ้ายอีพวกนั้น อีแพรว ไอ้ไท....พวกมึงฆ่ากู...พวกมึงพรากกูจากคนรัก กูจะแก้แค้น"
ช่อเอื้องซบหลังกรณ์ด้วยสายตาคั่งแค้น กรณ์ไม่รับรู้ว่ามีช่อเอื้องกอดเขาจากเบื้องหลัง
อีกาบินนำรถแพรวมาจอดที่หน้าตำหนัก อีกาแยกย้ายไปเกาะตามที่ต่างๆ แพรวเข้ามาเห็นพ่อปู่นั่งอยู่คนเดียว
"มาแล้วเหรออีเลือดชั่ว"
"เห็นก็แปลว่ามาแล้วสิ"
"อีเลือดชั่ว โอหังกับกู"
"เปล่า....ฉันกำลังร้อนใจเรื่องผีอีช่อ...แต่ยังไงฉันก็ขอบใจพ่อปู่แล้วกันที่ส่งบริวารดำพาฉันมานี่....แล้วไทล่ะพ่อปู่"
พ่อปู่ตวาดย้อนคำด้วยความฉุน
"ถ้ามึงเห็นมันก็แสดงว่ามันมาแล้ว แต่นี่มึงไม่เห็น"
"ทำไมป่านนี้ไทยังไม่มา"
"ถ้ามันไม่กลัวตาย ก็ช่างหัวมัน"
แพรวสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นว่าทำไมไทยังไม่มา
ไทวางดอกบัวที่หน้าฐานพระแล้วไหว้พระ
"ขอความศักดิ์สิทธิ์ของท่านช่วยปกป้องคุ้มครองกระผมจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายด้วยเทอญ"
ไทจุดเทียน ทันใดนั้นเทียนก็ดับ ไทพยายามจุดเทียนอีกครั้ง เปลวเทียนสว่าง
ไทยิ้มออกเพราะโล่งใจ "สาธุ"
เทียนดับพรึ่บ ไทตกใจ
"เฮ้ย ! อะไรกัน"
เสียงช่อเอื้องดังขึ้น "ฮะๆๆ" ช่อเอื้องหัวเราะเยาะหยัน
ไทหันขวับ
ในกระจกที่ตู้บานหนึ่งปรากฎภาพช่อเอื้อง
ไทตกใจ "ช่อเอื้อง"
ประตูตู้ที่เป็นกระจกเปิดปิดเองได้ ภาพช่อเอื้องหายไปจากกระจกบานนั้น ประตูตู้เก่าอีกตู้หนึ่ง เปิดปิดเอง ช่อเอื้องนั่งอยู่ในตู้เก่าตู้นั้นจ้องไท
"มึงฆ่ากู !”
"ช่อเอื้อง....ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ"
ไทพุ่งพรวดไปปิดตู้ มีเสียงช่อเอื้องกรีดร้องแล้วทุบประตูตู้
"มึงฆ่ากู แล้วมึงก็ฝังกู"
"ช่อเอื้อง...ฉันขอโทษ"
"แต่มึงกักขังกูไม่ได้"
ไทหันขวับ ช่อเอื้องนั่งอยู่บนเก้าอี้โบราณ
"กูรอวันนี้มานานแล้ว วันที่กูจะเป็นอิสระ"
"ช่อเอื้อง ไปสู่สุขคติเถอะนะ อย่าจองเวรจองกรรมกันเลยนะ"
"จองเวร ! แล้วใครสร้างเวรกับกู ใคร? ไอ้คนชั่ว"
ช่อเอื้องพุ่งเข้าหาไทที่ยืนตะลึงอยู่หน้าตู้เก้า
"วันนี้เป็นวันตายของมึง"
"ช่อเอื้อง อย่า.....”
ช่อเอื้องบีบคอไท ไทพยายามแกะมือช่อเอื้องออก แต่ทำไม่ได้ ไทตาเหลือก
"ชะ....ช่วย....ด้วย"
"ใครก็ช่วยมึงไม่ได้ มึงต้องตาย" ช่อเอื้องบีบคอหนักขึ้น
ไทตาเหลือก แต่เหลือบไปเห็นพระพุทธรูป ไทพยายามประนมมือ
"คุณ...พระ...คุณ...เจ้า.....ช่วยด้วย"
ช่อเอื้องร้อง "โอ๊ย !”
มือช่อเอื้องร้อนจัดเหมือนมีแรงผลัก ช่อเอื้องกระเด็นออกจากไทหงายหลังไปกระแทกตู้ ช่อเอื้องจุก และเจ็บ ไทเพิ่งหายใจคล่องรู้สึกโล่งใจที่รอดมาได้ แต่เขาก็เสียใจที่เห็นช่อเอื้องเจ็บ
"ช่อเอื้อง เธอเจ็บไหม"
"มึงฆ่ากูจนตาย มึงถามกูว่าเจ็บไหม?”
ช่อเอื้องยันตัวขึ้นจะพุ่งเข้าหาไท ไทห่วงแต่ก็กลัวจึงรีบจะไปหาพระ ช่อเอื้องจับขาไททำให้ไทล้มลงและไปไม่ถึงพระ
"มึงต้องตายก่อน มึงถึงจะรู้รสชาติความเจ็บปวด"
"หลวงพ่อ"
ช่อเอื้องหวีดร้องและกระเด็นออกไปชนผนัง ไทพยายามลุกขึ้นไปให้ถึงหลวงพ่อ ช่อเอื้องพุ่งเข้าไปเกาะหลังไททำให้ไทไปไม่ถึงหลวงพ่อ ไทโดนช่อเอื้องบีบคอ ไทรวมกำลังเหวี่ยงช่อเอื้องออก
"ฉันไม่ได้ตั้งใจนะช่อเอื้อง เราเลิกแล้วต่อกันเถอะนะ"
"ไม่"
ไทพุ่งไปถึงฐานพระ เขาหยิบธูปและไม้ขีด ช่อเอื้องพุ่งเข้ามาบีบคอ ไทพยายามจุดธูป
"ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ แต่ฉันยังไม่อยากตายนะช่อเอื้อง"
"แต่มึงต้องตาย....อ๊ากก"
ช่อเอื้องรู้สึกร้อนมือ
"อย่าจุด อย่า....”
ไทรู้ "พระพุทธคุณหลวงพ่อ"
ไทยิ่งพยายามจุดธูป ช่อเอื้องก็ยิ่งเพ่งพลังจนตาลุกแดงฉานทำให้ไม้ขีดดับ ไทจุดธูปติดแต่เริ่มหมดแรงทำให้มือคลาย ธูปที่จุดติดทั้ง 3 ดอกจะหล่นจากมือ ไทล้มลงไปแทบคลาน
"ขอ...คุณ...พระ....” ไทท่อง
"อ๊าก...”
ไทพยายามคลานไป ช่อเอื้องนั่งคร่อมอยู่บนหลังไทและบีบคอเขา
"ไอ้ไท มึงต้องตาย"
ไทพยายามฝืนคลานทั้งที่มีช่อเอื้องคร่อมอยู่ ไทหน้าเขียวและใกล้จะหมดลมหายใจ เขาพยายามจะไปปักธูป
"หลวงพ่อ....”
อ่านต่อหน้า 2
สาปสาง ตอนที่ 19 (ต่อ)
พระพุทธรูปแผ่รัศมีพุทธานุภาพสว่างจ้า ช่อเอื้องโดนลำแสงพุทธานุภาพจนกระเด็นออกไปชนผนัง
แสงสว่างจากรัศมีพระพุทธรูปแผ่ฉายมา ช่อเอื้องโดนพลังทำให้เนื้อเริ่มมีควันขึ้นจนเหมือนจะไหม้
"โอ๊ย ร้อน ร้อนเหลือเกิน"
ไททั้งตกใจและเป็นห่วงช่อเอื้อง "ช่อเอื้อง"
ช่อเอื้องหลบลำแสงไม่พ้น ร่างกายของเธอเริ่มไหม้เป็นแห่งๆ ช่อเอื้องหวีดร้องเพราะรู้สึกย้ำแค้น
"กูจะฆ่ามึง"
ช่อเอื้องจ้องไทด้วยสายตาแดงก่ำและเบิกโพลงเพราะความอาฆาตแค้น แล้วเธอก็หายตัวไป ไทกอดฐานพระพุทธรูปแน่น เขาทั้งตกใจ ทั้งโล่งที่ไม่ตาย แต่ไทก็รู้สึทั้งกลัว ทั้งเป็นห่วงช่อเอื้อง
ช่อเอื้องปรากฎตัวที่หน้าหลุมศพบริเวณน้ำพุ เธอล้มกองอยู่กับพื้น ร่างของเธอมีรอยไหม้เป็นหย่อมๆ ใบหน้าเละบางส่วน
"มึงพรากรักกู มึงพรากร่างกู มึงทำร้ายกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า กูจะทวงแค้นคืน กูจะทวงชีวิตมึงคืน มึงจงจำ กูจะทวงหนี้แค้นกูคืน"
ช่อเอื้องหวีดร้องอย่างบาดเจ็บและโหยหวน ช่อเอื้องซบอยู่ข้างน้ำพุเทวี ลมพัดแรงจนมีเสียงหวีดหวิวน่าหวาดหวั่น
แพรวที่ยืนอยู่ที่หน้าต่างรับโทรศัพท์ ด้านนอกมีลมแรงและมีฟ้าแล่บแปลบ
"แกว่าไงนะไท....ผีอีช่อบุกมาทำร้ายแก"
ไทจับที่คอตัวเองซึ่งมีรอยเขียวคล้ำจากการที่ช่อเอื้องบีบ ไทโทรศัพท์เล่าให้แพรวฟัง
"ช่อเอื้องแค้นมาก ถ้าฆ่าฉันได้คงฆ่าไปแล้ว"
แพรวสงสัย
"ถ้าแกตายคงไม่ได้โทรมาหาฉันหรอกไอ้ไท...แล้วใครมาช่วยแก"
ไทมองพระพุทธรูป
"ไม่มีใครช่วย แต่คงเป็นเพราะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันเพิ่งได้มา เค้าว่ากันว่าขลังมาก แล้วก็จริงด้วย ช่อเอื้องโดนพุทธานุภาพหลวงพ่อ เลยฆ่าฉันไม่ได้"
พ่อปู่หัวเราะเหมือนจะรับรู้ทุกอย่างที่แพรวคุยกับไท
"ฮ่ะๆ มึงคิดว่าพระจะคุ้มครองคนที่ทำชั่วๆอย่างพวกมึงเหรอ ฮ่ะๆๆ"
แพรวเหลือบมองพ่อปู่ด้วยความข้องใจที่พ่อปู่รู้แล้วยังเยาะเย้ย
แพรวโทรศัพท์กับไท "ถ้าผีอีช่อมันเกิดมีพลังกว่าเดิมแล้วกลับมาฆ่าแกล่ะ พระที่ไหนจะช่วยแกได้ ไอ้โง่ รีบมาที่ตำหนักพ่อปู่เลย"
ไทนึกถึงผีช่อเอื้องแล้วก็หวาดหวั่น เขาเหลียวมองรอบตัว
"พระองค์ใหญ่มาก ฉันอุ้มไปด้วยไม่ได้ แล้วถ้าฉันอยู่ไกลจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ฉันก็ไม่มีอะไรคุ้มครองตัวเลยนะ คราวนี้ช่อมาฆ่าฉันตายแน่"
แพรวนึกแล้วก็โมโหไท
"ไอ้โง่เอ๊ย ! ทีนี้จะทำยังไง" แพรวหันไปทางพ่อปู่ "พ่อปู่ ช่วยไอ้ไทมันหน่อยได้ไหม"
"ฮ่ะๆ จะสู้กับผีอีช่อ มันต้องระดับกู....ได้ กูจะให้โหงพรายนำทางมันมา"
พ่อปู่หยิบก้อนดินขึ้นมาปั้นแล้วหลับตาว่าคาถาเรียกสมุน
"กะกุกากา ห่าโหงจงมา กะกากุกู....นำทางมันมา"
ไทยังถือโทรศัพท์คุยกับแพรว
ไทกลัว "แพรว เอาไงดีล่ะ ฉันจะไปตำหนักพ่อปู่ยังไง"
เสียงแพรวพูดจากปลายสาย "สมุนพ่อปู่ไปนำทางแกแล้ว"
ไทงง พลันเขาก็ตกใจเพราะที่หน้าร้านมีแสงเขียวๆของโหงพรายวูบวาบๆ
"สมุนพ่อปู่ ?”
ไทลังเลแว่บหนึ่ง เขามองพระพุทธรูป ไทรีบไหว้ปลกๆ ก่อนจะเดินออกไปที่หน้าร้าน หน้าร้านขายของเก่ามีแสงเขียวของโหงพรายปรากฏเหมือนร่างคนกวักมือ มีเสียงเย็นสยองๆ พูดว่า "ตามกูมา"
ไทเดินตามแสงเขียวด้วยความหวาดกลัวและขนลุก แสงสีเขียวเปลี่ยนร่างได้กลายเป็นลูกไฟสีเขียว ลอยอยู่ข้างหน้าไท
แพรวก้มลงมองน้ำในขันทองแดงขนาดใหญ่ ไทเดินตามแสงเขียวที่ลอยไปมาล้อมรอบตัว
แพรวโล่งใจ "หวังว่าโหงพรายจะพาไอ้ไทมาที่นี่ได้อย่างปลอดภัยนะพ่อปู่"
"มึงอย่าดูถูกสมุนกู โหงพรายนำทาง ส่องเห็นวิญญาณ แต่ไม่มีวิญญาณตนไหนทำอะไรสมุนกูได้....กลัวแต่ว่าเพื่อนมึงจะหัวใจวายตายซะเอง ฮ่ะๆ"
พ่อปู่ยิ้มเย้ย แพรวโล่งใจเพราะคิดว่ายังไงไทก็ต้องรอดมาได้
ช่อเอื้องเงยหน้าขึ้น
"ไอ้ฆาตกร ไอ้เพื่อนทรยศ"
ช่อเอื้องตาแดงก่ำด้วยความคั่งแค้น ความแค้นทำให้ร่างผีที่โดนพุทธานุภาพเผาไหม้ค่อยๆคืนกลับมาเป็นร่างสมบูรณ์
"วิญญาณกูอยู่ได้ด้วยความแค้น....ถึงเวลาที่มึง....ไอ้เพื่อนทรยศ ต้องชดใช้"
วิญญาณช่อเอื้องวูบหายไป
กรณ์มองกล่องแหวนหมั้นที่เปิดฝากล่องไว้ กรณ์วางกล่องแหวนหมั้นไว้ที่ที่นอนข้างตัวเอง
"ช่อเอื้อง.....ถ้ามีคุณอยู่ข้างๆผมตรงนี้ก็คงดี"
กรณ์นอนตะแคงแล้วหันหน้าไปทางอีกข้างที่มีหมอนแต่ไม่มีคนนอน แต่ก็มีกล่องแหวนหมั้นวางไว้แทนที่ช่อเอื้อง กรณ์เคลิ้มกำลังจะหลับ ทันใดนั้นช่อเอื้องในชุดนอนที่นอนตะแคงก็ยิ้มเศร้าและมองมาที่กรณ์
"คุณกรณ์"
กรณ์ตกใจลืมตาโพลงและหายง่วงขึ้นมาทันที
"ช่อเอื้อง !”
กรณ์หายง่วงและลืมตาจนเต็มตา ตรงหน้ากรณ์มีกล่องแหวนหมั้นวางอยู่ที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไทเดินตามแสงเขียวโหงพรายไปตามซอยมืดๆ ไทเหลียวมองแต่ละบ้านก็เห็นว่าหน้าต่างทุกบ้าน ปิดเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่
"ไม่มีใครเห็นแสงโหงพรายเลยเหรอเนี่ย"
เสียงผีตัวหนึ่งพูดออกมา "หิวว"
ไทตกใจหันขวับไป
วิญญาณสัมภเวสี1 โผล่มา ยื่นมือมาทางไท
"แกเป็นใคร" ไทถาม
"หิวว"
ไทมองเสาไฟฟ้าก็เห็นวิญญาณคนลุกจากเสามีใบหน้าเละด้วยเลือดกำลังหันมาหาไท
"ช่วยด้วย"
"เหวอ !!! อะไรกันเนี่ย....อย่า อย่าเข้ามา ฉันช่วยไม่ได้"
ไทรีบเดินตามแสงเขียวต่อไปข้างหน้า แสงสีเขียวดวงกลมๆที่ลอยนำหน้าไท กลายร่างเป็นเหมือนรูปร่างคน เสียงเย็นสยองๆ ร้องเตือนไท "อย่าทัก !”
ไทปิดปากเงียบแต่ยังเห็นสัมภเวสีตัวอื่นๆปรากฎตัวตามรายทาง สัมภเวสีหลายตนเห็นโหงพราย พากันหดมือเพราะไม่กล้ายุ่งด้วย
อ่านต่อหน้า 3
สาปสาง ตอนที่ 19 (ต่อ)
ไทตกใจและแทบจะหลุดปาก
"เกิด....”
ร่างโหงพรายเบือนมาทางไท ไทปิดปากสนิท ลมพัดแรง ดอกไม้แห้งปลิวลอยมา ไทยิ่งสยอง
"ช่อเอื้อง"
ทันใดนั้นช่อเอื้องก็พุ่งลงมาจากด้านหลังแล้วบีบคอไท
"มึงต้องตาย !”
ไทดิ้นพราด โหงพรายพุ่งตัวเป็นลำแสงเขียวใส่ร่างช่อเอื้องจนช่อเอื้องกระเด็นออกจากไท
"ช่อเอื้อง ขอเถอะ อย่าสู้กับโหงพรายเลย เธอไม่มีทางชนะ" ไทบอก
"ไอ้ขี้ขลาด หลบหลังผี"
ช่อเอื้องตะกายตัวลุกขึ้นมาแล้วจะพุ่งเข้าใส่ไท
"ฉันหวังดีกับเธอนะช่อเอื้อง"
โหงพรายกลายร่างเป็นดวงกลมสีเขียวหมุนเร็วจี๋แล้วพุ่งใส่ร่างช่อเอื้อง ก่อนที่ช่อเอื้องจะบีบคอไท
"กรี๊ดด"
ช่อเอื้องตัวบิดงอ ลำแสงสีเขียวพุ่งอัดใส่ช่อเอื้องจนกระทั่งซึมเข้าไปอยู่ในตัวช่อเอื้อง ช่อเอื้องสำลักเลือดออกมาเป็นสีเขียวเมือก
ไทตกใจมาก "ช่อเอื้อง !”
เสียงร้องของไททำให้ช่อเอื้องหันขวับ ทั้งที่เจ็บปวดมากแต่สายตาของเธอก็คั่งแค้นเพราะมีแรงอาฆาตลุกโชนอีกครั้ง ช่อเอื้องสะบัดตัวแรงแล้วสลายร่างไป แสงเขียวโหงพรายจับเป็นกลุ่มก้อนลอยอยู่กลางอากาศอย่างทรงพลังเช่นเดิม
ไทเหลียวมองรอบตัว "ไปซะช่อเอื้อง ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บไปมากกว่านี้"
เสียงช่อเอื้องดัง "กูเจ็บจนเกินเจ็บ"
ไทตกใจแล้วหันขวับมาเจอช่อเอื้องยืนประจันหน้าอยู่ข้างกาย ช่อเอื้องอ้าปากกว้างแทบจะกลืนหัวไท ไทผงะถอยด้วยความตกใจ
"ช่อเอื้อง อย่า"
โหงพรายพุ่งใส่ช่อเอื้องทำให้กระเด็นออกไปไกล ไทได้โอกาสตะกายลุกขึ้นก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิต
ช่อเอื้องต่อสู้กับโหงพรายมวลเขียวรูปร่างกลมที่พุ่งใส่ช่อเอื้องจนช่อเอื้องกระเด็นลอยไปหลายครั้ง ช่อเอื้องเจ็บหนักและมีน้ำเมือกเขียวไหลจากปาก ช่อเอื้องกัดฟันลุกขึ้น
"กูไม่กลัวมึง.....”
โหงพรายเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นร่างคนโปร่งแสงสีเขียว โหงพรายตบหน้าช่อเอื้องจนคอหลุด
"ไอ้สมุนชั้นต่ำ" ช่อเอื้องโกรธ
ช่อเอื้องบีบคอโหงพรายจนร่างโปร่งแสงส่วนคอบีบเบียดกัน ดวงตาช่อเอื้องแดงก่ำด้วยความคั่งแค้น แรงแค้นเพิ่มเป็นพลังทำให้ช่อเอื้องฉีกร่างโหงพรายจนขาดจากกัน
"กูจะแล่เนื้อเถือหนังอ้ายอีทุกตัวที่ขวางทางแค้นของกู"
ช่อเอื้องกางนิ้ว เล็บของเธอยาวขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ช่อเอื้องตะกุยฉีกโหงพรายจนร่างแยกออกจากกัน โหงพรายสลายตัวกลายเป็นเส้นเรืองแสงสีเขียว พลังโหงพรายอ่อนแรงจึงพุ่งหนีออกจากช่อเอื้อง
"ไอ้ฆาตกร"
ช่อเอื้องหันขวับไปทางที่ไทวิ่งหนีไป
ไทวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตผ่านสัมภเวสี ไทวิ่งทะลุร่างสัมภเวสีซึ่งกรีดร้องไล่หลัง
"ไอ้ฆาตกร.....มึงหนีกูไม่พ้นหรอก"
ไทผวาและเหลียวมอง
"ช่อเอื้อง !”
ช่อเอื้องปรากฎตัวด้านหลังไท ไทรีบลนลานวิ่งเข้าเขตตำหนักพ่อปู่ ช่อเอื้องจะตามเข้าไปแต่ทันใดนั้นกำแพงหมอกดำก็ก่อตัวขึ้นมาผลักร่างช่อเอื้องกระเด็นออกจากเขตตำหนัก
ช่อเอื้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
"ฮ่ะๆ มึงเข้ามาในเขตมนต์ดำของกูไม่ได้หรอก อีผีชั่ว" เสียงพ่อปู่ดัง
พ่อปู่และแพรวออกมาจากในตำหนักมามองไทที่เนื้อตัวเขียวช้ำ
"พ่อปู่ แพรว.....ขอบคุณที่ช่วยฉัน" ไทบอก
"ไอ้ไท แกโดนอีช่อมันฟัดเอาขนาดนี้เชียวเหรอ ฮ่ะๆ เพิ่งนึกพิศวาสไอ้ไทหรือไงอีช่อ" แพรวว่า
"สารเลว ! อีเพื่อนทรยศ" ช่อเอื้องด่า
"พอเถอะแพรว ฉันรอดมาได้ ก็บุญแล้ว" ไทบอก
"กูจะพรากชีวิตพวกมึงทั้งคู่" ช่อเอื้องว่า
"อีผีชั่ว มึงอยากจะลองก็เข้ามา กูจะได้ขึงพืดวิญญาณมึงไว้ที่นี่"
ช่อเอื้องตาแดงก่ำแล้วจะพุ่งร่างเข้ามา พ่อปู่เสกคาถาเป่าพรวดจนเกิดหมอกดำพุ่งเป็นสายจากปากพ่อปู่พุ่งไปมัดตัวช่อเอื้อง ช่อเอื้องเหมือนถูกจับกางแขนตรึงอยู่กับหลักที่มองไม่เห็น ข้อมือสองข้างถูกแส้หมอกดำมัดแน่น
พ่อปู่ท่องมนตร์ "ตะตะ อุ เด โด มะ....กูจะตอกหมุดดำ ตรึงวิญญาณมึง อีผีชั่ว"
พ่อปู่กำมือแล้วเสกมนต์ พอแบมือออกในฝ่ามือมีตะปูดำตัวเขื่อง 1 ตัว
"พ่อปู่ อย่าทำอะไรช่อเลย" ไทบอก
แพรวด่าไท "ไอ้โง่ แกอยากตายรึไง หุบปาก"
พ่อปู่เขวี้ยงตะปูใส่ช่อเอื้อง
"กรี๊ดด"
ช่อเอื้องถูกตะปูพุ่งใส่อก เลือดช่อเอื้องสีดำไหลออกมา
"กูจะฆ่ามึง จำแค้นกูไว้ให้ดี กูจะกลับมาฆ่ามึง"
ช่อเอื้องรีบสลายร่างหายไป พ่อปู่หัวเราะเยาะ แพรวแค้นใจที่พ่อปู่ไม่จัดการช่อเอื้องให้เด็ดขาด ไทสงสารช่อเอื้องแต่ก็หวาดกลัวมาก
กรณ์นอนหลับสนิท ช่อเอื้องปรากฏร่างมากองที่พื้นข้างเตียง ช่อเอื้องเอื้อมมือไปจะจับกรณ์ แต่คว้าไม่ได้เพราะผ่านวูบไป
"คุณกรณ์ขา....ช่วยช่อด้วย ช่อเจ็บเหลือเกิน"
ช่อเอื้องกุมอกที่มีตะปูตอกจนเลือดดำไหลเป็นทาง
"พวกมันทำร้ายช่ออีกแล้ว คุณกรณ์....คุณช่อด้วย"
กรณ์หลับสนิทไม่รับรู้ ช่อเอื้องร้องไห้ซบที่นอนตรงที่กรณ์หลับอยู่
พริ้วนอนอยู่บนโซฟา ณราเฝ้าอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางเป็นห่วงมาก เฟยสังเกตณรา
"ถ้าคุณพริ้วเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไง" ณราว่า
พริ้วเริ่มปรืตาและขยับตัว
"ป๊า.....หยกคุ้มครอง....”
ณราดีใจ "คุณพริ้วฟื้นแล้ว"
"อาพริ้ว ลื้อเป็นยังไงบ้าง" เฟยถาม
"หยกคุ้มครอง"
พริ้วลูบบริเวณคอพบว่าไม่มีหยกคุ้มครองแล้ว พริ้วมองเฟยอย่างรู้สึกผิด
"ป๊า ฉันขอโทษ หยกคุ้มครองที่ป๊าให้ฉันไม่อยู่แล้ว...เพราะคุณณรา"
"เป็นความผิดของผมเองครับซินแส" ณราบอก
พริ้วชำเลืองมองณราเป็นเชิงกล่าวโทษ เฟยโบกมือ
"อย่าโทษคุณณราเลยอาพริ้ว"
"ก็เขาเป็นคนดึงหยกคุ้มครองออกจากตัวพริ้ว"
"หยกร้อนขนาดนั้น แสดงว่ามีภัยใหญ่หลวง....คุณณราทำถูกแล้วที่ดึงออก ไม่งั้นลื้ออาจตายได้" พริ้วพูดกับณรา "เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ต้องรู้สึกผิด"
"แต่พอไม่มีหยกคุ้มครอง คุณพริ้วก็เหมือนโดนพลังอะไรบางอย่างทำร้ายเหมือนกัน"
"อั๊วถึงห้ามไม่ให้อาพริ้วไปที่นั่นอีก" เฟยบอก
"งั้นต่อไปนี้ผมก็จะห้ามเหมือนกันครับ" ณราบอก
"นี่ คุณก็เหมือนกันแหละ" พริ้วว่า
"ผมไม่เป็นอะไรทำไมต้องห้ามผมด้วย"
"อั๊วขอเตือนนะคุณณรา อย่าสร้างโรงแรมที่นั่น ที่ดินผืนนั้นเป็นที่ต้องคำสาป อัปมงคล"
ณราอึ้งไป พริ้วมองณรารู้ว่าณรายังอยากจะสร้างโรงแรมแน่นอน
อ่านต่อหน้า 4
สาปสาง ตอนที่ 19 (ต่อ)
ณรากลับมาที่รถด้วยสีหน้ากังวล
เสียงพริ้วดังขึ้น "เดี๋ยวก่อนค่ะคุณณรา"
พริ้วเดินตามมาด้วยความเป็นห่วงแต่พยายามจะไม่แสดงออก
"คุณยังไม่หายดี ออกมาตากน้ำค้างทำไม เดี๋ยวก็ไม่สบายเข้าไปอีก" ณราบอก
"ฉันแข็งแรงน่า น้ำค้างแค่นี้จิ๊บๆ" พริ้วว่า
"คุณพริ้ว คุณไม่รู้หรือว่าผมเป็นห่วง"
ณราถามอย่างจริงใจ พริ้วหน้าแดงแต่เสไปเรื่องอื่น
"คุณณราคะ...คุณควรจะเชื่อป๊า อย่าสร้างโรงแรมที่นั่น ที่ดินผืนนั้นมีพลังมืด ใครไปยุ่งอาจมีอันเป็นไป.....ป๊า....เป็นห่วงคุณนะ"
"ป๊าหรือคุณกันแน่ ที่เป็นห่วงผม"
"ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่าคิดให้ดี อย่าสร้างเลย เดี๋ยวคุณเป็นอะไรขึ้นมา ฉันแบกคุณไปส่งบ้านไม่ไหวนะ"
"ขอบคุณนะครับคุณพริ้ว"
ณราจับมือพริ้ว พริ้วเขินจึงดึงมือออกเบาๆ แล้วรีบโบกมือไล่ณรา
"ป๊าสั่งให้ฉันมากำชับคุณหรอกน่ะ คุณกลับบ้านได้แล้ว...ขับรถดีๆล่ะ"
พริ้วรีบกลับเข้าบ้าน ณราอมยิ้มเพราะรู้ว่าพริ้วปากแข็ง
ณราขึ้นรถแล้วปิดประตู เขาเหลียวมองที่บ้านพริ้วซึ่งปิดประตูเรียบร้อยแล้ว ณราเห็นเงาพริ้วแว่บๆอยู่หลังม่านที่ห้องชั้นบน
"พริ้ว....ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง....แต่ไอ้เรื่องพลังลึกลับอะไรนั่น....เฮ้อ"
ณราสตาร์ทรถ เข้าเกียร์ แล้วตัดสินใจ
"ผีอยู่ส่วนผี คนอยู่ส่วนคน ไม่ยุ่งเกี่ยวกันนะ"
ณราเหลียวมองม้วนกระดาษแบบแปลนโรงแรมแล้วยิ้มอย่างมุ่งมั่น
"โรงแรมเดอะดาราลัย...ต้องสำเร็จให้ได้"
ณราขับรถออกไปข้างหน้า เขาคิดว่าโรงแรมต้องเดินหน้าต่อให้ได้
พริ้วหันมาจากหน้าต่างแล้วแอบมองณราก่อนจะอมยิ้ม ซินแสเยเดินเข้ามาพอดี พริ้วตกใจ
"ป๊า ! เข้ามาเงียบๆ ฉันตกใจหมด"
"ลื้อไม่ต้องมาทำไก๋ ลื้อเป็นห่วงเค้าก็บอกมา"
"ก็....เอ่อ...ประสาเพื่อนร่วมโลกแหละป๊า"
"งั้นก็ดีที่ลื้อไม่รู้สึกอะไรมาก ต่อไปนี้ลื้อต้องเลิกติดต่อกับคุณณรา อั๊วจะให้ลื้อลาออก"
"ป๊า !ไม่นะ ฉันไม่ออก"
"แต่อั๊วไม่ต้องการให้ลื้อโดนพลังมืดทำร้ายอีก"
"งั้นก็แค่ไม่ต้องไปที่ดินนั่นก็พอ ไม่ต้องถึงกับลาออกก็ได้" พริ้วเริ่มหาเหตุผลไปเรื่อย "งานสมัยนี้หายากจะตาย ฉันไม่ลาออกหรอกป๊า"
เฟยส่ายหัวแล้วถอนหายใจ
"ไม่มีอะไรฝืนชะตาฟ้าลิขิตได้จริงๆ"
"ป๊าหมายความว่ายังไง" พริ้วถาม
"จำที่อั๊วเตือนลื้อได้ไหม ผู้ชายคนนี้จะนำทั้งความรักและความตายมาถึงลื้อ"
พริ้วย้อนความจำก็จำได้จึงนิ่งอึ้งไป
"เวลานั้นมาถึงแล้ว ชะตาฟ้าขีดมาแล้ว"
"เป็นไปไม่ได้หรอกป๊า ทั้งเรื่องรักเรื่องตาย ไม่มีทาง....ชีวิตคนเราพลิกผันกันได้น่ะป๊า"
พริ้วไม่อยากเชื่อ เพราะยังอยากทำงานใกล้ชิดณรา เฟยได้แต่ถอนหายใจ
บริเวณหน้าตำหนักพ่อปู่มีหมอกดำลอยอวลเป็นกำแพงสูงล้อมรอบตำหนัก วิญญาณเร่ร่อนจะผ่านเข้าไปโดนหมอกดำก็ตัวไหม้จึงกรีดร้องหนีไป วิญญาณบางตัวถูกหมอกดำไหม้จนวิญญาณสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน ไทที่อยู่ในตำหนักเหลียวหน้าเหลียวหลังแล้วก็นึกเสียว เพราะได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวน
"โอ๊ยยย..." เสียงไทกรีดร้องโหยหวนอย่างน่ากลัว
"หมอกดำของกู สกัดกั้นได้ทุกอย่าง ถ้าวิญญาณตัวไหนเหิมเกริมบุกรุก สมุนข้าจะฉีกทึ้งวิญญาณมันจนสลาย ไม่ได้ผุดได้เกิด" พ่อปู่บอก
"ถ้าผีอีช่อกลับมาอีก มีหวังตายคำรบสอง" แพรวว่า
"เอาแค่ป้องกันก็พอมั้งแพรว อย่าถึงกับทำร้ายช่อเลย"
"จะถูกมันฆ่าตายอยู่แล้วยังจะมาห่วงอะไรอีช่อมันอีก ห๊า ไอ้โง่"
"ฉันไม่ได้อยากจองเวรกับช่อ"
"แล้วอีช่อมันเลิกราหรือเปล่าล่ะ มันจ้องแต่จะฆ่าเรา ฉันไม่ยอมให้มันฆ่าฉันง่ายๆหรอก"
"อีเลือดชั่ว ไอ้หน้าโง่ ! พวกมึงเถียงกันให้ตาย อีช่อก็ยังจะฆ่ามึงให้ได้"
"พ่อปู่มีของป้องกันตัวให้ฉันมั้ยล่ะ เอาให้อีช่อสิ้นฤทธิ์ให้ได้นะ"
"แพรว !”
"หยุด ! กูจะเป่ามนต์เกราะกำบังให้พวกมึง จะได้ป้องกันพวกมึงจากอีผีชั่ว"
"แค่ป้องกันตัวเหรอพ่อปู่ แล้วจะทำยังไงกับผีอีช่อ จะปล่อยให้มันอาละวาดอย่างนี้น่ะเหรอ"
"นั่นเรื่องของกู กูจัดการเอง ให้ถึงคืนเดือนดับ อิทธิฤทธิ์พลังกูแก่กล้า กูจะฆ่าวิญญาณอีผีชั่วไม่ให้ผุดให้เกิดอีก"
"อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยครับพ่อปู่"
แพรวกระทุ้งศอกใส่ไทแล้วตวัดสายตาด่า
"หุบปากน่ะไอ้โง่...." แพรวพูดกับพ่อปู่ "กว่าจะถึงคืนเดือนดับอีกหลายวัน แล้วระหว่างนั้นล่ะพ่อปู่"
"อีเลือดชั่ว กูบอกอยู่หยกๆว่าจะให้มนต์คุ้มกะลาหัวพวกมึงไปก่อน หรือจะไม่เอา"
แพรวกับไทเงียบลงได้ ไทพยักหน้ารับเพื่อจะเข้าพิธีเป่ามนต์ แพรวยังดูกังวลเพราะไม่ค่อยมั่นใจ
ไทดึงตัวแพรวมาคุยที่มุมหนึ่ง
"แพรว ฉันว่าเราน่าจะทำพิธีขอขมาช่อนะ ช่อจะได้ไม่โกรธเรามากไปกว่านี้"
"ไอ้โง่ ฆ่ามันตายแล้วฝังมันไว้อย่างนั้น คิดเหรอว่าอีช่อมันจะไม่โกรธ"
"ก็ถ้าเราอุทิศส่วนกุศลให้ช่อ วิญญาณช่ออาจจะเป็นไปสู่สุขคติ แล้วยกโทษให้เราก็ได้"
"ฉันเกลียดมัน ฉันเกลียดอีช่อ ฉันไม่มีกุศลผลบุญจะยกให้มัน"
"แต่ยังไงเราก็ควรขอโทษช่อนะแพรว"
"ไอ้โง่ ตอนฆ่าอีช่อทำไมไม่ขอโทษมันก่อนล่ะ ห๊า....ถ้าแกอยากขอขมามัน เชิญทำไปคนเดียว ฉันไม่ทำ"
"การขอขมาช่ออาจจะเป็นวิธีที่ทำให้ช่อไปอย่างสงบ แล้วเราก็จะได้อยู่อย่างสงบนะแพรว"
"วิธีเดียวที่จะทำให้ฉันอยู่อย่างสงบ คือกำจัดวิญญาณอีช่อให้สิ้นซาก"
แพรวย้ำเสียงเข้มอย่างเด็ดขาด ไทได้แต่กังวลเพราะทั้งกลัวและเป็นห่วงช่อเอื้อง
อ่านต่อตอนที่ 20