วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 17
คุณหลวงเดินออกมาจากมุมมืด ผีนางทาสดีใจได้เจอคุณหลวง เข้าไปกอดขาคุณหลวงร้องไห้
“คุณหลวง...คุณหลวงของเจียม ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน ต่อจากนี้เราจะไม่พรากจากกันอีก เจียมจะอยู่รับใช้คุณหลวงตลอดไป เจียมดีใจเหลือเกินเจ้าค่ะ คุณหลวง”
ผีนางทาสมอง คุณหลวงมองผีนางทาสนิ่งอึ้ง สนธยานั่งพิงกำแพงบาดเจ็บ เจนนี่ หรั่งเป็นห่วงรีบเข้ามาดู เจนนี่ประคอง
“เป็นไงบ้างสน ไหวรึเปล่า”
สนธยาพยักหน้า
“รอดแล้ว ผีนางทาสได้เจอคุณหลวง เรารอดแล้ว”
หรั่งดีใจ
“โอ้ว อเมซิ่งยิ่งกว่าถูกหวย เวลาผ่านไปเป็นร้อยปี คุณหลวงยังรอคุณผีอยู่...ดีใจด้วยนะคุณผี”
ผีนางทาสยิ้ม คุยกับคุณหลวง
“ขอบพระคุณนะเจ้าคะ ที่คุณหลวงยังรอเจียม เจียมเองก็ยังรักและเฝ้ารอที่จะได้อยู่กับคุณหลวงมาตลอด จากวันนี้ไป เราจะได้อยู่ด้วยแล้วนะเจ้าคะ”
คุณหลวงนิ่ง
“เจียม...”
ผีนางทาสมองหน้าคุณหลวงยิ้ม มีหวัง
“นี่เอ็งเป็นใครรึ”
ผีนางทาสอึ้ง
“ค...คุณหลวง...”
มณฑลเข็นรถเข็นให้พิมพ์ดาวที่เท้าเจ็บ มีผ้าพันแผลนั่ง พิมพ์ดาวยังเศร้า เรื่องสนธยา มณฑลปลอบใจ
“เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างสนกับเจนนี่ อาจเป็นแค่อุบัติเหตุ คุณดาวอย่าคิดมากเลยนะครับ”
“แล้วที่สนโกหกดาวว่าจะอยู่ซ่อมเรือนหอ แต่ไปอยู่กับเจนนี่ หมวดว่าเป็นอุบัติเหตุด้วยเหรอคะ”
มณฑลชะงัก
“ผม...”
“ขอบคุณนะคะที่ให้กำลังใจดาว...แต่ที่สองคนนั้น...”
พิมพ์ดาวนึกถึงภาพที่สนธยาช่วยเจนนี่ตอนไฟไหม้ สนธยาถูกบันไดกระแทกหลัง ยื่นหน้าเข้าจูบเจนนี่...พิมพ์ดาวเศร้าหมอง
“ดาวไม่รู้จะลืมเรื่องนั้นได้ยังไงจริงๆ”
“ไม่ต้องลืมก็ได้ครับ...แต่ถ้าคุณรักใครสักคน คุณต้องรู้จักให้อภัย”
พิมพ์ดาวยิ้มเศร้า
“ดาวจะพยายามแล้วกันค่ะ”
“ผมเชื่อครับ ว่าคุณดาวทำได้แน่”
มณฑลจับบ่าพิมพ์ดาวยิ้ม ให้กำลังใจ มุมหนึ่งฤดีเข้ามา ไม่พอใจ
“พิมพ์ดาว”
พิมพ์ดาวเห็นแม่ก็อึ้ง
โทนี่เทเหล้าใส่แก้ว ยกดื่มรวดเดียวหมด ยังแค้นที่ถูกพวกสนิทและผีที่เรือนหอเล่นงาน ลูกน้องเข้ามารายงาน
“ผมโทรบอกคุณฤดี เรื่องคุณดาวเข้าโรงพยาบาล ตามที่นายสั่งแล้วครับ”
“ให้คนของเราตามพิมพ์ดาวต่อไป” โทนี่เทหล้าอีก
“แล้วนาย ไม่ไปเยี่ยมคุณดาวเหรอครับ”
โทนี่ไม่ตอบยกแก้วเหล้าดื่ม ลูกน้องอีกคนเข้ามา เดินแข็ง เหมือนโดนสะกด
“นายครับ มีคนมาขอพบ”
โทนี่โกรธทันที
“กูไม่อยากเจอใครครั้งนั้น”
โทนี่ปาแก้วเหล้าลงพื้น ไปทางหน้าประตู หมอผีอีกาเข้ามา
“ถ้ายังแค้นไอ้พวกผีนั่นอยู่ล่ะก็ ข้าช่วยได้...”
หมอผีอีกายิ้มมีแผน
ผีนางทาสเสียใจ ที่คุณหลวงจำตัวเองไม่ได้ พยายามอธิบาย
“คุณหลวงเจ้าคะ นี่เจียม ทาสรับใช้ที่ซื่อสัตย์...เมียที่คุณหลวงรับปากว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ลืมแล้วหรือไงเจ้าคะคุณหลวง”
คุณหลวงแปลกใจ
“เมีย...ข้ามีเอ็งเป็นเมียด้วยรึ”
ผีนางทาสร้องไห้
“คุณหลวง”
สนธยาเป็นห่วง เข้าไปถามผีนางทาส
“เจียม แน่ใจใช่มั้ยว่านี่คือคุณหลวงของเธอ...”
ผีนางทาสตวาดทันที
“ผัวกู...กูต้องจำได้สิวะ”
สนธยาลำบากใจ เจนนี่กระซิบ
“จริงด้วย ฉันว่าที่น่าสงสัย คือคุณหลวงมากกว่า”
“งั้นที่คุณหลวงจำเจียมไม่ได้ เพราะคุณหลวงมีเมียหลายคนหรือเปล่าอ่ะครับ” หรั่งออกความเห็น
ผีนางทาสชี้หน้าหรั่ง
“ปากเสีย มึงอยากตายรึไง”
หรั่งสะดุ้ง ผวา ยกมือไหว้ หลบหลัง สนธยา เจนนี่ตีหรั่งด่าซ้ำ
“เล่นไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวก็ตายกันหมดหรอก”
“ใจเย็นนะเจียม เดี๋ยวฉันคุยให้...” สนธยาหันไปหาคุณหลวง “คุณหลวงครับ ลองมองหน้าเจียมให้ชัดๆ”
คุณหลวงมองหน้าผีนางทาส นิ่ง
“นี่เจียม เมียคุณหลวงที่เคยเป็นทาสรับใช้ ที่ถูกคุณหญิงเมียอีกคนของคุณหลวงใส่ร้าย แล้วเฆี่ยนจนตาย คุณหลวงจำได้รึเปล่าครับ”
“เมีย...คุณหญิง” คุณหลวงนึกได้ “ใช่แล้ว”
หรั่งดีใจ
“คุณหลวงจำแม่เจียมได้แล้วหรือขอรับ”
คุณหลวงส่ายหัวเศร้า
“ไม่...”
พวกสนธยา ผีนางทาส มองหน้ากันผิดหวัง
“แต่ข้าจำคุณหญิงได้ เพราะคุณหญิงนั่นเอง วิญญาณข้าถึงไม่ได้ไปผุดไปเกิด ต้องติดอยู่ที่นี่”
ผีนางทาสตกใจ
“น...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ คุณหลวง”
ผีนางทาสเป็นห่วงคุณหลวง
ฤดีมองขาพิมพ์ดาวที่พันแผลอยู่ โกรธ หันไปด่ามณฑล
“เห็นแล้วใช่มั้ย เพราะแกกับไอ้หมาวัดนั่น มายุ่งกับลูกสาวฉัน...ดาวถึงต้องเจ็บตัวแบบนี้”
“หมวดช่วยดาวไว้ ดาวไม่ระวังเองต่างหากล่ะคะแม่”
“ยังจะแก้ตัวแทนมันอีก นี่แกจะทำให้ฉันห่วงไปถึงไหนเรื่องไอ้หมาวัดนั่นก็คนนึงแล้ว นี่ยังมีตำรวจ...”
มณฑลแทรกขึ้น
“คุณจะด่าผมก็ไม่เป็นไร แต่กรุณาอย่าดูถูกความเป็นตำรวจของผม”
ฤดีจ้องมณฑล
“งั้นแกก็ไม่ควรมายุ่งกับลูกสาวฉัน...” ฤดีมองพิมพ์ดาว “ต่อไปนี้ ห้ามแกสองคนติดต่อกันอีกเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
ฤดีเข็นรถพิมพ์ดาว ออกไป พิมพ์ดาวหันมามองมณฑล ทำอะไรไม่ได้ มณฑลเซ็ง
โทนี่เห็นหมอผีอีกาเข้ามาไม่พอใจหันไปด่าลูกน้องที่ยืนแข็งเหมือนโดนสะกด
“นี่มึงกล้าปล่อยคนแปลกหน้า เข้ามาได้ไงวะ”
โทนี่เข้าไปหาลูกน้องง้าง จะตบ หมอผีอีกายิ้มโบกหลังมือ ลูกน้องสลบทันที โทนี่ หันไปหาหมอผีอีกาอึ้งๆ
“ข้าบังคับให้มันพาเข้ามาเอง”
โทนี่หวาดๆ
“ก...แกเป็นใคร”
“หมอผีอีกา...แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับที่เรามีศัตรูคนเดียวกัน คือไอ้สนธยากับไอ้ผีพวกนั้น”
“ทำไมแกรู้เรื่องฉัน”
หมอผีอีกายิ้มเยาะ
“ข้ายังรู้ด้วยว่า ตอนที่โดนพวกผีเล่นงาน เอ็งน่าสมเพชแค่ไหน”
“มึง”
โทนี่โกรธ จะเข้าไปต่อย หมอผีอีการ่ายมนต์เป่าใส่ทันที โทนี่ชะงัก มือที่ง้างจะต่อย บังคับไม่ได้ หันกลับมาตบตัวเองซ้ายขวาๆ หน้าหัน จนเซลูกน้อง เข้าประคอง
“เก็บแรงไว้สู้ศัตรูดีกว่า เอ็งกับข้ายังต้องร่วมมือกันอีก”
ผีนางทาสเสียใจ ขอให้คุณหลวงเล่าเรื่องคุณหญิงที่ทำไว้ สนธยาพยายามช่วย
“บอกเจียมสิเจ้าคะ คุณหญิงมันทำอะไร...คุณหลวงถึงต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ บอกมาสิเจ้าคะคุณหลวง”
“คุณหลวงครับ วิญญาณของเจียมเฝ้ารอที่จะเจอคุณหลวงมาเป็นร้อยปี คุณหลวงเล่าให้เราฟังด้วยเถอะครับว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะได้หาทางช่วย”
คุณหลวงหน้าเศร้าสลดลง
“ก่อนที่ข้าจะตายและต้องติดอยู่ที่นี่ ข้าทุกข์ใจ เสียใจ จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ข้ากลับไม่รู้ว่าเหตุการณ์ ที่ทำให้ข้าเสียใจนั้น มันคือเรื่องใดแน่ มันเหมือนภาพทุกอย่างถูกลบหายไป มีเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณหญิง ที่ข้าจำได้...”
คุณหลวงคิดถึงเรื่องคุณหญิงในอดีต
เรือนไทยอดีต...คุณหลวงนั่งที่เก้าอี้โยก มองไปนอกหน้าต่าง ซึม เหม่อ เสียใจ คุณหญิง เมียคุณหลวง ถือถาดสำรับอาหารเข้ามา
“ทานอะไรซะหน่อยสิคะคุณพี่”
คุณหลวงไม่ตอบ ยังมองที่หน้าต่าง
“น้องทำข้าวต้มกุ้งของโปรดคุณพี่มาด้วย ให้น้องป้อนนะคะ”
คุณหญิงจะวางสำรับที่โต๊ะ คุณหลวง มองไปนอกหน้าต่างเพ้อ ๆ ขยับปากเรียกชื่อเจียม แต่ไม่มีเสียง
“คุณพี่ว่าอะไรนะคะ”
คุณหลวงเศร้าหมอง ขยับปาก ไม่มีเสียง
“เจียม”
คุณหญิงโกรธมาก โยนสำรับทิ้ง ร้องไห้
“คนตายไปแล้ว ยังเพ้อถึงมันอีก คุณพี่ไม่คิดถึงใจน้อง ที่ต้องทรมานบ้างรึไง”
คุณหลวงนิ่ง ไม่มอง
“ออกไป”
คุณหญิงอึ้งๆ
“คุณพี่”
คุณหลวงโกรธ
“กูบอกให้ออกไป”
“ไม่...ในเมื่อคุณพี่ยังคิดถึงมัน น้องก็จะไม่ทนต่อไปอีก”
คุณหญิงหยิบมีดที่ซ่อนไว้ขึ้นมา ดึงมีดออกจากฝัก
ผีนางทาสตกใจ ที่คุณหลวงเล่าให้ฟังเรื่องคุณหญิงหยิบมีดจะทำร้าย
“น...นี่หมายความ คุณหญิงฆ่าคุณหลวง คุณหลวงถึงต้องติดอยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ”
คุณหลวงส่ายหัว
“ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น มันคงจะดีซะกว่า”
คุณหลวงนึกถึงอดีตเสียใจ น้ำตาไหล
โทนี่ ซับเลือดที่ปาก หลังจากที่โดนสะกดให้ทำร้ายตัวเอง เขาเจรจากับหมอผีอีกา
“แกต้องการอะไร”
“ความช่วยเหลือ”
“นี่แกบุกมาห้องฉัน ทำร้ายฉัน แล้วยังมีหน้ามาให้ฉันช่วยอะไรอีก”
“แกก็รู้ว่าแกไม่มีปัญญาจัดการไอ้พวกผีนั่น ส่วนฉันก็กำลังบาดเจ็บ แต่ถ้าเราร่วมมือกัน ทุกอย่างต้องสำเร็จ...ยกเว้นแกจะไม่อยากแก้แค้นพวกมัน”
โทนี่ลังเล
“แล้วแกจะให้ฉันทำอะไร”
“เข้าไปที่เรือนหอ แล้วใช้เลือดประจำเดือนของผู้หญิงทำลาย มนต์คุ้มครองซะ ที่เหลือข้าจัดการเอง”
โทนี่คิดหนัก
ฤดีประคองพิมพ์ดาวที่ขาเจ็บเข้ามาในบ้าน ตะโกนเรียกแม่บ้าน
“ไปไหนกันหมด มาช่วยหน่อย เร็วสิ”
แม่บ้านเข้ามา ช่วยประคองพิมพ์ดาว
“เจ็บมากรึเปล่าคะคุณหนู”
พิมพ์ดาวพยักหน้า เศร้าๆ ฤดีด่าซ้ำ
เจ็บสิดี จะได้จำ แม่เตือนไม่รู้กี่ครั้ง ว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้พวกนั้น สุดท้ายก็มีแต่แม่นี่แหละที่เป็นห่วงแก... โดยเฉพาะไอ้หมาวัดนั่น...เป็นไง รักมันมาก เห็นมันมาสนใจบ้างมั้ยล่ะ”
พิมพ์ดาวบอกกับแม่บ้าน
“พาดาวขึ้นห้องเถอะค่ะ”
แม่บ้านประคองพิมพ์ดาวออกไป
ฤดีแอบค้อนที่พิมพ์ดาวไม่สนใจ โทรศัพท์ดังขึ้น ฤดีรับ
“ว่าไงโทนี่ อะไรนะ เรือนหอ...มันจะมากไปแล้ว จัดการตามวิธีของเธอได้เลยโทนี่...ไม่ต้องห่วง พิมพ์ดาวจะไม่มีโอกาสได้ไปที่นั่นอีก”
ฤดีวางสาย พิมพ์ดาวยืนพิงกำแพงแอบฟังอยู่มุมหนึ่งอย่างกังวล
โทนี่วางสายจากฤดี
“น้องดาวไม่ไปที่นั่นแล้ว ถ้างั้น เราก็จัดการทุกอย่างได้เต็มที่”
“ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างแก จะห่วงผู้หญิงคนนั้นจริง”
“เรื่องของฉัน...แกแค่ทำหน้าที่ของแกไป...ส่วนฉัน ฉันต้องทำลายเรือนหอไอ้สนธยาให้ได้”
โทนี่แค้น หมอผีอีกายิ้ม
สนธยา ขอให้คุณหลวงเล่าเรื่องคุณหญิงต่อ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับคุณหลวง ถ้าคุณหญิงไม่ได้ทำร้ายคุณหลวง ทำไมคุณหลวงต้องเป็นแบบนี้”
“ถึงคุณหญิงจะไม่ได้ทำร้ายข้า แต่ข้าเองก็ต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะสิ่งที่คุณหญิงทำไว้”
คุณหลวงเล่าเรื่องอดีต
คุณหญิงถือมีด ชี้ไปที่คุณหลวงร้องไห้ คุณหลวงตกใจ
“จะทำอะไรน่ะ คุณหญิง”
“ไม่ต้องมาเรียก กูเป็นเมียแท้ๆ แต่มึงกลับไม่สนใจ เพราะมึงรักแต่อีนั่น ทั้งๆที่มันตายไปแล้ว มึงก็ยังคิดถึงแต่มัน...ได้ ถ้ามึงรักกันมากล่ะก็ มึงจงจำสิ่งที่กูทำไว้”
คุณหญิงแค้นสุดขีด เอามีดแทงตัวเองที่หน้า เลือดไหลอาบหน้า คุณหลวงช็อค
“คุณหญิง”
“กูขอแช่งมึงด้วยชีวิต ขอให้มึงเฝ้ารอมันอยู่ที่นี่ แม้ชีวิตจะหาไม่ ก็ขอให้วิญญาณมึงต้องสิงอยู่ที่นี่ และกูขอสาปให้มึงไม่มีวันจำเรื่องของมันได้ เพราะจิตมึงต้องคิดถึงแต่กู ให้ภาพที่กูตาย ตามหลอกหลอนมึงไป ชั่วกัป ชั่วกัลป์”
คุณหญิงลากมีดที่แทงหน้า กรีดยาวมาถึงคอ เลือดท่วมหน้า แล้วปาดคอ ตายทันที ล้มลง คุณหลวงตะลึง
“คุณหญิง”
คุณหลวงเข้าไปประคองจับร่างคุณหญิงหันมา คุณหญิงนอนตายตาจ้องมา คุณหลวงช็อค ปวดหัวอย่างรุนแรง กุมขมับ ค่อยๆ ร้องออกมา
“อ...อ...อ๊าก”
คุณหลวงกุมขมับ ร้องดังจนสุดเสียง มีคุณหญิงนอนตายจ้องอยู่
อ่านต่อหน้า 2
วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 17 (ต่อ)
คุณหลวงเล่าเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นอย่างเสียใจ
“หลังจากนั้น อาการปวดหัวของข้าก็เริ่มหนักขึ้น หมอฝรั่งบอกว่ามันไม่มีทางรักษา จนในที่สุดข้าก็ทนไม่ไหว ขาดใจตายอยู่ในห้องนี้ และสิ่งสุดท้ายที่ข้าจำได้ ก็คือใบหน้าที่อาฆาตแค้นของคุณหญิง ที่สั่งให้ข้า รอใครสักคน อยู่ที่นี่”
ผีนางทาสสะอื้น
“เจียมไงเจ้าคะ คุณหลวงรอเจียมอยู่ไงเจ้าคะ”
คุณหลวงมองผีนางทาส นิ่ง
“เจียม...เอ็ง...เป็นใครรึ”
ผีนางทาสเริ่มคลั่ง
“ไม่จริง เจียมรอคุณหลวงมาเป็นร้อยปี คุณหลวงต้องจำเจียมได้ เราต้องอยู่ด้วยกัน มันต้องไม่เป็นแบบนี้ ไม่จริง ไม่จริ๊ง”
ผีนางทาสเสียใจกรีดร้อง สนธยา เจนนี่ หรั่งมองหน้ากัน ลำบากใจ
“นี่เราช่วยคุณผีไม่ได้ คุณผีต้องกลับไปที่เรือนหอรึเปล่าครับเนี่ย” หรั่งถามอย่างกังวล
สนธยาไม่ตอบ มองผีนางทาสที่ร้องไห้อยู่ สงสาร
“เจียม ที่คุณหลวงเป็นแบบนี้เพราะแรงอาฆาตของคุณหญิง มันเป็นกรรมของพวกเขา เราคงช่วยอะไรไม่ได้ เจียมทำใจเถอะนะ”
ผีนางทาสส่งเสียงดุ
“ไม่...มึงต้องช่วยทำให้คุณหลวงจำกูได้ ไม่งั้นกูจะพาคุณหลวงกลับเรือนหอ ไปอยู่กับกูด้วย”
สนธยาตกใจ หรั่งหน้าตื่น
“งานงอกแล้วไง เรือนหอคุณสนได้กลายเป็นเรือนหอแม่เจียมแน่ ทำไงดีล่ะคร๊าบ”
“ใจเย็นสน ถ้าเราช่วยกัน ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ ทำใจดีๆไว้” เจนนี่ปลอบ
สนธยาอึ้ง พูดไม่ออก
พิมพ์ดาวอยู่ในห้องนอนโทรหามณฑล
“หมวดคะ...พี่โทนี่กำลังไปที่เรือนหอ ดาวกลัวเรื่องไม่ดีจะเกิดขึ้น ช่วยดาวด้วยเถอะนะคะ”
มณฑลขับรถอยู่คุยโทรศัพท์กับพิมพ์ดาว
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะรีบไปที่เรือนหอคุณ เดี๋ยวนี้”
มณฑลวางสาย รีบขับรถต่อทันที
สนธยาคุยกับเจนนี่อย่างเคร่งเครียดอยู่ที่มุมบันได เรือนไทย
“แน่ใจนะว่าวิธีนี้จะได้ผล”
เจนนี่ส่ายหัว
“ไม่”
สนธยาเซ็ง
“หมายถึง ไม่ลองไม่รู้ อย่าเพิ่งหมดหวัง...รีบไปดูคุณหลวงเหอะน่ะ” เจนนี่บอก
สนธยาไปหาคุณหลวงที่นั่งอยู่มุมนึง
“คุณหลวงครับ คุณหลวงจำวันที่คุณหญิงสั่งโบยแม่เจียมจนตายได้รึเปล่าครับ”
คุณหลวงชะงัก
“เจียม...”
สนธยามีหวัง
“ใครรึ”
“งั้นพวกผมจะจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้น แล้วช่วยบอกหน่อยนะครับ ว่าคุณหลวงจำอะไรได้บ้าง”
สนธยามองเจนนี่พยักหน้า เจนนี่สวมบทคุณหญิงทันที ชี้สั่ง
“ไอ้หรั่ง”
หรั่งเหวอชี้ตัวเอง ซวยแล้ว
“พานังเจียมออกมาเดี๋ยวนี้ มันบังอาจทำเสน่ห์ใส่คุณหลวง แย่งคุณหลวงไปจากกู กูจะฆ่ามัน”
หรั่งยกมือไหว้ ลากผีนางทาสออกมา ถือหวายออกมาด้วย ผีนางทาสร้องไห้
“คุณหลวง ช่วยเจียมด้วย”
คุณหลวงอึ้ง
ลูกน้องโทนี่ ซุ่มอยู่นอกรั้ว วางแผนจะบุกเข้าไปในเรือนหอ ลูกน้องคนหนี่ง มองขวดแก้วใสใส่เลือดใบเล็ก ที่อยู่ในมือ
“นี่นายเขาไปหาเลือดผู้หญิงได้เยอะขนาดนี้ จากที่ไหนวะ”
“ช่างเหอะน่ะ เขาไม่เอาเลือดหัวมึงใส่เข้าไปก็ดีเท่าไหร่แล้ว รีบๆทำงานให้เสร็จเหอะ”
ลูกน้องคนนั้นจะไปเพื่อนดึงไว้
“แต่นั่นมันบ้านผีสิงนะ มึงจะเข้าไปให้มันหลอกรึไง”
“เราอยู่ข้างนอกแล้วโยนไอ้ขวดนี่เข้าไปสิวะ ถ้ามึงไม่ทำได้เป็นผีกับพวกมันแน่”
“ได้...งั้นกูโยนเอง”
ลูกน้องจะไปทันใดนั้นมีปืนมาจ่อหลังลูกน้องคนนั้น
“ถ้า แกโยน...ฉันยิง”
มณฑลถือปืนอยู่จ้องอยู่
สนธยาพยายามทำให้คุณหลวงให้จำเรื่องในอดีต เจนนี่หรั่ง ผีนางทาส เล่นละครต่อ
“จำได้มั้ยครับคุณหลวง นี่คือภาพตอนที่เจียมจะถูกฆ่า คุณหลวง จำได้รึยังครับ”
คุณหลวงกุมขมับ
“ไม่ ข้าจำได้แต่ คุณหญิงสั่งโบยทาส แต่ข้า...ข้าไม่รู้จริงๆว่า ทาสคนนั้นเป็นใคร”
“งั้นดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วนึกให้ออกสิครับคุณหลวง”
เจนนี่สวมบทคุณหญิงต่อ ไปจิกหัวผีนางทาส
“สารภาพมา มึงแกล้งทำเสน่ห์ยาแฝดใส่คุณหลวงใช่มั้ย”
หรั่งตื่นกลัว
“เล่นจริง จิกจริงไปรึเปล่าเนี่ยครับ คุณหญิง”
ผีนางทาสสะอื้น
“เปล่านะเจ้าคะ อิฉันกับคุณหลวงรักกัน เรื่องยาเสน่ห์คุณหญิงเข้าใจผิด”
เจนนี่ปล่อย
“โกหก กูเห็นกับตา มึงเอายาเสน่ห์ใส่อาหารให้คุณหลวง ไอ้หรั่ง โบยมัน จนกว่ามันจะสารภาพ”
หรั่งหวาดๆ
“จะดีเหรอครับ คุณหญิง”
ผีนางทาสกัดฟัน
“โบยสิ กูทนได้”
“กูสั่งให้โบยไง โบยสิ” เจนนี่สั่งเสียงเข้ม
หรั่งกลัวใช้หวายตีแปะที่หลังผีนางทาส
“นี่แน่ะ”
คุณหลวงงงๆแล้วชี้ไป
“นั่น มันเอาไม้สะกิดหลังนางทาสคนนั้นทำไม”
ผีนางทาสกัดฟัน
“แรงอีกสิ แรงอีก”
หรั่งโบยหลังผีนางทาสแรงขึ้น
“โอ๊ย คุณหลวง ช่วยเจียมด้วย”
“โบยอีก” เจนนี่สั่ง
หรั่งโบยผีนางทาส ไปเรื่อยๆ
“โอ๊ย คุณหลวงเจ้าขา บอกคุณหญิงสิเจ้าคะว่าเรารักกัน บอกสิว่าเจียมเป็นเมียคุณหลวง โอ๊ย”
คุณหลวงเริ่มสงสาร เจนนี่สั่งอีก
“โบยมันอีก โบยเข้าไป มึงเห็นมั้ย คุณหลวงเขาไม่รักมึง ไม่สนใจมึง โบยมันอีก”
หรั่งโบยผีนางทาส แรงขึ้น
“โอ๊ย คุณหลวงช่วยเจียมด้วย เห็นใจเจียมเถอะเจ้าค่ะ คุณหลวง...ช่วยเมียด้วย”
ผีนางทาสคลานเข้าไปกอดขาคุณหลวง เจนนี่รีบช่วย ตามไปจิกหัวผีนางทาส ต่อหน้าคุณหลวง
“มองหน้ามันสิเจ้าคะ มันกล้าโกหกว่าเป็นเมียคุณหลวง อิฉันจะฆ่ามัน...โบยสิวะ โบยมันเข้าไป โบยจนกว่ามันจะตาย โบยอีก”
หรั่งตามไปโบยต่อหน้าคุณหลวง ผีนางทาส ร้องไห้ เสียใจ กอดขาคุณหลวงไป ร้องไห้ไป
“คุณหลวงเจ้าขา คุณหลวงไม่สนใจเจียมเลยเหรอเจ้าคะ คุณหลวงจะปล่อยให้เจียมตายเหรอเจ้าคะ คุณหลวง คุณหลวง โอ๊ย”
คุณหลวง ปวดหัว กุมขมับ
“พอ...พอแล้ว หยุดเดี๋ยวนี้ หยุด”
คุณหลวงล้มลง หมดสติ ผีนางทาสตกใจ
“คุณหลวง”
สนธยารีบประคองคุณหลวง ผีนางทาส เจนนี่ หรั่งรีบเข้าไปดู
มณฑล ใช้ปืนขู่ลูกน้องโทนี่
“พวกแกมีแผนอะไร บอกมา ไม่งั้นฉันจะเอาพวกแกเข้าคุก”
“แต่เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายนี่คุณตำรวจ”
“ฉันคงไม่รอให้แกทำแน่ โทรหาเจ้านายแกเดี๋ยวนี้”
ลูกน้องโทรศัพท์หาโทนี่
“นายครับ”
มณฑลแย่งโทรศัพม์มาคุยเลย
“เสียใจด้วยนะ ที่แผนชั่วของแกจะไม่สำเร็จ”
โทนี่อยู่ในรถคุยโทรศัพท์กับมณฑล
“อ้าวคุณตำรวจ กล่าวหากันแบบนี้ ฉันมีสิทธิ์ฟ้องหมิ่นประมาทนะ”
“ไม่ต้องพูดมาก ลูกน้องแกถูกจับแล้ว ตามไปคุยกับฉันที่โรงพัก”
“เสียใจ ผมไม่ว่าง พลเมืองดีอย่างผมกำลังขับรถ...ไปทิ้งขยะ”
โทนี่วางโทรศัพท์ไว้ข้างเบาะคนขับ แต่ยังไม่วางสาย มณฑลคุยโทรศัพท์กับโทนี่ สงสัย
“นี่แกอยู่ไหนโทนี่...โทนี่”
หน้ารั้วเรือนหอ รถสปอร์ตขับมา เปิดหน้าต่างคนขับคือโทนี่ มณฑล ตกใจ โทนี่ ยิ้มให้แล้วโยนขวดแก้วใสใส่เลือด ออกตัวจากรถ ขวดแก้วลอยสูง โค้งผ่านรั้ว เข้าไปในเรือนหอหล่นกระทบพื้นแตกกระจาย เลือดสาด แสงสีขาวที่ปกคลุมเรือนหออยู่ กลายเป็นควันดำ แล้วลอยหายไป มณฑลตะลึง
“นี่...นี่มันอะไรกันเนี่ย”
มณฑลอึ้ง
สนธยา เจนนี่ หรั่งปรึกษากัน เรื่องแผนฟื้นความจำคุณหลวง
“เอาไงดีคุณสน ถ้าคุณหลวงยังจำผีนางทาสไม่ได้ คุณสนได้ผัวเมียผีแพ็คคู่ ไปอยู่ที่เรือนหอ เป็นการถาวรเลยนะ” หรั่งบอกอย่างหวาดๆ
“เราเองก็พยายามทุกอย่างเต็มที่แล้ว ฉันไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”
“งั้นเรารีบไปตามหาวิญญาณคุณหญิง แล้วขอให้เค้าอโหสิ” เจนนี่แนะ
ผีนางทาสเข้ามา
“ไม่มีทาง คุณหญิงไม่มีวันปล่อยเราไปแน่ เหมือนที่ข้ารอคุณหลวงมาถึงป่านนี้ ข้าก็ไม่มีวันปล่อยให้คุณหลวงอยู่เดียวดายเช่นกัน”
สนธยาอึ้งๆ
“นี่หมายความว่า คุณหลวง...”
ผีนางทาสเศร้าหมอง
“คุณหลวง...จำข้าไม่ได้”
พวกสนธยามองหน้ากัน อึ้ง
ผีนางทาสเปิดห้อง พาพวกสนธยาเข้ามา คุณหลวงนั่งที่เก้าอี้โยกมองเหม่อ ไปนอกหน้าต่าง เหมือนรอใครสักคนอยู่
“คุณหลวงเจ้าคะ”
คุณหลวงมองเหม่อ ไม่หันมา
“เอ็งเป็นใคร ถึงกล้าบังอาจเข้ามาในห้องนี้”
ผีนางทาสคุกเข่าพยายามกลั้นน้ำตา
“อิฉันชื่อ เจียม เป็นทาสรับใช้ในเรือนคุณหลวง และเป็นเมียคุณหลวงเจ้าค่ะ”
คุณหลวงชะงักไปนิด
“เจียม...ข้ารู้จักเอ็งด้วยรึ”
ผีนางทาสร้องไห้
“คุณหลวง”
สนธยามองผีนางทาสสงสาร ตัดสินใจ
“แม่เจียมเป็นเมียคุณหลวง และตั้งใจที่จะมารับคุณหลวงไปอยู่ด้วยกันครับ”
เจนนี่กับหรั่งมองสนธยา ตกใจ ผีนางทาสหันมองสนธยา อึ้งๆ
“คุณหลวงอยู่ที่นี่ ไม่มีใครดูแล ให้แม่เจียมได้มีโอกาสรับใช้ พาคุณหลวงไปอยู่ด้วยกันเถอะนะครับ”
เจนนี่ตะลึง
“สนนี่นายจะบ้ารึไง ถ้าเขาไปอยู่ที่เรือนหอ แล้วนายกับคุณดาวจะอยู่ยังไงเล่า”
“ใช่ นี่เรามาปล่อยผีนะ ไม่ใช่เอาผีไปเพิ่ม นี่กะจะสะสมไว้ชิงโชครึไง บ้าป่ะเนี่ย” หรั่งแย้ง
“ฉันรู้ว่า เจียมรอที่จะอยู่กับคุณหลวงมาตลอด ฉันคงให้เขาแยกจากกันไม่ได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่สุด ฉันตัดสินใจแล้ว ไปเถอะแม่เจียม”
ผีนางทาสยิ้ม
“ไม่ ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ในเมื่อคุณหลวง ต้องรอข้าอยู่ที่นี่ข้าก็จะอยู่ที่นี่”
ผีนางทาสคลานเข้าไปหาคุณหลวงนั่งข้างๆ สนธยาอึ้ง
“เจียม…”
“ข้าขอบใจในน้ำใจเอ็งมาก แต่ข้าคงมีกรรมที่แย่งคุณหลวงมาจากคุณหญิง ข้าถึงต้องอยู่ใช้กรรมกับคุณหลวงต่อไป”
“แต่ คุณหลวง เค้าไม่...”
ผีนางทาสหันมองคุณหลวงที่ยังคงหันเหม่อไปนอกหน้าต่าง
“ข้ารักคุณหลวง ข้ายอมทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับคนที่ข้ารัก ถึงแม้จากนี้ต่อไป ข้าจะไม่มีตัวตน ในสายตาคุณหลวง แต่ข้าก็จะรัก และจะรักตลอดไป” ผีนางทาสหันมองสนธยากับเจนนี่ “ขอบใจพวกเอ็งมาก เมื่อเจอคนที่รักแล้ว ขอให้เอ็งได้อยู่กับคนที่รัก เหมือนกับข้าเถอะนะ”
เจนนี่แอบมองสนธยาที่นิ่งอึ้งไม่รู้เรื่อง
“คุณหลวงเจ้าคะ จากนี้ไปเจียมขออยู่รับใช้คุณหลวงนะเจ้าคะ”
“เจียม...” คุณหลวงเรียกเบาๆ
“เจ้าค่ะ บ่าว ชื่อเจียมเจ้าค่ะ”
“เจียม...ข้ารู้จักเอ็งด้วยรึ”
ผีนางทาสยิ้ม
“เจ้าค่ะ เจียมเป็นเมียคุณหลวงเจ้าค่ะ” ผีนางทาสมองคุณหลวง ยิ้ม
ร่างของผีนางทาสกับคุณหลวงค่อยๆจางหายไป พวกสนธยามองหน้ากันแล้วยิ้ม
อ่านต่อตอนที่ 18
วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 18
ในรถตู้...สนธยานั่งนิ่ง มองไปนอกหน้าต่าง ยังคิดถึงเรื่องผีนางทาส เจนนี่เห็นเขาเงียบไปก็ชวนคุย
“เป็นไร ยังอินเรื่องผีนางทาสกับคุณหลวงอยู่รึไง”
“ฉันว่าความรักของเจียม เป็นรักที่เสียสละและน่าเห็นใจ...รักทั้งๆที่ไม่มีโอกาสได้สมหวังในรัก จะมีสักกี่คนที่ทำเพื่อคนรักได้ขนาดนี้”
เจนนี่หันไปอีกทาง บ่นเบาๆ
“นั่งหัวโด่อยู่นี่ไง ไอ้บื้อ”
สนธยาชะงัก
“ว่าอะไรนะ”
เจนนี่แถไป
“ห...หูอื้อ พูดอะไรยาวมากกก ฟังไม่รู้เรื่อง”
หรั่งขับรถอยู่หันมาแจม
“ช่างเถอะคุณสน ยัยเจนนี่ จิตใจหยาบกระด้าง นิสัยกักขฬะ ไม่เข้าใจเรื่องความรักหรอกครับ”
เจนนี่สวน
“แล้วแกเข้าใจมากรึไง ไอ้หรั่ง”
“อ้ะแน่นอน ดูอย่างคุณสนดิ เอาชีวิตเข้าแลก ช่วยเหล่าผี เพราะอยากให้เรือนหอเพอร์เฟ็ค ยอมทำทุกอย่างเพื่อจะได้ ป้าบๆ...”
สนธยาแทรกขึ้น
“พ...พอแระ ฉันว่าคนละเรื่องแระ”
“แหม อย่าเขินดิคุณสน นี่กลับไปปล่อยผี 2 ตัวได้เมื่อไหร่ คุณสน คุณดาว ก็จะอยู่กันอย่างแฮปปี้ แฮปปี้ แฮปปี้”
เจนนี่แอบมองสนเซ็ง อารมณ์เสีย
“พอแระไอ้หรั่ง ขับรถไป ปล่อยมุขลามกอยู่ได้ รำคาญ”
สนธยาคิดๆ
“เออ ก็จริงนะ ถ้าช่วยผีงิ้วกับผีขุนศึกสำเร็จ ทุกอย่างก็เรียบร้อย ฉันกับคุณดาวก็จะได้อยู่ด้วยกัน...”
ผีเด็กปรากฏตัวขึ้น รีบมาบอกข่าว
“พี่สน กลับเรือนหอเร็ว มนต์คุ้มครองหลวงพ่อถูกทำลายพวกพี่ผีกำลังแย่แล้ว”
สนธยาอึ้ง
พวกสนิททำความสะอาดเรือนหอ ที่พื้นมีซากอีกาตัวนึง มีเลือดออก ตกมาตายต่อหน้า
สนิทงง
“นี่ไข้หวัดนกระบาดอีกแล้วเหรอวะ”
ซากอีกาอีกหลายตัวตกมาตายอีก ซ้ำๆ พวกสนิทมองหน้ากัน ตกใจ
“เฮ้ย”
ชมพู่แปลกใจสงสัย
“ล...แล้วทำไมมันระบาดแต่อีกาวะน้า”
อาสามองหวาดๆ
“นั่นดิ มีแต่อีกาตกมาตาย สยองไปป่ะเนี่ย”
ผีงิ้วกับผีขุนศึก ปรากฏตัวขึ้น ผีงิ้วหน้าเครียด
“ไอ้หมอผีอีกา มันแดกอีกาพวกนี้เพื่อฟื้นพลังของมัน แปลว่างานนี้ มันเอาจริง”
สนิทตกใจ
“ห๊ะ หมอผีอีกา ม...มันอยู่แถวนี้เรอะ”
ทันใดนั้นเสียงหมอผีอีกาก็ดังขึ้น
“กูอยู่นี่”
หมอผีอีกายืนอยู่บนหลังคา โยนซากอีกาลงมา ปาดเลือดที่ปาก สนิทตะโกนถาม
“ไอ้หมอผี ม...มึงเข้ามาได้ไงวะ”
หมอผีอีกายิ้ม ไม่ตอบ กระโดดลงมาจากหลังคายืนประจันหน้าพวกผี ผีขุนศึกกระซิบผีงิ้ว
“มนต์หลวงพ่อถูกทำลายแล้ว ระวังให้ดี คราวนี้ เรารับศึกหนักแน่”
ผีขุนศึกชักดาบออกมา เตรียมสู้
มณฑลคุยโทรศัพท์กับพิมพ์ดาว เรื่องเรือนหอ
“คุณดาวครับ เมื่อกี้โทนี่ไปที่เรือนหอคุณ แต่ผมไม่รู้มันไปทำอะไรแน่ แต่ดูเหมือนจะมีอะไรผิดปกติ เกิดขึ้นที่นั่นครับ”
“อะไรเหรอคะ หมวด”
“ผมเองก็ยังบอกไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วงผมจะไปถามมันให้รู้เรื่อง แล้วผมจะรีบติดต่อไปนะครับ”
มณฑลวางสาย หน้าเครียด รีบขับรถต่อไป
“ไอ้เสนียด มึงพาไอ้ 2 ตัวหลบไป เดี๋ยวโดนลูกหลงตายห่าน กันพอดี” ผีงิ้วบอก
“พวกคุณผีแหละหลบไป ขืนโดนดูดวิญญาณขึ้นมา ไม่ได้ไปเกิดแน่” สนิทแย้ง
อาสาเห็นด้วย
“ใช่ กะอีแค่หมอผีอีกาคนเดียว เดี๋ยวคราวนี้ เราจัดให้”
ชมพู่ชี้ไป
“ไอ้หมอผีอีกา มึงสดมากใช่อ่ะ แน่จริงต่อให้กู 3 คน เอาป่ะล่ะ”
“รนหาที่ตายนะพวกมึง งั้นมึงเจอนี่”
หมอผีอีกา หยิบเศษกระดูก 3 ชิ้นออกมา ท่องมนต์ แล้วโยนออกไป กลายร่าง เป็นผีตายโหง 3 ตัว ผีตัวที่ 1 โดนไฟไหม้ ตัวดำ ผมเหลือเป็นหย่อมๆ เสื้อผ้าขาดวิ่น ผีตัวที่ 2 มีขวานจามที่คอเลือดท่วม ผีตัวที่ 3 ผีนักโทษตัวใหญ่ล่ำ ใส่ชุดนักโทษ มีโซ่ยาวล่ามที่ข้อมือ พวกสนิทตื่นกลัวชี้ไปที่เหล่าผี
“ผ...ผี”
“น...นี่ก็ยืนหัวโด่อยู่ 2 ตัวแล้ว มึงจะเอามาเพิ่มทำไมอีก” สนิทเสียงสั่น
ผีขุนศึกชี้ดาบ ด่าหมอผีอีกา
“นี่มึงเลวถึงขนาด กักวิญญาณผีตายโหงไว้ใช้เลยรึ ไอ้หมอผีชั่ว”
หมอผีอีกายิ้มหยัน
“ใช่ แล้วถ้ากูได้วิญญาณพวกมึงมา มึงก็ต้องมาเป็นทาสรับใช้กูเช่นกัน” หมอผีอีกาชี้ สั่งผี “ถ้าอยากให้กูปล่อยวิญญาณพวกมึงไปล่ะก็ จงฆ่ามัน แล้วนำวิญญาณมันมาให้กูซะ”
พวกผีตายโหงเดินเข้าหา พวกสนิท ชมพู่หันมาถามสนิทหวาดๆ
“เอาไงน้า นี่สู้กับผีเลยนะ ไหวป่ะเนี่ย”
“จะยากอะไร เราก็ทำเหมือนทุกทีที่เจอผี...วิ่งก่อนสิวะ”
พวกสนิทวิ่งหนี ผีงิ้วผีขุนศึกยืนประจันหน้าเตรียมสู้
พวกสนธยาพากันลุ้นห่วงผีที่เรือนหอ เร่งให้หรั่งเหยียบให้เร็วขึ้น
“เร็วสิหรั่ง ถ้าหมอผีอีกาเข้าเรือนหอได้ ทุกคนแย่แน่ เร่งอีกสิ”
“เหยียบมิดแล้วครับ แยกหน้าก็ถึงเรือนหอแล้วคุณสน”
ทันใดนั้นรถยางแตก ปัง หรั่งขับรถส่ายไปมาทันที ทุกคนหาที่ยึด หรั่งพยายามประคองพวกมาลัย
“ยางมาแตกอะไรตอนนี้วะเนี่ย”
“งั้นจอดข้างทางก่อน แล้วรีบไปเหอะ เร็วสิ” เจนนี่บอกอย่างร้อนใจ
หรั่งเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทาง
รถตู้ขับมาจอดข้างป่าหญ้า ริมทาง พวกสนธยารีบลงจากรถตู้ จะวิ่งไป ลูกน้องโทนี่ 2 คน ที่ซุ่มอยู่ มาขวาง เอาปืนขู่
“จะรีบไปไหน”
สนธยาอึ้ง
ผีนักโทษวิ่งเข้าหาผีขุนศึก ขึงโซ่ที่ล่ามข้อมือเตรียมจะรัดคอ ผีขุนศึกวิ่งเข้าใส่ทันที
“ย๊าก”
ผีขุนศึกใช้ดาบฟัน ซ้ายขวาๆ ผีนักโทษใช้โซ่รับได้ ดันดาบผีขุนศึก จ้องหน้า ยื้อกันไว้ อีกมุม ผีที่ถูกขวานจามคอ ยืนต่อหน้าผีงิ้ว ดึงขวานออกมา ชี้หน้า ผีงิ้วตกใจ
“เฮ้ยๆ เห็นกูเป็นต้นตำแยรึไง จะมาจามกูเนี่ย อย่านะเฮ้ย”
ผีถือขวานวิ่งเข้าหา ผีงิ้วมองพื้น เห็นไม้กวาดทางมะพร้าววางอยู่ ใช้เท้างัดไม้กวาดขึ้นมาควงอย่างเท่ห์ แล้วฟาดไปที่ขา ผีขวานกระโดดสูงหลบได้ ง้างขวานจะจามหัว ผีงิ้ว ยกไม้กวาดรับ ไม้กวาดถูกขวานจามหักสองท่อน ผีงิ้วกระโดด ถอยมาทัน ตกใจ
“เฮ้ย ไอ้ผีซาดิสต์พวกนี้ มันร้ายฝุดๆ...ไอ้ขุนศึก ระวังไว้”
หมอผีอีกายิ้ม
“วิญญาณที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต มันพร้อมที่จะฆ่าอยู่แล้ว พวกมึงไม่รอดแน่”
ผีขุนศึกออกแรงเต็มที่ ใช้ดาบดันโซ่ จนดาบเข้าใกล้หน้าผีนักโทษ ผีนักโทษเห็นท่าไม่ดี สูดลม ถุยเลือดออกจากปาก เข้าตา ผีขุนศึกเซถอย ผีงิ้วหันมาเห็นตกใจ ชี้หน้าด่า
“ไอ้ผีมารยาททราม ถ่อยได้อีกนะมึง”
หมอผีอีกาชี้ สั่งผี
“ปล่อยให้ผีงิ้วมันเสือกเรื่องคนอื่นอยู่ได้...รีบจัดการสิวะ”
ผีถือขวาน เอาขวานไล่จามผีงิ้ว รัวๆ ผีงิ้วใช้ไม้กวาดทางมะพร้าว ที่หักสองท่อนยกรับสลับกัน รัวๆ เช่นกัน
“จ๊ากๆ...จ๊าก”
ผีงิ้วหาจังหวะถีบผีถือขวานออกไป แล้วยกด้ามไม้กวาดในมือที่เหลือสั้นกุด ขึ้นดู ตกใจ
“ซวยแล้ว สั้นจุ๊ดจู๋ขนาดนี้ กูจะเอาอะไร ไปสู้มันเนี่ย”
มอผีอีกาหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆ ขนาดผีอย่างมึงยังเอาตัวไม่รอด ป่านนี้เพื่อนมึง ได้ตายกันหมดแน่”
ผีขุนศึก พยายามสะบัดเลือดที่เลอะหน้า รีบ มองหา ตกใจ
“แย่แล้ว พวกสนิท”
ผีนักโทษโผล่มาหลังผีขุนศึก ใช้โซ่รัดคอไว้ได้ ยิ้มโหด
“ตาย”
ผีขุนศึกตะเกียกตะกายดิ้นหนี หมอผีอีกา หัวเราะชอบใจ
สนิท ชมพู่ อาสา วิ่งมาซุ่มที่ข้างแคมป์คนงาน พากันหอบ กลัว
“โอย หัวใจจะวายแซด พวกมึงเห็นมั้ย ผีของไอ้อีกาแต่ละตัว น่ากลัวโคตร” สนิทพูดไปหอบไป
ชมพู่หอบเหนื่อย
“นั่นดิ ไม่รู้จะโหดไปไหน...ไอ้ผีนักโทษงี้ หมอผีอีกามันต้องจกวิญญาณจากในคุก มาเป็นทาสรับใช้แหงๆ”
อาสาพยักหน้ารับหอบๆ
“ใช่ๆ แล้วไอ้ผีที่มีขวานที่คออีก ไอ้อีกามันจามเองรึเปล่าก็ไม่รู้”
สนิทคิดๆ
“แต่กูว่าที่โหดที่สุดเลยนะ...ไอ้ผีไก่ย่าง”
อาสากับชมพู่พูดแก้พร้อมกัน
“ผีไฟไหม้”
“นั่นแหละ นึกภาพดิ ผมงี้หยอยๆ เสื้อผ้าขาดวิ่นๆๆตัวดำเป็นถ่าน กลิ่นเหม็นไหม้ขนาดนั้น ไอ้อีกายังเอามาเป็นทาสอีก”
ทันใดนั้นเสียงผีไฟไหม้ดังขึ้น
“แล้วมึงกลัวมั้ยล่ะ”
สามคนตอบพร้อมกัน
“กลัว”
สนิท ชมพู่ อาสา สะดุ้งรู้ตัว แต่ไม่กล้าหันไป สนิทตัวสั่น
“เอ่อ ตอบกูให้ชื่นใจหน่อยซิ เมื่อกี้เสียงพวกมึงใช่มั้ย”
อาสากับชมพู่สะอื้นส่ายหัว
“ม...ไม่”
“แล้วกลิ่นไหม้ๆ ที่ลอยมาเนี่ย มึงปิ้งห่านอะไรไว้ใช่มั้ย”
อาสากับชมพู่สะอื้น ส่ายหัวอีก
“ม...ไม่”
สนิทสะอื้น
“โอเค งั้นกูว่าไอ้ผีไก่ย่างที่เราเมาท์กันเนี่ย มันมาแระ” สนิทตะโกน “วิ่งสิวะ”
พวกสนิทจะวิ่งหนี ผีไฟไหม้โผล่มาขวาง เหยียบกิ่งไม้ใหญ่ ที่วางที่พื้น พวกสนิทตกใจ มองผีไฟไหม้ หัวจรดเท้า ผีไฟไหม้ยกเท้าออกจากกิ่งไม้ ที่กิ่งไม้ไฟลุกพรึ่บพวกสนิทช็อคร้องลั่น
“ไฟไหม้”
โทนี่เทเหล้า ใส่แก้ว ยกดื่มอารมณ์ดี มณฑลเข้ามา ลูกน้องโทนี่ไปยืนขวาง
“หมวดมณฑลอุตส่าห์มาเยี่ยม อย่าเสียมารยาท” โทนี่ดุลูกน้อง
ลูกน้องโทนี่หลบไป มณฑลเดินมาหา
“แกไปทำอะไรที่เรือนหอคุณดาว”
โทนี่จิบเหล้า
“ผมว่ามีสองเรื่องที่หมวดเข้าใจผิด...หนึ่ง ผมมีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ มันเรื่องของผม...สอง ถ้าผมไปเรือนหอพิมพ์ดาว แล้วหมวดมา เสือก อะไรด้วย”
มณฑลกระชากคอ
“ไอ้โทนี่”
ที่หัวมณฑล มีปืนลูกน้องโทนี่มาจ่อทันที
“อย่าใจร้อนสิหมวด ลูกน้องผมมันยิ่งขี้ตกใจอยู่...เดี๋ยวปืนลั่น”
โทยิ้ม ท้าทาย สะใจ มณฑลค่อยปล่อยๆมืออย่างไม่พอใจ
ผีขุนศึกถูกผีนักโทษรัดคอ หายใจไม่ออก ตะเกียกตะกาย หมอผีอีกามองสะใจ
“ฮ่าๆ อย่าพึ่งรีบ ให้มันได้ลิ้มรสความทรมาน ให้สาสมกับที่มันเคยทำกูไว้ กูอยากให้มันค่อยๆ ตาย ช้าๆ ฮ่าๆ”
ผีงิ้วหันไป หาผีขุนศึก เป็นห่วง
“ไอ้ขุน”
ผีขวานฉวยโอกาส จู่โจมผีงิ้ว ใช้ขวานจาม ผีงิ้วตกใจแต่หลบได้ ผีขวานจามอีก ซ้ายขวา ผีงิ้วหลบได้อีก ผีขวานกระโดดจาม ผีงิ้วไวกว่าใช้ 2 มือ ประกบรับขวานไว้แล้วด่า
“เล่นของมีคม มันอันตราย ไม่รู้รึไง ไอ้บัดซบ”
ผีงิ้ว เตะเข้าเป้า ผีขวานจุก ปล่อยขวาน ผีงิ้วแย่งขวานมาได้ ถีบซ้ำ ผีขวานกระเด็นล้ม ผีขุนศึกที่โดนรัดคอ กระทืบเท้า ผีนักโทษเจ็บ เสียหลัก ผีขุนศึกตีศอกใส่ หลุดจากโดนรัดคอ หันไปเผชิญหน้า ใช้ดาบฟัน ผีนักโทษเอาโซ่รับ แต่โดนฟันโซ่ขาด ตกใจ เซถอย ผีงิ้วเชียร์
“เจ๋งมาก ไอ้ขุนศึก”
“อย่าเพิ่งดีใจ” หมอผีอีกาชี้สั่งผี “แสดงให้มันได้เห็นความร้ายกาจของพวกมึงเดี๋ยวนี้”
ผีขวานลุกขึ้น ชี้ที่ขวานในมือผีงิ้ว แล้วชี้ไปที่ผีงิ้ว หน้าดุ ผีงิ้วบังคับขวานไม่ได้ ยกขวานจะเฉาะหน้าตัวเอง
“น...นี่มึงติดรีโมทที่ขวานด้วยรึไง อย่านะไอ้สันขวาน หัวกูไม่ใช่มะพร้าวให้มึงเฉาะนะเฮ้ย”
ผีงิ้วบังคับขวานไม่ได้ ขยับขวานเข้าใกล้หน้าขึ้นอีก ผีขุนศึกหันไปเห็นเป็นห่วง จะไปช่วยผีงิ้ว มือผีนักโทษทั้งสองข้าง ปล่อยโซ่ยาวออกมา แล้วสะบัดโซ่ออกไป ข้อเท้า ผีขุนศึก มีโซ่มาพันล่ามไว้ ผีขุนศึกชะงักมองโซ่ที่เท้า ตกใจ หันกลับไป ผีนักโทษยิ้ม
“จะไปไหน”
หมอผีอีกาหัวเราะสะใจ
“อย่าให้มันรอดไปได้ ให้มันตายอย่างทรมานที่สุด ฮ่าๆ”
ผีงิ้ว สู้กับขวานในมือที่จ่อหน้าอยู่อย่างตื่นกลัว
สนธยา เจนนี่ หรั่ง ยกมือประสานไว้ที่หัว ลูกน้องโทนี่ 2 คน เอาปืนขู่
“โทษทีนะ แต่ถึงเวลาตายของพวกมึงแระ”
หรั่งตกใจ
“ห๊ะ นี่ยิงรถตู้หนูไม่พอ จะยิงพวกหนูอีกเนี่ยนะ พวกหนูไปทำอะไรให้”
สนธยามองหน้า
“ใครส่งพวกแกมากันแน่”
“ไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะยังไง พวกมึงก็ต้องตายอยู่แล้ว”
ลูกน้องอีกคนยกปืนเล็งจะยิงสนธยาผีเด็กปรากฏตัว กัดขาลูกน้องคนนั้นทันที มันหน้าเกร็ง กล้ำกลืน ฝืนทน เพื่อนงง
“ทำไมไม่ยิงซะทีวะ”
“กู...เจ็บ...โอ๊ย หมาที่ไหนกัดกูวะเนี่ย”
ผีเด็กท้าวเอวโกรธ
“ว่าหนูเป็นหมาเหรอ นี่แน่ะ”
ผีเด็กปล่อยขวาตรงเข้าเป้า ลูกน้องตัวงอ สนธยาได้โอกาส เข่าที่ปลายคางหน้าหงายสลบ
“มึง”
ลูกน้องอีกคนจะยิงสนธยา เจนนี่ รีบพุ่งเข้าผลัก ลูกน้องคนนั้นเสียหลัก ยิงปืนออกไป เปรี้ยง สนธยาถูกยิงเฉียดไหล่ไป ล้มลง
“โอ๊ย”
เจนนี่ตกใจ
“สน”
ลูกน้องที่ล้มอยู่ ยกตัวขึ้นจะยิง หรั่งปรี่เข้ามาเตะเสยเข้าปลายคางสลบไป เจนนี่รีบเข้าไปดูสนธยา
“เป็นไงมั่ง”
“แค่เฉียดไป ขอบใจนะเจนนี่ ที่ช่วยชีวิตฉัน...อีกครั้ง”
เจนนี่ยิ้ม พยักหน้า สนธยาหันไปหาผีเด็ก
“ขอบใจหนูด้วยนะ ที่ช่วยพวกเราไว้”
ผีเด็กชูสองนิ้ว ยิ้ม สนธยาร้อนใจ
“ไป เรารีบไปที่เรือนหอกันเถอะ”
เจนนี่พยุงสนธยาให้ลุกขึ้น หรั่งหยิบปืนของลูกน้องโทนี่ที่พื้นขึ้นมา แล้วไปช่วยพยุงสนธยาออกไป
ลูกน้องโทนี่ใช้ปืนจ่อ ล็อคแขนไว้ มณฑลเจรจากับโทนี่
“จะเอาไง...ฆ่าฉัน แล้วคิดว่าจะรอดไปได้งั้นเหรอ”
โทนี่ยิ้ม
“ส่วนใหญ่ ก็รอดนะ ไม่งั้นคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้”
“แกลืมรึไง ว่าฉันเป็นตำรวจ”
โทนี่เสียงดังทันที
“ใหญ่กว่ามึงกูก็ฆ่ามาแล้ว” โทนี่กระชากคอมณฑล “ยิ่งมึงมายุ่งกับพิมพ์ดาว กูยิ่งไม่อยากเอาไว้”
“เพราะแบบนี้ แกถึงคิดทำลายเรือนหอคุณดาวใช่มั้ย”
โทนี่ยิ้ม
“จะตายอยู่แล้ว ยังจะล้วงความลับจากผมอีก ก็ได้...ที่ผมทำไปเพราะอยากช่วยน้องดาว เพราะถ้าเขารู้ ความจริงเรื่องเรือนหอ เขาคงไม่อยากอยู่ที่นั่นแน่”
มณฑลชะงัก
“ความจริงอะไร บอกมาเดี๋ยวนี้”
“ความจริงที่เรือนหอ มันมี...”
โทนี่หยิบปืนขึ้นมาตบทันที มณฑลหน้าหันสลบไป โทนี่จิกหัวมณฑลขึ้นมา
“มึงคิดว่ามึงเป็นใคร ถึงสั่งกูได้วะ”
“เอาไงดีครับนาย เก็บมันเลยดีมั้ยครับ”
เสียงโทรศัพท์มณฑลดัง ลูกน้องอีกคนค้นโทรศัพท์ส่งให้ โทนี่รับโทรศัพท์มาดูรับที่หน้าจอ ขึ้นชื่อ พิมพ์ดาว
“ฆ่ามันตอนนี้ อาจมีคนสงสัย” โทนี่จิกหัวมณฑล “โชคดีที่ระฆังช่วยไว้นะหมวด”
โทนี่โบกมือ ลูกน้อง 2 คน ลากมณฑลออกไป
อ่านต่อหน้า 4
วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 18 (ต่อ)
สนิท ชมพู่ อาสา พากันกลัว วิ่งมาหลบหลังแคมป์ ปรึกษากันอย่างหอบเหนื่อย
“เอาไงดีน้า ถ้าไอ้ผีไก่ย่าง เผาได้ทุกอย่างแบบนี้ เรือนหอชิบหายแน่” อาสาถาม
“กูว่าโทรเรียกดับเพลิงเลยดีกว่า ด่วน” สนิทสั่ง
อาสารีบหยิบโทรศัพท์มาโทร เอาหูแนบ สักครู่ ทำจมูกฟุดฟิด
“นี่กูโทรหาดับเพลิงยังไม่ติด แต่ทำไมกลิ่นไหม้มาแล้ววะ”
ชมพู่ชี้ตกใจ
“ห...หูมึงไง หู”
ผีไฟไหม้ เอานิ้ว จิ้มโทรศัพท์ อาสาอยู่ มีควันขึ้นที่โทรศัพท์
“โอ๊ย ร้อนๆ”
อาสาโยนโทรศัพท์ทิ้งพื้น โทรศัพท์ ควันขึ้นโขมง
“โห่ ยังผ่อนไม่หมดเลยกู ไอ้ผีไก่ย่างนี่มึงเผาทุกอย่างเลยรึไงวะ” อาสาโมโห
ผีไฟไหม้จ้องหน้า
“ใช่ แล้วกูจะเผาพวกมึงด้วย”
“ซวยแล้วน้า ทำ...” ชมพู่หันไปไม่เห็นสนิท “อ้าว ไอ้น้ามึงไปไหนเนี่ย”
มุมหนึ่ง สนิทถือถังน้ำมาเตรียมสาด
“ดับเพลิงไม่มาไม่เป็นไร กูดับเอง ก็ได้”
สนิทสาดน้ำใส่ผีโครม ผีไฟไหม้เปียกเต็มๆ ควันขึ้นโขมง พวกสนิทหัวเราะชอบใจ
“ฮ่าๆ สงกรานต์ๆ เปียกเต็มๆ”
ผีไฟไหม้โกรธ
“พวกมึงตาย”
ผีไฟไหม้ยกมือขึ้นมา มีไฟติดที่มือพวกสนิทสะอื้น
“ซวยแล้ว”
ผีงิ้วมีขวานจ่อหน้า เบือนหน้าหนี แหกปากลั่น
“ไอ้ขุน กูจะไม่ไหวแล้ว”
ผีขุนศึกถูกผีนักโทษเอาโซ่ล่ามตะเกียกตะกายไปหาผีงิ้ว
“อดทนไว้”
หมอผีอีกายิ้มสะใจ
“ตัวมึงยังไม่รอด จะช่วยอะไรมันได้ จัดการไอ้ผีขุนศึกซะ”
ผีนักโทษ ดึงโซ่ รวบใส่มือจนตึง แล้ววิ่งลากผีขุนศึกไปกับพื้น ผีขุนศึกหันหน้าหาผีนักโทษ หลังถูกลาก เจ็บปวด
“ปล่อยกูสิวะ ปล่อย”
หมอผีอีกาสะใจ
“ทรมานมัน ทรมานมันเข้าไป ฮ่าๆ”
ผีขวานยืนอยู่ ชูกำปั้นไปที่ผีงิ้ว เหมือนจับขวาน ค่อยๆกดลง ขวานในมือผีงิ้ว กดลงตาม ใกล้ถึงหน้าเต็มที่
“โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว”
ผีขุนศึก ที่ถูกลาก ยกดาบในมือขึ้น กระชับให้ถนัดมือ แล้วพุ่งดาบออกไป
“มึง”
ผีนักโทษ ชะงัก ตกใจ ดาบของผีขุนศึกพุ่งผ่านไหล่ ผีนักโทษที่ยืนอยู่ไป หมอผีอีกาหัวเราะเยาะ
“ฮ่าๆ แค่นี้ยังพลาด นี่เหรอวะผีขุนศึก ฮ่าๆ”
ผีขุนศึก ยิ้ม
“ดาบกูไม่เคยพลาด แต่ที่พลาด คือมึงต่างหาก”
หมออีกา ตกใจ หันไป ผีขวานที่ยืนห่างไปด้านหลังผีนักโทษ ถูกดาบผีขุนศึกปักทะลุอก ล้มลง ร่างสลาย ผีงิ้วถือขวานอยู่ หอบ เหนื่อย หันมายิ้ม
“ขอบใจเพี่ยน ตากูมั่งล่ะ ย๊าก”
ผีงิ้ววิ่งมาทางผีขุนศึก กระโดดสูง ง้างขวานสับโดนโซ่ขาดทันที ผีนักโทษถูกตัดโซ่ขาด ถอยล้ม หมอผีอีกาแค้นมาก
“พอแล้วไม่ต้องเอามันไว้ ฆ่ามัน...ฆ่ามันให้หมด”
สนิท ชมพู่ อาสา วิ่งวนรอบแคมป์ หลายรอบ แต่ไม่เห็นผีไฟไหม้วิ่งตาม ทั้งสามมาหยุดหอบที่แคร่
“ม...มัน มันไปไหนแล้ว” สนิทถามอย่างหอบเหนื่อย
ผีไฟไหม้โผล่มาข้างหลัง พวกสนิท
“อยู่นี่”
“จ๊าก”
สามคนวิ่งไปหยุดที่ตุ่มน้ำ
“ย...อย่าเข้ามา กูมี...น...น้ำ” ชมพู่ยกกระแป๋งน้ำมา “มึงเข้ามา กูสาดนะเว้ย”
ผีไฟไหม้ยกมือขึ้นจะเสกไฟ
“ถ้ามึงสาด กูจะ ผ...”
ผีไฟไหม้ยังพูดไม่ทันจบ ชมพู่ตักน้ำจากตุ่ม สาดโครม ผีไฟไหม้โกรธ
“นี่พวกมึงกล้า...”
ผีไฟไหม้ยกมืออีกข้างจะเสกไฟอีก อาสา เอากระแป๋งอีกใบ ตักน้ำในตุ่มสาดมั่ง โครม ผีไฟไหม้เริ่มเซ็งโกรธ
“คอยดู กูจะไม่...”
สนิทเอากระแป๋งอีกใบ ตักน้ำสาดด้วย โครม ผีไฟไหม้ โกรธ คลั่ง
“ไม่ไหวแล้ว กูจะฆ่าพวกมึงให้...”
สนิท ชมพู่ อาสา ผลัดกันเอากระแป๋งตักน้ำจากในตุ่ม สาดไม่ยั้ง ผีไฟไหม้ยืนเซ็ง เปียก สนิทหัวเราะสะใจ
“ฮ่าๆ ไอ้ผีเฟาเม่า”
อาสากับชมพู่ช่วยแก้
“ไฟไหม้”
“พวกมึงไม่เห็นรึไง มันโดนน้ำสาดจนมอดแล้ว จะไหม้ได้ไงวะ ฮ่าๆ” สนิทขำ
ผีไฟไหม้เซ็ง
“พอใจพวกมึงรึยัง”
“ยัง ถ้ามึงเปรี้ยวกับพวกกูอีก กูจะ...”
อาสา เอากระแป๋งตักน้ำในตุ่ม แต่น้ำไม่มี ตกใจ
“ซวยแล้ว น้ำหมด”
“จะหมดได้ไงวะ เมื่อกี้ยัง”
สนิทเอาหัวมุด เอากระแป๋งลงไปตัก แล้วโผล่ขึ้นมา
“ชิบหาย ขนาดลงไปขูดแกรกๆ ยังไม่มี หมดจริงด้วย”
“ดีใจด้วยนะ เพราะตอนนี้กูโกรธเต็มที่แล้ว พวกมึงตาย”
ผีไฟไหม้ ยื่นมือวิ่งเข้าหาพวกสนิท จะบีบคอ
“จ๊าก”
พวกสนิทวิ่งหนีไป
ผีงิ้วกับผีขุนศึก ถืออาวุธ ยืนประจันหน้าผีนักโทษ หมอผีอีกาออกคำสั่งอย่างแค้นมาก
“ฟังไว้ ไอ้ผีนักโทษ ถ้าอยากให้วิญญาณมึงเป็นอิสระ มึงจงฆ่าพวกมัน แล้วนำวิญญาณมาให้กู ฆ่ามันสิวะ ฆ่ามันเดี๋ยวนี้”
ผีนักโทษแยกเขี้ยว สะบัดโซ่ไปทั้งสองข้าง ผีขุนศึกกับผีงิ้ว ใช้มือรับโซ่แล้วดึงยื้อ ชักเย่อกันไว้
“อย่าไปเชื่อไอ้หมอผีอีกา ถ้าไม่อยากตาย มึงจงยอมแพ้ซะ” ผีขุนศึกตวาด
ผีนักโทษไม่ฟัง ออกแรง ดึงโซ่ไป ผีขุนศึก ผีงิ้ว ที่ฝืนอยู่ เคลื่อนขยับตามแรงดึง ผีงิ้วกัดฟัน
“แรงควายขนาดนี้ กูว่าเราจะตายมากกว่า นี่มึงเอาแรงมาจากไหนวะเนี่ย”
“กูจะฆ่ามึง กูต้องเป็นอิสระ กูต้องเป็นอิสระ”
ผีนักโทษรวบโซ่กับมือแล้ว ออกแรงกระชากอีก ผีขุนศึกกับผีงิ้ว ถูกกระชากตามพยายามรั้งไว้ ผีงิ้วกัดฟัน
“ไอ้ขุน กูจะยื้อไม่ไหวแล้วนะ”
“ทนไว้ ผีงิ้ว เชื่อกู ทนอีกนิด”
“ฆ่ามัน เอาวิญญาณมันมาให้กู ฆ่ามัน” หมอผีอีกาสั่งการ
ผีขุนศึกกัดฟัน
“กูไม่ยอมง่ายๆหรอกไอ้หมอผี ผีงิ้วออกแรงดึงไว้”
ผีงิ้วหน้าบิดเบี้ยว
“โอ๊ย แขนจะหลุด จะดึงไม่ไหวแล้ว”
ผีนักโทษแยกเขี้ยว
“พวกมึงต้องตาย”
ผีนักโทษ ออกแรงดึงโซ่เต็มที่ ผีงิ้วจะทนไม่ไหว
“ขุนศึก กูไม่ไหวแล้ว”
ผีนักโทษออกแรงสุดขีด
“กูต้องเป็นอิสระ ย๊าก”
ผีขุนศึกพยักหน้า
“ตอนนี้แหละ ผีงิ้ว ไป...ย๊าก”
ผีขุนศึกกับผีงิ้ว ปล่อยให้ผีนักโทษดึงเข้าหา สองคนวิ่งเสริมแรง ตามเข้าไป ผีนักโทษยื่นมือมารอ จะบีบคออยู่ ตกใจ เสียงดาบดังซึ่บ ผีนักโทษ ตาค้างโดนดาบผีขุนศึก ขวานผีงิ้ว ปักที่อก ล้มลง ร่างสลาย หมอผีอีกาแค้นมองผีขุนศึก
“กูจะฆ่ามึงด้วยมือ กูให้ได้”
ทันใดนั้นเสียงสนิทตะโกนลั่น
“ช่วยด้วย”
ผีขุนศึกกับผีงิ้วมองหน้ากัน เป็นห่วงพวกสนิท หายตัวไป
สนธยา เจนนี่ หรั่ง วิ่งมา เจนนี่รีบวิ่ง ก้าวพลาด ล้มกลิ้ง
“โอ๊ย...”
สนธยาหยุดวิ่ง
“เป็นไรรึเปล่า เจนนี่”
เจนนี่ จับข้อเท้าเจ็บ
“ข...ขาแพลง พวกนายรีบไปก่อนเถอะ”
“ไม่ เราต้องไปด้วยกัน”
“แต่ยิ่งช้า เรือนหอจะยิ่งแย่นะคุณสน” หรั่งเตือน
“งั้นนายรีบไปดูที่หน้าเรือนหอ รอจนกว่าฉันจะตามไป แต่อย่าเพิ่งเข้าไปข้างในเด็ดขาด”
หรั่งพยักหน้ารับ รีบวิ่งนำออกไป
“ไป เจนนี่ ขี่หลังฉัน”
“แต่ไหล่นายยังเจ็บ...”
“แล้วจะให้ฉันทิ้งเธอไว้นี่รึไง รีบไปเถอะ”
เจนนี่ขี่หลัง สนธยาแบกไป เธอแอบซบหลังเขา
มณฑล นอนสลบที่พื้น หน้ากองปราบ ตำรวจเดินมาเห็นรีบเข้าไปประคอง
“หมวด...หมวดมณฑล เป็นไรรึเปล่าครับ”
มณฑลได้สติ
“นี่ผมอยู่ที่ไหน”
“หน้ากองปราบครับหมวด นี่หมวดทำอะไรมาถึงเป็นแบบเนี้ย”
“ช่างเถอะ ผมไม่เป็นไร”
มณฑลลุกขึ้น เขามีห่อยา ตกจากกระเป๋ากางเกงของเขาลงที่พื้น ตำรวจ หยิบห่อยามาดู ตกใจ หยิบปืนขู่มณฑลทันที
“อย่าขยับ ผมจำเป็นต้องเชิญ หมวดไปให้ปากคำ ข้อหามียาเสพติดในครอบครองครับ”
มณฑลอึ้ง ช็อค
“อ...ไอ้โทนี่”
สนิท ชมพู่ อาสา มาอัดกันอยู่ในห้องน้ำ หลบผีไฟไหม้ สนิทปาดเหงื่อ
“นี่มันห้องน้ำหรือซาวน่าวะ ทำไมร้อนแบบนี้”
“มึงก็ไปอยู่ข้างนอกสิน้า ใครใช้ให้มาอัดด้วยกันในนี้เล่า” ชมพู่แย้ง
“คิดว่ากูอยากมารึไง ร้อนก็ร้อนเหม็นก็เหม็น ถ้าในนี้ไม่มีน้ำ กูไม่มาหรอกเว้ย”
“ก็เออสิ ที่มาหลบในนี้ เพราะผีไฟไหม้มันกลัวน้ำ หรือน้าจะโง่ออกไปให้มันย่างข้างนอกรึไง” ชมพู่ต่อว่า
อาสารำคราญ
“หยุดเถียงกันได้มั้ย รำคาญ ห้องเล็กนิดเดียว แหกปากอยู่ได้”
ชมพู่คิดๆ
“นี่เรามาหลบในนี้ตั้งนานแระ มึงว่าผีไฟไหม้มันไปยังวะ”
“กูก็หลบอยู่ในนี้กับมึงเนี่ย ไอ้ฟาย กูจะรู้มั้ยล่ะ” อาสาด่า
ชมพู่ฉุนกึก
“เอ้าไอ้นี่ ถามดีๆ เดี๋ยวเตะปากแตก”
สนิทดุ
“เลิกกัดกันซะที...พวกมึงอยากรู้ใช่มะ เดี๋ยวกูเสียสละแง้มประตูดูให้เอง”
สนิทเอื้อมมือไปจับประตู รีบดึงกลับสะบัดทันที
“โอ๊ย”
“เป็นไรน้า โง่โดนประตูหนีบรึไง” อาสาถามอย่างสงสัย
“หนีบบ้านมึงสิ มันร้อนยังกะมีใครมาเผาต่างหาก”
อาสากับชมพู่ มองหน้ากัน
“หรือว่า...”
ผีไฟไหม้ยืนหน้าห้องน้ำเอามือแปะประตูห้องน้ำอยู่
“คิดว่าหนีพ้นรึไง กูจะย่างให้พวกมึงสุกพร้อมกันเลยคอยดู ฮ่าๆ”
พวกสนิทได้ยินเสียงผีไฟไหม้ตกใจ
“ซวยแล้ว”
ชมพู่หน้าตื่น
“ชัดเลย ไอ้ผีไฟไหม้อยู่ข้างนอก แถมจะย่างเราอีก ออกไปก็ตาย อยู่ข้างในก็ไม่รอด ทำไงดีอ่ะน้า”
สนิทคิดๆ
“เย็นไว้ กูเคยเห็นในละครเวลาหนีไฟไหม้ เค้าต้องทำตัวให้เปียกแบบนี้”
สนิทหยิบขัน จ้วงลงตุ่มที่ไว้ราดห้องน้ำ แต่ตักขึ้นมามีแต่อากาศ
“อ้าวเฮ้ย อะไรวะ”
สนิทจ้วงใหม่ เอาขันไปขูดตุ่มแกรกๆ ไม่มีน้ำ
“ซวยแล้ว น้ำแห้งขอดแกรกๆอีกแล้ว นี่พวกมึงขรี้ ใช้มือเปล่าเช็ดกันรึไง ทำไมไม่รู้จักตักน้ำเตรียมไว้บ้าง”
อาสาสะอื้น
“ฮือ จะออกไปตักตอนนี้ก็ไม่ได้ แล้วเราจะรอดมั้ยเนี่ย”
“รอดไม่รอดไม่รู้ แต่กูยังไม่อยากตาย ช่วยด้วย กูยังไม่อยากตาย”
สนิท ชมพู่ อาสา ตะโกนขอให้คนมาช่วย ผีไฟไหม้อยู่หน้าประตูห้องน้ำ ยิ้มสะใจ
“ใครจะช่วยมึงได้ พวกมึงต้องตายอยู่ในส้วมนั่นแหละ ฮ่าๆ”
ผีไฟไหม้หัวเราะอยู่ ถูกถีบจากข้างหลัง ให้พ้นประตูทันที ผีไฟไหม้หันกลับไปมองโกรธ ผีงิ้วยื่นเท้าที่ยัน ค้างไว้ ปัดเท้าที่มีควันขึ้น อย่างเท่ห์ ผีขุนศึกยืนอยู่ข้างๆ
“กูมาช่วยเพี่ยนกูแล้ว ถ้าไม่อยากตายเหมือนเพี่ยนมึง มึงรีบไปซะ”
หมอผีอีกา เข้ามาแค้นๆ
“เอาสิวะ ดูสิ ว่าใครจะตายกันแน่...โอม”
หมอผีอีการ่ายมนต์ ผีขุนศึก ผีงิ้ว ผีไฟไหม้ กุมขมับร้องโอดโอยเจ็บปวด
หรั่งยืนชะเง้อมองผ่านรั้ว ดูในเรือนหอ ผีเด็กยืนใกล้ๆกวักมือเรียก สนธยาแบกเจนนี่มา
“พี่สนเร็วเข้า”
“ข้างในเป็นไงมั่ง”
หรั่งหันมาบอก
“เสียงดังมาจากแคมป์คนงาน ไอ้หมอผีอีกาต้องอยู่ที่นั่นแน่”
“งั้นเจนนี่เธอรออยู่ข้างนอก ถ้าฉันไม่เรียกอย่าเข้าไปเด็ดขาด” สนธยาหันมาหาผีเด็ก “หนู พี่ฝากดูเจนนี่ด้วย”
เจนนี่กับผีเด็กพยักหน้า สนธยาเปิดรั้ว รีบเข้าไปกับหรั่ง
หมอผีอีกาหลับตาร่ายมนต์ ผีขุนศึกกับผีงิ้ว ปิดหูคุกเข่าทรุด ร้องโอดโอย ผีไฟไหม้นอนกลิ้งกับพื้นเจ็บไปด้วย สนิท ชมพู่ อาสา อยู่ในห้องน้ำ เอาหูแนบ ประตู ฟังตกใจ ชมพู่หน้าตื่น
“เฮ้ย เสียงสวดมนต์แบบนี้ หรือว่าไอ้หมอผีอีกา”
สนิทหันมาด่า
“มึงจะมาเดาทำมะเขืออะไร อยู่ในนี้จะรู้เรื่องมั้ย ออกไปดูสิวะ”
สามคนออกมาจากห้องน้ำ เห็นพวกผีโดนทำร้าย สนิทตกใจ
“เฮ้ย ผีขุนศึก ผีงิ้ว”
“ไอ้หมอผีอีกา มึง”
อาสาจะเข้าไปลุย หมอผีอีกา ลืมตา ดุ โบกมือใส่ อาสา เซถอยมาชนพวกชมพู่ สนิทล้มไปด้วยกัน หมอผีอีกายิ้มหยัน
“ไอ้พวกกระจอก”
สนธยาเข้ามา
“หยุดนะหมอผีอีกา”
หมอผีอีกายิ้ม
“ไอ้สนธยา มึงจะอาอะไรมาหยุดกูได้”
หมอผีอีกาหยิบหม้อดูดวิญญาณออกมา ผีงิ้วกับผีขุนศึกเงยหน้ามาเห็น ตกใจ
“หม้อดูดวิญญาณ”
อ่านต่อตอนที่ 19