xs
xsm
sm
md
lg

อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ ตอนที่ 13

ถนนทางลงเขาอยู่เบื้องหน้า อันยาขับไปอย่างไม่มั่นใจนัก เธอทั้งเกร็งและเหงื่อแตกซิก

"นี่ แน่ใจนะ ว่าไม่ใช่แผนเธอ ที่จะทำร้ายฉันกับลูก" ปุ๊กลุ๊กถาม
"เงียบๆ ได้มั้ย ยิ่งต้องการสมาธิอยู่" อันยาบอก
"นี่ว่าฉันเหรอ !”
"เลิกไร้สาระซะที ถ้าฉันจะฆ่าเธอ แค่ทิ้งไว้ในไร่ก็สิ้นเรื่องแล้ว ทำไมต้องเอาตัวเองมาเสี่ยงด้วย !”
ปุ๊กลุกด่าต่อไม่ออก อันยาเปลี่ยนเกียร์ทำให้เครื่องสะดุดจนเกือบดับ แล้วอันยาก็เร่งเครื่องขึ้นมาทัน รถแล่นไปอย่างทุลักทุเล ทั้งกระตุก ทั้งเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ปุ๊กลุกเถียงกับอันยาเถียงกันดังออกมา
"ไหนบอกว่าเคยขับ"
"ก็มันตั้งสิบปีมาแล้ว จับให้แน่นๆนะ"
"ฮือ....ฉันอยากจะบ้า โอ๊ย ปวด...อย่าดิ้นแรงสิลูกแม๊ !”

ฟองคำกลับเข้ามาในบ้านเพราะยังเครียดไม่หาย
"จะไหวกันมั้ยเนี่ย"
ฟองคำกระสับกระส่ายเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
"ทุกคน ก็ไปที่หมู่บ้านกันหมด...โถ่เอ๊ย"
ฟองคำบ่นๆแล้วก็ชะงักเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ เธอรีบเดินไปทันที

เสียงปุ๊กลุกดังลั่น "โอ๊ย ปวดด โอ๊ย"
รถกระบะแล่นอย่างไม่ค่อยดีนักมาบนถนนทางลงเขา อันยาที่ตั้งใจขับอยู่มองอาการปุ๊กลุกแล้วก็เครียด
"ใจเย็นๆนะปุ๊กลุก นี่เรามาได้หลายกิโลแล้ว" อันยาปลอบ
"ฉันปวดจนตาลายไปหมดแล้ว ยังไม่ถึงอีกเหรอ"
อันยาเหลือบมองปุ๊กลุกเพราะกลัวจะเป็นอะไรไป พอหันมามองกระจกหน้าอีกทีเธอก็อ้าปากค้างที่เห็นหลุมอยู่เบื้องหน้า
"ห๊ะ !!” อันยาหักพวงมาลัยหลบ
แต่ทว่าไม่ทันซะแล้ว ล้อหลังแล่นลงหลุมเต็มๆ
ปุ๊กลุกหวีดร้องดังกว่าเดิม "โอ๊ย"
อันยาพยายามเร่งเครื่องแต่ก็เอารถไม่ขึ้น
"โถ่เอ๊ย !!! อะไรกันหนักกันหนาเนี่ย"
"ฮือๆ ลูกแม่ เราสองคนแม่ลูกต้องมาตายตรงนี้เหรอเนี่ย" ปุ๊กลุ๊กว่า
"อย่าพูดอะไรไม่เป็นมงคลได้มั้ย! รถแค่ตกหลุมเฉยๆ เดี๋ยวฉันลงไปดูก่อน"

อันยากดสัญญาณไฟฉุกเฉินแล้วรีบลงไป

ล้อหลังซึ่งอยู่ในหลุมมีสภาพแย่เอาการ

"มิน่าถึงเร่งไม่ขึ้น" อันยาหันรีหันขวาง "ทำไงดีเนี่ย !!”
เสียงปุ๊กลุกดังออกมาจากรถ "โอ้ย ไม่ไหวแล้ว โอ้ย"
"หรือว่าเราหาเรื่องจริงๆ"
อันยารู้สึกลนไปหมด ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งแล่นสวนขึ้นมาที่บริเวณทางโค้ง
อันยารีบโผล่ไปโบกรถจนแทบจะกินเลนรถที่แล่นมา
"ช่วย... ช่วยด้วยค่า !”
เสียงปุ๊กลุกร้องดังมาอีก
"ถ้าไม่จอดล่ะก็" อันยาฮึด "เป็นไงเป็นกัน !" อันยาฮึดจนจะวิ่งไปขวางหน้ารถ
เมื่อเห็นรถคนนั้นชัดๆ อันยาก็อึ้งไป เพราะเป็นรถของแสนที่แล่นมาจอดแต่โดยดี แสนเปิดประตูรถลงมา
"คุณ... คุณแสน !”
"โบกรถล้ำมาในถนนแบบนั้น มันอันตรายรู้มั้ย" แสนว่า
อันยาไม่สน เธอเข้ามาหาแสนทันที "ช่วย..ช่วยด้วยค่ะ !”
แสนอึ้งกับปฏิกิริยาของอันยาที่มีอารมณ์เหมือนเห็นพระมาโปรด

แสนนั่งประจำที่นั่งคนขับ ที่เบาะหลังอันยาประคองปุ๊กลุกที่ร้องโอดโอยไม่หยุดขึ้นมานั่ง
"พอดี ผมต้องแวะเอาของไปให้ที่โรงเรียนต.ช.ด. แม่โทรเข้ามาเพราะจำได้ว่าผมจะแวะไปที่นั่นก่อน ก็เลยรู้เรื่องปุ๊กลุกเจ็บท้อง" แสนบอก
แสนพูดพลางเตรียมออกรถ อันยามองดูรถที่ยังตกหลุมอยู่
"เดี๋ยวจะมีคนจากโรงเรียนมาเอารถขึ้นให้ นี่ผมรีบมาก่อน" แสนบอก
"ขอบคุณนะคะคุณแสน"
"พี่แสน...เป็นบุญของปุ๊กลุกจริงๆ แม่เนี่ยขับรถนรกแตกมาก ปุ๊กลุกนึกว่าเราสองคนแม่ลูกจะไม่ได้เห็นหน้าพี่แสนอีกแล้ว" ปุ๊กลุ๊กว่า
"นี่ ไม่รู้จักบุญคุณไม่ว่า แต่อย่าใส่ไฟมากได้มั้ย" อันยาบอก
ปุ๊กลุกชะงัก
"เค้าดุปุ๊กลุกด้วย! ฉันเจ็บท้องอยู่นะ"
"ฮึ่ย !! รู้งี้ปล่อยไว้ข้างทางซะก็ดี !”
อันยาสุดจะเซ็ง แล้วปุ๊กลุกก็ปวดท้องจึงแหกปากขึ้นมาอีก
"โอ๊ย ปวด ปวด !!”
"ทำใจดีๆไว้ อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว"

อันยาเห็นปุ๊กลุกทรมานก็ยื่นมือมาบีบมือปุ๊กลุกไว้แน่น ในใจของเธอภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี

เวลาผ่านไป แสนมายืนรออยู่ที่หน้าห้องคลอด

ปุ๊กลุกที่เปลี่ยนมาใส่ชุดของโรงพยาบาลและได้รับการตรวจเบื้องต้นแล้วยังมีอาการเจ็บท้องบ้าง แต่ก็พูดชัดเจน
"พี่แสนคือพ่อเด็ก ! ให้พี่แสนจัดการทุกอย่าง เธอไม่ต้องยุ่ง"
"ฉันก็ไม่อยากกวนใจคนจะคลอดหรอกนะ แต่..เธอจะไม่บอกที่บ้านเลยเหรอ" อันยาถาม
ปุ๊กลุกไม่ยอมปริปากทั้งที่ตัวเองโทรหาโกมลไปแล้ว แต่ก็ไม่ยอมบอก
"ปุ๊กลุก นี่ลูกเธอนะ ชีวิตเด็กตาดำๆทั้งคน จะไม่ให้ญาติแท้ๆรับรู้เลยเหรอว่าเค้าเกิดขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยแม่เธอก็ควรจะรู้"
ปุ๊กลุกมองอันยาด้วยความรู้สึกเกลียดที่อันยามาจี้ใจดำ
"หยุดเลยนะ นังตัวดี !" ปุ๊กลุ๊กนึกเรื่องที่ผิดพลาดขึ้นมาแล้วก็ยิ่งแค้นอันยามาก "ไม่ต้องมาทำเป็นหวังดี ที่ฉันป็นอย่างงี้ มันเพราะใครล่ะ"
"เธอพูดอะไร" อันยาไม่รู้ว่าปุ๊กลุกหมายถึงอะไร "ฉันรู้ว่าเธอไม่พอใจฉัน แต่ตอนนี้เธอต้องห่วงตัวเอง ห่วงลูกก่อน"
"หยุด !! ฉันไม่ฟัง ไม่ต้องพูด" ปุ๊กลุ๊กสุดทน "ก็เพราะใครล่ะ ที่มันทำให้ฉันต้องเป็นอย่างนี้ ออกไปนะ ออกไป๊"
ปุ๊กลุกโกรธจนคุมสติไม่อยู่จึงปาของใส่อันยา
อันยาหลบไม่ทันก็ถึงกับเซไป "ปุ๊กลุก ทำไม ทำไมเธอถึงต้องโกรธ ต้องเกลียดฉันขนาดนี้"
"แก !! ยังจะมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอ"
ปุ๊กลุกรู้สึกเหมือนถูกปลูกความแค้นข้างในให้ตื่นออกมา

แสนยืนรออยู่ด้านนอก เขาลังเลว่าจะเข้าไปหาปุ๊กลุกดีหรือไม่ พอหันไปด้านหนึ่งแสนก็ชะงักเพราะเห็นอะไรบางอย่าง

ปุ๊กลุกอารมณ์ขึ้นจนสติหลุดกระเจิง ความแค้นที่กดไว้ระเบิดออกมา

"นังผู้หญิงใจแตก แกมีผู้ชายเข้ามาในห้อง เพราะความเหลวแหลกของแก!!ฉันถึงต้องมาเป็นอย่างนี้ เพราะแก แกคนเดียว"
อันยางงและไม่เข้าใจมากๆ "ปุ๊กลุก ! เธอว่าฉันทำไม ฉันไปทำอะไรให้"
"ไม่ต้องมาทำใสซื่อไม่รู้เรื่อง" ปุ๊กลุ๊กแค้น "จริงๆแล้ว มันเป็นแผนแกใช่มั้ย แกจงใจเรียกให้ไอ้กล้ามใหญ่นั่นให้มันมาทำมิดีมิร้ายฉัน!! แก แกอยากจะเขี่ยฉันให้พ้นทาง แกมันนังงูพิษ"
"เธอพูดอะไรของเธอ" แล้วอันยาก็คิด
อันยานึกถึงเช้าวันที่แสนมาส่งอันยาที่คอนโด อันยาเห็นรถทวยเทพแล่นออกไป เธอประหลาดใจ
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น อันยาก็ตกใจมาก
"หรือว่าคืนนั้น...เธอ.. เธออยู่กับทวยเทพ!! งั้นเหรอ?”
ปุ๊กลุกช็อคที่พูดออกไปซะแล้ว
อันยาถามอีก "เค้า เค้าเป็นพ่อของเด็กใช่มั้ย"
ปุ๊กลุกส่ายหน้า "ไม่! ลูกฉันเป็นลูกพี่แสน ลูกฉันจะมีพ่อคนเดียว คือพี่แสน!”
"ปุ๊กลุก นี่มันเรื่องใหญ่มากนะ เธอสองคนไปสนิทกันตอนไหน ทำไม ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง"
"ฉันไม่ได้สนิท! มัน..มันเมา มัน…" ปุ๊กลุ๊กพูดไม่ออก "เพราะแก เพราะแกฉันถึงต้องมารับเคราะห์"
อันยาอึ้งและชาไปจนถึงปลายเท้า
"ฉันเกลียดมัน !! ทั้งๆที่ฉันเรียกพี่แสนมาหา ทำไม ทำไม"
อันยาไม่อยากจะเชื่อ "นี่ นี่มันเกิดเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ" อันยามึนงงมาก เธอถามปุ๊กลุก "แล้ว..แล้วทวยเทพรู้หรือเปล่า ว่านี่ลูกของเค้า" อันยานึกได้ "แต่เค้ารู้ว่าเธอท้องนี่"
"หยุดพูดชื่อไอ้บ้านั่นนะ !! ฉันรักพี่แสนมานานแค่ไหนใครๆเค้าก็รู้ หายใจเข้าหายใจออกฉันคิดถึงแต่เค้าคนเดียว ทุกๆวันฉันฝันว่าจะได้เป็นเจ้าสาวของพี่แสน แล้วทำไมต้องมาเป็นแบบนี้... ฮือ..”
"ปุ๊กลุก..”
"แก..แกไม่มีสิทธิ์มาพรากพวกเราพ่อแม่ลูก ฉันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะแก! พี่แสนต้องดูแลฉันกับลูก เค้าต้องรับผิดชอบ"
ปุ๊กลุกดึงดันทั้งน้ำตา อันยาถึงกับเซเมื่อได้รู้ความจริง

อันยาเดินออกมาในสภาพมึนงงเหมือนโดนทุบหัว เธอหยิบมือถือขึ้นมา หน้าจอเป็นโพร์ไฟล์ของทวยเทพ อันยาลังเลว่าจะโทรหรือไม่โทรไปหาเขาดี
เสียงปุ๊กลุกดังก้องในหัวของเธอ "แก..แกไม่มีสิทธิ์มาพรากพวกเราพ่อแม่ลูก ฉันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะแก"

อันยากำมือถือไว้ด้วยความสับสนและปั่นป่วนในใจเหลือเกิน
 
อ่านต่อหน้า 2

อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ ตอนที่ 13 (ต่อ)

อันยาเดินออกมาอย่างมึนงง แล้วเธอก็ต้องชะงักไปอย่างแรง เสียงโกมลดังขึ้น

"มีความเป็นลูกผู้ชายบ้างรึเปล่า ห๊ะ!”
โกมลตะคอกใส่แสนอย่างโกรธเกรี้ยว ในขณะที่แสนพยายามจะไม่มีเรื่อง
"ผมพูดความจริง ผมไม่เคยล่วงเกินลูกสาวของกำนัน" แสนบอก
"หน้าตาก็ดี แต่นิสัยไม่เข้ากับหน้า! ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ !” โกมลว่า
อันยาพรวดออกมา "คุณแสนไม่ใช่พ่อเด็กในท้องของปุ๊กลุก"
"หนอย ! แกก็อยู่ด้วยงั้นเหรอ นังเมียน้อย" โกมลว่า อันยาเหวอ
"เมียน้อย !! ฉันน่ะนะ"
"ก็ลูกสาวข้ามีลูกกับมัน แต่แกมาทีหลัง ก็ต้องเป็นเมียน้อยน่ะสิ"
อันยาอยากจะบ้า
โกมลพูดกับแสน "นังปุ๊กลุกน่ะ ในที่สุดมันก็ยอมปริปาก ยอมรับว่าแกเป็นพ่อของลูกมัน โทรเรียกให้ฉันมาจัดการ ให้แกรับผิดชอบมัน"
"ไม่จริง!! ฉันยืนยันได้ เพราะฉันอยู่กับคุณแสนตอนเกิดเรื่อง ส่วนปุ๊กลุก เค้าอยู่ที่คอนโดของฉัน" อันยาอึกอัก "กับผู้ชายคนอื่น"
"อันยา นี่คุณรู้เหรอว่าพ่อเด็กเป็นใคร" แสนถาม
"ฉัน ก็เพิ่งจะรู้เมื่อกี้นี้…" อันยาบอก
"พวกแกรวมหัวกันปัดความรับผิดชอบ" โกมลพูดกับแสน "ได้ งั้นฉันจะเอาแกเข้าคุก!”
"เอาตัวเองให้รอดจากคดีจ้างวานฆ่าผู้อื่นก่อนดีกว่า" อันยาว่า
"แก !!" โกมลแค้นมาก "แกหักหลังฉัน แล้วยังส่งคนมาตลบหลังฉัน ทุกอย่างที่ฉันสร้างมาทั้งชีวิต มันพังก็เพราะพวกแก"
โกมลแค้นสุดๆ จนพรวดมาจะจับตัวอันยา
แสนเตือน "อย่าใช้ความรุนแรงนะ!! พวกเราก็บอกความจริงคุณไปหมดแล้ว"
"ฉันไม่เชื่อ เพราะแกสองคน ทำให้ฉันย่อยยับ พวกแกจะต้องชดใช้"
"เป็นถึงกำนัน ทำได้แค่นี้เองเหรอ เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ลูกสาวถึงเอาแต่ใจจนผิดพลาด! แล้วที่ต้องลำบาก ก็เพราะใช้ตำแหน่งหน้าที่อิทธิพล ไปเอาเปรียบคนอื่น ทำผิดเองแล้วจะโทษใคร" อันยาว่า
"แก ! กล้าดียังไงมาสอนฉัน" โกมลไม่พอใจ
"อย่างน้อย ฉันผิดฉันก็ยอมรับ แต่คุณ เป็นลูกผู้ชายแท้ๆ ยังมาโทษผู้หญิง คนที่ไม่มีสำนึกไม่ใช่ด็อกเตอร์แสน แต่เป็นคุณต่างหาก"
"นัง !" โกมลโดนจี้ใจดำ "หยุดเดี๋ยวนี้"
ไวกว่าความคิด โกมลทนฟังความจริงไม่ได้จึงชักปืนที่เหน็บไว้ใต้เสื้อออกมาทันที
แสนเห็นปืนก็ตกใจ "อันยา ระวัง"
อันยาเหวอจนทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นร่างของแสนก็โผเข้ามาบังในเสี้ยววินาที....ปัง ! เสียงหวีดร้องดังลั่น ร่างแสนฟุบลงบนพื้นและมีใบหน้าขาวซีด
อันยาตกใจ "คุณแสน....”
แสนกุมท้อง เลือดค่อยๆ ไหลซึมออกมา อันยาอึ้งเพราะรู้สึกเหมือนถูกดึงชีวิตออกไปจากร่างเสียเอง
"คุณ... คุณแสน" อันยาเงยหน้ามองโกมล "แก แกทำร้ายคนดีๆอย่างคุณแสนทำไม ไอ้ฆาตกร"

โกมลเห็นแสนโดนยิงล้มลงก็นึกไม่ถึงว่าตัวเองได้ยิงไปแล้วจริงๆ

แสนเริ่มเจ็บแผล ในขณะที่โกมลยังถือปืนยืนงงอยู่

"อย่า…" แสนเตือนอันยา ก่อนจะรวบรวบสติพูดกับโกมล "คุณ…ยังเริ่มใหม่ได้ ถ้าหยุด..ตอนนี้"
โกมลหันมามองแสนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"เราทำร้ายกันมา..มาก เพราะผมขัดผลประโยชน์ของคุณ"
"คุณแสน ยังจะพูดดีกับเค้าอีกทำไม" อันยาถาม
"แต่คุณเป็นตาคนแล้ว มีคนรอให้คุณ…เป็นเสาหลักของเค้า อย่า..ทำผิดอีก..ถ้าคุณรักพวกเค้า ลูกสาวคุณ หลานของคุณ…ก็ให้มันจบ แค่นี้…เถอะ"
แสนรวบรวบเรี่ยวแรงสุดท้ายพูดได้แค่นี้ก่อนจะทรุดฮวบลงไป
อันยาตะโกน "ด็อกเตอร์ !”
โกมลยืนอึ้ง ปีนที่ถืออยู่ในมือสั่นระริก ทันใดนั้นรปภ.2 คนก็วิ่งมา คนนึงเข้ามาล็อคตัวโกมล แต่โกมลยังอึ้งอยู่จึงไม่ขัดขืน เขาจึงปล่อยให้รปภ.ยึดอาวุธและล็อคตัวไว้
อันยาพูดกับแสน "คุณแสน ทำไม.....ทำไมถึงโง่แบบนี้...คุณช่วยฉันทำไม"
อันยากลัวจับใจว่าแสนจะต้องมาตายเพราะเธอ

อันยาในสภาพเปรอะเปื้อน เสื้อมีรอยเลือด น้ำตานองหน้าเพราะร้องไห้อย่างหนักเดินวนเวียนรอผลการผ่าตัดอยู่หน้าห้อง
เวลาผ่านไป อันยาทั้งนั่ง ยืน เดิน สลับวนเวียนเพราะรอผลอย่างใจจะขาด เมื่ออันยายิ่งนึกไปถึงเรื่องราวที่แสนเคยช่วยเธอไว้ต่างๆนานาๆก็ยิ่งปวดร้าว
อันยานึกถึงเหตุการณ์ตอนที่แสนช่วยอันยาตอนจะตกรถตู้
ประตูรถตู้ที่อันยาพยายามเปิดเลื่อนออกกว้างจนอันยาร่วงลงไป แสนตกใจ จึงรีบกระโจนตามออกไป แสนดึงตัวอันยาเข้ามากอดเพื่อปกป้องไว้ แล้วเขาก็เอาหลังตัวเองรับแรงกระแทก ทั้งสองล้มกลิ้งไปบนพื้นข้างทางเมื่อหยุดลง แสนก็นอนอยู่กับพื้นโดยมีร่างของอันยาทับอยู่บนตัวของเขา
อันยานึกถึงเหตุการณ์ที่แสนช่วยเธอจากโจรป่า
ลูกน้องโจรดึงตัวอันยาไปเลย พวกโจรหัวเราะชอบใจกันแสนหันหลังทำเป็นเดินไป แต่พอโจรเผลอ แสนก็หยิบท่อนไม้บนพื้นมาฟาดไปที่แขนลูกน้องโจรแล้วดึงตัวอันยามา
อันยานึกถึงเหตุการณ์ที่แสนช่วยชีวิตเธอที่น้ำตก
อันยาค่อยๆลืมตา ขึ้นมาเห็นแสนแต่ก็ยังอ่อนเพลียอยู่ "คุณ..คุณแสน"
แสนซบหน้าลงข้างบ่าอันยาด้วยความโล่งอกสุดชีวิต
อันยานึกถึงเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ อันยาเหวอทำอะไรไม่ถูก ทันใดร่างของแสนก็โผเข้ามาในเสี้ยววินาที ปัง เสียงหวีดร้องดังลั่น ร่างของแสนฟุบลงและมีใบหน้าขาวซีด
"คุณแสน....”

แสนเอามือกุมท้อง เลือดค่อยๆ ไหลซึมออกมา อันยาอึ้ง รู้สึกเหมือนถูกดึงชีวิตออกไปจากร่างเสียเอง

 
อ่านต่อตอนต่อไป / 09.30 น.

อันยาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างแรง ในใจของเธอเฝ้าวิงวอนขอให้แสนไม่ตาย

ไม่นานนักครอบครัวของแสนเดินทางมาถึงโรงพยาบาล แต่ละคนมีสีหน้าไม่สู้ดี
"ไหน แสนอยู่ไหน" ฟองคำถาม
"เค้าบอกอยู่ห้องนี้" สิงห์ถามพยาบาล "เราเป็นญาติของนายแสน เผื่อนนาดีครับ"
"คุณหมอยังทำการผ่าตัดอยู่นะคะ" พยาบาลบอก
สินกับหนานปิงแย่งกันถาม "อาการลูกผม” / “หลานผม เป็นไงบ้าง"
"ทางเราพยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้..ยังไม่พ้นวิกฤตนะคะ"
สิงห์ทวนคำ "ยังไม่พ้นขีดอันตราย?”
"โถ่ แสน...." ฟองคำจะเป็นลม
"แม่ ทำใจดีๆนะ ไม่งั้นพ่อจะเป็นลมไปด้วย" สินบอก
ในขณะที่ชุลมุนกันอยู่ สิงห์หันไปเห็นใครบางคนที่นั่งเหม่อลอยอยู่
"คุณอันยา"
อันยาได้ยินเสียงเรียก ก็หันไป พอเห็นครอบครัวของแสนเธอก็อึ้ง
"หนูอันยา นี่มันเกิดอะไรขึ้น เราได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลบอกว่าแสนโดนยิง" ฟองคำถาม
อันยาร้องไห้ "พ่ออุ๊ย คุณลุงคุณป้า คุณสิงห์...เพราะฉันไม่ดีเอง ฉันทำให้คุณแสนเดือดร้อน เค้าเป็นแบบนี้ก็เพราะฉัน..ฮือ...”
ครอบครัวของแสนมองหน้ากันก็เห็นว่าอันยายังไร้สติอยู่มาก
"อันยาตั้งสติหน่อย ทำไมนายแสนถึงโดนยิง" สิงห์ถาม
"กำนัน... กำนันโกมลมาที่นี่ เค้าเป็นพ่อของปุ๊กลุก แล้วก็..เป็นคนที่เคยขัดผลประโยชน์กับคุณแสนสมัยที่ทำงานอยู่ที่เพียงพอดี" อันยาเจ็บปวด "ฉันเคยร่วมมือกับเค้า แต่ตอนหลังฉันให้คนไปหาหลักฐานความผิดเค้า เพื่อให้คุณแสนพ้นผิด..เค้าแค้น ก็เลย..." อันยาพูดไม่ออก "ฉันไม่รู้จริงๆว่ากำนันพกปืนมาด้วย พอรู้ตัวอีกที ฮือ...คุณแสนก็เข้ามารับกระสุนแทน...”
ทุกคนอึ้งกันไปหมด
อันยาพนมมือไหว้ "ฉันขอโทษนะคะ ขอโทษ...ขอโทษ...ฮือ....”
อันยาร้องไห้ใจจะขาด ครอบครัวของแสนเครียด ยังไม่ทันมีใครพูดอะไร พยาบาลก็เดินมาหา
"คุณอันยา มีคนมารอพบคุณค่ะ"

อันยาชะงักไป

ลดากอดอันยาด้วยความสงสารเหลือเกิน

"ขวัญมานะลูก...พ่อแสนต้องปลอดภัย เชื่อย่านะ"
อันยาให้ย่ากอดแน่นแต่ก็ยังคงใจเสียไม่หาย
คิมหันต์พยายามปลอบ "โดนปืนในโรงพยาบาลนี่ถือว่าเซฟสุดๆแล้วนะเจ๊ ถึงมือหมอฉับไวมันต้องโอเคน่ะเจ๊"
ถึงคิมหันต์จะปลอบแต่อันยาก็ยังไม่ดีขึ้น เขาเลยเลือกเงียบดีกว่า
"พ่อแสนเค้าเป็นคนดี ย่าสวดมนต์ขอให้พระคุ้มครอง ให้ความดีที่เค้าทำมาคุ้มครองเค้า หนูทำใจดีๆไว้นะลูก"
ลดาปลอบอันยาที่ยังคงทุกข์จับใจกับอาการของแสน

อันยาเดินนำลดาและคิมหันต์มาตามทาง สายตาของอันยายังเต็มไปด้วยความกังวล
"ไม่รู้คุณแสนจะเป็นยังไงบ้าง เข้าไปตั้งหลายชั่วโมงแล้วนะคะ"
ลดาเดินตามอันยาไปด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆเช่นกัน แล้วกลุ่มของอันยาก็เจอเข้ากับสินและฟองคำที่เดินมาพร้อมกัน
"หนูอัน เรากำลังจะไปหาอยู่พอดี" สินบอก
สินกับฟองคำเห็นลดาก็ชะงักไป
อันยาแนะนำ "นี่คุณย่าลดา ย่าของฉันค่ะ แล้วนี่คิมบอมบ์ เอ่อคิมหันต์ รุ่นน้องที่สนิทกัน คุณย่าคะ คิมบอมบ์ นี่คุณพ่อ คุณแม่ของคุณแสนค่ะ"
สินกับฟองคำยกมือไหว้ลดา คิมหันต์ยกมือไหว้สินกับฟองคำ ทั้งสองคนรับไหว้
อันยาร้อนใจ "มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ" อันยาใจเสีย "อาการคุณแสนเป็นยังไงคะ ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?”
สินกับฟองคำมองหน้ากัน อันยา ลดา และคิมหันต์ชักใจไม่ดี
"หมอบอกว่าทำเต็มที่แล้ว ตอนนี้ทำได้แค่ ต้องรอดูผลจากการผ่าตัด"
"แล้ว ตกลงว่าคุณแสนพ้นขีดอันตรายรึยังคะ?” อันยาถาม
สินกับฟองคำมองหน้ากันด้วยสีหน้าหม่นหมองแทนคำตอบ
"ฉันจะไปพบคุณหมอ!! มันต้องมีวิธีช่วยให้คุณแสนปลอดภัย" อันยาจะไป
"หนูอัน สงบสติอารมณ์หน่อยเถอะลูก" ลดาเตือน
"แต่คุณแสนเค้าจะเป็นอะไรไปไม่ได้ เค้าโดนยิงก็เพราะอัน"
เสียงหนานปิงดังขึ้น

"เพราะตัวมันเองต่างหาก"

อ่านต่อหน้า 3

อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ ตอนที่ 13 (ต่อ)

อันยาชะงัก หนานปิงเดินมากับสิงห์ ทุกคนหันไปมอง

"มันเลือกที่จะปกป้องหนูเอง ไม่ได้มีใครบังคับ ฉันเสียใจที่หลานฉันโดนยิง แต่ก็จะเสียใจมากกว่า ถ้าหากมันไม่ปกป้องผู้หญิง" หนานปิงบอก
อันยาฟังคำของหนานปิงก็ถึงกับพูดไม่ออก แต่คนที่ตะลึงงันยิ่งกว่าคือลดาที่ยืนอยู่ข้างๆหลาน ลดามองหนานปิงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
"คุณ..คุณหนานปิง ?”
อันยาหันไปมองลดาด้วยความประหลาดใจที่ย่าเรียกชื่อปู่ของแสนได้
หนานปิงมองลดาแล้วก็ตกตะลึงไม่น้อยกว่ากัน "ละ…ลดา เป็นไปได้เหรอเนี่ย ?”
หนานปิงประหลาดใจไม่น้อยกว่าลดาเลย
"นี่ นี่รู้จักกันด้วยเหรอครับเนี่ย ?” สินถาม
ทุกคนต่างประหลาดใจกับท่าทีของผู้อาวุโสทั้งสอง หนานปิงและลดาได้แต่ยืนนิ่งมองกันและกันเหมือนกับรอคอยที่จะได้เจอกันอย่างนี้มาทั้งชีวิต

ลดากับหนานปิงนั่งคุยกันประสาคนรักที่คิดถึงและพลัดพรากไม่ได้เจอกันนานหลายสิบปี
"ไม่นึกเลยนะคะ ว่าจะได้พบคุณที่นี่.. แล้วก็..ในเวลาแบบนี้ ฉันเสียใจด้วยนะคะเรื่องหลานคุณ" ลดาบอก
"ผมยังเชื่อ ว่าคนดีๆอย่างแสน…" หนานปิงกับลดาพูดพร้อมกัน "พระจะต้องคุ้มครอง"
หนานปิงกับลดาชะงักไปที่พูดออกมาพร้อมกัน ทั้งสองต่างประหลาดใจที่วันเวลาไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกแปลกแยกต่อกัน
"ฉันเคยแปลกใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงเอ็นดูแสนเค้ามากขนาดนั้น เพิ่งจะได้คำตอบวันนี้เอง คงเพราะเค้าเป็นหลานชายของคุณ"
"แต่ผมสิ กลับทดสอบหนูอันยาซะหัวปั่นเลย ขอโทษนะลดา"
"ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ ฉันเอง ตอนที่หลานมาสารภาพว่าทำความผิดกับแสนเค้าไว้ยังไงบ้าง ยังแทบไม่อยากเชื่อ เพราะฉันเป็นย่าที่ไม่ดี ปล่อยปละละเลย จนหลานเดินทางผิดแบบนี้"
"ลดา.." หนานปิงไม่อยากให้โทษตัวเอง
"ฉันพอจะทำใจได้แล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญตอนนี้..พวกเราจะต้องเข้มแข็งเอาไว้ ถูกมั้ยคะ"
ลดาพูดแล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาจากกระเป๋าถือใบเล็กเพื่อซับคราบน้ำตา หนานปิงเห็นผ้าเช็ดหน้านั้นก็จำได้ว่าเป็นผืนที่เคยแลกกับลดา
"ผ้านี่?”
ลดามองแล้วก็เพิ่งรู้ตัว "ฉันเก็บไว้มาตลอด เวลาที่ต้องการกำลังใจจะเอาออกมาใช้ ไม่นึกจริงๆ ว่าวันนี้ จะได้พบเจ้าของผ้าเช็ดหน้า"
หนานปิงซาบซึ้งใจ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าของลดาที่ตัวเองพกไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาให้ดู
"ผมก็เหมือนกัน…"
ลดามองแล้วก็แทบไม่อยากจะเชื่อ แล้วหนานปิงก็บีบมือลดาไว้อย่างให้ความมั่นใจและกำลังใจ
"เรามาเอาใจช่วยนายแสน ให้เค้าพ้นเคราะห์ร้ายในครั้งนี้ด้วยกันนะ"

ลดาพยักหน้าน้ำตาซึม
 

สิน ฟองคำ และสิงห์ที่นั่งห่างออกมามองไปทางลดาและหนานปิงที่พูดคุยกันอยู่ สินยังไม่อยากเชื่อ

"ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย พ่อฉันเคยมีแฟนเป็นสาวชาวกรุง แล้วผู้หญิงคนนั้น ยังเป็นย่าแท้ๆของหนูอันยาด้วย"
"เรื่องหลังนั่น เราทุกคนก็เพิ่งจะรู้" สิงห์บอก
"แต่เรื่องแรก…ทำไม ฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อน" สินถามย้ำ
"เอ ผมก็ไม่รู้ เห็นพ่ออุ๊ยแกก็เที่ยวเล่าความหลังให้คนนู้นคนนี้ฟังไปทั่วเลยนี่"
"แต่ก็ไม่เคยบอกฉันสักคำ"
"น่าพ่อ เรื่องอย่างเนี้ยะ คนใกล้ตัวก็รู้ช้าที่สุดเสมอล่ะ" ฟองคำบอก
"พูดอย่างงี้ แปลว่า……"
"ฉันก็รู้เรื่องคนรักเก่าของพ่ออุ๊ยตั้งนานแล้ว" ฟองคำบอก
สินเหวอเพราะยิ่งรู้สึกหมดพาวเวอร์เข้าไปใหญ่
"โถ่พ่อนะพ่อ !”
"พ่ออุ๊ย คงจะห่วงความรู้สึกของพ่อ คงกลัวว่าพ่อจะเสียใจแทนแม่อุ๊ย" ฟองคำบอก
สินนิ่งลง เขาหันไปมองหนานปิงที่สนทนากับลดาอยู่
"ไง เสียใจแทนแม่อุ๊ยมั้ย?” สิงห์ถาม
"แม่ฉันเสียไปตั้งสิบปีแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆจะได้มานั่งหวงพ่อที่อายุ6-70" สินมองหนานปิงกับลดา "ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อย พ่อจะได้มีเพื่อน คอยให้กำลังใจกัน"
ฟองคำกับสิงห์พยักหน้าเห็นด้วยกับสิน
"ทางนั้น เค้าพอมีกำลังใจแล้ว แต่ทางนี้สิ"
พูดจบสิงห์ก็หันไปมองที่หน้าห้องผ่าตัด ที่อันยาเฝ้ามองอยู่อย่างเป็นห่วง มีคิมหันต์ยืนอยู่เป็นเพื่อนไม่ไกลนัก สีหน้าของอันยายังซีดเซียวเพราะใจไม่ดีอย่างมาก

ณ โรงแรมในตัวเมืองเชียงใหม่ สองย่าหลานอยู่ในอิริยาบถเตรียมพักผ่อน ลดาเล่าเรื่องหนานปิงให้อันยาฟัง
"คุณทวดของหลาน คุณพ่อของย่า ไม่เห็นด้วยเรื่องที่ย่ารักกับคุณหนานปิง ท่านเป็นฑูตก็อยากได้ลูกเขยที่เป็นข้าราชการ แล้วพอดีตอนนั้นคุณทวดต้องไปราชการที่ยุโรป ก็เลยจะพาย่าไปด้วย เพื่อให้ย่าห่างจากเค้า ย่าเสียใจมากไม่อยากไปเลยจริงๆ"
"แต่เท่าที่หนูรู้ คุณย่าไปยุโรป ?”
"ใช่จ้ะ ถึงย่าจะไม่ใช่แบบผู้หญิงสมัยนั้น ที่เรียบร้อยมากๆ แต่จะให้ทำลายศักดิ์ศรีของคุณพ่อแล้วหนีไปอยู่กับคนรัก ย่าก็ทำไม่ได้"
อันยาบีบมือย่าอย่างเห็นใจ
"คุณหนานปิงเสียใจมาก เราทะเลาะกันก่อนที่ย่าจะไป เขาน้อยใจไล่ให้ย่าไป ให้ไปแต่งงานกับคนที่เหมาะสม ย่าบอกว่าย่าจะไม่มีใคร จะรอเค้า แล้วย่า ก็ทำแบบนั้นจริงๆ พอกลับมาจากยุโรปย่าก็พยายามตามหาเค้า" ลดาเล่า
"แล้วไม่เจอกันเหรอคะ ?” อันยาถาม
ลดานิ่งไป "จ้ะ ไม่เจอ"
สองย่าหลานเงียบงันกันไปชั่วขณะ
"มันเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย ผู้คนพลัดบ้านพลัดถิ่น.. ต้องอาศัยถามจากคนรู้จัก ซึ่งก็พลัดหลงพลัดหายไปกันเกือบหมด"
"แล้วนี่พ่ออุ๊ย เค้าไม่ได้พยายามตามหาคุณย่าเลยเหรอคะ"
"ย่าก็เพิ่งจะรู้วันนี้ ว่าเค้าก็เข้ามาในพระนคร มาตามหาย่า ในเวลาที่ย่าก็ไปตามหาเขาทางเหนือ" ลดาใจหาย "เราสองคนคลาดกัน"
อันยาอึ้ง
"ถึงปากจะปฏิเสธ แต่เค้าบอกว่าจริงๆแล้ว ในใจเค้ารอย่าอยู่ รอมาตลอด วันนี้คุณหนานปิงขอโทษย่า ขอโทษที่ก่อนจากกัน ไม่พูดกันดีๆ ถ้าเราไม่ทะเลาะกัน ก็คงจะไม่พลัดพรากจากกัน"
"คุณย่า" อันยาเข้าไปโอบลดา
"ได้รู้แค่นี้ย่าก็ดีใจแล้ว เพราะอย่างนี้ย่าถึงบอกให้หนูไปตามหาหัวใจของตัวเอง เพราะย่ารู้ว่ามันทรมานแค่ไหน ถ้าคนที่เรารัก เค้าไม่รู้ และไม่เข้าใจเรา"
"หนูเข้าใจคุณย่า แต่..บางที..ถ้าหนูไม่หาตามหาคุณแสน หนูไม่มาเจอเขา เขาอาจจะไม่ต้องโชคร้ายแบบนี้"
"อันยา บางสิ่งบางอย่างมันอาจจะถูกกำหนดเอาไว้แล้วก็ได้นะ"
อันยาส่ายหน้า "เป็นเพราะหนู เป็นเพราะหนูไม่ดีค่ะคุณย่า"
"ย่ารู้ว่าหนูต้องโทษตัวเอง แต่ลองคิดดูนะ คนเราแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่สามารถนำบทเรียนจากอดีตมาทำสิ่งที่ดีขึ้นในอนาคตได้นะ"

อันยามองลดานิ่งแล้วคิดตามในสิ่งที่ย่าพูด

สิน ฟองคำ หนานปิง และสิงห์มาที่หน้าห้องผู้ป่วยตั้งแต่เช้าเพื่อจะมาเยี่ยมและเฝ้าไข้

"พยาบาลเค้าบอกว่ายังไม่ฟื้น" สินบอก
ทุกคนมีสีหน้าอึมครึม แต่ยังพอรับความจริงได้
"เดี๋ยววันนี้ฉันจะขอเฝ้าอาการลูกเอง เมื่อคืนกลับไปพักที่โรงแรม นอนยังไงก็นอนไม่หลับ" ฟองคำบอก
"เมื่อวานนี้เพิ่งผ่าตัดเสร็จ ทางโรงพยาบาลเค้าก็ไม่อยากให้ญาติเฝ้า เพราะต้องเช็คอาการถี่มาก แต่วันนี้เค้าคงให้เราเฝ้าได้" สินว่า
ฟองคำพยักหน้าเข้าใจ ทุกคนเตรียมจะเข้าไป สิงห์เปิดประตูให้แล้วก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างลอดออกมาจึงชะงักกันไป
"พยาบาลเหรอ ?” สินถาม
สิงห์ชะโงกมองเข้าไปแล้วหันมาบอก
"เปล่าครับ ไม่ใช่"
"แล้วใคร มาเช้ากว่าพวกเราอีก" สินถาม
"ก็จะใครซะอีกล่ะ" หนานปิงว่า
หนานปิงสามารถทายได้โดยทันที

อันยาเฝ้าอยู่ข้างเตียงแสน เธอมองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมรักและพูดคุยด้วยราวกับแสนที่โคม่าอยู่นั้นรับฟังเธอได้
"คุณแสน ฉันมาอยู่กับคุณแล้วนะคะ"
อันยาเอื้อมมือไปจับมือแสนแล้วบีบเอาไว้เบาๆ
"รู้มั้ย ถ้าคุณฟื้นขึ้นมา ต่อให้คุณโหดใส่ฉันยังไง ไม่สนใจฉันแค่ไหน ฉันก็จะไม่ว่าคุณ ไม่เถียงคุณอีกแม้แต่คำเดียว ขอแค่คุณฟื้น และกลับมาแข็งแรง"
สิน ฟองคำ สิงห์ และหนานปิงที่เข้ามาได้ยินต่างอึ้งกันไป อันยายังคงสนใจแต่แสน จนไม่ได้ยินเสียงผู้มาเยือน
อันยาพูดต่อ "คุณต้องฟื้นนะ มีแต่เรื่องดีดีที่รอคุณอยู่ ทุกคนที่เพียงพอดีรู้แล้ว ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดคุณ ฉันจะจัดการให้คุณได้ทุกอย่างที่ฉันเคยพรากมันไปจากคุณกลับคืนมา"
อันยาพูดกับแสนเหมือนจะให้เขารับรู้เข้าไปถึงข้างใน
"คุณต้องฟื้น เพราะยังมีงานอีกหลายอย่างที่รอคุณ มาสานต่อให้สำเร็จ ชาวบ้านเค้ายังรอด็อกเตอร์แสนของพวกเค้าอยู่นะคะ"
อันยายังคงพูดเพราะหวังจะให้แสนตื่นขึ้นมาได้ยิน
"แล้วทุกคนที่บ้านเค้าก็รอคุณอยู่.. พวกเรามีข่าวดีจะบอกคุณด้วยนะคะ พ่ออุ๊ยกับคุณย่าเป็นคนรักเก่ากัน นึกไม่ถึงใช่มั้ยคะ ฉันเองก็แปลกใจพอๆกับคุณนั่นแหละ"
สิน ฟองคำ สิงห์ และหนานปิงมองอันยาแล้วก็อดสงสารและประหลาดใจไม่ได้
สินกระซิบฟองคำ "แม่หนู เค้ารู้มั้ยว่าตาแสน..ไม่รับรู้อะไร?”
ลดาเดินมาทางด้านหลังของกลุ่มของสิน
"หนูอันรู้ดีเหมือนกับทุกคนค่ะ ว่าแสนยังอยู่ในโคม่า แต่เค้าบอกฉันว่า ผู้ป่วยโคม่าบางราย ถึงแม้ร่างกายจะไม่สามารถตอบสนองได้ แต่ก็รับรู้ทุกอย่าง" ลดาบอก
"หนูอันก็เลย…มาคุยกับแสน" ฟองคำถาม
"ค่ะ เค้าบอกว่า ถ้าแสนมีคนคุยด้วย เค้าจะได้ไม่เหงา และจะได้พยายามตื่นขึ้นมาเพราะรู้ว่ามีคนรอการกลับมาของเค้าอยู่" ลดาบอก

ทุกคนอึ้งไปเมื่อได้ฟังอย่างนั้น

อันยาที่ยังคุยกับแสนต่อ

"คุณย่ากับพ่ออุ๊ยได้พบกันแล้ว พวกท่าน ตามหากันมานานมาก ท่านทำให้ฉันรู้ว่าเรื่องมหัศจรรย์ในโลกนี้มีอยู่จริง คุณต้องตื่นมาร่วมยินดีกับพวกท่านนะคะ ถ้าคุณตื่นขึ้นมาแล้ว" อันยาพยายามไม่เสียใจ "ไม่อยาก..จะเห็นหน้าฉัน ฉันก็จะไม่กวนคุณอีก" อันยาป้ายน้ำตาที่ซึมออกมา "ขอแค่ คุณฟื้นขึ้นมา นะคะคุณแสน"
อันยาบีบมือแสนไว้แล้วฝืนยิ้มทั้งรอยน้ำตา ครอบครัวของแสนมองอันยาแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจ

ลดาพยายามพูดกับครอบครัวของแสน
"จริงๆฉันเกรงใจมาก แต่ถือว่าฉันขอสักครั้ง ให้หนูอัน ได้มีโอกาสดูแลพ่อแสน จะได้มั้ยคะ"
หนานปิงช่วยพูดกับฟองคำ "นะ ถือว่าเห็นใจเด็กมัน พวกเธอก็เห็นแล้ว ว่าเค้าเอาใจใส่แสนมากแค่ไหน"
"ผมก็..ไม่มีปัญหานะ พ่ออุ๊ยก็รู้ ว่าผมเห็นความตั้งใจของหนูอันเค้ามาตั้งนานแล้ว" สินบอก
"ผมก็ไม่มีปัญหาครับ" สิงห์พูด
ทุกคนหันมาหาฟองคำซึ่งยังนิ่งอยู่เพียงคนเดียว ขณะที่ทุกคนกำลังรอคำตอบ อันยาก็ออกมาพอดี
"ขอโทษนะคะ ฉันคุยกับคุณแสนซะนานเลย"
"คุณย่าของเธอ กำลังขออนุญาตแม่ฟองให้เธอได้ดูแลตาแสน" หนานปิงบอก
อันยาฟังแล้วก็ดีใจ เธอมองไปที่ฟองคำอย่างมีความหวัง
ฟองคำถอนใจ "แต่ฉันคงอนุญาตให้ไม่ได้"
อันยาหน้าเสีย ทุกคนพลอยหน้าเจื่อนไปด้วย
"คุณป้า ยังโกรธหนูอยู่ใช่มั้ยคะ ที่เป็นต้นเหตุให้คุณแสนบาดเจ็บ" อันยาถาม
"ฉันต้องให้แสนเค้าอนุญาตเอง" ฟองคำบอก
อันยากับทุกคนงง
ฟองคำหันไปมองทางห้องแสนแล้วพูดต่อ "และฉันรู้ ว่าเค้าอนุญาต เค้าเสี่ยงชีวิตปกป้องเธอ แสดงว่าเธอ คือคนสำคัญของเค้า" ฟองคำบีบไหล่อันยา "แสนเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุด เธอต้องดูแลเค้าให้ดีนะ"
อันยานึกไม่ถึงว่าจะได้รับโอกาสขนาดนี้ "คุณ...คุณป้า...ขอบ...ขอบคุณค่ะ หนูไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี"
อันยาดีใจจึงเข้าไปกอดฟองคำ ฟองคำชะงักไปอย่างนึกไม่ถึง
"หนู หนูจะดูแลคุณแสนให้ดีที่สุดเลยค่ะ" อันยาบอก

สินแอบชูนิ้วโป้งให้อันยา

อ่านต่อหน้า 4

อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ ตอนที่ 13 (ต่อ)

คิมหันต์ยื่นกระเป๋าใส่สิ่งของสำหรับเฝ้าคนป่วยให้อันยา

"สำหรับพยาบาลพิเศษ" คิมหันต์บอก
"ขอบใจนะ" อันยาพูด
"เจ๊ ที่จะคุยกับด็อกเตอร์เค้า..เหมือนคุยกับคนปกติน่ะ…ฉันสงสัยว่าเจ๊จะคุยอะไรกับเค้าได้นักหนาล่ะ ในเมื่ออีกฝ่ายนึง.. คือ อย่าโกรธเลยนะ .เค้าไม่ตอบกลับมาแบบเนี้ยะ"
อันยาฟังคำถามของคิมหันต์ก็ชะงักไป แต่แววตายังมุ่งมั่น
"คิมบอมบ์แกก็รู้จักฉันดี ว่าฉันไม่ชอบเสียใจภายหลัง เพราะงั้นเวลาฉันต้องการอะไร ก็จะไขว่คว้ามันมาให้ได้ แต่กับเรื่องคุณแสน ฉันเสียเวลาต่อสู้กับใจตัวเองอยู่นาน ตอนที่ฉันมีโอกาสใกล้ชิดเค้า ฉันกลับ..ไม่ได้บอกหลายสิ่งหลายอย่างกับเค้า ตอนนี้ ฉันจะพูดทุกๆอย่าง จริงๆแล้วฉันมีเรื่องอยากจะบอกเค้าอีกเยอะแยะเลย"
อันยาพูดปลอบใจตัวเอง แต่ก็พูดจากใจจริง คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เมื่อสัมผัสความรู้สึกของอันยา ทั้งสองคนเดินไปด้วยกัน แล้วก็มีคนท้องเดินผ่านทั้งคู่ไป อันยาเห็นคนท้องแล้วก็ชะงักทันที
คิมหันต์สงสัย "มีอะไรเหรอเจ๊"
"ฉันว่า เราลืมอะไรกันไปบางอย่าง" อันยาบอก

ปุ๊กลุกโวยวายว่าจะลุกไปให้ได้ พยาบาลที่ถือแฟ้มเอกสารรออยู่กับปรานีกลุ้มใจ
"ปุ๊กลุกจะไปหาพี่แสน จะไป !”
"เบาๆหน่อยสิลูก เพิ่งจะผ่าตัดคลอดมา เดี๋ยวแผลก็ฉีกหรอก" ปราณีปราม
"ช่างมัน! ปุ๊กลุกจะไปบอกพี่แสน ว่าลูกของเราเป็นผู้ชาย จะให้พี่แสนตั้งชื่อให้ลูก"
"พ่อเรา เพิ่งจะทำร้ายเค้าอยู่หยกๆ เค้าจะไม่โกรธเอาเหรอ รอก่อนดีกว่านะลูกนะ"
"แม่!! มัวแต่รอแล้วเกิดนังอันยามันคาบพี่แสนไปล่ะ ลูกหนูก็ไม่มีพ่อน่ะสิ" ปุ๊กลุ๊กพูดกับพยาบาล "ใส่ชื่อพ่อของเด็กไปเลยค่ะ ว่าคือนายแสน เผื่อนนาดี"
จู่ๆ ประตูก็เปิดออกโดยไม่มีเสียงเคาะ เสียงผู้มาใหม่ดังลอดเข้ามา
"รีเชฟชั่นบอกอยู่ห้องนี้นี่"
"แม่ บอกว่าให้ผมคุยก่อน ให้รอก่อนๆ" ทวยเทพนั่นเอง

ปรานีกับปุ๊กลุกชะงักว่าใครมา

พอปุ๊กลุกเห็นชัดๆว่าใครเธอก็แทบช็อก!!

"แก แกมาทำไม"
"คนเนี๊ยะนะเหรอ ฉันเชื่อแล้วว่าแกพลาดไปจริงๆ" หญิงแม่ของทวยเทพว่า
"ป้า! ฉันเนี่ยเทพีประจำหมู่บ้านนกกระเต็นนะ รู้เอาไว้ซะด้วย นี่ฉันเพิ่งคลอดลูกจะให้แต่งหน้าแต่งตัวสวยได้ยังไงกันล่ะ" ปุ๊กลุ๊กนึกได้ "แล้วป้าเป็นใครเนี่ย"
"นั่นน่ะสิคะ พวกคุณสองคนมีธุระอะไรเหรอคะ" ปราณีถาม
"ถามได้ ฉันก็มารับหลานฉันน่ะสิ" หญิงแม่ตอบ
ทั้งปรานีและปุ๊กลุกต่างก็เหวอกันไป

อันยาเดินถือของเยี่ยมสำหรับคุณแม่มากับคิมหันต์
"แน่ใจเหรอเจ๊ จะมาเยี่ยมเค้าเนี่ย ตัวเองเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเค้าเลยนะ"
"ฉันถึงได้ให้แกมาด้วยไง มีอะไรจะได้ช่วยๆกัน" อันยาบอก
"ผมไม่ใช่อย่างคุณแสนนะ ที่จะมาคอยปกป้องเจ๊ ไม่เอาอ่ะ"
อันยาดึงคิมหันต์ไว้ "มานี่เลย เร็วๆ"
อันยารุนหลังคิมหันต์ให้เดินไปที่หน้าห้องปุ๊กลุก ทั้งสองเห็นประตูเปิดค้างเอาไว้และมีเสียงโหวกเหวกดังออกมาก็หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย

อันยากับคิมหันต์เดินเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าปุ๊กลุก ทวยเทพ และหญิงแม่กำลังปะทะกันวุ่นวาย
"ไม่!! ฉันไม่ให้แกใส่ชื่อเป็นพ่อของลูกฉัน" ปุ๊กลุ๊กว่า
"แล้วนึกว่าฉันอยากได้เธอเป็นแม่ของลูกเหรอ ถ้าแม่ไม่ขอร้อง จ้างให้ฉันก็ไม่มา" ทวยเทพบอก
"ฉันไม่ได้ขอร้อง" หญิงแม่ตบหัวทวยเทพ "ถ้าแกกล้าทิ้งลูกแก!! ฉันจะไม่ให้สมบัติแกสักแดง"

"โอ๊ยแม่!!! แต่ว่าเค้าไม่เอาผมเป็นพ่อของลูก แม่ก็ได้ยินแล้ว"

ทวยเทพหันไปเห็นอันยากับคิมหันต์ก็เหวอ

"อัน!! มาก็ดีแล้ว คุณโทร.บอกแม่ผมทำไมห๊ะ ดูซิ วุ่นวายกันไปใหญ่แล้ว" ทวยเทพว่า
"นี่!! ที่แท้ก็ฝีมือแกเองเหรอ แกจะขัดขวางฉันกับพี่แสนเค้าไปถึงไหน นังอันสรพิษ" ปุ๊กลุ๊กว่า
"ไม่เอาลูก อย่าโกรธ เดี๋ยวเจ็บแผลนะคะ" ปราณีปราม
"โอ๊ย ถ้าหนูลุกไหว หนูไปฆ่ามันแล้ว" ปุ๊กลุ๊กบอก
"เอาเลย อยากทำอะไรฉัน ก็ทำเลย" อันยาเดินเข้าไปหา
"อย่านึกนะ ว่าฉันไม่กล้า"
"ได้ เธอตบฉัน แล้วก็ปล่อยคุณแสนไป" อันยาบอก ปุ๊กลุกชะงัก "คุณแสนเค้าต้องเดือดร้อนเพราะคนอื่นมามากพอแล้ว เค้าต้องเดือดร้อนเพราะฉัน เพราะพ่อของเธอ จนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น" ปุ๊กลุกอึ้ง "อย่าให้เค้าต้องมาเสียสละอะไรเพื่อใครอีกเลย" อันยาคุกเข่าวอนขอ "นะ ถือว่าฉันขอร้อง !! ฉันขอร้อง นะปุ๊กลุก"
ปุ๊กลุกอึ้งเพราะนึกไม่ถึงว่าอันยาจะมาขอร้องแบบนี้
"คิดดูให้ดี เด็กน่ะ ควรจะได้อยู่กับครอบครัวที่แท้จริงมากกว่านะ การตัดสินใจของเธอกำหนดอนาคตของเค้า ถ้าเธอเลือกคุณแสน แล้วเค้าไม่เลือกเธอขึ้นมา ลูกเธอจะเป็นยังไง"
"ปุ๊กลุก เค้าพูดถูกนะลูก ผู้ชายที่..ไม่ได้รักเรา แล้วเค้าจะรักลูกของหนูเหรอ" ปราณีบอก
ปุ๊กลุกไม่พอใจ "แม่!!! ทำไมแม่พูดแบบนี้"
"ลูกขึ้นไปหาครอบครัวด็อกเตอร์แสนตั้งหลายอาทิตย์ ถ้าเค้าจะยอมรับ ก็คงยอมรับไปแล้ว" ปราณีบอก ปุ๊กลุ๊กอึ้ง "แม่รักหนู รักลูกของหนู แม่…ไม่อยากเห็นปุ๊กลุกรออย่างไม่มีความหวังนะลูก”
ปรานีมองลูกทั้งสงสารและเวทนาเหลือเกิน
ปุ๊กลุกจนหนทางจึงร้องไห้น้ำตาแตก "ฮือ....”

อันยากับคิมหันต์โล่งอก เมื่อเห็นท่าทางปุ๊กลุกเริ่มยอมรับความจริงแล้ว อันยาก็บอกทวยเทพ
"ทวยเทพ คุณมาที่นี่เพราะแม่คุณ หรือเพราะอะไรก็ตาม แต่เด็กก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ ต่อไป จะไม่ถูกกับแม่เด็กยังไง ก็นึกถึงใจคนเป็นลูกด้วย"
ทวยเทพอึ้งไป เขาละอายใจต่ออันยาจนพูดไม่ออก...
อันยาพูดกับปรานี "ฉันเสียใจด้วยเรื่องกำนันโกมล สามีของคุณ แต่ถ้าแม่ของคุณทวยเทพรับอุปการะหลาน ยังไงพวกคุณสองคนก็จะไม่ลำบาก ตกลงกันดีๆนะคะ"
"ไม่ต้องห่วง สองคนเนี้ยะ" หญิงแม่หมายถึงทวยเทพกับปุ๊กลุก "เค้าจะอยู่หรือไม่อยู่กัน ฉันก็ไม่บังคับ มันไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันแค่อยากได้หลานชายไปสืบสกุลเท่านั้นแหละ"
หญิงแม่ว่าแล้วก็จัดแจงให้พยาบาลกรอกชื่อทวยเทพให้เป็นพ่อของลูกทันที ปุ๊กลุกกับปรานีไม่มีใครพูดอะไรอีก

อันยาและคิมหันต์ต่างโล่งอก

คิมหันต์ชื่นชมลูกพี่ยกใหญ่

"เจ๊นี่เทพจริงๆ จัดการทุกนางเรียบ แรงแค่ไหนก็ไม่เหลือ"
"ฉันไม่ได้จะกำจัดใครนะ แต่ทวยเทพต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำ" อันยานึกได้ "แล้วที่แกมาเป็นเพื่อนฉันเนี่ย คุณย่าล่ะ"
"ไม่ต้องห่วง พ่ออุ๊ยแวะมารับไปวัดตั้งแต่สายแล้ว เห็นว่าจะไปไหว้พระขอพรให้ด็อกเตอร์"
อันยาพยักหน้าโล่งอก
"นี่เจ๊ ปล่อยให้รุ่นใหญ่เค้านำหน้าไปตั้งเยอะ ถามหน่อยเถอะ เรื่องของเจ๊ไปถึงไหนแล้ว" คิมหันต์ถาม
หลังจากฟังอันยาเล่า คิมหันต์ก็ไม่อยากจะเชื่อ
"นี่ยังไม่ได้บอกความในใจ ?”
"ก็อย่างที่ฉันบอก ว่ายังไม่มีโอกาสพูดอีกหลายอย่าง รวมทั้ง..ที่ฉัน..รักเค้าด้วย"
"โหย ทีกล่อมคนให้เปลี่ยนงานล่ะทำได้ แต่ให้เค้าเปลี่ยนใจเนี่ย ไม่มีน้ำยาเลย"
"นี่ !! ลองไปกล่อมเองมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่ามันยากแค่ไหน ทั้งทำไร่ ทำอาหาร ทำทุกอย่างแล้วก็ยังโกรธอยู่เลย"
"ถึงโกรธ แต่ก็รัก"
อันยาเลิกคิ้ว
"ไม่รัก จะเอาตัวเองเข้ามาบังกระสุนให้เหรอ ถึงขนาดยอมตายแทนเลยนะ" คิมหันต์บอก
"คุณแสน เค้าอาจจะทำไปเพราะความเป็นคนดีของเค้า..มากกว่า"
"ของอย่างนี้ แค่เป็นคนดีทำไม่ด๊าย ต้องรักเต็มหัวใจ เข้าใจรึเปล่า"
อันยาอึ้ง "จริง จริงเหรอ?”
"เจ๊ วันที่มีโอกาสไม่พูด วันนี้ต้องมาพูดอยู่ฝ่ายเดียว โดยที่ไม่รู้ว่าเค้าได้ยินมั้ย ถ้าเค้าฟื้นขึ้นมา ก็บอกเค้าเถอะ"

คิมหันต์สั่งการมาอย่างเฉียบขาด อันยาถึงกับเหวอว่านี่ใครเป็นลูกพี่ใครเป็นลูกน้องกันแน่

อ่านต่อตอนที่ 14 อวสาน
กำลังโหลดความคิดเห็น