เรือนกาหลง ตอนที่ 12
พุดจีบหยิบดอกบัวมานั่งพับกลีบเพื่อไปถวายพระ ไม้เดินตรงเข้ามาห่างๆมองพุดจีบอย่างแปลกใจ ภาพที่กาหลงนั่งพับกลีบบัว อยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่พุดจีบนั่งทำอยู่แว่บเข้ามา...ไม้คิดตามคำพูดของกาหลง ที่บอกว่าพุดจีบจงใจเป็นอย่างกาหลง พุดจีบนั่งพับกลีบบัวหันไปเห็นไม้ ก็แปลกใจ
“พี่ไม้”
ไม้เดินตรงเข้ามาหา พุดจีบยิ้มให้ ไม้ตรงเข้ามากระชากดอกบัวในมือของเธอโยนทิ้ง พุดจีบตกใจ
“พี่ไม้”
“พอเถอะ ไม่ว่าพุดจีบจะพยายามมากแค่ไหนพี่ก็รักกาหลงพี่ไม่มีวันรักพุดจีบ”
พุดจีบงงๆ
“พี่พูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“อย่าคิดว่าจะใช้มารยาหลอกตาพี่ได้แสร้งทำตัวเป็นน้องแสนดีหวังให้พี่คอยช่วยเหลือมันคงเป็นอย่างที่แม่กลอยกับกาหลงพูดไว้ พุดจีบอยากได้พี่ พุดจีบรักพี่”
ไม้ซัก พุดจีบนิ่งอึ้ง กาหลงเดินเข้ามาหยุดฟังที่มุมหนึ่ง ไม้ตรงเข้าจับตัวพุดจีบเขย่าตัวซักความจริง
“เถียงพี่มาสิ ที่พี่พูดมันไม่เป็นจริง”
พุดจีบนิ่งไม่ตอบ
“พูดให้พี่ได้ยินว่าพี่เข้าใจผิดไปเอง”
พุดจีบโพล่งออกไป
“ฉันรักพี่”
ไม้ตกใจ ผงะออกจากพุดจีบ กาหลงฟังก็ไม่พอใจ
“ฉันรักพี่มานานแล้ว นานพอที่ฉันไม่อาจตัดใจจากพี่ได้...พี่มาคาดคั้นถามความในใจพี่ไม่เคยรับรู้หรือไง ว่าฉันเทใจให้พี่”
พุดจีบรอฟังคำตอบ ไม้พูดขึ้นเบาๆ
“มีหรือที่พี่จะไม่รู้”
พุดจีบตกใจที่ไม้ก็รับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว กาหลงแปลกใจที่ไม้ก็รู้เรื่องนี้ ไม้นึกถึงเหตุกาณ์ในอดีตที่กาหลงอยู่กับเขาแล้วมีพุดจีบคอยมอง เวลาอยู่กันเพียงลำพังพุดจีบส่งสายตาแอบมองเขา อย่างมีใจให้
“พี่ทำได้เพียงรับรู้ เพราะพี่มีใจให้กาหลงหมดแล้วพี่หวังใจว่า พุดจีบจะทำใจและยอมรับมันได้”
“ฉันยอมรับมัน ฉันถึงยอมเก็บทุกข์ไว้เพียงลำพังฉันขอเพียงแค่ได้เฝ้ามองและห่วงใยคนที่ฉันรักไม่ว่าจะเป็นพี่หรือกาหลง ฉันก็สุขใจแล้ว”
“ไม่จริงหากพุดจีบคิดได้คงไม่ใส่ความกาหลง ไม่คิดแย่งชิงเหมือนที่อบเชยทำ”
พุดจีบน้อยใจ
“ฉันร้ายกาจในสายตาพี่อย่างนั้นหรือ”
ไม้ต่อว่าที่พุดจีบกล่าวหากาหลงเป็นผี
“คนรักกันดีต่อกัน คงไม่ว่าร้ายเมียพี่”
พุดจีบพูดออกมาตรงๆ
“ฉันพูดความจริง กาหลงเป็นผี”
กาหลงตกใจที่พุดจีบบอกไม้ว่าเธอเป็นผี ไม้เข้าไปผลักพุดจีบ
“หยุดนะพุดจีบ”
“เชื่อฉันเถอะ กาหลงเป็นผี ฉันอยากให้พี่ได้ตั้งสติ แล้วช่วยกันหาทางช่วยกาหลง”
ไม้โกรธ
“พี่บอกให้หยุด”
“พี่จะฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ต้องพูด ถึงเวลาที่พี่ต้องยอมรับความจริง กาหลงเป็นผี ได้ยินไหมว่ากาหลงตายไปแล้ว”
พุดจีบระบายความจริงทั้งหมด ไม้ไม่พอใจตบหน้าพุดจีบล้มลง กาหลงตกใจที่ไม้ตบพุดจีบ สงสารพุดจีบแต่ก็น้อยใจที่เพื่อนบอกเรื่องเธอกับไม้...ไม้ได้สติก็เสียใจที่ทำร้ายพุดจีบเพราะไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน เขาเสียใจกับการกระทำ ร้องไห้ออกมา
“พุดจีบก็ไม่ต่างจากเพชร มันท้าทายให้พี่มาถามความจริงจากพุดจีบ แต่วันนี้พี่รู้ความจริงหมดแล้ว พี่จะเชื่อคำพุดจีบได้ยังไง ในเมื่อพุดจีบหวังผล ต้องการแย่งชิงรักจากกาหลง นับแต่นี้ให้ถือเสียว่าเราเป็นเพียงผู้พักอาศัยในหมู่บ้านเดียวกัน”
ไม้ร้องไห้เดินออกไป พุดจีบร้องไห้เสียใจที่ไม้เข้าใจผิด กาหลงร้องไห้เดินตรงเข้ามาหา พุดจีบกลัวกาหลงถอยหนี
“นี่คงเป็นผลที่พุดจีบผิดคำสัญญากับฉัน สุดท้ายพุดจีบก็ไม่เหลือใคร”
พุดจีบมอง กาหลงเข้ามาหยิบดอกบัวที่พุดจีบพับไว้ขึ้นมามองแล้วลุกขึ้นยืน
“กลีบดอกเดียวกัน พับเหมือนกัน แต่ยังไงก็ไม่เหมือนกัน ไม่ต้องพับใหม่หรอกกลีบมันช้ำแล้ว”
กาหลงกำดอกบัวแล้วดึงออกจากก้านโปรยซัดใส่พุดจีบ กลีบดอกบัวกระจายลอยเต็มอากาศ พุดจีบมองตรงไปเห็นกาหลงกลายเป็นผีหันมามองแล้วเดินออกไป พุดจีบตกใจกลัวร้องไห้ท่ามกลางกลีบดอกบัวเต็มพื้น
ภายในโบสถ์...แม่น้อยกราบพระแล้วนั่งไหว้
“สิ่งใดที่ผัวและลูกของอิฉันได้ทำผิดพลาดไปขอจงอโหสิกรรมด้วยเถอะเจ้าค่ะ ช่วยผ่อนคลายกรรมหนักให้เป็นเบาทุเลาลง”
อบเชยเดินเข้ามาต่อว่าแม่
“แม่ขอพรพระลดกรรมให้พี่โชติงั้นรึ”
แม่น้อยหันไปมองหน้าลูกสาว คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้
พุดจีบและนวลเดินออกไปจากเรือน โชติเดินมองตามโวยวายไม่พอใจ
“ตัดขาดไปได้เลยใช่ว่าบ้านนี้จะมีหญิงเดียวเสียเมื่อใด”
ช่วงเข้าไปต่อยโชติล้มลง แม่น้อยวิ่งเข้าไปห้าม
“พอเถอะพี่ช่วง”
ช่วงผลักแม่น้อยออก
“ไม่ต้องมาห้าม มันหาเรื่องให้ฉันเดือดร้อนไม่หยุดหย่อน พุดจีบมีทรัพย์สมบัติมากโข หากเอ็งได้มาเป็นเมียเรือล่มในหนองแล้วทองจะไปไหนเอ็งมันไม่มีขมองคิด”
“หากพ่ออยากได้พุดจีบเป็นสะใภ้ ฉันจะไปดักฉุดมาทำเมีย พ่อเองก็เคยฉุดคร่าขืนใจแม่เหมือนกัน”
โชติหวังว่าจะทำให้ช่วงพอใจ ช่วงมองหน้าโชติแล้วต่อยล้มลงไป
“เอ็งมันก็คิดได้แค่นี้”
โชติเถียงกลับ
“ฉันทำนั่นไม่ได้ทำนี่ก็ไม่ดี ฉันเคยมีอะไรดีในสายตาพ่อบ้าง”
“แล้วที่เอ็งทำมันดีนักแล้วใช่มั้ย นังกาหลงตายเป็นผีก็เพราะเอ็ง ข้าเกือบโดนมันหักคอตายก็เพราะเอ็ง เอ็งมันรังแต่เอาปัญหามาสุมหัวข้า”
โชติคิดสู้เอาหน้า
“งั้นพ่อก็คอยดู ฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่านังกาหลง เอาศพนังกาหลงมาเผาผี”
โชติประกาศบอกทุกคนแล้วเดินออกไป
แม่น้อยยกมือไหว้พระ
“แม่ไหว้ขอพร ขอให้พ่อ ให้พี่และให้ลูก ลดการสร้างกรรมชั่ว ความทุกข์ที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันมันก็เป็นเวรกรรมที่เกิดขึ้นในอดีต”
อบเชยสงสัย
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”
แม่น้อยมองหน้าอบเชย
“ไม่ต้องสนใจรู้หรอกปล่อยให้มันผ่านไป อบเชยลูกต้องหมั่นสะสมบุญ ละทิ้งความชั่วเถอะ”
แม่น้อยพูดจบก็นั่งไหว้พระสวดมนต์ เพื่อหวังสะสมบุญ อบเชยสงสัยว่ามีเรื่องอะไร
บริเวณชายป่ายามค่ำ คบไฟวางเรียงราย เสือหวาดถือดาบเข้าไปสั่งการลูกน้องที่นั่งลับดาบ หรือเตรียมอาวุธ
“พวกเอ็งเตรียมตัวให้พร้อมข้าจะบุกไปบ้านบัวสี”
“พี่จะปลุกไปปล้นเรือนใด”
“เงินทองเป็นแค่ผลพลอยได้”
เสือหวาดนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังจะบอกความจริงกับไม้ ช่วงตัดสินใจยิงปืนใส่ ไม้หันไปรู้ว่าช่วงยิงปืนใส่จึงเอียงตัวหลบ กระสุนพุ่งเข้าโดนไหล่เสือหวาดทรุดลง
“ฉันจับมันให้พ่อเอง”
โชติตรงเข้าไปหวังจะจับตัวเสือหวาด เสือหวาดลุกขึ้นมาแล้วแย่งดาบขึ้นมาล๊อคคอโชติไว้
“ทิ้งปืนซะ”
เสือหวาดผลักแล้วฟันเข้าที่แขนโชติทรุดตัวลงกองกับพื้น เสือหวาดกระโดดขึ้นม้าควบหนีออกไป
เสือหวาดเปิดเสื้อเอามือจับแผลเป็นที่โดนกระสุน
“ข้าจะบุกไปล้างแค้นชำระคดีความ”
เสือหวาดขี่ม้ามาหยุดที่หน้าเรือนกาหลง พร้อมกับลูกน้อง...เสือหวาดเดินขึ้นเรือนถือดาบตรงไปยังร่างไม้ที่นอนอยู่ ไม้ลืมตาขึ้น
“ไอ้เสือหวาด”
ไม้พูดไม่ทันขาดคำ เสือหวาดฟันร่างไม้ทันที...ไม้สะดุ้งตกใจตื่นจากฝันร้ายแล้วมองหากาหลง ไม่เห็น
“กาหลง”
กาหลงถือชามใส่น้ำและผืนผ้าเข้ามา
“พี่ไม้เป็นอะไร ฉันเห็นพี่นอนดิ้น ละเมอฉันลุกไปเอาน้ำจะมาเช็ดตัวให้พี่”
“พี่ฝันร้ายฝันว่าเสือหวาดมันบุกเรือนมาฆ่าพี่”
“มันหนีไปนานแล้ว มันไม่กลับมาหรอก”
“แต่พี่อยากให้มันกลับมา พี่ต้องแก้แค้นให้พ่อแม่พี่ มันฆ่าพ่อแม่พี่นะกาหลง”
“พี่ยังคิดจะล้างแค้นอีกหรือ”
“พี่ไม่มีวันลืมคำสาบานที่ให้ไว้ต่อหน้าศพพ่อแม่”
กาหลงฟังความในใจของไม้ก็เป็นห่วง
“ฉันอยากให้พี่ลืมเรื่องนี้เสียเถอะ”
“กาหลง”
ไม้แปลกใจที่กาหลงให้เขาหยุดล้างแค้น
เสือหวาดควบม้ามาถึงป้ายทางเข้าหมู่บ้านบัวสี เขามองตรงไปยังหมู่บ้าน ต้องการเข้าไปล้างแค้น
“พวกเอ็งบุกไปปล้นตามใจพวกเอ็ง” เสือหวาดหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทซ้ายขวา “เอ็งไปกับข้า”
ลูกน้องคนอื่นๆ แยกย้ายกันออกไปปล้น ลูกน้องคนสนิทพูดขึ้น
“พี่หวาด”
เสือหวาดมองไป ลูกน้องชี้ป้ายชื่อหมู่บ้านที่เขียนว่า“บ้านบัวผี” เสือหวาดหัวเราะ
“คืนนี้คงมีผีเพิ่มอีกหลายตัว”
เสือหวาดหัวเราะชอบใจ ควบม้าบุกเข้าไปในหมู่บ้าน ลูกน้องควบม้าตามไป
ไม้เดินมาหากาหลงที่ยืนอยู่ที่ริมน้ำ
“มันฆ่าพ่อแม่พี่ แล้วกาหลงยังจะให้พี่ปล่อยมัน”
“ฉันรู้ว่าพี่เจ็บปวด ฉันเองเข้าใจความรู้สึกพี่”
“กาหลงเข้าใจแต่ทำไมถึงขวางพี่”
“เพราะฉันรู้ว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอนจะตายวันตายพรุ่งไม่รู้ ฉันเป็นห่วงพี่มากนะ”
ไม้มองกาหลง แปลกใจในคำพูดของเธอ
“มันเป็นถึงขุนโจร มีค่าหัวนำจับทางการก็ตามล่าตัวมัน ฉันไม่อยากให้พี่ไปเสี่ยงกับมัน”
“พี่เองมีวิชามวย หากสู้กันด้วยมือด้วยดาบ พี่มั่นใจว่าเอาชนะมันได้”
“แล้วถ้ามันมีปืนล่ะ...พี่ไม้ฉันขอเถอะ ให้ทางการเขาจัดการพี่อย่าไปยุ่งกับมันเลย”
ไม้เข้ามาโอบกอด
“พี่ดีใจที่รู้ว่ากาหลงรักพี่ อยู่เคียงข้างพี่ แต่จะให้พี่ถอยพี่ทำไม่ได้”
กาหลงผิดหวังที่ เขายังตั้งใจจับเสือหวาด ไม้ปลอบใจ
“หากพี่จับตัวมันไปลงโทษได้ พี่จะรามือไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกอันธพาลอีก พี่จะใช้ชีวิตอยู่กับกาหลงทำไร่ไถนาตามประสาผัวเมีย”
กาหลงรู้ดีว่าไม่อาจขัดไม้ได้ จึงจำยอมไม้โอบกอดกาหลงตั้งใจจะสู้กับเสือหวาดให้ได้
เพชรนั่งเช็ดปืนอยู่บริเวณเรือ ได้ยินเสียงม้าควบผ่านมา เขารีบเป่าไฟตะเกียงดับแอบมองว่าเป็นใคร เสือหวาดและลูกน้องควบม้าผ่านไป โดยไม่ได้สวมผ้าโพกหน้า เพชรชะงักอึ้ง
“ไอ้เสือหวาด”
เพชรดีใจที่รู้ว่าเสือหวาดบุกเข้ามาต้องการจะจับให้ได้
กาหลงยืนอยู่บนเรือนกำลังจะเข้าไปด้านใน ไม้กำลังเดินขึ้นบันไดแต่แล้วมีมือมาจับขา ไม้ตกใจก้มมอง เพชรอยู่ใต้ถุน ส่งสัญญาณให้ไม้เงียบ กาหลงหันมามองไม้
“ขึ้นเรือนสิจ๊ะ”
“พี่จะไปเว็จกาหลงเข้านอนก่อนเถอะ”
“จ้ะ”
กาหลงเดินเข้าเรือนไป ไม้เห็นกาหลงลับตาก็โล่งใจหันไปมองเพชร
ไม้แปลกใจที่เพชรลากออกมามุมหนึ่งห่างจากเรือน
“เอ็งมีอะไร คงไม่ใช่เรื่องที่จะว่าร้ายกาหลง”
“ไม่ใช่จ้ะฉันจะบอกพี่เสือหวาดบุกเข้าหมู่บ้าน”
ไม้ตกใจ
“ไอ้เสือหวาด มันบุกไปเรือนใคร”
อ่านต่อเวลา 17.00น.
เสือหวาดควบม้ามาหยุดที่หน้าเรือนช่วงแล้วกระโดดลงจากม้า
“บุกไปฆ่าให้หมดเรือน”
พวกลูกน้องถือดาบพุ่งตรงไป สิง มั่นและขาบถือดาบออกมามาขวางเสือหวาดจึงลุยเข้าไปฟันต่อสู้กับพวกสิง
ลูกน้องเสือหวาดบุกมาที่เรือนแม่กลอย คงเคาะประตูตะโกนเรียก
“เปิดประตู ไม่งั้นข้าจะเผาเรือน”
แม่กลอยนอนอยู่ในเรือนสะดุ้งตกใจ
“ไอ้โจร”
เสือหวาดฟันต่อสู้พวกสิงเสียท่า เสือหวาดถือดาบเดินตรงขึ้นเรือนไป สิงจะเข้าไปขวาง แต่ลูกน้องเสือหวาดเข้าไปขวางไว้ เสือหวาดถือดาบเดินขึ้นบันไดไปตั้งใจไปจัดการกับช่วง
ลูกน้องเสือหวาดเข้ามาในคอกควายกำลังจะลากควายไป ตาสรถือดาบ ยายมาถือมีดพร้าเข้ามาขวาง
“พวกเอ็งหยุด เอาควายข้าคืนมา”
ลูกน้องเสือหวาดถือดาบเข้ามาฟัน ตาสรสู้แต่สู้ไม่ได้ ลูกน้องเสือหวาดถีบล้มลง ยายมาเข้าไปประคอง
“ตาสร เอ็งเป็นยังไงบ้าง”
“ข้าไม่เป็นไร มันลบหน้าข้า กล้าบุกมาบ้านนักเลงเก่า ข้าจะฟันให้หัวขาด”
ตาสรพุ่งเข้าไปจะต่อสู้ แต่โดนถีบกลับล้มลงมานอน ยายมาเข้าประคองอีก
“สู้มันไม่ได้หรอก หนีเถอะ”
“เอ็งอย่ามาดูถูกข้า ข้ายังไม่เคยบอกเอ็ง ตอนรุ่นกระทงข้าเคยเป็นมหาโจร ตายซะเถอะ”
ตาสรถือดาบพุ่งเข้าไปแต่โดนถีบหงายหลังกลับมาดาบหลุดจากมือหล่นลงพื้น ยายมาจับดาบยัดมือตาสร
“ไปสู้กับมันต่อ พ่อนักเลงมหาโจร”
ลูกน้องเสือหวาดถือดาบเข้ามาพร้อมกันสองคน ตาสรอึ้งๆ
“มันจะดีรึ”
ตาสรจับมือยายมาวิ่งหนีไปทันที
เสือหวาดบุกไปยังห้องของช่วงแล้วถีบประตูเปิดออก แต่ไม่เจอใคร ช่วงถือดาบยืนอยู่หน้าห้องจะฟัน
“เอ็งตาย”
ช่วงฟัน เสือหวาดหลบทัน แล้วฟันดาบต่อสู้ ทั้งสองฟันต่อสู้สักครู่ช่วงเสียท่าเสือหวาดจะเข้าไปซ้ำโชติเข้ามาช่วยต่อสู้กับเสือหวาด
แม่น้อย อบเชย เผื่อนและงามหนีออกจากเรือน อบเชยถามอย่างตื่นกลัว
“แม่จะหนีไปไหน”
“ไปหลบซ่อนที่วัด พวกมันไม่บุกไปวัดหรอก”
งามหวาดๆ
“ไปดึกๆดื่นๆมันน่ากลัวนะเจ้าคะ ผีดุ”
อบเชยหันไปดุ
“นังงาม เอ็งไม่ไปก็ตายอยู่นี่”
“เจอผีดีกว่าต้องตายเจ้าค่ะ”
ไม้และเพชรวิ่งเข้ามา
“พี่ไม้ พี่ไม้ช่วยฉันด้วย” อบเชยวิ่งเข้าไปอ้อนไม้
“ไอ้เสือหวาดบุกเรือนเอ็ง”
อบเชยแปลกใจ
“พี่ไม้รู้เหรอจ๊ะ”
แม่น้อยขอร้อง
“น้าไหว้ล่ะ พ่อไม้ไปช่วยผัวช่วยลูกน้าด้วยเถอะ ไม่รู้ป่านนี้ พ่อช่วงพ่อโชติเป็นตายร้ายดียังไง”
ไม้หันไปมองหน้าเพชร แล้วรีบวิ่งไปที่เรือนช่วงอบเชยกลัวตะโกนเรียก
“พี่ไม้ พี่ไม้”
“เร่งไปวัดเถอะ”
แม่น้อยลากตัวอบเชยหนีไปที่วัด
สินลากตัวแม่กลอยออกมาจากเรือน ชบาวิ่งเข้ามากอดแม่ด้วยความกลัว
“แม่จ๋า”
คงตะโกนสั่งสิน
“เอ็งเข้าไปกวาดเอาเงินทองมาให้หมด”
สินเข้าไปในเรือน แม่กลอยตะโกนร้องห้าม
“อย่านะอย่าเอาของข้าไป”
กาเหว่าถือไม้ฟืนย่องมาด้านหลังคง ซึ่งยืนคุมแม่กลอยและชบา แม่กลอยและชบาจึงคิดเบี่ยงความสนใจ ไม่ให้ลูกน้องเสือหวาดเห็นกาเหว่า
“ฉันไหว้ล่ะจ๊ะ อย่าทำร้ายฉันกับแม่เราอยู่กันสองคนอยากได้อะไรขนไปเถอะ”
กาเหว่าถือไม้ฟืนฟาดเข้าเต็มหลังคงหวังว่ามันจะสลบแต่คงกลับเกาหลัง กาเหว่าตกใจ คงแย่งไม้มาแล้วตั้งท่าจะฟาดใส่ แม่กลอยและชบาวิ่งเข้าไปดึงขาทำให้คงทำอะไรกาเหว่าไม่ได้ คงกระทืบใส่แม่กลอยและชบาถือดาบขึ้นมาขู่
“อยากตายเป็นผีรึไง”
แม่กลอยกอดกาเหว่าและชบาด้วยความกลัว
กาหลงออกมาที่ชานเรือน ชะเง้อมองหาไม้แปลกใจ
“พี่ไม้ยังไม่ขึ้นเรือนอีก”
ตาสรและยายมาวิ่งมาถึงเรือนกาหลง ยายมาตะโกนเรียก
“กาหลง กาหลง”
กาหลงออกมาจากเรือนด้วยความแปลกใจ
“พวกน้ามาดึกดื่นมีอะไรกัน”
ตาสรละล่ำละลักบอก
“พวกไอ้เสือหวาดมันบุกปล้นเรือน ไอ้ไม้อยู่ไหน เรียกมันไปช่วยจับโจร”
“บอกให้มันไปเรือนแม่เอ็งด้วย ข้าสองคนผ่านมา ได้ยินเสียงเอะอะดังจากเรือนนังกลอย”
กาหลงตกใจ
“แม่...พวกน้าไปเรือนแม่กับฉัน”
ยายมากับตาสรตกใจ
“มันจะดีรึ”
“พวกมันถีบข้าชายโครงแทบหัก” ตาสรบ่น
ยายมามองกาหลง
“ข้าไม่ได้ใจดำเอางี้ข้าจะไปตามชาวคณะวัดไปช่วย”
ตาสรดึงมือยายมาวิ่งออกไปทันทีกาหลงตะโกนเรียกไม้
“พี่ไม้ พี่ไม้”
ลูกน้องเสือหวาดเข้าเล่นงาน สิง มั่นและขาบต่อสู้สุดกำลัง การต่อสู้ผ่านไปได้สักครู่พวกสิงเสียท่านอนหมอบร้องโอดโอย ลูกน้องเสือหวาดจะเข้าไปฟัน ไม้และเพชรเข้ามาขวาง พวกสิงดีใจที่ไม้และเพชรเข้ามาช่วยไว้ ไม้และเพชรต่อสู้กับลูกน้องเสือหวาด
กาหลงแปลกใจที่ไม้หายไปแล้วก็นึกเป็นห่วงแม่
“แม่”
แม่กลอยกอดชบาและกาเหว่าไว้ คงถือดาบคุมเชิงไว้ สินยกหีบใส่ของออกมา
“ได้เงินกับของไม่มาก”
คงไม่พอใจ
“ขึ้นผิดเรือนเสียแล้ว”
“ก็คนมันจนยังจะมาปล้นกัน ไอ้พวกห้าร้อยไม่รู้จักทำมาหากิน” แม่กลอยด่า
คงไม่พอใจหันไปมองแม่กลอยแล้วมองเห็นสร้อยทอง แม่กลอยตกใจเอามือกุมไว้ คงเดินตรงเข้ามาจะกระชากสร้อย
“ข้าไม่ให้ทองของข้า”
คงตบหน้าแม่กลอย ชบาเข้าไปห้าม
“แม่ให้มันไปเถอะ”
“ข้าไม่ให้ นี่มันสร้อยสิดสอดของนังกาหลง มันตั้งใจให้ข้า”
คงตบหน้าไม่ยั้งจนแม่กลอยเลือดออกปากแล้วกระชากสร้อยไปได้ ชบาและกาเหว่าเข้าไปดูแลแม่
“แม่”
คงมองสร้อย
“ไม่เสียแรงที่บุกมา แต่จะคุ้มกว่านี้ ถ้าได้เมียสักคน”
คงหันไปมองชบา เธอตกใจเข้าไปกอดแม่
“แม่ช่วยฉันด้วย”
แม่กลอยหน้าตื่น
“อย่านะ อย่าทำอะไรลูกสาวข้า”
คงเข้ามาดึงตัวชบา แม่กลอยและกาเหว่าช่วยกันดึงตัวไว้
“ปล่อยพี่สาวข้า ปล่อยพี่สาวข้า”
สินเข้ามาช่วย ลากตัวชบาไป กาเหว่าลุกขึ้นจะสู้ สินผลักกาเหว่ากระเด็นหัวไปกระแทกฝาผนังสลบไป แม่กลอยตกใจ
“กาเหว่า” แม่กลอยลุกขึ้นสู้ “พวกเอ็งทำลูกข้า พวกเอ็งตาย”
แม่กลอยจะลุกสู้ คงตบหน้าแม่กลอยล้มลง คงเข้าไปกระทืบ แม่กลอยสลบไป ชบาตกใจเข้าไปกันแม่ไว้
“แม่...อย่า อย่าทำอะไรแม่ข้า”
ชบายกมือไหว้ร้องไห้ คงจึงกระชากตัวไป
“ข้าไม่ทำอะไรแม่เอ็ง แต่ข้าจะเป็นผัวเอ็ง”
คงลากตัวชบาเข้าไปในห้อง สินตะโกนบอก
“เร่งหน่อยแล้วกัน ข้าก็อยากได้เมีย”
ลูกน้องเสือหวาดทั้งสองหัวเราะชอบใจลากตัวชบาเข้าไปในห้อง
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
กาหลงเดินเข้ามาห่างจากตัวเรือน มองเห็นเหตุการณ์ก็โกรธมาก
ไม้ต่อสู้เล่นงานลูกน้องเสือหวาด สิงตะโกนบอกไม้
“เอ็งไปช่วยพ่อช่วงพี่โชติด้วย ไอ้เสือหวาดมันบุกเรือนไปแล้ว”
ไม้รู้ว่าเสือหวาดอยู่บนเรือน จึงคิดไปจัดการ เพชรจะตามไป แต่ลูกน้องเสือหวาดเข้ามาขวาง เพชรจึงต่อสู้กับลูกน้องเสือหวาด ไม้วิ่งขึ้นไปยังเรือนช่วง
หลวงพี่กบกำลังนั่งสวดมนต์อยู่ในโบสถ์ แล้วสะดุ้งตกใจเมื่อจันจู่ๆก็โผล่มาด้านหลัง
“เฮ้ย”
“หลวงพี่กลัวผีเหรอเจ้าคะ”
หลวงพี่กบแก้ตัว
“อาตมาเป็นพระ ผีสิต้องกลัวอาตมาโยมจันเข้ามาใกล้ประชิด อาตมาก็ตกใจกลัวจะผิดศีล”
“ประทานโทษเจ้าค่ะ อิฉันมาแจ้งว่าพวกแม่น้อยหนีร้อนมาพึ่งเย็นเจ้าค่ะ”
สัปเหร่อขาว เฟื้อง โขง และดำ นำพวกแม่น้อยเข้ามาในโบสถ์ ดำถือโอกาสเข้าประคองอบเชย
“น้องอบเชยเดินระวังนะจ๊ะพี่ดำห๊วงห่วง”
“ห่วงตัวเองเหอะ ไอ้ดำ”
อบเชยสะบัดใส่เข้าไปหาหลวงพี่กบ งามจึงเข้ามาจับมือดำแทนดำมองหน้า งามกระพริบตาใส่
“ข้าใช่ผู้ชายริมทาง จะมาเด็ดดมง่ายๆ”
ดำสะบัดมือจากงาม ประมาณว่าข้าหล่อมากข้าเลือกได้ แม่น้อยเข้ามากราบหลวงพี่กบ
“หลวงพี่ช่วยด้วยเจ้าค่ะ”
“มีอะไรกัน”
สัปเหร่อขาวดักทาง
“อย่าบอกนะว่าหนีผี”
ทุกคนได้ยินผีก็ตกใจ หลวงพี่กบก็เสียงสั่น
“พูดกันไป ในวัดวาผีมันไม่กล้าเข้ามาหรอก” หลวงพี่กบเหลียวมองระวัง
“ไม่ใช่ผีเจ้าค่ะ พวกเสือหวาดมันบุกปล้นเรือน”
อบเชยเสริม
“พี่ไม้กับเพชรไปช่วยอยู่ที่เรือนจ้ะ”
ทุกคนเป็นห่วงไม้
“ไอ้ไม้”
“พี่ไม้ไม่น่าไปช่วยคนพรรค์นั้นเลย ปล่อยให้เสือหวาดฆ่าเสียให้สิ้น”
โขงบอกอย่างแค้นใจ
เรือนกาหลง ตอนที่ 12 (ต่อ)
พวกสัปเหร่อขาวหันไปดุตำหนิโขง หลวงพี่กบเตือนสติ
“อย่าคิดอย่างนั้น โกรธคือโง่โมโหคือบ้าคนบ้านเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกัน เอาความโกรธแค้นละทิ้งไว้ อาตมาขอบิณฑบาต”
ดำเสนอหน้า
“ยังไม่เช้า จะออกบิณฑบาตแล้วเหรอหลวงพี่”
ทุกคนหันขวับมองดำ ที่พูดจาตลกไม่เข้าเรื่อง เฟื้องลุกขึ้นขึงขัง
“ไอ้หวาดมันกล้าย้อนกลับมา เอาสิเออมันต้องเจอข้าสักตั้ง” เฟื่องหันไปปลุกระดม “ใครเป็นชายไทยใจกล้า บุกไปร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกัน”
เฟื่องเดินออกไปมั่นใจว่ามีคนเดินตาม แต่รู้ตัวว่าเดินคนเดียวหันกลับไปมองพวกสัปเหร่อขาว ดำและโขงที่ยังนั่งอยู่
“ใครที่มันกบดาน เขาเรียกไอ้หน้าตัวเมีย”
หลวงพี่กบสะดุ้ง
“อาตมาถือเพศบรรชิต”
เฟื้องยกมือไหว้
“ไม่ได้ถึงหลวงพี่”
สัปเหร่อขาว โขงและดำลุกขึ้น
“ชาติเสียต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อเอาสิวะ” สัปเหร่อขาวมุ่งมั่น
ทุกคนตั้งใจจะออกไปช่วยจับไอ้เสือหวาด
กาหลงเดินตรงไปยังเรือนแม่ สินยืนรอจะเข้าไปข่มขืนชบาต่อจากคง
“เอ็งเสร็จยังวะ ข้ารอไม่ไหวแล้วนะเว้ย”
สินรู้สึกว่ามีคนเดินมาก็หันกลับไปมอง ไม่เจอใคร สินแปลกใจหันกลับมาเพื่อจะตะโกนเรียกเพื่อน
“เร่งหน่อยสิวะ”
กาหลงยืนตรงหน้า สินตกใจ กาหลงบีบคอทันที สินดิ้นเอาตัวรอดกาหลงหันไปมองเห็นกาเหว่าและแม่กลอยที่นอนสลบก็ตกใจเป็นห่วงคิดว่าฆ่าสินตายแล้ว กาหลงปล่อยมือร่างสินทรุดลงกองกับพื้น กาหลงมองไปยังร่างของกาเหว่าและแม่
เสือหวาดต่อสู้กับช่วงและโชติแต่เสือหวาดเหนือกว่าเล่นงานโชติกับช่วงจนทั้งสอง
เสียท่าดาบตกพื้นสู้ไม่ได้ เสือหวาดควักปืนออกมา
“ข้าบุกปล้นพวกเจ้าขุนมูลนาย ได้ปืนมาข้าอยากรู้ว่ามันจะใช้งานได้ดีแค่ไหน”
เสือหวาดเล็งปืนไปหาช่วง...ช่วงตาเหลือก
“ไอ้เสือหวาดอย่า”
เสือหวาดแสยะยิ้ม
“คนชั่วอย่างเอ็งกลัวตายด้วยรึ”
ช่วงกลัวตาย
“เอ็งอยากได้สมบัติอะไร ข้าจะยกให้หมดเรือน”
เสือหวาดหัวเราะ
“เอ็งไม่ต้องมาต่อรองข้าสมบัติทุกชิ้นในเรือนเอ็ง ยังไงมันก็ต้องตกเป็นของข้า รวมทั้งชีวิตเอ็งด้วย”
เสือหวาดเล็งปืนใส่ช่วง โชติร้องห้าม
“อย่าทำอะไรพ่อข้า”
โชติคว้าดาบเข้าไปจะฟัน เสือหวาดหลบแล้วถีบ โชติล้มลง ดาบตกพื้น
“ลูกกตัญญู เอ็งไม่ต้องห่วง ความชั่วของเอ็งก็ใช่จะน้อยกว่าพ่อเอ็ง ข้าจะส่งให้เอ็งสองคนไปเสวยสุขในนรก”
เสือหวาดหัวเราะชอบใจ แล้วเล็งปืนไปที่ช่วง
“อย่า” ช่วงร้องลั่น
ทันใดนั้นไม้ถือดาบเข้ามาห้ามไว้
“หยุดนะเสือหวาด”
ช่วงและโชติยิ้มพอใจที่ไม้เข้ามาช่วยไว้ เสือหวาดรู้ว่าเป็นไม้จึงคิดบอกความจริง
“ไอ้หนุ่มเอ็งมาก็ดีแล้ว อยู่กันพร้อมหน้า ข้าจะได้บอกความจริงที่เอ็งอยากรู้”
“ข้าก็อยากฟังจากปากเอ็ง ให้เอ็งยอมรับผิด ขออโหสิกรรมที่ได้ฆ่าพ่อแม่ข้า ก่อนที่เอ็งจะตายด้วยคมดาบข้า”
เสือหวาดมองหน้าไม้
“เอ็งยังคิดว่าข้าเป็นคนฆ่าพ่อแม่เอ็ง”
“ไม่ใช่เอ็งแล้วจะเป็นใคร”
ไม้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต...เศษไฟที่ไหม้บ้านไม้หมดแล้ว ไม้ยืนมองบ้านร้องไห้ที่พ่อแม่ถูกเผาตายในกองไฟ
“พ่อ แม่”
ช่วงเดินเข้ามาข้างๆไม้
“ไอ้เสือหวาดมันฆ่าพ่อแม่เอ็ง ข้าจะเอาตัวมันมาลงโทษให้ได้”
ไม้รับฟังช่วงพูดก็โกรธเกลียดเสือหวาด
“ไอ้เสือหวาด”
เสือหวาดมองไม้แล้วเย้ย
“เอ็งมันช่างเป็นเด็กที่เชื่องเสียจริง ใครพูดอะไรก็สักแต่เชื่อ”
ไม้ชะงัก
“เอ็งหมายถึงอะไร”
“ไอ้ช่วงมันกรอกหูเอ็งว่าข้าเป็นคนฆ่าพ่อแม่เอ็ง เพราะแท้จริงแล้ว...”
ช่วงกลัวเสือหวาดบอกความจริงฉวยจังหวะมือควานไปจับดาบแล้วพุ่งดาบใส่ เสือหวาดหลบแล้วยิงปืนใส่ ช่วงโดนกระสุนปืนเข้าที่ท้องทรุดตัวลง โชติตกใจ
“พ่อ”
เสือหวาดจะยิงซ้ำ ไม้เข้าไปฟัน เสือหวาดจะหันมายิงไม้แต่เพชรเข้ามาถีบปืนตกพื้นเพชรจะฟัน เสือหวาดสู้ต่อยเตะเพชรเสียหลัก เสือหวาดคว้าปืนมาได้ยิงใส่ทุกคนหลบ สิง มั่น ขาบขึ้นมาเสือหวาดเห็นว่าเสียเปรียบ ถือปืนกระโดดหนีลงไปจากเรือน
“ไอ้เสือหวาด”
ไม้และเพชรตัดสินใจวิ่งตามไป โชติหันไปมองช่วงที่บาดเจ็บ
“พ่อ”
“เอ็งรีบไปฆ่ามัน ก่อนที่มันจะบอกไอ้ไม้”
โชติสงสัย
“มันมีเรื่องอะไรกัน”
ช่วงตะคอกสั่ง
“ข้าสั่งให้ไปฆ่ามัน”
โชติหันไปสั่งมั่นและขาบ
“พวกเอ็งไปตามหมอยามารักษาพ่อข้า...ไอ้สิงเอ็งไปกับข้า”
มั่นและขาบเข้าไปดูแลช่วง โชติจึงออกไปกับสิง ช่วงมองตามกังวลใจกลัวเสือหวาดจะบอกความจริงกับไม้
คงผลักชบาล้มลงกับพื้น
“ปล่อยข้า ปล่อยข้า”
คงเข้ามาจะปลุกปล้ำแต่แล้ว ลมพัดวูบใหญ่หน้าต่างเปิดออก คงสงสัย
“อะไรวะ”
คงไม่สนใจ เข้าไปกอดปล้ำ ชบาดิ้นจะหนีออกไป คงคว้าตัวไว้แล้วต่อยจนชบานอนจุกอยู่ที่พื้น คงยิ้มสะใจ
กาหลงเข้าไปหากาเหว่าประคองด้วยความสงสาร เธอหันไปมองแม่แล้วเข้าไปหาประคองแม่เช็ดเลือดที่ปาก เธอร้องไห้ สงสารแม่
“แม่จ๋า”
สินที่นอนทรุดอยู่กับพื้นรู้สึกตัวหันไปมองเห็นด้านหลังกาหลงนั่งกอดร่างแม่กลอย ก็ฉวยโอกาสจะคลานลุกหนีไป กาหลงนั่งกอดแม่รู้สึกได้ว่าสินกำลังจะหนีไป
ร่างชบานอนจุกคงยิ้มสะใจจะเข้าไปปล้ำแต่แล้วหน้าต่างก็กระแทกอย่างแรง คงไม่สนใจจะปล้ำ ทันใดนั้นประตูก็เปิดผาง คงไม่พอใจคิดว่าสินมาเปิด
“ข้ายังไม่ได้เริ่ม เอ็งรอก่อน”
คงไม่เจอใครก็แปลกใจ ทันใดนั้น หน้าต่างและประตู ต่างกระแทกตีไปมา ทำให้คงเริ่มกลัว
สินกำลังจะลุกหนีลงไปจากเรือนคลานมาเจอเท้ากาหลงขวางไว้ สินเงยหน้ามองเห็นน้ำหยดลงมา สินตกใจลุกขึ้นจะวิ่งหนีไปแต่กาหลงบีบคอ สินดิ้นส่งเสียงร้อง
“ผี ช่วยด้วย”
กาหลงบีบคอแล้วยกตัวสินลอยขึ้นแล้วเหวี่ยงตัวสินออกไป คงเเดินออกจากห้องชบาเดินตรงมา
“มีอะไรวะ”
ทันใดนั้นร่างของสินลอยไปตกที่พื้นหน้าเรือนหัวกระแทกพื้นตาย คงตกใจหันไปมองตำแหน่งที่เพื่อนโดนเหวี่ยงแต่ไม่เจอใคร คงตกใจ คว้าดาบขึ้นมาด้วยความกลัว
“ใครวะ ออกมา ออกสิวะ”
คงมองหาด้วยความกลัวถอยหลังมาบริเวณหัวบันไดแล้วก็เหยียบพื้นที่เปียกน้ำลื่นตกบันไดลงไปข้างล่าง คงมองไปตรงหน้าเห็นกาหลงยืนบนหัวบันได คงตกใจร้องลั่น
“ผี”
กาหลงเดินลงบันไดทีละก้าว คงจะลุกหนีแต่ลุกเดินไม่ได้เพราะเจ็บขา
“โอ๊ย”
กาหลงเดินลงบันไดทีละก้าว คงกลัวสุดๆ ค่อยๆถดหนี
“อย่า”
แม่กลอยค่อยๆรู้สึกตัวลืมตาขึ้น กาหลงเดินตรงไปหาคงแล้วนั่งลงข้างๆตบปากคง แม่กลอยค่อยรู้สึกตัวพยุงตัวขึ้น กาหลงตบปากคงอย่างต่อเนื่องจนเลือดออกปากคงหยุดร้อง แม่กลอยลุกนั่งหันหลังให้กาหลงจับปาก แปลกใจที่เลือดที่ปากหายไป กาหลงยังคงตบปากคง แม่กลอยได้ยินเสียงแปลกใจจะหันไปมอง แต่เสียงชบาดังขัดขึ้น
“แม่ช่วยฉันด้วย”
“ชบา”
แม่กลอยเป็นห่วงชบา รีบลุกขึ้นวิ่งไปยังห้องชบา กาหลงรู้ว่าแม่ฟื้นแล้ว ลุกขึ้นยืน มองเห็นแม่วิ่งเข้าไปในห้องชบา เธอยิ้มพอใจหันกลับมามอง คงที่กำลังพยายามจะหนีไป กาหลงยกเท้ากระทืบร่างคงทันที
“อย่า”
กาหลงกระทืบเท้าใส่ กาเหว่าค่อยๆรู้สึกตัวลืมตาขึ้น
ขุนหวาดวิ่งหนี ไม้วิ่งไล่ตาม
“หยุดนะ”
ขุนหวาดยิงปืนใส่ ไม้หลบได้ทัน ไม้ลุกขึ้นมาขุนหวาดวิ่งหนีไปไกล ไม้ตัดสินใจวิ่งออกไปอีกทาง เพื่อไปทางลัดดักจับขุนหวาด เพชรวิ่งไล่ตามมาไม่ทัน
“พี่ไม้”
เพชรมองหาแล้ววิ่งออกไปอีกทาง ซึ่งไม่ใช่ทางที่ไม้ไป
ผีกาหลงกระทืบเท้าใส่ร่าง คงกระอักเลือด ผีกาหลงกระทืบไม่ยั้ง กาเหว่ารู้สึกตัวได้ยินเหมือนเสียงคนร้องก็แปลกใจ
แม่กลอยเข้าไปในห้องเห็นชบานอนกุมท้องจุก
“ชบา”
แม่กลอยวิ่งเข้าไปดูแล ชบาดีใจที่แม่กลอยเข้ามาช่วย ชบาร้องไห้
“แม่”
“หมดความหมดเคราะห์แล้วเอ็ง”
“แม่...แล้วพวกมันล่ะ” ชบานึกได้ “กาเหว่า น้องอยู่ไหน”
แม่กลอยฉุกคิดเป็นห่วงกาเหว่า รีบพยุงชบาเพื่อจะออกจากห้อง
ผีกาหลงกระทืบคง กาเหว่าลุกขึ้นมา หันหลังให้ ผีกาหลงกระทืบคงอย่างแรง
“อ๊าก” คงสิ้นใจตาย
กาเหว่าได้ยินเสียงร้อง หันไปมองที่หน้าเรือน กาเหว่ามองเห็นผู้หญิงยืนหันหลังก็แปลกใจ กาหลงซึ่งหันหลังให้ รู้ว่ากาเหว่ามองเห็นเธอ กาหลงใจสั่น ยืนอยู่ตรงนั้น กาเหว่าแปลกใจ ค่อยๆเดินลงบันไดทีละขั้น เพื่อไปดู ผีกาหลงยืนนิ่ง กลัวกาเหว่าจะรู้ความจริงว่าเธอเป็นผี กาเหว่าเดินตรงมาเหยียบพื้น แล้วเดินมาหากาหลงเพ่งมองจากด้านหลัง ก็พอจะคุ้น คิดว่าเป็นกาหลง
“พี่กาหลง”
กาหลงตกใจที่กาเหว่ารู้ว่าเป็นผี
“นั่นพี่ใช่ไหม”
กาหลงตัดสินใจจะหันไป ระหว่างที่หันไป เสียงแม่กลอยดังขึ้น
“กาเหว่า”
กาเหว่าสะดุ้งตกใจตื่น...แม่กลอยและชบาต่างร้องเรียก
“กาเหว่า”
กาเหว่าเห็นแม่และชบา
“แม่ พี่ชบา”
ชบาร้องไห้ดีใจ
“เอ็งอยู่ดีแล้วกาเหว่า”
กาเหว่าร้องไห้
“แม่...พี่ชบา...พี่กาหลงเข้ามาช่วยฉัน พี่กาหลงมาช่วยพวกเราแท้ๆ”
“เอ็งพูดอะไรของเอ็ง ท่าจะเพ้อหนัก”
“จริงแท้จ้ะแม่ พี่กาหลงกระทืบพวกมันตายไปคาตีน”
ชบาค่อยๆลุกขึ้น หันไปมองที่หน้าเรือนเห็นศพของสินและคงนอนตายอยู่ที่พื้นดินหน้าเรือน ชบาตกใจ แม่กลอยลุกมองมายืนมอง ข้างๆ ชบาตกใจ
“พวกมัน...ตายแล้ว”
แม่กลอยเข้ามาปลอบใจชบา...กาเหว่าเข้ามากอดแม่กลอย แม่กลอยโอบกอดปลอบใจลูกทั้งสอง
“เอาเถิด เวรกรรมเอ็งไม่มีอีก ไม่ต้องกลัวนะลูก แม่อยู่กับพวกเอ็งเดี๋ยวนี้แล้ว”
แม่กลอยน้ำตาไหล ทั้งสามแม่ลูกกอดกันร้องไห้ที่รอดตายมาได้ มุมหนึ่งกาหลงยืนมองร้องไห้ดีใจที่แม่และน้องปลอดภัย กาหลงยืนมองแล้วเดินกลับไป
เฟื้องเดินนำมานอกเขตวัด โดยมีสัปเหร่อขาว โขงและดำตามมา เฟื้องฮึกเหิม
“ไปล้อมจับไอ้ชั่วขุนหวาด สร้างชื่อสู่ลูกหลานบ้านบัวสีให้รู้แซ่ไปทั้งบาง”
สัปเหร่อขาวเข้ามาเสริม
“ตัดหัวมันแลไปแลกค่าหัวจากทางการ มาซ่อมวัดให้เป็นวัดแห่งวีรชน”
เฟื้องไม่พอใจ
“ไอ้ขาว เอ็งล่ะถนัดนัก ไอ้เรื่องทำบาป หากินกับของไม่ดี หากินกับผี”
“ข้าผิดข้อไหนวะ ข้ามีใจกุศลเอาเงินมาช่วยวัด”
“เงินพวกนี้ถือเป็นเงินบาป รังแต่ทำให้ศาสนามัวหมอง”
“งั้นเราเอาเงินที่ได้จากค่าหัวมัน...เอาไปช่วยคนจนที่เคยโดนปล้น” ดำแนะ
โขงมองดำยิ้มชม
“พี่ดำช่างหัวแหลม ไม่คิดเลยว่าหน้าตา...”
ดำเชิดหน้ายิ้ม...โขงอึ้ง
“อืม...อย่างนี้ จะจิตใจงาม”
ดำรู้ว่าโขงเย้ยเยาะ
“รอหน่อยเหอะ...รอให้พ่อเงาะถอดรูปเป็นพระสังข์ หนังหน้าเอ็งไม่ได้เสี้ยวหนัง” ดำยกเท้าขึ้นมา “ข้าหรอก”
“ไอ้ขาว หมองูตายเพราะงูฉันใด...ระวังเถอะ หมอผีหน้าเงินอย่างเอ็งจะตายเพราะผี” เฟื้องเตือน
“เอ้า...ไอ้นี่ปากนรกเสียเหลือเกิน ถ้าเดินร่วมทางเดียวกันคงสาหัสพิลึก” สัปเหร่อขาวเดินแยกออกมา “ใครจะไปตัดหัวไอ้ขุนหวาดกับข้าก้าวมา”
ดำและโขงก้าวไปยืนตรงหน้า สัปเหร่อขาวยิ้มพอใจ แต่แล้ว ดำและโขงกลับหลังหันหาเฟื้อง
“รักนะ...แต่กลัวผี”
สัปเหร่อขาวโมโห
“ไอ้พวกขี้ขลาด ข้ามีผ้ายันต์กันผี”
“เหอะ...ผ้าขี้ริ้วห่อศพ”
เฟื้องเย้ยๆแล้วเดินออกไป พวกดำและโขงวิ่งตามไป สัปเหร่อขาวตะโกนไล่หลัง
“ข้าไม่กลัวผีเว้ย...หมอผีรึจะกลัวผี”
ทันใดนั้น เสียงหมาหอนขึ้น สัปเหร่อขาวสะดุ้งรีบเอาผ้ายันต์มาถือไว้กันผีเดินออกไปเพื่อล่าขุนหวาด
ขุนหวาดวิ่งหนีมาตามชายป่าแต่แล้ว ไม้ยืนอยู่บนต้นไม้
“ไอ้ขุนหวาด”
ขุนหวาดตกใจจะยิงปืนใส่ ไม้กระโดดลงมาฟัน ขุนหวาดหลบทำให้ปืนตกพื้น ไม้เข้าไปต่อสู้กับขุนหวาดทั้งสองต่อสู่กัน ขุนหวาดกลิ้งไปที่ปืนคว้าปืนจะยิง ไม้ตกใจ
“เอ็งมันหาที่ตาย”
ขุนหวาดเล็งปืนมาที่ไม้ แล้วจะยิง เสียงปืนดังเปรี้ยง ปืนขุนหวาดตกพื้น ไม้แปลกใจ เพชรถือปืนวิ่งเข้ามาด้านหลังช่วยไม้ไว้
“เพชร”
ขุนหวาดฉวยจังหวะจะก้มเก็บปืน เพชรพุ่งเข้าไปเตะล๊อคตัวขุนหวาดหมอบ
“เอ็งหมดทางแล้ว ข้าคอยวันที่จะได้จับเอ็งเข้าตรุไปรับโทษทัณฑ์ ความผิดที่เอ็งก่อมันมากโขที่ทางการจะประหารชีวิตเอ็ง”
ไม้รู้ได้ทันที
“เอ็งเป็นตำรวจ”
“ฉันขอโทษเถิดที่พลั้งไม่ได้บอกพี่”
ขุนหวาดตกใจที่รู้ว่าเพชรเป็นตำรวจ
“ไว้ฉันลากตัวมันเข้าตรุที่วิเศษไชยชาญเสร็จ ฉันจะกลับมาเล่าที่มาที่ไปของฉันให้สิ้นสงสัย...ฉันขอตัวไปก่อน”
เพชรจะเข้าไปลากตัวขุนหวาด เพื่อพาออกไป ไม้ถือดาบมาขวางเพชร
“เอ็งพามันไปไม่ได้”
เพชรตกใจที่ไม้ไม่ยอมให้เขาพาขุนหวาดไปลงโทษ
กาหลงกลับมาที่เรือน ร้องเรียกไม้
“พี่ไม้”
กาหลงแปลกใจที่รู้ว่าไม้ไม่อยู่เรือน เธอเป็นห่วงเขาคิดจะตามหา
ไม้บอกเพชร
“มันเป็นคนฆ่าพ่อแม่ข้าตาย”
“ฉันรู้ ฉันถึงต้องพามันไปให้ทางการคาดโทษเสียไงเล่า”
“คนเลวอย่างมันไม่ควรมีลมหายใจเป็นแน่แล้ว...มันต้องโดนชี้หน้าคาดตาแล้วฆ่าให้ตายด้วยคมดาบลูกชายของคนที่มันฆ่า”
ไม้จะเข้าไปฟันขุนหวาด...เพชรเข้าไปห้าม
“พอการเถิดพี่ไม้ ไม่งั้นพี่จะต้องโทษฐานฆ่าคนตาย”
ไม้ไม่ฟัง
“ข้ายอมตายขอได้แก้แค้นให้พ่อแม่ข้า”
ไม้ผลักเพชรออกจะเข้าไปฟัน ขุนหวาดตกใจตาโต เพชรตะโกนเตือนสติ
“พี่ตายแล้วพี่กาหลงจะอยู่กับใคร”
ไม้จะฟันร่างขุนหวาด จึงต้องหยุดชะงักทันทีเปลี่ยนใจไม่ฟันแต่ถีบขุนหวาดล้มลง
“เอ็งพูดมา พูดความมาให้แจ้งใจว่าเอ็งเป็นคนฆ่าพ่อแม่ข้า กราบไหว้วิญญาณพ่อแม่ข้า...ขอโทษพ่อแม่ข้า”
ไม้เข้าไปตะคอกบอกขุนหวาดระบายความในใจที่คลั่งแค้น
“ข้าไม่เคยทำบาดหมางให้พ่อแม่เอ็งกระเทือน”
“เอ็งยังปากแข็ง ไอ้เลวทราม”
“ข้าจะตายอยู่ข้างหน้า...ข้าจะโกหกดื้อๆงั้นเหรอ”
“งั้นพูดความมา ถ้าเอ็งหาใช่โจรในคืนนั้น...แล้วใครกันฆ่าพ่อแม่ข้า”
ขุนหวาดค่อยๆลุกขึ้น เพื่อจะบอกความจริง
“ใช่ว่ามีเพียงโจรที่ชั่วช้า...แต่โจรในคราบนักบุญต่างหากที่เลวทรามกว่าข้านัก”
“อย่ามัวตีฝีปากเอาความมาป้ายกันเล่น เอ็งบอกมา เอ็งหมายถึงใคร”
“คนที่ฆ่าพ่อแม่เอ็งคือ...”
ไม้ลุ้น รอฟังคำจากปากขุนหวาด
“ไอ้...ช่วง”
ไม้ตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นช่วง
“เอ็งเอาความป้ายคนอื่นหวังเอาตัวรอด”
“เขารู้กันสิ้นว่าความผิดข้ามันมากโข ยังไงข้าก็ต้องสิ้นแต้มตาย แต่ข้าขอตายอย่างมีศักดิ์ศรี ไร้มลทินติดตัว ข้าต้องลบความชั่วที่ข้าไม่ได้ก่อ”
ไม้และเพชรรอฟัง...
“คนที่ฆ่าพ่อแม่เอ็งคือไอ้ช่วง มันมีเรื่องหมางใจกับพ่อแม่เอ็ง”
ไม้คิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ตอนนั้น เขายังวัยเด็ก กลับเข้ามาในบ้านเห็นพ่อโกรธมากก็ตกใจ
“พ่อ...” เขาเห็นหน้าแม่มีเลือดที่ปากก็ตกใจ “แม่...แม่เป็นอะไร”
ไม้วิ่งเข้าไปประคองดูแลแม่
“พ่อช่วยแม่ด้วย”
พ่อไม้จะวิ่งตามช่วงไป จำต้องกลับมาดูแลแม่
“เอ็งเป็นไงบ้าง”
แม่ร้องไห้
“ฉันไม่เป็นอะไร”
พ่อกับแม่กอดกันร้องไห้...ไม้ร้องไห้แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“แม่เป็นอะไรจ๊ะพ่อ”
“เอ็งไม่ต้องยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของเด็ก”
พ่อไม้กอดแม่ด้วยความสงสารเมีย และนึกโกรธแค้นผู้ใหญ่ช่วง
ไม้ครุ่นคิดว่าเป็นฝีมือใครขุนหวาดพูดขึ้น
“เอ็งไม่เชื่อข้า ก็ไปถามมัน หรือคนใกล้ตัวมัน”
“เอ็งหมายถึงใคร”
ขุนหวาดอ้าปากจะตอบ เสียงปืนดังปังติดต่อกันสามครั้ง ไม้และเพชรตกใจ ร่างขุนหวาดทรุดตัวลง ไม้และเพชรตกใจหันไปมองรอบๆ
“ใครกัน ออกมา”
ไม้และเพชรหันไปมองรอบๆ ไม้ถือดาบตั้งมั่นและแล้วเสียงปืนดังปัง เพชรตกใจหันกลับไปมองไม้ที่โดนยิงค่อยๆล้มตัวลง เพชรตกใจเข้าไปหาไม้
“พี่ไม้”
เพชรถือปืนยิงใส่ป้องกันตัวแต่แล้วปืนยิงโดนเข้าที่ปืนเพชรตกพื้น สิงโพกผ้าปิดหน้าเข้ามาถือดาบจะฟัน เพชรคว้าดาบของไม้ต่อสู้ตาสู้ไม่ไหววิ่งหนีออกไป สิงจึงวิ่งไล่เพชร ไม้ที่นอนครวญครางเลือดเริ่มไหลออกมา โชติก้าวเข้ามายืนที่มุมหนึ่งถือปืนจ้องมองไปยังร่างไม้ที่นอนจมกองเลือดซึ่งเขายังไม่เห็นโชติ...โชติยิ้มเย้ยตั้งใจจะฆ่า
พุดจีบนั่งปักผ้า แล้วเข็มแทงนิ้ว พุดจีบตกใจเลือดออกที่นิ้ว
“คุณพุดจีบเจ็บมากไหมเจ้าคะ” นวลตกใจ
“ฉันไม่เป็นอะไร...แต่ใจคอไม่สู้ดีเลย”
“ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไปไหว้พระสวดมนต์ เรียกขวัญให้มาอยู่กับตัวเถอะเจ้าค่ะ”
พุดจีบคิดตามคำแนะนำของนวล
ไม้นอนกับพื้น เลือดไหลออกมามาก เท้าใครคนหนึ่งเดินเข้ามายืนข้างตัว เขาพยายามเพ่งมองด้วยสายตาพร่ามัวร่างนั้นมายืนตรงหน้า ค่อยๆชัด เป็นหน้าโชติ
“ไอ้โชติ”
“เอ็งมันดวงแข็งมาหลายมื้อ แต่คราวนี้แล้วที่จะได้สะสางแค้น คงหวนมาเป็นวันข้าบ้างสิเล่า”
โชติเอาเท้ามาเยียบร่างไม้ บี้ไปที่รอยกระสุนปืน ไม้ร้องเสียงหลง
“อ๊าค”
“อย่าคิดว่าข้าใจคอชั่วกับเอ็ง ข้ากำลังสงเคราะห์ให้เอ็งได้ลาทุ่งไปอยู่กับพ่อแม่เอ็ง ก่อนลมหายใจจะสิ้น เอ็งมีสิ่งใดจะสั่งเสียคนข้างหลังก็วานบอก”
“ข้าขอสาปแช่งให้คนชั่วอย่างเอ็งถูกธรณีสูบ ไม่ได้ผุดได้เกิดชั่วกัปล์ชั่วกัลป์”
โชติโกรธมาก
“ปากดีนักเอ็ง”
โชติเล็งปืนจะยิง ไม้มองพร้อมรับความตายแต่แล้วมือหนึ่งมาจับข้อมือโชติหันไปมองตกใจ
“นังกาหลง”
ผีกาหลงจับข้อมือโชติบิดปืนตกพื้น...ไม้ลืมตาแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นมองไปเห็นร่างกาหลงเบลอๆจับข้อมือโชติ ไม้พยายามจะเพ่งมองแต่แล้ว ภาพนั้นก็หลุดจากในระยะสายตาของเขา ผีกาหลงดันตัวโชติออกมาที่มุมหนึ่ง แล้วผลักกระเด็นออกไป
“เอ็งฆ่าผัวข้า เอ็งต้องตาย”
โชติตกใจมาก กระชากสร้อยคอออกมา เอาพระมากัน กาหลงจะเข้ามา โดนแสงจากพระก็ร้อน ถอยห่างออกไป โชติลุกขึ้นชูพระกันกาหลงไว้ แต่แล้วกาหลงหายไป โชติแปลกใจ ระแวงว่ากาหลงจะมาทางไหนและแล้วโชติหันกลับไปด้านหลัง กาหลงจ้องมองหน้าแล้วตบด้วยหมัดอย่างแรง โชติกระเด็นล้มลงสร้อยพระหลุดจากมือออกไป โชติจะเข้าไปหยิบกาหลงเดินมาเหยียบมือ โชติตกใจกลัว กาหลงยื่นมือจะบีบคอ ไม้นอนเจ็บปวดมากเริ่มร้อง
“โอ๊ย”
มือกาหลงบีบคอ โชติพยายามดิ้น ไม้นอนร้องครางเพราะเจ็บมาก
“โอ๊ย”
กาหลงตกใจเป็นห่วงไม้
“พี่ไม้”
กาหลงดึงมือที่บีบคอโชติกลับหันไปมองไม้ โชติได้จังหวะคลานไปคว้าสร้อยพระ กาหลงหันไปมาหา โชติเอาสร้อยพระมาถือกันไว้แล้ววิ่งหนีออกไป กาหลงหันไปมองไม้
“พี่ไม้”
เรือนกาหลง ตอนที่ 12 (ต่อ)
ไม้นอนเจ็บปวด ผีกาหลงเดินเข้ามาหาแล้วค่อยๆนั่งลงข้างๆ มองด้วยความเป็นห่วง
“พี่ไม้”
ไม้ค่อยๆประคองสติลืมตามองสายตาเบลอเห็นหน้ากาหลงลางๆเหมือนจะชัดแล้วก็ดับวูบไป ไม้หมดสติ กาหลงตกใจ
“พี่ไม้...”
กาหลงประคองดูอาการไม้กลัวเขาจะตาย เธอร้องไห้เสียใจ เสียงร้องไห้ของเธอดังกังวาลลมพัดกระโชก ต้นไผ่ใบไม้ปลิวว่อน สักเหร่อขาววิ่งมามองตรงไปเห็นภาพกาหลงกอดไม้ร้องไห้ก็ตกใจช๊อค...เพชรเข้ามาเห็นกาหลงอยู่กับไม้ สัปเหร่อขาวหันไปถาม
“เอ็งเห็นอย่างที่ข้าเห็น”
เพชรพยักหน้า
“ฉันเห็นมานานแล้ว”
สัปเหร่อขาวตกใจกลัว จะถอยหลังหนีออกไป กาหลงนั่งกอดไม้แล้วเรียกขาว
“พ่อขาว”
สัปเหร่อขาวสะดุ้งตกใจที่กาหลงไม่ได้หันหน้ามามอง แต่รู้ตัว กาหลงหันมาบอก
“พ่อ เพชร ช่วยพี่ไม้ด้วย...ช่วยผัวฉันด้วย”
สัปเหร่อขาวและเพชรตกใจคิดตัดสินใจ
“จ้ะ...”
สัปเหร่อขาวคิดจะช่วยไม้ แต่ก็กลัวผีกาหลง
โชติวิ่งกลับมาถึงเรือน สิงวิ่งเข้ามาอีกทาง
“ผีนังกาหลงเล่นงานข้า”
สิงตกใจ หันไปมองรอบๆ แล้ววิ่งขึ้นบันไดเข้าเขตเรือนที่ล้อมไว้ด้วยสายสิณจน์
“พี่ฆ่าไอ้ไม้ตายแล้วใช่ไหม”
“มันโดนยิงเข้าไปกลางอก ยังไงก็ไม่รอด”
โชติมั่นใจว่าไม้ต้องตาย
ภายในเรือนกาหลง...สัปเหร่อขาวนั่งทำแผลให้ไม้เอากระสุนออก ไม้นอนไม่ได้สติ กาหลงนั่งมองด้วยความเป็นห่วง โดยมีเพชรอยู่ช่วย สัปเหร่อขาวพันผ้าปิดปากแผลเสร็จ กาหลงเข้ามาถาม
“พี่ไม้เป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
สัปเหร่อขาวสะดุ้ง ทำเอาของตกแล้วถอยออกห่าง
“พ่อเองก็ตอบไม่ได้ ว่าจะรอดไหม มันหนักเอาการอยู่จะเป็นจะตายก็รู้ในคืนนี้”
กาหลงกังวลใจ มองไม้ที่นอนไม่ได้สติ สัปเหร่อขาวแอบหันไปถามเพชร
“เอาไงต่อ...จะอยู่หรือไป”
กาหลงพูดขึ้นเหมือนได้ยิน
“พ่อกลับไปเถอะ ฉันอยู่เฝ้าผัวฉันเอง”
สัปเหร่อขาวโล่งใจ
“งั้นพ่อไม่กวนใจล่ะ”
“ฉันก็ไปล่ะนะ ฉันต้องไปส่งลุงขาว”
เพชรรีบออกไปกับสัปเหร่อขาวทันที กาหลงมองไม้ด้วยความเป็นห่วง ร้องไห้เรียกหา
“พี่ไม้...พี่ไม้ตื่นขึ้นมาสิจ๊ะ พี่ไม้อย่าทิ้งกาหลงไป”
สัปเหร่อขาวกำลังจะเดินออกไปจากเรือนหันกลับไปมองกาหลง ก็อดสงสารไม่ได้ เห็นใจในความรักของกาหลงแต่ก็นึกกลัว รีบออกไป
เพชรเดินตามสัปเหร่อขาวมามุมหนึ่งห่างจากเรือนกาหลง สัปเหร่อขาวหันไปต่อว่าเพชร
“เอ็งแจ้งใจว่ากาหลงเป็นผี ทำไมปิดข้า”
“ฉันบอกแล้วลุงจะเชื่อฉันไหม”
“เชื่อสิวะ ข้าก็เคยเห็นผีกาหลง”
“เอ้า...แล้วลุงรู้ แล้วทำไมไม่บอกฉันล่ะ”
“ก็ข้าไม่สู้แม่นใจ แล้วมันก็พิลึกแท้เกินจะเชื่อว่าลูกสะใภ้ที่อยู่กินกับลูกข้า เป็น...ผี”
“รู้แล้วเอาไงล่ะทีนี้”
“ก็บอกให้รู้ทั้งหัวคุ้งท้ายคุ้งสิวะ ปล่อยให้ไอ้ไม้อยู่ไปตามเวรกับผี ไม่ได้”
“ลุงใจดำแท้นัก ไม่คิดสงสารพี่กาหลง”
“เอ็งจะให้ข้ายอมรับสะใภ้ผีรึไงวะ”
เพชรอึ้ง
“อย่างน้อยพี่กาหลงก็ไม่เคยทำผิดประหลาดใส่ลุง พี่กาหลงมีบุญคุณช่วยชีวิตฉัน ฉันไหว้ล่ะ อย่าเพิ่งบอกความตอนนี้...”
เฟื้อง โขงและดำวิ่งเข้ามา เฟื้องต่อว่าทันทีที่พบหน้า
“ชะหน๋อยอวดโอ้ว่าจะจับโจร ที่ไหนได้มาสุมหัวคุยเล่น”
“ฉันไปเรือนป้ากลอย...ไอ้ลูกน้องขุนหวาดตายไปสอง” โขงบอก
“ส่วนข้าไปที่ชายป่า เจอ...”
ดำพูดไม่ทันจบเพชรแทรก
“ศพขุนหวาดโดนยิงตาย”
พวกเฟื้องแปลกใจ
“เอ็งรู้ได้ไง”
สัปเหร่อขาวมองหน้าเฟื่อง
“ข้ารู้อีกหลายเรื่อง เรื่องที่พวกเอ็งไม่เคยรู้”
“เรื่องอะไรสัปเหร่อขาว” ดำถามอย่างสงสัย
ทุกคนรอฟัง เพชรมองลุ้น กลัวสัปเหร่อขาวจะบอกความจริง
“เรื่องที่เอ็งต้องแจ้งใจคือ...”
ทุกคนรอฟังลุ้น...
“เร่งไปเก็บศพพวกมันไปทำพิธี ไม่งั้นผีโจรจะออกอาละวาดทั้งบาง”
ดำตื่นกลัว
“ผี”
เพชรหันไปมองสัปเหร่อขาว ดีใจที่ไม่บอกเรื่องกาหลง เพชรนำพวกเฟื้อง ดำและโขงรีบออกไป สัปเหร่อขาวหันกลับไปมองที่เรือนกาหลงเป็นห่วงไม้ และตกใจเรื่องกาหลง
ไม้นอนไม่ได้สติ กาหลงนั่งร้องไห้ มองลุ้นว่าไม้จะรอดไหม
“พี่ไม้...พี่ต้องฟื้นนะจ๊ะ กาหลงรอพี่อยู่” กาหลงปาดน้ำตาแล้วยิ้ม “ฉันขอโทษจ้ะพี่ ฉันจะไม่ร้อง พี่ไม่อยากเห็นน้ำตาฉัน พี่ตื่นลืมตาสิจ๊ะ เมียพี่คนนี้สวยแล้วนะ ไม่เปื้อนคราบน้ำตาแล้ว”
กาหลงมองไม้แล้วร้องลิเกพร่ำพรรณาถึงไม้ พยายามกลั้นความเศร้า ร้องด้วยรอยยิ้มและความสุขใจ หวังให้เขามีกำลังใจ
“โอ้ว่าผัวจ๋า...จะหลับใหลไปใย ขอจงได้ตื่นจากฝัน รู้ไหมคนดี เมียพี่รออยู่ตรงนี้ อย่ามัวล่องลอยไกลในวิมานสวรรค์ ขอพี่จงกลับมา เมียรอรับขวัญผัว ไม่มีที่ไหน จะสุขใจเท่าเรือนรัก ไม่มีที่ใดจะอุ่นใจเท่าเมียรัก ขอพี่ยาจักกลับมา กาหลงรอท่าอยู่ที่เรือน”
กาหลงร้องลิเกจบไม้ยังนอนนิ่งไม่ได้สติ กาหลงเริ่มใจคอไม่ดีน้ำตาพรั่งพรู กลั้นไว้ไม่ไหวอีกแล้ว
“พี่ไม้...อย่าจากฉันไป กาหลงรอพี่นะ”
กาหลงพยายามยิ้ม แต่น้ำตาพรั่งพรูมาไม่ขาดสาย เธอฟุบร้องไห้กับเขา
เสียงร้องไห้ของกาหลง ดังลอยลม ไปทั่วหมู่บ้านบัวสี...พุดจีบนั่งไหว้พระอยู่ในห้องพระ
เสียงร้องไห้ของกาหลงวังแว่วลอยมา พุดจีบหยุดสวดมนต์ ลืมตาขึ้น เธอได้ยินเสียงร้องไห้ ก็รู้ว่าเป็นเสียงร้องไห้ของกาหลงก็แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น นวลเข้ามาในห้อง
“คุณพุดจีบเจ้าคะ ลางสังหรณ์เป็นจริงเจ้าค่ะ นายไม้โดนยิงเจ็บหนัก รักษาตัวอยู่ที่เรือน”
พุดจีบตกใจ
“พี่ไม้”
นวลได้ยินเสียงร้องไห้
“เอ่อ...คุณพุดจีบได้ยินเสียงสะอื้นไหมเจ้าคะใครกัน...มาสะอื้นร่ำไห้แถวนี้”
พุดจีบไม่อยากให้นวลตกใจ
“คงเป็นเสียงไผ่เสียงลม พี่นวลไปนอนเถอะ”
นวลเริ่มกลัว
“เจ้าค่ะ”
นวลรีบออกไป พุดจีบรู้ว่ากาหลงคงร้องไห้เสียใจเรื่องไม้ก็สงสาร ตัดสินใจกลับไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระ อธิษฐานจิตให้ไม้ เสียงร้องไห้ของกาหลงดังแว่วเข้ามาแล้วค่อยๆเบาลงแล้วเงียบหายไป
เช้าวันใหม่...เฟื้องช่วยฝังศพพวกลูกน้องขุนหวาดเสร็จก็เปรยขึ้น
“นี่แหละหนาชีวิต เกิดมาก็ตัวเปล่า ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ หนำซ้ำทำชั่วก็ต้องตาย ตกนรกทนเวร”
สัปเหร่อขาวหันไปถามเฟื้อง
“เอ็งอยากไปขุมไหน ข้าจะขุดหลุมไว้ให้”
“ขุมที่เจ็ด” เฟื้องนึกได้ “เฮ่ย คนอย่างข้า คิดดีทำดีขึ้นสวรรค์”
“ข้าไปด้วย ข้าอยากเป็นนางฟ้า ร่ายรำบนสวรรค์”
จันฟ้อนรำ เฟื้องเข้าไปรำด้วย สัปเหร่อขาวเอาเสียมเข้ามากันท่า
“ริเป็นชู้กับเมียข้า...เอ็งต้องปีนต้นงิ้วโดนหอกทิ่มตำ”
สัปเหร่อขาวเอาเสียมกระทุ้งก้น เฟื้องและจันรีบแยกออก โขงเปิดผ้าดูศพของลูกน้องขุนหวาดที่มุมหนึ่งแล้วหันมาบอกอย่างสงสัย
“ใครกันฆ่าลูกน้องขุนหวาดที่เรือนแม่กลอย”
“ข้าถามทั้งหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้เห็น” เฟื่องบอก
จันเสริม
“แม่กลอยเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าพวกมันตายยังไง”
โขงคิดๆ
“คนหนึ่งมีรอยบีบคอ อีกคนปากฉีก แล้วก็ท้องแตกตายเหมือนโดนกระทืบ”
เฟื้องแปลกใจ
“นั่นนะสิใครกันที่ฆ่ามัน”
จันโพล่งขึ้น
“ผี”
สัปเหร่อขาวหันขวับไปถาม
“เอ็งเห็นรึ”
“ไม่เห็น แต่ข้าเชื่อ คนดีผีคุ้ม ผีบ้านผีเรือนมาช่วยไว้”
สัปเหร่อขาวหัวเราะเพราะรู้ดีว่ากาหลงช่วยไว้
“ไม่ใช่ผีบ้านผีเรือนหรอกมันคือผี”
“ผีอะไร”
ทุกคนสงสัยอยากรู้ สัปเหร่อขาวยั้งปากไม่บอกเรื่องกาหลง
“ก็ผีสิวะ”
ทุกคนผิดหวัง
“โธ่...”
สัปเหร่อขาวนึกแล้วกังวลใจที่รู้ว่ากาหลงเป็นผี กลัวจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น...
พุดจีบถือห่อยาเดินตรงมาหยุดที่หน้าเรือนกาหลงแล้วหยุดคิดชั่งใจจะไปหรือจะกลับแล้วตัดสินใจเดินตรงไป พุดจีบจะเดินขึ้นบันได กาหลงออกจากเรือนมายืนตะโกนไล่
“ออกไปจากเรือนข้า”
“กาหลง...ฉันมาเยี่ยมพี่ไม้ ฉันเอายามาให้พี่ไม้”
กาหลงเดินลงบันได พุดจีบคิดว่ากาหลงจะมารับห่อยาจึงส่งให้
“นี่จ้ะห่อยา”
กาหลงรับห่อยา
“ข้าไม่รับความหวังดีกลวงๆของเอ็ง”
กาหลงปาห่อยาทิ้ง พุดจีบผิดหวัง
“กาหลง”
“ออกไปจากเรือนข้า”
พุดจีบเดินไปหยิบห่อยา กาหลงคิดว่าพุดจีบจะเดินออกไป แต่พุดจีบจะเดินขึ้นบันได กาหลงรั้งตัวไว้
“ข้าบอกให้ออกไป ข้าไม่อยากเจอหน้าเอ็งจนนิดเดียว”
“ฉันก็ไม่ได้มาหากาหลง ฉันมาหาพี่ไม้”
พุดจีบไม่ฟังคำห้ามจะขึ้นบันได กาหลงดึงตัวไว้แล้วตบหน้าพุดจีบ
“หน้าด้านไร้ยางอาย”
พุดจีบเสียใจแล้วตบหน้ากลับ
“เอ็งมันใจดำ “
“เอ็งกล้าตบข้าเหรอ”
กาหลงเข้าไปตบตี พุดจีบไม่ยอมสู้คืนทั้งสองตบตีกัน พุดจีบผลักกาหลงออกไป
“ใจคอเราะร้ายเห็นแก่ตัว ฉันเอายามาให้พี่ไม้ ฉันห่วงพี่ไม้ ฉันอยากให้พี่ไม้หลับสบาย”
พุดจีบพูดจบก็เดินขึ้นบันไดแต่แล้ว มือหนึ่งมาจับที่ข้อเท้าดึงร่างพุดจีบ ล้มลงกระเด็นลงมาที่พื้น เท้าผีกาหลงก้าวเข้ามา พุดจีบเงยหน้าขึ้น
“อย่ามายุ่งกับผัวข้า ออกไป”
พุดจีบตกใจ ถอยห่างออกมา...แล้วต่อว่าทั้งน้ำตา
“ฉันหลงคิดว่ากาหลงรักพี่ไม้ แต่ที่แท้แล้ว กาหลงรักตัวเอง กาหลงเห็นแก่ตัวสิ้นดี พี่ไม้กำลังจะตาย ฉันเอายาหวังมาช่วยรักษา แต่กาหลงคิดการแต่แค้นแต่ ริษยา พาลทำลายชีวิตพี่ไม้ รึกาหลงอยากให้พี่ไม้ถึงคราวเคราะห์ตาย กาหลงจะได้อยู่กับพี่ไม้”
กาหลงอึ้งคิดตามคำของพุดจีบ
“งั้นก็ไม่ต้องรับยานี่หรอก ปล่อยให้พี่ไม้ยืนไปตามกรรมให้ตายสมใจกาหลง”
พุดจีบเสียใจทิ้งห่อยา ต่อหน้ากาหลง แล้ววิ่งออกไป กาหลงมองห่อยาแล้วคิดตัดสินใจ
พุดจีบวิ่งมาหยุดร้องไห้ เสียใจที่ไม่อาจช่วยไม้ได้ เธอจะกลับไป แต่ใจหนึ่งก็เป็นห่วง
“พี่ไม้”
พุดจีบหันกลับไปมองที่เรือนกาหลง
ไม้นอนไม่ได้สติอยู่ในห้อง ผีกาหลงเดินเข้ามาในมือถืออะไรบางอย่าง...พุดจีบกลับมาแล้วก้มมองที่พื้นเห็นห่อยาวางอยู่ เธอหยิบห่อยาขึ้นมา เสียใจที่กาหลงไม่เอายาไปรักษา พุดจีบเป็นห่วง กลัวกาหลงจะปล่อยให้ไม้ตาย
ไม้นอนอยู่ ผีกาหลงเดินเข้ามาในมือถือมีดไว้ เธอนั่งลงข้างตัวเขา เสียงคำพูดของพุดจีบ ลอยก้องในหัว
“รึกาหลงอยากให้พี่ไม้ถึงคราวเคราะห์ตาย กาหลงจะได้อยู่กับพี่ไม้ ปล่อยให้พี่ไม้ยืนไปตามกรรม ให้ตายสมใจกาหลง”
ผีกาหลงมองไม้ แล้วยกมีดขึ้นจะแทง เธอหลับตาแล้วแทงลงไป มีดแทงลงที่พื้นข้างตัวไม้ ผีกาหลงร้องไห้ออกมา
“ฉันทำร้ายพี่ไม่ได้ พี่ต้องอยู่ พี่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”
น้ำตากาหลงใหลลงหยดที่ใบหน้าของเขา ไม้ค่อยๆลืมตา สายตาเบลอๆเห็นเป็นภาพผีกาหลงลางๆ ไม้ลืมตาขึ้นแล้วเห็นหน้ากาหลงชัดขึ้น เป็นหน้ากาหลงที่เป็นคน
“กา...หลง”
กาหลงดีใจมาก
“พี่ไม้”
กาหลงเข้าสวมกอดดีใจที่เขารอดชีวิต ฟื้นขึ้นมา
พุดจีบยืนหน้าเรือนรับรู้ว่าไม้รอดชีวิต เธอร้องไห้ด้วยความดีใจเอาห่อยา วางไว้ที่หน้าเรือนกาหลงแล้วเดินจากไป...กาหลงกอดร่างไม้ด้วยความรัก ไม้เองก็ดีใจที่รอดชีวิตทั้งสองกอดกัน ร้องไห้ทั้งคู่
ในวัด...สัปเหร่อขาวหยิบของใส่ย่ามเตรียมเดินทางไกล จันดึงของในย่าม
“พี่ทิ้งฉันไปไม่ได้”
สัปเหร่อขาวเอาของใส่คืน
“ข้าต้องไป”
จันเอาของออกอีก
“พี่น้อยใจคิดว่าฉันเป็นชู้กับพี่เฟื้องรึ”
เฟื้องเข้ามาบอก
“ถึงข้าจะแก่ ข้าจะอ้วน ข้าก็ไม่จนตรอกเอาเมียเอ็งมาทำเมีย”
จันหันไปโวยใส่เฟื้อง
“ข้าไม่ดีตรงไหน ถึงข้าแก่ข้าก็เนื้อแตกมัน”
สัปเหร่อขาวเซ็งๆ
“เฮ้ย...ข้าไม่ได้หึงพวกเอ็ง”
โขงแปลกใจ
“แล้วลุงจะไปไหน ไปทำอะไร”
สัปเหร่อขาวหน้าตาจริงจัง
“บ้านเรานับวันจะวิปริต ตายกันหลายศพ มันไม่เป็นมงคล ข้าต้องไปหาของดีมาช่วย” สัปเหร่อขาวหยิบพระคล้องคอให้จัน “เอ็งใส่ติดตัวไว้ ดึกดื่นก็อย่าออกจากเรือน”
เฟื้องหันมาชวนโขง
“ไอ้โขงไป๊...ได้ข่าวไอ้ไม้มันรอดตายแล้วแวะไปเยี่ยมมันสักหน่อย”
สัปเหร่อขาวรีบบอกเฟื้อง
“ห่างๆเรือนกาหลงไว้”
พวกเฟื้องแปลกใจ สัปเหร่อขาวรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ปล่อยให้มันได้อยู่ตามประสาผัวเมีย”
“เหอะ...เอ็งกันท่าข้า กลัวลูกชายลูกสะใภ้จะรักข้ามากกว่าเอ็งงั้นเร้อ งั้นรู้ไว้เสียตรงนี้ ข้าจะไปหาไอ้ไม้ที่เรือนกาหลงเช้าถึงเย็นถึง” เฟื่องยืนยัน
สัปเหร่อขาวหมั่นไส้ ยุส่ง
“เอ่อ...ดึกดื่นก็ไปอย่าให้เว้น แล้วเอ็งจะเห็นดี”
สัปเหร่อขาวพูดท้าทายเฟื้อง โขงแปลกใจในคำเตือนของสัปเหร่อขาว
“ข้าไปล่ะ” สัปเหร่อขาวบอกลาจัน
“รีบกลับมานะผัว...ผะผัว...ผะ...ผัว”
“ร้องยังกะชะนี” เฟื้องแดกดัน
โขงครุ่นคิด
“ลุงขาวพูดเป็นนัยๆ เหมือนไม่อยากให้เราไปเรือนกาหลง...มีอะไรรึ”
ทุกคนส่ายหัวไม่รู้เรื่อง
สัปเหร่อขาวกลังจะออกเดินทางไปจากวัด เพชรเข้ามาขวาง
“ฉันไม่ยอมให้ลุงพาหมอผีมาทำร้ายพี่กาหลง”
“ข้า...”
เพชรขัดขึ้น
“ลุงมันใจดำ ลุงก็เห็นพี่ว่าพี่กาหลงไม่ทำร้ายใครและดูแลพี่ไม้อย่างดี”
“ข้าจะ...”
เพชรสวนขึ้น
“ฆ่าพี่กาหลง”
“เฮ่ย...ฟังข้าบ้างสิวะ”
เพชรหยุดฟัง
“ข้าไม่ได้ตามหมอผี ...ข้าจะหาคนมาช่วย ช่วยให้ลูกสะใภ้ข้าพบหนทางสว่าง”
“ลุงหมายถึงใคร”
“อีกไม่นานเอ็งก็จะเห็นเอง”
ขาวจะเดินไป เพชรเข้ามาจับตัวไว้
“อะไรของเอ็งอีกวะ”
“ประสบโชคนะลุง”
ขาวยิ้มรับ
“เอ็งอยู่ทางนี้ ก็ช่วยดูแลทุกคนด้วย”
“จ้ะ”
ขาวเดินแยกไป...เพชรมองตามแล้วก็นึกถึงชบา
เพชรกระเด็นออกไป แม่กลอยถือไม้ฟืนไล่
“ออกไปจากเรือนข้า”
“อย่าจ้ะแม่”
“แม่เหรอ” แม่กลอยจะตี
“น้ากลอย...ฉันมาดี”
“คนดีที่ไหนมาด้อมอยู่ใต้ถุนเรือน”
“ฉันกลัวพวกโจรมันบุกเรือนน้าอีก ฉันจึงอาสามาเฝ้าเรือนให้จ้ะ”
“ไม่ต้อง”
กาเหว่าและชบาเดินเข้ามาที่มุมหนึ่ง
“ให้พี่เพชรอยู่เถอะแม่ ไม่งั้นพวกเราต้องตายแน่เชียว” กาเหว่าขอร้อง
ชบาเสริม
“มันก็จริงอย่างที่กาเหว่าว่านะแม่ หากพวกโจรบุกเรือนอีกแม่จะทำไง”
แม่กลอยเถียงไม่ออก ชบาพูดต่อ
“เรือนเราก็แต่ผู้หญิงกับเด็ก”
กาเหว่าทำตัวเป็นเด็ก อ้อนแม่กลอย
“ใช่...ฉันยังเล็กนัก จะสู้มันได้ไง แม่ให้พี่เพชรอยู่ช่วยเถอะ”
เพชรยิ้มหน้าบาน แม่กลอยมองไม่ไว้ใจ
“มันน่ากลัวกว่าพวกโจรอีก”
เพชรสะดุ้ง
“หน้าฉันออกจะดี ใจฉันดียิ่งกว่าหน้าอีกจ้ะแม่...” เพชรรีบเปลี่ยนคำ “น้ากลอย ฉันจะเฝ้าเรือนเสมือนหมา ใครมาฉันจะเห่า เฮ้ย...ฉันจะไล่ ฉันจะไม่ย่างกรายขึ้นบันไดแม้แต่ขั้นเดียว”
แม่กลอยคิดตัดสินใจ
“ข้าไม่มีเงินให้เอ็ง”
“ไม่ต้องเสียเงินให้ฉันแม้แต่สตางค์แดงเดียว ฉันขอข้าวกินให้อิ่มท้องจ้ะ”
แม่กลอยคิดตัดสินใจ...กาเหว่าคะยั้นคะยอ
“ให้พี่เพชรอยู่เถอะจ้ะ ข้าวเราก็มีเหลือ กินกันแต่ละมื้อก็เหลือทิ้งให้หมากิน”
เพชรสะดุ้ง ชบาลุ้น
“แม่ว่าไงจ๊ะ”
เพชรมองแม่กลอย รอการตัดสินใจ
“ก็ดีกว่าทิ้งข้าวให้หมา”
เพชรดีใจมาก
“ไชโยโห่ฮิ้ว”
กาเหว่าช่วยร้องรับด้วย แม่กลอยจ้องหน้า
“แต่เอ็งห้ามเหยียบเรือน”
“จ้ะ...”
“ถึงเวลากินข้าวจะเคาะกะลาเรียก...หากเอ็งเฉียดใกล้ลูกสาวข้าแม้เพียงคืบ หัวเอ็งหลุดจากบ่า”
แม่กลอยขู่ เพชรสะดุ้งโหยงแต่แอบดีใจ หันไปยิ้มให้ชบา เธอยิ้มดีใจที่เขามาดูแล เพชรยักคิ้วหลิ่วตาให้ ชบาอาย แม่กลอยหันไปมอง เพชรแสร้งทำเป็นขรึม
ชบาตักน้ำที่ท่าน้ำ จะหาบน้ำกลับเรือน เพชรเข้ามาช่วย
“ฉันช่วยจ้ะ”
“ไม่ต้อง”
“ฉันช่วย”
“อย่าเลย ประเดี๋ยวแม่มาเห็นเอ็งจะหัวหลุดจากบ่า”
“เอ็งห่วงข้า ข้าซึ้งใจนัก แม่ยอดดวงใจ”
เพชรพูดจาหวาน ชบาเขินอายจะเงื้อมือตบ เพชรรับไว้ชบาจะเข่าเพชรหนีบขากันไว้
“ข้ารู้ทันใจเอ็งหมดแล้วนะ”
ชบาผลักออก
“ออกไปห่างข้า ประเดี๋ยวแม่เห็น”
“แม่เอ็งวุ่นกับผี ไม่รู้เห็นหรอก”
ชบาแปลกใจ หันไปมองตามสายตาเพชร เห็นแม่จุดธูปเอาอาหารมาเซ่นไหว้บริเวณที่ศพของสินและคงตาย
“ข้าไม่ได้ฆ่าพวกเอ็ง...ไปผุดไปเกิด อย่ามาหลอกหลอนกันเลย”
ชบาคลายความกังวล
“ข้าดีใจที่เอ็งไม่เป็นอะไร”
“ข้าก็ดีใจที่เอ็งรอดจากขุนหวาดมาได้ ฝีมือเอ็งเก่งนัก”
“ไม่เก่งได้ไงล่ะ ก็ข้าเป็นถึง...”
เพชรชะงักเกือบหลุดปาก ชบามองรอฟัง
“ลูกศิษย์พี่ไม้ มวยมือหนึ่งของบ้านบัวสี”
ชบานึกถึงไม้
“ใครกันลอบยิงพี่ไม้ รึจะเป็นลูกน้องขุนหวาด มันล้างแค้นพี่ไม้”
“จะเป็นใครก็ช่างเถอะ ข้าต้องจับมันมาลงโทษให้ได้”
ชบาแปลกใจในคำพูดของเขา แม่กลอยไหว้วิญญาณเสร็จ ร้องเรียก
“ชบา”
ชบาตกใจรีบหาบน้ำเดินเข้าไปที่เรือน เพชรรีบถอยออกห่าง
“จ้ะแม่”
แม่กลอยมองมา ชบาเดินหามน้ำไปใส่ตุ่ม แม่กลอยมองไป เพชรทำทีเป็นผิวปากไม่รู้ไม่เห็น
กาหลงยกถ้วยยาให้ไม้ประคองให้กินยา ไม้ดื่มยาจากถ้วยรู้สึกพอใจกับตัวยา
“กาหลงได้ตัวยาจากไหน พี่กินแล้วรู้สึกมีกำลังวังชา”
“ฉัน...ไปซื้อจากบ้านหมอยาจ้ะ”
ไม้ยิ้มพอใจ
“พี่ต้องกินให้เรี่ยมนะจ๊ะ แล้วนอนพักมากๆ พี่จะได้รับสบายหายดี”
กาหลงป้อนยาให้แล้วดูแลไม้
โชติเปิดประตูห้องนอนพ่อเข้ามา ช่วงนอนอยู่อาการหนักค่อยๆลืมตาขึ้นหันไปมองช้าๆ
“พ่อ...ฉันทำตามที่พ่อสั่งแล้ว ฉันฆ่าไอ้ขุนหวาดตายด้วยคมกระสุนฉัน”
ช่วงยิ้มพอใจ...
“แต่มันบอกไอ้ไม้ ว่าพ่อเป็นคนฆ่าพ่อแม่ไอ้ไม้ พ่อเป็นคนทำรึ ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
ช่วงไม่พอใจที่โชติปล่อยให้ขุนหวาดบอกไม้ ช่วงเอามือปัดของที่อยู่ใกล้ตัวตกแตก โชติตกใจ และรู้ว่าช่วงไม่พอใจ
“พ่อไม่ต้องคับใจไป ต่อให้ไอ้ไม้รู้ว่าเป็นพ่อ มันก็เอาผิดไม่ได้ ไม่มีใครเอาความพ่อได้ แล้วฉันก็ยิงมัน”
ช่วงแปลกใจที่รู้ว่าโชติคิดฆ่าไม้
“มันน่าเจ็บใจนัก...ไอ้ไม้จะตายอยู่แล้วเทียว ผีนังกาหลงมาช่วย”
ช่วงตระหนกที่ผีกาหลงออกเล่นงานอีก
“รอให้ฉันประจวบเหมาะอีกสักครั้ง ฉันจะฆ่ามันทั้งผัวทั้งเมีย”
ช่วงค่อยๆยิ้มพอใจที่โชติจะทำอย่างนั้น โชติยิ้มดีใจที่ช่วงพอใจในสิ่งที่เขาทำ
โชติเดินออกจากห้องช่วง ยิ้มพอใจที่ทำให้ช่วงพอใจได้แต่แล้วอบเชยเข้ามาทุบตี
“ฉันเกลียดพี่ ฉันเกลียดพี่”
โชติผลักอบเชยออก
“อะไรของเอ็ง”
“ก็พี่จะฆ่าพี่ไม้ ผัวของฉัน”
“เอ็งจะหนักข้อไปแล้ว ไอ้ไม้มันมีกาหลงอยู่ทั้งคน มันกินอยู่กับผี เอ็งยังสิเนหามันอีก”
“ก็ข้ารักของข้า มันห้ามกันได้ที่ไหน ยิ่งพี่ไม้ต้องทนอยู่กับผี ฉันยิ่งสงสาร ฉันจะต้องดูแลใจพี่ไม้”
“เอ็งมันบ้า”
“ฉันบ้าพี่ก็บ้า ถ้าพี่ห้ามใจไม่ให้เกลียดพี่ไม้ หยุดละความแค้นได้ ก็ค่อยมาห้ามฉัน”
โชติพูดไม่ออก เพราะเขายังแค้นไม้ ไม่อาจหยุดความแค้นได้
“รักกับแค้นมันก็เหมือนกัน ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งรั้งก็ยิ่งเพิ่มกำลัง”
โชติฟังและคิดตามอบเชยพูด
“ฉันรักพี่ไม้...พี่ต้องหยุดทำร้ายคนรักของฉัน แล้วหันไปเล่นงานนังผีกาหลงซะ”
อบเชยพูดจบแล้วเดินหนีไป โชติคิดตามที่อบเชยพูด หาทางกำจัดกาหลง โชติเอามือจับที่คอนึกโกรธแค้นที่กาหลงจะฆ่าเขา แม่น้อยถือถาดใส่ถ้วยยากำลังจะเอาไปให้ช่วง ได้ยินทั้งสองคุยกันก็ไม่สบายใจ
เรือนกาหลง ตอนที่ 12 (ต่อ)
แม่น้อยถือถ้วยยา จะมาทาแผลให้ช่วง
“ฉันบดยาจะมาทาให้ ยานี้ช่วยสมานแผลให้แห้ง”
แม่น้อยเริ่มทายาแล้วพูดคุยเรื่องของลูกๆ
“ฉันไม่สบายใจที่พี่เสริมส่งลูก”
ช่วงชักสีหน้าไม่พอใจ
“อบเชยก็เป็นเอาหนัก เอาแต่เพ้อรักคนมีเจ้าของ คงเป็นกรรมที่พี่คิดพรากเมียเขา”
แม่น้อยพูดไม่ทันจบ ช่วงไม่พอใจปัดถาดใส่น้ำตกพื้น แม่น้อยตำหนิช่วงเสียงแข็ง
“พอการเถอะ”
ช่วงไม่พอใจที่แม่น้อยแข็งใส่
“เอะอะก็ใช้อารมณ์ ฉันอยากให้พี่รู้จักยั้งคิดบ้าง ที่พี่ต้องมานอนปางตายไม่ใช่เพราะใคร เป็นผลกรรมจากตัวพี่”
แม่น้อยลุกขึ้น เอาถ้วยยาวางลงแล้วตะโกนออกไปนอกห้อง
“ใครอยู่ข้างนอก...มาช่วยทายา”
แม่น้อยวางถ้วยยาข้างตัวช่วง แล้วเดินออกไป ไม่สนใจใยดี ช่วงไม่พอใจที่แม่น้อย เริ่มแข็งข้อ ปัดถ้วยยานั้นตกพื้นแตกโกรธมาก...
ไม้ดีขึ้น แต่ยังนอนเพราะยังไม่แข็งแรง กาหลงเอายามาทาที่แผลให้
“เบาๆมือนะกาหลง”
กาหลงร้องลิเก
“พี่ไม่ต้องกลัวเจ็บ ฉันไม่มีวันทำให้พี่เจ็บแม้เพียงปลายเล็บ...คนรักของฉัน ฉันจะดูแลทุกลมหายใจ ยานี้อาจจะไม่ดีพอ แต่ขอให้รู้ว่ายาใจในตัวฉัน จะสมานแผลให้หายวันเร็วไว”
ไม้ยิ้มตอบ กาหลงทายาให้
“ไม่เจ็บใช่ไหม”
ไม้ยิ้ม
“เจ็บ”
กาหลงผิดหวังเล็กน้อย
“ฉันสู้อุตส่าห์ด้นกลอนร้อง หวังใจให้อิ่มอกลบเลือนความเจ็บ”
“แม้นเจ็บ พี่ก็ทนได้”
กาหลงยิ้มพอใจ ไม้จับมือกาหลงที่ถือผ้าชุบยา มาทาแผลที่หน้าอก กาหลงยิ้มให้ไม้ พุดจีบเฝ้ายืนมองที่มุมหนึ่ง ดีใจที่เห็นไม้อาการดีขึ้น แต่ในใจก็ยิ่งเศร้า เพื่อเห็นเขารักกันมากขึ้น
กาหลงใช้ผ้าเช็ดเนื้อตัวให้ ไม้นั่งมองกาหลงคอยดูแลปรนนิบัติ กาหลงเช็ดตัว แล้วไล่ลงไปเช็ดที่เท้า เช็ดซอกเท้า เช็ดเป็นอย่างดี ไม้มองสิ่งที่กาหลงทำ ด้วยความสุขใจ ชาตินี้คงหาเมียที่ดีอย่างกาหลงไม่ได้อีกแล้ว
“ชาติที่แล้วพี่คงมีบุญมาบ้าง แม้นต้องกำพร้าพ่อกำพร้าแม่ แต่พี่ก็มีเมีย ที่รักพี่...ไม่รู้ว่าชาติหน้าพี่จะเป็นยังไง”
กาหลงหันมามองไม้
“พี่ก็ต้องมีความสุขอย่างวันนี้...เพราะฉันจะอยู่กับพี่ทุกชาติไป”
กาหลงยิ้มตอบ ไม้มองแล้วหยั่งเชิงลองถาม
“กาหลง”
กาหลงรอฟังคำ
“ถ้าพี่ตายไป...กาหลงจะทำยังไง”
กาหลงมองหน้าไม้
“ฉันก็คงขาดใจ”
ไม้มองหน้ากาหลง
“ตรอมใจตาย...ฉันอยู่ไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีพี่”
กาหลงมองหน้า ไม้ยิ้มรับ
“แล้วถ้าฉันตายล่ะ พี่จะตายตามฉันไหม”
ไม้ส่ายหน้า
“พี่จะอยู่...”
กาหลงผิดหวังเล็กน้อย
“พี่จะอยู่ทำศพให้กาหลง พี่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กาหลงไปสู่สุคติ แต่มันคงอยู่ได้เพียงกาย เพราะวิญญาณและหัวใจพี่มันได้ตามไปพร้อมกาหลงแล้ว”
กาหลงฟังคำของไม้ ก็น้ำตาไหลเข้าสวมกอดด้วยความรัก ไม้โอบกอดรักสุดหัวใจ...
กาหลงนั่งขัดพื้นบันได เสียงอบเชยดังขึ้น
“กาหลงจ๊ะ”
กาหลงหันไป มองเห็นอบเชยเดินเข้ามาโดยที่เผื่อนและงามตามหลังกลัวๆ
“เอ็งมีความอะไร”
“ฉันฟังความมาว่าโจรชั่วมันยิงพี่ไม้จนสาหัส ต้องซมอยู่นาน ฉันเป็นห่วงเสียเหลือเกิน เลยเอาผลไม้ เอาสมุนไพรมาฝากจ้ะ”
เผื่อนส่งกระเช้าผลไม้และสมุนไพรให้อบเชย กาหลงเดินตรงมา อบเชยหวั่นๆว่ากาหลงจะยินดีรับหรือไม่ กาหลงเดินตรงมารับ
“ข้าขอบใจ”
อบเชยยิ้มโล่งใจ พวกเผื่อนและงามก็ยิ้มคลายกังวล เพราะก่อนหน้ากลัวกาหลงจะอาละวาด
“พี่ไม้ยังหนักมากไหม ฉันอยากจะเข้าไปพบหน้า” อบเชยเห็นกาหลงมองดุรีบเปลี่ยนคำ “เอ่อ ไม่ขึ้นบนเรือนไปกวนดีกว่า พี่ไม้จะได้นอนพักเอาแรง เห็นทีวันนี้ต้องลาเสียแล้ว”
อบเชยยิ้มลา แล้วหันหลังเดินกลับ เผื่อนและงามรีบดันตัวให้ออกไปให้เร็วที่สุด
“ประเดี๋ยวก่อน” กาหลงเรียกไว้
อบเชย เผื่อนและงามอึ้ง แปลกใจว่ากาหลงรั้งไว้ทำไม หันกลับไปหา
“ฉันจะไปส่งกลับเรือน”
อบเชยอึ้ง แปลกใจ
“จ้ะ”
อบเชยกังวลใจลึกๆ ทำไมกาหลงถึงอยากไปส่ง
อบเชยเดินนำจะไปยังเรือน...กาหลงเดินตาม เผื่อนและงามหันกลับไปมองกาหลงรีบเดินเคียงคู่มาถามอบเชย
“มันจะเหมาะหรือเจ้าคะ ให้ผีไปส่ง” เผื่อนถามหวาดๆ
งามกลัวมาก
“ผีอาจลวงดักคอพวกเรานะเจ้าคะ”
อบเชยตีงาม
“เบาๆสิเอ็ง ถ้ากาหลงมันคิดหักคอมันทำไปนานแล้ว”
“เราอยู่หน้าเรือน กาหลงมันกลัวพี่ไม้เห็นน่ะสิเจ้าคะ” เผื่อนแย้ง
งามเสริม
“มันถึงอาสามาส่ง หวังเด็ดคอลับตาคนเจ้าค่ะ”
อบเชยคิดตามเผื่อนและงามเริ่มตกใจกลัว หันกลับไปมองกาหลง แต่แล้วไม่เจอ อบเชยตะลึง
“กาหลงหายไปแล้ว”
เผื่อนและงามตกใจ
“แน่แท้แล้วเจ้าค่ะ”
ทันใดนั้นลมพัดเข้ามาวูบใหญ่ ทั้งสามสะดุ้ง เสียงกาหลงดังขึ้น
“อบเชย”
อบเชยตกใจกลับหันหลัง สะดุ้งตกจุ
“ว้าย”
กาหลงยืนจ้องมองพวกอบเชยในสภาพปกติ ไม่ได้เป็นผี แต่สีหน้าโกรธอบเชย
ไม้ถือดาบกำลังจะเดินตรงเข้าไปเรือนช่วง...เพชรเข้ามาขวางไว้
“พี่ไม้ อย่าไปเลย”
“เอ็งอย่ามาใกล้มือ ข้าต้องไปเอาเลือดหัวไอ้โชติออก”
“พี่เชื่อฉันเถอะ พี่ไปก็มีแต่เสียกับเสีย”
“เอ็งเป็นตำรวจ เอ็งริเข้าข้างโจรรึ”
เพชรอึ้ง
“ไอ้โชติเป็นคนยิงปืนใส่ข้า มันหวังจะฆ่าข้า เอ็งเป็นตำรวจก็ไปจับมัน”
“แล้วพี่คิดว่ามันจะยอมโง่รับผิดดื้อๆอย่างนั้นเทียว มันยิงพี่ฉันก็ไม่อยู่รู้เห็น สู้เรารอเวลาแก้สงสัยแล้วจับมันให้ได้คาหนังคาเขาไม่ดีกว่าหรือ”
ไม้หงุดหงิดใจ แล้วหันมามองเพชร
“ทำไมเอ็งต้องปิดข้า”
เพชรมองไม้ จำต้องบอกความจริงกับไม้
กาหลงมองหน้าอบเชย ไม่พอใจ
“ฉันทำอะไรให้กาหลงขุ่นข้องหมองใจจ๊ะ”
“เอ็งไม่ต้องตีหน้าเซ่อ เอ็งรับปากจะปรามพี่ชายเอ็งไม่ให้รังควานข้า แต่พี่ชายเอ็งยังรั้นคิดฆ่าผัวข้า”
อบเชยยกมือไหว้
“สาบานให้เจ้าแม่หักคอฉันได้ ฉันไม่รู้ความด้วยจนนิดเดียว”
กาหลงเข้าไปตบหน้าอบเชยหลายครั้ง
“เอ็งโกหก”
เผื่อนและงามตกใจ เข้าไปร้องขอให้กาหลงหยุดตบอบเชย แต่ก็อยู่ห่างๆเพราะกลัวกาหลง
“พอเถอะจ้ะ” เผื่อนร้องห้าม
“สงสารคุณอบเชยเถอะ” งามขอร้อง
กาหลงผลักอบเชยล้มลงไปตรงหน้า อบเชยร้องไห้
“ฉันพูดความสัตย์ ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเคราะห์เล่า ฉันรักพี่ไม้ แม้นไม่ได้ครองใจ ฉันก็ไม่ยอมให้พี่ชายทำร้ายคนที่ฉันรักได้ลงคอหรอก”
“เอ็งไม่ได้ทำก็ดี แต่คนที่ทำกับผัวข้ามันต้องตาย”
กาหลงคิดจะไปจัดการกับโชติ อบเชยรีบวิ่งเข้าไปทรุดตัวจับขากาหลง
“ฉันขอเถอะจ้ะ...พ่อฉันพี่ฉันรับกรรมหนักพอแล้ว”
กาหลงแปลกใจในคำพูดของอบเชย
ช่วงนอนซมเพราะพิษบาดแผล ยังคงเจ็บหนักและไออย่างรุนแรง แม่น้อยยืนมอง รู้สึกสังเวชใจ ทรุดตัวลงร้องไห้ในบาปกรรมที่ช่วงเคยทำไว้
อบเชยร้องขอกาหลง
“พ่อเจ็บหนักปางตาย ไม่รู้จะอยู่เป็นร่มโพธิ์คุ้มหัวฉันได้นานเท่าใด...ส่วนพี่โชติก็จับไข้ไม่สมประดีเยี่ยงเดียวกัน กาหลงคิดถึงหัวอกฉันสิจ๊ะ เสาหลักมาล้มครืนแล้วพวกฉันจะอยู่กันยังไง”
กาหลงคิดตามที่อบเชยพูด
“พวกฉันสำนึกบาปรับเคราะห์หนักสาหัสนักแล้ว คิดเสียว่าให้อภัยเป็นทาน เสริมบุญให้กาหลงอยู่เคียงพี่ไม้ไปชั่วนาตาปี”
อบเชยร้องขอ กาหลงคิดตามแล้วเดินตรงไปหา เผื่อนและงามคิดว่ากาหลงจะฆ่าอบเชยก็ตกใจ
“ตายๆ”
กาหลงเดินตรงไปหาอบเชย แต่ไม่ได้ทำอะไร
“หากเป็นมื้อก่อน ข้าไม่ปล่อยเอ็งแน่ แต่เดี๋ยวนี้...ข้ารู้ซึ้งถึงความสูญเสีย ข้าไม่อยากให้ใครต้องสูญเสียเหมือนอย่างข้าอีก” กาหลงสอนอบเชย “จงกลับใจทำดี คิดดีเสียก่อนสาย”
ขาดคำกาหลงก็เดินจากไป อบเชยร้องไห้ซึ้งน้ำใจ เผื่อนและงามเข้ามาหา
“ให้ฟ้าผ่าตายเหอะ งามไม่คิดว่าคุณอบเชยจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้”
อบเชยยิ้มเย้ย
“ฟ้าผ่าเอ็งตายสิ”
เผื่อนและงามสะดุ้งตกใจ อบเชยลุกขึ้น
“น้ำตาเป็นยาพิษชั้นดี ผีที่ว่าร้ายฤาจะสู้มารยาคน”
อบเชยปาดน้ำตาแล้วยิ้มเย้ยที่กาหลงหลงกลเธอ เผื่อนและงามอึ้ง ไม่คิดว่าอบเชยจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้
เพชรเดินเข้าไปไหว้ขอโทษไม้
“ฉันขอโทษทีเถอะจ้ะพี่ ฉันจำต้องปิด มันเป็นเรื่องของหน้าที่”
“เอาเถอะ...ข้าเข้าใจ แล้วเอ็งจะเอาศพขุนหวาดกลับไปเมื่อใด”
“ฉันให้ขุนเพชรอินทรา ผู้ช่วยฉันที่แฝงตัวเข้ามาในหมู่บ้าน เอาศพกลับวิเศษไชยชาญเพื่อปิดคดีความแล้ว”
“ทำไมเอ็งไม่กลับไป จะทนอยู่บ้านป่าให้เหนื่อยกายเพื่อการใด”
“ฉันจะอยู่ช่วยพี่จับโชติ และล้างบางคนชั่วที่บ้านบัวสี”
ไม้มองหน้า เพชรยิ้มเขิน
“แล้วก็อยู่ดูแลชบา พี่กาหลงฝากฉันไว้”
“ชบามันก็คงมีใจให้เอ็งมากขึ้นสักที เมื่อรู้ว่าเอ็งมียศฐาเป็นถึงตำรวจจากเมือง”
“ฉันขอนะพี่ อย่าอึงไปก็แล้วกัน รวมทั้งชบา”
ไม้มองด้วยความแปลกใจ
“ฉันไม่อยากเอายศฐาบรรดาศักดิ์มาเรียกหาความรัก หากชบาจะรักฉันก็ขอให้รักในตัวไอ้เพชรพ่อค้าเร่”
“ชบามันใช่หญิงเห็นแก่ได้ อย่าลองใจนานนัก ขืนมันรู้ว่าเอ็งโกหก พาลจะเกลียดเสีย”
“ฉันจะหาจังหวะประเหมาะบอกชบาเอง เมื่อฉันแม่นใจว่าชบารักฉัน”
เพชรยืนยันที่จะบอกชบาในอีกไม่นาน
โชติเดินตรงมาที่มุมหนึ่งที่เรือนกาหลง แล้วชี้ไป
“อาจารย์สัก...นังกาหลงมันอยู่นั่น”
อาจารย์สัก หมอผีใหญ่เดินเข้ามายืนจ้องมองไปยังเรือน เห็นกาหลงกำลังนั่งปอกมะม่วงป้อนไม้ อาจารย์สักจ้องมองพินิจดูดวงวิญญาณนี้แล้วหลับตา กาหลงกำลังจะป้อนมะม่วงให้ไม้ รู้สึกได้ว่ามีคนแอบมอง จึงหยุดป้อน หันกลับไปมองยังตำแหน่งของอาจารย์สักที่ยืน แต่ไม่เจออะไร เธอหันกลับไปป้อนไม้ต่อโดยไม่ได้ติดใจ...
อาจารย์สักเดินออกมาที่มุมหนึ่ง โชติตามมาไม่พอใจ
“อาจารย์หนีออกมาทำไม รึอาจารย์กลัวมัน”
“ข้าหาเคยกลัวผีตนไหน ข้ามานี่หมายจะเอาคืนเสียให้มันสาสม”
“แล้วปล่อยให้มันเห่อเหิมเกินหน้าอยู่ใย”
“วิญญาณมันมีพลังแก่กล้ามาก ใช้วิชาอาคมเล่นงานก็เสียแรงหากคิดกำจัดให้สิ้นฤทธิ์ ต้องเอาศพมันมาลงอาคม”
โชติรู้เรื่องนี้ก็สนใจ
“ศพมันอยู่ที่ไหน”
“ไม่มีใครเห็นศพมัน”
อาจารย์สักไม่พอใจที่หาศพกาหลงไม่ได้ มั่นพูดขึ้น
“ฉันว่า...ศพผีมันก็ต้องอยู่ป่าช้า”
อาจารย์สักและโชติหันไปมอง มั่นตกใจกลัวจะโดนด่า โชติยิ้ม
“ดี...งั้นพวกเอ็งไปขุดหาศพมันมา”
มั่นและขาบสะดุ้งตกใจที่ต้องไปขุดหาศพกาหลง จำต้องทำตามคำสั่ง
มุมหนึ่งในวัด จอกร้องลิเกเกี่ยวกับผี
“เขาเล่าว่าป่าช้ามีผี อยู่ดีกินดีกับผีสาง ผีห่าผีตายโหงโพงพาง ผีกระสืบอำพรางไส้ส่องแสง ผีกระหังกระพือกระด้งร่อนไปทั่ว ผีพรายผีน้ำจับหัวขา มันน่ากลัวเสียทุกผีนี่กระไร ใครอยากเจออยากได้ ให้ไปป่าช้า”
จันและโขงร้องรับเป็นทำนองดนตรี
“เตร้งเต่งเต้ง...เตรงเต๊งเตร้งเตรงเตง”
จอกร้องรำทำท่าสวยงาม ดำโผล่เข้ามาทักจอก
“แฮ่”
“ผี”
จอกถีบดำทันที ดำโวย
“เฮ่ย...ผีที่ไหนจะดูดีเท่าข้า หน้าอย่างนี้เขาเรียกว่าเทพบุตร”
โขงปรึกษาจัน
“เอาไงดีน้าจัน ฉันเห็นแล้วสงสารมัน อยากให้มันกลับมาเป็นไอ้จอกคนเดิม”
จันถอนใจ
“ข้าก็ช่วยสุดกำลังแล้ว ทั้งยาต้ม นวดน้ำมันเหลืองก็ไม่หายเพี้ยน”
“ข้ารู้ว่าต้องทำยังไง” ดำพูดขึ้น
จันและโขงหันไปมอง ดำเดินเข้าไปมองจอกที่นั่งร่ายรำลิเกคนเดียว สำราญใจ
“เอ็งจะทำยังไง ถ้าหนามตำเท้า” ดำถามขึ้น
โขงกับจันตอบพร้อมกัน
“ก็ต้องเอาหนามออก”
“หนามยอก”
“ก็ต้องเอาหนามบ่ง”
“มันเจอผี...เสียสติ”
“เอาผีบ่ง”
“ใช่...เฮ้ย...ก็พาไปหาผีให้สติกลับคืนมา”
โขงและจันคิดตามดำเสนอ แล้วมองไปยังจอกที่ยังร้องลิเกบทเดิม ที่เกี่ยวกับผีในป่าช้า
บริเวณป่าช้ายามค่ำคืนเงียบสงบวังเวง มั่นและขาบเหนื่อยหอบ
“ไม่ไหวแล้วเว้ย ขุดตั้งแต่เช้ายันค่ำ ยังไม่เจอผี” มั่นบ่น
ขาบตบปากมั่น
“โอ๊ย เจ็บนะเว้ย”
“ปากเอ็งมันพาจน ดันไปบอกให้ขุดผีในป่าช้าแล้วเป็นไง เอ็งกับข้าถึงต้องมาอยู่กับซากผี”
“นี่ก็ตะวันลับทุ่งแล้ว ได้เวลาผีมันออกหากิน”
มั่นพูดจบ เสียงดังโหยหวยดังครวญครางเข้ามา
“โอ๊ย”
ขาบและมั่นมองหน้ากัน ทั้งสองกลัวตัดสินใจทิ้งจอบวิ่งออกไปทันที ขณะเดียวกันจอกร้องครวญคราง
“โอ๊ย”
ดำตกใจ
“มันร้องทำไมวะ รึว่ามันเห็นผี”
โขงมองเซ็งๆ
“เอ็งเหยียบตีนมัน”
ดำก้มมองเห็นเท้าเหยียบตีนจอก ก็ชักเท้าออกทันที
“ขอโทษว่ะจอก ข้าพาเอ็งมาเที่ยวสวรรค์”
จอกหันไปมอง ป่าช้ายามค่ำคืนแสนวังเวง ดำพูดต่อ
“เหล่าบรรดานางฟ้านางสวรรค์ เขารอเอ็งไปร่วมร้องรำ”
ดำและโขงจึงร่วมกันร้องเป็นเสียงดนตรีร้องส่ง
“เตร่งเต่งเต้ง...”
จอกร้องลิเก
“ขออันเชิญนางฟ้าลาวัลย์ มาร่ายรำสุขสันต์ในสวนศรี มวลบุปผาดอกราตรี หอมจำปีจำปาน่าภิรมย์”
ดำและโขงค่อยๆย่องออกไป เพื่อให้จอกอยู่ในป่าช้าเพียงลำพังตามแผนการที่วางไว้
บนเรือนช่วง โชติโยนจอบใส่มั่นกับขาบ
“ไอ้ตาขาวลนหาเคราะห์ กลับไปขุดหาซากกาหลงจนกว่าจะเจอ”
“พวกฉันขุดหาทุกหลุมแล้ว” มั่นแย้ง
“แล้วนี่ก็ดึกโขแล้วด้วย” ขาบเสริม
“ข้าสั่งให้ไปก็ไปสิวะ” โชติตวาด
อาจารย์สักขัดขึ้น
“ไม่ต้อง”
โชติแปลกใจว่าอาจารย์สักจะทำอะไร
“เสียเพลามากนักแล้ว เห็นทีข้าจำต้องเรียกมันออกมาถามเอง”
มั่นและขาบสะดุ้งตกใจ ไม่อยากเจอผีกาหลงอีก โชติหันไปถาม
“จะให้พวกฉันช่วยยังไง”
“พวกเอ็งอยู่บนเรือน ไม่ต้องยุ่งกับพิธีของข้า ข้ากับไอ้ยาวปราบมันได้”
โชติพยักหน้ารับตามคำแนะนำของอาจารย์สัก มั่นและขาบโล่งใจที่ไม่ต้องออกไปเจอผี
ในศาลาร้าง ยาวเอาเทียนไปต่อจุดรอบศาลา อาจารย์สักเดินเข้ามายืนอยู่ในวงล้อมของแสงเทียน พร้อมจะทำพิธีเรียกผีกาหลง
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา09.30น.
จันปะแป้งขาววอกเดินมามุมหนึ่งในป่าช้า หันไปถามโขงและดำ
“หน้างามๆอย่างข้า แต่งให้น่ากลัวมันยากเหลือหลาย พื้นเพมันงามกว่าจะเล่นบทผีพิลึก”
“ไม่แต่งก็น่ากลัว” ดำแดกดัน
จันจะหันไปถีบ ดำหลบได้
“เอ็งแม่นใจนะไอ้ดำ ให้ข้าไปหลอกผีไอ้จอก แล้วมันจะหายบ้า”
“ไม่รู้”
จันหน้าเหวอ
“เอ้า”
“ไม่ลองก็ไม่รู้”
โขงหันไปบอกจัน
“น้าถอดพระออกก่อน”
จันสวนทันที
“ไม่ได้...ผัวข้าให้ไว้แทนใจ สั่งนักสั่งหนาให้ใส่พระติดตัว”
ดำส่ายหน้า
“ผีที่ไหนใส่พระล่ะ”
จันจำใจต้องถอดสร้อยพระ แล้วเอาไปจ่อหน้าดำ ดำสะดุ้งตกใจ
“โอ๊ยร้อน” ดำยิ้มแล้วถามทุกคน “เหมือนไหม”
จันกับโขงตอบพร้อมเพียง
“เหมือนมาก”
ดำหุบยิ้มทันที
“ผีไปล่ะนะ ขอจรลีลา เตร๊งเตรงเต้ง เต้งเต๊งเต้งเตรงเตง”
จันร่ายรำไปยังป่าชา ดำและโขงยิ้มหวังว่าแผนจะสำเร็จ
อาจารย์สักบริกรรมคาถาเพื่อเรียกวิญญาณกาหลง ลมพัดใหญ่หน้าเรือนกาหลง ทันใดประตูเรือนเปิดผาง
จอกร่ายรำลิเก ในบทเดิมที่ร้องรำเกี้ยวนางฟ้า
“มาสิแม่มา ขออัญเชิญนางฟ้ามาร่วมรำร้องให้สำราญใจ”
ร่างของผีกาหลงผ่านวูบไปที่มุมหนึ่ง จอกหันไปมองตำแหน่งนั้นแต่ไม่เจอกาหลง
“แม่นางฟ้าของฉันจะแล่นไปไหนเสีย มาสิมาเป็นเมียพี่”
จอกร่ายรำออกไปทิศทางที่ผีกาหลงผ่านไป จันเข้ามาที่มุมหนึ่ง ร่ายรำเข้ามา หวังจะเข้ามาหลอกจอก
“แฮ่”
จันมองไปไม่เจอจอก ก็แปลกใจ
“ไอ้ดำบอกว่ามันอยู่ตรงนี้” จันมองไปตามมุมต่างๆ “ตรงนี้ก็ไม่มี ตรงนั้นก็ไม่เห็น ตรงโน้นก็ไม่พบ ตรงนู้นก็ไม่ประสบ แล้วมันไปตรงไหน”
ลมพัดวูบใหญ่พร้อมเสียงหมาหอน จันเรียก
“จอกจ๋า...เอ็งอยู่ที่ใด มาให้ข้าหลอกสบายๆหน่อยเร็ว”
จันรีบร้องเรียกหาจอกแล้วเดินออกไปตามหา
อาจารย์สักนั่งบริกรรมคาถา กาหลงเดินเข้ามา อาจารย์สักจ้องมองหน้าผีกาหลง
“ข้าไม่มีเรื่องหมางใจเอ็ง กลับไปซะ”
“เอ็งกับข้ามีแค้นหนักต้องสะสาง เอ็งฆ่าน้องข้าตาย”
“มันทำร้ายข้า มันต้องเป็นไปตามเวร”
“เอ็งอ้างเวรกรรม สิ่งที่เอ็งทำมันก็เป็นกรรมเวร ข้านี่แหละ จะเป็นพญายมมาเด็ดดวงวิญญาณเอ็ง”
อาจารย์สักหยิบหุ่นดินเหนียวสีดำขึ้นมา บริกรรมคาถา แล้วเป่ามนต์ออกไป ลมพัดวูบใหญ่ ผีกาหลงมองไปรอบๆ ไม่เจออะไรแต่แล้วปรากฏเป็นร่างผีพรายสองตัวดำเข้ามาจับตัว กาหลงดิ้น
“ปล่อย...ปล่อยข้า”
ผีพรายสองตัว บีบคอกาหลง อาจารย์สักบริกรรมคาถา ผีพรายบีบคอแรงมาก กาหลงเสียท่า ทรุดตัวลง
จันออกตามหาจอกแล้วโผล่ไปที่มุมหนึ่งของป่าช้า
“แฮ่”
ดำกับโขง
“สะดุ้ง
“เฮ้ย ผี”
โขงกำหมัดจะต่อย จันรีบบอก
“ข้าเอง...”
“ไอ้จอกหายเพี้ยนยัง” ดำถาม
“จอกมันหายหัว มันหนีไปที่ใดไม่เห็น”
“รึว่ามันโดนผีเล่นงาน วิ่งหนีเตลิดเปิดโปงไปแล้ว” ดำตกใจ
“พับผ่าเถิด งั้นแยกกันหาตัวมันที” โขงเป็นห่วง
จันรีบแยกออกไป โขงจะไปอีกทาง ดำยืนอยู่คนเดียวกลัวตัดสินใจวิ่งตามโขงไป
“ข้าไปด้วย ข้ากลัวผี”
กาหลงกำลังจะสิ้นท่าผีพรายสองตัว อาจารย์สักบริกรรมคาถา กาหลงไม่ยอมสิ้นท่าออกแรงดึงมือผีพรายออก แล้วใช้มือแทงเข้าไปในดวงตาผีพรายกระชากร่างผีพรายอย่างแรง กาหลงหันไปบีบคอผีพรายอีกตัวอย่างแรง หุ่นดินเหนียวดำสองตัวหน้าอาจารย์สักแตกกระจาย อาจารย์สักไม่พอใจ ผีกาหลงค่อยๆยืนขึ้น ลมพัดผมสยาย กาหลงโกรธมาก อาจารย์สักจ้องมอง รู้ว่ากาหลงมีฤทธิ์มาก ผมของกาหลงค่อยๆยาวออกไปเคลื่อนไปยังปรำพิธี อาจารย์สัก หยิบดาบบริกรรมคาถาแล้วส่งให้ยาว
“จัดการมัน”
ยาวรับดาบ ในใจหวั่นกลัวกาหลงลุกขึ้น เดินไป เส้นผมกาหลงจะเข้ามาหน้าพิธียาวฟันดาบตัดเส้นผมขาด กาหลงที่ยืนอยู่ล้มลงไป เหมือนถูกกระชากตัวอย่างแรง ยาวยืนอยู่หน้าปรำพิธี โดยมีเส้นผมกาหลงร่วงลงมา ไม่ขาดสาย ยาวยิ้มพอใจคิดว่ากำจัดกาหลงได้ กาหลงจ้องมองไปยังยาว เส้นผมที่ร่วงพื้นตรงหน้ายาวค่อยๆเข้าไปรัดเท้า และรัดตัว ยาวร้องลั่น
“ช่วยข้าด้วย”
อาจารย์สักตกใจที่กาหลงยังมีฤทธิ์...อาจารย์สักจะยกขันน้ำมนต์ เพื่อจะปราบ กาหลงหันไปมอง โบกมือปาด ขันน้ำมนต์ในมืออาจารย์สัก ถูกปัดหลุดมือ น้ำมนต์นองพื้น อาจารย์สักไม่พอใจ กาหลงยืนขึ้น แล้วเพ่งมองไปยังร่างของยาวที่ถูกเส้นผมรัดตัว รัดคอ แล้วก็ไหลเข้าไปในปาก ยาวดิ้นๆ แล้วก็แน่นิ่งตายสนิท กาหลงยืนมองเส้นผมค่อยๆคลายหายไป เธอหันไปมอง อาจารย์สักตั้งหลักจะจัดการกาหลง
จบตอนที่ 12
อ่านต่อตอนที่ 13 เวลา 17.00น.