ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 8
เวลากลางคืน ที่เรือนแพ ปั้นพูดขึ้น
"สุดท้ายมันก็ไม่พ้นเราทุกที"
"เอาเถอะน่าแม่ปั้น คิดซะว่าทำบุญทำทาน" สินบอก
"ทำบุญทำทานกับอีคนก๊กนี้ มันได้บุญงั้นเรอะ ตาสิน"
"บุญน่ะ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เจตนาที่จะให้แล้วล่ะ แม่ปั้น"
"มีครั้งนี้เดี๋ยวมันก็มีครั้งอื่นอีก วนเวียนซ้ำซาก ไม่เชื่อแกก็คอยดูสิ"
ปั้นค้อนใส่สันต์
"แม่ครับ...เงินที่ให้มาวันนี้ ถือว่าผมขอยืมแม่ก็แล้วกัน ผมจะรีบหามาคืนแม่ให้เร็วที่สุดครับ" สันต์บอก
"เงินทองแม่ไม่ได้มีมากมาย เงินสดที่มีติดบ้านไว้ ก็เอาไว้วนซื้อของทำทุนค้าขายนี่แหละ แม่ตะขิดตะขวงใจก็อีตรงที่น้ำพักน้ำแรงแม่ สุดท้ายมันก็ต้องเอาไปเจือจุนอีผู้หญิงที่มันเคยชี้หน้าด่าแม่ฉอดๆ"
"แม่ครับ...แม่คิดซะว่าแม่ทำเพื่อหลานเถอะครับ เจ้าวันมันน่าสงสารนะครับแม่ ผมเองตัดแล้วตัดเลยไม่เคยคิดมีเยื่อใยกับผู้หญิงคนนี้แม้แต่นิดเดียว แต่เจ้าวันผมตัดไม่ขาดหรอกครับแม่ จนตายผมก็ตัดไม่ลง"
ปั้นรู้สึกดีขึ้นหันมามองหน้าสันต์ เอื้อมมือมาลูบหัวลูก สันต์กลืนลูกสะอื้นลงคอ ไม่แสดงความอ่อนไหวมากไปกว่านี้
ลำยงฉีกผ้าถุงเก่าทั้งของตัวเอง และของยายแล และของลำยองออกมาทำผ้าอ้อม
"กว่าจะโตคงพอใช้ละมัง ขยันๆซักเอาหน่อยละกันไอ้วัน" ลำยงบอก
"ครับ"
วันเฉลิมหันไปมองน้องคนล่าสุดที่นอนอยู่ในเบาะ
ห้องเปิดไว้เห็นข้างนอก คนเช่าห้องเดินผ่านไปมา บางคนมายืนแคะขี้มูกมองเข้ามาแล้วก็เดินออกไป
ลำยองยังนอนพักพื้นอยู่บนเตียง อ้อยอยู่กับตักยายแล
"แค้นใจจริงๆ อยากรู้นักว่าได้อีตัวไหน มันไปบอกตำรวจ" ลำยองว่า
"รู้แล้วเอ็งจะไปทำอะไรเขาให้มันได้อะไรขึ้นมา"
"ตบมันล้างนำสิแม่ มันตัดทางทำมาหากินกันยังงี้ ฉันว่ามันต้องเป็นอีพวกอิจฉาฉันแน่ๆ"
ลำยงแค่นหัวเราะ
"อยากจะบ้าตาย ใครเขาจะไปอิจฉาพี่ พี่ไม่คิดบ้างเหรอว่า ทำมาหากินยังงี้ มันผิดกฎหมายบ้านเมือง ยังไงเขาก็ต้องกวาดล้าง"
"เอ็งก็เลิกๆซะเถอะวะ" แลว่า
"ฉันปั้นมากับมือ แขกแน่นทุกวันยังงี้ จะให้ฉันเลิกง่ายๆได้ยังไงแม่"
"แล้วเองสนุกนักรึไงวะ ไปนอนอยู่ในตะรางน่ะไม่ทันข้ามคืน ข้าเห็นเอ็งทุรนทุรายยังกะหมาบ้า นี่ถ้าไม่ได้เงินเจ้าสันต์มันมาช่วยประกันตัวออกมา ลูกเอ็งคนนี้มันก็ต้องไม่แคล้วคลอดในตะรางแหงๆ" แลบอก
"มันอยากอวดรวย ก็ให้มันจ่ายไปสิ"
"นี่ไม่สำนึกบุญคุณพี่สันต์เขาเลยซักนิดเรอะ" ลำยงถาม
"กูไม่ได้ไหว้วานให้มันช่วยกูซะหน่อย เสือกโง่มาช่วยกูเอง"
"เออ...คิดยังงี้ ทีหลังก็อย่าหวังว่าเขาจะมาช่วยอะไรอีกละกัน"
ลำยองทำท่าไม่ยี่หระ ไม่แยแส วันเฉลิมมอง ได้แต่พยายามจะเข้าใจ
วันใหม่ที่เพิงก๋วยเตี๋ยว ลำยงบอก
"ฉันเห็นด้วย เอามันไปเถอะ ความจริงพี่น่าจะเอามันไปตั้งนานแล้ว อยู่กับแม่มัน บ้านช่องก็เน่า หนังสือหนังหาก็ไม่ได้เรียนเต็มที่ ต้องคอยเลี้ยงน้อง เวทนามันเปล่าๆ"
ตาปอถือทัพพีตักแกงเข้ามา
"อีแล มึงเอาทัพพีไปไว้ไหน มึงนี่ทิ้งข้าวของไม่เป็นที่เป็นทาง กูเดินหาทั่วร้านแล้ว ไม่เจอ" ปอถาม
"ทัพพีอะไรของมึงไอ้ปอ" แลถาม
"ก็ทัพพีตักน้ำก๋วยเตี๋ยวนะ กูจะได้เอาไปล้าง"
"กูไม่ขำกะมึงเลยไอ้ปอ"
"กูก็ไม่ได้ให้ขำ"
"แล้วไอ้ที่อยู่ในมือมึงน่ะ อะไร"
"ก็ทัพพีไง"
"เออ...ไอ้บ้า" แลบอก
"มันมาอยู่ในมือกูตั้งแต่เมื่อไรวะ"
ตาปอเกาหัวออกไปหลังร้าน
"น้าแล คิดว่าไง ถ้าผมจะเอาเจ้าวันไปอยู่กับผม" สันต์ถาม
"มันก็ดี แต่เมียใหม่เอ็งมันมิฉีกอกไอ้วันมันเอาเหรอ"
"โธ่...น้าแล เขาเป็นครูบาอาจารย์นะ เขารักเด็กทุกคน หวังดีกับเด็กทุกคน"
"เฮอะ...ข้าละกลัวใจนัก แม่เลี้ยงลูกเลี้ยง เห็นมาเยอะแล้วโว้ย"
"แม่...ฉันว่าแม่ดูยี่เก ฟังละครวิทยุมากไปรึเปล่า สมัยนี้เขาไม่มียังงั้นแล้ว มันพ้นยุคปลาบู่ทองแล้วแม่"
"ผมอยากให้น้าแลเห็นแก่อนาคตเจ้าวันให้มาก ๆ" สันต์บอก
"เออ ๆ ๆ แล้วข้าจะไปถามนังลำยองมันให้ เด็กกำลังกินกำลังนอน มันสิ้นเปลืองยังกะอะไรดี มันคงจะยกให้แกอยู่หรอก"
สันต์มีความหวัง
หน้าบ้านลำยอง เวลากลางวัน
"หมู่นี้บ้านพ่อวันเงียบลงไปเยอะนะลูก" วิมลว่า
"ครับคุณยาย"
"วันนี้วันเกิดหนูสมเขา ยายเลยทำขนมให้เขาใส่บาตร หนูสม เอาขนมแบ่งให้พี่วันสิลูก"
สมฤดียื่นขนมให้วันเฉลิม
"ขอบใจนะหนูสม"
"วันนี้คุณพ่อคุณแม่จะพาหนูสมไปเที่ยวด้วย พี่วันไปเที่ยวด้วยกันไหม"
"พี่วันไปไม่ได้หรอกครับ พี่วันต้องทำงาน"
"ว้า...เสียดายจัง"
"แม่เขาคลอดน้องแล้วใช่ไหมลูก พ่อวันได้น้องผู้หญิงหรือผู้ชายละ"
"น้องผู้ชายครับ แม่ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไร ยายก็นึกไม่ออก วันเลยตั้งชื่อให้น้องเอง ชื่อเหน่งครับ"
"เหนื่อยก็ทนหน่อยนะพ่อวัน มีอะไรให้ยายช่วยก็บอกนะ"
"ครับคุณยาย"
ในบ้านลำยอง ชาวบ่อนตั้งวงไพ่เล็ก ๆ ในห้องชั้นในเพื่อให้ลับตาหน่อย
"แม่ช่วยบอกข่าวไปให้ทั่วด้วยว่า บ่อนฉันยังเปิดเหมือนเดิม"
"เอ็งนี่ทำไมมันไม่รู้จักเข็ดวะ" แลถาม
"ก็แม่บอกฉันเองว่าเกิดมาต้องทำมาหากิน"
"อย่างอื่นมีตั้งเยอะทำไมเอ็งไม่ทำ"
"ไปรับจ้างเขามันก็ขี้ข้าเขาอยู่ดี คนอย่างอีลำยอง ไม่ยอมเป็นขี้ข้าใครหรอก"
"กูละเอือมระอากับมึงจริง ๆ อีลำยอง"
ลำยองเดินออก แลตามไปพูดเรื่องสำคัญ
"เจ้าสันต์มันจะเอาเจ้าวันไปเลี้ยงเอง เอ็งจะว่ายังไง"
"มันจ้างแม่ให้มาเป็นนายหน้าช่วยพูดรึไง"
"ถ้าเป็นตะก่อนละอาจจะใช่ แต่ตอนนี้ข้าเต็มใจจะช่วยมัน ข้าเวทนาไอ้วันมัน มันน่าจะได้เรียนหนังสือหนังหาของมันให้เต็มที่ ไม่ใช่ต้องมาคอยเลี้ยงน้องเป็นโขยงยังงี้"
ลำยองยิ้ม
"แหม... แม่ ฉันเสียเงินเลี้ยงมันมาตั้งเท่าไหร่ ตอนนี้พอใช้งานได้แล้วก็จะมาเอาไป มันหุงข้าวซักผ้า ถูบ้าน วิ่งซื้อของ เลี้ยงน้องได้ แม่รู้ไหมฉันเสียเงินให้มันเรียนอนุบาลสองปี กี่พัน ทั้งค่าอาหาร ค่ารถ คิดจะมาขอไปง่าย ๆ ฝันไปหน่อยเหอะ"
"แล้วเอ็งจะเอายังไงว่ามา"
"ตอนที่เอามันมาใหม่ ๆ ฉันเรียกสองหมื่นแม่จำได้ใช่ไหม"
"เออ...จะได้ไปบอกมันว่าเอ็งจะเอาสองหมื่น"
"ใครว่า...ฉันเลี้ยงมันมาอีกตั้งห้าหกปี คิดปีละหมื่นก็ตั้งเจ็ดแปดหมื่นนะ แต่เดี๋ยวจะหาว่าหน้าเลือดเกินไป ฉันลดให้เหลือห้าหมื่นละกัน จะเอาก็เอาเงินสด ๆ มาวาง"
"เฮ้ย...เอ็งเป็นแม่มัน คิดยังงั้นได้ยังไงวะ เป็นแม่ก็ต้องเลี้ยงลูก"
"ไม่รู้ล่ะ จะเอาก็ห้าหมื่นขาดตัว ไอ้เรื่องจะให้เปล่า ๆ น่ะ ไม่มีทาง มันยังใช้งานได้อยู่"
"มึงนี่มันเป็นแม่ประสาอะไรวะ คิดเอาเปรียบลูกขนาดนี้ได้"
"อ้าวแล้วที่แม่ละ แม่ไม่ได้เลี้ยงลูกไว้ใช้เหมือนกันเหรอ พอทำมาหาได้ แม่ก็ทวงแต่ค่ากินอยู่ เล็ก ๆ ก็ใช้งานยังกะอะไร ฉันน่ะขายขนมให้แม่มานานกี่ปี นังลำยงมันจ่ายแม่มากี่ปี"
"อีอัปรีย์ อีลูกเนรคุณ กูน่ะเคยเอาเงินมึงก็จริง แต่กูไม่เคยคิดขายมึงกินนี่หว่า เลี้ยงมึงมาก็ต้องให้มึงทดแทนบุญมั่ง แต่อย่างไอ้วัน พ่อมันจะเอาไปเลี้ยงให้ดี มึงกลับไม่ให้ไปจะเอาไว้ใช้ ทวงค่าเลี้ยงดูอะไรแบบนี้ อีบ้า"
"มีทางได้ มันก็ต้องเอาไว้ก่อนล่ะ"
"มึงมันหลงไพ่ติดเหล้า จนหมดสติแล้วอีลำยอง อีกหน่อยมึงก็หมดความเป็นคน"
ลำยองไม่สะทกสะท้าน
"มันลูกฉันนี่ ฉันออกแรงเบ่งมันออกมาเจ็บจะตาย ฉันก็ต้องใช้มันให้คุ้มสิ"
แลแทบเต้นโกรธจนสั่น ลำยองยิ้มย่องไม่แยแส วันเฉลิมยืนแอบฟังอยู่มุมหนึ่ง
ปั้นกวาดพื้นอยู่มุมหนึ่ง สินตอกตะปูซ่อมเก้าอี้ ยายแลเข้ามา ปั้นยังไม่ทันเห็นเต็มตา
"ซื้ออะไรจ๊ะ"
"เจ้าสันต์อยู่ไหน"
"อีแลมึงมาทำไม จะมาหาเรื่องอะไรกันอีก"
"แม่ปั้น...ใจเย็น ๆ"
สันต์ออกมาจากห้องพอดี
"กูมาคุยธุระกับลูกชายมึง"
"น้าแล ได้เรื่องไหมครับ"
"ข้าไปคุยกับมันให้แล้ว นังลำยองมันจะเอาห้าหมื่น"
สันต์อึ้ง ความหวังดับวูบลงทันที
"ห้าหมื่น...มันเรียกขนาดนี้มันตั้งใจจะไม่ให้มากกว่า" สันต์บอก
"มึงชักค่านายหน้าไปเท่าไหร่ละอีแล" ปั้นถาม
"อีปั้น...บาทเดียวกูก็ไม่ได้คิด"
"ใครเขาจะไปเชื่อมึง บ้านมึงน่ะ เห็นแก่เงิน หิวเงินกันทั้งก๊ก สั่งสอนลูกให้สันดานเสียแต่เล็กแต่น้อย พ่อแม่มันเป็นยังไง ลูกมันก็เป็นยังงั้นแหละ" ปั้นว่า
"มึงนี่มันฟื้นฝอยหาตะเข็บ ครั้งนี้กูเห็นแก่ไอ้วันมันจริง ๆ กูยังด่านังลำยองมันไปกระบุงโกย กูก็เหนื่อยของกูเป็นเหมือนกันนะโว้ย อีปั้น"
สินพยายามห้ามทัพแต่พูดไม่ทันใครซักคน สันต์เครียดจัด พาลโกรธไปถึงลำยอง เดินออกไปทันที
สินพยายามห้ามทัพแต่พูดไม่ทันใครซักคน สันต์เครียดจัด พาลโกรธไปถึงลำยอง เดินออกไปทันที
"ไอ้วันมันต้องเหมือนตกนรกยังงี้ก็เพราะมึงน่ะนะแหละมีส่วน" ปั้นบอก
"มึงอย่ามาพูดพล่อย ๆ นะ อีปั้น"
สงครามน้ำลายท่าทางจะไม่จบง่าย ๆ สินได้แต่ห้ามคนโน้นทีคนนี้ที
ภายในบ้านลำยอง วันเฉลิมป้อนข้าวอ้อยอยู่มุมหนึ่ง ลำยองเทเหล้าเพียว ๆ ลงแก้วนังร่วมวงไพ่ สันต์เดินลุยเข้ามาถึงในบ้าน วันเฉลิมหันมาเห็นพ่อ
"ลำยอง"
หญิงในบ่อนคนหนึ่งร้อง
"ว้าย...ใจหายแว๊บเลย นึกว่าตำรวจ"
"ผัวเก่ากูเอง"
"ฉันมาพูดเรื่องวันเฉลิม"
เสียงเด็กร้องดังมาจากข้างบน
"ก็พูดมาสิ"
"ออกไปคุยกันข้างนอก"
"ไอ้วันมึงขึ้นไปดูไอ้เหน่งมันซิแหกปากร้องอีกแล้ว"
"ครับ"
วันเฉลิมอุ้มอ้อยขึ้นข้างบน ลำยองยังคงสนุกนาน
"ผ่องโว้ย"
"ลำยอง"
"โอ้ย...เสียเวลาทำมาหากิน"
ลำยองทำอิด ๆ ออด ๆ รำคาญ สันต์เดินออกไปหน้าบ้าน เธอขยับตาม หลังจากซดเหล้าให้กำซาบตับไต้ไส้พุง
สันต์ออกมายืนคอยหน้าบ้าน คนขายของดองที่มาเช่าบ้านลำยองกำลังปอกผลไม้อยู่มุมหนึ่งเพื่อเตรียมเอาออกไปขาย เธอเดินเซนิดหน่อยเพราะเมาพร้อมๆกับเรอแตก
"ว่าไงคะคุณผัวเก่า"
"ให้วันเฉลิมอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ยังไง"
"มันก็อยู่ของมันได้ ไม่เห็นจะตายเลย"
"ฉันจะเอามันไปเลี้ยง"
ลำยองพูดเสียงดัง
"กูไม่ให้หรอก"
"ไม่ต้องตะเบ็ง พูดกันดี ๆ ก็ได้"
ลำยองหัวเราะ
"อ๋อ...ดี ๆ ก็ได้ อยากได้มันไปก็เอาเงินค่าเลี้ยงดูมาสิโว้ย...ห้าหมื่น"
"ลำยอง ฉันเป็นข้าราชการไม่ได้ร่ำรวยอะไร จะได้หาเงินห้าหมื่นมาให้ได้ แต่ฉันส่งเสียลูกเรียนไหวเพราะเบิกได้ รักษาพยาบาลก็มีโรงพยาบาลทหารเรือ วันเฉลิมจะได้ร่ำเรียนแล้วก็ไม่ต้องทนอยู่กับบ่อนกับโรงเหล้ายังงี้"
ลำยองทำกวนตีน
"อยู่ยังงี้แล้วมันเป็นยังไง ดีออกมันจะได้ทำมาหากินเป็นเร็ว ๆ เล่นไพ่เป็นน่ะมันคิดเลขเก่งนะ วิ่งไปซื้อของให้เขา เขาก็ให้เงินมัน วัน ๆ ได้ตั้งหลายบาท"
"หยุดทำร้ายลูกซักที"
"อยากได้ก็เอาเงินมาแลกสิ"
"แม่กับพ่อเขาก็ค้าขายไปวัน ๆ ถ้าร่ำรวยเขาจะมาอยู่ที่เช่าวัดยังงี้ทำไม ซื้อบ้านอยู่ไปนานแล้ว"
"ห้าหมื่นบาทขาดตัวโว้ย"
"ลำยอง"
"ไม่มีก็ไม่ต้องมาพูดกัน...เปลืองน้ำลายโว้ย"
ลำยองเดินหัวเราะกลับเข้าบ้านไปทันที สันต์ร้อนผะผ่าวไปทั้งหน้ากับลีลากวนโทสะของลำยอง กำมอแน่น พยายามระงับใจตัวเอง
วันเฉลิมประคองขวดนมให้เหน่งดูดมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งคอยป้อนข้าวอ้อยที่ซนอยู่ไม่สุข เขาได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่คุยกัน เห็นใจพ่อ แต่ก็สงสารแม่
ปั้นกับสินได้แต่นั่งมองสันต์ที่นั่งกลุ้มอยู่ที่เฉลียงท่าน้ำ
"หมดหวังแล้วละแม่ปั้น เราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว" สินบอก
"มันเป็นแม่ชนิดไหนกัน เห็นลูกตัวเองเป็นผักเป็นปลา" ปั้นว่า
"ช่วยกันสวดมนต์เถอะ เวลานี้คงไม่มีอะไรช่วยได้หรอก นอกจากขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยดลใจมันเท่านั้นเอง"
ปั้นมองสันต์ แล้วเดินออกไป สันต์เต็มไปด้วยความทุกข์ กอดแม่
สินเดินจากท่าน้ำเข้ามาเห็นแม่ปั้นถือหีบ เดินลงบันไดมา แล้วดึงพวงกุญแจเหน็บอยู่ชายพกออกมาหาดอกที่ใช้ไขหีบเหล็ก
"ทำอะไรนะแม่ปั้น"
"ฉันสงสารลูก...หมดตัวเป็นหมดตัวสิ คราวนี้ ยังไงมันก็ต้องแลกกันแล้วล่ะ"
ปั้นไขกุญแจหีบเหล็ก
สินเดินออกมาหาสันต์
"สันต์เอ๊ย"
สันตฺหันมามองพ่อ
บริเวณโถงบันได ปั้นวางสร้อยทอง กำไรข้อเท้านากลงบนผ้าที่ปูไว้
"ทองพวกนี้ก็ของไอ้วันมันน่ะแหละ ได้ ๆ มากับพวกของรับขวัญไงล่ะ สามบาทกว่าเห็นจะได้ ทองของแม่อีกสองบาท เงินที่เก็บเข้าออมสินให้ไอ้วันมันมีเท่าไหร่ล่ะ"
"เก็บไว้ให้มานี่ก็ห้าปีแล้วครับ มีอยู่หมื่นกว่า ผมว่าจะเอาเงินส่วนตัวผมแบ่งมาอีกห้าพัน รวม ๆ แล้วน่าจะได้ถึงสองหมื่นครับแม่"
"ทองบาทละหกร้อย หมดนี่ก็คงขายได้ซักสามพัน ได้แค่ครึ่งนึงของที่มันเรียก" สินบอก
"ที่จริงแม่ก็มีเงินอีกราวหมื่นกว่า แต่แม่คงให้เอ็งไม่ได้หรอก ต้องเอาไว้ทำทุน แล้วก็เผื่อเป็นอะไรไป เดี๋ยวไม่มีเงินทำศพ"
สันต์หดหู่
"โธ่...แม่ครับ"
ปั้นรวบห่อผ้าแล้ววางลงตรงหน้าสันต์
"ผมเป็นต้นเหตุของความหายนะครั้งนี้...เพราะใจเร็วด่วนได้ กรรมก็ตกที่เด็กกับพ่อแม่ บาปของผมครั้งนี้ทำบุญอีกเท่าไรปรนนิบัติพ่อแม่อีกเท่าไร ก็ไม่มีวันหมดสิ้นหรอกครับ"
สันต์กราบลงที่ตักแม่ ปั้นลูบหัวลูกชาย
เช้าวันใหม่ ปอเทน้ำปลาลงชามก๋วยเตี๋ยว ลำยงเก็บขวดน้ำปลากลับมาวางใกล้โต๊ะทำก๋วยเตี๋ยว
"อีลำยง...วันนี้น้ำก๋วยเตี๋ยวเอ็งเค็มฉิบเป๋ง"
"ก็พ่อใส่น้ำปลาซะเยอะมันก็เค็มสิ"
ชุดช่วยจัดร้านอยู่ วันเฉลิมแต่งชุดนักเรียนเดินเข้ามา หิ้วกระเป๋านักเรียนมือหนึ่ง อีกมือนึงอุ้มอ้อยเข้าเอวมาถึง
"น้าลำยงครับ ฝากน้องอ้อยด้วยครับ"
ลำยงมารับอ้อยไปอุ้มไว้
"แล้วเอ็งกินข้าวรึยัง กินก๋วยเตี๋ยวไหมล่ะ น้าจะทำให้"
"ไม่เป็นไรครับ ผมไปกินที่กุฏิหลวงตาก็ได้"
วันเฉลิมรีบออกไป
"พี่ชุดผักชียังไม่ได้ซอยเลย พี่ซอยหน่อยสิ"
"วัน ๆ ก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว ยังต้องมาคอยเลี้ยงลูกชาวบ้านเขาอีก" ชุดบอก
ลำยงเอาเถอะน่า อย่าบ่นนักเลย สงสารยังไงมันก็หลานลำยงนะ
"ทำยังงี้มันเท่ากับเราส่งเสริมให้แม่มันไม่รับผิดชอบ นึกจะมีผัวก็มี ออกลูกมาแล้วก็ไม่ยอมเลี้ยงเอง คอยดูเหอะ อีกหน่อยก็เป็นโขยง"
ชดซอยผักชีไปบ่นไป
ปอเดินเข้ามาหยิบขวดน้ำปลา
"น้ำปลาอยู่ไหนวะ นังลำยง" ปอถาม
"พ่อจะเอาไปทำอะไร"
"ก็เอาไปใส่ก๋วยเตี๋ยวกูสิ"
"ใส่แล้ว"
"กูยังไม่ได้ใส่"
"ยังไม่ได้ใส่อะไร ก็เมื่อกี้พ่อเพิ่งบ่นอยู่แหม่บ ๆ ว่าเค็ม....ไปชิมดูก่อน"
ตาปอเกาหัวแกรก ๆ เดินกลับไป
เงินปึกหนึ่ง มีแต่แบงค์ร้อยล้วน ๆ ถูกวางลงตรงหน้าลำยอง เธอคว้าเงินหมับ ใจเต้นโครมคราม
เอานิ้วแตะน้ำลายแล้วรีบนับเงินทันที
"ไม่ต้องนับหรอก...สองหมื่นสี่"
ลำยองชะงักทันที หยุดนับแล้วโยนเงินคืน
"สองหมื่นสี่ไม่ได้หรอก บอกแล้วไงว่าห้าหมื่นบาทขาดตัว"
"ฉันหามาได้แค่นี้จริง ๆ"
"ต่อกันยังกะซื้อของ ลูกตัวเองนะยะ"
"ก็ลูกลำยองเหมือนกันนี่นา เห็นแก่อนาคตของลูกเถอะน่า"
ลำยองมองสันต์ แล้วสลับมองเงินด้วยหางตาเพราะจริง ๆ ลำยองก็อยากได้จนตัวสั่น
"อนาคต...ชะ ไปอยู่กับแม่เลี้ยง มันก็ไปเป็นขี้ข้าให้แม่เลี้ยงจิกหัวใช้ สู้อยู่เป็นขี้ข้า แม่ตัวเองไม่ดีกว่าเรอะ ยังได้ทดแทนบุญคุณ"
"เงินนี่ก็ที่เก็บไว้ให้เจ้าวันน่ะแหละ ทองของแม่เขาก็เอามาสมทบด้วย ลำยองรับไปเถอะ เราอย่าเอาลูกมาเดิมพันกันหน่อยเลย ให้โอกาสเขาเถอะ จะได้เรียนดี ๆ ไม่ต้องมีภาระเลี้ยงน้อง ทำงานบ้าน คิดถึงอนาคตของลูกเถอะนะลำยอง"
"อยู่นี่มันก็ได้เรียน อย่างน้อยก็ปอเจ็ดแหละวะ ไม่ต้องไปให้แม่เลี้ยงโขกสับ"
สันต์ชักเดือดเหมือนกัน
"แล้วอยู่กับเธอไม่ถูกโขกสับรึไง"
"ฉันเป็นแม่มัน เบ่งมันออกมานะ"
สันต์กัดฟันแน่น
"ยังไงไอ้วันมันก็ต้องอยู่ที่นี่กับฉัน อยากให้มันเรียนก็ส่งเสียเงินทองมาให้ดีละกัน"
ลำยองลุกหนีออกไปทันที
อ่านต่อหน้า 2
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 8 (ต่อ)
พอยายแล รู้เรื่องทั้งหมดจากลำยอง
"มึงเป็นอะไรของมึง อีลำยอง เงินตั้งเป็นหมื่น ๆ เสือกไม่เอา"
"ก็ฉันบอกแล้วไงว่าต้องห้าหมื่น"
"มึงมันบ้า...กูรู้ใจจริงมึงก็ริก ๆ อยากจะได้จนตัวสั่น แต่มึงมันทิฐิหนา"
"เงินอีปั้นฉันไม่เอาหรอก อีแก่นี่มันทำอะไรไว้กับฉันบ้าง จนตายฉันก็ไม่มีวันลืม"
"มึงนี่มันเสียแรงได้เป็นแม่คน มึงไม่รู้ถึงหัวจิตหัวใจคนเป็นแม่บ้างเลยรึไง"
ลำยองูดกวนแม่ซะงั้น
"แล้วมันเป็นยังไง"
"กูจะไม่พูดกะมึงแล้ว กูเหนื่อย กูเบื่อ ยิ่งกว่าสีซอให้ควายฟังอีกนะมึง"
ยายแลดินหนีไปสงบสติอารมณ์
"ไอ้ปอ...มึงกินเข้าไปกี่ชามแล้วเนี่ย กูเห็นมึงกินตั้งแต่เช้าแล้ว"
"กูยังไม่ได้กินเลย" ปอบอก
"กินจนล้นขึ้นมาถึงคอหอยแล้ว ยังบอกไม่ได้กิน โอ้ย...กูจะบ้าตาย แต่ละคน"
ลำยงรวบรวมสติพยายามพูดดี ๆ ด้วย
"จะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะพี่ลำยอง ลด ๆ ลงซะเถอะไอ้ทิฐิของพี่น่ะ ไอ้วันมันจะได้ไปอยู่กับพ่อมัน ไม่ต้องเป็นภาระของพี่ด้วย ไม่ดีรึไง"
ลำยองนิ่งคิดตัดสินใจเหมือนกัน
"เงินตั้งสองหมื่นกว่า เอามาทำทุนทำอะไรตั้งเยอะนะพี่"
"มึงไม่ต้องมาแส่เรื่องของกู ไม่ได้ห้าหมื่นกูไม่เอา มันหวังปีหน้าจะมาเจรจาใหม่ กูจะขึ้นให้ถึงแสนเลยคอยดู"
ลำยองเดินลอยหน้าออกไป
"ทำไมไม่บอกมันไปว่า เอาลูกมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงยังงี้ จะคิดเงินแล้ว" ชุดบอก
"ก็ทำไมพี่ไม่บอกมันเองล่ะ
ลำยงเดินหลบไปอย่างอารมณ์เสียเหมือนกัน
เวลาบ่ายจัด สันต์กับสินมาวะนเฉลิมที่กุฏิหลวงตาปิ่น
"วันต้องขยันเรียนหนังสือให้มาก ๆ นะลูก อย่าทิ้งการเรียนเป็นอันขาด"
วันเฉลิมนั่งก้มหน้า ฟังพ่อ
"แม่เขารับปากให้พ่อเป็นคนส่งเสียวันแล้ว วันต้องการใช้อะไร เท่าไหร่ก็ไปบอกปู่เอาไว้ ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ เสื้อผ้า เข้าใจไหมลูก"
"ครับ"
"เดี๋ยวพ่อจะพาออกไปซื้อของ วันอยากได้อะไรก็บอกพ่อ"
"ผมยังไม่ได้ถูกุฏิหลวงตาเลยครับ"
"พ่อเอ็งเขาลางานได้วันเดียว เอ็งไปกับพ่อเอ็งเถอะ กุฏิน่ะไม่ได้ถูซะวัน มันไม่เป็นไรหรอกไปล้างหน้าล้างตาซะให้สดชื่นไป"
"ครับ"
วันเฉลิมคลานผ่านหลวงตาปิ่นไป สันต์หยิบรองเท้าผ้าใบสุดโทรมหัวรองเท้าเปิดอ้าของลูกขึ้นมาดูอย่าง สะเทือนใจ
"เอ็งอย่าห่วงมันนักเลยเจ้าสันต์ ไอ้วันมันเป็นเด็กใฝ่ดี อย่างเดียวที่มันต้องได้เรียนรู้ มานะและอดทนยังไงมันก็ต้องเอาตัวรอดได้"
เวลาเย็นลำยองยืนท้าวสะเอว ปักหลักคอยอยู่ อีกมือถือแก้วเหล้าไว้ วันเฉลิมหิ้วกระเป๋านักเรียน ถุงกระดาษ 2-3 ใบ กลับเข้ามา
"มึงหายหัวไปไหนมาไอ้วัน กลับมาเอาป่านนี้ กูต้องลำบากไปอุ้มนังอ้อยมันกลับมาเอง ข้าวก็ยังไม่ได้หุง ผ้าอ้อมไอ้เหน่งก็ยังไม่ได้ซัก"
"วันไปกับพ่อมาครับ"
"ไปไหน"
"พ่อพาวันไปซื้อของครับ"
ลำยองปาดเข้ากระชากถุงกระดาษจากมือลูกชายจนถุงโชคดีขาด ข้าวของในถุงเกลื่อนพื้น ทั้งเสื้อผ้านักเรียนชุดใหม่ รองเท้าผ้าใบคู่ใหม่กับถุงเท้าดินสอ-ยางลบ
"อวดรวย...ทำเป็นซื้อของใหม่ให้ลูก มันก็แค่เศษเงินของพ่อมึงนั้นแหละไอ้วัน เงินก้อนน่ะมันเอาไปประเคนเลี้ยงเมียใหม่ลูกใหม่มันหมดแล้ว กูรู้ ห้าหมื่นน่ะมันมีปัญญาจ่าย แต่มันทำตุกติก ขี้เหนียวกะกู ไหนมึงซ่อนอะไรเอาไว้อีก"
ลำยองค้นตัววันเฉลิมและเจอเงินสามร้อยในกระเป๋ากางเกง
"นี่อะไร...กูถามว่านี่เงินอะไร"
"พ่อให้วันเอาไว้ซื้อกับข้าวครับ"
"กูจะเอาไว้ต่อทุนกับซื้อเหล้ากิน มีปัญหาไหมไอ้วัน"
วันเฉลิมก้มหน้านิ่งแทนคำตอบ
"พ่อมึงมันรวย...มันมาคราวหน้ามึงก็ขอมันอีกนะ หัดประจบให้มันได้เยอะกว่านี้หน่อย"
ลำยองเหน็บเงินเข้าอกเสื้อเดินออกไปซดเหล้าอย่างอารมณ์ดี วันเฉลิมนั่งลงเก็บข้าวของที่เกลื่อนพื้น
เวลาเย็น ที่เพิงก๋วยเตี๋ยว ยายแลโวยวายใส่แป้ง
"มึงนี่ไม่ทำอะไรซักอย่าง เดินไปเดินมา วันๆ ดีแต่ขอตังค์ ทำมาหากินเป็นอย่างคนอื่นเขาบ้างไหม มึงนี่เสียทีเกิดมาเป็นลูกผู้ชายนะ ไอ้แป้ง"
"ก็ทำไมแม่ไม่เบ่งให้ฉันออกมาเป็นลูกผู้หญิงล่ะ จะได้สบายอย่างพี่ลำยอง"
ยายแลฟาดแป้งด้วยทัพพี จนแป้งต้องลี้ภัยไปทางหลังร้าน
"กวนประสาทกูนัก รู้ยังงี้กูเอาขี้เถ้ายัดปากมึงตั้งแต่เล็กๆก็ดี"
"อีแล...เมื่อไหร่มึงจะเลิกแกล้งกูซะที" ปอถาม
"กูไปแกล้งอะไรมึง ไอ้ปอ"
"ชามเนี่ยเมื่อไหร่จะล้างหมด มือกูเปื่อยแล้วนะ"
"ก็กองนั้นมันล้างแล้วพ่อจะเอาไปล้างอีกทำไม" ชุดบอก
"ยังไม่ได้ล้าง"
"ล้างแล้ว"
"กูบอกยังไม่ได้ล้างก็ยังไม่ได้ล้างสิวะ"
"ปล่อยมันให้มันเอาไปล้างให้พอใจ แฟ๊บกัดมือขาดมึง อย่ามาบ่นนะไอ้ปอ"
สันต์จะไปลงเรือข้ามฟากกลับบ้านพักแวะมาหาลำยง
"ลำยง"
"จะกลับแล้วเหรอพี่สันต์"
สันต์พยักหน้ารับ
"ยังไงพี่ก็ฝากลำยงดูๆเจ้าวันให้ด้วยนะ"
"พี่สันต์ พูดตามตรงแล้วอย่าโกรธกันนะ ทุกวันนี้แค่ทำมาหากินฉันก็เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดแล้วนะพี่ ฉันไม่รับปากพี่หรอกว่า จะช่วยพี่ได้ขนาดไหน"
"พี่เข้าใจ"
"แต่ฉันไม่เข้าใจพี่"
สันต์อึ้งงง ยายแลเข้ามาฟังเงียบๆ สันต์ได้แต่ตาปริบๆ
"พี่กลัวพี่ลำยองมันนักรึไง พี่ยอมมันมันยิ่งได้ใจ รู้รึเปล่า"
"แล้วลำยงจะให้พี่ทำยังไง พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก พี่ทำไม่ได้หรอกนะ พี่สงสารลูก"
"พี่ยืนยันมาอีกทีซิว่า เมียใหม่พี่จะไม่เป็นแม่เลี้ยงใจยักษ์"
"ลำยงจะบอกอะไรพี่"
"ถ้าฉันเป็นพี่น่ะนะ ในเมื่อพี่ลำยองมันไม่ยอมรับเงินยังงี้ ฉันพาไอ้วันมันหนีไปแล้ว ไม่
ปล่อยให้มันต้องมาทุกข์ทรมานอยู่ยังงี้ พี่ลำยองมันจะโวยวายยังไงก็ช่างหัวมันเถอะ มันไม่มีปัญญาตามไปเอาไอ้วันกลับมาหรอก"
ทำไมสันต์ถึงไม่เคยมีความคิดอย่างนี้เลย
ในห้องครัว บ้านลำยอง วันเฉลิมหุงข้าวสลับหันมาดูแลอ้อย
"น้องอ้อยอย่าเพิ่งซนสิ รอก่อน เดี๋ยวพี่รินน้ำข้าวให้กิน"
แป้งโผล่เข้ามาจากทางหลังบ้านท่าทางลับๆล่อๆ
"ไอ้วัน...ไอ้วัน"
"ครับน้าแป้ง"
แป้งเข้ามา
"พ่อเอ็งเขารอเอ็งอยู่ที่ร้านพี่ลำยง"
วันเฉลิมงง
"รอทำไม น้าแป้ง"
"เขาจะพาเอ็งไปอยู่กับเขาวันนี้ ยายเอ็งเขาก็เห็นด้วย เขาว่าขืนเอ็งอยู่ที่นี่ เอ็งไม่มีวันเจริญหรอก"
"แล้วแม่จะ..."
"เดี๋ยวยายเอ็งเขามาจัดการเอง"
"ถ้าแม่รู้"
"ก็อย่าให้รู้สิวะ หนีไง เข้าใจไหมหนีน่ะ"
"ไอ้วัน"
วันเฉลิมหันขวับกลับมา ลำยองอุ้มเหน่งเข้ามาพอดี แป้งหลบไม่ทัน
"หุงข้าวหุงปลาเสร็จรึยังวะ"
"ใกล้แล้วครับ ข้าวจวนสุกแล้ว"
"ชักช้าไม่ทันใจกูเล้ย มึงมัวทำอะไรอยู่วะ อ้าวไอ้แป้ง...มึงมาทำอะไรในนี้"
"ก็...ก็มาช่วยไอ้วันมันหุงข้าวไง"
"มึงหุงข้าวเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ของกล้วยๆ"
"มาทำลับๆล่อๆ มึงจะมาชวนไอ้วันมันไปเถลไถลที่ไหนละสิ"
วันเฉลิมหน้าตื่น เกิดมาไม่เคยโกหกแม่
สันต์คอยให้วันเฉลิมมาหา
"โรงเรียนใกล้บ้านที่โน่นมีหลายโรงถึงฝากเข้ากลางเทอม ก็คงไม่มีปัญหาอะไร"
"ไอ้วันมันเด็กผู้ชาย แทนที่มันจะมีเวลาได้วิ่งเล่นอย่างเด็กคนอื่นเขาบ้าง แม่มันกลับจิกหัวใช้แทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ฉันเห็นด้วยที่สุดที่พี่จะเอามันไปดูแลเอง" ชุดบอก
"ถ้านังลำยองมันเกิดบ้าเลือดขึ้นมา ข้าจะเฉ่งมันเอง ไอสันต์ เอ็งไม่ต้องกลัว"
ปอยื่นหน้าเข้ามา
"พวกเองคุยเรื่องอะไรกันวะ"
"ไอ้วันมันจะไปอยู่กับพ่อมัน ถ้าพี่ลำยองเขามาอาละวาด เราต้องช่วยกันนะพ่อ"
ปอชี้หน้าชุด
"เออๆ...เอ๊ะ ก็นี่ไงพ่อมัน"
"ไอ้ปอ...ไอ้วันน่ะ มันลูนังลำยองกับเจ้าสันต์นี่"
"เรอะ...ข้านึกว่าลูกอีลำยงกับไอ้ชุดซะอีก"
"ไปอยู่ไกลๆ เลยไปไอ้ปอ"
ปอเดินงงออกไปหลังร้าน
"ไอ้แป้งมันจะทำสำเร็จไหมหว่า" แลว่า
"สำเร็จสิ ยังไงไอ้วันมันก็ต้องมา"
สันต์ลุ้นคอยใจจดใจจ่อมองไปทางทิศที่วันเฉลิมจะมา
วันเฉลิมโกยเก็บข้าวของส่วนตัวหลายอย่างยัดใส่ถุงโชคดี รวมทั้งชุดนักเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียน
"เอ็งจะเอาอะไรไปนักหนาวะ ไอ้วันเดี๋ยวก็ผิดสังเกตแม่เอ็งหรอก เอาไปแค่บางอย่างก็พอ เสื้อผ้าน่ะ ไปให้พ่อเองซื้อให้ใหม่ก็ได้"
"แล้วผมจะออกไปยังไง น้าแป้ง"
"เอ็งก็รอจังหวะแม่เอ็งเผลอหน่อยสิ เวลาเขาเล่นไพ่น่ะ เขาไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว"
อ้อยร้องไห้งอแงขึ้นมา
"โธ่...นังนี่ ดันมางอแงเอาตอนนี้อีก"
"นิ่งซะ น้องอ้อยนิ่งซะ"
"เอางี้...ข้าจะหิ้วถุงนี่ออกไปให้เองจะได้ไม่ผิดสังเกต ส่วนนังอ้อยเดี๋ยวเอ็งเอาเชือกผูกขามันไว้กับเสาโน่น มันจะได้ไม่ซน ไม่ตามเอ็ง เอ็งรีบตามออกไปนะโว้ย พ่อเอ็งรออยู่ อย่าลืม"
แป้งหิ้วถุงโชคดีออกไป
แป้งหอบถุงโชคดีลงมาจากข้างบน จะออกไปหน้าบ้านอยู่แล้ว ลำยองเรียก
"ไอ้แป้ง"
แป้งชะงัก ลำยองเดินเข้ามามองอย่างไม่ไว้ใจ
"อะไร"
"มึงหิ้วอะไรลงมา"
"ก็ถุงใส่ของ"
"ของอะไร เอาดูซิ"
"จะดูทำไมวะ เสื้อผ้าเก่าๆจะเอาให้แม่แกทำผ้าขี้ริ้ว"
"กูไม่เชื่อ มึงแอบเข้าไปขโมยของในห้องกูแหงๆเลย"
"ห้องพี่มันมีอะไรให้ขโมยวะ เห็นมีแต่ขยะเน่าๆสุมเต็มห้อง พาผู้ชายที่ไหนเข้าไปปรึกษาหาชีวิต พี่ไม่อายมันรึไงวะ"
"ไอ้แป้งเดี๋ยวเถอะมึง"
ลำยองถลกผ้าถุงจะเตะ แป้งหัวเราะ เบี่ยงประเด็นได้แล้ววิ่งหนีออกไป
แป้งรีบวิ่งมาเพื่อจะไปรายงานความคืบหน้าที่เพิงขายก๋วยเตี๋ยว
"มาแล้ว...ไอ้แป้งมาแล้ว" ลำยงบอก
แป้งหอบถุงโชคดีมาถึง
"เป็นยังไงบ้างแป้ง"
"เดี๋ยวไอ้วันมันจะตามมา ฉันต้องหิ้วของมาให้มันก่อน ขืนมันหิ้วมาเอง พี่ลำยองจับได้แน่ ไอ้นี่มันยิ่งโกหกใครไม่เป็นอยู่"
"ขอบใจมากแป้ง"
สันต์หยิบแบ้งค์สิบบาทออกมายื่นให้แป้ง
"พี่ไม่รู้จะขอบใจแป้งยังไง"
"ไม่เอาหรอก พี่เก็บไว้เหอะ"
"ทุกทีเห็นเงินมึงต้องคว้าหมับนี่หว่า" แลว่า
"แหมแม่ฉันก็ไม่ได้เห็นแก่เงินทุกทีไปหรอกน่า ครั้งนี้ฉันขอทำเพื่อไอ้วันมันซักครั้งนึง แค่ได้เห็นมันไปพ้นพี่ลำยอง มันก็เห็นลางๆแล้วละว่า อนาคตมันต้องดีกว่าอยู่ที่นี่แน่"
สันต์ตบไหล่แป้งขอบใจ
วันเฉลิมค่อยๆลงบันไดมา ใจเต้นโครมคราม พลางกวาดสายตามอง ข้างล่างเงียบสงบไม่มีใคร จนน่าแปลกใจ เขากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ประตู
เสียงลำยองคราง
"โอย อูย...ไอ้วัน"
วันเฉลิมซะงัก หันกลับมา ลำยองนั่งตัวงออยู่ที่พื้นตรงมุมหนึ่
"แม่ครับ"
"มึงจะไปไหนไอ้วัน"
"เปล่าครับ...แม่เป็นอะไร"
"ปวดท้อง ปวดจนเดินไม่ไหวเลยว่ะ มึงไปหาน้าลำยงที ป่านนี้เก็บร้านรึยังก็ไม่รู้ ไปขอยาธาตุมาให้แม่หน่อย"
"ครับ"
"รีบไปรีบมานะโว้ย โอย...อูย"
"ครับ"
วันเฉลิมจะออกไป
"นังอ้อยล่ะ"
"อยู่ในห้องข้างบนครับ"
"เออ ขังมันไว้ก่อน...เผื่อมีน้ำก๋วยเตี๋ยวเหลือ มึงก็ขอน้ามันกลับมาด้วยนะ จะได้เอามากินกับข้าว ไปไปรีบไป...โอย"
วันเฉลิมมองแม่เหมือนจะเป็นการมองครั้งสุดท้าย...เสียงเหน่งร้องขึ้นมา
"มึงไปเหอะ เดี๋ยวแม่ดูไอ้เหน่งมันเอง"
วันเฉลิมตัดใจแล้วก้าวเท้าออกไปทันที
แป้งร้องดีใจที่เห็นวันเฉลิมเดินมาแต่ไกล
"มาแล้ว...มาแล้ว ไอ้วันมันมาโน่นแล้ว"
สันต์ยิ้มออก อย่างดีใจมาก วันเฉลิมรีบเดินเข้ามา
"วัน...ไปกับพ่อนะลูก"
"จะไปไหนกันวะข้าไปด้วยคนสิ"
ยายแลดึงคอเสื้อตาปอให้ถอยออกไปอย่างเอือมระอา
"ไอ้วัน ไปอยู่กับพ่อเอ็ง ตั้งอกตั้งใจเรียนหนังสือ วันข้างหน้าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน ไม่ต้องทนลำบากหาเช้ากินค่ำอย่างยาย อย่างน้าๆเอ็งนะ" แลบอก
"เอ็งไม่ต้องกลัวแม่เอ็งหรอก นี่มันเป็นเดียวที่เอ็งจะพ้นไปจากที่นี่ได้ ถ้าแม่เอ็งมันจะมาอาละวาด น้าจะจัดการมันเอง"
"ได้ทุนซักก้อน แม่เอ็งก็หุบปากแล้ว" ชุดบอก
"ขอบใจมากนะชุด...ลำยง... น้าแลผมลาล่ะครับ ไป...วัน เราต้องข้ามเรือไปหาต่อรถฝั่งโน้นลูก"
"ไปดีนะไอ้วัน" แลบอก
สันต์จะดึงวันเฉลิมออกเดิน แต่ลูกชายกลับขืนตัวเอาไว้
"พ่อครับ...ผมไปไม่ได้หรอกครับ"
ทุกคนอึ้ง
"ถ้าผมไม่อยู่แล้ว ใครจะหุงข้าวทำกับข้าวให้แม่ให้น้องกิน"
สันต์อึ้ง
"ไอ้วัน เอ็งมันแค่แปดเก้าขวบ เอ็งจะเอาภาระอะไรมาแบกไว้กับตัวนักหนา พ่อแม่ต้องเป็นฝ่ายห่วงลูก ไม่ใช่ลูกอย่างเอ็งมาห่วงแม่" ลำยงบอก
"พ่อเอ็งเขาอุตส่าห์รออยู่ ยังไงเอ็งก็ต้องไปกับเขา" แลบอก
"แม่ปวดท้องไม่สบายอยู่ครับยาย"
"ช่างหัวมัน เดี๋ยวมันก็หาย เอ็งคิดถึงวันข้างหน้าของเอ็งบ้างไอ้วัน" แลบอก
วันเฉลิมก้มหน้า น้ำตาร่วงเผาะ
"ขืนเอ็งอยู่ที่นี่ อย่างเก่งเอ็งก็ได้เรียนแค่ปอเจ็ด แล้วก็เป็นได้แค่คนงานรับจ้างเขากินไปวันๆ เหมือนข้านี่ไงไอ้วัน" แป้งบอก
"ผมทิ้งแม่ทิ้งน้องไปไม่ได้หรอกครับ หลวงตาสอนเอาไว้ว่าคุณค่าของคนอยู่ที่ความกตัญญูต่อพ่อแม่ครับ"
ทุกคนอึ้ง พูดไม่ออก
"น้าลำยงมียาธาตุไหมครับ ถ้าน้ำก๋วยเตี๋ยวยังมี ผมขอด้วยครับ"
สันต์เบือนหน้าหนี ปวดใจกับความกตัญญูของลูก แลทรุดลงนั่งหมดแรงลุ้น
ลำยงเหลืออดเหลือทนน้ำตาร่วงด้วยความคับแค้นใจ
"ไอ้เด็กโง่ ไอ้เด็กกตัญญูผิดเวลา..เอ็งหนอเอ็ง ... ยาธาตุเดี๋ยวจะไปดูให้ พี่ชุดตักน้ำก๋วยเตี๋ยวให้มันที" ลำยงบอก
ลำยงกับชุดแยกย้ายกันไปอย่างเซ็งๆ สันต์หมดหวังได้แต่เอื้อมมือไปลูบหัวลูก
วันเฉลิมขัดแย้งในใจอย่างแรง ใจจริงอยากไป แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อแรงความกตัญญู ได้แต่น้ำตาร่วงเผาะๆ
ผู้คนรีบขึ้นโป๊ะ เรือกำลังจะออก สันต์เดินมากับวันเฉลิมที่ถือหม้ออวยใส่น้ำก๋วยเตี๋ยว
"พ่อไปนะลูก...ดูแลตัวเองให้ดี ๆ มีปัญหาอะไรก็ไปหาปู่กับหลวงตานะ พ่อจะพยายามมาหาวันบ่อย ๆ"
"ครับ"
สันต์ยื่นถุงโชคดีให้ลูกชาย วันเฉลิมรับถุงแล้วเดินจากไป สันต์หดหู่ น้ำตาร่วงมองตามลูกชายด้วยความปวดใจ
วันเฉลิมกอดถุงโขคดี หิ้วหม้อก๋วยเตี๋ยว รีบเร่งมุ่งหน้ากลับบ้าน พลางคิดถึงเมื่อครั้งที่ได้อ่านเรื่องราวในมาตุโปสกชาดก
"ข้าแต่มหาราชเจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้เลี้ยงมารดาผู้จักษุอันมืด เมื่อมารดาของข้าพเจ้าเว้นจากข้าพเจ้าแล้ว ก็จักถึงซึ่งความตาย เมื่อข้าพเจ้าพลัดพรากจากมารดาแล้ว ความต้องการด้วยอิสริยยศย่อมไม่มีแก่ข้าพเจ้า อนึ่งมารดาของข้าพเจ้าไม่ได้บริโภคอาหารมาเจ็ดวันเช้าวันนี้แล้ว
เพราะเหตุพระยาช้างกล่าวดังนี้ ท่านทั้งหลายจงปล่อยพญาช้างโดยเร็ว พระยาช้างจงถึงความพร้อมเพรียงด้วยมารดากับญาติทั้งหลายทั้งปวงเถิด"
วันเฉลิมนั่งมองแม่ สบายใจขึ้น อย่างน้อยแม่ก็ได้กินยาธาตุแล้ว
"ได้น้ำก๋วยเตี๋ยวมาไหมวะ"
"ได้มาครับ"
"เออ...มึงก็กินซะ ป้อนนังอ้อยมันด้วย เสียดายว่ะ ลืมบอกให้มึงซื้อเหล้าเข้ามาซักขวด"
"แม่ครับ ผมว่าแม่ปวดท้องก็เพราะกินเหล้าน่ะแหละ แม่เลิกกินเหล้าเถอะครับ"
"มึงกลัวกูตายรึไงไอ้วัน"
วันเฉลิมนิ่ง
"ไม่ได้กินน่ะแหละกูจะตาย ใจสั่น มือสั่นไปหมดแล้ว มึงไม่เห็นรึไง"
ลำยองลุกขึ้นเดินออกไปอย่างทุลักทุเล
เวลากลางคืน ลำยองล้มตัวลงนอนด้วยความเมามาย วันเฉลิมเอาหมอนมารองให้ลำยองหนุน แล้วหยิบผ้าห่มมาคลี่ห่มให้
"กูร้อน"
"เดี๋ยวดึก ๆ หนาวนะครับแม่ เดี๋ยวจะไม่สบาย"
"ป๊ามึงเขาไม่มาบ้างเลยเหรอวะ ไอ้วัน ถ้าเขามามึงต้องทำตัวให้ดี ๆ นะ เขาจะได้ให้เงินเยอะ ๆ พ่อมึงน่ะโคตรจนเลย กระจอกฉิบเป๋ง"
"แม่นอนเถอะครับ ผมจะปิดไฟแล้ว"
วันเฉลิมจะผละออกไป
"ถ้ากูยอมให้มึงไปอยู่กะพ่อมึง ใครจะหาข้าวให้กูกินนะไอ้วัน มึงนี่มันลูกกตัญญูจริง ๆ"
ลำยองค่อย ๆ ผล็อยหลับไป
อ่านต่อหน้า 3
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 8 (ต่อ)
วันต่อมา เด็ก ๆ กลุ่มซ่าเล่นล้อต๊อกกันอยู่ลานวัดในมุมหนึ่ง วันเฉลิมเดินผ่านมา กำลังจะไปกุฏิหลวงตาปิ่น
เด็ก 1 ถาม
"เฮ้ยไอ้วัน เขาว่าเอ็งเข้าไปนอนในคุกกะแม่เอ็งมาเหรอวะ"
เด็ก ๆ หัวเราะเจี๊ยวจ๊าวยั่ววันเฉลิม
เด็ก 1ยั่วต่อ
"เฮ้ยมันทำเป็นไม่ได้ยินวะ"
เด็ก 2 บอก
"ลูกอีลำยองขี้คุก"
เด็ก ๆ ต่างล้อขึ้นพร้อมกัน
"ลูกอีลำยองขี้คุก ๆ ๆ"
วันเฉลิมหยุดกึก เมื่อแก๊งค์เด็กซ่าตามมาล้อรอบตัว วันเฉลิมหมดความอดทน กระโจนเข้าต่อยเด็ก 2 เตะต่อยกันอีลุงตุงนัง เด็กอื่น ๆ เชียร์กันสนุก
วันเฉลิมเพลี่ยงพล้ำ ถูกนั่งคร่อมและกำลังจะถูกหมัดอัดเข้าที่หน้า
"เฮ้ย...พวกมึง"
เด็ก 1บอก
"หลวงตามาโว้ย"
เด็ก ๆ วงแตก วิ่งหนีกันออกไป หลวงตาปิ่นคว้าไม้รีบจ้ำมา
"ลูกเต้าเหล่าใครกันโว้ยพวกมึง"
หลวงตาปิ่นเดินกลับมา วันเฉลิมที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง เสื้อนักเรียนหลุดลุ่ย เจ็บตัวมีแผลถลอกนิดหน่อยที่ข้อศอกกับหัวเข่า
"เจ็บตรงไหนรึเปล่าไอ้วัน"
"ไม่เจ็บหรอกครับหลวงตา"
หลวงตาปิ่นเอาสำลีชุบทิงเจอร์ป้ายข้อศอกให้วันเฉลิมที่สะดุ้งด้วยความแสบ
"เอ็งสู้พวงมันไหวเรอะ มันมีกันเป็นฝูง"
"ผมไม่กลัวหรอกครับหลวงตา"
"ไอ้ที่หลวงตาเคยสอนเอ็งไว้ว่า เจอคนพาลให้หนีห่างออกมาให้ไกล ไม่ได้อยู่ในหัวเอ็งเลยเหรอ"
"ผมพยายามแล้วครับหลวงตา แต่ผมอดทนไม่พอ เขาล้อแม่ผม"
"อืม..."
"ล้อผมยังไงก็ได้ แต่ทำไมเขาต้องล้อไปถึงแม่ผมด้วย"
"เข้าใจละ...พ่อแม่ใครใครก็รัก ไอ้เรื่องระงับความโกรธมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเอ็งทำไม่ได้หรอก ฝึกเข้าไว้ไอ้วัน ฝึกไม่ให้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ซักวันเอ็งจะเข้มแข็งไม่ต้องสะทกสะท้านกับคำนินทาว่าร้ายอะไรทั้งนั้น ปากของคนพูดเรื่องดี ๆ ก็เป็นศรีแก่ตัว แต่ถ้าพูดแต่เรื่องชั่ว ๆ คำพูดของคนมันก็ร้ายกาจกว่าอาวุธของมีคมอะไรทั้งนั้น รู้ยังงี้ แล้วเอ็งจะย่อมให้แค่คำพูดแย่ ๆ พวกนั้นมันมาทำร้ายเอ็งเหรอ"
บริเวณหอฉัน หลวงพี่ยรรยงยิ้มให้วันเฉลิม
"นี่หลวงพี่ยรรยง เอ็งกราบท่านซะ ไอ้วัน" หลวงตาปิ่นแนะนำ
วันเฉลิมกราบหลวงพี่
"นี่เหรอครับ วันเฉลิมที่หลวงลุงเล่าให้ผมฟัง"
"ใช่...ไอ้เจ้านี่แหละท่าน"
หลวงตาปิ่นบอกวันเฉลิมว่า
"หลวงพี่ยรรยงท่านลางานราชการมาบวช ท่านเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วก็เคยไปเรียนต่อเมืองนอกเชียวนะ ไอ้วัน"
วันเฉลิมมองหลวงพี่ด้วยความทึ่ง หลวงพี่ยิ้มให้วันเฉลิมอย่างเมตตา
"เองอยากรู้ อยากถามอะไรก็คุยกับหลวงพี่ท่านเอาละกัน ฝากด้วยนะท่าน"
"ครับหลวงลุง"
หลวงตาปิ่นเดินออกมา
"เราเรียนชั้นอะไรล่ะ วันเฉลิม"
"ประถมสองแล้วครับหลวงพี่"
ลำยองแต่งตัวสวยเพิ่งกลับมาจากข้างนอกเข้ามาที่เพิงขายก๋วยเตี๋ยว
"อ้าว...นี่ไอ้วันมันยังไม่ได้พานังอ้อยไอ้เหน่งกลับบ้านอีกหรอแม่"
"มันยังไม่กลับมาจากโรงเรียนเลย" แลบอก
"ฉันว่ามันมัวไปเล่นกับเพื่อนมันมากกว่าไอ้ลูกคนนี้ มันน่าตีให้เนื้อแตกนัก"
"จะอะไรกับมันนักหนา มันไม่รู้จักเล่นกับเด็กคนอื่นสิวะแปลก ใช้งานมันยังกะทาส ลูกเต้าตัวเองแท้ ๆ ก็เอามาให้คนอื่นเขาเลี้ยง" ลำยองบอก
ลำยองไม่โต้ตอบแต่หยิบเงินแบงค์ร้อยออกมาจากกระเป๋าถือวางแปะโครมลงบนโต๊ะ
"แม่เอาไป...ค่าดูแลนังอ้อยไอ้เหน่ง แล้วบอกอีนี่ให้มันหุบปากบ่นซะที"
"เอ็งไปรวยมาจากไหน" แลถาม
ลำยองตอยอย่างภาคภูมิใจ
"ฉันข้ามไปเล่นฝั่งโน้นมา บ่อนหรูกว่าฝั่งนี้เยอะ วันก่อนฉันริบเงินไอ้วันมันมาได้ มันบอกพ่อมันให้ไว้"
"เอ็งเอาเงินลูกไปเล่นไพ่เนี่ยนะ"
"ก็ทำไมล่ะ ไหน ๆ พ่อมันก็ไม่มีปัญญาหาห้าหมื่นมาให้ฉันแล้ว ฉันก็ต้องคอยตอดเอายังงี้แหละ ที่ให้ลูกล่ะให้ได้ กับฉันมันทำขี้เหนียว"
"พี่หากินกะลูกว่างั้นเหอะ" ลำยงบอก
"ก็งั้นสิ เขาเรียกหัวใสโว้ย ลำยองซะอย่าง วันหลังเล่นได้จะแบ่งมาให้อีก"
"มึงเก็บเงินมึงไปซะ กูไม่เอา" แลบอก
"ตั้งร้อยนึงนะแม่"
"กี่ร้อยกี่พันกูก็ไม่เอา มึงมันสิ้นคิด มึงไม่รู้ตัวรึไงว่า มึงน่ะหมดความเป็นคนลงไปทุกที่แล้ว อีลำยอง"
ลำยองหน้าชาลุกขึ้นทันทีที่ถูกแลด่าอย่างแสบลึก
"ฉันเป็นแม่มัน ฉันจะทำยังไงกับมันก็ได้"
ลำยองเดินออกไปทันที ปอเดินคว้าเงินหมับ
"มึงไม่เอากูเอาเองอีแล...กูจะเอาไปซื้อเป็ดพะโล้ กูเบื่อกินก๋วยเตี๋ยวมึงแล้วอีลำยง ให้กูกินแต่ก๋วยเตี๋ยวทุกวัน หน้ากูจะเป็นก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว"
ปอวิ่งดีใจออกไป
หลวงพี่ยรรยงค์พาวันเฉลิมกลับมาส่งที่กุฏิหลวงตา วันเฉลิมเลี่ยงไปหลังกุฏิเตรียมกวาดถูกุฏิให้หลวงตาปิ่น
"เป็นยังไงบ้างล่ะท่าน"
“หลานหลวงลุงคนนี้ไม่เลวเลยครับ ถ้าได้เรียนสูง ๆ รับรองไปไกล อ่านหนังสือคล่องแล้วนี่ครับ เมื่อกี้ผมให้แกเลือกหยิบหนังสือของผมไปอ่าน ผมไม่แน่ใจหรอกว่า แกอ่านเข้าใจรึเปล่า ลองถามดู...เออแน่ะ อายุแปดขวบเข้าใจถึงขนาดนี้ ยังกะซักสิบสอง”
“มันโตกว่าตัว...หัวมันดี แต่กรรมเก่ามันแยะท่าน ก็อย่างที่เล่าให้ฟังน่ะแหละ ไม่รู้ว่า มันจะได้เรียนซักแค่ไหน ไอ้สิ่งแวดล้อมรอบตัวมีแต่ฉุดรั้งมันเอาไว้”
หลวงตาปิ่นกับหลวงพี่ยรรยงค์หันไปมองวันเฉลิมที่ตั้งอกตั้งใจถูพื้นกุฏิให้หลวงตาอย่างพิถีพิถัน
คนขายของผลไม้ดอง เข็นรถของดองกลับมาจอดทิ้งไว้ ข้าวขายของเกือบหมด ลำยองตั้งวงเหล้ากับพวกเช่าห้องทั้งชายหญิง
“มา... ไอ้ดำ ซักกรึ้บโว้ย วันนี้พี่ลำยองเขาเลี้ยง”
คนขายของดองไม่อิดออดรับแก้วเหล้ามาจากลำยอง วันเฉลิมหิ้วกระเป๋านักเรียน อุ้มอ้อย ส่วนลำยงอุ้มเหน่งกลับเข้ามา
“เออ...ดีนะ ลูกเต้าไม่สนใจ ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก แต่มีปัญญาหาเหล้ามากินได้ทุกวัน”
“กูไปกินบนหัวมึงรึไงอีลำยง เงินก็เงินกู ไม่ได้ไปเอามึงมาซักบาท”
“เออ... ปวดท้องปวดหัวจะเป็นจะตาย ทีหลังก็อย่ามาโอดโอยให้ช่วยก็แล้วกัน”
“ไอ้วัน มึงไปเอากับแกล้มในครัวมาที”
“มีแต่ผักกาดดองครับ”
“เออ...นั่นแหละ ผักกาดดองก็ผักกาดดองสิวะ”
“ทุเรศทุรังลงทุกวัน เคยส่องกระจกดูสารรูปตัวเองบ้างรึเปล่าวะ”
ลำยงขัดใจเดินออกไป วันเฉลิมวางอ้อยลงแล้วแยกไปทางครัว ส่วนลำยองเอ็นจอยอยู่ในวงเหล้า
เวลากลางคืน เสียงเหน่งร้องโหไม่หยุด ส่วนอ้อยคลานเล่นซุกซน วันเฉลิมพยายามเอาขวดนมป้อนเหน่ง แต่ก็ไม่หยุดร้อง
“น้องอ้อยอย่าซนสิ ดึกแล้วนะนอนซะ พี่ไปบอกแม่ก่อนว่า น้องเหน่งไม่สบาย”
วันเฉลิมลุกออกไป
วันเฉลิมเดินเข้ามาหน้าห้องลำยอง เคาะประตูเรียก
“แม่ครับ แม่ครับ น้องเหน่งไม่สบาย ตัวร้อนจี๋เลยครับ แม่ครับ”
วันเฉลิมจะเปิดประตูเข้าไปแต่ประตูก็เปิดออกเสียก่อน ชายขายของดองนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวเดินออกมาจากห้องลำยอง ไม่ได้สนใจวันเฉลิม เดินกลับที่ทางห้องเช่าของตัวเอง
วันเฉลิมมองตามแล้วหันกลับไปมองในห้องแม่ เห็นลำยองนอนแผ่หราหมดฤทธิ์อยู่บนเตียง มีผ้าห่มคลุมปิดถึงอก เขาเปลี่ยนใจ เลิกคิดที่จะปลุกแม่
ผ่านเวลาหลายเดือน 9 เดือนต่อมา วันเฉลิมช่วยยกชามก๋วยเตี๋ยวไปเสิร์ฟลูกค้า ยายแลป้อนข้าวอ้อย ปอตำป่นพริกคั่ว ตำอยู่นั้นแหละเหมือนไม่รู้เบื่อหน่าย ชุดล้างชามขึ้นมาคว่ำตาก ลำยงทำก๋วยเตี๋ยวมือเป็นระวิง ลำดวนหน้าตาทรุดโทรมด้วยอาการป่วย เดินโผเผกลับมาถึงเพิง
“แม่...”
“อ้าว...นังลำดวน หายหัวไปเลยนะเอ็ง บ้านช่องไม่ยอมกลับ แล้วเอ็งไปทำอะไรมาวะ หน้าตาโทรมยังกะผี”
“ฉันไม่สบาย”
ลำยงเข้ามาประคองน้องสาวเพราะท่าทางเหมือนจะยืนไม่อยู่ วันเฉลิมขยับเข้ามาดู
“ข้าว่าเอ็งไปหาหมอดีกว่า ท่าทางเอ็งไม่ไหวแล้วนะ”
“ไม่เอาไม่ไป...ซื้อยามากินเอาก็ได้”
“ไปหาหมอก็หลายตังค์ ซื้อยาร้านไอ้ตี๋ปากซอยเอาก็ได้ เอายาอะไรวะ” แลถาม
ลำดวนน้ำตาร่วงเผาะๆ จะบอกใครได้ยังไงว่ายาแก้โรคซิฟิลิส
“ลำดวน...ลำดวน พี่ชุด เอาเรือออก พามันไปศิริราชเถอะ”
ลำดวนทั้งกลัวและอาย
“ไม่เอา ไม่ไปข้าไม่ไป”
ลำดวนหมดสติล้มตึงลงไปต่อหน้าต่อตา ยายแล ลำยงหวีดร้องตกใจ วันเฉลิมได้พบได้เห็นความทุกข์ ความเจ็บป่วย ความตกต่ำของชีวิตอีกเสี้ยวหนึ่ง
ในเวลาต่อมา ลำยงกลับมาบ้านด้วยความอ่อนเพลีย ตาปอหลับไปแล้ว ลำยงแล้วเล่าอาการป่วยของลำดวนให้แม่ฟัง
“เป็นยังไงบ้างวะ”
“หนักเอาการอยู่แม่ หมอเขาบอกว่า ถ้ามาช้ากว่านี้ เขาก็ไม่รับรอง”
“ไฮ้..ขนาดนั้นเลยเหรอวะ นังลำดวนมันเป็นอะไรกันแน่”
ลำยงอึดอัดใจหันมามองหน้าชุด
“พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ”
ชุดเลี่ยงออกไป ปล่อยให้แม่ลูกเขาคุยกันเองจะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ
“ลำดวนมันติดโรคผู้ชายมาแม่”
“โรคผู้ชาย”
“มันสารภาพฉันมาหมดแล้ว...ที่มันหายหน้าหายตาไปพักใหญ่น่ะ มันไปทำงานอย่างว่า...”
ยายแลช็อก
“คืนนึงมันรับแขกไม่ใช่รายสองราย”
“โธ่เอ๊ย อีลำดวน ทำไมมันไม่รู้จักรักศักดิ์ศรีมันบ้าง”
“ถึงเวลานี้แล้ว ไปตำหนิมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะแม่ ฉันว่าฉันเข้าใจมันนะ ใคร ๆ ก็อยากรวยอยากสบายกันทั้งนั้น ในเมื่อศักดิ์ศรีมันกินเข้าไปไม่ได้แล้วจะให้ทำยังไง ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอมันก็เดินทางผิดได้อย่างนี้แหละ”
ยายแลน้ำตาร่วง ลำยงปลงตกค่อย ๆ ลุกออกไป
วันใหม่ เวลากลางวัน ที่กุฎิหลสวงตาปิ่น สันต์ดูสมุดพกของวันเฉลิมอย่างภูมิใจ
“เก่งมากลูก เทอมที่แล้วได้ที่หนึ่งเทอมนี้ก็ได้ที่หนึ่งอีก พ่อภูมิใจในตัวลูกนะ”
วันเฉลิมรับสมุดพกคืนไป
“คุ้มค่ากับที่อุตส่าห์ขยันตั้งใจไหมล่ะ ไอ้วัน”
“ครับหลวงตา”
“ได้ที่หนึ่งสองเทอมติดกันก็อย่าเหลิงคิดว่าตัวเองเหนือกว่าเก่งกว่าคนอื่นละกัน เอ็งไม่ได้แข่งกับใครแต่เอ็งแข่งกับตัวเอง”
“ครับหลวงตา”
“วันอยากได้รางวัลเป็นอะไรลูก พ่อจะซื้อให้”
วันเฉลิมนิ่ง มองหน้าพ่อ
“ของเล่นไขลานหรือว่าลูกบอลดี”
“ถ้าผมขอได้ ผมขอนมผงสำหรับทารกให้น้องอ้อย น้องเหน่งได้ไหมครับ”
สันต์กับหลวงตาปิ่นมองหน้ากัน จนแล้วจนรอด เด็กคนนี้ก็ทำเพื่อคนอื่นอยู่ดีไม่เคยโกยอะไรเข้าตัวเองเลย
เวลาเย็น ภายในบ้าน ลำยองเอกเขนกกินมะยมดองอย่างสบายใจ วันเฉลิมจูงอ้อย ยายแลอุ้มเหน่งกลับมาถึงบ้าน คนขายผลไม้ดองสาดน้ำล้างรถเข็นอยู่มุมหนึ่ง
“อยู่เฉย ๆ แทนที่เอ็งจะไปอุ้มนังอ้อย ไอ้เหน่งมันกลับมา ทำไมต้องให้ข้าต้องลำบากด้วยนะ”
“เดี๋ยวไอ้วันมันก็พากลับมาเองแหละ ใครเขาไปบังคับแม่ล่ะ...ไอ้วันหุ้งข้าวด้วยเอ็ง”
“ครับ”
“พรุ่งนี้เอ็งไม่ต้องเอานังอ้อยไอ้เหน่งไปฝากให้ข้าเลี้ยงแล้วนะ ข้าเหนื่อยข้า เอ็งอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ดูมันเอาเองละกัน”
“แม่อย่ามาทำใจดำกะฉันหน่อยเลย”
“มึงว่ากูใจดำเรอะ”
“ช่วยเลี้ยงหลานแค่สองสามคนมันจะเหนื่อยอะไรนักหนา”
“ไม่เหนื่อยมึงก็เลี้ยงเองสิโว้ย”
“ฉันไม่ค่อยสบาย”
“ดัดจริตเป็นอะไรอีกล่ะ”
ลำยองพูดเสียงเรียบปกติ ไม่สะทกสะท้าน
“ฉันท้อง”
แลอึ้งไปเลย เหมือนได้ยินไม่ถนัด
“มึงอย่ามาโกหกกูนะ...มึงไปท้องกะใครมาอีก อีลำยอง”
ลำยองปลายตาไปทางคนขายของดองที่ยังง่วนล้างรถเข็นอยู่
“กูอยากจะบ้าตาย”
ยายแลเข่าอ่อน
ข่าวลำยองท้องแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ที่เรือนแพ ปั้นพูดกับสิน
“คนเช่าห้องบ้านมันอีกแล้วเรอะ ทำมาหากินอะไรล่ะ ตาสิน”
“ขายฝรั่งดอง”
ปั้นอึ้ง...ปลงตก หมดความรู้สึกจะเหยียบย่ำซ้ำเติม
“มันก็คงชวนกันตั้งวงเหล้า เมาได้ที่ก็เลยชวนกันทำอย่างอื่น สติตัวเดียวแท้ ๆ นะตาสิน”
“ความยับยั้งชั่งใจไม่มีศักดิ์ก็ไม่ต้องไปพูดถึง...นึกอยากจะนอนกับใครเมื่อไรก็นอน มันยังเป็นคนอยู่หรือแปล่าก็ไม่รู้”
“ตะก่อนมันรังเกียจยังกะอะไรดี อาชีพพ่อมันเคยทำเนี่ย” ปั้นพูดแล้วถอนใจ
“ออกมาเป็นโขยง ปีละคน ปีละคน สุดท้ายก็ไม่พ้นไอ้วันมันต้องเลี้ยงให้ เวรกรรมอะไรของมันก็ไม่รู้นะแม่ปั้น”
ยายแลปลงกับลำยองเรื่องที่ปล่อยให้ท้อง
“รู้ยังงี้ ตอนมันคลอดไอ้เหน่งให้หมอเขาตอนมันซะเลยก็คงสิ้นเรื่อง”
“มัวแต่รู้ยังงี้ รู้ยังงี้ มันก็ไม่มีประโยชน์หรอกแม่” ลำยงบอก
“หลวงพ่อวัดไหนมีน้ำมนต์ดี ๆ บ้างวะ กูจะไปขอมาอาบล้างซวย ล้างเวรกรรม”
“หลวงพ่อวัดไหนก็ช่วยไม่ได้หรอกแม่” ชุดบอก
“กูจะตัดหางปล่อยวัด เลิกสนใจอีลำยองมันแล้ว มันจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่างหัวมัน”
“แม่ช่างหัวมันกับพี่ลำยองได้ แต่ไอ้ตัวเล็กตัวน้อยที่เรียงแถวกันออกมานั่นล่ะ”
“เวรกรรมของกูแท้ ๆ”
“เวรกรรมมันไม่ได้เกิดขึ้นเองหรอกนะแม่ มันมาจากที่เราทำกันทั้งนั้น”
“ถ้ามันไม่ติดเหล้าซะอย่างเดียว มันก็คงไม่เป็นยังงี้” ชุดบอก
แลนิ่งอึ้งไปอึดใจ
“กูเองใช่ไหม กูเป็นคนสอนให้มันกินเหล้ายาดอง มันถึงได้กลายเป็นอีขี้เมาอย่างนี้”
“อย่าโทษตัวเองเลยแม่ ยังไงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ลูกมันออกมาค่อยว่ากัน”
ยายแลนิ่งซึม
“ใครจะออกลูกวะอีแล” ปอถาม
“พี่ลำยองพ่อ” ชุดบอก
ปอหันหน้ามาหาลำยง
“อ้าวอีลำยอง”
“ฉันลำยงพ่อ....ลำยง ไม่ใช่ลำยอง โอ้ย เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว”
“อีแล...มึงกะกูมีลูกกันกี่คนวะ”
ยายแลเซ็งจนหมดอารมณ์จะโต้ตอบกับตาปอ
หลายวันผ่านไป ในเวลากลางคืน เสียงลำยองทะเลาะกับผัวคนขายฝรั่งดองดังลั่น
“บอกว่าไม่มีก็ไม่สิวะ”
“มึงออกไปขายของแต่เช้า ไม่มีได้ยังไงวะ”
บรรดาคนเช่าห้องโผล่ออกมาดูกันหน้าสลอน
“กูเอาไปลงทุนซื้อของหมดแล้ว”
“ไอ้โกหก”
“จะเอาอะไรกะกูนักหนา”
“ค่าห้องมึงก็ไม่เคยจ่าย ค่าเลี้ยงดูกูมึงยังไม่คิดจะให้กูบ้างเลยรึไง”
“แล้วใครใช้ให้มึงมาเอากูเป็นผัวมึงละ”
“ไอ้บ้า”
ลำยองพุ่งเข้าตบตีผัวใหม่ด้วยความโกรธ ไม่มีใครคิดจะห้ามเพราะผัวเมียกันตบตีกันสนุกจะตาย
ในเวลาเดียวกัน อ้อยแหกปากร้องเพราะถูกขัดใจ วันเฉลิมที่ป้อนนมเหน่งอยู่ ใจคอไม่ดีเพราะได้ยินเสียงทะเลาะกันข้างนอกดังรุนแรงขึ้นทุกที
“น้องอ้อยหยุดร้องก่อนได้ไหม”
วันเฉลิมห่วงแม่มากกว่า รีบผละออกไปทันที
ลำยองทุบตีผัวใหม่ไม่ยั้ง
“ไอ้คนเห็นแก่ตัว ไอ้สารเลว”
ผัวใหม่เจ็บตัวชักบ้าเลือดตบลำยองคืนจนซหัวทิ่ม วันเฉลิมวิ่งเข้ามา
“แม่...อย่าทำแม่ผม”
วันเฉลิมเข้าขวางเพราะผัวใหม่ปราดเข้ามาจะเตะซ้ำลำยอง วันเฉลิมโดนลูกหลงเข้าเต็มๆ ลำยองยังคว้าไม้กวาดมาฟาดตอบโต้
ปานโผล่พรวดเข้ามา
“เฮ้ย...มึงทำพี่กูเหรอ”
ปานเข้าชกต่อยกับผัวใหม่ลำยอง...ไม่รู้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ วันเฉลิมดึงรั้งลำยองที่บ้าคลั่งเอาไว้
กลางดึกต่อเนื่องมา วันเฉลิมลากลำยองเข้ามาในห้อง เธอกอดขวดเหล้าไว้แน่น
“แม่ขึ้นไปนอนบนเตียงเถอะครับ”
“ไอ้คนเฮงซวย มึงอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีกนะมึง”
วันเฉลิมไปหยิบหมอน ผ้าห่ม ลงมาวางให้ลำยองนอนกับพื้น เธอยังเมาอาละวาด พูดจาวนเวียนซ้ำซาก วันเฉลิมได้แต่มองสารแม่แล้วค่อย ๆ ออกไปจากห้อง
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 8 (ต่อ)
เช้าวันใหม่ วันเฉลิมในชุดนักเรียน กำลังคนหม้อข้าวต้มที่กำลังเดือด จากนั้น ก็ตักข้าวต้มใส่ชาม ยังไม่ทันจะยกหม้อข้าวลงจากเตา เสียงกรีดร้องโวยวายของลำยองก็ดังคับบ้านมาจากข้างบน
วันเฉลิมตกใจรีบออกไป
ลำยองกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งในห้อง คนเช่าห้องที่เพิ่งแหกขี้ตาตื่น บ้างนุ่งกระโจมอก บ้างนุ่งผ้าข้าวม้า โผล่หน้าออกดูกันสลอน วันเฉลิมรีบวิ่งเข้ามา
“กูจะฆ่ามัน...กูจะฆ่ามัน”
“แม่ครับ”
“มันเอาของกูไปหมดแล้ว โทรภาพกูมันก็ขโมยไปแล้ว”
ทีวีที่เคยตั้งในห้องหายไป สภาพห้องถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย
“ทองของกู อุตส่าห์เก็บเอาไว้ให้มึงมันก็เอาไปด้วย ไอ้สารเลว กูจะฆ่ามัน”
ลำยองคลั่งอาละวาด วันเฉลิมรัดแม่เอาไว้
“ช่างมันเถอะครับแม่ ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรหรอก”
ลำยองร้องไห้ทุรนทุรายเหมือนจะขาดใจตายซะให้ได้ วันเฉลิมน้ำตาไหลด้วยความสงสารกอดแม่เอาไว้ หวังจะให้แม่สงบลงให้ได้
สินพูดกับหลานชายที่กุฏิหลวงตาปิ่น
"นี่มันยิ่งกว่ารู้หน้า ไม่รู้ใจซะอีก ทั้งที่รู้ทั้งหน้า ทั้งใจ มันก็ยังต้องเป็นยังงี้"
"เขาขโมยทองของแม่ไปด้วยครับ ผมสงสารแม่ครับ"
หลวงตาปิ่นบอก
"สมบัตินอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ไอ้วัน แต่แม่เอ็งนี่สิ เจ็บมากี่ครั้งกี่หน ก็ไม่เคยหลาบจำ บทเรียนน่ะเขามีไว้ให้จดจำ ไม่ใช่มีไว้ให้ทำซ้ำรอยเดิม"
"เจอขนาดนี้ ผมว่าลำยองมันคงได้คิดบ้างละหลวงพี่" สินบอก
วันเฉลิมก้มหน้านิ่ง
"เอ็งเสียดายทองแทนแม่เอ็งเรอะไอ้วัน" หลวงตาปิ่นถาม
"เปล่าครับหลวงตา..ต่อให้แม่ได้ทองกลับคืนมา แต่แม่ยังไม่เลิกกินเหล้า เล่นการพนันผมก็ไม่เอาหรอกครับ"
หลวงตาปิ่นสบตากับสิน
ลำยองในสภาพบอบช้ำจากการโดนผัวขายฝรั่งดองตบตีมาหาแม่ที่บ้าน
"เอ็งจะไปหวังพึ่งอะไรกับไอ้ปาน ไอ้แป้งมัน"
"มันต้องตามไปกระทืบไอ้คนขายฝรั่งดองให้ฉัน เอาทองฉันคืนมา"
"อีลำยอง...ผัวมึงคนนี้ชื่ออะไรมึงยังไม่รู้เลย แล้วมึงจะมีปัญญาไปหาตัวมันเจอได้ยังไง"
ลำยองกระฟัดกระเฟียดขัดใจมือสั่นเทาเพราะอยากเหล้า
"ทำใจซะเหรอมึง...ลูกตั้งเป็นโขยง อีกไม่นานไอ้ที่อยู่ในท้องมันก็จะตามออกมาอีกคน มึงไม่สงสารลูกมึงมั่งรึไง วันๆจะเอาอะไรกิน หัดทำมาหากินอย่างคนอื่นเขาบ้างสิโว้ย"
ยายแลวางชามข้าวต้มข้างตัวลำดวนที่นอนซมอยู่
"เอ็งตักกินเองได้ไหมนังลำดวน ข้าต้องไปช่วยนังลำยงมันแล้ว กินข้าวแล้วก็กินยาซะ เย็นๆค่อยเช็ดตัว"
ลำดวนแรงไม่มีพยักหน้า
"เลิกเหล้าเลิกเข้าบ่อนได้ ทำไมเงินมันจะไม่เหลือเก็บ เกิดเป็นคนมันต้องคิดให้ได้ มันต้องรู้จักมีน้ำอดน้ำทน มึงเอาแต่ทำตามใจตัวเองยังงี้ มีแต่บรรลัย ลูกมึงโตขึ้นมาถ้ามันถามว่าใครเป็นพ่อ มึงจะบอกมันยังไงมึงคิดบ้างไหม"
แลหันมาอีกทีก็ไม่เห็นลำยองแล้ว ลุกออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
"เวร...ให้กูพูดคนเดียวอยู่ได้"
สันต์นั่งฟังเรื่องที่เกิดขึ้นจากปากพ่อแม่ แล้วพูดไม่ออก
"เจอขนาดนี้แล้ว ถ้ามันยังคิดไม่ได้อีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว"
"คนเราน่ะแม่ปั้นเรื่องแย่ๆของตัวเองมักจะมองไม่ค่อยเห็นหรอก ส่องกระจกทุกวี่ทุกวันก็เปล่าประโยชน์ เพราะมันเห็นแต่เนื้อหนังมังสาข้างนอก" สินบอก
"โชคยังดีที่มันไปซะได้ ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไรกะเราแล้ว"
"ไม่หรอกครับแม่...ยังไงมันก็ยังเป็นบาปที่ติดค้างอยู่ในใจผม เพราะเจ้าวันต้องกลายเป็นเหมือนคนรับกรรมทั้งหมดเอาไว้อยู่ดี"
ที่กุฎิหลวงตาปิ่น วันเฉลิมในชุดนักเรียนนั่งก้มหน้า ไม่ยอมรับเงินจากสันต์
"พ่อเองเขาให้ เอ็งก็รับไว้เถอะไอ้วัน"
วันเฉลิมไม่อยากทำให้ใครลำบาก
"ของเก่ายังมีเหลืออยู่เลยครับ"
"เหลือก็เก็บใส่ออมสินไว้สิลูก อันนี้พ่อให้ไว้ใหม่...วันจะแบ่งไปซื้อนม ซื้อขนมให้น้อง พ่อก็ไม่ว่าหรอก"
ได้ยินดังนั้น วันเฉลิมถึงได้เปลี่ยนใจไหว้และรับเงินมาจากสันต์
"อาเทวีเขาไม่ค่อยสบาย ช่วงนี้พ่อคงไม่ได้มาหาวันบ่อยๆ ขาดเหลือยังไงวันก็ไปหาปู่กับย่านะลูก พ่อจะฝากตังค์ไว้ที่ปู่กับย่า เข้าใจไหมลูก"
"ครับ"
วันเฉลิมค่อยๆลุกออกไปทางด้านหลังกุฎิ
หลวงตาปิ่นบอกสันต์
"ไอ้นี่มันปากหนัก เอ็งเชื่อข้าสิ...ต่อให้ลำบากยังไง มันก็ไม่ไปหาปู่กับย่ามันหรอก"
อ้อยงอแงร้องไห้แข่งกับเหน่งอยู่มุมหนึ่
ลำยองนอนซมก่ายหน้าผากเหมือนคนป่วยจิตตกปลงกับชีวิตอยู่อีกมุม ไม่สนใจลูก วันเฉลิมกลับเข้ามา
"น้องอ้อย...ร้องไห้ทำไม"
วันเฉลิมเข้ามาดูอ้อยกับเหน่ง ถึงได้เห็นลำยอง
ลำยองน้ำเสียงเหมือนห่วงใย
"กลับมาแล้วเรอะไอ้วัน"
"ครับ"
"นังอ้อยมันคงหิว เอ็งไปหุงข้าว หุงปลาซะไป เดี๋ยวจะได้กินด้วยกัน"
"แม่ไม่สบายเหรอครับ"
"ปวดหัว ไม่มีแรงเลยว่ะ" ลำยองพูดแล้วหลับตาลง
วันเฉลิมหยิบเงินที่สันต์ให้ออกมายื่นให้ลำยอง
"แม่ครับ"
"อือ..."
ลำยองค่อยๆ ลืมตาปรือๆขึ้นอย่างอ่อนแรง แต่พอเห็นแบ้งค์สีแดงๆแววตาก็โชติช่วงชัชวาลขึ้นทันที ลุกพรวดขึ้นนั่ง คว้าเงินไปจากวันเฉลิม
"เอ็งไปเอามาจากไหน"
"พ่อให้มาครับ...พ่อบอกว่าเอาไว้ซื้อกับข้าว ซื้อขนมให้น้องครับ"
"จริงๆแล้วพ่อเอ็งมันรวยเห็นไหม"
"พ่อบอกว่า พ่อก็เป็นแค่ข้าราชการต้องประหยัดเอาครับ"
ลำยองเบะปาก
"ขาดเหลือยังไงพ่อบอกว่าให้ไปหาปู่กับย่าครับ"
วันเฉลิมเสื้อกล้าม กางเกงนักเรียน คนหม้อข้าวที่กำลังเดือด อ้อย,เหน่ง อยู่กลางห้องครัว
ลำยองแต่งตัวใหม่ แต่งหน้าจนมีสีสันสดชื่น ไม่เหลือคราบความป่วยซึมอย่างเมื่อครู่
"แม่จะไปไหนครับ"
"ไปซื้อกับข้าว ซื้อยาด้วย"
"งั้นวันรอแม่กลับมากินข้าวด้วยกันนะครับ"
ลำยองไม่ใส่ใจเดินออกไป
ลำยองก้าวเข้ามาในบ่อนกลางเมืองด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า หญิงเจ้าของบ่อนปราดเข้ามาหา ด้วยอัธยาศัยอันดีเลิศ
"ลูกลำยอง...แหมหายหน้าหายตาไปซะหลายวันเลยนะคะลูก"
"มัวไปตระเวนเก็บดอกเบี้ยเงินกู้อยู่น่ะสิค่ะคุณแม่ เบื๊อเบื่อไอ้พวกเหนียวหนี้เนี่ย"
"งั้นวันนี้ก็กระเป๋าหนักสิคะลูก"
"ก็หนักเอาเรื่องอยู่ละค่ะคุณแม่"
ลำยองระเหิดระหงเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงของวงการ
กลางดึก วันเฉลิมหลับอยู่ข้างสำรับข้าวแล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา จานข้าวที่ตักไว้รอแม่ยังวางอยู่อย่างเดิม วันเฉลิมลุกขึ้นเดินไปแง้มประตูห้องแม่ดู ลำยองยังไปกลับมา และคืนนี้จะกลับมารึเปล่าก็ไม่รู้
วันเฉลิมเดินมาเก็บสำรับ หม้อหุงข้าว
เช้าวันใหม่ ลำยองเดินกลับมาถึงเพิงก๋วยเตี๋ยวด้วยท่าทางเพลียโทรม ทุกคนกำลังเตรียมมาเปิดร้าน ฟืนในเตาต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวทำให้ควันโขมง ลำยองหาวนอนยาวเหยียด เสียงดังจนยายแลหันมา
"อ้าว มึงจะไปไหนแต่เช้า"
"เพิ่งกลับมาไม่ใช่จะไป ดวงไม่ดีเล้ย"
"นี่มึงไปกินไปนอนในบ่อนมาอีกแล้วเรอะ กูเห็นมึงจ๋อยอยู่ได้แค่วันเดียว"
"เกิดเป็นคนมันต้องสู้สิแม่ ก็แม่สอนฉันเอง"
"สู้(เหี้ย)อะไรของมึง"
"ก็สู้อย่างอดทนไง ซักวันโชคต้องเข้าข้างบ้างล่ะ"
"มึงมันทั้งโง่ทั้งบ้า กูไม่คุยกับมึงแล้ว"
ตาปอมาจากหลังร้าน
"อีแล...มึงด่าลูกค้าได้ยังไงวะ นั่งก่อนจ้ะคุณนาย จะสั่งอะไรดีจ๊ะ หน้าตาคุ้นๆนะเนี่ย บ้านคุณนายอยู่ไหนจ๊ะ"
ลำยงบอก
"พ่อไปเลือกถั่วงอกหลังร้านไป"
"มึงดูแลลูกค้าเขาดีๆนะอีลำยอง แต่งเนื้อแต่งตัวยังงี้เขาเป็นผู้ลากมากดีชัดๆ แม่มึงน่ะปากไม่ดีเสียลูกค้าหมด"
ชุดบอกย้ำ
"พ่อไปเลือกถั่วงอกไป"
ชุดพาพ่อตาออกไปหลังร้าน
"ไหนว่าเพิ่งถูกปล้นทองหมดเนื้อหมดตัวแล้วพี่เอาเงินที่ไหนไปเข้าบ่อน" ลำยงถาม
"เรื่องของกู"
"อย่าบอกนะว่าเงินพี่สันต์เขาให้ไอ้วันมันนะ"
"เงินไอ้วันมันก็เหมือนเงินกูน่ะแหละ"
"พี่ทำได้ยังไงเนี่ย เป็นแม่ประสาอะไร"
"ไอ้วันมันเอามาให้กูเอง"
"มันให้ไว้เป็นค่ากับข้าว ค่าขนมนังอ้อยไอ้เหน่งมัน"
"กูเอาไปต่อทุน จะได้ซื้อทองมาคืนมัน"
"เหม็นน้ำลายเปล่าๆอย่ามาอ้างเลย คนอย่างพี่ทำอะไรเพื่อคนอื่นเป็นด้วยเหรอ"
ลำยองจ้องเขม็งแต่ก็สะบัดหน้าเดินออกไป
วันเฉลิมถูบ้านตรงบันไดอยู่พอดี ลำยองกลับเข้ามา เขี่ยรองเท้าออกจากตีน
"แม่กลับมาแล้วเหรอครับ"
"เออ...เห็นกะตายังเสือกถามอีก"
ลำยองจะขึ้นข้างบน
“แม่หิวข้าวไหมครับ”
ลำยองชะงักเหมือนซึ้งใจในคำถามของลูก
“ไอ้วัน”
“ครับ”
“เงินที่พ่อมึงให้ไว้ มึงเม้มไว้เท่าไร”
“ผมให้แม่ไปหมดแล้วครับ”
“มึงอย่ามาโกหกกูนะ”
วันเฉลิมสบตาลำยองนิ่ง
“แล้วเขาให้ไว้ที่ปู่ย่ามึงเท่าไหร่”
“ผมไม่รู้ครับ”
“มึงไปเอาเงินที่ปู่ย่ามึงมาซักสามร้อย”
“พ่อบอกว่าลำบากจริงๆค่อยไปเอาที่ปู่กับย่าครับ”
“ไม่มีจะกินยังงี้ ยังไม่ลำบากพออีกรึไงวะ”
วันเฉลิมได้แต่ตาปริบๆ
“มึงไปหาปู่กับย่ามึง ไปบอกว่ามึงต้องซื้อหนังสือเรียน จ่ายค่าเทอม ค่า(ห่าเหว)อะไรก็ได้”
วันเฉลิมพูดไม่ออก
“ถ้ามึงไม่ได้เงิน มึงไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าเลยไอ้วัน”
ลำยองเดินขึ้นข้างบนไป
สินตอกไม้ซ่อมเฉลียงท่าน้ำอยู่ ปั้นกวาดพื้นอยู่อีกมุม วันเฉลิมเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงมุมบ้าน รวบรวมความกล้าอยู่อึดใจจึงก้าวเข้ามา
“ซื้ออะไรจ๊ะ อ้าว...ไอ้วัน”
สินเงยหน้าขึ้นมอง
“ปู่นึกว่าเอ็งอยู่กับหลวงตาปิ่น”
“ผมมาช่วยงานปู่กับย่าน่ะครับ”
ปั้นกับสินมองหน้ากันอย่างงงๆ
“ช่วยงานอะไร ไม่มีอะไรให้เอ็งช่วยหรอก” ปั้นบอก
“กวาดบ้าน ถูบ้าน อะไรก็ได้ครับ ผมทำได้หมดครับ”
“แล้วใครเลี้ยงน้องให้เอ็งละเนี่ย”
“แม่ครับ แม่อยู่บ้าน”
“มันจะไม่ตีเอ็งตายเรอะ ถ้ามันรู้ว่าเอ็งมานี่” ปั้นถาม
“ไม่หรอกครับ...ผมไปเอาผ้ามาถูพื้นให้ย่านะครับ”
วันเฉลิมเดินออกไปหาผ้าขี้ริ้ว ปั้นกับสิน สบตากันเห็นความไม่ชอบมาพากล
ลำยองผ้านุ่งอาบน้ำแล้วใส่ชุดสบาย อ้อยเล่นข้าวจนเกลื่อนพื้น เหน่งร้องไห้งอแง ลำยองนอนหลับไม่ได้พลิกตัวไปมาด้วยความรำคาญ
“ไอ้เหน่ง มึงหุบปากซะทีได้ไหม นมก็กินแล้ว มึงจะร้องหาสวรรค์วิมานอะไร”
อ้อยเขวี้ยงข้าวสุกใส่ลำยอง พร้อมเสียงหัวเราะสนุกสนาน
“อีอ้อย...เดี๋ยวเถอะมึง”
ลำยองได้รับทุกขเวทนาเหลือทน
ปั้นขายของให้ลูกค้าเสร็จ ลูกค้ากลับออกไป วันเฉลิมถูพื้นอย่างขะมักเขม้น
“ตาสิน แกคิดว่ายังไง”
“มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาหรอกแม่ปั้น”
“อีลำยองมันคิดอะไรของมันอยู่”
“มันจะคิดอะไร๊ ก็มีอยู่เรื่องเดียวน่ะแหละ”
วันเฉลิมบิดผ้าขี้ริ้วที่ซักแล้ว ตากพาดไว้กับเฉลียงท่าน้ำแล้วเดินกลับมาหาปู่กับย่าที่นั่งดูอยู่
“ย่ามีอะไรให้ผมทำอีกไหมครับ”
“ไม่มีหรอก”
“ผมจะปีนขึ้นไปกวาดหลังคากับรางน้ำฝนให้นะครับปู่”
“เอ็งไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นไอ้วันมานั่งนี่...คุยกับปู่หน่อยซิ”
วันเฉลิมขยับมานั่งลง
“แม่เอ็งบังคับให้เอ็งมาขอเงินย่าใช่ไหม”
วันเฉลิมอ้อมแอ้ม
“ครับ”
“แล้วเอ็งทำไมไม่ขอตรง ๆ”
“ผมไม่กล้าครับ หลวงตาสอนว่าปเงินทองเป็นของหายาก อยากได้เงินก็ต้องทำงานแลกทั้งนั้น ไม่มีใครอยู่เฉย ๆ แล้วจะได้เงินหรอกครับ”
“เอ็งก็เลยมารับจ้างปู่กับย่า”
“ครับ”
“เอ็งบอกปู่ว่าเอ็งจะเอาเงินไปซื้อหนังสือ ปู่ก็ให้เอ็งแล้วไอ้วัน”
“การโกหกเป็นสิ่งไม่ดีครับ ผมไม่กล้าโกหกปู่ครับ”
ปั้นกับสินอึ้ง พูดไม่ออก
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
ลำยองปราดเข้ามาทันทีเมื่อวันเฉลิมกลับบ้านมา
“หายหัวไปครึ่งวันค่อนวันเลยนะมึง แค่ให้ไปหลอกเอาตังค์ปู่ย่าแค่เนี้ย ได้มารึเปล่า ไอ้วัน”
วันเฉลิมอยากจะเตือนสติแม่
“แม่ครับ”
“กูนึกแล้วไม่มีผิดว่ามึงต้องไม่ได้มาซักบาท...ทำไมมึงไม่รู้จักบีบน้ำตาให้ปู่ย่ามึงสงสาร มึงไปบอกมันยังไงไหนว่าให้กูฟังซิ”
“แม่ครับ วันโกหกผู้ใหญ่ไม่ได้หรอกครับ”
ลำยองฟาดเต็มแรง
“โกหกไม่เป็นมึงก็อดตายละกัน”
“แล้วทำไมเราไม่พูดความจริงล่ะครับ”
“มันเกลียดกู มันคอยแต่จะสมน้ำหน้ากู”
“ปู่กับย่าไม่ได้คิดยังงั้นหรอกครับ”
ลำยองฟาดซ้ำ
“ไปเจอมันแป๊บเดียว มันหลอกใช้มึงมาด่ากู ไอ้วันมึงมันลูกอกตัญญู กูเลี้ยงมึงมา มึงไม่เคยนึกถึงหัวอกกูเลย”
ลำยองฟาดลูกจนหนำใจแล้ว ผลักวันเฉลิมจนเซล้มลง
“มึงไสหัวไป อย่ามาให้กูเห็นหน้า”
วันเฉลิมน้ำตาร่วงเผาะ ลำยองเครียดมือสั่นเพราะอยากเหล้า วันเฉลิมคลานเข้ามาหาลำยอง หยิบเงินออกมายื่นให้ลำยอง
“แม่ครับ”
“มึงนี่มันวอน”
ลำยองเงื้อง่าจะตีลูก แต่ชะงักเพราะเห็นแบงก์สีแดง เธอรีบดึงไปจากมือวันเฉลิมทันที
“สมน้ำหน้ามึง ปากหนักก็เจ็บตัวฟรี”
วันเฉลิมเช็ดน้ำตา
“มึงจำไว้นะไอ้วัน คนสมัยนี้มันต้องโกหก ตอแหลกันทั้งนั้น มึงถึงจะเจริญ ซื่อบื้อยังมึง...อดตาย”
ลำยองกระพือผ้าถุงมาเหน็บใหม่ แล้วเดินออกไปเปลี่ยนชุด
ที่เรือนแพ สินบอก
“อย่าคิดมากเลยนะแม่ปั้น ไอ้ร้อยนึงนั่นน่ะ คิดซะว่าให้เป็นรางวัลไอ้วันมันที่มันไม่โกหก ไอ้หลานเราคนนี้หัวใจมันสะอาดใสแท้ ๆ แม่ปั้น”
“ได้ไปครึ่งนึง มันก็คงได้ใจ เดี๋ยวก็ส่งลูกมาขออีก”
“เอาเถอะแม่ปั้น ไอ้วันมันมาขอเราก็ยังดีกว่ามันไปขอคนอื่น ไม่ใช่เหรอ”
“นึกถึงหน้าแม่มัน ฉันก็อดเจ็บใจไม่ได้ เงินให้ไปมันจะเป็นค่ากับข้าวซักกี่บาท อีลำยองมันไม่พ้นเอาไปละลายในบ่อนหมด ไม่รู้บุญเชื่อบาป”
“บุญสิแม่ปั้น ถ้าแม่ปั้นคิดแค่ว่าเราให้หลาน คิดแค่นั้นพอ...ให้หลาน”
บ้านยายแล เวลากลางคืน ขาตาปอโผล่ปลิ้นออกมานอกมุ้ง ยุงกัด จึงเกาขา แล้วลุกขึ้นมุดมุ้งออกมา ถลกขากางเกงจะฉี่ตรงนั้น
“เฮ้ย...ขโมย ๆ ๆ”
แล ลำยง ชุด ลุกพรวดพราดแตกตื่นกันออกมา ไฟสว่างพรึบ ลำดวนหิ้วกระเป๋ายืนหน้าตื่นอยู่ตรงประตู
“โธ่...ไอ้ปอ ไอ้บ้า ตกใจหมดเลย ขโมยที่ไหนของมึง แหกตาดูซะ ปัดโธ่ กูกำลังหลับสบาย ๆ” แลว่า
“ลำดวน เอ็งจะไปไหน” ลำยงถาม
ลำดวนร้องไห้โฮ้ออกมา
“เอ็งเป็นอะไรของเอ็งนังลำดวน”
“ฉันอยากตาย”
“เอ็งพูดไรยังงั้นวะ ใคร ๆ มันก็เจ็บป่วยกันได้ทั้งนั้นแหละ เอ็งก็ดีขึ้นเยอะแล้ว อีกไม่นานก็หาย” ลำยงปลอบ
“แต่ฉันอาย ใคร ๆ มันรู้กันหมดแล้ว ว่าฉันไปทำอะไรมา ถึงได้เป็นยังงี้ ฉันทนสู้หน้าใครต่อใครไม่ไหวแล้ว ปล่อยฉันไปตามทางฉันเถอะ พี่กับแม่จะได้ไม่ต้องอายใครเป็นขี้ปากใคร”
“กูไม่ปล่อยให้มึงไปหรอก อีลำดวน...ใครมันจะว่ายังไงมึงก็ลูกกู” แลน้ำตาร่วง
“แม่”
ลำดวนยิ่งปล่อยโฮ
“เกิดมามีใครไม่เคยผิดไม่เคยพลาดบ้างวะลำดวน...พี่กับแม่ไม่อาย แล้วเอ็งจะต้องกลัวอะไร เอ็งยอมรับความจริงแล้วตั้งใจให้แน่ ๆ ว่าเอ็งจะไม่ผิดพลาดซ้ำอีกก็พอแล้ว”
ชุดบอก
“อยู่นี่แหละลำดวนช่วยกันทำมาหากินไม่ต้องร่ำรวยถึงเป็นเศรษฐี เราก็มีความสุขกันได้ เพราะเราอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีไง”
ลำดวนพยักหน้าไปเช็ดน้ำตาไป ลำยงลูบหลังลำดวน
“อีแล...อีลำดวนมันเป็นอะไรวะ” ปอถาม
“มึงไม่ต้องสนใจหรอก ไปนอนซะ” แลว่า
ตาปอมุดมุ้งกลับเข้าไปนอนท มือแลเปะปะไปโดนเยี่ยว แปลกใจ ยกมือขึ้นมาดม
“ไอ้ปอ...มึง”
จบตอนที่ 8
อ่านต่อตอนที่ 9 เวลา 17.00น.