เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 8
ส่วนที่บ้านชานนท์ ห้องแววนิลย้ายมาอยู่ชั้นล่างหลังจากที่เธอเดินไม่ได้ โย่งวิ่งออกมาจากห้องแววนิล พร้อมข้าวของกระเด็นลอยตามออกมา
“ออกไป ไอ้พวกโง่งี่เง่า”
แป้นถลาออกมาชนโย่ง ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน แววนิลเข็นรถออกมา
“พวกแกไม่รู้หรือไงว่าฉันต้องทำอะไรบ้างในตอนเช้า เสื้อผ้าฉันไม่เห็นมีใครมาเตรียมให้” แววนิลชูผ้าขนหนูผืนเล็ก “แล้วนี่มันผ้าเช็ดผม ไม่ใช่ผ้าสำหรับเช็ดหน้า” แววนิลปาผ้าใส่แป้น “แปรงสีฟันอันนี้ฉันเคยใช้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ฉันไม่ใช้ซ้ำ” แววนิลปาแปรงสีฟันใส่แป้น “นังบ้า ถ้านมอยู่คงไม่เป็นแบบนี้ ไป ไปให้พ้นหน้าฉัน”
โย่งกับแป้นพากันวิ่งหนี
ส่วนที่สปา จรรยาทำเสียงแข็งใส่ประชาเพราะไม่อยากคุยด้วย
“ฉันไม่รู้ว่าขวัญไปไหนกับคุณชานนท์”
“แน่ใจ เธอกับคุณขวัญเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่หรือ”
“ผู้จัดการก็สนิทกับเจ้านายเหมือนกัน ทำไมเจ้านายไม่บอกละคะว่าจะไปไหน” จรรยาย้อนถาม ประชาหน้าหงาย “ขอโทษนะคะ ฉันมีงานต้องรีบทำ”
จรรยาเดินไป ประชามองแค้นๆ เสียงมือถือดัง ประชาหยิบมาดู
ประชาเดินรีบร้อนเข้ามาในบ้านชานนท์ โย่งยืนรอกระวนกระวาย
“ทำไมไม่ตามคุณมณฑากลับมาจัดการให้ฉันวิ่งไปวิ่งมา งานการไม่ต้องทำกันพอดี” ประชาบ่นอย่างไม่พอใจ
“จะตามกลับมาได้ยังไงละครับ คุณผู้ชายให้เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านนี้ไปแล้ว อุ๊บ” โย่งหลุดปากบอกแล้วรีบปิดปากตัวเอง “เออ อย่าบอกคุณนิลนะครับ คุณผู้ชายฆ่าผมแน่”
ประชาคาดไม่ถึงว่าชานนท์จะกล้าไล่มณฑาไป
แววนิลนั่งอยู่บนรถเข็น สีหน้าช็อกกับสิ่งที่ประชาบอก
“ว่าไงนะ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ พี่นนท์ไม่มีทางทำอย่างนั้น” ประชายืนนิ่งตรงหน้าแววนิล “พี่นนท์บอกฉันว่านมไปต่างจังหวัด”
“คุณชานนท์สั่งห้ามทุกคนพูดเรื่องนี้ ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน” แววนิลโกรธจนตัวสั่นรับไม่ได้ ประชาตกใจ “คุณนิลใจเย็นๆ ไว้นะครับ อย่าเพิ่งโกรธ”
แววนิลร้องกรี๊ดคุมสติไม่อยู่
“ไม่จริงๆ”
แววนิลคว้าของใกล้มือปาแหลก ประชายืนมอง ยิ้มสะใจ
ห้องพักของเขมิกากับชานนท์ เขมิกาทายาที่ปากให้ชานนท์ ชานนท์แกล้งชี้ๆ
“ทาให้ตรงแผลหน่อยสิ ตรงนี้ มองไม่เห็นหรือ” เขมิกาแต้มยา
“ตรงนี้ไม่ใช่หรือ”
“มีรอยแตกตรงนี้อีก”
เขมิกายื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าชานนท์เพื่อมองหาแผล ชานนท์ยิ้มๆ หอมแก้มเขมิกาทันที เขมิกาตกใจถอยออก ง้างหมัดอัตโนมัติ
“อย่านะ ให้ค่าตอบแทนกันบ้างไม่ได้หรือ” ชานนท์รีบบอก
“ค่าอะไรไม่ทราบ”
“ค่าเท้าฉันที่เธอเหยียบจนชาไปหมด คิดหรือว่าฉันจะยอมฟรีๆ มันก็ต้องมีอะไรตอบแทนกันหน่อย”
“คุณนี่มันสมเป็นนักธุรกิจขี้งก” เขมิกาหมั่นไส้จะเดินหนี ชานนท์ดึงมือไว้
“วันนี้ฉันจะขอเดทกับเธอ มีที่เที่ยวหลายที่เลยที่ฉันอยากพาเธอไป เผื่อเธอจะจำเรื่องเก่าๆ ที่ทำให้เรามีความสุขด้วยกันได้” เขมิกาดีใจแต่มีฟอร์ม
“ไปก็ได้ แต่ต้องรอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” เขมิกาหันหลังให้ชานนท์ ยิ้มเขิน พูดกับตัวเอง “ขอเดทเรา”
เขมิกายิ้มเคลิ้มจนเดินชนเก้าอี้ เขมิการีบหันไปมองชานนท์ ชานนท์มองอยู่ เขมิกายิ้มเอ๋อรีบเดินเข้าห้องน้ำ
ชานนท์เดินเลี่ยงไปที่ระเบียง
ชานนท์อยู่ที่ระเบียงยืนคุยโทรศัพท์กับประชา
“คุณจัดห้องชั้นล่างให้นิลแล้วใช่มั้ย เขาพอใจหรือเปล่า”
“คุณนิลรู้เรื่องคุณมณฑาแล้วครับ นายโย่งมันเผลอพูดให้ผมฟัง คุณนิลมาได้ยินพอดี”
“แล้วนิลเป็นยังไงบ้าง” ชานนท์นึกเป็นห่วงแววนิล
หน้าห้องแววนิล แป้นพยายามทุบประตู
“คุณนิลคะ เปิดประตูเถอะค่ะ ได้เวลากินข้าว กินยาแล้วนะคะ”
“อย่ามายุ่ง ถ้าไม่พานมกลับมา ฉันจะไม่มีวันออกไป” แววนิลตะโกนออกมา ประชาเดินมาที่หน้าห้องแป้นรีบบอก
“แป้นทุบจนมือระบม ตะโกนเรียกจนลูกกระเดือกจะหลุดแล้วไม่ได้ผลเลยค่ะ”
ประชาออกอาการเบื่อแววนิล
“ฉันติดต่อคุณชานนท์แล้ว เฝ้าไว้ละกันอย่าไปไหน...น่าเบื่อ”
ประชาเดินไป แป้นมองตามอย่างนึกเกลียด
“ลับหลังทำเป็นเก่ง ทีต่อหน้าไม่พูดอย่างนี้ล่ะ”
เขมิกาแต่งตัวเสร็จเดินออกจากห้องน้ำเจอชานนท์ยืนรอ ข้างชานนท์มีกระเป๋าเดินทาง 2 ใบเตรียมพร้อม
เขมิกามองกระเป๋าแล้วมองหน้าชานนท์
“เราต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้เลย”
รถโยธินขับเข้ามาในโรงแรมสวนกับรถชานนท์ที่ขับออกไป แต่ทั้งคู่ไม่เห็นกัน
ที่บ้านชานนท์ แป้นนั่งหลับพิงประตูอยู่หน้าห้องแววนิล โย่งเข้ามาเขย่าแป้น
“นังแป้น ให้คอยเฝ้าคุณนิลดันมานั่งหลับ”
แป้นลืมตางัวเงีย ปัดมือโย่ง
“ใครว่าฉันหลับ กำลังนั่งทำสมาธิหายใจเข้า หายใจออกอยู่โว้ย โดนคุณนิลด่าเช้าด่าเย็น จะเป็นประสาทอยู่แล้ว” โย่งเงยหน้า
“คุณผู้ชายครับ แป้นมันไม่ไหวแล้ว มันขอลาออก”
ห่างออกไป ชานนท์ยืนมองอยู่ แป้นร้องจ๊ากรีบลุกยืน
“ว้าย ไม่ใช่นะคะคุณผู้ชาย ไอ้โย่งมันปากหมา เห่ามั่ว”
ชานนท์เดินไปที่ประตู เคาะประตู
“นิล พี่เองนะ พี่กลับมาแล้วเปิดประตูให้พี่เข้าไปหน่อย” แววนิลนั่งหลับบนรถเข็น ได้ยินเสียงชานนท์“นิล”
“ไม่ค่ะ ถ้านิลไม่ได้เห็นหน้านม นิลจะขังตัวเองให้ตายอยู่ในนี้”
ประตูเปิด ชานนท์ยืนหน้าประตูสีหน้าเอาจริงจนแววนิลชักกลัว ชานนท์ชูกุญแจในมือ
“ลืมแล้วหรือว่าพี่จะไขเข้าห้องไหนก็ได้” ชานนท์หันไปสั่งโย่งกับแป้นเสียงเฉียบ “ต่อไปนี้ห้ามใครตามใจคุณแววนิล การกินอยู่รวมไปถึงกิจกรรมทั้งหมด ให้ทำตามตารางเวลาที่ฉันสั่ง” ชานนท์สั่งเสร็จ หันมามองแววนิล “ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น นอกเสียจากฉันจะเป็นคนอนุญาตเอง”
แป้นกับโย่งรีบรับคำ แววนิลคับแค้นใจบีบพนักแขนของรถเข็นแน่น
ชานนท์เช็ดแขนเช็ดมือให้แววนิล แววนิลชักมือออก หน้านิ่งไม่ยอมมองหน้าชานนท์
“คุณนมทำเรื่องร้ายแรง พี่คงไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไรนิลก็คงรู้” แววนิลหันขวับมา
“เมียพี่นนท์คบชู้ มันเป็นคนเลว ก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่หรือ”
“คลิปที่เราเห็นอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ การที่คนเรากอดกันมันอาจไม่ใช่เรื่องชู้สาวเสมอไป” แววนิลโกรธ หลุดปาก
“จะเข้าใจผิดได้ยังไง ในเมื่อน้องเป็นคนจ้างคนไปถ่ายคลิปเอง ไอ้คนถ่ายมันก็เห็นกับตา”
ชานนท์ลุกยืนทันที
“ฝีมือนิลเองหรือ”
แววนิลอึกอักต้องยอมสารภาพไปตรงๆ
“ก็น้องสงสัยมัน เลยให้คนสะกดรอยตาม”
“งั้นนิลก็เป็นคนปล่อยคลิปนั่นด้วยสินะ”
“น้องต้องการให้คนรู้ว่ามันไม่มียางอาย มั่วกับผู้ชายไปทั่ว”
ขานนท์หมดความอดทน โกรธจัด
“โดยไม่คิดว่าจะทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเสียหาย ธุรกิจย่อยยับป่นปี้ พี่เองต้องกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน ไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจ ทำไมนิลไม่บอกพี่ก่อน เรื่องของครอบครัวก็แก้กันเองภายในครอบครัวสิ ไปโพนทะนาให้คนนอกรู้ทำไม”
“มันเป็นฝ่ายผิด พี่นนท์ไปด่ามันสิ มาด่าน้องทำไม มันต่างหากที่ต้องกระเด็นไปจากบ้านนี้ ไม่ใช่คนดีๆ อย่างนม”
ชานนท์ลุกยืนไม่พอใจ
“มีเรื่องหนึ่งที่พี่จะบอกให้นิลรับรู้ไว้ ต่อไปนี้พี่กับขวัญตา เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
แววนิลรีบโวยวาย
“ไม่นะ นิลไม่ยอม”
ชานนท์เสียงดังสวนกลับทันที
“พี่เท่านั้นที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ หน้าที่ของนิลคือฝึกเดินให้ได้ ถ้าไม่อยากนั่งอยู่บนรถเข็นตลอดไปและพี่จะให้แป้นทำหน้าที่แทนคนเก่า”
ชานนท์เดินปึงๆ ออกไป แววนิลอยากจะกรี๊ดแต่กรี๊ดไม่ออก คว้าหมอนมาฟาดๆ ขาตัวเอง
“ไม่เดิน ไม่อยากเดิน ให้มันตายๆ ไปเลย ฮือๆๆ”
เขมิกานั่งรอชานนท์อยู่ในห้องโถง ประชารีบร้อนเดินเข้ามาจากด้านนอก ประชาเห็นเขมิกาก็ชะงัก
“เพิ่งมาถึงหรือครับ”
“ก็สักครึ่งชั่วโมงได้ ตอนนี้คุณนนท์กำลังโอ้โลมปฏิโลมคุณน้องปลานิลอยู่ สงสัยจะยาก ก็เล่นตามใจกันมาเยอะ”
“แล้วอาการเจ็บคุณขวัญ” เขมิกาจับบ่าตัวเอง
“เกือบหายแล้วฮะ” เขมิกาเดินไปใกล้ประชา ลดเสียงลง “คุณนมไปอยู่ที่ไหนรู้มั้ย”
“ไม่ทราบเลยครับผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน คุณชานนท์ไม่ได้ปรึกษาใครเลย”
ชานนท์เดินเข้ามา โย่งตามหลัง
“คุณน้องสะใภ้หมดฤทธิ์แล้วหรือฮะ” เขมิกาถามแล้วเดินไปหาชานนท์ ชานนท์กอดเอวเขมิกา
“จ้ะ หิวหรือยัง ฉันว่าจะเข้าครัวทำสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาให้เธอกิน”
เขมิกาตกใจโวยวาย
“โอ๊ย คุณกินเองเหอะ ฉันไม่กินด้วยหรอก”
ชานนท์หัวเราะ ประชามองชานนท์ที่กอดเอวเขมิกา ชานนท์เห็นประชามอง
“ลืมบอกไป ผมกับขวัญ” ชานนท์ส่งตาหวานให้เขมิกา “เราคืนดีกันแล้ว”
โย่งตาโต เขมิกายิ้ม ประชารู้สึกเจ็บ แต่ฝืนยิ้ม
“ยินดีจากใจจริงครับ”
“ขอบใจ” ชานนท์ส่งกุญแจให้เขมิกา “ฉันมอบหมายหน้าที่ดูแลบ้านให้เธอแทนคุณนม”
โย่งโพล่งออกมา
“จะดีหรือครับ” ชานนท์มองหน้าโย่ง โย่งแหย “ดีครับ ดีมากๆ เลย โย่งจะไปแจ้งให้ทุกคนรู้จะได้ช่วยกันโห่” โย่งมองเขมิกาแล้วทำมือประกอบ “โห่ฮิ้วววว”
โย่งรีบเดินไป ประชาหึงจนทนไม่ไหว
“ผมมีงานที่สปาต้องไปดู ขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“แล้วค่อยเจอกัน”
ประชาเดินไป เขมิกามองประชา
“คุณประชานี่ขยันนะ วิ่งไปวิ่งมาทั้งงานราษฎร์งานหลวง”
“ไม่ใช่ขยันอย่างเดียว แต่เป็นคนดี คนซื่อสัตย์ที่หาได้ยาก”
“แล้วทำไมยังไม่แต่งงาน อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ”
“เขาจะหาผู้หญิงที่เหมือนเธอถึงจะยอมแต่ง”เขมิกาตกใจมองหน้าชานนท์
“เขาเคยพูดล้อเล่นน่ะ คงยังไม่เจอคนที่ถูกใจมากกว่า”
ประชาเดินตามโย่งออกมา
“เดี๋ยวก่อนนายโย่ง”
โย่งหยุดเดินหันไป
“ผมรีบนะครับ” โย่งกวน ทำเป็นมองนาฬิกา “มีเวลาแค่1นาที” ประชาไม่พอใจ
“ฉันลดตัวลงมาเสวนาด้วยก็นับว่าบุญของแกแล้ว” โย่งหมั่นไส้แต่ไม่พูดอะไร “วันที่คุณมณฑาออกจากบ้านไป
มีคนไปส่งหรือเปล่า”
“ผมเอง”
“นายไปส่งที่ไหน”
“คุณนมให้ไปส่งที่” โย่งคิดๆ แล้วแกล้งประชา “ลืมแล้ว” ประชาไม่พอใจ
“ที่ถามนี่เพราะยังมีเงินค่าชดเชยที่ฉันต้องเอาไปให้”
“ถ้างั้นผู้จัดการต้องไปถามคุณผู้ชาย ผมบอกคุณผู้ชายไปแล้วพอบอกปั๊บก็ลืมเลย โอ๊ะ หมดเวลาพอดี”
โย่งเดินกวนประสาทไป ประชากำมือแน่นอยากอัดโย่ง
วันต่อมาแววนิลยืนเกาะWalkerสี่ขาอยู่ในห้องนั่งเล่นมีชานนท์ช่วยจับ
“จำที่นักกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลสอนนิลได้หรือเปล่า นิลต้องใช้แรงของแขนและมือช่วยพยุงตัวก่อนนะ ลองดู”
“น้องลืมหมดแล้ว”
“นิลต้องร่วมมือกับพี่ ถ้าจำไม่ได้ก็ทำตามที่พี่บอก ก้าวเท้าช้าๆ ทิ้งน้ำหนักที่มือและแขน” ชานนท์บอกเสียงแข็ง เขมิกาเดินมาแอบมองข้างประตู แววนิลไม่ยอมทำตามที่ชานนท์บอก
“น้องไม่ทำ”
“ถ้าไม่ทำพี่จะส่งตัวไปรักษาที่เมืองนอก จะเอาอย่างนั้นมั้ย”
แววนิลโมโหลืมตัวปล่อยมือตีชานนท์
“พี่นนท์ใจร้าย โอ๊ย” แววนิลพลาดหกล้ม ชานนท์คว้าไม่ทัน แป้นกับชานนท์ตกใจจะรีบเข้าไปช่วย แต่แววนิลชี้แป้นตวาดลั่น “อย่าเข้ามา” แววนิลหันมาทางชานนท์ “ปล่อยน้องไว้ไม่ต้องมาสนใจน้อง น้องเกลียดพี่นนท์”
ชานนท์ใจอ่อนกลัวแววนิลเจ็บ
“ตกลง ไม่ฝึกก็ยังไม่ต้องฝึก พี่จะอุ้มนิลกลับห้อง”
ชานนท์จะเดินไปหาแววนิล เขมิกาตัดสินใจเดินเข้ามา ดึงแขนชานนท์ไว้
“คุณอยู่เฉยๆ ก่อน ฉันขอ” เขมิกาพูดเบาๆ กับชานนท์ แล้วหันไปทางแววนิล แววนิลอายสภาพตัวเอง
“แป้น เอารถเข็นมา เอามาเร็วๆ”
“ฉันเอง” เขมิกาบอกแป้นแล้วเข็นรถมาให้ตรงหน้าแววนิล “ลูกแหงอย่างคุณ ทำอะไรเองไม่เป็นก็สมควรแล้วที่จะนั่งกินนอนกินบนรถเข็น รอให้คนเอาอาหารมาป้อนถึงปาก ก็ดีนะสบายไปทั้งชาติ”
“แก อีบ้า แกแช่งฉันหรือ คนอย่างแกมันต้องไม่ตายดี ฉันจะตามจองล้างจองผลาญแกให้ถึงที่สุด” แววนิลบอกอย่างโมโห
“โอ๊ะน่ากลัวจัง ถ้าแค้นฉันนักก็ลุกขึ้นมาตบฉันเลยสิ มามะ” เขมิกายืนห่างจากแววนิลประมาณ 3 ก้าว “คุณน้อง คุณพี่จะรออยู่ตรงนี้ มีปัญญามั้ยล่ะ”
แววนิลเจ็บใจจ้องหน้าเขมิกาแค้น กัดฟันค่อยๆ เกาะwalker ชานนท์ห่วงแต่ใจแข็งรอดู แววนิลพยายามจนลุกยืนได้สำเร็จ
“ทำได้แค่นี้เองหรือ โถๆ คุณพี่อยากโดนตบใจจะขาดอยู่แล้ว” เขมิกาพูดยั่ว แววนิลยิ่งแค้น ขยับwalkerไปข้างหน้าแล้วลากเท้าตาม เกือบถึงตัวเขมิกา “ยังเหลืออีกก้าว”
แววนิลฮึดลากเท้าถึงตัวเขมิกา เขมิกายืนนิ่งไม่ถอย แววนิลเงื้อมือตบฉาดซ้ายขวา เขมิกายอมถูกตบไม่หลบ แววนิลจะตบอีก ชานนท์สงสารเขมิการีบเข้าไปดึงเขมิกาออก แล้วดึงออกจากห้องเหมือนโกรธเขมิกาแววนิลหอบเหนื่อยจะหมดแรง แป้นรีบเข้าประคอง
ชานนท์ดึงเขมิกาเข้ามาในห้องโถง เขมิกาดึงมือออกคิดว่าชานนท์โกรธ ชานนท์จ้องหน้าเขมิกาแบบโกรธๆ ไม่พอใจ
“อยากด่าก็ด่ามาเลย แต่ฉันขอเตือนถ้าคุณขืนโอ๋น้องแบบนี้ต่อไป อย่าหวังว่าคุณนิลจะเดินได้ คนเรามีสองขาเท่ากันต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง จะไปยืมขาคนอื่นมาเพิ่มให้ตัวเองอีกขามันไม่ได้”
ผิดคาดชานนท์พูดดีกับเขมิกา
“เธอนี่มันโง่จริงๆ เลย” ชานนท์จับแก้มเขมิกาอย่างห่วงใย “เจ็บมากมั้ย” เขมิกางง ชานนท์ดึงเขมิกามากอด “น้องสาวฉันร้ายกาจกับเธอแต่เธอยังหวังดีกับเขา ฉันละอายใจแทน”
เขมิกาเขิน ดันตัวออกเอง
“ปู่ฉันเคยสอนว่าคนล้มอย่าข้าม แต่ควรช่วยพยุงกันขึ้นมาถ้าทำได้แบบนี้ถึงจะเรียกว่าคนจริง” ชานนท์สงสัย
“ปู่ไหนกัน เธอเป็นเด็กกำพร้าไม่ใช่หรือ” เขมิกาตกใจรีบแก้ตัว
“ก็ ก็ปู่ เออ ปู่ที่บ้านเด็กกำพร้าไง เขาเป็นคนสวนช่วยดูแลเด็กๆ ด้วย พวกเราก็เรียกกันว่าปู่ๆ”
“เรื่องนิล”
“คุณไม่อยากให้ฉันยุ่งละสิ”
“เปล่า ถ้าเธอช่วยให้นิลเดินได้ ฉันจะมีรางวัลให้”
เขมิกายื่นนิ้วก้อยไปให้เกี่ยวทำสัญญา
“พูดแต่ปากไม่ได้ ต้องทำสัญญากันก่อน”
ชานนท์เขินไม่ยอมเกี่ยวด้วย
“ไร้สาระน่า เล่นอะไรเป็นเด็กๆ”
ชานนท์เดินหนีออกจากห้อง เขมิกายิ้ม เคลิ้ม พูดเบาๆ
“อีตาชาเย็นเวลาเขินก็น่ารักดีเหมือนกันเนอะ นี่ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆ กระโดดฟัดแล้ว”
เขมิกาวางตะกร้า ดินสอหลายแท่งบนพื้นในห้องนั่งเล่นแล้วเงยหน้ามองแววนิลที่นั่งบนเก้าอี้ตรงหน้า
“ลองทำดู วิธีนี้จะช่วยฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ”
“แป้น พาฉันกลับห้อง” แป้นมองหน้าเขมิกา แววนิลตวาด “เร็วสิ”
“แย่จังแบบนี้ก็อดเจอคุณนมมณโฑซิฮะ ไหนว่ารักกันนักหนาไง คุณพี่ได้ข่าวมานะว่าตอนนี้คุณนมกำลังย่ำแย่
ใช่มั้ยแป้น” แป้นเงอะงะไม่ได้นัดแนะกันก่อน “ที่แป้นไปได้ยินมาจากตลาดไง” เขมิกาพยักพเยิดให้พูด
“อ๋อ ใช่ค่ะ หนูได้ยินแม่ค้ามันเม้าท์กันว่าเจอคุณนมมาซื้อของกินในตลาด หุ่นงี้ผอมโซน่าสงสาร”
“นมอยู่ที่ไหน พาฉันไปหานมเดี๋ยวนี้”
“ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งคุณนนท์หรอก ถ้าคุณน้องอยากไปก็ต้องใช้สองขาเดินไปเอง จะเดินเองได้ มันก็ต้องขยันฝึกตัดสินใจมา จะฝึกหรือไม่ฝึก”
แววนิลเตะตะกร้ากระเด็น จ้องเขมิกาแค้น
แววนิลนั่งบนเก้าอี้ ใช้เท้าข้างที่หักคีบดินสอใส่ตะกร้า คีบแล้วตก คีบแล้วตก ชานนท์เดินมายืนมองอยู่หน้าห้อง แววนิลเริ่มคีบดินสอใส่ตะกร้าได้
“ทำได้แล้ว” แววนิลบอกอย่างลืมตัว ดีใจ
“อ๊าย เก่งค่ะเก่ง” แป้นชม
“ฉันซะอย่าง” ชานนท์ยิ้มพอใจ
“โด่ แค่นี้ทำเป็นดีใจ แน่จริงก็คีบให้หมดก่อนเหอะ ค่อยมาคุย”
“คอยดูก็แล้วกัน”
แววนิลคีบต่อทำได้อีก ยิ้มเย้ยเขมิกา แล้วก้มหน้าก้มตาทำต่ออีก เขมิกามองไปทางประตูเห็นชานนท์ยิ้มร่าเริง ควักมือเรียกเขมิกา
โย่งถือกระเป๋าทำงานชานนท์ ยืนรออยู่ในห้องโถง เขมิกากับชานนท์เดินคู่กันเข้ามา
“เธอไปรู้วิธีฝึกแบบนี้มาจากไหน”
“ฉันก็ลงทุนไปเรียนรู้จากนักกายภาพของโรงพยาบาลสิคุณ”
“เอารางวัลมาล่อนี่เห็นผลเร็วดีนะ” ชานนท์แซว
“แหงอยู่แล้ว คุณเตรียมตบรางวัลให้ฉันได้เลย”
“เที่ยงนี้รอนะ ฉันจะกลับมาทานข้าวด้วย”
ชานนท์หอมแก้มเขมิกา เขมิกาเหวออายโย่ง โย่งหวงชานนท์รีบขัด
“รีบไปเถอะครับคุณผู้ชายเดี๋ยวจะสาย”
โย่งจับข้อศอกชานนท์จะดึงไป ชานนท์มอง
“ฉันเดินไปเองได้ไม่ต้องจูง”
“ใช่สิ พอมีคนอื่นไอ้โย่งก็เหมือนหมาหัวเน่า” โย่งงอนหิ้วกระเป๋าเดินออกไปก่อน
“ไอ้นี่มันขี้งอนจริงๆ” เสียงมือถือชานนท์ดัง ชานนท์รับสายแล้วตกใจ “อะไรนะ” ชานนท์หันมาบอกเขมิกา
“ที่สปาเกิดเรื่องแล้ว”
ขณะนั้นที่สปา ชิ้นถือถังน้ำมันอยู่ด้านหน้าทางเข้าสปา อีกมือถือไฟแช็ก ร้องขู่
“พวกมึงอย่าเข้ามานะโว้ย ไม่งั้นกูจะเผาตัวเองให้ดู”
ชิ้นบอกอย่างเมาๆ พวกพนักงานตกใจร้องอย่าพร้อมกัน
“อย่านะพ่อ”
เยาว์กับประชาวิ่งมา
“พี่เป็นบ้าไปแล้วหรือไง เอาไฟแช็กมาให้ฉัน”
เยาว์จะเข้าไปแย่ง
“เข้ามาสิ เข้ามาเลย”
ชิ้นชูไฟแช็ก ทุกคนกรี๊ด อึ่ง กุ้งรีบดึงเยาว์
“แม่อย่าเข้าไป พ่อเมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้ว”
“อย่ามาขู่ฉัน ไม่ว่ายังไงฉันก็ยืนยันคำเดิมคือไล่แกออก”
“พ่อทำผิดนิดๆ หน่อยๆ ไม่เห็นต้องไล่ออกกันเลย”
“ถ้าใครคิดว่าไม่ยุติธรรมก็ลาออกไป” ประชาประกาศ อึ่งจ๋อย ชิ้นเมาพูดไม่รู้เรื่อง
“ฮือๆๆ มึงไล่กูไปตายหรือ ได้กูจะตายให้มึงดู”
ชิ้นราดน้ำมันไปบนตัว ชานนท์กับเขมิกาวิ่งเข้ามา
“หยุดเดี๋ยวนี้ลุงชิ้น ใจเย็นๆ มีอะไรคุยกับฉันได้”
ชิ้นชะงัก แล้วร้องไห้โวยวาย
“คุณชานนท์ ผมไม่อยากทำ แต่ไอ้ผู้จัดการมันรังแกผม มันบีบผม มันไล่ผมออก” ประชารีบแก้ตัว
“นายชิ้นกินเหล้าในเวลางาน เป็นอย่างนี้มาตลอด ผมเตือนแล้วเตือนอีกก็ไม่เคยฟัง ผมต้องตัดปัญหาไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อพนักงานคนอื่น”
“ฮ่าๆ ขำว่ะ แล้วแกดีตายแล้วนี่ ต่อหน้าก็สั่นหางตามประจบแต่ลับหลังคิดสอยดอกฟ้าหวังเมียเจ้านาย อ่ะถึงกูจะเมาก็รู้นะโว้ย”
เสียงฮือฮา ชานนท์มองข้างตัวเขมิกาหายไปแล้ว ประชาโกรธ
“ให้ตำรวจมาลากคอไปจัดการดีกว่าครับ” ประชากดมือถือ ชิ้นตกใจ
“ตำรวจ ดีๆ เรียกมาเลย จะตายให้ดู”
ชิ้นราดน้ำมันบนตัวอีก พยายามจุดไฟแช็ก
“อย่านะพี่ชิ้น” เยาว์จะเข้าไปห้ามแต่จรรยากับกุ้งดึงเยาว์ไว้ไม่ให้เข้าไปหาชิ้น
“พ่ออย่า”
เขมิกาโผล่ออกมาจากประตูทางเข้า ล็อกคอชิ้น แล้วจับมือข้างที่ถือไฟแช็กไว้ ชิ้นดิ้น
“ปล่อยกู”
ชานนท์รีบเข้าช่วย พยายามแกะไฟแช็กจากมือชิ้น ชิ้นบ้าคลั่งเหวี่ยงตัวจนชานนท์กระเด็น ประชารับตัวชานนท์ไว้ได้ทัน ชิ้นจุดไฟแช็กทันที พร้อมๆ กับเขมิกาปัด ไฟแช็กตกข้างขาชิ้น ทุกคนตกใจร้องวี้ดว้าย ปิดปากบ้าง ตาโตบ้างเพราะคิดว่าไฟคงลุกเผาชิ้น แต่ชิ้นยืนเฉยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขมิกาที่ยังล็อกคอชิ้นอยู่งง ดมบ่าชิ้นที่เปียกน้ำมัน ปรากฏว่าเป็นน้ำเปล่า เขมิกาผลักชิ้นออกแบบเซ็งมาก
“เข้าใจเล่นนะ เอาน้ำเปล่ามาหลอกกันหรือลุง” ชิ้นโบกมืออ้อแอ้
“บ๊ายบาย”
ชิ้นโงนเงนทรุดกองกับพื้น ชานนท์มองเขมิกาโล่งใจ
ชานนท์นั่งที่โซฟากับเขมิกา ประชา เยาว์ ยืนตรงข้าม ชิ้นสร่างเมาแล้วนั่งคุกเข่าที่พื้นเกาะเข่าชานนท์ร้องไห้ฟูมฟาย
“ผมขอโทษ ผมเมาไม่รู้เรื่อง ทำไปโดยไม่รู้ตัวจริงๆ ครับ”
“พี่ชิ้นแกผูกพันกับที่นี่มานานตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณ แกก็เลยทำเรื่องบ้าๆ ไปเพราะความเสียใจ” เยาว์บอก
“ผมสาบานนะครับจะไม่กินเหล้าในเวลางานอีก ให้ผมได้กลับมาทำงานเหมือนเดิมนะครับ อย่าไล่ผมออกเลย”
ชานนท์มองประชา
“แต่คุณประชาเป็นคนดูแลพนักงาน ผมคงต้องฟังการตัดสินใจของเขาด้วย”
“คนขี้เมาจะทำงานมีประสิทธิภาพได้ยังไง ดูอย่างวันนี้เป็นตัวอย่าง เล่นเอาวุ่นวายไปกันหมด” เขมิกาลุกยืน
“ฉันขอคิดต่าง ถ้าเราแก้ปัญหาด้วยการไล่ออกก็เท่ากับปัดภาระไปให้สังคม แกอาจไปสร้างปัญหาให้คนอื่นเพิ่มอีกก็ได้ น่าจะให้โอกาสเขาแก้ตัวไม่ดีกว่าหรือ”
“คุณขวัญคงจำไม่ได้ว่า นายชิ้นกินเหล้าแทนน้ำ คิดจะให้เลิกกิน เป็นไปไม่ได้”
“แล้วถ้าฉันทำให้ลุงแกเลิกเหล้าได้ล่ะ” ชานนท์ลุกยืน
“ฉันจะให้ลุงชิ้นกลับมาทำงานเหมือนเดิม” ชานนท์บอก
“แต่ถ้านายชิ้นไม่สามารถเลิกเหล้าได้ล่ะครับ คุณขวัญจะแสดงความรับผิดชอบยังไง”
เขมิกาเดินไปพยุงชิ้นลุกยืน จ้องหน้าประชาจริงจัง
“ฉันจะถอนตัวจากการเป็นกรรมการ และจะไม่มาวุ่นวายกับงานของสปาอีก”
เยาว์กับชิ้นตกใจ ชิ้นซึ้งน้ำใจเขมิกา
“ผมขอบคุณครับ คุณขวัญ แต่อย่ามาเสี่ยงกับไอ้ขี้เมาอย่างผมเลย”
ชิ้นรีบเดินออกจากห้อง เยาว์วิ่งตาม
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 8 (ต่อ)
เขมิกาวิ่งตามมาดึงชิ้นไว้
“คุยกันก่อนลุง”
“น้าขอบใจคุณขวัญที่มีน้ำใจให้พี่ชิ้น แต่มันเป็นไปไม่ได้” เยาว์บอก
“น้าเยาว์พูดแบบนี้แสดงว่าไม่เชื่อมั่นในสามีตัวเองงั้นสิ” เยาว์อึ้ง
“พอเถอะคุณ ผมมันแก่แล้วเดี๋ยวก็ต้องตายอยู่ดี” ชิ้นบอกแล้วเดินไปกับเยาว์
“ลุงเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เคยคิดถึงคนที่รักลุงบ้างหรือ” ชิ้นชะงักหยุดเดิน “ฉันเคยรู้จักผู้ชายคนหนึ่ง เป็นคนที่ฉันรักและนับถือมาก วันหนึ่งลูกสาวเขาตัวร้อนจี๋ไข้ขึ้นสูงจนชักตาเหลือก แต่เขากลับไม่มีปัญญาที่จะอุ้มลูกไปส่งหมอ เพราะไอ้มือที่เอาแต่ถือขวดเหล้ามันไม่มีแรงแม้แต่จะยกลูกขึ้นมา นั่นแหละเขาถึงตัดสินใจลาขาดจากไอ้น้ำนรกนี่ แล้วลุงล่ะ ลุงไม่มีใครที่คิดจะทำเพื่อเขาบ้างหรือ”
ชิ้นถูกจี้ใจหันไปมองเยาว์ แล้วร้องไห้ออกมา ห่างออกไปหน้าห้องทำงานชานนท์ ชานนท์กับประชายืนมอง ชานนท์ยิ้มรู้สึกประทับใจเขมิกา ประชามองชานนท์อย่างหมั่นไส้
“เธอคืนดีกับคุณชานนท์แล้วหรือ จริงดิ” จรรยาถามเขมิกา
“อื้อ เรียกว่าคืนดีก็ได้มั้ง”
จรรยาเขย่ามือเขมิกา ดีใจสุดๆ
“ดีใจด้วยนะเพื่อน เห็นมั้ยฉันบอกแล้วคุณชานนท์เขารักเธอถึงจะโมโหเธอยังไง ก็คอยทำเพื่อเธอตลอด ต่อไปนี้เธอต้องดีกับเขามากๆ รู้มั้ย อย่าทำให้เขาเสียใจอีก”
เขมิกาใจเสียเพราะหลอกชานนท์อยู่
“ดูเธอสิ มากไปหรือเปล่า ดีใจยิ่งกว่าฉันเสียอีก”
“เพื่อนมีความสุขจะให้ฉันร้องไห้หรือไง เธอต้องเอาใจเขาให้ดี จำไว้นะเขาเกิดวันเสาร์ ปีมะโรง วันที่ 8 เดือนพฤษภา เลือดกรุ๊ปโอ ไม่เมารถแต่เมาเรือ กีฬาที่ชอบ...” จรรยาบอกเป็นชุดจนเขมิกาแปลกใจ
“พอๆ เป็นพวกติ่งคุณชานนท์หรือไงรู้ละเอียดยิบ”
“ก็เธอเป็นคนบอกฉันเอง”
“ฉันบอกเธอทุกอย่างเกี่ยวกับสามีฉันเนี่ยนะ”
“ไม่เห็นแปลกนี่ ก็เราสนิทกันมาก แล้วผู้หญิงไม่เล่าเรื่องแฟนให้เพื่อนฟังแล้วจะไปเล่าให้ใครฟังละ”
เขมิกาคล้อยตามไม่นึกสงสัยอะไร
ที่ห้องทำงานชานนท์ ชานนท์อ่านคำสั่งไล่ชิ้นออกแล้วยื่นคืนประชา
“คำสั่งนี่คุณเก็บไว้ก่อน ถ้าลุงชิ้นไม่สามารถเลิกเหล้าได้ ค่อยเอามาให้ผมเซ็นอนุมัติอีกที” ประชารับมา
“ผมอยากขอพักงานตัวเอง”
“คุณไม่พอใจการตัดสินใจของผมหรือ”
“เปล่านะครับ คำสั่งของคุณชานนท์ผมพร้อมทำตามทุกอย่างแต่ผมไม่สบายใจ เรื่องที่นายชิ้นพูดกล่าวหาผมในทางไม่ดี ผมอยากพักงานตัวเอง เพื่อให้คุณนนท์สอบสวนเรื่องนี้โดยไม่ต้องมานั่งเกรงใจผม” ชานนท์หัวเราะ
“โธ่ จะไปเอาอะไรกับคำพูดคนกำลังเมา ผมไม่เก็บมาคิดให้รกสมองหรอก”
“คุณนนท์”
“ชีวิตผมต้องพังเพราะความหูเบา ไม่หนักแน่นมาแล้ว มันจะไม่มีครั้งที่สอง” ชานนท์ลุกยืนเดินมาหาประชา “ออกไปข้างนอกกันดีกว่า ผมมีเรื่องให้ช่วย”
ชานนท์เดินไป ประชามองหลังชานนท์แล้วยิ้มเยาะ
ชานนท์มาที่ร้านเพชร ชานนท์ยื่นกล่องแหวนให้ประชาดู
“วงนี้เป็นไง”
ประชารู้ว่าชานนท์จะซื้อให้เขมิกา อึ้งไปนิดหนึ่ง
“น้ำงามดีครับ คุณชานนท์จะซื้อให้คุณขวัญหรือครับ”
“ผมทำไม่ดีกับเขาไว้ ก็เลยอยากชดเชยวันเวลาดีๆ ที่มันหายไปด้วยการทำดีกับเขาให้มากที่สุดเท่าที่ผมมีปัญญาทำได้” ชานนท์ส่งแหวนให้พนักงานขาย “ตกลงผมเลือกวงนี้ ช่วยห่อเป็นของขวัญให้ด้วยนะครับ”
ประชาทนต่อไปไม่ไหว
“แอร์ในนี้มันเย็นมาก ผมออกไปรอที่รถนะครับ”
ชานนท์พยักหน้า ประชารีบเดินออก ชานนท์ยิ้มสุขใจ
ประชาเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ ทุบพวงมาลัยรถหลายๆ ทีระบายความโกรธ ประชามองผ่านกระจกหน้าเข้าไปในร้านเพชร จ้องชานนท์เขม็ง
“กูจะทำให้มึงสองคนไม่มีความสุข”
ประชาคิดๆ แล้วกดมือถือหาปรียา
โยธินยังอยู่ที่โรงแรมกับปรียา โยธินตกใจร้องเสียงดัง
“แฟนคุณกับภรรยาเก่าคืนดีกันแล้ว”
ปรียาถือโทรศัพท์ในมือ
“ผู้จัดการที่สปาเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้ค่ะ เขาสองคนกลับถึงบ้านแล้ว พี่นนท์เป็นคนพูดเองกับปากว่าดีกันแล้ว”
ปรียาหน้ามืดเซ โยธินที่ยืนอึ้งอยู่รีบเข้าประคอง
“คุณไหวมั้ย ถ้าเราจะรีบกลับกันเดี๋ยวนี้เลย”
ปรียาคิดว่าโยธินทำเพื่อเธอ
“คุณต้องลำบากคอยช่วยฉัน ฉันไม่สบายใจเลย” โยธินเจื่อนเพราะจริงๆ แล้วจะรีบกลับไปหาเขมิกา
“ไม่เห็นต้องคิดมากเลยก็เรามันเพื่อนกัน รีบไปดีกว่าผมใจร้อนแทนคุณแล้วเนี่ย”
เขมิกาเปิดประตูห้องเข้ามา มองไปที่เตียง เห็นเตียงถูกปูสวยงามมีกุหลาบจัดวางเป็นรูปหัวใจสองดวงเหมือนห้องหอ เขมิกางง หันรีหันขวาง
“เฮ้ย ห้องหอรอรักของใครวะเนี่ย หรือเราเข้าห้องผิด” เขมิกาวิ่งมาดูหน้าประตูอีกทีเพื่อความแน่ใจ “ก็ไม่นี่”
เขมิกาเดินเข้าอีกที หยิบกลีบกุหลาบดู “มันต้องมีคนแกล้งเรา” เขมิกาหันมาเจอโย่งยืนอยู่ข้างหลังพอดี ตกใจ “เย่ย! เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู”
โย่งหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าชานนท์
“ประตูไม่ได้ปิด ต้องเคาะด้วยหรือครับ”
โย่งวางกระเป๋า เขมิกามอง
“กระเป๋าใคร เอาเข้ามาทำไม”
“อะไรกันจำกระเป๋าของสามีตัวเองไม่ได้หรือ” ชานนท์บอกขณะเดินเข้ามา โย่งยังยืนเฉยไม่ไป “ยืนอยู่ทำไมอีก อยากโดนเตะหรือไง”
“ก็ดีครับ เย่ยไม่ดีกว่าครับ เออ คุณผู้ชายอย่าไว้ใจทาง” โย่งพูดเบาๆ มองเขมิกา “อย่าวางใจคนนะครับ โย่งเป็นห่วง” โย่งเดินออกไป
“คุณช่วยชี้แจงแถลงไขหน่อย ทั้งหมดนี่มันอะไรกัน”
“คืนนี้เป็นคืนส่งตัวเข้าหอของเราไง งานแต่งเราเคยจัดไปแล้วก็ตัดพิธีตรงนั้นทิ้งไป เหลือแต่ตอนเข้าหอนี่แหละยังไม่ได้ทำ”
“หมายความว่าคืนนี้คุณจะนอนห้องนี้”
“ไม่ใช่คืนนี้ แต่ทุกๆ คืน สามีภรรยานอนคนละห้องมันดูชอบกลนะเธอว่าจริงมั้ย” เขมิกาลนลาน
“ตะแต่มันเร็วไป ฉันยังไม่ได้เตรียมใจที่จะมีใครอีกคน เออๆ มา มานอนร่วมเรียงเคียงหมอน”
“เอ แต่ฉันย้ายข้าวของมาแล้วด้วยสิ ถ้าเรียกให้ไอ้โย่งยกกลับไปกลับมา อายมันตาย”
“ไม่มีปัญหา ฉันแข็งแรงไม่แพ้โย่ง ฉันยกให้เอง”
เขมิกาตรงไปที่ของ ชานนท์รีบแต่งเรื่อง
“ลืมบอกไป ห้องฉันแอร์เสีย น้ำแอร์หยดติ๋งๆ ป่านนี้ท่วมห้องไปแล้วมั้ง แล้วนะนอนยังไง”
“อย่างนั้นยิ่งสบาย ฉันซ่อมแอร์เป็น เดี๋ยวไปซ่อมให้”
ชานนท์รีบดึงเขมิกาไว้
“ฉันเรียกช่างแล้ว แต่คงต้องซ่อมกันหลายวัน ระหว่างนี้เธอจะใจร้ายให้ฉันออกไปนอนปูเสื่อที่ห้องโถงหรือไง”
เขมิกาจนแต้มต้องยอม
“ก็ได้ๆ แอร์ซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ คุณต้องย้ายกลับไปนะ”
เขมิกาเดินเข้าห้องน้ำ ชานนท์อมยิ้ม
ชานนท์นอนอยู่บนเตียง เขมิกายังยืนข้างเตียงไม่กล้าขึ้น
“ไหนว่าง่วงไงมานอนสิ” ชานนท์ตบหมอน “นอนด้วยกันข้างๆ ฉัน”
เขมิกาขึ้นเตียงแบบกลัวๆ ลงนอนบนหมอนแล้วเจ็บหัวเพราะโดนแหวน
“โอ๊ย”
“เป็นอะไร”
เขมิกาคลำหัวที่เจ็บ
“ไม่รู้เหมือนกัน มันแข็งๆ อยู่ในหมอน” เขมิกาตบๆ แล้วล้วงเข้าไปในปลอกหมอน หยิบออกมา มีกระดาษทิชชู่ห่อไว้ “ไรเนี่ย”
“เธอสั่งน้ำมูกยัดใส่ใต้หมอนไว้ละสิ ผู้หญิงอะไรสกปรก”
“เฮ้ย ฉันไม่เคยทำอย่างนั้นนะ”
เขมิการีบแกะทิชชู่ออก เห็นแหวน อึ้ง
“นี่มันแหวนฉันนี่ เธอขโมยไปหรือ”
“ฉันเปล่า”
“ยังจะโกหกอีก ฉันเห็นเต็มสองตา ไหนเอามือมา” ชานนท์ดึงมือข้างซ้ายเขมิกามา “ถ้ามันเป็นของเธอต้องใส่ได้พอดี ถ้าไม่ได้ ฉันจะส่งตัวเธอให้ตำรวจ” ชานนท์สวมแหวนที่นิ้วซ้ายเขมิกาใส่ได้พอดี “ใส่ได้พอดีเป๊ะ แสดงว่าเป็นของเธอจริงๆ”
เขมิกาชักมือออก มองแหวนที่นิ้ว
“ของฉันหรือ นี่ คุณซื้อให้ฉันหรือ”
“เธอนึกว่าของแพงๆ อย่างนี้จะตกลงมาจากสวรรค์หรือไง ฉันให้เป็นรางวัลที่เธอฝึกนิลจนก้าวหน้าไปเยอะ แล้วยังเรื่องที่เธอคิดช่วยลุงชิ้นด้วย ขอบใจมากนะขวัญ”
เขมิกาทำท่าจะถอด
“ฉันไม่กล้าใส่หรอก มันแพงไป”
ชานนท์ดึงเขมิกาเข้ามากอด
“อย่าถอดนะ ไม่งั้นฉันจะปล้ำเธอจริงๆ ด้วย”
เขมิการีบผลักชานนท์ออก
“เฮ้ยไม่ได้นะ ฉันยังเจ็บแผลอยู่ เกิดแผลฉีกขึ้นมาก็เจ็บอีกรอบนะคุณ แล้วถ้าหมอถามไปทำอะไรมาแผลถึงฉีก โดนสามีปล้ำหรือ เอางั้นมั้ย”
เจอไม้นี้ชานนท์ไปไม่ถูกถึงกับอึ้งไป
“คนเคยนอนด้วยกันแล้ว จะต้องออกแรงปล้ำทำไมเล่า ฉันก็แค่ขู่เล่น ไว้แผลดีแล้วอย่ามาสะกิดฉันแล้วกัน”
ชานนท์ล้มตัวลงนอน เขมิกาค่อยๆ ดึงหมอนออกห่างชานนท์แล้วนอนตาม โล่งใจรอดตัวไป เขมิกามองแหวนที่นิ้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ชานนท์แอบมองเขมิกาพลอยมีความสุขไปด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น ปรียาหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กเดินเข้ามาในบ้านเลิศวิริยะ เจอโย่งยืนหงุดหงิดเงยหน้ามองชั้นบน
“ตะวันโด่งแล้วยังไม่ยอมออกจากห้องอีก คุณผู้ชายนะคุณผู้ชาย ตกหลุมที่เขาขุดไว้อีกจนได้ ผู้หญิงคนนี้ไม่รัก
คุณผู้ชายจริงหรอก” โย่งหันมาเห็นปรียาถึงกับสะดุ้ง “ชะอุ้ย คุณปรียา” โย่งรีบปรี่เข้าไปหาปรียา “คุณหายไปไหนมา คุณผู้ชายกลับมาแล้วนะครับ”
แป้นเดินมาจากด้านนอกแบกแผงไข่ไก่มาทั้งแผง
“ทำไมแกไม่พูดเสียให้หมดล่ะว่า คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิง เล่นซ่อนหาในผ้าห่มกันทั้งคืนแบบไม่หลับไม่นอน จนฉันต้องออกไปซื้อไข่มาลวก ฟองสองฟองไม่พอนะยะ ต้องเป็นแผงแบบนี้เพราะเสียกำลังไปเยอะทั้งคู่ อิอิ”
ปรียาอึ้ง แป้นเดินเชิดๆ ผ่านหน้าโย่งไป
“ทำไมไม่ซื้อไก่มาเลี้ยงสักเล้าเลยละวะ หมั่นไส้”
ปรียาใจไม่ดีกับสิ่งที่ได้ยิน
เขมิกาเดินมาหยุดหน้าห้องนั่งเล่นกำลังจะเปิดประตูแต่มีมือคนมาจับมือเขมิกาไว้ เขมิกาหันมองจึงพบว่าเป็นชานนท์
“ฉันอยากดูนิลฝึกเดิน อนุญาตมั้ย”
“อย่าเพิ่งเลยฮะ คุณนิลเพิ่งลองฝึกก้าวไปเมื่อวาน แต่ยังไม่ได้เลยสักก้าว เดี๋ยวเธอจะอายพี่ชายพาลไม่อยากฝึกขึ้นมาจะยุ่ง”
“งั้นก็แล้วแต่ครูฝึกแล้วกัน”
เขมิกาเปิดประตูแง้มเบาๆ มองเข้าไปแล้วตกใจ เขมิกาปิดปากมองหน้าชานนท์ ชานนท์ใจไม่ดีคิดว่าแววนิลเป็นอะไร
“มีอะไร นิลเป็นอะไร”
เขมิกาแง้มประตูอีกนิดให้ชานนท์ดู จึงเห็นแววนิลยืนหันหลังให้ กำลังเกาะwalker ก้าวเดินทีละก้าวได้หลายก้าว เขมิกาค่อยๆ ปิดประตู หันมามองหน้าชานนท์ ชานนท์จ้องเขมิกาอยู่ยิ้มดีใจสุดๆ
“เธอทำได้แล้ว”
เขมิกาดีใจภูมิใจฝีมือตัวเอง
“ฉัน ฉันทำได้จริงๆ ไชโย”
เขมิกากระโดดเหยงๆ กอดชานนท์ ชานนท์กอดตอบหัวเราะดีใจกันทั้งคู่ ปรียาเดินหิ้วกระเป๋ามาเห็นพอดี ชอกช้ำกับภาพบาดตา ชานนท์หันมาเห็นก็ชะงัก เขมิกามองตามแล้วเขินรีบปล่อยมือจากคอชานนท์ ชานนท์กระอักกระอ่วน
“พี่ไม่เห็นปรียาเลย หายไปไหนมาหรือ”
ปรียาพยายามฝืนเข้มแข็ง
“ทางโรงแรมส่งปรียาไปทำงานที่ต่างจังหวัดค่ะ”
“น่าจะบอกคนทางบ้านให้รู้บ้าง โทรมาบอกกันหน่อยก็ยังดี”
“ขอโทษค่ะ ที่ไม่บอกใครเพราะปรียาไม่คิดว่าจะมีใครห่วงขอตัวก่อนนะคะ”
ปรียารีบเดินไปเพราะทนเห็นเขมิกากับชานนท์ต่อไปไม่ไหว ชานนท์ดูกังวล เขมิกามองชานนท์ประมาณจับอารมณ์ชานนท์ ชานนท์รู้ว่าเขมิกามองจึงรีบปรับสีหน้าปกติ
ปรียานั่งที่ขอบเตียงมองกำไลมือที่ชานนท์ให้แล้วนึกถึงคำพูดที่ชานนท์เคยพูดกับเธอ
“ถ้าปรียาจะให้พี่ตัดเขาให้ขาดทันที พี่ยอมรับว่ามันไม่ง่าย แต่พี่ จะทำให้ได้...”
“ของสิ่งนี้คงแทนคำสัญญาของพี่ได้นะ”
ปรียายิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด ถอดใจยอมแพ้ ถอดกำไลมือออก ปรียาร้องไห้ตัดใจปล่อยกำไลมือตกพื้น กำไลกลิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ จนนิ่งสนิท
โยธินเดินตรงมาที่ frot เพื่อถามหาปรียากับประชาสัมพันธ์
“ขอโทษครับ วันนี้คุณปรียามาทำงานหรือเปล่าครับ”
ประชาสัมพันธ์อีกคนวิ่งหน้าตื่นมา
“เกด ปรียาเป็นอะไรก็ไม่รู้ หายเงียบเข้าไปในห้องน้ำ ฉันเรียกเท่าไหร่ก็ไม่เปิด”
“ฉันทิ้งหน้าที่ไปไม่ได้ เธอรีบไปตามรปภ.เร็วเข้า”
โยธินได้ยินตกใจ รีบวิ่งไปทางห้องน้ำ
โยธินวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิง มองหาห้องน้ำที่ปิดอยู่ โยธินรีบทุบประตู
“คุณปรียาๆ ผมเองโยธิน คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ตอบผมหน่อย อย่าคิดทำอะไรโง่ๆ นะ” โยธินชักใจไม่ดี ถอยออกมาจะพุ่งชนประตู แต่ประตูเปิดก่อน ปรียาตาแดง โยธินโล่งใจ “ผมคิดว่าคุณจะคิดสั้น ทำไมใครเรียกก็ไม่ตอบละครับ”
“ฉันอายเพื่อนร่วมงาน ไม่อยากให้พวกเขารู้ว่าฉันมาแอบร้องไห้อยู่ในนี้”
“คุณกลับไปที่บ้านแล้วใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้น”
ปรียามองหน้าโยธิน ก้มหน้างุด โยธินจับไหล่คาดคั้นปรียาเพราะอยากรู้เรื่องเขมิกา
“ถ้าไว้ใจผม ก็เล่าให้ผมฟังสิ”
ปรียาเงยหน้าน้ำตานองหน้า
“เขาสองคนคืนดีกันจริงๆ พี่นนท์ถึงกับย้ายไปนอนห้องเดียวกับขวัญตา”
โยธินช็อกปล่อยไหล่ปรียา
“ย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน เป็นไปไม่ได้” โยธินพึมพำออกมา
“มันจบแล้ว เราทำอะไรไม่ได้แล้ว”
“ยังไม่จบ คุณต้องขวางสองคนนี้ แย่งแฟนคุณคืนมาให้ได้” ปรียาฮึดขึ้นมาอีก โยธินจริงจังมาก “ผมจะคอยช่วยคุณเอง”
ชานนท์เข็นรถให้แววนิล เขมิกาเดินตามหลังห่างๆ
“นิลเก่งมากรู้มั้ย พี่ไม่คิดเลยว่านิลจะก้าวหน้าไปได้เร็วขนาดนี้” แววนิลยิ้ม “ถ้านิลตั้งใจฝึกเดินตามตารางของขวัญเขาทุกวัน พี่เชื่อว่าไม่ช้า นิลต้องเดินได้เหมือนเดิม”
แววนิลได้ยินชื่อขวัญหน้าบึ้งทันที
“พี่นนท์คิดว่าน้องเดินได้เพราะแม่ขวัญตาขวัญใจของพี่นนท์หรือคะ น้องฝึกของน้องเอง ไม่เกี่ยวกับคนอื่น”
ชานนท์หันไปมองเขมิกา เขมิกาไม่ถือสา
“จริงอย่างที่น้องสาวคุณว่า ฉันแค่ยืนดูเฉยๆ รอสมน้ำหน้าเวลาเธอหกล้มก็เท่านั้น ใครจะรู้ ก็แค่ทำเป็นเดินนิดๆ หน่อยๆ ไม่กี่นาที แต่ให้พี่ชายเข็นรถให้เป็นชั่วโมงๆ”
แววนิลหันมาจ้องเขมิกา เขมิกายักคิ้ว
“ปล่อยค่ะพี่นนท์ ไม่ต้องเข็นแล้ว นิลเข็นเอง”
“นิล”
“บอกให้ปล่อยไงคะ”
แววนิลเข็นรถเองไปลิ่ว
“โอ๊ะๆๆ ระวังนะคะ เดี๋ยวเขนหักไปอีกละยุ่งเลย” เขมิกาแกล้งพูดยั่ว
“เธอแกล้งยัยนิล” ชานนท์บอกอย่างรู้ทัน
“คนที่ขาไม่แข็งแรงต้องฝึกกำลังแขน แค่นี้น้องคุณไม่ตายหรอก” เขมิกาบอก
“รู้แล้ว เธอนี่มันร้ายนัก”
ชานนท์ดึงจมูกเขมิกา
“โอ๊ย” เขมิกากำหมัดต่อย ชานนท์หลบ กอดเขมิกาไว้แล้วหอมแก้ม เขมิกาโวยวาย
โยธินแอบดูอยู่ริมกำแพงบ้านเห็นภาพบาดตา
“เห็นคาตาเลย เข็มนะเข็มทำกันได้”
โยธินปีนนั่งบนกำแพงหยิบปืนบีบีกันแบบยาวออกมา โยธินเล็งปืนไปที่ชานนท์ก่อนแล้วค่อยๆ เลื่อนปลายปืนมาทางต้นไม้ที่เขมิกายืนอยู่ใกล้ๆ
เขมิกายืนมองนั่นนี่ โยธินลั่นไกยิงใส่ต้นไม้ เขมิกาได้ยินเสียงกระสุนพลาสติกกระทบกับไม้สะดุ้งมอง กระสุนหล่นลงมาตรงพื้น เขมิกาก้มเก็บดู มองไปที่กำแพงไกลๆ เห็นโยธินโบกมือเรียกให้มาหา
“เฮีย”
ชานนท์หันมา มองกระสุนบนฝ่ามือเขมิกา
“นั่นอะไรหรือขวัญ”
เขมิกาสะดุ้งรีบหันมา ตอบแทบไม่ถูก
“มันๆ คือกระสุนปืนเด็กเล่น”
“ใครเอามาเล่นหรือ”
ชานนท์มองหา โยธินก้มหลบ ชานนท์ไม่เห็น
“ก็เม่นไง เมื่อกี้เห็นหลบไปมาอยู่แถวโน้น” เขมิกาชี้ไปทางอื่น “พอเห็นคุณนิลก็เลยวิ่งหนีไปเลย”
“สงสารเม่น ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องแม่เขาเลย”
“อุ๊ย ฉันรู้สึกเจ็บแผล สงสัยวันนี้กระโดดเยอะไปหน่อย”
ชานนท์ห่วง เข้าประคองเขมิกา
“เข้าบ้านก่อนฉันจะดูแผลให้ ทำไมมันไม่ยอมหายสักที”
เขมิกาอึดอัดที่ชานนท์ประคองใกล้ชิดกลัวโยธินเห็น รีบมองไปทางโยธิน
ที่ริมกำแพงบ้าน โยธินเห็นชานนท์โอบเขมิกา
“มันจะมากไปแล้วหยามกันต่อหน้าต่อตา ดี วันนี้แหละต้องให้รู้กันซะบ้างว่าเขมิกาเป็นของใครไอ้ชาดำเย็น”
โยธินจะปีนลงกำแพงเพื่อไปหาเขมิกา เขมิกาตกใจร้องลั่น
“อย่ามา”
ชานนท์งง มองไปทางที่เขมิกาตะโกน
“เธอบอกใคร ใครอย่ามา”
เขมิการีบจับหน้าชานนท์ให้หันกลับมา
“ฉันบอกคุณนั่นแหละ อย่ามากับฉันเลย คุณอยู่เป็นเพื่อนคุณนิลดีกว่า เธอยังช่วยตัวเองไม่ได้ ปล่อยให้อยู่คนเดียว มันไม่ควร ฉันไปทายาเองได้”
“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปเที่ยวเป็นการชดเชย”
ชานนท์ไปดูแววนิล เขมิกาหันทางกำแพง รีบโบกมือให้ธินโยลงจากกำแพง
“ลงไปก่อน ลงไป” เขมิกาพูดเบาๆ แล้วชี้ตัวเอง “เดี๋ยวเข็มออกไปหาเอง”
เขมิกามองชานนท์ที่ไปเข็นรถให้แววนิลแล้ว เขมิการีบวิ่งหลบๆ ไปทางประตูรั้ว โย่งกำลังก้มๆ ขุดดินอยู่ เงยหน้าขึ้นมาเห็นเขมิกาลับๆ ล่อๆ ผ่านไป โย่งสงสัย
เขมิกาวิ่งมาตรงที่โยธินปีนกำแพง รถของโยธินจอดอยู่ โยธินยืนหน้าบึ้งข้างรถ เขมิกามองปืนบีบีกัน
“เห็นที่นี่เป็นสนามเล่นบีบีกันหรือไงเฮีย”
“แล้วจะให้เฮียติดต่อเข็มได้ยังไง มือถือซื้อให้แล้วก็ไม่มาเอาก็ต้องบุกมาถึงตัวแบบนี้แหละ จะได้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร”
“เฮียพูดแปร่งๆ นะ”
โยธินมองไปข้างหลังเขมิกาเห็นโย่งเดินออกมาจากประตู
“เข็ม คนมา หลบขึ้นรถก่อน”
เขมิกายืนอยู่ตรงประตูหลังรถพอดี รีบขึ้นรถก้มหลบด้านหลัง โยธินรีบขึ้นด้านหน้า ปิดประตู ติดเครื่อง
โย่งยืนมองหาเขมิกาเห็นรถจอดอยู่
“วันนี้แหละจะจับให้ได้คาหนังคาเขา”
โย่งก้าวฉับไปที่รถ โยธินพุ่งรถอย่างเร็ว แกล้งเฉี่ยวโย่ง
“เฮ้ยๆ” โย่งกระโดดหลบทัน ตะโกนด่า “ขับรถยังไงวะ ไอ้พวกพ่อแม่สั่งสอนแต่ไม่เคยจำถือว่ามีรถหรือไง รอให้ชาติหน้ามีรถก่อนเถอะได้เจอกัน”
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 8 (ต่อ)
โยธินพาเขมิกามาที่คอนโด เขมิกามองมือถือเครื่องใหม่ในมือ
“ขอบใจนะเฮียชาร์จแบตให้เรียบร้อยเลย” เขมิกามองโยธิน โยธินนั่งหน้าบึ้งไม่พูดไม่จา “เฮียอ่ะให้อภัยเข็มเหอะ นายชาเย็นเล่นตัดการติดต่อเข็มทุกทาง เข็มก็เลยโทรหาเฮียไม่ได้”
“ถูกตัดการติดต่อ หรือตั้งใจไม่ติดต่อกันแน่” โยธินพูดเสียงเรียบโกรธจริง
“พูดไม่เข้าหูเลยนะเฮีย เป็นอะไรไปอีกเนี่ย”
โยธินลุกยืน ถามเสียงโกรธ
“ตอบเฮียมาตรงๆ ที่เข็มอยากอยู่บ้านนั้น อ้างนั่นอ้างนี้ไม่ยอมกลับไปหาปู่ เพราะต้องการสืบหาพี่สาวหรือเพราะชอบนายชาเย็นกันแน่”
“เฮีย พูดผิดพูดใหม่ได้นะ เข็มจะถือว่าเฮียไม่ทันได้คิด”
“เข็มหายไปเที่ยวกับไอ้หมอนั่นพอกลับมาก็นอนห้องเดียวกันอีก หรือเข็มเริ่มเคลิ้มไปกับมันแล้ว” เขมิกาตกใจ
“โอ๊ยคิดไปกันใหญ่ เข็มเข้าไปที่นั่นในฐานะเมียเขา มันก็ต้องเล่นให้เนียน แต่เข็มไม่บ้าไปปั่นแปะกับพี่เขยตัวเองหรอก”
โยธินมองมือซ้ายเขมิกาเห็นแหวน ถึงกับอึ้ง เจ็บใจมาก คว้าข้อมือเขมิกา
“กลับบ้าน กลับไปหาปู่ เฮียจะไม่ตามใจเข็มอีก”
โยธินลากเขมิกาออกจากห้อง เขมิกาโวยวาย
“เฮีย ฟังเข็มก่อน”
โยธินลากเขมิกาเดิน เขมิกายังไม่อยากกลับไป ตัดสินใจบิดแขนโยธินแล้วผลักโยธินจนเซไป หัวโขกกำแพง
“โอ๊ย”
เขมิการีบยกมือไหว้
“เข็มขอโทษนะที่ต้องทำรุนแรงกับเฮีย แต่เข็มยังกลับไม่ได้ไว้เข็มจะให้เฮียลงโทษ จะเตะจะตีเข็มยังไงก็ได้” เขมิกาวิ่งหนี โยธินแกล้งจับหัวร้องเสียงดัง รูดตัวลงนั่งคอพับสลบไป เขมิกาหันกลับมาดู “เฮีย” เขมิกาเป็นห่วงวิ่งกลับมาพยุงโยธิน “เฮียอย่าเป็นอะไรไปนะ เข็มจะพาเฮียไปหาหมอ”
โยธินลืมตาแล้วจับข้อมือเขมิกาไว้ทั้งสองมือ
“เพราะมันเข็มถึงกับกล้าทำร้ายเฮียเลยหรือ” เขมิกาสะดุ้ง
“เฮ้ย เฮียหลอกเข็มหรือ”
“เข็มหลอกเฮีย เฮียเสียใจยิ่งกว่า”
“ก็เข็มบอกแล้วว่ามันไม่ใช่อย่างที่เฮียคิด”
โยธินยกมือซ้ายข้างที่เขมิกาใส่แหวน
“แล้วแหวนนี่มันคืออะไร แต่ก่อนเฮียจะซื้อให้ใส่ ก็บอกว่าไม่ชอบใส่เพชร แล้วตอนนี้ทำไมยอมใส่ แถมยังใส่นิ้วซ้ายอีกด้วย มันหมายความว่ายังไง”
เขมิกาพูดไม่ถูกเพราะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“เข็ม...”
โยธินยิ่งโมโหพยายามถอดแหวน
“ถอดออกมาเลย แล้วห้ามใส่อีก”
เขมิกาลืมตัวไม่ยอม ขัดขืน
“เข็มไม่ถอด” เขมิกากระชากมือออก โยธินอึ้ง
“เข็มรักผู้ชายคนนี้หรือ”
เขมิกาได้สติ ปฏิเสธตัวเอง
“เปล่านะ เข็มไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับเขา เข็มไม่อยากมีแฟนไม่คิดจะรักจะชอบใครเฮียก็รู้ ผู้ชายมาจีบกี่คนกี่คนเข็มก็ซัดหน้าหงายไปหมด คนนี้ก็เหมือนกัน เข็มแค่เล่นละครให้เขาตายใจ ถ้าเขาไม่เห็นเข็มใส่แหวน เขาสงสัยเข็มแน่”
โยธินเริ่มเย็นลง
“เฮียกลัวมันหลอกเข็ม ไอ้หมอนี่มันซื้อของแพงๆ ให้ผู้หญิงไปทั่วนั่นแหละ ไม่เชื่อก็ดู” โยธินเปิดคลิปจากมือถือของตัวเองให้เข็มดู เป็นคลิปตอนชานนท์สวมกำไลให้ปรียา แล้วปรียากอดชานนท์ เขมิการู้สึกจ๋อยๆ “เฮียบังเอิญไปเห็นเข้าพอดี เลยถ่ายแล้วส่งไปให้เข็มดู แต่เข็มคงไม่ได้เปิดดูมั้ง”
“ปรียา”
ชานนท์เดินออกจากห้องแววนิลเจอโย่งยืนรออยู่
“คุณผู้ชายครับ โย่งมีเรื่องจะบอกเกี่ยวกับ เออ คุณผู้หญิง”
ชานนท์พาโย่งไปคุยในห้องทำงาน
“นายเห็นกับตาหรือว่าคุณผู้หญิงอยู่บนรถคันนั้น”
“ไม่เห็นครับ แต่ไม่มีทางที่คุณผู้หญิงจะหายตัวไปเร็วขนาดนั้น”
“นายก็เลยสรุปเอาเองว่าคุณผู้หญิงไปกับผู้ชาย นายจะไปไหนก็ไป แล้วไม่ต้องเอาเรื่องบ้าๆ นี่มาบอกฉันอีก”
“แต่โย่งเป็นห่วงคุณผู้ชายนะครับ”
ชานนท์หันขวับ พูดเสียงขึงขัง
“ฉันไว้ใจเมียฉัน ต่อให้เขาขึ้นรถไปกับผู้ชายจริง ฉันก็เชื่อใจว่าเขาไม่ได้ไปทำเรื่องที่ผิดกับฉัน แล้วถ้านายยังไม่เลิกตามจับผิดคุณผู้หญิงอีก ก็อย่าขึ้นมาบนตึกให้ฉันเห็นหน้า”
โย่งน้อยใจมาก
“คุณผู้ชาย”
ชานนท์ไม่พอใจโย่งเดินออก โย่งผิดหวัง
เขมิกาเดินเข้าบ้านมาเจอกับชานนท์ที่เดินออกมาจากด้านในพอดี ชานนท์ยิ้มแย้มไม่จับผิดหรือสงสัยอะไรเขมิกา
“ฉันนี่มันแย่จริงๆ ถ้าไม่ได้โทรหาเธอคงลืมไปเลยว่าเธอไม่มีโทรศัพท์ติดตัว”
“ยามันหมดฮะ ฉันก็เลยนั่งแท็กซี่ไปเอายาที่โรงพยาบาลมา”
เขมิกาโชว์ถุงยาของโรงพยาบาล ชานนท์ยิ่งเชื่อเขมิกาเข้าไปโอบเอว เขมิกาไม่อยากใกล้ชิดชานนท์อีกแต่ไม่กล้าดันออก
“งั้นพรุ่งนี้เราไปซื้อมือถือก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวต่อ”
เขมิการีบดึงมือถือออกมา
“ฉันซื้อมาแล้ว พอดีมันมีโปรดีก็เลยรีบฉกมา”
“เสียดายฉันก็เลยอดเป็นพ่อบุญทุ่มเลย แต่ไม่เป็นไรนัดเดทครั้งแรกของเรา เสี่ยชานนท์จ่ายไม่อั้น”
เขมิกาแกล้งยิ้มแย้ม
“อีหนูคนนี้จะล้มทับให้กระเป๋าฉีกเลยคอยดู”
ชานนท์หัวเราะร่าไม่ทันได้มองหน้าเขมิกาจึงไม่ทันเห็นสีหน้าเขมิกาเปลี่ยนเป็นกังวลเพราะรับปากโยธินแล้วว่าจะอยู่ห่างๆ ชานนท์
เขมิกาหลบมานั่งซึมครุ่นคิดถึงคำพูดโยธิน
“ท่าทางผู้หญิงคนนี้ดูเรียบร้อยออก ถ้าเขาเป็นคนดีก็น่าสงสารมากที่โดนผู้ชายหลอกจีบฆ่าเวลาตอนโกรธกับเมีย ไอ้หมอนี่ตัวอันตรายเลย”
“เข็มจะระวังตัว จะอยู่ห่างๆ เขาไว้”
“เฮียจะเชื่อเข็มได้แค่ไหน”
“เข็มเคยรับปากว่าจะแต่งงานกับเฮียคนเดียว เข็มยังจำได้ดี”
เขมิกานั่งเศร้า
ชานนท์อยู่ในห้องคุยมือถือกับประชา
“ประชาช่วยจองตั๋วหนังให้ผมที ผมจะไปซื้อหน้าโรงก็กลัวทำผิดๆ ถูกๆ ไม่เคยเข้าโรงหนังมาหลายปีแล้ว”
ชานนท์ยิ้มมีความสุข เลือกเสื้อลำลองมาทาบกับตัว ดูตื่นเต้นเหมือนนัดสาวเที่ยว
ชานนท์วางสายไปแล้ว ประชาโกรธมากปามือถือไปบนเตียงนอน
วันต่อมา ประชาเปิดโชว์ภาพสาขาสปาต่างๆ ในแท็บเลตให้ลูกค้าดูพร้อมอธิบาย ชานนท์มองนาฬิกาเป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้วผงกหัวเชิงขออนุญาต ก่อนเดินออกจากโต๊ะ ประชามองตาม
ชานนท์หลบออกมาโทรศัพท์หาเขมิกา
“ฉันเองนะขวัญ ฉันยังติดคุยกับลูกค้าอยู่ ถ้าขับรถย้อนไปรับเธอจะไม่ทันรอบที่เราจะดู”
เขมิกายืนคุยมือถือกับชานนท์
“ไม่เป็นไร อีกชั่วโมงเจอกันที่โรงหนังเลยก็ได้ฮะ”
เขมิกาตัดสายหันไปทางfront ซึ่งปรียายืนคุยกับลูกค้าที่มาเช็คอินอยู่
ชานนท์รีบร้อนเดินเข้ามายืนรอเข็ม อีกมุมหนึ่ง ประชายืนมองชานนท์ ยิ้มร้ายเหมือนมีแผนการบางอย่างก่อนจะเดินออกจากบริเวณหน้าโรงหนังไป ชานนท์มองนาฬิกาอีกที มองหาเขมิกายังไม่มา ชานนท์หันหลังไปดูโปสเตอร์หนัง ระหว่างนั้นมีเสียงรองเท้าวิ่งมายืนข้างหลังชานนท์ ชานนท์หันกลับมานึกว่าเขมิกา
“มาสายนะแม่คุณ รถติดหรือ”
ชานนท์ชะงักเมื่อพบว่าคนที่เดินเข้ามาหาเขาไม่ใช่เขมิกา
ที่จอดรถของห้าง มีรถกระบะเก่าๆ จอดนิ่งอยู่ภายในรถประชานั่งที่คนขับ ประชาหันมองด้านข้าง อู๋กำลังตรวจดูกระสุนในรังเพลิง ทดสอบเล็งปืนไปทางรถฝั่งตรงข้ามระยะไกลพอควร
“คันนั้นคือรถไอ้ชานนท์ เดี๋ยวพอหนังเลิก ขวัญตาจะกลับมาที่รถพร้อมกับไอ้ชานนท์ แกก็ลงมือได้เลย”
“ผมขอแค่นัดเดียว ที่หัวของมัน” ประชารีบหันไปทางอื่น ไม่อยากให้อู๋เห็นความเจ็บปวดที่ต้องตัดใจ “พี่ มันมากันแล้ว ทำไมหนังถึงเลิกเร็วจังวะ”
ประชาตกใจมองไปที่รถชานนท์ ชานนท์เดินตรงมาที่รถ มีผู้หญิงเดินข้างๆ แต่ตัวชานนท์บังอยู่ ประชารีบติดเครื่องพร้อมหนี อู๋เล็งปืนทันที รอจังหวะยิงผู้หญิง
ชานนท์เดินเลยผู้หญิงขึ้นไปที่ประตูคนขับทำให้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือปรียา อู๋เหนี่ยวไกจะยิง ประชาร้องลั่น
“ไม่ใช่ขวัญตา”
อู๋ชะงัก ลดปืนลง
“ไหนพี่บอกว่ามันมากับไอ้ชานนท์ แล้วทำไมถึงเป็นคนอื่น”
ประชางงไปหมด
“มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง”
เขมิกาขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดหน้าตึกบ้านชานนท์ ถอดหมวกกันน็อกออก
“ขอโทษด้วยนะนายชาเย็น”
เขมิกาพึมพำออกมาแล้วนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เขมิกาไปหาปรียาที่โรงแรม ปรียาหันมาเจอเขมิกาจึงเดินมาหา
“คุณขวัญมาทำอะไรที่นี่คะ หรือว่ามากับพี่นนท์”
ปรียามองหาชานนท์
“ฉันคิดว่าคุณคงรู้แล้วว่าฉันกับสามีกลับมาคืนดีกัน แต่ฉันเป็นคนชอบให้โอกาสคนได้ต่อสู้กันแฟร์ๆ”
“ฉันไม่เข้าใจความหมายของคุณ”
“พูดตรงๆ ก็คือถ้าอยากจะทวงคุณนนท์คืน ฉันไม่ให้ แต่เธอต้องหว่านเสน่ห์เอาเอง ชั้นเชิงมีเท่าไหร่ควักออกมาใช้ให้หมด ถ้าเขาเลือกเธอ ฉันจะถอยให้”
“คุณต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ”
เขมิกาวางกระดาษใส่มือปรียา
“ถ้ารับคำท้าของฉันก็รีบไปหาคุณนนท์ สถานที่ฉันเขียนให้แล้ว แต่ถ้าปอดก็ไม่ต้องไป อ้อ แล้วขอให้เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเรา ถ้าคุณเอาไปบอกใครเป็นอันว่าข้อตกลงเลิกล้ม”
ชานนท์จอดรถหน้าตึก ท่าทางโกรธลงจากรถไปไม่พูดจา ปรียานั่งนิ่งอยู่ในรถ น้อยใจ เสียใจ เจ็บใจ กำมือแน่น
เขมิกากำลังคุยโทรศัพท์กับโยธิน
“เฮียจะไปวันนี้เลยหรือ”
ขณะนั้นโยธินกำลังขับรถอยู่
“เฮียอยากช่วยเข็มหาเบาะแสของพี่สาวอีกทาง ถ้าพวกแม่นมมณโฑคือพวกไอ้โม่งอย่างที่เราเข้าใจ พวกมันอาจเคยจับพี่ขวัญไปที่รีสอร์ทของแววนิลก็ได้”
“เข้าท่าดีเหมือนกัน แต่ระวังตัวด้วยนะเฮีย” เขมิกาตัดสาย ชานนท์เดินตรงดิ่งมาหาเธอด้วยความโกรธ “อ้าว คุณสามี ทำไมดูหนังจบเร็วจัง”
“ฉันไม่ได้ดู ทำไมไม่ไปตามนัด ฉันอยากฟังคำอธิบาย”
“คุณปรียาบอกว่ายังไงละฮะ”
“เธอยังทำธุระไม่เสร็จ ก็เลยโทรให้เขาไปแทน”
“ตามนั้นเลย”
“ธุระอะไรสำคัญขนาดผิดนัดฉัน”
“หรือคุณไม่เคยผิดนัดใคร ไม่เอาน่า แค่นัดดูหนังไม่เห็นต้องโมโหเลย โรงหนังมันไม่หนีไปไหนหรอก ดูอีกเมื่อไหร่ก็ได้”
ชานนท์มองหน้าเขมิกาอย่างน้อยใจ
“แต่นี่มันเดทครั้งแรกของเรา ฉันรู้สึกว่าเธอไม่กระตือรือร้นกับการกลับมาคืนดีของเราเลยนะ สงสัยฉันคงบ้าบอไปคนเดียว”
ชานนท์งอนเดินหนี เขมิกากลุ้มรู้สึกแคร์ชานนท์แต่ทำอะไรไม่ได้
วันต่อมาที่รีสอร์ทชายทะเลของประชา อู๋จ่ายเงินให้แม่บ้าน
“ค่าทำความสะอาดแล้วก็ค่าดูแลของเดือนนี้”
“งั้นป้ากลับเลยนะคุณ สวัสดีค่ะ”
แม่บ้านยกมือไหว้ แล้วเดินลงระเบียงไป อู๋หันไปล็อกประตูบ้าน
แม่บ้านเดินผ่านพุ่มไม้ไป โยธินซึ่งใส่หมวกบังหน้าโผล่หัวขึ้นมามองแม่บ้าน อู๋เดินลงจากระเบียงแล้วชะงักเมื่อเห็นโยธินที่โผล่หัวขึ้นมา
“เฮ้ย นั่นใคร มาแอบดูอะไรแถวนี้วะ”
อู๋ชักปืนออกมาเดินไปดู โยธินหันหลังวิ่งหนีออกจากพุ่มไม้ อู๋ไล่ตาม โยธินวิ่งหลบเข้าพงหญ้ารกๆ สูงท่วมหัว อู๋ยิงใส่โยธินแต่ไม่โดน อู๋ตามเข้าไปในพงหญ้าเห็นหลังโยธินแว่บๆ อู๋ยิงออกไปอีกหลายนัด โยธินจวนตัววิ่งพ้นพงหญ้าเจอคลองเล็กๆ อู๋วิ่งตามมาถึง จะยิงอีกนัดแต่โยธินกระโดดลงคลองจมหายไป อู๋เล็งปืนมองหาไม่เจอ เจ็บใจ
แม่บ้านคนเดิมเดินผ่านคลองแล้วต้องแปลกใจเมื่อเห็นคนนอนคว่ำหน้าริมคลอง แม่บ้านรีบเข้าไปดู เขย่าตัว
“พ่อคุณ เป็นอะไรไปมานอนอยู่ตรงนี้ทำไม”
โยธินไอออกมา ค่อยๆ ลุกนั่ง
“ผมลื่นตกน้ำน่ะครับ” โยธินมองหน้าคนถามจึงจำได้ว่าเห็นแม่บ้านที่บ้านพักรีสอร์ท โยธินดีใจแต่ซ่อนอาการไว้ “คือผมมาหาเพื่อน เขาเป็นเจ้าของบ้านพักรีสอร์ทหลังที่อยู่ตรงหัวถนนก่อนเข้ามาในไร่นี้น่ะครับ ป้ารู้จักมั้ยเขาชื่อแววนิล”
“เอ เจ้าของบ้านนี้เขาเป็นผู้ชายนะ”
“ผู้ชาย ชื่ออะไรป้ารู้หรือเปล่า”
“ก็ต้องรู้สิ เขาให้ลูกน้องมาจ่ายเงินค่าทำความสะอาดให้ป้าทุกเดือน”
โยธินรอฟังแม่บ้านบอกชื่อใจจดจ่อ
วันต่อมา เขมิกาวิ่งมาที่ประตูคอนโดโยธินแล้วรีบร้อนผลักเข้าไป ขณะนั้นโยธินกำลังโป๊ไม่ได้ใส่เสื้อและกำลังรูดกางเกงลงมา เขมิกากับโยธินร้องลั่นพร้อมกัน เขมิการีบหันหลัง โยธินรีบนุ่งกางเกงดีๆ
“ทำไมถึงมาเร็วนักเล่า เฮียเพิ่งโทรไปหาเอง”
“ก็เข็มร้อนใจอยากรู้นี่เฮีย เสร็จหรือยังล่ะ”
โยธินนุ่งกางเกงเสร็จ
“หันมาได้แล้ว”
เขมิการีบเดินไปหาโยธิน
“เฮียเจอเบาะแสอะไรที่บอกว่าเด็ดสุด”
“เจ้าของบ้านหลังนั้นไม่ใช่แววนิล”
“แล้วเป็นใคร”
“เข็มต้องนึกไม่ถึงแน่ มันชื่อประชา”
เขมิกาตกใจ
ประชายืนมองปรียาในชุดผ้าถุงพนักงานของสปา ประชาแปลกใจ
“ทำไมคุณใส่ชุดนี้”
ปรียาโปรยยิ้มให้กับทุกคนที่รุมมองกันอยู่
“ฉันจะมาทำงานวันนี้เป็นวันแรก พี่นนท์อยากให้ฉันมาเรียนรู้งานไว้ ต่อไปจะได้ช่วยงานพี่นนท์ได้ ทุกคนไม่ต้องเกรงใจฉันนะคะ ขอให้ทำงานไปตามปกติเหมือนฉันเป็นพนักงานคนหนึ่ง”
จรรยามองปรียาอย่างไม่ชอบใจ
“คุณชานนท์ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับผมเลย”
“สงสัยพี่นนท์คงจะลืม”
ชานนท์เดินเข้ามาหยุดที่ประตู
“กำลังประชุมกันอยู่หรือ”
ชานนท์ชะงักเมื่อเห็นปรียา
เขมิกาเดินเข้ามาในสปา เยาว์ยืนคุยกับพนักงานอยู่ พนักงานเห็นเขมิการีบไหว้ เยาว์หันไปมองเห็นเขมิกาจึงรีบยิ้มให้
“พี่ชิ้นท่าทางจะเอาจริงค่ะ ยอมไปปรึกษาศูนย์บำบัดตามที่คุณขวัญแนะนำแล้ว”
“นี่แค่เริ่มต้น เดี๋ยวพอเริ่มอด น้าเยาว์จะเจออีกสารพัด ต้องอดทนนะฮะ”
“น้าขอโทษที่เคยเข้าใจคุณขวัญผิดนะคะ ถ้าน้าสามารถทำอะไรให้คุณขวัญเป็นการชดเชยได้ ก็ขอให้บอก”
“ฮะ เออ ผู้จัดการมาหรือยังฮะ”
“มาแล้วค่ะ รู้สึกจะอยู่ห้องคุณชานนท์”
เขมิกายิ้มมุมปากได้โอกาสที่จะไปค้นห้องประชา
ในห้องทำงานชานนท์ ชานนท์กำลังไม่พอใจปรียา
“ทำไมทำแบบนี้ อยากทำงานที่นี่ก็น่าจะปรึกษาพี่ก่อน”
“งั้นปรียาขออนุญาตเลยนะคะ ปรียาลาออกจากงานแล้ว ถ้าพี่นนท์ปฏิเสธปรียาคงตกงาน”
“ปรียา ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย”
ปรียายิ้มอ่อนโยน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ปรียาแค่อยากทำงานใกล้ๆ พี่นนท์”
“แต่ตอนนี้ปรียาใกล้พี่ไม่ได้แล้ว พี่ยอมรับว่าพี่ผิดที่ขอคบกับเธอแล้วทำไม่ได้”
“ปรียาไม่ได้ว่าอะไรพี่นนท์เลยนะคะ ปรียาเข้าใจทุกอย่าง”
“แต่ที่ผ่านมาพี่เข้าใจขวัญผิด เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลยแล้วพี่จะไปบอกเลิกกับเขา พี่คงทำไม่ได้”
ปรียาจับมือชานนท์
“ปรียาก็ไม่ได้บอกให้พี่นนท์เลิกกับเขาในทันทีนี่คะ ปรียารู้ว่าเรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา”
ชานนท์พยายามจะอธิบาย
“ปรียาฟังพี่นะ ตอนนี้สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิมแล้ว”
“พี่นนท์จะหย่าคุณขวัญเมื่อไหร่ นานแค่ไหน ปรียาก็จะรอค่ะ”
ชานนท์ดึงมือออกอย่างหนักใจ
ประชายืนฟังอยู่หน้าห้อง ยิ้มสะใจ
เขมิการีบเดินมาหยุดหน้าห้องประชา มองซ้ายมองขวาไม่มีใครเห็น
เขมิกากำลังค้นลิ้นชักประชาหลายลิ้นชัก มองประตูไปด้วย บรรยากาศดูตื่นเต้น พอเปิดลิ้นชักล่างสุดก็เจอรูปวางคว่ำหน้า เขมิกาหยิบขึ้นมาพลิกดูเป็นรูปขวัญตานั่งบนเตียงกอดคอประชา เขมิกาตกใจ สรุปได้ทันทีว่าขวัญตามีความสัมพันธ์กับประชา พลิกดูด้านหลังรูปเขียนว่า “ขวัญรักพี่ชานะจ๊ะ”
“ขวัญรักพี่ชานะจ๊ะ พี่ชา”
เขมิกาพึมพำออกมาแล้วนึกถึงคำพูดชิ้นตอนเมา
“ฮ่าๆ ขำว่ะ แล้วแกดีตายแล้วนี่ ต่อหน้าก็สั่นหางตามประจบแต่ลับหลังคิดสอยดอกฟ้าหวังเมียเจ้านาย”
“หรือว่า”
เขมิกาคิดถึงคำพูดประชาที่เคยพูดในตอนแรกๆ เหมือนเคยมีสัมพันธ์กัน
“หมายความว่า เวลาคุณเจ็บ มีคนเดือดร้อนกว่าคุณ เวลาคุณอยากแก้เผ็ดเอาคืนใคร คุณก็ไม่ต้องลงแรง คนโง่คนนั้นมันทำแทนคุณทุกอย่างแล้ว”
เสียงประตูเหมือนมีคนมา เขมิการีบเก็บรูปใส่ลิ้นชักอย่างรวดเร็ว
ประชายืนที่ประตูผลักเข้าไป ตรงโต๊ะทำงานไม่มีเขมกาแล้ว ประชาชะงักเมื่อเห็นเขมิกาที่โซฟา เขมิกาทำเป็นนั่งรอประชา ก้มหน้าเปิดๆ ดูนิตยสาร ประชาแปลกใจ
“คุณขวัญ”
เขมิกาเงยหน้ายิ้มแย้ม
“ฉันเข้ามารอคุณ มีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ”
ประชาสงสัยว่าเป็นเรื่องอะไร
โยธินอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง กำลังคุยมือถือกับเขมิกา โยธินตกใจ
“จริงหรือ พี่สาวเข็มทำไมทำตัวแบบนี้ หรือว่าประชาก็คือชู้คนนั้น แล้วยังมีไอ้โม่งที่ผลักเข็มตกบ่ออีกคน โอ๊ยเฮียปวดหมองไปหมดแล้วเนี่ย”
เขมิกาอยู่ที่สปา คุยมือถือกับโยธิน
“อันนั้นเข็มยังไม่รู้ แต่ที่แน่ใจได้เลยก็คือ ประชาต้องตั้งใจล่อเข็มไปให้ไอ้โม่งที่รีสอร์ทฆ่า แต่จะรู้เห็นกับคุณนมด้วยหรือเปล่า เข็มคงต้องสืบจากนายประชาต่อ”
จรรยาโผล่มาข้างเขมิกา
“ขวัญมาทำอะไรตรงนี้”
เขมิกาตกใจรีบตัดสาย
“คุยโทรศัพท์ไง ตรงนี้มันสัญญาณชัดเจนดี”
จรรยารีบคว้าข้อมือเขมิกา
“แสดงว่าไม่รู้เรื่องสินะว่าเกิดอะไรขึ้น รีบไปกับฉันเร็วๆ”
จรรยาดึงเขมิกาไปเลย
“โอ๊ย อะไรๆ”
ชานนท์เปิดประตูรถให้ปรียา
“ปรียากลับไปซะ พี่ไม่รับเธอเข้าทำงาน”
“ปรียาไม่มีค่าขนาดที่พี่นนท์ต้องขับไล่ไสส่งเลยหรือคะ”
“พี่ขอโทษ พี่ยอมรับผิดกับปรียาทั้งหมด ยินดีชดเชยให้เธอทุกอย่าง ตามที่เธอต้องการ”
“ไม่ค่ะ ปรียาเลิกรักพี่นนท์ไม่ได้”
ปรียาโผเข้ากอดชานนท์ ชานนท์พยายามดัน
“ปรียาอย่าทำแบบนี้ คนมาเห็นเข้าจะไม่ดี”
จรรยาดึงเขมิกามาหน้าประตูเห็นภาพบาดตาพอดี
“เห็นหรือยัง เธอยอมไม่ได้นะขวัญ”
เขมิกาอึ้ง แล้วทำเป็นไม่สนใจ
“ให้ฉันมาดูเนี่ยนะ โห ไม่เห็นมีอะไรเลย”
“กอดกันกลมขนาดนี้หรือไม่มีอะไร”
เขมิกาเดินหนีกลับเข้าด้านใน จรรยาเดินจี้
เขมิกานั่งกินกาแฟกับจรรยา
“ขวัญ เธอจะปล่อยแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ใจเย็นๆ จรรยา ฉันรู้ว่าเธอโกรธแทนฉัน แต่อย่าลืมซิ ฉันเป็นเมียหลวง ทะเบียนสมรสอยู่ในมือ ฉันไม่หย่าซะอย่าง ใครก็แย่งคุณนนท์ไปไม่ได้”
“จริงด้วย”
“แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องสงสัย คุณประชาเคยแอบชอบฉันจริงเหรอ”
“ทำไม เค้ามาก้อร่อก้อติกเธออีกเหรอ”
“เปล่าๆ แต่พอได้ยินลุงชิ้นพูดก็เลยสงสัย”
“เรื่องเค้าชอบเธอมันแน่อยู่แล้ว เธอยังเคยมาบ่นกับฉันว่า เค้าชอบพูดจากแปลกๆ เหมือนจีบ แต่เธอทำเป็นไม่รู้ ไม่อยากปฏิเสธเพราะเค้าเป็นหัวหน้างาน”
“แสดงว่าฉันไม่ได้ชอบเค้า แล้วทำไม...”
“ทำไม อะไร”
เขมิกาเงยหน้าเห็นชานนท์เดินตรงมา เขมิกาหมั่นไส้ชานนท์เรื่องปรียาจึงรีบหดคอหลบชานนท์
“ฉันจะออกไปทางด้านหลังนะ แล้วจะกลับเลย ถ้าเจ้านายเธอถาม ตอบไปว่าไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียวนะ”
เขมิกาก้มงุดๆ หลบตามโต๊ะออกไปทางด้านหลัง ชานนท์เห็นหลังเขมิกาเดินก้มๆ แต่ไม่แน่ใจ
“จรรยา นั่นคุณขวัญหรือเปล่า”
จรรยารีบลุกยืน
“ขวัญสั่งฉันให้ตอบว่าไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียวค่ะ นี่คุณนนท์ทะเลาะกับขวัญอีกแล้วเหรอคะ”
ชานนท์สงสัยว่าเขมิกาเป็นอะไร รีบตามไป ชานนท์ออกมาด้านนอกแต่ไม่เจอเขมิกาแล้ว
ที่บ้านชานนท์ ปรียานั่งรอชานนท์อยู่ในห้องอาหาร แป้นยืนรับใช้ ชานนท์เดินเข้ามา ปรียารีบลุกยืน
“วันนี้ปรียาลงมือเข้าครัวทำอาหารอิตาเลี่ยนให้พี่นนท์ทาน พี่นนท์ช่วยชิมหน่อยสิคะ ว่าใช้ได้มั้ย”
“เดี๋ยวพี่มาทานนะ เห็นคุณผู้หญิงมั้ย”
ชานนท์ถามแป้น ปรียาจ๋อย แป้นมองปรียาแล้วรีบเดินไปใกล้ๆ ชานนท์พูดเบาๆ
“เห็นค่ะ แต่คุณผู้หญิงสั่งว่าไม่ให้บอก”
“เดือนนี้อยากได้ซองขาว หรือเงินเดือน”
“ว้ายเงินเดือนสิคะ พวกซองขาวซองผ้าป่าหนูมีเยอะแล้ว”
เขมิกานั่งกินข้าวน้ำพริกปลาทูอยู่ในครัว หยิบผักสดจิ้มน้ำพริกกินเอร็ดอร่อย ชานนท์เดินเข้ามานั่งด้วย เขมิกาก้มหน้าเด็ดผักอยู่จึงคิดว่าเป็นแป้น
“กินด้วยกันสิแป้น” ชานนท์ตักข้าวใส่จาน เขมิกาเงยหน้าเห็นชานนท์ก็สะดุ้ง “เฮ้ย มาได้ไงเนี่ย”
“ฉันน่าจะถามเธอมากกว่า ทำไมมานั่งกินอยู่ที่นี่”
“ฉันไม่ชอบอาหารฝรั่ง คนหัวสูงอย่างฉันมันต้องปลาทูผักสดจิ้มน้ำพริกนี่เลย”
“ก็ดีเปลี่ยนบรรยากาศมากินในครัวบ้างก็ดี”
ชานนท์ตักน้ำพริก
“คุณก็ไปกินกับคุณปรียาไม่ดีกว่าหรือ เขาอุตส่าห์ทำให้”
“ฉันเบื่ออาหารฝรั่ง”
“ตามใจ แต่ฉันอิ่มพอดี ขอตัวกลับห้องก่อนนะฮะ”
เขมิการีบไปอย่างเร็ว ชานนท์วางช้อนกระแทก
อ่านต่อเวลา 17.00น.
เจ้าสาวสลาตัน ตอนที่ 8 (ต่อ)
เขมิกานั่งหน้าหงิกบนเตียง
“ฉันเบื่ออาหารฝรั่ง เชอะ เบื่อแบบไหนถึงได้กอดกันกลมไม่ทราบ”
ชานนท์เดินปึงๆ เข้ามา
“เธอตั้งใจหลบหน้าฉันใช่มั้ย ไม่พอใจเรื่องอะไรก็น่าจะคุยกันตรงๆ หรือเพราะฉันต่อว่าเธอเรื่องไม่ไปดูหนัง”
“ฉันหลบหน้าคุณที่ไหน ฉันกินอิ่มมาก หนังท้องตึง หนังตาก็เลยหย่อน” เขมิกาแกล้งหาว “มันง่วงอ่ะ นอนดีกว่า”
เขมิกาล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มคลุมโปงปิดหน้าตาหมด ชานนท์ฉุนเดินไปดึงผ้าห่มออก
“เรื่องปรียาใช่มั้ย ฉันไม่ได้รับเขาเข้าทำงานนะ อย่าเข้าใจผิด”
“ฉันง่วงนอนมากเลย ขอฉันนอนก่อนได้มั้ยคุณสามี ขอร้อง” ชานนท์งอน
“ไม่คุยไม่เป็นไร ฉันไม่ชอบตื๊อใครมากๆ เหมือนกัน”
ชานนท์น้อยใจเดินออกจากห้อง เขมิกาค่อยๆ ลุกจากเตียงหยิบโน้ตบุ๊กออกมาจากใต้เตียง
ที่บ้านประชา ประชาหันมาหาอู๋
“หัวขโมยหรือ”
“มันมาด้อมๆ มองดูลาดเลา แต่ผมยิงขู่มันไปแล้ว คงไม่กล้ากลับมาอีก”
“แกไปติดสัญญาณกันขโมยไว้ก็ดี ป้องกันไว้ก่อน”
“ได้พี่ แล้วทางนี้เป็นยังไงบ้าง”
“โอกาสที่แกรอมาถึงอีกครั้งแล้ว แกไปหารถเก่าๆ ติดทะเบียนปลอมไว้สักคัน พร้อมลงมือเมื่อไหร่ฉันจะบอกอีกที”
“ได้เลยพี่”
อู๋รีบออกไปทันที
เขมิกานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊ก บันทึกภาพตัวเอง
“เฮีย พรุ่งนี้เข็มจำเป็นต้องหาทางใกล้ชิดกับประชาเพื่อล้วงเอาความจริงออกมาให้ได้ มันใกล้จะจบแล้วเฮีย ถ้าเข็มพลาด ไม่ได้กลับบ้านกับเฮีย ฝากพ่อกับปู่ด้วยนะ”
เสียงลูกบิดประตู เขมิกาตกใจรีบปิดฝาโน้ตบุ๊ก ดึงผ้ามาปิด ชานนท์เดินเข้ามาบึ้งตึงยังงอนเขมิกาอยู่ ชานนท์เดินมานอนที่เตียงหันหลังให้เขมิกา เขมิกาทำตัวปกติไม่รู้ไม่ชี้
“คุณสามีไม่อาบน้ำก่อนหรือ”
ชานนท์ลุกนั่งทันทีคว้าหมอน
“ฉันไปนอนตรงอื่นแล้วกัน เธอจะได้ไม่เหม็น”
ชานนท์งอนเดินไปนอนหงายโซฟา เขมิกาแกล้งพูดกวนๆ เพื่อให้ชานนท์ขำ
“ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ถามเพราะว่าฉันจะได้ไม่อาบด้วย ต่างคนต่างเหม็น จะได้ไม่มาว่ากัน”
“ฉันไม่ขำ”
ชานนท์พลิกตัวหันหลังให้ เขมิกาบ่น
“งอนเยอะไปหรือเปล่า ฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังไม่งอนเลย”
ชานนท์โมโหลุกพรวด เดินไปปิดไฟหัวเตียง แล้วกลับมานอนที่เดิม เขมิกาเหวอ
วันต่อมา ประชาเดินคู่กับเขมิกามองหาบ้านหมอจีน
“ใครแนะนำคุณหรือครับว่าการฝังเข็มจะช่วยให้คุณนิลเดินได้เร็วขึ้น”
“ฉันศึกษาจากเน็ตน่ะ คุณแน่ใจนะว่าบ้านของหมอฝังเข็มที่ว่าอยู่แถวนี้”
“เพื่อนผมมันเขียนแผนที่ให้มาซอยนี้ ไม่น่าจะผิดนะครับ”
เขมิกามองแผนที่ในมือประชา ลากนิ้วดู
“หัวมุมซอย” เขมิกามองไปข้างหน้า รีบชี้“นั่นไง เขาให้เลี้ยวหัวมุมไป”
เขมิการีบเดินทันที ประชายิ้มร้าย
เขมิกาเดินมาเจอซอยตันไปต่อไม่ได้
“อ้าวแล้วกัน ดันมาเจอทางตันแบบนี้เพลียนะเนี่ย เพื่อนคุณมั่วหรือเปล่าฮะ”
เขมิกาหันมาข้างหลังถามประชา
“ถามมันดูดีกว่า”
ประชากดมือถือ แล้วเดินห่างออกมาหันหลังให้เขมิกา พูดเบาๆ กับอู๋
“มันติดกับแล้ว แกรีบมาเลย”
“โอ๊ย”
ประชาหันไปเห็นเขมิกานอนดิ้นกุมหัว
“โอ๊ย ปวดๆ”
ประชาตกใจรีบวิ่งไปประคอง
“ขวัญ เป็นอะไร”
เขมิกาดิ้นตัวงอ
“ปวดหัว ปวดมาก” เขมิกาเกาะแขนประชาจ้องหน้า “ฉันเห็น”
“เห็นอะไร”
“ภาพในหัวมันย้อนกลับมา ฉันเห็นคุณ”
ประชาตกใจปล่อยเขมิกา รีบลุกยืน
“ผมหรือ” เขมิกาลุกยืน
“ฉันจำได้แล้ว คุณคือ...”
ประชาเห็นท่าไม่ดีรีบมองไปด้านหลังเขมิกาว่าอู๋มาหรือยัง ประชาเห็นรถอู๋วิ่งตรงมาแต่ยังอยู่ในรถยะไกลจึงพูด
ถ่วงเวลา
“คุณจำอะไรได้”
“พี่ชา” ประชาตกตะลึงที่เขมิกาจำได้จริงๆ รถกำลังพุ่งตรงมาด้านหลังเขมิกา เขมิกากุมมือประชาแน่น ประชามองมือเขมิกาตัดใจดึงมือตัวเองออก “ฉันนึกออกแล้วว่าเอาเงินสินสอดไปซ่อนที่ไหน”
“อะไรนะ”
เขมิกาได้ยินเสียงรถเหลียวไปด้านหลังเห็นรถพุ่งเข้าชน ขณะที่เขมิการู้ว่าตัวเองตายแน่ ประชาอยากรู้ที่ซ่อนเงินสินสอดเลยกระชากเขมิกากลิ้งหลบรถ รถพุ่งเข้าชนกำแพงจอดนิ่ง
เขมิกากับประชานอนหมอบอยู่ข้างทาง ประชากลัวเขมิการู้ว่าตัวเองเป็นคนวางแผนให้รถชนเลยรีบจับมือเขมิกา
“หนีเร็ว”
เขมิกาวิ่งไปกับประชา อู๋หันมามองด้านหลังรู้ว่าประชาช่วยเขมิกา อู๋โกรธมากถอยรถตั้งใจถอยเหยียบ ประชากับเขมิกาเห็นรถถอยชนอีก รีบวิ่งหนี อู๋กลับรถตรงซอยแยก
ประชากับเขมิกาจับมือกันวิ่งหนี ยืนหอบนึกว่ารอดแล้ว แต่รถอู๋พุ่งมาอีกทางไล่ชน ไล่จี้ ประชาเห็นซอยแคบๆ คนเดินได้แค่ 2 คน
“ทางนี้”
ทั้งคู่วิ่งเข้าซอย รถอู๋วิ่งมาจอดเข้าซอยไม่ได้ อู๋มองเข้าซอยประชากับเขมิกาหายไปแล้ว อู๋เจ็บใจฟาดมือกับพวงมาลัย
ประชามองสำรวจไม่เห็นรถอู๋แล้ว ประชาหันมาข้างหลัง เขมิกายืนหอบอยู่ ประชาเดินมาหา
“มันคงไปทางอื่นแล้ว ผมว่าคุณมณฑาคงส่งมันมา”
เขมิกาเล่นละครมองหน้าประชา
“เราเคยรักกันใช่มั้ย”
ประชาคิดๆ จะเอาไงดี
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมเป็นลูกจ้างจะไปรักกับภรรยาเจ้านายได้ยังไง”
“แล้วทำไมฉันเห็นภาพลางๆ ฉันกับคุณนั่งอยู่บนเตียง เราถ่ายรูปด้วยกัน” เขมิกาจับแขนประชาเขย่า “ฉันขอร้องช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อย ฉันเป็นชู้กับคุณ เราสวมเขาให้คุณชานนท์หรือ”
ประชาโมโหชานนท์ ตะโกนออกมา
“มันต่างหากที่แย่งคุณไปจากผม มันบีบผม บีบคุณ จนต้องยอมแต่งงานกับมัน”
“แล้วยังไงอีก”
ประชาชั่งใจก่อนตัดสินใจพูดต่อ
“คุณเกลียดมันเลยหนีจากงานแต่งพร้อมเงินสินสอด”
เข็มพูดไปมั่วๆ
“ฉันจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าหิ้วกระเป๋าเงินออกมา แล้ว...”
“คุณเอาเงินไปไว้ที่ไหน เราจะได้ไปให้พ้นจากคนร้ายกาจพวกนี้”
เขมิกาแกล้งปวดหัวจำไม่ได้
“โอ๊ย พอพยายามนึกมันปวดตุ๊บขึ้นมาทันที”
“ไม่เป็นไรค่อยๆ นึก ถ้าคุณจำอะไรได้อีก ให้รีบบอกผมก่อนอย่าไปพูดให้ใครฟัง โดยเฉพาะชานนท์ เขาจะฆ่าเราทั้งคู่”
เขมิกาพยักหน้า
ที่บ้านประชา อู๋โดนตบหน้าหัน ประชาชี้หน้า
“แกคิดจะฆ่าฉันด้วยหรือไง ไอ้เนรคุณ”
“เปล่านะพี่ ผมต้องทำให้สมจริงไม่อย่างนั้นมันจะสงสัยพี่ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ไม่ทำตามแผน”
“มันพูดว่าจำเรื่องเงินสินสอดได้ ฉันถึงต้องเปลี่ยนใจช่วยมัน”
อู๋ตกใจกลัวว่าจะจำเรื่องที่มันหักหลังประชา
“จะ จริงหรือพี่” ประชามองหน้าอู๋
“แกเป็นอะไรทำไมต้องหน้าซีดด้วย”
“ก็ผมกลัวมันจะจำได้ว่าพี่ให้ผมฆ่ามันไง”
“มันยังจำได้ไม่หมด ฉันจะหลอกให้มันบอกที่ซ่อนเงินก่อน แล้วค่อยปิดปากมันทีหลัง เราเหนื่อยกับมันมามาก อย่างน้อยก็น่าจะได้เงินล้านเป็นการชดเชย”
เขมิกาเดินเข้ามาในบ้านแล้วชะงักเมื่อเห็นชานนท์ยืนหันหลังอยู่ เขมิกาหันกลับจะเดินหลีกไปทางอื่น ชานนท์หันขวับมาทันที ยังบึ้งตึงอยู่
“ไปทำความผิดอะไรมาทำไมต้องเดินหนี “
“อ้าว คุณอยู่ด้วยหรือ ฉันไม่ทันมอง”
“ฉันคงไม่อยู่ในสายเธอมั้ง ก็เลยมองไม่เห็น”
“เรื่องเหน็บแหนมแกมประชดนี่ ฉันให้คุณชนะเลิศ”
“ไปไหนมา หายไปครึ่งค่อนวันฉันติดต่อไม่ได้เลย”
“มีธุระอะไรกับฉันหรือ”
ชานนท์บอกเสียงเรียบหน้าตาย
“ฉันคิดถึงเธอไม่ได้หรือ”
เขมิกาอึ้ง เขิน พูดไม่ถูก ไหลไปเรื่อยเปื่อย
“ก็วันนี้เป็นวันเกิดจรรยา ฉันก็เลยซื้อของขวัญไปให้ แล้วก็ไปกินข้าวฉลองกันนิดหน่อย”
ชานนท์ยิ้มหายโกรธแล้ว
“ทำไมไม่บอก เราจะได้ไปด้วยกัน”
“ก็คุณงอนฉันอยู่ ใครจะกล้าชวน”
“ถ้าเธอชวนฉันก็หายงอน เธอผิดก็ควรจะง้อฉันหน่อย”
“ง้อยังไงอ่ะ ฉันพูดไม่เป็น”
“ไม่ต้องพูด” ชานนท์เข้าไปกอดเขมิกา “แค่กอดฉันก็พอ” เขมิกาตัวแข็งสับสนกับชานนท์ไปหมด “ฉันเสียใจนะที่เอาแต่กดดันเธอ เราเพิ่งกลับมาคืนดีกัน เธออาจต้องการเวลาปรับตัว ต่อไปนี้ฉันจะไม่โมโหใส่เธออีก จะใจเย็นให้มากกว่านี้ เราดีกันนะ”
เขมิกาเจอไม้อ่อนของชานนท์ถึงกับพูดไม่ออก ชานนท์ชูนิ้วก้อย เขมิกายิ้มๆ เพราะชานนท์เคยบอกว่าไร้สาระ เขมิกายอมเกี่ยวก้อยด้วย
วันรุ่งขึ้น เขมิกากับชานนท์เดินเข้าสปามาด้วยกันเห็นปรียาในชุดพนักงานยืนทำงานอยู่ฝ่ายต้อนรับ ปรียาเดินเข้าไปหายิ้มให้
“วันนั้นพี่บอกปรียาชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ”
“พี่นนท์ไม่ต้องให้เงินเดือนปรียาก็ได้ค่ะ ปรียาแค่มาขอเรียนรู้งานจนกว่าจะได้งานที่ใหม่เท่านั้น”
“พี่จะให้ขวัญเป็นคนตัดสินใจ เขาว่ายังไงก็ตามนั้นแล้วกัน”
เขมิกาเปิดทางให้ปรียา
“ถ้าฉันเป็นนางมารคงไล่ตะเพิดเธอไปแล้ว แต่เพราะฉันอยากเป็นนางเอกก็เลยต้องใจดีรับเธอเข้าทำงาน”
ปรียายิ้มแต่สายตาเกลียดเขมิกา
“ขอบคุณค่ะ ฉันจะไม่ลืมความกรุณาของคุณขวัญเลย”
เขมิกาเดินคู่กับชานนท์ ชานนท์ดึงมือเขมิกามาคล้องแขนตัวเองไว้
“เดินเกาะแขนฉันบ้างก็ได้นะ ฉันอนุญาต”
“ทำไมต้องเกาะด้วยฮะ”
“ฉันเห็นผู้หญิงทุกคนเวลาเดินกับแฟนเขาก็จะคอยเกาะแขนแฟนไว้ น่าจะรู้สึกอุ่นใจหรือดูสวีทกับแฟนดีมั้ง”
“ฉันไม่เอาด้วยหรอก เลี่ยน ต่างคนต่างเดินคล่องตัวดี”
เขมิกาจะดึงมือออก แต่ชานนท์ไม่ปล่อย
“แต่ฉันกลับชอบนะ มันดูรักกันดี”
ชานนท์ยิ้มกริ่มมีความสุข เขมิกายิ้มฝืด มีเสียงเตือน sms ในมือถือเขมิกาดัง ชานนท์เลยยอมปล่อยมือ
เขมิกกดดูข้อความ
“ถ้าคุณอยากจำได้มากกว่านี้ไปเจอผมที่ห้องซาวน่า ระวังอย่าให้ใครเห็น”
เขมิกามองชานนท์
“ใครส่งข้อความมาหรือ”
“ก็ไอ้พวกโฆษณาให้เรากดไปดูสาวนมอึ๋ม นมโต น่ารำคาญไม่รู้ไปเอาเบอร์เรามาจากไหน ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ไปเถอะ ฉันจะเดินตรวจงานหน่อย”
เขมิกาเลี่ยงไป
ที่แผนกต้อนรับ กุ้งก้มดูตะเกียงน้ำมันหอมระเหย
“ตายแล้วกลิ่นหมด ผู้จัดการมาเห็นโดนว้ากหูชาแน่”
ปรียารีบอาสา
“ฉันไปเอาน้ำมันมาเติมให้เองค่ะ”
“อุ๊ยจะดีหรือคะ ฉันไม่กล้าใช้คุณหรอก”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ฉันฝึกงานต้องทำให้เป็นทุกอย่าง”
“ไปที่ห้องเก็บน้ำมันนะคะ อยู่ใกล้กับห้องซาวน่า”
ปรียาเดินไป
เขมิกาเดินมาถึงหน้าห้องซาวน่าเจอประชายืนรออยู่ ประชามองซ้ายขวาปลอดคนแล้วดึงเขมิกาเข้าไปในห้อง
ปรียาเดินเลี้ยวมุมมาเห็นเขมิกากับประชาหายเข้าห้องไปด้วยกัน
ประชาเดินไปนั่งในห้องกระจกสำหรับนั่งอบซาวน่า ประชาตบตรงที่นั่งข้างๆ
“นั่งสิ”
เขมิกาทำตัวว่าง่าย นั่งลงข้างประชา ประชาจู่โจมดึงเขมิกาเข้ามากอด
“เมื่อคืนพี่นอนไม่หลับเลย พี่ดีใจมากที่เธอเริ่มจำเรื่องของเราได้ พี่คิดทบทวนหลายอย่างว่าเราควรหยุดเรื่องเก่าๆ ไปดีมั้ย พี่ไม่แน่ใจว่าขวัญยังรักพี่อยู่หรือเปล่า”
เขมิกาอึดอัดที่โดนกอด ค่อยๆ ดันตัวออกมา
“เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเพราะคิดถึงแต่พี่ แบบนี้จะเรียกว่าความรู้สึกเก่าๆ มันกลับมาใช่มั้ย ถ้าใช่ฉันก็คงรักพี่อยู่”
“งั้นก็พิสูจน์ให้พี่ดูหน่อย”
“พิสูจน์ยังไง”
“ขวัญลองนึกดูดีๆ สิ อยู่ในห้องนี้กับพี่ แล้วขวัญนึกอะไรออกบ้าง”
อีกมุมในสปา ชานนท์ยื่นซองสีแดงให้จรรยา
“เช็คของขวัญ ฉันให้เป็นของขวัญวันเกิด ให้ย้อนหลังคงไม่ว่ากันนะ” จรรยางง
“ยังไม่ถึงวันเกิดฉันนะคะ อีกตั้งหลายเดือน”
ชานนท์ชะงักถือเช็คค้าง ทำไมเขมิกาโกหก ชานนท์ยิ้มกลบเกลื่อน
“งั้นหรือ ฉันคงจำผิดไปเอง”
ปรียาวิ่งหน้าตื่นมาหาชานนท์ จับข้อมือชานนท์
“พี่นนท์ ปรียาอยากให้ดูอะไร รีบไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
ชานนท์ดึงมือออก
“พี่ต้องไปทำงานอีกหลายอย่าง ไว้ทีหลังนะ”
จรรยายิ้มเยาะปรียา
“แล้วถ้าเป็นเรื่องคุณขวัญพี่นนท์จะตามปรียาไปมั้ยคะ”
ปรียาเดินไปก่อน ชานนท์อยากรู้รีบตาม จรรยาเห็นท่าไม่ดีตามไปอีกคน
ภายในห้องซาวน่า เขมิกาส่ายหน้า
“ฉันคิดแล้วคิดอีก แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี”
ประชาเริ่มลูบแขนเขมิกา
“เราเคยแอบมาคุยกันที่ห้องนี้บ่อยๆ กอดจูบกันอย่างมีความสุข” เขมิกาเริ่มกลัว ประชามองเขมิกาตาเยิ้ม “พี่อยากแน่ใจว่าชานนท์ไม่มีความหมายสำหรับขวัญ” ประชาพยายามจะจูบเขมิกา เขมิกาพยายามดันไว้ “พี่ยังรักเธอนะขวัญตา”
เขมิกาผลักประชาออก
“ฉันว่าออกไปจากห้องนี้ดีกว่า มันร้อน มันทำให้ฉันรู้สึกปวดหนึบๆ ที่หัวอีกแล้ว”
ประตูที่ล็อกไว้ถูกเขย่า ทั้งคู่หันไปมองประตูพร้อมกัน ประตูยังถูกเขย่า
“เธอรีบไปหลบก่อน พี่จะออกไปรับหน้าไว้เอง”
ประชาบอก เขมิกาพยักหน้ามองหาที่ซ่อนตัว
ประตูถูกเปิด ทุกคนเห็นประชายืนหน้าตาปกติ
“มาทำอะไรกันหรือครับ”
ชานนท์มองปรียา
“ฉันเห็นคุณขวัญเดินเข้ามาในห้องนี้ กับคุณ”
ประชาจะบอกว่าอยู่คนเดียว แต่เสียงเขมิกาแซงขึ้นมาก่อน
“ฉันอยู่นี่”
เขมิกาเดินโต้งๆ ออกมา ประชาแทบช็อกที่เขมิกาไม่ยอมซ่อนตัว
“อยู่ด้วยกันแค่สองคนหรือคะ แถมประตูก็ยังปิดอีกด้วย” ปรียาบอก
“อ้าว ประตูมันมีไว้ปิดไม่ใช่หรือ จะเปิดอ้าซ่าทิ้งไว้ทำไมเล่า” เขมิกาหันมาบอกชานนท์ “ระบบความร้อนมันมีปัญหา ฉันก็เลยชวนคุณผู้จัดการมาดู”
ประชารีบสนับสนุน
“ใช่ครับ นายชิ้นพักงานไป งานซ่อมบำรุงก็เลยขาดคน”
“ผมอนุมัติให้รับสมัครช่างชั่วคราวเพิ่มอีกสักคน”
“จะไปจ้างทำไมให้สิ้นเปลือง ฉันจะทำแทนลุงชิ้นจนกว่าแกจะเลิกเหล้าได้แล้วกัน”
เขมิกาบอก ทุกคนงงกันหมด ชานนท์ยิ้มๆ
“งานช่างนะขวัญ”
“ก็งานช่างนี่แหละ จะซ่อมแอร์ ซ่อมไฟ ซ่อมท่อประปา ทีวี วิทยุ ตู้เย็นได้หมด ยกเว้น” เขมิกามองปรียา “หน้าแตกไม่รับซ่อม”
จรรยาสะใจ
“แต่คนบางคนหน้าหนายิ่งกว่าถนนเสริมใยเหล็ก คงไม่รู้สึกสะทกสะท้านง่ายๆ หรอก”
ชานนท์มองปรียาแบบไม่ค่อยชอบใจ ปรียาเจื่อนๆ
ชานนท์กับปรียาเดินมาหยุดหน้าห้องนวด
“พี่อยากให้เธอรู้เอาไว้อย่างหนึ่ง พี่กำลังจะเริ่มสร้างครอบครัวกับขวัญตา จะไม่มีใครหรือการใส่ร้ายป้ายสีใดๆมาทำลายความตั้งใจในครั้งนี้ของพี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณนม เธอ หรือแม้แต่นิล”
“พี่นนท์กำลังมองความหวังดีของปรียาผิดหมดนะคะ”
“ถ้าเธอหวังดีกับพี่จริงๆ ก็ตั้งใจทำงานของเธอไป จะช่วยให้พี่สบายใจกว่า”
ปรียาเสียใจที่นนท์ไม่เชื่อ แต่ฝืนยิ้มไว้
“ปรียาจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ตามที่พี่นนท์ต้องการทุกอย่างเพื่อความรักของเราค่ะ”
ปรียาเดินผ่านชานนท์ไป ชานนท์ถอนใจกับความดื้อของปรียา
“เจอตัวปัญหาละ”
ชานนท์หันไปมองในห้อง
ในห้องนวด เขมิกานั่งอยู่บนสุดของบันไดเหล็กกำลังเช็กหลอดไฟ จรรยาแหงนหน้าลุ้น
“ที่มันมีเสียงครางเวลาเปิดไฟเพราะขายึดหลอดมันหลวม เดี๋ยวขันสกรูให้แน่นหน่อยก็โอเค”
“เธอไปฝึกพวกงานช่างตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอทำเป็น”
เขมิกาชะงักมือไปนิดหนึ่ง มองไปเห็นชานนท์ยืนฟังอยู่ที่หน้าประตู ขันสกรูไปด้วยพูดไปด้วย
“ฉันเคยฝึกตอนอยู่บ้านเด็กกำพร้า เราต้องช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง แต่พอมาทำงานที่นี่ มีช่างประจำอยู่แล้ว ฉันจะเสนอหน้าแย่งงานเขาทำไมเล่า เรียบร้อย ลองเปิดดู”
จรรยาจะเดินไปเปิดไฟ เขมิกาก้าวลงบันได ชานนท์เดินเข้าห้องเตือนเขมิกา
“ระวังตกนะขวัญ”
เขมิกาเหยียบบันไดพลาด ลื่นตกร้องลั่น
“เฮ้ยๆ โอ๊ยๆ”
ชานนท์พุ่งเข้าไปรับตัวไว้ทันในท่าอุ้ม เขมิกาใจหายกอดคอนนท์แน่น พอเงยหน้าเห็นชานนท์จ้องอยู่ชิดหน้าเขมิกามาก เขมิกาเขินหวิวใจ จรรยายิ้มปลื้มเหมือนตัวเองโดนอุ้มเอง
“ปล่อยฉันได้แล้ว จรรยามองอยู่เห็นมั้ย”
“ไม่เห็นต้องอายเลย ฉันจะอุ้มเธอโชว์ชาวบ้านให้ดู” เขมิกาดิ้น
“เฮ้ย บ้าหรือไม่เอา ฉันเดินเองได้”
ชานนท์อุ้มเขมิกาออกจากห้อง
อึ่ง กุ้ง พนักงานหญิงหิ้วตะกร้าผ้าเดินกันมา ประชาเดินตามหลังห่างๆ ชานนท์อุ้มเขมิกาเดินผ่าน ทุกคนหยุดมอง เขมิกาอายมากผิดกับชานนท์ที่ยิ้มกับพนักงาน
“คุณขวัญขาเจ็บนิดหน่อยไม่มีอะไร ทำงานกันต่อไปนะ ตามสบายทุกคน”
ชานนท์เดินผ่านไป กุ้งกับพนักงานยิ้มกันใหญ่
“เจ้านายเราพักนี้ดูมีความสุขเป็นบ้า อุ๊ย อิจฉาคุณขวัญว่ะ”
“ทำเป็นดัดจริตเดินไม่ได้ ทุเรศ”
ประชามองตามชานนท์แล้วหันกลับมาอย่างอารมณ์เสีย
“ไม่มีงานทำกันหรือไง ฉันจะได้ให้ไปนอนพักอยู่ที่บ้านสักเดือนสองเดือน”
พวกอึ่งรีบพากันเดินหนีอย่างเร็ว ปากขมุบขมิบด่าประชา ประชาหงุดหงิดที่ชานนท์อุ้มเขมิกา ปาแฟ้มงานลงพื้นอย่างแรง แค้นชานนท์
เขมิกานั่งที่โซฟาในห้องทำงานชานนท์ ชานนท์จับข้อเท้าขยับไปมา
“เจ็บหรือเปล่า”
“ไม่รู้สึกอะไรเลย”
“โชคดีไปที่ข้อเท้าไม่เคล็ด ซุ่มซ่ามนะเรา”
“ขอบคุณที่ชม”
“ฉันกำลังว่าเธออยู่ ยังทำหน้าเป็น”
ชานนท์ลุกยืน เขมิกาลุกตาม
“ฉันกลับบ้านดีกว่า”
“รอให้ฉันเซ็นงานเสร็จก่อน แล้วค่อยกลับพร้อมกัน”
เขมิกาต้องการห่างๆ ชานนท์ไว้
“คุณก็รู้ว่าฉันถนัดฉายเดี่ยว”
เขมิกาจะไป ชานนท์ตัดสินใจถาม
“เพื่อจะได้ลดเลี้ยวไปไหนก็ได้โดยที่ฉันไม่รู้ใช่หรือเปล่า”
เขมิกาใจหายหันกลับมา
“ฉันทำอย่างนั้นด้วยหรือ ไม่ยักรู้”
ชานนท์เดินมาหาเขมิกา แกล้งพูดจริงจัง
“วันก่อนเธอแน่ใจนะว่าไปฉลองวันเกิดกับจรรยามา”
เขมิกาอึ้งไป แล้วนึกถึงคำพูดจรรยาตอนที่อยู่ในห้องนวด จรรยากับเข็มยืนอยู่ข้างบันไดเหล็กก่อนที่เขมิกาจะปีนขึ้นไปซ่อมไฟ
“พักนี้เจ้านายใจดีเป็นบ้า อยู่ๆก็เอาเช็คของขวัญวันเกิดมาให้ฉัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงวันเกิดฉันสักหน่อย”
เขมิกากำลังจะปีนบันไดเหล็ก ตกใจ
“แล้วเธอบอกไปหรือเปล่าว่าไม่ใช่วันเกิดเธอ”
“บอก แต่ฉันว่าเขาเอาวันเกิดมาอ้างมากกว่า คงอยากจะเอาใจฉันเพราะเห็นว่าฉันซี้กับเธอ สามีเธอน่ารักเวอร์อ่ะ”
กลับมาปัจจุบันเขมิกามองหน้าชานนท์แล้วบอกออกมา
“ฉันซื้อของขวัญไปให้จรรยาจริงๆนะ แต่ฉันจำวันเกิดเขาผิดแล้วที่ฉันไม่พูดกับคุณให้หมดเพราะกลัวหน้าแตก”
ชานนท์ยิ้มโล่งใจที่เขมิกายอมรับตรงๆ
“สมองเธอถูกกระทบกระเทือน จำผิดจำถูกบ้างฉันก็ไม่หัวเราะเยาะเธอหรอกน่า”
“ฉันก็ต้องระวังตัวไว้ก่อน อย่างวันนี้คุณยังเชื่อคนอื่น”
“ฉันเชื่อใคร”
“ก็แม่สาวที่คุณซื้อกำไลหมั้นหมายไว้ไง เขาให้คุณมาตามดูฉันที่ห้องซาวน่าไม่ใช่หรือ”
“ฉันยอมรับว่าอยากรู้ แต่ไม่คิดจับผิด ไม่ว่าใครจะพูดใส่ร้ายเธอยังไงฉันไม่มีวันเชื่อ” เขมิกาอึ้งไป “ส่วนเรื่องกำไล ฉันซื้อให้เขาเป็นของขวัญไม่ใช่ของหมั้น ทำไม หึงหรือ”
“โอ๊ย อย่างฉันนะหรือจะหึงหวงผู้ชาย ไร้สาระ” เขมิกาโวยวาย ชานนท์ลุกยืน
“อย่างนั้นฉันก็ควงผู้หญิงอื่นได้สบายเลยสิ เพราะเมียไม่ว่า”
เขมิกาลุกพรวดเสียงโกรธๆ แต่ปากแข็ง
“เอาเลยตามสบาย อยากทำแบบนั้นก็เชิญ ไม่ว่ากัน”
เขมิกาเดินงอนออกจากห้อง ชานนท์ขำ
จบตอนที่ 8