ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 3
ยามดึก ยายแลซดเหล้ายาดองของลำยองดื่มด่ำกับรสชาติเต็มที่ ลำยองกลับเข้ามาพอดี ยายแลตกใจ รีบเอาผ้าปิดโหลยาดองทันที
"กูไม่ได้กิน..กูไม่ได้กิน กูแค่มาดูว่ามันเหลือแค่ไหน"
ลำยองยิ้มอารมณ์ดี
"กินไปเหอะแม่ เอาออกมากินด้วยกันก็ได้"
"เอ็งว่าอะไรนะ"
"วันนี้เราต้องฉลอง"
"เอ็งถูกหวยเรอะ แหมได้เลขเด็ดมาก็ไม่ยอมบอกกันมั่งเลย"
"ยิ่งกว่าถูกหวยอีกแม่...คุณกวงเขาบอกว่า เขาจะซื้อบ้านให้ฉัน"
"ห้า...จริงเหรอวะ ลำยอง"
"จริงสิแม่ ฉันจะโกหกแม่ทำไม"
ยายแลดีใจสุดๆกอดลูกไม่เป็นได้แต่ลูบหัว ลูบหาง ลำยอง
"เราจะสบายกันแล้วนะแม่นะ"
"เอ็งนี่มันเป็นนางฟ้านางสวรรค์มาเกิดแท้ๆ ลำยองเอ๊ย ได้ดิบได้ดีเป็นคุณนายแล้วก็อย่าลืมแม่ลืมน้องนะลูก"
ลำยองตัวเบาเหมือนได้อยู่บนสวรรค์จริงๆ
เย็นวันใหม่ ลำยงหันหน้าหันหลังสาละวนเก็บร้านอยู่ แป้งดอดเข้ามาเปิดกระป๋องสังกะสีที่เก็บเงิน ล้วงขโมยเงิน ลำยงหันมาเห็นพอดี
"ไอ้แป้ง...ไอ้ฉิบหาย"
แป้งพรวดหนีออกไป กระป๋องล้ม เงินหกเรี่ยราด แป้งได้เศษเงินติดมือไปนิดหน่อย
"ทำมาหากินไม่เคยคิดจะช่วยเลย จ้องแต่จะขโมย"
"เป็นพี่ก็ต้องหาเลี้ยงน้องสิวะ" แป้งตะโกนตอบมา
ลำยงหาของจะเขวี้ยงใส่ แป้งรีบวิ่งหนีออกไป ลำยงหัวเสีย หันกลับมาเก็บเงินที่หกเรี่ยราด
สันต์เพิ่งกลับบ้านสุดสัปดาห์เดินเข้ามาพอดี
"วันนี้ขายดีนี่ลำยง ขนมหมดแต่วัน"
"ขายดีมันก็เท่านั้นแหละพี่สันต์ ไอ้พวกมาขอกินขอใช้มันเยอะ....พี่ก็เห็น ทำไปก็เหนื่อยเปล่า"
"ลำยองเขาก็มีงานทำแล้วนี่ น่าจะพอช่วยแบ่งเบากันได้มั้ง"
"โอย...จะเอานิยายอะไรกับเขา ไม่เห็นจะมาช่วยเจือจุนซักแดง ตอนนี้เขายิ่งใช้เงินเป็นเบี้ย เพราะเตรียมตัวเป็นคุณนายเจ้าของโรงงาน เงินที่พี่ให้ไว้เลี้ยงไอ้วัน ฉันว่าไปหมดที่ร้านเสริมสวยมากกว่า ไม่ถึงไอ้วันมันหรอก"
วันเฉลิมนั่งตาแป๋ว ฟังนิทานชาดกที่หลวงตาปิ่นกำลังอ่าน "มาตุโปสกชาดก"อยู่
"ในอดีตกาล... เมื่อพระเจ้าพรหมทัต เสวยพระราชสมบัติในกรุงพาราณสี ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์เกิดเป็นช้างเผือก อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ ท่านเป็นพญาช้างปกครองบริวารแปดหมื่นเชือก"
สันต์ขึ้นบันไดกุฎิมากราบหลวงตาปิ่น
"อ้าว…เจ้าสันต์"
"นมัสการครับหลวงลุง…ไอ้วันมาหาพ่อมา"
วันเฉลิมคลานเข้ามาหาสันต์
"โยเยกวนหลวงตารึเปล่าลูก"
"มันเลี้ยงง่าย ไม่กวนหรอก เหมือนมันจะรู้ประสาว่า แม่ไปทาง พ่อไปทาง…ป้อนอะไรก็กิน ถึงเวลานอนก็นอน แต่นิทานนี่ไม่ได้เลย…ขอฟังทั้งวัน"
"นิทานอะไรครับหลวงตา"
"ชาดก...พระเจ้าห้าร้อยชาติ"
"ฟังรู้เรื่องเหรอลูก"
"มันคงรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างน่ะแหละ แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้น้ามันอุ้มไปปุเลง ๆ เล่นอะไรไม่เข้าท่าหลังวัดโน่น"
"ลำบากหลวงลุงแท้ๆ"
"โตขึ้นมันจะเป็นยังไง ก็อยู่ที่ขัดเกลามันตั้งแต่ยังเล็กนี่แหละ"
กวงนั่งโอบลำยองแนบชิดอยู่ในภัตตาคารจีน
" พอหาบ้านได้แล้ว ลำยองก็ไม่ต้องไปทำงานโรงงานหรอก อยู่บ้านแต่งตัวสวยๆ ไว้รอผมให้ผมชื่นใจ เป็นเพื่อนเที่ยวเพื่อนกิน แล้วก็เพื่อนนอนก็พอ"
"แหม… คุณกวงคิดจะให้ลำยองเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นเหรอค่ะ"
"เพื่อนนอนน่ะไม่ใช่แค่เพื่อนนะ…นอนด้วยกันก็ต้องมีลูกด้วยกัน ก็เรียกว่าเมียน่ะแหล่ะ"
ลำยองยิ้มเอียงอายไปมาน่าเอ็นดู
"เราจะมีลูกชายด้วยกันนะ…ลำยอง คนจีนชอบลูกชาย ยิ่งมีหลาย ๆ คนยิ่งดี เตี่ยผมอยากได้หลานชาย"
"เราจะแต่งงานกัน มีกินเลี้ยงใหญ่โตใช่ไหมค่ะ"
กวงไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ แค่หัวเราะหึ ๆ เฉย ๆ ลำยองยังวาดฝัน
"ลำยองจะเชิญคนทั้งซอยมากินเลี้ยงโต๊ะจีนนะคะ"
"ลำยองไม่เข้าใจประเพณีจีน ประเพณีจีนน่ะ เขาไม่เชิญฝ่ายผู้หญิงหรอก นอกจากญาติสนิท เขาให้ขนมหมั้นไปแจกเพื่อน ๆ แจกญาติๆ เท่านั้นเอง"
"ยังงี้แล้ว ลำยองจะอวดเพื่อน ๆ ได้ยังไงล่ะค่ะ"
"ก็อวดทองที่ผมซื้อให้ก็ได้ แหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ"
"เข็มขัดด้วยค่ะ ลำยองอยากได้เข็มขัดนากเส้นใหญ่ ๆ"
"ไม่มีปัญหา"
"คุณกวงใจดีจังเลย ลำยองรักคุณกวงที่สุดเลยค่ะ"
ลำยองหอมแก้มกวง
รถกวงเล่นเข้ามาจอดที่ท้ายซอย เวลากลางคืน
"พรุ่งนี้คุณกวงมารับลำยองไปดูดนตรีที่สอทอรอ หน่อยสิค่ะ ลำยองอยากดูวงพยงค์ มุกดา"
" พรุ่งนี้ผมต้องไปดูโรงงานที่กำลังสร้างที่พระประแดง"
" ว้า…ไม่ไปไม่ได้เหรอค่ะ"
"ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเตี่ยผมดุเอา"
ลำยองกระเง้ากระงอด
"เอาไว้วันหลังผมจะพาลำยองไป"
"จริงๆ นะค่ะ คุณกวงต้องไม่หลอกให้ลำยองคอยเก้อนะคะ"
"จริง ๆ ลำยองน่ารักออกอย่างนี้ ผมจะหลอกเข้าไปได้ยังไง"
"งั้นลำยองจะคอยนะคะ"
ลำยองจะลงจากรถ กวงดึงตัวลำยองมาหอมแก้ม เธอทำเป็นสะทก สะเทิ้นแต่พองามแล้วลงจากรถไป เธอเหลียวหน้า เหลียวหลัง ทำเป็นอาลัยกวง แต่แล้วก็ชะงัก สันต์อุ้มวันเฉลิมยืนอยู่มุมหนึ่งไม่ไกลนักเธอหายใจไม่ทั่วท้อง กลัวว่า กวงจะรู้เห็นความจริง วันเฉลิมเห็นแม่ก็จะโผเข้าหาให้อุ้ม เธอเดินผ่านผัวกับลูกอย่างคนไม่รู้จัก กวงถอยรถออกไปแล้ว
ลำยองเดินกลับมาถึงหน้าบ้าน สันต์อุ้มวันเฉลิมตามมาห่าง ๆ
"จะทำอะไรก็นึกถึงลูกให้มากๆ"
สันต์เตือนสติ ลำยองหันกลับมา
"ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันซะหน่อย"
"วันเฉลิมไม่ใช่ลูกเธอคนเดียว ลูกพี่ด้วยเหมือนกัน ความลับมันไม่มีในโลกนี้หรอกนะลำยอง ซักวันแฟนใหม่เธอเขาก็ต้องรู้"
"พี่คิดจะมาขู่กันเหรอ"
"ไม่ได้ขู่...แต่ไปคิดดูดีๆๆ คืนลูกมาให้พี่ก็จบ เธอจะไปมีความสุขกับแฟนใหม่เธอยังไง ก็เชิญ"
ยายแลออกมาพอดี
"คุยกะใครวะลำยอง…อ้อ"
วันเฉลิมเห็นยายแลก็จะโผไปหา
"แม่…ไปเอาไอ้วันมาซิ"
แลเข้าไปอุ้มวันเฉลิมมาจากสันต์
"เลิกรากันไปแล้ว ยังจะมารังควานอยู่ได้"
"พ่อไปนะวัน"
สันต์เดินออกไป
"มันมาง้อเอ็งเหรอวะ"
"ง้อกะผีอะไรล่ะแม่ มันอุ้มไอ้วันไปดักฉันอยู่ฝั่งโน้น คุณกวงเขาเกือบเห็น ดีนะ ที่เขาไม่สงสัยเอา"
"ถ้ามันเกิดเดินเข้าไปบอกคุณกวงขึ้นมาล่ะ"
"มันไม่กล้า หรอกแม่ ขี้ขลาดยังกะอะไรดี ถึงมันบอก คุณกวงเขาก็ไม่มีทางเชื่อมันหรอก ดีไม่ดีเขาจะต่อยหน้าเอา คุณกวงเขาเล่นกล้ามน่ะแม่ แขนเขางี้เป็นมัด ๆ เชียวล่ะ"
แลตื่นเต้นหวือหวากับทุกข่าวของกวง
ในเวลาเดียวกัน ปั้นกำลังทำบัญชีรายรับรายจ่าย เขียนรายการของที่ต้องซื้อเข้าร้าน
"เดือนนี้ผมไม่เหลือเงิน ให้พ่อกับแม่เลยนะครับ" สันต์บอก
"ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอามาให้แม่หรอก ลำพังเอ็งก็ต้องประหยัดอยู่แล้ว ไหนยังจะต้องส่งเสียลูกเมียอีก"
"ผมให้แต่ลูกเท่านั้นครับแม่ ลำยองผมไม่ได้ให้"
"ถึงให้มันก็เขวี้ยงทิ้งเปล่า ๆ เงินน้อยเงินนิดมันไม่เห็นค่าหรอก แฟนใหม่มันให้มากกว่าเอ็งเยอะ"
"กว่าผมจะได้กลับบ้านอีกที ก็คงเดือนหน้าเลย เพราะต้องย้ายไปอยู่ป้อมพระจุลแล้ว"
"ดีแล้วลูก ตั้งอกตั้งใจเรียนก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก"
"ผมฝากเจ้าวันด้วยนะครับพ่อ"
"มันก็หลานพ่อ ไม่ทิ้งไม่ขว้างมันอยู่แล้ว ถึงสิทธิ์เลี้ยงดูลูกจะเป็นของแม่ แต่มันก็ไม่แน่ ถ้าความแตก…ผัวใหม่มันอาจจะอยากได้แต่แม่ ไม่อยากได้ลูกก็ได้"
"ถ้าเป็นยังงั้นได้ก็ดีครับพ่อ เขาจะได้คืนเจ้าวันมันมาให้เราอย่างเต็มใจ"
เช้าวันใหม่ ปั้นหิ้วปืนโตและตะกร้าลงจากศาลา ปะปนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ยายแลอุ้มวันเฉลิมจะเอามาฝากที่กุฎิหลวงตาปิ่น พอยายแลเห็นปั้นก็หาเรื่องคุยโวกับยายชู ชาวบ้านละแวกนั้นทันที
"ยัยชู...ถามอะไรหน่อยสิยะ แถวนี้มีใครเขาจะขายที่ ขายบ้านบ้างไหมยะ"
"ใครเขาหาซื้อละ ยัยแล"
"จะใคร…ก็ลำยองลูกสาวฉันน่ะสิยะ ลูกเขยฉันเขาจะซื้อให้เป็นเรือนหอ"
"ตกลงจะตบแต่งกันแน่แล้วเหรอยะ"
"แน่สิยะ เขาทั้งรักทั้งหลงลำยองมันยังกะอะไรดี นี่….เอาบ้านที่ปลูกแล้วก็ได้นะ ปลูกใหม่มันนานกว่าจะเสร็จ"
"ลำยองนี่มันวาสนาดีนะ"
"ก็แหงล่ะ พ่อปู่ท่านถึงได้บอกไงว่า มันเป็นนางฟ้ามาเกิด พ่อแม่ พี่น้องจะได้พลอยสบายไปด้วย ไม่ต้องมาทนอยู่เช่าที่วัดอีกแล้ว บ้านน่ะ เขาจะโอนให้เป็นชื่อลำยองมันด้วยนา"
ปั้นหมั่นไส้จนทนฟังต่อไม่ไหวเดินหนีออกไป
"ขืนทนเป็นเมียไอ้ทหารเรือจนๆ มีหวังอดตาย เป็นคุณนาย มันก็งั้นๆแหละวะ สู้เป็นเถ้าแก่เนี้ยโรงงานไม่ได้ เงินทองเป็นถุงเป็นถังไว๊ย"
แลหัวเราะรื่นอย่างจงใจกรอกหูปั้นให้เจ็บใจเล่น
ในเวลาต่อมา ปั้นนำเรื่องที่ได้ยินจากปากยายแลมาเล่าให้สินกับสันต์ฟัง
"มันเที่ยวอวดเขาไปเจ็ดคุ้งน้ำว่า ลูกสาวมันหาผัวใหม่ได้ดีกว่าผัวเก่า รวยกว่า โก้กว่า ใจป้ำกว่า ฟังแล้วมันน่าตบนัก"
"อย่าไปสนเลย แม่ปั้นเอ๊ย…อีประเภทนี้นะ ยังไงมันก็ต่อเติมเสริมแต่งจนเกินจริงอยู่แล้วล่ะ"
"ฉันก็ว่าจะไม่ใส่ใจหรอกนะ แต่ได้ยิน แล้วมันก็อดโมโหไม่ได้ สันต์เอ๊ย เอ็งตั้งอกตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานนะลูก วันข้างหน้าจะได้เป็นนายพัน นายพลกะเขา มันจะได้หุบปากซะที อีแล"
"ผมมาจากชั้นประทวน ยังไงก็ไม่ทัน คนที่เขาเริ่มต้นเป็นนายเรือเลยหรอกครับแม่"
"แต่นายพันน่ะได้แน่ใช่ไหม" ปั้นถาม
" เขาเรียกนายนาวา แม่ปั้น" สินบอก
"เออ…น่ะแหละ ฉันก็เรียกไม่ถูกหรอก"
"พ่อเป็นช่างไม้ แม่ขายผัก อย่างดีที่สุดที่พ่อกับแม่จะให้ลูกได้ก็คือ การศึกษาน่ะแหละสันต์เอ๊ย วาสนา โชคลาภมันมาได้มันก็ไปของมันได้ แต่การยืนบนลำแข้งตัวเองได้ด้วยความสามารถของเรา มันเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจกว่าอะไรทั้งนั้น"
ตาปอกลับเข้าบ้านมา
"หิวข้าวโว๊ย มีอะไรให้กินมั่งวะ อีแล"
ปาน แป้งจดจ้องคุมเชิงกันอยู่ ตรงกลางคือ เป็ดพะโล้ครึ่งตัว
"เฮ้ย…เป็ดพะโล้ นี่กูฝันไปรึเปล่าวะ"
"ของจริงเลยละพ่อ" ปานบอก
"ใครซื้อมาวะ แม่เอ็งเรอะ"
"พี่ลำยอง"
"ลำยองเอ๊ย เอ็งนี่มันนางฟ้านางสวรรค์แท้ ๆ มีกตัญญูรู้คุณพ่อ ขอให้เอ็งเจริญ ๆ ยิ่ง ๆขึ้นไปเถิ้ด
ปอเอื้อมมือไปหยิบชิ้นเป็ดพะโล้ ยังไม่ทันจะคีบขึ้นมาได้ ก็ถูกยายแลตีมือจนชิ้นเป็ดพะโล้กระเด็น
"ไอ้ปอ…ไอ้บ้า ไอ้คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ของถวายเจ้าที่ มึงจะเอาไปกินได้ยังไง" แลว่า
"ก็กูหิว"
"เดี๋ยวเจ้าที่ก็มาหักคอมึงหรอก"
"กูจะไปรู้ได้ยังไง นึกว่าวันนี้จะได้ลาภปาก คนจะอดตายอยู่แล้ว ของดี ๆ ถวายเจ้าหมด"
"พ่ออย่าบ่นนักเลย ที่ฉันได้เจอเทพบุตรตัวจริงอย่างคุณกวงเนี่ย ก็เพราะฉันไหว้เจ้าที่เจ้าทางด้วยของดี ๆ ไม่เคยขาด อีกหน่อยพอฉันได้แต่งงานกับเขาแล้ว ฉันจะซื้อเป็ดพะโล้ให้พ่อกินทุกวันเลยก็ได้" ลำยองบอก
"พวกมึงน่ะ ชอบหลอกกู"
"เดี๋ยวธูปหมดดอกค่อยแบ่งกันกินไป ลำยองไปอธิษฐานเข้าลูก"
ยายแลยกชามของถวายเจ้าที่ไปตั้งตรงเสาบ้าน ปานกับแป้งตามติด ลำยองยกธูปขึ้นประนม อธิษฐาน งึมงำ ลำดวนอุ้มวันเฉลิมเข้ามาบอก
"แม่…พี่ลำยอง มีคนมาหาหน้าบ้าน"
"ใครวะ ลำยองมันกำลังไหว้เจ้าที่อยู่ ไม่เห็นรึไง มึงนี่ตัวขัดลาภ"
"เขาบอกว่าเขามาส่งข่าว เรื่องบ้านที่กำลังหาซื้ออยู่"
ลำยองลืมตาขึ้นฉับพลัน
ชาวบ้านมาแจ้งข่าวเรื่องบ้านว่า
"อยู่ในซอยตัดใหม่ โน่นไง แม่แลเดินจากนี่สิบนาทีก็ถึง"
"มันบ้านใครเขาล่ะ" ลำยองถาม
"บ้านท่านขุนไง แกปลูกไว้สองปีแล้วจะให้เป็นเรือนหอลูกสาวแก แต่ลูกเขยแกไปนอกเลยยังไม่ได้ตกแต่ง ปลูกทิ้งค้าง ๆ เอาไว้ยังงั้น แกเลยจะขาย"
" บ้านท่านขุน….งั้นก็หลังเบ้อเริ่มเลยสิวะ" แลว่า
"ก็ใหญ่แหละ ไม้สักทั้งหลังเชียวนะ แม่แล"
"ลำยองเอ๊ย โชควาสนาเอ็งดีแท้ๆ มีบุญขนาดจะได้อยู่บ้านไม้สักเชียวนะลูก"
ลำยองยิ้มภาคภูมิใจ
"ฉันเพิ่งอธิษฐานขอเจ้าที่อยู่หยก ๆ นี่เองแม่"
"ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ท่านคงชอบกินเป็ดพะโล้นะ" แลบอก
"จะไปดูบ้าน เดี๋ยวนี้ก็ได้นะ แม่แล"
"ไปสิ…ไป…ไป"
ลำยอง ยายแล ขมีขมันเดินออกไปกับชาวบ้าน ลำดวนอุ้มวันเฉลิมตามออกไปด้วย ปอละล้าละลัง แต่นึกถึงเป็ดพะโล้ในบ้านมากกว่า
ปอรีบกลับเข้าบ้านมาอย่างมีความหวัง ธูปจุดบูชาเจ้าที่ยังมอดไม่ถึงครึ่งก้าน แต่ปานกับแป้งแย่งกันแทะเป็ดพะโล้อย่างตายอดตายอยาก จนเหลือแต่กระดูก
"เฮ้ย…เป็ดพะโล้กู"
สองพี่น้องแย่งกันฉกเป็ดชิ้นสุดท้าย คาสายตาพ่อแล้วชิ่งหนีทันที ตาปอน้ำตาแทบร่วง
"ตูดเป็ดมันยังไม่คิดจะเหลือไว้ให้กูเลย"
วันใหม่ เวลากลางวัน บ้านไม้ทรงปั้นหยามีสไตล์ผู้ดี ภายในมีเครื่องเรือนบ้างไม่ถึงกับโล่ง กวงเดินเข้าดูบ้านกับลำยอง
"บ้านดีนี่ลำยอง ยังใหม่อยู่เลย"
"เจ้าของเขายังไม่เคยเข้ามาอยู่เลยค่ะ"
"ตู้ โต๊ะ เตียง มีให้พร้อมเลยด้วยเหรอ"
"เขาว่าทีแรกจะใช้เป็นเรือนหอค่ะ แต่คนเป็นผัวเขาย้ายไปทำงานเมืองนอก ก็เลยบอกขายดีกว่า…คุณกวงคิดว่ายังไงคะ"
"แล้วลำยองล่ะ คิดว่ายังไง"
"ลำยองชอบ"
"ชอบ งั้นก็ซื้อ"
"มันแพงนะคะ คุณกวง"
"ไม่แพงหรอก ถ้าลำยองชอบ แล้วก็อยากให้มันเป็นเรือนหอของเรา"
"คุณกวง"
"มะรืนนี้ไปโอนเป็นชื่อลำยองได้เลย เรื่องเงินทอง ผมจัดการเอง"
"ลำยองรักคุณกวงที่สุดเลย"
ลำยองกอดกวงแน่นด้วยความดีใจ
ปานอุ้มวันเฉลิม ปุเลง ๆ มาถึงกุฎิหลวงตาปิ่น
"หลวงลุง….ฝากไอ้วันมันด้วยนะ"
"เออ…กุฎิข้า มันกลายเป็นที่รับเลี้ยงเด็กไปแล้วนี่หว่า"
"อีกไม่กี่วัน พี่ลำยองเขาก็เอามันไปเลี้ยงเองแล้วละมั้ง ผัวใหม่เขาจะซื้อบ้านให้แล้วนี่" ปานว่า
"อ้าวแล้ว ผัวใหม่เขาจะไม่รู้เรอะว่ามีลูกติด" สินถาม
"พี่ลำยองเขาว่า โอนบ้านเป็นชื่อเขาแล้ว ค่อยบอก ยังไงก็ให้ได้บ้านมาก่อน"
"เออ…เจริญละ" หลวงตาปิ่นว่า
"เอ็งก็จะพลอยสบายไปด้วยละสิ ไอ้ปาน ไม่ต้องอัดกันอยู่เล้าหมูอีกแล้ว" สินว่า
"ก็คงงั้นแหละลุงสิน แม่แกว่าอีกหน่อย ใครจะเรียกแก อีแล ไม่ได้แล้วนา ต้องเรียก คุณแม่แล"
หลวงตาปิ่นถาม
"แล้วเอ็งล่ะ ต้องเรียกคุณปานด้วยรึเปล่า"
"ก็แหงล่ะ"
"เอ็งไม่ต้องอยู่บ้านหลังใหญ่ ไม่ต้องมีอำนาจวาสนาล้นฟ้า ก็มีคนเขาเต็มใจจะเรียกเอ็งว่าคุณ ถ้าเอ็งเป็นคนดี มีน้ำใจกับคนอื่นเขาโว้ย ไอ้ปาน" หลวงตาปิ่นบอก
"หลวงลุงนี่เชยชะมัด ไม่ทันโลกกะเขาเล๊ย ฝากไอ้วันมันด้วยนะ เย็น ๆ ฉันมารับ"
ปานวิ่งออกไป
"เอ็งจะได้อยู่บ้านหลังใหญ่ ๆ กะเขาแล้วนะ ไอ้วัน ดีใจไหม" สินว่า
ที่บ้านใหม่ กวงบอกลำยองว่า
"ตั้งแต่พรุ่งนี้ ลำยองไม่ต้องไปทำงานที่โรงงานแล้วนะ"
"ไม่ทำงานแล้ว ลำยองจะเอาที่ไหนกินล่ะคะ คุณกวง"
"ผมจะให้เงินเดือนลำยองเอง ให้เท่ากับที่ลำยองได้รับแต่ละเดือนนะ ลำยองอยู่บ้าน ดูแลบ้านให้ดี ๆ ผมจะมาหาบ่อย ๆ"
"อ้าว …คุณกวงไม่มาอยู่ด้วยกันกับลำยองที่นี่เหรอคะ"
"ช่วงนี้ผมต้องไปดูงานที่โรงงานใหม่ บ่อย ๆ มันไกลกันมากนะ"
ลำยองงอน
"ลำยองต้องเหงาแน่ๆ เลย"
"ก็หาอะไรทำ เข้าสิ จะได้ไม่เหงา"
"งั้นคุณกวงก็ซื้อโทรภาพให้ลำยองสักเครื่องสิคะ ลำยองจะได้เอาไว้เป็นเพื่อน"
"วิทยุเครื่องเดียวก็พอแล้วมั้ง"
"พอยังไงกันคะ วิทยุฟังนาน ๆ ก็เบื่อ งั้นลำยองเอาทั้งวิทยุทั้งโทรภาพเลยละกันนะคะ คุณกวง นะคะ"
ลำยองอ้อนกวงด้วยการกอด กวงจำใจพยักหน้า ลำยองยิ้มสมหวัง
ยายแลเอ่ยกับลำยองที่บ้านหลังเก่า เมื่อตะวันคล้อยเย็น
"เขาจะซื้อโทรภาพให้เอ็งด้วยเรอะ ดีจริงโว้ย ข้าจะได้ไปอาศัยดูมั่ง นังจุกมันเก็บตัง ห้าสิบตังค์ เบียดกะคนอื่นด้วย ภาพก็ไม่ค่อยชัดด้วย คุณกวงเขาใจดียังงี้ เอ็งน่าจะอ้อนขอตู้เย็นด้วยซะเลย ข้าเห็นบ้านนังศรีมันตั้งโชว์ไว้ในห้องรับแขก ใครจับของมันไม่ได้เชียวนะ มันหวง"
"ตู้เย็น ฉันต้องซื้อแน่ เอาไว้ก่อน ขอโน่น ขอนี่หลายอย่าง เดี๋ยวคุณกวงเขาว่า งก"
"เอ็งย้ายไปอยู่บ้านใหม่เมื่อไร ก็เอาไอ้วันมันไปอยู่ด้วยนะ"
"อีกซักพักเถอะน่า แม่"
"อยู่นี่มันเบียดเสียด" แลบอก
"ก็แล้ว ถ้าเกิดคุณกวง เขารู้ขึ้นมาว่า มันเป็นลูกติดฉัน ไม่พังหรือแม่"
"เออ ๆ ก็แล้วแต่เอ็ง แต่วัน ๆ ข้าเลี้ยงมันน่ะ ก็หมดหลายตังค์อยู่เหมือนกันนา เอ็งพอมีก็ปัน ๆ ค่ากินค่าอยู่มาเจือจานกันบ้าง"
"เออน่า…ฉันต้องให้อยู่แล้วละ"
ลำยองซัดเหล้ายาดองย้อมใจ ยายแลชักสงสัย
"เอ็งติดเหล้ารึเปล่าวะ ลำยอง"
"ไม่ได้ติด"
"ไม่ติดก็เลิก ๆ มันซะเหอะ แม่ว่า"
"เลิกทำไม ก็แม่บอกฉันเองว่า กินแล้วผิวพรรณดี เปล่งปลั่ง แล้วนี่มันไม่ใช่เหล้าโรงอย่างแต่ก่อนนะแม่ นี่มันเซี่ยงชุน แพงกว่าเหล้าโรงเยอะ"
"คุณกวงเขาไม่รังเกียจเอาเหรอวะ"
"ฉันไม่ได้กินมากซะหน่อย แค่พอครึ้ม ๆ แม่ไม่รู้อะไร ที่คุณกวงเขาหลงฉันเนี่ย ก็เพราะฉันเป็นเพื่อนกินเหล้ากับเขาได้นี่แหละ"
ลำยองเบิ้ลยาดองอีกจอก ยายแลพูดไม่ออก
หลวงตาปิ่นอ่านนิทานจบลง
"ธรรมนิทานชาดกเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี"
วันเฉลิมนั่งตาแป๋ว หลวงตาปิ่นปิดหนังสือ และวางลงข้างตัว
"หลวงตาจะไปกวาดใบไม้แล้ว เอ็งจะนอนบนนี้หรือจะไปกับหลวงตา"
วันเฉลิมคลานมาที่หนังสือ เอามือตี ๆ หนังสือ
"วันนี้พอแล้ว หลวงตาอ่านนิทานสองเรื่องแล้ว เอาไว้ฟังวันอื่นบ้างนะ"
วันเฉลิมเริ่มหัดออกเสียง
"มะ…มะ"
"เอ็งจะหัดพูดแล้วเรอะ ไอ้วัน"
"แมะ…แมะ"
หลวงตาปิ่นอุ้มวันเฉลิมขึ้นมา
"แม่เอ็งเขาดีใจตายเลย คำแรกที่เอ็งพูดได้ก็เรียกแม่แล้ว"
ที่บ้านลำยอง กวงกำลังสวมรองเท้าจะไปทำงาน
"คุณกวงน่ะ ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ"
"ไม่ได้หรอก ผมลางานมาสองวันแล้ว"
"เป็นเจ้าของโรงงาน ต้องลางานด้วยเหรอคะ ผู้จัดการก็จ้างไว้ก็ให้เขาทำแทนไปสิคะ ไม่งั้นจะจ้างให้อยู่เฉย ๆ รึไง"
"งานบางอย่างเราก็ต้องทำเอง จะให้คนอื่นทำแทนได้ยังไงลำยอง"
"คุณกวงไม่อยู่ลำยอง เง๊าเหงา"
"ก็หาอะไรทำเข้าสิ เอายังงี้ดีมั้ย ไปเรียนตัดเสื้อ ตัดเป็นจะได้รับจ้างเขา เดี๋ยวผมจะซื้อจักรเย็บผ้าให้"
"อุ๊ย...ไม่เอาหรอกค่ะ ลำยองไม่ใช่กุลีนะคะ ถึงจะต้องรับจ้างใคร"
"งานไม่ได้หนักถึงขนาดเป็นกุลีหรอก"
" รับจ้างเขาจะได้เงินซักกี่บาทกัน คุ้มเหนื่อยรึเปล่าก็ไม่รู้"
"อย่ารังเกียจเงินเล็ก เงินน้อยสิลำยอง ค่อยเก็บค่อยสะสมไป เดี๋ยวมันก็เป็นเงินก้อนใหญ่เอง"
"ไม่เอาละค่ะ ถ้าคุณกวงจะซื้อจักรเย็บผ้าให้ลำยอง ลำยองขอเป็นตู้เย็นดีกว่า โก้กว่ากันตั้งเยอะ ไม่ต้องเหนื่อยเดินไปตลาดทุกเช้าทุกเย็นด้วย มีอะไรเราก็ตุนเอาไว้ในตู้เย็นได้นะคะ คุณกวง"
"เอาไว้ดูก่อนได้ไหม"
"คุณกวงน่ะ ลำยองขอแค่นี้ก็ให้ลำยองไม่ได้ มันน่าน้อยใจจริง ๆเลย"
"เอ้า ๆ ตกลง แต่ต้องเป็นอาทิตย์หน้านะ"
"เอาสีสวย ๆ นะคะ สีแดงก็ได้ ลำยองชอบสีแดง มันเด่นดี เอาหลังใหญ่ ๆ ด้วยจะได้เห็นชัด ๆ" กวงยิ้มแห้ง ๆ
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 3 (ต่อ)
ลำยองเดินกอดแขนกวงออกมาส่งหน้าบ้านในเวลาต่อเนื่องมา
" เมื่อไหร่จะหาคนใช้ได้ซะทีล่ะคะ คุณกวง บ้านหลังใหญ่ยังงี้ ลำยองกวาดถูคนเดียวไม่ไหวหรอกนะคะ"
"คนใช้ดี ๆ ทำงานเก่ง ๆ หาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะลำยอง ต้องรอหน่อย"
"ยังงี้ลำยองก็ต้องซักผ้าล้างจานเอง ไปอีกนานเท่าไรกันคะเนี่ย"
"บ้านของเราเอง ใครเขาจะมาทำให้เราได้ดีไปกว่าเราเองล่ะลำยอง"
ลำยองทำจ๋อย
"ค่ะ"
"ผมไปนะ"
"กว่าคุณกวงจะมาอีกทีก็อีกตั้งหลายวัน ลำยองขออนุญาตเอาน้อง ๆ มาอยู่เป็นเพื่อนบ้างได้ไหมคะ"
"ได้สิ...ทำไมจะไม่ได้ล่ะ บ้านนี้บ้านลำยองนี่นา"
กวงหอกแก้มลำยองแล้วเดินออกไป
เวลาเย็น ลำยงปอกมะพร้าวเตรียมไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ สันต์สวมเครื่องแบบทหารเรือเพิ่งข้ามเรือกลับมา เขาเดินเข้ามาที่เพิงเพิงขายขนมลำยง
" ไม่มีใครช่วยเลยเหรอลำยง"
" อ้าว พี่สันต์...อาทิตย์นี้ได้กลับบ้านเหรอ"
" วันหยุดยาวชดเชยน่ะ ใครต่อใครไปไหนกันหมดล่ะ ไม่มีคนช่วยเลย"
" โอย จะไปหวังพึ่งใครได้...โน่น ไปสุมกันอยู่บ้านพี่ลำยองเขาโน่น เห่อโทรภาพ ดูกันได้ทั้งวี่ทั้งวัน ไม่เป็นอันทำมาหากิน"
"ลำยองเขาย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วเหรอ"
"สองอาทิตย์ได้แล้วมั้ง"
"คงอยู่สบายกันขึ้นแล้วมั้งลำยง"
ลำยงหัวเราะ
"ฉันโผล่ไปดูทีเดียว อะไร ๆก็ดีหรอก บ้านหลังใหญ่โตแต่สกปรกรกรุงรัง พื้นกระดานดี ๆ มีแต่รอยตีนเป็นเทือก"
"แฟนใหม่เขาไม่ว่าอะไรเรอะ"
"เขาไม่ได้อยู่ด้วยตลอดหรอก อาทิตย์นึงมาที พอวันไหนผัวจะมา ค่อยเกณฑ์ไอ้ปานไอ้แป้ง กวาดถูซะทีนึง เอาผักชีโรยหน้าเอา"
"แล้วลูกพี่ล่ะ"
"ก็อยู่นั่นแหละ บางคืนก็ได้นอนกะแม่มันบ้าง"
"แฟนใหม่เขารู้แล้วละยัง ว่าวันเป็นลูกติด"
"รู้กะผีอะไรล่ะพี่ เขาก็ยังอมเป็นความลับอยู่ คงกลัวจะตอดสมบัติเขาไม่ได้อีกล่ะมัง เออ…ไอ้วันมันเริ่มหัดพูดแล้วนะพี่สันต์"
สันต์ตื่นเต้นยิ้มมีความสุข
"เหรอ…พูดได้เยอะรึยัง ลำยง"
"มันก็พูดอยู่คำเดียว คำว่า แม่…แม่… น่ะแหละ เวรกรรม...แม่มันทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่เห็นจะใส่ใจเลี้ยงมันเล๊ย แต่มันดัน…"
ลำยงชะงักเมื่อเห็นสีหน้า อารมณ์สันต์เจื่อนลง
"อีกหน่อยมันก็คงเรียก พ่อได้แหละพี่สันต์"
สันต์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ
เวลาเย็น ลำยองกับแลนอนเอกเขนกดูทีวีกันอยู่ หมอน , ผ้าห่ม ข้าวของเกลื่อนบ้าน อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ผ้าถุง ผ้านุ่ง บางผืนพาดตากลูกกรงหน้าต่าง บางผืนปะปนกับผ้าขี้ริ้วบนพื้นอย่างแยกไม่ออก
พื้นบ้านเละแทะไปด้วยเปลือกเม็ดกวยจี๊ที่โยนเกลื่อนไปรอบตัว ปานกับแป้งแย่งกันกินก๋วยเตี๋ยวดูมูมมาม กองจานชามที่กินแล้วไม่ยอมล้าง สุมอยู่มุมหนึ่งไม่ไกล วันเฉลิมนั่งเล่นของเล่นอยู่ข้าง ๆ ลำยอง
ลำยองดูทีวีแล้วบอก
"ฉันตัดชุดยังงี้ใส่มั่งดีกว่า สวยดี"
ปานวิ่งโกยหนีลงจากบ้านไป ยายแลเรียก
"ไอ้แป้ง"
"ฉันปวดท้อง"
แป้งวิ่งตามปานไปอีกคน
ลำยองบอก
"ไอ้พวกนี้ ทีหลังอย่ามากิน มานอน บนเรือนกูอีกนะมึง แม่...แม่ต้องเก็บกวาดให้ฉันแล้วละ"
"ข้าว่า ข้ารีบเอาไอ้วันมันหลบไปก่อนดีกว่า เผื่อคุณกวงเขาโผล่พรวดมาความจะแตกนะโว้ย ลำยอง"
แลอุ้มวันเฉลิมลงเรือนหนีเอาตัวรอดไปอีกคน
"แม่"
ผ่านเวลามา วันเฉลิมอายุได้ 2 ขวบกว่า นางแลอุ้มหลานเดินจ้ำอ้าวมา แต่แล้วแทบเบรกหัวทิ่ม เมื่อสวนกับสันต์ที่เดินเข้ามาในตรอกทางเดิน เพื่อจะไปดูวันเฉลิมที่บ้านลำยอง
"วัน…พ่อกำลังจะเดินไปหาอยู่พอดี มาให้พ่ออุ้มมา"
ยายแลเบี่ยงวันเฉลิมหลบ ไม่ยอมให้อุ้ม
"ทำไมผมต้องแอบด้วยล่ะน้าแล"
"ก็เอ็งอิจฉาลำยองมันน่ะสิ ที่มันได้ดิบได้ดี ไม่ต้องมาทนกัดก้อนเกลือกันอยู่กับเอ็ง…ใช่ไหมล่ะ ผัวใหม่ลำยองมัน เขารวยล้นฟ้าโว้ย ลำยองมันอยากได้อะไร แค่ออกปาก เขาก็หามาประเคนให้มันถึงที่ ไม่ต้องอด ๆ อยาก ๆ เหมือนอยู่กะเอ็ง"
"ได้ผู้ชายดี ๆ ก็ดีแล้วล่ะน้าแล ผมดีใจด้วย แต่ถ้าเลี้ยงเจ้าวันมันไม่ดี ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ได้เห็นดีกันแน่"
"นี่เอ็งขู่ข้าเรอะ"
"ในเมื่อกฎหมายบอกว่า ลูกต้องได้อยู่กับแม่ก็ไม่เป็นไร วันไหนเลี้ยงเจ้าวันมันไม่ไหว ผมก็มีสิทธิ์ร้องเอาลูกไปเลี้ยงเองได้เหมือนกัน ในฐานะพ่อ"
"ค่าเลี้ยงดูแต่ละเดือน ก็ส่งเสียมาอย่าให้ขาดก็แล้วกัน พ่อนายทหารเรือ"
"น้าแลก็ไปบอกลูกสาวน้าแลละกันว่า ถ้าอยากได้ก็ตามไปเอาเอง"
แลแบมือ
"ลำยองมันให้ข้าเป็นคนเก็บโว้ย"
"ถ้าแม่เจ้าวันมันไม่มาเอาเอง ผมก็ให้ไม่ได้"
แลสะบัดหน้าอุ้มวันเฉลิมเดินหนีออกไป สันต์ได้แต่มองตามลูก วันเฉลิมได้แต่เหลียวหลังมองพ่อ
น้าชื่นกับชม ยิ้มอัธยาศัยดีมากับกวง เพื่อมาเป็นคนรับใช้บ้านลำยอง
"คนนี้ชื่อชม คนนี้ชื่อ ชื่น เขาเป็นน้าหลานกัน" กวงแนะนำ
สองน้าหลานยกมือไหว้ลำยอง
"หน้าตา บ้านน๊อก บ้านนอก คุณกวงไปได้มาจากไหนคะ จะรู้งานรึเปล่าก็ไม่รู้"
"คุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าง ก็บอกมาเถอะค่ะ ฉันทำได้ทุกอย่างน่ะแหละ" ชมบอก
"ชมกะชื่น เขาเคยเป็นแม่บ้านให้บ้านนายอำเภอที่ต่างจังหวัดน่ะลำยอง"
"บ้านนอกกับกรุงเทพมันไม่เหมือนกันหรอกนะคะคุณกวง"
"ไม่เหมือนกันยังไงคะคุณ" ชื่นว่า
"คนกรุงเทพเขาเป็นผู้ดี"
"ถ้าคุณคิดว่า อย่างฉันกับหลานรับใช้ผู้ดีอย่างคุณไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปทำที่อื่นก็ได้" ชมว่า
"ใจเย็นๆ น่า... ชม ลำยองเขาไม่ได้หมายความยังงั้นหรอก..มาเหนื่อยๆ ขนข้าวของไปเก็บในห้องกันก่อนไป เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน"
ชม ข่มใจเดินออกไปกับน้าชื่น ลำยองวางท่าเป็นคุณนาย
"แม่บ้านดี ๆ น่ะหายากนะลำยอง ที่ได้ชมกะชื่นมานี่ ผมว่าลำยองโชคดีมากรู้ไหม สองคนน้าหลานเนี่ยขยันมาก รู้งานทุกอย่าง ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ล้างจาน ทำกับข้าวก็ฝีมือดี จะทุ่นแรงลำยองไปได้เยอะเชียวละ"
"จ้างเดือนละเท่าไหร่คะ"
"เขาเคยได้เดือนละสามร้อย ผมก็เลยต้องให้เพิ่มเขาอีกหน่อย เป็นสี่ร้อย"
"สี่ร้อย...โอ้โห ได้เกือบเท่าลำยองเลยเหรอคะ"
"เอาเถอะน่า...สี่ร้อย แต่เขาต้องแบ่งกันสองคนนะ อย่าลืมสิ ลำยอง"
"แล้วคุณกวงไม่คิดจะให้เพิ่มลำยองอีกหน่อยเหรอคะ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น เงินเดือนคนใช้บ้านนี้เกือบเท่าเงินเดือนเมียเจ้าของบ้าน"
ลำยองอ้อน ออเซาะ หวังจะกวงให้ใจอ่อน
บ้านยายแล เวลากลางคืน วันเฉลิมนั่งเล่นเงียบ ๆ อยู่คนเดียวที่มุมนอนของลำยอง ลำดวนรื้อคุ้ยที่มุมเสื้อผ้าของลำยอง หาเสื้อผ้าชุดที่ลำยองไม่เอาแล้ว ยายแลตักยาดองในโหลของลำยองขึ้นมาจิบชื่นใจ
"ชุดสวย ๆ เอาไปหมด ไม่เหลือไว้ให้น้องนุ่งมั่งเลย ตัวเองได้ดิบได้ดีแล้ว น่าจะเผื่อแผ่มาให้คนอื่นเขามั่ง พี่ลำยองนะพี่ลำยอง"
"เกิดมาวาสนาคนเรามันไม่เท่ากันโว้ย นังลำดวน"
"ฉันว่าจะเปลี่ยนงานแล้วนะแม่ เบื่อแล้ว ไอ้โรงงานสังกะสีเคลือบเนี่ย เงินก็เท่าเดิม ไม่พอกิน คนก็หน้าเดิม ๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้นเลย"
" แล้วเอ็งจะไปทำอะไร"
"งานมีเยอะแยะไป หาที่มันสบาย ๆ กว่านี้"
แลซดยาดองอีกจอก ลำยงเข้ามาพอดี
"ทำอะไรน่ะแม่"
ยายแลตกใจ เหล้าแทบหก
"กูตกใจหมดเลย อีลำยง..นึกว่า ลำยอง มันมา"
"แม่ทำยังงี้ได้ยังไง"
ลำยงรีบเข้ามาอุ้มวันเฉลิม
"ลำยองมันมีเหล้าฝรั่งกินแล้วโว้ย มันไม่สนเหล้ายาดองยังงี้แล้ว"
"ฉันหมายถึง แม่กินให้ไอ้วันมันเห็นได้ยังไง"
"ทำไมวะ ทำไมกูจะกินให้มันเห็นไม่ได้"
"นี่มันเหล้านะแม่ มันดีที่ไหน"
"กูไม่ได้ป้อนใส่ปากมันซะหน่อย"
" ไม่ได้ป้อน ก็เหมือนป้อนน่ะแหละ แม่ทำให้ไอ้วันมันเห็นเป็นเรื่องธรรมดาได้ยังไง"
"มึงไม่อยากให้มันเห็น มึงก็เอามันออกไปสิ อีบ้า...พูดซะยังกะกูเป็นผู้ร้ายฆ่าคน"
"ผู้ใหญ่ทำให้เด็กมันเห็น อีกหน่อยเด็กมันก็ทำอย่างที่ผู้ใหญ่ทำน่ะแหละ"
ลำยงอุ้มวันเฉลิมออกไป
"อีบ้านี่...สอนยังกะเป็นแม่กู"
"พี่ลำยงมันเป็นแบบนี้ มันถึงหาผัวไม่ได้ซะที นะแม่นะ" ลำดวนบอก
บ้านลำยองในเวลาเดียวกันกลางคืนต่อเนื่องมา น้าชมกับชื่นยกกับแกล้ม และน้ำแข็งเข้ามาเพิ่ม
ลำยองนั่งนวดกวงพร้อมๆกับดูทีวีไปด้วย
"มีอะไรอีกไหมคะคุณ ถ้าไม่มีแล้วฉันจะได้ขอเข้านอนก่อน" ชมถาม
"ได้ยังไง แล้วจานชามข้าวของพวกนี้ ใครจะเก็บ"
"คุณก็รวม ๆ เอาไว้ พรุ่งนี้เช้าฉันมาเก็บไปล้างเอง"
"อ้อ...ดีนี่ เป็นคนใช้เขา แต่เข้านอนก่อนเจ้านาย"
"ไปเถิด ชม ชื่น ไปพักผ่อนซะ" กวงอนุญาต
"คุณกวง"
"เดินทางมาเหนื่อย ๆ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน นี่มันก็ดึกแล้วด้วย"
"ดึกอะไรกันคะ รายการในโทรภาพยังไม่จบเลย"
"เอาเถอะน่า...ไปเถอะ ชม ชื่น"
สองหน้าหลานเดินออกไป
"คุณกวงให้ท้ายคนใช้ยังงี้ อีกหน่อยมันก็เคยตัว"
"เราต้องรู้จักอะลุ่มอล่วย บ้างสิลำยอง ใจเขาใจเราน่ะ"
"ยังงี้เราจะใช้มันคุ้มเงินเดือนเหรอคะ"
"จะเขามานั่งโด่ อยู่แถวนี้แล้ว ผมกับลำยองจะมีความเป็นส่วนตัวกันได้ยังไงละ"
กวงดึงลำยองมาจูบ ลำยองยิ้มออก
ในเวลาต่อมา ภายในห้องนอนลำยอง แก้วเหล้าถูกวางลงบนโต๊ะข้างเตียง กวงกำลังจะถอดเสื้อลำยอง แต่ลำยองยื้อมือกวงเอาไว้
"คุณกวงขา...ลำยองขออะไรคุณกวงอย่างนึงได้ไหมคะ"
"หลาย ๆ อย่างก็ได้"
"ตอนนี้ลำยองอยากได้อย่างเดียวค่ะ"
"อะไรเอ่ย"
"ลำยองขอเอาน้องคนเล็กมาช่วยแม่แกเลี้ยงที่นี่ได้ไหมคะ"
" น้องคนเล็ก...ตกลงลำยองมีน้องกี่คนกันแน่"
"จริง ๆแล้ว ห้าคนค่ะ...คนสุดท้ายท้องนี้ลูกหลงแม่แก เพิ่งจะสองขวบกว่า ๆ เอง ลำยองสงสารแม่ ก็เลยอยากเอามาช่วยเลี้ยง"
"เด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง"
"ผู้ชายค่ะ มันเลี้ยงง่าย ไม่ซนหรอก"
กวงนิ่งเงียบไป
" ได้ไหมคะ คุณกวง" ลำยองรบเร้า
กวงยิ้มบอก
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ บ้านนี้ออกจะกว้างขวาง ลำยองจะได้ไม่เหงา อีกอย่างลำยองจะได้ฝึกเอาไว้ด้วย"
"ฝึกอะไรคะ"
"ก็ฝึกเลี้ยงลูกของเราไง"
"คุณกวงน่ะ"
"ผมอยากได้ลูกชาย ลำยองมีลูกชายให้ผมซักคนนะครับ"
ลำยองยิ้ม ทำหน้าให้แดงซ่าน กวงกอดลำยองที่นึกถึงวันเฉลิม อย่างน้อยในฐานะแม่ เธอก็หลุดพ้นบาปในใจ
บ้านยายแล ตอนกลางคืน ยายแลดึงเงินไปจากมือผัว แล้วถาม
"ได้แค่เนี้ย"
"ก็ของมันขายไม่ดี" ปอบอก
แลตีแขน
"มึงอมไว้ กูรู้ เอาออกมาซะดีๆไอ้ปอ"
"อมที่ไหนเล่า"
ตาปออ้าปากให้แลดู แลฟาดแขนเข้าให้อีกที แล้วค้นชายสะเอวกางเกงจีน ได้เศษเงินไปอีกหน่อย
"ใจคอมึงจะไม่เหลือไว้ให้กูใช้บ้างเลยเรอะ อีแล"
"อย่าให้กูจับได้อีกนะ"
แลหันมาเรียกลูกสาว
"นังลำดวน"
ลำดวนรีบบอกแม่
"ฉันไม่มีให้หรอกวีคเนี้ย งานโรงงานก็ไม่ได้ไปทำแล้ว"
"แล้วมึงออกมาทำไม"
"ก็พี่ลำยอง เขาเป็นเมียคุณกวงแล้ว รวยแล้ว เขาก็ต้องหาเลี้ยงพวกเราสิ"
"มันกำลังตั้งหลักโว้ย อีกซักพักมันคงมีเหลือแบ่งๆมาทางนี้...ไอ้แป้ง ไอ้ปาน"
แป้งชิงบอก
"ฉันจะขอแม่อยู่เนี่ย"
"มึงไปรับจ้างเขายังไง เงินไม่เหลือกลับบ้านซักบาท ทีหลังไม่มีมาให้ อย่ากลับมากินข้าวบ้านนะมึง"
"ทุกวันนี้ก็กินข้าวก้นบาตรหลวงลุงอยู่แล้วแม่" ปานบอก
"เออดี...วันไหนเหลือเยอะๆ ก็เอากลับมาบ้านมั่ง นังลำยง เจอพ่อไอ้วันมัน ก็ทวงเงินค่าเลี้ยงดูไอ้วันมันด้วย วันนี้กูทวงมัน มันไม่ยอมให้"
"พี่สันต์เขาให้ไว้ที่ฉันแล้ว"
"อ้าว อีนี่...แล้วปิดปากเงียบเลยนะมึง กะจะอมไว้คนเดียวละสิ"
"เงินไอ้วันมัน ฉันจะอมได้ยังไง"
ลำยงส่งเงินให้แล แลคว้าหมับ
"มันต้องเอามาลงกองกลางโว้ย"
"กองกลางจริงๆก็ดี ฉันกลัวแม่จะเอาไปเล่นหวยหมดนะสิ"
ลำยงเดินหนีออกไป
"อีนี่...ถึงกูเล่น กูก็เล่นนิดๆหน่อยๆพอหอมปากหอมคอโว้ย เขาเรียกการลงทุน มึงรู้จักไหม การลงทุน"
เช้าวันใหม่ กวงยังหลับอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนเพลีย ลำยองพลิกตัวเข้ามากอดออดอ้อน
"คุณกวงขา...วันนี้คุณกวงจะพาลำยองไปเที่ยวไหนดีค่ะ"
"ลำยองอยากไปไหนล่ะ"
"อยากไปเยาวราช"
"ไปบ่อยๆ ไม่เบื่อรึไง"
"ไม่เบื่อหรอกค่ะ ลำยองชอบ คนเยอะดี อาหารก็อร่อย ของก็สวยๆทั้งนั้น คุณกวงขา"
"หือ..."
"ลำยองอยากได้เข็มขัดทองซักเส้นนึง"
"เข็มขัดเงิน ลำยองก็มีแล้วนี่"
"ก็นั่นมันเข็มขัดเงินนี่ค่ะ เข็มขัดทองยังไม่มีซะหน่อย"
"มันแพงนะลำยอง"
"จะซักเท่าไหร่กันเซียว"
"เอาไว้ ตรุษจีนก่อนเถอะ"
"คุณกวงไม่รักลำยอง แค่เข็มขัดทอง คุณกวงก็ให้ลำยองไม่ได้ มันน่าน้อยใจจริงๆเลย"
"เงินทองเวลามีน่ะ มันต้องรู้จักใช้นะลำยอง จะได้มีให้เราใช้ไปได้นานๆ"
"ก็นี่ไงคะ ลำยองก็เลือกเก็บเป็นทองไง"
"ใส่เข็มขัดทอง ไม่กลัวใครมาจี้มาปล้นเอารึไง"
"งั้นไม่เอาเข็มขัดทอง เอาเป็นเข็มขัดนากก็ได้ นะคะคุณกวง...นะคะ"
น้าชื่นกับชมเข้ามาเก็บจานชามที่โต๊ะอาหารไปล้าง
"นี่แก...ไหนว่าเคยเป็นคนใช้บ้านผู้ดี แล้วทำไมคลานเข่า คุกเข่า ไม่เป็น เจ้านายนั่งอยู่เนี่ย เดินค้ำหัวอยู่ได้"
น้าชื่นถาม
"แล้วทำไมฉันต้องคุกเข่าด้วยล่ะคะ"
"ถามโง่ๆ"
"ไม่เอาน่าลำยอง ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย"
"บ้านผู้ดี คนใช้ก็ต้องคลานเข่า คุกเข่า บางทีต้องหมอบด้วยซ้ำเวลาอยู่ต่อหน้าเจ้านาย"
"ลำยองไปเห็นมาจากไหน"
"ก็ในโทรภาพ ในละครตอนค่ำๆไงคะ"
"นั่นมันละครนะลำยอง ชีวิตจริงไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้มั้ง ไปเถอะ ชื่น ชม จะไปทำอะไร
ก็ไป"
สองน้าหลานจะยกของออกไป
"เดี๋ยว...ฉันจะออกไปธุระกับคุณกวง แกสองคนไปจัดห้องนอนเล็กเอาไว้ให้ด้วย น้องฉันจะมาอยู่ที่นี่"
"ค่ะ" ชื่น,ชมรับคำแล้วออกไป
"คุณกวงน่ะ ทำให้คนใช้เคยตัว เราศักดิ์ศรีสูงกว่ามัน มันก็ต้องคุกเข่า คลานเข่าให้เราสิคะ"
"ถึงเขาจะคนละชั้นกับเรา แต่เขาก็ไม่ใช่ทาสนะลำยอง คนจีนเขาไม่มีทาสแบบที่ลำยองอยากให้เป็นแล้ว"
"ลำยองว่ามันโก้ดีจะตาย อีกอย่างเงินเดือนมันก็แพ๊งแพง ทำไมมันจะหมอบ จะคลานเข่าให้เราไม่ได้คะ"
กวงขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด
หลังจากที่เจ้านายทั้งสองออกไปทำธุระนอกบ้าน สองน้าหลานคุยกันอยู่
"คุณกวงไม่อยู่ ฉันว่าเราถูกบังคับให้คุกเข่า คลานเข่าแล้วก็หมอบแน่ๆเลยน้า" ชมบอก
"ยัยคุณนายนี่แกคงดูละครเยอะไป เลยอยากเป็นอย่างในละครบ้าง" ชื่นว่า
"มาบังคับโน่นนี่ฉันมากๆ ฉันไม่อยู่นะน้า"
"เออน่า...เอ็งใจเย็นๆ เห็นแก่คุณกวงไว้ก่อน อย่างน้อยแกก็เป็นคนจ่ายเงินเดือน ไม่ใช่ยัยคุณนายซะหน่อย"
"ผู้ดีอะไร แค่ได้อยู่บ้านไม้สักเข้าหน่อยแกคงคิดว่า แกเป็นผู้ดีแล้วล่ะมัง จะนั่งจะนอน จะกินบอกยี่ห้อหมดว่ามาจากไหนกันแน่"
"น้อยๆหน่อยนังชม..นินทาคนอื่นลับหลังมันไม่ดี ยังไงเขาก็เป็นเจ้านายโว้ย"
กุฏิหลวงตาปิ่น สันต์ทาแป้งให้วันเฉลิมจนขาวไปทั้งตัว แล้วใส่เสื้อตัวใหม่ให้ด้วย
"ใส่เสื้อตัวใหม่พ่อซื้อให้แล้วหล่อโว้ย"
"ป้อ...ป้อ"
"ว่าอะไรนะลูก วันจะเอาอะไร"
หลวงตาปิ่นบอก
"มันเรียกเอ็งว่าพ่อไง"
สันต์ชะงักกึก
"ป้อ..."
สันต์ปลื้มใจ อุ้มวันเฉลิมเข้ามาหอมฟอดใหญ่
"ชื่นใจพ่อจัง ลูกเรียกพ่อได้แล้ว"
ปานขึ้นกุฏิมา
"ไอ้วัน...ไอ้วัน"
"อะไรวะไอ้ปาน" หลวงตาปิ่นถาม
"พี่ลำยองเขาให้ฉันมารับไอ้วัน"
"รับไปไหน"
"ก็รับไปอยู่บ้านเขาน่ะสิหลวงลุง เขาบอกว่าคนใช้เขาจัดห้องเอาไว้ให้แล้ว ให้ฉันไปอยู่กับไอ้
วันมัน"
"แฟนใหม่เขารู้แล้วเรอะว่ามีลูกติด" สันต์ถาม
"ไม่รู้หรอก พี่ลำยองเขากำชับฉันไม่ให้หลุดปากด้วยซ้ำไป เขาบอกผัวใหม่เขาว่า ไอ้วันเป็นน้องคนสุดท้อง...ลูกหลงแม่แก"
"เออ...เจริญละ แล้วมันคิดว่าจะปิดผัวใหม่มันไปได้นานแค่ไหนวะ"
"พี่ลำยองเขาได้สมบัติมาตั้งหลายอย่างแล้ว เขาว่า ถึงรู้ก็ช่างหัวมัน ไป...ไอ้วัน"
ปานอุ้มวันเฉลิมลงกุฏิไป
ปั้นพูดขึ้นที่เรือนแพในเวลาต่อมา
"มันหวังแต่จะได้สมบัติเขา มันก็ไม่ต่างกับผู้หญิงหากินละวะ"
"ผู้ชายเขาอาจจะจริงจังกะมัน อาจจะไม่ถือสาว่ามีลูกติดก็ได้แม่ปั้น"
"มีผู้ชายใจเป็นพ่อพระยังงั้นด้วยเรอะ"
"ถ้าเขาเอ็นดูเจ้าวันมัน แล้วเลี้ยงดูอย่างดีอย่างลูกแท้ๆของเขา มันก็ดีไม่ใช่เหรอครับแม่... อย่างน้อยเจ้าวันก็คงได้เรียนหนังสือ ไม่ได้ถูกเสือกไสไล่ส่ง"
"ยังไงมันก็ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขา" ปั้นว่า
"เอาเถอะ ถึงเวลานั้นจริงๆ ลำยองมันก็คงต้องเลือก จะเอาลูกหรือผัว" สินบอก
"คนรักสบายอย่างมัน ยังไงก็ต้องเลือกผัว"
"ก็ดีสิ เราจะได้เอาไอ้วันมาเลี้ยงเอง"
"แล้วพ่อหม้ายเมียทิ้งอย่างเอ็ง ผู้หญิงที่ไหนเขาจะแล ลูกติดมาอีกคน" ปั้นบอก
"ผมยังไม่เคยคิดจะมีคนใหม่หรอกครับแม่ ทุกวันนี้ห่วงเจ้าวันมากกว่าอะไรทั้งนั้น"
"ครึ่งวันค่อนวันเข้าไปแล้ว เอ็งจะไปเยี่ยมศรีวรรณมันไม่ใช่เรอะ ไปเถอะ กว่าจะไปถึง กว่าจะกลับ จะมืดค่ำซะเปล่าๆ"
ภายในบ้าน กวงนับเงิน ลำยองคาดเข็มขัดนากที่เพิ่งซื้อมา หูตาเป็นประกายอยู่ข้างๆ
"อันนี้เงินเดือนลำยองนะ อันนี้เอาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ"
"ให้ลำยองแค่นี้เองเหรอคะ"
"แค่นี้พอแล้ว...อย่าฟุ่มเฟือยนักเลย"
"แล้ว อันโน้นล่ะคะ"
"เงินเดือนชื่นกับชมเขา"
"อะไรคะ คนใช้เพิ่งมาอยู่จะจ่ายเงินเดือนแล้ว"
"เขาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเขา"
"เอามาให้ลำยองเก็บเถอะคะ ลำยองจะเป็นคนจ่ายเอง...คนใช้มันจะได้เคารพเชื่อฟังลำยอง"
"ตามใจ"
กวงส่งเงินให้ ลำยองเหน็บเงินใส่ชายพก
"คุณกวงทำไมไม่ค้างให้บ่อยกว่านี้ล่ะคะ งานทางโน้นมากนักเหรอ ลำยองคิดถึง ตอนทำงาน
โรงงานยังได้เจอหน้าทุกวัน แต่พออยู่ด้วยกันแล้ว กลับได้เจอแค่อาทิตย์ละสองวัน"
"ลำยองก็หาอะไรทำเข้าสิ จะได้ไม่เหงา"
"ลำยองเหงากลางคืนน่ะคะ ไม่ใช่กลางวัน"
กวงยิ้มอย่างรู้ความหมาย หอมแก้มลำยอง
บริเวณกลางซอย ปั้นเก็บขวดน้ำปลาเปล่าใส่รถเข็นผ่านหน้าบ้านชาวบ้าน ลำยองอุ้มวันเฉลิมเข้าสะเอว เดินมากับยายแลที่หิ้วถุงกระดาษข้าวของสมบัติของวันเฉลิม
ชาวบ้านร้องทัก
"แหม...เข็มขัดนากเส้นนี้มันสุกปลั่งดีแท้ๆ เลยนะลำยอง"
ลำยองยิ้มย่อง ปั้นชะงัก ยายแลเห็นปั้นอยู่แถวนั้นก็ได้ทีแขวะทันทีเหมือนกัน
"แฟนใหม่ลำยองเขาซื้อให้ ทีแรกจะให้เข็มขัดทอง แต่ลำยองมันเกรงใจเขาก็เลยเอาแค่เข็มขัดนาก ลำยองมันกลัวน่ะ"
"กลัวอะไร"
"ก็กลัวคนแถวนี้มันจะอิจฉาตาร้อนเอาน่ะสิ"
"อุ๊ย...ใครเขาจะไปอิจฉายะ แม่แล โชควาสนาของใครของมัน"
"ก็นั่นน่ะสิ...อยู่กะไอ้คนเก่าน่ะ ทองกะหลึงเดียวยังไม่เคยเห็นเล๊ย"
ปั้นใจอดไม่ไหว
"งั้นก็จับเอาไว้ให้ดีๆ เชียวนะไอ้ผัวคนนี้ สันดานแท้ออกมาเมื่อไร ก็ถูกถีบหัวส่งเมื่อนั้นแหละ" ปั้นบอก
"อีปั้น...คนอย่างกู มีดีโว้ย" ลำยองคุยโว
"ใครๆเขาก็รู้ ไม่ต้องโฆษณาหรอก"
"มึงน่ะ ! ไม่ได้ขี้ตีนคุณกวงเขาหรอก เข็มขัดนากเนี่ย เขาซื้อให้ใส่เล่นๆ อีกหน่อยเขาก็จะหาเพชร
หาทองมาให้ใส่ รถยนต์เขาก็จะซื้อให้ ไม่ต้องขับเองด้วย มีคนขับรถให้โว้ย" แลคุยทับ
"ละครในโทรภาพนี่มันทำให้คนเพ้อฝันกันได้ขนาดนี้เลยเรอะ เอาเหอะตามสบาย คนอย่างลูก
สาวเอ็งคงไม่มีวันอับจนขนาดต้องไปนั่งขายของดีอยู่โรงน้ำชาละมัง"
ปั้นทิ้งระบิดไว้แล้วเข็นรถออกไป
"อีปั้น มึงด่าลูกกูเป็นช็อกการี มึงกับกูมาตบกันดีกว่า แน่จริงเดินหนีทำไม อีบ้า"
"ช่างหัวมันแม่ ผู้ดีอย่างฉันไม่อยากจะแลกกับมันหรอก แก่จนจะเข้าโลงอยู่แล้วยังจะทำปากดีอีก"
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 3 (ต่อ)
ชมรับวันเฉลิมมาจากลำยอง
"ตอนเย็นป้อนข้าวมันด้วย เสื้อผ้ามันอยู่ในถุงนั่น กางเกงตัวไหนมันเยี่ยวรด แกก็เอาไปซักด้วย มันนอนกลางวันกี่โมงแม่"
"ไม่รู้วะ" แลบอก
"มันนอนกลางวัน แกก็คอยดูมันละกัน"
"นี่คุณจะให้หนูต้องเลี้ยงเด็กคนนี้ด้วยเหรอคะ"
"ก็ใช่น่ะสิ ทำไม มีปัญหาอะไร"
"หนูเลี้ยงไม่ไหวหรอกคะคุณ งานหนูก็เยอะจนล้นมือทำไม่หวัดไหวอยู่แล้ว"
"แค่งานเลี้ยงเด็กมันจะหนักหนาอะไรอีชม"
"ไม่หนักหนา แล้วทำไมคุณไม่เลี้ยงเองล่ะคะ น้องคุณแท้ๆไม่ใช่เหรอ"
"อีนี่มันคนใช้มึงเหรอวะลำยอง มันเถียงมึงฉอดๆยังกะเป็นเจ้านายมึง" แลบอก
"ถ้าแกไม่เลี้ยงไอ้วันมัน ฉันก็จะไม่จ่ายเงินเดือนแก เอายังงั้นไหมล่ะ อีชม"
ชมถึงกับจ๋อยไป
น้าชื่นท้าวสะเอวเข้ามามองวันเฉลิม
"เวรกรรม นี่ถ้ารู้ว่าต้องมาเลี้ยงเด็กเล็กด้วย เงินเดือนแค่นี้ข้าไม่เอาหรอก"
"นั่นสิน้า...ต้องคุยกับคุณกวงแกใหม่แล้วนะ เลี้ยงเด็กมันเหนื่อยน้อยอยู่เมื่อไหร่"
วันเฉลิมยิ้ม หัวเราะแจ่มใสให้ชื่นกับชม
"แต่เด็กคนนี้หน้าตาผิวพรรณดีนะผิดพี่ผิดน้อง"
"ผิดแม่ด้วย...ยัยแม่หน้าตาท่าทางยังกะนางยักษ์"
น้าชื่นชักสงสัย
"ลูกหลงจริงๆเหรอวะ แก่ขนาดยัยแม่นั่น น่าจะหมดเมนส์ไปตั้งนานแล้ว"
"นั่นสิน้า...ถ้าบอกว่าเป็นลูกยัยคุณนายยังจะน่าเชื่อซะกว่า"
"เฮ้ย...มันน่าสงสัยว่ะ งานนี้หนังเรื่องยาวหลายม้วนจบแน่"
วันเฉลิมยิ้มอารมณ์ดีให้สองน้าหลาน
ภายในบ้านศรีวรรณ น้องสาวของสันต์
"แล้วพี่นึกเสียดายเขาบ้างไหม" ศรีวรรณถามสันต์
"ไม่เลย ต่อให้สวยยังไง แต่นิสัยไม่ดีอย่างนี้ก็ไม่มีความหมาย"
"เขายังอายุน้อยเกินไปรึเปล่าพี่สันต์"
"ไม่น้อยแล้ว...พี่พยายามให้โอกาสเขาแล้ว แต่ทุกอย่างมันก็มีแต่แย่ลง พี่เสียใจอยู่อย่างเดียวที่ไม่ได้ลูกมาเลี้ยงเอง"
"พี่ก็คอยประคับประคองอยู่ห่างๆ ก็ได้ ยังไงก็แล้วแต่ อย่าให้เด็กเขารู้สึกว่า พี่ทอดทิ้งเขาก็พอ"
สันต์ยิ้มเศร้า
"พี่เข็ดขยาดผู้หญิงขนาดนี้ จะมีโอกาสเปิดหัวใจรับใครเข้าไปครอบครองรึเปล่าเนี่ย"
สันต์ยิ้มเซ็ง ได้แต่ส่ายหน้า
ภายในบ้านลำยอง ลำดวนทาเล็บเท้าให้พี่สาว วันเฉลิมนั่งเล่นของเล่นอยู่มุมนึง
"ห้องหับตั้งสามห้อง ขอฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยคนได้ไหม พี่ลำยอง"
"มึงจะมาอยู่ได้ยังไง คุณกวงเขามาทุกวันพุธ วันเสาร์ เขาต้องการความเป็นส่วนตัวเขา"
"ก็วันไหนเขามาฉันก็กลับไปอยู่บ้านก็ได้"
"ไม่เอา...คุณกวงเขาอนุญาตแค่ไอ้ปานกับไอ้วันมัน"
"งั้นพี่ช่วยคุยกับคุณกวงให้เขารับฉันกลับเข้าทำงานที่โรงงานหน่อยสิ"
"เอ็งเป็นน้องเมียคุณกวง จะไปทำงานรวมกับพวกกุลีได้ยังไง"
"ฉันรู้ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ"
"แล้วไอ้งานขายของหน้าร้านที่เอ็งว่าจะไปทำล่ะ"
"ฉันไปสมัครแล้วแต่เขาไม่รับ"
"ทำไม"
"ก็ฉันเขียนใบเสร็จไม่เป็น"
"ขายเฉยๆไม่ต้องเขียนใบเสร็จไม่ได้รึไง"
"เขาบอกไม่ได้"
"เรื่องมากจริงโว้ย"
"อีกอย่าง ฉันบวกเลขไม่เป็นด้วย นับนิ้วยังผิดเลย เสียดายเหมือนกัน น่าจะทนๆเรียนให้
จบปอสี่ก็ยังดีนะ พี่ช่วยพูดกับคุณกวงให้ฉันหน่อย พี่เป็นเมีย ยังไงเขาก็ต้องช่วยอยู่แล้ว"
"เออ...เดี๋ยวจะลองดู"
"แล้วนี่ คุณกวงเขารู้รึยังว่าไอ้วันเป็น..."
ลำยองหันไปเห็นชื่นเข้ามาพอดี ก็เอาตีนเขี่ยให้ลำดวนหุบปาก
"อะไรนังชื่น...เจ้านายเขาคุยกัน มาทำลับๆล่อๆ สันดานขี้ข้า...สอดรู้สอดเห็น"
"ฉันแค่จะมาถามว่า มื้อเย็นคุณจะให้ทำกับข้าวอะไรบ้าง ฉันจะได้ไปจ่ายตลาด"
"ไม่มีปัญญาคิดเองรึไง"
"คิดเองเดี๋ยวเกิดไม่ถูกใจคุณขึ้นมา จะเสียของเปล่าๆ นะคะ"
ลำยองขัดใจ
สันต์ยังนั่งที่เก้าอี้รับแขกบ้านศรีวรรณ เทวีเดินตามศรีวรรณเข้ามา
"วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงนี่ได้จ๊ะเทวี"
"ก็ลมคิดถึงน่ะสิจ๊ะ....เราจำได้ว่าศรีทำขนมอร่อยไม่มีใครสู้...เลยจะมาขอตำราซักหน่อย
อาทิตย์หน้าครบรอบวันเกิด อยากทำขนมเทียนไส้กระฉีกน่ะ ไส้พอทำได้ แต่ไม่แน่ใจเรื่องกวน
แป้งอยากได้แป้งข้าวเหนียวดำ"
"นั่งก่อนสิ...เดี๋ยวจะบอกให้"
เทวีหันมาเจอสายตาสันต์ที่ยิ้มให้
"พี่ชายเราน่ะ มาเยี่ยม...มาปรึกษาปัญหาชีวิต"
เทวีไหว้ สันต์รับไหว้
"นี่พี่สันต์...นี่เทวี...เป็นเพื่อนศรีวรรณมาตั้งแต่เรียนวิทยาลัยครูด้วยกันค่ะ"
เทวียิ้มให้สันต์
บ้านลำยอง น้าชื่นกับชมเตรียมทำกับข้าวกัน วันเฉลิมนั่งเล่นอยู่มุมนึง ลำยองกับลำดวนกำลังจะเดินไปที่บ้านแล
"คุณ...จะไปไหนคะ"
"ฉันเป็นนายแก ฉันต้องบอกด้วยเหรอว่าฉันจะไปไหน"
"ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ แต่ช่วยเอาน้องคุณออกไปด้วยได้ไหม ในนี้มันยุ่ง ไหนจะเตาร้อนๆ ไหนจะมีดพร้า ฉันดูแลไม่ไหวหรอก"
"อุ้มไอัวันมันไปด้วยก็ได้มั้ง" ลำดวนบอก
"ขี้เกียจอุ้ม...มันหนัก"
วันเฉลิมยื่นแขนมาทำท่าจะโผให้อุ้ม
"แม่....แม่"
"จะไปทำไมอยู่นี่ดีแล้ว"
ลำดวนเห็นสายตาของสองน้าหลานแล้วบอก
"ฉันอุ้มให้เองก็ได้"
"แม่...แม่"
ลำดวนอุ้มวันเฉลิมแล้วพาออกไป ลำยองมองชื่นกับชม จนทั้งคู่ต้องหลบสายตา แล้วตามลำดวนออกไป
"น้าได้กลิ่นๆๆไหม...ฉันว่ามันแน่ซะยิ่งกว่าแน่อีก"
"จะสืบให้ได้ความจริง ๆ มันไม่อยากหรอกว่ะ นังชม"
ศรีวรรณจดสูตรแป้งขนมพร้อมอธิบายวิธีทำ และเคล็ดลับต่างๆให้ เทวีตั้งอกตั้งใจฟัง สันต์ทำเป็นเอาหนังสือบังหน้า แต่แอบมองเทวีเป็นระยะ..เพราะกลัวเสียมารยาท
ศรีวรรณกับเทวี หัวเราะกันอย่างน่าเอ็นดู สันต์อดใจไม่ได้แอบมองเทวีอย่างเต็มตา เทวีหันมาเห็นสายตาสันต์ ศรีวรรณมองตามสายตาเพื่อน สันต์รีบหลบสายตาแทบไม่ทัน
ในเวลาต่อมา ศรีวรรณเดินออกมาส่งเทวีที่หน้าบ้าน สันต์เดิมตามมาห่างๆ
"ขอบใจมากนะศรี วันหลังจะเอาขนมมาให้ชิมให้ช่วยติ"
"ตัวเองเก่งจะตาย ช่วยชมมากกว่า"
"ไปนะคะพี่สันต์ สวัสดีค่ะ"
สันต์รับไหว้เทวี แล้วมองตามตาละห้อย... ศรีวรรณหันมาเห็นสายตาพี่ชาย
"เทวีเขาเรียนเก่ง จบ ปอ กอ ศอ สูงแล้วก็ไปทำปริญญาตรีต่อ เขาขยันเอาการเอางาน พ่อเขาก็เป็นครู แม่ก็เป็นครู"
"โอย...เป็นครูกันทั้งตระกูลเลยเหรอ"
"พี่ชายเขาเป็นหมอ...ว่าแต่พี่สนใจเขาเหรอ"
สันต์เขินจนไม่กล้าตอบรับ
"เขาสอนอยู่โรงเรียนวัดประดู่ใน ถ้าพี่สนใจต้องสานต่อเอง แต่คงต้องให้เวลานะ เพราะเขารู้ว่าพี่มีเมียแล้ว มีลูกคนนึง"
"อ้าว...แล้วเขารู้รึเปล่าว่า พี่เลิกกับเมียแล้ว ลูกก็เมียเขาเอาไป"
"รู้....แต่มันไม่แน่ว่า พี่จะกลับไปดีกับเขาอีกรึเปล่านี่นา อาจจะเห็นแก่ลูกขึ้นมาก็ได้"
"จะกลับมาได้ยังไง เขามีผัวใหม่ไปแล้ว"
"อ้าว...ศรีไม่รู้นี่"
สันต์ถอนใจ
"พี่ต่อเอาเองเหอะ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอกมั้ง เรื่องแค่นี้"
ศรีวรรณยิ้มยั่ว สันต์ห่อเหี่ยวสิ้นหวังปนอยากๆ
ในเวลากลางคืน ปั้น เดินออกมาเห็นสันต์กำลังถอดรองเท้าวางไว้มุมหนึ่ง แล้วมานั่งซึมนิ่งอยู่กับที่
"กินข้าวกินปลามารึยังล่ะลูก"
"ครับแม่ กินที่บ้านศรีมาแล้วครับ"
สินเดินออกมา
"น้องมันสบายดีเหรอลูก"
"ครับพ่อ"
"วันนี้แม่เจอนังแลกับเมียเก่าเอ็ง มันคุยฟุ้งเลยว่า ผัวใหม่มันจะซื้อรถยนต์ให้นั่ง แม่ละคันปากยิบๆ จนต้องด่ากับมันยกนึง"
"แม่ปั้นก็...ไปแลกกับมันทำไม ทำเฉย ๆ ซะ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ดีกว่า"
"ใครจะไปทนไหว มันว่ากระทบมาถึงลูกเราว่า ทองสองสลึงเดียวก็ไม่มีปัญญาซื้อให้มันใส่ เอ็งไปเจอใครที่ถูกใจ มีสกุลรุนช่อง การศึกษาดี ๆ ขยันทำมาหากินก็จีบไปเถอะ ถ้าเขาตกลงปลงใจด้วย สินสอดทองหมั้นเท่าไร แม่ก็จะไม่ขัด หมดตัวก็ไม่ว่า อยากเห็นน้ำหน้านังแลมัน"
"ผมยังไม่กล้าคิดเรื่องนั้นหรอกครับแม่ ผู้หญิงที่ไหนเขาจะมาสนใจ พ่อหม้ายลูกติดอย่างผม มันไม่ได้เป็นภาระของผมคนเดียว แต่มันเป็นภาระของเขาด้วย"
วันเฉลิมเล่นป้วนเปี้ยนนัวเนียอยู่ข้าง ๆ ลำยองที่กินเหล้าไปดูทีวีไป
"อีชื่น...อีชื่น...อีชื่น"
น้าชื่นรีบเข้ามา
"อะไรคะคุณ เรียกลั่นบ้านจนฉันตกอกตกใจหมด"
"ไปเติมกับแกล้มมาอีก"
"ไม่มีให้เติมแล้วค่ะ...หมดแล้ว"
"อะไรวะ เงินให้ไปซื้อกับข้าวตั้งแยะได้ของมาแค่เนี้ย"
ลำยองคว้าจานกับข้าวเหวี่ยงโยนใส่ชื่น
"คุณให้เศษเงินมาไม่ถึงสิบบาท จะเอาอะไรหนักหนาคะ ได้แค่นี้ก็บุญแล้ว"
"กูไม่เชื่อมึงหรอก มึงต้องอมเงินกูไว้แหง ๆ"
"ถ้าคุณคิดว่าฉันอมเงินคุณ ทีหลังคุณก็ไปจ่ายตลาดเองดีไหมคะ"
"อีชื่น กูเป็นเจ้านายมึงนะ กูจะฟ้องคุณกวงให้ไล่มึงออก"
"ก็แล้วแต่คุณนะคะ"
"มึงนึกว่ากูไม่กล้าเรอะ"
"ฉันว่าคุณเมามากไปแล้ว เลิกกินเถอะค่ะ เข้านอนซะเถอะ กินเหล้าต่อหน้าเด็กมันดีที่ไหน"
"เป็นขี้ข้าไม่อยู่ส่วนขี้ข้า เสือกมาสอนกู"
ชื่นอุ้มวันเฉลิมพาออกไป ลำยองเมาจนมือไม้อ่อน ประคองขวดเหล้าแทบไม่อยู่
ชื่นอุ้มวันเฉลิมเข้ามาในห้องตัวเอง
"คุณนายเขาแผลงฤทธิ์อะไรล่ะน้า" ชมถาม
"เขาหาว่าข้าอมเงินค่ากับข้าว"
"เวร...ของเรายังต้องควักกระเป๋าซื้อกินต่างหากเลย จะมาว่าเราอมได้ยังไง"
"แกเมา...ข้าไม่อยากถือสา"
"คุณกวงมาคว้าเอายัยคนนี้ได้ยังไง เกิดมาฉันไม่เคยพบเคยเห็น"
"ก็คุณกวงแกคงไม่เคยได้เห็นธาตุแท้ น่ะสิ"
"ฉันว่าฉันสถุล การศึกษาก็น้อยแล้วนะ ยัยคุณนายนี่ สถุลกว่าฉันอีก แล้วไงเนี่ย ไอ้เด็กวันเฉลิมเนี่ย"
"คืนนี้คงต้องให้นอนกะเราล่ะมัง น้าอุ้มออกมาเอง เด็กมันยังไม่รู้เดียงสาก็จริง แต่ให้มันเห็นผู้ใหญ่สำมะเลเทเมาทุเรศ ๆ ยังงั้น ข้าก็ทนไม่ไหวว่ะ"
"เวรกรรมของใครก็ไม่รู้ ของพี่หรือของเอ็ง หรือ..วันเฉลิม"
ทีวีเป็นหน้าจอซ่า สถานีหยุดแพร่ภาพแล้ว ชมเข้ามาเห็นสภาพแล้วแทบถอดใจ ขวดเหล้ากลิ้งไปอยู่ทาง แก้วเหล้าไปทาง จานกับแกล้มและแทะ ลำยองนอนอ้าซ่าอยู่หน้าทีวี
"คุณ...คุณคะ คุณจะเข้าไปนอนในห้องรึเปล่า ตรงนี้ยุงมันชุมนะ คุณ"
"อย่ามายุ่งกะกู"
"ฉันลากคุณเข้าไปไม่ไหวหรอกนะคุณ"
ลำยองถีบชมจนกระเด็นแล้วหลับต่อ
"ฤทธิ์เยอะ ก็นอนตากยุงตรงนี้ไปละกัน"
ชมเดินไปปิดทีวี แล้วเก็บขวด แก้ว จานชามที่กระจัดกระจายเกลื่อนแล้ว ครั้นจะเดินออกไป
ก็ชะงักเห็น เข็มขัดนากของลำยองถูกปลดออกมากองข้างตัว ชมเอื้อมมือไปเก็บเข็มขัดนาก ลำยองหลับน้ำลายยืด
เช้าวันใหม่ แม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอื่อย ไหลแล้วไหลเลย ไม่หวนคืน เฉกเช่นกาลเวลา ชมป้อมข้าวเช้าวันเฉลิม น้าชื่นกวาดบ้านอยู่ชั้นล่าง
"กินง่ายอยู่ง่ายจัง น้าชื่นดูสิ ป้อนหาย ป้อนหายเลย หล่อนะเด็กคนนี้ เห็นแต่ยัยแม่ ตาพ่อเป็นหน้าตายังไงก็ไม่รู้ ลูกถึงออกมาหล่อยังงี้"
เสียงลำยองกรี๊ดบ้านแทบแตก
"แอร๊ย...อีชื่น อีชื่น อีสารเลว อีชื่น"
สองน้าหลานมองหน้ากัน แล้ววิ่งขึ้นไปข้างบนทันที ชมอุ้มวันเฉลิมไปด้วย
น้าชื่นกับชม รีบวิ่งขึ้นมา ลำยองกรีดร้องอย่างเสียสติ
"อะไรคะคุณ...คุณเป็นอะไร"
"อีชม...มึงขโมยของกู เอาคืนมาเดี๋ยวนี้"
"ฉันไปขโมยอะไรของคุณ"
"เข็มกลัดติดเสื้อกู เมื่อวานกูยังใช้อยู่เลย มึงเข้า ๆ ออก ๆ ห้องนอนกูต้องเป็นมึงแน่ๆๆอีชม"
"คุณหาดูดีรึยัง" น้าชื่นถาม
"มึงไม่ต้องมาปกป้องมัน อีชื่น มึงสองคนรู้เห็นเป็นใจกัน กูรู้"
"เข็มกลัดนั้นน่ะ อันละไม่กี่ตังค์ ถ้าฉันคิดจะขโมยน่ะนะ ฉันขโมยเข็มขัดนาก คุณไม่ดีกว่าเหรอ" ชมบอก
ลำยองคลำเอวทันทีและไม่พบเข็มขัด
" เข็มขัดนาก แอร๊ย...เข็มขัดกู มึงขโมยเข็มขัดกู ตำรวจ...เรียกตำรวจที"
"หยุดร้องเป็นเปรตก่อนได้ไหม เข็มกลัดน่ะ คุณถอดวางไว้ในห้องน้ำ ส่วนเข็มขัดน่ะ เมื่อคืน
คุณเมา ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยจนจะล่อนจ้อนอยู่แล้ว เข็มขัดน่ะ ฉันเก็บเอาไว้ให้อยู่บนโต๊ะโน่น"
ลำยองรีบวิ่งเข้าไปดูในห้องนอน
ลำยองเห็นทั้งเข็มขัด เข็มกลัดอยู่ด้วยกัน
"อีบ้า แล้วก็ไม่บอกแต่แรก"
"ทีหลังก็หัดหาดูให้มันดีก่อนสิวะ ก่อนจะแหกปากโทษคนอื่นเขา"
"พอแล้ว นังชม...ไป ๆ"
น้าชื่นต้องลากชมออกมา
"เป็นขี้ข้ากูมา เถียงกูฉอด ๆๆ ซักวันเถอะมึง"
สองน้าหลานลงมาที่ชั้นล่าง ชมถาม
"ไหวเหรอน้าชื่น ฉันว่าเราไปหางานที่อื่นทำดีกว่ามั้ง เงินเดือนน้อยกว่านี้ก็ช่างมันเถอะ ดีกว่าต้องทนเจ้านายแบบยัยคุณนายนี่"
เอ็งมันต้องหัดใจเย็น ๆ หน่อยสิวะ ยังไงก็ต้องคิดว่าเขาเป็นเจ้านาย"
"คุณกวงต่างหาก เจ้านายเรา" ชมบอก
"มันก็จริงของเอ็ง แต่เอ็งอย่าลืม เขาเป็นเมีย"
ลำยองเดินลงปันไดมา ชื่นกับชมจำใจหุบปาก
"เอาไอ้วันมานี่"
ชมอุ้มวันเฉลิมไปส่งให้ลำยอง
"ซักวันเถอะมึง"
ลำยองทิ้งคำพูดลอย ๆ ไว้แค่นั้น แล้วอุ้มวันเฉลิมออกจากบ้านไป
"คนอย่างอีชม ไม่ยอมให้ใครเล่นฝ่ายเดียว หรอกโว้ย" ชมบอก
" ชู่ว์...นังชม น้อย ๆ หน่อย" ชื่นปรามหลาน
ยายแลตั้งอกตั้งใจในการดูใบ้หวย ทั้งหมุนซ้ายหมุนขวา กลับหัวกลับหาง พยายามตีเลข จากแผ่นภาพลายเส้นอยู่ที่เพิงขายขนม
"มันอะไรกันวะ หกสามแปด..ละมัง"
ลำยงขายขนมและจะเก็บเงินใส่กระป๋อง แต่ยายแลดึงเงินไปจากมือลูกสาว
"เอามานี่เลย...เอามานี่"
"เมื่อไหร่ แม่จะเลิกเล่นซะที ไอ้หวย บ้าบอเนี่ย กี่งวด ๆ ก็โดนกินหมด ไม่รู้จักเข็ดซะที"
"ที่ได้ก็มีโว้ย"
"ได้กี่บาท มันคุ้มกับที่เสีย ๆ ไปรึเปล่าล่ะ"
"เสี่ยงโชคมันต้องมีได้มีเสียโว้ย ไม่งั้นเขาจะเรียกเสี่ยงโชคเรอะ มึงนี่มันไม่รู้อะไรเลย แล้วยังจะมาขัดคอขัดลาภกูอีก"
" ไอ้เงินที่แม่หมดไปกับซื้อหวยน่ะนะ ถ้าเก็บสะสมไว้ ป่านนี้เราคงซื้อที่ได้ซักแปลงแล้วละมัง เคยคิดบ้างไหม"
"มันความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของกูโว้ย ถ้ามันไม่ดีรัฐบาลเขาไม่สนับสนุนส่งเสริมให้เล่นกันหรอกโว๊ย อีบ้า อย่างมึงน่ะ โง่แล้วอวดฉลาด"
ลำยองอุ้มวันเฉลิมเข้ามาพอดี
"ลำยอง..งวดนี้แม่ได้เลขเด็ดว่ะ เขาลือกันว่าอาจารย์เนี้ยแม่นมากให้ตรง ๆ มา สามงวดติดกันแล้ว"
"เลขอะไรละแม่"
"เอ็งเอาเงินมาให้แม่ยืมก่อนสิ เดี๋ยวแม่บอก"
"โอ้ย...ฉันไม่มีให้ยืมหรอก"
"ผัวเอ็งรวย ยังกะอะไรดี ไม่มีได้ไงวะ"
"ขี้เหนียวจะตาย เงินเดือนฉันก็ให้เท่ากับตอนที่ไปทำงานโรงงาน ค่ากับข้าวก็ต้องเผื่อแผ่อีคนใช้สองคนนั่นอีก"
"เขาไม่ได้ให้พิเศษอะไรเลยเหรอวะ"
"ก็ถึงได้บอกไงว่าขี้เหนียวจะตาย"
"เขาไม่ได้เรียกขี้เหนียว เขาเรียกรู้จักใช้ รู้จักค่าของเงิน รู้อะไรควรง่ายไม่ควรง่าย เขาถึงได้ พอมีพอกินไง" ลำยงบอก
" แหม กูเบื่ออีนี่จัง เลขสามตัวกูกำลังเด่น ๆ อยู่ในหัวเนี่ย เลื่อนหมดเลย อีลำยอง"
ที่บ้านลำยอง สองน้าหลานช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้า ของใช้ลำยอง ทิ้งไว้เกลื่อนไม่เป็นที่ทาง ซักอย่างเดียว ทั้งคู่กันไปคุยกันไป
"ฉันว่าคุณกวงแกคงหวังจะได้ลูกชายกับยัยคุณนายนี่" ชมบอก
"ก็แหงละ คนจีนยังไงก็ต้องการลูกชายไว้สืบสกุลตัวเอง นี้ถ้าคุณนายบ้านโน้นรู้เข้าละก็ สนุกแน่ ขนาดซื้อบ้านซื้อของให้กันขนาดนี้ ยังไงก็ต้องบ้านแตก" ชื่นว่า
"ฉันน่ะมั่นใจว่า เด็กวันเฉลิมน่ะต้องเป็นลูกติดยัยคุณนายบ้านนี้น่ะ"
"จะสืบจริง ๆ มันก็ไม่อยากหรอกวะ"
วันเฉลิมนั่งตักลำยองอยู่ที่ร้านเสริมสวย ยายแลตามมาคุยเรื่องหวยไม่หยุดหย่อน
"เขาว่างวดที่แล้ว คนฝั่งโน้น มันถูกเป็นหมื่น ๆ เลยนะเอ็ง เจ้ามือแทบหมดตัว ข้าว่างวดนี้ยังไงอาจารย์ท่านก็ต้องให้อีก"
ลำยองนั่งอบผมอยู่อีกมุมหนึ่ง
"ถ้าอาจารย์ท่านเห็นเลข ทำไมท่านไม่เล่นเองล่ะ ยัยแล" ชาวบ้านถาม
"ท่านถือศีล ท่านมาโปรดคนยากคนจน ให้พ้นทุกข์เฉย ๆ โว้ย ใครถูกรางวัลก็แบ่งเอาไป
ถวายท่านบ้าง"
"อ้าว แล้วไม่ผิดศีลเรอะ"
"มันจะผิดได้ยังไงล่ะ ลูกศิษย์ถวาย"
ลำยองชักคล้อยตาม
"แม่แทงเผื่อฉันด้วย ร้อยนึงข้างบน"
"เอ็งเล่นร้อยนึงเลยเรอ" แลถาม
"เล่นน้อย เวลามันถูก มันไม่เต็มไม้เต็มมือ"
เจ้าของร้านบอก
"ลำยองนี่วาสนาดีจริง ๆ เลยนะ ตั้งแต่แต่งงานใหม่นี่ ผิวพรรณหน้าตา ยิ่งมีราศี มันเปล่งปลั่งไปทั้งตัวจนบอกไม่ถูก"
"ก็คนมันมีบุญไงยะ ถึงได้เนื้อคู่ที่ส่งเสริมกัน"
"แล้วเมื่อไรจะมีลูกกะเขาล่ะลำยอง" เจ้าของร้านถาม
"กำลังเร่ง อยู่..."
ทุกคนเจี้ยวจ๊าว ยายแลคุยโวต่อ
"เข้าบอกว่าถ้าได้ลูกชาย เขาจะซื้อบ้านให้อีกหลัง โรงงานนั่นเขาก็จะยกให้"
ทุกคนในร้านฮือฮา
"แล้วไอ้วัน นี่ล่ะ" ชาวบ้านถาม
"อุ๊ย..เขารักมัน เอ็นดูมันยังกะอะไรดี เขาจะรับมันเป็นลูกบุญธรรมย่ะ"
ลำยองยิ้ม รับสมอ้าง
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 3 (ต่อ)
รถยนต์กวงจอดอยู่หน้าบ้าน ลำยองอุ้มวันเฉลิมเดินมาถึงหน้าบ้าน ใจหายวาบ ไม่คิดว่ากวงจะมา เดินเข้าบ้าน เห็นชมนั่งทำงานบ้านอยู่มุมหนึ่ง
"นังชม คุณกวงมาตั้งแต่เมื่อไหร่"
"คล้อยหลังคุณออกไปแป๊บเดียว"
"เอาไอ้วันไปที"
ลำยองส่งวันเฉลิมให้ชมอุ้มต่อ กวงเดินออกมากพอดี
"ลำยอง ไปไหนมาล่ะ"
"ลำยองไปช่วยขายขนม แล้วก็ไปช่วยแม่แกกวาดบ้านถูบ้านน่ะค่ะ"
วันเฉลิมอ้อนจะให้ลำยองอุ้ม
"เนี่ยเหรอ น้องคนเล็กของลำยองน่ะ"
"ค่ะ"
"เล็กกว่าที่ผมคิดอีกนะ"
"ก็ลูกหลงนี่คะ"
"หน้าตาน่ารักจัง จะว่าไปก็เหมือนลำยองนะ"
"ใคร ๆ เขาก็ว่ายังงั้นละค่ะ"
ลำยองเปลี่ยนเรื่องทันที
"ลำยองไม่คิดว่าคุณกวงจะมา ชมจ๊ะ หาน้ำหาท่าให้คุณกวงรึงยัง"
ชมเหวอกับความหวานละไมของลำยอง
"เรียบร้อยแล้ว...ลำยองมากับผมดีกว่า ผมมีอะไรจะให้ดู"
กวงโอบพาลำยองเข้ามาที่มุมหนึ่ง ของสิ่งหนึ่งถูกคลุมผ้าเอาไว้
"อะไรคะ คุณกวง"
"ของขวัญสำหรับลำยอง"
"ตื่นเต้นจังเลย คุณกวงน่ารักที่สุด อะไรเหรอคะ ลำยองอยากเห็นจัง"
กวงดึงผ้าคลุมออก ลำยองที่หน้ายิ้มระรื่นอยู่ รอยยิ้มเหือดแห้งหายไปทันที มันคือจักรเย็บผ้าใหม่เอี่ยมเพิ่งถอยมาสด ๆ
"ลำยองชอบไหม"
"คุณกวง ซื้อมาทำไมคะ"
"ก็เอาไว้ให้ลำยองเย็บผ้าไง ผมอยากให้ลำยองไปเรียนตัดเสื้อ เรียนไม่นานก็จบ ถ้าฝีมือดี ๆ ก็
รับจ้างเขาได้... อย่างน้อยก็เย็บเสื้อใส่เอง เย็บเสื้อให้ผม ให้ลูกไง ดีไหม"
ลำยองฉีกยิ้มแทบไม่ออก
"ดีค่ะ"
กวงหอมแก้มลำยอง แต่พอกวงคล้อยหลัง ลำยองก็แสดงอารมณ์แท้ กระอักกระอ่วนทันที
"แทนที่จะซื้อตู้เย็นให้กู"
กวงนั่งมองวันเฉลิม อย่างรู้สึกเอ็นดู
"ชื่ออะไรนะ น้องลำยองคนนี้"
"มันชื่อไอ้วันค่ะ วันเฉลิม"
"ชื่อดีนะ ใครตั้งให้ล่ะ"
"พ่อมันค่ะ"
กวงชะงักมองหน้าลำยอง
"ลำยองหมายถึง พ่อแกน่ะค่ะ"
"เมื่อไหร่เราจะมีลูกชายด้วยกันซะทีล่ะลำยอง ผมอยากได้ลูกชายน่ารักๆอย่างนี้แหละ"
"คุณกวงก็มาค้างที่นี่ให้บ่อยๆสิคะ"
วันเฉลิมจะโผให้ลำยองอุ้ม
"แม่...แม่"
"มันติดแม่แกน่ะค่ะ...ชมเอ๊ยชม"
ชมออกมา
"เอาไอ้วันไปที เรียกแม่ชื่นมาด้วยนะจ๊ะ ฉันจะได้สั่งกับข้าวให้คุณกวง คุณกวงอยากกินอะไรคะ"
"เดี๋ยวผมจะกลับเลย ไม่ได้อยู่กินด้วยหรอก"
น้าชื่นเข้ามาจากหน้าบ้าน
"คุณคะคุณ มีคนมาหาคุณหน้าบ้านแน่ค่ะ"
ตาปอในสภาพโทรมมอมแมมยืนคอยลำยองอยู่นอกรั้ว ลำยองเดินออกมาเห็นปอก็เลิ่กลั่กกลัวกวงเห็น
"พ่อ...มาทำไม"
"ก็มาหาเอ็งแหละ มีเงินให้พ่อยืมบ้างไหมวะ ลำยอง"
"อะไรเนี่ย เห็นหน้าก็ขอยืมเงิน"
"ก็เอ็งร่ำรวยแล้ว บ้านช่องหลังเบ้อเริ่มทองหยองเต็มตัว ราศีเป็นคุณนายขนาดนี้ จุนเจือพ่อบ้างไม่ได้เหรอวะ"
"พ่อไปเอาที่แม่โน่น"
"แม่เอ็งน่ะขี้เหนียว วันๆขายของได้เท่าไหร่ มันเอาไปหมด ไม่แบ่งให้พ่อใช้บ้างเลย พ่อขอไม่เยอะหรอกแค่บาทสองบาทก็พอ"
"ฉันไม่มีให้พ่อหรอก รายจ่ายฉันก็เยอะ ไปก่อน เดี๋ยวคุณกวงเขามาเห็นเข้า"
"ทำไมวะ เห็นไม่ได้รึไง พ่อเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าลูกเขยคนใหม่ด้วย"
"พ่อดูสารรูปตัวเองซิ ดูได้ที่ไหน ขืนคุณกวงเขาเห็นเข้าจะรังเกียจเอา"
กวงเดินออกมาพอดี
"ไปสิ"
ปอเลิ่กลั่กออกไป กวงแค่ทันเห็นหลังปอไวๆ
"ใครล่ะลำยอง"
"ขอทานน่ะค่ะคุณกวง มาขอเศษตังค์ แต่ลำยองไม่ได้ให้หรอก"
"ให้ๆไปเถอะ ทำบุญทำทาน"
"คนพวกนี้...ขืนใจดีด้วยก็เทียวกลับมากวนใจไม่หยุดหย่อนหรอกค่ะ คุณกวง"
น้าชื่นคล้องตะกร้ากับข้าวกลับเข้ามา ภายในตะกร้าโหรงเหรง วันเฉลิมนั่งเล่นกับชมอยู่
"ได้อะไรมาบ้างล่ะน้า"
"เป็นกระบุงโกยเชียวละเอ็งเอ๊ย"
"กระบุงโกยอะไร มีแต่ผักกาดดองกับไข่"
"ข้าหมายถึงอย่างอื่นโว้ย"
น้าชื่นเหลียวมองกลัว เพื่อให้แน่ใจว่า ลำยองไม่ได้อยู่แถวนั้น
"ข้าไปสืบมาแล้ว รู้ไส้รู้พุงยัยคุณนายนี่หมดแล้ว"
"ห้า....สรุป เด็กวันเฉลิมนี่ลูกใคร"
ชื่นกระซิบข้างหูชม เล่าที่มาที่ไปสั้นๆได้ใจความ ชมตบเข่าฉาด
"ฉันว่าแล้วไม่มีผิด ยังงี้มันน่าขู่กรรโชกเอาเงิน ซะให้เข็ด"
ชมสะใจสุดๆ ชื่นกระซิบต่ออย่างเมามัน วันเฉลิมที่เล่นอยู่คนเดียว อารมณ์ดีหัวเราะแจ่มใส
เวลากลางคืน ลำยองหัวเราะชอบใจกับมุขตลกของละครในทีวี ลำยองหันมาคว้าขวดเหล้าจะใส่แก้ว แต่พบว่าเหล้าหมดแล้ว
"อีชม...อีชม"
วันเฉลิมนั่งเล่นอยู่ไม่ไกล ชมวิ่งเข้ามา
"คุณจะเอาอะไรคะ"
"ไปเปิดตู้ หยิบไอ้นี่มาอีกขวด"
"เหล้าคุณกวงซื้อตุนเอาไว้ เดี๋ยวคุณกวงมาก็ไม่มีกินหรอกค่ะคุณ"
"หมดก็ซื้อใหม่สิวะ มันจะซักกี่บาทกัน"
"คุณกินเยอะไปแล้วนะคะ"
"มึงเป็นใครอีชม มึงเป็นเจ้านายกูเหรอ"
"หนูหวังดีถึงได้เตือน เหล้ามันดีที่ไหนกัน"
"เดี๋ยวกูเขวี้ยงด้วยขวดนี่เลย"
ชมไม่ต่อความยาว เดินไปเปิดตู้หยิบขวดใหม่มาให้ลำยองตามคำสั่ง
"เอาไอ้วันมันไปนอนด้วย"
"แล้วน้องคุณจะกลับมาไหม หนูจะปิดบ้านแล้ว ดึกๆ ดื่นๆ ชอบมาเคาะเรียก"
"ช่างหัวมัน มันเข้าไม่ได้ก็ปีนเอา"
ชมอุ้มวันเฉลิมออกไป ลำยองหันไปหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับละครต่อ
ในห้องชื่นกับชม น้าชื่นปะแป้งหลังอาบน้ำ แล้วบอก
"เอ็งก็ปากมากไป เขาเป็นเจ้านาย เราเป็นแค่ขี้ข้า ริอ่านไปสั่งสอนเขา เขาจะเกลียดขี้หน้าเอา"
"แหมน้าชื่น ฆราวาสยังสอนพระได้เลย ถ้าพระทำอะไรไม่ถูกไม่ควร"
"มันไม่เหมือนกันโว้ย"
"ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้ เหล้าก็เหล้าเขา เงินก็เงินเขา แต่ฉันว่ามันทุเรศตรงที่กินต่อหน้าเด็กนี่แหละ อีกหน่อยมันก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ที่ผู้ใหญ่ยังกินได้เลย รึน้าว่าไม่จริง"
วันเฉลิมนอนหลับบนเสื่อในมุ้ง
"มันก็ญาติพี่น้องเขาไม่เกี่ยวกะเราโว้ย"
"ฉันสงสารเด็กวันเฉลิมนี่"
"พ่อแม่พี่น้องเป็นอย่างนี้ อีกหน่อยมันก็ต้องเป็นยังงั้นแหละ ข้าเห็นมาเยอะแล้ว เอ็งเชื่อข้าเถอะ" น้าชื่นบอก
วันใหม่ บ่ายแล้ว... ลำยองตื่นนอนด้วยความหงุดหงิดเพราะเสียงดัง นอกห้องนอนชมกำลังทำความสะอาดไปเล่นกับวันเฉลิมไป วันเฉลิมคลานหนี หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ชมทำเป็นวิ่งกวดไล่
"จับตัวๆๆ"
ลำยองคว้าของเขวี้ยงใส่ประตู
"คนจะหลับ จะนอนโว้ย"
วันเฉลิมยังคลานหนี
"เลิกเล่นแล้วไม่เอาแล้ว พี่จะทำงาน"
ลำยองหัวเสีย ลุกออกมาจากเตียง เปิดประตู
"มึงจะลองดีกับกูใช่ไหมอีชม"
"หนูไม่กล้าหรอกค่ะ"
"แล้วมึงเอาไอ้วันขึ้นมาทำเสียงดังบนนี้ทำไม"
"ไม่เอาขึ้นมาแล้วใครจะดูล่ะคะ"
"แล้วอีชื่นมันไปไหน"
"ไปตลาดค่ะ"
"วันๆดีแต่ไปตลาด"
"ไม่ไปแล้วจะเอาอะไรกินล่ะคะ"
"แล้วป้อนข้าวเช้าไอ้วันมันรึยัง"
"ป้อนไปสองมื้อแล้วค่ะ นี่มันบ่ายแล้วนะคะคุณ"
วันเฉลิมเตาะแตะเข้ามาให้ลำยองอุ้ม
"ไม่อุ้ม คนยิ่งปวดหัวอยู่"
ชมเข้ามาอุ้มวันเฉลิมออกไป ลำยองกลับเข้าห้องจะนอนต่อ แต่เห็นรอยคราบประจำเดือนแห้งกรังบนผ้าปูที่นอนยับๆ เธอเปลี่ยนใจ ปลดผ้าถุงขึ้นกระโจมอก แล้วถอดเสื้อโยนทิ้งลงพื้นไปทางหนึ่ง
ยายแลพูดกับลำยองที่เพิงขายขนม
"จักรเย็บผ้า...มันหลายตังค์อยู่เหมือนกันนี่หว่า"
"เขาบอกให้ฉันไปเรียนตัดเสื้อ"
ลำยงบอก
"ก็ดีนี่ พี่จะได้ไม่ต้องอยู่เฉยๆไปวันๆ เขาคงรำคาญพี่อยู่เหมือนกัน"
"อีบ้า"
"ก็ดีเหมือนกันนะโว้ยลำยอง อีกหน่อยเอ็งตัดเสื้อเป็นแล้วก็จะได้ไม่ต้องไปจ้างใครให้เสียเงิน จะได้ตัดเสื้อสวยๆให้ข้าใส่ด้วย"
"มันเรื่องอะไรล่ะแม่ คนเรามีอันจะกินแล้ว ทำไมต้องทำงานให้มันเหนื่อย ให้มันเสียศักดิ์ศรีด้วย"
"ศักดิ์ศรีน่ะมันกินเข้าไปไม่ได้หรอก แต่เงินน่ะใช้ไม่เป็นมันมีแต่วันหมด" ลำยงบอก
"เอ๊ะ...อีนี่มันด่ากูด้วยรึเปล่า" แลถาม
"ก็แล้วแต่แม่จะคิด"
"กูไม่ไปเรียนให้โง่หรอก"
"พี่ไม่คิดจะยืนบนลำแข้งตัวเองบ้างรึไง"
"เป็นผัวมันก็ต้องมีหน้าที่เลี้ยงเมียสิวะ ไม่งั้นจะเอาเป็นเมียทำไม"
ลำยงระอาใจ
ผู้คนยืนคอยรถเมล์กันอยู่มากมาย มุมหนึ่งทางป้ายรถเมล์ มีสันต์หิ้วกระเป๋ายืนปะปนอยู่ด้วย ทุกคนมองไปทางทิศที่รถเมล์จะมา ตรงกันข้ามกับสันต์ที่มองไปอีกทางหนึ่ง เหมือนรอคอยใครสักคนมากกว่าคอยรถเมล์
เทวีเพิ่งออกมาจากโรงเรียนเดินเข้ามาที่ป้ายรถเมล์ เขาเห็นเธอก็ใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ รวบรวมความกล้าอย่างมากมาย เพราะถ้ารถเมล์มาก่อน เขาจะหมดโอกาส, สันต์รีบเดินเข้าไปหาเทวี
สันต์แทบคุมเสียงให้เป็นปกติไม่อยู่
"สวัสดีครับอาจารย์"
เทวีหันมา
"อ้าว...คุณสันต์สวัสดีค่ะ มาทำอะไรแถวนี้คะ"
สันต์เตรียมคำตอบเอาไว้แล้ว จึงบอกไปว่า
"ผมแวะมาหาเพื่อนน่ะครับ ไม่นึกว่าจะได้พบอาจารย์"
"คุณสันต์ไปรถเมล์สายอะไรคะ"
"สายเอ่อ..."
"รถเมล์ดิฉันมาพอดี ไปก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่"
สันต์อึกอัก รถเมล์แล่นเข้ามาเทียบ เทวีต่อคิวแล้วขึ้นรถเมล์ไป ก่อนที่เธอจะปีนบันไดยังหันมายิ้มให้ สันต์ที่ความหวังดับมอดไปแล้ว กลับฮึกเหิมมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่ผู้โดยสารประตูหน้ายังมีอีกมาก เขาขยับไปที่ประตูหลัง
ที่บ้านยายแล ปอนอนซมคลุมผ้าโผล่แต่หัวออกมาหนาวสั่น ยายแลยื่นยาซองประสะบอแรดให้ปอ
"เอ้า...กินๆเข้า ไอ้ปอ"
"กูหิวข้าว"
"ข้าวยังไม่ได้หุง รอก่อน กินยาไปก่อน"
"พ่อเขาเป็นอะไรน่ะแม่"
"เป็นไข้แต่เมื่อคืนแล้ว ตัวร้อนแต่มันบ่นว่าหนาว ไม่รู้อะไรของมัน กินยาตั้งห้าหกซองแล้วไม่หายซักที เปลืองชิบเป๋ง" แลว่า
"กูปวดท้อง"
"อะไรกันแน่ไอ้ปอ มึงเป็นอะไรกันแน่ เดี๋ยวปวดหัว เดี๋ยวปวดท้อง"
"ก็กูปวดหมดแหละ"
"ข้าวของก็ต้องให้ไอ้ปานไอ้แป้งมันออกไปขาย ไม่รู้จะได้ซักกี่บาท"
ลำยองบอก
"ฉันเห็นมันแย่งกันซื้อสลากอยู่โน่นแนะ"
"กลับมาแม่จะแพ่นกบาลซะให้ ไอ้พวกพ่อแม่ไม่สั่งสอน" แลว่า
"กูปวดฟัน อีแล"
"โอ้ย กูจะบ้าตาย"
ยายแลเดินหนีออกไปทางหลังบ้าน
ยายแลก่อไฟเตรียมหุงข้าว ลำยองตามออกมา
"แม่...ถามอะไรหน่อย คุณนายบ้านที่สองนี่มันหมายความว่าไง"
"เอ็งว่าอะไรวะ ลำยอง"
"คุณบ้านที่สองน่ะ...ยังไง"
ยายแลตาเหลือก
"เอ็งเรอะไง...หมายความว่าผัวเอง เขามีเมียหลวงอยู่อีกบ้านละมัง ใช่ไหมล่ะ"
"ยังไม่รู้เลย ฉันได้ยินอีชมมันพูดคล้ายๆยังงี้แหละ"
"มันก็มีแววนะข้าว่า...อาทิตย์นึงเขามาค้างกะเอ็งคืนสองคืน ที่เขาว่าต้องไปดูโรงงานสร้างใหม่น่ะ ข้าว่าไปอยู่กะเมียหลวงซะมากกว่า"
"แล้วจะทำยังไงดีล่ะแม่"
"ก็ไม่เห็นจะต้องทำยังไงเลย เอ็งพูดมากไปก็จะขาดทุนเปล่าๆ ถ้าเขาเกิดรู้เรื่องไอ้วันมันขึ้นมา เอ็งก็ค่อยบอกเขาว่าเอ็งก็รู้เรื่องเขาเหมือนกัน"
"ฉันกลายเป็นเมียน้อยเขานะแม่"
"เป็นเมียน้อยแล้วยังไงวะ ถ้าเองคิดว่าเอ็งแน่จริง เอ็งก็ต้องเอาเขาให้อยู่ ดึงเขามาทางเอ็งให้ได้ เมียหลวงมันก็ไม่มีความหมายอะไรหรอกวะ"
"ฉันเสียหน้านะแม่"
"เอ็งมันคิดมากไม่เข้าเรื่อง มันธรรมดาของผู้ชายโว้ย ยิ่งผู้ชายรวยๆ เขาจะมีเมียกี่คนก็ได้ ขนาดพระอินทร์ยังมีเมียสี่เลย นี่ยังไม่รวมพวกนางอัปสรนะโว้ย"
ลำยองยังไม่เลิกกังวล
ที่เพิงขายขนม เด็กวิ่งขายเรียงเบอร์วิ่งแข่งกันมา ตะโกนแหกปากร้องลั่น
"เรียงเบอร์ เรียงเบอร์"
ลำยองกับยายแลเดินมาถึงเพิง
"เฮ้ย เอามาใบ"
แลจ่ายเงินหนึ่งสลึง เป็นค่าเรียงเบอร์แล้วกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว
"กินเรียบเลยโว้ย ไม่ได้เฉียดให้พอมีกำลังใจมั่งเลย"
"ไหนว่า แม่นนัก แม่นหนาไงล่ะแม่ อาจารย์คนเนี้ย"
"อาจารย์เขาให้แม่นโว้ย แต่กูตีเลขผิดเอง เสียดาย...เอาไว้งวดหน้าละกันวะ"
ลำยงบอก
"เจ้ามือรวยอื้อซ่า"
"เอาไว้มีทุน กูจะเป็นเจ้ามือมั่ง"
"ไปกันใหญ่"
"มึงนี่มันชอบขัดคอกูจริง อีลำยง กูคิดอะไรดีๆ มึงต้องขวางกูอยู่เรื่อย"
"ถ้ามันดีจริง ฉันจะไปขวางแม่ทำไม"
"เมื่อไหร่จะสวยๆ รวยๆ กะเขาซะทีวะ"
ลำดวนถาม
"พี่ลำยอง พี่คุยกับคุณกวงเรื่องงานฉันรึยัง"
"ยัง...เขายังไม่โผล่หัวมาเลย จะให้กูคุยยังไง"
"พี่เป็นเมียเขา ยังไงเขาก็ต้องเห็นแก่หน้าพี่บ้างละ"
"กูยิ่งเครียดๆอยู่ มึงอย่าเพิ่งมาเซ้าซี้กูได้ไหม นังลำยง พ่อไอ้วันมันเอาเงินมาฝากไว้แถวนี้รึเปล่า"
"ให้ไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้ว"
"แล้วมึงทำไมไม่เอามาให้กู"
"ทวงผิดคนแล้ว โน่น ไปทวงที่แม่แกโน่น"
"แม่"
"กูใช้ไปหมดแล้ว ผัวใหม่มึงรวยจะตายไป รอผัวใหม่มึงโน่น"
แลรีบโกยหนีออกไป
"ปัดโธ่โว้ย"
ที่ร้านขายของชำ ลำยองรับขวดเหล้า ที่ห่อด้วยถุงกระดาษ มาจากคนขาย เธอเดินออกมาจะกลับบ้าน แต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นสันต์ยืนมองอยู่
"เหล้าน่ะยังไม่เลิกกินอีกเหรอ"
"ความสุขของฉัน เงินก็เงินฉัน เกี่ยวอะไรด้วย"
ลำยองจะเดินออกไป
"ลูกเป็นยังไงบ้าง"
"คนใช้เลี้ยงให้"
"ทำไมไม่เลี้ยงเอง"
"ก็รวยซะอย่าง มีปัญหาอะไร"
"เลี้ยงไม่ไหวก็ส่งคืนมา"
"มีปัญญาเหรอ...ราคาเดิมน่ะไม่ได้แล้วนะ"
"ลำยอง"
"ของมันแพงขึ้นทุกวัน ค่าน้ำนมมันก็ต้องขยับตามเป็นธรรมดา"
ลำยองเดินลอยหน้าออกไป สันต์ที่โกรธจัดแต่ทำอะไรไม่ได้
บ้านลำยอง น้าชื่นกับชมพับผ้ากันอยู่ วันเฉลิมนั่งเล่นอยู่แถวนั้น ลำยองถือขวดเหล้ากลับเข้ามา
"กลับมาแล้วน้า"
"เออ...เอ็งทำเฉยๆไว้เดี๋ยวข้าออกหน้าเอง"
"อีชื่น...ทำกับข้าวไว้รึยัง"
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"ยกขึ้นไปให้ด้วย"
วันเฉลิมเตาะแตะเข้าไปหาลำยอง
"แม่...อุ้ม"
"ไม่อุ้ม...สกปรกมอมแมมไปทั้งตัว"
ลำยองเดินหนี ทิ้งวันเฉลิมเก้อ สองน้าหลานสบตากัน
"แม่เขาไม่อยากอุ้มมาอยู่กับพี่มา เดี๋ยวอาบน้ำปะแป้งจะได้หอมๆนะ"
ชั้นบน ลำยองกินเหล้าไปหลายแก้วแล้ว ละครในทีวีตลกสุดขีด ตีหัวกันไปมา แต่ไม่สามารถทำให้ลำยองขำได้เลย.. น้าชื่นยกถาดสำรับอาหารขึ้นมา จะจัดให้บนโต๊ะ
"วันนี้ปลาทูทอดกับแตงกวาผัดไข่ค่ะคุณ"
"เอามาตั้งนี่ จะกินตรงนี้แหละ"
ชื่นเดินมาวางถาดสำรับให้พื้นตรงหน้าลำยอง แล้วจะลุกออกไป
"เดี๋ยว...อย่างเพิ่งไป"
ชื่นชะงัก
"กูอยากรู้ ที่อีชมมันว่า กูเป็นคุณนายที่สองน่ะ หมายความว่าไง"
ชื่นทำเฉย...ลำยองคงเมาแล้ว
"ว่าไงล่ะ อีชมมันพูดยังงี้หมายความว่ายังไง แล้วอีชมมันไม่ยอมซักกางเกงในให้กู ทำยังงี้มันแข็งข้อกันนี่...บอกมาซิ"
"กางเกงในเปื้อนเมนส์ เขาไม่ซักให้กันหรอกคุณ มันสะอิดสะเอียน ของตัวเองยังไม่ค่อยจะอยากทำเลย"
"แล้วมาเป็นขี้ข้าเขาทำไม หา... อีขี้ข้า สอนหลานมึงซะมั่งอย่ากำเริบ ระวังจะต้องเป็นขอทาน"
น้าชื่นโกรธจนตัวสั่น ตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน
"เออ...จะบอกให้ก็ได้ ความจริงน่ะ อยากรู้ใช่ไหม คุณน่ะเป็นเมียน้อยคุณกวงเขา คุณกวงเขามีเมียแล้ว มีลูกด้วย แต่งงานมาสี่ห้าปีแล้ว มีลูกสาวสามคน นี่เมียกำลังท้องคนที่สี่ เมียเขาเป็นผู้ดีจีน พ่อแม่ร่ำรวย มีร้านค้ามโหฬารในสำเพ็งในตลาดเก่า เขาอยากได้ลูกชายเท่านั้นแหละ ที่เอาคุณน่ะไม่งั้นเขาก็ไม่แล ถ้าได้ลูกชายแล้ว เขาก็จะเอาลูกชายไป เขี่ยคุณทิ้ง รู้ไหมล่ะ อย่าผยองนักเลย เขารักเมียเขาจะตายไป เมียเขาสวยกว่าคุณตั้งแยะ สวยกว่า สะอาดกว่า ผู้ดีกว่า มีการศึกษากว่า"
ลำยองปวดใจที่สุดแผดร้องสุดเสียง "แอร๊ย..."
ลำยองขว้างแก้วเหล้าใส่น้าชื่น แต่ชื่นหลบทัน...เสียงแก้วแตกดังสนั่น!
"อีชื่น กูจะฆ่ามึง อีขี้ข้า"
ชื่นหนีลงบันไดไป ลำยองตามทันที
ที่ชั้นล่าง ชมอุ้มวันเฉลิม ตาหูเหลือกเพราะข้างบนเสียงด่ากันดังจนน่ากลัว วันเฉลิมไม่ได้ใจเสาะ แต่ตื่นตะลึงเหมือนกัน ชื่นวิ่งหนีลงมา ลำยองตามลงมาอย่างกระชั้นชิด
"แอร๊ย... อีชื่น กูจะฆ่ามึง"
"หยุดร้องเป็นเปรตได้แล้ว เดี๋ยวชาวบ้านเขานึกว่าถูกเชือด ก็พาตำรวจมาหรอก"
"อีขี้ข้า อย่างพวกมึงต้องเป็นขี้ข้าเขาไปจนตาย"
"คุณเองก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรนักหรอกน่า ลูกเต้าก็มีแล้ว อย่าคิดว่าจะหลอกใครเขาได้ว่าเป็นสาว โธ่เอ๊ย ฉันว่าคุณกวงเขาก็คงรู้ เขาผ่านผู้หญิงมาแล้วมีเรอะจะไม่รู้ ขนาดมีลูกมาแล้ว เพียงแต่เขาไม่คิดมาก ไม่พูดมากอย่างคุณ แล้วก็ไม่เป็นอีขี้เมาด้วย ถ้าเขาได้ลูกชายเขาก็ไม่เอาคุณแล้ว แต่ถ้าได้ลูกสาวก็ไม่แน่ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่า เด็กวันเฉลิมน่ะเป็นลูกคุณ ไม่ใช่น้องนุ่งซะหน่อย"
"แอร๊ย ... อีชื่น"
แล้วลำยองก็เบรกกรี๊ดอย่างกะทันหัน ชื่นกับชมมองอย่างแปลกใจจนต้องหันมองตามสายตาของลำยอง
กวงยืนอยู่ที่ประตู สายตาชัดเจนแจ่มแจ๋วว่า ได้ยินได้ฟังทุกอย่างหมดแล้ว
"คุณกวง"
"เสียงยังกับแม่ค้าตลาดสดทะเลาะกันทั้งคู่เลย"
น้าชื่นสบตาชมแว่บเดียว ก่อนจะพากันชิ่งหนีไปหลังบ้าน
"แม่ชื่น...ไหนบอกซิว่า เด็กวันเฉลิมน่ะลูกใคร"
ลำยองหน้าซีด
"ถามเมียคุณเอาเองเถอะค่ะ"
"แต่ฉันถามแม่ชื่นนี่...บอกมา"
"พวกที่ตลาดเขาว่า ลูกคุณลำยองกับผัวคนแรกค่ะ"
กวงเบนสายตาไปเห็นลำยองยืนหน้าซีด แต่ฤทธิ์เมาทำให้กล้าพอจะเชิดหน้าขึ้น
"ถ้าจริงแล้วจะทำไม"
"แบบนี้มันก็หลอกลวงกันน่ะสิ"
"หลอกที่ไหน...คุณไม่เคยถามซักคำว่า ลำยองมีผัวแล้วยัง มีลูกไหม มีแต่บอกว่ารักลำยอง อยากได้ลำยองเป็นเมีย ลำยองเลิกกะเขาแล้วจะมีผัวใหม่มันแปลกตรงไหน คุณกวงเองก็ไม่เคยบอกลำยองซักคำ ว่ามีเมียแล้ว มีลูกสามคน เคยคิดจะบอกไหม"
กวงนิ่งเหมือนยอมจำนน
วันเฉลิมร้องเรียก
"แม่....แม่"
ทุกคนเบนสายตาไปที่วันเฉลิมที่ยิ้มร่าเริงไม่รับรู้สถานการณ์ กวงโบกมือไล่ ชื่นกับชมให้ออกไป ชมอุ้มวันเฉลิมตามชื่นออกไปหลังบ้าน ลำยองยังยืนโงนแงนบนบันได
กวงเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนผ่านลำยองที่ตาแดงก่ำด้วยความเมา
กวงเดินเข้ามาในห้อง หยิบขวดเหล้าขึ้นแล้วยกดื่มทั้งขวด อย่างดับความกลุ้ม ลำยองเดิมตามเข้ามา
"แล้วเย็นนี้มาทำไม นี่มันวันอังคาร ไม่ใช่วันศุกร์"
"แวะโรงพยาบาลมา เมียผมคลอดลูกคนที่สี่"
ลำยองค่อยๆหัวเราะออกมา
"ผู้หญิง"
"เมียผมเขาร้องไห้เสียใจเพราะเตี่ยผมเขาบ่นว่า เห็นทีตระกูลจะต้องด้วน ขาดคนสืบสกุล"
"คุณจะกลุ้มใจไปทำไม...ลูกสาวก็ลูกสาวสิ"
"นั่นสินะ เราต้องยอมรับความเป็นจริง"
กวงยกเหล้าขึ้นซดอีก ลำยองเดินเข้ามาใกล้ดึงขวดเหล้าไปยกซดบ้าง
"ไอ้วันน่ะมันเกิดวันเฉลิม พ่อมันเลยตั้งชื่อนั้น พ่อมันเป็นทหารเรือ..ผัวคนแรกของลำยองนะหล่อด้วยนะ อีกหน่อยเขาก็คงได้เป็นนายพันนายพลเขาเรียนเก่ง ทำงานเก่ง"
"แล้วทำไมเลิกกันเสียล่ะ"
"ก็มันให้ลำยองกินฝ่ามือ ขืนอยู่ต่อไปอีกหน่อย มันคงให้กินฝ่าตีนด้วย ลำยองไม่ทนหรอกไม่ง้อด้วย หาผัวใหม่ดีกว่า"
"ง่ายดีนะ"
"แล้วคุณล่ะ ไม่เลิกกะเมียมั่งเหรอ เบ่งออกมาแต่ละทีได้แต่ลูกสาวมาอยู่กะลำยองเหอะ ขยันๆหน่อยจะได้ลูกชายปีละคน เมียคุณน่ะไม่ได้ความร้อก กี่ทีๆก็ได้แต่ลูกผู้หญิง"
"เลิกไม่ได้หรอก หาเมียน่ะง่ายจะตาย แต่เลิกกะเมียแรกนะผิดศีลธรรม ผิดประเพณีผิดธรรมเนียม ถึงจะลูกสาวก็ลูกเราแท้ๆคนอื่นที่ไหน เลี้ยงให้ดีๆก็ทำงานสืบต่อได้"
ลำยองเข้าคลอเคลีย
"กินกันให้เมา..เดี๋ยวจะได้มาทำลูกชายกัน เอาให้ได้ฝาแฝดทีเดียวสองคนเลย"
กวงเริ่มตึงๆแล้ว ถึงจะระคายหูกับคำพูดหยาบโลนของลำยอง แต่ก็รับได้ ยิ้มสะใจชดเชยความผิดหวังที่เพิ่งได้รับมา
จบตอนที่ 3
อ่านต่อตอนที่ 4 พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.