xs
xsm
sm
md
lg

มาดามดัน ตอนที่ 10

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาดามดัน ตอนที่ 10

หมอพยุงครูนิยมเข้ามาในบ้าน

“ส่งครูแค่นี้ก็พอแล้วหมอ..กลับไปเถอะ ครูไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แต่ผมทิ้งครูอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้หรอกครับ..ในเมื่อผลตรวจออกมาแล้วว่าครูเป็น…”
นิยมพูดขัด “ไอ้หมอ.. ครูก็ยังไม่ได้จะตายวันนี้เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เหรอ เอ็งกลับไปเถอะ ไม่ต้อง ห่วงครูหรอก แล้วเรื่องผลตรวจน่ะ รับปากครูนะว่าจะไม่บอกเมียครู”
หมอนิ่งไปสีหน้าอึกอักหนักใจ
“ว่าไงล่ะไอ้หมอ..ครูขอเอ็งเรื่องนี้เรื่องเดียว อย่าให้เมียครูรู้เรื่องนี้เด็ดขาด”
“ผมขอโทษครับครู…คือผม”
หมอยังพูดไม่ทันจบราศีก็รีบเข้ามาจากประตูรั้วเพราะกลับมาจากนอกบ้านอย่างร้อนรน พอเห็นหน้าสามีเธอก็ปรี่เข้าไปสวมกอดแล้วร้องไห้ทันที
“พ่อ..ฮือๆๆๆ ไม่จริงใช่มั้ย ชั้นไม่เชื่อ.. ชั้นไม่เชื่อว่าพ่อจะเป็นมะเร็ง”
นิยมอึ้ง “แม่..นี่..แม่รู้แล้วเหรอ”
“หมอเขาโทรไปบอกแม่” ราศีพูดกับหมอ “หมอ..เป็นไปได้รึเปล่าว่าผลตรวจอาจจะผิด”
“ไม่ผิดหรอกครับครู.. ผลตรวจยืนยันชัดว่าครูใหญ่เป็นมะเร็งตับระยะลุกลามแล้ว”
หมอถอนหายใจอย่างเสียใจที่จะพูด ราศีถึงกับปล่อยโฮขณะกอดสามีร้องไห้

เน็กซ์ในบทคุณชายสยุมภูวิ่งเข้ามาร้องตะโกนเรียกดังลั่น
“ท่านพ่อ..ท่านพ่อ..ท่านพ่อครับ”
คุณชายสยุมภูวิ่งเข้ามาแต่ไม่ทันเวลา ท่านพ่อในละครได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับอยู่บนเตียงโดยห่มผ้าแพรเปิดเห็นแต่ใบหน้าท่ามกลางครอบครัวที่พากันร้องไห้ระงม เน็กซ์แสดงอาการเสียใจน้ำตาไหลอาบแก้มขณะเข้าไปกอดร่างท่านพ่อร้องห่มร้องไห้
ที่มุมผู้กำกับดูมอนิเตอร์ ทุกคนต่างน้ำตาคลอเบ้าไปกับการแสดงขั้นเทพของเน็กซ์ ป้าแต๋ว จุ๋ง หนูดอก น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆ จนป้าแต๋วเกือบจะลืมสั่งคัท
“คะ..คัท..คัท !!! สุดยอดมากเลยค่ะน้องเน็กซ์..เป็นอะไรที่ประทับใจป้าที่สุด มาค่ะ..มา เช็คเทปดูเลย”
เน็กซ์เดินเข้ามาดูภาพจากจอมอนิเตอร์ ป้าแต๋วและทุกคนภูมิใจ
ภาพที่จอมอนิเตอร์เป็นช่วงที่เน็กซ์กอดท่านพ่อร้องไห้เสียใจบนเตียง
“ตัวผมเองยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่....ขอลองดูอีกเทคได้มั้ยครับป้าแต๋ว” เน็กซ์บอก
“แต่พี่ว่าแค่นี้ก็เรียกน้ำหูน้ำตาจากทุกคนในกองแล้วนะคะ” จุ๋งบอก
“ใช่ค่ะน้องเน็กซ์..ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาจะนองพื้นกันหมดแล้ว” หนูดอกสนับสนุน
“ผมขออีกเทคนะครับป้าแต๋ว.. ผมมั่นใจว่าผมทำได้ดีกว่าเมื่อกี้”
จุ๋งเข้ามากระซิบป้าแต๋ว
“จัดไปเลยค่ะป้าแต๋ว..ถ้าละครเรื่องนี้ออนแอร์แล้วเน็กซ์ไม่ได้เป็นซุปตาร์สายฟ้าแล่บล่ะก็..จุ๋งจะเลิกเป็นผู้จัด จะไปทำน้ำพริกกระปุกขายตลาดนัดดาราอย่างเดียวแล้ว”
ป้าแต๋วพยักหน้ารับจุ๋งแล้วหันไปรับปากเน็กซ์ “น้องเน็กซ์ขอมา..ป้าก็จัดให้ค่ะ ป้าชอบอยู่ แล้วทำงานกับนักแสดงเนี่ย เพราะป้าไม่ชอบทำงานกับดารา”
“ขอบคุณครับ”

นิยมนั่งพิงหัวเตียงโดยมีสีหน้าอ่อนเพลียจากอาการของโรคที่เป็น ราศีจับมือสามีแล้วร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด เธอฟูมฟายแทบขาดใจ
“ทำไม..ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ฮือๆๆ”
“พอเถอะแม่..ต่อให้แม่ร้องไห้จนน้ำตาไม่มีให้ไหลอีก ก็ช่วยให้พ่อหายไม่ได้หรอก มันเป็นเวรเป็นกรรมของพ่อเอง เขาให้พ่ออยู่มาได้ถึงขนาดนี้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
“ไม่ !! พ่ออย่าพูดแบบนี้นะ พ่อจะต้องหาย..แม่จะไม่ยอมให้ไอ้มะเร็งบ้าๆเนี่ยมาเอาชีวิต พ่อไปเด็ดขาด”
นิยมถอนใจ “แม่..ระยะลุกลามแล้วนะ ไอ้หมอมันยังไม่กล้ารับปากเลยว่าพ่อจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่”
“พ่อ...ฮือๆๆ”
ราศีได้แต่กอดสามีแล้วร้องไห้หนัก ในขณะที่นิยมเองก็เสียใจจนน้ำตาไหลอาบแก้มแม้จะฝืนเข้มแข็งแล้วก็ตาม

“พ่อ..พ่อ” นิยมสะอื้น “พ่อก็เสียใจ..พ่ออยากอยู่กับแม่ อยากอยู่กับบักหมาให้นานกว่านี้ อยากอยู่จนกว่าพ่อจะได้เห็นบักหมาประสบความสำเร็จ เห็นมันมีเมีย มีลูก...ฮือๆๆ”
“พ่อ....ฮือๆๆๆ งั้นแม่จะตามบักหมาให้กลับมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องไปตามหาแล้วไอ้พ่อที่ แท้จริงของมัน มันจะต้องกลับมาอยู่กับพ่อ ดูแลพ่อที่นี่”
“ไม่ได้นะแม่...อย่าให้บักหมารู้เรื่องนี้เด็ดขาด ห้ามตามมันกลับมา”
“ทำไมล่ะพ่อ..พ่อยังไม่หายโกรธมันอีกเหรอ”

นิยมมองหน้าเมียทั้งน้ำตาคลอเบ้าแล้วตัดสินใจลุกขึ้นลงจากเตียงไปที่ตู้เสื้อผ้า ราศีมองอย่างสงสัย

นิยมเอากุญแจไขลิ้นชักแล้วหยิบสมุดออกมา เขาเอาสมุดเล่มนั้นยื่นให้ราศี
 
ราศีอึ้งเมื่อเปิดสมุดภาพข่าวตัดแปะที่สามีเอามาให้ดูเพราะเขาแสดงถึงความคิดถึงลูกมาตลอด ในสมุดเล่มนั้นมีภาพข่าวต่างๆของเน็กซ์
“พ่อ...นี่...นี่พ่อ”
นิยมพูด “พ่อขอโทษที่ต้องทำเหมือนว่าพ่อไม่เคยยกโทษให้ไอ้บักหมา ทั้งๆที่..พ่อ..พ่อคิดถึงมันทุกวัน” นิยมสะอื้น “พ่อรักมันมากนะแม่..ถึงมันจะไม่ใช่สายเลือดของเรา แต่มันก็คือแก้วตาดวงใจของพ่อ ต่อให้มันต้องไปอยู่กับพ่อแท้ๆของมันที่ฝรั่งเศส แล้วไม่กลับมาอีกเลย พ่อก็ยังจะเรียกมันว่าลูก”
“ไอ้บักหมามันก็รักพ่อนะ.. มันไม่เคยโกรธพ่อเลยสักครั้ง ให้ชั้นตามมันกลับมาเถอะนะ”
“ไม่ได้..พ่อแม่มีหน้าที่สนับสนุนความฝันของลูก วันที่เขามีความสุขที่สุดก็คือวันที่เราทำ หน้าที่ของเราได้สำเร็จไม่ใช่เหรอแม่”
“แต่กว่าบักหมาจะดัง กว่าจะเก็บเงินได้ กว่าจะตามหาพ่อที่แท้จริงเจอ ถึงตอนนั้น”
ราศีจุกคอจนพูดไม่ออกว่าสามีคงอยู่ไม่ถึง นิยมยิ้มให้ภรรยาแล้วจับมือมากุม
“โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตกำลังรอมันอยู่ ถ้าไอ้บักหมาสู้ไม่ถอยเพื่อจะไปให้ถึงความฝัน พ่อก็จะสู้ไม่ถอยเหมือนกัน…อย่าตามลูกกลับมานะแม่” นิยมย้ำ “นะแม่นะ”
ราศีมองหน้าสามีที่จริงจังจนร้องไห้ออกมาแล้วเธอก็กอดสามีเอาไว้แน่นแล้วทั้งคู่ก็ร้องห่มร้องไห้ออกมา

เน็กซ์กำลังหลับตายืนทำสมาธิเตรียมพร้อมฉากเดิมอีกเทคตามคำขอของเขาเอง หนูดอกเข้ามาตามเน็กซ์ที่หลบมุมทำสมาธิเตรียมเข้าฉาก
“น้องเน็กซ์..พร้อมมั้ยคะ”
“ครับพี่หนูดอก”
หนูดอกมองอย่างชื่นชม “นี่ถ้ามาดามไม่โดนห้ามเข้ามาในกองถ่ายล่ะก็ มาดามคงปลื้มปริ่มที่น้องเน็กซ์ทุ่มเทกับงานถึงขนาดนี้”
“งานนี้เป็นความตั้งใจของผมที่สุดแล้วครับพี่หนูดอก ยิ่งผมดังเร็ว ผมก็จะมีเงินไปตามหาพ่อที่แท้จริง แล้วผมก็จะได้กลับไปหาพ่อแม่ผมที่บึงโขงหลงซะที”
หนูดอกพยักหน้าเข้าใจและยิ้มให้กับความตั้งใจของเน็กซ์ก่อนจะมองเน็กซ์ที่เดินไปที่จุดMark
“พร้อมนะคะน้องเน็กซ์..ถ้ามั่นใจว่ามีของก็ปล่อยของออกมาให้เต็มที่” ป้าแต๋วบอก
“นักแสดงมากฝีมือ..ว่าที่ซุปตาร์คนใหม่ของวงการกำลังรอการแจ้งเกิดอยู่..พี่มั่นใจค่ะ” จุ๋งบอก
เน็กซ์พยักหน้ารับแล้วสูดลมหายใจเรียกสมาธิตามคาแรคเตอร์
“ทุกคนพร้อมนะคะ..5...4…3…2...ACTION !!”

หลายเดือนผ่านไปหลังการออกอากาศของละครคุณหนูวุ่นวายกับคุณชายฉ่ำโบ๊ะ กลุ่มแฟนคลับเน็กซ์หลายสิบคนทั้ง ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มายืนออชูป้ายไฟเชียร์มีทุกภาษาทั้ง “หว่ออ้ายหนี่” / “สามีขา” / “ซารางเฮโย” / “คิเรเน่” / ป้ายไฟชื่อเน็กซ์ ทุกคนส่งเสียงกรี๊ดลั่นเมื่อพุชชี่ขับเจ้าม้าป่าเปิดประทุนพาเน็กซ์มาจอดที่หน้าบริษัท
แฟนคลับรุมเข้ามากรี๊ด บ้างถือสมุดมาขอลายเซ็นต์พร้อมปากกา บ้างใช้มือถือถ่ายรูป ไอแพดถ่ายรูปบ้าง พุชชี่พาเน็กซ์ลงจากรถรับมือกับกลุ่มแฟนคลับ
“ใจเย็นๆนะคะ อย่ารุมค่ะ..อย่ารุม เน็กซ์จะแจกลายเซ็นต์และถ่ายรูปกับแฟนคลับครบทุกคนแน่นอนค่ะ”
แต่ถึงแม้พุชชี่จะตะโกนขอร้องให้แฟนคลับใจเย็น ทุกคนก็ไม่ฟัง ทุกคนพากันแย่งกันเข้าไปใกล้เน็กซ์จนพุชชี่ถูกเบียดจนกระเด็นกระดอนออกมาล้มก้นจ้ำเบ้า แขนถลอก ข้อศอกช้ำ เธอได้แต่มองเน็กซ์โดนแฟนคลับรุมตาปริบๆ

กลุ่มแฟนคลับยังยืนรอเชียร์ชูป้ายอยู่ด้านหน้าบริษัท จุ๋งแง้มมู่ลี่ดูสถานการณ์ที่หน้าบริษัท เธอเห็นแฟนคลับปักหลักไม่ยอมไปไหน
“แม่เจ้า !! ไม่อยากจะเชื่อ..เห็นมั้ยคะป้าแต๋ว แฟนคลับไทย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น มารอกรี๊ดน้องเน็กซ์เต็มหน้าออฟฟิศเราเลย”
“ไม่แปลกใจหรอกค่ะพี่จุ๋ง ก็นอกจากเรตติ้งละครคุณหนูวุ่นวายฯ จะทำถนนเมืองไทยโล่งไปหลายวัน ที่จีน,ญี่ปุ่น,เกาหลีก็กำลังเกิดกระแส T-POP เพราะน้องเน็กซ์คือซุปตาร์สายฟ้าแล่บตัวจริงเสียงจริง” ป้าแต๋วบอก
จุ๋งกับป้าแต๋วหันมาที่เน็กซ์กับพุชชี่ที่นั่งระบมแผลถลอกโดยมีเน็กซ์ช่วยเอายาพวกเคาน์เตอร์ทารอยฟกช้ำให้
“เจ็บมั้ยป้า”
“เจ็บสิถามได้.. ชั้นว่าชั้นต้องไปหัดพูดภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุ่นไว้คุยกับแฟนคลับเธอแล้ว ไม่งั้นพูดกันไม่รู้เรื่อง”
“พี่เห็นด้วยนะพุชชี่ จากนี้หล่อนต้องเริ่มวางแผนชีวิตให้เน็กซ์ใหม่แล้ว ดังแค่เมืองไทย มันไม่พอ..ต้องดังแบบโกอินเตอร์”
พุชชี่ยกมือไหว้ “ขอบคุณมากค่ะพี่จุ๋ง เป็นเพราะพวกพี่จุ๋งช่วยสนับสนุน เน็กซ์ถึงได้มีวันนี้”
“ไม่ใช่เพราะพวกเราหรอก เพราะเน็กซ์เองต่างหาก ถ้าเขาไม่มีคุณสมบัติของซุปตาร์ ต่อให้เอารถบรรทุกมาฉุดกระชากลากยังไงมันก็ไม่ได้”
เน็กซ์ยกมือไหว้ “ขอบคุณมากครับป้าแต๋ว” เน็กซ์ไหว้ “ขอบคุณครับพี่จุ๋ง”

เน็กซ์ไหว้ป้าแต๋วและจุ๋ง แล้วหันมายิ้มกับพุชชี่ที่วันนี้เขาเดินมาถึงคำว่าซุป'ตาร์จนได้

เจ๊เมี่ยงกำลังเปิดไอแพดของตัวเองแล้วไล่เรียงรายชื่อสินค้าที่มาจ่อคิวให้แพตตี้เป็นพรีเซนเตอร์ก่อนจะบอกแพตตี้
 
“หมวดเครื่องสำอางที่ติดต่อมาให้หนูเป็นพรีเซนเตอร์ เจ๊คัดเอาไว้แต่แบรนด์นอกเท่านั้น ส่วนหมวดของกินของใช้ เจ๊ก็คัดเอาไว้แต่เกรดพรีเมี่ยม รวมๆแล้วโฆษณาก็ 30 ชิ้น”
ยุวดีตาโต “โอ้โห..ตั้ง 30 ชิ้น.. แบบนี้เดินไปไหนมาไหนก็เจอแต่หน้าคุณหนูเลยสิคะเจ๊”
“อ๊ะ..แน่นอนอยู่แล้ว ละครเรื่องแรกของแพตตี้ฮิตระเบิดระเบ้อดังไปทั่วเอเชียแบบนี้ มันก็ถึงเวลาที่น้ำขึ้นต้องรีบตัก”
“โฆษณาเยอะขนาดนั้น หน้าหนูจะไม่ช้ำเหรอคะเจ๊” แพตตี้บอก
“ช้ำอะไรกัน..ถ้าไม่ใช่ซุปตาร์ตัวจริง ทำไม่ได้แบบนี้หรอกหนูจ๋า อ้อ..แล้วบันไดขั้นต่อไปที่เจ๊จะดันหนูต่อก็คือ..หนูดังน้อยหน้าเน็กซ์ไม่ได้ หนูจะต้อง..โก..โก..โกอินเตอร์”
ยุวดีตาโต “โกอินเตอร์ !!...น่าตื่นเต้นจังเลยนะคะคุณหนู ฮอลลีวู้ด พรมแดง..อ๊ายยย แบรด พิต ทอม ครู้ซ..ฟินแล้วยุวดี...อะจึ๋ย อะจึ๋ย”
ลอร่าเดินเข้ามา “เจ๊คะ..ลอร่าพาหมอกี้มาแล้วค่ะ”
“ขอบใจ..เดี๋ยวเจ๊มาเม้าท์เรื่องอนาคตหนูต่อนะคะ”
เจ๊เมี่ยงตามลอร่าออกไปลงไปชั้นล่าง ยุวดีหน้าพริ้มฝันหวานได้ครู่ก็หันมาที่แพตตี้อย่างสงสัยเพราะเห็นเธอไม่ดีใจไปด้วย
“คุณหนูไม่ดีใจเหรอคะ เจ๊เมี่ยงเตรียมวางแผนดันให้โกอินเตอร์เลยนะคะ”
“ก็ดีใจอยู่หรอก..แต่ชั้นอดสงสัยไม่ได้”
“สงสัยอะไรเหรอคะ”
“แกก็เห็นใช่มั้ยว่าตั้งแต่ละครคุณหนูวุ่นวายออกอากาศไป ทั้งประเทศเขาทั้งจิ้น ทั้งฟิน จิกหมอนกับฉากเลิฟซีนของชั้นกับเน็กซ์”
“เห็นสิคะ.. ยุวดียังเกือบน้ำหมากกระจายเลย ยิ่งฉากดำน้ำลงไปปล้ำกันฉากนั้นนะ โอ้ว”
“นี่แหละที่ชั้นห่วง.. ป๋าต้องเห็นฉากพวกนั้นแล้วแน่ๆ แต่ทำไมไม่มีโทรศัพท์จากป๋าเลย”
ยุวดีเพิ่งนึกขึ้นได้ “นั่นสิคะ..ดูมันแปลกๆนะคะ”
แพตตี้กับยุวดีมองหน้ากันแล้วก็เริ่มใจคอไม่ค่อยดี

เจ๊เมี่ยงลงนั่งคุยกับหมอกี้อย่างเหนื่อยหน่าย
“กว่าจะว่างมาเจอเจ๊ได้.. ตามตัวยากจริงๆเลยนะคะน้องหมอ” มัชฌิมาหันไปถามลอร่า “หล่อนไปตามเจอที่ไหนมายะ”
“น้องเขาเพิ่งออกมาจากป่าพอดีค่ะเจ๊” ลอร่ายกมือป้องปากแล้วเม้าท์ “คุยใหญ่เลยว่าได้รูปกระทิง มาเพียบค่ะ”
เจ๊เมี่ยงตบอก “ตายแล้ว..น้องหมอกี้ขา..ที่น้องบอกเจ๊ว่าเริ่มสนใจอาชีพถ่ายภาพเนี่ย เจ๊นึกว่าน้องจะเป็นช่างภาพแฟชั่น ไม่คิดว่าจะหายเข้าป่าตามล่าถ่ายรูปกระทิงจริงๆ”
“พี่น่าจะรู้จักนิสัยผมดีนะครับ..ถ้าเรื่องไหนที่ผมสนใจ ผมจะทุ่มเทกับมันให้เต็มที่” หมอกี้ว่า
“แหม..แต่กระทิงในป่า ถ่ายยังไงก็ไม่เร้าใจ ถ้าน้องอยากเป็นช่างภาพจริงๆ มาถ่ายรูป กะเทยแทนกระทิงมั้ยคะ”
เจ๊เมี่ยงพูดไปก็โพสต์ท่านางแบบแต่หมอกี้หน้านิ่งเพราะไม่ขำด้วยทำเอาเจ๊เมี่ยงมุขแป้ก
ลอร่ากัด “มุขไม่ฮา แต่ฆ่าคนปล่อยมุขได้ค่ะเจ๊”
“นังลอร่า..สะเออะ !!” มัชฌิมาอ้อนหมอกี้ “คุณน้องขา..เจ๊ขอนะคะ คุณน้องเป็นนัมเบอร์วันของ เจ๊ แต่ปีนึงคุณน้องยอมรับงานละครแค่เรื่องเดียวเนี่ย ชื่อเสียงคุณน้องจะถูกลืมไปจากวงการนะคะ”
“ใช่ค่ะน้องหมอ.. ตอนนี้เน็กซ์เด็กยัยพุชชี่มันกำลังมาแรง กลายเป็นซุปตาร์สายฟ้าแล่บ แปล๊บๆจี้หลังน้องหมอมาทุกที”
“โฆษณาหลายชิ้นถอดน้องหมอแล้วให้เน็กซ์เป็นพรีเซนเตอร์แทน..น้องหมอไม่รู้สึกอะไร เลยเหรอคะ”
“นักข่าวมาถามผมเรื่องนี้แล้วครับ.. ผมก็ให้คำตอบไปว่า ผมเข้าวงการเพราะแค่อยากหาประสบการณ์ ตอนนี้ผมก็ได้ประสบการณ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมต้องไปทำอย่างอื่นบ้าง”
“หา !! คุณน้องตอบอย่างนี้จริงๆเหรอ”
“ครับ..ก่อนจะมาหาพี่นี่แหละ” หมอกี้บอก
เจ๊เมี่ยงเหวอ “ตาย..เจ๊ง..วี้ดบึ้มแล้วน้องหมอ ทำไมเจอคำถามนักข่าวแล้วไม่มาถามเจ๊ก่อน”
“เพราะผมตั้งใจมาบอกพี่อย่างที่บอกนักข่าว ผมไม่ต่อสัญญากับพี่แล้วนะครับ ขอบคุณที่ดูแลผมมาอย่างดีตลอด สวัสดีครับพี่”
 
หมอกี้ยกมือไหว้

หมอกี้ยกมือไหว้แล้วเดินออกไปอย่างติสต์ๆ เจ๊เมี่ยงถึงกับอึ้งเหวอแล้วกระพริบตาปริบๆ ในขณะมองหน้าลอร่า แล้วเจ๊เมี่ยงก็รีบวิ่งตามไปฉุดแขนหมอกี้ไว้
 
“เดี๋ยวค่ะน้องหมอ..ไม่ได้ค่ะ..เจ๊ไม่ยอมให้น้องหมอไปง่ายๆแบบนี้เด็ดขาด”
“แต่ผมเคยบอกตั้งแต่วันที่มาทำงานกับพี่แล้ว ถึงเวลาผมหมดสนุก พี่ต้องยอมปล่อยผมไป”
“ก็ตอนนี้พี่ยังไม่พร้อม..เจ๊ยังหาซุปตาร์มาแทนน้องหมอไม่ได้”
“คนเก่งๆอย่างพี่ เดี๋ยวก็หาได้ใหม่เองแหละครับ”
เจ๊เมี่ยงโกรธ “งั้นเจ๊ขอบอกเลยว่าน้องอกตัญญูเจ๊”
“ถ้าพูดแบบนี้.. จะให้ผมบอกทุกคนมั้ยว่าสัญญาที่ผมทำกับพี่ พี่ได้ผลประโยชน์จากผมไปเท่าไหร่แล้ว”
เจ๊เมี่ยงโกรธ “น้องหมอ....” หมอกี้ไม่สนใจเดินออกจากบ้านไปเลย เจ๊เมี่ยงจะตามแต่ลอร่ารั้งไว้
“เสี่ยงไปมั้ยคะเจ๊..ต่อไปคงไม่มีใครเรียกเจ๊เมี่ยงเจิดแล้ว ต้องเรียกว่าอีเจ๊หน้าเลือดแทน”
เจ๊เมี่ยงหันไปหยิกลอร่าทันที “นังปลวกไม่ต้องมาแทะกันเองย่ะ”
เจ๊เมี่ยงหันไปด่าลอร่าแล้วตะโกนด่าไล่หลังหมอกี้ไม่หยุด
“ไปเลย..ไอ้อกตัญญู คนอย่างเมี่ยงเจิด..ถ้าไม่อยากเจิดด้วยกัน..ก็เชิ่ดใส่ได้ย่ะ..เชอะ !! หึ..คอยดูนะ ชั้นจะทั้งดัน ทั้งปั้นให้แพตตี้เป็นซุปตาร์ระดับโลกให้ได้” เจ๊เมี่ยงหันหลังให้ประตูทางเข้า
พูดไม่ทันขาดคำธีระก็เดินเข้ามาทำเอาเจ๊เมี่ยงสะดุ้งโหยงรวมทั้งลอร่าด้วย
ธีระพูดเสียงหวาน “อยากปั้นแพตตี้ให้ดังระดับโลก..เคยคิดถามป๋าสักคำบ้างรึเปล่าจ๊ะหนูเมี่ยง”
เจ๊เมี่ยงหันไปเห็นธีระก็สะดุ้งโหยง แม้น้ำเสียงของธีระจะฟังดูหวานแต่สีหน้านั้นโหดเอาเรื่อง เขามาพร้อมลูกน้องที่เดินเข้ามายืนเรียงหน้ากระดานอยู่ข้างหลังเป็นแพ ทุกคนหน้าเหี้ยมสุดๆ เจ๊เมี่ยงกลืนน้ำลายเอื๊อก

พุชชี่คุยโทรศัพท์มือถืออยู่ ระหว่างนั้นที่ประตูด้านหลังเน็กซ์ก็เดินเข้ามายืนฟังโดยถือแฟ้มละคร “ประคำดอกรัก” มาด้วย
“ต้องขอโทษจริงๆค่ะพี่กิ่ง..น้องเขาก็อยากจะไปรับรางวัลด้วยตัวเองนะคะ แต่คิวน้องเขา เต็มเอี๊ยดจริงๆ เป็นงานของผู้ใหญ่ที่รับปากไว้แล้วด้วย..ค่ะ..พุชชี่รับปากว่าเวทีหน้าจะ ล็อคคิวน้องเขาให้พี่..ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ สวัสดีค่ะพี่”
พุชชี่วางสายไปแล้วเป่าปากไม่หายวุ่นวายกับเรื่องคิวของเน็กซ์ เน็กซ์เอาบทละครมาวางบนโต๊ะหน้าพุชชี่
“ผมอ่านเรื่องประคำดอกรักจบแล้ว บทสนุกดีครับป้า”
“จริงเหรอ..งั้นเดี๋ยวชั้นโทรบอกพี่อนุพงษ์ว่าเธอรับปากจะเล่นเรื่องนี้ต่อเลย”
“เดี๋ยวสิป้า.. ขอเวลาพักบ้างไม่ได้เหรอ”
“ชั้นรู้ว่าเธอเหนื่อย ถึงปฏิเสธงานอีเว้นท์ให้เหลือแต่ถ่ายโฆษณา ถ่ายปก ออกรายการ แค่นั้น อดทนหน่อยนะ เธอกำลังเป็นที่รักของคนทั้งประเทศ เขามีความสุขเพราะเธอ”
“ทำให้ทุกคนมีความสุขได้ ผมไม่เหนื่อยหรอก ผมห่วงก็แต่เรื่องตามหาพ่อที่แท้จริง “
พุชชี่ชะงัก
“ตอนนี้รายได้ที่ผมมี ผมสามารถไปตามหาพ่อผมที่ฝรั่งเศสได้แล้วนะป้า”
“ชั้นรู้”
“รู้แล้ว ทำไมป้ายังรับงานให้ผมจนแทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลยล่ะ”
“ก็...”
“ก็ลืม”
“ไม่ใช่นะเน็กซ์ ชั้นยังจำได้ว่าเป้าหมายของเธอคืออะไร..แต่ว่าตอนนี้”
เน็กซ์ขัดทันที “ตอนนี้น้ำกำลังขึ้น ป้าก็เลยต้องรีบตักตวงผลประโยชน์ไง”
เน็กซ์พูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์แล้วเดินออกไปทางประตูสู่ห้องโถงทันที พุชชี่หน้าเสียแล้วรีบตามเน็กซ์ไป

“เดี๋ยวสิเน็กซ์...”
 
อ่านต่อหน้า 2

มาดามดัน ตอนที่ 10 (ต่อ)

เน็กซ์เดินเร็วมาด้วยสีหน้าไม่พอใจออกจากประตูห้องนั่งเล่นติดสระไปทางหลังบ้าน
 
โดยมีพุชชี่เดินตามติด “เน็กซ์..เน็กซ์ !! ฟังชั้นก่อน”
พุชชี่หัวเสียแล้วต้องชะงักเมื่อเห็นตุลยาเดินเข้ามา
พุชชี่แปลกใจ “น้องตุล”
“ที่หนีหน้าไม่ยอมเจอพี่ติณไปหลายเดือน ที่แท้ก็มัวแต่ยุ่งตามเด็กนี่เอง”
พุชชี่นิ่งเพราะไม่อยากตอบโต้
“พี่พัฒพอมีเวลาว่างมั้ยคะ ตุลมีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย”
พุชชี่นิ่งมองตุลยาด้วยความสงสัยว่าจะคุยเรื่องอะไร

เจ๊เมี่ยงถูกธีระจับหน้าบีบปากเอาเรื่องอย่างโมโห
“หนูเมี่ยง... หนูทั้งรับปาก ทั้งสัญญาว่าจะไม่ยอมให้แพตตี้ใกล้ชิดไอ้บักหมา..แต่ทำไมป๋าถึงกลับต้องทนนั่งดูแพตตี้กอดจูบ ลูบคลำ นัวเนียกับมันจนป๋าต้องทุบทีวีที่บ้านทิ้งทุกเครื่อง”
“คุณ..คุณป๋าขา..ฟัง..ฟังเมี่ยงก่อนเถอะค่ะ”
“ไม่ฟัง!!! ยังจะให้ฟังคำตอแหลของหนูอีกงั้นเหรอ เบื่อที่จะฟังแล้วเว้ย”
ธีระโกรธจัดเหวี่ยงเจ๊เมี่ยงไปทางพวกลูกน้องหน้าเหี้ยม พวกลูกน้องจัดการล็อคตัวเจ๊เมี่ยงเอาไว้ทั้งสองข้าง
ลอร่าตกใจ “ว๊ายเจ๊..คุณป๋าขา ปล่อยเจ๊เถอะค่ะ”
ธีระชี้หน้า “แกอย่ามายุ่ง.. หลังจากเด็กๆชั้นสั่งสอนนังเมี่ยงแล้ว คิวต่อไปก็คือแก ไอ้พวกปลิ้นปล้อนที่กล้ามาตอแหลกับชั้น มันต้องโดนสั่งสอน”
ลอร่ากลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยความรู้สึกเสียววาบ เจ๊เมี่ยงถูกพวกลูกน้องธีระล็อคซ้ายขวาเลียริมฝีปากแพล่บๆ
“ว้าย...อย่านะคะป๋าขา..เมี่ยงขอร้อง..เมี่ยงยังไม่พร้อมมีสามีหน้าแบบ..” เจ๊เมี่ยงมองซ้ายมองขวา “แบบนี้”
“แกไม่มีสิทธิ์เลือกหรอกนังเมี่ยง”
ธีระพยักหน้าให้ลูกน้องลากตัวไป แต่ทันใดนั้นแพตตี้ก็ปรี่เข้ามาพร้อมยุวดี
“หยุดนะคะป๋า !! ปล่อยเจ๊เมี่ยงเดี๋ยวนี้”
“แพตตี้..หนูไม่ต้องมาห้ามป๋า หนูทำให้หัวใจของป๋าต้องแตกสลาย ทั้งๆที่หนูรับปากป๋าแล้ว”
“หนูขอโทษที่ต้องโกหกป๋า..แต่เพราะป๋านั่นแหละที่ไม่เคยให้เหตุผลหนูเลยว่าทำไมป๋าถึงได้เกลียดเน็กซ์เข้ากระดูกแบบนี้”
“ป๋ามีเหตุผล แต่ป๋าบอกหนูไม่ได้”
“งั้นถ้าป๋าบอกหนูไม่ได้ ป๋าก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับเจ๊เมี่ยงแบบนี้”
แพตตี้รีบเข้าไปแกะมือพวกลูกน้องป๋าให้ปล่อยตัวเจ๊เมี่ยงธีระจับตัวแพตตี้ไว้
ธีระหงุดหงิด “แพตตี้ !! ป๋าเป็นคนเลี้ยงหนูมา ป๋ามีสิทธิ์ในชีวิตหนูทุกอย่าง นังยุ..ไปเก็บ เสื้อผ้าลูกสาวชั้น วันนี้ชั้นต้องพาแพตตี้กลับบึงโขงหลง ไม่ต้องเป็นแล้วไอ้ซุปตงซุปตาร์” ยุวดีวิ่งขึ้นบันได
“ไม่ได้นะคะคุณป๋า.. ถ้าพาหนูแพตตี้ไป.. ชีวิตเมี่ยงก็พังสิคะ”
ธีระชักปืนออกมาขู่ทันที “ชีวิตแกจะพังก็ช่างหัวแก..แต่ชีวิตลูกสาวชั้นต้องไม่พังเพราะแก...ไปลูก”
ธีระฉุดแขนพาแพตตี้ออกไปทางหน้าบ้าน
“ปล่อยนะป๋า... หนูไม่กลับ... เจ๊ช่วยหนูด้วย หนูไม่อยากกลับบึงโขงหลง..เจ๊”
เจ๊เมี่ยงอยากจะช่วยแต่ถูกสมุนธีระลอคตัวไว้จึงได้แต่ยืนกลัวจนตัวสั่นทำอะไรไม่ได้

พุชชี่อยู่กับตุลยาตามลำพังที่โซฟา
“อยากคุยกับพี่ มีอะไรก็พูดมาตรงๆได้เลย”
“ตุลมาหาพี่ถึงบ้านแบบนี้ ถ้าไม่คิดว่าจะพูดกันตรงๆแล้วล่ะก็ คงไม่มาให้เสียเวลา”
“ก็ดีค่ะ..พี่เองก็อึดอัดที่เรื่องเราสามคน คาราคาซังมาหลายเดือนแล้ว”
“งั้นวันนี้พี่ก็คงจะหายอึดอัดซะที เพราะตุลมีข่าวของพี่ติณมาบอกให้พี่รู้”
พุชชี่มองอย่างแปลกใจ “เกิดอะไรขึ้นกับพี่ติณเหรอ”

ตุลยามองพุชชี่ด้วยแววตาดูร้าย

ติณณภพกำลังคุยโทรศัพท์กับพ่อเลี้ยงที่ฝรั่งเศส บทสนทนากำลังจบลงด้วยสีหน้าหนักใจของติณณภพ

ติณณภพพูดภาษาฝรั่งเศส “ครับพ่อ..ผมเคลียร์งานที่นี่เรียบร้อยแล้ว จะรีบกลับไปครับ”
ติณณภพกดวางสายแล้วนั่งลงด้วยสีหน้าเครียดๆ เพราะกลุ้มใจมาก

พุชชี่มีสีหน้าแปลกใจเมื่อตุลยาเล่าเรื่องติณณภพกับพ่อเลี้ยงที่ฝรั่งเศสให้ฟัง
“พี่ติณกำลังจะได้รับมรดกทั้งหมดของพ่อเลี้ยง เพราะท่านต้องการเกษียณและอยากให้สืบทอดกิจการแทน ซึ่งก็เป็นความตั้งใจของคุณแม่ที่ได้ขอพี่ติณไว้ก่อนท่านจะจากไปเหมือนกัน”
“หมายความว่าพี่ติณจะไม่อยู่ที่เมืองไทยอีกแล้ว”
“ค่ะ..จากนี้ไปบ้านและครอบครัวของพี่ติณก็คือที่ชาร์โต้ในฝรั่งเศส”
“ครอบครัว ?”
ตุลยายิ้มร้าย “ใช่ค่ะ..ตุลเพิ่งกลับมาจากชาร์โต้หลังจากไปเล่าเรื่องของพี่ให้ท่านฟัง ท่านรักพี่ติณมากก็เลยห่วงเหมือนตุล จึงได้เตรียมแนะนำผู้หญิงดีๆ มีชาติตระกูลไว้เป็นมาดามจริงๆให้พี่ติณ ไม่ใช่มาดามเก๊ๆ อย่าง”
พุชชี่เจ็บปวด “อย่างพี่”
“ค่ะ..ตอนนี้พี่ติณก็คงจะรู้เรื่องแล้ว และเดี๋ยวเขาก็คงจะโทรมาหาพี่ ตุลหวังว่าพี่จะเห็น แก่อนาคตพี่ติณ อย่าเอาชีวิตมาดามดันที่มีแต่เรื่องตบตีไม่เว้นแต่ละวัน มาทำลายชีวิตพี่ชายตุลเลย..ตุลขอร้อง”
พุชชี่ชะงักเงียบแล้วหน้าเสียเพราะเครียดขึ้นมาทันที

ราศีในชุดข้าราชการครูรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาที่หน้าห้องผู้ป่วยจนเจอกับหมอที่ออกจากห้องผู้ป่วยพอดี
“หมอ..หมอ..ครูใหญ่เป็นยังไงบ้าง”
“ผมเพิ่งให้ยาไป ตอนนี้อาการสงบลงบ้างแล้วครับ”
“งั้นครูเข้าไปดูนะ”
“เดี๋ยวครับครู..” หมอมีสีหน้าหนักใจ “นับวันอาการของครูใหญ่จะทรุดหนักลงทุกทีแล้วนะครับ”
“แต่หลายเดือนที่ผ่านมาเนี่ย กำลังใจเขาดีมากนะหมอ ยิ่งพอครูเอาข่าวเรื่องบักหมาที่ กำลังดังเปรี้ยงปร้างมาให้ดู ครูก็เห็นเขากินได้เยอะขึ้น”
“เรื่องกำลังใจน่ะผมไม่ห่วงหรอกครับครู..แต่กำลังกายนี่สิ..ผมไม่รู้ว่าครูใหญ่จะทนต่อสู้ กับมะเร็งได้อีกนานเท่าไหร่ มันอาจจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ก็ได้”
ราศีหน้าเสียใจหายวาบ

ราศีน้ำตาคลอเบ้าแต่พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้สามีเห็น
“พ่อจ๊ะ...ชั้นมาแล้ว วันนี้ชั้นมีข่าวของไอ้บักหมามาเล่าให้พ่อฟังด้วยนะ”
ราศีพูดไปแต่สามีพยายามลุกจากเตียง ใบหน้าของนิยมซูบผอมลงไปมากจนดูน่าเวทนา
“พ่อ..จะลุกไปไหน จะเข้าห้องน้ำเหรอ เดี๋ยวแม่ช่วย”
“แม่..พ่อไม่อยากอยู่โรงพยาบาลแล้ว”
“ทำไมพ่อพูดอย่างนี้ล่ะ”
“ก่อนแม่จะเข้ามาน่ะ แม่คุยกับหมอเรื่องอาการกำเริบของพ่อมาแล้วใช่มั้ย”
ราศีชะงัก
“ทั้งชีวิตแม่ไม่เคยโกหกพ่อสักเรื่องเดียว เพราะฉะนั้นแม่ไม่ต้องพยายามหรอก พ่อรู้”
“พ่อ..” ราศีน้ำตารื้น
“พ่อรู้สังขารตัวเองดีนะแม่..ถ้ามันต้องถึงเวลาของพ่อแล้วจริงๆ ก็ขอให้พ่อได้กลับไปรอ ไอ้บักหมาอยู่ที่บ้านของเราดีกว่า”
“แต่อาการของพ่อควรจะอยู่ใกล้หมอนะ”
“ใกล้แค่ไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะแม่..พ่อขอร้องนะ..ให้พ่อกลับไปรอลูกที่บ้าน ไอ้ห้อง สี่เหลี่ยมที่นี่มองไปทางไหนมันก็ไม่มีความทรงจำของพ่อกับบักหมาเลย..นะแม่ กลับบ้านเราเถอะ”

ราศีมองสามีแล้วก็น้ำตาไหลอาบสองแก้ม

พุชชี่กำโทรศัพท์น้ำตาคลอหลังจากคุยกับตุลยาไปแล้วก็พยายามข่มความรู้สึกเจ็บปวดขณะคุยกับติณณภพ

“ค่ะพี่ติณ..ช่วงนี้น้อง..” พุชชี่อึกอึก “น้องก็ยังวุ่นๆอยู่ค่ะ เน็กซ์กำลังเป็นซุปตาร์ งานเข้าทุกวัน แทบไม่มีเวลาพักผ่อนกันเลย”
ติณณภพพูดโทรศัพท์กับพุชชี่หน้าเครียด
“พี่เข้าใจ..พี่ก็ตามข่าวของน้องกับเน็กซ์มาตลอด และก็ดีใจด้วยที่งานของน้องประสบ ความสำเร็จ แต่เรื่องที่พี่อยากพบน้อง เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ”
พุชชี่ฟังติณณภพแล้วชะงักไปเพราะรู้ดีว่าเรื่องสำคัญของติณณภพคืออะไร

คำพูดของตุลยาในอดีตตอกย้ำให้พุชชี่เครียด
“ตอนนี้พี่ติณก็คงจะรู้เรื่องแล้ว และเดี๋ยวเขาก็คงจะโทรมาหาพี่ ตุลหวังว่าพี่จะเห็นแก่ อนาคตพี่ติณ อย่าเอาชีวิตมาดามดันที่มีแต่เรื่องตบตีไม่เว้นแต่ละวัน มาทำลายชีวิตพี่ชายตุลเลย..ตุลขอร้อง”

พุชชี่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะนี่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญของเธอกับผู้ชายที่เธอรัก
“พี่ขอเวลาไม่นาน แค่ให้พี่ได้อยู่กับน้องตามลำพัง...นะครับ มันเป็นเรื่องสำคัญที่พี่ต้อง คุยกับน้องให้ได้”
พุชชี่ตัดสินใจ “ค่ะพี่ติณ..พรุ่งนี้น้องจะไปพบพี่”
พุชชี่บอกติณณภพแล้วตัดสายไป ระหว่างนั้นเน็กซ์ก็เดินเข้ามา
“นี่น่ะเหรอที่บอกว่าไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น” เน็กซ์ประชด “ก็เข้าใจหรอกนะ..หนีหน้าเขามา หลายเดือนแล้วนี่ สุดท้ายก็ทนเหงาไม่ได้ต้องแจ้นไปหาอยู่ดี”
“ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะเน็กซ์”
เน็กซ์ไม่อยากพูดด้วยอีกจึงเดินเข้าไปในบ้าน คราวนี้พุชชี่รีบตามจิก

พุชชี่เดินตามเน็กซ์เข้ามาในบ้านเพราะอยากจะเคลียร์กับสิ่งที่เน็กซ์เข้าใจผิด
"เน็กซ์..หยุดเดินหนีชั้น แล้วขอโทษชั้นเดี๋ยวนี้"
"ผมต้องขอโทษอะไรป้าไม่ทราบ"
"ก็ที่เธอหาว่าชั้นทนเหงาไม่ได้ต้องแจ้นไปหาผู้ชายไง"
"พูดจริงผิดด้วยเหรอ"
"เด็กบ้า...”
พุชชี่เงื้อมือจะตบปากสั่งสอนแต่ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาพอดี
"หึ..สงสัยจะทนเหงาไม่ได้เหมือนกัน เลยโทรมาเร่งให้ไปหากันกลางวันแสกๆ”
พุชชี่มองเน็กซ์อย่างเหลืออดแล้วเอาโทรศัพท์มาดูเบอร์ พอเห็นเบอร์แล้วก็แปลกใจแต่ก็กดรับสาย

ราศีอยู่หน้าห้องนอนของนิยม ประตูเปิดแง้มทำให้มองเข้าไปเห็นนิยมกำลังหลับอย่างอ่อนเพลีย
ราศีสะอื้นไห้ "มา..มาดาม..มาดามเหรอคะ..ฮือๆ"
พุชชี่แปลกใจที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของแม่ของเน็กซ์
"คุณแม่..คุณแม่เป็นอะไรคะ..ร้องไห้ทำไม"
เน็กซ์สงสัย "แม่ ?..แม่ผมเหรอป้า เกิดอะไรขึ้นกับแม่ผม"
"ชู่ว" พุชชี่ทำเสียงให้เน็กซ์เงียบเพราะยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
"ค่อยๆพูดค่ะคุณแม่..ใจเย็นๆนะคะ มีอะไรค่อยๆเล่าให้หนูฟัง"
ราศียังสะอื้น "มาดาม..ชั้น..ชั้นไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ พ่อเขาไม่ยอมให้ชั้นเอาเรื่องนี้ไป บอกเน็กซ์..แต่..แต่ชั้นกลัวว่า พ่อลูกจะไม่ได้เจอหน้ากันอีก"
พุชชี่ตกใจ "หมายความว่ายังไงคะคุณแม่"
"พ่อไอ้บักหมา..เขา..เขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขากำลังจะตายค่ะมาดาม"

พุชชี่ฟังแล้วตกใจหน้าเสียได้แต่หันไปมองเน็กซ์ที่อยากรู้มากแต่เธอทำได้แค่มือสั่น

เช้าวันใหม่ ติณณภพนั่งรอพุชชี่อยู่ที่ร้านกาแฟ เขาดื่มกาแฟหมดไปแก้วนึงแล้วพุชชี่ก็ยังไม่มา ติณณภพมองเวลาแล้วก็เริ่มรู้สึกใจไม่ดี

พุชชี่นั่งหน้าเครียดอยู่ในบ้านมองกระเป๋าเดินทางแล้วมองมือถือตัวเอง ระหว่างนั้นหนูดอกก็เดินเข้ามาตาม
"มาดามคะ..ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาต้องไปขึ้นเครื่องแล้วค่ะ"
พุชชี่มองหนูดอกแล้วมองโทรศัพท์ในมืออย่างลังเล
"มาดามไม่ต้องห่วงเรื่องงานของเน็กซ์นะคะ หนูโทรไปหาพี่จุ๋งกับพี่อนุพงษ์แล้ว ทุกคน เข้าใจและให้เน็กซ์พักงานเอาไว้ก่อนได้ค่ะ ส่วนเรื่องข่าวหนูปิดเงียบอย่างที่สั่งแล้วค่ะ"
"ชั้นไม่ได้ห่วงเรื่องงานอย่างเดียวน่ะสิหนูดอก"
"งั้นอะไรคะ..มาดามสั่งหนูมาได้เลย หนูจะไปเคลียร์ให้ มาดามจะได้ดูแลเน็กซ์เต็มที่"
"ไม่ได้หรอก มันเป็นปัญหาที่ชั้นต้องเคลียร์ด้วยตัวเอง"
"แต่เน็กซ์เขารอมาดามไปขึ้นเครื่องอยู่นะคะ แค่เมื่อคืนไม่ยอมให้ขับรถกลับบึงโขงหลง กลางดึก ก็โวยวายจนขี้หูหนูยังเต้นระบำอยู่เลย"
พุชชี่มองหนูดอกแล้วก็หน้าเครียดเพราะอึดอัดใจ

ติณณภพเดินออกจากร้านด้วยความร้อนใจเพราะพุชชี่นัด เขาพยายามกดโทรเข้าเครื่องพุชชี่แต่โทรติดต่อไม่ได้เลย ระหว่างนั้นรถหนูดอกขับเข้ามาจอดเอี๊ยดใกล้ๆกับติณณภพ รีบเปิดประตูลงจากรถเรียกไว้ทันที
"กับตันคะ..อย่าเพิ่งไปค่ะ"
"หนูดอก"
"มาดามสั่งให้หนูมาพบกัปตันค่ะ..เกือบมาไม่ทันแล้วเชียว"
"แล้วพุชชี่ล่ะ..ทำไมไม่มา"
"เอ่อ..คือ..มาดามสั่งหนูไม่ต้องพูดอะไรนอกจากให้เอาจดหมายนี่มาให้กัปตันค่ะ"
หนูดอกยื่นจดหมายที่เตรียมมาให้ติณณภพรับไปอย่างแปลกใจ ติณณภพยังไม่หายสงสัย
"ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน..อยู่ที่ไหน !”
"คือ...เอ่อ...”
"หนูดอก..พุชชี่อยู่ที่ไหน"
"พ่อเน็กซ์กำลังจะตาย..มาดามเลยต้องพาเน็กซ์กลับไปบึงโขงหลงให้ทันดูใจ กัปตันต้อง อ่านจดหมายของมาดามแล้วจะเข้าใจ เธอสั่งมาแบบนี้จริงๆค่ะ"
ติณณภพนิ่งมองจดหมายในมือ

ติณณภพนั่งลงที่โซฟาแล้วค่อยๆเปิดจดหมายของพุชชี่ขึ้นมาไล่อ่านทีละบรรทัด
"น้องต้องขอโทษพี่ติณด้วยนะคะ เป็นอีกครั้งที่น้องต้องทำให้พี่ต้องเสียเวลากับน้อง เรื่อง สำคัญที่พี่จะบอก น้องรู้จากตุลแล้วค่ะ แต่พี่ติณไม่ต้องไปโกรธตุลเขานะคะ เพราะถึง จะไม่ได้รู้เรื่องนี้จากตุล น้องก็ตัดสินใจไว้เรียบร้อยแล้วว่าปลายทางของเรามันควรจะ ต้องจบกันยังไง"
ติณณภพอึ้งไป มือของเขากำจดหมายของพุชชี่แน่น

พุชชี่พาเน็กซ์มาถึงหน้าบ้าน ทันทีที่เน็กซ์เจอหน้าแม่ สองแม่ลูกก็โผเข้าไปสวมกอดกันร้องห่มร้องไห้
"แล้วพ่อล่ะครับแม่" เน็กซ์ถาม
"อยู่ในบ้านจ้ะ..แม่บอกเขาแล้วว่าเอ็งจะมา" ราศีบอก
"งั้นผมเข้าไปหาพ่อนะครับ"
เน็กซ์รีบเข้าไปในบ้าน ราศีหันมาที่พุชชี่
"ขอบคุณมากนะคะมาดาม"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่"

ราศีตามเน็กซ์เข้าไปในบ้าน พุชชี่นั่งลงที่ม้าหินหน้าบ้านโดยแววตาของเธอมีแต่ความเศร้าเสียใจ
 
อ่านต่อหน้า 3

มาดามดัน ตอนที่ 10 (ต่อ)

ติณณภพอยู่ในอาการเศร้าเสียใจหลังพิงพนักโซฟาอย่างหมดอาลัย หลังจากอ่านจดหมายของพุชชี่จบ

"มาดามพุชชี่คืออาชีพที่น้องรักและสนุกกับมัน และน้องก็ไม่ใช่พุชชี่คนที่พี่เคยรู้จักอีกแล้ว น้องจึงไม่คู่ควรกับผู้ชายดีๆอย่างพี่ น้องขอให้พี่มีความสุขกับครอบครัวที่เพียบ พร้อมของพี่นะคะ...ลาก่อนค่ะพี่ติณ"
ติณณภพเหลือแต่ความหมดอาลัยตายอยาก แววตาของเขามีแต่ความเศร้าเสียใจ ตุลยาแอบโผล่หน้ามาดู พอเห็นท่าทางของพี่ชายตัวเองตกอยู่ในอาการเศร้าก็รู้ทันทีว่าแผนของตัวเองสำเร็จ

เน็กซ์เข้ามาเห็นพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้รถเข็นในสภาพผอมโทรมและน่าสงสารมาก เน็กซ์น้ำตาคลอ แค่เห็นสภาพพ่อเป็นแบบนี้เขาก็เจ็บปวดมาก ราศีแตะไหล่ลูกให้เข้าไปหาพ่อ
"พ่อ..พ่อครับ..ผมกลับมาแล้ว"
"บักหมา..ไอ้หมาหลงของพ่อ"
สองพ่อลูกน้ำตาคลอเบ้า เน็กซ์ปรี่เข้าไปกอดพ่อแล้วร้องไห้ฟูมฟายจนเน็กซ์ตั้งสติได้
"พ่อไม่ต้องห่วงนะครับพ่อ..ตอนนี้ผมมีเงินเหลือเฟือ ผมจะพาพ่อไปรักษาที่กรุงเทพฯ หมอที่เก่งที่สุดจะต้องช่วยพ่อได้"
"บักหมาเอ้ย..แม่เอ็งไม่ได้บอกเหรอว่ายาอะไรก็รักษาพ่อไม่ได้แล้ว พ่อเหลือก็แค่เวลาที่ จะได้เห็นหน้าเอ็งเป็นครั้งสุดท้ายแค่นั้น"
"ไม่จริง..ผมไม่เชื่อ..พ่อเป็นคนดี พ่อจะต้องอยู่กับผมอีกนาน นะพ่อนะ..ให้ผมพาพ่อไป รักษาเถอะ"
นิยมส่ายหน้า "เห็นมั้ยแม่..ก็บอกแล้ว ถ้าตามมันมา มันก็ต้องดื้อไม่ฟังอะไรชั้นอีก"
"บักหมา..หมอเขายืนยันแล้วว่าอาการของพ่อเอ็งหมดหวังแล้ว ให้พ่อเขาได้ใกล้ชิดกับ เอ็งตามลำพังเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ..บักหมา"
นิยมพยายามฝืนยิ้มแล้วยกมือลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดู "ได้เห็นหน้าเอ็ง ได้รู้ว่าตอนนี้เอ็ง กำลังดัง มีอนาคตที่ดีรออยู่ แค่นี้พ่อก็ดีใจมากแล้วลูก"
เน็กซ์อึ้ง "พ่อ...”
เน็กซ์ได้แต่กอดพ่อเอาไว้แน่นราวกับว่าจะไม่ยอมปล่อยมือไปจากพ่ออีก ราศีน้ำตาเอ่อสองแก้ม พุชชี่ตามเข้ามายืนมองด้วยความรู้สึกเวทนาสงสารเน็กซ์

พุชชี่ในชุดนอนนั่งทอดอารมณ์อยู่คนเดียว ราศีเดินออกมาคุยด้วย
"แม่ไม่รู้ว่ามาดามจะมาด้วย เลยไม่ได้จัดเตรียมอะไรไว้เลย บ้านเล็กๆแบบนี้คุณจะอยู่ได้รึเปล่า"
"อยู่ที่ไหนหนูก็นอนได้ค่ะ คุณแม่นั่นแหละ ที่ควรต้องพักบ้าง เพราะถ้าล้มป่วยเป็นอะไรไปอีกคน เน็กซ์คงแย่แน่"
"จะให้แม่หลับตาลงได้ยังไงคะมาดาม แม่กลัวว่าถ้าตื่นขึ้นมาแล้ว พ่อเขาจะจากแม่ไป"
"คุณแม่" พุชชี่ดึงมือแม่มาบีบให้กำลังใจ "คุณแม่ทำหน้าที่ดูแลคุณพ่อมาดีที่สุดแล้ว ถ้าคุณ แม่ไม่เข้มแข็ง คุณพ่อก็คงจากไปอย่างมีกังวล"
"แต่การต้องทนดูคนที่เรารักจากไป โดยที่เรารั้งเขาไว้ไม่ได้ มันเจ็บปวดมากนะมาดาม"
พุชชี่นิ่งไป "ค่ะ..หนูเข้าใจ ต้องทนนั่งดูคนที่เรารักจากไป มันเจ็บปวดเหลือเกิน..แต่เราต้อง ผ่านมันไปให้ได้ค่ะคุณแม่ เพราะยังมีคนข้างหลังที่เราต้องดูแลเขาอยู่"
ราศีนิ่งมองพุชชี่ ทั้งสองคนกุมมือให้กำลังใจกันและกัน

เน็กซ์กับพ่ออยู่กันตามลำพัง พ่อค่อยๆเปิดสมุดภาพที่ตัดแปะรูปของลูกชายให้เน็กซ์ดูเอาอึ้ง
"พ่อ !!”
"ตั้งแต่เอ็งตามมาดามไป..พ่อก็เริ่มสะสมผลงานของเอ็งทุกชิ้น..นี่ไง รูปที่เอ็งถ่ายแบบ ครั้งแรก..แล้วนี่ก็ตอนเดินแบบครั้งแรก แต่รูปที่พ่อชอบที่สุดเป็นรูปที่เอ็งใส่ชุดนักฟุต บอลขึ้นปก พ่อว่าเอ็งหล่อเหมือนพ่อสมัยหนุ่มๆเลย"
นิยมยิ้มไปอย่างอารมณ์ดีทำเอาเน็กซ์น้ำตาคลอ
"อย่าหาว่าพ่อเข้าข้างตัวเองเลยนะ ถึงเอ็งจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่พ่อก็คิดว่าเอ็งคือสายเลือดของพ่อเสมอ"
"ผมก็ไม่เคยคิดว่าผมไม่ใช่ลูกพ่อ เลือดผมอาจจะไม่ได้มาจากพ่อ แต่ชีวิตผมได้มาจาก พ่อทุกอย่าง..ผมตัดสินใจแล้วครับ ผมจะไม่ไปฝรั่งเศส ผมไม่อยากรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร"
"บักหมา..อย่าล้มเลิกความฝันของเอ็ง พ่อได้ทำหน้าที่เลี้ยงหมาหลงทางตัวนึงเสร็จแล้ว ก็ควรถึงเวลาที่มันจะกลับไปตามหาเจ้าของซะที"
"แต่ผมอยากอยู่กับพ่อ"
"ก็นี่ไง..เราสองคนพ่อลูกได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งแล้ว"

นิยมยื่นมือไปกุมมือลูกชาย สองพ่อลูกบีบมือกันแน่นมองตากันด้วยความภาคภูมิใจ

พุชชี่ยกถ้วยซุปมาวางที่โต๊ะอาหารให้แม่เน็กซ์กิน

"ทานซุปอุ่นๆสักหน่อยนะคะคุณแม่ หนูเห็นคุณแม่ทานน้อยเหลือเกิน ซุปน่าจะทานง่าย"
"มาดามเป็นแขกของบ้านนี้นะคะ"
"คิดว่าหนูเป็นลูกเป็นหลานคุณแม่ดีกว่าค่ะ..นะคะ ทานบ้างร่างกายจะได้มีแรง"
ราศีมองความตั้งใจของพุชชี่แล้วยิ้มรับแต่ยังไม่ทันจะตักซุปเข้าปาก เสียงร้องของเน็กซ์ก็ดังขึ้น
"พ่อ...พ่อ..พ่อ !!”
ราศีกับพุชชี่ชะงักมองหน้ากันแล้วอึ้งหน้าเสีย

พุชชี่กับราศีรีบออกมาที่ระเบียงแล้วต้องตกใจกับภาพที่เห็น เน็กซ์ร้องห่มร้องไห้กอดพ่อที่แน่นิ่ง
"พ่อครับ...อยู่กับผมสิครับ..อยู่กับผมสิครับพ่อ..ฮือๆๆๆ
"คุณ !!”
ราศีเข้าไปจับตัวสามีพบว่าเขาได้สิ้นใจไปแล้ว ราศีกอดสามีร้องไห้โฮเสียงดังลั่น พุชชี่เศร้าโศกเสียใจไปด้วย เมื่อเน็กซ์หันมาทางพุชชี่ เธอก็ดึงเน็กซ์มาโอบกอดปลอบใจ ปล่อยให้เน็กซ์กอดเธอและร้องไห้ไปให้เต็มที่ก่อน
"เธอได้ดูแลคุณพ่อจนวินาทีสุดท้ายแล้ว..ไปกราบลาคุณพ่อส่งท่านให้ไปสวรรค์เถอะ"
เน็กซ์พยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปคุกเข่าพนมมือก้มกราบที่เท้าของพ่อ

เจ๊เมี่ยงเดินบ่นกลับเข้ามาในบ้าน โดยมีเด็กหนุ่มหน้าตาดี 2 คนเดินคอตกตามหลังเข้ามา
"ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้อย่างใจสักคน อุตส่าห์ส่งเรียนแอคติ้งก็แล้ว แต่ก็ทำให้เสียหน้าเจ๊จนได้ แคสติ้งกี่งาน แห้วหมดทุกงาน..ไป..ยังมายืนทำหน้าสลดอีก"
เด็กหนุ่มในสังกัดคอตกเดินออกไป เจ๊เมี่ยงหันมาอย่างหงุดหงิดและหัวเสีย
"เด็กสมัยนี้มันอะไรกันเนี่ย..หน้าตาดีแต่แข็งอย่างกับท่อนไม้..โอ๊ย !”
ลอร่ารีบเข้ามา "เจ๊ขา..เจ๊..ถั่วค่ะถั่ว..ปลูกถั่วเขียวกำลังจะเป็นถั่วงอกแล้วค่ะเจ๊"
"อะไรของหล่อน..ถั่วเขียวถั่วงอก ?”
"ก็งานเข้าเจ๊แล้วไงคะ..น้องแพตตี้คือถั่วเขียวที่เจ๊เพาะเอาไว้ และตอนนี้กำลังจะกลาย เป็นถั่วงอกให้เจ๊เริ่ดๆเชิ่ดๆ เพราะว่าบริษัทถ่ายหนังจากต่างประเทศเพิ่งติดต่อมาอยาก ให้น้องบินไปแคสติ้งค่ะ"
เจ๊เมี่ยงตกใจจนเกือบตาเหลือก "โกอินเตอร์ !!”

แพตตี้เปิดหน้าต่างออกไปเห็นลูกน้องของพ่อเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านเต็มไปหมด แพตตี้หัวเสีย
ยุวดีเปิดประตูเข้ามาโดยมีลูกน้องของธีระพาเข้ามา "ไม่ต้องกลัวชั้นวางแผนให้คุณแพตตี้หนีอีก หรอก เฝ้ากันยั๊วเยี๊ยะเต็มบ้านแบบนี้ แมลงสาปสักตัวก็ออกไปไม่ได้"
ยุวดีแขวะแล้วไล่ลูกน้องธีระออกไปจนเหลือเธอกับแพตตี้สองคน
"แล้วป๋าล่ะ..ชั้นให้ไปตามป๋ามาคุยกับชั้นไม่ใช่เหรอ"
"เสี่ยรู้ทันคุณแพตตี้ กลัวคุยด้วยแล้วใจอ่อนเลยไม่ยอมเข้ามาค่ะ" ยุวดีบอก
แพตตี้หัวเสีย "ป๋านะป๋า..มันจะเกินไปแล้วนะ"
"ใจเย็นก่อนค่ะคุณแพตตี้ ตอนนี้เสี่ยยังโกรธอยู่ สักพึงนึงให้ใจเย็นแล้วค่อยคุยก็ได้ เอาเป็นว่าตอนนี้ยุวดีมีข่าวดีกับข่าวร้ายมาบอกค่ะ คุณหนูอยากฟังอันไหนก่อน"
"ข่าวร้ายก่อนแล้วกัน"
"ครูนิยม พ่อของเน็กซ์เสียแล้วค่ะ"
แพตตี้ตกใจ "ครูใหญ่น่ะเหรอเสียแล้ว"
"ค่ะ ได้ยินว่าเป็นมะเร็งตาย"
"งั้นตอนนี้เน็กซ์ก็อยู่ที่บึงโขงหลง"
"ค่ะ..ส่วนข่าวดีก็คือ เจ๊เมี่ยงแอบส่งข่าวมาหายุวดี บอกว่าคุณแพตตี้กำลังจะได้โก อินเตอร์ ตอนนี้เจ๊เมี่ยงกำลังเดินทางมาขอร้องเสี่ย"

"โกอินเตอร์ ?”

เน็กซ์เอาโกฏิเถ้ากระดูกของพ่อมาวางที่หน้าภาพถ่ายหลังเสร็จสิ้นงานศพ
 
ราศียังทำใจไม่ค่อยจึงน้ำตาเอ่อเพราะความเสียใจ เน็กซ์เลยเข้าไปดึงแม่มาโอบกอดเอาไว้
"ไม่ต้องห่วงนะครับแม่..ถึงไม่มีพ่อแล้ว แต่แม่ก็ยังมีผมอยู่"
"เอ็งจะอยู่ที่นี่กับแม่เหรอบักหมา" ราศีถาม
"ครับ..ก่อนพ่อจะจากไป ผมบอกพ่อแล้วว่าผมจะไม่ไปตามหาพ่อที่ฝรั่งเศส ผมจะทำ หน้าที่ลูกอยู่ที่นี่"
"บักหมา..เอ็งทำอย่างนั้นไม่ได้"
"ทำไมล่ะครับแม่..จะให้ผมทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียว ผมทำไม่ได้หรอก"
"แม่อยู่ได้บักหมา เอ็งควรจะไปตามหาเขา" ราศีหันไปมองรูปนิยม "เพราะพ่อเอ็งอยากให้ เอ็งทำตามความฝันให้สำเร็จ"
"ผมไม่ไปหรอกแม่..ตามหาเขาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เบาะแสเกี่ยวกับเขาผมก็ไม่มีเลย ถ้าผม ต้องใช้เวลาเป็นปีๆทิ้งแม่ไป ก็ช่างเขาเถอะครับ"
"แต่แม่มีเบาะแสของเขานะบักหมา"
เน็กซ์ชะงักไปพอๆ กับสีหน้าของพุชชี่ที่สงสัยด้วยเหมือนกัน

ราศียื่นจดหมายเก่าๆ ฉบับหนึ่งให้เน็กซ์
"จดหมายฉบับนี้อยู่ในตระกร้าที่พ่อกับแม่พบเอ็งอยู่ที่หน้าบ้าน แม่คิดว่าเมื่อเอ็งโตแม่ จะให้เอ็งดู แต่พ่อเขาห้ามเอาไว้เพราะไม่อยากให้เอ็งทิ้งเขาไป จนวันที่เขารู้ตัวว่าจะไม่ได้อยู่กับเอ็งอีกแล้ว เขาถึงยอมให้แม่เอาจดหมายนี่ให้เอ็ง"
"ในจดหมายเขียนไว้ว่าอะไรเหรอเน็กซ์"
เน็กซ์รีบเปิดซองแล้วหยิบกระดาษเหลืองๆ เก่าๆ ออกมาคลี่เห็นลายมือที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
"จดหมายเป็นลายมือของอังเดรพ่อแท้ๆของเน็กซ์ เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส แม่กับพ่อไม่ ค่อยมีความรู้เรื่องภาษาเท่าไหร่ อาศัยเปิดดิชชั่นนารีแปลเอาเลยพอจับใจความได้บ้าง ไม่ได้บ้าง"
"ทำไมไม่ให้คนอื่นแปลล่ะคะ" พุชชี่ถาม
"เพราะมันไม่ใช่ความลับเกี่ยวกับชาติกำเนิดของบักหมาคนเดียวน่ะสิมาดาม"
พุชชี่มีสีหน้างง
"ที่เอ็งแอบไปเรียนภาษาฝรั่งเศสมาตลอด..เอ็งคงอ่านแล้วเข้าใจนะบักหมา"
เน็กซ์พยักหน้ารับ

เจ๊เมี่ยงพยายามอ้อนวอนขอร้องธีระ
"นะคะคุณป๋าขา..ถ้าเมี่ยงไม่เห็นแก่อนาคตที่มีพรมแดงปูรอหนูแพตตี้อยู่ล่ะก็..เมี่ยงไม่ กล้าเสี่ยงตายมาถึงบึงโขงหลงแน่"
"อนาคตของแพตตี้ หรือว่ารายได้มหาศาลที่แกจะสูบเอาจากลูกสาวชั้นกันแน่..นังเมี่ยง" ธีระว่า
เจ๊เมี่ยงสะดุ้ง "คุณป๋าขา..อย่าดูถูกเมี่ยงแบบนั้นสิคะ เงินทองสำหรับเมี่ยงมันไม่มีความหมาย แล้ว เวลาที่เมี่ยงได้เห็นเด็กๆเจิดจรัสเป็นที่รักของคนทั้งประเทศ..นั่นแหละค่ะคือความ สุขของเมี่ยง"
"งั้นแกก็ไปหาเด็กคนอื่น..ยังไงชั้นก็ไม่ยอมให้แพตตี้ตามแกกลับไป"
"แต่ว่า...”
ธีระไม่สนใจ เขาหันไปหาพวกลูกน้อง "เฮ้ย...ถ้ามันไม่ยอมกลับไปดีๆ ก็แล้วแต่พวกเอ็ง"
พวกลูกน้องยิ้มหื่นชอบใจ เจ๊เมี่ยงหน้าเสีย ระหว่างนั้นแพตตี้ก็บุ่มบ่ามเข้ามา โดยมียุวดีคอยช่วยกันพวกลูกน้องไม่ให้พาตัวแพตตี้กลับเข้าห้อง
"ป๋าเห็นแก่ตัว..ป๋าใจร้าย !”
แพตตี้รีบเข้าไปขวางระหว่างเจ๊เมี่ยงกับพวกลูกน้องธีระโดยมียุวดีเข้ามาเป็นพวกด้วย
"แพตตี้..หนูทำแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงป๋าก็ไม่ยอมให้หนูกลับไปเข้าวงการ ไปเล่น ละครให้ไอ้บักหมามันกอดรัดฟัดเหวี่ยงอีกเด็ดขาด"
"ถ้าแค่คุณป๋าไม่พอใจที่แพตตี้เล่นละครกอดจูบกับเน็กซ์ เมี่ยงสัญญาค่ะว่าจะไม่ให้เขา เล่นคู่กันอีก"
"คราวที่แล้วแกกับแพตตี้ก็สัญญาแบบนี้ แล้วเป็นไง ฟินกันทั้งประเทศ !! เรียกร้องให้ เอาอีกๆ"
"ใช่ค่ะ..แพตตี้ตั้งใจโกหกป๋า เพราะแพตตี้ไม่เคยลืมเน็กซ์ ไม่เคยตัดใจจากเขาได้เลย ซึ่งนี่คือความจริงที่ป๋าจะมาบังคับให้แพตตี้เปลี่ยนใจไม่ได้"
"แพตตี้ !!”
"และไม่ใช่แค่เรื่องเน็กซ์เรื่องเดียวที่แพตตี้จะไม่ยอมให้ป๋าบังคับอีกแล้ว แพตตี้อยากเป็น นักแสดง แพตตี้รักอาชีพนี้ !! ไปกันเถอะค่ะเจ๊...ถ้าใครมาขวาง แพตตี้จะตัดพ่อตัดลูก กับป๋า ชาตินี้ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก"
ธีระกัดฟันขมกรามแน่นโกรธจัดตะโกนเสียงดังลั่นก่อนที่แพตตี้กับเจ๊เมี่ยงจะพากันออกไป
"ถ้าหนูอยากตัดพ่อตัดลูกกับป๋า หนูทำได้ เพราะยังไงหนูก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆของป๋า แต่หนูจะ รักกับไอ้บักหมาไม่ได้ เพราะหนูกับมันเป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน !!”
แพตตี้ชะงักอึ้งไป พอๆกับเจ๊เมี่ยงและยุวดีที่พากันตกตะลึง

"ว่า..ว่าไงนะคะป๋า..หนู..หนูไม่ใช่ลูกป๋า..หนู..หนูกับเน็กซ์เป็นพี่น้องกัน ?”

เน็กซ์ก้มหน้าก้มตาอ่านจดหมายลายมือพ่ออังเดรที่ได้มาอย่างตั้งใจจนจบ
 
"เนื้อความในจดหมายบอกว่ายังไงบ้างเหรอเน็กซ์" พุชชี่ถาม
"ผมเพิ่งเข้าใจว่าทำไมเสี่ยธีระถึงไม่อยากให้ผมเข้าใกล้แพตตี้" เน็กซ์บอก
"ทำไมเหรอ"
"เพราะเขาคิดว่าผมกับแพตตี้เป็นพี่น้องกัน"
พุชชี่ตกใจ "พี่น้องกัน !! จริงเหรอเน็กซ์"
"ไม่จริงหรอกครับ..เสี่ยธีระเข้าใจเรื่องนี้ผิดมาตลอด"
"แล้วความจริงมันคืออะไร แปลจดหมายให้ชั้นฟังได้มั้ย"
เน็กซ์นิ่งมองจดหมายแล้วมองแม่กับพุชชี่ แม่พยักหน้าว่าอยากให้เน็กซ์อ่านให้ฟังด้วย
เน็กซ์อ่านจดหมาย "ถึงพ่อแม่อุปถัมภ์ผู้ใจดี......ผมขอความกรุณาได้โปรดรับลูกชายของผมคนนี้ไว้เลี้ยงดูด้วย ผมมั่นใจในความดีของครอบครัวท่านว่าจะเลี้ยงดูอบรมลูกชายผมให้อยู่รอดปลอดภัยและมีความสุข ผมมีความจำเป็นไม่สามารถอยู่เมืองไทยได้ และในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถเอาลูกกลับมาอยู่ฝรั่งเศสด้วยกันได้ ในเวลานี้ผมกำลังถูกนาย ธีระตามล่า เพราะคิดว่าทำ “เนื้อแพร” น้องสาวของเขาท้อง ซึ่งผมขอยืนยันต่อหน้าพระเจ้าว่า ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด” เน็กซ์อ่านเนื้อความในจดหมายต่อ

ภาพเหตุการณ์ในอดีต อังเดรอุ้มเด็กแบเบาะวิ่งหนีลูกกระสุนปืนที่ธีระไล่ยิงมาจากด้านหลัง เสียงเด็กร้องไห้กระจองอแง อังเดรอุ้มเด็กวิ่งหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในโรงสีร้างแล้วพยายามหาที่ซ่อนสุดฤทธิ์ แต่เสียงเด็กไม่ยอมหยุดร้องสักที อังเดรเลยต้องพยายามคุยกับลูก
"ชู่วว์...อย่าร้องนะลูก...ชู่ว"
อังเดรพยายามโอ๋ลูกและทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกเงียบจนกระทั่งเห็นธีระเข้ามาในโรงสี อังเดรหน้าเครียด มองลูกชาย ระหว่างนั้นเองลูกชายก็เงียบเสียงกระพริบตาปริบๆมองพ่ออย่างน่าเอ็นดู ธีระเข้ามาก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรแต่พยายามส่ายปืนมองหาอังเดร
"อย่าคิดว่ามึงจะหนีกูรอด..มึงดูถูกผู้หญิงไทยว่าใจง่าย เที่ยวฟาดไปทั่ว พร้อมมั่วกับมึง ได้ทุกคนเหรอ..ไอ้ชั่ว !”
ธีระส่ายปืนมองหาพร้อมด่าไปด้วยอังเดรอุ้มลูกเหงื่อตกเพราะกลัวลูกจะร้อง แต่ลูกชายก็ยังกระพริบตาปริบๆ
เน็กซ์อ่านจดหมายต่อ "ความจริงก็คือ “เนื้อแพร” ท้องกับ “โรเบิร์ต” เพื่อนของผมที่ถูกรถชนตาย แต่ไม่มีโอกาสได้อธิบายความจริง เพราะเนื้อแพรตายระหว่างคลอดลูกสาวหน้าตาน่ารักน่าชัง ซึ่งนายธีระไม่ยอมฟังเหตุผล ในเมื่อผมไม่ยอมรับเป็นพ่อของเด็กในท้องเนื้อแพร ผมก็ต้องตายสถานเดียว"
ธีระยังคงเดินหาอังเดร "กับคนอื่นมึงไข่แล้วทิ้งได้..แต่กับเนื้อแพรน้องสาวกู..กูไม่ยอมให้น้อง สาวกูตายไปฟรีๆ เพราะคลอดลูกของมึงหรอก มึงต้องตายอยู่ที่นี่แหละ..ไอ้สารเลว"
ธีระหันขวับแล้วปรี่เข้าไปยังจุดที่คิดว่าอังเดรซ่อนตัวอยู่ แต่เมื่อเข้าไปกลับไม่เจอตัวอังเดรเขาก็เจ็บใจ
"โธ่เว้ย..มึงหนีกูไม่รอดหรอกไอ้อังเดร"

อังเดรอุ้มลูกชายเดินมาที่หน้าบ้านของครูนิยม เขามองจากหน้าต่างในบ้านเห็นนิยมในชุดข้าราชการกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับราศี อังเดรค่อยๆเอาลูกนอนลงในตระกร้าแล้ววางลงที่หน้าประตู เขามองลูกน้ำตาคลอพร้อมกับวางจดหมายใส่เอาไว้ในตระกร้า
"ส่วนแม่ที่แท้จริงของลูกชายผม เธอเป็นคนกรุงเทพฯที่เดินทางมาสอนศาสนาด้วยกันกับผม แต่ติดไข้ป่าตายตั้งแต่ลูกอายุได้ 3 เดือน ผมสัญญาว่าถ้ามีที่อยู่ที่ปลอดภัยเมื่อไหร่ ผมจะกลับมารับลูกชายไปอยู่ด้วยกันที่ฝรั่งเศส แต่ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินเกี่ยวกับเขา พวกคุณสามารถติดต่อผมได้ตามที่อยู่ที่ผมให้ไว้"
อังเดรจูบหน้าผากลูกชายเป็นการร่ำลาอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป ครู่หนึ่งราศีก็เปิดประตูออกมาเจอเด็กลูกครึ่งหน้าตาน่ารักน่าชังในตระกร้าก็ตกใจจึงตะโกนเรียกสามี

"พ่อ..พ่อ..มาดูนี่เร็ว"
 
อ่านต่อหน้า 4

มาดามดัน ตอนที่ 10 (ต่อ)

เหตุการณ์ปัจจุบัน ราศีจับมือลูกชายมากุม

"พ่ออังเดรของเอ็ง..เขามีความจำเป็นต้องทิ้งลูกเอาไว้ เพราะเป็นห่วงอนาคตและชีวิต ของเอ็ง เขาต้องมั่นใจว่าแม่กับพ่อปกป้องดูแลเอ็งได้ เขาถึงเอามาทิ้งไว้ให้เรา"
"แต่เวลาก็ผ่านมาตั้งนาน เขาก็น่าจะติดต่อกลับมาบ้างนะคะ" พุชชี่บอก
"เขาอาจจะยังกลัวเสี่ยธีระตามล่าเขาอยู่และรอคอยวันที่จะได้เจอหน้าลูกอีกครั้ง"
เน็กซ์นิ่งมองจดหมายด้วยสีหน้าครุ่นคิด
"เน็กซ์...อยู่ที่การตัดสินใจของเธอแล้วนะ" พุชชี่บอก
"ไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกบักหมา..แม่ดูแลตัวเองได้"
เน็กซ์มองแม่แล้วดึงแม่เข้ามากอดแน่น
"แม่..แม่ครับ"

แพตตี้หุนหันออกมาจากบ้าน ลูกน้องธีระรีบเข้ามาขวางหน้ากระดาน
แพตตี้สั่ง "หลบไป..หลบไปให้หมด !”
ธีระ เจ๊เมี่ยงและยุวดีเดินตามออกมา
"บอกลูกน้องป๋าให้หลบไป..แพตตี้ไม่เชื่อไอ้เรื่องบ้าๆที่ป๋าพูดมาหรอก" แพตตี้ว่า
"ถ้าหนูไม่เชื่อคำพูดป๋า..แล้วหนูจะไปฟังใคร หลังจากน้องสาวป๋าคลอดหนู ก็มีแต่ป๋านี่ แหละที่เลี้ยงหนูมาคนเดียวตลอด" ธีระบอก
"หนูจะไปหาเน็กซ์..จะไปถามเขาให้รู้เรื่อง"
"ป๋าไม่ให้ไป"
เจ๊เมี่ยงเข้ามาขัด "เอ่อ..คุณป๋าขา.." ธีระหันมาหน้าเหี้ยม เจ๊เมี่ยงสะดุ้งแต่ขอพูดซักนิด "คือ..เมี่ยง ไม่อยากขัดดราม่าของพ่อลูกนะคะ..แต่จะดีกว่ามั้ยคะ ถ้าหนูแพตตี้จะได้รู้เรื่องของตัว เองจากคนอื่นบ้าง ดีกว่าปล่อยให้มาดราม่าฮึ่มๆขึ้นเสียงใส่คุณป๋าอยู่แบบนี้"
ธีระนิ่งมองลูกสาวอย่างตัดสินใจ

ราศียืนมองภาพถ่ายของสามีบนหิ้งได้ครู่หนึ่ง แพตตี้ก็เข้ามาพร้อมกับธีระ
"ครูคะ"
"หนูแพตตี้" ราศีหันไปเห็นธีระ "เสี่ย...มีอะไรกันเหรอ"

ราศีนั่งลงที่โซฟา แพตตี้ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"จริงเหรอคะครู..เรื่องทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดของป๋า"
"ใช่จ้ะ..ในจดหมายที่พ่ออังเดรของบักหมาทิ้งไว้ให้ก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำเนื้อแพรท้อง แต่เป็นเพื่อนที่ชื่อโรเบิร์ต"
"จดหมายบ้าบออะไร..ถ้ามันมีจริงก็เอามายืนยันสิ" ธีระว่า
"บักหมามันพกติดตัวกลับไปกรุงเทพฯแล้ว เพราะมันคือเบาะแสเดียวที่จะช่วยให้บักหมาตามหาพ่อเจอ"
"เน็กซ์..จะไปฝรั่งเศสเหรอคะครู" แพตตี้ถาม
"จ้ะ"
"แต่ยังไงชั้นก็ไม่เชื่อ..ถ้าแกสองคนผัวเมียรู้ว่าไอ้บักหมาไม่ใช่พี่น้องกับแพตตี้ ทำไมพวก แกไม่บอกชั้น"
ราศีเหลืออดจึงลุกพรวดมาขึ้นเสียงใส่บ้าง "ก็ขนาดพ่อแท้ๆของเน็กซ์พยายามอธิบายให้เสี่ยฟัง แล้ว แต่เสี่ยก็ยังไม่เชื่อ คว้าปืนไล่ยิงเขาจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน แล้วชั้นกับผัวจะพูดให้ เสี่ยเชื่อได้ยังไง"
ธีระชะงัก
"ป๋าคะ..พอเถอะค่ะ"
"แต่...แต่ยังไงป๋าไม่เชื่อ ไอ้อังเดรนั่นแหละที่ทำน้องสาวป๋าท้องแล้วหนีไป มันเขียนจด หมายโยนความผิดให้คนอื่นแล้วทิ้งเอาไว้ มันจะได้รอดไปไง"
"ถ้าป๋ายังรั้นไม่เชื่อ งั้นป๋าก็ต้องยอมให้หนูพิสูจน์ความจริง..เพราะนี่คือชีวิตของหนู"
ธีระชะงักมองลูกสาว

แพตตี้หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าลงจากบันได ธีระพยายามห้าม
"แพตตี้..ป๋าขอร้อง"
"นี่คือชีวิตของหนูนะคะป๋า ป๋าปล่อยให้หนูกำหนดเองบ้างไม่ได้เหรอ"
"แต่...”
เจ๊เมี่ยงรีบแถ "คุณป๋าขา ครึ่งนึงของเมี่ยงที่ยังมีฮอร์โมนของความเป็นพ่ออยู่ เมี่ยงเข้าใจดีถึง ความเป็นห่วงที่พ่อมีต่อลูก แต่เชื่อเถอะค่ะว่าอีกครึ่งนึงที่มีฮอร์โมนของความเป็นแม่อยู่ด้วย เมี่ยงจะช่วยดูแลแพตตี้ให้อย่างดีเลย"
ธีระปรายหางตามอง "ชั้นพูดสักคำยัง..ว่าชั้นจะปล่อยลูกสาวชั้นให้ไปกับแก"
เจ๊เมี่ยงสะดุ้ง "แหม..ก็ไหนๆงานโกอินเตอร์ที่เมี่ยงบอกไว้มันก็ต้องไปแคสติ้งที่ฝรั่งเศสอยู่แล้ว แล้วจะมีใครตามไปดูแลหนูแพตตี้ได้ดีกว่าเมี่ยงล่ะคะคุณป๋าขา"
"หนูจะไปกับเจ๊เมี่ยงค่ะป๋า เพราะเจ๊เมี่ยงคือคนเดียวที่ดูแลหนูได้ดีที่สุด" แพตตี้บอก
เจ๊เมี่ยงหันมาสบตาแพตตี้ซึ้ง "ถูกต้องค่ะ"
แพตตี้เข้าไปกอดแขนแล้วใช้ลูกอ้อนเต็มที่ "นะคะป๋า...ให้โอกาสหนูได้ค้นหาชีวิตตัวเอง ถ้าหนูเป็นพี่น้องเน็กซ์จริงๆ หนูจะตัดใจ..นะคะป๋า"

ธีระมองลูกสาวแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

หนูดอกเดินตามพุชชี่ที่เพิ่งกลับมาจากบ้านครูนิยมที่บึงโขงหลงแล้วรายงานเรื่องงานที่พุชชี่สั่งไว้ให้ฟัง

"งานทุกอย่างของเน็กซ์หนูเคลียร์ให้หมดแล้วค่ะ ส่วนเรื่องข่าวกับสื่อ..หนูให้ข่าวไปว่า เน็กซ์เหนื่อยกับงานและหลังจากเสียคุณพ่อก็อยากจะพักผ่อนอย่างเงียบๆ”
"ขอบใจนะหนูดอก ชั้นรับปากเน็กซ์ไว้ตั้งแต่ก่อนพาเขามา ถึงเวลาก็ต้องทำตามสัญญา"
"ก็เสียดายรายได้อื้อซ่าไปเลยนะคะมาดาม"
อาร์ทเดินเข้ามา "พุชชี่..พุชชี่"
"มีอะไรเหรออาร์ท"

พุชชี่กับหนูดอกพากันชะงักเมื่อรู้เรื่องจากอาร์ท
"เจ๊เมี่ยงกับแพตตี้จะไปแคสติ้งหนังที่ฝรั่งเศสเหรอ"
"ใช่..เรื่องเดียวกับที่เพิ่งติดต่อชั้นมาเป็นคนไทยแค่ 2 คนที่เขาสนใจ แต่แพตตี้จะได้ แคสติ้งบทนางเอก" อาร์ทบอก
"ฝีมือเจ๊เมี่ยงนี่ไม่ตกจริงๆนะคะ สมเป็นเจ๊ดันตัวแม่ ไม่ยอมให้เด็กตัวเองน้อยหน้าเน็กซ์"
"ที่ได้ยินข่าวว่าหมอกี้ฉีกสัญญากับเจ๊เมี่ยงก็คงจะจริง ตอนนี้เบอร์หนึ่งก็เลยเหลือแต่ แพตตี้ แต่บังเอิญต้องไปที่ฝรั่งเศสเหมือนกันนี่สิ"
"ห่วงเหมือนกับที่หนูห่วงเลยใช่มั้ยคะมาดาม ยิ่งถ้ารู้ว่ามาดามไปกับเน็กซ์กันสองคนล่ะก็ คงหาทางราวีเล่นงานถล่มมาดามแน่"
พุชชี่เซ็ง "นึกว่าจะได้พักยกหยุดรบกับนังเจ๊แล้วไปช่วยเน็กซ์ซะหน่อย..เฮ้อ"
"เอาอย่างนี้แล้วกันพุชชี่..ชั้นจะหาทางถ่วงเวลาไม่ให้สองคนนั่นตามไปเกะกะระหว่างที่ เธอกับเน็กซ์ล่วงหน้าไปก่อน"
"ขอบใจนะอาร์ท"

แพตตี้หัวเสีย
"ทำไมเจ๊ไม่บอกหนูก่อน ว่าไอ้เฒ่ากวนประสาทนั่นได้ไปแคสติ้งหนังเรื่องเดียวกับหนู"
"บทมันก็แค่ตัวรอง ขายกล้ามโชว์แมน โผล่มาไม่กี่ฉากก็ตาย ไม่ใช่บทเด่นแบบหนูนี่คะ" เจ๊เมี่ยงบอก
"เด่นไม่เด่นหนูไม่สนใจหรอก หนูแค่เกลียดขี้หน้ามัน"
"ไม่เอาค่ะ..อย่าพูดอย่างนี้ ดูเจ๊เป็นตัวอย่าง เคยพูดว่าเกลียดขี้หน้านังพุชชี่ แล้วเป็นไง ทุกวันนี้จองเวรจองกรรมกันไม่หยุด"
แพตตี้เดินไปนั่งด้วยความหงุดหงิด เจ๊เมี่ยงตามไปโอบไหล่
"ฟังเจ๊นะคะ..ภารกิจไปฝรั่งเศสครั้งนี้ของเรา นอกจากไปตามเรื่องดราม่าชาติกำเนิด ชีวิตของหนูแล้ว เจ๊ตั้งใจว่าจะให้เป็นศึกเด็ดขาดของเจ๊กับนังพุชชี่ หนึ่งคือดันหนูให้ ได้เดินพรมแดง สองคือ" เจ๊เมี่ยงยิ้มร้าย "ตามไปหาเรื่องเล่นงานมันกับเน็กซ์ เอามาแฉว่ามันพาเน็กซ์ไปกินตับถึงฝรั่งเศส"
"เจ๊นี่ร้ายเอาเรื่องนะเนี่ย"
"อ๊ะ นี่ใครคะ เจ๊เมี่ยงเจิด ถ้าไม่เริ่ดก็เชิ่ดใส่ ระหว่างนี้หนูต้องไปเข้าฟิตเนส ฟิตแอนด์ เฟิร์มให้เต็มที่ เจ๊อยากให้หุ่นหนูเซี๊ยะสุดๆ แคสติ้งจะได้ผ่านฉลุย อย่าให้ฝรั่งตาน้ำข้าว มาเชิ่ดใส่เราได้"
"ค่ะเจ๊"
แพตตี้กำลังจะไปออกกำลังกายต่อ ระหว่างนั้นลอร่าก็เดินเข้ามา
"เจ๊ขา..ข่าวล่ามาเร็วค่ะเจ๊"
"อะไรของหล่อนอีกยะ"
"บริษัทหนังที่จะให้แพตตี้ไปแคสติ้ง เขาติดต่อมาให้เลื่อนเดินทางออกไปก่อนค่ะ"
"อ้าว..ทำไมคะ มีปัญหาอะไร..หรือว่าเขาจะแคนเซิลแพตตี้"
"เปล่าคะน้องแพตตี้..เขาไม่มีทางแคนเซิลน้องหรอก แต่ไอ้อาร์ทน่ะสิคะที่ทำเสียเรื่อง มันบอกว่ามันป่วย สภาพยังไม่พร้อมไป"
"ไอ้เฒ่าบ้านั่นเหรอป่วย"
แพตตี้หันไปสบตากับเจ๊เมี่ยงที่กำลังจิกหน้าไม่พอใจ

"หึ..นังพุชชี่..คงรู้ตัวแล้วล่ะสิว่ามันจะไม่ได้พักยกกับชั้น ถึงให้ไอ้อาร์ทมาถ่วงเวลา"

เครื่องบินจากประเทศไทยลัดฟ้าข้ามทวีปและมหาสมุทรมุ่งสู่ประเทศฝรั่งเศส

หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศที่บริเวณจุดด้านล่างเหนือน้ำพุตั้งตระหง่าน พุชชี่เดินนำเน็กซ์เข้ามา เธอทำตัวเป็นมัคคุเทศน์สุดฤทธิ์โดยไม่รู้เลยว่าเน็กซ์ไม่ได้สนใจเลย เขาเดินแยกตัวไปอีกทางอย่างเซ็งๆ
“หอไอเฟลสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ฉลองครบรอบ 100 ปีปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ถูก วิจารณ์ทำลายความงามของกรุงปารีสด้วยโครงเหล็กน่าเกลียด”
พุชชี่พูดแล้วก็หันกลับมาแต่ไม่เจอตัวเน็กซ์แล้วเจอแต่นักท่องเที่ยวเดินกันให้มั่วไปหมด
พุชชี่เรียกหา “เน็กซ์..เน็กซ์ ?”
พุชชี่ตกใจนึกว่าเน็กซ์หลงทาง แต่พอหันมาอีกฝั่งจึงเห็นเน็กซ์ยืนอยู่ พุชชี่รีบเดินไปหา

พุชชี่รีบเดินตามเข้ามาคว้าคอเสื้อเน็กซ์ที่กำลังเดินออกจากบริเวณนั้น
“ปล่อยให้ชั้นพูดคนเดียวเป็นนังบ้าอยู่ได้”
“ก็มันน่าเบื่อนี่ป้า..ผมไม่ได้อยากรู้ว่าหอไอเฟลเขามีไว้ทำอะไร เพราะผมไม่ได้มาเที่ยว แต่ผมมาตามหาพ่อ”
“แต่ที่นี่คนไทยมาเที่ยวเยอะ ชั้นถึงต้องปล่อยข่าว ว่าเธอมาเที่ยวพักผ่อนแบบไพรเวทไหน...เอาจดหมายของพ่อเธอมาซิ ชั้นจะดูที่อยู่ให้แน่ใจอีกที”
เน็กซ์ล้วงจดหมายส่งให้พุชชี่เปิดออกดูก่อนจะเดินออกไป พุชชี่กำชับเน็กซ์
“ต่อไปนี้อยู่ใกล้ๆชั้นไว้ตลอดเวลา”
“ทำไม...กลัวผมหลงทางเหรอ.. จะบอกให้ว่าผมน่ะใช้ภาษาฝรั่งเศสเก่งกว่าป้าเยอะ”
“ไม่ต้องมาทำคุย..แม่เธอบอกชั้นหมดแล้ว ว่าเธอแอบเรียนภาษาฝรั่งเศส เพื่อจะเอาไว้คุยกับพ่ออังเดร”
“ถ้ารู้แล้วก็ดี จะได้เลิกทำตัวเป็นไกด์”
พุชชี่ดึงติ่งหูเขา “อย่ามาทำอวดเก่งกับชั้น อย่างเธอรู้ดีก็แค่จากหนังสือ แต่จะสู้คนที่เคยมีความหลังกับที่นี่ได้ยังไง”
เน็กซ์สงสัย “ป้าหมายความว่าไง.. ป้ามีความหลังอะไรกับที่นี่”
พุชชี่ชะงักนิ่งไป พอเจอสายตาเน็กซ์ที่มองมาเหมือนอยากรู้ก็ยิ่งไม่อยากพูดถึง
“ว่าไงล่ะป้า.... ความหลังอะไร”
“ไม่ต้องถามเซ้าซี้ ตามชั้นมา”
พุชชี่ถือจดหมายอังเดรติดมือแล้วเดินนำไป เน็กซ์มองตามสีหน้าแปลกใจแล้วเดินตาม

จดหมายพ่ออังเดรเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส กระดาษเหลืองเก่าเพราะเก็บไว้นานมากถึง 20 กว่าปี ซองจดหมายสีน้ำตาลเก่าเช่นกัน ตัวหนังสือเขียนด้วยปากกาหมึกแห้งลายมือผู้ชาย จดหมายมีเนื้อความดังนี้....
ถึงพ่อแม่อุปถัมภ์ผู้ใจดี
ผมขอความกรุณาได้โปรดรับลูกชายของผมคนนี้ไว้เลี้ยงดูด้วย ผมมั่นใจในความดีของครอบครัวท่านว่าจะเลี้ยงดูอบรมลูกชายผมให้อยู่รอดปลอดภัยและมีความสุข ผมมีความจำเป็นไม่สามารถอยู่เมืองไทยได้ และในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถเอาลูกกลับมาอยู่ฝรั่งเศสด้วยกันได้ ในเวลานี้ผมกำลังถูกนายธีระตามล่า เพราะคิดว่าทำ “เนื้อแพร” น้องสาวของเขาท้อง ซึ่งผมขอยืนยันต่อหน้าพระเจ้าว่า ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด
ความจริงก็คือ “เนื้อแพร” ท้องกับ “โรเบิร์ต” เพื่อนของผมที่ถูกรถชนตาย แต่ไม่มีโอกาสได้อธิบายความจริง เพราะเนื้อแพรตายระหว่างคลอดลูกสาวหน้าตาน่ารักน่าชัง ซึ่งนายธีระไม่ยอมฟังเหตุผล ในเมื่อผมไม่ยอมรับเป็นพ่อของเด็กในท้องเนื้อแพร ผมก็ต้องตายสถานเดียว
ส่วนแม่ที่แท้จริงของลูกชายผม เธอเป็นคนกรุงเทพฯที่เดินทางมาสอนศาสนาด้วยกันกับผม แต่ติดไข้ป่าตายตั้งแต่ลูกอายุได้ 3 เดือน ผมสัญญาว่าถ้ามีที่อยู่ที่ปลอดภัยเมื่อไหร่ ผมจะกลับมารับลูกชายไปอยู่ด้วยกันที่ฝรั่งเศส แต่ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินเกี่ยวกับเขา พวกคุณสามารถติดต่อผมได้ตามที่อยู่ที่ผมให้ไว้
Andre Lefebure
8 Place Marguerite de Navarre , 75001 Paris , France

อาร์ทกำลังฟิตแอนด์เฟิร์มด้วยการเต้นบอดี้คอมแบตอยู่กับเทรนเนอร์ส่วนตัว ระหว่างนั้นแพตตี้ที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จเดินซับเหงื่อผ่านเข้ามาเห็นก็หน้าตึงและอึ้งไป
“ไอ้เฒ่า ? มาอยู่ที่นี่ได้ไง ไหนว่าป่วยไง” แพตตี้สงสัย “หรือว่า..ไอ้บ้าเอ้ย !”
แพตตี้จิกหน้าไม่พอใจเพราะถ้าเป็นอย่างที่สงสัยล่ะก็น่าดู

บริเวณโซนอุปกรณ์ยกเวท อาร์ทกำลังยกน้ำหนักสบายๆอยู่ได้ครู่ แพตตี้ก็ยื่นหน้าเข้ามาฉีกยิ้มร้าย อาร์ทตกใจ
“แพตตี้ !!”
อาร์ทจะรีบลุกแต่เจอแพตตี้ยิ้มร้ายแล้วเอามือกดลงไปที่เวทเพื่อเพิ่มน้ำหนักจนอาร์ทลุกไม่ขึ้น
“นี่น่ะเหรอที่ว่าป่วย จนต้องเลื่อนงานแคสติ้งที่ปารีสออกไปอีกเกือบอาทิตย์”
“พี่..พี่ป่วยจริงๆนะครับน้อง” อาร์ททำเป็นกระแอมเหมือนเจ็บคอขึ้นมาทันที “ไม่ฉะ..ฉะบาย.. จะ.. จะ ...เจ็บคอ”
“อ๋อ..ไม่สบายเจ็บคอเหรอคะคุณพี่อาร์ท” แพตตี้จิกหน้าโหด “สะตอ !”

แพตตี้ฉุนจัดเลยกระแทกแรงกดลงไปที่เวทในมือ จนอาร์ทจุกหน้าอกต้องร้องจ๊าก

แพตตี้เดินหัวเสียขณะโทรศัพท์คุยกับเจ๊เมี่ยง
 
“เห็นกับตาเลยค่ะเจ๊..รู้เลยว่าจงใจแกล้งถ่วงเวลาไม่ให้เราตามสองคนนั่นไป..หึ แพตตี้จับได้ก็เลยสั่งสอนไปแล้วค่ะ”
แพตตี้พูดไม่ทันจบอาร์ทก็โผล่เข้ามาข้างหลังแล้วฉกมือถือไปจากมือดื้อๆ
“เอาโทรศัพท์ชั้นคืนมานะ”
อาร์ทมองโทรศัพท์แล้วกดตัดสายทิ้งพร้อมทำหน้ากวนใส่
“ก่อนจะว่าพี่ “สะตอ” ช่วยดูตัวเองก่อนได้มั้ย”
“ดูอะไร ?”
“ก็คนที่จะไปแคสต์บทนางเอกหนังระดับอินเตอร์ แต่ความคิดยังวนเวียนอยู่กับการไล่ตามผู้ชายไง”
“นี่แก !!”
แพตตี้เงื้อมือจะตบแต่อาร์ทจับมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อยแถมยังใช้สายตามองรูปร่างของแพตตี้ในชุดรัดรูป
“ความจริงน้องน่าจะขอบคุณพี่ด้วยนะ ที่พี่ถ่วงเวลาให้น้องเดินทางไปฝรั่งเศสนานขึ้น น้องจะได้มีเวลาเตรียมตัวดูแลรูปร่างให้เฟิร์มให้เร้าใจกว่านี้ จะได้ไม่ขายหน้าฝรั่งว่ามีดี อยู่แค่...” อาร์ทเบ้ปาก “กระจึ๋งเดียว”
แพตตี้อึ้ง “แก”
แพตตี้จะใช้อีกมือตบแต่ก็เจออาร์ทจับมือไว้แล้วดึงตัวเข้ามาชิดจนหน้าเกือบชนกัน อาร์ทยิ้มกวนแล้วใช้ปลายจมูกสัมผัสหน้าผากแพตตี้เบาๆ ทำเอาแพตตี้ร้องอี๊ พออาร์ทเดินออกไปเธอก็รีบเอามือมาถูหน้าผากจนแดงเถือก
“ไอ้บ้าอาร์ท ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์” แพตตี้คิดนิดนึง “คอยดูฝีมือชั้นเถอะ !!” แพตตี้ยิ้มเจ้าเล่ห์

อาร์ทสะพายกระเป๋ากำลังจะกลับ แต่ระหว่างทางเจอลอร่าเดินสวนมาด้วยท่าทางดูลุกลี้ลุกลนไม่กล้าสบตาอาร์ท พอเธอพยายามเดินหลบก็ไปชนกับเสาดังโครม
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“เป็น..เอ้ย..ไม่เป็น...ไม่มีอะไร”
ลอร่ารีบลุกเอามือกุมหัวจ้ำอ้าวออกไป อาร์ทมองตามแล้วส่ายหน้างงๆ

ลอร่าเดินกุมหัวเจ็บรีบกลับมาหาแพตตี้ที่ยืนรออยู่
“ว่าไงเรียบร้อยมั้ย” แพตตี้ถาม
“เรียบร้อยค่ะ..บวมเป็นลูกมะนาวเลย..อู้ย” ลอร่าบอก
“ชั้นไม่ได้ถามว่าแกไปโดนอะไรมา”
“ถามหน่อยเถอะค่ะคุณแพตตี้...แสดงความเป็นห่วงลอร่านิ้ดส์นึง ลอร่าอุตส่าห์ไปทำเรื่อง เสี่ยงๆเล่นงานนายอาร์ทมาให้นะคะ”
แพตตี้ตกใจรีบปิดปากลอร่า “ชู่ว์...จะพูดอะไรระวังปากหน่อย เดี๋ยวมีใครได้ยินหรอก”
แพตตี้รีบลากลอร่าถอยมาชิดผนังแล้วมองซ้ายขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอื่นแน่ๆ
“ถ้าแกช่วยให้ชั้นสั่งสอนไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นได้ ชั้นจะทิปพิเศษให้”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ..อยากโอบเอวถ่ายรูปกับพี่เคน ธีรเดชรึเปล่าล่ะ ชั้นเจอเขาบ่อยๆ”
ลอร่าดีใจรีบพยักหน้ารับทันที “เอาค่ะ...รักพี่เคน หลงพี่เคน อยากกลืนกินพี่เคนตั้งแต่หัว จรด...” ลอร่ายิ้มหื่นมาก “หึๆๆ”
“แกจัดการเรียบร้อยแล้วแน่นะ”
ลอร่ายกนิ้วโอเค “ไม่มีปัญหาค่ะ คุณแพตตี้ได้สะใจแน่นอน”
“ดีมาก” แพตตี้ยิ้มร้าย “หึ..ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์ ไม่รู้จักแพตตี้ซะแล้ว ชั้นนี่แหละลูกสาวเจ้าพ่อ !”

พุชชี่ถือจดหมายพ่อของเน็กซ์นำหน้าพาเน็กซ์เดินตามหาที่อยู่ตามที่ระบุในจดหมาย แต่พุชชี่ยังหาไม่เจอ
“ถามจริงเถอะ..วันนี้จะได้เรื่องมั้ยป้า เดินมาครึ่งเมืองแล้วยังไม่เห็นได้เรื่องอะไรเลย” เน็กซ์ว่า
“อย่าบ่นได้มั้ย.. นี่ไม่ใช่เมืองไทยที่จะเดินไปตรงไหน ไปถามใครก็ได้”
“ผมว่าป้าคุยกับเขาไม่รู้เรื่องมากกว่า”
“ดูถูก !!”
พุชชี่ชักสีหน้าไม่พอใจเลยชี้หน้าเน็กซ์ว่าจะไปถามให้รู้เรื่องให้ดู แล้วพุชชี่เดินถือจดหมายเข้าไปหาผู้ชายชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งแล้วพยายามพูดภาษาอังกฤษปนฝรั่งเศสที่พอรู้บ้าง แต่ก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ผู้ชายคนนั้นเดินออกไป พุชชี่พยายามเรียกกลับมาคุย
“เดี๋ยวสิ Help Me ก่อน”
เน็กซ์ส่ายหน้าเซ็งเข้าไปดึงจดหมายในมือพุชชี่คืนมา
“ผมว่าป้าเลิกหวังดีช่วยผมได้แล้ว”
“แต่ว่า...”
“ที่พูดเนี่ยเป็นห่วงจริงๆ พาผมเดินมาทั้งวัน แข้งขาน่าจะเมื่อย ป้าไปนั่งรอผมที่สะพานข้ามแม่น้ำที่ผ่านมาเมื่อกี้แล้วกัน ผมจะเดินหาสถานีตำรวจ เผื่อว่าจะช่วยได้”
“ชั้นไม่เมื่อยหรอกน่า”
“แน่ใจนะ..อายุมากแล้ว เดินนานๆเส้นเลือดขอดขึ้นมา หมดสวยเลยนะป้า”
พุชชี่ตกใจรีบก้มดูขาตัวเองเพื่อตรวจเช็คทันที เน็กซ์จะชิ่งออกไปก่อนโดนด่าพร้อมเสียงหัวเราะ พุชชี่เงยหน้าขึ้นมาเน็กซ์ไปไกลแล้ว
“ไอ้เด็กบ้า !!”
พุชชี่เดินย้อนกลับทางเดิมที่มาเมื่อกี้

บริเวณสะพาน Pont Des Arts ซึ่งเป็นสะพานที่คู่รักนิยมนำกุญแจมาคล้องไว้ยาวเต็มตลอดทาง พุชชี่เดินมานั่งรอเน็กซ์อยู่ที่ม้านั่งกลางสะพาน เธอใช้มือทุบน่องที่เดินมาจนเมื่อยก่อนจะนั่งมองหนุ่มสาวที่ควงกันมาเป็นคู่ๆ บางคู่ช่วยกันเขียนชื่อที่ตัวแม่กุญแจ บางคู่ยืนกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม
 
พุชชี่ลุกขึ้นยืนมองแล้วนิ่งคิดไปถึงเมื่อครั้งที่เคยมาเที่ยวที่นี่กับติณณภพไม่ได้
 
อ่านต่อตอนที่ 11
กำลังโหลดความคิดเห็น