xs
xsm
sm
md
lg

มาดามดัน ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาดามดัน ตอนที่ 2

หน้าห้องน้ำ นังเก๋งทำธุระเสร็จก็เดินหิ้วถุงช้อปปิ้งออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่เจเจ๊เมี่ยงโผล่มา ก็ตกใจ

"อารมณ์ดีจังเลยนะนังเก๋ง"
"ว๊าย ! เจ๊เมี่ยง โผล่มายังไงเนี่ย เก๋งตกใจหมด"
"ชั้นเห็นหล่อนเดินลั้นลาอยู่แถวนี้ เลยแวะมาทักเทเซย์ฮาย"
"แหม...ตายแล้ว ตัวแม่อย่างเจ๊เนี่ยนะคะ อยากมาทักทายเทยตัวเล็กๆอย่างเก๋ง"
เก๋งเริ่มระแวงสงสัย หางตามองนางอย่างไม่ไว้ใจ เจ๊เมี่ยงเชิดหน้าจริงจังเดินเข้าหาเหมือนคุกคาม
"ฉลาดนะหล่อน ก็ดี งั้นชั้นจะได้เข้าเรื่องกับหล่อนเลย ได้ข่าวว่านังพุชชี่มันไปอยู่บึงโขงหลงกับนังหนูดอก ชั้นจำได้ว่าหล่อนก็เป็นคนที่นั่นเหมือนกัน"
เก๋งลอยหน้า
"แล้วไงเหรอคะเจ๊"
"ชั้นก็อยากรู้ว่ามันไปทำอะไรที่นั่นน่ะสิ"
"เอ้า...แล้วหนูจะรู้มั้ยล่ะคะเจ๊ขา หนูเป็นแมวมองฟรีแลนซ์นะคะ ไม่ใช่คนรับใช้มาดาม"
"หล่อนอย่ามากวนประสาทชั้นนะ นังเทยประถม"
"แหม...เทยประถม นมมัธยมอย่างเก๋ง จะกล้ากวนเทยมหาลัยก้ามปูอย่างเจ๊ได้ไงคะ"
"นังเก๋ง !"
เจ๊เมี่ยงฉุน ปั้นหน้าโหดบีบแขนนังเก๋งจิกหน้าอย่างเอาเรื่อง

เจ๊เมี่ยงกระชากแขนนังเก๋งผลักเข้ากำแพงใกล้ๆบริเวณนั้น
"ชั้นน่ะตัวแม่นางพญา ส่วนหล่อนน่ะมันก็แค่ลูกปลวก ยังกล้ามาต่อปากต่อคำอีกเหรอ"
"ก็เจ๊มาถามเรื่องที่เก๋งไม่รู้นี่ แล้วจะให้เก๋งพูดอะไรล่ะ"
"อย่ามาสะตอ ถ้าหล่อนไม่บอกมาว่า นังพุชชี่ไปทำอะไรที่นั่นล่ะก็ ชั้นจะเล่นงานให้หล่อนหากินในวงการไม่ได้อีกเลย"
สีหน้านางขู่จริงจังและออกแรงบีบแขนแรงจนเก๋งเจ็บ
"ว่าไง...รู้อะไรอยู่ก็รีบๆบอกมา"
"เอ่อ...คือ คือ"
เก๋งเริ่มดูลังเลเพราะเจ็บตัว แต่ก็ยังคิดถึงคำพูดที่รับปากดอกไม้ว่าจะรูดซิบปิดปากเงียบ ระหว่างนั้นเองมีรปภ. เดินผ่านเข้ามาถาม
"ทำอะไรกันน่ะ"
เจ๊เมี่ยงตกใจรีบปล่อยมือจากเก๋งแล้วหันมาฉีกยิ้มกลบเกลื่อน แต่มือยังโอบเอวเก๋งเอาไว้แน่นไม่ปล่อยไปไหน
"ไม่มีอะไรค่ะคุณพี่ ทักทายคุยกันตามประสาพี่น้องอยู่ค่ะ"
รปภ.เห็นไม่มีอะไรผิดปกติเลยเดินออกไป เจ๊เมี่ยงเป่าปากแล้วหันมาทางเก๋งที่ได้จังหวะคิดหาทางรอด
"ว่าไง !! ถ้าหล่อนไม่พูดความจริงมา ชั้นไม่ปล่อยหล่อนไปแน่ พวกมันไปทำอะไรกัน"
"คือหนูดอกให้เก๋งเหยียบเอาไว้ ไม่ให้เจ๊รู้ว่า ตอนนี้มาดามพุชชี่กำลังตกอับสุดๆ หนี้สินรุมเร้า ชื่อเสียงก็เสียหาย วันๆเอาแต่ร้องห่มร้องไห้อยากจะโดดแม่น้ำโขงตายวันละหลายรอบ"
"จริงเหรอ"
"ก็จริงสิคะเจ๊ เก๋งเห็นกับตา หดหู่น่าเวทนาที่สุด" นังเก๋งว่าแล้วพลางบีบน้ำตาเศร้าสุดฤทธิ์
เจ๊เมี่ยงหันมายิ้มชอบใจ
"มันอยากโค่นชั้นลงจากบัลลังก์ มันก็ต้องรับกรรมที่มันทำไว้ ชั้นหมดธุระกับหล่อนแล้ว ขอบใจนะที่เล่าเรื่องนี้ให้ชั้นฟัง"
นางเชิดหน้ามีความสุขเดินออกไป นังเก๋งเป่าปากโล่งอกก่อนจะหยิบมือถือมากดข้อความส่งทางไลน์
"นังมาดามเฟลอร์ ชั้นพนันข้างเจ้านายหล่อนไปหลายตังค์ เพราะฉะนั้นหล่อนต้องดันหล่อเทพนั่นให้เป็นซุปตาร์ให้ได้..สู้เว้ย !"

เวลากลางคืน ท่ามกลางบรรยากาศงานประกวดเทพีสงกรานต์บึงโขงหลง ชาวบ้านทยอยเข้ามาจับจองที่นั่ง มีกองเชียร์และป้ายไฟพร้อมสรรพ เน็กซ์เดินเข้ามายืนดูรอดูการประกวดอยู่ด้วยเหมือนกัน โดยอยู่ไม่ไกลจากเวทีนัก
ระหว่างนั้นพิธีกรบนเวทีเดินออกมาเคาะไมค์
พิธีกรพูดอีสานว่า
"สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวบึงโขงหลงทุกท่าน และแล้วเวลาที่หมู่เฮารอคอย ก็มาถึง ผมมีความยินดีแนะนำให้หมู่เฮารู้จักกับกรรมการกิตติมศักดิ์ที่จะมาช่วยตัดสิน เฟ้นหาเทพีหน้ามนประจำบึงโขงหลง"
เสียงดนตรีประกอบเปิดตัวแบบต่างจังหวัดสุดฤทธิ์ แท๊น แท๊ แท๊น แท๊น แทน แทน แท่น แท้น
พิธีกรแนะนำพร้อมเสียงเอคโค่ตามมาด้วย
"มาดามพุชชี่...ชี่...ชี่...ชี่"
บนเวที ดอกไม้แต่งตัวจัดเต็ม สวยเว่อร์เดินออกมาก่อน แล้วชูนิ้วส่ายว่าไม่ใช่เธอ ก่อนจะผายมือช่วยเปิดตัวให้ พุชชี่เดินออกมาจากด้านข้างเวที นางแต่งตัวสวยมาก จนชาวบ้านพากันปรบมือต้อนรับเกรียวกราว
"สวัสดีครับ มาดามนี่สวยพอๆกับเทพีที่มาประกวดเลยนะครับ"
"ขอบคุณค่ะ ดิชั้นก็ไม่ได้สวยอะไรมากมายนักหรอกค่ะ แค่หมั่นดูแลตัวเองเป็นประจำ เพราะความสวยควรจะมาจากข้างในไม่ใช่ภายนอก และวันนี้ดิชั้นจะทำหน้าที่กรรมการตัดสินอย่างยุติธรรมที่สุดค่ะ"
พุชชี่พูดพลางหันไปมองที่ธีระซึ่งนั่งที่โซฟาของวีไอพีมีลูกน้องยืนประกบอยู่ เขาจ้องนางเขม็ง เน็กซ์สังเกตเห็นว่า ทั้งพุชชี่และธีระต่างมองหน้ากัน อย่างไม่มีใครยอมใคร ก็อดรู้สึกเป็นห่วงนางขึ้นมาไม่ได้

หลังเวทีประกวด แพตตี้แต่งตัวเสร็จแล้ว กำลังให้ช่างแต่งหน้าซับหน้าอยู่ นางชักสีหน้าไม่พอใจทันทีที่รู้เรื่องจากยุวดี
"หา ! ว่าไงนะ ยัยพุชชี่นั่นน่ะเหรอเป็นกรรมการกิตติมศักดิ์"
"ค่ะ คุณแพตตี้"
"ถ้ายัยนั่นมาเป็นกรรมการ มันต้องหาทางแกล้งชั้นให้อดรางวัลแน่ โธ่เอ้ย ! ชั้นต้องขายหน้าเน็กซ์แน่ๆ"
"แต่ถ้าพี่เป็นคุณน้องพี่ไม่กลัวหรอก ต่อให้ไม่มีคณะกรรมการคุณน้องก็ได้รางวัลอยู่แล้ว" ช่างแต่งหน้าบอก
แพตตี้ชะงัก
"พูดงี้หมายความว่าไง"
ช่างแต่งหน้าลืมตัวรีบเอามือปิดปาก "อุ๊บส์ !"
แพตตี้หยิกแขนช่างทันที
"นี่แน๊ะ...บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้นะ หมายความว่ายังไง"
"อู้ย...นี่คุณน้องไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งแบ๊วกันแน่คะ หลังเวทีเขาเมาท์กันให้แซ่ดว่า งานนี้เสี่ยล็อกรางวัลให้คุณน้องเหมือนเวทีอื่นๆไว้แล้ว"
แพตตี้ผงะกึก หันขวับไปมองยุวดีที่ยิ้มแหะๆไม่ต้องรอให้นางถามเลย

หน้าเวทีการประกวดดำเนินไป...
"สำหรับหมายเลขต่อไป หมายเลข 10 นางสาว นวลลออ พอใจ สัดส่วน 35-25-34 ปุ๋ยคอกค้างคาวเขียวส่งเข้าประกวด"
เสียงเพลงโปงลางดังประกอบ สาวงามที่เข้าประกวดนุ่งซิ่นรำโปงลางเปิดตัวเข้ามาท่ามกลางเสียงเชียร์
พัฒศรีนั่งอยู่ที่โต๊ะกรรมการร่วมกับท่านอื่นๆ ผงะไปเล็กน้อย ที่มีสาวงามเปิดตัวแบบนี้ ดอกไม้กระซิบถาม
"เป็นไงคะ มาดาม ถึงกับอึ้งตะลึงตึงๆไปเลย ไม่ผ่านเหรอคะ"
พุชชี่ส่ายหน้า
"เปล่า...แบบนี้แหละโดนชั้นเลย"
"แต่ดูไม่ได้สวยโดดเด้งเท่าไหร่เลยนะคะ มาดาม"
"ชั้นดูความงามจากข้างในย่ะ เด็กสาวสมัยนี้สวยบล็อกเดียวกันหมดจนไม่รู้ว่ารากเหง้า ตัวเองเป็นไทยหรือเกาหลีแล้ว บึงโขงหลงมีเสน่ห์แบบไทยๆ เพราะฉะนั้นชั้นไม่เลือก ของแปลกปลอมให้มาเป็นหน้าเป็นตาที่นี่หรอก"
"แต่จะไม่เสี่ยงเกินไปเหรอคะ ดูสิคะ มาดาม"
หนูดอกพูดไปก็สะกิดให้ดูธีระที่หันมามายักคิ้วบวกยิ้มกวนๆให้ นางทำเป็นยิ้มหวานตอบ

"ถ้าอยากให้แพตตี้ได้รางวัล แพตตี้ก็ต้องพิสูจน์ให้ชั้นเห็นว่าเหมาะกับบึงโขงหลงจริงๆ"

ด้านหลังเวที ยุวดีพาเน็กซ์เข้ามาหาแพตตี้

"คุณแพตตี้คะ…มาแล้วค่ะ"
"เน็กซ์"
แพตตี้เสียใจ รีบโผเข้าไปหาเน็กซ์ทันที
"เป็นอะไรเหรอ แพตตี้"
"ก็ป๋าน่ะสิ แพตตี้เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้เองว่า ที่เคยชนะการประกวดมาตลอดเพราะฝีมือป๋า ไม่ใช่เพราะความสวยกับความสามารถของแพตตี้เอง"
"จริงเหรอ"
"ไม่เชื่อก็ถามยุวดีดูสิ"
เน็กซ์หันไปที่ยุวดีที่พยักหน้ารับหงึกๆ
"แพตตี้ไม่อยากประกวดแล้ว แพตตี้จะกลับ"
"ไม่ได้นะคะคุณแพตตี้ ถ้าเสี่ยรู้เข้า เรื่องใหญ่แน่"
"แต่ชั้นไม่อยากขายหน้ายัยมาดามพุชชี่ ป๋ายืนยันว่า คืนนี้ชั้นต้องได้รางวัลก็แสดงว่า ป๋าไปข่มขู่มันให้เลือกชั้น หึ ! ป่านนี้มันคงนั่งหัวเราะเยาะชั้นไปแล้ว"
"แต่ชั้นว่าเธอน่าจะขึ้นประกวดนะ"
"ทำไมล่ะเน็กซ์"
"ชั้นว่าคนแรงๆพูดจาตรงไปตรงมาอย่างมาดามพุชชี่ ไม่ใช่คนที่จะกลัวอิทธิพลของใครง่ายๆ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องตัดสินการประกวดครั้งนี้อย่างยุติธรรม"
"แล้วถ้าเกิดยัยป้านั่นหาเรื่องแกล้งชั้นล่ะ"
"นี่เป็นอาชีพของเขานะ แพตตี้ ถ้าเขากล้าทำ ก็แสดงว่าเขาเป็นป้าปีศาจที่ร้ายกาจจริงๆ"
แพตตี้นิ่งไปแล้วครุ่นคิดตัดสินใจ
"ก็ได้ ชั้นจะขึ้นเวที จะพิสูจน์ความสามารถให้ทุกคนเห็นว่า ถ้วยรางวัลที่ชั้นเคยได้ ไม่ใช่ได้มาเพราะอิทธิพลป๋า"
แพตตี้สีหน้ามั่นใจ ยุวดีปรบมือเชียร์ดีใจ

หน้าเวทีการประกวดพิธีกรประกาศ
"และผู้เข้าประกวดคนสุดท้าย หมายเลข 19 นางสาวแพรรตีหรือว่าน้องแพตตี้ของเรา ครับพี่น้อง" ท้ายเสียงพิธีกรเอคโค่ยาว
ธีระรีบลุกขึ้นปรบมือให้ลูกสาว พวกลูกน้องปรบมือเสียงดังตาม แล้วหันไปนำเชียร์ให้พวกชาวบ้านหน้าม้าเฮ ปรบมือเชียร์ตามจนเสียงปรบมือดังไปทั่ว
แพตตี้ในชุดไทยสวยงามเดินเชิดหน้าออกมาโชว์ตัว ฉีกยิ้มหวานมั่นใจสุดฤทธิ์ว่า ตัวเองสวยเริ่ดเพอร์เฟค
พุชชี่นั่งพิจารณาความงามของแพตตี้ที่ตั้งใจโชว์ออกมาสุดฤทธิ์
"โอ้ว...ไม่เบานะคะ มาดาม ความจริงนางก็สวยเริ่ดอยู่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องพึ่งอิทธิพลพ่อก็ซิวรางวัลได้สบาย" หนูดอกบอก
"เห็นแบบนี้แล้ว ชั้นไม่เถียงหรอกว่านางสวยจริงไรจริง แต่ก็ต้องมาดูกันว่าจะเหมาะกับการเป็นหน้าเป็นตาให้บึงโขงหลงรึเปล่า"
แพตตี้เดินมาหยุดที่หน้าเวทีแล้วท้าวสะเอวเชิดหน้า จิกพ้อยต์เท้าอย่างกับซูเปอร์โมเดลสวยเว่อร์สุดฤทธิ์ พุชชี่และแพตตี้จับจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร กรรมการท่านอื่นๆ ก้มหน้าก้มตาให้คะแนนกันมือเป็นระวิง เน็กซ์ยืนดูอยู่ห่างๆ รอลุ้นการพิจารณาตัดสินของพัฒศรี

เสียงดนตรีประกอบเร้าใจด้วยท่วงทำนองหมอลำโจ๊ะๆ พิธีกรเริ่มประกาศจากโพยในมือ
"ใกล้เวลาลุ้นระทึกเข้าไปทุกทีแล้วนะครับ พ่อแม่พี่น้องหมู่เฮา สำหรับรอบสุดท้ายสาว งามที่เข้ารอบได้แก่ หมายเลข 4 หมายเลข 10 และหมายเลข 19"
เสียงเฮของกองเชียร์ทั้ง 3 หมายเลขดังรับ แต่ของแพรรตีเบอร์ 19 ดังสุดๆ สอดรับการการเดินออกมาประชันโฉม ของทั้ง 3 หมายเลขที่หน้าเวที
"งามหลายๆกันทั้งสามคนเลยนะครับ แต่น่าเสียดายที่เทพีประจำบึงโขงหลงมีได้คนเดียว เพราะฉะนั้น การตัดสินครั้งนี้จะเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับบึงโขงหลงของเรา ผมขอถามหมายเลข 4 น้องรำไพก่อนเลยนะครับ"
หมายเลข 4 ยิ้มนวยนาดก้าวออกมาหน้าแถวไหว้งามๆ ฉีกยิ้มแบบเป๊ะๆ
"น้องรำไพครับ ถ้าน้องอยากจะชักชวนให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวชมธรรมชาติในบึงโขงหลง น้องจะแนะนำที่ไหนครับ"
"หาดบึงโขงหลงค่ะ เพราะที่นี่ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกแล้ว ชาวต่างชาติจะได้เห็นกับตาว่าบึงโขงหลงยังบริสุทธิ์เหมือนกับสาวแรกแย้มอย่างหนู"
เสียงเชียร์รำไพดังรับ เฮ... พิธีกรเชิญหมายเลข 10 ให้ก้าวออกมาถามต่อ
"สำหรับคำถามของหมายเลข 10 น้องนวลลออ อาหารพื้นถิ่นของบึงโขงหลงที่น้องอยากจะแนะนำให้คนต่างถิ่นมาชิมคืออะไรครับ"
"ข้าวเหนียวนึ่งบึงโขงหลงค่ะ เพราะความพิเศษอยู่ที่การนึ่งข้าวเหนียวในดอกหม้อข้าว หม้อแกงลิงขนาดใหญ่ที่จะหาจากที่อื่นไม่ได้ นอกจากบึงโขงหลงที่เดียว รสชาติก็อร่อย มาก นวลเชื่อว่า จะต้องเป็นของกินขึ้นชื่อของบึงโขงหลงแน่นอนค่ะ"
เสียงเฮรับของกองเชียร์นวลลออดังกว่าคนแรก พิธีกรขอบคุณแล้วให้แพตตี้ก้าวออกมา
"แล้วน้องแพรรตีล่ะครับชอบกินข้าวเหนียวนึ่งรึเปล่า"
"ไม่ไหวค่ะ น่ากลัวเกิน กลัวจะมีแมลงตายอยู่ในนั้น"
งั้นขอถามคำถามของน้องเลยนะครับ ในกลุ่มคำขวัญประจำบึงโขงหลง น้องแพรรตี ประทับอะไรมากที่สุดครับ"
"คำขวัญของบึงโขงหลงเหรอคะ"
"ครับ"
แพตตี้หน้าเหวอ เพราะนึกคำขวัญของบึงโขงหลงไม่ออก แอบพึมพำพยายามนึกสุดฤทธิ์
"คำขวัญ คำขวัญมีอะไรบ้างเนี่ย"
แพตตี้หน้าเสียกลัวตอบไม่ได้ มองไปทางยุวดีให้ช่วย ยุวดีเลยทำปากงุบงิบให้อ่านเอาจากริมฝีปาก
"คำขวัญของบึงโขงหลงก็คือ...คือท่อง..ท่องบึง ขึ้น…ขึ้นภู ดูน้ำตก ชมนก ถกธรรมค่ะ"
แพตตี้เป่าปากโล่งอกที่เอาตัวรอดได้
"แล้วอันไหนที่ประทับใจสุดครับ"
"เอ่อ...ที่ประทับใจเหรอคะ ถกธรรมค่ะ คือแพตตี้ชอบศึกษาเรื่องธรรมะมาก เพราะเชื่อ ว่าความสวยต้องมางามจากข้างในไม่ใช่ภายนอก"
"สวยแล้วใจบุญ น่ารักจริงๆนะครับ คณะกรรมการคงเลือกกันยากเลยนะครับ"
เสียงเฮลั่นของกองเชียร์แพตตี้ดังสนั่น ทั้งเสียงรัวกลองและยกป้ายไฟเชียร์กันจนเว่อร์ นางยิ้มชอบใจจิกหน้าสวยสุดฤทธิ์แล้วจ้องเขม็งไปที่พุชชู่
พุชชี่เมินจากแพตตี้มองไปที่ธีระที่กำลังยิ้มและโบกมือให้คณะกรรมการการประกวดเป็นสัญญาณว่า มีการฮั้วกับพวกคณะกรรมการด้วย
"โอ้ว...ชัดเลยค่ะมาดาม งานนี้กวาดกรรมการหมดทุกคนเลย มาดามต้องคิดให้ดีแล้วค่ะ ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรไป"

พุชชี่หันมาหน้านิ่วคิ้วขมวด

เสียงดนตรีเร้าใจจังหวะโจ๊ะๆ ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้พุชชี่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับซองประกาศผลรางวัล สาวงามทั้งสามหมายเลขยืนเรียงหน้า โดยมีผู้เชิญมงกุฏอยู่ใกล้ๆ

"และแล้วเวลาที่หมู่เฮารอคอยก็มาถึงกันแล้ว ตอนนี้ผลการตัดสินคะแนนดิบของกรรมการทุกท่านอยู่ในมือของมาดามพุชชี่แล้ว"
เสียงดนตรีเร้าใจ พุชชี่แกะซองผลการตัดสินแล้วชะงักไปนิดนึง เมื่อเห็นคะแนนของกรรมการทุกคน
"เป็นยังไงครับมาดาม คะแนนจากกรรมการทุกท่านชนะแบบเป็นเอกฉันท์เลยใช่มั้ยครับ"
พุชชี่นิ่งไป แล้วมองไปที่ธีระที่ยิ้มร้ายที่พูดเปรยให้ยุวดีฟัง
"ลูกสาวชั้นต้องเป็นเบอร์หนึ่งเท่านั้น หึๆๆ"
พุชชี่ตอบพิธีกร
"ค่ะ คะแนนของกรรมการทุกท่านเลือกให้คุณแพรรตีเป็นเทพีประจำบึงโขงหลง"
กองเชียร์แพตตี้เฮดังลั่น นางดีใจหันมายิ้มโบกมือ ผู้เชิญมงกุฏเตรียมเอามงกุฏไปสวมให้ แต่หล่อนพูดขัดขึ้น
"แต่ในฐานะกรรมการกิตติมศักดิ์ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ตัดสินชี้ขาดบนเวทีนี้ ดิชั้นคัดค้านผลการประกวด เพราะมีการติดสินบนเลือกผู้ไม่เหมาะสมให้รับรางวัลนี้"
สิ้นคำพูดที่ดังก้องไปทั้งงานผ่านเสียงอันจริงจังของพุชชี่ทำเอาทั้งงานตกอยู่ในความเงียบกริบ โดยเฉพาะธีระ หนูดอกหน้าเหวอ เสียวแว้บ
"โอ้วแม่เจ้า ไม่ ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้นนะคะ มาดาม"
พุชชี่ก้าวมาหน้าเวทีจ้องเขม็งที่ธีระ
"ดิชั้นเชื่อว่า ทุกท่านคงเห็นแล้วว่าใครคือผู้ที่เหมาะสม ได้รางวัลนี้ที่สุด เพราะฉะนั้น บึงโขงหลงจะเป็นเมืองบริสุทธิ์อีกต่อไปไม่ได้ถ้าเราปล่อย ให้มีคนโกง เทพีประจำบึงโขงหลงปีนี้ ดิชั้นขอประกาศให้หมายเลข 10 ค่ะ"
พุชชี่ประกาศแล้วเดินไปกระชากมงกุฏจากหัวแพตตี้มาสวมให้นวลลออแทน ท่ามกลางเสียงปรบมือเฮลั่นสนั่นหวั่นไหวถูกใจประชาชน สร้างความโกรธให้ธีระอย่างมากจนลุกพรวดชี้หน้าพุชชี่
"แก..มาดามพุชชี่ !"
ธีระโกรธจัดพวกลูกน้องปรี่จะไปลากตัวลงจากเวที แต่ทันใดนั้นไฟทั้งงานก็ดับ..พรึ่บ ! เน็กซ์เป็นคนสับสวิตช์ไฟที่ตู้จ่ายไฟหลังให้กับทั้งงาน หนูดอกรีบวิ่งเข้าไปฉุดพุชชี่ลงจากเวที
"รีบไปเถอะค่ะมาดาม หนูบอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแขก งานเข้าเลยเห็นมั้ยเนี่ย"
พวกลูกน้องหน้าโหดของธีระเดินเข้ามา หนูดอกรีบวิ่งไปเป็นคนแรกทันที พุชชี่เหวอรีบวิ่งตาม

หนูดอกวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากงานมายังลานจอดรถในงานประกวด
" แฮ่กๆๆ เร็วค่ะ มาดาม หนูอยากกลับบ้านไปสภาพครบร้อย ไม่ใช่รุ่งริ่งยับเยิน"
หนูดอกเตือนแล้วหันหลังไปดู แต่ไม่เจอพุชชี่ตามมา
"อ้าว...มาดาม หายไปไหนแล้ว หา ! หรือว่าโดนลากไปแล้ว"
"ชั้นอยู่นี่ย่ะ หนูดอก"
หนูดอกหันไปเห็นพุชชี่หลบอยู่หลังรถที่จอดอยู่
"แหม มาดามคะ แซงหนูมาหลบอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"เรื่องเอาตัวรอด ชั้นก็ต้องไวหน่อยสิยะ"
"เหรอคะ...แล้วที่บอกว่าอย่างมาดามออกสนามรบไหนก็ไม่ตายล่ะ"
"ชั้นก็ต้องพูดให้ชั้นดูดีสิ จะพูดให้ดูเสียหายทำไมล่ะ"
ระหว่างนั้นเสียงของลูกน้องธีระดังแว่วเข้ามา
"เฮ้ย! หาให้เจอ แล้วเอาตัวไปให้เสี่ย"
ทั้งสองสาวสะดุ้งโหยง หน้าเสีย
"เอาไงดีคะ มาดาม"
พุชชี่หน้าเครียด
"เพราะชั้นที่เป็นคนหาเรื่องเรียกแขกเลยทำให้หล่อนต้องมาเดือดร้อน"
หนูดอกอึ้ง
"นี่อย่าบอกนะคะว่า มาดามจะสละตัวเองให้พวกมันจับตัวไปเพื่อให้หนูรอด โอ้ว... หัวใจมาดามสวยมากเลยรู้มั้ยคะ"
"หยุด ใครว่าชั้นจะยอมเจ็บตัวเพื่อหล่อนยะ ชั้นจะให้แยกกันหนีแยกกันล่อพวกมัน ออกไปต่างหากย่ะ"
"อ้าว"
"ไม่ต้องอ้าว รวมกันเราตายหมู่ แยกกันอยู่เราอาจจะรอด ไปได้แล้ว"
พุชชี่ผลักหนูดอก พวกลูกน้องวิ่งเข้ามาเห็นหนูดอกยืนหน้าเหวอ เพราะโดนพุชชี่ผลักออกมา
"เฮ้ย…อยู่นั่น"
"หนูดอกซวยแล้ว"
หนูดอกรีบวิ่งหนีออกไปทางหนึ่งทันที พุชชี่รีบฉวยโอกาสหนีไปอีกทาง พวกลูกน้องเธีระเข้ามาเห็นทั้งคู่แยกกันไปคนละทาง ก็แบ่งคนไปตามทั้งสองทาง

พุชชี่รีบวิ่งหนีจนสะดุดล้มเจ็บข้อเท้า แต่ก็ยังพยายามฝืนเดินกะเผลกจนเห็นพวกลูกน้องธีระ ตามเข้ามาจวนตัว นางรีบหาที่หลบมุมกลัวจนตัวสั่น ระหว่างนั้นมือหนึ่งยื่นเข้ามาปิดปากเธอเอาไว้ นางตกใจ
"ชู่ว์…ผมเอง"
"เน็กซ์ !"
"ตามผมมา"
"แต่...แต่ชั้นลุกไม่ไหว ข้อเท้าชั้นเจ็บ"
เน็กซ์มองไปที่ข้อเท้าของนาง แล้วตัดสินใจช้อนตัวอุ้มตัวลอยอย่างเท่
พุชชี่ตกใจ
"ทำอะไรชั้นนะไอ้เด็กนรก"
"เงียบเถอะน่าป้า อยากอยู่ให้พวกมันลากตัวไปเหรอไง"
พุชชี่รีบปิดปากเงียบกริบ ปล่อยให้เน็กซ์อุ้มพาหลบพวกลูกน้องธีระที่เข้ามาตามออกไปได้อย่างหวุดหวิด

เน็กซ์อุ้มพุชชี่พามาไว้ที่ศาลาริมน้ำบรรยากาศสวย เน็กซ์บ่นหนัก
"นี่ถามจริงเถอะป้า กินหมูหันเป็นอาหารเช้า กินข้าวขาหมูเป็นอาหารเย็นเหรอไง"
"ไอ้เด็กบ้า ชั้นไม่ได้ขอให้มาอุ้มชั้นนี่"
"นี่ผมช่วยชีวิตป้าเอาไว้นะ แบบนี้มันน่าปล่อยให้โดนพวกนั้นลากไปจริงๆ"
"ไม่ต้องมาทวงบุญคุณ มีน้ำใจช่วยชั้นเอาไว้ ชั้นขอบคุณและซาบซึ้งดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมาหาเรื่องหลอกด่าชั้น"
"คนอย่างผมมีอะไรพูดตรงๆ ถามกันตรงๆ สงสัยอะไรก็ถามเหมือนที่อยากรู้อยู่นี่แหละ"
"อยากรู้อะไร"
"ก็เรื่องวุ่นวายบนเวที ป้าแกล้งเขารึเปล่า"
"อ๋อ…ที่แท้ก็เป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องนี้เอง คงคิดว่าชั้นอยากแก้แค้นล่ะสิ"
"แล้วมันใช่รึเปล่าล่ะ"
"ชั้นไม่ปฏิเสธที่แพตตี้ก็สวยจนน่าจะได้รางวัล แต่ไม่ใช่สำหรับเวทีนี้ ชั้นเลือกตามความเหมาะสม ของดีมันถึงจะอยู่ถูกที่ถูกทาง ไม่งั้นชั้นจะยอมเสี่ยงมีเรื่องเจ็บตัวทำไม"
เน็กซ์นิ่งไป
"แต่ที่เธอคิดว่าชั้นแกล้ง เพราะเธอเห็นว่าชั้นมันเป็นป้าปีศาจ เป็นพวกเห็นแก่ประโยชน์ พยายามตื้อเธอเพราะคิดจะเอาไปทำเงินเข้ากระเป๋า"
พุชชี่เริ่มระบายและระเบิดอารมณ์ ขยับเท้ากะเผลกเข้าไปใกล้ แล้วนิ้วจิ้มอกเน็กซ์อย่างสั่งสอน
"ไอ้เด็กน้อยเอ้ย พี่จะบอกให้นะ หน้าที่ของคนในวงการบันเทิงคือทำให้คนอื่นมีความสุข แล้วพี่ก็ดันมาเห็นว่าสิ่งดีๆ ที่อยู่ในตัวเธอคือสิ่งที่ทุกคนกำลังรอคอย ซึ่งมันไม่ควรจะถูก ซ่อนเอาไว้ที่นี่"
หล่อนจิ้มอกชายหนุ่มเต็มแรง เน็กซ์เลยจับมือหล่อนมาบีบแน่น
"โอ๊ย…โดนด่าเข้าหน่อยเลยคิดจะเอาคืนเหรอ ไอ้เด็กนรก"
"คำพูดของป้าฟังแล้วเกือบจะทำให้เชื่อ แต่ป้าไม่ต้องมาเสียเวลากับผมอีกแล้ว ผมไม่ชอบวงการบันเทิง ยังไงผมก็ไม่ตามป้าไปเป็นดาราหรอก"
"เธอเก็บเอาไปคิดก่อนก็ได้นะ ชั้นยังพอมีเวลาอยู่ฟังคำตอบ"
"ผมว่าป้ารีบไปจากบึงโขงหลงซะดีกว่า ป้าไปทำให้เสี่ยธีระไม่พอใจ ขืนดันทุรังอยู่ต่อ ไม่มีใครช่วยป้าได้หรอกนะจะบอกให้"
เน็กซ์เตือนแล้วเดินออกไป พุชชี่จะตาม แต่เพราะข้อเท้าที่ยังเจ็บเลยทำให้ตามไม่สะดวก

"เน็กซ์…เน็กซ์"

เวลากลางคืน ครูนิยมนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะชั้นล่าง ราศีเอาน้ำเข้ามาให้
 
"บักหมายังไม่กลับเหรอแม่"
"ยังเลยจ้ะ พ่อมีอะไรกับมันอีกล่ะ มันก็มาขอแล้วนะว่า จะไปเที่ยวงานที่อำเภอ"
"ชั้นไม่ได้จะว่ามันหรอก มีหนังสือคู่มือครูที่อยากให้มันเอาไปอ่านต่างหากล่ะ"
"มันคงกลับดึก ไว้ให้พรุ่งนี้ก็ได้มั้งพ่อ"
"แต่ชั้นอยากให้มันอ่านเร็วๆ พรุ่งนี้จะได้คุยกับมัน"
"งั้นเดี๋ยวชั้นเอาไปวางไว้บนโต๊ะมันให้แล้วกัน"
"แม่ไม่ต้องหรอก...ชั้นเอาไปเอง"
นิยมบอกแล้วถือหนังสือคู่มือครูปฐมวัยเดินขึ้นชั้นสอง

ภายในห้องนอนเนกซ์ ครูนิยมเปิดประตูเข้ามาแล้วเอาหนังสือที่อยากให้ลูกอ่านมาวางบนโต๊ะ ระหว่างนั้นหันไปเห็น กรอบภาพถ่ายครอบครัวที่เน็กซ์ถ่ายกับพ่อแม่ ครูนิยมหยิบมาดูแล้วชื่นชมลูกชาย
"ขอบคุณเทพเทวดาทั้งหลายทั้งปวงที่ส่งให้เอ็งมาเป็นลูกชายของพ่อ...ไอ้บักหมา"
นิยมรักลูกชายสุดหัวใจ วางกรอบรูปคืนที่เดิมแล้วเห็นว่า โต๊ะเขียนหนังสือของลูกค่อนข้างรก ก็บ่น
"ดูมัน...โตจนจะมีเมียได้อยู่แล้ว ยังวางของรกไม่เป็นที่อยู่เลย"
นิยมช่วยเก็บหนังสือและอุปกรณ์การเรียนของเน็กซ์ให้เข้าที่ แต่ระหว่างเปิดลิ้นชักเพื่อจัดเก็บก็เหลือบไปเห็นหนังสือบางอย่างซุกอยู่ในนั้น จึงหยิบออกมาดูอย่างสงสัย เมื่อเห็นว่าเป็นหนังสือฝึกภาษาฝรั่งเศส ก็ตกใจ
"ไอ้บักหมา นี่ นี่เอ็ง !"

เวลากลางคืน หนูดอกเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านอย่างเป็นห่วง ระหว่างนั้นพุชชี่เดินกระเผลกกลับมา
"มาดาม... โอ้แม่เจ้า หนูนึกว่า มาดามจะไม่รอดโดนพวกมันลากไปแล้วซะอีก"
"ถ้าเน็กซ์ไม่โผล่มาช่วยไว้ ชั้นก็คงไม่ได้กลับมาหรอก"
หล่อนเล่าให้ฟังแล้วเดินกระเผลกไปนั่งจับข้อเท้าตัวเอง
"พ่อเทพบุตรสุดหล่อนั่นน่ะเหรอคะ ช่วยมาดามเอาไว้"
"นี่…ขาชั้นเจ็บกลับมา หล่อนคิดจะสนใจเอาหยูกเอายามาให้บ้างรึเปล่า"
"แหม...ก็แค่ขาเจ็บ อึดๆถึกๆอย่างมาดามนอนพักชิลด์ๆสักคืน เดี๋ยวก็ลุกมาแซ่บเว่อร์ได้ เหมือนเดิมแล้ว แต่หนูสิคะ กว่าจะรอดมาได้ เกือบแย่"
หล่อนชี้นิ้วดันหัวหนูดอกทันที
"นี่แน๊ะ..ไม่ต้องอวยชั้น ตอนนี้มันถึงเวลาที่มาดามพุชชี่หมดสิ้นความแซ่บเวอร์แล้วย่ะ"
"ทำไมล่ะคะ มาดาม"
"เพราะชั้นเปลี่ยนใจให้เน็กซ์ตามชั้นกลับไปไม่ได้แล้วน่ะสิ เฮ้อ...มันคงถึงเวลาที่ชั้นจะต้องเก็บกระเป๋า บากหน้ากลับไปขายบ้าน ขายรถ ทนให้เจ๊เมี่ยงหัวเราะเยาะแน่"
พุชชี่พูดไปก็ถอนใจยาวจนดูน่าเวทนาสำหรับเลขาฯสาว
"โธ่…มาดาม"

เน็กซ์กลับมาถึงบ้าน ในเวลาต่อมา
"กลับมาแล้วครับ"
ราศีรีบเข้ามาหาเน็กซ์อย่างตื่นตระหนก
"บักหมา เอ็งอย่าเพิ่งเข้าบ้าน คืนนี้จะไปนอนที่ไหน ก็ไป"
เน็กซ์งง
"อะไรน่ะแม่ อยู่ๆมาไล่ให้ชั้นไปนอนนอกบ้าน... ก็ไหนแม่บอกว่าพ่อไม่ว่า เรื่องที่ชั้นไปเที่ยวงานที่อำเภอไม่ใช่เหรอ"
"พ่อเอ็งไม่ได้โกรธเรื่องนั้น"
"แล้วเรื่องอะไรอีกล่ะ โอ้ย... ชั้นล่ะเบื่อจริงๆ วันๆพ่อหาแต่เรื่องมาโกรธชั้นได้ไม่เว้นเลย"
นิยมเดินเข้ามาพอดี
"เพราะเอ็งเบื่อข้าใช่มั้ยไอ้บักหมา เอ็งถึงได้คิดจะทิ้งข้าไป"
ราศีพยายามห้ามปราม
"พ่อไม่เอาน่า"
"เธอหลบไป วันนี้ชั้นต้องแตกหักกับมัน"
"นี่พ่ออารมณ์เสียอะไรอีก"
"อยากรู้ใช่มั้ย...ก็นี่ไง"
ครูนิยมปาหนังสือคู่มือเรียนภาษาฝรั่งเศสของเน็กซ์ใส่ ทำให้เน็กซ์อึ้งไป
"เอ็งปฏิเสธข้ามาสิวะ ไอ้บักหมา เอ็งไม่ได้คิดจะอกตัญญูข้า ไม่ได้เห็นที่นี่เป็นแค่รังฟักให้เอ็งโต พอปีกกล้าขาแข็งก็ถีบหัวส่ง"
"พ่อ...ชั้นขอร้องล่ะ อย่าว่าลูกแบบนั้นสิ ลูกมันไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก"
"แม่นั่นแหละที่พอได้แล้ว เห็นอยู่กับตาว่ามันกำลังจะทิ้งเราไป แม่ยังจะยอมให้มันไปอีกเหรอ แล้วที่เราเลี้ยงมันมาล่ะ ที่เราเฝ้ารักทะนุถนอมมันมาล่ะ"
ครูนิยมพูดไปก็น้ำตาคลอเบ้าเสียใจ ราศีพาลร้องไห้ตาม หันมาจับมือลูก
"บักหมา...บอกพ่อเขาไปสิว่าพ่อเขาเข้าใจผิด เอ็งไม่ได้คิดจะทิ้งพ่อทิ้งแม่"
เน็กซ์นิ่งเสียใจ
"บอกพ่อเขาไปสิลูก"
"ผมขอโทษครับพ่อ...แม่ ผมไม่ได้คิดจะทิ้งพ่อแม่ไปไหน แต่...แต่ผมอยากรู้จักพ่อผม อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน แล้วทำไมเขาต้องทิ้งผมไป"
นิยมฟังแล้วโกรธจัดกำหมัดแน่นก่อนจะปรี่เข้าไปตบหน้าเน็กซ์ทันที…เพี๊ยะ !
"แล้วข้าไม่ใช่พ่อเอ็งเหรอ"
เน็กซ์หน้าหันเลือดซิบๆที่ปาก ราศีตกใจมาก
"พ่อ ! ทำไมทำกับลูกแบบนี้"
"แค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับคำว่า ไอ้อกตัญญู"
เน็กซ์มองพ่อน้ำตาคลอเสียใจมาก แล้วหุนหันวิ่งออกจากบ้านไปทันที
"บักหมา บักหมา"
"ไม่ต้องไปตามมัน...มันจะไปหัวหกก้นขวิด ไปตายโหงตายห่าที่ไหนก็เรื่องของมัน"
นิยมด่าลูกไปก็ทรุดนั่งลงที่เก้าอี้น้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวด

สนามฟุตบอลยามค่ำคืนแสงไฟจากสปอตไลท์เหลือเพียงไม่กี่ดวงทำให้บรรยากาศดูอึมครึม เน็กซ์ไม่มีที่ให้ไปนอกจากสนามฟุตบอลเลยเข้ามานั่งเศร้าๆคนเดียวอยู่บนอัฒจรรย์ น้ำตาคลอมองไปที่สนาม

ภาพในอดีตเน็กซ์โดนพวกเด็กรุ่นเดียวกันผลักล้มขณะเล่นฟุตบอลกัน เด็กพวกนั้นเข้ามาล้อเน็กซ์
เด็ก 1 บอก "ไอ้หรั่ง ไอ้ลูกไม่มีพ่อ"
เด็ก 2 บอก "ไอ้หรั่ง...ไอ้หมาถูกทิ้ง"
พวกเด็ก 4-5 คนหัวเราะชอบใจ เน็กซ์เจ็บใจกำหมัดแค้นลุกพรวดซัดปากมันทันทีจนกลายเป็นตะลุมบอน
พวกเด็กต่างหัวร้างข้างแตก ปากแตกหน้าเยินเพราะฝีมือเน็กซ์ แต่ละคนร้องไห้เจ็บตัว โอดโอย ส่วนเน็กซ์ถูกครูนิยมจับแขนดึงตัวมาต่อว่า
"พ่อสอนเอ็งกี่ครั้งแล้วทำไมเอ็งไม่จำ"
"ก็พวกมันล้อผม"
"เอ็งไม่ต้องเถียง...เอ็งต้องรู้จักอดทน เพราะข้าต่างหากที่เป็นพ่อเอ็ง ใครจะว่าอะไรก็ช่างหัวมัน"
"แต่ยังไงพ่อไม่ใช่พ่อผมจริงๆ ผมเป็นไอ้หรั่ง เป็นไอ้หมาถูกทิ้ง"
"บักหมา !"

เพราะเน็กซ์ดื้อใส่ ครูนิยมเลยต้องเงื้อไม้เรียวตีก้นติดๆกันหลายครั้ง เน็กซ์กัดฟันเจ็บน้ำตาคลอเสียใจ
 
อ่านต่อหน้า 2

มาดามดัน ตอนที่ 2 (ต่อ)

เน็กซ์คิดถึงอดีตแล้วล้มตัวลงนอนไปบนอัฒจรรย์มือก่ายหน้าผากครุ่นคิดตัดสินใจถึงอนาคตของตัวเอง...ถึงเวลาที่จะต้องเลือกแล้วจริงๆ

เช้าวันใหม่ พุชชี่พับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบหรูๆ พับไปก็ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ในกระเป๋าสตางค์มีรูปถ่ายของเธอที่ถ่ายคู่กับอารียาเพื่อนรัก หล่อนหยิบขึ้นมาดูแล้วเปรยอย่างท้อแท้
"แอน...เพื่อแก้แค้นให้เธอ ชั้นไม่เคยคิดจะยอมแพ้เลยนะ แล้วทำไม...ทำไมเธอถึงไม่ยอมช่วยให้ชั้นเรียกศักดิ์ศรีของเธอคืนล่ะ เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นความหวังเดียวของชั้นแล้วนะ"
หล่อนเปรยอย่างหมดหวังก่อนจะเก็บรูปใส่กระเป๋าอย่างเรียบร้อย

หล่อนหิ้วกระเป๋าเหน็บแว่นดำที่ศีรษะ พันผ้าพันคออย่างหรูเดินมาที่หน้าบ้านเห็นเจ้าม้าป่าจอดรออยู่ มีพ่อแม่ของดอกไม้มารอส่ง
พ่อพูดภาษาอีสานบอก
"รถของมาดามซ่อมเสร็จพอดี ผมก็เลยให้เอามาส่งที่นี่เลย"
"ขอบคุณมากค่ะคุณพ่อ คุณแม่ด้วยนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะมาดาม แต่ออกไปแล้ว มาดามต้องรีบตรงกลับกรุงเทพเลยนะคะ เพราะถ้าพวกเสี่ยธีระเจอมันต้องเอาเรื่องมาดามแน่" แม่พูดภาษาอีสานเหมือนกัน
"ค่ะคุณแม่"
พุชชี่ยกมือไหว้แล้วเข้าไปนั่งในรถเตรียมจะขับเจ้าม้าป่ากลับ แต่ระหว่างนั้นหนูดอกขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาอย่างรีบร้อนและเบรกตัวโก่งที่หน้ารถนายหญิง
"เดี๋ยวค่ะมาดาม หยุดก่อนอย่าเพิ่งไป"
"อะไรของหล่อนอีกเนี่ย หนูดอก"
"มาดามยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้ค่ะ สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
"หล่อนเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย ชั้นไม่เข้าใจ"
"ก็เน็กซ์ไงคะ...เขาบอกว่าเขาอยากคุยกับมาดามตามลำพัง"
"เน็กซ์น่ะเหรอ"

หนูดอกพาพุชชี่เดินมาที่อัฒจรรย์ในสนามฟุตบอล รร.ประถมที่ อ.บึงโขงหลง
"หนูเห็นมาดามท้อแท้ ถ้ากลับไปก็ต้องหมดเนื้อหมดตัว หนูรับไม่ได้หรอกค่ะ ที่จะต้องเห็นมาดามเป็นแบบนั้น หนูก็เลยตัดสินใจไปหาเน็กซ์อีกครั้ง จนมาเจอเขาอยู่ที่นี่"
"ทำไมเขาถึงอยากเจอชั้นล่ะ"
"เขาไม่ยอมบอกค่ะ"
"โธ่เอ้ย ชั้นฟังหล่อนพูดมาก็นึกว่ามีความหวัง"
"แหม...แค่เขาบอกว่าอยากขอคุยกับมาดามอีกครั้ง หนูก็ดีใจแล้ว"
หนูดอกหยุดเดินแล้วชี้ให้หล่อนดูเน็กซ์ที่นั่งรออยู่
"นั่นไงคะ เขารออยู่โน่น พูดกับเขาดีๆนะคะ มาดาม คือหนูรู้มาว่าเขาเพิ่งมีเรื่องทะเลาะกับที่บ้านมา บ้านช่องก็ไม่ได้กลับ มานอนอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
"แล้วเขาไปทะเลาะกับที่บ้านเรื่องอะไร"
"หนูสอดรู้สอดเห็นมาได้ขนาดนี้ ก็โดนหาว่าสอสระเอื๊อกแล้วค่ะ มาดาม"
พุชชี่ฟังแล้วแปลกใจมองไปที่เน็กซ์อย่างสงสัย

เน็กซ์นั่งอยู่ที่อัฒจรรย์ดูครุ่นคิด ตัดสินใจจนไม่ทันเห็นว่าหล่อนเข้ามาข้างหลัง
"นี่...โตจนเรียนจบแล้ว ยังทะเลาะกับพ่อแม่แล้วหนีออกจากบ้านอีกเหรอ"
"ผมตามให้ป้ามาหาเพราะอยากคุยธุระ ไม่ได้ให้ตามมาสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผม"
"ว๊าย !! ชั้นไม่ได้อยากสอดย่ะ ชั้นกำลังจะอบรมสั่งสอนเธอต่างหาก พ่อแม่เธอดูเขาก็เป็นคนดี การที่เธอทะเลาะกับเขาแล้วหนีออกมาจากบ้านแบบนี้ เธอทำไม่ถูกควรจะกลับไปขอโทษเขาซะ"
เน็กซ์เซ็ง
"ป้ารู้เหรอไงว่าผมทะเลาะอะไรกัน"
"ไม่รู้"
"ไม่รู้แล้วมาชี้นิ้วสั่งผมเนี่ยนะ"
"ชั้นก็พูดตามหลักความเป็นจริง ชั้นอายุมากกว่าเธอ ผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้ว"
"ถามจริงป้าอายุมากกว่าผมเท่าไหร่"
"ว๊าย...หยาบคายมาถามอายุผู้หญิง"
"ไม่กล้าตอบก็ไม่เป็นไร แต่ผมบอกได้เลย เรื่องบางเรื่องอายุไม่เกี่ยว ใครไม่มาเจอกับตัวเองไม่มีทางรู้หรอก"
"เด็กดื้อ หัวหมอ งั้นถ้าคิดว่าตัวเองฉลาดนักแล้วให้หนูดอกตามชั้นมาทำไม"
"ก็อยากคุยเรื่องที่ป้าถามผมไว้นั่นแหละ"
"เรื่องชวนเธอไปเป็นดาราน่ะเหรอ"
เน็กซ์ไม่ตอบออกมาแต่มองหน้าหล่อนแทนคำตอบ

หนูดอกเดินไปเดินมาลุ้นใจจะขาด
"โอ้ย...นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว เจ้าประคู้น ขอให้มาดามกล่อมให้เน็กซ์ยอมตามไปเป็นดาราด้วยเถอะ...ลูกไม่อยากตกงาน ไม่อยากกลับมาทำไร่ไถนา สวยๆอย่างลูกเหมาะกับการเป็นเซเลบมากกว่า"
หนูดอกพนมมือท่วมหัวไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แพตตี้เข้ามาได้ยิน สีหน้าสนใจขึ้นมาทันที
"ยัยป้าปีศาจ นี่แกยังไม่เลิกตอแยเน็กซ์อีกเหรอเนี่ย..หึ !"

พุชชี่รีบถามเน็กซ์อย่างอยากรู้
"เธอเปลี่ยนใจ อยากจะตามชั้นไปเป็นดาราแล้วใช่มั้ย"
"ผมยังไม่ได้ตอบตกลง"
"อ้าว…แล้วถามทำไม"
"มีบางเรื่องที่อยากจะแน่ใจก่อน"
"งั้นอยากรู้อะไรก็ถามมาได้เลย"
"เท่าที่ผมได้ยินมา ป้าไม่ใช่เบอร์หนึ่งของวงการที่ปั้นคนธรรมดาให้เป็นซูเปอร์สตาร์ได้"
หล่อนอึ้ง
"ไอ้เด็กบ้า อย่ามาดูถูกชั้นนะ"
"ผมไม่ได้ดูถูก แต่ถ้าผมตัดสินใจไปเป็นดารา ผมต้องมั่นใจให้ได้ว่า ภายในหนึ่งปี ผมจะทำงานเก็บเงินไปตามหาความฝันของผมให้ได้"
"ความฝันอะไรของเธอ ซื้อทีมฟุตบอลเหรอ"
"เปล่า...ผมต้องการตามหาพ่อที่แท้จริงของผม ผมรู้แต่ว่าท่านเป็นคนฝรั่งเศส แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าต้องไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกนานๆ เพื่อตามหา ผมต้องใช้เงินมาก"
พุชชี่ชะงักไปครู่
"อ๋อ...มิน่าล่ะ เธอถึงทะเลาะกับที่บ้านมา"
"ป้าไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น แค่บอกผมมาว่า จะทำให้ผมได้อย่างที่ต้องการรึเปล่า"
พุชชี่กอดอกยิ้มแล้วเดินเข้าไปวนรอบๆตัวเขาพิจารณามองทุกสัดส่วนหัวจรดเท้า
"ถึงใครจะเมาท์กันว่าชั้นไม่ใช่เบอร์หนึ่ง แต่ชั้นก็ส่งดวงดาวขึ้นสู้ฟากฟ้ามาแล้วนับไม่ถ้วนและตั้งแต่ปั้นดารามาชั้นยังไม่เคยเห็นใครฉายแสงโดดเด้งอย่างเธอมาก่อน ชั้นขอสัญญาด้วยเกียรติของมาดามดัน เธอนี่แหละคือซุป’ตาร์คนใหม่ของวงการแน่นอน"
"ป้ากล้าสัญญาแน่นะว่า จะช่วยให้ผมตามหาพ่อได้"
"เด็กน้อย ถ้าเธอได้เป็นซุป’ตาร์เมื่อไหร่ รายได้ขนาดนั้นจะย้ายสัมมะโนครัวไปอยู่เมืองนอกก็ยังได้เลยนะจ๊ะ แถมเมื่อชื่อเสียงเธอโด่งดัง มีคนเห็นใจสงสารทั้งประเทศ ช่องทางการตามหาพ่อก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่"
เน็กซ์ตัดสินใจ
"ถ้าอย่างนั้น…ผมตกลง ผมจะไปเป็นดารา"

เน็กซ์พูดอย่างมั่นใจทำเอาพุชชี่ถึงกับตาโตด้วยความดีใจ แพตตี้ที่แอบฟังอยู่ตรงช่องบันไดข้างอัฒจรรย์ถึงกับหน้าถอดสีตกใจเป็นอย่างมาก

พุชชี่เดินออกมาหาดอกไม้ที่รอลุ้นอยู่

"เป็นยังไงบ้างคะ มาดาม"
"สำเร็จ เสร็จมาดาม"
"หา ! มาดามไม่ได้ล้อหนูเล่นนะคะ"
"ชั้นจะล้อหล่อนเล่นทำไม เน็กซ์เพิ่งจะตกลงตามชั้นกลับไปกรุงเทพฯด้วยกัน เขาอยากเป็นซุป’ตาร์เพื่อจะได้ตามหาพ่อที่แท้จริง"
หนูดอกดีใจจนเนื้อเต้น
"โอ้วแม่เจ้า ดราม่าชัดๆ แล้วนี่เขาไปไหนล่ะคะ"
"เขาขอตัวไปจัดการธุระส่วนตัวก่อน แล้วค่อยไปรับเขาตามที่นัดกันไว้"
"ถ้าอย่างนั้นหนูดอกต้องรีบไปเก็บข้าวของแล้ว ไชโย !"
หนูดอกดีใจร้องตะโกนออกไป พุชชี่ยิ้มมีความสุขแหงนมองขึ้นไปมองท้องฟ้า หนูดอกไปขึ้นรถเจ้าม้าป่า
"ขอบใจนะแอน ชั้นรู้ว่าเธอต้องช่วยชั้น"
ทั้งคู่กลับบ้านพร้อมกัน ขับเจ้าม้าป่ากลับไป

ครูนิยมกับครูราศีหลังจากแยกย้ายไปตามหาเน็กซ์แล้วกลับมาเจอกันที่หน้าวัด
"ว่าไงแม่… เจอตัวมันรึเปล่า"
ราศีส่ายหน้า
"ยังเลย แล้วทางพ่อล่ะ"
"ไม่เจอเหมือนกัน หึไอ้บักหมา ! เก่งนักนะ เดี๋ยวนี้พอโดนว่าเข้าหน่อยก็หนีออกจากบ้าน"
"ก็พ่อเป็นคนไล่มันออกจากบ้านเอง"
"ก็ตอนนั้นชั้นโมโห ไม่ได้หมายความว่าจะให้มันออกไปจริงๆ"
"แล้วนี่จะยังไงล่ะ ทั้งบ้านเพื่อน บ้านโค้ชก็ไม่ได้ไป ไม่รู้ป่านนี้มันไปอยู่ไหน"
"ทั้งบึงโขงหลงมีไม่กี่ที่ให้มันไปหรอก"
ระหว่างนั้นแพตตี้รีบขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา
"ครูจ้ะ ครู แย่แล้ว"
"มีอะไรเหรอแพตตี้" ราศีถาม
"ยัยมาดามพุชชี่น่ะสิคะ มันล่อลวงให้เน็กซ์หลงเชื่อยอมหนีตามมันไปด้วยกัน"
"ว่าไงนะ"

เน็กซ์ย้อนกลับเข้ามาเก็บของที่บ้านเลยไม่เจอพ่อกับแม่
"พ่อครับ…แม่ครับ"
ทั้งบ้านเงียบเชียบ เน็กซ์หันไปมองภาพถ่ายของครอบครัวที่ฝาผนังอย่างเศร้าๆ

พุชชี่จอดรถรออยู่ที่ริมบึงพร้อมกับหนูดอก
"ไหนล่ะคะมาดาม ป่านนี้แล้วทำไมเน็กซ์ยังไม่มาอีก"
"ให้เวลาเขาหน่อยเถอะ เคลียร์กับพ่อหัวดื้ออย่างนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย"
"แล้วมาดามไม่กลัวพ่อเขาห้ามเหรอคะ ขนาดเราเข้าไปพูดดีๆเขายังไล่ตะเพิดเลย"
"กลัวสิ...แต่เน็กซ์รับปากชั้นแล้วว่า ยังไงเขาก็จะเลือกทางนี้ ต่อให้พ่อห้ามเขาก็จะมา"
"ฟังเหมือนเรามาพรากลูกออกจากอกเขาเลยนะคะ"
"เกินไปย่ะหล่อน เรากำลังสร้างอนาคตใหม่ให้เขา อีกหน่อยพอเน็กซ์ดัง มีรายได้ส่งกลับมาให้พวกเขาอยู่สบาย ก้อนอิฐก็จะเปลี่ยนเป็นดอกไม้"
"เปลี่ยนเป็นลูกกรงแทนก่อนแล้วกัน ไอ้พวกล่อลวงหลอกเด็ก" เสียงนิยมดังแทรกเข้ามา
ทั้งคู่หันขวับเห็นครูนิยมกับครูราศีเข้ามาโดยมีแพตตี้พ่วงมาด้วย
"ว๊าย…คุณพ่อ นี่มาได้ยังไงคะเนี่ย"
"ชั้นมาช่วยลูกชายชั้นไม่ให้ถูกพวกแกล่อลวงน่ะสิ"
"คุณพ่อกล่าวหาหนูเกินไปรึเปล่าคะเนี่ย หนูไม่ได้ล่อลวงลูกชายคุณพ่อเลยนะคะ"
"งั้นเถียงสิว่าไม่จริงว่า แกกำลังรอรับตัวลูกชายชั้นอยู่"
"เอ่อ...คือ มันก็ใช่ค่ะ แต่เน็กซ์เขายอมไปกับหนูเองนะคะ แล้วอายุเขาก็บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย เพราะฉะนั้นหนูไม่ได้ล่อลวง"
"แต่หนังสือพิมพ์เขาลงว่า เธอเป็นแม่เล้าของวงการ"
"ว๊าย ! ไม่ใช่หนูนะคะคุณแม่ หนูโดนใส่ร้าย หนูเป็นผู้จัดการดารา หนูมีหน้าที่ดันให้คนธรรมดาเป็นซุป’ตาร์"
"ซุปตาร์บ้าบออะไรชั้นไม่สนใจ บักหมาต้องอยู่กับชั้นที่นี่เท่านั้น ถ้าเธอไม่ไสหัวไปให้พ้น ชั้นจะไปตามลูกน้องของไอ้ธีระให้มาลากคอเธอไป"
แพตตี้รีบเสริม
"พ่อชั้นเล่นงานพวกแกหลังอานแน่..ชิ !"
หนูดอกมั่นไส้แพตตี้
"นังเด็กนี่ ! คุณพ่อเล่นไม้แข็งเลยค่ะ มาดาม เอาไงดีคะเนี่ย"
"คุณพ่อคะ...ให้โอกาสหนูได้อธิบายบ้างเถอะค่ะ"
"ไม่ ! พวกแกต้องไปให้พ้นจากบึงโขงหลงเดี๋ยวนี้"
ครูนิยมเอาจริงจนหล่อนหน้าเครียด ทันใดนั้นเน็กซ์ก็เข้ามา พร้อมเป้กระเป๋าเสื้อผ้า
"พ่อไล่พวกเขาไปไม่ได้นะครับ ผมเต็มใจจะไปกับเขาเอง"
"ไอ้บักหมา !"
สองพ่อลูกจ้องหน้ากันเขม็ง พุชชี่รีบเข้าไปปรามก่อนที่ทุกอย่างจะปะทุ
"เน็กซ์ พี่ว่าเธอไปคุยกับพ่อแม่ให้เคลียร์ดีกว่านะ พี่รอได้"

มุมหนึ่งของบึงโขลงหลง สามคนพ่อแม่ลูกมาคุยกันตามลำพังโดยไม่มีใครมายุ่งด้วย ราศีน้ำตาคลอถามลูก
"บักหมา ทำไมถึงตัดสินใจทำแบบนี้ รู้มั้ยว่าทำให้พ่อแม่เสียใจ"
"ผมขอโทษครับแม่ ที่ผ่านมาพ่อกับแม่ดูแลผมมาเยอะแล้ว ต่อไปนี้ผมขอตอบแทนบ้าง"
"ด้วยเงินที่แกคิดว่าจะได้จากการไปเป็นดาราบ้าบอนั่นน่ะเหรอ...ข้าไม่อยากได้หรอกเว้ย"
"แต่มันเป็นอาชีพที่สุจริตที่ผมสามารถตอบแทนพระคุณพ่อแม่ได้ และสานต่อความฝัน ของผมได้ภายในหนึ่งปี"
"ความฝัน...ความฝันที่จะตามหาพ่ออังเดรใช่มั้ย"
"ครับแม่ ผมอยากตามหาพ่อ อยากพบท่านสักครั้ง"
"หึ !! ถ้ามันรักแก มันไม่ทิ้งแกไปตั้งแต่แบเบาะหรอก เอาเลย อยากไปก็ไปเลย ถ้ามันจะเนรคุณเราได้ลงคอก็ปล่อยไปตามทางของมัน พ่อเคยบอกแม่แล้วไง เอาลูกเสือลูกตะเข้มาเลี้ยง เลี้ยงให้ดียังไงมันก็ไม่เชื่อง ไปเลย เอ็งไม่ใช่ลูกข้าแล้ว บักหมา"
ครูนิยมพูดไปก็ประชดด้วยการเข้าไปผลักไหล่ลูกชาย พยายามเสือกไสไล่ส่งอย่างเสียใจจนเน็กซ์ล้มลุกคลุกคลาน ครูราศีต้องรีบไปห้ามขอร้อง

"พ่อ อย่าทำกับลูกแบบนี้สิ ฮือๆๆ"

อีกมุมหนึ่งของบึง แพตตี้แอบย่องมาใช้โทรศัพท์ติดต่อหาธีระแต่ติดต่อไม่ได้

"อะไรของป๋าเนี่ย เวลาสำคัญแบบนี้ดันปิดมือถือ สงสัยจะอยู่กับพวกกิ๊ก โธ่เอ้ย..."
แพตตี้บ่นไปแล้วรีบกดไปอีกเบอร์ทันที รออยู่ครู่ปลายสายก็รับ
"ยุวดีรีบไปตามป๋ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ บอกป๋าว่าชั้นอยู่กับมาดามพุชชี่ ให้ป๋าส่งคนมาจัดการกับมันได้เลย ตอนนี้มันอยู่ที่..."
แพตตี้ยังพูดไม่ทันจบ พุชชี่ก็เข้ามาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือดื้อๆแล้วกดตัดสาย
"คิดว่าจะเล่นงานชั้นได้เหรอ ยัยแอ๊บหงิม"
"เอาโทรศัพท์ชั้นคืนมานะ"
"โทรศัพท์นี่น่ะเหรอ...อยากได้คืนใช่มั้ย เอาไปสิ"
หล่อนทำท่าเหมือนจะคืนให้ แต่กลับโยนออกไปกลางบึง มือถือราคาแพงจมลงไปในน้ำ...จ๋อม !
หนูดอกหัวเราะเยาะชอบใจ
"แต่คงต้องว่ายไปเอาที่ในบึงนะจ๊ะ แม่สาวสก๊อย"
"โทรศัพท์ชั้น ! พวกแก...นังป้าปีศาจ พวกแกเจ็บตัวแน่"
แพตตี้เงื้อมือจะเข้าไปตบ แต่เจอพุชชี่กับหนูดอกเชิดหน้าทำตาโตดุใส่ เอาจริงกว่า
"มาสิ...กล้าก็ลอง ชั้นนี่แหละตัวแม่เลย นางร้ายดังๆ ผ่านฝีมือปั้นของชั้นมาแล้วทั้งนั้น"
"หนูว่าจัดการหุบปากยัยเด็กนี่ก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้เลิกขวางทางเราซะที"
ทั้งสองย่างสามขุมเข้าหาอย่างเอาเรื่อง แพตตี้หน้าเหวอหัวเดียวกระเทียมลีบ ถอยหลัง
"ยะ ยะ อย่านะ ป๋า ป๋าชั้น เอาคืนพวกแกแน่"
"ถ้ากลัว...ก็ไม่ใช่มาดามพุชชี่น่ะสิ"
แพตตี้หน้าเหวอตาโตกลืนน้ำลาย...เอี๊อก !

ครูราศีร้องไห้เพราะพยายามห้ามพ่อลูก
"แม่ไม่ต้องมาห้ามพ่อ ถ้ามันไม่อยากเป็นลูกเรา พ่อก็ไม่อยากเลี้ยงมันแล้วเหมือนกัน"
ราศีสะอื้น
"บักหมา ฟังแม่บ้างเถอะนะลูก อย่าไปเลยนะ อย่าทิ้งแม่ไป แม่รักลูกนะ"
"แม่"
เน็กซ์น้ำตาคลอเสียใจที่เห็นแม่ร้องไห้ ระหว่างนั้น พุชชี่กับหนูดอกเข้ามาเพราะคิดว่าเน็กซ์คงจะเคลียร์จบ
หนูดอกกระซิบ
"มาดามคะ หนูว่าถอยก่อนดีกว่า เชื่อหนู"
หนูดอกพยายามดึงเจ้านาย แต่พุชชี่แกะมือออก
"คุณพ่อคุณแม่คะ พุชชี่ขออนุญาตพูดนิดนึงนะคะ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรจะห้ามและโกรธลูกชายเลย เพราะกับไอ้แค่การที่เขาอยากไปทำตามความฝันตามหาพ่อที่แท้จริง มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรเลย"
เน็กซ์รีบห้าม
"ป้า ผมว่าป้าไม่ต้องมายุ่งดีกว่า"
พุชชี่ปัดมือเน็กซ์
"ไม่ได้ค่ะ คุณน้อง พี่ยังพูดไม่จบ พุชชี่ไม่เชื่อหรอกนะคะว่า การไปพบพ่ออังเดรของเน็กซ์จะทำให้เขารักพวกคุณน้อยลง ตรงกันข้ามเขาจะยิ่งจำบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนทุกมื้อที่พวกคุณเลี้ยงเขามา เพราะฉะนั้น อย่าหวงเขาไว้เลยนะคะ"
นิยมหน้านิ่งจนดูน่ากลัว แต่พุชชี่ไม่รู้อารมณ์เลย เลยทำหน้าเริ่ดๆเข้าไปจับแขนเน็กซ์
"ไปเถอะเน็กซ์ พี่เคลียร์ให้แล้ว"
นิยมโวยวายทันที
"ถ้าแกพาลูกชั้นไป ชั้นจะเรียกตำรวจมาลากคอแกนังพุชชี่ ชั้นเอาจริงนะเว้ย"
ท่าทางของครูนิยมดุดันขึ้นมาอีก จนหล่อนตกใจรีบถอยไปตั้งหลักกับหนูดอก ทั้งคู่ต่างกลัวจนหน้าซีดเลย
"เป็นไงล่ะมาดาม หนูบอกแล้ว ห้ามไม่ฟัง"
"บักหมา กลับบ้านกับพ่อ ไป"
นิยมเข้าไปจับแขนจะพาลูกกลับ แต่เน็กซ์สะบัดมือไม่ยอมไปด้วย
"ผมไม่ไป ! ผมเลือกชีวิตผมเองแล้วครับพ่อ"
"นี่แก..แก"
นิยมเงื้อมือจะตบหน้าลูกชาย แต่ทันใดนั้น ครูราศีก็คว้ามือหมับแล้วน้ำตาคลอเบ้า
"พอ...พอเถอะพ่อ หยุดโวยวายซะที"
นิยมอึ้ง
"แม่ ! นี่แม่จะปล่อยให้มันโดนล่อลวงเหรอ"
ราศีสะอื้น
"ชั้นบอกให้พ่อหยุด ถ้าไม่ฟังชั้นจะไปกับบักหมา"
ราศีขึ้นเสียงทั้งน้ำตาทำเอานิยมพูดไม่ออกหน้าเหวอไปทันที
"บักหมา...ถ้าลูกอยากไปทำตามความฝัน แม่ก็ไม่ห้ามแล้ว แต่ขอให้รู้ว่าแม่รักลูกเสมอ"
"แม่…แม่ครับ"
เน็กซ์น้ำตาไหลอาบสองแก้มโผเข้าไปกอดแม่อย่างตื้นตัน สองคนแม่ลูกกอดกันร้องไห้ระงม พุชชี่กับหนูดอกเห็นแล้วก็อดน้ำตาซึมไปกับฉากดราม่าจัดหนักฉากนี้ไม่ได้
"หักมุมจบ...แบบซึ้งต่อมแตกเลยนะคะ มาดาม"
"ใช่...ดูสิ ขนาดร้องไห้ยังหล่อเทพเลย"
"ไปกราบเท้าพ่อเขานะลูก ให้พ่อรู้ว่าลูกจะไม่ลืมเขา"
เน็กซ์ทำตามที่แม่บอกเข้าไปคุกเข่าก้มลงกราบแทบเท้าพ่อ
"ผมสัญญาครับพ่อ ผมจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง ผมจะเป็นคนดีจะตั้งใจทำงาน เพื่อพ่อจะ ได้มีความสุข"
นิยมยังนิ่งไม่แม้แต่จะชายหางตามอง ราศีพยายามช่วยพูด
"พ่อ...ลูกมันรักเรานะ"
"แต่ข้าไม่รักมันอีกแล้ว"
นิยมพูดห้วนๆสั้นๆแล้วเดินออกไปอย่างไม่แยแส
"พ่อ !" เน็กซ์ร้องเรียกด้วยความเจ็บปวด
"ไม่เป็นไรลูก ปล่อยเขาไปก่อน แม่จะคุยกับเขาเอง"
ราศีหันไปที่พุชชี่ หน้าดุ เสียงจริงจัง
"คุณต้องรับปากกับชั้นนะคะ มาดาม ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับบักหมา หัวอกคนเป็นแม่ ทำได้ทุกอย่าง"
"ด้วยเกียรติของมาดามพุชชี่...หนูสัญญาค่ะคุณแม่ หนูจะดูแลลูกคุณแม่ให้เหมือนดูแลน้องตัวเองเลย"
"ดีค่ะ จำไว้นะว่าคุณสัญญากับชั้นแล้ว"

ราศีกับเน็กซ์กอดจากลากันอีกครั้ง

ทั้งสองพาเน็กซ์เดินมาที่เจ้าม้าป่าที่จอดอยู่ริมบึง
 
"หล่อนคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วนะ"
"เรียบร้อยแล้วค่ะมาดาม ไว้ไปเจอกันที่กรุงเทพฯเลยค่ะ"
"ดีมาก...งานหนักยังรอเราอยู่อีกเพียบ สู้ๆ"
หนูดอกตอบรับ "ค่ะ" แล้วทำมือสู้ๆก่อนจะเดินออกไป พุชชี่หันไปมองเน็กซ์ที่ยังยืนมองถนนที่ทอดยาวที่เพิ่งเดินมา
"ลูกผู้ชายตัดสินใจเดินหน้าแล้ว ไม่มีคำว่าถอยหลังหรอกนะ เน็กซ์"
เน็กซ์หันขวับมาสีหน้านิ่งจนดูเหมือนโกรธหล่อน แถมยังเดินเข้ามาเหมือนจะเอาเรื่องจนหล่อนตกใจ
"นี่...จะ จะทำอะไรของเธอน่ะ"
"ทีหน้าทีหลังเวลาผมคุยกับพ่อแม่ ป้าไม่ต้องมายุ่ง เข้าใจมั้ย"
พุชชี่เหวอ "เอ่อ"
"ผมถามว่าเข้าใจมั้ย"
"เข้าใจก็ได้ แค่นี้ทำไมต้องทำดุด้วย"
เน็กซ์ไม่ตอบเดินเลยไปนั่งในรถตรงที่นั่งคนขับ จัดการสตาร์ทเครื่องเพราะกุญแจเสียบคาอยู่
"อ้าว...แล้วนั่นเธอทำอะไร เดี๋ยวชั้นขับกลับเอง"
"จะไปมั้ยป้า เดี๋ยวผมสงสารแม่แล้วเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ป้ามีหวังโดนเสี่ยธีระเล่นงานแน่"
พุชชี่ตกใจรีบตามไปเปิดประตูนั่งข้างๆทันที เน็กซ์หน้าตาขึงขังจริงจังเข้าเกียร์แล้วขับออกไปทันที

เน็กซ์ขับรถเจ้าม้าป่า ที่มีพุชชี่นั่งหน้าแล่นผ่านมา
แพตตี้ส่งเสียงร้องอู้อี้เพราะถูกจับมัดเอาไว้กับต้นไม้มีผ้าพันคอของพุชชี่ปิดปากไว้ นางพยายามร้องขอความช่วยเหลือและดิ้นสุดฤทธิ์จนผ้าที่ปิดปากหลุดออกมา
"ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยชั้นที นังมาดามพุชชี่ ชาตินี้ชั้นขอจองเวรแก เน็กซ์จะต้องเป็นของชั้นคนเดียว...นังป้าปีศาจ"
แพตตี้ร้องช่วยด้วยๆ อยู่อย่างนั้น

ท่ามกลางบรรยากาศทุ่งนาสวยงาม ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการเรียลลิตี้ เจ๊เมี่ยง หมอกี้และน้องฝันหวานๆ คู่ขวัญสุดฮ๊อตเด็กในสังกัด กำลังแต่งหน้าพร้อมสำหรับเข้าฉาก รายการโดยมีผู้กำกับรายการบรีฟเนื้อหาให้ฟัง
"คิวแรกที่จะถ่ายวันนี้นะครับ เดี๋ยวกล้องจะตามไปถ่ายหมอกี้กับน้องฝันหวานๆช่วยกัน ต้อนควายเข้าคอกแล้วให้อาหาร แต่ว่าพี่อยากได้ภาพโรแมนติกตอนป้อนหญ้าให้ควาย เอาแบบว่าควายเคี้ยวหญ้าไป น้องก็สบตากันไป ให้ควายมันรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วย"
เจ๊เมี่ยงสอดขึ้น
"คุณผู้กำกับคะ ปกติแฟนๆทั้งประเทศเขาก็เชียร์เด็กเจ๊ให้เป็นคู่ขวัญนอกจอกันอยู่แล้ว เจ๊ว่าไม่จำเป็นต้องให้ควายมาช่วยเชียร์ด้วยหรอกนะคะ"
"มันเป็นคอนเซ็ปของรายการเรียลลิตี้นะครับเจ๊ ผมไม่อยากให้มันดูเหมือนมีการเตี๊ยม"
"ไม่เป็นไรหรอกครับเจ๊ แปลกดี ผมชอบ" หมอกี้บอก
"ฝันหวานๆก็ว่าน่ารักดีนะคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะเจ๊"
"แหม...เด็กเจ๊เนี่ย สมกับที่เป็นซุป’ตาร์จริงๆ ก็ได้ค่ะผู้กำกับ แล้วเจ๊ล่ะ วันนี้ให้เจ๊ทำอะไร"
"ระหว่างที่น้องๆเขากำลังเลี้ยงควาย กล้องอีกตัวจะตามไปเก็บภาพเจ๊จะเตรียมก่อกองไฟหุงหาอาหารสำหรับค้างคืนที่ทุ่งนาครับ"
"อ้าว... ตกลงคืนนี้เจ๊ต้องค้างคืนจริงๆเหรอ แค่ถ่ายให้เห็นว่านอนสักแป้บนึง แล้วให้เจ๊กลับไปนอนโรงแรมไม่ได้เหรอ"
"คนดูอยากเห็นเซเลบชื่อดังนอนกลางดินกินกลางทราย เขาจะได้รักเรามากๆไงครับ"
เจ๊เมี่ยงคิดอยู่ครู่
"ก็ได้...เจ๊เมี่ยงไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว"
ผู้กำกับหันไปเรียกคอสตูม
"เสื้อผ้า มาพาเจ๊เมี่ยงไปเปลี่ยนชุดด้วย"

เวลาต่อมา เจ๊เมี่ยงหน้าเหวอเดินออกจากเต๊นท์หลังจากเปลี่ยนชุดแล้ว เสื้อผ้าที่ใส่เป็นชุดชาวนาบ้านๆ ผ้าขาวม้าคาดเอว
"นี่คุณน้องจะให้พี่แต่งชุดนี้จริงๆเหรอ นี่พี่เจ๊เมี่ยงนะจ๊ะ เมี่ยงเจิดน่ะ รู้จักใช่มั้ย"
คอสตูมบอก
"แหม... ไอดอลของพวกหนู จะไม่รู้จักได้ยังไงล่ะคะเจ๊"
"ไอดอลเลยเหรอจ๊ะ ปากหวานนะเนี่ย"
คอสตูมบอก
"จริงๆนะคะเจ๊ หนูเคยฟังพี่ๆในวงการเขาเล่าเรื่องที่กว่าเจ๊จะไต่เต้าจากเบ๊รับใช้ในกองถ่าย จนขึ้นมาเป็นเจ๊ดันเบอร์หนึ่งแล้ว เจ๊ก็คือแรงบันดาลใจให้หนูฝันว่าจะได้เป็นเซเลบชื่อดังแบบเจ๊บ้าง"
"อยากเป็นแบบเจ๊เหรอจ๊ะ แหม...เจ๊ล่ะดีใจจริงๆ ที่เจ๊เป็นความฝันของน้องๆในวงการ"
เจ๊เมี่ยงฉีกยิ้มแล้วจับบ่าคอสตูมหน้าซื่อมาให้กำลังใจอย่างดูดีสุดฤทธิ์
"เจ๊เอาใจช่วยขอให้หนูก้าวขึ้นมาเป็นแถวหน้าให้ได้นะจ๊ะ แต่ก่อนอื่น หนูช่วยเอาเสื้อผ้า สกปรกๆพวกนั้นออกจากกระเป๋าแบรนด์เนมของเจ๊ก่อนนะจ๊ะ"
เจ๊เมี่ยงจับเด็กคอสตูมบิดไหล่หันหลังให้เห็นชัดๆว่า เสื้อผ้าที่ใส่แล้วมันวางพาดทับกระเป๋าหรูราคาแพงของเธอ

เจ๊เมี่ยงถือกระเป๋าเดินบ่นหน้าตาโมโหสุดฤทธิ์
"เด็กบ้า กระเป๋าชั้นใบเป็นแสน มันเห็นเป็นถุงปุ๋ยเหรอไง อี๋...กลิ่นเหงื่อทั้งนั้น" นางบ่นฮุบพลางยกกระเป๋าขึ้นดม
นางบ่นไปเจอกับโปรดิวซ์รายการเดินเข้ามาเลยรีบเรียกมาจิก
"คุณน้อยคะ ทางนี้ค่ะ เจ๊ขอเม้นต์ฝ่ายเสื้อผ้าที่ดูแลเจ๊เมื่อกี้ได้มั้ยคะ"
"ได้สิครับ คุณเมี่ยง"
"เด็กคนนั้นไม่ไหวจะเคลียร์เลยนะคะ ชีไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานในวงการนี้เลย ให้ชีไปทำงานอย่างอื่นเถอะ เชื่อเจ๊...แล้วเดี๋ยวเจ๊จะให้คิวหมอกี้กับน้องฝันหวานๆเพิ่ม"
"จริงเหรอครับคุณเมี่ยง ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจัดการให้"
โปรดิวซ์ออกไปตามที่เจ๊เมี่ยงขอ เจ๊เมี่ยงมองตามแล้วยิ้มชอบใจร้ายสตอร์เหลือเกิน
"เชอะ...คิดอยากจะเจิดเกิดในวงการแบบชั้นเหรอ หึ กว่าชั้นจะเจิดได้แบบนี้ แค่ยัยพุชชี่ คนเดียวก็แทบรากเลือดแล้วย่ะ"
เจ๊เมี่ยงทำหน้าหมั่นไส้สะใจ

เวลาเย็น พุชชี่ขับเจ้าม้าป่าสปอร์ตเปิดประทุนพาเน็กซ์เข้ามาตามถนนในย่านธุรกิจ เมืองกรุงเทพฯ
 
อ่านต่อหน้า 3

มาดามดัน ตอนที่ 2 (ต่อ)

เวลาเย็น พุชชี่ขับเจ้าม้าป่าสปอร์ตเปิดประทุนพาเน็กซ์เข้ามาตามถนนในย่านธุรกิจ เมืองกรุงเทพฯ

ตลอดเส้นทางที่หล่อนขับรถพาเน็กซ์เข้ามา ล้วนมีแต่ป้ายโฆษณาสินค้าต่างๆ ที่มีหมอกี้กับน้องฝันหวานๆคู่ขวัญซุปตาร์เด็กของเจ๊เมี่ยงเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะยี่ห้อเสื้อผ้า ชาเขียว ยี่ห้อรถยนต์ ประกันชีวิตและสารพัด

บริเวณสี่แยกไฟแดง พุชชี่ขับมาจอดรอสัญญาณไฟ เธอหยุดรถข้างๆรถบัสคันหนึ่งที่คาดแถบโฆษณาข้างตัวรถเป็นรูปเจ๊เมี่ยงควงแขนหมอกี้กับน้องฝันหวานๆ โปรโมตโฆษณาลุ้นรางวัลเที่ยวเกาหลีจากฉลากปลากระป๋องยี่ห้อแม่นพนภา หล่อนหันไปเห็นหน้าใหญ่ๆของเจ๊เมี่ยงที่ฉีกยิ้มอยู่ข้างฝั่งเธอ หล่อนหมั่นไส้อดแขวะไม่ได้
"ชิ ! ใครเขาอยากจะไปเที่ยวกับหล่อนย่ะ ทำตัวดังยิ่งกว่าดารา"
"แต่คู่กรณีป้าเขาก็เก่งนะ ดันให้เด็กในสังกัดตัวเองดังซะจนมีป้ายโฆษณาทั่วทั้งเมือง"
"นี่รู้เรื่องนังนั่นกับชั้นด้วยเหรอ"
"ผมดูคลิปล้านวิวของป้าแล้วนะ ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่า คู่แข่งป้าเก่งอะไรนักหนา แต่พอได้มาเห็นแบบนี้แล้ว ถามจริงๆเถอะ ป้าจะปั้นผมให้ดังได้จริงเหรอ"
"อ๊าย...หยาบคาย เด็กบ้า ว่าชั้นไม่สวย สิวเห่อ ตีนกาโผล่ชั้นยังไม่โกรธ แต่มาว่าชั้นด้อยกว่านังเจ๊เมี่ยง...แกตายแน่ !"
"แต่ผมว่ามันเป็นสิทธิ์ที่ผมควรรู้ เพราะตั้งแต่วันนี้ไปชีวิตผมจะดังหรือจะดับ จะได้ตามหาพ่อรึเปล่าก็อยู่ในมือป้าคนเดียว ป้าไปมีเรื่องอะไรกับเขาถึงจ้องจะฆ่ากันได้ขนาดนั้น"
พุชชี่ชะงักไป เพราะเรื่องในอดีตของหล่อนกับเจ๊เมี่ยงไม่เคยมีใครล่วงรู้และเธอก็ไม่เคยพูดให้ใครฟัง
"เธอตกลงเซ็นต์สัญญากับชั้นแล้ว เพราะฉะนั้น กฏข้อแรกของเด็กในสังกัดมาดามดันก็คือเรื่องส่วนตัวของเธอคือเรื่องของชั้น แต่เรื่องส่วนตัวของชั้น..ไม่ใช่เรื่องของเธอ !"

หล่อนพูดอย่างหนักแน่นจริงจังสุดๆ ไฟเขียวพอดี พุชชี่เข้าเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งออกตัวแรงพุ่งไป

บริเวณทุ่งนา กองถ่ายเรียลลิตี้ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ๊เมี่ยงหยิบขึ้นมาดูเบอร์แล้วชะงัก ท่าทีเปลี่ยนไปทันที นางหันซ้ายหันขวาลับล่อๆสุดฤทธิ์เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เวลาที่นางรับสายเดินลับๆล่อๆหลบมารับสายที่โทรเข้ามาหา
"ชั้นบอกแล้วไง ไม่จำเป็นก็อย่าโทรมาเบอร์นี้ นังพุชชี่มันโดนชั้นเขี่ยตกกระป๋องไป แล้ว เพราะฉะนั้นชั้นไม่จำเป็นต้องซื้อข่าวจากแกอีก แค่นี้นะ ว่าไงนะ !! แกอย่ามาสตอร์ นังพุชชี่เนี่ยนะไปเจอเด็กใหม่ หล่อโฮกกว่าหมอกี้ของชั้น"
เจ๊เมี่ยงเชิดใส่โทรศัพท์ ที่ป้าลอร่าโทร.มา
"ชั้นไม่เชื่อแกหรอก ต่อให้นังพุชชี่มันขี่จรวดเหาะไปบนสวรรค์ คว้าเทวดาลงมาปั้นเป็นดารา ก็ไม่มีทางมาแซ่บเว่อร์กว่าหมอกี้ของชั้นได้ แค่นี้นะ...ไม่ต้องโทร.มาหาชั้นแล้วย่ะ"
เจ๊เมี่ยงกดตัดสายแล้วหันมากอดอก เชิดหน้าหมั่นไส้
"หนอย..นังพุชชี่ ชั้นอุตส่าห์ช่วยให้หล่อนไปสบายไม่ต้องลำบากลำบนในวงการแล้ว แต่สันดานหล่อนมันแก้ไม่หาย ขวิดไม่ปล่อยจริงๆ"
นางบ่นไปก็ชักใจคอไม่ค่อยดีเพราะรู้จักนิสัยพุชชี่รู้ดีว่า คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ระหว่างนั้นเจ๊เมี่ยงได้ยินเสียงลมหายใจแรงๆดังดังฟื้ดฟาดอยู่ใกล้ๆ เลยหันไปมองก่อนจะตกใจหน้าเสีย เพราะควายตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มจ้องเขม็งอยู่

บริเวณคอกควาย หมอกี้กับน้องฝันหวานๆรอทีมงานที่ไปตามควายซึ่งหลุดจากคอกอยู่
"ตกลงเจอควายที่หลุดไปรึเปล่าครับพี่"
ทีมงานบอก
"ยังเลยครับ รอเดี๋ยวนะ มันคงหลุดไปแช่โคลนแช่ปลักอยู่แถวนี้แหละ"
ระหว่างนั้น เสียงร้องวี้ดว้ายของเจ๊เมี่ยงดังลั่นเข้ามา
"ช่วยด้วย...ช่วยเจ๊ด้วย ควายมันไล่ขวิดเจ๊ ช่วยด้วย"
เจ๊เมี่ยงวิ่งหน้าตั้งหนีควายที่ไล่ขวิดอยู่กลางทุ่งนา ทีมงานทุกคนตกใจ พยามยามจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่ไม่ทันแล้ว เจ๊เมี่ยงกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้เกาะแน่นเป็นลิงร้องโวยวาย
"ช่วยด้วย...ช่วยเจ๊เมี่ยงด้วย"

ภายในห้องโถงบ้านพุชชี่ หนูดอกก้าวเข้ามาท้าวสะเอวออกมาสั่งคนใช้เสียงดัง
"เอ้า...เร็วเข้า มาดามจะกลับมาถึงอยู่แล้ว พวกหล่อนอยากโดนมาดามบ่นหูตูบเหรอไง ห้องหับทำความสะอาดดีรึยัง แอปเปิ้ล"
"เครค่ะ มาดามเฟลอร์"
"ภาษาหล่อนเยอะนะ..แล้วหล่อนล่ะ เชอรี่ อย่ามัวแต่อู้งาน นึกว่าจะลาสงกรานต์ติดลม ไม่กลับมาแล้วซะอีก"
"อยู่ที่ไหนก็ไม่แซ่บเว่อร์เท่าอยู่กับมาดามหรอกค่ะ"
หนูดอกหันไปเห็นป้าลอร่าเข้ามาพอดี
"แล้วป้าล่ะ เตรียมอาหารเย็นสำหรับเด็กใหม่ของมาดาม เสร็จรึยัง"
"ยังเลยค่ะ"
"มัวแต่ไปแอบดูละครอยู่ล่ะสิ ไปเลย รีบไปจัดการให้เรียบร้อย รู้ทั้งรู้ว่าเวลามาดามบ่น แล้วเป็นไง"
บรรดาสาวใช้รีบกุลีกุจอเข้าไป หนูดอกกอดอกส่ายหน้าแล้วดูเวลา

พุชชี่ขับรถพาเน็กซ์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เน็กซ์มองตัวบ้านแล้วอดทึ่งไม่ได้ หล่อนอมยิ้มก่อนจะพาเดินเข้าไปในบ้าน
"โห...นี่บ้านป้าเหรอเนี่ย รวยซะขนาดนี้ มิน่าโดนฟ้องหมดไปหลายล้าน แต่ขนหน้าแข้งไม่ร่วงเลย"
หล่อนฉุนเลยดึงติ่งหูซะเลย
"ปากเหรอเนี่ย ไอ้เด็กติ่ง บ้านนี้ชั้นขาดผ่อนอยู่ เลยต้องเป็นหนี้ แบงค์รอเขายึดอยู่ย่ะ"
"ก็มีแต่เน็กซ์นี่แหละ ที่จะทำให้มาดามปลดหนี้ได้"
เน็กซ์หันไปเห็นหนูดอกพาอาร์ท ศิวเวช นักแสดงหนุ่มในสังกัดเข้ามาพร้อมกับป้าลอร่า หัวหน้าคนใช้ และแอปเปิ้ล เชอรี่คนใช้ประจำบ้าน บรรดาคนใช้ถึงกับตาโต ตะลึงตึงๆ
ลอร่าบอก
"โอ้ตายแล้ว...นี่คนหรือว่ารูปปั้นเทวดากันแน่เนี่ย แก่จนหัวจะหงอก ยังไม่เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้เลย ขอป้าจับตัวเป็นๆ หน่อยนะจ๊ะ"
เชอรี่เข้าขวาง
"หยุดเลย มือป้าเพิ่งจะทำกับข้าวมา เดี๋ยวกลิ่นคาวๆ จะเปรอะเปื้อนคุณเขา ให้เชอรี่จับก่อนดีกว่า"
แอปเปิ้ลดึงกลับ
"แกนั่นแหละหลบไปนังรี่...หล่อแบบนี้ เปิ้ลขอกอดให้ชื่นใจหน่อยนะค้า"
พุชชี่รีบเข้ามาไสหัวสองสาวใช้ดันให้ไปห่างๆ
"พวกหล่อนนั่นแหละ ถอยลงหลุมไปเลย ชั้นพาเด็กใหม่เข้ามาทีไร โดนพวกหล่อนแทะโลมทุกที"
พวกคนใช้จ๋อยพากันถอยไปกอง อาร์ทยิ้มชอบใจก่อนจะเข้ามายื่นมือแนะนำตัว
"ยินดีที่รู้จักนะน้องชาย หนูดอกกลับมาเล่าเรื่องนายให้ฟังแล้ว สมกับที่มาดามต้องดั้นด้นไปคว้านายมาจริงๆ หล่อโดนมาก"
เน็กซ์จับมือแล้วมองอย่างคุ้นหน้า
"สวัสดีครับ พี่ ผมคุ้นหน้าพี่มาก อ๋อ... ผมเคยดูละครที่พี่เล่นแล้ว"
"เรื่องอะไรเหรอ"
อาร์ทถามพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ มือที่จับมือเน็กซ์อยู่ก็แอบใช้นิ้วเขี่ยยั่วยวนจนเน็กซ์ต้องชักมือกลับ
เน็กซ์หน้าเสีย ขนลุกเกรียว
"ก็ ก็หลายเรื่องครับพี่"
"หนูดอก แล้วคนอื่นล่ะหายไปไหนกันหมด"
หนูดอกสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
"หนูว่าเราเข้าไปคุยที่ห้องทำงานดีกว่าค่ะ มาดาม"
หล่อนมองเลขาฯสาวอย่างสงสัยแล้วหันไปไหว้วานอาร์ท
"อาร์ท เดี๋ยวช่วยพาน้องใหม่ไปดูห้องนอนเขาด้วยนะ"

อาร์ทตอบตกลงแล้วเข้าไปโอบไหล่เน็กซ์อย่างสนิทสนมชวนพาขึ้นบันไดไป เน็กซ์เหวอๆ ไม่ค่อยไว้ใจ

อาร์ทพาเน็กซ์เข้ามาที่ห้องนอนของแล้วปิดประตู ปัง ! เน็กซ์สะดุ้ง

"เป็นไง ชอบมั้ย มาดามเขาสั่งให้เตรียมไว้สำหรับนายโดยเฉพาะเลยนะ"
"ก็ดีครับ"
"ทุกอย่างมีครบหมดแล้วนะ แต่ถ้านายต้องการอะไรก็เรียกพี่ได้ตลอดเวลา เพราะห้องพี่ อยู่ข้างๆนี่เอง" อาร์ทเข้าไปจับมือเน็กซ์มากุมแล้วยิ้มยั่ว แล้วพูดต่อ
"หรือถ้านอนไม่หลับ อยากชวนพี่มานอนเป็นเพื่อน พี่ก็ไม่ขัดข้องนะ"
อาร์ทเริ่มใช้นิ้วเขี่ยมือเน็กซ์อีก เน็กซ์ต้องรีบดึงมือออกแล้วถอยห่างสุดฤทธิ์
"ขอบคุณครับ ผมเป็นคนกินง่ายนอนง่าย อยู่ที่ไหนหัวถึงหมอนก็หลับได้"
"ดีแล้วล่ะ วัยกำลังกินกำลังนอน ว่าแต่ที่เมื่อกี้นายบอกว่าเคยดูละครที่พี่เล่น ใช่เรื่องที่พี่เล่นไปล่าสุดรึเปล่า"
"เอ่อ...มั้ง มั้งครับ"
อาร์ทดีใจ
"เหรอ เรื่องนั้นพี่ชอบมากเลยนะ เป็นบทบาทที่พี่เล่นแล้วอินที่สุด"
"เรื่องที่พี่เล่นเป็นเกย์ มีฉากได้กับผู้ชายด้วยกันนั่นน่ะเหรอครับ"
"ใช่..พี่ชอบฉากนั้นที่สุดเลย จริงที่สุดในชีวิตที่เล่นมาแล้ว"
อาร์ทยิ้มแบบหื่นเหมือนเกย์เฒ่าจะขย้ำเด็กหนุ่ม เข้าไปเดินวนสำรวจทั่วตัวเน็กซ์ที่เริ่มเหงื่อตก
"หนูดอกบอกว่านายเป็นนักฟุตบอลด้วย มิน่าล่ะหุ่นถึงดี ลูกครึ่ง ผิวขาว ก้ามไม่ปู เนื้อ แน่นๆแมนคลีนๆแบบนี้....พี่ชอบจัง"
อาร์ทชมไปก็เอามือบีบตูดเน็กซ์ทันที...หมับ !! เน็กซ์สะดุ้งโหยงตาเหลือก กำหมัดแน่น

พุชชี่นั่งหน้าเครียด หนูดอกสงสารเจ้านายเลยพยายามปลอบใจ
"ตอนนี้ที่ยังเหลืออยู่กับมาดามก็มีอาร์ทกับตั้ม แต่ตั้มไปถ่ายละคร ส่วนเด็กคนอื่นๆ พอพวกมันเห็นมาดามกำลังจนตรอก พวกมันก็เลยชิ่งหนีไป แต่สัญญาเรายังมีอยู่ แค่มาดามสั่งมาคำเดียว หนูจะตามไปบี้พวกมันเรียงตัวให้หากินในวงการไม่ได้เลย"
หล่อนนั่งคิด
"สั่งมาเลยค่ะ หนูพร้อมฉะ เฉ่ง เม้งแตกแล้ว"
หล่อนนิ่งคิดแล้วหยิบหนังสือสัญญาตรงหน้าขึ้นมาฉีกทิ้งอย่างไม่ใยดี
หนูดอกตกใจ
"มาดามฉีกสัญญาทำไม แล้วเราจะเหลืออะไรไปเล่นงานพวกอกตัญญูล่ะคะ"
"ปล่อยเด็กๆพวกนั้นไปเถอะ ชั้นไม่อยากไปเอาเรื่อง พวกเขาตามมาอยู่กับชั้นก็เพราะ ต้องการมีชื่อเสียง เมื่อชั้นทำให้ไม่ได้ มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะโดนถีบหัวส่ง"
"โธ่...มาดามของหนูดอก มาดามหัวใจสวยอีกแล้ว"
หนูดอกเข้าไปเกาะแขนกอดอย่างซึ้งใจ แต่หล่อนสะดุ้ง
"นี่ อย่ามาทำแบบนี้นะหนูดอก ชั้นขนลุก"
"ก็หนูซึ้งที่มีเจ้านายหัวใจสวยนี่คะ"
"ไม่ต้องมาชมชั้นหรอกย่ะ หล่อนน่ะ หัวใจสวยกว่าชั้นเยอะ ชั้นค้างเงินเดือนหล่อนมาหลายเดือนแล้ว แต่หล่อนก็ไม่ว่า ไม่ทวงสักคำ"
"อ้าว...หนูทวงมาดามได้ด้วยเหรอ งั้น..."
หนูดอกจะอ้าปากทวงเงินเดือน แต่โดนหล่อนเอามือปิดปากแล้วเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
"เอาล่ะ พวกที่อยากไปก็ช่างเขา เราก็คอยดูแลอาร์ทกับตั้มให้ดีที่สุด"
หนูดอกนึกได้
"หนูลืมไปว่า ยังเหลือเป็นไส้ติ่งอยู่อีกคนค่ะ"
"ใคร ... อย่าบอกนะว่า"
"เป๊ะค่ะ...ใช่ชีคนนั้นเลย น้องแก้วใสไงคะ แต่ตอนนี้ไม่อยู่เพราะแอบไปรับจ๊อบ"
หล่อนถอนใจ
"เฮ้อ...อีกแล้วเหรอ ฝีมือยัยแม่จอมจุ้นอีกล่ะสิ งั้นหล่อนก็รีบตามไปประกบเลย เดี๋ยวก็ได้หาเรื่องมาให้ชั้นเดือดร้อนอีก"
หนูดอกรับคำแล้วรีบออกไป หล่อนถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย ระหว่างนั้นเชอรี่รีบวิ่งเข้ามา
"มาดามคะ รีบออกไปเถอะ เทพบุตรสุดหล่อของมาดามก่อเรื่องแล้ว"

พุชชี่รีบตามออกมาที่หน้าบ้าน เห็นเน็กซ์ลงบันไดมาจากชั้นบนกำลังหุนหันโมโหแบกเป้จะออกจากบ้าน
"เดี๋ยวก่อนเน็กซ์ เธอจะไปไหน"
"กลับบ้าน"
"จะกลับได้ยังไง เธอเพิ่งจะมาถึง ยังไม่ได้ทำงานกับชั้นเลย"
"ผมไม่ทำแล้ว ถ้าต้องเจอแบบนี้ ผมกลับไปเตะบอลหาเงินเองดีกว่า"
"เจอแบบนี้ แบบไหน ชั้นไม่เข้าใจ"
เน็กซ์ไม่ทันจะตอบ อาร์ทก็เดินซวนเซ ปากแตก เลือดกำเดาเต็มจมูก เพราะโดนเน็กซ์อัดไปหนัก
"พะ...พะ พุชชี่...อู้ย"
หล่อนตกใจ
"อาร์ท ! นี่มันอะไรกัน ไปโดนอะไรมา"
"ดะ...ดะ โดน เด็กใหม่แกยำ"
"เน็กซ์เนี่ยนะเหรอยำแก"
อาร์ทพยายามจะเข้ามาขอโทษ
"น้อง พี่...พี่ขอโทษนะ...อู้ย"
"อย่าเขามานะ ไม่งั้นโดนอีกชุดแน่"
เน็กซ์ง้างหมัดจะอัดอาร์ทอีก หล่อนเลยต้องรีบเข้าไปขวาง
"หยุด พอได้แล้ว จะมีใครบอกชั้นได้มั้ยว่า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"

ภายในบ้าน อาร์ทนั่งเอาทิชชู่อุดจมูก ห้ามเลือดร้องซี้ดด้วยความเจ็บ พุชชี่อดสมน้ำหน้าไม่ได้
"สมน้ำหน้าแก เล่นอะไรไม่เข้าท่า มันน่าให้เน็กซ์กระทืบให้ไส้แตกจริงๆ"
"โธ่...ชั้นก็แค่จะเทสต์ดูว่า เด็กใหม่แกแท้หรือเทียม"
"เรื่องนั้นชั้นเทสต์มาแล้ว แท้แน่นอน"
อาร์ทลุกพรวดทันที
"เฮ้ย...แกเทสต์แล้วเหรอ เอาอะไรเทสต์ อย่าบอกนะว่า แกกับมัน"
อาร์ททำมือเป็นสัญลักษณ์ปั่มปั๊ม..ป๊าบๆกับเน็กซ์ หล่อนหน้าเหวอดีดติ่งหูไปทันที
"จะบ้าเหรอ แกก็รู้ว่ากฏเหล็กของชั้นคือไม่กินเด็กตัวเอง"
"แต่ไอ้นี่มันหล่อลากไส้ซะขนาดนี้ แกอาจจะอดใจไม่ไหวก็ได้"
"ไอ้บ้าอาร์ท !"
"หยุดคุยเรื่องที่ผมฟังไม่รู้เรื่องซะทีได้มั้ยป้า ตกลงมันยังไงกันแน่"
"พี่ขอโทษนะไอ้น้อง...พี่ไม่ใช่พวกนิยมไม้ป่าเดียวกันหรอก" ศิวเวชบอก
"อาร์ทเขาแค่อยากทดสอบให้แน่ใจ เพราะมันจะมีผลต่อการสร้างภาพลักษณ์ให้เธอ"
"พุชชี่เขาไม่ชอบโกหกประชาชน ใครเป็นยังไง เขาก็จะทำให้ทุกคนรักอย่างที่ตัวเองเป็น"
"งั้นพี่อาร์ทก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้คิดจะยุ่งกับหลังบ้านผม"
"ฮ่าๆๆ สาบานได้เลยไอ้น้อง พี่ชอบผู้หญิง ยิ่งสวยๆ พี่ยิ่งชอบ"

อาร์ทพูดไปก็ถือโอกาสโอบเอวพุชชี่อย่างสนิทสนม เลยโดนหล่อนหันมาเล่นงานซ้ำจนร้อง...จ๊าก !

"เผลอไม่ได้เลยนะแก เดี๋ยวก็ตัดหางปล่อยวัดซะเลย"

"แกจะใจร้ายกับผู้ชายที่ทนทุกสภาวะ อยู่ข้างแก ฟังแกบ่นมาตลอดได้เหรอพุชชี่"
"ไม่ต้องมาทำดราม่า ท่องบทต่อหน้าชั้น เดี๋ยวชั้นต้องพาเน็กซ์ไปซื้อข้าวของส่วนตัวสักหน่อย มีอะไรให้ต้องจัดการกับเขาอีกเพียบ เน็กซ์รีบไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมากินข้าว เข้าใจมั้ย"
พุชชี่ถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินออกไป อาร์ทมองตามอมยิ้มที่ได้หยอดหล่อนก่อนจะหันมากอดคอเน็กซ์
"เห็นแรงๆขี้วีนดุอย่างกับเสือแบบนี้ แต่พี่ขอเอาหัวเป็นประกันได้เลย ถ้าพุชชี่ตั้งใจปั้นใครแล้วล่ะก็...เตรียมตัวไว้ได้เลย"
"เตรียมตัวดังเหรอพี่"
อาร์ทยิ้มกวน
"เตรียมตัวหูชาฟังแม่บ่นไงไอ้น้อง...ฮ่าๆๆ"

เวลากลางคืนพุชชี่เดินพาเน็กซ์เข้ามาในห้างสรรพสินค้า กวาดสายตามองหาแบบเสื้อผ้าที่เหมาะกับเน็กซ์
"นี่ป้า..ป้า หยุดฟังกันก่อนได้มั้ยเนี่ย"
"อะไร...ปัญหาเยอะซะจริง"
"ที่พามาเนี่ย จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ทำไมให้สิ้นเปลือง ของที่ผมเอามาก็พอแล้ว"
"เสื้อผ้าที่เธอเอามาน่ะเหรอ ชั้นสั่งให้แม่บ้านเอาไปบริจาคเด็กวัดหมดแล้ว"
เน็กซ์ตกใจ
"เฮ้ย...ทำแบบนั้นได้ไง นั่นมันเสื้อผ้าผมนะ"
"หยุด หุบปากแล้วฟัง เรื่องภาพลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่จะเป็นซุป’ตาร์ กางเกงยีนส์เน่าๆขาดๆ เสื้อยืดที่ย้วยจนจนไม่ยืดแล้ว มันไม่ทำให้เธอดูดี"
"ก็ผมเป็นของผมแบบนี้ ให้ผมไปแต่งตัวหรูๆใช้ของแบรนด์เนมผมไม่เอาด้วยหรอก"
"ชั้นก็ไม่ได้บอกว่าจะให้เธอแต่งตัวเว่อร์แหกตาแบบนั้นซะหน่อย แค่ให้ดูดีในแบบที่เป็นเธอ"
"แบบที่เป็นผม ป้ารู้จักผมแค่ไม่กี่วัน จะมารู้จักผมดีได้ยังไง"
หล่อนกอดอกยิ้มเยาะ แล้วดีดนิ้วไปที่หน้าผากของเน็กซ์ โป๊ก !
"นี่แน๊ะ..อย่าได้มาดูถูก มาดามพุชชี่เข้าใจมั้ยเด็กนรก ตามมาแล้วเธอจะรู้เองว่า ชั้นรู้จักเธอมากแค่ไหน"
หล่อนเดินนำเน็กซ์ที่มองตามอย่างสงสัยออกไป เน็กซ์มองตามสงสัย

หล่อนเลือกช้อปหยิบเสื้อผ้าจากราวแขวนขึ้นมาดูแล้วหันไปมองเน็กซ์ มองแค่ปร๊าดเดียวเธอก็รู้ว่า ต้องใช้ไซส์อะไร เสื้อผ้าที่เลือกให้เน็กซ์ออกแนวสปอร์ตๆเท่ๆทั้งเสื้อทั้งกางเกง
"เอาทั้งหมดนี่เลยค่ะ" หล่อนบอกพนักงาน
"ป้ารู้เหรอไงว่าผมใส่ไซส์อะไร ถ้าเอากลับไปแล้วใส่ไม่ได้ ผมขี้เกียจมาอีกนะ"
"เธออยากทดสอบชั้นใช่มั้ย ได้"
หล่อนเอาเสื้อผ้าชุดหนึ่งจากพนักงานมายื่นให้เน็กซ์
"เปลี่ยนชุดนี้ใส่ออกมาเลย ส่วนชุดที่เธอใส่อยู่ ชั้นจะเอาไปบริจาค"
เน็กซ์มองชุดในมืออย่างสงสัย
"งงล่ะสิ สีเสื้อกับแบบกางเกงใช่สีกับแบบที่เธอชอบใช่มั้ยล่ะ"
เน็กซ์ชะงัก หล่อนยิ้มเยาะ แล้วผลักเน็กซ์ให้ไปลองเสื้อผ้าในห้องลองชุด

หล่อนเดินดูเสื้อผ้าอยู่หน้าห้องลองได้สักครู่ เน็กซ์ก็เดินออกมาพร้อมกับชุดที่หล่อนเลือกให้ เน็กซ์ก้าวออกมาดูหล่อแบบสปอร์ตเท่แมนมากๆ เสื้อผ้าที่ใส่ก็พอดีเป๊ะ พนักงานขายรวมทั้งสาวๆที่มาเลือกซื้อเสื้อผ้าต่างพากันเหลียวมองแล้วซุบซิบกันว่าหล่อจัง ใครอ่ะ ดาราเหรอ
"เป็นไงเป๊ะเลย ใช่มั้ย"
"บอกผมมาดีกว่านะป้า ไปถามใครมาถึงรู้ไซส์ผม รู้ว่าผมชอบเสื้อผ้าสีอะไร"
"ชั้นไม่จำเป็นต้องไปถามใครหรอกย่ะ ประสบการณ์เป็นครูสอนชั้น เจอกับเธอแค่ไม่กี่วัน ชั้นก็รู้จักเธอทะลุไปถึงตับไตไส้พุงแล้ว"
"งั้นก็หมายความว่า ป้าแอบสังเกตผมตลอดตลอดเวลา"
"อ่ะแน่นอน...ชั้นสังเกตเธอทุกอิริยาบท ท่าเดิน ท่ากิน ท่าแคะขี้มูก ท่าเกาก้น ยิ่งตอนที่ เจอเธอนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวตอนนั้น นั่นยิ่งทำให้ชั้นได้เห็นชัดๆ เห็นทุกสัดส่วน เห็นทุกรู ขุมขน จนจำขึ้นใจเลย"
เน็กซ์ อึ้งเหวอ หน้าแหยงกลัวถอยห่างทันที
"เป็นอะไรของเธอ ทำหน้าอย่างกับเจอผี"
"อย่าเข้ามาใกล้ผมอีกนะ รู้มั้ยว่าป้าน่ะ โรคจิต !"
เน็กซ์ว่าแล้วรีบเดินเลี่ยงหนีหล่อนออกไปทันที
"ไอ้..ไอ้เด็กนรก ไอ้เด็กบ้า"
หล่อนฉุนเฉียวจะตามไปด่า แต่โทรศัพท์ดังขึ้นพอดีเลยกดรับสาย
"ว่าไงหนูดอก... อะไรนะ อีกแล้วเหรอ...ได้ ชั้นจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
หล่อนกดตัดสายแล้วหน้าเครียดขึ้นมาทันที
เน็กซ์กำลังเลือกดูกางเกงในชาย พุชชี่รีบเข้ามาดึงแขนพาเน็กซ์ออกมา
"ไม่ต้องดูแล้ว... กางเกงในเธอชั้นซื้อไว้ให้เรียบร้อยแล้ว"
"หา...ว่าไงนะ ผมว่าป้าไม่ใช่โรคจิตธรรมดาแล้วนะเนี่ย ขนาดแม่ผมยังไม่ยุ่งกับเรื่องกางเกงในผมเลยนะ"
"หยุดว่าชั้นโรคจิตได้แล้ว มันเป็นงานของชั้นย่ะ !"
"แต่ขอไว้เรื่องนึงไม่ได้เหรอป้า...ผมอายคนอื่นเขา"
"ชั้นไม่มีเวลามาเถียงกับเธอแล้วนะเด็กบ้า ชั้นมีงานด่วนที่ต้องไปเคลียร์ แล้วชั้นก็ทิ้งเธอให้กลับไปคนเดียวไม่ได้ด้วย เพราะฉะนั้นเธอต้องไปกับชั้น"
หล่อนไม่ฟังเน็กซ์เถียงรีบดึงมือพาไปด้วยกันทันที

หน้าผับแห่งหนึ่งบรรยากาศคึกคัก เด็กวัยรุ่นเที่ยวกันเพียบ พุชชี่พาเน็กซ์เข้ามาเจอหนูดอกที่รออยู่
"มาดามคะ ทางนี้ค่ะ"
"เป็นไง... ตกลงยัยแก้วใสไม่ฟังหล่อนเลยเหรอ"
"ค่ะมาดาม หนูทั้งด่า ทั้งขู่ แต่ชีก็ไม่ฟังเลย ส่วนงานที่รับปากเขาไว้ก็ดันไปเบี้ยวเขาอีก หนูเพิ่งโดนเจ้าของสินค้าด่าจนหูตูบมาเนี่ยค่ะ"
"ดีแต่ก่อเรื่องให้ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน ชั้นล่ะเหนื่อยกับยัยนี่จริงๆ"
"หนูว่ามาดามรีบเข้าไปเถอะค่ะ หนูสงสัยว่างานนี้ชีจะไม่ได้แค่เมาเหล้าอย่างเดียว"
หล่อนหันมาสั่ง
"เน็กซ์...รออยู่แถวนี้นะ อย่าไปไหนล่ะ"
ทั้งคู่รีบเข้าไปข้างในผับ เน็กซ์มองตามอย่างสงสัย

ภายในผับบรรยากาศปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยง เสียงเพลงดังอึกทึก พุชชี่กับหนูดอกแหวกกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามองหาแก้วใส
"อยู่ตรงนั้นค่ะ มาดาม"
หล่อนหันไปตามที่หนูดอกชี้แล้วตกใจหน้าเสีย เพราะแก้วใสดาราสาววัยรุ่นในสังกัดของเธอกำลังมันส์สุดเหวี่ยง ขึ้นไปเต้นท่าโคโยตี้อยู่บนเคาน์เตอร์บาร์พร้อมกับเพลง Can’t fight the moonlight
แก้วใสเมายาเต้นลืมตายทั้งโยก ทั้งคลึงประหนึ่งตัวเองเป็นนางเอกโคโยตี้ อั๊กลี่ ข้างล่างบรรดาเสือสิงห์ก็เชียร์กันสนุก
"หยุดนะแก้วใส ลงมาเดี๋ยวนี้ ชั้นบอกให้ลงมา"
แก้วใสไม่สนใจเพราะยังสนุกสุดเหวี่ยงอยู่ เสียงเชียร์ของพรรคพวกข้างล่างเริ่มเชียร์ให้ถอดทีละชิ้น ถอดเลย...ถอดเลย...ถอดเลย แก้วใสเริ่มปลดเสื้อตัวนอกเหวี่ยงไปมาร้อง วู้ๆๆ เหลือเสื้อกล้ามสายเดี่ยวโชว์เซ็กซี่
"ตายแล้ว ทำยังไงดีคะมาดาม"
"เด็กบ้าเอ้ย...เดี๋ยวก็ได้ฉาวโฉ่ขึ้นเน็ตหรอก"

ไม่ทันขาดคำแก้วใสโยนเสื้อลงมาให้หนุ่มๆแย่งกัน บางคนเอามือถือขึ้นมาถ่ายเป็นคลิปเก็บเอาไว้ หล่อนรีบห้าม

"หยุดนะ...ห้ามถ่าย"
 
ชายหนุ่มบอก
"ยุ่งอะไรด้วยเนี่ยป้า ไปเลยไป แก่อยู่ส่วนแก่"
ชายหนุ่มผลักพุชชี่จนหน้าแทบคว่ำ พุชชี่หันมาโกรธจัด
"เรียกชั้นป้าเหรอ...ได้"
พุชชี่โกรธจัดรีบแหวกฝูงนักเที่ยวไปที่เคาน์เตอร์บาร์แล้วจับแขนแก้วใสให้หยุดเต้น
"หยุดได้แล้วแก้วใส ถ้ายังไม่เลิกหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวอีก ชั้นตัดหางปล่อยวัดหล่อนแน่"
แก้วใสตาปรือมอง
"มาดาม ฮิฮิฮิ มาดามพุชชี่ กล้าไล่ฉ้านเหรอ กลัวจังเบย ฮิฮิฮิ"
แก้วใสหันไปเต้นต่อ หล่อนโมโหจัดเลยผลักแก้วใสลงจากเคาน์เตอร์ให้ดอกไม้รับตัวไป
"ลากตัวกลับไปเลย หนูดอก"
"ค่ะ มาดาม"
ดอกไม้รีบประคองพาแก้วใสออกไป พวกเสือสิงห์ขาหื่นหน้าเคาน์เตอร์พากันโห่ไล่หล่อนอย่างไม่พอใจ
หล่อนวีนใส่ซะเลย
"โห่อะไรกัน เด็กชั้นไม่ใช่โคโยตี้นะยะ"
พวกข้างล่างยังไม่เลิกโห่ มีคนเอาน้ำสาดใส่หน้าหล่อนจนเปียกโชก หล่อนทั้งเจ็บใจและโกรธจัด
"อยากดูนักใช่มั้ย โคโยตี้เนี่ย ได้ เดี๋ยวพุชชี่จัดให้เซ็กส์เสื่อมเลย"
หล่อนหันไปที่ดีเจบอก
"จัดเพลงมา"

เน็กซ์รออยู่หน้าผับเห็นพุชชี่หายเข้าไปนาน ระหว่างนั้นเกิดเหตุไม่คาดคิด รถตำรวจขับเข้ามาจอดพร้อมกำลังตำรวจอีกหลายนาย พวกนักเที่ยวข้างหน้าพากันวงแตกวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น เน็กซ์ตกใจเป็นห่วง
บนเคาน์เตอร์บาร์ แสงไฟส่องมาที่พุชชี่ เสียงดนตรีเริ่มดังขึ้นเป็นเพลง ‘กังนัมสไตล์’
หล่อนเต้นท่ากังนัมสไตล์อย่างเมามันส์ เน้นขำกลิ้งไม่มีโชว์เซ็กซี่ล่อเสือล่อตะเข้แม้แต่น้อย มีนักท่องเที่ยวถ่ายคลิปมือถือ 4-5 คน หล่อนเต้นไปได้ไม่ถึงครึ่งเพลง ทันใดนั้นตำรวจก็บุกเข้ามา ทุกอย่างเลยชุลมุนวุ่นวาย เพราะหลายคนพยายามวิ่ง หนี ตำรวจไล่จับมั่วไปหมด
หล่อนยืนตกใจอยู่บนเคาน์เตอร์และพยายามจะหนีด้วย แต่ก็เจอตำรวจวิ่งเข้ามาขวางจ้องหน้า หล่อนหน้าจ๋อย
"ดิชั้นไม่ได้มาปาร์ตี้มั่วยากับเขานะคะ คุณตำรวจขา"
"เหรอ...ไม่ได้เมา แต่กล้าขึ้นไปเต้นโชว์บนนั้นเนี่ยนะ"
ตำรวจจับข้อมือหมับ ! หล่อนสะดุ้ง
"ไปตรวจฉี่ ! เดี๋ยวนี้"

ทางด้านหลังผับ ดอกไม้ประคองแก้วใสพาหลบออกมา แก้วใสอยู่ในสภาพเมาคอพับคออ่อน
"เด็กบ้าเอ้ย…หาเรื่องเดือดร้อนไม่รู้จักหยุดจักหย่อน"
เน็กซ์เข้ามา
"แล้วมาดามล่ะ พี่หนูดอก"
"ยังอยู่ข้างในค่ะคุณน้อง"
"แต่ตำรวจเขามาปิดผับตรวจยาเสพติดแล้วนะครับ"
"โอ้ย…คุณพี่จะบ้าตาย นี่มันคืนนรกแตกเหรอไงเนี่ย งั้นพี่ฝากให้คุณน้องช่วยพาแก้วใส ขึ้นแท๊กซี่กลับบ้านที เดี๋ยวพี่จัดการทางนี้เอง"
หนูดอกส่งต่อแก้วใสให้เน็กซ์รับตัวไป เน็กซ์ช่วยพยุงพาแก้วใสออกไป ดอกไม้หน้าเครียด

ภายในผับไฟสว่างแล้ว พุชชี่อยู่กับเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะ หลังจากตรวจฉี่หล่อนเรียบร้อยแล้ว
"เป็นไงคะ ฉี่ไม่ม่วงใช่มั้ยคะ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้มามั่วยา"
"เราต้องทำตามหน้าที่ ถ้าคุณไม่ได้ทำผิดกฏหมายก็เชิญกลับได้ครับ"
"ค่ะ"
หล่อนเดินหน้าเซ็งออกมาเจอหนูดอกที่วิ่งเข้ามาจากด้านหลังผับ
"เป็นไงบ้างคะ มาดาม"
"หล่อนยังมาถามอีกเหรอว่าเป็นไง ลองโดนจับตรวจฉี่ดูมั่งสิ"
"ค่ะๆไม่ถามก็ได้ หนูก็แค่เป็นห่วง"
"แล้วยัยแก้วใสล่ะ"
หนูดอกทำนิ้วโอเค
"หนูให้เน็กซ์พากลับบ้านไปแล้ว"
"โอเค...ค่อยยังชั่วหน่อย ถ้าแก้วใสโดนจับได้ว่าเล่นยาล่ะก็ งานเข้าชั้นแน่ ชั้นง่วงแล้ว กลับบ้านกันเถอะ"
หนูดอกรีบดึง
"ไปทางนั้นไม่ได้ค่ะ มาดาม มีนักข่าวอยู่แถวนั้น ทางนี้ดีกว่าค่ะ เกิดนักข่าวเจอมาดามอยู่ที่นี่ด้วย งานจะเข้ามาดามแทน"
หนูดอกรีบพาหล่อนออกไปอีกทาง แต่คล้อยหลังไปไม่เท่าไหร่ นักข่าวสองคนก็เดินคุยกันเข้ามา
นักข่าว 1บอก "เธอเห็นคลิปเด็ดนี่รึยัง ชั้นเพิ่งได้มาเมื่อกี้นี้เอง"
นักข่าว 2 บอก "คลิปอะไรเหรอ"
นักข่าว 1บอก"มาดามพุชชี่ที่เพิ่งแพ้คดีหมิ่นประมาทเจ๊เมี่ยงไง มาปาร์ตี้มั่วยานี้ด้วย เมาหลุดโลกเลย"

นักข่าวเปิดคลิปที่หล่อนเต้นกังนัมสไตล์ให้ดู นักข่าวคนอื่นๆพากันเข้ามามุงดูอย่างสนใจ
 
อ่านต่อหน้า 4

มาดามดัน ตอนที่ 2 (ต่อ)

บริเวณสระว่ายน้ำในบ้านพุชชี่ เน็กซ์ประคองแก้วใสที่คอพับคออ่อนเมาอ้อแอ้เข้ามา

"ทางนี้ครับ คุณแก้วใส"
แก้วใสยังอารมณ์ค้างอยากสนุกเลยผลักเน็กซ์ออกไปจนเซ
"ม่ายอาว....ช้านยังอยากสนุกอีกอ่ะ อุ๋ย สวิมมิ่งพูล กรี๊ดๆๆๆ พูล..ปาร์ตี้ !"
แก้วใสยิ้มดี๊ด๊ารีบเดินไปที่สระน้ำ หมิ่นเหม่ที่ขอบสระจนเกือบจะตกลงไป เน็กซ์ตกใจรีบดึงออกมา
"คุณ...อย่าดีกว่าครับ คุณเมาอยู่เดี๋ยวก็จมน้ำหรอก"
แก้วใสชี้หน้า
"อย่ามายุ่ง ! ช้าน...ซูเปอร์โม้เด้ล...แต่แต้แต่แต๊...แต๊แตแต๊แตแต่แต๊"
แก้วใสฮัมทำนองดนตรียั่วยวนแล้วเต้นท่ารูดเสากับเริ่มปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดๆและปลดไหล่
เน็กซ์อึ้ง
"เฮ้ย...หยุดเถอะคุณ อย่าทำแบบนี้เลยครับ"
เน็กซ์พยายามห้าม แต่เสื้อของแก้วใสถูกโยนใส่หน้าพร้อมกับกระโปรงที่สวมอยู่ เน็กซ์อึ้งรีบดึงเสื้อกับกระโปรงออกจากหน้า แล้วจะห้ามต่อ แต่ไม่ทันได้ยินเสียงโดดน้ำดัง...ตู้ม !
แก้วใสลงไปแหวกว่ายอยู่ในน้ำอย่างสนุกสนานเหลือเสื้อผ้าน้อยชิ้นจนน่าตกใจ เน็กซ์หันไปเห็นมีผ้าขนหนูพับอยู่ที่โต๊ะข้างสระน้ำเลยหยิบมากางเรียก
"คุณ...รีบขึ้นมาเถอะ คุณแก้วใส"
แก้วใสไม่สนใจแหวกว่ายสนุกสนานไม่พอ ยังทำท่าเต้นระบำใต้น้ำฮัมเพลงเซ็กซี่อีกต่างหาก ระหว่างนั้นเองแก้วใสก็ตะคริวจมลงไปผุดๆโผล่ๆ
"ช่วย...ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
"นั่นไง งานเข้าจนได้"
เน็กซ์ไม่รอช้ารีบกระโดดลงไปช่วยเอาไว้ทันที....ตูม !!

วันใหม่ ... เสียงไอพ่นเครื่องบินโบอิ้งดังต่อเนื่อง เครื่องบินลำโตกำลังร่อนลงแตะรันเวย์ ภายในอาคารผู้โดยสาร กัปตันติณณภพ วัย 30 ปีเดินลากกระเป๋าเดินทางออกมา แต่ต้องชะงักก่อนจะถึงทางออก เพราะเจอกลุ่มแอร์โฮสเตสสาวสวยหลายนางมาดักรอเจอพร้อมช่อดอกไม้และกล่องของขวัญ จังหวะนั้นตุลยา ซึ่งเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินเดียวกันกับพี่ชายเข้ามาแตะไหล่เรียก
"อีกแล้วเหรอเนี่ยพี่ติณ เพิ่งจะเคลียร์สายการบินตัวเองไปไม่ทันไร มาเจอสายการบินอื่นอีกแล้ว น่าเบื่อชมัดเลย"
"ไม่เอาน่าตุล ก็วันเกิดพี่นี่"
"พี่ก็เป็นซะอย่างนี้ มัวแต่เกรงใจ เดี๋ยวก็โดนเข้าใจว่าเที่ยวโปรยเสน่ห์หรอก มาค่ะ เดี๋ยว ตุลจัดการเอง"
ตุลยายิ้มกวนๆ แล้วควงแขนพี่ชายพาเดินไปด้วยกันทันที บรรดาแอร์โฮสเตสเจอหน้ากัปตันก็กรูเข้ามารุมล้อม
แอร์โฮสเตส 1ยื่นกล่องของขวัญให้บอก "สวัสดีค่ะกัปตัน แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะคะ"
แอร์โฮเตส 2 เบียดอีกคนแล้วแย่งยื่นของตัวเองให้
"สุขสันต์วันเกิดค่ะกัปตัน...คืนนี้กัปตันมีโปรแกรมปาร์ตี้ฉลองวันเกิดรึยังคะ"
ตุลยาเสียงแข็งบอก "มีแล้วค่ะ"
บรรดาแอร์โอสเตสสาวๆ จิกหน้ามองตุลยาอย่างเหยียดๆ
แอร์โฮสเตส 2 บอก "ถามกัปตันค่ะ ไม่ได้ถามน้องสาว"
"ก็เพราะเป็นน้องสาวไงถึงตอบแทนได้ คืนนี้พี่ติณมีโปรแกรมฉลองวันเกิดเป็นการส่วนตัวกับคนพิเศษแล้ว"
แอร์โฮสเตส 2 บอก "จริงเหรอคะกัปตัน"
"เอ่อ...ครับ"
"รับทราบกันถ้วนหน้าแล้ว ก็ช่วยไปกระจายข่าวบอกกันต่อๆ ด้วยนะคะว่า เครื่องบินของกัปตันติณณภพน่ะเต็มแล้ว..ขอทางค่ะ"
ตุลยาเชิดใส่บรรดาแอร์โฮสเตสที่ต่างก็มีสีหน้าผิดหวังแล้วพาพี่ชายออกไป

ติณณภพกับตุลยาเดินออกมารอรถที่หน้าสนามบิน
"ขอบใจนะตุล แต่ไปพูดแบบนั้น ต่อไปตุลจะโดนคนอื่นเขม่นเอาได้"
"ไม่เห็นจะแคร์เลยค่ะพี่ติณ กับแค่ปากคน...ไม่ใช่มีดใช่ปืนสักหน่อย"
"แต่เราเพิ่งมาทำงานนะ พี่ไม่อยากให้มีปัญหากับคนอาชีพเดียวกัน"
"พี่ติณก็รู้ว่าตุลมาเป็นแอร์เพราะอะไร"
ตุลยาพูดไปก็เชิดหน้าทำแก้มป่องๆเป็นน้องสาวขี้อ้อนขึ้นมาให้พี่ชายเห็น
"เราเหลือกันแค่สองคนพี่น้องนะคะพี่ติณ ถ้าไม่มีใครดูแลพี่ติณได้ดีกว่า ตุลก็จะเกาะพี่ เป็นปลิงแบบนี้แหละ"
ตุลยาเกาะแขนแน่นตามที่พูดจนติณณภพอดยิ้มไม่ได้เอามือขยี้หัว
"รู้แล้วจ้า ยัยเด็กขี้อ้อนเอ้ย ไปเถอะ รีบกลับกันดีกว่า พี่ต้องรีบกลับไปเตรียมทำอาหาร สำหรับดินเนอร์"
ตุลยาทำหน้าสงสัย
"ดินเนอร์"
"เอ้า...เพิ่งบอกคนอื่นไป ลืมแล้วเหรอ วันเกิดพี่ทุกปี พี่ต้องฉลองกับคนพิเศษของพี่ไง"
ตุลยานึกขึ้นได้เลยยืนอึ้งชะงักไป ระหว่างนั้นรถคันหรูของติณณภพที่มีคนขับรถมารับตรงหน้า คนขับรถมารับกระเป๋าไปเก็บที่ท้ายรถ แต่ติณณภพยังเห็นตุลยายืนอึ้งๆ
"ไม่กลับเหรอตุล"
"เอ่อ...กลับสิคะพี่ติณ"
ตุลยายื่นกระเป๋าให้คนขับรถแล้วมองตามพี่ชายที่เข้าไปนั่งในรถก่อนด้วยแววตาซ่อนความรู้สึกไม่พอใจ

ภายในห้องทำงาน พุชชี่โยนหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งลงตรงหน้าแก้วตา ภาพเป็นรูปหล่อนเต้นกังนัมอยู่บนเคาน์เตอร์ผับ
แก้วตาอ่านพาดหัวข่าว
"มาดามดันตัวแม่ตกอับ ปาร์ตี้มั่วยาประชดชีวิต ข่าวนี้คุณแม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ มาดาม กระฉ่อนว่อนเน็ตเมาท์กันสนั่น แต่แม่ถือคติคนล้มอย่าข้ามค่ะ"
แก้วตายิ้มเยาะ หล่อนฉุนจัดตบโต๊ะเสียงดัง
"คุณแก้วตา ! ขอโทษสักคำมันยากเย็นนักเหรอไงคะ ชื่อเสียงของชั้นต้องป่นปี้เสียหายก็เพราะลูกสาวคุณ"
"อย่ามาโทษแก้วใสนะ มาดาม ตอนนี้เหลือแต่ลูกสาวชั้นที่อยู่ทำเงินให้ ถ้าขาดแก้วใสไป สักคนล่ะก็…"
แก้วตาลุกขึ้นเชิดหน้าเริ่ดๆกวาดตามองไปรอบๆห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างดี
"แม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่เหลือ อ้อ... แต่ถ้ามาดามต้องจนตรอกจนคิดอยากขายตัวใช้หนี้ล่ะก็ ปรึกษาคุณแม่ได้นะคะ คุณแม่ยังมีรายชื่อเสี่ยแก่ๆหื่นๆ ที่ชอบมาเจ๊าะแจ๊ะกับแก้วใสเหลืออีกเพียบ ถือว่าคุณแม่ช่วยสงเคราะห์สาวแก่ขึ้นคาน"
แก้วตายิ้มชอบใจแล้วจะออกจากห้อง แต่เจอหล่อนรีบเข้าไปเอามือตบประตูไม่ให้ออกไป หล่อนจ้องเขม็ง ส่งเสียงดุมาก
"หนูดอก"
ดอกไม้หน้าเหี้ยมสะใจ
"รออยู่แล้วค่ะ มาดาม"

พุชชี่จ้องหน้ายิ้มร้ายกาจพอกับหนูดอก

แก้วใสเดินจิบกาแฟร้อนแก้อาการแฮงค์จากเมื่อคืน มีแอปเปิ้ลกับเชอรี่เดินตาม

"เข้มได้ใจจริงๆ แบบนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่งั้นวันนี้ชั้นมีมึนตึ้บแน่"
แอปเปิ้ลอยากรู้
"แล้วไงต่อคะ ที่คุณแก้วใสฝันเห็นเมื่อคืนนี้น่ะค่ะ"
แก้วใสหันมาอมยิ้มแก้มตุ่ย ตาพริ้มฝันหวานมั่กๆ

เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางบรรยากาศสวยๆ ฟุ้งๆฝันๆ เน็กซ์อุ้มแก้วใสพาขึ้นจากสระน้ำ
"คุณ...คุณ"
แก้วใสที่อยู่ในอ้อมแขนของเน็กซ์มองหนุ่มหล่อตรงหน้า
"หล่อ...หล่อมาก นี่สวรรค์ของชั้นคือทไวไลท์เหรอเนี่ย"
แก้วใสยิ้มเคลิ้มๆพริ้ม มีความสุขก่อนจะหมดสติไปในอ้อมแขนของเน็กซ์...คร่อก !

แก้วใสยิ้มหวานเพ้อต่อ
"ในฝันนั้นชั้นรู้สึกว่ามันเหมือนจริงมาก ในอ้อมกอดของเขามันช่างอบอุ่น ชั้นว่าในสามโลกนี้ รับรองไม่มีใครหล่อกินขาดได้ขนาดนั้นแน่นอน"
แอปเปิ้ลกับเชอรี่ฟังแล้วพากันขำ ก่อนที่แอปเปิ้ลจะชี้ให้ดู
"หล่อแบบนั้นรึเปล่าคะ คุณแก้วใส"
แก้วใสหันไปที่สระว่ายน้ำเป็นจังหวะที่เน็กซ์ว่ายน้ำเสร็จขึ้นจากสระพอดี

สายตาแก้วใสเห็นเน็กซ์แล้ว อารมณ์อึ้งตะลึงตึงๆในทันที เน็กซ์หล่อมาก กำลังสะบัดผมที่เปียกจนน้ำกระจาย หุ่นเฟิร์ม ผิวขาวจั๊วะ กล้ามพองาม
"ใช่...เขาจริงๆ ทไวไลท์ของชั้น"
เน็กซ์หันมาเห็นแก้วใสก็โบกมือยิ้มให้ ยิ่งเสริมให้ดูโคตรหล่อโฮกไปอีก แต่พอเน็กซ์จะเดินเข้าบ้านนิสัยดิบๆ ก็แสดงออกมาด้วยการเดินเกาก้นแล้วเอามือที่เกาขึ้นมาแคะขี้มูก
แป่ว ! เพล้ง !
แอปเปิ้ลกับเชอรี่แทบหงายหลังตึง แก้วใสหน้าเหวอผงะอึ้งค้างไป 3 วินาที แต่ยังยิ้มเคลิ้ม
"ซกมก ทุเรศ แต่ก็ยังหล่ออยู่อ่ะ"
แก้วใสหน้าแดงบิดอายม้วนจนจะเป็นปลิงอยู่แล้ว

แก้วตาดูภาพที่ถ่ายจากมือถือ เห็นแก้วใสกับชายหนุ่ม 2-3 คนขณะกำลังปาร์ตี้มั่วยาแล้ว นัวเนียมั่วสุดฤทธิ์ บางรูปจูบปาก บางรูปไซร้ซอกคอ บางรูปเปิดไหล่โชว์เนิน
"รูปพวกนี้มัน ...ว้าย...อี๋...อ๊าย...อู้วว์ !"
แก้วตาเหวอตกใจตาค้างกับพฤติกรรมลูกสาวจนรับไม่ได้
"แก...นี่แกคิดจะแบล็กเมล์ลูกสาวชั้นเหรอ"
"อ้าว...พูดงี้ได้ไงคะ รูปพฤติกรรมแสบเซี้ยวเปรี้ยวคันของยัยแก้วใสพวกนี้ กว่ามาดามจะตามสอยกลับมาได้ รู้มั้ยคะว่าต้องหมดเงินไปเท่าไหร่" หนูดอกบอก
"คุณแม่อาจจะลืม แต่พุชชี่จะช่วยเตือนความจำให้ จำได้ใช่มั้ยคะที่แก้วใสโวยวายเรื่องไอโฟนหายหลังปีใหม่ที่หนีคุณแม่ไปปาร์ตี้"
แก้วตาชะงัก
"จำได้"
"นั่นแหละค่ะ ทุกภาพอยู่ในนั้นหมด ทั้งที่เตือนกันแล้ว มีตัวอย่างให้เห็นกันมาตั้งเยอะ เสียชื่อเสียงเพราะโทรศัพท์กันไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ฟังคิดว่าตัวเองเก่ง คิดว่าเอาลูกอยู่"
"แต่ก็เอาอยู่จริงๆค่ะ มาดาม แต่กับใครก็ไม่รู้มั่วไปหมด"
แก้วตาโพล่ง
"นังหนูดอก"
"คุณแม่ ครั้งนี้พุชชี่เหลืออดแล้วจริงๆนะคะ ถ้าคุณแม่ไม่เลิกจุ้นจ้านงานของพุชชี่ ไม่เลิกแอบรับงานให้แก้วใส พุชชี่ก็คงต้องให้คุณแม่ดูแลแก้วใสเอง"
"เธออย่าท้าชั้นนะมาดามพุชชี่ ตอนนี้ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่า เธอกำลังตกอับ"
"พุชชี่ชอบเสี่ยง เพราะฉะนั้น ท้าค่ะ !"
พุชชี่ไม่สนใจ จ้องหน้าแก้วตาเขม็งอย่างไม่แยแสด้วย

ในเวลาต่อมา แก้วใสโดนแก้วตาลากแขนพาออกมาที่หน้าบ้าน
"แกไม่ต้องอยู่ที่นี่ นังแก้ว ต่อไปนี้ชั้นจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้แกเอง"
"นี่แม่คุยกับมาดามแล้วเหรอ"
"ก็ใช่น่ะสิ แกนะแก นึกว่าจะได้ทิ้งระเบิดใส่มันให้สะใจ ที่ไหนได้ ทำงามหน้าให้ชั้นเถียงมันแทบไม่ทัน" แก้วตาพูดพลางดึงหูลูก
"โอ๊ย ! งามหน้าอะไรอีกล่ะแม่"
"ก็ไอ้รูปอุบาทว์ในไอโฟนที่หายไปของแกไง"
แก้วใสตกใจ
"หาเจอแล้วเหรอคะ คุณแม่"
"ชั้นไม่ได้เจอ แต่นังพุชชี่มันตามจนเจอ"
แก้วใสเป่าปากโล่งอก
"ค่อยยังชั่ว ถ้าเป็นยัยมาดามเจอก็โล่งอกไปที แสดงว่าหนูรอดแล้ว"
"นังแก้ว ! ยัยพุชชี่มันเอารูปพวกนั้นมาแบล็คเมล์ไม่ให้แกออกจากสังกัดมันนะ"
"นิสัยเขาไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ หนูอยู่กับเขามารู้จักเขาดี เขาก็แค่ให้เราตัดสินใจว่าจะอยู่หรือจะไปต่างหาก ใช่มั้ยคะคุณแม่"
"หึ…ยังไงชั้นก็ไม่สนใจ นี่คือโอกาสดีที่เราจะไม่ต้องเสียค่าหัวคิวให้มัน ไปได้แล้ว"
แก้วตาคว้าข้อมือลูกสาวจะพาออกไป แต่ลูกสาวสะบัดมือออก
"ไม่ค่ะแม่ แก้วเปลี่ยนใจแล้ว แก้วจะเป็นเด็กในสังกัดของมาดามพุชชี่ต่อ"
แก้วใสเริ่ดเชิดหน้าแอ๊บแบ๊วเดินเข้าบ้าน แก้วตางงๆไม่เข้าใจลูก

แก้วใสตีหน้าใสซื่อเล่นละครสุดฤทธิ์
"แก้วใสขอโทษแทนแม่ด้วยนะคะ มาดาม แก้วใสอยู่กับมาดามมาตั้งแต่อายุ 14 มีชื่อเสียงมาได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะมาดามช่วยดัน เพราะฉะนั้นแก้วจะไม่ทิ้งผู้มีพระคุณไปเด็ดขาด"
"ขอบใจนะแก้วใส แต่ที่นี่ไม่ใช่กองถ่าย ไม่มีสื่อ เพราะฉะนั้นเธอไม่ต้องมาทำตัวเป็นตุ๊กตาบลายด์ต่อหน้าชั้น ทุกคนในบ้านนี้รู้ดีว่าเธอเป็นคนยังไง"
แก้วใสชะงักหน้าเสีย แก้วตาไม่พอใจจับแขนลูกสาวมาซุบซิบกันสองคน
"แกไม่ต้องไปง้อมันแล้ว เชื่อแม่...มันน่ะจนตรอกแล้ว เหลือแค่ไอ้อาร์ทคนเดียวที่ยังอยู่"
"แม่นั่นแหละไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า แก้วเห็นกับตามาแล้ว เด็กใหม่ของมาดามจะทำให้มันกลับมาทวงบัลลังก์นักปั้นคืนได้แน่นอน"
"เด็กใหม่"
แก้วใสดันแม่ให้หลบไปแล้วเดินเข้าไปยกมือไหว้และกราบขอโทษพุชชี่
"แก้วขอโทษจริงๆนะคะมาดาม แก้วต้องทำงานตั้งแต่เด็ก ชีวิตสนุกสนานอย่างวัยรุ่นก็ไม่เคยมีเหมือนคนอื่นเขา พอมีโอกาสเข้ามาแก้วก็เลยเผลอลืมตัว แต่ต่อไปนี้แก้วสัญญานะคะ แก้วจะไม่ทำตัวเหลวไหลอีก แก้วสัญญาค่ะ มาดาม" แก้วใสพูดพลางบีบน้ำตา
ไอ้ท่าทางแบบนี้ พุชชี่รู้ดีว่าแก้วใสเล่นละคร หนูดอกเห็นก็รู้เลยเบ้ปากยักไหล่
พุชชี่ตัดสินใจ
"เอาล่ะ...คราวนี้ชั้นจะยอมยกโทษให้เธอ"
หนูดอกตกใจ
"มาดาม"
หล่อนยกมือห้ามไม่ให้หนูดอกพูดอะไร
"เรื่องคิวงานวันนี้ของเธอ เดี๋ยวหนูดอกจะจัดการให้ ... คุณแม่คงได้ยินนะคะว่า หนูดอกเป็นคนจัดการ ไม่ใช่คุณแม่"

แก้วตาชะงักมองเชิดหน้า...เชอะ หล่อนมองสองแม่ลูกอย่างเหนื่อยใจแล้วลุกออกไป หนูดอกออกอาการมึนงง

แก้วตาชะงักมองเชิดหน้า...เชอะ หล่อนมองสองแม่ลูกอย่างเหนื่อยใจแล้วลุกออกไป หนูดอกออกอาการมึนงง

"มาดาม"

หนูดอกตามพุชชี่ออกมาถามต่อ
"เดี๋ยวสิคะ มาดาม หนูดอกไม่เข้าใจ เอาหวีเสนียดสางเหาออกไปได้แล้ว แต่มาดามดัน ไปหยิบเหาเอามาใส่หัวอีก จำได้มั้ยคะ มาดามเคยบอกหนูดอกว่ายังไง หลังจากที่พายัยแก้วใสเข้ามาอยู่ในบ้าน"
"จำได้สิ...สี่ตีนยังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ไม่เคยมีเด็กคนไหนตบตาชั้นได้ ยกเว้นก็แต่แก้วใสคนเดียว"
"ถ้ามาดามยังจำได้แล้ว ทำไมไม่ไล่สองแม่ลูกนั่นไปล่ะคะ"
"เพราะชั้นยังไม่รู้ว่า เน็กซ์จะพร้อมทำงานให้เราได้เมื่อไหร่น่ะสิ หนี้สินชั้นยังมีอีกบาน ไหนจะเงินที่ต้องเอามาปั้นเน็กซ์อีกล่ะ ตอนนี้แก้วใสยังทำเงินให้เรามากที่สุดอยู่ เพราะฉะนั้น ชั้นไม่มีทางเลือก"
"เฮ้อ...งั้นหนูดอกก็เข้าใจแล้วค่ะ มาดาม พูดถึงหนี้ของมาดาม หนูดอกเลยนึกขึ้นได้ วันนี้ต้องไปจ่ายดอกเบี้ยผ่อนบ้านแล้วค่ะ มาดาม"
"หา ! อีกแล้วเหรอ...โอ้ย ชั้นอยากจะเป็นลม เธอไปจัดการให้ชั้นแล้วกันนะ หนูดอก"
"ได้ค่ะ มาดาม"
หนูดอกจะเดินออกไป พุชชี่นึกอะไรขึ้นมาได้เลยรีบถาม
"เดี๋ยวก่อนหนูดอก วันนี้วันที่เท่าไหร่"
"25 ค่ะ...มาดาม มีอะไรรึเปล่าคะ"
พุชชี่นิ่งไปเพราะนึกขึ้นได้ หนูดอกเห็นสีหน้าของมาดามแล้วก็นึกออกเช่นกัน
"อุ๊บส์..จำได้แล้ว วันนี้ เดือนนี้ของทุกปี ภารกิจขี่เครื่องบินส่วนตัวของมาดามนี่เอง"
หล่อนชะงักแล้วหันมาตาเขียวปั๊ดใส่
"หนูดอก"

บ้านติณณภพเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น มีฐานะ ภายในห้องครัว เสียงดนตรีบรรเลงแจ๊สเพราะๆดัง ขณะที่ติณณภพเข้าครัวเตรียมอาหารเด็ดๆ เขาทั้งการหั่นผัก แกะสลักผลไม้ ตัดแต่งเนื้อสัตว์ แล่ปลา นวดแป้ง เข้าขั้นเชฟมือโปร เขาช่างเป็นหนุ่มหล่อ เริ่ด เพอร์เฟคครบทุกเม็ด เด็ดจริงๆ
ระหว่างนั้น ตุลยาถือถุงที่ซื้อของมาจากซูเปอร์มาเก็ตเข้ามา
"พี่ติณ...เครื่องปรุงที่สั่ง ตุลซื้อมาให้แล้วค่ะ"
"ขอบใจนะตุล วางเอาไว้ตรงนั้นเลย"
"โห...กลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งบ้านเลย ขอชิมหน่อยนะคะ"
ตุลยาจะชิมผลไม้แกะสลักที่เตรียมไว้บางส่วน แต่โดนติณณภพตีมือ เพี๊ยะ!
"ไม่ได้ ! ของเราน่ะ พี่เตรียมไว้ให้แล้ว กำลังอบอยู่ในเตาโน่น"
ตุลยามองที่เตาอบแล้วเบ้ปาก
"พี่ติณอ่ะ...ของตุลก็แค่ลาซานย่า แต่ดูของที่พี่เตรียมไว้ดินเนอร์กับพี่พัฒสิ หน้ามือกับหลังแหวนชัดๆ""พี่ไม่ได้เจอเขาบ่อยนะตุล ปีๆนึงจะได้เจอกันก็แค่..."
ตุลยาตัดบท
"ค่ะๆๆ..ตุลรู้แล้ว..ถ้าอยากบ่นเรื่องที่พี่พัฒเขาไม่ค่อยมีเวลาให้ ตุลว่าพี่รอไว้บอกเขาเองดีกว่า อย่ามาบ่นกับตุลเลย ตุลขี้เกียจฟัง ขอไปนั่งรอกินอย่างเดียวดีกว่า"
ตุลยาเดินออกไป ทิ้งให้ติณณภพง่วนอยู่กับการเตรียมอาหาร แต่ก่อนจะออกไป ตุลยาเหลือบมองไปที่ถุงใส่ของที่เพิ่งเอาเข้ามาอย่างมีเลศนัย เพราะตั้งใจใส่บางอย่างเอาไว้เพื่อให้พี่ชายตัวเองเห็น
ติณณภพหันมาหยิบเครื่องปรุงที่สั่งซื้อมาในถุง แต่ดันไปเจอหนังสือพิมพ์บันเทิงที่พาดหัวข่าวของมาดามพุชชี่ เต้นกังนัมในผับ “ มาดามดันตัวแม่ตกอับ ปาร์ตี้มั่วยาประชดชีวิต ”
ตุลยาแอบยืนอยู่ไม่ไกลแล้วยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เพราะเธอนั่นแหละที่จงใจให้พี่ชายเห็น
ตุลยาตีหน้าซื่อเข้ามา
"พี่ติณ...พี่ติณอย่าเพิ่งเอาของในถุงออกมานะ ตุลลืม"
"พี่เห็นแล้วล่ะ ตุล"
ตุลยารีบทำเป็นยกมือไหว้ขอโทษ
"ตุลขอโทษค่ะพี่... ตุลไม่ตั้งใจจะซื้อมาให้พี่เห็นนะคะ แค่จะเอามาอ่านดูว่า คราวนี้พี่พัฒจะโดนใส่ร้ายอะไรอีกบ้าง"
ติณณภพนิ่งไม่พูดอะไร เอาแต่มองภาพข่าวของพัฒศรีด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใย ส่วนตุลยาแอบยิ้มร้าย

พุชชี่นั่งลงที่เก้าอี้ในห้องทำงานแล้วเอามือถือมาเปิดดูคลิปที่ถ่ายเก็บเอาไว้ ซึ่งก็คือคลิปงานวันเกิดปีที่แล้วที่เธออยู่กับติณณภพ ภาพในคลิปเป็นภาพหล่อนกับเขาตอนกำลังปักเทียนเค้กวันเกิด

ติณณภพปักเทียนลงบนเค้กแล้วจุดเทียน
"ไม่มาอธิษฐานด้วยกันเหรอพัฒ"
"วันเกิดพี่ติณ พี่ติณก็ต้องอธิษฐานสิคะ เร็วๆเข้า น้องอยากกินเค้กที่พี่ทำจะแย่อยู่แล้ว"
"ก็ได้"
ติณณภพหลับตาแล้วอธิษฐานอยู่ครู่ก่อนจะลืมตาแล้วเป่าเทียนดับ
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะคะพี่ติณ หันหน้ามาที่กล้องแล้วบอกด้วยว่า เมื่อกี้นี้พี่อธิษฐานอะไร"
"จะให้พี่บอกจริงๆเหรอ"
"ก็น้องอยากรู้นี่คะ บอกเลย บอกเลย บอกเลย"
ติณณภพยิ้มกับกล้องแต่สายตามองไปที่พัฒศรี แววตาเขาจริงจัง จนแทบจะทำให้หญิงทั้งโลกละลาย
"พี่อธิษฐานขอให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ วันที่พี่จะไม่เป็นได้แค่พี่ชายสำหรับน้อง"

พุชชี่นั่งนิ่งดูคลิปที่ถ่ายเอาไว้แล้วรีบกดปิดทันที สีหน้าหล่อนเศร้าลงไปอย่างมากเพราะเงื่อนไขภารกิจ แก้แค้นและทวงหาความยุติธรรมให้เพื่อนรัก ทำให้เธอไม่สามารถรับรักเขาได้ ระหว่างนั้นเชอรี่รีบเข้ามา
"มาดามคะ มาดาม"
"อะไรของพวกหล่อนอีก"
"คุณเน็กซ์ค่ะ หายไปไหนก็ไม่รู้ หนูตามหาทั่วบ้านก็ไม่เจอ"
หล่อนลุกพรวด หน้าเซ็งฉุน
"โอ้ย...ชั้นจะบ้าตาย เด็กบ้า ! ขอนั่งพักหายใจหน่อยก็ไม่ได้ หาแต่เรื่องให้ชั้นตลอดๆ...ฮึ่ม !"

บริเวณลานฟุตบอลใต้ทางด่วน เน็กซ์กำลังแข่งบอลอยู่กับพวกวัยรุ่นขาประจำ โดยมีตั้มลงเตะแข่งด้วย
เน็กซ์เลี้ยงบอลหลบหลีกอย่างสวยงาม ก่อนจะส่งบอลให้ตั้มช่วยเลี้ยงลากเลื้อยไปถึงหน้าประตู
ตั้มหยุดบอลแล้วมองหาเน็กซ์ที่กำลังรออยู่ เด็กวัยรุ่นฝั่งตรงข้ามพุ่งเข้ามาชาร์จตั้มจนล้ม แต่ตั้มก็ผ่านบอลส่งต่อ ให้เน็กซ์จนสามารถโขกหัวส่งบอลเข้าทำประตูได้อย่างสวยงาม

เน็กซ์ช่วยประคองพาตั้มออกมาจากสนาม
"เป็นไงมั่งครับ พี่ตั้ม"
"จิ๊บๆน่า ไม่เป็นไรหรอก ไม่นึกว่าพวกนั้นจะเล่นกันแรง เลยไม่ทันระวัง"
"แต่ลูกเมื่อกี้ที่พี่โยนมาให้ผมนะ...สุดยอดเลย แล้วมาทำคุยว่าไม่เคยเล่นฟุตบอล"
"พี่เคยรับบทเป็นนักฟุตบอล เลยจำๆมาใช้น่ะ"
"เป็นนักแสดงก็ดีเหมือนกันนะพี่ ได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่คนอื่นไม่เคยทำ"
"ใช่...วงการนี้ยินดีต้อนรับเลยไอ้น้องชาย"
ตั้มยิ้มหัวเราะกับเน็กซ์แล้วชะงัก เมื่อพวกวัยรุ่นฝั่งตรงข้ามที่เพิ่งแพ้ไปหมาดๆ พากันมายืนดาหน้าขวางทั้งคู่
"อย่าเพิ่งรีบกลับสิวะ มาแก้มืออีกสักแมตช์"
"แพ้ไปสามศูนย์แล้ว ยังต้องแก้มืออีกเหรอ ไว้วันหลังเถอะ"
เน็กซ์ไม่สนใจเล่นต่อ จะพาตั้มออกไป แต่พวกมันไม่ยอมให้ไปซ้ำยังเข้ามาผลักไหล่เน็กซ์
"อย่าป๊อดไปหน่อยเลยว่ะไอ้หน้าว๊อก เมื่อกี้แค่อุ่นเครื่อง แมตช์นี้ของจริง ลงเดิมพันเลย"
"เข้าใจผิดแล้วล่ะ ไอ้น้อง พี่พาน้องชายมาเตะบอลออกกำลัง ไม่ได้มาเล่นพนัน"
พวกวัยรุ่นหันมามองตั้ม แล้วพากันหัวเราะเยาะใส่
"น้องชายเหรอวะ นึกว่าคู่แต๋วแหว๋วชวนกันมาตุ๋ย ฮ่าๆ"
เน็กซ์ไม่พอใจที่พวกมันดูถูกตั้ม เลยผลักอกพวกมันคืนบ้าง
"ปากแบบนี้ลงสนามเลยดีกว่า"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ !"

พุชชี่สวมแว่นดำ ท่าทางเอาเรื่องเข้ามา

ติณณภพพยายามโทรศัพท์หาพัฒศรี แต่ไม่มีใครรับสาย
 
"ติดต่อพี่พัฒไม่ได้เหรอ พี่ติณ"
ติณณภพพยักหน้ารับ
"ก็เป็นอย่างนี้บ่อยๆ อยู่แล้วนี่คะ พี่ติณ... พี่พัฒเขาต้องดูแลเด็กในสังกัด เวลาส่วนตัวยังไม่ค่อยจะมีเลย"
"แต่ข่าวนี่มันไม่ดีสำหรับเขาเลยนะตุล"
"นั่นสิคะ... ตุลเองยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย อย่างพี่พัฒเนี่ยนะจะไปมั่วยาปาร์ตี้กับเขาได้ แต่ก็อย่างว่านะคะพี่ติณ ขึ้นชื่อว่าวงการบันเทิงอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น"
คำพูดของตุลยาทำให้ติณณภพยิ่งอดเป็นห่วงพัฒศรีมากขึ้น

พุชชี่เดินหน้าเอาเรื่องมาแทรกกลางระหว่างเน็กซ์กับพวกวัยรุ่น
"กลับบ้านไปกับชั้นเดี๋ยวนี้เลยนะเน็กซ์ ตั้ม เธอก็ด้วย"
"เดี๋ยวผมตามกลับไป"
"แต่ชั้นสั่งให้เธอกลับไปกับชั้นเดี๋ยวนี้"
"เฮ้ย...ไงวะไอ้หน้าว๊อก แม่มาตามเลยกลัวขี้หดเลยเหรอวะ" วัยรุ่นบอก
เน็กซ์ชักสีหน้าไม่พอใจ หล่อนดันเน็กซ์ให้ถอยไปแล้วหันมาจิกหน้าเอาเรื่องกับพวกวัยรุ่นปากเสีย
"เมื่อกี้เรียกใครแม่...หา ! ชั้นถามว่าเรียกใครแม่"
พุชชี่ขึ้นเสียงดังจนพวกมันแสบแก้วหู เท่านั้นไม่พอ หล่อนยังเข้าไปจิกหน้าร้ายจ้องตาเขม็งกับตัวหัวโจก
"นี่ใช่มั้ยตัวหัวโจก อายุเท่าไหร่แล้วเรา"
"เอ่อ..."
"เอ้า...อ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้ ต่อหน้าผู้หญิงมาอ้ำๆอึ้งๆแบบนี้ เขาเรียกไม่มีน้ำยา เก่งแต่ปาก"
"อายุ 19"
"19 ! แต่ทำไมหนังหน้าอย่างกับ 30"
พรรคพวกมันพากันหัวเราะกันเอง หล่อนซ้ำอีกด้วยการตบหน้าเบาๆ
"อี๋...นอกจากหนังหน้าจะไปไกลแล้วยังมันแพล่บอีก ไม่ใช่หน้าคนแล้วนะเนี่ย ต้องเรียก กระทะทอดหอยถึงจะถูก"
พรรคพวกมันปล่อยก๊ากที่เพื่อนโดนหล่อนเหน็บด่าเจ็บๆคันๆ จนมันหน้าเสียเหวอไปไม่ถูกทาง หัวโจกหันมาเงื้อมือจะเอาเรื่อง
หมับ ! หล่อนคว้ามือมันเอาไว้กลางอากาศแล้วจับแขนบิดทันทีจนมันร้องโอดโอยก่อนจะถอดแว่นดำออก
"คิดให้ดีๆ นะน้องถ้าอยากมีเรื่องกับมาดามพุชชี่ล่ะก็ แกได้รู้จักว่านรกเป็นยังไงแน่"
วัยรุ่นอึ้งตกใจ
"มาดามพุชชี่ !"
พุชชี่บิดแขนมันแล้วผลักออกไปแรงๆ พวกมันเห็นว่า เป็นมาดามพุชชี่ตัวจริงเสียงจริง แถมยังท่าทางเอาเรื่องจนน่ากลัว เลยไม่อยากมีปัญหารีบพากันวิ่งเตลิด แล้วหล่อนก็หันมาที่เน็กซ์ซึ่งยืนอึ้งๆเหวอๆ
หล่อนจิกหน้ามองเน็กซ์อย่างเอาเรื่องสุดๆ จนเน็กซ์ขนหัวแทบลุก ตั้มสะกิดเน็กซ์
"พี่ขอโทษว่ะเน็กซ์ งานเข้าแกแล้วล่ะ"

เน็กซ์ถูกพุชชี่ดึงติ่งหูลากตัวพากลับเข้ามา
"โอ๊ยๆๆ เจ็บนะป้า หูคนนะไม่ใช่หูกระต่าย ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ก็แค่ไปออกกำลังกาย อยู่แต่ในบ้านมันน่าเบื่อ"
"แต่บ้านนี้มีห้องฟิตเนส อยากบ้าพลังก็ไปบ้าในนั้น ไม่ใช่ออกไปหาเรื่องเดือดร้อนให้ชั้น"
"นี่ใจคอจะขังผมเอาไว้ไม่ให้ไปไหนเลยเหรอไง ผมคนนะไม่ใช่สัตว์เลี้ยง"
"ในสัญญาระบุว่าชั้นเป็นผู้ปกครองเธอ เพราะฉะนั้นเธอต้องอยู่ในสายตาชั้นตลอดเวลา"
เน็กซ์เจ็บใจ
"ยัยป้าเผด็จการ ขอให้ขึ้นคานไม่มีใครเอา ไม่มีลูกมีหลานคอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้ตอนแก่ อยู่บ้านพักคนชราก็ไม่มีเพื่อน เหงาตายไปคนเดียวเลย"
หล่อนเหวอ
"ไอ้...ไอ้ เด็กนรก ชั้นต้องลากหมาในปากแกออกมาให้ได้แล้วค่อยดันให้เป็น ดารา ไม่งั้นอย่ามาเรียกชั้นมาดามพุชชี่"
หล่อนปรี่เข้าไปบีบเขย่าคอเน็กซ์แรงๆจนหน้าดำหน้าแดง ลอร่าชะโงกหน้าเข้ามาดูแล้วสะดุ้งโหยงขนลุกขนพอง สีหน้าครุ่นคิด

ท่ามกลางบรรยากาศในวัด เจ๊เมี่ยงพาดาราในสังกัดหล่อๆ สวยๆ มาทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ
"เอ้า...เร็วเข้า เร็วเข้า เด็กๆของเจ๊ มาถ่ายรูปกันตรงนี้เร้ว... พี่ๆนักข่าวเขาอุตส่าห์สละเวลามาร่วมกันทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือกับพวกเรา"
เจ๊เมี่ยงต้อนเด็กให้มารวมกันถ่ายรูปหน้าคอกวัวควายที่ตั้งใจมาไถ่ชีวิต แสงไฟแฟลชวูบวาบ นางฉีกยิ้มโพสต์กับเด็กๆในสังกัดสุดฤทธิ์ โดยเฉพาะกับหมอกี้และฝันหวานๆเป็นพิเศษ
นักข่าวยื่นไมค์สัมภาษณ์
"เจ๊เมี่ยงคะ... จริงรึเปล่าคะที่เขาว่าเงินทำบุญวันนี้มาจากค่าเสียหาย ที่มาดามพุชชี่ถูกศาลบังคับให้จ่ายเจ๊"
"แหม...วงการนี้ปิดกันให้แซ่ด ! จังเลยนะคะคุณน้อง ที่จริงเจ๊ก็ไม่ได้อยากทำอะไรให้มันเอิกเกริกหรอกนะคะ สงสารคู่กรณีเขา"
"ตกลงว่าจริงใช่มั้ยคะ"
นางตีหน้าแสนดีสุดฤทธิ์
"เจ๊สงสารเขานะคะ ไม่ได้อยากได้เงินเขาเลย แต่เมื่อมันเป็นคดีความแล้วก็ต้องทำตามกฏหมาย เงินที่ได้มาก็เลยไม่เก็บเอาไว้ เจ๊ตั้งใจตระเวนทำบุญให้หมด บุญกุศลจะได้ช่วยให้เจ๊กับเขาไม่กลายเป็นศัตรูกันค่ะ"
พวกเด็กๆในสังกัดเหมือนรู้คิว ทุกคนปรบมือให้นางอย่างชื่นชม นางฉีกยิ้มรับความชื่นชมและโพสต์ท่าถ่ายรูปกับเด็กๆ สุดฤทธิ์ราวกับซีนนี้ตัวเองต้องเป็นนางเอกเท่านั้น!
ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือแบรนด์เนมของนางดังขึ้น จึงหยิบขึ้นมาดูเบอร์แล้วกดตัดสาย
"ไม่มีอะไรค่ะน้องๆ ถ่ายรูปกันต่อนะ ขอรูปเห็นตอนเจ๊กำลังบริจาคโคกระบือเยอะๆนะ"
นางยังโพสท่าต่อ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นจนนางชักสีหน้า
"เดี๋ยวเจ๊ขอตัวก่อนนะคะ ผู้ใหญ่ในช่องโทร.ตามเจ๊น่ะ"
นางรีบหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมเดินจ้ำออกไปเร็วๆ จนถึงมุมเปลี่ยวๆในวัดแล้วเอาโทรศัพท์มากดรับสายอย่างหัวเสีย
"ต้องให้ชั้นไปกระตุกติ่งหูหล่อนมาถุยใส่ใช่มั้ย หล่อนถึงจะเลิกโทรมากวน"
ภายในบ้านพุชชี่ ลอร่าเป็นสายสืบให้กับเจ๊เมี่ยง ลอร่าทำลับๆล่อๆคุยอยู่
"เบาๆก็ได้เจ๊ เดี๋ยวเสียงเจ๊จะรอดผ่านโทรศัพท์ไปถึงหูมาดาม แล้วจะซวยกันหมด"
"ชั้นจะไปซวยอะไรกับหล่อนด้วยยะ ธุรกิจของเรามันจบไปแล้วย่ะ แค่นี้นะ"
"เดี๋ยวเจ๊ ! ที่โทรมาเนี่ย ลอร่าหวังดีจริงๆนะ ไม่อยากให้ประมาทแล้วกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ"
"เพลี่ยงพล้ำอะไรยะ"
"ก็เด็กใหม่ของมาดามที่ลอร่าเคยโทร.ไปเตือนเจ๊ไง ลอร่าคอนเฟิร์มจริงๆ นะคะ เด็กคนนี้ หล่อจริงอะไรจริง ทั้งแซ่บทั้งเป๊ะเว่อร์กว่าหมอกี้ของเจ๊ เหมือนเด็กชงโอเลี้ยงกับ…"
เจ๊เมี่ยงชักรำคาญ
"พอได้แล้วยัยลอร่า ! ชั้นขี้เกียจฟังหล่อนสตอร์แล้ว ถ้าหล่อนมั่นใจว่า เด็กใหม่นังพุชชี่มันแซ่บเว่อร์กว่าหมอกี้ของชั้นหล่อนก็ส่งรูปมาให้ชั้นดูเดี๋ยวนี้เลย"
"เท่าไหร่คะ"
"รูปเดียวก็พอย่ะ"
"ไม่ใช่ค่ะ...ค่ารูปน่ะรูปละเท่าไหร่"
เจ๊เมี่ยงเหวอ

"นังเขี้ยว"
 
อ่านต่อตอนที่ 3
วิมานมะพร้าว ตอนที่ 1
วิมานมะพร้าว ตอนที่ 1
ป้าย “ปิดกิจการ” ขนาดใหญ่ ขึงติดอยู่ที่ประตูโรงงานแห่งหนึ่ง คนงานออกันอยู่ที่ประตู มีรปภ.คุมสถานการณ์อยู่ 1 คน คนงานส่งเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่อย่างไม่พอใจ จุลลาขี่รถซุปเปอร์ไบค์ ใส่กางเกงยีนส์ แจ็กเก็ตหนัง สวมถุงมือ หมวกกันน็อคมาตามถนน คนงานเริ่มกรูเข้าไปพังประตูโรงงาน จุลลาขี่รถมาถึงหน้าโรงงานเห็นความวุ่นวายรีบจอดรถ คนงานยังคงพยายามจะเข้าไปในโรงงานให้ได้ รปภ. พยายามป้องกันสุดชีวิต จุลลาถอดหมวกกันน็อกแขวนไว้ที่แฮนด์มอเตอร์ไซค์ จุลลาที่รวบผมดูทะมัดทะแมง แต่งหน้าอ่อนๆ สวยใส มองดูเหตุการณ์อย่างตกใจ แล้ววิ่งเข้าไปพลางร้องตะโกน “ใจเย็นๆ ก่อน เกิดอะไรขึ้น ค่อยๆ คุยกัน อย่าใช้ความรุนแรง!” “นายช่าง จู่ๆ เค้าก็ปิดโรงงาน ไม่แจ้งพวกเราสักคำ”
กำลังโหลดความคิดเห็น