xs
xsm
sm
md
lg

พรมแดนหัวใจ ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พรมแดนหัวใจตอนที่ 2

จีรณะลากโสภิตเข้ามาอีกมุมของโรงพยาบาล โสภิตสะบัดมือเต็มแรงจนหลุด

“นี่นายถือดียังไง มาฉุดกระชากลากถูชั้นอย่างนี้”
“ก็คุณทำตัวมีพิรุธ เห็นหน้าผมก็วิ่งหนีใครจะไปรู้ คุณอาจจะแอบมามุ่งร้ายหมายชีวิตน้องสาวผมก็ได้”
โสภิตสวนกลับ “อย่าคิดว่าน้องคุณสำคัญขนาดนั้น ชั้น...ชั้นมาเอายาให้แม่ต่างหาก”
“อ๋อ...ใช่สิ ก็ใจไม้ไส้ระกำกันทั้งบ้าน จะไปคิดห่วงใยใครเค้าเป็น” จีรณะขยับจะไป โสภิตละอายใจโพล่งถามไป
“เดี๋ยวคุณ...คุณจิตรา อาการเป็นยังไงบ้าง”
จีรณะชะงักหันกลับมา “เรื่องแค่นี้น้องสาวผมไม่ตายง่ายๆหรอก อย่าหวังว่าจะได้หย่าง่ายๆ”
โสภิตโกรธ สบตาจีรณะสู้ตากันอย่างจังๆ แล้วยิ้มหยันเชือดเฉือน
“ที่แท้ก็อยากได้เงินค่าหย่าเพิ่มคนอะไรขายน้องกิน แล้วนี่มีเงินจ่ายค่าโรงพยาบาลรึยัง ถ้าไม่มีก็บอกจะสงเคราะห์ให้สมเพชเวทนาไม่อยากให้เป็นคนไข้อนาถา”
โสภิตเดินจากไป จีรณะโกรธจัดกำมือแน่น “ยัยอุตพิด”

ตกกลางคืน ที่สนุกเกอร์คลับของพีรพงษ์ เห็นพวกพนักงานหญิงกำลังดูแลลูกค้า ที่แน่นพอสมควร ลูกค้าหนึ่งในนั้นเป็น ยศ ที่แทงลูกบนโต๊ะ ระบายอารมณ์ไปมา
พีรพงษ์เข้ามาในสนุกเกอร์คลับถือหลอดยาแก้ฟกช้ำถูกำปั้นมือไปมาพนักงานพากันไหว้
ยศรออยู่แล้ว สองคนเป็นเพื่อนกัน ยศหันมาเห็นสั่งพนักงาน “น้องๆ ตั้งลูกๆ เก่งไม่กลัว กลัวช้ามากกว่าผมรอตั้งนาน คุณหายไปไหนมา”
พนักงานตั้งลูกให้ “ไปเยี่ยมแม่คุณที่โรงพยาบาล หมอบอกกลับบ้านไปแล้วเลยมาช้าไปหน่อยโทษที”
พีรพงษ์เดินไปนั่งถูมือไปมา ยศทำหน้าสงสัยเดินไปนั่งด้วย ชะโงกดูมือ
“มือไปโดนอะไรมา”
“ไปเจอผู้หญิงโคตรสวยเลย แต่มีไอ้จอมแส่มาคาบตัดหน้าเลยตะบันมันซะน่วมไปเลย”
ยศโมโหแทน “ใครวะ กล้ามาหยามคุณถึงถิ่น”
“ไม่รู้คนที่ไหน เจอหน้ามันสองครั้งแล้ว ช่างมันเถอะ แล้วคุณล่ะหายหัวไปไหนมาไม่ค่อยเห็นหน้า”
“ก็แม่น่ะสิ บังคับให้ผมเลิกกับแฟน แต่พี่ชายมันไม่ยอม เรียกเงินตั้งสิบล้าน เซ็งว่ะ งานนี้ถ้าไม่จบผมโดนไล่ออกจากบ้านแน่”
ยศหัวเสียลุกไปแทงลูกบนโต๊ะ พีรพงษ์มองยศไปครุ่นคิดไป ที่สุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ลุกไปจับไม้สนุกเกอร์ที่มือยศ ยศกำลังเล็งมุมจะแทงลูกสนุกเกอร์ ชะงัก
“ผมแก้ปัญหาให้คุณได้”
พีรพงษ์ป้องหูยศกระซิบกระซาบ เป็นแผนที่จะหลอกจิตรามาถ่ายคลิปนอนกับผู้ชายแล้วเอาไปแบล็กเมล
ยศฟังแล้วชะงักหน้าตื่น“เฮ้ย มันจะดีเหรอ แรงไปรึเปล่า”
“ก็ตามใจคุณ เลือกเอา จะยอมให้แม่เลี้ยงตัดคุณออกจากกองมรดก หรือว่าคุณจะยอมกัดก้อนเกลือกินกับแฟนคุณ”
พงษ์หยิบไม้ช่วยแทงลูกสนุกเกอร์จากข้างโต๊ะมาวาง แล้วใช้ไม้แทงของยศแทงลูกสนุกเกอร์กระจาย ยศครุ่นคิดเครียดหนัก

จีรณะตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เข้ามาดูน้องสาวกับเกียรติก้อง เห็นสีหน้าจิตราดูอ่อนเพลียนิดหน่อย และจีรณะ มองด้วยหน้าตาห่วงใย เกียรติก้องรีบกุลีกุจอเลื่อนเก้าอี้ให้จิตราที่ลุกมาจากเตียง
“ขอบคุณค่ะ พี่ก้อง จิตดูงี่เง่า น่าสมเพชมากเลยใช่มั้ยคะ” จิตราหน้าเศร้า
“ไม่หรอกจิต คนเราตัดสินใจพลาดกันได้ แต่ทีหลังอย่าคิดทำร้ายตัวเองอย่างนี้อีก จิตยังมีพี่ชายที่รักจิตมากอย่างไอ้จี ยังมีพี่อีกคนที่เป็นห่วงจิตเสมอ”
จิตราไหว้สองหนุ่ม “จิตขอโทษค่ะ ต่อไปนี้จิตจะไม่ทำให้พี่จี พี่ก้องต้องเป็นห่วงอีกแล้ว”
จีรณะลูบหัวน้องสาวยิ้มเอ็นดู “พี่จะให้ลูกศิษย์ชื่ออาโป มาอยู่เป็นเพื่อนจิต เผื่อจิตจะเหงาเวลาพี่ไม่อยู่ดีมั้ย”
จิตรายิ้มรับเรียบๆ “ไม่ต้องหรอกพี่จี จิตอยู่ได้อายเด็กมันเปล่าๆ รับรองจิตสบายดีแล้วทั้งใจทั้งกาย”
จิตราแตะมือพี่ชายเบาๆ แล้วแตะมือเกียรติก้องด้วยเบาๆ ยิ้มบางๆ
สองหนุ่มสบตากัน ยิ้มให้กำลังใจจิตรา “ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ”

จีรณะเดินนำเกียรติก้องออกมาที่รถ “น้องสาวชั้นมันไม่ทันคนถึงมาเจ็บอย่างนี้ คนพวกนี้ต้องถูกเอาคืนอย่างสาสม”
ผู้กองมองไปที่ห้องจิตบนบ้าน “จะทำอะไรคิดถึงจิตใจของน้องสาวแกบ้าง อย่างน้อยยศก็เป็นผู้ชายที่จิตเค้ารัก”
“ถูกมันหลอกให้รักน่ะสิ เชื้อไม่ทิ้งแถว สายเลือดแม่เลี้ยงอมราเคยมีความจริงใจให้ใครที่ไหนไป เดี๋ยวไม่ทันรถขึ้นดอย”
จีรณะกับเกียรติก้องขึ้นรถจี๊ป จีรณะเป็นคนขับออกไป

สองหนุ่มไม่รู้ว่ายศซุ่มอยู่นอกรั้วนานแล้วยศเอาโทรศัพท์มากดเบอร์ โทร. ออกทันที

ขณะที่จิตราหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากตู้เสื้อผ้าเตรียมจะอาบน้ำ เสียงโทรศัพท์ดัง จิตราเดินไปหยิบมือถือบนโต๊ะมาดูหน้าจอ

จิตราเห็นเบอร์ก็หน้าเครียด กดตัดสาย แล้วรีบวางโทรศัพท์บนโต๊ะ ยศ หงุดหงิดที่จิตราไม่รับกดโทร.ใหม่
จิตรายืนจ้องโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเรียกเข้า แล้วค่อยๆหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะ
ยศยืนรอรับสาย ส่ายหน้าไปมา โทรศัพท์แนบหู ยศออกอาการดีใจ
“จิต จิตอย่าเพิ่งวางสายนะ ฟังพี่ก่อน”
จิตราอยู่ในห้องชั้นบนยืนฟังโทรศัพท์หน้าเครียด

ทางด้านพีรพงษ์พาตัวเองมาอยู่ที่คุ้มอมรา และกำลังเลื่อนห่อกระดาษใบย่อมสองห่อบนโต๊ะไปตรงหน้าแม่เลี้ยงอมรา ยิ้มประจบ มือของพงษ์ยังติดพลาสเตอร์อยู่
“คุณพ่อฝากรังนกกับหูฉลามมาให้แม่เลี้ยงครับ เพิ่งลงจากกอเอี๊ยะสีขาวเครื่องบินเมื่อเช้านี่เอง”
“ฝากขอบคุณคุณพ่อด้วยนะจ๊ะ ต๊าย... นั่นมือไปโดนอะไรมาคุณพงษ์”
พวงเข้ามา เสิร์ฟเครื่องดื่มร้อนให้อมรากับพงษ์
“น้ำมะตูมร้อนหอมชื่นใจเจ้า จากสวนลูกหนี้ที่เพิ่งยึดมาเมื่อวานเจ้า”
แม่เลี้ยงถลึงตาใส่ พวงถอยออกไป “ว่ายังไงจ๊ะ มือคุณพงษ์ไปโดนอะไรมาจ๊ะ”
พีรพงษ์ยกมือมาลูบแผลตัวเอง “อ๋อ...เมื่อวานผมตั้งใจไปเยี่ยมแม่เลี้ยงที่โรงพยาบาล ไม่ทราบว่าแม่เลี้ยงกลับมาคุ้มแล้ว บังเอิญไปเจอผู้หญิงถูกรังแก ผมเข้าไปปกป้องเธอ เลยได้รับบาดเจ็บมาครับ”
แม่เลี้ยงฟังแล้วปลื้ม “โถ...สุภาพบุรุษจริงๆ พ่อคุณ”
โสภิตถือกระเป๋าเอกสารเดินผ่านเข้ามาพอดี อมราหันไปเห็น
“เดี๋ยวๆ ยัยภิตอย่าเพิ่งไปมาหาแม่ก่อนลูก
โสภิตจะออกไปหน้าบ้าน พีรพงษ์มองตาม ตาค้างตะลึงแลจำได้ โสภิตชะงัก เดินมาที่โต๊ะรับแขก สบตากับพีรพงษ์ ต่างคนต่างตกใจ
พีรพงษ์รีบลุกยืนแม่เลี้ยงอมราแนะนำสองคนให้รู้จักกัน “นี่คุณพีรพงษ์ ลูกชายเลขาท่านรัฐมนตรี อัปสรโสภิตลูกสาวคนเล็กของป้าเอง”
“จำผมได้มั้ยครับ แล้วไอ้คนที่รังแกคุณมันทำอะไรคุณ...”
อมราลุกเอามือทาบอก ตกใจ “ยัยภิต ใคร...ใครทำอะไรลูก”
“เอ่อ...ปละ...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะแม่ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้นเอง คนไข้โรคจิตคิดว่าภิตเป็นญาติเค้า เอ่อ...ภิตขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
ชีพเข้ามาท่าทีนอบน้อม รับกระเป๋าเอกสารจากโสภิตไป
“คุณภิตจะไปไหนเหรอครับ” พีรพงษ์ถาม
“ไปทำงาน” อมราบอก
พีรพงษ์มองตามโสภิต ใช้ความคิด

ด้านจิตรามองซ้ายมองขวาเดินมาข้างๆ รถยศที่จอดอยู่หน้าบ้าน ยศดึงจิตราให้ผลุบเข้ามาในรถ
“ทำไมพี่ยศถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่กลับบ้าน”
“พี่บอกกับแม่ว่า ถึงยังไงพี่ก็ไม่เลิกกับจิต แม่โกรธพี่มาก ไล่พี่ออกจากบ้าน” หนุ่มจอมกะล่อนตอแหล
จิตราพูดอย่างน้อยใจ “แล้วคุณนิดล่ะคะ ลูกสาวท่านผู้ว่าที่แม่เลี้ยงจะให้พี่ยศแต่งงานด้วย”
“พี่ไม่สนใจหรอกพี่รักจิต ไม่ได้รักเค้า พี่จะไม่ยอมให้แม่บังคับ...” ยศดึงมือจิตมากุมแนบอก “พี่อีกต่อไปแล้ว พี่ยอมออกจากบ้าน เราไปหาที่อยู่ด้วยกัน”
จิตราดึงมือออกเบาๆ “ไม่ได้หรอกค่ะ จิตต้องปรึกษาพี่จีก่อน”
พลางจิตราลุกจะไป ยศจับข้อมือเอาไว้ “ได้ๆพี่รอได้ แต่จิตอยู่คุยเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะ พี่คิดถึงจิตใจจะขาด” ยศจูบมืออย่างซึ้งๆ จิตราขืนตัว แต่ในที่สุดก็ใจอ่อน
เวลาผ่านไปอีกหน่อย ยศยื่นกล่องน้ำส้มไปตรงหน้า จิตรารับกล่องน้ำส้มมากิน แล้วทุกอย่างตรงหน้าหล่อนก็เบลอไป สติดับวูบลง

ไม่นานต่อมา ร่างจิตรานอนสลบ อยู่บนเตียงในห้องที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ยศเดินงุ่นง่าน สับสน เครียดหนัก ยีหัวตัวเองทำอะไรไม่ถูก รักก็รัก เลิกก็ได้ ดีชั่วในหัวตีกันกระเจิง
มีเสียงเคาะประตู ยศรีบไปเปิดประตูเลิ่กลั่ก ชาย 1 ลูกน้องพีรพงษ์ รูปร่างล่ำสัน หน้าตาดูดี สะพายอุปกรณ์กล้องมาด้วย เดินเข้ามาหน้าเข้ม
“คุณพงษ์ส่งผมมา”

ยศสบตาชาย 1 หันไปมองจิตราที่สลบอยู่อย่างสับสนว้าวุ่นหนัก

ด้านโสภิต ชีพ และพีรพงษ์ที่ขอแม่เลี้ยงอมราขับรถตามมาช่วยทวงหนี้ ยืนอยู่ด้วยกัน ส่วนสมุน 2 คนของพงษ์ เดินสอดส่องในบ้าน

สมุนทั้งสองทุบฝาบ้าน เตะโน่น ถีบนี่ โสภิตตกใจขยับปากจะห้าม พีรพงษ์รีบโอบแขนห้าม
โสภิตขยับตัวหนีห่างอย่างไว้ตัว พีรพงษ์พูดกลั้วหัวเราะอย่างเอ็นดู
“คุณโสภิตคงเพิ่งออกสนามครั้งแรก ไม่ต้องตกใจครับดูอยู่เฉยๆ ก็พอ ฮ่า ฮ่า”
ชีพนอบน้อมขอกระเป๋าจากพีรพงษ์
สมุน 1 ร้องตะโกน “เฮ้ย เจ้าของบ้านอยู่ไหนวะ ฮู้ๆ”
โสภิตทักท้วง “คุณพงษ์คะ ไม่เป็นไรคะ ฉันจัดการเองดีกว่า”
พีรพงษ์ยกมือห้ามสมุนถอยออก โสภิตเดินเข้าไปเคาะประตู
“นายบุญมี อยู่หรือเปล่า ฉันเป็นลูกสาวแม่เลี้ยงอมรา ออกมาคุยกันหน่อย” ทุกอย่างเงียบกริบ “อย่าหลบหน้ากันเลย มันไม่มีประโยชน์หรอก
พีรพงษ์ดูนาฬิกาข้อมือ “แบบนี้คงยาก เสียเวลา ผมเรียกให้มาเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า เฮ้ย...” พีรพงษ์ชูมือสะบัดให้สัญญาณลูกน้อง
สมุน 1 สมุน 2 หยิบน้ำมันไฟแช็คจากกระเป๋ากางเกง ทั้งสองฉีดราดน้ำมันไปทั่วๆ หน้าบ้าน แต่ห่างๆ ตัวบ้านพอประมาณ
สมุนสองคนจุดไฟ ไฟลุกไปตามทางน้ำมันที่ถูกฉีด โสภิตตกใจเลิ่กลั่ก ร้องลั่น
“คุณพงษ์ ทำไมทำอย่างนี้ หยุดเดี๋ยวนี้”
สมุน 1 บีบน้ำมันใส่เสาบ้านตรงโคนเสา จุดไฟพรึบ พริบตาไฟก็ลามไปทั่ว สมุน 2 บีบน้ำมันช่วยโหมไฟลุกโชนแลดูน่ากลัว
ไทร กะดุ่ย โผล่เข้ามาพร้อมปี๊บใส่น้ำ สาดดับไฟกันชุลมุน บุญมีโผล่เข้ามาอีกมุมถีบสมุน 1 เตะสมุน 2 กระเด็นไปเป็นแถว ใส่กลุ่มโสภิต พรพงษ์ และ ชีพ
บุญมียืนหน้าเครียดมองมาอย่างเอาเรื่อง ไทร กะดุ่ย ประกบหลัง ซ้าย ขวา ชักมีดกระชับพร้อมสู้
สองกลุ่ม ยืนสบตาประจันหน้ากัน แลเห็นชาวบ้านโผล่อยู่ตามแนวไม้มุมต่างๆ ดูเหตุการณ์

จังหวะนี้เองจีรณะขี่รถมาตามทาง เห็นควันโขมงมาแต่ไกล
“นั่นมันแถวบ้านน้ามีนี่”
จีรณะหักรถเข้าไปทางบ้านบุญมีทันที

โสภิตตื่นตกใจ มีชาวบ้านหน้าตาโกรธแค้นรายล้อมอยู่ห่างๆ ชาวบ้านถือมีด พร้า จอบ เสียม พาย ดาบ ในมือเป็นอาวุธ
พีรพงษ์ กับ สมุน 1สมุน 2 ถือปืนส่ายไปมาโสภิตบอก
“เก็บปืนเถอะค่ะ เดี๋ยวภิตคุยกับชาวบ้านเอง”
พีรพงษ์ไม่ยอม กร่างใหญ่ “ถอย ถอยไป อย่าเข้ามานะโว้ย กูยิงจริงๆด้วย พวกมึงรู้มั้ยว่ากูลูกใคร”
ชาวบ้านโห่ บุญมีชี้หน้าด่าโสภิต
“ไม่ต้องขู่จะยิงก็ยิงเลย พวกข้าถูกพวกเอ็งขูดรีดดอกเบี้ยอยู่ทุกวันก็เหมือนตายทั้งเป็นกันอยู่แล้ว”
โสภิตพยายามคุยด้วยเหตุผล
“นายบุญมีทุกอย่างเราทำตามสัญญาจะเรียกว่าขูดรีดมันก็ไม่ถูกนะ”
“แต่สัญญาของแม่เลี้ยงมันเอาเปรียบ แกเป็นลูกเป็นแม่กันก็” โสภิตจ้องหน้า เริ่มจำบุญมีได้คลับคล้าย คลับคลา “ต้องรู้อยู่แล้ว แกต้องชดใช้ให้พวกข้า” ยิ่งฟังยิ่งคุ้นเสียง หรี่ตามองหน้าบุญมี เวลาพูด
บุญมีเดินเข้าหาโสภิต ชาวบ้านตาม “พวกเรา จับตัวลูกสาวแม่เลี้ยงไว้”
พีรพงษ์ปลดเซฟปืน เล็งจะยิงใส่บุญมี
จีรณะขี่มอเตอร์ไซค์เฉี่ยวพีรพงษ์จนเซเสียหลัก ปืนลั่นปัง ชาวบ้านหลบกันชุลมุน

จีรณะจอดรถ ดับเครื่อง ลงรถมาหน้าเครียด ชี้หน้าสองคน
“นี่คิดจะฆ่าคนล้างหนี้กันเลยเหรอ”
พีรพงษ์จำจีรณะได้ “นายอีกแล้ว”
“นายบุญมีจะจับตัวชั้นเป็นตัวประกัน คงเคยทำแบบนี้มาแล้วละซิ” โสภิตว่า
จีรณะหันไปจ้องบุญมี “จริงเหรอครับน้ามี” บุญมีอ้ำอึ้ง อัดอั้น “เออ...ก็มันจะมาเอาเงินให้ได้ถึงกับจะเผาบ้านเผาเรือนข้าเอ็งจะให้ข้าทำยังไง”
“พวกคุณนี่มันใจอำมหิตผิดมนุษย์จริงๆ เค้าเป็นหนี้คุณก็ทุกข์พออยู่แล้ว คุณยังจะทำลายหนทางทำมาหากินเค้าอีก” จีรณะสุดทน
พีรพงษ์กร่างใส่ “แล้วนายเป็นใคร สอดอะไรวะ หา”
โสภิตรีบชิงพูด “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นอุบัติเหตุ ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ถ้าจะเรื่องถึงตำรวจก็ได้ ฉันก็อยากให้รื้อคดีเก่าที่ฉันถูกจับตัวเหมือนกัน”
“ได้ แต่ไม่ใช่ผมกลัวคุณนะ”
จีรณะหันไปมองสบตาโสภิตเต็มๆ ก่อนจะหันไปทางชาวบ้าน “พวกพี่ ป้า น้า อา แยกย้ายกันกลับบ้านก่อนเถอะครับ ผมขอร้อง”
โสภิตหันมาทางพีรพงษ์ “เราไปเถอะค่ะ”
สองคนขยับจะออกไปกับลูกน้อง ชาวบ้านหน้าเครียดจ้องโสภิตไม่ยอมขยับตัว จีรณะขรึมมองชาวบ้าน พูดเบาๆ
“ถ้ายังรักพ่อ รักผมกลับบ้านกันเถอะครับ”
ชาวบ้านค่อยๆแยกย้ายสลายตัวกันไปคนละทาง ยกเว้นบุญมี ดุ่ย และไทร

โสภิตเดินตามพีรพงษ์กับลูกน้องออกไป สลับกับเหลียวกลับมามองบุญมี แล้วมองจีรณะ ใช้ความคิด

สองคนนั่งอยู่ในรถตู้ที่แล่นมาบนถนน ชีพนั่งหน้า มีสมุนขับ โสภิตนั่งขรึมครุ่นคิดมาตลอดทาง พีรพงษ์เหลือบมองดูท่าที

“เสียดายจริงๆ ไอ้หมอนั่นไม่น่าเข้ามาสอด จะเชือดไก่ให้ลิงดูซะหน่อย ไอ้พวกชาวบ้าน ลูกหนี้เราจะได้ไม่กล้าหือ”
“แต่การไปเผาบ้านช่อง เอาปืนผาหน้าไม้ไปยิงเค้ามันรุนแรง” โสภิตเสียงเข้มไม่พอใจเกินไป ถ้ามีคนเจ็บคนตาย เราจะเป็นฝ่ายผิดเต็มประตู”
“ผมก็แค่จะขู่พวกมันมันเท่านั้น กล้าดียังไงจะมาจับน้องภิตเป็นตัวประกัน แล้วไอ้หมอนั้นมันเป็นใครกันแน่ ผมจำได้มันเคยข่มขู่ คุกคามน้องภิตที่โรงพยาบาล อ้างว่าเป็นแฟนน้องภิตด้วย”
พีรพงษ์มองโสภิตคาดคั้นในที “ไม่มีอะไรค่ะ พวกเอ็นจีโอ เค้าเจ็บแค้นแทนชาวบ้านก็เลยมาพาลแกล้งฉัน”
“อ๋อ...ไอ้พวกหลอกชาวบ้านทำเป็นจิตอาสาพัฒนาสังคมที่จริงก็เอาเงินต่างชาติมาใช้ส่วนตัว”
โสภิตตัดบท “ใครจะเป็นยังไงก็ช่างเค้าเอาเป็นว่าเรื่องวันนี้คุณพงษ์อย่าบอกให้แม่รู้นะคะ ภิตไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ”
พีรพงษ์ยิ้มรับเอาใจสุดฤทธิ์ “ตามใจน้องภิตครับ”
โสภิตขรึมลง ท่าทีใคร่ครวญครุ่นคิด

ฟากจีรณะกับบุญมีนั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ดุ่ย กะไทร นั่งกอดเข่าที่พื้นข้างๆ
“ผมเตือนน้ามีแล้วว่าอย่าวู่วามอย่างนี้ ทำอะไรให้คิดถึงกฎหมายบ้านเมืองบ้าง”
“อย่างมากก็ตายกันไปข้างนึงล่ะวะ”
“แล้วมันแก้ปัญหาได้รึเปล่า พวกเราต้องไม่ใช้ความรุนแรงโดยไม่จำเป็นสิครับ หันมาใช้เหตุผลกันดีกว่า”
ดุ่ยขัดขึ้นเซ็งๆ “คุณจีจะให้พวกเราทำยังไง ถามหน่อย”
“ชาวบ้านต้องร่วมมือกัน รวมกันให้ติด ใครมีเอกสารหลักฐานอะไร เอามาให้ผม เราจะใช้กฎหมายต่อสู้กับพวกแม่เลี้ยง”
บุญมีหยัน “ฝันไปเถอะไอ้จี นี่มันอำเภอเล็กๆ ไม่มีใครมาสนใจใยดีหรอกเอ็งก็เห็นกับตา ลูกสาวแม่เลี้ยงมันเอาลูกชาย ส.ส. มาทวงหนี้ด้วย ชาวบ้านอย่างเราจะไปเหลือพระเหลือเณรอะไรวะ”
จีรณะฟังแล้วอึ้งไป หน้าเครียดครุ่นคิด
“ไม่มีอะไรชนะความถูกต้องได้ ผมจะทำให้ทุกคนได้เห็น”

หลังถ่ายคลิปเสร็จ ยศขับมาจอดข้างบ้าน จิตรายังคงหลับอยู่ที่เบาะข้างปรับเอนนอน ยศมองจิตรา สักครู่จิตราก็ตื่นขึ้นมาอย่างงวยงง ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
“นี่จิตหลับไปนานแค่ไหนคะแปลกจริง”
ยศมองระแวงกลัวจีรณะจะกลับมาก่อน “จิตคงจะเพลียเพราะเพิ่งพักฟื้นมาใหม่ๆ”
จิตรามองตายศ “ตกลงเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมใช่มั้ยคะ”
“ใช่ ถ้าจิตไม่ยอมหนีไปกับพี่...พี่ก็จะรีบกลับบ้านไปกราบขอร้องคุณแม่เรื่องของเรา”
“แม่เลี้ยงคงไม่ยอมแน่”
“ถ้าพี่ยืนยันว่าจะไม่แต่งกับใครนอกจากจิต แม่ก็ต้องยอม พี่เป็นลูกชายคนเดียว แม่รักพี่มาก พรุ่งนี้จิตไปหาพี่ที่เดิมนะจ๊ะ รับรองต้องมีข่าวดี”
จิตราลงจากรถ ท่าทีลังเล แต่ก็เอนเอียงไปทางหนุ่มจอมกะล่อนเพราะรักมาก ยศโบกมือลา แล้วรีบขับรถออกไป

ขณะที่อมรานั่งตรวจบัญชีที่โต๊ะทำงานในคุ้ม มีเสียงเคาะประตู ก่อนจะเห็นโสภิตถือกระเป๋าเอกสารเข้ามา แม่เลี้ยงยิ้มดีใจ
อมรารีบหยิบสัญญาบนโต๊ะขึ้นมาดู “ว่ายังไงภิต ตกลงเรายึดนานายบุญมีได้กี่แปลง”
“นายบุญมีจ่ายดอกเบี้ยครบค่ะ”
แม่เลี้ยงตาเหลือกไม่อยากเชื่อ “ห๊า...ว่ายังไงนะ มันไปถูกหวยรวยเบอร์มาจากไหน”
โสภิตเปิดกระเป๋าเอกสาร หยิบสมุดฝากเงินกับสมุดบัญชีขึ้นมา โดยที่หล่อนนั่นเองเป็นคนโอนเข้าบัญชีให้
“ภิตเอาเงินเข้าธนาคารเรียบร้อยแล้วรวมของลูกหนี้รายอื่นด้วย แม่จะตรวจดูมั้ยคะ”
แม่เลี้ยงโบกมือวุ่นวาย “จะต้องตรวจทำไม ก็ภิตทำแทนแม่หมดแล้ว เฮ้อ...เบาใจกว่าตอนให้ตายศมาช่วยดูบัญชีเยอะ แล้วว่าที่ลูกเขยของแม่ล่ะ เอาอกเอาใจภิตดีมั้ย”
โสภิตรีบเก็บสมุดฝากเงินกับสมุดบัญชีเข้ากระเป๋าเอกสาร
“อะไรนะคะแม่ ภิตกับคุณพงษ์เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ นิสัยใจคอเป็นยังไงบ้างก็ยังไม่รู้”
โสภิตลุกจะไป
“เรื่องนั้นแม่กลั่นกรองให้ภิตแล้ว ไม่ต้องห่วง คุณพงษ์เป็นลูกนักการเมืองอนาคตไกล อย่างน้อยก็ถึงรัฐมนตรีแน่ๆ การศึกษา ฐานะ เงินทอง ก็ไม่เป็นรองใคร เหมาะสมกับภิตทุกอย่าง”
“แต่ภิตยังไม่คิดเรื่องแต่งงานนี่คะ”
“ก็เริ่มคิดได้แล้ว ผู้หญิงอย่างเราทำงานแบบนี้มันต้องมีไม้กันหมา ไม่อย่างนั้นอยู่ลำบาก ที่แม่เลือกคุณพงษ์ให้เพราะไม่ อยากให้ภิตไปเจอคนไม่ดี ไม่รับผิดชอบ อย่างที่แม่พลาดไป เจอพ่อของภิต แม่ไม่อยากให้ภิตต้องมีชีวิตเหนื่อยยากเหมือนแม่”

แม่เลี้ยงอมราลุกมาจับไหล่มองลูกสาวอย่างเอ็นดูรักใคร่ ขณะที่โสภิตสบตากับแม่อ้ำอึ้ง และอึดอัด

อ่านต่อหน้า 2 

พรมแดนหัวใจตอนที่ 2 (ต่อ)

ค่ำคืนนั้นขณะที่โสภิตอาบน้ำเสร็จแล้วนั่งแปรงผมที่เตียง เสียงเคาะประตู เป็นยศท่าทีเลิ่กลั่กถือไอแพดเข้ามา รีบปิดประตูห้องเบาๆ กดล็อกทันที

โสภิตงง “อะไรพี่ยศ ท่าทางอย่างกับหนีใครมา”
ยศจุ๊ปาก เปิดไอแพดยื่นให้โสภิตดู โสภิตตกใจตาค้าง วางแปรงหวีผมช้าๆ
ภาพในจอไอแพด เป็นภาพจิตรา เห็นแค่เนินอก นอนหงายหน้าคางเชิดขึ้น มีชาย 1 ลูกน้องพีรพงษ์ซุกไซ้ต้นคอ จิตราหลับตาพริ้ม
ภาพในจอถูกกดเปลี่ยน เป็นภาพจิตรานอนคว่ำ ชาย 1 นอนทับอยู่บนตัว จิกผมจนจิตราหน้าหงาย ชาย 1 ซุกไซ้ที่ซอกหู จิตราหลับตาพริ้ม
โสภิตแขยงรีบส่งไอแพดกระแทกคืนยศ หน้าเครียด
“พี่ยศไปได้ภาพพวกนี้มาจากไหน”
“พี่จ้างนักสืบสะกดรอยตามจิตนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเค้าจะเป็นผู้หญิงแบบนี้” ยศตอแหล
โสภิตนิ่งคิด “มีหลักฐานอย่างนี้ พี่ชายเค้าก็หมดสิทธิ์เรียกร้องเอาเงินกับเรา”
“พี่นัดจิตแล้ว พรุ่งนี้...ภิตช่วยไปเจรจากับจิตเค้าหน่อยสิ” ยศขอร้อง
“นี่มันเรื่องส่วนตัวของพี่กับคุณจิตเค้า ทำไมไม่ไปคุยเอง มาใช้ภิตทำไม”
ยศอ้อนวอน “โธ่...เกิดเค้าขอโทษขอโพยร้องห่มร้องไห้อ้อนพี่ขึ้นมา พี่ต้องใจอ่อนแน่อย่างน้อยก็เคยรักกันมา ภิตไปคุยแทนพี่หน่อยนะพี่ขอร้อง”
ยศทำหน้าเว้าวอนสุดชีวิต โสภิตตะขิดตะขวง ไม่สบายใจ

ขณะเดียวกัน จีรณะเดินเข้ามาเห็นบนโต๊ะมีกับข้าวน่ากิน ปลากะพงทอดน้ำปลา สลัดผักสีสวย ต้มยำกุ้ง ปลาหมึกผัดไข่เค็ม จิตราจัดอยู่
จีรณะทำหน้างวยงงสงสัย ยิ้มให้น้องสาว “กับข้าวน่ากินทั้งนั้นเลย แต่สงสัยว่าเนื่องในงานอะไรไม่ทราบ”
จิตรายิ้มแย้มแจ่มใส “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ จิตแค่สบายใจ ดีใจที่จะได้กลับไปทำงานแล้ว พี่จีนั่งเลย จิตตักข้าวให้”
จิตราตักข้าวใส่จาน จีรณะดูน้องด้วยความสงสัย แต่ก็ยิ้มน้อยๆ

รุ่งเช้าจิตราเดินเข้ามาหน้าห้องรีสอร์ต ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตราเงื้อมือจะเคาะประตู แต่ลดมือลง ถอยออกมา
“พี่ยศ พี่ยศคะ จิตมาแล้ว”
ประตูค่อยๆ เปิดออก เห็นโสภิตหน้าขรึมเดินออกมา มือถือไอแพดมาด้วย
“คุณอัปสรโสภิต”
โสภิตเดินไปนั่งที่โต๊ะหน้าห้อง “เชิญนั่งค่ะ คุณจิตรา”
จิตเดินไปนั่งตรงข้ามโสภิตงงๆ
จิตชะเง้อชะแง้มองหายศจิตพี่ยศล่ะคะ
“พี่ยศไม่ได้มาหรอกค่ะ พี่ยศให้ภิตมาคุยกับคุณจิตเรื่องการหย่า”
จิตตกใจ “หย่า หย่าอะไรกันคะ เมื่อวานนี้เรายังคุยกันดีๆ อยู่เลย พี่ยศยังพูดกับจิตว่าเราจะรักกันเหมือนเดิม พี่ยศจะไปคุยกับแม่เลี้ยง พี่ยศ...”
จิตราไม่ทันพูดต่อ โสภิตเปิดคลิปยื่นให้จิตดู
จิตราชะงักดูภาพตัวเอง แล้วช็อก มองโสภิตตาค้าง
“ไม่จริงๆ เป็นไปไม่ได้ จิตไม่เคยนอนกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น”
โสภิตทำหน้านิ่ง ใจแข็ง พูดให้จบๆ “ภิตเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าคุณจิตจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ เอาเป็นว่าคุณยอมหย่ากับพี่ยศซะ เรื่องจะได้จบ คุณคงไม่อยากให้คุณจีรณะพี่ชายของคุณได้เห็นภาพพวกนี้หรอกจริงมั้ยคะ ภิตเองก็ไม่อยากให้ภาพพวกนี้เผยแพร่ออกไป คุณจิตเองก็ควรจะคิดถึงชื่อเสียงของครูเจือด้วยนะคะ”
จิตราช็อก นัยน์ตาลอยคว้างไร้ความรู้สึก โสภิตมองจิตราสงสารขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่พยายามใจแข็ง

ขณะเดียวกัน บัวหอมจดโพยหวยลับๆ ล่อๆอยู่กับป้าเจ้ามือหวย แถวข้างบันไดอำเภอ
“เจ็ดเก้า ล่างบน ตัวละร้อยนะป้านะ”
ป้าพยักหน้าแล้วออกไป บัวหอมหันไปเจอ โสภิต จิตราเดินขึ้นอำเภอไปด้วยกัน จิตรามีท่าทีเซื่องซึม ตาลอย โสภิตห่วงๆ สงสารจับใจ

บัวหอมมึนตึ๊บเกาหัวแกรกๆ มองตามโสภิต กับจิตรา จนลับตา

บัวหอมแวะมาที่ร้านกาแฟหนานเทืองติดกับร้านสายพิณ บัวหอมเล่าจบแล้วเอาช้อนคนกาแฟในถ้วย ไปมา สายพิณนั่งโต๊ะที่ติดกับร้านตัวเอง หนานเทืองเอาชาเย็นมาส่งให้สายพิณ

สายพิณจ้องบัวหอมอย่างไม่เชื่อ “เป็นไปบ่ได้ แน่ใจก๊ะ ว่าบ่ได้มองผิดคน”
จีรณะขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดดับเครื่องจะลงรถ แต่ได้ยินบัวหอมพูดเสียก่อน
“เฮาเห็นเต็มสองตานี่เลย ลูกสาวแม่เลี้ยง เดินขึ้นอำเภอกับพยาบาลจิตราน้องสาวพ่อจี”
จีรณะชะงักฟัง รีบขี่รถออกไป สายพิณไม่เชื่อ “จะเป็นไปได้จะใด สองบ้านนี้เค้าถูกกันที่ไหน”
หนาเมืองเอ็ดเอา “ฮู้เรื่องชาวบ้านมันบ่มีประโยชน์อะหยัง ฮู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองแล้วปล่อยวางซะ สุขสงบที่สุด”
สายพิณ บัวหอมไหว้ “สาธุ” พร้อมกัน
“โอ๊ย หนานเทืองนี่เป็นจะใด ชักใบให้เรือเสียอยู่เรื่อย” สายพิณบ่น

ยศนั่งกระสับกระส่ายอยู่หน้าห้องนายทะเบียน โสภิตเดินนำจิตราเข้ามา พอจิตราเห็นยศรออยู่รีบเดินเข้าไปหา ยศยืนอ้ำอึ้ง
“พี่ยศใจร้าย ทำไมทำกับจิตอย่างนี้”
“ทำอะไร พี่ไม่รู้เรื่อง”
จิตราตบหน้ายศฉาดใหญ่ ยศลูบหน้า หลบตามองพื้น ไม่กล้าสู้ตา
โสภิตเข้ามายืนขวาง “อย่าให้เรื่องมันเลวร้ายไปกว่านี้เลยค่ะคุณจิต”
จิตราจ้องยศเขม็งทั้งรักทั้งแค้น “ไม่ต้องห่วงค่ะ จิตจะเซ็นใบหย่าให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”
ยศหลบตาวูบ

โสภิตเดินนำยศลงบันไดมา ส่ง FLASH DRIVE คืนให้ยศ ในมือถือซองใส่ใบหย่าอยู่ด้วย
“เอาหลักฐานของพี่ไปทำลายซะ ภิตไม่ของยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว”
จีรณะขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาหน้าบันไดพอดี จีรณะรีบลงจากรถเข้าไปขวางโสภิตกับยศ“จิตราอยู่ที่ไหน”
“กลับไปแล้วค่ะ”
ยศหยิบใบหย่าจากซองชูใส่หน้าจีรณะ “จิตเค้ายอมหย่าเรียบร้อยแล้ว คุณไม่มีสิทธิจะมาเรียกร้องเงินทองอะไรจากผมอีก”
จีรณะพุ่งเข้าขยุ้มคอเสื้อยศ “แกบังคับขู่เข็ญน้องสาวชั้นใช่มั้ย คุณด้วยพวกคุณร่วมมือกัน”
จีรณะหันไปชี้หน้าด่าโสภิต ยศรีบปัดมือจีรณะออก “เราไม่ได้บังคับขู่เข็ญคุณจิต เธอตัดสินใจด้วยตัวเธอเอง”
“ไม่เชื่อก็เอานี่ไปดูเลยไป จะได้กระจ่าง”
ยศส่ง FLASH DRIVE ให้จีรณะโสภิตห้ามเพราะไม่อยากให้เขาดู
“พี่ยศ”
ยศฉุดโสภิตออกไป จีรณะมองดู FLASH DRIVE ในมืองงๆ

โสภิตสะบัดมือจนหลุด หันมาต่อว่าพี่ชาย
“คุณจิตหย่าแล้ว ทำไมต้องให้พี่เค้าดูภาพพวกนั้นด้วย”
“มันก็จะได้เลิกมาหาเรื่อง เรียกร้องเงินทองจากเราซะที”
“แต่คุณจิต เค้าจะอับอายพี่เค้าขนาดไหน ทำไมไม่ให้เค้าอธิบายเหตุผลกันเอง”
ยศเพิ่งคิดได้ “ก็ ก็ไม่รู้ละ พี่ต้องเอาตัวรอดก่อน ไม่อยากโดนแม่เล่นงานอีก”
ยศหนีขึ้นรถ โสภิตเซ็งขึ้นตาม

จีรณะแวะมาที่สำนักงาน นั่งดูคลิปในคอมที่โต๊ะทำงาน แค้นใจหนัก พยายามสงบอารมณ์ กดโทรศัพท์
ปลายสายเป็นจ๋าเพื่อนพยาบาลของจิตรา ซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาล จ๋าพูดโทรศัพท์กับจีรณะ หน้าเครียด
“ไม่มีใครเห็นจิตเลยค่ะพี่จี ติดต่อก็ไม่ได้ด้วย”

จีรณะติดต่อน้องสาวไม่ได้เลย ตัดสินใจโทร.หาจ่าทอง ซึ่งตอนนี้อยู่โรงพัก
“ได้เลยคุณจี ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
จ่าทองเข้ามาหาดาบม้วนที่โต๊ะ
“พี่ม้วน คุณจิตราน้องคุณจีหายไป ผมไปช่วยเค้าตามหาก่อนนะ”
ดาบม้วนตกใจ “เออๆ รีบไป ข้าเข้าเวรแทนเอง”

จ่าทองรีบออกไป ดาบม้วนมองตามห่วงใย

ด้านแม่เลี้ยงอมรานั่งเอนหลังหลับตาอยู่ในโถงกลาง พวงนั่งบีบขาให้ ยศเข้ามาถือซองใบหย่ามาด้วย

“แม่ ดูซิ ผมมีอะไรมาให้”
โสภิตบอก “ป้าพวงไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
พวงรีบออกไป แม่เลี้ยงลุกนั่ง ยศส่งซองใบหย่าให้แม่
“มันยอมหย่าแล้วเหรอ”
อมราดีใจดึงใบหย่าออกมาดู แล้วยิ้ม
“ลูกภิตของแม่นี่เก่งจริงๆ ทำไมมันถึงยอมได้ง่ายๆ อย่างนี้ล่ะ”
ยศคุยโม้ “ไม่ใช่ยัยภิตหรอก ฝีมือผมต่างหาก ผมมีหลักฐานบีบให้จิตรายอมหย่าได้”
แม่เลี้ยงปลื้ม “ดีมาก แบบนี้ซิ มันค่อยสมเป็นลูกฉันหน่อย”
“แม่หายโกรธผมแล้วนะ”
“ยัง” แม่เลี้ยงตอบทันควัน
ยศร้อง “อ้าว”
“ถ้าจะให้ฉันหายสนิท แกต้องจีบหนูนิตยาให้ติด ได้หนูนิตเป็นลูกสะใภ้เมื่อไหร่ นอกจากหายโกรธแล้ว ฉันจะให้รางวัลแกอีกด้วย”
ยศยิ้มเรี่ยราด “ไม่ต้องห่วงครับแม่ มือชั้นนี้”
จากนั้นยศเดินร่าเริงไป โสภิตมองเซ็งๆ แม่เลี้ยงอมราเห็นก็งง
“อ้าว แล้วเป็นอะไรไปละยัยภิต ไม่ดีใจกับตายศมันรึไง”
“ภิตชินกับเรื่องแบบนี้ของพี่ยศแล้วค่ะ เรื่องนี้จบ เรื่องใหม่คงตามมาไม่ช้า”
“แม่ถึงจับมันแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวไง แม่ดูแล้วรับรอง ได้ผู้หญิงเพียบพร้อมอย่างหนูนิตยา ตายศไปไหนไม่รอดแน่”
อมราบอกอย่างหมายมาด

ยศจัดการโทร.นัดชวนนิตยาไปเที่ยว นิตยานั่งหน้าบึ้งกอดอกอยู่ในจวน คุณนายผู้ว่าผู้เป็นมารดามองค้อน
“ทำหน้าทำตาให้มันดีๆ หน่อยยัยนิต ลูกชายแม่เลี้ยง เค้าจะมาพาไปเที่ยว ไม่ใช่ไปงานศพ”
“ก็หนูไม่ได้ชอบตาพี่ยศนี่เลย ไม่ใช่เสปค แถมประวัติก็เสีย เจ้าชู้ไม่เลือกหน้า หนูสืบมาหมดแล้ว”
“ผู้ชายรวยก็ต้องมีผู้หญิงมาเสนอตัวเป็นธรรมดา ไม่เห็นแปลกเชื่อชั้นสิ ในจังหวัดนี้ไม่มีใครเพียบพร้อมเท่ากับลูกแม่เลี้ยงอมราอีกแล้ว”
“หนูไม่ได้ต้องการคนรวย หนูต้องการผู้ชายที่เค้ารักหนู และหนูก็รักเค้า”
คุณนายเอ็ด “หยุดพูดเลยนะ ผู้ชายที่ผ่านมาของแกแต่ละคน ครูประชาบาลงี้ ลูกภารโรงที่ว่าการอำเภองี้...ฉันไม่มีทางให้แกเลือกลูกเขยให้ฉันเด็ดขาด”
สาวใช้เข้ามาเรียน “คุณยศมาแล้วค่ะ”
คุณนายกำชับนิตยา “อย่าลืม ทำตัวดีดีอย่าให้เสียเรื่อง”
ยศเดินเข้ามา ยิ้มเรี่ยราดยกมือไหว้มาแต่ไกล คุณนายรีบรับไหว้
“มาแล้วเหรอจ๊ะ แหมน้องกำลังบ่นถึงเลย”
นิตยาฉีกยิ้มใสซื่อลุกยืน “ขอโทษครับคุณอา มัวแต่เคลียร์งานให้คุณแม่”
คุณนายยิ้ม “ขยันจริง ไปยัยนิด พาพี่พักผ่อนหน่อย”
“ได้ค่ะ คุณแม่” นิตยาฉีกยิ้ม แอคติ้งหวานใส่สุดๆ “ไปกันเลยนะคะพี่ยศ”
นิตยากอดแขนยศหมับ คุณนายกระแอมปรามนิดหนึ่ง “ฝากดูแลน้องด้วยนะตายศ”
ยศตามนิตยาไป คุณนายผู้ว่ามองห่วงๆ ลูก

จีรณะขี่รถมาเจอจ่าทองตรงป้อมยามตำรวจ จ่าทองออกมายืนโบกมือให้หยุดรถ จีรณะจอดรถยังไม่ลง ถามหน้าเครียด
“ได้เรื่องมั้ยครับ จ่าทอง”
“ยังเงียบอยู่ แต่ผมให้เค้าวิทยุแจ้งทุกเครือข่ายแล้ว เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่คุณจี คุณจิตหายไปได้ยังไง”
“เดี๋ยวก็รู้ครับ”
จีรณะขี่รถออกไป

ทางด้านยศ และ นิตยา อยู่ในร้านอาหารสองต่อสอง ต่างทำหน้าทำตาสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ใส่กันเต็มกำลัง แต่งเรื่องเฟคใส่กันอย่างไม่ละอายใจ นิตยาจิบน้ำซับปาก ยศเลื่อนจานผลไม้ให้
“เวลาว่างคุณนิดชอบทำอะไรบ้างครับ”
“ชอบทำกับข้าว ทำขนมค่ะ บางทีก็เย็บปักถักร้อย แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิก่อนนอน คุณหญิงยายท่านสอนนิดมาตั้งแต่เด็ก แล้วพี่ยศล่ะคะ”
เด็กเสิร์ฟอวบอึ๋มเข้ามาเสิร์ฟอาหาร
“ผมไม่มีทางเลือกหรอกครับ ที่บ้านมีแต่ผู้หญิงทั้งแม่ทั้ง น้องสาว วันๆ ก็หมดไปกับการดูแลพวกเค้า ยิ่งตอนนี้แม่ไม่ค่อยสบายก็เลยต้องใกล้ชิดท่านมากขึ้น
ยศเหลือบมองเด็กเสิร์ฟไปมา นิตยาแอบเห็น แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ยศจิบน้ำกลบเกลื่อนกระแอม
ไอ
“มิน่า ถึงมีข่าวลือว่าพี่ยศสนิทกับนางพยาบาล”
“ถ้าเป็นคนที่เจอที่ร้านอาหารวันนั้น พูดแล้วก็เศร้าครับ ผมเห็นเค้าดูแลเอาใจใส่แม่ ก็เลยเอ็นดูเหมือนน้องสาวแต่เธอไม่ยอมครับตามผมแจเลย ตามไปที่คุ้มบ้าง แอบสะกดรอยตามบ้าง วันที่ร้านอาหารนั่นก็เหมือนกัน”
“อย่างนี้นี่เอง โถ น่าสงสาร”
นิตยามองไปเห็นมีคนงานล่ำๆ คล้ำๆ สเป็คหล่อน ใส่เสื้อกล้ามแบกของเข้าไปหลังครัวก็กลืนน้ำลายลงคอ หิวสุดๆ
“อาหารจะเย็นหมดแล้ว เชิญครับ น่ากินทั้งนั้นเลยนะครับ”
“ค่ะ น่ารับประทานที่สุดเลย” นิตยามองเหล่คนงานล่ำถึกตาวาว
ยศไม่รู้เรื่องกุลีกุจอปรนนิบัติ เอื้อมมือตักอาหารไปถูกกัน

นิตยาทำท่าเอียงอายสุดๆ ยศชอบอกชอบใจใหญ่

ไม่นานต่อมา กาบขับรถมาบนถนนสายเปลี่ยวนอกเมือง ยศนั่งเบาะหลัง โทรศัพท์คุยฟุ้งกับแม่เลี้ยงอมรา

“เรียบร้อยครับแม่ นิตยาชอบผมมากๆ มองผมตาเยิ้มเลย แม่ก็รู้ ลูกแม่หล่อเลือกได้อยู่แล้ว...ครับๆ”
ยศกดปิดสาย มองมาจากในรถที่กำลังเข้าโค้งมา พบว่ามีท่อนไม้ขวางถนนอยู่ กาบเบรกรถ
ลงจากรถมายืนดูขอนไม้งงๆ
จีรณะโผล่ออกมาจากข้างทาง กาบจะชักปืน จีรณะกระโดดถีบกาบกระเด็นไป สะดุดขอนไม้ล้มหงายไป พอกาบยันตัวลุก จีรณะเตะเสยซ้ำ กาบสลบไป ยศลุกลี้ลุกลนเปิดประตูรถออกมา จีรณะเดินรี่เข้าหา
ยศกำหมัดตั้งการ์ดเก้ๆ กังๆ ท่าทีน่าขำมาก “อย่านะ ถ้าทำอะไรกู กูจะฟ้องแม่”
จีรณะต่อยยศฟุบคารถ เอาประตูรถกระแทกยศสองครั้ง ยศนิ่งไป
กาบโผล่หน้าขึ้นมามองในอาการสะลึมสะลือ จีรณะขับรถยศเลี้ยวเข้าไปข้างทาง

ร่างยศกระเด็นเข้ามาในโรงนาร้าง จีรณะเข้ากระชากยศยืน
“ไอ้รูปอุบาทว์นั่น มันมาได้ยังไง ฝีมือแกใช่มั้ย”
“ก็ถามจิตเค้าเองสิไอ้บ้า”
จีรณะเข่าเข้าท้องยศ จนทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้น

โสภิตนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวในคุ้ม กดคีย์ ดูหน้าจอคอมพ์ไปมา แล้วควานมือหาเอกสาร เหลือบไปเจอซองทะเบียนหย่า จึงหยิบทะเบียนใบหย่าออกมา หน้าหมองลงถนัดเมื่อนึกถึงจิตราขึ้นมา

ตอนที่โสภิตขับรถไปยังอำเภอ เหลือบมองจิตราที่ร้องไห้สะอื้น ซับน้ำตาอยู่ข้างๆ เงียบๆ
กระทั่งเมื่อมาถึงที่ว่าการอำเภอ รถโสภิตขับเข้ามาจอด เหลือบมองจิตราอีกครั้ง เห็นจิตราน้ำตาไหลพรากๆ สงสารจับใจ แต่ต้องฝืนใจแข็ง

โสภิตนั่งมองใบหย่าอยู่อย่างนั้น พวงพรวดพราดเข้ามา ร้องไห้ฟูมฟาย โสภิตชะงักมองพวงงง
“คุณภิตๆเกิดเรื่องแล้วเจ้า”
โสภิตตกใจมาก

แม่เลี้ยงอมราอยู่ที่ห้องโถง มองไปที่กาบ ด่าอย่างกราดเกรี้ยว “แกคุ้มครองลูกฉันยังไง ให้มันจับตัวไปได้”
ชีพ เส่ง ยืนประคองแขนกาบ เลือดไหลมุมปากกาบ
กาบมันเล่นทีเผลอครับ ผมไม่ทันตั้งตัว
ชีพผมจะไปช่วยคุณยศเอง
แม่เลี้ยงเออ รีบไปเลย
พวงนั่งร้องไห้โหยหวนซบไหล่ เอื้อง
“ญาติเสียเหรอนังพวง เงียบเดี๋ยวนี้” พวงเงียบกริบนั่งนิ่ง “ไอ้กาบไปหาหมอซะ”
กาบ ชีพ และเส่งรีบออกไป แม่เลี้ยงอมราหน้าเครียด โสภิตเข้ามาหา
“แม่คะ”
“ไอ้จีลูกครูเจือมันจับตายศไป คอยดูนะถ้ามันทำอะไรตายศ แม่จะฆ่ามันยกครัวเลย”
โสภิตร้องห้าม “ไม่ได้นะคะแม่ คนทำผิดกฎหมายก็ต้องให้กฎหมายจัดการ”
แม่เลี้ยงกว่าจะรอตำรวจ ตายศก็เป็นศพไปแล้ว
“ถ้าเค้าจะฆ่า คงดักยิงพี่ยศตายไปแล้ว แต่ถ้าเราไปทำอะไรรุนแรงเข้า เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เรื่องอาจจะเข้าหูท่านผู้ว่า”
อมรานึกตาม “จริงด้วย ลืมคิดไป แล้วนี่ไอ้ชีพมันไปแล้ว ทำไงล่ะ”
“ภิตจัดการเองค่ะ”

โสภิตออกไปอย่างรีบเร่งร้อนใจ

อ่านต่อหน้า 3  

พรมแดนหัวใจตอนที่ 2 (ต่อ)

ภายในโรงนาร้างตอนนั้น ยศถูกมัดมือไพล่หลังอยู่ในนั้น มีเชือกมัดรอบตัวรวบแขน เชือกโยงไปอ้อมขื่อโรงนา ยศนั่งท่าคุกเข่า ตรงหน้ามีถังน้ำใหญ่ น้ำเต็มถัง

ชีพ และ เส่ง ตามมา รีบเข้าไปหายศจะแก้เชือก “คุณยศ”
พอชีพ กะ เส่ง มองตามเชือกที่ไปโรงอ้อมขื่อโรงนา ตาค้าง พบว่าจีรณะถือปลายเชือกอีกด้านแอบอยู่หลังกองฟาง พุ่งตัวโหนเชือกลงมา
ยศถูกน้ำหนักจีรณะถ่วง ดึงร่างยศลอยขึ้น จีรณะโหนเชือกลงมาถีบ ชีพกะเส่ง กระเด็นไป
จากนั้นจีรณะปล่อยเชือก ร่างยศร่วงลงกับพื้นจุกกลิ้งไป จีรณะพุ่งเข้าต่อยชีพจนกระเด็น เส่งชักปืน แต่จีรณะเตะมือเส่งปืนกระเด็น ชีพขยับเข้าล็อกข้างหลังจีรณะ เส่งพุ่งเข้าหาต่อยช่วย สองหมัด
จีรณะย่อขาโดดถีบเส่งกระเด็น
จังหวะต่อมาจีรณะก้มหน้าคางแตะอก แล้วหงายหน้าทันที ชีพปล่อยมือกุมหน้าเลือดออกจมูกสองข้าง จีรณะไม่ปล่อยโอกาสจระเข้ฟาดหางเข้าซอกคอเต็มแรง ชีพฟุบลง
เส่งคว้าได้สามง่ามเสียบฟาง พุ่งเข้าแทง จีรณะพลิกตัวหลบฉาก สามง่ามเฉียดท้องไป จีรณะหมุนตัวต่อศอกกลับเข้าทัดดอกไม้ เส่งฟุบลงอีกคน
จีรณะจัดการมัดชีพและเส่งติดกับเสา
ชีพด่า “ไอ้จีรณะ เอ็งบังอาจต่อกรกับแม่เลี้ยง เอ็งไม่ตายดีแน่”
“แต่ตอนนี้คนที่ต้องตายก่อน คือไอ้ยศ ลูกนายแก”
ยศฟังอยู่แถตัวหนี พยายามจะลุก จีรณะพุ่งเข้าจับคอเสื้อยศลากไป กดหัวยศลงในถังน้ำ ยศดิ้นทุรนทุราย
ชีพตะโกน “เฮ้ย หยุดนะโว้ย”
จีรณะไม่ใส่ใจดึงยศหน้าหงาย สำลักพรวดสูดลม น้ำ ไอไปมา “พูดความจริงมาเดี๋ยวนี้ ใครเป็นคนถ่ายภาพจิตรา...หายใจครั้งสุดทายซะ
จีกดหัวยศ “อย่าๆ พอแล้วบอกแล้ว ผมๆเอง ผมทำเอง”
สีหน้าจีรณะดุดัน เขากัดกรามนูนเป็น เหงื่อพราวหน้า จีรณะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ถ่ายวีดีโอยศ ตะคอกถาม
“แกทำอะไร พูดดังๆ”
จีรณะกระชากผมยศให้กล้องโทรศัพท์เห็นหน้าชัดๆ ยศกลัวมาก พูดไปจะร้องไห้ มือพนมขอชีวิต สภาพน่าทุเรศ มากกว่าน่าสงสาร
“ผม ผมจัดฉากถ่ายคลิปเอง ผมอยู่ด้วยจิตไม่ได้เสียหายอะไร อย่าทำอะไรผมเลย ฮือ ฮือ”
จังหวะนี้ มีแสงสะท้อนไฟไซเรนจากหลังคารถตำรวจวาบเข้าในโรงนา
โสภิต จ่าทอง ดาบม้วน และนายตำรวจหัวหน้า ยืนมองอย่างตะลึง ทุกคนได้ยินชัด
ร.ต.ท. หัวหน้าทีมแตะด้ามปืนที่เอว “ปล่อยผู้เสียหาย
จีรณะเหวี่ยงยศกระเด็นไป ยศลนลานลุกนั่ง ทุลักทุเล
“ตอนแกทิ้งจิตราเค้าฆ่าตัวตายไปครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้แกมอมยาสร้างฉากถ่ายคลิป แกคิดจะฆ่าน้องสาวชั้นทั้งเป็นไอ้สารเลว”
จีรณะเตะยศกระเด็นไปฟุบตรงหน้าโสภิตพอดี “จับมันเลยคุณตำรวจ มันจะฆ่าผม มันบังคับให้ผมพูด ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น คลิบบ้าอะไร แน่จริงเอามาเปิดดูกันสิ”
จีรณะเตะยศกระเด็น ร.ต.ท. สั่งลูกน้อง “ควบคุมผู้ต้องหาใส่กุญแจมือ”
โสภิตถลามาหายศ “พี่ยศ”
ชีพเข้าไปช่วยประคอง ฟ้องตำรวจ “จับมันเลย มันพยายามจะฆ่าคุณยศ”
จ่าทองถือกุญแจตรงเข้าหาจีรณะ สบตากันไปมา จีรณะดึงกุญแจมือจากดาบม้วนใส่ล็อกข้อมือตัวเอง
“ผมทำผิดผมกล้ารับ ไม่เหมือนบางคนขี้ขลาดตาขาวใส่ร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้”
จ่าทองจับแขนจีรณะพาออกไป จีรณะสบตาโสภิตเต็มแรง โสภิตมองพี่ชาย ยศหลบตาวูบ โสภิตเหลียวมองตามจีรณะไปอย่างอัดอั้น

แม่เลี้ยงอมราแผดเสียงใส่ลูกชายแสบที่นั่งขยับโอด ขยับโอยเบาๆ อยู่ พวงยืนดูใกล้ๆ
“นี่ถ้าชีวิตแกไม่มีแม่ ไม่มียายภิต แกจะอยู่ในโลกนี้ได้ยังไง ตายศ”
“ผมทำตามที่แม่บอกทุกอย่าง แต่ไอ้จีมันพาลครับ มันทำตัวเป็น หมาลอบกัดมาเล่นงานผม”
โสภิตนั่งกอดอกมองสงสัยยศ
“ภิตเตือนพี่ยศแล้วว่าอย่าเอาคลิปให้นายจีรณะดู”
แม่เลี้ยงงง “คลิปอะไร”
“ก็ ผมไปได้ภาพที่จิตรามีอะไรกับผู้ชายคนอื่นมา ไอ้จีมันเลยแค้นผม”
แม่เลี้ยงอึ้ง “จริงเหรอ ที่แท้นังจิตรามันก็มีอาชีพจับผู้ชายอย่างที่ฉันคิดจริงๆ เลวทั้งพี่ทั้งน้อง ภิต อย่าลืมโทร.บอกทนายให้ติดต่อผู้กำกับด้วย อย่าให้ไอ้จีอะไรนั่นได้ประกันตัวออกมาง่ายๆ”
โสภิตท้วง “ให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมเถอะค่ะแม่” แล้วเดินออกไปเลย
อมราพึมพำ “เจ้าหลักการเหลือเกินแม่คู้น สักวันนึงเถอะจะได้รู้ ว่าเดินทางตรงมันตามคนอื่นเค้าไม่ทันหรอก สมัยนี้เค้าต้องเดินทางพิเศษไม่รถลอยฟ้า ก็รถไฟฟ้าใต้ดิน”
พวงรีบเข้าประคองยศลุก “ไปเตอะเจ้า คุณยศ ไปอาบน้ำอาบท่า ทายา ทาไพรก่อนดีกว่า เกิดเลือดตกในล้มหมอน นอนเสื่อไปจะยุ่งนะเจ้า”
พวงประคองยศไป
“เฮ้อ มีผู้ชายอยู่ในบ้านกะเค้าคนก็มีแต่เรื่อง กลุ้ม”

แม่เลี้ยงอมราถอนใจเฮือก

ส่วนจีรณะนั่งกอดเข่าอยู่ในห้องขัง จ่าทอง ดาบม้วน ยืนหน้าห้องขัง

“ได้ข่าวจิตรารึยังครับ”
“ลูกน้องผู้กองเกียรติก้อง บอกว่าผู้กองออกตามหาหนูจิตด้วยตัวเอง เดี๋ยวก็คงเจอเองแหละ” จ่าทองบอก
ดาบม้วนเห็นใจ “ห่วงตัวเองบ้างเถอะคุณจี แม่เลี้ยงโทร.มาสั่งนายให้ขึ้นค่าประกันตัว แล้วจะทำยังไงกันล่ะทีนี้ ไม่น่าใจร้อนเลย”
จีรณะไหว้ “ขอโทษครับที่ทำให้ดาบม้วน จ่าทองต้องลำบากไปด้วยผมโมโหเลยลืมตัวไปหน่อย โดนขังอย่างนี้มันก็สมควรแล้วครับ”
“อย่าคิดมากไปล่ะ เกิดเป็นคนถ้าไม่เคยติดคุกติดตะราง ก็เหมือนบวชพระแล้วไม่ได้ รับกฐินนั่นแหละ เดี๋ยวพวกเราจะหาทางประกันตัวคุณจีเองไม่ต้องห่วง”
ฟังจ่าทองแล้วจีรณะนั่งซึมคิดถึงและเป็นห่วงจิตราจับใจ

ด้านยศในชุดนอนร้องโอดโอยอยู่บนเตียงในห้องนอน พอเห็นโสภิตเข้ามายศทำหลับตาขยับผ้าห่ม
“โอย...”
“อย่าเพิ่งนอนคุยกันก่อนพี่ยศ เรื่องคลิปคุณจิตที่พี่ยศบอกนายจีว่าเป็นคนจัดฉาก จริงใช่มั้ย”
ยศโอดโอยขยับนั่งพิงหัวเตียง “โธ่...ภิตก็เห็นไอ้จีมันบังคับให้พี่สารภาพ เราเป็นพี่น้องกันนะภิตจะไปเชื่อคนอื่นมากกว่าพี่เหรอ”
“พี่ยศบอกภิตว่าจ้างนักสืบถ่ายคลิปนี้มา ขอเบอร์โทรศัพท์นักสืบให้ภิตด้วย ถ้าไม่พูดความจริงกัน ภิตจะเอาหลักฐานที่พี่ยศงุบงิบโกงเงินไปให้แม่ดู เงินเป็นล้านลูกหนี้สาวๆ ทั้งนั้น”
ยศลุกพรวดลืมเจ็บทันตา “อย่านะภิต ภิตก็รู้ว่าแม่ต้องลงโทษพี่ยังไง ภิตอยากให้พี่มีชะตากรรมอย่างพ่อเหรอ พ่อเกือบตายเลยนะ แถมยังถูกไล่ออกจากบ้านเป็นตายร้ายดียังไงเราก็ยังไม่รู้”
“นั่นเพราะพ่อทรยศต่อความรักของแม่ พ่อทำร้ายผู้หญิงที่รักพ่อ เอาเงินแม่ไป เพื่อปรนเปรอผู้หญิงคนใหม่ พี่ยศเองก็กำลังทำตัวเหมือนพ่อเข้าไปทุกที ภิตเกลียดผู้ชายที่มีนิสัยอย่างนี้ ถ้าไม่เล่าความจริงเรื่องคุณจิตรา ก็เตรียมไปแก้ตัวเรื่องโกงเงินกับแม่เอาเอง”
โสภิตเอามือตบสมุดบัญชี ทำท่าจะออกไปยศเรียกไว้ “เดี๋ยวๆ ภิต เดี๋ยวก่อนเล่าแล้วพี่จะเล่าความจริงแล้ว”

ยศเล่าเหตุการณ์ที่มอมยาสลบหลอกจิตรามาถ่ายคลิปให้ฟังว่า หลังจากพาจิตราเข้ามาในห้องพักของรีสอร์ต
ชาย 1 ลูกน้องพีรพงษ์ก็เป็นคนจัดการทั้งหมด โดยมันถอดเสื้อจนเหลือแต่กางเกง จับหัวจิตให้หงายคางเชิด แล้วเลื่อนผ้าห่มให้ถดลงมาเหนือเนินอกจิตราให้ดูว่าไม่ใส่อะไรเลย
“เฮ้ยๆ ทำอะไร พอแล้วๆ เอาผ้าขึ้นไปอีก” ยศร้องลั่น
ชาย 1 ไม่พูดไม่จา เดินไปจัดเฟรมกล้อง ปรับโฟกัสไปมา กดตั้งบันทึกภาพ แล้วขึ้นไปนอนจูบซุกไซ้คอจิตรา
ยศร้องอีก “เฮ้ย...อย่าเอาจริงสิ เอาปากโดนๆ ก็พอ”
ชาย 1 ลุกมาหายศ จับเขานอนคว่ำ หันหัวมาทางกล้อง ยศสบตาชาย 1 อ้ำอึ้ง เลิ่กลัก
ชายหนึ่งบันทึกภาพต่อไป ชาย 1 จิกผมจิตราจนหน้าหงาย
ช็อตต่อมาชาย 1 นอนคว่ำทับบนร่างจิตรา แล้วจิกผมจิตราจนหน้าหงาย ซุกไซ้ไปมา
“พอแล้วๆ แค่นี้พอแล้ว”
ยศสุดทนขยุ้มคอชายเหวี่ยงไป แล้วจัดเสื้อผ้าให้จิตรา

ยศนั่งบนเตียงเล่าจนจบแล้ว โสภิตยืนกอดอกหน้าเครียดจัด ผิงข้างฝาห้องฟัง
“แค่นี้จริงๆ นะภิต ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น พอเสร็จแล้วพี่ก็พาจิตไปส่งบ้านเค้าก็ไปรู้สึกตัวที่บ้านพอดี”
โสภิตโกรธจัด พยายามระงับอารมณ์ “พี่ยศทำไปได้ยังไง ใจร้ายจริงๆ”
“พี่ก็ไม่ได้อยากทำหรอก แต่เพื่อนมันยุ มันบอกว่าถ้าใช้วิธีนี้ จิตต้องยอมหย่าแน่ๆ”
“เลวมาก คบไปได้ยังไง เพื่อนชั่วๆ แบบนี้” โสภิตด่า โดยไม่รู้ว่าเพื่อนที่ว่าคือพีรพงษ์
“เรื่องมันจบไปแล้ว ก็ให้มันจบไปเถอะ”
“สำหรับพี่ยศ มันอาจจะจบง่าย แต่ฝ่ายผู้หญิง ทำกับเขาขนาดนี้ แค่ซ้อมยังน้อย ถ้าเค้ายิงพี่ทิ้ง ภิตก็ว่ามันไม่เกินไปเลย”
“แล้วภิตจะให้พี่ทำไง”

โสภิตไม่ตอบ

ฟากจ่าทองนั่งจิบกาแฟหน้าเครียดอยู่ร้านกาแฟของหนานเทือง สายพิณ บัวหอม ร่วมโต๊ะอาโปเมียงมองแอบฟังอยู่ใกล้ๆ ส่วนหนานเทืองที่เช็ดแก้วอยู่อีกโต๊ะ

“พวกเราจะปล่อยให้คนดีๆ อย่างคุณจีติดตะรางหัวโตไม่ได้ คุณจีช่วยเหลือผู้คนไม่เลือกหน้า พอตัวเองมีปัญหา ต้องสู้อย่างโดดเดี่ยว หัวเดียวกระเทียมลีบ” จ่าทองปรารภขึ้น
บัวหอมเอ่ยขึ้นว่า “แล้วจะทำจะใด มีเรื่องกับใครบ่มี ดันไปมีเรื่องกับลูกชายแม่เลี้ยง”
“แค่คิดจะไปเยี่ยม เฮายังบ่กล้าเลยจ่า” สายพิณบอก
หนานเทืองแทรกขึ้น “คนดี ตกน้ำบ่ไหล ตกไฟบ่ไหม้”
“ชั้นกับดาบม้วน เอายศกับตำแหน่งรวมกันยังไม่พอค่าประกันตัวเลย”
จ่าทองพูดจบ อาโปเดินเข้ามา เทเงินในกระเป๋าสะพาย ทั้งแบงค์ทั้งเหรียญสองร้อยกว่าบาท) ลงบนโต๊ะ
“อาโปช่วยประกันนายด้วย นี่ๆ อีกห้าสิบบาท สำหรับส่งให้ พ่อกับแม่บนดอยของวันนี้เลยนะ พอมั้ยจ๊ะลุงจ่า”
อาโปหยิบแบงค์ห้าสิบที่ม้วนเก็บเอาไว้ออกมาวางอีก หมู่มวลอึ้งมองอาโป

ฉาก 44ห้องทำงานแม่เลี้ยง-คุ้มวันใหม่แม่เลี้ยง ยศ โสภิต เอื้อง
วันต่อมาแม่เลี้ยงอมราอยู่ในห้องทำงานที่คฤหาสน์ กำลังส่องเครื่องประดับที่ยึดมา จดลงในบัญชี เอื้องถือน้ำชาเข้ามามอง
“เอ้า มายืนมองอะไร วางแก้วซิ”
เอื้องวางแรงๆ “นี่ ถ้าแก้วฉันแตกไป ฉันจะหักเงินเดือนแก นังเอื้อง”
เอื้องประชดเอาว่า “แม่เลี้ยงอู้ว่า จะไม่ให้เงินเดือนข้าเจ้า”
“เออ ใช่ ลืมไป งั้นฉันก็คิดค่าแก้ว เพิ่มไปในก้อนหนี้ของแม่แก”
เอื้องแค้น โสภิตกับยศเข้ามา เอื้องออกไป“อะไรละสองคนนี้ เพิ่งด่านังเอื้องไป มีอะไรก็พูด มายืนเคารพธงชาติกันอยู่ได้
อมราจ้องหน้าโสภิตกับยศไปมา ท่าทางหงุดหงิด โสภิตเอาศอกกระแทกแขนยศเบาๆให้พูดสารภาพ
“มาอ้ำอึ้งอะไรกันอยู่ได้ มีอะไรก็พูดมาสิ ยัยภิต ตายศ”
โสภิตเอ่ยขึ้น “พี่ยศเป็นคนจัดฉากใส่ร้ายว่าคุณจิตราคบชู้ แล้วถ่ายคลิปเอาไว้บังคับให้คุณจิตราเซ็นใบหย่าให้ค่ะ”
แม่เลี้ยงหันไปจ้องยศจังๆ ยศจ๋อย“ตายศนี่ฉลาดกว่าที่แม่คิด รู้จักสร้างสรรค์คิดแผนอะไรดีๆ ได้...” อมราค่อยๆ ยิ้มออกมา “โดยไม่ต้องให้แม่สอน
โสภิตงงอึ้ง ยศยิ้มร่าริดตัว “ก็ผมลูกแม่นี่ครับ ผมต้องทำทุกอย่างตามที่แม่สั่งไม่ให้ขาดตกบกพร่องอยู่แล้ว” ยศยักคิ้วเยาะน้องสาว
“แล้วเรื่องคดีไปถึงไหนแล้วยัยภิตให้ทนายเร่งมือหน่อย รีบๆ ให้ถึงขั้นอัยการ ถึงศาลยิ่งเร็วยิ่งดี”
“ภิตว่าเราถอนแจ้งความดีกว่าค่ะ”
อมราฉุนกึก “อะไรนะ ถอนทำไม เรากำลังได้เปรียบมัน ตีเหล็กมันต้องตีตอนมันร้อนๆ”
“ถ้าขึ้นโรงขึ้นศาล สืบความกันไปมา พี่ยศจะลำบากนะคะ ถ้าความจริงมันเปิดเผยออกมาว่าพี่ยศเป็นคนผิด เป็นคนวางแผนทั้งหมด”
แม่เลี้ยงไม่สน “ความจริงอะไร มันจะกล้าเอาหลักฐานคลิปน้องมันเปิดเผยเหรอ คิดจะสู้ความกับเรา มีแต่น้องสาวมันจะต้องอับอายยิ่งกว่าเดิม”
โสภิตพยายามทักท้วง “แต่ว่า...”
แม่เลี้ยงอมราตัดบท “ยัยภิต แม่มีงานเยอะแยะต้องทำไม่มีเวลามายุ่งเรื่องเล็กๆ นี่ รีบๆไปจัดการตามที่แม่สั่งซะ”
โสภิตอึ้งปนเครียด

เวลาต่อมาดาบม้วนหน้าเครียด เกาหัวแกรกๆ อยู่บนโรงพัก สีหน้าสับสน ปนงง เดินมาส่งโสภิตที่รถ โสภิตหน้านิ่ง ยกมือไหว้ดาบม้วน “ขอบคุณค่ะ ลุงดาบ”
ดาบม้วนยังมึนตึ๊บ “โชคดีครับ คุณหนูโสภิต”
โภิตเปิดประตูรถ อาโปถือห่อข้าวผัด ถุงโอเลี้ยง เดินรี่เข้ามาจ้องหน้าโสภิตอย่างรังเกียจ
หน้าตาก็สวย นึกว่าจะเป็นคนดีอุตส่าห์ให้ผ้าเช็ดหน้า ที่แท้ก็เป็นคนใจร้าย”
โสภิตไม่ถือสายิ้มบางๆ “เธอยังเด็ก เธอไม่รู้เรื่อง เธอไม่เข้าใจหรอก”
ดาบม้วนจับแขนอาโปดึงเบาๆ “มานี่ๆ มาจากดอยไหนเนี่ย”
อาโปสะบัดจนหลุด “ทำไมจะไม่รู้เรื่อง ทำไมจะไม่เข้าใจ คุณทำให้น้องสาวนายเสียใจหนีไปจากบ้าน แล้วทำให้นายถูกขังอยู่ในลูกกรง ใครๆ เค้าก็พูดกันว่าคุณใจดำ”
โสภิตตกใจเมื่อรู้ว่าจิตราหายไป
ดาบม้วนรีบจูงอาโปออกไป “มานี่ มานี่เลย...”
โสภิตครุ่นคิด มองตามอาโป รำพึงอย่างกังวล “คุณจิตหนีไป”

โสภิตขึ้นรถขับออกไปทันที

ดาบม้วนพาอาโปขึ้นมาบนโรงพักแล้ว ยืนมองอาโปที่นั่งถือถุงโอเลี้ยง วางห่อข้าวผัดที่โต๊ะตรงหน้า

“นายอยู่ไหน ป่านนี้หิวข้าวแย่แล้ว”
“เดี๋ยวก็ออกมากินเองแหละ รอแป๊ปเดียว” ดาบม้วนบอก
จ่าทองกับหนานเทือง เดินนำหมู่มวลเข้ามา บุญมี คำปัน สายพิณ และบัวหอม ตามมาเป็นพยาน เป็นพรวน
บัวหอมเอ่ยขึ้น “หมู่เฮารวบรวมโฉนด บัญชีเงินฝากจะมาประกันตัวคุณจี”
ดาบม้วน เกาหัว ส่ายหน้า “ประกันไม่ได้แล้ว”
บุญมีโมโห “ทำไมจะไม่ได้ดาบม้วน หรือว่าตำรวจร่วมมือกับแม่เลี้ยง กลั่นแกล้งนายจี พวกเราไม่ยอมนะโว้ย”
หมู่มวลโห่ ดาบม้วนโบกมือวุ่นวาย แต่ทุกคนไม่หยุด ดาบม้วนเลยเป่านกหวีด ปี๊ดหมู่มวลหยุด“มีคนมาประกันตัวคุณจีแล้ว”
จังหวะนี้ ตำรวจ 1 เดินมากับจีรณะ แล้วออกไป หมู่มวลยิ้มแย้มดีใจ
สายพิณร้องออกมา “คุณจี ออกมาแล้ว”
อาโปเข้ากอดแขนจีรณะเขย่ายิกๆ “นายๆ กินข้าวๆ”
บัวหอมบอก “ความยุติธรรมมีจริง ธรรมะย่อมชนะอธรรม”
จีรณะไหว้ทุกคน หน้าขรึม “ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันประกันตัวผม”
หมู่มวลเงียบกริบ มองหน้ากันไปมา จ่าทองเลยบอก “ไม่ใช่พวกเรา”
“อ้าว ถ้าอย่างนั้นใครเป็นคนประกันตัวผม”
ดาบม้วนรีบเข้ามากอดไหล่จีรณะ พาเดินหนีไปทางบันได
“ช่างเถอะๆ ไปพวกเรา พาคุณจีไปเลี้ยงข้าว เลี้ยงปลาปลอบขวัญหน่อย”
“ผมขอตัวไปตามหายัยจิตก่อนนะครับขอบคุณทุกคนจริงๆ ครับ”
จีรณะผลุนผลันรีบลงบันไดไป หมู่มวลมองตามจีรณะไป แล้วหันขวับมามองดาบม้วนเป็นตาเดียว
“มองทำไมกันวะได้ประกันออกไปก็ดีอยู่แล้ว”
ดาบม้วนรีบเดินหนีเข้าโรงพักไป

หลังจากนั้น สภากาแฟ อันมี บัวหอม สายพิณ ชาวบ้าน หนานเทือง ร่วมโต๊ะกันกับจ่าทอง
บัวหอมเปิดประเด็น “ไผกันหว่า เป็นคนมาประกันตัวคุณจี”
หนานเทืองออกความเห็น “ลูกศิษย์ครูเจือเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องมีซักคนนั่นแหละ แต่ที่ต้องปกปิดเป็นความลับก็คงเพราะบ่อยากจะมีปัญหากับแม่เลี้ยง”
สายพิณครวญ “ดูซิ สมัยนี้ คนดีต้องหลบๆซ่อนๆ คนเลวใหญ่คับบ้านคับเมือง อู้แล้วเจ็บใจนัก”
โสภิตเดินเข้าร้านมา หนานเทือง เห็น “อ้าว อย่ามัวแต่ฝอย ลูกค้ามา”
หมู่มวลก็เห็น แตกเป็นผึ้งแตกรัง แยกย้ายกันไป เหลือจ่าทองไปไม่ทัน ยิ้มเรี่ยราดทัก
โสภิตยิ้มบางๆ ตอบ หันไปทางหนานเทือง “ขอชาดำเย็น แก้วนึงค่ะ”
บัวหอมทัก “อุ๊ย คุณโสภิตนั่นเอง เชิญๆค่ะ แหม มาเงียบๆ จะรับอะไรนะคะ”
“ชาดำเย็นค่ะ”
จ่าทองขยับจะลุก โสภิตเรียกไว้ “จ่าทองคะ”
จ่าทองออกตัว “คือเผอิญต้องรีบไปเข้าเวรน่ะครับ”
สายพิณชิ่ง “ฉันก็ต้องรีบไปเฝ้าร้านเหมือนกัน”
โสภิตเสียงดังขึ้นมาอีกหน่อย “เดี๋ยวค่ะ”
ทุกคนหยุดกึก “ถ้าใครตอบคำถามที่ฉันอยากรู้ได้ ฉันจะเลื่อนวันชำระดอกเบี้ยให้”
สิ้นเสียงโสภิตทุกคนกลับเข้ามาบอกพร้อมๆ กัน “คุณโสภิตอยากรู้อะไรคะ”/ “คุณโสภิตอยากรู้อะไรครับ”
หนานเทืองส่ายหน้า

ฟากจีรณะขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่ทางแยกบนเขา เห็นผู้กองเกียรติก้องคุยอยู่กับชาวเขาอาข่า 2 คน จึงเข้ามาจอดเทียบ
ชาวเขาชี้ไปบนเขาแล้วเดินไป จีรณะถาม “เค้าว่ายังไง เห็นจิตรามั้ยไปทางไหน
“ไปทางผานางคอย ไปเร็วทันอยู่แล้ว”
ผู้กองขับรถออกไป จีรณะจะขี่ตาม เสียงโทรศัพท์ดังจีรณะนิ่วหน้าสงสัย ก่อนจะรับสาย
“ครับจ่าทอง...” จีรณะ ฟัง 5 วินาที สีหน้าเครียดเห็นชัด

ในขณะที่โสภิตขับรถขึ้นไปบนเชิงดอย สอดตาชะเง้อชะแง้แลหาจิตราไปด้วย จังหวะหนึ่งโสภิตเห็นจีรณะขี่รถโผล่ออกมาจากป่าข้างทาง ขับนำหน้าไป โสภิตบีบแตรเรียก จีรณะไม่สนใจ

จีรณะขับขี่รถลัดเลาะตามเชิงเขาอย่างคล่องแคล่ว โสภิตขับตามไม่ลดละ

อ่านต่อหน้า 4  

พรมแดนหัวใจตอนที่ 2 (ต่อ)

โสภิตขับรถตามเข้ามาจอดในป่าอีกมุม เหลียวหาจีรณะอยู่ไปมา จนพบว่าจีรณะพุ่งรถหนีไปอีกทาง โสภิตรีบขับตามไป

ต่อมาจีรณะขี่รถเข้ามาโสภิตขับรถตามเข้ามา จีรณะเลี้ยวหายไปในป่า โสภิตหน้าเสียลงจากรถ ตะโกนหาท่าทีกล้าๆ กลัว
“นายจี นายจีรณะ”
โสภิตเหลียวมองรอบตัวอยู่สักครู่ โสภิตตัดใจจะขึ้นรถ พอหันกลับมาเจอจีรณะดักหน้าอยู่ด้วยหน้าตาอันดุดัน

ทางด้านผู้กองเกียรติก้องปาดเหงื่อ เดินขึ้นทางลาดชัน สวนกับ ชาวเขาสะพายเด็กบนหลัง
หญิงชาวเขาคนนั้นนับเงินในมือดีใจ เงินสามพันบาท มีแบงค์ร้อยสิบสองใบ
“หยุดก่อน”
หญิงชาวเขาตกใจกำเงินแน่น “ไม่ได้ขายยา ผู้หญิงสวยใจดีให้มา”
“แล้วผู้หญิงอยู่ไหน”

จีรณะลากโสภิตมาที่ริมลำธาร เหวี่ยงโสภิตกระเด็นลงไปในลำธารพื้นเป็นทรายตื้นๆ
“สืบข่าวน้องผม ตามหาน้องผม แม่เลี้ยงต้องการอะไรกันแน่”
โสภิตอึกอัก “คือว่าชั้น...”
“คุณรับคำสั่งแม่เลี้ยงให้มาปิดปากยัยจิตที่ถูกพี่ชายคุณทำระยำเอาไว้ใช่มั้ย”
“นายมองคนในแง่ร้าย ชั้นเข้าใจคุณจิตราแล้ว ชั้นรู้ว่าความจริง คือ...พี่ชายชั้น เค้า...”
“ไม่ต้องมาทำอ้ำอึ้ง ผมจะทำให้คุณรู้ คุณเข้าใจเอง ว่าน้องสาวผมเค้ารู้สึกยังไง”
จีรณะบันดาลโทสะจนหน้ามืด กระโดดเข้าปล้ำจูบโสภิตจูบไปมา
“นี่คุณจะทำอะไรชั้น ปล่อยๆ”
จีรณะกดแขนโสภิต ตัวทับร่างไว้ ใบหน้าชิดกันแค่คืบ
“คุณเคยกล่าวหาว่าผมจะข่มขืนคุณ คราวนี้คุณจะได้รู้ ว่ามันเกินกว่าจินตนาการของคุณแค่ไหน”
จีรณะจะจูบ โสภิตสู้เต็มที่ “ฟังชั้นก่อน ชั้นไม่รู้เห็นกับพี่ยศ พอรู้ความจริงชั้นเลยตามมาหาคุณจิต”
จีรณะไม่ฟังเสียงจูบซุกไซ้ต่อ แต่โสภิตนิ่งไม่ดิ้นรน
“นี่เหรอลูกครูเจือคนดีที่ใครๆยกย่อง ลูกชายเป็นคนแบบนี้เหรอ”
จีรณะหยุดกึกได้สติ สองคนสบตากันหอบเหนื่อยทั้งคู่

ส่วนจิตยืนหน้านิ่ง เนื้อตัว เสื้อผ้ามอมแมม อยู่ทอดอาลัยที่ริมหน้าผาของผานางคอย จิตราสูดลมหายใจช้าๆ หน้าค่อยๆ เงย เตรียมกระโดด
เสียงเกียรติก้องดังขึ้น “จิตอย่า”
จิตราหน้านิ่งหันมาสบตาผู้กอง จิตรายิ้มเยือกเย็น หันกลับไปทางหน้าผา
“จิต...” เกียรติก้องตะโกนลั่น

ทางด้านจีรณะเดินหน้าขรึมเครียดมาขึ้นคร่อมรถ โสภิตตามมาเร็วรี่หน้าตื่น
“นี่รอชั้นด้วย นายจะทิ้งชั้นเอาไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ”
“คุณตามผมมาเอง ก็หาทางกลับไปเอง”
“ก็นายลากชั้นมาตั้งไกล รถจอดอยู่ตรงไหน ชั้นก็ไปไม่ถูกนี่”
จ่าตุ๋ย ขับรถจี๊ปเข้ามากับลัดดา และแหวนหน้าเครียดตามๆ กัน มองหน้าจีรณะกับโสภิต
จ่าตุ๋ยบอกขรึมๆ “ผู้กองพบตัวน้องสาวครูจีแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ฐานครับ”
จีรณะสตาร์ทรถขับออกไปเร็วรี่ “ขอดิชั้นไปด้วยนะคะ”
โสภิตขึ้นรถ จ่าตุ๋ยขับออกไป

ไม่นานต่อมา รถจ่าตุ๋ยเข้ามาจอดที่ลานหน้าโรงเรียน ทุกคนลงรถกัน โสภิตเดินตามจ่าตุ๋ย ลัดดา แหวน ตามติดๆ
โสภิตเดินเข้ามาหยุด มองตาค้าง อึ้งตะลึงงัน เห็นจีรณะกอดจิตราในอ้อมกอด จีรณะน้ำตาไหลพราก จิตราเหม่อลอย เนื้อตัวเสื้อผ้ามอมแมม เกียรติยืนซึมมองจีรณะก่อนจะหันมามองโสภิตงงๆ
จีรณะเหลียวมามองหน้าโสภิต พูดเค้นคำอย่างปวดร้าวใจ “สะใจคุณแล้วใช่มั้ย ไปให้พ้น ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
จีรณะกับโสภิต สบตากัน โสภิตรู้สึกผิดเต็มประตู แหวน ลัดดา เห็นใจแตะแขนโสภิตพาออกไป

โสภิตกลับมาถึงคุ้มอมราตอนกลางคืน หล่อนอยู่ในชุดนอน นั่งมองดวงจันทร์เศร้าใจหนักกับเรื่องที่เกิดขึ้นจากฝีมือพี่ชาย

รุ่งเช้าคุณนายผู้ว่าคุยโทรศัพท์อยู่ที่บ้านพัก นิตยายืนฟังอยู่ด้วย
“ค่ะ ค่ะ ขอบคุณนะคะ สารวัตร ที่ช่วยหาข้อมูลให้” คุณนายวางหู
นิตยาถามอย่างร้อนใจ “เป็นไงล่ะคะคุณแม่ เกิดเรื่องจริงอย่างที่หนูพูดมั้ย”
คุณนายบ่ายเบี่ยง “ถึงจะจริง ก็ไม่เกี่ยวกับยศ เพราะผู้หญิงหนีไปเอง”
“แต่คนก็ต้องไปลือกันว่าหนูแย่งผู้ชายคนอื่นเค้ามา หนูเสียชื่อนะคะ”
คุณนายย้อน “ถามจริงๆ แกหน้าบางขนาดนั้นเลยเหรอ ไปแต่งตัว”
“ไปไหนอีกล่ะคะ”
คุณนายบอก “ไม่ต้องถาม แกแสดงตามที่ฉันกำกับก็พอ”
สาวใช้เดินเข้ามา หิ้วถุงขนมมาด้วย “ขนมที่คุณนายสั่งไว้เจ้า”

คุณนายสั่งสาวใช้ “ไปเอากล่องมาใส่เร็วเข้า”

ฟากแม่เลี้ยงอมราและยศ กุลีกุจอวุ่นวาย จัดกล่อง เครื่องเพชรพลอยวางแบบนโต๊ะรออยู่ในห้องรับแขก พวงแอบดูที่ประตู หันมาบอกอย่างตื่นเต้น

“มากันแล้วเจ้า รถแล่นเข้ามาแล้ว”
พวงรีบหลบไป มรารีบนั่งสงบนิ่ง หยิบเพชร พลอย ออกมาส่องพินิจพิเคราะห์ ยศคุกเข่าอยู่ข้างหลังแม่เลี้ยง บีบนวด บ่าไหล่ แขนให้แม่เลี้ยง
คุณนายผู้ว่า และนิตยาเดินเข้ามา นิตยาถือกล่องพลาสติกใส่ขนมใบใหญ่มาด้วย แม่เลี้ยง กับยศ ลุกต่างสวัสดีกัน
“เชิญค่ะ เชิญนั่ง”
คุณนายผู้ว่าเหลือบมอง เครื่องเพชร พลอยในกล่อง ตาโต
พวงลุกลี้ลุกลนถือถาดใส่แก้วน้ำเข้ามา ยศบอกเสียงนุ่ม
“รีบช่วยเสิร์ฟให้คุณนายกับนิตยา”
คุณนายยิ้มชื่น “ขอบใจจ้ะตายศ ไม่ออกไปเที่ยวที่ไหนเหรอจ๊ะวันนี้”
อมราอวยสร้างภาพทันที “เค้าไม่ชอบเที่ยวเตร่หรอกค่ะ คุณนาย ชอบอยู่ดูแลแม่เป็นเพื่อนแม่”
คุณนายสอพลอตอบ “มีลูกชายอย่างนี้ก็อบอุ่นดีนะคะ อ้อ...นี่ค่ะลูกนิดทำเองกับมือเลยนะคะ แป้งบางกรอบใส่ไส้เยอะถึงรสถึงชาติ”
พลางคุณนายผู้ว่าเลื่อนกล่องขนมบนโต๊ะมาทางพวง “แม่บ้าน...ช่วยเอาเคอรี่พัฟไปใส่จานให้แม่เลี้ยงกับตายศชิมหน่อยสิจ๊ะ”
พวงเข้ามาหยิบกล่องงงๆ “นี่มันกะหรี่ปั๊บนี่เจ้า”
คุณนายทำท่าตบอก “ตายจริง”
อมราเอ็ดขึ้น “หยาบคายจริงนังพวงนี่ ขอโทษนะคะ แก่แล้วก็เลอะเลือนแบบนี้ค่ะ เอาไปใส่จานมาไป”
พวงรีบเอากล่องขนมออกไป คุณนายเยื้อนยิ้มสร้างภาพลูกสาวต่อ “ว่างๆ เชิญแม่เลี้ยงกับตายศไปกินข้าวที่บ้านนะลูก ลูกนิดมีฝีมือเรื่องกับข้าวกับปลาค่ะ ทำได้ทุกประเภท ทั้งฝรั่ง ไทย”
อมรา ยิ้มตอบ “โถแม่คุณ เป็นแม่บ้านแม่เรือนดีจริงๆ ตายศว่างๆก็ชวนหนูนิดไปด้วยกันสิจ๊ะ ตาคนนี้ว่างเมื่อไหร่ชอบขับรถขึ้นเขาขึ้นดอยไปหาวัดป่าปฏิบัติธรรมค่ะ”
ยศเอ่ยแทรกขึ้น “ไปกันวันนี้เลยได้มั้ยครับคุณนิดถือศีลอุโบสถกันซักคืน”
นิตยาโพล่งขึ้น “เอาไว้วันหลังเถอะค่ะ ตอนนี้นิดไม่ค่อยสบายใจ ได้ข่าวว่ามีนางพยาบาลจะฆ่าตัวตายใช่คนที่นิดไปเจอที่ร้านอาหารรึเปล่าคะ”
หมู่มวลสบตากันไปมา อมรารีบกลบเกลื่อน “ไม่มีอะไรๆ ก็แค่เรียกร้องความสนใจเท่านั้นแหละ นี่ๆ หนูนิดป้ามีอะไรจะให้เป็นของขวัญ เกิดเดือนอะไรจ๊ะ”
คุณนายบอกแทน “ลูกนิดเกิดพฤษภาค่ะ”
อมรารีบเอาแหวนพลอยเขียวใส่นิ้วนิตยา “นี่ๆ ต้องนี่เลยมรกตสีเขียว เสริมดวงดีจริงๆ”
นิตยาไหว้ขอบคุณ คุณนายผู้ว่าเอ่ยขึ้นมาลอยๆ “กรกฎค่ะ”
อมรายกนิ้วนิตยาเอียงดูมุมแสงไปมา ได้ยินไม่ถนัด “อะไรนะคะ”
คุณนายบอกชัดๆ “ดิชั้น ราศีกรกฎ เกิดเดือนกรกฎาค่ะ”
แม่เลี้ยงยิ้ม “อ๋อ...ค่ะๆเลือกดูเลยค่ะ”
อมราเลื่อนกล่องเครื่องเพชรพลอยให้คุณนายเลือกเองเลย ทุกคนหัวเราะหน้าเจื่อนๆ กันไปมา

ต่อมาไม่นานอมราเดินมาส่งสองแม่ลูกที่โรงจอดรถ สักครู่รถแล่นออกประตูไป แม่เลี้ยงระบายอารมณ์“เชอะ...นึกว่าจะหยิ่งไปได้ซักแค่ไหน”
ชีพเอ่ยขึ้นท่าทีเกรงๆ “เพชรเม็ดงามอย่างนั้น ไม่เสียดายเหรอครับแม่เลี้ยง”
“เสียดายทำไม ไอ้พวกแหวนหลุดจำนำพวกนั้น ชั้นมีเป็นกระป๋อง”

ขณะเดียวกันเอื้องเช็ดรถคันอื่นอยู่ที่โรงรถแอบฟังเก็บข้อมูล กาบยืนจีบไปจิบกาแฟไป
“อยากไปนั่งรถเล่นกับพี่มั้ย”
“ไปได้ก๊ะ”
“ได้ รถทุกคันพี่เอาไปได้ทั้งนั้น พี่น่ะ มือขวาคุณนายนะ”
กาบคุยโตซดกาแฟในถ้วยกระดาษ แล้ววางบนฝากระโปรงรถ
แม่เลี้ยงกะชีพ เดินมาถึงรถแหลมใส่เสียงแปร๋น “ไอ้กาบ รถชั้นไม่ใช่โต๊ะกาแฟ”
กาบสะดุ้ง คว้าถ้วยกาแฟพลาด กาแฟหกใส่รถ ถือถ้วยกาแฟเลิ่กลั่กแม่เลี้ยงสั่ง
“กินเข้าไป”
กาบยกถ้วยกาแฟเทอึกๆ ที่เหลือใส่ปากหน้าหงาย
แม่เลี้ยงเสียงดัง “ไม่ใช่ ถ้วยกาแฟ ชั้นให้แกกินถ้วย”

กาบยัดถ้วยเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ เหมือนกินอาหารจานอร่อย เอื้องมองแม่เลี้ยงอมราอย่างเกลียดชังเข้ากระดูก

ตอนสายๆ บรรยากาศตลาดแสนคึกคัก แต่พอแม่เลี้ยงอมรานวยนาดเข้ามาเท่านั้น ทุกสรรพสิ่งหยุดนิ่ง พ่อค้า แม่ขาย ค่อยๆ ย่อเข่าจะหลบ

“ไม่ต้องหลบ มาจ่ายกับข้าว” ชีพเสียงดัง
แม่ค้า 1 รีบหยิบแอปเปิ้ล สาลี่ใส่ถุง วิ่งออกมาค้อมหลังส่งให้แม่เลี้ยง
“มาใหม่ๆ สด หวาน กรอบ ทุกลูกเจ้า”
อมราพยักหน้านิดๆ ไว้ตัวมาก กาบรีบคว้าถุงจากแม่ค้าไปถือ แม่เลี้ยงเดินต่อ พ่อค้า 1 ดักหน้ายื่นของให้ “แกงฮังเล เพิ่งขึ้นจากหม้อเลยครับ แม่เลี้ยง” กาบคว้าไปถืออีก
พ่อค้า 2 รอจังหวะส่งถุงให้ กาบคว้าไป “แคบหมูไร้มันกับน้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่มครับ”
อมรา ชีพ และกาบ เดินหลุดไปแล้ว
แม่ค้า 1 เท้าสะเอว มองตาม “อีง่าว อีวอก มันถามซักคำมั้ยว่ากี่บาท”
พ่อค้า 2 แช่ง “ขอให้ ฮากแตกฮากแตน”

ขณะที่แม่เลี้ยงอมราเดินนำชีพ กาบมา เชิดหน้า ชูคอ แต่แล้วต้องหยุดกึก ตาตื่น มองจีรณะที่ยืนข้างรถมอเตอร์ไซค์เขม็งอย่างไม่เชื่อสายตา กาบมองจีรณะ ท่าทีกล้าๆ กลัวๆ ขยาดฝีมือ
จีรณะหันมาเห็นเช่นกัน “สวัสดีครับ แม่เลี้ยง”
แม่เลี้ยงแผดเสียงใส่ “แก แกออกมาจากตะรางได้ยังไง”
“คนดีผีคุ้มครับ มีคนประกันตัวผมให้ออกมาสู้คดี ระวังแต่ลูกๆ คุณนายเถอะ วันนี้ถึงกฎหมายบ้านเมืองจะเอาโทษไม่ได้ แต่รับรองหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นหรอกครับ”
อาโปเก็บเสื้อผ้าออกมาจากร้านสายพิณ มองหมู่มวลงงๆ ขึ้นรถออกไปกับจีรณะ แม่เลี้ยงแค้นสุดขีด

ขณะที่โสภิต ทำบัญชี กดเครื่องคิดเลข จดนู่นนี่อยู่ในห้องทำงาน แม่เลี้ยงอมราหน้าเครียดจัด โกรธหนัก เดินกระแทกเสียงเข้ามา
“ไอ้จี ลูกครูเจือมันออกมาลอยหน้าลอยตาได้ยังไง แม่อุตส่าห์โทรไปบอกผู้กำกับแล้ว กำชับให้ภิตไปบอกทนายให้เร่งท่านอัยการสั่งฟ้องแล้ว ทำไมมันยังหลุดตะรางออกมาได้”
“ภิตไม่ได้ไปบอกทนายหรอกค่ะ ทนายของเราไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”
แม่เลี้ยงฉุนกึก “นี่ภิตขัดคำสั่งแม่เหรอ ทำไม”
ยศเข้ามาชะงักแอบฟังตกใจ “แม่คะ คุณจิตคิดจะฆ่าตัวตายสองครั้งแล้วนะคะ เมื่อวานก็เกือบจะกระโดดหน้าผาตาย ภิตเห็นกับตา ถ้าเป็นเรื่องเป็นราวเป็นคดีความขึ้นมา ข่าวไปเข้าหูพ่อคุณนิตยาเข้า เรื่องแต่งงานแต่งการกันเลิกฝันไปได้เลยนะคะแม่”
ยศแอบดู โสภิตเดินหนีออกมา แม่เลี้ยงกระแทกนั่ง โมโหสุดขีด

โสภิตเดินเข้ามานั่งสงบอารมณ์สีหน้าเครียดจัด ยศเลียบๆ เคียงๆ เข้ามานั่งด้วย โสภิตหันไปมองหน้าเข้ม
“เอ้อ...จิตเค้าจะฆ่าตัวตายจริงเหรอ”
โสภิตโมโหพี่ชายมาก “ยังมีหน้ามาถาม ภิตถามพี่ยศตรงๆ ถ้าพี่ไม่รักคุณจิตแล้ว ทำไมไม่คุยกันดีๆ ถ้าเค้าไม่ยอมเลิกเราก็ฟ้องหย่า ถ้าเราแพ้ความก็จ่ายค่าเสียหาย ถ้าเราชนะก็ไม่ต้องเสียอะไร ทำไมต้องใช้วิธีสกปรกอย่างนี้ด้วย”
“ไม่ใช่พี่ไม่รักจิตเค้า แต่พี่ขัดคำสั่งแม่ไม่ได้จริงๆ”
“รักเหรอ พี่ยศทำกับผู้หญิงที่พี่รักอย่างงี้เหรอ”
“พี่ไม่มีทางเลือก ภิตก็รู้ว่าแม่บีบบังคับพี่ แล้วตอนนั้นภิตก็เป็นคนออกหน้าพูดกับเค้าเอง จะให้พี่รับผิดชอบคนเดียวได้ไง”
โสภิตโมโหมาก “ได้ ถ้าอย่างนั้น เวลาภิตทำอะไรที่ถูกต้องใครก็อย่ามาขัดภิต ด้วยเหมือนกัน”
ยศหลบตาดุเอาจริงของน้องสาว

ส่วนจิตราเปลี่ยนชุดแล้วนั่งอยู่บนเตียง เกียรติก้องคอยดูแลป้อนข้าวต้มให้ ผู้กองเอากระดาษซับปากให้จิตราจะป้อนอีกคำ จิตรานิ่งไม่กิน มองหน้าผู้กองนิ่ง น้ำตาร่วงริน เกียรติก้องหลบตาจิตรา อ้ำอึ้งไป

จีรณะพาอาโปขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาหน้าบ้าน อาโปเหลียวมองรอบๆ ตัว ดีใจที่ได้มาอยู่ที่นี่ เดินยิ้มระรื่นไปหยุดหน้าจีรณะ
“บ้านนายสวยจังเลย อาโปอยู่ได้ตลอดชีวิตเลยนะ”
ผู้กองเกียรติก้องเดินถือชามข้าวต้มมาวางบนโต๊ะ หน้าตาซึมเซา
“ชั้นเอาอาโปมาอยู่ดูแลเป็นเพื่อนจิต จะให้นอนห้องเดียวกันเลย ยังไม่ค่อยไว้ใจกลัวจะคิดสั้นอีก” จีรณะบอก
“ดีเหมือนกันจะได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ชั้นเองต้องเข้าเวรที่ฐาน คงไม่ค่อยมีเวลามาดูจิตเท่าไหร่”
อาโปอาสาสุดชีวิต “ไม่ต้องห่วง อาโปจะเฝ้าดูคุณจิตแบบไม่กะพริบตาเหมือนเสือเฝ้าดูกวางเลย”
“แล้วยัยจิตเป็นยังไงบ้าง ยอมกินข้าวกินปลารึยัง”
ผู้กองส่ายหน้า “เมื่อกี๊ก็กินไปคำเดียวเอง แล้วเรื่องคดีของแกล่ะไอ้จี”
จีรณะหยิบโทรศัพท์ เปิดคลิปที่ถ่ายยศสารภาพเอาไว้ มองตาวาว
“ชั้นมีหลักฐาน พอจะไล่บี้ไอ้ยศได้ ถ้าขึ้นศาล ชั้นจะเอาไอ้ยศเข้าคุกด้วย”
เกียรติก้องเดินออกไป จีรณะมองตามนิ่งคิดตรึกตรอง

ขณะเดียวกันแม่เลี้ยงอมราหน้าดุ สั่งการ ชีพ และเส่ง
“มันเก็บหลักฐานคลิปของจิตราเอาไว้ แกสองคนไปเอามาให้ได้”

ชีพกะเส่งน้อมรับ พยักหน้าจริงจัง

ตกกลางคืน จีรณะในชุดนอนเคาะประตูห้อง เปิดเดินเข้าไปนั่งบนเตียง จิตราในชุดนอน เหลือบมองแล้วลุกนั่งกอดจีรณะร้องไห้

“จิตไม่รู้เค้าจะใจร้ายแบบนี้ เค้าวางยาจิต...”
จีรณะลูบหลังลูบไหล่น้องปลอบ “ไม่ต้องไปพูดถึงมัน ลืมเรื่องนี้ซะ”
อาโปเข้ามาคุกเข่าข้างเตียง ยิ้มสุดชีวิต ไหว้จิตรา
จิตรายิ้มให้เล็กๆ งงๆ “นี่อาโปลูกศิษย์ของพี่ มาอยู่เป็นเพื่อนจิต ถ้าต้องการอะไรก็บอกอาโปได้
อาโปคุยเขื่อง “อย่างน้อย อาโปก็ทำข้าวต้มอร่อยกว่าผู้กองแน่ๆ”
สองสาวสบตายิ้มให้กัน

ต่อมาไม่นาน ขณะที่จีรณะนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้ชั้นล่าง พักสายตาเหลือบมองไปที่หน้าบ้าน เห็นมีเงาคนวูบไหวอยู่หน้าบ้าน จีรณะลุกพรวดเขม้นมอง
“เฮ้ย...ใคร”

จีรณะเดินย่างท่าทีระแวดระวังอยู่ที่หน้าบ้าน เห็นพุ่มไม้ไหว
จีรณะเดินไปมอง พบว่าไม่มีใคร จึงหันกลับ โสภิตยืนถือกระเช้าของเยี่ยมหน้าจ๋อย
“คุณมาทำไม กลับไปซะ”
“ชั้นมาเยี่ยมคุณจิตรา ถ้าคุณไม่ต้อนรับก็ไม่เป็นไร ฝากของนี่ให้คุณจิตราด้วย”
“เราไม่ต้องการ เอากลับไป ฝากไปบอกพี่ชายคุณด้วย ว่าผมมีหลักฐานเอาตัวเค้าเข้าคุก ผลตรวจเลือดยายจิตที่ถูกวางยาออกมาแล้ว”
“อ๊ายยย...”
เสียงกรี๊ดๆของจิตกับอาโปดังขึ้น สองคนตกใจ มองขึ้นไปที่บนบ้าน

ชีพกะเส่งซึ่งใส่ไอ้โม่ง โดยชีพกำลังจะโดดหน้าต่างหันมา เส่งถูกอาโปขี่หลังล็อกคอดิ้นขลุกขลักไปมา จิตรายืนกรี๊ดอยู่อีกมุม ชีพลงจากขอบหน้าต่างกระชากอาโปออกจากเส่ง ชีพตบอาโปกระเด็นไป
จีรณะกับโสภิตเข้ามาพอดี จีรณะโดดเข้าต่อยชีพกระเด็นไป โสภิตเข้าประคองอาโปที่นั่งจุกอยู่กับพื้น เส่งเข้าล็อกจี ชีพเข้าต่อยหน้าจีรณะสองหมัด ต่อยท้องอีกที จีรณะทรุดลง ชีพ และเส่ง ฉวยโอกาสปีนหน้าต่างกระโดดหายไป จิตรารีบเข้าประคองพี่ชายพาลุกขึ้น อาโปสะบัดออกจากโสภิตอย่างรังเกียจ โผเข้าพยุงจีรณะอีกแรง
“พี่จี”
“นายๆ เป็นอะไรรึเปล่า”
โสภิตยืนหน้าตื่นมอง จีรณะถามน้องสาวอย่างห่วงใย “มันทำอะไรเธอรึเปล่าจิต”
“เปล่าจ้ะ”
“อาโปออกมาเจอมันออกมาจากห้องนาย”
จีรณะรีบวิ่งไปที่ห้องทันที

จีรณะพุ่งมาที่โต๊ะทำงานเห็นข้าวของกระจัดกระจาย จิตรา โสภิต และอาโปตามมา จีรณะมองหาโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่มี
จีรณะหันขวับไปหาโสภิตอย่างเดือดดาล เดินไปจับไหล่โสภิตกระชากมากลางห้อง
“คุณทำมาล่อให้ผมออกไปหน้าบ้านแล้ว ให้ลูกน้องคุณเข้ามาขโมย คลิปที่ไอ้ยศมันสารภาพใช่มั้ย”
โสภิตบอกตามจริง “ชั้น...ชั้นไม่รู้เรื่อง สาบานให้ก็ได้”
“โกหกหน้าด้านๆ ไป...ไปโรงพักกันยัยอสรพิษ”

จีรณะลากโสภิตออกไปโดยไม่ปราณีปราศัย จิตรากะอาโป สบตากันงงๆ

อ่านต่อตอนที่ 3  
พรมแดนหัวใจ ตอนที่ 1
พรมแดนหัวใจ ตอนที่ 1
เมื่อทอดสายตามองจากมุมสูงลงมาในยามเช้าอันแสนสดใส แลเห็นโรงเรียนตั้งอยู่บนยอดเขา ท่ามกลางผืนป่าเขียวขจี ธงชาติปลิวไสวไปตามแรงลม โรงเรียนแห่งนี้หลังคาเป็นเพิงมุงจาก ฝาห้องเรียนทำขึ้นจากขอนต้นมะพร้าวค้ำเรียงกันอย่างแน่นหนา บรรจุโต๊ะ เก้าอี้ นักเรียนได้ประมาณ 15 ที่นั่ง จีรณะชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อคม ผิวสีแทน ใส่เสื้อกล้าม ทับด้วยเสื้อตัวนอกเป็นแจ็กเก็ตฟิลด์ เขาสวมกางเกงยีนส์ที่ปลายขาถูกเก็บในรองเท้าบู้ท จีรณะเป็นครูอาสาสมัครของบรรดาเด็กๆ ชายหญิงเผ่าละหู่ วัยราว 8 ขวบ 13 คน และกำลังยืนอยู่หน้าชั้น บนกระดานดำ เขียนข้างบนว่า วันปิดเทอม ส่วนบรรทัดต่อมาเขียนว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น