ศาลเยาวชนฯ สั่งอดีตแฟน “เอ อัญชลี” จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรสาว ค่าเล่าเรียนจนจบ ป.ตรี เป็นเงิน 7.3 ล้าน และรับเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย เจ้าตัวระบุผลตรวจ DNA ชัดเจน
ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง วันนี้ (18 ต.ค.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่ ด.ญ.นภัค หัสดีวิจิตร หรือ น้องเอวี่ วัย 3 ขวบครึ่ง โดย น.ส.อัญชลี หรือ เอ หัสดีวิจิตร นักแสดง และนางแบบชื่อดัง ในฐานะเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม เป็นโจทก์ฟ้อง นายคมกฤษณ์ จันทรวิสูตร อายุ 34 ปี นักธุรกิจเจ้าของรีสอร์ท ที่ จ.ภูเก็ต และ ที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นจำเลย เรื่องขอให้รับเป็นบุตรโดยชอบธรรม ขออำนาจอุปการะเลี้ยงดูเป็นของมารดาและค่าอุปการะเลี้ยงดู เป็นเงินจำนวน 21.3 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ยื่นฟ้องสรุปว่า เมื่อประมาณปี 2552 น.ส.อัญชลี อยู่กินฉันสามีภรรยาอย่างเปิดเผยกับ นายคมกฤษณ์ ที่ห้องเลขที่ 189/430 อาคารลุมพินีแกรนด์พาร์ค วิลล์ ย่าน อโศก กทม.จนตั้งครรภ์ และคลอดบุตรที่ รพ.เวชธานี แต่จำเลยไม่เคยยอมรับว่าน้องเอวี่ เป็นบุตร ไม่เคยอุปการะเลี้ยงดู จึงต้องนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่ง หรือคำพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินค่าทำคลอดบุตร ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายอื่น ตลอดจนค่าเล่าเรียนในชั้นอนุบาล ชั้นประถม ชั้นมัธยม จนถึงชั้นปริญญาตรี รวม 21.3 ล้านบาท โดย เอ อัญชลี ได้นำ ยศวดี หรือ โย หัสดีวิจิตร น้องสาว มาเบิกความรวม 2 ปาก และต่อมาทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงยอมตรวจดีเอ็นเอ เมื่อเดือน ม.ค.2556
โดยศาลพิเคราะห์คำเบิกความแล้ว พิพากษาให้จำเลยรับ น้องเอวี่ เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งให้ น.ส.เอ อัญชลี เป็นผู้มีอำนาจปกครองแต่ผู้เดียว และให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูรวม 7.3 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามวันนี้ฝ่ายจำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา ไม่อาจส่งคำบังคับคดีได้ จึงเป็นหน้าที่ของทนายโจทก์ต้องตั้งเรื่องบังคับคดีต่อไป
เอ อัญชลี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลเมตตาตนกับลูก เพราะทุกวันนี้ตนเลี้ยงลูกด้วยความลำบาก เพราะลำพังมีแค่งานอีเวนต์ กับร้านโย บี ไดเร็กฟู๊ด เป็นร้านส่งอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ตนต้องนำอาหารไปส่งลูกค้าทุกเช้า ซึ่งก็พอเลี้ยงน้องเอวี่ ได้ แต่ต้องจ่ายค่าเทอมบุตรที่เรียนอนุบาล 1 ร.ร.เลิศหล้า เทอมละ 7 หมื่นบาท แต่ก็ไม่เจ็บใจที่ลูกถูกเพื่อนล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ และตนต้องทำประกันสุขภาพให้ลูก ส่วนอดีตแฟนหนุ่มไม่เคยแสดงตัวหรือถามเรื่องลูก โดยเคยเสนอจ่ายค่าเลี้ยงดู เดือนละ 1 หมื่นบาท แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนใจ ก็ยังดีที่ยอมตรวจดีเอ็นเอ ที่ รพ.รามาฯ และผลพิสูจน์อยู่ในซองเป็นความลับต้องมาเปิดซองในศาล วันที่เปิดผลดีเอ็นเอ ตัวอดีตสามีก็ไม่มา ผลปรากฏว่าดีเอ็นเอของอดีตสามี มีพันธุกรรมตรงกันกับน้องเอวี่
“ดีใจที่สุด ศาลให้ตนเป็นผู้มีอำนาจปกครองแต่เพียงผู้เดียว ส่วนค่าอุปการะศาลให้สามีจ่ายเป็นทุนการศึกษาชั้นอนุบาล ประถม มัธยม และปริญญาตรี กับค่าใช้จ่ายระหว่างคลอด รวมเป็นเงิน 7.37 ล้านบาท และน้องเอวี่เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายในฐานะทายาทโดยธรรมทุกประการ ดังนั้นทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้ว วอนนายคมกฤษณ์ ได้โปรดอย่ายื่นอุทธรณ์คัดค้าน เพราะทั้งหมดนี้ก็เพื่อลูก” เอ อัญชลี กล่าว