จ้าวพายุ ตอนที่ 15
หลายวันผ่านไป ศุวิลอยู่ในออฟฟิศครุ่นคิดกังวลเรื่องฟ้าใสไม่คลาย ที่สุดตัดสินใจกดมือถือส่งข้อความผ่านไลน์ไปหาฟ้าใส
ฟ้าใสอยู่ที่โรงเรียนสอนดนตรี มีข้อความเข้าจึงกดดู เห็นเป็นข้อความจากศุวิล เขียนทักมาว่า “หายโกรธหรือยัง?”
ฟ้าใสนิ่งคิด
ด้านปิ่นมณีและสุธาวีเอาการ์ดแต่งงานมาให้บรรเจิดที่โรงแรมเรโทรเพลส
บรรเจิดนั่งอยู่บนเก้าอี้ สุธาวี และปิ่นมณีนั่งที่พื้น ทั้งสองคนกราบพร้อมกัน บรรเจิดลูบหัวทั้งคู่
“พ่อดีใจด้วยลูก”
อีกฟากหนึ่ง ที่ร้านขายเสื้อข้างทางในตอนกลางวัน แก้วตาอยู่กับเดช ท่าทางสองคนมีความสุข กันมาก จังหวะหนึ่งแก้วตาหยิบเสื้อมาทาบตัวเดช เดชยิ้ม
วิทย์แอบตามดูอยู่ วิทย์ออกอาการเซ็ง ที่หาจังหวะจัดการแก้วตาไม่ได้เพราะเดชประกบตลอด
ฟ้าใสแต่งตัวสวงาม เตรียมไปงานแต่งช่วงเช้าของปิ่นมณีและสุธาวี หล่อนเดินออกมาจากคอนโด
เจอศุวิลดักรออยู่ ก็ชะงัก
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ชั้นไม่ว่าง ชั้นต้องไปงานแต่งปิ่น”
“ผมก็ไปเหมือนกัน งั้นก็ไปด้วยกันนี่แหละ”
ฟ้าใสจะเดินหนี ศุวิลดึงแขนรั้งไว้
“คุณ...” ฟ้าใสชะงัก “ผมไม่ชอบเลยที่เราเป็นอย่างนี้”
“เราเป็นยังไงเหรอ? เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ลม” ศุวิลเป็นฝ่ายชะงัก “ใช่ไหม...”
ศุวิลงงไม่เก็ท มีแท็กซี่แล่นผ่านมาพอดี ฟ้าใสขึ้นแท็กซี่ไปเลย
ที่ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมชื่อดัง ทีมงานออแกไนซ์เดินวุ่นวายเตรียมความเรียบร้อย งานแต่งช่วงเช้า
ซึ่งจัดตามประเพณีไทย บนเวทีเห็นตั่งสองที่นั่งของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่ด้านหลังมีชื่อของ “ปิ่นมณี -สุธาวี” ติดอยู่
ปิ่นมณีอยู่ที่ห้องแต่งตัว หล่อนอยู่ในชุดไทย สวยงาม ปานที่วันนี้แต่งตัวดีจัดเต็ม มองลูกสาวอย่างชื่นใจ
“แกนี่บุญวาสนาดีจริงๆ นังปิ่นเอ๊ย” ปานประคองหน้าปิ่นมณี น้ำตาคลอ ทั้งตื้นตันและภูมิใจ “ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี เพียบพร้อม ร่ำรวยอย่างคุณวี”
“แม่..ถึงคุณวีเค้าจะไม่รวย ชั้นก็จะแต่งงานกับเค้า” ปานอึ้ง “ตอนนี้ชั้นรู้แล้ว ว่าอะไรสำคัญกว่าเงินทอง...”
ปิ่นมณีสะท้อนใจ นึกถึงเรื่องที่หล่อนขายตัว แต่สุธาวีก็ยังให้อภัย และรับได้
“คุณวีเค้ารักชั้นมาก...มากจนชั้นเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมีใครที่รักชั้นขนาดนี้ เค้ายอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ชั้นเป็น...ชั้นไม่คิดว่าจะมีใครดีเท่าเค้าอีกแล้ว”
“เออๆ คุณวีของแกน่ะดีทุกอย่าง”
ปานหมั่นไส้ปนปลื้ม มองปิ่นมณีที่สวยสดอย่างชื่นใจ แล้วหันมองตัวเองในกระจก
“นังปิ่น ชั้นว่า ชั้นไม่ลงไปดีกว่า ชั้นกลัวแกจะอายคนเค้า แขกเหรื่อผู้ดีไฮโซทั้งนั้น คุณวีเค้าจะขายหน้าได้ที่แม่ของเจ้าสาวเป็นแม่ค้า ซอมซ่อ”
“แม่...แม่เป็นแม่ชั้น ชั้นจะหมั้น จะแต่งงาน แม่ต้องลงไปเห็นว่าลูกของแม่ กำลังจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา...ได้ไปอยู่กับคนที่ดี พร้อมจะดูแลชั้น...ชั้นไม่อาย คุณวีก็ไม่อายด้วย...”
ปานน้ำตาซึม มองปิ่นมณี ลูบหัว
“เออ แกนี่มันกตัญญูนะนังปิ่น...นี่ที่แกได้เจอคนที่ดีอย่างคุณวี ก็เพราะความกตัญญูของแกนี่แหละชั้นว่า”
ปิ่นมณียิ้มปานหัวเราะ แม่ลูกมีความสุข
“ต่อไปขอให้แกได้พบแต่ความสุขนะนังปิ่น”
ปิ่นมณีก้มกราบแม่ ปานน้ำตาซึม ปิ่นมณีก็น้ำตาคลอ
ด้านอรทัยทักทายแขกเหรื่ออยู่หน้างาน ศิวา และธวัชชัยอยู่ด้วย อรทัยหันหาพ่อ
“คุณพ่อไม่ค่อยสบาย ไปนั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวอรรับแขกเอง” ประคองพ่อไปนั่ง “ความจริง คุณพ่อยังป่วยอยู่ น่าจะพักอยู่ที่บ้านนะคะ”
“งานแต่งตาวี ไม่มาได้ยังไง”
อรทัยหันไปเห็นบรรเจิดเดินเข้างานมา ก็เดินไปหาทันที บรรเจิดชะงัก
“ถือว่ายังมีสำนึกนะ ที่มางานแต่งลูก...นึกว่าจะอยู่เอาอกเอาใจแก้วตา”
“ผมรู้หน้าที่ผมดี”
อรทัยยิ้ม
“งั้นมีหน้าที่อะไรก็รีบทำนะคะ เพราะบางหน้าที่ อาจจะต้องสิ้นสุดเร็วๆนี้”
บรรเจิดสะดุดหู “หมายความว่ายังไง?” นึกเอะใจ หันไปเหลียวมองหาวิทย์
“แล้วนี่วิทย์ไปไหน? ปกติเห็นวิทย์ติดอยู่กับคุณนี่”
“ชั้นใช้ให้ไปทำธุระ” อรทัยกวนต่อ
“ธุระอะไร”
อรทัยเหยียดยิ้ม “เดี๋ยวธุระเสร็จ คุณก็จะรู้เอง”
บรรเจิดฟังแล้วกังวล
ขณะเดียวกันวิทย์จอดรถแอบซุ่มอยู่หน้าบ้าน จดสายตามองเข้าไปในบ้านเดช เห็นด้านในบ้าน แก้วตาและเดชกินข้าวกันอยู่
วิทย์หงุดหงิด ที่หาจังหวะไม่ได้ซักที
งานแต่งเริ่มแล้ว แขกสำคัญในแวดวงธุรกิจ และการโรงแรมหลายคนมาร่วมด้วย ธวัชชัยประคองศิวาไปรดน้ำสังข์ให้สุธาวีและปิ่นมณี
“ขอให้มีความสุขนะตาวี..หนักนิดเบาหน่อยก็ขอให้ยอมกัน”
บรรเจิดและอรทัยนั่งรออยู่ อรทัยมองภาพการรดน้ำสังข์ แน่วนิ่ง ใจเย็น รอเวลา
อีกมุมหนึ่ง ศุวิลที่มาร่วมงานมองฟ้าใสที่จงใจนั่งห่างตน จนฟ้าใสรู้สึกตัว หันมาเห็นศุวิลมองจ้องอยู่ ก็หันหลบตา ศุวิลอึ้ง แอบเสียใจ
ศิวารดน้ำสังข์เสร็จ ธวัชชัยพาลงมานั่ง ปานอยู่ด้วยมองลูกสาวอย่างภาคภูมิใจ รอคิวรดน้ำ
อรทัย บรรเจิดเดินขึ้นไปรดน้ำสังข์ต่อ อรทัยเริ่มรดสุธาวีก่อน แล้วหันไปรดน้ำสังข์ให้ปิ่นมณี
“จดจำความสุขตอนนี้เอาไว้ให้ดี เพราะความสุขมันผ่านไปเร็วเสมอ ปิ่นมณี”
ปิ่นมณีชะงัก มองอรทัยที่ยิ้มเย็นให้ ปิ่นมณีเดาใจอรทัยไม่ถูก
อรทัยเดินลงไป บรรเจิดยังรู้สึกกังวลว่าอรทัยใช้วิทย์ไปทำอะไรกันแน่
งานรดน้ำสังข์เช้าเสร็จแล้ว แขกทยอยกันกลับ ศุวิลมองหาฟ้าใสที่ไม่รู้ไปอยู่ไหนแล้ว อรทัยเดินมาพอดี
“อรทัย เห็นฟ้าใสหรือเปล่า”
“ไม่เห็น” ศุวิลจะเดินออก อรทัยเรียกไว้ “เดี๋ยว” ศุวิลชะงัก “งานตอนเย็นน่ะ มาด้วยนะ มีอะไรเด็ดๆจะให้ดู”
ศุวิลงงๆ อรทัยยิ้มเป็นนัย
สุธาวีจูงปิ่นมณีเดินมาที่หน้าห้องแต่งตัว ปิ่นมณียังคิดกังวลเรื่องอรทัย ไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะราบรื่น
“เห็นไหมปิ่น ผมบอกแล้วว่าแม่ไม่มีอะไรหรอก”
“ค่ะ ชั้นอาจจะคิดมากไปเอง”
ฟ้าใสที่หลบหน้าศุวิลอยู่ เดินเข้ามาเห็นสุธาวีกับปิ่นมณีพอดี เดินเข้าไปอวยพรบ่าวสาว
“ปิ่น คุณวี...ฟ้าดีใจด้วยนะ”
สุธาวียิ้มให้ “ขอบใจมากนะ ยัยแกงจืด”
ฟ้าใสยิ้ม
“คุณวีคะ ชั้นขอคุยอะไรกับฟ้าหน่อยนะคะ”
สุธาวีพยักหน้า แล้วเดินเข้าห้องไปก่อน
“ฟ้า เธอไม่โกรธชั้นนะ ชั้นเคยทำอะไรไม่ดีกับเธอไว้ตั้งหลายอย่าง”
“ชั้นไม่โกรธเธอหรอก...ตอนนี้ชั้นรู้แล้วว่าเธอรักคุณวีจริงๆ”
“แล้วเธอกับลมล่ะ เป็นยังไง”
ฟ้าใสอึ้งไป
“ก็ไม่เป็นยังไงหรอก...เค้าไม่เคยชอบชั้น ชั้นก็ไม่ได้ชอบเค้า”
ปิ่นมณีมองๆ
“นี่โกรธกันอยู่เหรอ” ฟ้าใสเจื่อนๆ ไม่ตอบ “ชั้นกับคุณวีผ่านอะไรมาตั้งหลายอย่าง...บางอย่าง ชั้นเองยังไม่คิดเลยว่าจะผ่านมันมาได้ ตอนนี้ถ้าเธอกับลมมีปัญหากัน ก็หันหน้าเข้าหากัน ปรับความเข้าใจกันเถอะ...อย่ามัวเสียเวลาโกรธกันเลย...ชั้นอยากเห็นเธอมีความสุขเหมือนกัน”
ฟ้าใสคิดตามปิ่นมณี นึกถึงศุวิล
ด้านอรทัยประคองศิวาเข้ามาในบ้าน ธวัชชัยตาม
“คุณพ่อพักผ่อนนะคะ งานเลี้ยงตอนเย็นคุณพ่อไม่ต้องอยู่หรอกค่ะ มีแต่เพื่อนๆ ตาวี เค้าอาจจะอยู่นาน สนุกสนานกัน”
“แต่ว่าพ่อไม่ไปมันจะน่าเกลียดหรือเปล่า ตาวีมันจะคิดมากนะ”
“แต่ผมเห็นด้วยกับคุณอรนะครับ ท่านควรจะพักผ่อน” ธวัชชัยบอก
อรทัยยิ้ม “คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ อรอยู่ทั้งคน อรจะคอยดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย”
อรทัยยิ้มในสีหน้า เพราะมีแผนที่จะจัดการกับปิ่นมณี
อ่านต่อหน้า 2
จ้าวพายุ ตอนที่ 15 (ต่อ)
บรรยากาศงานเลี้ยงฉลองแต่งสุธาวีกับปิ่นมณีตอนกลางคืน คลาคร่ำเต็มไปแขกเหรื่อไฮโซมากมาย ทุกคนแต่งตัวสวยงาม บ่งบอกฐานะหรูไฮ
ส่วนที่มุมหนึ่งสราลัยแต่งตัวสวยงามเดินเชิดเข้ามา กลุ่มผู้หญิงไฮโซสามสี่คนเห็นเข้าก็รีบปรี่ไปหา
หญิง 1 ทัก “พวกเรา ดูซิว่าใครมา”
สราลัยหน้าตึง
ผู้หญิง 1 พูดต่อ “สาวมั่นแห่งปี อุตส่าห์มางานแต่งงานแฟนเก่า...เริ่ดนะยะ” หญิงคนนั้นมองสราลัยแล้วชะงัก “นี่เธอไม่ได้อาละวาดใช่ไหมสรา”
“เห็นชั้นเป็นคนยังไง” สราลัยเชิด “นี่ถ้าชั้นไม่มาสิจะยิ่งขายหน้า คนอื่นเค้าจะหาว่าชั้นแพ้” พวกเพื่อนๆ ร้องโห “ถึงยังไงชั้นก็หาได้ดีกว่าวีอยู่แล้ว”
หญิง 2 ประชด “จ้ะ”
สราลัยหันขวับ เพื่อนๆ ยิ้มให้
สุธาวีอยู่ในชุดสูทงานเลี้ยงกลางคืนยืนรออยู่ ปานพาปิ่นมณีออกมา ปิ่นมณีในชุดเจ้าสาว สวยงดงาม ช่างแต่งหน้าทำผม รีบเข้าไปจัดแจงดูความเรียบร้อยอีกครั้ง
ปองพลกับพันนั่งอยู่อีกมุม มองปิ่นมณีแล้วก็ปลื้มไปด้วย
“คุณสวยมากปิ่น....”
ปิ่นมณีมองตัวเองที่เคียงข้างสุธาวีในกระจกอีกครั้ง ไม่นึกไม่ฝัน ว่าเธอจะได้สวมชุดเจ้าสาวเข้าพิธีกับสุธาวีจริงๆ
ปานน้ำตาคลอ ยกชายเสื้อเช็ดน้ำตา
“แต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบลงไปเถอะ...แม่จะรออยู่นี่ ถ่ายรูปมาให้แม่ดูเยอะๆนะปิ่น”
“นี่หมายความว่าแม่จะไม่ลงไปร่วมงานเหรอ”
อรทัยเปิดประตูเข้ามา จำปาถือถาดใส่แก้วกาแฟตามมาด้วย
“นั่นน่ะสิ งานแต่งงานลูกสาวทั้งที คุณปานไม่ไปร่วมงานไม่ได้หรอก”
ทุกคนชะงัก
“งานแต่งหรูขนาดนี้ต้องมีเหล้าดีๆ ให้กินแน่” ปานยิ้มย่อง
ปานถลึงตาดุพัน แล้วรีบหันหาอรทัย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณ...พวกชั้นกลัวจะไปทำให้คุณขายหน้า...อยู่นี่ดีแล้วค่ะ”
“ไม่เป็นไร ชั้นไม่ถือ” ทุกคนงงๆ “นี่เป็นการแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของลูกสาวเชียวนะ..ไปเถอะ ชั้นเตรียมโต๊ะวีไอพีไว้ให้เธอแล้ว...เธอจะได้เห็นชัดๆ ว่าลูกสาวเธอมีความสุขนาดไหน”
ปานเหรอหรา แต่ก็ดีใจ
สุธาวีก็ดีใจที่อรทัยยอมอ่อนลงได้ขนาดนี้ แต่ปิ่นมณีไม่ไว้ใจ
ปาน พัน ปองพล ปิ่นมณี และสุธาวีกำลังจะเดินออกไป อรทัยเรียกไว้
“เดี๋ยว...ชั้นขอคุยกับลูกชายชั้นหน่อย....คนอื่นออกไปก่อน”
ทุกคนชะงักมองหน้ากัน ปิ่นมณีสบตากับสุธาวี แอบกังวล
ในที่สุดปิ่นมณี ปาน พัน และปองพล พากันออกไปแล้ว
อรทัยหันหยิบแก้วกาแฟจากจำปา
“วี กินกาแฟหน่อยนะลูก ตื่นตั้งแต่เช้า เดี๋ยวกว่าจะเลิกงานก็คงดึก”
สุธาวียิ้มๆ รับมาดื่ม
อรทัยกระหยิ่ม สบตาจำปาสมใจ เพราะในแก้วกาแฟแอบวางยานอนหลับไว้
สุธาวีดื่มจนหมดแล้ววาง อรทัยพอใจ
ปิ่นมณี ปาน ปองพล และพัน เดินมาตามทางเดินหน้าห้องแต่งตัว ปิ่นมณีคิดเป็นห่วงเรื่องที่อรทัยคุยกับสุธาวี ปาน พัน ปองพลเดินตามๆ กันมา
“นึกว่าแม่ผัวแกจะร้ายกว่านี้ซะอีกนังปิ่น” ปานว่า
“นั่นสิ...หรือว่าความดีของแกจะชนะใจแม่ผัวแกได้แล้ว”
ปิ่นมณีชะงัก ไม่มีทางเป็นไปได้
“คุณอรดีจนน่ากลัว...ชั้นกลัวว่าเค้าคิดวางแผนอะไรไว้”
ปิ่นมณีคิดหนัก รู้สึกเป็นกังวล
งานเลี้ยงฉลองดำเนินไป ปิ่นมณียืนไหว้แขกเหรื่อ รับแขกอยู่ ปานอยู่ด้วย สราลัยเดินเข้ามาหา
“เธอนี่เก่งนะปิ่นมณี ถึงขนาดทำให้วีแต่งงานด้วยได้”
ปิ่นมณีพยายามนิ่ง ไม่อยากมีเรื่อง
“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาอวยพรให้ชั้นกับคุณวี”
“นี่ ถามจริงๆ เถอะ เธอปล่อยท้องจับวีเหมือนในละครหรือเปล่าเนี่ย”
ปานที่อยู่ข้างๆไม่พอใจ สราลัยเชิดแล้วเดินไปอีกมุม ปิ่นมณีจับแม่ไว้
“แฟนเก่าคุณวีเค้าน่ะแม่ อย่ามีเรื่องกันเลย”
“ถ้าเจอข้างนอกจะตบให้ มาว่าลูกชั้น” ปานว่า
ส่วนในห้องแต่งตัว สุธาวีก้มกราบอรทัยที่นั่งอยู่
“ผมขอบคุณคุณแม่นะครับ ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณแม่จะยอมจัดงานให้เราจริงๆ แม่ครับ...ตอนนี้ผมรู้แล้วครับ ว่าคุณแม่รักผม...ถึงได้ยอมทำเพื่อความสุขของผมขนาดนี้”
อรทัยชะงักคำพูดแทงใจจังๆ งานแต่งที่เกิดขึ้นมีแผนการซ่อนอยู่ อรทัยมองตาสุธาวีที่มองมาอย่างไม่นึกสงสัยแล้วแอบรู้สึกผิด
“จำไว้นะตาวี ไม่มีอะไรที่แม่รักมากไปกว่าแกอีกแล้ว ทุกอย่างที่แม่ทำ แม่ทำไปก็เพื่อแก...”
สุธาวีกอดแม่ อรทัยลูบหัวสุธาวีรักใคร่ ในใจนึกถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เธอสลัดความคิดทิ้ง
“งั้นผมไปนะครับ ปิ่นคงรอนานแล้ว”
สุธาวีลุกขึ้น แต่ในสายตาเริ่มเห็นเป็นภาพเบลอๆ แล้วก็ดับวูบไป สุธาวีร่วงฟุบไป
อรทัยก้มลงมาลูบหัวสุธาวีอย่างถนอม
“แม่รักแกนะตาวี....แม่จะไม่ยอมให้อนาคตของแกต้องพังเพราะผู้หญิงอย่างปิ่นมณีเด็ดขาด”
อรทัยออกมา ล็อคห้องเรียบร้อย มือถือดัง หน้าจอเห็นว่าวิทย์โทร.มา อรทัยกดรับ
“เรียบร้อยแล้วเหรอวิทย์”
วิทย์แอบอยู่ในรถที่จอดซุ่มอยู่แถวหน้าบ้านเดช
“ยังครับคุณอร...เดชมันอยู่ติดกับแก้วตาตลอดเวลาเลยครับ”
อรทัยขัดใจ
จังหวะนี้บรรเจิดเดินกำลังจะเลี้ยวเข้ามาที่มุมพอดี
“หาจังหวะจัดการกับมันให้ได้”
บรรเจิดอยู่ที่มุม ได้ยินเข้าก็ชะงัก เดินมาหาอรทัย
“คุณใช้วิทย์ให้ไปทำอะไร?”
อรทัยอารมณ์เสีย ไม่ตอบ เดินเชิดลงไปเลย
บรรเจิดเครียด สังหรณ์ใจว่าอรทัยจะทำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับแก้วตา
บรรยากาศงานเลี้ยงกลางคืนคึกคัก แขกเหรื่อไฮโซมากมายนั่งอยู่ตามโต๊ะที่จัดไว้ ตรงโต๊ะหน้าสุด เห็นปาน พัน และปองพลนั่งอยู่เด๋อๆ ด๋าๆ พันเอาแต่เรียกบริกรเพื่อขอเหล้า ปานพยายามปราม
สราลัยนั่งอยู่อีกโต๊ะ สีหน้าไม่ยินดีด้วยซักนิด
ปองพลพูดกับปาน “แม่ เมื่อไหร่เค้าจะเริ่มงานสักทีเนี่ย”
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” ปานหันมามองพันที่เมาปลิ้นแล้ว ปานตี “นี่ก็เมาตั้งงานยังไม่เริ่ม”
ปิ่นมณียืนรอ กังวลว่าสุธาวีหายไปไหนทำไมไม่มาสักที มองไปที่มุมหนึ่ง เห็นอรทัยเดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่คุมวิดีโอพรีเซ็นเทชั่น ปิ่นมณีชะงัก
อรทัยเดินกลับไป ปิ่นมณีสงยิ่งสัย
อรทัยเดินออกมาจากหลังเวที เจอฟ้าใสและศุวิลที่ท่าทางกังวลเดินมาหา
“อาอรคะ คุณวีไปไหนคะ? นี่มันได้เวลาเริ่มงานแล้วนะคะ”
“อาก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวคงลงมาเองแหละ”
ฟ้าใสกังวล
“ฟ้าไปตามหาคุณวีดีกว่า”
ฟ้าใสวิ่งออกไปเลย
อรทัยเรียกไว้ไม่ทัน “ฟ้า!”
“ผมไปด้วย”
ศุวิลตามฟ้าใสออกไป อรทัยขัดใจ
ฟ้าใสศุวิลหน้าตื่นเข้ามาหยุดที่หน้าห้องแต่งตัวเจ้าบ่าว ฟ้าใสบิดลูกบิด แล้วชะงัก
“ทำไมล็อคล่ะ” ฟ้าใสคิด
ศุวิลเคาะประตูระรัว “สุธาวี ๆๆ”
“คุณวีคะ!”
ฟ้าใสกับศุวิลพยายามเรียกอยู่ครู่หนึ่ง
“คงจะไม่อยู่ในนี้หรอก”
ฟ้าใส ศุวิลมองหน้ากัน คิดว่าสุธาวีไม่อยู่ เลยแยกย้ายกันไปหาที่อื่น
สุธาวียังนอนหลับอยู่ในห้องไม่รู้เรื่องราวใดๆ
ส่วนในห้องจัดเลี้ยง พิธีกรเดินมาหาอรทัย
“คุณอรครับ ทำไมคุณสุธาวียังไม่ลงมาครับ”
อรทัยยิ้ม “เดี๋ยวชั้นจัดการเอง”
อรทัยหยิบไมค์ในมือพิธีกรมา เดินขึ้นเวทีไปบนเวที ทุกคนตบมือ ปิ่นมณีเห็นก็เริ่มใจไม่ดีว่าอรทัยจะทำอะไร
“ขอบคุณค่ะแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ดิชั้นขอบคุณมากที่ทุกท่านให้เกียรติมางานแต่งของปิ่นมณีกับสุธาวี...ตอนนี้เจ้าบ่าวติดธุระนิดหน่อย เรามาทำความรู้จักกับเจ้าสาวก่อนดีกว่าค่ะ....ปิ่นมณี”
แขกเหรื่อปรบมือกันปิ่นมณียิ่งใจเสียว่าอรทัยจะทำอะไร ทุกคนมองมาที่ปิ่นมณีที่จำใจเดินขึ้นเวทีไป ก่อนจะกระซิบถาม
“คุณแม่จะทำอะไรคะ”
อรทัยดึงปิ่นมณีมาใกล้ตนเองกระซิบบอก “เดี๋ยวก็รู้” อรทัยหันกลับไหพูดกับแขกเหรื่อ “วีลูกชายของดิชั้น เค้ารักปิ่นมณีมาก เค้าบอกเสมอว่าปิ่นมณี เป็นคนดี เป็นผุ้หญิงเก่ง ตั้งใจทำงานทำการ พอดิชั้นได้รู้จักกับปิ่นมณีจริงๆ ก็เห็นว่าลูกชายพูดถูกเกือบทุกอย่าง”
ปิ่นมณีสงสัยว่าอรทัยจะทำอะไร
“ที่บอกว่าเกือบทุกอย่าง เพราะว่ายังมีบางอย่างที่ปิ่นมณีเค้าปกปิดไว้”
ปิ่นมณีตกใจ แขกเริ่มงง เจ้าหน้าที่กดปุ่มทำงาน ภาพที่โปรเจ็คเตอร์ฉายขึ้นทันที เป็นภาพนวลที่ฟรีซอยู่
ปิ่นมณีตกใจ ผงะ หน้าเสีย ตระหนักแล้วว่ากำลังเจอกับอะไร
อ่านต่อหน้า 3
จ้าวพายุ ตอนที่ 15 (ต่อ)
บรรดาแขกเหรื่อทุกคนในงานซุบซิบๆ พากันงงๆ ว่าคืออะไร อรทัยพูดขึ้น
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อนวล เป็นแม่เล้าไฮโซ คอยจัดหาเด็กไปบำเรอลูกค้าชั้นสูง ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมคะ ว่านวลเกี่ยวข้องอะไรกับปิ่นมณี”
อรทัยพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่กดเล่น ภาพที่โปรเจ็คเตอร์ เป็นคลิปที่อรทัยแอบอัดไว้นั่นเอง
นวลนั่งลงทักทาย “สวัสดีค่ะคุณอรทัย ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ชั้นรับใช้เหรอคะ”
“มีแน่ คราวนี้ชั้นอยากให้เธอไปแฉปิ่นมณีว่าความจริงแล้วเค้าทำอาชีพอะไร”
“ฉันมีธุรกิจของฉัน ไม่ได้รับจ้างแฉเรื่องชาวบ้าน”
อรทัยยิ้ม “ก็แค่พูดความจริง ปิ่นมณีเค้าขายตัวอยู่กับคุณจริงๆ ไม่ใช่เหรอ”
“ไอ้จริงน่ะมันก็จริง ถ้าชั้นไปแฉปิ่นอย่างนั้น ต่อไปจะมีเด็กที่ไหนกล้ามาทำงานกับชั้น”
อรทัยชะงัก
“อีกอย่าง เรื่องของปิ่นมณีอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กของชั้นก็ได้...ว่าไม่ว่าเราจะผ่านศึก ผ่านแขกมาเท่าไหร่ สุดท้ายก็อาจจะหาผู้ชายดีๆ รวยๆ ตระกูลใหญ่ๆ มาเป็นสามีแบบปิ่นมณีก็ได้...เสียใจด้วยนะคะ คุณอรทัย”
นวลเดินเชิดออกไป
บรรดาแขกฮือฮากัน ปิ่นมณีตัวชา หน้าชา อรทัยยิ้มสะใจ
“ก็อย่างที่เห็นนะคะ ความจริงแล้ว ปิ่นมณีเค้าเป็นเด็กเบอร์หนึ่งแม่เล้านวล”
ปานทนไม่ไหว พรวดขึ้นไปบนเวที
“ไม่จริงนะ! ลูกชั้นโดนใส่ร้าย! ลูกชั้นไม่ได้ขายตัว” ปานหันมาหาปิ่นมณี “ปิ่น แกบอกเค้าไปสิ ว่าแกไม่ได้ทำ” ปิ่นมณีพูดไม่ออก ปานหันมาเอาเรื่องอรทัย “แกไม่อยากให้นังปิ่นแต่งงานกับคุณวี ก็ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้!”
ปานน้ำตาไหลพราก ปิ่นมณีเจ็บปวด ที่ทำแม่เสียใจ อรทัยยิ้มสาสมใจ
ฟากฟ้าใสและศุวิลหน้าตื่นกลับมาที่หน้าห้อง
“หาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอเลย ผมว่าอยู่ในห้องนี้แหละ”
ศุวิลทุบประตูเรียก
“สุธาวี!”
ศุวิลร้อนใจ ตัดสินใจถีบประตูเข้าไปเลย ฟ้าใสตามเข้ามา สองคนเห็นสุธาวีนอนอยู่ สองคนชะงักงงๆ เข้าไปประคองเรียกสติสุธาวี
“คุณวี!”
ฟ้าใส กะ ศุวิลเขย่าๆ สุธาวีค่อยๆ ได้สติ ลืมตาขึ้นมาออกอาการตกใจ
“นี่มันกี่โมงแล้ว”
“ทำไมสุธาวีเป็นอย่างนี้?” ศุวิลแปลกใจมาก
“สงสัยฝีมืออาอร”
สุธาวีนึกถึงปิ่นมณีก็เป็นห่วงขึ้นมา
“ปิ่น!”
สองคนช่วยกันหิ้วปีกสุธาวีออกไป
ในห้องจัดเลี้ยง บรรดาแขกเหรื่อฮือฮากันอยู่
“ใจเย็นๆ นะปาน...เธออาจจะคิดว่าชั้นใส่ร้ายลูกเธอ...งั้นก็ลองดูนี่”
อรทัยพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ ที่จอโปรเจ็คเตอร์ เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกวิทย์แอบถ่ายไว้ ตอนที่สุธาวีจับได้ว่าปิ่นมณีขายตัว
โดยคลิปนี้ตัดต่อแล้วไม่เห็นหน้าสุธาวี ภาพในคลิปเหมือนกับว่าผู้ชายเป็นลูกค้าคนหนึ่งของปิ่นมณี
ปิ่นมณีนั่งอยู่บนเตียงในชุดลูกไม้เซ็กซี่ แล้วเอาผ้าผูกตาตัวเอง
สักครู่ได้ยินเสียงฝีเท้าคน ก็คิดว่าลูกค้ามาถึงแล้ว
“มาแล้วเหรอคะ”
ปิ่นมณีเดินเข้าไปจับตัวสุธาวี ซึ่งงงงันอยู่
“รอคุณอยู่ตั้งนาน”
ปิ่นมณีกอดซบสุธาวี
สุธาวียังงงๆ ไม่รู้ว่าแม่กับปิ่นมณีทำอะไร
“คืนนี้แพทตี้เป็นของคุณนะคะ คุณชาร์ล...”
สุธาวีชะงัก งงว่าชาร์ลไหน แพทตี้อะไร
“แพทเป็นเด็กไม่ดี..รอให้คุณลงโทษอยู่ คุณจะทำอะไรก็ได้นะคะ...ตามใจคุณ”
“คุณชาร์ลคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ไม่เห็นพูดอะไรเลย”
สุธาวีเจ็บปวดรวดร้าว ประคองหน้าปิ่นมณีมามอง ปิ่นมณีคิดว่าเขาจะจูบ ยิ้มพริ้มรอรับ สุธาวีค่อยๆ ดึงผ้าที่ปิดตาปิ่นมณีออก
ผ้าปิดตาร่วงอยู่กับพื้น เนื้อตัวปิ่นมณีแนบชิดสุธาวีอยู่ เหมือนทั้งคู่เตรียมตัวจะมีสัมพันธ์กัน
ภาพฟรีซไว้ และจบลงเท่านั้น
แขกเหรื่อในงานทุกคนต่างอึ้งเป็นแถบ สราลัยชะงัก ก่อนจะเผยยิ้มออกมา ปิ่นมณีตกใจสุดขีด ไม่คิดว่าอรทัยจะทำขนาดนี้ ปานยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่ น้ำตาไหล
อรทัยยิ้มสะใจ “เป็นยังไงบ้างคะ ความร้อนแรงของปิ่นมณี ความจริงแล้วมีคลิปเต็มๆด้วยนะคะ แต่เกรงว่ามันจะอุจาดเกินไป”
ปิ่นมณีมองภาพแขกที่ต่างพากันซุบซิบๆ มองหล่อนด้วยสายตาดูถูก ปิ่นมณีน้ำตาไหล
อรทัยพูดเสียงกร้าวอย่างสะใจ “ชั้นอรทัย เจนจรัสตระกูล ขอประกาศไว้ตรงนี้ ว่าจะไม่ยอมให้ผู้หญิงขายตัวคนนี้ เข้ามาร่วมวงศ์ตระกูลเด็ดขาด”
ปานร้องไห้ หันมามองหน้าปิ่นมณี
“แม่...”
ปิ่นมณีแตะแขนแม่ แต่ปานชักมือออก แล้ววิ่งหนีออกไปเลย ปิ่นมณีทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้โฮ
ศุวิลและฟ้าใสหิ้วปีกสุธาวีเข้ามา อาการสุธาวียังมึนยานอนหลับอยู่
“ปิ่น...”
แขกเหรื่อทุกคนหันไปมองสุธาวี แล้วซุบซิบกัน ปิ่นมณีเห็นทุกคนนินทา ก็เสียใจที่ทำให้คนที่ตนรักอับอาย สุธาวีมองปิ่นมณีด้วยความสงสาร เข้าไปแตะตัว ปิ่นมณีผละตัววิ่งหนีออกไปเลย
สุธาวีที่มึนๆ ฤทธิ์ยานอนหลับอยู่จะรีบตาม อรทัยดึงไว้
“จะไปไหนตาวี”
สราลัยยิ้มถือแก้วเดินเข้ามาหา ชูแก้ว
“ทุกคนคะ เจ้าบ่าวมาแล้วค่ะ....ดื่มให้เจ้าบ่าวหน่อยค่า..เชียร์สสส” หล่อนหันมาหาสุธาวี “วีคะ สราไม่นึกเลยนะคะ ว่าแฟนของวี นอกจากขายรถแล้วยังจะขายตัวด้วย...เอาไว้สราจะแนะนำลูกค้าให้เค้าแล้วกันนะคะ”
สุธาวีปัดแก้วในมือสราลัยร่วงแตกไป
“พอได้แล้วสรา” แล้วหันมาหาหาอรทัย “ทำไมแม่ถึงใจร้ายอย่างนี้ แม่จัดงานแต่งงานให้เพื่อฉีกหน้าปิ่น”
“ก็ชั้นคนเดียวทำให้แกตาสว่างไม่ได้...ชั้นก็เลยอยากจะให้คนอื่นมาช่วยทำให้แกตาสว่าง แกเห็นหรือยัง ว่าถ้าความลับเรื่องมันขายตัวแตกมาแล้วจะเป็นยังไง..มันก็เป็นอย่างวันนี้นี่แหละ!”
สุธาวีวิ่งออกไปเลย
“ตาวี!”
ปิ่นมณีนั่งร้องไห้อยู่เงียบๆ อยู่ตรงลานจอดรถ ปานตามมา ปิ่นมณีเงยหน้ามอง เห็นเป็นปานที่น้ำตาไหล ท่าทางโกรธจัด
“แม่”
ปานตบเปรี้ยงทันที ปิ่นมณีอึ้ง ปานร้องไห้เขย่าตัวลูกไปมา “ทำไมแกทำอย่างนี้อีปิ่น ถึงเราจะจนชั้นก็ไม่เคยสั่งสอนให้แกไปขายตัว แกทำไปทำไม !”
ปิ่นมณีร้องไห้ “ชั้นขอโทษ....แม่ ชั้นขอโทษ”
ปานน้ำตาไหล “หรือเป็นเพราะชั้นใช่ไหม เอาแต่ขอเงินแก ถ้าแกไม่มี ทำไมไม่บอกชั้น แกไปขายตัวทำไม”
ปิ่นมณีร้องไห้หนัก “ชั้นขอโทษชั้นผิดเองแม่ ชั้นขอโทษ”
ปานเห็นปิ่นมณีร้องไห้หนัก ก็สงสาร รู้ตัวว่าตัวเองมีส่วน
“แม่ผิดเองที่เอาแต่ขอเงินแก พอแกไม่มีให้ แม่ก็ดุก็ด่า แกเลยต้องทำอย่างนี้”
ปิ่นมณีร้องไห้ กอดปาน
สุธาวีที่ยังมึนฤทธิ์ยา เดินโซเซตามหาปิ่นมณีจนมาเจอพอดี
“ปิ่น...”
ปิ่นมณีชะงัก
สุธาวีจับมือปิ่นมณี
“ไป เราไปแต่งงานกัน”
“แต่ว่า...”
“ผมไม่สนว่าใครจะว่ายังไง...ผมรักคุณ..ชาตินี้ ผมจะแต่งกับคุณคนเดียวเท่านั้น”
ปิ่นมณีอึ้งมองสายตาสุธาวีที่รักตนอย่างจริงใจ สวมกอดสุธาวีไว้แน่น...แล้วพยายามตัดใจ
“ปิ่นไม่คู่ควรกับคุณ...คุณวีลืมชั้นเถอะนะคะ”
ปิ่นมณีผละออกจากสุธาวีแล้ววิ่งหนีไป สุธาวีพยายามวิ่งตาม แต่ยังมึนฤทธิ์ยา
“ปิ่น!”
อ่านต่อหน้า 4
จ้าวพายุ ตอนที่ 15 (ต่อ)
บรรเจิดมาจอดรถหน้าบ้านแก้วตา ร้อนใจรีบลงมา เปิดบ้านเข้ามา เห็นไฟมืดทั้งหลัง
“แก้ว! แก้ว!”
บรรเจิดเปิดไฟพรึ่บ วิ่งหาแก้วตาทั่วบ้าน แต่ไม่เจอ บรรเจิดเครียดกดมือถือโทร.หาแก้วตารอสาย
ที่บ้านเดช มือถือแก้วตาดัง แก้วตาหยิบมาดู เห็นที่หน้าจอว่าบรรเจิดโทรมา ก็ชะงักนึกกลัว
“คุณบรรเจิด....ถ้าติดต่อคุณบรรเจิด คุณอรต้องตามหาเราอีกแน่”
แก้วตากลัวกดตัดสาย แล้วปิดเครื่องไปเลย
บรรเจิดเครียด ที่แก้วตาไม่รับสาย รีบวิ่งออกไป
วิทย์ที่จอดรถซุ่มดูอยู่ที่หน้าบ้านเดช ยังรอจังหวะหาทางเข้าหาแก้วตา
ส่วนในบ้าน แก้วตาปิดตาเดช พากันเดินมาที่โต๊ะ
“อะไรเนี่ยแก้ว”
แก้วตาพาเดชเดินมาถึงที่โต๊ะเอามือออก เปิดตาให้เดชดู
เดชพบว่าที่โต๊ะมีเค้กอยู่ก้อนหนึ่ง หน้าเค้กเขียนว่า Happy Birthday พี่เดช
“วันนี้วันเกิดพี่เดช...แก้วเลยทำให้เค้กให้...แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะคะพี่เดช”
เดชอึ้ง “ขอบใจมากนะแก้ว..แต่แก้วไม่น่าลำบากเลย”
“แค่นี้แก้วไม่ลำบากหรอกค่ะพี่เดช...แก้วต่างหากที่ทำให้พี่ต้องลำบาก..แต่พี่ก็ยังช่วยเหลือแก้ว พี่มีบุญคุณกับแก้วมาก ต่อไปให้แก้วดูแลพี่นะคะ”
เดชยิ้ม ซาบซึ้งใจ
“เดี๋ยวแก้วปักเทียนให้นะคะ พี่เดชจะได้เป่าเค้ก”
แก้วตาหันไปรื้อถุงแล้วชะงัก
“อ้าว เทียนที่แก้วซื้อมาหายไปไหนแล้ว”
“หาไม่เจอก็ไม่เป็นไรหรอกแก้ว” เดชบอก
“ไม่ได้หรอกค่ะ แก้วอยากให้พี่เดชเป่าเทียน พี่เดชจะได้อธิษฐาน พี่เดชออกไปซื้อเทียนมาหน่อยนะคะ”
เดชยิ้มรับ
“แก้วรอพี่แป้ปนึงนะ เดี๋ยวพี่มา”
เดชเดินออกไปแก้วตาเดินออกมาส่งที่หน้าบ้าน
วิทย์มองอยู่ เห็นเดชสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ออกไป แก้วตากลับเข้าบ้านไป วิทย์ยิ้มเหี้ยม หยิบมีดพกขึ้นมา
แก้วตาเตรียมจานเล็กๆ รอเดชมากินเค้กฉลองกัน ส่วนที่หน้าบ้าน วิทย์ปีนรั้วเข้ามาได้แล้ว มือถือเดชที่วางอยู่ดัง แก้วตาหยิบมาดู ที่หน้าจอ เห็นว่าเป็นบรรเจิดโทร.เข้ามา แก้วตาชะงัก
“คุณบรรเจิด” หล่อนลังเล จะรับดีไหม
บรรเจิดขับรถมาบนถนน หน้าตาเคร่งเครียด ถือมือถือรอสายอยู่ ยิ่งร้อนรนใจที่ไม่มีคนรับสาย
ด้านแก้วตามองมือถือ ไม่แน่ใจว่าจะรับดีไหม
วิทย์มายืนอยู่หน้าประตูแล้ว
ขณะแก้วตามองมือถืออย่างลังเล
“หรือว่าคุณบรรเจิดจะมีเรื่องด่วน”
แก้วตาตัดสินใจกดรับ
“แก้วเองค่ะ คุณบรรเจิด”
“แก้ว แก้วอยู่กับเดชเหรอ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แก้วตาชะงักเหลียวไปมอง “พี่เดชกลับมาแล้ว คุณบรรเจิดคุยกับพี่เดชนะคะ”
แก้วตาถือมือถือเดินไปเปิดประตู เปิดออก เห็นวิทย์ยืนหน้าเหี้ยมอยู่ที่หน้าประตู แก้วตาตกใจ วิทย์ผลักแก้วตาล้ม มือถือกระเด็นหลุดจากมือ แก้วตากรี๊ด
บรรเจิดอยู่ในได้ยินเสียงกรี๊ดของแก้วตาผ่านมือถือ ก็ตกใจ รีบเหยียบคันเร่งจนมิด
ส่วนแก้วตาลุกขึ้นจะวิ่งหนี วิทย์ดึงไว้เหวี่ยงจนหล่อนล้มลง วิทย์ชูมีด แก้วตาตกใจ ละล่ำละลัก
“พี่วิทย์ พี่อย่าทำอะไรแก้วเลยนะคะ”
“อย่าโกรธผมเลยนะ ผมทำตามคำสั่งคุณอร” วิทย์บอก
“แก้วเลิกกับคุณบรรเจิดแล้วจริงๆ นะคะ ตั้งแต่วันนั้น แก้วก็ไม่ได้กลับไปหาคุณบรรเจิดอีกเลย”
“เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องของผม...”
แก้วตาอ้อนวอนสุดชีวิต “พี่อย่าฆ่าแก้วเลยนะคะ”
“คุณอรไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น...คุณอรแค่สั่งว่า ให้ทำให้แก้วเสียโฉม จะไม่ไปหลอกใครอีก”
แก้วตาหวาดกลัวสุดขีด
ฟากบรรเจิดขับรถราวกับจะบินมา เล็งเห็นมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านหน้า บรรเจิดเพ่งมอง แล้วจำได้ว่าเป็นรถเดช บรรเจิดตัดสินใจเร่งเครื่องแซงหน้าไปตัดหน้มอเตอร์ไซค์ทันที
เดชเบรคเอี๊ยด ที่มีรถมาตัดหน้า บรรเจิดเบรคเอี๊ยด ลงจากรถ
เมื่อเห็นว่าเป็นใครเดชตกใจ “คุณบรรเจิด”
บรรเจิดบอกอย่างร้อนรน “เดช คุณอรส่งวิทย์มาจัดการแก้ว”
เดชช็อก “อะไรนะครับ”
“ตอนนี้วิทย์อยู่กับแก้วแล้วด้วย!”
แก้วตากลัวตัวสั่นไปทั้งร่าง วิทย์ถือมีดหน้านิ่งๆ เอามีดไปใกล้หน้าแก้วตา ทำท่าจะกรีด แก้วตาปัดป้องจนมีดบาดมือ แก้วตากรี๊ดถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว
แก้วตามองประตู ภาวนาให้เดชรีบกลับมา พร้อมกับคิด พยายามหาทางถ่วงเวลา
“พี่วิทย์คะ..พี่กลับไปบอกคุณอรสิคะว่าพี่กรีดหน้าแก้วแล้ว...รับรอง แก้วจะไม่แก้วจะไม่ไปยุ่งกับคุณอรอีก” วิทย์ชะงัก “ถ้าพี่อยากได้อะไร แก้วจะให้ทุกอย่าง”
แก้วตาผวาเข้ากอดทันที วิทย์ชะงักงัน
แก้วตามองไปที่แจกันข้างตัว ค่อยๆ เอื้อมมือหยิบ พอจับแจกันได้ ก็ง้างจะฟาดหัววิทย์ แต่วิทย์รู้ทัน จับมือแก้วตาไว้ได้
“เจ้าเล่ห์นักนะ”
วิทย์คว้าแจกันออกเหวี่ยงทิ้งไป แล้วตบแก้วตาคว่ำ วิทย์เอามีดมาจ่อใกล้หน้าแก้วตา จะกรีดหน้า บรรเจิด และเดชพุ่งเข้ามา
“อย่านะวิทย์” บรรเจิดตะโกนก้อง
เดชล้วงปืนมาเล็งใส่วิทย์
"ปล่อยแก้วเดี๋ยวนี้"
วิทย์ชะงักนิดๆ รีบล็อคคอแก้วตาไว้ เอามีดจ่อ พูดขู่
"อย่าเข้ามานะ!"
เดชเห็นวิทย์จ่อมีดใกล้แก้วตา เลยไม่กล้าทำอะไร
บรรเจิดเกลี้ยกล่อม "วิทย์ แกกลับไปบอกคุณอร ว่าชั้นกับแก้วเลิกกันแล้ว" วิทย์ลังเล "ชั้นเลิกกับแก้วแล้วจริงๆ"
วิทย์คิดเครียดลังเลหนัก แก้วตาเห็นจึงได้จังหวะ ดึงมือวิทย์ที่ถือมีดออกจากตัวเอง วิทย์และแก้วตายื้อมีดกันไปมา
บรรเจิดตกใจ กลัวแก้วตาจะสู้แรงวิทย์ไม่ได้ รีบพุ่งเข้าไปช่วยแก้วตาแย่งมีดจากวิทย์
กลายเป็นสามคน บรรเจิด วิทย์ และแก้วตา ยื้อแย่งมีดกันอยู่ เดชถือปืนพยายามเล็ง แต่ไม่ได้จังหวะ กลัวบรรเจิดและแก้วตาโดนลูกหลง
บรรเจิดออกแรงดึงมีดจากวิทย์เต็มที่ วิทย์ยื้อไว้เต็มแรง ในที่สุดมือของวิทย์ก็หลุดจากมือบรรเจิด
มีดในมือวิทย์วืดไปแทงแก้วตาจนมิดด้าม
ร่างแก้วตาทรุดลง ทุกคนตกใจ วิทย์เองก็ตกใจ
บรรเจิดร้องลั่น“แก้ว!”
เดชตะโกนก้อง “แก้ว”
เดชแค้นใจ หันปืนไปที่วิทย์ ยิงปัง! วิทย์ทรุดลง เลือดไหลอาบ บรรเจิดพุ่งเข้าไปกอดแก้วตา
“หน้าที่เราขัดกัน ชั้นคิดแล้วว่าสักวัน วันนี้ต้องมาถึง”
วิทย์ว่าพลางจะชักปืนของตนจะยิงสู้ แต่เดชไวกว่ายิงซ้ำ กระสุนทะลุขั้วหัวใจ วิทย์ดับดิ้นสิ้นใจทันที
เดชโผไปหาแก้วตาที่เลือดออกท่วมตัว
“แก้ว”
เดชรีบช้อนอุ้มแก้วตา
“รีบพาแก้วไปโรงพยาบาลเร็ว”
บรรเจิดตะโกนก้อง
อ่านต่อตอนที่ 16