เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 14
ชานนท์ตามเจ้าของร้านออกมาหลังร้าน
“ว้าย ยัยบ้านี่มาอีกแล้วหรือ”
เด็กเสิร์ฟกำลังจับเรือไว้ ยื้อแย่งกับจรรยาที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง ปรกหน้าตา ใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์โทรมๆ หันหลังให้ชานนท์
“ขอยืมเถอะ ฉันไม่ขโมยหรอก”
“บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ซิ”
“มาอีกแล้ว มันชอบมาขโมยเรือฉัน จะเอาออกทะเลไปค้นหาเจ้านายอะไรของมันก็ไม่รู้ หยุดนะ แกนี่พูดไม่รู้เรื่องเดี๋ยวฉันให้ตำรวจมาลากคอเลยนี่”
เจ้าของร้านกระชากจรรยาเหวี่ยงไป จรรยาโมโหลุกขึ้นขยุ้มคอเจ้าของร้าน
“นังคนใจร้าย ทำไมไม่เห็นใจคนอื่นบ้าง ชีวิตคนทั้งคนนะ ขอให้ลูกหลานแกจมน้ำตาย เป็นผีเฝ้าทะเล ไม่ได้ผุดได้เกิด” ชานนท์รีบเข้าไปช่วยล็อกคอจรรยาลากตัวออกห่างจากเจ้าของร้านอาหาร จรรยาดิ้นสุดแรง “ปล่อยฉัน”
“เอามันไปส่งตำรวจเลยค่ะ มันบ้า”
“ฉันไม่ได้บ้า เจ้านายฉันหายไปในทะเล ฉันอยากตามหาเจ้านายให้เจอ ถ้าฉันไม่เจอศพ ฉันไม่มีวันเชื่อว่าคุณชานนท์ตายแล้ว”
ชานนท์ตกตะลึงได้ยินชื่อตัวเอง ชานนท์รีบปล่อยมือจากจรรยา
“เห็นมั้ยว่ามันบ้า ทะเลออกกว้างแกจะหายังไงเจอ ด้วยเรือลำแค่นี้เนี่ยนะยะ”
“ฉันต้องหาให้เจอ”
จรรยาวิ่งไปที่เรือออกแรงลากดึงเต็มที่ ชานนท์รีบเดินไปจับบ่าจรรยาให้หันมา จรรยายกมือจะฟาดหน้าชานนท์ พอเห็นว่าเป็นชานนท์ จรรยาถึงกับยกมือค้าง
“จรรยา”
จรรยาดีใจสุดขีด
“คุณชานนท์ คุณๆ ยังไม่ตายจริงๆ ด้วย ฮือๆๆ”
จรรยาปล่อยโฮกอดคอชานนท์ ชานนท์งงๆ เจ้าของร้านก็มองงงไปด้วย
จรรยาผูกผมเรียบร้อยสะอาดสะอ้านขึ้น กินข้าวอย่างหิวโหยจนเกลี้ยงจาน ชานนท์ส่งแก้วน้ำให้ จรรยารับมาดื่ม
“เธอตามหาฉันมากี่วันแล้ว”
“ตั้งแต่ฉันโดนไล่ออกจากสปา ฉันก็มาหมกตัวอยู่แถวบังกะโล จ้างเรือออกตามหาคุณไปทั่วจนเงินหมด ก็เลยต้องแอบมาขโมยเรือร้านอาหาร แต่พอใช้งานเสร็จ ฉันก็รีบเอามาคืนนะ ไม่ได้ขโมยไปเลย”
ชานนท์อึ้งไป
“ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ เธอควรจะหางานทำแล้วก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง มาทุ่มเทตามฉันเพื่ออะไร”
จรรยากลัวชานนท์รู้ว่าตัวเองหลงรักเขาจึงรีบปฎิเสธ
“ฉันๆๆ ไม่ได้ทำเพื่อคุณนะคะ ฉันๆ อยากรู้ว่าขวัญอยู่ไหน ถ้าเจอคุณ คุณก็ต้องรู้เรื่องขวัญ ฉันห่วงเพื่อนฉันค่ะ”
“เขาปลอดภัยดี แต่ฉันคิดว่าตอนนี้เขาอาจยังไม่พร้อมเจอเธอรอให้ฉันบอกเขาก่อนนะ แล้วฉันจะพาเธอไปหา”
“ทำไมขวัญถึงยังไม่พร้อมเจอฉัน ฉันไม่เห็นเข้าใจ”
“ให้เขาเป็นคนเล่าให้เธอฟังเองดีกว่า” ชานนท์ยัดเงินใส่มือจรรยา “ฉันอยากให้เธอกลับกรุงเทพฯไปก่อน รีบไปวันนี้เลย”
“ฉันไม่ไป ฉันจะอยู่รอขวัญ ฉันจะหางานแถวนี้ทำ”
“ที่ฉันอยากให้เธอรีบกลับไป เพราะฉันมีเรื่องขอร้องให้เธอทำ เธอเท่านั้นที่จะช่วยน้องสาวฉันได้”
“คุณแววนิลนะหรือคะ”
จรรยาไม่อยากช่วยเพราะไม่ชอบแววนิล
อีกด้านหนึ่งที่หมู่บ้านชาวประมง ลอยจับมือเขมิกาดีใจ
“คุณหนูเข็ม โอ้โห ตอนน้าทำงานอยู่กับเถ้าแก่ คุณหนูยังตัวกระเปี๊ยกเดียว เถ้าแก่เป็นไงบ้างครับ ได้ข่าวว่าสุขภาพไม่ค่อยดี ไอ้ผมจะไปเยี่ยมก็ยังไปไม่ได้สักที”
“อย่าไปดีแล้ว ปู่เขาไม่ยอมรับหรอกว่าตัวเองไม่แข็งแรง”
“มาๆ เข้าไปกินน้ำกินท่ากันก่อน”
“เออ ไม่เป็นไรน้า ที่เข็มมาเนี่ยมีเรื่องอยากให้น้าช่วย”
“เรื่องอะไรหรือครับบอกมาได้เลย ถ้าเป็นหลานเถ้าแก่ผมเต็มที่”
“ฉันอยากขอซื้อปลาทุกเที่ยวเรือของน้าแล้วก็ของทุกคนแถวนี้ด้วย ฉันยินดีให้ราคาสูงกว่าตลาด น้าช่วยคุยให้ฉันหน่อยได้มั้ย” ลอยมีสีหน้าหนักใจ อึดอัด “ไม่ได้หรือน้าลอย”
“คือคุณหนูมาช้าไป พวกเรารับปากขายให้กับเสี่ยเม้งไปแล้ว”
เขมิกาอึ้ง ผิดหวัง
เช้าวันใหม่ที่บ้านนนท์ แป้นวางน้ำเปล่าที่หน้าจรรยา แววนิลมองจรรยาแบบไม่เป็นมิตร
“นังแป้น”
“ขา”
“ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมกินยา แกไปเอายามาที”
“คุณนิลวางไว้ตรงไหนคะ”
“ไม่รู้ จำไม่ได้ แกไปค้นดูเอาเอง ถ้าฉันไม่ได้กินตามเวลา แล้วเกิดช็อกตายขึ้นมา ก็เป็นเพราะแก”
“ค่ะๆ แล้วทำไมต้องมาเป็นเพราะฉันด้วยเล่าวุ้ย” แป้นบ่นเบาๆ
“คุณนมไม่ได้เป็นคนให้ยาคุณนิลหรือคะ” จรรยาถามขึ้นมา
“บอกธุระเธอมา เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องสู่รู้”
จรรยาข่มอารมณ์ไม่โกรธ แกล้งทำเศร้า
“ฉันกำลังแย่ โดนเจ้าหนี้ขู่จะฆ่าถ้าไม่มีเงินผ่อนส่งให้มัน ฉันอยากมาของานคุณทำ ทำอะไรก็ได้นะคะ ฉันทำได้หมดทุกอย่าง”
“ทำไมฉันต้องช่วยเธอ เธอเกลียดฉันไม่ใช่หรือ ไม่อายหรือไงที่บากหน้ามาขอร้องคนที่ตัวเองเกลียด”
“ฉันยอมอายดีกว่าโดนฆ่าตายเหมือนหมาข้างถนน”
“ปัญหาของเธอๆ ก็แก้เอาเอง ไม่ใช่เรื่องของฉัน”
จรรยาลุกไปเกาะเข่าแววนิล
“ช่วยฉันสักครั้งเถอะค่ะ รับฉันมาทำงานที่นี่เถอะนะคะ”
แววนิลลุกยืน
“เชิญ ฉันไม่ส่งนะ”
จรรยาอึ้งลุกยืน กำลังเดินไป
“ทำยังไงดีวะ”
จรรยาคิดหาวิธี แววนิลคิดว่าตัวเองก็อยู่คนเดียวกลัวประชาปล้ำเลยเปลี่ยนใจ เรียกจรรยาไว้
“จรรยา! อย่าเพิ่งไป”
จรรยาชะงักหันกลับไป
คืนนั้นประชาขับรถเข้ามาจอดหน้าตึก โย่งมาเปิดประตู ประชาเดินมึนๆ ลงมา มีเซๆ
“ผอ.ดื่มมาหรือครับ”
“เลี้ยงลูกค้านิดหน่อย คุณนิลล่ะ”
“เข้านอนแล้วครับ” ประชาเดินมึนไป โย่งชักเป็นห่วงแววนิล “ถามถึงคุณนิลทำไมวะ หรือว่า...”
โย่งทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะเอาไงดี
ประชาเดินมาหน้าประตูห้องแววนิล ไขกุญแจเข้าไปเอง ภายในห้องสลัวๆ ประชาไม่เห็นว่ามีจรรยานอนข้างแววนิลด้วย ประชาโถมตัวไปข้างเตียง
“น้องนิลจ๋า พี่ชากลับมาแล้วจ๊ะ คืนนี้ขอพี่นอนด้วยคนนะ”
“อ๊าย! ช่วยด้วย ใคร ปล่อยฉัน”
แววนิลผลักประชา
“อย่าดิ้นน่า”
ไฟสว่างพรึ่บ จรรยาลุกจากเตียงยกขาถีบประชากระเด็นตกเตียงไปกองที่พื้น ประชานั่งมึนเห็นจรรยา
“เฮ้ย จรรยา เธอๆ มาอยู่นี่ได้ยังไง”
แววนิลคลานไปหลบหลังจรรยา
“คุณนิลรับฉันเข้าทำงานเป็นแม่บ้านของที่นี่ค่ะ”
“ใครอนุญาตให้รับคนที่โดนไล่ออกไปแล้วมาทำงาน”
“เงินของฉัน ฉันจะจ้างใครก็ได้ อีกอย่างคุณนมก็ไม่เห็นกลับมาสักที ฉันไม่มีคนคอยช่วย เกิดโรคเก่าฉันกำเริบ
ใครจะช่วยพาฉันส่งโรงพยาบาลได้ทัน คุณหรือ”
ประชาขัดแววนิลไม่ได้ มองหน้าจรรยาแล้วฮึดฮัดผลักประตูออกไป
ประชาเดินโมโหออกมา จรรยาเดินตามมาร้องเรียก
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
ประชาหันมา
“ฉันไม่รู้ว่าเธอมาทำไมที่นี่ แต่เธออยู่ได้อีกไม่กี่วันแน่”
“ฉันขอโทษที่เคยล่วงเกินคุณ ตอนนี้ฉันกำลังจนตรอกจริงๆ ไม่อยากเป็นศัตรูกับใครทั้งนั้น”
“ฉันเคยไล่เธอออก ไม่แค้นฉันหรือไง”
“แค้นแล้วฉันได้อะไรล่ะ บอกตรงๆ แบบไม่อายนะ ตอนนี้ฉันต้องการแค่เงินไปใช้หนี้เท่านั้น ถ้าคุณต้องการจ้างให้ฉันทำอะไรที่ได้เงินดีๆ ฉันรับหมด”
ประชาชักสนใจ
“คุยกันตรงๆ แบบนี้ฉันชอบ งั้นฉันมีงานแรกจ้างเธอให้ทำ” จรรยายิ้มดีใจ
“คุณต้องจ่ายฉันก่อนนะ ฉันต้องรีบเอาเงินไปใช้หนี้”
“ไม่มีปัญหา”
ประชายิ้มเดินเข้าไปกระซิบบอกแผนจรรยา
ที่บ้านพักชานนท์ ปรียาส่งมือถือของตัวเองให้ชานนท์
“พี่ขอยืมไว้สักสองสามวันนะ พอดีพี่จะให้คนติดต่อพี่ทางเบอร์ของปรียา”
“ค่ะ พี่นนท์จะเอาไว้โทรคุยกับใครหรือคะ”
เสียงมือถือปรียาดัง ชานนท์รีบรับสาย
“ว่าไงจรรยา ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“ค่ะ ฉันจะทำตามแผนคุณ เพื่อ...เพื่อจะได้เจอขวัญเร็วๆ ค่ะ”
จรรยาตัดสาย มองว่าไม่มีใครเห็นแล้วรีบเดินไปปกติ
วันใหม่ที่แพปลา เขมิกากำลังคุยกับผู้จัดการโรงงานโคราช
“แพปลาเรายังไม่ปิดกิจการนะฮะ คุณเข้าใจผิดแล้ว เรายังสามารถส่งปลาให้ได้นะฮะ อีกไม่กี่วันเรือเราก็จะซ่อมเสร็จ ฮัลโหลๆๆ” เขมิกายังไม่ยอมแพ้กดโทรศัพท์ไปหาเจ๊ไข่ “ฮัลโหลเจ๊ไข่ ฉันเองนะเข็มที่เอาปลาไปส่งให้เจ๊วันก่อนไง”
“อ๋อ เจ๊กลับไปซื้อกับเสี่ยเม้งเหมือนเดิมแล้ว แหม เธอก็เหลือเกินนะ แพปลาเจ๊งไปแล้วยังจะมาโกหกว่าจะขายปลาให้เจ๊อีก ค้าขายให้มันซื่อสัตย์กันหน่อยสิยะ” เจ๊ไข่วางสายทันทีหลังจากพูดจบ
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฮัลโหล” เขมิกาโมโหเสี่ยเม้ง “ไอ้เสี่ยเม้ง แกไปเป่าหูลูกค้าฉันทุกรายเลยหรือ มันทำกันเกินไปแล้ว”
เขมิกาจะไปลุยเสี่ยเม้ง แต่หยุดชะงัก เพราะมีคนที่คาดไม่ถึงเดินมายืนอยู่ตรงหน้า
ที่แพปลาเสี่ยเม้ง เสี่ยเม้งเดินเข้ามามองหาตะกร้าปลา
“อะไรวะ ไหนล่ะปลาที่จะส่งให้ลูกค้าของไอ้เข็ม”
“ปลาของเราก็ส่งให้ลูกค้าขาประจำไปหมดแล้วเสี่ย แต่ปลาที่รับซื้อจากชาวประมงยังไม่มีใครเอามาส่งให้เลยครับ”
“เฮ้ยได้ไง วันนี้เรานัดกับโรงงานตั้งหลายแห่ง ผิดสัญญาไม่ได้นะโว้ย ไอ้สอนหายหัวไปไหน”
สอนกับปิ้งวิ่งเข้ามา
“เสี่ย เราถูกหลอกแล้ว พวกไอ้ลอยมันพาพวกชาวประมงไปขายปลาให้แพปลาเถ้าแก่จุมพลหมดแล้ว”
“มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ก็พวกมันรับปากขายให้เราแล้วนี่”
ปิ้งตาล่อกแล่กหน้าสงสัย
“ต้องเป็นฝีมือไอ้เข็มแน่” สอนบอก เสี่ยเม้งเจ็บใจ
“ปล่อยให้มันเหยียบหน้าได้ยังไงไปเอาคืนมาจากมันให้ได้”
เสี่ยเม้งกับพวกสอนกำลังจะรีบไปลุยเขมิกา รถกระบะของเขมิกาขับเข้ามาจอดขวางหน้าเสี่ยเม้ง พวกเสี่ยเม้งชะงัก
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่แพปลาจุมพล เขมิกามองเข่งปลาเต็มหลังรถกระบะ 3 คัน เขมิกาตื่นเต้นดีใจ
“น้า น้ายอมขายปลาให้ฉันแล้วหรือ”
“พวกน้าเต็มใจจะส่งให้ทุกวันจนกว่าเรือของหนูเข็มจะออกทะเลได้ ไม่ใช่แค่นี้นะเดี๋ยวจะมีมาอีกหลายคันรถ”
เขมิการีบยกมือไหว้ทุกคน
“ฉันขอบคุณน้าลอยกับพี่ๆ ทุกคนมากนะฮะ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้เลย”
“ตอนแรกพวกน้าก็รับปากขายให้พวกเสี่ยเม้งไปแล้วแหละ แต่เป็นเพราะมีคนๆ หนึ่งมาขอร้องไว้ น้าก็เลยรู้ว่าพวกเสี่ยเม้งมันร้ายกาจแค่ไหน”
“ใครฮะ ใครมาขอร้องน้า”
เขมิกาสงสัย
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 14 (ต่อ)
ชานนท์ยืนต่อหน้าพวกเสี่ยเม้งแบบไม่กลัวเกรงโดยไม่มีอาวุธใดๆ
“ไอ้เข็มส่งแกมาเยาะเย้ยฉันหรือ”
“เปล่า ฉันจะมาเตือนเสี่ยว่าให้เตรียมตัวโดนฟ้อง งานนี้โรงงานคงเรียกค่าเสียหายเป็นล้านๆ หลายแห่งก็หลายสิบล้าน แล้วยังโรงแรม ร้านอาหารที่จะเลิกคบค้ากับเสี่ยอีก”
“พวกแกเป็นคนทำให้ไอ้พวกชาวประมงมันเปลี่ยนใจใช่มั้ย”
“เสี่ยใช้วิธีไหน ฉันก็ใช้วิธีนั้นคืนกลับไป ก็แค่นั้น”
“แกๆ แกรู้ได้ยังไงว่าฉันไปติดต่อกับคนพวกนี้”
ชานนท์ยิ้ม เสี่ยเม้งเริ่มรู้มองไปทางปิ้ง ปิ้งเดินกวนๆ ไปยืนข้างชานนท์
“คิดหรือว่าฉันจะขายตัวให้คนอย่างพวกแก ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็ไม่มีวันทรยศลูกพี่เข็มหรอกโว้ย รู้ไว้ซะด้วย”
“งั้นที่พวกแกคุยกันที่ชายหาด ก็โกหกทั้งเพสิวะ”
“ฉันรู้ว่าแกต้องสะกดรอยตามดูปิ้งแน่ เราก็เลยเล่นละครกันนิดหน่อยให้พวกแกเชื่อว่าปิ้งอยากไปอยู่กับพวกแกจริง”
เสี่ยเม้งโกรธมากที่โดนหลอก
“ไอ้ปิ้ง มึง ฆ่ามัน อย่าปล่อยให้มันรอดกลับไป”
ทั้งหมดเข้ามารุมชานนท์กับปิ้ง ชานนท์กับปิ้งหันหลังชนกัน
“ไอ้คุณนนท์ เราจะรอดหรือเปล่าวะ ฉันๆ ยังไม่อยากตายนะโว้ย” ปิ้งถามชานนท์
“ไหนว่าตายก็ไม่กลัวไง”
“ฉันพูดโก้ๆ ไปงั้นแหละ ใครวะจะไม่กลัวตาย” ปิ้งเปิดชายเสื้อดึงมีดสองอันออกมาส่งให้ชานนท์ “เตรียมไว้แล้วโว้ย รอบคอบ”
สอนกับลูกน้องมีไม้คบมือพุ่งเข้ามาตีชานนท์กับปิ้ง ชานนท์กับปิ้งใช้มีดรับไม้ ลุยสู้กับพวกลูกน้องเสี่ยเม้ง
เสี่ยเม้งแค้นชักปืนออกมาจากเอวเล็งไปทางชานนท์ที่ต่อสู้อยู่ สอนเห็นเสี่ยเม้งเล็งปืนมา สอนหักมือชานนท์มีดหล่น สอนจับแขนล็อกคอชานนท์ได้หันไปทางเสี่ยเม้งให้ยิงได้แม่นๆ เสี่ยเม้งเตรียมยิง เขมิกาพุ่งเข้ามาเตะปืนในมือเสี่ยเม้งกระเด็น
“ไอ้เข็ม”
สอนเผลอ ชานนท์บิดตัวอัดเข่าเข้าท้องสอนตัวงอ ซัดสอนหลายทีจนหมอบ เสี่ยเม้งจะวิ่งหนีเขมิกา เขมิกาคว้าคอเสื้อไว้ ง้างหมัดกำแน่น
“หมัดนี้ที่แกทำกับแพปลาของฉัน”
เขมิกาซัดเข้าอย่างแรงจังๆ ที่หน้าจนเสี่ยเม้งหน้าหงายล้มตึง ชานนท์เก็บปืนเดินมาเล็งไปที่เสี่ยเม้ง เสี่ยเม้งกลัวรีบยกมือไหว้
“อย่าๆ ฉันกลัวแล้ว ฉันขอโทษ ต่อไปฉันไม่กล้าอีกแล้วจ้า พี่เข็ม ช่วยบอกลูกน้องทีว่าอย่าวู่วาม เรารู้จักกันมานานมีปัญหาทะเลาะกันบ้าง ก็ยิ่งรักกันจริงมั้ย”
“จริง ยิงเลย”
ชานนท์ยิงเปรี้ยง เสี่ยเม้งร้องลั่น แต่ชานนท์ไม่ได้ยิงเสี่ยเม้ง ยิงไปทางอื่นแทน เสี่ยเม้งกลัวตัวสั่น
“นัดนี้แค่ขู่ แต่ต่อไปถ้ามารังแกลูกพี่ฉันอีก ตายหมู่ทั้งหมด”
ชานนท์บอกแล้วกราดปืนไปทั่วเหมือนเป็นนักเลง พวกสอนกับลูกน้องก้มหลบปืนกันหวาดเสียว
“ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าอีกแล้วครับลูกพี่ พวกแกขอโทษลูกพี่สิ”
“ขอโทษครับลูกพี่”
“พวกเรากลับ”
เขมิกาทำเป็นนักเลงแบบชานนท์เดินนำไป ชานนท์เอากระสุนออกจากปืนแล้วโยนคืนเสี่ยเม้ง ตามเขมิกาไป
ปิ้งยิ้มเยาะเย้ยพวกสอน แล้วรีบวิ่งตามเขมิกาไป เสี่ยเม้งมองแค้นจัด
เขมิกาเดินเข้าหาปิ้งเอาเรื่อง ปิ้งถอยหลัง
“ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะ ไอ้คุณนนท์บังคับฉัน”
เขมิกากระชากคอเสื้อปิ้ง
“เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่เล่ามาให้หมด”
ปิ้งเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขมิกาฟัง เริ่มตั้งแต่ปิ้งเดินหงุดหงิดโมโหเสี่ยเม้ง เจอชานนท์นั่งครุ่นคิดหาทางช่วยเขมิกา
“ไอ้คุณนนท์ครับ เห็นลูกพี่หรือเปล่า”
“หาลูกพี่มีเรื่องอะไร ถ้าเป็นข่าวไม่ดีอย่าเพิ่งบอกเขาตอนนี้ หลายอย่างมันประดังเข้ามาฉันกลัวเขาจะรับไม่ไหว”
“ไอ้เสี่ยเม้งมันจะซื้อตัวฉันไปทำงานด้วย เพราะอยากได้รายชื่อลูกค้าของแพปลาเรา แต่ฉันไม่เอากับมันด้วยหรอก”
ชานนท์คิดแผนออก
“ไม่ได้นะ นายต้องไป” ปิ้งงง
“จะให้ฉันทรยศพี่เข็มหรือ”
“แค่หลอกพวกมัน เพื่อเข้าไปเป็นไส้ศึก ถ้าเรารู้ว่ามันจะทำอะไร เราจะตลบหลังเอาคืนมันได้”
หลังจากเข้าไปอยู่ที่บ้านเสี่ยเม้ง ปิ้งก็แอบโทรศัพท์หาชานนท์
“ไอ้คุณนนท์ฉันเอง ได้เรื่องแล้วนะไอ้เสี่ยเม้งมันมีปลาไม่พอส่งลูกค้า จะไปติดต่อซื้อจากชาวประมงรายย่อย”
จากนั้นก็เหตุการณ์ที่หมู่บ้านชาวประมงตอนที่เขมิกามาขอซื้อปลา
“คือคุณหนูมาช้าไป พวกเรารับปากขายให้กับเสี่ยเม้งไปแล้ว”
เขมิกาอึ้ง ผิดหวัง เดินไป ชานนท์เดินออกมาจากมุมหลบดู เดินมาหาลอย
“ขอโทษนะครับ ผมขอคุยด้วยได้มั้ยครับ”
“คุณเป็นใครหรือ”
“ผมเป็นลูกจ้างของเถ้าแกจุมพล ตอนนี้แพปลาของเถ้าแก่กำลังใกล้ปิดกิจการเพราะฝีมือของเสี่ยเม้ง ถ้าน้ากับเพื่อนให้ความช่วยเหลือนักเลงพวกนี้ คนดีๆ ก็จะอยู่ไม่ได้”
ลอยคล้อยตามชานนท์
หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด เขมิกาชี้หน้าปิ้ง
“แกหลอกฉันทั้งหมดเลยหรือไอ้ปิ้ง ไอ้ตูดหมึก”
เขมิกาไล่เตะปิ้ง ปิ้งวิ่งหนีรอบตัวชานนท์
“จ้า ว้าย ฉันไม่ได้อยากทำเลยนะ ไอ้คุณนนท์ช่วยกันหน่อยสิ โว้ย เรื่องอะไรมาเตะฉันคนเดียวล่ะ ไอ้คุณนนท์มันก็หลอกด้วยเหมือนกัน”
ปิ้งร้องโวยวาย ชานนท์หัวเราะชอบใจ
เสี่ยเม้งนั่งหน้าปูดอยู่ที่บ้านเพราะหมัดของเขมิกา
“ได้หรือยังโว้ย ทำไมมันช้านัก”
ลูกน้องวิ่งมาพร้อมไข่ต้มในมือ
“มาแล้วครับเสี่ย ต้มเสร็จร้อนๆ เลย”
“เอามาเลยเร็วๆๆ” เสี่ยเม้งแหงนหน้า ลูกน้องดันเอาไข่จ่อที่ปาก “เฮ้ย ฉันให้เอามากลิ้งที่แผล ไม่ใช่เอามากิน ไอ้บรมโง่ ไอ้โง่ได้โล่ เพราะมีลูกน้องอย่างพวกแก ฉันถึงโดนฟ้องแทบจะล้มละลายอยู่แล้ว ทำไมแกไม่ฉลาดเหมือนลูกน้องของไอ้เข็มบ้าง”
สอนนึกขึ้นได้
“ไอ้นี่มันอาจไม่ใช่ลูกจ้างธรรมดาก็ได้”
“แกหมายความว่ายังไง มันเป็นใครถึงว่าไม่ธรรมดา”
“ผู้จัดการที่โรงแรมเคยบอกผมว่ามันเป็นเจ้าของสปา ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ แต่คิดไปคิดมา มันก็น่าสงสัยเหมือนกัน”
“เจ้าของสปาก็รวยไม่ใช่เล่น แล้วมันมาสิงตัวทำงานที่แพปลาทำไมวะ”
“หรือมันกำลังหลบหนีใครอยู่”
เสี่ยเม้งยิ้มเจ้าเล่ห์
“แกไปสืบดู งานนี้ต้องมีเอาคืนแบบจัดเต็ม”
สอนกับลูกน้องรีบไป เสี่ยเม้งยัดไข่เข้าปากเคี้ยวเอร็ดอร่อย
วันใหม่ที่บ้านชานนท์ แววนิลนอนซีดเซียวอยู่บนเตียงเหมือนคนป่วย จรรยาส่งยาให้
“ได้เวลากินยาแล้วค่ะคุณนิล”
แววนิลขยับตัวนั่ง
“ฉันไม่อยากกิน”
“คุณไม่กินแล้วจะหายได้ยังไงคะ”
แววนิลปัดยาหล่น
“ฉันรู้นะว่ายานี่มันยิ่งทำให้ฉันแย่ลง เธอเอายาอะไรมาให้ฉันกิน ยาอันเก่าของฉันอยู่ไหน”
จรรยาเทยาใส่มืออีก
“คุณหมอเป็นคนสั่งเปลี่ยนยาค่ะ ไม่ใช่ฉัน”
“ฉันไม่เชื่อ ประชาสั่งให้แกทำใช่มั้ย มันจ้างแกฉันรู้”
“คุณกำลังไม่สบายทำให้คิดฟุ้งซ่านไปเอง ไม่มีใครทำร้ายคุณหรอกค่ะ ว่าง่ายๆ คุณจะได้หายเร็วๆ”
จรรยาบีบปากแววนิล แววนิลไม่มีแรงขัดขืนยอมกินยาเข้าไป ประชาแอบมองอยู่ที่ประตู ประชาพอใจปิดประตู
พอรู้ว่าประชาไปแล้วแววนิลรีบนั่งเป็นปกติไม่มีอาการป่วยใดๆ เลย แววนิลมองไปที่ประตู
“มันไปแล้ว”
“คุณก็เล่นละครเก่งใช่ย่อย”
แววนิลหยิ่งใส่
“ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นแผนของพี่นนท์ ฉันก็ไม่ร่วมมือกับเธอหรอก แต่ฉันสงสัยทำไมประชาถึงอยากให้ฉันป่วย
ทั้งๆ ที่ใกล้ จะถึงวันแต่งงานอยู่แล้ว”
ประชานั่งที่เก้าอี้ทำงานคุยกับจรรยา
“ถ้าแววนิลยังออกฤทธิ์ได้อยู่ มีหรือจะยอมเข้าพิธีแต่งงานกับฉัน ให้อ่อนเปลี้ยเหมือนคนป่วยแบบนี้ดีแล้ว จะได้ไม่มีแรงขัดขืนเวลาจดทะเบียนสมรส”
“แขกที่มาร่วมงานจะไม่สงสัยเอาหรือคะ”
“ฉันจะบอกว่าเจ้าสาวโรคไตกำเริบกะทันหัน เลื่อนงานไม่ทันถึงวันงานเธอคอยคุมแววนิลให้ดีก็แล้วกัน” ประชาโยนเงินปึกหนึ่งให้จรรยา “เงินนี่มันซื้อได้ทุกอย่างจริงๆ ว่ามั้ย”
ประชาหัวเราะเยาะจรรยา แล้วเดินออก พอประชาเดินพ้นไป จรรยารีบหยิบมือถือจะกดหาชานนท์แต่เห็นตรงประตูมีคนแอบดู จรรยารีบเก็บมือถือ เดินไปผลักประตู
“ใครน่ะ” โย่งรีบเดินหนี จรรยาปรี่เข้าไปคว้าไหล่ไว้ “มาทำอะไรลับๆ ล่อๆ แถวนี้”
โย่งรีบหันกลับมา
“ใจเย็น เราพวกเดียวกัน”
จรรยาคิดว่าโย่งรู้เรื่องชานนท์ยังไม่ตาย
“พวกเดียวกันหรือ นี่นายรู้ว่าคุณชา...”
“คุณประชาไง พวกเดียวกัน เขาก็จ้างคุณจรรยาให้ทำงานให้เหมือนกันใช่ม้า”
จรรยาเลยรีบยั้งไว้ไม่บอกเรื่องชานนท์
“อื้อ งั้นนายก็ต้องรู้สิ ว่าคุณนมมณฑาอยู่ไหน”
“ผมก็กำลังหาอยู่เหมือนกัน อุ๊บ อยู่ไหนจะไปรู้ได้ยังไง อยากรู้ก็ไปถามคุณประชาเองสิ”
โย่งรีบเดินหนี
ที่โรงเก็บของร้างในสวน เม่นนอนตัวสั่นเป็นไข้เพราะพิษบาดแผล
“อย่านะ อย่าทำแม่ แม่ๆ แม่อย่าเป็นอะไรนะ”
เม่นเพ้อ มณฑานั่งมองเม่นนึกถึงความดีของเม่น ตอนที่ประชากำลังเงื้อขวานจะจามใส่มณฑา
“อย่า”
ประชาฟันลงไปที่ดินข้างตัวมณฑา มณฑาหลับตาตัวสั่น
“ฆ่าคุณนมตายฉันก็ไม่ได้อะไร สู้เก็บไว้ให้เป็นแพะรับบาปแทนฉันทั้งหมดจะดีกว่า”
มณฑาลืมตา มณฑาคว้าคอเสื้อประชา
“แกจะทำอะไร แกจะทำอะไรคุณหนู”
ประชาชกใส่หน้ามณฑา มณฑามึนใกล้สลบ เม่นที่เจ็บบ่าลุกไม่ไหว ตะเกียกตะกายมาหา
“แม่ แม่อย่าเป็นอะไรนะ”
ปัจจุบัน มณฑาเริ่มใจอ่อน เอื้อมมือช้าๆ จะไปลูบหน้าเม่น แต่ประตูเปิดมณฑาชักมือกลับ ถุงใส่ข้าวกล่องกับน้ำดื่มถูกโยนมาทางมณฑา มณฑาสะดุ้ง ประชาเป็นคนโยนมา มณฑามองนิ่งไม่แสดงอาการหวาดกลัว
“ฉันขอยาแก้ไขด้วย”
ประชามองเม่น เม่นลืมตารู้สึกตัว
“คนไม่มีค่าอย่างมัน ตายไปก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน คุณนมก็ต้องการอย่างนั้นไม่ใช่หรือ”
มณฑาถูกจี้ใจจ้องหน้าประชา
“แกต้องการอะไร จับฉันไว้ทำไม”
“คุณหนูของคุณนมไง สุดยอดปรารถนาของผม”
“อย่าทำอะไรคุณหนูนะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก”
ประชาย่อตัวลงมาหามณฑา
“ใครจะทำร้ายว่าที่ภรรยาได้ลงคอ ยิ่งเป็นบ่อเงินบ่อทองด้วย แล้วยิ่งต้องประคบประหงมอย่างดี อาทิตย์หน้าเราก็จะได้แต่งงานกันแล้ว ผมมาแจ้งข่าวดีให้คุณนมร่วมยินดี ฮ่าๆ”
ประชาจะไป มณฑารีบกอดขาประชา
“ฉันไม่มีวันยอมให้แกทำลายชีวิตคุณหนู”
ประชาดีดมณฑาฟุบไป เม่นคลานไปหามณฑาเอาตัวคร่อมมณฑาไว้
“อย่าทำร้ายแม่ ผู้ชายดีๆ เขาไม่ทำร้ายผู้หญิง”
“ไอ้ปัญญาอ่อน หลีกไป” ประชาเตะเม่นซ้ำหลายๆ ที มณฑามองเม่นที่ยอมทนเจ็บเพื่อป้องกันเธอ ประชาหยุด จัดเสื้อผ้าที่เสียทรง “เฮ้อ การใช้กำลังเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากจะทำจริงๆ อย่าพยายามทำให้ฉันรมณ์เสียอีก จำไว้”
ประชาออกไป เม่นขยับตัวออกจากมณฑา ล้มตัวลงนอนเจ็บไปทั้งตัว มณฑาลุกนั่ง ตวาดใส่
“แกมาบังฉันไว้ทำไม คิดว่าเก่งนักหรือ อยากตายหรือไง”
“เม่นไม่อยากให้แม่ตาย”
มณฑาเจ็บปวดหัวใจเริ่มสงสารเม่น มณฑาลุกไปหยิบขวดน้ำเทใส่ผ้าเช็ดหน้าของตัวเอง ส่งให้เม่น
“เช็ดตัวซะ ไข้จะได้ลด”
เม่นยกมือขึ้นแต่ไม่มีแรง มือตกลงขดตัวหนาวสั่น มณฑาทนใจแข็งไม่ไหว หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดตัวให้เม่นเอง เม่นมองมณฑาทำให้ เม่นยิ้ม
“เม่นดีใจ”
“จะตายอยู่แล้ว จะดีใจเรื่องอะไร”
“ดีใจที่แม่ห่วงเม่น เช็ดตัวให้เม่น”
มณฑาชะงักไป เม่นหลับตาแต่ยังยิ้มมีความสุข มณฑาร้องไห้ออกมากลั้นเสียงร้องไว้ไม่ให้เม่นได้ยิน
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 14 (ต่อ)
ประชาเดินเข้ามาห้องทำงาน เจออึ่งยืนรออยู่ข้างโต๊ะทำงาน ประชามองโน้ตบุ๊กของเขมิกาที่โต๊ะทำงาน
“ช่างบอกว่าถอดรหัสได้แล้วค่ะ”
ประชารีบมานั่งหน้าโน้ตบุ๊ก คลิกไฟล์ชื่อสลาตันดูทันที เปิดเข้าไปเห็นคลิปวีดีโอหลายอัน ประชาคลิกคลิปวีดีโออันแรก ภาพหน้าเขมิกาปรากฏขึ้น เป็นคลิปแรกที่เขมิกาอัดไว้เมื่อมาถึงบ้านชานนท์
“ฉัน เขมิกา เข้ามาในบ้านเลิศวิริยะเพื่อค้นหาการหายสาบสูญของขวัญตาพี่สาวฝาแฝดของฉัน ถ้าฉันโชคร้ายเกิดมีอันเป็นไป หลักฐานจากคลิปนี้ จะเป็นข้อมูลช่วยยืนยันได้ว่า มีคนในบ้านนี้ปองร้ายฉัน”
ประชาตกใจ อึ่งช็อก
“ฝาแฝด แม่นั่นไม่ใช่ขวัญตา”
ประชาก้มหน้ากำมือแน่น แค้นสุด
“มันหลอกฉัน” ประชาลุกยืน “ต้องหามันให้เจอให้ได้ ฉันจะฆ่ามันด้วยมือฉันเอง” จรรยาเดินเข้ามา ประชารีบปิดฝาโน้ตบุ๊ก “ทำไมไม่เคาะประตูก่อน”
“ขอโทษค่ะ ฉันแค่จะมาบอกว่าวิตามินที่คุณให้คุณนิลกินแทนยากดภูมิหมดแล้วนะคะ”
“รู้แล้ว”
อึ่งเกลียดจรรยาเดินไปหา
“ต๊าย ไม่ได้เจอซะนาน ดูราศีขี้ข้าจับไปทั้งตัวเลยนะจรรยา”
“เธอก็เหมือนกัน ราศีนางบำเรอเปล่งปลั่งไปทั้งตัวเชียว”
“อ๊าย แก” อึ่งเงื้อมือจะตบ
“พอแล้ว พวกเดียวกันทะเลาะกันไปทำไม”
อึ่งจ้องจรรยา จรรยาอดกลั้นยอมออกไป
“ผอ.ไว้ใจมันได้หรือ”
ประชาไม่ตอบ
หลายวันผ่านไป เรือเจ้าสมุทร1 ซ่อมเสร็จขับออกทะเลไป ทุกคนมายืนโบกมือ
“โชคดีนะ กลับมาเร็วๆ ล่ะ” ชานนท์มองเขมิกา เห็นเขมิกายิ้มมีความสุข “เอ้า พวกเรา เตรียมตัวทำงานต่อ เดี๋ยวน้าลอยจะเอาปลามาส่งเราต้องคัดแยกปลาส่งให้ลูกค้าให้ทันเช้านี้” ลูกน้องแยกย้ายไปทำงาน เขมิกาเดินมาหาชานนท์ อยากขอบใจแต่ทำเป็นเชิดๆ ใส่ “เอ๊ ฉันยังลืมขอบใจใครอีกหรือเปล่านะ”
“ฉันไง”
“คุณหรือ โอ๊ยเราคนกันเอง ทำไมต้องขอบใจด้วยเล่า คุณเองก็หยิ่งพอตัวคงไม่ต้องการคำขอบใจจากฉันหรอก จริงเปล่า”
“ใครบอกว่าฉันไม่ต้องการคำขอบใจ” เขมิกาเหวอ
“ขอบใจก็ได้ ไม่เห็นจะพูดยากตรงไหน ขอบใจๆๆๆ พอใจหรือยัง”
ชานนท์อมยิ้ม
“เข็ม” เขมิกาหันไปเห็นโยธินเดินเข้ามาท่าทางดีใจ “ได้เรื่องแล้วนะ”
“เรื่องอะไรเฮีย”
“บริษัทประกันที่เข็มให้เฮียช่วยเดินเรื่อง เขาอนุมัติเงินประกันให้เรือเจ้าสมุทร2 ที่อับปางวันพรุ่งนี้แล้ว ส่วนธนาคารก็โทรมาบอกป๋าว่ายินดีอนุมัติเงินกู้ให้แพปลาของเข็ม ให้เข็มไปคุยรายละเอียดได้เลย”
“จริงหรือเฮีย โอ๊ยดีใจจังเลย”
เขมิกากอดคอโยธิน กระโดดเหมือนเด็กดีใจ
“โอ๊ยๆ เบา เฮียหายใจไม่ออก”
ชานนท์ทนดูไม่ได้เดินไปช่วยงานคนงาน เขมิกานึกขึ้นได้รีบถามโยธิน
“เดี๋ยวก่อนเฮีย ปู่ยังไม่รู้เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นใช่มั้ย”
“เฮียรับประกันว่าไม่มีทางรู้แน่ เฮียปิดปากป๋าคิดไว้เรียบร้อย”
เขมิกายิ้มดีใจโล่งอก มองไปทางชานนท์เห็นชานนท์ก้มหน้าก้มตาดึงตะกร้าที่ซ้อนๆ กันอยู่ออกมาเรียง เขมิกาเดินเข้าไปช่วย
“มาฉันช่วย มาช่วยกันหน่อยเฮีย ทำตัวให้มีประโยชน์หน่อย”
โยธินรีบเข้าไปช่วยชานนท์อีกคน
ในรถยนต์ห่างออกมา ปิ้งนั่งที่คนขับ จุมพลนั่งข้างหลังมองไปที่ชานนท์ โยธินและเขมิกา ปิ้งหันมาหาจุมพล
“เถ้าแก่อย่าบอกลูกพี่นะครับว่ารู้เรื่องจากผม ผมยังไม่อยากทุพพลภาพตั้งแต่ยังหนุ่มๆ”
“มันแน่มาก เอาเรื่องดีเหมือนกัน”
“ชมผมหรือเถ้าแก่”
“ข้าหมายถึงนายชานนท์โว้ย”
“เถ้าแก่เพิ่งรู้หรือ เขาช่วยแก้ปัญหาให้ลูกพี่มาหลายครั้งแล้ว คราวที่ส่งปลาให้โรงงานที่โคราชได้ทันเวลา ก็ฝีมือไอ้คุณนนท์เหมือนกัน” จุมพลอึ้งไป
“อย่างงั้นหรือ”
ปิ้งมองพวกชานนท์กับเขมิกา
“เถ้าแก่จะบังคับให้ลูกพี่แต่งงานกับคุณโยจริงๆ หรือ”
จุมพลมองชานนท์
“ข้ามีตาทำไมจะดูไม่ออก แต่เอ็งลองคิดดูถ้าเผื่อขวัญตายังไม่ตายแล้วกลับมา อะไรจะเกิดขึ้น”
ปิ้งรีบตอบทันควัน
“พี่เข็มก็มีสามีคนเดียวกับพี่สาวสิเถ้าแก่ อุ๊ย” ปิ้งรีบปิดปาก จุมพลเครียด
“ข้าถึงต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไง” จุมพลกดปิดกระจก “กลับโรงพยาบาลกันเถอะ”
ปิ้งขับรถออกไป
วันต่อมาที่สปา เยาว์นั่งร้องไห้อยู่ในห้องนวด ประชาเดินเข้ามา เยาว์เงยหน้ารีบเช็ดน้ำตา
“ผมรู้ข่าวจากทนายแล้วว่า ศาลชั้นต้นตัดสินให้นายชิ้นติดคุกถึง 30 ปี แต่ไม่ต้องห่วงนะครับเรายังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้”
เยาว์แปลกใจมองหน้าประชา
“ผอ.หมายความว่ายังไงคะ”
“ผมจะช่วยสู้คดีให้ แต่ผมต้องขอพิจารณาอย่างรอบคอบอีกนิดหน่อย”
“ฉันไม่เข้าใจที่ผอ.พูด”
“มาอยู่ข้างผม แล้วผมจะช่วยสามีคุณเยาว์”
เยาว์แปลกใจยังไม่เข้าใจอยู่ดี
เมื่อกลับมาบ้านเยาว์นั่งครุ่นคิดถึงคำพูดของประชา จรรยาเดินเข้ามา
“น้าเยาว์ รอนานมั้ย หูยกว่าจะหลุดจากรถติดมาได้”
“มีเรื่องสำคัญอะไรหรือที่บอกว่าอยากคุยกับน้า”
จรรยามองรอบๆ
“อึ่งอยู่หรือเปล่าน้า”
“มันออกไปสระผมอีกนานกว่าจะกลับ”
จรรยาจับมือเยาว์
“ฟังดีๆ นะน้า ฟังแล้วอย่าตกใจ”
“ก็รีบพูดมาสิ ยิ่งพูดแบบนี้น้ายิ่งหัวใจจะวาย”
“คุณนนท์กับขวัญ ยังไม่ตาย เขาต้องการให้น้าเยาว์ช่วย” เยาว์ตกใจ
“จริงหรือ แล้วตอนนี้คุณนนท์อยู่ที่ไหน”
“ฉันยังบอกน้าเยาว์ตอนนี้ไม่ได้ แต่เขาจะกลับมาทวงสปาคืนจากประชา”
“แล้วจะให้น้าช่วยอะไร บอกมาได้เลย”
“คอยจับตาดูประชาทุกฝีเก้านะน้า มีอะไรไม่ชอบมาพากลที่จะเอาผิดมันได้ รีบบอกฉันทันที”
เยาว์พยักหน้าแต่ในใจสับสนอย่างหนัก เยาว์นึกถึงคำพูดประชาก่อนหน้านี้
“ถ้าคุณนนท์ส่งข่าวมาหาคุณเยาว์ คุณเยาว์ต้องรายงานให้ผมรู้ทุกอย่าง แล้วผมจะช่วยอุทธรณ์ให้นายชิ้น ไม่ใช่แค่นั้นแต่จะรับผิดชอบเลี้ยงดูลูกสาวคุณเยาว์อย่างดีอีกด้วย”
“คุณชานนท์ยังไม่ตายหรือคะ” เยาว์ถามประชา
“ผมก็ไม่รู้ แค่บอกไว้ล่วงหน้า เพราะยังไม่มีใครพบศพคุณชานนท์ แต่ถ้ายังไม่ตายผมจะดีใจมาก”
ปัจจุบันเยาว์ยืนลังเลอยู่หน้าห้องประชา ในใจต่อสู้กันระหว่างจะช่วยชานนท์หรือช่วยครอบครัวตัวเอง เยาว์ตัดสินใจผลักประตูเข้าไป
ที่บ้านพักชานนท์ ชานนท์เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อกล้ามสบายๆ มีคนเคาะประตู ชานนท์เดินไปเปิด เขมิกายืนหน้าประตู ยื่นกล่องมือถือให้ชานนท์ ชานนท์รับมางงๆ
“ฉันไม่ค่อยมีเงิน ก็เลยซื้อรุ่นที่มันถูกๆ หน่อย แต่รับรองใช้งานได้” ชานนท์ยื่นคืน
“ฉันยืมมือถือของปรียาใช้อยู่ เอาคืนไปเถอะ”
“แล้วปรียาเขาจะเอาอะไรใช้ รับๆ ไปเถอะน่า คุณจำเป็นต้องใช้ติดต่อกับน้องสาวนะ”
ชานนท์ยอมรับไว้
“แล้วฉันจะคืนเงินให้ทีหลัง”
“อย่าลืมบวกดอกเบี้ยมาด้วยล่ะ มาเถอะออกไปข้างนอกกัน” เขมิกาดึงมือชานนท์ ชานนท์มองมือเขมิกา เขมิการีบดึงมือออก “คือ ฉันซื้อของมากินเลี้ยงฉลอง ปูเสื่อใต้แสงจันทร์สนปะ ถ้าสนก็ตามมา”
เขมิกาเดินนำไป ชานนท์เดินตาม
เขมิกาสะบัดเสื่อปูบนแพลอยน้ำ หยิบน้ำอัดลมออกมาหลายกระป๋อง ชานนท์ช่วยดึงปิ่นโตออกจากเถามีหอยชักตีน ปลาหมึกผัด ข้าวผัดปู ชานนท์ชี้หอยชักตีนในปิ่นโต
“นี่หอยอะไรหรือ”
“เขาเรียกหอยชักตีน กินเป็นหรือเปล่า” เขมิกาหยิบหอยชักตีน “ฉันจะสอนให้คุณกินนะ ทำแบบนี้” เขมิกาสาธิตดึงตีนของหอยออกมา “ก่อนอื่นต้องดึงส่วนของตีนออกมาก่อน ตัวมันก็จะหลุดตามออกมาแบบนี้” เขมิกาจิ้มน้ำจิ้มแล้วหยิบเข้าปาก ยกนิ้ว “สุดยอด ลองๆๆ”
“ไม่ดีกว่า ฉันกินไม่เป็น”
“ไม่เป็นสิยิ่งต้องลอง” เขมิกาส่งให้ชานนท์ หยิบไม้จิ้มฟันให้ “เอาไม้จิ้มฟันดึงออกมาก็ได้ ง่ายหน่อย”
ชานนท์รับมาพยายามใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเนื้อหอยออกมา แต่ปรากฏว่าหอยชักตีนหลุดออกมากระเด็นเข้าตาตัวเอง
“โอ๊ย” เขมิกาหัวเราะชอบใจ ชานนท์หมั่นไส้วางเปลือกหอย แกล้งงอน “ไม่กินดีกว่า หอยอะไรก็ไม่รู้ชื่อก็ประหลาดแถมยังกินยากกินเย็นอีก”
เขมิกาจิ้มหอยที่แคะออกมาแล้วจากจาน
“แค่นี้ทำใจน้อยไปได้ ฉันยกของฉันให้ก็ได้ เอ้าอ้าปาก”
ชานนท์ยิ้มๆ แล้วอ้าปากให้เขมิกาป้อน เขมิกาชอบแต่ทำเป็นหน้าหงิกใส่ ป้อนให้ชานนท์ ชานนท์เคี้ยวแต่พอกลืนลงท้อง ก็จับคอตาเหลือกเหมือนหอยติดหลอดลม ชานนท์พยายามอ้าปากหายใจ เขมิกาตกใจมาก
“นายชาเย็น นายเป็นอะไร หายใจไม่ออกหรือ อย่าบอกนะว่านายแพ้หอย”
ชานนท์พยายามหายใจดูน่ากลัว เขมิการีบไปข้างหลังชานนท์พยายามทุบหลังให้คายหอยออกมา ชานนท์ไม่ไหวทิ้งตัวลงนอนแน่นิ่งไป เขมิกานึกว่าชานนท์หมดลม
“นายชาเย็น ไม่นะ”
เขมิกาตัดสินใจเอามือกดหน้าอกชานนท์ปั้มหัวใจ3-4ครั้ง แล้วบีบจมูกชานนท์ประกบปากตัวเองกับปากชานนท์เพื่อเป่าลมเข้าไป แต่ยังไม่ทันเป่า ชานนท์กลับจูบตอบเขมิกาจนเขมิการู้สึกว่าโดนจูบ เขมิกาตาโตคาดไม่ถึง
“เข็มจ๋า เฮียมาแล้ว”
โยธินกับปรียาเดินเลี้ยวมุมออกมาเห็นภาพเขมิกาจูบกับชานนท์ โยธินกับปรียาตกตะลึง เขมิกาเห็นโยธินรีบถอนปากจากชานนท์ ชานนท์มองตาม ทั้งสี่คนต่างตกตะลึง!
เขมิการีบผละจากชานนท์ พยายามอธิบาย
“อย่าเข้าใจผิดกันนะ ฉันๆ พยายามจะช่วยเขาอยู่ คือฉันคิดว่าเขาหายใจไม่ออก แต่ เออ...”
เขมิกามองหน้าชานนท์เพราะรู้ว่าชานนท์แกล้ง จึงไม่รู้จะอธิบายยังไง ชานนท์รีบโกหกกับโยธินแทนเขมิกา
“ผมกินหอยชักตีนเข้าไป อยู่ๆ ก็เกิดแพ้หายใจไม่ออกเข็มเขาก็เลยพยายามช่วยผายปอดให้”
โยธินอึ้งๆ ไปแต่พยายามกลบเกลื่อนยิ้มแย้ม
“อ๋อ เป็นแบบนี้เอง”
ปรียามองแบบไม่เชื่อ
“ทำไมเฮียรู้ว่าเข็มอยู่นี่”
ปรียาตอบแทน
“ฉันเห็นคุณเข็มหิ้วอาหารออกจากบ้าน เดาว่าน่าจะเอามาให้พี่นนท์ คุณโยมาหาคุณพอดีฉันก็เลยชวนมาด้วยกันค่ะ”
โยธินยื่นการ์ดให้เขมิกา
“เฮียเพิ่งพิมพ์การ์ดแต่งงานของเราเสร็จสดๆ ร้อนๆ เลยอยากเอามาให้เข็มดู” เขมิการับการ์ด โยธินยื่นให้ชานนท์ “ผมถือโอกาสเชิญคุณนนท์ด้วยนะครับ” ชานนท์ใจหาย รับการ์ดมา “ส่วนอันนี้ของคุณปรียา”
“ของฉันไม่ต้องหรอกค่ะ เปลืองการ์ดเปล่าๆ” ปรียาตั้งใจพูดแล้วคล้องแขนชานนท์โชว์เขมิกา “เชิญพี่นนท์ก็เหมือนเชิญฉันอยู่แล้วค่ะ”
ชานนท์กระอักกระอ่วน เขมิกาอึดอัด
“แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้รับการ์ดจากคุณปรียาบ้างละครับ” โยธินช่วยเชียร์ ปรียามองชานนท์
“คงต้องถามพี่นนท์แล้วละค่ะ”
ชานนท์ไม่อยากให้ปรียาหน้าแตก
“ถ้ายังช่วยน้องสาวไม่ได้ ผมคงไม่กล้าคิดเรื่องนี้หรอกครับ” ชานนท์ดึงแขนออกอย่างสุภาพ “ผมไปเก็บผ้าที่ตากไว้ก่อนนะครับ น้ำค้างลงแล้ว”
ชานนท์ผละไป เขมิการีบบอกโยธิน
“เฮีย นั่งสิ มากินด้วยกัน”
ปรียากับโยธินนั่งที่เสื่อ เขมิกามองตามชานนท์
ชานนท์แยกตัวไปนั่งอยู่คนเดียว ครุ่นคิดเรื่องที่เขมิกาใกล้จะแต่งงาน เขมิกาเดินเข้ามา
“ทำผิดแล้วคิดหลบหน้าหลบตาหรือไง” ชานนท์หันมา
“ใครทำผิด”
“ก็ที่แกล้งหายใจไม่ออกมันคืออะไรล่ะ”
“แกล้งตรงไหน รู้ได้ยังไงว่าแกล้ง”
“ก็ฉันผายปอดให้คุณ แล้วคุณก็” เขมิกาทำปากเหมือนจะพูดว่าจูบแต่ไม่กล้าพูด “ก็จุ๊บจิ๊บฉันไง”
ชานนท์ขำ แกล้งเขมิกาต่อ
“จุ๊บจิ๊บอะไรของเธอ”
“ก็จุ๊บจิ๊บแบบที่คุณทำนั่นแหละ โอ๊ยจะต้องให้อธิบายไปทำไมเล่ามันกระดากปาก น่าแหวะออกจะตายไป”
“เธอพูดแต่อะไรก็ไม่รู้ จุ๊บจิ๊บๆ แล้วฉันจะเข้าใจได้ยังไงว่าฉันทำผิดอะไรกับเธอ” เขมิกาโมโห
“โอ๊ย อย่ามาแกล้งไม่เข้าใจหน่อยเลย สงสัยอยากมีเรื่อง”
เขมิกาจับแขนชานนท์บิดไปข้างหลัง
“โอ๊ย! เจ็บๆ”
“เห็นฉันเป็นผู้หญิงง่ายๆ คิดอยากจะเล่นอะไรด้วยก็ได้หรือไง”
ชานนท์บิดแขนกลับดึงเขมิกามาปะทะอก
“ฉันไม่ได้เล่นๆ”
เขมิกาอึ้ง ชานนท์จ้องหน้าเขมิกาเขมิกาตะกุกตะกัก
“ไม่ได้เล่น แล้วมันหมายถึงอะไร”
ชานนท์คิดจะตัดสินใจสารภาพเพื่อหยุดการแต่งงานของเขมิกา ชานนท์จับสองบ่าเขมิกา
“เพราะฉันอยากแสดงความรู้สึกบางอย่างให้เธอรู้”
เขมิกากลั้นหายใจอยากรู้ความจริง ชานนท์กำลังจะบอกว่าชอบเขมิกา แต่เสียงมือถือชานนท์ดังขึ้นซะก่อน ชานนท์ปล่อยมือจากบ่าเขมิกา หยิบมือถือมาดูเห็นชื่อจรรยาขึ้นหน้าจอ ชานนท์ไม่อยากให้เขมิกามายุ่งกับเรื่องตนเอง
“โทษทีนะ ฉันมีธุระต้องคุยกับเพื่อน”
ชานนท์รีบเดินไปทางอื่น เขมิกางง
“เพื่อน เพื่อนที่ไหนของเขา เฮ้อ อยากให้ฉันรู้อะไรนะ จะพูดก็ไม่พูดให้จบ”
เขมิกาหงุดหงิด
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา09.30น.
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 14 (ต่อ)
จรรยาหลบมาคุยโทรศัพท์กับชานนท์
“เราจะทำยังไงดีคะ ประชามันกำหนดวันแต่งงานกับคุณนิลแบบสายฟ้าแลบ เชิญแขกสำคัญที่เป็นลูกค้าแค่ไม่กี่คนเองมันต้องมีลับลมคมในอะไรแน่” ชานนท์ตกใจ
“วันอาทิตย์นี้แล้วหรือ”
“คุณต้องรีบพานายยมมาแฉมันในวันนั้นให้ได้นะคะ”
“ฉันยังไม่เจอกับนายยมเลย แต่ฉันคงรอไม่ได้แล้ว”
“งั้นฉันจะพยายามหาคุณนมให้พบก่อนที่คุณจะมาถึง ถ้าคุณนมโดนมันทำร้ายจริง เราจะได้แจ้งตำรวจจับมัน”
ชานนท์ตัดสายจากจรรยา รีบเปิดตู้ดึงเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเตรียมเดินทางไปช่วยแววนิล
เช้าวันใหม่ โย่งทุบประตูบ้านพักเม่น
“เจ้าเม่น อยู่ข้างในหรือเปล่า”
โย่งเปิดประตูเข้าไปจ๊ะเอ๋กับแป้นที่จะมาเปิดประตูเหมือนกัน
“เฮ้ย/ว้าย”
“แกมาทำอะไรในนี้”
แป้นโชว์ปิ่นโตอาหาร
“ฉันเห็นคุณนมไม่อยู่ กลัวมันจะอดตายก็เลยเอาอาหารมาให้มัน แต่ไม่รู้มันหายหัวไปไหน”
“ฉันก็ไม่เห็นมันเลยเหมือนกัน มันชักทะแม่งๆ แล้วนะโว้ย หายไปพร้อมกันทีเดียวทั้งสองคน หรือโดนจับตัวไป”
“งั้นเราต้องรีบไปบอกคุณประชา”
แป้นจะไป โย่งรีบดึงไว้
“อย่า คนที่จับไปอาจเป็นไอ้ประชาก็ได้”
“เฮ้ย งั้นอยู่เฉยๆ ดีกว่าเนอะ ยัยคุณนมมันร้ายกับเราโดนแบบนี้ซะบ้างก็สมน้ำหน้าแล้ว”
“ไรวะ เห็นคนจะตายไม่คิดช่วยหรือไง แล้วยังเจ้าเม่นอีก”
“อ้าว แกพูดเองไม่ใช่หรือวะว่าเราต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน”
“แกคิดว่าฉันจะย้ายข้างไปอยู่กับไอ้ประชาจริงหรือ ที่คุณผู้ชายหายไปต้องเป็นแผนของมัน ไม่งั้นมันไม่เข้ายึดทุกอย่างของคุณผู้ชายหรอก ฉันจะต้องหาคุณนมให้เจอจะได้แจ้งตำรวจมาลากคอมัน แก้แค้นให้คุณผู้ชายของฉัน”
โย่งจะเดินเข้าสวนลึก จรรยาเดินมาขวางหน้า
“ฉันไปด้วย นายกับฉันเราคิดตรงกัน”
โย่งชะงัก
โย่งเดินนำมาเข้ามาในสวน
“คิดว่าประชามันจะเอาคุณนมมาขังไว้ในนี้หรือ” จรรยาถามอย่างแปลกใจ
“คนหายตั้งสองคนนะครับถ้าพาออกไปข้างนอก พวกผมก็ต้องเห็น ในสวนนี่มันรกดี ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาด้วย”
“ตรงนั้นมันเป็นอะไรโย่ง” แป้นชี้
“ที่เก็บอุปกรณ์ทำสวน แต่มันปิดร้างมานานแล้ว”
จรรยาสนใจรีบเดินตรงไปดูที่หน้าประตูทันที จรรยาจับโซ่กับกุญแจที่คล้องปิดอยู่
“มีกุญแจมั้ย” โย่งจับดูแม่กุญแจ
“ทุกทีมันไม่เคยมีกุญแจมาล็อคนี่ครับ” โย่งขยับแม่กุญแจ “มันไม่ได้กดล็อคไว้ แค่คล้องไว้เฉยๆ เอง”
“ช่วยด้วย ใครอยู่ข้างนอกช่วยฉันออกไปที” เสียงมณฑาดังออกมา
“เสียงคุณนม”
โย่งรีบดึงโซ่ออก แล้วผลักประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย
มณฑาประคองเม่น เม่นยังนอนสลบอยู่ ทั้งหมดเข้ามาเห็น
“เจ้าเม่น” โย่งเห็นแผลพันผ้าไว้ลวกๆ มีเลือดซึม “มันโดนอะไรครับคุณนม”
“ไอ้ประชา มันจะฆ่าฉัน เม่นมาขวางไว้ก็เลยโดนมันทำร้ายเอาช่วยพาไอ้เม่นไปหาหมอที”
โย่งรีบประคองเม่น แป้นเข้าช่วย
“นายต้องรีบพาเม่นออกไปจากที่นี่ก่อนที่ประชาจะกลับมา คุณมณฑาคุณต้องไปแจ้งความเอาประชาเข้าคุกให้ได้” จรรยาบอกมณฑา
“ไม่ได้ ฉันต้องไปช่วยคุณหนูก่อน”
มณฑาจะไป จรรยาดึงไว้
“ฉันจะพาคุณนิลหนีเอง ถ้าเราไม่แยกกัน จะหนีไม่รอดทั้งหมดนะเชื่อฉันสิ”
มณฑายังลังเล
ทั้งหมดพากันหนี พอเดินมาถึงทางออกสวน ฉลามกับลูกน้อง 2 คน ยืนรออยู่ ทั้งหมดตกใจ
“จับมันให้หมด”
โย่งรีบบอกแป้น
“พาไอ้เม่นหนีไปเร็ว ทางนี้ฉันรับมือเอง”
ลูกน้องฉลาม1 พุ่งเข้าหาโย่ง โย่งชกกลับไป แต่ลูกน้อง1 จับหมัดไว้ได้แล้วชกกลับ โย่งล้มหงาย ลูกน้อง2 ไล่ตามจับแป้น ตบแป้นล้มลง เม่นลงไปกองที่พื้นยังไม่รู้สึกตัว ฉลามจะจับจรรยากับมณฑา จรรยาก้มหยิบไม้ตีฉลาม ฉลามยกมือปัดป้อง จรรยาตีไม่หยุดร้องตะโกนบอกมณฑา
“หนีไปก่อน ไปแจ้งตำรวจมาจับมันให้ได้ ไปเร็วๆ ไม่งั้นก็จะช่วยคุณนิลไม่ได้นะ”
มณฑาวิ่งหนี ฉลามแย่งไม้ไปได้แล้วชกท้องจรรยาจนจุก พอฉลามจะตามจรรยาก็รัดเอวไว้แน่น ฉลามทุบจรรยา แต่จรรยาก็ไม่ยอมปล่อย
มณฑาวิ่งหนีมาถึงหน้าตึก รีบวิ่งต่อไปทางรั้วประตู
“คุณนม” มณฑาชะงักหยุดวิ่ง หันกลับมาเห็นประชาจับตัวแววนิลอยู่ แววนิลพยายามดิ้นรน “ปล่อยฉัน”
“คุณหนู! อย่าทำร้ายคุณหนูนะ ปล่อยคุณหนูเดี๋ยวนี้”
“ถ้าคุณนมกล้าออกจากบ้านหลังนี้ ก็จะไม่ได้เห็นหน้าคุณหนูสุดรักสุดบูชาของคุณนมอีก เลือกเอาว่าจะทำตามที่ผมสั่งหรือเชื่อไอ้พวกขี้ข้าหน้าโง่ๆ พวกนั้น”
แววนิลตกใจมองประชา ที่ประชารู้เรื่องจรรยา
จรรยา มณฑา โย่ง แป้นถูกมัดมือ ยกเว้นเม่นไม่โดนมัดแต่นอนสลบที่พื้นฉลามยืนคุมที่ประตู ประชายืนจ้องหน้าจรรยา
“รายต่อไปจะไม่ใช่ปลาซิวปลาสร้อยอย่างพวกแก แต่จะเป็นไอ้ชานนท์ที่ส่งแกมาหลอกฉัน”
“คุณผู้ชายยังไม่ตายหรือ”
“ถามนังจรรยาดูสิ นังนี่มันรู้ดี เธอคิดว่าฉันดูไม่ออกหรือ ว่าเธอหลอกฉันเพราะต้องการช่วยเหลือเจ้านายเก่า”
จรรยากลัวประชาไปตามหาชานนท์
“คุณเข้าใจผิด คุณนนท์ตายไปแล้ว ฉันไม่เคยเจอเขา”
“ถ้างั้นฉันคงต้องเรียกคนๆ หนึ่งมาช่วยยืนยันหน่อยแล้ว”
ประชาพยักหน้าให้ฉลาม ฉลามเดินออกไปพาเยาว์เข้ามา จรรยาตกใจ
“น้าเยาว์” เยาว์ไม่กล้ามองหน้าจรรยา “นี่น้าเป็นคนบอกเขาทั้งหมดเลยหรือ ทำไมน้าทำแบบนี้” เยาว์เสียใจ
“น้าขอโทษ น้าจำเป็นจริงๆ”
“เอานังนี่ไป” ประชาสั่งฉลาม ฉลามเข้าไปกระชากจรรยายืน
“แกจะพาฉันไปไหน”
“เธอให้ไอ้ชานนท์มาช่วยน้องสาวมันที่ไหนล่ะ ที่นั่นแหละที่ฝั่งศพมัน แล้วมันจะได้เห็นว่าคนที่ล่อมันมาตายก็คือลูกน้องที่ภักดีกับมันนี่เอง สะใจเป็นบ้า”
“แกไม่ได้แต่งงานที่นั่นหรือ แกหลอกฉัน ไอ้ชั่ว”
ฉลามลากจรรยาออกไป ประชาหันมาทางพวกมณฑา ยิ้มแย้มอารมณ์ดี
“รอให้ฉันส่งไอ้ชานนท์ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ฉันจะกลับมาส่งพวกแกตามไปรับใช้มัน ไม่ต้องห่วงนะรับรองว่าได้สมปรารถนากันทุกคน”
ประชาเดินออกไป เยาว์เดินตาม
วันต่อมาที่บ้านจุมพล โยธิน ปิ้งกับคนงานนับสิบกำลังจัดโต๊ะจีนที่สนาม จุมพลกับสมคิดยืนคุมงาน เขมิกาเดินออกมาดูกวาดตามองไม่เห็นชานนท์ มองไปทางจุมพล แล้วเดินเลี่ยงๆ ไปหาเผือก เขมิกากระซิบถามเผือก
“ทำไมไม่เห็นนายนนท์ออกมาช่วยงานล่ะ”
“ไอ้นนท์มันลานี่ครับ มันให้ผมไปส่งที่รถทัวร์ตั้งแต่เช้ามืด”
“ลาหรือ ลาไปไหน”
“เห็นมันซื้อตั๋วเข้ากรุงเทพฯนะครับลูกพี่”
เขมิกาตกใจมองไปทางโยธิน เห็นโยธินกำลังหัวเราะมีความสุขกับสมคิด จุมพลก็หัวเราะชอบใจไปด้วย เขมิกาพยายามข่มใจไม่คิดเรื่องชานนท์ เพราะพรุ่งนี้ต้องแต่งงานแล้ว
โยธินกำลังเดินมาดูคนงานปูผ้าคลุมโต๊ะจีน ปิ้งเดินเข้ามาหาโยธิน กระซิบบอก
“คุณโยครับ มีคนมาหาไอ้คุณนนท์”
“ใครหรือ”
“เป็นผู้ชายครับ ท่าทางมีพิรุธไม่ค่อยน่าไว้ใจ ผมเลยบอกไปว่าไม่อยู่ แต่เขาจะขอพบคุณขวัญตา มันชื่อพี่สาวฝาแฝดของลูกพี่นี่ครับ แล้วผมควรจะบอกลูกพี่ดีมั้ย”
โยธินมองหาเขมิกา เขมิกาไม่อยู่หน้าบ้านแล้ว โยธินโล่งใจ
“ที่นี่ไม่มีคนชื่อขวัญตาหรอกครับ เท่าที่ผมทราบเขาหายสาบสูญไปนานแล้ว” โยธินบอกกับยม ยมงงและแปลกใจ “คุณมีธุระอะไรกับคุณชานนท์หรือครับ เผื่อเขากลับมาผมจะได้บอกให้”
ยมไม่กล้าบอก
“ไม่ๆ เป็นไรครับ แล้วผมจะมาอีก ขอบคุณครับ”
ยมรีบเดินไป
“หรือเขาจะมาหาลูกพี่ แต่คิดว่าเป็นคุณขวัญตา” ปิ้งบอก
“อย่าบอกเข็มนะ เพราะปู่ไม่ชอบให้เข็มติดต่อกับพวกทางแม่เขา ฉันไม่อยากให้ปู่อารมณ์เสียเดี๋ยวได้ทะเลาะกันอีก”
“ครับ”
โยธินกับปิ้งกลับเข้าบ้าน
ยมเดินคิดมาอย่างแปลกใจ
“คุณผู้หญิงก็กลับมาแล้วนี่หว่า จะหายสาบสูญได้ไง งงเว้ย”
มีมือคนเอื้อมมาปิดปากยมจากด้านหลัง ยมตกใจขัดขืน หันกลับมาเห็นเขมิกา
“ฉันเอง”
ยมดีใจร้องเสียงดัง
“คุณผู้หญิง”
เขมิการีบจุ๊ปาก
“เบาๆ ไปคุยกันที่อื่น”
เขมิการีบดึงยมไป
แววนิลถูกขังอยู่ในห้อง แววนิลเขย่าประตูแต่เปิดไม่ออกจึงรีบไปที่หน้าต่าง แววนิลลากเก้าอี้มา ยืนบนเก้าอี้เตรียมจะปีนออก ประชาเข้ามากระชากแววนิลลงจากเก้าอี้
“อ๊าย”
“จะหนีเจ้าบ่าวไปไหนละจ๊ะ พรุ่งนี้ก็จะถึงวันสำคัญของเราแล้วนะ”
“เอาสิ ถ้าแกบังคับฉัน ฉันจะแฉแกกลางงานว่าแกจับทุกคนไปขังไว้ แล้วบีบให้ฉันแต่งด้วยเพื่อหวังสมบัติของฉัน”
ประชายิ้มแย้มไม่กลัวคำขู่
“ขนาดเธอร่วมมือกับจรรยาตบตาผมว่าป่วย ผมยังรู้ทัน กับอีแค่ทำให้คุณเป็นเจ้าสาวเชื่องๆ ไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว”
“หมายความว่ายังไง แกจะทำอะไรฉัน”
แววนิลถอย ประชาเดินเข้าหา
“เธออยากเจอพี่ชายนักไม่ใช่หรือ ฉันจะให้มันเจอเธอในสภาพที่มันคาดไม่ถึง มันจะต้องชดใช้ที่มันทำลายความรักของฉันจนพังพินาศ”
ประชากระชากแววนิล ผลักแววนิลล้มไปที่เตียง
แววนิลร้องกรี๊ด หลังจากตกเป็นเมียประชา
เช้าวันใหม่ โยธินกับสมคิดเดินนำขบวนขันหมากมาที่หน้าบ้านจุมพล จุมพลยืนรอรับ
ปิ้งกับคนงานยืนเป็นประตูเงินประตูทองอยู่หน้าห้องเขมิกา เพื่อนเจ้าบ่าวแจกซองเงินให้คนงาน จนไปถึงปิ้งกับเผือกที่หน้าประตู
“ตามที่รับปากกันไว้นะครับคุณโย ของผมกับไอ้เผือกต้องซองหนักๆ แบงก์แดงๆ นะไม่เอา ขอเป็นสีม่วงๆ”
“สีเทาก็ยิ่งดี”
“สำหรับนายฉันเตรียมมาแล้ว ซองยักษ์”
โยธินดึงซองแดงขนาดใหญ่ออกมา 2 ซอง ยื่นให้ปิ้งกับเผือก ปิ้งตื่นเต้นเพราะซองใหญ่มาก
“โห ใจป้ำขนาดนี้ ต้องอุ้มเจ้าบ่าวส่งให้ถึงเตียงเจ้าสาวเฮ้ยพวกเราช่วยกันหน่อยโว้ย”
ปิ้ง เผือกคนงานช่วยกันยกหัวยกขาโยธินหิ้วเข้าห้อง
“โอ๊ยๆ เบาๆ เดินเองได้”
โยธินถูกหิ้วเข้าห้องทั้งหมดโยนโยธินลงเตียง
“เจ้าบ่าวมาแล้วครับลูกพี่” ปิ้งชะงักมองหาเขมิกา “อ้าว ลูกพี่ เฮ้ย เจ้าสาวไปไหนเนี่ย”
โยธินลุกจากเตียงเลิ่กลั่ก แล้วรีบไปเปิดดูในห้องน้ำ
“เข็ม” โยธินหันกลับมาบอกปิ้ง “ในห้องน้ำไม่อยู่”
“เจ้าสาวหาย”
ปิ้งร้องลั่น
โกดังร้างในสวน แป้นกับโย่งนั่งหันหลังชนกัน แป้นกำลังพยายามแกะเชือกที่มือของโย่ง
“นี่แกแก้เชือก หรือนั่งเกาเชือกวะเนี่ย ออกแรงหน่อยสิวุ้ย”
“ฉันก็พยายามอยู่เนี่ย ตามันมองไม่เห็นนี่หว่า”
มณฑามองอย่างรำคาญ
“ประชามันไม่โง่ให้หล่อนแก้มัดได้ง่ายๆ หรอก หัดใช้สมองให้มันมากกว่านี้หน่อย”
“โห คุณนม นี่เรามาช่วยนะ ยังมาจิกกัดกันอีก ไม่ได้รู้จักบุญคุณกันบ้าง”
“ถ้ารู้จักวางแผนให้ดี ก็คงไม่โดนจับกันหมดอย่างนี้หรอก”
“ถ้าคุณนมฉลาดนัก ก็บอกวิธีหนีมาสิ มีหรือเปล่า”
มณฑานิ่งไป เสียงเม่นดังขึ้นอย่างแหบพร่าไม่มีแรง
“เม่นช่วยได้แม่”
มณฑากับทุกคนหันไปมองเม่นที่นอนอยู่ เม่นลืมตาขยับตัว
มณฑาเป็นห่วงเม่นแต่ยังเสียงแข็ง
“แกจะตายมิตายแหร่อยู่แล้วจะช่วยใครได้ยังไง”
เม่นชูสองมือให้ดูว่าไม่ได้โดนมัด
“จริงด้วย ไอ้เม่นมันแก้เชือกให้เราได้” โย่งรีบกระดิ๊บตัวไปหาเม่น แล้วหันหลังให้ “ลุยเลยเม่น”
มณฑาตวาดเพราะห่วงเม่น
“แกไหวหรือเม่น ไม่ไหวก็อย่าทำเป็นอวดเก่ง”
“เม่นต้องช่วยคุณผู้ชาย”
เม่นกัดฟันยกมือแกะเชือกให้โย่ง มณฑามองเม่นรู้สึกเจ็บแทน
แท็กซี่วิ่งมาจอดที่โรงแรมร้างแห่งหนึ่ง ชานนท์นั่งอยู่ข้างคนขับหันมาถาม
“ผมจะไปโรงแรมรัตนาพาลัยนะครับ”
“ก็ที่นี่แหละคุณ ผมยังสงสัยอยู่ว่าคุณจะมาทำไมเพราะมันกลายเป็นตึกร้างมาหลายปีแล้ว”
“แต่น้องสาวผมจะแต่งงานที่นี่ หรือจรรยาจะบอกชื่อโรงแรมผิด” ชานนท์งง
แววนิลอยู่ในชุดเจ้าสาวนั่งพิงเตียงเหมือนคนเบลอๆ อยู่ในห้องพัก โรงแรมหรูอีกแห่ง อึ่งในชุดเพื่อนเจ้าสาวกับประชาเดินเข้ามา
“เธอต้องคอยประคองเจ้าสาวไว้ตลอดทุกฝีเก้าจำไว้” อึ่งมองแววนิล
“ผอ.ทำอะไรมัน ทำไมยัยผู้ดีมันดูเซื่องๆ ซึมๆ อย่างนี้”
“ก็แค่ให้กินยาเคเข้าไป เขาจะเบลอๆ เคลิ้มๆ ไปสักพักเราต้องรีบให้เซ็นทะเบียนสมรสให้เร็วที่สุดก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์”
“ความจริงผอ.ก็แค่บังคับให้มันเซ็นที่บ้านก็ได้ ไม่เห็นต้องจัดงาน ต้องเสียเงินจ้างนักข่าวมาให้วุ่นวาย”
“ฉันต้องการให้สังคมรู้ว่าฉันแต่งงานอย่างถูกต้อง สมบัติของมันจะได้เป็นของเราโดยไม่มีคำครหา ออกไปกันได้แล้ว”
ประชาเดินออก อึ่งเข้าไปประคองแววนิลลุกจากเตียง แววนิลเซเหมือนคนเมาไม่ค่อยมีแรง
“เดินดีๆสิ แล้วรู้ไว้ซะด้วยนะว่าฉันน่ะเมียหลวงส่วนแกนะนางบำเรอ อื๊ย หมั่นไส้น่าตบนัก”
อึ่งใช้นิ้วชี้ผลักหน้าผากแววนิลหงายไป
ชานนท์กดโทรศัพท์หาจรรยา เป็นเสียงสัญญาณปิดเครื่อง
“ปิดเครื่องทำไมนะจรรยา”
“อ๊ายยยย”
เสียงร้องจรรยาดังขึ้นพร้อมกับเสียงปืนดังเปรี้ยง!
“นิล”
ชานนท์รีบวิ่งเข้าโรงแรม
ชานนท์วิ่งขึ้นบันไดมาเห็นจรรยาถูกมัดติดกับเก้าอี้ไม้เก่าๆ
“จรรยา”
“คุณชานนท์อย่าเข้ามา มันหลอกฉัน ล่อให้คุณมาที่นี่มันจะฆ่าคุณ คุณรีบกลับไปซะ ไปเร็วๆ” ฉลามโผล่มาด้านหลังชานนท์ เล็งปืนที่ชานนท์ “อ๊าย ระวัง ข้างหลัง”
ชานนท์หันไปม้วนตัวกลิ้งหลบ ปืนยิงเฉี่ยวไป ชานนท์พุ่งหลบไปด้านหลังกองโซฟาเก่าๆ ฉลามยิงใส่โซฟาไม่โดนชานนท์ ฉลามตามเข้าไปจะยิงอีก ชานนท์ลุกพรวดพร้อมเก้าอี้หักๆ กวาดใส่ฉลามจนล้มกลิ้ง ปืนหลุดกระเด็น ชานนท์ตามไปกระชากฉลามขึ้นมาต่อยๆ ฉลามถีบชานนท์เซ สองคนลุกยืน ตั้งท่า แล้วเข้าบู๊กันไปมา ฉลามโดนชานนท์เตะจนกลิ้งไปล้มที่ปืนพอดี ฉลามคว้าปืนเล็งไปทางชานนท์ทันที ชานนท์ชะงักหมดทางต่อสู้ ฉลามแสยะยิ้มกำลังจะลั่นไก
“เจ้านาย”
จรรยาร้องลั่น โย่งโผล่มาข้างหลังใช้ไม้ฟาดใส่ไหล่ฉลาม ฉลามมึนโงนเงน สลบไป ชานนท์ดีใจที่เห็นโย่ง
“คุณผู้ชาย คุณผู้ชายของไอ้โย่ง ฮือๆ”
โย่งวิ่งไปกอดชานนท์ ชานนท์รีบถาม
“รู้หรือเปล่าว่าประชาจัดงานแต่งที่ไหนกันแน่”
“มันปิดเงียบ การ์ดเชิญมันก็ไม่แจก มันต้องการหลอกพวกเรา หลอกให้คุณผู้ชายมาที่นี่”
ชานนท์มองฉลาม
“รีบทำให้มันฟื้น ไอ้หมอนี่มันน่าจะรู้”
โย่งรีบไปที่ฉลาม ชานนท์ไปแก้มัดให้จรรยา
ประชาประคองแววนิลเข้ามาในห้องจัดงาน แววนิลรู้สึกเคลิบเคลิ้มมึนงงมองผู้คนเป็นดาวระยิบระยับเต็มไปหมด อึ่งขนาบข้างแววนิลคล้ายเพื่อนเจ้าสาว แขกทั้งหมดที่นั่งรอมองมางงๆ
“ผมต้องขออภัยแทนเจ้าสาวด้วยนะครับ ถ้าหากวันนี้เจ้าสาวต้อนรับแขกทุกท่านได้ไม่ดีเท่าที่ควร”
“เจ้าสาวเป็นอะไรหรือครับ” เก่งกาจถามขึ้นมา
“โรคเก่ากำเริบครับ ผมบอกให้เลื่อนงานออกไปก่อน คุณนิลก็ไม่ยอม แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ อาการทุเลาลงแล้ว แค่ยังไม่ค่อยมีแรงเท่านั้นเอง ผมต้องขอโทษอีกครั้งครับ นิลจ๊ะเราไปจดทะเบียนกันก่อนนะ ค่อยๆ จ๊ะ ค่อยๆ”
ประชาพาแววนิลไปนั่งที่โต๊ะจดทะเบียนสมรส กุ้งมองอึ่ง อึ่งเชิดใส่
“ทำเป็นเดินลอยหน้าลอยตาอย่างกับเป็นเจ้าสาวซะเอง เชอะ ก็ได้แค่เมียน้อยละว้า” กุ้งหันมาเจอเยาว์พอดี เยาว์สีหน้าไม่ดี “อุ๊ย”
กุ้งรีบหยุดพูด เยาว์รู้สึกผิดที่ช่วยประชา
“เธอพูดถูก มันกำลังเดินทางผิด แต่ที่ทำผิดยิ่งกว่าก็คือแม่มัน ฉันผิดเอง ผิดอย่างที่ไม่น่าให้อภัย”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับน้าเยาว์สักหน่อย มันนั่นแหละไม่รักดีเอง”
เยาว์มองไปทางแววนิล เสียใจที่ตัวเองมีส่วนทำผิดทำร้ายแววนิลด้วย
จบตอนที่ 14