เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 10
ที่กล่องเครื่องเพชรบนโต๊ะ ชานนท์เปิดกล่อง สร้อยเพชรประดับมรกตเม็ดโตส่องแสงวูบวาบ เขมิกามองชื่นชม
“สวยดี แต่อย่าเอามาให้ฉันใส่นะ กลัวคอหัก” ชานนท์ขำ
“ฉันอุตส่าห์จะทำซึ้ง แต่เธอทำเสียบรรยากาศหมด”
“ก็แค่สร้อยมีอะไรให้ซึ้ง”
“สร้อยเส้นนี้เป็นของรักของหวงของคุณแม่ฉัน ท่านซื้อเก็บไว้เพื่อมอบให้กับลูกสะใภ้ มันจึงเป็นของเธอ” เขมิกาปิดกล่อง
“แค่แหวนเพชรที่คุณให้ ฉันก็เครียดจะตาย ต้องคอยระวังตลอด กลัวหายบ้าง กลัวลืมบ้าง ขืนเพิ่มไอ้สร้อยเส้นนี้เข้ามาอีก ฉันมีหวังนอนไม่หลับ”
ชานนท์หยิบกล่องใส่มือเขมิกา
“ถ้าเธอไม่อยากได้ ฉันก็ไม่บังคับแต่ฉันฝากเก็บไว้ให้ลูกของเราที”
เขมิการู้ว่าเป็นไปไม่ได้ จิตใจสับสน
“ฉันทำไม่ได้ คุณเก็บไว้เองเถอะ”
เขมิการีบเดินหนีออกจากห้อง ชานนท์งง
“ขวัญ! เดี๋ยวก่อนสิ”
เขมิกานั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หนักใจเรื่องโกหกชานนท์เพราะเห็นชานนท์รักและจริงจังกับขวัญตามาก เขมิกามองหน้าตัวเองในกระจก
“พี่อยู่ไหนเนี่ย สามีพี่เขารักพี่มากนะ ฉันไม่อยากโกหกเขาไม่อยากเป็นตัวแทน เป็นเงาของพี่อีกแล้ว ฉันเหนื่อย”
เขมิกากุมขมับ
ประชาเดินกลับมาที่รถตัวเอง หันไปมองบนตึก ภาพตอนชานนท์หอมแก้มเขมิกาหลังเห็นของขวัญวันเกิด ผ่านเข้ามา ประชายิ่งแค้น คิดกำจัดชานนท์
คืนนั้นขณะที่แววนิลนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง มณฑายืนมอง
“เลิศวิริยะต้องเป็นของคุณหนู ไม่ใช่ของนังนั่น”
มณฑาตัดสินใจร่วมมือกับประชา
เช้าวันรุ่งขึ้น เขมิกาเดินระแวดระวังออกมาเห็นรถประชาจอดอยู่ เขมิกาเปิดประตูเข้าไปนั่ง
“ทำไมพี่ต้องบังคับให้ฉันออกมาด้วย คุยกันทางโทรศัพท์ก็ได้”
“ขวัญอยากจำอดีตได้ไม่ใช่หรือ พี่เพิ่งคิดออกเมื่อคืนว่าพี่เก็บของใช้ของขวัญเอาไว้หลายอย่างเลย”
“ของอะไร”
“ก็ของใช้ทั่วไป พี่จำไม่ได้ว่ามันมีอะไรบ้าง ขวัญต้องไปดูเอง” เขมิกาหยุดคิดกลัวโดนหลอกอีก “ถ้าขวัญไม่อยากไป พี่ก็ไม่บังคับนะ”
เขมิการีบแตะมือประชา
“ของนั่นอยู่ที่ไหน”
ที่บ้านชานนท์ ชานนท์หันมาหามณฑาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ผมนึกว่าคุณนมจะเลิกคิดไม่ดีกับขวัญแล้วเสียอีก คุณนมยังอยู่กับเรื่องเดิมๆ คิดแบบเดิมๆ ไม่ยอมเปลี่ยน”
“แต่นมเห็นกับตาว่าคุณผู้หญิงขึ้นรถไปกับผู้ชายจริงๆ แล้ว ยังได้ยินกับหูว่าเขาพากันไปที่ไหนด้วย”
“ผู้ชายที่ว่าเป็นใครครับ คุณนมเห็นหน้าหรือเปล่า”
“นมเห็นอยู่ไกลๆ เลยมองหน้าไม่ชัดค่ะ”
“คุณนมคงมีหูทิพย์นะครับ อยู่ตั้งไกล แต่ได้ยินเขาคุยกันด้วย” มณฑาอึ้ง ชานนท์ไว้ใจเขมิกาเดินไปที่ประตู เปิดประตูให้มณฑา “คุณนมกลับไปดูแลนิลจะดีกว่า ผมจะรีบแต่งตัวไปทำงาน”
มณฑายิ้ม จี้ใจชานนท์
“คุณผู้ชายกลัวว่ามันจะเป็นความจริงใช่มั้ยคะ”
มณฑาเดินออกไป ชานนท์โกรธปิดประตูปัง
ชานนท์เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เลือกๆ เสื้อผ้าที่ราว เสื้อของชานนท์หลุดจากราวแขวน หล่นลงไปที่พื้นตู้ ชานนท์ก้มเก็บ แล้วชะงักเมื่อสายตาไปเจอถุงใส่กระเป๋าแบรนด์เนมของประชา ชานนท์หยิบออกมาจากตู้ จ้องถุง
ชานนท์จำได้ว่าเคยเห็นถุงนี้บนโต๊ะทำงานประชา
“ซื้อของให้แฟนหรือ”
ประชามีพิรุธ
“ครับ อยากเอาใจเขาหน่อย”
ที่สปา ชานนท์เดินตรงดิ่งมาที่ห้องทำงานประชา ชานนท์ผลักประตูเข้าไป ประชาไม่อยู่ในห้อง เยาว์วิ่งเข้ามาชานนท์รีบหันไปถามเสียงเครียด
“ประชาอยู่ไหน”
“ยังไม่มาทำงานเลยค่ะ”
ชานนท์เดินออกจากห้อง จรรยา อึ่ง กุ้งรวมตัวกันอยู่หน้าห้อง ชานนท์เดินผ่านไป กดมือถือไปด้วย
“โย่งหรือ ไปตามคุณนมมารับสาย ไม่ต้องถาม ไปตามมาเดี๋ยวนี้”
ชานนท์เดินออกไป เยาว์ออกมารวมกับพวกอึ่ง
“คุณชานนท์ถามหาผู้จัดการทำไมคะ”
“น้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยเห็นคุณชานนท์เป็นแบบนี้มานานแล้ว อารมณ์นี้น่ากลัวที่สุดเหมือน...” เยาว์ไม่กล้าพูด
“เหมือนตอนที่รู้ว่ายัยขวัญผวาคบชู้ใช่มั้ยแม่”
จรรยามองหน้าอึ่งแบบเอาเรื่อง อึ่งเชิดหน้าทำไม่รู้ไม่ชี้
ภายในห้องนอนที่รีสอร์ทประชา ประชายกกล่องใส่ของมา
“นี่เป็นของใช้ของขวัญทั้งหมด พี่รวบรวมเก็บใส่กล่องไว้ไม่เคยทิ้ง” ประชาวางบนพื้น “ไม่เหมือนไอ้ชานนท์ พอคิดว่าขวัญมีชู้ มันก็เผาเรียบ”
เขมิกามองของในกล่องอยากรู้มาก
“ฉันขอดูหน่อยนะ”
“เอาเลย มันเป็นของเธออยู่แล้ว พี่ออกไปสำรวจรอบบ้านก่อนนะว่าแม่บ้านมาตัดหญ้าให้บ้างหรือเปล่า”
ประชาไป เขมิการีบรื้อของในกล่อง เห็นโมเดลเรือประมง หยิบขึ้นมาดูรู้สึกคุ้นตาเพราะบัณฑิตทำเองให้ขวัญตาไว้ เสียงมือถือดัง เขมิกาสะดุ้งรีบรับสาย
“ไงเฮีย นึกว่าจะหลบความผิดได้หรือ”
“เฮียก็จะโทรมาสารภาพผิดนี่แหละจ๊ะ”
“เอาไว้ก่อนเดี๋ยวได้เคลียร์กันแน่ ขอเข็มดูของใช้เก่าๆ ของพี่ขวัญก่อน มันน่าจะมีเบาะแสที่พาเราไปเจอพี่ขวัญ”
“สัญญาณไม่ค่อยดีเลย เข็มอยู่ไหนเนี่ย”
เขมิกามองประตูกลัวประชากลับมา
“ไว้เจอกัน แล้วจะเล่าให้ฟัง”
เขมิการีบตัดสาย รื้อของในกล่องต่อ
ประชาเดินออกมาหน้ารีสอร์ทกด sms ส่งข้อความถึงมณฑา
ขณะนั้นชานนท์นั่งอยู่ที่เบาะหลังรถ มณฑานั่งกับคนขับ เสียงข้อความเข้ามือถือมณฑา มณฑาเหลือบมองชานนท์ก่อนกดดู
“ถึงไหนแล้ว”
มณฑาพิมพ์กลับไป
“ใกล้ถึงแล้ว”
“เลี้ยวซ้ายหรือขวาครับ” คนขับถาม มณฑารีบชี้บอกทาง
“ทำไมคุณนมรู้เส้นทางดีนัก เคยมาแถวนี้หรือครับ” ชานนท์ถามอย่างแปลกใจ มณฑาหันไปหาชานนท์
“คุณผู้ชายสงสัยอะไรนมหรือคะ” ชานนท์ยิ้มขรึม
“ผมไม่สงสัย แต่มั่นใจเลยว่าที่คุณนมเห็นขวัญไปกับผู้ชายคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ถ้าครั้งนี้ผมจับได้ว่าเป็นการใส่ร้ายกันอีก ผมจะไม่ให้อภัยคุณนมอีก”
มณฑายิ้มเยาะ
ประชาเดินกลับเข้ามาเห็นเขมิกากำลังมองเรือจำลองอย่างสนใจ เขมิกาเงยหน้า
“โมเดลนี่ฉันได้มายังไง”
“เธอเคยบอกพี่ว่าซื้อมาจากร้านค้าของที่ระลึกแถวริมหาดไง” ประชาไม่ได้ใส่ใจ ดึงมือเขมิกา “มานั่งนี่สิ”
ประชาดึงเขมิกาไปนั่งบนเตียง เขมิกาชักใจไม่ดี
“ฉันได้ของแล้วเราน่าจะกลับกรุงเทพฯกันได้แล้ว เพราะฉันมากะทันหันไม่ทันได้บอกใครเลย ไปเถอะ”
เขมิกาลุกจะไป ประชาดึงเขมิกาเซมานั่งบนตัก เขมิกาดันจะลุกหนี
“พี่ขับรถมาเหนื่อยๆ ยังไม่ได้พักเลย เรามานอนพูดคุยกันถึงความหลังครั้งก่อนดีกว่ามั้ย” ประชาดันเขมิกานอน เขมิกาตกใจพยายามดัน “พี่อยากให้ขวัญจำวันสำคัญของเราได้ วันที่เราเจอกันครั้งแรก”
เขมิกาหูผึ่งอยากรู้ที่มาที่ไปของขวัญตา
“วันที่เราเจอกันครั้งแรกงั้นหรือ จริงสิ ฉันนึกไม่ออกเลย เราเจอกันที่ไหน ฉันอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดหรือ”
“ฉันเจอเธอครั้งแรกที่สนามบิน”
ประชาเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอกับขวัญตา วันนั้นขวัญตายืนรอแท็กซี่อยู่บริเวณรอรถของสนามบิน ประชาเดินคุยโทรศัพท์ออกมาจากด้านใน
“ผมส่งคุณเชงหลีขึ้นเครื่องไปเรียบร้อยแล้วครับ กำลังจะกลับ”
ผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจเดินก้มหน้ามาทางขวัญตา แล้วกระชากกระเป๋าสะพายวิ่งหนี ขวัญตาตกใจ
“กระเป๋าฉัน ช่วยด้วยๆ”
ประชาเงยหน้าจากมือถือเห็นขวัญตาร้องให้ช่วย ประชาไล่ตามขโมย ประชากระโดดคว้าคอเสื้อ บู๊ไปมากับขโมย อัดขโมยด้วยหมัด ศอกหลัง ลูกเตะ จนขโมยล้มกลิ้ง ประชาจะเข้าไปซ้ำ ขโมยปากระเป๋าสะพายใส่ประชาแล้ววิ่งหนีไปได้ ขวัญตาวิ่งมาถึง ประชาส่งกระเป๋าคืน
“ของคุณครับ”
ขวัญตารีบเปิดกระเป๋าเช็กดูแล้วตกใจ
“เงินฉัน หายไปหมดเลย”
ขวัญตายืนมองห้องคับแคบ มีเฟอร์นิเจอร์แค่เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ประชาวางกระเป๋าเดินทางของขวัญตา
“ทนอยู่หน่อยได้มั้ยครับ ถ้าเป็นอพาร์ทเม้นท์ดีหน่อย ค่าเช่าก็หลายพันอยู่”
“คุณอุตส่าห์ช่วยจ่ายค่าเช่าให้ ได้แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ ถ้าฉันหางานได้ จะรีบคืนเงินให้คุณนะคะ”
“คุณขวัญถนัดงานด้านไหนครับ”
“ฉันเคยทำงานในร้านอาหารไทยที่อเมริกา ก็พวกงานล้างจาน เด็กเสิร์ฟทำนองนี้ เสียดายที่วีซ่าหมดเลยต้อง to go back home”
“บ้านในเมืองไทยอยู่ที่ไหนหรือครับ ผมจะช่วยติดต่อให้”
“ฉันเป็นเด็กกำพร้าไม่มีบ้านหรอกค่ะ”
ขวัญตาตีหน้าเศร้าหลอกประชาเนียนๆ ประชาสงสาร
“สปาที่ผมเป็นผู้จัดการอยู่ กำลังขาดพนักงานนวด คุณขวัญสนใจมั้ยครับ”
“สนซิคะ ฉันทำได้หมด ขอบคุณนะคะ”
ขวัญตากอดคอหอมแก้มประชา ประชาตกตะลึง ขวัญตาแกล้งทำเป็นไม่ตั้งใจทำ
“อุ๊ย ตายจริง sorry นะคะขวัญติดพวกฝรั่งมา ขวัญแค่อยากThank you คุณ คุณเป็นคนดีจริงๆ”
ประชายิ้มเขินๆ หวิวใจ
รถชานนท์ขับเข้ามาหน้ารีสอร์ท รถจอด ชานนท์ลงจากรถ ชานนท์เห็นรถประชาจำได้ จ้องเขม็ง มณฑาแกล้งพูดขึ้น
“นั่นมันรถผู้จัดการไม่ใช่หรือคะ ทำไมถึงมาจอดอยู่ตรงนี้”
ชานนท์เริ่มมั่นใจมากขึ้นหลังจากที่เห็นถุงใส่กระเป๋าแบรนด์เนมอยู่ในตู้เสื้อผ้าเขมิกา ชานนท์กำมือแน่น
เขมิกาพยายามถามประชาต่อ
“ฉันไม่เคยพูดถึงพ่อแม่ให้พี่ฟังเลยหรือ”
“เธอเป็นเด็กกำพร้าจะรู้จักพ่อแม่ได้ยังไง” ประชาก้มหน้าลงมาใกล้ “คืนนี้ค้างที่นี่ด้วยกันเถอะนะอย่ากลับเลย”
เขมิการีบดันหน้าประชาไว้
“ชานนท์จะรู้เรื่องของเราตอนนี้ไม่ได้นะ”
“จะอยู่กับมันต่อไปทำไมอีก เรื่องเงินสินสอดไอ้อู๋มันก็งาบไปหมดแล้ว”
“ก็เพราะเราชวดเงินก้อนนี้ไปไง ฉันถึงต้องอยู่ต่ออีกหน่อยเพื่อหาทางดูดเงินมาจากกระเป๋าชานนท์”
“เธอไม่จำเป็นต้องออกแรงหรอก เรากลับไปเที่ยวนี้ ทุกอย่างในเลิศวิริยะต้องเป็นของเรา”
เขมิกาแปลกใจ
“มันจะเป็นของเราได้ยังไง”
ประตูเปิดช้าๆ ชานนท์ยืนอยู่หน้าประตูเห็นด้านหลังประชาดูคล้ายกำลังกอดเขมิกา เขมิกาได้ยินเสียงประตูเปิด ยกหัวขึ้นมอง ทำให้ชานนท์เห็นเขมิกาเต็มตา ชานนท์เจ็บปวดใจแทบคลั่งตรงดิ่งไปที่เตียง กระชากคอเสื้อประชาหันมา
“ไอ้คนทรยศ”
ชานนท์ง้างหมัดจะชก แต่ประชาเตรียมตัวไว้แล้วชักปืนจ่อหน้าชานนท์
“เอาเลย ชกเลย ชกมาซี่”
ชานนท์ชะงัก เขมิกาตกใจ
ด้านนอก มณฑายืนอยู่ข้างรถมองเข้าไปในบ้าน สะใจคิดว่าขวัญตาเสร็จแน่ คนขับรถเดินมาหา
“ผมขอไปซื้อน้ำที่ร้านค้าแถวนี้ก่อนนะครับ คุณนมอยากได้อะไรมั้ยครับ”
“ฉันไม่หิว รีบมารีบไปล่ะ คุณผู้ชายออกมาเมื่อไหร่คงอยากกลับกรุงเทพฯทันที”
คนขับรถเดินไป มณฑายิ้มร้าย
ปืนยังจี้อยู่ตรงหน้าชานนท์ ชานนท์เสียใจตวาดถาม
“ทำไมทำแบบนี้ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เราเป็นแฟนกันก่อนที่แกจะได้รู้จักกับขวัญด้วยซ้ำไปคนที่มาทีหลังคือแก แกแย่งขวัญไปจากฉัน”
ชานนท์มองเขมิกา
“รักกันมาก่อน ทำไมเธอไม่เคยบอกฉัน”
เขมิกาไม่รู้จะพูดยังไง
“เพราะแกใช้ความเป็นเจ้านายบังคับ ขวัญกลัวตกงาน กลัวฉันโดนไล่ออก ขวัญห่วงฉันเขารักฉัน”
“ที่เธอหนีการแต่งงานก็เพราะมัน”
“ฉันจำไม่ได้ ลดๆ ปืนลงก่อน แล้วคุยกันดีๆ ก็ได้”
เขมิกากดแขนประชาให้ลดปืนลง ชานนท์แค้นประชา
“อย่าคิดว่าแกจะสมหวังง่ายๆ” ชานนท์ดึงมือเขมิกา “ฉันจะไม่ปล่อยขวัญให้แก ไปกับฉัน”
ชานนท์ดึงเขมิกาไปทางประตู
“ฉันอุตส่าห์ล่อแกมาถึงนี่ คิดหรือว่าจะได้กลับไป”
ประชายิงทันที เขมิกาหันมาเห็นผลักนนท์หลบกระสุนปืน เสียงปืนดังเปรี้ยง มณฑาตกใจ
ชานนท์ล้มไปที่พื้นพ้นจากวิถีกระสุน ประชาหันปืนจะยิงนัดที่สอง เขมิกาวิ่งเข้าไปจับปืนประชาเบี่ยงไปทางอื่น กระสุนยิงออกไปเฉียดแขนชานนท์ ประชาโกรธเขมิกา
“ไปช่วยมันทำไม”
เขมิกายังจับข้อมือประชาอยู่
“หนีไปสิ”
เขมิกาบอกชานนท์ ชานนท์เจ็บแขนเลือดไหล ลุกยืนไม่ไหว ประชาสะบัดเขมิกาหลุดจะยิงอีก เขมิกาเข้าต่อสู้ปัดปืนกระเด็นไปไกล เขมิกาชกท้องประชาจุกตัวงอ แล้ววิ่งไปประคองชานนท์พาหนี
เขมิกาประคองชานนท์ออกมาเจอมณฑา มณฑาเห็นชานนท์เลือดออกที่แขนงงมาก เขมิกาเห็นรถชานนท์ร้องบอกมณฑา
“กุญแจรถอยู่ไหน”
“คนขับเอาไป”
ประชาวิ่งออกมายิงใส่ชานนท์ กระสุนเฉี่ยวไปโดนต้นไม้ มณฑาร้องตกใจเสียงปืน เขมิการีบพาชานนท์วิ่งหลบไปทางทะเล ประชาจะตาม มณฑางงไปหมดเข้าไปดึงประชา
“นี่มันอะไรกัน แกยิงคุณผู้ชายหรือ”
ประชาผลักมณฑาล้ม
“หลีกไป”
ประชาไล่ตามเขมิกากับชานนท์ไป
เขมิกาพาชานนท์วิ่งหนีไปทางชายหาดเห็นเรือหางยาวจอดอยู่ปลายสะพาน เขมิการีบพาชานนท์ไปขึ้นเรือ ประชามาถึงหัวสะพานเห็นเขมิกากับชานนท์ระยะไกล อยู่บนเรือ รีบวิ่งไปหา เขมิการีบติดเครื่อง ประชาวิ่งมาถึง
“ขวัญตา อย่าไปนะ” เขมิกาขับเรือพุ่งไปเลย ประชาตะโกนลั่น “กลับมาขวัญ ไหนบอกว่ารักพี่ แล้วไปช่วยมันทำไม” ประชาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “ผู้หญิงสารเลว มึงหลอกกู”
ประชาทรุดลงไป เจ็บแค้นแสนสาหัส
เขมิกานึกว่ารอดแล้วปรากฏว่าเรือรั่วน้ำผุดขึ้นมากลางเรือหลายจุด
“เฮ้ย เรือมันรั่วนี่หว่า”
เขมิกาดับเครื่อง พยายามใช้ผ้าอุดรูรั่ว
บนสะพาน ประชาเงยหน้ามองเห็นว่าเรือเขมิกาหยุดแล่นอยู่ไกลๆ เพ่งมองว่าเกิดอะไรขึ้น บนเรือ น้ำเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขมิกาวิดน้ำออก ชานนท์ขยับตัวจะลุกไปช่วยแต่เจ็บแผลลุกไม่ไหว
“นั่งเฉยๆ ไม่ต้องขยับ ฉันทำเองได้”
ชานนท์พยายามพูด
“ทิ้งฉันไว้นี่ แล้วเธอลงจากเรือไปซะ พยายามประคองตัวรอคนมาช่วย ยังมีทางรอดมากกว่า ไปสิ”
“พูดแบบนี้เขาเรียกว่าดูถูกกัน คนอย่างฉันไม่เคยกลัวตาย”
เรือเอียงไปข้างหนึ่งใกล้จม ชานนท์ตกลงไปในน้ำ เขมิการีบกระโดดลงไปช่วย
ประชาเห็นเรือค่อยๆ จมลงไป จนหายไปจากสายตา ประชาตาแข็งกร้าวสะใจสมแค้น
วันต่อมาที่คอนโดโยธิน ปิ้งกำลังเคาะประตูห้องโยธิน ปิ้งกับจุมพลหอบของฝากยืนอยู่หน้าห้อง
“หายหัวไปไหนกันหมด ทั้งเจ้าเข็มทั้งเจ้าโย”
“ก็เถ้าแก่เล่นไม่โทรบอกกล่าวพี่เข็มก่อน เลยต้องมายืนขาแข็งอยู่อย่างนี้ รู้งี้ไม่มาด้วยหรอก” ผู้หญิงข้างห้องเปิดประตูเดินออกมา “น้องๆ ผู้หญิงห้องนี้ออกไปนานหรือยังจ๊ะ”
“ไม่เคยเห็นผู้หญิงมาพักเลยนะคะ เห็นมีแต่ผู้ชาย”
“ขอบใจจ๊ะ”
จุมพลโกรธมาก
“ข้าว่าแล้วว่าไอ้สองคนมันมีอะไรแปลกๆ ไอ้ปิ้งโทรหาเจ้าโยเดี๋ยวนี้”
ปิ้งจะกดเบอร์แต่ชะงัก
“เบอร์ไรเถ้าแก่ ฉันไม่เคยเมมเบอร์ของคุณโยไว้”
“ข้าจำได้ที่ไหนละโว้ย มันอยู่ในมือถือ”
“อ้าว งั้นเถ้าแก่ก็โทรเองเลยสิ มาให้ผมโทรทำไมเล่า”
“ข้าลืมเอามือถือมา”
“จบเห่ ภาพยนตร์อวสาน คืนนี้นอนตากยุงใต้คอนโดแล้วกัน”
จุมพลอารมณ์บูด
“เจ้าโย อย่าให้เจอหน้านะ ข้าจะแล่เอ็งเป็นชิ้นๆ แล้วทาเกลือตากแดดทำเป็นเนื้อเค็ม เคี้ยวให้แหลกคาปาก”
ปิ้งมองจุมพลอย่างหวาดเสียวแทนโยธิน
ที่บ้านโยธินที่ระยอง สมคิดหักซิมของโยธินหักสองท่อน โยธินโวยวาย
“พ่อ ทำไมเล่นแบบนี้ล่ะ”
“เข็มมันจะได้ติดต่อแกไม่ได้ พ่อขอสั่งแกห้ามไปกรุงเทพฯ หนึ่งอาทิตย์ เพราะพ่อจะพาสาวไปช็อปปิ้งที่เมียงดง”
“อ๋อ เรียกผมกลับมาด่วน จะให้ผมเฝ้าบริษัทให้นี่เอง”
สมคิดกอดคอลูกสนิทสนม
“น้องโยนี่สมเป็นลูกพ่อคิดจริงจริ๊งรู้ใจไปหมด” โยธินเซ็ง
ตำรวจน้ำกำลังปฏิบัติหน้าที่แล่นเรือตามหาเขมิกากับชานนท์จุดที่เรือจม ที่สะพาน ปรียาประคองแววนิลร้องไห้กันไม่หยุด
อีกมุม ประชาให้ปากคำตำรวจ
“เท่าที่ผมทราบ คุณขวัญชวนเจ้านายผมมาเที่ยวที่นี่ แต่คุณมณฑามาเล่าให้ผมฟังว่ามันเป็นแผนลวงคุณนนท์มาฆ่าเพื่อหวังหุบมรดกเป็นของตัวเองทั้งหมด”
อีกมุม มณฑายืนให้ปากคำกับตำรวจ
“ดิฉันกับผู้จัดการตามมาช่วยคุณผู้ชายที่นี่ แต่พอมาถึงเขาสองคนก็จมน้ำหายไปแล้ว”
ตำรวจ 2 นายที่เพิ่งกลับจากค้นหาเขมิกาเดินเข้ามารายงาน แววนิลกับปรียาตามมาฟัง
“ไม่พบตัวทั้งสองคน ถ้าเป็นศพก็น่าจะลอยไปไกลแล้ว”
แววนิลเป็นลม ปรียาประคองไว้
“คุณหนู”
ประชายืนมองอยู่ พอใจที่ตำรวจไม่สงสัย
วันต่อมา พวกพนักงานสปาพากันตกใจซุบซิบกันใหญ่ อึ่งตกใจมากวิ่งเข้ามา
“พวกเรารู้กันหรือยังเรื่องเจ้านายจมน้ำตาย” จรรยานั่งนิ่ง
“ข่าวว่าคุณขวัญเป็นคนยิงเจ้านายจริงหรือเปล่าแก”
“มันก็ต้องจริงอยู่แล้ว คนอย่างมันทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน” จรรยาตบโต๊ะลุกยืน
“ขวัญไม่มีวันทำอย่างนั้น”
“แกจะโง่เข้าข้างมันไปถึงไหน มันนี่แหละเลวขนานแท้ มันทำให้เจ้านายตาย สมน้ำหน้าแล้วที่มันก็ตายไปด้วย กรรมตามทันเห็นๆ”
“ไม่จริง คุณชานนท์กับขวัญยังไม่ตาย แกอย่ามาแช่งพวกเขาขืนพูดอีกคำฉันจะเอาไอ้นี่” จรรยาหยิบส้อม “จิ้มลูกกระเดือกแกออกมา”
“แกนี่มันยังไง คนตายแล้วจะให้บอกว่ายังไม่ตายยังไงยะ”
จรรยาถือส้อมเข้าหาอึ่ง จะจับปากอึ่ง อึ่งปัดออกยื้อแย่งส้อมกัน เยาว์วิ่งเข้ามาห้ามตรงกลาง
“หยุดๆ จะตีกันเพื่ออะไร ไม่มีคุณนนท์กับคุณขวัญแล้วสปาเราจะลูกผีลูกคนยังไม่รู้เลย”
กุ้งดึงอึ่งไว้ พนักงานหญิงอีกสองคนดึงจรรยา
เขมิกานอนคว่ำหน้าบนชายหาดที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง เขมิกาไอออกมาค่อยๆ รู้สึกตัว เขมิกาปรือตา มองรอบตัว นึกถึงชานนท์
“นายชาเย็น” เขมิการีบลุกยืน มองไปทางทะเลไม่เห็นชานนท์ ใจไม่ดี เขมิกาเดินเลียบชายหาด “คุณชานนท์ๆๆ”
เขมิกาชะงัก เมื่อเห็นรองเท้าผู้ชายลอยน้ำมา เขมิการีบลุยน้ำไปหยิบดูเป็นรองเท้าชานนท์ เขมิกาคิดว่าชานนท์ไม่รอดแล้ว รู้สึกเจ็บปวดเสียใจ เขมิการ้องไห้ออกมา
ที่สปา ประชายืนหัวโต๊ะห้องประชุม
“ที่เรียกทุกคนมารวมตัวกันในวันนี้ เพื่อจะประกาศให้ทราบว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมจะทำหน้าที่ดูแลจวงจันทร์สปาแทนคุณชานนท์”
ทุกคนฮือฮา จรรยาลุกยืน
“คุณเห็นศพคุณชานนท์หรือยังคะ”
“ยัง”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครยืนยันได้ว่าคุณชานนท์ตายแล้ว” เยาว์ลุกยืนบ้าง
“ฉันมีข้อสงสัย ใครแต่งตั้งผู้จัดการให้นั่งในตำแหน่งคุณชานนท์คะ”
“ฉันเอง” ทุกคนหันไปทางประตู แววนิลเกาะแขนมณฑาเดินเข้ามา มณฑาพยักหน้าให้แววนิลพูด “ฉันมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่สามารถมานั่งบริหารงานที่นี่ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นฉันจะให้คุณประชาทำหน้าที่แทน คำพูดของคุณประชา คือคำสั่งของฉัน”
จรรยาจะอ้าปากพูด แต่เยาว์กระตุกมือไว้ให้หยุด มณฑามองประชาแบบรู้กัน
ห้องทำงานชานนท์ ประชานั่งเก้าอี้ของชานนท์ หัวเราะสะใจ
แววนิลยังอยู่ที่ห้องประชุม นั่งที่หัวโต๊ะ พนักงานไม่อยู่ในห้องแล้ว
“ทำไมนมต้องให้นิลช่วยประชาด้วย นิลไม่เคยไว้ใจคนๆ นี้”
“มันจำเป็นค่ะ เราไม่รู้เรื่องธุรกิจต้องอาศัยใช้มันไปก่อน ถึงยังไงคุณหนูก็เป็นเจ้าของสปา เป็นผู้รับมรดกเพียงคนเดียว มันไม่มีทางแย่งไปได้”
“ทรัพย์สมบัติพวกนี้นิลอยากได้ แต่ถ้าต้องเลือก นิลอยากให้พี่นนท์กลับมามากกว่า” แววนิลร้องไห้ “ขวัญตามันยิงพี่นนท์ นมเห็นกับตาหรือเปล่า”
“คุณหนูคิดว่านมโกหกหรือคะ จำสมัยที่มันเป็นแฟนกับคุณผู้ชายได้มั้ย มันทำยังไงกับคุณหนูไว้ ขนาดลงทุนกลิ้งตกบันไดหน้าตึกเอง แล้วใส่ร้ายว่าคุณหนูเป็นคนผลัก มันก็กล้าทำมาแล้ว”
แววนิลคล้อยตาม เกลียดเขมิกา
“นิลไม่เคยลืม”
มณฑาเดินเข้ามาในห้องทำงานชานนท์ ประชารีบลุกเดินไปหา
“หาตัวคนขับรถเจอมั้ย”
“ไม่ต้องห่วง ผมส่งคนไปตามเก็บมันที่บ้านเกิดแล้ว ขอบคุณคุณมณฑาอย่างสุดซึ้งนะครับที่ให้การช่วยเหลือผมอย่างดี” มณฑาตาขวาง
“ฉันทำเพื่อคุณหนู คุณได้เป็นใหญ่ในสปาสมใจแล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป อย่าลืมว่าคุณหนูเป็นเจ้าของตัวจริง ถ้าคุณคิดตุกติกฉันจะเปิดโปงเรื่องที่คุณไล่ยิงคุณผู้ชายให้ตำรวจรู้”
ประชาไม่พอใจ บีบคอมณฑาด้วยมือเดียว
“เอาเลยสิเปิดโปงตอนนี้เลยก็ได้ เราจะได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดฆ่าคนตายด้วยกัน”
มณฑาจ้องประชาแค้น
“ฉันไม่เคยคิดทำร้ายคุณผู้ชาย แกต่างหากที่หลอกฉัน”
ประชาหัวเราะปล่อยมือจากคอมณฑา
“อย่ามาดราม่าตบตาผมดีกว่า ลึกๆ แล้วในใจคุณนม ก็อยากให้มรดกทั้งหมดของเลิศวิริยะตกเป็นของคุณแววนิลคนเดียวไม่ใช่หรือ”
มณฑาพูดไม่ออกเพราะเป็นความจริง
ลูกมะพร้าวหล่นลงมาที่พื้นทราย บนต้นมะพร้าวเห็นเขมิกากำลังเก็บลูกมะพร้าวโยนลงมา เขมิกากำลังจะปีนลง มองไปที่ทะเลเห็นร่างคนลอยน้ำมา เขมิกาดีใจ คิดว่าต้องเป็นชานนท์ รีบปีนลงมา
เขมิกาว่ายน้ำมาถึงร่างผู้ชายที่เกาะกล่องโฟมใส่น้ำแข็งลอยคออยู่ เขมิกาดีใจมากเพราะจำได้ทันที
“นายชาเย็น”
เขมิการีบช่วยชานนท์กลับฝั่ง
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 10 (ต่อ)
เขมิกาลากก้านมะพร้าวมาผูกๆ เป็นหลังคา เขมิกาเดินหาสมุนไพรที่จะรักษาแผลชานนท์แล้วเขมิกาก็เจอว่านหางจระเข้ ถอนออกมา เขมิกาฉีกใบตองจากต้นกล้วยใบใหญ่หลายใบ
เขมิกาเอาเนื้อวุ้นในว่านแปะแผลชานนท์ ปากก็พูดไปด้วย
“ปู่เคยเล่าว่าสมัยโบราณทหารที่โดนยิงแทงบาดเจ็บก็ใช้ว่านหางจระเข้รักษาแผลได้ ลดอาการปวดก็ได้ นายต้องสู้นะนายชาเย็น”
เขมิกาฉีกใบตองพันปิดแผล ฉีกใบมะพร้าวออกเหลือแกนกลางแล้วหักเป็นไม้กลัดเล็กๆ กลัดใบตองปิดแผลไม่ให้หลุด
บนโขดหิน เขมิกายกลูกมะพร้าวเหนือหัวแล้วกระแทกๆ บนหินหลายๆ ที จนมะพร้าวแตก เขมิการีบรินน้ำใส่ใบตองที่พับเป็นกระทงไว้
ชานนท์ยังสลบอยู่ เขมิกาป้อนน้ำมะพร้าวให้ชานนท์ทีละนิดๆ
อีกด้านหนึ่ง ห้องนวดที่สปา
“อะไรนะ น้าเยาว์”
“ได้ยินไม่ชัดหรือจ๊ะจรรยา แม่ฉันบอกว่าท่านผู้อำนวยการสั่งลดตำแหน่งแกจากรองหัวหน้าพนักงาน มาเป็นพนักงานนวด ส่วนฉันอั้ม พัชราภา จะนั่งในตำแหน่งแกแทน”
อึ่งบอกพร้อมหัวเราะน่าเกลียด
“ฉันไม่ยอม ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร”
ประชาเดินเข้ามา
“เธอกระด้างกระเดื่องกับฉัน แบบนี้เรียกว่าผิดหรือเปล่า ถ้ารับไม่ได้ จะเขียนใบลาออก ก็ไม่ว่ากันนะ”
จรรยากำมือแน่น เยาว์รีบพูดแทน
“จรรยารับได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร”
จรรยาอดทนเพราะอยากรอชานนท์กับเขมิกากลับมา อึ่งยิ้มเยาะจรรยา
จรรยากับเยาว์เดินคุยกันมา
“ถ้าไม่เพราะต้องอยู่รอคุณชานนท์กับขวัญกลับมา ฉันไม่อดทนอยู่ที่นี่หรอก”
“คุณชานนท์กับคุณขวัญอาจเสียไปแล้วก็ได้นะ นี่มันกี่วันมาแล้ว ไม่เห็นได้ข่าวคราวอะไรเลย ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะติดต่อกลับมาบ้าง”
“ถ้ายังไม่เห็นศพ ฉันไม่มีวันเชื่อ”
“เฮ้อ เราคงจะอยู่กันยากขึ้น พนักงานบัญชียังถูกไล่ออก เพื่อเอาคนของตัวมาทำแทน คนต่อไปไม่รู้จะเป็นใคร” เยาว์หนักใจ
“เข้าไปล้วงลูกฝ่ายบัญชีด้วยหรือ มันต้องคิดไม่ซื่อๆ แน่”
แววนิลนั่งที่เก้าอี้ ประชากับมณฑายืน แววนิลเปิดๆ ดูบัญชี ไม่รู้เรื่อง ส่งให้มณฑา
“คุณนมดูให้ทีละกัน นิลเห็นตัวเลขเยอะๆ แล้วไมเกรนจะขึ้น” มณฑารับไปดู
“ทำไมรายได้ของเดือนนี้ตกไปมาก”
“ระยะนี้คนมีเงินมาเปิดสปากันเยอะ ทำให้คู่แข่งเราเพิ่มขึ้น แถมข้าวของก็ขึ้นราคาทุกอย่าง ประคองตัวไปได้ก็นับว่าเก่งแล้ว”
มณฑาปิดบัญชีส่งคืนประชา
“อย่าให้ถึงกับขาดทุนแล้วกัน ไม่อย่างนั้นคุณหนูคงต้องให้คุณทบทวนตัวเอง”
“ผมคงไม่ทุบหม้อข้าวตัวเองหรอกครับ คุณนิลวางใจได้”
แววนิลมองเหยียดๆ
ประชาคุยโทรศัพท์กับพนักงานบัญชี
“โอนเงินเข้าบัญชีฉันเรียบร้อยหรือยัง ดีมาก ตบแต่งบัญชีให้เนียนอย่าให้ใครจับได้” ประชาตัดสาย ยิ้มสะใจ มองบ้านเลิศวิริยะ “ไม่ใช่แค่สปาเท่านั้นที่จะอยู่ในกำมือฉัน แต่บ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นของฉันด้วย”
มณฑาเดินเข้าห้อง แป้นกับโย่งถือกล่องเปล่าใบใหญ่เข้ามาคนละกล่อง
“ขนข้าวของๆ มันไปโยนทิ้งให้หมด หรือพวกแกจะเอาไปขายซาเล้งก็ตามใจ”
“เก็บไว้ก่อนไม่ได้หรือคะ เผื่อคุณผู้หญิงจะกลับมา”
“คนมันตายไปแล้วจะกลับมาได้ยังไง หรือแกอยากจะกระเด็นไปจากที่นี่อีกคน” แป้นไม่กล้าหือ โย่งสะอื้น “แกจะร้องไห้ทำไมนักเจ้าโย่ง”
“ผมคิดถึงคุณผู้ชาย ฮือๆ เพราะนังผู้หญิงหลายใจทำให้คุณผู้ชายจากโย่งไป โย่งเตือนแล้วคุณผู้ชายก็ไม่เชื่อ”
“หยุดพล่ามได้แล้ว น่ารำคาญ รีบๆ ทำให้เสร็จเร็วเข้า”
มณฑาออกไป โย่งก้มหน้าก้มตาเก็บของบนโต๊ะเครื่องแป้งเขมิกาใส่กล่อง แป้นเปิดลิ้นชักหัวเตียง หยิบของส่วนตัวเขมิกาใส่กล่อง ของบางชิ้นร่วงพื้น แป้นก้มเก็บเห็นโน้ตบุ๊กของเขมิกาซ่อนอยู่ใต้เตียง
ห้องนอนแป้น แป้นหยิบโน้ตบุ๊กออกจากกล่อง
“เรื่องอะไรจะเอาไปทิ้งให้โง่ อยากได้มานานแล้ว เก็บไว้เล่นเกมดีกว่า” แป้นเปิดฝาโน้ตบุ๊ก เล่นไม่เป็น“เปิดเครื่องตรงไหนวะ ภาษาปะกิดก็ไม่เคยเรียนกับเขาซะด้วย” แป้นกดมั่วๆ ปุ้มนั่นปุ้มนี้ เปิดไม่ได้ “โอ๊ย ยากฉิบเป๋ง เอาไปถามไอ้โย่ง เฮ้ยไม่ได้ มันก็รู้สิว่าเราแฮ้บไว้”
แป้นซ่อนโน้ตบุ๊กไว้ใต้ที่นอน
วันต่อมา บนเกาะ ชานนท์ขยับตัว ปรือตา งงว่านอนอยู่ที่ไหน ชานนท์พยายามลุกนั่ง เจ็บแผล
“โอ๊ย”
เขมิกาเดินหิ้วปลามา รีบวิ่งเข้ามาดู
“คุณฟื้นแล้วหรือ เป็นไงบ้างเจ็บมากมั้ย” ชานนท์มองหน้าเขมิกา รู้สึกมึนๆ อยู่ มองใบตองที่พันแผล “ฉันทาว่านให้อีกดีกว่า แผลคุณถึงกระสุนแค่ถากไป แต่มันแช่น้ำอยู่นาน ถ้ามันเน่าหรือติดเชื้อถึงตายได้นะคุณ” ชานนท์ตาขวาง ดึงแขนออก “อยู่เฉยๆ สิ ให้ฉันแกะใบตองออกก่อน”
เขมิกาจะจับแขนชานนท์อีก ชานนท์กัดฟันออกแรงผลักเขมิกาอย่างแรง เขมิกากระเด็นล้มไป เขมิกาคาดไม่ถึงว่าชานนท์จะรุนแรง
“ฉันก็แค่อยากช่วย ไม่เห็นต้องทำกันขนาดนี้” ชานนท์ไม่ยอมพูด ฉีกใบตองออกจากแขน จ้องเขมิกาแล้วขยี้ใบตองแหลกคามือให้เขมิกาดู “แรงดีไม่มีตก แจ๋วเลยพี่ จะได้ไม่ต้องมานั่งห่วงกัน เก่งให้ตลอดนะคุณอดีตสามี ดูสิจะไปได้สักกี่น้ำ”
เขมิกางอนไม่พอใจ เดินออกไป ชานนท์จับแผล เจ็บมาก แต่แค้นเขมิกามากกว่า นึกถึงคำพูดของประชากับเขมิกา
ชานนท์ยืนหน้าห้องยังไม่ได้เปิดประตูเข้าไปได้ยินเสียงมาจากด้านในเป็นเสียงเขมิกา
“ก็เพราะเราชวดเงินก้อนนี้ไปไง ฉันถึงต้องอยู่ต่ออีกหน่อยเพื่อหาทางดูดเงินมาจากกระเป๋าชานนท์”
“เธอไม่จำเป็นต้องออกแรงหรอก เรากลับไปเที่ยวนี้ ทุกอย่างในเลิศวิริยะต้องเป็นของเรา”
ชานนท์ยิ่งคิดยิ่งแค้น กัดฟันแน่นทนเจ็บแผลยอมตายดีกว่าให้เขมิกาช่วย
เขมิกานั่งปิ้งปลาไปมา พอปิ้งสุก จะฉีกมากิน อ้าปากค้าง มองไปทางเพิงที่พักชานนท์ เขมิกากินไม่ลงเพราะเป็นห่วงกลัวชานนท์หิว
ที่เพิงพัก ชานนท์นั่งหลับตาไม่ยอมนอน เขมิกาแกะปลาย่างใส่ใบตองเดินเข้ามา
“ฉันแกะปลาย่างมาให้ กินซะหน่อย เดี๋ยวจะไม่มีแรงด่า” เขมิกาวางข้างชานนท์ ชานนท์นั่งนิ่งตาลอย “ถ้าเจ็บแผลฉันจะป้อนให้”
เขมิกาหยิบเนื้อปลาจ่อที่ปากชานนท์ ชานนท์อ้าปากเหมือนว่าง่าย เขมิกาสบายใจขึ้น ชานนท์กินแล้วคายพ่นลงพื้น ก่อนมองเขมิกาอย่างเกลียดชัง เขมิกาสะกดกลั้นกำมือแน่นแล้วปล่อยลงข้างตัว
“ฉันเคยคิดว่าถ้าคุณโกรธฉัน แล้วฉันจะทำยังไง ฉันตั้งใจไว้ว่าฉันจะขอโทษคุณ ขอให้คุณอภัยให้ แต่พอมันเกิดขึ้นจริงๆ ฉันคงไม่ต้องขอโทษแล้ว” เขมิกามองตาชานนท์ “สายตาคุณ มันตอบได้ชัดเจน” ชานนท์เมินไปทางอื่น ไม่ยอมพูดด้วย เขมิกาลุกยืน “ฉันจะวางปลาย่างไว้ที่นี่ ถ้าคุณหิวก็กินซะ ฉันจะไม่มากวนคุณอีก”
เขมิกาเดินออกไป ชานนท์เหลือบตามองเขมิกา
เขมิกาวิ่งเร็วจี๋ลงน้ำทะเล หยุดยืนแหกปากร้องระบายความอัดอั้นแข่งกับเสียงคลื่น
“อ๊าย! ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้ ฉันอยากหาพี่สาวให้เจอ อยากทำให้พ่อดีใจ อยากเห็นพ่อฟื้นขึ้นมา แต่ฉันพูดความจริงไม่ได้ บอกคุณไม่ได้ โอ๊ย มันอึดอัด จนอกจะแตกตายอยู่แล้วรู้บ้างมั้ย”
เขมิกายืนร้องไห้
มณฑานั่งเชิดที่โซฟา แป้น โย่งนั่งพับเพียบที่พื้น มณฑาส่งซองเงินเดือนให้ แป้น โย่งรับมา เปิดดูเงินเดือน
“รู้สึกเงินเดือนผมจะขาดไปหนึ่งพัน” โย่งรีบบอก
“ของหนูก็เหมือนกันเปี๊ยบ นับผิดหรือเปล่าคะ”
“งานที่แกสองคนทำๆ กันอยู่ได้แค่นี้ยังถือว่ามากไปด้วยซ้ำ”
“แต่คุณผู้ชาย...”
มณฑาเสียงเฉียบ
“คุณผู้ชายตายไปแล้ว ฉันคือคนที่ดูแลบ้านหลังนี้ตามคำสั่งคุณหนู ฉันจะพูดตรงๆ ก็แล้วกัน เพราะแกคงไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจว่านี่คือการบีบให้ลาออก”
โย่งลุกยืน
“บีบยังไงก็ไม่ไป ผมจะรอจนกว่าคุณผู้ชายจะกลับมา”
“ฉันบอกว่าคุณผู้ชายตายไปแล้ว แกฟังไม่รู้ภาษาหรือไง”
“ถึงเป็นผี ผมก็จะรอ”
แป้นรีบจับแขนโย่ง
“สงสัยมันคงจะเสียใจจนเป็นบ้าไปแล้ว อย่าถือสามันเลยค่ะ แกอยากตกงานหรือไง ไปเร็ว”
แป้นดึงโย่งไป มณฑายิ้มเยาะ
วันต่อมา เขมิกาใช้สุ่มที่ทำเองจับปลา แล้วใช้ไม้ปลายแหลมแทนฉมวกทิ่มลงไปในสุ่มเพื่อแทงปลา เขมิกามองไปบนชายหาดห่างออกไป เห็นผู้ชายไกลๆ เดินลากเท้าขนานไปกับชายหาด เขมิกาเพ่งมอง
“บนเกาะนี้มีคนอื่นอยู่ด้วยหรือวะ เสื้อผ้าคุ้นๆ เฮ้ย นายชาเย็น”
เขมิการีบขึ้นมาบนหาด วางสุ่ม แล้ววิ่งไปทางชานนท์
ชานนท์กัดฟันเดินลากเท้าเพราะทิฐิ เขมิกาวิ่งตามมาจับแขน
“คุณจะไปไหน” ชานนท์หยุดเดินมองมือเขมิกา เขมิกาปล่อย “ตอนนี้เราอยู่บนเกาะร้าง ไม่มีผู้คน ไม่มีเรือที่
จะพาคุณกลับฝั่งได้หรอก เชื่อฉันกลับไปนอนพักเถอะ” ชานนท์เดินต่อ เขมิกายืนขวาง “คุณเป็นใบ้ไปแล้วหรือไง ปากก็มีทำไมไม่พูด”
“ไปให้พ้น” ชานนท์บอกเสียงเบ็นชา
“เชื่อก็กลัวดิ เกาะนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ฉันจะเดินไปตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น”
ชานนท์ลากเท้าเดินผ่านเขมิกา เขมิกาเดินตามไปห่างๆ อย่างห่วงๆ ชานนท์เจ็บแผลขึ้นมาอีก เซจะล้ม เขมิกาพุ่งเข้าไปประคอง รีบบอกชานนท์
“เก็บความแค้นของคุณไว้ก่อนได้มั้ย ให้ฉันรักษาคุณก่อน หายดีแล้วค่อยด่าฉัน หรือท้าต่อยกันเลยก็ยังได้”
ชานนท์ดันเขมิกาออก
“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ถึงตายก็ไม่มีวันขอให้ช่วย อย่าตามมาอีกไม่งั้นฉันจะกระโดดหน้าผาให้เธอดู”
เขมิกาอึ้งไม่กล้าตาม ชานนท์พยายามประคองตัวเดินห่างไปเขมิกาหนักใจ
ทางขึ้นเนินสูงสุดของเกาะ ชานนท์มองหาไม้สำหรับทำเสา ชานนท์เห็นไม้ไผ่ขนาดยาวหักอยู่ข้างทาง ชานนท์หยิบแล้วใช้ไม้ไผ่พยุงตัวเดินขึ้นไปเรื่อยๆ
ที่โรงพยาบาล โยธินนั่งนวดนิ้ว บีบนิ้วให้บัณฑิต
“อาฑิตต้องรีบๆ ตื่นขึ้นมานะครับ เข็มจะได้กลับมา อาก็รู้นี่ครับ ไอ้สลาตันของอาเวลาคิดจะทำอะไร ต้องลุย
ให้ถึงที่สุด ไม่งั้นไม่เลิก แต่ผมกลัวจะเกิดเรื่องเสียก่อน นี่ก็เงียบหายไปหลายวันแล้ว ติดต่อไม่ได้เลย ผมจะไปตามที่กรุงเทพฯ ก็ทิ้งบริษัทไปไม่ได้”
โยธินวางมือบัณฑิต เดินเข้าห้องน้ำ นิ้วของบัณฑิตกระดิกเพราะห่วงเขมิกา
เขมิกานั่งหลับพิงต้นไม้ สะดุ้งตื่น
“พ่อ” เขมิการู้ตัวว่าฝันไป “เข็มคิดถึงพ่อจัง อยากกอดพ่อ แต่ไม่รู้จะเอาชีวิตรอดหรือเปล่า เข็มไม่กลัวตายหรอก แต่กลัวไม่ได้เจอพ่อกับปู่ แล้วก็เฮียโยด้วย” เขมิกาปาดน้ำตา ฟ้าร้องครืนๆ เขมิกาเงยหน้ามองดูกลุ่มเมฆ “ฝนกำลังมา”
เขมิการีบลุกยืน ห่วงชานนท์
ชานนท์ตะเกียกตะกายขึ้นมาถึงเนินสูงสุดของเกาะ ปล่อยไม้ไผ่ หมดแรงล้มลงนอนหงายมองท้องฟ้าเห็นท้องฟ้าเริ่มครึ้ม มีฟ้าผ่าเป็นเส้นสายน่ากลัว ชานนท์มองไปด้านข้างตัวเห็นขาผู้ชายก้าวมาหาทีละก้าว ชานนท์แหงนหน้ามองเห็นภาพหลอนเป็นประชายืนค้ำหัวอยู่ ประชายิ้มเยาะ
“ฉันสวมเขาให้แกมาตั้งนาน แกยังไม่ระแคะระคายสักนิด ไอ้หน้าโง่ ไอ้ขี้แพ้ ตลกดีว่ะ ฮ่าๆๆ”
ภาพประชาหายไป ชานนท์แค้น ฮึดสู้
“ฉันต้องกลับไปให้ได้”
ชานนท์รวบรวมกำลังลุกยืน ล้มแล้วลุก ล้มแล้วลุกอยู่ 3-4 ครั้ง เหมือนจะไม่สำเร็จ
เขมิกามองรอยเท้าของชานนท์ลักษณะลากเท้าเป็นทางยาว มองขึ้นไปบนเนิน
ชานนท์คลานไปที่ไม้ไผ่ หยิบไม้ไผ่แล้วดันตัวลุกยืนแล้วเดินไปตรงก้อนหินใหญ่หลายก้อนบนยอดเนิน เห็นกองฟืนที่เขมิกาจุดไฟสุมไว้ในหลุมตื้นๆ มีควันสีขาวลอยขึ้นสู่ที่สูง ฝนตกลงมา กองฟืนดับ ชานนท์รีบถอดเสื้ออย่างยากเย็นเพราะเจ็บแผล แต่กัดฟันอดทน ชานนท์เอาเสื้อผูกกับปลายไม้ไผ่แทนผืนธงเพื่อขอสัญญาณช่วยเหลือ ชานนท์ปักธงบนร่องของก้อนหินได้สำเร็จ แล้วหมดแรงทรุดฮวบนอนตากฝน
เขมิกาฝ่าสายฝนขึ้นมาถึงบนเนินเขา ตะโกนเรียกชานนท์
“นายชาเย็นๆ” เขมิกาเดินหาจนมาถึงฟืนที่ตัวเองจุดไว้เพื่อส่งสัญญาณความช่วยเหลือ เห็นฟืนเปียกน้ำหมด “เฮ้ย หมดกัน สัญญาณขอความช่วยเหลือของเรา”
สายตาเขมิกาเหลือบไปเห็นเสาไม้ไผ่ เขมิกาไล่สายตาขึ้นไปเห็นเสื้อของชานนท์บนยอดไม้ไผ่ เขมิกามองอย่างตะลึงคาดไม่ถึงว่าที่ชานนท์หายตัวไปเพื่อมาทำสิ่งนี้ เขมิกามองหาชานนท์
“คุณชานนท์”
เขมิกาหมุนตัวมองฝ่าสายฝนพยายามหาชานนท์แล้วก็เห็นขาชานนท์โผล่มาจากต้นไม้ เขมิกาวิ่งไปดูเห็นชานนท์หมดสติอยู่
เขมิกาประคองปีกชานนท์มาถึงเพิงพักซึ่งขณะนั้นฝนหยุดตกแล้ว เขมิกาจับชานนท์นอนแล้วแตะที่หน้าผาก เขมิกาสะดุ้งรีบชักมือกลับเพราะชานนท์ตัวร้อนจี๋ เขมิการีบดูแผลที่แขนแล้วหนักใจ
เขมิกาอุ้มลูกมะพร้าวที่เทน้ำมะพร้าวออกไปแล้ว เดินเข้ามาในป่า วิ่งหาแหล่งน้ำแบบร้อนใจ
“มีต้นไม้ ก็ต้องมีแหล่งน้ำสิ มันอยู่ไหน”
เขมิกาหาจนเหนื่อย หยุดหอบยืนบนพื้นที่มีร่องน้ำเล็กๆ เขมิกาจะก้าวเท้าเดินต่อแต่ชะงักเมื่อเห็นร่องน้ำเล็กๆใต้เท้า เขมิกาก้มมองมีน้ำไหลลงมาผ่านรองเท้าไป เขมิกาดีใจไล่ตามร่องน้ำเล็กๆ ไป จนเจอแอ่งน้ำตกเล็กๆ
“นายชาเย็น นายรอดตายแล้ว”
เขมิการีบปีนป่ายลงไป เอาน้ำใส่ลูกมะพร้าวที่ถือมา
เขมิกาฉีกชายเสื้อตัวเองมาเป็นผ้าเช็ดตัวให้ชานนท์ ชานนท์นอนนิ่งไม่ได้สติ เขมิกาเช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดแขน
แล้วนั่งเฝ้าจนหลับบนเข่าตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้นเขมิกาขดตัวนอนหลับข้างชานนท์ เสียงชานนท์เพ้อตอนที่ตกจากเรือ
“ขวัญ ขวัญตาเธออยู่ไหน” เขมิกาสะดุ้ง มองไปทางชานนท์ที่มือปัดป่าย ชานนท์ฝันตอนอยู่ในทะเล “ขวัญ อย่าตายนะ ฉันจะไปตามเรือมาช่วยเธอ ช่วยด้วยๆ”
เขมิกาดีใจที่รู้ว่าชานนท์เป็นห่วง จับมือชานนท์แล้วอังหน้าผาก เขมิกาใจชื้นขึ้นมาเมื่อเห็นว่าไข้ลดแล้ว
“ไข้ลดลงมาแล้ว” เขมิกาดูแผลที่แขนแล้วตกใจ “ทำไมแผลบวมเป่งอย่างนี้ ท่าจะอักเสบแหง” เขมิกาตบหน้าชานนท์เบาๆ “นายชาเย็น ได้ยินเสียงใช่มั้ย คุณรออยู่นี่นะ ฉันจะไปตามคนมาช่วย ถ้าเราโชคดีอาจมีคนอาศัยอยู่บนเกาะบ้าง คุณต้องรอฉันกลับมานะ”
เขมิการีบวิ่งออก
เขมิกาเดินลัดเลาะโขดหินริมทะเลไปเจอเรือขนาดเท่าเรือประมงจอดอยู่ เขมิกาดีใจวิ่งไปที่เรือ ไม่เห็นคนบนเรือจึงลุยน้ำปีนขึ้นเรือ
“ใครเป็นเจ้าของเรือลำนี้ฮะ ฉันมาขอความช่วยเหลือ” ไม่มีเสียงตอบ เขมิกาลงไปห้องใต้ท้องเรือ “มีใครอยู่มั้ย”
เขมิกามองสำรวจเห็นตู้ยา หันซ้ายหันขวาหยิบตะกร้าพลาสติกใบเล็กๆ เปิดตู้ยา หยิบยาล้างแผล ยาทา ยาแก้ไข สำลี ผ้าพันแผลอย่างเร็วๆ ใส่ตะกร้า
โต้ง เปี๊ยกสองลูกน้องโจรสลัดเดินมาหยุดหน้าเพิงพักที่ชานนท์นอนอยู่ ทั้งคู่ถือปืนยาวเดินเข้าเพิงมะพร้าว มองชานนท์ที่นอนนิ่ง โต้งเอาปลายปืนเขี่ยชานนท์ให้ตื่น ชานนท์ไม่ขยับตัว เปี๊ยกอังจมูกชานนท์
“ยังหายใจอยู่พี่” เปี๊ยกเห็นแผลที่แขน “มันบาดเจ็บที่แขนด้วย”
“ช่างหัวมัน ค้นดูเผื่อเจอของมีค่า”
โต้งกับเปี๊ยกช่วยกันมองหามุมนั้นมุมนี้ ชานนท์ลืมตาทันที ค่อยๆ เอื้อมมือข้างที่ไม่เจ็บไปหยิบฉมวกที่เขมิกาไว้ใช้แทงปลา ชานนท์ลุกนั่ง พวกโจรสลัดหันมา ชานนท์ปาใส่เปี๊ยกหัวฉมวกเฉี่ยวแขนร้องโอดโอย โต้งห่วงเพื่อน ช่วยประคอง ชานนท์ถือโอกาสประคองตัวหนีออกจากเพิง เปี๊ยกร้องไม่หยุด โต้งต้องรีบดึงผ้าซับเหงื่อออกมาแปะที่แขนห้ามเลือดให้ โต้งโมโหมาก
“แกรออยู่นี่ วันนี้มันชะตาขาด”
โต้งคว้าปืนพุ่งออกไป
ชานนท์ใช้ไม้ที่เขมิกาเอามาทำฟืนต่างไม้เท้า พยุงตัวเองเดินหนีมาที่ชายหาด เสียงปืนดังเปรี้ยง! ทรายข้างตัวชานนท์กระจุย ชานนท์สะดุ้งหันไปมองเห็นโต้งกำลังไล่ตามมา เล็งปืนจะยิงอีกนัด ชานนท์มองไปข้างหน้าเห็นซากเรือพังๆ รีบวิ่งไปหลบ กระสุนยิงเฉียดไปไม่โดน ชานนท์ก้มหมอบ โต้งวิ่งเข้ามาใกล้
“แกคงไม่รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ฉันไอ้โต้งเด็กในคาถาของแก๊งสามพี่น้องโจรสลัดที่เป็นเจ้าของเกาะนี้โว้ย ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ออกมา ยิงเละ” ชานนท์เจ็บแผล กัดฟันอดทนไม่ยอมออกไป “หนึ่ง สอง สาม”
เขมิกาถือตะกร้าใส่ยา เดินเร่งรีบเพื่อไปรักษาชานนท์ ได้ยินเสียงปืนดังเปรี้ยง เขมิกาตกใจ กลัวเกิดอันตรายกับชานนท์จึงรีบวิ่ง
โจรสลัดยิงใส่ซากเรืออีกนัด ทะลุเป็นรู
“โอ๊ย”
โต้งคิดว่าโดนยิงแล้ว เสียงชานนท์เงียบไป โต้งย่องไปช้าๆ ที่ซากเรือเห็นชานนท์นอนคว่ำหน้าเหมือนนอนตาย โต้งก้มลงดูใกล้ๆ ชานนท์พลิกตัวหันหน้ามาปาทรายใส่หน้าโต้ง โต้งโดนทรายเข้าตา หลับตาปี๋ ชานนท์ใช้ไม้เท้าตะเกียกตะกายลุกยืนเห็นปืนตกอยู่ข้างตัวโต้ง โต้งนั่งตัวงออยู่เพราะแสบตา ชานนท์จะหยิบปืนแต่มีเท้าคนมาเหยียบปืนไว้ ชานนท์ตกใจเงยหน้าขึ้นมองจึงพบแบงก์ น้องชายคนกลางของหัวหน้าโจรสลัดแต่งตัวอย่างเท่ใส่แว่นดำยืนจ้องชานนท์
เขมิกาวิ่งมาถึงเพิงพักรีบเข้าไปดูเห็นชานนท์หายไปแล้ว เปี๊ยกที่บาดเจ็บก็หายไป เขมิกาเป็นห่วงชานนท์ดูกระวนกระวาย วางตะกร้ารีบเดินออกมาด้านนอกมองหาชานนท์แล้วป้องปากตะโกนเรียก
“คุณชานนท์”
เขมิกาก้มมองทรายสำรวจรอยเท้า เห็นรอยเท้ามากกว่าคนหนึ่งคน เขมิกาแปลกใจ ลุกยืนคิดว่าต้องเกิดเรื่องร้ายกับชานนท์แน่ เขมิการีบเดินตามรอยเท้านั้นไป
แบงก์หิ้วถุงผ้าแบบมีหูรูดสำหรับใส่เงินเดินนำ โต้งหิ้วปีกชานนท์เดินตามอยู่ข้างหลัง บอมยืนรอแบงก์อยู่ ยังไม่ได้มองว่าโต้งพาชานนท์มา
“ปล่อยของได้หรือเปล่าพี่แบงก์”
แบงก์โยนถุงใส่เงินให้
“ยัยเจ๊เจ้าเดิมมันรับซื้อของที่เราปล้นไว้ทั้งหมด เงินอยู่ในนี้ เอาไปให้พี่บิ๊กด้วย”
บอมเห็นชานนท์
“ไอ้โต้งแกพาใครมา”
โต้งมองแบงก์ ไม่กล้าตอบเอง
“น่าจะเรือล่มแล้วลอยมาติดเกาะ”
“อย่าบอกนะว่าพี่จะเอามันมารักษา พี่เป็นบ้าหรือไงเจอใครลอยน้ำมาเป็นต้องช่วยเขาหมด ไอ้โต้งเอามันไปยิงทิ้ง”
“ยิงคนที่กำลัง เจ็บหนักปางตาย มันเกินไป ฉันจะรักษาเขาเอง พอหายดีแล้วแกจะทำกับเขายังไงก็เรื่องของแก แต่ให้ฉันยืนดูแกฆ่าเขาตอนนี้ฉันทำไม่ได้”
“โห คุณธรรมล้ำเลิศ อย่ามาสร้างภาพเลยพี่ ที่ชอบอ้างนั่นอ้างนี่ไม่ยอมฆ่าใคร เพราะใจติ๋มมากกว่ามั้ง”
แบงก์โมโหต่อยบอม บอมไม่ยอมต่อยกลับ ชกกันไปมา
เขมิกายังไล่ตามรอยเท้าอย่างรีบเร่ง เขมิกาสะดุดรากไม้หกล้มแต่ไม่ห่วงตัวเอง กัดฟันลุกขึ้นวิ่งต่อ
เกาะอีกด้านตรงชายหาดหน้าบ้านโจรสลัด ชานนท์อึดมากมองมีดที่เอวโต้ง โต้งมัวแต่มองพี่น้องต่อยกัน ชานนท์เลยแย่งมีดจากเอวโต้งได้ ชานนท์ใช้มีดจี้คอโต้ง กอดคอโต้งเพื่อยึดเป็นหลักไม่ให้ตัวเองล้ม
“เอาเรือมา”
แบงก์กับบอมหยุดต่อยกันหันมามอง บอมหัวเราะ
“แกเลือกตัวประกันผิดแล้ว คนอย่างมันตายฉันไม่เห็นจะสน เล่นกับใครไม่เล่น อย่ามาเล่นกับโจรสลัดอย่างไอ้บอม”
บอมชักปืนจะยิงชานนท์
“อย่าบอม” แบงก์จับมือบอมยกปืนให้สูงขึ้น “เดี๋ยวโต้งโดนลูกหลงไปด้วย”
“ถ้ามันตายพี่ก็รับผิดชอบไปสิ ก็ดันพาคนนอกเข้ามาก่อเรื่องเอง”
ที่ก้อนหินใหญ่ เขมิกาโผล่หัวออกมาเห็นชานนท์กำลังแย่ เขมิกามองซ้ายมองขวาตามพื้นหาตัวช่วย รีบหยิบขวดเบียร์ขึ้นมา
บอมกับแบงก์ยังยื้อกันอยู่ ชานนท์ทำท่าจะไม่ไหวโอนเอนใกล้หมดสติ โต้งเห็นอาการชานนท์รีบจับมือชานนท์แย่งมีดไปได้ แล้วผลักชานนท์ล้มลงนอน
“ระวัง ระเบิด”
เขมิกาตะโกนพร้อมกับขวดเบียร์ลอยมาตรงกลางวง กลิ้งๆๆ ทั้งหมดเห็นแตกฮือไปหาที่กำบัง ยกเว้นชานนท์ที่นอนลุกไม่ไหว เขมิกาถือโอกาสวิ่งเข้ามาพยุงชานนท์ลุก
“ลุกเร็ว”
เขมิกาประคองนนท์หนี แต่ไปได้แค่สามก้าว มีกระสุนสาดเข้ามาจากด้านข้าง ขวางหน้าหลายนัด เขมิกาต้องดึงชานนท์ถอยหลังด้วยความตกใจแล้วหันมามองคนยิง บิ๊ก หัวหน้าโจรสลัดยืนเล็งปืนอยู่ บิ๊กเห็นหน้าเขมิกาอย่างชัดเจนถึงกับตกตะลึง แบงก์กับบอมยืดตัวขึ้นจากที่กำลังบังตัว เพิ่งเห็นหน้าเขมิกาเหมือนกัน ตกตะลึงไปด้วย
“ขวัญตา”
บิ๊กเสียงดังแบบแค้น ชานนท์ที่ยังพอมีสติอยู่มองหน้าเขมิกาแบบแปลกใจ เขมิกางง ว่าคนพวกนี้ทำไมรู้จักขวัญตา
ห้องทำงานชานนท์ที่สปา ป้ายบริษัทห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ ประชายืนมอง แล้วฉีกกระดาษออกเห็นป้ายสปาชื่อใหม่เขียนว่า “เพชรธาราสปา” ประชามอง ยิ้มภูมิใจ เสียงเคาะประตูดัง ประชารีบเอาหนังสือพิมพ์มาปิดป้ายไว้
“เข้ามา”
ฉลามเดินเข้ามา
“ผมไปที่บ้านเกิดของคนที่นายให้ตามหาแล้ว”
ประชายกมือห้ามพูด แล้วรีบไปที่ประตู เปิดออกดูว่ามีใครผ่านมาหรือเปล่า แล้วปิดล็อก ประชาเดินกลับมาหาฉลาม
“ปิดปากไอ้คนขับรถของชานนท์ได้หรือเปล่า”
“ผมดักรอมันอยู่หลายวัน แต่ไม่เห็นมันโผล่หัวมาเลย”
“ไปสืบกับคนแถวบ้านเกิดมัน ว่ามันมีเพื่อน มีญาติโกโหติกาอยู่ที่ไหนบ้าง แล้วเก็บมันให้ได้”
“ครับนาย”
ฉลามออกไป ประชาหนักใจเดินมาลูบป้าย ตัดสินใจต้องรีบยึดสปาโดยเร็ว
จรรยาถือตะกร้าใส่อุปกรณ์นวดตัวเข้าห้องนวด วางที่โต๊ะปลายเตียง จรรยาเดินออกไปมีเท้าคนเดินเข้ามาช้าๆ หยุดที่โต๊ะปลายเตียง ประชายืนมองตะกร้าเปลี่ยนขวดน้ำมันหอมระเหยที่มีสารอันตรายแทนขวดเดิม
จรรยากำลังนวดน้ำมันหอมระเหยที่ขาให้ลูกค้า ลูกค้าที่นอนหลับตาอยู่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่แขน ลืมตา
“ทำไมมันร้อนผิวจังคุณน้อง โอ๊ย มันทั้งแสบทั้งร้อน”
ลูกค้ารีบลุกนั่ง จรรยาตกใจ เยาว์ กุ้ง อึ่งวิ่งเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นจรรยา”
จรรยาตกใจพูดไม่ออก
“โอ๊ย” ลูกค้าปวดร้อนดิ้นตัวงอ
“ว้ายตายแล้วแม่ ดูแขนคุณกิ่งสิ บวมเป่งเลย”
“ช่วยกันพยุงไปที่รถเร็วเข้า”
จรรยา เยาว์ ช่วยกันพยุงลูกค้า
อึ่งวิ่งหน้าเริ่ดมาห้องประชา รีบผลักประตูเข้าไป ประชานั่งรอเวลาอยู่แล้ว
“ผู้อำนวยการคะ นังจรรยามันทำเรื่องใหญ่แล้ว”
ประชาผุดลุกยืน กระดิกนิ้วเรียกอึ่งมาหา อึ่งงงๆ เดินไปหาประชา ประชายกหูโทรศัพท์บนโต๊ะยื่นให้
“โทรไปหาสำนักพิมพ์ของไอ้เก่งกาจ บอกมันว่าเธอเป็นผู้ประสงค์ดี ต้องการแจ้งเหตุร้าย แล้วเล่าไปตามที่เธอเห็น” อึ่งสับสนไม่เข้าใจ พูดไม่ออก “ไม่ต้องเข้าใจอะไร แค่ทำตามที่ฉันบอกเธอจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า”
อึ่งตาลุกเห็นแก่เงิน รับโทรศัพท์จากมือประชา
ที่แผนกต้อนรับ ประชาโมโหจัด ชี้หน้าจรรยา
“ลูกค้าจะฟ้องเรา เขาให้สัมภาษณ์นักข่าวไปทั่วว่าจวงจันทร์สปาทำให้เขาต้องเข้าโรงพยาบาล”
“ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ฉันก็ใช้น้ำมันตัวเดิม ลูกค้าก็ใช้ตัวนี้ประจำไม่เคยแพ้มาก่อน”
“ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องรับผิดชอบ ฉันไล่เธอออก”
“นี่เพิ่งเป็นความผิดครั้งแรกของจรรยานะคะ น่าจะคาดโทษหรือหักเงินเดือนก่อน อย่าถึงกับไล่ออกเลยค่ะ” เยาว์บอก
“ก็ได้ เห็นแก่เธอทำงานมานาน ฉันให้โอกาสเธอเขียนใบลาออกมาเอง จะได้ไม่เสียประวัติ”
จรรยาจะเถียงต่อ แต่ประตูทางเข้าถูกผลักออก เก่งกาจและนักข่าวอีกหลายคนกรูกันเข้ามา แสงแฟลชวูบวาบ เก่งกาจยิงคำถาม
“ลูกค้าบอกกับทางโรงพยาบาลว่าหลังจากมารับบริการนวดตัวที่นี่ก็เกิดอาการตัวบวม เขายืนยันว่าน้ำมันนวดของที่นี่มีปัญหา ทางสปาจะว่ายังไงครับ”
“ผมคงต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อย่างเป็นทางการก่อนว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแน่ ถ้าเกิดจากเรา สปาของเรายินดีรับผิดชอบอย่างเต็มที่ แต่ว่าตอนนี้ผมคงยังไม่สามารถให้ข่าวอะไรได้ทั้งนั้น ต้องขอโทษด้วยครับ”
ประชารีบหันกลับเข้าด้านใน นักข่าวจะตาม
“เดี๋ยวสิครับ สังคมกำลังต้องการคำตอบ ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค หวังแต่เอากำไร แล้วความปลอดภัยของประชาชนจะอยู่ตรงไหน”
อึ่ง กุ้งวิ่งออกมาช่วยกันดันนักข่าวไม่ให้ตาม
“เข้าไม่ได้นะคะ เข้าไม่ได้”
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 10 (ต่อ)
บนเกาะ ที่บ้านพักโจรสลัด เขมิกามยืนต่อหน้าบิ๊กและแบงก์ บอมน้องคนเล็กเดินตรงดิ่งเข้ามาดู ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เข้าไปบีบคอเขมิกาด้วยความแค้น
“แก ยังมีหน้ากลับมาอีกหรือ”
เขมิกาหายใจไม่ออก แบงก์รีบเข้าไปดึงตัวบอมออก
“พอแล้วบอม”
บอมไม่ชอบขี้หน้าพี่ชาย ผลักออกแรงชี้หน้า
“ถอยไปเลยอย่ามายุ่ง”
แบงก์เซ บิ๊กตวาดบอม
“ไอ้บอมหยุด นี่มันพี่ชายแก อย่าให้มันเกินไป” บอมเกรงพี่ชายยอมหยุด บิ๊กมองเขมิกาแล้วพูดเสียงเหี้ยม “ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอเธออีก”
“ฆ่ามันเลยพี่ ไม่ต้องพูดกับมันให้เสียเวลา”
“ฉันไปทำอะไรให้ เจอหน้าก็ไม่เคยเจอ”
ชานนท์นอนนิ่งที่พื้น มือชานนท์ขยับ ค่อยๆ ลืมตาสะลืมสะลือมองไปนอกกรงขัง โต้งกับเปี๊ยกนั่งคุยกันที่โต๊ะ
“ฉันว่านังขวัญตาไม่รอดแน่ มาพนันกันมั้ยวะว่ามันจะตายแบบไหน”
“มันเคยมีเรื่องอะไรกับพวกหัวหน้าหรือพี่” เปี๊ยกถาม
“ฉันก็มาอยู่ไม่นาน ไม่รู้จักมันเหมือนกัน แต่เคยได้ยินว่านังนี่มันพิษสงรอบตัวยั่วยวนพี่น้องจนเกือบฆ่ากันตาย”
ชานนท์ได้ยินหมด มือชานนท์ค่อยๆ กำแน่นรู้สึกเกลียดขวัญตามากขึ้น
เขมิกาตกใจไม่คาดฝัน
“ขวัญตานะหรือเคยมาที่เกาะนี้ พวกนายฝันกลางวันกันหรือเปล่า พูดเป็นนิยายไปได้”
“พี่เห็นมั้ยว่ามันตั้งใจจะกวนประสาทเรา”
“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ”
บอมชักปืนเล็งใส่เขมิกา
“ฉันทนเห็นมันตีหน้าใสซื่อต่อไปไม่ไหวแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น พวกพี่ก็คงยังไม่ลืมที่มันทำไว้กับเราหรอกใช่มั้ย”
บอมมองไปที่แบงก์และบิ๊ก ภาพเหตุการณ์ในอดีตตอนที่ขวัญตาหนีจากอู๋มาได้หวนกลับมา
บอมยืนคุมลูกน้อง 5 คน ขนของที่ปล้นมาลงจากเรือ บอมมองไปที่ชายหาดห่างออกไปเห็นขวัญตานอนคว่ำหน้าเกยชายหาดอยู่ บอมวิ่งไปดู จับขวัญตาหันหน้ามา เกิดหลงใหลในความสวยของขวัญตา ขวัญตาลืมตาจับมือบอม
“ช่วยด้วย ช่วยฉันที ฉันมีเงิน ฉันจะยกให้หมด”
บอมเปิดผ้าพันแผลของขวัญตาออกแล้วพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“แผลเกือบหายสนิทแล้วนะจ๊ะ” บอมจับมือขวัญตา “ทีนี้เราก็ไปเที่ยวรอบเกาะด้วยกันได้แล้ว”
ขวัญปลายตามองแบงก์ที่ยืนข้างบอม
“ขวัญอยากกินน้ำ”
“รอบอมแป๊บนึงนะ”
บอมกุลีกุจอออกไป แบงก์จะเดินออก ขวัญตารีบคว้าข้อมือไว้ มองแบงก์ตาเยิ้ม
“แบงก์ไม่ดีใจหรือที่ขวัญหาย”
“ขวัญดูไม่ออกหรือว่าพี่บิ๊กกับบอมเขาชอบขวัญมาก”
ขวัญตารีบกอดเอวแบงก์ไว้แน่น
“แต่ขวัญรักแบงก์คนเดียว ขวัญจะพาแบงก์ไปเอาเงินที่ซ่อนไว้ แล้วเราหนีไปด้วยกันเถอะ”
แบงก์ดึงมือขวัญตาออก
“ฉันทรยศพี่บิ๊กกับน้องชายไม่ได้หรอก”
ที่ห้องนอนบิ๊ก ขวัญตานั่งบนเตียงนอนกอดบิ๊กร้องไห้
“บอมเค้าพยายามจะปล้ำขวัญ เขาบอกขวัญว่าจะฆ่าพี่บิ๊ก แล้วขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งแทน แบงก์เขาก็จะร่วมมือด้วย”
“แบงก์ด้วยหรือ ไม่จริง พี่รู้จักนิสัยน้องคนนี้ดี มันไม่มีทางร่วมทำเรื่องเลวๆ กับไอ้บอมแน่”
“แบงก์รักขวัญ หลังจากเขาร่วมมือกับบอมกำจัดพี่แล้ว เขาจะพาขวัญหนีไปอยู่ด้วยกัน เขาพูดอย่างนี้จริงๆ”
บิ๊กตกใจ เสียใจ แค้นใจ
บิ๊กชกต่อยกับบอม บิ๊กเก่งกว่าต่อยหน้าต่อยท้องจนบอมล้มไป บิ๊กจะตามไปซ้ำ แต่บอมคว้าไม้ตีแขนพี่ชาย บอมถอยห่างออกมา
“พี่จะเอาขวัญเป็นเมีย ก็เลยคิดจะกำจัดฉันจริงๆ อย่างที่ขวัญบอก”
บอมร้องไห้ บิ๊กก็ร้องไห้
“ไอ้น้องชั่ว แกต่างหากที่คิดจะฆ่าฉัน”
บิ๊กกับบอมวิ่งเข้าใส่กัน บิ๊กจับไม้ไว้ได้ อีกมือบีบคอบอม บอมก็บีบคอบิ๊ก แบงก์วิ่งเข้ามาพยายามแยก“อย่าพี่บิ๊ก บอมหยุดเดี๋ยวนี้ พี่บิ๊กนี่น้องชายพี่นะ”
บิ๊กกับบอมต่างคนต่างหายใจไม่ออก
“พี่บิ๊ก ขวัญตาขโมยเรือยนต์หนีไปแล้ว”
ลูกน้องวิ่งมาบอก ลูกน้องวิ่งมาอีกคน
“พี่บิ๊ก ห้องใต้ดินถูกเปิด ขวัญตาเอาทองในเซฟไปหมดเลย”
บิ๊กกับบอมตกใจ ปล่อยมือออก พี่น้องสามคนมองหน้ากัน
“เราถูกขวัญตาหลอก”
บิ๊กสติแตกตะโกนลั่นเกาะ
“นังสารเลว แกต้องตาย เอาเรือออก ฉันจะไปตามฆ่ามันด้วยมือฉันเอง”
บิ๊กวิ่งไป แบงก์กับบอมวิ่งตาม
หลังจากรู้ความจริง เขมิการู้สึกแย่ที่พี่สาวทำตัวน่ารังเกียจขนาดนี้ บอมยังเล็งปืนใส่เขมิกาอยู่ บิ๊กเดินไปกดปืนบอมลงแล้วกระชากต้นแขนเขมิกา
“แบงก์”
“ครับพี่”
“ปิรันย่าที่เราเลี้ยงไว้ มันไม่ได้ฉีกเนื้อหวานๆ ของมนุษย์มานานแล้ว แกช่วยเอาเหยื่อชิ้นนี้โยนลงไปในบ่อเลี้ยงให้ที”
เขมิกาหวาดกลัว แบงก์มองเขมิกาแบบไม่อยากทำ บอมยิ้มสะใจเดินเข้าไปหาแบงก์
“คนใจอ่อนอย่างพี่แบงก์คงไม่กล้าทำเรื่องสยดสยองแบบนี้หรอก ให้ฉันจัดการเองดีกว่าพี่บิ๊ก”
บิ๊กผลักเขมิกาให้บอม บอมกระชากไหล่เขมิกาลากไป เขมิกาพยายามหาทางเอาตัวรอด
“ทำไมไม่มีใครอยากรู้ว่าฉันกลับมาที่นี่อีกทำไม ทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องโดนฆ่าล้างแค้นแน่” บิ๊กคิดตามเพราะสงสัยเหมือนกัน “ฉันจะเอาทองทั้งหมดที่ขโมยไปมาคืน”
ทั้งหมดมองหน้ากัน
วันต่อมาที่บ้านชานนท์ แววนิลนั่งดูข่าวออนไลน์จากไอแพดแววนิลเห็นข่าวแล้วตกใจ
“นม นมมานี่เร็วๆ”
มณฑายกแก้วนมเข้ามา
“นมเคยสอนแล้วว่าอย่าตะโกนโหวกเหวก มันไม่งามนะคะ”
“ข่าวลงว่าจวงจันทร์สปาของเราขาดความรับผิดชอบจนคนเกือบตาย คนในออนไลน์เข้ามาเขียนด่าเราสาดเสียเทเสีย” มณฑาตกใจ
“เรื่องใหญ่อย่างนี้ ทำไมประชาไม่รายงานให้เรารู้”
“ผมต้องมาแน่”
มณฑากับแววนิลหันไปมอง ประชาเดินถือแฟ้มเข้ามา
แววนิลมองใบหุ้น เงยหน้าไม่พอใจ
“บริษัทนี้เป็นของพี่นนท์ฉันไม่ยอมขายหุ้นเด็ดขาด”
“ตอนนี้กิจการเราเงียบเหมือนป่าช้า พวกเฟรนไชน์ซี่ก็คืนสินค้ากันหมด บริษัทกำลังขาดเงินหมุน ธนาคารก็ไม่ยอมปล่อยเงินกู้ ถ้าคุณนิลไม่ยอมขายหุ้นบางส่วนก็รอเจ๊งได้เลย” มณฑาโกรธ
“นั่นเพราะคุณไม่มีฝีมือ คุณต้องรับผิดชอบ”
“น้ำมันนวดที่มีปัญหา ผลิตไว้ตั้งแต่คุณชานนท์ยังบริหารอยู่ ข่าวก็เขียนไว้ชัดเจน ถ้าผมไม่ใช้เงินวิ่งเต้น ป่านนี้สปาถูกปิดไปแล้ว” แววนิลมองมณฑาว่าจะเอายังไงดี “คุณนิลไม่ต้องกลัว ภายในหนึ่งเดือน ผมจะทำให้สปาฟื้นตัวแล้วซื้อหุ้นที่ปล่อยออกไปกลับคืนมาให้หมด”
มณฑาบอกแววนิล
“ขายไปแค่บางส่วน ก็ยังดีกว่าปล่อยให้บริษัทล้มค่ะ”
แววนิลเชื่อมณฑา จับปากกาเซ็นชื่อลงไปในใบขายหุ้น
ทนายปราการยื่นเอกสารใบหุ้นให้ประชา
“ผมจัดการช้อนซื้อหุ้นที่คุณนิลปล่อยออกมา60%ตามที่คุณต้องการ เท่ากับว่าอำนาจบริหารทั้งหมดเป็นของคุณแล้ว”
ประชาเปิดดูพอใจอย่างมาก
“ผมจะส่งตัวหลานชายสุดที่รักของคุณทนายไปให้ถึงที่บ้านภายในวันนี้ รับรองว่าเด็กมีความสุขดี ไม่มีส่วนไหนบุบสลาย ขอบคุณนะครับที่ให้ความร่วมมืออย่างดี”
ประชายื่นมือให้จับ ปราการมองอย่างเกลียดชังขยะแขยงไม่ยอมจับมือด้วย
“ในชีวิตผม ทำเรื่องเสียใจที่สุดก็คือครั้งนี้”
ปราการหันหลังเดินออกไป ประชายิ้มเยาะมองป้ายชื่อใหม่ หัวเราะ
“แกชิงของรักของฉันไป ฉันจะเอาของรักของแกมาเป็นของฉันให้หมดทุกอย่าง”
ชานนท์นอนตัวสั่น ส่ายหน้าไปมาเพราะพิษไข้กลับมาอีก อาการย่ำแย่กว่าเดิม เขมิกาจับมือชานนท์เครียดจัด วิ่งไปเกาะลูกกรง ตะโกนบอกเปี๊ยก
“ฉันขอร้องช่วยตามหมอให้ที” เปี๊ยกนั่งเล่นเกมในมือถือ “นี่ได้ยินหรือเปล่า ตามหมอให้ที”
เปี๊ยกรำคาญตวาด
“หนวกหู ก็ปล่อยให้มันตายๆ ไปเลย มาขัดความสุขฉันอยู่ได้”
เปี๊ยกเล่นเกมต่อ
“ไอ้ เลวเอ๊ย”
เขมิกาโกรธมากหันไปดูชานนท์ที่ยังตัวสั่นไม่หยุด
มุมปาเป้าหน้าบ้านโจรสลัด บิ๊กปามีดสั้นใส่เป้าแม่นยำมาก
“ทำไมพี่ไม่ฆ่ามันไปเลย อย่างมันน่ะหรือจะสำนึกผิดได้”
“ไม่มีใครสนเรื่องสำนึกผิดหรอก พี่บิ๊กต้องการแค่เอาทองคืน ถ้าขวัญตาไม่ขนทองมาจริงอย่างที่ว่า ค่อยเชือดทิ้งก็ยังไม่สาย”
บิ๊กหันมาตบบ่าแบงก์
“แกรู้ใจพี่เสมอไอ้น้องชาย แกหัดใช้สมองแบบพี่ชายแกบ้าง ทองทั้งหมดนั่นเราใช้ชีวิตเสี่ยงตายแลกมา มันมีค่ากว่าการฆ่านังนั่นโดยเปล่าประโยชน์”
โต้งถือปืนคุมหมอเข้ามา
“มันเป็นหมอชาวบ้านอยู่ที่เกาะชาวเลครับพี่บิ๊ก”
บิ๊กสะบัดมีดสั้นเฉียดหัวหมอไปปักบนต้นไม้ หมอตกใจยืนตัวแข็งทื่อ
“ไอ้แบงก์ ทำตามข้อแลกเปลี่ยนที่ขวัญตาขอ”
ในห้องขัง ชานนท์กำลังชัก เขมิกาตกใจพยายามจับตัวชานนท์
“นายชาเย็นๆ”
แบงก์เดินนำหมอเข้ามา ได้ยินเสียงเขมิการีบออกคำสั่งเปี๊ยกที่เล่นเกมอยู่
“เปิดประตู”
แบงก์นำหมอเข้าห้องขัง เขมิกาหันมามองแบงก์ พุ่งเข้าขยุ้มคอเสื้อ
“ถ้าเขาตาย พวกนายคือคนที่ฆ่าเขา ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกนายรอดไปแม้แต่คนเดียว คอยดู”
แบงก์หน้านิ่งไม่ตอบโต้ พูดเสียงเรียบกับหมอ
“คนที่นอนเจ็บอยู่นั่นจะต้องหาย ถ้าหมอทำได้เราจะส่งหมอกลับบ้านอย่างปลอดภัย”
หมอรีบไปดูชานนท์ หยิบอุปกรณ์ตรวจอาการ เขมิกามองงงๆ แล้วรีบปล่อยมือออกจากคอเสื้อแบงก์ หมอรีบสั่ง
“ช่วยจับตัวเขาไว้ที”
เขมิการีบจับชานนท์ หมอฉีดยาที่แขน แบงก์จ้องหน้าเขมิกาด้วยสายตาที่ยังรักและเป็นห่วง
ปรียาเดินเข้ามาถามที่ร้านขายของชำย่านชาดหาด
“ขอโทษนะคะ ฉันจะไปติดต่อเช่าเรือประมงกับคนงานที่ว่ายน้ำเก่งๆ สัก 4-5 คนได้จากที่ไหนคะ”
“คุณจะเช่าเรือไปทำอะไร”
“เพื่อนฉันนั่งเรือไปในทะเลแล้วหายตัวไปค่ะ ฉันอยากไปตามหาเขา”
โยธินขับรถมาตามถนนกำลังติดต่อเขมิกา เสียงสัญญาณมือถือเงียบสนิท
“เข็มเป็นอะไรหรือเปล่านะ ทำไมติดต่อไม่ได้สักที”
โยธินมองไปที่ร้านค้าข้างหน้าเห็นปรียาหิ้วกระเป๋าเป้เดินออกมา โยธินตะโกนเรียก
“คุณปรียา”
ปรียาหันมามองรถโยธิน
โยธินตกใจเมื่อรู้เรื่องจากปรียา
“แฟนคุณเรือล่มหรือครับ”
“ค่ะ หลายวันมาแล้ว คุณไม่รู้ข่าวเลยหรือคะ”
“ผมไม่ได้ดูทีวี ไม่ได้เข้าเว็บข่าวช่วงนี้เลย มัวแต่วุ่นเรื่องงาน เออ แล้วภรรยาของคุณชานนท์ละครับ”
“คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าคุณขวัญคิดฆ่าพี่นนท์ แล้วก็จมน้ำไปด้วยกัน” โยธินช็อก “ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะว่าพี่นนท์จะตาย ฉันจะต้องตามหาเขาให้เจอ”
โยธินรับไม่ได้เผลอเขย่าตัวปรียาแรงๆ
“ไม่จริง คุณโกหกเข็มไม่มีทางฆ่าใคร แล้วไม่มีวันจมน้ำตาย มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด ต้องมีคนใส่ร้ายแต่งเรื่องบ้าๆ นี่ขึ้นมา” ปรียาเจ็บ
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะคะ ทำไมคุณต้องโกรธขนาดนี้ด้วย” โยธินชะงักได้สติ รีบปล่อยมือจากปรียา ปรียาถามต่ออย่างสงสัย “เมื่อกี้คุณพูดว่าเข็ม เข็มไหนกันคะ ฉันงงไปหมดแล้ว”
“เออ ไม่มีนี่ครับ ผมพูดว่าขวัญนะครับ ผมๆ เคยเห็นหน้าเขาที่ห้างคราวนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะฆ่าใครได้”
“หรือคะ ฉันคงฟังผิดไปเอง”
โยธินห่วงเขมิกาอยากไปตามหา
“ผมจะรีบไปหาพรรคพวกให้เอาเรือออกตามหาแฟนคุณให้ แต่ผมคงต้องไปส่งคุณก่อน คุณพักอยู่แถวไหน”
“ฉันเช็กเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้วค่ะ เพราะเงินใกล้หมด”
โยธินพาปรียามาพักที่บ้าน โยธินเปิดประตูห้องรับรองเดินนำปรียาเข้ามา
“พ่อผมไปเมืองนอก กว่าจะกลับมาอีกหลายวัน คุณพักที่นี่ได้ตามสบาย”
“ฉันนึกว่าคุณมีแต่คุณปู่” โยธินอึกอัก
“ผมไม่ค่อยสนิทกับพ่อก็เลยไม่ได้พูดถึง หน้าตาคุณดูเพลียๆ นะ คงนอนไม่หลับเลยสิครับ”
ปรียาเดินไปกอดเอวโยธินแบบเพื่อน แล้วร้องไห้
“ฉันกลัวเขาตาย”
โยธินเข้าใจปรียาเพราะตัวเองก็กลัวเขมิกาตายเหมือนกันจึงพึมพำเบาๆ
“ผมก็กลัว”
ในทะเล เรือยนต์ลำที่1 มีเพื่อนโยธินเป็นคนขับ แล่นตามหาเขมิกา โยธินยืนส่องกล้องมองหา เรือยนต์ลำที่2 มีเพื่อนโยธิน 2 คน แล่นหาเขมิกาคนละทิศ
สามวันผ่านไป ชานนท์ขยับตัวตื่นหลังจากอาการดีขึ้น ชานนท์ลืมตาเห็นเขมิกานั่งหลับข้างตัว กุมมือชานนท์อยู่ ชานนท์รังเกียจชักมือออก เขมิกาสะดุ้งตื่น
“คุณฟื้นแล้วหรือ เป็นไงบ้าง ไข้ลดหรือยัง”
เขมิกาจะจับหน้าผากชานนท์ ชานนท์รีบปัดมือออกแรงๆ
“สกปรก”
เขมิกามองมือตัวเอง
“สกปรกที่ไหน ฉันเช็ดเจลฆ่าเชื้อโรคที่หมอให้มาแล้ว”
“ธาตุแท้ของเธอที่มันสกปรก ผู้หญิงแบบเธอมัน 18 มงกุฎชัดๆ ใช้ร่างกายยั่วยวนผู้ชายเพื่อเงิน”
“แล้วไงต่อ” เขมิกาไม่โกรธ
“ฉันไม่รู้ว่าหลงรักเธอไปได้ยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งขยะแขยง”
เขมิกาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ด่าเหนื่อยหรือยัง ถ้าเหนื่อยแล้วก็มาพักกินยาก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยด่าต่อ”
เขมิกาเทยาเม็ดใส่มือ ยื่นให้
“ฉันไม่กิน”
“ไม่กินฉันจับกรอกปาก”
เขมิกาจะบีบปากชานนท์ ชานนท์มีแรงขึ้นแล้วจับมือเขมิกาไว้ เขมิกาใช้วิธีโขกหัวที่หน้าผากชานนท์ ชานนท์อ้าปากร้อง
“โอ๊ย”
เขมิกายัดยาเข้าปากชานนท์ทันที ชานนท์กระเด้งนั่งจะคายยา เขมิกาตวาดเสียงดัง
“อย่าคายออกมาเชียวนะ วันนั้นที่คุณอุตส่าห์ตะเกียกตะกายคลานขึ้นไปปักธงขอความช่วยเหลือบนยอดเนิน เพราะอยากกลับไปหาน้องสาวไม่ใช่หรือ ถ้าตายซะตอนนี้น้องสาวคุณจะอยู่กับใคร กับคุณนมหรือไอ้ประชาดีล่ะ”
ชานนท์อึ้ง เขมิกาหยิบแก้วน้ำยื่นให้ ชานนท์มองแก้วน้ำแล้วตัดสินใจรับมาดื่มกลืนยาลงไป เขมิกาโล่งอก ชานนท์คืนแก้ว แล้วรีบเอนตัวนอนหันหลังให้เขมิกา
แววนิลเดินช้าๆ ออกจากห้องน้ำได้เองแล้ว โดยไม่ต้องมีคนพยุง มณฑาผลักประตูเข้ามา แววนิลดีใจรีบบอก
“นม นิลเดินเองได้แล้วนะ เห็นมั้ย”
แต่มณฑารีบพูดสวน ชูหนังสือพิมพ์ธุรกิจ
“คุณหนู อ่านข่าวดูสิคะ เราถูกไอ้ประชามันหลอกแล้ว”
แววนิลตกใจ รีบรับหนังสือพิมพ์จากมณฑามาดู
มณฑากับแววนิลรีบร้อนเดินมาหยุดชะงักหน้าสปา มองป้ายชื่อใหม่ที่นำมาติดแทนอันเก่า ป้ายชื่อใหม่เขียนว่า “เพชรธาราสปา” อึ่งเดินมา ลอยหน้าลอยตา
“ต๊าย นึกว่าใครมา เป็นไงคะชื่อใหม่เพราะถูกใจมั้ยคะ”
“เจอคุณหนูทำไมไม่ไหว้ พ่อแกติดคุกอยู่เลยไม่มีคนอบรมมารยาทให้หรือไง”
มณฑาต่อว่าอึ่ง อึ่งโกรธที่พูดถึงพ่อ
“คุณหนูแก ไม่ใช่เจ้าของที่นี่ ไม่ไล่ตะเพิดออกไปก็บุญแล้ว”
“อีอึ่ง”
แววนิลโกรธ ตบหน้าอึ่ง อึ่งหน้าหัน
“อีนิล คิดว่าฉันกลัวแกหรือ”
อึ่งจะตบกลับ มณฑาคว้าข้อมือไว้ แล้วเข้าไปจับล็อกสองแขน แววนิลตบซ้ายตบขวา ประชาเดินออกมา
“หยุด” ประชาตวาด แววนิลเห็นประชา ปรี่เข้าไปหา
“แกหลอกให้ฉันขายหุ้น เพื่อจะซื้อไว้เอง ไอ้คนขี้โกง”
“ผมหวังดีช่วยคุณนิลต่างหาก คุณนิลทำธุรกิจไม่เป็น ก็ควรยกให้ผมมันก็ถูกแล้ว ดีกว่าให้มันตกเป็นของคนอื่น”
“ฉันจะแจ้งตำรวจให้จับแก”
มณฑากลัวตำรวจสงสัยเรื่องชานนท์
“แจ้งไม่ได้นะคะ เราไม่มีหลักฐาน คุณหนูต้องการคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว” มณฑาบอกกับประชา
“ไว้วันหลังนะครับ ผมมีนัดกับลูกค้า” ประชาหันไปพูดกับอึ่ง “คราวหน้าถ้าคุณนิลมาหาฉันอีก ให้ติดต่อนัดเวลาล่วงหน้าก่อน เพราะที่นี่” ประชามองหน้าแววนิล “ไม่ใช่จวงจันทร์สปาอีกต่อไป”
ประชาเดินผ่านแววนิลกับมณฑาไป แววนิลจะตามไปด่าแต่มณฑาดึงมือไว้
“เงิบไปเลย สมน้ำหน้า”
อึ่งหัวเราะเดินเชิดๆ ไป
วันต่อมา เขมิกายืนที่ลูกกรง บิ๊ก แบงก์ บอมยืนอยู่นอกลูกกรง
“จะให้หายไวๆ ได้ไง เล่นจับขังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ อากาศจะหายใจก็แทบจะไม่มี” บิ๊กมองชานนท์ ชานนท์นั่งพิงกำแพงแกล้งไอแรงๆ “ถ้าได้ย้ายห้องที่มันดีกว่านี้ ผัวฉันก็คงฟื้นตัวเร็วขึ้น”
เขมิการีบวิ่งไปลูบหลังชานนท์ไปมา บอมหมั่นไส้ชานนท์
“เก็บมันเลยมั้ยพี่ มันหาเรื่องถ่วงเวลา ไม่คิดจะพาเราไปเอาทองจริงหรอก”
แบงก์รีบห้าม
“มันตายแกก็อดได้ทองคืน”
บอมกระแนะกระแหน
“พี่เสียดายนังขวัญตามากกว่ามั้ง เพราะเหลือแต่พี่ที่ยังไม่ได้กินมัน”
แบงก์กระชากคอเสื้อบอมจะชก บอมก็ง้างหมัดจะชกสวน
“พอได้แล้ว ทั้งสองคนเลย” แบงก์ปล่อยมือ ต่างคนต่างลดหมัดลง บิ๊กตวาดบอม “แก พูดอะไรไม่เคยคิด ออกไป” บอมน้อยใจ จ้องแบงก์ แล้วฮึดฮัดออกไป เขมิกาสังเกตพี่น้องสองคนรู้ว่าไม่ลงรอยกัน “ฉันให้เวลาอีกสองวัน ถ้ามันยังไม่หาย แกตายทั้งคู่”
บิ๊กเดินออก แบงก์เดินตาม
มือเขมิกายังอยู่ที่หลังชานนท์
“เอามือออกไปได้แล้ว”
เขมิกาชักมือกลับ
“ขอบใจที่ให้ความร่วมมือไม่แฉว่าฉันหลอกมัน”
“ฉันทำไปเพื่อตัวเอง ส่วนเธอจะมีแผนต้มตุ๋นใครยังไง ฉันไม่ขอร่วมด้วย ถึงเวลาเราต่างคนต่างไป”
“เอาอย่างนั้นก็ได้”
เขมิกาเดินไปนั่งห่างๆ ชานนท์ ชานนท์ประชด
“เก่งนะ เธอทำได้ยังไง นอนกับผู้ชายถึงสามคน แถมยังเป็นพี่น้องกันอีกด้วย ถ้าหน้าไม่ด้านพอ ทำไม่ได้หรอก”
เขมิกาคิดไปถึงขวัญตา
“นั่นสิ หรือว่าเป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้”
ชานนท์คิดว่าเขมิกากวน ยิ่งโกรธ
“เธอมันโรคจิต ด่าเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะท้าน เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็นผู้หญิงอย่างเธอ”
ชานนท์ไม่อยากเห็นหน้าเขมิกานั่งหันไปทางอื่น เขมิกาเหวอบ่นเบาๆ กับตัวเอง
“ฉันหมายถึงพี่ขวัญต่างหาก โดนด่าฟรีอีกจนได้”
เขมิกาเซ็ง โต้งกับเปี๊ยกเดินเข้ามา
“แกสองคนออกมาได้แล้ว”
เขมิกากับชานนท์มองหน้ากัน
บ้านพักโดดๆ หลังเดียว ชานนท์นั่งพิงหัวเตียงมองเขมิกาที่เดินสำรวจห้องมีแค่เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะกินข้าว ห้องน้ำในตัว
“โจรสลัดพวกนี้มันปล้นจนรวย มีบ้านพักให้ลูกสมุนไม่รู้กี่หลังต่อกี่หลัง เงินบาปทั้งนั้น”
“รู้จักบาปบุญด้วยหรือ”
“คุณนอนไปเถอะน่า จิกด่าฉันทุกวี่ทุกวันไม่เมื่อยปากบ้างหรือไง”
ประตูเปิด บอมเดินเข้ามาพร้อมปิ่นโตอาหาร บอมวางกระแทกบนโต๊ะ บอมมองชานนท์กวนๆ แล้วจะเดินออกไป เขมิกาคิดๆ แล้วรีบไปดึงมือบอมไว้
“ใจคอจะไม่คุยกันบ้างเลยหรือ” เขมิกาส่งสายตาให้ “หรือว่าลืมเรื่องระหว่างเราไปแล้วจริงๆ” ชานนท์มองเขมิกาแบบไม่พอใจ บอมมองมือเขมิกา “ออกไปเดินเล่นกันหน่อยมั้ย ขวัญอยากคุยกับบอมแบบสองต่อสอง”
บอมสะบัดมือเขมิกาหลุด
“อย่ามาหว่านเสน่ห์กับฉันอีก มันไม่ได้ผลหรอก”
เขมิกาเดินไปใกล้ๆ พูดได้ยินแค่สองคน
“ไม่อยากรู้ที่ซ่อนทองหรือ ขวัญตั้งใจจะบอกบอมแค่คนเดียวนะ”
บอมชักปืนจะยิงเขมิกา ชานนท์ลุกยืน
“อย่าทำบ้าๆ นะ”
บอมหมั่นไส้
“ห่วงมันมากหรือ รู้ไว้เสียด้วยว่าเมียแกเคยนอนกับฉันมาก่อน” บอมหันปืนไปทางชานนท์ “แกกำลังใช้ของมือสองอยู่ ยังไม่รู้ตัวอีก” เขมิกาจ้องปืนบอม บอมหันปืนมาทางเขมิกาอีก “เดินออกไป เร็ว!”
เขมิกาค่อยๆ เดินออกไป บอมยิ้มเยาะชานนท์แล้วเดินคุมหลังเขมิกาออกจากห้อง ชานนท์รีบไปที่ประตู ลองเปิด ประตูโดนล็อคจากด้านนอกเปิดไม่ได้ ชานนท์ห่วงเขมิกา
เขมิกาถูกผลักเข้ามาในห้องบอม
“แกติดค้างฉันไว้ วันนี้ฉันจะทวงคืนให้สมแค้น”
เขมิกาทำตามแผนที่วางไว้
“ขวัญอุตส่าห์เสี่ยงตายกลับมาหาบอม บอมกลับจะฆ่าขวัญได้ลงคอ”
“แกพล่ามอะไรของแก”
เขมิกาแกล้งบีบน้ำตา
“ขวัญยังรักบอมอยู่นะ ที่ต้องหนีไปเพราะไม่อยากให้บอมถูกพี่ชายฆ่าตาย บอมก็รู้นี่ว่าเขาหลงขวัญมากแค่ไหน”
“แกโกหก”
“ขวัญจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ขวัญไม่ได้คิดจะเอาทองมาคืน แต่ขวัญล่อไอ้ผัวงี่เง่ามาฆ่า เพื่อฮุบมรดกของมัน รู้มั้ยว่าเท่าไหร่ มันมีเป็นพันๆ ล้าน”
บอมเริ่มเกิดความโลภ
“แล้วแกมาบอกฉันทำไม”
“หลังจากมันตาย ขวัญจะชวนบอมไปอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่าบอมจะยังรักขวัญอยู่หรือเปล่า” บอมดูลังเล เขมิกายุต่อ “ดูเหมือนพี่ชายบอมยังไว้ใจพี่แบงก์เหมือนเดิมนะ”
“ไอ้แบงก์มันขี้ประจบ ทำเป็นอวดฉลาด เหยียบหัวคนอื่น”
“แล้วบอมจะอยู่ต่อไปเพื่อเป็นแค่ลูกน้องกระจอกๆ ของพี่ชาย หรือไปเป็นเศรษฐีพันล้านกับขวัญข้างนอกดีล่ะ”
บอมเริ่มคล้อยตาม
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 10 (ต่อ)
แบงก์เปิดประตูเข้ามาเห็นชานนท์กำลังพยายามเปิดหน้าต่างที่ถูกไม้ดามตอกปิดตายไว้กันหนี
“เฮ้ย คิดหนีหรือ”
แบงก์เข้าไปกระชากด้านหลังชานนท์ ชานนท์หันกลับมาชกหน้าแบงก์ แบงก์ล้มไป ชานนท์รีบไปที่ประตูแต่โดนแบงก์กระโจนรวบตัวไว้ ชานนท์พยายามสะบัด
“ปล่อย ผมจะไปช่วยขวัญ โอ๊ย” ชานนท์จับแขนที่ยังไม่หายดี แบงก์รีบปล่อยนนท์
“ช่วยขวัญ” แบงก์มองรอบห้อง “ขวัญตาหายไปไหน”
“น้องชายคุณมันเอาตัวขวัญไป ผมต้องไปช่วยเมียผม”
“ผมปล่อยคุณออกไปไม่ได้หรอก แต่ผมจะช่วยพากลับมาเอง”
แบงก์จะรีบออกไป ชานนท์เสียงขึงขัง
“ถ้าเมียผมเป็นอะไรไป อย่าหวังว่าพวกคุณได้จะได้ทองคืน”
แบงก์ไม่สนใจเรื่องทอง รีบออกไปแล้วปิดประตูล็อก ชานนท์สับสนโมโหตัวเอง
“แกโง่หรือไง จะไปห่วงผู้หญิงเลวๆ คนนี้อีกทำไม”
บอมวางปืนที่โต๊ะ หันมาทางเขมิกา
“เธอมีแผนยังไง”
“ขวัญจะพาพี่บอมไปเอาทอง แล้วจะหลอกล่อให้เขาฆ่านายชานนท์ ส่วนเราก็อาศัยจังหวะชุลมุนหนีขึ้นเรือ”
“ตกลง ฉันจะเตรียมเรือไว้ให้” บอมเดินไปหาเขมิกา จับต้นแขนเขมิกา “แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้หลอกฉัน เธอต้องวางมัดจำไว้ก่อน”
บอมเลื่อนมือมาที่คอเสื้อเขมิกา เขมิการีบจับไว้
“หาอะไรมาย้อมใจกันก่อนดีมั้ยจ๊ะ”
บอมยิ้มๆ มองเขมิกาเคลิบเคลิ้ม เชยคาง
“เธอนี่ยังร้อนแรงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน”
บอมเดินออกจากห้อง ปิดประตู เดินยิ้มกริ่มไป
หลังจากบอมไปแล้ว เขมิการีบไปที่โต๊ะ มองปืน แต่เปลี่ยนใจไม่เอา เปิดลิ้นชักแทน เห็นปืนสั้นอีกกระบอก เขมิกาหยิบปืนสั้นเช็กกระสุนมีครบยัดใส่กางเกง รื้อๆ ต่ออีกหายาแก้เมาเรือ เขมิกาเจอ1แผง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเขมิกาสะดุ้งรีบเก็บแผงยาแก้เมาเรือใส่กางเกง แบงก์เปิดประตูเข้ามา เห็นเขมิกานั่งที่ปลายเตียง เขมิกาแกล้งทำเป็นหวาดกลัว วิ่งไปจับแขนแบงก์
“ช่วยฉันด้วยพี่ บอมจับฉันมา เขาจะปล้ำฉัน”
แบงก์ดึงมือออก
“น้องฉันอยู่ไหน”
“เขาๆ บอกว่าต้องไปหาของมาย้อมใจก่อน ฉันกลัว รีบพาฉันกลับไปที”
ทางกลับบ้านพัก แบงก์เดินตามเขมิกา เขมิกาเหลียวมอง
“พี่ไม่ค่อยเหมือนโจรเท่าไหร่เนอะ ท่าทางก็สุภาพ พูดจาก็ดูดี”
“ฉันเคยบอกไปแล้วไงว่าฉันไม่อยากเป็นโจร จำไม่ได้หรือ”
เขมิกาหยุดเดินหันมา
“แล้วทำไมไม่ไปจากที่นี่ ไปทำอาชีพอื่น”
“ฉันห่วงพี่น้อง อีกอย่างคนเคยทำชั่วปล้นฆ่ามาแล้ว คงมีแต่คุกเท่านั้นที่รออยู่”
เขมิกาเห็นใจเชื่อว่าแบงก์พูดจริง
“แต่การช่วยพี่น้องให้เป็นโจร เท่ากับพากันทำบาป พากันลงนรก ถ้าเป็นฉันจะเกลี่ยกล่อมให้ไปมอบตัวเพื่อชดใช้ความผิดก่อน แล้วค่อยเริ่มต้นชีวิตใหม่”
แบงก์คิดว่าเขมิกายุ ชักปืนเล็งใส่เขมิกา
“ฉันไม่มีวันทรยศพี่น้อง อย่ามายุแยงฉันเหมือนที่เคยชอบทำ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้อภัยเธออีก จำไว้”
“คนฉลาดอย่างพี่ ฟังไม่ออกหรือว่าฉันยุแยง หรือพูดให้คิด”
เขมิกาเดินนำไป แบงก์ครุ่นคิด
เขมิกาเดินมึนๆ เข้ามา ชานนท์ยืนกระวนกระวายอยู่หันไปมอง พอเห็นเขมิกา ชานนท์ดีใจจะเข้าไปหาแต่นึกขึ้นได้ว่าเกลียดเขมิกาจึงถอยเท้ากลับ แบงก์ยืนที่ประตูมองเขมิกาแล้วปิดประตูล็อก
“ไอ้คนชื่อบอมมันทำอะไรเธอหรือเปล่า”
เขมิกาตั้งใจทำให้ชานนท์เข้าใจผิด
“เปล่านี่ เขาน่ารักดี เอาใจฉันสารพัด สงสัยคงยังหลงเสน่ห์ฉันอยู่มั้ง” ชานนท์ฉุน
“ไปนอนกับมันมาหรือไง”
เขมิกามึนๆ สะอึก พยักหน้าหงึกๆ ชานนท์โกรธจัดกระชากแขนเขมิกา
“คงชอบเรื่องเหลวแหลกอย่างนี้สินะ ทีกับฉันอ้างนั่นอ้างนี่ไม่ยอมนอนด้วย แต่ทีกับไอ้กุ๊ยชั้นต่ำกลับยอมไปนอนกับมันง่ายๆ”
เขมิกาตั้งใจทำให้ชานนท์เกลียด
“เราไม่เกี่ยวข้องกันแล้วไม่ใช่หรือ ฉันจะเป็นยังไงก็ไม่ต้องมาสนใจ ตอนที่ฉันพาสามพี่น้องไปเอาทอง คุณอยากไปไหนก็ไปเลย ไม่ต้องมาเกาะติดกับฉัน มันเป็นภาระ”
ชานนท์โกรธเขย่าตัวเขมิกา
“ฉันไม่เคยหลบอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิง อย่ามาดูแคลนฉันแบบนี้”
เขมิกาเจ็บแขน
“โอ๊ย ฉันเจ็บ” เขมิกากระชากแขนออกข้างหนึ่งอย่างแรง แต่ฝ่ามือไปฟาดหน้าชานนท์แบบไม่ตั้งใจ “โอ๊ะ เปล่านะฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ชานนท์ยิ่งโมโหเลยกอดปล้ำเขมิกา เขมิกาสู้เบี่ยงหน้าไปมาไม่ยอมให้จูบ ผลักชานนท์จนเซไป เขมิกาหันหลังจะวิ่งหนี ชานนท์คว้ามือไปกระชากเสื้อ เสื้อข้างหลังขาดออกมาทั้งแผ่นหลัง เขมิกาล้มหน้าคว่ำไปบนเตียง ชานนท์ไม่เห็นปานที่หลังเขมิกาก็ชะงักตกตะลึง
ในอดีต ขวัญตาเดินออกมาจากห้องลองเสื้อในชุดราตรีสวยงาม ชานนท์ตะลึง
“สวยมาก เธอเหมาะกับชุดนี้มาก ขวัญตา”
“แต่ขวัญไม่มั่นใจ ขวัญไม่อยากใส่ชุดเปิดหลัง”
“ทำไมล่ะ” ชานนท์เดินอ้อมไปดูข้างหลังที่เว้าลึกเห็นปานรูปหัวใจ “เธอมีปานแดง”
“ค่ะ มีมาตั้งแต่เกิด น่าเกลียดออก”
มือชานนท์แตะที่ปานเบาๆ
“ไม่เห็นน่าเกลียดเลย ฉันว่าน่ารัก เซ็กซี่ดีออก”
“คุณล้อขวัญ”
“ปานนี้ทำให้เธอไม่เหมือนใคร อย่าไปลบออกเชียวนะ” ขวัญตายิ้ม
กลับมาปัจจุบัน
“หายไปไหน” ชานนท์ถอยห่างออกมา “ปานที่หลังของเธอ ทำไมไม่มีแล้ว”
เขมิการีบลุกจากเตียง ยืนชิดฝากอดอก
“ปานบ้าบออะไร ฉันไม่เคยมีปาน”
“เธอมีปานรูปหัวใจที่กลางหลัง เธอลบมันออกเหรอ”
“หรือว่าพี่ขวัญตามีปาน” เขมิกาคิดในใจ ชานนท์จะเข้ามา “อย่านะ ขืนเข้ามาฉันต่อยร่วงจริงๆ”
“เธอเคยสัญญากับฉันว่าจะไม่ลบมันออกไป”
“ฉันก็คงพูดพล่อยๆ ไปงั้นแหละ จะเก็บไว้ทำไม น่าเกลียดจะตาย”
เขมิกาเดินหนีเข้าห้องน้ำ ชานนท์อึ้งๆ
บอมถือขวดไวน์กับแก้วเข้ามาในห้องแล้วตกใจไม่เห็นเขมิกาแล้ว
“หายไปไหนวะ”
บอมหันกลับจะไปตาม แบงก์เดินเข้ามายืนขวาง
“ขวัญตากลับไปที่ห้องแล้ว” บอมไม่พอใจ
“นี่พี่มาจุ้นกับเรื่องของฉันโดยไม่ได้รับเชิญอีกแล้วใช่มั้ย”
“ฉันขอเตือนแก อย่าทำแบบนี้อีก เกิดขวัญตาหนีไปได้ แกจะตอบพี่บิ๊กยังไง”
“แล้วหนีไปหรือเปล่า ก็ไม่ได้หนีใช่มั้ย”
“ถ้าฉันมาไม่ทัน ก็ไม่แน่ ปืนก็วางเห็นทนโท่อยู่อย่างนั้น”
บอมมองปืนบนโต๊ะ พาลใส่แบงก์
“ก็ไปฟ้องพี่บิ๊กเลยสิ เรื่องเหยียบหัวน้องเพื่อเอาดีใส่ตัว งานถนัดไม่ใช่หรือ” แบงก์เสียใจ
“ฉันพูดเพราะฉันห่วงแก แต่สมองของแกมันคิดได้อยู่แค่นี้ ขี้อิจฉาเหมือนเด็กไม่รู้จักโต เพราะอย่างนี้พี่บิ๊กถึงไม่วางใจให้แกทำงานใหญ่ไงเล่า”
แบงก์เดินออกำไป บอมยิ่งคับแค้นใจ
“ฉันเนี่ยนะเด็ก แล้วแกจะได้เห็นว่าฉันทำได้มากกว่าที่แกคิด”
บอมคิดการใหญ่จะเอาชนะพี่ชาย
เขมิกาเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่เดินออกจากห้องน้ำ ชานนท์ยังรอถามที่ข้องใจ
“เธอลบปานออกไปเมื่อไหร่”
เขมิกาพูดไปมั่วๆ
“ก็ตอนไอ้โม่งจับตัวไป พอหนีออกมาได้ ก็ๆ ไปใช้เลเซอร์ลบออกเลย”
ชานนท์ต้อนให้จนมุม
“หนีหรือ ไหนเคยบอกว่าไอ้โม่งเอามาส่งที่หน้าบ้านฉัน”
เขมิกาเคยโกหก เลยจำไม่ได้
“อ้าว หรือ ฉันเคยพูดแบบนั้นหรือ แหม ฉันสมองไม่ปกติ คุณก็รู้นี่ อาจมีเรียงเหตุการณ์สับสนไปบ้าง”
“สมองเธอไม่ได้เป็นอะไรมากกว่า ไอ้ที่บอกว่าความจำเสื่อมก็โกหกทั้งหมด” เขมิกาจะอ้าปากพูดอีก ชานนท์โกรธตะคอก “พอ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว อย่าพูดอีกแม้แต่คำเดียว เพราะฉันรับรู้ความเลวของเธอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะฆ่าเธอให้ตายคามือ”
ชานนท์หันไปทุบกำแพงแทนเพื่อระบายความโกรธทั้งเจ็บใจและเจ็บปวด เขมิกาเองก็เจ็บปวดเพราะพูดความจริงไม่ได้ เขมิกาเบือนหน้าไปทางอื่นร้องไห้
ที่บ้านโยธิน สมคิดลากกระเป๋าเดินทางผ่านห้องรับรองได้ยินเสียงกุกกักในห้อง สมคิดหยุดเดิน สงสัย ค่อยๆแง้มประตูดูว่าใครอยู่ในห้อง ภายในห้องว่างเปล่า สมคิดเห็นกระเป๋าเป้ของปรียาจึงเดินไปก้มดู หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมา
“ของใครวะเนี่ย” สมคิดทำตาเจ้าชู้ “หรือจะเป็นแม่บ้านที่ไอ้โยมันกำลังหาอยู่” สมคิดมองชั้นใน “ท่าทางหุ่นจะโป๊ะเชะ”
สมคิดถือชุดชั้นในติดมือ ย่องๆ ไปที่ห้องน้ำ แนบหูที่ประตูเพื่อฟัง ปรียาเปิดประตูพอดี ตกใจมาก
“อ๊าย” ปรียาปาขวดแชมพูในมือใส่หัวสมคิด สมคิดเจ็บล้มหงายท้อง ชุดชั้นในโปะอยู่บนหน้า ปรียายิ่งกรี๊ดใหญ่ “ขโมย ไอ้ขโมยโรคจิต”
ปรียาจะวิ่งหนี สมคิดคว้าข้อเท้าเพื่ออธิบาย
“เฮ้ยไม่ใช่ ไม่ใช่ขโม...” ปรียาโดนจับขายิ่งกรี๊ดสะบัดขา เอื้อมมือไปคว้าหมอนที่เตียง เอาหมอนฟาดๆ “โอ๊ยๆๆ”
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
สมคิดปล่อยขาปรียา ปรียารีบหันไปยกโคมไฟ ยกขึ้นเหนือหัวจะทุ่มใส่ สมคิดร้องลั่น
“อย่า ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ใช่ขโมย”
ปรียาเงื้อค้าง
“เจ้าของบ้าน”
สมคิดนั่งที่โซฟาพยายามวางมาดหล่อ ปรียายืนยกมือไหว้นอบน้อม
“หนูขอโทษนะคะ ที่ทำให้เออ...”
สมคิดรีบเข้ามาจับมือไว้ ปรียาพนมมือค้าง
“เรียกพี่คิดก็ได้จ้ะหนู มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน พี่คิดไม่ถือสา มามะ มานั่งข้างๆ พี่คิดก่อน” ปรียาอึกอัก สมคิดดึงไปนั่งข้างๆ ปรียาค่อยๆ ดึงมือออก “หนูชื่ออะไรจ๊ะ”
“ปรียาค่ะ”
“ชื่อเพราะ แล้วมาทำงานได้กี่วันแล้ว” ปรียาชักงง สมคิดโอบไหล่ทันที “ไม่ต้องตื่นเต้นนะค่อยๆ ตอบ พี่คิดใจดี โดยเฉพาะกับคนสวยอย่างหนู”
ปรียาเกรงใจไม่กล้าผลักออก
“เออ คุณอาคงเข้าใจผิดแล้วค่ะ หนูๆ ไม่ใช่แม่บ้าน”
“อ่ะ ไม่อยากเป็นแม่บ้าน งั้นมาเป็นแม่ของลูกชายพี่มั้ยจ๊ะ”
“คือ หนูเป็นเพื่อนกับคุณโยธินค่ะ”
“เพื่อนกันก็ดีจ้ะ” สมคิดตกใจ “เฮ้ย เพื่อนไอ้โยหรือ” สมคิดรีบกระเด้งตัวออกจากปรียาแทบไม่ทัน สุดแสนจะอับอาย “แล้วทำไมไม่รีบบอกล่ะหนู”
“หนูก็กำลังจะบอกค่ะ แต่คุณอา...”
“เดี๋ยวก่อน มันพาหนูมานอนที่บ้าน อย่าๆ บอกนะว่าเป็นฟะฟะแฟนกัน ไม่ได้เลยนะ มีหวังโดนฆ่าล้างครัว”
เสียงปืนเปรี้ยงๆ สมคิดสะดุ้ง
“ไอ้โย ออกมาเดี๋ยวนี้”
เสียงจุมพลดังขึ้น สมคิดตกใจ มองปรียา
“ตายแล้ว ตายแน่ ปู่มหาโหดมา ซ่อนตัว เธอต้องซ่อนตัว”
จุมพลเดินอาดๆ เข้ามาทันที
“ซ่อนอะไร คิดจะซ่อนตัวไอ้โยหรือ”
สมคิดตาเหลือก จุมพลเห็นปรียายืนงงอยู่
จุมพลนั่งหน้าเหี้ยม ถือปืนยาวโดยตั้งด้ามปืนข้างตัวให้ดูน่ากลัว สมคิด ปรียายืนอยู่ด้วยกัน ปิ้งยืนอีกมุม”ผู้หญิงคนนี้ใคร”
จุมพลถามเสียงขู่ในลำคอ
“เออๆ หนูปรียาปะเป็นแฟน แฟนผมเอง”
สมคิดบอก ปรียารีบปฏิเสธ
“ไม่ใช่นะคะ หนูเป็นเพื่อนสนิทของคุณโย เขาพาหนูมานอนพักที่นี่ค่ะ”
จุมพลโกรธมากที่โยธินนอกใจเขมิกา ลุกยืน
“นอนที่นี่ด้วยหรือ นี่เจ้าโยมันกล้าบังอาจนอกใจไอ้เข็ม มันทำอย่างนี้เท่ากับหยามหน้ากันชัดๆ”
“ใจเย็นครับอา ไอ้โยมันคงเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจังหรอก”
ปรียามองไปมองมา ปิ้งวิ่งเข้ามา
“คุณโยกลับมาแล้วเถ้าแก่”
จุมพลถือปืนพุ่งออกไป
ที่หน้าบ้าน จุมพลจ่อปืนยาวไปที่โยธินกับสมคิด
“เอ็งพาเข็มไปเสียผู้เสียคน แล้วยังเอาผู้หญิงอื่นมาหลับนอนด้วยกัน เอ็งสมควรกินลูกปืน”
จุมพลจะยิงโยธิน สมคิดกอดโยธินไว้
“อย่าๆ อย่ายิงนะอา”
“เอ็งก็ต้องรับผิดชอบด้วย เที่ยวมีเมียเรี่ยราดไปทั่ว จนลูกมันทำตัวเลียนแบบ ตายไปด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ”
ปรียาวิ่งเข้ามายืนขวางทางปืน
“หนูไม่ใช่แฟนคุณโยนะคะ คุณปู่เข้าใจผิดหมดแล้ว คุณปู่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าคุณโยรักผู้ชายด้วยกัน อย่ายัดเยียดผู้หญิงให้เขาเลยค่ะ”
จุมพลยิ่งตกใจ สมคิดอ้าปากค้างมองหน้าลูกชา โยธินช็อกที่ปรียาพูดออกมาแบบนี้
“นี่แก แกเป็นกะๆๆ โอย จะเป็นลม” สมคิดจะเป็นลม ปิ้งรับตัวไว้ โยธินโบกมือจะบอกว่าไม่ใช่แต่จุมพลพูดสวนขึ้นก่อน
“เฮ้ย นี่มันอะไรกัน จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว ไอ้เข็มอยู่ไหน ไปพาไอ้เข็มมา ข้าจะชำระความพร้อมกันให้หมด”
พอโยธินได้ยินชื่อเขมิกา ถึงกับเข่าอ่อน ทรุดฮวบคุกเข่าต่อหน้าจุมพลแล้วร้องไห้อย่างเสียใจ
“เข็ม เข็มหายไปในทะเล ผม ผมเป็นคนผิดเองครับปู่ ปู่ฆ่าผมเถอะ”
จุมพลตกใจเข่าอ่อน ชี้หน้าโยธิน
“เกิดอะไรขึ้นกับไอ้เข็มหลานข้า เล่ามาให้หมด”
วันต่อมาที่บ้านโจรสลัด บิ๊กทุบโต๊ะด้วยความโมโห
“ฉันจะส่งมันสองคนลงนรกไปด้วยกัน”
บิ๊กคว้าปืนจะไปฆ่าเขมิกา บอมดึงพี่ชาย
“ถ้าพี่เล่นมันตอนนี้ เราก็ไม่ได้ทองไปด้วยนะพี่”
“มันคิดจะหลอกยืมมือฉันให้ฆ่าไอ้หน้าหล่อนั่น แล้วยังยุแหย่ให้แกหอบทองหนีไปด้วยกันอีก ต้องให้มันตายวันนี้จะปล่อยมันไว้ทำไม”
บอมส่งนิตยสารให้
“พี่เปิดหน้าที่ฉันคั่นไว้ดูก่อนก็จะรู้”
บิ๊กเปิดตาม เห็นรูปชานนท์เต็มหน้ากระดาษ
“ชานนท์ เลิศวิริยะ เจ้าของจวงจันทร์สปา 60 สาขาทั่วประเทศกำลังบุกหนักเข้าสู่ตลาดอาเซียน”
“ผัวมันร่ำรวยมหาศาล เราเอาตัวผัวมันไปแลกเงินสักร้อยล้าน ไม่ดีกว่าหรือพี่ ส่วนนังตัวดีก็ฝังมันซะหลังจากเราได้ทองแล้ว”
บิ๊กหัวเราะชอบใจ ตบบ่าบอม
“เก่งมากไอ้น้องพี่ มันต้องฉลาดแบบนี้สิ” บอมภูมิใจ “แล้วทำไมแกมาเล่าให้ฉันฟัง ไม่อยากได้สมบัติของเศรษฐีสปาไปคนเดียวหรือ”
“ฉันไม่โง่ให้มันหลอกซ้ำสองหรอกพี่ นังนี่มันโกหกเป็นไฟเชื่อได้ที่ไหน”
บิ๊กพยักหน้า
“เรื่องที่เราจะฆ่านังขวัญ อย่าบอกให้ไอ้แบงก์รู้ ฉันกลัวมันจะใจอ่อน”
“ครับพี่”
บอมยิ้มเจ้าเล่ห์
ชานนท์กับเขมิกานอนหันหลังให้กัน ต่างคนต่างนอนไม่หลับ ในที่สุดเขมิกาก็พูดขึ้นก่อน เสียงจริงจัง
“พรุ่งนี้พอฉันพามันไปเอาทอง ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ถ้าคุณมีโอกาสหนีได้ตอนไหนคุณก็ไปได้เลย เพราะไหนๆ เราก็ไม่มีอะไรผูกพันกันต่อไปแล้ว ฉันบอกลาคุณตอนนี้เลยแล้วกัน ขอบคุณที่คุณดีกับฉันมาตลอด”
เขมิกาหลับตา ข่มใจ ชานนท์ใจหายแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรด้วย
วันรุ่งขึ้น บอมถือปืนคุมชานนท์กับเขมิกาเดินมาหยุด บิ๊กเดินถือปืนออกมาจากตัวบ้าน
“ไปกันได้แล้ว”
“พี่แบงก์ล่ะพี่”
“ไอ้แบงก์มันท้องเสียไปไม่ไหว ไม่เป็นไรเราไปแค่สองคนก็พอ” บอมมองเขมิกาแบบรู้กัน บิ๊กหันมาทางเขมิกา “ไปทางไหน”
“หน้าเกาะอีกด้าน แถวๆ ที่ฉันโดนลูกน้องพี่จับตัวมา”
“นำไป”
เขมิกากับขานนท์เดินคู่กันไป บิ๊กกับบอมถือปืนเดินตาม
บอมเดินขึ้นมาประชิดตัวเขมิกาแล้วพูดเบาๆ
“เตรียมเรือไว้ให้แล้วนะ”
ชานนท์ที่เดินข้างๆ ได้ยินแว่วๆ บอมปล่อยให้เขมิกากับชานนท์เดินเลยขึ้นไป ส่วนตัวเองถอยมาเดินกับบิ๊ก
เขมิกามองชานนท์ พูดเสียงได้ยินกันแค่สองคน
“อยากรู้มั้ยว่าเขาคุยอะไรกับฉัน”
“ฉันไม่สนใจ”
เขมิกากวน พูดกระซิบ
“แต่ฉันอยากแจกจ่ายความสุขให้คุณรู้ ฉันจะหนีไปกับเขา ส่วนคุณถ้าเห็นฉันสู้กับไอ้ตัวหัวหน้าคุณก็หนีขึ้นเรือไปเลยจำไว้ อย่ามาตามฉันเด็ดขาด”
ชานนท์หน้านิ่งเหมือนตัดใจได้แล้ว
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไปแบบไม่เหลียวหลังกลับมา”
ทั้งหมดเดินมาหยุดที่เพิงมะพร้าวที่เขมิกาทำไว้
“ทองซ่อนอยู่ในนั้น ใต้ใบมะพร้าว”
“คุมมันไว้ให้ดี”
บิ๊กเดินเข้าเพิง เขมิกามองไปที่ทะเลไม่มีเรือสักลำ
“มองหาเรือหรือจ๊ะ” เขมิกาหันมาทางบอม บอมเล็งปืนใส่เขมิกา “นังโง่ คิดหรือว่าฉันจะเชื่อแกอีก คราวก่อนแกทำฉันไว้เจ็บแสบมาก วันนี้เป็นวันตายของแก”
“แล้วคิดหรือว่าฉันจะไว้ใจแกจริง”
เขมิกาไวมากใช้สองมือที่โดนมัดชักปืนที่เหน็บเอวไว้ ยิงใส่ขาบอมทันที บอมร้องลั่นล้มลงนอนนิ่งไป
ในเพิงมะพร้าว บิ๊กกำลังรื้อใบมะพร้าวที่ปูพื้นอยู่ ได้ยินเสียงปืน ชะงักทันที กระสุนของเขมิกาถูกยิงเข้ามาอีกหลายนัดเพื่อถ่วงเวลาชานนท์หนี บิ๊กก้มหลบพัลวัน
“เฮ้ยอะไรกันวะ ไอ้บอม ใครมันยิงเข้ามา”
เขมิกาหยุดยิงได้ยินเสียงเรือยนต์รีบมองไปที่ทะเลเห็นแบงก์เป็นคนขับเรือ
“แบงก์” เขมิการีบบอกชานนท์ “ไปขึ้นเรือเลย” ชานนท์แปลกใจมองบอมที่นอนเดี้ยงอยู่ “ไปเร็วๆ ไปซี่”
บิ๊กวิ่งออกมา ยิงใส่มาทางชานนท์กับเขมิกาดินกระจุย ชานนท์ไม่มีเวลาคิดรีบวิ่งลงทะเลเพื่อไปที่เรือ เขมิกายิงใส่บิ๊ก1นัด บิ๊กกลิ้งหลบได้ เขมิกาถือโอกาสวิ่งหนีเพื่อล่อให้บิ๊กไล่ตามเปิดทางให้ชานนท์หนี บิ๊กวิ่งไปดูบอม บอมขยับตัว
“ฉันทนไหว พี่ฆ่ามันให้ฉันที ฉันอยากเห็นมันตาย”
บิ๊กรีบวิ่งตามไป
แบงก์จอดเรือใกล้ชายหาดเห็นเขมิกาวิ่งหนี บิ๊กตามไล่ยิงอีกหลายนัดแต่ไม่โดน แบงก์ห่วงเขมิกากับพี่ชาย กระโดดลงจากเรือ วิ่งลุยน้ำไปทางพวกเขมิกา ชานนท์วิ่งมาถึงเรือยนต์ ปีนขึ้นเรือเห็นกุญแจคาอยู่ ชานนท์มองมือที่ถูกมัดเห็นกล่องอุปกรณ์เครื่องมือ ชานนท์ใช้สองมือเปิดออก หยิบใบเลื่อยเล็กๆ ออกมา พยายามตัดเชือกเร็วๆ จนหลุด ชานนท์ติดเครื่อง
“เราอย่าพบเจอกันอีกเลยขวัญตา”
ชานนท์รีบขับเรือออกไป
เขมิกาวิ่งหนีมาตามชายหาด บิ๊กหยุดวิ่งตั้งท่าเล็งยิง แบงก์กระโจนเข้ากอดบิ๊กไว้
“อย่าพี่”
ปืนเบี่ยงทิศทางไปทางอื่น เปรี้ยง! เขมิกาตกใจหันกลับมาดูเห็นแบงก์กอดล้มไปกับบิ๊ก
“หนีไป ไปที่เรือ ฉันเอาเรือมาให้เธอแล้ว”
แบงก์ตะโกนบอก บิ๊กโกรธมาก กระชากคอเสื้อน้อง
“แกรักมันมากถึงขนาดหักหลังพี่น้องเลยหรือไอ้แบงก์”
“ฉันไม่ได้ช่วยเขา แต่ฉันช่วยพี่กับบอม ฉันอยากให้พี่มอบตัวกับตำรวจ” แบงก์ตะโกนบอกเขมิกา “รีบไปซี่ ไปบอกตำรวจด้วยว่าเราจะรอมอบตัวอยู่ที่นี่”
“ไอ้น้องเลว”
บิ๊กแค้นมากชกหน้าแบงก์ซ้ายขวาไม่ยั้ง เขมิกาห่วงแบงก์วิ่งเข้าไปเอาปืนจี้บิ๊ก
“หยุด”
แบงก์ห่วงพี่
“อย่า”
แบงก์บอกเสียงอ่อนแรงแล้วค่อยๆ หมดสติไป บิ๊กเห็นเขมิกาชะงักไป จะยิงเขมิกา เขมิกาเตะมือบิ๊ก ปืนหลุดกระเด็นไปไกลๆ บิ๊กกระแทกหมัดใส่ท้องเขมิกา เขมิกาตัวงอ ปืนหลุดมือ บิ๊กจะหยิบปืนของเขมิกา เขมิกาเตะก้านคอ บิ๊กล้มกลิ้ง บิ๊กลุกยืนเข้าบู๊กับเขมิกาแต่เขมิกาเสียเปรียบเพราะมือโดนมัดไว้ ต้องคอยหลบหมัดบิ๊ก สุดท้ายโดนบิ๊กชกท้องสองที ทรุดฮวบ
ชานนท์ขับเรือหนีมา เริ่มมีเวลาทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ
ชานนท์นั่งที่เตียง เขมิกาเดินมาตรงหน้า ยื่นยาแก้เมาเรือให้ชานนท์พร้อมน้ำดื่ม
“กินซะ จะได้ไม่เมาคลื่น”
“ไม่จำเป็น”
“อย่าอวดเก่งหน่อยเลย”
ชานนท์จะอ้าปากเถียง
“ฉันบอกแล้วว่า ฉันไม่...” เขมิกาปายาเข้าปากชานนท์อย่างแม่นยำ ชานนท์หุบปากติดคอ เขมิการีบเอาแก้วจ่อปาก
“น้ำๆ กินๆ เข้าไปเร็วเข้า มันติดคอหายใจไม่ออกตายไม่รู้ด้วย” ชานนท์ติดคอพูดไม่ออกต้องรีบคว้าแก้วน้ำยกดื่มหลายอึก เขมิการีบถอยออกห่างชานนท์ “ฉันตอบแทนคุณแล้วนะ ไอ้ที่เคยทำดีๆ กับฉันไว้ ถือว่าหายกัน”
ประตูเปิด บอมเดินเข้ามา
“ได้เวลาแล้ว”
อีกเหตุการณ์ ตอนที่เขมิกาคุยกับชานนท์
“...ฉันจะหนีไปกับเขา ส่วนคุณถ้าเห็นฉันสู้กับไอ้ตัวหัวหน้าคุณก็หนีขึ้นเรือไปเลย จำไว้ อย่ามาตามฉันเด็ดขาด”
ภาพตอนที่บอมจะยิงเขมิกา
“มองหาเรือหรือจ๊ะ” เขมิกาหันมาทางบอม บอมเล็งปืนใส่เขมิกา “นังโง่ คิดหรือว่าฉันจะเชื่อแกอีก คราวก่อนแกทำฉันไว้เจ็บแสบมาก วันนี้เป็นวันตายของแก”
“แล้วคิดหรือว่าฉันจะไว้ใจแกจริง”
เขมิกายิงเปรี้ยง
ชานนท์เริ่มเข้าใจว่าเขมิกาต้องการช่วยเขาจึงเลี้ยวหัวเรือกลับชายหาด ชานนท์ร้อนใจมากพุ่งเรือตรงมาที่ชายหาด แล่นเรือเลียบฝั่งมองหาเขมิกาเห็นเขมิกากำลังแย่
เขมิกายังนั่งตัวงอลุกไม่ขึ้น บิ๊กค่อยๆ เดินไปหยิบปืนของเขมิกาที่อยู่ใกล้กว่า เขมิกาเงยหน้ามองแต่หมดแรงจะลุก บิ๊กเดินกลับมาหาเขมิกา ชานนท์รีบกระโดดลงจากเรือ วิ่งลุยน้ำสุดชีวิตเพื่อให้ทัน บิ๊กเล็งปืนกำลังจะยิงเขมิกา ชานนท์เห็นปืนของบิ๊กบนทราย พุ่งไปหยิบปืนเล็งไปทางบิ๊ก
“ฉันอยู่นี่ แน่จริงยิงมาเลย”
บิ๊กรีบเบี่ยงปืนมาทางชานนท์ทันที ต่างคนต่างเล็งปืนเข้าใส่กัน จ้องตากันนิ่ง เขมิกางงที่ชานนท์กลับมา
“กลับมาอีกทำไม” เขมิกาพูดกับบิ๊ก “ยิงฉันสิ อยากฆ่าฉันไม่ใช่หรือ ผู้ชายคนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย เป็นแผนฉันคนเดียวทั้งหมด”
ต่างคนต่างลั่นไกยิง ปรากฏว่ากระสุนหมดทั้งคู่ โยนปืนทิ้ง เข้าบู๊กันผลัดกันรุกรับ เขมิกาจุกยังลุกไม่ขึ้น มองชานนท์อย่างเป็นห่วง แบงก์เริ่มรู้สึกตัวผงกหัวมองชานนท์กับบิ๊กสู้กันด้วยมือเปล่า ชานนท์พลาดท่าโดนเสยปลายคาง ล้มตึง บิ๊กหันไปทางเขมิกาย่างเท้าเข้าหา ชานนท์คลานไปดึงขาบิ๊ก บิ๊กพยายามถีบออก ชานนท์ไม่ยอมปล่อย เลยโดนบิ๊กกระทืบหลัง
“หนีไป เรือจอดอยู่นั่น”
ชานนท์บอกเขมิกา เขมิกาพยายามลุกขึ้นจะไปช่วยชานนท์ แบงก์ลุกยืนร้องบอกพี่
“พี่บิ๊ก พอเถอะ ปล่อยพวกเขาไป”
ชานนท์รีบบอกแบงก์
“ช่วยพาขวัญไปขึ้นเรือที ไม่งั้นพี่คุณฆ่าเขาแน่ เร็วสิ”
แบงก์ไม่อยากให้พี่ชายทำบาป รีบพยุงจะพาเขมิกาหนีแต่เขมิกาไม่ยอมไป
“ฉันทิ้งเขาไปไม่ได้ ปล่อยฉัน”
ชานนท์ยังกอดขาบิ๊กไม่ปล่อย
“ไม่ต้องมาทำดีกับฉัน บอกให้ไปไงเล่า ไป”
“ถ้าแกพามันไป ไม่ต้องมาเรียกฉันเป็นพี่อีก”
“ฉันขอโทษ ฉันจะกลับมารับโทษจากพี่”
แบงก์ออกแรงดึงเขมิกาให้เดิน บิ๊กถูกชานนท์ดึงล้ม ทั้งคู่นัวเนียชกกันต่อ
บอมเดินกระเผลกถือปืนตรงมาทางแบงก์กับเขมิกา
“ไอ้แบงก์”
แบงก์กับเขมิกาชะงัก บอมจะยิงแบงก์ บิ๊กที่กำลังสู้กับชานนท์รีบวิ่งไปทางแบงก์ เอาตัวบังแบงก์ เสียงปืนดังเปรี้ยง! บิ๊กโดนยิงที่ไหล่ด้านหลัง
“พี่บิ๊ก”
แบงก์ประคองพี่ชาย บอมโมโห
“มันทรยศเรา พี่ยังเข้าข้างมันอีกหรือ”
บิ๊กพยายามพูด
“แกบ้าไปแล้วหรือไง เขาเป็นพี่ชายแท้ๆ ของแกนะ”
“พี่รักแต่มัน พี่ต้องเสียใจ พวกเรา ออกมา”
บอมตะโกน พวกลูกน้องบอมใส่ชุดดำ เดินออกมาจากที่ซ่อนตัวเล็งปืนไปทางพวกบิ๊ก แบงก์ เขมิกา ชานนท์
“นี่แกกำลังคิดจะทำอะไร”
“สมบัติทั้งหมดที่พวกพี่ปล้นมา รวมทั้งตำแหน่งหัวหน้าของพี่ต้องเป็นของฉันคนเดียว” บอมถอยออกมา “ใครขัดขืนฆ่าให้หมด”
เขมิกา ชานนท์ แบงก์เข้าลุยกับพวกบอม ขณะที่บิ๊กนั่งเจ็บ แต่คนน้อยสู้ไม่ไหวถอยหลังมารวมกัน ตกอยู่ในวงล้อม บอมหัวเราะชอบใจ เล็งปืนไปที่เขมิกา
“แกจะเป็นคนแรกที่ต้องไปก่อนนังขวัญตา”
บอมเหนี่ยวไกยิง ชานนท์เอาตัวเข้าบังเข็ม เสียงปืนดังเปรี้ยง! บอมโดนกระสุนเจาะหน้าอก ล้มลงตายคาที่
“บอม”
ชานนท์ยังกอดเขมิกาอยู่ หันไปมองคนที่มาช่วยเห็นจุมพลกับปิ้งยืนอยู่หน้าลูกน้องนับสิบ
“ปู่”
เขมิกาเรียกชุมพลอย่างลืมตัว
“ลุยมัน”
พวกลูกน้องบอมกำลังจะยิงสู้ แต่โดนพวกจุมพลยิงใส่พร้อมกัน ล้มบาดเจ็บไปทีละคนจนหมด
จบตอนที่ 10