ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 12
บนกุฏิหลวงตาปิ่น เวลาค่ำ
"คนน่ะมันต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ก็ตรงที่แยกผิดชอบชั่วดีได้ หลวงตาว่าโยมแม่ของเณรน่ะ เขาก็ต้องอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาต้องรู้ว่า อะไรเป็นความสุข ความทุกข์อยู่เหมือนกัน"
"แต่โยมแม่ก็ยังวนเวียนอยู่อย่างเดิม"
"จิตใจเขาไม่เข้มแข็งพอเณร เขาถึงต้องพ่ายแพ้ต่อมารทุกทีไป"
"ผมสงสารโยมแม่ครับ"
"เราแบกโลกไว้ทั้งหมดไม่ได้หรอกเณร ปลงซะเถอะ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดก็แล้วกัน ตั้งใจเรียนศึกษาธรรม ประพฤติแต่กรรมดี วันนึงโยมแม่อาจจะได้คิด"
บ่อนเฮียเล้งในเวลาเดียวกัน ลำยองออดอ้อนเมาๆกับเฮียเล้ง
"น่า...เฮีย เฮียน่ะใจดี๊ใจดี ขอฉันเพิ่มอีกหน่อยเถอะนะ"
"คืนนี้ลื้อมาตอดไปสองรอบแล้วนา"
"แหมเฮีย...บ้านกับที่ฉันก็อยู่กับเฮีย เฮียจะกลัวอะไรเนี่ย"
"เอางี้...ลื้อพิมพ์ลายมือลื้อไว้"
"จดเอาไว้ก็พอ ทำไมต้องพิมพ์ด้วย"
"กันลืม เดี๋ยวลื้อสร่างเมาจะมาหาว่าอั๊วลักไก่"
กระดาษเปล่าถูกวางลงตรงหน้า ลำยองมองกระดาษเขม็ง
"ไม่เห็นมีอะไรเลย"
"ก็พิมพ์มือลงมาก่อนเดี๋ยวค่อยเขียนทีหลังก็ได้"
ลำยองจะกดหัวแม่มือลงหมึกอยู่แล้วเกิดลังเลเปลี่ยนใจ
เล้งเก็บกระดาษ
"ไม่อยากได้เงินก็ตามใจลื้อ"
"พิมพ์ก็พิมพ์"
ลำยองกดนิ้วลงหมึก แล้วพิมพ์ลงกระดาษเปล่า
ลำยองยิ้มประจบ
"ขอเพิ่มเป็นซักสองพันนะเฮีย"
ปั้นพูดกับสันต์ที่เรือนแพ
"บ้านกับที่ตั้งหลายแสน มันเอาไปขายฝากเขาแค่ห้าหมื่น"
"อะไรนะครับ ขายฝากมันก็แค่ปีเดียวน่ะสิ แล้วถ้าเกิดหลุดเขาจะยอมให้อยู่เหรอ เขาต้องยึดแน่"
"ก็นั่นน่ะสิ...ถ้าเณรรู้ว่าบ้านจะหลุด จะอยู่ในผ้าเหลืองได้เหรอ ถึงอยู่ได้ก็ไม่เป็นสุขสงบอย่างนี้หรอก"
"เสียดายนะครับ...กำนันเสืออุตส่าห์มีน้ำใจยกบ้านให้แท้ๆ ทำไมลำยองถึงล้างผลาญตัวเองกับลูกได้ลงคอขนาดนี้"
ของแห้งของกินมากมาย ทั้งโอวัลติน นมสดตราหมี, นมข้นหวานโหลนึง ปลากระป๋อง ผักดองกระป๋อง น้ำหวานเฮลส์บูลบอยมากมายเป็นโหลๆ ไข่เค็มไข่สด ถูกถวายต่อหน้าเณร
"ทำไมเยอะแยะมากมายอย่างนี้ล่ะครับ"
"อาเทวี เขาเป็นคนจัดการน่ะเณร" สันต์บอก
"ฉันอีกเดือนก็ยังไม่หมด"
"เณรฉันไม่หมด ก็เอาไปแจกให้คนอื่นสิคะ ทำทานน่ะค่ะ ดิฉันตั้งใจซื้อมาถวายท่าน ท่านรับประเคนแล้ว หลังจากนี้ท่านจะจัดการยังไงก็สุดแท้แต่ท่านค่ะ"
ที่บ้านลำยอง อ้อยคว้ากระป๋องโอวัลตินไปกอดแล้ววิ่งหนีไป เหมือนกลัวใครแย่ง เณรทยอยเอาของออกมาจากถุงย่ามให้น้องๆ เหน่ง, จิตรา ตื่นเต้นร่าเริงกับของที่ได้
ลำยองที่นอนแผ่แบะอยู่มุมหนึ่ง โวยวายเพราะรำคาญ
"อะไรของมึงอีอ้อย มึงไปเล่นไกลๆตีนกูเลย...ไป้"
เณรเดินเข้ามาหาลำยอง
"เอ้า...เณร มาตั้งแต่เมื่อไหร่"
"สักพักแล้วครับ โยมแม่เป็นยังไงบ้าง"
"ปวดหลัง ปวดตัว ปวดขาปวดมันไปหมด ไอ้ลูกคนนี้มันเกิดมาทรมานแม่ชัดๆ เมื่อไหร่มันจะคลอดๆออกมาซะทีก็ไม่รู้"
"โยมแม่ไปหาหมอสิครับ"
"ไม่มีเงินแล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปหาหมอ"
"หมอชดก็ได้นี่ครับ ถึงไม่มีเงินแกก็ช่วยรักษา"
"ขี้เกียจไป"
เณรพูดไม่ออก
"ผมต้องรีบไปเรียนหนังสือแล้ว"
เณรขยับลุกขึ้น
"มีแต่ของมาให้อีพวกนี้มัน ไม่คิดจะเอาเงินมาให้แม่บ้างเหรอ"
เณรอึ้ง
"ของพวกนี้โยมเขาเอามาถวายทำบุญนะครับ"
"ไปอยู่สุขสบายแล้ว ก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวนะเณรนะ"
ลำยองล้มตัวลงนอนต่อ
"อีอ้อย มึงมานวดให้กูหน่อย อีนี่ ไม่รู้จักบุญคุณกูเลย กูเป็นแม่มึงนะโว้ย"
เณรชะงักหันกลับมามองแม่ ก่อนจะค่อยๆเดินกลับออกไป
หมอชดจดรายการยาสมุนไพรที่ต้องไปซื้อมาต้มยื่นให้แล ลำยองนั่งเหยียดขาเพราะท้องค้ำโต หน้าบอกบุญไม่รับ
"ไปร้านเจ้ากรมเป๋อแล้วให้เขาจัดยานี้ให้ ต้มกินแทนน้ำไปเลยได้ยิ่งดี"
"ขมจะตาย ยาหม้อยาต้มเนี่ย"
"ขมยังไงมึงก็ต้องกิน ไม่อยากหายรึไง"
"แต่ทางที่ดีนะแม่แล...พาไปหาหมอที่ศิริราชจะดีกว่า"
"หนักหนาเหรอจ๊ะหมอ"
"อย่าลืมว่ามีเด็กในท้องด้วย ต้องระวัง"
"หมอไม่ได้เก่งจริ
มากกว่า"
"อีลำยอง"
"ถ้าก่งจริง ทำไมทายไม่แม่นล่ะ ลูกชายข้าบวชมาตั้งหลายเดือนแล้วไม่เห็นข้าจะโชคดีอย่างที่ว่าซะที"
"อีลำยอง"
"ยังงี้มันโกหกหลอกลวงกันชัดๆนี่หว่า"
ลำยงพูดขึ้นที่เพิงก๋วยเตี๋ยว
"มันจะโชคดีเข้าไปได้ยังไง ทำตัวเละเทะยังงี้"
ยายแลเครียดกุมขมับ
"มึงไม่ต้องมาเถียงแทนมัน"
"พี่ผิดคำสัญญาต่อหน้าพระเอง แล้วพี่จะโวยวายโทษโน่นนี่ทำไม"
ชุดบอก
"พอเหอะลำยง อย่าไปต่อล้อต่อเถียงเลย"
"กูจะเอาลูกกูสึกออกมาช่วยกันทำมาหากิน"
"มึงทำยังงั้นไม่ได้นะ อีลำยอง"
"ทำไมจะไม่ได้ ให้บวชได้แล้ว ทำไมจะให้สึกไม่ได้วะ"
"ยิ่งบาปหนักขึ้นไปอีก แค่คิดก็บาปจนไม่รู้จะบาปยังไงแล้ว" ลำยงว่า
ลำดวนวิ่งหน้าเริ่ดเข้ามาแต่ไกล
"แม่...แม่...พี่ลำยอง"
"กูให้ดูไอ้สามตัวนั่นไว้ มึงกลับมาทำไม นังลำดวน"
"ไปดูบ้านไวๆ"
ภายในบ้านลำยอง อ้อย,เหน่ง,จิตรา ถูกเอามากองรวมกันอยู่มุมหนึ่ง ที่หน้าบ้านข้าวของหลายอย่างถูกโยนทิ้งออกมา ลูกน้องเสี่ยเล้งเข้ามามาเคลียร์บ้าน ยายแล, ลำดวน วิ่งมาถึงก่อน ลำยองอุ้ยอ้ายปวดขาตามมา
"เฮ้ย...พวกเอ็งทำอะไรกันวะ"
"มาก็ดีแล้ว...สมบัติพวกเอ็งน่ะขนๆออกไปซะ เจ้าของบ้านเขาสั่งมา"
ลำยองถลกผ้าถุง
"กูนี่แหละเจ้าของบ้าน"
"เข้าใจผิดหรือสติไม่ดีวะอีบ้า บ้านนี้มันเป็นของเฮียเล้งเขาแล้วโว้ย"
บ่อนเสี่ยเล้ง ในเวลาต่อมา ลำยองชี้หน้าถกผ้าพร้อมลุย
"มึงโกงกู"
"กูไปโกงมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ มึงเอาทั้งที่ ทั้งบ้านมาขายฝากกูไว้ สัญญาก็มี มึงอย่ามาทำเลอะเลือน"
"ขายฝากมันปีนึง หมาที่ไหนมันก็รู้"
"แล้วอีหมาตัวไหนมันมาพิมพ์แปะโป้ง มันเอาไว้ว่าเป็นหนี้กู ยอมยกที่ ยกบ้านให้กูวะเนี่ย"
เล้งรับกระดาษเขียนลายมือ ท้ายกระดาษมีพิมพ์ลายนิ้วมือลำยองจากลูกน้องมาชูอวด แล้วหัวเราะบาดอารมณ์
"อีลำยอง มึงไปยกให้เขาตั้งแต่เมื่อไหร่" แลถาม
"(ไอ้เหี้ย) มึงโกงกู มึงโกงกู"
ลำยองคลั่งจนยั้งอารมณ์ตัวเองไม่อยู่พุ่งเข้าลุยเสี่ยเล้ง ถีบเข้าได้ทีหนึ่ง จนเสี่ยเล้งแทบล้มหงายหลัง แลพยายามจะเข้าดึงลำยองไว้ แต่คว้าตัวไม่ทัน
ลำยองคลั่งจิกข่วนเสี่ยเล้ง แทบจะควักลูกตาให้ได้ สมุนเสี่ยปราดเข้ามากัน คว้าตัวลำยองแล้วเหวี่ยงกระชากอย่างแรง จนล้มหงายหลังกระแทกพื้นอย่างแรง ลำยองปวดแปล๊บจนนิ่งอึ้งไป
"อีขี้เมา มึงไสหัวไปเลยนะมึง แล้วถ้ายังกลับมาอีก มึงโดนดีแน่"
ยายแลพยายามฉุดลำยองลุกขึ้น เลือดไหลนองเต็มพื้นปะปนกับของเหลวภายใน ลำยองยกมือที่เปื้อนเลือด แดงฉานขึ้นมาจนเห็นเต็มตา
ลำยงถามแม่ ในคืนนั้น
"แล้วหมอเขาว่ายังไงแม่"
"เด็กมันตายในท้องแม่ตั้งนานแล้ว" แลบอก
"เวรกรรม"
ลำดวนบอก
"ถึงว่าสิ มันเข้ามาใกล้ ๆ ถึงได้เหม็นเหมือนอะไรเน่า"
"แล้วนี่ต้องนอนโรงพยาบาลกี่วัน" ชุดถาม
"ยังไม่รู้เลย หมอเขาไม่ได้บอก"
"หามาได้เท่าไรก็ต้องมาหมดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องทุกที" ลำดวนว่า
"ยังไงมันก็พี่มึงแหละ อีลำดวน"
"ฉันว่ายังงี้ก็ดีเหมือนกัน ตาย ๆ ไปซะหมดเวร ไม่ต้องมาลืมตาดูโลกนี้หรอก มันทรมานเปล่า ๆ" ลำยงบอก
"ถ้าเณรรู้จะว่ายังไงบ้างก็ไม่รู้นะ" ชุดว่า
"พวกเอ็งก็อย่าให้รู้สิวะ"
"แล้วแม่คิดว่าเราจะปิดเณรไปได้นานแค่ไหนกัน" ลำยงบอก
เวลากลางวัน เณรสะพายย่ามใส่ทั้งหนังสือเรียน และของกินที่จะเอามาฝากน้อง ๆ เดินมาถึงหน้าบ้าน แต่ต้องชะงัก ชายคนหนึ่งเดินออกมาพอดี
"มาหาใครเณร"
"โยมแม่อยู่ไหมครับ"
"แม่ใคร"
เณรได้แต่อึ้ง
"อ๋อ...อีขี้เมาท้องโตนั่นนะเหรอ"
เณรยิ่งอึ้ง
"ไม่มีใครอยู่บ้านนี้แล้วเณร ย้ายออกกันไปหมดแล้ว"
"ย้ายไปไหนครับ"
"ไม่รู้...แต่บ้านนี้เป็นของเสี่ยเล้งเขาแล้วเณร"
ภายในบ้านแล ลำยองอยากเหล้า ปวดไปทั้งตัว ร้องไห้ฟูมฟาย อ้อยเข้ามานัวเนียใกล้ ๆ
"อีอ้อย มึงไปไกล ๆ กู กูรำคาญ"
"มึงจะโวยวายทำไม หนวกหู...เกรงใจชาวบ้านชาวช่องเขามั่ง หาความสงบสุขไม่ได้เลยโว้ยบ้านนี้"
ยายแลลากอ้อยออกไปทางหนึ่ง
"อีแล กูหิวข้าวจังเลย" ปอบอก
ลำยองร้องไห้ฟูมฟาย
"อีพวกนี้มันเกิดมาทวงเวรทวงกรรมกู"
"มึงน่ะแหละเกิดมาทวงเวรทวงกรรมกู เลี้ยงมึงโตมาแล้วยังต้องมาเลี้ยงลูกให้มึงอีก...ปัญญาก็ไม่ได้อ่อนซะหน่อยมึงน่ะ"
ลำยองร้องไห้
"ตั้งแต่เช้ากูยังไม่ได้กินข้าวเลย" ปอบอก
เณรยืนอยู่นอกประตู
"ไอ้เล้งมันมาหลอกกู กูจะฆ่ามัน มันยึดเอาบ้านไปแล้ว"
"ก็มึงมันโง่เอง เมาจนไม่มีสติ เขาให้ทำอะไรก็ทำหมด แล้วมึงจะมาตีโพยตีพายทำไมอีบ้า บ้านหลังนั้นกำนันเขาอุตส่าห์ยกหนี้ไว้ให้เด็ก ๆ มันอยู่กัน แต่มึงก็ทำลายหมด แล้วจะมาคร่ำครวญทำไม อีคนล้างพลาญ"
"แอร๊ย"
"อีแล...ทำไมมึงใจดำยังงี้ กูหิวไส้จะขาดแล้ว"
"เบื่อโว้ย เบื่อ"
ยายแลเดินออกมาแล้วต้องชะงักเพราะเณรยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
"อ้าวเณร มาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่ไปเรียนหนังสือ"
"ผมมาดูโยมแม่...ไปที่บ้านโน่นแล้วมีคนบอกว่า..."
ปอตามมาเห็นเณรก็ลงนั่งยอง ๆ ไหว้ท่วมหัวแล้วปูดเข้ามาแหกดูถุงย่ามเณร
"พระมาโปรดกูแล้ว"
"ไอ้ปอ ไอ้ปอ"
เณรหยิบห่อกับข้าวออกมาให้ ปอได้ของกิน ดีใจ คลานไปมุมส่วนตัวกินกับข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
"มึงจะท้องแตกตายไอ้ปอ กินแล้วบอกยังไม่ได้กิน"
"โยมแม่เป็นยังไงบ้างครับ"
เณรจะเข้าไปดูลำยอง แต่ยายแลขวางทางกันเอาไว้
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกเณร ก็แค่โวยวายไปตามเรื่อง อีกหน่อยก็คงทำใจได้"
"ใกล้คลอดน้องแล้วด้วยไม่ใช่เหรอครับโยมยาย"
"น้องเณรคนนี้มันบุญน้อย"
"หมายความว่ายังไงครับ"
ลำยองลุกโซเซมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ พรวดพราดเข้ามาเผชิญหน้าเณร
"ไหนว่าลูกบวชแล้วจะเจริญไง โกหกตอแหลกันทั้งนั้น"
"อีลำยอง... ไปนอนไป"
ยายแลพยายามกันลำยองออกไป
"มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง หมดตัวแล้วรู้ไหมบ้านช่องก็ถูกมันโกงเอาไปหมด"
ลำยองร้องฟูมฟายพูดวนเวียนฟังไม่รู้เรื่อง แล้วหมดแรงเอง ตัวงอลงไปกองกับพื้น ร้องไห้ฟูมฟาย เณรมองแม่สงสาร
"ไม่ต้องสนใจหรอกเณร เดี๋ยวมันก็ทำใจได้ เณรรีบไปเรียนหนังสือเถอะ"
ยายแลพยายามทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 12 (ต่อ)
ที่กลางซอยเณรเดินมาแล้วเห็น แป้งกำลังส่งยา รับเงินกันอยู่ในมุมหลืบลับตาคน แป้งเห็นเณรที่ยืนดูอยู่จึงเดินเข้ามาหา
"ไงวะไอ้วัน"
"โยมน้ายังไม่เลิกทำงานแบบนี้อีกเหรอครับ"
"มันเป็นธุรกิจโว้ย เลิกไม่ได้หรอก ขืนเลิกลูกค้าข้าลงแดงตายกันหมด" แป้งพูดพลางหัวเราะ
"โยมน้าก็รู้ว่ามันไม่ดี"
"พอห่มผ้าเหลืองแล้วต้องเทศน์โปรดสัตว์ยังงี้เหรอวะ"
"เลิกทำบาปเถอะครับโยมน้า"
"ไอ้ตัวบาปนี่มันเป็นยังไงวะ ไหนเอ็งบอกให้ข้ารู้หน่อย มันมีขนไหม มีเขารึเปล่า"
แป้งหัวเราะอีก
"โยมน้าทำไมไม่สงสารโยมยายบ้าง"
แป้งชะงัก ค่อย ๆ หยุดหัวเราะ
"แล้วเอ็งล่ะ ไม่สงสารแม่เอ็งบ้างรึไงวะ ถึงได้หนีไปบวชยังงี้ เองมันสบายแล้วนี่หว่า อยู่เฉย ๆ ก็มีข้าวกิน มีคนเอาเงินมาให้ใช้ แถมยังยกมือไหว้อีกต่างหาก"
แป้งเดินส่ายอาด ๆ ออกมา
เพิงก๋วยเตี๋ยวลำยง
"ข้าว่าแล้ว...มันจะปิดไปได้นานแค่ไหนกัน แล้วเณรว่ายังไงบ้าง" ปั้นถาม
"ก็นิ่งๆไปเลยนะสิ ข้าไม่แน่ใจว่าเณรคิดอะไรอยู่" แลว่า
"เกิดเห็นแม่เห็นน้อง ๆ ลำบาก แล้วเกิดสึกออกมาล่ะ"
"ขออย่าให้เป็นยังงั้นเล๊ย ยัยปั้น"
ตอนเย็น เจ้าของร้านของชำรินเหล้าใส่กั๊กขายปลีกให้ลำยองรับเหล้ามามือสั่นจนต้องประคองด้วยสองมือ เจ้าของร้านมองคิ้วขมวดมอง
"มองอะไร ไม่เคยเห็นคนรึไง"
ลูกค้าอีกอีกคนเข้ามาในร้าน
"ซื้ออะไรจ๊ะ"
"เอาแฟ๊บมากล่อง สารส้มด้วย"
เจ้าของร้านขยับไปหยิบของขายลูกค้า ลำยองซดเหล้าเข้าปากพรวดเดียวหมดกั๊ก แล้วมองตามเจ้าของร้านที่สาละวนขายของให้อีกคน ลำยองตัดสินใจโดยไม่ใคร่ครวญนาน เอื้อมไปหยิบเงินในตะกร้าคว้าเหล้าทั้งขวดแล้วโกยหนีทันที เจ้าของร้านหันมาเห็นพอดี
"ว๊าย ขโมย ขโมย ช่วยจับที"
ลำยองวิ่งกะโผลกกะเผลกหนีไป
ยายแลฟังเจ้าของร้านอย่างอื้ออึ้ง
"มึงเลี้ยงลูกมึงยังไงวะ อีแลสันดานเสียกันทั้งโคตร"
ลำดวนเดือดบอก
" อ้าว...พูดกันดี ๆ ก็ได้โว้ย ทำไมต้องมาด่าเหมาโคตรกันยังงี้ด้วย"
"ก็มันไม่จริงรึไงวะ อีลำดวน คนเขาก็รู้กันไปทั้งซอยว่าโคตรเง่าสักหลาดพวกมึงน่ะ เน่าเฟะกันขนาดไหน"
"ปากหมายังงี้มาตบกันให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยดีกว่ามั้ง
ชุดพยายามเข้ายื้อห้ามลำดวน
"มึงพาลยังงี้ มึงจะไม่ยอมจ่ายเงินคืนกูใช่ไหม"
"อยากได้ก็ไปเก็บเอาที่พี่ลำยองมันสิโว้ย"
"อีลำดวน มึง" เจ้าของร้านเงื้อง่า
"อีลำดวน...มึงหุบปาก ลำยง มึงเอาเงินให้เขาไป"
ลำยงมองแม่อย่างเข้าใจ เห็นใจหยิบเงินส่งให้เจ้าของร้าน
"เท่านี้แหละ...บอกอีลำยองมันด้วยนะ หนหน้าถ้ามีอีก กูเอาตำรวจมาลากคอมันเข้าตะรางแน่"
เจ้าของร้านสะบัดออกไป ยายแลทรุดลงนั่งเหมือนหมดเรี่ยวแรง
ลำยงบอก
"ไม่รู้ชาติที่แล้วเป็นหนี้มันรึไง ชาตินี้ถึงต้องตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวยังงี้"
ยายแลทั้งเหนื่อยทั้งปลง
"ก็อย่างที่เขาว่านะแหละ กูมันผิดเอง กุเลี้ยงลูกไม่ดี มึงถึงได้เป็นยังงี้"
ฉากลิเกเก่าขาดวิ่น ห้อยพะเยิบพะยาบ บนโรงลิเก ขวดเหล้ากลิ้งอยู่ข้างตัว ลำยองเมาเต็มที่ เกาแผลน้ำเหลืองพุพองประทุอักเสบที่โคนขาหนีบแล้ว แล้วเคลื่อนมือมาเกาที่ซอกคอ ผื่นแดงเหมือนมีตุ่มน้ำใส ๆ ผุดขึ้นมา ยิ่งได้รับแอลกอฮอล์ยิ่งปรากฏชัดเจน
เสียงแตรวงขบวนแห่นาคดังแว่วมาแต่ไกล ลำยองขยับลุกขึ้น แล้วร่ายรำอย่างคึกคักมองหาที่มาของเสียง
ขบวนชาวบ้านร่ายรำกันสุดเหวี่ยงตามความคึกคักของแตรวงในจังหวะเร้าใจ ลำยองพุ่งเข้ามาปะปนกับฝูงคน ท่าทางสนุกสุดเหวี่ยงเพราะความเมา รำเหยิบ ๆ กับคนโน้นทีคนนี้ที พลางสลับเกาแผลที่คอ
ชาวบ้านหญิงเริ่มมองและขยับหนีห่างเพราะเห็นแผลเฟะที่คอ แล้วสะกิดกันให้ดู ลำยองรำเซเข้าไปปะทะชนชายหนุ่ม ชายหนุ่มกรุ้มกริ้มเพราะคิดว่าได้กำไรที่หญิงมาเบียดสี รำป้อ จนลำยองคว้ากอดคอ ชายหนุ่มจึงได้เห็นแผลลำยอง แล้วชิ่งหนีออกทันที
ทุกคนทิ้งระยะห่างไม่ย่อมเข้าใกล้ลำยอง ความสุข ความรื่นเริงอันตรธานไปทันทีกลายเป็นความหลอน
ลำยองแทบจะรำเดี่ยวอยู่หน้าแตรวง เมามันจนเซล้มคลุกฝุ่น แต่ลำยองยังหัวเราะอย่างสนุก
ชุดกับลำยงช่วยกันลากลำยองที่เมาแอ๋เข้ามา
"ไปเจอมันที่ไหนล่ะ" แลถาม
"ท้ายซอยข้างวัดโน่น พี่ชุดอย่าลืมล้างมือล้างไม้ด้วยล่ะ สบู่ก็เอาไม่อยู่หรอก ต้องแฟ๊บซะละมั
"
ลำยง, ชุด แยกไปล้างมือหลังร้าน ลำยองยังมันไม่เลิก รำเหยิบ ๆ เซเข้าไปใกล้ลูกค้าที่กินก๋วยเตี๋ยวอยู่ ลูกค้าเห็นลำยองแล้วได้แต่มองหน้ากัน หยุดเคี้ยว กินไม่ลง ก๋วยเตี๋ยวยังเหลือ
"เก็บตังค์ด้วยป้า"
ลำยองปักหลักไม่ยอมไปไหนจนลูกค้าต้องลุกหนี ออกไปยืนรอ
"หล่อนะเนี่ย...มีเมียรึยัง"
วันใหม่ ที่กุฏิหลวงตาปิ่น สันต์บอก
"อาเทวีเขาจะช่วยพาน้องอ้อยไปฝากเข้าโรงเรียนแน่ะครับเณร"
"จะเรียนได้ยังไงครับ ก็น้องอ้อย...ไม่เหมือนเด็กคนอื่น"
"เดี๋ยวนี้เขามีโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษอย่างน้องอ้อยแล้วค่ะเณร"
"เหรอครับ...ถ้ายังงั้นก็ดีสิครับ"
"แล้วมันจะเรียนได้ยังไงโยม แค่บอกให้มันนั่งนิ่ง ๆ เฉย ๆ มันยังทำไม่ได้เลย"
"เด็กพิเศษแบบนี้ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษค่ะหลวงลุง อย่างน้อยก็ต้องช่วยให้เขาดูแลช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เป็นภาระของคนอื่น"
"เณรสบายใจเถอะครับเรื่องน้อง ๆ ไม่ต้องห่วง"
เพิงก๋วยเตี๋ยวลำยง ยายแลถาม
"แล้วมันจะไปเรียนกะเขาได้เรอะเณร มันจะไม่ทำขายขี้หน้าเขาเหรอ"
"ก็ยังดีกว่าปล่อยให้อยู่บ้านเฉย ๆ นี่ครับโยมยาย"
"เอาเหอะน่าแม่...ไหน ๆ อาจารย์เทวีเขาก็รับปากจะช่วยแล้วนี่" ลำยงบอก
"แม่คนนี้เขาน้ำใจประเสริฐนะ ไม่ใช่ญาติโกโหติกากันซะหน่อย...แต่ช่วยเหลือทุกเรื่อง"
"เขาคงเกิดมาเพื่อเป็นครูบาอาจารย์จริง ๆ น่ะแหละแม่ จิตใจเขาถึงมีแต่การให้ยังงี้"
ลำดวนตะโกนเรียนลูกค้าที่เดินผ่านไปมา
"ไม่แวะกินก๋วยเตี๋ยวกันก่อนเหรอจ๊ะพี่ ก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวเนื้อมีจ้า"
คนผ่านไปมาไม่สนใจ
"คนมันไปไหนกันหมด ตั้งแต่เช้าเพิ่งขายได้สองสามชาม"
ชุดออกไปช่วยลำดวนเรียกลูกค้า
"โยมแม่ เป็นยังไงบ้างครับ"
ยายแลสบตาลำยงแว่บนึ
แล้วบอก
"ก็อยู่บ้านน่ะแหละเณร"
"ไม่ได้เข้าบ่อนแล้วใช่ไหมครับ"
"อื่อ..ไม่ได้ไปแล้วละ คงเข็ดคงได้คิดขึ้นมาบ้างแล้ว"
"ผมจะแวะไปเยี่ยมโยมแม่หน่อย"
ลำยงลนขึ้นมาทันที
"อย่าไปเลยเณร"
"ผมจะแวะเอากับข้าวเหลือฉันกับขนมไปฝากน้อง ๆ ด้วยครับ"
"เอาฝากไว้นี่แหละเณร ไม่ต้องไปหรอก"
"ทำไมล่ะครับ"
"เสียเวลาเปล่า ๆ เดี๋ยวเณรก็ไปเรียนหนังสือไม่ทันหรอก หมู่นี่แม่เณรเขาชอบนอนกลางวันด้วย ไปก็ไม่ได้คุยกันหรอก"
ภายในบ้านยายแล ประตูด้านนอกถูกคล้องสายยูไว้ด้วยตะปูงอเหมือนถูกถีบจากข้างใน ประตูพะเยิบพะยาบ ลำยองโทรม ผมเผ้าเป็นกระเซิง แผลสะเก็ดสลับแผลน้ำเหลืองประทุใหม่กระจายมากขึ้นลามไปถึงแขน กำลังถีบประตูห้องอย่างหัวเสีย คลั่ง
"พวกมึงมาขังกูไว้ทำไม ปล่อยกู"
เหน่ง, จิตรา กระจุกรวมกันอยู่มุมหนึ่ง
ด้วยความตื่นกลัว อ้อยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เล่นอยู่คนเดียว ตาปอนอนก้งโค้งเอาหมอนอุดหูสุดทน
"มึงหุบปากซะที กูหนวกหู...อีบ้า"
"มึงสิบ้า มึงไม่รู้รึไงว่ากูเป็นใคร กูเป็นนางฟ้าโว้ย"
"มึงเป็นนางฟ้า งั้นกูก็เป็นเทวดาสิวะ" ปอพูดพลางหัวเราะ
"กูจะกลับวิมานของกูแล้ว กูเบื่อ"
"มึงเป็นนางฟ้า แล้วทำไมมึงไม่เหาะขึ้นไปวะ มึงตอแหล มึงไม่ใช่นางฟ้าหรอก"
"กูเป็นนางฟ้า กูบอกว่ากูเป็นนางฟ้า"
ลำยองคลั่งเพราะขัดใจ ถีบประตูอย่างแรงจนประตูพังเปิดแหกอ้าออก
ลำยองวิ่งออกไปทันที
"ไอ้พวกฉิบหาย ขังกู พวกมึงต้องตกนรก"
ตาปอเดินออกมาดูอย่างทึ่ง
"มันเหาะไปแล้ว มันเป็นนางฟ้าจริง ๆ ด้วยวะ" ปอหัวเราะ
ลำยงถามชุด
"ใครมันมาเปิดขายแข่งกะเรารึเปล่าพี่ชุด ไปเดิน ๆ ดูหน่อยซิ"
"ไม่มีหรอก พี่ไปดูมาแล้ว"
"ของเหลอบานเบอะยังงี้ทุกวัน จะล่มจมเอานะโว้ยนังลำยง" แลบอก
ลำยงชักเครียด
ชาวบ้านผ่านมา ลำดวนถาม
"พี่...วันนี้ไม่แวะกินเตี๋ยวเหรอจ๊ะ"
"ใครจะไปกินลงวะ ก๋วยเตี๋ยวร้านเอ็งน่ะ"
ลำยง, แล หูผึ่ง ลุกออกมา
"ทำไม"
"คนเขาพูดกันไปทั้งซอยแล้วว่า อีลำยองมันเป็นผีมะม่วง ขืนมากินก๋วยเตี๋ยวร้านเอ็งก็ติดโรคมันตายห่าน่ะสิ แจกฟรียังไม่มีใครกล้ากินเลย"
ชาวบ้านเดินจากไป
ลำยงเข่าอ่อน, ชุดเซ็ง
"หมดกัน ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว" ลำดวนบอก
"อีลำยองนะอีลำยอง มึงเกิดมาล้างผลาญคนอื่นเขาแท้ ๆ" แลบอก
ลำยองเดินโซเซมาเห็นขวดเหล้าที่ถูกโยนทิ้งอยู่พงหญ้าข้างทางก็พุ่งเข้าไปเก็บขวดเหล้าขึ้นมา เผื่อจะมีเหล้าเหลือติดก้นขวด เมื่อยกขวดขึ้นเทใส่ปาก ไม่มีเหล้าสักหยด เลยโยนขวดทิ้ง แล้วตัวงอจนต้องไปนอนกองกับพื้นเพราะความปวด...ครวญคราง
ผู้คนที่ผ่านไปมา ได้แต่มองอย่างน่ารังเกียจ บางคนหยุดดูอย่างไม่กล้าเข้าใกล้
"คนไม่สบายรึเปล่าวะ"
"คนบ้ามากกว่า อย่าไปใกล้นะโว้ย แผลเน่าทั้งตัวเลยไม่เห็นรึไง"
ชาวบ้านพากันถอยออกไป ผู้คนเดินผ่านไปมาโยนเศษเหรียญลงไปใส่มือลำยอง สถานะที่ได้รับล่าสุด... ขอทาน
เจ้าของร้านขายของชำยืนท้าวสะเอวเอาเรื่อง
"มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร กูเป็นนางฟ้านะโว้ย เดี๋ยวกูสาปให้มึงกลายเป็นหมาเลย เอาเหล้ามาขายกูเดี๋ยวนี้"
"มึงไปไกล ๆ ร้านกูเลย อีตัวเชื้อโรค สกปรกเหม็นเน่าไปหมดอีบ้า ไป้"
ลำยองกรีดร้อง ชาวบ้านเอาน้ำมาสาดไล่ลำยอง
"ไป้...ยังไม่ไปอีก เดี๋ยวกูตีให้ตายเลย"
ชาวบ้านหยิบไม้มาไล่
"เอาเหล้ามาขายกู...กูมีเงินนะมึง ทองกูก็มีเป็นหีบ ๆ"
ลำยองอวดเศษเงินในมือ แต่ชาวบ้านทั้งสาดน้ำไล่ เอาไม้ไล่ตีจนลำยองต้องวิ่งหนีออกไป
เวลาเย็น เณรเดินกลับมาจากเรียนหนังสือ สะพายย่ามเดินเลี้ยวเข้าวัดไป ลำยองนอนตัวงอคลุกดินอยู่ในพุ่มไม้ร้องครางฮือ ๆ
บ้านแล เวลาเย็น ยายแลถามชุด
"เอ็งไปเจอมันที่ไหน"
"ข้างวัดโน่นแน่ะแม่"
"ข้างวัด...โชคดีนะมึงที่เณรไม่เจอเข้า"
"ฉันก็เสียวอยู่เหมือนกัน ต้องรีบลากตัวมันกลับมานี่แหละ เห็นยังงี้นะ..แรงมันเยอะยังกะม้า"
ลำดวน, ลำยง ต้องช่วยกันมัดลำยองเอาไว้ ลำยองเอาแต่ดิ้นทุรนทุราย แหกปาก
"ปล่อยกู ปล่อยกู"
"แผลเต็มตัวไปหมด เอามันไปโรงพยาบาลดีกว่ามั้งแม่" ลำยงบอก
"จะเอาไปยังไง สารรูปยังงี้ หมอเขาได้ไล่ตะเพิ่ดออกมาน่ะสิ" แลว่า
ลำยองดิ้นเตะถีบ
"ปล่อยกู"
ยายแลยัดผ้าก้อนใหญ่ใกล้ตัว อุดปากลำยองจนเงียบเสียงลงได้ ลำยองดิ้นรนตาเหลือก
หลังบ้านแลในเวลาต่อมา ลำยงล็อกตัวลำยองไว้ ลำดวนใช้กรรไกรกร้อนผมที่ยาวรุงรังเป็นสังกะตังทิ้ง ยายแลยกน้ำทั้งถังราดใส่ลำยอง
วันใหม่ เวลากลางวัน ที่เพิงก๋วยเตี๋ยว ลำยง, ชุดช่วยกันเก็บรวบรวมข้าวของอุปกรณ์ขายก๋วยเตี๋ยว
"เลิกขายเรอะ" ปั้นถาม
"ก็ไม่รู้จะทู่ซี้ขายต่อไปทำไมว่ะ กำรี้กำไรมันก็น้อยอยู่แล้ว มาเจอฤทธิ์อีลำยองมันเข้าอีก มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง ไม่มีใครกล้ามากินแล้ว แจกฟรียังไม่มีใครเอาเลย ยัยปั้นเอ๊ย" แลว่า
"แล้วนี่จะไปทำอะไรกินกัน กลับไปขายขนมอย่างเดิมเรอะ"
"ของกินคงขายไม่ได้หรอก เขารังเกียจนังลำยองมัน"
"เสียดายนะ...ลำยงมันเป็นคนมีฝีมือ ผัวมันก็ขยันตัวเป็นเกลียว"
"ทำยังไงได้วะ...ถึงคราวซวย"
"เอายังงี้ไหมยัยแล.. ให้ลำยงกับผัวมันไปขายกับของสดที่บ้านข้า"
แลนิ่งอึ้งเหมือนได้ยินผิดไป
"ตั้งแต่ตาสินตายไปนี่ ข้าก็ขายของแห้ง มะล็อกป๊อกแป๊กพอแก้เบื่อไปวันๆ มีแต่ลูกค้ามาถามซื้อกับข้าวของสด แต่คนเดียวก็ทำไม่ไหว ข้ายกมันให้เลย เห็นว่ามันขยันดีทั้งผัวมีย นังอ้อย ไอ้เหน่ง นังจิตราก็เอาไปเลี้ยงที่บ้านข้าก็ได้ ค่าเช่า ข้าไม่คิดหรอก"
"ยัยปั้น"
"ข้าเคยบอกเณรเอาไว้ ให้เอาน้องๆมาอยู่บ้านข้าได้ ถึงวันนี้ข้าก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจหรอกยัยแล"
แลน้ำตาร่วงแล้วปล่อยโฮออกมา ชุด,ลำยงหันมามอง ลำยงเข้ามาหาแม่
"แม่...เป็นอะไร"
"ข้าทำไม่ดีกะเอ็งมาสารพัด ทำไมเอ็งถึงยังมีน้ำใจกะข้าขนาดนี้ยัยปั้น"
ปั้นเอื้อมมือมาแตะแขนแลปลอบใจ
"คนเรามันก็เท่านี้แหละยัยแลเอ๊ย ไม่ใช่ว่าจะอยู่ค้ำฟ้ากันไปตลอดเมื่อไร อีกไม่นานก็ตายจากกันแล้ว ทำดีต่อกันไว้ไม่ดีกว่าเรอะ"
แลร้องไห้โฮตื้นตันใจ
สันต์บอกแม่ว่า
"ดีแล้วละครับแม่... คนดีคนขยันอย่างลำยงกับผัว ก็น่าจะได้รับสิ่งดีๆตอนแทนบ้าง อีกอย่าง ถ้าเณรได้เห็นว่าน้องๆอยู่กันสุขสบายขึ้น เณรจะได้สบายใจ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือได้เต็มที่"
"สบายใจเรื่องน้อง แต่ไม่รู้เรื่องแม่จะยิ่งทำให้กลุ้มขนาดไหน"
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 12 (ต่อ)
ลำยองนอนซมครางด้วยพิษไข้ และเจ็บปวด ลำดวนยกจานข้าวเข้ามา
"พี่ลำยอง...กินข้าว พี่ลำยอง ลุกนั่งไหวไหม"
ลำดวนไม่อยากจะจับตัวเพราะแผลแฉะฉ่ำไปทั้งตัว ตาปอเข้ามาจะหยิบข้าวในจานกิน
"พ่อ ของพ่ออยู่โน่น นี่ของพี่ลำยองมัน"
"กูอยากกินปลาเค็ม"
ลำดวนยื้อจานออกมา ลำยองลุกพรวดขึ้นนั่ง คลุ้มคลั่งเตะถีบ จนจานข้าวกระเจิงหกกระจาย
"แอร๊ย"
ลำดวนตกใจพุ่งหนีหลบไปทางนึง ตาปอหัวเราะชอบใจรีบคลานไปเก็บข้าวที่หกเกลื่อนพื้นกิน
สันต์กับแลที่ยืนมองอเนจอนาถใจ
สันต์เดินออกมาหน้าบ้านกับแล
"พาไปหาหมอเถอะน้าแล"
"มันไม่เหลือกซากคนเคยสวยที่สุดในซอยนี้เลย ใช่ไหมพ่อสันต์"
"ลำยองประมาทกับชีวิตตัวเองเกินไป"
"เพราะไอ้ยาดองเหล้าขวดนั้นแท้ๆ ถ้าข้าไม่เอามาให้มันกินจนติดตั้งแต่วันนั้น วันนี้มันก็คงไม่ทุเรศอย่างนี้"
"น้าแล อย่าโทษตัวเองเลย อะไรๆมันก็อยู่ที่ตัวลำยองเขาเองด้วย"
สันต์หยิบเงิน 500 บาทออกมาจากกระเป๋า
"เงินนี่ผมช่วยค่ารักษาลำยอง รีบพาไปหาหมอซะเถอะนะครับ"
ยายแลน้ำตาซึมนิ่งไปอึดใจไม่ยอมรับเงิน
"ข้ากับนังลำยองทำเลวกับเอ็งสารพัด เอ็งไม่ถือโทษเลยรึไง"
"ที่แล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะน้าแล ถือซะว่าเป็นกรรมที่ทำร่วมกันมา ตอนนี้ อะไรก็ไม่สำคัญเท่าต้องช่วยกันทำให้เณรสบายใจที่สุด จะได้มีสมาธิเรียนหนังสือนะน้าแล"
ยายแลป้ายน้ำตา พยักหน้าหงึกหงัก สันต์ยัดเงินใส่มือแล กุมมือเอาไว้ให้กำลังใจ
เณรวันเฉลิมเดินมาหยุดมองหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวด้วยความงง ลำยง, ชุด กำลังช่วยกับรื้อบางส่วนออก ลำยงหันมาเห็นเณร
"เณร"
"โยมน้าซ่อมร้านเหรอครับ"
"เอ่อ"
"รื้อออกน่ะเณร ไม่ได้ซ่อม"
"ไม่ขายก๋วยเตี๋ยวกันแล้วเหรอครับ"
ชุดกับลำยงสบตากันอย่างอึดอัดใจ
"กำไรมันน้อยน่ะเณร ทู่ซี้ขายไปก็เท่านั้น..เหนื่อยเปล่า" ลำยงฝืนกลั้วหัวเราะให้ดูเป็นเรื่องเล็ก
เณรกังวล
"เหรอครับ"
ชุดบอก
"ป้าปั้นโยมย่าของเณรแกยกเรือนแพแกให้เราไปขายกับข้าวของสดน่ะเณร ค่าเช่าแกก็ไม่คิด แถมน้องๆ เณร แกก็อนุญาตให้เอาไปอยู่ที่นั่นด้วยได้"
เณรค่อยยิ้มออก สบายใจขึ้น
"ก็ดีนะครับ บ้านโยมยายแออัดเกินไป โยมแม่เป็นยังไงบ้างครับ"
ลำยงฉุดชุดทันที
"อย่าไปเลยเณร"
เณรหยุดซะงักหันกลับมา
"ทำไมล่ะครับ"
ลำยงอ้ำอึ้ง
"คือ...คือ"
"เณรจะไปเรียนหนังสือไม่ทันเปล่าๆ" ชุดบอก
"นี่เพิ่งจะเที่ยงเองทันอยู่แล้ว"
เณรเดินออกไปทันที
"พี่ชุด ทำไมไม่ช่วยกันขวางเณรไว้"
"ขวางยังไงทันละ ไปโน่นแล้ว"
บ้านยายแล ลำดวน หอบผ้าห่มที่เปื้อนน้ำเหลือง น้ำหนองลำยองจะเอาออกไปซัก
"จะให้ซักทุกวันยังงี้ไม่ไหวหรอกนะ ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว"
ลำดวนจ๊ะเอ๋เข้ากับเณรที่ก้าวเข้ามาพอดี
"อ้าวเณร...มายังไงเนี่ย"
"ผมมาเยี่ยมโยมแม่ครับ"
ลำดวนส่งสัญญาณทางอ้อมดังกว่าปกติ
"แม่ แม่ เณรมา แม่"
แลพรวดพราดออกมารับหน้า
"เณร...ไม่ไปเรียนหนังสือเรอะ"
"ไปครับ แต่ผมขอเยี่ยมโยมแม่ก่อน"
"อย่าเพิ่งเข้าไปเลยเณร"
"ทำไมล่ะครับ"
ยายแลเลิกลั่กลำดวนก็ละล้าละลังทำอะไรไม่ถูก เณรเดินออกไปทันที ทั้งสองคนหัวใจแทบวาย กลัวเณรจะเห็นแผลเต็มตัวกับอาการป่วยของลำยอง
ในจังหวะที่เณรก้าวเข้ามา ลำยองนอนพลิกตัวดึงผ้าขึ้นห่มปิดตัว แผลเลยโดนปิดไปด้วย ทำให้เณรไม่ทันได้เห็นแผล แล,ลำดวน รีบตามเข้ามา
"แม่เณรเขากำลังหลับสบายน่ะ"
"ทำไมโยมแม่นอนกลางวันล่ะครับ"
"มันว่ากลางคืนนอนไม่ค่อยหลับน่ะเณร" แลบอก
ลำยองลุกพรวดขึ้นนั่ง มองมาเหมือนเป็นปกติ ละเมอ
"สามร้อยเองถูกยังกะอะไรดี"
เณรยิ้มให้ลำยอง
"โยมแม่"
ลำยองล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม แล,ลำดวนพากันโล่งอกหลังจากลุ้นตัวโก่ง ตาปอคลานเข้ามาย่องๆไหว้เณร
"อีแล เอาข้าวมาใส่บาตร พระมาโปรดแล้วมึง"
ลำยง, ลำดวน ประคองประกบลำยองที่ใช้ผ้าห่มคลุมออกมาจากบ้าน ชุดรอรับตัวอยู่บนท้ายรถรับจ้าง ลำยองเซื่องซึมดูป่วยปกติ ยายแลหยิบเงินออกมาส่งให้ลำยง สองพี่น้องขึ้นท้ายรถนั่งประกบลำยอง, ชุดขึ้นนั่งกับคนขับ....รถแล่นออก
ภายในโรงพยาบาล บ้านสมเด็จ คลองสาน ลำยองเกรี้ยวกราดไม่ยอมให้ใครจับ ลำดวนกับ พยาบาลเอาไม่อยู่
ลำยองชี้หน้ากราด
"พวกมึงมาจับกูทำไม พวกมึงไม่รู้ใช่ไหมว่ากูเป็นใคร"
"ให้หมอเขาตรวจหน่อยโว้ยพี่ลำยอง" ลำดวนบอก
"กูเป็นนางฟ้า...ผัวกูเป็นพระอินทร์นะโว้ย กูจะสาปให้พวกมึงเป็นหมากันให้หมดเลย"
ชุด, ลำยงคุยกับหมออยู่อีกมุมไม่ไกล
"หมอรับตัวไว้ไม่ได้หรอกครับ"
"ทำไมล่ะคะ ก็ที่นี่โรงพยาบาลรักษาคนบ้าไม่ใช่เหรอคะ"
"ครับ แต่คนไข้มีอาการทางประสาทก็เพราะผลกระทบจากซิฟิลิสนะครับ"
"รับตัวไว้รักษาไม่ได้เหรอครับ"
"หมอแนะนำให้พาคนไข้ไปรักษาที่วีดีคลินิกจะตรงกับโรคที่เป็นอยู่มากกว่าครับ"
ชุด-ลำยง เซ็ง เสียเวลาเปล่า ลำยองรำร่อนไปทั่วห้องแล้วปีนขึ้นเก้าอี้ ชี้กราดทุกคน
"ไอ้พวกขี้ข้า...บังอาจยังไม่ถวายบังคมข้าอีก"
รถแล่นปุเลง ๆ มาตามถนน บนท้ายรถลำยองยังโวยวายแหกปากชี้หน้าทุกคนข้างทาง
"พวกมึงน่ะตกนรกกันหมดไอ้พวกฉิบหาย...เห็นคนสวยแล้วยังไม่ไหว้อีก กูไม่ได้สวยอย่างเดียวนะมึง กูรวยด้วย ทองเต็มแขนเต็มคอเนี่ย พวกมึงเห็นไหม เงินกูมีเป็นหีบ ๆ เดี๋ยวกูเอามาแจกให้หมดเลย"
รถกระตุก ๆ แล้วเครื่องก็ดับลงกลางถนน คนขับพยายามสตาร์ทเครื่องแต่ก็ไม่สำเร็จ
"โธ่เอ๊ย...เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ" ลำดวนว่า
"ผัวกูเขารวยนะมึง หล่อยังกะเทพบุตร ร้อนโว้ย ร้อน"
ลำยองจะถอดผ้าออกซะตรงนั้นให้ได้ ลำยง, ลำดวนต้องยื้อห้าม ชุดลงจากรถมาจากข้างหน้า
"รถเป็นอะไรพี่ชุด"
"ไม่รู้ ช่วยกันเข็นหลบข้างทางก่อน ชาวบ้านเขาด่ากันใหญ่แล้ว"
ลำยง, ลำดวน ปีนออกมาจากท้ายรถ จะช่วยเข็น รถถูกเข็นหลบเข้าทาง ทุกคนหอบแฮ่กหลบไปอยู่ข้างรถ
"ผัวกู เขาไม่ได้มาหากูนานแล้ว"
ลำยองลุกพรวดแล้วปีนลงจากรถทันที ลำยงหันมาเห็นพอดี
"ว๊าย...พี่ลำยอง"
ลำยองวิ่งข้ามถนนอีกฝั่งทันที รถรามากมาย
"ช่วยกันจับเร็ว"
ชุด, ลำยง, ลำดวน วิ่งไล่ตามลำยอง แต่รถมาขวางเอาไว้ ลำยองหายไปจากสายตา
ชุดวิ่งมองหา เข้ามาถึงในซอย แต่ก็ไม่มีวี่แววลำยอง ลำยง, ลำดวนวิ่งตามมา
"ฉันว่ามันไม่ได้มาทางนี้หรอกซอยโน้นมากกว่า" ลำดวนบอก
"งั้นเอ็งไปดูซอยโน้น"
"ซอยมันน่าจะทะลุกันได้ พี่จะไปดูทางโน้นนะลำยง"
ลำดวนแยกออกไป ชุดแยกไป ลำยงกังวลจัด
"บ้าจัง พี่ลำยองนะ พี่ลำยอง"
เวลาเย็น ยายแลเข่าอ่อนแทบยืนไม่อยู่ เมื่อรู้ข่าว
"ฉันหาทุกซอยทุกมุมแล้วก็ไม่เจอ จนปัญญาแล้ว ถึงได้พากลับมา" ลำดวนบอก
"พรุ่งนี้ค่อยกลับไปดูมันอีกที มันต้องอยู่แถวนั้นแหละ" ลำยงว่า
"ปล่อยตามบุญตามกรรมเถอะ ขืนมัวตามมัน พอดีไม่ต้องทำมาหากิน มันทำตัวมันเอง ช่างหัวมัน ข้าปลงซะแล้ว"
"แล้วเณรละแม่ ถ้าเณรรู้จะเป็นยังไง" ชุดถาม
ยายแลนิ่งอึ้งไปเหมือนกัน
"แล้วแต่เวรกรรมเถอะ ถ้าจะไม่ได้บวชพระเพราะกรรมเก่ามันมาก ก็สุดแต่เวร"
ยายแลตัดใจทั้งที่เจ็บปวดเดินหายไปในห้อง ลำยงน้ำตาคลอ ทั้งสงสารแม่ สงสารลำยอง สงสารเณร
ยายแลกลับเข้ามาในห้อง...ร้องไห้โฮ ตาปอที่นอนเอกเขนกหันมามอง ยายแลยกมือประนมไหว้พระอย่างรู้สึกว่าเป็นที่พึ่งสุดท้าย
"คุณพระคุณเจ้า ช่วยลูกด้วยเถิด อย่าให้มันเลวร้ายไปมากกว่านี้เลย"
"อีแล มึงขอหวยเรอะ"
ยายแลร้องไห้ ตาปอลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ ยกมือไหว้บ้าง
"ถูกหวยงวดนี้ มึงซื้อเป็ดพะโล้ให้กูกินบ้างนะอีแอ"
ยายแลสีหน้าไร้อารมณ์
หน้าโรงงานกาละมังเคลือบกวง เวลากลางวัน คนขายไอ้ติมหยิบไอ้ติมออกมาจากถังส่งให้อภิชาติวัย 8 ขวบ หลังรับเงินมา คนขายไอ้ติมสั่นกระดิ่งเรียกลูกค้าต่อ อภิชาตแทะไอติมออกมา
ลำยองนอนตัวสั่นห่อตัวงออยู่บนฟุตบาทมุมหนึ่ง
อภิชาติมองอย่างสนใจแล้วขยับเข้าไปดูใกล้ ๆ ลำยองร้องครางเบา ๆ เหมือนปวดและหนาวด้วยพิษไข้
"ลูกแม่...ลูกแม่"
อภิชาติเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานกวง
"ป๊า...ขอตังยี่สิบสิ"
กวงที่กำลังตรวจบัญชีอยู่เงยหน้าขึ้นมอง
"กินเยอะไม่ดีนะ ไอ้ติมน่ะ เดี๋ยวก็เสาะท้อง"
"ไม่ได้เอาไปซื้อไอติม ตี๋จะเอาไปให้ขอทาน"
"ขอทานที่ไหน"
"หน้าโรงงานนี่ไง น่าสงสารนะป๊า สงสัยไม่สบาย ร้องฮือ ๆ เรียกลูกใหญ่เลย"
กวงยิ้มพอใจที่ลูกชายมีจิตเมตตา
อภิชาติวิ่งนำกวงออกมา
"นั่นไงป๊า นั่นไง นอนอยู่นั่น"
ลำยองนอนตัวงอ หันหลังให้อยู่
"ป๊าว่าคนบ้ามากกว่าขอทานนะ"
"น่าสงสารนะป๊า ไม่รู้มีตังค์ซื้อข้าวกินรึเปล่า ขอยี่สิบสิป๊า ตี๋อยากเอาไปให้เขา"
กวงกำลังจะหยิบเงินให้ ลำยองขยับลุกขึ้นนั่งพอดี กวงอึ้งตะลึงงัน วินาทีแรกคือ ไม่แน่ใจแต่เมื่อเพ่งมองกวงก็จำได้ ใจหายแล้วอึ้ง
กวงแทบไม่เสียงเล็ดลอดออกมา
"ลำยอง"
ลำยองทำท่าจะคลานออกไป
"ป๊าเร็ว ๆ สิ เขาจะไปแล้ว"
กวงหยิบแบ้งค์ร้อยออกมาส่งให้อภิชาติ
"อู้อู ...ให้ตังร้อยนึงเลยหรอป๊า ป๊าใจดีจัง"
"ให้เขาไปเถอะตี๋"
อภิชาติถือเงินเดินเข้าไปหาลำยอง กวงมองลูกและลำยองตัวแข็งขนลุกซู่ซ่า ช่างเป็นภาพสะเทือนอารมณ์ อภิชาติขยับเข้าไปใกล้ลำยอง อภิชาติยื่นเงินให้
"นี่ นี่ เอาตังค์ไปซื้อข้าวกินนะ"
ลำยองหันกลับมา กวงเย็นวาบไปทั้งตัวเมื่อเห็นสภาพเต็มตาอีกครั้ง บาดแผลขึ้นเต็มหน้าใบหน้า อภิชาติผงะตกใจ ลำยองคว้าเงินไปจากมืออภิชาติ ดีใจจนหัวเราะร่า
"ตี๋...มาหาป๊ามา"
"บ้านอยู่ไหนนะ กลับบ้านไปซะ"
ลำยองจ้องมองอภิชาติเขม็งแล้วค่อย ๆ เพ้อออกมา
"ลูก ลูก ลูก"
ลำยองค่อย ๆ ขยับเข้าหาอภิชาติที่ขยับถอยหนี
"ลูกแม่"
ลำยองพุ่งพรวดเหมือนจะคว้าตัวอภิชาติ กวงดึงลูกออกไปได้ทันควัน ลำยองคะมำหน้าทิ่มแล้วเดินออกไปพูดไปเหมือนลูกอยู่
กวงพาอภิชาติถอยออกไปไกลพ้นรัศมีลำยอง
"ลูก...ลูกแม่" ลำยองร้องไห้ฟูมฟาย
กวงพาอภิชาติกลับเข้ามาแล้วพูดอะไรไม่ออก
"คนบ้าจริง ๆ ด้วย ทีแรกตี๋คิดว่าเป็นขอทานเฉย ๆ"
"เขาคงไม่สบายมากนะตี๋"
"ตัวเน่าด้วย ตี๋ได้กลิ่นเหม็นเน่า ให้ยามไล่ไปเหอะป๊า ยัยนี่สกปรก"
"ไม่ต้องไปไล่เขาหรอกตี๋ ป๊าว่าเดี๋ยวเขาก็ไปของเขาเอง"
"แล้วทำไมไม่มีใครดูแลเขาล่ะป๊า"
"เขาคงตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องก็ได้"
"แต่ยัยนี่เรียกลูกด้วยนะป๊า ตี๋ได้ยิน"
กวงสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก
รถกวงแล่นออกมาจากโรงงาน กวงขับรถเองเห็นลำยองที่รำป้ออยู่ข้างถนนจนเซเข้ามาแปะกับข้างรถ อภิชาติหลับตาปี๋ด้วยความกลัว กวงลุ้น ลำยองผละออกไปห่างจากรถ กวงมองผ่านกระจะมองหลัง อภิชาตมองไปทางด้านหลัง ทิ้งห่างลำยองไกลออกมาเรื่อย ๆ เห็นลำยองรำเซซังไปมา
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 12 (ต่อ)
เช้าวันพระ ที่ศาลาวัด ชาวบ้านตักข้าวใส่บาตรที่ตั้งเรียงราย ชาวบ้านอีกส่วนจัดสำรับของคาว-ของหวาน ยายแล, ปั้น กราบพระประธานบนศาลาเสร็จพอดีก็พบว่าเณรเดินตรงเข้ามาหา
"เณร"
"โยมแม่ไม่ได้มาด้วยเหรอครับโยมยาย"
ปั้น, แล หันสบตากันแว่บนึง
"ไม่ค่อยสบายน่ะเณร นอนอยู่บ้านน่ะแหละ" แลว่า
"ไม่สบายเป็นอะไรครับ"
"ก็แค่ปวดหัวเป็นไข้นิดหน่อยน่ะเณร ไม่มีอะไรหรอก"
ปั้นหาทางเปลี่ยนเรื่อง
"ได้ยินหลวงลุงท่านว่า ท่านเณรสอบนักธรรมตรีได้แล้วเหรอจ๊ะ"
"ครับ...ต้นปีหน้าก็จะสอบชั้นโท"
"สาธุ...สอบให้ได้ชั้นเอกตั้งแต่ยังเป็นเณรยังงี้เลยนะจ๊ะ"
บนกุฏิหลวงตาปิ่น หลวงตาปิ่นถามสันต์
"มันหายไปได้ยังไง"
"ลำยงเล่าให้ฟังว่า กระโดดรถหนีตอนพากลับจากโรงพยาบาลครับ"
"ถึงว่า...หมู่นี้เณรดูกระวนกระวาย"
"ผมไม่แน่ใจว่า เราจะปิดความจริงไว้ได้นานแค่ไหนกัน"
"กรรมเอ๋ยกรรม ปลงเสียบ้างเถอะพ่อสันต์ ยกธรรมะเข้าข่มบ้าง ความจริง ยังไงก็ต้องเป็นความจริงวันยันค่ำ แต่เด็กอย่างเณรน่ะ ถึงยังไงก็ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอก"
บ้านยายแล ตาปอตักน้ำราดตัวเองซู่ซ่า ยายแลนั่งกอดเข่าเหมือนปลงตกกับชีวิต ใจลอย
เณรเดินเข้ามาหยุดมอง
"โยมยาย โยมยาย"
ยายแลหันมาเห็น รีบลุกมารับหน้า
"โยมแม่อยู่ไหมครับ"
"ไม่อยู่หรอกจ๊ะเณร"
"ไปไหนครับ ก็ไหนว่าไม่ค่อยสบาย"
"ไปหาหมอแล้ว ค่อยสบายขึ้นแล้วจ๊ะ ก็เลย...ก็เลยไปบ่อนน่ะจ้ะ"
"ยังเข้าบ่อนอยู่อีกเหรอครับ"
"ใครห้ามก็ไม่ฟัง แต่มันก็เล่นนิด ๆ หน่อย ๆ น่ะเณร"
ยายแลฝืนหัวเราะแล้วพูดต่อ
"ไม่ค่อยมีเงินหรอก อีหน่อยมันคงเลิกได้ ได้ยินบ่น ๆ อยู่เหมือนกันว่ามันเบื่อแล้ว เหล้ามันก็เลิกแล้วนะเณร เลิกเหล้าได้ ทำไมบ่อนมันจะเลิกไม่ได้ล่ะ จริงไหมเณร"
ยายแลกลั้วหัวเราะ
"หนาวโว้ย หนาว ๆ ๆ" ปอปากคอสั่นฟันกระทบ
เณรหันไปมองตาปอ ยายแลน้ำตาร่วงเผาะหลังเณร เสี้ยววินาทีแล้วรีบป้ายน้ำตาทิ้ง
"อีแล กูหนาวจังเลยวะ"
"จะไม่หนาวได้ยังไงละมึง เล่นน้ำมาครึ่งวันค่อนวันแล้ว ปอดบวมกินตาย"
ยายแลหาผ้ามาเช็ดตัวเช็ดหัวให้ตาปอ เณรมองตากับยายแล้วค่อย ๆ หันไปมองมุมที่ลำยองเคยนอนคิดถึงและเป็นห่วงแม่
กลุ่มเด็ก ๆ ที่คลานขึ้นโรงลิเก จนเห็นลำยองนอนแบะอยู่บนโรงลิเก เสื้อผ้า-เนื้อตัวสกปรกมอมแมม แผลทั้งแห้งตกสะเก็ดและประทุขึ้นสดใหม่เยิ้มทั้งตัว เด็ก ๆ เอาไม้ยาวๆแหย่จิ้มตัวลำยอง
ลำยองลุกพรวดขึ้นมา เด็ก ๆ วงแตก หัวเราะกันสนุกสนาน ยั่วให้ลำยองไล่
"อีบ้า หาผัว ตัวเน่า อีบ้า หาผัว ตัวเน่า"
ลำยองเกรี้ยวกราดไล่คว้าจะจับตัวเด็ก ๆ แต่ก็จับไม่ได้ ลำยองล้มหัวทิ่มหัวตำ น่าสังเวช แต่เป็นที่ขบขันเป็นนักหนาสำหรับเด็ก ๆ
ลำยง, ชุด ช่วยกันขายของให้ลูกค้า ลำดวนรีบวิ่งเข้ามา
"พี่ลำยง พี่ลำยง มีคนเขาบอกว่าเจอพี่ลำยองแล้ว"
"ที่ไหน" ลำยงถาม
"แถวโรงลิเกเก่าโน่น"
"พี่ชุด...ไปช่วยกันหน่อยเจอตัวพี่ลำยองมันแล้ว"
"ใช่แน่เหรอ"
"ใช่ไม่ใช่ก็ไปดูกันก่อนเถอะน่า"
"ไปกันหมดแล้วใครจะเฝ้าร้านล่ะ"
ลำยองยังวิ่งไล่เด็ก ๆ อย่างเกรี้ยวกราดเด็ก ๆ สนุกไม่รู้เบื่อ
"ผ้าจะหลุดแล้วโว้ย...จะหลุดแล้ว"
ลำยองกระพือผ้าถุงแล้วทรุดลงร้องไห้ฟุบหน้า
"อีบ้า ไล่อีกสิวะ เฮ้ย"
เด็ก ๆ เอาหินโยนยั่วใส่ลำยอง ลำยง, ชุดรีบมาถึงพอดี
"เฮ้ย ทำอะไรกันพวกมึง รังแกเขาทำไมวะ" ชุดว่า
"ก็อีนี่มันเป็นบ้า" เด็กๆบอก
"เป็นบ้าแล้วรังแกได้รึไงวะ ถ้าเขาเกิดเป็นพ่อแม่พี่น้องพวกมึงล่ะ"
เด็ก ๆ ถอยไปอยุ่มุมหนึ่ง ลำยงมองอย่างนึกลุ้น ขออย่าให้เป็นลำยองเลย ลำยองโล้ตัวไปมาแล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ลำยงเห็นเต็มตาว่าเป็นลำยอง
"เอาไงดีลำยง"
"ให้ฉันลองเข้าไปคุยก่อน"
"ระวังตัวด้วยนะ"
ลำยงค่อย ๆ ขยับเข้าไป ใกล้ลำยองที่ค่อย ๆ นอนเอกเขนกตะแคงสิงหไสยาสน
"พี่ลำยอง"
ลำยองไม่รู้จักชื่อตัวเอง, ค่อย ๆ หลับตาพริ้มลง
"พี่ลำยอง จำฉันได้ไหม ลำยงไงล่ะ พี่ลำยอง"
ลำยองค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอีกที มองลำยง
"ฉันลำยง น้องพี่ไง"
ลำยองลุกพรวดขึ้นนั่ง ชี้หน้า เกรี้ยวกราด
"ต่อหน้ากูทำไมมึงไม่คุกเข่าอีขี้ข้า กูเป็นนางฟ้านะมึง เดี๋ยวกูสาปให้เป็นคางคกซะเลยนี่"
เด็ก ๆ ที่มุงดุไกล ๆ หัวเราะสนุก
"พวกมึงหัวเราะอะไรกัน กูเป็นพระแม่ เป็นเสด็จแม่นะมึง พวกมึงบังอาจ"
ลำยองวิ่งเข้าหากลุ่มเด็ก ๆ จนวงแตก เด็กๆ สนุกกันสุดเหวี่ยง ลำยองค่อย ๆ ทรุดลงนั่งร้องไห้คว้าตัวใครไม่ได้ซักคน
"ไอ้พวกเทวดาผู้ชายมันขี้อิจฉาไม่อยากให้ผู้หญิงได้ดี...มันให้ข้าลงมาเกิด ลงมาลำบาก ต้องมีลูก...ลูกข้าเขามีบุญมากนะ เขาเกิดวันดีด้วย อีกหน่อยเขาจะได้เป็นพระอินทร์ ลูกจ๋า...ลูกอยู่ไหน เสด็จแม่ลำบากเหลือเกิน"
ลำยองร้องไห้ฟูมฟาย เรื่องจริงเรื่องสมมุติปะปนจนเป็นเรื่องเดียว
ลำยงเข้ามาหาชุด
"เอาไงดีพี่ชุด"
"ท่าทางแรงมันเยอะนะ เผลอ ๆ เราสองคนก็เอาไม่อยู่หรอก"
"ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก"
"เกิดมันวิ่งหนีเตลิดไปเหมือนคราวก่อนอีก จะทำยังไง"
"ผ้าจะหลุดแล้วโว้ย จะหลุดแล้ว"
เด็ก ๆ หัวเราะชอบใจ ลำยง, ชุด หันไปมองลำยองลุกขึ้นรำป้อ ผ้าถุงจะหลุดมิหลุดแหล่
ชุด, ลำยง เข้ามาหากลุ่มเด็ก ๆ
"ไอ้หนู...อยากได้เงินใช้กันไหม"
"ใครจะไม่อยากได้ น้าถามแปลก"
"งั้นก็ช่วยน้าจับคนบ้านี่หน่อย น้าจะเอาเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล น้าให้คนละห้าบาท" ชุดบอก
เด็ก ๆ มองหน้ากัน เงินน่ะอยากได้ แต่...
"โอ้ย ห้าบาท ไม่เอาหรอก เกิดติดหนองติดโรคอีบ้านี่ขึ้นมาไม่คุ้มกันหรอก"
"เดี๋ยวจะซื้อยาฆ่าเชื้อโรคมาให้ล้างมือด้วยเอ้า" ลำยงบอก
"ไม่เอาหรอก"
"งั้นเอาไปคนละสิบบาท" ลำยงต่อรอง
เด็ก ๆ ลังเลมองหน้ากัน แล้วถามกัน
"เอาไหมวะ"
"ไม่ต้องจับเดี๋ยวนี้หรอก น้าจะกลับไปเอาผ้าห่มมาห่อตัวแกก่อน ไม่งั้นจับไม่อยู่แน่" ลำยงบอก
"สิบบาท จ่ายก่อนได้ไหมล่ะ"
"อะไรวะ งานยังไม่ได้ทำเลยจะเอาเงินแล้ว"
"จ่ายไปก่อนคนละห้าบาท งานเสร็จค่อยเอาที่เหลือ...พี่ชุดฉันจะกลับไปเอาผ้าห่มก่อน พี่เฝ้าพี่ลำยองไว้ก่อนนะ"
ลำยงรีบผละออกไป ลำยองทรุดลงร้องไห้ฟูมฟาย
ภายในบ้าน ลำยงคว้าผ้าห่มเก่ารวบออกมา ยายแลออกมาพอดี
"จะเอาผ้าห่มไปไหนวะนังลำยง"
"เจอตัวพี่ลำยองแล้วแม่ ผ้าห่มนี่จะเอาไปห่อตัวมัน จะได้เอาไปหาหมอ"
"เจอมันที่ไหน"
"โรงลิเกหลังตลาดโน่น"
"ข้าไปด้วย"
"ดีเหมือนกันจะได้ช่วยกันจับ"
ลำยง ยายแล รีบออกมา แต่ต้องชะงักแทบก้าวขาไม่ออก เณรวันเฉลิมยืนอยู่หน้าบ้านได้ยินทุกอย่าง
"เณร"
"โยมแม่ทำไมไปอยู่หลังตลาดล่ะครับ"
"มันไม่ค่อยสบายน่ะเณร สงสัยจะไปเมาอยู่นั้น"
"ไม่สบายมากเหรอครับ ถึงต้องพาไปหาหมอ"
"ก็...นิดหน่อยนะเณร"
"เณรกลับวัดไปเถอะ เดี่ยวยายกับน้าจัดการเอง"
ลำยงลุนหลังแลเดินลิ่วออกไปทันที เณรตามติด
"แม่...อย่าให้เณรไปเลย"
"แล้วจะให้กูทำยังไง"
"ทำยังไงก็ได้"
ยายแลหยุดเดิน, หันกลับมาหาเณร
"เณร...ตามมาทำไมกัน กลับวัดไปเถอะ"
"ผมจะไปดูโยมแม่"
"เณรไปก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกน่า ยิ่งห่มเหลืองยังงี้ด้วย เอาไว้เรียบร้อยแล้วจะพาไปเยี่ยมละกัน ไปตอนนี้เกะกะเปล่า ๆ"
"ทำไมต้องว่าเกะกะด้วย โยมแม่เป็นอะไรมากใช่ไหม"
ยายแลปวดใจกัดปากแน่น
"เณร...เณรอยู่บนสวรรค์แล้ว อย่าไปเยี่ยมกรายดูนรกขุมนี้เลย"
ลำยงพูดทั้งที่รู้ว่าไม่ควรพูด
"ถ้าโยมแม่ผมอยู่ในนรก ผมก็ยินดีจะลงนรกไปช่วยดึงโยมแม่ขึ้นมา ถ้าช่วยไม่ได้ ผมจะลงนรกแทนโยมแม่เอง โยมน้าอย่าห้ามผมเลย"
ลำยงอึ้ง น้ำตาร่วงแต่รีบป้ายมันทิ้ง แล้วออกเดินต่อทันที เณรวันเฉลิม, ยายแลรีบเดินตาม
บริเวณโรงลิเกเก่า ชุดที่รออยู่ลุกพรวดขึ้นทันทีที่เห็นเณรตามมาด้วย ทุกคนเดินเข้ามา
"เณรมาได้ยังไง"
"ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง เลยตามเลยเถอะพี่ชุด"
"ไหนล่ะครับ โยมแม่อยู่ไหน"
ชุด, ลำยงมองไปบนลิเก เณรมองตาม แต่ไม่เห็นใครเพราะลำยองนอนอยู่ เห็นแต่ฉากลิเกผุ ๆ พัง ๆ รุ่งริ่ง กระพือตามแรงลม
"อย่าขึ้นไปเลยเณร" ชุดบอก
คำพูดของชุดยิ่งเป็นเหมือนคำเชิญ เณรขยับปีนบันไดขึ้นไปบนโรงลิเก เห็นลำยองนอนเน่าแผลเต็มตัวจนแทบจำไม่ได้
"โยมแม่"
ลำยองค่อย ๆ ลุกขึ้นเกาแผลที่น่องตัวเอง
"เฮ้ย...ไอ้พวกเหล่าเสนาอำมาตย์ เสด็จพี่ของกูอยู่ไหน"
เณรน้ำตาแทบร่วง
"โยมแม่"
ชุดกับพวกเด็กวัดตามขึ้นมาบนโรงลิเก ลำยงส่งผ้าห่มให้ชุด ยายแลยืนลุ้นอยู่ข้างล่าง
"น้าจะอ้อมไปทางข้างหลังนะ พอโยนผ้าคลุมตัวได้ก็ช่วยกันรุมจับให้อยู่"
ชุดพยายามซ่อนผ้าห่มไว้ข้างหลังเดินอ้อมไปด้านหลัง ลำยองตาขวางมองทุกคนไม่ไว้ใจ
"พวกมึงจะทำอะไรกู"
"โยมแม่ ไปหาหมอเถอะนะครับ"
"ใครเป็นแม่มึง"
ชุดได้จังหวะ เหวี่ยงผ้าห่มคลุมตัวลำยองจากข้างหลัง ลำยองพยายามจะปัดผ้าห่มทิ้ง เด็ก ๆ กรูเข้าจับตัว ลำยองแรงมากเตะถีบสุดกำลัง ใครก็เอาไม่อยู่
"จับไว้ จับแน่น ๆ สิโว้ย" ลำยงบอก
เณรตกตะลึง
"แอร๊ย"
ลำยองดิ้นรนสุดฤทธิ์จนหลุดออกมาได้...กระโจนลงจากโรงลิเกทันที
"อีลำยอง" ยายแลร้องเรียก
"โยมแม่"
"อย่าให้หนีไปได้นะโว้ย" ชุดบอก
"จับไว้ จับไว้"
ชุดกระโดตามลงมาแต่ข้อเท้าพลิก เณรออกวิ่งตามลำยองไปทันที
ลำยองวิ่งเซซังมาสุดแรง ชาวบ้านสัญจรแถวนั้นวงแตกกระเจิง ลำยองวิ่งชนข้าวของกระจาย
"ว๊าย...คนบ้า"
เณรวิ่งตามมาห่าง ๆ
"โยมแม่...โยมแม่จะไปไหน นี่วันเฉลิมนะครับ โยมแม่อย่าหนีเลย เราจะพาโยมแม่ไปหาหมอ ไปรักษาตัวครับโยมแม่"
เณรตะโกนเรียกไปน้ำตาร่วงไป
ลำยองวิ่งอยู่ข้างหน้าเลิ่กลั่กหันมาเป็นระยะอย่างหวาดกลัว กรีดร้องเป็นระยะ ๆ ชาวบ้านตามรายทางต่างวงแตก ลำยองสะดุดล้มลง
"โยมแม่"
ลำยองคลานพรวดพราด ผ้าถุงหลุด กองทิ้งไว้กับพื้น วิ่งต่อ เณรที่ตามมา รีบเก็บผ้าถุงแม่ วิ่งตามไม่ลดละ
"โยมแม่ อย่าไป เดี๋ยวรถชนเอา...โยมแม่"
ลำยง, ชุด, แลวิ่งตามมาห่าง ๆ ทิ้งระยะจากเณร
ชาวบ้านบอก
"คนบ้าโว้ย แก้ผ้าด้วย"
ชาวบ้าน 2 บอก
"เณรไล่จับผู้หญิง"
ยายแล, ลำยง น้ำตาร่วง ชาวบ้านข้างถนนวงแตกหลีกทางหนีคนบ้า ลำยองสะดุดขาตัวเองล้มลง เณรวิ่งตามมาจนทัน คว้าขาลำยองเอาไว้ได้ แล้วรีบกอดรัดลำยองเอาไว้ไม่ให้หนีไปได้ พร้อมกับเอาผ้าถุงคลุมตัวลำยองไว้
ลำยองยังพยายามดิ้น ร้องทั้งที่หมดแรง เณรกอดรัดแม่เอาไว้ทั้งน้ำตานอง ลำยง, ชุด, แล วิ่งตามมาจนทัน
ชาวบ้าน 1บอก
"อุบาทว์ชาติชั่ว เป็นพระเป็นเจ้าวิ่งไล่จับผู้หญิงแก้ผ้า"
ชาวบ้าน 2 บอก
"อัปรีย์จริง ๆ ศาสนาเสื่อมหมด ไอ้พวกไม่มีสมอง มารศาสนาแท้ ๆ"
ลำยงอัดอั้นตันใจจนถึงที่สุด ระเบิดอารมณ์ออกมาต่อหน้าทุกคน
"พวกมึงเป็นเหี้ยอะไร เขาเป็นแม่ลูกกัน แม่ไม่สบาย แล้วพวกมึงจะให้ลูกดูดายได้ยังไง พวกมึงอวดแต่ว่าเคร่งศาสนาแต่หัวใจพวกมึงทำด้วยอะไร"
เณรยังกอดรัดแม่เอาไว้แน่นร้องไห้ ลำยองหมดเรี่ยวแรงแล้ว ท่ามกลางวงล้อมไทยมุง
จบตอนที่ 12
อ่านต่อตอนที่ 13 พรุ่งนี้ เวลา09.30น.