ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 7
วันเฉลิมกลับมาจากโรงเรียนเห็นบ้านเปิดอยู่ วันเฉลิมรีบวิ่งเข้ามา ลำยงกวาดบ้านให้อยู่
"น้าลำยง แม่กลับมาแล้วเหรอครับ"
"อยู่ข้างบนโน่นแน่ะ"
"แล้วน้องล่ะครับ น้องน่ารักไหม"
"เอ็งไปดูเอาเองไป๊"
วันเฉลิมขึ้นบันไดไปชั้นบน ลำยองนอนโทรมอยู่บนเตียง แลนั่งยอง ๆ ดูหลานหลับตาอย่างปลง ๆ วันเฉลิมเข้ามาดูน้อง หน้าที่เปื้อนยิ้มอยู่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
"ยาย"
"เอ็งอยากได้น้องผู้หญิงไม่ใช้เหรอ ไอ้วัน"
วันเฉลิมพูดไม่ออก ที่น้องผู้หญิงตัวเหี่ยวไม่สดใส ลำยงตามเข้ามา
"ตั้งชื่อมันว่าอะไรดีล่ะ แม่"
"ไม่รู้โว้ย....ข้าไม่รู้"
"เอ็งอยากตั้งชื่อให้น้องไหมล่ะ ไอ้วัน"
วันเฉลิมอื้ออึงนึกไม่ออก
"วันไม่รู้ครับ"
"งั้นเรียกมันว่า นังอ้อยไปพลาง ๆ ก่อนละกัน นึกออกค่อยว่ากันอีกที"
วันเฉลิมชุดนักเรียนเพิ่งกลับมา ยืนคุยกับคุณยายวิมลที่ปลอบใจว่า
"น้องเพิ่งเกิดก็ตัวเล็ก ๆ เหี่ยว ๆ ยังงั้นแหละพ่อวัน"
"แต่น้องอ้อยตัวเล็กเกินไปนะครับคุณยาย หนังก็ย่น ๆ จนวันไม่กล้าจับ ไม่เห็นน่ารักเหมือนหนูสมเลย"
"ก็หนูสมโตแล้วนี่ พ่อวัน"
"น้องคนที่แล้วยังไม่น่าเกลียดเท่าคนนี้เลยครับ"
"อีกซักพักก็คงดีขึ้นแหละลูก ถ้าเลี้ยงดี ๆ ได้กินอาหารดี ๆ"
"แม่เขาไม่ยอมให้น้องอ้อยกินนมแม่ครับ"
"อ้าว ไม่กินนมแม่แล้วกินอะไรล่ะลูก"
"แม่ชงนมข้นหวานให้น้องกินครับ"
"ไม่มีอะไรดีไปกว่าน้ำนมแม่หรอกนะ พ่อวัน"
ลำยองอารมณ์เสียอย่างหนักเพราะลูกร้องไม่เลิก
"หุบปากซะที ร้องอยู่ได้ทั้งวัน ร้องอยู่นั้นแหละ มันจะร้องอะไรนักหนาไอ้วัน ... ไอ้วัน"
วันเฉลิมวิ่งเข้ามา
"ครับ"
"มัวทำอะไรอยู่ว่ะ"
"วันซักผ้าอ้อมให้น้องอ้อยอยู่ครับ"
"เอานมในขวดยัดปากมันไป เอ็งทำยังไงก็ได้ให้มันหยุดร้องซะที"
"แม่ให้น้องอ้อยกินนมแม่ไม่ดีกว่าเหรอครับ"
"กูไม่ให้มันกิน...เอามันออกไป กูจะนอน"
วันเฉลิมอุ้มน้องออกมาทั้งเบาะมาวางลง แล้วป้อนนมขวด ลำยองล้มตัวลงนอน
"โอ๋...โอ๋ นิ่งซะ กินนมซะนะ น้องอ้อย อย่าร้องนะ โอ๋..."
วันเฉลิมปลอบโยนน้องไปมา
วันเฉลิมซักผ้ามากมายเต็มกาละมังเคลือบ แล้วเอาผ้าขึ้นตากบนราว มีทั้งผ้าผ่อนของแม่ ผ้าอ้อมของอ้อย และเสื้อผ้าของตัวเอง เขาทำทุกอย่างแข่งกับเวลาเพราะอ้อยร้องไม่หยุด
วันเฉลิมเข้ามาในห้องลำยอง
"แม่ครับ...น้องอ้อยร้องไม่ยอมหยุดเลยครับ"
ลำยองนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง
ลำยองเสียงอ้อแอ้บอก
"เอานมยัดใส่ปากมันเข้าไปสิวะ เดี๋ยวมันก็หยุดร้องเอง"
"น้องอ้อยตัวร้อนด้วย วันว่าน้องอ้อยไม่สบายนะครับแม่ พาน้องอ้อยไปหาหมอเถอะครับ"
"กูก็ไม่สบายเหมือนกันโว้ย กูปวดหัว"
วันเฉลิมพูดไม่ออกค่อยๆถอยกลับออกไป ลำยองพลิกตัวเอื้อมมือลงมาหยิบขวดเหล้า
ในครัว วันเฉลิมเทไข่ลงทอดในกระทะ แล้วหันมาตักข้าวต้มใส่ชาม
"แม่ครับ"
"อือ"
"แม่กินข้าวนะครับ เดี๋ยววันไปหายามาให้"
"เออ"
วันเฉลิมออกไป
วันเฉลิมอุ้มอ้อยใส่เบาะอย่างทุลักทุเลมาจนถึงเพิงก๋วยเตี๋ยว อ้อยยังร้องไม่หยุด
"ไอ้วัน เอ็งหอบอะไรมาวะนั่น" ปอถาม
"น้องอ้อยครับตา"
"เอามันมาทำไม แดดเปรี้ยงยังงี้ เดี๋ยวมันก็ไม่สบายเอาหรอก"
"น้องอ้อยตัวร้อน แล้วก็ร้องไม่ยอมหยุดครับ น้าลำยง พาน้องอ้อยไปหาหมอได้ไหมครับ"
ลำยงรับอ้อยไปจากวันเฉลิม
"ตัวร้อนจริงๆด้วย มันเป็นนานรึยัง ไอ้วัน"
"ตั้งแต่เช้าแล้วครับ"
"แล้วแม่เอ็งมันไปไหน ทำไมไม่ดูไม่แล" แลถาม
"แม่ก็ไม่สบายเหมือนกันครับยาย"
"ยังงี้ก็ไม่รู้ว่าเวรของใคร" ลำยงว่า
เสื้อผ้าหลายชิ้นถูกโยนทิ้งลงมาบนพื้น ลำยองรื้อตู้เสื้อผ้าหาเสื้อ กางเกงที่สวมได้ไม่เจอสักชิ้น
"มีแต่คับๆ ทั้งนั้นเลยโว้ย"
วันเฉลิมกลับเข้ามา ลำยงอุ้มอ้อย แลตามเข้ามา
"อ้าว...ไหนไอ้วันมันว่า เอ็งไม่สบาย"
"ก็ปวดหัว"
"ปวดจนไม่มีปัญญาจะอุ้มพานังอ้อยมันไปหาหมอเลยรึไง" ลำยงถาม
"มันก็แค่แหกปากร้อง"
ลำยงสุดเอือม
"ฉันไม่รู้จะด่าพี่ยังไงแล้วนะ ลูกในไส้ทั้งคน พี่เคยสนใจมันไหม เป็นแม่ประสาอะไร"
"อีลำยง"
"ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงแล้ว ปล่อยให้มันมาเกิดทำไม ไม่ได้ทรมานมันคนเดียว คนอื่น เขาพลอยรับกรรมไปด้วย รู้หรือเปล่า ไอวันมันต้องปุเลงๆ อุ้มไปโน่น"
"มึงสาระแนไปพูดอะไรไอวัน"
ลำยองพาลไปทางวันเฉลิม เงื้อง่าจะตี วันเฉลิมหลับตาปี๋ เข้าหลบหลังยายแล
"พอแล้ว นังลำยอง... เอ็งจะตีมันทำไม"
"ครั้งนี้ฉันจะช่วยพี่เป็นครั้งสุดท้าย ที่ฉันช่วยนี่ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่พี่ แต่ฉันเวทนาไอวัน นังอ้อยที่มันไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่ อะไรด้วยเลยต่างหาก"
ลำยงเดินออกไป
"เอ็งจะเอายังไง นังลำยอง... ลูกเต้านะ เลี้ยงมันไหวหรือเปล่า"
วันเฉลิมซุกตัวหลังแล
บ่อนใกล้บ้าน เมืองเทพอารมณ์ดีที่วันนี้เล่นได้ ลำยองเข้ามา
"พี่เทพ"
"อ้าว ไม่ได้ เห็นหน้าตั้งหลายวัน"
"ก็พี่ไม่ไปเยี่ยมฉันเลย"
"ไม่ว่างว่ะ"
"พี่น่าจะไปดูลูกบ้าง"
เมืองเทพค่อยๆหันมามองลำยองเต็มตา
"ลูกใคร"
"ก็ลูกฉันกับพี่ไง"
"แน่ใจเหรอวะ"
"พี่พูดยังงี้ได้ยังไง ก็พี่น่ะผัวฉัน”
"ผัวคนที่เท่าไหร่วะ"
"พี่เทพ"
"นอนกันไม่กี่ครั้ง แล้วจะมาเหมาว่าฉันเป็นพ่อเด็ก มันไม่ลักไก่ไปหน่อยเหรอ"
"พูดยังงี้แปลว่าจะไม่รับผิดชอบใช่ไหม"
"รับผิดชอบให้โง่สิวะ เสนอตัวมาให้กูเอง กูไม่ได้รักไม่ได้ชอบซะหน่อย"
"ไอ้เทพ"
"ไปท้องกับใครมาก็ไม่รู้ แล้วจะให้กูรับผิดชอบ ใช้วิธีนี้กับกูไม่ได้ผลหรอกโว้ย อีขี้เมา"
ลำยองกรีดร้องด้วยความโกรธ แล้วพุ่งเข้าตบตีเมืองเทพจนวงไพ่แตก เมืองเทพเตะคืนแล้วผลักลำยองล้มคะมำลงกับพื้น
"ถ้ามึงยังไม่เลิกมาวอแวกะกู มึงได้กินของอร่อยกว่านี้แน่"
ยายแลพูดขึ้นที่เพิงขายก๋วยเตี๋ยว
"กูบอกแล้ว ไอ้คนพรรค์นี้ มันก็เป็นเทวดาแค่ชื่อมันเท่านั้นแหละ ตัวจริงมันน่ะ...อย่าให้กูพูดเลย"
"ยิ่งกว่าหมาอีกใช่ไหมแม่"ลำดวนว่า
ลำยองป้ายน้ำตาด้วยความเจ็บใจ
"พี่เลิกเพ้อฝันได้แล้ว กลับมาอยู่กับความเป็นจริงซะทีเถอะ ว่าไม่มีใครมันจะมาดูแลเราได้หรอกนอกจากตัวเราเอง" ลำยงบอก
"ก็พ่อปู่บอกว่ากูเป็นนางฟ้ามาเกิด กูต้องเจอเทพบุตร"
"แล้วพ่อปู่ของพี่มันเอาตัวรอดไหมล่ะ ถ้ามันแน่จริงมันจะหนีตำรวจหัวซุกหัวซุนทำไม"
"แล้วนังอ้อยนี่จะเอายังไงวะ จะไปตีทะเบียนเกิดแล้วจะบอกเขาว่าใครเป็นพ่อ" ปอถาม
"ก็ไม่ต้องไปแจ้งอะไรมันทั้งนั้น"
"ได้เหรอวะ" แลถาม
"เสียเวลาทำมาหากิน" ลำยองว่า
"เออ...คิดทำมาหากินได้ก็ดี"
"เหล้าน่ะ ถ้าเองเลิกกินมันได้เงินทอง มันก็พอจะเหลือเก็บนะโว้ย นังลำยอง" ปอบอก
"พูดยังพ่อเลิกได้ยังงั้นแหละ ฉันเห็นนะ แม่เผลอพ่อก็ทีละกั๊กเหมือนแหละ"
"กูแค่เลี้ยงๆไว้ไม่ให้เชื้อมันหมดโว้ย”
"นี่เองแอบขโมยเงินเรอะไอ้ปอ"
ตาปอเดินหนี ยายแลตามราวีไปหลังร้าน
"พี่จะทำอะไรก็นึกถึงลูกให้มันมากๆก็แล้วกัน"
วิมลส่งห่อเสื้อผ้าเก่าของสมฤดีให้วันเฉลิม
"เสื้อผ้าเก่าของหนูสมน่ะพ่อวัน บางตัวยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย แต่หนูสมใส่ไม่ได้แล้วเพราะมันคับ พ่อวันเอาไปให้น้องใช้เถอะนะ" วิมลบอก
"ขอบคุณครับคุณยาย แต่คุณยายไม่เก็บไว้ให้น้องหนูสมเหรอครับ”
"หนูสมเขาไม่มีน้องอีกหรอกจ้ะ เพราะคุณแม่เขาผ่าตัด มีน้องอีกไม่ได้แล้ว”
วันเฉลิมมองห่อเสื้อผ้า
"เสื้อผ้าหนูสมก็ต้องเป็นของดีๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลยสิครับคุณยาย” วิมลยิ้ม
"ดีจังเลยน้องอ้อยจะได้แต่งตัวสวยๆบ้าง..ใช้แต่เสื้อผ้าน้องอภิชาตที่ป๊าเขาทิ้งไว้ให้ ไม่เคยได้ใส่ของเด็กผู้หญิงหรอกครับ"
วิมลยิ้มเวทนา
วันเฉลิมหอบห่อเสื้อผ้าเข้ามา ลำยอง, ยายแลเอกเขนกดูทีวีกันอยู่ อ้อยนอนในเบาะถัดออกมา ยายแลโบกพัดไล่ยุงให้หลาน
"อะไรวะนั่นไอ้วัน"
วันเฉลิมยิ้มภูมิใจนำเสนอ
"คุณยายบ้านโน้นให้มาครับ...เสื้อผ้าเก่าๆของหนูสม"
"แล้วมึงไปเอาของเขามาทำไม"
"ก็เอามาให้น้องอ้อยใช้ไงครับแม่"
"มึงเอาไปคืนเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ เห็นกูเป็นขอทานรึไง เอาของเก่าๆ จะทิ้งแล้วมาให้กูมึงนี่ มันไม่รู้จักรักษาหน้ากูเลย ใครโยนอะไรมาให้รับหมด"
"คุณยายไม่ได้คิดว่าเราเป็นขอทานหรอกครับแม่"
"ไม่ได้คิด แต่ไอ้ที่มันทำนี่มันใช่ มึงเอาไปคืนเดี๋ยวนี้เลย"
วันเฉลิมสีหน้าเจื่อนซีด
"นังลำยอง...เอ็งน่ะรู้จักลดๆลงซะมั่งเหอะ" แลว่า
"แม่ไม่ต้องมายุ่ง"
"นังอ้อยนี่จะกินเข้าไปยังไม่มี มึงแหกตาดูมั่งไหม ยังริจะทำหยิ่ง เป็นคุณนายบ้านไม้สักไม่ได้เป็นเมียเถ้าแก่กวงแล้วนะโว้ย"
"ยังไงฉันก็ยังมีบ้านอยู่ มีโทรภาพดูก็แล้วกัน"
"ถุย มีบ้านอยู่ มีโทรภาพดู แต่ลูกเต้าไม่มีค่าเล่าเรียนให้เขา อีคนเล็กนี่ก็ต้องกินนมข้นหวาน มึงยังจะทำหยิ่งอีก"
ลำยองกัดฟัดแน่น
"ใครๆเขาก็อยากจะช่วยมึงเพราะเขาเห็นแก่ลูกมึงกันทั้งนั้น กูขอร้องล่ะ มึงน่ะลดๆลงซะบ้างเถอะ ไอ้ทิฐิน่ะ มันกินเข้าไปไม่ได้หรอก"
ลำยองสะบัดหน้า
"มาช่วยกันแกะดูซิ ไอ้วัน มีอะไรมั่งหว่า"
วันเฉลิมเข้ามาช่วยยายแลแกะห่อผ้าออกดู
"ของดีๆทั้งนั้นเลยนี่หว่า"
ลำยองปรายหางตามอง แต่ไม่ยอมมองเต็มตา วันเฉลิมคลี่เสื้อผ้าเด็กผู้หญิงดู รอยยิ้มกลับคืนมาได้
นมข้นหวานก้นกระป๋องถูกละลายน้ำ คนไปมา แล้วถูกเทลงใส่ขวดนมเด็ก ลำยองโยนกระป๋องนมทิ้งไปทางนึง แล้วเอานมมาป้อนอ้อย
วันเฉลิมหยิบกระป๋องนมขึ้นมาเลียนมที่ยังค้างกระป๋องนิดหน่อย รู้สึกอร่อยดี แล้วพลิกอ่านข้างกระป๋องอย่างสนใจ ลำยองป้อนนมอ้อยแล้วมานั่งตะไบเล็บ
วันเฉลิมถือกระป๋องนมเข้ามา
"แม่ครับ...ตรงนี้เขาเขียนว่าห้ามให้เลี้ยงทารกครับ"
"มึงอย่าทำเป็นรู้ดีไอ้วัน ไม่ให้มันกินไอ้นี่ แล้วจะให้มันกินอะไร มันไม่แหกปากร้องก็บุญแล้ว ไป..จะไปไหนก็ไป"
ลำยงกวาดบ้านให้อยู่มุมนึง วันเฉลิมเดินไปหาลำยง
"กรรมของนังอ้อยมันไอ้วัน มันไม่ได้กินนมแม่มันเพราะแม่มันกลัวหน้าอกห้อย หน้าอกย้อย"
"แล้วเราหาอย่างอื่นที่ไม่ใช่นมข้นหวานให้น้องอ้อยกินไม่ได้เหรอครับน้าลำยง"
"นมผงเลี้ยงเด็กอ่อน มันแพงยังกะอะไรดี ไอ้วัน น้าไม่มีปัญญาหรอก"
วันเฉลิมหน้าม่อย
"วันว่าน้องอ้อยท้องเสียบ่อยๆก็เพราะกินนมแบบนี้แหละ"
"เอ็งก็ขยันล้างขวดนม ต้มน้ำสุกไว้ให้มันก็แล้วกัน นังอ้อยมันโตอีกหน่อย ค่อยป้อนข้าวมันแทน"
วันใหม่ เวลากลางคืน ลำยองเอกเขนกดูทีวี วันเฉลิมถือกระดาษจดหมายที่พับเรียบร้อยจากโรงเรียนเดินเข้ามาหาลำยองอย่างกลัวๆกล้าๆ
"แม่ครับ"
"อือ"
"แม่ครับ"
"กูจะดูละคร มึงมาแม่ครับ แม่ครับ อยู่นั่นละ จะเอาอะไร"
วันเฉลิมยื่นจดหมายให้
"คุณครูฝากจดหมายมาให้แม่ครับ"
"จดหมายอะไรมึงก็อ่านมาสิ กูขี้เกียจเปิด"
"เขาทวงค่าเทอมเข้าปอหนึ่งครับ"
"เอาอีกแล้วขยันทวงกูจริง ยังกะกูเป็นหนี้มันแน่ะ นี่มึงครบเกณฑ์เข้าปอหนึ่งแล้วใช่ไหมไอ้วัน”
"ครับ"
ลำยองดึงจดหมายไปจากมือวันเฉลิม ขยำจกหมายแล้วโยนทิ้งไปทางนึง วันเฉลิมใจหายแว๊บ
"เลิกเรียนมันได้แล้วไอ้โรงเรียนนี้แพงหน้าเลือด ย้ายออกมาเรียนโรงเรียนวัดนี่ ใกล้ๆบ้านจะได้ไม่ต้องเสียค่ารถ"
วันเฉลิมยืนนิ่ง ลำยองหันไปดูทีวีพักนึง แล้วจึงหันกลับมามองวันเฉลิม
"ไม่ต้องมาทำตาปริบๆ กูไม่มีปัญญาจ่ายให้มึงแล้วได้ยินรึเปล่า"
"ครับ"
วันเฉลิมค่อยๆเดินออกไป
วันใหม่ เวลากลางวันที่กุฎิหลวงตาปิ่น
"เอ็งอย่าเสียใจไปเลยไอ้วัน แม่เอ็งเขาพูดความจริง ออกมาก็ดีแล้วนะ เอ็งจะได้ระลึกเอาไว้ว่าเอ็งไม่ได้มั่งมีจนเหลือเฟือ เงินทองมันป็นของหายาก จะใช้สอยอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบ เรียนที่ไหนมันก็เหมือนกัน จะโรงเรียนราษฎร์ โรงเรียนวัด มันอยู่ที่ตัวเอ็งว่าจะขนขวายหาความรู้ใส่ตัวได้มากแค่ไหน ยิ่งเอ็งมีทุนน้อยกว่าคนอื่นเขาเท่าไรเอ็งยิ่งต้องขยันให้มากกว่าเขาอีกเท่าตัวนึง เข้าใจไหม"
"ครับหลวงตา"
"คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำประโยชน์ให้สังคมบ้านเมืองตั้งหลายคน ชีวิตต้องลำบากกันมาทั้งนั้น บางคนเขาก็เรียนโรงเรียนวัด เอ็งต้องคิดในแง่ดีเข้าไว้นะไอ้วัน อย่างน้อยโรงเรียนก็อยู่ใกล้บ้านเดินไปได้ ไม่ต้องไปเสียค่ารถ ข้าวเช้า ข้าวกลางวัน เอ็งก็มากินที่หลวงตานี่ ไม่มีอดหรอกไอ้วันเอ๊ย"
ที่เพิงก๋วยเตี๋ยวลำยง ยายแลบอก
"ใครมันจะช่วยเลี้ยงมันให้เอ็งได้ แต่ละคนมันก็มีงานต้องทำกันทั้งนั้น"
"นังลำยงไง รับมันเป็นลูกไปเลยไป เอ็งจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำ"
"จะบ้าเหรอ ฉันไม่เอาหรอก พี่คิดได้ยังไงเนี่ย ลูกตัวเองแท้ๆ"
"ก็มันเลี้ยงยาก สามวันดีสี่วันไข้ นังลำดวน"
"โอ้ย... ฉันยังไม่มีผัวเลยจะให้มีลูกได้ยังไง ไม่เอาหรอก" ลำดวนบอก
"เอามันใส่กาละมังลอยน้ำไปสิโว้ย ใครเก็บได้เดี๋ยวมันก็เอาไปเลี้ยงเองแหละ ยี่เกมันยังเล่นยังงี้เลย" ตาปอบอกพลางหัวเราะ
"นั่นมันยี่เก พ่อ...เรื่องจริงน่ะมันบาป จะทำยังงั้นได้ยังไง" ลำยงว่า
"เสียเวลาเลี้ยงมันทั้งวัน กูก็หางานทำของกูไม่ได้ แล้วจะให้ทำยังไง"
"เอ็งจะไปทำงานอะไร" แลถาม
"ก็ยังไม่รู้ อาจจะไปทำกับนังลำดวนมันก็ได้ เงินดีนี่หว่า"
"โอ้ย...อย่าไปเลย คนเขาเต็มแล้ว เขาไม่รับเพิ่มแล้ว”
"วันก่อนมึงยังคุยอยู่เลยว่าเขารับไม่อั้น"
"เต็มแล้ว เพิ่งเต็มเมื่อวาน"
"มึงกลัวกูจะไปแย่งงานมึงน่ะสิ อีบ้า"
"พี่จะไปทำได้ยังไง งานกลางค่ำกลางคืน ไปแล้วใครจะเลี้ยงนังอ้อย" ลำยงถาม
"เอ็งหางานกลางวันทำเหอะ ข้าเห็นมีโรงงานมาเปิดใหม่ตั้งหลายโรงในซอยโน้นน่ะ" แลว่า
"เป็นขี้ข้าเขาในโรงงานอีกแล้วเหรอ"
"หนังสือก็อ่านไม่ออก คิดเลขก็ไม่เป็น เขาคงจะให้พี่ไปเป็นผู้จัดการละมั้ง" ลำยงว่า
ปอหัวเราะ ลำยองหน้าคว่ำ
"เงินเล็กเงินน้อยมันก็เงินทั้งนั้นทำไปก่อน เช้าๆก็เอานังอ้อยมันมาทิ้งไว้นี่ จะช่วยเลี้ยงให้ เลิกงานแล้วก็มารับมันกลับไป ฉันช่วยพี่ได้เต็มที่ก็แค่นี้แหละ"
เช้าวันใหม่ วันเฉลิมแต่งชุดนักเรียนเข้ามาในห้องนอนแม่ ลำยองยังนอนหลับแผ่อ้าซ่า เบาะอ้อยอยู่ห่างออกไป วันเฉลิมเขย่าตัวเรียก
"แม่ครับ แม่ครับ"
ลำยองปัดดีดวันเฉลิมออกไป “อือ"
"เจ็ดโมงแล้วครับแม่"
"ช่างหัวมันสิวะ มึงมาปลุกกูทำไม"
"แม่บอกให้วันมาปลุกแม่ไงครับ แม่บอก แม่จะไปทำงาน"
ลำยองค่อยจำได้
"วันรีบไปโรงเรียนก่อนนะครับ วันหุงข้าวทอดไข่เอาไว้แล้ว แม่กินซะนะครับ แต่นมน้องอ้อยยังไม่ได้ชง"
"เออ"
วันเฉลิมรีบออกไป ลำยองงัวเงียลุกขึ้นนั่งแล้วจะลงจากเตียง เท้าเขี่ยเตะขวดเหล้าเปล่า กลิ้งไปตามพื้น
อ่านต่อหน้า 2
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 7 (ต่อ)
ปั้นพูดขึ้นที่เรือนแพ
"อย่างมันจะไปได้ซักกี่น้ำ...ตาสิน"
"มันอาจจะกลับตัวกลับใจ เพราะคิดได้ก็ได้ แม่ปั้น"
"ตาสิน...นิสัยกับสันดานน่ะมันไม่เหมือนกันหรอกนะ นิสัยน่ะ พอปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงกันได้ แต่สันดานน่ะ มันติดตัวมาแต่เกิดแก้ยังไงก็ไม่มีวันหายหรอก อย่างนังลำยองน่ะเขาเรียกสันดาน"
"จะไปจงเกลียดจงชังมัน ทำไมนักหนา"
"คนอย่างฉันใครมันมาดีด้วยฉันก็ดีตอบนะตาสิน"
"แต่ยังไงมันก็เป็นแม่ไอ้วันหลานเรานา"
"แกอยากจะยกอโหสิกรรมให้มัน ก็เชิญยกไปคนเดียว"
"ที่ฉันอยากจะเห็นมันเป็นผู้เป็นคนก็เพราะไอ้วันมากกว่าอะไรทั้งนั้น ถ้ามันดีขึ้น ไอ้วันมันก็จะพลอยสบายขึ้นไปด้วย รึแม่ปั้นว่าไม่จริง"
ปั้นค้อนวงแคบๆ เพราะจริงๆ แล้วก็เห็นด้วย
เวลากลางวัน ตาปอช่วยกันเก็บร้าน ลำยงกับยายแล ดูแลอ้อย
"ข้าว่าลองเอากล้วยน้ำหว้าสุก ๆ มาบดให้มันกินดีไหมวะ"
"มันยังเล็กไปนะแม่ จะกินได้เหรอ"
"ข้าว่านังนี่มันหัวแข็ง มันคงไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก"
ลำยงถอนใจ
"ได้เห็นยังงี้ก็เข็ดขยาดแล้ว บอกตามตรงน่ะแม่ ฉันไม่ขอมีลูกดีกว่า"
ลำยองเดินเพลียมาจากโรงงาน ทิ้งตัวลงนั่ง จาปอหันมาเห็นลูกสาว
"เป็นไงวะนังลำยอง หมดเรี่ยวหมดแรงมาเลย"
ลำยงกับยายแลหันไป
"งานดีไหมล่ะเอ็ง เผื่อจะให้ไอ้แป้งไอ้ปานมันตามไปทำด้วย" แลว่า
"ดีกะผีอะไรล่ะ งานกุลีชัด ๆ มือฉันเปื่อยไปหมดแล้ว เหม็นก็เหม็น ทั้งวันทำอยู่อย่างเดียว ยัดไอ้ผักกาดดองลงกระป๋อง ขาฉันแข็งไปหมดเลย"
"งานโรงงานมันก็ยังงี้แหละ" ลำยงบอก
"แล้วเขาให้พี่วันละเท่าไหร่" ชุดถาม
"รายวันที่ไหนกันล่ะ สองวีคมันถึงออกเงินให้ที"
"ก็ดีสิวะ เหมือนฝากเงินออมสิน" ปอบอก
"ดี พ่อก็ไปทำเองสิ ฉันไม่เอาแล้ว งานหนัก เงินก็น้อย"
"เอ็งก็ทน ๆ ทำมันไปหน่อยสิวะลำยอง คนอื่นเขาทำกันได้ แล้วทำไมเอ็งจะทำไม่ได้" แลว่า
"ฉันไม่ใช่วัวใช่ควายนะแม่"
"แล้วพี่จะเอายังไง"
"โรงงานอื่นมีตั้งเยอะ พรุ่งนี้ข้าจะไปทำโรงงานเย็บสมุด...ยังไงก็งานเบากว่าไอ้โรงงาน
บ้านี่ล่ะวะ"
วันเฉลิมหุงข้าวเสร็จพอดี ยกหม้อข้าวออกมา ลำยองอุ้มอ้อยกลับมาถึงบ้าน ดีดรองเท้าออกจากส้นไปคนละทาง
"แม่หิวข้าวไหมครับวันหุงข้าวเสร็จแล้ว"
วันเฉลิมตามเก็บร้องเท้าลำยองมาวางเข้าที่เป็นระเบียบ
"มึงมาเอานังอ้อยไปที"
วันเฉลิมรีบมารับอ้อยไปจากลำยอง
"แม่เหนื่อยไหมครับ"
"เหนื่อยสิโว้ยถามได้ พรุ่งนี้ข้าไม่มีค่าขนมให้เอ็งไปโรงเรียนหรอกนะไอ้วัน"
"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ วันจะกินข้าวที่โรงเรียนให้เยอะ ๆ จะได้อิ่ม ๆ แม่เก็บตังค์ไว้ซื้อนมให้น้องอ้อยดีกว่าครับ"
ลำยองเดินขึ้นข้างบน ระหว่างเดินไปเธอหยิบขวดเหล้าที่เพิ่งซื้อออกมาจากกระเป๋า เปิดขวดยกซดดื่ม
วันใหม่ เวลากลางวัน บรรยากาศที่เพิงขายก๋วยเตี๋ยวยุ่งเหยิงลูกค้าเยอะเพราะเที่ยงวัน ตาปอกับ ชุดช่วยกันเสริฟก๋วยเตี๋ยว เก็บชาม ลำยงลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวมือเป็นระวิง แต่แลนั่งดูภาพปริศนาใบ้หวยในถุงกระดาษพลิกทางโน้นกลับหัวทางนี้หาเลขเด็ดสำหรับงวดนี้
"นังแล ลูกค้าเต็มร้านมาช่วยกันก่อนได้ไหมวะ มัวแต่ดูไอ้โพยใบหวยอยู่ได้" ปอบอก
"งวดนี้ข้ายังไม่ได้เลขเด็ดเลย บ่ายนี้หวยจะออกแล้วโว้ยตาปอ"
"ไม่ได้เล่นซักงวดมันจะขาดใจตายไหมวะ กูอยากรู้จริง ๆ"
ตาปอดึงถุงกระดาษไปจากมือแล ขยำเป็นก้อนแล้วยัดใส่เตาไฟหม้อต้มน้ำก๋วยเตี๋ยว
"ไอ้ปอ ไอ้ฉิบหาย ไอ้ตัวขัดลาภ"
ลำยองเดินเข้ามา
"ทำก๋วยเตี๋ยวมากินชามซินังลำยง" ลำยองบอก
"พักกลางวันเหรอพี่ลำยอง เดินมาไกลนะเนี่ย"
"นี่มันจะบ่ายแล้ว จะกลับไปข้างานทันเรอะ"
"กูไม่กลับไปทำแล้ว ไอ้โรงงานบ้าเนี่ย"
"เฮ้ย ไปทำได้แค่ครึ่งวันเอ็งจะเลิกกลางคันยังงี้เรอะ"
"งานมันหนัก มันให้ฉันยกของจนไหล่แทบพัง ปวดแขนไปหมดแล้วเนี่ย เงินก็น้อย แล้วไม่ใช่สองวีคออกที มันให้เป็นเงินเดือน ทุเรศว่ะ มันเอาเปรียบกันชัด ๆ"
ทุกคนได้แต่นิ่งเพราะเอือมระอา
"กี่งาน ๆ ก็ไม่เอาซักอย่าง แล้วเอ็งจะไปทำอะไรกิน นังลำยอง"
ลำยองกระหยิ่ม
"ฉันรู้แล้วว่าฉันจะทำอะไร"
บ้านลำยอง เวลาเย็น วันเฉลิมวักน้ำจากถังมารดน้ำผักสวนครัว ยายแลตามลำยองที่อุ้มอ้อยกลับมา
"เอ็งคิดดูให้มันดี ๆ นะโว้ย นังลำยอง"
"ฉันตัดสินใจแล้ว บ้านนี่มันก็บ้านฉัน ไม่ใช่บ้านแม่ซะหน่อย แม่จะมาทัดทานทำไม"
"ข้าว่า...”
"บ้านนี่มันเกือบก้นซอย ไกลหูไกลตาตำรวจ ห้องคนใช้ข้างล่างก็ว่างอยู่ ข้างบนก็มีตั้งหลายห้อง มันต้องใช้ให้คุ้ม ห้องรับแขกไม่ต้องมีมันแล้ว ไม่มีแขกหน้าไหนมันมาหรอก เอามาใช้เก็บค่าต๋งดีกว่า....ไอ้วัน”
วันเฉลิมวางถัง วิ่งมาหาลำยอง
"ครับ"
"เดี๋ยวมึงเก็บข้างของในบ้านให้ดี สมบัติมึงเอาเข้าห้องมึงไปซะให้หมด"
"ครับ"
ลำยองเดินเข้าบ้านไป
ยายแลยังยืนอึ้งมึน
"แม่จะทำอะไรครับยาย"
"แม่เอ็งมันจะแบ่งห้องให้เช่า"
"จะมีคนอื่นมาอยู่กับวันในบ้านนี้น่ะเหรอครับยาย"
"เออ...มันงกกว่านั้นอีก มันจะเปิดบ้านนี้เป็นบ่อนด้วยโว้ย"
เพิงก๋วยเตี๋ยว ชุดบอก
“บ้านดี ๆ บรรลัยหมดละทีนี้...น่าเสียดาย"
ลำยงบอก
"บ้านน่ะ ช่างหัวมันเถอะ เจ้าของมันไม่เคยใส่ใจดูแลอยู่แล้ว แต่ฉันแปลกใจว่ามันคิดได้ยังไง เอาบ้านทำบ่อนเนี่ย มันไม่นึกเลยเหรอว่าลูกเต้าจะอยู่ยังไง"
"ข้าก็หมดปัญญาจะทัดทานมันแล้ว มันเห็นแต่ทางได้อย่างเดียว ทางเสียมันไม่นึกถึงเลย" แลบอก
"แต่ฉันว่า งานนี้มันอาจจะเหมาะกับพี่ลำยอง ถูกโฉลกกับมันก็ได้นะแม่ ไหน ๆ ก็ชอบ
เล่นจนขึ้นสมองเข้าเลือดไปแล้ว ก็เปิดบ่อนมันซะเลย สิ้นเรื่อง" ลำดวนบอก
"วันดีคืนดีกูจะเอาตำรวจมาบุกบ่อนมันมึงคอยดูสิ" ปอพูดพลางหัวเราะ
"กูไม่ขำกะมึงเลยไอ้ปอ"
ฝ่ายหลวงตาปิ่นบอก
"เวรกรรม นี่แม่เอ็งมันหมดปัญญาจะทำมาหากิน ขนาดนี้เลยเหรอวะ ไอ้วัน"
"แม่บอกว่า งานสบาย ๆ อยู่เฉย ๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้ครับหลวงตา"
"แล้วเอ็งคิดอย่างแม่เอ็งรึเปล่า"
"การพนันมันเป็นเรื่องไม่ดีหรอกครับหลวงตา วันเห็นแม่ขายของในบ้านไปแต่ละอย่าง วันเสียดาย วันรู้ว่าแม่ก็เสียดาย แต่แม่ทำอะไรไม่ได้ แม่ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วครับหลวงตา"
"เอ็งคิดได้ยังงี้ก็ดีแล้ว ข้าเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เอายังงี้ไหมล่ะ เอ็งมาอยู่กับหลวงตา ปล่อยแม่เอ็งเฝ้าบ้านเฝ้าบ่อนของมันไป"
"ไม่ได้หรอกครับหลวงตา วันต้องช่วยแม่เลี้ยงน้องอ้อยครับ"
ข่าวนี้รู้ไปถึงเรือนแพ
"นั่นปะไร มันผิดจากทีฉันพูดไหมล่ะ ตาสิน อีคนคนนี้มันหาดีอะไรไม่ได้ซักอย่าง ตัวมันตกลงไปต่ำคนเดียวไม่พอ มันยังฉุดลูกมันลงไปด้วย มันเป็นแม่ชนิดไหนกัน สมองเอาไว้คิดด้านดี ๆ มีกะเขาบ้านไหม" ปั้นว่า
"มันคิดว่านี่เป็นด้านดี ๆ ของมันไงแม่ปั้น" ตาสินบอก
"ฉันจะไปด่าอีแลมัน"
"นี่มันเรื่องนังลำยองมาใช่เรื่องยัยแล"
"มันแม่ลูกกัน ยังไงมันก็ต้องอวยกัน"
"คนบางประเภทด่าให้หยาบ ๆ คาย ๆ ยังไงมันก็เปล่าประโยชน์ แม่ปั้น"
"แล้วจะทำยังไง นี่ถ้าเจ้าสันต์มันรู้ว่า ไอ้วันมันต้องอยู่บ้านที่กลายเป็นบ่อน อีลำยองถึงตายแน่แกเชื่อฉันเถอะ"
"แม่ปั้น...ทองน่ะนะต่อให้ตกกองไฟยังไงมันก็ยังเป็นทองอยู่วัยยันค่ำ ไม่มีวันเปลี่ยนเป็นอย่าง อื่นไปได้หรอก"
"แต่ไอ้วันมันยังเล็กเกินไป มันต้องเห็นแต่เรื่องอัปรีย์ที่ผู้ใหญ่ทำอยู่ทุกวี่ทุกวัน แกไม่คิดว่ามัน จะซึมจะซับเอาเรื่องไม่ดีเข้าตัวมัน"
"เราก็ต้องช่วยกันประคับประคองมันให้ดี ๆ ละแม่ปั้น อะไรดีอะไรเลวต้องชี้ให้มันเห็น ให้มันชั่งตวงวัดเป็น ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ มันถึงจะแข็งแกร่งมีภูมิคุ้มกันสำหรับตัวมันเองได้"
ปั้นพอทุเลาความเดือดดาลลงไปบ้าง
วันใหม่ วันเฉลิมหิ้วถุงโอเลี้ยงหลายถุงกับห่อข้าวผัดมาหลายห่อจนไหล่เอียง เข้าประตูรั้วมา
หน้าประตูรองเท้ามากมายถูกถอดไว้ระเกะระกะไม่รู้ของใครเป็นของใคร
วันเฉลิมหิ้วของเข้ามาในบ้านที่วงไพ่กระจายเต็มบ้าน
"ไอ้วัน...ทำไมช้านัก มัวไปเถลไถลที่ไหนมึง"
"ข้าวผักหลายห่อ วันเลยต้องรอนานครับ"
"เอ้า ข้าวผัดของใครบ้างจ๊ะ โอเลี้ยงพี่ปุ๊ พี่งี๊ พี่จิ๋มใช่ไหมจ๊ะ อย่าลืมติ๊ปหลานมันหน่อยนะจ๊ะ ค่าเดิน"
ชาวบ้านให้เศษตังค์วันเฉลิม วันเฉลิมจะเดินออกไป
"มึงจะไปไหนคอยอยู่แถวนี้ เผื่อลูกค้าเขาจะให้ไปซื้อของ"
"วันจะขึ้นไปทำการบ้านครับจะไปดูน้องอ้อยด้วย ป่านนี้คงหิวแล้ว"
"มึงนี่ ไม่รู้จักช่วยกันทำมาหากินเล๊ย"
"วันขึ้นไปแป๊บเดียวครับ"
วันเฉลิมฝ่าวงไพ่ขึ้นบันไดไปชั้นบน ลำยองเอ็นจอยกับอาชีพของเธอ
หลังบ้าน วันเฉลิมเอียงหมอข้าว รินน้ำข้าวใส่ถ้วย
"เดี๋ยวกินน้ำกินข้าวนะน้องอ้อยนะ"
วันเฉลิมหันไปพูดคุยกับอ้อยที่นอนในเบาะ
เสียงลำยองตะโกนมา
"ไอ้วัน ไปซื้อข้าวผัดหน่อยสิโว้ย"
"ครับ"
วันเฉลิมอุ้มทั้งเบาะออกไป
กลางวันเวลาผ่านไป วันเฉลิมรวบเก็บผ้าที่ตากแห้งแล้ว ทั้งของลำยอง อ้อยและวันเฉลิม
"ไอ้วัน ไปซื้อโอเลี้ยงหน่อยโว้ย"
ผ้าถูกดึงออกจากราว …
วันเฉลิมเติบโตขึ้นอีกช่วงหนึ่ง
"ครับแม่"
วันเฉลิมหอบผ้าเต็มแขนรีบกลับเข้าบ้าน … กาลเวลา ทำให้บ้านไม่เป็นบ้านมากขึ้นทุกที ลูกค้าชายในบ่อนคนหนึ่งกำลังหันหลังยิงกระต่ายอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน
วันเฉลิมหิ้วห่อข้าวผัดมากมายมามือนึง อีกมือนึงหิ้วถุงโอเลี้ยงจำนวนมาก เดินหนักมาอย่างทุลักทุเลจนไหล่ลู่รีบเดินมาตามถนน แล้วมองซ้าย-ขวาจะข้ามถนน รถคันหนึ่งแล่นมาไกล ๆ เขาแน่ใจว่าข้ามทัน...รีบข้ามถนน
กลางถนน...เชือกมัดห่อข้าวผัดห่อนึงขาด ห่อข้าวผัดร่วงลงพื้น วันเฉลิมชะงัก ลังเลจะก้มลงเก็บ
รถอีกคันแล่นแซงขั้นมาอย่างกระชั้นชิด เสียงแตรรถลากยาว รถคันที่กำลังแซงขึ้นมา พุ่งตรงเข้ามา เสียงเบรกลางยาว วันเฉลิมลมลงตกใจสุดขีด
ชาวบ้านวิ่งหน้าตื่นเข้ามาที่เรือนแพ
"พ่อสิน แม่ปั้น รีบไปเร็ว ๆ"
"อะไร ใครเป็นอะไร"
"หลานแม่ปั้นถูกรถชน"
ปั้นช็อคตาค้าง สินร้องเรียก
"ไอ้วัน"
ถุงโอเลี้ยงน้ำแตกกระจายนองถนนกับห่อข้าวผัดเกลื่อน ปั้น ,สิน วิ่งหน้าตื่นมาแต่ไกลเห็นกลุ่มคนที่มองดูก็ยิ่งใจเสีย
"ไอ้วัน"
ปั้นกับสินรีบวิ่งฝ่ากลุ่มคนเข้ามากลางวง
"ไอ้วัน"
วันเฉลิมที่นั่งอยู่กับพื้นมองแผลที่หัวเข่ากับข้อศอกอยู่เงยหน้าขึ้น
"ปู่"
"ใจคอหายหมดเลยไอ้วัน" ปั้นบอก
"เอ็งเป็นไรรึเปล่า"
"วันไม่เป็นอะไรครับ"
"ไอ้รถคันไหนมันชนเอ็ง ย่าจะเล่นงานมันเอง...ไอ้คนไหน" ปั้นถาม
"วันข้ามถนนไม่ดีเองครับย่า...โอเลี้ยงหกหมดเลย"
ชาวบ้านที่ช่วยเก็บห่อข้าวผัดกลางถนน เอาข้าวผัดมาวางให้
"แข้งขาหักไปรึเปล่า ไปโรงหมอเดี๋ยวนี้เลย ปู่จะพาไป" สินบอก
"วันไม่เป็นไจริง ๆ ครับปู่ วันต้องรีบกลับบ้านแล้ว แม่คอยข้าวผัดกับโอเลี้ยงอยู่"
"ช่างหัวมัน ให้มันคอยไป" ปั้นบอก
"เดี๋ยวแม่ตีวัน"
"มันตีเอ็งได้เจอกับข้าแน่"
"ข้าวผัดยังพอกินได้มั้ง แต่โอเลี้ยงไม่มีเหลือแล้วไอวัน"
วันเฉลิมหน้าซีด
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวเอาตังค์ปู่ไปซื้อใหม่"
"ตาสิน"
ลำยองยืนท้าวสะเอวหน้าหงิกคอยอยู่ปากประตู วันเฉลิมกะโผลกกระเผลกหิ้วถุงโอเลี้ยง-ข้าวผัดกลับเข้ามา แผลยังสด เลือดไหลซิบ
"มึงมัวไปเถลไถลที่ไหนมาไอ้วัน มึงรู้ไหมว่าแขกรอกินข้าวกินน้ำอยู่ มึงนี่ไม่รู้จักมีสำนึก"
"วันรีบวิ่งแล้วครับแม่"
"เนี่ยเหรอรีบของมึง มึงต้องแอบไปแวะร้านขายของเล่นมาแหง ๆ เลยใช่ไหม ตัวแค่นี้ มึงโกหกกูแล้วเหรอ"
ลำยองฟาดก้นวันเฉลิมหลายป้าบแล้วคว้าพวงถุงโอเลี้ยงไปจากวันเฉลิม
"มึงรีบเอาข้าวผัดตามกูมา แต่งวดนี้มึงอย่าหวังจะได้ค่าเดินเลยมึง สลึงเดียวกูก็ไม่ให้"
วันเฉลิมเดินจ๋อยตามลำยองเข้าบ้าน
"โอเลี้ยงเย็น ๆ ชื่นใจมาแล้วค่าคุณพี่ ใครสั่งโอเลี้ยงบ้างเอ่ย ยืนบื้ออยู่นั้นแหละไอ้วัน รีบไปเอาจานมาใส่ข้าวผัดสิวะ"
"ครับ"
วันเฉลิมวางพวงห่อข้าวผัด แล้วเดินออกไปทางครัวผ่านวงไพ่ที่ขากเสลดบ้วนน้ำลายลงพื้น
วันเฉลิมวักน้ำล้างแผลที่หัวเข่าให้ตัวเอง น้ำถูกแผลถลอก แสบจับใจ เขากัดฟัน เอาแขนป้ายน้ำตาทิ้ง น้อยใจแม่และรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้
วันใหม่หน้าบ้านลำยอง วิมลถาม
"คนมาเต็มบ้านยังงี้ พ่อวันมีเวลาทำการบ้านเหรอลูก"
"พอโรงเรียนเลิก วันรีบทำที่กุฎิหลวงตาครับ"
"เรียนยากไหมล่ะลูก นี่จะจบปอหนึ่งแล้วใช่ไหม"
"ครับ เรียนเหมือนตอนวันอยู่โรงเรียนเก่าครับ คุณยาย"
"พี่วันไปเล่นกัน" สมฤดีบอก
"คุณแม่หนูสมเขาซื้อของเล่นมาให้ พ่อวันไปเล่นกับน้องที่บ้านยายไหมล่ะลูก"
"วันไปไม่ได้หรอกครับ วันต้องคอยช่วยงานแม่"
ลำยองตะโกนมา
"ไอ้วัน ไอ้วัน"
"แม่เรียกแล้ว วันไปก่อนนะครับ คุณยาย"
วันเฉลิมรีบวิ่งเข้าบ้าน
"มัวทำอะไรอยู่วะ ไอ้วัน ห่วงแต่เล่นนะมึง แทนที่จะเข้ามาช่วยในนี้"
"วันกำลังจะหุงข้าวครับ"
"เก็บจานชามนี่ออกไปก่อน เอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดน้ำปลาด้วย น้ำปลาหก เหม็นไปทั้งบ้านจนแขกจะทนไม่ไหวแล้ว"
"ครับ"
วันเฉลิมรวบรวมจานข้าวที่ชาวบ่อนกินทิ้งกันเอาไว้ ข้าวหลายจานเหลือบานเบะ ลำยองลงไปนั่งแจมที่วงไพ่วงหนึ่ง
"แม่ครับ...ข้าวสารหมดแล้วครับ"
"เออ"
"แม่จะให้วันไปซื้อไหมครับ"
"เอ๊ะ ไอ้นี่ขัดลาภกูจริง เอาไว้พรุ่งนี้ก่อน"
วันเฉลิมจ๋อยไป
"ครับ"
วันเฉลิมหอบตั้งจานชามออกไป
อ่านต่อหน้า 3
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 7 (ต่อ)
วันเฉลิมอุ้มอ้อย
"วันนี้ พี่ไม่มีน้ำข้าวให้น้องอ้อยกินหรอกนะ กินนี่ก็แล้วกัน พรุ่งนี้ถึงจะให้ตังค์ไปซื้อข้าวสาร"
เขาตักข้าวที่ชาวบ่อนกินเหลือป้อนอ้อย สลับกินเองอย่างกล้ำกลืนฝืนทน ทั้งหิวทั้งรังเกียจที่ต้องกินต่อขี้ปากคนอื่น แต่ก็ต้องหลับหูหลับตากินไป
วันเฉลิมเก็บผ้าที่ตากไว้ ผัวเมียคู่หนึ่งทะเลาะกัน ลากกันออกไปจากบ่อน เมียดึงหูผัว ด่าไปตลอดทาง เขาหดหู่กับสิ่งที่เห็น หอบผ้าจะกลับเข้าบ้าน
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
"ไอ้หนู ไอ้หนู"
"ครับ"
"ยังมีห้องว่างให้เช่ารึเปล่า"
ภายในบ้าน ลำยองกำลังลุ้นไพ่เต็มที่ วันเฉลิมเข้ามา
"แม่ครับ มีคนมาขอเช่าห้องครับ"
"เออ...บอกให้มันรอก่อน"
"คิดค่าเช่าเดือนละเท่าไรครับ"
"ย่อง..."
ลำยองชื่นมื่นหันมาบอก "สี่ร้อย"
ลำยองชะงักเพราะชายหนุ่มหน้าตาใช้ได้ หลังจากไม่ได้เห็นแบบนี้มานาน
"แต่ลดให้ก็ได้...คิดแค่สามร้อยละกัน"
"ย้ายเข้ามาวันนี้เลยได้ไหมครับ"
"ได้สิ...ได้ ทำงานทำการอะไรจ๊ะ แต่งตัวแบบนี้ต้องเป็นผู้จัดการบริษัทแหงๆเลยใช่ไหมจ๊ะ"
"ผมขับรถรับจ้างครับ"
"อ๋อเหรอ แล้วมีรถของตัวเองไหม"
"รถเถ้าแก่ครับ"
"อ๋อเหรอ หน้าบ้านก็จอดรถได้นะ"
"ครับ"
"ไอ้วัน พาอาเขาไปดูห้องสิไป"
"ครับ"
ชายเดินตามวันเฉลิมขึ้นข้างบนไป ลำยองมองตามชายหนุ่มแล้วหันกลับมาเล่นไพ่ต่อ
บ้านลำยองกลางคืน วันเฉลิมนั่งอ่านหนังสือ ประเภทปกิณกะความรู้ทั่วๆไปได้หนังสือมาจากกุฏิหลวงตา
"ไอ้วัน...ไอ้วัน"
"ครับแม่"
วันเฉลิมปิดหนังสือแล้วรีบลุกออกไป
ลำยองส่งแขกชุดสุดท้าย ออกจากบ้าน
"พรุ่งนี้มากันอีกนะจ๊ะ"
สภาพบ้านเยิน สกปรกรุงรังข้าวของเกลื่อน ไปด้วยขวด แก้ว จานชาม วันเฉลิมลงบันได้มา
ลำยองวางแก้วเหล้าแล้วเทเงินในกระเป๋าถือออกมานับ
"เก็บข้าวของด้วยโว้ย แล้วเอานังอ้อยมันไปนอนห้องเอ็ง"
"ครับ"
วันเฉลิมเดินเก็บกวาดซากบ่อน อ้อยนอนหลับอยู่มุมหนึ่ง ลำยองนับเงินเพลินใจ คนขับรถรับจ้างเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขาวม้า เดินผ่านมา ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กันลำยองมองตาม พร้อมๆกับยกแก้วเหล้าขึ้น
อ้อยร้องไห้งอแง วันเฉลิมพยายามหลอกล่อ เอาของเล่นยื่นให้เล่น อ้อยก็เขวี้ยงทิ้งหมด
"อย่าร้องสิน้องอ้อย แม่นอนแล้วเสียงดังเดี๋ยวแม่ตื่น...โอ๋ๆๆ หิวนมเหรอ งั้นเดี๋ยวพี่ลงไปชงมาให้นะ รอแป๊บนึง"
วันเฉลิมเดินออกมา
ลำยองเพิ่งอาบน้ำเสร็จคว้าชุดนอนมาสวม แล้วปลดกระโจมอกลงกองกับพื้นปลายเท้า เธอก้าวออกจากกองผ้าถุง ไม่คิดจะหยิบขึ้นมาตากผึ่ง เสียงอ้อยร้องยังดังแว่วๆ มาตลอดเวลา ลำยองเดินออกจากห้อง
วันเฉลิมคนละลายนมข้นหวานที่เหลือขอดติดก้นกระป๋อง จนได้นมจางๆก็เทใส่ขวดนม แล้วเดินออกมา แต่ต้องชะงัก
หน้าห้องเช่าชายขับรถรับจ้าง ลำยองยืนคอยอยู่หลังจากเคาะเรียกไปแล้วหลายที ชายขับรถรับจ้างเปิดประตูแง้มออกมายิ้มให้เมื่อเห็นเป็นลำยอง
"ห้องอยู่สบายไหมจ๊ะ"
"ร้อนไปหน่อย ถ้ามีพัดลมซักตัวก็ดีครับ"
"ร้อนเหรอ...เปิดหน้าต่างหรือเปล่าล่ะจ๊ะ"
ลำยองพูดไม่ทันจบก็มุดเข้าห้องไปเลย...ประตูถูกปิดเข้ามาเงียบ ๆ วันเฉลิมแทบกลั้นหายใจกับภาพตรงหน้า
อ้อยหลับไปแล้ว นมหมดขวดพอดี วันเฉลิมที่นั่งประคองขวดนมให้น้องดูดค่อย ๆ ดึงขวดนมออกจากปากอ้อย เขาวางขวดนมแล้วค่อย ๆ ล้มตัวลงนอน แต่ไม่สามรถข่มตาให้หลับลงได้
หน้าบ้าน เช้าวันใหม่ วันเฉลิมเดินออกมาหน้าบ้าน เครื่องบินสังกะสีอยู่ในมือชายคนหนึ่ง
วันเฉลิมเดินเข้ามาหา
"อาครับ เครื่องบินนั่นของวัน ขอวันคืนด้วยครับ"
"ใครบอกของเอ็ง"
"ของวันจริง ๆ ครับ พ่อซื้อให้วันตั้งนานแล้ว"
"ขอเล่นหน่อยไม่ได้รึไงวะ"
"เล่นได้ครับ แต่อาต้องเล่นเบา ๆ เดี๋ยวพัง"
ชายคนนั้นกวนตีนโยนเครื่องบินคืนวันเฉลิม เครื่องบินร่วงตกพื้น แยกออกเป็นเสี่ยง ๆ
วันเฉลิมหน้าซีด ชายคนนั้นหัวเราะแล้วเดินออกไป
"กระจอกฉิบเป๋ง แค่นี้ก็เจ๊งแล้ว"
วันเฉลิมค่อย ๆ เก็บชิ้นส่วนเครื่องบินขึ้นมา เสียดายสุด ๆ หัวใจสลาย น้ำตาร่วงที่รอบ ๆ ตัวมีแต่คนใจร้าย
วันเฉลิมใช้ความพยายามในการซ่อมให้กลับมาเป็นอย่างเดิม เอาข้าวสุกมาทำแทนกาวแต่ก็ไม่สำเร็จ น้ำตาร่วงไม่หยุด ลำยองตะโกนเรียก
"ไอ้วัน...ไอ้วัน"
วันเฉลิมจะรีบเก็บเครื่องบิน แต่ก็สายไป เมื่อลำยองเข้ามา
"ไอ้วัน"
"ครับ"
"กูเรียกมึงคอแทบแตก มึงมานั่งมุดหัวอยู่นี่เอง ไม่เคยช่วยทำมาหากินเลย ดีแต่เล่นกินกับนอน กูนะเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรมึง"
วันเฉลิมยื่นเครื่องบินให้ดู
"เครื่องบินวันพังครับ"
ลำยองไม่รอฟังต่อ กระชากวันเฉลิมอย่างแรง เครื่องบินร่วงอีกครั้งกระจายเป็นหลายเสี่ยง
ลำยองฟาดลูกชายไม่ยั้ง
"แค่นี้มึงสำออยบีบน้ำตา แค่ไอ้ของเล่นกระจอกๆ มึงจะเป็นจะตายให้ได้เลยใช่ไหม"
ลำยองกระทืบซากเครื่องบินจนบู้บี้ไม่เหลือชิ้นดี
"ลูกค้าเต็มบ้าน ไม่คิดจะออกไปช่วยกูเลย มึงนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุก ออกไปซื้อโอเลี้ยงข้าวผัดเดี๋ยวนี้"
ลำยองฉุดกระชากวันเฉลิมเข้าบ้านไป
หลวงตาปิ่นนั่งมองวันเฉลิมในชุดนักเรียน ที่ตั้งอกตั้งใจถูพื้นกุฎิให้
"เอ็งไม่อยากกลับก็ไม่ต้องกลับ บ้านมันเป็นยังงั้นซะแล้ว ใครมันจะอยากกลับไปวะ"
"แม่อารมณ์ไม่ค่อยดีเลยครับหลวงตา"
"คนที่มันมัวเมาอยู่กับผีพนัน ผีอบายมุข มันจะอารมณ์ ดีมีความสุขอย่างคนอื่นเขาได้ยังไง ไอ้วัน... ถ้าแม่เอ็งมันจะด่าก็ให้มันมาด่าหลวงตานี่"
"หลวงตาครับ"
"เออ"
"เวลาที่วันว่าวันมีความสุข มีอยู่สองเวลาเท่านั้นเองครับ เวลาอยู่ที่โรงเรียนกับเวลาที่อยู่กับหลวงตาที่นี่ครับ"
หลวงตาปิ่นยิ้มเมตตา วันเฉลิมก้มหน้าก้มตาถูพื้น
ลำยองมือถือแก้วเหล้า ชะเง้อมองหาวันเฉลิม ปานนั่งกินข้าวอยู่มุมนึง
"ไอ้ปาน ไอ้วันมันกลับมาจากโรงเรียนรึยัง"
"ไม่รู้"
"มึงวิ่งไปซื้อโอเลี้ยงกับข้าวผัดให้ลูกค้าหน่อยไป"
"ไม่เอา ขี้เกียจเดิน"
"เขามีค่าเดินให้มึง"
"เดินขาลากได้สลึงห้าสิบ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวรอไอ้วันมันไปสิ"
ปานลุกหนีออกไป ลำยองเดินมาที่แป้งซึ่งแจมวงไพ่วงหนึ่งอยู่
"ไอ้แป้ง มึงขึ้น ไปดูนังอ้อยมันให้กูหน่อย กูขังมันไว้ในห้องน่ะ"
"เป็นแม่ทำไมไม่ไปดูเองวะ"
"กูต้องดูแลลูกค้า มึงไม่เห็นเหรอ"
"เดี๋ยวไอ้วันมันมา มันก็ไปดูเองแหละ"
แป้งเมามันกับไพ่ ลำยองหัวเสีย
สินขึ้นบันไดกุฏิมา
"ไอ้วัน"
วันเฉลิมที่นั่งทำการบ้านอยู่ หันมา
"ครับปู่"
"ปู่นึกแล้วว่าเอ็งต้องยังอยู่ที่นี่เอา...ของฝาก...พ่อเอ็งเขาส่งมาให้"
สินยื่นถุงกระดาษให้
วันเฉลิมรับมาอย่างงงๆแล้วเปิดถุงออกดู หยิบเสื้อกันหนาวเป็นเนื้อผ้าผ้าสำลีออกจากถุง
หลวงตาปิ่นเดินออกมาดู
"เสื้อกันหนาวไง...พ่อเอ็งเขาซื้อส่งมาให้จากเมืองนอกเชียวนา" สินบอก
วันเฉลิมยังไม่หายงง
"อ้าว นี่เจ้าสันต์มันไปเมืองนอกเมืองนาตั้งแต่เมื่อไร"
"สองสามเดือนแล้วหลวงพี่...มันได้ทุนไปอบรมเพิ่มเติมที่เกาะฮาวายอะไรโน่นแน่ะ"
"ไม่ยักรู้เลยนะเนี่ย ที่มันหายหน้าหายตาไปซะนานนี่ ที่แท้ก็ไปเมืองนอกหรอกเรอะ"
"ไอ้วัน...พ่อเองเขาไปได้ไกลแล้วนะ เอ็งต้องดูพ่อเอ็งเขาเอาไว้ เรียนให้เก่งๆ ตั้งใจทำงานให้ดีๆสุดท้ายความตั้งใจก็จะไม่เสียหลาย"
วันเฉลิมหน้าตาสดชื่นขึ้น
"มันหงอยอยู่ตั้งนาน มันคงคิดว่าพ่อมันทิ้งมันแล้ว ถึงไม่ยอมมาหาเลย" หลวงตาปิ่นบอก
วันเฉลิมก้มหน้า มองเสื้อในมือ
"เขาไม่ได้ทิ้งเอ็งไปไหนหรอก ไอ้วัน เขายังนึกถึงเอ็งเสมอไม่อย่างนั้น ก็คงไม่ส่งเสื้อตัวนี้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้เอ็งหรอก เอ้านี่เขาเขียนจดหมายมาถึงเอ็งด้วย"
วันเฉลิมรับกระดาษจดหมายมาจากสิน
"เอ้าลองใส่ดูซิเสื้อน่ะ ตัวใหญ่ไปรึเปล่าก็ไม่รู้"
"ชื้อใหญ่ๆไว้หน่อยก็ดี จะได้ใส่ได้หลายๆปีไง"
วันเฉลิมลองสวมเสื้อกันหนาวหน้าเปื้อนยิ้มตื้นตันใจอย่างไม่รู้สึกตัว หัวใจอันแห้งห่อเหี่ยวชุ่มชื่นขึ้น ความรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวขาดที่พึ่งพอจะจางลงได้บ้าง
ลำยองท้าวสะเอวฉับ ปักหลักคอยเล่นงาน
"มึงหายหัวไปไหนมาไอ้วัน โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้ว"
วันเฉลิมหิ้วกระเป๋านักเรียน กับถุงกระดาษใส่เสื้อกันหนาวเดินจ๋อยเข้ามา
"วันไปกวาดถูกุฎิให้หลวงตาครับ"
"หนอยโรงเรียนเลิกแทนที่มึงจะรีบกลับมาช่วยวิ่งซื้อของ หลบหน้าหลบตาเอาหลวงตามาอ้าง กูรู้นะมึงไปคอยพ่อมึงมาโปรดใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวกูป้าบเข้าให้"
ลำยองเงื้อง่า วันเฉลิมหลับตาปี๋
"แล้วนั่นอะไร...ถุงอะไร"
"เสื้อกันหนาวครับพ่อซื้อส่งมาให้วัน"
ลำยองกระชากดึงถุงไป ควักเสื้อออกมาดู
"ของดีซะด้วย โธ่...ไอ้หมาหัวเน่า พ่อมึงมันทำเป็นใจดีกับมึงไปยังงั้นแหละ มันเห่อเมียใหม่ลูกใหม่มันมากกว่า ยังไงมึงมันก็ส่วนเกิน"
ลำยองขยำเสื้อแล้วเขวี้ยงใส่หน้าวันเฉลิม ก่อนเดินปึงปังเข้าบ้านไป เสื้อร่วงลงพื้น วันเฉลิมค่อยๆเก็บเสื้อขึ้นมา
อ้อยคลานซนอยู่ไม่เป็นสุข วันเฉลิมตามป้อนข้าวอ้อยอย่างยากเย็น
"หม่ำ ๆ ก่อนคำนึง น้องอ้อย หม่ำ ๆ ก่อน"
ปานเข้ามา
"ไอ้วันแม่เอ็งให้ไปซื้อโอเลี้ยง"
"วันยังป้อนข้าวน้องอ้อยไม่เสร็จเลย น้าปานก็ไปซื้อแทนวันหน่อยสิครับ"
"มันเรื่องอะไร ข้าไม่ใช่ขี้ข้าใครโว้ย"
"งั้น น้าปานป้อนข้าวน้องอ้อย เดี๋ยววันไปเอง"
"ไม่เอา นังนี่มันดื้อจะตาย"
"แล้วใครจะดูน้องอ้อยล่ะ"
"มันจะไปยากอะไร"
ปานหยิบเชือกที่อยู่แถวนั้นมาผูกเท้าอ้อย
"น้าปานจะทำอะไร"
"มันซนนักก็ผูกมันไว้กับโต๊ะ มันจะได้ไม่ไปไหนโว้ย"
เวลากลางคืน ชายขับรถรับจ้างเพิ่งกลับเข้าบ้านมา ลำยองยังตั้งวงเหล้ากับขาไพ่ 3-4 คน วันเฉลิมอยู่มุมหนึ่ง
"นี่...วันนี้ครบเดือนอีกแล้วนะ อย่าลืมจ่ายค่าเช่าห้องด้วย"
ชายขับรถยิ้ม
"ครับ พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวผมเอามาให้ครับ"
ชายขับรถรับจ้างเดินไป
"ลำยองนี่มันเสือนอนกินนี่หว่า เดือนๆ อยู่เฉย ๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้" ลูกค้าบ่อนคนหนึ่งบอก
"เขาเรียกหัวใสโว้ย ทำมาหากินน่ะ มันต้องใช้สมองเยอะ ๆ ไม่งั้นเหนื่อยตาย หลังขดหลังแข็งขายผักขายปลาได้กำไรกี่สิบบาท อย่างอีย่าไอ้วันมันน่ะ ตายแล้วไปเกิดใหม่ดีกว่าว่ะ"
ห้องวันเฉลิม เวลากลางคืน ซากเครื่องบินของเล่นยังอยู่ที่พื้น ภายในมุ้ง วันเฉลิมนอนกอดเสื้อกันหนาวที่สันต์ส่งมาให้เหมือนเป็นความสุขความหวังและกำลังใจอย่างเดียวที่เหลืออยู่
เช้ามืดวันใหม่ วันเฉลิมคนข้าวในหม้อที่กำลังเดือด ชายขับรถรับจ้างหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้า พัดลมเดินออกไป วันเฉลิมหันไปเห็น ชายขับรถรับจ้างกำลังจะออกจากบ้านไป หมอข้าวที่ปิดฝาไว้ล้นดันฝาหม้อ วันเฉลิมรีบกลับมาสนใจหม้อข้าว
เวลาสายๆ ชาวบ่อนตั้งวงไพ่อย่างหงอย ๆ เพราะคนไม่ค่อยมี ปานนั่งกินข้าวอยู่มุมหนึ่ง วันเฉลิมถูบ้าน ลำยองเดินหงุดหงิด
"สายป่านนี้แล้วทำไมมันไม่ค่อยมีคนมาวะ"
"เขาไปเล่นบ่อนอื่นกันหมดแล้วพี่ลำยอง ซอยโน่นมันมีบ่อนเปิดใหม่ตั้งหลายบ่อน"
"เพราะมึงน่ะแหละ ไอ้วัน"
วันเฉลิมเป็นงงมาลงที่ตนได้ยังไง
"มึงไม่ต้องมาทำตาปริบ ๆ เลย กูใช้ให้ไปซื้อของให้แขก มึงทำอิด ๆ ออด ๆ ทุกที เขาก็เอือมกันหมด แล้วไอ้ห้องนั้น เมื่อไรมันจะจ่ายค่าเช่าว่ะ จะได้เก็บค่าเช่า"
"เขาออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วครับแม่"
"มึงว่าอะไรนะ"
วันเฉลิมจ๋อยลงยิ่งกว่าเดิม
"เขาออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วครับ"
ลำยองนิ่งอึ้งอื้ออึงเหมือนถูกตบหน้าเมื่อผลักประตูห้องเช่าเข้ามา วันเฉลิมที่ตามมาจ๋อยสนิท
ในห้องไม่เหลือสภาพว่าจะมีใครอยู่ ข้าวของเสื้อผ้าถูกเก็บไปหมด ทิ้งไว้แต่ขยะเกลื่อนพื้นกับซากของกินที่เน่าแล้วเน่าอีก
ลำยองเกรี้ยวกราดปราดเข้าไปกระชากมุ้งเก่า ๆ โทรม ๆ ที่ห้อยแปะกับผนังด้านหนึ่งระบายอารมณ์
"พัดลมกูซื้อให้มัน มันเอาไปด้วย ไอ้สารเลว เพราะมึงคนเดียวไอ้วัน เห็นมันขนของออกไปทำไมมึงไม่รีบไปปลุกกู"
ลำยองระบายอารมณ์กับลุกฟาดใส่วันเฉลิมไม่เลี้ยง เขาตกใจกับอารมณ์แม่ หลบมือที่ฟาดลงมาไปมา ไม่มีโอกาสอธิบายความจริงให้ฟัง
ลำยองระบายอารมณ์อัดอั้นอยู่ที่เพิงขายก๋วยเตี๋ยว
"ดวงไม่ดีเลยโว้ย"
"จะไปโทษดวงได้ยังวะ ก็ไอ้ที่พี่ทำมันผิดศีล มันเป็นอบายมุข มันจะหาความเจริญได้ยังไง" ลำยงบอก
"อีลำยง กูว่ามึงนี่แหละแช่งกูเอาไว้"
"ไม่ต้องมีใครเขาแช่งหรอก ไอ้เรื่องแบบนี้น่ะ"
ลำยองคว้ากำตะเกียบเขวี้ยงเข้าใส่ลำยง
"เฮ้ย...ข้าวของทำมาหากิน ทำไมทำยังงี้ว่ะ" ปอว่า
"เดี๋ยวนี้บ่อนมันเปิดกันเยอะ บ่อนไหนเปิดใหม่ คนมันก็เฮละโลไปกันหมดแหละ"
"นังลำดวน เอ็งชวนเพื่อนฝูงเอ็งมาเล่นบ่อนข้าบ้างสิวะ" ลำยองบอก
"โอ้ย คนที่ฉันรู้จัก แต่ละคนเขามีระดับทั้งนั้น เขาไม่มาเล่นบ่อนกระจอก ๆ อย่างบ่อนพี่หรอก"
ลำยองเงื้อง่าจะตบ ลำดวนชิ่งหนี
"เลิกซะไม่ดีเหรอวะ นังลำยอง ไหน ๆ ก็มือไม่ขึ้นแล้ว"
"แม่พูดอะไรเนี่ย...จะให้ฉันเลิกได้ยังไง วัน ๆ เงินเข้าบ้านตั้งเท่าไหร่"
"ข้าว่าเอ็งห่วงเล่นเองซะล่ะมากกว่า" ปอบอก
"ห้องเช่าเอ็งตั้งสี่ห้าห้อง ทำห้องเช่าอย่างเดียวก็พอมั้ง นังลำยอง" แลบอก
"มันเพิ่งย้ายหนีฉันไปห้องนึงหยก ๆ เมื่อเช้านี้ ค่าเช่ามันก็ไม่จ่าย ค้างมาสองเดือน พัดลมฉันมันก็เชิดไปด้วย อุตส่าห์ซื้อให้มัน ไอ้สารเลว"
"คนมันร้อยพ่อพันแม่ ทำใจซะเถอะวะ" ลำยงบอก
"ทำใจได้ยังไง มันต้องมารับผิดชอบ"
"พัดลมตัวละตั้งหลายตังค์ไ แลบอก
"ไปแจ้งความสิวะ มันคนแถวนี้รึเปล่า ชื่ออะไร"
"ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ฉันไม่ทันได้ถาม แต่มันขับรถรับจ้าง"
"ชื่อคนเช่าบ้านยังไม่รู้จัก งั้นก็ช่างหัวมันเถอะ พัดลมตัวเดียว" ลำยงบอก
"ช่างหัวมันได้ไง มันต้องมารับผิดชอบเพราะมันทำกูท้อง"
ทุกคนร้องตกใจเสียงหลง
"อีลำยอง...มึงว่าอะไรนะ กูฟังไม่ถนัด" แลว่า
อ่านต่อหน้า 4
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 7 (ต่อ)
วันเฉลิมล้างจานอยู่หลังบ้าน เสียงลำยองตะโกนเรียก
"ไอ้วัน...ไอ้วัน"
"ครับ"
วันเฉลิมต้องทิ้งงานที่ทำอยู่ รีบวิ่งออกมา อ้อยนัวเนียอยู่ใกล้ลำยอง ที่เล่นไพ่กับสมาชิกชาวบ่อนอยู่
"มึงมัวทำอะไรอยู่"
"ล้างจานครับ"
"เอานังอ้อยมันไปไกล ๆ กูรำคาญ จะทำมาหากินละ กวนกูจริง"
วันเฉลิมอุ้มอ้อยออกมา
"ไปน้องอ้อย ไปกับพี่วันนะ"
แป้งนั่งกินข้าวอยู่มุมหนึ่ง
"ไอ้วัน....ทำไมมึงไม่คิดตังค์แม่มึงวะ ค่าเลี้ยงน้องน่ะ ถ้าคิดมึงคิดรวยไปแล้ว ยิ่งอีกหน่อยมึงจะยิ่งเป็นเศรษฐีเพราะแม่มึงจะมีน้องให้มึงเลี้ยงอีกคนแล้วรู้เปล่า พันธุ์ดกฉิบเป๋ง นี่ถ้าเป็นแม่หมูนะ มึงได้ราคาดีโคตร ๆ" แป้งพูดพลางหัวเราะเป็นเรื่องขบขัน
ที่เพิงก๋วยเตี๋ยว ลำยงบอก
"มันถลำลึกลงไปทุกทีแล้วแม่ ใครมันจะไปประคับประคองมันไหว ในเมื่อตัวมันเองยังไม่เห็นเลยว่า ชีวิตมันเหมือนอยู่ในนรกขนาดไหน"
วันเฉลิมมือหนึ่งป้อนก๋วยเตี๋ยวให้อ้อย อีกมือกินเอง หูก็ฟังผู้ใหญ่คุยกัน
"ชื่อผัวตัวเองยังไม่รู้จัก มันไม่ไหวแล้วนา" แลบอก
"มันคงเมาแหละ เมาจนไม่มีสติ" ปอบอก
"พ่อนังอ้อยนี่ว่ามันแย่แล้ว ไอ้คนนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เวรกรรมแท้ ๆ" แลบอก
"จะไปโทษเวรกกรรมมันก็ไม่ถูกหรอกแม่ มันไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเอง" ลำยงบอก
ตาปอถามหลานชาย
"ไอ้วัน...แม่เอ็งมันจะมีน้องอีกแล้ว เอ็งเลี้ยงมันไหวไหมวะ"
"ไหวครับตา"
"นังอ้อยคนเดียวเอ็งยังไม่เข็ดอีกเหรอ"
"ยังไงก็น้องของวันนี่ครับตา"
ผู้ใหญ่พากันพูดไม่ออก วันเฉลิมป้อนก๋วยเตี๋ยวอ้อย
เวลาผ่านไปหลายเดือน สันต์กลับมาเมืองไทยแล้ว สันต์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
"ลำยองน่ะเหรอครับตั้งบ่อน"
"ร่วมปีได้แล้วมั้ง หลังจากเอ็งไปเรียนต่อน่ะแหละ" ปั้นบอก
"คิดได้ยังไงหมดหนทางทำมาหากินแล้วรึไง ถึงทำอะไรโง่ ๆ ยังงี้"
"มันก็คงเข้าทางถนัดของมันน่ะแหละ ได้ยินเขาว่ามันท้องกับผัวใหม่แล้วด้วย ป่านนี้คงท้องแก่แล้วละมัง"
"ผัวใหม่"
"มันแบ่งห้องให้เช่าด้วย ผัวใหม่มันก็คนมาเช่าห้องน่ะแหละ ขับรถรับจ้าง"
"อยู่กินกัน ช่วยกันทำมาหากินดีเหรอครับ"
ปั้นพูดไม่ออก โบ้ยไปให้สินพูดแทน
"ผู้ชายมันหนีไปแล้ว ผัวของมันคนนี้ชื่ออะไรมันยังไม่รู้เลย ชาวบ้านเขาขำกันยังกะอะไรดี"
"นี่มันอะไรกันครับ...ไม่กี่ปีเจ้าวันมีพ่อเลี้ยงสามคนแล้ว งั้นเหรอครับ"
"พ่อใหม่สาม น้องใหม่สาม"
"ใช้ชีวิตอยู่กับบ่อน มีแต่คนมัวเมาอบายมุข ยังงี้แล้ว เจ้าวันมันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง"
ปั้นกับสิน พูดไม่ออก
"มันเป็นความผิดของผมเอง...ผมผิดเอง ผมต้องแก้ไข"
กลางวันหลังโรงเรียนเลิก วันเฉลิมหิ้วกระเป๋าจะมุ่งไปที่กุฏิหลวงตา บริเวณลานวัด เด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งเล่นซนกันอยู่
เด็ก 1 บอก
"เฮ้ยไอ้วัน พรุ่งนี้เช้าเอาการบ้านมาให้ข้าลอกด้วยนะโว้ย"
"ไม่หัดทำเองแล้วจะมีความรู้ได้ยังไง"
วันเฉลิมเดินหนี
เด็ก 2 บอก
"กูจะฟ้องครูว่าบ้านมึงเป็นบ่อน"
เด็ก 1 ถาม
"เอ็งเล่นไพ่เก่งรึเปล่าวะ สอนข้าหน่อยสิ"
เด็ก 3 ถาม
"จะรีบไปไหนวะรีบไปซื้อโอเลี้ยง ข้าวผัดรึไร"
เด็ก 1บอก
"แม่มันมีผัวใหม่อีกคนแล้วนะโว้ย คนที่เท่าไหร่แล้ววะ ไอ้วัน"
เด็กๆต่างหัวเราะชอบใจ วันเฉลิมเดินลิ่วๆพยายามหนีออกไปให้ไกลจากที่นั่น ด้วยความปวดใจ
วันเฉลิมวางกระเป๋านักเรียน นั่งลงที่บันไดกุฏิ ค่อยๆถอดรองเท้าผ้าใบออกวาง รองเท้าคู่นั้นเก่าจนเยิน หัวแม่ตีนแทบทะลุออกมาได้ หลวงตาปิ่นออกมา
"มาแล้วเรอะ ไอ้วัน"
"ครับหลวงตา"
"เอ็งดูซิว่าใครมา"
วันเฉลิมเงยหน้าขึ้นมอง สันต์มาคอยอยู่นานแล้ว เดินเข้ามา
"วัน"
วันเฉลิมดีใจ แต่ความดีใจนั้นมอดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากยกมือขึ้นไหว้พ่อแล้วเดินเลี่ยงออกไปด้านในกุฏิเงียบ ๆ สันต์ใจหาย ลูกโตขึ้นและมีความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจอย่างชัดเจน
"เอ็งหายหน้าไปนานยังงี้ มันก็คงจะงอนเอ็งน่ะแหละ"
วันเฉลิมบิดน้ำออกจากผ้าขี้ริ้ว เตรียมถูกุฏิให้หลวงตา สันต์ตามออกมา
"วัน... คุยกับพ่อหน่อยสิลูก"
สันต์กอดคอลูกพามานั่งที่บันได
"ย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้ดีไหม"
วันเฉลิมก้มหน้าตอบ
"ดีครับ"
ความรู้สึกของวันเฉลิมตรงข้ามกับคำตอบ สันต์รู้สึกได้ถึงความอึดอัด
"ไปอยู่กับพ่อนะวัน พ่อจะส่งให้เรียนโรงเรียนดี ๆ"
"ไม่ละครับ ขอบคุณครับ ผมเป็นห่วงน้อง"
"ที่บ้านพ่อก็มีน้อง วันก็มีเพื่อนเล่นนี่ลูก"
วันเฉลิมนิ่ง
"วันจะได้ไม่ต้องอยู่บ่อน ไม่ต้องดูคนเมาเหล้า อยู่กับพ่อ เพื่อนบ้านพ่อก็เป็นทหาร เด็ก ๆ ลูกนายทหารทั้งนั้น วันจะสนุก ไม่ต้องรับภาระเลี้ยงน้องด้วย วันจะได้เรียนหนังสือเต็มที่"
"ไม่ล่ะครับ วันจะอยู่กับแม่"
สันต์อึ้ง วันเฉลิมนิ่ง
"ถ้าแม่เขายอมให้วันไปล่ะ วันจะไปไหม"
วันเฉลิมกัดฟันกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล
"พ่อจะคุยกับแม่เขาดูนะลูก"
สันต์แตะไหล่วันเฉลิมที่เงยหน้ามองสันต์เต็มตาเป็นครั้งแรก สันต์ยิ้มให้มอบความมั่นใจเต็มเปี่ยมให้ลูก แต่ลูกกลับหิ้วกระเป๋าเดินจากมา สันต์มองวันเฉลิมเดินห่างออกไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ
วันเฉลิมเดินก้มหน้ามาจนจะถึงหน้าบ้าน กลุ่มชาวบ้านมุงดูบางสิ่งบางอย่าง ชะเง้อชะแง้กันอย่างเมามัน วันเฉลิมแปลกใจ ใจคอไม่ดี มุดฝ่าฝูงชาวบ้านเข้ามา
รถตำรวจ รถขังผู้ต้องหาจอดอยู่หน้าบ้าน วันเฉลิมรีบวิ่งมาหน้าประตูรั้ว
ภายในบ้านกำลังอลหม่านเป็นผึ้งแตกรัง ชาวบ่อนหนีกลุ่มตำรวจที่กรูเข้าไปวิ่งไล่จับ บางคนปีนหนีออกมาทางหน้าต่าง บางคนมุดตุ่ม บางคนปีนต้นไม้หนี ดูอเนจอนาถน่าสมเพชและน่าขบขันไปในเวลาเดียวกัน
ลำยองถูกคุมตัวออกมาจากบ้าน เธอดิ้นรนเอะอะเสียงดังเพราะเมาจนได้ที่
"ปล่อยกู...มาจับกูทำไม กินเหล้าของกูเฉย ๆ ไอ้บ้า"
ลำยองเตะถีบตำรวจที่คุมตัว
"แม่....แม่"
วันเฉลิมพยายามจะวิ่งเข้าไปหาลำยองแต่ตำรวจกันเอาไว้
"จะเอาแม่ผมไปไหน อย่าเอาแม่ผมไปนะ"
ลำยองถูกยัดใส่รถคุมตัวผู้ต้องหา ประตูรถถูกปิดและรถเคลื่อนตัวออกทันที เธอเกาะลูกกรงในรถ ก่นด่าไม่มีสติ วันเฉลิมวิ่งตามรถผู้ต้องหา
"แม่....แม่"
ตาปอจะหยิบลูกชิ้นใส่ชามก๋วยเตี๋ยว ยายแลฟาดแขน
"ไอ้ปอ ไอ้หัวขโมย... ขโมยลูกชิ้นอีกแล้วนะมึง"
"กูไม่ได้ขโมย มึงทำก๋วยเตี๋ยวให้กู ไม่ยอมใส่ลูกชิ้นให้กูซักลูก"
"กูใส่แล้ว"
"ไม่ได้ใส่ มึงแหกตาดู มีที่ไหน"
ตาปอยื่นชามก๋วยเตี๋ยวแถมอ้าปากให้ยายแลดู
"มึงอย่ามาลักไก่ ไปไกลๆเลย"
"อีแล อีขี้เหนียว"
"ของซื้อของขายโว้ย กินล้างกินผลาญอย่างมึง ล่มจมตายกันพอดี"
ตาปอเดินจ๋อยมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเปล่าๆต่อ แป้งวิ่งหน้าตั้งมาแต่ไกล
"แม่...แม่"
"อะไรของมึง ไอ้แป้ง กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะมึง"
ลำยงยกชามที่ล้างเสร็จออกมาพอดี แป้งบอก
"บ่อนแตก ตำรวจสอยไปหมดเลย"
"เออดี กวาดๆไปซะมั่ง ผุดกังยังกะดอกเห็ด ทำมาหากินกันไม่เป็นแล้ว มั่วสุมกันอยู่ตรงนั้นแหละ บ่อนใครมันโชคดีวันนี้วะไอ้แป้ง" ลำยงถาม
"จะบ่อนใคร ก็บ่อนพี่ลำยองน่ะสิ"
ลำยง,กับยายแลาค้างร้อง “หา...”
ตาปอหัวเราะ
“แม่ไปดูมันเหอะ” แป้งบอก
“แล้วเอ็งไม่พาข้าไป”
“ไม่เอาฉันไม่ถูกกับตำรวจ” แป้งบอก
“ไปเหอะแม่”
ลำยงกับยายแลทิ้งร้านรีบวิ่งออกไปทันที ตาปอกับแป้งรีบมาที่ตู้ก๋วยเตี๋ยว โกยลูกชิ้นกินกันอิ่มหมีพีมัน
ในห้องขังของสถานีตำรวจ ลำยองถูกขังรวมกับบรรดาชาวบ้านจนแน่นห้องขังไปหมด หลายคนทะยอยถูกเอาตัวออกมาเพราะมีญาติพี่น้องมาประกันตัว บรรยากาศบนโรงพักเต็มไปด้วยความคึกคักมีชีวิตชีวา
ลำยองยังเมาอารมณ์พลุ่งพล่านโวยวาย
“ปล่อยกูออกไปนะมึง มึงไม่รู้ใช่ไหมว่าผัวกูเป็นใคร เดี๋ยวกูจะให้ผัวกูเล่นพวกมึงให้หมดโรงพักเลย”
วันเฉลิมร้องไห้เกาะลูกกรงห้องขังอยู่ข้างนอก
“แม่ครับ...แม่”
“มึงไปตามป๊ามึงมาเดี๋ยวนี้ ไอ้วัน ไอ้คนพวกนี้ต้องเอาเงินฟาดหัวมันให้หมด”
“แม่”
ลำยงกับยายแลฝ่าฝูงคนขึ้นมาบนโรงพัก มองหาลำยองจนเห็น
“อีลำยอง...กูเตือนมึงแล้วใช่ไหม มึงไม่เคยฟังกูเลย ขายขี้หน้าเขาไปทั้งซอย” แลบอก
“ยายครับ ยายช่วยแม่ออกมาด้วย” วันเฉลิมบอก
“เขาต้องทำยังไงกันบ้างเนี่ยแม่” ลำยงถาม
“เอ็งไปถามตำรวจเขาดูซิ”
ลำยงเดินออกมาหาสิบเวร ร้อยเวรกำลังถูกมารุมมาตุ้ม
ลำยองตะโกน
“ปล่อยกูออกไปนะมึง ทีไอ้บ่อนใหญ่ๆละไม่ไปจับ มาจับกู”
“อีลำยอง มึงหุบปากซะที เดี๋ยวเขาก็ขังลืมมึงหรอก”
วันเฉลิมทั้งกลัวทั้งสงสารแม่ เช็ดน้ำตาป้อยๆ ลำยงกลับเข้ามา
“เขาบอกว่า ยังไงก็ต้องส่งฟ้องศาลหมดนี่แหละ ทั้งคนเล่น ทั้งเจ้าของบ่อน”
“แล้วทำไมบางคนมันออกมาได้วะ”
“ก็ถ้าหาเงินมาประกันตัวได้ เขาก็ให้ออกมา”
"ปล่อยกูออกไป...ไอ้อ้วน ไอ้หัวเถิก”
ยายแลอยากจะเอาอะไรยัดปากลำยองให้หุบปากซะจริงๆ
ยายแลกับลำยงสีหน้าเครียดพากันเดินกลับบ้าน วันเฉลิมเดินตามข้างหลัง
“น้าลำยง ทำไมไม่ช่วยแม่ออกมาล่ะครับ”
“ข้าไม่มีเงินหรอกนะไอ้วัน ขายก๋วยเตี๋ยวทั้งเดือนยังไม่ได้เงินครึ่งนึงของไอ้เงินประกันตัวเลย”
“แล้วจะทำยังไงครับ แม่ต้องอยู่ในนั้นอีกนานไหม”
“ข้าไม่รู้โว้ย”
“ยายครับ”
“ข้าก็จนปัญญาโว้ย”
“วันสงสารแม่นะครับยาย”
“ปล่อยให้มันอยู่ในนั้น ซักพักก็ดี มันจะได้เข็ดขยาด เผื่อจะได้คิดขึ้นมาบ้าง”
สองแม่ลูกพากันเดินลิ่วๆออกไป
ภายในห้องครัว อ้อยแสนซนคลานต้วมเตี้ยม หยิบโน่น หยิบนี่ วันเฉลิมหุงข้าวอย่างตั้งอกตั้งใจ สลับหันมาดูแลอ้อย
“น้องอ้อยอย่าซนสิ พี่วันกำลังรีบนะ”
วันเฉลิมต้องอุ้มอ้อยเอาไว้ เพราะซนจัด
เวลาต่อมา ในห้องขังเหลือผู้ต้องหาหญิงที่ยังไม่มีใครมาประกันตัวจำนวนหนึ่ง ลำยองหมดแรง ฤทธิ์เหล้าจาง นอนแผ่อยู่ในห้องขัง วันเฉลิมอุ้มอ้อยมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งประคองหม้ออวยใส่ข้าวเข้ามาหน้าห้องขัง
“แม่ครับ...แม่ครับ”
ลำยองหลับเยิ้ม ชาวบ้านหญิงเอาตีนสะกิดขาลำยองปลุกอย่างเอ็นดู
“เฮ้ย อีลำยอง ลูกมึงมา”
ลำยองตื่นงัวเงียคราง “อือ”
ลำยองงัวเงียลุกขึ้นนั่ง หัวหูเยินสิ้นสภาพ
“แม่ครับ วันหุงข้าว ทอดไข่มาให้แม่กินซะนะครับ”
“กูไม่กิน กูจะกินเหล้า”
วันเฉลิมส่งหม้ออวยผ่านลูกกรงไม่ได้เพราะหม้อใหญ่เกินไป ต้องเปิดฝาหม้อ ตักข้าวยื่นให้ลำยองผ่านลูกกรงห้องขัง
“แม่กินหน่อยเถอะครับจะได้มีแรง”
เรือนแพปั้น ลำยงเล่าให้สันต์ ปั้นและสินฟัง
"เขากวาดไปได้หมดบ่อนน่ะแหละป้าปั้น"
"สาธุ มันจะได้รู้จักหลาบจำกันบ้าง ไอ้คนพวกนี้มันทำมาหากินกันไม่เป็น หวังแต่จะได้โชคลาภจากการพนัน"
"แล้วพี่สาวเองล่ะลำยง" สินถาม
"ฉันหมดปัญญาจะช่วยมันแล้วลุงสิน ไอ้ค่าประกันตัวมันมีอยู่แค่ครึ่งเดียวได้มั้ง ก็คงต้องปล่อยให้มันนอนมุ้งสายบัวไปพลางๆแหละ"
"มันรนหาที่แท้ๆ" สินบอก
"ทำไมมันไม่นึกถึงลูกเต้าบ้างเลย แล้วนี่เจ้าวันอยู่ไหนลำยง เฝ้าบ้านดูน้องใช่ไหม"
"มันเฝ้าบ้านที่ไหนกันล่ะพี่สันต์"
วันเฉลิมตักข้าวป้อนลำยองผ่านลูกกรงห้องขัง อีกมือหนึ่งประคองอ้อยไว้ ลำยองพูดขณะที่ข้าวยังเต็มปากอยู่
"อีลำยง มันใจดำ กูรู้มันมีเงินแต่มันไม่ยอมมาช่วยกู มันอิจฉากู มันเกลียดกู"
"น้าลำยงกำลังไปหาเงินอยู่ครับแม่"
"กูไม่เชื่อมันหรอก" ลำยองพูดพร้อมๆกับไอ ข้าวติดคอ
"แม่หิวน้ำไหม เดี๋ยววันไปหาน้ำมาให้นะครับ"
วันเฉลิมวางหม้อจะขยับออกไป
"เอาเหล้ามาดีกว่า"
"แม่...แม่เลิกกินเหล้าไม่ดีกว่าเหรอครับ วันไม่อยากเห็นแม่ไม่สบาย"
"กูไม่ได้กินน่ะแหละ กูจะตาย"
วันเฉลิมไม่อยากเถียง จะขยับออก ลำยองชะงักกึก...อาการเจ็บท้องกระตุกอย่างแรง
"โอย...โอ้ย"
"แม่...แม่ครับ แม่เป็นอะไร"
"โอ้ย"
"แม่...ใครก็ได้ช่วยแม่ผมด้วย แม่.."
"อีลำยองมึงจะคลอดลูกในนี้เรอะ" ชาวบ้านที่อยู่ในห้องขังถาม
วันเฉลิมพยายามเอื้อมมือสุดแขนผ่านลูกกรงห้องขัง เข้าไปจะจับมือลำยองไว้ แต่เอื้อมไม่ถึง
วันเฉลิมร้องไห้บอก
"ช่วยแม่ผมด้วย"
ตำรวจพากันวิ่งมาดู เป็นจังหวะเดียวกับลำยงและสันต์เพิ่งมาถึงโรงพัก มุดเข้ามาดูอยู่ข้างๆวันเฉลิม
"พี่ลำยอง" ลำยงเรียก
"ลำยอง, ลำยอง" สันต์เรียกซ้ำ
ลำยองกรีดร้องทุรุนทุราย
เพิ่งขายก๋วยเตี๋ยว เวลากลางดึก ยายแลถาม
"ผู้ชายผู้หญิงวะ"
"ผู้ชายแม่"
ตาปอบอก
"เวรแล้วไหมล่ะ อีกหน่อยมันก็ไม่พ้นเป็นโจร คลอดในคุกยังงี้"
"เอ๊ะ พ่อนี่พูดไม่รู้ฟัง ไม่ได้คลอดในห้องขัง พี่สันต์เขาช่วยไปประตัวเอาออกไปโรงพยาบาลทัน เข้าใจไหม เนี่ย"
"แล้วออกกี่โมง อีลำยองมันคลอดกี่โมง แม่มึงจะได้เอาเลขไปแทงหวยไง" ปอพูดพลางกลั้วหัวเราะ
ยายแลขว้างของใส่ตาปอ
"มึงหุบปากไปเลยไอ้ปอ"
ตาปอถอยกลับไปเก็บของ เลิกสนใจทุกอย่าง
"ความจริงไอ้สันต์มันก็มีน้ำใจมากเหมือนกันนะ" แลบอก
"แม่เพิ่งรู้เหรอ ตะก่อนเห็นด่าพี่เขาไม่เว้นแต่ละวัน ว่าเลวยังงั้นจนยังงี้" ลำยงว่า
"ก็ข้าไม่รู้นี่หว่า"
"ได้ลูกเขยรวยแล้วไง มันเคยเจือจานมาถึงแม่บ้างไหม"
"มึงอย่ามาพูดให้กูปวดใจหน่อยเลย"
"นึกเสียดายลูกเขยดีๆอย่างพ่อสันต์เขาขึ้นมาแล้วละสิ" ปอว่า
"เสียดายทำไม อีปั้นมันขี้เหนียวยังกะอะไรดี" แลลอยหน้าลอยตาพูด
อ่านต่อตอนที่ 8