เรือนกาหลง ตอนที่ 2
มุมหนึ่งบริเวณหมู่บ้าน...ไม้บอกกาหลง
“กลับเรือนเถอะ ประเดี๋ยวแม่กลอยจะคลางแคลงใจ กลายเป็นเหตุอีก”
“จ้ะ”
ไม้และกาหลงจะเดินออกไป กาหลงมองไปที่มุมหนึ่ง ผ่านแนวดงตาล...
“พี่ไม้”
ไม้แปลกใจมองตามสายตากาหลง เห็นเสือหวาดควบม้าพร้อมลูกน้องผ่านไปยังบ้านของชาวบ้าน...
“โจรปล้นควาย”
ในศาลาวัด ทุกคนชะโงกหน้ามองแมวดำ ที่วิ่งออกไป เฟื้องหันไปเห็นโลงศพยังอยู่เหมือนเดิม
“ไหนวะไอ้ขาว แมวดำกระโดดข้ามโลง ศพจะกลายเป็นผี เอ็งมันก็ดีแต่พูดให้ชาวบ้านขนหัวลุก”
“สงครามยังไม่เสร็จศึก อย่าเร่งนับศพทหาร...”
สัปเหร่อขาวมองไปยังโลงศพ พยายามทำให้ตื่นเต้นน่ากลัว
“อีกชั่วอึดลมหายใจ...วิญญาณจะเข้าร่างนังจำปา...”
เฟื้องขัดขึ้น
“ข้าไม่เชื่อ! คนตายมันก็แค่สังขารที่รอวันเน่าเปื่อย ดวงจิตวิญญาณมันหลุดลอยไปภพภูมิใหม่แล้ว”
“ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ประเดี๋ยวเอ็งจะหัวโกร๋น โกร๋นกันทั้งบาง”
ชาวบ้านที่นั่งฟังอยู่ พากันสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว เฟื้องรำคาญ
“เอ็งเลิกหลอกข่มขวัญชาวบ้านเสียทีเถอะ บ๊ะ!”
“เอ็งนั่นแหล่ะหยุดปากพล่อย ดูถูกข้า”
ทันใดนั้น..เฟื้องและขาวรู้สึกได้ว่าพื้นไม้ศาลาวัดสั่น สัปเหร่อขาวตื่นเต้นดีใจ
“นั่นไง....มันมาแล้ว...ผีกำลังมา”
เฟื้องหันไปมองชาวบ้านที่ยืนตัวสั่น...
“พวกเอ็งก็บ้าตามไอ้ขาว ทำปอดแหกยืนตัวสั่น”
“พวกข้าไม่ได้สั่น”
“แล้วพื้นสั่นได้ไงวะ”
ทุกคนชี้ไปที่โลงศพจำปา เฟื้องและทุกคนหันไปที่โลงศพจำปาที่สั่น...เฟื้องตกใจตาโต ชาวบ้านลุ้นไม่ให้โลงตก
“อย่า !”
โลงศพจำปากลิ้งตกพื้น ฝาโลงเปิด ศพจำปากลิ้งลงมาที่พื้น ตกหน้าเฟื้องและชาวบ้าน
“ช่วยด้วย”
เฟื้องวิ่งนำขบวนลงไปจากศาลาคนแรก ทุกคนได้สติ วิ่งตามออกไป
เสือหวาดและลูกน้องโพกผ้าปิดหน้า ควบม้ามาหยุดที่คอกควายท้ายหมู่บ้าน
“ต้อนควายไปให้หมดคอก” เสือหวาดสั่ง
ลูกน้องเข้าไปต้อนควายออกจากคอก”
พันเจ้าของคอก ถือคบไฟและดาบวิ่งเข้ามา
“หยุดนะ เอาควายข้าคืนมา”
พันเข้าไปสู้กับลูกน้อง พันสู้ไม่ได้ถูกถีบล้มลง เอียดเมียของพันวิ่งเข้ามา
“ฉันไหว้ล่ะจ้ะ...อย่าทำอะไรผัวฉันเลย”
“เอ็งตายแทนผัวเอ็งแล้วกัน”
ลูกน้องเงื้อดาบจะฟันเอียด แต่แล้ว ไม้พุ่งเข้ามาช่วยไว้ได้ กาหลงวิ่งเข้าไปประคองดูแลเอียด
“หยุดรังแกคนไม่มีทางสู้”
ไม้และกาหลงมองไปยังพวกโจรปล้นควาย…
ชาวบ้านวิ่งหนีแตกกระเจิงออกไป เฟื้องวิ่งมาที่มุมหนึ่ง สัปเหร่อขาว จอก โขง ตาสร และยายมาวิ่งมาสมทบ...
“ไอ้เฟื้อง เอ็งเชื่อข้ารึยัง นังจำปามันเฮี้ยน”
เฟื้องตั้งสติ
“ข้าไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อแต่วิ่งนำเลยนะเอ็ง ไอ้ปอดแหก”
“อยู่บนศาลาเตะต่อยไม่ถนัด ข้าวิ่งล่อมันมาที่ลาน...ผีก็ผีเหอะ..ครูมวยอย่างข้าจะเตะก้านคอให้ล้มพับนับสิบ มาสิเว้ย”
เฟื้องตะโกนเรียกผี จอกตัวสั่น
“ไม่ต้องเรียกดอก...มันอยู่โน่นแล้ว”
จอกชี้ไปที่มุมหนึ่งใต้ถุนศาลา เห็นควันขาวลอยโขมง ผ้าขาวปลิวไสวในมุมมืด..พาลคิดว่าเป็นผีจำปา ทุกคนตกใจ
“ผะผี”
ชาวบ้านวิ่งหนีไป เหลือเฟื้องเพียงคนเดียว วิ่งหนีตามทุกคนไป
“รอข้าด้วย”
เสือหวาดตะโกนบอกไม้...
“ไม่อยากตายก็อย่ายุ่ง...ต้อนควายไปให้หมด”
ลูกน้องเข้าไปต้อนควายต่อไป...
“เอ็งเอาควายไปได้ ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าไอ้ไม้ ลูกบ้านบัวสี”
ไม้เข้าไปต่อสู้ ขัดขวาง ลูกน้องอีกคนกำลังลากควายออกไป กาหลงแย่งดาบจากพัน วิ่งเข้าไปขวาง
“เอ็งปล่อยควาย”
ลูกน้องหันมาเล่นงาน กาหลงไม่กลัว...ฟันดาบต่อสู้...
ทุกคนวิ่งหนีมาที่ป่าช้า กำลังจะวิ่งลึกเข้าไป ตาสรร้องห้าม
“หยุด”
“อะไรของเอ็งวะตาสร คนกำลังหนีผี” ยายมาโวย
“ทำไมต้องยกพวกหนีมาที่นี่”
ทุกคนหันไปมองรอบๆก็ตกใจ
“ป่าช้า”
เฟื้องโวย
“ไอ้ขาว เอ็งตัวดีวิ่งนำมา”
“บ้านข้าอยู่หลังป่าช้านี่หว่า ..ข้าจะไปเอามีดหมอข้าวสารเสกไล่ผี”
สัปเหร่อขาววิ่งนำ ทุกคนรีบวิ่งตามไปด้วยความกลัว...
เสือหวาดกับลูกน้องควบม้าหนีไปตามทุ่งนา ไม้ควบม้าตาม เสือหวาดหันไปมอง รู้ว่าไม้ตามมา....คิดวางแผนในใจ...
กาหลงวิ่งกลับเข้ามาที่หมู่บ้าน..เจอสิง มั่น ขาบ...
“กาหลง วิ่งมาหน้าตาตื่นมีเหตุใดให้พวกข้าช่วยเหลือ”
“ไม่ต้องยุ่งเรื่องของข้า”
กาหลงจะวิ่งออกไป สิงรีบตะโกนบอก...
“เอ็งคงไม่อยากรู้ว่าแม่เอ็งโดนงูเห่าฉก นอนพะงาบๆที่เรือน”
กาหลงหันมาด้วยความตกใจ
“เอ็งโกหก”
“ข้าเพิ่งอุ้มแม่กลอยไปส่งที่เรือน ข้ากำลังจะไปบอกพ่อผู้ใหญ่ให้ตามไปช่วย”
“เอ็งไม่เชื่อพวกข้า ก็แล้วแต่เอ็ง”
ขาบกับมั่นช่วยกันพูด กาหลงเป็นห่วงแม่กลอยมาก ตัดสินใจบอกพวกสิง
“งั้นพวกเอ็งไปตามผู้ใหญ่กับชาวบ้านไปช่วยพี่ไม้จับ โจรปล้นควายที่ท้ายหมู่บ้าน ก่อนมันจะหนีเสีย”
“เรื่องนั้นเอ็งไม่ต้องร้อนใจ…รีบแล่นไปดูแม่เอ็งเถอะ”
กาหลงรีบวิ่งกลับไปที่เรือนทันที มั่นหันไปบอกสิง
“ไปแจ้งเหตุกับพ่อผู้ใหญ่”
“ไม่ต้อง...ไอ้ไม้มันอวดเก่ง ก็ปล่อยมัน”
สิงปล่อยให้ไม้สู้กับเสือหวาดเพียงลำพัง...
ทุกคนวิ่งหนีผีด้วยความเหนื่อย สัปเหร่อขาวตะโกนบอก
“จะถึงเรือนข้าแล้ว”
ทุกคนวิ่งตามไป สัปเหร่อขาววิ่งนำแล้วชนกับหลวงพี่กบที่เอาไฟส่องหน้า
“ผี” ทุกคนร้องลั่น
“อาตมาเอง”
“หลวงพี่กบ” ทุกคนถอนใจเฮืทอก
“พวกโยมวิ่งหนีใครมา”
“ผีนังจำปาเฮี้ยนหนักเล่นงานพวกเรา”
จอกพูดไม่ทันขาดคำ เสียงดังขึ้นพร้อมกับร่างของหญิงสาวในความมืด...
“รอ..ฉัน...ด้วย”
“นั่นไง..มันมาแล้ว”
ทุกคนวิ่งไปหลบหลังหลวงพี่กบ หลวงพี่กบก็ดัน จนสัปเหร่อขาวกระเด็นล้มลงไปด้านหน้า
“ข้าไม่ไหวแล้วเว้ย ไม่มีข้าวสารเสกก็เอาก้อนหินนี่แหละวะ”
ขาวคว้าก้อนหินปาใส่ร่างหญิงสาว
“โอ๊ย”
สัปเหร่อขาวแปลกใจ
“ร้องยังกะคน...เสียงคุ้นๆ”
จันเดินเข้ามา พร้อมกับเลือดอาบหน้าเพราะหัวแตก
“ใครปาหัวข้า”
สัปเหร่อขาวตกใจ
“เมียจ๋า”
ทุกคนร้องอย่างตกใจ
“นังจัน”
มุมหนึ่งของศาลาวัด สัปเหร่อขาวช่วยเช็ดเลือดให้จัน...
“พี่ขอโทษ พี่พาลคิดว่าเอ็งเป็นผีนังจำปา”
จันอ้อน...
“หน้างามอย่างนี้จะเป็นผีได้อย่างไรกัน”
“ถุย..มันน่าจะซัดก้อนหินอีกสักก้อน รึอาจมาหลอกผีพวกข้า” เฟื้องหงุดหงิด
“ฉันไม่ได้อำผี”
“แล้วเอ็งนุ่งขาวห่มขาวทำไมกัน” ยายมาถาม
“ข้าหมายจะถือศีลสวดมนต์แผ่บุญกุศลให้นังจำปา ยุงชุมข้าก็เลยสุมควันไฟไล่ยุง เห็นพวกเอ็งวิ่งหนีก็เลยตามมา”
หลวงพี่กบได้ทีเทศนาอวดภูมิความรู้ทางศาสนา
“นี่แหละหนา...ความกลัวทำให้โยมอุปโลกสร้างมโนภาพคิดเป็นคุ้งเป็นแคว จำคำอาตมาไว้..ผีไม่มีในโลก”
ทุกคนพนมมือ
“สาธุ...”
จอกแอบเย้ยหลวงพี่กบ
“คราก่อนเจอผีไอ้โขง วิ่งหนีหางจุกตูด”
หลวงพี่กบหน้าจ๋อย เสียหน้า หันไปทางจันก็สะดุ้งตกใจ คิดว่าเป็นผี
ไม้ควบม้ามาแล้วหยุด เสือหวาดตั้งท่ารออยู่แล้ว เสือหวาดกระโดดลงจากหลังม้า ไม้กระโดดลงตาม
“ไอ้เสือหวาด ข้าไม่ปล่อยให้เอ็งรอดไปได้”
“เอ็งมันวอนหาเคราะห์เข้าตัว อยากตายตามพ่อแม่เอ็งรึวะ”
เสือหวาดยิ้มเยาะกับอดีตของไม้ที่เขารู้ดี
“ข้าจะสงเคราะห์ให้”
ไม้จะเข้ามาเล่นงานเสือหวาด เสือหวาดเป่าปาก ลูกน้องเสือหวาดควบม้าเข้ามาล้อมไม้ทันที
กาหลงวิ่งมาที่บ้าน เปิดประตูเข้าไปในห้องของแม่กลอย
“แม่เป็นยังไงบ้าง”
กาหลงวิ่งเข้าไปร่างที่นอนกลางบ้าน...แต่แล้วต้องตกใจ...
“ไอ้โชติ”
โชติลุกขึ้นยิ้มเย้ยที่กาหลงตกหลุมพราง...
ลูกน้องควบม้าพุ่งเข้ามาฟันดาบใส่ ไม้ต่อสู้ แล้วกระชากตัวลูกน้องตกลงมา ลูกน้องกระโดดลงจากหลังม้า เข้ามารุม ไม้เกือบเสียท่าแต่ก็ฮึดสู้ เล่นงานลูกน้องเสือหวาด หมอบกับพื้น ไม้เดินไปประจันหน้ากับเสือหวาด ตัวต่อตัว...
กาหลงจะวิ่งหนี โชติเข้ามาคว้าจับตัวไว้
“ปล่อยฉัน...ชบา กาเหว่าช่วยพี่ด้วย..แม่..ช่วยฉันด้วย”
“ร้องไปก็ป่วยการ...แม่เอ็งเปิดทางให้ข้าแล้ว...”
กาหลงตกใจไม่คิดว่าแม่กลอยวางแผนให้โชติ...
แม่กลอยงมหอยขมในบึงใกล้ทุ่งนา กาเหว่ามองอย่างสงสัย
“แม่คิดไงถึงมางมหาหอยตอนดึกดื่น”
“พี่สาวเอ็งบ่นอยากกินแกงคั่วหอยขมมาหลายวันแล้ว ข้าจะทำให้สักหม้อ”
“รอมางมตอนเช้าก็ได้ ฉันมองไม่เห็น...”
แม่กลอยทำท่ารำคาญ
“เอามือควานๆประเดี๋ยวก็ได้”
ชบาน้อยใจ
“ลูกชังกลายเป็นลูกรัก..เอาใจกันเสียจริง”
“มันจะได้เลิกน้อยใจว่าข้าใจจืดใจดำกับมัน..ไม่ต้องพูดมาก...มาช่วยงม”
แม่กลอยและชบางมหาหอยขม กาเหว่าแปลกใจในตัวแม่กลอย คิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เห็นเหตุการณ์แม่กลอยสบตากับโชติ กาเหว่าตัดสินใจค่อยๆย่องออกไปจากบึง...
ไม้ถือดาบประจันหน้ากับเสือหวาด เสือหวาดเข้ามาเล่นงาน ไม้ต่อสู้ ทั้งสองผลัดแพ้ผลัดชนะ แต่เสือหวาดฝีมือเหนือกว่า เล่นงานไม้ จนไม้เสียท่าล้มลงกับพื้น
“ข้ารู้ว่าเอ็งรักพ่อแม่เอ็งมาก....ข้าจะส่งเอ็งไปอยู่ซะด้วยกัน”
เสือหวาดจะฟันไม้ แต่แล้วพวกเฟื้องวิ่งเข้ามา
“ไอ้เสือหวาด หยุด”
เฟื้อง จอกและโขงเข้ามาช่วยไม้ เสือหวาดเห็นท่าไม่ดี โดดขึ้นม้าแล้วควบม้าหนีไป ลูกน้องเสือหวาดวิ่งตามไป ทุกคนเข้าไปดูแลไม้
“พี่ไม้เป็นไงบ้าง” โขงถามอย่างเป็นห่วง
กาหลงดิ้นหนี จะออกไปจากห้อง โชติเข้ามาจับตัวไว้
“เออซีนา...ดิ้นไปก็เหนื่อยเสีย เก็บแรงไว้ขึ้นสวรรค์ด้วยกัน”
โชติเข้ามากอดรัด กาหลงดิ้นหนี
“ปล่อย ปล่อยข้า”
โชติตัดสินใจต่อยเข้าท้องกาหลง กาหลงทรุดตัวจมกองกับพื้น
ไม้มองพวกเฟื้องอย่างดีใจ
“ฉันขอบคุณพ่อขอบใจพวกเอ็งมาก”
“พวกข้ามาช่วยได้ทัน ไม่งั้นเอ็งเสียเชิงไอ้เสือหวาดไปแล้ว”
“หมายมาช่วย รึกลัวผีไม่กล้านอนเฝ้าศพ” จอกแหย่
เฟื้องเย้ยจอก
“ข้ารู้เอ็งก็กลัว”
โขงรีบบอก
“ข้าก็กลัว..แมวดำกระโดดข้ามโลงศพ ไม่รู้ว่าผีจำปา จะลุกขึ้นมาอาละวาดคราใด”
“โขง...เอ็งควรอยู่เฝ้าศพ จำปาเป็นคนรักเอ็ง ไม่มีวันทำร้ายเอ็ง” ไม้หันไปบอก
“ผีนะไม่ใช่คน มันไม่มีความรัก ไม่มีหัวใจ” จอกแย้ง
“ไม่จริง...คนรักกันไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ความรู้สึกย่อมไม่เปลี่ยนแปร หากรักนั้น มั่นคงในรัก...”
โขงคิดตามที่ไม้พูด พยักหน้ารับฟัง จะเดินกลับวัด
“เอ็งจะไปไหน” เฟื้องสงสัย
โขงมองหน้าเฟื้องและจอก
“รักย่อมมั่นคงในรัก...”
โขงเข้าไปลากมือเฟื้องและจอก เดินกลับไปที่วัด...
“กลับไปเฝ้าจำปา”
เฟื้องกับจอกร้องเสียงหลง
“ไม่ไป”
โขงลากเฟื้องและจอกไป ไม้มองตามแล้วคิดถึงกาหลง...
กาเหว่าจะย่องออกไป...แม่กลอยขวางไว้
“แม่” กาเหว่าตกใจ
“เอ็งจะไปไหน”
“ฉันจะกลับเรือนไปช่วยพี่กาหลง”
ชบาแปลกใจ
“กาเหว่าเอ็งพูดอะไร”
“แม่พาพวกเรามางมหอย หวังให้พี่โชติบุกเข้าหาพี่กาหลง”
“แส่รู้ดีนัก...” แม่กลอยตวาด
ชบาตกใจ
“แม่คิดทำอย่างนั้นจริงรึ”
แม่กลอยตัดบท
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ไปช่วยข้างมหอย”
แม่กลอยสั่ง กาเหว่าตัดสินใจวิ่งหนีกลับไปที่เรือน
“กาเหว่า...กลับมา”
แม่กลอยตกใจ
โชติอุ้มร่างกาหลงลงมานอนที่ฟูกนอน มองหน้าอย่างหลงใหล
“เสน่ห์เอ็งมันเย้ายวนใจข้าเหลือเกิน กาหลง”
โชติเข้าไปซุกหน้าเพื่อขืนใจกาหลง ไม้เข้ามากระชากตัวโชติออก แล้วต่อยหน้า โครม !
“ไอ้นรกมาเกิด”
ไม้ต่อย เล่นงานโชติ โชติลุกขึ้นจะหนีออกไปจากบ้าน ไม้ตามไป กาหลงนอนอยู่ เริ่มได้สติ
ไม้ต่อยโชติกระเด็นตกลงมาจากบ้าน แม่กลอยวิ่งเข้ามาร้องห้าม
“หยุดนะไอ้ไม้”
“น้ากลอยต้องจับมันลงโทษ ไอ้โชติบุกขืนใจกาหลง”
กาหลงวิ่งออกมาจากห้อง แม่กลอยโต้ทันที
“พ่อโชติไม่ได้ขืนใจ ข้าเต็มใจยกกาหลงให้พ่อโชติ”
“แม่” กาหลงผิดหวังและเสียใจ
โชติสะบัดตัวออกจากไม้
“ได้ยินแล้วใช่ไหม ว่าแม่กลอยยกกาหลงให้ข้า”
“พ่อโชติกลับเรือนไปก่อน...”
แม่กลอยสั่ง โชติไม่พอใจที่ถูกไม้มาขัดขวาง เดินกลับไป
“น้ากลอยจ๊ะ...”
ไม้จะพูด แม่กลอยขัด
“เอ็งไม่ต้องพร่ำพูดอะไรทั้งนั้น ออกไปจากเรือนข้า”
ไม้ผิดหวังที่แม่กลอยไม่ยอมรับ หันไปมองกาหลง แล้วเดินออกไปจากเรือน...”
“แม่จ๋า...”
แม่กลอยไม่ฟัง เดินหนีขึ้นเรือนไป...”
กาเหว่าเข้าไปกอดสงสารกาหลง
“พี่กาหลงไม่ต้องร้องไห้”
ชบาเดินออกจากเรือนไป...
โชติจะเดินกลับบ้าน ไม้เข้ามากระชากตัวต่อย
“ข้าเตือนเอ็งหลายครั้งหลายครา...อย่ายุ่งกับคนรักของข้า”
โชติชักมีดขึ้นมาขู่ไม้...
“เอ็งนั่นแหละต้องเลิกยุ่งกับหญิงของข้า”
ไม้ชะงัก ขณะที่นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต กาหลงว่ายน้ำเข้ามาหาไม้...ทั้งสองว่ายน้ำแหย่เล่นกันในบึงบัว…โชติยืนมองที่มุมหนึ่งด้วยความโกรธแค้น…
โชติยิ้มเย้ยไม้...
“แม้นกาลที่ผ่านมา...ข้าจะพ่ายต่อเอ็ง แต่..ณเวลานี้เป็นทีของข้า”
“ยังไง..เอ็งก็ไม่มีวันพิชิตใจกาหลงได้”
โชติสวนกลับ
“เอ็งก็ไม่มีทางชนะใจแม่กลอยได้เช่นเดียวกัน”
ไม้นิ่งอึ้ง ยอมรับความจริง
“แม่กลอยคือผู้ลิขิตชีวิตกาหลง แกลองใช้หัวตรองดู ระหว่างชายคนรักกับแม่ผู้ให้กำเนิด ลูกกตัญญูอย่างกาหลงจะลงให้กับสิ่งใด”
ไม้อึ้ง...
“ข้าไม่เพียงแย่งชิงกาหลง...ข้าจะแย่งชิงทุกอย่างที่เป็นของเอ็ง”
โชติยิ้มเย้ยแล้วเดินออกไป ไม้เสียใจที่แม่กลอยไม่ยอมรับเขา ไม้ทรุดตัวลงร้องไห้…
แม่กลอยก่อเตาไฟ กาหลงเข้ามาในครัว แม่กลอยไม่สนใจ ยกหม้อต้มน้ำ
“แม่จ๋า...เลิกข่มเหงน้ำใจฉันเถอะ”
“อย่ามาเกะกะ ข้าจะทำแกงคั่วหอยขม”
“แม่...ฉันเป็นลูกแม่..แม่ไม่รักไม่สงสารฉันบ้างรึไง”
แม่กลอยหันมาโวยใส่
“เพราะเอ็งเป็นลูกข้า ข้าถึงต้องทำอย่างนี้”
กาหลงแปลกใจ แม่กลอยจึงระบายความในใจออกมา...
ไม้นั่งร้องไห้เสียใจ ชบาเข้ามาปลอบใจ
“พี่ไม้...”
“ชบา...พี่ต้องทำยังไง แม่เอ็งถึงจะยอมรับพี่...เห็นใจในความรักของพี่”
“พี่ไม่ต้องเสียใจ ชบาอยู่ข้างพี่ ชบาจะช่วยกล่อมให้แม่เห็นใจพี่ ชบารักพี่นะ...”
ไม้จับมือขอบใจ ชบายิ้มพอใจ
“ขอบใจเอ็งมากที่อยู่เคียงข้างพี่...เอ็งกลับเรือนเถอะ”
ไม้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ชบามองตามยิ้มให้ไม้ แต่ภายในใจเจ็บปวดที่ไม้รักกาหลงมาก...
เรือนกาหลง ตอนที่ 2 (ต่อ)
กาหลงบอกแม่กลอยอย่างเศร้าๆ
“ปากแม่บอกว่ารักฉัน แล้วใยแม่ขัดขวางความรักฉัน”
“ชีวิตคนจนมันเป็นยังไง หิ้วจอบหอบเสียมออกไปทำไร่ทำนาก่อนไก่โห่ ตกค่ำก็ออกไปหาปลาแทงกบมาทำกิน ชีวิตมันลำบากหนักหนา”
กาหลงอึ้ง
“ส่วนพ่อโชติมีทรัพย์สมบัติให้เอ็งเสวยสุขไปทั้งชาติ น้องๆกับข้ามีกินอิ่มนอนหลับ ข้าทำทุกอย่างเพื่อเอ็ง...เอ็งนั่นแหละไม่รักพวกข้า เอ็งมันเห็นแก่ตัว”
“แม้นไม่มีเงินทองมาปรนเปรอแม่ แต่ฉันมีแรงพอจะหาเลี้ยงแม่ได้ ฉันจะไม่ปล่อยให้แม่ต้องทำงาน ขอเพียงแม่เลิกเข้าบ่อนนะจ๊ะ”
แม่กลอยตบหน้ากาหลง
“ไม่ต้องสั่งสอนข้า ที่เอ็งมีกินมีใช้ไม่ใช่มันก็เงินจากบ่อนรึ”
กาหลงเสียใจ
“เข้านอนซะ...ไม่อยากเป็นเมียเศรษฐีก็เข้านอนแต่หัววัน เช้ามืดเอ็งต้องจูงควายไปไถนา เอ็งชอบลำบากไม่ใช่รึ ไป..ข้าบอกให้เข้านอน”
แม่กลอยผลัก ไล่ตะเพิด กาหลงร้องไห้เดินออกไป แม่กลอยหยิบหอยขมมาสับ แล้วร้องไห้เสียใจที่ต้องใจร้ายกับลูก ทิ้งมีดลง ปาดน้ำตาร้องไห้...
กาหลงเข้าไปในห้อง ทรุดตัวกอดเข่าร้องไห้ ไม่มีทางออกกับชีวิต...
กลางดึก แม่กลอยเดินมาหยุดที่หน้าบ่อนของโชติ สิง มั่น ขาบเห็นแม่กลอยมา ก็ยิ้มเชื้อเชิญ แม่กลอยถือถุงใส่เงิน เดินตรงเข้าไปในบ่อน เดินไปที่โต๊ะเล่นไฮโล โชติยืนมองที่มุมหนึ่ง ยิ้มพอใจที่แม่กลอยเข้าบ่อนมาเล่นพนัน คิดต่อรองกับแม่กลอย...
เช้าวันใหม่ โขงถือถาดใส่อาหารมาวางไว้หน้าโลงศพจำปา...
“จำปา....พี่หุงข้าวต้มแกงที่เอ็งชอบมาให้นะ”
จอกยกมือไหว้ เพราะกลัวผี
“พี่ก็ช่วยไอ้โขงมันทำ เห็นแก่ความดี ความชอบ อย่ามาหลอกหลอนกันเลยนะจ๊ะ”
ทันใดนั้น เสียงกระทืบพื้นดังตึงใหญ่ จอกสะดุ้งโหยงกระโดดกอดโขง
“ผี”
เฟื้องตะโกน
“ข้าเอง”
จอกและโขงได้สติ ลืมตามองดูเห็นเฟื้องเดินเข้ามา...
“กระทืบพื้นนิดหน่อยทำเป็นกลัว”
“คนมันกลัวนี่....ยิ่งระแวงว่าจำปาจะเฮี้ยนลุกมาวิ่งไล่หักคอ”
“ท่าจะจริง คงลุกไปวิ่งไล่หักคอคน ถึงไม่อยู่”
โขงแปลกใจ
“น้าเฟื้องพูดอะไร”
เฟื้องเปิดฝาโลงศพออก โขงและจอกลุกขึ้นมองไปที่โลง แต่ในโลงศพไม่มีศพจำปา ทั้งคู่ร้องออกมาพร้อมกัน
“ศพหาย”
“เมื่อเช้าข้ามาเปลี่ยนธูป เห็นฝาโลงแย้มออก ใครสักคนเอาศพจำปาไป”
ทุกคนแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น...
ศพจำปาอยู่ในหลุมดิน...สัปเหร่อขาวยกมือไหว้
“อโหสิกรรมให้ข้าด้วย ข้าจำเป็นต้องทำ...”
สัปเหร่อขาวตักดินกลบลงฝังจำปา แล้วหันไปมองจันที่นั่งยอง ไม่ช่วยโกยดิน
“นังจัน”
จันซึ่งเพ่งมองไปยังศพจำปา กลัวผี...สะดุ้งตกใจ
“ว้าย ทำเอาข้าตกอกตกใจ”
“มาช่วยข้าโกยดินฝังศพนังจำปา”
“ฉันไม่ว่าง ฉันกำลังจะนั่งสมาธิแผ่กุศลให้จำปา”
จันคิดอู้ นั่งสมาธิหลับตาทันที...
“ตายหนอ...นอนหนอ...ไม่หลอกหนอ...”
ขาวเอือมระอากับความขี้เกียจของเมีย ตักดินโกยฝังศพจำปา...”
เฟื้อง โขงและจอกวิ่งเข้ามา
“หยุดนะ”
กาหลงนั่งร้องไห้ที่มุมหนึ่งในบ้าน เสียใจที่ถูกกีดกันความรัก เธอคิดตัดสินใจอะไรบางอย่าง..
พุดจีบถือถาดใส่ขนมหวาน จะเดินออกไป นวลเข้ามาหา
“คุณพุดจีบจะไปไหนเจ้าคะ”
“ฉันจะเอาขนมหวานไปฝากกาหลง...”
“นวลเอาไปให้เองเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไร...นวลอยู่ปรนนิบัติรับใช้คุณแม่เถิด...ฉันจะรีบไปรีบกลับ”
พุดจีบเดินออกไป นวลมองตาม แม่บุญอิ่มยืนมองที่บนเรือนอย่างห่วงใยในตัวลูกสาว
โขงเข้ามาผลักสัปเหร่อขาวออกจากหลุมศพ
“เอาศพจำปามาทำอะไร” โขงโวย
“เอ่อ...” สัปเหร่อขาวอึ้งๆ
เฟื้องขัด...
“ข้าตอบแทนมันก็ได้ ไอ้ขาวคิดจะเอาศพจำปาทำพิธีปลุกผีปลุกวิญญาณ รนน้ำมันพรายใส่ขวดขาย”
“นั่น...สัปเหร่อหากินกับผี” จอกชี้หน้า
สัปเหร่อขาวรีบแก้ตัว
“ไม่ใช่ พวกเอ็งเข้าใจผิด...ไม่เชื่อถามจันมันได้”
จันรีบหลับตา นั่งสมาธิ ภาวนาต่อไป ไม่รับรู้ปัญหา
“ตายหนอ นอนหนอ ไม่หลอกหนอ”
สัปเหร่อขาวผิดหวังที่จันไม่ช่วยแก้ตัว โขงรุกเข้ามาคาดคั้น
“แล้วทำไมสัปเหร่อไม่เผาศพจำปาตามพิธี”
“ศพตายโหงเขาไม่เผา วิญญาณยังไม่สงบสุข แล้วอีกอย่างเอ็งก็อยากจับตัวคนฆ่าจำปามาลงโทษ ก่อนจะส่งวิญญาณจำปาไม่ใช่รึ ข้าทำทุกอย่างเพื่อเอ็ง แต่เอ็งเห็นว่าข้ามันชั่ว ข้ามันเลว ข้าจะเผาให้สิ้นเรื่อง”
สัปเหร่อขาวแสร้งเข้าไปขุดเอาดินออก เพื่อนำศพขึ้นมา โขงเข้ามาห้ามไว้”
“ฉันขอโทษจ้ะ...” โขงนั่งลงหน้าหลุมศพ
“จำปา...ข้าจะจับตัวคนที่ฆ่าเอ็งมาลงโทษให้ได้”
สัปเหร่อขาวยิ้มพอใจที่โขงยอมเชื่อ หันไปสบตากับจันที่ไม่ถูกจับผิด จันแสร้งหลับตา ทำสมาธิต่อไป
“ตายหนอ นอนหนอ ไม่หลอกหนอ...”
เฟื้องมองไม่ค่อยไว้ใจสัปเหร่อขาวและจันมากนัก...
แม่กลอยเล่นพนันเสีย เดินเข้าไปหาโชติ
“พ่อโชติฉันขอเพิ่ม ฉันจะไปแก้มือ”
“แม่กลอยยืมไปหลายแล้ว เอาของเก่ามาคืนฉันก่อนดีกว่า”
“ได้จ้ะ ฉันจะขายข้าวเอาเงินมาใช้คืนพ่อโชติ”
แม่กลอยจะเดินออกไป โชติเสนอทางออก
“น้าต้องทำนาอีกกี่ฤดู ถึงจะมีเงินมาใช้คืนฉัน เอางี้แล้วกัน พากาหลงมาใช้หนี้ แล้วฉันจะแถมเงินให้อีกโข...”
แม่กลอยคิดตัดสินใจ แล้วบอกโชติ
“พ่อโชติไม่ต้องรออีกแล้ว ไปรับตัวกาหลงกับฉัน”
โชติยิ้มพอใจที่แม่กลอยจะยกกาหลงให้...
สัปเหร่อขาวเดินกลับมาวางจอบที่หน้าบ้าน ล้างมือด้วยความพอใจ จันไม่ค่อยสบายใจนัก
“ข้าถามจริง...เอ็งคิดยังไงถึงเอาศพจำปามาฝัง เอ็งคิดจะเอาศพจำปามาหากิน”
“เป็นเมียสัปเหร่อทำไมถึง....”
สัปเหร่อขาวจะพูดคำว่า โง่ แต่ยั้งปาก จันตบปากขาว
“ด่าว่าข้าโง่”
“ไม่ทันพูด”
“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่....พี่คิดทำการใด”
“ข้าก็จะทำ...”
สัปเหร่อขาวจะบอกแผนการ ไม้ตรงเข้ามาหา
“พ่อ”
ขาวสะดุ้ง
“เฮ้อ..ขัดคอ....มีอะไรวะ”
“ฉันขอยืมม้าพ่อ ฉันจะพากาหลงหนี”
สัปเหร่อขาวและจันตกใจ...
สัปเหร่อขาวจูงม้าให้ไม้
“ในเมื่อเอ็งคิดดีแล้ว พ่อก็ไม่ขัด...ขอให้เอ็งแคล้วคลาดปลอดภัย”
จันเห็นด้วย
“ได้ลูกเมื่อไหร่พากลับมาหาย่า แม่จะรอรับขวัญหลาน”
“ฉันลาล่ะจ้ะ พ่อ แม่”
ไม้ยกมือไหว้ลาสัปเหร่อขาวและจัน เฟื้องวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน
“ข้าได้ข่าวไอ้โชติไปลักตัวกาหลงแล้ว เอ็งรีบไปเร็ว”
ไม้ตกใจเมื่อรู้ว่าโชติกำลังไปรับตัวกาหลงด้วย...
แม่กลอยเดินนำโชติมาที่หน้าบ้าน
“พ่อโชติขึ้นเรือนไปรับตัวกาหลงได้เลยจ้ะ”
โชติยิ้มพอใจ เดินขึ้นไปบนเรือน ชบาและกาเหว่าเข้ามาขวางไว้
“แม่สงสารพี่กาหลงเถอะ”
“อะไรของเอ็งนังชบา แต่ไหนแต่ไรเห็นเออออห่อหมกกับข้า”
แม่กลอยไม่พอใจ ชบาแย้ง
“ฉันไม่อยากให้แม่หักหาญน้ำใจพี่กาหลงเกินไป
“ไม่ต้องพูดมาก หลบไป”
ชบาเดินหลบออกไป โชติจะเข้าไป กาเหว่ากันไว้
“ฉันไม่ให้เข้า ใครก็เอาตัวพี่กาหลงไปไม่ได้”
แม่กลอยตวาด
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก กาเหว่าเอ็งหลบไป”
กาเหว่ากันไว้ สิงเข้าไปดึงตัวกาเหว่าออกไป โชติเดินเข้าไปในเรือน กาเหว่าร้องบอกกาหลง
“พี่กาหลง...รีบหนีไป”
โชติเข้าไปในเรือน
ไม้เร่งควบม้าไปยังบ้านกาหลงให้เร็วที่สุด โขงและจอกมองเห็นไม้ออกไป คิดทำอะไรบางอย่าง
โชติเปิดประตูเข้าไปในห้อง ไม่เจอกาหลงแล้ว
“กาหลง” โชติตกใจ
แม่กลอยตามเข้ามามองไป รู้ว่ากาหลงหนีไปแล้ว
“นังกาหลงหนีไปแล้ว”
พุดจีบมาที่เรือนพอดี ได้ยินว่ากาหลงหนีไปก็ตกใจ เป็นห่วงกาหลง คิดหาทางช่วย ขณะที่กาหลงรีบวิ่งหนี วิ่งไปแล้วสะดุดพื้นล้มลง กาหลงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อไป
โชติโวยวายใส่แม่กลอย
“น้าวางแผนให้กาหลงหนีไป”
โชติตบหน้าแม่กลอย ชบาและกาเกว่าตกใจจะเข้าไปหาแม่ สิงดึงตัวไว้ โชติกระชากตัวแม่กลอย
“น้าคิดหลอกเอาเงินฉัน”
โชติจะตบซ้ำ แม่กลอยไหว้วิงวอน
“ไม่จริงจ้ะพ่อโชติ พ่อโชติก็เห็นว่าฉันอยากได้พ่อโชติเป็นเขย”
โชติผลักแม่กลอย
“แล้วกาหลงหนีไปได้ไง”
“ต้องเป็นฝีมือไอ้ไม้”
“ไอ้ไม้” โชติไม่พอใจ
“มันต้องลักพาตัวกาหลงหนีไป พ่อโชติไปตามตัวกาหลง กลับมาให้ฉันด้วย”
โชติสั่งสิง
“ไปเอาม้า ข้าจะตามฆ่าไอ้ไม้”
สิงรีบวิ่งออกไปตามมั่นและขาบ โชติไม่พอใจ คิดจะฆ่าไม้ ชบาและกาเหว่าตกใจ กลัวไม้และกาหลงถูกฆ่า..
กาหลงวิ่งหนีมา แล้วหยุดชะงักมองไปตรงหน้า พุดจีบเดินเข้ามาหากาหลง ด้วยความกระหืดกระหอบ หลังจากวิ่งไล่ตามมาดักทาง
“พุดจีบ”
“กาหลง กลับเรือนเถอะ อย่าทำอย่างนี้เลย”
“หากเอ็งเป็นเพื่อนข้า...ปล่อยข้าไป...”
กาหลงจะวิ่งออกไป พุดจีบกันตัวไว้ กาหลงดิ้นจะหนี พุดจีบกันท่าไว้ ดันตัวกันจนกาหลงล้มลง กาหลงไม่พอใจ
“พุดจีบ”
พุดจีบจะเข้าไปดูแล กาหลงลุกขึ้นสะบัดหนี
“ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งแสดงห่วงใย เอ็งขวางทางข้า หมายจะแย่งชิงพี่ไม้”
“กาหลง...ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้น”
“ข้าไม่เชื่อ...มันคงจริงอย่างที่อบเชยมันเคยพูดไว้ เอ็งต้องการมห้ข้าแต่งงานอยู่กินกับพี่โชติ เอ็งจะได้สมหวังในรักกับพี่ไม้ เพราะเอ็งรักพี่ไม้”
พุดจีบอึ้งตกใจ
“ไม่ใช่จ้ะ...ฉันมาทานไว้ หวังให้กาหลงตรองคิดอย่าเพ่งวู่วาม หากกาหลงทิ้งแม่กับน้องไป ใครจะดูแล ไฉนเลยหนี้สินที่แม่กลอยติดค้างพี่โชติ พี่โชติต้องเล่นงานแม่กลอย”
กาหลงไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ
“ไม่ต้องเอาเรื่องแม่กับน้องมาอ้าง เอ็งกล่อมให้ข้าถอนใจจากพี่ไม้ เอ็งจะแย่งชิงพี่ไม้ไปจากข้า หากเอ็งรักข้า และไม่เคยแม้แต่จะคิดแย่งคนรักข้า เอ็งต้องปล่อยข้าไป แสดงให้เห็นว่าเอ็งจริงใจต่อข้า”
กาหลงยื่นข้อเสนอต่อพุดจีบ พุดจีบมองกาหลง คิดตัดสินใจ พุดจีบเดินเข้ามาหากาหลงแล้วหยิบห่อผ้าส่งให้กาหลง...
“รีบไปเถิด”
กาหลงดีใจที่พุดจีบปล่อยเธอไป กาหลงจะเดินออกไป หันมาร้องไห้สั่งเสียพุดจีบ
“ข้าฝากดูแลแม่กับน้อง หากไม่ตายเสีย ข้าจะกลับมาแทนคุณ”
พุดจีบไล่กาหลง
“รีบไปเถิด จะไม่ทันการ”
กาหลงรีบวิ่งออกไป พุดจีบยืนส่งลาเพื่อนรักด้วยน้ำตานองหน้า แม่บุญอิ่มเดินเข้ามาหาอย่างไม่พอใจ
“พุดจีบ”
“แม่”
แม่บุญอิ่มไม่พอใจที่พุดจีบออกมาวุ่นวายเรื่องนี้อีก...
ไม้ควบม้าเร่งไปยังบ้านกาหลง ไม้หยุดม้ากะทันหัน กระโดดลงจากหลังม้าเมื่อเห็นกาหลง กาหลงหยุดวิ่งกระหืดกระหอบ เห็นไม้แล้วน้ำตาไหล
“พี่ไม้”
“กาหลง”
ไม้และกาหลงวิ่งเข้าหากัน ทั้งสองสวมกอดด้วยความรัก
“พี่จะไปรับกาหลง พากาหลงหนีไป ..กาหลงหอบผ้าไปไหน”
“ฉันตั้งใจหนีตามพี่”
ไม้แปลกใจ
“แล้วแม่กับน้องล่ะ”
“พี่ให้สัญญาได้ไหม พี่จะดูแลฉัน จะช่วยกันทำกิน แล้วกลับมาช่วยเหลือแม่กับน้อง ฉันต้องกลับมาแทนคุณแม่ให้เร็วที่สุด”
“ชีวิตพี่ไม่มีใครอีกแล้ว พี่มีกาหลง แม่กลอย ชบา กาเหว่า เสมือนคนในเรือน พี่สัญญา กาหลงสวมกอดไม้แนบแน่น ดีใจที่ไม้รักษาสัญญา”
พุดจีบก้มกราบแม่บุญอิ่ม...
“ลูกกราบขอโทษแม่จ้ะที่ลูกขัดคำสั่งออกไปจากเรือน”
“แม่สั่งกำชับนักกำชับหนา อย่าไปยุ่งเรื่องของกาหลงอีก”
“หลังจากนี้...ลูกคงมิได้ข้องเกี่ยวกับกาหลงและพี่ไม้อีก สองคนนั่นได้หนีไปแล้วจ้ะ”
แม่บุญอิ่มรู้เรื่องก็ตกใจ...นึกเป็นห่วงกาหลงและไม้เช่นกัน...
ไม้ควบม้าพากาหลง วิ่งมาถึงบึงบัว ไม้หยุดม้าบอกกาหลง
“ผ่านบึงบัวไป พวกมันคงตามไม่ทันแล้ว”
“รีบไปเถอะจ้ะ”
กาหลงพยักหน้ารับ ไม้รีบควบม้าวิ่งผ่านบึงบัวไป...
โชติ สิง มั่น และขาบควบม้าไล่ตามไม้ แต่ต้องหยุดชะงัก โชติดึงม้าไว้ จอกและโขงขี่ควายขวางทาง
“ไอ้จอกไอ้โขง หลบไป”
จอกหันไปทำท่าจุ๊ๆ เบาเสียง
“เบาๆ”
“อะไรของเอ็งวะ”
“พวกเอ็งแหกปากซะลั่นทุ่ง ควายข้าตกใจไม่กินหญ้าไม่มีแรงไถนา ข้าก็ตายสิวะ”
“รึว่าพวกเอ็งจะมาช่วยไถนาแทนควาย”
จอกและโขงหัวเราะชอบใจ..แล้วหันทำท่าจุ๊เสียงเบา ไม่ให้ควายตกใจ
“พวกเอ็งคิดขวางทางช่วยไอ้ไม้”
โขงและจอกมองหน้ากัน ไม่สนใจ มั่นและขาบต่างเข้าไปลากควายของโขงและจอกหลบไป โขงและจอกยื้อไว้
“หลบไปไอ้ควาย” มั่น กระแทกเสียงใส่หน้าพวกจอก โขงที่พยายามยื้อไว้ มั่นและขาบดึงควายหลบทางได้ โชติและสิงควบม้าไล่ตามไม้ไป
“ลูกพี่พวกเอ็งตายแน่”
มั่นและขาบหัวเราะเยาะ จะขึ้นม้าตามไป โขงและจอกวิ่งเข้ามาลากตัวมั่นและขาบไปที่ปลักควาย ทั้งคู่ร้องเสียงหลง
“เฮ้ย”
โขงและจอกลากตัวทั้งคู่ไปทิ้งในปลักควาย โขงและจอกหัวเราะสะใจ มั่นและขาบโมโห เข้ามาลากทั้งคู่ไปบ้าง ทั้งสองคู่ชกต่อยในปลักควาย ล้มลุกคลุกคลาน
ไม้ควบม้าจะพากาหลงหนีออกไปจากเขตหมู่บ้าน โชติและสิงควบม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง เข้ามาขวางไว้ ไม้และกาหลงตกใจ...
“เลิกจองเวรข้าได้แล้ว เอ็งหลบไป”
“พาผู้หญิงข้าหนี ยังมีหน้ามาไล่ข้า”
“ข้าไม่ใช่ผู้หญิงของเอ็ง ฉันรักพี่ไม้ ฉันจะไปกับพี่ไม้...ไปเถอะพี่”
ไม้จะควบม้าออกไป โชติชักปืนออกมาขู่ ไม้และกาหลงตกใจ
“เอ็งไปได้แต่วิญญาณ”
โชติเล็งปืนใส่ไม้ กาหลงตกใจ
“อย่านะ”
โชติเหนี่ยวไกปืนจะยิง ไม้และกาหลงตกใจ
“อย่า..ข้ายอมแล้ว ข้าจะกลับไปกับเอ็ง”
โชติเล็งปืนแล้วยิงใส่ เสียงปืนดังเปรี้ยง กาหลงตกใจ หันไปมอง โชติยิงเฉียดเพื่อขู่ไม้ โชติหัวเราะสะใจ กาหลงตกใจและดีใจที่ไม้ปลอดภัย แต่ก็กลัวโชติ...
นวลวิ่งหน้าตาตื่นมารายงานพุดจีบและแม่บุญอิ่ม
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
“มีเรื่องใดอีกรึ” แม่บุญอิ่มหันไปถาม
“พ่อโชติจับตัวกาหลงและไม้ได้แล้วเจ้าค่ะ”
พุดจีบตกใจ
“พี่โชติลากตัวกาหลงกลับเรือน แล้วเล่นงานพ่อไม้อย่างหนักเจ้าค่ะ”
พุดจีบขอร้องและวิงวอน
“แม่ต้องช่วยกาหลงนะจ๊ะ...กล่อมให้น้ากลอยปล่อยกาหลง”
“แม่กลอยติดหนี้พ่อโชติโขอยู่ ยังไงแม่กลอยก็ต้องเอาตัวกาหลงใช้หนี้”
พุดจีบนั่งลงไหว้ขอร้องแม่บุญอิ่ม...
“ลูกขอวิงวอนให้แม่ช่วยนำเงินไปจ่ายหนี้แทนน้ากลอยนะจ๊ะ”
แม่บุญอิ่ม แปลกใจ
“แม่พุดจีบ”
“กาหลงเป็นเพื่อนรักของลูกตั้งแต่เล็ก พี่ไม้เองก็ดีกับลูก ความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ไม่อาจทำให้ลูกนิ่งดูดายได้”
พุดจีบก้มลงกราบ
“ลูกกราบขอร้องคุณแม่”
แม่บุญอิ่มมองพุดจีบ แล้วคิดตัดสินใจ นวลมองลุ้นว่าบุญอิ่มจะตัดสินใจอย่างไร
“กลับเข้าห้องไป อย่าเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่งั้นลูกเองต้องวุ่นวายใจ”
พุดจีบผิดหวังที่แม่บุญอิ่มไม่ยอมช่วย พุดจีบจำต้องเดินเข้าไปในห้อง
“แกเฝ้าลูกสาวฉันให้ดี อย่าให้ลงจากเรือนเป็นอันขาด”
“เจ้าค่ะ”
นวลเดินตามไปเฝ้าพุดจีบที่ห้อง แม่บุญอิ่มคิดตัดสินใจบางอย่าง
ลานหน้าบ้านแม่กลอย...โชติต่อยไม้ซึ่งถูกมัดมือไว้ ไม้ทรุดตัวลงกับพื้น กาหลงเข้าไปประคองไม้
“หยุดทำร้ายพี่ไม้ได้แล้ว”
แม่กลอย ชบาและกาเหว่าเดินเข้ามา
“นังกาหลง เอ็งผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับข้า”
“แม่...” กาหลงยกมือไหว้ “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ใจชั่วทิ้งแม่ทิ้งน้อง ฉันจะไปทำมาหากินที่เมืองวิเศษไชยชาญ...แล้วกลับมาทดแทนคุณแม่”
แม่กลอยตบหน้า กาหลงทรุดลง ไม้เป็นห่วงกาหลง พยายามฝืนขยับตัวที่ถูกมัดมือไพล่หลัง เข้าไปหากาหลง
“กาหลง”
ไม้จะถึงตัวกาหลง แต่โชติถีบไม้ล้มลง โชติถามแม่กลอย
“จะให้ฉันลงโทษไอ้โจรยังไง ให้สาสมกับที่มันลักพาตัวลูกสาวน้าหนี”
กาหลงมองแม่กลอย รอลุ้นการตัดสินใจ ไม้มองหน้าแม่กลอย...
“ปล่อยมันไป”
โชติไม่พอใจ
“ปล่อยมันได้ไง มันสมควรตาย”
“ฆ่าตายก็เสียดายกระสุนดินปืน มันเห็นกาหลงเข้าเรือนหอกับพ่อโชติ ....มันก็ตรอมใจตายแล้ว”
ไม้เสียใจที่แม่กลอยจะยกกาหลงให้โชติ ขณะที่โชติถือมีดเดินตรงมาหาไม้ ตั้งท่าเหมือนจะแทง แต่เอามีดปาดเชือกจนขาด โชติผลักไม้ล้มลง แล้วถ่มน้ำลายใส่...
“ไอ้หมาขี้เรื้อน”
แม่กลอยหันมาบอก
“พ่อโชติกลับไปรอที่เรือน ฉันจะขัดสีฉวีวรรณกาหลงให้ผุดผ่องแล้วไปส่งถึงห้องหอ”
ไม้เข้าไปไหว้ขอร้องแม่กลอย...”
“น้ากลอย...ฉันขอล่ะ” ไม้คลานเข้ามากราบเท้าแม่กลอย “ฉันรักกาหลง...”
“รัก...ก็ต้องปลงใจให้กาหลงเป็นสุข..กลับวัดไปได้แล้ว”
“ฉันไม่ยอมให้กาหลงตกเป็นของใคร”
“พี่ไม้”
กาหลงเข้ามาหาไม้ เข้าสวมกอดไม้ด้วยความรัก โชติทนเห็นไม่ได้ เข้ามาดึงตัวไม้ออกแล้วต่อย เตะจนไม้สลบต่อหน้ากาหลง...
“พี่ไม้”
กาหลงร้องไห้สงสารไม้ ชบาเข้ามาจับตัวกาหลงไว้ กลัวถูกแม่กลอยทำร้าย...
“ฉันจะรอเจ้าสาวของฉันที่เรือน”
โชติและสิงเดินออกไป แม่กลอยหันไปสั่งกาเหว่า
“กาเหว่า...เอ็งไปบอกพวกมันให้ลากตัวกลับไป….ชบา พาพี่สาวเอ็งขึ้นเรือน”
แม่กลอยเดินขึ้นเรือนไป กาหลงจะเข้าไปดูแลไม้...
“พี่ไม้”
ชบาห้ามไว้
“พอเถอะพี่ ไม่งั้นพี่ต้องเจ็บตัวไปอีกคน”
ชบาปรามกาหลง..เพราะกลัวแม่กลอยจะเล่นงานกาหลง...
แม่กลอยยืนอยู่บนเรือน ชบาพากาหลงเข้ามา...
“แม่จ๊ะ...ฉันพาพี่กาหลงไปอาบน้ำผลัดผ้า...เปลี่ยนชุดงามๆนะจ๊ะ”
ชบาจะพากาหลงออกไป แต่แม่กลอยสวนขึ้น
“ก่อนส่งตัวเข้าหอ...ข้าขอสะสางลูกเนรคุณ”
กาหลงตกใจและแปลกใจว่าแม่กลอยจะทำอย่างไร...
เรือนกาหลง ตอนที่ 2 (ต่อ)
นวลเปิดประตูเข้าห้อง...พุดจีบรีบรุดมาหา
“พี่นวลได้ความว่าไงบ้างจ้ะ”
“แม่กลอยจะจับกาหลงส่งเรือนพ่อโชติ”
พุดจีบสงสารกาหลง
“กาหลง...”
พุดจีบเป็นห่วงกาหลงและไม้ นวลรู้ความคิดพุดจีบ รีบบอก
“คุณบุญอิ่มออกไปข้างนอกเจ้าค่ะ”
พุดจีบตัดสินใจที่จะออกไปช่วยกาหลง
แม่กลอยมัดกาหลงไว้ที่โต้ถุนเรือน
“กาเหว่า เอ็งเอาหวายมา”
แม่กลอยยื่นมือรับหวาย กาเหว่าส่งก้านมะยมให้ แม่กลอยหักแล้วโยนทิ้ง
“ข้าบอกให้เอาหวาย”
“พี่กาหลงสำนึกผิดแล้วจ้ะแม่” ชบาพยายามบอก
“เนรคุณแม่ทิ้งน้อง ต้องโบยให้หลาบจำ...ไปอยู่เรือนพ่อโชติจะได้ไม่เนรคุณคนอีก”
แม่กลอยพูดจบก็โบยตี กาหลงเจ็บปวดแต่ยอมทน ไม่ร้องไม่ขอใดๆ ชบาและกาเหว่ามองดูกาหลงถูกโบยด้วยความสงสาร...
ในบ้านสัปเหร่อขาว...ไม้ค่อยๆรู้สึกตัวดีดตัวขึ้นเป็นห่วงกาหลง
“กาหลง”
จันดีใจ
“ไม้ฟื้นแล้ว”
ไม้ขยับตัวลุกขึ้น จะออกไป...สัปเหร่อขาวรีบถาม
“เอ็งจะไปไหน”
“แม่กลอยจะส่งตัวกาหลงให้ไอ้โชติ ข้าจะไปช่วยกาหลง”
“ตัดใจเถอะ...เอ็งคงทำบุญร่วมกันมาแค่นี้” สัปเหร่อขาวเตือน
จันกังวลใจเป็นห่วงไม้
“เอ็งยังไม่เลิกลา...ไอ้โชติไม่ปล่อยเอ็งไว้ รังแต่ไปหาที่ตาย”
“ต่อให้ฉันตาย...ก็ไม่มีใครหยุดความรักฉันได้”
ไม้ฝืนสังขาร ลุกเดินออกไป...จันจะห้ามไว้ แต่สัปเหร่อขาวดึงตัวจันไว้
“ปล่อยฉัน ฉันจะไปห้ามลูก”
“เอ็งจำได้ไหม... ตอนเราไปเล่นยี่เกในเมืองวิเศษไชยชาญ พวกยี่เกจากเมืองหลวงเล่นเรื่องมัทธนะพาธาที่เจ้าอยู่หัวทรงแต่ง...”
จันนึกตามที่สัปเหร่อขาวพูด...สัปเหร่อนึกถึงคำกลอนที่เคยฟังมา
“ความรักเหมือนโรคา...บันดาลตาให้มืดมนต์”
“ไม่ยินและไม่ยลอุปสรรคใด” จันต่อกลอน
“ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้”
“ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง”
“ถึงหากจะผูกไว้...ก็ดึงไปด้วยกำลัง”
“ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง...”
สัปเหร่อขาวและจันพูดบทกลอนพร้อมกัน
“บ่หวนคิดถึงเจ็บกาย”
สัปเหร่อขาวและจันมองหน้ากัน จำยอมต้องปล่อยไม้ไป...
แม่กลอยฟาดๆ กาหลงทรุดตัวด้วยความเจ็บปวด แต่อึดทนไม่ร้อง...กาเหว่ามองอย่างสงสาร
“แม่...หยุดตีพี่กาหลงได้แล้ว”
แม่กลอยจ้องกาหลง
“หากเอ็งเอ่ยปากคำเดียว...ว่าเอ็งจะยอมเป็นเมียพ่อโชติ ข้าจะหยุดโบย”
กาหลงไม่พูด แม่กลอยยิ่งโบยหนัก ชบาและกาเหว่าเห็นยิ่งสงสาร
“พี่กาหลงพูดออกมาเถอะ...แล้วพี่ค่อยหนีไป” กาเหว่าพยายามแนะ
แม่กลอยหันมาดุ
“ไอ้กาเหว่า”
ชบาสงสาร
“พี่กาหลง ยอมพูดเถอะ ไม่งั้นพี่ถูกโบยจนตาย”
กาหลงค่อยๆทรงตัว...แล้วหันไปบอกแม่กลอย...
“ฉันรัก...”
ทุกคนมองลุ้นว่ากาหลงจะพูดอย่างไร
“ฉันรักพี่ไม้”
แม่กลอยโกรธจัด ฟาดไม่ยั้ง...ชบาและกาเหว่าผิดหวังที่กาหลงยังดื้อดึง
“ต่อให้แม่โบยฉันจนตาย ฉันก็จะรักพี่ไม้” กาหลงแน่วแน่
“ได้... เอ็งอยากตาย ข้าก็จะสงเคราะห์ให้”
แม่กลอยฟาดไม้ยั้ง แต่แล้วแม่บุญอิ่มเข้ามาคว้ามือไว้
“พอได้แล้ว”
แม่กลอยไม่พอใจ
“แม่บุญอิ่ม”
กาหลงแปลกใจที่แม่บุญอิ่มมาช่วยไว้...
พุดจีบเร่งเดินไปยังเรือนของแม่กลอย เพื่อไปดูกาหลง...นวลตามมา
“คุณพุดจีบรอนวลด้วยเจ้าค่ะ”
“เร่งหน่อยพี่นวล...ก่อนที่แม่กลอยจะส่งกาหลงให้พี่โชติ”
พุดจีบเร่งฝีเท้าไปหากาหลง...ไม้เดินโซซัดโซเซเพื่อไปช่วยกาหลงแล้วหมดสติล้มลง พุดจีบเห็นเข้าก็ตกใจ
“พี่ไม้”
พุดจีบเข้าไปประคองดูแลไม้...นวลจับตัวไม้
“ตัวร้อนยังกะไฟ...ไม่ได้การแล้ว รีบพาไปที่เรือนเถอะเจ้าค่ะ”
นวลเสนอ พุดจีบยอมทำตามนั้น
แม่กลอยผลักมือแม่บุญอิ่มออก...
“เอ็งไม่เกี่ยว ออกไป”
แม่กลอยจะฟาดโบยกาหลง แม่บุญอิ่มรั้งมือไว้
“ฉันรับปากกับพ่อกาหลง จะดูแลกาหลงและทุกคนให้อยู่ดีมีสุข”
“ไม่ต้องเอาผัวข้ามาอ้าง เอ็งไม่ได้เป็นญาติโกโหติกา...ไม่ต้องมาก้าวก่าย”
“ผัวฉันกับพ่อของกาหลงเป็นเกลอกัน...กาหลงก็เปรียบเสมือน ลูกสาวฉัน”
“ฉันเป็นแม่...แม่ผู้ให้กำเนิดมีอำนาจทำอะไรมันก็ได้”
แม่กลอยผลักแม่บุญอิ่มออกแล้วโบยกาหลงไม่ยั้ง...แม่บุญอิ่มยืนมองทำอะไรไม่ได้ แม่กลอยโบยจนกาหลงสลบไป กาเหว่าตกใจ
“พี่กาหลง”
ชบารีบห้าม
“พอได้แล้วแม่ พี่กาหลงจะตายแล้ว”
แม่กลอยมองกาหลง แล้วทิ้งไม้ เดินหนีไป...แม่บุญอิ่มเข้าไปดูกาหลง ช่วยแก้เชือกแล้วหันไปบอกกาเหว่ากับชบา
“เอ็งสองคนรีบพากาหลงขึ้นไปทายาบนเรือน”
ชบารับคำ
“จ้ะ”
ชบากับกาเหว่าช่วยประคองดูแลกาหลง แม่บุญอิ่มมองอย่างหนักใจ
พุดจีบประคองไม้ นอนลงบนหมอน นวลนำกะละมังใส่น้ำและผ้ามาให้พุดจีบ
“น้ำกับผ้ามาแล้วเจ้าค่ะ”
พุดจีบส่งห่อยาให้นวล
“พี่นวลเอายาที่ฉันจัด...ไปต้มเสีย พี่ไม้ฟื้นขึ้นมาจะได้กินยา”
“เจ้าค่ะ”
นวลมองไม้ด้วยความเป็นห่วง แล้วรีบออกไป...พุดจีบเอาผ้าชุบน้ำ มาเช็ดตัวให้ไม้
กาหลงนอนอยู่ ชบานั่งมองร่างกายของพี่สาวที่โดนโบย กาเหว่าถือถ้วยยาเดินเข้ามา
“สะใจพี่รึยัง แม่บังคับให้พี่กาเหว่าแต่งงานกับพี่โชติ พี่จะได้สมหวังกับพี่ไม้”
ชบาตกใจ
“ไอ้กาเหว่า เอ็งพูดอะไร”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ พี่อยู่ข้างแม่...กีดกันพี่กาหลง เพราะพี่รักพี่ไม้”
“หยุดพูดประเดี๋ยวนี้นะ จะทำอะไรก็ไป...”
ชบาแย่งถ้วยยา กาเหว่าแปลกใจ เดินออกไป...ชบามองกาหลงแล้วเอายาทาให้
แม่กลอยนั่งเคี้ยวหมากอยู่มุมหนึ่งของบ้าน แม่บุญอิ่มเดินเข้ามาหานั่งข้างๆ
“แม่กลอย...ฉันขอล่ะ”
แม่กลอยหันหน้าหนีไปอีกทาง ขากถุยหมากลงกระโถน...
“ไม้มันจนก็จริง แต่มันมีรักแท้ให้กาหลง เงินทองเป็นของนอกกาย...ความรักต่างหากที่จะนำพาไปสู่ความสุขที่แท้จริง”
แม่กลอยไม่พอใจ หันมาประชดแม่บุญอิ่มถึงเรื่องราวให้อดีต
“ทำปากดีสอนข้า ชีวิตเอ็งมันสุขสบายแล้วนี่ ได้ผัวเป็นเศรษฐีมีที่ดินมากมายก่ายกอง...ผัวตายทิ้งสมบัติให้เสวยสุข ส่วนข้าต้องก้มหน้าทำนา”
“จะมีจะจนเราก็เป็นเพื่อนกัน”
“คนที่แย่งคนรัก...ไม่ใช่เพื่อนข้า”
“ฉันเคยบอกหลายคราว่าฉันไม่ได้แย่ง...พี่พันเขารักฉัน”
“ฉันเบื่อฟังคำแก้ตัว”
“แม่กลอยไม่เชื่อฉันก็ป่วยการที่พูด...เรื่องราวก็ผ่านไปแล้ว อย่าให้มันมาทำร้ายเรา และลูกๆที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย”
แม่บุญอิ่มหว่านล้อม แม่กลอยเบือนหน้าหนี ยังคงไม่พอใจแม่บุญอิ่ม
ชบาทายาให้ กาหลงนอนละเมอ...
“พี่ไม้...ฉันรักพี่...พี่อย่าทิ้งฉันไป...”
กาหลงนอนละเมอทั้งน้ำตา ชบามองกาหลง สงสารน้ำตาไหล ชบาปลุกกาหลง
“พี่กาหลง...พี่กาหลง”
กาหลงค่อยๆรู้สึกตัว มองเห็นชบา นึกเป็นห่วงไม้
“พี่ไม้อยู่ไหน”
ไม้นอนหมดสติ...พุดจีบเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้มองไม้ที่นอนหมดสติคิดถึงความสัมพันธ์ในอดีต
พุดจีบถือพานเก็บดอกไม้ ทันใดนั้นงูเห่าเลื้อยเข้ามาแผ่แม่เบี้ย พุดจีบตกใจ ไม้วิ่งเข้ามาบอกพุดจีบ...
“ยืนนิ่งๆ”
พุดจีบยืนมองงูที่แผ่แม่เบี้ย...ไม้เดินเข้ามากันพุดจีบ แล้วพึมพำท่องคาถา...ไม้ค่อยๆเอามือไปที่หัวงู งูค่อยๆคลายแม่เบี้ยแล้วเลื้อยหนีไป...พุดจีบคลายความตกใจ ไม้เข้าไปดูแลพุดจีบ
“พุดจีบเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วจ้ะ...”
“ไม่เป็นอะไร เหยื่อแตกพลั่กเลย”
ไม้เอาผ้าขาวม้ามาเช็ดเหงื่อให้พุดจีบ...พุดจีบมองไม้ด้วยความเขินอาย
พุดจีบมองไม้เศร้าใจที่ไม้ไม่รู้ว่าเธอรักเขา...ไม้เริ่มรู้สึกตัวค่อยๆมองตรงหน้าเห็นเป็นภาพกาหลง
“กาหลง”
“พุดจีบเองจ้ะ”
ไม้เพ่งมองชัดขึ้นเห็นเป็นพุดจีบ ค่อยๆลุกขึ้น แปลกใจที่มาอยู่ที่เรือนพุดจีบ
“พี่มาอยู่ที่นี่ได้ไง พี่ต้องไปหากาหลง”
ไม้ฝืนตัวลุกขึ้น...
แม่กลอยนั่งตำหมาก ไม่สนใจ แม่บุญอิ่มยื่นถุงใส่เงินให้
“เอาเงินไปใช้หนี้”
แม่กลอยแปลกใจ
“ให้ไม้แต่งงานกับกาหลง...ไม้เป็นผู้ชายที่เหมาะสมกับกาหลง”
แม่กลอยมองยิ้มแล้วระเบิดหัวเราะ แม่บุญอิ่มแปลกใจ
“แม่กลอยหัวร่ออะไร ฉันหวังดีกับกาหลง”
“เอ็งไม่ได้หวังดีกับกาหลง เอ็งกันท่าไอ้ไม้ออกจากพุดจีบ เอ็งไม่อยากให้ลูกสาวรักกับเด็กวัด เอ็งมันฉลาดคิดตั้งแต่ไหนแต่ไร”
แม่บุญอิ่มนิ่ง...ไม่แสดงความรู้สึก
“แม่กลอยจะคิดไงก็แล้วแต่...เอาเงินนี่ไปใช้หนี้ ไม่ต้องคืนฉัน....ขอเพียงให้กาหลงอยู่กินกับไม้”
แม่บุญอิ่มวางถุงเงินไว้แล้วเดินออกไป แม่กลอยหันไปมองถุงเงินคิดตัดสินใจตะโกนเรียก
“ไอ้กาเหว่า ไอ้กาเหว่า”
กาเหว่าเดินเข้ามา...ยังคงน้อยใจแม่
“บอกให้พี่สาวเอ็งอาบน้ำผลัดผ้า ข้าจะพาไปเรือนพ่อโชติ”
กาเหว่าผิดหวังและเสียใจที่แม่บังคับกาหลง
กาหลงลุกขึ้นนั่ง เป็นห่วงไม้
“พี่ไม้เป็นยังไงบ้าง”
“สัปเหร่อขาวกับป้าจันพากลับไปวัดแล้ว...พี่เลิกกับพี่ไม้เถอะ” ชบาบอก
“ชบา...เอ็งไม่รักไม่สงสารพี่รึไง”
“พี่ออกเรือนไปกับพี่ไม้ แล้วใครจะเลี้ยงดูแม่ แต่ถ้าพี่อยู่กินกับพี่โชติ พวกเราก็ไม่ต้องลำบาก อดๆอยากๆอย่างที่เป็นอยู่ พี่เคยสัญญาต่อหน้าศพพ่อว่าจะดูแลฉันกับน้องให้สุขกาย แต่สุดท้ายพี่ก็เลือกผู้ชาย ไม่สนใจพวกฉัน...พี่มันเห็นแก่ตัว”
กาหลงสะอึกกับคำพูดของชบา กาเหว่าถือชุดเสื้อผ้าใหม่เดินเข้ามา
“พี่กาหลงไม่ต้องฟังพี่ชบา ฉันอยู่ได้ ฉันจะออกรับจ้างหาเงินเลี้ยงแม่เอง พี่หนีไปกับพี่ไม้เถิด”
กาเหว่าร้องไห้สงสารพี่สาว กาหลงยิ่งสะเทือนใจหันไปมองผ้าชุดใหม่ที่กาเหว่าถือเข้ามา เธอคิดตัดสินใจ
ไม้จะออกไป พุดจีบเข้ามารั้งไว้
“พี่ไม้พักก่อนเถอะจ้ะ ฉันให้พี่นวลต้มยา พี่ต้องกินยา”
“พี่ไม่เป็นอะไร พี่ต้องไปช่วยกาหลง”
ไม้จะเดินไป...นวลถือหม้อยาเข้ามา ไม้เดินไปแล้วเซจะล้ม พุดจีบเข้ามาประคองไว้ แม่บุญอิ่มเข้ามาเห็นพุดจีบประคองไม้อยู่ในอ้อมกอด นวลตกใจอุทานเสียงดัง
“คุณพระช่วย”
นวลตกใจทำหม้อยาตกแตก ไม้ฝืนทรงตัวยกมือไหว้แม่บุญอิ่ม
“ฉันขอโทษที่รบกวนจ้ะ”
ไม้ฝืนตัว ลงไปจากเรือน...พุดจีบมองตามด้วยความเป็นห่วง แม่บุญอิ่มไม่พอใจ
“มันเกิดอะไรขึ้น”
พุดจีบตกใจกลัวถูกแม่ต่อว่า...
ค่ำนั้น ไม้วิ่งมาหน้าบ้านกาหลง...
“กาหลง...กาหลง”
ชบาและกาเหว่าเข้ามา
“พี่ไม้กลับไปเถอะ...ประเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง” ชบาไล่
กาเหว่าต่อว่าชบา
“พี่เลิกขวางได้แล้ว คนเห็นแก่ตัว”
“ข้าไม่ได้เห็นแก่ตัว ข้าไม่อยากให้พี่ไม้พี่กาหลงต้องเจ็บตัวอีก”
ไม้ร้อนใจ
“กาหลงอยู่ไหน พี่อยากเจอกาหลง”
กาหลงเดินออกมาจากเรือน ในชุดสวยงาม พร้อมจะไปหาโชติ...ไม้ตกใจ
“กาหลง...”
กาหลงมองไม้แล้วเดินต่อไปพร้อมจะไปหาโชติ...ไม้วิ่งเข้าสวมกอดไว้
“พี่ไม่ยอมให้กาหลงตกเป็นของมัน”
“พวกข้ามาช่วยแล้ว”
เฟื้อง สัปเหร่อขาว โขง จอกและจันเข้ามา...พร้อมกับเกวียน พวกผู้ชายถือคบไฟถือดาบไว้ สัปเหร่อขาวเข้ามาหาไม้
“ไอ้ไม้...เอ็งพากาหลงหนีไป ข้าเตรียมเกวียนให้”
“แม่เอาเสื้อผ้า ข้าวสารปลาแห้งตุนไว้เต็มเกวียน” จันบอก
เฟื้องมองไม้กับกาหลง
“รีบไปซะ ไม่ต้องห่วงพวกไอ้โชติ พ่อกับไอ้จอกไอ้โขงจะไปดักปิดทางไว้”
“หากมันยังตามรังควาญ...พ่อจะปลุกวิญญาณผีจำปาไปหักคอ พวกมัน” สัปเหร่อขาวท่าทางเอาจริง
จอกตกใจกลัว
“ไม่เอา...ไม่พูด”
“พี่ไม้รีบพากาหลงหนีไปเถอะ” โขงเร่ง
ไม้ดีใจมากบอกกาหลง
“ทุกคนสมัครใจช่วย...รีบหนีไปด้วยกัน” ไม้หันไปบอกชบาและกาเหว่า “ชบา กาเหว่า พี่ฝากดูแลแม่กลอยด้วยแล้วพี่จะรีบทำงานหาเงินมาให้”
ชบารู้สึกผิดหวังที่ไม้จะหนีไปกับกาหลง กาเหว่าพยักหน้ารับคำ ไม้หันมาหากาหลง
“ไปกันเถอะ”
“พี่กลับไปซะ” กาหลงพูดเรียบนิ่ง
ทุกคนตกใจที่กาหลงไม่ยอมไป...ไม้ผิดหวังและเสียใจ
“กาหลง...”
แม่บุญอิ่มถามพุดจีบ
“พุดจีบ...ตอบแม่ได้รึยัง เจ้าไม้ขึ้นเรือนมาได้อย่างไร”
“ลูกลงเรือนจะไปหากาหลง เจอพี่ไม้เป็นไข้อยู่กลางทาง ลูกจึงนำมารักษาตัว”
แม่บุญอิ่มไม่พอใจ
“ลูกขัดคำสั่งแม่”
“ลูกรู้ว่าลูกทำผิด...แต่จะให้เพื่อนรักต้องช้ำใจ ลูกทำไม่ได้”
“นวล เอ็งไปเอาหวายมาให้ข้า”
นวลตกใจสงสาร...พุดจีบยอมรับการลงโทษจากบุญอิ่ม
กาหลงเข้าไปไล่ไม้
“ฉันบอกให้พี่กลับไป แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก”
“ทำไมกาหลงพูดกับพี่อย่างนี้ กาหลงไม่รักพี่แล้ว”
“ใช่...ฉันเกลียดพี่...พี่ทำให้ฉันต้องเจ็บตัวปางตาย”
กาหลงเปิดผ้าให้ไม้เห็นร่องรอยถูกโบย ไม้เห็นรอยโบยก็ตกใจและสงสารกาหลงมาก กาหลงบอกไม้
“ฉันไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเนรคุณเห็นแก่ตัว อีกต่อไป”
ไม้อึ้ง
“รักพี่มีแต่ความทุกข์...ฉันอยู่กับพี่ฉันคงอดตาย พี่มันลูกกำพร้า อาศัยกินข้าววัด ชีวิตพี่ยังต้องพึ่งคนอื่น...แล้วจะดูแลฉันได้ยังไง”
ไม้ผิดหวังและเสียใจมาก...ร้องไห้ออกมา
“กาหลง...ผีตัวไหนเข้าสิงกาหลงให้กาหลงทำร้ายหัวใจพี่...”
“ไม่มีผีตนใด...นอกจากผีในใจฉัน ที่บงการให้ฉันพูดความจริง...”
“ฉันซึ้งใจแล้วว่า...เงินเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตฉันมีความสุข...ฉันไม่ยอมกัดก้อนเกลือกิน ความรักมันกินไม่ได้”
“ไม่จริง พี่ไม่เชื่อ”
ไม้เข้ามาสวมกอด กาหลงพยายามดิ้นหนี
“ปล่อยฉัน”
“พี่รู้ว่าใจกาหลงไม่ได้คิดอย่างนั้น”
กาหลงพยายามดิ้นหนี
“ปล่อยฉันเถอะ”
“กาหลงยอมสละความรักเพื่อความกตัญญู...หัวใจของกาหลง ไม่มีวันเห็นแก่เงิน”
กาหลงมองหน้าไม้ที่ไม้รู้ความในใจของเธอ...
“ไม่มีใครรักและเข้าใจฉันเท่าพี่อีกแล้ว”
กาหลงกอดไม้ร้องไห้โฮทรุดตัวกอดกันกลม...ทุกคนมองกาหลงและไม้ สงสารน้ำตาไหลในความรักของทั้งคู่...ไม้รักและสงสารกาหลงมากที่ไม่มีทางออกกับชีวิต
“กาหลงพี่ขอโทษ...ที่ผ่านมาพี่เอาตัวรักมาเป็นโซ่พันธนาการ กาหลงไว้”
กาหลงร้องไห้สะเทือนใจที่ไม้รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่...ไม้เข้ามาเช็ดน้ำตาให้กาหลง
“ไม่ต้องร้องนะคนดี...ในเมื่อกาหลงตัดสินใจแล้ว...หัวใจกาหลงอยู่ที่พี่...พี่ขอเป็นคนพากาหลงไปส่งโชติ ด้วยตัวพี่เอง...”
กาหลงร้องไห้ สวมกอดไม้...ทุกคนร้องไห้เห็นใจในความรักของทั้งสองที่มีอุปสรรค กาเหว่ายืนร้องไห้สงสารกาหลงคิดตัดสินใจบางอย่างวิ่งออกไป ชบาแปลกใจว่ากาเหว่าไปไหน
แม่บุญอิ่มมองดุนวลที่พยายามขอร้อง
“คุณบุญอิ่มอย่าลงโทษคุณพูดจีบเลยเจ้าค่ะ คุณพุดจีบทำไปเพราะรักและห่วงกาหลง”
“ห่วงกาหลงรึห่วงไม้” แม่บุญอิ่มย้อน
พุดจีบมองหน้าบุญอิ่มแปลกใจที่บุญอิ่มรู้ความในใจของเธอ...
“ลูก...” พุดจีบจะตอบ
แม่บุญอิ่มไม่อยากรับฟัง
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น...แม่ยอมเป็นแม่ใจยักษ์ใจมาร แต่ขอให้ลูกรู้ไว้ แม่ลงโทษเตือนสติให้ลูกรู้จักยับยั้งชั่งใจ”
แม่บุญอิ่มเอาไม้หวายจากนวลจะโบย พุดจีบก้มหน้าพร้อมรับการลงโทษ
“ก่อนแม่จะลงโทษ...ลูกขอรู้เพียงสิ่งเดียว แม่นำเงินไปใช้หนี้...ช่วยกาหลงแล้วหรือไม่”
แม่บุญอิ่มจะบอกว่าได้นำเงินไปช่วยแม่กลอย...กาเหว่าวิ่งขึ้นมาบนเรือน....
“พี่พุดจีบช่วยพี่กาหลงด้วย พี่กาหลงกำลังไปเรือนพี่โชติ”
แม่บุญอิ่มได้ฟังก็แปลกใจ พุดจีบผิดหวังและเสียใจที่บุญอิ่มไม่ได้ช่วยกาหลง
“แม่ใจจืดใจดำ...ลูกจะช่วยกาหลงเอง”
พุดจีบรีบลงไปจากเรือน ไปกับกาเหว่า นวลตกใจ
“คุณพุดจีบ อย่าไปเจ้าค่ะ”
“ปล่อยไป” แม่บุญอิ่มเสียงเข้ม
นวลรู้ดีว่าบุญอิ่มไม่พอใจพุดจีบที่ขัดคำสั่ง...แม่บุญอิ่มมองตามไปไม่พอใจพุดจีบ...
โชติยืนรอกาหลง...โดยมีสิงยืนอยู่ด้านหลัง มั่นและขาบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นดีใจ
“มาแล้ว...เมียพี่โชติมาแล้วจ้า...” มั่นดี๊ด๊า
โชติยิ้มพอใจ หันไปมองตรงหน้า...แม่กลอยเดินเข้ามา มั่นและขาบตกใจ
“เฮ้ย”
มั่นอึ้งๆ
เรือนกาหลง ตอนที่ 2 (ต่อ)
“กาหลงใยเปลี่ยนเป็นกาเน่า”
โชติดึงตัวมั่นออกไป เดินเข้ามาโวยใส่แม่กลอย
“น้ากลอย...ไหนล่ะกาหลง”
“ใจเย็นก่อนพี่โชติ...ฉันจะมาบอก”
โชติสวนขึ้น
“ไม่ยงไม่เย็นแล้ว น้าไม่เอาตัวกาหลงมาให้ฉัน ฉันจะยึดที่นายึดเรือน”
“ไม้และกาหลงเข้ามา...โดยมีพวกเฟื้องตามมาด้วย”
“ฉันมาใช้หนี้แทนแม่แล้ว”
แม่กลอยหันไปเห็นกาหลงและพวกไม้ ก็แปลกใจ
เผื่อนและงามเข้ามาบอกอบเชย
“กาหลงมันยอมเป็นเมียพี่โชติเจ้าค่ะ”
อบเชยดีใจ
“สวรรค์บันดาลใจ...พี่ไม้ไร้คู่ ฉันจะแทรกไปอยู่กลางใจพี่ไม้...เห็นทีต้องรำแก้บนเจ็ดวัดเจ็ดคืน”
“อย่าเพิ่งแก้เจ้าค่ะ...เผื่อนยังพูดไม่หมดความ”
“พี่ไม้มาด้วยเจ้าค่ะ คงจะมาชิงตัวกาหลง” งามพูดเสริม
อบเชยชะงัก
“ชิงตัวกาหลงอีกแล้ว อ๊าย”
อบเชยจะกรี๊ด เผื่อนและงามปิดปากไว้ อบเชยกระทืบเท้าใส่เท้าเผื่อนและงาม ทั้งสองสะดุ้งร้องโอดโอย
“ปิดปากข้าทำไม”
“พ่อผู้ใหญ่ได้ยินจะเป็นเรื่องนะเจ้าคะ” เผื่อนเตือน
“ใช่เจ้าค่ะ พ่อผู้ใหญ่ไม่พอใจที่คุณอบเชยระริกระรี๊ ยังกะปลากระดี่ได้ผัว” งามพูดตรงๆ
อบเชยไม่พอใจ
“นังงาม”
“เจ้าค่ะ”
งามเอามือจิกหัวตัวเอง แล้วตบหน้าตัวเอง...อบเชยสายตามุ่งมั่น
“ข้าไม่ยอมให้พี่ไม้ชิงตัวนังกาหลง ต้องมาชิงหัวใจข้า”
อบเชย เผื่อนและงามจะเดินออกไปเจอช่วงและแม่น้อยเดินเข้ามา
“จะไปไหน...มีอะไรกัน” ช่วงถามเสียงเข้ม
อบเชย เผื่อนและงามตกใจ... ช่วงและแม่น้อยสงสัยว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
โชติโวยใส่แม่กลอย
“น้ากลอยบอกว่ากาหลงยอมเป็นเมียฉัน แล้วไอ้ไม้มาทำไม แม่กลอยเล่นแง่กับฉัน”
แม่กลอยหันไปโวยไม้
“ไอ้ไม้ นี่เป็นเรื่องของข้ากับกาหลง เอ็งไม่เกี่ยว กลับไป”
ช่วงและแม่น้อย อบเชยเผื่อนและงามเข้ามา อบเชยขัดขึ้น
“อย่ามาไล่พี่ไม้ของฉัน พี่ไม้มาหาฉัน”
ช่วงปรามอบเชย
“อบเชย”
อบเชยกลัว จึงถอยหลบไปอยู่กับเผื่อนกับงาม
“แห่กันมาเป็นโขลง...มีเรื่องใดกัน” ช่วงถามเสียงดัง
“ฉันมาดี ฉันมาส่งกาหลง...” ไม้พูดเศร้าๆ
แม่กลอยแปลกใจ...พวกโชติก็แปลกใจ
“น้ากลอย...ที่ผ่านมาฉันเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้”
กาหลงมองไม้ด้วยความเศร้าใจ
“ฉันมันจนเลี้ยงดูกาหลงไม่ได้...น้ากลอยทำถูกแล้วที่ยกกาหลงให้โชติ”
โชติมองไม้ด้วยความแปลกใจ...ไม้หันไปบอกโชติ
“ข้าเอากาหลงมาส่งให้เอ็ง”
ไม้ประคองตัวกาหลง ส่งให้โชติ...กาหลงเศร้าใจ พวกเฟื้องมองตามสงสารไม้...อบเชยยิ้มดีใจหันไปบอกเผื่อนกับงาม
“พี่ไม้เลิกกับนังกาหลง พี่ไม้ก็ตกเป็นของฉัน”
เผื่อนกับงามรับตำ
“เจ้าค่ะ”
ไม้พากาหลงมาส่งถึงตัวโชติ ทันใดนั้นเขาก็ชักมีดจากเอวโชติทิ้งปอกมีดถือมีดขึ้นมา โชติตกใจ
“ไอ้ไม้”
ทุกคนตกใจคิดว่าไม้จะแทงโชติ ไม้ถือมีดขู่โชติไว้แล้วค่อยๆเอามีดมาถือไว้ใกล้ตัว กาหลงแปลกใจ
“พี่จะทำอะไร”
“กาหลง...พี่เคยบอกกาหลงว่าหัวใจของพี่อยู่ที่กาหลง ในวันที่กาหลงตกเป็นของคนอื่น กายพี่มันไม่มีหัวใจอีกแล้ว”
กาหลง ตกใจร้องห้าม
“ไม่นะพี่ไม้ อย่า”
“กาหลง...พี่ขอลาก่อน”
ไม้จะเอามีดมาแทงฆ่าตัวตาย...พุดจีบวิ่งเข้ามาห้าม กาเหว่าวิ่งตามมา
“อย่านะพี่ไม้”
“พุดจีบไม่ต้องห้ามพี่...หัวใจพี่แหลกสลาย พี่ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้หากไร้กาหลง”
ไม้จะแทงอกฆ่าตัวตาย...พุดจีบเข้าไปแย่งมีดจากไม้โยนทิ้ง
“พี่ตายไม่ได้ พี่ต้องอยู่ดูแลกาหลง”
พุดจีบถอดสร้อย กำไล เข็มขัดส่งให้แม่กลอย...
“น้ากลอย...เอาสร้อยทองกำไลเข็มขัดฉันไปใช้หนี้ให้กาหลงแต่งงานกับพี่ไม้เถอะจ้ะ”
กาหลงมองพุดจีบด้วยความซึ้งใจน้ำใจเพื่อน ไม้ซึ้งน้ำใจพุดจีบมาก...พวกสัปเหร่อขาวดีใจที่แม่กลอยมีสมบัติไปใช้หนี้โชติ
“รับสิแม่กลอย...เอาทองทั้งหมดไปใช้หนี้ กาหลงจะได้เป็นอิสระ” สัปเหร่อคะยั้นคะยอ
แม่กลอยหันไปบอกพุดจีบ...
“เอาคืนไป ข้าไม่ต้องการ”
ไม้และกาหลงแปลกใจที่แม่กลอยไม่ยอมรับของ พุดจีบหน้าเสีย
“น้ากลอย ฉันตั้งใจช่วยกาหลง”
“ข้าเป็นหนี้แม่เอ็งมากโข ข้าใช้คืนไม่หมด...อย่าให้ข้าต้องเป็นหนี้เอ็งอีก”
พุดจีบดีใจ
“แม่ฉันเอาเงินมาให้น้า”
แม่กลอยยื่นถุงเงินให้โชติ...กาหลงและไม้ดีใจ
“ฉันใช้หนี้คืนพ่อโชติ ฉันยกกาหลงให้พ่อโชติไม่ได้แล้ว”
โชติไม่พอใจ
“ไม่ได้ ฉันไม่เอาเงินฉันจะเอาตัวกาหลง”
ช่วงบอกโชติ
“รับเงิน... แล้วปล่อยกาหลงไป”
โชติไม่พอใจ
“ทำตามที่ข้าสั่ง” ช่วงกำชับเสียงเข้ม
โชติถูกช่วงบังคับ จำต้องรับเงินจากแม่กลอย...กาหลงรีบวิ่งเข้าไปหาไม้
“พี่ไม้”
พวกเฟื้องเฮดีใจ...อบเชยผิดหวังที่กาหลงสมหวังกับไม้พูดกับเผื่อนกับงาม
“ข้าไม่ยอม...ข้าจะตบนังกาหลง”
อบเชยจะเข้าไปตบกาหลงเผื่อนและงามรั้งตัวไว้...ช่วงสั่งทุกคนในบ้าน
“กลับขึ้นเรือน”
อบเชยสะบัดก้นเดินขึ้นเรือน เผื่อนและงามตามไป...พวกเฟื้องยิ้มดีใจ แม่กลอยเดินออกไปไม้และกาหลงมองตาม
โชติเดินขึ้นเรือน อบเชยข้ามาต่อว่า...
“ของดีวางอยู่ตรงหน้ายังปล่อยให้คนอื่นแย่งเอาไปกิน พี่มันไร้น้ำยา”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ”
“จริงอย่างที่ฉันพูดไหมล่ะ...พี่ทำให้พี่ไม้คนรักของฉันกลับไปหากาหลง”
โชติเย้ยกลับ
“เอ็งมันโง่ ของดีไม่รู้จักเลือก กินของสกปรกตกดิน”
“อย่ามาว่าพี่ไม้ของฉัน...พี่ไม้เป็นเพชรเม็ดงามที่ฝังอยู่ในดิน นังกาหลงของพี่มันขี้เลนในปลักควาย”
โชติไม่พอใจเงื้อมือจะตบอบเชย ช่วงเข้ามาตบหน้าโชติ
“พ่อ”
แม่น้อยเข้าไปดูแลโชติ...
“เรื่องแค่นี้ไม่ถึงกับต้องลงไม้ลงมือลูกเลย”
“ประคบประหงม...ถือหางกันนัก มันถึงได้อ่อนแอปวกเปียก ปล่อยให้พวกเด็กวัดมาหยามข้าถึงเรือน”
แม่น้อยเงียบทันที...
“เอ็งเป็นถึงลูกผู้ใหญ่บ้าน มีเงินมีอำนาจแต่ใฝ่ต่ำ ไปชิงรักหักสวาทกับนังกาหลง”
“ฉันไม่ได้รักกาหลง”
ทุกคนแปลกใจ...ที่โชติบอกเรื่องนี้
“ฉันเพียงต้องการเอาชนะไอ้ไม้ มันเคยหักหน้าฉันหลายครั้งหลายครา ฉันต้องการหยามหน้ามัน”
ช่วงยิ้มพอใจ...เข้ามาตบไหล่โชติ สอนโชติ...
“ให้มันได้อย่างนี้สิถึงจะเป็นลูกพ่อ ริอาจผยองตั้งตัวเป็นศัตรู ก็จงทำลายล้าง เกลียดมันแย่งชิงทุกอย่างของมันมา”
โชติยิ้มพอใจ...ที่ช่วงเห็นด้วยกับเขา แม่น้อยกังวลใจที่ช่วงสอนให้ลูกทำเรื่องชั่วร้าย...
ไม้และกาหลงเดินเข้าไปหาแม่กลอย ทั้งสองนั่งลง คุกเข่า..แล้วกราบเท้าแม่กลอย
“ฉันขอบใจน้ากลอย ที่ยอมยกกาหลงให้ฉัน”
“ข้าไม่เคยพูดว่าข้าจะยกกาหลงให้เอ็ง”
กาหลงชะงัก
“แม่ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระจากพี่โชติแล้ว แม่จะกีดกั้นพี่ไม้ อีกทำไม”
แม่กลอยบอกไม้
“เอ็งรู้ตัวดีว่าไม่มีสมบัติพัสถาน เอาลูกสาวข้าไปแล้วจะอยู่กินกันยังไง”
“ฉันมีนาของพ่อแม่ฉัน แล้วฉันจะรับจ้างทำงานให้มากขึ้น”
“ฉันจะช่วยพี่ไม้อีกแรง ฉันจะหาเงินให้แม่กับน้องอยู่สุขสบาย”
“ฉันสัญญาฉันจะไม่ให้กาหลงอดตาย”
“นะจ้ะแม่”
ไม้และกาหลงพนมมือวิงวอนแม่กลอย...
“เอ็งรักกันจริง ข้าจะไม่ขวาง”
ไม้และกาหลงดีใจมาก
“แต่ข้าต้องมั่นใจว่าเอ็งจะเลี้ยงดูกาหลงได้”
“น้ากลอยบอกมาเถอะจ้ะ จะให้ทำอะไร ไอ้ไม้ขอถวายหัว อย่าถึงกับให้ฉันไปเอาเดือนเอาดาวเลย ฉันคว้าไม่ได้จริงๆ”
“แม่จะให้พี่ไม้ทำอะไรจ๊ะ”
ไม้และกาหลงรอฟังคำตอบจากแม่กลอย...
“ปลูกเรือนหอให้กาหลง”
ไม้กับกาหลงตะลึง
“ปลูกเรือน”
“เรือนเอ็งต้องเสร็จก่อนวันพระ”
ไม้และกาหลงตกใจในเงื่อนไขของแม่กลอย
“เวลาช่างน้อยเหลือเกิน ต่อให้เทวดามายกเรือนก็ไม่มีทางทำได้ แม่จงใจกลั่นแกล้งพี่ไม้”
ไม้คอตกคิดตัดสินใจ แม่กลอยมองเยาะ
“ทำไม่ได้...ถอดใจบอกเลิกลาลูกสาวข้าซะ”
“ฉันจะปลูกเรือนหอตามที่น้ากลอยต้องการ หากฉันทำไม่สำเร็จ ฉันจะถอดใจไม่ยุ่งเกี่ยวกาหลงอีก”
กาหลงตกใจ
“พี่ไม้”
แม่กลอยยิ้มพอใจที่ไม้ยอมรับคำ เพราะมั่นใจว่าไม้ไม่สามารถสร้างเรือนได้
กาหลงเดินเข้าไปหาไม้...
“พี่ไม้ไม่มีเงิน พี่จะปลูกเรือนได้อย่างไร พี่ไม่น่ารับคำแม่”
“มันเป็นหนทางเดียวที่จะรั้งตัวกาหลงไว้ได้”
กาหลงกังวลใจ
“แต่ฉันเกรงว่า...”
ไม้ปลอบใจ
“กาหลงไม่ต้องกังวลใจ...พี่เชื่อว่าความรักที่พี่มีต่อกาหลง จะนำพาให้พี่ผ่านอุปสรรคไปได้”
กาหลงกังวลใจ ไม้ปลอบใจ
“ดูนั่นสิ...พระจันทร์สว่างกลางนภา เสมือนเป็นแสงนำทางให้รักของพี่มีความหวัง”
กาหลงเดินไปมองดวงจันทร์ที่สว่าง...
“ขอให้จันทร์เป็นใจ...นำทางแห่งรักด้วยเถิดจันทร์”
ไม้เดินเข้ามาโอบกอดกาหลงที่ด้านหลัง กาหลงพิงซบอกไม้ ยืนมองดวงจันทร์ด้วยกัน...
เช้าวันใหม่...จอกตีระนาดทำนองสนุกสนานโดยจันแต่งชุดลิเกตีฉิ่ง สัปเหร่อขาวตีกลอง
ชาวบ้านต่างแห่เข้ามามุงดู...
“เอะอะเสียงดัง ข้าขายของไม่ได้” ตาสรโวยวาย
สัปเหรอขาวหันไปมองจอกที่ตีระนาดรัวเป็นจังหวะพวกสัปเหร่อขาวร้องรับ
“หน่อยนอยนอย...น้อยนอย หน่อยน้อย นอยนอย”
“เฮ้ย...ผัวข้าบ่นไม่ได้ยินรึไง พวกเอ็งทำอะไรกัน” ยายมาโวยวาย
จอกตีระนาดอีก เป็นจังหวะเดิม พวกสัปเหร่อขาวร้องรับ
“หน่อย นอยนอย...น้อยนอย หน่อยนอย...นอยนอย”
ตาสรกับยายมีตะโกนลั่น
“หยุดตีก่อน”
จอกตีระนาดอีกเป็นจังหวะเดิม พวกสัปเหร่อขาวจะร้องทำนองแต่ตาสรและยายมีร้องดักไว้ก่อน
“หน่อยนอยนอย...น้อยนอย หน่อยนอย นอยนอย”
ทุกคนสะดุ้ง
“เฮ้ย”
“พวกแกจะมาเปิดวิกยี่เกรึไง” ตาสรถามเสียงเข้ม
“ไม่ได้เล่นยี่เก...มาตีฆ้องร้องป่าวข่าวดี” สัปเหร่อขาวบอก
จอกตีระนาดรัวน่าตื่นเต้นเร้าใจ สัปเหร่อขาวตะโกนบอก
“ข้ามีของดีมาให้”
จันหยิบกระจาดซึ่งมีผ้าขาวปิดไว้ แล้วกระตุกผ้าขาวออก ผ้ายันต์วางอยู่เต็มกระจาด
“ผ้ายันต์กันผี” สัปเหร่อข่าวพูดอย่างภูมิใจเสนอ
ตาสรกับยายมีและชาวบ้านตื่นเต้นตกใจ เฟื้องเดินมาที่หลุมศพจำปา โขงตามเข้ามา
“ข้ากลับไปตรองคิด...ไอ้ขาวมันไม่ชอบมาพากล มันถึงไม่ยอมเผาศพจำปา”
“น้าเฟื้องหวาดระแวงมากไป...สัปเหร่อบอกแล้วว่ารอให้จับตัวคนฆ่าจำปาได้เสียก่อน แล้วจะเผาศพ” โขงอธิบาย
เฟื้องไม่เชื่อ
“ข้าไม่เชื่อใจมัน...เมื่อปีกลายรดน้ำมันพรายเร่ขาย ครานี้ข่มขวัญว่าผีตายโหงเฮี้ยนนักเฮี้ยนหนา มันต้องมีกลเล่ห์เพทุบาย”
โขงคิดตามเฟื้องก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมสัปเหร่อขาว
ตลาดในหมู่บ้าน...สัปเหร่อขาวถือผ้ายันต์บอกชาวบ้าน
“ยันต์กันผี ข้าปลุกเสกจากผ้าห่อศพเจ็ดป่าช้าในคืนเดือนดับ ใครได้บูชาจะแคล้วคลาดจากผีสางนางไม้ทั้งปวง”
จอกตีระนาดรับให้น่าตื่นเต้นเร้าใจ...
“หากใครไม่เชื่อ ดวงกุดดวงตกต้องตาย”
จอกตีระนาดรับเร้าใจ
“ข้าไม่เชื่อ...สัปเหร่ออย่างเอ็งเร้อจะมีคาถาอาคม” ตาสรขัดขึ้น
“ใช่...เอาผีมาหากิน” ยายมีเสริม
สัปเหร่อขาวไม่พอใจ วางผ้ายันต์ใส่กระจาดของจันแล้วเดินตรงมาหาตาสร
“ไอ้สร...นังมี”
สัปเหร่อขาวทำทีมือไม้สั่นประหนึ่งว่าของเข้าตัว จอกตกใจ
“สัปเหร่อเป็นอะไร”
ชาวบ้านต่างตกใจกลัว สัปเหร่อตัวสั่นดิ้นพล่าน จันร้องขึ้น
“ผัวฉันถูกผีเข้าสิง”
ชาวบ้านต่างตกใจกลัว สัปเหร่อขาวดิ้นพล่านไปทั่ว
“ช่วยจับตัวไว้” จันร้องให้ช่วย
ทุกคนเข้าไปช่วยจับตัวแต่สัปเหร่อขาวดิ้นแรงทุกคนกระเด็นออกไป สัปเหร่อขาวพุ่งไปชี้หน้าตาสรทำเสียงเป็นผู้หญิงจริตจกร้านประหนึ่งว่าผีจำปาเข้าสิง
“เอ็งกล้าลบหลู่ดูแคลนข้า รู้มั้ยว่าข้าเป็นใคร”
ตาสรตกใจ
“เสียงมันเปลี่ยนไป”
ยายมีแปลกใจ
“เสียงยังกะผู้หญิง”
จันแสร้งยกมือไหว้
“เอ็งเป็นใคร เข้าสิงผัวข้า”
สัปเหร่อขาวหัวเราะร่า ดีดดิ้ง แล้วประกาศบอกชื่อ
“ข้าคือ...จำปา”
ทุกคนตกใจ
“จำปา”
เฟื้องและโขงเดินเข้ามา...
“ไอ้โกหก” เฟื้องด่า
สัปเหร่อขาวสะดุ้งตกใจที่เฟื้องเข้ามาขวาง
พุดจีบเข้ามากราบแม่บุญอิ่ม ที่แสดงท่าทีไม่พอใจ
“ลูกกราบขอโทษแม่จ้ะ ลูกรู้ความที่แม่ยอมเสียเงินช่วยกาหลง”
แม่บุญอิ่มนั่งนิ่งไม่แสดงอาการ
“ลูกทำเวรให้แม่แท้ๆ แม่ลงโทษให้ลูกคนนี้รู้สำนึกด้วยเถอะจ้ะ”
พุดจีบยื่นหวายให้ แม่บุญอิ่มรับแล้วลุกขึ้นยืน พุดจีบนั่งก้มหน้า น้อมรับการลงโทษ
ไม้หวายร่วงลงพื้นต่อหน้า พุดจีบแปลกใจหันมองหน้าแม่บุญอิ่ม
“ลูกรู้ผิดรู้ชอบ แม่อ่อนใจไม่อยากลงมือลงไม้ให้เสียแรง”
พุดจีบยิ้มดีใจเข้าสวมกอดแม่บุญอิ่มน้ำตาคลอ
“แม่”
แม่บุญอิ่มเช็ดน้ำตาให้พุดจีบ
“ลูกโตแล้ว ในยามหน้าจะคิดทำการใดระงับใจคิดย้อนเสียให้ดี”
“ลูกดื้อรั้นใช่เพียงช่วยกาหลงเพื่อนรัก ลูกหวังใจให้แม่กลอยได้หายเคืองขุ่นใจแม่”
พุดจีบบอกความจริงที่คอยช่วยเหลือ และดีต่อกาหลงแม่บุญอิ่มซึ้งน้ำใจ
“บางเรื่องมันเหลือจะแก้ คงต้องก้มหน้ารักษาแผลใจต่อไป ตัวลูกก็เช่นเดียวกัน ไม่ช้าไม่นานลูกจะสู้ทนตัดใจได้”
พุดจีบมองหน้าแม่รู้ดีว่าบุญอิ่มหมายถึงเรื่องใด นวลวิ่งหน้าตาตื่นมารายงานแม่บุญอิ่ม
“คุณบุญอิ่มเจ้าขา ช่วยนวลด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
แม่บุญอิ่มและนวลแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ในตลาด...สัปเหร่อขาวทำเสียงผู้หญิงโวยวายใส่เฟื้อง
“เลิกหลอกผีอำชาวบ้านได้แล้ว”
สัปเหร่อขาวทำเสียงผู้หญิง
“เอ็งไม่เชื่อเอ็งต้องเจอดี”
ตาสรและยายมาตกใจ
“พ่อเฟื้องหนีเร็ว”
เฟื้องจ้อง
“ข้าไม่หนี เข้ามาสิวะ ข้าจะซัดหมัดเดียวให้ชักดิ้นชักงอ”
ตาสรตื่นเต้นบอกยายมา
“ท่าจะได้ดูมวยคนสู้มวยผี”
“มันจะดีรึ”
ยายมาพูดจบ ลากตาสรคอยลุ้นดูมวยเฟื้องสู้กับผีจำปาในร่างสัปเหร่อขาว
“นังจำปา เอ็งเก่งจริงเข้ามาสิวะ”
จันหันไปมองสัปเหร่อขาวที่ไม่มีหนทางหนี จำเล่นบทผีจำปาเข้าสิงเข้าไปหาเฟื้อง
“เอ็งมาลบหน้าข้า เอ็งตาย”
สัปเหร่อขาวพุ่งเข้าไปหมายจะบีบคอเฟื้อง เฟื้องสวนหมัดตรงเข้าเต็มหน้า สัปเหร่อขาวล้มลงกับพื้น เฟื้องจะเข้ามาซ้ำสัปเหร่อขาวกรี๊ดเสียงแหลมแล้วแสร้งสลบไปจันวิ่งเข้าไปดู
“พี่ขาว”
แม่บุญอิ่มเดินนำมาที่เรือนครัว
“นวลเอะอะโหวกเหวกมีเหตุใดรึ”
“ดูนั่นสิเจ้าคะ”
แม่บุญอิ่มมองไป เห็นกาหลงกำลังช่วยต้มแกงในหม้อ กาหลงไหว้แม่บุญอิ่ม
“ฉันเองจ้ะ”
“แม่กาหลงมาแย่งชิงหน้าที่นวลหุงข้าวต้มแกง”
แม่บุญอิ่มมองกาหลงด้วยความแปลกใจ ที่กาหลงมาช่วยทำครัว กาหลงยิ้มให้แม่บุญอิ่ม
พุดจีบจะตามไปดูนวลที่เรือนครัว แต่แล้วเจอไม้ดักอยู่
“พี่ไม้”
ไม้จูงมือพุดจีบไปที่มุมสวนของเรือน
“ตามพี่มา”
ไม้จูงมือพุดจีบไป โดยที่พุดจีบไม่ทันตั้งตัว
จันประคองเรียกสัปเหร่อขาว
“พี่ขาว”
“สัปเหร่อ สัปเหร่อ” โขงช่วยเรียก
สัปเหร่อขาวรู้สึกตัวมองไปรอบๆแล้วลุกขึ้น
“ที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น”
“ผีจำปาเข้าสิงพี่”
“เป็นไปได้อย่างไร ข้าไม่รู้ตัวเลย”
“ความเพิ่งออกจากปากเอ็งหยกๆว่าผีจำปาเข้าสิง มาต่อยกับข้าอีกยกเหอะมา”
เฟื้องตั้งท่าพร้อมต่อยมวย สัปเหร่อขาวสะดุ้งตกใจ ไม่กล้าสู้มวยเฟื้อง
“เฮ้ยหยุดข้าไม่เคยคิดท้าทายเอ็ง เมื่อสักครู่นังจำปามันพูด แต่ตอนนี้มันออกจากร่างไปแล้ว”
“ไฉนเข้าออกได้ในชั่วพริบตา”
“ผีนะไอ้โขง มันมีอิทธิ์ฤทธิ์ทำอะไรก็ได้” จอกว่า
“มันก็ต้องมีฤทธิ์เดชสู้กับหมัดข้าสิวะ” เฟื้องมองๆ
จันแก้ตัว
“ก็ผีมันแล่นหนีไปแล้ว”
สัปเหร่อขาวหันไปมองกระจาดใส่ผ้ายันต์ หยิบผ้ายันต์ขึ้นมาบอกชาวบ้าน
“ด้วยอิทธิฤทธิ์ของผ้ายันต์ที่ข้าปลุกเสก ทำลายล้างผีจำปาไปหมดสิ้น”
ยายมา ตาสรตื่นเต้น
“ยันต์กันผี”
สัปเหร่อขาวรีบบรรยายสรรพคุณ
“ใครมีบูชาหาได้เจอผีสางนางไม้ เร่เข้ามาข้าไม่ขาย ขอเพียงค่าครูตามศรัทธา”
ชาวบ้านต่างสนใจผ้ายันต์ กรูเข้าไปวางเงินเอาผ้ายันต์ เฟื้องผิดหวังที่ชาวบ้านยังงมงาย
กาหลงบอกแม่บุญอิ่ม
“ประเดี๋ยวฉันทำแกงสุก ฉันจะขึ้นไปขัดถูล้างเรือนให้จ้ะ”
แม่บุญอิ่มห้าม
“อย่าเช่นนั้นเลยมาช่วยนวลมันทำแกงก็พอแล้ว”
“ไม่ได้จ้ะ น้าบุญอิ่มมีพระคุณกับฉัน ช่วยเปลื้องหนี้ให้แม่ช่วยตัวฉันไว้ ฉันไม่รู้จักตอบแทนอย่างไร นอกเสียจากแรงงานที่ฉันมี”
“ข้าทำไปตามแรงยุของลูกสาวข้า คนที่เอ็งต้องขอบใจคือพุดจีบ”
กาหลงรู้ความจริงว่าพุดจีบคอยช่วยเหลือ ก็ซึ้งน้ำใจพุดจีบมาก
จบตอนที่ 2
อ่านต่อตอนที่ 3 พรุ่งนี้ เวลา09.30น.