อีสา รวีช่วงโชติ ตอนที่ 19
วันนี้สาตื่นแต่เช้า เมื่อพบว่าวิทย์ไม่ได้อยู่ในห้อง หล่อนจึงเดินออกมาที่ระเบียงแล้วร้องเรียกหา
“คุณวิทย์คะ”
สาพบว่าที่นอกชานไม่มีใคร สาแปลกใจ
สากลับเข้าบ้านมา กวาดสายตาดูรอบๆ อย่างร้อนใจ
“ไวโอลินไม่อยู่” สาเดินไปที่ชั้นวางรองเท้า “รองเท้าหายไป ออกไปไหน”
สากังวลใจอย่างบอกไม่ถูก
วิภายืนเชิด เท้าสะเอว สายืนอยู่นอกชานบ้าน สมรอยู่เยื้องไปด้านหลังวิภา
“วิทย์เขานอนอยู่กับหล่อนไม่ใช่หรือ แล้วจะมาถามหาอะไรที่นี่”
สาถามอุบอิบ “เมื่อคืนคุณวิทย์เธอไม่ได้นอนในบ้านค่ะ”
วิภาดูอาการของสา รู้ว่าไม่ปกติ ชักเอะใจ
“ทำไม เพราะอะไร” เห็นสาเอาแต่อึกอัก “แม่อุษา หล่อนทำอะไรน้องชายฉัน”
“เมื่อคืนคุณวิทย์กับฉันทะเลาะกันค่ะ เธอไม่ยอมเข้าบ้าน นั่งตากน้ำค้างอยู่ที่นอกชานทั้งคืนฉันตื่นมาตอนเช้า เธอก็หายไปแล้ว”
วิภาหน้าเสีย พลอยห่วงวิทย์ไปด้วย
“ตายจริง” แล้วหันมาพาลโกรธใส่สา “นี่หล่อนทำอะไรน้องฉันเนี่ย แม่อุษา เขาถึงได้เตลิดไปอย่างนั้น” วิภาบันดาลโทสะกระชากสาโดยแรง “หล่อนกับวิทย์ทะเลาะอะไรกันหล่อนว่าอะไรเขา เขาถึงได้หนีไป”
“ฉันบอกเลิกกับเขาค่ะ”
วิภาอึ้ง สมรตาโตหลุดปาก “ซ้าธุ!”
“เขาโกรธฉันมาก ไม่พูดกับฉันเลย ฉันเลยนึกว่าเขาจะหนีหน้าฉันมาอยู่กับคุณพี่...ถ้าเขาไม่มาที่นี่ เขาจะไปที่ไหนล่ะคะ”
สากังวลเหลือเกิน
วิทย์นั่งอยู่คนเดียวในบ้านเช่าเก่าๆ โทรมๆ ครุ่นคิด ตอนที่ก้าวเข้ามาดูบ้านเช่า ในแหล่งเสื่อมโทรม แห่งนี้ วิทย์เดินดูสภาพบ้าน บุญยงในชุดลำลองอยู่ด้วย
“ลื้อจะอยู่ได้จริงๆ เหรอวะ”
“พี่อยู่ได้ ผมก็อยู่ได้น่ะ”
“ลื้อกับอั๊วมันไม่เหมือนกันเว้ย วิทย์ อั๊วมันชินแล้ว ส่วนลื้อมันโคตรเหง้าเหล่าผู้ดีจะทนไหวเหรอคนแถวนี้เขาไม่เหมือนแถวบ้านลื้อนะ”
จู่ๆ มีเสียงดังโครม เหมือนอะไรกระแทกฝาผนัง วิทย์กับบุญยงสะดุ้ง
เสียงผัวเมียข้างบ้านทะเลาะกันดังแทรกขึ้นมา ประเด็นเรื่องฝ่ายผัวไปมีเมียน้อย
“บอกมานะ มันเป็นใคร
“ใคร อะไร บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิวะ”
“อย่าให้จับได้ก็แล้วกัน แม่จะเอาเลือดหัวออกมาล้างตีนให้ดู”
บุญยงหัวเราะขำ
“นั่นตัวอย่าง...ด่ากันทั้งวัน แต่ไม่เลิกกันซักที”
ขณะที่บุญยงพาวิทย์เดินออกมาหน้าบ้าน มีเสียงโครมครามดังมา เห็นฝ่ายเมียปาจานสังกะสีใส่ผัวผัวป้องกันตัวด้วยกะละมัง
“เฮ้ย เจ็บนะเว้ย”
“สู้เหรอ เดี๋ยวนี้สู้เหรอ”
ฝ่ายผัวทิ้งกะละมัง “เออสิวะ มา แน่จริงก็เข้ามา”
บุญยงพูดขำๆ
“ตีกันไป ตีกันมา ลูกห้าคนเข้าให้แล้ว ไม่รู้มันตีกันประสาอะไร”
“คนรักกัน ต่อให้ทะเลาะกันขนาดไหน ก็รักกันอยู่ดี”
“เหมือนลื้อกับคุณอุษางั้นสิ” บุญยงเย้า
“ครับ ผมรักเขา และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความรักของผมจะไม่เปลี่ยนแปลง”
ทางด้านสาเล่าเรื่องให้เซกิฟังทั้งหมด ผุดลุกผุดนั่ง หน้าตายังกังวลไม่คลาย
“ฉันจะทำยังไงต่อไปดีคะ”
เซกิค่อนข้างขรึม ด้วยความกังวลกับเรื่องที่รับรู้ถึงสถานการณ์สงครามเมื่อคืนก่อน
“คุณก็ไปเก็บเสื้อผ้า ย้ายมาอยู่กับผม”
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันหมายถึงเรื่องคุณวิทย์ เขาหายไปไหนก็ไม่รู้”
“เขาแพ้แล้ว คนแพ้ก็ต้องอยู่ในที่ของคนแพ้”
“ที่ไหนล่ะคะ”
เซกิส่ายหน้า “ไม่มี”
เซกิตอบอย่างเลือดเย็น สาใจหล่นวูบ
แดดเปลี่ยนแสงไปแล้ว จากเช้าเป็นบ่ายคล้อย วิทย์นั่งกอดไวโอลินเหม่อลอย ไม่มีชีวิตจิตใจ ตาแห้งผาก ปากเริ่มแตกและซีด ภาพความหลังแสนสุขของเขากับสาหลั่งไหลมาในความทรงจำราวสายน้ำ
ค่ำนั้นพระนครถูกฝูงบินกองกำลังสหรัฐอมริกาทิ้งระเบิดอย่างรุนแรงหนักหน่วงตลอดเวลา
วิทย์ยังนั่งอยู่ในบ้านเสียงหวอ เสียงเครื่องบิน สลับกับเสียงปืนต่อสู้อากาศยานดังมาตลอดเวลาเช่นกัน
ปืนยิงลงมาบริเวณชุมชน ทำให้เกิดไฟไหม้ ผู้คนหนีกันอลหม่าน ผัวเมียที่ทะเลากันเมื่อวันก่อน กลายเป็นรักใคร่ห่วงใยกัน ช่วยประคับประคองกันหนีลูกห้าคนวิ่งกันยั้วเยี้ย
“แม่ ทางนี้”
เมียล้มร้อง “โอ้ย”
ผัวบอก “เอ้า แข็งใจหน่อย”
“ฉันไหวๆ” เมียส่งเด็ก 3 ขวบในมือให้ “พี่เอาไอ้แดงไป”
วิทย์ยังคงนั่งอยู่ในบ้าน ตกอยู่ในภวังค์ คิดถึงความหลัง วันที่เขาพบกับสา
ตูม! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว หน้าต่างแตกกระจาย บ้านเก่าๆ พังลงมาฝังวิทย์เอาไว้ ฝุ่นตลบ เสียงเพลงขาดหายไป กลายเป็นความเงียบ นิ่งสนิท
แผ่นสังกะสีและแผ่นไม้เก่าๆ กองท่วมร่างวิทย์จนมองไม่เห็น ฝุ่นตลบฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
แลเห็นเพียงไวโอลินคู่ใจที่วางอยู่อย่างสวยงามราวกับปาฏิหาริย์
อ่านต่อหน้า 2
อีสา รวีช่วงโชติ ตอนที่ 19 (ต่อ)
หม่อมพริ้มอยู่ในห้องนั่งเล่น ตำหนักขาว ตื่นตระหนกกับข่าวที่จวนมาบอก
“อะไรนะ โรงเรียนชายรวีโดนระเบิด! เอ็งแน่ใจรึ นังจวน”
“เห็นแม่ค้าที่ตลาดเขาว่ากันค่ะ หม่อม”
หม่อมพริ้มหันขวับไปถาม “หวน ชิดไปรับคุณชายกลับมาหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ”
หม่อมพริ้มหน้าเสีย ห่วงชายรวีมาก
ต่อมาไม่นาน หม่อมพริ้มเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่เป็นชุดออกจากบ้าน มีหมวกและกระเป๋า เดินมาอย่างร้อนรน คุณหญิงศรีลักษณา หรือ หญิงจ้อย ธิดาคนสุดท้อง วัย 16 ปี วิ่งตามออกมาร้องเรียก
“หม่อมแม่ หม่อมแม่ขา หม่อมแม่จะไปตามชายรวีหรือคะ”
“จ้ะหญิงจ้อย”
“จะไปยังไงคะ ชิดไม่อยู่ รถก็ไม่มี”
“แม่ไปได้ หญิงไม่ต้องห่วง”
หม่อมพริ้มรีบเดินออกไป หญิงจ้อยมองตาม ห่วงใย
หม่อมพริ้มเดินออกมาด้านหน้าตำหนักขาวแล้ว เห็นจวนถือหมวกรออยู่
“ไป นังจวน”
เสียงเจิมดังขึ้นอีกทาง “หม่อมเจ้าขา”
หม่อมพริ้มหันไปดู เห็นหวนประคองเจิมกระย่องกระแย่งเข้ามา เจิมหน้าตาตื่น
หม่อมเข้าไปหา “เจิม เอ็งไม่สบายอยู่ ออกมาทำไม”
“บ่าวเป็นห่วงคุณชายเจ้าค่ะ บ่าวจะไปด้วย”
“มันอันตราย เอ็งไม่ค่อยแข็งแรงอย่าออกไปเลย ข้าไปกับจวนมันได้”
“หญิงไม่ให้ไปค่ะ”
คุณหญิงสิริพรรณราย หรือหญิงจิ๋ม โตเต็มสาวในวัย 18 ปี เดินฉับๆ ออกจากบ้าน มาขวางไว้
หม่อมพริ้มหันไปหา “หญิงจิ๋ม”
“ข้างนอกเขาทิ้งระเบิดกัน หม่อมแม่จะออกไปทำไม ถ้าบาดเจ็บ หรือเป็นอะไรไป มันคุ้มกันหรือคะ”
“หญิงจะให้แม่นั่งอยู่เฉยๆ ได้ยังไง ลูกแม่อยู่ข้างนอกนั่นทั้งคน”
“ก็แค่ลูกนอกไส้!” ทุกคนตะลึง ไม่นึกว่าหญิงจิ๋มจะกล้าพูด “หม่อมแม่จะออกไปเสี่ยงเพราะลูกขี้ข้าอย่างอีสา หญิงไม่ยอมค่ะ”
หม่อมพริ้มโกรธจัด
“สิริพรรณรายเธอพูดอะไรออกมา ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ”
“หญิงไม่ถอนชายรวีไม่ใช่ลูกหม่อมแม่ ชายเป็นลูกอีสา ลูกอีสา”
หม่อมพริ้มโมโห ตบหน้าลูกสาว หญิงจิ๋มร้องไห้
“หม่อมแม่”
หญิงจิ๋มวิ่งหนีออกไป เสียงเจิมร้องขึ้น สั่นสะท้าน
“หม่อม ...หม่อมเจ้าขา”
หม่อมพริ้มหันมาเห็นเจิมตกใจสุดขีด หวนที่ประคองอยู่ก็ตาค้างเช่นกัน
หม่อมพริ้มมองตามมือที่เจิมชี้ เห็นชายรวี ในวัย 9 ปี อยู่ในชุดนักเรียนยืนอยู่ห่างออกไปพอสมควร ชิดตามมาข้างหลังห่างๆ
“หม่อมแม่”
หม่อมพริ้มตกใจ “ชายรวี”
ทันใดนั้น เจิมที่ยืนตกใจตาค้างอยู่ก็มีอาการเจ็บหน้าอก ชัก หวนตกใจ
“ป้าเจิม!”
“พี่เจิม!” จวนก็ตกใจ
ชายรวีตกใจ “ป้าเจิมเป็นอะไรคะ หม่อมแม่”
“ชิดไปเตรียมรถ จวนหวนมาช่วยกันเอานังเจิมไปหาหมอเร็ว”
ชิดรับคำแล้ววิ่งออกไป จวนกับหวนมาประคองเจิม
หม่อมพริ้มและทุกคนไปรุมสนใจดูแลเจิม จนลืมทุกอย่างไป
เวลาไม่นานหลังจากนั้น หม่อมพริ้มเดินนำทุกคนมาตามทางเดินในโรงพยาบาล หวนกับชิดประคองเจิมมาส่งพยาบาล
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” หม่อมพริ้มบอกพยาบาลเวร
“มาทางนี้เลยค่ะ” พยาบาล 1 หันไปบอกบุรุษพยาบาล “เอาไปห้องฉุกเฉินด่วนเลย คนไข้มีอาการชัก”
บุรุษพยาบาลเข็นเจิมไป หมอวิ่งตามไป หม่อมพริ้มยืนชะเง้อชะแง้ มองตามด้วยความห่วงใย
โลกกลมอะไรขนาดนี้ ด้วยขณะเดียวกันด้านหน้าโรงพยาบาล แลเห็นบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีร่างของวิทย์บาดเจ็บสาหัสเข้าประตูมา ผัวเมียเพื่อนบ้านเดินประกบมาด้วย พยาบาลอีกคนซักถามอาการ
“คนไข้เป็นอะไรมาคะ”
“ระเบิดมันลงแถวบ้านน่ะฉันกับเมียไปเจอพ่อหนุ่มนี่ที่บ้านข้างๆ นอนสลบอยู่ในกองไม้”
“บ้านมันเก่าน่ะจ้ะ เลยพังลงมาทับแกทั้งหลัง ตอนแรกนึกว่าตายนะ โชคดีที่แกส่งเสียงร้องขึ้นมา เลยพามาที่นี่”
พยาบาล 2 หันไปบอกบุรุษพยาบาล “พาไปทำบัตรคนไข้ก่อนนะ ฉันจะไปเรียนคุณหมอ” แล้วหันมาพูดกับสองผัวเมีย “พี่สองคนเชิญตามไปทางโน้นเลยค่ะ”
พยาบาล 2 ออกไป บุรุษพยาบาลเข็นวิทย์ไปตรงไปยังห้องรักษา ผัวเมียเดินตามเก้ๆกังๆ
วิทย์ยังคงเพ้อ เสียงแผ่วๆ
“อุษา คุณอุษา ..อย่าทิ้งผมไป คุณอุษา”
หม่อมพริ้มยืนรอที่หน้าห้องตรวจ หวนกับชิดรอเป็นเพื่อน พยาบาลเดินออกมา
“เป็นยังไงบ้างคะ คุณ”
“คนไข้ปลอดภัยดีค่ะ คุณหมอขอตรวจอาการคนไข้ให้ละเอียดอีกที ว่าสาเหตุ ของอาการชักมาจากอะไร คงต้องใช้เวลาสักครู่”
หม่อมพริ้มพยักหน้ารับรู้ พยาบาล 1 ค้อมตัวแล้วเดินออกไป
จังหวะนี้ มีเสียงครางแผ่วๆ ดังมาจากทางด้านหลัง หม่อมพริ้ม หวน และชิด
“คุณอุษา...คุณอุษา”
ทั้งสามหันขวับไปมองที่มาของเสียง
เห็นวิทย์นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง สภาพบอบช้ำหนักเอาการ บุรุษพยาบาลเข็นรถมารอทำประวัติมีผัวเมียเพื่อนบ้านสองคนเป็นคนพาวิทย์มา ยืนอยู่ด้วย
หม่อมพริ้มกับหวนมองหน้ากัน สองคนนึกเอะใจ
บุรุษพยาบาลไปจัดการเรื่องวิทย์อยู่อีกมุม สองผัวเมียแอบปรึกษากัน
“ส่งถึงโรงหมอแล้ว จะอยู่รออะไรล่ะ ไปกันเถอะ” เมียปรารภ
“เอ้า ไม่อยู่ดูมันก่อนรึ”
“ดูทำไม ถ้าเกิดเขามาเก็บค่ารักษาที่เรา จะเอาเงินที่ไหนจ่ายยะ”
“อุวะ ไม่ทันคิดโว้ย...คำก็ด่า สองคำก็ด่า เดี๋ยวปั้ด”
ผัวเมียเห็นหม่อมพริ้มมองมา ได้ที
“นี่คุณ ฉันกับผัวมีธุระ ต้องรีบไป ฝากพ่อคนนี้ด้วยนะ”
หม่อมพริ้มยังไม่ทันว่าอะไร เมียก็รีบเอาไวโอลินของวิทย์ที่ถือมาวางลงบนเตียงคนไข้ แล้วทั้งคู่ก็เผ่นหนีไป
“อ้าว ไหงงั้นล่ะ” หวนงงๆ
ชิดร้องเรียก “เฮ้ย จะไปไหน”
สองผัวเมียวิ่งแน่บไม่เหลียวหลัง ชิดหันไปบ่นกับหวน
“อะไรวะ แบบนี้ก็มีด้วย”
“เป็นอะไรมาก็ไม่รู้ เกิดตายขึ้นมาก็ซวยเรา”
“ปากเสียน่ะ นังหวน คนเขายังดีๆ อยู่แท้ๆ”
หม่อมพริ้มเดินไปที่เมียงมองดูวิทย์ที่หน้าซีดเผือดอย่างเวทนา วิทย์ครางขึ้นมาเบาๆ
“คุณอุษา อย่าทิ้งผมไป”
หม่อมพริ้มชะงัก มองไปที่ไวโอลิน รู้สึกสังหรณ์ใจประหลาดว่าผู้ชายคนนี้จะเกี่ยวข้องกับอีสา
ขณะที่สมรกับวิภาคอยฟังข่าววิทย์อยู่ที่บ้าน ทั้งคู่ออกอาการร้อนใจเป็นอย่างหนัก
“ฉันจะทำยังไงดี สมร ป่านนี้ตาวิทย์ยังไม่กลับบ้านอีก เห็นว่าข้างนอก เขาทิ้งระเบิดกันกลางวันแสกๆ เลยนะ”
“นั่นสิคะ คุณขา” สมรยกมือท่วมหัว “ซ้าธุ ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองคุณหนูของหมอน ขอให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายด้วยเถิด เจ้าประคู้น”
มีเสียงแตรรถดังที่หน้าบ้าน วิภาตื่นเต้น
“เสียงรถ! ใครมา?”
“ไม่ใช่คุณหนูแน่ค่ะ เอ๊ะ หรือว่า จะเป็นรถของไอ้ยุ่นชู้รักของแม่อุษา”
“ผัวหายไปไม่ถึงวัน กล้าดีเอาชู้มาบ้านเชียวหรือ...ไป สมร ออกไปกับฉัน ไปดูให้มันเห็นดำเห็นแดงกันไป”
วิภาเดินนำฉับๆ ออกไป พร้อมมีเรื่อง สมรตามติด สีหน้าตื่นเต้นสุดขีด
อ่านต่อหน้า 3
อีสา รวีช่วงโชติ ตอนที่ 19 (ต่อ)
วิภากับสมรเดินมาถึงหน้าบ้าน เพ่งมองออกไปเห็นรถจอดอยู่
“ว่าไง ใช่ไหม”
“เอ ไม่คุ้นนะคะ”
สมรเห็นชายคนหนึ่งด้อมๆ มองๆ ที่ประตู ก็เข้าไปถาม
“มาหาใครจ๊ะ พ่อคุณ”
ที่แท้เป็นนายชิด “ที่นี่บ้านของคุณวิทย์ นิติธรรมรักษาใช่ไหมครับ”
วิภาได้ยิน รีบเข้ามา
“ใช่ค่ะ ฉันชื่อวิภา เป็นพี่สาวมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คุณที่ชื่อวิทย์เขาบาดเจ็บครับ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล”
วิภาตกใจร้อง “หา”
“คุณหนู!”
วิภากับสมรตกใจมาก
ขณะเดียวกันเซกิขับรถมาส่งสา รถแล่นมาในซอยทางเข้าบ้านวิภา
“คุณไปเก็บเสื้อผ้า แล้วย้ายไปอยู่กับผม”
สาลำบากใจ รำพึงขึ้นมา “คุณวิทย์กลับบ้านมาหรือยังก็ไม่รู้”
“เขาจะอยู่หรือไม่อยู่ มันก็ไม่สำคัญ...คุณเลิกกับเขาแล้วนะ อุษาซัง”
“ฉันจดทะเบียนสมรสกับเขานะคะ ตามกฎหมายแล้ว เราก็ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่”
รถมาถึงหน้าบ้านพอดี เซกิจอดรถ เอื้อมมือมากุมมือสาพูดจริงจัง
“คุณจะพูดกับเขาเอง หรือจะให้ผมเป็นคนพูด ว่าเขาต้องหย่ากับคุณ”
“ฉันพูดเองค่ะ...คุณรอที่นี่นะคะ อย่าเข้าไปเลย”
สาลนลานลงจากรถไป
สาเดินเข้าประตูมา หลบๆ ไม่อยากเจอวิภา รีบเดินไปบ้านตัวเอง
ส่วนเซกิรออยู่ที่ข้างรถหน้าบ้าน บุญยงนั่งรถสามล้อมา หน้าตาตื่น
“จอดๆๆๆ จอดตรงนี้แหละ”
เซกิมองบุญยง อย่างแปลกใจ
สาหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ย่องๆ มา ผ่านบ้านวิภา กลัวคนเห็น สามองบ้านอีกที เพื่อความแน่ใจ แล้วเพิ่งสังเกตเห็นว่าประตูหน้าต่างปิดหมด
“หน้าต่างปิดหมด...คุณพี่ไปไหน”
ทันใดนั้น สาได้ยินเสียงตะโกน
“คุณสา คุณวิภา แม่สมร มีใครอยู่ไหมครับ เปิดประตูหน่อย”
สาจำเสียงบุญยงได้ ทั้งตื่นเต้นระคนแปลกใจ
บุญยงตะโกนเรียกคนในบ้าน เซกิยืนพิงรถมองดูอย่างไว้เชิง ประตูบ้านเปิด สาเดินออกมาร้องทัก
“คุณบุญยง”
“คุณสา ทำไมบ้านเงียบอย่างนี้ ไปไหนกันหมด”
“ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ มาถึงก็ไม่เจอใครแล้ว”
บุญยงเพิ่งสังเกตเห็นกระเป๋าในมือสา แปลกใจ
“แล้วนี่คุณ...”
เซกิเดินมารับกระเป๋าจากมือสา “ไปกันเถอะ อุษาซัง”
บุญยงมองเซกิที่แตะเอวสาอย่างสนิทสนมก็แปลกใจ สาเบี่ยงตัวหลบ แล้วถามบุญยง
“คุณบุญยงมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่ามีข่าวคุณวิทย์”
“ผมมีข่าวไม่สู้ดีนัก”
“คุณพบคุณวิทย์ใช่ไหมคะ เขาอยู่ไหนคะ แล้วเป็นยังไงบ้าง”
“วิทย์มันไปอยู่ที่บ้านเช่า เอ่อ บ้านที่มันกะว่าจะพาคุณย้ายไปอยู่น่ะ” บุญยงหน้าเศร้าลง “ไม่รู้มันไปที่นั่นทำไม ซวยแท้ๆ”
สาใจหายวับ “ทำไมหรือคะ”
“เมื่อสายๆ ระเบิดลงหนัก ลงมาแถวนั้นพอดี ไอ้วิทย์ติดอยู่ในบ้านตอนที่หลังคามันพังลงมาโชคดีที่ไม่ถึงตาย”
“คุณพระ” สาใจเสีย “แล้ว...แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ”
“ชาวบ้านแถวนั้นเขาเอาไปส่งไว้ที่โรงพยาบาล แล้วก็แวะมาบอกผม คุณรีบไปดูมันหน่อยเถอะ คุณอุษา เห็นคนที่พาไปเขาว่า ตลอดทาง มันเพ้อหาแต่คุณ”
สาอึ้ง สีหน้าสลดลงไปถนัด เซกิมองอย่างระแวง
ขณะเดียวกันชิดเดินนำวิภาเข้ามาในโรงพยาบาล
“ทางนี้ครับ คุณ”
วิภาเข้าไปในห้อง เป็นห้องรวม มีคนไข้อยู่สองสามเตียง
ที่อีกมุมหนึ่ง แยกจากคนไข้คนอื่น วิทย์นอนหน้าซีด หายใจรวยริน มีสายน้ำเกลือ พยาบาลกำลังดูแลอยู่ วิภาเข้าไปหา
“วิทย์...วิทย์น้องพี่เป็นยังไงบ้าง”
วิทย์นอนนิ่ง ไม่รู้ตัว สมรเป็นห่วง
“ทำไมคุณหนูนอนนิ่งอย่างนี้ล่ะคะ คุณขา”
“คนไข้มีมีอาการบอบช้ำภายในน่ะค่ะ มีไข้สูง แล้วก็อ่อนเพลียมากด้วย คุณหมอเพิ่งให้ยาและให้น้ำเกลือไป ต้องอีกสักครู่ถึงจะฟื้น” พยาบาลบอก
“โธ่ น้องพี่”
วิภาเห็นสภาพของวิทย์แล้วน้ำตาคลอด้วยความสงสาร
วิทย์เพ้อขึ้นมาเบาๆ “คุณอุษา...อุษา”
วิภาชะงักกึก พยาบาลยิ้มๆ บอกกับวิภา
“เพ้ออีกแล้ว ตั้งแต่มาก็เพ้อหาแต่ชื่อนี้ตลอดไม่หยุดเลยค่ะ”
วิภาตาวาวด้วยความแค้น
ไม่นานต่อมาที่ชุดรับแขกหน้าห้องคนไข้ วิภานั่งอยู่กับหม่อมพริ้ม ที่โต๊ะกลางมีกล่องไวโอลินของวิทย์วางอยู่ วิภาเปิดดู หน้าเศร้า แล้วไหว้หม่อมอย่างนอบน้อม
“ดิฉันกราบขอบพระคุณหม่อมอีกครั้งนะคะ ที่กรุณาช่วยน้องชายของดิฉันเอาไว้ หมอบอกว่า วิทย์บอบช้ำและมีไข้สูงมาก ถ้าหากมาถึงมือหมอช้าไปกว่านี้ อาจจะ...อาจจะไม่รอดก็ได้”
วิภาน้ำตาเอ่อขึ้นมาอีก หม่อมพริ้มปลอบโยน
“คนที่ช่วยคุณวิทย์มาไม่ใช่ฉันหรอก ฉันแค่ช่วยไปบอกข่าว...โชคดี ที่ในนี้มีนามบัตรอยู่ด้วย ฉันเลยรู้ว่าเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหนเลยให้นายชิดไปตามคุณมาได้...คนเจ็บเองเขาก็เพ้อหาญาติอยู่ตลอด”
วิภาแค้นแค่นเสียงออกมา “แม่อุษาน่ะหรือคะ”
“นั่นละ ไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ”
“ไม่มาก็ดีแล้วค่ะ เพราะมัน น้องชายดิฉันถึงได้โชคร้าย จะว่าไป ชีวิตของวิทย์ตกต่ำ ตั้งแต่ไปมีเมียเป็นอีนางละครคนนี้!”
หม่อมพริ้มสะดุ้งสุดตัว “นางละคร! แม่อุษาที่ว่านี่เป็นนางละครหรอกหรือ”
อีสา นางละครคนที่ว่า เดินท่าทีเร่งร้อนมาตามทางเดินพร้อมกับพยาบาลที่พามา มีเซกิเดินตาม
“คุณวิทย์ นิติธรรมรักษา อยู่ที่ห้องทางด้านโน้นค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
สาจะเดินไป แล้วนึกได้ หันไปบอกเซกิ
“คุณเซกิกลับไปก่อนเถอะค่ะ”
“ผมจะรอ”
“แต่ว่า...”
เซกิยืนกราน “ผมจะรออยู่ตรงนี้ คุณรีบไป เราจะได้รีบกลับ”
สาจำใจพยักหน้า แล้วเดินไป
ส่วนชิดกำลังบอกหม่อมพริ้มถึงอาการของเจิม
“หมอว่าอยากให้ดูอาการก่อนสักคืนขอรับ หม่อม อยากจะตรวจให้ละเอียด”
“จำเป็นก็ให้เขาทำไป” หม่อมหันไปทางวิภา “ฉันเห็นทีจะต้องกลับละ ออกมานานก็เป็นห่วงบ้าน”
“กราบลาค่ะหม่อม”
วิภากับสมรไหว้ลาอย่างเรียบร้อยลุกเดินไป หม่อมพริ้มกับชิดเดินออกไปทางหนึ่ง
ขณะที่สาเดินมา สมรหันไปเห็นก่อน ร้องขึ้นอย่างตกใจ
“อุ๊ยตาย” สมรเรียกวิภา “คุณขา ดูนั่น”
วิภาหันไป เห็นสาเดินมองหาห้องของวิทย์ ก็มองตาขวางไม่พอใจ
หม่อมพริ้มกับชิดเดินไปตามทาง จะออกไปด้านหน้าโรงพยาบาล หม่อมพริ้มสั่งชิด
“เอ็งเอารถไปรอข้าข้างหน้า ข้าจะไปดูนังเจิมก่อน”
“ขอรับหม่อม”
ทันใดนั้น เสียงวิภาก็ดังขึ้น “แม่อุษา”
หม่อมพริ้มกับชิดได้ยิน สะดุ้ง หันขวับไปมอง
แทนสายตาหม่อมพริ้ม เห็นหญิงสาวแต่งตัวสวยทันสมัยคนหนึ่งยืนอยู่กลางทางเดิน ไกลออกไป
วิภาเดินปรี่เข้าไปหาสาอย่างเอาเรื่อง
“หล่อนมาทำไม”
“ฉันมาเยี่ยมคุณวิทย์ค่ะ” สาพยายามข่มอารมณ์
“กลับไปซะ ฉันไม่อนุญาต”
“ฉันเป็นเมียเขานะคะ”
“หล่อนเลิกกับคุณหนูแล้วไม่ใช่หรือยะ เลิกกันแล้วก็ไปซี” วิภาชี้มือไล่ “ไป จะไปไหนก็ไป”
“ฉันจะไปไหน ทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน อย่ามาแส่”
สาฉุนขาดผลักสมรเซ แล้วเดินหนีไปอีกทาง
“นังอุษา กลับมานะ จะไปไหน”
สาผู้ซึ่งในตอนนี้แต่งตัวสวยงามและทันสมัย จนหม่อมพริ้มต้องเขม้นมอง ด้วยไม่แน่ใจ
“ใช่มันไหม ชิด”
"แต่งตัวเปิ้ดสะก้าดอย่างกับดาราหนัง แต่ก็คล้ายเหลือเกินขอรับ"
ชิดเองก็ลังเล ไม่แน่ใจ
อ่านต่อหน้า 4
อีสา รวีช่วงโชติ ตอนที่ 19 (ต่อ)
สาเดินจ้ำอ้าวหนีวิภามาตามทาง มีวิภากับสมรเดินตามมาติดๆ
“แม่อุษา”
สาเลี้ยวมุมตึก แล้วมองหาทางหนี ที่สุดตัดสินใจเข้าไปหลบในห้องคนไข้ 2
พอเข้ามาในห้องสาสอดตาจะหาที่หลบ แต่ห้องกลับโล่งว่าง เห็นแต่เตียงผู้ป่วยเรียงเป็นแถว มีแต่เตียงที่กลางห้องมีม่านปิดอยู่ สารีบผลุบเข้าไป โดยไม่ได้มอง
สาแอบดูผ่านม่าน เห็นวิภาโผล่ตามมาในห้อง แต่มองไปไม่เห็นใคร เลยเดินออกจากห้องไปที่หน้าห้อง สั่งสมร
“มันหายไปไหนไม่รู้ สมรไปเฝ้าวิทย์ไว้อย่าให้มันไปยุ่งกับวิทย์”
“ค่ะ คุณ”
สาเห็นทั้งสองคนเดินไปพ้นจากประตูห้อง ก็ถอนใจโล่งอก
“เฮ้อ พ้นไปที”
ที่เตียงคนไข้ด้านหลังสา มีเสียงดังขึ้นเบาๆ แหบโหย อย่างคนไม่มีแรง
“ใคร”
สาสะดุ้ง เพิ่งรู้สึกตัวว่ามีคนนอนอยู่
“อุ๊ย” สาหันไปดู “ขอโทษทีนะจ๊ะ ฉันไม่ทันเห็น”
แต่แล้วสาต้องชะงัก อ้าปากค้าง ทำหน้าเหมือนเจอผี เมื่อพบว่าคนไข้ที่นอนเอนอยู่เตียงนั้นคือ เจิม นั่นเอง สาอึ้ง
“ป..ป้าเจิม”
เจิมยันตัวลุกขึ้นมานั่ง มองสา ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“อีสา”
สาอึกอัก ไม่รู้จะพูดอะไร ทันใดนั้น ม่านที่รูดเอาไว้ก็ถูกเปิดออกอย่างแรง สาตกใจหันไปดู
“ป้าเจิมจ๊ะ” จวนชะงักตกใจ “อีสา
“พี่หวน”
สาทำอะไรไม่ถูก หวนส่งเสียงดัง
“นี่เอ็งจริงๆ หรือนี่ เอ็งมาได้ยังไง อีสา”
วิภาเดินย้อนกลับมาที่หน้าห้องเดิมพอดี ได้ยินเสียงหวนเรียกชื่อ อีสา ก็ชะงัก เอะใจ
“อีสา” วิภาทวนคำเบาๆ
ส่วนในห้อง สายืนตัวแข็งด้วยความกลัว หวนมองสาอย่างตัดพ้อ ส่วนเจิมมองมาอย่างเกลียดชัง
“ฉัน...คือว่าฉัน...”
เจิมพูดเสียงเบา แต่ชัดเจน “มึงไปให้พ้นหน้ากู”
“ป้าจ๊ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ...”
เจิมตัวสั่น เสียงสะท้าน “มึงออกไป กูไม่อยากเห็นหน้ามึง”
สาเห็นอาการและสภาพของเจิม ก็นึกเป็นห่วง จะเข้ามาดู “ป้าเจิม ป้า...”
หวนเข้ามาประคองเจิม ผลักมือสาออกไป
“เอ็งไปเถอะ อีสา ขืนอยู่ต่อไป เอ็งจะฆ่าป้าเจิมตายเสียเปล่า ไปซีไป”
“พี่หวน ฟังฉันก่อนนะ ฉัน...”
น้ำเสียงอันเกรี้ยวกราดของวิภาแหลมเข้ามา “เขาไล่ให้ไปก็ไปซี”
สาหันไป เห็นวิภายืนจังก้าอยู่กลางห้อง
“ผู้หญิงกาลกิณีอย่างหล่อน ไม่มีใครเขาอยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย ยังจะหน้าด้านอยู่ทำไม”
หวนงง “นี่คุณ...คุณรู้จักอีสา”
วิภาลอยหน้าบอก “รู้จักดีเชียวล่ะค่ะ แม่อุษาคนนี้หล่อนเป็นเมียน้องชายฉัน”
เจิมกับหวนมองหน้าสา ตกใจ คิดไม่ถึง
“สา เอ็งมีผัวใหม่?”
“ใช่ หล่อนแต่งงานได้ไม่เท่าไหร่ ก็สวมเขาให้ผัว...” วิภาโกรธขึ้นมาเป็นริ้วๆ พรั่งพรูคำพูดอย่างคับแค้น “ที่น้องชายฉันโชคร้าย ออกไปโดนระเบิด ก็เพราะเขาหนีออกจากบ้านไป...ที่หนี...ก็เพราะเขาทนไม่ได้ ที่เมียคบชู้”
หวนกับเจิมตะลึง มองสาอย่างผิดหวัง รังเกียจ
สาพูดปฏิเสธไม่เต็มปาก “ไม่...ไม่ใช่นะป้าเจิม พี่หวน”
“เพราะแก” วิภาชี้หน้าสา “เพราะความสำส่อนมากชู้หลายผัวของแก น้องชายฉันถึงได้เป็นแบบนี้ เพราะแกคนเดียว”
วิภาบันดาลโทสะโถมเข้าตบตีสาพัลวัน สาปัดป้อง เจิมกับหวนตะลึง ทำอะไรไม่ถูก
“อย่านะ คุณวิภา”
วิภาตบไปด่าไป “ฉันจะฆ่าแก ถ้าวิทย์เป็นอะไรไป ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก”
สาโดนตบลงไปล้มลุกคลุกคลานอยู่ที่พื้น พยาบาลวิ่งเข้ามา
“อะไรกัน หยุดนะคะ หยุด”
พยาบาลจับวิภาไว้ สาคลานหนีไป วิภายังคลั่งดิ้นอาละวาดชี้หน้าด่า
“วิทย์ดีกับแกทุกอย่าง แกกลับทำลายเขา” วิภาชี้หน้า “คอยดู ถ้าน้องฉันเป็นอะไรไป ฉันจะฆ่าแกอีแพศยา อีกาลกิณี”
สาที่กองอยู่ที่พื้น ถอยหนีไปจนไปพบกับขาคู่หนึ่ง สาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นหม่อมพริ้มยืนนิ่ง สีหน้าแววตารังเกียจเหยียดหยามสุดๆ หม่อมพริ้มได้ยินทุกอย่างชัดเจน
“หม่อม...” สาเนื้อตัวสั่นด้วยความกลัว ได้แต่ยกมือขึ้นพนม พูดไม่ออก
สีหน้าหม่อมพริ้มแน่วนิ่ง ดูโหดเหี้ยมเยือกเย็น ข่มให้ทุกคนเงียบ แม้แต่วิภายังสงบปากลงไป เจิมกับหวนมองหน้าหม่อมพริ้ม รอดูว่าหม่อมจะจัดการอย่างไร
หม่อมพริ้มมองสา พูดเสียงเย็นจนถึงกระดูก
“ข้านึกไม่ถึง ว่าคนที่เกิดมาดีๆ จะทำตัวจนตกต่ำระยำยับได้ถึงปานนี้...เสียแรงที่ข้าเลี้ยงเอ็งมา”
สาก้มหน้า ละอายใจ
“รู้จักแค่กินอยู่สู่สม หาความสุขใส่ตัว ชั่วดีแยกแยะไม่ได้ บาปบุญคุณโทษไม่รู้จัก...คนอย่างเอ็ง คิดดู ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดียรฉาน”
สาน้ำตาไหลริน อยากจะแก้ตัว แต่พูดไม่ออก หม่อมพริ้มพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“คนอย่างเอ็งอยู่รวมกับคนดีๆ เขาไม่ได้หรอก เอ็งจะพาเขาเดือดร้อน... ไปซะไปอยู่ในที่ของเอ็ง จะไปนรกขุมไหนก็ไป อย่าได้มาเบียดเบียนเขาอีกเลย”
สาสะอื้นจนหมอบทรุดลงกับพื้น แล้วค่อยๆ คลานออกไปจากห้องราวกับสัตว์ที่บาดเจ็บสาหัส
หม่อมพริ้มมองตามสาไปจนลับตา ทั้งเวทนา ทั้งชิงชัง
ฟากสมรนั่งเผ้าวิทย์อยู่หน้าห้อง เห็นเซกิเดินมาแต่ไกลสมรตาค้าง
“หา!”
วิทย์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เขาขยับตัว แล้วเจ็บแผลที่ระบม
“โอ้ย”
สมรรีบวิ่งเข้ามาดู “คุณหนู”
“สมร ฉันมาที่นี่ได้ยังไง” วิทย์งง
“คุณหนูโดนบ้านพังลงมาทับค่ะ มีคนเขาเอามาส่งโรงพยาบาล”
วิทย์พยายามขยับอีก ทั้งๆ ที่เจ็บมาก “ฉันจะกลับบ้าน”
เสียงเซกิดังมา
“คุณนอนพักจะดีกว่า” วิทย์ชะงัก เมื่อเห็นเซกิก้าวเข้ามา “ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะนอนพักให้หายดีก่อน”
“คุณเซกิ? คุณมาได้ยังไง”
“ผมกับอุษาซังมาเยี่ยมคุณ”
เซกิยังพูดไม่จบวิทย์ก็พูดแซง
“คุณอุษาอยู่ไหน”
“ผมไม่ทราบ แต่ไม่เป็นไร ผมจะบอกเธอเองว่าคุณปลอดภัยดีแล้ว” เซกิยิ้ม “เอาไว้คุณแข็งแรงกว่านี้ เราค่อยกลับมาพูดธุระกับคุณใหม่”
“ธุระอะไร” วิทยฉงน
“ผมกับคุณอุษา เราต้องการให้คุณเขียนใบหย่า” วิทย์อึ้ง “เราสองคนจะได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง ...ผมหวังว่าคุณคงไม่มีปัญหา”
เซกิโค้งแล้วเดินออกไป
“หยุดก่อน” วิทย์เรียกไว้พยายามยันตัวลุก “คุณอุษาอยู่ไหน ผมจะพูดกับคุณอุษา”
“คุณหนูขา อย่าค่ะ หมอไม่ให้ขยับนะคะ”
เซกิเดินออกไป วิทย์ดิ้นรน
“ปล่อยฉันสมร ฉันจะไปหาคุณอุษา ปล่อยฉัน”
ด้านสานั่งเศร้าอยู่ตรงม้านั่งด้านหน้าทางเข้า เซกิเดินออกมาหา
“คุณไม่ได้ไปเยี่ยมคุณวิทย์”
สาเช็ดน้ำตา “ฉันไม่กล้าไปค่ะ”
“เขาปลอดภัยดี ไม่มีอะไรน่าห่วง”
“เขาว่ายังไงบ้างคะ”
“เขาเสียใจ และคิดว่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าจะไม่ต้องเห็นหน้าคุณตลอดไป” เซกิโกหก
“ค่ะ ฉันเข้าใจ”
เซกิยิ้ม ประคองสาขึ้นมา
“ไปกันเถอะ”
เซกิจูงมือพาสาเดินออกไปทางด้านหน้าโรงพยาบาล
อีกมุมหนึ่งหม่อมพริ้ม และหวน กำลังจะกลับตำหนัก ยืนมองสาเดินออกไปกับเซกิด้วยสีหน้าสลดใจ
ทางฝ่ายวิทย์ดิ้นรนอาละวาด สมร วิภา และพยาบาลคอยจับห้ามไว้กลัวสายน้ำเกลือจะหลุด
“ปล่อยฉัน ปล่อย”
“อย่าค่ะ คุณหนู ออกไปไม่ได้นะคะ”
“ปล่อย ฉันจะไปหาคุณอุษา”
“ปล่อยมันไปเถอะวิทย์ ผู้หญิงคนนั้นมันไม่มีค่า คู่ควรกับเธอเลย”
“ปล่อยผม” วิทย์ขอร้องกับพยาบาล “ปล่อยผมออกไป”
“ไม่ได้ค่ะ คุณหมอให้คุณนอนนิ่งๆ คุณรับน้ำเกลืออยู่นะคะ”
“ผมจะไป”
วิทย์กระชากสายน้ำเกลือออก เลือดพุ่งกระฉูด
วิภาตกใจร้องลั่น “ว้าย”
วิทย์ตะเกียกตะกายวิ่งออกไป คนอื่นๆ วิ่งตาม
“วิทย์ กลับมานะ กลับมา”
เย็นจวนค่ำเซกิพาสาไปขึ้นรถ ขับออกไป วิทย์วิ่งตามออกมา เลือดจากแขนไหลเป็นทาง
วิทย์เห็นหลังรถออกไปไวๆ วิทย์ร้องเรียก เสียงไม่ดังมากนัก เพราะเจ็บแผล
“คุณอุษา รอผมก่อน คุณอุษา”
สากับเซกิไม่ได้ยิน รถแล่นออกไป ที่วิทย์ตะกายลงจากตึกมาที่ถนน วิ่งตาม เลือดยังไหลเป็นทาง
“ผมรักคุณนะ คุณอุษา อย่าทิ้งผมไป”
วิภา สมร และพยาบาลวิ่งตามมา
“วิทย์ หยุดนะ กลับมา”
วิทย์วิ่งตามรถออกไปที่ด้านหน้า แล้วล้มลงกับพื้นถนน
วิภาร้องกรี๊ด “วิทย์”
วิภาวิ่งตามลงมาที่ถนน
วิทย์ตาพร่ามัวไปหมด จะเป็นลม ตะเกียกตะกายลุกขึ้น
ทันใดนั้น มีรถคันหนึ่งแล่นตรงเข้ามา มองไม่เห็นคนที่พื้นถนน วิทย์ยันกายลุกขึ้น คนขับรถเข้ามาเห็นคนโผล่มาในจังหวะกระชั้นตกใจ
“เฮ้ย”
วิทย์เพิ่งมองเห็น หน้ารถก็ชนเข้าที่ตัววิทย์อย่างจัง เสียงดัง ปัง!
วิภาวิ่งมาถึงพอดี ร่างของวิทย์กลิ้งหลุนๆ มาหยุดลงแทบเท้าวิภา
วิภากรีดร้องระงม “วิทย์ น้องพี่”
วิภาประคองวิทย์เอาไว้ สมรกับพยาบาลวิ่งมาพอดี
“คุณหนู”
วิภาร้องไห้ วิทย์นอนนิ่ง เลือดไหลรินจากปากและจมูก
“คุณอุษา....ผมรักคุณ”
วิทย์แน่นิ่งไป วิภากับสมรกอดวิทย์ร้องไห้ปานจะขาดใจ
อ่านต่อตอนที่ 20