xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 11

ศพบอมนอนบนเปลมีลูกน้องจุมพลหามไปที่เรือ แบงก์ประคองบิ๊กเดินไปกับเปลหาม ถัดไปเป็นพวกบาดเจ็บเดินเรียงแถวไปที่เรือ ลูกน้องจุมพลเดินคุม จุมพลยืนสั่งที่ชายหาด

“จับพวกมันขึ้นเรือไปให้หมด แกไปส่งข่าวถึงตำรวจให้มารอรับตัวโจรสลัดที่ท่าเรือด้วย”
เขมิกาวิ่งมาหาจุมพล
“ปู่ ฟังเข็มอธิบายก่อนแล้วค่อยด่านะ”
จุมพลหน้านิ่ง โกรธมาก
“ขึ้นไปรอบนเรือก่อนเดี๋ยวเราต้องมีเรื่องสะสางกัน” จุมพลเห็นชานนท์เดินมา “เชิญคุณด้วย”
จุมพลเดินนำไปทางเรือ ชานนท์เดินตาม เขมิกากลัวๆ ไม่ค่อยอยากไป ปิ้งวิ่งมาหาเขมิกา เบะปากร้องไห้กอดเขมิกาเหมือนเด็กๆ
“ลูกพี่ ฮือๆ นึกว่าจะไม่ได้เจอลูกพี่อีกแล้ว โชคดีนะที่เราเห็นธงขอความช่วยเหลือ ก็เลยรู้ว่ามีคนอยู่บนเกาะ ลูกพี่เข็มฉลาดเป็นกลดไม่เสียแรงที่ฉันสอนไว้ดี”
เขมิกาศอกใส่ปิ้ง ปิ้งร้องเจ็บ
“ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคนโน้นที่ทำสัญญาณขอความช่วยเหลือ”
ปิ้งมองหลังชานนท์
“อ๋อ คุณโยเล่าให้เถ้าแก่ฟังหมดแล้ว คุณชานนท์สามีของพี่สาวฝาแฝดของลูกพี่”
“หา ปู่รู้หมดทุกอย่างเลยหรือ”

บนเรือลำใหญ่ จุมพลรับไม้เรียวจากปิ้ง ปิ้งหวาดเสียวแทน
“เบามือหน่อยนะครับเถ้าแก่”
จุมพลมองไปทางเขมิกาที่โดนจับผูกกับเสาอยู่
“ยอมรับมั้ยว่าตัวเองทำผิด”
เขมิกาสำนึกผิด
“ยอมรับฮะ”
“ผิดยังไง”
อีกมุมชานนท์เดินมาหยุดฟัง
“โกหกปู่ โกหกทุกคน เห็นแก่ตัว อยากได้สิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่นึกถึงใจคนอื่นว่าเขาจะเสียใจ ที่แย่ที่สุดคือ ทำให้คนดีๆ เกือบตาย” เขมิการ้องไห้ “เข็มเสียใจจริงๆ ปู่ เข็มขอโทษ”
“ดี ปู่จะตีเอ็งวันนี้เพื่อให้เอ็งจำ ต่อไปจะทำอะไรจะได้คิดก่อนทำ”
เขมิกาหลับตาปี๋ จุมพลเงื้อไม้จะฟาด ชานนท์รีบเข้ามาจับไม้ไว้จุมพลหันมอง
“ผมขอเถอะครับ เขาสำนึกผิดแล้ว”
“ไม่ได้ หลานผมทำให้คุณเดือดร้อนวุ่นวายไปหมด มันต้องรับผิดชอบ”
“แต่เขาเป็นภรรยาผม ผมคงปล่อยให้คุณปู่ตีภรรยาผมเหมือนเป็นเด็กๆ ไม่ได้”
จุมพลตกใจ มองเขมิกา เขมิกากลัวปู่รีบอธิบาย
“ไม่ใช่นะ นายชาเย็น เอ๊ย คุณชานนท์เขามีแฟนแล้ว ชื่อปรียา เฮียโยก็รู้จัก ไม่เชื่อถามเฮียโยได้”
ชานนท์รีบเถียงเหมือนกลัวจุมพลเข้าใจผิด
“ปรียาเป็นแค่น้องสาวครับ”
“คุณก็รู้แล้วนี่ว่าฉันไม่ใช่ขวัญตา เพราะฉะนั้นคนที่คุณรักคือพี่ขวัญไม่ใช่ฉัน อีกอย่างพี่ขวัญก็ยังไม่ตายด้วย”
ชานนท์แกล้งเมาเรือ จะอ้วกรีบปิดปาก เซไปเกาะขอบเรือ เขมิกาห่วงชานนท์ออกนอกหน้า “ไอ้ปิ้งแกะเชือกให้ที เร็วๆ คุณชานนท์เขาเมาเรือ” ปิ้งรีบแกะเชือก เขมิกาวิ่งไปประคองชานนท์ “ไปนั่งที่กลางเรือดีกว่า อย่าก้มมองคลื่นนะ มองไปไกลๆ”
ปิ้งมองเหวอรีบกระซิบจุมพล
“ดูจะห่วงกันออกนอกหน้าเกินไปหน่อยมั้ยเถ้าแก่”
จุมพลมองรู้ได้ทันทีว่าสองคนต้องชอบกัน

จุมพลยืนครุ่นคิดนึกถึงตอนที่ชานนท์เอาตัวบังเขมิกา ภาพตอนบอมจะยิงเขมิกา ชานนท์รีบเอาตัวบังยอมรับกระสุนแทน จุมพลยิ่งมั่นใจว่าชานนท์ชอบเขมิกา
อีกมุมของเรือเขมิกากับชานนท์ยืนเกาะขอบเรือมองไปไกลๆ ชานนท์ไม่มีอาการเมาเรือแล้ว
“คุณกินยาแก้เมาไปแล้ว ทำไมยังเมาได้อีก”
“ฉันคงติดนิสัยชอบหลอกคนเหมือนเธอมั้ง แถมทำได้เนียนซะด้วย ทำให้เธอรอดจากไม้เรียวมาได้”
เขมิกาจ๋อยๆ
“ไม่ต้องพูดประชดก็ได้ ด่ามาตรงๆ เลยฉันไม่มีคำแก้ตัวอยู่แล้ว”
ชานนท์เมินไปทางอื่นเพราะยังทำใจไม่ได้ที่เข็มไม่ใช่ขวัญตา เขมิกาคิดว่าชานนท์ยังโกรธอยู่
“ฉันรู้ว่าถึงขอโทษไป คุณก็คงไม่ให้อภัย แต่ฉันก็ต้องพูดเพราะฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้คุณเห็นว่าฉันรู้สึกผิดจริงๆ” เขมิกานิ่งไปนิดหนึ่ง พนมมือ “ฉันขอโทษกับทุกๆ อย่าง”
เขมิกาก้มหัวไหว้ชานนท์ ชานนท์หันมาตกใจที่เขมิกายกมือไหว้ ชานนท์ไม่ได้โกรธเขมิกาแต่เจ็บปวดที่รักเขมิกาไปแล้ว ไม่รู้จะทำยังไง เขมิกามองหน้าชานนท์
“คุณคงยังไม่เชื่อฉัน”
ชานนท์หน้าบึ้งตึง
“ฉันไม่รับคำขอโทษ” เขมิกาเศร้าคิดว่าชานนท์ไม่ให้อภัย “เธอเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก เพื่อช่วยให้ฉันหนีรอด แค่นี้ก็พิสูจน์ความจริงใจของเธอได้แล้ว ไม่ต้องมาขอโทษกันอีก” เขมิกายิ้มดีใจ
“หมายความว่าคุณเลิกโกรธฉันแล้ว”
“ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง มันเร็วเกินไปจนฉันตั้งตัวไม่ติด ฉันรักเธอเพราะเธอคือขวัญตา แต่ตอนนี้เธอ
เป็นคนอื่นไปแล้ว”
เขมิกาใจหาย แต่รีบพูดเพราะมีฟอร์ม
“ไม่เห็นต้องคิดอะไรเลย ก็คิดว่าฉันเป็นน้องสาวพี่ขวัญก็เหมือนเป็นน้องคุณหรือคนรู้จักทั่วไปก็จบ”
ชานนท์คิดว่าเขมิกาไม่ได้รักเขาจึงรู้สึกผิดหวัง
“กับฉัน เธอก็คิดอย่างนี้จริงๆ หรือ”
เขมิกาต้องสร้างกำแพงเพราะกลัวตัวเองหน้าแตก
“ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะหลงรักคุณหรอกน่า บอกตรงๆ นะสเปกฉันสูง แบบคุณน่ะคุณสมบัติยังไม่ถึง”
ชานนท์กลัวหน้าแตกเหมือนกันจึงฝืนยิ้ม
“ได้ยินอย่างนี้ฉันก็สบายใจ เราจะได้จากกันด้วยดี”

เขมิกาฝืนยิ้ม ต่างคนต่างรีบเบือนไปทางอื่นทำเป็นสนใจวิวทิวทัศน์ สีหน้าชานนท์รู้สึกหดหู่ใจเหมือนคนกำลังอกหัก สีหน้าเขมิกาเศร้าสร้อย อยากร้องไห้

ที่สะพานท่าเรือ ตำรวจพาตัวโจรสลัดที่บาดเจ็บเดินไป มีแบงก์ประคองบิ๊กโดนคุมตัวรั้งท้าย เขมิกาใส่หมวกบังหน้าไว้วิ่งไปหาแบงก์
“แบงก์ เดี๋ยวก่อน”
แบงก์กับบิ๊กหันมา เขมิกาวิ่งมาถึงตัวยื่นมือให้แบงก์จับแบบเพื่อน แบงก์ยิ้มแล้วจับมือเขมิกา เขมิกาพูดเบาๆ
“ฉันจะเป็นพยานให้เอง ว่าคุณสองคนคิดมอบตัวไม่ได้ทำร้ายอะไรฉัน”
แบงก์ตบหลังมือเขมิกา
“ผมยินดีที่ได้รู้จักคุณ คุณเข็ม”
บิ๊กก็ยิ้มให้เขมิกา แบงก์กับบิ๊กเดินไปกับตำรวจ เสียงโยธินดังขึ้น
“เขมิกา” เขมิกาหันไปเจอโยธินวิ่งมาสวมกอด ยกเขมิกาตัวลอย “เฮียดีใจที่สุดเลย ไอ้เข็มของเฮีย”
“เบาๆ เฮีย ปู่ไม่อยากให้ตำรวจกับพวกนักข่าวเห็นเข็ม กลัวรู้ไปถึงไอ้ประชา”
โยธินรีบปล่อยเขมิกา ห่างออกไปชานนท์ก็ใส่หมวกบังหน้าเหมือนกัน ยืนอยู่กับจุมพลและปิ้ง ชานนท์ช็อกกับภาพที่โยธินกอดเขมิกา ปรียาเดินมาอีกมุม
“พี่นนท์” ชานนท์หันไป ปรียาร้องไห้วิ่งเข้ามากอด ชานนท์กอดตอบเพราะรู้ว่าปรียาห่วง “ปรียานึกว่าจะไม่ได้เจอพี่นนท์อีกแล้ว”
เขมิกาได้ยินเสียงปรียาเรียกชานนท์เลยหันมามอง เห็นปรียากอดกับชานนท์ เขมิกาเหี่ยว จุมพลมองปรียา จำได้ว่าเป็นคนที่เขมิกาพูดถึงว่าเป็นแฟนชานนท์
“รีบไปกันดีกว่า ก่อนนักข่าวจะมาวุ่นวายกับเรา”
จุมพลกับปิ้งเดินนำไปก่อน เขมิกาเดินตามจุมพลไป ปรียาเห็นชานนท์มองเขมิกาจึงรีบถามชานนท์
“พี่นนท์รู้เรื่องทั้งหมดแล้วใช่มั้ยคะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คุณขวัญ แต่เป็นน้องสาวฝาแฝด”
ชานนท์รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที

ประชานั่งหน้าคอมฯ ดูราคาทอง อีกมือถือโทรศัพท์พูดไปด้วย
“คุณทิพย์ ราคาทองตกลงมาเรื่อยๆ แล้ว ถ้าถึงหมื่นแปดเมื่อไหร่ติดต่อโบรกเกอร์ให้จัดการซื้อได้เลย”
ประชายิ้มพอใจ คลิกเว็บข่าวออนไลน์ดูเห็นภาพข่าวโจรสลัดโดดเด่นสะดุดตา ประชาอ่านเนื้อข่าวใต้ภาพ
“โจรสลัดสามพี่น้อง ที่ทางการหมายหัวตามล่ามานานหลายปีได้ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเมื่อวานนี้”
ประชามองภาพเป็นภาพมุมกว้างพวกโจรสลัดโดนใส่กุญแจมือเดินเรียงแถวลงจากเรือ ประชาเพ่งมองแบ็กกราวด์เห็นผู้หญิงแต่งตัวคล้ายเขมิกาใส่หมวกแก๊ป ประชาเห็นหน้าด้านข้างรู้สึกว่าเหมือนขวัญตา ประชารีบซูมภาพขยายตัวผู้หญิงให้ใหญ่ขึ้น เห็นภาพเบลอๆ เหมือนเขมิกา ประชาตะลึงที่เขมิกายังไม่ตาย ชานนท์ก็อาจไม่ตายด้วย

มณฑารีบร้อนออกจากหน้าตึก เดินมาหาประชา ประชาที่ยืนรออยู่หันมา
“เราจะทำยังไงดี ไหนคุณบอกว่าเห็นขวัญตาจมน้ำไปกับตา”
“ขวัญตาจะอยู่หรือตาย มันก็ไม่มีความหมายเท่ากับชานนท์รอดตายด้วยหรือเปล่า ถ้าเขากลับมาได้ เรายุ่งแน่”
“งั้นก็รีบคืนสปามาให้คุณหนู ความผิดคุณจะได้น้อยลง”
“ชานนท์กลับมาคุณนมก็เข้าคุกเหมือนกัน ทางที่ดีคอยจับตาดูแววนิลไว้ ถ้ามันรอดตายต้องโทรติดต่อน้องสาวแน่”
ประชาเดินผ่านมณฑาไป มณฑามองอย่างแค้นใจ

วันต่อมาที่โรงพยาบาล เขมิกายืนข้างเตียงจับมือบัณฑิต บัณฑิตยังนอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทรา จุมพลยืนข้างเตียงอีกฝั่ง
“เจ้าเข็มมันเกือบตายก็เพราะเอ็ง บังอรกับขวัญตาเป็นคนอื่นไปแล้วทำไมยังอยากไปพัวพันกับเขาอีก” จุมพลมองมาทางเขมิกา “เอ็งห้ามไปตามหาขวัญตาอีก ให้มันจบลงเพียงเท่านี้”
“เท่าที่เข็มตามสืบอยู่ พี่ขวัญยังไม่ตายนะปู่ แต่หนีหายไปไหนก็ไม่รู้ ถ้าปู่ช่วยหา...”
จุมพลตวาดสวนทันที
“เอ็งนี่มันดื้อเหมือนพ่อ ถ้าไม่เชื่อฟังข้า ก็ไม่ต้องมาเป็นปู่เป็นหลานกัน อยากไปหาพี่สาวนักก็ไปเลย”
“รู้แล้วไม่ต้องตะโกนก็ได้ เดี๋ยวพ่อก็ตกใจตื่นกันพอดี”
จุมพลไม่ขำด้วย
“ปู่จะไปรอข้างนอก”
จุมพลออกไป เขมิกากอดพ่อ หอมพ่อ

“พ่อ เข็มกลับมาแล้วนะ จะไม่ไปไหนอีกแล้ว”

ชานนท์นั่งรอจุมพลอยู่ที่บ้าน โยธินเดินเข้ามา ชานนท์จำโยธินได้ ลุกยืน
“สวัสดีครับ ปู่จุมพลกับขวัญ ไม่ใช่ซิครับ ผมหมายถึงคุณเข็มไปโรงพยาบาลยังไม่กลับมาครับ”
“ผมทราบแล้วครับ จริงสิ ผมยังไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลย ผมชื่อโยธิน” โยธินยื่นมือให้ชานนท์จับ ชานนท์จับมือโยธิน “ผมเป็นแฟนกับเข็ม ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคงจะคุยกันเรื่องงานแต่งของเราเร็วๆ นี้ ยังไงก็ขอเชิญด้วยนะครับ”
ชานนท์ใจหายปล่อยมือจากโยธิน
“ยินดีด้วยครับ”
ปรียาเดินเข้ามาจากด้านใน พอเห็นโยธิน ปรียาบึ้งตึงใส่เพราะรู้แล้วว่าโยธินโกหกเรื่องเป็นกะเทยเพื่อช่วยเขมิกา โยธินจะอ้าปากทัก แต่ปรียารีบหันไปคุยกับชานนท์
“พี่นนท์จะบอกนิลเมื่อไหร่คะว่าพี่นนท์ยังไม่ตาย”
“ขอให้พี่ได้ร่ำลาคุณจุมพลก่อน เราจะกลับกรุงเทพฯ ทันที”
ปรียาพยักหน้า
“ยังกลับไม่ได้นะฮะ” เสียงเขมิกาดังขึ้น เขมิกากับจุมพลเดินเข้ามาจากด้านนอก “ปู่ฉันอุตส่าห์ช่วยปิดข่าวที่คุณรอดตายกลับมา ไม่ให้รู้ไปถึงหูประชา แต่คุณจะวิ่งไปชนตอเสียเอง”
ชานนท์หยิ่งไม่อยากรับความช่วยเหลือ พูดกับจุมพล
“ขอบคุณครับที่ช่วยเป็นธุระให้ผม แต่ผมไม่กล้ารบกวนมากไปกว่านี้ ปัญหาระหว่างผมกับประชา ผมอยากขอ
แก้เอง ไม่อยากให้คนอื่นมาเดือดร้อนด้วย ปรียาไปเก็บเสื้อผ้าเถอะ”
ปรียาเดินไป จุมพลหมั่นไส้ที่ชานนท์หยิ่ง
“ในเมื่อเขาอยากไป ก็ตามใจเขาเถอะ ถือว่าเราได้แสดงน้ำใจไปแล้ว ทำเท่าที่ทำได้ก็พอ”
จุมพลเดินเข้าบ้าน เขมิกาหนักใจเพราะห่วงชานนท์จะอ้าปากพูดอีกแต่โยธินจับมือเขมิกาไว้ ตั้งใจทำให้ชานนท์เห็น
“ผมกับเข็มขออวยพรให้คุณโชคดีนะครับ”
ชานนท์มองมือโยธินที่กุมมือเขมิกา
“ขอบคุณครับ”
เขมิกาอึดอัดที่โยธินทำแบบนี้ แต่ทำอะไรไม่ได้

ปิ้งจอดรถที่ปั้มน้ำมันแล้วบอกชานนท์เสียงแข็งๆ
“ขอเติมน้ำมันก่อนนะคุณ” ปิ้งเปิดกระจกบอกเด็กปั้ม “เต็มถังน้อง”
มีรถกระบะอีกคันมาจอดต่อจากรถปิ้ง คือฉลามมือปืนของประชา ในรถปรียารู้สึกคอแห้ง
“ปรียาจะไปซื้อน้ำ พี่นนท์อยากได้อะไรมั้ยคะ”
“พี่ไปซื้อให้เองจ๊ะ”
ชานนท์เปิดประตูลงไป ฉลามยืนหันหลังให้กำลังถามเด็กปั้มที่เติมน้ำมันให้รถชานนท์อยู่ ฉลามให้เด็กปั้มดูรูปชานนท์
“เคยเห็นคนในรูปนี้มั้ยน้อง”
เด็กปั้มหยิบรูปมาดู ชานนท์ได้ยินที่ฉลามพูดกับเด็กปั้มเลยมองรูปแบบไม่ตั้งใจ ชานนท์เห็นรูปตัวเองจึงมองที่เอวด้านข้างฉลามมีปืนเหน็บอยู่ ชานนท์รีบก้มหน้าไม่ให้เด็กปั้มเห็นหน้าแล้วเปิดประตูกลับเข้ารถอย่างเร็ว ฉลามเดินมาหยุดยืนตรงประตูด้านชานนท์พอดี ชานนท์รีบบอกปิ้ง
“ขับออกไปเร็วๆ นายปิ้ง”
ปิ้งหันมาด้านหลัง
“ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ รถทัวร์ที่จะเข้ากรุงเทพฯ ยังไม่ออกหรอก เวลามีเหลือเฟือ”
ชานนท์เบี่ยงตัวหลบเต็มที่
“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่มีคนตามตัวฉันอยู่ มันอยู่ข้างรถเรานี่”
ปิ้งมองนอกรถเห็นฉลามยืนแกะหมากฝรั่งใส่ปากอยู่
“หน้าตาไม่ใช่คนดีแน่ แบบนี้ต้องรีบสวมบทเสือเผ่นแล้วพี่น้อง” เด็กปั้มมาเก็บเงิน ปิ้งรีบยื่นเงินให้อย่างรีบร้อน “เอาไปเลยๆ ไม่ต้องทอนน้อง”
ปิ้งรีบติดเครื่องขับออกไปอย่างไว ฉลามเดินกลับไปที่รถตัวเอง

จุมพลเดินตรวจงานอยู่ในโกดังเก็บอาหารทะเล คนงานกำลังนำของทะเลแช่แข็ง เขมิกากับปิ้งวิ่งเข้ามา
“ปู่” จุมพลหันไปมอง “มีมือปืนมาตามหาคุณชานนท์ สงสัยจะเป็นไอ้ประชาส่งมา ปู่ต้องช่วยเขานะ”
“เห็นหยิ่งนักไม่อยากรับความช่วยเหลือไม่ใช่หรือ ก็ให้เขาไปแจ้งความสิ ลูกพี่ไม่เห็นต้องไปตื่นเต้นด้วยเลย” ปิ้งบอก
“คิดหรือว่าจะเอาผิดประชาได้ง่ายๆ หลักฐานอะไรก็ไม่มี เข็มทำให้เขาเดือดร้อน เข็มต้องรับผิดชอบ ให้เขาอยู่ที่บ้านกับเราเถอะนะปู่”
“ไม่ได้ มันเป็นผู้ชายจะมาอยู่ร่วมบ้านกับเอ็งได้ยังไง”

จุมพลยืนตรงหน้าพวกคนงาน ปิ้งยืนข้างๆ
“ข้าจะแนะนำคนงานคนใหม่ให้รู้จัก” ชานนท์แต่งตัวแบบคนงานในแพปลา “มันชื่อไอ้นนท์ เป็นญาติห่างๆ ของข้าที่เพิ่งมาจากทางเหนือ มันจะมาฝึกงานชั่วคราว ข้าอนุญาตให้ใช้งานมันได้ทุกอย่าง ไม่ต้องเกรงใจข้า”
จุมพลพูดจบเดินขึ้นเรือไป ปิ้งมองชานนท์แบบไม่ค่อยชอบขี้หน้าชานนท์เท่าไหร่ ได้ทีแกล้งชานนท์ชี้ไปที่ลังปลา
“งั้นก็เอางานเบาะๆ ก่อนแล้วกันนะไอ้นนท์ โน่นไปแบกลังปลาขึ้นรถกระบะ ส่วนพวกแก ไปทำงานกันต่อ ให้เร็วๆ”

ทั้งหมดแยกย้าย ชานนท์มองไปที่ลังปลา

ชานนท์พยายามยกลังปลาแต่ยกไม่ขึ้น ปิ้งเดินกวนๆ เข้ามาดู
“อะไรกัน ของเบาๆ ยกไม่ขึ้น แบบนี้เขาเรียกว่าเลี้ยงเสียข้าวสุก” เขมิกาดันหัวปิ้ง ปิ้งตกใจหันไปโวยวาย “เฮ้ย ใครกล้าเล่นหัวพี่วะ เดี๋ยวปัด”
ปิ้งง้างหมัด เขมิกาชี้หน้าตัวเอง
“พี่เองน้อง”
ปิ้งหดมือกลับทันที
“ถ้าเป็นลูกพี่เข็ม จะลูบหัว เกาคอยังไงก็ได้จ้า”
เขิกามดึงปิ้งออกห่างๆ ชานนท์ ซุบซิบกับปิ้ง
“แกใช้นายชาเย็นทำแบบนี้ได้ยังไง เขาเป็นลูกเศรษฐี เป็นคุณหนูไฮโซ แบกหามของหนักอย่างนี้ พอดีหลังเดี้ยง”
ปิ้งซุบซิบกับเขมิกา
“ลูกพี่ก็ไปถามเถ้าแก่เองสิ เถ้าแก่เป็นคนสั่ง”
ชานนท์ยกลังปลาเดินเข้ามา
“ไม่ต้องถามหรอก งานแค่นี้ฉันทำได้”
ปิ้งกับเขมิกาตกใจรีบผละออกห่างกัน เขมิกาเห็นชานนท์ยกลังปลาท่าทางหนักมาก เขมิกาผลักปิ้งไปทางชานนท์
“ไอ้ปิ้งยืนเฉยทำไมไปช่วยคุณ เออ นายนนท์หน่อยสิ”
“ถ้าเธออยากช่วยฉัน อยู่เฉยๆ ดีกว่า”
ชานนท์ยกลังปลาไป ปิ้งยิ่งหมั่นไส้
“รัยวะ ไอ้พวกมีเงินมันเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดหรือไงเนี่ย ลูกพี่ไม่ต้องไปห่วงมันเลยนะ ไม่ต้องไปคอยง้อมันด้วย”
“ไม่เคยง้อโว้ย”
เขมิกามองชานนท์แบบห่วงๆ

ชานนท์ออกแรงฮึดยกลังปลาขึ้นท้ายกระบะ แต่ยกไม่ขึ้นต้องวางลง เขมิกายืนแอบมองอยู่ ชานนท์ยกอีกที คราวนี้ยกขึ้นแต่หมิ่นเหม่ ลังปลาหล่นลงมา ปลากับน้ำแข็งกระจายเกลื่อน ชานนท์รีบเก็บปลา เขมิกาทนไม่ไหววิ่งออกไปช่วยเก็บปลา ชานนท์เห็นเขมิการู้สึกอายจึงปัดมือเขมิกาออก
“บอกให้อยู่เฉยๆ ไง”
“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ ตอนอยู่บนเรือคุณก็ดูไม่โกรธฉันแล้วนี่ เราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ด้วยซ้ำไป”
“ฉันเป็นคนงานของเถ้าแก่ ช่วยเรียกฉันว่านนท์เฉยๆ ไม่ต้องเรียกว่าคุณ ปฏิบัติตัวต่อฉันเหมือนคนงานคนอื่นๆ”
“แต่ฉัน”
“เธออยากให้คนงานที่นี่รู้หรือไงว่าฉันเป็นเศรษฐีตกอับ ต้องมาแบกลังปลาทำงานแลกข้าวแลกน้ำ ชีวิตจนตรอก ไปไหนไม่รอด กลัวฉันอับอายไม่พอหรือไง”
“ฉันไม่ได้คิดจะทำให้คนดูถูกคุณ เออ ดูถูกนายนะ ฉันไม่ทันได้คิด”
ชานนท์นิ่งไม่พูดอีก ก้มหน้าก้มตาเก็บปลาใส่ลังน้ำแข็ง เขมิกาลุกยืน รู้สึกเห็นใจชานนท์มาก

จุมพลนั่งตรวจบัญชี เขมิกาเดินอาดๆ หน้าบูดบึ้งเข้ามา
“ปู่ ทำไมปู่ต้องให้เขาไปเป็นคนงานด้วย งานเราก็มีตั้งหลายหน้าที่ ทำบัญชี ตรวจสินค้า ทำการตลาด”
จุมพลทุบโต๊ะผาง เขมิกาสะดุ้ง ถอยห่างโต๊ะกลัวโดนเล่น
“แล้วเอ็งมายุ่งอะไรด้วย”
“ก็เข็ม” เขมิกานึกไม่ออกว่าทำไมต้องยุ่ง “เออ นั่นสิ ก็ๆ เข็มทำไม่ดีกับเขาไว้เยอะ ก็ไม่อยากเห็นเขาลำบาก”
“คุณชานนท์เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง มีคนรู้จักจำหน้าได้เยอะแยะ ให้ไปทำงานที่แพปลาน่ะดีแล้ว จะได้ไม่เป็นที่สงสัย”
“แต่เขาไม่เคยทำ”
“ถ้าอยากให้ปู่ช่วย ก็ต้องทำตามวิธีของปู่ ถ้าเขาทำไม่ได้ก็กลับกรุงเทพฯไป”
เขมิกาจ๋อย

ปรียานั่งเล่นที่โต๊ะสนามในสวนหน้าบ้านจุมพล โยธินมาหาเขมิกาเห็นปรียานั่งอยู่เลยเดินเข้าไปหา ปรียาเห็นโยธินเดินมา จึงรีบลุกหนี โยธินรีบวิ่งไปดักหน้าไว้
“ผมเพิ่งรู้จากเข็มว่าคุณไม่ได้กลับกรุงเทพฯแล้ว”
“ค่ะ”
ปรียาจะเดินต่อ โยธินดักหน้าไว้อีก
“ไม่ให้โอกาสผมได้ขอโทษบ้างเลยหรือครับ”
“คุณอธิบายกับคุณปู่แล้วนี่คะว่าแกล้งทำเป็นกะเทยเพราะต้องการช่วยคุณเข็ม ฉันก็เข้าใจแล้วค่ะ”
“แต่คุณยังโกรธผม ตั้งแต่วันที่ผมสารภาพความผิดกับปู่ คุณไม่พูดกับผมอีกเลย” ปรียาจะเดินหนี โยธินดึงแขนไว้ “เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วหรือ”
“เป็นได้ค่ะ แต่คงไม่เหมือนเดิม”

ปรียาเดินหนีเข้าบ้าน เขมิกายืนมองอยู่ที่ระเบียง

เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

ปรียานั่งซึมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ยังเสียใจเรื่องโยธิน เขมิกาหอบผ้าห่มเข้ามา

“ฉันเอาผ้าห่มมาให้ฮะ ผืนนี้หนาหน่อย เพราะที่นี่ตอนดึกๆ มันจะเย็นกว่าในกรุงเทพฯ”
ปรียาเดินมารับ
“ขอบคุณค่ะ”
ปรียาวางผ้าห่มบนเตียง
“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณต้องทุกข์ใจเรื่องคุณนนท์ แผนทั้งหมดเป็นความคิดของฉันคนเดียว รวมทั้งเรื่องที่เฮียโยหลอกคุณด้วย คุณโกรธฉันด่าฉันได้เลย แต่กรุณายกโทษให้เฮียด้วยเถอะ”
ปรียาหันมา
“ถามจริงๆ เถอะค่ะ คุณเข็มรักพี่นนท์หรือเปล่าคะ”
เขมิกาปากแข็ง
“รักเขาเนี่ยนะ นี่ฉันเล่นละครได้เก่งขนาดคุณเชื่อเลยหรือที่คุณเห็นฉันจี๋จ๋ากับเขา ฉันแกล้งทำทั้งนั้น ตามบทๆ”
ปรียาไม่เชื่อ ตั้งใจพูดกันเขมิกาแบบนิ่มๆ
“นั่นสินะ พี่สาวคุณยังไม่ตาย ถ้าคุณเกิดไปรักพี่เขยตัวเองก็เท่ากับว่าคุณแย่งสามีพี่สาว คุณคงไม่ทำแบบนั้นแน่ใช่มั้ยคะ”
เขมิกาอึ้ง ฝืนยิ้ม
“มันแน่อยู่แล้ว”

วันต่อมามณฑามาหาประชาเพื่อถามข่าวชานนท์
“ลูกน้องคุณตามหาคุณผู้ชายเจอหรือยัง”
ประชามีสีหน้าหนักใจ
“ไม่เจอมันทั้งคู่”
“ทางคุณหนูก็ไม่ได้รับการติดต่อจากคุณผู้ชายเหมือนกัน” อึ่งใส่เสื้อคอกว้างเซ็กซี่ เลิกใส่ชุดพนักงาน ถือกาแฟเดินเชิดๆ เข้ามา มณฑามองแบบดูถูก “ฉันกลับล่ะค่ะ เรื่องที่ฉันอยากรู้ช่วยส่งข่าวด้วยแล้วกัน”
มณฑาเดินไป อึ่งยกกาแฟให้ประชาตั้งใจก้มให้ประชาเห็นเนินอก อึ่งกระซิบแบบรู้กัน
“วันนี้คุณผู้ชายไม่เมื่อยตัวหรือคะ ฉันจะได้นวดให้อีก”
ประชายิ้มๆ
“ก็ดี ไปล็อกประตูให้ก่อนสิ”
อึ่งกระดี๊กระด๊า รีบไปที่ประตู

แววนิลมาที่ห้องปรียาเพราะคิดถึงเพื่อน และนึกถึงวันที่ปรียาจะไปตามชานนท์
ปรียาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้ แววนิลยืนมองมีไม้เท้าพยุงตัว
“เธอจะไปไหน”
“เราไม่เชื่อว่าพี่นนท์ตาย เราจะไปตามหาพี่นนท์”
“ฉันไปด้วย”
มณฑาเดินเข้ามา
“ไปไม่ได้ค่ะ” มณฑามองปรียา “บ้านนี้ไม่ใช่โรงแรมที่คุณจะเข้าออกยังไงก็ได้ หรือคิดอยากจะกลับเข้ามาอยู่อีกก็ได้นะคะ”
“นม”
“เราไม่เหมือนก่อนแล้วนะคะคุณหนู ลำพังเลี้ยงคนในบ้านยังต้องระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น ภาระบางอย่าง” มณฑาเหลือบมองปรียา “ตัดไปบ้างก็ควรตัดค่ะ”
ปรียารู้ตัวว่าโดนไล่
“เราไปนะนิล แล้วจะกลับมาขนของที่เหลือทีหลัง”
ปรียาเดินออกไป แววนิลไม่พอใจมณฑา
“นมพูดเกินไป ปรียาคือเพื่อนรักของนิลนะ เรื่องไรไปไล่เขาคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านนี้หรือยังไง”
“เรามีแต่ค่าใช้จ่าย รายได้จากสปาก็ถูกทอนลงไปเพราะเหลือหุ้นอยู่แค่ไม่กี่เปอร์เซ็น นมต้องห่วงคุณหนูก่อนคนอื่นค่ะ คุณหนูจะด่านม โกรธนม นมก็ต้องยอม”
แววนิลโมโหจนร้องไห้ออกมา
“ถ้าพี่นนท์ยังอยู่ก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอก”
มณฑากอดแววนิล โกหก
“นมจ้างคนไปตามหาคุณผู้ชายอยู่ แต่ถ้าเราหาไม่พบจริงๆ คุณหนูก็ต้องยอมรับความจริงนะคะ เราจะได้จัดงานศพเพื่อให้คุณผู้ชายไปสู่สุคติ”
ปัจจุบัน มือถือแววนิลดัง ปรียาโทรมา แววนิลดีใจรีบรับสายตัดพ้อ
“ปรียา ทำไมเงียบหายไปเลย เจอพี่ชายฉันมั้ย”
ปรียามองหน้าชานนท์ที่ยืนฟังอยู่ ชานนท์พยักหน้าให้ปรียาพูดโกหก
“พี่นนท์อาจตายไปแล้วนิล เราหายังไงก็หาไม่เจอ แม้แต่ศพ”
แววนิลเสียใจทรุดนั่งที่เตียงของปรียา มือยังถือโทรศัพท์อยู่

“เมื่อไหร่เธอจะกลับมา ฉันเหลือเธอคนเดียวแล้วนะปรียา ฉันคิดถึงเธอ คิดถึงพี่นนท์” แววนิลสะอึกสะอื้น “เธอรู้มั้ยที่นี่เกิดอะไรขึ้น ไอ้ประชามันยึดจวงจันทร์สปาไปแล้ว”

ชานนท์รีบเร่งเก็บเสื้อผ้า2-3ตัวใส่กระเป๋า รูดซิป ปรียาวิ่งเข้ามา
“พี่นนท์รอปรียาก่อนได้มั้ยคะ ปรียาขอกลับไปหานิลด้วย”
“ประชากำลังตามล่าตัวพี่ พี่ไม่อยากให้เธอไปเสี่ยงด้วย รอพี่อยู่ที่นี่ แล้วพี่จะติดต่อกลับมา”
ชานนท์รีบผลุนผลันออกไป ปรียาร้องเรียก
“พี่นนท์”

ชานนท์ตรงดิ่งมาที่รถกระบะ ลองเปิดประตู ประตูไม่ได้ล็อค ชานนท์กำลังจะเข้านั่งในรถ ปิ้งวิ่งมาชี้หน้า
“เฮ้ยๆ ไอ้นนท์ ขโมยรถเถ้าแก่หรือ ลงมา”
“ฉันกำลังรีบ ไม่มีเวลาขอยืมเถ้าแก่ ฝากบอกเถ้าแก่ด้วยว่าเสร็จธุระแล้ว ฉันจะขับมาคืนด้วยตัวเอง”
ชานนท์จะเข้ารถ โดนปิ้งคว้าคอเสื้อไว้
“เอาไปไม่ได้นะโว้ย รถคันนี้ฉันใช้งานอยู่”
ชานนท์ลืมตัวผลักอกปิ้ง เซไป แล้วรีบปิดประตูขับรถออกไปอย่างเร็ว ปรียาวิ่งมาร้องเรียก
“พี่นนท์ๆ”
เขมิกาขี่มอเตอร์ไซด์วิ่งมาจอดข้างปิ้งกับปรียา
“เกิดอะไรขึ้น นั่นเขาจะไปไหน”
ปรียาห่วงชานนท์
“คุณประชายึดสปาของพี่นนท์ไปแล้วค่ะ พอพี่นนท์รู้ก็จะกลับกรุงเทพฯไปแก้แค้น”
เขมิกาตกใจเป็นห่วงชานนท์ ซิ่งมอเตอร์ไซด์ตาม

เขมิกาซิ่งรถตามชานนท์ บีบแตรให้ชานนท์จอดรถ ชานนท์มองกระจกหลังรู้ว่าเขมิกาตามมาจึงเร่งเครื่องหนี เขมิกาพยายามซิ่งให้ทันรถชานนท์ รถมอเตอร์ไซด์เทียบขึ้นมาด้านข้าง เขมิกาตะโกน
“จอดรถลงมาคุยกันก่อน”
ชานนท์ตะโกนกลับ
“เธอกลับไปซะ ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่ยายของฉัน พ่อของฉันสร้างมาด้วยความยากลำบากตกไปอยู่ในมือคนชั่วเด็ดขาด”
เขมิกาคิดๆ เจ้าเล่ห์ แกล้งส่ายแฮนด์ไปมา
“เฮ้ยๆ แฮนด์เป็นอะไร ทำไมบังคับไม่ได้” เขมิกาแกล้งเบี่ยงมอเตอร์ไซด์ไปริมทาง ชานนท์มองตกใจ เขมิกาแกล้งทำเป็นมอเตอร์ไซด์ล้มข้างทาง “โอ๊ย”
ชานนท์ห่วงเขมิกา รีบชะลอความเร็วเข้าจอดข้างทางอีกฟาก

เขมิกาแกล้งนั่งเจ็บ
“โอ๊ย! ขาหักหรือเปล่าก็ไม่รู้”
ชานนท์วิ่งเข้ามาประคองเขมิกา ชานนท์โมโหดุใส่
“ทำไมชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก เห็นมั้ยเจ็บตัวจนได้”
เขมิกายิ้มยียวน
“แล้วที่วิ่งหน้าตั้งมาดูคนขี่มอไซด์ล้ม ไม่เรียกว่าชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านหรือไงฮะ”
“เพราะฉันเป็นคนมีมนุษยธรรม”
“ฉันก็มีเหมือนกัน ถึงได้พยายามห้ามไม่ให้คุณไปตาย”
ชานนท์จะอุ้มเขมิกา
“ฉันจะพาเธอไปหาหมอ”
เขมิกาดันชานนท์ออก แล้วลุกยืน
“ไม่ต้องฉันหายแล้ว”
ชานนท์มองงง ไม่พอใจ
“นี่เธอยังไม่เลิกนิสัยชอบหลอกคนอีกหรือ ฉันไม่น่าหลงกลเธอเลย”
ชานนท์จะไป เขมิกาวิ่งไปขวางหน้า
“คุณสะกดคำว่าใจเย็นไม่เป็นหรือไง รอให้มันตายใจว่าคุณตายจริง แล้วค่อยกลับไปค้นหาหลักฐานเล่นงานมันตอนที่มันไม่ทันระวังตัว ไม่เวิร์คกว่าหรือ”
“ถ้ากิจการแพปลาของปู่เธอโดนนักเลงมันยึดไป เธอจะใจเย็นอยู่ได้หรือเปล่า”
“ฉันก็จะยิงมันให้กระจุย ตาต่อตาฟันต่อฟัน เพราะฉันถูกเลี้ยงมาอย่างนักเลง ฉันก็คิดของฉันได้แค่นี้ แต่คุณมันไม่เหมือนกัน คุณเป็นนักเรียนนอก เป็นนักธุรกิจ เป็นนักบริหาร คุณต้องคิดแก้ปัญหาได้เก่งกว่าฉันสิ หรือว่าคุณอยากใช้กำลังมากกว่าใช้สมอง ก็ไปเลย ฉันจะไม่ห้าม” เขมิกาดึงปืนออกมาจากเอว วางบนมือชานนท์ “ตอนนี้ฉันต้องพกมันไว้เพื่อป้องกันตัวจากไอ้พวกเสี่ยเม้งฉันให้คุณยืม”
เขมิกาเดินไปยกรถขึ้น ชานนท์มองปืนคิดตามแล้วเดินไปหาเขมิกาส่งปืนคืน เขมิกามองหน้าชานนท์
“เธอพูดถูก ฉันไม่ใช่นักเลง ปืนนี่คงไม่เหมาะกับฉัน”

เขมิการับคืนไป ยิ้มพอใจที่ชานนท์คิดได้


ชานนท์ขับรถกลับเข้าแพปลา เขมิกาขี่มอเตอร์ไซด์ตามหลัง ปรียายืนรออยู่ ร้องดีใจ

“พี่นนท์กลับมาแล้ว” ปรียาวิ่งไปหา ชานนท์ลงจากรถ ปรียากอดชานนท์ “พี่นนท์อย่ากลับไปเลยนะคะ ปรียากลัวพี่นนท์โดนคนเลวมันทำร้ายเอา”
เขมิกายังนั่งบนรถมอเตอร์ไซด์ มองอย่างหึงๆ
“นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย เข้างานสายระวังเพื่อนคนงานจะเหม็นขี้หน้าเอา คิดว่าคุณมีอภิสิทธิ์”
ชานนท์ดันปรียาออก
“พี่ไปทำงานนะ ปรียากลับบ้านไปก่อนนะจ๊ะ”
ชานนท์เดินไปที่เรือประมง มือถือเขมิกาดัง เขมิการับสาย
“ว่าไงเฮีย” เขมิกาฟังแล้วมองปรียา “คุณปรียานะหรือ”
ปรียาเดาได้ทันที
“อย่าบอกนะคะว่าฉันอยู่นี่”
ปรียารีบเดินไปทางเรือประมง
“คุณปรียาไม่ให้เข็มบอกเฮียว่าอยู่ที่นี่  สงสัยยังเหม็นขี้หน้าเฮียอยู่”
เขมิกามองไปทางปรียา
 
ปิ้งกำลังยืนคุมคนงานคัดปลาที่กองอยู่บนพื้นเรือใส่ตะกร้าพลาสติก ชานนท์เดินขึ้นเรือมา ปิ้งไม่พอใจพูดลอยๆ
“นึกว่าไปแล้วจะไปลับ ที่แท้ก็ไปไหนไม่รอด”
ชานนท์เดินมาหาปิ้ง
“วันนี้งานของฉันมีอะไรบ้าง”
ปิ้งคิดแกล้งชานนท์ สั่งพวกคนงาน
“พวกแกหยุดมือก่อน ไอ้คุณนนท์ใจดี อาสาทำงานแทนพวกแกทุกคน ใครอยากไปไหนก็ไปเลย”
พวกคนงานชอบใจ รีบวางงาน พากันเดินออกจากเรือ ชานนท์มองกองปลากองใหญ่
“ฉันต้องทำทั้งหมดนี้หรือ”
ปิ้งยิ้มกวนประสาท
“เกรงใจ ก็เลยจัดให้แค่เล็กน้อย แต่ถ้าไม่พอ พี่ช่วยเติมให้อีก” ปิ้งยกตะกร้าที่คัดปลาใส่ไว้แล้ว เทรวมกอง
“เครปะ”
            ปิ้งเดินกวนๆ ไปทางท้ายเรือ ชานนท์นั่งยองจะหยิบปลาใส่ตะกร้าแต่มีมือผู้หญิงยื่นมาหยิบไปก่อน
“ปรียาช่วยเองค่ะ”
“พี่บอกให้กลับบ้านไป ทำไมไม่กลับ”
“กลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไรนี่คะ แต่อยู่นี่ยังช่วยพี่นนท์ทำงานได้”
ชานนท์ดึงปลาจากมือปรียา
“พี่ไม่ได้ต้องการคนช่วย เธอกลับไปเถอะ” ชานนท์ก้มหน้าก้มตาคัดปลา ปรียายังดื้อลุกยืน เดินไปลากตะกร้าเปล่ามาไว้ข้างตัวแล้วนั่งลงยองๆ  “ปรียา ไม่ได้ยินที่พี่บอกหรือ”
“ได้ยินค่ะ แต่อยากช่วย” ปรียาดื้อจับปลาตัวที่ยังไม่ตาย ปลาดิ้นดีดตัวลอยข้ามหัวปรียาตกลงพื้นใกล้กับถังน้ำมันเครื่อง ชานนท์ถอนใจจะลุกไปเก็บปลา “พี่นนท์ไม่ต้อง ปรียาทำเองค่ะ”
ปรียารีบวิ่งไปที่ปลา ปลานอนนิ่ง ปรียาจับขึ้นมาได้  แต่ปลาดีดตัวใส่หน้าปรียา  ปรียาตกใจร้องกรี๊ดหงายหลังลื่นล้มไปชนถังน้ำมันเครื่อง ถังน้ำมันเครื่องล้ม น้ำมันสีดำจำนวนมากไหลไปทางกองปลา ชานนท์ลุกยืน ตกใจ เขมิกา โยธินเข้ามาที่เรือพอดี  เขมิกาตกใจ  น้ำมันเครื่องไหลมาถึงกองปลาแล้ว ปิ้งวิ่งมาจากหัวเรือเห็นน้ำมันก็ตกใจ          
“มาช่วยกันก่อน เร็วเข้าเอาปลาที่เหลือใส่ตะกร้าให้ทัน”
เขมิกาบอกแล้วรีบเข้าไปช่วยชานนท์ ปิ้งตะโกนเรียกคนงาน
“ไอ้สิง ไอ้เผือก ไอ้เภา มาช่วยทางนี้หน่อยโว้ย”
พวกคนงานอีก 3 คนรีบวิ่งมา
“ปิ้ง! หากระสอบมากั้นๆ ไว้ อย่าให้ไหลลงมาอีก”
ปิ้งรีบวิ่งไปหากระสอบ โยธินเห็นปรียานั่งเจ็บข้อศอกเลือดซึม โยธินรีบเข้าไปประคองปรียา 
“ผมจะพาไปทำแผล”

ปรียารู้สึกตกใจมาก มองหน้าโยธิน

เขมิกา ชานนท์ ปิ้ง  คนงาน ช่วยกันเก็บปลาใส่ตะกร้าอย่างเร่งรีบ

“เร่งมืออีก เร่งมืออีก”
ชานนท์โกยปลาด้านบนอย่างเร็วโดยไม่กลัวโดนบาดมือ ปิ้งมองปลาในมือเปื้อนเป็นสีดำ
“ไม่ทันแล้วลูกพี่ ปลานอนหมดแล้ว คงได้ปลาเป็นแค่นี้แหละอวนนี้ขาดทุนป่นปี้” ปิ้งมองชานนท์ “ปลามีสารพิษใครจะรับซื้อ”
ชานนท์หน้าสลด
“ฉันไม่ดีเอง อยากให้รับผิดชอบยังไงก็ได้ทั้งนั้น”
“จ่ายไหวหรือ ปลาทั้งหมดราคาตั้งเท่าไหร่ ไปให้เถ้าแก่เป็นคนลงโทษดีกว่ามั้ง”
“ปู่ไม่อยู่ไปประมูลงานที่โคราชหลายวัน ฉันตัดสินเอง” เขมิกาพูดกับชานนท์ “นายต้องขนปลาไปทิ้งคนเดียว แล้วกลับมาล้างเรือให้สะอาด  คนอื่นห้ามช่วย”
ปิ้งไม่พอใจ
“ไรกันลูกพี่ ลงโทษแค่เนี่ย หน่อมแน้มจุงเบย”
“ทำสัญญาว่าฉันเป็นหนี้เถ้าแก่ แล้วหักเงินเดือนฉันทุกสิ้นเดือนจนกว่าจะหมดหนี้”
ชานนท์สั่งเขมิกา เขมิกาแกล้งโมโหทำเป็นขึงขังต่อหน้าคนงาน
“นายเป็นหัวหน้าฉันหรือ ถึงจะมาสั่งฉันให้ทำนั่นทำนี่ฉันว่ายังไงก็ตามนั้น อย่ามากวนอารมณ์ให้ขุ่นแต่เช้าเดี๋ยวเจ็บ”
เขมิกาเดินไป ปิ้งมองชานนท์แบบขัดใจ
 
ปิ้ง คนงาน ช่วยกันยกตะกร้าปลาที่ไม่โดนน้ำมันขึ้นท้ายรถกระบะ ชานนท์แบกตะกร้าปลาที่โดนน้ำมันไปทิ้ง  เดินผ่านกลุ่มปิ้ง ปิ้งมองหมั่นไส้  พูดกัดเสียงดัง
“มาละโว้ยเด็กเส้น ทำผิดก็แค่โดนเล่นนิดๆ หน่อยพอเป็นน้ำจิ้ม ลองถ้าเป็นฉันหรือพวกแก คงโดนเถ้าแก่จับมัดตากแดดเป็นปลาหมึกแดดเดียวไปแล้ว” 
ชานนท์รู้สึกไม่ค่อยดีวางตะกร้า เดินอาดๆ ไปหาปิ้ง คนงานคนอื่นไม่อยากมีเรื่องด้วยพากันถอยไปห่างๆ ชานนท์พูดตรงๆ กับปิ้ง
“ฉันไม่ใช่เด็กเส้น แต่ต้องการมาทำงานเป็นคนงานเหมือนทุกคน ถ้านายไม่พอใจอะไรฉัน ก็พูดมาซึ่งๆ หน้าได้เลย”
“โหย นักเลงซะด้วย ผมไม่กล้าหือกับท่านหรอกครับ ท่านนักธุรกิจหญ่ายยย” ปิ้งลากเสียง เขมิกาเดินเข้ามาได้ยินรีบห้ามปิ้งพูด
“ไอ้ปิ้งหยุดพล่ามเรื่องไร้สาระได้แล้ว ตามฉันมานี่”
เขมิกาดึงคอเสื้อปิ้งให้เดินตามไป   ปิ้งโวยวาย
“โอ๊ยๆๆ ลูกพี่ เบาๆๆ เจ็บ”
 
เขมิกาพาปิ้งมาด่าที่ชายหาด
“จำที่ปู่สั่งไม่ได้หรือ ว่าอย่าปากสว่างให้คนรู้ประวัติของนายชาเย็น”
ปิ้งยิ่งหมั่นไส้ชานนท์
“ฉันไม่เข้าใจ มันสำคัญอะไรนักหนา ทำไมลูกพี่ต้องคอยให้ท้ายมัน ถ้าเป็นฉันสร้างปัญหาแบบวันนี้คงโดนจัดเต็ม”
“จะเอามาเปรียบเทียบกันได้ยังไง นายชาเย็นเขาไม่เคยลุยงานหนักๆ อย่างเรา เราต้องสอนเขา ให้เวลาเขาปรับตัวบ้าง”
“พูดไปพูดมาลูกพี่ก็เข้าข้างมันอยู่ดี  ทำอย่างกับมันเป็นแฟน”
 เขมิกาโมโห เบิ๊ดกะโหลกปิ้ง
“ไอ้ปิ้ง แกเอาอวัยวะส่วนไหนคิดฮึ สมองหรือตาตุ่ม” 
ปิ้งโมโหน้อยใจ
“ลูกพี่เปลี่ยนไป ลูกพี่ต้องเข้าข้างฉันถึงจะถูก ไม่ใช่เข้าข้างไอ้หน้าหยิ่งนั่นแล้วมาด่าฉันอย่างนี้” 
ปิ้งเดินฮึดฮัดไป เขมิกางงปิ้งมาก
 
โยธินเทน้ำยาล้างแผลใส่สำลี หันไปหาปรียา ปรียานั่งซึม
“ยื่นแขนมาสิครับ ผมจะล้างแผลให้”
ปรียายังเคืองอยู่เรื่องที่โยธินหลอกเป็นกะเทย
“คุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันทำเองได้”
“ผมต้องแน่ใจก่อนว่าคุณจะไม่ย้อนกลับไปที่แพปลาอีก ที่นั่นไม่ใช่ที่ๆ ผู้หญิงควรไป”
ปรียาน้อยเนื้อต่ำใจลุกยืน
“ไม่ใช่เพราะฉันเป็นผู้หญิงหรอก คุณจะบอกว่าเพราะฉันไม่เอาไหน สู้ผู้หญิงอย่างคุณเข็มไม่ได้  เขาเก่ง เขาลุย
ไม่เหมือนฉันดีแต่ก่อเรื่องจนวุ่นวายไปหมด”
ปรียาอัดอั้นร้องไห้ออกมา โยธินตกใจ
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น แล้วก็อย่าไปเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น คุณเป็นกุลสตรีที่นุ่มนวลอ่อนโยน เป็นสิ่งที่ผู้หญิงห้าวอย่างเข็มก็ทำตามไม่ได้เหมือนกัน”
ปรียารู้สึกดีขึ้น
“คุณพูดถูก ทำไมคำพูดคุณทำให้ฉันรู้สึกสบายใจได้ทุกที”
“งั้นก็ยอมให้ผมทำแผลได้แล้วใช่มั้ยครับ”
ปรียายอมยื่นแขนให้โยธินทำแผล โยธินยิ้มล้างแผลที่ข้อศอกให้
“ฉันทำให้พี่นนท์เดือดร้อน ไม่รู้ว่าพี่นนท์จะโดนอะไรบ้าง”
โยธินชะงักที่ปรียาเอาแต่ห่วงชานนท์
“เข็มอยู่ทั้งคนไม่ต้องห่วงหรอกครับ”

ปรียายังกังวลใจ

เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

วันต่อมา เขมิกาส่งปิ่นโตให้แม่ค้าที่ดูคุ้นเคยกันมาก

“วันนี้ลงทุนมาซื้อเองเลยหรือคุณเข็ม ทุกทีมันหน้าที่ไอ้ปิ้งนี่”
“ก็คนมันคิดถึงเจ๊ เลยต้องมาเอง”
“ต๊ายปากหวาน แบบนี้ต้องมีแถม เอาอะไรบ้างล่ะ”
“อะไรก็ได้ที่ไม่เผ็ด และต้องอร่อยๆ เอานี่แล้วกัน”
เข็มชี้กับข้าวให้แม่ค้าตัก

คนงานกำลังยกตะกร้าปลาเข้าโกดัง ปิ้งยืนที่โต๊ะวางอาหาร เป็นโต๊ะง่ายๆ แบบบุฟเฟ่ไม่ต้องปูผ้าใดๆ มีข้าวเปล่าหม้อใหญ่ กับลาบคอหมูย่าง ให้ตักกันเอง ปิ้งถือจานใส่กับข้าวใช้ช้อนเคาะเรียกคนงาน
“วางงานไว้ก่อน ได้เวลาข้าวเที่ยงแล้วโว้ย ใครช้าอด”
คนงานรีบเดินมาเข้าคิว ตักข้าวตักลาบกันเอง ชานนท์มายืนต่อแถวเป็นคนสุดท้าย
ชานนท์ถือจานข้าวเดินมานั่งกินคนเดียว ชานนท์เขี่ยอาหารแบบไม่กล้ากินเพราะดูเผ็ด ปิ้งนั่งกินข้าวอีกมุม มองจับผิดชานนท์ พอหันกลับมาจะตักข้าวเข้าปากก็ต้องอ้าปากค้างไว้เหมือนเห็นใครเดินเข้ามา
เขมิกาเดินหิ้วปิ่นโต ยกปิ่นโตขึ้นมองแล้วยิ้มสดใสตั้งใจเอาไปให้ชานนท์เต็มที่
เขมิกาเดินหิ้วปิ่นโตเข้ามาหน้าโกดัง พอมองเข้าไปก็ชะงัก รู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นปรียากำลังจัดวางอาหารที่หุ้มพลาสติกมาอย่างดี 3 อย่าง ดูราคาแพงให้ชานนท์
“อาหารพวกนี้มาจากร้านอร่อยที่สุดในย่านนี้นะคะ ปรียารบกวนคุณโยช่วยพาไปซื้อ” ปรียายื่นช้อนกับส้อมให้ชานนท์ “ใช้ช้อนนี่ดีกว่านะคะ สะอาดกว่า”
ชานนท์ยื่นมือไปรับ แล้วค้างเพราะเห็นเขมิกายืนอยู่หน้าโกดัง ปรียาหันตาม เขมิการีบเอาปิ่นโตซ่อนด้านหลังไม่อยากให้ปรียาเห็นว่าไปซื้อมาให้ เขมิกาเดินเข้ามา ฝืนยิ้มแย้ม
“ไม่คิดว่าคุณปรียาก็มาร่วมวงกินข้าวกับเขาด้วย”
“ปรียาเอาอาหารมาให้พี่นนท์ค่ะ พี่นนท์ทานเผ็ดไม่ค่อยได้”
เขมิกาหมั่นไส้ประชดชานนท์
“อ๋อ กินของยาก ว่างั้นเหอะ”
ปิ้งเห็นปิ่นโตที่เขมิกาถือมา
“แล้วลูกพี่เอาข้าวมาให้ใคร หรือว่า...” ปิ้งมองชานนท์ เขมิกาอึกอัก
“ก็เอากับข้าวมาเพิ่มให้พวกเราไง หรือว่าไม่เอา จะได้เอากลับ”
ปิ้งรีบเข้าไปดึงปิ่นโต
“เอาๆ สิพี่ ของฟรีชอบอยู่แล้ว” ปิ้งมองชานนท์ “แต่รายนั้นคงไม่ต้องเพราะมีอาหารอย่างดีจากเหลา คงไม่อยากลดตัวมากินของระดับเดียวกับพวกเรา”
ปิ้งมองไปที่คนงาน คนงานมองชานนท์เป็นจุดเดียว ชานนท์อยากพิสูจน์ตัวเองจึงลุกยืน
“ปรียาเอาอาหารพวกนี้กลับไปเถอะ พี่มีของพี่แล้ว”
ปรียามองข้าวราดลาบหมูของชานนท์
“อาหารแบบนี้หรือคะ อย่ากินเลยค่ะ ทำมาสะอาดหรือเปล่าก็ไม่รู้”
เขมิกาชักไม่พอใจ
“ถึงอาหารที่นี่จะดูง่ายๆ ไม่หรูหราอะไร แต่รับรองแม่ครัวฉันทำสะอาดถูกหลักอนามัย”
“พี่กินได้”
ชานนท์พูดกับปรียาแล้วยกจานลาบหมูขึ้นกินให้ทุกคนเห็น ชานนท์เผ็ดมากแต่พยายามอดทนไม่ให้ใครรู้
ปิ้งมองเบะปากหมั่นไส้ เขมิกามองรู้ว่าชานนท์เผ็ดมาก
ชานนท์วางจานที่กินจนเรียบในกะละมังใส่จานที่กินเสร็จแล้วท่าทางเผ็ดมาก เขมิกาถือแก้วน้ำกำลังจะเดินไปให้ชานนท์ แต่ไม่ทันปรียา ปรียายื่นน้ำให้ชานนท์ก่อน เขมิกาหยุดชะงักไม่เดินเข้าไป ชานนท์รับแก้วน้ำจากปรียามาดื่มอักๆ ปรียาเหลือบมองมาเห็นเขมิกา เขมิกาทำเป็นมองโน่นนี่ไม่รู้ไม่ชี้ ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเอง

เช้าวันรุ่งขึ้น ปิ้งกับคนงานช่วยกันแบกน้ำแข็งเกล็ดขึ้นเรือ เขมิกาเดินเข้ามา มองหา ไม่เห็นชานนท์ ปิ้งที่แบกน้ำแข็งเกล็ดอยู่หันมา
“ไม่ต้องมองหาหรอกลูกพี่ ลูกจ้างเทวดาของลูกพี่มันยังไม่โผล่หัวมาเลย ฉันก็ว่าแล้วพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ”
ปิ้งเดินขึ้นเรือไป เขมิกาชักไม่พอใจจะกดโทรศัพท์หาชานนท์ แต่นึกขึ้นได้
“ลืมไป ว่าอีตาชาเย็นไม่มีมือถือ”

เขมิกาเดินมาที่บ้านแพลอยน้ำซึ่งเป็นที่พักของชานนท์แบบไม่พอใจ เขมิกายืนเท้าเอวหน้าบ้าน
“คุณชานนท์ ออกมาคุยกันหน่อย” เงียบไม่มีเสียงตอบ เขมิกาตะโกนเสียงดังขึ้น “นายชาเย็นได้ยินมั้ย ฉันบอกให้ออกมาคุยกันหน่อย” เขมิกาโมโห ดันประตูเข้าไปเลย “สายโด่งป่านนี้ยังไม่ตื่น ความรับผิดชอบน่ะมีบ้างมั้ย” เขมิกาหยุดกึก เมื่อเห็นชานนท์นอนขดตัวกุมท้องบิดไปบิดมา เขมิกาตกใจรีบเข้าไปจับตัวชานนท์ “คุณเป็นอะไร ไม่สบายหรือ”
ชานนท์หันมาหน้าซีด
“ฉันปวดท้อง”
เขมิกาคิดออกทันที
“ไอ้ลาบเมื่อวานแน่ ก็รู้ตัวว่ากินของเผ็ดไม่เก่ง ยังจะฝืนกินทำไมเล่า คิดจะพิสูจน์ตัวเองมีวิธีอื่นอีกเยอะแยะ”
ชานนท์ลุกขึ้นนั่ง
“บ่นพอหรือยัง”
เขมิกาอ้าปากค้างที่โดนชานนท์เบรก
“ไรนะ นี่คุณว่าฉันขี้บ่นหรือ ฉันพูดแค่นี้เนี่ยนะหาว่าบ่น”
“ฉันขอลาป่วยหนึ่งวัน พรุ่งนี้ไปทำงานจะเขียนใบลาให้”
เขมิกาตรงไปจับแขนชานนท์
“ไปให้หมอดูหน่อยดีกว่า ฉันพาไปเอง”
“น้ำใจเธอฉันขอบใจ แต่เธอรีบออกไปดีกว่า คนอื่นเห็นจะเข้าใจผิด อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่คนโสด ฉันไม่อยากมีปัญหากับแฟนเธอ”
เขมิกาหมั่นไส้ชานนท์
“คุณกลัวปรียาเข้าใจผิดมากกว่ามั้ง ทำไมคุณไม่ใจอ่อนรับรักเขาไปเลย เขาอุตส่าห์เสียสละเพื่อคุณตั้งมากมาย”
“เธอรู้ได้ไงว่าฉันไม่ใจอ่อน”

เขมิกาอึ้งไปเลย ปล่อยแขนชานนท์

โยธินนั่งรอปรียาอยู่ในห้องรับแขกบ้านจุมพล มองนาฬิกาข้อมือ ปิ้งเดินเข้ามา

“อ้าวคุณโย มาหาใคร”
“คุณปรี...” โยธินหลุดปากแล้วชะงัก “ก็มาหาเข็มนะสิถามได้”
“ไม่อยู่หรอก ไม่รู้ไปหาไอ้ลูกจ้างเทวดาหรือเปล่า”
“หมายถึงนายชาเย็นหรือ ทำไมไปเรียกเขาแบบนั้นละ”
“ก็มันชอบทำตัวเป็นลูกคุณหนู มาก็สาย ป่วยก็บ่อย ออเซาะลูกพี่ตลอด” ปิ้งรีบไปนั่งข้างโยธิน ยุส่ง “คุณโย อย่าหาว่าผมแส่เรื่องคุณโยเลยนะ รีบๆ แต่งงานกับพี่เข็มเร็วๆ เหอะ ขืนรอช้ามันจะไม่ดี”
“ไม่ดียังไง”
“ก็คือ”
ปิ้งยังไม่ทันตอบเสียงรถเครื่องดังเข้ามา
“สงสัยเข็มจะกลับมาแล้ว”
โยธินรีบเดินออก ปิ้งตาม

เขมิกาจอดรถ ปรียาลงจากรถ
“ขอบคุณนะคะ”
โยธินกับปิ้งเดินออกมา
“ไปไหนกันมาครับเนี่ย”
“พี่นนท์ปวดท้องค่ะ ปรียาก็เลยเอายาไปให้ เออ ขอตัวนะคะทุกคน ปรียาง่วงแล้ว”
ปรียายิ้มให้โยธินแล้วเดินเข้าบ้าน โยธินมองตามรู้สึกผิดหวังที่อดคุยกับปรียา ปิ้งรีบซักเขมิกา
“แล้วลูกพี่ล่ะไปหาไอ้ลูกจ้างเทวดาทำไม”
“ลูกน้องฉันไม่สบาย ฉันก็ต้องไปเยี่ยมตามมารยาท”
“แต่ลูกพี่น่าจะเกรงใจคุณโยบ้าง เขามารอตั้งนานแล้ว”
“เอ๊ะไอ้นี่ยังไง ปู่ไม่อยู่ ก็เลยทำหน้าที่แทนปู่ฉันหรือไง เฮียมีธุระอะไรกับเข็มหรือ” เขมิกาหันมาถามโยธิน
“แฟนกันก็ต้องมาหากันด้วยความคิดถึงสิลูกพี่ ไม่เห็นต้องมีธุระ” ปิ้งบอก
“ไอ้ปิ้ง ขืนสอดขึ้นมาอีกทีได้โดนเตะแน่”
“ไม่มีอะไรหรอกเข็ม เฮียก็แค่แวะมาหาตามปกติ นี่มืดแล้วเฮียกลับก่อนดีกว่า เข็มจะได้พักผ่อน เฮียไปนะ”
โยธินดูเซ็งๆ ที่ไม่ได้คุยกับปรียา
“ขับรถดีๆ นะเฮีย”
โยธินเดินไปที่รถ ปิ้งคิดว่าโยธินหึงเขมิกา
“เห็นมั้ย คุณโยเขาหึงแล้ว”
“ไม่ต้องบอก ฉันมีตา”
เขมิกาก็คิดว่าโยธินหึง รู้สึกปวดหัวเรื่องโยธินจึงเดินเข้าบ้าน ปิ้งนึกโมโหชานนท์
“ไอ้ลูกจ้างเทวดา ตั้งแต่แกเข้ามาอยู่ที่นี่ ทำเอาหมดความสุขกันไปหมด แบบนี้มันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”
ปิ้งคิดแผนแกล้งชานนท์

เช้าวันรุ่งขึ้น ประชาขับรถเข้ามาจอดบ้านชานนท์ ประชาลงจากรถ มองไปเห็นแป้นนั่งลับๆ ล่อๆ อยู่ใต้ต้นไม้
ที่ใต้ต้นไม้ แป้นวางโน้ตบุ๊กบนตัก พยายามเปิดเครื่อง แป้นกดมั่วไปมั่วมาจนหน้าจอคอมเปิด แป้นร้องดีใจ
“ได้แล้วโว้ย”
ประชาเดินเข้ามามอง เห็นจอคอมเป็นวอลเปเปอร์รูปเขมิกา
“ขวัญตา” ประชาพึมพำแล้วถามเสียงดัง “โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ของใคร”
แป้นสะดุ้งโหยง
“ว้าย คุณผู้จัดการ” แป้นรีบปิดฝาเครื่อง “เออ หนูซื้อมาเอง”
“ด้วยเงินเดือนคนใช้เนี่ยนะ”
แป้นรีบลุกยืน
“อ้าว คนใช้ไม่มีปัญญาซื้อหรือไงคุณ”
“ส่งมานี่”
“ก็มันของหนู”
ประชาเข้าไปแย่ง
“ฉันบอกให้เอามา”
ประชากระชากมาได้
“มันเป็นของคุณผู้หญิงๆ ให้หนูนะ เอาคืนมา”
แป้นเข้าไปแย่งคืนอีก ประชาไม่ปล่อย
“แกขโมยมาจากห้องขวัญตามากกว่า”
โย่งวิ่งเข้ามาช่วยแป้นดันประชาออก
“อย่ารังแกผู้หญิงซิวะ”
ประชาต่อยเปรี้ยง โย่งเซไปปากแตก ประชาชี้หน้า
“อย่ามาทำเหิมเกริมกับฉันไอ้ขี้ข้า รอให้ฉันเข้ามาครอบครองบ้านหลังนี้ก่อนเถอะ แกจะถูกเฉดหัวไปอยู่ข้างถนนเป็นคนแรก”
ประชาถือโน้ตบุ๊กเดินกลับไปที่รถ แป้นเดินไปหาโย่ง
“เป็นไงบ้าง”
โย่งส่ายหน้า
“แกขโมยโน้ตบุ๊กคุณผู้หญิงมาอย่างที่เขาว่าจริงหรือเปล่า”
แป้นสลดพยักหน้าหงึกๆ

ที่ห้องทำงานประชา ช่างคอมฯพยายามเปิดไฟล์ๆ หนึ่ง ประชากับอึ่งยืนลุ้นข้างๆ ช่างหันมาบอกประชา
“ไฟล์นี้ถูกล็อครหัสไว้ ถ้าจะเปิดก็ต้องรู้รหัสครับ”
“ลองเปิดอันอื่นดูไม่ได้หรือ เผื่อจะมีรูปเด็ดๆ ที่คาดไม่ถึง”
“ฉันดูแล้ว ขวัญตาไม่ได้โหลดรูปอะไรไว้เลย นอกจากไฟล์ที่ชื่อสลาตันอันนี้อันเดียว”
“ผมพอมีเพื่อนเป็นแฮกเกอร์ จะลองให้มันช่วยดูครับ”
“ถ้าเปิดได้ฉันจะให้รางวัลอย่างงาม”
ช่างคอมปิดฝาคอมแล้วเดินออกไป
“ผอ.อยากรู้อะไรหรือคะ”
“ขวัญตายังไม่ตาย ในโน้ตบุ๊กอาจมีเบาะแสให้ตามตัวมันเจอ”
“จริงหรือคะ แล้วถ้ามันไม่ตายกลับมาทวงสมบัติของคุณชานนท์ ผอ.จะทำยังไง”
“ฉันก็ต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่มันจะกลับมา” ประชาจับคางอึ่ง “ขอบใจนะที่เตือน”
อึ่งจับมือประชามากุม
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นไม่ได้หรือคะ”
“เธออยากได้อะไรล่ะ”
“ตั้งแต่คุณชานนท์ตายไป ก็ไม่มีคนจ้างทนายช่วยสู้คดีให้พ่อต่อ ฉันอยากให้ ผอ.ช่วยประกันพ่อออกมา”

ประชาคิดๆ

อึ่งเดินนับเงินที่ประชาให้ออกมา เยาว์มาดึงไป อึ่งหันขวับมาทางคนแย่งเงิน
“แกเอามาจากไหน”
อึ่งดึงเงินกลับไป
“เงินฉันสิแม่”
เยาว์มองไปทางห้องประชา
“คงไม่ใช่แบบที่พนักงานเขาลือกันหรอกนะว่าแกกับ...” อึ่งรีบแทรกขึ้น
“อย่าไปเชื่อพวกปากหอยปากปูนะแม่”
“ถ้าไม่จริงก็ดี แกต้องจำไว้นะผู้ชายคนนี้ยึดสปาไปจากคุณชานนท์ มันเป็นคนไม่ซื่อตรง”
“แหมแม่ มันเป็นเรื่องของการแข่งขันทางธุรกิจ แม่ก็อย่าไปยึดติดกับความเป็นลูกน้องที่จงรักภักดีหน่อยเลย”
“แต่คุณชานนท์ดีกับเราคอยช่วยพ่อแก”
“ผอ.ประชาก็ดีเหมือนกัน เขาจะช่วยพ่อออกจากคุก”
“ฉันไม่เชื่อคำพูดของคนๆ นี้”
“งั้นแม่ก็คอยดูไป”
อึ่งเดินเชิดๆ ไป เยาว์กลุ้มใจกับอึ่ง

ปิ้งยืนที่โต๊ะกลมเล็กๆ มุมห้องรับแขก กำลังแอบใช้มือถือของเขมิกาพิมพ์ข้อความไปหาโยธิน เขมิกาเดินออกมา ปิ้งตกใจรีบวางมือถือบนโต๊ะข้างแจกันแบบเฉียดฉิว เขมิกาไม่ทันเห็น ปิ้งรีบบอกเขมิกาเสียงตื่นเต้น
“ลูกพี่ทำไมออกมาช้านักเล่า ฉันรออยู่ตั้งหลายนาที”
“อะไรอีกเล่า ถ้าจะคุยเรื่องนายชาเย็นเอาไว้รอให้ปู่กลับมาก่อน อยากจะฟ้องอะไรก็ฟ้องไปเลย”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น ระบบความเย็นในห้องแช่แข็งมันเสีย ฉันอยากให้ลูกพี่ไปช่วยดูหน่อย” เขมิกาตกใจ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่ตอนบ่ายๆ”
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอก แกนี่จริงๆ เลย”
เขมิกาหลงเชื่อรีบร้อนออกไป ปิ้งมองซ้ายมองขวาท่าทางมีพิรุธ แล้วเดินเข้าด้านในของบ้าน

ห้องแช่แข็งปลาในโกดัง เขมิกาตรวจดูระบบความเย็นที่เครื่อง
“ก็เย็นเป็นปกติดีนี่ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร”
เขมิการู้สึกงงที่ปิ้งบอกว่าเสีย ดึงโทรศัพท์ออกมากดหาปิ้ง แต่ปิ้งไม่รับสาย
“เข็มๆ”
เสียงโยธินดังเข้ามา เขมิการีบออกจากห้องแช่แข็ง
โยธินหิ้วถุงใส่กระป๋องเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวหลายอย่าง ยืนมองหาเขมิกา
“เข็ม อยู่หรือเปล่า”
เขมิกาเดินตรงมาทางโยธิน โยธินหันหลังอยู่
“เฮียโยมาทำอะไรที่นี่”
โยธินหันมาทางเขมิกา
“อ้าว อย่ามามุกใส่เฮีย ก็เข็มเรียกเฮียมาไม่ใช่หรือ บอกให้เฮียซื้อเครื่องดื่ม ขนมมาด้วย เพราะเข็มหิวคงต้อง
ทำงานจนดึก”
“เฮ้ย เข็มไปบอกเฮียตอนไหนกัน”
“ก็นี่ไง” เขมิกาเปิดมือถือให้ดู “เข็มส่งข้อความมาหาเฮีย”
เขมิกาอ่านข้อความแล้วตกใจ
“เปล่านะเฮีย เข็มไม่ได้เป็นคนส่ง”
เสียงประตูโกดังปิดดังปัง! ทั้งคู่มองหน้ากันแล้ววิ่งไปดูที่ประตูไม้ โยธินลองเปิดประตูแต่ผลักไม่ออก ด้านนอกประตูถูกกุญแจล็อกไว้

ที่ห้องครัวบ้านจุมพล ปรียากำลังจัดปิ่นโตมื้อเย็นเตรียมเอาไปให้ชานนท์ จู่ๆ ไฟฟ้าดับทั้งหลัง ปรียาหวาดกลัวมาก เดินคลำทางไปที่โต๊ะ ควานหามือถือ หยิบขึ้นมากดหาคนงานที่กระชัง
“นายเผือก ฉันปรียานะ นายช่วยไปตามแฟนฉันให้ทีได้มั้ย ฉันกำลังเดือดร้อน”
ชานนท์ส่องไฟกำลังเปิดแผงไฟ ปรียายืนดูอยู่ใกล้ๆ
“ปรียาไปได้เบอร์นายเผือกมายังไง”
“ตอนไปเยี่ยมพี่นนท์ค่ะ ปรียาเห็นเขาพักแถวกระชังปลาเหมือนกัน”
ชานนท์มองคัตเอ้าท์ที่ปิดอยู่ ชานนท์ยกคัตเอ้าท์ขึ้น ไฟสว่าง
“ไฟฟ้าไม่ได้มีปัญหา แต่มีคนสับคัตเอ้าท์ลง”
ชานนท์มองหน้าปรียา ปรียาร้อนตัว
“ปรียาไม่ได้เป็นคนทำนะคะ”
“พี่ก็คิดว่าปรียาคงไม่ใช้ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้หรอก”
ชานนท์ส่งไฟฉายคืนให้ ปรียาขอร้อง
“พี่นนท์อย่าเพิ่งกลับนะคะ อยู่เป็นเพื่อนปรียาก่อน ปรียาชักไม่กล้าอยู่คนเดียวแล้ว”
“คุณเข็มเขาไปไหนหรือ”
“ปรียาก็ไม่รู้ค่ะ อาจจะไปเที่ยวกับแฟนเขาก็ได้” ชานนท์รู้สึกหึงขึ้นมา “พี่นนท์อยู่เป็นเพื่อนปรียาจนกว่าคุณเข็มจะกลับมาได้มั้ยคะ”
ชานนท์อยากเจอเขมิกา เลยยอม
“ก็ได้จ้ะ” ปรียาดีใจ

ปิ้งหลบดูอยู่ตรงริมหน้าต่างนอกตัวบ้าน ยิ้มพอใจที่สองคนอยู่ด้วยกันเป็นไปตามแผน

เขมิกาออกแรงดันประตูโกดังแต่ดันออกไปไม่ได้
“เหนื่อยเปล่าเข็ม ประตูด้านนอกคงถูกล็อกไว้”
“ถูกล็อก ใครเล่นตลกอะไรกับเราเนี่ย”
“เฮียก็รู้สึกว่ามันทะแม่งๆ เหมือนกัน”
โยธินมองไปที่มุมโกดังเห็นผ้าผืนใหญ่คลุมปิดอะไรบางอย่างไว้ โยธินสงสัยเดินไปเปิดผ้าออกเห็นโต๊ะเล็กๆ บนโต๊ะมีช่อดอกไม้เป็นดอกดาวเรืองสีเหลืองห่อพลาสติกถูกๆ
“เล่นละครเก่งนะเฮีย แอบเซ็ตทุกอย่างไว้แต่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง”
“ไม่ใช่แผนของเฮียนะ ใครจะบ้าทำสวีตกับสาวในโกดังเก็บปลา ดูดอกไม้นี่ก็พอรู้ว่าต้องเป็นพวกที่รสนิยมแย่มาก”
เข็มคิดๆ แล้วนึกออก
“ไอ้ปิ้ง ต้องเป็นมันแน่ๆ”
“เป็นไปได้ วันก่อนปิ้งให้เฮียรีบขอเข็มแต่งงาน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยเชียร์เฮียเลย”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว มันก็เลยหลอกเรามาเพื่อให้เฮียขอเข็มแต่งงาน”
เขมิกามองหน้าโยธิน โยธินคิดว่าจะให้ขอแต่งงานจึงอึกอัก
“เฮียอยากจะพูดเรื่องนี้เหมือนกัน คือสัญญาที่เข็มให้ไว้ เข็มไม่อยากทำก็...”
เขมิกานึกว่าโยธินทวงสัญญา
“เฮียไม่ต้องห่วง เข็มมีสัจจะพอ พูดแล้วเข็มรับผิดชอบคำพูดแต่ขอให้พ่อฑิตฟื้นขึ้นมาก่อนนะเฮีย ขืนแต่งตอนนี้มีหวังโดนนินทาตาย”
โยธินรีบเห็นด้วยทันที
“เฮียเห็นด้วย ตกลงตามนี้”
ต่างคนต่างโล่งอกเพราะไม่อยากแต่ง
ปิ้งยืนอยู่ด้านนอกโกดังไม่ได้ยินที่เขมิกากับโยธินคุยกันจึงยิ้มปลื้มนึกว่าโยธินขอเขมิกาแต่งงานแน่ ปิ้งจึงเดินผิวปากกลับบ้านอย่างสบายใจ

สอนกับลูกน้องย่องๆ เข้ามาที่ประตูด้านหลังโกดัง มองว่าปลอดคน สอนพยักหน้า ลูกน้องราดน้ำมันให้ไหลผ่านเข้าไปในช่องใต้ประตูแล้วถอยออก สอนจุดไฟแช็คกับเศษกระดาษในมือแล้วโยนไปที่น้ำมัน ไฟลุกพรึ่บลามเข้าในโกดังอย่างรวดเร็ว
“ไปโว้ย”
สอนกับลูกน้องหลบหนีไป

ที่บ้านจุมพล ชานนท์ชักห่วงเขมิกาเอาแต่มองไปนอกหน้าต่าง
“ไปไหนของเขานะ บ้านช่องไม่รู้จักกลับ”
ขานนท์บ่นอย่างหงุดหงิด ปรียายุส่ง
“คู่นี้เขาออกไปเที่ยวกลางคืนกันทุกวัน คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ชานนท์หันมา
“ทุกวันเลยหรือ”
“ไม่เห็นแปลกนี่คะ อีกไม่ช้าเขาก็จะแต่งงานกันแล้ว” ปรียาโกหกหน้าตาย ชานนท์หึง
“ปรียาช่วยโทรหาคุณเข็มที บอกเขาให้รีบกลับมาเลย” ชานนท์บอกแล้วกลัวปรียาจับได้ว่าหึง “เออ ถามว่าจะกลับเมื่อไหร่ดีกว่า”
ปรียาทำตามกดโทรหาเขมิกา แต่เสียงมือถือกลับดังอยู่ในห้อง ชานนท์งง มองหามือถือเขมิกาเห็นวางอยู่ที่โต๊ะกลมข้างแจกันดอกไม้
“ลองโทรหาคุณโยธินดู”
ปรียาแอบเซ็งแต่ต้องทำตาม กดโทรศัพท์

เขมิกาเดินนำโยธินมาด้านหลังโกดัง
“เรามีประตูออกอีกทาง ไม่น่าจะล็อกด้านนอกไว้นะ”
โยธินได้ยินเสียงมือถือกำลังจะหยิบมารับ เขมิกาเห็นควันเต็มด้านหลัง ร้องตกใจ
“เฮีย ควันอะไรอ่ะ”
โยธินตกใจไม่ทันได้รับโทรศัพท์ เพ่งมองเห็นไฟลุกอยู่แถวประตู
“ไฟไหม้”
โยธินรีบคว้าผ้ากระสอบที่พื้นมาฟาดๆ ไฟที่กำลังลาม เขมิกาหิ้วถังดับเพลิงอันเล็กเข้ามา
“เฮียหลีก เข็มเอง แค่นี้เอาอยู่” เขมิกาฉีดเต็มที่ แต่ไม่มีอะไรพุ่งออกมาเลย “เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้”
“เคยเอาไปตรวจสอบความดันบ้างหรือเปล่า”
“ซื้อมาเกือบสิบปีแล้วยังไม่เคยใช้ ไม่เคยทำอะไรเลย”
ไฟกำลังลามมาถึงกองอวน เขมิการีบเข้าไปดึงอวนออก แต่ไฟติดอวนลามเข้าหาเขมิกา
“ระวัง”
โยธินรีบดึงเขมิกาออกห่าง

“คุณโยไม่รับสายค่ะ”
ปรียาบอก ชานนท์ทั้งหวงและห่วงเขมิกาจึงลืมตัวโมโห
“คงมีความสุขกันอยู่สิท่าถึงไม่สนใจว่าใครเขาจะเป็นห่วงยังไงบ้าง พี่จะไปตามเขาเอง”
ชานนท์จะไป ปรียารีบดึงแขนไว้
“คนที่พี่นนท์พูดถึงเขาคือคุณเข็มนะคะ ไม่ใช่ขวัญตา พี่นนท์ลืมไปหรือเปล่า”
“ปู่จุมพลไม่อยู่ เราก็ควรห่วงหลานเขาในฐานะที่เราอาศัยเขาอยู่ไม่ใช่หรือจ๊ะ”

ชานนท์ดึงมือปรียาออก แล้วรีบไป ปรียาอึ้งแน่ใจเลยว่าชานนท์ชอบเขมิกา

เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

ด้านหลังโกดัง ไฟลุกหนักกว่าเดิม เขมิกาห่วงของ

“อวนเข็มไหม้หมดแล้วอ่ะ”
“ของนอกกายช่างมัน รีบหาทางออกไปจากที่นี่ก่อน”
โยธินดึงเขมิกาย้อนกลับไปด้านหน้า

ชานนท์เดินขึ้นเรือประมงเดินหาเขมิกา
“เข็มๆ” คนงานเฝ้าเรือเดินออกมาจากห้องขับเรือ “คุณเข็มมาที่นี่หรือเปล่าครับ”
“โอ๊ย มืดแล้วจะมาทำไม” ชานนท์กำลังจะลงจากเรือ คนงานนึกได้ “เฮ้ยเดี๋ยวก่อน เมื่อตอนเย็นรู้สึกจะแวะมาเอากล่องเครื่องมือ บอกว่าจะไปซ่อมเครื่องทำความเย็น”
“ที่ไหน”

เขมิกาตั้งหน้าตั้งตาใช้ขวานเฉาะประตูเพื่อให้เป็นช่องออกไปได้ โยธินกดโทรหาหน่วยดับเพลิงแต่กดตัวเลขยังไม่ครบ เสียงแบตหมดโทรไม่ได้
“ไอ้บ้าเอ๊ย แบตดันหมด ได้จังหวะดีจริงๆ”
เขมิกาหันไปทางโยธิน
“เฮีย ตรงนั้นมีเหล็กยาวอยู่ เอามาช่วยกันพังประตูเร็ว”
โยธินเอาเหล็กมางัดช่องประตูให้ง้างออก ควันลอยมาถึงโยธินเริ่มสำลักควันไฟ ไอแรง โยธินหยุดงัด หยิบผ้าเช็ดหน้าให้เขมิกา
“เข็มเอาไปปิดปากปิดจมูกไว้ก่อน เฮียจะพังประตูเอง”
โยธินไออีก ดูแย่มาก
“เฮียดูแย่กว่าเข็มอีก ปิดจมูกเฮียไว้เถอะ”
โยธินแย่งขวานมา ยัดผ้าเช็ดหน้าใส่มือเขมิกาแล้วสั่ง
“ปิดจมูกไว้”
โยธินยกขวานขึ้นเฉาะประตูไปทีหนึ่ง แล้วทรุดลงไปเพราะสำลักควันไฟ เขมิการีบเอาผ้าเช็ดหน้าผูกปากปิดจมูกให้
“เฮีย อดทนไว้ก่อนนะ เข็มจะพาเฮียออกไปให้ได้”
โยธินจับอก ไอไม่หยุด เขมิกาคว้าขวานออกแรงพังประตู มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

ชานนท์ขี่มอเตอร์ไซด์เก่าๆ ของจุมพลเข้ามาที่โกดังเห็นมีควันลอยออกมา
“ช่วยด้วยๆ”
เสียงเขมิกาดังออกมา ชานนท์รีบวิ่งไปที่ประตูร้องเรียก
“ใครอยู่ข้างใน”
เขมิกาดีใจที่ได้ยินเสียงชานนท์
“นายชาเย็น ฉันเอง ฉันกับเฮียโยอยู่ในนี้ ไฟกำลังไหม้”
ชานนท์มองหาตัวช่วย เห็นค้อนหัวเหล็กอันใหญ่แถวหน้าโกดัง ชานนท์ใช้ค้อนหัวเหล็กอันใหญ่กระแทกกุญแจจนหัก ชานนท์รีบเปิดประตู เข้าไปจับสองบ่าเขมิกาอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย รีบออกไปเร็ว”
“ช่วยเฮียโยก่อน”
ชานนท์มองไป เห็นโยธินทรุดอยู่ที่พื้นไม่ได้สติแล้ว ชานนท์รีบแบกโยธิน

ชานนท์แบกโยธินออกมาจากโกดัง เจอคนงานสองคนวิ่งหน้าตื่นมา เขมิการีบบอกคนงาน
“ข้างในไฟไหม้ รีบโทรเรียกดับเพลิงที แล้วตามปิ้งกับคนอื่นๆ มาช่วยกันดูโกดังไว้ ฉันจะพาเฮียโยไปโรงพยาบาล”
คนงานรีบทำตาม เขมิกาวิ่งตามชานนท์ไปที่รถมอเตอร์ไซด์ของเขมิกา ชานนท์ประคองโยธินอยู่ รีบบอกเขมิกา”เอากุญแจมา แล้วเธอคอยจับตัวคุณโยธินไว้”
เขมิกาส่งกุญแจให้ ชานนท์ขึ้นขี่ ช่วยเขมิกาประคองยินนั่งกลาง เขมิกานั่งปิดท้าย ชานนท์กำลังจะติดเครื่อง
“เฮียๆ อย่าเป็นอะไรนะ เฮียบอกว่าจะตายทีหลังเข็มจำได้ หรือเปล่า”
เขมิการ้องไห้ ชานนท์เข้าใจผิดคิดว่าเขมิกาคงรักโยธินมาก
“จับคุณโยธินไว้แน่นๆ ฉันจะส่งเขาถึงมือหมอให้เร็วที่สุด”
ชานนท์รีบขี่ออกไป

เช้าวันรุ่งขึ้น ปิ้งยืนก้มหน้าตรงหน้าเขมิกา เขมิกาโกรธมาก
“สนุกนักใช่มั้ยที่เล่นแบบนี้ เฮียโยกับเข็มเกือบต้องตายในกองไฟ”
“ใครจะรู้ล่ะว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันแค่อยากช่วยให้คุณโยกับลูกพี่ได้แต่งงานกันเร็วๆ”
“นายใช่มั้ยที่สับคัตเอ้าท์ให้ไฟในบ้านดับหมด” ชานนท์ถาม
“ไม่ดีหรือ แกจะได้อยู่กับแฟนสองต่อสอง ได้หุงข้าวสารให้เป็นข้าวสุก ไม่ต้องมองไปมองมาเหมือนปลากัด”
“มันหน้าที่อะไรของแกไอ้ปิ้ง”
“ก็มันคิดจับลูกพี่เพราะเห็นเป็นหลานเถ้าแก่ แกมันเจ้าสำอาง เหยาะแหยะ ไม่เหมาะกับลูกพี่ฉัน” ปิ้งผลักอกชานนท์ “กลับกรุงเทพฯไปเลยปะ ไอ้แหย”

“ปิ้ง”

ชานนท์ไม่ยอมผลักกลับ
“ต้องเก่งแบบกุ๊ย ทำจนคนเกือบตายถึงจะไม่แหยใช่มั้ย”
ปิ้งโกรธ ง้างหมัดจะชก เขมิกาจับมือปิ้งไว้ทัน แล้วต่อยอย่างแรงจนปิ้งล้มคว่ำหน้าผากไปโดนก้อนหิน
“หยุดบ้าได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะไม่เกรงใจ”
ปิ้งเงยหน้าขึ้นมาแตะเลือดดู เขมิกาตกใจเห็นเลือด จะอ้าปากบอกขอโทษ ปิ้งลุกพรวดโกรธจนลืมตัว
“ตอนนี้ ฉันบอกได้ชัดๆ ว่าลูกพี่เข้าข้างมัน คงชอบมันมากสิท่า”
“เขาเป็นพี่เขยฉัน ฉันไม่เคยคิดอะไรกับเขา” เขมิกาพยายามอธิบาย
“งั้นก็รีบแต่งงานกับคุณโยสิ ฉันถึงจะเชื่อ”
เขมิกาฉุนขึ้นมาอีก เสียงดังใส่
“นายเป็นใครพ่อแม่ฉันหรือ ถึงได้เที่ยวมากำหนดว่าฉันต้องแต่งกับคนนั้นคนนี้ หรือเห็นว่าฉันทำตัวสนิทสนมด้วยก็เลยลืมไปว่าตัวเองเป็นแค่ลูกจ้าง”
ปิ้งน้อยใจ เสียใจ ร้องไห้ พาลใส่
“ใช่ฉันมันแค่ลูกจ้างดันตีเสมอเจ้านาย ก็เพิ่งรู้ว่าพี่ก็คิดกับฉันแบบนี้ ฉันมันโง่เองไม่เหมือนคนอื่น” ปิ้งมองชานนท์ “ทำอะไรก็ถูกใจไปหมด ฉันขอลาออกจะไม่เสนอหน้ามาให้พี่เห็นหน้าอีก ฝากลาเถ้าแก่ด้วยแล้วกัน”
ปิ้งร้องไห้วิ่งออกจากบ้าน ชานนท์มองเขมิกา เขมิกาเครียดรู้ตัวว่าพูดแรงไปเพราะความโกรธ แต่ก็มีทิฐิไม่คิดง้อปิ้ง

เขมิกากับชานนท์เดินออกมา
“ยังดีที่ไหม้ไปแค่ครึ่งเดียว คงพอเรียกจากประกันได้”
“เป็นความผิดฉันเอง ฉันควรจะไปจากที่นี่แต่แรก”
เขมิกาหงุดหงิด โมโห
“อะไรกันนักหนาเนี่ย อยากไปก็ไปกันให้หมดเลย”
“เธอกำลังพาล ถ้ารู้ตัวว่าพูดแรงกับปิ้ง ก็ควรไปง้อเขา”
“ฉันไม่ผิดสักหน่อย เฮียโยเกือบแย่เพราะปิ้ง แต่มันไม่มีคำขอโทษสักคำ”
“เข้าใจแล้วว่าโกรธแทนแฟน” เขมิกายิ่งโมโห
“คุณไม่รู้จักฉันไม่รู้จักพวกเราดีพออย่ามาพูดดีกว่า”
“ถูก ฉันจะไปรู้จักเธอดีได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่ใช่ขวัญตา” ชานนท์ประชดแล้วเดินหนี แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นรถจุมพลเข้ามาจอด
จุมพลยืนข้างรถถามเสียงเข้ม
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
เขมิกาจ๋อยๆ
“ตำรวจกำลังหาสาเหตุกันอยู่ ยังไม่สรุปออกมา”
คนงานวิ่งออกมาจากโกดัง
“ผมตรวจดูห้องแช่แข็งตามลูกพี่สั่งแล้ว ความเย็นในห้องถูกตัดอัตโนมัติ น่าจะเป็นตอนที่ไฟไหม้”
“แล้วของทะเลที่แช่แข็งไว้ล่ะ” คนงานไม่ค่อยกล้าตอบ จุมพลตวาด “ว่าไง”
“เน่าหมดครับเถ้าแก่” จุมพลตกใจ
“เรื่องใหญ่แล้ว ปู่ไปเซ็นสัญญากับโรงงานแปรรูปที่โคราชนัดส่งมอบสินค้าวันมะรืน แล้วจะเอาของที่ไหนให้เขา”
“พรุ่งนี้จะมีเรืออวนเข้ามา ถ้าเพิ่มคนช่วยกันคัดปลาทั้งหมดน่าจะพอทัน”
“ลูกพี่คงยังไม่รู้ ไอ้ปิ้งมันชวนคนงานลาออกตามมันไปหลายคนเลย”
จุมพลมองหน้าเขมิกา
“กลับบ้านกันก่อนนะปู่ เดี๋ยวเข็มจะเล่าให้ฟัง”

เช้าวันใหม่ ที่แพปลา จุมพลมองคนงาน 3 คน และชานนท์
“ถึงจะเหลือกันอยู่แค่นี้ แต่เราก็ต้องคัดปลาให้ทัน ทางโรงงานจะส่งรถมารับสินค้าตอนเที่ยงพรุ่งนี้”
“จะไม่ทันเอานะเถ้าแก่ เรืออีกลำกว่าจะเข้าฝั่งก็พรุ่งนี้สายๆ”
“ถ้าส่งสินค้าไม่ทันจะเป็นยังไงครับ” ชานนท์ถามขึ้นมา
“เราจะโดนฟ้องเป็นเงินหลายล้าน แพปลาเราจะเจ๊งหรืออยู่ก็ขึ้นอยู่กับครั้งนี้ ถ้าใครใจไม่สู้ก็ถอยออกไปได้”
ชานนท์เดินไปที่กองปลาคนแรก คนงานที่เหลือตามไปช่วยชานนท์ เขมิกาวิ่งเข้ามา
“ได้เรื่องแล้วปู่”

จุมพลตกใจเมื่อรู้เรื่องจากเขมิกา
“เราโดนวางเพลิงหรือ”
“ฮะ ตำรวจพบถังน้ำมันถูกโยนทิ้งไว้ด้านหลังโกดัง”
“รู้มั้ยว่าเป็นใคร” ชานนท์ถามเขมิกา จุมพลตอบแทน
“ต้องเป็นพวกไอ้เฮียเม้ง มันไปประมูลงานพร้อมฉัน แต่มันแพ้ไม่ได้รับเลือก ไอ้สารเลวชอบลอบกัด” จุมพลจะ
ไป
“ปู่จะไปไหน ถ้าจะไปอัดไอ้เสี่ยนั่น เข็มไปด้วย”
“ปู่นัดกับสมคิดไว้ที่บ้าน เขาจะพาคนงานมาช่วย เอ็งอยู่คุมงานทางนี้”

“ฮะปู่” จุมพลเดินไป เขมิกาหันไปช่วยชานนท์คัดปลาใส่ตะกร้า เขมิกาพูดโดยไม่มองหน้าชานนท์ “ขอบใจนะที่ยังอยู่” ชานนท์วางฟอร์มทำไม่รู้ไม่ชี้ทำเป็นเร่งมือทำงาน เขมิกาหมั่นไส้ที่ง้อแล้วชานนท์ยังเล่นตัวจึงบ่นพึมพำ “หมั่นไส้”

ปรียาโทรศัพท์หาเขมิกาแล้วเสแสร้งพูดเกรงใจ
“ขอโทษนะคะคุณเข็ม ฉันขอพูดกับแฟนฉันหน่อยได้มั้ยคะ”
เขมิกาอารมณ์บูด ส่งมือถือให้ชานนท์
“แฟนนายอยากพูดด้วย”
ชานนท์รับมือถือ เดินเลี่ยงออกมา
“ปรียาขอไปช่วยพี่นนท์ได้มั้ยคะ ปรียาจะไม่สร้างปัญหาอีก”
“พี่อยากให้ปรียาอยู่บ้านเป็นเพื่อนเถ้าแก่จุมพล ท่าทางเถ้าแก่เครียดมาก พี่ไม่อยากให้อยู่คนเดียว”
“ปู่จุมพลไม่ได้กลับมาที่บ้านนี่คะ”

เขมิกาวิ่งมาที่รถมอเตอร์ไซด์เพื่อไปช่วยจุมพล ชานนท์วิ่งมาจับมอเตอร์ไซด์ไว้
“ใจเย็นก่อน”
“อย่ามาห้ามฉัน ปู่ต้องไปหาเฮียเม้งแน่ๆ”
“ฉันไม่ได้ห้าม ถอยมา ฉันจะขี่ให้เอง เธอไปซ้อนท้าย”
เขมิกางง ถอยออกมา ชานนท์ขึ้นคร่อมรถมองหน้าเขมิกา เขมิกาลังเลมองหน้าชานนท์
“รู้หรือเปล่าพวกเฮียเม้งมันเป็นนักเลงอันธพาล ฆ่าได้มันฆ่า ยิงได้มันยิง เราบุกไปถึงรังมัน อาจไม่ได้กลับมา”
“จำได้มั้ยเราเคยผ่านความตายมาด้วยกัน ถ้ามีเธออยู่ ฉันไม่กลัว ฉันไว้ใจเธอ แล้วเธอล่ะ ไว้ใจฉันหรือเปล่า”
เขมิกาซาบซึ้ง พยักหน้า แล้วขึ้นซ้อนท้ายทันที เขมิการู้สึกอุ่นใจกอดเอวชานนท์ ชานนท์ก้มมองมือเขมิกาแล้วยิ้มบางๆ ก่อนบึ่งรถออกไป

ที่บ้านเฮียเม้ง จุมพลกำลังใช้ปืนยาวประจำตัว ยิงแหลก ลูกน้องเฮียเม้งก้มหลบตามต้นไม้ เฮียเม้งหลบหลังเสา
“ออกมาไอ้เม้ง ไอ้ลูกหมา ทีอย่างนี้ทำเป็นหัวหด”
สอนเข้ามาด้านหลังจุมพลแล้วล็อกคอ จุมพลพยายามดิ้นไปมา สอนทุบหลัง จุมพลหลังแอ่น สอนแย่งปืนมาได้ถีบจุมพลล้มคว่ำ เฮียเม้งเดินอาดๆ ออกมา เหยียบหลังจุมพล
“ไอ้แก่หนังเหนียว วันนี้เรามาปิดบัญชีแค้นกันเสียที”
“เอาเลย ข้าตาย เอ็งก็เข้าคุก”
เฮียเม้งหัวเราะ
“แกบุกมาฆ่าฉันถึงบ้าน ฉันพลั้งมือยิงแกตายเพื่อป้องกันตัว แล้วฉันจะผิดได้ไงวะ” เฮียเม้งดึงปืนจากเอว “ลาก่อนนะไอ้แก่หน้าโง่”
เฮียเม้งจะยิง ชานนท์ซิ่งมอเตอร์ไซด์พุ่งเข้าหา พวกสอนและลูกน้องหลบกันกระเจิง เฮียเม้งจะหันไปยิงชานนท์ เขมิกากระโจนจากที่ซ้อนล้มทับเฮียเม้ง เฮียเม้งหัวกระแทกพื้นเจ็บมาก เขมิกากระชากปืนมายิงใส่ฝ่ามือเฮียเม้ง เปรี้ยง! เฮียเม้งร้องลั่น
“ต่อไปนี้มือแกจะจับปืนเที่ยวทำชั่วไม่ได้อีก”
สอนเล็งปืนไปทางเขมิกาแต่ไม่กล้ายิง ลูกน้องยืนรวมกลุ่มกันอยู่ข้างหลัง ชานนท์ลงจากมอเตอร์ไซด์ เขมิกาโยนปืนของเฮียเม้งให้ชานนท์ ชานนท์รับไว้เล็งไปทางเฮียเม้ง เขมิกาดึงปืนตัวเองจากเอวถอยไปหาจุมพล ใช้อีกมือเขย่าจุมพลที่สลบไปแล้ว ชานนท์เล็งปืนไปทางสอน แล้วล้วงกุญแจรถจากตัวเฮียเม้ง โยนให้เขมิกา
“พาเถ้าแก่ไปก่อน”
เขมิกาพยุงจุมพลไปทางรถเก๋งของเฮียเม้ง
ชานนท์ดึงเฮียเม้งเป็นตัวประกัน
“พวกแกถอยไป”
“ถอยไปซี่ อยากเห็นฉันตายหรือไง”
สอนกับลูกน้องยอมถอยหลบ นนท์จะพาเฮียเม้งไปที่รถเก๋ง เฮียเม้งบาดเจ็บแต่ยังมีลูกเล่นศอกเข้าเอวชานนท์ ชานนท์ตัวงอ เฮียเม้งวิ่งหนีไปหาสอน สอนยิงใส่ชานนท์ทันที ชานนท์กลิ้งตัวหลบกระสุน พุ่งไปหลบหลังที่กำบัง

จุมพลยังสลบอยู่นั่งอยู่เบาะหลังรถเก๋งเฮียเม้ง เขมิกาได้ยินเสียงปืน
“ปู่ รอเข็มแป๊บหนึ่งนะ”
เขมิกาปิดประตูหลัง กระชับปืนรีบไปช่วยชานนท์
ลูกน้องสองคนประคองปีกเฮียเม้ง
“ฆ่ามันให้ได้นะไอ้สอน โอ๊ย!”
“พานายเข้าไปทำแผลก่อน ทางนี้ฉันจัดการเอง”
ลูกน้องรีบพาเฮียเม้งเข้าบ้าน สอนหันไปยิงใส่ที่กำบังตัวของชานนท์ ชานนท์โผล่มายิงสู้ สอนกับลูกน้องรุมยิงชานนท์ ชานนท์กระสุนหมด สอนยิ้มจะเดินไปยิงชานนท์
“ไอ้สอน แน่จริงก็ยิงฉันสิ ฉันอยู่นี่”
เสียงเขมิกาดังขึ้น สอนกับลูกน้องหันหลังเห็นเขมิกายืนเล็งปืนมาทางพวกสอนเหมือนกัน
“ปืนกระบอกเดียวคิดจะสู้ได้หรือ”
“คนมันกล้าโว้ย ถึงตายก็ภูมิใจกว่าไอ้พวกหมาหมู่”
“ไม่แคร์โว้ย ขอแค่แกตายก็พอ”
สอนจะยิงเขมิกา ชานนท์ยกสองมือเดินออกมา
“ฉันมีหลักฐานเอาผิดที่แกวางเพลิง”
สอนชะงัก หันไปทางชานนท์
“อย่ามาตลกใส่ ถ้าแกมีหลักฐาน คงให้ตำรวจไปแล้ว”
“ถ้าฉันไม่มี แกคิดว่าฉันจะกล้าบุกมาที่นี่แค่สองคนหรือ” สอนเริ่มลังเล “ถ้าเราไม่ได้กลับไปอย่างปลอดภัย หลักฐานที่ว่าจะส่งถึงมือตำรวจ”
“ฉันไม่เชื่อ”
“ถ้าอยากเสี่ยงก็ยิงไปเลย ความผิดจากการยิงผู้บุกรุกแกอาจหลุดคดีได้ แต่ข้อหาลอบวางเพลิงแกติดคุกแน่”

สอนไม่กล้า ค่อยๆ ลดปืนลง

ชานนท์กับเขมิการีบเดินเร็วๆ ไปที่รถ
“ที่คุณบอกว่ามีหลักฐานเอาผิดมัน จริงหรือ ขนาดถังน้ำมันที่ตำรวจเจอ ยังไม่มีลายนิ้วมือมันเลยนะ” เขมิกาถามอย่างแปลกใจ
“ฉันโกหก”
“ว่าแล้ว งั้นก็รีบเผ่นเลยพี่”
ชานนท์กับเขมิกาวิ่ง

เขมิกาพาจุมพลมาที่โรงพยาบาล
“ปู่จุมพลไม่มีบาดแผลที่น่าเป็นห่วง มีแค่รอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น” หมอบอกเขมิกา
“โล่งอกไปที”
หมอส่งผลตรวจให้เขมิกาดู
“นี่เป็นผลตรวจสุขภาพของปู่ หนูเข็มลองดู”
เขมิการับมาดู แล้วตกใจ
“ทำไมปู่มีโรคเยอะขนาดนี้ ทั้งความดัน เบาหวาน หัวใจเต้นผิดปกติ เข็มไม่เคยรู้เรื่องเลยอาหมอ”
หลังคุยกับหมอเสร็จ เขมิกามาหาจุมพลที่ห้องพักผู้ป่วย
“ทำไมปู่ไม่บอกเข็ม อาหมอให้ปู่ไปนอนรักษาตัวตั้งนานแล้วแต่ปู่ก็บ่ายเบี่ยงหนีอาหมอตลอด”
จุมพลดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง
“นี่ไม่ใช่เวลาจะมาพูดถึงเรื่องนี้ ข้าจะไปคุมงานที่แพปลา”
“เข็มไม่ให้ไป อาหมอบอกว่าถ้าปู่ลุยงานหนักไม่ยอมพักอีกความดันอาจขึ้นสูง จนเสี่ยงกับเส้นเลือดในสมองแตก หรือหัวใจวาย ปู่ต้องอยู่ที่โรงพยาบาล รักษาอย่างจริงจัง”
“ข้าไม่มีวันนอนเดี้ยงอยู่ที่นี่หรอก”
“ถ้างั้นก็กลับบ้าน ห้ามไปทำงาน”
“ไอ้เข็ม ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ เอ็งกล้าบังคับปู่หรือ”
จุมพลโกรธ ชานนท์เข็นรถเข็นเข้ามา
“เข็มไม่กล้า แต่เขากล้านะปู่” เขมิกาขู่

ช่วงสายของวันต่อมา เขมิกากับชานนท์เดินขึ้นเรือมา เจอโยธินนั่งคัดปลากับคนงาน เขมิกาเป็นห่วง รีบวิ่งไปหาดึงมือโยธินให้ลุก
“เฮียโย ลุกขึ้นมาเลย เฮียยังไม่หายดีกลับบ้านไปนอนพักเลย”
“เฮียจะนอนอยู่ได้ยังไง เข็มเดือดร้อนขนาดนี้เฮียต้องมาช่วย” ชานนท์มองแล้วต้องทำใจ โยธินเดินมาหาชานนท์ “ผมต้องขอบคุณมากที่ช่วยพาผมส่งโรงพยาบาล”
“ผมไม่ได้ช่วยอะไรมากหรอกครับ คุณเข็มต่างหากที่ห่วงคุณมาก”
เขมิกาอึดอัด รีบเปลี่ยนเรื่อง
“เรารีบลุยงานกันต่อดีกว่า”
คนขับเรือเดินเข้ามารายงานเขมิกา
“เรืออวนอีกลำกำลังจะมาถึงแล้วพี่เข็ม”
เขมิกามองนาฬิกาข้อมือ
“เรามีเวลาคัดปลาน็อกน้ำแข็งอีกแค่ครึ่งชม.”
“คนงานมีแค่นี้จะทำให้ทันได้ยังไง ไม่มีทางเป็นไปได้เลย” เขมิกาเครียด
“ถ้ายังมีเวลา ยังไม่ถือว่าจบ เรายังมีโอกาสจนถึงวินาทีสุดท้าย”
ชานนท์ส่งพลังความมุ่งมั่นให้เขมิกา
“เรืออวนมาแล้ว”

บนเรืออีกลำ ทุกคนช่วยกันคัดปลาบรรยากาศดูเร่งรีบ โยธินไอไม่หยุด เขมิกาลุกมาประคองไปนั่งพัก ชานนท์มองตามขรึมๆ ตัวแทนจากโรงงานเดินเข้ามา
“สวัสดีครับ เถ้าแก่จุมพลอยู่มั้ย ผมมารับสินค้า”
ทุกคนตกใจ เขมิการีบเดินไปเคลียร์
“เออ เรามีปัญหานิดหน่อย ก็เลยยังส่งมอบปลาให้ไม่ได้ทั้งหมดในวันนี้”
ตัวแทนโรงงานโวยวาย
“อะไรกัน ไหนตอนทำสัญญารับปากมั่นเหมาะว่าส่งได้ตามกำหนดเวลาทุกครั้ง ทำแบบนี้โรงงานผมก็เสียหายสิคุณ”
ชา นนท์รีบแทรกเข้ามา พูดจาแบบนักธุรกิจ
“สินค้าตามออเดอร์ที่ดิวกันไว้ ทางเราพร้อมส่งมอบแน่นอน แต่บรรยากาศบนนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ขอเชิญคุยกันทางด้านโน้นสักครู่ ผมมีโปรโมชั่นนำเสนอ เผื่อทางคุณจะสนใจ เชิญครับเชิญ” ชานนท์กระซิบกับเขมิกา “เร่งทำต่อ อย่าหยุด”
ชานนท์จับแขนตัวแทนโรงงานพากันขึ้นจากเรือไป เขมิกางง
“ขายปลามีโปรโมชั่นด้วยหรือวะ อะไรของเขาเนี่ย” เขมิกาหันไปเร่งคนงาน “เร่งมือให้เร็วขึ้นอีก”
“โห ลูกพี่ เร่งยังไงก็ได้เท่านี้แหละเพราะคนมันมีอยู่แค่นี้”
เขมิกาหงุดหงิด โวยวายใส่
“แล้วไง วางมือแล้วยอมแพ้กันเลยดีมั้ย”
“ลูกพี่” เขมิกาหันไป เห็นปิ้งพาคนงานอีก 5 คนกลับมา “พวกฉันมาช่วย”

เขมิกาคาดไม่ถึง
 
จบตอนที่ 11 
กำลังโหลดความคิดเห็น