xs
xsm
sm
md
lg

สาปสาง ตอนที่ 15

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สาปสาง ตอนที่ 15

กรณ์เรียกเฟยเท่าไหร่ก็ไม่ฟื้น

“โธ่ ซินแสก็หมดสติ คุณพริ้วก็หายไปไหนไม่รู้ ไม่ต้องดูแล้วที่ดิน”
กรณ์แบกร่างซินแสขึ้นมา
“ซินแส อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะครับ ผมจะรีบพาซินแสไปหาหมอ”
กรณ์อุ้มร่างซินแสออกไปจากหน้าลานน้ำพุเทวี

ช่อเอื้องรู้ว่ากรณ์กำลังไป
“คุณกรณ์ขา อย่าไปจากช่อ อย่าไป ช่ออยู่ตรงนี้”
ช่อเอื้องแทบหมดแรงจึงทรุดตัวลงก้มหน้าร้องไห้สะอื้น แล้วพลันเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นกลายเป็นเสียงเกรี้ยวกราด
“อ้ายอีตัวไหนทำลายกู”
ช่อเอื้องมีแววตาดุกร้าวแดงฉาน หน้าของเธอขาวซีด ปากสีดำขมุบขมิบ
“พวกมึงจงจำความแค้นกู ยามใดที่กูเป็นอิสระ ยามใดที่กูหลุดพ้นพันธนาการมนต์มารของมึง กูจะฆ่าให้สิ้นซาก กูจะฆ่าพวกมึง ไอ้พวกชั่ว มึงพรากคนรักของกู มึงพรากชีวิตกู”
เสียงย้ำแค้นของช่อเอื้องดังก้องในความมืดดำ ไม่แพ้จิตใจของช่อเอื้องที่ความดำมืดเข้าครอบงำ

ฝูงกาสีดำกลับมาเกาะตามหลังคาตำหนัก รถไทแล่นเข้ามาในบริเวณตำหนัก พ่อปู่รออยู่ในตำหนัก เมื่อแพรวและไทเข้ามา พ่อปู่ก็หัวเราะสาแก่ใจ
“ชั่วมาก นังกาลี”
“เอ่อ” แพรวอึ้ง
“กูชมที่มึงเก่ง ใช้ความเลวของมึงได้เป็นประโยชน์”
“นี่เลือดนังพริ้วค่ะ”
แพรวส่งหลอดเลือดพริ้วให้พ่อปู่ พ่อปู่รับไปแล้วแสยะยิ้ม
“พ่อปู่จะจัดการยังไงครับ”
“แส่ ! ไม่ใช่กงการของมึง”
“เราแค่กังวัลว่านังพริ้วมันจะมีพลังวิเศษขึ้นมา”
“กูรู้งานกู....อีก 2 คืน จันทร์ดับ กูจะเริ่มพิธีกรีดเลือดหลั่งวิญญาณ”

พ่อปู่บีบเลือดพริ้วลงในขันสีทองแดงแล้วยิ้มเหี้ยม

ณราเดินไปเดินมาแล้วก็นึกถึงพริ้ว

"เอ...ยัยเลขาตัวดี ทำไมไม่โทรมารายงานอะไรมั่ง"
ณราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตัดสินใจว่าจะโทรไม่โทรดี
"จะไปเป็นลมคาที่อีกหรือเปล่านะ"
ณราตัดสินใจกดโทรศัพท์แล้วรออยู่สักพักแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
"อะไรเนี่ย ยัยพริ้ว ปิดมือถือ...ยังไง....หรือว่าไปกับนายนั่นจนลืมเรา ฮึ่ม"
ณราหงุดหงิดแกมหึง

บนถนนเปลี่ยวที่นานๆรถจะผ่านมา บริเวณคูน้ำแห้งที่มีพงหญ้าท่วม พริ้วซึ่งนอนอยู่เริ่มขยับตัว
"โอ๊ย !”
พริ้วได้สติก็ฟื้นขึ้น เธอรู้สึกจุกท้องและเจ็บใบหน้า
"ที่ไหนเนี่ย...ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ?”
พริ้วโงหัวขึ้นแล้วพยายามลุก เธอเดินขึ้นมาจากคูแล้วโผล่ขึ้นมาข้างทาง
"ช่วยด้วย !”
รถที่แล่นผ่านมาตกใจจนถึงกับเบี่ยงออกไปอย่างรวดเร็ว พริ้วพยายามกวักมือเรียกรถอยู่ที่ริมถนน

กรณ์ชงยาหอมให้เฟยที่เพิ่งฟื้น
"อย่าเพิ่งรีบลุกครับซินแส เพิ่งฟื้นเอง...นอนพักก่อนก็ได้"
"อั๊วไม่เป็นอะไรมากหรอก อั๊วเป็นห่วงอาพริ้ว"
เฟยพูดหน้าเครียดเพราะรู้ว่าที่ดินรกร้างมีพลังลึกลับบางอย่าง
"มีอะไรหรือเปล่าครับซินแส"
พริ้วโผเข้ามาพอดี เฟยจึงไม่ได้ตอบคำถามกรณ์
"อาพริ้ว....ลื้อไปไหนมา แล้วทำไมสภาพเป็นอย่างนี้ ใครทำอะไรลื้อ"

เฟยจะลุกขึ้นไปหาพริ้วแต่ก็ทรุดลงไปอีก พริ้วรีบเข้ามาประคองเฟย
 
อ่านต่อหน้า 2

สาปสาง ตอนที่ 15 (ต่อ)

เฟยจะลุกขึ้นไปหาพริ้วแต่ก็ทรุดลงไปอีก พริ้วรีบเข้ามาประคองเฟย

"อาป๊า....อาป๊าเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดอย่างนี้ล่ะ" พริ้วถาม
"ซินแสเป็นลมน่ะ ไปเจอเศษฝุ่นขี้เถ้า สูดเข้าไปคงหายใจไม่สะดวก เลยหน้ามืด" กรณ์บอก
"หึๆ หน้ามืด...เพราะพลังมืดน่ะสิ" เฟยบอก
"อะไรนะป๊า"
"อย่าเพิ่งห่วงป๊า ลื้อต่างหาก หายไปไหนมา เกิดอะไรขึ้น"
"มีคนทำร้ายพริ้วน่ะป๊า มันคงกะจะปล้น เพราะกระเป๋าตังค์ กับโทรศัพท์หายไป"
"โทรศัพท์คุณ ผมเก็บได้ในพงหญ้าตอนพยายามโทรหาคุณ แต่ตอนนี้แบตมันหมดไปแล้ว" กรณ์บอก
"ขอบคุณนะคะ รถคุณกรณ์ก็โดนมันทุบ มีทรัพย์สินหายไปบ้างหรือเปล่าคะ"
"ไม่มีครับ ผมไม่เคยเก็บของมีค่าไว้ในรถ คุณพริ้วล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง"
"มันทำลื้อตรงไหน เจ็บตรงไหนอาพริ้ว" เฟยถาม
เฟยพยายามลูบหัว เปิดผม ดูแขน ดูร่องรอยแดงและเขียวตามเนื้อตัวพริ้ว
"มันคงซ้อมอ่ะป๊า เจ็บไปหมดเลย แถมยังเอาตัวฉันไปทิ้งที่เปลี่ยวๆด้วย" พริ้วบอก
"หยกคุ้มครองยังอยู่กับตัวลื้อใช่ไหม"
พริ้วกุมหยกอย่างอุ่นใจแล้วจึงยิ้มออก
"ยังอยู่จ้ะ" พริ้วโชว์ให้ดู "คงจะหยกนี่แหละที่คุ้มครองให้ฉันรอดมาได้"
กรณ์มองเฟยที่ห่วงใยพริ้ว ส่วนพริ้วบีบนวดดูแลเฟย กรณ์ยิ้ม
"ตอนนี้ทั้งคู่ปลอดภัยก็จริง แต่ผมว่าน่าจะไปให้หมอตรวจดูหน่อยนะครับ ทั้งคุณพริ้วทั้งซินแส"
"ไม่ต้องค่ะ / ไม่ต้อง" พริ้วกับเฟยตอบพร้อมกัน
"พ่อลูก เหมือนกันเปี๊ยบ" กรณ์ว่า
"แค่ฟกช้ำน่ะค่ะ ฉันมียาสมุนไพรสูตรก๋งของอาป๊า ทาถูสองทีก็หายแล้ว...ว่าแต่ป๊า แค่เป็นลมเฉยๆเหรอ ถ้าโรคเก่ากำเริบล่ะ หาหมอมั้ยป๊า"
"เอ๊...ถ้าลื้อไม่ไปหาหมอ อั๊วก็ไม่ไปเหมือนกัน อาพริ้ว"
พริ้วส่ายหน้าความดื้อด้านของเฟยเหมือนที่เฟยส่ายหน้าความดื้อของพริ้ว

เช้าวันใหม่ พริ้วใส่บาตรพระอยู่หน้าบ้าน พระให้พร พริ้วยกมือขึ้นพนม
"พรพระที่ให้มา ขอให้ป๊าปลอดภัย หายเจ็บหายป่วยด้วยเทอญ"
พริ้วมองพระที่เดินห่างไป เสียงเฟยไอดังขึ้น
"แค่กๆๆ" เฟยไอหนักขึ้น
"ป๊าตื่นแล้ว !”

พริ้วรีบเข้าบ้าน

กลุ่มฝ้าสีดำอยู่ในกระจก ซินแสเฟยยันตัวลุกขึ้นนั่ง เฟยไอแรงและมีอาการเจ็บอก

"มารรังควานสินะ" เฟยว่า
เฟยหันมองกระจกยังเห็นกลุ่มฝ้าสีดำเกาะเป็นกลุ่มคล้ายรูปร่างดวงตาของสัตว์ร้ายจ้องมา
"อั๊วไม่กลัวลื้อ"
เฟยรวบรวมสมาธิ สงบใจ และเพ่งลมปราณ กลุ่มฝ้าที่หน้ากระจกเงาเข้มขึ้นเหมือนจะสู้ แล้วก็ค่อยๆ จางลง ยันต์สีแดงที่แปะอยู่มุมเสาห้องสะบัดพึ่บพั่บ

พ่อปู่บริกรรมคาถา
"มนต์ดำ ความมืด จงปกคลุมแผ่วิญญาณมาร"
แดดยามเช้าสาดส่องเข้ามา พ่อปู่เหงื่อแตกและมีท่าทางเหนื่อยก่อนจะลืมตาโพลง
"ไอ้ซินแส ! กูกำหราบมึงไม่ได้เพราะแสงแห่งตะวัน เมื่อใดเดือนดับ กูจะวาดอิทธิฤทธิ์สั่งสอนมึงอีกครั้ง"
พ่อปู่สะบัดหน้าไปจ้องหน้าต่าง เขาใช้มือยกบังแสงไม่ให้แยงตาเพราะสู้แสงไม่ได้
พ่อปู่สั่ง "ลูกพ่อ"
อีกาบินพรึ่บขึ้น ทันใดนั้นก็เกิดลมแรง พัดบานหน้าต่างจนปิดสนิท หน้าต่างของตำหนักพ่อปู่ปิดลงทีละบาน

พริ้วยกข้าวต้มมาให้เฟยที่กำลังนั่งเพ่งสมาธิ
"ป๊า....”
เฟยลืมตาและถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ก็นิ่งและเยือกเย็นกว่าเดิม
"ค่อยยังชั่วหรือยังป๊า ฉันทำข้าวต้มมาให้....ป๊ากินซะ จะได้มีแรง"
"ลื้อทำยังกะอั๊วป่วยหนักต้องหยอดข้าวต้ม"
"แล้วที่เมื่อคืนป๊าฟุบไป ไม่ใช่เป็นเพราะยังไม่หายดีหรือ"
"ไอ้ที่ป่วย อั๊วหายแล้ว...แต่เมื่อคืน ที่ที่ดินผืนนั้น มีพลังมืดบางอย่างเล่นงานอั๊ว" เฟยบอก
"พลังมืด ?” พริ้วงง
"ใช่ พลังมืด เป็นฝีมือพวกคลั่งไสยดำ มันสร้างมนต์มารบนที่ดินผืนนั้น"
"เป็นไปได้ยังไง ที่ดินนั้นจะมีไสยดำสิงอยู่เหรอป๊า"
"อั๊วก็ไม่รู้ว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้น แต่ที่นั่นมีความลับดำมืดซ่อนอยู่"
"มันจะเกี่ยวกับที่ฉันเป็นลมทุกครั้งที่ไปที่นั่นหรือเปล่าป๊า"
"เป็นไปได้...อาพริ้ว เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทีหลังอย่าไปที่นั่นอีก อั๊วไม่ไว้ใจ ไสยดำพวกนี้ของแรงกว่าที่อั๊วคิดไว้มาก ลื้อห้ามไปที่นั่นเด็ดขาด รับปากกับอั๊วนะ อาพริ้ว"
"เอาน่าป๊า รู้ว่ามันไม่ดี ก็ไม่ต้องสนใจ ป๊ากินข้าวต้มดีกว่า เดี๋ยวจะหายร้อน"

พริ้วยังมีสีหน้าไม่ค่อยเชื่อแถมไม่รับปากเฟยอย่างจริงจัง
 
อ่านต่อหน้า 3

สาปสาง ตอนที่ 15 (ต่อ)

ณราดูนาฬิกาข้อมือแล้วเดินกลับไปกลับมาหลายรอบเพื่อรอพริ้ว

"เก้าโมงแปดนาที....ทำไมยังไม่มา"
ณรารอพริ้วจนไม่มีอะไรทำ เขาเห็นแจกันดอกไม้ปลอมที่ประดับโต๊ะ
"ดอกไม้....ใครให้ ถึงต้องเอามาตั้งไว้"
ณราเริ่มหึงเพราะกลัวว่าจะมีหนุ่มมาจีบพริ้ว
"เก้าโมงสิบนาที...ยังไม่มา...ยังไงเนี่ย ฮึ่ม ถ้ามานะจะจับตีก้นให้เข็ด"
เสียงพริ้วถามขึ้น "คุณว่ายังไงนะคะ"
"ตีก้นไง ผมจะตีก้นพริ้ว" ณราหันไปเห็นพริ้ว "เฮ่ย !”
พริ้วมายืนหน้าบึ้งเพราะได้ยินทุกอย่าง เธอเก็บความเขินอายไว้ด้วยอาการเหวี่ยงวีน
"คุณ...มัน...เป็นพวก...โรค..”
ณราดุก่อนจะแถ "อะไร๊ ผมจะพูดว่า.....คุณไปเจอลมพัดที่ไหนมา ตีผมคุณซะพลิ้วเลย"
"แถเข้าไป เจ็บไหมคะสีข้าง?”
"อะไร ใครแถ" ณรารีบเปลี่ยนเรื่อง "ว่าแต่คุณเถอะ ไม่ต้องมาเฉไฉ เมื่อคืนไปดูที่เป็นยังไง ทำไมไม่โทรมารายงานผม"
"ก็ทำไมฉันต้องโทรให้เปลืองตัง ตอนเช้ามาก็ต้องรายงานคุณอยู่แล้ว"
"งก งั้นถ้าไม่โทรทำไมผมโทรไปแล้วปิดมือถือ"
"ไม่ได้ปิด...แต่มันมีเรื่อง"
"ไม่ต้องเถียง ที่จริงคุณไม่ได้ไปดูที่ แต่ไปทำอย่างอื่นกับนายกรณ์นั่นใช่ไหม"
พริ้วโมโหจนหน้าแดง
"พูดแค่นี้ทำไมต้องเขินหน้าแดงด้วย...ไปทำอะไรกันมาจริงๆล่ะสิ" ณราว่า
"ฉันไม่ได้เขิน ที่หน้าแดงเพราะฉันโมโห"
"โมโหอะไร"
ณรางงพริ้วเลยรัวใส่เป็นชุดด้วยความโกรธ
"ก็โมโหคุณไง คุณเจ้านายจอมจู้จี้ ไม่ฟังเหตุผลกันเลย จู่ๆมาถึงก็จะตีก้น พอฉันจับได้ว่าคิดลามก คุณก็แถไปทางอื่น แถมยังปรักปรำฉันกับคุณกรณ์ในทางไม่ดี คุณน่ะไม่รู้หรอกว่าฉันกับคุณกรณ์ไปเจออะไรมา"
พริ้วหิ้วกระเป๋าออกไป ณรายืนงง

"อ้าว แล้วคุณจะไปไหนคุณพริ้ว"

พริ้วโมโหมากจึงเดินออกมา ณราเดินตาม

"พริ้ว เดี๋ยวก่อน คุณจะไปไหน"
"ฉันจะกลับบ้าน"
"กลับไม่ได้ ผมไม่ให้กลับ"
"ฉันจะกลับ วันนี้ฉันขอลากิจ จะไปสวดแผ่เมตตาให้ตัวเองรอดพ้นจากเจ้านายโหดๆ"
"ผมไม่อนุญาต"
ณราจับแขนพริ้วไว้ พริ้วมองหน้าเขาแล้วก็ยังโมโห
"งั้นฉันลาป่วย” พริ้วบอก "โอ๊ย ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ท้องเสีย อาเจียน วิงเวียน เป็นลม เข้าใจไหม คนป่วย ห้ามกันไม่ได้...ทีนี้ปล่อยฉัน"
"พริ้ว....”
ณราดูอ่อนลง แต่พริ้วยังโกรธมากจึงบิดแขนออกจากมือณราแล้วเดินออกไปจากโรงแรม
"พริ้ว ทำไมคุณโกรธผมขนาดนั้น"
ณรามองตามไปด้วยความไม่เข้าใจ

ณราเข้าใจผิดเพราะคิดว่าพริ้วกับกรณ์ต้องมีบางอย่างปกปิด ณราแอบหึงพริ้วจึงจะซักกรณ์ให้รู้เรื่อง
"พริ้วกับนายกรณ์อาจจะกุ๊กกิ๊กกันก็ได้ ฮึ่ม หาข้ออ้างจะไปดูที่...หนอย คงแอบไปคุยกันสิท่า ต้องคุยให้รู้เรื่อง"
ณราจะเคาะห้อง แต่แล้วก็ไม่เคาะ เขาเปิดผางเข้าไปเลย กรณ์ที่อยู่ในห้องตกใจจึงทักอย่างงงๆ
"คุณณรา มีอะไรหรือเปล่าครับ จู่ๆก็เปิดเข้ามาแบบนี้"
ณราเสียงแข็ง "ผมว่าเรามีเรื่องต้องเคลียร์กันหน่อย ผมจะรอที่คอฟฟี่ชอป"
ณราเดินออกไป กรณ์มองตามอย่างงงๆ

"เกิดอะไรขึ้น มีอะไรต้องเคลียร์ ?”
 
อ่านต่อหน้า 4

สาปสาง ตอนที่ 15 (ต่อ)

กรณ์กลั้นหัวเราะเพราะรู้ว่าณราเข้าใจผิดเรื่องพริ้ว

"นี่คุณณราไปว่าคุณพริ้วเขาขนาดนั้นเลยหรือครับ"
"ก็ผมคิดว่าคุณพริ้วไม่โทรมาเล่าเรื่องที่ดินให้ฟังก็เพราะว่าคง...เอ่อ..” ณราเริ่มอาย
กรณ์พูดต่อให้ "มัวแต่คุยกับผมจนเพลินงั้นสิ"
ณราอาย "ผมไม่น่าคิดกับคุณพริ้วแบบนั้นเลย"
"โธ่ คุณณรา ไปว่าคุณพริ้วแบบนั้นก็สมควรให้เธอโกรธเอาแล้วล่ะครับ"
"ก็ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"
"คุณพริ้วเธอก็มุ่งมั่นทำงานมากนะครับ แต่ระหว่างนั้น เกิดเรื่อง มีคนร้ายทุบกระจกรถผม คุณพริ้วเลยอาสาออกไปดู ผมผิดสังเกตว่าคุณพริ้วหายไปนานเลยออกไปดู ก็ไม่เจอคุณพริ้ว เจอแต่โทรศัพท์ที่ตกไว้ แล้วก็แบตหมดอีก พอผมกลับเข้าไปบนที่ดินนั้น จู่ๆซินแสเฟยก็สลบไป"
"แล้วยังไง ! คุณพริ้วล่ะ"
"พอผมพาซินแสกลับบ้าน ไม่นานคุณพริ้วก็กลับมาได้ ถึงได้รู้ว่าคุณพริ้วโดนคนร้ายดักทำร้าย ชิงทรัพย์ แล้วก็พาคุณพริ้วไปปล่อยในที่เปลี่ยวๆ"
"คุณพริ้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วทำไมยังมาทำงานอีก ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล"
"เรื่องบาดเจ็บคุณพริ้วก็ฟกช้ำดำเขียวพอสมควร แต่ก็ดื้อไม่ยอมไปโรงพยาบาลเหมือนซินแส"
"นี่ผมเข้าใจคุณพริ้วผิดไปหมดเหรอเนี่ย"

ณรารู้สึกผิดและนึกเป็นห่วงพริ้ว

เฟยอ่านเข็มทิศบนแผนผังที่ดินผืนหนึ่งแล้วก็วาดทิศต่างๆลงบนกระดาษ
 
เขาวาดลายเส้นกระแสลมหรือชี่ไหลเวียนเข้าออกบ้าน ซินแสจรดปากกาอย่างมีสมาธิ แต่แล้วก็สมาธิกระเจิง เพราะเสียงพริ้วที่ดังขึ้น
"โอ๊ยๆๆ คนบ้า เจ้านายบ้าอำนาจ"
เฟยเงยหน้าขึ้นมองเห็นพริ้วเดินเข้าบ้านมา
"เป็นอะไรอาพริ้ว ลื้อกลับมาทำไม ยังไม่เลิกงาน"
"วันนี้ฉันหยุด รับไม่ได้ เจ้านายเผด็จการ เอาแต่ใจ บ้าๆๆ"
"ลื้อจะบ่นเจ้านายได้ยังไง ลื้อเป็นลูกน้อง เป็นผู้น้อย เขาตักเตือนก็ต้องเอาคำเตือนมาพัฒนาตัวลื้อ"
"ก็เจ้านายตัวแสบเขาไม่ได้ตักเตือนสั่งสอนอะไรนี่ป๊า มีแต่ว่าๆๆ ไม่ฟังเหตุผล ไม่เข้าใจอะไรบ้างเลย"
"เขาคงมีเหตุผลของเขาละมั้ง ดูท่าคุณณราไม่น่าใช่คนใจร้ายอะไร"
"โอ้ย จะใจร้ายใจดี ฉันไม่สนหรอกป๊า อย่าพูดถึงเขาเลย รมณ์เสีย"
"อ้าว ไม่พูดถึงเขา แต่ลื้อก็บ่นถึงเขาอยู่เนี่ย"
"ก็ได้ไม่พูดแล้ว"
พริ้วเดินปึงปังเข้าห้องนอน เฟยหัวเราะขำแล้วดูฮวงจุ้ยที่ดินต่อไป

ณราที่ยืนอยู่ที่มุมเลขารู้สึกผิดกับพริ้ว
"พริ้ว....ผมเข้าใจคุณผิดไปแล้ว"
เสียงกรณ์ดังขึ้น "บอกกับโต๊ะ คุณพริ้วไม่รับรู้หรอกครับ"
กรณ์จะเข้าห้องแต่เหลือบเห็นณรา ก็เลยเข้ามาคุยด้วย
"เมื่อเช้าตอนที่พริ้วมาทำงานสาย ผมก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าเธอเจ็บป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า”
"ที่คุณพริ้วยังมาทำงานหลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนขนาดนั้น ก็แสดงว่าคุณพริ้วเธอเป็นคนรับผิดชอบงานมากนะครับ"
"นี่ผมทำอะไรลงไป ทั้งต่อว่า ทั้งแซว ทั้งประชด"
"เลขาฯดีๆ ไม่ได้หากันได้ง่ายๆนะครับคุณณรา"
"ผมควรทำยังไงดี"
"ผมว่าคุณรู้ ว่าต้องทำยังไง ลองถามใจตัวเองดูสิครับ"

กรณ์เย้ายิ้มๆ ณรารู้สึกผิดต่อพริ้วและนึกเป็นห่วงพริ้วมาก
 
อ่านต่อตอนที่ 16
กำลังโหลดความคิดเห็น