xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 16

ภาพในอดีต เขมิกาตอกไม้ เกิดอาการเคล็ดที่ต้นแขนร้องอู๊ยออกมา ชานนท์ที่เลื่อยไม้อยู่ตกใจ รีบมาดู
“โดนมือหรือ”
“ระดับนี้แล้วไม่มีพลาดหรอกน่า แค่แขนเคล็ดนิดหน่อย”
เขมิกาเงื้อค้อนจะตอกอีก ชานนท์แย่งค้อนไป
“ขอฉันดูหน่อย”
“ก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ชิวๆ เดี๋ยวก็หาย” ชานนท์ไม่สนใจ ดึงตัวเขมิกาไปนั่งจะถอดเสื้อเชิ้ตเขมิกาออก เขมิกาโวยวาย “เฮ้ยๆ ทำไรเนี่ย จะแก้ผ้าฉันหรือ”
“ฉันไม่ลามกขนาดนั้นหรอกน่า จะขอดูตรงที่เธอปวดหน่อย”
ชานนท์ถอดเสื้อเขมิกาออกข้างเดียว แล้วดูต้นแขน
กลับมาปัจจุบัน ชานนท์เหม่อลอย ยิ้มออกมา มือถือดัง ชานนท์สะดุ้ง

ที่แพปลาของจุมพล ปิ้งลับๆ ล่อๆ แอบคุยโทรศัพท์กับชานนท์
“ผมอยากจะโทรหาท่านหลายวันแล้ว แต่ผมกริ่งเกรงว่าจะเป็นการรบกวนท่าน”
ชานนท์อยู่อีกมุมของสปา
“พูดกันแบบเดิมเถอะปิ้ง ฉันยังเห็นนายเป็นเพื่อนเหมือนเดิม” ชานนท์บอก
ปิ้งเปลี่ยนเสียงตีซี้ทันที
“เออว่ะ ฉันก็ว่าแล้ว ว่าไอ้คุณนนท์ไม่เจ้ายศเจ้าอย่างกับเพื่อนที่น่ารักคนนี้”
“นายสบายดีหรือ”
“โอ๊ยเอาเวลาที่ไหนมาสบาย งุดๆ อยู่กับงานที่แพปลา แล้วยังต้องแบ่งร่างไปช่วยลูกพี่เตรียมงานแต่งรอบสองอีก” ปิ้งตั้งใจบอกให้ชานนท์รู้ ชานนท์อึ้ง ปิ้งโม้ต่อเพื่อให้ชานนท์หึง “สงสัยเที่ยวนี้ได้แต่งกันสมใจเถ้าแก่ ตอนแรกป๋าคิดแกก็ได้ฤกษ์ดีเดย์สองเดือนข้างหน้า แต่เถ้าแก่ใจร้อนโอ๊ยอยากมีหลานปู่ไวๆ จะให้แต่งกันพรุ่งนี้เช้าเลย”
ชานนท์จ๋อยๆ เสียงปิ้งยังดังอยู่ในโทรศัพท์
“ฉันไม่อยากให้ลูกพี่แต่งเลยจริงๆ ถ้าฉันกล้าๆ หน่อยนะฉันจะฉุดลูกพี่กลางงานแต่งเลยพับผ่า”
“นายเป็นแฟนเขาหรือยังไงไปฉุดเขา” ชานนท์ย้อนถาม
“ก็นั่นนะสิ ก็ไม่ได้เป็นแฟนเลยไม่รู้จะฉุดไปทำอะไร แต่ถ้าคนที่ฉันรักกำลังจะแต่งกับคนอื่น ไอ้ปิ้งสู้ตาย ฉุดเป็นฉุด” เขมิกาเข้ามาดีดหน้าผากปิ้ง “โอ๊ย”
ปิ้งเงยหน้าเจอเขมิกา ปิ้งรีบลดมือลงตั้งใจไม่ปิดมือถือ
“ฮัลโหลๆ” ชานนท์เรียกเมื่อเสียงปิ้งเงียบไป ชานนท์ฟังมือถือได้ยินเสียงเขมิกา
“ตามมานี่เลยไอ้ปิ้ง หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วนะ”

เขมิกาเดินมาหยุดห่างจากแพปลา แล้วหันมาโวยวายใส่ปิ้ง
“ปู่สั่งไว้ไม่ให้ใครติดต่อกับนายชาเย็น นายอยากโดนปู่ตะเพิดออกจากงานหรือไง”
ปิ้งเหลือบตาต่ำมองมือถือที่ไม่ได้ปิดแล้วตั้งใจพูดเสียงดัง
“ก็ฉันห่วงลูกพี่ ไม่อยากให้ลูกพี่ตามใจเถ้าแก่จนไม่นึกถึงความสุขตัวเอง”
“แกอย่ามามั่ว ฉันมีความสุขดีโว้ย”
“แต่งกับคนไม่รักเนี่ยนะมีความสุข ลูกพี่เลิกแหกตาไอ้ปิ้งเหอะ ลูกพี่ไม่ได้รักคุณโยก็บอกเขาไปตรงๆ จะดันทุรังแต่งไปทำไมคิดว่ามันเท่หรือ”
โยธินเดินมาได้ยินพอดี กรอบรูปใส่ภาพชุดแต่งงานคู่กันหล่นลงพื้น กระจกแตกเพล้ง เขมิกากับปิ้งตกใจ เขมิการีบวิ่งออกมาดูเห็นแต่เศษกระจกแตกบนพื้น โยธินเก็บกรอบรูปไปแล้ว เธอเลยไม่รู้ว่าโยธินมาได้ยินที่ปิ้งพูด
“ใครมาทำอะไรตกแตกแถวนี้วะ หูย เหยียบไปละก็โชกเลือด”

ปิ้งก้มเก็บเศษกระจก

ที่ห้องทำงานชานนท์ ชานนท์มองมือถือ นึกถึงคำพูดปิ้ง
“แต่งกับคนไม่รักเนี่ยนะมีความสุข ลูกพี่เลิกแหกตาไอ้ปิ้งเหอะลูกพี่ไม่ได้รักคุณโยก็บอกเขาไปตรงๆ จะดันทุรังแต่งไปทำไมคิดว่ามันเท่หรือ”
ชานนท์ได้คิดลุกยืนทันที รีบร้อนเดินออกจากห้องตั้งใจไปห้ามเขมิกาไม่ให้แต่งงาน

ค่ำวันนั้นที่ห้องนอนเม่นบนตึกบ้านชานนท์ โย่งเดินเข้าห้องมา เม่นใส่ผ้าคล้องแขนเดินตาม อีกมือถือกล่องใส่ขนมไข่ เม่นมองรอบห้องอย่างตื่นเต้น โย่งหันมา
“แกนี่มันดวงพุ่งจริงๆ” โย่งตบบ่าเม่น “ได้อยู่บนตึกแล้วนะโว้ยได้ดีแล้วก็อย่าลืมพี่โย่งล่ะไอ้น้อง”
“นอนด้วยกันมั้ยพี่โย่ง” เม่นชวน
“ได้หรือวะ”
“ได้สิ ผมแบ่งเตียงให้ครึ่งหนึ่ง”
“อยากนอนเตียงนุ่มๆ อย่างนี้มานานแล้ว”
โย่งกระโดดนอนบนเตียงขย่มเตียงอย่างเมามัน เม่นยืนหัวเราะสดใส
“ทำอะไรกัน”
มณฑาเดินเข้ามาตวาดลั่น

โย่งรีบลุกยืน เม่นหงอทันทีกลัวมาก
“เม่นๆ ไม่ได้เข้ามาเองนะแม่ คุณผู้ชายยกห้องนี้ให้เม่นเอง” เม่นบอก มณฑาหน้าบึ้ง เม่นกลัวโดนตีรีบบอก
“เม่นกลับไปนอนบ้านในสวนก็ได้จ้ะ”
เม่นก้มหน้างุดๆ จะไป มณฑาบอกเสียงดัง
“ไอ้เม่น มานี่”
เม่นสะดุ้งค่อยๆ หมุนตัวมาอย่างกลัวๆ
“คุณนมอย่าไปตีมันนะ มันขึ้นมาบนนี้เพราะเป็นคำสั่งคุณผู้ชาย ฉันเป็นพยานได้” โย่งบอก
มณฑาดึงแขนข้างไม่เจ็บของเม่น กล่องขนมหล่นลงพื้น
“อย่าแม่ เม่นกลัวแล้ว”
มณฑาดึงเม่นมาหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดตู้ให้ดูแล้วบอกเสียงเรียบ
“ฉันเอาเสื้อผ้าแกมาใส่ตู้ให้หมดแล้ว” เม่นงงมองเสื้อผ้าตัวเองในตู้ “อยู่บนตึกก็ทำตัวให้ดีๆ อย่าก่อเรื่องวุ่นวายให้ใครปวดหัวไม่งั้นโดนฟาดแน่”
มณฑาเดินออกจากห้อง
“ใจดีกับลูกก็เป็นด้วยโว้ย ไงไอ้เม่นงงเลยสิ” โย่งบอก เม่นยิ้มๆ แล้วเห็นกล่องขนมบนพื้น
“โอ๊ะ เกือบลืม”

เม่นรีบก้มเก็บกล่องขนม

เม่นถือกล่องใส่ขนมไข่เดินมาหน้าห้องแววนิล ยืนลังเลกลัวๆ แววนิลเปิดประตูออกมาพร้อมกับปรียา เม่นตกใจรีบถอยหลัง ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้า
 
“มายืนหน้าห้องฉันทำไม” แววนิลถามเสียงดุ
“ผมๆ มาหาพี่ พี่นิล”
“ไอ้บ้า กล้าดียังไงมาเรียกฉันแบบนี้” แววนิลตวาดลั่น
“คุณผู้ชายให้เรียก คุณผู้ชายบอกว่าพี่ คุ คุณหนูนิลเป็นพี่สาว”
แววนิลผลักหน้าอกเม่นจนถอยหลัง
“ฉันนะหรือพี่แก อย่ามาสะเออนับญาติกับฉัน ฉันไม่รับคนโง่เซ่ออย่างแกเป็นน้อง รวมทั้งแม่แกด้วย” เม่นไม่โกรธ ยื่นกล่องขนมไข่ให้“อะไรของแก”
“พี่ๆ พยาบาลใจดีให้ขนมเม่นกลับมากินที่บ้าน เม่นเลยเอาขนมมาฝากคุณหนูนิลด้วย”
แววนิลอึ้งที่เม่นมีน้ำใจ แววนิลกำลังยกมือขึ้นมาหน่อยหนึ่งเหมือนจะรับ มณฑาเดินตรงมา แววนิลเห็นมณฑาเลยปัดกล่องขนมหลุดมือ
“ฉันไม่อยากได้”
แววนิลรีบดึงมือปรียาเดินหนีโดยไม่ยอมมองหน้ามณฑาเลย มณฑามองอย่างเสียใจ ก้มเก็บกล่องขนมใส่มือเม่น
“จำไว้ อยู่ให้ห่างๆ คุณหนูไว้ อย่ามาเซ้าซี้เธออีก”
เม่นพยักหน้า
“ครับแม่”
เม่นก้มหน้าเดินไปเศร้าๆ มณฑาเจ็บปวดหัวใจ

แววนิลจูงมือปรียาจะเดินออกนอกบ้าน ปรียาดึงมือไว้
“จะไปอีกแล้วหรือนิล ออกไปเที่ยวทุกคืนมันไม่ดีกับสุขภาพนะ”
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคนพวกนี้ ถึงต้องออกไปให้มันลืม”
“แต่เขาเป็นแม่ที่แท้จริงของเธอนะ จะไม่ยอมรับเขาจริงหรือ”
“ไม่รับ ยังไงก็ไม่รับ แล้วถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่ อย่าพูดถึงคนๆ นี้ให้ฉันได้ยินอีก”
แววนิลตวาดลั่นแล้วสะบัดหน้าเดินออกจากบ้าน ปรียาส่ายหน้าแต่ก็รีบเดินตาม

คืนนั้นชานนท์เดินเร่งรีบเข้ามาในห้อง โย่งตามติด ชานนท์สั่งงานรัวเร็ว
“นายรีบเก็บเสื้อผ้าให้ฉันสักสองชุดก็พอ เสร็จแล้วเตรียมรถให้ฉันด้วย เช็กเครื่อง เช็กหม้อน้ำให้เรียบร้อย ฉันจะเดินทางคืนนี้เลย”
“คุณผู้ชายจะไปไหนหรือครับ”
“นายอยากให้ฉันไปไหนล่ะ ก็ที่นั่นแหละ” โย่งดีใจ
“คุณผู้ชายจะไปพาคุณผู้หญิงกลับมาหรือครับ ใช่มั้ยครับ”
“เขามีพ่อมีปู่ จะเที่ยวลากเขามาตามใจชอบได้ยังไง ที่ฉันไปเพราะอยากพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูด ผลจะออกมาแบบไหนมันก็แล้วแต่เขา”
“คุณผู้ชายต้องพูดดีๆ นะครับ อย่ากวนโมโหคุณผู้หญิง”
“ฉันต้องให้นายสอนด้วยหรือ แฟนสักคนน่ะเคยมีกับเขาหรือเปล่า เห็นไม่เคยจีบใครติดสักคน”
“ที่ยังไม่มีแฟนก็เพราะต้องคอยอยู่รับใช้คุณผู้ชายนี่แหละ” โย่งเดินบ่นไปที่ตู้เสื้อผ้า “คนเขาห่วงยังจะมาเยาะเย้ยกันอีก เจ็บนะเนี่ย”
ชานนท์ยิ้มๆ เสียงมือถือของชานนท์ดัง ชานนท์เดินไปหยิบจากบนโต๊ะเครื่องแป้ง ปรียาโทรเข้ามาบอกเสียงตื่นเต้น
“พี่นนท์ พี่นนท์ต้องรีบมาที่นี่ด่วนเลยนะคะ”

ชานนท์ตกใจ

อีกด้านหนึ่งที่ห้องนอนโยธิน โยธินนั่งดูรูปแต่งงานที่กรอบแตกไปแล้วแต่ยังมีเศษกระจกติดอยู่ที่กรอบบ้าง
เขาเสียใจ ตัดสินใจบางอย่าง
 
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่ห้องนอนเขมิกา เขมิกาอยู่ในชุดธรรมดา ยืนมองชุดแต่งงานที่แขวนอยู่แล้ว เธอถอนใจ
ทิ้งตัวนอนบนเตียงก่ายหน้าผาก เครียด กลุ้ม ไม่อยากแต่ง

ปิ้ง เผือก คนงานอีก 3 คน นั่งล้อมวงโขกหมากรุกบนพื้นหน้าห้องเขมิกา
“เถ้าแก่เขาจะให้เรานอนเฝ้าลูกพี่ถึงเช้าเลยหรือพี่ปิ้ง” เผือกถามขึ้นมา
“เอ้อ เถ้าแก่คงกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”
“รุกฆาต” คนงานบอก
“เฮ้ย อะไรวะ ทำไมมันรุกเร็วนัก” เผือกโวยวาย
ปิ้งหันไปทางประตูแล้วเคาะประตูห้อง
“ลูกพี่หลับหรือยัง”

เขมิกาตะโกนออกไป
“ยัง มีอะไรก็เข้ามาเลย”
ปิ้งค่อยๆ เปิดประตูเข้ามา เขมิกาลุกนั่งขัดสมาธิ ปิ้งลงไปนั่งที่พื้นกระซิบกระซาบ
“ถ้าจะเปลี่ยนใจหนีไปกรุงเทพ ยังไม่สายนะลูกพี่ ฉันจะเอาชีวิตเข้าแลก กันไอ้พวกหน้าห้องไปที่อื่น” เขมิกา
คิดตาม “เชื่อไอ้ปิ้งสักครั้งเถอะ ถ้าแต่งไปแล้วเปลี่ยนใจไม่ได้อีกแล้วนะลูกพี่” ปิ้งรีบเปิดตู้หยิบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเป้ให้เขมิกา “เร็วสิลูกพี่” ปิ้งดึงเขมิกายืน ส่งกระเป๋าใส่มือเขมิกา “พอฉันล่อพวกมันไปแล้ว ลูกพี่รีบวิ่งปู๊ดออกไปเลยนะ”
ปิ้งยัดกุญแจรถใส่มือเขมิกา “รถจอดอยู่ด้านหลัง”
ปิ้งรีบไปที่ประตู เขมิกาตัดสินใจไป เดินไปรอที่ประตู ปิ้งพยักหน้าให้เขมิกา แล้วเดินออกไปก่อน ปิดประตู

ที่หน้าห้องเขมิกา ปิ้งบอกคนงาน
“หิวแล้ววะ ออกไปซดข้าวต้มกันก่อนดีกว่า”
“แต่เถ้าแก่ไม่ให้ไปไหนนะพี่” เผือกบอก
“งั้นแกก็เฝ้าไปคนเดียวละกัน ไปโว้ยพี่เลี้ยงเอง” ปิ้งบอกกับคนงาน
คนงานดีใจรีบตามปิ้งไป
“อ้าว ถ้ากินฟรี เรื่องอะไรไม่เอา รอด้วยพี่ปิ้ง”
เผือกวิ่งตามปิ้งไป เขมิกาเปิดประตูออกมา รีบเดินไปอีกทาง
เขมิกาย่องๆ ไปที่รถซึ่งจอดอยู่หลังบ้าน เปิดประตูรีบเข้าไปนั่ง เอื้อมมือไปเสียบกุญแจรถ

ส่วนที่กรุงเทพ ชานนท์รีบร้อนเข้ามาในผับ มองหาแววนิลกับปรียา เสียงขวด แก้วแตก ชานนท์หันไปมอง เห็นแววนิลกำลังเมาอาละวาด กวาดของบนโต๊ะตกแตก ปรียาพยายามจับตัว
“กลับบ้านเถอะ เธอเมาแล้ว”
แววนิลผลักปรียากระเด็น
“ไม่กลับบอกว่าไม่กลับ” แววนิลเมา ชี้กราดไปทั่ว “พวกแกมองอะไร ไม่เคยเห็นคนหรือไง” แววนิลร้องไห้ออกมา “ฉันไปทำอะไรให้พวกแก ทำไมต้องทำร้ายฉันด้วย”
แววนิลจะเข้าไปทำร้ายคน ชานนท์รีบเข้ามาดึงตัวไว้
“นิล กลับบ้านกับพี่ พี่มารับแล้ว”
แววนิลพยายามสะบัด
“ไม่กลับ เกลียดบ้าน เกลียดมัน ไอ้คนสารเลว”

ชานนท์ลากแววนิลออกไป

เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 16 (ต่อ)

ชานนท์พาแววนิลกลับมาบ้าน แววนิลนอนตาปรืออยู่บนเตียง มือไขว่คว้าหาเหล้า
“ไปเอาเหล้ามาให้ฉันอีก เอามาๆๆ”
แววนิลหลับ ชานนท์ขยับผ้าห่มให้แววนิล
“เป็นความผิดของปรียาเองค่ะที่ปล่อยให้นิลไปเที่ยวดึกๆ ดื่นๆ ทุกคืนโดยไม่ยอมบอกพี่นนท์” ปรียาบอก ชานนท์หันมา
“พี่ต่างหากที่มัวแต่ทำงาน ทิ้งให้เขาเป็นภาระของเธออยู่คนเดียว”
ปรียาเดินเข้าไปหาชานนท์
“ปรียาเต็มใจทำค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม จะมีปรียาเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างพี่นนท์เสมอ”
“แม้ว่าพี่จะรักคนอื่นไปแล้วงั้นหรือ”
ปรียาสะอึก ฝืนยิ้มอย่างไม่แคร์
“ก็ไม่เป็นไรนี่คะ พี่นนท์ก็ทำได้แค่รักอยู่ในใจ เพราะผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ของพี่นนท์แล้ว อีกหน่อยพี่นนท์ก็ลืมได้”
“แล้วถ้าพี่ไม่อยากลืมล่ะ”
ปรียาเจ็บจี๊ด จับมือชานนท์ขึ้นมา
“เราก็มีทางเดียว คือทนเจ็บไปด้วยกัน”
ปรียาบอกด้วยสายตาแน่วแน่

บ้านจุมพลหน้าห้องเขมิกา พวกปิ้งกลับมาจากกินข้าวต้ม ปิ้งลงนอนหน้าห้องเขมิกา
“สงสัยลูกพี่คงหลับปุ๋ยไปแล้ว ของีบบ้างเหอะวะ”
ประตูเปิด เขมิกาโยนหมอนอิงให้พวกปิ้ง
“เอาไปแบ่งๆ กันนอน แล้วห้ามใครนอนกรน ไม่งั้นเจ็บ”
เขมิกากลับเข้าห้อง ปิ้งมองตาค้างนึกว่าเขมิกาไปแล้ว ปิ้งรีบตามเขมิกาเข้าห้องแล้วปิดประตู

ภายในห้องเขมิกานั่งนิ่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ปิ้งโวยวาย
“ทำไมลูกพี่ยังไม่รีบไปอีก”
“ทำอย่างที่นายว่า แล้วฉันจะมีความสุขได้จริงหรือ ฉันทำกับเฮียไม่ลงจริงๆ” เขมิกาบอกเสียงอ่อย
“แต่ลูกพี่ไม่ได้รักคุณโย” เขมิกาหันมา
“ถึงไม่ได้รักเฮีย แต่เฮียก็มีความหมายกับชีวิตของฉันไม่แพ้คนๆ นั้นเหมือนกัน”
“มันคนละแบบจะเหมือนกันได้ยังไง”
“ทำไมจะไม่เหมือน มันก็เหมือนกับที่ฉันจะไม่มีวันทำให้แกเสียใจนั่นแหละไอ้ปิ้ง”
ปิ้งพูดไม่ออกเพราะเข้าใจเขมิกา

อีกด้านหนึ่งที่หน้าห้องชานนท์ ชานนท์เดินซึมๆ มาหน้าห้อง โย่งถือกระเป๋าของชานนท์ยืนรอกระวนกระวาย
โย่งรีบส่งกระเป๋าให้ชานนท์
“คุณผู้ชายรีบไปเถอะครับ”
ชานนท์รับกระเป๋ามา
“น้องฉันกำลังแย่ ฉันจะทิ้งน้องไปตอนนี้ได้ยังไง”

ชานนท์เดินเข้าห้อง โย่งผิดหวัง

เช้าวันใหม่ สนามหน้าบ้านจุมพลใช้เป็นสถานที่ตั้งโต๊ะจีนและมีแขกนั่งกันเต็มหมดทุกโต๊ะ พร้อมกับเปิดเพลง “ขันหมากมาแล้วของยอดรัก” ปิ้งและคนงานช่วยกันยกน้ำแข็ง น้ำดื่มแจกตามโต๊ะ
 
ในห้องนอนเขมิกา ที่กระจกแต่งตัว เขมิกายืนอยู่ในชุดแต่งงานพิธีตอนเช้า เสียงเพลงขันหมากมาแล้วลอยเข้ามา เขมิกาหดหู่ใจคิดถึงชานนท์ ร้องไห้ออกมา ปิ้งผลักประตูเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ
“ลูกพี่ ขบวนขันหมากมากันแล้ว”
เขมิกาหันไปทางปิ้ง ฮึดเข้มแข็ง
“ฉันพร้อมแล้ว”
“แต่ฉันยังพูดไม่จบเลยนะ ขบวนขันหมากมาก็จริงแต่ว่า...” เขมิกาสงสัยรอฟัง

ในบ้านจุมพล จุมพลำลังกระชากคอเสื้อสมคิด
“มันหายไปไหน ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้”
“ผมจะรู้ได้ยังไงอา คราวที่แล้วเจ้าสาวหายไป คราวนี้เจ้าบ่าวหายอีก ต่อไปนี้เดินไปไหนผมคงต้องเอาปี๊บคลุมหัว”
จุมพลปล่อยมือจากคอเสื้อสมคิด เขมิกาวิ่งออกมาพร้อมปิ้ง
“อาคิด เกิดอะไรขึ้นกับเฮียโย”
“อาก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นบ้าอะไร เดินๆ แห่ขันหมากมาด้วยกันแท้ๆ อาเผลอแว่บเดียวมันล่องหนหายวับไปเลย”
ปิ้งเผลอหลุด
“หรือว่าคุณโยจะรู้ว่าลูกพี่...” จุมพลรีบจ้องหน้าปิ้งไม่ให้พูด ปิ้งหด “เออ ไม่มีอะไรครับ”
“เราคงต้องออกไปขอโทษแขก สองครั้งแล้ว อยากจะบ้าไอ้โยนะไอ้โยทำป๋าได้”
สมคิดเดินออกไป จุมพลหน้าเครียดเดินตาม เขมิกาห่วงโยธิน

เวลาผ่านไป จุมพลยืนมองสนามโล่งๆ เพราะโต๊ะจีนถูกเก็บไปหมดแล้ว เขมิกาเดินเข้ามาหาจุมพล
“ปู่ไปพักเถอะเหนื่อยเตรียมงานตั้งแต่เช้ามืดแล้ว”
“คิดแล้วคิดอีกก็ไม่เข้าใจเจ้าโย มันรักเอ็งมาก แต่ทำไมถึงหนีงานแต่งไป” จุมพลหันมาขู่เขมิกา “เอ็งพูดอะไรที่ไม่ควรพูดกับเจ้าโยหรือเปล่า”
“โอ๊ยปู่ เข็มตั้งใจจะแต่งกับเฮียจริงๆ แต่เราอาจไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้ ถึงต้องมีเหตุไม่ได้แต่งกันสักที”
จุมพลลั่นวาจา
“ถึงเอ็งไม่ได้แต่งกับเจ้าโย ก็อย่าลืมว่าไอ้หนุ่มที่เมืองกรุงมันเคยเป็นสามีของพี่สาวเอ็ง พี่น้องมีสามีคนเดียวกัน ปู่รับไม่ได้ และจะไม่มีวันยอม”
“ไปกันใหญ่แล้วปู่ เข็มบอกเป็นร้อยครั้งแล้วมั้งว่าไม่ได้คิดกับเขาแบบนั้นสักนิด”
“ข้าก็พูดเผื่อไว้ก่อน ถ้าไม่ได้คิดข้าก็สบายใจ” จุมพลแตะบ่าเขมิกา “อย่าทำให้ปู่ต้องเสียใจเหมือนที่พ่อเอ็งเคยทำก็แล้วกัน”
จุมพลเดินเข้าบ้าน เขมิกาหนักใจ
ที่บ้านชานนท์ ชานนท์เดินอยู่ข้างตึกมองมือถือ ที่จอเลือกชื่อเขมิกาขึ้นหน้าจอ เพื่อโทรหาชานนท์ลังเลคิดไปคิดมาหักใจไม่โทร ชานนท์หยุดที่ข้างตึกเงยหน้าขึ้นมองคิดถึงอดีตตอนที่เขมิกาห้อยโหนลงมาจากห้องเก็บของที่เคยโดนมณฑาขังไว้
ชานนท์สลัดความคิดถึงเขมิกาออกไป รีบเดินห่างออกไปจากบริเวณนั้น ชานนท์เดินไปเห็นต้นไม้ใหญ่ที่เขมิกาเคยปีนไล่จับเม่น เขาชะงักมองคิดถึงเขมิกาอีก
ภาพเขมิกาผ่านเข้ามาในความทรงจำ เป็นภาพอดีตตอนเม่นอยู่บนต้นไม้ เขมิกาพยายามล่อหลอกให้เม่นลงจากต้นไม้

ปัจจุบัน ชานนท์เผลอยิ้มออกมา เสียงมือถือดังชานนท์ไม่ได้ยิน ห่างออกไปโย่งกำลังใช้กรรไกรตัดหญ้า ได้ยินเสียงมือถือหันไปทางชานนท์ โย่งรีบเดินไปหาชานนท์
“คุณผู้ชายครับ” ชานนท์ยังเหม่อมองต้นไม้ โย่งจึงเรียกเสียงดังขึ้น “คุณผู้ชายครับ”
ชานนท์สะดุ้งหันมาดุ
“ตะโกนทำไม อยู่ใกล้กันแค่นี้”
“ก็ผมเรียกคุณผู้ชายจนคอจะแตกอยู่แล้ว คุณผู้ชายก็ไม่ได้ยินไม่รู้คิดถึงใครอยู่ โทรศัพท์มันดังตั้งนานแล้ว”
ชานนท์รีบมองมือถือเห็นชื่อปิ้ง ชานนท์นิ่งไม่รับสาย “ไม่รับหรือครับ อาจเป็นคุณผู้หญิงโทรมาก็ได้” ชานนท์ตัดสายทิ้ง
“อ้าว”

“ต่อไปนี้เราจะไม่พูดถึงคุณผู้หญิงของนายอีก”

ปิ้งอยู่ที่ระเบียงไม้ บ้านจุมพล ปิ้งกดมือถืออีกรอบ
 
“ไรวะ หรือสายหลุด” มีปลายกระบอกปืนยืนมาตรงหน้า ปิ้งรำคาญดันปลายปืนออก “อย่ายุ่งน่า”
จุมพลยืนถือปืนโมโห กดปืนลงที่พื้นยิงใส่พื้น เปรี้ยงๆ ปิ้งตกใจร้องลั่นกระโดดๆ หลบลูกปืน จุมพลหยุดยิง“โทรไปอีกสิ”
“ไม่โทรแล้วจ้ะเถ้าแก่ เมื่อกี้แค่ลองทดสอบเครื่อง เล่นๆ เอง” จุมพลยิงอีกนัดข้างตัวปิ้ง “จ๊าก ผมโทรไปจริงแต่เขาไม่รับสาย”
“ฟังให้ดี ไปบอกทุกคนให้รู้ไว้ ถ้าใครหน้าไหนปากสว่างบอกให้นายชานนท์รู้ว่าหลานข้าไม่ได้แต่งงาน ข้าจะยิงไม่เลี้ยง”
จุมพลยิงอีกเปรี้ยงๆ ปิ้งอุดหูหมอบหลบ
“จ้า ไม่กล้าแล้วจ้า ไม่โทรแล้วๆ”

ขณะนั้นเขมิกายืนมองทะเลด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยคิดถึงชานนท์ ภาพเก่าๆ ที่เคยทะเลาะกันหวนกลับมาในความทรงจำ
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่ระเบียงบ้านชานนท์ ชานนท์ยืนมองท้องฟ้าคิดถึงเขมิกาเหมือนกัน
“ฉันคงต้องพยายามลืมเธอแล้วสินะ”
ชานนท์บอกตัวเอง
ทางด้านเขมิกา เธอก็บอกตัวเองเหมือนกัน
“ฉันต้องพยายามลืมนายให้ได้ นายชาเย็น”

วันต่อมาที่โรงพยาบาล เขมิกาหิ้วผลไม้เดินมาหยุดหน้าห้องบัณฑิต ผลักประตูเข้าไปแล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหลังอิงอรยืนถือช่อดอกไม้อยู่ที่เตียงบัณฑิต เขมิกามองสงสัย
“โทษฮะ มาเยี่ยมพ่อหรือฮะ”
อิงอรใส่แว่นดำหันมา อิงอรจ้องเขมิกาคิดว่าเป็นขวัญตา
“ขวัญ ขวัญตา ที่แท้หนูก็หนีมาอยู่ที่นี่จริงๆ” อิงอรวิ่งไปสวมกอดเขมิกา ร้องไห้ “แม่ขอโทษ ยกโทษให้แม่นะ แม่มันหูหนวกตาบอดที่ไม่เชื่อคำพูดของลูก”
เขมิกายืนตัวแข็ง งุนงง
“คุณเข้าใจผิดแล้วฉันไม่ได้ชื่อขวัญตา” อิงอรผละออก ตกตะลึง “คุณเป็นใครหรือฮะ”

ช่วงเวลาเดียวกันนั้น จุมพลกำลังเดินมาตามทางเดินโรงพยาบาล มาทางห้องบัณฑิตพร้อมปิ้ง
ส่วนที่ห้องบัณฑิต อิงอรดีใจเพิ่งนึกออกว่ามีลูกแฝด
“เข็ม เข็มหรือลูก” เขมิกาช็อก
“ลูก”
อิงอรจับมือเขมิกา
“จ้ะ แม่เป็นแม่ของหนู แม่จากหนูไปตั้งแต่เล็ก หนูคงจำแม่ไม่ได้ ขนาดแม่เองยังคิดว่าหนูคือขวัญตาเลย”
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่เอ็ง” เสียงจุมพลดังขึ้น เขมิกาตกใจรีบดึงมือออก หันไปข้างหลังเห็นจุมพลกับปิ้งเดินเข้ามา อิงอรก็ตกใจ จุมพลชี้หน้า “คนที่มันกล้าทิ้งลูกตัวเอง ไม่มีทางเป็นแม่ใครได้” อิงอรหน้านิ่งไม่สะทกสะท้าน ยกมือไหว้จุมพล “ออกไป”
จุมพลตวาด อิงอรเชิดหน้าไม่กลัวเกรงจุมพล
“ที่นี่เป็นโรงพยาบาล ไม่ใช่บ้านของคุณพ่อนะคะ คุณพ่อไม่มีสิทธิ์จะไล่ใคร หนูมาเยี่ยมพี่ฑิต เยี่ยมเสร็จหนูก็จะไป”

อิงอรเดินกลับไปที่เตียง วางช่อดอกไม้ข้างตัวบัณฑิต

จุมพลโกรธมาก เข้าไปคว้าดอกไม้ปาลงพื้น เหยียบๆๆ เขมิกาตกใจ “คุณพ่อก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย”
 
“เธอต่างหากที่ไม่เคยเปลี่ยน ใจกล้า หน้าด้าน ข้าออกปากไล่แล้วยังไม่ยอมไป ไอ้ปิ้ง พานังแพศยาคนนี้ไปให้พ้นหน้าข้า”
ปิ้งรีบเข้าไปจะจับแขนอิงอร
“ถ้าแกกล้าโดนตัวฉัน ฉันแจ้งตำรวจแน่”
ปิ้งรีบหดมือกลับมองหน้าจุมพล จุมพลคว้าแขนอิงอร
“คิดว่าคนอย่างเถ้าแก่จุมพลจะกลัวเธอหรือ ออกไป”
อิงอรพยายามสะบัด
“คุณพ่อจะเที่ยวทำแบบนี้กับใครไม่ได้นะคะ ปล่อยหนู พี่ฑิต พ่อพี่เป็นแบบนี้ไง ฉันถึงอยู่ด้วยไม่ได้
คุณตื่นขึ้นมาดูสิ ตื่นขึ้นมาดู”
เสียงชีพจรเต้นแรง เขมิกาหันไปทางจอวัดชีพจร กราฟชีพจรแสดงถึงหัวใจบัณฑิตเต้นแรงขึ้น เขมิการีบหันมาทางเตียง
“พ่อ”
หมอและพยาบาลวิ่งกรูกันเข้ามาที่เตียง จุมพลกับอิงอรรีบถอยออก

ทุกคนเดินตามจุมพลออกมานอกห้อง จุมพลหันไปทางปิ้ง
“เอ็งเฝ้าหน้าห้องไว้ ห้ามให้ใคร” จุมพลมองอิงอร “เข้าไปรบกวนลูกชายข้าอีก”
อิงอรเดินเข้ามาหาจุมพล
“เวลาผ่านมาจนถึงป่านนี้ คุณพ่อยังไม่ลืมเรื่องเก่าๆ อีกหรือคะ มันน่าจะจบกันไปได้แล้ว”
“มีแต่เธอที่ลืม แต่ข้าไม่เคยลืม เจ้าเข็มมันก็ไม่ลืมว่าแม่มันทิ้งมันไป ถามมันดูว่ามันลืมหรือเปล่า อยากรับเธอเป็นแม่หรือเปล่า ถามมันสิ”
อิงอรเดินไปหาเขมิกา
“ถึงปู่จะโกรธแม่แค่ไหน แต่เราก็ยังเป็นแม่ลูกกันใช่มั้ยลูก” เขมิกานิ่งสับสน “บอกปู่ไปสิจ๊ะ ว่าเราแม่ลูกไม่มีทางตัดกันขาด บอกไปว่าหนูก็อยากเจอแม่”
จุมพลจ้องหน้าเขมิกา เขมิกายังโกรธแม่อยู่และไม่อยากขัดใจปู่
“คุณอิงอรคงเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่เคยอยากเจอคุณเลย ฉันมีแค่ปู่กับพ่อก็มีความสุขดีอยู่แล้ว ครอบครัวเราไม่ต้องการคุณหรอก คุณกลับไปซะเถอะ”
เขมิกาเดินไปยืนข้างๆ จุมพล จุมพลพอใจ อิงอรปวดร้าวใจกับคำพูดของเขมิกา พยักหน้ายอมรับ ฝืนยิ้ม
“ขอบใจนะที่พูดความจริงกับแม่”
อิงอรตัดใจเดินจากไป เขมิกาสับสนมองตามแม่ ประตูห้องเปิด หมอเดินออกมา
“อาหมอ พ่อเข็มเป็นไงบ้าง พ่อจะฟื้นหรือเปล่าฮะ” เขมิการีบถาม

หมอส่ายหน้า แตะบ่าเขมิกาปลอบใจ แล้วเดินไปพร้อมพยาบาล เขมิกาผิดหวัง

เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 16 (ต่อ)

ช่วงค่ำ ภายในห้องนอนเขมิกา เขมิกานั่งที่ปลายเตียง ตาจับจ้องไปที่โต๊ะเครื่องแป้งซึ่งมีดอกไม้ของอิงอรที่โดนจุมพลเหยียบเละวางอยู่ เขมิกาพยายามตัดใจเดินไปคว้าดอกไม้ตรงไปที่ถังขยะมุมห้องโยนทิ้ง

เช้าวันใหม่ที่แพปลาด้านนอกเรือ เขมิกาเดินเข้ามาสะดุดเชือกที่วางกองอยู่
“โอ๊ยอะไรวะ ใครเอาวางกองแถวนี้ บอกกี่ทีแล้วให้คอยเก็บให้เป็นที่เป็นทางหน่อย” เขมิกาบ่นอย่างหงุดหงิด
“มันก็วางของมันอยู่ตรงนี้ทุกวันแหละลูกพี่” เผือกบอก
“นั่นแหละ ลากไปเก็บที่อื่น”
เผือกงงกับอาการของเขมิกา เดินไปลากเชือก เขมิกาหันไปเห็นคนงานอีกคนเพิ่งมาถึง
“อ้าว ไอ้นี่โผล่มาทำไมตอนนี้ ไม่มาซะปีหน้าเลยล่ะ” เขมิกาพาลใส่ คนงานงง
“ก็เมื่อวานผมบอกลูกพี่ไว้แล้วนะว่าจะพาเมียไปฝากท้องจะเข้ามาทำงานช้าหน่อย ลูกพี่ยังบอกเลยว่ามาบ่ายก็ได้”
เขมิกาหน้าแตก รีบเปลี่ยนเรื่อง
“เอ้อๆ ไม่ต้องพูดแล้วรีบไปช่วยทางโน้นเลย”
ปิ้งเดินมาอีกมุมแหกปากร้องเพลงพร้อมไปกับไอพอดที่เสียบหูอยู่
“คิดถึงแม่ขึ้นมาน้ำตามันก็ไหล อยากกลับไปซบลงที่ตรงตักแม่ ในอ้อมกอดรักจริงที่เที่ยงแท้ ในอกแม่สุขเกินใคร”
เขมิกาไม่อยากได้ยินหันไปโวยวายใส่
“จะร้องทำไมนักหนาหนวกหู หยุดไปเลยนะ เพลงดีๆ มีเยอะแยะไม่รู้จักร้อง”
เขมิกาเดินบ่นไปอีกทาง ปิ้งยืนงงถามเผือก
“ลูกพี่เขาเลือดจะไปลมจะมาหรือวะ ร้องเพลงก็ไม่ได้”
“หูย ไม่ใช่แค่พี่คนเดียว โดนหางเลขกันทั่วถึง”
“ขอโทษนะจ๊ะ”
เผือก ปิ้งรีบหันไปทางเสียง เห็นอิงอรแต่งกายดูดีใส่ส้นสูงเดินเข้ามา คนงานมองเป็นตาเดียว

เขมิกาใช้สายยางฉีดน้ำล้างเรือ ปิ้งเดินนำอิงอรลงเรือ
“ลูกพี่ มีคนมาหา”
เขมิกาหันมาเจออิงอรงง ที่อิงอรบุกมาถึงนี่ เขมิการีบมองซ้ายขวากลัวจุมพลมาเจออีก
“คุณมาทำไม เดี๋ยวปู่ฉันก็มาไล่เอาอีกหรอก”
“ฉันไปดูลาดเลาให้เอง” ปิ้งบอกแล้วรีบเลี่ยงขึ้นเรือไป อิงอรยิ้มแย้มกับเขมิกาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉันโตพอที่จะเข้าใจเหตุผลของทุกคน หนูสบายใจเถอะฉันจะไม่ทำให้หนูต้องลำบากใจหรอก แต่ที่ฉันมานี่ เพราะฉันมีเรื่องอยากให้ช่วย” อิงอรจะเดินไปหา แต่ลื่น “ว้าย” อิงอรเกือบล้ม เขมิการีบถลาเข้าไปประคองไว้ทัน อิงอรยิ้มดีใจ “ขอบใจที่ห่วงแม่”
เขมิการีบปล่อยอิงอร ทำไม่รู้ไม่ชี้
“อยากจะให้ช่วยอะไรก็รีบบอกมาเถอะ ฉันต้องทำงาน”
“ลูกรู้มั้ยว่าพี่สาวลูกอยู่ไหน ขวัญเขามาตามหาพ่อเขาที่นี่บ้างหรือเปล่าจ๊ะ เขาหายหน้าไปนานแล้ว แม่เป็นห่วงเขาเหลือเกิน ญาติมิตรที่ไหนเขาก็ไม่มี นอกจากพ่อของหนู”
“ลูกคุณ คุณก็ไปหาเองเถอะ” เขมิกาเดินหนีไปหยิบสายยางทำงานต่อ พูดลอยๆ กัดอิงอรไปด้วย “คนหนึ่งก็ทิ้ง อีกคนก็หาย ใครเกิดเป็นลูกคุณนี่ดีเนอะ”
อิงอรพยายามข่มใจ เขมิกายังฉีดน้ำไปมา ไม่เห็นอิงอรตอบโต้ เลยหันไปดู อิงอรกลับไปแล้ว เธอรู้สึกว่าตัวเองจะแรงเกินไป

“ช่างปะไร เราพูดไม่ผิดสักหน่อย”

แพปลาห่างจากเรือ อิงอรเดินซับน้ำตาช้ำใจทั้งเรื่องเขมิกาและเป็นห่วงขวัญตา อิงอรขึ้นรถของโรงแรมที่มาส่ง ขณะกำลังจะปิดประตูรถ จู่ๆ มีมือคนมาดึงประตูไว้ไม่ให้ปิด อิงอรเงยหน้ามองเห็นเป็นเขมิกาที่ดึงประตูไว้

อีกด้านหนึ่ง อึ่งเดินระวังตัวมาหยุดหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง แล้วเคาะประตูบอกคนข้างใน
“ฉันเอง”
พอประตูเปิดจึงเห็นประชาดูโทรมมากนั่งรอที่เก้าอี้ ประชารีบปรี่ไปหาอึ่ง
“ของที่ให้หาล่ะ ได้มามั้ย”
อึ่งส่งถุงกระดาษให้ พอประชาจะรับ อึ่งดึงกลับ
“ฉันจะได้ส่วนแบ่งหนึ่งล้านตามที่คุณรับปากไว้แน่นะ”
“ถ้ามันตาย รับรองฉันไม่เบี้ยว”
ประชากระชากถุงมาแล้วหยิบของในถุงออกมาเป็นปืนสั้น

ในรถทางไปสปาของชานนท์ เขมิกาเป็นคนขับรถ อิงอรนั่งมาด้านข้าง อิงอรมองเขมิกา
“ขอบใจนะที่ขับรถมาส่งแม่ แม่นึกว่าหนูจะไล่แม่เหมือนอย่างที่ปู่ทำเสียอีก”
เขมิการักษาฟอร์ม
“ที่ฉันช่วยคุณเพราะไม่ใช่ยอมรับคุณเป็นแม่นะ แต่ฉันทำเพื่อพ่อ พ่อฑิตอยากเจอพี่ขวัญ”
อิงอรยิ้มไม่ถือสาคำพูดเขมิกา
“แม่ก็ไม่เคยหวังว่าลูกจะยอมรับแม่ แค่เห็นหนูเติบโตขึ้นมาได้ดีแบบนี้แม่ก็พอใจแล้วจ๊ะ”
เขมิกาอึ้งไป

ที่แปลงสวนหย่อมของสปา ชิ้น สอนและลูกน้องที่ปลอมตัวด้วยการเอาผ้าขาวม้าปิดหน้า กำลังช่วยกันทำแปลงดิน ลูกน้องสอนกำลังก้มตัวลงเพื่อยกกระสอบใส่ดิน มีดสปริงตกลงพื้น ลูกน้องสอนจะหยิบมีดแต่มีมือคนมาแย่งหยิบไป ลูกน้องสอนเงยหน้ามองเห็นเป็นชานนท์ก็ตกใจ
ชานนท์มองมีดแล้วกดมีกระเด้งออก สอนที่ขุดดินอยู่หันมาเห็นชานนท์ก็ตกใจกลัวลูกน้องโดนจับได้ ชานนท์ส่งมีดคืนลูกน้องสอน
“ระวังหน่อย ของมันมีคม พลาดไปจะเกิดอุบัติเหตุ”
ลูกน้องสอนรับไปแบบมือสั่นๆ รีบยกถุงดินไปทางสอน สอนกระซิบด่าลูกน้อง
“เกือบทำเสียเรื่องแล้วมั้ยล่ะไอ้โง่”
สอนหันไปมองชานนท์ แววตาประสงค์ร้าย

มุมนึงของแปลงสวนหย่อม ชานนท์ยืนคุยกับชิ้น
“ผมจะลงไม้ดอกตรงบริเวณนี้ล้อมไว้ให้เหมือนรั้ว เอาให้หลายสีหน่อยนะครับ เวลาออกดอกพร้อมกันจะได้สวยๆ”
“ดอกอะไรบ้างครับ”
ชิ้นชี้ไปที่กองต้นเข็มหลากสี
“ต้นเข็มครับ ผมไม่ได้ซื้อเองหรอก ยัยเยาว์น่ะสิ เป็นบ้าอะไรไม่รู้ขนซื้อมาเพียบ บอกว่าเห็นแล้วจะได้หายคิดถึงคุณเข็ม”
ชานนท์คิดถึงเขมิกาขึ้นมา แต่ข่มใจ
“ผมว่าต้นเข็มมันดูแข็งเกินไป ผมอยากได้ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมากกว่า ช่วยเปลี่ยนให้ผมด้วยนะครับ”
ชิ้นงง รีบเรียกสอน
“เอ้า มาช่วยยกออกไปวางไกลๆ ทีจะได้ไม่เกะกะ”
สอนพยักหน้ากับลูกน้องให้ทำตามแผน เดินไปตรงกองต้นเข็ม ทำเป็นแกล้งยกต้นเข็ม สอนมองชานนท์เห็นชานนท์ยืนอยู่ใกล้ๆ ชักมีดใหญ่จากอกเสื้อ แล้วเสือกมีดแทงชานนท์
ชานนท์มองมาเห็นมีดแต่หลบไม่ทันแล้ว มีดพุ่งจะเข้าแทงท้องเขา แต่ชิ้นเข้ามาบังตัวชานนท์รับมีดแทน มีดเสียบเข้าหลังชิ้น ชิ้นตัวแอ่นกอดชานนท์ ชานนท์ตกใจ

“ลุงชิ้น”

ที่หน้าสปา เขมิกา อิงอรลงจากรถ เยาว์เดินออกมาพอดีรีบวิ่งมาหา
 
“คุณเข็ม”
เยาว์วิ่งมาจับมือเขมิกา
“น้าเยาว์สบายดีนะฮะ”
“ค่ะ อู๊ย ทุกคนต้องดีใจแน่ๆ ที่เห็นคุณเข็มมาเยี่ยม”
“ฉันมีธุระสำคัญอยากเจอคุณนนท์ด้วย วันนี้เขาอยู่หรือเปล่า”
“อยู่ค่ะอยู่”
เยาว์มองไปทางอิงอรที่มองสำรวจสปา

ที่สวนหย่อม ชานนท์ถูกพวกสอนรุม สอนกับลูกน้องไล่ฟันชานนท์ ชานนท์ล้มกลิ้งหลบมีดได้ทัน สอนเสือกมีดแทงซ้ำ ชานนท์หมุนตัวคว้าบัวรถน้ำสังกะสีใกล้ตัวรับมีดไว้แล้วถีบสอน สอนกระเด็นล้มไป
“แกเป็นใคร”
ชานนท์เข้าไปดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าสอน แล้วตกใจที่เป็นสอน ลูกน้องสอน 2 คนพุ่งเข้ามาหาชานนท์ ชานนท์รีบหันมาใช้บัวรดน้ำฟาดต่อสู้กับมีดของลูกน้องสอน ซัดลูกน้องสอน1 หน้าหงายไป สอนมาข้างหลังถีบหลังชานนท์จนล้มคะมำ บัวรดน้ำหลุดมือ
ลูกน้อง2 พุ่งเข้าจับชานนท์ล็อก สอนถือมีดตรงดิ่งไปหา กะแทงจังๆ จังหวะนั้นเขมิกา อิงอร เยาว์เดินมาเห็น “อ๊าย คุณนนท์” เยาว์เห็นชิ้นนั่งเจ็บห่างออกไป “พี่ชิ้น”
เยาว์วิ่งไปหาชิ้น อิงอรยืนตกใจ เขมิกาจวนตัวรีบคว้าที่ฉีดน้ำแบบแรงดันสูงฉีดใส่หน้าสอนอย่างแรง จนสอนหน้าหงาย ชานนท์กระโดดเตะก้านคอสอน ล้มไป เขมิกาวิ่งมาด้านหลังลูกน้อง2 ที่จับล็อกชานนท์อยู่ เธอยกกระถางต้นไม้ขนาดเล็กฟาดหัวลูกน้อง2 จนแตก ปล่อยชานนท์หลุด ชานนท์หันมาเจอเขมิกา เขาถึงกับอึ้งว่าเขมิกามาได้ยังไง
เขมิกาก้มเก็บมีดที่เท้า ชี้ไปทางสอน
“แกไอ้สอน เล่นตามมาถึงนี่เลยหรือ” พวกสอนวิ่งหนี เขมิการีบบอกชานนท์“ฉันจัดการพวกมันเอง คุณรีบพาลุงชิ้นไปส่งโรงพยาบาลก่อน”
เขมิกาไล่ตามสอนไป อิงอรรีบวิ่งมาหาชานนท์
“คุณตามไปช่วยลูกสาวฉันเถอะ ทางนี้ฉันช่วยเอง”
ชานนท์งงว่าอิงอรเป็นใคร แต่ไม่มีเวลาสนใจรีบวิ่งตามเขมิกาไป อิงอรรีบไปช่วยเยาว์ประคองชิ้น

พวกสอนวิ่งหนีออกมาด้านหลังสปา หยุดหอบ
“เกือบจะฆ่ามันสำเร็จอยู่แล้ว ไอ้ทอมซ่าดันตามมาหลอกหลอนถึงที่นี่ กูอยากจะบ้า”
“เอาไงต่อพี่” ลูกน้องถาม
“หนีก่อนสิวะ”
เขมิกาวิ่งไล่หลังมาเห็น ตะโกน
“แกคิดว่าจะหนีรอดหรือ”
สอนกับพวกหันไปเห็นเขมิกา รีบวิ่งหนีไปที่ริมถนน เขมิกาปามีดออกไป แทงฉึกเข้าที่กลางหลังลูกน้อง2 หลังแอ่นทรุดลง สอนกับลูกน้องอีกคนช่วยกันประคอง รถกระบะคันหนึ่งติดฟิล์มดำวิ่งผ่านมา สอนรีบลากลูกน้องยืนขวางหน้าให้หยุด รถกระบะเบรกกะทันหันหยุดกึก สอนรีบดันลูกน้องขึ้นท้ายกระบะ ตัวเองรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านหน้า
คนขับตกใจหันมาคือประชา สอนยกมีดจี้คอประชา
“ขับออกไป เร็วสิวะ อยากตายหรือ ไป”
ประชามองไปเห็นเขมิกาวิ่งออกมาจากประตูด้านหลังสปา เขากลัวเขมิกาเห็น รีบบึ่งรถออกไปทันที

เขมิกาวิ่งมาไม่ทัน ชานนท์วิ่งตามมาสมทบเห็นท้ายรถวิ่งไปไกลแล้ว

อิงอรนั่งรอเขมิกาอยู่ในห้องทำงานชานนท์ ชานนท์กับเขมิกาเดินเข้ามา อิงอรลุกยืน รีบบอก
 
“ผู้หญิงที่ชื่อเยาว์เขาพาสามีเขาไปส่งโรงพยาบาลแล้วจ้ะ”
ชานนท์งงว่าคนนี้ใคร มองหน้าเขมิกา
“นี่คุณอิงอรฮะ เป็นแม่ของพี่ขวัญ คนนี้ไงฮะคุณชานนท์สามีของพี่ขวัญ คนที่คุณอยากเจอ” ชานนท์รีบยกมือไหว้ อิงอรรับไหว้ยิ้มให้ “คุณอยากรู้อะไรก็ถามกันเอาเองนะฮะ”
เขมิกาบอกแล้วเดินออกจากห้อง ชานนท์กับอิงอรมองหน้ากัน

มุมนั่งเล่นริมสระน้ำแร่-สปา ชานนท์นั่งคุยโทรศัพท์กับเยาว์
“น้าเยาว์ไม่ต้องมาทำงานนะครับ ให้อยู่ดูแลลุงชิ้นจนกว่าแผลจะหายดี ผมเสร็จธุระทางนี้จะรีบไปเยี่ยมลุงชิ้นทันที ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมรับผิดชอบเอง”
ชานนท์ตัดสายมองไปทางอิงอรที่ยืนมองรอบๆ อยู่ อิงอรหันมาทางชานนท์
“ขวัญลูกสาวฉันเขาเคยทำงานอยู่ที่นี่หรือคะ”
“ครับ ผมเจอเขาครั้งแรกที่นี่ แต่เขาโกหกผมว่าเป็นเด็กกำพร้าเติบโตมาจากบ้านสงเคราะห์เด็ก ผมไม่เคยรู้เลยว่าความจริงแล้วขวัญยังมีแม่ที่แท้จริง”
อิงอรรู้สึกผิดกับลูก
“มันเป็นความโง่ของฉันเอง ฉันมีปัญหากับคุณบัณฑิต เลยหอบลูกหนีไปอยู่ต่างประเทศ คิดว่าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างที่หวัง แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น ฉันเป็นคนทำลายอนาคตลูกด้วยมือฉันเอง”

อิงอรนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ประเทศอังกฤษ สามีนักธุรกิจขี้เมาทุบตีอิงอร ขวัญตาเข้ามาช่วยแม่ โดนพ่อเลี้ยงกระชากแขนผลักล้ม
เสียงอิงอรเล่าให้ชานนท์ฟัง
“สามีใหม่ฉันทำธุรกิจล้มเหลว เลยใช้เหล้าดับความกลุ้ม เหล้าเข้าปากทีไรเป็นต้องทุบตีทำร้ายฉันกับขวัญ ฉันทนไม่ได้ก็เลยขอหย่า ได้เงินจากที่เขาขายกิจการมาก้อนใหญ่”
อิงอรกอดเงินหลายปึก
“คอยดูนะแม่จะไม่ยอมตกนรกอีก”
ขวัญตามองแม่
“หนูอยากกลับเมืองไทย หนูอยากไปหาพ่อ”
“แกเลิกเซ้าซี้ฉันเรื่องพ่อแกสักทีได้มั้ย”
“ก็ใครๆ เขาก็มีพ่อกัน หนูก็อยากมี เพื่อนมันชอบล้อหนูไม่ชอบนี่แม่”
“พ่อแกมันเป็นคนงี่เง่า เป็นลูกแหง่ เชื่อฟังแต่ไอ้แก่หัวหงอกมันไม่ได้รักแม่ ไม่ได้รักแกเลยสักนิด เห็นมั้ยมันไม่เคยติดต่อหาแกเลย”
อิงอรหิ้วกระเป๋าเงินเข้าห้อง ขวัญตาเก็บกด
 
อ่านต่อเวลา 17.00น.



เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 16 (ต่อ)

ภาพในอดีต บ้านอิงอรที่เมืองนอก เสียงอิงอรเล่าต่อ
“ฉันเริ่มใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย ใช้เงินอีลุ่ยฉุยแฉกจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านทุกคืน โดยไม่คิดว่าขวัญตาจะใจแตก ทำตัวเลียนแบบฉันทุกอย่าง”
อิงอรเต้นไปมากับกลุ่มเพื่อน เพื่อนฝรั่งของอิงอรนั่งโซฟาคู่กับไมค์ เพื่อนอิงอรพยักหน้าให้ไมค์ไปหาอิงอรแบบรู้กัน ไมค์เข้าไปเต้นใกล้อิงอร อิงอรยิ้มยั่วยวน ไมค์แทรกเข้าไปเต้นด้วยส่งสายตาเจ้าชู้หวังจับอิงอรเพื่อเงิน

เวลาผ่านไป อิงอรกับไมค์เมาทั้งคู่ ประคองกอดคอกันเข้าบ้าน ขวัญตาแต่งชุดกระโปรงรัดรูปสั้นจู๋กำลังจะออกไปเที่ยว มองไมค์แบบดูถูก ไมค์มองขวัญตาแบบอยากได้
“หิ้วผู้ชายกลับมาทั้งปี คราวนี้ ได้เคี้ยวเนื้อกรุบกริบซะด้วย”
ขวัญตาบอก อิงอรตวาด
“ปากมากนะแก” อิงอรควักเงินให้ขวัญตา “จะไปไหนก็ไป”
ขวัญตาดึงเงินมา แล้วออกจากห้อง ไมค์มองที่ขาคิดไม่ดีกับขวัญตา
เสียงอิงอรเล่าต่อ
“ฉันหลงผู้ชายคนนี้มาก ปรนเปรอให้เขาทุกอย่าง แม้กระทั่งยอมให้เขามาอยู่ในบ้าน แต่แล้ววันหนึ่ง...”

ภาพในอดีตภายในห้องนอนขวัญตา ขวัญตากำลังจะถอดเสื้อ ไมค์เปิดประตูเข้ามา ไมค์เข้าไปกอดปล้ำขวัญตา ขวัญตาตกใจต่อสู้ คว้าที่เขี่ยบุหรี่ตบหน้าผากไมค์จนเลือดอาบ
“โอ๊ย”
อิงอรได้ยินเสียงวิ่งเข้ามา เห็นเลือดก็ตกใจ
“เลือด ทำไมเป็นแบบนี้”
ขวัญตาจะรีบบอกแม่แต่ไมค์ชิงพูดก่อน
“ก็ลูกสาวพี่นะสิ มันฟาดหน้าผม”
อิงอรมองที่เขี่ยบุหรี่ในมือขวัญตา
“คนอย่างแกแค่นี้มันยังน้อยไป” อิงอรชิงตบหน้าก่อนขวัญตาพูดจบ ขวัญตาอึ้งช้ำใจ
“เมื่อไหร่แกจะหยุดทำให้ฉันปวดหัวสักที เรียนก็เรียนไม่จบ เอาแต่เที่ยว ทำตัวมั่วผู้ชายไปทั่ว ฉันอายคนเขารู้มั้ย”
“ทีแม่ยังทำได้ หนูก็ทำได้เหมือนกัน”
“นังขวัญ”
“แม่ถามหนูบ้างมั้ยว่าทำไมต้องฟาดหน้ามัน มันปล้ำหนู”
ขวัญตาร้องไห้
“ไม่จริงนะครับ ลูกสาวพี่ดึงผมเข้ามาในห้องเอง แล้วก็พยายามจะถอดเสื้อผม ชวนผมให้มาสนุกด้วยกัน” ไมค์ฟ้องอิงอรแล้วพูดกับขวัญตา “ถึงฉันจะเป็นแค่พ่อเลี้ยงของเธอ แต่ฉันก็คิดเสมอว่าเธอเป็นลูกสาว เธอไม่ควรยั่วยวนฉัน มันไม่ดีเลย”
ขวัญตาแค้นใจมากตบหน้าไมค์ ตีไมค์

“ไอ้เลว แกใส่ร้ายฉัน”

ไมค์สำออยยอมให้ตี อิงอรกระชากตัวขวัญตาแล้วตีขวัญตาตามหลังตามไหล่
“นังลูกไม่รักดี ทำไมถึงกล้าทำได้ถึงขนาดนี้ ทำไมๆ”
ขวัญตาสะบัดอิงอรออก
“โอ๊ย ไม่อยากจะอยู่แล้ว เชิญแม่กกไอ้เลวนี่ไปให้พอใจ โดนมันปอกลอกหมดตัวเมื่อไหร่จะรู้สึก”
อิงอรโกรธมาก
“ถ้าแกกล้าไป ก็ไม่ต้องกลับมาอีก อย่าคิดว่าฉันจะไปง้อแก”
ขวัญตาเดินไปเปิดตู้คว้าเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องไปทันที

ปัจจุบันที่มุมนั่งเล่นริมสระน้ำแร่-สปา อิงอรยิ้มขมขื่น
“แล้วสิ่งที่ลูกสาวฉันพูดมันก็เป็นจริง หลังจากนั้นไม่นานฉันก็รู้ความจริงว่าเพื่อนฉันกับไอ้ไมค์มันรวมหัวกันหลอกฉันตั้งแต่ต้น มันให้ไอ้ไมค์ขโมยเงินในเซฟฉัน หนีหายไปเสวยสุขด้วยกัน จนถึงวันนี้ตำรวจก็ยังตามหาไม่เจอ”
“งั้นก็แสดงว่าขวัญตาหนีมาอยู่เมืองไทย จนได้มาเจอกับผม”
“แล้วลูกฉันหายตัวไปได้ยังไงคะ”
“ขวัญถูกประชาลูกน้องเก่าของผมลักพาตัวไปในวันแต่งงานครับ แต่ขวัญคงหนีประชาไปได้”
ชานนท์เล่าเหตุการณ์ให้อิงอรฟัง ขึ้นภาพขวัญตาวิ่งหนีอู๋ริมชายหาด ภาพขวัญตาผลักอู๋ตกไปใต้สะพานตอนที่หลอกมาเอาเงินที่โกหกว่าซ่อนไว้ใต้สะพาน ภาพขวัญตานอนเกยหาดที่เกาะ บอมโจรสลัดคนเล็กมาเจอ

ห้องโถงบ้านชานนท์ เขมิกาบอกอิงอร
“พี่ขวัญยังไม่ตายแน่ๆ เพราะพวกโจรสลัดยืนยันว่า ตอนที่ขึ้นฝั่งมาตามล่าตัวพี่ขวัญ พี่ขวัญหนีรอดไปได้”
“เราคงต้องเริ่มค้นหาขวัญจากจุดนี้แหละครับ” ชานนท์บอก เขมิกานึกขึ้นได้
“หรือว่าพี่ขวัญจะไปหาผู้ชายในรูป”
“ใครหรือ” ชานนท์อึกอักเกรงใจอิงอร “พูดมาเถอะค่ะ ฉันรับได้”
“เราเดากันว่าน่าจะเป็นชู้ของขวัญครับ แต่ผมดูจากรูปร่างในรูปแล้วไม่น่าใช่ประชา น่าจะมีอีกคนที่ผมไม่รู้จัก”
“ที่ขวัญทำตัวเหลวแหลกอย่างนี้ ก็เพราะฉันคนเดียว”
อิงอรเสียงสั่นเสียใจ เขมิกาพูดลอยๆ
“น่าจะรู้ตัวได้ตั้งนานแล้ว”
ชานนท์ตกใจมองเขมิกา อิงอรอึ้ง เขมิกาไม่รู้ไม่ชี้ ชานนท์รีบเปลี่ยนเรื่องบอกอิงอร
“คืนนี้คุณอิงอรค้างที่นี่สักคืนนะครับ แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับไปสืบร่อยรอยของขวัญตาด้วยกัน”
เขมิกาลุกยืน
“ฉันคงค้างด้วยไม่ได้” เขมิกาพูดกับอิงอร “คุณกลับไปพร้อมกับคุณชานนท์แล้วกันนะฮะ ฉันจะกลับก่อน”

อิงอรนั่งนิ่งพูดไม่ออก เขมิกาเดินไปเลย ชานนท์นึกตำหนิเขมิกา

เขมิกาเดินออกมาจะตรงไปที่รถ ชานนท์รีบเดินตามออกมา
“อย่าเพิ่งไป” เขมิกาหันกลับมา “ทิ้งให้แม่อยู่คนเดียวมันจะดีหรือ”
“คนเดียวที่ไหนกันเล่า บ้านนี้คนออกเยอะแยะ”
“ลูกคนโตก็หายสาบสูญ ลูกคนเล็กก็จงเกลียดจงชัง ไม่เรียกว่าอยู่ตัวคนเดียวหรือ”
เขมิกาอึ้งไปนิด แล้วรีบแก้ตัว
“ก็ฉันหนีปู่มา ต้องรีบกลับไปก่อนที่ปู่จะจับได้”
“เพราะเถ้าแก่หรือ เธอถึงต้องทำตัวห่างเหินกับแม่ตัวเอง”
“เปล่านี่ แต่คนไม่เคยอยู่ด้วยกัน พอมาเจอหน้ากัน มันก็แค่รู้ว่าคนๆ นี้เป็นแม่ แต่จะให้รู้สึกว่ารักเหลือเกิน ผูกพันเหลือเกิน มันไม่ใช่ ฉันไม่อยากเสแสร้ง” เขมิกาทำปากแข็ง
อิงอรยืนฟังอยู่ในตึก เสียใจและยิ่งไม่กล้าทำตัวเป็นแม่เขมิกา อิงอรหมุนตัวเดินกลับเข้าด้านใน
“ถึงไม่รักไม่ผูกพัน ก็ไม่น่าพูดจาให้ท่านเสียใจ คำพูดของเธอมันเกินไปหน่อย” ชานนท์บอก
เขมิกาเถียงชานนท์ไม่ได้ เลยตัดบท
“เอ้อๆ อยากคิดยังไงก็ตามใจ ฉันไปล่ะ ค่อยเจอกันที่โน่น”
เขมิการีบเดินไปที่รถ

เขมิกากำลังจะเปิดประตู แต่เห็นล้อรถหายไป
“เฮ้ย ล้อหาย”
ชานนท์รีบเดินเข้ามาดูเห็นโย่ง เม่น แป้นหลบกันอยู่
“ออกมาให้หมด” พวกโย่ง พากันออกจากที่หลบ “ฝีมือเธอสองคนใช่มั้ย” ชานนท์หมายถึงโย่งกับแป้น
“เปล่านะครับ อะอะไอ้เม่นต่างหาก โย่งเห็นมันเดินป่วนเปี้ยนอยู่แถวรถคุณผู้หญิง” โย่งบอก
“ผมไม่ได้ทำ พี่โย่งกับพี่แป้นเป็นคนถอดล้อ แล้วๆ พี่โย่งบอกว่าไม่อยากให้คุณผู้หญิงไปไหน”
“ไอ้เม่นแกๆ อย่ามาใส่ร้ายฉันนะ ฉันแค่ยืนดูเฉยๆ”
ชานนท์จ้องหน้าโย่ง โย่งเลิ่กลั่ก ชานนท์บอกเสียงดุ
“ไปเอามาใส่คืนเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ได้แล้วครับ โย่งขายซาเล้งไปแล้ว”
“ไอ้นี่”
ชานนท์จะเตะโย่ง เขมิกาดันชานนท์ไว้
“อย่าคุณนนท์”
“เห็นมั้ยคุณผู้ชาย คุณผู้หญิงไม่เห็นโกรธโย่งเลย”
เขมิกาหันไปทางโย่ง
“เปล่า แต่ฉันจะขอตื้บนายเอง ไอ้โย่ง”
“จ๊าก อย่านะครับคุณผู้หญิง”
โย่งวิ่งหนีรอบรถ เขมิกาไล่เตะโย่ง
“เม่น จับไอ้โย่งไว้ ฉันจะเตะให้กลิ้งเหมือนล้อรถเลย”

เม่นช่วยไล่จับ เป็นภาพน่ารักเหมือนคนในครอบครัวที่ทำให้ชานนท์เผลอตัวยิ้มอย่างมีความสุข

ในห้องนั่งเล่น อิงอรกำลังนั่งซับน้ำตา ชานนท์เดินเข้ามาอิงอรรีบทำตัวปกติ
“ผมให้เด็กยกกระเป๋าเสื้อผ้าไปที่ห้องรับรองเรียบร้อยแล้วครับ” อิงอรลุกยืน
“ฉันเกรงใจจริงๆ ที่จู่ๆ ก็มารบกวนกะทันหัน”
“ผมเต็มใจครับ เออ ตกลงว่าลูกสาวคุณอิงอรจะค้างที่นี่คืนนี้นะครับ รอเดินทางพรุ่งนี้พร้อมกัน”
“อย่าไปพูดคำว่าลูกสาวฉัน ต่อหน้าเขานะคะ เขาจะโกรธเอา”
ชานนท์ช่วยแก้ตัวให้เขมิกา
“เข็มเขาเป็นคนตรงๆ พูดจาโผงผาง แต่ผมยืนยันได้ว่าเขาเป็นคนจิตใจดีมากๆ คนหนึ่ง บางคำพูดที่เขาพูดกับคุณอิงอรคงเป็นเพราะยังโกรธอยู่”
“ดูคุณรู้จักนิสัยเขาดีนะคะ”
ชานนท์กลัวโดนจับได้
“ก็เคยสนิทกันอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่เขามาสืบหาพี่สาว ตอนนั้นผมคิดว่าเขาเป็นขวัญตา แต่นิสัยคนละเรื่องกันเลยครับ”
“นั่นสิคะ เขมิกาเขาห้าวมากพูดออกมาแต่ละคำเล่นเอาฉันตั้งตัวไม่ทัน ผิดกับพี่สาวเขาจะสดใสแล้วก็อ่อนหวานกว่า”
อิงอรยิ้มขมขื่นเมื่อนึกถึงลูก ชานนท์เห็นใจ
“ถ้ามีอะไรที่ผมจะช่วยได้ระหว่างที่คุณอิงอรอยู่ในเมืองไทย บอกผมได้ทุกเรื่องนะครับ ผมยินดี”
อิงอรยิ้มให้ชานนท์

เช้าวันใหม่ ที่ห้องโถงบ้านชานนท์ ชานนท์ เขมิกา ยืนรออิงอร โย่งกับแป้นช่วยกันถือกระเป๋าเสื้อผ้าของชานนท์กับเขมิกาออกไป มณฑารีบร้อนลงมาจากชั้นบน
“คุณอิงอรยังไม่เสร็จหรือครับ” ชานนท์ถามมณฑา
“เธอไม่ค่อยสบาย”
เขมิกาเผลอห่วงแม่ สวนถามทันที
“เขาเป็นอะไร”
ชานนท์ลอบสังเกตเขมิกา
“เห็นบ่นว่าปวดหัว ฉันก็เลยให้ทานยาไป สงสัยคงเดินทางไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”
“งั้นก็คงต้องเลื่อนไปก่อน เธอจะเอายังไง” ชานนท์ถามเขมิกา
เขมิกาห่วงอิงอร เลยแกล้งจับต้นขา
“โอ๊ยๆๆ ขาเป็นเหน็บ คุณนมๆ ช่วยประคองฉันไปนั่งที อู๊ย” มณฑารีบประคองเขมิกาไปนั่ง
“เป็นแบบนี้บ่อยหรือเปล่า” ชานนท์ถามอย่างเป็นห่วง
“มันชอบเป็นตอนขับรถไกลๆ เมื่อวานขับรถตั้งร้อยกว่าโล”
“เธอคงต้องรอแล้ว อย่าขับไปเองเลยมันอันตราย”
เขมิการีบสนับสนุน
“ก็คงต้องงั้นแหละ”
“คุณเข็มอยากจะขึ้นไปดูคุณอิงอรหน่อยมั้ยคะ” มณฑาถาม
“ไม่ดีกว่า ปล่อยเขานอนไปเถอะ”
มณฑาเข้าใจเขมิกา
“งั้นฉันจะช่วยดูแลให้เองค่ะ”

เสียงจานชามแตก เพล้ง! ทั้งหมดหันไปทางเสียง
 
จบตอนที่ 16
กำลังโหลดความคิดเห็น